Rewrite : ถึงร้าย...ก็รัก >>>> (09/07/2019) ตอนที่ 38 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Rewrite : ถึงร้าย...ก็รัก >>>> (09/07/2019) ตอนที่ 38 จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 38339 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อื้อออออ รอนะคะ ใกล้ละใกล้ได้กัน5555

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                                   - 8.2 -







 “ถ้ากูยอมมึง มึงจะปล่อยเพื่อนกูไปใช่ไหม”

ผมข่มเสียงตัวเองให้เป็นปกติที่สุด ใครจะรู้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยของผมลึกๆแล้วจะรู้สึกเช่นไร ทั้งๆที่ตอนนี้ผมกลัวเหลือเกิน แต่ก็ไม่สามารถแสดงสีหน้าอย่างที่ใจต้องการได้ ถ้ามันเห็นว่าผมกลัวมันจะยอมอ่อนให้ผมบ้างไหม มันจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า ยังไงผมก็เป็นรุ่นน้องของมัน แม้จะคนละคณะก็ตาม ไอภีมมองผมด้วยสายตาที่ผมไม่เคยเห็นจากมันมาก่อน สายตาที่มันมองผมทำให้ผมรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว มันเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ก่อนจะโอบรอบเอวผมแล้วรั้งตัวผมเข้าไปชิดอกแกร่งของมัน

“ไอภีม”

ผมสบถชื่อมันแล้วพยายามดันตัวมันออก

“ก็ถ้ามึงยอม กูก็จะปล่อยเกดไป”

มันพูดพร้อมอ้าปากงับริมฝีปากล่างของผมเบาๆ ก่อนจะค่อยๆดูดเม้มริมฝีปากล่างของผมเล่น ผมเจ็บบริเวณปากแต่ก็รู้สึกตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน

“รวมถึงตัวกูด้วย”

ผมพยายามส่งเสียง มันปล่อยริมฝีปากล่างของผมเป็นอิสระ ก่อนจะซุกหน้าลงบนต้นคอของผม แล้วแลบเลียตั้งแต่ต้นคอจนถึงไหปลาร้า มือมันก็ไล่แกะกระดุมเสื้อผมออกไปจนหมด

“กูไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ต้องเล้าโลม กูขยักแขยง”

ผมพูดแล้วผลักมันออก ผมยอมให้มันทำเหี้ยๆกับผมแบบนี้ดีกว่ายอมเปิดทางให้มันเข้าไปทำร้ายเกด ผมเชื่อว่าคนเลวๆอย่างมันสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่ปากมันบอกจริง อย่างที่มันเคยทำกับพี่เบิ้ม ถ้ายอมให้มันทำเหี้ยๆกับผมซักครั้งเพื่อหยุดความต่ำช้าของมันได้ผมก็จะยอม

“หึ เอางั้นก็ได้ กูว่าจะใจดีทำให้มึงไม่เจ็บเผื่อมึงจะติดใจ แต่ถ้ามึงชอบความรุนแรงกูก็จะจัดให้"

ผมถูกไอภีมผลักลงบนที่นอนอย่างแรง ก่อนที่มันจะตามาปลดกระชากกางเกงผมออก ตอนนี้ท่อนร่างของผมเปลือยเปล่า ผมหลับตานิ่งไม่ว่ามันจะทำอะไรกับร่างกายผม ผมก็ไม่อยากเห็นและก็ไม่อยากรับรู้

“อยากจะให้กูทำเร็วๆ มึงก็ช่วยปลุกมันขึ้นมาซิ อ้าปาก แดกของกูเข้าไป ถ้ากัดมึงตายแน่”

มันเดินขึ้นมาบนเตียงนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าผม ก่อนจะกระชากหัวผมให้หันไปอ้าปากรับแกนกายของมัน

ผมค่อยๆ แลบเลียสิ่งที่อยู่ในปากผมช้าๆ ใจจริงผมแอบคิดอยู่ในหัวหลายครั้งว่าอยากจะกัดแม่งให้ขาดๆไป แต่ผมก็ไม่กล้าพออีกอย่างคือมันน่าสะอิสะเอียนเกินไปที่จะทำแบบนั้น

“อือ….มึงเก่งเหมือนกันนี่หว่า ดูดซะกูเสียวเลย อืมมม…เร็วกว่านี้ อืมมมม อ่า”

เสียงครางแห่งความพอใจของมันดังผ่านเข้ามาในโสตประสาทของผม จากเดิมที่ผมเป็นคนคุมจังหวะ มันกลับกระแทกของๆมันเข้ามาในปากผมอย่างเอาแต่ใจ จนผมแทบจะสำลัก ผมเอามือดันหน้าขามันไว้หวังจะให้ช่วยย่นระยะไม่ให้ของมันเข้ามาถึงคอหอยผม แต่ก็ช่วยไม่ได้มากนัก

“อุ๊บ!!!อ็อกก….แค่ก แค่ก ช้าหน่อย ไอ อุ๊บบ สัสภีม”

ผมก่นด่ามัน แต่มันเสือกครางอย่างเหนื่อยหอบแล้วจับผมนอนคว่ำทันที ไม่ทันที่ผมจะได้เตรียมใจ มันก็ยัดแกนกายของมันเข้ามาในตัวผมอย่างแรง โดยไม่มีการเปิดทางให้ผมก่อน ผมเจ็บแต่ก็ได้แต่กัดฟันแน่น ผมรู้สึกเหมือนส่วนล่างของผมจะโดนฉีกเป็นชิ้นๆ ทั้งเจ็บทั้งจุก

“อ่า อืม……สัสโคตรเสียวเลย…..ภูมึงนี่แม่งโคตรฟิตเลยวะ ตอดกูจนเสียวKไปหมดแล้ว อ๊ะ อ่า อ่า อืมมม”

ผมนอนฟังคำพูดอันหยาบโลนของมันพร้อมกับริมฝีปากที่เม้มแน่น เมื่อไหร่มันจะจบลงซักที ผมปวดร้าวตัวไปหมด

มันกระแทกเข้ามาในตัวผมด้วยแรงที่มีทั้งหมด โดยไม่สนใจเลยว่าผมจะเจ็บซักแค่ไหน มันทำราวกับนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของผม

“อ๊ะ!!!ภู ไอสัส อืมมมมม กูจะ…..แตกแล้ว อ๋าห์”



      หลังจากที่มันทำจนหน่ำใจมันก็หลับไป ผมเลยอาศัยช่วงเวลาที่มันหลับค่อยๆพยุงกายรุกจากเตียง แต่มันก็ช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ความเจ็บจากบั่นท้ายทำให้ผมอยากที่จะทิ้งตัวลงไปบนเตียงอีกครั้ง มันเจ็บราวกับว่าร่างผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมนอนทำใจอยู่อีกพักรอให้ความเจ็บทุเลาลง ก่อนจะกัดฝันลุกออกจากเตียงในที่สุด แล้วก้มหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นขึ้นมาใส่ ผมอยากจะไปก่อนที่มันจะตื่น ต่อจากนี้ไประหว่างมันกับผมจะไม่มีอะไรติดค้างกันอีก มันได้ไปในสิ่งที่มันอยากได้ ส่วนผมก็ได้ปกป้องคนที่ผมรัก และผมหวังว่ามันจะรักษาสัญญาที่ให้ผมไว้เหมือนครั้งที่ผ่านมา และทางที่ดีไม่มาให้ผมเจอหน้าอีกเลยจะดีที่สุด ให้ทุกอย่างมันจบแค่วันนี้ วันที่กูต้องโยนศักดิ์ศรีตัวเองทิ้งไป!!!





ค่ายมวย

ผมเดินช้าๆอย่างยากลำบากพาตัวเองเข้ามาที่ค่ายมวยของลุงศรเป็นที่แรก เมื่อผมเดินเข้ามาถึงก็เห็นพวกรุ่นพี่กำลังฝึกซ้อมกันอย่างขันแข็ง มีพี่บางคนหันมารับไหว้ผมบ้าง ทักผมบ้างเมื่อผมเดินผ่านเข้ามา

 “อ้าววว ไอภูเอ็งหายหัวไปไหนมาตั้งหลายวันวะ เห็นไอบอลวิ่งหาตัวเอ็งให้ขวัก”

ลุงศรทักหลังจากที่หันมาเจอผมแล้วเดินนำผมไปนั่งที่โต๊ะทำงานหน้าเวทีมวยซึ่งตอนนี้บนเวทีมีพี่ต่อกับไอบอลกำลังขึ้นชกกันอยู่

“ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกลุงล่วงหน้าว่าจะหยุดนะครับ พอดีผมมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อยเลยไม่ว่างเข้ามา”

ผมยกมือไหว้ขอโทษลุงศร ผมรู้สึกขอโทษแกจริงๆที่ผมทิ้งงานของตัวเองไปโดยไม่ได้บอกกล่าว ไม่รู้ว่างานที่ค่ายจะยุ่งหรือเปล่าตอนที่ผมไม่อยู่ ที่นี่นอกจากผมที่เป็นพี่เลี้ยงสอนมวยรุ่นจิ๋วให้เด็กๆแล้วก็ยังมีไอบอลอีกคนที่ทำหน้าที่เดียวกับผมช่วงที่ผมหายไปมันคงยุ่งน่าดู

“ไม่เป็นไรข้าไม่โกรธเอ็งหรอก เป็นห่วงก็แต่เอ็งจะมีเรื่องอะไรหรือเปล่า เห็นเจ้าบอลบอกเอ็งหายไปตั้งแต่ที่ทำตัวแปลกๆครั้งนั้น พวกข้าก็เลยเป็นห่วงกัน”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ขอบคุณมากนะครับที่เป็นห่วงผม”

“ข้าว่าวันนี้เอ็งคงทำงานไม่ไหวหรอก หน้าตาซีดเซียวเชียว กลับไปพักผ่อนที่บ้านเอ็งก่อนไปหายแล้วค่อยมา”

“ขอบคุณมากจริงๆนะครับลุงศร แล้วผมจะรีบกลับมาทำงานนะครับ”

“เออ ไปๆพักผ่อนเยอะๆ”

ผมพยักหน้ารับคำแล้วเดินกลับไปยังทางออก ถึงผมจะรู้สึกระอายใจที่ต้องละทิ้งหน้าที่ตัวเองไปอีกวัน แต่ถ้าจะให้สอนวันนี้ผมคงจะไม่ไหวจริงๆ

“ไอห่าภู!!!!มึงจะไปไหนอีก พี่ต่อพอแล้วๆ เพื่อนผมกำลังจะหนีผมไปอีกแล้ว”

ไอบอลหันมาตะโกนเรียกผม มันถอดนวมถอดเฮดอย่างไวแล้วกระโดดลงจากสังเวียนวิ่งมาดักหน้าผม

“อะไรของมึง”

ผมถาม แต่มันกลับทำหน้าบึ่งใส่ผมซะงั้น

“มึงไปไหนมารู้ไหมว่ากูตามหามึงวันละกี่รอบ”

“กูมีเรื่องต้องทำนิดหน่อย ว่าแต่มึงตามหากูทำไม”

ผมย้อนถามมัน เห็นมันบอกว่าตามหาผมแสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรซินะ ไม่งั้นมันจะตามหาทำไมหลายๆรอบ

“ไอห่านิ มึงเล่นหายไปตั้งหลายวัน ไปหาที่บ้านก็ไม่เคยจะเจอกูก็นึกว่าโดนอุ้มไปแล้ว”

“สัสบอลเดี๋ยวกูเตะปากให้”

ผมว่ามันแล้วทำท่าจะเตะมันจริงๆ แต่แม่งแค่ผมยกขาก็เจ็บไปถึงสันหลังแล้ว

“ไม่สบายหรอมึง”

มันคงจะเห็นผมทำหน้าเหย่เกเมื่อกี้ มันเลยถามพร้อมเดินเข้ามาจับตัวผม

“ตัวร้อนหนิไอห่า แล้วมายืนทำเหี้ยอะไรตรงนี้ตั้งนานสองนาน”

ด่ากูอีก ก็เมื่อกี้กูกำลังกลับแต่มึงเรียกกูไว้ไม่ใช่หรอ

“ลุงศรครับผมกลับแล้วนะครับ เพื่อนรักของผมไข้แดก”

ไอบอลมันหันไปพูดกับลุงศรแล้ว พาพยุงผมเดินกลับบ้าน ผมพึ่งจะมารู้ตัวอีกทีว่าตัวเองมีไข้ก็ตอนที่ไอบอลมันบอกผม แม้ผมจะแปลกใจที่จู่ๆตัวเองก็มีไข้ ทั้งๆที่ปกติผมไม่ใช่คนที่ป่วยง่ายอะไร แถมครั้งนี้ยังไม่มีอาการอะไรเตือนล่วงหน้าให้รู้ด้วยว่าผมจะป่วย หรืออาจจะเป็นเพราะเรื่องวันนี้

“ไอภูไอห่า เหม่อเหี้ยอะไร ฟังกูพูดบ้างไหมเนี่ย กูบอกว่าวันนี้กูจะกลับไปเอาเสื้อผ้ามานอนบ้านมึงนะ”

“หะ อะ เออๆมึงนี่ก็แปลกบ้านตัวเองนอนสบายกว่ากูไม่ชอบ เสือกชอบมานอนเบียดกับกูบนผ้าปูผืนเดียว”

ผมแขวะมันระหว่างที่เปิดประตูบ้านเข้ามา ผมทิ้งตัวนั่งบนแคร่ตัวยาวหน้าบ้าน แล้วมองหาตาเหงี่ยม แต่กลับไม่เจอ สงสัยจะออกไปเมาอยู่ที่ไหนแน่ๆ

“ก็มึงนั่นแหละ พอกูชวนไปนอนบ้านกูมึงก็ไม่เคยไป กูเลยต้องมานอนบ้านมึงไง”

“กูผิดว่างั้น”

“เออ มึงผิด”

ผมกับไอบอลนั่งคุยนั่งเถียงกันไปเรื่อย ผมคุยกับเพื่อนผมเพลินจนลืมไปเลยว่า เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาผมพึ่งพบเจอกับเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมา และถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะลืมตลอดไป

“ไอภูกูกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อนนะ กูจะอยู่สามวัน เช้าวันอังคารกูค่อยกลับ”

“เออ เรื่องของมึง”

ผมบอกปัดๆแล้วมองร่างเพื่อนสนิทของตัวเองเดินออกจากบ้านไป แล้วผมก็ทิ้งตัวนอนเล่นบนแคร่ แล้วหลับไปในที่สุด

ผมหวังว่าเมื่อผมตื่นมาทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนก่อนหน้าที่ผมไม่รู้จักมัน



............................................................................
คลื่นใต้น้ำมันจะสงบจริงๆหรอภู คนอ่านคิดว่าไงคะ ถ้าอยากรู้ต้องรอติดตามตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ภู...แกมันโง่

คนเลว ๆ อย่างไอ้ภีม  มันไม่รักษาสัญญาอะไรทั้งสิ้นหรอกโว้ย

คอยดูเถอะ   เด๋วมันก็มาตามราวีเอ็งอีกแหละ

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1:รอต่อคะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                   
                                                                - 9 -





     ชีวิตผมหลังจากวันนั้นก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ผมรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ทั้งๆที่จริงแล้วมันแทบจะไม่มีอะไรที่ใหม่เลย บ้านผมก็ยังเป็นบ้านหลังเดิม พ่อผมก็ยังเป็นไอขี้เหล้าคนเดิม เห็นไหมครับว่ามันไม่มีอะไรที่ดีขึ้นไปกว่าเดิมที่เป็นอยู่ก่อนหน้าเลย แต่สิ่งเหล่านั้นกลับทำให้ผมมีความสุข จนแทบอยากจะยิ้มออกมากว้างๆ แต่ติดตรงที่ว่าผมทำไม่ได้ ผมไม่สามารถยิ้มได้ดั่งใจที่ต้องการ แต่ช่างมันเถอะครับผมเป็นอย่างนี้มาจนชินแล้ว ถ้าจู่ๆผมมาเดินแจกยิ้มให้คนในสลัมนี่เห็นซิแปลกผมอาจจะกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งลงไทยรัฐเลยก็ได้ใครจะรู้

     ผมเดินลัดเลาะไปตามคลองซึ่งมันคือทางเข้าทางออกของบ้านผมเพื่อจะไปช่วยงานป้าหนิงที่ท้ายซอย เห็นเช้านี้ตอนเดินสวนกันที่ตลาดบอกว่าจะให้ผมเปลี่ยนหลอดไฟให้เพราะไม่มีผู้ชายอยู่บ้านผมก็เลยมาตามคำขอของแก แล้วตอนนี้ผมก็มาถึงหน้าบ้านแกเรียบร้อยแล้วด้วย

“ป้าหนิงครับภูมาแล้วครับ”

ผมบอกแล้วชะโงกหน้าไปให้ป้าหนิงเห็นที่หน้าต่าง ป้าหนิงเลยเดินมาเปิดประตูให้ผมเข้าไป

“รบกวนหน่อยนะตาภู ป้าไม่รู้จะไปไหว้วานใคร”

ป้าหนิงพูดด้วยความเกรงใจ ผมเลยส่ายหัวแรงๆในเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

“เอ็งนี้ถ้ายิ้มเป็นหน่อยคงจะน่ารักน่าเอ็นดูกว่านี้นะเนี่ย ป้าละอยากเห็นเอ็งยิ้มจริงๆ”

อย่าว่าแต่ป้าเลยครับ ผมเองก็อยากจะยิ้มได้ใจจะขาด ไว้ผมจะพยามฝึกเอามากๆก็แล้วกัน

“ไฟดวงไหนขาดหรอครับ”

ผมถามแล้วมองสำรวจดูโดยรอบ หลังจากเสร็จธุระกับป้าหนิง ผมก็กลับมาที่บ้านเตรียมตัวไปเรียนตามปกติ ก่อนผมจะไปเรียนผมก็ไม่ลืมฝากน้าดาให้ช่วยดูแลตาเหงี่ยมให้ เรื่องกับข้าวกับปลาผมเตรียมให้แกหมดแล้วเย็นนี้กลับมาค่อยแวะมาดูแกอีกที



     ผมมาถึงมหาลัยก็เกือบจะเที่ยงแล้ว เห็นไอเอสกับเกดนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าคณะเลยเดินเข้าไปนั่งกับพวกมัน

“มาพอดีเลยไอเหี้ยภู พวกกูกำลังไปแดกข้าวกันไปด้วยกันไหม”

“จะถามทำไมยังไงภูก็ต้องไปอยู่แล้ว ลุกเลยๆ กูหิวแล้ว”

สิ้นคำประกาศิตผู้ชายสองคนในกลุ่มอย่างผมกับไอเอสก็ต้องลุกขึ้นเดินตามราชินีแต่เพียงผู้เดียวในกลุ่มไปอย่างเสียไม่ได้

ผมเองก็หิวอยากกินข้าวเหมือนกัน แต่มันจะอร่อยกว่านี้ถ้าเกดไม่พาผมมากินที่โรงอาหารของคณะการตลาด

“ทำไมต้องมาแดกไกลถึงที่นี่ด้วยวะเกด”

ไอเอสทำหน้าไม่พอใจแล้วกระแทกจานข้าวลงบนโต๊ะอย่างหัวเสีย ในขณะที่ผมเดินตามลงมานั่งข้างๆ

“ก็เผื่อเจอพี่ภีมไง จะได้ชวนพี่เขามานั่งกินข้าวด้วย นี่กูไม่ได้เจอพี่เขามาจะเป็นเดือนแล้วนะ จู่ๆก็หายไปเลย”

เกดหันไปค้อนไอเอสก่อนจะเดินไปต่อแถวซื้อข้าวกิน เป็นอย่างที่เกดพูดแหละครับตั้งแต่วันนั้นไอภีมก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับเกดอีก มันหายหน้าไปจะร่วมเดือนแล้วซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากๆ เหมือนทุกอย่างมันจบลงและผมก็ได้ชีวิตคืน

“เกดมันยังไม่ยอมบอกกูเลยว่าไปรู้จักไอเหี้ยภีมได้ยังไง”

“มันก็ไม่ได้บอกกูเหมือนกัน”

“มึงเห็นไหมมันตามไอเกดอยู่แค่ไม่กี่วัน สุดท้ายมันก็เบื่อแล้วก็หายไปกูคิดอยู่แล้วว่าแม่งไม่ได้จริงจังกับไอเกดหรอก”

ผมไม่รู้จะตอบอะไรเลยได้แต่พยักหน้ารับแบบขอไปที ไม่นานไอเกดก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมกับชามก๋วยเตี๋ยว

“ไปซื้อข้าวดิ เดี๋ยวเกดเฝ้าโต๊ะให้”

“เฝ้าอย่างเดียวนะไม่ต้องเสือกชวนไอเหี้ยนั่นมานั่งที่โต๊ะล่ะ”

“ไอเอสกูว่าจะถามนานแล้ว ทำไมมึงไม่ชอบพี่ภีมของกูนักห๊ะ! เขาไปทำอะไรให้มึง”

เกดถามไอเอสมาแบบนี้ก็ดีแล้ว ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงดูไม่ชอบหน้าไอภีมเอาซะมากมาย หรือมันจะโดนทำอย่างเดียวกับที่ผมโดน คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรผมก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ใจขึ้นมาทุกที ภาพผมที่ถูกมันใช้เป็นที่ระบายอารมณ์อย่างป่าเถื่อน ยังติดอยู่ในหัวไม่หาย ถึงเวลามันจะล่วงเลยมากว่าเดือนแล้วก็ตาม แต่ความรู้สึกเจ็บมันยังคงชัดเจนเหมือนเรื่องนี้พึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

“ก็เพราะมึงชอบมันไง กูเลยเกลียด”

เป็นคำตอบที่ทำให้คนฟังอย่างผมได้แต่ยิ้มในใจ ความรู้สึกของไอเอสที่มีต่อเกดผมคิดมานานแล้วว่ามันมากกว่าเพื่อนแต่แค่ไม่รู้จะไปเซ้าซี้ถามมันทำไม ผมคิดว่าเอสชอบเกดและน่าจะชอบมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่งด้วยซ้ำ ไม่ว่าเรื่องไหนก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับเกดไม่มีทางที่ไอเอสคนนี้จะไม่รู้ ส่วนเกดเองผมไม่แน่ใจว่าเกดรู้หรือเปล่า เพราะมันสองคนอยู่ใกล้กันเกินกว่าที่จะมองเห็นความรู้สึกเหล่านั้น



          สุดท้ายวันนี้ไอเกดแห้วครับมันไม่ได้เจอไอเหี้ยภีมอย่างที่ตั้งใจ พอกินข้าวเสร็จพวกผมก็ขึ้นเรียนก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันไม่ได้มีโปรแกรมหลังเลิกเรียน เพราะวันนี้แม่เกดมาหาที่หอพักส่วนไปเอสก็ขับรถไปส่งเกดตอนแรกมันบังคับจะไปส่งผมที่บ้านแต่ก็โดนผมปฏิเสธเพราะผมไม่อยากเป็นก้างขวางคอใคร ผมเดินมาขึ้นรถเมล์หน้ามหาลัย พอขึ้นมาได้ผมก็เดินหาที่นั่ง แล้วบังเอิญหันไปเจอไอบอลเข้าพอดี ผมเลยทิ้งตัวนั่งข้างมัน โดยที่มันเองก็ขยับที่ให้ผมนั่งอย่างรู้งาน

“ทำไมวันนี้มึงกลับรถเมล”

ผมถามทันทีที่ก้นถึงเบาะ การที่เห็นไอบอลนั่งรถเมลแบบนี้มันทำให้ผมอดแปลกใจไม่ได้ เพราะปกติมันเกลียดการนั่งรถเมลจะตาย เวลามันจะไปไหนมาไหนแต่ละทีมันมักจะเอาลูกรักราคาเกือบสิบล้านของมันไปด้วยตลอด มันบอกให้มันเดินยังดีซะกว่านั่งรถเมลเลย แต่แล้วไหงวันนี้มันถึงขึ้นมาใช้บริการขนส่งของรถเมล

“รถกูเสีย แม่งโคตรหงุดหงิดเลยเสือกมาเสียวันที่กูจะไปงานวันเกิดพี่กูด้วย นี่กูยังไม่รู้เลยว่าขากลับกูจะกลับยังไง”

ไอบอลมันพูดอย่างหงุดหงิด ผมเองก็ได้แต่นั่งฟังมันเงียบๆเพราะไม่รู้จะช่วยมันยังไง ก่อนที่มันจะหันมาหาผมอย่างคนพึ่งนึกอะไรออก

“ไอภูกูคิดออกแล้ว บ้านพี่กูอยู่แถวบ้านมึงพอดี เอางี้มึงไปกับกูแล้วพองานเลิกกูก็ไปนอนบ้านมึง อย่างนี้เป็นไง”

“มึงให้พี่เขาไปส่งไม่ดีกว่าหรอ”

“มึงบ้าป่ะวันเกิดที่ไหนงานเลี้ยงจบแล้วเจ้าภาพไม่เมาบ้าง กว่างานจะเลิกกูว่าพี่เขาคงเมาหลับไปแล้วด้วยซ้ำ”

“แล้วคนขับรถที่บ้านเขาไม่มีหรือไง”

ผมยังไม่เลิกสงสัย ถ้าบ้านรวยขนาดจัดงานได้ใหญ่โตขนาดนั้นก็น่าจะมีคนขับรถอยู่บ้างแหละ ทำไมจะขอให้มาส่งคนที่เรียกว่าน้องไม่ได้

“ไอภูมึงไม่อยากไปกับกูแล้วก็ไม่อยากให้กูไปนอนบ้านมึงก็พูดมาเหอะ ทำเป็นพูดเยอะ”

“งอนกูหรอ”

ผมแกล้งถามมัน แค่เห็นท่าทางทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่างขยับตัวหนีผมก็รู้แล้วครับว่ามันงอน

“แล้วมึงจะง้อไหม”

แหนะๆมีหันมาหรี่ตาถามอีก ไอควายเอ้ยโตจะตายห่าแล้วเสือกทำงอนเป็นเด็ก

“เออ ง้อ”

ผมพูดสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบๆของผมเช่นเคย ถึงแม้ว่าตอนนี้ในใจผมมันกำลังยิ้มก็ตาม

“ดีมาก เพื่อนกูต้องอย่างนี้ซิ งั้นเดี๋ยวแวะบ้านมึงเอาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน กูซื้อมาใหม่แล้ว ดีนะกูซื้อมาสองชุดเผื่อเลือก มึงเอาไปใส่ชุดนึงแล้วกัน”

ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากมองหน้าต่างชมวิวไปเรื่อย จนมาถึงบ้านผมนี่แหละ ไอบอลพาผมมาที่บ้านหลังหนึ่งหลังจากที่ปล้ำแต่งตัวให้ผมอยู่นาน ภายในบ้านที่ผมเห็นถูกประดับไปด้วยไฟสีส้มสลั่วทั่วทั้งบ้าน ผมได้ยินเสียงเพลงที่ดังมาจากข้างในอย่างชัดเจน แม้ผมจะพึ่งเดินพ้นประตูบานใหญ่ของบ้านมาได้ไม่เท่าไหร่ ผมว่าบ้านหลังนี้มันคุ้นตายังไงชอบกล และผมก็รู้สึกแปลกๆกับบ้านหลังนี้เสียด้วย ผมค่อยๆชะลอฝีเท้าที่ก้าวตามหหลังไอบอลลงช้าๆ พยายามนึกให้ออกว่าผมเคยเห็นบ้านนี้ที่ไหนมาก่อน บ้านหลังใหญ่สีขาวราวกับคฤหาส



“สวัสดีคะมาคนเดียวหรอคะ”

ผมหันไปตามเสียงทักที่มาจากข้างหลัง ก็พบสาวน้อยในชุดแดงกำลังมองผมอยู่ เธอสวมชุดกระโปรงเกาะอกสั้นสีแดง เผยให้เห็นอะไรต่อมิอะไรที่เด็กสาวอย่างเธอไม่ควรจะโชว์ ผมไม่ค่อยกล้ามองเท่าไหร่นักเลยมองเลยเธอไปข้างหลังแทน

“มากับเพื่อนครับ ขอตัวก่อนนะครับ”

ผมว่าแล้วพยายามปลีกตัวออกมา

“ใครหรอพลอยคนรู้จักแกหรอ โคตรน่ารักเลย”

ผมเดินออกมายังไม่ไกลเท่าไหร่เลยได้ยินที่เธอพูดโดยบังเอิญ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงถูกมองว่าน่ารัก ผมเป็นผู้ชายสูงร้อยแปดสิบ แถมหน้าก็นิ่งอย่างรูปปั้น ทำไมพวกเขาถึงชมผมกันแบบนั้น ผมไม่เห็นจะรู้สึกดีเลยทั้งๆที่ถูกชม ผมเลิกสนใจคำพูดพวกนั้นก่อนค่อยๆเดินแทรกผู้คนในงาน เพื่อตามหาไอบอล

“ไอภู ไอห่ากูก็เดินหามึงซะตั้งนาน มานี่กูจะพาไปหาพี่กูเขารออยู่ตรงโน่น”

ผมพยักหน้ารับแล้วเดินตามไปบอลไปเรื่อยๆ คนที่นี่เยอะจริงครับ แค่งานวันเกิดธรรมดาแต่กลับมีผู้ร่วมงานมากมาย ผมมองไปรอบๆสนามหญ้าหน้าบ้านที่ใช้จัดงานก็เห็นซุ้มอาหารกระจัดกระจายอยู่โดยรอบ เห็นแล้วผมเองก็เริ่มหิว

“พี่ครับนี่ไงเพื่อนผม ไอภูๆนี่พี่ภีมพี่ชายคนสนิทของกู”

ผมคิดว่าตัวเองหูฝาด คิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่คนเราจะมีชื่อคล้ายกัน ผมพยายามทำใจให้เชื่อแบบนั้น ก่อนจะหันมาพบกับความเป็นจริงที่ว่า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญผู้ชายที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำสนิทตรงหน้าผมนี้คือไอเหี้ยภีม เป็นภีมคนที่ผมรู้จักจริงๆ ไอภีมคนที่ผมคิดว่ามันจะหายไปจากชีวิตผมแล้วตลอดกาล กำลังยืนยิ้มกวนส้นตีนให้ผมอยู่ คนอื่นมองอาจจะคิดว่าเป็นการยิ้มทักทายทั่วไป แต่สำหรับผมรอยยิ้มนั้นของมันเลวร้ายพอๆกับยาพิษเลยก็ว่าได้

“สวัสดีครับน้องภู ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

มันพูดแล้วแกว่งแก้วไวน์ที่อยู่ในมือเล่น

“อ่าวนี่รู้จักกันหรอ ภูทำไมไม่เห็นบอกกูเลย”

ไอบอลหันมาทำหน้าดุใส่ผม แล้วเขย่าแขนผมอย่างเด็กที่ถูกขัดใจ

“ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร บอลกูกลับไปรอมึงที่บ้านแล้วกัน กูฝากตาเหงี่ยมไว้กับน้าดาหลายวันแล้วเกรงใจเขา”

ผมบอกปัดๆแล้วแกะมือไอบอลที่เกาะอยู่บนแขนออก ผมสังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียวตั้งแต่เห็นบ้าน ที่ผมว่าคุ้นก็เพราะมันคือบ้านไอเหี้ยภีมซินะ ที่ผมจำไม่ได้ตั้งแต่แรกเพราะไอบอลพาผมมาบ้านหลังนี้ด้วยทางลัดของมัน เลยทำให้ผมไม่คุ้นทาง ถ้าผมรู้ว่าเป็นบ้านมัน ผมคงไม่คิดที่จะเหยียบเข้ามาด้วยซ้ำ

“น้องภูแน่ใจนะครับว่าเรื่องของเราไม่สำคัญ”

มันพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ แล้วมองผมด้วยสายตาที่เย้ยหยั่น

“หมายความว่ายังไง”

“จะให้อธิบายตรงนี้จะดีหร้อ”

“มึง!!!”

“เฮ้ยไอภูใจเย็นๆเว้ย!!”

ทันทีที่ผมได้ยินในสิ่งที่มันพูด ก็อดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าไปหามัน หวังจะใช้หมัดสั่งสอนคนปากไม่ดีอย่างมันซักทีสองที

แต่ก็ถูกไอบอลล็อคคอไว้ก่อน

“ภูมึงใจเย็นหน่อยดิวะ กูไม่รู้ว่าพวกมึงทะเลาะอะไรกันแต่นี่มันงานมงคลนะเว้ยอย่ามีเรื่องกันเลย”

ไอบอลไกล่เกลี่ยแล้วพยายามแกะมือผมที่อยู่บนคอเสื้อไอภีมออก ผมเลยยอมปล่อยมือที่กำคอเสื้อไอภีมไป

“กูไปรอที่บ้าน อย่าแดกเมามากให้กูต้องมารับ ไม่งั้นมึงก็นอนที่นี่”

ผมหันไปว่ามันแล้วจะเดินออกไปอย่างที่ใจคาดหวังไว้แต่แรก แต่

“ถ้ามึงกลับกูจะบอกไอบอลถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของเรานะ มันคงจะตกใจที่รู้ว่ามึงเป็นเมียกู”

“ไอสัสภีม!!!”

ไอภีมกระชากแขนผมไว้แล้วพูดปากชิดกกหูผม ให้พอได้ยินเพียงสองคน นั่นก็ทำให้ผมโมโหเป็นอย่างมาก มันทำอย่างนี้มันต้องการอะไรจากผมอีกกันแน่

“ขึ้นอยู่กับมึง ถ้ามึงทำตามคำสั่งกูกูก็จะเงียบ แต่ถ้ามึงยังดื้อกับมึงก็รู้นะว่ากูจะทำยังไง”

“ไหนมึงบอกว่าจะปล่อยกูไป!!!!”

“กูก็ปล่อยไปแล้วไง แต่เสือกเป็นมึงเองที่เดินกลับมา”

“กูเปล่ามันไม่ใช่อย่างที่มึงคิด กูไม่รู้ว่านี่เป็นงานของมึง ถ้ากูรู้มึงคิดหรอว่ากูจะมา”

“นั่นมันเรื่องของมึง มึงอย่ามาพูดให้กูอารมณ์เสีย ถ้าไม่อยากให้เพื่อนมึงรู้เรื่องของเรา”

“มึงต้องการอะไร!!!”

**“มึงไม่ได้อยู่ในฐานะที่มีสิทธิ์ตั้งถาม แค่ทำตามที่กูบอกถ้ามึงอยากรักษาความลับเรื่องที่เป็นเมียกูและ…น้องเกดเพื่อนของมึง”**



..........................................................

เอาแล้วๆ มันกลับมาอีกแล้ว เฮ้อ แล้วชาตินี้ภูจะหลุดพ้นจากภีมมันไหมเนี่ย !! มีซิมี แต่ต้องอดใจรอกันซักหน่อยนะคะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

โลกแม่งก็กลมเกิ๊น

นุ้งภูดวงซวยที่เสือกต้องมาเจอไอ่เห้ภีมอีก

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1


อ่านเรื่องนี้ได้ต้องซาดิสม์นิดๆ ชอบการทรมานหน่อย

แต่อย่าเยอะไปนะ สงสารน้องภูเขาอ่ะ




 :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:

อ่ะ. ขอกระโดดถีบไอภีม แก้แค้นทางน้องภูนิดส์นึง





ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :pig4:รอคะชอบๆๆ :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ภีมมันก็โรคจิตอะตามเนื้อผ้า
แต่น่ากระทืบกว่าคือเพื่อนของภูนิละ
หาแต่เรื่อง...คนหนึ่งบ้าผู้ชาย อีกคนไม่รู้เรื่องห่าไรเลย
ปวดหัว !

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3


อ่านเรื่องนี้ได้ต้องซาดิสม์นิดๆ ชอบการทรมานหน่อย

แต่อย่าเยอะไปนะ สงสารน้องภูเขาอ่ะ




 :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:

อ่ะ. ขอกระโดดถีบไอภีม แก้แค้นทางน้องภูนิดส์นึง




ทำไงดี ยังมีอีกอ่ะความเลวของภีม จะว่าเยอะไหมก็เยอะอยู่นะ เรื่องนี้เราแต่งจบแล้ว แต่มันไม่หนักมากค่ะ ยังไงก็อย่าพึ่งทิ้งกันไปก่อนนะ อยู่เป็นกำลังใจให้น้องภูก่อนนะคะ  :mew2:

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ภีมมันก็โรคจิตอะตามเนื้อผ้า
แต่น่ากระทืบกว่าคือเพื่อนของภูนิละ
หาแต่เรื่อง...คนหนึ่งบ้าผู้ชาย อีกคนไม่รู้เรื่องห่าไรเลย
ปวดหัว !


คนที่บ้าผู้ชายนี่บ้าทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ได้สนใจตัวเองนะ แต่เดี๋ยวเธอคนนั้นจะเลิกบ้าไปเอง รอลุ้นตอนหน้าดีกว่าว่าภูจะโดนภีมรังแกอีกไหม ขอบคุณสำหรับ comment นะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                               

                                                                                  - 10 -

Part's Pheem



     ใครจะรู้ว่าวันเกิดปีนี้ของผม จะเป็นวันเกิดปีแรกที่ผมมีความสุขที่สุด ไม่ใช่เพราะของขวัญราคาแพงแสนแพงที่ผมได้รับจากเพื่อนหรือแม่เบญ ไม่ใช่เพราะผมมีงานเลี้ยงที่ใหญ่โตอะไร เหตุผลทั้งหมดมันเกิดเพราะไอหน้าเฉยในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่มีลายไม้กางเขนสีดำอันใหญ่คาดทับอยู่บนอกกับกางเกงเดฟสีดำเข้ม ทำให้เห็นรูปร่างสัดส่วนของคนใส่ได้อย่างชัดเจน วันนี้ไอเฉยของผมมันดูดีมากๆครับ ผมสีดำเข้มที่ปกติจะดูเซอๆไม่เป็นทรงวันนี้ ถูกจัดเซทมาอย่างดี เผยให้เห็นหน้าขาวๆที่ไร้รอยยิ้มของมัน ไอภูยืนทำหน้านิ่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งผมเป็นคนกำหนดไว้เนื่องจากมันง่ายต่อผมที่จะมองหา

     ผมไม่ค่อยจะเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำซักเท่าไหร่ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องคิดหาเหตุผมร้อยแปดเพื่อที่จะเข้าใกล้มัน หลังจากเรื่องวันนั้น ผมก็เอาแต่คิดถึงมันตลอด ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่าให้ปล่อยมันไปตามที่มันต้องการ แต่อีกใจนึงก็คอยแต่ที่จะหาวิธีเข้าหามัน ซึ่งอันที่จริงผมอาจจะยกเรื่องเกดขึ้นมาขู่มันเพื่อให้มันกลับมาก็ได้ แต่ผมก็ให้สัญญากับมันไปแล้ว

สำหรับผมแล้วคำสัญญาเป็นคำที่ไม่สามารถเอามาพูดเล่นๆได้ ผมก็เลยไม่คิดจะทำ ได้แต่รอเวลาที่จะเจอมันอีกครั้งโดยบังเอิญ และถ้าวันนั้นมาถึง ผมจะถือว่ามันเป็นโชคชะตา ดังนั้นผมเลยจะทำทุกทางเพื่อให้มันกลับมา ต่อให้ต้องทำในสิ่งที่ผมเกลียดที่สุด ผมก็จะทำ


"ไอภีมมึงมองห่าอะไรของมึงวะ มองแล้วยิ้มโคตรหื่นเลย”

ผมหันไปตามเสียงทักก็เห็นไอนพยืนอยู่ตรงหน้าผมและมองผมด้วยสายตาแปลกๆ นี่ผมเป็นแบบที่มันพูดจริงๆหรอ ผมยิ้มหื่นให้กับไอห่าภูที่เป็นผู้ชายเนี่ยนะ ประสาทหรือเปล่า ระดับผมต้องเป็นอกตูมๆหุ่นเป้ะๆเท่านั้น ไอห่านพนี่มั่วและ

"เสือกเหี้ยอะไร แล้วพวกไอต้ามายัง”

ผมถามไอนพ แต่ตาก็ไม่วายเหลือบไปมองไอเฉยของผม ตอนนี้มันอยู่กับไอบอลเพื่อนมัน ถ้าดูเผินๆเหมือนไอบอลจะเป็นฝ่ายเดียวที่คุยหัวเราะเล่น เพราะไอเฉยมันไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมกับใครเท่าไหร่นัก แต่นั่นคือถ้ามองเผินๆนะครับ ถ้าหากมองจากมุมของคนที่รู้จักไอเฉยในระดับหนึ่งแล้ว จะเห็นว่ามันดูสนุกและผ่อนคลายไม่น้อยเวลาที่คุยกับเพื่อนของมัน และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบใจซักเท่าไหร่ ทำหน้าระรื่นใส่คนอื่นแต่เสือกทำนิ่งต่อหน้าผัว มึงนี่สองมาตราฐานจริงๆ

"นั่นไง พวกมันมาโน่นแล้ว”

ไอนพพูดแล้วชี้ไปทางกลุ่มเพื่อผมอีกสามคนที่เดินเข้ามาใหม่ ผู้ชายสองคนที่กำลังเดินมาหาผมคือไอต้าและท็อป ส่วนผู้หญิงที่เดินตามมาติดๆคนนี้คือคู่ควงคนล่าสุดของผมเอง ปลายฟ้า

"ปลายทำไมมาพร้อมพวกมันได้ละครับ”

ผมถามแล้วเดินเข้าไปโอบเอวเธอแสดงความเป็นเจ้าของซะหน่อย ปลายในชุดกระโปรงสั้นสีขาวบาง เหว้าหน้าเหว้าหลังแทบจะเผยทุกสัดส่วนให้สาธารณะชนเห็น นี่ถ้าเป็นคนที่ผมคิดจะจริงจังด้วยหน่อยนะผมจะด่าให้ไฟแล่บเลยถ้าแต่งอย่างนี้ออกจากบ้าน แต่เพราะเธอไม่ใช่เธอจะแต่งเหว้าหน้าหรือแหวกลึกไปถึงไหนผมก็ไม่แคร์

"แหมมม ไอคุณชายที่กับเพื่อนมึงนี่แทบจะไม่เห็นหัวเลยนะครับ ทักทายหน่อยก็ได้เดี๋ยวกูน้อยใจนะ”

ผมโดนไอต้าแขวะ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะสิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผมตอนนี้คือสาวน้อยชุดขาวนี่ต่างหาก

"ทานอะไรมาหรือยังครับปลาย”

"ยังเลยคะ ภีมพาปลายไปหาของกินหน่อยซิ”

เจอลูกอ้อนเข้าหน่อย ผมก็พาสาวเจ้าเดินไปหาอะไรกินแถวสนามหญ้าหน้าบ้าน เพราะก่อนหน้าผมยืนอยู่บนชั้นลอยของบ้านที่จัดไว้สำหรับครอบครัวและเพื่อนสนิทของผม

“อยากกินอะไรหรอครับเดี๋ยวภีมให้คนเอามาให้ต่างหากก็ได้ไม่เห็นต้องเดินเลย”

ผมว่าแล้วโอบคนใกล้ตัวเข้ามาชิดอีก กลิ่นน้ำหอมของเธอนี่ช่างกระตุ้นความต้องการของผมเสียเหลือเกิน ปลายฟ้าเหมือนจะรู้ความต้องการของผม ตลอดเวลาที่เดินเธอพยายามเอาหน้าอกมาชนแขนผมบ้าง หรือไม่ก็เอามือลูบเอวผมเล่นบ้าง

“เราเปลี่ยนจากหาอะไรกิน ไปทำอย่างอื่นกันดีไหมครับ”

ผมกระซิบเบาที่ข้างหูเธอ ก่อนจะขบเบาๆให้พอกระสัน

"ค่ะ”

ผมพาปลายฟ้าไปที่ลับตาคน ข้างบ้านหลังพุ่มไม้หนาที่อยู่ไม่ไกลจากตัวงานถูกเปลี่ยนให้เป็นสถานที่เริงรักระหว่างผมกับปลาย บทรักอันร้อนแรงเริ่มขึ้นทันทีหลังจากที่ผมดันเธอให้ติดกับกำแพงก่อนจะตามเข้ามาบดขยี้ริมฝีปากเรียวสวยที่ดูเหมือนจะเชิญชวนให้ผมลิ้มลองอยู่ตลอดเวลา ปลายเองก็ใช่ย่อยที่ไหนเธอตอบรับผมกกลับมาได้อย่างไม่มีที่ติ และดูเหมือนจะเจนจัดกับเรื่องพวกนี้มาไม่ใช่น้อย ปลายนิ้วเรียวกระชากหนังศรีษะผมให้เงยขึ้นก่อนที่เธอจะกดจูบลงมาที่ปากผมแรงๆ ปลายใช้ลิ้นแลบเลียตั้งแต่ปลายคางของผมขึ้นจรดริมฝีปาก มือเรียวก็พยายามไล่ถอดเสื้อผมออก จนผมต้องจับมือเธอไว้

"ผมว่าเราไปต่อกันบนห้องเถอะ ผมเริ่มไม่ไหวแล้ว”

ผมพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ ก่อนจะขยับเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เพื่อจะได้ไม่เป็นที่สังเกตของใครเวลาเดินกลับเข้าไปในงาน ปลายเองก็ทำเช่นเดียวกับผม เราสองคนเดินจูงมือกันออกมาจากหลังพุ่มไม้ ก่อนที่ฝีเท้าของผมจะหยุดลง

"คุณเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ”

ผมยืนมองคนสองคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่ตรงหน้า ซึ่งห่างจากจุดที่ผมยืนไม่มากนัก ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดกระโปรงสีแดงสั้นๆ กำลังเอามือโอบรอบคอผู้ชายคนหนึ่งที่ดูไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมกับเธอมากนัก

"พี่ภูใช่ไหมคะ จำพลอยได้ไหม”

ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรก็ไม่รู้ผมฟังไม่ถนัด รู้อย่างเดียวว่ามือเธอกำลังไล้แผงอกของผู้ชายตรงหน้าผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบาง

และนั่นแทบจะทำให้ผมเดินไปกระชากแขนเธอออกจากคนตรงหน้าเธอทันที ติดตรงที่ปลายจับมือผมไว้ก่อน

"มีอะไรคะภีมจะไปยุ่งกับเขาทำไม”

"จำได้ครับ พลอยมีอะไรกับผมหรือเปล่าทำไมต้องมาคุยตรงนี้ด้วย”

ผมแกะมือของปลายที่จับแขนผมอยู่ออกแล้วค่อยๆเดินไปยังที่ๆคนสองคนยืนอยู่ บทสนทนาที่ผมไม่ได้ยินเมื่อครู่เริ่มผ่านเข้าหูมาให้ผมได้ยินบ้างแล้ว

"พี่ภูอย่าทำเป็นไม่รู้เลย”

ผู้หญิงน่าไม่อายคนนั้นโน้มหน้าเข้าไปใกล้ผู้ชายตรงหน้ามากขึ้น แต่ก็โดนผลักออกเบาๆ

"ไม่มีอะไรงั้นขอตัวนะครับ”

ผู้ชายตรงหน้าผู้แล้วแกะมือผู้หญิงที่โอบรอบคอออก ก่อนจะโดนสาวเจ้ากดท้ายท้อยคนตรงหน้าเข้ามาจูบอย่างไม่ตั้งตัว

"ทำอะไรกันหน่ะ!!!”

ผมที่พึ่งเดินเข้าไปถึงตะโกนลั่น ตอนนี้ผมโกรธจนควันแทบจะออกหู ก็ไอผู้ชายที่ว่ามันคือไอภู ไอเฉยที่ผมบอกให้มันยืนรอผมที่โต๊ะ แต่ตอนนี้มันขัดคำสั่งผมแถมยังมาทำประเจิดประเจ้อในงานวันเกิดผมอีก

"ไอภูมึงมาทำอะไรที่นี่”

ผมตะคอกถามมันอย่างหัวเสีย แต่มันก็ไม่ตอบผมเหมือนที่ผมคาดไว้ มันทำหน้านิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร

"ภีมใจเย็นคะนี่มันเรื่องอะไรกัน”

"ปลายครับ ปลายขึ้นไปรอภีมข้างบนก่อนได้ไหม เดี๋ยวภีมตามไป”

ผมบอกปลายที่พยายามทำให้ผมใจเย็นลง ให้ไปรอผมที่ข้างบนก่อนจะบอกให้ไอภูเดินตามผมมา ผมพาไอภูมายังที่ที่ผมพึ่งเดินจากไปไม่นาน พอมาถึงผมก็ยกมือขึ้นบีบคางมันอย่างแรง

"สัส ปะ ปล่อยกู กูเจ็บ”

"มึงทำเหี้ยอะไร ถ้ากูไม่เห็นนี่คงเอากันตรงนั้นแล้วใช่ไหม!!!!”

ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงโกรธมันมากขนาดนี้ ทั้งๆที่ดูก็รู้แล้วว่าฝ่ายหญิงเป็นคนเริ่มทุกอย่างก่อนด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็โกรธมัน ไอภูพยายามแกะมือที่บีบคางผมออก

"กูไม่ใช่มึงนะจะได้เที่ยวไปทำใครเขาเสียหายง่ายๆ ปล่อยกู”

มันพูดแล้วสะบัดตัวหลุดออกจากการพันธนาการของผมได้ในที่สุด

"ก็ดีที่มึงคิดได้อย่างนั้น อย่าทำให้กูต้องย้ำว่ามึงเป็นอะไรกับกู หรือมึงอยากจะให้กูย้ำจริงๆ”

ผมว่าแล้วเดินเข้าไปชิดมัน มันเดินหนีผมไปไหนไม่ได้เนื่องจากหลังมันติดอยู่กับกำแพง แถมยังโดยแขนแกร่งของผมกั้นไว้ทั้งสองทาง ไอภูมองหน้าผมภายใต้ใบหน้านิ่งๆของมัน ผมเห็นนัยน์ตาทั้งสองข้างของมันกำลังตื่นตะหนก เห็นอย่างนั้นผมก็อดที่จะยิ้มมุมปากไม่ได้

"กลัวหรือไง”

ผมแหย่มัน แล้วโน้มหน้าเข้าไปใกล้มันเรื่อยๆ ผมตั้งใจให้ปลายจมูกผมชนกับปลายจมูกมันเบาๆ ผมได้กลิ่นหอมจากตัวมันด้วย เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆที่ไม่เหมือนกลิ่นน้ำหอมของปลายฟ้า ผมชักอยากรู้แล้วซิว่ามนคือกลิ่นอะไร แล้วจะผิดไหมที่ผมแค่อยากจะหาที่มาของกลิ่น ผมลากปลายจมูกเข้ามาฝังที่ต้นคอด้านซ้ายของคนตรงหน้าอย่างเร็ว ก่อนจะสูดกลิ่นหอมๆนั่นจะคนตรงหน้าจนเต็มปอด

"อ๊ะ!!!ทำเหี้ยอะไรของมึง”

มันด่าผมพลางย่นคอหนี แต่มันจะรู้ไหมว่านั่นคือการเปิดโอกาสให้ผมมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า ผมเปลี่ยนจากแค่สูดดมเฉยๆเป็นดูดเม้มให้ขึ้นรอย ก่อนจะกดจูบหนักที่ริมฝีปากบางของคนตรงหน้า โดยที่ไอภูเองก็พยายามขัดขืนเต็มที่ ทั้งผลักทั้งกระชากเสื้อผมจากด้านหลัง แต่ก็ทำอะไรผมไม่ได้ไม่ใช่เพราะแรงมันน้อย แต่มันเป็นเพราะผมใช้ตัวดันมันชิดกำแพงจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกับกำแพงต่างหากมันเลยไม่สามารถขัดขืนได้

"อ้าปากซิคนดี เร็วอย่าให้กูต้องใช้กำลัง”

ผมบีบปากมันเพราะมันปิดปากแน่นไม่ยอมให้ลิ้นผมผ่านเข้าไปสำรวจความหวานในปากได้อย่างที่ใจต้องการ แต่มีหรอคนอย่างไอภูจะทำตามง่ายๆ

"มึงจะยอมให้กูจูบดีๆหรือ จะให้กูจับมึงปล้ำตรงนี้มึงเลือกเอา ไม่แน่เพื่อนมึงอาจจะรู้อะไรดีๆโดยที่กูไม่ได้บอกก็ได้”

ไอภูทำหน้าเหมือนคิดอะไรซักอย่างปากก็ยังคงปิดสนิทเหมือนเดิม ผมเลยแกล้งเอามือไปแกะกระดุมเสื้อมัน มันเลยรีบเอามือขึ้นมาจับมือผมไว้แน่น พอผมเงยหน้ามองงมันมันก็ทำหน้านิ่งๆใส่ผมก่อนจะค่อยๆเปิดปากให้ผม

หึ ไอภูตอนี้โคตรน่ารักเลย ถ้ายังไม่มีใครเคยเห็นคนเขินหน้านิ่งเป็นยังไง ผมแนะนำให้มาดูที่ไอห่าภูได้ มันน่ารักซะผมไม่อยากหยุดแค่จูบเลยด้วยซ้ำ ผมกดจูบลงบนฝีปากมันอีกครั้งแล้วสอดลิ้นเข้าไปกวาดหาความหวาน ลิ้นผมค่อยๆไล่ต้อนลิ้นของมันไปเรื่อย คนอย่างไอภูไม่เคยยอมใครเลยจริงๆครับ มันทำให้ผมแทบจะหลุดขำออกมาทั้งๆที่ปากเชื่อมกันอยู่ มันพลิกลิ้นหลบผมทุกทางไม่ว่าผมจะต้อนมันไปทางไหน ผมไม่รู้ว่านี่คือการจูบตอบของมัน หรือมันแค่จะกวนตีนผมกันแน่

แต่ที่รู้ๆผมว่าจูบนี้วิเศษสุดๆเท่าที่ผมเคยผ่านมาเลยแหละ

“ไอสัสภีม พะ พอได้แล้ว!”

มันว่าแล้วพลักผมออกอย่างแรง แต่ผมก็ยังยิ้มได้ครับ เพราะอารมณ์ดี

"วันนี้กูจะปล่อยมึงไปก็ได้ เห็นแก่จูบอันเร่าร้อนของมึง”

ผมแหย่มันแล้วหัวเราะในลำคอ ในขณะที่หน้ามันแดงขึ้นเรื่อยๆ โอยไอภูมึงอย่ายั่วกูแบบนี้ซิวะ

“สัส”

มันด่าผมสั้นๆ แล้วเดินหนีผมไป ถึงผมอยากจะรั้งไว้ใจจะขาดก็ต้องยอมปล่อยมันไป เพราะผมยังมีเวลาเล่นกับมันอีกนาน

ตอนนี้ผมขอไปจัดการอารมณ์ตัวเองให้เข้าที่ก่อน ไอภูแม่งยั่วผมจนของขึ้น ส่วนตัวเองเดินหนีไปหน้าตาเฉย ดีนะวันนี้ที่ผมมีปลายฟ้าอยู่ด้วย กำลังคิดว่าผมเลวกันใช่ไหมเกิดอารมณ์กับอีกคนแต่กลับให้อีกคนปลดปล่อยให้ ครับผมยอมรับ ยังไงซะผมกับปลายฟ้าเราเป็นได้แค่คู่นอนเท่านั้น ผมไม่คิดจะคบปลายฟ้าจริงๆ แค่สนุกร่วมกันพอเสร็จก็ทางใครทางมันวินๆทั้งสองฝ่าย ผมเดินกลับเข้ามาในงานได้ซักพักไอบอลก็เดินทำหน้าบึ่งมาหาผมพร้อมกับไอภูเพื่อนของมัน แล้วทำไมต้องจูงมือกันมาด้วยวะทะแม่งๆนะมึงสองคน

"พี่ผมกับไอภูกลับแล้วนะ”

"แล้วเป็นห่าอะไรทำหน้าอย่างกะหญิงไม่ให้ปี้”

ผมแกล้งแซว แล้วก็เหลือบมองคนข้างๆมันหน้าที่พึ่งแยกกันมาเมื่อกี้หน้ามันยังแดงไม่หายเลยครับ

"หญิงไม่ให้ปี้ผมจับไอเหี้ยภูทำเมียก็ได้ แม่งหายหัวไปไหนก็ไม่รู้ต้องให้ผมเดินตามตลอด”

จากที่ผมยิ้มๆอยู่นี่หน้าเปลี่ยนสีทันทีเลยครับ ก่อนจะตวัดสายตาไปหาไอภู มันเองก็คงไม่คิดว่าเพื่อนมันจะพูดแบบนี้มั้งครับเห็นมันยกมือขึ้นตบหัวไอบอลแต่ไม่แรงมาก

“ สุขสันต์วันเกิดอีกทีพี่ผมไปนะ”

“เดี๋ยวซิ น้องภูไม่คิดจะอวยพรพี่หน่อยหรอครับวันนี้วันเกิดพี่นะ”

ผมแทรกเสียงขึ้นระหว่างที่มันสองคนจะเดินไป ไอบอลหันมามองผมสลับกับไอภูไปมา เหมือนมันกำลังสงสัยเรื่องระหว่างผมกับเพื่อนมัน แต่มันก็ไม่ยอมพูด ผมยืนรอว่าไอภูมันจะยอมเปิดปากพูดไหม ถึงจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็เถอะ เมื่อเห็นมันไม่พูดผมเลยเดินไปสั่งลามันที่ข้างหูซักหน่อย เอาให้ได้ยินกันชัดๆแค่สองคน

"ไปนอนกับมันอย่างเดียวได้ แต่ห้ามทำอย่างที่กูทำกับมึง ไม่งั้นมึงโดนดีแน่”

"กลับดีๆนะไอบอลและก็น้องภู”

ผมกระซิบบอกไอภูที่ข้างหู ก่อนจะหันมายิ้มทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และก็ไม่สนใจด้วยว่าไอภูจะทำหน้ายังไงตอนที่ผมพูด เพราะถ้าหันไปก็จะเจอแต่หน้าในแบบเดิมๆของมัน ตอนนี้มันสองคนเดินกลับไปแล้ว ผมเลยขึ้นไปข้างบนต่อ

ปีนี้เป็นวันเกิดที่ผมชอบที่สุด ผมเดินไปคุยกับเพื่อนๆอยู่พัก ก่อนจะพาปลายฟ้าขึ้นไปบนห้องด้วยกัน หลังจากนั้นคงไม่ต้องบอกแล้วนะครับว่าผมขึ้นไปทำอะไร วันนี้ยังไงก็ฟ้าเหลืองแน่ๆ




------------------------------------------------------------------------

มันกับมาอีกแล้ววววววววววววววววววววว แล้วภูจะทำยังไงต่อจากนี้ มาลุ้นกันตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

โอ๊ย...ขัดใจ  ไม่ล่ายลังจายเลอ

อิภีม...แกจะยุ่งวุ่นวายกับนุ้งภูไปถึงไหน?  อิคนไม่ชัดเจน

ไว้ชัดเจนก่อน  แล้วค่อยมาวุ่นวาย  เคป่ะ?

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ติดใจไวจริงๆ พ่อคุณ โดนภูป้ายยาแน่ๆ
มีคนเป็นลมบ้าหึง 1 ea

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบเรื่องนี้คะ จะติดตามจนจบเลยคะมาต่อเร็วๆนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :angry2: อยากตบอิพี่ภีมสัก 2-3 ทีจัง

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                         -11-


 

เช้านี้ผมออกมาทำกิจวัตรประจำวันของผมเป็นปกติ แถมพ่วงไอบอลมาเดินเป็นเด็กวัดคู่ผมด้วย ผมบอกให้มันนอนรออยู่ที่บ้านมันก็ไม่ยอม บอกอยากลองเป็นเด็กวัดแบบผมบ้าง ผมก็เลยไม่ขัด มันอยากมาก็ให้มันมา

"ไอภูมึงกับพี่ภีมมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าวะ ดูเหมือนมึงจะไม่ค่อยชอบพี่เขา”

มันถามผมระหว่างเดินตามหลังหลวงพี่ไปทำหน้าที่ ส่วนเรื่องที่มึงถามกูว่าทำไมดูเหมือนกูไม่ชอบพี่มึง ก็นะถ้ากูชอบมันก็คงแปลกแล้ว เหี้ยไม่มีใครเกินแบบนั้นแค่กูจำเป็นต้องเข้าไปพัวพันธ์ในชีวิตมันกูก็กล้ำกลืนจะแย่ ผมได้แต่เถียงมันในใจ แน่นอนว่าไอบอลไม่รู้เรื่องเลวๆที่ไอภีมมันทำกับผม และผมคิดว่าถ้ามันรู้มันคงจะไม่ยอมให้พี่มันเข้าใกล้ผมอีกเป็นแน่

"ไม่มีอะไรมากหรอก แค่กูไม่ค่อยชอบหน้ามันเท่าไหร่”

ผมพูดราวกับไม่ติดใจอะไร แล้วเอื่อมมือไปหยิบข้าวหยิบแกงจากหลวงพี่มาใส่ในย่าม ก่อนจะเดินตามหลวงพี่ไปยังบ้านหลังสุดท้ายที่จะไปรับบาตรของวัน และก็เป็นที่สุดท้ายที่ผมไม่อยากจะเดินเข้ามา

"เฮ้ยนี่มันบ้านพี่ภีมนี่หว่า”

ไอบอลมันพูดหลังจากที่มาถึงบ้านหลังที่ว่า สภาพบ้านตอนนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วครับ ถ้าผมไม่ได้มาบ้านหลังนี้เมื่อคืนคงไม่มีทางรู้เลยว่ามีงานเลี้ยงเกิดขึ้น ผม หลวงพี่และไอบอลยืนรออยู่หน้าบ้านซักพัก ป้านิ่มก็วิ่งหน้าตื่นออกมาพร้อมถาดอาหารที่จะนำมาใส่บาตร

"คุณนายคะหลวงพี่มาแล้วค่า”

เสียงป้านิ่มตะโกนบอกคนข้างใน แล้วป้านิ่มก็นิมนต์หลวงพี่ไปรับบาตร

"ตาภีม เร็วๆซิให้แม่ปลุกแล้วก็ช้าตลอดเราน่ะ”

"ห๊า!!!พี่ภีมเนี่ยนะจะใส่บาตรกูหูฝาดเปล่าวะไอภู”

ไอบอลกระซิบถามผม เพราะตอนนี้คนพวกนั้นกำลังวุ่นๆเลยไม่ได้สังเกตเห็นไอบอลที่ยืนอยู่ข้างผม ผมเห็นแม่ไอภีมกำลังกวักมือเรียกใครซักคน แล้วใครคนที่ผมพูดก็เดินหน้ายุ่งออกจากบ้านมา นี่หรอหน้าคนที่บอกว่าอยากใส่บาตร

"มาแล้วครับมาแล้ว”

มันว่าพร้อมหาววอดๆ ก่อนจะมองมาทางผมแล้วยิ้มกวนประสาทส่งให้ผม ผมขี้เกียจรำคาญเลยหันไปทางอื่นแทน

ผมกำลังจะเดินกลับหลังจากที่ทำหน้าที่ในตอนเช้าเสร็จ ไอห่าบอลมันก็เสือกหยุดคุยกับพี่มัน แล้วก็บอกให้ผมรอ ส่วนหลวงพี่ก็นำกลับวัดไปก่อนแล้ว แล้วนี่มึงสองคนจะคุยกันอีกนานไหม

"งั้นเดี๋ยวเจอกันสิบโมงนะพี่”

ผมได้ยินเสียงมันตะโกนบอกไอภีม ก่อนจะเดินกลับมาหาผม

"กลับบ้านเลยหรือมึงจะไปไหนต่อ”

มันถามแล้วเอาถุงย่ามที่ผมสะพายอยู่ไปถือไว้แทน

"ไปวัดก่อน วันนี้กูจะช่วยหลวงพี่กวาดลานวัดด้วย”

"เสร็จก่อนสิบโมงป่ะ”

"ทำไมวะ”

ผมขมวดคิ้วถามมัน ทำไมต้องก่อนสิบโมงด้วย

"พี่กูบอกสิบโมงให้ไปหาที่บ้านจะได้ไปมหาลัยพร้อมกัน”

"งั้นมึงไปตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้ ยังไงมึงกับกูก็ต้องแยกกันไปอยู่แล้ว”

ผมพูดไปตามความคิด ก็ดีเหมือนกันมันจะได้ไม่ต้องขึ้นรถเมลที่มันไม่ชอบด้วย เดี๋ยวหงุดหงิดเข้าหน่อยลุกไปต่อยกระเป๋ารถเมลเข้าจะโดนรุมกระทืบตายไม่รู้ตัว

"ประเด็นคือพี่เขาให้พามึงไปให้ได้นี่ดิ แถมยังบอกกูว่ามีวิธีทำให้มึงประฏิเสธไม่ได้ด้วย วิธีห่าอะไรวะเล่ามาดิ๊”

มันกระแซะเข้ามาหาผม ผมคิดอยู่แล้วเชียวว่าคนอย่างไอเหี้ยภีมไม่ได้เป็นคนดีขนาดตื่นมาใส่บงใส่บาตรตอนเช้าอะไรกับเขาหรอก มันแค่จะตื่นมากวนตีนผมแต่เช้าเท่านั้น

"เล่ามา เดี๋ยวนี้มึงหัดมีความลับกับเพื่อนหรอสัส”

มันผลักหัวผม แล้วใช้สายตากดดันให้ผมพูด แต่เรื่องอะไรผมจะยอมพูด ผมเลยปล่อยให้มันคาใจแล้วเดินทิ้งห่างมันไปเรื่อยๆโดยที่มีมันวิ่งตามมาคาดคั้นเอาคำตอบจากผมติดๆ แต่พอเห็นว่าทำยังไงผมก็ไม่ยอมบอกมันเลยเลิกสนใจไป

นี่แหละครับข้อดีของมัน





     สิบโมงผมกับไอบอลก็มาพร้อมกันที่บ้านไอภีม ตอนนี้เจ้าของบ้านมันอยู่ในชุดเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วครับ ไอภีมนั่งรอพวกผมอยู่ในห้องรับแขก พอเห็นพวกผมเดินเข้ามามันก็ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเดินเข้ามารับ

"จะไปกันเลยไหม”

มันถามไอบอล แต่เสือกหันมามองหน้าผม

"ไปเลยก็ได้พี่ เดี๋ยวสิบเอ็ดโมงผมต้องไปเตรียมพรีเซ็นต์งานด้วย”

"ไปซิ แล้วแดกข้าวกันมายัง”

มันยังไม่หมดคำถาม ผมอยากรู้ว่ามันสายตาเอียงหรือไง ปากถามไอบอลแต่ตานี่มองมาที่ผมจัง เห็นแล้วหงุดหงิด ผมเลยหันหลังให้แม่งเลย

"กินแล้วพี่ให้ภูมันทำให้กิน”

"หรอ ดีจังมีคนทำให้กินด้วย น้องภูวันหลังทำให้ผ… พี่กินด้วยนะครับ”

ผมหันกลับไปมองหน้ามันทันที เมื่อกี้ผมรู้ว่ามันตั้งใจจะพูดอะไร พอมันเห็นว่าผมหันกลับมามอง มันเลยยิ้มกวนๆส่งให้ผม

"ผมว่าพี่ภีมกับเพื่อนผมนี่แปลกๆนะครับ มีอะไรกันหรือเปล่า”

"ไม่มี!!!”

ผมตอบอย่างไวนั่นกลับยิ่งทำให้ไอบอลหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อในคำตอบของผม แล้วหันไปมองหน้าพี่มันหวังจะเอาคำตอบ

"ไอบอลมึงเลิกเล่นเป็นนักสืบได้แล้วมีซ้อมพรีเซ้นต์ไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวกูก็ให้นั่งรถไปเองเลยหนิ”

มันพูดแล้วส่งยิ้มกวนตีนมาเผื่อผม ก่อนจะดันหลังไอบอลให้เดินนำออกไปแล้ว บนรถผมนั่งอยู่เบาะหลังนั่งฟังสองพี่น้องคุยกันไปเรื่อย มันก็ขยันดึงผมเข้าไปมีส่วนร่วมนะครับ ทั้งๆที่ผมไม่หือไม่อือ หรือออกความเห็นอะไรกลับเลยก็ตาม

"แล้วพวกสองคนมึงรู้จักกันได้ไงวะ บ้านก็อยู่คนละโยค”

"ไอภูมันเป็นนักมวยสมัครเล่นรุ่นเดียวกับผมครับ อยู่ค่ายเดียวกันผมรู้จักกับมันก็ที่ค่ายมวยนั่นแหละนี่ก็จะห้าปีแล้ว”

"หน้าอย่างมันเนี่ยนะเป็นนักมวย”

หน้าอย่างกูทำไม มึงมีปัญหาอะไรกับหน้ากูนักวะ แม้ผมจะทำเป็นไม่ฟังไม่สนใจแต่เรื่องที่มันคุยนี่ก็ไม่พ้นตัวผมเลย

"ถึงหน้ามันจะไม่ให้แต่ฝีมือแม่งสุดๆอ่ะ ผมยังไม่เคยชนะมันได้เลย”

"ขนาดนั้น”

มันพูดแล้วเหลือบมองผมที่กระจกหลัง อีกสิบนาทีต่อมารถก็มาจอดเทียบหน้ามหาลัยของไอบอล

"พี่ภีมขอบคุณมากครับ ไอภูๆเดี๋ยวกูโทรหานะ เออ กูลืมไปมึงไม่มีมือถือนี่หว่ายังไงเดี๋ยวกูแวะไปหาแล้วกัน”

มันพูดรัวเป็นชุดก่อนจะวิ่งหายไป ตอนนี้บนรถก็เหลือแค่ผมและไอภีม

"ขึ้นมานั่งข้างหน้า”

"เดี๋ยวกูไปของกูเอง”

ผมบอกแล้วเปิดประตูลงจากรถ เรื่องอะไรจะให้ผมนั่งไปกับมัน อยู่ด้วยกันสองคนไม่รู้แม่งจะคิดพิเรนห่าอะไรอีก เลี่ยงได้เป็นเลี่ยงดีที่สุด

"กูบอกว่าอย่าขัดคำสั่งกูไง!! มึงจำไม่ได้หรอถ้าขัดแล้วมึงจะเจออะไร”

ขู่กูเข้าไปไอสัส แล้วผมจะทำอะไรได้เล่า ขัดคำสั่งมันไม่โดนเปิดโปรงว่าเป็นเมีย ก็คงถูกพังประตูหลัง ไม่มีทางเลือกไหนที่เป็นประโยชน์กับผมบ้างเลย ผมเปิดประตูไปนั่งข้างหน้าตามคำสั่ง ก่อนมันจะออกรถไปโดยไม่พูดอะไร

"พากูมาที่นี่ทำไม”

นี่คือคำถามแรกหลังจากที่มันเลี้ยวรถเข้าห้างแห่งหนึ่ง แทนที่จะเลี้ยวเข้าประตูมหาวิทยาลัย

"มึงนี่หน้าตายแต่เสือกคำถามเยอะนะ ลงไปได้แล้ว”

มันไม่ตอบผมว่าทำไม แต่หันมาไล่ผมลงจากรถแทน รถมึงกูไม่ได้อยากนั่งเลยเหอะ ผมลงจากรถตามที่มันบอก แล้วมันก็ดันหลังผมให้เดินนำมันไป แล้วให้กูเดินนำกูจะรู้ไหมว่ามึงจะไปไหน

"เดินนำดิ”

ผมบอก มันหันมากระตุกยิ้มแล้วคว้ามือผมให้เดินตามมันไป สัสกูบอกให้เดินนำไม่ได้ขอให้จูงมือ

มึงจะมาจูงมือกูทำไม ผมพยายามแกะมือออกผู้ชายสองคนเดินจูงมือกันกลางห้างคงได้ฟ้าผ่ากันบ้างแหละงานนี้

"มึงจะเดินข้างหลังเพื่อจะหาโอกาสหนีกู กูไม่ได้โง่นะ”

มันว่าแล้วไม่ยอมปล่อยมึง ผมเองก็ไม่อยากถูกมองเป็นตัวประหลาดแบบนี้เลยพยายาม

"กูไม่หนี”

ผมพยายามพูดแล้วทำหน้าให้มันเชื่อว่าผมไม่คิดหนีจริงๆ หน้านิ่งๆที่นิ่งกว่าเดิมของผมนี่แหละอาจจะช่วยยืนยันได้ว่าผมไม่คิดหนีจริงๆ ตอนนี้อายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีมากกว่า มีแต่คนมอง

"หึ”

มัน หึ แล้วก็ปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ผมเดินตามหลังมันไปเรื่อยก็เห็นมันเดินเลี้ยวเข้าไปในร้านไอสตูดิโอ ผมเลยยืนรอมันหน้าร้าน จะมาซื้อโทรศัพท์ทำไมต้องเอากูมาด้วยก็ไม่รู้

"เข้ามาเลือกเบอร์”

มันเปิดประตูออกมาแล้วพูดคำนั้น ผมเลยหันไปมองรอบๆว่ามันพูดกับใคร ถ้าพูดกับผมแล้วอะไรคือเลือกเบอร์

"กูพูดอยู่กับเสาโทรเลขหรือไงวะ”

มันทำท่าฟึดฟัดแล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน ไม่นานมันก็ออกมาพร้อมถุงใส่โทรศัพท์สองเครื่อง

"จะสายแล้วกูมีเรียนบ่าย”

พอมันออกมาผมก็บอกมัน มันทำเป็นมองนาฬิกาแล้วเดินนำผมไป





"ภีมมาทำอะไรที่นี่คะ”

เดินผ่านร้านโทรศัพท์ยังไม่ถึงครึ่งทางก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องเรียกไปภีม เธออยู่ในชุดนักศึกษาเหมือนพวกผมครับ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เรียนที่เดียวกัน

"อ้าวปลาย”

มันอ้าวปลายเสร็จก็โยนถุงโทรศัพท์ของมันมาให้ผมถือ ส่วนมันก็เดินไปโอบเอวสาวเจ้าอย่างไม่แคร์สายตาใคร ผมนี่รีบออกห่างเลยทีเดียว ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าผมมากับมัน

"นั่นคนเมื่อคืนที่ปลายเจอใช่ไหมคะ”

ผมทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วมองโน่นมองนี่เล่นไปเรื่อย

"ปลายจะไปสนใจทำไมครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้วปลายอยากซื้ออะไรหรือเปล่าเดี๋ยวภีมซื้อให้”

ผมแทบอยากจะเควี่ยงโทรศัพท์ใส่หน้าแม่งให้ มึงจะไปไหนกันก็ไปทำไมต้องให้กูเดินเป็นผู้ติดตามข้างหลังด้วยวะ

กูไม่ได้อยากเดินเล่นห้างในเวลาเรียนแบบนี้เลย

"กูไปก่อนได้ไหมจะเข้าเรียนอยู่แล้ว”

ผมทนไม่ไหวหลังจากที่ทนเดินตามมันเข้าร้านโน่นออกร้านนี้แล้วเอาถุงมาให้ผมถือพะลุงพะลังเต็มไปหมด

"กูยังซื้อของไม่เสร็จ”

"อันนั้นมันก็เรื่องของมึง กูทำตามคำสั่งมึงมามากพอแล้ว อย่างน้อยตอนนี้กูควรได้ไปเรียนไปใช้ชีวิตของกูบ้าง เอาของมึงไป”

ผมตัดสินใจเอาของยัดใส่มือมันแล้วเตรียมจะเดินหนี แต่ก็ถูกกระชากกลับมาตามเดิม มันทำหน้าเหี้ยมใส่ผมก่อนจะยัดถุงทั้งหมดกลับเข้ามาในมือผม

"อย่าขัดใจกู”

ผมไม่เข้าใจว่าผมไปขัดใจมันตอนไหน แค่ผมบอกว่าจะไปเรียน ผมเดินอยู่ในห้างตั้งแต่สิบเอ็ดโมงจนตอนนี้บ่ายสามกว่าแล้ว พวกมันสองคนพึ่งจะได้ฤกษ์กลับบ้านกลับช่องกัน และแน่นอนผมก็ได้รับหน้าที่สารถีขับไปส่งมันและผู้หญิงของมันที่คอนโด แต่เป็นคอนโดของผู้หญิงนะครับไม่ใช่ของมัน เพราะถ้าเป็นคอนโดมันผมจำได้ดูเหมือนจะหรูกว่าคอนโดนี้นิดหน่อย แต่ไม่ว่าจะไปคอนโดใครเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ไม่ต่างกัน ไม่ต้องบอกก็พอรู้ใช่ไหมครับว่าเรื่องอะไร

เห็นผมเงียบๆแบบนี้แต่ผมก็ไม่โง่นะครับ

"เอารถไปจอดไว้แล้วมึงจะไปไหนก็ไป”

"แล้วก็นี่ของมึง กูโทรไปต้องรับสายทุกครั้งกูเน้นว่าทุกครั้ง”

มันสั่งผมเป็นชุดแล้วส่งถุงสีขาวที่หน้าถุงเขียนว่าไอสตูดิโอมาให้ผม ผมรับมาอย่าง งงๆ ก่อนจะได้สติมันก็เดินหายไปแล้ว

ผมไม่ต้องการของๆมัน ไว้เดี๋ยวมันโทรมาผมค่อยบอกให้มันเอาคืนก็ได้ ตอนนี้หารถกลับบ้านก่อนดีกว่า

แม่งดีจริงๆบังคับผมให้ไปไหนทำอะไรให้มัน เสร็จแล้วก็ปล่อยกันกลางทางตลอด มีครั้งไหนไหมที่มันจะทำเหมือนผมเป็นมนุษย์คนนึงอย่างคนอื่นเขาบ้าง ถึงหน้าผมจะแสดงความรู้สึกไม่เก่งมันก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่มีความรู้สึกนะครับ

ผมโกรธเป็นและก็เจ็บเป็น เมื่อไหร่มันจะรู้ว่าผมเป็นคนที่มีหัวใจมีความรู้สึกเหมือนมัน แล้วเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อไหร่ที่วันนั้นจะมาถึง หรือวันนั้นมันจะไม่มีอยู่จริง





-----------------------------------------------------------
หายไปหลายวันยังไม่ลืมภีมคนเลวนะคะ แฮะๆ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไอ้ภีมแม่งยังคงความเลวระยำเสมอต้นเสมอปลาย

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออ่านต่อนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ชอบนะครับ มันลุ้นดี ว่าภูจะเจออะไรอีก
ดำเนินเรื่องโอเคเลย ลงต่อเยอะๆเลยนะ

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                           - 12 -





     ผมนั่งรถเมลกินเวลานานเกือบสองชั่วโมงกว่าจะมาถึงบ้าน ตอนนี้ก็จะหกโมงแล้ว ผมคิดว่าจะกลับบ้านมาดูตาเหงี่ยมก่อนแล้วจะออกไปซ้อมมวยต่อช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปหาลุงศร หรือแม้แต่อยู่ติดบ้านเพื่อดูแลตาแก่ขี้เมาคนนี้เลย ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านก็เห็นตาเหงี่ยมนั่งกอดขวดเหล้าหลับคาบันไดบ้านเหมือนเดิม ไม่รู้จะมานั่งอะไรตรงนี้ทุกวัน ผมเลยนั่งยองๆมองหน้าตาเหงี่ยมที่หลับอยู่ ผมไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ได้มองหน้าพ่อตัวเองชัดๆแบบนี้  ใบหน้าที่เคยแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มอย่างที่ผมชอบตอนนี้กลับดูซูบโทรม ไร้ชีวิตชีวา เรียวตาคู่สวยมักจะมีหยดน้ำตาเกาะอยู่ให้เห็นเสมอ ผมค่อยๆเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาออกให้พ่อช้าๆ ตั้งแต่วันที่แม่ทิ้งผมกับพ่อไป ไม่มีวันไหนเลยที่ผมจะเห็นพ่อมีความสุข

บางครั้งผมก็อยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงได้รักแม่มากขนาดนี้ ทำไมพ่อถึงรักแม่มากจนลืมรักตัวเอง ผมรู้สึกเจ็บข้างในอกจนต้องเอามือขึ้นมาจับไว้แน่น ผมเจ็บจนทรมานไปหมดแต่ก็ไม่สามารถทำให้อาการเหล่านั้นทุเลาลงได้ มันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ผมรู้สึกแย่มากๆ บางคนแค่ร้องไห้ออกมาก็อาจจะช่วยให้อาการเหล่านี้ดีขึ้น แต่สำหรับผมนอกจากแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้าได้ไม่ดีแล้ว ผมยังร้องไห้ไม่มีน้ำตาเหมือนคนอื่นเขาอีก ข้างในตรงนี้ของผมมันทั้งจุกและอึดอัดไปหมดแต่ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผมพยายามปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติโดยการนั่งเงียบๆอยู่ข้างๆพ่อ มองหน้าพ่อตอนหลับไปเรื่อยๆ ผมไม่ต้องการให้พ่อปลอบ ไม่ต้องการคำพูดดีๆจากพ่อ แค่มีพ่ออยู่กับผมต่อให้พ่อจะไม่รักผมเลยผมก็ไม่เป็นไร ผมขออย่างเดียวแค่อย่าทิ้งผมไปเพราะในชีวิตผมนอกจากพ่อแล้วผมไม่เหลือใครอีกแล้ว ผมนั่งอยู่ตรงนั้นจนรู้สึกดีขึ้นเลยพาพ่อเข้าไปนอนในบ้าน แล้วผมก็เดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะทิ้งตัวนอนบนที่นอนแล้วหลับตาลง ผมเปลี่ยนความตั้งใจเดิมที่จะไปค่ายมวยเป็นนอนหลับเอาแรงอยู่ที่ห้อง ผมว่าผมไม่มีแรงที่จะขยับไปไหนแล้วครับ วันนี้สำหรับผมมันช่างยาวนานเสียเหลือเกิน





     เช้าวันต่อมาผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงๆหนึ่งซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะใช่เสียงนาฬิกาปลุกของตัวเอง ผมมองหาต้นเสียงไปทั่วห้องจนกระทั่งมาหยุดลงที่ถุงสีขาวข้างตัว คงเป็นเสียงโทรศัพท์ที่นอนอยู่ในถุงนี้แน่ ผมหยิบถุงที่ว่าขึ้นมาเปิดดูก็เห็นกล่องโทรศัพท์ที่ข้างในมีโทรศัพท์วางอยู่พร้อมกับมีสายเรียกเข้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

"มีอะไร”

(กูบอกให้รับทุกสายที่โทรเข้ามึงแหกตาดูดิ๊ว่ากูโทรหามึงกี่ครั้งแล้ว มึงตั้งใจไม่รับโทรศัพท์กูใช่ไหม!)

เสียงปรายสายต่อว่าผมเป็นชุดหลังจากที่ผมกดรับโทรศัพท์

"กูไม่ได้ยิน”

ผมบอกไปตามความจริง ก็เมื่อคืนผมหลับเป็นตาย แล้วก็ไม่ได้หยิบโทรศัพท์มันออกมาเล่นเลยซักนิด เพราะคิดว่ายังไงผมก็จะส่งคืนให้มันอยู่แล้ว

(มึงออกมาหากูที่บ้านเดี๋ยวนี้)

"ทำไมกูต้องไป”

(กูบอกให้มาก็มาจะถามห่าอะไรมากมายหรือต้องให้กูต้องไปหาถึงบ้าน)

มันพูดจบก็กดวางไป เอะอะอะไรก็ขู่ กูอยากรู้ว่าทั้งชีวิตมึงทำเป็นแค่นั้นหรือไง ใช้อำนาจให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ มึงสนุกมากใช่ไหมที่ได้เอาชนะคนไม่มีทางสู้อย่างกู ผมได้แต่ต่อว่ามันในใจเงียบๆแล้วลุกไปอาบน้ำ

ผมมาถึงก็กดออดหน้าบ้านรอให้คนมาเปิดประตูให้ ผมเดินเข้าไปในบ้านก็เจอแม่ไอเหี้ยภีมนั่งดูทีวีอยู่ผมเลยเดินไปทักทาย

แล้วก็โดนไล่ให้มาหามันข้างบนซึ่งผมบอกเลยว่าผมไม่อยากขึ้นไป แต่สุดท้ายผมก็ต้องขึ้นอยู่ดี

"ทำไมถึงมาช้า”

มันถามผมด้วยสีหน้าบึ่งตึง

"มีอะไร”

ผมไม่ตอบมันว่าทำไมช้า แต่ผมกลับถามมันถึงประเด็นที่มันเรียกผมมาแทน

"กูถามมึงทำไมไม่ตอบ แล้วจะย้อนถามกูทำเหี้ยอะไร!!!!”

มันตะโกนใส่หน้าผม มันโกรธแค่เรื่องที่ผมมาช้าเนี่ยนะ ทำไมมันไม่คิดบ้างล่ะว่าผมติดอะไรอยู่หรือเปล่า หรือมันคิดถึงใจคนอื่นไม่เป็น

"กูพึ่งตื่น”

ผมตอบด้วยสีหน้าเรียบๆ มันทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะเดินผ่านผมไปเข้าห้องน้ำ แล้วไม่ลืมหันมาสั่งผม

"รอกูอยู่ตรงนี้ กูออกมาต้องเจอเดี๋ยว ไปข้างนอกกัน”

ผมอยากบอกมันเหลือเกินว่าผมไม่อยากไป แต่ถ้าพูดมันก็จะออกมาโวยวายใส่หน้าแล้วก็มาขู่ผมอีก ผมเลยตัดใจแล้วไปนั่งรอมันเงียบๆที่โซฟาหน้าทีวี ผมรออยู่ไม่นานมันก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พันปิดแค่ท่อนล่างไว้ ผมไม่ได้สนใจว่ามันจะทำอะไรต่อ จนกระทั่งมันเดินมาผลักหัวผมให้ลุกขึ้น

"ไปได้แล้ว”

"ไปไหน”

ผมลองถามดู ถ้ามันจะด่าผมก็แค่ฟัง แต่ไม่ครับมันไม่ด่า มันกวักมือผมให้เดินตามมันไป พอมาถึงรถมันก็ให้ผมเข้าไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับ ก็ข้างมันนั่นแหละ ระหว่างทางก็ไม่มีใครพูดอะไรซักคำ ผมนั่งเอาหัวพิงกระจกแล้วหลับแม่ง พอตื่นขึ้นมาอีกทีรถก็มาจอดอยู่ที่บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่ง ผมเห็นไอภีมมันเดินไปคุยกับใครซักคน ก่อนมันจะเดินกลับมาหาผมที่รถ

"ลงมา หลับสบายอยู่คนเดียวนะมึงปล่อยให้กูนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่ได้ตั้งหลายชั่วโมง”

มันว่าผมแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยจริงจังนัก ผมเดินตามมันไปอย่างว่าง่ายบ้านพักที่นี่สวยมากเลยครับ เป็นบ้านไม้สักทั้งหลัง

ถ้ายืนอยู่หน้าบ้านมองออกไปก็จะเห็นทะเล ผมรู้สึกผ่อนคลายกับลมทะเลที่พัดผ่านหน้านานไปหน่อย ไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าไอภีมมายืนซ้อนหลังผมตอนไหน

"ชอบหรือไง ทำอย่างกับไม่เคยเห็นทะเล”

มันถามผมแล้วกอดผมไว้จากข้างหลัง

"เฮ้ย!!ทำอะไร ปล่อยกู”

"ไม่ปล่อย ทำไมกูกอดนิดกอดหน่อยไม่ได้หรือไง”

มึงพูดอย่างกับขอขนมกินเลยนะไอสัส นั่นมึงขอกูกอดนะแล้วกูก็เป็นผู้ชายด้วย มึงไม่บ้าก็หื่นจนหน้ามืดแล้วไอเหี้ยปล่อยกู

ผมดิ้นๆแต่ทว่าก็ไม่มีท่าทีว่าจะหลุด มันกลับรัดผมแน่นกว่าเดิม

"อย่าดิ้น เดี๋ยวกูไม่ทำแค่กอดนะ”

 ผมหยุดดิ้นทันที ประเมินจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วยังไงผมก็เป็นลองอยู่เยอะ ทั้งสถานที่และตำแหน่งการยืน ไอภีมก็ใช่ว่าจะแรงน้อย ต่อให้ผมพอเป็นมวยอยู่บ้างเจอเล่นงานจากข้างหลังก็แย่เหมือนกัน

"มึงใช้น้ำหอมอะไรวะ หอมชิบ”

มันพูดแล้วฝังจมูกเข้ามาที่ต้นคอผม ผมนี่ขนลุกไปทั้งตัวเลยครับ เอามือไปดันหน้ามันให้ออกห่าง

“ไหนมึงบอกว่าแค่กอดไง!"

"กูถามว่าใช้น้ำหอมอะไร”

"กูเปล่า”

ผมไม่ได้ใช้อะไรจริงๆหนิครับ แล้วนั่นมันเป็นหมาหรือไงถึงได้เที่ยวดมคนโน่นคนนี้ไปทั่ว

"จะบอกว่าตัวหอมเองว่างั้น”

มันพูดทั้งๆที่เอาปลายจมูกคลอเคลียอยู่บริเวณต้นคอผม กูไม่ได้บอกมีแต่มึงคิดเองเออเองทั้งหมด แล้วมาปัดว่าเป็นความคิดกูได้ไง แม่งเอ้ย เอาหน้ามึงไปไกลๆหน้ากูทีกูรังเกียจ

"ไอภีมพวกกูมาแล้ววว…..อ้าววว มาผิดจังหวะ”

เสียงที่ดังมาจากข้างหลังทำให้ผมถึงกับหน้าถอดสี ไอภีมหันไปมองคนข้างหันแล้วจิ๊ปากอย่างขัดใจ แต่มันก็ยังไม่ปล่อยให้ผมเป็นอิสระจนผมต้องร้องท้วง

“ปล่อยกูไอสัส!”

ผมบอกและมันก็ยอมปล่อยแต่โดยดี ก่อนที่มันจะหันไปคุยกับบรรดาเพื่อนมัน

"ทำไมรีบมากันจังวะ”

"อย่าทำเป็นอารมณ์เสียหน่า มึงอย่าคิดว่าพวกกูไม่รู้นะว่ามึงคิดอะไร”

"น้องภูครับพี่มาได้จังหวะพอดีเลยใช่ไหมครับ”

ไอนพเพื่อนไอภีมมันพูดแล้วยิ้มให้ผม ผมจำชื่อมันได้อยู่คนเดียวเพราะไอภีมมันเคยเรียกชื่อเพื่อนมันคนนี้ให้ผมได้ยิน ส่วนเรื่องมาได้จังหวะไหมอันนี้กูขอตอบเลยว่ามาก ขืนมึงมาช้ากว่านี้อีกทีกูอาจจะโดนเพื่อนมึงขู่พังประตูหลังอีกก็ได้

"สัส น้องเขาจ้องหน้ามึงนิ่งเลย หลบมาๆ ภูครับพี่ชื่อพี่ต้านะ ส่วนไอโน่น”

ไอต้าผมเรียกมันตามที่มันบอกแล้วกันมันชี้นิ้วไปทางเพื่อนมันอีกคนที่ยืนคุยอยู่กับไอภีมหน้าทีวี พอมันเห็นว่าผมมองตามไปมันเลยบอกผมว่าไอหน้าหล่อหุ่นนายแบบนั้นชื่อว่าท็อป ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ผู้ชายอีกคนที่อยู่บริเวณประตูทางเข้าบ้านไอคนนั้นชื่อว่าเขต ผมยืนฟังนิ่งๆไม่มีรีแอ็คชั่นใดๆตอบกลับมาเลยเกาหัวและเดินจากผมไป ผมยืนมองบรรดาคนหน้าตาดีแต่ใจหมาทั้งหลายนิ่งๆ เห็นมันคุยอะไรกันไม่รู้แล้วหันมาทางผม แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ มันอยากพูดอะไรก็พูดไป เดี๋ยวมันเบื่อมันเหนื่อยมันก็จะหยุดกันไปเอง และพอมันเหนื่อยมันก็หันมาเรียกผมให้ไปหาน้ำให้พวกมันแดก ตอนแรกผมก็สงสัยอยู่ว่ามันให้ผมมาที่นี่กับมันทำไม แต่ผมว่าผมได้คำตอบอย่างชัดเจนแล้วแหละครับ

"ไอภูเดี๋ยวพวกกูจะไปเล่นน้ำกัน มึงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วถือน้ำตามไปให้กูด้วย”

มึงเอากูมาเป็นบ่าวรับใช้นี่เอง มันหันมาสั่งก่อนจะเดินออกไปยังทะเลที่อยู่หน้าบ้านแล้วนี่มันจะให้ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเหี้ยอะไร ในเมื่อผมไม่ได้เอาห่าอะไรมาเลยซักอย่าง นอกจากเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนี้ผมคิดแล้วก้มมองเสื้อยืดตราห่านสีขาวกับกางเกงยีน

เข้ารูปสีดำที่ใส่อยู่ของตัวเอง ผมเดินหยิบน้ำไปวางให้พวกมันที่กำลังหรี่สาวริมชายหาด  ก่อนจะแอบมานั่งปลงตกอยู่คนเดียวผมนั่งอยู่ริมหาดเหมือนกันครับ แต่ห่างจากพวกบ้ากามนั่นมาหน่อย



      น้ำทะเลตอนเย็นๆนี่สวยอย่าบอกใครเลยครับ น้ำสีเขียวอ่อนสะอาดทรายสีขาว อากาศก็เย็นสบายมากด้วยผมอยากมีบ้านอยู่ติดทะเลแบบนี้บ้างจัง แต่ไม่รู้ว่าต้องตายแล้วเกิดใหม่อีกซักกี่ชาติถึงจะได้มีบ้านดีๆแบบนี้

"อยากฟังเพลงไหม"

ระหว่างที่ผมกำลังน้องมองทะเลเพลินๆ เสียงจากด้านข้างพร้อมหูฟังสีขาวก็ยื่นมาข้างหน้าผม ผมหันกลับไปมองคนข้างตัวก็เห็นว่าเขานั่งฟังเพลงจากหูฟังข้างนึง ส่วนอีกข้างถูกยื่นมาให้ผม ถ้าผมจำไม่ผิดเจ้าของหูฟังอันนี้คงชื่อเขตซินะ ผมเห็นตั้งแต่มาถึงเขายังไม่พูดไม่คุยกับใครเลยด้วยซ้ำ เอาแต่นั่งฟังเพลงตลอดจะว่าไปแล้วเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเหมือนใครใน

กลุ่มซักเท่าไหร่ดูเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยพูดแถมดูมีพิษสงน้อยกว่าคนอื่นๆในกลุ่มด้วย ผมเห็นว่าคนข้างๆไม่น่าจะนิสัยเหี้ยเหมือนเพื่อนไอภีมคนอื่นเลยยื่นมือออกไปรับหูฟังมาฟังอย่างเงียบๆ เราต่างก็จมอยู่ในความคิดตัวเอง เสียงคลื่นทะเล กับเสียงเพลงที่คลออยู่ในหูเบาๆช่วยให้ผมผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

"ชื่อภูหรอเราน่ะ"

"ครับ"

"เรียนปีไหนแล้ว"

"ปีสาม"

"หรอ"

แล้วกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง

"พี่เรียนปีสี่แล้วใช่ไหมครับ เรียนยากไหม"

ผมบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าหาโมเม้นท์ที่ผมจะชวนใครคุยก่อนได้ยากมาก ถ้าผมไม่สนิทใจจริงหรือไม่รู้สึกวางใจจริงผมจะไม่มีวันเปิดปากคุยกับใครก่อนแน่ แต่คนข้างตัวผมแม้จะเจอกันแค่ครั้งเดียวแต่กลับทำให้ผมรู้สึกเชื่อใจโดยไม่มีเหตุผล

"ก็ยากอยู่ คำนวณเยอะ"

"ครับ"

ผมรับคำแล้วไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เลยนั่งเงียบตามเดิม ก่อนที่ความสุขอันน้อยนิดของผมจะถูกทำลายลง





"มานั่งทำอะไรกันตรงนี้!!"


------------------------------------------------------------------------------

โอ้ยยย มาอีกแล้วอีมารผจญ มีความสุขได้แปปๆ มันมาอีกแล้ว!! หากคนอ่านท่านไหนมีความรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้เหมือนเนื้อเรื่องมันวนกลับมาทีเดิมยังไงก็ไม่รู้ คนเขียนมันเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำหรือเปล่า อันนี้ของแจกแจงนะคะว่า ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ค่ะ อยากให้ทุกคนจำช่วงเวลาที่ภีมมันร้ายไว้ให้ได้มากที่สุด ให้จำไว้ว่าไอพระเอกบ้าอำนาจคนนี้มันทำอะไรร้ายๆไว้กับภูยังไงบ้าง เมื่อถึงเวลาที่ภูมันเอาคืน คนอ่านจะได้มีเหตุผลในการพิจารณาว่าสาสมแล้วหรือไม่ อย่าพึ่งเบื่อแล้วทิ้งกันไปไหนนะคะ รออยู่ดูบทสรุปของเรื่องนี้ด้วยกันก่อน สุดท้ายขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนที่ 12 ค่ะ


ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ชอบเรื่องนี้คะ จะติดตามจนจบเลยคะมาต่อเร็วๆนะคะ


ขอบคุณมากนะคะ ภีมมันยังจะร้ายแบบไร้เหตุผลอีก อย่างพึ่งถอดใจทิ้งกันไปก่อนนะคะ พลีสสส

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

จะให้อิพระเอกมัน "เหี้ย" ไปนานอีกขนาดไหนอ่ะ?

วาร์ปไปตอนอิพระเอก "ถูกเอาคืน" เลยได้ไหม?  ข้าพเจ้าว่ามันมีอรรถรสกว่าเยอะเลยนะ 

เจอแต่เหตุการณ์คนดี ๆ ถูกกดขี่ขมเหง  มันทำให้รู้สึกแย่ไปหมด  แต่ถ้าคนเลวถูกย่ำยีอันนี้จะสาแก่ใจมาก  อิอิ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด