[END] Twins Love รักของฝาแฝด l ตอนที่ 24 หัวใจ l 07-08-62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] Twins Love รักของฝาแฝด l ตอนที่ 24 หัวใจ l 07-08-62  (อ่าน 17023 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



Twins Love รักของฝาแฝด


ความรักของแฝดคนพี่เป็นรักที่หน่วงหัวใจ เมื่อคนที่เรารักไม่ได้รักเรา แต่เขาดันไปรักคนที่มีหน้าตาเหมือเราทุกอย่าง ‘พีช’ เป็นผู้พิการทางการได้ยิน แอบรัก ‘กล้า’ เพื่อนในกลุ่มตัวเอง พีชยินดีที่จะแอบรักแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าในสายตาของไม้จะมีแต่พลับ น้องชายฝาแฝดของตนเอง แต่เรื่องมันก็วุ่นวายขึ้นมาเมื่อกล้ามาจูบพีชเพราะคิดว่าคนที่ตนเองจูบด้วยคือพลับ และตามมาด้วยเหตุการณ์ที่มันลึกซึ้งยิ่งกว่าจูบโดยที่พีชเต็มใจให้มันเกิดขึ้น
พีชหลับตา หยดน้ำเม็ดน้อยไหลออกมา หยดน้ำตาแห้งความสับสน รู้สึกดีที่ได้ทำแบบนี้กับกล้าแต่ก็รู้สึกอิจฉาน้องชายตัวเอง เพราะความอ่อนโยนทั้งหมดนี้ กล้าคงตั้งใจมอบให้น้องชายเขา
พีชไม่รู้สึกโกรธกล้าเลยที่เข้าใจผิด พีชรู้อยู่แล้วว่า คนที่กล้าตั้งใจจะกอดคือพลับ รู้ว่ากล้าสับสน แต่พีชก็เป็นคนที่เต็มใจให้กล้าเอง
รู้ว่าเป็นตัวแทน แต่ก็ยังเต็มใจให้กอด


ส่วนความรักของแฝดคนน้องนั้นก็เหมือนจะเป็นรักที่สมหวัง แต่ ‘พลับ’ รู้ดีว่าไม่ใช่ เพราะการที่ได้คบกันในครั้งนี้มันมาจากความผิดไม้พลาดแค่คืนเดียว ‘ไม้’ ยืนยันที่จะรับผิดชอบกับเรื่องที่ล่วงเกินพลับไปโดยการคบกัน พลับรู้ว่าพี่ไม้ไม่ได้รักตนเองเลยแต่ก็จะพลิกวิกฤตนี้เป็นโอกาส เป็นเด็กดีให้พี่ไม้เปลี่ยนใจมารักเขาจริง ๆ ให้ได้
“ขอโทษที่มันกะทันหันนะ ตอนนี้เราอาจจยังไม่ได้รักกัน แต่ถ้าเราอยู่ด้วยกันบ่อย ๆ มันอาจจะดีขึ้นได้” ไม้พูดตามที่คิด พลับเป็นเด็กดี น่ารัก คบๆ กันไป ได้รู้จักกันมากขึ้น ไม้อาจจะรักเด็กตรงหน้าได้ เพราะลองนึกถึงเรื่องที่ทำกันเมื่อคืน เขาก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรเลย
“ครับ สักวันเราจะรักกัน” ...สักวันพี่ไม้จะต้องรักพลับ


เรืื่องนี้ติดแท็ก #รักของฝาแฝด นะคะ


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2019 11:18:22 โดย Loammy »

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1

ตอนที่ 1 บทนำ : สายตาเธอไม่มีฉัน ฉันมองเธอไม่คลาดสายตา...

ร้านกาแฟเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตที่เด็กมหา’ลัยเลือกที่จะใช้เป็นสถานที่ในการนัดติวหนังสือ พีชและพลับก็เช่นกัน วันนี้เขานัดเพื่อน ๆ ในกลุ่มมาติวหนังสือที่นี่

“พีช เดี๋ยวกูออกไปรับกล้ากับพี่ไม้ รออยู่นี่ อย่าไปไหนนะ” พลับแฝดคนน้อง หันไปคุยกับพี่ชาย ออกเสียงชัดเจนและทำภาษามือควบคู่ไปด้วย พีชแฝดพี่พยักหน้า บอกกับน้องชายตัวเองว่าเขาจะไม่เดินไปไหนแน่นอน

พีชและพลับ เป็นฝาแฝดชาย เกิดห่างกันประมาณ 2 นาที เป็นแฝดจากไข่ใบเดียวกัน ทำให้มีลักษณะร่างกายภายนอกเหมือนกัน ต่างก็แค่เพียงนิสัยและเครื่องช่วยฟังที่สอดอยู่ในหูของพีชเท่านั้น พีชเป็นผู้พิการทางการได้ยินระดับ 4 เป็นระดับที่ค่อนข้างรุนแรง แต่สามารถได้ยินเสียงดัง ๆ หรือเสียงที่อยู่ใกล้ในระยะหนึ่งฟุตได้ ถึงแม้ว่าพีชจะใส่เครื่องช่วยฟังแต่ก็มีปัญหาในการแยกเสียงและสระ ส่งผลให้เวลาที่คนอื่นพูดเขาต้องอาศัยการอ่านปากคู่สนทนาควบคู่ไปด้วย

“พีช พลับไปไหน” แบงก์เพื่อนอีกคนในกลุ่ม สะกิดถามพีช เมื่อกลับมาที่โต๊ะแล้วไม่เห็นว่าพลับอยู่ด้วย พีชหันไปมอง แล้วทำหน้างง แบงก์เลยขยับตัวเข้าไปใกล้และพูดด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม

“พลับไปไหน” พีชรีบหยิบสมุดโน้ตคู่ใจขึ้นมาเขียน แล้วส่งให้แบงก์ดู

‘ไปรับกล้ากับพี่ไม้ที่หน้าร้าน’

แบงก์พยักหน้าเข้าใจแล้วก็เอนหลังพิงโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกับแฟนสาวต่อ พีชวางสมุดนั้นไว้ข้าง ๆ ตัว สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นกับเขามากเอาไว้ใช้สื่อสารกับคนทั่วไปที่ใช้ภาษามือไม่เป็น เขาจะใช้โทรศัพท์พิมพ์แล้วให้คนอื่นอ่านก็ได้แต่ว่าพีชเคยชินกับการเขียนมาตั้งแต่เด็ก เขาเขียนเร็วกว่าพิมพ์บวกกับชอบสะสมสมุดโน้ตเล่มเล็กที่มีลายน่ารัก ก็เลยเลือกใช้วิธีนี้ในการสื่อสารดีกว่า พีชหูหนวกแต่สามารถส่งเสียงได้ เพียงแต่พูดเป็นประโยคไม่ได้มันเป็นผลกระทบจากข้อบกพร่องของเขา

รอไม่นานพลับก็เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายตัวสูงสองคน พีชเห็นแล้วก็ยิ้ม รีบขยับตัวให้พลับนั่งข้าง ๆ แล้วก็จัดที่ให้ผู้ที่มาใหม่

“ให้พี่ไม้ไปนั่งข้างพีชดีกว่านะ เวลาอธิบายพีชจะได้พอได้ยินบ้าง” กล้าพูดแนะนำพี่ชายแล้วนั่งลงข้าง ๆ พีชที่นั่งอ่านปากของกล้าตาเขม็ง พอรู้เรื่องจับใจความได้ หนุ่มน้อยก็ยิ้มออกมา แววตาเป็นประกายเมื่อได้นั่งใกล้กับคนที่ตนเองชอบ และรู้สึกดีใจที่กล้าใส่ใจข้อบกพร่องของเขา

ไม้พยักหน้า ขยับตัวเปลี่ยนที่กับพลับ แล้วทดลองพูดในระดับเสียงที่คิดว่าพีชจะพอที่จะได้ยินบ้าง

“พี่พูดดังระดับนี้ พีชได้ยินเสียงพี่ชัดมั้ยครับ?” พีชพยักหน้าแล้วยิ้ม

ไม้และกล้าเป็นพี่น้องที่อายุห่างกัน กล้าอายุ 21 ปี เท่ากับฝาแฝด ส่วนพี่ไม้นั้นอายุห่างจากกล้าถึง 8 ปี ตอนนี้เป็นอาจารย์ในมหาลัยที่พวกเขาเรียนอยู่ เพียงแต่ไม้เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ ส่วนพวกเขานั้นเรียนอยู่คณะศิลปกรรมศาสตร์ที่บังเอิญลงวิชาวิทยาศาสตร์ที่เป็นวิชาเลือกในเทอมนี้ กล้าเลยขอร้องให้พี่ชายสายวิทย์มาติวหนังสือให้เด็กสายศิลป์อย่างพวกเขา 

พวกเขาใช้เวลาติวกันค่อนข้างนาน เพราะเด็กสายศิลป์อย่างพวกเขานั้นมักคิดว่าวิทยาศาสตร์เข้าใจยาก มีอะไรที่เยอะแยะซับซ้อนให้จำ จะคิดขึ้นมาใหม่ก็ไม่ได้ ต้องทำตามสูตรที่มี กว่าจะเข้าใจตรงส่วนที่ออกสอบกัน ก็ทำเอาฟ้าสว่าง ๆ นั้นมืดลงไปแล้ว

“พี่คงติวให้พวกเราได้แค่นี้นะ ส่วนอื่น ๆ ก็ต้องท่องจำกันเอาเอง อย่างลืมท่องสูตร ตัวแทนค่าต่าง ๆ ไปด้วยล่ะ ตามแนวข้อสอบเลย” ไม้รวบชีทติวต่าง ๆ มารวมกันอย่างเป็นระเบียบ ถอดแว่นอ่านหนังสือออก พับเก็บใส่กล่องแว่นอย่างดี หลังจากนั้นก็เอนหลังพิงพนักพิงพลางโยกคอไปมาขับไล่ความเมื่อยขบบริเวณต้นคอ

การเคลื่อนไหวทุกอย่างของไม้อยู่ในสายตาของพลับ สิ่งที่ไม้ติวให้แทบไม่เข้าหัวเขาเลย เพราะเขาไม่ได้สนใจมันเท่าไร พลับมัวแต่สนใจนิ้วมือเรียวสวยที่ไล้ไปตามแผ่นกระดาษและใบหน้าสุขุมมุ่งมั่นของไม้อยู่ตลอดจนลืมเรื่องอื่น ๆ การนั่งมองหน้าของไม้ตลอดช่วงบ่ายนั้น ทำให้พลับรู้สึกมีความสุขมาก

“พี่ไม้ปวดคอเหรอครับ” พลับถาม อยากจะยื่นมือไปสัมผัสต้นคอของไม้แล้วนวดผ่อนคลายให้ แต่ก็คิดว่าไม่สมควร ใช่แล้วเขาชอบพี่ไม้ มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับพลับ ที่ตัวเองชอบผู้ชาย พลับรู้มาตั้งแต่วัยวุ่นว่าเขาชอบอะไร เขามีรักแรกเป็นรุ่นพี่ในชมรมตอนมัธยมสอง คนที่เขาแอบชอบแต่ละคนมักจะมีอายุมากกว่าเสมอ เพราะพลับแพ้ทางผู้ชายอบอุ่น สุขุมและนิ่ง มาดผู้ใหญ่ และพี่ไม้ก็ตรงสเปกเข้าอย่างจังเลย

“อืม นั่งก้มนานไปน่ะ”

เขานั่งงอตัวติวให้เด็กพวกนี้มาครึ่งวัน อธิบายไปไม่รู้กี่ครั้ง สิ่งที่ได้กลับมาคือสายตางง ๆ พอถามว่าไม่เข้าใจตรงไหน เจ้าพวกนี้ดันถามกลับมาว่าเมื่อกี้เขาอธิบายเรื่องอะไร ทำเอาเขาเหนื่อยใจไปเลย

“ขอสอบออกอะไรบ้างเหรอพี่ไม้”

แบงก์ถามในขณะที่มือก็แชทกับแฟนสาวอยู่ ไม้มองแล้วส่ายหน้า เสียงแจ้งเตือนแชทของเจ้าเด็กนี่ก็ดังแทบตลอดเวลา เขามองลอดแว่นอยู่หลายครั้ง เจ้านี่ก็ยังไม่รู้สึกรู้สา ตอนติวก็ไม่ค่อยตั้งใจ แถมตอนนี้ยังจะมาหลอกถามข้อสอบจากเขาอีก น่าแจกเกรดเอฟเป็นรางวัล

“พี่ไม้เขาแอบบอกข้อสอบไประหว่างติว มึงมัวแต่คุยกับแฟนน่ะสิ เลยไม่ได้ยิน” กล้าพูดแหย่ แบงก์วางโทรศัพท์ทันที ทุกคนในโต๊ะต่างหัวเราะกับท่าทางแบบนั้น พีชเองก็หัวเราะ อยากมีส่วนร่วมไปกับกล้า ถึงแม้ว่าจะอ่านปากกล้าไม่ทัน ไม่รู้ว่ากล้าพูดอะไรก็ตาม

“แฮะ แฮะ แฮะๆ” ทุกคนหันไปมองเสียงหัวเราะประหลาด ๆ ของพีช คนตัวเล็กหยุดหัวเราะแล้วยิ้มแหย ๆ เพราะว่าเขาไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ไม่รู้ว่าต้องออกเสียงยังไง เสียงที่เปล่งออกไปมันเลยแปลกประหลาด บางครั้งก็ดังบางครั้งก็เบา

“หัวเราะเสียงดังเกินไปแล้วพีช” พลับยิ้มอย่างอ่อนโยน เตือนพี่ชายตัวเอง ทำภาษามือประกอบ แฝดคนพี่ก้มหน้าลงแล้วยิ้มอ่อน พีชกังวลกับเสียงตัวเองตอนที่เปล่งออกไป เขาไม่รู้ว่าเสียงเป็นยังไง มันดีหรือมันแย่ยังไง เขาไม่อยากให้กล้าให้ยินเสียงแปลก ๆ ของตัวเขาเองเลย พีชพูดกับตัวเองในใจว่าวันหลังจะไม่หัวเราะเสียงดังแบบนี้อีก

พลับ แฝดคนน้องก็เข้าใจดีว่าพีชรู้สึกยังไง เลยพยายามส่งยิ้มให้อย่างเข้าใจ แล้วคอยสบตาให้กำลังอีกฝ่ายอยู่ตลอด

“พีช หัวเราะเหมือนเสียงแพะเลย น่ารักดี 55555” กล้าสะกิดพีชให้หันมามอง แล้วก็พูดให้พีชอ่านปากตัวเองได้ พีชมองตามแล้วก็ยิ้ม ดีใจที่โดนกล้าชม กล้าใจดี พีชยิ้มจนแก้มแทบปริ ดีใจกับคำพูดของกล้า ถึงแม้ในใจลึก ๆ จะรู้ว่า เพราะอะไรกล้าถึงพูดแบบนั้นกับเขา

พีชเงยหน้ามองกล้าที่ยิ้มกว้าง เขาชอบรอยยิ้มกว้างๆของกล้าแบบนี้ มองกี่ทีก็ดูสนุกสนาน แต่รอยยิ้มเหล่านั้น กล้าตั้งใจส่งไปให้พลับตังหาก พอมองตามสายตาของกล้าไปก็จะพบว่า...

 กล้าน่ะ คอยมองพลับอยู่ตลอดเลย ไม่เคยมองมาที่เขาอย่างตั้งใจเลยสักครั้ง พีชรู้...รู้มาตลอดว่ากล้าแอบชอบพลับ น้องชายฝาแฝดของเขา แล้วสิ่งที่ทำให้พีชรู้สึกลำบากใจไปยิ่งกว่านั้นก็คือ พลับก็คนที่ชอบอยู่แล้วเหมือนกัน พี่ไม้ไง

ในสายตาของกล้ามีแต่พลับ ในสายตาของพลับก็คงมีแต่พี่ไม้...

พีชก้มหน้าลงเม้มปากน้อย ๆ  แล้วเงยหน้ามองคนทั้งสามคนตรงหน้าอีกครั้งพลางถอนหายใจออกมา

เขาเข้าใจดีว่าความรักมันวุ่นวาย ความรักมันถูกออกแบบโดยธรรมชาติว่าให้มีกันเป็นคู่ แต่เมื่อมันมีมากกว่าสองคนเมื่อไร มักจะมีวุ่นวายและเจ็บปวด ตามมาเสมอ....


เย้ๆ เปิดเรื่องใหม่แล้ว คำโปรยอาจจะดูเป็นนิยายดราม่า แต่ก็ไม่ถึงขนาดอ่านไปน้ำตาไหลไปแน่นอน แค่หน่วงๆ นิดหน่อย แต่เราอ่ะไม่ถนัดแนวดราม่าอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมีนิดเดียวแน่นอน พอทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแล้วเราจะมาละมุนละไมดีต่อใจไปด้วยกันจ้า

เรื่องนี้เปลี่ยนแนวการเขียนเล็กน้อยค่ะ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด ติดตามกันด้วยนะคะ

ปล.เรื่องข้อบกพร่องทางการสื่อสารของมิวนั้น หาข้อมูลค่อนข้างยาก ที่เจอก็มีเพียงข้อมูลเพียงผิวเผิน บางตอนในการเขียนเราก็อยากรู้อะไรที่ละเอียดกว่าแค่อาการเบื้องต้น หากใครที่รู้แหล้งข้อมูลหรือหนังสือที่เกี่ยวข้องรบกวนแนะนำเราด้วยนะคะ หรือนักอ่านที่มีอาการคล้ายกับมิว สามารถบอกและแนะนำข้อมูลกับเราได้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2018 20:52:54 โดย Loammy »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น


“โอโห สุดยอดไปเลยพี่ไม้ ได้ห้องดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย พวกผมนี่เกรงใจเลย” กล้าร้องออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อเปิดม่านของห้องพักแล้วพบกับวิวทะเล ที่สวยสบายตาตรงหน้า ห้องชุดที่พี่ชายเขาจัดการให้นี่มันสุดยอดมาก มีสองห้องนอน มีห้องนั่งเล่นรวม แถมยังมีทีวีจอใหญ่พร้อมเครื่องเกมส์รุ่นใหม่อีก นี่แหละ เหมาะแก่การผ่อนคลายสมองหลังสอบที่สุด

“อย่ามาพูดว่าเกรงใจ แกเป็นคนรีเควสห้องนี้เองแท้ ๆ” ไม้ส่ายหน้าแล้วส่งยิ้มเอือมให้น้องชายตัวเอง หลังจากสอบปลายภาค เด็กพวกนี้ก็อยากจะไปเที่ยวพักผ่อนกัน น้องชายก็เลยขอมาพักที่รีสอร์ททางทะเลใต้ที่เขากับเพื่อนรวมทุนกันสร้างไว้ เขาเองก็เห็นว่าน้องชายและเพื่อนเครียดกับการสอบมากจริง ๆ เลยอนุญาตให้ใช้ห้องที่ดีขนาดนี้ได้

“มีสองห้องเหรอ พอดีเลย แฝดก็นอนด้วยกัน เดี่ยวกูนอนกับแบงก์ โอเคมั้ย?” กล้าจัดแจงแบ่งห้อง แล้วก็เดินเข้าห้องทางด้านซ้ายเพื่อนำกระเป๋าไปเก็บ โดยมีแบงก์เดินตามเข้าไป เห็นแบบนั้น พีชก็เดินเข้าห้องทางขวา ตอนนี้ห้องนั่งเล่นจึงเหลือเพียงพลับและไม้เท่านั้น

 “อ...เอ่อ แล้วพี่ไม้นอนไหนเหรอครับ พวกเรายึดห้องกันหมดเลย” พลับถาม แววตาใสรอคอยคำตอบ อยากรู้ว่าพี่ไม้จะนอนที่ไหน ไม่ได้หวังว่าจะย่องไปทำมิดีมิร้ายตอนกลางคืน แค่อยากรู้ไว้ว่าจะได้นอนใกล้กันรึเปล่า

“พี่มีห้องที่พักประจำของพี่อยู่แล้ว พี่นอนกับพวกเราไม่ได้หรอก แฟนพี่จะตามมาเย็นนี้” ไม้พูดแล้วก็ยิ้มบาง เขาดีใจเล็กน้อยที่รู้ว่าเย็นนี้จะได้พบกับแฟนสาวที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบครึ่งปี แฟนเขาทำงานเป็นแอร์โฮสเตส นาน ๆ เจอกันที วันหยุดก็ไม่ตรงกัน แถมช่วงหลังมานี้ เขาและแฟนทะเลาะกันบ่อยและรุนแรงขึ้นเพราะไม่มีเวลาให้กัน การได้มีโอกาสมาเจอกันต่อหน้านี่ ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาแล้ว

“อย่างงั้นเหรอครับ” พลับหลุบตาลง แววตาอ่อนแสง เมื่อได้ฟังเหตุผลและเห็นความดีใจเล็ก ๆ ของพี่ไม้ พลับรู้ดีว่าไม้มีแฟนสาวอยู่แล้ว พวกเขาคบกันมานาน เท่าที่เคยถามกล้า ก็พอรู้ว่าคบกันตั้งแต่พี่ไม้เรียนมหาวิทยาลัย ไม่เห็นทางที่จะเข้าไปแทรกได้เลย แต่พลับก็ไม่คิดจะเข้าไปแทรกกลางความสัมพันธ์นั้นอยู่แล้ว พลับรู้ดีว่าควรยืนอยู่จุดไหนถึงจะดีต่อหัวใจของเขาที่สุด

“เดินทางกันมานาน เข้าไปพักผ่อนเถอะ ตอนเย็นเดี๋ยวพี่มาเรียกกินซีฟู้ดที่ชายหาด” ไม้ตบใหล่พลับเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป

“ครับผม” พลับตอบเสียงเบา มองตามแผ่นหลังกว้างของไม้จนออกจากห้องไป แล้วก็หลับตาลง บอกกับหัวใจตัวเองไว้ว่าอยู่ในที่ของเองนั้นดีแล้ว อย่าไปคิดก้าวก่ายอะไรมาก ได้อยู่ใกล้ไม้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยเขาก็เห็นเราเป็นน้องชาย

พลับยืนอยู่อย่างสักพัก จนพีชเดินออกมาตาม พลับถึงเดินตามพี่ชายเข้าห้องพัก

‘เป็นอะไรรึเปล่า’

พีชสะกิดให้น้องชายหันมามองแล้วถามด้วยภาษามือ พลับหันไปยิ้มตอบกลับไปว่าไม่ได้เป็นอะไรแต่พีชรู้ว่าน้องชายของตนนั้นคงรู้สึกไม่ดี เขาแอบอ่านปากพี่ไม้ก็ได้รู้ว่าเย็นนี้แฟนของพี่ไม้จะมาที่นี่ พีชเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องของพลับ เพราะการเป็นแอบรักคนมีเจ้าของมันเป็นเรื่องที่ต้องหักห้ามและทำใจ

“พีชทำหน้าเศร้าทำไม เราไม่ได้เป็นอะไร แค่เพลียเพราะเดินทางนานน่ะ อยากพักผ่อนมั้ย หรืออยากไปเล่นน้ำทะเล”

‘ทะเล!’

พีชคิดว่าอยู่ห้อง พลับต้องคิดจนหดหู่แน่ ๆ ออกไปเล่นน้ำกันดีกว่า มาเที่ยวทั้งที มัวแต่อยู่ในนี้ เสียเที่ยวหมด

“โอเค เปลี่ยนชุดกันก่อนนะ” พลับพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ทำเป็นยิ้มแล้วชูมือขึ้น ทำท่าน่าสนุกให้พีชได้เห็น เขาน่ะกลัวสายตาของพีชที่สุดเลย พีชสังเกตคนอื่นเก่ง ถึงแม้ว่าหูจะหนวก แต่สายตาเฉียบแหลมมาก วลาที่โกหกหรือมีพิรุธอะไร พีชมักจะดูเขาออกเสมอ แต่ขออย่าให้พีชดูเขาออกในเรื่องพี่ไม้เลย มันไม่สมควรจริง ๆ กับการไปรักคนมีเจ้าของ

“พีชใส่เสื้อตัวนั้นเหรอ เราเอามาเหมือนกัน ใส่ด้วยดีกว่า” พลับเห็นเห็นว่าพีชใส่เสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาสั้นสำหรับเล่นน้ำ ก็เลยคิดว่าจะใส่เหมือนกัน เพราะคิดว่าเป็นชุดที่เหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลที่สุดแล้ว สองแฝดใส่ชุดเหมือนกัน พีชก็ถอดเครื่องช่วยฟังออกเตรียมพร้อมเล่นน้ำ ทำให้ทั้งสองคนเหมือนกันมาก แทบจะไม่มีจุดที่ดูแตกต่างกันเลย

“เราลืมพกเงินลงมาน่ะ พีชรออยู่ตรงนี้นะ” เมื่อจะเช่าห่วงยาง ถึงได้รู้ว่าลืมเอาเงินลงมาด้วย พีชจึงยืนรอบริเวณนั้น คล้อยหลังพลับไปแค่ครู่เดียว กล้าก็วิ่งเข้ามาจากอีกทาง พีชมองไปทางอื่นเล็กน้อย แล้วเม้มปาก ตอนนี้กล้าไม่ได้ใส่เสื้อ ทั้งตัวมีเพียงกางเกงว่ายน้ำ พอเห็นร่างกายที่มีกล้ามเนื้อพอดีของคนที่แอบชอบ มันก็เลยรู้สึกเขินขึ้นมา

“พลับ ลงมาเล่นน้ำทำไมไม่บอกจะได้ลงมาด้วยกัน” กล้าถามขณะที่วิ่งเข้ามาหา พีชทำได้แค่ยิ้มให้ กล้ากำลังเข้าใจผิดคิดว่าเขาคือพลับ คนตัวเล็กส่ายหน้า ยกมือปฏิเสธจะบอกว่าเขาไม่ใช่พลับ แต่กล้าไม่เข้าใจภาษามือ เขาเอาแต่มองหน้าแล้วก็ยิ้ม ไม่ได้เอะใจว่าพีชต้องการสื่อสารอะไร

“จะเช่าห่วงยางเหรอ เดี๋ยวเราจัดการเอง” พูดเสร็จก็หันไปพูดอะไรบางอย่างกับพนักงาน แล้วเขาก็ให้ห่วงยางวงใหญ่มาหนึ่งวงโดยที่กล้าไม่ต้องจ่ายเงินเลย พีชมองอย่างไม่เข้าใจ กล้าเห็นท่าทางนั้นแล้วก็ยิ้ม กอดคอพีชเดินไปที่ทะเล

“5555 บอกชื่อพี่ไม้ไปน่ะ ให้เขาไปเก็บที่พี่แกเลย พลับอยากกินอะไรในรีสอร์ทก็เลือกได้เลย เดี๋ยวพี่ไม้เขามาตามจ่ายเอง” พีชอ่านปากกล้าอย่างตั้งใจ กล้าเข้าใจว่าเขาคือพลับ พีชเองก็ขี้เกียจจะแก้แล้ว บอกไปกล้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เดี๋ยวเล่นด้วยกันสักพักกล้าคงจะรู้เองแหละว่าไม่ใช่พลับ เพราะพลับไม่เงียบนานขนาดนี้แน่ ๆ พลับน่ะพูดเก่งจะตาย

พีชตกใจนิดหน่อยเมื่อปลายเท้าได้สัมผัสกับความเย็นสดชื่นของน้ำทะเลโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะไม่มีเครื่องช่วยฟัง เลยไม่ได้ยินเสียงลม เสียงน้ำ เสียงทะเล การได้ยินของพีชในในตอนนี้คือเกือบเท่ากับศูนย์ แทบไม่ได้ยินอะไรเลย นอกจากเสียงอื้ออึงของระบบการทำงานในร่างกายตัวเอง

กล้าพาพีชเดินลงในน้ำจนถึงระดับหน้าอก น้ำเย็นทำให้พีชสบายตัว และสดชื่น อีกทั้งความรู้สึก ดีใจ สบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้กล้า พีชใช้ฝ่ามือตีน้ำไปมา สองเท้าก็ไล้ทรายนุ่มใต้น้ำ เงยหน้ารับแสงแดดและยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวเล็ก ๆ

กล้ามองแล้วก็ยิ้มตาม หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น มองแก้มขาวที่แดงระเรื่อเพราะแสงแดด อยากจะฝังจมูกลงไป อยากรู้ว่าแก้มนั้นจะนุ่มขนาดไหน เขาชอบพลับ ไม่รู้ว่าชอบมากขนาดไหน แต่มีความสุขเกินจะบรรยายทุกครั้งที่ได้คุยได้มอง ได้อยู่ใกล้แบบนี้

กล้ามองดูคนตรงหน้าที่กระโดดดึ๋ง ๆ เข้าหาคลื่นที่โถมเข้าใส่เป็นลูกๆ จนมาถึงคลื่นลูกล่าสุดที่เจ้าตัวกระโดดผิดจังหวะไปหน่อย ทำให้คลื่นนั้นซัดเข้าหน้าไปเต็ม ๆ เลย กล้าหัวเราะ ดึงมือคนตรงหน้าให้เกาะห่วงยางไว้เพื่อหลบคลื่นที่กำลังจะซัดเข้ามาที่ลูก  แต่ก็ไม่รอด เพราะพลับจัดเป็นผู้ชายที่เรียกว่าตัวเล็กหรือจะเรียกว่าเตี้ยก็ได้ น้ำระดับหน้าอกของเขาเท่ากับระดับคอของพลับเลยทีเดียว คลื่นซัดมาทีก็เลยท่วมหัวพลับไปหมด คนมองดูคนตรงหน้าใช้มือลูบหน้า สำลักน้ำทะเลค่อกแค่กแล้วก็หัวเราะออกมา

“พลับขึ้นไปนอนบนห่วงยางมั้ย เดี่ยวเราอุ้มให้ น้ำจะได้ไม่เข้าปากแบบนี้”

พีชมองกล้าที่ยิ้มกว้างแล้วพูดอะไรบางอย่างเป็นเหมือนคำถาม พีชไม่สามารถอ่านปากได้ เพราะกล้ายิ้มกว้างมาก เวลาพูดทำให้อ่านปากได้ยาก แต่พีชก็เต็มใจจะพยักหน้า ถึงแม้ไม่รู้ว่ากล้าหันมาถามอะไร

“อ๋า!” พีชหลุดเสียงแปลก ๆ ออกไป เพราะจู่ ๆ เขาก็โดนกล้าโอบเอวแล้วอุ้มขึ้นไปนั่งบนห่วงยาง โดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว จนต้องผวากอดคอกล้าเอาไว้แน่น

ในตอนนี้ทั้งกล้าทั้งพีชต่างก็ชะงักกันไปทั้งคู่ เพราะใบหน้านั้นอยู่ใกล้กันมาก ทั้งคู่แทบจะหยุดหายใจกับความใกล้นี้ ทั้งที่ควรจะผละออกจากกัน แต่พวกเขาทั้งคู่กลับอยู่นิ่ง ๆ มองหน้าของอีกฝ่ายไว้

กล้าอยากจะมองหน้าพลับใกล้ ๆ แบบนี้ อยากอยู่ใกล้ อยากสัมผัส อยากดูแล อยากทำอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยกัน อยากเป็นแฟนของพลับ แต่เพราะกล้าไม่กล้าบอกไป พลับน่ารักก็จริง แต่ถึงยังไงพลับก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าครอบครัวจะรับได้แค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เขาไม่รู้ว่าพลับคิดอย่างไรกับตัวเขา อยากจะลองสารภาพดูสักครั้ง จะได้รู้ ๆ กันไปเลยว่า เขาสมหวังหรือไม่ แต่ความจริงมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ถ้าได้สมหวังกับพลับ มันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าผิดหวังล่ะ...ผิดหวังแต่ยังเป็นเพื่อนกันได้ เขาก็พร้อมที่จะยอมรับ แต่ถ้าผิดหวัง...แล้วพลับตีตัวออกห่าง ถ้าพลับรับไม่ได้ที่มีเพื่อนคิดไม่ซื่อด้วยแบบนี้ เขาคง...ไม่บอกไปดีกว่า

แต่ตอนนี้ ตอนที่ใบหน้าทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก แล้วเหมือนจะมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างทำให้กล้าขยับใบหน้าเข้าไปหาพลับมากยิ่งขึ้น ยิ่งอีกฝ่ายไม่ขยับหนี เขาก็ยิ่งได้ใจ ขยับเข้าไปจนปลายจมูกทั้งสองชนกัน ถึงแม้ว่าสมองจะสั่งให้เขาขยับออก อย่างเพิ่งทำอะไรวู่วามตามอารมณ์ แต่ลึก ๆ มันก็คิดว่าที่คนตรงหน้าเขาไม่ขยับหนี นั่นก็แปลว่าพลับรอสัมผัสจากเขาเหมือนกันรึเปล่า...

ทางฝั่งของพีชนั้นก็กำลังสับสนอย่างหนัก สมองว่างเปล่าไปแล้ว แต่หัวใจยังคงเถียงกันอยู่ ว่าจะอยู่เฉย ๆ แบบนี้แล้วฉวยโอกาสจากกล้าที่กำลังเข้าใจผิดคิดว่าเขาคือพลับ หรือควรถอยหนี อย่างไหนมันดีกว่ากัน เขาสมควรเลือกทางไหน พีชเองก็ไม่ชอบนักหรอกที่กล้าทำไปเพราะเข้าใจผิด แต่พอคิดดูดี ๆ แล้ว โอกาสแบบนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแล้วแน่ ๆ

สุดท้ายแล้วพีชก็ไม่ได้ขยับออก ริมฝีปากทั้งคู่สัมผัสกันแผ่วเบา แล้วค้างไว้อย่างนั้น พีชหลับตาลงแล้วซึมซับความอุ่นตรงริมฝีปากนั่นไว้ เขาจะไม่มีทางลืมความรู้สึกแบบนี้เด็ดขาดเลย 

ทางด้านของกล้า พอได้เห็นว่าคนตัวเล็กไม่ได้ขยับหนีแถมยังหลับตารับสัมผัสจากเขาอีก ก็ยิ่งได้ใจ ใช้สองมือกุมแก้มของอีกฝ่ายไว้ เขาหลับตาลงแล้วเริ่มขบเม้มริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนโยน ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มนิ่มเบา ๆ ไปมา ผ่านไปเนิ่นนาน ทั้งสองก็ขยับออกจากกันช้า ๆ อยากจะก้มลงไปจูบอีกครั้งแต่ แต่ก็กลัวว่าตัวเองจะเป็นลมไปเสียก่อน เพราะตอนนี้หัวใจของเขาทำงานหนักมาก ยิ่งเห็นว่าพลับหน้าแดงแจ๋ ทางเขินอาย ไม่กล้าสบตาแบบนี้ ก็ยิ่งดูว่าน่ารัก ใจเขาก็แทบละลาย

ทั้งคู่เงียบกันไปนาน กล้ามองใบหน้าแดง ๆ นั้นแล้วก็ลูบแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ เชยคางให้คนตรงหน้าเงยขึ้นมามองตาเขา

“พลับ พูดอะไรบ้างสิ”

พีชอ่านปาก พอรู้ว่ากล้าพูดอะไร เขาก็ส่ายหน้าหันหนีไปทางอื่น เห็นกล้าเรียกชื่อน้องชายตัวเองแล้วก็รู้สึกโหวงเหวงในใจ เขินก็ส่วนเขิน แต่ใจมันก็หน่วงอยู่ดี พีชเงยหน้ามองกล้า ทางนั้นก็หน้าแดงเหมือนกัน เขาคงเขินที่คิดว่าได้จูบกับพลับ พีชเม้มปากดันตัวออก ส่งยิ้มบางให้กับกล้า แล้วขยับตัวลงจากห่วงยาง รีบเดินกลับเข้าฝั่ง แล้วรีบวิ่งขึ้นห้องพักทันที

เขินเกินไป หากพีชมองหน้ากล้าอีกอาจจะระเบิดไปเลยก็ได้ ขอหนีขึ้นห้องดีกว่า

“พีช ไปไหนมา หาตั้งนาน บอกให้รอไง” ระหว่างที่กำลังวิ่งขึ้นห้องพัก ก็สวนกับพลับที่หน้าตาตื่นเพราะหาพีชไม่เจอ พีชโดนน้องชายเอ็ดเล็กน้อยเรื่องที่หายไป พีชรีบขอโทษแล้วส่งยิ้มให้

‘ไม่อยากเล่นแล้ว อยากนอนมากกว่า เพลียและง่วง” พีชโกหกไป พลับก็ดูไม่ติดใจอะไรมากนัก แค่สงสัยว่าทำไมพีชถึงตัวเปียก แต่พีชก็โกหกไปอีกว่า แอบหนีไปเล่นก่อน แต่สำลักคลื่นก็เลยไม่อยากเล่นแล้ว พลับจึงยอมเดินขึ้นห้องด้วย

“ไปเล่นน้ำที่ไหน ทำไมเราหาไม่เจอ เราเดินหาทั่วเลยนะพีช ทีหลังอย่าทำอีก เครื่องช่วยฟังก็ไม่ได้เอาไปนะ”

พลับอดเป็นห่วงพี่ชายตัวเองไม่ได้ เขาฝังใจเรื่องการพลัดหลงกับพีช ในตอนที่พวกเขายังเด็กกว่านี้มาก พีชเคยหลงกับเขา และตอนนั้นพีชก็ยังไม่มีเครื่องช่วยฟัง ใช้ภาษามือไม่ได้ และอ่านหนังสือไม่ออก หลงไปไกลขอความช่วยเหลือคนอื่นไม่ได้ เกือบโดนรถชนเพราะไม่ได้ยินเสียงรถที่พุ่งเข้ามา ทั้งพีชและพลับต่างขวัญเสียกันใหญ่ จนพ่อแม่ต้องกำชับกับพลับว่าถ้าพีชไม่ใส่เครื่องช่วยฟังให้ดูแลพี่ชายไว้ดี ๆ

พลับทำหน้าเสีย พีชเลยเดินเข้าไปหา ต่อยไหล่น้องชายเบา ๆ เป็นการหยอกล้อ แล้วบอกว่าเขาไม่เป็นอะไร สบายดี ตอนนี้โตแล้ว ดูแลตัวเองได้ดีมาก

พีชเบ้ปากใส่พี่ชาย แล้วต่อยไหล่คืนไป สองพี่น้องเดินกอดคอกันกลับห้องพัก

พอถึงห้องพัก พีชก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และขึ้นไปนอนบนเตียงข้าง ๆ กับพลับที่หลับไปก่อนแล้ว พีชมองใบหน้าของน้องชายตัวเอง แล้วก็นึกถึงกล้า อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาจับริมฝีปากตัวเองแล้วอมยิ้มอยู่คนเดียว พีชก็กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลัง ถ้ากล้ารู้ว่าคนที่เขาจูบด้วยไม่ใช่พลับ แล้วกล้าอาจจะรู้สึกแย่ แต่พีชห้ามหัวใจไม่อยู่ บอกให้ตัวเองหยุดยิ้มก็ทำไม่ได้ ปากกล้านุ่มมาก ปลายนิ้วของกล้าที่เกลี่ยอยู่ตรงแก้มก็ทำให้รู้สึกดี ได้เห็นหน้ากล้าใกล้ ๆ แบบนั้นมันเขินมากเลย

พีชยกมือขึ้นมาปิดหน้า นอนคุดตัวเขินอยู่กับตัวเอง ทั้งที่บอกกับพลับว่าจะขึ้นมานอนพักผ่อน แต่กลับหลับไม่ลงเลย ได้แต่นอนจับปากจับแก้มตัวเองจนถึงเวลาที่พี่ไม้มาตามลงไปกินอาหารเย็น

“พีช วันนี้ไม่ลงไปเล่นน้ำเลยเหรอ?” พอออกมาจากห้องพัก ก็เจอหน้ากล้าที่นั่งรออยู่ตรงโซฟาห้องนั่งเล่นทักทายทันที พีชตัวแข็งทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้ต้องทำตัวอย่างไร ทำไมกล้ายังทักทายเขาได้ปกติล่ะ ไม่เขินบ้างเลยเหรอ เพราะตอนนี้พีชเขินมาก แต่ก็มานึกขึ้นได้ว่าทำไมกล้าไม่เกิดอาการเขินอายกับเขา ก็ตอนที่พลับเดินตามออกมาจากห้องนอน

“ม พลับ...ป เป็นยังไงบ้าง” กล้าเกิดอาการหน้าแดง และพูดติดอ่างทันทีที่เห็นพลับ 

“เตียงนอนสบายมาก นี่หลับไปเต็มตื่นเลย คืนนี้อยู่ได้ยาวๆ” พลับพูดพร้อมบิดขี้เกียจแล้วเดินไปทิ้งตังลงโซฟาข้างกับที่กล้านั่ง กล้ามองพลับแล้วก็ยิ้ม หน้าแดงไปหมด พีชดูเหตุการณ์นั้นแล้วก็ก้มหน้าลง ถอนหายใจกับตัวเองแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยว มองกล้าที่เอาแต่หน้าแดง จ้องน้องชายของเขาอยู่ตลอดเวลา

พอแบงก์ออกมาจากห้องนอน ทั้งสี่คนก็พากันไปกินอาหารเย็นที่ชายหาด มื้อเย็นวันนี้พี่ไม้เตรียมอาหารซีฟู้ดไว้ให้ กุ้ง หอย ปู ปลา หลากหลายน่าอร่อย แถมกล้ายังแอบสั่งแอลกอฮอล์มาดื่มด้วย พี่ไม้มองตาดุนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก ขอแค่รับปากว่าจะกินให้พอดีกับลิมิตของตัวเอง อย่าไปเป็นภาระของคนอื่นตอนเมา

“พีชนั่งแกะปูไป เดี๋ยวเราเอากุ้งไปย่างให้” พลับส่งถาดปูนึ่งไปให้พีชแกะ ส่วนเขานั้นอาสาไปปิ้งอาหารให้ เพราะเห็นว่าพี่ไม้กำลังตั้งเตาอยู่ เลยอยากจะไปยืนอยู่แถว ๆ นั้นด้วย

“งั้นเดี๋ยวกูไปช่วยพลับ แบงก์มึงก็ช่วยพีชแกะปูบ้าง อย่าเอาแต่คุยกับแฟนมากนัก”

กล้ารีบอาสาจะไปช่วยพลับทันที แล้วก็หันมาว่าแบงก์ที่เอาแต่แชทคุยกับแฟนตลอดเวลา มันคุยกันทั้งวัน มือนี่ไม่ได้ห่างจากโทรศัพท์เลย แบงก์บ่นอุบอิบเล็กน้อย แต่ก็ยอมวางโทรศัพท์ลง เอาปูนึ่งมาแกะเนื้อออก

“พี่ไม้ตั้งเตาเสร็จยังครับ” พลับถามไปยิ้มไป มองหน้าพี่ไม้ที่ดำเป็นปื้นเพราะถ่าน เห็นแล้วมันดูน่าตลกและน่ารัก อยากถ่ายรูปเก็บเอาไว้

“อื้ม เสร็จแล้วแหล่ะ รอถ่านมันแดงกว่านี้อีกหน่อยก็ลงกุ้งได้เลย” ไม้พูด เป็นเวลาเดียวกับที่โทรศัพท์ดังขึ้นพอดี เขายกหน้าจอขึ้นมาดูแล้วก็ยิ้ม จากนั้นก็เดินไปคุยทางอื่น พลับมองตามตาละห้อย เห็นว่าไม้กำลังคุยโทรศัพท์ไปยิ้มไป แล้วก็หน่วงใจ พี่ไม้คงคุยกันแฟนของเขาสิท่า

“คุยกับพี่แก้มแน่ ๆ ยิ้มกว้างเชียว ตาลุงเอ้ย” กล้าล้อพี่ชายตัวเอง เพราะว่าอายุค่อนข้างห่างกัน และกล้าก็คิดว่าไม้เป็นพี่ชายที่ขี้บ่น บางครั้งเรียกไม้ว่าลุง ซึ่งถ้าไม้ได้ยินเข้าล่ะก็ กล้าก็จะโดนเขกหัวทุกที

“พี่แก้มจะมาตอนไหนเหรอ” พลับถาม แต่สายตาก็ยังคอยมองไปที่ไม้อยู่เรื่อย ๆ

“ก็คงใกล้แล้วล่ะมั้ง ตาลุงนั่นยิ้มกว้างขนาดนั้น”

“เหรอ…” พลับกัดริมฝีปากตัวเอง มองรอยยิ้มของไม้ ปกติแล้วพี่ไม้ไม่ใช่คนที่ยิ้มเก่ง แต่เพราะคนรักของเขา ที่ทำให้พี่ไม้ยิ้มได้กว้างขนาดนั้น พลับยิ้มให้กำลังใจตัวเอง บอกตัวเองว่าพี่ไม้มีความสุขเขาก็จะมีความสุขไปด้วย คิดได้แบบนั้นก็ยิ้มกว้างออกมา แล้วหันไปคุยเล่นกับกล้า

“เอ่อ...พลับ...คือเรื่องเมื่อกลางวันน่ะ พลับ...รู้สึกยังไงเหรอ” กล้าถามตะกุกตะกัก พลับหันไปมอง เห็นว่ากล้าหน้าแดงมาก แต่ก็คิดว่าเป็นเพราะไอร้อนจากเตาถ่าน พลับไม่ได้คิดอะไรกับคำถามของกล้า เพราะไม่เข้าใจว่ากล้าถามถึงเรื่องอะไร

“รู้สึกอะไรเหรอ อืม...ก็ดีนะ เตียงใหญ่ นิ่มดีด้วย” กล้ามองหน้าด้านข้างของพลับอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็คิดพลับอาจเข้าใจผิดว่าเขาถามถึงที่พัก จึงรวบรวมความกล้าถามออกไปอีกครั้ง

“ไม่ใช่ๆ เราหมายถึง...ร เรื่องที่ทะเลน่ะ พลับรู้สึกยังไง”

“เรื่องอะไรอ่ะกล้า เราไม่เข้าใจ กล้าละเมอเหรอ 5555” ยิ่งพูด พลับก็ยิ่งงง เขาก็เลยนึกว่ากล้าคงฝันแล้วละเมอช่วงนอนกลางวัน ต่างกับกล้าที่ใบหน้านิ่ง เข้าใจไปอีกอย่าง กล้าเข้าใจว่าพลับคงไม่อยากนึกถึงเรื่องเมื่อกลางวัน เลยทำเป็นว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่พลับวิ่งหนีขึ้นห้องพักไม่ใช่เพราะอายเขา แต่อาจเป็นรู้สึกไม่ดีจนต้องวิ่งหนีไป

“อืม เข้าใจแล้ว เราคงละเมอไปเอง” กล้าพูดเสียงสั่นเล็กน้อย คิดเสียใจในสิ่งที่ทำไป มีเพียงแค่เขาคนเดียวที่อยากจำไว้ ในขณะที่คนข้างตัวเขาคงอยากจะลืม ๆ มันไป แต่แบบนี้มันก็คงดี เพราะพลับก็ยังทำตัวปกติกับเขา เป็นแฟนกันไม่ได้ แต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้ แบบนี้ดีแล้ว ดีแล้วจริง ๆ

“กล้า เป็นอะไรรึเปล่า” เพราะน้ำเสียงของกล้า ทำให้พลับต้องหันไปมองอีกครั้ง ในตาของกล้ามีน้ำตาคลออยู่ ถึงจะไม่มากแต่ก็สังเกตุเห็นได้

“เราโอเค ไม่ต้องห่วง เป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ดีแล้ว กุ้งนี่สุกหมดแล้ว เราเอาไปวางที่โต๊ะก่อนนะ” กล้าพูดพร้อมยิ้มกว้างจนตาหยี แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด คีบกุ้งตัวสีส้มใส่จานแล้วรีบเดินไปที่โต๊ะ วางจานลงกลางวงแรง ๆ จนแบงก์ที่ยังมัวคุยกับแฟนสะดุ้งจนทำโทรศัพท์ตกมือ ไม่ได้ตั้งใจจะวางแรงขนาดนั้นหรอก แต่เหมือนมือไม้มันอ่อนแรงน่ะ พอวางจานได้เขาก็รีบเดินไปอีกทาง แต่ก็มีเสียงไอแบงก์เพื่อนตัวยุ่งตะโกนถาม

“อ้าว ไอกล้า มึงจะไปไหน ไม่กินเหรอวะ”

“เออ เดี๋ยวมากิน” พูดห้วน ๆ แค่นั้นก็รีบก้าวขาเดินออกมา กล้าขอเวลาทำใจซักหน่อย ยังตั้งตัวไม่ทันกับอาการอกหักในครั้งนี้ มันกะทันหันเกินไป ตั้งรับไม่ทันจริง ๆ เมื่อกลางวันนั้นยังเหมือนมีความหวังสุดๆ ไม่คิดเลยว่าผ่านมาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ความหวังของเขามันจะสลายไปเร็วขนาดนี้

เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของพีชตลอดเวลา พีชแอบอ่านปากของพวกเขาอีกแล้ว ถึงแม้มีบ้างที่บางคำ บางประโยคไม่สามารถอ่านได้ แต่พอเข้าใจว่าพลับและกล้าพูดถึงเรื่องอะไรกัน พีชรู้สึกผิดที่ทำให้กล้าเสียใจ เรื่องเมื่อกลางวันพีชไม่น่าทำอย่างนั้นเลย คิดวนไปมาก็อึดอัดใจจนต้องถอนหายใจออกมา

“เป็นอะไร เบื่อเราเหรอพีช ไม่คุยล่ะ ๆ เราแกะกุ้งให้เองนะ มันร้อนเดี๋ยวลวกมือพีชหมด แหะแหะ” แบงก์รีบวางโทรศัพท์ เพราะได้ยินพีชถอนหายออกมาเฮือกใหญ่ ก็นึกว่าพีชเบื่อที่เขานั้นเอาแต่ตอบแชทของแฟนสาว พลางส่งยิ้มแห้งๆไปให้ พีชรีบส่ายหน้าและส่งภาษามือปฏิเสธ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าไม่มีสมุดโน๊ตหรือพลับคอยเป็นล่ามให้ คนอื่น ๆ ก็ไม่รู้เรื่องหรอกว่าเขาต้องการจะบอกอะไร

ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง กุ้งและปูถูกแกะเอาเปลือกออกอย่างเรียบร้อย ปลาหมึกย่างถูกหั่นพอดีคำพร้อมกิน โต๊ะอาหารพร้อมแล้ว ทุกคนก็พร้อมหน้าพร้อมตา โดยเฉพาะแบงก์ที่พร้อมกิน ทำน้ำลายสอเมื่อเห็นอาหารละลานตา

“อืมหืม อาหารทะเลสดนี่มันแจ่มจริงครับพี่ไม้ กินฟรีแบบนี้เป็นพระคุณมากๆ เลยครับ” แบงก์ยัดทั้งกุ้งทั้งปลาหมึกเข้าปากแล้วก็เคี้ยว ความหวานของอาหารทะเลสด ๆ ซึมซาบในปาก เคี้ยวยังไม่ทันหมด เขาก็หันไปขอบคุณพี่ไม้ที่อยู่ด้านซ้ายมือของแบงก์

“อืม” พี่ไม้ตอบมาแค่นั้น แถมยังทำหน้าเครียด มองไปที่โทรศัพท์ตลอดเวลา จนแบงก์ได้แต่กลืนอาหารลงคออย่างฝืด ๆ แล้วยกแอลกอฮอล์ขึ้นซดตามให้ลื่นคอขึ้น พอได้รับความสดชื่นจากเบียร์เย็น ๆ แบงก์ก็คึกขึ้นมาใหม่ หันไปพูดกับกล้าที่นั่งอยู่ทางด้านขวาของตัวเอง

“โอโหย เบียร์วุ้นนี่มันแจ่มมากเลยหวะกล้า มึงลอง ๆ เอ้าชน...” แบงก์ทำตัวสนุกสนานส่งแก้วไปชนกับกล้าที่มักจะเป็นลูกคู่ลูกรับให้เขาเสมอ แต่มาวันนี้กล้ากลับยื่นแก้มมาชนกับแบงก์เบาๆ แล้วยกดื่มเลย ไม่มีการส่งเสียง สร้างบรรยากาศเฮฮา จนแบงก็ตะโกนเก้ออยู่คนเดียว

“อ่ะ...เอ่อ ฝ แฝด กินมั้ย เบียร์วุ้นเย็น ๆ อร่อยนะ” แบงก์พูดเสียงอ่อนกับพีชและพลับ สองแฝดที่นั่งตรงข้ามกับแบงก์อย่างพอดิบพอดีได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ แล้วก็ส่งแก้วไปให้แบงก์เทเบียร์ให้

 “รู้มั้ยว่าสองพี่น้องนี่เขาเป็นอะไรเหรอ ก่อนหน้านี้ยังเห็นดี ๆ อยู่เลยนะ” แบงก์กระซิบถามแฝด แต่ก็ตั้งใจให้กล้าและไม้ได้ยินด้วย แต่สองพี่น้องก็เงียบ คนน้องทำหน้าเศร้า คนพี่ทำหน้าเครียด แบงก์ที่นั่งอยู่ตรงกลางก็อยากจะทำหน้าร้องไห้ใส่ทั้งคู่เหมือนกัน

พีชยิ้มอ่อนให้แล้วก็หันไปมองกล้าที่เหม่อไปอีกทาง ส่วนพลับนั้นส่ายหน้า มองไปทางพี่ไม้ที่ยังคงจ้องโทรศัพท์อยู่ พลับรู้ว่าเพราะอะไรพี่ไม้ถึงได้มานั่งทำหน้าเครียดอยู่แบบนี้ ก่อนหน้านี้ตอนที่กล้าเดินไปแล้ว เขาก็ปิ้งปลาหมึกอยู่คนเดียว แล้วพี่ไม้ก็เดินยิ้มเข้ามาช่วย แต่ช่วยได้ไม่นาน พี่แก้มก็โทรมา ทั้งสองคนทะเลาะกัน และรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จับใจความได้ว่า พี่แก้มจะไม่มาแล้วทั้งที่ไม่ได้เจอกันมานาน เนื่องจากขี้เกียจมาหาพี่ไม้ พอรู้แบบนั้น พี่แกก็เลยสติขาด เสียงดังกลับไป จนทะเลาะกันแล้วพี่แก้มก็ตัดสายใส่ พี่ไม้โทรกลับไปก็โดนบล็อคเบอร์ ใช้โทรศัพท์พลับโทรไป พอพี่แก้มรู้ว่าพี่ไม้เป็นคนโทร พี่แก้มก็บล็อคเบอร์เขาอีก พี่ไม้เลยมานั่งทะมึนอยู่อย่างนี้

“เอ้า เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย คนหล่องงครับ คนหล่อไม่สนใจล่ะ คนหล่อขอกินก่อนล่ะกันนะครับ” แบงก์ส่ายหน้า ถึงทุกคนจะไม่รู้สึกเฮฮาไปกับเขา แต่เขาก็อาสาทำหน้าที่เป็นคนรินเบียร์ใส่แก้วให้ทุกคน รินให้บ่อยสุดก็คงเป็นกล้า เพราะรายนั้นพอแบงก์เทปุ๊บ กล้าก็ยกดื่มจนหายไปค่อนแก้วเลย แต่มีหรือที่แบงก์จะห้าม เพราะคิดว่าถ้ากล้าเมา กล้าอาจจะลุกขึ้นมาเฮฮากับเขาก็ได้ คิดได้แบบนั้นก็เลยรินให้ไม่ขาดสายเลย


ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ข้อความจากโทรศัพท์ของไม้ดังขึ้น ไม้รีบหยิบมาเห็นว่ามาจากแฟนเลยรีบเปิดอ่าน แต่ข้อความในนั้นทำเอาเขาหงุดหงิดขึ้นมากกว่าเดิม

‘เลิกกันเถอะ เราไม่ได้รักกันแล้วจริง ๆ อย่าฝืนอยู่เพราะความผูกพันเลย มันบ้าบอ’

นั่นเป็นประโยดที่แก้ม แฟนสาวของไม้ส่งมา พอส่งกลับไป ก็ได้รู้ว่าแก้มนั้นบล็อคการติดต่อกับเขาทุกช่องทางแล้วจริง ๆ

เอาจริงดิ คบกันมาเกือบ 10 ปี มาโดนบอกเลิกผ่านข้อความแบบนี้เนี่ยนะ มันบ้าบอจริง ๆ นั่นแหละ ไม้คิดอย่างหัวเสีย เขาโยนโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ใช้มือเสยผมที่จัดทรงอย่างดีจนปอยผมหล่นลงมาปรกหน้าตา จากนั้นก็ยกแก้วเบียร์ที่ถูกรินจนเต็มขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด แล้ววางลงบนโต๊ะแรง ๆ แบงก์ที่คอยรินเบียร์ให้กล้าอยู่หันมามอง ทำตาโตปากหวอใส่ มองไม้และแก้วเบียร์ในมือเขาสลับไปมาอย่างตกใจ

ไม่คิดเลยว่าพี่ไม้ที่แสนจะสุขุม กระดกเบียร์ได้ขนาดนี้

“เออ เลิกก็เลิกวะ คบไปก็ไม่มีความสุขกันอยู่แล้ว ก็เลิกๆไปเลย แบงก์ รินมาเต็มแก้วเลย ถ้าเบียร์ไม่พอก็เอาตังพี่ไปซื้ออีก”

“ได้เลยคร๊าบ!” แบงก์พูดอย่างดี๊ด๊า หันมารินเบียร์ให้กับไม้โดยไว ตอนนี้สองพี่น้องไม้และกล้า ต่างก็ผลัดกันกระดกเบียร์ จนเหมือนว่ากำลังแข่งกันอยู่

“นี่ครับพี่ จัดไปเลยครับเต็มแก้ว เรื่องผู้หญิงปล่อยไปก่อนครับพี่ เดี๋ยวเครียด ตอนนี้มาเที่ยวเราต้องเต็มที่ครับ”

แบงก์พูดไปก็รินไปด้วยไม่หยุดมือ พลับเองก็พยามยามห้ามแล้ว แต่พี่ไม้ก็เป็นคนพูดเองว่าอย่างห้าม ให้แบงก์รินมาเลย สิ่งที่พลับพอจะทำได้ คือนั่งจิบอยู่ข้างๆ คอยมองไม้อยู่ห่าง ๆ แบบนี้

ผ่านไปไม่ถึง 40 นาที ทั้งกล้าและไม้ก็เมาแอ๋ เพราะกระดกเบียร์กันไม่มีหยุดเลย พี่ไม้ที่แสนจะสุขุม พูดน้อย เรียบร้อยมาดผู้ใหญ่ ก็กลายเป็นคนแก่วัยลุงที่ร้องเพลงมั่วไปหมด แถมยังเอียงตัวมาพิงพลับ ทำตาปรือ พูดจาเสี่ยว ๆ หยอดมุกตลกใส่ทุกคนบนโต๊ะตลอดเลย ไม้เมาแล้วจริง ๆ

ส่วนกล้านั้นก็ทำตัวลุงพอกัน เคาะขวด เคาะจานเสริมจังหวะให้พี่ขายตัวเอง หน้าแดงไปหมด พีชมองแล้วก็ส่ายหน้า ถอดเครื่องช่วยฟังใส่กระเป๋าไว้ ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องแต่เสียงโหวกเหวกที่ได้ยินเพราะเครื่องช่วยฟัง ทำเอาพีชปวดหัวไม่น้อยเลย

ยิ่งดึก พวกขี้เมาทั้งสามก็ยิ่งคึก ทั้งลุกขึ้นเดินไปมา ทั้งร้องทั้งเต้น เรื่องเต้นนี่ต้องยกให้แบงก์คนเดียว เพราะสองพี่น้องพากันประสานเสียงร้องเพลงอกหัก สองแฝดก็ได้แต่ยกมือกุมขมับ โดนใช้ไปซื้อเบียร์เพิ่มอยู่บ่อยครั้ง จนสองรอบหลังนี้ ทั้งคู่แอบเอาน้ำเปล่ากรอกใส่ขวดเบียร์ คนเมาทั้งสามก็ไม่รู้เรื่องแถมยังชมอีกว่าพวกเขาซื้อเบียร์อร่อยมา นี่แหละคนเมา เฮ้อ!

สองแฝดนั่งเฝ้ากลุ่มคนเมาจนฟ้าเกือบสาง จะหนีกลับไปนอนก่อนก็กลัวว่าขี้เมาทั้งหลายจะพากันกอดคอเดินลงทะเล พอไล่ให้กลับห้องกันก็ไม่กลับ เลยต้องมานั่งเฝ้ากันแบบนี้จนทุกคนสงบลง

พลับหันไปสะกิดพี่ชายนั่งคอพับอยู่ข้าง ๆ ว่าเขาจะพาพี่ไม้ไปส่งที่ห้องพัก ให้พีชปลุกแบงก์พากล้ากลับห้องไปก่อนได้เลย

พลับประคองไม้ขึ้น จับแขนพาดไหล่แล้วก็พาเดินไปทางห้องพัก ไม้ก็บ่น ๆ ไปตลอดทาง เขาเดินเองได้แต่ว่าเซไปเซมา จนพลับต้องคอยจับแขนไว้ให้เดินตรงทาง

ส่วนทางด้านของพีชกับแบงก์นั้น ก็กำลังประคองกล้าขึ้น แต่กล้านั้นแทบจะไม่มีสติอยู่เลย เขาไม่ยืนด้วยตัวเอง ถ่ายน้ำหนักไปให้คนที่แบกทั้งหมด จนพีชและแบงก์หน้าเขียวทั้งคู่ เพราะกล้าเป็นผู้ชายตัวสูง มีกล้ามเนื้อ น้ำหนักก็ไม่ใช่เบา ๆ

“ไอกล้า เดินหน่อยสิโว้ยย หนาวก็หนาว ง่วงก็ง่วง วุ้ย!!” แบงก์ตะโกนด่าเสียงดัง แล้วตบหัวกล้าไปทีนึง พร้อมทั้งทำท่าจะตบอีกที พีชเลยรีบคว้ามือแบงก์ไว้ไม่ให้ทำร้ายกล้าอีก

“เราน่าจะปล่อยมันให้นอนอยู่ตรงนี้นะพีช หนาวจะตาย อยากกลับไปเปลี่ยนเสื้อแล้วเนี่ย แล้วน้ำค้างบ้าอะไรลงซะเปียกขนาดนี้วะเนี่ย”

แบงก์บ่นอู้อี้ตามประสาคนเมา ส่วนพีชก็ได้แต่ยิ้ม มองแบงก์อย่างรู้สึกผิด ที่แบงก์ต้องมาเดินหนาว ๆ แบบนี้ก็เพราะว่าเขาเอาน้ำสาดเพื่อปลุกแบงก์ ก่อนหน้านี่ที่หาด เขาพยายามปลุกทั้งแบงก์ทั้งกล้าแล้ว แต่ว่าไม่มีใครได้สติเลย จะให้พีชแบกผู้ชายตัวใหญ่ทั้งสองคนก็ไม่ไหว เลยตัดสินใจเอาน้ำทะเลมาปลุก แต่ว่าพีชไม่อยากสาดน้ำใส่กล้า เลยเทราดแบงก์แค่คนเดียว  แบงก์สร่างเมาเล็กน้อย แต่สติก็ไม่สมประกอบเท่าไร เดินเซไปมาพากันล้มก็หลายครั้ง

พอถึงห้องแบงก์ก็โยนร่างกล้าไว้บนเตียง พีชยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็เสียหลักล้มลงไปนอนกับกล้า แต่แบงก์ก็ไม่มีสติที่จะสนใจแล้ว เขาถอดเสื้อที่เปียกออก แล้วก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงฝั่งของตัวเอง   

พีชลุกขึ้นแล้วก็จัดการถอดรองเท้าของกล้าออก น้ำผ้าไปชุบน้ำแล้วนำมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้

เมื่อเจอน้ำเย็นเช็ดไปมาที่บริเวณใบหน้า กล้าก็ปรือตาขึ้นมามองแล้วยิ้มบาง ๆ ให้จากนั้นก็หลับตาลง พีชหยุดมือมองใบหน้านั้นแล้วเขินกับยิ้มของกล้า รีบเช็ดให้เสร็จแล้วจัดท่าให้กล้านอนอย่างสบาย ห่มผ้าให้อย่างดี ส่วนแบงก์นั้นเมาจนไหลลงไปนอนที่พื้นแล้ว พีชเห็นแล้วสงสารเลยเอาผ้าผืนเล็กที่กองอยู่แถวนั้นไปห่มให้แบงก์ ตอบแทนที่ช่วยแบกกล้าขึ้นมา

พอถึงห้องของตัวเอง พีชก็ถอดเครื่องช่วยฟังเก็บใส่กล่องไล่ความชื้น วางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง แล้วทิ้งตัวลงที่นอนทันที เพราะเขาก็ทั้งง่วงทั้งมึน โดนแบงก์คะยั้นคะยอให้กินไปหลายแก้ว ตอนนี้ก็เลยกรึ่ม ๆ เหมือนกัน ในช่วงที่กำลังจะเคลิ้มหลับ ก็มีใครบางคนเข้ามานอนข้าง พีชไม่ได้ใส่ใจ เพราะคิดว่าเป็นพลับ จนร่างนั้นขยับเข้ามาใกล้ ลูบไปตามตัวแล้วก้มลงมาจูบ

“อื้อ! อึก”

พีชสะดุ้ง เมื่อถูกบังคับให้หันไปหา คนข้างบนบีบแก้มพีชเล็กน้อยให้อ้าปากออก จากนั้นก็สอดลิ้นเข้ามา พอจูบจนหนำใจแล้วก็ขยับตัวขึ้นคร่อมร่างของพีชเอาไว้ แสงไฟจากด้านนอกส่องเข้ามาตามผ้าม่าน ทำให้ได้รู้ว่าคนที่แอบย่องเข้ามาก็คือกล้า

สายตาของกล้ามองไปที่พีช ส่งยิ้มให้ในขณะที่ดวงตามีน้ำตาคลอ มีเจ็บปวดในดวงตาคู่นั้น พีชนอนนิ่ง มองไปที่กล้าอย่างไม่เข้าใจ กล้าลูบไปตามใบหน้าของพีชอย่างอ่อนโยนแล้วก้มลงไปหอมแก้มเบาๆ แล้วพรมจูบซุกไซ้ไปที่ซอกคอ

“อือ อีท อ่า” พีชพยายามดันตัวออกแล้วส่งเสียงให้กล้าหยุดทำ กล้าพูดอะไรบางอย่าง แต่พีชอ่านปากไม่ทัน

“อะ!” พีชสะดุ้ง อ้าปากคราง เมื่อกล้าใช้มือขยำและคลึงช้า ๆ ไปที่ส่วนกลางกายของพีช ทำแบบนั้นไม่นานมันก็ตื่นตัวสู้มือกล้า พีชหน้าแดง ยกมือซ้ายขึ้นมาปิดหน้าอย่างเขินอาย ส่วนมือขวาก็พยายามดันมือกล้าออกจากส่วนที่อ่อนไหวของตัวเอง  ทั้งสมองทั้งหัวใจสับสนเป็นอย่างมาก พีชรู้ว่ากล้าเมา กล้าอาจกำลังเข้าใจผิดว่าเขาคือพลับ และกำลังจะทำสิ่งที่จะแย่ยิ่งกว่าการจูบ พีชกลัว กลัวว่าจะมีเรื่องวุ่นวายตามมาอีก แต่ก็รู้สึกดี ดีจนไม่อยากให้กล้าหยุดจริงๆ

“เราจะทำอะไรกันก็ได้ใช่มั้ย เพราะนี่คือโลกของเราคนเดียวใช่มั้ย”

กล้าพึมพำอะไรบางอย่างที่พีชไม่เข้าใจ แล้วถอดเสื้อออก พีชตาโตอ้าปาก  กล้ายิ้มจากนั้นก็ก้มลงจูบริมฝีปากพีชซ้ำ ๆ ไปมา สองมือก็ลูบไล้เนื้อตัวของพีชอย่างอ่อนโยน ทำแบบนั้นอยู่สักพัก พีชเคลิบเคลิ้มตัวอ่อน ทั้งสัมผัส ทั้งความอุ่นจากผิวของกล้า ทำให้พีชรู้สึกดีมาก ตอนนี้พีชมีความสุขที่โดนกล้าลูบคลึง สุขมากจนความสับสนต่าง ๆ ที่เคยอยู่ในหัวนั้นก็หายไป

พีชหยุดดิ้น หยุดดันตัวกล้าออก พีชรู้อยู่เต็มอกว่ากำลังจะโดนกล้าทำอะไร แต่ก็ยอมพร้อมเต็มใจให้ทำ พีชชอบกล้ามากจริงๆ และพีชเองก็มีความอยาก อาจฟังดูน่าอาย แต่เขาแอบเอากล้าไปช่วยตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ถึงจะพิการทางการได้ยินแต่ก็มีความต้องการทางร่างกายเหมือนคนปกตินะ

“อึก อืมม อือ” พีชเปิดปาก รับเรียวลิ้นที่แทรกเข้ามา แล้วก็พยายามขยับลิ้นตาม รสชาติขมปนหวานของแอลกอฮอล์ที่หลงเหลือในปากกล้า ทำให้พีชรู้สึกเมามากขึ้น

กล้าขยับตัวเสียดสี ลูบไล้ไปทั่ว จับตรงนี้ตรงนั้นตามใจตัวเอง เพราะกล้าเข้าใจว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ มันไม่มีทางเป็นจริงแน่นอนที่จะกอดพลับได้โดยที่อีกฝ่ายให้ไม่ผลักเขาออกแบบนี้ เพราะฉะนั้นที่ทำอยู่นี้คือความฝัน ยิ่งคนใต้ร่างไม่ขัดขืน แถมดูให้ความร่วมมือ กล้าก็ยิ่งมั่นใจว่ากำลังฝันอยู่แน่นอน เป็นฝันที่ดีมาก ๆ เสียด้วย

กล้าสูดดมร่างกายหอมหวาน ถกเสื้อคนตัวเล็กขึ้นไปกองตรงหน้าอก แล้วก้มลงชิมรสยอดอกสีสวย คนใต้ร่างก็เกร็ง แอ่นหน้าอกเข้าหาปากกล้า

พีชเกร็งกับสัมผัสที่ได้รับ และเมื่อให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กล้าก็ดูพึงพอใจมาก ก้มลงมาหอมแก้มอีกครั้ง สองมือที่ลูบไปตามกายก็ค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของพีชออกจนหมด กล้ามองร่างกายขาวใสตาไม่กระพริบ พีชเองก็เขินจนแก้มแทบไหม้ ยิ่งรู้ว่ากล้าจ้องด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าพอใจเป็นอย่างมาก พีชก็ยิ่งอาย เลยหุบขาเข้า ดึงผ้าห่มมาปิด

“อย่าปิด ขอเราดูนะ” กล้ายั้งมือของพีชเอาไว้ เกลี่ยแก้มคนใต้ร่าง แล้วขยับตัวลงไปลิ้มรสหวาน ชิมไปทั้งเนื้อทั้งตัว แทบไม่มีส่วนไหนในร่างกายพีชที่ปากและลิ้นของกล้าไม่ลากผ่าน

พีชตัวสั่นไปด้วยความรู้สึก สองมือกำแน่นอยู่บริเวณหน้าอกของตัวเอง

“อื้อ อาๆ” พีชสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก ตอนที่กล้าขยับนิ้วลึกเข้ามาในร่างกาย พีชมองหน้ากล้าอยู่ตลอด เช่นกันกับกล้าที่มองใบหน้าและกิริยาของคนใต้ร่างอย่างไม่วางตา

หัวใจของพีชรู้สึกพองโตเมื่อได้เห็นแววตาอ่อนหวานที่กล้าส่งมาให้  โอบสองมือน้อยไว้รอบคอแล้วดึงกล้าลงมาจูบ จากนั้นก็ผละออกแล้วส่งยิ้มให้

“เราขอนะ” กล้าพูด แล้วจุ๊บที่ริมฝีปากอิ่ม พีชเม้มปากเขินอาย รู้สึกได้ว่าตัวตนอันร้อนผ่าวของกล้ากำลังถูไถตรงส่วนนั้นของตัวเอง พีชหลบตาแล้วพยักหน้าด้วยความเขิน กล้าค่อย ๆ กดตัวเข้าไป พอคนใต้ร่างเกร็ง เขาก็หยุดรออย่างอดทน รอจนคนที่กล้ารักผ่อนคลายขึ้นจึงเริ่มทำต่อ ทำสิ่งที่ร่างกายต้องการ ขยับตัวอย่างเชื่องช้าอ่อนโยน ให้คนที่กล้ารักค่อย ๆไ ด้ยอมรับตัวตนของกล้า พีชหลับตากอดคอกล้าแน่น หอบหายใจหนัก ๆ อยู่ข้างใบหูของกล้า

“อือ! อึก อือ” พีชส่ายหน้า ความรู้สึกแปลกประหลาดวิ่งเข้าใส่เป็นระลอก แล่นริ่วไปทั่วร่างกาย พีชเลยปล่อยมือออกจากคอของกล้าแล้วจิกลงบนต้นขาของตัวเอง

“ไม่เป็นไรนะ กอดเราไว้” กล้าปลอบ หยุดขยับตัว นำเรียวแขนของคนใต้ร่างมาโอบรอบคอตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้มืออุ่นลูบและบีบไปที่โคนขาของพีชเพื่อทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น

กล้าสูดหายใจเข้าลึก พยายามไม่ขยับตัวเร็วนัก อยากจะถนอมคนใต้ร่างอย่างถึงที่สุด อยากให้คนที่เขารักมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำร่วมกัน

“อ๊ะ อ๊ะ อืมม...”

พีชคราง เขารู้ว่าตัวเองคราง แต่ไม่รู้ว่าเสียงที่เปล่งออกไปมันจะน่าเกลียดขนาดไหน จึงเลือกที่จะเม้มปากกลั้นเสียงของตัวเองเอาไว้

“ส่งเสียงออกมาเลย เราอยากฟัง” กล้าเลียไปที่ริมฝีปากนั้น พีชอ่านปาก แล้วก็ทำตามสิ่งที่กล้าขอ พีชไม่รู้ว่าเสียงที่เปล่งออกไปมันเป็นอย่างไร แต่สัมผัสได้ว่ากล้าขยับเร็วขึ้น เบียดร่างกายเข้ามาชิดมากขึ้นจนร่างกายของพีชรู้สึกกระสันเกินบรรยาย

พีชหลับตากอดร่างของกล้าไว้แน่น สองขาที่แนบอยู่ข้างเชิงกรานของกล้านั้นสั่นเกร็ง ทั้งสองร่างตระกองเข้าหากันจนถึงจุดสิ้นสุดของห้วงอารมณ์ พีชตัวสั่นครวญครางข่วนหลังของกล้าอย่างไม่ตั้งใจ กล้าเองก็ไม่ไหวกระชับเอวเล็กเข้าหาตัวและปลดปล่อยออกไปจนซอกขาของพีชเหนียวเหนอะหนะไปหมด

กล้าเกร็งตัวเพราะความสุขสมอยู่ครู่นึง แล้วก็ปรือลืมตามองคนใต้ร่างที่นอนหน้าแดงมองเขาอยู่  กล้ายิ้มบาง ก้มลงจูบขมับขาวอีกครั้ง แล้วลูบหน้าเช็ดเหงื่อตามหน้าผากให้

ถึงกล้าจะรู้ว่านี้คือความฝัน แต่เขาก็อยากจะถนุถนอมคนที่รักไว้อย่างถึงที่สุด เขามีความสุขก็อยากจะให้พลับมีความสุขไปด้วยกัน

“อืออ” กล้าขยับตัวออกอย่างช้า ๆ ร่างกายของพีชนั้นรู้สึกวูบโหวงขึ้นมาทันที พีชหอบหายใจ มองตามคนข้างๆที่ทิ้งตัวลงนอนแล้วดึงตัวพีชเข้าไปกอด

“เรารู้สึกดีมากเลย รักพลับนะครับ”

พีชอ่านปากกล้าอย่างตั้งใจ เมื่อรู้ว่ากล้าพูดอะไร พีชก็ยิ้มหวานแต่แววตาเต็มไปด้วยความเศร้า เขาจูบปากของกล้าแผ่วเบาเป็นการตอบว่าเขาก็รักกล้าเช่นเดียวกัน กล้ายิ้มจูบหน้าผากของพีชอย่างรักใคร่แล้วก็หลับตาลง จากนั้นไม่กี่นาทีลมหายใจหอบเหนื่อยของกล้าและพีชก็เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ

พีชหลับตา หยดน้ำเม็ดน้อยไหลออกมา หยดน้ำตาแห้งความสับสน รู้สึกดีที่ได้ทำแบบนี้กับกล้า แต่ก็รู้สึกอิจฉาน้องชายตัวเอง เพราะความอ่อนโยนทั้งหมดนี้ กล้าคงตั้งใจมอบให้น้องชายเขา

พีชไม่ไม่รู้สึกโกรธกล้าเลยที่เข้าใจผิด พีชรู้อยู่แล้วว่า คนที่กล้าตั้งใจจะกอดคือพลับ รู้ว่ากล้าสับสน แต่พีชก็เป็นคนเต็มใจให้เอง

รู้ว่าเป็นตัวแทน แต่ก็ยังเต็มใจให้กอด

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไม้และกล้าเป็นพี่น้องที่อายุห่างกัน กล้าอายุ 21 ปี เท่ากับฝาแฝด ส่วนพี่ไม้นั้นอายุห่างจากกล้าถึง 8 ปี ตอนนี้เป็นอาจารย์ในมหาลัยที่พวกเขาเรียนอยู่ เพียงแต่กล้าเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์
ตรงนี้ต้องเป็น ไม้ ใช่ไหม

กล้า มีอะไรกับพีช โดยคิดว่าพีชเป็นพลับ   :z3: :z3: :z3:

แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพลับไหมนะ   :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ตอนที่ 2 เจ็บปวดเหมือนกัน


กล้าตื่นขึ้นมาเพราะแสงแดดยามบ่ายลอดม่านเข้ามาแยงตา เขาขมวดคิ้วแล้วลืมตาขึ้น ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเอง เพราะตอนนี้เส้นเลือดในหัวเขาเต้นตุบ ๆ เหมือนจะแตกเอาให้ได้ กล้าสูดลมหายใจเข้า พยายามระงับอาการแฮงค์ของตัวเอง จ้องมองเพดานสีขาว พลันสมองก็คิดถึงความฝันเมื่อคืน ไล่ลำดับเรื่องทีละนิดละน้อย แล้วก็ยิ้มออกมา ถึงแม้จะเมาแต่ก็รู้ว่าฝันถึงเรื่องอะไร จำได้ไม่แจ่มชัดมากนัก แถมบางตอนก็เลือนราง แต่ความสุขที่ได้รับจากฝันเมื่อคืนเขาจะไม่มีทางลืมเลย

กล้าบิดขี้เกียจ แปลกใจเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าตอนนี้ตนเองนั้นล่อนจ้อนอยู่ พอลองมองดูดีๆ ถึงได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องพักของตนเอง กล้าตกใจ ลุกพรวดขึ้นนั่ง ทำให้ผ้านวมนั้นเลิกขึ้น ความเย็นจากแอร์ที่เข้ามาในผ้านวมอย่างกะทันหันทำให้คนที่หลับสนิทเริ่มรู้สึกตัว ยกมือขึ้นขยี้ตา แล้วลืมตามองมาที่กล้าช้า ๆ

กล้าใจกระตุก เมื่อคนที่เขาฝันถึงเมื่อคืนมานอนอยู่ข้าง ๆ แถมอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าแบบเขาอีกด้วย

“พ... พลับ” กล้าตระหนก มองพลับที่ลุกขึ้นนั่งจนผ้านวมผืนหนาเลื่อนลงไปกองอยู่ที่สะโพกอีกทั้งยังส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ กล้าหลบตาหันไปทางอื่นทันที ถึงจะอยู่ในสถานการณ์ที่น่าตกใจ แต่ภาพที่เห็นนั้นมันแอคแทคหัวใจเขาเกินไป

กล้าตกใจกับภาพที่เห็นและเรื่องที่เกิดไม่น้อย ตอนนี้รู้แล้วว่าเรื่องเมื่อคืนมันไม่ใช่แค่ฝัน เขาควรจะเสียใจและรู้สึกผิดที่ทำเรื่องที่ไม่ควรกับพลับ แต่กล้ากลับดีใจ เพราะเมื่อไตร่ตรองดูดี ๆ แล้ว เมื่อคืนนั้นคนใต้ร่างเขาก็ให้ความร่วมมือไม่น้อยเลย เขายังจำความน่ารักและหอมหวานนั้นได้ดี

“พลับ ค... คือ เรื่องเมื่อคืนนี้น่ะ..” .

กล้าหลับตาสูดลมหายใจเข้าออกเรียกสติอยู่ครู่หนึ่ง ก็หันกลับมามองคนข้างกาย พร้อมทั้งเตรียมอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าใจตัวเองนั้นกระตุกอีกครั้ง แถมครั้งนี้ยังรุนแรงกว่าครั้งก่อนหน้า เสียงที่จะเปล่งออกมาก็หายไปอย่างฉับพลัน เมื่อสายตากล้านั้นดันกวาดไปเห็นกล่องเครื่องช่วยฟังที่อยู่โต๊ะข้างเตียง

กล้ามองคนตรงหน้า เริ่มหวั่นใจว่านี่คือแฝดคนพี่หรือคนน้องกันแน่ จ้องไปที่กล่องหูฟังนั้นอีกครั้ง ปากและคอแห้งผากจนแทบจะกลายเป็นผง รู้สึกเย็นไปตามปลายนิ้ว ชาไปทั้งตัว แต่หัวใจกลับเต้นอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าเลือดทั้งตัวนั้นมันวิ่งไปจุกอยู่ตรงหัวใจที่เดียว

เป็นเพื่อนกันมาสองปี ไปเที่ยวค้างแรมกันก็บ่อย กล้าย่อมต้องรู้บ้าง ว่าเวลานอน พีชมักจะเก็บเครื่องช่วยฟังไว้ในกล่อง และเอาไว้ไม่ห่างตัว ไม่ว่าจะย้ายที่นอนไปที่ไหน กล่องไล่ความชื้นนั้น ต้องอยู่ข้างเตียงที่พีชนอนเสมอ

“...พีช? พีชใช่มั้ย?”

เสียงเล็ดลอดออกมานั้นเบาหวิวถามออกไป ถึงแม้เกินกว่าครึ่งในใจจะเชื่อไปแล้วว่าคนตรงหน้านี้คือพีช แต่ก็อยากจะได้รู้คำตอบชัด ๆ อีกที เพราะเขาอาจจะทึกทักไปเอง พีชอาจจะไปนอนที่อื่น แต่ลืมเอากล่องหูฟังไปด้วย กล้าให้ความหวังตัวเอง แต่ก็แทบจะหงายหลังตกเตียง เมื่อคู่สนทนาพยักหน้าเบา ๆ ยืนยันตัวตนของตัวเอง กล้ากลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ยกมือขึ้นลูบหน้า สมองก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้เอง คนเมื่อคืนที่เขานอนด้วย ไม่ใช่พลับ...แต่คือพีช กล้าเหลือบตามองคนตรงหน้า แล้วก็ยกมือนวดขมับตัวเองอย่างหนัก อาการปวดหัวแล่นจี๊ดขึ้นมา เมื่อคืนนี้เขาทำอะไรลงไป...

พอได้เห็นท่าทางกลัดกลุ้มของกล้าแบบนั้น พีชเองก็ชะงักไปเช่นกัน รอยยิ้มบนใบหน้านั้นจางลงและเลือนหายไป เขาหลุบตาลงต่ำไม่กล้าสบตากับกล้าอีกต่อไป เห็นใบหน้าที่ซีดเผือดของกล้าแล้วก็เจ็บใจ กล้าตกใจขนาดไหนเชียว ทำไมพอรู้ว่าเป็นพีช ถึงได้ซีดไปทั้งตัวแบบนั้น รอยยิ้มก่อนหน้านี้หายไปไหนหมด

กล้าสูดลมหายใจเข้าลึก เรียกสติตัวเองให้กลับมา นั่งกลุ้มไปคงไม่เป็นประโยชน์ สิ่งแรกที่เขาควรทำในตอนนี้ คือขอโทษอีกฝ่าย

“พีช...เรื่องเมื่อคืน...ขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ เรา...เมา” คำว่าเมานั้น กล้าพูดออกมาเสียงเบามาก แถมทำปากขมุบขมิบ จนเกรงว่าพีชอาจอ่านปากเขาไม่ได้ แต่จะให้กล้าพูดอย่าเต็มปากได้อย่างไร ว่าตัวเองเมา เขารู้ตัวแทบจะตลอดเวลาว่าทำอะไรลงไปบ้าง...เพียงแต่มันดีมากจนเขาคิดว่าเป็นความฝันจนไม่ได้ยั้งใจ

พีชนิ่ง หลับตาและเม้มปากแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนที่จะทำใจลืมตามองหน้ากล้า ปลอบใจตัวเองแล้ว ขยับไปสะกิด พีชทำภาษามือแต่กล้าไม่เข้าใจ พีชเลยเอื้อมมือคว้าสมุดโน้ตมาเขียนแล้วส่งให้กล้าอ่าน

‘ไม่เป็นไร เราเองก็เมา อย่ากังวลเลย’

กล้าขมวดคิ้ว ใบหน้าแสดงออกถึงความรู้สึกผิด ยิ่งเห็นว่าพีชยิ้มทั้งที่ใบหน้าเศร้าก็ยิ่งรู้สึกแย่ พอไล่สายตามองตามเนื้อตัวของพีชก็เห็นรอยจูบสีอ่อนไปทั่วลำคอและแผ่นอก วกสายตาขึ้นมามองหน้าพีชอีกครั้ง ก็รู้สึกผิดขึ้นไปอีก

ทำไมถึงได้เป็นแฝดที่เหมือนกันขนาดนี้ ไม่มีตำหนิอะไรให้แยกกันได้เลยซักนิด แล้วพีชจะรู้สึกแย่ขนาดไหนกัน ที่โดนผู้ชายแบบเขากอด แถมยังเข้าใจผิดว่าเป็นคนอื่นอีก เขาไม่กล้าพูดออกไปเลย ว่าเมื่อคืนเขาเข้าใจอะไรผิดไปบ้าง

และกล้าก็ยิ่งรู้สึกผิดกับตัวเองมากกว่าเดิม เมื่อคิดว่าพีชจะนำเรื่องนี้ไปบอกน้องชาย พลับคงได้เกลียดเขาจริงๆ แน่ รู้ว่าพูดขอออกไปมันคงดูไม่ดี แต่เขาไม่อยากให้พลับรู้เรื่องนี้จริง ๆ

“พีช เรื่องนี้...อย่าบอกพลับได้มั้ย?”

พีชกัดริมฝีปากตัวเอง พยายามหายใจเข้าลึก ๆ ทั้งที่ในอกมันตีบตันไปหมด มันเจ็บ...แต่ก็แสร้งทำเป็นยิ้มออกไป ก้มหน้าลงเขียนในสมุดแล้วยาวเหยียด แล้วส่งให้กล้าดูอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มกว้าง

‘เราไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้นแหละ กล้าสบายใจได้ กล้าไม่ต้องรู้สึกผิดเลย เมื่อคืนเราเมาจนจำอะไรแทบไม่ได้ แล้วเราทั้งคู่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว’

กล้าอ่านแล้วหลับตาลงครู่หนึ่ง พีชบอกเขาว่าไม่ต้องรู้สึกผิด ตัวเองจำอะไรไม่ได้ แล้วทำไมพีชต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นด้วย

ทั้งห้องเงียบไปครู่ใหญ่ ทั้งคู่เงียบเพราะตกอยู่ในวังวนความคิดของตนเอง กล้ารู้สึกผิดกับสิ่งพลาดไป แต่ก็เห็นด้วยกับสิ่งที่พีชบอกมา เป็นผู้ชายทั้งคู่ ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว ส่วนพีชก็นั่งนิ่งปลอบใจตัวเองอยู่เงียบ ๆ แบบนี้แหละดีแล้ว พอใจแล้ว ให้มันจบแค่วันนี้

พีชพยักหน้าให้กำลังใจตัวเอง สะกิดกล้าให้หันมามอง จากนั้นก็พยายามยิ้ม ทำเป็นไม่คิดอะไรมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ชี้ไปทางห้องน้ำ เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่า กล้าจะอาบน้ำก่อนมั้ย

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรากลับไปอาบที่ห้อง”

พีชยิ้มแล้วพยักหน้า ค่อยขยับตัวลุกออกจากเตียง แล้วคว้าเสื้อผ้ามาใส่เดินเข้าห้องน้ำไป กล้ามองตามพีช ดวงตาสั่นไหวนั้นมองไปที่ต้นแขนเล็ก รอยจูบ แล้วหันมามองคราบเปื้อนที่เตียง เป็นรอยเลือดจางๆ ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็พอจะรู้ว่าเกิดจากอะไร ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกผิดไปใหญ่ กล้าสะบัดหัว ขยี้ผมตัวเองอย่างฟุ้งซ่านก่อนที่จะลุกขึ้น หยิบเสื้อผ้ามาแต่งตัว แล้วจัดการดึงผ้าปูเตียงออกเตรียมนำไปทิ้ง

พีชเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี กล้าหยุดยินอยู่นิ่ง ๆ หันไปมองพีช กล้ากัดกรามตัวเอง ใบหน้าเคร่งเครียด เขาเห็นว่าพีชตาแดง จมูกแดง ดูก็รู้ว่าร้องไห้มาแน่นอน

พีชวางผ้าขนหนูลง เดินไปหยิบเครื่องช่วยฟังมาใส่ที่หู แล้วดึงผ้าปูที่นอนออกจากมือกล้า พยายามบอกว่าจะทำเอง ให้กล้ากลับห้องไปก่อนที่พลับจะกลับมา

กล้าปล่อยผ้าให้พีช และขยับไปมองดูอยู่ด้านหลัง มองไหล่บางๆ นั้น คิดจะเอื้อมมือไปแตะ แต่ก็เปลี่ยนใจ เดินออกจากห้องพักของฝาแฝด

พอกล้าปิดประตู พีชก็ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ไหลออกมา เมื่อคืนมันมีความสุขมากนะ แต่ไม่คิดเลยว่าตื่นมาแล้วจะรู้สึกเจ็บปวดได้มากขนาดนี้ พีชดูผ้าปู เห็นรอยเปื้อนจาง ๆ พาลให้นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ความรู้สึกสับสนก็ตีขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ พีชส่ายหน้า ปาดน้ำตาออก แล้วก็รีบดึงผ้าปูที่นอนออก

พอจัดการกับผ้าปูเสร็จพีชก็นึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อคืนน้องชายไม่ได้กลับมานอนห้อง คิดแล้วก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมา กลัวว่าพลับอาจกลับมาเจอตอนที่กล้าไม่อยากให้เห็น ก็เลยออกไปนอนที่อื่น คิดได้แบบนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความส่งไปถามน้องชายว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน

‘กำลังกลับห้องแล้ว’

รอไม่นานพลับก็กลับมาจริง ๆ สภาพของพลับทำให้พีชแปลกใจไม่น้อย ยังไม่ทันได้ถามอะไร น้องชายก็เดินเข้ามากอดพีชไว้แน่น เขาพยายามจะดันตัวพลับออก อยากคุยว่าเป็นอะไร แต่พลับก็กอดไว้แน่นไม่ปล่อยพีชเลย พี่ชายที่กำลังมีเรื่องทุกข์ใจอยู่ พอมาเห็นน้องชายดูอารมณ์ดีแบบนี้ก็พลอยรู้สึกดีขึ้น

‘เป็นอะไร’ พีชทำภาษามือ พลับยิ้มจนตาหยี เอียงหน้าไปมา ไม่รู้จะเริ่มต้นบอกพี่ชายตนเองอย่างไรดี

“เรามีแฟนแล้วนะ”

พลับพูดออกมา เมื่อคืนเขาทำเรื่องที่คนอื่นอาจจะเรียกว่าผิดพลาดแต่สำหรับพลับมันเป็นเรื่องที่วิเศษ ยอมรับว่าตอนที่ทำไม่ได้คิดอะไร ทำไปเพราะตามใจตัวเองล้วน ๆ แต่พอตื่นมากลับได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง ผลที่ได้รับมันถือว่าดีมากสำหรับเขา

ย้อนกลับไปเมื่อคืน ตอนที่พลับไปส่งไม้ที่ห้องพัก พลับถือวิสาสะเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ไม้ เนื่องจากเพราะเหม็นกลิ่นเบียร์และกลัวว่าไม้จะนอนไม่สบาย

“พี่ไม้ครับ ผมเปลี่ยนเสื้อให้นะ” พลับพูดแล้วถอดเสื้อไม้ออก คนเมาก็พยายามพยุงตัว ขยับแขนให้พลับถอดออกโดยสะดวก พลับมองแล้วก็ยิ้ม ไม้ตอนเมาน่ารักไม่น้อยเลย เพราะสั่งให้ทำอะไรก็ทำถึงแม้จะลืมตาไม่ขึ้นแล้วก็ตาม

พอเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อให้เรียบร้อย พลับก็มาจัดผ้าห่ม จัดท่านอนให้ไม้นอนอย่างเรียบร้อย นั่งดูไม้ที่เหมือนจะหลับไปแล้ว สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ก้มตัวลงจูบปากของไม้ไปหนึ่งครั้งถือเป็นรางวัลของตัวเอง แต่พอจะผละออกก็โดนคนเมาดึงมือเอาไว้ ตอนนั้นพลับตกใจมาก ไม่คิดว่าไม้จะตื่นอยู่ รีบกล่าวขอโทษออกไปทันที

“จูบทำไม…” ไม้ถาม ทั้งที่ตาปรือ

“...” พลับก้มหน้าเงียบ ไม่กล้าตอบ จะให้ตอบว่าอะไรล่ะ ที่พลับแอบจูบไม้ก็เพราะว่ารักไง รักเลยจูบ แต่พูดออกไปแบบนั้นได้ที่ไหนล่ะ

“ไม่ได้เรื่องเลย” พอพลับเงียบ ไม้ก็หงุดหงิดที่ไม่รับคำตอบที่ต้องการ พูดอู้อี้ตามประสาคนเมา พร้อมทั้งดึงตัวพลับให้ขึ้นมานั่งบนเตียง

“พี่ไม้...” มีนดึงมือออก แต่ก็ต้านแรงไม้ไม่ไหว เลยถลาไปนั่งอยู่บนเตียง

“จูบได้ห่วยมาก...มานี่ เดี๋ยวสอน” ไม้พยุงตัวขึ้น พร้อมทั้งเหนี่ยวคอเล็กลงมาประกบปากจูบ สอนจูบดี ๆ ให้คนตรงหน้าได้รู้จัก ฝ่ายพลับถึงจะตกใจในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นก็ทำตัวเป็นนักเรียนหัวดี ขยับลิ้น ทำตามที่ไม้สอน

คลาสสอนจูบดูดดื่มขึ้น จนแตะอุณภูมิของความเร่าร้อน ไม้นั้นเป็นอาจารย์ที่ดี ไม่ได้หยุดสอนแค่จูบ แต่สอนไปถึงเรื่องอื่นด้วย…

ในเช้าวันต่อมาพลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนเพราะเสียงนาฬิกาปลุกของไม้ พลับลืมตาเห็นหน้าหน้าของไม้อยู่ใกล้ ก็ยิ้มอยู่คนเดียว ก่อนที่จะแกล้งทำเป็นหลับเมื่อไม้พลิกตัวนอนหงาย

ขอแกล้งหลับก่อนดีกว่า เพราะพลับไม่รู้จะทำหน้ายังไง เรื่องเมื่อคืนมันเกินความคาดหมายไปมาก ตัวพลับเองมีความสุขดีที่ได้ร่วมรักกับคนที่ชอบ แต่พี่ไม้ล่ะจะมีความสุขไปกับเขารึเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อคืนเขาทำไปเพราะขาดสติทั้งนั้น ต่างจากเขาที่มีสติครบถ้วนแถมยังเต็มใจให้ทำอีก

ไม้ลืมตา คว้าโทรศัพท์มาปิดเสียงน่ารำคาญ แล้วก็เด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่เห็นคือ เสื้อผ้าของเขาที่กองอยู่ปลายเตียง แล้วก็รีบมองคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างตัว

“นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย” ไม้ถอนหายใจยกมือขึ้นลูบหน้า เมื่อคืนเขาจำแทบไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น กลับมาที่ห้องตอนไหน แล้วทำไมเพื่อนของน้องชายถึงมานอนเปลือยอยู่ตรงนี้ได้ แค่นึกถึงสาเหตุที่ทำให้พลับนอนเปลือยแบบนี้ ก็ทำเอาไม้ปวดหัวขึ้นมาเลย

ไม้ขยับตัวลงจากเตียง ระมัดระวังไม่ให้เตียงยวบมากนัก เพราะไม่อยากให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาตอนนี้ พอลงจากเตียงได้ก็รีบหยิบเสื้อผ้าของตนเองขึ้นมาใส่

พลับอาศัยจังหวะนั้นแอบลืมตาขึ้นเล็กน้อย มองดูการกระทำของไม้ที่รีบแต่งตัว แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน แต่ก่อนที่ปิดประตู ไม้หันกลับมามองที่เตียงอีกครั้ง จนพลับแกล้งหลับตาแทบไม่ทัน

หลังจากที่คิดว่าพี่ไม้ออกไปแล้ว พลับก็ยังคงนอนหลับตานิ่งๆ ตอนนี้ไม่มีแรงที่จะลุกหรือลืมตาเลย โดนพี่ไม้ทำแบบนี้ใส่ เจ็บดีแฮะ หน่วงไปหมด จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก

“พลับ…” คนที่คิดว่าหนีไปแล้ว เดินมานั่งลงที่ขอบเตียง แล้วเขย่าแขนเล็ก ปลุกพลับขึ้นมา

ก่อนหน้านี้ไม้เหมือนคนที่ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ เขาไม่ได้คิดมากกับเรื่องรักเพศเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเขา เขาเป็นผู้ชายปกติ มีแฟนเป็นผู้หญิง เมื่อคืนเพิ่งจะอกหัก แต่ตอนเช้าดันมีผู้ชายมานอนอยู่ข้างกายแบบนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ชวนให้สติแตกไม่น้อยเลย

ตื่นมาก็ไม่รู้ว่าจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร จึงเกิดความคิดตื้นๆ ขึ้นมาว่าให้เดินหนีออกมาเลย แต่ก็มาคิดได้ว่าการที่เขาทำแบบนั้นมันไม่ถูกต้อง เลยตัดสินใจที่จะกลับมาปลุกพลับให้ตื่นขึ้นมาคุยกัน หนีไปก็เท่านั้น เขาทำพลาด เขาต้องรับผิดชอบ

“พลับครับ...ตื่นมาคุยกันหน่อย”

“พี่ไม้…” พลับลืมตา แล้วพยุงตัวขึ้น เบ้หน้าเล็กน้อย เมื่อรู้สึกเจ็บขัดตรงส่วนที่น่าอาย ไม้รีบพยุงตัวพลับให้นั่งดี ๆ แอบลอบมองร่างกายพลับไปด้วย ตามตัวพลับมีแต่รอยจ้ำแดง ที่ไหล่ขวามีรอยกัดที่เขาชอบทำเป็นนิสัยเวลาที่เซ็กส์

“เมื่อคืนเรามีเซ็กส์กัน”

“ครับ...ผมรู้” พลับหน้าแดงขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าพี่ไม้จะพูดขึ้นมาตรงๆ แบบนี้

“เอ่อ...แล้วพี่ พี่ไม่ได้...บังคับขืนใจเราใช่มั้ย” ไม้ถามอย่างไม่แน่ใจ ร่องรอยที่เห็นบนตัวของพลับนั้น ก็ดูหนักหน่วงอยู่พอสมควร แถมเมื่อคืนเขาจำไม่ได้ว่าเผลอทำอะไรรุนแรงหรือฝืนใจอีกฝ่ายไปรึเปล่า?

“...ไม่ครับ” พอได้ยินแบบนั้นไม้ก็โล่งใจไปเรื่องนึง แต่ก็สงสัยขึ้นมาทันทีว่า ในเมื่อตัวเขาไม่ได้ข่มขืน ทำไมพลับถึงได้ไม่หนีไปล่ะ หรือว่าพลับเองก็เมาไม่ได้สติเหมือนกันงั้นเหรอ?

“แล้วทำไมพลับถึง...ช่างเถอะ พลับอยากให้พี่รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นยังไง?” ไม้คิดอยากจะถามว่าทำไมพลับถึงยอมให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่ก็เปลี่ยนใจ เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว ถามตอนนี้มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

“รับผิดชอบ...อะไรครับ”


ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
“ก็เรื่องที่พี่ทำกับเราเมื่อคืนไง พี่เมามากและรู้สึกผิด ที่ปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ แถมพี่คิดว่า...เมื่อคืนนี้พี่ไม่ได้ป้องกัน พี่ควรจะรับผิดชอบ”

“...ผมเป็นผู้ชายนะ” พลับรู้ว่าไม้น่ะเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบสูงมาก แต่ไม่คิดว่าจะสูงถึงขนาดนี้ พี่ไม้ไม่รู้จักพวก one-night stand เหรอ ไม่ได้อยากได้ความสัมพันธ์แบบนั้นหรอกแต่ก็ไม่ได้ต้องการให้พี่ไม้มาฝืนใจรับผิดชอบอะไร สิ่งที่ได้รับเมื่อคืน สำหรับเขามันก็ถือว่าดีพอแล้ว

“ก็ใช่ แต่เมื่อคืนเรา... พี่ว่า พี่ควรรับผิดชอบอะไรสักอย่าง” ไม้กอดอก มองหน้าพลับอย่างจริงจัง เขาทำพลับเสียหาย ยังไงก็ต้องทำอะไรได้บ้าง จะมานั่งเฉยๆ ปล่อยให้ผ่านไปได้ยังไงกัน

“พี่ไม้กลัวว่าผมจะท้องหรือครับ พี่เห็นนี่มั้ย ผมเป็นผู้ชายนะ”

พลับตลบผ้าห่มออก ให้ไม้ดูส่วนอวัยวะเพศของตน ไม้จ้องเล็กน้อยก่อนจะรีบเมินหน้าไปทางอื่นทันที แก้มและใบหูแดงก่ำ เพราะตรงหว่างขาของพลับนั้น เต็มไปด้วยรอยจูบสีเข้มและอ่อนปะปนกันไป  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ พลับคงม้วนตัวลงไปทำคิสมาร์กที่ต้นขาตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว

พลับที่เพิ่งจะได้เห็นสภาพตัวเองก็ตกใจ รีบตลบผ้าห่มกลับมาคลุมตัวดังเดิม พอเห็นว่าพี่ไม้หน้าแดง เขาก็หน้าแดงตามอีกคน

“ถ... ถ้าอย่างงั้น พี่จะรับผิดชอบผมยังไงครับ” พลับถามออกไป

ไม้เงียบไปพักใหญ่ ครุ่นคิดอย่างหนัก เขาควรที่จะทำอย่างไรดี ความจริงจะปล่อยเรื่องนี้ไปก็ได้ แต่นั่นไม่ใช่นิสัยเขา ปล่อยไปเขาก็ไม่สบายใจ แถมต้องมานั่งรู้สึกผิดอีก นี่เพื่อนของน้องชาย สนิทกันด้วย ทำอะไรไม่ดีไปจะเข้าหน้ากันไม่ติดเอา

“เรา...เป็นแฟนกันดีมั้ยครับ”

“หะ!!” พลับตกใจกับคำที่ไม้พูดออกมา หัวใจเต้นระรัว ตอนนี้คนที่พลับชอบกำลังขอพลับเป็นแฟน นี่ฝันอยู่รึเปล่า ขอหยิกตัวเองซักทีเถอะ

“คือ พี่คิดว่ารื่องที่เราทำกันเมื่อคืน เป็นเรื่องที่คนรักเขาทำกัน ถ้าพี่อยากทำให้มันถูกต้อง เราก็คงต้องคบกัน ถูกต้องมั้ยครับ” ไม้อธิบายด้วยเหตุผล มองเด็กหน้าเหวอตรงหน้า แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกอายกับคำที่ตัวเองพูดออกไป น้องเขาคงรู้สึกไม่ดีที่โดนผู้ชายด้วยกันมาขอเป็นแฟนแบบนี้ คิดแล้วไม้ก็เลยขยับเข้าไปใกล้ จะแก้ตัว

“อะ เอ่อ ถ้าพลับไม่สบายใจ เดี๋ยวพี่หาทางอื่น…”

“ได้ครับ ผมเป็นแฟนพี่ได้” พลับตะครุบมือไม้เอาไว้และรีบตกลงก่อนที่คนตัวสูงจะเปลี่ยนใจ จู่ๆ ก็มีโอกาสอยู่ตรงหน้า พลับขอคว้าไว้ก่อนดีกว่า ควรหรือไม่สมควรอย่างไร เอาไว้ค่อยคิดทีหลัง

“อ อืม งั้นเอาตามนั้น เราเป็นแฟนกัน”

“แล้วพี่ไม้...ไม่รังเกียจเหรอครับที่มีแฟนเป็นผู้ชาย”

“ไม่รังเกียจหรอก พี่สิต้องถามเรามากกว่า พี่เป็นผู้ชาย แถมอายุก็เยอะกว่าเรามากเลยด้วย” ไม้ตอบตามที่คิด เขาไม่ได้คิดมากว่าจะมีแฟนเป็นเพศไหน แล้วก็ไม่ได้รู้สึกแย่ที่ต้องมาเป็นแฟนพลับ กลัวก็แต่เด็กตรงหน้านี่แหละจะเสียใจ ที่โดนคนอายุเยอะกว่าล่วงเกินแล้วต้องมาเป็นแฟนกันแบบนี้

“ผมไม่รังเกียจเลยครับ ทำแล้วพี่สบายใจ ผมก็ยินดีทำครับ”

“ขอโทษที่มันกะทันหันนะ ตอนนี้เราอาจจะยังไม่ได้รักกัน แต่ถ้าเราอยู่ด้วยกันบ่อยๆ มันอาจจะดีขึ้นได้” ไม้พูดตามที่คิดจริง ๆ พลับเป็นเด็กดี น่ารัก คบๆ กันไป ได้รู้จักกันมากขึ้น ไม้อาจจะรักเด็กตรงหน้าได้ เพราะลองนึกถึงเรื่องที่ทำกันเมื่อคืน เขาก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรเลย

“ครับ สักวันเราจะรักกัน” ...สักวันพี่ไม้จะรักพลับ

พลับรู้สึกดีที่ได้พูดคำว่ารักกันออกมา พี่ไม้ไม่ได้รังเกียจเขา หลังจากนี้จะเป็นโอกาสที่ดี พลับจะพยายามทำตัวดี ให้พี่ไม้หันมารักพลับจริงๆ ให้ได้

หลังจากที่ตกลงกันรู้เรื่อง ไม้ก็ให้พลับไปอาบน้ำ ตอนที่พลับลุกจากเตียงก็ช่วยพยุง แอบมองร่างกายเด็กตรงหน้าไปบ้าง ก็เห็นว่าไม่มีอะไรที่ต่างจากร่างกายเขามากนัก อวัยวะทุกส่วนก็มีเหมือนกัน แต่แปลกที่มองแล้วกลับรู้สึกเพลินตากว่ามองร่างกายตัวเองยังไงไม่รู้

หลังจากที่พลับเข้าห้องน้ำไปแล้ว ไม้ก็ล้มตัวนอนบนเตียงอีกครั้ง ยกมือขึ้นจับตรงบริเวณหน้าอกตัวเองแล้วนึกถึงเรื่องเมื่อวาน แปลกใจตัวเองที่วันนี้ไม่ได้รู้สึกเสียใจมากนักกับการถูกแฟนสาวบอกเลิกมากนัก จะมีก็แต่รู้สึกหงุดหงิดเพราะเสียดายเวลาที่คบกันมา หรือเป็นเพราะพวกเขาอาจหมดรักกันไปตั้งนานแล้ว แต่ที่ยื้อคบกันอยู่เพราะความผูกพัน ไม้หาข้อสรุปให้ตัวเอง ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วลบเบอร์ของแฟนเก่าออกจากเครื่องไป

ตอนนี้ก็ถือได้ว่า เขามีแฟนใหม่ ถึงจะเร็วและซับซ้อนไปหน่อย แต่ยังไงก็ต้องดูแลให้ดี ทำหน้าที่แฟนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันแล้ว ทุกคนก็ลงไปรวมกันที่ร้านอาหารของโรงแรมเพื่อกินข้าวด้วยกัน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารนั้นดูอึดอัดเล็กน้อย เพราะกล้าเอาแต่จ้องเขม็งไปที่พี่ชายตัวเองที่กำลังตักกับข้าวใส่จานของพลับ แถมยังคอยดูแลรินน้ำให้อีกด้วย

“เมื่อคืนมึงไปนอนไหนวะไอ้กล้า กูตื่นมาฉี่ตอนเช้าไม่เจอมึง” แบงก์หันไปตามกล้า แต่พีชที่จ้องอ่านปากอยู่นั้นรีบหันไปมองกล้าทันที ทางด้านของกล้าเองก็สะดุ้งกับคำถาม เขากลืนน้ำลายคิดหาคำตอบพลางหันไปมองหน้าพีชก่อนจะหลบตาแล้วตอบแบงก์ออกไป

“...กูออกมานอนที่โซฟารำคาญเสียงกรนของมึง”

พีชสูดหายใจเข้าแล้วเม้มปาก ใช่...กล้าควรตอบแบบนั้นแหละ ถูกแล้ว...ตอบไปแบบนั้นแหละดีที่สุด ดีแล้ว...

“กูกรนดังขนาดนั้นเลยเหรอวะ เออใช่!! เมื่อคืนมึงเอาผ้าเช็ดเท้ามาห่มให้กูทำไมวะ โคตรแย่”

พีชอ่านปากแล้วก็ทำหน้าตื่น เขาเองนี่แหละที่เป็นคนห่มผ้าให้แบงก์แต่ไม่ทันสังเกตว่าผ้าผืนนั้นจะเป็นผ้าเช็ดเท้า หยิบผ้าอะไรได้ก็ห่มให้คนเมาไป พีชได้แต่ยิ้มแห้งขอโทษแบงก์ในใจไม่กล้าบอกออกไปว่าพีชเองที่เป็นคนห่มให้ กลัวว่าแบงก์จะโกรธก็เลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไป

แบงก์บ่นไปเรื่อยตามประสาคนพูดมาก ไม่นานเขาก็สังเกตได้ว่า พี่ไม้เอาแต่ตักข้าวเทกแคร์ดูแลพลับดีมากจนผิดปกติ จนเขาต้องแซวออกมา

“แหมๆ พี่ไม้ตักให้แต่พลับนะครับ น้องคนอื่นก็นั่งอยู่ด้วยเนี่ย ไม่เห็นตักให้เลย ไอ้กล้าน้องชายพี่แท้ๆ เนี่ยน้อยใจไปแล้วมั้ง”

“เป็นแค่น้องก็ต้องดูแลตัวเองไป นี่แฟนพี่ พี่ก็ต้องดูแลสิ”

ไม้ตอบแล้วยิ้ม แบงก์ทำตาโตแปลกใจแต่ก็โห่แซว ใบหน้ากวนๆ ยิ้มระรื่นใคร่ถามรายละเอียดต่าง ๆ ผิดกับกล้าที่หูดับไปแล้ว คำที่ไม้พูดเหมือนฟ้าผ่ากลางใจของกล้า ที่พี่ชายเขาพูดมันหมายความว่ายังไง เขาสงสัยอยากจะถามแต่หาเสียงตัวเองไม่เจอเลย เหมือนอะไรบางอย่างที่อยู่ในอกมันหยุดเต้นไปจนแม้แต่หายใจก็ยังลำบาก

“เฮ้ย เมื่อไรวะพี่ ผมพลาดอะไรไปเมื่อไร ก็เมื่อวานพี่เพิ่ง...”

“เออน่า อย่าถามมาก รู้แค่ว่าตอนนี้พี่กับพลับเป็นแฟนกันก็พอ” ถ้าไม่โดนไม้ขัดขึ้นมาก่อน แบงก์ก็อยากจะพูดต่อเหลือเกินว่าไม้เพิ่งจะเลิกกับแฟน แล้วไหงวันนี้มาคบกับพลับได้ พี่ไม้นี่ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกันนะ เห็นเงียบๆ แต่ก็คงจะกินเรียบนะครับ

“พี่...คบกับพลับเพื่อประชดพี่แก้มเหรอ” กล้าที่เพิ่งหาเสียงตัวเองเจอ ถามออกไป ดวงตาล่องลอยเมื่อไม้ปฏิเสธว่าไม่ใช่พร้อมหันไปกุมมือพลับอีก ยิ่งเห็นว่าพลับยิ้มเขินแบบนั้นให้พี่ไม้ เขาก็ยิ่งรู้สึก...เจ็บ

กล้ามองพลับ แววตาสดใสนั่นเป็นของพี่ไม้ไปแล้ว ที่พลับปฏิเสธเรื่องจูบกับเขาเมื่อวานก็เพราะว่าชอบพี่ไม้อยู่งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว...เขาไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกแบบนี้ยังไง แต่เขาทนนั่งตรงนี้ต่อไปไม่ไหวแล้วก็เลยตัดสินใจลุกออกมา

พีชที่นั่งมองกล้าอยู่ตลอดก็เป็นห่วงที่กล้าลุกออกจากโต๊ะ ทุกคนเองก็งุนงง พีชรู้ดีว่ากล้าเป็นอะไรเลยลุกตามออกมาด้วยความเป็นห่วง กล้าเดินมานั่งอยู่ที่สวน พีชเดินเข้าไปหาอยากจะปลอบใจ แต่พอกล้าเงยหน้าขึ้นมามองเขาก็ต้องชะงัก แววตาแบบนี้ไง แววตาแบบเดียวกันกับที่เขาเห็นในดวงตาตัวเองผ่านเงาสะท้อนของกระจกเมื่อเช้านี้ แววตาของคนเจ็บปวด เจ็บเพราะรักที่ไม่สมหวัง พีชไม่อยากให้กล้ารู้สึกแบบนี้เลย

พีชมองกล้าด้วยสายที่สงสารแต่กล้ามองพีชด้วยสายตาของคนที่เจ็บปวด แวบแรกที่เงยหน้าขึ้นมอง ใจเขามันพองโตเพราะคิดว่าพลับตามออกมา แต่ไม่ใช่...นี่คือพีช และพอรู้ว่าคือพีชก็ทำให้นึกรู้สึกผิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ตอนนี้เขารู้สึกแย่ แย่ไปเสียทุกอย่าง

“ทำไม...เขาถึงคบกับล่ะ พลับชอบพี่ไม้เหรอ เขาเคยบอกเรื่องนี้กับพีชบ้างไหม?”

กล้าถามออกไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา พีชอ่านปากนิ่งไปพักหนึ่ง ลังเลว่าจะตอบกล้ายังไงแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพยักหน้าไป ความจริงพลับไม่เคยเล่าว่าตัวเองชอบพี่ไม้อยู่ แต่พลับคงลืมคิดไปว่าพีชน่ะเป็นแค่คนพิการทางหู ตายังคงมองเห็นอยู่ พีชรู้ว่าพลับชอบพี่ไม้ ชอบมานานแล้วด้วย...นานพอๆ กันกับที่พีชชอบกล้านั่นแหละ

“ทำไมล่ะ เมื่อวานเราได้จูบกับพลับด้วยนะ เขาได้เล่าเรื่องนี้ให้พีชฟังด้วยมั้ย”

พีชเม้มปาก ไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะคนที่กล้าจูบด้วยไม่ใช่พลับเสียหน่อย เขาตังหากที่ได้จูบกับกล้าน่ะ เขาตังหากที่กล้ายิ้มให้เมื่อวานน่ะ พอพีชไม่ตอบกล้าก็แค่นหัวเราะให้ตัวเองเข้าใจไปว่าพลับไม่ได้เล่าให้ฟัง กล้าหลับตาลงแล้วน้ำใสๆ ก็ไหลออกมา พีชเม้มปากมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกสงสาร เขารู้ว่าตอนนี้กล้ารู้สึกยังไง พีชรู้ดี เพราะพีชก็รู้สึกเหมือนกัน

“อา...อาอ้อง” พีทพยายามส่งเสียงอยากจะพูดปลอบว่ากล้าอย่าร้อง แต่ก็รู้ว่าแค่วิธีขยับปากและส่งเสียง ไม่รู้ว่าเวลาขยับลิ้นเพื่อเปล่งพยัญชนะต้องทำยังไง เขาดูออกแต่ทำตามไม่ได้ลิ้นของเขามันแข็งเกินไป เสียงที่เปล่งออกไปคงดูตลก

พีขขยับเข้าไปยืนใกล้ๆ ยกมือเช็ดน้ำตาให้แทนการพูด แต่ยิ่งเช็ดคนตรงหน้าก็ยิ่งร้อง ทำไมกล้าต้องมองหน้าเขาแล้วร้องหนักกว่าเดิมล่ะ ถ้าให้เดาคงเพราะเห็นหน้าเขาแล้วนึกถึงพลับแน่เลย พีชส่ายหน้าเห็นน้ำตาของคนที่ตัวเองรักก็พาลจะร้องไห้ตาม เขาส่ายหน้าอยากให้พีชหยุดร้อง แต่ต้องทำยังไงล่ะ...ต้องไม่ให้กล้าเห็นหน้าพีชใช่มั้ย

“ทำไมล่ะ ทำไมพลับไม่รักเรา ทำไมถึงไปชอบพี่ชายเรา ทั้ง ๆ ที่เราดีกับพลับมากเลยนะ...”

พีชอ่านปากแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วกอดกล้าเอาไว้ สองมือโอบรอบคอแน่นให้กล้าซบลงที่อก ทำแบบนี้กล้าก็จะไม่เห็นหน้าพีชแล้ว พอไม่เห็นหน้าเขาก็คงจะไม่นึกถึงพลับใช่ไหม...

พีชรู้สึกได้ความเจ็บปวดของคนที่เขากอดอยู่ น้ำตาของกล้าชื้นจนซึมผ่านเนื้อผ้าเข้ามา และซึมลงในใจหลอมรวมกับความเจ็บปวดของพีช ตอนนี้พีชเงยหน้าขึ้นแล้วร้องไห้ออกมาอย่างอดกลั้นต่อไปไม่ไหว

เรารักกล้า...แล้วทำไมกล้าไม่รักเรา ทำไมกล้าถึงไปรักน้องชายเรา ทั้ง ๆ เราก็ดีกับกล้ามากเหมือนกันนะ



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ตอนที่ 3 มีความสุขเหมือนกัน

หนึ่งอาทิตย์หลังกลับมาจากการผักผ่อนมหาวิทยาลัยก็เปิดเรียนตามปกติ แต่ที่ยังไม่ปกติคือกล้า เขาเอาแต่เงียบและไม่ค่อยคุยกับใคร ไม่ร่าเริงขี้เล่นเหมือนก่อนหน้านี้ ทำเอาแบงก์ที่คอยเป็นลูกคู่ก็หงอยไปด้วย

“ไอกล้า กูถามจริง มึงเป็นอะไรวะ”

แบงก์จับไหล่กล้าให้หันมามองหน้าและคุยกันตรงๆ แบงก์เองก็ห่วงเพื่อน คนที่คอยกวนอย่างไอกล้ามานั่งเงียบนั่งซึมแบบนี้อ่ะ มันผิดปกติ แถมสภาพร่างกายก็ไม่ค่อยดี หนวดก็ไม่โกนหน้านี่โทรมเชียว

“นั่นสิ กล้าเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ”

พลับถามเสริม ตั้งแต่กลับมาจากทะเลกล้าก็ดูเปลี่ยนไป พลับเคยถามพีชว่ากล้ามีเรื่องอะไรรึเปล่า เพราะเห็นพีชวิ่งตามออกไปวันนั้นน่าจะรู้เรื่องอะไรบ้าง แต่แฝดของเขาก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่พลับก็ไม่ค่อยเชื่อหรอก กล้าซึมขนาดนี้จะไม่มีอะไรได้ยังไง

“เจ็บคอ ก็เลยไม่อยากพูดกับใคร”

กล้าตอบสั้นๆ หาเหตุผลที่คิดว่าคนอื่นจะเชื่อ จะได้ไม่ต้องมาเซ้าซี้ถามกันอีก กล้ามองไปที่พลับ อีกฝ่ายส่งยิ้มแถมยังยื่นยาอมแก้เจ็บคอมาให้อีก กล้ายิ้มบางมองหน้าพลับแล้วก็หลุบตาลงเมื่อสบกับนัยน์ตาใสสีน้ำตาลนั้น ก็น่ารักแบบนี้ไงถึงได้ตัดใจยาก พี่ชายโชคดีจริงๆ ที่ได้ความรักจากพลับ

พีชที่นั่งอยู่ติดกับพลับ เห็นแววตาเศร้าของกล้ามองมาที่น้องชายตัวเองแล้วก็เม้มปาก อยากทำให้กล้ารู้สึกดีขึ้น ไม่อยากให้กล้าเศร้าแบบนี้นาน ๆ เลย อยากเห็นรอยยิ้มของเขา อยากเห็นความสดใสของเขา

นั่งกันอยู่สักพักก็ได้เวลาเข้าเรียน ทุกคนพากันเดินเข้าคลาส เป็นคลาสดรออิ้ง ในครั้งนี้อาจารย์ให้ทุกคนจับคู่กับวาดภาพพอร์ตเทรต (portrait) ของเพื่อน

“ครั้งนี้ ผมขอให้ฝาแฝดแยกกันนะ ไปวาดเพื่อนคนอื่นบ้าง วาดกันเองแค่สองคนเดี๋ยวเบื่อเสียก่อน ฝึกวาดโครงหน้ารูปแบบอื่นบ้าง” อาจารย์ประจำวิชาบอก พลับก็หันไปอธิบายกับพีช

“พีช...วาดคู่กับเรานะ”

กล้าสะกิดพีชให้หันมาอ่านปากเขา พอรู้เรื่องพีชก็พยักหน้าจนคอแทบหัก ยิ้มกว้างดีใจที่กล้ามาขอคู่ด้วย ถึงจะรู้เหตุผลว่าทำไมก็เถอะ แต่แค่ได้ทำอะไรร่วมกันแบบนี้ถึงจะเป็นอะไรที่เล็กน้อย พีชก็ดีใจแล้ว

“โอเคครับ พอได้คู่แล้วก็ลงมือทำได้เลยนะ sketchแล้วลงเงาลงแสงแค่คร่าวๆ ยังไม่ต้องเก็บรายละเอียดมาก เอาให้เสร็จภายในสามชั่วโมงนี้นะครับ และใครที่สงสัยลงแสง-เงาไม่ถูก ยกมือเรียกผมได้ทันที”

อาจารย์อธิบายเพิ่มเติม พีชมองปากอาจารย์ที่ขยับพูดอย่างตั้งใจ เขาเลือกเรียนสายนี้ก็เพราะเขาชอบวาดภาพ และที่สำคัญคือไม่ต้องอธิบายหรือใช้คำพูดอะไรมาก อาจารย์เขาแค่อธิบายทฤษฎีนิดหน่อยตอนต้นชั่วโมงจากนั้นก็เน้นลงมือปฏิบัติจริงแล้ว พีชเลยไม่ต้องมาจ้องนั่งอ่านปากอาจารย์ตลอดเวลา

พีชหยิบดินสออีอีที่เหลาจนแหลมขึ้นมา เหยียดแขนตรงแล้วหรี่ตาลงหนึ่งข้างเพื่อวัดสัดส่วนใบหน้าของกล้า ลงมือเสก็ตสัดส่วนนั้นลงบนกระดาษปรู๊ฟขนาดเอสามอย่างคล่องมือ จะไม่ให้คล่องได้ไง ก็พีชน่ะเคยแอบสเก็ตภาพของกล้าไว้ตั้งหลายรูป รายละเอียดต่าง ๆ บนใบหน้าของกล้าก็จำได้อย่างขึ้นใจเลย ภาพนี้ก็จะตั้งใจทำอย่างถึงที่สุด มีโอกาสได้นั่งจ้องหน้ากล้าตลอดสามชั่วโมงแบบไม่มีใครมาสงสัยเลย นับเป็นเรื่องดีๆ อีกเรื่องหนึ่ง

พอผ่านไปเกือบสามชั่วโมง เพื่อนคนอื่นที่ทำเสร็จแล้วก็เริ่มทยอยส่งงาน พีชที่วาดของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปยืนข้างหลังกล้าอย่างตื่นเต้น อยากเห็นรูปตนเองที่กล้าเป็นคนวาด

“เหมือนพีชมั้ย?”

กล้าหันมาถาม พีชยิ้มบาง ๆ ความตื่นเต้นเมื่อครู่นี้เลือนหายไป ดวงตาหม่นแสงลงเมื่อเห็นภาพที่กล้าวาด กล้าวาดเหมือนมาก เหมือนใครอีกคนที่ไม่ใช่พีช มุมที่อยู่ในภาพน่ะเป็นมุมที่มองไปที่พลับ ถ้าคนที่กล้าวาดเป็นพีชจริง ก็คงไม่ได้มุมหันข้างแบบนี้หรอก

‘คนนี้คือเราเหรอ?’

พีชหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาเขียนแล้วส่งให้กล้าอ่าน อีกฝ่ายนั้นเงียบไปพักหนึ่งแล้วก็พยักหน้าช้า ๆ พีชยิ้มแล้วส่ายหน้า แย่งดินสออีอีจากมือพีชมาเติมภาพให้สมบูรณ์

กล้ามองอย่างรู้สึกผิด เพราะพีชแย่งดินสอไปเติมเครื่องช่วยฟังให้ตัวเอง ตลอดสามชั่วโมงที่วาดภาพนี้ เขาเอาแต่มองไปที่พลับ แทบจะไม่ได้มองพีชเลย เขาห้ามสายตาตัวเองไม่ได้แถมยังคิดตื้นๆว่า พลับกับพีชก็เหมือนกัน วาดใครไปอาจารย์ก็ดูไม่รู้หรอก แต่ลืมคิดไปเลยว่าพีชรู้ มองแค่แวบเดียวพีชก็รู้ได้ทันทีเลยว่าคนในภาพไม่ใช่ตัวเอง

“เราขอโทษ”

กล้าพูดออกไป พีชไหวไหล่เหมือนบอกว่าไม่เป็นไรแถมยังตบไหล่ให้กำลังใจเขาด้วย พีชเป็นคนดีมาก ตอนที่ทำผิดพีชก็ไม่รู้สึกโกรธอะไรเขาเลย ตอนเขารู้สึกแย่ที่สุดพีชก็ยังตามมาปลอบ เป็นเพื่อนที่ดีมาก มากจนกล้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นเพื่อนที่เลวไปเลย

“เราขอดูรูปของพีชบ้างได้มั้ย”

พีชพยักหน้า เดินไปหยิบภาพที่ตัวเองวาดมาให้กล้าดู ยิ่งเห็นกล้าก็ยิ่งรู้สึกผิด เพราะพีชวาดรูปเชาได้เหมือนมาก ดูออกเลยว่าพีชตั้งใจวาดมากแค่ไหน สานเส้นอย่างสวยงาม ลงรายละเอียดได้อย่างสมบูรณ์เลย

‘เราวาดไม่สวยเหรอ?’

“ไม่ใช่ๆ สวยมาก พีชวาดเราได้หล่อเกินกว่าตัวจริงเสียอีก”

พอเห็นกล้านิ่งไป พีชก็แกล้งเย้าจนอีกฝ่ายหันมาแก้ตัวเสียยกใหญ่ พีชยิ้มขำ ดึงภาพไปส่งอาจารย์แล้วเดินกลับมาเก็บอุปกรณ์วาดภาพของตัวเอง กล้ามองตามรู้สึกผิดจนต้องทำอะไรสักอย่างจึงตัดสินใจเดินไปหาแล้วหยิบสมุดโน้ตของพีชขึ้นมาเขียนจากนั้นก็ส่งให้อีกฝ่ายดู

‘พีชอยากให้เราวาดรูปใหม่มั้ย คราวนี้เราจะวาดพีชจริงๆ’

พีชอ่านแล้วก็ตกใจ จิ้มไปที่นาฬิกาข้อมือเพื่อบอกว่านี่มันใกล้จะหมดเวลาส่งแล้วนะ

“เราส่งเลทได้ ถ้าพีชอยากให้เราวาดใหม่” กล้าพูดจริง เขายอมส่งช้าแล้ววาดรูปพีชจริงๆ แววตาหม่นของพีชตอนที่ดูรูปครั้งแรกมันติดอยู่ในใจ กล้าเอาแต่คิดถึงพลับมากเกินไป ดึงพีชมาเป็นคู่วาดรูปด้วยแท้ๆ แต่เขาดันไปวาดคนอื่นเสียนี่ มันก็เป็นเรื่องดูเสียมารยาทกับพีชไม่น้อยเลย

“อ้าว กล้าวาดเราทำไมอ่ะ” พลับที่กำลังเดินเอางานไปส่งแวะมาหากล้าที่ยืนคุยกับพีชอยู่ พลับมองไปที่กระดาษ ยกมือขึ้นลูบคางตัวเองแล้วเอียงคอมองภาพนั้นไปมา พูดประโยคกลั้วหัวเราะ ถึงจะดูเหมือนพูดเล่นแต่กล้าก็ตกใจ ที่พลับพูดออกมานั่นคือก็ดูออกเหมือนกันเหรอว่าคนในรูปไม่ใช่พีช

“โถ่พลับ เป็นฝาแฝดกันจะไม่เหมือนกันได้ไงวะ” แบงก์เดินตามมาสมทบทีหลังแล้วก็พูด คือแบงก์ก็ไม่เข้าใจเพื่อนตัวเองอ่ะ พีชก็เป็นแฝดของพลับ หน้ามันก็ต้องเหมือนกันไม่ใช่เหรอวะ คิดแล้วก็ยกรูปตัวเองขึ้นมาดู เนี่ย! เขาวาดพลับนะ แต่หน้ายังไปเหมือนพีชเลย

“5555 นึกว่าจะไม่มีคนรับมุกแล้วนะเนี่ย ” พลับหัวเราะเสียงดังหันไปแท้กมือกับแบงก์ที่ยืนงงอยู่ นั่นคือมุกของพลับเหรอ มันเป็นมุกยังไงวะ ไม่มีความขำความตลกใดใดทั้งสิ้น อยากจะบอกเพื่อนตัวเล็กของเขาเหลือเกินว่าทีหลังอย่าเล่นอีก มันไม่รุ่ง มีแต่ความงงกับความจาง จางในจางอ่ะ เพื่อนเคยได้ยินมั้ย อยากจะบอกไปแบบนั้นแต่ก็กลัวเพื่อนจะเสียเซลฟ์ เลยได้แต่ยิ้มโง่แล้วยกมือขึ้นแท้กด้วย

กล้าลอบถอนหายใจนึกว่าพลับจะดูออกเหมือนพีชเสียอีก เขาเงยหน้าสบตาพีชที่กำลังยืนยิ้มมองพลับกับแบงก์เล่นกัน

หลังเรียนเสร็จแบงก์ที่บ้านใกล้มหาลัยก็แยกตัวกลับบ้าน ส่วนพลับ พีชและกล้านั้นอยู่หอหน้ามหาวิทยาลัย ทั้งสามจึงเดินกลับหอพร้อมกัน

‘วันนี้ไม่ไปกินข้าวกับพี่ไม้เหรอ’

พีชหันไปใช้ภาษามือถามพลับ ตั้งแต่ที่ทั้งสองตกลงคบกันพี่ไม้จะมารับพลับไปทานข้าวเย็นเกือบทุกวันเลย พลับนี่ดูมีความสุขดีมากต่างจากอีกคนลิบลับ แค่รู้ว่าพี่ไม้มารับพลับทุกวัน สีหน้าก็ดูอมทุกช์ขึ้นอีกสิบเท่า

“รอพี่ไม้โทรมาหาน่ะ นี่ไง โทรมาพอดีเลย”

พลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกับคนปลายสายด้วยรอยยิ้ม กล้าที่เดินมาด้วยก็มองอยู่ตลอด เห็นแล้วมันก็รู้สึกอิจฉาพี่ชายตัวเองจริงๆ เลย

“พีชไปกินข้าวกับเรานะ พี่ไม้เขาก็ชวนพีชด้วย”

พลับชวน เขาปล่อยให้พีชกินข้าวเย็นคนเดียวมาหลายวันแล้ว ก็เคยชวนไปกินด้วยกันแต่พีชนั้นเกรงใจไม้ ครั้งนี้ถึงพี่ไม้ก็บอกว่าให้พีชมาด้วยได้แต่พีชก็ยังปฏิเสธ

ไม้นัดแนะให้เดินไปเจอกันที่ลานจอดรถ  แต่พลับก็เป็นห่วงพีชก็เลยขอเดินไปส่งพีชที่หอก่อน พีชที่ไม่อยากให้น้องชายตัวเองเดินย้อนไปมา ก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรให้พลับไปหาพี่ไม้ได้เลย

‘พลับไปหาพี่ไม้ได้เลย รีบไปเลยเดี๋ยวพี่ไม้รอนาน เดี๋ยวเราเดินกลับกับกล้าได้’

พีชชี้ไปที่กล้า แย่งกระดานวาดภาพของพลับมาถือแล้วทำมือให้พลับรีบไป แฝดคนน้องก็ทำหน้าชั่งใจว่าจะเอายังไงดี ก็เขาเป็นห่วงพี่ชาย ซอยเข้าหอนี่รถเยอะด้วยแถมไม่มีฟุตบาทอีกตั้งหาก

“กล้า ฝากส่งพีชด้วยนะ ส่งให้ถึงประตูห้องเลยนะ”

พลับยังไม่วางใจก็เลยหันไปฝากพี่ชายตัวเองไว้กับเพื่อน กล้าพยักหน้ารับมองตามหลังพลับที่เดินห่างออกไป พอหันกลับมาก็เจอพีชจ้องเขาอยู่ รู้ว่าพีชคงเป็นห่วงเขา ก็เลยส่งยิ้มบางให้แล้วบอกว่าไม่เป็นไร ตอนนี้กำลังทำใจอยู่ ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะเห็นกันอยู่ทุกวัน แต่เดี๋ยวก็ตัดใจได้

กล้าดันพีชให้คอยเดินข้างหน้า แล้วก็ไปส่งถึงหน้าห้องจริง ๆ ตามที่พลับบอกไว้ หลังจากคนตัวเล็กเข้าห้องไป กล้าก็เดินกลับห้องตัวเองซึ่งขึ้นไปชั้นบนอีกแค่ชั้นเดียวเอง

พอถึงห้องกล้าก็ทิ้งตัวนอนแผ่บนเตียง คิดไปต่างๆ นาๆ ว่า พลับกับพี่ไม้จะไปทำอะไรกันบ้าง

คิดแล้วก็แอบเคืองพี่ชายตัวเอง เพิ่งจะเลิกกับแฟนมาแท้ๆ แล้ววันต่อมาทำไมถึงได้มาคบกับพลับได้ จะให้เขาคิดเป็นอะไรได้นอกเสียจากว่าพี่ไม้คบกับพลับเพราะอยากประชดพี่แก้ม ถึงจะรู้ว่าพี่ไม้ไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้นแต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ พลับก็อีกคนทำไมถึงไปตกลงคบกับพี่ไม้ เขากับพี่ชายมีอะไรที่ต่างกัน ทำไมถึงไปชอบพี่ไม้แทนที่จะเป็นเขา เขาพลาดอะไรตรงไหนไป มีอะไรที่พี่ไม้ทำได้แต่เขาทำไม่ได้เหรอ

กล้าคิดแล้วก็ถอนหายใจ ความอึกอัดโจมตีอยู่ในอก รู้ทั้งรู้ว่าพลับจะคบกับใครก็เป็นสิทธิ์ของพลับ แต่...เขาอยากเป็นคนนั้นน่ะ

ยิ่งคิดก็ยิ่งหดหู่ นอนคิดนอนเหม่ออยู่แบบนั้นจนฟ้ามืด กล้าก็ลุกไปเปิดไฟตั้งใจว่าจะมานั่งทำการบ้าน ในขณะที่กำลังถอดเสื้ออยู่นั้นก็มีคนมาเคาะประตู พอส่องตาแมวแล้วเห็นว่าเป็นพลับก็อดที่จะตกใจไม่ได้ กล้าลนลานรีบเปิดประตูออกจนคนที่ยืนรออยู่ถึงกับสะดุ้งเพราะประตูเปิดออกแรงมาก

“พลับ...”

กล้าเผลอยิ้มแล้วเรียกชื่อออกไป แต่พอเห็นหน้าตาเหลอหลาของอีกฝ่ายแล้วก็เครื่องช่วยฟังที่เหน็บอยู่ที่หูก็รู้ตัวว่าเขาเข้าใจผิดไปอีกแล้ว เมื่อไรจะมองพีชเป็นพีชได้สักทีนะ ทำไมต้องนึกถึงแต่แฝดคนน้องทุกทีเลย

“อ่า...พีช มีอะไรเหรอ”

กล้าถามคนตรงหน้า หวังว่าพีชจะไม่ทันได้สังเกตชื่อที่เขาเรียกผิดไปตอนแรก ไม่อยากทำให้พีชรู้สึกไม่ดี

พีชอ่านปากกล้าแล้วยกมือขึ้นมาทำท่ากินข้าว แค่นั้นกล้าก็เข้าใจว่าพีชมาชวนไปหาอะไรกิน กล้าลังเลเล็กน้อยว่าจะไปดีมั้ย เพราะเขารู้สึกไม่อยากกินอะไรเลย อยากนอนโง่ๆอยู่บนเตียงตลอด ตียิ่งอยุ่ในห้องเขาก็ยิ่งฟุ้งซ่าน คิดถึงแต่พลับ คิดถึงนะแต่ทำอะไรไม่ได้ มันเป็นอาการที่น่าอึดอัดก็เลยคิดว่าออกไปกินข้าวกับเพื่อนหน่อยก็ดี

กล้าพยักหน้าแล้วดึงคนตัวเล็กให้เข้ามารอในห้องแล้วก็ไปใส่เสื้อต่อ ส่วนพีชนั้นก็ยิ้มแป้นดีใจที่วันนี้กล้ายอมตกลงไปกินข้าวด้วยกัน วันก่อนพีชก็รวบรวมความกล้าขึ้นมาชวนแต่กล้าไปยอมไปเลย เขาเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องมืดๆ พีชที่ทนความเป็นห่วงของตัวเองไม่ไหวก็เลยซื้อข้าวกล่องมาแขวนไว้ที่หน้าห้อง ก็กลัวว่ากล้าจะเสียใจจนไม่กินอะไรเลย ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำให้กล้าไม่สบายเอา

พอเข้ามาในห้องก็ยืนค้างอยู่ตรงหน้าปนะตู สติเริ่มไม่อยู่กับตัวแล้วเพราะเอาจ้องอยู่ที่กล้ามของกล้า พยายามที่จะหันไปมองทางอื่น มองไปรอบๆ ห้องแล้วนะ แต่มันก็ต้องวกกลับมามองหุ่นของกล้าทุกทีเลย

พีชยังจำสัมผัสของกล้าได้อยู่ เขานึกถึงเรื่องคืนนั้นแล้วก็เขินขึ้นมาจนต้องยกมือขึ้นมากุมแก้มตัวเองไว้ เพราะสมองนึกถึงเรื่องหื่นๆ แก้มนี่ร้อนไปหมดแล้ว พีชหลับตาบอกให้ตัวเองหยุดคิดถึงเรื่องทะลึ่งๆ ได้แล้ว แต่ยิ่งบอกให้หยุดมันก็ยิ่งคิดถึง

“พีชเป็นอะไรรึเปล่า” กล้าที่เห็นพีชยืนบีบแก้มตัวเองแล้วสะบัดหน้าไปมาอยู่พักนึงแล้ว เห็นทำท่าทางประหลาดก็เลยเดินเข้ามาจับไหล่

“อะ อ๋าๆ” คนตัวเล็กสะดุ้งจนส่งเสียงแปล่งออกมา มองมาที่เขาแล้วหน้าตาตื่นๆ แถมยังโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัลเหมือนกำลังร้อนตัวปฏิเสธเรื่องอะไรอยู่ กล้าหลุดยิ้มขำกับท่าทางแบบนั้นคิดเรื่องอะไรอยู่แน่เลย ก็แก้มแดงหูแดงไปหมดแบบนั้น

“เป็นอะไร คิดเรื่องลามกอยู่รึไง หน้าหื่นเชียว” กล้ายกมือขึ้นจิ้มแก้มแดง ก้มลงไปหยอกพีช ขยับปากชัดๆ ให้พีชอ่านได้ หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ตาโต ส่งเสียงโวยวายเสียงดัง ส่ายหน้าจนแก้มสั่นไปเลยทีนี้

“อ๋า อ๋า!”  พีชส่ายหน้า ทำภาษามืออธิบายกล้าว่าเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องอะไรเลย ลนลานจนลืมไปว่ากล้าไม่เข้าใจภาษามือของเขา

“หึหึ ล้อเล่นๆ”

พีชค้อนใส่กล้าที่ทำท่าหัวเราะ เมื่อกี้พีชเองก็ไม่น่าร้อนตัว กล้าเลยจับได้เลยว่าเขาคิดเรื่องลามกอยู่จริงๆ พีชต่อยต้นแขนกล้าไปอย่างไม่จริงจังแล้วก็ส่งยิ้มให้ ชี้ไปที่รอยยิ้มแล้วก็ยกนิ้วโป้งขึ้น เพื่อต้องการจะสื่อว่า กล้ายิ้มแล้ว ซึ่งกล้าเองก็เข้าใจ นี่เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาจริง ๆ ตั้งแต่กลับมาจากทะเลเลย

“ยิ้มได้เพราะพีชเลย”




ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
พอรู้ว่ากล้าคิดแบบนั้นพีชก็ดีใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รู้สึกดีที่ทำให้กล้ายิ้มออกมาได้ รอยยิ้มนั้นของกล้ามาจากเขาเลยนะ

ทั้งคู่เดินมาหาข้าวเย็นกินที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ไกลจากหอมากนัก ระหว่างที่รอพีชก็พยายามชวนกล้าคุย

‘ทำไมกล้าออกมาอยู่หอ คอนโดพี่ไม้อยู่ไกลจากมอเหรอ?’

เขียนเสร็จก็ส่งให้กล้าอ่าน อีกฝ่ายไม่ได้พูดออกมาแต่ดึงสมุดและปากของพีชไปเขียนคำตอบจากนนั้นก็ส่งกลับมาให้พีช

‘ไม่ไกล แต่ไม่อยากโดนลุงแกบ่นหูชาเวลาทำห้องรกและตื่นสาย’

กล้ามองพีชที่ทำท่าหัวเราะแบบไม่มีเสียง แล้วก็เท้าคางมองว่าคนตรงหน้าจะเขียนอะไรต่อ แต่อีกฝ่ายก็เขียนแล้วขีดฆ่าอยู่หลายครั้ง จนกล้าจะชะโงกหน้าเข้าไปอ่าน เห็นว่าเป็นคำถามที่อยากถามเกี่ยวกับน้องชายตัวเองทั้งนั้นเลย คงอยากรู้ว่าเขารู้สึกดีขึ้นรึยัง กล้าดึงสมุดโน๊ตมาเขียน บอกไปตามตรง

 ‘ยังไม่ดีเท่าไร ยังคิดถึงอยู่ตลอดแต่เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา ก็คนอกหักนี่นา’ เขียนเสร็จก็เลื่อนสมุดคืนพีช รายนั้นรีบอ่านแล้วแล้วเขียนกลับมาว่า ‘สู้ๆนะ’ พร้อมทั้งฉีกยิ้มกว้าง กล้ามองยิ้มนั้นแล้วก็นิ่งไปอีก

เขา...คิดถึงพลับอีกแล้ว คิดว่าพีชคือพลับอีกแล้ว ทำไมถึงเหมือนกันได้ขนาดนี้นะ ลักษณะการยิ้มก็เหมือนกัน

พีชเองก็ดูออก กล้ามองตัวเขาเป็นพลับอีกแล้ว ก็เล่นมองมาด้วยแววตาแบบนั้น พีชยิ้มเขียนบางอย่างลงในสมุดแล้วส่งให้คนตรงหน้าอ่าน

‘มองเราเป็นพลับอีกแล้วเหรอ’

กล้าอ่านแล้วใจกระตุกเล็กน้อย พีชรู้จริงๆ ด้วย กล้าเงยหน้าสบตากับพีช คิดว่าคนตรงหน้าคงไม่พอใจที่มองสลับกับน้องชาย

“ขอโทษนะ พีชจะโกรธเราก็ได้”

พีชอ่านปากกล้าแล้วส่ายหน้า ไม่โกรธหรอกเพราะโกรธไม่ลง ไม่ว่ากล้าจะมองหรือทำอะไรกับพีชเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นพลับยังไง พีชก็โกรธกล้าไม่ลง พีชไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองเลยว่าทำไมถึงไม่รู้สึกโกรธ ก็เพราะพีชรู้คำตอบอยู่แล้ว...เพราะรักไง คำตอบแค่นี้เพียงพอไหม

“พีช…” กล้าเรียกชื่อคนตรงหน้า ในใจมันแน่นไปหมด โกรธหน่อยได้ไหม หงุดหงิดใส่เขาหน่อยก็ยังดี พีชยิ้มทำเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกแบบนี้ยิ่งทำให้กล้ารู้สึกผิด ไหนจะเรื่องคืนนั้นอีก พีชจะรู้รึเปล่าว่าคืนนั้นเขากอดพีชเพราะเข้าใจผิดเหมือนกัน ถ้าบอกเรื่องนี้ออกไปพีชคงได้โกรธเขาสมใจอยากแน่

หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จ กล้าตั้งใจว่าจะชวนพีชไปกินขนม เขาจะเลี้ยงเอง อยากทำอะไรดีๆตอบแทนพีชบ้าง ขอบคุณที่เป็นเพื่อนที่ดี ถึงรู้ว่ามันยังไม่พอแต่ก็ดีกว่าไม่ทำะไรเลย

“เลือกเลยๆ เราเลี้ยงเอง”

กล้าบอกพร้อมยื่นเมนูให้พีชเลือก ของหวานนี้เขาจะเป็นเจ้ามือเอง พีชดูเมนูอย่างตื่นเต้นยกมือขึ้นมาเป็นรูปหัวใจแล้วชี้ไปที่เมนู พอกล้าไม่เข้าใจพีชก็เปลี่ยนยกมือขึ้นมาชูนิ้วโป้ง ชี้ ก้อยและใช้มืออีกข้างหนึ่งจิ้มไปที่เมนูอีกครั้ง กล้าก็คงจะยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีแต่ก็พยายามคาดเดาสิ่งที่พีชจะสื่อ

“พีชรักบิงซู?”

พีชยิ้มจนตาหยี ตลกกับคำแปลนั้นแต่ก็ถือว่าใกล้เคียงเลยพยักหน้าไป ความจริงตั้งใจจะบอกว่าเขาชอบกินขนมหวานมาก อยากขอบคุณที่พามาเลี้ยง

“เพิ่งรู้ว่าพีชชอบกินโกโก้ นึกว่าจะชอบอะไรหวานๆ เหมือนพลับเสียอีก”

กล้าพูดแล้วตักบิงซูโกโก้เข้าปาก พีชอ่านปากแล้วยิ้ม ความจริงแล้วพีชอ่ะชอบอะไรหวานๆเหมือนพลับนั่นแหละ แต่ที่สั่งพวกนนี้มาเพราะรู้ว่ากล้าชอบตังหาก เขารู้กล้าไม่ชอบกินอะไรที่มีรสชาติหวานมากนัก ก็เลยสั่งแต่พวกดาร์กชอกโกแลตและโกโก้แทน เพราะพวกนี้จะมีรสชาติติดขม ไม่หวานเกินไป

“เอาอะไรอีกมั้ย สั่งเพิ่มได้นะ”

กล้าถาม มองพีชที่ส่ายหัวทั้งที่ปากก็ยังงับช้อนอยู่ เป็นภาพที่น่ารักดี เขาวางช้อนลงยกมือขึ้นเท้าคางแล้วมองคนตรงหน้ากินของหวาน ขอบคุณพีชที่ชวนมากินข้าว ไม่งั้นกล้าก็คงนั่งซึมอยู่บนห้องนั่นแหละ พีชเงยหน้ามองคนนั่งตรงข้ามๆที่จู่ก็หยุดกินไป ใช้ช้อนชี้ไปที่ขนมเป็นเชิงถามว่าไม่กินขนมต่อแล้วเหรอ กล้าก็เข้าใจว่าพีชจะสื่ออะไรเขายิ้มหยิบช้อนขึ้นมากินต่อ ช่วงแรกๆ ก็ช่วยกันกินดีอยู่หรอก แต่ช่วงท้ายนี่สิ ทั้งคู่อิ่มจนจุกก็เลยดันขนมปังที่เหลืออยู่ชิ้นเดียวไปให้อีกฝ่าย

“พีชชอบกินขนมหวานไม่ใช่เหรอ นี่ไง”

กล้าพูดแล้วดันขนมปังหนึ่งชิ้นที่เหลือไปทางพีช คนตัวเล็กอ่านปากแล้วส่ายหน้าใหญ่เลยแถมยังดันขนมปังกลับมาทางกล้าอีกตังหาก กล้าพยักหน้าแล้วก็ใช้ส้อมจิ้มขนมปังชิ้นนั้นขึ้นมา พีชก็คิดว่ากล้าจะกินเองแต่ที่ไหนได้ กล้าดันยื่นมาจ่อปากพีชเสียอย่างนั้นแถมยังมาทำเป็นยิ้มให้อีก บอกเลยว่าพีชแพ้ ถึงจะอิ่มจนอยากจะขย้อนออกขนาดไหน แต่ถ้ากล้ามาจะป้อนให้ขนาดนี้ พีทก็ยอมกินได้

“น่ารักที่สุด”

กล้าชมพีชที่อ้าปากงับขนมปังแต่โดยดี คนตัวเล็กอมยิ้มทั้งทีมีขนมปังตุ่ยอยู่ที่แก้ม ดีใจที่คราวนี้กล้าชมเขา อาจจะแค่พูดเล่นๆ แต่แค่นี้ก็ดีใจแล้ว

“เอ่อ...พีชอยากซื้อไปฝากพลับด้วย ทางนั้นก็ชอบกินของหวานเหมือนกันนี่”

กล้าอดไม่ได้ที่จะนึกคนแฝดคนน้อง ยิ่งได้มากินอะไรที่อีกฝ่ายชอบก็อยากจะเอาไปฝาก ถึงจะรู้อีกฝ่ายมีแฟนแล้วแต่กล้าก็คิดว่าแค่ซื้อของชอบไปให้ในฐานะเพื่อน มันไม่ผิดนี่

ส่วนพีชนั้นพอรู้ว่ากล้าขอฝากขนมไปให้พลับ ก็ยิ้มเจื่อนลงไปเล็กน้อย กล้านี้คิดถึงพลับตลอดเลยเขาล่ะอิจฉาน้องชายตัวเองจริงๆ แอบคิดเล่นขำๆ พลับแอบเอาน้ำมันพรายมาดีดใส่กล้าไว้รึเปล่านะ อยากจะขอมาดีดบ้าง กล้าจะได้หันมาสนใจเขาหน่อย

‘พลับน่าจะกินกับพี่ไม้มาแล้วนะ’ พีชหยิบสมุดขึ้นมาเขียน อยากให้กล้ารีบตัดใจจากน้องชายเขาเสียที ถึงกล้าจะทำยังไงพลับก็ไม่หันมาชอบกล้าหรอก พีชอยากจะบอกออกไปแบบนี้มากเลย แต่ไม่อยากให้กล้าเสียใจไปมากกว่านี้แล้ว

“ก็รู้...แต่ก็อยากซื้อไปให้ เผื่อพลับอยากกินขนมกลางดึกไง”

พีชถอนหายใจ อ่านปากไม่รู้เรื่องทุกคำหรอกแต่ก็พอจับใจความได้ว่า ไม่ว่ายังไงกล้าก็ยังจะฝากขนมไปให้พลับให้ได้ พีชมองกล้าที่เลือกเมนูเอาไปฝากพลับ แต่ละเมนูที่กล้าเลือกก็คือเมนูที่น้องชายของเขาชอบกินจริง กล้านี่ใส่ใจเก่งจังเลย เรื่องเล็กน้อยของพลับที่คนอื่นไม่รู้กล้าก็ยังอุตส่าห์รู้ พลับไม่ชอบกินสตรอเบอรี่แช่แข็งก็เลยขอเปลี่ยนเป็นสตรอเบอรี่สดมาให้ ใส่ใจรายละเอียดของพลับดีจัง...

พอจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็ออกจากร้าน พีชอิ่มจนเดินแทบไม่ไหว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อยากกลับขึ้นห้อง ยังอยากอยู่กับกล้าอีกสักนิด ในขณะที่เดินตามกล้าไปที่หอก็คิดมาตลอดทางว่าจะชวนกล้าไปไหนยังไงดี จะใช้มุกชวนไปกินนู้นนี่เขาก็อิ่มจนกินอีกไม่ไหวแล้ว เดินคิดมาเพลินๆ รู้ตัวอีกทีมายืนอยู่หน้าหอแล้ว

“พีชเดินขึ้นห้องเองได้ใช่มั้ย”

กล้าหันมาถามพีชก็พยักหน้าแค่เดินขึ้นหอแค่นี้ พีชเดินได้อยู่แล้ว แต่งงว่ากล้าจะถามทำไม ไม่ได้เดินขึ้นไปด้วยกันเหรอ

“เราจะไปเดินเล่น พีชขึ้นห้องเลยก็ได้ไม่ต้องไปเป็นเพื่อนเราหรอก เดี๋ยวยุงกัด” เห็นหน้าสงสัยของพีชก็เลยอธิบายไป เขาจะไปเดินเล่นเสียหน่อย ยังไม่อยากขึ้นห้อง เพราะอยู่คนเดียวทีไรเขาก็เอาแต่คิดถึงพลับแล้วก็เศร้าทุกที แต่จะให้พีชมาคอยอยู่เป็นเพื่อนตลอดก็ไม่ได้ ให้พีชกลับห้องไปก่อนดีกว่าไม่อยากรบกวนคนตัวเล็กแล้ว

พอรู้ว่ากล้าจะไปเดินเล่น พีชที่ยังอยากอยู่กับกล้าก็เลยรีบเสนอตัว คว้าของกล้าเอาไว้ดึงให้กันมามอง

“พีชเป็นอะไร” กล้ามองคนตรงหน้า พีชชี้มือเข้าหัวเองพยายามจะบอกอะไรบางอย่างแต่กล้าไม่เข้าใจ

“อา อะ อะ..เอิก!” ออกเสียงตีอกตัวเองยกใหญ่เพื่อที่จะสื่อสารให้กล้ารู้ว่า อยากไปด้วย เขาไม่กลัวยุงกัดหรอกกลัวไม่ได้อยู่กับกล้ามากกว่า

เพราะทุบอกตัวเองก็เลยทำให้ลมที่คั่งค้างอยู่ในกระเพราะพากันตีขึ้นมาจนทำเรอออกมาเสียงดังจนกล้ายังอึ้ง พีชยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง มองกล้าที่อ้าปากค้างเนื่องจากตกใจกับเสียงเรอของพีช พีชกรีดร้องในใจ อยากจะตีตัวเองจริงๆ เลย คือไม่รู้เสียงเรอที่คนอื่นได้ยินมันจะดังแค่ไหน แต่ที่พีชได้ยินของพีชเองเนี่ย มันดังมาก!

“....หึหึ 55555 โอเคๆ ไปเดินเล่นย่อยอาหารกัน” กล้าเงียบไปครู่หนึ่งมองหน้าเหวอๆ ของพีชแล้วก็หลุดหัวเราะออกมา มองอีกคนที่ปิดปากแน่นแก้มแดงแป๊ดแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วรีบชวนไปเดินย่อยทันที รู้ว่าพีชคงอายที่เรอออกมาเสียงดังแต่กล้าหยุดขำไม่ได้จริงๆ ยิ่งหน้าตาน่ารักงอง้ำก็ยิ่งหยุดหัวเราะไม่ได้

“ตั้งแต่กลับมาจากทะเล พีชนี่เป็นคนแรกที่ทำให้เราหัวเราะได้เลยนะเนี่ย”

 พีชเงยหน้ามองอ่านปากไม่ทันว่ากล้าพูดว่าอะไร แต่เห็นอีกฝ่ายยิ้มกว้างแบบนี้พีชก็เลยยิ้มตามจนตาหยี ไม่ว่ากล้าจะยิ้มเพราะเรื่องอะไรพีชก็จะขอยิ้มด้วย พีชอยากยิ้มเอาใจกล้า เพราะเมื่อไรที่ทำให้กล้ามีความสุขได้ พีชก็จะมีความสุขเหมือนกัน


ดีจ้า เพิ่งพิมพ์เสร็จเลย เสร็จปุ๊บก็ลงปั๊บ กำลังร้อน ๆ เหมือนขนมปังที่เพิ่งออกจากเตาเลยจร้า
ความจริงมีสต๊อกไว้หลายตอนอยู่กะว่าจะลงให้ได้ทุกวันไง แต่ไฟล์มันเสียก็็ตองนั่งพิมพ์ใหม่ทั้้งหมด โซแซดมากบอกเลย
และตอนต่อไปจากนี้ก็็คือพิมพ์เสร็จก็จะลงเลยแบบนี้ค่ะ 55555

ออฟไลน์ changemoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านถึงตอนล่าสุดแล้วพูดกับตัวเองออกมาเลยว่าสนุกอ่ะ 555 ถึงอ่านแล้วรู้สึกตัวเองสติไม่ค่อยสมประกอบไปกับฟ้าลั่นแล้วบูรพาก็เถอะ

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ตอนที่ 4 ชอบ...

“พี่ไม้รอผมนานมั้ยครับ?”

ไม้มองเด็กตรงหน้าที่วิ่งเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มกว้าง แล้วก็คิดว่าเป็นเด็กที่ยิ้มเก่งจริง ๆ เจอกันกี่ที่ก็ยิ้มอยู่ตลอด ไม่เคยทำหน้าบึ้งใส่เขาเลย

“ไม่นานหรอก พี่เพิ่งเดินมาถึงรถเมื่อครู่นี่เอง” ไม้เดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้พลับ เจ้าเด็กพลับก็ทำหน้าเกรงอกเกรงใจยกมือขึ้นมาไหว้ขอบคุณเขา

“อ่า ขอบคุณนะครับ”

ไม่ยิ้มและพยักหน้ารับ เขาคอยเปิดประตูให้มาตั้งอาทิตย์นึงแล้วพลับก็ไม่ชินเสียที บอกว่าตัวเองเปิดเองได้ แต่ไม้ก็ยังยืนยันที่จะเปิดให้เพราะนี่คือหน้าที่ของแฟนนี่ เป็นแฟนกันก็ต้องคอยเปิดประตูให้ เพื่อเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย...แก้มเคยบอกเขามาแบบนั้น

“ทำไมไม่ชวนพีชมาด้วยล่ะ พี่ไม่ว่าอะไรนะ ชวนพี่ชายมาด้วยได้เลย” ไม้พูดถึงพี่ชายฝาแฝดของพลับ เขาเพิ่งจะรู้ได้ไม่นานว่าความจริงแล้วพีชเกิดก่อน คิดมาตลอดว่าพลับเป็นแฝดคนพี่ เพราะเห็นว่าคอยดูแลจัดแจงเรื่องต่าง ๆ ให้ตลอดแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเพราะอะไร

“พลับชวนแล้วครับ แต่พีชไม่ยอมมา” พลับเองก็เป็นห่วงพีชนะ ปล่อยให้กินข้าวเย็นคนเดียวมาตั้งอาทิตย์นึงแล้ว เขารู้ว่าพี่ชายสามารถสั่งข้าวเองหรือมีวิธีสื่อสารกับคนอื่นได้ แต่มันก็รู้สึกเป็นห่วงไม่อยากให้พีชข้ามถนนเองหรือไม่ไหนมาไหนคนเดียวเท่าไร พีชยืนยันว่าดูแลตัวเองได้อยากให้เขาลองไว้ใจดู เจ้าตัวเขาพูดมาแบบนั้นพลับจะทำอะไรได้ล่ะ จะมาคอยดึงพีชให้ตัวติดกับเขาตลอดก็ไม่ได้ถึงจะเป็นห่วงแต่ก็ควรให้พีชทำอะไรด้วยตัวเองดูบ้างแหละ เขาก็มีวิธีดูตัวเองของเขา

ไม้ขับรถออกมาบริเวณถนนใหญ่ แล้วออกมาช่วงเลิกงงานแบบนี้รถก็จะติดเล็กน้อย กว่าจะถึงร้านอาหารก็คงใช้เวลาแน่ๆ พลับเอนตัวพิงเบาะมองไปด้านหน้า เห็นรถที่ติดยาวเหยียดแล้วก็ถอนหายใจ มื้อกลางวันไม่ได้กินข้าวเยอะด้วยสิ ตอนนี้เลยเริ่มหิวขึ้นมาแล้ว น้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงานส่งเสียงครืดคราด หวังให้เสียงเพลงจากวิทยุกลบเสียงท้องร้องแต่ก็ไม่กลบไม่มิดเท่าไรจนพลับจนยกมือขึ้นมาลูบหวังจะให้มันเงียบเสียงลงหน่อย แต่คงไม่ทันแล้วแหละ เพราะไม้หันมามองทันที่ที่เสียงท้องเขาร้องแล้วก็ยิ้มขำ

“หิวเหรอ? พี่มีขนมปังอยู่เอาไว้กินตอนเข้าแต่เอามากินรองท้องก่อนก็ได้”

ไม้เห็นพลับยกมือขึ้นมาลูบท้องตัวเองสักพักนึงแล้วแหละ แต่ไม่รู้ว่าหิวจนได้ยินเสียงท้องร้องถนัดหูแล้วเจ้าตัวก็หันมามองด้วยสีหน้าอายๆ เลยเอื้อมมือไปหยิบขนมปังที่ซื้อไว้เตรียมเป็นอาหารข้าวเช้าไว้กินบนรถมาให้พลับกินรองท้องไปก่อน เพราะถนนเส้นนี้รถติดใช่เล่นเลยแถมไฟแดงก็นานแต่ไฟเขียวดันไม่ถึงสิบวินาที ดูจากปริมาณรถแล้วกว่าจะหลุดไฟแดงนี้ได้เดาเลยว่าต้องใช่เวลาครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ

“อ่า...ขอบคุณครับ” พลับก็อยากปฏิเสธนะเพราะว่านี่คือข้าวเช้าของพี่เขาใช่มั้ยล่ะ ถ้าพลับเอามากินแล้วพรุ่งนี้พี่เขาจะกินอะไรล่ะ แต่ไม้ก็หยิบมาให้แล้วแถมพลับหิวจริงนั้นแหละเลยยอมรับมา

พลับบิขนมปังเป็นชิ้นใหญ่แล้วเอาเข้าปากในทีเดียวแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มขาวตุ่ยออกมาทั้งสองข้าง ไม้มองแล้วก็นึกขำอยู่ในใจ นึกเปรียบเทียบเด็กตรงหน้าว้าเหมือนสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งแต่ก็นึกไม่ออกว่าเหมือนสัตว์อะไร

และเพราะไม้เอาแต่จ้องนิ่งๆ มองพลับกิน เจ้าเด็กพลับก็นึกว่าที่ไม้จ้องมาเพราะอยากกินด้วยเลยบิขนมออกเป็นชิ้นเล็กพอดีคำแล้วป้อนไปที่ไม้อย่างไม่คิดอะไร ไม้เลิกคิ้วขึ้นมองขนมปังแล้วมองไปที่เด็กตาใสที่กัดขนมปังเข้าปากไปคำใหญ่ ตัวเองกินคำใหญ่เชียวแต่แบ่งขนมปังมาให้เขาแค่นี้ ขี้งกเหมือนกันนะเนี่ย

ไม้ไม่ยอมกินเสียที พลับก็เลยหันไปมองแล้วก็เริ่มรู้สึกเขินเพราะนึกขึ้นมาได้ว่า อาจจะเร็วไปที่จะมาป้อนอาหารกันแบบนี้ก็เลยจะดึงมือกลับ แต่ไม้ก็ก้มหน้ามางับขนมปังในมือพลับเสียก่อน ในจังหวะที่ไม้งับขนมปังนั้นปลายนิ้วของพลับบังเอิญไปโดนริมฝีปากของพี่เขาด้วย ใจดวงน้อยกระตุกก่อนที่จะเต้นแรงจนแทบทะลุอกออกมา

ทางด้านของไม้เองก็รู้สึกเขินเหมือกัน แฟนเก่าที่คบกันมานานนั่นไม่เคยป้อนอะไรเขาแบบนี้เลย ไม้เลยไม่ชินที่โดนป้อนแบบนี้ แต่พี่พลับป้อนเขาเมื่อกี้มันก็ดีนะ แปลกใหม่ดี แต่นั่งรอไปสักพักก็ไม่มีทีท่าว่าพลับจะป้อนเขาอีก นั่งกินอยู่คนเดียว จนคนที่อยากโดนป้อนอีกต้องทักไป

“จะไม่ป้อนพี่แล้วเหรอครับ แบ่งพี่กินมั้งสิ พี่ก็หิวเหมือนกัน”

พลับหันไปมอง แล้วก็ปั้นหน้าไม่ถูก ก็เห็นทำหน้านิ่งๆก็นึกว่าไม่ชอบที่เขาป้อนก็เลยนั่งกินอยู่คนเดียว

“นี่ครับ พี่กินให้หมดเลยก็ได้ ผมไม่ค่อยหิวแล้ว” พลับยื่นขนมปังที่เหลือเกือบครึ่งก้อนให้ไม้ แต่คนที่ขับรถอยู่ก็ชำเลืองตามองขนมปังแล้วหันกลับไปมองถนนต่อ

“พี่ขับรถอยู่นะ”

พูดมาแบบนี้พลับก็รู้แล้วแหละว่าไม้ต้องการอะไร เจ้าเด็กพลับยิ้มน้อยแล้วค่อยบิขนมออกพอดีคำคอยป้อยให้ไม้กินอยู่เรื่อยๆ พอได้ทำอะไรที่คนเป็นแฟนเข่ทำกันแบบนี้แล้วพลับก็รู้สึกดีมาก ถึงจะเขินๆก็เถอะแต่พลับชอบ และไม่ได้มีแค่พลับคนเดียวหรอกที่ชอบ คนที่ขับรถอยู่ก็คงชอบเหมือนกัน ถึงหน้าจะไม่ได้อะไรมากแต่ก็คอยหันหน้ามางับขนมปังเข้าปากอยู่เรื่อยๆ เลย แถมนิ้วเรียวก็เคาะพวงมาลัยเป็นจังหวะตามเสียงเพลงอย่างอารมณ์ดี

กินขนมปังหมดไปแล้วซักพักก็ถึงร้านอาหารที่ไม้ตั้งใจพามา ความมันไม่ได้ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก แต่เพราะรถติดจึงทำให้ต้องใช้เวลาเยอะในการเดินทาง ไม้เดินนำพลับเข้าไปในร้านอาหารสไตล์ตะวันตก พลับมองร้านแล้วก็ยู่ปาก ไม่ใช่ว่าไม่ชอบอาหารสไตล์นี้นะแต่อาทิตย์นี้อ่ะพี่ไม้พาพลับมากินอะไรแนวนี้ทุกวันเลย พลับเบื่อแล้ว แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป เพราะที่พี่ไม้พามาร้านแบบนี้บ่อยๆ ก็หมายความว่าพี่เขาของอาหารฝรั่งมากแน่เลย พลับก็เลยไม่อยากขัด

“พี่หั่นให้มั้ย?” ไม้เห็นพลับหั่นเนื้อสเต็กในจานด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ก็เลยจะอาสาหั่นให้ พอเด็กตรงหน้ายิ้มแหยแล้วพยักหน้ารับ ไม้ก็ลุกขึ้นเดินไปยืนข้างแล้วจัดการหั่นเนื้อให้อย่างพอดีคำ พอเสร็จก้กลับมานั่งที่เดิมมองเด็กที่ใช้ส้อมจิ้มเนื้อเข้าปากทีละสองชิ้นแล้วเคี้ยวตุ้ยพลางทำคิ้วขมวดเหมือนกำลังพิจารณารสชาติอาหารอยู่ ไม้ก็คิดว่าเนื้อนั่นไม่ถูกปากหรือเขาหั่นให้เล็กไปหรือยังไง ทำไมต้องจิ้มทีละสองชิ้นแล้วทำหน้าแบบนั้น

“รสชาติไม่ถูกใจเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาไปลองร้านอื่นมั้ย ชอบอาหารอิตาลีรึเปล่า”

“อ่า...พี่ไม้ครับ พี่ชอบกินอาหารฝรั่งมากเลยเหรอครับ” พลับถามแล้วมองหน้าไม้ พรุ่งนี้ก็ยังเป็นอาหารฝรั่งเหรอ ความจริงพลับก็ชอบพิซซ่านะ แต่ตอนนี้เอียนอาหารตะวันตกแล้วเขาอยากกินก๋วยเตี๋ยวหรือไม่ก็กะเพราเนื้อโปะไข่ดาวไม่สุก หูย~มื้อกลางวันของพรุ่งนี้ พลับมีเมนูในใจแล้วแหละ

“ก็ไม่ได้ชอบมากครับ”

“พลับนึกพี่ชอบ เห็นพามากินแนวนี้เกือบทุกวันเลย”

“มันเป็นการให้เกียรติพลับไงครับ” ไม้โคลงหัวปฏิเสธ เขาไม่ได้ชอบอาหารแนวนี้หรอก แต่ก็กินได้ แต่ที่พามากินเนี่ยถือว่าเป็นการให้เกียรติ พอเห็นเด็กตรงหน้าทำแววตางงๆส่งมาก็เลยวางช้อนลงแล้วเริ่มอธิบาย

“ก็พามากินในที่ดีๆ ดูแลอย่างดีถือเป็นการให้เกียรติคนรักไง”

พอได้ยินคำว่าคนรัก พลับก็อมยิ้มแก้มกลมขึ้นสีเรื่อ ใช่สิ...ตอนนี้เขากับพี่ไม้เป็นแฟนกัน เป็นคนรักกันแบบที่พี่เขาพูดนั้นแหละ ถึงแม้มันจะเกิดจากเรื่องผิดพลาด แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีๆ ที่น่าเหลือเชื่อสำหรับพลับ ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วแต่พลับก็นึกว่าตัวเองฝันอยู่เป็นบางครั้ง

“อ่า...แต่พี่ไม่ต้องพาผมมากินร้านแบบนี้ทุกวันก็ได้นะครับ พี่ไม้ไม่มีอาหารแบบอื่นที่อยากกินแล้วเหรอครับ”

“...ความจริงพี่อยากกินเนื้อย่างแต่ถ้าพี่พาพลับไปน่งย่างเนื้อควันโขมงแบบนั้น พลับจะชอบมั้ยล่ะ”

“หืม? ชอบสิครับ ใครจะไม่ชอบเนื้อย่างบ้าง”

“...” ไม้เลิกคิ้วขึ้นแล้วมองเด็กตรงหน้าเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน ถ้าเป็นแฟนเก่าเขานะคงปฏิเสธกลับมาทันทีแถมยังจะด่าหาว่าเขาไม่ใส่ใจหล่อนที่พาไปกินของแบบนั้นด้วย เพราะควันจากการย่างอาหารจะไปติดผมและเสื้อผ้าทำให้มีกลิ่น นั่นก็ถือว่าเป็นหารไม่ให้เกียรติกัน แต่ไม้คงลืมไปพลับกับแก้มไม่เหมือนกันซักนิด แก้มชอบร้านแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าพลับจะชอบด้วย ไม้ผิดเองที่ไม่ได้ถามก่อน ทึกทักเอาเองว่าพลับคงชอบเหมือนกัน

“ผมชอบกินเนื้อย่างนะ แต่ต้องขอเป็นร้านบุฟเฟ่ต์เพราะผมกินจุมาก บุฟเฟ่ต์ราคาเจ็ดร้อยงี้ พี่พาผมไปได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าผมจะกินไม่คุ้ม ผมกินเกินราคาด้วยครับ พี่พูดถึงเนื้อย่างขึ้นมาแล้วผมก็อยากกินขึ้นมาเลยนะเนี่ย...” พลับอธิบายสรรพคุณตัวเองแล้วยิ้มแป้น ภูมิใจมากสินะที่กินจุ ไม้ยิ้มขำมองเด็กตรงหน้าที่พูดเจื้อยแจ้ว พอได้พูดเรื่องที่ตัวเองชอบล่ะพูดไม่หยุดเลย อธิบายหมดว่าชอบเนื้อแบบไหน ไปกินร้านไหนมาแล้วเป็นยังไงบ้าง

“งั้น...วันหยุดนี้ไปกินกันมั้ยล่ะ พี่ก็ไม่ได้กินมานานมากแล้ว”

“ไปครับ”

ไม้พูดจบปุ๊บ พลับก็พยักหน้าตกลงทันที ไม่มีท่าทีลังเลยแม่แต่น้อย ไม้หัวเราะเบาๆ เชื่อแล้วว่าเด็กตรงหน้าคงอยากกินจริง ๆ ส่วนเขาก็อยากกินเหมือนกัน ครั้งสุดท้ายที่ได้กินก็นานมากแล้วจริง ๆ ไม้จำได้ว่าไปนั่งกินคนเดียว ในขณะที่โต๊ะอื่นนั้นไปกันเป็นกลุ่มเป็นคู่ นั่งกินเงียบๆ คนเดียวท่ามกลางเสียงเฮฮาของโต๊ะอื่นนั้นมันชวนให้รู้สึกแปลกๆ ทำเอาไม้ไม่อยากเข้าร้านแบบนั้นคนเดียวอีกเลย



“พลับ...หิวอีกแล้วเหรอครับ”

ระหว่างที่ไม้กำลังขับรถไปส่งพลับที่หอนนั้น เขาก็สังเกตุว่าพลับยกมือขึ้นกุมท้องตัวเอง เขาก็กลัวว่าเจ้าเด็กนี่อาจจะปวดท้องหรือเป็นอะไรซักอย่างเลยตั้งใจว่าจะถาม แต่พอเสียงเบาวิทยุลงก็ได้รู้ว่าที่พลับเอามือมากุมท้องไว้ไม่ใช่เพราะปวดท้องหรืออะไร แต่เป็นเพราะว่าตั้งใจจะปิดเสียงท้องร้องของตัวเองตังหาก

“ผมบอกพี่แล้วไง ว่าผมกินจุ” พลับหันไปบอกอย่างอายๆ ไอ้สเต็กที่ใหญ่แต่จานแบบนั้นนะไม่ทำให้พลับอิ่มได้หรอก

“หึหึ อยากกินอะไรดีล่ะ พลับเลือกร้านเลย”

“พลับกลับไปกินแถวหอก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่ไม้กลับดึกนะ” พลับรีบปฏิเสธ เพราะถ้าไม้จะมานั่งรอเขากิน ขับรถไปส่งที่หอหน้ามหาวิทยาลับยแล้วต้องวนรถกลับคอนโดตัวเองอีก กว่าไม้จะถึงห้องคงดึกพอดี พลับเกรงใจเป็นห่วงด้วย

“ไม่เป็นครับ พี่ก็ไม่อิ่มเหมือนกัน”

“อ่า...ผมอยากกินก๋วยเตี๋ยวครับ”

ในเมื่อไม่พูดมาแบบนั้น พลับก็เลยไม่รู้จะปฏิเสธทำไม ถึงจะเป็นห่วงกลัวว่าไม้จะกลับดึกแต่กแอบดีใจนิดหน่อยที่ได้อยู่กับไม้นานขึ้นอีกนิดนึง เลยบอกสิ่งที่ตัวเองอยากกินไปอย่างไม่มั่นใจว่าไม้จะยอมกินด้วยรึเปล่า แต่ไม้กลับพยักหน้า แล้วตบไฟเลี้ยวเข้าเลนน์ซ้ายแล้วมองหาร้านก๋วยเตี๋ยว จนไปมาเจอก๋วยเตี๋ยวร้านนึงดูแล้วมีคนนั่งอยู่เกือบเต็มร้านแบบนี้ก็น่าจะอร่อยไม้ก็เลยจัดการหาที่จอดรถ สั่งและนั่งรอไม่นานก๋วยเตี๋ยวที่มีน้ำซุปหอมฉุยสองชามก็มาเสริฟถึงโต๊ะ

“น่ากินมากเลย” พลับเลียริมฝีปากตัวเอง ตักชิมซุปขึ้นมาชิมแล้วก็ยิ้ม นี่แหละคือน้ำซุปใสหอมกระเทียมเจียวเป็นรสชาติที่คิดถึง กินแต่ซุปข้นมาตั้งอาทิตย์นึงพลับรู้สึกเอียนไปหมดแล้ว

ไม้เองก็คีบเส้นกินโดยไม่ได้ปรุงเพิ่มเลย รสชาติน้ำซุปดีจริงๆ ยิ่งกินตอนร้อนแบบนี้อร่อยมาก ชามแรกหมดไป ทั้งพลับและไม้ก็สั่งมาเพิ่มกันอีกคนละชาม มื้อเย็นที่กินกันไปก่อนหน้านี้ไม่มีความหมายเลย

ไม้กินเสร็จก่อน เขานั่งมองเด็กตรงหน้าที่เหงื่อออกเต็มหน้าผาก คีบเส้นขึ้นมาเป่าแล้วสูดเส้นเข้าปากเคี้ยวจนแก้มตุ่ย จากนั้นก็คีบเส้นแล้วเอาเข้าปากอีก เป็นคนที่กินแล้วดูน่าอร่อย ขนาดเขาอิ่มแล้วมานั่งดูยังอยากจะสั่งเพิ่มมากินอีกชามเลย ไม้มองริมฝีปากที่ขมุบขมิบเคี้ยวเส้นแล้วพยายามนึกว่าเจ้าเด็กนี่เคี้ยวเหมือนสัตว์ชนิดหนึ่งแต่ไม้นึกไม่ออกว่าคืออะไร

“พี่ไม้มองทำไมครับ” 

“มองแฟนตัวเองไม่ได้เหรอครับ”

พลับถามทั้งที่ตะเกียบคาปาก เห็นว่าไม้มองมาที่เขาสักพักนึงแล้วแหละ แค่มองมานิ่งเขาก็เขินแล้ว นี่มองแล้วยิ้มอีก หัวใจของพลับนี่พองแล้วพองอีก แล้วนี่มาได้ยินพี่เขาพูดว่าแฟนนี่ก็ทำเอาพลับเขินบิด กวนเส้นก๋วยเตี๋ยวในชามไปมา

“...ผมเขิน”

“แสดงว่าพี่ไม่ควรมอง เพราะเดี๋ยวแฟนจะเขิน” ไม้เลิกคิ้วถามเด็กตรงหน้า รู้ว่าเขินที่โดนเข้ามองก็เลยอยากแกล้งนิดหน่อย เห็นว่าเด็กนี่เขินง่ายดี พูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็ทำแก้มแดงใส่แล้ว

“ไม่ใช่ครับ มองได้ ผมแค่เขินเฉยๆ แต่พี่มองได้เลย ผม...อยากให้พี่มอง”

พลับรีบอธิบาย ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้มองเสียหน่อย พลับน่ะเอาแต่แอบมองไม้อยู่คนเดียวมาตั้งสองปี ตอนนี้มีโอกาสได้มานั่งให้ไม้มองบ้างพลับก็ไม่อยากจะห้ามหรอก อยากให้ไม้จ้องมาที่พลับเยอะๆ เลย

ไม้ยิ้มมองเด็กตรงหน้าที่นั่งเขินให้เขาจ้อง อยู่กับพลับก็เพลินดี ไม้รู้สึกสบายใจกว่าที่คิด ตอนแรกนั้นไม้คิดไว้ว่าคงจะเลวร้ายกว่านี้ เพราะขนาดคบคนรุ่นเดียวกันเขายังเอาใจแทบไม่ถูก แต่นี่มาคบคนที่เด็กกว่าคงเอาแต่ใจจนเขาปวดหัวแน่ๆ  แต่ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาพลับยังไม่ทำให้ไม้รู้สึกปวดหัวเลยแม้แต่น้อย ถึงจะเด็กกว่าเขามากแต่ก็มีเหตุผลมากกว่าที่เขาคิด เผลอๆ มีเหตุผลกว่าแฟนเก่าเขาด้วยซ้ำ

พอกินเสร็จเรียบร้อย ไม้ก็พาพลับไปส่งที่หอ ก่อนลงจากรถนั้นพลับก็ขอให้ไม้ส่งข้อความมาบอกเมื่อถึงคอนโดแล้ว แต่พลับก็กลัวว่าจะดูจู้จี้ไปรึเปล่า ที่ผ่านมาไม้จะส่งข้อความมาหาก็ตอนที่จะเข้านอนแล้วเท่านั้น

“อ่า...พี่ไม้ครับ ถ้าพี่ถึงคอนโดแล้ว พี่ช่วยบอกผมได้มั้ยครับ เอ่อ...ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับ”

“ได้สิ ถึงห้องแล้วเดี๋ยวพี่จะทักไปบอกนะ” ไม้มองเด็กที่ทำหน้าเกรงใจเขา เรื่องส่งข้อความนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่แฟนเขาทำกันนี่นะ แล้วทำไมเจ้าเด็กนี่ต้องทำท่าเกรงใจเขาเสียขนาดนี้

“ขอบคุณครับ ขับกลับดีๆ นะ” พลับโบกมือให้แล้วก็ปิดประตู มองไฟท้านรถของไม้ที่ไกลออกไปจนลับสายตา กลังจากนนั้นก็เดินขึ้นหออย่างอารมณ์ดี

“พีชทำอะไรอ่ะ” พลับเดินไปสะกิดหลังพีชที่กำลังจิ้มขนมปังเข้าปาก พีชเองพอเห็นว่าพลับกลับมาก็รีบจิ้มขนมปังที่เหลือมายัดใส่ปากใหญ่เลย

“เอ้า ใจเย็นสิ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก” พลับดุพี่ชายตัวเอง ที่ยัดขนมปังเข้าไปจนตาเหลือก ขนมปังนี่อร่อยขนาดไหนเชียว พลับดึงกล่องโฟมมา ตั้งใจว่าจะขอชิมหน่อยแต่พีชก็ดึงกลับแทบจะทันที แถมส่ายหน้าไม่ยอมให้พลับกินด้วย

“อื้อ!” พีชดันตัวพลับออก พยายามตะเบงเสียงดุน้องชายตัวเองที่ทำท่าจะแย่งขนมของกล้า ขนมนี่น่ะเป็นขนมที่กล้าซื้อมาฝากพลับนั่นแหละ แต่พีชหวงอ่ะ ไม่ให้อยากคนอื่นกินขนมที่กล้าซื้อ พีชเลยจะกินเองคนเดียวให้หมดเลย ถึงแม้ว่าจะอิ่มจนท้องแตกแล้วก็เถอะ

“อะไรอ่ะ จะช่วยกินไง พีชขี้งก!” พลับมองแก้มป่องของพี่ชายตัวเองอย่างระอา ตัวเองก็ดูท่าจะกินไม่ไหวอยู่แล้วยังจะมางกกันอีก

“อื้อ อึก”

“เออๆ ไม่แย่งแล้ว พีชจะยัดไปทำไมเยอะแยะล่ะ กินทีละชิ้นสิ เดี๋ยวก็อ้วกหรอก โถ่” พลับต้องยอมแพ้แล้วถอนหายใจใส่พีชที่ยังคงยัดขนมเข้าปากทีละสามชิ้น แถมมองมาที่พลับตาขวางเหมือนกลัวว่าพลับจะเข้าไปแย่งอีก แค่เห็นพี่ชายตัวเองงกขนาดนี้ก็ไม่อยากจะแย่งแล้ว กลัวพีชจะอ้วกมากกว่า เพราะคนที่ต้องมานั่งเช็ดคงไม่ใช่ใครที่ไหน พลับนี่แหละ

พลับปล่อยให้พี่ชายตัวเองนั่งจุกกับขนมที่กินเข้าไป ส่วนตัวเองก็เข้าไปอาบน้ำออกมาก็นั่งทำการบ้านต่อ แต่สมาธินั้นจดจ่อไปที่โทรศัพท์อย่างเดียวเลย พลับรอคอยว่าเมื่อไรพี่ไม้จะส่งข้อความมาหาเสียที พี่เขาบอกว่าถ้าถึงห้องจะแชทมาหานี่ แต่พลับก็คิดว่ากลังส่งเขาแล้ว ไม้อาจจะไปแวะที่อื่นก่อนกลับคอนโดก็ได้ แต่พลับก็รอตั้งแต่ทำการบ้านเสร็จจนจะเข้านอนอยู่แล้ว ไม้ก็ยังไม่แชทมาหา พลับเลยตัดสินใจส่งข้อความไปถาม

‘พี่ไม้ถึงคอนโดหรือยังครับ?’

ไม้ที่กำลังจะปิดไฟนอน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าตัวเองยังไม่ได้บอกพลับว่าตัวเองถึงห้องแล้ว พอกลับมาห้องเขาก็รีบเข้าไปอาบน้ำแล้วมานั่งตรวจงานออนไลน์จนลืมบอกพลับ และประสบการณ์ที่เคยทะเลาะใหญ่โตกับแฟนเก่าด้วยเรื่องที่เขาลืมตอบแชทแบบนี้ ทำให้ไม้ก็กลัวว่าพลับเองก็คงจะโกรธเขาเหมือนกัน เลยรีบรัวคำขอโทษไปเสียยกใหญ่

‘ถึงนานแล้วครับ แต่พี่ลืม ขอโทษนะครับ ครั้งหน้าพี่จะไม่ลืม ขอโทษนะครับ อย่าโกรธพี่นะ’

‘พลับไม่ได้โกรธครับ เป็นห่วงเฉยๆ นึกว่าพี่ยังไม่ถึงห้อง’

“ไม่ได้โกรธจริงเหรอครับ ถ้าไม่พอใจบอกพี่ได้นะ”

พลับเองก็ตกใจที่ไม้รัวคำขอโทษใส่อะไรขนาดนี้ และเพื่อยืนยันว่าพลับไม่ได้โกรธจริงๆ ก็เลยถ่ายรูปตัวเองยิ้มกว้างส่งไปให้

ไม้มองรูปที่พลับส่งมาให้แล้วก็ยิ้มอย่างไม่รู้ตัว อ่านข้อความที่พลับส่งมาเล่าว่าพีชไม่ยอมแบ่งขนมให้กิน ถึงตรงนี้ไม้ก็อดที่จะแซวไม่ได้ เพิ่งจะกินก๋วยเตี๋ยวมาสองชามกลับถึงห้องแล้วยังจะไปแย่งขนมคนอื่นเขากินอีก

‘ที่กินไปก่อนหน้านี้้ไม่ทำให้พลับอิ่มได้เลยเหรอ ถึงต้องกลับมาแย่งขนมคนอื่นกินอีก’

‘ผมไม่ได้แย่งครับ แค่จะช่วยกิน เดี๋ยวพีชจุก’

อ่านเหตุผลของพลับแล้วไม้ก็หลุดขำออกมา บอกว่าจะช่วยกินแต่พอพีชไม่ให้ก็เอามาบ่นให้คนอื่นฟัง มาบอกว่าพี่ชายตัวเองขี้งกแบบนี้ เด็กหนอเด็ก

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
พอถึงวันหยุดไม้ก็ไปรับพลับมากินเนื้อย่างตามที่นัดกันไว้ ร้านนี้พลับมั่นใจว่าอร่อยแน่นอนเพราะว่าเขาเคยมากิน ก็เลยอยากให้ไม้ลองมากินบ้าง แต่ดูแล้วไม้ก็คงจะชอบแหละ เพราะคนตัวสูงที่นั่งตรงข้ามกับพลับนั้นคีบเนื้อเข้าปากไม่หยุดเลย พลับยิ้มคีบเนื้อลงเตาให้ มองไม้ในมุมที่ไม่เคยเห็น

“เดี๋ยวพลับสั่งเนื้อเพิ่มให้นะครับ”

“เอ่อ ขอโทษนะครับพี่กินเพลินอยู่คนเดียวเลย เดี๋ยวพี่ย่างให้นะ นี่ชิ้นนี้สุกกำลังดีเลย” ไม้ชะงักกลัวว่าพลับจะน้อยใจคิดว่าเขาไม่ดูแล เลยรีบพลิกเนื้อในเตา ดูชิ้นทีสุกแล้วคีบใส่จานให้พลับไปหลายชิ้น เขามัวแต่กินเพลินจนลืมดูแลเด็กตรงหน้าไปเลย

“ไม่เป็นครับพี่ไม้ เดี๋ยวพลับจัดการเอง กินแบบนี้ต้องคีบกินเองสิถึงจะอร่อย” พูดแล้วก็คีบเนื้อในเตาที่สุกพอดีมาเป่าแล้วก็เคี้ยวตุ้ยๆ โชว์ ไม้พยักหน้าแล้วยิ้มให้ มองพลับที่ดูแลตัวเองได้ดี ไม่ได้มานั่งเฉยๆให้เขาจัดการให้อย่างเดียว

“ทำไมพลับกินแบบนั้นล่ะ”

ไม้มองวิธีการกินของเด็กตรงหน้าอย่างแปลกใจ พลับเอาผักมาห่อหมูแล้วก็เติมกิมจิและเครื่องเคียงต่างๆลงไปจากนนั้นก็ห่อจนเป็นคำโตแล้วเอาเข้าปากในทีเดียว ไม้มองปากเล็กนั้นเคี้ยวหยับๆ ได้น่าอร่อยมาก พลับเองพอเห็นแววตาสนอกสนใจของไม้ก็หัวเราะกุมแก้มตุ่ยของตัวเองก่อนจะหยิบผักมาห่อแล้วยื่นไปป้อนให้คนที่อยากกินบ้าง ไม้ก็อ้าปากรับเข้ามาเต็มคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะพยักหน้าเมื่อวิธีการกินของพลับนั้นทำไห้ได้รสชาติที่อร่อยไปอีกแบบ

“อร่อยใช่มั้ยครับ พลับทำตามซีรี่ย์เกาหลี พี่ไม้ไม่เคยดูเหรอครับ”

“ไม่ค่อยดูครับ”

ไม้ส่ายหน้า เขาไม่ค่อยดูซีรี่ย์อะไรแบบนี้เลยภาพยนตร์นั้นก็มีดูบ้างแต่ไม้ชอบอ่านหนังสือมากกว่าและส่วนใหญ่ที่อ่านก็เป็นหนังสือเกี่ยวกับสืบสวนหรือฆาตกรรมที่ต้องใช้สมองคิดเวลาอ่านทั้งนั้น ต่างจากพลับที่ชอบดูซี่รี่ย์ดูหนัง หนังสือที่อ่านก็จะเป็นหนังสือทั่วไปที่อ่านสนุกและน่าสนใจ ไม่ใช่หนังสือที่ต้องอ่านแล้วคิดไปด้วยแบบนั้น

“กินแบบนี้ก็อร่อยครับ”

“เฮ้ย!” ไม้อึ้งกับวิธีแปลกๆ ของเจ้าเด็กพลับ ที่เอาผักไปทาบไว้ที่ปากจากนั้นก็คีบเนื้อแล้วดันผักเข้าไปพร้อมๆกัน คนเกาหลีกินแบบนี้จริงๆ เหรอ พลับยิ้มบอกให้ไม้ทำตาม แต่ไม้นั้นไม่กล้าทำเพราะกลัวว่าจะโดนพลับแกล้งรึเปล่า เขามองไปรอบร้านก็ไม่เห็นว่าจะมีโต๊ะไหนทำแบบนี้เลย เห็นมากสุดก็แค่วิธีที่พลับทำตอนแรกที่ใช้ผักห่อเนื้อเป็นคำใหญ่ๆ แค่นั้นเอง

“ผมสั่งอันนั้นเพิ่มนะครับ พี่ไม้เอาอะไรเพิ่มมั้ย”

ไม้โบกมือปฏิเสธ ออกเสียงไม่ได้เพราะเคี้ยวอยู่เต็มปาก อดอึ้งไม่ได้จริงที่เห็นว่าพลับสั่งเนื้อมาเพิ่มอีกหลายถาด พลับก็บอกไม้ตลอดนะว่ากินจุ แต่ไม้ไม่คิดว่าจะจุได้ขนาดนี้ ที่กินๆ มานี่ก็ไม่ใช่น้อยเลยนะ เห็นตัวเล็กแบบนี้แล้วอยากจะรู้ว่ากินแล้วเอาไปเก็บไว้ตรงไหน และพลับก็ทำให้ไม้แปลใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะพอจัดการของคาวจนเกลี้ยงโต๊ะ พลับก็เดินไปตักขนมหวานมาอีกถ้วยโต

“ว่างๆ เดี๋ยวพี่จะพาเราไปถ่ายพยาธินะ” พลับกอดอกแล้วพูดแซวมองเด็กตรงหน้าที่ตักน้ำแข็งไสเข้าปากไม่หยุด

“ผมบอกแล้วไงว่าผมกินจุอ่ะ” พลับทำปากยู่แล้วพูดเสียอ่อย ตอนแรกก็ว่าจะไม่อายแล้วนะที่เป็นคนกินเยอะแบบนี้ แต่พอไม้พูดแซวว่าเขามีพยาธิก็อายขึ้นมาเลย ความจริงถ้าไม่กลัวว่าไม้นั่งรอนานแล้วเบื่อพลับก็อยากจะสั่งเนื้อมาย่างเพิ่มอีกชุดนึงด้วยซ้ำ

“กินเยอะมากเลยนะแต่ตัวก็เท่านี้เอง พลับแน่ใจนะครับไม่มีพยาธิจริงๆ”

“ผมเป็นคนเผาผลาญดีครับ แล้วก็ผมออกกำลังกายด้วยเถอะ ถ้าไม่ออกกำลังก็จะบวมขึ้น”

พลับอธิบาย ใช่ว่าเขากินเยอะขนาดนี้แล้วจะไม่อ้วนเสียเมื่อไรล่ะ ถ้าช่วงไหนไม่ได้ไปวิ่งออกกำลังก็อ้วนขึ้นจนเหนียงออกเหมือนคนอื่นนั่นแหละ ไม้มองเด็กกินขนมแล้วก็คิดว่าถ้าพลับอ้วนขึ้นมาจะเป็นยังไง แก้มกลมๆนั้นจะกลมกว่าเดิมขนาดไหน แล้วตัวเล็กนนั้นถ้าคลุมไปด้วยไขมันจะอ้วยพุกพุงพุ้ยยังไง แค่เห็นภาพที่นึกไว้ก็ดูจะน่าบีบน่าขยำไม่น้อยเลย

“พลับจะไปไหนต่อมั้ยครับ อยากกลับรึยัง” พอกินเสร็จทั้งคู่ก็เดินมาขึ้นรถ ไม้เร่งแอร์ให้เย็นกว่าปกตอเล็กน้อยเพื่อดับอากาศร้อนๆ ด้านนอก จากนั้นก็หันไปถามเด็กที่นั่งเหงื่อแตกอยู่

พลับส่ายหน้าช้าๆ เขายังไม่อยากกลับเลย วันหยุดทั้งทีก็อยากจะอยู่กับไม้ให้นานกว่าเดิมเสียหน่อย ปกติวันธรรมดาก็พาไปกินข้าวเย็นแล้วกลับไปส่งที่หอ ได้อยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง วันนี้มีโอกาสก็อยากจะอยู่ด้วยกันนานๆ

“ผมยังไม่อยากกลับครับ พี่ไม้อยากกลับแล้วเหรอ ยังไม่กลับไม่ได้เหรอครับ”

“พี่ไม่ได้อยากกลับหรอกครับ พลับอยากไปไหนต่อล่ะ พี่พาไปได้” ไม้มองพลับที่ช้อนตามองเล็กน้อย มองจากมุมเขาแล้วเหมือนพลับกำลังอ้อนเขาให้อยู่ด้วยกันก่อน เขาก็เองก็ไม่ได้มีธุระที่ไหน ที่ถามพลับไปก็เพราะกลัวว่าเด็กจะเบื่อที่มาอยู่กับผู้ใหญ่แบบเขา เลยถามไว้เผื่อว่าพลับอยากจะกลับไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนในกลุ่มก็ได้

“ไปไหนก็ได้ที่พี่ไม้พาไปครับ ผมตามใจพี่บ้าง”

“ตามใจพี่?” ไม้ถามหยั่งเชิง ให้พลับฉุกคิกว่าแน่ใจเหรอที่จะตามใจเขาน่ะ ไม้มีที่ในใจอยู่แล้ว สถานที่นั้นเป็นที่ที่เขาชอบไป แต่คนอื่นอรจจะไม่ชอบแบบเขาก็ได้เพราะเขาเคยพาแก้มไป รายนั้นบอกทันทีเลยว่าน่าเบื่อ ไม้ก็กลัวพลับเองก็อาจจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน

“ครับ พี่อยากไปที่ไหน ไปได้เลยครับ”

“อย่ามาบ่นว่าเบื่อทีหลังก็แล้วกันนะ”

พลับพยักหน้าแล้วยิ้ม ไม่มีทางที่พลับจะเบื่อแน่นอน เมื่อก่อนทำได่นั่งเฉยๆแอบมองหน้าไม้ทั้งวันพลับยังไม่เบื่อเลย แต่นี่มาไกลถึงขนาดได้คุยได้จับมือแบบนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย กลัวไม้นั่นแหละจะเบื่อพลับเสียก่อนที่คอยมาติดแจทั้งวันจนไม้ไม่ได้พักผ่อนในวันหยุดแบบนี้

ไม่ขับรถมาไม่นานก็ถึงที่หมาย เป็นสวยสาธารณะขนาดเล็กที่มีคนไม่เยอะเท่าไร แถมไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ด้วยทำให้บริเวณนี้ไม่มีเสียงรบกวนมากนัก

“ลมเย็นดีจัง”

พลับเงยหน้ามองแสงแดดที่สาดล่องลงมาตามใบไม้เป็นแสงสวย แล้วบรรยากาศช่วงบ่ายที่ควรจะร้อนแต่พอมาอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่มีต้นไม้เยอะๆ แบบนี้ ทำให้มีลมเย็นพัดโชยมาตลอด

“วันหยุดพี่ชอบมานอนเล่นที่นี่ครับ ต้นไม้เยอะดี” ไม้ปูเสื่อที่ถือติดมือมาจากรถปูลงบรพื้นหญ้าแล้วก็นั่งลง พลับก็ถอดลองเท้าแล้วนั่งตาม เชื่อแล้วว่าไม้คงจะมาบ่อยจริง ถึงขนาดมีเสื่อส่วนตัวด้วยนี่

ไม้ทิ้งตัวลงนอนหนุนแขนตัวเองแล้วหลับตา ทุกครั้งที่มาที่นี่เขาจะรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้ง เพราะมันเงียบแล้วยิ่งนอนเหยียดตัวใต้ร่มไม้พร้อมมีลมพักเย็นสบายแบบนี้สมองทำให้สมองปลอดโปร่ง เขาขอบที่นี่แต่พลับจะชอบด้วยรึเปล่านี่สิ ไม้ลืมตามองเด็กที่นั่งยิ้มอยู่ ยิ้มแบบนี้แสดงว่าก็คงจะชอบเหมือนกันแหละมั้ง

“พี่พามาที่แบบนี้ พลับไม่เบื่อใช่มั้ย”

“ไม่หรอกครับ ผมก็ชอบที่นี่ครับ”

“ดีแล้วแหละ พี่กลัวว่าเราจะอยู่กับพี่แล้วจะเบื่อ”

“ทำไมพี่ไม้ชอบคิดว่าผมต้องเบื่ออยู่เรื่อยเลยครับ” พลับถามอย่างสงสัย พี่ไม้ถามว่าเขาจะเบื่อรึเปล่าแบบนี้บ่อยมาก ถ้าไม่ติดว่าน่าอายเกินไปนะ พลับอยากจะบอกไม้ไปตรงๆ เลยว่า ต่อให้นอนเฉยๆอยู่ในห้องโล่งพลับก็ไม่เบื่อหรอกถ้าในนั้นมีไม้อยู่ด้วยอ่ะ

“เพราะเคยมีคนบอกว่าพี่เป็นพวกที่น่าเบื่อมาก”

ก่อนจะตอบไม้เงียบไปเล็กน้อย เขาโดนพูดใส่ว่าน่าเบื่ออยู่บ่อยครั้ง พอลองมาคิดๆดูแล้วคนที่พูดบ่อยที่สุดก็ไม่พ้นแก้ม แฟนเก่าเขานั่นแหละ โดนพูดใส่จนไม้เข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อจริงๆ เพราะว่ากิจวัตรประจำวันก็ชอบทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ เขาเองยังคิดว่าว่าตัวเองนั้นใช้ชีวิตอย่างไร้สีสันเกินไปรึเปล่า

“ก็นั่นคือคนอื่น ไม่ใช่ผมเสียหน่อย พี่ไม่ต้องกลัวว่าผมจะเบื่อหรอก ผมชอบ” พูดไปก็ยิ้มไป ไม่ใช่แค่สถานที่ที่พลับชอบ คนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างกายนี่พลับก็ชอบ ชอบมากกว่าสวนนี้ด้วย ชอบมากกว่าที่ใดใดบนโลกนี้เลย

“งั้นเดี๋ยววันหยุดพี่จะพามาบ่อยๆ นะ ทำข้าวกล่องมากินกัน”

พอไม้พูดว่าจะมีครั้งหน้า แถมวางแผนจะปิกนิกด้วย เจ้าเด็กพลับก็ยิ้มกว้าง เป็นความรู้สึกดีใจที่ไม้วางแผนจะทำอะไรด้วยกันกับพลับ

พลับเอนตัวนอนหนุนแขนเหมือนกับไม้ มองท้องฟ้าที่วันนี้สดใสกว่าวันไหน ได้ชอบบรรยากาศแบบนี้ ได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่ชอบแบบเงียบๆ พลับกันไปมองไม้ที่ตอนนี้หลับตาพริ้ม กินมาอิ่มแล้วมานอนในที่ที่มีลมพัดแบบนี้ก็ชวนให้ง่วงอยู่ไม่น้อยเลย

พลับพลิกตัวนอนคว่ำ ใช้สองมือเท้าหน้าอกตัวเองไว้แล้วนอนมองหน้าไม้ พลับชอบผู้ชายคนนี้ ครั้งแรกที่เจอก็ชอบเลยเพราะมีรูปร่างหน้าตาถูกใจพลับ แต่พอได้รู้จักกันมากขึ้น นอกจากจากหน้าตาแล้วบุคลิกและนิสัยก็ถูกใจเช่นกัน นิ่ง สุขุม เป็นผู้ใหญ่ ยิ่งเจอก็ยิ่งชอบ พลับรู้ว่าไม้ก็มีขอ้เสีย มีบางมุมของไม้ที่ขัดใจพลับแต่มันก็แค่เป็นจุดเล็กๆ เช่นตอนนี้ไม้ชอบเอาเขาไม่รวมกับแฟนเก่า ไม้ชอบคิดว่าคนอื่นไม่ชอบแบบไหนพลับก็ต้องไม่ชอบด้วย แล้วก็เรื่องอื่นที่เป็นเรื่องเล็กยุบยิบ แต่พลับมั่นใจว่าพลับรับได้ ซึ่งตอนนี้ที่มีโอกาสได้เห็นมุมต่างๆ ของไม้เยอะขึ้นเรื่องเล็กยุบยิบนั้นพลับก็รับได้จริงๆ บางเรื่องบางมุมของไม้ที่ได้รู้มากกว่าเดิมกลับยิ่งทำให้พลับชอบผู้ใหญ่คนนี้มากกว่าเดิมไปอีก มีแต่คำว่า ชอบ ชอบ ชอบ เต็มหัวพลับไปหมด

พลับยิ้มมองคนตรงหน้า ในใจก็คิดว่าไม้จะเริ่มชอบเขาบางรึยังนะ หรือต้องทำตัวแบบไหนถึงจะถูกใจจนอีกฝ่ายหันมารักเขาจริงๆ ถ้าคืนนั้นไม้ไม่เมา ก็คงไม่มีวันนี้ที่ได้มาใช้เวลาร่วมกัน

พอนึกถึงคืนนั้นพลับก็หน้าแดงขึ้นมา สองมือกุมแก้มกลมของตัวเองแล้วก็อายอยู่คนเดียว นึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นแล้วใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ยิ่งมองไปที่ริมฝีปากของไม้ พลับก็ยิ่งเขิน

พี่ไม้บอกว่าจะสอนจูบ แต่พี่เขาดันสอนอะไรที่มากกว่าจูบไปเยอะเลย

คิดถึงตรงนี้พลับก็เขินจนต้องฟุบหน้าลงกับเสื่อ เหลือบตามองคนที่หลับอยู่แล้วก็คิดอยากจะจูบ...แต่เอาเข้าจริงพลับไม่กล้าถึงขนาดนั้นหรอก ขอแค่หอมแก้มนิดๆ หน่อยๆ ก็พอ แฟนหอมแก้มกันไม่ใช่เรื่องแปลกอยู่แล้ว พลับบอกตัวเองแบบนั้น

“พี่ไม้…” พลับเรียกคนตรงหน้าทดสอบว่าหลับลึกแค่ไหน ลองเอามือปัดไปมาก็ไม่มีท่าทีว่าไม้จะลืมตาแน่ หนุ่มน้อยก็ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ ฝังปลายจมูกลงบนแก้มของคนที่แกล้งหลับ

ใช่...ไม้แกล้งหลับ ไม่ได้ตั้งจะจะแกล้งหรอก เขาจะเคลิ้มหลับอยู่แล้ว แต่ได้ยินเสียงพลับเรียกเสียก่อน รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าเขาก็เลยทำเป็นหลับต่ออยากรู้ว่าเจ้าเด็กพลับจะทำอะไรเขา จนไม้รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เข้ามาใกล้แล้วก็ริมฝีปากนุ่มที่กระทบกับแก้มเขา มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อยแล้วลืมตามองเด็กที่หลับตาพริ้มค่อยๆ เคลื่อนใบหน้าออกห่าง แล้วพอเห็นว่าคนที่ควรจะหลับกลับลืมตามองไปตัวเอง พลับก็ตกใจ อ้าปาก ทำหน้าเหลอหลาให้ไม้หลุดหัวเราะออกไป

“พี่...ไม่ได้หลับอยู่เหรอครับ”

“โดนเด็กลักหลับ”

“ไม่ใช่! ผมไม่ได้ทำ” ฃเพราะไม้พูดสั้นๆ แล้วทำหน้านิ่ง คนที่แอบทำก็เลยร้อนตัวรีบปฏิเสธไปทันทีถึงแม้ว่าจะโดนจับได้คาหนังคาเขาก็เถอะ



ไม้ลุกขึ้นนั่งแล้วมองพลับที่ก้มลงซบหน้าลงกับฝ่ามือ นั่งคุดคู่แล้วส่ายหน้าไปมา ปฏิเสธว่าตนเองนั้นไม่ได้ไปลักหลับใครทั้งสิ้น โดนจับได้ขนาดนี้แล้วยังจะมาปฏิเสธอีก แล้วท่าทางที่อายแล้วมุดหน้ากับเสื่อนี่มันยังไง เป็นเด็กที่ตลกจริงๆ

“เหรอครับ พลับไม่ได้ทำเหรอ แล้วเมื่อกี้ใครล่ะหน้าเหมือนพลับเลย”

“...”

“เอ...หรือว่าจะเป็นพีช วิ่งหายไปไหนแล้วเนี่ย” ไม้ทำเป็นหันมองไปรอบเหมือนหาตัวพีช แต่จะเจอไงล่ะ ดูด็รู้ว่าไม้ตั้งใจแกล้งพลับอยู่ พลับตะหนักได้ว่าไม้ก็มีมุมขี้เล่นแบบนี้เหมือนกัน เป็นอีกมุมนึงที่ทำให้พลับชอบมากกว่าเดิม

“พี่ไม้ พลับทำเอง ขอโทษครับ”

ไม้เลิกคิ้วขึ้นมองเด็กที่ก้มหน้าขอโทษ เห็นท่าทางเขินอายแล้วไม้เลยเผลอแกล้งไป ตามประสามผู้ใหญ่อยากแกล้งเด็กที่น่าเอ็นดู

“พี่ไม่ได้ว่าอะไรครับ เราเป็นแฟนกันนี่แค่หอมแก้มเอง เรื่องปกติ จริงมั้ย?”

“จริงครับ”

พลับรีบพยักหน้าเห็นด้วย ไม้หัวเราะมองแก้มแดงๆ นั้นแล้วก็ยกมือขึ้นบีบอย่างมันเขี้ยว แล้วก็พบว่าแก้มนี้มันนุ่มกว่าที่คิด บีบแล้วเพลินนิ้วดี

“แก้มนิ่มจังเลยนะเรา ของที่กินไปนี่มากระจุกรวมที่แก้มนี่เอง”

“ชอบเหรอครับ?”

“ก็เพลินมือดี ถ้าเครียดๆ มาบีบนี่ พี่คงหายเครียดเลยล่ะครับ”

“พี่บีบได้เลยครับ พลับให้พี่บีบได้สองข้างเลย”

พลับดึงมือไม้มาบีบแก้มตัวเองทั้งสองข้าง ถึงแม้ว่าไม้จะคิดว่าแก้มของพลับเป็นลูกบอลคลายเครียด พลับก็ไม่สน ถ้าไม้ชอบจับ พลับก็จะให้จับ เผื่อว่านี่จะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้ไม้ติดใจแล้วเริ่มชอบพลับขึ้นมาก็ได้

ไม้มองเด็กตรงหน้าที่เงยหน้านั่งนิ่งๆ ให้เขาบีบแก้มเล่นย่างไม่หวงตัว ก็เลยแกล้งยืด แกล้งบีบจนหน้าตาออกมาตลกพลับก็ไม่หันหนีเลย เขาบีบแก้มกลมๆเข้าหากันจนปากเล็กนั่นยู่ออกมาให้เขาหัวเราะ

“ผมชอบจังเลยครับ”

พลับหลับตา ถึงจะโดนไม้บีบแก้มอยู่ แต่อีกฝ่ายก็บีบเบาๆ ไม่ได้ออกแรงมากจนพลับรู้สึกเจ็บ ออกจะเพลินดีด้วยซ้ำ เหมือนมีคนมานวดหน้าให้ พลับลืมมองคนตรงหน้า ในใจมีคำที่อยากพูดอยู่แต่ก็ยังรู้สึกไม่กล้า ถึงอย่างนั้นความรู้สึกอะไรบางอย่างที่อยู่ลึกๆในจิตใจกำลังเชียร์ให้พลับลองพูดออกไป

“ชอบอะไรเหรอครับ”

พลับเงียบไปพักหนึ่ง ไม่ยอมพูดให้จบจนไม้ที่รอฟังต้องถามออกไปเอง มองเด็กตรงหน้าที่จ้องเขา ทำท่าจะพูดอะไรแล้วก็เงียบไปพักใหญ่ เขาละมือออกจากแก้มนิ่มนั้นแล้วมองพลับอย่างจริงจัง เห็นท่าทางไม่มั่นใจของพลับแล้ว ไม้ก็ยิ่งอยากรู้ว่าพลับชอบอะไร

“ชอบพี่ไม้ได้มั้ยครับ?”


สวัสดีจ้า หายไปเป็นอาทิตย์โลยโนะ 55555 ไปทำงานหาค่าหนังสือมาจ้า

งานหนังสือรอบนี้เป็นอะไรที่ทำให้ล้มละลายอย่างที่สุด เพราะหนังสือออกใหม่เยอะมว๊ากกก แต่ละเรื่องก็พลาดไม่ได้จริงๆ ทั้งคอมมิคทั้งนิยาย ของแถมเอย ส่วนลดเอย บ็อกเซ็ตอี๊กกก!! ถล่มทลายสุดๆ

และเพราะเราเป็นคนที่โดนคนอื่นป้ายยาได้ง่ายมาก เรื่องไหนใครบอกว่าสนุก็ต้องซื้อมาเก็บไว้ให้อุ่นใจ 55555

และตอนนี้เป็นตอนของพลับกับพี่ไม้ ซึ่งเราจะลงสลับกันแบบนี้ในอัตราส่วนที่พยายามให้เท่ากันนะคะ เพราะเรื่องราวของแฝดคู่นี้เกิดขึ้นและดำเนินไปในช่วงเวลาเดียวกันค่ะ ความสัมพันธ์ของทั้งสองคู่พัฒนาไปเกือบจะพร้อมกัน แต่จะมีคู่นึงเร็วกว่า เดาได้แน่นอนว่าคู่ไหน 5555

ขอให้สนุกนะคะ มีตรงไหนติดขัดหรือคิดว่าแบบนี้มันไม่ถูกต้องแนะนำได้นะคะ

ถ้าถูกใจและชอบก็ขอเม้นกำลังใจโหน่ย จะได้มีแรง มีไฟในการเข็นเจ้าเด็กแฝดคู่นี้จ้า

ขอขอบคุณรีดที่คอยให้กำลังใจเค้าน๊า จุ๊บๆ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
 
ตอนที่ 5 ลูกพีชมีกลิ่นหอม

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“อื้ม ตื่นแล้วๆ” กล้าตะโกนบอกคนที่เคาะประตูไม่หยุด ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าตื่นแล้วก็ตาม อยากจะหัวเสียใส่ที่มาปลุกในเช้าวันหยุดแบบนี้ แต่พอหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาถึงได้รู้ว่านี่มันไม่เช้าแล้ว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เออ รอหน่อยสิโว้ย ใครวะ”

กล้าตลบผ้าห่มออกเดินไปเปิดประตูพร้อมบ่นคนที่ยืนเคาะห้องอยู่ด้านนอก เขาบอกว่าตื่นแล้วแท้ๆ ยังจะไม่หยุดเคาะอีก เดี๋ยวคนข้างห้องก็ออกมาด่าหรอก กล้าคิดว่าเปิดไปต้องด่าเสียหน่อย แต่ก็ต้องเก็บความหงุดหงิดเหล่านั้นลงไปทันทีเมื่อเปิดประตูไปแล้วก็พบกับพีชที่ยืนยิ้มแฉ่ง ในมือถืออุปกรณ์วาดภาพ และข้าวกล่องอยู่ด้วย

“พีช มาทำอะไร”

‘เราเข้าใจการบ้านที่จารย์สั่ง อยากให้กล้าสอน แล้วก็ซื้อข้าวมาฝากด้วยนะ’

พีชยื่นสมุดโน้ตให้กล้าอ่านทันทีโดยทีไม่ได้อ่านปากกล้าด้วยซ้ำ พีชคิดเรื่องที่จะมาเจอกล้ามาจากห้องเรียบร้อยแล้ว และเพราะรู้ว่าวันหยุดแบบนี้กล้าจะนอนตื่นเที่ยงดังนั้นต้องยังไม่ได้กินข้าวแน่นอน พีชเลยซื้อขึ้นมาให้เลย

“อะ...อืม ขอบใจนะ เข้ามาสิ”

พีชพยักหน้าเพื่อขอบคุณ เดินเข้าไปในห้องแล้วนั่งลงที่พื้นที่ว่างปลายเตียง พีชมองตามกล้าที่เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไป เขาเข้ามาที่ห้องกล้าหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่มาก็จะมีพลับและแบงก์อยู่ด้วย นี่คงจะเป็นครั้งแรกเลยที่อยู่ในห้องของกล้าแบบสองต่อสอง พีชหยิบสมุดโน้ตเปิดไปหน้าสุดท้าย เขานั่งวางแผนสิ่งที่จะทำกับกล้าในวันนี้มาแล้ว ให้กล้ามีอะไรได้ทำทั้งวันจะได้เลิกคิดถึงพลับเร็วๆ พีชอ่านทวนแผนการที่คิดไว้

วันนี้เป็นวันหยุดพี่ไม้มารับพลับออกไปกินบุฟเฟ่ต์กัน พลับก็ชวนพีชไปด้วย แต่พีชไม่ไปหรอกไม่อยากไปนั่งเป็นก้างขวางคอน้องชายตัวเองและที่สำคัญพีชอยากมาอยู่กับกล้ามากกว่า

ระหว่างที่กำลังนั่งอ่านแผนการของตัวเองนั้นพีชก็ได้กลิ่นแชมพูหอมๆ พอหันไปก็เห็นว่ากล้ากำลังแต่งตัวอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าแล้ว เดาว่าคงจะออกจากห้องน้ำมาสักพักนึงแล้วแหละเพราะกล้าใส่กางเกงเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้กำลังจะดึงเสื้อแขนกุดมาใส่ พีชมองตามกล้าที่เดินมานั่งข้างๆ แอบยิ้มแล้วมองไปที่ต้นแขนแน่นหนั่นนั่น ทั้งรู้สึกเขินและโชคดีที่วันนี้กล้าใส่เสื้อแบบนี้ เพราะว่าพีชจะได้แอบมองกล้ามแขนของกล้าได้ทั้งวันเลย

“ยิ้มอะไร อยากมีกล้ามบ้างเหรอ” กล้าทักเมื่อเห็นพีชมองมาที่แขนเขาตาเป็นประกาย พอถามไปว่าอยากมีกล้ามเหรอคนตัวเล็กตรงหน้าก็ส่ายหน้า แต่ก็ยังคงมองแขนเขาอยู่ เห็นมองตาแบบนั้นก็เลยเกร็งแขนเบ่งกล้ามโชว์ไปทีนึง พีชทำปากหวอตาโต ตื่นเต้นกับกล้ามเนื้อที่ขึ้นมาเป็นลูกอย่างสวยงามตรงต้นแขน ไหนจะเส้นเลือดนั่นอีก พีชชอบมาก กล้าที่เห็นหน้าตาถูกอกถูกใจของพีชแบบนั้นก็เลยหลุดหัวเราะออกมา พอพีชรู้ตัวก็รีบยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วเม้มปากตัวเองทันที รู้สึกอายที่เผลอไปทำหน้าตาหื่น ๆ ให้กล้าได้สังเกตเห็นจนได้

“ดูทำหน้าเข้า ชอบกล้ามเหรอไง”

พีชอ่านปากแล้วพยักหน้าน้อยๆ ความจริงไม่ได้ชอบกล้ามของทุกคนหรอก พีชแค่ชอบกล้ามของกล้าคนเดียว พีชมองไปที่หัวไหล่นั่น แล้วก็ต้องรีบละสายตาไปทางอื่นเพราะว่าเจอสายตาล้อเลียนของกล้ามองมาเหมือนกัน กล้ารู้ตัวตั้งแต่แรกแบบนี้ พีชคงจะแอบมองเงียบๆ ตามที่หวังไม่ได้แล้วแหละ พีชทำเป็นหยิบข้าวกล่องมาให้กล้า ทำเป็นเปิดกล่องข้าวโชว์กับข้าวข้างในให้กล้าดูว่าน่ากินขนาดใหน แต่สายตาก็ยังคงแอบเหลือบไปมองแขนของกล้าที่ยังคงเกร็งอวดกล้ามนั่นอยู่

กล้ารับข้าวกล่องมาแล้วก็แอบขำเพื่อนตัวเล็กที่ยังคงจดจ้องอยู่ที่ต้นแขนของเขา เพิ่งได้รู้เหมือนกันว่าพีชเป็นคนประเภทชอบกล้ามเนื้อ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เวลาเขาไปยิมมักจะมีคนมาชมอยู่เสมอว่ากล้ามของเขาสวย ส่วนนี้ก็ยกความดีความชอบให้เทรนเนอร์ของเขานั่นแหละที่ปั้นให้สวยได้ขนาดนี้ เขาเห็นสายตาชื่นชมแบบนั้นมาเยอะและก็รู้สึกดีทุกครั้งที่เห็น ไม่เสียแรงที่อดทนลดน้ำหนักและคุมอาหาร จากอดีตที่เคยเป็นเด็กอ้วนจนมามีหุ่นในฝันแบบนี้ได้

กล้าเคยเป็นเด็กอ้วน ไม่ใช่อ้วนธรรมดานะ อ้วนมากชนิดที่ว่าอีกแค่ไม่ถึงสิบโลก็จะแตะร้อยโลแล้ว แต่มันก็มีจุดพลิกพลันช่วงมอปลาย หนึ่งในนั้นก็คือไม้ พี่ชายของเขาเองนี่แหละ เพราะตั้งแต่เด็กญาติมักจะชมแต่พี่ชายของเขาว่าเป็นคนหน้าตาดีแถมยังฉลาด ต่างกับกล้าที่อ้วนตุ้ยนุ้ยแถมเรียนด้านวิชาการไม่ได้เรื่องซักเท่าไร แล้วยิ่งโตไม้ก็ยิ่งเป็นพี่ชายที่ดูดีขึ้นจนกล้าอิจฉา ก็เลยตัดสินใจลดความอ้วนซะเลย แล้วก็พบว่าตัวเองก็หน้าตาดีไม่พี่ชายซะด้วย ไม่ได้หลงตัวเองนะ กล้าคิดแบบนั้นจริง ๆ

“นี่ค่าข้าว ขอบคุณนะ”

“อะอะ” กล้ายื่นแบงก์ห้าสิบให้พีช แต่คนตัวเล็กก็ไม่รับโบกมือส่ายหน้าบอกว่าอยากจะไม่เป็นไร พีชตั้งใจซื้อมาให้ ทีกล้ายังเลี้ยงขนมพีชได้เลย ตั้งแต่มานั่งกินข้าวเย็นด้วยกันสองคนกล้าชอบเลี้ยงขนมพีชเกือบทุกวันเลย ขนมปังบ้าง ไอติมบ้าง ซื้อให้ทุกวัน วันนี้พีชก็เลยจะไม่รับเงินจากกล้าเด็ดขาด

ไม่ว่ากล้าจะให้ยังไงพีชก็ไม่ยอมรับเงินนี้ไป จนสุดท้ายกล้าต้องวางกล่องข้าวลง คว้ามือพีชมาวางเงินไว้กลางมือให้ ยกมือขึ้นขยี้หัวทุยนั่นอย่างมันเขี้ยว

“รับไปเถอะ เอาไว้ไปซื้อหนมกินไง”

พีชอ่านปากกล้าแล้วก็พยักหน้ามองเงินในมือแล้วก็มองหน้ากล้าพร้อมอมยิ้มเล็กๆ รู้สึกปลื้มปริ่มขึ้นมาเพราะเมื่อกี้รู้ตัวว่าโดนมือใหญ่ๆ นั่นลูบหัวด้วย ถึงจะพูดว่าให้เอาไปซื้อขนมเหมือนเขาเป็นเด็ก แต่ถ้ากล้าจะมองว่าพีชเป็นเด็กแล้วลูบหัวเขาแบบเมื่อกี้นี่อีก พีชก็อยากจะเป็นเด็กของกล้าคนเดียว

พอกินข้าวเสร็จก็เริ่มทำการบ้านกัน พีชนั้นรู้อยู่แล้วว่าอาจารย์ให้ทำยังไง แต่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจแล้วให้กล้าอธิบายหลายๆ ครั้ง กล้าเองก็ใจเย็น ไม่ว่าจะพูดกี่รอบก็ไม่มีท่าทีว่าจะอารมณ์เสียใส่เลย พีชก็รู้สึกผิดนะที่ให้กล้าอธิบายหลายรอบแบบนี้ แต่เวลาเห็นกล้าตั้งใจพูดอะไรให้เขาอ่านปากได้สะดวกแบบนี้แล้วพีชรู้สึกดีมาก

“พีช มองปากเราอยู่รึเปล่าเนี่ย เข้าใจมั้ยว่าเมื่อกี้เราพูดอะไร”

“อะ!” พีชได้สติตอนที่กล้ายื่นมาดีดนิ้วตรงหน้า เมื่อกี้พีชไม่ได้อ่านปากกล้าเลยว่าอีกฝ่ายพูดอะไร พีชแช่สายตาไว้ที่หน้ากล้าเฉยๆ ไม่ได้สนใจดูสิ่งที่กล้าพูดเลยด้วยซ้ำ

พอเห็นว่าอีกคนไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูด กล้าก็เลยยกมือขึ้นดีดหน้าผากขาวไปทีหนึ่งอย่างมันเขี้ยว เขานั่งอธิบายเรื่องนี้มาตั้งสามสี่รอบ พีชก็ไม่สนใจสิ่งที่เขาอธิบายเลยสักรอบ เอาแต่ยิ้มแล้วเหม่อมองเขาจนกล้าคิดว่าวันนี้ใบหน้าเขามันมีอะไรผิดปกติให้คนตัวเล็กแอบขำรึเปล่า

“โธ่ พีชอ่า เราไม่อธิบายล่ะ มาลงมือทำเลยดีกว่า พีชทำตามเรานะ ไม่เข้าใจตรงไหนค่อยถาม”

พอเห็นเพื่อนตัวเล็กของเขาพยักหน้า กล้าก็ลุกขึ้นหยิบถังล้างพู่กันไปเติมน้ำแล้วกลับมานั่งที่เดิมเพื่อลงมือทำการบ้าน หลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งทำเกือบสองชั่วโมงกล้าก็ต้องแปลกใจเมื่อคนที่บอกว่าไม่เข้าใจการบ้านกลับทำได้ออกมาดีกว่าเขาแถมเสร็จก่อนเขาเสียอีก กล้ามองงานตัวเองเทียบกับงานของพีชแล้วก็เงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ยิ้มแฉ่งเป็นดวงอาทิตย์ส่งมาให้

“นี่คือผลงานของคนที่ไม่เข้าใจในองค์ประกอบศิลป์เหรอ เชื่อเราเถอะได้เอบวกแน่นอน ดีขนาดนี้”

ยิ่งโดนกล้าชมพีชก็ยิ่งยิ้ม จนกล้าอยากจะเอื้อมมือไปยืดแก้มนั้นออก ที่บอกว่าไม่เข้าใจนี่คือแกล้งเขาใช่มั้ย กล้าก้มดูผลงานของพีชอีกทีแล้วก็ส่ายหน้า มองหน้าคนตัวเล็กอีกมีก็ยังเห็นว่ายิ้มอยู่จึงอดไม่ได้ที่จะขยี้เส้นผมนุ่มนั้นให้กระเซอะกระเซิง

“พีชทำเสร็จแล้วจะกลับห้องเลยมั้ย?”

พีชอ่านปากกล้าแล้วรีบส่ายหน้า พีชยังไม่อยากกลับห้องยังอยากอยู่ใกล้กล้าต่อ แต่ก็คิดได้ว่าจะเป็นการรบกวนกล้ารึเปล่าเลยรีบหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาเขียน

‘เรายังไม่อยากกลับ แต่เราจะรบกวนกล้ารึเปล่า?’

“เห้ย ไม่เลย ไม่รบกวน ถ้าพีชยังไม่อยากกลับห้องก็ไม่เป็นไรอยู่ต่อได้ตามสบายเลย”

พอเห็นคำถามที่พีชถามมากล้าก็รีบตอบ เขาไม่ได้อยากให้พีชรีบกลับเสียหน่อย แต่ว่าตอนนี้พีชทำงานเสร็จแล้ว แต่เขายังไม่เสร็จ หากมานั่งเฝ้าเขาก็กลัวว่าพีชจะเบื่อไง

“พีชขึ้นไปนั่งบนฟูกก็ได้นะ นุ่มๆ”

กล้าตบฟูกนอน พีชก็ขยับขึ้นไปนั่งอย่างว่าง่าย มองดูกล้าที่ตั้งใจทำงานของตัวเอง แล้วก็หยิบสมุดโน้ตขึ้นมาดูแผนการที่แพลนเอาไว้ ความจริงพีชคิดว่าน่าจะทำการบ้านเสร็จกันเร็วกว่านี้ แล้วจะชวนกล้าเล่นเกม พอถึงเวลาแล้วค่อยชวนไปกินข้าว แต่ตอนนี้กล้ายังทำงานไม่เสร็จ ก็เลยตัดแพลนการเล่นเกมส์ออกไป แล้วข้ามไปกินข้าวเลย และพอกินข้าวเสร็จก็ไปนั่งย่อยที่สนามเหมือนทุกวัน

พีชหยิบดินสอมาขีดฆ่าตรงเล่นเกมออกจาก จากนั้นก็เปิดหน้าใหม่เขียนอะไรยุกยิกแล้วส่งไปให้กล้าดู

‘เสร็จแล้วไปกินข้าวกันนะ’

กล้าอ่านแล้วพยักหน้า รีบก้มหน้าทำงานต่อ พีชเก็บสมุดโน้ตเข้ากระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกม แต่สมาธิไม่ค่อยอยู่ที่เกมเท่าไร เพราะดวงตาสีน้ำตาลใสนั้นจดจ้องไปที่ใบหน้าและต้นแขนของกล้าอยู่ตลอด จะห้ามให้ไม่มองก็ไม่ได้ พีชไม่อยากห้ามใจตัวเอง ตอนนี้มีโอกาสมองขนาดนี้ก็ต้องมองให้ชื่นใจไปเลย เผื่อว่าวันข้างหน้ากล้าเป็นของคนอื่นแล้วพีชไม่มีสิทธิ์ที่จะมองอีก พีชก็จะได้ไม่เสียดายเวลานี้ทีหลัง

พีชรู้สึกว่าแค่มองอย่างเดียวคงไม่พอ เลยใช้โทรศัพท์นั้นแอบถ่ายรูปกล้าตอนนี้ไว้สองสามรูป ขอแอบถ่ายเอาไว้ดูในภายหลัง พอได้รูปที่พอใจพีชก็อมยิ้มมองรูปนั้นสลับกับตัวจริงที่นั่งอยู่ตรงหน้าแล้วก็ตระหนักได้ว้า กล้าตัวจริงหล่อกว่ากล้าที่อยู่ในรูปตั้งเยอะ แบบนี้พีชต้องมองให้เยอะๆ เลย

แต่พอมองนานๆ เข้ากล้าก็รู้ตัวว่ามีคนจ้องอยู่ กล้าเงยหน้ามองก็เจอพีชที่กำลังนั่งมองตาแป๋ว เขาเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่า ‘มีอะไรรึเปล่า’ แต่พีชก็ส่ายหน้าแล้วก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ เขาเองก็ไม่ได้เซ้าซี้ ถึงแม้จะรู้ว่าพีชนั้นจ้องมาที่ตัวเองอีกแล้ว ก็คงจะจ้องกล้ามเขานั่นแหละ พอคิดได้แบบนี้กล้าก็เลยแกล้งเกร็งแขนให้กล้าขึ้นเป็นลูก แอบชำเลืองมองก็เห็นเพื่อนตัวเล็กเขามองตาเป็นมัน สงสัยจะชอบมากจริงๆ ของขวัญวันเกิดปีนี้กล้าจะเหมาหนังสือนักกล้ามมาให้พีช ให้ดูจนตาแฉะไปเลย

พีชนั่งดูกล้าทำงานเพลิน จนผ่านไปนานพอสมควรก็เริ่มเอนตัวลงนอนตะแคงหนุนแขนตัวเอง มองปากของกล้าที่ขยับมุบมิบอยู่ คงจะฮัมเพลงนั่นแหละ พีชเพิ่งรู้ว่ากล้าเปิดเพลงด้วยก็ตอนที่กล้าโยกหัวเป็นจังหวะ พีชมองแล้วก็ยิ้มก่อนจะเคาะปลายนิ้วลงกับฟูกตามจังหวะการโยกหัวของกล้า อยากรู้ว่าเพลงที่กล้าฟังอยู่จะเป็นแนวไหน ฟังแล้วจะรู้สึกอย่างไร พีชอยากได้ยินบ้าง เสียงเดียวที่พีชได้ยินตอนนี้คือเสียงอื้ออึงแปลกๆ มันอาจจะเป็นเสียงเพลงนั่นแหละแต่มันดังไม่พอที่จะทำให้พีชฟังรู้เรื่องว่าเสียงเพลงนั้นมันไพเราะอย่างที่คนอื่นพูดกันขนาดไหน

ระหว่างคิดถึงความเพราะของเพลงที่กล้าชอบนั้น ดวงตาใสก็ค่อยๆ ปรือลงครึ่งหนึ่ง เป็นเพราะฟูกนุ่มและแอร์เย็นสบายทำให้หนุ่มน้อยที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มรู้สึกง่วง แล้วก็หลับไป…

“โอย เสร็จสักที หลังจะหัก”

กล้าบ่น เพราะงอหลังอยู่ท่าเดิมเกือบชั่วโมง พอยืดตัวทีเสียงกระดูกก็ลั่นจนคิดว่าหลังจะหักเอา กล้าบิดขี้เกียจแล้วกวาดสายตามองไปยังพีชที่ตอนนี้หลับอยู่บนเตียงเขา กล้าขยับไปตั้งใจว่าจะปลุกชวนไปกินข้าวกัน แต่พอฝ่ามือสัมผัสลงบนต้นขานุ่ม ความทรงจำของคืนนั้นก็ย้อนเข้ามาทันที

กล้ารู้ว่าต้องดึงมือออกได้แล้ว แต่เขายังไม่อยากทำเลย ความเนียนนุ่มแบบนี้แหละที่เขาได้สัมผัสในคืนนั้น วันนี้พีชใส่เสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น พอพีชนอนอย่างนี้ทั้งเสื้อทั้งกางเกงมันก็เลิกขึ้นเล็กน้อยให้กล้าได้เห็นต้นขาและสีข้างขาวนวล

จากที่ตั้งใจว่าจะปลุกก็กลับกลายเป็นว่าพยายามขยับตัวเบาๆ ไม่ให้รบกวนคนที่นอนอยู่ มือของกล้าที่วางบนต้นขาของพีชนั้นขยับเล็กน้อย ซึมซับความนุ่มของผิวไว้ด้วยปลายนิ้ว ผิวของพีชนุ่มและขาวมาก ดวงตาคมเริ่มมองสำรวจร่างเล็ก กล้าจำไม่ได้ว่าคืนนั้นเขาเห็นอะไรบ้าง แต่ความรู้สึกดีที่ได้สัมผัสนั้นจำได้ไม่ลืมเลย กล้าเม้มปากมองไปที่แก้มขาว ยิ่งขยับไปใกล้ก็ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆ

พีช มีกลิ่นหอมเหมือน ‘ลูกพีช’

กล้าอยากฝังจมูกลงไปดมที่แก้มนั้น แก้มของพีชคงจะทั้งนุ่มทั้งหอมน่าดู แล้วหากถ้าเขาทำอะไรที่มากกว่าหอมแก้มก็จะรู้สึกดีเหมือนคืนนั้น

“เชี่ย…”

กล้าสบถกับตัวเองแล้วดึงตัวออกก่อนที่จะเผลอทำอะไรลงไป เขานึกถึงความรู้สึกของคืนนั้นและมีความคิดที่จะทำแบบนั้นอีก มัน...มันไม่สมควรเลย กล้ามองหน้าพีชแล้วเม้มปากแน่น ยกมือขึ้นจับบริเวณหน้าอกตัวเอง รู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่รัวมาก ตอนนี้กล้าเริ่มรู้สึกสับสนในตัวเอง เป็นความสับบสนที่คลุมเครือ คือเขามองว่าคนที่นอนอยู่นี่คือพลับหรือพีชกันแน่…

เรื่องคืนนั้นกล้ากอดเพราะเห็นพีชเป็นพลับ แต่ตอนนี้กล้าจับเพราะว่าเห็นพีชเป็นพีช เมื่อซักครู่นี้ในหัวเขาไม่มีชื่อพลับอยู่เลย มีแต่คำว่าพีช พีช และลูกพีช…

ในขณะที่กล้ากำลังสับสนนั้น พีชที่นอนอยู่บนเตียงก็ขยับตัวเล็กน้อย ปรือตามออองไปยังที่ที่คาดว่ากล้านั่งทำงานอยู่ แต่ก็ไม่เจอใคร เลยเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่าเร็วจนกล้าที่นั่งอยู่ใกล้ๆ นั้นก็ตกใจ เพราะคิดว่าพีชจะรู้ตัวรึเปล่าที่เมื่อกี้กล้าแอบมีความคิดชั่ววูบที่อยากจะหอมแก้มพีช

พีชเองก็ตกใจ เมื่อคนที่ควรจะนั่งอยู่อีกที่นึง มานั่งอยู่ข้างตัวตรงนี้ พีชมองหน้ากล้างงๆ ว่ามานั่งตรงนี้ได้ไง

“เอ่อ...เสร็จแล้ว จะมาปลุกไปกินข้าวน่ะ”

กล้าตอบไม่เต็มเสียงมากนัก และนั่นทำให้พีชอ่านปากได้ไม่ชัด คนที่นั่งบนฟูกก็เลยโน้มตัวลงใกล้ๆ และขอให้กล้าพูดอีกครั้ง

“ไปกินข้าว...” กล้าพูดซ้ำมองพีชที่ขยับเข้ามาจ้องเสียใกล้ พอรู้เรื่องก็พยักหน้าหงึกหงักแต่ไม่ยอมขยับตัวออกไป จนกล้าต้องเป็นฝ่ายถอยออกมาเอง

“พีชไปรอข้างนอกอเลยก็ได้ เดี๋ยวขอเก็บของก่อน” กล้าก้มหน้าพูด พีชก็ไม่รู้เรื่องเพราะไม่เห็นปากแต่ก็เห็นว่ากล้าเก็บของอยู่เลยขยับลงไปช่วย พีชดึงพู่กันในมือกล้ามาเช็ดแล้วเก็บใส่กล่องให้อย่างเรียบร้อย เงยหน้ามองกล้าแล้วก็ยิ้มให้อีกครั้ง

กล้ามองรอยยิ้มหวานนั้นแล้วรู้สึกว่าตัวเขานั้นไม่ปกติแล้วเมื่อหัวใจที่ห่อเหี่ยวเพราะอกหักนั้นเหมือนมันจะพองตัวขึ้นแล้วสั่นไหวอยู่ในอก เขาเพิ่งจะอกหักมาไม่นานไม่ถึงเดือนเลยด้วย จะมาหวั่นไหวกับคนอื่นได้ไงล่ะ ถึงจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะมีพีชคอยช่วยให้เขาไม่ฟุ้งซ่านถึงพลับ แต่ดันมาฟุ้งซ่านกับพีชแทนเนี่ยนะ และกล้ารู้สึกว่ามันเร็วเกินไปที่เขาจะรู้สึกหวั่นไหวกับคนใหม่ แล้วยิ่งที่หวั่นไหวด้วยดันเป็นพีช...คนที่มีหน้าตาเหมือนพลับ กล้าก็ยิ่งไม่แน่ใจไปใหญ่ สุดท้ายเขาก็เลยตัดสินกับตัวเองว่า เป็นเพราะพีชมีหน้าตาคล้ายพลับ พอพีชมาทำตัวน่ารักใส่ก็เลยกลับไปหวั่นไหวได้ง่ายๆ พอสรุปแบบนั้นกล้าก็รู้สึกว่าตัวเองว่าทำแบบนี้ไม่ดีเลย เอาพีชไปแทนพลับอีกแล้ว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น กล้าก็ลุกเพื่อไปดูว่าใครมาเคาะในเวลานี้ เขาเดาว่าอาจเป็นแบงก์ เจ้าตัวกวนที่ชอบมาโดยไม่บอกไม่กล่าวเลยเปิดประตูไปโดยที่ไม่ได้ส่องตาแมวดูก่อน แล้วก็ตกใจเล็กน้อยเมื่อเปิดไปแล้วเจอคนที่มีหน้าตาเหมือนพีชยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง

“พีชอยู่ที่นี่ใช่มั้ย?”

พลับยิ้มแย้มมองพี่ชายตัวเองที่นั่งจุมปุ๊กอยู่ที่พื้น พลับกลับมาแล้วไม่เห็นพีชอยู่ในห้องก็เลยทักแชทไปหา ถามว่าอยู่ที่ไหนแต่พีชก็ไม่อ่าน ไม่ตอบจนเขาเป็นห่วง แล้วก็คิดได้ว่าพี่ชายเขาคงขึ้นมาอยู่ที่ห้องกล้าแน่ๆ เพราะช่วงนี้สองคนนี้ชอบอยู่ด้วยกันบ่อยๆ

กล้าพยักหน้าแล้วหลีกทางให้แฝดคนน้องเข้ามา ส่วนพีชนั้นพอเห็นพลับก็หน้าบึ้งเก็บกระดานวาดภาพและข้าวของตัวเองเตรียมกลับห้อง

“พีชไม่ต้องรีบกลับก็ได้ รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวเราขอไปเอาเอาการบ้านมานั่งทำที่ห้องกล้าด้วย” พลับบอกแบบนั้น พีชก็ส่ายหน้าใหญ่ วิ่งเข้าไปหาน้องชายตัวเอง เขาไม่อยากให้พลับอยู่ในห้องกล้าเลย ถ้าน้องชายเขามาคอยอยู่ใกล้ๆ แบบนี้กล้าก็จะทำใจไม่ได้ซักทีสิ ไม่เอาๆ พีชไม่ยอมหรอก

‘กลับห้องเราเถอะ พีชรบกวนกล้ามาทั้งวันแล้ว พลับอย่ามารบกวนอีกเลย’

‘ไม่รบกวนหรอก ก็นั่งทำการบ้านเหมือนปกติแหละ’ พลับเถียงกลับ ไม่เข้าใจว่าทำไมพีชกลัวว่าเขาจะมารบกวนกล้า ก่อนหน้านี้ก็ขึ้นมาทำงานกลุ่มที่ห้องนี้อยู่บ่อยๆ

‘บอกให้กลับก็กลับซี่ เป็นน้องต้องฟังพี่ เข้าใจมั้ย?’

‘เกิดก่อนแค่สองนาทีอย่ามาพูดนะ ทำไมจะทำงานที่นี่ไม่ได้ล่ะ ทำงานไปคุยกับเพื่อนไป เพลินกว่าทำกับพีชแค่สองคนตั้งเยอะ เห็นหน้ากันตลอด เบื่อหน้าพีชแล้ว’

‘พูดจาไม่น่ารัก กลับห้องเลย’

กล้ามองสองพี่น้องที่ยืนเถียงกันด้วยภาษามือ มองพีชที่ส่ายหน้ารัวทำหน้าดุใส่น้องตัวเองดึงแขนน้องให้เดิน ส่วนพลับนั้นก็ย่ำเท้าอยู่กับที่ไม่ยอมขยับ จนกล้าอยากรู้ว่าฝาแฝดคู่นี้เถียงเรื่องอะไรกัน ทั้งหน้าและและท่าทางของทั้งคู่ทำให้กล้านึกสัตว์ตัวเล็กที่กำลังทะเลาะกันอยู่

“โอย ขี้เกียจเถียงแล้ว กลับห้องก็ได้” และสุดท้ายก็เป็นนั่นแหละพลับยอมแพ้ เขาเถียงพี่ชายไม่เคยชนะเลยสักครั้ง เป็นพลับทุกครั้งเลยที่เขาต้องยอมแพ้ก่อนตลอด เมื่อยมือ เถียงไม่ทัน

พอเห็นพลับยอมแพ้พีชก็ยิ้ม หันไปหยิบของแล้วโบกมือลาคนตัวสูงที่ยืนงงอยู่ที่เดิม แอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้กินข้าวเย็นกับกล้า เป็นความผิดของพลับเลยจะรีบกลับมาทำไมก็ไม่รู้ ทำไมไม่อยู่กับพี่ไม้ไปก่อน จะกลับมาตอนเที่ยงคืนพีชก็ไม่ว่าหรอก หรือจะค้างกับพี่ไม้เลยพีชก็จะยินดีมาก เพราะพีชก็จะคงขอค้างห้องกล้าโดยใช้อ้างว่าพีชไม่กล้านอนคนเดียว... แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลยจริงๆ นะ

“พีชอ่ะ จะรีบกลับทำไม นั่งเล่นอยู่ห้องกล้าก่อนก็ได้ จะได้ไม่เปลืองไฟห้องเราไง” พอกลับถึงห้องของตัวเองพลับบ่นใส่พีชแบบไม่ได้ทำภาษามือ พีชก็อ่านปากออกบ้างไม่ออกบ้างแต่ก็พอรู้เรื่องว่าน้องชายบ่นอะไร เขาเลยเข้าไปบีบแก้มแฝดคนน้องอย่างหมันไส้ น้องชายเขานะช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ สนใจแต่คนที่ตัวเองชอบคนเดียว ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่าตัวเองไปหักอกคนอื่นเขาดังเป๊าะ แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็นคนที่พีชชอบมากๆ ด้วย น้องชายของเขาเป็นคนที่น่าหมันไส้มากจริงๆ

“โอ้ย พีช อย่าบีบแก้มแบบนี้สิ เดี๋ยวแก้มเราเหี่ยว” พลับโวยวายจับปัดมือพีชออกจากใบหน้า แล้วใช้สองมือคลึงแก้มตัวเองไปมา พีชเห็นแบบนั้นก็ทำท่าจะเข้ามาดึงแก้มอีก จนพลับเอียวตัวหลบแทบไม่ทัน ช่วงนี้พีชเป็นอะไรก็ไม่รู้ชอบทำร้ายร่างกายน้องชายตัวเอง เอะอะบีบ เอะอะขยำ ถ้าแก้มนี้ของน้องย้วยไปพลับจะทำยังไงล่ะ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพลับต้องสงวนแก้มนี้ไว้ให้พี่ไม้บีบได้แต่คนเดียวเสียแล้ว เดี๋ยวพี่ไม้บีบแล้วรู้สึกไม่ดีแล้วไม่อยากจับแก้มเขาอีกล่ะก็ พลับแย่แน่ เดี๋ยวไม่มีแก้มมัดใจพี่เขาทำไง

พลับทำหน้ายู่ใส่พีชก่อนจะค่อยๆ ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อตอนบ่าย พลับได้ถามพี่ไม้ไปว่าชอบได้มั้ย ตอนนั้นใจพลับแทบกระเด็นออกมาเพราะทั้งกลัวและตื่นเต้น แต่ไม้ยิ้มแล้วตอบกลับมาอย่างสบายๆ ว่า ‘ได้อยู่แล้ว ที่ทำมาทั้งหมดนี้ก็เพราะอยากให้พลับชอบพี่นะ’ ไม้พูดมาแบบนั้นพลับก็เขินจนแทบจะมุดเสื่อ

ต่อจากนี้พลับก็จะตั้งใจทำให้พี่ไม้มาชอบพลับให้ได้เร็วๆ เหมือนกัน และแก้มนิ่มๆ นี่แหละคือสิ่งที่พลับจะใช้มัดใจพี่ไม้ ต้องรักษาความนุ่มของแก้มนี้ไว้อย่างดี

“อา!”

พีชส่งเสียงเรียกและตบพื้นให้พลับนั่งลงข้างๆ ส่งดินสอยางลบและการดาษให้พลับเริ่มทำการบ้านได้แล้ว พลับที่พอนึกถึงเรื่อของไม้ขึ้นมาก็อารมณ์ดีขึ้น เลยยอมนั่งทำการบ้านตามที่พีชสั่ง แถมเล่าเรื่องไม้ให้พีชฟังแล้ว พีชเองก็ต้องค่อยกระตุ้นให้พลับตั้งใจทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเล่าทีเดียว ทำงานไปทำภาษามือคุยกับพีชไปแบบนี้ ผ่านไปคืนนึงก็คงไม่เสร็จหรอก

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
“พีช ทำไมไม่เช็ดผม เดี๋ยวเป็นหวัด” พลับเดินไปดุพี่ชายตัวเอง เมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นว่าพีชนั่งเล่นเกมทั้งที่หัวยังเปียกอยู่ แถมยังนั่งตรงที่ลมแอร์ลงหัวพอดีด้วย พีชไม่สนใจกระโดนขึ้นเตียงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมทำท่าจะนอนแล้วจนพลับต้องรีบคว้าแขนของพีชให้ลุกมาเช็ดผมให้แห้งก่อน

‘ง่วงแล้ว’ พีชส่ายหน้าทำท่าจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้สึกว่าผมมันเปียกมากนะ เมื่อกี้โดนลมแอร์เป่าจนมันหมาดแล้วด้วย

“ไม่เอา เดี๋ยวไม่สบาย ใช้ไดร์เป่าครู่เดียวแหละ เดี๋ยวพลับเป่าให้เอง” พลับจะเดินไปหยิบไดร์เป่าผม พีชเป่าลมออกจนแก้มป่อง ตั้งใจดึงแขนพลับให้เซลงมานอนด้วยกันก่อนจะใช้ผ้าห่มตลบอีกทีม้วนเอาไว้ให้พลับขยับตัวไม่ได้ จากนั้นก็หันไปปิดไฟเตรียมตัวนอน

“พีชดื้ออ่ะ บอกว่าเดี๋ยวเป็นหวัดไง ขี้เกียจพาไปหาหมอ”

พีชไม่สนใจพลับที่ทำมือชี้โบ้ชี้เบ้ ใช้ขาทับอกพลับเอาไว้ไม้ให้ลุกขึ้นได้แล้วก็หลับตาเตรียมนอน พลับเลยเหวี่ยงหมอนใส่ เขาต้องให้พีชลุกไปเป่าผมจนแห้งให้ได้ พลับไม่อยากให้พีชเป็นหวัด เพราะเป็นทีแล้วชอบเป็นหนัก และที่สำคัญคือไม่อยากมาคอยนั่งอดนอนเช็ดตัวให้ตลอดทั้งคืนด้วย

“อา!” พีชตะเบ็งเสียงใส่พลับที่ฝาดหมอนมาโดนหน้าพีชเต็มๆ ก็เลยเหวี่ยงหมอนกลับไป หลังจากนั้นสงครามขนาดย่อมของสองพี่น้องก็เกิดขึ้น สุดท้ายทั้คือทั้งสองแฝดก็ทั้งเล่นทั้งทะเลาะตีหมอนใส่กันจนเหนื่อยแล้วเผลอหลับไป ทั้งที่ผมของพีชก็ยังชื้นอยู่แบบนั้น และผลสรุปก็คือ....

“นั่น พีชไม่สบายเหรอ”

กล้าทักเมื่อเดินลงมาจากหอเพื่อไปเรียนแล้วเห็นพีชใส่มาร์กปิดปากและบนหน้าผากก็มีแผ่นเจลลดไข้แปะอยู่ กล้าเดินเข้าหาแล้วใช้หลังมือตัวเองวัดอุณภูมิจากตัวของพีช ก็เห็นว่าตัวรุมๆ อยู่เล็กน้อย

“อืม เมื่อคืนไม่ยอมเช็ดผมก่อนนอน แถมไปนั่งเล่นเกมให้แอร์เป่าหัวอยู่ตั้งครึ่งชั่วโมง เมื่อเช้ามืดนี่ตื่นมาปลุกเราเพราะหายใจไม่ออก มันน่าดีดนัก” พลับอธิบายแล้วก็แนบหลังมือไปตามแก้มของพีชเพื่อดูว่าตัวร้อนกว่าเดิมรึเปล่า พีชช้อนตามองกล้าที่ทำสีหน้าไม่พอใจใส่เขา จากที่หงอยอยู่แล้วก็จ๋อยกว่าเดิมทันที คิดว่าที่กล้าทำหน้าดุใส่เพราะว่าไปทำให้พลับต้องลำบาก ก็กล้ายังชอบพลับอยู่มาทำให้คนที่กล้าชอบลำบากแบบนี้กล้าคงจะไม่พอใจเขานั่นแหละ

“พีชเป็นอะไร ไปเรียนกันเถอะ ห้ามเดินหลับตานะมองทางไว้ดีๆ เดี๋ยวสะดุดอีก”

พลับดึงมือพีชที่กำลังเบลอยาให้ลุกขึ้นยืนแล้วก็จูงมือกันไปเรียนโดยมีกล้าคอยเดินตามอยู่หลัง ระหว่างเรียนพีชก็ใช้หลังมือวัดไข้ให้พีชอยู่ตลอดเพราะกลัวไข้จะขึ้น

“พีชคัดจมูกมากเหรอ” กล้าสะกิดพีชให้หันไปมองแล้วถาม คนเป็นหวัดอ่านปากแล้วก็พยักหน้า ตอนนี้รูจมูกของพีชนั้นตันไปแล้วทั้งสองข้าง ต้องหายใจทางปากเท่านั้น พออ้าปากหายใจมากคอก็แห้งทำให้เกิดอาการเจ็บคอด้วย กล้าที่เห็นพีชนั่งหายใจฟืดฟาดไม่สะดวกก็สงสาร หันไปขอวิคส์จากพลับนำมาทากับผ้าเช็ดหน้าของตัวเองแล้วนำไปพันบริเวณลำคอให้กับพีชเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก วิธีนี้แม่ของกล้าเคยทำตอนที่เขาไม่สบาย อาจไม่หายไปทันทีแต่ก็ช่วยบรรเทาให้หายใจคล่องขึ้นได้

‘เดี๋ยวเราซักผ้าเช็ดหน้ามาคืนนะ’ พีชยื่นสมุดโน้ตให้อ่าน กล้าก็ยิ้ม ยกมือวัดอุณภูมิของพีชอีกที ตลอดคาบเรียนช่วงเช้านี้กล้าคอยเช็คอุณภูมิให้พีชตลอด ถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองมาคลุมตัวพีชไว้เพราะกลัวว่าพีชจะไข้ขึ้นระหว่างเรียนอย่างที่พลับบอก พีชกระชับเสื้อของกล้าไว้ อยากจะดมกลิ่นของกล้าแต่ติดตรงที่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้กลิ่นอะไรเลยเพราะจมูกนั้นยังตันอยู่ พีชพยายามสูดหายใจเขาแรงๆ ต้องการให้อาการตันในจมูกนี้หายไป แต่ยิ่งสูดลมหายใจเข้าก็ยิ่งตัน แถมได้อาการคันคอมาเพิ่มจนไอออกมา

“ไอแบบนี้เดี๋ยวต้องเจ็บคอแน่เลย เดี๋ยวเราลงไปซื้อยาอมแก้เจ็บคอก่อนดีกว่า” พลับบีบปากพีชให้อ้ากว้างๆ เพื่อจะดูว่าคอของพีชนั้นมีอาการแดงรึเปล่า ก่อนจะรีบหยิบกระเป๋าตังแล้ววิ่งไปซื้อยาอมแก้เจ็บคอให้ เขาไม่อยากให้พีชเจ็บคออีก เพราะถ้าเจ็บขึ้นมาเมื่อไรพีชจะไม่ยอมกินข้าว พอไม่ยอมกินก็จะทำให้หายช้าไปอีก พลับเลยต้องป้องกันไว้ก่อน

กล้าและพีชมองตามหลังของพลับที่วิ่งออกจากห้องไป พีชชักรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยถ้าเมื่อคืนยอมเช็ดผมให้แห้งเขาก็คงไม่เป็นหวัดแล้ว พีชถอนหายใจแล้วหันมาทางเดิม และก็เจอเข้ากับสายตาที่ไม่พอใจเล็กน้อยของกล้า

“ทำไมเมื่อคืนไม่เช็ดผมล่ะ ทีหลังอย่าดื้อกับพลับนะ...” กล้าดุ ดึงทิชชู่จากมือพลับมาส่งให้พีชเช็ดปากตัวเอง พีชอ่านปากกล้าแค่นั้นก็ไม่สนใจจะอ่านต่อแล้ว พีชซบหน้าลงกับแขนตัวเองแล้วหลับตาลง รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเมื่อยังรู้ว่ากล้ายังห่วงแต่พลับ คงจะกลัวว่าพลับจะลำบากอย่างนู้นอย่างนี้แน่เลยถึงมาทำหน้าไม่พอใจมาดุใส่พีชแบบนี้ พีชขมวดคิ้วเบะปากเหมือนจะร้องไห้ ปวดทั้งหัวปวดทั้งใจ

กล้าเห็นพีชซบหน้าลงกับแขนก็หยุดพูดเพราะพูดไปพีชก็ไม่ได้ยินอยู่แล้ว กล้าดึงแจ็คเก็ตตัวเองให้คลุมตัวพีชดีๆ ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องรู้สึกไม่พอใจขนาดนี้ด้วย ก็เขาหงุดหงิดที่รู้ว่าพีชดื้อจนตัวเองไม่สบายแบบนี้ แล้วกล้ารู้ว่าเวลาพีชไม่สบายจะเป็นหนักก็ยิ่งเป็นห่วงเข้าไปอีก ครั้งมันแปลกที่เขารู้สึกเป็นห่วงพีชกว่าครั้งไหนๆ ตอนป่วยแบบนี้พีชไม่ยิ้มออกมาเลย ทำตาปรือและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ใส่เขาตลอดซึ่งกล้ารู้สึกไม่ชอบ อยากให้คนที่ฟุบหลับอยู่นี้หายไวๆ จะได้กลับมายิ้มสดใสได้เร็วๆ

หลังจากเรียนช่วงเช้าผ่านไปทุกคนก็พากันไปกินข้าวที่โรงอาหาร พลับนั้นสั่งข้าวต้มมาให้พีช ให้กินอาหารร้อนๆ จะโล่งจมูกขึ้นมาหน่อยในตอนนี้พีชยังกินได้ปกติอยู่เพราะลิ้นยังรับรู้รสชาติได้ คอก็ยังไม่เจ็บ ข้าวที่กินก็ยังอร่อยอยู่และพีชไม่ใช่คนที่กินยายาก พลับก็ไม่ต้องเคี่ยวเข็ญอะไรมากแต่จะมาลำบากก็ตรงที่ยาแก้ไข้ที่กินไปนั้นทำให้พีชง่วงมาก ระหว่างที่รอเรียนคาบบ่าย พลับก็เลยต้องใช่ไหล่ตัวเองเป็นหมอนให้พีชพิง

“พลับเมื่อยเหรอ” แบงก์ถามเมื่อเห็นว่าพลับขยับตัวไปมาอย่างลำบากเพราะกลัวว่าพีชที่หนุนไหล่อยู่นั้นจะตื่น

“อืม แขนชาแล้วเนี่ย อยากไปเข้าหองน้ำด้วย”

“ปลุกพีชเลยก็ได้ เดี๋ยวจะเข้าเรียนแล้ว” แบงก์มองนาฬิกาทที่ข้อมืออีกไม่นานก็ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว ปลุกพีชให้ไปล้างหน้าลางตาเตรียมตัวไว้ก็น่าจะดี แต่พลับส่ายหน้ายกมือขึ้นวัดไข้พี่ชายตัวเองอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าตัวยังรุมอยู่ก็ตัดสินในให้นอนต่ออีกซักหน่อยดีกว่า

“พลับไปเข้าห้องน้ำเถอะ ให้พีชมาพิงเราแทนก็ได้” กล้าที่นั่งอยู่ข้างพีชอาสาส ค่อยๆ ประคองหัวพีชมาพิงที่ไหล่ตัวเอง คลุมแจ็คเก็ตให้อย่างดี อีกทั้งยังใช้ฝ่ามือแนบไปที่ลำคอและหน้าผากของพีชเพื่อดูว่าตัวร้อนรึเปล่า จากนนั้นก็ก้มลงเล่นโทรศัพท์ของตัวเองต่อ แต่พอพีชหายใจฝืดฝาดเพราะนอนคอพับทำให้หายใจไม่สะดวก กล้าก็รีบหันไปมองแล้วปรับตานอนให้พีชใหม่ ซึ่งการกระทำทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของพลับ

พลับไม่เคยเห็นกล้าดูแลพีชขนาดนี้เลย รอบก่อนๆ ที่พีชเป็นไข้ก็ไม่ได้ดูแลอะไรขนาดนี้นี่นา แต่พลับเห็นว่าช่วงหลังมานี่พีชและกล้าสนิทกัน กล้าก็เลยดูแลพีชดีขึ้นงั้นเหรอ กล้านั่งมองหน้าพี่ชายเขาตอนหลับด้วยสายคาเป็นห่วงขนาดนั้นนี่ถือว่าดูแลกันในฐานะเพื่อนใช่มั้ย พลับเองก็ไม่แน่ใจ รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยน แต่พลับก็ยังไม่อยากจะด่วนสรุปอะไรมากนัก กล้าอาจจะเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วแต่เขาเพิ่งจะมาสังเกตเห็นก็ได้ เพราะพลับรู้นิสัยตัวเองดีว่าถ้าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับพี่ไม้ พลับจะรู้เรื่องได้ช้ามาก

“แบงก์ รอบก่อนที่พีชเป็นไข้ กล้ามันทำแบบนี้ป่ะ”

พลับหันไปแบง์ที่เดินมาเข้าห้องน้ำด้วยกัน แบงก์เงียบไปพักนึงแล้วก็หันมายักไหล่ให้ แบงก์เองก็ไม่แน่ใจ เพราะกล้านั้นดีกับสองแฝดมากจนเป็นปกติอยู่แล้ว ต่างกับเขาที่ด่าเอาตบเอา ถ้าเกิดวันไหนเปลี่ยนมาดีกับเขาสิถึงจะแปลก

“มันก็ดีกับพีชและพลับแบบนั้นมาตั้งนานแล้วนี่ ทำไมอ่ะ”

พลับส่ายหน้า แบงก์บอกว่าไม่มีอะไรแบบนี้ แสดงว่าพลับคงคิดมากไปเองแหละมั้ง พลับกลับมานั่งที่เดิมเตรียมจะดึงตัวพีชมานอนพิงตัวเองเหมือนก่อนหน้านี้เพราะไม่อยากรบกวนกล้ามาก แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าไม่เป็นไรจะได้ไม่ต้องย้ายตัวพีชไปมา เดี๋ยวพีชตื่น พลับก็ปล่อยให้พี่ชายตัวเองนอนพิงเพื่อนไปแบบนั้น จนได้เวลาเข้าเรียนพลับก็ปลุกพีชให้เตรียมตัว

“พีช ได้เวลาเรียนแล้ว ตื่นเร็ว”

พีชลืมตามองพลับที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่จะรู้ตัวว่าตัวเองนั่งพิงคนอื่นอยู่ก็เลยเด้งตังลุกขึ้นนั่ง พอกันไปมองก็เห็นว่าคนที่ตนเองพิงนั้นคือกล้านั่นเอง

“ตัวไม่ร้อนแล้วใช่มั้ยเนี่ย” กล้าเอามือแตะหน้าผากของพีช รู้สึกได้ตัวอุ่นในช่วงเช้านั้นหายไปแล้ว แล้วสีหน้าของคนตัวเล็กก็ดูดีขึ้นด้วย

“อืม อาจเพราะกินยาเข้าไปแล้วได้นอนน่ะ”

พลับกับกล้าสลับกันเอามืออังหน้าผากของพีช ทั้งสองคนคุยอะไรกันไม่รู้เพราะพีชไม่ได้อ่านปากเลย คนเป็นหวัดเม้มปากแล้วก็อมยิ้มกับตัวเอง ตื่นมาก็เจอหน้ากล้าอยู่ใกล้แค่นี้ และพอรู้ตัวว่าได้นอนพิงกล้าเมื่อครู่นี้ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ความน้อยใจก่อนหน้านี้หายไปได้ง่ายๆ เลย ส่วนกล้าพอเห็นพีชยิ้มออกมาเขาเองก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะคาดว่าอาการหวัดคงจะดีขึ้นแล้ว

“ไง ยิ้มออกแล้วแบบนี้แสดงว่าหายปวดหัวแล้วใช่มั้ย”

พีชไม่ทันได้อ่านปากกล้าก็เลยหันไปหาพลับ ช่วยให้แปลให้หน่อย พอเข้าใจก็หันมาพยักหน้าให้ ตอนนี้พีชรู้สึกว่าไม่ปวดหัวแล้วอาจเพราะได้นอนพักและได้นอนพิงกล้าด้วย

กล้ามองหน้าพีชแล้วก็หันมาเก็บของเตรียมตัวเข้าเรียน หันไปมองพีชอีกทีก็ยังคงส่งยิ้มมาให้เหมือนเดิม เห็นคนตัวเล็กยิ้มออกแบบนี้ กล้าก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด เมื่อเช้าเห็นพีชทำหน้าหงอยอยู่ตลอด บรรยากาศรอบตัวดูหม่นลงไปเยอะเลย เพิ่งรู้ว่ายิ้มของพีชทำให้บรรยากาศสดใสได้ก็วันนี้แหละ


อรุณสวัสดิ์จ้า พานุ้งพีชมาฝากต้อนรับเช้าวันศุกร์จ้า
ไม่รู้ว่าอ่านตอนนี้แล้วจะหงุดหงิดพีชกับกล้ากันรึเปล่า แต่ก็ขอเวลาให้กล้านิดนึงนะคะ เค้าเริ่มเข้าสู่ช่วงสับสนแล้ว ส่วนหนูพีชนั้น ได้โปรดอย่าเคืองที่น้องยอมกล้าตลอด ถึงจะน้อยใจกล้ายังไงแต่พอกล้ามาดีด้วยนิดหน่อย พีชก็จะกลับไปดีใจเหมือนเดิม ก็น้องเขาชอบของเขาเนาะ

ออฟไลน์ NingNong_nn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โหยยย นึกว่าเป็นนิยายดราม่าแต่ก็ไม่ม่าอย่างที่คิด มีหน่วงช่วงแรกนิดหน่อย แต่สองตอนหลังนี้ชักเห็นความน่ารักแล้วอ่าาา ชอบบบ หูยย มันดีมาก อยากให้คนอื่นได้อ่านอ่า ทำไงดี เราจะไปป้ายยาให้เพื่อนมาอ่าน 555555
ไรท์สู้ๆนะคะ เรารออ่านอยู่นะ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ตอนที่ 6 น่ารักเป็นบ้า

“พี่ไม้ วันนี้พลับไปกินข้าวกับพี่ไม่ได้นะครับ พีชไม่สบาย”

กล้ามองพลับที่กำลังโทรคุยกับไม้อยู่ กล้าไม่ได้รู้สึกเสียใจหรืออิจฉาพี่ชายตัวเองแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย มันยังคงความแปลบๆ ในใจอยู่เล็กน้อย แต่กล้าก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะตอนนี้เขาเป็นห่วงพีชมากกว่า ถึงไข้จะลดลงแล้วแต่พีชก็ยังหายใจลำบากอยู่ แล้วยังมีอาหารเจ็บคอมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

‘พลับไปกับพี่ไม้ก็ได้นะ นี่เราก็ไม่ได้มีไข้แล้วนี่’ พีชบอกน้องชายตัวเอง ไม่อยากขัดความสุขของพลับเพราะเห็นว่าน้องชายนั้นรอช่วงเวลานี้ทุกวัน พีชเข้าใจพลับดี ไม่โกรธหรือน้อยใจน้องชายเลยแม้แต่น้อยที่อยากไปหาพี่ไม้ คนเราก็ต้องอยากอยู่ใกล้คนที่ชอบเป็นปกติอยู่แล้ว ก็เหมือนที่พีชอยากอยู่ใกล้กล้าบ่อยๆ นี่แหละ

“ไม่เป็นไร กลัวพีชไข้ขึ้นตอนเย็นน่ะ” พลับอธิบาย พีชชอบมีอาการไข้ขึ้นสูงช่วงหัวค่ำและตอนกลางคืน ปล่อยให้อยู่คนเดียวพลับก็ไม่สบายใจ ดังนั้นรอพีชหายแล้วค่อยไปหาพี่ไม้ก็ได้

“งั้นเดี๋ยวเราดูให้มั้ย จะคอยดูให้ตลอดเลยว่าไข้ขึ้นรึเปล่า” กล้ารีบอาสาทันที พีชที่จ้องอ่านปากอยู่ก็ดีใจจนออกนอกหน้ารีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที หันไปบอกให้พลับนั้นไปหาพี่ไม้ได้เลยไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ เพราะพีชอยากอยู่กับกล้า อยากให้กล้าดูแลเขาหน่อย

“ไม่เป็นไรกล้า เราเกรงใจ” พลับรีบปฏิเสธ นี่พี่ชายเขาจะไปรบกวนคนอื่นมาดูแลแทนได้ไงล่ะ พลับหันไปมองพีชซึ่งคิดว่าก็คงกำลังทำหน้าเกรงใจกล้าอยู่เหมือนกัน แต่พีชกับยิ้มกว้างให้กล้าโบกมือให้พลับไปได้เลย นี่ก็อีกคน พลับเห็นว่าช่วงนี้พีชติดกล้าจังเลย อยากรู้ว่ากล้าไปทำอะไรถูกใจพี่ชายเขาเข้า

“เราอยากทำให้…” กล้าบอกพร้อมจ้องตาพีช หันมาบอกว่าให้พลับไปได้เลย ทางฝั่งพีชก็จ้องมาทำภาษามือบอกว่าให้ไปได้เลยเช่นกัน พลับรู้สึกว่าเหมือนตัวเองโดนสองคนนี้ไล่อย่างไรไม่รู้แฮะ

“ถ้าพีชไข้ขึ้นต้องโทรบอกเรานะ” พลับยังคงเป็นห่วงอยู่เลยกำชับกล้า หันไปบอกพีชให้จิบน้ำอุ่นเยอะๆ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ ทั้งพีชทั้งกล้าก็พยักหน้าอย่างแข็งขัน พีชยกมือขึ้นอังหน้าผากพี่ชายตัวเองอีกครั้ง พอมั่นใจตัวพีชไม่ร้อนแล้วจริงๆ ก็โบกมือลาแล้วเดินไปหาพี่ไม้ กล้าก็มองตามหลังเล็กๆ นั่นพลางคิดว่าพี่น้องคู่นี้เป็นห่วงกันดีจัง ไม่เหมือนเขากับพี่ไม้ เขาเป็นไข้ทีพี่ไม้ไม่เห็นจะมาดูแลดีขนาดนี้เลย

พีชเห็นกล้ามองตามพลับอีกแล้ว ก็เอาแต่คอยมองตลอดแบบนี้แล้วเมื่อไรจะตัดใจได้ล่ะ พีชจะต้องทำอย่างไรให้กล้าทำใจได้เร็วๆ ล่ะเนี่ย

“พีชเป็นอะไรเหรอ” กล้าละสายตาจากพลับหันมาเจอดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องอยู่ แถมทำสีหน้าเหมือนน้อยใจใส่เขาอีกตังหาก กล้าสงสัยว่าเขาไปทำอะไรให้พีชไม่พอใจรึเปล่าแต่ไม่ได้ถามออกไปเพราพีชก้มหน้าเขียนบางอย่างในสมุกโน้ตอย่างรวดเร็วและยื่นมาให่กล้าอ่าน

‘ยังทำใจเรื่องพลับไม่ได้เหรอ’

กล้าไม่แน่ใจว่าตอนนี้ทำใจได้รึยัง ตอนนี้เขาไม่รู้สึกเสียใจเท่าตอนแรก ไม่ได้นึกถึงพลับเท่าไรแล้วด้วยแต่มันน่าแปลกที่เขาเอาแต่นึกถึงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามากกว่า อย่างวันนี้เขาก็เป็นห่วงที่เห็นพีชไม่สบาย แถมยังปากไวออกตัวว่าจะดูแลพีชให้เพราะอยากอยู่กับพีชแค่สองคนในช่วงเวลาต่อจากนี้อีก เขาพูดอาสาออกไปก่อนที่สมองจะคิดทบทวนด้วยซ้ำ กล้าไม่มั่นใจเอาเสียเลยว่าเขาทำไปเพราะอะไร เพราะเวลาอยู่กับพีชแล้วทำให้ไม่ฟุ้งซ่านนึกถึงพลับรึเปล่า เรื่องนั้นอาจจะมีส่วนในช่วงแรกแต่ช่วงหลังมานี้เขาดันมานึกถึงแต่พีชแทนเนี่ยนะ ยิ่งคิดกล้าก็ยิ่งสับสน เขาไม่กล้าที่จะตัดสินใจว่าตัวเองหวั่นไหวกับพีช เพราะเหตุผลอะไรหลายๆ อย่าง เช่นมันเร็วเกินไปที่จะไปชอบคนใหม่ และที่เขาหวั่นไหวกับพีชเนี่ยเป็นเพราะอะไรกันแน่

พีชกัดปากตัวเองระหว่างรอคำตอบ กล้าอ่านแล้วก็เงียบไปนานมาก พีชอุตส่าห์รอคำตอบอย่างใจเย็นแล้วนะแต่กล้าไม่ยอมพูดอะไรออกมาเสียที สุดท้ายพีชก็เลยตัดสินใจเอาเองว่ากล้ายังทำใจไม่ได้แน่เลย พีชถอนหายใจแล้วเดินกลับหอโดยที่มีกล้าเดินตามมาด้านหลัง พีชเหลือบตามองกล้าเล็กน้อยแล้วก็หลุบตาลง ยกมือขึ้นมาลูบที่หน้าอกตัวเองเมื่อมันรู้สึดอึดอัดขึ้นมาอีกแล้ว

พีชก็รู้ก็เข้าใจว่ามันต้องใช้เวลา แต่กล้าเล่นมองตามแต่พลับ พลับเดือดร้อนอะไรกล้าก็ออกตัวช่วยเหลือให้ตลอด แล้วแบบนี้เมื่อไรจะทำใจได้ล่ะ กล้าก็ต้องเจ็บไปเรื่อยๆ ซ้ำๆ แบบนี้ตลอดเหรอ พีชไม่อยากให้กล้าเศร้าแล้ว ที่อยากให้กล้าตัดใจเร็วก็ไม่ได้หวังอะไรมากมายว่ากล้าจะหันมาชอบตัวเองหรอก รู้ตัวว่าคงเป็นไปได้ยาก พีชแค่อยากให้คนที่พีชชอบมีความสุขและกลับมาร่าเริงได้แล้ว

ก่อนขึ้นห้องกล้วก็ห้พีชกินข้างให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็เอายาให้กินแล้วพาขึ้นห้องให้พีชนอนพัก เพราะฤทธิ์ยาทำพีชหลับไป ส่วนกล้าก็หยิบสมุดขึ้นมาสเก็ตภาพเล่นรอพลับกลับมา ลุกขึ้นไปวัดไข้ให้พีชบ้างเป็นครั้งคราว จนช่วงหัวค่ำพีชไข้ขึ้นและตัวร้อนมากจนกล้าไม่รู้ต้องทำอย่างไร ใช้เจลลดไข้แปะที่หน้าผากแล้วตัวก็ยังร้อนเหมือนเดิม กล้าโทรบอกพลับเรียบร้อยแล้วแต่เพราะรถติดหนักมาก ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าจะมาถึง กล้าจึงตัดสินใจพาพีชไปหาหมอเอง

“พีช นั่งดีๆ หน่อย เดี๋ยวก็หล่นหายไปก่อนที่จะถึงคลีนิคนะ”

กล้าไม่มีรถยนต์ มีแต่มอเตอร์ไซค์ที่ใช้เอาไว้ขี่ไปไหนมาไหนใกล้ ๆ เท่านั้น จึงต้องให้พีชซ้อนท้ายพาไปคลีนิคใกล้ๆ นี้ แต่พีชนั้นเหมือนจะหลับอยู่ตลอดเวลาจนกล้ากลัวว่าจะหล่นระหว่างทาง

“พีช...นั่งแบบนี้ได้หล่นกลางทางแน่ เอามือมานี่” กล้าดึงมือพีชให้ก้มมานอนซบหลังตัวเอง จากนั้นรวบมือทั้งสองข้างของพีชให้มากอดเอวเอาไว้

“อือ” พีชปวดหัว เจ็บคอและคัดจมูก ครั่นเนื้อครั่นตัวรู้สึกไปสบายตัวไปทุกส่วน ซบหน้าลงกับแผ่นหลังของพีชอย่างอ่อนแรง

พอถึงคลีนิคหมอก็ตรวจนิดหน่อยแล้วให้ยามาพร้อมทั้งบอกกล้าว่าให้คอยเช็ดตัวไว้เพราะว่าตัวร้อนมาก พร้อมทั้งเรียกกล้าเข้าไปดูวิธีเช็ดตัวลดไข้ ตอนที่อยู่กับหมอกล้าก็เช็ดไปไม่มีกะจิตกะใจมาคิดอะไรมากมายเพราะตกใจที่พีชไข้ขึ้นสูง จนมาอยู่สองต่อสองในห้อง พีชที่เนื้อตัวท่อนบนเปลือยเปล่าและเสียงครางเพราะพิษไข้นี่แหละที่ทำให้กล้าใจสั่น

“พีช...ขอเช็ดตัวนะ” กล้าพูดเสียงแผ่วยอมรับตรงเลยว่าเห็นลำตัวขาวๆ มานอนหอบหายใจอยู่รงหน้าแบบนี้ ทำให้เขาคิดดีไม่ได้เลย สมองเอาแต่นึกถึงเรื่องของคืนนั้นตลอด

“อือ...อา” พีชปรือตามองกล้า ไม่รู้หรอกว่าเมื่อครู่นี้กล้าพูดอะไร เพราะตอนนี้พีชรู้สึกปวดหัวจนตาลายไปหมดแล้ว ง่วงมากแต่หลับไม่ลงเพราะมันไม่สบายตัวเอาเสียเลย เขาพยามส่งเสียงอยากจะขอบคุณกล้าที่มาเช็ดตัวให้

แต่เสียงของพีชกลับยิ่งทำให้พีชนึกถึงคืนนั้น เสียงแปล่งหูแบบนี้แหละที่กล้าได้ยินและจำได้ด้วยว่าเสียงครางของพีชตอนนั้นมันหวานหูขนาดไหน กล้าสะบัดหัวหยุดความคิดไม่ดีเหล่านั้นแล้วค่อยเช็ดๆ ตัวให้พีช สาบานเลยว่ากล้าพยายามไม่คิดอะไรแล้วแต่พอแตะตัวพีชที คนที่นอนซมก็ส่งเสียงครางอืออาออกมาทีแบบนี้ก็ทำเอากล้าไม่ดีคิดไม่ได้จริงๆ

“นอนเงียบๆ ได้มั้ยพีช” กล้าบอกแล้วกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอมองพีชที่นอนตาเยิ้มแถมยังมีหน้ามาส่งยิ้มให้เขาอีก กล้ารีบเช็ดตัวให้ตามวิธีที่หมอสอนมา พยายามบังคับสายตาตัวเองให้มองหน้าพีชเอาไว้ ไม่ให้ตัวเองเอาแต่มองอะไรขาวๆ อย่างอื่น

“ยิ้มอะไรนักหนาฮึ ไม่สบายแบบนี้ชอบเหรอไง?”

พอเช็ดตัวเสร็จกล้ารับตลบผ้าห่มคลุมตัวพีชเอาไว้แล้วนำผ้าผืนเล็กไปตาก พอเดินกลับมาก็เห็นว่าพีชนอนยิ้มอยู่บนเตียงคงจะรู้สึกสบายตัวขึ้นแล้วล่ะสิ ตอนที่ถามกล้าก็พลั้งมือไปจิ้มแก้มอุ่นของพีชด้วย พอรู้ตัวก็รีบดึงมือกลับแทบทันที

พีชไม่รู้ว่ากล้าพูดอะไร แต่ก็อมยิ้มอยู่ตลอด รู้สึกดีที่กล้านั่งเช็ดตัวให้จนอาการร้อนผ่าวตามผิวทุเลาลง พีชชอบมากเลยที่กล้าดูแลแบบนี้ ชอบที่กล้าใจดีกับเขาแบบนี้

“เลิกยิ้มได้แล้ว รีบนอนเลยจะได้หายไวๆ” กล้าบอกแล้วดึงผ้าห่มนั้นขึ้นมาคลุมหน้าพีชไปด้วยเลย ไม่อยากจะยอมรับว่าเขินหรอกนะ แต่เจอตาเยิ้มหวานนั่นจ้องมาขนาดนี้เป็นใครก็คงจะเขินเหมือนเขาแหละมั้ง

พีชดึงผ้าห่มออกแล้วมองหน้าของกล้า ก็พีชอยากมองใครก็ห้ามไม่ได้หรอก

หลังจากนั้นไม่นานพลับก็กลับมา กล้าเลยขอตัวกลับห้อง พีชมองตามกล้าตาละห้อยแล้วหันมาทำหน้ายู่ใส่น้องชายตัวเอง น่าจะกลับมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อย กล้าจะได้อยู่ดูแลพีชต่ออีกนิด

“ปวดหัวเหรอ เดี๋ยวเช็ดตัวให้นะ”

พลับถามเพราะเห็นพีชทำหน้ายุ่งใส่เขา กลัวว่าพีชอาจจะปวดหัวมีไข้ขึ้นมาอีก แต่พีชก็แค่เอื้อมมือมาบีบแก้มพลับอย่างมันเขี้ยวแล้วก็หนีไปนอน ปล่อยให้พลับนั่งบ่นพีชที่มาทำแก้มเขาย้วยอีกแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าพีชป่วยอยู่นะพลับจะบีบคืนให้แก้มของพีชหลุดติดมือมาเลย

เช้าวันต่อมาพีชไม่มีอาการตัวร้อนเพราะว่าพลับนั้นคอยลุกขึ้นวัดไข้ให้เกือบทั้งคืน พอมีไข้ปุ๊บก็รีบเช็ดตัวไล่ความร้อนให้ทันที แต่ก็ใช่ว่าพีชจะหายดีเลยเพราะว่าพีชมีอาการเจ็บคอและไอหนักกว่าเมื่อวาน จมูกไม่ตันแล้วแต่มีน้ำมูกไหลอยู่ตลอดเวลา พลับเลยเตรียมกระดาษทิชชูไว้ให้พีชม้วนนึงเลย

“ทำไมวันนี้ไม่ให้หยุดนอนพักอ่ะ ไม่ต้องไปเรียนก็ได้นะ”

กล้าทักพลับที่ปล่อยพีชมาเรียนทั้งที่ยังป่วยอยู่ วันนี้ไม่มีวิชาที่สำคัญอะไรมากให้พักอยู่ที่ห้องน่าจะทำให้พีชหายได้เร็วขึ้น

“บอกแล้ว แต่พีชอ่ะดื้อบอกว่าอยากมาเรียน ไม่อยากนอนอยู่ห้องคนเดียว ถ้าเย็นนี้ไข้ขึ้นอีกนะจะดีดให้เป็นรอยเลย”

พอได้ฟังกล้าก็หันมาทำตาดุใส่พีช เจอตาคมหันมาดุแบบนั้นคนตัวเล็กสลดลงทันที ก็ถ้านอนอยู่ห้องก็จะไม่ได้เจอกล้านี่นา พีชอยากเจอกล้าอ่ะแถมตอนนี้ก็ไม่มีไข้แล้วด้วย ก็ใกล้จะหายแล้วแหละมั้ง

“ถ้าปวดหัวหรือรู้สึกว่าตัวร้อนขึ้นมาต้องรีบบอกนะ เอาเสื้อเราไปคลุมตัวไว้ดีกว่า ห้องเรียนแอร์เย็นมาก” กล้าอังฝ่ามือไปตามใบหน้าจากนนั้นก็ถอดแจ๊คเก็ตของตัวเองไปคลุมตัวพีชเอาไว้ แอร์ในห้องเรียนนี้ค่อนข้างแรงแถมพวกเขานั่งอยู่ในบริเวณที่ลมแอร์ลงพอดี

พีชอมยิ้มกระชับเสื้อของกล้า เมื่อวานเขาไม่ได้กลิ่นเพราะว่าคัดจมูก แต่ตอนนี้ไม่คัดจมูกแล้วก็เลยพอที่จะได้กลิ่นของเสื้อนี่บ้าง แต่มันยังไม่พอใจพีชก็เลยทำเป็นก้มหน้าลงซบกันแขนตัวเองเหมือนว่าเขานั้นจะนอนพัก แต่ความจริงแล้วอยากจะซุกหน้าดมกลิ่นกล้าจากเสื้อตังหาก

“พีชหนาวเหรอวะ เอาเสื้อเราไปห่มอีกชั้นมั้ย?” แบงก์เห็นตัวพีชนั้นสั่นเล็กน้อยและคิดว่าหนาวก็เลยสะกิดแล้วถามพร้อมหวังดีจะถอดเสื้อตัวเองไปห่มให้อีกชั้น แต่พีชพอเห็นแบงก์ทำท่าจะเอาเสื้อมาคลุมทับก็รีบส่ายปฏิเสธทันที

“อะอะ!”

“ทำไมล่ะ คลุมได้เลยไม่ต้องเกรงในนะ เราไม่หนาวหรอก” แบงก์คิดว่าพีชอาจเกรงใจกลัวว่าเขาจะหนาวเหมือนกันก็เลยบอกว่พีชไม่ต้องเกรงใจเขาเลย พร้อมจะวางเสื้อทับแต่พีชก็รีบเบี่ยงหลบจนแบงก์ต้องยอมแพ้ไป หยิบเสื้อตัวเองขึ้นมาดมกลิ่นว่ามันเหม็นรึเปล่าทำไมพีชต้องปฏิเสธอะไรขนาดนั้น

“อะ!” พีชจะให้แบงก์เอาเสื้อมาคลุมทับไม่ได้ ไม่งั้นกลิ่นมันก็ปนกันน่ะสิ ไม่เอาๆ พีชอยากได้กลิ่นของกล้าคนเดียว

พีชรู้สึกผิด กลัวว่าแบงก์จะคิดว่าพีชนั้นรังเกียจก็เลยรีบหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาเขียน หาข้อแก้ตัวที่จะไม่ทำให้แบงก์ต้องคิดมาก

‘ขอบใจนะ แต่ว่าเราจะร้อนถ้าเราคลุมหลายชั้น’

“อ๋อ เราก็นึกว่าพีชเหม็นเสื้อเรา” แบงก์อ่านแล้วก็หัวเราะ ตอนที่พีชไม่ยอมรับเสื้อไปนี่เขาเสียเซลฟ์นิดหน่อย คิดว่าเขาตัวเหม็นจนเพื่อนรับไม่ได้เสียอีก เสื้อตัวนี้เขาไม่ได้ซักมาหลายวันแล้วด้วย

“มึงรบกวนอะไรพีช กลับที่นั่งตัวเองไป” กล้าที่เพิ่งกลับมาจากส่งงานหน้าชั้น เดินเข้ามาตบหัวแบงก็เบาๆ ไล่ให้กลับที่นั่งตัวเอง เพราะตอนนี้แบงก์นั่งอยูีที่ของเขา แบงก์ก็บ่นนิดหน่อยจะหันมาตบหัวเขาคืนแต่กล้ารู้ทันเลยโยกหัวหลบ

“ไม่ได้รบกวนเสียหน่อย กูเห็นพีชตัวสั่นก็นึกว่าหนาวเลยจะเอาเสื้อมาคลุมให้เฉยๆ ดันมาโดนมึงตบซะได้”

แบงก์บ่นแล้วขยับตัวกลับไปนั่งที่ตัวเอง ส่วนกล้าก็หันไปมองหน้าพีช เมื่อกี้แบงก์บอกว่าพีชตัวสั่นเขาก็รู้สึกเป็นห่วงกลัวว่าไข้จะกลับเลยเอามืออังหน้าผากแต่ก็เห็นว่าตัวไม่ได้ร้อน แถมคนที่แบงก์บอกว่าตัวสั่นยังมานั่งยิ้มแป้นให้เขาอีกด้วย แบงก์มั่วแล้ว คนป่วยที่ไหนจะยิ้มได้สดใสขนาดนี้

“หนาวเหรอ แบงก์บอกว่าเห็นพีชตัวสั่น” พีชส่ายหน้าแล้วทำท่าทางกระชับเสื้อของกล้าไว้แล้วชูนิ้วโป้งขึ้นเป็นการบอกว่ามีเสื้อของกล้าคลุมอยู่ขนาดนี้ พีชรู้สึกอบอุ่นมาก กล้าหัวเราะออกมาเล็กน้อยขยับมือที่อังหน้าผากของพีชขึ้นไปลูบหัวแล้วโยกไปมาน้อยๆ อารมณ์ดีแบบนี้แสดงว่าคงจะใกล้หายแล้วแหละ

“ฮะ ฮะ...ฮัดเช่ย! ฮัดเช่ย!! ”

จู่ๆ พีชก็รู้สึกคันจมูกสองมือรีบควานหาม้วนกระดาษทิชชูในกระเป๋าของพลับแต่ก็ไม่ทันการแล้ว พีชจามออกมาเสียงดังสองครั้งติด ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องเรียนก็หันมามองแล้วทำหน้าปุเลี่ยนกันหมด บ้างก็หันหนี เพราะว่าพีชจามและทำให้น้ำมูกเหลืองข้นที่ค้างอยู่ในจมูกก็พากันกระจายออกมากองอยู่ที่บริเวณริมฝีปากบน พลับที่เดินกลับมาจากส่งงานพอดีเห็นพี่ชายตัวนั่งนิ่งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็รีบกระวีกระวาดวิ่งมาค้นกระเป๋าหากระดาษทิชชูมาเช็ดหน้าให้พี่ชายตัวเอง แต่กล้าเร็วกว่า คว้าคอพีชให้ก้มเข้ามาหาแล้วเขาก็ถกเสื้อนักศึกษาของตัวเองขึ้นเช็ดจมูกให้พีชอย่างรวดเร็ว

“เชี่ยกล้า มึง…” แบงก์ทำหน้าแหยงใส่กล้า มองไปที่เสื้อของเพื่อนตัวเองแล้วก็หันหน้าหนี ข้นขลักเลย แบงก์มองแล้วก็นึกโจ๊กที่ตัวเองกินเมื่อเช้าแล้วก็ต้องหันหน้าหนี

พลับเองนั้นก็ตกใจรีบลื้อของในกระเป๋าเพื่อหากระดาษทิชชู ส่วนพีชนั้นช็อกไปแล้วเมื่อเห็นน้ำมูกข้นๆ ของตัวเองไปติดอยู่บนเสื้อของกล้าเป็นปื้นเลย

“กล้าเอาเสื้อตัวเองไปเช็ดทำไม ไม่แขยงเหรอ” พลับถาม ส่งม้วนกระดาษทิชชูที่เพิ่งค้นเจอไปให้กล้าเช็ดเสื้อตัวเอง สงสัยว่ากล้าไม่แขยงขี้มูกคนอื่นเหรอ เอาเสื้อตัวเองไปเช็ดให้ขนาดนั้น ดูอย่างแบงก์สิ ขยับออกไปไกลร้อยเมตรได้เลยมั้งนั่น

กล้าหัวเราะแล้วใช้กระดาษทิชชูเช็ดเสื้อตัวเอง เขาก็แขยงแหละมั้ง ขี้มูกคนอื่นมาติดเสื้อแบบนี้ใครจะไม่แขยงบ้างล่ะ แต่พอเห็นหน้าตาของพีชที่ทำท่าจะร้องไห้เพราะอายแบบนั้นแล้วเขาก็เลยรีบเช็ดออกให้ก่อนที่พีชจะร้องไห้ออกมาจริงๆ

“พีชบอกว่าขอโทษนะ” พีชหันไปหาพลับ ช่วยให้พลับบอกขอโทษกล้าให้หน่อยจากนั้นก็หยิบกระดาษทิชชูมาช่วยกล้าเช็ดเสื้อ ตอนแรกก็จะร้องไห้เพราะอายคนอื่นแต่ตอนนี้พีชก็ยังคงอยากร้องไห้อยู่เพราะอายกล้า จามจนน้ำมูกไหลมากลบปากเหมือนเด็กแถมยังทำเสื้อกล้าเปื้อนอีกตังหาก 

“ไม่เป็นไร นี่ไงเช็ดออกหมดแล้ว”

กล้าดึงเสื้อตัวเองให้ฝาแฝดดู พลับนั้นทำหน้าแปลกแล้วหัวเราะแห้งๆ ส่วนพีชนั้นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ มองเสื้อของกล้าที่ยังมีรอยเปียกลื่นจากน้ำมูกของตัวเองอยู่ อยากจะถอดเสื้อกล้าออกไปซักให้ตอนนี้เลย แต่กล้าก็ไม่ยอมถอดบอกว่าไม่เป็นไร จะไม่เป็นไรได้อย่างไรล่ะ น้ำมูกของพีชน่ะมีเชื่อไวรัสจากไข้หวัดอยู่นะ ถ้ากล้าไม่สบายตามพีชขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ พีชไม่อยากให้กล้าป่วยตามเขา

แต่เดี๋ยวนะ...คิดไปคิดมา พีชก็คิดว่าถ้ากล้าติดหวัดของเขาไปอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ เพราะพีชจะถือโอกาสนั้นอาสาดูแลกล้าตอนเป็นหวัดไง จะคอยเช็ดตัวและป้อนข้าวป้อนยาให้อย่างดีเลยแค่คิดก็มีความสุขแล้ว

‘เป็นอะไร เดี๋ยวก็ทำหน้าจะร้องไห้ เดี๋ยวก็ยิ้ม’ พลับมองพี่ชายตัวเองด้วยสายตาขำปนเอ็นดู เมื่อครู่นี้พีชยังทำสีหน้าอายจนจะร้องไห้อยู่เลย แล้วจู่ก็เปลี่ยนมายิ้มแล้วบิดไปบิดมา จนพลับและกล้างุนงงกับท่าทางนั้น

พีชส่ายหน้าให้พลับแล้วหันไปยิ้มหวานให้กล้า พลับเห็นแล้วก็รู้สึกระอาใจ ความลำเอียงนี้มันคืออะไร นี่คือน้องชายนะ เป็นพี่ต้องยิ้มให้น้องชายสิไม่ใช่ไปยิ้มให้คนอื่น มันน่ามันเขี้ยวจนอยากจะดีดให้แดงไปเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1

ช่วงเช้านั้นพีชก็ยังมีอาการดีอยู่ไม่มีอาการปวดหัวใดใดทั้งสิ้น แต่ในช่วงท้ายของคาบบ่ายพีชก็ชักจะเริ่มมีอาการหนาวๆ ร้อนๆ และเวียนหัวขึ้นมา พลับรู้ได้ทันทีว่าพีชนั้นไข้ขึ้นอีกแล้ว อาจเพราะร่างกายปรับสภาพไม่ทัน นั่งเรียนในห้องที่มีแอร์เย็นจัดแล้วก็ออกมาด้านนอกที่มีอากาศร้อนอบอ้าว

‘วันนี้ไม่ไปกินข้าวกับพี่ไม้เหรอ’ พีชถามเพราะเห็นกลับมาห้องแล้ว พลับก็ยังนั่งเช็ดตัวให้เขาอยู่ ไม่เตรียมตัวไปหาพี่ไม้อย่างทุกที

‘พีขไข้ขึ้น จะไปได้ยังไง’ พลับวางผ้าที่เช็ดตัวพีชลงแล้วตอบ วันนี้พลับไปไม่หาพี่ไม้เพราะเป็นห่วงพีช กลัวว่าไข้จะขึ้นสูงจนต้องไปหาหมอกะทันหันแบบเมื่อวานอีก พลับก็เลยคิดว่ารอพีชหายดีก่อนแล้วค่อยไปหาพี่ไม้

‘ให้กล้ามาดูเราแบบเมื่อวานก็ได้นะ พลับไปหาพี่ไม้ได้เลย’ ประเด็นหลักที่พีชอยากให้พลับไปหาพี่ไม้ก็คือ กล้าจะได้มาดูแลเขาแบบเมื่อวานนี้ไง พีชรู้สึกดีมากที่มีกล้าคอยอยู่ใกล้ๆ เขา

‘ไม่เอา เมื่อวานก็ให้กล้ามาดู ไม่เกรงใจกล้ารึไง’

พอเช็ดตัวเสร็จพลับก็แปะแผ่นเจลลดไข้ไปที่หน้าผากและดันตัวพีชลงนอน คาดเอาไว้ว่าให้พีชหลับก่อนซักตื่นหนึ่งแล้วค่อยปลุกให้ลุกขึ้นมากินข้าวกินยา พีชเอนตัวลงนอนแล้วทำหน้าหงอย เขาก็เกรงใจแต่อยากอยู่ใกล้กล้า อยากให้กล้าดูแลอีก

หลังจากปล่อยให้นอนให้นอนไปได้ซักพักพลับก็ปลุกพีชขึ้นมาเช็ดตัวอีกครั้ง อุณภูมิลดลงเล็กน้อยแต่ตัวก็ยังรุมๆ อยู่ พีชขยี้ตามองน้องชายตัวเองที่เช็ดตัวให้แล้วก็เอนตัวไปซบไหล่พลับ ตอนนี้ไม่ปวดหัวแล้วแต่รู้สึกว่าหนักหัวมากเลย

“พีชนั่งดีๆ สิ เราเช็ดตัวไม่ได้นะ”

‘มึนหัว อยากกินอะไรร้อนๆ อยากกินไอติม’ พีชบอก ตอนนี้ยังไม่รู้สึกหิวหรอก แค่อยากได้อะไรมาทำให้รู้สึกโล่งขึ้น แต่พอพลับได้รู้ว่าพีชอยากกินไอติมก็ดุทันที

“ไอติมมันร้อนตรงไหนห๊ะ! แล้วพีชก็กินไม่ได้เป็นหวัดอยู่เห็นน้ำมูกตัวเองนี่มั้ย ข้นเชียว สั่งออกมาให้หมดเลยนะจะได้ไม่คัดจมูกตอนกลางคืน” พลับบ่นไม่ได้ทำภาษามือแต่ให้พีชอ่านบอกเอาเอง เอาผ้าไปห่อจมูกพีชไว้แล้วบอกให้พีชสั่งน้ำมูกออกมาให้หมด พีชเองก็เป็นเด็กดีทำตามที่น้องชายบอก เขาไม่อยากคัดจมูกตอนนอนเหมือนกัน มันทรมานนอนไม่หลับ

หลังจากจัดการกับน้ำมูกเสร็จ พลับก็เตรียมตัวลงไปซื้อข้าวเย็นมา

‘อย่าซนนะ เราจะลงไปซื้อข้าวให้ ไม่นานหรอก’

พลับหันไปดุให้พีชนอนรออยู่เฉยๆ พีชทำแก้มป่องแล้วพยักหน้าหงึกหงักใส่น้องชาย เขาไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะไปซนที่ไหนได้ ตอนนี้พีชมึนหัวไม่มีอารมณ์จะไปไหนด้วย พลับมองพีชทำหน้าเด็กน้อยแล้วก็ตลกจากนั้นก็หันกลับมาเปิดประตูเพื่อลงไปซื้อข้าว แต่พอเปิดประตูไปก็เจอกับกล้าที่กำลังทำท่าจะเคาะประตูอยู่พอดี พลับเหวอเพราะไม่ทันตั้งตัวว่าจะเจอใครยืนอยู่หน้าห้อง พลับส่งยิ้มให้เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่ามาทำอะไร

“เอ่อ...ซื้อข้าวมาให้น่ะ” กล้าชูถุงข้าวในมือ มีข้าวต้มถุงหนึ่งซึ่งเดาได้ว่าคงเป็นของพีข และข้าวกล่องอีกสามกล่อง ส่วนพีชที่ทำท่าจะล้มมตัวลงนอนนั้นเด้งตัวขึ้นมาทันทีที่เห็นกล้า อยากจะพุ่งตัวที่หน้าประตูด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่ามีอาการมึนหัวอยู่

“โห ขอบใจนะกล้า ค่าข้าวนี่กี่บาท” พีชถามก้มหน้าหยิบเงินกระเป๋าแล้วยื่นให้ กล้าก็โบกมือปฏิเสธไม่ยอมรับเงินไป รับเงินมาไม่ได้หรอก ค่าข้าวนี้กล้าไม่ใช่คนออก

“ไม่ต้องๆ พี่ไม้เขาซื้อให้น่ะ อันนี้ของพลับนะ แล้วก็ข้าวต้มอันนี้ของพีช” ตอนที่พูดถึงข้าวต้ม กล้าสอดส่องสายตาไปที่เตียง เห็นคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ในกองผ้าห่มทำตาแป๋วมองมาทางเขา กล้าส่งยิ้มทักทายและชูข้าวต้มในมือขึ้น

“ของเรา สองกล่องเลยเหรอ?” พลับชี้ไปที่กล่องข้าวเมื่อรู้ว่าสองกล่องนั้นเป็นของเขาคนเดียว

“อื้ม ก็พี่ไม้บอกว่าของพลับต้องสองกล่อง” ได้ยินกล้าพูดแบบนี้พลับก็ยิ้มกว้างมองข้าวสองกล่องนั้น พี่ไม้ทำตัวน่ารักจัง ไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันก็ยังฝากกล้าซื้อข้าวมาให้ แถมยังให้พลับตั้งสองกล่องเพราะรู้ว่าเขาเป็นคนกินเยอะ พลับดีใจจนหุบยิ้มไม่ลง ชอบที่พี่ไม้ใส่ใจเขาแบบนี้

“ขอบใจมากนะกล้า”

“งั้นเราไปแล้วนะ” กล้าพยักหน้ารับคำขอบคุณ จากนนั้นก็โบกมือลาแล้วเตรียมกลับห้อง หันไปโบกมือลาพีชเล็กน้อย ฝั่งคนที่นั่งมองอยู่บนเตียงก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งคุกเข่า พยายามร้องเรียกกล้าเอาไว้

“อา อา!”

พีชพยายามเรียกและก็เป็นผลเมื่อทั้งกล้าและพลับหันมามอง พอเห็นสายตางุนงงของทั้งสองคนพีชก็ส่งยิ้มให้รีบอธิบายให้พลัยรู้ว่าต้องการอะไร กล้ามาถึงห้องขนาดนี้แล้วก็อยากจะชวนให้นั่งกินข้าวด้วยกันก่อน

“อ่า...พีชชวนให้กล้ามากินข้าวด้วยกันน่ะ ได้มั้ย?” พลับหันมาบอก เกรงใจกล้าเล็กน้อยที่ชวนมานั่งกินข้าวกับคนป่วย

พีชก็นึกขึ้นมาได้ว่ากล้ายังลืมพลับไม่ได้ ให้มานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้จะเป็นอะไรรึเปล่านะ แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะพลับหันไปบอกกล้าเรียบร้อยแถมกล้าก็พยักหน้าตกลงเรียบร้อยแล้วด้วย

“ได้สิ ได้อยู่แล้ว” กล้าเดินเข้ามาในห้องวางกระเป๋าไว้ปลายเตียงแล้วก็มองพีชที่ยิ้มกว้างอยู่ สีหน้าดูซีดเซียวให้กล้ารู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย กล้าเห็นว่าพลับกำลังยกโต๊ะตัวเล็กออกมาก็รีบเข้าไปช่วยนำโต๊ะมาวางไว้กลางห้อง พลับเดินไปเอาชามส่วนพีชก็ขยับตัวลงจากเตียงมานั่งข้างๆ กล้าเพิ่งสังเกตว่าพีชใส่เสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงขาสั้นอยู่ แอบตำหนิพลับในใจเล็กน้อยว่าทำให้พีชใส่ชุดแบบนี้ตอนไม่สบาย แต่ในใจลึกๆก็รู้สึกขอบคุณที่เห็นพีชใส่ชุดแบบนี้ เพราะมันน่ารักมาก ผิวขาวเนียนในชุดสีขาว ดูขาวนุ่มนิ่มไปทั้งตัวเลย

พีชไม่ได้ทันสังเกตสีหน้าของกล้าเพราะมัวแต่ก้มหน้าเขียนอะไรบางอย่างในสมุดโน้ต

‘ขอบใจนะที่ซื้อข้าวมาให้’

‘ดีขึ้นบ้างไหม’ กล้าพยักหน้ารับคำขอบคุณ ดึงสมุดลายการ์ตูนมาเขียนถามพีชกลับไปก่อนจะยกมือขึ้นอังใบหน้าของพีช ไล่จากหน้าผากลงมาที่แก้มนิ่ม กล้าใจกระตุกตอนที่พีชเอียงแก้มใส่มือเขา รู้ว่าพีชเอียงให้เขาวัดไข้ได้ง่ายขึ้นแต่ก็เป็นปฏิกิริยาน่ารักที่ถูกใจกล้าไม่น้อยเลย

‘ตอนนี้ก็ดีแล้วแต่ก่อนหน้านี้ปวดหัวมากเลย อยากหายแล้ว อยากไปกินขนมกับกล้า’

พีชส่งสมุดโน้ตให้อ่านแล้วช้อนตามอง ถึงจะไม่มีเสียงพูดแต่กล้ากลับรู้สึกว่าเหมือนโดนพีชอ้อนยังไงไม่รู้ กล้ามองหน้าพีชแล้วเม้มปาก เขารู้สึกวูบๆในหัวใจอีกแล้วอีกแล้ว เขารู้สึกดีที่ได้เห็นพีชยิ้มและกล้ารู้จักความรู้สึกแบบนี้ดี มันเป็นอาการของคนที่กำลังจะเริ่มชอบใครสักคน

“อ่ะ กินข้าวๆ” พลับวางชามข้าวต้มลงด้านหน้าของพีช แล้วก็นั่งลงข้างๆ พีชเปิดกล่องข้าวตัวเองออกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปตัวเองกับข้าวกล่องแล้วส่งไปให้ไม้ดู

‘ขอบคุณมากนะครับพี่ไม้ ผมจะกินให้เกลี้ยงเลย’

ไม้ที่กำลังนั่งตรวจงานอยู่เปิดดูข้อความและรูป ความตึงเครียดจากงานก่อนหน้านี้จางหายไปมุมปากกระตุกขึ้นโดยที่เขาก็รู้ว่าตัวเองกำลังยิ้มอยู่ ไม้วางงานตรงหน้าลงแล้วพิมพ์กลับไปหาเด็กทันที

‘ทานให้อร่อยนะครับ’ ส่งไปข้อความก็ขึ้นว่าอ่านแล้วทันที ไม้หัวเราะเบาๆ นึกภาพเจ้าเด็กพลับนั่งจ้องโทรศัพท์เพื่อรอข้อความจากเขา ไม้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อนึกถึงเด็กนั่งยิ้มอยู่หน้าโทรศัพท์เพราะอ่านข้อความของเขา

‘พี่ไม้อย่าลืมกินข้าวนะครับ’

‘ไม่ลืมครับ ทำงานนี่เสร็จก็จะออกไปกินแล้ว’

เขาถ่ายรูปงานบนโต๊ะแล้วส่งไปให้พลับดูและก็ขึ้นว่าอ่านอย่างรวดเร็วเหมือนเดิม รอแค่อึดใจเดียวก็มีข้อความใหม่ส่งเข้ามา ไม้เอนตัวพิงพนักเก้าอี้อ่านข้อความนั้นแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิม ไอ้อาการคพิมพ์ไปยิ้มไปแบบนี้ไม่เคยเห็นมาบ่อย เข้าใจแล้วเวลาลูกศิษย์ในคลาสแอบคุยกับแฟนทางโทรศัพท์แล้วหลุดยิ้มออกมาแบบนี้มันเป็นยังไง

‘ผมไปกินข้าวแล้วนะครับ เดี๋ยวก่อนนอนผมทักไปคุยใหม่นะ’ พลีบเฝ่าโทรศัพท์อยู่ครุ๋หนึ่ง เมื่อเห็นว่าผ่านไปเกือบนาทีแล้วไม้ยังไม่ส่งอะไรกลับมาก็วางโทรศัพท์ลงเพื่อกินข้าว แต่ตาก็ยังแอบเหล่มองหน้าจออยู่ตลอด

ไม้คิดเล็กน้อยว่าควรจะตอบกลับไปว่าอะไรดี เอาจริงๆ เขาก็มีคำที่อยากตอบกลับไปอยู่แล้ว เป็นประโยคที่แวบขึ้นมาในหัวเขาทันทีที่ได้อ่านข้อความของพลับ แต่ไม้คิดว่าถ้าตอบกลับไปแบบนั้นจะดูเด็กเกินไปรึเปล่า รู้สึกว่ามันเป็นคำตอบที่ดูไม่เหมาะกับเขาเลย อายุเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วด้วยจะให้ตอบกลับไปแบบนั้นก็รู้สึกแปลกๆ อย่างไรไม่รู้

ไม้พิมพ์แล้วก็ลบอยู่หลายครั้ง คิดว่าควรจะพิมพ์กลับไปแบบไหนดี แต่ไม่มีประโยคไหนที่อยากตอบกลับไปมากเท่าประโยคนนั้นเลย และพอคิดไปถึงตอนที่พลับบอกความรู้สึกกับเขาตรงๆ ในครั้งนั้น ไม้ก็รู้สึกขึ้นมาว่า บอกอะไรไปตามใจตัวเองบ้างมันก็คงจะดี

‘จะรอนะ พี่อยากให้ถึงเวลานั้นเร็วๆ จังเลย’

ไม้มองข้อความที่ขึ้นว่าอ่านแล้ว แอบตื่นเต้นไม่น้อยเลย ว่าพลับจะรู้สึกอย่างไรที่ได้อ่าน รู้ว่าพลับต้องดีใจแน่ๆ แต่อยากรู้ว่าจะดีใจขนาดไหน จะรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับเขารึเปล่าที่พิมพฺประโยควัยรุ่นแบบนั้นไป แต่ไม่นานไม้ก็ยิ้มกว้างใบหูขึ้นสีเรื่อเมื่อพลับส่งสติ๊กเกอร์แสดงอาการเขินอายกลับมา มองสติ๊กเกอร์แล้วก็อยากจะเห็นตัวจริงว่าเจ้าเด็กพลับจะทำท่าเขินได้น่าดูขนาดไหน

พลับมองข้อความที่ไม้ส่งมาแล้วก็ยิ้มจนตาหยี พี่ไม้บอกว่าจะรอเขาด้วยแหละ พลับวางโทรศัพท์ลงแล้วเริ่มกินข้าว นึกอยากให้ถึงเวลานอนเร็วๆ จะได้คุยกับพี่ไม้ ไม่ใช่แค่พี่ไม้คนเดียวที่รอ พลับเองก็รอเหมือนกัน

พีชเห็นพลับเอาแต่ยิ้มไม่ยอมเริ่มกินข้าวเสียทีเห็นแบบนี้ก็รู้เลยว่าคุยกับพี่ไม้อยู่ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนี้แล้วน่าหมันไส้ก็เลยยื่นไปตั้งใจว่าตักไก่กอดมากิน แต่พลับเห็นก็รีบตีมือของพลับทันที

“ห้ามกินของทอด เดี๋ยวเจ็บคอ” พลับพูดพร้อมทำภาษามือ ดึงกล่องข้าวตัวเองออกห่างจากพีช เขาให้พี่ชายกินไม่ได้หรอก ไม่ใช่ว่าหวงนะแต่เป็นห่วงตังหาก พีชไม่สบายอยู่ไอแล้วก็เจ็บคอด้วย กินของทอดและของมันแบบนี้ไม่ได้

‘นิดเดียวไม่เป็นไรหรอก ชิ้นเดียวเอง’ พีชทำท่าบอกว่าแค่นิดเดียวและส่งสายตาอ้อนน้องชาย แต่พลับก็ไม่ยอมก้มหน้ากินข้าวในกล่องของตัวเอง จนพีชยู่ปากใส่ กล้าที่คอยมองอยู่ตลอดก็ยิ้มขำกับหน้าตาของพีช ถึงจะเป็นห่วงกลัวว่าพีชจะป่วยหนักกว่าเดิม แต่เห็นทำหน้าจ๋อยเพราะอยากกินขนาดนั้นก็รู้สึกเอ็นดูขึ้นมา เขาคิดว่ากินแค่ชิ้นสองชิ้นคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...

“พลับ น้ำอยู่ไหนเหรอ เราอยากกินน้ำ” กล้าพูดทำท่าจะลุกขึ้น พลับก็รีบห้ามแล้วบอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ กล้ายิ้มนั่งลงที่เดิมแววตาเจ้าเล่ห์มองตามหลังพลับที่เดินไปยังตู้เย็น กล้าหันไปสะกิดพีช มือก็ตักชิ้นไก่ทอดในกล่องของตัวเองไปป้อนให้อย่างรวดเร็ว ทางพีชนั้นตกใจแต่ก็อ้าปากรับแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ทันทีและรีบกลืนก่อนที่พลับจะหันกลับมาเห็น พอกลืนลงท้องได้ก็ยกมือขึ้นปิดปากทำท่าหัวเราะคิกคักให้กล้า

“ทำอะไรกันน่ะ” พลับเดินกลับมา เห็นว่าทั้งกล้าและพีชทำหน้าเจ้าเล่ห์แปลกๆ ก็อดที่จะถามไม่ได้ พอนึกขึ้นได้ก็รีบก้มมองชิ้นไก่ในกล่องของตัวเองแต่ก็เห็นว่ายังอยู่ครบดีไม่มีใครมาตักออกไปแน่นอน กล้าส่ายหน้ายักไหล่อย่างยียวนบอกว่าไม่มีอะไร ส่วนพีชนั้นก็ก้มหน้ากินข้าวต้มไม่สบตาพลับ ถึงจะสงสัยแต่ก็ไม่รู้ว่าสองคนนี้ทำอะไรกันพลับเลยเลิกสนใจก้มหน้ากินข้าวของตัวเอง

พีชแอบแลบลิ้นใส่น้องชายนิดหน่อยแล้วหันไปหากล้า เอียงคอพร้อมยิ้มจนตาหยี ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองและผายออกเล็กน้อย กล้าก็พยักหน้ารับไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่าทางที่พีชทำหมายถึงอะไร แต่เดาได้ว่าน่าจะเป็นการขอบคุณ

กล้ามองรอยยิ้มและท่าทางของพีชแล้วก้มหน้าลงมองข้าวกล่องของตัวเอง หัวใจที่อยู่ข้างในเริ่มฟูขึ้นเรื่อยๆ แอบคิดว่าได้ว่าพีชน่ารักได้ขนาดนี้เลยเหรอ และเพิ่งตระหนักได้ว่าหัวใจในอกเขามันพองโตที่ได้เห็นพีชอารมณ์ดีแบบนี้ทุกทีเลย นี่คืออาการของคนที่เริ่มชอบเหรอ?

กล้าชักไม่แน่ใจแล้วว่าตอนนี้เขากำลังเริ่มชอบหรือว่าชอบไปแล้วกันแน่ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ พีชตอนที่ยิ้มแล้วเอียงคอให้เขาเนี่ย...

น่ารักเป็นบ้าเลย


สวัสดีวันอาทิตย์นะคะ คราวนี้ไม่ดึกเท่าไรเอามาลงให้ทุกคนอ่านก่อนนอนกันค่า
ตอนนี้กล้ารู้แล้วว่าหนูพีชน่ารักขนาดไหน บอกเลยยิ่งมีน่ารักได้กว่านี้อี๊กกก เตรียมใจไว้เลยนะกล้า!!

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ NingNong_nn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :-[ :-[
ก็น้องน่ารักแบบนี้ไง กล้าเลยชอบ งื้ออออ
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ NingNong_nn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao4: :hao4: :mew1: :mew1:ไรท์คร้าาาา คิดถึงน้องแย้วอ่าาา ไรท์อย่าทิ้งน้องนะคะ เราตามอ่านอยู่นะ //เป็นแรงใจให้นะคะ สู้ๆนะคะ ไปตามอ่านเรื่องสั้นของไรท์มาก็ชอบเหมือนกัน ชอบการบรรยายของไรท์มาก เราอ่านแล้วเห็นภาพชัดทุกฉากเลยค่ะ //ถึงจะเพิ่งมาเจอแต่ก็จะตามส่งแรงใจให้นะคะ :katai4: :katai4: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1


Writer's talk : จะไม่ทิ้งน้องแฝดแน่นอนค่ะ

สวัสดีค่า ขอโทษที่หายไปนานเลยนะคะ ประมาณหนึ่งเดือนแหน่ะ และขอโทษอีกครั้งที่การอัพครั้งนี้ยังไม่ใช่เนื้อเรื่อง เพราะยังเขียนไม่เสร็จเลย 5555

ช่วงหนึ่งเดือนมานี้เราเกิดอาการ Art block ค่ะ ไม่อารมณ์จะวาดรูป วาดไม่ได้เลย แค่เมาส์ปากกาก็ไม่อยากจับ แล้วก็ดันมาเป็น Writer's block ตามไปด้วย คือเขียนไม่ออก คิดไม่ออกเลยว่าต้องต่อเนื้อเนื่องอย่างไร เปิดคอมมาแล้วก็นั่งขมวดคิ้วอยู่อย่างนั้น พิมพ์เท่าไรก็ไม่ถูกใจเสียที

จนมาถึงวันนี้ เรารู้สึกว่ามันนานไปแล้วที่จะหยุดไปโดยไม่บอกอะไรคนอ่าน เราก็เลยมาบอกสาเหตุที่หายไปค่ะ อยากให้มั่นใจว่าเราไม่ทิ้งน้องแน่นอน ถึงจะหายไปนาน แต่ยังไงก็จะมาต่อให้จบแน่ๆ ค่ะ
//ขอบคุณคอมเม้นที่ตามน้องมากเลยนะคะ ถึงแม้จะรู้สึกผิดที่ยังไม่สามารถพาสองแฝดมาเจอให้หายคิดถึงได้ แต่คอมเม้นที่คอยตามเหล่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราพยายามเร่งขจัดอาการ block ต่างๆ นี้ให้หายไปเร็วๆ เรียกว่าเป็นแรงฮึดก็ได้ค่ะ จะพยายามฟื้นฟูตัวเองเร็วๆ นะคะ จะได้เขียนน้องๆ ต่อได้ และขอบคุณที่รอกันนะคะ// love you~
loammy

 :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ตอนที่ 7 ห้องของแฟน

“พีชหายไข้แล้วเหรอ”
“ก็เกือบหายแล้วครับ เหลือแค่ไอเล็กน้อยแค่นั้น แถมมีกล้าคอยดูแลอยู่ด้วย” ความจริงวันนี้พลับกะว่าจะอยู่กับพีชให้แน่ใจก่อนว่าหายไข้จริงๆ แต่ทางฝั่งนั้นก็ไล่ให้มาหาพี่ไม้ ไม่รู้ว่าทำไมไล่จังเลยแต่ก็ดีกับพลับแหละเพราะได้มาเจอพี่ไม้หลังจากที่ไม่ได้เจอมาหลายวัน
ทางฝั่งไม้ก็สงสัย พลับบอกว่าที่มาหาเขาได้เพราะมีกล้าคอยดูแลพีชให้ น้องชายเขาเนี่ยนะดูแลคนป่วย ไม้คิดไม่ออกเลยน้องเชาจะดูแลพีชยังไง
“ฝนเพิ่งจะลงเม็ดได้ทันไร รถก็ติดแล้วนะครับ”
ไม้ฟังที่พลับพูดแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะการจราจรที่คล่องตัวก่อนหน้านี่เริ่มติดขัดทันทีที่ฝนลงเม็ดลง ไม้เอื้อมมือไปเปิดวิทยุเพื่อฟังเพลงจากคลื่นโปรด แล้วหันมองเด็กที่นั่งโยกหัวตามจังหวะเพลง ตากลมใสก็มองหยดน้ำฝนที่ไหลลงมาตามกระจกรถ
“นั่นสิ เราคงติดอยู่ในรถนานเลยแหละ”
ไม้พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ เอนตัวพิงพนักเบาะ มองไปด้านหน้าที่มีไฟท้ายของรถคันอื่นจอดยาวเหยียดเป็นแถว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาไม้ติดอยู่ในรถท่ามกลางบรรยากาศฝนตกและรถติดแบบนี้เขาคงรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่สุด แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น ดันชอบช่วงเวลาแบบนี้ด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะเจ้าเด็กพลับที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ นี้
“รถติดหนักจังเลยนะครับ ผ่านมาเกือบครบชั่วโมงแล้ว ยังไม่ขยับไปไหนเลย”
“นั่นสิ ติดนานเกินไปแบบนี้คงจะเกิดอุบัติเหตุข้างหน้ารึเปล่านะ พลับหิวเหรอ วันนี้พี่ไม่ได้ซื้อขนมปังไว้ด้วยสิ” รถติดหนักแทบไม่ขยับแบบนี้มานานแล้ว ไม้ก็ชักจะห่วงว่าพลับจะหิว พอมองหาขนมปังที่เบาะด้านหลังก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขายังไม่ได้ซื้อเอาไว้
พลับเม้มปาก ตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกหิวหรอกแต่รู้สึกอย่างอื่นมากกว่า พลับรู้สึกปวดฉี่มาสักพักหนึ่งแล้ว คิดไว้ว่าเดี๋ยวค่อยไปเข้าห้องน้ำที่ร้านอาหาร แต่ตอนนี้รถติดมานานมากไม่ถึงร้านอาหารสักที ไอ้ที่อั้นไหวก็ชักจะทนไม่ไหวแล้ว
“อ่า...พี่ไม้ครับ ใกล้ๆ นี้พอจะมีปั๊มน้ำมันบ้างไหมครับ”
“หืม...มีข้างหน้าโน้นครับ ผ่านไฟแดงนี้ไปก็เจอแล้ว” ไม้บอกหันมองเด็กนั่งบิดขาอยู่ ดูออกได้ทันทีเลยว่าคงจะปวดฉี่สิท่า
พลับพยายามนั่งอดทนอยู่สักพักหนึ่ง แต่รถขอพี่ไม้ก็ยังไม่หลุดจากไฟแดงแยกนี้เสียที พลับเริ่มเหงื่อแตก ปลายนิ้วเย็นเฉียบเพราะอั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว
“พี่ไม้ครับ ผมไม่ไหวแล้ว พี่พอจะมีขวดเปล่าให้ผมไหมอ่ะ” พลับพูดขอออกไปทั้งที่หน้าแดง มันน่าอายแต่ว่าเขาอั้นไม่ไหวแล้ว พลับคิดว่าฉี่ใส่ขวดคงไม่น่าอายเท่ามานั่งฉี่ราดเลอะรถของไม้
“เฮ้ย! ไม่ได้นะพลับ”
“จะไม่ไหวแล้วครับพี่” พลับน้ำตาคลอขยับตัวหาขวดน้ำที่พอจะใช้ได้
ไม้ตกใจหน้าตาตื่นไปดูเด็กที่กำลังมองหาขวดเปล่าในรถเขา พอดีกับที่รถเคลื่อนตัวเล็กน้อยพอดีไม้ก็เลยตบไฟเลี้ยวเข้าเลนซ้ายสุดและรีบเลี้ยวรถเข้าซอยขนาดเล็กซอยหนึ่ง ไม้ไม่ได้ตอบแต่ลัดเลาะตามซอยไปเรื่อยๆ ไม่ถึงสิบนาทีก็มาอยู่หน้าคอนโดของไม้
“นี่คอนโดของพี่เอง พลับใช้ห้องน้ำที่ห้องพี่ก่อนก็ได้”
พลับพยักหน้าวิ่งตามไม้ที่เดินนำพาไปที่ห้องพัก พอถึงห้องน้ำพลับก็รีบรูดซิปกางเกงลงแล้วรีบปลดทุกข์ทันที ไม่ทันได้สังเกตว่าตัวเองไม่อยู่ในห้องน้ำคนเดียว พอทำธุระเสร็จก็หันกลับมาเพื่อล้างมือแต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้รู้ว่าไม้ยืนอยู่ด้านหลัง
“พี่ไม้! พี่อยู่ตรงนี้ตลอดเลยเหรอครับ”
“หา? ใช่ครับ แต่เฮ้ย! พี่ไม่เห็นอะไรเลย ไม่ได้มองอะไรเลย” ไม่รู้ตัวว่าตัวเองยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ออกจากห้องน้ำก็สะดุ้งรีบบอกเด็กตรงหน้าว่าไม่ได้ตั้งใจจะยืนมองอะไรทั้งนั้น เขาแค่มองแผ่นหลังเล็กนั้นเพลินไปหน่อยจนลืมออกจากห้องน้ำนี้ก็เท่านั้น เขาสาบานได้เลยว่าไม่ได้มองอะไรอย่างอื่นนอกจากแผ่นหลังของพลับเลย
พลับหน้าแดงมองหน้าคนตัวสูงที่ขยับมือเป็นพัลวันเพื่อชี้แจง ยิ้มบางๆ บอกว่าไม่เป็นไรแล้วเดินไปล้างมือ พลับมองไม้ผ่านกระจกเงาเห็นว่าตัวสูงยกมือขึ้นถูจมูกตัวเองแล้วเดินออกไป เห็นใบหูแดงก่ำของคนตัวสูงแล้วก็ทำให้พลับรู้สึกอายขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง เขาเชื่อว่าไม้ไม่เห็นอะไรแน่นอนแต่ก็รู้สึกอายไม่น้อยเลยที่ตัวเองมายืนฉี่ให้พี่เขาดูแบบนี้
พลับวักน้ำขึ้นล้างหน้า ยืนระงับความเขินอยู่หน้ากระจกเล็กน้อยแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นว่าไม้ยืนอยู่มีหน้าต่างบานใหญ่ ระหว่างที่ชั่งใจเล็กน้อยว่าเดินไปหาดีหรือไม่ ไม้ก็เป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบขึ้นมาก่อนพร้อมกวักมือเรียกพลับให้เข้าไปยืนข้างเพื่อดูการจราจรเบื้องล่าง
“มาดูนี่สิ เกิดอุบัติเหตุจริงๆ ด้วย”
“โห รถติดยาวเหยียดเลยครับ” พลับมองรถที่ติดไปไหนไม่ได้เพราะรถบรรทุกพลิกคว่ำขวางถนน มีสิ่งของจากรถบรรทุกนั้นหกเต็มถนนไปหมดทำให้ถนนสี่เลนก็บีบจนเหลือแค่เลนเดียว อีกทั้งฝนตกลงมาเรื่อยๆ อีกเจ้าหน้าที่เลยปล่อยรถทีละคันสองคัน ส่งผลให้รถติดจนแทบไม่ขยับแบบนี้
“รอรถคล่องตัวกว่านี้แล้วเราค่อยออกไปกินข้าวกันดีมั้ย ระหว่างนี้นั่งเล่นอยู่ห้องพี่ไปก่อน พลับหิวรึยัง?”
ไม้คิดว่าออกไปตอนนี้ก็ต้องเจอรถติดอยู่ดี เพราะไม่มีซอยไหนที่ทะลุไปออกตรงส่วนที่รถวิ่งคล่องได้เลย ก็เลยมีความคิดว่าจะนั่งเล่นอยู่ที่ห้องก่อนดีกว่า แต่จะตัดสินใจคนเดียวก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เขามีเด็กอยู่ด้วย เลยต้องถามก่อนเผื่อว่าพลับหิวแล้ว
“ยังไม่หิวครับ รอรถไม่ติดแล้วเราค่อยไปกินข้าวกันก็ได้”
ไม้ยิ้มชี้มือไปที่โซฟาให้พลับไปนั่งได้ตามสบายเลย ส่วนเขานั้นขอตัวไปเปลี่ยนชุดที่ใส่สบายกว่านี่เสียหน่อย ไหนก็กลับมาห้องแล้วก็ถอดชุดทำงานนี้ออกดีกว่า
พลับเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างว่าง่าย พอเจ้าของเดินหายไปในอีกห้องหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นห้องนอน ตาใสก็มองสำรวจไปทั่วห้องนั่งเล่นนี้ ตอนเข้ามาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่าฉี่จะราดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้พลับกลับรู้สึกตื่นเต้นและประหม่า นี่คือครั้งแรกเลยที่มาคอนโดของไม้ การแต่งห้องก็ดูสมกับเป็นพี่ไม้ดีเน้นสีขาวและเทาเป็นหลักแถมเป็นระเบียบเรียบร้อยมากๆ ตรงส่วนที่คิดว่าเป็นโต๊ะทำงานก็มีชั้นหนังสือขนาดใหญ่ตั้งอยู่ พลับนั่งเพ่งมองประเภทหนังสือบนชั้นจากตรงโซฟาไม่กล้าเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เพราะกลัวว่าไม้จะคิดว่าตัวเขาไปยุ่งวุ่นวายของในห้องคนอื่น
พลับมองหนังสือมากมายบนชั้นนั้น นอกจากหนังสือวิชาการที่เกี่ยวกับสาขาวิชาที่ไม้สอนแล้วก็มีการ์ตูนและนิยายต่างประเทศด้วยแถมมีจำนวนไม่น้อยเลยดูท่าพี่ไม้เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสืออยู่เหมือนกัน พลับละสายตาจากชั้นหนังสือมาดูตรงส่วนหน้าทีวีต่อ แปลกใจเล็กน้อยเพราะมีเครื่องเกมและแผ่นเกมอยู่ด้วย พลับไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าไม้จะมีมุมแบบนี้ แต่ก็เรื่องดีเพราะพลับนั้นเป็นคนที่ชอบเล่นเกมมาก หากได้เล่นกับไม้พลับต้องมีความสุขมากแน่ ๆ
“ทำไมไม่เปิดทีวีดูล่ะ”
พลับสะดุ้งเล็กน้อย เพราะจู่ๆ ไม้ก็ส่งเสียงขึ้นมา พลับหันไปยิ้มให้มองดูไม้ที่ตอนนี้อยู่ในชุดสบายๆ เสื้อยืดและกางเกงขาสามส่วน ถึงจะเป็นชุดธรรมดาๆ แต่พอไม้ใส่ พลับก็ยังเห็นว่าดูดีอยู่เสมอ
“ผมไม่กล้าเปิดครับ เดี๋ยวทำของพี่พัง” พลับไม่กล้าหยิบจับอะไรโดยพลการ หากเขาทำเสียหายขึ้นมานี่ไม่ปัญญาใช้คืนแน่ๆ เพราะฉะนั้นนั่งเฉยๆ ไว้ดีกว่า
ไม้เลิกคิ้วขึ้น เจ้าเด็กนี่คิดว่าทีวีเขามันเปิดยากรึยังไงก็แต่กดปุ่มบนรีโมตเหมือนโทรทัศน์ทั่วไปนั่นแหละ
“ฮึ มันไม่พังง่ายขนาดนั้นหรอกก็เหมือนทีวีทั่วไปนั่นแหละ แล้วจะเกร็งอะไรขนาดนั้นครับ พลับนั่งได้ตามสบายเลย นี่คือห้องของพี่ พี่เป็นแฟนของพลับ ปล่อยตัวสบายๆ ได้เลย เวลาพลับไปห้องของแฟนก็จะนั่งเกร็งแบบนี้ตลอดเลยเหรอ”
พลับส่ายหน้าเขาไม่เคยมีแฟนมาก่อนพี่ไม้นี่แหละคือคนที่เขาแอบชอบแล้วได้เป็นแฟนคนแรกเลย คิดแล้วพลับเม้มปากน้อยๆ รู้สึกว่าเขินขึ้นมาเมื่อไม้น้ำว่า ตอนนี้พี่ไม้เป็นแฟนของพลับและตอนนี้พลับก็อยู่ในห้องของแฟนด้วย เงยหน้าขึ้นระงับความเขินอายและตื่นเต้นของตนเองพยายามหาเรื่องคุยกับเจ้าของห้อง และก็เจอจุดที่น่าสนใจที่พลับคิดว่าพลับต้องชวนคุยได้อย่างลื่นไหลแน่นอน
“พี่ไม้เล่นเกมด้วยเหรอครับ?”
“ตอนแรกกล้ามันยุให้ซื้อ แต่ไปๆ มาๆ พี่เอาไว้เล่นคลายเครียดน่ะ สนุกดีเหมือนกัน” ไม้อธิบายแล้วเปิดโทรทัศน์ดู เครื่องเกมนี้น้องชายเขาเป็นคนยุยงให้ซื้อไว้ เพราะเวลาวันหยุดยาวหรือวันหยุดกล้าจะชอบมาหมกตัวอยู่ห้องเขา แล้วกล้าก็จะเล่นเกมนี่แหละ
“ระหว่างนี้เราเล่นเกมกันมั้ยครับ” พลับเอ่ยชวน อยากรู้ว่าไม้ตอนที่เล่นเกมนั้นเป็นอย่างไร จะหัวร้อนพูดมากเหมือนกล้ารึเปล่า เพราะรายนั้นโหวกเหวกโวยวายมากตอนที่เล่นเกม พลับรู้เพราะเวลาว่างก็จะไปเล่นเกมที่ห้องของกล้าบ่อยๆ
“ได้สิ อยากเล่นเกมไหนล่ะ”
“ขอเลือกก่อนได้ไหมครับ” พลับพูดแล้วยิ้มเหมือนอ้อน เขาแอบมองแผ่นเกมที่ตั้งอยู่มากมายมาสักพักแล้ว มีหลายเกมเลยที่พลับอยากลองเล่นมากๆ
ไม้พยักหน้ายิ้มเป็นผู้ใหญ่ใจดี หยิบแผ่นเกมทั้งหมดที่มีมาให้พลับเลือกตามสบาย ไม้ก็พอรู้มาบ้างว่ากลุ่มเพื่อนของน้องชายเขานั้นชอบเล่นเกมกันทั้งกลุ่ม ซึ่งดูแล้วก็คงจะชอบมากจริงๆ เพราะเจ้าเด็กที่นั่งข้างเขาตอนนี้ดูแผ่นเกมที่เขาซื้อเก็บไว้ก็ทำท่าตื่นเต้นใหญ่ คงจะมีแต่เกมที่ถูกใจเจ้าเด็กพลับ ไม้มองเด็กทีทำตาโตมองแผ่นเกมต่างๆ ยกขึ้นมาถามเขาอย่างตื่นเต้นว่ามีเกมนี้ด้วยเหรอ แพงมากเลยนะ เห็นพลับตื่นเต้นแล้วไม้ก็หัวเราะ เกมแพงๆ พวกนั้นเจ้าน้องชายตัวดีของเขายุให้ไม้ซื้อมาทั้งนั้นแหละ
“เลือกไปนะ เดี๋ยวพี่เตรียมจอยเกมก่อน” พลับพยักหน้าหงึกหงัก ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเขา ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นยังคงมองไปที่กองแผ่นเกมบนตักดวงตาเป็นประกาย สองมือก็พลิกตลับเกมไปมาพลับเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเล่นเกมไหนดี เป็นท่าทางที่น่าเอ็นดูในสายตาของไม้
“พี่ไม้ครับ ผมอยากเล่นเกมนี้”
ในที่สุดพลับก็เลือกได้ ไม้รับแผ่นเกมนั้นมาใส่เข้าไปในเครื่องแล้วกลับมานั่งที่โซฟาตัวยาวข้างๆ คนตัวเล็ก พลับรับจอยเกมมาจากไม้แล้วมองไปที่จอทีวีอย่างตื่นเต้น นี่คือครั้งแรกเลยที่ได้เล่นเกมในจอทีวีใหญ่ขนาดนี้ แค่อินโทรของเกมขึ้นพลับก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจแล้ว ทั้งภาพและเสียงสุดยอดมากจริงๆ แต่พลับก็ตื่นเต้นอยู่ได้ไม่นาน อาการหัวติดไฟก็เข้ามาแทนที่

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
“พลับจะแพ้พี่อีกแล้วนะ” หลังจากที่เล่นเกมด้วยกันมาสักพักใหญ่ ไม้ก็พูดบลัฟเด็กที่นั่งคิ้วขมวดอยู่ นิ้วเล็กรัวปุ่มบนจอยเกมรัวจนเกิดเสียงดัง พลับเล่นเกมแพ้เขามาหลายครั้งแล้ว แรกๆ ก็ยังปกติดีอยู่ จนรอบหลังๆ นี้พลับออกอาการหงุดหงิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลยสักครั้ง
“ไม่ได้ พี่ไม้โกงผมรึเปล่าเนี่ย พี่ขี้โกงเหมือนกล้าแน่เลย พี่น้องก็ต้องขี้โกงเหมือนกันสินะ ฮึ่ยๆ”
“นี่ ตัวเองเล่นกาก อย่ามาโทษคนอื่นว่าโกงสิครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”
พลับเม้มปากตัวเองหันไปขมวดคิ้วใส่ไม้ ไม่คาดคิดว่าพี่ไม้จะพูดคำว่ากากใส่ นั่นน่ะเป็นคำพูดชวนตีที่พลับได้ยินจากกล้าบ่อยมาก แต่ครั้งนี้พลับกลับได้ยินจากพี่ไม้ แบบนี้พลับคงจะยอมอ่อนข้อให้ไม่ได้แล้วล่ะ พลับเร่งกดปุ่มในจอยเกมตัวเองจนปุ่มแทบจะยุบลงไปเพราะหวังว่าจะพลิกขึ้นมาชนะได้สักตา พลับไม่คิดเลยว่าไม้จะเล่นเกมเก่งขนาดนี้ ทำพลับแพ้เกือบทุกรอบเลย แถมไม้ยังมาพูดยั่วโมโหเขาอีก ยิ่งทำให้พลับอยากเอาชนะเข้าไปใหญ่
ไม้ชำเลืองตามองพลับที่นั่งแทบไม่ติดโซฟาแล้วก็หัวเราะ เห็นทำปากขมุบขมิบบ่นตลอด แถมบางเวลาที่เขาทำคะแนนนำเจ้าเด็กพลับก็โวยวายใส่จนไม้หลุดหัวเราะออกมา ยิ่งไม้หัวเราะแบบนั้นพลับก็นึกว่าโดนเยาะเย้ยเหมือนที่กล้าชอบทำ พลับก็ยิ่งร้อนรนดิ้นดึ๋งๆ อยู่บนโซฟา สุดท้ายไม้เลยแกล้งทำเป็นแพ้ให้เด็กใจเย็นลงมาบ้าง ซึ่งก็เป็นดั่งที่คาดไว้ พอชนะเขาหน่อยก็หันมาอวดใหญ่ ไม้ยิ้มที่ได้เห็นพลับในมุมนี้รู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก หัวร้อนเกมเมอร์ของแท้เลยนะคนนี้อะ
“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเล่นเกมแล้วกลายเป็นเด็กก้าวร้าวแบบนี้ พี่ตกใจเลยนะเนี่ย”
ไม้พูดหยอก ยกมือขึ้นบีบแก้มยิ้มของเด็กอย่างมันเขี้ยวพร้อมยิ้มมุมปากเล็กน้อย พลับที่ก่อนหน้านี้ที่สนใจแต่แกม พอได้ยินไม้พูดว่าเขาเป็นเด็กก้าวร้าวสติก็หลุดออกจากเกม ใจก็ตกไปอยู่ตาตุ่มนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองทำนิสัยเสียอะไรไปบ้าง ทั้งตะโกนใส่ แล้วไปหัวร้อนใส่พี่เขาอีก พลับมองไปที่ไม้แล้วก็ทำหน้าสำนึกผิดรีบวางจอยเกมลงทันที
“อ่า คือปกติผมไม่ได้เป็นคนแบบนี้นะครับ ความจริงผมเป็นเด็กดี แต่นี่เล่นเกมก็เลย…”
พลับพูดไม่เต็มเสียงมากนัก ยิ่งพูดก็ยิ่งดูแย่รู้สึกอยากจะหยิกตัวเองให้เขียวที่ไปทำเสียงดังใส่คนอื่น จากที่ตั้งใจว่าจะคอยดูพี่ไม้หัวร้อน แต่เป็นพลับนี่แหละที่มาหัวร้อนทำนิสัยไม่ดีให้พี่เขาดูแทนเสียอย่างนั้น
“พี่เชื่อครับ ปกติพลับน่ารักจะตาย”
ได้ยินไม้พูดแบบนั้น พลับก็ยิ้มหัวเราะคิดคักกับตัวเอง ดีใจที่ไม้ชมเขาว่าน่ารัก กำลังจะชวนเล่นเกมต่อพร้อมทั้งสัญญากับตัวเองในใจว่าคราวนี้จะต้องไม่หัวร้อนอีก แต่ท้องก็ดันร้องครืดคราดเพราะว่ากระเพาะต้องการอาหารแล้ว
“หิวแล้วสิท่า ไปกินข้าวกันเถอะ” ไม้ลุกขึ้น ปิดเครื่องเกมและจอยเกม เดินไปดูตรงหน้าต่างก็ได้เห็นว่ารถยังคงติดอยู่เหมือนเดิม นอกจากนั้นฝนก็ตกลงมาหนักกว่าชั่วโมงที่แล้วด้วย
“ออกไปก็ต้องเจอรถติดอีกเหมือนเดิมนะครับ” พลับเดินตามมาดู รถยังคงติดเหมือนเดิม หากออกไปตอนนี้ก็ใช่ว่าจะได้กินทันทีต้องไปติดแหง็กอยู่ในรถเหมือนเดิมนั่นแหละ เอาจริงๆ ถ้าไม่ปวดฉี่หรือหิวพลับก็ไม่มีปัญหากับรถติดนี่เลยกลับรู้สึกว่ามันดีเสียอีกที่เป็นแบบนี้เพราะพลับจะได้อยู่กับไม้นานๆ และเพราะรถติดนี่แหละทำให้พลับได้ขึ้นมาที่ห้องไม้ด้วย แต่ที่พลับเป็นห่วงก็คือไม้ตังหาก การจราจรแบบนี้เป็นอะไรที่คนขับรถทุกคนไม่ชอบแน่นอน
“ใกล้ๆ คอนโดพี่มีร้านอาหาร เดินไปไม่ถึงห้านาทีก็ถึง ไปกันมั้ย?”
พลับพยักหน้า เดินตามไม้ลงไปที่หน้าคอนโดแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าไม้หยิบร่มลงมาแค่คันเดียว จะไปคันเดียวกันก็ได้พลับจะดีใจมากด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้ฝนมันก็ตกหนัก เบียดกันเข้าไปในร่มคันแค่นี้พี่ไม้จะเปียกเอาน่ะสิ พลับไม่อยากให้พี่ไม้เปียก เพราะงั้นยอมใช้ร่มคนละคันก็ได้
“พี่มีร่มแค่คันเดียวเหรอครับ?”
ไม้มองเด็กที่ยืนชิดเขาจนหัวไหล่ชนกันแล้วก็พยักหน้า ไม้และพลับเลยต้องเดินเบียดกันในร่มคันนั้น คนตัวเล็กเม้มปาก แก้มร้อนขึ้นมาเพราะว่าไม้โอบไหล่และเดินซ้อนอยู่ด้านหลังพลับเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้โดนฝนสาด ไม้เห็นแก้มนวลแดงเรื่อก็แอบยิ้ม จริงๆ แล้วเขามีร่มคันเล็กเก็บไว้อยู่ในรถจะเดินไปหยิบมาใช้ก็ไม่เสียเวลาเท่าไรหรอก แต่ไม้แค่รู้สึกว่าอยากอยู่ในร่มคันเดียวกับเด็กคนนี้ อยากใกล้กันมากกว่าเดิมอีกสักเล็กน้อย
เดินมาแค่ครู่เดียวก็มาถึง เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นไม้เคยมากินหลายครั้งแล้วรสชาติจัดว่าใช้ได้เลย แถมบรรยากาศในร้านนี่ก็ดีด้วย ไม้เลือกนั่งเป็นโต๊ะแบบหย่อนขาที่อยู่ริมในสุดของร้าน
“พลับชอบกินอาหารญี่ปุ่นรึเปล่าครับ?” ไม้ถามหลังจากมองดูพลับที่พลิกหน้าเมนูไปมา ไม้ไม่มั่นใจว่าที่พลิกไปพลิกมานั้นเป็นเลือกเมนูไม่ถูกหรือว่าไม่มีเมนูไหนถูกใจกันแน่
“เป็นหนึ่งในของโปรดเลยล่ะครับ” เงยหน้าขึ้นมาตอบพร้อมยิ้มกว้างให้แล้วก้มหน้าดูเมนูต่อ พลับรู้สึกเลือกไม่ถูกเลย ทุกเมนูดูน่ากินไปหมด ข้าวหน้าเนื้อก็น่ากิน ซาซิมินี่ก็ไม่น่าพลาด แล้วยังมีซูชิหน้าต่างๆ อีกมากมายอีก อย่าให้ไล่รายชื่อเลยว่าพลับอยากกินข้าวปั้นหน้าอะไรบ้าง พลับตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะเลือกอย่างไหนดี
ไม้เห็นแววตาลังเลของเด็กตรงหน้าแล้วก็ยิ้ม รู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้รู้ว่าที่พลิกไปพลิกมานั่นไม่ใช่ไม่ชอบอย่างที่เขากังวล แต่เพราะเลือกไม่ถูกตังหาก พอได้รู้แบบนั้นไม้ก็ถามพลับว่าอยากกินเมนูไหนบ้าง จากนั้นก็จัดการสั่งมาทุกเมนูที่เด็กอยากกินเลย ตอนที่เห็นไม้สั่งกับพนักงานพลับก็ตกใจจนร้องห้ามแทบไม่ทัน
“พี่ไม้ไม่ต้องสั่งมาทั้งหมดนั่นก็ได้นะครับ มันเยอะมากแล้วแต่ละเมนูมันก็ไม่ถูกเลยนะครับ” ไม่ใช่แค่จำนวนเมนูที่สั่งไปมันเยอะหรอก แต่ราคาอาหารมันก็แยะตามไปด้วย พลับเกรงใจ
“พลับจะกินไม่หมดเหรอ ไหนบอกพี่ว่ากินจุไง” ไม้ถามกลับในเรื่องที่พลับไม่ได้กังวล พลับน่ะกินหมดอยู่แล้ว แต่ประเด็นที่พลับจะพูดคือมันแพงไง
“ผมกินหมดอยู่แล้ว แต่ว่า…”
“งั้นก็ดีแล้วครับ พี่เห็นพลับเลือกไม่ถูกก็เลยสั่งมาให้ หากชอบเมนูไหนเป็นพิเศษจะได้จำไว้แล้วคราวหน้าพลับก็เลือกเมนูนั้น เพราะพี่คงพาพลับมาทานร้านนี้บ่อยๆ”
พอไม้พูดแบบนั้น พลับก็เถียงไม่ออกอีกตั้งมุมปาก็กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มหวาน ไม้บอกว่าจะพามาทานร้านนี้บ่อยๆ ก็หมายความว่าพลับอาจได้มาคอนโดไม้บ่อยตามไปด้วย
นั่งรอไม่นานอาหารต่างๆ ก็มาเสริฟ สีสันน่าทานละลานตาเต็มโต๊ะไปหมด พลับเริ่มคีบอาหารกินทีละชิ้นๆ กินคำนู้นทีคำนี้ที
กินไปเรื่อยๆ ทุกจานที่เคยมีอาหารอยู่ก็ว่างเปล่า เพราะฝีมือเจ้าเด็กพลับ ไม้ที่อิ่มไปนานแล้วนั่งมองเด็กกินก็อดทึ่งไม่ได้ เป็นเด็กที่กินเก่งจริงๆ ทั้งกิวด้งทั้งซูชิ แถมนี่ยังมากินของหวานต่อได้หน้าตาเฉยอีก พลับทำให้ไม้อึ้งเหมือนตอนที่พาไปกินเนื้อย่างคราวก่อนนั้น
“พี่ไม้อยากกินเหรอ ผมแบ่งให้นะครับ” เพราะไม้จ้องมาไม่หยุด พลับก็นึกว่าไม้อยากจะชิมขนมหวานที่เขาทานอยู่เลยใช้ช้อนตักแล้วยื่นไปป้อนให้คนที่นั่งตรงหน้า ไม้ชะงักเล็กน้อยเขาอิ่มจนกินอะไรไม่ไหวแล้วแต่พลับป้อนแล้วยิ้มมาให้ขนาดนี้เป็นใครก็ต้องยอม ไม้ยิ้มขอบคุณให้แล้วก็อ้าปากรับขนม สิ่งแรกที่เขารับรู้ได้ก็คือ หวาน…
ไม่ใช่ขนมที่หวานหรอก รอยยิ้มของเด็กที่ป้อนขนมเขานี่แหละที่หวาน
พลับเตรียมจะตักขึ้นมาป้อนให้อีกคำ แต่ไม่ปฏิเสธไว้ บอกว่ากินไม่ไหวแล้วพลับก็จัดการคนเดียวจนหมดถ้วย หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็เดินเบียดกันในร่มคันเดิมกลับมาที่คอนโด
ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์ไม้ก็ถามถึงอาหารว่าเป็นอย่างไรบ้างถูกใจรึเปล่า พลับหันไปพยักหน้าจนแก้มสั่น ยกนิ้วโป้งขึ้นเพื่อยืนยันว่าเป็นอาหารที่ดีจริงๆ
ไม้มองเด็กตัวเล็กที่ยังคงร่าเริง ตีท้องตัวเองปุๆ ไม่อาการจุกให้เห็นเลย สงสัยจริงๆ ว่าเอาไปเก็บไว้ตรงไหนนะ ในท้องนั่นไม่มีพยาธิแน่เหรอ หรือว่ามีหลุมดำอยู่ในนั้นจริงๆ
“พลับครับ แน่ใจเหรอว่าในตัวไม่มีพยาธิอยู่จริงๆ น่ะ กินแล้วหายไปไหนหมด ไม่มีพุงให้เห็นเลย”
“พี่ไม้ครับ ผมไม่มีพยาธิจริงๆ ที่มันหายไปเพราะผมชอบออกกำลังกายครับ ถ้าไม่มีการบ้านผมกับพีชชอบออกไปวิ่งที่ลู่วิ่งในมอ เลยไม่มีพุงนี่ไง” พลับอธิบายไปหัวเราะไป แถมพูดอย่างเดียวไม่พอยังเปิดเสื้อโชว์หน้าท้องให้ไม้ดูอีก
ไม้ตกใจที่จู่ๆ เด็กก็เปิดเสื้อโชว์ ตาคมมองไปที่หน้าท้องขาวเนียนและแบนราบ ไม่มีกล้ามเป็นแพ็คเหมือนของเขาก็จริงแต่ก็ดูกระชับเป็นไลน์เลขสิบเอ็ดอย่างสวยงาม จากที่ตั้งใจว่าจะห้าม ไม้ก็เปลี่ยนใจดูเงียบๆ ปล่อยให้พลับปิดเสื้อลงไปเอง ตอนนี้อยู่ในลิฟต์คงไม่มีใครมาเห็นหรอกมั้ง
พลับกลับมานั่งเล่นที่ห้องของไม้ต่อ เนื่องจากฝนยังไม่หยุด และรถติดอย่างต่อเนื่อง รอฝนซากว่านี้แล้วไม้ค่อยไปส่งพลับทีหลัง แต่รอจนดึกแล้วฝนก็ไม่มีท่าทีจะเบาลงเลย แถมกระหน่ำหนักกว่าเดิมอีกด้วย พลับมองท้องถนนเบื้องล่างผ่านกระจกหน้าต่าง ฝนก็ตกหนักกว่าเดิม รถก็ยังคงติดไม่เลิก สงสารคนที่อยู่บนรถนั่นจริงๆ เลย
“พี่ว่าถ้ารอฝนซา พลับคงไม่ได้กลับแล้วล่ะครับ เดี๋ยวพี่ส่งเลยดีกว่า” ไม้ไม่เห็นวี่แววว่าฝนจะซาลงเลย หากรอนานกว่านี้ก็คงจะดึกไปกันใหญ่
“...แต่มันอันตรายนะครับ ผมไม่อยากให้พี่ขับกลับคนเดียวเลย”
“ถ้าไม่กลับตอนนี้ ก็ไม่รู้จะกลับตอนไหนแล้วนะครับ”
“งั้นผมเรียกแทกซี่...”
“จะไปเสียเงินทำไม รถติดแบบนี้โดนหลายบาทแน่ๆ พี่ไปส่งได้ครับ”
ไม้ดุเล็กน้อย พลับนิ่งไปครู่หนึ่งมองน้ำฝนที่ไหลลงมาตามหน้าต่างเหมือนน้ำตกอีกทั้งเสียงฟ้าร้องดังครืนไปทั่ว เห็นด้วยกับที่ไม้พูดมา ยิ่งดึกฝนก็ยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็คงอันตรายมากกว่าเดิมด้วย และถ้าหากเรียกแทกซี่ก็คงโดนจนหมดตัวแน่ๆ เพราะรถติดหนักมาก แต่ก็ยังไม่อยากให้ไม้ไปส่งอยู่ดีนั่นแหละขาไปพลับไปห่วงเท่าไรหรอกจะห่วงก็ตอนที่ไม้ต้องขับรถกลับคนเดียวนี่แหละ ฝนตกหนักนี้ไม้มองถนนไม่ชัดแน่ๆ แต่จะทำอย่างไรดีล่ะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย ถ้าไม่ไปตอนนี้ก็ต้องอยู่ดึกกว่านี้น่ะเหรอ พลับลังเลในสมองมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา แต่ก็ยังไม่กล้าพูดออกไปเพราะเกรงใจคนที่เป็นเจ้าห้อง ยืนลังเลอยู่สักพักก็ไม่เห็นหนทางอื่นเลยตัดสินใจถามดู
“อ่า...ถ้าคืนนี้ผมขอค้างห้องพี่หนึ่งคืน จะได้ไหมครับ”
“...”
พลับขอไปแบบนั้น ไม้ก็มองหน้าพลับแล้วนิ่งไปจนคนตัวเล็กต้องรีบอธิบาย เหตุผลที่จอค้างด้วย
“ค...คือ ผมไม่อยากให้พี่ฝ่าฝนไปส่งผม ฝนตกหนักแบบนี้มันอันตรายมากๆ เลยครับ ล...แล้วก็ผมจะนอนเงียบๆ ที่โซฟาไม่รบกวนพี่ไม้เด็ดขาดเลยครับ...ต แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ”
“ได้สิ พี่ไม่ได้ว่าอะไร นอนบนเตียงด้วยกันก็ได้” หลังจากที่เงียบฟังพลับอธิบายสักพักไม้ก็ตอบออกไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้พลับนอนค้างที่นี่หรอก ไม้คิดไว้แล้วแหละหากยังตกลงไม่ได้ว่าพลับจะกลับยังไงไม้ก็จะให้นอนที่นี่ เพียงแต่เขาแปลกใจเล็กน้อยที่พลับเป็นคนพูดขอออกมาเอง แบบนี้ถือว่าใจตรงกันได้ไหม
“อ่า...ขอบคุณมากครับ”
พลับยกมือไหว้ขอบคุณแล้วยิ้มให้ ถึงจะรู้สึกประหม่าแต่ก็ตื่นเต้นที่คืนนี้จะนอนห้องของไม้ และที่เหนือความคาดหมายก็คือได้ร่วมเตียงกันอีกด้วย จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก พลับไม่ได้คิดไปถึงเรื่องอื่นเลยแค่ดีใจที่ได้อยู่ใกล้ไม้เฉยๆ
“ไปนั่งรอที่โซฟาก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน”
พลับก็พยักหน้าเป็นเด็กดีนั่งรอไม่อยู่มีโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาพี่ชายตัวเอง แอบเป็นห่วงเล็กน้อยว่าพีชจะนอนคนเดียวได้ไหม ตั้งแต่ขึ้นมหาลัยมานี่ก็นอนด้วยกันทุกคืนเลย มานอนแยกกันแบบนี้พลับก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน
‘พีช คืนนี้พลับค้างที่ห้องพี่ไม้นะ ฝนตกหนักมากกลับไม่ได้’
‘จริงเหรอ งั้นขอให้โชคดีนะ’
คำตอบที่พีชตอบมาทำเอาพลับขมวดคิ้วฉับเลย นี่น้องชายไม่กลับไปนอนห้องแต่พีชกลับดูไม่เป็นห่วงอะไร ไม่ถามด้วยว่าจะนอนอย่างไร พรุ่งนี้กลับไปจะดีดให้เจ็บเลย
‘จะไม่เป็นห่วงกันเลยเหรอไง เป็นพี่ชายประสาอะไรเนี่ย’
ทางฝั่งพีชก็งง ทำไมพลับต้องมาว่าเขาด้วยล่ะ ก็อยู่กับพี่ไม้นี่นามีอะไรที่พีชต้องเป็นห่วงล่ะ ต้องแสดงความยินดีด้วยซ้ำ ได้นอนค้างกับคนที่ชอบแบบนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเลยไม่ใช่เหรอ
‘ก็พลับบอกว่าอยู่กับพี่ไม้อ่ะ ต้องห่วงอะไรด้วยเหรอ’
‘งั้นนอนดีๆ นะ อย่าลืมกินยาก่อนนอน เดี๋ยวไข้กลับจะโดนดี’
มันก็จริงอย่างที่พีชบอก ไม้คนที่ไว้ใจได้ที่สุดแล้วในบรรดาคนที่พีชรู้จัก แถมเป็นแฟนพลับด้วยจะมานอนด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร พลับเลยเปลี่ยนเรื่องกำชับให้พีชกินยาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหมด ไม่อยากให้พีชไข้กลับขึ้นมาอีก เพราะนั่นจะทำให้พลับอดมาหาพี่ไม้
“พลับครับ มีแต่ตัวใหญ่ๆ นะ ไม่มีตัวเล็กกว่านี้แล้ว”
ไม้กลับมาพร้อมชุดนอนซึ่งก็เป็นชุดของไม้นั่นแหละ เขาพยายามค้นตัวที่เล็กที่สุดในตู้มาแล้วแต่ก็ยังคงหลวมไปสำหรับพลับอยู่ดี และนอกจากเสื้อผ้าแล้วไม้ก็เตรียมผ้าขนหนูและแปรงสีฟันให้เรียบร้อยเลยด้วย
“ขอบคุณนะครับ”
“เปลี่ยนชุดแล้วก็เอาชุดนักศึกษามาให้พี่นะ เดี๋ยวเอาไปปั่นแห้งให้”
พลับรับของไปแล้วขอบคุณจากนั้นก็ส่งยิ้มเกรงใจมาให้ ไม้ยกมือขึ้นโยกหัวเด็กตรงหน้าอย่างเอ็นดู บอกให้พลับไปอาบน้ำก่อนได้เลย ส่วนไม้ก็เดินมานั่งรอที่โซฟามองแผ่นหลังเล็กเดินเข้าห้องน้ำไป เขาก็คิดว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรืออะไรนะ แต่ไม่รู้ทำไมสมองเขาเอาแต่นึกภาพของพลับตอนที่ใส่เสื้อตัวใหญ่ของเขาแล้ว ตัวเล็กๆ มาใส่เสื้อตัวใหญ่คงจะน่ารักน่าเอ็นดูไม่หยอกเลย
พลับเดินเข้าห้องน้ำ ระหว่างที่อาบน้ำนั้นพลับก็อดไม่ได้ที่จะแอบดมกลิ่นครีมอาบน้ำและแชมพูที่ไม้ใช้ ยืนดมแล้วยิ้มอยู่คนเดียว ยอมสระผมใหม่ทั้งๆ ที่ตอนเช้าเพิ่งจะสระไป เพียงเพราะอยากให้ตัวเองมีกลิ่นเดียวกับเจ้าของห้อง ใช้เวลาทำความสะอาดร่างกายไม่นาน พลับก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็หยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเดินต่อ เพราะไม้หันมามองแล้วก็จ้องอยู่อย่างนั้น ในใจก็นึกหวาดๆ ขึ้นว่าไม้จะว่าเขารึเปล่าที่ใช้ครีมอาบน้ำของไม้ หรือจะต่อว่าที่เขาบีบเยอะ พลับไม่ได้ตั้งใจจะใช้เปลืองนะ แต่อยากให้มีกลิ่นครีมอาบน้ำของไม้ติดตัวเขาเยอะๆ ก็เลยเผลอบีบออกมาจนเต็มฝ่ามือเลย
“อ่า...พี่ไม้ครับ ให้ผมเอาชุดนี้ไปไว้ที่ไหน”
ไม้พยักหน้าแล้วลุกออกจากโซฟาเดินไปหาเด็กตัวหอมฟุ้ง เมื่อครู่นี้ไม้เผลอมองพลับนานไม่หน่อย เพราะพลับในตอนนี้น่ารักกว่าที่เขาคิดไว้มาก ไหปลาร้าขาวๆ ที่โผล่พ้นคอเสื้อนั่นมาทำให้ไม้ละสายตาแทบไม่ได้ รู้งี้น่าจะให้ใส่เสื้อที่ตัวใหญ่กว่านี้หน่อย เด็กตัวเล็กนี่ถ้าให้ใส่เสื้อไหล่ตกข้างหนึ่งต้องน่ารักน่าบีบมากแน่ๆ
ไม่สะบัดหัวตัวเอง เมื่อครู่นี้เขาคิดอะไรนะ น่ารักน่าบีบ? น่ารักยังพอเข้าใจได้ แต่น่าบีบนี่เขาหมายความอย่างไร
“เดี๋ยวพี่จัดการเอง พลับไปนั่งตามสบายได้เลย”
ไม่รับเสื้อของพลับมาแล้วเดินไปบริเวณระเบียงตรงส่วนที่มีเครื่องซักผ้า เปิดผ้าเครื่องออกแล้วใส่ชุดของพลับเข้าไป แต่เพราะไม่ทันระวังทำให้มีผ้าชิ้นเล็กหล่นอยู่ตรงหน้าตู้ พลับมองก้มตัวลงเตรียมจะหยิบมาใส่เครื่อง พอเห็นผ้านั้นชัดไม้ก็ทำหน้าไม่ถูก ใบหูร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ก็ผ้าชิ้นน้อยที่หล่นอยู่ที่พื้นนั่นมัน...กางเกงในไม่ใช่เหรอ?
ไม้มองดีแล้วก็ให้คำตอบกับตัวเองว่า...ใช่ นั่นคือกางเกงชั้นในแน่ ๆ และไม้ก็ตระหนักได้ทันทีว่าถ้ากางเกงในของพลับอยู่ตรงนี้ นั่นก็หมายความว่า…
ตอนนี้พลับไม่ได้ใส่กางเกงชั้นใน

ดีคร่าาาา ตอนนี้เป็นตอนของพี่ไม้และหนูพลับบ้าง คู่นี่เขาคืบหน้ากันเร็วเนอะ
ไม่ทันไรก็พาขึ้นห้องชวนนอนค้างด้วยกันแล้ว 555
แอบบอกนิสนุง ตอนหน้าเขาขึ้นอย่างอื่นด้วยกันแหละ แต่จะขึ้นอะไรนั้น ติดตามค่าา

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ตอนที่ 8 นอนค้างอ้างแรม

“พลับ…”
“ครับ?”
“เอ่อ พลับ...”
เด็กที่นั่งดูทีวีอยู่หันมามองตาแป๋วทำเอาไม้พูดไม่ออกเลย คำถามที่อยากจะถามว่าทำไมไม่ใส่ชั้นในก็กลืนหายไป ไม้คิดว่าที่พลับไม่ใส่ชั้นในก็เพราะว่าไม่มีตัวใหม่ให้เปลี่ยนและพลับไม่อยากใส่ตัวเก่า
“พี่ไม้มีอะไรรึเปล่าครับ” พลับถามซ้ำ เมื่อไม้ไม่ยอมพูดอะไร คิ้วเข้มนั้นขมวดเข้าหากันจนพลับคิดว่าตัวเองไปทำอะไรผิดไว้รึเปล่า
“ไม่มีอะไรแล้วครับ พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ”
พลับทำหน้าสงสัยแต่ไม้ไม่สนใจรีบเดินไปหยิบชุดนอนแล้วเข้าห้องน้ำ แต่เขาก็ทำใจให้สงบลงไม่ได้เลยเมื่ออาบน้ำเสร็จออกมาก็เจอพลับที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำเพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่างกับเขา แต่สายตาของไม้ก็เอาแต่จะจ้องลงด้านล่างของพลับตลอด
“พี่ไม้ครับ คือว่าผมมีการบ้านที่ต้องส่งพรุ่งนี้แต่ว่ากระเป๋าอยู่ในรถ ผมจะขอยืมกุญแจรถลงไปเอาของน่ะครับ”
“ไป...ในสภาพนี้เหรอ”
“ครับ?” พลับไม่เข้าใจ สภาพนี้คือสภาพไหน ชุดที่ไม้เอามาให้ใส่มันก็ไม่ได้แย่นะพลับใส่แล้วก็ยังดูปกติดีอยู่ ไม้เห็นแววตางุนงงในสายตาของเด็กตรงหน้าแล้วก็ต้องยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง เจ้าเด็กนี่คิดจะลงไปเอาของด้วยสภาพแบบนี้เหรอ แบบที่ไม่ใส่อันเดอร์แวร์และเสื้อยืดคอกว้างแบบนี้อ่ะนะ ไม่ได้! ไม้ไม่อนุญาตแน่ๆ หากโดนฉุดไปจะทำไงล่ะ เขาลงไปเอาให้ดีกว่า
“เดี๋ยวพี่ลงไปเอาให้ พลับอยู่ที่นี่นะ”
“เอ๊ะ เดี๋ยวผมลงไปเอาเองครับ”
ไม้เดินไปหยิบกุญแจรถโดยที่มีเด็กเดินตามอยู่ด้านหลังบอกว่าจะไปเองให้ได้เลย เขาจะให้ลงไปในชุดนั้นได้ไง ไม่โป๊ก็เหมือนโป๊ในสายตาของไม้ สุดท้ายเลยหันกลับไปตั้งใจว่าจะดุเล็กน้อยให้ยอมนั่งรออยู่ที่ห้อง แต่พอเห็นใบหน้าเกรงอกเกรงใจไม้ก็เกิดเอ็นดูขึ้นมา จากที่จะดุก็เปลี่ยนเป็นบีบแก้มนิ่มนั้นแล้วพูดดีๆ เผื่อว่าเด็กจะยอมฟัง
“เป็นเด็กดีนะรอพี่อยู่บนนี้นะครับ”
“ค ครับ” ถึงจะเกรงใจที่ไปลำบากพี่เขาแต่ไม้บอกมาแบบนั้น พลับยอมก็ได้จะเป็นเด็กดีของพี่ไม้ จะไม่ดื้อไม่ซนเลย
ไม้เปิดรถของตัวเองแล้วคว้าเอากระเป๋าของพลับมาถือไว้ ระหว่างที่กำลังรอลิฟต์ ไม้ก็นึกขึ้นได้ว่าหน้าคอนโดเขามีร้านสะดวกซื้อแวะไปซื้อกางเกงในกระดาษมาให้เด็กใส่แก้ขัดไปก่อนก็ได้ แต่ในขณะที่ดำลังเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อนั้น ไม้ก็เปลี่ยนใจกลางทางเดินกลับมารอลิฟต์เช่นเดิมเพราะคิดว่ากางเกงในนั่นใส่แล้วคงไม่สบายตัว แถมพลับก็อยู่แต่ในห้องเขา ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้…
ไม้เดินกลับมาที่ห้อง เปิดประตูไปก็เห็นเด็กที่นั่งรออยู่ที่โซฟาเป็นเด็กดีตามที่เขาบอก ไม้ยื่นกระเป๋าเป้ไปให้ เจ้าเด็กพลับก็ยิ้มจนไม้อดใจไม่ไหวต้องเกลี่ยแก้มนิ่มๆ นั้นคิดเสียว่าเป็นค่าเหนื่อยที่ลงไปเอากระเป๋าให้ ถึงแม้ว่าเขาจะอาสาลงไปเอาเองก็ตาม
พลับลงไปนั่งทำการบ้านของตัวเองอยู่ที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา ส่วนไม้ก็เอาบทเรียนสำหรับเตรียมสอนมาอ่านซ้ำ แต่ตาและจิตใจของไม้ไม่ค่อยจะอยู่ที่ชีทเรียนเท่าไรตั้งแต่พลับขยับเปลี่ยนท่านั่ง คนตัวเล็กชันเข่าขึ้นมาเล็กน้อยและเป็นจังหวะเดียวกับที่ไม้ซึ่งนั่งอยู่ด้านบนโซฟาบังเอิญเหลือบตามองลงไปพอดี ทำให้ไม้เห็นเข้าไปถึงโคนขาอ่อนของเจ้าเด็กพลับอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ไม้พยายามไม่มองแล้วพยายามสนใจแต่ชีทเรียนตรงหน้า แต่พอขาขาวๆ นั่นขยับทีไร ตาเขาก็จ้องจะมองตามทุกทีแล้วเด็กก็ดันขยับขาบ่อยเสียด้วย ไม้อยากจะบอกให้พลับนั่งนิ่งๆ หน่อยแต่ปากเขาก็หนักไม่ยอมพูดออกไป ได้แต่นั่งใจแกว่งทุกครั้งเห็นขาอ่อนขาวนวลวับๆ แวมๆ ในกางเกงขากว้างนั้น แล้วยิ่งคิดว่าเด็กด้านล่างนั้นไม่ได้ใส่กางเกงในแล้วด้วย สายตาเขาก็ยิ่งจดจ้องไปในร่มผ้าตลอด
แค่มองด้วยสายตายังรู้สึกว่าคงจะเนียนน่าดู หากลองสัมผัสตรงๆ แล้วจะรู้สึกดีขนาดไหนกันนะ จู่ๆ ไม้ก็รู้สึกเสียดายที่คืนนั้นเขาเมาจนจำอะไรไม่ได้เลย...
ไม้ยกมือขึ้นลูบหน้าเรียกสติบอกตัวเองในใจว่าอย่าไปสนใจ สิ่งขาวๆ สิ่งเดียวที่เขาควรสนใจในเวลานี้คือชีทเรียนที่อยู่ในมือไม่ใช่ต้นขาของเจ้าเด็กพลับนั่น ตอนนี้ไม้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนตาลุงโรคจิตที่กำลังจ้องจะแอบมองขาอ่อนเด็กรุ่นๆ อยู่
“พี่ไม้ครับ ดูนี่สิ ผมแอบสเก็ตช์รูปพี่ไว้ในหนังสือเรียนด้วย”
ไม้สะดุ้งจนชีทที่อยู่ในมือล่วงหล่น เมื่อเด็กที่เขาแอบมองขาอ่อนอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยอย่างกะทันหัน คนที่ใจไม่บริสุทธิ์ก็เริ่มตระหนก กลัวว่าพลับจะจับได้ว่าเขาแอบลวนลามตัวเองทางสายตาไป
“...”
“ชีทหล่นแล้วครับ ผมเก็บให้นะ” พลับมองไม้ที่ยังนั่งนิ่งไม่ยอมเก็บชีท ก็เลยขยับตัวเข้าไปเก็บให้ แต่ในจังหวะที่กำลังยื่นมือและโน้มตัวไปเก็บนั้น ทำให้คอเสื้อยืดที่กว้างอยู่แล้วขยับออก จนคนที่นั่งอยู่ด้านบนเห็นหน้าอกแบบราบและตุ่มไตเล็กน่ารักนั่นแวบหนึ่ง
ไม้นั่งตัวแข็ง สิ่งที่บังเอิญเห็นเมื่อครู่นี้ทำให้ใจกระตุกเต้นผิดจังหวะไป ก่อนที่มันจะระรัวขึ้นมาเมื่อรู้ตัวว่าเมื่อครู่นี้เขาเห็นของดีเข้าให้แล้ว เจ้าเด็กพลับยื่นชีทมาให้เขาแล้วฉีกยิ้มหวานให้พลับเห็นไม้เอาแต่นั่งนิ่งๆ ไม่ยอมรับชีทไปเสียทีก็เอียงคอมองอย่างสงสัย
“พี่ไม้เป็นอะไรเหรอครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
ไม้มองหน้าพลับสลับกับมองไปที่เสื้อ ทำให้พลับต้องก้มมองตามเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะทำเสื้อไม้เปื้อน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่สิ่งที่พลับคิดเลย ไม้ไม่ได้จ้องเสื้อ เขามองสิ่งที่อยู่ใต้เสื้อที่บังเอิญเห็นเมื่อครู่นี้ตังหาก
“พี่ทำหน้าแบบไหนครับ”
ไม้สงสัยว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนกัน กลัวว่าตัวเองจะเผลอไปทำหน้าหื่นจนเด็กสังเกตเห็น ตอนที่พลับทักขึ้นมาก็เลยพยายามทำหน้าให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในใจของเขานั้นเต้นเร็วจนจับจังหวะไม่ได้เลย
“ก็หน้าแบบ...แบบนี้ครับ”
ไม้มองพลับที่ขยับใบหน้าแปลกๆ เดี๋ยวก็ขมวดคิ้วแล้วก็คลายออกจากนั้นขมวดใหม่เหมือนมีเรื่องที่กังวลใจอยู่
โอเค ไม้รู้แล้วว่าเขาทำหน้าแบบไหนออกไป ไม่ใช่หน้าหื่นๆ แบบที่เขาคิดหรอก แต่มองดูเขาคิดว่าเป็นสีหน้าแบบตาลุงที่กำลังสับสนว่าจะลวนลามเด็กดีรึเปล่า ไม้สรุปแล้วก็คิดว่ามันก็คงแย่พอกันนั่นแหละ
“อะ...เอ่อ พี่ไปนอนก่อนนะ”
“ฝันดีนะครับ ทำการบ้านเสร็จแล้วผมจะรีบตามเข้าไป”
ไม้พยักหน้าแล้วเดินเข้าห้อง เขาไม่มีสมาธิจะอ่านชีทเรียนอะไรแล้วเลยคิดว่าเข้าห้องไปนอนเสียดีกว่า ขืนหากยังนั่งอยู่ตรงนี้ก็คงจะเอาแต่นั่งมองขาอ่อนของเด็กให้สมองตัวเองดูเป็นคุณลุงลามกมากกว่าเดิม แต่พอเข้ามานอนไม้ก็นอนไม่หลับ ลืมตามองเพดายมืดๆ อยู่แบบนั้นนานหลายนาที พยายามข่มตาและนับแกะก็แล้ว ไม้ก็หยุดนึกถึงเรื่องอื่นไม่ได้เลย ไม้ที่ไม่รู้ตัวว่าอาการกระสับกระส่ายที่เขาเป็นอยู่นี้คืออาการตื่นเต้น เอาแต่พลิกไปมาอีกทั้งยังพงกหัวมองไปที่ประตูตลอดเพื่อดูว่าพลับจะเข้ามาตอนไหน ไม้คิดว่าตัวเองไม่ควรจะมีอาการแบบนี้เพราะพลับไม่ใช่คนแรกที่ไม้ได้นอนร่วมเตียงด้วย กับแก้มแฟนเก่าก็เคยนอนแต่มันก็นานมาแล้วหากนับดูดีๆ ก็เกินหนึ่งปีด้วยซ้ำที่เขานอนบนเตียงนี้คนเดียว แต่คืนนี้พลับจะมานอนด้วย ไหนจะอะไรขาวๆ ชมพูๆ ที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ด้วยที่ทำเอาไม้หยุดคิดถึงไม่ได้เลย
แกร๊ก
ไม่แสร้งหลับตาทำเป็นว่าหลับทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิดและปิด พลับเข้ามาแล้ว ไม้บอกตัวเองในใจและรับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่ถ่ายลงบนเตียงอีกฝั่งหนึ่ง ไม้นอนนิ่งๆ พยายามทำลมหายใจให้สม่ำเสมอแต่หูก็คอยฟังและคาดเดาตลอดว่าพลับกำลังทำอะไรอยู่ จนรู้สึกได้ว่าที่นอนใกล้ตัวเขายวบลงอีกทั้งกลิ่นหอมๆ จากสบู่อาบน้ำของเขาที่ติดอยู่บนตัวพลับอวลอยู่ใกล้จมูก ถึงตอนนี้ไม้ก็เดาได้ว่าพลับคงจะแอบหอมแก้มเขาเหมือนครั้งนั้น ใจของไม้ก็ฟูขึ้น ทำเป็นนอนนิ่งรอคอยสัมผัสนุ่มของริมฝีปากที่จะลงมาประทับแก้มเขา แต่ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม้แปลกใจอยากจะรู้ว่าคนตัวเล็กยังคงทำอะไรอยู่ จะคิดว่าพลับเปลี่ยนใจไม่ทำแล้วก็ไม่ใช่เพราะกลิ่นหอมยังคงวนเวียนอยู่ปลายจมูกเขาไม่ได้ห่างไปไหน สุดท้ายไม้ก็ทนความอยากรู้ตัวเองไม่ไหวเลยแอบลืมตาดู
“เฮ้ย!”
พลับที่กำลังก้มหน้าลงไปอย่างอ้อยอิ่งหวังจะหอมแก้มไม้ก่อนนอน แต่ก็ตกใจที่อยู่ดีๆ คนที่คิดว่าหลับไปแล้วลืมตาขึ้น พลับตกใจและเด้งตัวออกอย่างแรงจนตัวเองกลิ้งหล่นเตียงไปทำให้หน้าผากโขกเข้ากับตู้ที่ตั้งอยู่ปลายเตียง
โป๊ก
“โอ๊ย!”
“เฮ้ย พลับเป็นอะไรรึเปล่า”
ไม้เด้งตัวลุกขึ้นนั่งรีบเปิดไฟหัวเตียงและพุ่งลงไปหาพลับที่นอนกุมหัวตัวงออยู่ตรงหน้าตู้ทันที พยายามที่จะดึงมือพลับออกเพื่อดูว่าเป็นอะไร แต่เด็กก็ดื้อกุมและหันหนีจนพลับต้องดึงตัวมากอดแล้วล็อคเอวไว้ไม่ให้หมุนตัวได้ จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างที่ว่างง้างแขนพลับออกจากหน้าผากตัวเอง
“ผมไม่เป็นอะไรครับ”
“อย่าดื้อสิ เอามืออกให้พี่ดูหน่อย”
พลับที่สู้แรงไม้ไม่ได้ก็ต้องยอมมือออกแล้วพยายามทำหน้านิ่ง ๆ แบบไม่รู้สึกเจ็บเลยซักนิดถึงความจริงจะเจ็บมากก็เถอะ ซึ่งไม้เห็นว่ามันไม่ใช่อย่างที่คนตัวเล็กพูดเลย หน้าผากตรงส่วนที่ไปกระแทกตู้เมื่อครู่นี้โนปูดขึ้นจนเห็นได้ชัด ถึงจะไม่มีเลือดแต่ไอ้ที่โนขึ้นมานี่ใหญ่เท่าลูกมะนาวได้
“ผมเจ็บ” พลับเบ้หน้าและหันหนีเมื่อคนที่ล็อกเอวอยู่นั้นใช้ปลายนิ้วคลึงไปที่หน้าผากตรงส่วนที่รู้สึกเจ็บ
“ไหนบอกว่าไม่เป็นอะไรไง หัวโนขึ้นมาเป็นลูกเลย”
“พี่ไม้ก็อย่าคลึงมันสิครับ”
พลับบ่นแล้วทำหน้ายู่ ไม้มองแล้วก็ยิ้ม ค่อยๆ พยุงพลับให้ขึ้นนั่งคอยบนเตียงดี จากนั้นก็เดินออกไปเอาถุงประคบเย็นมาประคบหน้าผากให้เจ้าเด็กพลับ
“พี่ไม้ ผมเจ็บ” พลับบอกเมื่อรู้สึกว่าไม้กดถุงเย็นลงกับหน้าผากเขาแรงเกินไปจนรู้สึกจี๊ดขึ้นมา
“ครับๆ เดี๋ยวพี่จะทำเบาๆ นะ”

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
ไม้รีบยกถุงออกแล้วใช่ปลายนิ้วคลึงเบาๆ ให้คลายความเจ็บอีกทั้งยังโน้มตัวมาดูรอยนูนนั้นใกล้ๆ แล้วยังเป่าลมอุ่นลงมาที่หน้าผากเหมือนปลอบอีกด้วย จะไม่ให้พลับเขินได้อย่างไรไหว
ไม้ยิ้มเมื่อคนที่เขาเป่าหน้าผากให้หน้าแดงหนักกว่าเดิม ตอนแรกก็แดงแค่หน้าผากแต่ตอนนี้แดงลามมายันแก้มขาวแล้ว ดูแล้วน่ารักไม่หยอกเลยเห็นแล้วเขาก็รู้สึกอยากแกล้งให้แดงกว่านี้นัก
“เมื่อกี้นี้พลับจะทำอะไรพี่เหรอ” ไม้แกล้งถามถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าพลับจะทำอะไร แต่ไม้แค่อยากรู้ว่าเด็กตรงหน้าเขาจะยอมรับหรือบอกปัดเหมือนครั้งที่แล้ว
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ” และพลับก็เลือกที่จะปฏิเสธเหมือนครั้งก่อน มันน่าตีนัก โดนจับได้ขนาดนี้ยังจะมาโกหกว่าไม่ได้ทำอะไรอีก
ไม้นึกขำขึ้นมาเมื่อนึกถึงตอนที่พลับจะแอบหอมแก้มเขา มันน่าตลกน่าเอ็นดู ไม้ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแอบทำตอนที่เขาหลับตลอดพอโดนจับได้ก็หนีจนตัวเองหัวโนขนาดนี้ เป็นเด็กที่ตลกจริงๆ พลับและเขาเป็นแฟนกันนะจะแอบทำทำไม แค่หอมกันเองอยากทำก็ทำเลยสิไม้ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว และถ้าหากยอมรับตรงๆ ก็ต้องบอกเลยว่าไม้อยากให้พลับหอมเขาด้วย เมื่อครู่นี้เขาก็นอนรอให้เด็กทำด้วยซ้ำ หรือว่าไม้ต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนพลับถึงจะกล้าหอมแก้มเขาตรงๆ
ไม้วางถุงประคบเย็นลงแล้วเอียงแก้มให้ พลับก็งงแล้วเอนตัวออกเล็กน้อยเพราะไม้นั้นขยับเข้ามาใกล้...ใกล้มาก
“อ... อะไรเหรอครับพี่ไม้”
“ก็ก่อนหน้านี้ พลับจะหอมแก้มพี่ไม่ใช่เหรอ นี่ไงไม่ต้องแอบทำแล้ว หอมได้เลย”
“พี่ไม้!” พลับอ้าปากและตะเบ็งเสียงใส่ ความร้อนไล่ขึ้นมากระจุกอยู่ที่แก้มจากที่เขินอยู่แล้วก็เขินมากขึ้นไปอีก เตรียมจะขยับตัวออกเมื่อรู้ตัวว่าโดนอีกฝ่ายจับได้ว่าจะลักหลับ ไม้รีบตวัดมือโอบไหล่พลับเอาไว้ไม่ให้หนี เขาหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วหยิกแก้มแดงปลั่งของเด็กตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว
“จะหนีไปไหนครับ พี่เคยบอกแล้วไง อยากทำก็ทำได้เราเป็นแฟนกันแล้วนะจะกลัวทำไม”
ครั้งที่แล้วตอนโดนพลับหอมแก้มที่สวน ไม้ก็เคยพูดไปแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหอมแก้มกัน
ไม้นิ่งไปเล็กน้อยพอลองคิดดูดีๆ แล้วก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในใจของตัวเอง ครั้งนั้นเขาพูดเพราะคิดว่า ‘ควรทำ’ ก็เป็นแฟนกันแค่หอมแก้มกันมันผิดตรงไหน  แต่ครั้งนี้มันเปลี่ยนไปเขาพูดเพราะ ‘อยากทำ’ อยากโดนหอมแก้ม รวมไปถึงอยากหอมแก้มเด็กขี้อายตรงหน้านี้ด้วย
“ผมไม่ได้กลัว ผมอาย...”
ไม้แอบยิ้ม ยิ่งบอกว่าอายไม้ก็รู้สึกว่ายิ่งอยากแกล้ง ปกติไม่ใช่คนขี้แกล้งแบบนี้นะ แต่เด็กตรงหน้าน่าแกล้งจริงๆ นั่นแหละ
“อาย? งั้นก็คงจะไม่ทำใช่มั้ย” เลิกคิ้วขึ้นมองพลับที่ก้มหน้าแต่ช้อนตามองเขา สองมือกุมอยู่แก้มตัวเองแต่ก็ปิดความแดงได้ไม่มิด ไม้ยกยิ้มพูดหยอกแล้วเตรียมจะผละตัวออก พลับเลยรีบจับไหล้ไม้เอาไว้ไม่ให้ขยับออกห่าง
“งื้อ! ทำครับ”
พูดเสียงเบาแล้วก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปจรดปลายจมูกลงบนแก้มของไม้ ถึงจะเขินจนร้อนไปทั้งหน้า แต่พี่ไม้มาเอียงแก้มให้ขนาดนี้ ถ้าพลับไม่ทำก็บ้าแล้ว
“ก็แค่นั้น” ไม้บอกแล้วโน้มหน้าลงไปกดปลายจมูกลงบนแก้มนวลโยที่พลับไม่ทันได้ตั้งตัว ไม้สูดกลิ่นหอมๆ เข้าปอดแล้วผละออก จากที่ตั้งใจว่าจะทำแต่ครั้งเดียว แต่พอผละออกมาแล้วเห็นเด็กทำหน้าเหวอดูน่ารักดี ไม้ก็เลยก้มลงไปหอมแก้มพลับอีกข้างหนึ่ง
“พี่ไม้...”
พลับเรียกชื่อเสียงแผ่วมองหน้าคนตัวสูงอย่างอึ้งๆ ถ้าไม่นับรวมคืนนั้น นี่คือครั้งแรกเลยที่ไม้หอมแก้มเขา แล้วหอมสองครั้งติดเลยด้วย หอมแล้วยังยิ้มละมุนมาให้แบบนี้อีก บอกเลยพลับใจละลายไปแล้ว
ไม้ยิ้มสายตามองลงไปที่ต้นขาขาว ตอนที่เด็กพลับขยับมาหอมเขาขากางเกงมันล่นขึ้นมาที่ขาอ่อน ทำเอาไม้ใจกระตุกเป็นช่วงๆ สุดท้ายเลยดึงผ้านวมมาปิดขาขาวให้พ้นสายตาเขาแล้วก็เอียงแก้มอีกข้างให้พลับ
“ต้องทำให้เท่าเทียมกันไงครับ เดี๋ยวอีกข้างหนึ่งน้อยใจ พลับก็ทำด้วยสิ”
พูดแล้วก็เอียงแก้มอีกข้างให้พลับทำ พลับยิ้มแล้วเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะยืดตัวขึ้นหอมแก้มอีกข้างของไม้ พอผละออกก็เห็นแววตาแพรวพราวของคนตัวสูง  พอโดนมองด้วยสายตาแบบนั้นแล้วพลับกลับเขินวูบวาบจนทนไม่ไหว เลยงอตัวลงมุดหน้าเขากับที่นอนนุ่มแล้วส่ายหน้าไปมา พลับไม่เคยรู้สึกเขินแบบนี้มาก่อนเลยถ้ากรี๊ดได้พลับคงกรี๊ดไปแล้ว
“หึหึ มาเขินต่อตรงนี้เร็วครับ พี่จะผิดไฟนอนแล้ว”
ไม้ตีที่หมอนอีกใบให้พลับมานอนตรงนี้ พลับค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปนอนแต่ใบหน้าก็มุดอยู่ที่เตียงตลอด ไม้เอื้อมมือไปที่โคมไฟเพื่อจะปิดแต่ตาก็ยังมองเด็กที่ขดตัวเป็นก้อนอยู่ตลอด เห็นแก้มนวลแดงปลั่งแบบนั้นไม้มีความคิดว่าอยากจะจับเด็กตรงหน้ามาฟัดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย 
ปั่ก!
“อุ่ก...”
ในกลางดึกไม้ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหันแล้วขมวดคิ้ว เมื่อครู่นี้เขารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ฝาดเข้าที่หน้าท้องของเขา และไม่ใช่เบาๆ เสียด้วย เพราะทำเอาไม้สะดุ้งตื่นมาจุกอยู่แบบนี้ไง
ไม้ผงกหัวขึ้นดูก็เห็นท่อนขาขาวพาดอยู่ที่หน้าท้อง ไม้ก็พยุงตัวขึ้นตั้งใจจะขยับขาของพลับออกแต่จังหวะเดียวกันนั้นก็มีท่อนแขนเหวี่ยงมาฝาดที่หน้าอกเขาอีกครั้งหนึ่ง
“พลับ ขยับไปหน่อย พี่จะตกเตียงแล้ว” ไม้เขย่าแขนเด็กที่นอนเบียดเข้ามาแถมยังดันจนเขาแทบจะหล่นเตียงอยู่รอมร่อแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล พลับยังหลังปุ๋ยเหมือนเดิม เป็นไม้ที่ขยับลุกออกจากเตียงแล้วค่อยๆ ดันตัวพลับให้ขยับกลับไปนอนฝั่งตัวเอง แล้วค่อยขยับตัวลงนอนตาม
ผัวะ
“โอ๊ย! พลับ แค่กๆ” ไม้สะดุ้งอีกครั้งหลังจากหลับตาไปไม่นานเมื่อโดนฝ่ามือเล็กฝาดเข้ามาที่คอโดนตรงลูกกระเดือกของเขาเต็มๆ เลย ไม้ขมวดคิ้วใส่เด็กพลับที่ยังคงหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราว แล้วก็เด้งตัวออกแทบไม่ทันเมื่อพลับพลิกตัวนอนคะแคงแล้วก่ายขาเข้ากับขาของเขา อีกทั้งยังดึงผ้าห่มไปห่มคนเดียวอย่างเอาแต่ใจด้วย
เด็กนอนดิ้น
พลับมองแล้วคำนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว พลับเป็นเด็กนอนดิ้น...ดิ้นหนักด้วย ในเวลาไม่ถึงห้านาทีที่ไม้นั่งมองอยู่นี้ พลับขยับตัวขยับแขนกลิ้งไปมาสองรอบได้ แต่เจ้าตัวต้นเหตุก็ยังคงหลับลึกอยู่เหมือนเดิม
ไม้หัวเราะแล้วส่ายหัวใช้ผ้านวมนั้นห่อตัวพลับเอาไว้ให้ดิ้นไม่ได้ แล้วเขาก็เดินไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กในตู้มาห่มนอน แต่ผ่านไปไม่เท่าไรในขณะที่ไม้กำลังเคลิ้มหลับ เจ้าเด็กพลับที่ถีบผ้านวมผืนใหญ่หล่นเตียงไปแล้วก็เริ่มกลับมาเบียดไม้อีกครั้ง อีกทั้งฟาดแขนใส่จนไม้หลับไม่ได้
“ทำไมนอนดิ้นขนาดนี้เนี่ย หืม?  ต้องเอาเชือกมามัดมือเสียแล้วมั้ง” ไม้พูดอย่ามันเขี้ยวพลิกตัวไปบีบแก้มนิ่มนั้นแล้วยืดขึ้นลง แต่ถึงอย่างนั้นพลับก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นกลับเบียดตัวเข้าหาแล้วดึงผ้าห่มผืนเล็กของเขาไปซุกไว้อีก
นอกจากจะเป็นเจ้าตัวนอนดิ้นแล้วยังเป็นเจ้าตัวกินผ้าห่มอีกตังหาก
ไม้ขยับตัวไปดึงผ้านวมขึ้นมาห่มตัวเองและพลับเอาไว้ จากนั้นก็จัดการกอดเจ้าเด็กนอนดิ้นให้นอนเฉยๆ ไม่ให้กลิ้งไปมา แล้วก็มือของเขานี่แหละเป็นเชือกมัดข้อมือของพลับเอาไว้ไม่ให้ฟาดมาโดนหน้าของไม้ได้อีก
“ดูซิ รัดขนาดนี้แล้วยังจะดิ้นได้อีกไหม” ไม้บีบจมูกพลับ มองหน้าอีกฝ่ายขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะโดนกวนแล้วไม้ก็ยิ้มบางๆ ก้มลงกดปลายจมูกไปที่แก้มนุ่มหนึ่งครั้งอย่างมันเขี้ยวแล้วก็หลับตานอน
 เช้าวันรุ่งขึ้นพลับขยับตัวแต่ก็รู้สึกว่ามีอะไรมาทับเอาไว้จนขยับแขนและขาไม่ได้เลย พลับลืมว่าตัวเองนั้นไม่ได้นอนอยู่ห้องตัวเองก็คิดว่าคงเป็นพีชที่กลิ้งมากอดมาทับเขาอีกแล้วก็เลยพยายามขยับตัวหนีทั้งแขนและขาก็ดันพี่ชายตัวเองออกแล้วแต่สิ่งที่รัดเขาอยู่นั้นก็ออกแรงรัดมากกว่าเดิม จนพลับต้องลืมตาดูเพื่อที่ต่อว่าคนที่คิดว่าเป็นพีช แต่แล้วก็ตกใจเมื่อคนที่นอนอยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช้พี่ชายฝาแฝดของตัวเองแต่เป็นไม้ ผู้ชายที่พลับฝันถึงก่อนที่จะตื่นนี้ตังหาก
“พี่...ไม้”
“อื้อ!”
พลับเกือบจะพูดเสียงดังเพราะตกใจแล้ว แต่ไม้นั้นขมวดคิ้วแล้วส่งเสียงไม่พอใจในลำคออีกทั้งยังรั้งเอวพลับเข้าไปประชิดแล้วรัดเอาไว้แน่นกว่าเดิมเป็นการบอกว่าให้นอนนิ่งๆ อย่าขยุกขยิก พลับเบาเสียงลงทันทีจนเป็นพึมพำในลำคอ ตากลมสีน้ำตาลกระพริบปริบๆ นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนั้นตัวเองนอนค้างห้องของไม้ ก่อนนอนก็แยกกันนอนคนละฝั่งเตียงนี่นาแต่ทำไมพอตื่นขึ้นมา พี่ไม้ถึงมากอดเขาได้ล่ะเนี่ย
พลับอมยิ้มนอนนิ่งๆ ให้ไม้กอด ทำตัวเป็นหมอนข้างมีชีวิต คิดว่าไม้คงเป็นพวกที่นอนแล้วติดกอด ตอนกลางคืนก็เลยเผลอมากอดเขาแน่ๆ เลย พลับยกมือของตัวเองแล้วกอดเอวไม้เอาไว้ เป็นการเก็บเกี่ยวโอกาสดีๆ ที่จะได้นอนกอดคนที่ตัวเองชอบแล้วหลับตาซึมซับความสุขเข้าหัวใจ โดยที่ไม่ทันได้สังเกตคนที่นอนกอดอยู่เลยว่าริมฝีปากนั้นยอกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บางๆ
ไม้รู้สึกตัวตื่นตอนที่พลับเรียกเขาและจะดันหนี ตอนนั้นไม้ก็เข้าใจผิดนึกว่าพลับจะดิ้นอีกแล้วเลยเหนี่ยวเอวไว้ไม่ให้ขยับตัวได้ แต่หลังจากนั้นไม้ตื่นเต็มตาแต่แกล้งทำเป็นหลับถึงแม้ว่าเขาจะคลายแรงรัดออกแล้วแต่เจ้าเด็กพลับก็ไม่ได้ขยับตัวหนีไปไหน แถมยังกอดเขากลับอีกตังหาก ไม้นอนดมกลิ่มหอมจากตัวของพลับ ทำเป็นขยับตัวเล็กน้อยขยับหน้าลงจนปลายจมูกโด่งคลอเคลียอยู่ที่เส้นผมนุ่มหอมกลิ่นแชมพู มันไม่ใช่กลิ่นแชมพูของเขาเสียทีเดียวไม้รู้สึกได้ว่ามันมีความหอมละมุนจางๆ จากพลับด้วย เป็นกลิ่นที่ไม้ชอบ เขาสูดลมหายใจเข้าเพื่อดมกลิ่นหอมนี้อย่างสุขใจ ส่วนเจ้าเด็กพลับพอเห็นไม้ขยับก็ทำท่าจะดึงมือออกเพราะคิดว่าไม้ตื่น แต่ไม้ก็นิ่งไปเสียก่อนพลับเลยวางมือไว้ที่เดิม
คนตัวสูงก็นอนยิ้มทำเป็นหลับให้เด็กกอดต่อไป ถึงจะเช้าแล้วแต่นาฬิกายังไม่ปลุกก็ยังไม่ใช่เวลาที่ต้องลุก นอนเล่นกันอีกซักหน่อยก็ได้ ไม้ลืมตาขึ้นช้าๆ หลุบตาลงมองเด็กที่หลับตาพริ้มซุกหน้าเขากับอ้อมกอดของเขา ไม้มองไปที่หน้าต่างเห็นท้องฟ้ายามเช้าแล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายยามเช้าเท่านี้มานานแค่ไหน คงต้องขอบคุณพลับที่ทำให้เขาได้มีเวลาแบบนี้อีกครั้ง
ตั้งแต่ได้ทำความรู้จักกับพลับอย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม ไม้ก็รู้สึกว่าอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตเขามันเปลี่ยนไป เขารู้ว่าอาการที่เขาเป็นนี้คืออาการที่เรียกว่าชอบหรืออาจจะกำลังตกหลุมรัก แต่ไม้จำไม่ได้แล้วว่าการรู้สึกชอบหรือรักใครสักคนมันควรที่จะใช้เวลามากขนาดไหนเราถึงจะมั่นใจว่าเราชอบอีกฝ่ายจริงๆ เพราะตอนนี้ผ่านมาไม่นานเลยและเขาก็รู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังตกหลุมความน่ารักของพลับแล้ว โดยที่เขาเองนั้นเป็นฝ่ายเดินลงไปเองด้วย
ผ่านไปสักพักเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น พลับรีบชักมืออกจากเอวเขาทันทีแล้วก็ค่อยลุกขึ้นนั่งทำเป็นขยี้ตางัวเงียอีกด้วย ไม้เห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำแต่คงไม่พูดอะไรออกไปให้เด็กเขินหรอก เดี๋ยวจะทำให้วันหลังพลับไม่กล้ามาแอบกอดเขาอีก
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไม้”
พลับทำเป็นขยี้ตาอ้าปากหาวทำเหมือนว่าตัวเองนั้นเพิ่งตื่นเพื่อไม้จะได้ไม่สงสัย พลับมองคนตัวสูงที่พยุงตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองมาที่ตัวเองอีกทั้งมีรอยยิ้มบางๆ แตะแต้มอยู่บนใบหน้า พลับไม่ได้สังเกตว่าดวงตาคมของไม้ไม่มีวี่แววงัวเงียอยู่เลย
“พลับจะอาบน้ำก่อนไหม หรือให้พี่อาบก่อน หรือเรา…”
“...”
ไม้พูดแล้วเว้นช่วงไปสักพัก พลับที่นั่งรอฟังอยู่ก็แก้มแดงขึ้นมาจนทำให้ไม้หัวเราะเพราะเดาออกว่าเด็กตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่
“...จะอาบพร้อมกัน”
“หา! ได้เหรอครับ อาบพร้อมกันก็ได้ครับ”
ไม้หัวเราะมองเด็กตรงหน้าที่เด้งตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่าอย่างกระตือรือร้น เมื่อคืนนี้แค่หอมแก้มยังเขินขนาดนั้น จะกอดเขาก็ยังต้องแอบทำแล้วไปเอาความกล้าที่ไหนจะมาอยากอาบน้ำพร้อมเขาได้แบบนี้ ข้ามขั้นมาขนาดนี้ได้เลยเหรอ เด็กคนนี้ตลกจริงๆ นั่นแหละ
“หึหึ ไม่ได้ครับ ทะลึ่งเหมือนกันนะเราอ่ะ”
แต่ไม้ก็แค่พูดเล่น ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะอาบน้ำกับพลับหรอก ขอยอมรับแบบลูกผู้ชายเลยว่าแค่เห็นขาอ่อนและหน้าอกของพลับอย่างไม่ตั้งใจเมื่อคืนนี้แล้วทำเอาไม้ใจสั่นไปไม่เป็นอยู่ครู่หนึ่งเลยทีเดียว แล้วจะมาอาบน้ำด้วยกันได้อย่างไร ไม้คงได้กลายร่างเป็นตาลุงโรคจิตอย่างสมบูรณ์แน่ๆ เพราะเขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่มีอะไรน่าฟัดมาเปลือยอยู่ตรงหน้าแล้วจะปล่อยไปได้ ความอดทนเขาคงมีไม่พอ
และที่สำคัญเลยคือ ไม้ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นในความคลุมเคลือแบบนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ความคลุมเครือในสถานะเพราะเขาคบกันแล้วแต่มันคือความคลุมเครือของความรู้สึกเขานี่แหละ ไม้ชอบอะไรที่มันคงทนไม่ใช่อะไรที่ฉาบฉวยหรืออารมณ์ชั่ววูบ กับเรื่องที่สำคัญอย่างเซ็กส์หรืออะไรแบบนี้เขาต้องมั่นใจในความรู้สึกตัวเองจริงๆ ก่อน ถ้าเขามั่นใจแล้วไม้จะเป็นคนเริ่มเอง แต่ตอนนี้ความรู้สึกของเขามันเพิ่งจะเริ่มก่อตัวถึงมันจะเกิดขึ้นในใจเขาอย่างรวดเร็วก็เถอะ
“เด็กทะลึ่ง กล้ากอดพี่แบบไม่ต้องแอบทำตอนหลับให้ได้ก่อนเถอะ แล้วค่อยไปคิดเรื่องอื่น”
ไม้มองตาพลับ เห็นหน้าแก้มที่แดงกว่าเดิมแล้วก็ยิ้มให้ เอื้อมมือไปบีบแก้มนิ่มอย่างมันเขี้ยวแล้วก็ลุกออกจากเตียงไป ว่าจะไม่พูดแล้วเชียวแต่มันก็อดแกล้งไม่ได้เลยจริงๆ
พลับมองตามหลังไม้ เมื่อครู่นี้ไม้พูดว่าอะไรนะ...แอบทำตอนหลับเหรอ พลับยกมือขึ้นกุมหัวตัวเองแล้วสะบัดไปมาเมื่อรู้ว่าตอนที่ตัวเองแอบกอดนั้นไม้ตื่นอยู่
“อ๊าก โดนจับได้อีกแล้ว ถ้าตื่นอยู่แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมล่ะ งือ”
แล้วไหนจะคำพูดเมื่อกี้นี้อีกไม้บอกว่าล้อเล่นเหรอ หน้านิ่งมากจนพลับนึกว่าจะได้อาบด้วยกันจริงๆ เขาก็อีกคนไปแสดงอาการตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น้แบบนี้ไม้ก็รู้หมดน่ะสิว่าพลับเป็นคนแบบนี้น่ะ อยากจะแก้ตัวเหลือเกินว่าพลับไม่ใช่คนทะลึ่งน่ะ แต่หากคนที่ชอบมาชวนอาบน้ำแบบนั้นใครจะไปปฏิเสธลง คนแบบนั้นไม่มีหรอก...พลับคนหนึ่งแหละที่ทำไม่ได้...
หรือจริงๆ แล้วพลับอาจจะเป็นเด็กทะลึ่งแบบที่พี่ไม้ว่า

สวัสดีจ้า ตอนนี้ให้ 'ขึ้นเตียงนอนหลับพักผ่อน' กันเฉยๆ ก่อนเนอะ คิดอะไรไปถึงไหนเนี่ย ยังไม่ถึงเวลาๆ 55555

ตอนนี้จะเขียนในมุมของพี่ไม้เป็นหลัก เพราะเรารู้ความคิดของพลับกันไปเยอะพอสมควรแล้ว รู้ว่าพลับรักไม้ แต่เรายังไม่รู้ว่าไม้คิดยังไงกับพลับบ้าง อย่างตอนนี้ตั้งใจจะบอกให้บอกรู้ว่า เห็นแต่พี่แกหน้านิ่งๆ ยิ้มๆ แต่ในใจก็คิดอะไรไปเยอะแยะนะ (ฮา)

ให้เวลาพี่แกหน่อยนะคะ พี่เขาเป็นคนเนี้ยบเพราะฉะนั้นหากไม่มั่นใจอะไรเขาจะยังไม่เดินหน้า แต่ถ้าชัดเจนขึ้นมาเมื่อไรนั้น พลับลูก หนูอยู่เฉยๆ เลยเดี๋ยวพี่ไม้แกจะจัดการเอง พี่เขาบอกมาแบบนี้แหละ 5555

พี่ไม้เนี่ยเป็นตัวละครที่เราวางคาแรคเตอร์ได้ชัดมากเลยนะ แต่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ อาจจะเพราะยังไม่ถึงเวลาที่สมควร

แต่อีกไม่นานทุกคนจะได้รู้แน่นอนว่าเวลาไหนที่บ่งบอกความเป็นพี่ไม้ได้เหมาะสมที่สุด ซึ่งก็คงอีกไม่นานนักหรอก บอกเลยว่าเวลาที่เหมาะสมของพี่แกเนี่ย ซี๊ดมาก!! (ย่อหน้านี้ส่งถึงคงหวัง cut โดยเฉพาะ ฮา)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด