◑
คุ ณ ไ ม่ ต ร ง ป ก
ตอนที่ 12 : เดท
_________
คนแบบเขาไม่ใช่ประเภทที่เมาแล้วจะโวยวายหรอก แต่บางครั้งมันก็จำเป็นที่จะต้องทำ
บางครั้ง...อย่างเช่นในเวลาแบบนี้
ภัทรหลับตาลงแน่น เอนตัวไปทางร่างสูงในทันทีเมื่อสมองสั่งการให้สัญชาตญาณการเอาตัวรอดมันเริ่มทำงาน และเป็นแบบที่คิด คีรติก็ยินดีที่จะรับเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะพยายามเรียกสติเขาให้กลับมาด้วยการจับใบหน้าเอาไว้ เมื่อไม่ได้ผล มือใหญ่จึงเขย่าสองสามทีด้วยแรงเพียงน้อยนิดจนคนที่แกล้งทำต้องเล่นตามบทให้แนบเนียน
ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายเจ้าเสน่ห์เอียงลงเล็กน้อย กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะส่งยิ้มหวานที่ทำให้อีกฝ่ายไม่เกิดข้อสงสัยในอาการของตัวเองที่เป็นอยู่
มีคนบอกว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
ดังนั้นเขาเลยยอมเป็นกระต่าย ที่เป็นฝ่ายล่าเสือเสียเองดีกว่า
“...คุณคี...” เสียงเขายานคาง แนบหน้าไว้กับไหล่กว้างเพื่อใช้เวลาคิดท่าทางคนเมาที่พอจะนึกออก
“ภัทร...คุณโอเคมั้ย?” อีกฝ่ายถาม เขาเอนไปด้านหลังคล้ายทรงตัวไม่อยู่ก่อนจะส่งยิ้มให้อีกครั้ง และครั้งนี้ภัทรกลับรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมชาติเอาซะมากๆ
ชิบหาย
การรับบทคนเมาแล้วเอาตัวเองไม่รอดนี่ไม่ใช่สไตล์เขาจริงๆ
“..ภัทร..หวายย...” มือเล็กพยายามดันอีกฝ่ายออก วัดใจทิ้งตัวลงคล้ายคนไม่มีแรงก่อนมือแกร่งจะรั้งไว้ดังเดิม
อย่างน้อย คีรติก็ยังเล่นตามหมากที่เขาวางไว้ไม่มีผิด
“ผมว่าให้ผมไปส่งคุณดีกว่านะ” ร่างสูงขมวดคิ้วก่อนจะหิ้วปีกเขาที่พยายามเดินด้วยตัวเองไปพร้อมกัน รถหรูคันสีดำด้านเป็นจุดหมายที่เราเดินมาถึง อีกคนเปิดประตูแล้วพาเขาลงไปนั่งยังเบาะ อ้อมไปอีกฝั่งของตัวรถแล้วเข้ามานั่งตามกันติดๆ
“...อืออ...” เสียงครางในลำคอดังแหบพร่าเพื่อส่งเสริมการแสดงอย่างแนบเนียน ร่างโปร่งเอนตัวเข้ากับเบาะ เหลือบมองคนข้างกายและพบว่าคีรติก็มองเขากลับมาอย่างเป็นห่วง มือใหญ่เอื้อมมาลูบไล้ใบหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำให้ใจเขาเต้นแรงจนหยุดไม่อยู่
จากรอยยิ้มแสนอบอุ่น
ที่มันจางระเรื่อบนใบหน้าคมคายคล้ายกำลังเอ็นดู
และภัทรรู้ดีว่าไม่บ่อยนักหรอกที่คีรติจะยิ้มแบบนี้ให้กับตัวเอง
มวลสิ่งแปลกปลอมเริ่มก่อตัวในใจดวงเล็ก ใบหน้าเขากำลังขึ้นสีอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ใช่เพราะอาการเมา แต่เป็นเพราะขัดเขินกับท่าทีของคนด้านข้าง ในจังหวะที่ร่างสูงละมือออก ภัทรตัดสินใจจับมือนั้นไว้ให้ทาบยังที่เก่า ส่งยิ้มกลับไปก่อนจะเอียงหน้าซบหาความอบอุ่น
“เป็นอะไรครับ?” คีรติเอ่ยถาม น้ำเสียงอ่อนลงกว่าที่เคยได้ยินมากนัก
“...อื้อออ..เปล่า...”
“ภัทรเอาแต่อ้อนแบบนี้ผมขับรถไม่ได้นะ”
“…ภัทร..อึก...ไม่ได้อ้อนนน...”
เสียงหัวเราะในลำคอดังแทรกแต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ยังยอมให้เขาได้ทำตามใจโดยไม่ขัดขืน
“...ภัทรกินไปสามแก้วว...” นิ้วเรียวชูขึ้นตามคำบอกกล่าว เจ้าตัวมันเอียงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนมือใหญ่วางไว้บนตัก “ไม่เห็นจะเมาเลยยย”
“จริงหรอ?”
“…อึก...จริง...”
คีรติกระชับมือแน่น เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงเครื่องยนตร์ดังขึ้นจากมืออีกข้างที่ไม่โดนพันธนาการจากคนตัวเล็ก
“คุณคีจะไปส่ง...ภัทร...หรอครับ?”
“ครับ กลัวคนไม่เมาแถวนี้กลับห้องไม่ได้”
คีรติเอียงเข้ามาใกล้ สายตาสำรวจไปยังใบหน้าหวานที่ไร้กรอบแว่นบดบังอย่างละเอียด จมูกกลมมนเข้ากับริมฝีปากบางที่เผยอออก ลิ้นร้อนส่งมาแลบเลียมันจนชุ่มฉ่ำ ไล่ลงไปยังเสื้อเชิ๊ตสีดำที่แผ่กลางบริเวณอกเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวเนียนที่โผล่พ้นจนน่ามอง คีรติกลืนน้ำลายเล็กน้อย พยายามดึงสติตัวเองกลับมาเมื่อได้ยินเสียงกระแอมไอของคนตรงหน้า และตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกเล่นงานจากเข้าอย่างจัง
จากคนด้านข้าง
ที่ดึงดูดด้วยท่าทางยั่วยวนคล้ายกับคนที่เขาไม่เคยรู้จัก
แทนที่ดวงตาคู่สวยจะหยาดเยิ้มเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ที่ดื่มเข้าไป มันกลับแข็งกร้าวดุดันนิดหน่อยกว่าที่เคยเป็น ภัทรขยับตัวไปมา พยายามจะเลื่อนมือออกคล้ายเพิ่งจะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่ออกรถ
แต่มือใหญ่กลับเหนี่ยวรั้งมันไว้ดังเก่า
“งั้นไม่เป็นไรครับ” คนขับพูดแผ่วเบา “จับไว้แบบนี้ก็ได้”
รถเคลื่อนตัวออกทันทีที่อีกคนพูดจบ คีรติเอนตัวไปกับเบาะ เหลือบมองมาทางคนเมาบ้างในบางครั้งด้วยความเป็นห่วง เห็นใบหน้าที่ก้มลงพร้อมกับแรงกระชับมือเป็นจังหวะเพื่อส่งสัญญาณว่าเจ้าตัวนั้นยังมีสติ
ความเร็วท้องถนนทำเอาคนแกล้งเมารู้สึกหวาดเสียวเป็นเท่าตัว จากดวงตากลมโตที่หยีลงเพื่อแอบมอง เห็นตัวเลขบนหน้าปัดพุ่งสูงจนน่าตกใจ ใช้เวลาไม่นานเราก็เดินทางมาถึงที่พักของอีกฝ่ายในย่านใจกลางเมือง
แทนที่คีรติจะตรงดิ่งไปยังที่พักของเขาแต่กลับกลายเป็นว่าสถานที่ตรงหน้าคือคอนโดหรูที่บ่งบอกฐานะของเจ้าของ ภัทรแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย เดินตามไปไม่ห่างแม้จะมีมือใหญ่คอยประคองตัวเองไว้แนบชิด เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเขาที่ทำตัวโงนเงนไปมาเพื่อกลบเกลื่อน อีกคนพามานั่งยังโซฟากลางห้องโถงขนาดใหญ่แล้วก้มลงมองพร้อมปัดปอยผมที่ตกระให้ก่อนสบตาคนที่นั่งอยู่
“ภัทรไหว...จริงๆครับ” เขายิ้มหวาน มือทั้งสองข้างกอบกุมใบหน้าเอาไว้
“ทานน้ำเปล่าสักนิดนะ จะได้ดีขึ้น”
“ครับ”
เมื่อเจ้านายเสนอให้เขาเลยไม่อยากขัด ภัทรใช้เวลานั้นสำรวจไปโดยรอบ ผนังกระจกรอบด้านมองเห็นภาพแสงสีของเมืองหลวงได้อย่างแจ่มชัด มีม่านผืนบานคอยกั้นอีกชั้นในบางบริเวณเมื่อเจ้าของต้องการความเป็นส่วนตัว ของในห้องตกแต่งด้วยสีดำและสีทองอย่างหรูหรา ข้าวของวางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยคล้ายกับถูกอบรมมาเป็นอย่างดี
คีรติกลับมาพร้อมกับน้ำหนึ่งแก้ว เจ้าตัวยื่นมาตรงหน้าก่อนจะช่วยเขาประเคนขึ้นดื่ม
“อาบน้ำก่อนไหม?”
“ขี้ตู่นี่นา” ภัทรลากเสียงยาว “นึกว่าจะพากลับไปห้องภัทรซะอีก”
เมื่อคำตอบที่ได้กลับกลายเป็นคำถามเสียแทน คนวางแผนเลยหัวเราะเล็กน้อย
“แล้วภัทรไม่อยากมาห้องผมหรอ?”
ร่างสูงขยับนั่งยังอีกฝั่ง ยักคิ้วพร้อมกับกอดอกมองเขาที่กำลังตั้งสติ
“ภัทรบอกหรอไงว่าอยากมาห้องคุณ?”
“ภัทรไม่ได้บอก” อีกฝ่ายเอ่ยตอบ “แต่ถึงไม่ได้บอกผมก็จะพามา”
ประโยคที่ถูกเอื้อนเอ่ยทำให้ร่างโปร่งหันไปอีกทาง พยายามหักห้ามรอยยิ้มจางอย่างช่วยไม่ได้
คล้ายกับว่าการพนันที่เขาลงเดิมพันลงไปมันกลับได้ผลตอบแทนมากกว่าที่ใจคาดไว้เสียอีก
“ไม่มีเหตุผลที่ต้องพาภัทรมาที่นี่เลยนี่” เขาลุกขึ้น พยายามจับพนักพิงโซฟาเมื่อเดินไปตามทางที่ใจคิด
“มีสิ”
และก่อนที่จะก้าวไปได้ไกลกว่านั้น คีรติก็รวบเข้าที่เอวแล้วดึงร่างเขาทาบทับจนร่างกายเราแนบกันไปทุกสัดส่วน
ลมหายใจหอบหนักหลังจากที่ปรนเปรอจูบ ริมฝีปากหยักดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้เขาห่างกายเลยแม้แต่นิด มันขบเม้มและตักตวงความหอมหวานแม้จะได้รับเป็นประจำในทุกๆเช้า มือเล็กพร้อมจะก้าวดำเนินการขั้นถัดไปเมื่อใจเขาล่วงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ แต่ก่อนที่จะวางมือไว้ยังกระดุมเม็ดบนสุด คีรติกลับเอนตัวออกจนคนแกล้งเมางุนงงเมื่อการคาดเดาของตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ผิด
เราสบตากันอยู่อย่างนั้น ไม่มีฝ่ายไหนกล้าทำลายบรรยากาศแสนหวานที่นานทีจะพานพบ
“แค่ผมอยากนอนกอดคุณบ้าง...จะได้ไหม?”
“…”
“ภัทร?”
อีกคนย้ำเมื่อเขายังไม่ยอมตอบ ภัทรใช้ฟันขบริมฝีปากล่าง พยายามหักห้ามความรู้สึกเสียดายไปพร้อมกันเมื่อเอ่ยตอบรับพร้อมกับกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่น
“ได้สิครับ”
ทั้งๆ ที่เขาเตรียมใจจะทำเรื่องอย่างว่าแล้วแท้ๆ แต่คีรติกลับปฏิเสธมันอย่างหน้าตาเฉยเพราะเจ้าตัวคงคิดว่าเขาเองยังไม่พร้อม
แต่ทำไมเขาจะไม่พร้อม
ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างก็ดูเข้าที่เข้าทางเสียจนภัทรอยากจะร่วมรักกับอีกคนใจจะขาด
ความผิดหวังอันน้อยนิดเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ในอก เรานอนกอดกันบนเตียง มีคนตัวสูงใช้แขนรองศีรษะเขาเอาไว้ในยามที่ดึงผ้าห่มขึ้นสูง
วันนี้ทำได้แค่นอนกอดไปก่อน
แต่ถ้าได้มาห้องคุณครั้งถัดไปล่ะก็
เขาขอเอาชื่อ
ภัทรสาบานว่าจะไม่ปล่อยให้โอกาสมันหลุดลอยอีกเป็นแน่
เสียงหายใจดังเป็นจังหวะ แต่ก่อนที่เขาจะได้หลับตาลงเพื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา อีกคนก็เอ่ยกระซิบพร้อมกับกดจูบลงข้างแก้ม
เป็นประโยคที่ทำให้ใจเขาเต้นแรง
และเป็นครั้งแรกที่ความสัมพันธ์อันแสนยุ่งเหยิงเริ่มก้าวไปข้างหน้า
“พรุ่งนี้ไปเดทกันนะครับ” 50%
#คุณไม่ตรงปก
ขอโทษที่หายไปนานน้าาา
ต่อจากนี้คงจะได้เจอกันบ่อยขึ้นเนาะ TT
ปล.อีก50% ขอไปพรูฟจนพอใจก่อนแล้วจะลงให้นะคะ TT
270419
before30october