[เรื่องสั้น] #อาของผม 5.11.61 ตอนพิเศษ จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] #อาของผม 5.11.61 ตอนพิเศษ จบแล้ว  (อ่าน 7620 ครั้ง)

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


********************************************



อาน่ะอิจฉาที่ปู่รักผมมากกว่าเขา



แต่ไม่ต้องห่วง



เพราะผมจะเป็นคนให้ความรักเขาเอง ;)
[/i]



เรื่องราวเกิดขึ้นตอนผมอายุ11



พ่อแม่ผมเสียชีวิตจากการโดนรถชน



จนกระทั่งวันนึง มีผู้ชายอายุราว20ปลายๆ มากดกริ่งหน้าบ้านของผม



เขาบอกว่าเป็นน้องชายของพ่อ



เกิดคำถามในหัวผมมากมาย



ผมมีอาด้วยเหรอ



ในช่วงเวลาที่คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อไม่เคยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวท่านให้ผมฟัง

บอกย้ำเพียงแค่ว่า



ครอบครัวเรามีกันแค่3คนต้องรักกันไว้มากๆ ยามที่พ่อและแม่ทะเลาะกัน ผมจะทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมต่อ

กอดพวกเขาทั้งสองคน



และบอกว่า

“ถ้าพ่อกับแม่ทะเลาะกันผมคงเหลือแค่ตัวคนเดียว”



ทุกครั้งที่พูดเราสามคนจะโอบกอดกัน พร่ำคำขอโทษที่ได้ทำผิด



สำนึกกับสิ่งที่ได้ทำลงไป



และเมื่อถึงวันที่เกิดอุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิด



บุคคลที่4ก็เข้ามา

ผมจะเชื่อเขาได้แค่ไหนกัน…

.



.



6ปีผ่านไป..



มีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะ รวมทั้งผมได้รับรู้อะไรหลายอย่าง เช่นเรื่องที่พ่อแม่ผมหนีออกมาจากบ้านเพราะคุณปู่รับไม่ได้ที่คุณแม่ผมเป็นเพียงคนที่มาจากครอบครัวธรรมดา



อืม ก็ธรรมดาจริงๆ นั้นแหละ



หญิงสาวกำพร้า ที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง



เธอทำงานหามเช้าจนค่ำ



ปู่คงรับมันไม่ได้เพราะเขามีหน้ามีตาเกินกว่าที่จะบอกกับใครต่อใครว่าลูกสะใภ้นั้นเป็นเพียงสาวที่ไร้หัวนอนปลายเท้า



อาเล่ามันตอนเจอกันครั้งแรกระหว่างขับรถ



และใช่



ผมควรจะโกรธมัน



แต่สุดท้ายความโกรธที่มีมันก็หายไปเมื่อเราถึงที่หมาย



บ้านหลังใหญ่ ไม่สิ คฤหาสน์หลังใหญ่

มันใหญ่กว่าบ้านหลังเก่าของผมราวๆ 30เท่า ไม่รู้สิ บางทีผมคิดว่ามันอาจจะมากกว่านั้นก็ได้



ภายในคฤหาสน์หลังนั้นมีคนอาศัยน้อยนิดเมื่อเทียบกับความใหญ่โตของมัน



มีเพียงความเงียบไร้ซึ่งเสียง



ไร้ซึ่งความสุข



และไร้เสียงหัวเราะ



ในบ้านหลังใหญ่นั้นมีเพียงชายแก่ผมขาวล้วนบ่งบอกถึงอายุที่นั่งอยู่บนรถเข็นทันสมัย เขามองผมด้วยแววตาสำนึกผิด



“ขอโทษ”



คำแรกที่เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรั่งพรู



ความโกรธที่มีอยู่ภายในใจหายไปจนหมดเพียงแค่ปู่พูดคำนั้น



เขาเล่าทุกอย่างให้ผมฟังเหมือนที่อาเล่าในรถ



ปู่พยายามที่จะหาคุณพ่อและคุณแม่หลายปี ทั้งจ้างนักสืบและตรวจสอบข้อมูลการเดินทางทั้งทางเรือและทางอากาศ



ปู่ไม่เคยเจอมันเลย



คุณพ่อฉลาดเกินกว่าจะทิ้งข้อมูลเหล่านั้นให้เขาดูต่างหน้า

ทุกครั้งที่เหมือนจะมีร่องรอย



สุดท้ายก็คว้าได้เพียงแค่ฝุ่น



พ่อเดินเร็วกว่าปู่1ก้าวเสมอ



แต่ความลับมันไม่มีอยู่ในโลก สุดท้ายปู่ก็หาพ่อเจอแม้มันจะช้าไป



ใช่…



เขาเจอเราตอนที่พ่อกับแม่ผมเสียแล้ว

ข้อมูลทางการแพทย์ไม่เคยโกหกใคร



ผลเลือด



ดีเอ็นเอ



ใบหน้าและชื่อสกุล



นักสืบเอกชนรู้ทันทีว่าพ่อผมอยู่ที่ไหนเมื่อตอนแพทย์ลงข้อมูลผู้ตายในระบบโรงพยาบาล

พ่อของผมไม่เคยเปลี่ยนชื่อตัวเอง



เขาใช้ชีวิตอยู่ในชนบทเล็กๆ ทางตอนเหนือ พ่อทำอาชีพเก็บผักขาย ส่วนแม่ก็เป็นเพียงแม่บ้านจึงไม่แปลกที่ปู่จะหาเราไม่เจอ



.



จบเรื่องราวของชีวิตผมในอดีตมันมีเพียงแค่นั้นล่ะ



.



.



หลังจากที่ผมได้มาอยู่ในเมืองหลวง คุณปู่ก็ส่งผมเรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดัง เขาให้ผมพักอยู่กับอาเพราะคฤหาสน์ของตระกูลนั้นตั้งอยู่นอกตัวเมือง มันคงไม่สะดวกอย่างมากที่ผมจะต้องตื่นเช้าทุกวันเพื่อไปโรงเรียน



ปู่น่ารัก เขาตามใจผมทุกเรื่องจนอาต้องดุ



อาน่ะอิจฉาที่ปู่รักผมมากกว่าเขา



แต่ไม่ต้องห่วง



เพราะผมจะเป็นคนให้ความรักเขาเอง ; )


.


.


.



“เฮ้ยคริส พวกไอเจชวนเล่นบาสหลังเลิกเรียนอะ” เค้กเพื่อนสนิทของผมบอกตอนที่เรากำลังทานข้าวกันระหว่างพักเที่ยง



ร่างสูงโปร่งนั้นหยิบขวดน้ำของผมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะกระดกขึ้นดื่มจนหมดขวด



“ดูก่อนวะ กูไม่แน่ใจว่าว่างไหม”



ผมตอบกลับไปแล้วกวาดข้าวในจานคำสุดท้ายเข้าปากจากนั้นเดินไปซื้อน้ำเปล่าอีกขวดเพราะขวดของตัวเองโดนไอเค้กฟาดไปเรียบร้อยแล้ว



เค้กเป็นเพื่อนคนแรกที่ผมรู้จักตั้งแต่ตอนเข้าเรียนมัธยม



มันเป็นผู้ชายตัวเล็ก อวบหน่อย แก้มย้วยๆ นั้นดูน่ารังแกเห็นแล้วอยากจะกัดทุกที แต่แค่เพียงผมผลักหัวมันนิดหน่อยพี่ชายมันก็วิ่งโร่มาแต่ไกล



พี่ครีม พี่ชายของมันที่ดูแลมันราวเป็นน้องน้อย ถึงแม้ตอนนี้รูปร่างมันจะสูงใหญ่ขึ้นกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกแล้วก็ตาม แต่ความหวงน้องของพี่ครีมก็ไม่เคยลดลงไป



ดีขึ้นหน่อยที่พี่ชายมันเข้ามหาลัยไปแล้วผมเลยทารุณมันได้เต็มที่ ส่วนเราสองคนก็อยู่ม.5



วัยกำลังเรียนรู้



เรียนรู้เรื่องอะไรคุณก็รู้อยู่แก่ใจ

: )



[อา เย็นนี้คริสเล่นบาสกับพวกเจได้ไหม] 14:49



ผมส่งข้อความไปตอนเกือบบ่ายสาม



ตัวเลขบนกระดานมันทำให้ผมเบื่อหน่ายจนอยากจะฟุบลงกับโต๊ะแต่ก็ทำไม่ได้เพราะอาจารย์ประจำวิชาขึ้นชื่อเรื่องการปาแปลงลบกระดานได้แม่นสุดๆ ไปเลย



[วันนี้วันศุกร์ คริสคงไม่อยากให้คนแก่รอเก้อหรอกใช่ไหม] 14:55



ผ่านไปได้ไม่กี่นาทีอาก็ตอบข้อความกลับมา



ทุกวันศุกร์เรามักจะกลับบ้านใหญ่กันถ้าอาไม่ติดงานที่บริษัท ไม่ก็ผมไม่ติดงานกลุ่ม สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเราไม่ได้กลับบ้านใหญ่กันเลยเพราะเกิดปัญหาขึ้นกับงาน อาเลยต้องจัดการมัน



แม้ปู่จะบอกว่าไม่ต้องกลับบ่อยก็ได้



ผมรู้ว่าท่านเป็นห่วงผมเพราะพ่อเสียไปกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ปู่เลยไม่อยากให้เดินทางบ่อย



ผมรู้ว่าปู่เหงา



แล้วใครจะปล่อยให้คนแก่เหงาละจริงไหม หลานรักอย่างผมก็ควรกลับไปเอาใจบ่อยๆ ซะหน่อย



ผมตอบข้อความกลับไปบอก ไม่นานอาก็ส่งข้อความตอบกลับมาว่าเลิกเรียนจะรอรับที่หน้าโรงเรียน



ผมอ่านมันแล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง



กริ้งงงงงงงง



เสียงออดดังขึ้นเพื่อนๆ ในห้องก็ต่างเก็บของแล้วเดินออกไป จะเหลือก็แต่คนที่ฟุบหลับอยู่ข้างผมนี่แหละ



“ไอเค้ก ตื่น สมศรีปล่อยแล้ว” ผมสะกิดมันแรงๆ



“เลิกแล้วเหรอวะ” เค้กขยี้ตาตัวเองแล้วมองนาฬิกาข้อมือ

มันกวาดของบนโต๊ะเข้ากระเป๋าพลางหาววอดไปด้วย



“สรุปมึงไปเปล่า”



“ไม่วะ วันนี้กลับไปหาปู่” ผมบอก

“เค แล้วมึงกลับไง”

“อามารับ กำลังขับมา” มันพยักคอรับแล้วพากันเดินออกจากห้องเรียน



“เออคริส มึงจำนัทได้ปะ” ผมเลิกคิ้ว



“นัทตัวเล็กๆ ห้องหนึ่งที่เล่นบาสทีมเดียวกับมึงเมื่อศุกร์ที่แล้วไง” ผมคิดตามพลางนึกย้อนไปถึงสัปดาห์ก่อนที่อยู่เล่นบาสกับมันจนค่ำเพราะอาติดงานกับลูกค้ารายใหญ่



“เฮ้ย คนนั้นอะ” มันพูดเสียงดังแล้วชี้นิ้วไปที่ผู้ชายร่างบางคนนึงที่กำลังดึงเสื้อออกนอกกางเกง



“ทำไม” ผมเลิกคิ้วถาม ตามองหน้าท้องบางอีกคนเพราะดึงปลายเสื้อขึ้นมาเช็ดหน้า



ใบหน้าหวานนั้นสบตากับผมตอนเงยขึ้นพอดี



“เขาชอบมึง” สีบนใบหน้าเปลี่ยนเป็นแดงแปร๊ดเมื่อผมยกยิ้มให้

“อือ”



โทรศัพท์ผมสั่นเพราะมีคนโทรเข้า เมื่อหยิบขึ้นมาก็เห็นชื่อคนโทรเข้า อาคงถึงแล้วละมั้ง



“กูกลับก่อน อามารับแล้ว” เค้กโคลงหัวรับ



ผมเดินจากสนามบาสไปยังหน้าโรงเรียน สายตาสอดส่องหารถของคนมารับจนเห็นว่าจอดอีกฝั่งผมจึงรีบขยับเท้าเดินไป เพราะเป็นช่วงเลิกเรียนรถจึงมีจำนวนเยอะเลยทำให้พื้นที่ในการจอดรอมีน้อย



“แฮ่กๆ ด เดี๋ยวคริส” ผมหันไปตามเสียงเรียก นัทจับข้อมือผมไว้แน่น

“มีอะไรเปล่า” ริมฝีปากบางๆ นั้นเผยออกเพื่อคว้าอากาศเข้าไปภายใน



สงสัยคงวิ่งมา

ผมคิดงั้นเพราะมือเล็กสองข้างนั้นกุมที่เข่าตัวเองแล้วหอบ



“ของนาย” เขาดึงผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าในกระเป๋ากางเกงตัวเองให้ผม



ผมเลิกคิ้วมองมัน



อ่า จำได้แล้ว



“เก็บไว้เหอะ กูมีหลายผืน” ผมบอก



ร่างบางนั้นกำลังจะอ้าปากเถียงผม



ผมคว้าไปหยิบผ้าเช็ดหน้าจากมืออีกคนแล้วบรรจงเช็ดเหงื่อให้อีกคนบนหน้า





ปรื้น!!!



“มันสกปรกแล้ว ไว้ซักคืนกูวันหน้าแล้วกัน” ผมบอกแล้วรีบก้าวเท้าเดินออกมาเพราะเสียงแตรรถยนต์ที่จอดฝั่งตรงข้ามโรงเรียน



คนแก่กำลังอารมณ์เสียเพราะผมปล่อยให้รอแล้วละมั้ง



: )



.

.

.



“อาโกรธอะไรผม”



ผมพูดหลังจากที่เรารับประทานอาหารเสร็จ ปู่ขึ้นไปนอนเรียบร้อยแล้วหลังจากที่ทานอาหารเสร็จ ท่านบ่นว่าปวดหลังไม่อยากนั่งนานๆ เลยไปนอน



“เปล่า อาแค่เหนื่อยน่ะ” เขาบอกแล้วขยับตัวลุกออกจากเก้าอี้เพื่อขึ้นไปยังบนห้อง



“อาไปอาบน้ำก่อนดีกว่าวันนี้ทำงานทั้งวันแล้ว คริสก็อย่านอนดึกละ” ร่างบางพูดแล้วขยับเท้าเดินไปยังห้องตัวเองบนชั้นสอง





กริ้กก..



เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นเบาๆ ในความมืด แอร์ในห้องนี้เย็นช่ำเพราะนิสัยเจ้าของห้องขี้ร้อน เสียงน้ำดั งรอดผ่านประตูออกมาให้รู้ว่าอีกคนกำลังชะล้างตัวอยู่



ร่างสูงของเด็กมัธยมปลายเอนตัวนอนบนเตียงอีกคน เขาปลดกระดุมเม็ดบนออกเพราะรู้สึกอึดอัด



เสียงน้ำในห้องหยุดไหลแล้ว



“อ๊ะ!” เสียงร้องดังขึ้นในความมืดเพราะความตกใจเมื่อโดนคนบุกรุกโอบกอดลำตัวของตัวเองไว้



“คริสปล่อยอา” ร่างสูงไม่ปล่อย วงแขนใหญ่นั้นกระชับอ้อมกอดมากขึ้น ริมฝีปากหนากดจูบแนบไปทั่วลำคออีกคน กลิ่นหอมของแชมพูผสมกลิ่นประจำตัวของคนในอ้อมกอดทำให้คริสรู้สึกตื่นตัว



“คริส เอามันออกไปจากก้นอา” ร่างบางบอกเสียงเข้ม



(มีต่อข้างล่าง)
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2018 12:46:40 โดย Beerng »

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
“มันคิดถึงอา” คริสพูดแล้วกดสะโพกของตัวเองแนบลงไป แม้จะมีผ้าเช็ดตัวผืนหนากั้นอยู่ แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่เกินวัยนั้นทำให้เขารู้สึกได้



ร่างสูงดันอีกคนให้ขยับเข้าใกล้เตียง ชายวัยกลางคืนขืนตัวเองเอาไว้แต่แรงที่เขามีไม่มากพอจะสู้กับเด็กวัยแตกหนุ่ม



“คริส อาไม่อยาก”

.

.



“แต่ของคริสมันร้องว่าอยากเข้าไปอยู่ในตัวนิลนะ”



เด็กบ้า!!!



นิลกรีดร้องในใจ



มือหนานั้นปลดปมผ้าเช็ดตัวอีกคนจนผ้ากองอยู่ปลายเท้าร่างบางใช่จังหวะนั้นหันมาดันอกอีกคนไว้ แต่กลับกลายเป็นว่า เขาเป็นคนโดนดันซะเอง!



“อาโกรธอะไรคริส ทำไมไม่เอาแต่เงียบ” ร่างสูงโปร่งใช้ข้อศอกยันกับเตียงไว้แล้วมองหน้าคนที่อยู่ใต้ร่าง

“อาไม่ได้โกรธ คริสจะเซ้าซี้ทำไมเนี้ย!” นิลขึ้นเสียง



“งั้นคริสขอได้ไหมครับ” เด็กหนุ่มจัดตัวอีกคนให้อยู่ในท่าตะแคง เขาใช้สะโพกหนาของตัวเองบดเค้นกับสะโพกงอนของผู้เป็นอา



อือ.. เสียงครางในลำคออีกคนดังออกมา



“อาเหนื่อย” นิลพยายามที่จะพลิกตัวหันไปดันอีกคนออกแต่ก็ถูกเด็กหนุ่มล็อกสะโพกเอาไว้แน่น



“แม้กระทั่งครั้งแรกอายังไม่เคยขัดใจคริส คนดีโกรธอะไรคริสเนี้ย” คนเป็นอาแก้มร้อนฉ่าเพราะคำพูดอีกคน



จะให้เขาพูดน่ะหรอว่าตัวเองหึงคนเป็นหลานกับเด็กที่คริสยืนเช็ดหน้าให้กันหน้าโรงเรียนโดยไม่แคร์สายตาใคร



ถึงเขาจะแก่ก็ใช่ว่าจะตาบอดนะเว้ย!!



“หรือนิลจะหึงคริสเพราะเมื่อเย็น” ร่างสูงกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อเย็นที่อีกคนถึงขั้นบีบแตรทั้งที่ใช่คนใจร้อนที่ไหน



“อาไม่ได้หึงคริสกับเด็กนั่นซะหน่อย!!” ร่างบางพูดเสียงดัง คนจับผิดได้ยิ้มกริ่ม



“แน่ใจนะ?”



“อือ”



“ดีเลยที่อาไม่หึง เพราะเมื่อเย็นไอเค้กบอกว่าเขาชอบผม นัทก็น่ารักดีนะ อือ ถ้าได้สานสัมพันธ์กันคงดีไม่น้อย อาว่างั้นไหมครับ” ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์ถามอีกคนที่ตอนนี้หางตาเริ่มปริ่มด้วยน้ำตาน้อยๆ แล้ว



“คริสจะคบกับเด็กนั่นหรอ” คนเป็นอาถามเสียงสั่น



“นั้นสิ คบดีไหม” เขาตอบกวนๆ ร่างบางที่น้ำตาคลอตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นมองอีกคนอย่างเจ้าเล่ห์ นิลเอื้อมมือไปหยิบมือถือของตัวเองแล้วเปิดแชทไลน์หนึ่งให้อีกคนดู



“นั้นสิ คบดีไหมน้า” นิลยิ้ม


คริสมองหน้าจออีกคนแล้วจ้องเจ้าของมือถือเขม่ง



“มันส่งข้อความมาหาอาอีกทำไม” คริสพูดเสียงดุ มือบีบไหล่บางนั้นอย่างแรก



เด็กหนุ่มตอนหึงคงเร้าใจน่าดู



นิลคิด



“คงอยากให้อากลับไปหา”



“อาเป็นของคริส”



ร่างสูงจับคนเป็นอานอนราบกับเตียงสอดตัวแทรกเข้าระหว่างขาของร่างบาง จนขาเรียวนั้นต้องวางพาดกับสะโพกสอบ



ริมฝีปากหนานั้นกัดเม้มไปทั่วหน้าอกอีกคนอย่างหวงแหนเมื่อคิดไปถึงแชทของแฟนเก่าผู้เป็นอาได้ส่งกลับมา



ตอนแรกก็ยั่วให้อีกคนหึง



ไหงตอนนี้กลายเป็นเขาที่เหมือนหมาบ้า



“โอ๊ย!! คริส อาเจ็บ!” ร่างบางตีไหล่อีกคนเพื่อบอกให้อีกคนรู้ว่าเขาเจ็บมาก



คริสเงยหน้ามองอีกคน



“อาจะไม่กลับไปคบกับมันใช่ไหม” เด็กหนุ่มมองอย่างเว้าวอน



ลูกหมาเอ้ย



“อาเป็นของใคร”



นิลถาม



ฝ่ามือเล็กนั้นลูบไปทั่วหน้าอีกคน ปลายนิ้วกดคลึงริมฝีปากหนานั้นเบาๆ จนร่างสูงอ้าปากออกเล็กน้อย ร่างบางจึงสอดนิ้วเรียวเข้าไปในปากอีกคน ปลายลิ้นของคนข้างบนตวัดเลียรอบนิ้วเรียวนั้น ฟันคมขบเม้มปลายนิ้วเบาๆ แล้วขยับปากตัวเองออก



“ของคริส”



ร่างบางจับไหล่อีกคนไว้แน่นเมื่ออีกคนดูเหมือนจะสติแตกไปเรียบร้อยแล้ว



คริสจับขาเขาแยกออกท่อนลำที่บวมเป่งนั้นกดคลึงไปรอบๆ ช่องทางร้อนของเขา มือหนาที่กำลังจะสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางร้อนชะงักเมื่อนิลใช้ฝ่าเท้ายันอกอีกคนไว้



“เอาเข้ามาเลย อาอยากได้มันเดี๋ยวนี้..”
แววตาเว้าวอนและน้ำเสียงนั้นแทบทำให้เขาหยุดหายใจ



“อ๊ะ!! อืออ ค คริส” นิลร้องเสียงหลงเมื่อร่างสูงนั้นสอดใส่มาอย่างรุนแรง



คริสจับข้อเท้าทั้งสองข้างของร่างบางนั้นรวบเอาไว้



สะโพกหนากระแทกเข้าจุดกระสันอีกคนอย่างแรงเพื่อจะตอกย้ำให้คนใต้ร่างรู้ว่าคนเป็นของใคร



“อา ข้างในแน่นมาก..” เสียงแหบพร่าดังข้างหูนั้นทำให้เขารู้สึกกระสันขึ้นมาอีก ร่างบางแอ่นตัวรับสัมผัสจากคนทุกครั้งที่กระแทกเข้ามาอย่างเต็มแรง



เสียวจนเขาอยากจะแตกมันออกมาทุกครั้งที่อีกคนกระแทกโดนจุดสำคัญ



“คริส อา.. อ๊ะ!” ร่างบางโอบลำคออีกคนจนใบหน้าร่างสูงนั้นโน้มต่ำจนติดกัน



ท่านี้ลึกเป็นบ้า..



นิลเงยหน้าครางอย่างเสียงดังเมื่อคริสซอยสะโพกอย่างรวดเร็วจนร่างบางต้องเลื่อนมือตัวเองลงต่ำเพื่อกดปิดส่วนหัวแท่งร้อนตัวเองไว้



“เฮ้ยย อาจะปิดทำไม”



คริสร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่ผมทำ



“นิลอยากให้คริสแตกในตัวนิลก่อน..” ผมกัดริมฝีปากตัวเองกลั้นความเสียวที่จะแตกออกมาอย่างร่อมร่อแทบทุกครั้งที่คริสกระแทกแท่งร้อนนั้นเข้ามา



ถ้าคริสเป็นไฟ เขาก็คงเป็นน้ำมัน






และตอนนี้ไฟกำลังลุกโชน



“นิลอย่ายั่ว” แม้อีกคนจะพูดแบบนั้นแต่ผมรู้ดีว่าเขาชอบ ยิ่งตอนที่ผมร่อนสะโพกตัวเองเข้าหาแท่นร้อนนั้นอย่างโหยหาให้เขากระแทกกายเข้ามาอีกแม้มันจะมิดลำแล้วก็ตาม



“อ๊ะ คริส อ๊าา..” ผมร้องเสียงหลง



คริสจับผมนั่งพิงหัวเตียงเขาคุกเข่าสอดแท่งร้อนนั้นเข้ามาอย่างรุนแรงผมรู้สึกเสียวมากจนต้องยกสะโพกหนีแกนกายของเขา



คริสล็อกสะโพกผมไว้จนดิ้นไม่ได้ หมอนั่นกระแทกมันเข้าออกอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายผมได้แต่นอนร้องครางเสียงดังหมดแรงเมื่อผมปล่อยมันออกมารดหน้าท้องของอีกคน



ความรู้สึกอุ่นในรูร้อนทำให้ผมรู้ว่าคริสเสร็จแล้ว



“เอาออกไปได้แล้วมั้ง” ผมบอก



ร่างสูงขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ จนน้ำกามไหลย้อนจากรูร้อนผมเลอะที่นอน



“ผมรู้ว่าอาเซ็กส์จัด รอบเดียวคงไม่พอใช่ไหม”



คริสยิ้ม



ให้ตายเถอะ ผมขี้เกียจซักผ้าปูที่นอนนี่ชะมัดเลย!



เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกที่เราแต่งเพราะความขี้ดองและขี้เกียจ 55 ที่ตอนต่อไปอาจจะมีอีก แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ น้องคริสมาจากตัวละครเรื่องอาณาจักรของเค้กนะคะ นางเป็นเพื่อนของเค้กตัวเองในเรื่อง ทวงงานได้ในทวิตนะคะ @bearrybae
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2018 23:34:10 โดย Beerng »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม
«ตอบ #2 เมื่อ22-10-2018 11:58:26 »

 :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม
«ตอบ #3 เมื่อ22-10-2018 19:37:05 »

 :z1: :pighaun: :haun4:

คริส นิล  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
มาต่ออีกนะ ..นะ    :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นัท




มีคนงอแง


โอ๊ะ


ไม่ใช่ผมครับ
คริสต่างหากที่งอแง



เด็กนั่นนอนดิ้นกับเตียงไปมา มันจะดูน่ารักถ้าย้อนไปตอนเขาอายุราวๆ5ขวบ


เสียดาย


ตอนนั้นผมยังไม่เจอเขาเลย


“อาไม่ไปไม่ได้เหรอ”
 

หมาตัวใหญ่กำลังเอาหัวทุยๆมาไถตักผมอย่างออดอ้อนพร้อมร้องขอให้ผมไม่ไปต่างจังหวัดเพื่อที่จะไปทำงาน


“คริส โตแล้วนะ” ผมวางมือลูบไปมาบนหัวคนตัวโตเบาๆ


เรากลับมาที่คอนโดได้ราวๆสองวันแล้ว และเมื่อวานจู่ๆเลขาของผมเคาะห้องทำงานพร้อมบอกว่ามีปัญหาเกิดขึ้นเกี่ยวกับสินค้าทางภาคใต้ของเรา


‘นิล ของที่เราส่งไปอีกสาขามันเกิดความผิดพลาด ทางฝั่งนู้นเขาเร่งให้เราแก้ไขด่วน’



ไอจะให้ผมส่งแค่ผู้จัดการสาขาไปคงจะไม่ไหวหรอก เดี๋ยวเขาจะหาทางเราไม่ให้เกียรติ เพราะถึงแม้จะเป็นแค่สาขาย่อยก็ตาม คุณพ่อมักให้ความสำคัญในจุดนี้เสมอ ท่านเคยบอกผมว่าการที่เราจะพัฒนาอะไรสักอย่างไม่ควรที่จะละเว้นหรือเผิกเฉยในส่วนเล็กๆ



ผมเลยตกลงกับเลขาว่าจะเดินทางไปเองในอีกสองวันข้างหน้า เจ้าลูกหมาตัวโตที่โดนทิ้งให้อยู่ห้องคนเดียวเลยงอแงอย่างที่เห็นนี่แหละครับ


“ถ้าอาไปใครจะหาข้าวให้คริสกินล่ะ”


“หัดทำเองบ้าง เราก็โตแล้วนะ”ผมเอ็ดไป เขาก็17แล้ว จะรอให้ผมทำทุกอย่างให้คงไม่เหมาะ


คุณพ่อนะคุณพ่อ


สปอยหลานจนมันเคยตัวแล้วเนี้ย


“มันไม่อร่อยเท่าอาทำให้นี่หว่า”


เรื่องปากหวานงานถนัดเขาละ ผมกรอกตาใส่อีกคน


“ยอมแล้วคร้าบบบบ แล้วอาไปกี่วันอะ”


“3วัน คงกลับวันจันทร์”ผมบอก


“คริสตามไปได้ไหมตอนเลิกเรียน”ร่างสูงทำตาหวานใส่ผม


“คริส อาไปทำงาน เราไปกับอาก็ไม่ว่างเล่นด้วย”


เด็กโข่งทำหน้ามุ่ยแล้วโคลงหัวรับอย่างจำยอม ผมลูบหัวเจ้าหมาตัวน้อยๆ



“อา”


“หืม” ผมมองหน้าเจ้าเด็กที่นอนเอาหัวหนุนตักผม


“ทำไมอาเลิกกับอาเมฆละ” คริสถามเรื่องแฟนเก่าของผม


“จะรู้ไปทำไม”


“คริสรู้ไม่ได้เหรอครับ”


“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” จะให้ผมบอกเขาน่ะเหรอว่าที่เลิกกับเมฆไปเพราะคนบนตักผมนี่แหละ


“อือ ไม่อยากรู้ก็ได้ว่ะ”เด็กน้อยซุกหน้าลงไปกับตักผม




“อั้ยอักอาแอ้ว”เสียงอู้อี้อีกคนดังขึ้นหลังจากเขาเงียบไปนานจนผมคิดว่าเขาหลับแล้วด้วยซ้ำ


“คริสพูดอะไรนะ”


“คริสบอกว่าไม่รักอาแล้ว”ดูพูดจาเข้า มันน่านักเจ้าเด็กคนนี้


“ดีแล้วล่ะ เพราะอาก็ไม่รักคริสเหมือนกัน” คนที่นอนบนตักผมรีบลุกขึ้นนั่งหลังจากที่ผมพูดจบ



เด็กโข่งมองผมอย่างไม่พอใจจากนั้นรีบกอดผมแน่น
“ไม่ได้นะ อาต้องรักคริสสิ”



“ทีคริสยังไม่รักอาเลย”ผมบอก


“ไม่รู้แหละ อาต้องรักคริส” เด็กโข่งงอแง


“มีสิทธิอะไรมาสั่งอาหืม”ผมถาม


“สิทธิในผัวอาได้ไหมล่ะ”อีกคนคลายอ้อมกอดแล้วผละออกแล้วยักคิ้วใส่ผม


“ทะลึ่ง” ผมตีไหล่หนานั้นไปแรงๆทีนึง


“โอ๊ยยยย! อาทำร้ายผมทำไมเนี้ย เขินอะดิ กิ้วๆ” อีกคนเอานิ้วเขี่ยแก้มผมอย่างสนุก เดี๋ยวนี้มันชักจะปีนเกลียวผมไปแล้วนะไอหลานคนนี้



เหอะ


กิ้วพ่องงงง



“ถ้ายังไม่หยุดแกล้งอาจะโดนดี”ผมยกมือเตรียมฟาดอีกคน

เด็กโข่งหัวเราะลั่นแล้วหอมแก้มผมแรงๆ



.

.

.


ศุกร์ ที่ 17 กันยายน 25xx


“อาไม่อยู่ก็ดูแลห้องดีๆด้วย” อานิลลูบหัวผมเบาๆ กระเป๋าลากสีขาวใบเล็กที่อีกคนถือข้างกายนั้นถูกผมแย่งมาในมือ



“รู้แล้ว อาเอาบัตรประชาชนมา เดี๋ยวคริสไปเช็คอินให้”ผมแบมือเพื่อขอบัตรประชาชนอีกคน
อาล้วงมันออกจากกระเป๋าตังตั๋วเองแล้ววางบนมือของผม จากนั้นเจ้าตัวก็เดินลอยไปร้านกาแฟเลย



อานะอา

คนอุส่าห์จะโชว์ความแมน



“เดินทางไปไหนคะ”


“หาดใหญ่ครับ”


“ขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ”ผมหยิบบัตรประชาชนของอาให้พนักงานแล้วยกกระเป๋าลากขึ้นบนสะพานเลื่อนสำหรับชั่งน้ำหนักกระเป๋า



“ขอโทษนะคะ คุณลูกค้าใช่เจ้าของบัตรไหมคะ”พนักงานถามผม


ลืมคิดไปด้วยสิว่าเขาไม่ให้เช็คอินแทน



“พอดีเจ้าของบัตรไปเข้าห้องน้ำน่ะครับ”ผมบอก



พนักงานประจำหน้าเคาน์เตอร์กล่าวตักเตือนผมเล็กน้อยว่าครั้งหน้าต้องให้เจ้าตัวมาทำเองเท่านั้น


ผมเดินตัวลอยพร้อมบอร์ดดิ้งพาสเพราะไม่มีกระเป๋าลากนั่นเกะกะอีกต่อไป




เมื่อมาถึงร้านกาแฟที่อาหนีมาผมก็พบว่าเขานั่งอยู่กับใครอีกคน



คนที่ผมไม่คิดว่าจะมาด้วย..



บนโต๊ะนั้นมีแก้วกาแฟที่เหมือนเพิ่งสั่งมาได้ไม่นาน พร้อมกับแก้วอีกอัน ที่กาแฟพร่องไปกว่าครึ่ง



ทำไมอาไม่บอกเขาว่าอีกคนมาด้วย..



“อา นี่ตั๋ว”ผมบอกพร้อมวางตั๋วเครื่องบินไว้บนโต๊ะให้อีกคน



อยากตะโกนใส่หน้าแทบตายว่าทำไมไม่บอกเขา


แต่มันทำไม่ได้


เมื่ออยู่นอกบ้านสถานะที่เรามีให้กันได้เป็นแค่เพียง ‘อาและหลานเท่านั้น’


“อ้าว คริสมาส่งนิลด้วยเหรอ” ผมพยักคอ สองมือยกพนมมือไหว้คนที่อายุมากกว่าตัวเองราวๆหนึ่งรอบ



“ครับ แต่ผมกำลังจะกลับแล้วพอดีมีเรียน ลานะครับ”
ผมพูดแล้วรีบก้าวขาเดินออกมาด้วยความรวดเร็ว


ความหึงหวงที่สุ่มในอกยิ่งมากขึ้นเมื่อผมคิดไปต่างๆนานา


“คริส!!” เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นมาจากปากอีกคน



อายื้อข้อมือผมไว้


“อามีอะไร”

ผมพูดด้วยเสียงเย็น

“อย่าโกรธอา”

“ผมควรโกรธอาไหม อย่างน้อยอาก็ควรบอกผม!”ผมตะคอกเสียงใส่อีกคนจนคนรอบข้างเริ่มหันมาสนใจพวกเราสองคน

“เพราะเราเป็นแบบนี้ไง อาเลยไม่บอก” ผมมองอีกคนด้วยแววตาผิดหวัง

“เออ ผมมันงี่เง่า” ผมสะบัดมืออีกคนแล้วรีบเดินออกมาโดยที่ไม่สนใจเสียงที่เรียกตะโกนชื่อผม



ผมจะไม่โกรธเขาเลย



จะไม่โกรธเลยสักนิด



ถ้าคนที่เขาไปด้วยไม่ใช่อาเมฆ



จะไม่รู้แย่สักนิดเลย ถ้านั่นไม่ใช่แฟนเก่าอา!!


.

.

.




อาไปแค่เพียงครึ่งวันแรกแต่ผมกลับรู้สึกแย่


อาส่งข้อความมาหาผมมากมาย


เขาบอกว่าจำเป็นต้องไปกับอาเมฆ
มันคืองาน



ผมรู้
ผมรู้ว่าผมมันหึงไม่เข้าท่า



เจ้านายกับเลขาเขาก็ทำงานด้วยกันแบบนี้มานานแล้ว

เขาไปด้วยกันเพราะเรื่องงาน

แต่ทำไมอาไม่บอกผม



ในหัวผมคิดไปแล้วต่างๆนานา


คิดภาพที่อานอนเตียงเดียวกับเขา


ภาพตอนที่อาหลับแล้วมีอาเมฆกอด


โถ่เว้ย!!! ผมหยุดความคิดบ้าๆนี้ไม่ได้




โครม!



ผมโยนลูกบาสสีส้มขนาดเบอร์7อัดเข้ากับแป้นด้วยความแรง


“พักก่อนไหมมึง เหม่อแบบนี้บาสอัดหน้าก่อนพอดี”
ไอเค้กเดินมาตบไหล่ผมเพื่อเรียกสติ ผมมองหน้ามันพร้อมถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหน้าปฎิเสธ



“เฮ้ย นัท ระวัง!!”


เสียงตะโกนดังทั่วโรงยิมเรียกความสนใจจากผม


ลูกบาสที่มาจากทางไหนไม่รู้ลอยเหนืออากาศพุ่งเข้าตรงหน้าร่างบางที่กำลังยืนเอ๋อห่างผมไม่ไกลนัก




ผลั่ก!!



“โอ้ย!!” เสียงผมร้องลั่น
สัสเอ้ย หักไหมวะ


“คริสเป็นไรไหม/สัส คริส มึง!” เสียงนัทกับเค้กดังขึ้นพร้อมกัน


ไอเค้กมาถึงตัวผมก่อน


“มึง โอเคไหม”


เค้กถามผมหน้าเครียด



ผมส่ายหน้า ก่อนจะยันตัวขึ้นเพราะผลจากการวิ่งไปปัดบอลให้อีกคนทำให้ผมสไลด์ไปนอนบนพื้นปาเก้


“โอ้ยย!” ผมร้องเสียงหลง


“ขอเราดูมือหน่อย” นัทดึงมือผมไป มือนุ่มนั้นจับมือผมพลิกไปมาทำให้ผมร้องเสียงหลงออกมา


“เจ็บชิบหาย”



“ไปห้องพยาบาลกับเรา” คนตัวบางทำหน้าเคร่งเครียดใส่ผม



“ไม่อะ คงแค่ข้อมือซ้น” ผมปฏิเสธไป



บ้าเอ้ย ตอนล้มไม่น่าเผลอเอามือค้ำเลยวะ


“ไม่ได้ นายเจ็บเพราะช่วยเรา ไปเหอะ” ริมฝีปากบางนั้นเบะออกมาทำให้ผมรู้สึกอยากแกล้งมันชะมัด



“อื้อออ อย่าแกล้งดิ”ร่างบางปัดมือผมออกเมื่อผมเอื้อมมือไปบีบปากอีกคน



“เออๆ ไปก็ได้”ผมบอก


“มึงไปเข้าเรียนคาบบ่ายเหอะเค้ก เดี๋ยวกูไปกับมัน” เค้กพยักหน้าบอกผมพร้อมยิ้มแบบมีเลศนัย



“ยิ้มเหี้ยไรมึง” ผมผลักหัวมัน





ไอเหี้ยนี่ยิ้มแบบนี้ทีไรคิดดีไม่เคยได้เลยผม



“เปล๊า” มันทำท่าทางลอยหน้าลอยตา



อีกสักพักตีนผมคงลอยไปอยู่บนหน้ามันด้วย ถ้ามันยังไม่เลิกกวนตีน!


“สัส”ผมชูนิ้วกลางใส่ผม


คนข้างๆผมทำหน้าตาเหมือนหมางงมองผมกับเค้กสลับไปมา


“ไม่มีไรหรอกเตี้ย ไป พากูไปห้องพยาบาลได้แล้ว”ผมล็อกคอคนตัวเล็กให้เดินตามไป



“ฮื่อออ คริสเอาแขนออก เหม็นเหงื่ออะ”ยิ่งอีกคนทำหน้ามู่ทู่ผมยิ่งล็อกคออีกคนแรงขึ้น


“เราหายใจไม่ออก ปล่อยเลยนะ!”คนตัวเล็กจับมือผมแล้วพยายามดันออก



“โอ๊ยย นัทๆกูเจ็บ”



หมากระเป๋าทำหน้าเหลอหลา



“เฮ้ย เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เจ็บมากไหม” อีกคนทำน้ำเสียงรนรานพร้อมน่าตาดูตลกจนผมอดหลุดขำออกมาไม่ได้



“ขำอะไร หายเจ็บแล้วหรอ” ร่างบางเงยหน้ามองผม หัวคิ้วนั่นขมวดจนแทบชนกัน


“ขำมึงอะแหละ ดูทำหน้าทำตาเข้า” ผมดีดเหม่งมันเบาๆ ปากบางนั่นยิ่งยู่เพราะความขัดใจ


“ไม่น่าเป็นห่วงคริสเลยวะ” คนตัวเล็กกว่าผมทำหน้าคล้ายโมโหแล้วเดินลิ่วนำหน้าผมไปยังห้องพยาบาล


“ประคบเย็นไว้ทุกสามสิบนาทีล่ะ” ผมพยักหน้าตอบ จากนั้นครูห้องประจำพยาบาลเดินออกไปข้างนอกทิ้งผมให้อยู่กับหมากระเป๋าสองคน



“เลิกทำหน้าบูดได้แล้ว” ผมบอก ใบหน้าหวานนั่นหันหน้าหนีผม



“งอนอย่างกับเมียกู”




ฉ่า..!

เหมือนผมเห็นคนเขินวะ


“เราไม่ใช่เมียคริสสักหน่อย!” อีกคนหันมาเถียงผมทั้งที่หน้าตัวเองแดงยันใบหู


“กูแค่เปรียบเทียบ”ผมยักไหล่บอก


สายตาผมสอดส่องหาแก้วน้ำในห้องเพราะคอแห้ง พอเห็นคูลเลอร์น้ำอยู่ตรงมุมห้องผมเลยลุกไปกดมัน



บ้าชิบ


ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าด้านที่ข้อมือซ้นมันเป็นข้างที่ผมถนัด

(มีต่อข้างล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2018 23:34:40 โดย Beerng »

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
“เดี๋ยวเราทำให้ไปนั่งเถอะ” นัทเดินมายืนข้างผมมือเล็กนั่นแย่งแก้วน้ำจากมือผมไปกดแล้วยื่นให้


“ขอบใจ” ผมยกขึ้นมาดื่มน้ำจนหมดแก้ว


“แล้วแบบนี้คริสจะขับรถกลับไง” ผมเหล่ตามองอีกคนอย่างจับผิด



“รู้ได้ไงว่ากูขับรถมา” อีกคนทำท่าทางเลิ่กลั่กใส่ผม


กระต่ายตื่นตูม


ถามแค่นี้ทำเป็นรนไปได้


“ร เราบังเอิญเห็น อ่า ใช่ เราเห็นเมื่อเช้าตอนที่เดินเข้าโรงเรียน” คนตัวเล็กรีบตอบกลับมา



“ขับรถเป็นไหม”ผมถาม


อีกคนทำหน้างงใส่ผม


“ก็.. เป็น”


“ขับไปส่งกูที่บ้านหน่อย” ผมใช้มือข้างที่ไม่ถนัดล้วงหยิบกุญแจมอไซในกระเป๋ากางเกงให้อีกคนแล้วยัดใส่มือเล็กนั่น


หมากระเป๋าทำตาโตใส่ผมด้วยความตกใจ


“เฮ้ย เอาให้เราทำไม ไม่เอา ไม่ขับ”



“เก็บไว้ที่มึง เอาเบอร์มึงมา” ผมหวังหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงแต่เมื่อผมหยิบมันขึ้นมาพบว่ากระจกตรงหน้าจอแตกเป็นรอยร้าวและพอพยายามเปิดหน้าจอมือถือมันขึ้นมา กลับมีแต่ความมืด



ซวยกว่านี้มีอีกไหมวะ


ข้อมือซ้นไม่พอ มือถือก็พังอีก


โว้ยยยยยย!!



“เราขอโทษ” ผมเงยหน้ามองอีกคน


ดวงตากลมนั้นมีน้ำใสๆปริออกมาเพราะความรู้สึกผิด


“ไม่ใช่ความผิดมึงสักหน่อย กูโง่ล้มทับมันเอง”ผมบอก


“งั้นเย็นนี้เลิกเรียนรอกูหน้าโรงเรียนละกัน โอเคไหม”
นัทพยักหน้ารัวๆจนผมหน้าม้านั่นกระเซิงไปมา







เลิกเรียน


คริสถามผมว่ากลับยังไง


พอผมบอกว่าจะกลับพร้อมอีกคนมันก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผม



“ยนน” ผมถีบก้นมันด้วยความแรง


“กูจะฟ้องพี่เค้ก!”


ไอเด็กขี้ฟ้อง


ผมเดินออกมาจากห้องเรียนหวังจะเดินไปหน้าประตูโรงเรียนแต่ดันเจอใครอีกคนที่ยืนรออยู่หน้าห้อง



“แหะๆ”


ยังจะมาแหะ


“กูบอกให้รอหน้าประตูโรงเรียนไม่ใช่ไง”


“ก็กลัวคลาดกันอะ” มันยู่ปากใส่ผม



น่ากัดชิบหาย



“งั้นกูไปละ ตามสบายนะเพื่อน ขับรถปลอดภัยใส่ถุง เอ้ย หมวก”


ตัวปัญหาวิ่งไปนู้นแล้ว


ส่วนคนข้างๆผมหน้าแดงอย่างลูกมะเขือเทศ


“หึ ตามมา”



ผมเดินนำหน้ามันไปถึงรถคนที่จอดอยู่หลังกำแพงโรงเรียน แต่อีกคนไม่ยอมขึ้นรถผมสักทีจนผมชักจะรำคาญ



“จะกลับไหม ถ้าไม่กลับกูจะไปโบกแท็กซี่” ผมพูด



คนตัวเล็กรีบเสียงกุญแจแล้วสตาร์ทรถทันที



“คริสเอาหมวกไปใส่” มันยื่นหมวกให้ผม

“มึงบ้าปะ คนขับก็ใส่ไป อย่าดื้อให้มันมาก”ผมจับหมวกกันน็อกยัดใส่หัวมันใช้มือข้างที่ไม่ถนัดล็อกสายคาดใต้คางให้อย่างทุลักทุเล



“แปปนะ”


“ว่าไง”

(อยู่ไหน) ผมได้ยินเสียงปลายสายดังออกมาจากลำโพง

“ออกมาแล้ว วันนี้กูกลับเอง”


(..)


“บอล มึงได้ยินไหมเนี้ย”


“คุยเสร็จยัง” ผมเร่งอีกคนเพราะยืนรอจนเมื่อย


(มึงอยู่กับใคร)


“คือ..”



“มึงจะเลิ่กลั่กทำไม ก็บอกไปดิว่าอยู่กับกู”ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่


(นัท)


(กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปยุ่งกับไอเหี้ยนั่น)


หึ ผมยกยิ้มเมื่อได้ยินคำที่อีกคนเรียกผมปลายสาย


“มันเรื่องของกูไหมวะบอล”คนข้างๆผมเริ่มกระชากเสียงใส่ปลายสาย


(มึงก็รู้ว่ามันเป็นคนย..)



ติ๊ดด


คนข้างตัวผมกดตัดสายไปเรียบร้อยแล้ว


“กลับ”
มันพยักคอรับแล้วขับรถออกไปยังคอนโดผม โดยที่ผมไม่บอกทางด้วยซ้ำ



หึ


ผมเดินนำอีกคนขึ้นไปบนห้องแล้วเปิดประตูให้อีกคนเข้าห้องไปก่อน เพราะข้างนอกฝนตกหนักเลยทำให้อีกคนกลับบ้านไม่ได้



วันนี้คงเป็นวันซวยของผมจริงๆ
จะถึงห้องอยู่แล้วเชียวแต่ฝนดันเทลงมาอย่างหนักทำให้ทั้งผมและอีกคนตัวเปียกไปด้วยฝน


“รอนี่ กูไปเอาเสื้อให้” ผมหันไปบอกคนที่ยืนกอดตัวเองด้วยความหนาว ร่างบางนั้นพยักหน้ายึกยัก ผมซอยสั้นนั้นแนบลู่ลงข้างแก้ม



ผมเดินเข้าไปหยิบผ้าเช็ดตัวของตัวเองแล้วโยนให้อีกคนก่อน



“เช็ดหัวก่อนเดี๋ยวเป็นหวัด”


เพราะขนาดตัวผมกับอีกคนต่างกันมาก เสื้อที่ผมให้มันใส่ผลเลยกลายเป็นชายเสื้อนั้นคลุมหน้าขาอีกคนแบบที่ไม่ต้องใส่กางเกง



น่าเอาชิบหาย


“มึง”



“หือ”


“รู้ใช่ไหมว่ากูไม่จริงจังกับใคร”


นัททำหน้าเศร้าแล้วตอบผมในลำคอ


.

.


.



“อา นัท มึงแม่ง..” ผมพยายามดันท่อนล่างให้เข้าไปจนสุดแต่สุดท้ายก็เข้าไปได้เพียงครึ่งนึงเพราะอีกคนไม่เคยทำเรื่องอย่างว่า


จริงอยู่ที่ผมเคยมีอะไรกับคนที่ซิงมามาก แต่ไม่มีใครประสีประสาเท่านัท คนพวกนั้นมักตอบสนองผมด้วยท่าทีที่เชิญชวน


“เจ็บ.. ฮึก..” น้ำตาเม็ดโตไหลเปรอะหน้าบางจนทำให้ผมอดรู้สึกผิดนิดๆ


“อย่าร้องดิวะ กูพยายามทำเบาๆแล้วเนี้ย” ผมถอดแกนกายตัวเองออกแล้วหยิบเจลหล่อลื่นมาฉโลมทั่วท่อนลำใหม่อีกครั้งเพราะสงสารคนใต้ร่าง


ยอมรับว่าสงสารมันจับใจตอนมันร้องว่าเจ็บ


แต่อีกใจผมก็มีอารมณ์มากขึ้นเพราะน้ำตามัน


“อื้ออออ อ๊ะ คริส ลึก” มือบางๆนั่นดันหน้าท้องผมไว้



เมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มงอแงแล้วผมจึงขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ ขาเรียวนั่นอ้ากว้างเพราะตัวผมดันแทรกกลาง ชายเสื้อเลิกขึ้นจนเห็นยอดไตตุ่มสีชมพูนั่นทั้งสองข้าง


ผมสนใจมันตั้งแต่ตอนที่เค้กบอก


“คริส เสียวว อืออ” ผมยิ้ม


“ตรงนี้ไหม”ผมกระแทกสะโพกย้ำลงไปตรงจุดกระสันอีกคนแรงๆ


มันไม่รู้หรอกว่าตัวเองในตอนนี้น่ารังแกแค่ไหน


ผมยังงงว่ามันรอดจนถึงมือผมได้ไง


ผมขยับสะโพกตัวเองออกจนท่อนลำจะหลุดออกมาแล้วกระแทกเข้าไปจนสุดแรง ทำแบบนั้นซ้ำไปมาช้าๆจนคนใต้ร่างเริ่มงอแง


มือนิ่มนั้นจับแขนผมไว้แน่น สะโพกมนแอ่นเข้าหาผมราวกับโหยหามันอย่างลืมตัว


ผมมองคนไม่ประสีประสาขยับตัวเองเข้าหาแท่งร้อนอย่างทุลักทุเล
ปากสีเชอรี่บางๆนั่นกัดเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้จนผมต้องโน้มหน้าเพื่อประกบจูบริมฝีปากบางนั้น


“อย่ากัดปากตัวเองนัท” ผมบอก


ปลายลิ้นร้อนเลียไปทั่วปากช้ำนั้น



ผมจับมันพลิกตัวนอนคว่ำให้สะโพกโก่งขึ้นแล้วขยับตัวซ้อนหลังอีกคนจากนั้นจับแกนกายตัวเองยัดเข้าไปจนสุดแล้วซอยสะโพกอย่างแรง จนคนใต้ร่างผมสั่นคลอไปตามแรง


“อื้อออ คริส เบาหน่อย จุก” นัทพยายามยื้อตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งเพราะความแรงจากผมทำให้อีกคนนอนหมอบราบกับเตียงโดยมีเพียงสะโพกที่เด่นหราอยู่



มันคงไม่รู้ตัวหรอกว่ามันยิ่งขยับตัวนั่งเท่าไหร่ส่วนล่างที่เชื่อมต่อกันยิ่งเบียดกันมากขึ้นกว่าเดิม


คืนนั้นฝนตกอย่างหนัก แต่เสียงคนใต้ร่างผมก็ร้องออกมาดังแข่งกับเสียงฝนเช่นกัน



กลบเสียงฟ้าร้องจนผมจำแทบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าข้างนอกนั้นมีพายุเข้า






อาโทรเข้าโทรศัพท์ห้อง


เขาถามผมว่าทำไมโทรเข้ามือถือผมไม่ติด ผมเลยบอกอาไปว่ามือถือพังและเล่าให้เขาฟังคร่าวๆว่าผมข้อมือซ้น


เช้าวันรุ่งขึ้นอาเลยรีบกลับมาก่อนกำหนดหนึ่งวัน


ส่วนนัทกลับไปตั้งแต่วันเสาร์ตอนเที่ยงแล้ว ผมไม่ได้ไปส่งที่บ้านมันหรอก จะเรียกว่าบ้านคงไม่ถูกนะ เพราะอีกคนเช่าหออยู่กับเพื่อนที่ชื่อบอล


เออ คนที่โทรมาหามันวันนั้นนะแหละ



วันอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว



อาไม่ได้อธิบายเรื่องที่เขาไปทำงานกับอาเมฆ

ผมก็ไม่คิดจะถามอีกแล้วเหมือนกันในเมื่ออีกคนไม่บอก





เช้าวันจันทร์อาขับรถไปส่งผมที่โรงเรียนอย่างที่เคยทำ เราพูดคุยกันเล็กน้อยไม่นานรถก็จอดเทียบหน้าประตูโรงเรียน อาบอกตอนเย็นจะมารับเช่นทุกวัน



ผมบอกลาเขาแล้วเดินลงจากรถ ไร้การหอมแก้มก่อนไปทำงานเช่นทุกที




ผลั่ก!!!



เสียงหมัดกระทบเข้าที่ใบหน้าผมด้วยความแรง



สัสเอ้ย เจ็บเป็นบ้า



ผมเงยหน้ามองคนที่ต่อยผมเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ข้างๆหมอนั่นมีนัทจับแขนมันกับผู้ชายตัวอ้วนอีกคน



“มึงปล่อยกู!!” มันพยายามที่จะดิ้นออกจากสองคนนั้น



ผมยกมือเช็ดริมฝีปากที่เลือดออกเล็กน้อย



มือซ้น



ปากแตก



ไอเหี้ยยยยยยยยยยย!!!



“เหี้ยไรของมึงเนี้ยไอสัส!!” ผมปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้ออีกคน ร่างบางเข้ามายืมขวางหน้าผมไว้ ไอเค้กที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เข้าจับแขนคนที่ต่อยหน้าผม



ทำดีมากเค้กเพื่อนรัก



“มึงทำห่าไรไว้”มันมองหน้าผมอย่างหาเรื่อง



“กูทำอะไร มีแต่มึงนี่แหละไอสัสที่เข้ามาต่อยกูเฉย” ผมง้างหมัดจะต่อยมันแต่ไอเค้กร้องเสียงหลง นัทก็กอดเอวผมไว้แน่น



ไอหมากระเป๋าเกะกะชิบหาย


“ปล่อยดิ่ไอสัส”ผมพยายามแกะมือที่สะโพกออก



“บอล กูบอกว่ากูยอมมันเองไงวะ!” ร่างบางนั่นมองคนที่ชื่อบอลตาเขียว


“อ่อ หมาบ้าหวงเพื่อนนี่เอง” ผมยกยิ้มกวนตีนมัน



“สัส!!” อีกคนพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุม ผมมองการกระทำคนตรงหน้าอย่างสมเพช



“พอ ไอเหี้ย แยกเลย ครูป๋องเดินมานู้นแล้ว แยก!”



ไอเค้กวิ่งก่อนเพื่อน โคตรรักกูเลยไอเวร พอผมเห็นร่างท้วมของอาจารย์ฝ่ายปกครองเดินตรงมาทางที่เรามีเรื่องกันอยู่เลยรีบวิ่งออกไป


เลิกเรียนวันนั้นอาซักผมใหญ่ว่าแผลได้มายังไง


ผมเลยบอกเขาว่าโดนคนต่อยมาเพราะความเข้าใจว่าผิด



คืนนั้นอาขอโทษผม เราปรับทุกข์กัน



นิลบอกว่าเขากับอาเมฆจำเป็นต้องไปทำงานด้วยกัน ที่ไม่บอกผมเพราะกลัวผมโมโห แต่พอมารู้ทีหลังมันก็เสียความรู้สึกไหมวะ




แต่พอโกรธได้ไม่นานอาก็ง้อผม



ง้อด้วยวิธีของเขา



อารู้ว่าเขาควรทำยังไงให้ผมหายโกรธ



คืนนั้นนิลง้อผมด้วยการอยู่บนตัวผม



โยกสะโพกรับมัน


และ



ริมฝีปากนั้นพร่ำบอกขอโทษซ้ำๆ



ผมจำไม่ได้ว่าเขาง้อผมนานแค่ไหน



แต่ก่อนจะหลับไปผมเป็นคนอยู่บนตัวเขาและลงโทษอาแทน


: )






จบบบบบ


มาอีกตอนแล้ว นิยายเราป่วงๆหน่อย อย่างที่รู้นะคะ น้องคริสนางยังเด็ก แถมยังเป็นเด็กมักมากเรื่องแบบนั้นอีก เรียกว่าเพลย์บอยพอตัว อยู่ในขอบเขตที่คุณอาวางไว้ตลอด เวลาอยู่กับนิลนางก็จะกลายร่างเป็นหมาน้อยแสนเชื่อง ถามว่าคุณอารู้ไหม ตอบได้เลยว่าไม่ค่ะ ก็นางเป็นเด็กดีต่อหน้าอาตลอด 55555 ถ้าไม่ติดขัดอะไร อีกตอนสองตอน น้องคริสเราจะโป๊ะแตก ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมาก ช่วงสอบที่ผ่านมาเราดาวน์มาก แต่มีกำลังใจเพิ่มขึ้นเพราะเห็นคนอ่านเพิ่มขึ้น ไหนจะคอมเม้นคนอ่านบอกว่ารออ่านอยู่แหละ  : ) ปล.มีคำผิดท้วงได้ บางทีเราตาลาย ทวงนิยายได้ในทวิตเช่นเคย @bearrybae เรื่องของกฤตกับเจสรอหน่อยนะคะ ปั่นอยู่วันละนิด น้องเค้กเหมือนกัน 555555





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2018 23:35:15 โดย Beerng »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม
«ตอบ #6 เมื่อ24-10-2018 22:19:46 »

มองเห็นปัญหาลอยมาแต่ไกล..ลลลลล
ปล. รบกวนช่วยใส่วันที่อัพไว้ที่หน้าแรกให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ รอตอนคริสโป๊ะแตกด้วยใจจดจ่อ  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม
«ตอบ #7 เมื่อ24-10-2018 23:26:17 »

ง่ะ โป๊ะแตกเรื่องนัทปะ สงสารทั้งอานิลและนัทเลยอะ คริส! ไอ่เด็กนิสัยไม่ดี!!! ไม่เอามาม่านะะะะะะะะะ   :serius2:

ออฟไลน์ pinknocchio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คริสนิสัยเฮี่ยมาก สงสารนัท สงสารอา วุ้
ขอตบหน่อย 555555
 :fire:  :z6: :z6:

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

chapter 3 กั๊ก




“ไม่กลับห้องไง”


ผมถามคนที่นอนอยู่บนตัว


จมูกเล็กๆนั้นถูไถไปตามหน้าอกผมราวกับจะอ้อนเอาอะไรสักอย่าง



“นัท อย่าเล่น”



ผมพลิกตัวนอนคว่ำดันอีกคนให้อยู่ใต้ร่างแล้วดึงมันมากอดไว้แน่น คนในอ้อมกอดก็ยังไม่หยุดเล่นใช้ริมฝีปากเล็กๆนั่นงับแขนผมเหมือนกับจะกินแขน



“ถ้าไม่หยุดจะโดนอีกรอบนะครับ” ผมบอก



มือเลื่อนไปใต้เสื้อตัวใหญ่บีบเค้นสะโพกด้วยความแรง ช่วงล่างที่ปราศจากกางเกงนั้นขยับเบียดกับหน้าขาผม มือนุ่มก็ไม่หยุดซนยังขยับมือลูบหน้าท้องผมขึ้นลงอย่างเอาแต่ใจ


“นัท” ผมทำเสียงเข้มใส่



“ก็คิดถึงอะ”มันบอก



“คิดถึงเหี้ยไรเยอะแยะ มึงก็มาหากูเกือบทุกสัปดาห์”ผมพูด มือดึงขามันข้างนึงให้ขึ้นมาพาดช่วงท้องผมไว้




ไอนี่แม่งไม่หยุดจริงๆถ้าไม่โดน



“โอ๊ย เบาหน่อย!”มันกัดไหล่ผม


เมื่อเห็นว่ามันยังไม่หยุดซนสักทีผมเลยจัดการสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางหลังของมัน สะโพกมนนั้นก็บดตัวเข้าหานิ้วผมไม่หยุด



“นับวันยิ่งขี้ยั่วนะมึงอะ” ผมโน้มหน้ากัดริมฝีปากปากมันเบาๆ นัทแหงนหน้าเพื่อรับความร้อนจากริมฝีปากผม




ตอนนี้ผมอยู่ปี1



ผ่านไป2ปีกว่าแล้ว ที่ผมกับนัทอยู่ในสถานะการแบบนี้


ถ้าถามว่าเป็นอะไรกัน



จะตอบแฟนก็คงไม่ใช่



คนโปรดก็คงจะใกล้เคียงสุด



“กลัวคริสทิ้ง”


“กูจะทิ้งมึงทำไม มึงก็เพื่อนกู”



“เราเป็นเพื่อนให้ไม่ไหวอะ”มันบอก



ผมลูบผมมันเบาๆแล้วจูบหน้าผาก



“ถ้าเจอคนที่ดีกับมึงก็ไปเหอะ อย่ายึดกับกูเลยนัท” ผมบอกมัน



2ปีที่ผ่านมามันติดอยู่ในสถานะบ้านี่กับผม



ติดร่างกายมัน



ติดกลิ่นกาย



ติดที่มีคนคอยตามใจแม้ว่าผมจะทำตัวเหี้ยใส่มันแค่ไหนก็ตาม


ถึงปากจะบอกให้มันไป แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้ไปหรอก


ยอมรับโว้ยว่าหวงก้าง ผมเคยนอนกับใครนานๆซะทีไหน

ปกติแค่ครั้งสองครั้งก็พอแล้ว



แต่นัทมันก็ดื้อชิบหาย


ช่วงแรกผมไล่ก็ไม่ไป


ด่าแล้วก็ไม่ไป


จนสุดท้ายผมเลยต้องจำยอมให้มันอยู่ข้างๆจนถึงตอนนี้นี่แหละ




“ไม่ต้องย้ำมากก็ได้” ริมฝีปากบางนั้นเบะออกเช่นทุกทีเวลาที่ไม่พอใจ



“วันก่อนกูเห็นเดือนนิติมันเข้าไปคุยกับมึง” ผมพูด สายตาก็เหล่ดูปฏิกิริยาอีกคนไปด้วย


“เขาเข้ามาขอเบอร์”



ตั้งแต่มันขึ้นมหาลัยนัทก็ยิ่งดูดีมากขึ้น จากปกติตอนอยู่มัธยมมันมีผู้ชายมาจีบเยอะแยะเพราะตัวเล็กและผิวขาวเนียน พอเข้ามหาลัยยิ่งดูแลตัวเองมากขึ้นจนดูน่ารักมากกว่าเมื่อก่อน



“ได้ให้ไปรึเปล่า” ผมมองดุ



“ไม่ได้ให้คร้าบบบ” มันดันตัวเองขึ้นมาอยู่บนตัวผมอีกครั้ง ริมฝีปากบางนั้นกดจูบใต้คางผมราวกับจะเอาใจ



“คริสก็เป็นงี้อะ บอกให้เราไปแต่คอยหวงก้างตลอด” มันบ่น ริมฝีปากเล็กนั้นกดจูบทั่วแผ่นอกผม จนผมรู้สึกร้อนผ่าวจากรอยที่สัมผัส



แบบนี้เรียกอะไรนะ

‘กั๊ก’รึเปล่า



“ถ้ามึงจะไปก็ไปนัท”


“อีกแล้วนะคริส เออได้ เริ่มจากบอลดีไหม โอ๊ย! เจ็บนะคริส!!” ผมเผลอบีบข้อมือมันด้วยความแรง


“อย่ายั่วโมโหกู”


“คริสบอกให้เราไปเองไม่ใช่รึไง!”


“กูขอโทษ” ผมพูดจับหัวเล็กๆนั้นกดให้จมอก


ความชื้นแถวหน้าอกผมทำให้ผมรู้ว่ามันร้องไห้อีกแล้ว



“ไม่ร้องดิ กูขอโทษ”ผมเช็ดน้ำตาให้มัน



“เราก็น้อยใจเป็นนะ ฮึก..”เสียงอื้น


“เออๆ กูไม่ไล่แล้ว ไม่ร้องนะคนดีของคริส” ริมฝีปากกดจูบข้างขมับมัน


“ลุกไปแต่งตัวเร็ว ตอนเย็นกูต้องกลับบ้าน”



“ไม่กลับไม่ได้เหรอ คริสกลับตลอดเลยอะ เราก็อยากอยู่ด้วยเสาร์อาทิตย์”นัทอิดออด



“กูจะไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ลุกเลย”ผมทำหน้าดุ



มันหน้าหน้าบูดใส่แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป


.

.

.



Thrrr thrr

[อา]




เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะสั่น


“ครับอา”

(จะออกมากี่โมง)

“สักพักก็ออกแล้ว ทำไมครับ อาคิดถึงผมเหรอ”

(ไม่รู้สิ คิดถึงดีไหมหืม)

“แต่ผมคิดถึงอานะ”

(อือ อารู้)

“เดี๋ยวผมรีบไปหานะครับ”

(ขับรถดีๆ อย่าขับเร็วเข้าใจไหม)

“รู้แล้วคร้าบบ รักนิลนะ”







ผมบอกแล้ววางสาย เมื่อหันไปหน้าประตูห้องนอนก็เจอนัทยืนอยู่ ร่างบนั้นไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆอยู่ มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวที่พันอยู่รอบเอวอย่างหมิ่นเหม่


“มองอะไร ไปแต่งตัว” มันกำลังจะอ้าปากถามอะไร แต่ผมทำเมินเฉยหยิบผ้าเช็ดตัวของตัวเองแล้วเดินเข้าห้องน้ำ







“จะให้ไปส่งที่ไหน” ผมถามเมื่อเสียบกุญแจรถยนต์แล้วบิดสตาร์ทเครื่องพร้อมเปิดเครื่องปรับอากาศภายในรถให้คนข้างๆเพราะภายนอกรถนั้นร้อนระดุอย่างกับอยู่ในทะเลทราย



“ห้างเอ เรานัดกับจีนไว้” นัทบอกชื่อเพื่อนอีกคน



“โอเค เดี๋ยวไปส่ง” ผมบอก แล้วขับรถออกไปจากลานจอดรถของหอ



ใช้เวลาโดยรวมประมาณเกือบ20นาทีก็ถึง เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์รถเลยไม่ติดมากอีกทั้งเพราะห้างที่อีกคนจะมาอยู่ไม่ไกลนักจากที่ผมพัก



“ไปนะ”อีกคนเอื้อมมือไปเปิดประตูรถแต่ผมคว้าแขนอีกข้างไว้ก่อน


“กูคุยกับที่บ้าน เลิกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้แล้ว”ผมลูบหัวมัน “ยังไม่เลิกทำหน้างอแงอีก”



“เราแค่น้อยใจ”

“น้อยใจอะไร”



“คริสไม่เคยบอกอะไรเราแบบนี้เลย”


“ไม่ต้องพูด เรารู้ว่าเราอยู่ในสถานะไหน” มันรีบพูดแทรก


“เราไปก่อนนะ”ผมกดล็อคประตูก่อนที่มืออีกคนจะเปิดประตูออก มือจับใบหน้าอีกคนให้เอนมาหาแล้วกดจูบตรงริมฝีปากบางนั้นเบาๆ




ชอบ


ผมพูดชิดริมฝีปากอีกคน แล้วกดริมฝีปากบดเข้าหาหนักกว่าเดิม ลิ้นชื้นทำหน้าที่เกี่ยวตวัดเข้าโพรงปากอีกคนเมื่ออีกฝ่ายเผยริมฝีปากอ้าออกอย่างเชิญชวนจนนัทเริ่มดันผมออกเพราะขาดอากาศหายใจ


“หายงอแงแล้วนะ”



“อือ รักคริสนะ ไว้เราโทรหา”



“โอเค”ถ้าว่างรับจะรับละกัน


“ขับรถดีๆ” อีกฝ่ายเปิดประตูลงจากรถไป จากนั้นผมก็มุ่งหน้าขับตรงไปที่คอนโดอา








“คิดถึงอาจังเลยยยยย” ผมวิ่งเข้าไปกอดคนที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน


“อารู้แล้วว”


ผมกับอาพากันขับรถมาที่พัทยาเพราะเราสัญญากันไว้ว่าวันหยุดนี้จะมาเที่ยวกันสองคน



ก่อนหน้านี้ผมโทรไปหาปู่ว่าสัปดาห์นี้คงไปหาไม่ได้ ท่านก็ไม่ว่าอะไรแถมยังบอกว่าให้เที่ยวให้สนุก





‘ดีแล้ว พาเจ้านิลไปเที่ยวบ้าง ปู่คิดว่ามันจะแต่งงานกับกองเอกสารไปแล้วซะอีก’




ใครบอกล่ะ อาจะแต่งงานกับผมต่างหาก


“คริส” อาเรียกผม


“เรียนเป็นไงบ้าง”


“ก็ดีนะครับ เรื่อยๆ”


“แล้วเพื่อนที่มหาลัยละ”ผมชะงัก


“ก็ดีนะ ผมจะไปคบกับใครได้นอกจากไอเค้ก อาก็รู้ว่าผมมนุษย์สัมพันธ์แย่”ผมพูดติดขำ


“อืม เข้าห้องเถอะ ลมแรงแล้ว”



อาลุกขึ้นจากม้านั่งริมทะเลแล้วเดินนำเข้าไปในห้องพักที่จองไว้



“คริสอาบน้ำก่อนเลย อาขอเช็คเมลล์ก่อน” ผมพยักหน้ารับแล้วถอดเสื้อออกปรี่เข้าไปหอมแก้มอีกคนเบาๆ


“พอแล้วววว คริสตัวเหนียว” อาผลักผมออก



“หอมนิดหอมหน่อยเอง”


“พอเลย ไปอาบน้ำเลย” ผมยิ้มกวนๆแล้วเดินพาดผ้าเช็ดตัวไว้บนบ่าเข้าห้องน้ำไป





เมื่ออาบน้ำเสร็จพอเปิดประตูออกมาก็เจออานั่งง่วนอยู่กับโน๊ตบุคตัวเก่ง ผมเลยเข้าไปจูบขมับ


“คนอะไรไม่สระผมก็หอม”


“ชมเกินไป”


“จริงๆนะ อาหอมทั้งตัว” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์



“เอ๊ะ คริส หันหลังให้อาหน่อย” อาบอกตอนเอี้ยวตัวมาคุยกับผม ทำหน้าสงสัยแล้วหันหลังให้


ปลายนิ้วบางไล้ไปตรงแผ่นหลังตรงช่วงไหล่ผมเบาๆ




ทำไมหลังมีรอยแดง


ผมชะงัก


หมากระเป๋าคงเผลอกัดผมเมื่อคืน



“ไม่รู้อะอา แมลงกัดมั้ง คริสก็ว่าอยู่ทำไมคันตอนนั่งข้างหาด”


“แดงมากไหมครับ” ผมถาม


“ไม่เท่าไหร่ เป็นรอยนิดเดียว” อาตอบแล้วจัดการปิดโน๊ตบุคบนโต๊ะ


“อาอาบน้ำก่อน” คนตรงหน้ายืดตัวขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินนวยนาดไปยังห้องน้ำ





“คริส เมื่อกี้เพื่อนที่ชื่อนัทโทรมา อย่าลืมโทรกลับล่ะ”


ตอนนี้สั้นหน่อยนะคะ 5555
คำว่าเหี้ยพูดดังๆพระเอกเราก็ไม่เจ็บค่ะ อย่าด่านางมากนะคะ นางสำนึกไม่ทันนน
ปล.เจอคำผิดบอกได้นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
คริสโว้ยยยยยยยยยยย  :z6:
ที่บอกชอบนัทคือชอบจริงๆไหม
แล้วที่บอกรักอา ไม่ได้พูดแค่เอาใจใช่ไหม
นอกจากนัทก็ยังมีคนอื่นอีก เลวสุด

อยากให้อากับนัทหนีไปมีคนอื่นซะเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2018 19:51:23 โดย tasteurr »

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทอร์คที่เขียนนี้เกี่ยวกับเนื้อหาแต่ไม่ได้เอาลงรายละเอียดในตอนเพราะมันเป็นเรื่องสั้นที่ตอนนี้ก็โคตรยาวค่ะ 5555

สวัสดีค่ะ เรามีนามปากกาว่าหมาขนสั้น
เรื่องที่เราจะคุยมันเกี่ยวกับตัวละครในเรื่อง
หลายคนที่อ่าน(ซึ่งน่าจะเกิน90%) ล้วนด่านังคริสในสิ่งที่นางได้กระทำลง ซึ่งมันแย่มาก ว่าทำไมคริสทำงั้น


อย่างแรกเลย

 นางยังเด็กด้วยความที่อายุ19 วุฒิภาวะการคิด การรู้ผิดชอบชั่วดีและความมักมากมันทำให้คริสกลายเป็นงี้ เราวางเนื้อหาไว้ว่า(ไม่มีในเนื้อเรื่องนะ) คริสมีอะไรกับอานิลตั้งแต่อายุ16 นางอยู่ในวัยอยากรู้อยากร้อง กระซิบนิดนึงว่านางไม่ใช่คนแรกของกันและกัน อานิลก็อายุมากแล้ว ส่วนน้องก็นะ ..


ทีนี้ ด้วยความที่นางไม่เคยมีอะไรกับผช อาเลยเป็นคนแรกที่นางมีอะไรด้วย รวมทั้งที่ผ่านมาตั้งแต่พ่อแม่เสีย นิลเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างๆแล้วด้วยความห่างระหว่างวัยของคริสและปู่ นิลเลยให้ความช่วยเหลือในหลายเรื่อง มันเลยเป็นที่มาของความรู้สึกของคนสองคน ที่กลายเป็นรัก


ว่าด้วยตัวละคร คริส

แต่สำหรับเด็กวัย16 แค่รักมันไม่พออยู่แล้วถ้ามองในแง่ความเป็นจริง น้องมีความอยากทำนู้นทำนี่หลายอย่าง

แล้วพอยิ่งโต วัย17 นอกจากอานิลคนเดียวแล้วก็มีนัทเป็นคนที่สอง ซึ่งรักสองคนนี้คือรักเด็กๆ เพราะอยู่ในวัยใกล้กัน บางสิ่งบางอย่างนิลก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้

คริสนางเอาแต่ใจกับนัทได้ จะทำอะไรกับนัทก็ได้ เพราะเรื่องของอายุ แล้วด้วยความที่นัทยอมตลอด สองคนนี้เลยคบกันยืด

ต่างกับนิล นิลอายุห่างจากคริส ความเป็นผู้ใหญ่มีมากกว่า จะทำอะไรสักอย่างเขาคอยสอนตลอด มันต้องมีบางเวลาอยู่แล้วที่อยู่ด้วยอึดอัดเพราะคำว่าเขาเป็นผู้ใหญ่กว่า

แล้วยิ่งนางจะเข้ามหาลัย ช่วงนี้เป็นช่วงที่นางไม่ว่าง ติวหนังสือเตรียมเข้ามหาลัย ทั้งคู่ก็คุยกันน้อยลง ก็ได้นัทอีกที่คอยอยู่ใกล้แล้วเอาใจติวนู้นนี่ให้นาง

ช่วงเข้ามหาลัยแล้ว
ช่วงนี้นางก็แยกอยู่กับนิลแล้ว เพราะคอนโดนิลไกลจากมหาลัยคริส นางมีเวลาอยู่กับนิลแค่เสาร์กับอาทิตย์ สัปดาห์ไหนนางมีงานหรือนิลไม่ว่างก็ไม่ได้เจอกันเลย


ต่างจากนัทที่อยู่มหาลัยเดียวกัน คอยมาหาที่ห้อง หาข้าวหาน้ำให้กินตลอด

มันคือเหตุผลที่ว่า ทำไมสองคนนี้ไม่ไปไหนจากกันเพราะความใกล้ชิดมันมีอยู่มาก คอยเอาใจใส่กันตลอดในช่วงที่เป็นเวลาของทั้งคู่
คริสเลยตัดนัทไม่ได้สักที บวกกับช่วงวัยด้วย


อายุ19นี่คือ เป็นรุ่นที่ต้องการอิสระ มีสังคมใหม่ๆเข้ามาตลอด วัยเรียนรู้ของแท้เลย
ว่าด้วยตัวละคร นัท และ นิล
ตอนนี้หลายๆคนคงเริ่มรำคาญนางเพราะความง้องแง้ง

นัทเป็นเด็กคนนึงที่เข้าหาคริสเพราะความชอบเหมือนคนอื่น แต่มันต่างตรงนางเป็นคนสำคัญคนนึงที่อยู่กับคริสนานมากที่สุดแล้วคริสก็พานางไปไหนมาไหนตลอด ถึงคริสจะไม่ได้บอกว่าคบกัน แต่ทุกคนที่ใกล้ตัวหรือคนที่เห็นก็คิดว่าคบกัน

ดังนั้น นางเลยรู้สึกว่าตัวเองพิเศษ ได้รับความสำคัญจากคริสมากๆ เพราะตั้งแต่มีนัท คริสก็ไม่ได้ซัมติงกับคนอื่นบ่อยเท่าตอนมัธยม แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

นัทเลยคิดว่าตัวเองสำคัญกับคริสมาก เพราะนางไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคริสมีนิลอยู่อีกคน

ส่วนนิลนางโตแล้ว จะให้นางฟูมฟายอะไรก็คงไม่ใช่

วุฒิภาวะตัวละครเคะสองตัวนี้บอกได้เลยว่าฟิลต่างกันอย่างรุนแรง

แค่นี้แหละที่มาทอร์ค อย่าเพิ่งหนีเราไปไหนน้า ตอนต่อไปเสร็จแล้ว แอบกระซิบว่า คริสน่าจะเละ 55555

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

chapter 4 พังทลาย



(ถ้ารับช้ากว่านี้เราจะไปหาที่บ้านคริสแล้วนะ)


เสียงจากปลายสายถามทันทีที่ผมกดรับสาย


“เจ้าของมือถืออาบน้ำอยู่ครับ”


(นี่ใคร คริสไม่ได้อยู่บ้านเหรอ) ปลายสายถามอย่างสงสัย


“เปล่าครับ ผมเป็นอาของคริส”


(โอ๊ะ ขอโทษที่เสียมารยาทด้วยนะครับ)
น้ำเสียงปลายสายพูดอย่างรนราน


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวคริสออกมาจากห้องน้ำอาจะบอกให้โทรกลับนะ”



(ขอบคุณมากครับอา)


“ครับ”


สายตัดไปเรียบร้อยแล้ว



ผมบอกเจ้าของมือถือว่ามีคนโทรเข้ามา คริสพยักหน้ารับแล้วหยิบมันออกไปโทรคุยที่ระเบียง



ผมเห็นเขาแสดงสีหน้าหงุดหงิดใส่คนปลายสาย



ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน
และไม่รู้ด้วยว่าทำไมไม่คุยในห้องเหมือนที่แล้วมา…


ผมแอบคิดนะ


ว่าเขามีความลับอะไรรึเปล่า




‘นิล มึงไม่ควรระแวงคนของตัวเอง’


ผมบอกกับตัวเองซ้ำๆ


การเที่ยวทริปนี้สุดท้ายก็จบด้วยกิจกรรมบนเตียงเหมือนเดิม


ทุกครั้งที่เขาสอดใส่เข้ามาสมองผมไม่เคยหยุดคิดเรื่องคนที่โทรเข้ามาได้เลย



เสียงกายที่กระแทกเข้ามามันย้ำผม


คริสเป็นคนของผม

ร่างกายเราหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง



“ซี๊ดดด.. คริสรักอานะ” เสียงกระซิบบอกรักข้างหูย้ำเตือนได้ดีว่าเขาอยู่กับผมตอนนี้


สองขารั้งสะโพกอีกคนให้เข้าใกล้ทั้งดันไหล่ให้คนตัวโตนอนหงายกับเตียง



ผมบดสะโพกตัวเองกดลงไปบนตักอีกคน ขยับสะโพกบนตัวของคนที่ร้องครางในลำคออย่างพอใจ



ทุกครั้งที่กายคนร่างสูงกระแทกเข้ามาจนสุด มันช่วยบอกผมให้มีสติยิ่งขึ้นว่าเรากำลังทำอะไรอยู่




‘ร่วมรัก’


ผมยังใช้คำนี้ได้อยู่ใช่ไหม



น้ำสีขุ่นอัดฉีดเข้ามาภายในร่างกายจนผมรู้สึกอุ่นวาบตรงช่วงล่าง



“ห้องน้ำเถอะ เดี๋ยวคริสเอาออกให้” เขาอุ้มผมไปในห้องน้ำ ทำความสะอาดให้อย่างเช่นทุกครั้ง



การกระทำของคริสมันทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญจริงๆนะ ผมควรเลิกคิดมากได้แล้ว..



.


.



สุดท้ายก็คิดไม่ตกจนสะดุ้งตื่นขึ้นมา


ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่ อาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นเพราะความกังวลคิดไปเรื่อยจากสายที่ได้รับเมื่อวาน



ผมจ้องมองมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
จากนั้นตัดสินใจหยิบมันขึ้นมา เมื่อผ่านไปสักพักผมจึงเลือกที่จะเปิดหน้าจอพร้อมกดเข้าไปในแอฟพริเคชั่นสีเขียวอันเป็นที่นิยมสำหรับการติดต่อสื่อสารกันระหว่างผมกับคริส รวมทั้งนิยมใช้กันในคนส่วนมาก



การที่ผมเลือกจะเข้าไปในแอฟนั้นเพื่ออยากจะรู้ว่าเขาใช้มันติดต่อกับใครอีกไหม..


ผมรู้ว่าการแอบดูโทรศัพท์ของคนอื่นโดยไม่ขอมันเป็นเรื่องไม่ดีและไม่มีมารยาท แต่หลังจากที่ผมคุยกับคนปลายสายเมื่อครู่นั้น ความรู้สึกบางอย่างทำให้ผมคิดว่ามีบางสิ่งที่ผมไม่รู้


รวมทั้งไม่คิดว่าเขาจะทำมัน…






NUT



ผมกดเจ้าแชทที่คิดว่าเป็นของคนที่โทรเข้ามา

มีข้อความมากมายที่สองคนคุยกัน

ถามไถ่ความเป็นอยู่

แสดงความเป็นห่วง



รวมทั้ง



สิ่งที่หวังว่ามันจะไม่ใช่ตามที่ผมเอะใจในทีแรก


รูปคนของผมนอนกอดใครอีกคนที่เอามือปิดหน้าตัวเองไว้ แม้ในรูปจะเห็นหน้าคริสไม่ชัดแต่ผมมองเพียงแค่แวบเดียวก็รู้ว่าเป็นใคร



24 กุมภาพันธ์ 25xx


Nut

ส่งรูป
คนอะไรหลับแล้วยังหล่อ


Kris
แอบถ่ายตอนกูหลับเหรอเตี้ย
เดี๋ยวโดน


Nut
ไม่กลัวหรอก
(สติ๊กเกอร์รูปกระต่ายแลบลิ้น)


Kris
กูกลับห้องเมื่อไหร่มึงโดนแน่
ฝากไอบอลลาป่วยไว้เลย






ชาไปทั้งตัว…

เพราะรูปและข้อความมันคาตาทำเอาแทบลืมวิธีหายใจด้วยซ้ำ

น้ำตาพาลจะไหลเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน



รอยแดงตรงหลังนั้นไม่ใช่รอบกัดจากแมลง


แต่คงเป็นรอยจากใคร ‘อีกคน’ ที่เขาฝากไว้


ใครอีกคน



ที่ไม่ใช่ผมแค่คนเดียว




ผมลุกขึ้นมาจากบนเตียง วางโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของตัวเองวางไว้กับโต๊ะ


สองขาพาตัวเองออกจากห้องนั้นแล้วเดินไปตามชายหาดที่ตอนนี้มีคนเพียงน้อยนิดเพราะยังเช้าเกินกว่าจะตื่นขึ้นมาในวันพักผ่อน


น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินออกมาจนผมหยุดที่จะใช้มือเช็ดมันแล้ว


สมองคิดไปต่างต่างนานา


คืนก่อนเขานอนกอดกับใครอีกคน


คืนถัดมาเขาก็กอดผม


เช่นเดียวกันกับที่กอดใครอีกคน




ผมไม่รู้ว่าตัวเองจมกับความคิดตัวเองนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีคือเดินห่างจากที่พักมาไกลมากและอากาศก็เริ่มที่จะร้อนอบอ้าวมากขึ้น

น้ำตาเหิดแห้งหมดแล้ว ใบหน้ามีแต่ความเสียใจที่ยังคงเหลือไว้เท่านั้น



ผมเดินกลับไปยังห้องพัก แวะล้างหน้าที่ห้องน้ำโรงแรมเพื่อลบคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลือก่อนที่จะขึ้นไปเจอใครอีกคนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องตอบคำถามที่ผมไม่พร้อมตอบ


แต่เมื่อเปิดประตูห้องก็เจอคริสยืนทำหน้าบึ้งอยู่







“อาหายไปไหนมา มือถือก็ไม่เอาไป รู้ไหมคริสตกใจแค่ไหน!!” เสียงดังออกจากปากอีกคน สองมือนั้นบีบไหล่ผมไว้แน่น


สิ่งที่เขาตกใจยังไม่เท่าที่ผมตกใจหรอก เชื่อสิ…


“อาไปเดินเล่นมา”


“อย่าหายไปไหนอีกนะ คริสใจไม่ดีเลย สัญญาได้ไหม”


“ครับ”



ไม่รู้จะทำได้ไหมนะ


แต่เพื่อให้คนตรงหน้าสบายใจคำตอบเลยไม่มีทางให้ผมเลือกมากนัก


ผมแค่นยิ้มให้กับความน่าสมเพชของตัวเอง









“อากินเยอะๆ ทำไมวันนี้ทานน้อยจังครับ” อีกคนพูดพลางแกะกุ้งตัวโตให้ผมแล้ววางไว้บนจาน

“อาหารไม่ถูกปากเหรอ เปลี่ยนร้านไหม”

“เปล่า อาแค่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” ผมบอก

“ทานอีกหน่อยนะ เห็นอากินแบบนี้คริสไม่สบายใจเลย” เด็กโข่งทำหน้าเครียด



เขาให้ความหวังผมเก่งจัง


ฮ่าๆ


ระหว่างเรามันเป็นอะไรกันแน่



ผมเคยเชื่อว่าเขารักผม



แต่ตอนนี้มันคืออะไร



ความหลง..



ความรัก..



หรือจริงๆมันเป็นแค่ความเกรงใจที่อีกคนไม่กล้าตัดเยื่อใยเพราะเราเป็นอาหลานกันแน่



“ครับๆ อาทานอยู่เห็นไหม” ผมจิ้มกุ้งแล้วกัดเข้าปากจนหมดจาน



คนตรงหน้าเห็นแล้วยิ้มออกมา




พอตกเย็นเราก็ขับรถกลับกรุงเทพเพราะวันจันทร์ผมต้องเข้าบริษัท ส่วนคริสเองก็ต้องไปเรียน



“ขึ้นไปห้องอาก่อนไหม”


“คงไม่แล้วอะอา คริสมีนัดกับเค้กอีก”



โกหก…



“โอเค ขับรถดีๆ ถึงห้องแล้วโทรบอกอาด้วยนะ”ผมลูบหัวเจ้าเด็กโข่งของผมเบาๆ คริสเอียงคอรับมือเหมือนหมาตัวน้อย



“คริสรักอานะ”



จริงหรอ..



“พูดเอาใจอาเหรอหืม”


“ทำไมอาพูดงั้น” คนตรงหน้าชะงักไปแล้วจ้องหน้าผม


“อาพูดไปงั้นแหละ อย่าคิดมาก”


“คริสรักอามากๆๆๆๆเลย คิดถึงอาด้วยไม่อยากกลับไปเรียนแล้ว”




ถ้ารักแล้วทำไมมีอีกคนล่ะ…



“อาก็รักคริส”



ทุกคำถามถูกเก็บไว้ในใจมากมาย



สุดท้ายทำได้แค่เพียงบอกรักกลับไปเพราะกลัวคำตอบ…



เมื่อถึงห้องแล้วอยู่คนเดียว สุดท้ายผมเลยเลือกที่จะโทรหาใครคนหนึ่งเป็นคนแรก แม้รู้ว่าหากคริสรู้ทีหลัง เด็กนั่นคงไม่พอใจแน่



นิลขอโทษนะคริส แต่นิลไม่ไหวแล้วจริงๆ..



“เมฆ มาหานิลหน่อยได้ไหม นิลไม่ไหวแล้ววะ”




ผมร้องไห้คาอกอีกคนเมื่อเมฆมาถึง



เขาดึงผมไปกอดพร้อมบอกว่าไม่เป็นไร เขาอยู่ตรงนี้ เมฆนั่งนิ่ง ไม่ถามอะไรสักคำ


เขาลูบหัวผมซ้ำๆราวต้องการจะปลอบใจ



“ร้องออกมาให้หมดเลยนิล ไม่ต้องเก็บไว้”



 ระบายความรู้สึกต่างๆผ่านน้ำตา ครั้งนี้หนักเกินไปกว่าที่ผมจะรับไหวเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันนี้



รักจนไว้ใจมากเกินไป



รักจนกลายเป็นคนโง่



“เมฆจะไม่ถามว่ามันเป็นใคร แต่นิลสัญญาได้ไหม ถ้าไม่ไหวให้โทรหาเมฆคนแรก เมฆเป็นห่วงนะไม่อยากให้นิลอยู่คนเดียว” ผมพยักหน้ารับพร้อมสะอื้น



“ขอบคุณนะเมฆ”


“เขาสำคัญมากเลยเหรอ”


“สำคัญมากสิ”


“เมฆไม่เคยเห็นนิลร้องไห้ขนาดนี้ ขนาดเราเลิกกันนิลยังทำหน้าราวกับสั่งอาหารแหนะ” อีกคนพูดติดตลก



“ขอโทษ..”



“ไม่ต้องขอโทษ ไม่เป็นไรน่า คนไม่รักกันแล้ว เมฆว่านิลทำถูกแล้วที่ไม่ฝืน”



“ขอบคุณมากนะเมฆ ขอบคุณมากจริงๆ” ผมบอก

(มีต่อข้างล่าง)

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0



ผมขับรถตรงเข้ามาที่ห้องตัวเอง เมื่อเปิดประตูห้องก็เจอใครบางคนนั่งอยู่ตรงที่โซฟาห้อง


ใบหน้าหวานเงยขึ้นมามองพร้อม


ดวงตาแดงก่ำนั้นบ่งบอกว่าเจ้าของดวงตานั้นคงร้องไห้อย่างหนักจนตาแดงช้ำ



“ทำไมมาช้า!” อีกคนคว้าเอาหมอนอิงข้างๆตัวขว้างใส่ผม


ผมปิดประตูด้วยความแรง


“กูรีบมาให้แล้วนี่ไง!” พอผมขึ้นเสียงใส่อีกคนก็ทำท่าจะร้องออกมาอีก


“คริสดุเราอีกแล้ว ฮืออ”


“รอบนี้กูไม่ปลอบนะนัท กูเคยบอกมึงไว้ว่าไง จำบ้างไหมวะ”


“เราไม่มีสิทธิโทรหาเลยเหรอคริส..” นัทเงยหน้าถามผมที่น้ำตาเต็มหน้า




“หรือจริงๆแล้วคริสไม่ได้อยู่กับที่บ้านกันแน่” อีกคนปรี่เข้ามาจับเสื้อผมแล้วเขย่าไปมา



“มึงพูดไม่รู้เรื่องเหรอ กูบอกว่าอยู่กับที่บ้านก็คือที่บ้าน”


“แล้วทำไมต้องโทรหาไม่ได้ด้วย ทำไมคริสต้องโมโหใส่เรา ทั้งที่คนรับสายบอกว่าเป็นอาของคริส!”


“กูไม่อยากให้ใครรู้ว่ากูยุ่งกับใครทั้งนั้นนัท”


“หรือมันไม่ใช่อาคริสกันแน่ จริงๆแล้วคริสไปอยู่กับคนอื่นใช่ไหม ใช่ไหมคริส ฮืออ” มันร้องไห้หนักกว่าเดิม


“ถ้ากูบอกว่าอาก็คืออา แล้วถ้ามึงพูดไม่รู้เรื่องก็กลับห้องมึงไป เดี๋ยวกูโทรให้ไอเค้กมารับมึง” ผมบอกทั้งดึงมือมันออกจากเสื้อ


“แค่จะไปส่งเราที่ห้องคริสยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”


“นัท หุบปากก่อนที่มึงกับกูจะไม่มีอะไรเกี่ยวกัน”ผมขู่




มันร้องไห้สะอื้นจนน่าสงสาร







“มารับไอนัทไปส่งที่ห้องมันที” ผมเดินเข้าไปโทรศัพท์ในห้องนอน


(เอ้า ไมมึงไม่ไปส่งเอง)


“กูไม่อยากทะเลาะต่อบนรถ”


(ทะเลาะเหี้ยไรกันอีกเนี้ยมึง)


“มันงี่เง่า”


(เพลาๆลงบ้างเหอะ เมียมึงจะช้ำในตายละ)


“เลิกบ่นแล้วมารับมันเดี๋ยวนี้ ถ้าช้ากูฟ้องพี่ครีมเรื่องคนนั้นแน่”


(ไอเหี้ย อย่าขู่ กูออกไปเดี๋ยวนี้แหละเพื่อนรัก)







“ไม่กลับนะ นัทไม่งี่เง่าแล้ว” ร่างบางโอบกอดตัวผมจากข้างล่างใบหน้าซบกับหลังผมแน่น


“กลับไปเหอะ กูไม่อยากทะเลาะกับมึงแล้ว”
ผมบอกทั้งดึงมือมันออกจากแขน


“ไม่เย็นชาได้ไหม นัทไม่ชอบเลย”


“ให้นัททำให้ก็ได้นะ แบบที่คริสชอบไง นะคริสนะ” มือบางนั้นผลักผมลงกับเตียงจนผมเสียหลักล้มลงไปบนที่นอน


อีกคนพยายามปีนขึ้นมาบนตัวผมแล้วถอดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างรีบร้อนแต่เพียงปลดได้เกือบหมดร่างบางก็ชะงักกับรอยจูบที่เต็มหน้าอกผม




ผมห้ามไม่ทัน..




“โกหกนัททำไม..” ถามด้วยเสียงแผ่วเบา


“ลุกออกไปก่อน” ผมพยายามผลักอีกคน





“คริสไปนอนกับคนอื่นมา..”



“นัท เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”ผมย้ำ



มันโวยวายใส่ผม สองมือนั้นทุบหน้าอกผมอย่างแรง ถึงมันจะไม่ได้แรงมากแต่ทำแบบนี้หลายทีผมก็เจ็บเหมือนกัน




ไอเค้กที่เปิดประตูห้องเข้ามาเพราะผมไม่ได้ล็อกห้อง มันเข้ามาจับนัทแยกออกจากผม



“เหี้ย มึงทะเลาะไรกันเนี้ย” เค้กมันกอดเอวนัทเอาไว้ที่ตอนนี้กำลังร้องไห้อย่างเสียสติ




ผมรู้ว่านัทมันรู้ว่าผมควงกับคนอื่นบ้างแต่ไม่บ่อยนักที่ผมจะทำ แล้วยิ่งช่วงหลังผมก็หยุดไปสักพักแล้ว เพราะวันๆก็ยุ่งอยู่กับมันนี่แหละ


ผมไม่ให้ใครฝากรอยไว้


ใช่


นัทมันก็รู้


มีหลายครั้งที่มันพยายามฝากรอยไว้บนตัวผมแต่ไม่บ่อยนักเพราะผมมักดุมันเรื่องนี้ จนบางครั้งผมไม่คุยกับมันไปเป็นสัปดาห์


ผมไม่อยากให้อาเห็นตอนผมกลับไปหาเขา


ไม่อยากให้อาไม่สบายใจ หรือรับรู้เรื่องราวแย่ๆที่ผมทำมันลับหลังเขา




“มึงพามันกลับไปก่อน คุยตอนนี้ก็ไม่รู้เรื่อง”


“คริส มึงควรเคลียร์ รอบนี้หนักนะเ..ย... ”



เค้กชะงักเมื่อมันสังเกตเห็นรอยบนหน้าอกผมเพราะกระดุมหลุดออกไปจนเกือบหมดแล้ว




“นี่มึงไปนอนกับคนอื่นมาเหรอวะ”



ผมไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่พยักคอรับ



“สัสเอ้ย ทำเหี้ยไรไม่คิด ไอบอลเอามึงตายแน่” เค้กบ่น



“กูพามันกลับก่อน” เค้กบอกแล้วลากอีกคนออกจากห้อง




ประตูห้องปิดไปแล้ว




เหตุการณ์เมื่อวานทำเอาผมรวนไปหมด กลัวอารู้เรื่องบ้าๆนี้แล้วเขาจะเสียใจ




หรือผมควรหยุดดีวะ




ตอนนี้มีแต่ดราม่า วอนอย่าเพิ่งหนีกันไปไหนนะตอนแรกว่าจะแยกออกเป็นสองพาร์ท แต่เราคิดว่าลงระเบิดตู๊มเดียวดีกว่า เพราะตอนหน้าอาจมีระเบิดน่าจะหนักกว่านี้  อีกไม่กี่ตอนก็จะจบละนะ รู้สึกตื่นเต้น เพราะตั้งแต่แต่งนิยายมา เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราแต่งเยอะสุดมีแนวโน้มจะต่อจนจบ แล้วก็เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกที่แต่ง
เรารู้สึกผิดเบาๆเหมือนหลอกทุกคนไว้ในตอนแรกว่าfeel goodแน่ๆแต่สุดท้ายเป็นงี้ จริงๆแล้วนิยายเรื่องนี้ฟีลกู๊ดจริงๆนะเชื่อเราสิ ปล.ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์มากนะคะ อ่านแล้วมีแฮงแต่งต่อมาก เลยมาต่อให้เร็ว
ปล2.พบเห็นคำผิดบอกได้นะคะ เราเบลอหน่อยชอบแต่งตอนดึกแถมยังไม่ได้นอน
ปล3.สำหรับใครที่ตามเรื่องอื่นของเราอยู่ ขอดองไว้ก่อนน้าให้เรื่องนี้จบก่อน

ออฟไลน์ Realtime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม 21.10.61
«ตอบ #14 เมื่อ28-10-2018 15:06:41 »

จบแบบ​ bad ก็ได้นะรักที่ให้ไปกับคนที่เชื่อใจกันจนหมดแต่อีกคนกลับทำหลับหลังแบบนี้แล้วยังมาคิดว่าถ้าอานิลรู้จะเสียใจ​ ช้าไปแล้ว! จบต่างคนต่างแยกเถอะ​ แค่คำว่าให้อภัยเพราะรักมันคงจะเป็นปัจจัยทุกอย่างของชีวิตไม่ได้หรอก​ เป็นเรื่องอดีต(อา)​ของผมน่าจะดีที่สุด​ให้มันจบแค่ตรงนี้เป็นบทเรียนชีวิตของคริสคำว่ารักอย่างเดียวมันไม่เพียงพอแต่ความซื่อสัตย์​และเชื่อใจก็สำคัญด้วยเช่นกันที่ไรท์บอกแต่แรกว่าคง​ feel good ก็จะใช่แหละฟิลกู๊ดแค่เริ่มแรกที่รัก​ แต่ระหว่างทางรักก็เซ อายุที่ต่างแถมยังเป็นญาติกันด้วย​อีก​ อยากให้จบให้ยุติธรรม​กับอานิลที่สุดนะ​ คริสกระทำตัวเองทั้งนั้นเลยจะขอความเห็นใจจากอาคงไม่เหมาะแหละ​ รักไม่ใช่ทุกอย่าง​ ได้โปรดเห็นใจด้วยนะไรท์อ่านหลายเรื่องเป็นแบบนี้กันเยอะมากคนหนึ่งกระทำกะอีกคนให้เจ็บช้ำน้ำใจแต่สุดท้ายก็ให้อภัยกันไปง่ายเพราะนึกถึงครั้งก่อนที่รักกันแล้วมันกลับลบล้างหมด​ มันไม่ยุติธรรม​เลยกับคนที่รักและเชื่อใจมาตลอด​ ขอให้เป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับคริสหน่อย​ เป็นอานิลที่เป็นความทรงจำดีๆที่ผ่านเข้ามา​ ให้นิลเจอคนที่พร้อมจะดูแลใจที่ดีกว่า​ คริสด้วยวัยและวุฒิภาวะ​ก็ให้มันเป็นเรื่องราวเก็บไว้ที่ต้องทบทวนตัวเอง​ สรุปก็อยากให้จบ​ bad end ค่ะ

ออฟไลน์ Realtime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม 21.10.61
«ตอบ #15 เมื่อ28-10-2018 15:08:43 »

จบแบบ​ bad ก็ได้นะรักที่ให้ไปกับคนที่เชื่อใจกันจนหมดแต่อีกคนกลับทำหลับหลังแบบนี้แล้วยังมาคิดว่าถ้าอานิลรู้จะเสียใจ​ ช้าไปแล้ว! จบต่างคนต่างแยกเถอะ​ แค่คำว่าให้อภัยเพราะรักมันคงจะเป็นปัจจัยทุกอย่างของชีวิตไม่ได้หรอก​ เป็นเรื่องอดีต(อา)​ของผมน่าจะดีที่สุด​ให้มันจบแค่ตรงนี้เป็นบทเรียนชีวิตของคริสคำว่ารักอย่างเดียวมันไม่เพียงพอแต่ความซื่อสัตย์​และเชื่อใจก็สำคัญด้วยเช่นกันที่ไรท์บอกแต่แรกว่าคง​ feel good ก็จะใช่แหละฟิลกู๊ดแค่เริ่มแรกที่รัก​ แต่ระหว่างทางรักก็เซ อายุที่ต่างแถมยังเป็นญาติกันด้วย​อีก​ อยากให้จบให้ยุติธรรม​กับอานิลที่สุดนะ​ คริสกระทำตัวเองทั้งนั้นเลยจะขอความเห็นใจจากอาคงไม่เหมาะแหละ​ รักไม่ใช่ทุกอย่าง​ ได้โปรดเห็นใจด้วยนะไรท์อ่านหลายเรื่องเป็นแบบนี้กันเยอะมากคนหนึ่งกระทำกะอีกคนให้เจ็บช้ำน้ำใจแต่สุดท้ายก็ให้อภัยกันไปง่ายเพราะนึกถึงครั้งก่อนที่รักกันแล้วมันกลับลบล้างหมด​ มันไม่ยุติธรรม​เลยกับคนที่รักและเชื่อใจมาตลอด​ ขอให้เป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับคริสหน่อย​ เป็นอานิลที่เป็นความทรงจำดีๆที่ผ่านเข้ามา​ ให้นิลเจอคนที่พร้อมจะดูแลใจที่ดีกว่า​ คริสด้วยวัยและวุฒิภาวะ​ก็ให้มันเป็นเรื่องราวเก็บไว้ที่ต้องทบทวนตัวเอง​ สรุปก็อยากให้จบ​ bad end ค่ะ

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม 21.10.61
«ตอบ #16 เมื่อ28-10-2018 15:37:09 »

เข้าใจที่คริสอยากรู้อยากลอง
คริสทำได้ ไม่ผิด ถ้ายังไม่มีคนรัก
เราว่าอายุ19ก็น่าจะเข้าใจการรักเดียวใจเดียว
กับการซื่อสัตย์ต่อคนรักแล้วนะคะ

แต่ถ้าสุดท้ายอากับคริสรักกันจริง
อาให้อภัย กลับมาคบกัน
เราก็เข้าใจได้ ว่าอาอยากจะให้อภัยคนที่ตัวเองรัก
อยากให้ความสัมพันธ์มันไปต่อ
แต่นัทล่ะ? คริสจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำกับนัทยังไง

::รบกวนเปลี่ยนวันที่ตรงหัวข้อกระทู้ด้วยนะคะ จะได้รู้ว่าอัปตอนใหม่::

 :pig4:

ออฟไลน์ pinknocchio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม 28.10.18 (อัพ)
«ตอบ #17 เมื่อ28-10-2018 16:09:06 »

คริสคือนิสัยเชี่ยมาก เหมือนสวมเขาให้คนโน้นคนนี้
ปล่อยนัทกับอาไปเหอะ ให้เขาไปเจอคนที่ดี ไม่ต้องมาจมปลักอยู่กับสวะแบบนี้
โคตรเห็นแก่ตัวเลย เราเกลียดมากคนแบบนี้
ปล.เชียร์ bad end นะคะ 5555555
 :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม 28.10.18 (อัพ)
«ตอบ #18 เมื่อ28-10-2018 22:08:39 »

#ทีมเมฆนิล ไม่พูดมาก...เจ็บคอ   :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0


chapter 5 don’t go
โจ๊กกับคริสอะไรจะเละกว่ากัน






เกือบสองสัปดาห์เต็มๆที่ผมไม่ได้เจอนัท ไม่มีการติดต่อจากมันจนผมเป็นห่วง ผมไม่รู้ข่าวสารอะไรจากมันเลย เพื่อนของนัทที่ผมรู้จักก็มีแค่บอลคนเดียว แต่คุณก็รู้ ผมกับมันเจอหน้ากันก็แทบตีกับไอหมาหวงก้างนั้น
เพราะงั้นอย่าหวังว่าผมจะไปถามอะไรจากมัน
พอไปถามจากไอเค้กมันบอกผมว่ามันก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะช่วงนี้มันยุ่งๆอยู่กับที่ร้านกับผัวมัน


ส่วนอา หลังกลับมาจากที่ไปเที่ยวกันอาก็ค่อนข้างเงียบ ผมโทรไปบางทีอาก็ไม่รับสาย วันหยุดสัปดาห์ที่แล้วก็ไปดูงานต่างจังหวัด สัปดาห์นี้ก็บอกว่ามีนัดเลี้ยงกับลูกค้า


อะไรจะไม่มีเวลาให้ผมขนาดนั้นวะ


หงุดหงิดชิบหาย


สุดท้ายผมก็ได้แต่นอนเล่นจมอยู่ในห้อง




“เฮ้ยคริส” มีเพื่อนในสาขาสองสามคนที่ผมพอจำหน้าได้แต่ไม่รู้จักเดินเข้ามาใกล้แล้วผู้ชายในกลุ่มนั้นก็ทักผม


ผมหรี่ตาดู


กูรู้จักมึงเหรอวะ


“คืองี้ กูชื่อพีท” ผมพยักหน้ารับ


“แล้ว ?”


“เมื่อคืนกูเห็นเด็กมึงไปgotอะ” มันพูดชื่อสถานบันเทิงที่นึงที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยผม



“เด็กกู ?”

“เอ้า นัทนิเทศไม่ใช่เด็กมึงหรอกเหรอ”



“มันไปกับใคร”

“กูไม่รู้จักวะแต่ไม่ใช่ผู้ชายตัวสูงที่มันอยู่ด้วยบ่อยๆ”



“แล้วมึงมาบอกกูทำไม”

“กูคิดว่าเด็กมึงเลยมาบอก ไหนๆก็อยู่สาขาเดียวกัน” เพื่อนมันข้างหลังดึงแขนมันไปใกล้แล้วกระซิบกระซาบกัน “เห็นไหมสัส กูบอกแล้วว่าไม่ต้องไปบอกมัน”



“ขอบใจที่บอกแล้วกัน กูไปก่อน”








ผมกำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างแรง


เมื่อกลับมาถึงห้องผมหยิบมือถือมากุมไว้แน่นด้วยความสับสน


มันไปกับใคร..

ไหนบอกว่ารักกูนักหนา



จู่ๆหายหัวไปสองสัปดาห์รู้อีกทีก็มีคนมาบอกว่ามันอยู่กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ไอบอล




สุดท้ายผมเลือกที่จะหยุดความกระวนกระวายใจด้วยการตัดสินใจกดเเบอร์มันแล้วโทรออก




(ฮัลโหลครับ)

“ใคร” ผมถามออกไปเมื่อเสียงปลายสายไม่ใช่เจ้าของเบอร์

(อ่า ผมไม่รู้จะบอกยังไงดีเหมือนกัน)

“เอานัทมาคุยกับกู”เสียงทุ้มกดต่ำ

(นัทหลับอยู่ครับ)

“มึงทำเหี้ยไรกัน!!!”ผมตะโกนผ่านมือถือ

(อ้าว แฟนนัทเหรอ ใช่เหรอวะก็นัทบอกว่าไม่มีแฟน) เสียงประโยคหลังฟังดูเบาเหมือนคนปลายสายนั้นพูดกับตัวเอง




โกรธที่มันบอกว่าไม่มีใคร


จนอยากหายตัวไปถามจากปากเจ้าตัวว่าพูดอย่างนั้นจริงเหรอ


“มึงอยู่ที่ไหน”


(ห้องของผมสิ อะ แค่นี้นะครับ เหมือนเจ้าตัวจะตื่นแล้ว)

“เดี๋ยว!”




ไม่ทัน

อีกคนวางสายไปเรียบร้อยแล้ว



ผมควรทำยังไงวะ
ทวงคืนคนของตัวเองทั้งที่ตลอดมาไม่เคยใส่ใจเขาน่ะเหรอ..










“ขอบคุณนะที่ช่วย”เจ้าของมือถือกล่าวขอบคุณ ใบหน้าหวานนั้นแสดงอาการซึมเศร้า

“ไม่เป็นไรครับ” เจ้าของร่างกำยำนั้นยิ้มเอ็นดู เขายื่นมือออกไปหมายจะลูบหัวอีกคนแต่ร่างบางนั้นขยับศีรษะหนี



ยิ่งเอ็นดูเข้าไปใหญ่..



เหมือนแมวตัวน้อยๆเลย
เขาพูดกับตัวเอง



“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ไงอะ” คนตรงหน้าเขาเอ่ยถามพร้อมสำรวจเนื้อตัวของตัวเอง




เสื้อผ้าอยู่ครบ ไม่มีอะไรถูกถอดออกไปอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องคนแปลกหน้า

เมื่อคืนเขาเมามากจนจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ
ความทรงจำสุดท้ายดูลางๆ



ใครคนหนึ่งเดินเข้ามาชนแก้ว ชวนเขาพูดคุยอะไรสักอย่างจากนั้นเราดื่มกันแล้วภาพก็ตัดไป




“อ่อ เราเมาพี่ก็เลยถือวิสาสะลากเรามาที่ห้อง”
คนบนเตียงถดตัวหนีเขา



น่าเอ็นดูอีกแล้ว…



“ใจเย็น ตอนแรกเราเองก็ยั่วพี่เหอะ”

“ผมไม่ได่ยั่ว!!” แมวตัวน้อยพูดเสียงดังใส่เขา
ขู่เชียว


“โอเคๆ ไม่ยั่วก็ไม่ยั่ว” เขายกมือขึ้นอย่างยอมแพ้



“พอพี่ถอดเสื้อเรา เฮ้ย! อย่าขว้าง” ร่างสูงรีบกระโดดถอยหนีเมื่อร่างบางขว้าเอาแจกันข้างเตียงยกสูงขึ้น


ดุจังวะ!



“ฟังให้จบก่อนดิ”เขาบอก



“เออนั้นแหละ พอถอดเสื้อออกได้เราก็ร้องไห้โฮเลย ใครจะไปรังแกลง”



เมื่อคืนเขาอุ้มอีกคนออกจากผับ พนักงานเห็นอีกคนเมาแอ๋เลยช่วยเขาพยุงอีกคนไปที่รถ พอพยายามถามที่อยู่ร่างบางก็ไม่ยอมตอบพูดแต่ประโยคเดิมซ้ำๆ



‘ไม่กลับห้องนะ นัทไม่กลับนะคริส’



สุดท้ายเขาก็ล้มเลิกที่จะพาคนขี้เมาไปส่งห้องของเจ้าตัว


เลยจบลงที่ห้องตัวเองนี่แหละ



พอเขาวางร่างบางลงกับเตียงคนที่ตื่นขึ้นมากลางครันก็ดึงเขาเข้าไปจูบปาก


พอผมจะผลักออกอีกคนก็ทำปากเบะราวจะร้องไห้ สุดท้ายผมเลยจำยอมต้องกอดเขาไว้ทั้งคืน


สุดท้ายต้องตื่นขึ้นมาก็เพราะเสียงร้องของโทรศัพท์อีกคนนี่แหละ



ตอนที่เจ้าตัวตื่นเห็นคนที่นอนด้วยไม่ใช่คนรู้จักดวงตาหวานนั้นเบิ่งออกกว้างด้วยความตกใจ
แต่เมื่อมือบางนั้นเอื้อมไปหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาก็ทำหน้าเศร้า




พอผมถามอีกคนก็เบะปากจะร้องไห้ใส่ผม
สุดท้ายผมเลยคว้ามือถือเจ้าตัวมาคุยเอง



เดาจากสถานการณ์ปลายสายก็ไม่ยากหรอก
คงไม่พ้นเรื่องที่เจ้าตัวงอแงเมื่อคืน แถมเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นชื่อเดียวกันกับที่อีกคนเพ้อถึง






ผมควรไปสมัครเป็นดาราดีไหมนะ…

ตกอยู่ในห้วงความคิดได้ไม่นานเสียงริงโทนจากมือถืออีกคนก็เรียกผมออกจากความคิด







“ฮัลโหลบอล”

(…)

“กูก็ไม่รู้อะ แปปนะ”

“คุณ ตอนนี้ผมอยู่ไหนอะ”ร่างบางเอามือปิดมือถือเอาไว้แล้วกระซิบถามผม

“คอนโดH แถวถนนเจวาย”

อีกคนรีบบอกคนปลายสายไปผมจ้องริมฝีปากคนตรงหน้าพูดกับคนปลายสายอย่างเพลิดเพลิน รู้ตัวอีกทีก็เพราะเสียงอีกคนเรียกผม







“ผมไปนะ ลาล่ะ” ร่างบางนั้นลุกออกจากเตียงแล้วหยิบของบนโต๊ะที่เป็นของตัวเองเข้ากระเป๋า

“ไม่ขอบคุณกันหน่อย?” เขาถามด้วยน้ำเสียงกวนๆ

“ไม่โว้ยยยย ผมต้องขอบคุณคนที่คิดจะเอาผมด้วยเหรอ ลาล่ะลุง!” เด็กนั่นรีบวิ่งออกจากห้องผมแล้วปิดประตูดังปัง





3



2



1





ก๊อกๆ



เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำเอาผมกลั้นขำ ผมเดินไปเข้าห้องน้ำ ทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงเคาะตรงหน้าประตูที่เหมือนคนเคาะจะเคาะแรงขึ้นเรื่อยๆ



เด็กน้อยเอ้ย



“ลุง เปิด!” เสียงตะโกนเรียกผมหน้าห้อง
ผมก้าวขาไปหน้ากระจกที่ห้องรับแขก สะบัดผมหน้าม้าตัวเองไว้ด้านข้างเบาๆเพื่อที่จะได้เห็นโครงหน้าที่ชัดเจน



อืม .. เราก็ยังดูหล่อไม่ได้แก่นี่หว่า



โบท็อกซ์ที่ทำมานี่คุ้มจริงๆ




“ลุง!!!”




แอ๊ดดด..



ผมเปิดประตูเลิกคิ้วเชิงถามคนตรงหน้า



“เปลี่ยนใจจะนอนกับพี่เหรอ”


“ไม่ใช่โว้ยยยยย!” คนตรงหน้าโวยวายสองขากระโดดโหยงๆอยู่กับที่



อยากดึงเข้ามาฟัดแก้มในห้องจัง แต่กลัวหัวจะแตกก่อนนี่แหละ


“ลุง ไปส่งข้างล่างหน่อย ผมไม่มีคีย์การ์ดมันกดลิฟต์ไม่ได้”


“พูดดีๆ”



“นะครับคุณลุง..” จะน่ารักกว่านี้ถ้าไม่เรียกผมว่าลุง



“พี่ว่าพี่อายุไม่ถึง60นะ” ปลายเท้ากระดิกอย่างอารมณ์ดี

ดวงตากลมนั้นกรอกไปมาอย่างหงุดหงิด



“พี่ครับ เพื่อนผมจะมารับแล้ว ได้โปรดดดดดดด”


โอเค ยอมไม่แกล้งแล้วก็ได้



สุดท้ายผมเลยหยิบคีย์การ์ดคอนโดเพื่อกดลิฟต์ไปส่งชั้นล่าง
 

รอสักพักก็มีผู้ชายร่างสูงใหญ่มารับอีกคน พอผมจะแกล้งสักหน่อยอีกคนก็รีบลากเพื่อนออกไปทันทีที่เห็นผมอ้าปาก



ยังไม่ได้แนะนำตัวกันแท้ๆ
: )







“ขอกูคุยกับนัท”ผมขวางหน้าอีกคนเมื่อเห็นเจ้าของห้องที่ตัวเองยืนรออยู่ราวๆชั่วโมงกว่านั้นกลับมา

ใช่ เขายอมแบกหน้าไปหาไอบอลถึงห้องเพื่อถามว่าเพื่อนมันอยู่ไหน



ก็ไม่มีอะไรมาก


แค่โดนต่อยปากแตกตั้งแต่พูดจบ



แต่สุดท้ายมันก็ยอมโทรหาเพื่อนตัวเองให้แล้วไปรับอีกคนมา


ผมไม่รู้ว่านัทไปกับใคร ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง


แต่ภายในใจผมนั้นแทบระเบิดออกมาเมื่อจินตนาการว่าใครบางคนอยู่บนร่างของมัน
แต่เมื่ออีกคนมาถึงห้องแล้วเห็นผม ร่างบางนั้นชะงักไป



“ไปเคลียร์กันในห้อง เดี๋ยวกูรอข้างนอก” บอลมันบอกแล้วเดินออกไป


ให้ทายนัทคงไม่ได้เล่าอะไรให้มันฟัง นอกจากระบายน้ำตาต่อหน้ามัน
ไม่งั้นไอบอลคงบุกมาที่ห้องผมตั้งแต่วันแรกแล้ว



“คริสมีอะไร” คนตรงหน้าถามผมแต่สายตากลับก้มมองปลายเท้าของตัวเอง


“ไปกับใคร”

“ไม่ใช่เรื่องของคริส”

“จะไม่ใช่ได้ไงวะในเมื่อมึงเป็น!..” ผมชะงักเมื่อใส่อารมณ์จนลืมนึกถึงความเป็นจริง




“เป็นอะไรงั้นเหรอ.. เราเป็นอะไรของคริสเหรอ” ใบหน้าหวานนั้นเงยมองผมด้วยแววตาตัดพ้อ



“กูไม่รู้…” สับสน

ผมมีอาอยู่แล้ว

ผมรักอา



แต่ในขณะเดียวกันผมก็มีนัท
ผมให้คำตอบตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำว่านัทเป็นอะไรสำหรับผม ทุกอย่างดูยากไปหมด



“คริส” เสียงนั้นสั่น

ใจไม่ดีเลยวะ

“เราเลิกเป็นแบบนี้กันไหม”
ไม่..

“เลิกรู้จักกันเถอะ เราไม่ควรรู้จักกันตั้งแต่แรก..”
ไม่เอา..



“ปล่อยเราเถอะนะ”
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมโถมตัวเข้าไปกอดอีกคนไว้ มือบางนั้นที่เคยกอดผมเสมอวันนี้กลับผลักไสผม



“ไม่เอา ไม่ให้ไป”เสียงแผ่วเบาบอกข้างหู
“เราอยากหยุดแล้ว”




“อย่าไป” รั้งไว้ เหมือนที่อีกคนเคยทำมาตลอด
“เราอยู่กับคนที่ให้สถานะเราไม่ได้แล้วคริส”


ใบหน้าผมซุกกับไหล่บาง สองมือนั้นโอบกอดอีกคนแน่นกว่าเก่ากลัวจะหายไป


“กูให้ได้สิ ให้ได้อยู่แล้ว มึงอยากเป็นอะไรกูให้ได้อยู่แล้วนัท แต่อย่าไปเลยนะ”

“เป็นแฟนกูนะนัท”



คนในอ้อมกอดสะอื้นตัวโยน



ผมไม่รู้ว่าเขาเสียใจหรือดีใจกันแน่
แต่หวังว่าคงเป็นอย่างหลัง




“รู้ไหม เรารอคำนี้จากคริสมานานเท่าไหร่แล้ว”
“อย่าทิ้งเรานะคริส ..”

จบลงที่ริมฝีปากบางนั้นเบียดเข้าหาผม
ปรับความเข้าใจกันบนเตียงของอีกคน



ครั้งที่คนใต้ร่างผมร้องครางออกมาด้วยความสุขสมอย่างเสียงดัง เสียงตึงตังหน้าประตูก็ดังขึ้นพร้อมคำหยาบคายคนที่รออยู่จนพวกเราหัวเราะใส่กัน



‘ไอพวกเวร กูให้เคลียร์ไม่ใช่ให้เอากัน เบาๆหน่อย!’



น้ำเสียงมันหงุดหงิดไม่น้อยแต่คงเตือนด้วยความหวังดี
อย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าที่ผ่านมาบอลมันหวงนัทเพราะแค่เป็นห่วงเพื่อนเท่านั้น







“ไอคนกลัวเมีย” เค้กด่าผม


“Kไรมึง คนมีผัวก็หุบปากไปเถอะ” ฝ่าเท้าประเคนใส่มัน


“คริส ไม่แกล้งเค้ก” มือบางนั้นตีไหล่ผมเบาๆแล้วหัวเราะคิกคัก


“ก็มันแกล้งกูก่อนอะนัท”ผมหันไปฟ้องแฟนตัวเอง



“โอ๋น้า แล้วคริสกลัวจริงรึเปล่า”
“ไม่กลัวสักหน่อย”


“รำคาญวะ วันก่อนใครวะสาวมาขอเบอร์พอเมียมองตาขวางรีบปฏิเสธเขาใหญ่เลย” เค้กแขวะ


“กูแค่เกรงใจเหอะ” ผมบ่น คนตัวเล็กข้างผมยังหัวเราะด้วยความตลกไม่หยุด


“ขำไรเนี้ยนัท มึงจะล้อกูอีกคนเหรอ” ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่


“เราเปล่า แค่เอ็นดูคริส ปกติเป็นงี้ที่ไหน แฟนใครเนี่ยน่ารักจังเลยยยย”มือบางจับแก้มผมแล้วดึงเบาๆ



“รำคาญ/รำคาญ” ไอเค้กกับบอลพูดขึ้นมาพร้อมกัน

“ตอนทะเลาะกันนะจะเป็นจะตาย เอาเวลาที่ผ่านมากูคืนเลยสัส” บอลด่า

“ขอโทษได้ไหมล่ะ”นัทพูด



“อย่าทะเลาะกันอีกแล้วกัน กูกลับละ”มันบอกแล้วลุกออกจากโต๊ะพวกผมไป พอคุยต่อสักพักไอเค้กก็ขอตัวกลับเพราะวันนี้ต้องเข้าไปดูร้านอีก พอไม่เหลือใครสุดท้ายผมกับนัทเลยพากันกลับห้อง




‘คริส สัปดาห์นี้อาไม่ว่างประชุมกับลูกค้าด่วนอีกแล้ว’


ผมอ่านข้อความนั้นแล้วถอนหายใจออกมาอย่างลืมตัว


“เป็นอะไรครับ” เสียงหวานถามแล้วขยับตัวมานั่งทับตักผม


“เปล่าครับ” จมูกคลอเคลียข้างแก้มใสอีกคน
“นัท เสาร์อาทิตย์นี้อยากไปไหนไหม”ผมถาม อีกคนทำหน้าแปลกใจ



“คริสไม่กลับบ้านเหรอ”มือบางนั้นลูบไล้ตามแผ่นอกของผม จมูกเล็กถูตรงซอกคอผมอย่างออดอ้อน


“ใช่ อยู่กับมึงก่อน” ผมตอบอย่างเอาใจ
“ไปgotกับเราไหม จีนชวนไปพอดี”



“ถ้ากูไม่บอกมึงคิดจะหนีเที่ยวเหรอหมากระเป๋า” ผมทำเสียงดุใส่



ริมฝีปากนั้นเผยออกหัวเราะอย่างชอบใจ
อย่าให้ถึงทีกูนะ


“เปล่าสักหน่อย เดี๋ยวนี้งอแงจังเลย”
 


“ก็เมียกูไหมวะ”จ้องตาอีกคน


“ขี้หวง”


“ไม่หวงระวังจะหนาว”ผมขู่



“รู้น่า แต่ตอนนี้อยากร้อน” รอยยิ้มคนตรงหน้านั้นยั่วยวน ฝ่าเท้าเล็กๆนั้นกดลูบตรงท้องแกร่งของผม



สงสัยต้องสั่งสอนให้รู้แล้วว่าไม่ควรใช้เท้ากับผัวตัวเอง



สปอยตอนหน้า 1%


“อามาได้ไง!”


“คริสคนนี้ใคร/คริสนี่ใครเหรอ”

สองเสียงประสานกันภายในร้านที่มีบรรยากาศสนุกสนานแต่ตอนนี้เขาไร้ซึ่งความรู้สึกเหล่านั้น
ร่างสามคนรวมกันประชันท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม มือข้างขวาเขากุมมือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนหมาดๆ ส่วนตรงหน้าคืออาที่มีสถานะเป็นคนที่เขารักแต่ไม่เคยมีใครที่รับรู้ความลับนี้
เขาควรตอบคำถามนี้ยังไงดี..



มาแล้วววว ขอพักเหนื่อยไปเกือบสามวัน ทุกคนน ตอนหน้าจะจบแล้วนะ สุดท้ายนี้ พระเอกคนเดิมนายเอกคนเดิม เพิ่มเติมตอนหน้าด่าเราแบบเบาๆขอน้อยกว่าคริส ตอนหน้าเราขออนุญาตแบ่งออกเป็นสองพาร์ตนะคะ
ชื่อตอนนี่คือบอกกับนักอ่านทุกคน 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม 30.10.61 ตอนที่5
« ตอบ #19 เมื่อ: 30-10-2018 11:53:35 »





ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ลุงน่ารักอ่ะ..นัทกลับใจเหอะ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Chapter 6 บทสรุป


โอกาสครั้งสุดท้ายมันจบไปแล้ว ..






“จะไปไหนน”


คนบนเตียงสะลึมสะลือเพราะเพิ่งหลับไปได้ไม่นานพยายามลืมตามองผมมือบางนั้นกอดรอบเอวเอาไว้เพื่อยึดตัวไว้ไม่ให้ลุกขึ้น

“คริสโทรหาที่บ้านก่อน”ก้มลงหอมหัวอีกคนเบาๆเมื่อเห็นคนบนเตียงเริ่มงอแง

“คุยบนเตียงไม่ได้เหรอ”จมูกโด้งย่นลงจนเกือบชิดริมฝีปากบน

“กลัวเสียงดัง นอนนะคนเก่ง เดี๋ยวคริสรีบมาหา” คนบนเตียงพยักหน้าเบาๆแล้วยอมปล่อยมือออก

เพิ่ง2ทุ่มกว่า แต่เพราะเมื่อถึงห้องผมจัดการสูบพลังคนบนเตียงจนหมเลยอย่างที่เห็นครับ หลับปุ๋ยแถมงอแงเก่ง


ป่านนี้อาทำอะไรอยู่..

ถ้าโทรไปจะรบกวนไหม

เฮ้อ


ถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของสัปดาห์ ผมต้องเก็บอาการไว้อย่างเงียบๆเพราะไม่อยากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนถามว่าคิดมากอะไร

ไม่พร้อมบอกอะไรทั้งนั้น

ทั้งเรื่องของอาและเรื่องของนัท

จนท้ายที่สุดก็ทนความคิดถึงที่มีต่อคนอีกคนไม่ได้เลยโทรไปหาเมื่อปลายสายรับแล้วผมก็ปลีกตัวมาคุยนอกระเบียง



(ว่าไงเรา คิดถึงอารึไง)

“คิดถึงดิ นิลเราไม่ได้เจอกันเกือบเดือนแล้วนะ”ผมบ่นเสียงง้องแง้งใส่

(เหงารึไงหืม) ได้ยินเสียงแล้วอยากอ้อนนอนตักให้อีกคนเล่นผมให้เหมือนอย่างเคย

“อาไม่อยู่คริสก็เหงาเป็นเรื่องปกติอะแหละ”

(อาว่าคิดคงไม่เหงาหรอกมั้ง)

“ทำไมอาคิดงั้น”

(หลานอาหล่อจะตาย แบบนี้แอบซุกแฟนไว้แน่นอน)ปลายเสียงหัวเราะออกมา

“อาไม่หึงผมไง”

(อาจะเอาอะไรไปหึงคริสหืม)

“อาหึงได้ คริสอนุญาตเหอะ”เสียงเข้ม

(คริส)

“ว่าไงครับ”เขาตอบรับ

(ได้คุยกับปู่บ้างไหม)

“คริสโทรไปหาปู่อยู่นะ อามีอะไรเปล่า”

(เปล่า.. คริสอาวางก่อนนะต้องแต่งตัวออกไปคุยงานกับลูกค้า)


มีอะไรรึเปล่า

เขาได้แต่สงสัยในใจ

“อา มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
(คริสละ มีอะไรรึเปล่า)
เขาเงียบ
(อาต้องวางแล้ว ไว้คุยกันหลานรัก)

สายตัดไปแล้วผมกำมือถือไว้ในมือคิดเรื่องราวต่างๆ ทำไมชีวิตดูวุ่นวายจังวะช่วงนี้

คำพูดอาก็ดูแปลกๆ

หวังว่าไม่มีอะไรเล่นตลกกับเขานะ…

“ทำหน้าเครียดนะ”

จุ๊บบ!

อีกคนเอามือโอบรอบคอผมแล้วจูบริมฝีปากย้ำๆ


“คิดเรื่องที่บ้านนิดหน่อย”

มือบางนั้นไล้ไปทั่วแผ่นอกผมเหมือนอยากช่วยลดความขุ่นเคืองในใจ

“เล่าได้นะ คริสไม่เคยเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟังเลย”

“มันไม่มีอะไรมากหรอก”

ก้มลงจูบหน้าผากอีกคนเบาๆแล้วลุกขึ้นยืน

“ใครจะบอกกูจะไปเที่ยวกับเพื่อนนะ”

“เราเองงงง” อีกคนโถมตัวเข้าหาผมจนต้องอุ้มไว้แล้วพาอีกคนไปอาบน้ำ

“ไม่อาบไม่ได้เหรอ” ริมฝีปากบางยู่ออกจนผมอดโน้มหน้าลงเพื่อกัดริมฝีปากบางนั้นไม่ได้

“อย่ากินปากเรา..”

ผมเบียดริมฝีปากแนบชิดอีกคนมากขึ้นปล่อยสะโพกบางลงกับอ่างอาบน้ำที่แอบเปิดน้ำตั้งไว้ให้อีกคนก่อนหน้านี้แล้ว

ผิวบางที่สัมผัสน้ำสะดุ้งตัวเบาๆสองขานั้นเกี่ยวสะโพกผมเอาไว้แล้วตวัดโอบดึงเข้าหาเพื่อให้ผมลงไปด้วย

“ไม่ซนนะ เดี๋ยวกูต้องโทรไปนัดไอเค้กอีก”ผมดุอย่างไม่จริงจัง

“ไม่อยากอาบเลย..” สายตาอ้อยอิ่งนั้นมองผมอย่างเย้ายวน

ริมฝีปากบางเผยออกเล็กน้อย ดวงตากลมหรี่ลงเพื่อเชื้อเชิญผมอย่างคนกระสันในเรื่องอย่างว่า

สองมือผมงัดอีกคนลงในอ่างจนได้แล้วถอดเสื้อตัวใหญ่ให้โดยที่ท่อนล่างปราศจากสิ่งใดปกคลุมไว้เพราะความเคยชินเวลาอยู่ด้วยกันสองคน

“จะไปอีกไหม”ผมถาม

มือปลดพันธนาการเบื้องล่างให้หลุดออกจากสะโพกตัวเองแล้วขยับตัวเบียดชิดเข้าหาร่างกายนุ่มนิ่มนั้น จมูกสูดดมแก้มเนียนขาวอย่างที่ทำเป็นประจำ

นิ่มไปทั้งตัวยิ่งช่วงหลังอีกคนเริ่มมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าเมื่อก่อน

ได้น้ำดีก็งี้แหละ


“อยากไป..”

ขาเรียวยกตั้งชันวางฝ่าเท้าไว้ที่ขอบอ่างอาบน้ำ มือบางนั้นเอื้อมจับแกนกายผมลูบคลึงอย่างเอาแต่ใจจนผมหลุดเสียงครางต่ำออกมา
มือของนัทปลุกเร้าช่วงล่างผมได้อย่างรวดเร็วเช่นทุกครั้ง


“นัท.. ไปสายกูไม่รับผิดชอบนะ”เสียงทุ้มต่ำครางออกมาอย่างพอใจ


มือนิ่มนั้นลูบคลึงลูกบอลกลมสองลูก นิ้วเรียวนั้นวนกลับมาที่หัวป้านแล้วบดขยี้เบาๆจนผมร้องซี๊ด


“ไม่ทำก็ได้ เราแกล้งนิดเดียวเอง อ๊ะ! คริส!!”
สุดท้ายจบลงที่ผมจัดการคนชั่งยั่วในห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์ข้างนอกแผดร้องออกมาหลายรอบกว่าเราจะทำเสร็จ



“คริส ใส่เสื้อสีขาวได้ไหม” เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางถูกหยิบออกมาจากชั้นที่อีกคนแอบเอาเสื้อผ้ามาไว้ในห้องผมหลายชุด

“เดี๋ยวโดน ไปใส่สีดำ”

“ไม่มีเลย เราไม่ได้หยิบสีอื่นมาจากห้องด้วย”
“เลิกเลยนะเสื้อสีขาวแต่ละตัวของมึงบางจนจะเห็นหัวนมอยู่แล้ว”เสียงทุ้มดุ

“เราซื้อมาใส่ยั่วผัวเหอะ” ผมยิ้มมุมปากจับหัวอีกคนเข้ามาใกล้แล้วหอมแก้มแรงๆ

“น่ารักให้มันน้อยๆหน่อย” ผมว่าแล้วเดินไปหาเสื้อให้อีกคนใส่




ตัวนั้นน่าจะใส่ได้

ผมยื่นเสื้อสีดำที่ซื้อมาผิดเบอร์ให้อีกคน

ตั้งใจจะซื้อให้อาแต่มันตัวเล็กเกินไปอาเลยใส่ไม่ได้

ผมคิดว่านัทน่าจะใส่ได้

“ทำไมมีเสื้อตัวเล็กด้วย”สายตาส่งมาอย่างต้องการคำตอบ

“ซื้อให้อาแต่ผิดเบอร์ ใส่ไปอย่าถามมากสายแล้ว”

สุดท้ายกว่าผมกับมันจะถึงร้านก็ทำเอาช้ากว่าคนอื่น




สไตล์ร้านที่เรานัดกันมาวันนี้ค่อนข้างมีคลาสหน่อย ผมเป็นคนเลือกร้านเองเพราะไม่ต้องการเบียดกับคนมาก


ส่วนนึงเพราะหวงคนในอ้อมกอดตอนนี้ด้วย ถ้าไปร้านวัยรุ่นปกติผมคงหึงจนหน้ามืดเพราะมีแต่คนสนใจมัน

ภายในร้านคนค่อนข้างมากเพราะเนื่องด้วยเป็นวันเสาร์ทำให้มีคนมาเที่ยวจำนวนเยอะกว่าวันธรรมดา


ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงานไม่ก็25+เพราะราคาที่ค่อนข้างสูงทำให้แยกระดับลูกค้าได้อย่างชัดเจน เมื่อเข้าไปในร้านคนในแขนผมค่อนข้างตื่นเต้น สายตาสอดส่องดูนู้นนี่ตลอด



นัทไม่ใช่คนชอบเที่ยวกลางคืน


และผมก็ไม่เคยพามันมาในที่แบบนี้ด้วย

ผมมองตาขวางเมื่อเห็นใครบางคนมองคนในแขนผมอย่างจะจับกิน กระดุมเสื้อสีดำนั้นถูกปลดออกสองเม็ดเพราะรสนิยมของคนใส่


ขนาดผมทำรอยไว้จนเด่นขนาดนั้นยังมีหน้ามามองอีก จนผมทนไม่ไหวจนต้องเอื้อมมือดึงคอเสื้ออีกคนให้กระชับเข้าหากัน คนในแขนหันมายิ้มให้ผมแล้วจูบใต้คางอย่างเอาใจ


“เรามีความสุข”รอยยิ้มหวานส่งมาให้
“รู้”ผมลูบหัวอย่างเอ็นดู


“รำคาญวะ เหม็นความรัก”เสียงไอเค้กตะโกนแข่งกับเสียงเพลงในร้านเมื่อเห็นผมมาถึงโต๊ะที่มีคนนั่งประจำที่กันครบทุกคนแล้ว

มีคนที่ไม่คุ้นสองสามคน

เพื่อนนัทผมรู้จักแค่บอลที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่มัธยม ส่วนอีกคนคงเป็นจีนที่นัทพูดถึงบ่อยๆผู้หญิงผมยาวที่แต่งตัวค่อนข้างจัด


“บอล เค้กแซวเรา”คนที่นั่งทับตักผมหันไปฟ้องเพื่อนตัวเอง

“ไปฟ้องผัวมึงนู้น เพื่อนอย่างกูจำเป็นอีกเหรอ” คนต่างข้ามเบะปากอย่างหมั่นไส้




คนบนตักผมเมาจนไม่ได้สติ


คนมอมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอเค้กกับบอล
ผมคิดไว้แล้วเชียว พวกเวรนี่ต้องมีแผนชั่วๆแน่นอน


“คริสสสสสส นัทอยากเต้น ไปเต้นกันนะๆๆๆๆ”

 คนบนตักผมดิ้นไปมาอย่างเอาแต่ใจ สะโพกบางนั้นถูไปมาอย่างลืมตัวว่าการขยับบนตักผมนั้นมันทำให้สะโพกเสียดสีกันได้ง่าย ยิ่งอีกคนใส่กางเกงรัดรูปด้วย


“ยืนให้ได้ก่อนเหอะ” จีนแซวเพื่อนตัวเอง

“นี่ไงงง คนนี้อุ้ม” ใบหน้าหวานนั้นพูดงุ้งงิ้งข้างหูผม ริมฝีปากผมกดจูบข้างขมับอีกคน


นัทงอแงจะเต้นให้ได้ผมเลยเลือกที่จะพยุงตัวอีกคนเต้นข้างๆโต๊ะ แขนเรียวนั้นโอบลำคอผมไว้เพื่อเป็นที่ยึด


เสียงดนตรีในร้านเปลี่ยนเป็นเพลงเศร้าๆเข้ากันบรรยากาศภายในที่ตอนนี้ตัวร้านเปิดแสงไฟเป็นสีเหลืองทองดูสลัว



https://youtu.be/qnGTC8EUUes
(อยากให้เปิดฟังเพื่อเข้ากับบรรยากาศในเนื้อหา)
เรื่องจริง - sin


“ข้างล่างมีอะไรน่าสนใจคุณถึงได้มองมันไม่หยุด” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหลังเขา ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาซ้อนหลังจากนั้นขยับมายืนใกล้


แก้วไวน์ในมือพร่องไปจนเกือบหมด


“หืม เด็กนั่น..” เสียงอีกคนแปลกใจ
“คุณรู้จัก?” ร่างบางที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตอย่างเป็นทางการหันไปถาม


“ถ้าหมายถึงคนที่เกยไหล่ผู้ชายตัวสูงๆอยู่ล่ะก็ผมคิดว่าผมรู้จัก”

“แล้วคุณล่ะ คนไหน?”

“ทำไมถึงคิดว่าผมมองพวกเขา?” แววตาฉายความสงสัย

“สายตาคุณ แสดงออกชัดเจนนะนิล”คู่ค้าเขาเอ่ยออกมาพร้อมหัวเราะในลำคอ

“ผู้ชายตัวสูงคือหลานของผม”

“Just nephew?” คนตรงหน้ากำลังเล่นเกมส์ตอบคำถามกับเขา

“แค่หลานครับคุณพีท” เขาตอบ ภายในใจเริ่มหงุดหงิดเพราะความกวนประสาทของอีกคน

“หลานคุณชื่อคริสรึเปล่า”
“ทำไม” เขาทำหน้าสงสัย

“ถ้าใช่ก็นะ สงสัยเด็กนั่นคงดีกันแล้ว แอบเสียดายนิดๆ” ร่างสูงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ตามฉบับเจ้าตัว

“คุณสนใจเด็กคนนั้น ?”
“นิดหน่อย แต่คุณไม่ต้องคิดมากหรอก ผมไม่แย่งของใครอยู่แล้ว” คนข้างเขาหัวเราะเบาๆ


“ให้ทาย คุณยังไม่บอกหลานตัวเองเรื่องวันนี้สินะ”

“ไม่จำเป็นขนาดนั้น” เขาเลิกต่อปากต่อคำคนข้างๆ เกลียดที่รู้ทันไปซะทุกอย่างทั้งที่เขาไม่เคยพูดอะไรออกมาและเราก็ไม่ได้รู้จักกันไปมากกว่าคำว่าคู่ค้า


สายตาของเขายังจดจ้องอยู่กับร่างสูงโปร่งของคริส อ้อมแขนเขามีใครบางคนอยู่ในอ้อมกอด สายตาที่มีให้กันนั้นแสดงความรู้สึกออกมาซึ่งกันและกัน

นิลเผอิญเห็นทั้งคู่ตั้งแต่เขามาในสถานบันเทิงแห่งนี้


ภาพที่คริสแสดงออกว่าหวงแหนคนในอ้อมกอดนั้นเหมือนเข็มที่ทิ่มเข้าไปในอกของผม
เจ็บจนแทบกระอักออกมาเพราะคริสไม่เคยแสดงท่าทีแบบนั้นเลยกับเขา


คงเพราะเราแสดงความรู้สึกออกมาไม่ได้เมื่อศักดิ์คำว่าอาหลานมันค้ำคออยู่ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในที่สาธารณะ


คริสไม่ผิด

เด็กคนนั้นก็ไม่ผิด

ผมผิดที่คิดไปเองว่าเรารักกัน คิดไปเองว่าคนของผมจะยอมรับสถานะที่ผมมีให้เมื่อเราอยู่กันแค่เพียงลำพัง

คงไม่มีใครทนได้..

เป็นผมที่ฝันลมๆแร้งๆ นั้นสิ ใครจะไปทนคบกับคนที่เป็นแค่คนรักได้เฉพาะที่ลับตาคน

เขามันโง่เอง


ไวน์ในขวดของเขาหมดไปแล้ว คนข้างผมจึงเรียกพนักงานเพื่อสั่งขวดใหม่


รู้ทันจนน่าโมโห

เขาไม่ควรดื่มเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็ควรรักษาหน้าตัวเองไว้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะไปเปิดสาขาใหม่ที่อังกฤษ


ใช่ ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคริส

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผมยุ่งกับเรื่องพวกนี้มาตลอดจนไม่มีเวลาให้เขา บอกเพียงแค่ไปดูงาน มีประชุม

ผมไม่ได้โกหกเขา เพียงแค่ไม่ได้บอกว่าประชุมเรื่องอะไรเท่านั้นเอง


ผมมันขี้ขลาดเกินกว่าจะกล้าบอกกับคริสตรงๆ
กลัวว่าถ้าอีกคนยื้อไว้ตัวเขาเองจะใจอ่อนทิ้งทุกอย่างที่เตรียมการมาเกือบเดือน

ขี้ขลาดเกินที่จะพูดกับคริสว่เขารู้เรื่องของเด็กนั่น

กลัวว่าสุดท้ายแล้วผมจะไม่ใช่คนที่ถูกเลือก
กลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวกับความเป็นจริงถ้าหากที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่เคยคิดอะไรกับเขาไปมากกว่าคำว่า ‘ที่ระบาย..’


“คุณควรหยุดดื่ม ขวดที่สองกำลังจะหมด” คนข้างๆเตือน


“ผมก็คิดว่าควรหยุด กี่โมงแล้ว ตาผมลายไปหมด” เขาถามเมื่อพยายามมองหน้าปัดนาฬิกาตัวเองสุดท้ายก็ต้องถอนหายใจ เมาทีไรเห็นอะไรไม่ค่อยชัดทุกที เขาควรเลิกดื่ม


“จะตี1 ผมคิดว่าคุณควรลาลูกน้องแล้วกลับ ปาร์ตี้วันนี้ควรเลิกได้แล้ว” ผมพยักคอ เสี้ยววินาทีที่ผมจะผละออกจากระเบียงคนข้างล่างเงยมาสบตาผมอย่างบังเอิญ



ดวงตาเรียวนั้นเบิ่งกว้าง

ให้ตาย..


ผมทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะรับกับสถานการณ์ข้างหน้ายังไงดี ผมตัดสินใจรีบลาพนักงานแล้วรีบเดินลงไปชั้นล่าง


บัดซบ


ทำไมบันไดไม่สร้างให้ติดกับทางออกนะ!



หมับ!!

ข้อมือผมโดนใครบางคนคว้าไว้ ไม่ต้องหันก็รู้ว่าใคร


“อามาทำอะไรที่นี่”

“กินเลี้ยงกับที่ทำงานน่ะ เราละมากับพวกเค้กเหรอ”

คริสเงียบไป


เสียงเพลงในร้านเปิดคลอเบาๆทำให้ผมกับเขาไม่ต้องตะเบ็งเสียงใส่กัน


“คริส มาเอาเมียมึงไปเก็บมันงอแงแล้ว” เสียงเค้กเรียกคนที่จับมือเขาไว้

รู้อยู่ว่าสถานะของอีกคนคงไม่ต่างจากที่คิดไว้ แต่พอได้ยินจากคนใกล้ตัวเขาทำไมมันเจ็บกว่าที่คิดไว้เยอะขนาดนี้…

“อ้าว อานิล สวัสดีครับ”เค้กยกมือไหว้ผม
คนที่อีกคนลากมาด้วยพยายามกอดคนตรงหน้าผม ใบหน้าที่หวานนั้นแดงไปทั่วเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์


“นี่ใครเหรอ/นี่ใครอะคริส”

สองเสียงประสานกันภายในร้านที่มีบรรยากาศสนุกสนานแต่ตอนนี้เขาไร้ซึ่งความรู้สึกเหล่านั้น
ไม่มีคำตอบ


คนตรงหน้าตอบเขาด้วยความเงียบ


“คริสส กลับบ้านกันนัทอยากกอดๆๆๆๆ” คนที่เมาไม่ได้สติพยายามเบียดกายเข้าหาคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นคนของผม


ไม่ไหวแล้ว..


“อา อย่าร้อง..”


น้ำตาผมไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

เค้กที่มึนงงกับสถานะการณ์ตรงหน้าเริ่มได้สติก่อนคนแรก

“นัท ไปกับกูก่อน”มือหนานั้นพยายามดึงอีกคนไป

“ไม่ไปปปปปป คริสคุยกับใครอะ ทำไมต้องจับมือเขาด้วย คริสมีคนอื่นเหรอ ปล่อยนะ ปล่อย
สิ!” เด็กคนนั้นพยายามเข้ามาผลักผมออก
ร่างสูงที่ดูมึนงงในทีแรกพอได้สติเข้ามาบังผมจากมือเล็กนั่น


“หยุดบ้าสักที!!” มือหน้าปัดป่ายอีกคนเป็นพัลวันไม่รู้ท่าไหนจนอีกคนไปกองกับพื้น

“เห้ย!!!” เค้กกับเพื่อนที่มาด้วยกับเค้กรีบพยุงร่างคนตัวเล็กขึ้นมา

“ฝากดูมันด้วยเดี๋ยวกูมา”

“คริส ไม่ไป ฮึกก ไม่ไปนะ อยู่กับเรานะ” ผมพยายามที่จะแกะนิ้วอีกคนออกจากแขนเมื่ออีกคนลุกขึ้นได้แล้วตรงปรี่มาจับเขาไว้


อามองมาที่มือผมอย่างนิ่งๆนัยตานั้นแดงเถือก
อย่าร้อง ผมขอโทษ…


“บอล มาเอาเพื่อนมึงออกไปก่อน”ผมบอกไอบอลที่มองมาทางผมอย่างเขม่ง

“จัดการเอาเอง”

“สัส มึงเห็นไหมว่าอากูมองอยู่”

“ก็แค่อามองไหมวะ มึงเห็นไหมว่าเมียมึงมันงอแงอยู่เพราะมึง”


สัสเอ้ย

อาเดินออกไปแล้ว

ผมรีบสะบัดแขนอีกคนจนหลุดจากมือ ด้วยความแรงจนทำให้นัทล้มตัวลงไปนอนกับพื้นอีกรอบเพราะทรงตัวไม่อยู่

“อา รอคริสก่อน!”

ผมรีบวิ่งไปที่รถอีกคนก่อนอาจะเหยียบคันเร่งหนี

ผมพยายามเปิดประตูแล้วสอดตัวเข้ารถแต่ประตูกลับล็อกเอาไว่


“ตามมาทำไม”

“ก็อาจะกลับแล้ว”

“หึ ไม่ไปดูแฟนเราเหรอ”

“ไม่ใช่แฟน เพื่อนผม” ผมรีบบอกไป

“คริส อาไม่ใช่เด็ก5ขวบ”นิลพูดเสียงเย็น

“นัทมันแค่เมาเลยงอแง อา ผมไม่ได้โกหกจริงๆ”

“หยุดโกหกเถอะคริส อาไม่ว่าอะไรถ้าเราคิดจะมีแฟน อาโอเคจริงๆนะ” รอยยิ้มอีกคนมันดูขมขื่นจนเขากลืนน้ำลายไม่ลง

“คริสรักอา..”
“ความรักที่คริสมีให้อา คริสก็มีให้คนอื่นเหมือนกัน..”

“อารู้คริสแค่เหงา อาเข้าใจเรา”

“ไม่ใช่นะอา!!”

ผมตะโกนเมื่อคนในรถไม่อยู่รอฟังผมแล้ว อาเหยียบคันเร่งแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่มองทางด้วยซ้ำ


เมื่อนึกสิ่งหนึ่งออกทำให้เขารีบวิ่งตามรถที่ขับออกไป


อามองไม่ชัดเวลาเมา..


ผมไม่รู้เขาดื่มไปมากเท่าไหร่ เป็นห่วงจนทนไม่ไหว



เกิดบ้าอะไรขึ้น


ผมทรุดลงกลางถนนกับภาพตรงหน้า

ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือรถของคนที่ผมรักโดนรถจากถนนเส้นหลักที่ขับมาด้วยความเร็วปะทะจนรถพลิกคว่ำแล้วตัวข้างรถบุบ


“ไม่!!!!!!”


เสียงตะโกนของผมดังก้องทั่วถนนผมรีบวิ่งเข้าไปใกล้ร่างที่นอนรวยรินบนพื้นยางมะตอยเพราะร่างกระเด็นออกมาจากตัวรถจนลืมดูว่ามีรถอีกคันวิ่งเข้ามา


“ไอคริส ระวัง!!!” เสียงเค้กดังมากจากไหนผมไม่รู้..


ไม่ทัน…


ทุกอย่างเร็วไปหมด…


โครม!!!!!!



ตอนหน้าจบแล้วค่ะ อยู่กันจนถึงตอนจบนะทุกคน ไม่ถูกใจใครหลายคนแน่ๆเราขอโทษมา ณ ที่นี้ -/\-

ขอบคุณทุกคนที่รักนิลทวงความยุติธรรมให้นิลตลอด ทั้งๆที่คุณอาซีลน้อยกว่านัทมาก ตอนจบเรากลัวว่าอาจไม่ถูกใจใครหลายคน แต่อย่าโกรธเรานะ เราพยายามเต็มที่ล้าววววววว
ปล.พบเจอคำผิดบอกน้า

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: [เรื่องสั้น] #อาของผม 30.10.61 Last chapter
«ตอบ #22 เมื่อ30-10-2018 21:56:57 »


Last chapter



แสงจากหลอดไฟบนเพดานทำให้ต้องกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับความคุ้นชินกับแสง

“คริส! เรียกพยาบาลทีมันฟื้นแล้ว!”เสียงเรียกชื่อนั้นทำให้เรียกความสนใจจากผม เมื่อหันไปมองก็เจอคนที่ไม่คิดจะเห็น เพราะภาพสุดท้ายคนคนนั้นนอนจมกองเลือด



“อา..”
“หะ อะไรนะ”

ผมพยายามกอดอีกคนด้วยความแน่นเพราะกลัวว่าใครอีกคนจะหายไปอีก

“อาอย่าทิ้งคริสไป คริสขอโทษ..” ผมร้องไห้ออกมา

“เดี๋ยว..” อีกคนทำหน้างงใส่ผม

“อาเหี้ยไรของพี่มึงเนี้ย ดูหนังโป๊จนเบลอเหรอสัส!” มือบางนั้นฟาดตรงกระบาลอีกคนแรงๆ


“โอ๊ย อย่าทำคริส เจ็บแล้ว” ผมยกแขนตัวเองบังมืออีกคนไว้เป็นพัลวัน

แต่เมื่อสังเกตรอบตัวผมถึงได้รู้ว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาล

บนมือของผมนั้นมีเข็มสายน้ำเกลือเจาะอยู่

เกิดอะไรขึ้นกับผม.. ?

“มึงขับรถชนเสาไฟฟ้า สลบไป3วัน จนพวกกูนึกว่ามึงจะตายห่าละ” ผมงงหนักกว่าเดิม เมื่อเค้กพูดจบ

“เลิกทำหน้าหมางง ใครใช้ให้เมาแล้วขับรถพี่โง่หรือโง่วะ” มือบางนั้นตั้งท่าจะยกขึ้นมาตบหัวผมอีกรอบ

ทำไมนิลไม่อ่อนโยน..

“นิล” ผมเรียก

“อะไร”

“มานี่หน่อย” ผมกวักมือเรียก

อีกคนทำหน้ารำคาญใส่ผมแต่ก็เดินเข้ามาใกล้

จุ๊บบ

ผมกดจูบริมฝีปากบางนั่นเบาๆ

“อะ อ ไอ.”

นิลอ้าปากเหวอไปแล้ว

“ไอเหี้ยพี่คริส!!!!!!!!”

“เฮ้ย อย่าต่อยกั๊นนนนน” ร่างสูงโปร่งอีกคนในห้องรีบจับผมแยกเมื่อเห็นร่างบางสติแตกไปเรียบร้อยแล้ว






“อีกสัปดาห์ก็กลับได้แล้วครับ”หมอพูดเมื่อจับร่างกายคนบนเตียงตรวจนู้นนี่เสร็จจนครบ

ใบหน้าหวานที่นั่งบนเตียงมองเขาเขม่นพร้อมที่จะเข้ามากัดเขาได้ทุกเวลา

ดุเป็นหมาเลยงะ

“นิล มึงใจเย็นน้องรัก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เออนั้นแหละ”เค้กลูบหน้าอีกคนแล้วหันไปคุยกับคนบนเตียงเมื่อหมอออกไปจากห้อง “คริส มึงเล่นเหี้ยไรเนี้ย”

“เล่นอะไร” ผมทำหน้างงถาม

“มึงจูบไอนิลทำไม มึงเป็นเกย์เหรอสัส”ไอเค้กขยิบตาให้ผมอย่างกับเป็นสันนิบาตแดก

“เปล่า ก็นิลเป็นแฟนกู”

“แฟนห่าไรของพี่มึง ลุกขึ้นมาต่อยกับผมเหอะ โมเมชิบหาย!” ร่างบางนั้นขยับตัวลุกออกจากโซฟาจะมาต่อยผมจริงๆ

“ใจเย็นก่อนนิล”เค้กหันไปปรามคนข้างๆ

“ใจเย็นเหี้ยไร เรียกผมอาไม่พอ หน้าผมเหมือนน้องชายพ่อพี่เหรอ แล้วดูดิ มันยังจูบผมอีกอะพี่เค้ก เพื่อนพี่สมองกระทบกระเทือนเหรอ ผมช่วยกระทืบให้สมองกลับปะเผื่อหาย” คนตัวเล็กเอามือถูปากตัวเองไปมา

“กูว่ากูเรียกหมอให้มึงดีกว่าคริส”ผมยื้อแขนมันไว้

“เดี๊ยววววววว ขอเวลากูจูนสมองแปป”


ผมนั่งพักบนเตียงสูดหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อทำสมาธิแล้วเริ่มตั้งคำถามใส่มัน




“กูหลับไปกี่วันนะ”

“3วัน” มือยกนวดขมับตัวเองเบาๆ

“พ่อกับแม่กูอยู่ดีไหม..”

“นี่มึงแช่งลุงเอนดริวกับป้าดาวให้ตายเหรอ เนรคุณ!” มันตะโกนใส่หน้าผมจนผมต้องยกมือห้าม


ไอเหี้ยยย


นี่ที่ผ่านมาคือกูฝันเหรอ

พ่อแม่ตายตั้งแต่อายุ11

ไอนาโรกกกกกกกกกกก


มีเมียเป็นอา ไหนจะมีเพื่อนเป็นเมียอีก

โอโหวววววว

เป็นเรื่องเป็นราวมากมึงเอ้ยยยยย


ขอญาตขายความฝันทำพลอตหนังนะครับ

ติดต่อได้ที่เฟสบุ๊ค คริสมิคริสบอกปิ๊คริสมา



“นิลกูขอโทษ คือแบบ....กูเบลอยา”

“ตอแหล พี่มึงแดกยาในฝันเหรอ”มันบอกเพราะตั้งแต่ตื่นขึ้นมายังไม่มีอะไรเข้าปากผมนอกจากปากมัน

ยาไม่ได้แดก ได้แดกมึงในฝันนี่แหละ

กระจอกชิบหายทำได้แค่บ่นในใจ

กลับไปฝันอีกรอบได้ไหม คริสbadboyไม่มีอยู่จริง มีแต่คริสloserนี่แหละ



แอบชอบเขาจนเก็บเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะ ในชีวิตจริงแค่เถียงเขายังทำไม่ได้เลย

“มันคงเบลอเพราะเพิ่งฟื้นน่ะแหละ นิลอย่าไปโกรธมันเลย”

“ขอโทษครับ”ผมก้มหัวลงต่ำจนชิดกับตักตัวเอง

“เออ อย่าให้มีรอบหน้านะพี่ ขนลุกชิบหาย”นิลบ่น

“พี่เค้ก ผมกลับก่อนนะนัดที่บ้านกินข้าว” คนในฝันผมออกไปเรียบร้อยแล้ว ในห้องเหลือเพียงแค่ผมกับเค้ก





“มึงเล่นไรเนี้ยคริส ตื่นขึ้นมาคว้าเขาไปจูบเฉย ไม่บอกกูล่วงหน้าสักคำด้วย” เค้กบ่นผม

“กูฝัน..” ผมเล่าเรื่องราวความฝันทั้งหมดให้เพื่อนตัวเองฟัง เค้กฟังไปหัวเราะไป คอยดูเถอะผมออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่จะถีบมันให้คว่ำ






“เค้กเพื่อนรักกก 12นาฬิกา น้องนัทนิเทศสวยชิบหายเลย ใจพี่จะละลายยย”ผมแทบพ่นน้ำออกมาเมื่อชื่อที่ไอต่อพูดมันเหมือนใครอีกคนที่ผมฝันถึง

ไอชิบหาย.. นัทนิเทศนี่มีกี่คนวะในมอกูวะ

“เฮ้ย คริสมึงดูเร็วกูเห็นวันก่อนมึงถามพวกกูว่าคนไหนไม่ใช่เหรอ” ผมคิดตาม

ก่อนจะขับรถชนเสาไฟฟ้าเพื่อนผมชอบชมน้องปีหนึ่งคนนึงชื่อนัทว่าอย่างนู้นอย่างนี้ แต่ผมไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง

พอจะมีโอกาสได้เจอหน้ากูดันป๊อดไปอีกกก

“น่ะๆๆ คนนั้นอะมึง” ไอต่อกระซิบบอกข้างหูผมเหมือนกับว่าคนนั้นยืนอยู่ไม่ไกลแล้วล็อกหน้าให้ผมหันไปตามแรงมัน


พรวด!!!


ไอชิบหาย คนเดียวกับในฝันเลย!!


ไข่มุกที่เคี้ยวในปากกระจายเต็มหน้าไอต่อ

“ไอ้เหี้ยคริสสส!!!!!!!!!”


ต่อเพื่อนรัก คริสไม่ได้ตั้งใจจจจจจจจจ


ผมรีบกระโดดข้ามโต๊ะหนีมันอย่างเร็วไวจนลืมดูทางชนเข้ากับใครอีกคนที่เดินอยู่ก่อนแล้ว


หนีเสือปะจรเข้ที่แท้หรู..

นาทีนี้ขออันเชิญปลาฉลามมากินกูบนพื้นดินเถอะ

พระเจ้าเกลียดอะไรผ๊มมมมมมมม


“พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจชน เจ็บไหม ซอรี่จีๆ”ผมรีบบอกหันหน้าไปหาเพื่อนหวังจะได้รับความช่วยเหลือ

แต่เปล่าเลย พวกเวรนั่นเดินหนีเข้าตึกไปอย่างไว

เพื่อนนาโรกกกกกกกกกก

กูจะฟ้องเพอร์ซิอุสสส


“ไม่เป็นไรครับพี่ อุ้ย มีอะไรติดที่เสื้อพี่อะ”เด็กนั่นชี้มือที่ปกเสื้อผม

หลักฐานแห่งความอัปยศ

เศษชาไข่มุกน้อยๆ…


ไว้อาลัยตัวเองได้ไม่นานสุดท้ายโดนขัดด้วยเสียงใครบางคน

“นัทไปเรียนกัน อย่าไปคุยกับโรคจิตเลย” นิลที่เดินมาจากไหนไม่รู้ทำเอาผมแทบตาแตก


เพอร์ซิอุสโกรธอะไรคริสก็บอกสิ…

ให้กูฝันถึงเขาไม่พอ เขาเป็นเพื่อนกันอีก..

“พี่เขาตลกออกนิล” นัทหันมายิ้มให้ผม

กูคิดดีไม่ได้เลย ภาพจำ(ในฝัน)ยังชัดเจนราวกับเกิดขึ้นจริง

กลับหอเมื่อไหร่คริสจะหักแผ่นหนังโป๊ทิ้ง


เปลี่ยนเป็นโหลดเข้าคอมแทน เปลืองเงิน!


“เชื่อกูเหอะน่า”เหมือนแมวสองตัวคุยกันเลย

งุ้งงิ้งเชียว

“พี่เลิกทำสายตาโรคจิตใส่เพื่อนผมได้ปะ” นิลหันมาเขม่นตาใส่ผม

“เฮ้ย พี่เปล่า!” ผมรีบปฏิเสธ

“คุยกับพี่แล้วเปลืองเวลาอะ ไปเรียนเหอะนัท” ร่างบางสองคนพากันลากขึ้นตึก น้องนัทหันมายิ้มหวานให้ผมแล้วโบกมือบ้ายบ่าย พอเพื่อนเจ้าตัวเห็นนิลก็หันมาทำตาดุใส่ผมอีก

แม่แมวขี้หวงเพื่อนของพี่…


“นิล!!!” ผมตะโกนไล่หลังเสียงดัง

ร่างบางหันมามองตาขวางใส่ราวกับรำคาญผมเต็มทน


“พี่ไม่ได้มองแบบนั้นใส่เพื่อนนิล พี่มองนิลอะแหละ!!” พอตะโกนจบผมรีบวิ่งหนีตัวใครตัวมัน เรื่องอะไรจะอยู่ให้โดนเตะวะ

บั้ยยยย







“นิลหน้าแดงอะ” นัทเอามือจิ้มแก้มเจ้าตัวเบาๆเสียงใสพูดจ้อแจ้ไม่หยุดดดดด


“ชอบเขาแต่ไม่กล้าแสดงออกทำเป็นโมโหใส่เขาอีกแล้วน้า” นัทแซวผม

“นัทหยุดแกล้งเราได้แล้ว!”

ร่างบางรีบเดินหนีขึ้นห้องไปก่อนน

“ระวังพี่คริสหนีไปมองคนอื่นจะหาว่าเราไม่เตือน!” เสียงหวานตะโกนไบ่หลังเพื่อนแล้วรีบวิ่งตามไป

ลองไปมองคนอื่นดูเถอะ ผมจะจัดการกระทืบให้จมดินจริงๆด้วย!

‘พี่เอาจูบแรกผมไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบสิวะ’


ร่างบางค้านกับตัวเองในใจ ..



End


รักทุกคนนะคะ ก็บอกไปแล้วว่าเรื่องนี้ฟิลกู๊ดจริงๆนะ ฮือออออ ห้ามเกลียดเค้า เราวางพลอตไว้งี้ตั้งแต่ต้นเลย พอเจอคริสโดนด่ามากๆได้แต่นั่งหัวเราะ เพอร์ซิอุสไม่รักคริส! (นางตัดพ้อ)

ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านแล้วก็เข้ามาเม้นให้ตลอดด้วยนะคะ มีกำลังใจมากๆในการแต่งต่อ เรื่องนี้อาจมีสเปถ้าเราไม่ขี้เกียจน้า

ใครโดนตกด้วยชื่อเรื่องเค้าขอโทษที่หลอกดาววววว

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เขียนบรรยายได้ดีนะคะ น่าติดตาม
ส่วนของเนื้อหา รู้สึกเหมือนอ่านเรื่องนึงอยู่ดีๆก็ถูกตัดจบไปดื้อๆ แล้วก็มีอีกเรื่องมาต่อแบบงงๆ
คริสช่วยกลับไปฝันต่อให้จบได้ไหม  :ruready

 :pig4:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คุณอาคือเมาก ยั่วสุด ชอบๆ ส่วนนัทน่าสงสาร
หัวร้อนกับคริส แต่ก้ดีที่แค่ฝัน55555555

ออฟไลน์ hey_sloth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้โห ก่อนจบนี่ใจหายหนักมาก แฮปปี้  :katai2-1:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เดี๋ยวๆๆงี้ก็ได้เหรอวะไรท์์...... :a5:  :z13:5555555555
นี่ชั้นอินเกินจนต้องทำใจหลายวันก่อนจะเข้ามาอ่านได้เพื่ออะไร๊  :z6:  ถ้าจะขนาดนี้แล้วก็มาต่อตอนพิเศษให้เค้าได้กันไปจริงๆให้จบๆเหอะนะ  คู่คริสนิล นะว้อยยยยยยย 5555555555  :katai1:

ออฟไลน์ MacaroonCookie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พลิกกว่านี้ไม่มีอีกละโอ๊ยยย 5555

ออฟไลน์ Beerng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0


ตอนพิเศษ คาถาบูชาเมีย


รักเมียต้องส่งเสีย อย่าให้เมียต้องสงสัย by คริส


“นิล นั่นพี่คริสรึเปล่า โห พี่เขาคุยกับใครอะ สวยจัง”

คนถูกเรียกหันขวับไปดู

พี่มึง!!

ไหนบอกรักกูทำไมไปคุยกับผู้หญิงคนอื่นวะ


นั่น!!

หัวเราะเจาะแจะกันอีก

เชื่อใจอะไรไม่เคยได้

ไอหน้าหมาสันดานหมาเอ้ยคืนนี้นอนนอกบ้านไปเลย


ผมบ่นในใจ สายตามองเขม่นมันหวังว่าอีกคนจะรู้ตัวแล้วหันมามองสักนิด

ยัง!!

ยังไม่หยุดใช่ไหมไอผัวเวร ผมพยายามเดินเฉียดไปใกล้อีกคนก็แล้ว ส่งเสียงก็แล้วแต่ไร้วี่แววว่ามันจะสนใจ

สุดท้ายด้วยความทนไม่ไหวจึงเดินเข้าไปยืนข้างๆเลย

“อ้าว นัท”

ผมเม้มปากแน่นเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดจนจะปะทุออกมา ริมฝีปากกระตุกยิ้มเย็นๆ

“แหะๆ สวัสดีครับพี่คริส”

“วันนี้น่ารักเชียว ไม่มีเรียนไงเรา”

โอโห
ต่อหน้าต่อตา
ทักคนอื่นก่อนผมไม่พอ ยังชมคนอื่นอีก

ไม่ตบไม่ตีไม่ดีขึ้นเลยใช่ไหมคริส

ได้!!

“มีครับ กำลังจะไป”





“เชี่ย! นิลมายืนข้างหลังพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่” กับเมียเรียกเชี่ย กับคนอื่นเรียกซะดิบดีเหลือเกิน

“เอ่อ พี่คริสคะ งั้นเมย์กลับก่อนนะ อย่าลืมที่นัดไว้ล่ะ”

หายใจเข้า หายใจออก

ใจเย็นไว้นิล

เย็นไว้

“ใคร”
“รุ่นน้องน่ะ”

“นัดกันไปไหน”เสียงเย็นพร้อมมองตาขวาง

“คือ..” เสียงอีกคนอึกอัก

“คืออะไร” ผมจ้องหน้าเอาคำตอบ

“คือแบบ..”
โอเคคริส

“พอ ไม่ต้องบอกแล้ว นัท ไป!”

ผมลากข้อมือเพื่อนออกมาเพื่อขึ้นห้องเรียนโดยไม่สนใจเสียงเรียกอีกคนที่ตามหลัง

“นิล ไม่คุยกับพี่เขาก่อนเหรอ เรียกไม่หยุดเลยนะนั้น”

“ปล่อยให้มันเรียกซะให้พอ” ผมบอกอย่างไม่สนใจ

.

.

.

‘อยู่ไหนทำไมยังไม่กลับห้อง’

คริสส่งข้อความมาหาผมค่อนวันแล้ว แน่นอนว่าผมอ่านไม่ตอบ ปล่อยให้มันบ้าบอแบบนี้นี่แหละ

“ไม่กลับห้องไงวะ” นอกจากนัทแล้วที่เป็นเพื่อนสนิทผมก็มี ‘เมฆ’ อีกคนนี่แหละที่ผมสนิทด้วย

ถ้าพูดให้ถูกแล้วผมกับเมฆรู้จักกันตั้งแต่มัธยมแล้ว

เมฆกับผมอยู่คนละคณะกันมันเรียนนิติศาสตร์ ส่วนผมก็อยู่นิเทศ เจอกันเฉพาะช่วงที่ว่าง ไม่เลิกเรียนก็เสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็เวลาที่ว่างตรงกัน ผมกับมันค่อนข้างสนิทกันมากเลยทีเดียวเพราะมีอะไรก็เล่าให้ฟังกันตลอด เรียกว่ารู้กันหมดไส้หมดพุงเลยก็ว่าได้


ส่วนนัทนั้นเริ่มรู้จักเพราะกิจกรรมรับน้องของคณะ รหัสนิสิตมันอยู่ข้างหน้าผม เวลาทำกิจกรรมอะไรก็ต้องนั่งข้างกันตลอดจึงสนิทกันเพราะต้องทำอะไรร่วมกันหลายอย่าง

“เฮียไม่โทรตามไงวะดึกขนาดนี้แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยถาม

“จะเหลือเหรอ” ผมชูหน้าจอมือถือที่สว่างวูบเพราะมีข้อความเข้าจากคนที่กำลังพูดถึง

“มึงก็ตอบกลับดิ”

“ไม่อะ วันนี้มันเมินกู”

“สัส ทำน้อยใจเป็นเด็กไปได้”
“กูเปล่าสักหน่อย!”
“เลิกเล่นเป็นเด็กได้แล้วนิล”เมฆดุผม


“เชี่ย” คนที่นอนบนเตียงตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจ

“เฮียโทรมาหากู!”
“มึงไม่ต้องรับเลยนะ”ผมว่า

“เออ สายตัดไปละ”เมฆบอก

“คืนนี้กูนอนนี่ด้วยนะ”มันพยักคอส่งๆแล้วลุกไปอาบน้ำ

คืนนั้นผมนอนตากแอร์อย่างสบายใจ ส่วนข้อความที่รุ่นพี่(ผัว)ส่งมาก็ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นจนเช้า

โทษฐานที่เมินผม ค่อยคุยกันพรุ่งนี้แล้วกันนะ




“เมื่อคืนไปนอนที่ไหนมา”

ทันทีที่เปิดประตูห้องพักคนที่อยู่ภายในก็เดินตรงมาหาผมแล้วดันประตูให้ปิดเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนคนภายนอก

“ทำไม”

“พี่เป็นห่วง นิลไม่ตอบข้อความพี่เลยนะ”
“ผมจะไปไหนก็ได้ โตแล้ว”น้ำเสียงกวนตีนใส่อีกคน

“นิล” อีกคนทำเสียงขรึมใส่

อย่าเชียวนะโว้ยยยย พี่ไม่มีสิทธิมาโกรธผม!

“อะไร”

“พี่ว่าเราควรคุยกัน”

“ไม่คุย ผมจะอาบน้ำเหนียวตัว”ผมบอกแล้วเดินหนี ร่างสูงไม่ปล่อยให้เดินไปไหน ทันทีที่ผมจะก้าวขาคริสคว้าข้อมือผมไว้แล้วกำรอบมือแน่น

“พี่ถามครั้งสุดท้ายนะนิล”

“ไปนอนที่ไหน พี่โทรไปถามนัท นัทบอกนิลไม่ได้อยู่กับนัท โทรไปหาไอเมฆมันก็ไม่รับ รู้ตัวรึเปล่าว่าพี่เป็นห่วงเรามากแค่ไหน”

ใบหน้าคมนั้นแฝงไปด้วยอารมณ์ตึงเครียด ไหงกลายเป็นผมโดนเล่นเองอะ

“อยู่กับเมฆ”

“เฮ้อ” อีกคนถอนหายใจแล้วเดินหนีผมไป

“อะไรอะ ก็ผมบอกไปแล้วนี่ไง” ผมโวยวาย พี่คริสหันหน้ามามองผมแล้วมองอย่างไม่พอใจ

“พี่เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ชอบเมฆ”

“เมฆมันเป็นเพื่อนผมนะพี่”

“แต่มันก็เป็นแฟนเก…” เสียงท้ายประโยคเบาจนผมไม่ได้ยิน

“เป็นอะไรนะ ผมไม่ได้ยิน”
“เปล่า ไม่รู้แหละพี่ไม่ชอบ ห้ามเลยนะ ห้ามไปไหนกับเมฆสองคนเด็ดขาด!” ประโยคคำสั่งรอบที่ล้านตั้งแต่คบกัน

ผมขี้เกียจจะเถียงพี่มันแล้ว หึงใครไม่หึง มาหึงผมกับไอเมฆ เมฆมันชอบไอนัทว้อยยยยยยยยยย หึงไปก็เสียเวลา


“ไม่ต้องมาสั่งผมเลย พี่เองก็มีคดีติดตัว” ผมมองตาขวาง อีกคนทำหน้าสงสัย

“พี่ทำอะไรผิด”

“เมื่อวานที่หน้าตึก”

“หะ” พี่มันโง่หรือจริงๆมันตอแหลใส่ผมว่ะ!

“ผู้หญิงที่พี่คุยด้วยเมื่อวานที่ชื่อเมย์ไง”

“อ่อ น้องเมย์.. ชิบ” ใบหน้าหล่อนั้นซีดลง

มีเรียกน้องมงน้องเมย์

กับผมไม่เคยที่จะเรียกน้องนิล!

“พี่มีความลับไร” ผมมองอย่าคาดคั้น
“ปะ เปล่า..” เสียงทุ้มสั่น

“ไอคริส!!”

ผมเรียกเสียงดังตาจ้องเขม็งมือคว้าหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มหนาของพี่มันมาไว้ในมือ


หึ หวงนักมากใช่ไหม

“จะบอกไหม” ผมชูหนังสือเล่มโปรดของอีกคน

“พี่ว่าถ้าหน้าปกขาดมันจะเป็นไรปะ ผมว่าคงไม่หรอก เนื้อหาข้างในมันยังอ่านได้นี่เนอะ” ผมยิ้มเย็น ปลายนิ้วบรรจงเปิดหนังสือการ์ตูนในมือเบาๆจากนั้นจับปกหนังสือกางออกเตรียมจะฉีกมันให้ขาด

“อย่านะนิล นั่นลิมิเต็ดเลยนะเว้ย” ใบหน้าหล่อนั้นทำหน้าราวจะร้องไห้แต่ไม่ยอมพูดในสิ่งที่ผมอยากฟังซะที

ดี

ในเมื่อเลือกที่จะเก็บความลับ..







แคว่ก!!


หน้าปกแหว่งไปแล้ว

“นิ๊ลลลลลลลลลล”

ไม่ต้องมาเสียงสูงใส่!!

“พอแล้วที่รัก ใจพี่จะขาดดดด” คริสแย่งหนังสือในมือผมไปเรียบร้อยแล้ว

“สารภาพความผิดพี่มาเดี๋ยวนี้!”

“คือ..”

มึงยังไม่หยุดใช่ไหมไอพี่

“ถ้าพี่ยังเลิกอ้ำอึ้งนะ นิลจะไม่อยู่ห้องนี้แล้ว เชิญพี่ไปชวนน้องเมย์นั้นมาอยู่ด้วยแล้วกัน!!”

“ที่ร๊ากกกกก ฟังพี่ก่อนนนนน” ขาผมถูกยึดไว้ด้วยมือสองข้างของอีกคนที่ตอนนี้นั่งอยู่บนพื้นห้อง

กอดซะแน่นเชียว


“อะไรอีก อยากมีความลับนักไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวผมไปให้เลยเนี้ยไม่อยากรู้แล้ว!”


“พี่ยังอยากรักษาเอกราชของพี่ไว้อีก..”

“เกี่ยวอะไร”

“เมย์เป็นสาวดุ้น..”

เชี่ยย!

สวยขนาดนั้นอะนะสาวดุ้น

“อย่ามาตอแหล” ผมบอกไปอย่างไม่เชื่อ

“จริงๆนะ”

“คืองี้ พี่บอกก็ได้วะ…”

“พรุ่งนี้วันเกิดนิลใช่ไหมล่ะ”

วันนี้วันที่3 งั้นพรุ่งนี้ก็..

“อย่าบอกนะว่าลืมวันเกิดตัวเอง..” ผมพยักหน้ารับ

“พี่ไปขอช่วยให้เมย์เลือกของขวัญวันเกิดให้นิล..”

“พี่เลือกเองไม่เป็นหรือไง”

“แบบว่า..”
ผมจ้องเอาคำตอบ

“คือ สัญญาก่อนห้ามเตะพี่นะ..”
“เออ” ผมบอกปัดอย่างรำคาญ

“พี่ให้เมย์ช่วยเลือกเซ็กส์ทอยให้”

ช็อกไปเลยท่านผู้ชม

“แบบว่าน้องเมย์เขาขายของพวกนั้น แล้วพี่อยากได้สักอันไว้เล่นกับนิลเพื่อให้ในวันเกิดเราไง เลยนัดจะไปดูของที่ห้องน้องเขา ไม่มีอะไรมากกว่านี้จริงๆเว้ย” คนตรงหน้าผมรีบอธิบายอย่างรวดเร็วเพราะกลัวความผิด


ไอพี่คริส

โอ๊ยยยย ไอผัวเวร

จะบ้าตาย ของขวัญวันเกิดกูแต่ทำไมเอื้อมึงจัง

“ทำไมนิลหน้าแดง..” ยังจะถามมม!

“ไม่ต้องมาถามเลย”ผมรีบเดินหนี


คนตัวสูงกว่าคว้าตัวผมไว้แล้วดึงเข้าไปกอด จมูกโด่งนั้นกดลงตรงข้างแก้มเบาๆ

“พี่ขอโทษที่ทำให้คิดมาก”เสียงทุ้มเอ่ยข้างหู

“ยกโทษให้พี่นะคนดี” ผมก้มหน้างุดอย่างรู้ชะตากรรมตัวเอง

เวลาที่อีกคนทำเสียงอ้อนแบบนี้ทีไรมีเรื่องให้เสียตัวทุกที..


ผมโดนจับผลักลงเตียงขนาดใหญ่ที่นอนได้เกินสองคน ร่างสูงของอีกคนโถมตัวลงทับกายเอาไว้ในช่วงล่าง ใบหน้าหล่อคมคายนั้นจ้องผมไม่วางตา


ปลายนิ้วเรียวทำหน้าที่ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาผมออกอย่างอ้อยอิ่ง นัยตาคมนั้นสอดประสานเข้ากับดวงตาผม

“รักนิลนะ”

“รู้แล้วน่า”ผมทำเสียงขึ้นจมูกแกล้งทำเป็นหงุดหงิด ไม่บ่อยนักที่ผมจะเขินให้อีกคนเห็นเพราะกลัวคนตรงหน้าได้ใจ

“พี่เอามันมาลองได้ไหม” คนตัวโตถามตาแป๋ว

“ถ้าพี่ยังไม่หยุดถามนะ ผมจะเอามันไปทิ้ง!” พี่คริสรีบวิ่งไปหยิบของในกระเป๋าเป้ข้างโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือ

ในมืออีกคนถือวัตถุบางอย่างที่ดูฟูๆคล้ายหางอะไรสักอย่าง เมื่อคริสเดินเข้ามาใกล้เขาจึงเห็นของในมือชัดเจนขึ้น

ตรงหางฟูๆนั้นมีแท่งยาวขนาดหนึ่งถึงสองนิ้วโผล่ออกมา

“บอกทีว่าไม่ใช่แบบที่ผมคิด”

คนตรงหน้าพยักคอ


พี่มึงงงงงงง

ไอ้หื่น!!

“พี่จะให้นิลใส่เลย?”
“ไม่ได้เหรอ” ดวงตานั้นดูหงอ

“ถ้าพี่ใส่มันเข้ามาแล้วของพี่ล่ะ..”

ผมใช้ปลายเท้าลูบเบาๆตรงหน้าตักคริสจากนั้นใช้นิ้วเท้าจิกตรงเป้ากางเกงของคนตรงหน้า

แข็งเร็วจริงๆ..

“พี่ไม่อยากให้มันเข้ามาก่อนเหรอ..”

“นิล..” ผมได้ยินเสียงกัดฟันกรอดจากใครบางคนล่ะ

“คริส..”ผมเรียก

“หืม..”

“อาอยากให้คริสเข้ามานะ”

คล้ายๆว่าเส้นความอดทนของใครบางคนได้ขาดสะบั้นไปเรียบร้อยแล้ว มือหนาโยนของเล่นที่ซื้อมาจากรุ่นน้องทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ร่างสูงกดริมฝีปากร้อนบดเข้าหาปากบางของผม

ลิ้นร้อนนั้นสอดเข้ามาแล้วตวัดเกี่ยวไปทั่วโพรงปากจนผมรู้สึกหายใจไม่ออก มือสองข้างที่เคยโอบรอบคอไว้เปลี่ยนเป็นขยุ้มปกเสื้ออีกคนเพื่อบอกเป็นนัยว่าเขาหายใจไม่ทัน

ริมฝีปากผละออกจากกันจนน้ำหวานจากมุมปากอีกคนยืดออกจากปากผม


“อา.. คริสไม่ไหวแล้ว”

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราสองคนเล่นบทบาทอาหลานกันบนเตียง

ทุกครั้งที่ผมแทนตัวเองว่าอา คนตรงหน้ามีอารมณ์อย่างมากทุกที

พอผมถามเขาก็ไม่ยอมบอก บอกแค่อยากเพิ่มสีสันบนเตียงมากขึ้น


มองตาก็รู้ว่าพี่มันโกหก!


“ไม่ไหวก็ไม่ต้องทน” ผมกัดปลายจมูกนั้นเบาๆ

มือของผมปลดพันธนาการเบื้องล่างของอีกคนให้หลุดจากสะโพก คริสทำหน้าที่ดึงมันออกไปจากตัว ต่างคนต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกให้กันและกันจนเนื้อตัวเปลือยเปล่า

ความรู้สึกเย็นจากแอร์ปะทะผิวกายจนผมต้องเบียดตัวเองชิดคนข้างบนเพื่อหาความร้อนจากร่างกายเขา ปลายนิ้วสัมผัสกับช่วงล่างคริสที่กำลังร้อนได้ที่


รู้สึกได้ว่ามันแข็งจนจะระเบิดออกมาแล้ว..


ผมกัดใบหูที่เป็นจุดไวต่อการสัมผัสของคนบนตัวเบาๆอุ้งมือขยับแกนกายร้อนนั้นด้วยจังหวะเนิบนาบ เสียงครางในลำคอร่างสูงนั้นครางออกมาอย่างพอใจ

“ที่รัก ..” ผมปรนเปรอช่วงล่างอีกคนจนส่วนหัวนั้นมีน้ำเยิ้มเต็มไปหมด


สองขาผมถูกอ้าออกด้วยมือคริส นิ้วที่เลอะน้ำกามของคนตรงหน้าถูกเช็ดลงบนแผ่นอกเจ้าของมัน

“ก็ไม่ได้แย่..” ผมบอกเมื่อใช้ลิ้นตวัดเลียนิ้วที่หลงเหลือคราบน้ำรักนั้นเพียงเล็กน้อยหลังจากเช็ดบนอกเจ้าตัวแล้ว

“หัวใจคริสจะวายแล้ว…” ผมหัวเราะเบาๆเพราะคำพูดอีกคน


“อย่ากาก อ๊ะ.. ตรงนั้น” ผมที่กำลังสบประมาทอีกคนต้องร้องเสียงหลงเมื่อนิ้วเรียวนั้นยัดพรวดเข้ามาภายใน

มือข้างที่หลงเหลือยกขาผมพาดสะโพกหนา นิ้วที่สอดเข้ามางอปลายนิ้วเล็กน้อยแล้วขยับเข้าออกเบาๆ เมื่อได้ที่นิ้วที่สองถูกส่งตามมาจนผมรู้สึกแน่นช่วงล่างไปหมด

“คริส อื้อออ..” ผมครางรับเมื่อคริสดึงนิ้วออกแล้วดันช่วงล่างเข้ามาแทน แกนกายอีกคนขยับเข้าออกเฉพาะส่วนหัว ร่างสูงทำแบบนั้นซ้ำๆจนผมเริ่มโมโห

“เอาเข้ามาได้แล้ว!” ผมขู่ฝ่อ พอขยับตัวเบียดช่วงล่างอีกคนเจ้าตัวก็รู้ทันจับท่อนลำนั้นออก

“ยังจะว่าพี่กากอีกไหม”คริสยิ้มเจ้าเล่ห์

“ครับๆ พี่คริสไม่กาก พี่เก่งที่สุดแล้ว อื้อออ คริสเบาลงก่อน!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อชมอีกคนได้ไม่เท่าไหร่ร่างสูงกันจับท่อนลำนั้นยัดเข้ามารวดเดียวแถมยังขยับสะโพกอย่างแรง

“อาแน่นมากเลย รัดจนคริสจะแตกแล้ว..” ริมฝีปากร้อนคลอเคลียข้างหูผม ช่วงล่างยังคงทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน

เสียงเนื้อกระทบกันในห้องดังขึ้นไม่รู้จบจนผมแทบจะชินชากับเสียงเหล่านั้น สองขาที่เคยวางพาดสะโพกใครบางคนไว้ตอนนี้ตวัดโอบรอบเอวอีกคนแน่นอย่างไม่อยากให้ ‘มัน’ ไปไหนไกล


เขาทำมันได้ดีอย่างน่าใจหายเมื่ออยู่บนเตียง ราวกับเป็นคนละคน แววตาร้อนลุ่มนั้นมองผมคล้ายจะกลืนกินไปหมดทั้งตัว ฟันคมกัดไปทั่วแผ่นอกผมจนไม่เหลือที่ว่างให้อีกคนทำรอยแล้ว…


บทรักยังคงดำเนินต่อไปไม่รู้จบครั้งสุดท้ายผมรู้แค่เพียงเห็นแสงสว่างรำไรจากดวงอาทิตย์สาดเข้ามาในห้องเพื่อต้อนรับเช้าวันใหม่

อนาคตคงไม่ต้องทำนาย..

ผมคงได้นอนซมอยู่ในห้องทั้งวันแน่ๆ…



เมื่อลืมตาขึ้นมาในตอนเย็น สายตากวาดไปทั่วห้องก็ไม่เจอตัวการที่ทำให้ผมนอนเดี้ยงบนเตียง


ผมเกลียดการตื่นมาไม่เจอใคร

โดยเฉพาะตอนที่ร่างกายอ่อนแอแบบนี้!


‘อยู่ไหน’

ผมส่งข้อความไปหาคริส

นาฬิกามือถือบอกเวลาว่าผ่านไปราวห้านาทีแล้วแต่เจ้าตัวไม่ยอมตอบ

ผมหย่อนขาตัวเองลงกับพื้นค่อยๆหยัดตัวยืนขึ้นมือค้ำไว้กับผนังห้องเอาไว้

ปลายเท้าสัมผัสกับขนอะไรนุ่มๆสักอย่างเมื่อมองลงไปก็เจอกับของเล่นที่อีกคนซื้อมา


คิดอะไรดีๆออกแล้วล่ะ : )



นิล

ส่งรูป

คริสกลับห้องเดี๋ยวนี้


ทันทีที่รูปถูกส่งออกไปคนในห้องแชทก็รีบโทรกลับหาผมอย่างรวดเร็ว

มันไม่ใช่รูปที่น่าสนใจอะไรหรอก

แค่หางฟูๆที่อีกคนซื้อมานั้นถูกสอดแทรกเข้าช่องทางผมจนมิดด้ามเจ้าของเล่นอันนั้น ขนสีขาวแนบลงกับสะโพกตามแรงโน้มถ่วงพร้อมสะโพกที่แอ่นขึ้นเล็กน้อย..


จบตอนพิเศษ

หวังว่าทุกคนคงพอใจเพราะเราเอามันมาไถ่โทษที่เราได้ทำผิดไปกับทุกคน 555555 รูปที่นิลส่งให้คริสดูไรท์ไม่กล้าลงให้ในเวป กลัวโดนแบน ใครจะดูเราลงไว้ให้ในทวิตนะคะ @bearrybae สุดท้ายนี้คือรักทุกคนน เราเปิดเรื่องใหม่ละนะ ชื่อเรื่อง #หอสาม แนวมัธยมโรงเรียนประจำ อย่าลืมไปตามกันด้วยน้า







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2018 16:57:38 โดย Beerng »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด