☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀  (อ่าน 75977 ครั้ง)

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ลายที่ 19

Reward

(ตอบแทนพยายาม)



มนุษย์รับความเจ็บปวดได้แค่ไหน

หากมาพร้อมความกระสันซ่าน เจ็บร้าวเจือด้วยแรงขับราคะร้ายล้ำ ระบัดระบายความดำมืดในจิตใจ

โบยตีด้วยความใคร่ ความโหยหา... หื่นกระหายปลดปล่อย ราคะข้นคละคลุ้ง

รสชาติการถูกพันธนาการคือความเจ็บปวดแสนหวานที่ไม่อาจต้านทานได้ เนื้อตัวเปลือยเปล่าถูกขึงรัด แขน ขา ขดบิดผิดรูปผูกแน่นด้วยเชือกสีแดงตัดกับผิว โหนห้อยผิดหัวหางราวเครื่องบูชายันต์

“ร้อนไหม” เปลวเทียนพลิ้วไหวเหนือร่าง หลั่งน้ำตารินรดหัวไหล่ขาว หยดแล้วหยดเล่า เรียกเสียงครวญหวานอื้ออึง

ยิ่งดีดดิ้นยิ่งเสียดสีเนื้อผ้ารัดขึ้นรอยตามลายเชือกขึ้นสีช้ำ

“อือ...” แทบคลั่ง คล้ายกำลังมอดไหม้ด้วยไฟปรารถนาที่เร่งร้อนตามจำนวนน้ำตาเทียนที่หลั่งรดลงมาบนร่างกาย ยิ่งทุรนทุรายเมื่อของเล่นในกายถูกเร่งเร้า

เสียงเครื่องสั่นที่ซุกซ่อนในช่องทางบีบรัดสั่นกระตุก ทำงานแข่งกับเสียงกระเส่า

“เจ็บหรือเปล่า” การกระทำหยาบโลนทว่าไร้ถ้อยคำหยาบคาย บทบาทเจ้านายเลือดเย็นในคราบอ่อนโยนยิ่งกระตุ้นให้ทาสพยศตอบสนองโดยง่าย

“ไม่...”

ตามคำขอ เปลวเทียนไล้ลามลงต่ำ หลั่งหยดน้ำตาพร่างพราวลงแผ่นหลัง หน้าท้อง สะโพก ขณะที่มือหนึ่งลูบไล้ บีบเค้นบั้นท้ายที่ถูกตีจนแดงจัด เต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ

ตีซ้ำ

“อยากให้พี่หยุดไหม”

“อย่า...อึก... อย่าหยุด...” พึงพอใจในคำตอบจึงประคองใบหน้าให้เงยรับจุมพิตหวานเป็นรางวัล

“เด็กดี”

“วา...” ทาสตัวน้อยเงยหน้าสบตา ดวงตาชื้นฉ่ำเว้าวอนแววหวาน “ผม... สวยไหม”

ริมฝีปากบางยกยิ้มเลื่อนจูบบนหน้าผาก

“สวย... สวยมาก”

รสชาติเซ็กซ์ยิ่งทวีดุดันเมื่อของเล่นถูกแทนด้วยแก่นกายที่ตื่นตัวเต็มที่ กระแทกกระทั้นไร้ความปรานีหลังจากล้อเล่นจนพอใจ

ปลดปล่อยทั้งที่ยังห้อยโหนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทว่าไม่รู้สึกเติมเต็มจึงเรียกร้องตัวตนแข็งขึงของคนรัก อ้อนวอนจนถูกปลด ถูกคว่ำกดอยู่บนเบาะหนังคับแคบของเตียงเหล็กคับแคบห้องลับ

เสียงดังเอียดอาดตามจังหวะ

ร่างกำยำโถมรุนแรง บรรเลงรักคลุ้มคลั่งตามปรารถนา ระเริงร่างร่านราคะที่ตอบสนองแม้ยังอยู่ในพันธนาการ ไร้แรงต่อต้าน เสียงหวานเปล่งครางสุขสมยามตัวตนที่ขยายคับเสียดสีเข้าออก กดกระแทกลึกสุดทาง เน้นย้ำ ก่อนค่อยๆ ผ่อนปรนเมื่อช่องทางบีบรัดในจุดที่รู้ว่าน้องกำลังปลดปล่อยอีกครั้ง

รั้งรอให้ทรมานอย่างร้ายกาจ

“วา... วา...” อยากประกาศท้วง ทว่าทำได้เพียงเอ่ยเรียกซ้ำๆ น้ำตาหลั่งรินด้วยความอึดอัด ยิ่งได้ใจพี่วายกยิ้มกระซิบถามยั่วเย้า

“ครับ? ร้องจะเอาอะไรเด็กน้อย”

“วา... กว่านี้... แรงๆ ... อีก...” พยายามสวนกายเข้าออกแต่ไม่อาจถึงรสตามต้องการ

“หึ น่ารักจริงๆ” อสรพิษฉีกยิ้มกว้างมองสะโพกที่ขยับเร่งเร้าด้วยความมันเขี้ยว อดไม่ได้ที่จะก้มลงฝังคมฟันกัดหู กัดลำคอ กัดผิวกายขาว

ลิ้มรสจนพอใจ จึงพลิกกายนอนหงายจับร่างน้องนั่งคร่อมทั้งที่ตัวตนยังเชื่อมอยู่ในร่าง

“วา... อย่าแกล้ง” น้องส่งเสียงกระเง้ากระงอดอีกครั้ง หยาดน้ำเอ่อล้นด้วยความทรมาน ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยตัวตนที่แทรกลึกเข้ามาจนสุดจุดกระสัน ทว่าไม่ยอมขยับ

พี่วาหัวเราะ เอื้อมมือเกลี่ยใบหน้าน้องแผ่วเบา ก่อนแทรกปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าไปในโพรงปาก ให้ดูเม้ม ไล้เลีย เล่นล้อปลายลิ้น บดขยี้ปากฉ่ำ

เอ่ยคำสั่งด้วยเสียงกระซิบพร่า “ไหนหนูลองทำให้ดูหน่อยสิคะ”

เพียงเท่านั้นร่างเล็กตอบสนองขยับโหย่งถอนกาย ก่องทิ้งสะโพกกลืนกินตัวตนใหญ่คับ... ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ขยับเชื่องช้า ก่อนเร่งเร้าด้วยความปรารถนาทบทวี

อสรพิษแสยะยิ้ม พึงพอใจ ดวงตาคมฉายประกายวาววับขณะมองสรีระงดงามที่ขย่มระเริงรักอยู่บนร่างทั้งที่ถูกพันธนาการ

เชือกสีแดงยังคงรัดไขว้จนเกิดลวดลายแดงช้ำ เนื้อตัวที่เคยสะอาดสะอ้านเปรอะเปื้อนด้วยเหงื่อและคร่ำราคะ ผิวขาวเปลี่ยนสี เคลือบฉาบด้วยสีแดงฉานของน้ำตาเทียนแห้งกรัง

ร่างกายหมดจดเปล่งประกายราวประติมากรรม

งดงาม ยิ่งกว่างดงาม






เด็กน้อยรู้สึกตัวเพราะความรู้สึกอึดอัด ความอึดอัดระคนเสียดเสียวจากตัวตนที่ยังแช่ค้างอยู่ในช่องทาง

เพียงขยับกลับกระตุ้นจุดกระสัน

“พี่ครับ ลุกก่อน” สองมือดันร่างคนที่ยังนอนกอดจากด้านหลัง ค่อยๆ ถอนกายออกจากแก่นกาย

“อือ...” ทว่ากลับสวนลึกเข้ามาใหม่ราวแกล้งกัน

แรงที่เหลือเพียงน้อยนิดหมดสิ้น ร่างกายปวกเปียกได้เพียงร้องท้วงด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“พี่ครับ...อะ...อึดอัด”

“หนาวๆ ๆ”

ข้ออ้างชัดๆ ทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยเหงื่อ ทั้งเหนอะหนะทั้งร้อนรุ่มจนแทบจะละลาย

น้องเบ้หน้ากับเสียงงัวเงียงอแง ก่อนสะดุ้งหลุดครางเมื่อร่างกายแนบชิดตัวตนยิ่งแทรกลึกสุดทาง

“ผมไปเอาผ้าห่ม... อื้อ! พี่...อย่าขยับ”

“...”

“วา... ผมไม่ไหว” สุดท้ายเหลือเพียงเสียงแหบกระเส่าไร้กำลัง

“อะไรไม่ไหว หืม?”

“ไม่...”

“ไม่ก็ได้” ทำท่าจะถอนกาย ทว่าช่องทางกลับบีบรัด การกระทำสวนทาง

ได้ยินเสียงหัวเราะข้างหู รู้ทัน

สุดท้ายมือที่ผลักกลับบังคับให้ร่างกำยำกดสะโพกลงมาอีกครั้ง

“ไม่... อย่าเอาออกไป...”

“ว้า เอาใจยากจังเลย เด็กอะไร”

ทั้งคืน... ทั้งวัน...

คนโลภเอาแต่รีดเค้น ตักตวงกำไรทุกหยาดหยด ทดแทนเวลาที่เสียไป






เป็นปกติไปแล้วที่พี่วาจะถูกมองเป็นผู้ปกครองน้องป่าน

คล้ายคุณพ่อยังหนุ่มมายืนรอลูกชาย ไม่สิ เขายังไม่แก่ขนาดนั้น...

คล้ายพี่ชายที่แสนดี มารอน้องชาย ในวันสอบสัมภาษณ์ วันที่จิตใจของน้องหวั่นไหว อยากได้กำลังใจ แม้จะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเดินวนไปวนมาบริเวณสนามสอบก็ตาม

ถึงป่านจะบอกให้พี่วามาส่งแล้วกลับไปก่อน ทว่าสุดท้ายหลังสอบเสร็จก็ออกมาเห็นพี่วาที่นั่งไม่ติดยืนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เดิม

“เป็นไงๆ ทำข้อสอบได้มั้ย” ร่างสูงเบิกตากว้าง เดินเข้าไปช่วยน้องถือของที่มีอยู่น้อยนิดทันที

สีหน้าตื่นเต้นยิ่งกว่าคนเข้าสอบเองเสียอีก

“นี่พี่รออยู่ตรงนี้ตลอดเลยเหรอครับ”

“เปล่า พี่เดินไปเดินมานั่งไม่ติด แล้วเป็นไงๆ”

ป่านยิ้มขำ พยักหน้า “ทำได้ครับ”

การสอบสัมภาษณ์ไม่มีอะไรต้องกังวลแม้แต่น้อย แทบไม่ถือว่าเป็นการสอบด้วยซ้ำ เป็นการทำความรู้จักนักศึกษาก่อนเข้าเรียนจริงเสียมากกว่า

“เหรอๆ ดีจังๆ”

เห็นท่าทางลิงโลดของพี่วาแล้วอดขำไม่ได้ “ตื่นเต้นกว่าแม่ผมซะอีก”

“ตื่นเต้นสิ เนี่ยพี่เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ที่มานั่งรอเลย ภูมิใจในตัวลูกมาก ลูกพ่อทำได้เหรอ ดีจัง”

“หึ งั้นแด๊ดดี้ต้องให้รางวัลผมแล้วครับ”

“รางวัลเหรอ ไม่ต้องห่วง แด๊ดดี้เตรียมของขวัญไว้ให้คนเก่งที่บ้านแล้วค่ะ : ) ”

“...” ทั้งที่เป็นคนเสนอเอง แต่พอได้รับการตอบสนองเป็นรอยยิ้มร้ายกาจแววตาแพรวพราวจริงจังน้องกลับชะงัก กลืนน้ำลายอย่างอยากลำบาก

“อะไร ทำไมหนูทำหน้าเหมือนไม่ไว้ใจแด๊ดดี้อย่างนั้นล่ะคะ”

“ครับ ไม่ไว้ใจสักนิดเลยครับ”

ต้องย้ำหรือเปล่าว่าครั้งล่าสุดที่พี่วาให้รางวัล ป่านระบมไปทั้งตัวลุกไม่ขึ้นเดินเหินไม่สะดวกอยู่ตั้งหลายวัน






มนุษย์รับความเจ็บปวดได้แค่ไหน

หากเป็นการป่วยไข้ผ่ายผอมด้วยโรคร้าย

เป็นปกติไปแล้วที่แม่จะพาป่านไปเยี่ยมพ่อในวันหยุด สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ตามความปรารถนาของพ่อที่อยากใช้เวลาร่วมกันทดแทนเวลาที่เสียไป ป่านไม่เคยทวงถาม ทว่าก็ไม่อาจปฏิเสธได้ อย่างน้อยก็ได้ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ ตามอาการ และคราวนี้ป่านก็มีข่าวดีไปบอกท่าน

เมื่อมีหัวข้อสนทนา บทสนทนาจึงลามเรื่อยทอดต่ออย่างเป็นธรรมชาติ ป่านแทบไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนเมื่อก่อน

“วันนี้เป็นยังไง” เป็นธรรมดาเช่นกันที่วันไหนรู้ว่าน้องไปเจอพ่อกลับมาพี่วาจะเอ่ยถาม

แปลกดีที่ป่านไม่รู้สึกว่ามันเป็นการก้าวก่าย กลับเล่าทุกอย่างให้ฟัง

“เขาก็...ถามว่าผมกับแม่สบายดีไหม” ในหัวเรียงลำดับบทสนทนาจากเรื่องง่ายๆ

“...”

“แล้วก็ เขาชอบรอยสักผม”

“ดีแล้วนี่” พี่วายิ้ม ดังน้องลงมานั่งตัก ฝ่ามือลูบเล่นรอยสักบนขาอ่อนขาว

จากที่ป่านเล่าแม้จะไม่เคยเจอกันสักครั้งแต่เขาก็พอจะเดาออกว่าพ่อของป่านเป็นคนใจดี เขาไม่มีหน้าที่ตัดสินสิ่งที่ท่านทำในอดีต แต่ปัจจุบันถ้าท่านทำดีกับป่านเขาก็พอใจ

“เขาบอก... ว่าผมไม่จำเป็นต้องเรียนหมอก็ได้” ปล่อยให้น้องเล่า ขณะที่ยังกอดไว้ ริมฝีปากแตะค้างที่ขมับ รับฟังด้วยความใส่ใจ “ผมเลยตอบว่าไม่ใช่เพื่อเขา เพราะแม่ต่างหาก...”

พอเอ่ยถึงตรงนี้ป่านก็หันมาสบตา เบ้หน้า

“ผมใจร้าย...” มันอาจเป็นทิฐิที่ยังเหลือคั่งค้าง หลายครั้งป่านรู้สึกว่าตัวเองพูดไม่ดี ทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย หลายครั้งจึงอดรู้สึกผิดไม่ได้ แต่พี่วารู้ว่าน้องไม่ได้มีเจตนา

“ชู่ว ไม่หรอก เขารู้แน่ว่าเราไม่ได้หมายความแบบนั้น” กดจูบปลอบประโลมให้คลายความคิดแง่ร้าย

ป่านจึงค่อยๆ ยิ้มออก ก่อนเงียบไป ร่างบางหมุนตัวเข้าหาเพื่อกอดกลับ ซบหน้าลงกับอกกว้าง

“เขารู้ว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย” น้ำเสียงเจือลำบากใจ ขณะที่พี่วาเลิกคิ้ว ไม่คิดว่าน้องจะบอกเร็วขนาดนี้

“...”

“เขาอยากเจอพี่...”

“...” เอ๊ะ...

“แต่ถ้าพี่ไม่อยากไป...”

เดี๋ยวสิ ก่อนน้องจะคิดเตลิดไปมากกว่านี้พี่วาก็ผุดลุกขึ้นยืนทั้งที่ยังกอดน้อง หน้าตาตื่น

“สูท สูทพี่อยู่ไหนแล้วนะ”

จากที่เคยลังเลลำบากใจ กลัวว่าพี่วาจะไม่พร้อมป่านจึงโล่งใจ

ดวงตากลมโตมองคนรัก กอดแน่นซึมซาบความรู้สึกโชคดีที่ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของกันและกัน อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อรู้สึกได้ว่าเรื่องราวหลายๆ อย่างในชีวิตกำลังคลี่คลาย




#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

แทบตายกับnc ไม่เอาแล้วนะ BDSMอ่ะ 5555

ผิดพลาดตรงไหนบอกได้เลยนะคะ

ส่วนคำผิดเดี๋ยวมาเช็กให้อีกทีน้า



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

รักมากๆ

-Martian-



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2019 03:35:54 โดย makok_num »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คนที่ชอบ​ SM  บอกเลยร่างกายจะมีความต้านทาน​ความเจ็บปวดมากๆค่ะ​ ฟื้นตัวแบบไวเว้อ วันนี้ตีจนแดงมีรอยเขียวช้ำแต่วันสองวันก็หายเป็นปกติแล้ว(ประสบการณ์​จากคนรู้จักเลยค่ะ)​ ** อย่าเล่นพิเรนทร์​แบบดัดท่าดัดทางจนกลายเป็นข่าวนะคะพี่วา

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เป็นรางวัลที่ร้อนระอุมากเป็นncที่ภาษางดงามมากมายไม่รู้ว่านักเขียนต้องกลั่นกรองเรียบเรียงขนาดไหนถึงได้สละสลวยขนาดนี้ขอบคุณนะคะเราแอบรู้สึกดีใจไปกับน้องด้วยขอเป้นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ุอิพี่วาาาา น้องชุ้นช้ำหมดแล้วววว สะบัดแส้ใส่โต๊ะ

ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อมกกกกกกกกก  :katai1:

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
อมก น้องช้ำหมดแล้ว /แต่น้องชอบ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เขาเป็นคู่แท้จริงๆ น้องน่ารักมาก  o13    :pig4:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ฉาก sm ช่างสวยงามมาก ปกติไม่ชอบเลย รักวานะ มีความพร้อมกับการพบเจอ พ่อแม่ของน้องได้ตลอดเวลา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
น้อง 18 รึยังคะเนี่ยย คุณตำหนวดคะ 555

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โหยยยย รางวัลน้องสอบติดของพี่วาคือดีงามมากๆๆๆ เป็นBDSMที่ไม่รู้สึกกลัวเลย ยิ่งคนพี่ถามเป็นห่วงน้องตลอด คือดจีย์ย์ย์ย์ ประทับใจ o13 :katai2-1:

เมื่อพ่อน้องอยากเจอพี่วาแล้ว ไปค่ะ!! แด๊ดดี้ไปตัดสูทใหม่เลยค่ะ!! ไม่ต้องหาของเก่าแล้วแด๊ด ว่าที่ลูกเขยจะเปิดตัวทั้งที ซื้อใหม่เลยค่าแด๊ดดดดดดของน้องป่าน :katai3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2019 00:45:46 โดย Majariga »

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
วาไม่ถนอมน้องเลย
น้องก็ยั่วเหลือเกิน
 :hao6:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เข้าตาจน พี่วาต้องร้องเรียกหาสูทตัวเก่งทุกครั้งเลย ไอเทมประจำตัว ใส่แล้วเป็นได้ตั้งแต่แกร๊บจนถึงว่าที่ลูกเขย 5555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เผ็ดเด้อ เผ็ดมากค่ะ พ่นไฟได้แล้ว
โอ๊ยยย ใจรับไม่ไหว ทำไมร้อนแรงกันได้ขนาดนี้
วาเป็นไม่เท่าไหร่ แต่ป่านเป็นด้วย ชอบล่ะสิ
ในโหมดของเด็กน้อยผู้เงียบขรึมและเรียบง่าย
ยังมีความลึกลับ และร้อนแรง ซ่อนอยู่ 5555

เอ็นดูป่าน น้องคิดมาก คิดไปเองเยอะเลย
แต่ก็นะ ความกกดันไม่เข้าใครออกใคร
ดีที่แม่เปิดใจกับป่าน และวาอยู่กับน้องเสมอ

วาเป็นคนบ้าบอที่เอาใจใส่น้องมาก ดูแลเก่ง
ตื่นเต้นล่ะสิ จะได้เจอพ่อตา

ออฟไลน์ bowbeauty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เอาเถอะ มันเหมาะกับน้องจริงๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :katai5: มารอจ้ะ

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ลายที่ 20

Sunshine

(ทิวากรอ่อนหวาน)


มีเพียงความสุขุมมุ่งมั่นสะท้อนในแววตาของพี่วา



ป่านมองเงาในกระจกของคนรัก นึกประหลาดใจที่พี่วาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากเพียงเปลี่ยนเสื้อผ้า จากเสื้อยืดกางเกงยีนธรรมดากลายเป็นเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสีเข้ม แปลกตาทว่าดูดีจนป่านไม่อาจละสายตา



เด็กน้อยลอบยิ้มมองฝ่ามือที่จับแขนเสื้อพับขึ้นแล้วคลายออกคล้ายลังเลว่าควรปิดหรือเปิดเผยรอยสักบนท่อนแขนกำยำ



“ไม่เห็นต้องมากพิธีเลยครับ” ป่านตัดสินใจให้ ขยับเข้าไปยืนหน้ากระจกข้างกัน สองมือบรรจงพับแขนเสื้อเป็นทบเท่ากันไปจนถึงข้อศอกอวดสวนสวยบนแขนขวา ก่อนย้ายไปพับอีกข้างพลางปลดกระดุมคอเสื้อสองเม็ดบนเพื่อโชว์รอยสักที่ต้นคอด้วย



แบบนี้เหมาะกว่าเยอะเลย



“ก็ไปเจอพ่อตาทั้งที” พี่วาหัวเราะ รู้ว่าไม่จำเป็นต้องสำรวจกระจกอีกแล้ว เพียงสบตาน้องก็รู้ว่าตัวเองคงดูดีอยู่พอตัว ดวงตากระต่ายน้อยจึงวิบวับยั่วยวน



แขนข้างหนึ่งยกขึ้นรวบเอวบางแนบร่างจรดหน้าผากแตะหน้าผากระลมหายใจรินรดกันและกัน



“พ่อตาเลยเหรอครับ ขี้โม้จัง” น้องยียวนกลับ มือหนึ่งยกขึ้นแตะรอยสักบนแขนไล้ปลายนิ้วเล่นตามแนวเส้นเลือดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถูกจับมือไว้ ฝ่ามือใหญ่ประสานนิ้วมือทั้งห้าพลางใช้ปลายจมูกเขี่ยปลายจมูกเรียกร้องความสนใจ ป่านเงยหน้าขึ้นสบตาด้วยรอยยิ้ม เผยอริมฝีปากคลอเคลียหยอกเย้าแตะเพียงผ่านล่อหลอกอยู่อย่างนั้นก่อนต่างหัวเราะออกมาเบาๆ



“ขอกำลังใจหน่อย”



บรรจงจุมพิตแผ่วเบา หวานล้ำ โอบอุ้มมอบไออุ่นแก่กันและกัน









พ่อดูผอมลงกว่าครั้งล่าสุดที่ได้เจอมาก ใบหน้าซูบตอบทว่ายังเจือรอยยิ้มยินดีเมื่อได้เจอลูกชายก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเมื่อได้เห็นร่างสูงของคนที่เดินตามมา



“สวัสดีครับ” น้องป่านบอกว่าพี่วาเป็นช่างสัก อายุห่างจากตัวเองถึงแปดปี พอได้เจอแล้วพี่วาก็ดูโตกว่าป่านมากจริงๆ



ใบหน้าคมคายหล่อเหลา ดวงตาเรียวคมเกือบจะดูแข็งกร้าวทว่าแฝงความสุขุมเสียมากกว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ จากประสบการณ์การเจอผู้คนอันหลากหลายทำให้พ่อรับรู้ได้ถึงความจริงใจเพียงแวบแรก เขารับไหว้ เอื้อมมือหยิบของฝากที่แฟนลูกชายอุตส่าห์หอบมาให้



“ตามสบายๆ” เอ่ยได้เพียงเท่านั้นก็หยุดเพื่อไอออกมาหลายครั้ง ป่านขมวดคิ้ว ไม่ได้คิดไปเองจริงๆ ว่าสีหน้าพ่อไม่สู้ดีนัก แม้จะพยายามปั้นยิ้มทว่าลมหายใจติดขัดอย่างเห็นได้ชัด



บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบสักพัก ก่อนที่พี่วาจะยื่นแก้วน้ำข้างตัวให้คนป่วยดื่มแล้วเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา



“บ้านน่าอยู่มากเลยนะครับ” บ้านริมน้ำที่เคยทรุดโทรมดูสะอ้านสะอ้านและอบอุ่นขึ้นเมื่อมีผู้อาศัย พ่อเปลี่ยนโถงและห้องรับแขกเป็นแกลเลอรี่ย่อมๆ ผสมกับห้องทำงาน



ก่อนหน้านี้ป่านมีส่วนร่วมในการช่วยจัดโน่นนี่บ้าง เห็นแล้วก็อดชื่นชมไม่ได้ ดีใจที่พ่อได้อยู่ท่ามกลางสิ่งที่รักแม้ร่างกายไม่เอื้ออำนวย



“อยากเห็นข้างในไหมล่ะ” เสียงที่ยังแหบแห้งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะผายมือชวนพี่วาไปยังส่วนของห้องทำงาน ป่านเคยเข้าไปเพียงหนึ่งครั้งรู้ว่าในนั้นมีภาพวาดของพ่อเรียงรายอยู่เยอะมาก พี่วาคงชอบใจ



แต่ก่อนที่ป่านจะตามเข้าไป พ่อกลับหันมายิ้มให้



“ป่านอยู่ช่วยลิซ่าเตรียมข้าวเย็นดีกว่า” ป่านเลิกคิ้วมองลิซ่าหรือก็คือภรรยาใหม่ของพ่อที่ยิ้มรับ แม้จะยังงุนงงทว่าก็ยอมพยักหน้าเดินตามลิซ่าเข้าไปในครัว ไม่วายหันกลับมาสบตาพี่วาที่เพียงยิ้มให้แล้วพยักหน้าเบาๆ



เป็นอันเข้าใจว่าพ่อคงมีเรื่องอยากคุยกับพี่วาตามลำพัง









ในสตูดิโอมีภาพที่ยังวาดไม่เสร็จค้างอยู่บนเฟรมผ้าใบ เป็นใบหน้างดงามของเด็กผู้ชายที่พี่วารู้ดีว่าเป็นใคร



“ผมไม่เคยรู้เลยว่าป่านชอบผู้ชาย” น้ำเสียงแหบแห้งเริ่มต้นบทสนทนา ดวงตาอิดโรยสำรวจร่างสูงอีกครั้ง ก่อนหัวเราะเบาๆ “แต่จะรู้ได้ยังไงกัน จริงไหม”



วาเพียงยิ้มรับ เขาเบือนหน้ากลับไปยังภาพวาด มองดวงตาสุกใสที่ถูกระบายอย่างสมจริงราวมีชีวิตแล้วอดเอ่ยชมไม่ได้



“ภาพสวยมากเลยครับ” ป่านเคยบอกว่าพ่อเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ และผลงานที่รายล้อมอยู่รอบห้องก็ช่วยยืนยันได้อย่างดี



“ผมไม่แน่ใจว่าจะวาดภาพนี้ได้เสร็จไหม” น้ำเสียงเจือขบขันทว่ามือที่สั่น เสียงไอ ร่องรอยบนผ้าเช็ดหน้าที่บ่งบอกอะไรได้มากมาย



วาได้แต่ขมวดคิ้วพยายามไม่ให้ตัวเองแสดงสีหน้าสงสารออกมา



“ป่านคงเคยเล่าเรื่องครอบครัวของเราให้ฟังแล้วใช่ไหม” ปล่อยให้คนหนุ่มได้สำรวจผลงานศิลปะรอบห้อง ก่อนที่ร่างผ่ายผอมจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจคล้ายเหนื่อยเต็มที



“ครับ” พี่วานั่งลงตามสายตาสบดวงตาอิดโรยด้วยความจริงจัง



สัมผัสได้ว่าคนตรงหน้าตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นคงไม่เอ่ยปากบอกว่าอยากเจอเขา



“ตอนนั้นผมคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงแต่ชื่อเสียง คิดถึงความสำเร็จ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้พวกเราสุขสบาย”



“...”



“แต่นานวันเข้าเส้นทางมันยิ่งห่างไกล ผมรู้ว่าตัวเองกำลังจะล้มเหลว และกำลังจะกลายเป็นภาระ” อาจอ้างไม่ได้ว่านี่คือเหตุผล แต่เสาหลักของครอบครัวที่กำลังสั่นคลอนยากที่จะปักหลัก ไม่อยากเหนี่ยวรั้งให้ทุกคนจมลงไปพร้อมกัน “ตอนนั้นผมคิดว่าต้องเริ่มใหม่ ผมต้องปล่อยมือ ให้พวกเราต่างก้าวไปข้างหน้าได้”



“นั่นไม่มีเหตุผลเลย” วาเอ่ยออกไปตามตรง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “ป่านกับแม่รอคุณอยู่”



เขาเข้าใจหัวอกคนที่ไม่อาจเดินตามเส้นทางฝัน ทว่ามันอาจไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายในชีวิตก็ได้ไม่ใช่หรือ?



พ่อของป่านหัวเราะ ก่อนจะไอออกมาโขลกใหญ่



“จริงของคุณ” คนป่วยสูดหายใจพลางยิ้ม สายตาของเขามองไม่ผิดจริงๆ ที่ว่าแฟนของลูกชายดูจะเป็นคนจริงใจ “แต่มันสายเกินไปแล้ว”



“...”



“ตอนนั้นผมหลงทางและโดดเดี่ยว ทุกอย่างเหมือนไม่มีทางออก แล้วเธอก็เข้ามา เธอเป็นเหมือนแสงสว่างและผมก็ตัดสินใจเลือกทางอื่นที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้”



การนอกใจ



วาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ ในใจนึกตำหนิ กล่าวโทษแทนป่านกับแม่ที่ต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ชายตรงหน้าคือคนเห็นแก่ตัวโดยแท้ ทว่าความคิดทั้งหมดก็มลายหายไปเพียงเสี้ยววินาที



“ผมจึงไม่ได้กลับมาที่นี่เพื่อขอการอภัย” เขาทำผิด เขารู้ตัวดี และเสียใจ ต่อให้แม่กับป่านจะให้อภัยและไม่คิดกล่าวโทษด้วยจิตใจที่ดีงามอ่อนโยนเกินกว่าจะฝังใจโกรธเคือง เขาก็คิดว่าตัวเองกำลังได้รับบทเรียนสาสมอย่างที่ใครก็ไม่อาจช่วยบรรเทาได้



“ผมกลับมาเพื่อบอกลา”



ความตาย









อาหารเย็นถูกจัดเตรียมพร้อมไว้ก่อนที่ป่านกับพี่วาจะมาเสียอีก ดังนั้นเด็กน้อยจึงไม่มีหน้าที่อะไรมากไปกว่าวางจานอาหารลงบนโต๊ะกินข้าว และปลีกตัวออกมานั่งรับลมที่ศาลาท่าน้ำเหมือนเคย



ไม่รู้ว่าพี่วากับพ่อคุยอะไรกันตั้งนานสองนาน ระหว่างที่ป่านปล่อยใจไปกับสายน้ำไหลเอื่อยชวนสงบร่างสูงก็ทรุดตัวลงมานั่งข้างๆ



“เขาพูดอะไรบ้างครับ...” ป่านรีบหันขวับกลับไปตั้งใจจะพรั่งพรูคำถาม ทว่าพอเห็นมุมปากที่แตกขึ้นสีช้ำของพี่วาก็ได้แต่ชะงัก เบิกตากว้าง “เดี๋ยวนะครับ หน้าพี่ เขาชกพี่เหรอ ให้ตายเถอะ! เขาไม่มีสิทธิ์...”



น้ำเสียงกับท่าทางโกรธเคืองจะไปเอาเรื่องทำให้พี่วาต้องเอื้อมมือไปคว้าเอวน้องไว้ รั้งลงมานั่งตักปลอบขวัญ



“ชู่วๆ ไม่ๆ นี่ความผิดพี่เอง” น้ำเสียงทุ้มกลั้วหัวเราะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร “เขาขอให้พี่ถนอมเราไว้ ไม่ล่วงเกินจนกว่าจะเรียนจบ แต่พี่บอกว่าไม่ทันแล้ว ก็เลยโดนหมัดสวนกลับมา”



ที่จริงคงเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบด้วยความตกใจมากกว่า เพราะหลังจากใช้แรงแทบทั้งหมดชกเขาพ่อของป่านก็หัวเราะออกมา เอ่ยทีเล่นทีจริงว่าสามารถแจ้งตำรวจจับเขาได้



แต่วารู้ดีว่าท่านไม่มีทางทำอย่างนั้น เพื่อเห็นแก่ความสุขของป่าน และอย่างที่น้องบอก ท่านคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายการตัดสินใจที่ป่านกับแม่เห็นดีเห็นงามแล้ว



“พี่...” เด็กน้อยเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าบทสนทนาของทั้งสองคนจะเจาะจงไปถึงขั้นนั้น



พี่วาหัวเราะ ไม่บอกน้องว่ากระทั่งหม่ามี้ก็รับรู้แล้วเช่นกัน



ยังคงแกล้งเอ่ยขบขัน “มีแฟนน่ารักพ่อตาก็ต้องหวงเป็นธรรมดาอ่ะเนอะ”



ป่านเบ้หน้า ก่อนสีหน้าจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เบี่ยงประเด็นคำถาม “แล้วเขาพูดอะไรอีกหรือเปล่าครับ”



“เขาฝากให้พี่ดูแลเรา อย่าทำให้เราร้องไห้” ว่าพลางโอบกอดน้องไว้ “เขาเป็นคนดีนะ”



“ครับ เป็นคนดี... แต่ไม่ใช่พ่อที่ดี” น้ำเสียงนั้นช่างแสนงอน ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “แต่ผมไม่โกรธหรอก สิ่งที่เขาทำผมให้อภัยทุกอย่าง... ผมเป็นห่วงเขา ผมรู้ตัวว่ายังรักเขา”



พี่วายิ้มออกมาพลางกดจูบขมับน้องซ้ำๆ จับเด็กน้อยในอ้อมกอดโยกซ้ายขวาเบาๆ คล้ายกำลังปลอบประโลมปกป้องจากภัยอะไรก็ตามที่จำเข้ามาทำให้จิตใจแสนบริสุทธิ์ดวงนี้บอบช้ำ



“เด็กดี”









มีเพียงความอุ่นใจสะท้อนในแววตาของป่าน



มื้อเย็นในบ้านริมน้ำผ่านไปด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่าทุกครั้งมาก ป่านไม่เคยรู้เลยว่าพี่วามีความสามารถในการคลายบรรยากาศจนได้เห็นว่าเขาเป็นคนทำลายความเงียบระหว่างมื้อเย็น



ถามประสบการณ์ทำงานของพ่อ เอ่ยชื่นชมเรื่องที่ป่านติดหมอ แม้กระทั่งลิซ่าก็ได้รับความใส่ใจให้เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนา



ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทิวากรอ่อนแสงอ่อนโยนได้ถึงเพียงนี้



จากที่เคยขึ้งขวางเกรี้ยวกราด เป็นอาทิตย์เที่ยงวัน กลับกลายเป็นแสงเช้าแดดอุ่นโอบอุ้มทุกสรรพสิ่งโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ



ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงเพราะต้องการปกป้องเคียงข้างเป็นไออุ่นแก่กระต่ายน้อยน่ารักเพียงตัวเดียวเท่านั้น



“โกรธพี่หรือเปล่าที่ตอบพ่อไปแบบนั้น” คำถามถูกเอ่ยทดแทนเสียงหายใจหอบหนัก ร่างกำยำพลิกหงายก่อนจะเป็นฝ่ายรั้งร่างบางขึ้นมาเกยก่ายตัวเองไว้



ร่างกายชื้นเหงื่อเจือกลิ่นราคะกอดรัด แนบชิด ซุกซบในอ้อมกอดที่ยังเต็มไปด้วยไอร้อนจากกิจกาม



“เรื่องไหนครับ” ถามกลับ ใบหน้าแนบอกเปลือยเปล่าฟังเสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวอยู่ภายใน ไม่แพ้หัวใจตัวเองที่กำลังโครมครามไม่แพ้กัน



รสชาติเซ็กซ์แสนเรียบง่ายที่ไม่ได้ลิ้มลองบ่อยนักแม้ไม่เติมเต็มล้นปรี่ทว่ากลับให้ความรู้สึกสุขสมเกินบรรยาย



“ก็เรื่อง...” ทิ้งประโยคไว้เพียงเท่านั้น แต่น้องก็เดาได้ ใบหน้าที่ยังคงร้อนจัดยิ่งแดงแจ๋ เงยสบตาคนพี่แล้วได้แต่อึกอัก เบือนหน้าหนีลงซบอกอีกครั้ง



“ปะ... เปล่า แต่เรื่องแบบนี้มัน... พูดได้เหรอครับ” นานทีเดียวกว่าจะยอมตอบ น้ำเสียงไม่แน่ใจ พี่วาหัวเราะเบาๆ ประคองใบหน้าป่านให้เงยขึ้นสบตาอีกครั้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“พี่ไม่อยากโกหก พี่รักเรา ถ้าพ่อกับแม่จะเอาเรื่อง พี่ก็พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง”



ป่านได้แต่เม้มปากด้วยความเขินอาย แต่ไม่ทันไรก็ขยับขึ้นมาจุมพิตริมฝีปากพี่วาแผ่วเบา เอ่ยด้วยแววตาจริงจังบ้าง



“ผมก็รักพี่ พวกเขาไม่มีทางเอาเรื่องพี่หรอกครับ”



“หืม? เมื่อกี้พี่ได้ยินว่ารัก” แต่คนพี่กลับแกล้งทำเสียงไม่เชื่อหูน่าหมั่นไส้ ป่านเลยเบ้หน้างอแง



“ไม่เคยพูดเหรอครับ”



“ไม่เคย ไหนพูดอีกทีซิ” ยังจะตีหน้ามึนโกหกแผนสูง กระชับอ้อมแขนดึงน้องขึ้นมานอนทับร่าง ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน ดวงตาอสรพิษเจ้าเล่ห์แพรวพราว



“โธ่ พี่ครับ”



“นะๆ พูดอีกทีๆ พูดอีกทีได้รึเปล่า” ก่อนจะเปลี่ยนเป็นออดอ้อนงอแงกลับ



“หึ” ป่านหลุดขำ เบ้ปากแต่ยอมตามใจ ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บริมฝีปากอีกครั้งพลางกระซิบแผ่วเบา “รัก...”



“...”



“รักพี่วานะครับ”



ดวงตาสบตา เห็นริ้วความเขินอายระเรื่ออยู่บนใบหน้าคมก่อนจะถูกกลบเกลื่อนด้วยถ้อยคำน่าหมั่นไส้เช่นเคย



“หูย ยังกับใจจะละลาย ให้ตายพรุ่งนี้พี่ก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจแล้วอ่ะ”



“เฮ้อ ก็ต้องเวอร์ตลอดเลยนะครับ”










#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

หายไปเคลียร์เรื่องสั้นมาค่ะ แพ็คหนังสืออย่างหักโหมหลังหัก และแอบติดนิยาย 5555
ปล. เหลืออีก 3 ตอนก็จบแล้ววว แอบใบว่าเหลือแต่ความหวานๆ เผ็ดๆ ล่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

รักมากๆ เลย

-Martian-



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2019 15:42:10 โดย makok_num »

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
มันสุขใจ ไตละลายไปกะพี่วาน้องป่าน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ก่อนพ่อตาจะแจ้งจับ เลาจะแจ้งจับก่อนนน

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อบอุ่นกว่าพระอาทิตย์ก้อพี่วาแล้วเนอะ   :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ Zestful

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หวานจ๊นนนนนนนนน เขินไปหมดแล้วจ้าาาาา  :jul1:

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
น่ารัก เขินไปหมด

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
งืออ เด็กดี...
เหมือนมีเสียงออกมาจากตัวหนังสือ  :o8: :man1:

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ลายพิเศษ 3

Naughty

(ซนสะพรั่ง)





วันนี้ร้านสักเงียบเหงากว่าทุกวัน



เพราะเป็นวันอาทิตย์ลูกค้าจึงไม่เข้าร้าน ทว่าสาเหตุแท้จริงคือหุ้นส่วนที่ถือโอกาสที่แฟนเด็กปิดเทอมลางานไปเที่ยวฉลองตั้งแต่เมื่อวานต่างหาก



โมโจก็ไปด้วย แฟนตัวเองก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ร้านสักจึงเหลือเพียงเฮียเดย์กับสามสาวที่คอยมาคลอเคลียร้องเหมียวๆ ราวกับจะช่วยคลายเหงา



“วาไม่อยู่เหนื่อยแย่” หลังจากทำความสะอาดสตูดิโอ เช็กอุปกรณ์ ให้อาหารแมวแล้วนั่งๆ นอนๆ จนค่ำ คนที่กำลังคิดถึงก็เฟสไทม์มาเยอะเย้ยคนเหงา



จริงอย่างที่หลินว่า ปกติอยู่บ้านสองคน ไอ้วากับเขาก็สลับกันทำหน้าที่ ตื่นเช้าออกไปซื้อข้าว ให้อาหารหมาแมว รดน้ำต้นไม้ ก่อนจะช่วยกันเปิดร้าน ดูแลลูกค้า อยู่ด้วยกันรู้ใจกันจนถูกแซวว่าเหมือนผัวเมียยิ่งกว่าผัวเมียแท้ๆ ตั้งหลายครั้ง



แต่เรื่องของพรุ่งนี้น่ะช่างมันก่อนเถอะ เรื่องที่ทำให้เขานิ่วหน้าอยู่ตอนนี้คือคนปลายสายต่างหาก



“อือ ไปใส่เสื้อผ้าดีๆ ไป” ไอ้เสื้อคลุมซีทรูลูกไม้สีเนื้อแสนเบาหวิวนั่นมันอะไรกัน ใส่ราวกับไม่ใส่ ผ้าบางจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน



อย่างกับจงใจยั่วให้คนไกลคลุ้มคลั่ง



“ไหนบอกว่าชอบลูกไม้ อุตส่าห์เลือกให้เข้ากับลายสักด้วย น่ารักจะตาย” และคงตั้งใจจริง เจ้าตัวถึงได้ยิ้มกริ่มแววตาแพรวพราว



ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะจับตีให้ก้นลาย แต่เพราะทำอะไรไม่ได้เขาจึงได้แต่หัวเราะ มองร่างซุกซนเดินไปหยิบจานผลไม้กับแก้วนมมานั่งหน้าจอ ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเห็นเนื้อหนังภายใต้ผ้าพลิ้วบางชัด

กำหนัดแล่นพล่าน ความคิดถึง ความโหยหา ตีรวนจนอดไม่ได้ที่จะถาม



“แล้วเมื่อไหร่จะมา” กว่าไอ้วาจะกลับก็อีกตั้งสามวัน ตอนกลางวันคงพอทำตัวให้ยุ่งได้ แต่กลางคืนจะทนเหงายังไงไหว



อยากเจอแทบแย่แล้ว อยากกอด อยากหอม อยากฟัด อยากสูดกลิ่นยั่วยวนที่แทบจะทะลุจอออกมาให้หนำใจ



“ไม่เอาอ่ะ กลัวโดนคนใจร้ายรังแก” เล่นลิ้น แกล้งเบ้หน้า เตือนความจำถึงตอนก่อนจากกันที่มีเหตุทะเลาะตามประสา เรื่องเล็กน้อยจนงี่เง่า ทว่าพอเห็นสีหน้างอแงแล้วนึกหมั่นไส้



สุดท้ายไม่รู้มีปากเสียงกันท่าไหน ถึงได้จบที่ปากประกบปาก ร่างประสานร่าง รุนแรงร้อนเร่า มัวเมาในรสกามเสียจนเช้า ซ้ำแล้วซ้ำอีกเสียจนอีกคนร่างช้ำ ยังหลงเหลือร่องรอยที่คอและเลือนรางใต้ผืนผ้าบาง



“จำไม่ได้เหรอครับ น้องนั่นแหละร้องให้พี่รุนแรงอีก” เขาตอบกลั้วขำ ทำดวงตาวาววับกลับ



“...” ดอกไม้ระเริงลมเต้นระริกหน้าแดงซ่าน ก่อนจะเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง



“อิจฉาป่าน”



เขาเลิกคิ้วถาม “อยากไปเที่ยวบ้าง?”



จะว่าไปก็นานแล้วที่ไม่ได้หาโอกาสไปเที่ยวกันสองต่อสอง เพราะที่ร้านยุ่งมาก หลินเองตั้งแต่รับช่วงกิจการจากที่บ้านก็ไม่ค่อยว่าง



แต่คนเป็นแฟนกลับส่ายหน้า “เปล่า ผมน่าจะเรียนหมอ”



“...” เขาไม่เข้าใจ กระทั่งเสียงหวานขบขัน



“อยากเล่นเข็มฉีดยา” เอ่ยน้ำเสียงแพรวพราว



“หึ เบื่อเข็มสักแล้วหรือไง” เข็มสักที่ไม่ใช่เข็มสัก บทสนทนาเคลือบอาบด้วยความหมายสองแง่สองง่ามชวนหวามไหว



“อืม... มันก็ขึ้นอยู่กับว่า เข็มของพี่ จะทำให้ผมสนุกได้แค่ไหน” ยั่วหยอกยวนเย้า ไม่มีใครยอมแพ้ใคร ดวงตายังคงประสาน แผ่กลิ่นกรุ่นความปรารถนาผ่านสายตา



ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหว แสดงอารมณ์หื่นกระหายผ่านเสียงกระซิบพร่า



“ไหน ใต้ลูกไม้มีอะไร ขอพี่ดูหน่อยซิ” คำขอมากกว่าคำสั่ง รอยยิ้มร้ายกาจ จงใจมองด้วยสายตาทะลุผ้าผ่อน มองยอดอกสีหวาน ถึงหน้าท้องที่ถูกซ่อนไว้ต่ำกว่าระดับของกล้อง



บ่งชัดว่าอยากเห็นมากกว่านี้ แล้วมีหรือที่อีกฝ่ายจะไม่ตอบสนอง เพราะสายตาซุกซนก็จับจ้องอยู่บนเรือนายท่อนบนเปลือยเปล่าของเขาด้วยสีหน้าเดียวกัน ราวกับตกอยู่ใต้มนต์สะกดหลงใหล แค่วาดจินตนาการถึงเซ็กซ์ยามห่างไกล ก็แทบคลั่ง



“หึ เพราะเห็นใจที่ต้องเฝ้าร้านคนเดียวหรอกนะเลยตามใจ” ยั่วยิ้มขณะที่ยกขาชันเข่า ขยับกล้องจนเห็นกระทั่งรอยสักที่ข้อเท้าขาว สองขาแนบชิดก่อนค่อยๆ อ้ากว้าง



อย่างที่คาด ภายใต้ลูกไม้โปร่งบางมีเพียงร่างขาวเปลือยเปล่า



“อ้ากว้างกว่านี้หน่อยสิ”



“แบบนี้เหรอ...” แหวกกางตามเสียงกระซิบเรียกร้องอย่างเอาใจ พอใจเมื่อเห็นฝ่ามือหนาเลื่อนต่ำปลดกางเกงนอนพลางปรับมุมกล้องให้เห็นท่อนล่าง เห็นแก่นกายที่กำลังขยายยั่วไม่แพ้กัน ตาเยิ้มหวานมองมือที่กำรูดเป็นจังหวะ เชื่องช้า... จินตนาการถึงความอุ่นร้อนสอดคับในช่องทางที่กำลังขยับเชิญชวน



สีหน้าพึงพอใจทำให้นึกสนุก กระดกนมอุ่นจงใจให้บางส่วนไหลรดผ่านลำคอขาว เปียกเลอะผ้าลูกไม้บาง ทุกกิริยาเชื่องช้า นวดเฟ้นตามร่าง มือหนึ่งลูบไล้ มือหนึ่งบดคลึงช่องทาง... ก่อนนิ้วผลุบหาย



 “ชอบไหม”



 “อืม” มีหรือจะปฏิเสธได้ ต่างฝ่ายต่างขยับมือตามจังหวะรักที่จำได้ขึ้นใจ คล้ายรับรู้ถึงสัมผัสจากร่างกายของกันและกัน



“พี่เดย์...” ทว่าไม่อาจเติมเต็ม ทุกครั้งที่ปลายนิ้วแทรกลึกไม่ถึงจุดกระสันร่างกายร้อนรุ่มจึงบิดเร่า กระเส่ากระซิบออเซาะ ร่อนสะโพกเรียกร้องอย่างทวีความต้องการ



แค่มองก็แทบคลั่ง อยากไปหาเสียเดี๋ยวนี้ อยากรักให้รุนแรง ขยี้ขย่มให้แตกสลาย ทว่าทำได้เพียงส่งเสียงปรนเปรอเอาใจ ฝ่ามือยังคงขยับรูดรั้ง ในใจเรียกร้องต้องการมากกว่านี้เช่นกัน



“คุณหนูของผม... น่ารักที่สุด” 









ไม่ใช่ความผิดเขาสักนิดที่จะดึงดันเอาแต่ใจ



เพราะถูกยั่วยุ ถูกเย้ายวนด้วยท่าทางรั้นร้าย ทั้งสีหน้า น้ำเสียง ร่างกายงดงามหมดจดที่ไม่ว่าจะจับหรือจูบตรงไหนก็คล้ายจะเบ่งบานส่งกลิ่นหวานไปทั่ว ชวนหน้ามืดตามัว



“วาไปทะเลเดิมทุกปี ไม่เบื่อบ้างเหรอ” ในที่สุดก็อ้อนจนยอมรีบเคลียร์ธุระมาหากันได้ ภายในร้านสักจึงไม่เงียบเหงาอีกต่อไป



เสียงสนทนาเคล้าจูบ สลับเสียงเนื้อกระทบเจือเสียงคราง เสียงความโหยหาตะกรุมตะกรามอื้ออึงเสียจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร



“เพราะไปทุกปีไง เลยยิ่งต้องไป” รุ่งสางสองร่างยังคงคลอเคลียแนบชิดอยู่บนเตียง โซมเหงื่อ คลุกราคะ เปรอะเปื้อนหมดสภาพ หมดเรี่ยวแรงทว่าไม่อยากหลับ รู้ดีว่ายังไม่เต็มอิ่มจึงหาบทสนทนาคั่น พาดพิงถึงคู่รักที่หายไปพักร้อนไม่ส่งข่าวคราว



“ทำไมอ่ะ” งุนงงกับคำตอบ ทะเลที่ว่าเป็นชายหาดส่วนตัวของบ้านหลิน ชวนกันไปทุกปีตั้งแต่รู้จักกัน เหมือนบ้านหลังที่สองที่ทุกคนเอาไว้ตากอากาศ ผ่อนความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ชายหาดทั่วไป ไม่ได้สวยเลิศเลออะไร พิเศษตรงที่มันเงียบสงบดีเท่านั้น แต่ไอ้วามักจะหาโอกาสไปอย่างน้อยปีละครั้ง



“มันบอกจะไปอวดเมีย”



“กับทะเล?”



“อือ”



“โคตรวาเลย คนประหลาด”



เขาได้แต่ยิ้ม นึกถึงเหตุผลอีกข้อที่คนประหลาดกระซิบบอกเขาเป็นการส่วนตัว “อีกอย่าง มันบอกว่าอยากลองเอาท์ดอร์”



“โอ๊ะโอ” พอได้ยินคำตอบ คนในอ้อมกอดกลับทำเสียงคล้ายกับนึกอะไรบางอย่างได้ เงยหน้าขึ้นมามองตาแป๋ว เขาก้มลงงับปลายจมูกรั้นอย่างรู้ทัน



“ทำเสียงแบบนี้คิดซนอะไร”



ไม่มีคำตอบ ร่างเล็กถลกผ้าห่มผุดลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังเปลือยเปล่า ยื่นแขนออกมาหาเขา “อุ้มๆ”



“หืม? อุ้มไปไหน” ยังไม่เข้าใจทว่าก็ยอมทำตาม ร่างสูงลงไปยืนข้างเตียง อ้าแขนรับร่างปวกเปียกอุ้มกระเตงแนบร่าง



สองแขนเรียวโอบรอบคอแกร่ง ขาก่ายสะโพกสอบเกาะแน่น พลางยกยิ้มร้ายกาจ แกล้งกัดริมฝีปากล่างเขาดูดดึงเบาๆ กระซิบพร่า



“...ไปดาดฟ้ากัน” ทั้งที่โดนฟัดจนร่างเต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบ กลีบบวมช้ำยังอุตส่าห์มีลูกเล่นยั่วเย้า กลิ่นราคะที่ยังอาบร่างกระตุ้นความต้องการอีกครั้ง



แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หลงจนมัวเมา จะไม่ให้รังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้ช้ำเกินช้ำแหลกสลายคาร่างได้ยังไงกัน











#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ตอนหน้าไปทะเลกัน :)





ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

- Martian -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2019 15:41:20 โดย makok_num »

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ตายแล้ววว คุณหนู ;///;)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
คุณหนูแซ่บบมากก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด