ฟางเซียนอวี้ บุรุษปรุงใจ (Yaoi) (Harem) เริ่มการปรับปรุงเนื้อหาครั้งที่1 28/5/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ฟางเซียนอวี้ บุรุษปรุงใจ (Yaoi) (Harem) เริ่มการปรับปรุงเนื้อหาครั้งที่1 28/5/62  (อ่าน 9150 ครั้ง)

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

.................................................

สามารถติดตามนิยายเรื่องใหม่และข่าวสารการอัพนิยายได้ที่เพจด้านล่างนะคะ
https://www.facebook.com/MinibearSecretWriter/

นิยายเรื่องอื่นๆของนักเขียน

(เรื่องสั้น) 4P ไอ้แว่นเนี่ย!แฟนพวกผม YAOI    (มิค, ไมค์, โม x มิลค์)    สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1237829

(เรื่องสั้น)(3P Yaoi) Love Away! รักมาหลายปี...เจอทั้งทีขอก(อ)ดหน่อยนะ   (ไวน์, วิน x บูม)    สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43083.0;topicseen

(เรื่องสั้น)Control Love รักครั้งนี้ผมควบคุม (Yaoi)   (ฮยอนชิก x อิลฮุน)   สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1054991

(เรื่องสั้น)Hate เกลียดอะไรได้อย่างนั้น ผมเกลียดเด็กช่างก็เลย... (Yaoi)   (เฟียส x ณโม)   สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1240000

(เรื่องสั้น)รักวุ่นวายของคุณชายต่างขั้ว (Yaoi 4P)    (พี, เอ็น, เค x ต้นรัก)   สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43081.0;topicseen

End  ผู้ชายอบอุ่นกับคนขี้บ่น (YAOI)      (เอล x เพื่อน)   สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67075.0#top

End (6P)I Hate They But I Love They รักของผมคือพวกเขา(Yaoi)    (บาร์เทน, โดนัล, เลนโว, ไลฟ์ลี่, ดีเลย์ x โซฟา)      สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50474.0;topicseen

End click love ยัยยากูซ่ากับนายตัวแสบ   (ไค x มิ)      สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1009757

End My Love เพราะเป็นมึงกูถึงยอม (Yaoi)    (คอกเทล x เบค่อน)   สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1016261

End NEWS! ข่าวลับ ข่าวรัก YAOI 3P   (ฟาเรนไฮน์, เซลเซียส x มิกกี้)   สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1171585

End ผมเป็นพ่อมดฝึกหัดที่ชอบผู้ชายครับ!!! (Yaoi)(3P)   (อัล, ฮาฟ x ราสเต้)      สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67230.msg3834235#msg3834235

(...) จงเติมคำในช่องว่าง (Yaoi)   (วีอาร์ x ของขวัญ)   สถานะ  จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67587.0

เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้แต่แมวอยู่ได้นะรู้ยัง!! (Yaoi)  สถานะ OnAir
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68134.0

****นิยายเรื่องนี้นักเขียนจะลงทุกวันอังคารและพฤหัสบดีนะคะ****

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 11:53:23 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer

# บทนำ

   เฮือก ผมสะดุ้งตื่นจากความฝัน ไม่ใช่สิ ไม่ใช่ความฝันมันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผม ชายหนุ่มอายุห้าสิบสี่ปี เรื่องราวเริ่มต้นจากผมหรือคนอื่นๆ เรียกกันว่าหนู และคุณแม่ที่บ้านเด็กกำพร้าเรียกว่าลูกหนู ผมเป็นเด็กที่ถูกนำมาทิ้งไว้ตั้งแต่ตัวแดงๆ เลยเป็นที่มาของชื่อ ผมเติบโตมาคล้ายเด็กคนอื่นๆในบ้านเด็กกำพร้า ใช่ครับแค่คล้าย

ผมต่างจากเด็กคนอื่นในบ้านเด็กกำพร้าที่ระดับสติปัญญา ตามที่ทุกคนคิด ผมเป็นเด็กอัจฉริยะ หลังจากนั้นไม่นานก็มีองค์กรลับองค์กรหนึ่งมาขอรับตัวผมไปดูแลตั้งแต่ห้าขวบ จนกระทั่งอายุห้าสิบปีผมก็ลาออกจากที่นั่น

ผมทำงานเป็นพนักงานบริษัทให้คำปรึกษาด้านการลงทุนตั้งแต่ออกมา จนอายุห้าสิบสี่ปี และเรื่องที่ทำให้ผมตายคงเป็นเรื่องราวหลังจากที่ผมเลิกงานในวันหนึ่งตามปกติ แต่มันมีจุดที่ไม่ปกติอยู่ตรงที่มีเด็กวัยรุ่นที่มีอาการคล้ายคนติดยาสามคนเดินเข้ามารุมทำร้ายผมเพื่อหวังเอาทรัพย์สินมีค่าในตัวของผม ผมที่กำลังคิดเรื่องเงินเดือนของตัวเองตอนปลายปีเลยไม่ทันได้ระวังตัว

และนั้นแหละครับ ผมถูกทำร้ายโดยที่ยังไม่ได้ตั้งตัว จากความรู้สึกผมน่าจะถูกแทงไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง และหนักที่สุดคงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหมดสติ ความเจ็บที่อกซ้ายก่อนที่ร่างของผมจะกระตุกและผมก็ตื่นขึ้นมาในตอนนี้

เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมว่ามันมีอะไรที่ไม่ปกติ ผมตายไปแล้ว แล้วตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนกัน ผมยังหายใจแถมไม่รู้สึกเจ็บปวด หรือว่าที่นี่จะเป็นโลกหลังความตายกัน น่าจะใช่ ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมเบากว่าปกติ

หลังจากที่รวบรวมความคิดเสร็จผมก็ลืมตาขึ้น จะว่าไปทำไมผมพึ่งจะคิดได้ว่าไม่ได้ลืมตากันนะ บางทีความตายอาจทำให้สมองของผมเกิดการประมวลผมต่อสิ่งเร้ารอบกายได้ช้ากว่าตอนเป็นก็ได้นะครับ

ผมหลับตาลง ลืมตาอีกครั้ง หลับตา ลืมตา หยิกแขนตัวเอง โอ๊ยเจ็บ ผมว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติแล้วครับ ผมโดนทำร้ายจนตายที่ซอยทางเข้าบ้าน แต่ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่บนเตียงรูปทรงแปลกตาแต่ก็คุ้นๆ รอบด้านมีผ้าม่านบางๆสีขาวกั้นลักษณะที่นอนเป็นฟูกนอนหนาประมาณฝ่ามือแต่ก็ไม่ได้นุ่มเหมือนเตียงเก่าผม

การแต่งห้องที่ผมมองเห็นในระยะของแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาจากทางหน้าตาที่ถูกเปิดไว้ ผมมองเห็นเสาที่ดูเหมือนจะเป็นเชิงเทียนเพราะมีเทียนตั้งอยู่ด้านบน หันไปอีกด้านเจอตะเกียงน้ำมันรุ่นเก่าคุ้นตาที่ถูกหรี่แสงเล็กน้อย

ผมหยิบแท่งไม้ที่อยู่ข้างตะเกียงมาต่อไฟจากตะเกียงไปที่เทียน แสงสว่างจากเทียนที่ถูกผมไล่จุดตามมุมต่างๆของห้องเผยภาพของห้องนอนที่ดูคุ้นตา จากช่วงหลังที่ออกมาทำงานที่บริษัทนี้หลังจากเลิกงานผมจะกลับบ้านมาเพื่อดูซีรีย์จีน ผมชอบพลังยุทธ์ การฝึกลมปราณพวกนั้น เพราะพอดูแล้วลองทำตามก็คล้ายกับการนั่งสมาธิ ทำให้ผ่อนคลายมาก

แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ภาพที่ผมเห็นตอนนี้ไม่ต่างจากห้องนอนในหนังจีนโบราณที่ผมเคยเห็น ผมหลับตาตั้งสติอีกครั้ง นับถึงสิบแล้วลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง ชัดเลยครับ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ เกิดอะไรขึ้นกับผมกันครับ

ผมยกมือลูบหน้าตัวเองก่อนจะสะดุดกับมือของตัวเอง ก่อนที่ผมจะตายผมมีอายุห้าสิบสี่ปี ร่างกายเริ่มจะเหี่ยวย่นพอสมควรแต่มือของผมในตอนนี้ดูเล็กแถมยังอ่อนเยาว์กว่าเดิม ผมว่าสิ่งแรกที่ต้องคิดและสำรวจเห็นจะเป็นร่างกายของผมในตอนนี้มากที่สุดครับ ผมเดินตามหาสิ่งที่เรียกว่ากระจกก่อนจะเห็นมันที่มุมหน้าฉากกั้น ผมว่าโซนนี้น่าจะเป็นที่แต่งตัว ส่วนถังน้ำอันเล็กน่าจะเป็นสิ่งที่ไว้ขับถ่ายยามค่ำคืน

ใบหน้าที่ผมเห็นอยู่ในตอนนี้เป็นใบหน้าของบุรุษธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นตรงส่วนไหน ตาคมแต่ตี่ตามแบบฉบับภูมิลำเนา ใบหน้าเรียว ปากสีพีช ส่วนที่เด่นน่าจะเป็นผิวของร่างนี้ที่เนียนนุ่มคล้ายผู้หญิงแถมยังมีผิวที่ขาวเหมือนไม่ได้ออกแดดมาก่อนจนซีดแต่ดูเปล่งประกายคล้ายมีแสงในตัวเองแบบหิงห้อย

ผมเรียกสติตัวเองกลับมา ก่อนจะเริ่มสำรวจการแต่งกายของร่างนี้ ชุดที่ผมใส่เป็นเสื้อกับกางเกงสีขาวบาง ถ้านี่เป็นจีนโบราญตามที่เคยดูน่าจะเป็นชุดนอน หลังจากลองคิดทบทวน ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในตอนนี้เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากครับ คนที่ตายไปแล้วแบบผมกลับถูกดึงตัวมาอยู่ในโลกใหม่ จากผมที่เป็นชายแก่อายุห้าสิบสี่ปีกลับกลายเป็นเด็กหนุ่มอายุไม่เกินสิบห้าปีตรงหน้า

ผมเคยได้ยินพนักงานเด็กๆช่วงวัยรุ่นหลายคนที่เคยชวนผมอ่านนิยายหรือดูหนังแนวหลุดโลกหรือข้ามมิติไปเกิดใหม่ในร่างคนอื่นมาบ้าง แต่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาเผชิญกับมันแบบนี้ และหลังจากที่ทำใจได้ตัวละครนั้นๆจะได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างที่ตัวเองมาอาศัยอยู่

แต่หลังจากที่ผมลืมตามาจนถึงตอนนี้ผมกลับไม่รับรู้ถึงเรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างกายนี้แม้แต่น้อย หรือสำหรับผมอาจจะต้องใช้เวลาที่มากกว่านั้นหรือมีกุญแจอย่างอื่นที่ต้องค้นหาเพื่อรับความทรงจำจากเจ้าของร่างนี้ก็ได้นะครับ

ผมเดินมาที่หน้าต่างที่ถูกเปิดเอาไว้ ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มที่จะสว่าง ผมคิดว่าน่าจะใกล้เช้า ดูท่าน่าจะช่วงตีห้าแล้วก็ได้ ผมเริ่มที่จะเห็นผู้คนสัญจรผ่านไปมาด้านล่าง มองจากความสูงคาดว่าตัวผมน่าจะอยู่ชั้นสามของที่นี่

ผมหันกลับมาเพื่อตรวจสอบอย่างอื่นต่อแต่กลับสะดุดตากับสมุดบันทึกเล่มหนึ่งบนโต๊ะที่ไม่ห่างออกไปนักคาดว่าน่าจะเป็นโต๊ะทำงานของเจ้าของร่างนี้ ผมลังเลว่าจะเปิดมันดีหรือไม่เพราะผมไม่ได้สังเกตเห็นมันตั้งแต่รอบแรก แล้วก็กลัวที่จะเสียมารยาทกับเจ้าของห้องด้วย แต้ว่าตอนนี้ผมก็อยู่ในร่างของเจ้าของห้องนี่นะครับ คงจะไม่ผิดเท่าไหร่ที่ผมจะทำตัวไม่มีมารยาทแอบดูเรื่องส่วนตัวของร่างตัวเองตอนนี้

แต่แล้วผมก็ได้รับรู้ว่ากุญแจที่ตามหาคือสมุดเล่มนี้ เพราะเมื่อผมเปิดบันทึกออกมาเพียงเล็กน้อย ภาพความทรงจำที่เป็นเรื่องราวทั้งตัวผมและเจ้าของร่างก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวผมอย่างรวดเร็วจนผมไม่สามารถประคองสติของตัวเองได้อีกต่อไป โลกของผมก็ดับวูบลง

TBC.

เรื่องราวหลังครัวปิด

ลูกหนู : ผมเห็นนิยายหลายเรื่องเกิดใหม่ต้องหล่อรูปงามหรือไม่ก็สวยล่มเมือง
ฟางเซียนอวี้ : ท่านกำลังทำร้ายจิตใจตัวข้าที่ไม่มีบทอยู่นะขอรับ
ลูกหนู : ..................ขออภัยขอรับ


ลงวันที่ 31/7/61
ปรับปรุงเนื้อหาครั้งที่ 1 28/5/62

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 11:55:26 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Pandora20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่าสนใจจังงง ว่าแต่อยู่องค์กรนั้นทำอะไรบ้างน้ออ

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#1

   ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ผมยังนั่งอยู่ที่เดิมแต่ไม่มีสมุดต้นเหตุอีกแล้ว แปลว่าผมอาจจะได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างคนเดิมครบแล้ว

เจ้าของร่างนี้มีชื่อว่า “ฟางเซียนอวี้” เป็นลูกชายของทางร้านอาหารและบ้านที่ผมอยู่ในขณะนี้ ร่างนี้ได้รับบาดเจ็บจากลูกหลง ครับลูกหลง ดูเหมือนว่าเมื่อสามสัปดาห์ก่อนจะมีเหตุทะเลาะวิวาทกันที่ตลาดแล้วเป็นช่วงจังหวะที่พอดีจนเกินไปที่เจ้าของร่างนี้ออกไปตามหาวัตถุดิบเตรียมเข้าร้านบริเวณใกล้ท่าเรือ

ตอนนี้บาดแผลหายไปหมดแล้วจนผมที่ตื่นมาไม่รู้สึกถึงมันมาก่อน แถมเจ้าของร่างนี้ช่างเป็นผู้ชายที่คล้ายผู้หญิงมากเลยครับ เอวบางส่วนสูงไม่น่าจะเกินร้อยหกสิบห้า ดูท่าจะอยู่แต่ในครัวไม่ได้ออกไปเจอแดดเจอฝนร่างกายเลยดูเหมือนคนที่อ่อนแอขนาดนี้

“นายน้อยขอรับ มีเรื่องอันใดหรือไม่ขอรับ” เสียงของชายดูมากอายุดังมาจากทางด้านหน้าประตูห้องเอ่ยทักเจ้าของร่างที่ผมมาอาศัยอยู่ในตอนนี้

พอลองมองออกจากบริเวณหน้าต่าง สิ่งที่มองเห็นตอนนี้แปลว่าเป็นเวลาที่คนเริ่มทำงานกันแล้ว และดูเหมือนร่างนี้จะพักรักษาตัวอยู่หลายวันเลยทีเดียว เพราะร่างกายบอบบางอ่อนแอเหมือนจะปลิวไปกับลมแบบนี้ยังไงครับถึงได้ต้องพักนานกันเลยทีเดียว

“ไม่มีอันใด รบกวนท่านพ่อบ้านแล้ว” ผมตอบกลับไปตามนิสัยของร่างนี้ที่เป็นคนนอบน้อม รักครอบครัวและสุภาพเสมอ คำพูดคำจาผมก็คงต้องพยายามฝึกให้คุ้นชินให้ได้เพราะถ้าผิดแปลกไปมากจะโดนสงสัยเอาว่าเจ้าของร่างนี้อาจจะโดนวิญญาณร้ายเข้าสิงเอาก็ได้

“มิได้ขอรับนายน้อย หากเป็นเช่นนั้นข้าน้อยจะบอกเด็กๆเตรียมของนะขอรับ”

“รบกวนท่านด้วย”

หลังจากนั้นไม่นานก็มีเหล่าเด็กรับใช้เข้ามาเตรียมชุดพร้อมอ่างล้างหน้าและน้ำบ้วนปากตามที่ผมเคยเห็นตามหนังหรือิอ่านนิยายจากที่โลกก่อน ผมทำตัวตามน้ำเพราะไหนๆก็ได้รับชีวิตใหม่มาแม้จะเป็นการเข้ามาแย่งร่างกายของคนอื่นก็ตาม ผมขอทำตามใจตัวเองสักครั้ง ขอใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากว่าที่ผ่านมา เป็นตัวของตัวเองให้มากขึ้นเพื่อที่วันข้างหน้าเจ้าของร่างกายคนนี้มองกลับมาจะได้หมดห่วงคนเบื้องหลังสักที

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผมก็บอกกับพ่อบ้านว่าจะทานข้าวเช้ากับท่านพ่อของร่างนี้ และตอนนี้ผมก็มาอยู่ที่ห้องทานอาหารของบ้านหลังนี้ มีผู้ชายวัยกลางคนแต่น่าจะอายุน้อยกว่าอายุวิญญาณผมเยอะทีเดียว

จะว่าไปแล้วครอบครัวของเซียนอวี้หรือเจ้าของร่างนี้ก็มีฐานะที่ดีพอสมควร ดูจากการเปิดกิจการร้านอาหารแบบนี้ และเป็นมาแบบสืบทอดกันมาเป็นรุ่นๆด้วยจนมาสุดที่รุ่นพ่อของร่างนี้ และกำลังจะส่งต่อให้กับบุตรชายคนนี้อีกครั้งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

“อาการเจ้าเป็นเช่นไรบ้างลูก หายดีแล้วหรือถึงออกมาเดินเหินเช่นนี้”

“ลูกดีขึ้นแล้วขอรับท่านพ่อ ขออภัยที่ทิ้งหน้าที่ของตนไปเสียนาน”

“อย่าได้กล่าววาจาเช่นนั้น ขอแค่ลูกปลอดภัยและหายดีคนเป็นพ่อก็สบายใจ”

“ช่วงที่ลูกพักรักษาตัว ลูกคิดสูตรอาหารแปลกใหม่ออกมาได้หลายอย่าง ลูกเลยอยากมาขออนุญาตท่านพ่อเข้าครัวเช่นเดิมได้หรือไม่ขอรับ”

“หากเจ้าคิดว่าร่างกายของตนเองดีขึ้นแล้วก็ตามแต่ใจของเจ้าเถิด พ่อไม่ว่ากะไร แต่ห้ามหักโหมเกินไปจนเสียสุขภาพเอาเสียเล่า”

“ขอบคุณท่านพ่อ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”

“มาๆ กินข้าวเสียก่อน มีหลายอย่างที่เจ้าชอบอยู่”

“ขอรับ”

อาหารบนโต๊ะเป็นอาหารจีนทั่วไปครับ และมีที่เห็นตามหนังหรือนิยายที่เคยอ่านมา ผมคิดว่าจะเอาอาหารที่อยู่ในโลกก่อนมาใช้เพื่อเพิ่มรายได้ของทางร้าน

เพราะจากการที่ได้ลองคิดและวิเคราะห์ดูแล้ว โลกที่ผมอยู่ปัจจุบันต่างจากอีกโลกเลยครับ ไม่ใช่การย้อนเวลากลับมาในจีนโบราญ แต่ที่นี่คือโลกเสมือนจีนโบราญ ซึ่งเปรียบได้ง่ายๆว่าอาจจะเป็นโลกคู่ขนานกันก็ได้ครับ ผมเลยไม่กลัวที่การกระทำของผมจะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอีก

หลังจากนั้นผมก็เข้ามาที่ส่วนของห้องครัวเพื่อสำรวจวัตถุดิบและอุปกรณ์ ผมเริ่มที่จะคิดเมนูต่างๆและเริ่มลงมือทำ ครัวนี้เป็นครัวที่แยกออกมาจากครัวใหญ่ของร้าน แต่วัตถุดิบผมก็ฝากซีเอ๋อร์ให้ไปหยิบมาเป็นครั้งคราวจากครัวใหญ่ ซึ่งครัวใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเพราะซีเอ๋อร์บอกว่าผมกำลังจะเริ่มอาหารจานใหม่อีกครั้งหลังจากหยุดไปนาน

เวลาผ่านไปประมาณสองชั่วยาม(สี่ชั่วโมง) ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ยามอู่(สิบเอ็ดโมงถึงเที่ยงห้าสิบเก้า)ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี ผมสั่งบ่าวที่ยืนรอ อยู่ให้ช่วยกันลำเลียงอาหารที่ผมทำขึ้นมาไปที่ห้องทานข้าวของทางร้านที่ผมใช้เมื่อเช้า และฝากพ่อบ้านหูให้บอกกับท่านพ่อไว้แล้วเรื่องอาหารเที่ยง

“อาหารอันใดกัน รูปแบบแปลกตานัก”

“ลูกจะแนะนำไปทีละจานนะขอรับท่านพ่อ”

“ถ้าอย่างนั้นเริ่มจาก อืม เจ้าก่อนกลมๆนั้นก่อนเป็นไร”

“สิ่งนี้เรียกกันว่า “เมี่ยนเปา” ขอรับ เป็นการนำแป้งมานวดแล้วอบด้วยความร้อนที่พอเหมาะจนขึ้นฟู” มันคือขนมปังครับ ผมว่าหลังจากนี้คงต้องจ้างช่างตีเหล็กให้ทำเตาอบสักหน่อยแล้วครับ จะได้ง่ายขึ้น

“รสชาติดี คล้ายหมั่นโถว แต่ทานเปล่าๆดูจะจืดชืดไปเสีย”

“ขอรับ มันสามารถทานเปล่าๆได้แต่จะจืดไปสักนิด ลูกเลยทำสิ่งนี้มาเพื่อทานร่วมขอรับ มันเรียกว่าแยมผลไม้ของรับ”

“แยมผลไม้ สีสันแปลกตานัก ทำจากสิ่งใดกันเล่า”

“ถ้วยนี้ทำจากผมจวี่จื่อ(ส้ม) ถ้วยนี้ทำจากผลเฉาเหมย(สตรอเบอรี่) ถ้วยนี้ทำจากผลโปหลัว(สับปะรด) ขอรับ”

“รสชาติดีนัก แล้วจานต่อไปเล่า มันคือสิ่งใดกัน เหมือนผลไม้ปลอกเปลือกรวมกันเพียงเท่านั้น”

“มันเรียกว่า “ซาลา” ขอรับเป็นการนำผลไม้ต่างๆเช่นกุ่ยเถา(กีวี), เซียงเจียว(กล้วยหอม), ผิงกัว(แอปเปิ้ล), ผูเถา(องุ่น), ลี่(สาลี่), เฉาเหมย(สตรอเบอรี่), ฟานซีหลิว(ฝรั่ง) ขอรับ คลุกเคล้ากับน้ำเชื่อมสูตรลับ ส่วนภาชนะนี้เป็นการนำผลมู่กวา(มะละกอ) มาหั่นเป็นเส้นก่อนที่จะชุบแป้งและทอดออกมาเป็นตะกร้าขอรับ”

“ดียิ่งทานได้กระทั่งภาชนะบนจานเช่นนี้”

“ส่วนจานนี้ลูกคิดว่าจะจัดเป็นอาหารด่วนสำหรับนักเดินทางที่แวะเข้ามาทานที่ร้านหรือจอมยุทธ์ที่กำลังเล็งหาห่อข้าวเพื่อติดตัวเดินทาง และเป็นอาหารจานเดียวที่ทำได้ง่ายและทานง่ายด้วยขอรับ”

“มันคือสิ่งใดกันเล่า”

“ชื่อเรียกของจานนี้คือ “เฉาฟ่าน”(ข้าวผัด) ขอรับสามารถเลือกส่วนผสมที่จะนำมาใส่ได้ขอรับ ไม่ว่าจะหมู, ไก่, เป็ด, ปลา, อาหารจากท้องทะเล, หรือเพียงแค่ไข่ไก่เท่านั้นก็ได้ขอรับ”

“ดียิ่งๆ พ่อบ้านหูเจ้าไปเรียกพ่อครัวจางมาพบพวกข้าตอนนี้เลย”

“ขอรับนายท่าน”

“พ่อจะให้พ่อครัวจางนำสูตรอาหารจากเจ้าไปลงมือต่อ เจ้าก็คอยบอกกล่าวแก่เขาด้วยแล้วกัน”

“ขอรับท่านพ่อ ท่านพ่อขอรับที่ร้านเรามีเพียงน้ำชากับน้ำเปล่า ส่วนนอกนั้นเป็นสุราทั่วไป ลูกอยากจะขอเพิ่มน้ำแก่ร้านเราเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าสตรีได้หรือไม่ขอรับ”

“น้ำอันใดกันที่จะถูกใจสตรีตามที่เจ้าว่า”

“ซีเอ๋อร์”

“เจ้าค่ะ นายน้อย” ไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมน้ำผลไม้สีสันต่างๆ

“มันคือสิ่งใดกัน สีสันแปลกตา ทานได้จริงหรือ”

“ทานได้ขอรับ ถ้วยนี้คือนี้จากผลจวี่จื่อ(ส้ม)ขอรับ ทานแล้วจะรู้สึกสดชื่นยิ่งนักขอรับ”  มันเป็นน้ำในดวงใจของผมเลยครับ ผมชอบที่จะดื่มมันมากที่สุดในโลกก่อน

“ถ้วยที่เหลือเล่า”

“เรียงไปถ้วยนี้คือน้ำจากผิงกัว(แอปเปิ้ล), เฉาเหมย(สตรอเบอรี่), ฟานซีหลิว(ฝรั่ง), กุ่ยเถา(กีวี)และหลงเหยียน(ลำไย) ขอรับ”

“หลงเหยียน เหตุใดจึงมีสีสันเช่นนี้เล่า”

“ลูกนำผลหลงเหยียนไปอบก่อนนำมาต้มขอรับเพื่อเพิ่มรสชาติขอรับ”

“แล้วสิ่งที่อยู่ในขวดนี้เล่าคือสิ่งใดกัน”

“เป็นสุราชนิดหนึ่งที่ลูกปรุงขึ้นมา รสชาติคล้ายสุราแต่ดีกว่าขอรับ เมื่อทานแล้วไม่เมามายเท่าสุราขอรับ เหมาะแก่การทานกับอาหารจานใหม่ที่ลูกจะทำในวันหน้าขอรับ”

“ยังไม่สามารถทานได้ตอนนี้หรอกหรือ”

“ยังขอรับ สิ่งนี้ต้องใช้เวลาในการหมักเช่นเดียวกับสุราขอรับ”

“หมักแล้วเจ้าใช้สิ่งใดไปหมักกัน”

“ผลผูเถาขอรับ เมื่อครบกำหนดเราจะเรียกมันว่า “ผูเถาจิ๋ว” ขอรับ”

“ผูเถาจิ๋ว อีกนานเพียงใดถึงจะได้ลองทานมัน”

“ประมาณสามสัปดาห์ขอรับ”

ตามจริงต้องใช้เวลาหลายเดือนในการหมัก ยิ่งนานยิ่งรสชาติดี แต่เพราะที่โลกนี้ผมสังเกตดูแล้วมีหลายคนที่มีกำลังภายในตามความถนัดอย่างที่ผมขอความช่วยเหลือคือพวกที่เกี่ยวกับความร้อน ผมเลยให้มาช่วยในการปรับอุณหภูมิในห้องเก็บไวน์พวกนี้แทนการใช้เวลาที่นานตามโลกก่อน

“ดียิ่ง พ่อจะรอวันที่ได้ลิ้มรสมัน พ่อครัวจางมาพอดี มาคุยกันเถิด ไม่นานร้านของเราจะต้องร่ำรวยมากกว่าเดิมเป็นแน่”

ก็ขอให้มันเป็นไปตามที่ท่านพ่อบอกแล้วกันครับ ผมคงตอบแทนให้เจ้าของร้านได้แค่นี้ ผมจะไม่ทิ้งร้านนี้ไปหรอกครับเพราะเป็นของเจ้าของร่างเดิมอีกทั้งยังเป็นที่พักของผมในตอนที่ลืมตา แถมพ่อของร่างนี้ก็ยังใจดีมากด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าผมคงจะสามารถนำความรู้ความสามรถในโลกเดิมมาใช้เพื่อยืดอายุตัวเองอีกนานได้นะครับ


TBC.

เรื่องราวหลังครัวปิด

เซียนอวี้ : ดูเหมือนเจ้าของร่างคนเก่าจะจากไปเป็นที่เรียบร้อย ผมที่เข้ามาอยู่แทนจะขออนุญาตยึดร่างเลย  แล้วกันนะครับ
ฮุ่ยเอิง : เหตุใดลูกข้าจึงพูดจาแปลกยิ่งนัก
เซียนอวี้ : ข้าเพียงท่องบทตามละครที่เห็นมาขอรับท่านพ่อ
ฮุ่ยเอิง    : เป็นเช่นนั้น
เซียนอวี้ : ขอรับ (ยิ้มทั้งน้ำตาตกใน)

ลงเนื้อหา 2/7/61
ปรับปรุงเนื้อหา 28/5/62
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 12:32:39 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#2

   ผ่านมาอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับการใช้ชีวิตในโลกใหม่ของผม ผมเริ่มที่จะปรับตัวได้มากขึ้นกับการใช้ชีวิตเมื่อไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกแบบที่เคยอยู่ในโลกเดิม

ชีวิตก่อนผมก็อายุมากแล้วก็เริ่มที่จะปลงกับชีวิตพอสมควร พอได้มาอยู่ในร่างเด็กสิบสี่แบบนี้จะให้ทำตัวแบบเด็กๆนั้นคงต้องขอเวลาทำใจสักพัก เพราะรู้สึกอายวิญญาณตัวเองแปลกๆ แต่ถ้าจะให้ทำตัวเป็นตาแก่ไปเลยก็ดูจะแปลกไป ผสมกันที่ตรงกลางคงไม่ผิดหูผิดตามากนักหรอกครับ

“ท่านพ่อขอรับ ข้าคิดสูตรชาใหม่มาให้ท่านลองทานขอรับ”

“ช่างเป็นบุญของข้ายิ่งนักที่มีบุตรที่ขยันเช่นเจ้า ข้านึกเสียใจที่มิได้ส่งเจ้าไปร่ำเรียนในชั้นสูงเช่นบุตรตระกูลอื่น”

“ท่านกล่าวหนักไปแล้วขอรับ ข้ามีความสุขดีกับตรงนี้ขอรับ หากต้องเข้าไปศึกษาเพื่อห่างไกลจากท่านข้าคงไม่ยินดีเช่นกัน”

“อวี้เอ๋อร์”

“ลองทานดูเถิดขอรับ จะช่วยให้ท่านผ่อนคลายยิ่งขึ้น”

“รสชาติดี กลิ่นดี มันคือชาใดกัน”

“ถ้วยนี้คือชาเหมยกุ้ย(กุหลาบ)ขอรับ ส่วนถ้วยนี้คือชาโม่ลี่ฮวา(มะลิ)ขอรับ”

“นอกจากทานอย่างเดียวมีสิ่งใดที่จะแนะนำหรือไม่”

“ทานคู่กับขนมเปี๊ยะและขนมทั่วไปขอรับ ท่านพ่อลูกจะขอเสนอการจัดอาหารแก่ลูกค้าได้หรือไม่ขอรับ”

“เจ้าลองเขียนมาให้พ่อดูเถิดแล้วพ่อจะจัดการตามที่เจ้าว่ามาตามสมควร”

“ขอรับ”

ผมคิดมาหลายวันแล้วครับ เรื่องการจัดรายการอาหารภายในร้าน ผมอยากจะลองทำอาหารชุดไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่เคยสั่งอาหารมาก่อนหรือต้องการความรวดเร็วในการสั่ง

ผมคิดที่จะทำใบเมนูไว้ตามโต๊ะเหมือนกับร้านอาหารในโลกก่อน แถมเรายังจะควบคุมการสั่งปริมาณวัตถุดิบและการใช้วัตถุดิบในแต่ละวันเพื่อลดรายจ่ายได้ด้วย

“ได้ข่าวว่าคณะทูตจากแคว้นหยุนเดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้ว ข้าไปดูมาเช่นกัน”

“ข้าก็ไปดูมาเห็นว่าสีตาแปลกยิ่งนัก แถมชาวแคว้นหยุนยังมีร่างกายที่สูงใหญ่กว่าชาวแคว้นเซียนเช่นเราอีก ดูน่ากลัว ข้าไม่อยากจะนึกว่าถ้าเราผิดใจกับแคว้นหยุนจะเป็นเช่นไร”

“ข้าได้พูดคุยกับบัณฑิตที่รู้จัก ท่านบอกว่าแคว้นหยุนเป็นแคว้นที่ห่างไกลจากแคว้นเรามาก ต้องใช้เรือสำเภาขนาดใหญ่ข้ามมหาสมุทรมาเลยทีเดียว”

“ถึงจะเป็นแคว้นใหญ่แต่ก็น่ากลัวดั่งเจ้าว่า หากไม่อยากให้เกิดสงคราม อย่างไรเราก็ต้องต้อนรับขับสู้อย่างดีเช่นเดิม”

เสียงพูดคุยจากลูกค้าที่เข้ามาทานข้าวกันที่ร้านของผม ตาสีแปลกหรอครับ อาจจะเป็นชาวยุโรปแบบที่โลกก่อนก็ได้นะครับ คงจะเป็นเรื่องปกติของที่นี่ที่จะหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่เคยพบเจอแบบนี้

“นายน้อยเจ้าคะ ดูเหมือนว่าเรือของคณะทูตแคว้นหยุนจะนำสินค้าของทางแคว้นมาขายด้วยนะเจ้าคะ”

“จริงหรือซีเอ๋อร์ เช่นนั้นเราย่อมมิพลาดสินค้าต่างแดนเช่นนี้ ไปลองดูกันเถิด อาจจะมีเครื่องเทศใหม่ๆ”

“เจ้าค่ะ”

ผมเดินออกมาจากร้านฟางกับซีเอ๋อร์และชายสองคนที่ท่านพ่อบอกว่าเป็นผู้คุ้มกันของผม หลังจากที่เปิดขายอาหารสูตรใหม่ดูเหมือนว่ารายได้ของทางร้านจะเพิ่มขึ้นมาก จนมีคู่แข่งเข้ามาสอดส่องอาหารและพยายามทำตามกันมากมายแต่ก็ยังไม่สามารถลอกเลียนได้เช่นที่ร้าน จึงไม่แปลกหากจะต้องมีคนมาคอยคุ้มครองเวลาที่ต้องออกจากร้านแบบนี้

“ซีเอ๋อร์ เจ้าพอจะรู้จักร้านขายสัตว์ทะเลหรือไม่” เมื่อมาถึงที่ท่าเรือผมก็รีบบอกความต้องการกับเด็กสาวที่มาด้วยกันเพราะผมเจอเครื่องเทศคุ้นตาอย่างผงกะหรี่ที่ติดมากับสินค้าแคว้นหยุน

“รู้จักเจ้าค่ะ นายน้อยต้องการสิ่งใดหรือเจ้าคะ”

“เราพอจะคิดอาหารจานใหม่ขึ้นมาได้เลยจะติดต่อพ่อค้าสัตว์ทะเลอีกที่”

“จริงหรือเจ้าคะ ซีเอ๋อร์อยากจะเห็นอาหารจานที่นายน้อยว่ายิ่งนัก” 

ซีเอ๋อร์เป็นลูกสาวของพ่อครัวจางที่ทำหน้าที่พ่อครัวใหญ่อยู่ภายในร้านร่วมกับท่านพ่อมาก่อน มีอายุน้อยกว่าผมในตอนนี้สองปีเลยเป็นเพื่อนเล่นกันมา ซีเอ๋อร์ถูกท่านพ่อวางตัวให้เป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของร่างนี้ตั้งแต่เด็ก ไม่แปลกถ้าเราสองคนจะสนิทกันเกินกว่านายบ่าวบ้านอื่นแบบนี้

“ตามเรามาเถอะ เราจะเข้าไปดูเครื่องเทศด้านนั้นต่อสักหน่อย”

ผมเดินตรงไปที่ถุงเครื่องเทศชนิดต่างๆ ในร้านมีคนน้อยจนบางตาเพราะส่วนมากชาวบ้านจะยังคงกลัวการเข้าใกล้ชาวแคว้นหยุนที่มีรูปร่างและสีตาที่แตกต่างกับตน ส่วนเรื่องเครื่องครัวที่ทางแคว้นหยุนเอามาด้วยเป็นลักษณะคล้ายกับทางยุโรปจริงๆครับ ทั้งผงปาปริก้า ชีสและดูเหมือนผมจะเห็นอะไรบางอย่าง

“ท่านพ่อค้า นั่นใช่เส้นสปาเก็ตตี้หรือไม่ขอรับ” ผมหันไปสบตากับพ่อค้าที่มองผมตั้งแต่เข้าร้านมา

“โอ้ ไม่น่าเชื่อว่าคนจากแคว้นเซียนจะรู้จักมัน คุณชายน้อยท่านรู้จักมันได้อย่างไรกัน และเป็นอย่างที่ท่านว่ามันคือเส้นสปาเก็ตตี้ขอรับ” สำเนียงที่แตกต่างแต่พอเข้าใจของพ่อค้าคนนี้มาพร้อมกับความแปลกใจในน้ำเสียงที่ถามผมจริงๆ

“เราขอซื้อมันได้หรือไม่ และดูเหมือนจะมีสินค้าของท่านหลายอย่างที่เราต้องการสั่งซื้อ” ผมเมินคำถามเรื่องรู้จักได้ยังไงมาถามเรื่องขอซื้อแทน ถ้าได้พวกมันมา อีกหลายเมนูที่ผมชอบเมื่อโลกก่อนจะได้ออกมาโลดแล่นที่นี่แล้วครับ แค่คิดก็สนุกแล้ว
“ยินดียิ่งขอรับ หากวันนี้คุณชายน้อยต้องการสินค้าจำนวนมากทางร้านเรายินดีส่งถึงที่อาศัยของท่านเลยขอรับ” มีบริการหลังการขายแบบจัดส่งถึงบ้านด้วยครับ ทำเอาคิดถึงโลกเก่าขึ้นมาเลยครับ

“หากสินค้าของข้าหมดไม่ทราบว่าจะสามารถสั่งจากท่านได้อย่างไรกันหรือขอรับท่านพ่อค้า”

“ท่านต้องการสินค้าจำนวนมากติดต่อกันหรือขอรับคุณชายน้อย”

“เป็นเช่นนั้น ข้าต้องการสินค้าเมื่อยามหมด เป็นการสั่งสินค้าจากท่านในระยะยาว”

“ถ้าเช่นนั้นโปรดรอสักครู่ ข้าจักไปตามนายท่านมาพูดคุยกับท่าน เชิญเลือกสินค้าอื่นรอก่อนขอรับ” ทำไมถึงเรียกนายท่านไม่เรียกเถ้าแก่กันนะ

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งอายุน่าจะมากกว่าร่างนี้ไม่เท่าไหร่ มีดวงตาสีฟ้าจางแต่งกายด้วยชุดสีขาวมีพู่หยกอยู่ตรงผ้าคาดเอว ผมพอจะรู้แล้วว่าทำไมไม่เรียกว่าเถ้าแก่เพราะแบบนี้เองสินะครับ

“เป็นคุณชายน้อยท่านนี้ใช่หรือไม่ที่ต้องการทำการค้ากับแคว้นหยุนของเรา”

“จะคิดเช่นใดก็ตามที่ท่านพึงพอใจเถิดขอรับ ข้าเพียงต้องการติดต่อซื้อขายสินค้ากับทางร้านท่านเท่านั้น โปรดระวังวาจาที่กล่าวออกมาด้วยข้าจะไม่ถือหากท่านมิได้ตั้งใจกล่าวมันออกมา”

คำพูดของชายตรงหน้าเหมือนกับว่าผมกำลังจะเข้าพวกกับชาวแคว้นหยุนเสียแบบนั้น มันอาจจะทำให้เกิดการต่อต้านกับคนบางกลุ่มที่นี่ก็ได้นะครับ คิดจะมากวนกันหรือยังไงกันครับ ถึงตอนนี้จะอยู่ในร่างเด็กอายุสิบสี่แต่อายุวิญญาณลุงก็ปาไปห้าสิบสี่แล้วนะไอ้หนุ่ม หึ

“ข้าน้อยต้องขออภัยคุณชายน้อยด้วยที่กล่าววาจาไปเช่นนั้น ขอข้าอภัยท่าน” ปากบอกขอโทษแต่สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมาตั้งแต่เริ่มไม่เปลี่ยนแปลงสักนิด อย่าบอกว่าคิดอะไรกับเจ้าหนูนี่นะ ลุงอุตส่าห์ดีใจที่เกิดมาธรรมดาไม่เป็นที่สนใจแล้วนะไอ้หนุ่ม

“ข้าไม่ถือสาหาความไม่รู้กับผู้ไม่รู้ เอาเถิดมาพูดคุยเรื่องสินค้ากันเถิด เกรงว่าทั้งท่านและข้ามีธุระจักต้องไปจัดการต่อกระมัง”

“ขอบคุณคุณชายน้อยที่ไม่ถือสาหาความ ว่าแต่ท่านต้องการสิ่งใดจากทางเรากัน” จ้องจนตัวลุงจะพรุนแล้วไอ้หนุ่มเก็บอาการบางก็ได้ ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้ด้วยสินะถึงมาทำท่าทางแบบนี้ใส่ เดี่ยวลุงก็หลุดสั่งสอนเอาหรอก

“ข้าอยากได้วัตถุดิบของท่านในระยะยาว ข้าจักหาช่องทางในการส่งข่าวบอกท่านได้อย่างไรเมื่อสินค้าใกล้จะหมด”

“เรือสินค้าของทางแคว้นหยุนจะเข้ามาขายสินค้าที่นี่ในทุกเดือน ต่อจากนี้หากท่านต้องการติดต่อสามารถส่งใบรายการของท่านได้ที่เราเพื่อนำสินค้ามาถึงท่านในครั้งต่อไป”

“หากเป็นจริง เช่นนั้นก่อนที่คณะทูตของท่านจะกลับข้าจะให้คนนำใบรายการมาส่งที่ท่านอีกครา”

“คณะทูตของทางแคว้นหยุนเราจะเดินทางกลับในอีกสองสัปดาห์ แต่พวกพ่อค้าจะเดินทางกลับในสัปดาห์หน้าที่จะถึง”

“ข้ารู้ว่าพ่อค้าเช่นพวกท่านน่าจะมาขายเพียงสัปดาห์เดียว”

“ถ้าเช่นนั้นท่านก็ส่งคนมาส่งใบรายการในอีกสัปดาห์ข้างหน้าเถิด”

“ข้าจะส่งให้ท่านในวันสุดท้ายของการเยือนของคณะทูตแคว้นหยุน”

“เหตุใดคุณชายน้อยถึงไม่เข้าใจที่ข้าบอกเล่า”

“ข้าหรือท่านกันที่ไม่เข้าใจ ตอนนี้ข้าทำการค้ากับท่านเหตุใดข้าจะต้องส่งให้กับพวกพ่อค้าด้วยกันในเมื่อท่านเป็นนายใหญ่ เอาเถิดข้าจะส่งคนนำทางกับพวกท่านในการส่งสินค้าครั้งนี้ ข้าขอตัว”

“ช้าก่อน ท่านเป็นใครกัน เหตุใดจึงดูเหมือนว่าท่านจะรู้จักข้า”

“ข้ามิได้รู้จักกับท่าน และข้าเป็นเพียงบุตรชายของร้านอาหารเพียงเท่านั้น”

“ข้าขอทราบนามของท่านได้หรือไม่ ข้ามีนามว่า ซางไป๋ ท่านเล่า”

“เป็นเกียรติที่ได้พบท่าน ข้ามีนามว่าเซียนอวี้”

“เช่นกัน หากมีเวลามากกว่านี้ให้ได้สนทนากันคงจะดียิ่งนัก”

“กระหม่อมคงมิกล้าขัดพระประสงค์ของพระองค์ในวันหน้าได้หรอกพะยะค่ะ เห็นทีวันนี้กระหม่อมต้องขอทูลลาพะยะค่ะ”

“อืม เอ๊ะ เซียนอวี้ ช้าก่อน เจ้าพูดสิ่งใดกัน เซียนอวี้”  มีเพียงแต่เสียงที่ดังตามมาเพราะหลังจากที่จบคำพูดก็เหลือเพียงแต่แผ่นหลังบอบบางที่อยู่สุดสายตา

“เดินหนีออกมาแบบนี้จะดีหรือเจ้าคะนายน้อย”

“ดีแล้วปล่อยให้ท่านซางไป๋หาสิ่งรบกวนจิตใจเองเถิด เราต้องรีบไปคุยกับร้านสัตว์ทะเลต่อ”

“เจ้าค่ะนายน้อย”

ผมเดินนำซีเอ๋อร์ออกมาไม่สนใจเสียงที่พยายามถามจากด้านหลัง ถ้าสังเกตอีกนิดจะเข้าใจว่าเพราะอะไรผมถึงทำแบบนั้น ไม่แปลกถ้าอ่านหนังสือวันละหลายๆเล่มแบบไม่เกี่ยงเนื้อหาแบบผมที่มีนิสัยนี้ติดมาจากโลกเดิม อย่ามาดูถูกลุงเลยไอ้หนุ่ม ลุงผ่านละครชีวิตมาเยอะ อย่ามาทำให้ลุงต้องอายอายุวิญญาณตัวเองเลย

TBC.

เรื่องราวหลังครัวปิด

ซางไป๋ : เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่ใช่พ่อค้ากัน
เซียนอวี้ : เพราะข้าฉลาดอย่างไรเล่า
ซางไป๋ : รู้ทันกันเช่นนี้อนาคตข้าคงไม่อาจแต่งอนุได้สินะ
เซียนอวี้ : ท่านกำลังกล่าวสิ่งใดกัน
ซางไป๋ : เปล่า ข้ามิได้กล่าวสิ่งใด (ไขว้นิ้วแทบไม่ทัน) 

ลงเนื้อหา 7/8/61
ปรับปรุงเนื้อหา 28/5/62
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 13:58:02 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พระเอกโผล่แล้วเหรอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

มาต่อไวๆนะ  :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#3

   หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์พ่อค้าแคว้นหยุนก็เดินทางกลับ ตอนนี้ที่ร้านมีกิจการรุ่งเรืองยิ่งขึ้นและดูเหมือนความสัมพันธ์กับแคว้นหยุนจะดียิ่งขึ้นอีกด้วย เนื่องจากทางร้านที่นำเอาวัตถุดิบจากทางแคว้นหยุนมาปรุงทำให้มีการสั่งสินค้ารวมถึงวัตถุดิบจากแคว้นหยุนมากมาย ถือเป็นผลพลอยได้จากร้านของผมก็แล้วกันครับ

ส่วนเรื่องการจัดอาหารเป็นชุดก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมากครับ ดูเหมือนมีลูกค้าที่พึงพอใจกับชุดอาหารมาก ไหนจะน้ำผลไม้ที่สั่งกลับบ้านจนคนคั้นแทบจะข้อมือพังไปตามๆกัน

“ข้าช่างโชคดียิ่งนักที่มีบุตรเช่นเจ้าอวี้เอ๋อร์” ตอนที่ได้ยินท่านพ่อเรียกแบบนี้ก็มีติดสตั้นกันไปช่วงหนึ่งครับ ก็ผมมันคุณลุงนี่ครับมาเรียกซะเด็กน้อยแบบนี้จะเคืองก็ไม่ได้เพราะเรามาอยู่ในร่างของลูกเขา ทำใจยอมรับก็พอครับ เฮ้อ ลุงเศร้า

“ท่านกล่าวหนักไปแล้วท่านพ่อ สิ่งที่ข้าทำก็เพื่อทดแทนบุญคุณที่ท่านเลี้ยงดูข้ามา ตามหน้าที่ของบุตรเพียงเท่านั้น ยามข้าได้เห็นท่านสุขกายสบายใจข้าก็รู้สึกเหมือนได้รับรางวัลแล้ว”

“อวี้เอ๋อร์ หากเจ้าต้องการสิ่งใดโปรดบอกแก่บิดาคนนี้ ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใดพ่อจะหามาให้เจ้าเองลูกรัก”

“ไว้ยามใดที่ข้ามีเรื่องจะรีบมาปรึกษาท่านทันทีเลยขอรับท่านพ่อ เวลานี้ท่านต้องทานเยอะๆนะขอรับ ข้าตั้งใจทำเพื่อท่านเลยนะขอรับท่านพ่อ”

“ดีๆ”

ครอบครัวของฟางเซียนอวี้คนนี้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากครับ ขนาดผมมาอยู่ตอนที่ร่างนี้ขาดแม่ไปแล้วนะครับ ผมแอบอิจฉาอยู่พอสมควรแต่ตอนนี้ผมมาอยู่ในร่างนี้แล้วตามที่เคยบอกกับเจ้าของร่างไว้ ผมจะทำให้ครอบครัวของเขาอยู่อย่างสุขสบายจนบั้นปลายชีวิตเลยครับ

ผมเป็นคนที่แปลกอย่างหนึ่งครับไม่ว่าจะตอนที่อยู่โลกเดิมก็ตามผมชอบอากาศเย็นๆตอนกลางคืนแบบนี้มากครับ แต่เพราะโลกเดิมไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็มักจะหาความสงบไม่เจอในเมืองหลวงเลยมีหลายครั้งที่ผมออกทริปไปเที่ยวคนเดียวตามสถานที่พักผ่อนต่างๆจนโดนบ่นจากผู้คุมศูนย์บ่อยครั้งเรื่องการหาแรงบันดาลใจในชีวิตเสมอ

อากาศตอนกลางคืนของโลกนี้เย็นสบายมากเลยครับไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศจำพวกนั้นเลยสักนิด แถมที่นี่ยังไม่มีมลพิษในอากาศด้วยเพราะไม่มีควันเสียจากรถยนต์หรือโรงงาน แถมยิ่งดึกจะยิ่งเงียบสงบมากขึ้น

ผมเลยชอบที่จะจุดเทียนที่โต๊ะหนังสือเพื่อเขียนสูตรอาหารรวมเล่มไว้เผื่อทำขายในอนาคตและนั่งนึกสูตรอาหารในโลกก่อนของหลายเชื้อชาติ วันนี้ผมไปเจอข้าวสารแบบญี่ปุ่นมาครับน่าจะทำพวกข้าวปั้นหรือข้าวห่อสาหร่ายแบบญี่ปุ่นมากครับ

ถ้านับเมนูอาหารที่ผมเขียนไว้ก็เกือบสิบเล่มได้แล้วครับ แยกเป็นเครื่องดื่ม ขนม อาหาร แถมผมยังซื้อตำราศาสตร์ต่างๆจากร้านหนังสือมาศึกษาเพิ่มเติมด้วย เพราะความเป็นอัจฉริยะที่ติดตามมาด้วยทำให้ผมสามารถเข้าใจศาสตร์ต่างๆของโลกนี้มากขึ้น

ที่ติดน่าจะเรื่องการฝึกยุทธ์ที่ผมไม่มีหัวทางด้านนี้เลยบวกกับร่างกายของร่างนี้ด้วยที่ไม่แข็งแรงทำให้การฝึกยากยิ่งขึ้น แต่เรื่องการป้องกันตัวผมจำจากโลกเดิมก็พอจะดูแลตัวเองได้ แต่โลกที่การฆ่ากันเป็นผักปลาแบบนี้ผมถือเป็นเด็กน้อยเลยครับพออยู่ในร่างเจ้าเด็กคนนี้

พรึบ!!!  มีใครบางคนกอดผมจากด้านหลัง ผมเองก็ลืมคิดไปว่าถึงโลกนี้จะสงบแตกต่างจากโลกเดิมแต่ก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่าโจรอยู่ แต่ดูเหมือนผมจะประมาทไปเพราะเจ้าโจรคนนี้น่าจะต้องการสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ทรัพย์สินแล้วละมั้งครับ

“เหตุใดเจ้าถึงไม่ดิ้น หรือว่ารู้กันว่าเป็นเปิ่นหว่าง” ไม่น่าจะเดายากหรอกครับคนที่กล้าเข้าบ้านชาวบ้านเขาหน้าไม่อายแบบนี้คงเป็นเจ้าเด็กท่าเรือคนเดียว

“กระหม่อมก็พึ่งจะรู้ว่ากิจกรรมยามว่างขององค์ชายจากแคว้นหยุนจะทรงชื่นชอบการละเล่นเป็นโจรราคะเช่นนี้” ด่าขนาดนี้ยังจะกอดลุงอีกนะไอ้หนุ่ม

“หึ เราหาได้เป็นตามที่เจ้ากล่าวไม่อวี้เอ๋อร์ และสิ่งที่เราทำก็มีเพียงแต่กับเจ้าเท่านั้น” ไอ้เด็กหน้าด้าน ลุงด่าไม่สำนึกยังจะมาหยอดคำหวานอีก

“กระหม่อมควรจะยินดีสินะพะยะค่ะ”

“ใช่ เจ้าควรยินดียิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่มีผู้คนมากมายทั้งชายหญิงหวังที่จะมาเป็นชายาเอกของเรา แต่เพราะเราไม่สนใจในราชบัลลังค์แบบพวกท่านพี่สักเท่าใดจึงมิลำบากยามเลือกคู่ครอง”

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทราบเรื่องราวส่วนพระองค์จากท่าน แต่จะดียิ่งนักหากพระองค์จะทรงปล่อยกระหม่อมให้เป็นอิสระสักครา”  ปล่อยลุงเดี๋ยวนี้นะไอ้หนุ่ม ลุงไม่ได้กลัวหรอกนะ ลุงแค่ป้องกันตัวเอง

“ข้าชมชอบเจ้ายิ่งนัก ยิ่งพยศยิ่งน่ากำหลาบยิ่ง”  จะไม่ฝึกสัตว์ให้เชื่องที่ไหนก็ไป อย่ามายุ่งกับลุง อย่าหาว่าลุงไม่เตือนนะไอ้หนู

ผมสะบัดตัวจนหลุดแล้วทิ้งระยะห่างจากองค์ชายแคว้นหยุนมากเท่าที่จะหนีทันหากอีกฝ่ายคิดจะพุ่งใส่

“อย่าได้กลัวเราไป ขออภัยที่เสียมารยาทล่วงเกินเจ้า ทำตัวตามสบายเถิด คิดเสียว่าเป็นการหยอกล้อของสหายเท่านั้น” เพื่อนบ้านเอ็งสิไอ้หนุ่มมายืนกอดอยู่ได้นานสองนานแบบนี้ ถ้าไม่ติดว่าการทำร้ายเชื้อพระวงศ์ต้องโทษประหารนะ เอ็งไม่รอดจากเงื้อมมือลุงหรอกไอ้หนุ่ม

“ช่างน่ายินดียิ่งนักได้รับเกียรติเป็นถึงพระสหายขององค์ชายเช่นนี้”

“เหตุใดวาจากับการกระทำของเจ้าถึงดูสวนทางกันเยี่ยงนั้นเล่า”

“กระหม่อมควรดีใจหรือไม่พะยะค่ะที่องค์ชายบุกรุกเข้ามาในจวนยามวิกาลแถมยังทำการล่วงเกินกันถึงเพียงนี้ เราทั้งสองต่างเป็นคนแปลกหน้ากันนะพะยะค่ะ เหตุใดพระองค์ถึงคิดจะไปไหนมาไหนโดยเอาแต่ตนเป็นที่ตั้งเช่นนี้พะยะค่ะ อีกทั้งยังมานับกระหม่อมเป็นสหายด้วยตนเองโดยไม่ถามความสมัครใจอีก พระองค์คิดว่าตัวเองเป็นองค์ชายแล้วจักทำการสิ่งใดก็ได้หรือพะยะค่ะ”

“วาจาของเจ้าช่างดูดุร้ายยิ่งนัก จักให้ข้าทำเช่นไรเจ้าถึงจะหายโกรธเคืองกัน” หน้าตาเหมือนหมาหงอยแบบนี้ทำเอาลุงจะด่าเอ็งต่อก็ดูใจร้ายเลยทีเดียว

“เฮ้อ เอาเถิดพะยะค่ะ พระองค์เสด็จมาด้วยเรื่องอะไรกัน”

“พูดกับเราแบบเดิมเถอะ ยามฟังเจ้ากล่าวกับเราห่างเหินเช่นนี้ มันปวดใจยิ่งนัก”

“ท่านหยุดกล่าววาจาราวกับกำลังเกี้ยวข้าเถอะ ข้าเป็นบุรุษธรรมดาไม่ได้นิยมตัดแขนเสื้อเท่าใด”

“ข้าชมชอบกิริยาของเจ้าคราแรกพบ จนมาถึงความเฉลียวฉลาดและช่างสังเกต จนมาบัดนี้ยิ่งหลงใหลกับวาจาที่ราวกับสั่งสอนนั่นอีก แต่ในเมื่อเจ้ากล่าวเช่นนั้น ก็ขอให้นับข้าเป็นสหายก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับเราเจ้าเป็นยิ่งกว่านั้นเสมอ เอาเถิดหากมีเรื่องอันใดก็ขอให้บอกอย่าได้เกรงใจกัน”

“ในยามนี้ข้าจำต้องทำตามที่สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะดูแลท่านพ่อให้อยู่สบายให้ได้มากที่สุดก่อน เรื่องอื่นๆข้าคงยังไม่สามารถจัดการได้ ขอให้ท่านเข้าใจ ในยามนี้เราเป็นเพียงสหายดั่งที่ท่านว่ามาเถิด ส่วนเรื่องในภายภาคหน้าก็แล้วแต่ชะตาที่จะเป็นผู้ลิขิตเส้นทางให้ก้าวเดินต่อไปเถิดขอรับ”  มีมิตรในยามที่โดดเดี่ยวในที่ที่ไม่มีคนรู้จักย่อมดีกว่ามีศัตรูนี่ครับ

ส่วนเรื่องที่จะยอมเป็นแฟนไหม อันนี้ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต อย่างในโลกก่อนผมเองก็ไม่ได้มีคนรักมาก่อนเหมือนกัน เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผมเป็นประเภทไหนกัน ชายแท้หรืออะไร อีกไม่นานผมก็คงได้คำตอบของมันเอง

“วันนี้ข้าเพียงจะแวะเข้ามาเยี่ยมเยียนเจ้าเท่านั้น แต่นี่ก็ดึกมากแล้วข้าคงไม่ขอรบกวน อีกไม่นานข้าจะกลับแคว้นแล้ว เลยอยากมาลาเจ้าก่อนเท่านั้น”

“ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้ยามเปิดร้าน ข้าขอเชิญท่านมาเป็นแขกก็แล้วกัน ข้าจะให้ท่านได้ทานวัตถุดิบจากแคว้นท่านที่ข้านำมาปรุงเป็นอาหารตามที่คิด บางชนิดท่านอาจจะเคยได้ทานมาแล้ว แต่ข้าอยากจะให้ท่านได้ลองอาหารจากทางร้านเช่นกัน”

“พรุ่งนี้หรือ ข้าไม่แน่ใจ” อาการคิดไม่ตกแบบนี้คืออะไรกันครับ

“ท่านไม่ว่างหรือ ถ้าท่านไม่ว่างไม่เป็นไร ข้าก็เพียงแต่อยากให้ท่านได้ชิมอาหารจากข้าเพียงเท่านั้น ข้าก็แค่อยากให้ท่านมาหาเพียงเท่านั้น” ก้มหน้าทำเสียงน่าสงสารลู่ไหลลงนิดๆ นี่มันท่าไม้ตายเวลาหนีความผิดเมื่อชีวิตก่อนของลุงเลยนะ

“ข้าว่างแน่นอน พรุ่งนี้ยามเจ้าเปิดร้านข้าจะรีบมาทานอาหารของเจ้าทันที อย่าได้ทำเหมือนข้าเป็นคนใจร้ายอย่างนั้นอีก” หึหึ เสร็จลุง

เรื่องอ้อนขออะไรก็ตามไม่ยากเกินความสามารถของลุงคนนี้ได้หรอกครับ อย่าลืมว่าในชีวิตที่แล้วของลุงการเป็นเด็กอัจฉริยะที่หาตัวได้ยากย่อมต้องถูกดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้างนะครับ และก็ที่คิดจะมาจีบลุงก็ควรจะต้องระวังตัวหน่อยนะครับเพราะลุงคนนี้ถนัดอ้อนนะครับ

“ข้าดีใจที่ท่านว่าง ถ้าเช่นนั้นคืนนี้ท่านกลับไปก่อนเถิด หากมีคนรู้เข้าว่าท่านลอบมาหาข้าเช่นนี้จะเสื่อมเสียเกียรติของท่านได้” มงจงมาครับงานนี้ พรมแดงเมืองคานส์รอลุงเลย

“ถ้าเช่นนั้นคืนนี้อย่าลืมฝันถึงข้าเล่า ข้าจักฝันถึงเจ้าเช่นกัน” ผมไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าแทน ไอ้หนุ่มเอ็งดีดน้ำมันพรายใส่ลุงใช่ไหม ทำไมเวลาเองทำเสียงนุ่มๆแบบนั้นใจลุงดันหวั่นไหวไปซะแล้ว ฟอด!!! แอ๊ะ

“เหตุใดท่านจึงคิดจะกินเต้าหู้ข้าเช่นนี้กัน”

“ก็เต้าหู้เจ้าช่างน่ากินยิ่งนัก เอาเถิดข้าลาก่อน” ไม่ทันได้ลงมือคนก็หายไปกับความมืดด้านนอกแล้ว บ้าจริงทำไมถึงหุบยิ้มไม่ได้กันนะ

ผมดีใจมากตอนที่เห็นหน้าของร่างนี้ ใบหน้าที่ธรรมดาไม่มีจุดเด่นอะไรให้ดึงดูดสายตาของคนอื่น เดินผ่านก็ไม่เหลียวหลัง ไม่ได้หล่อเหลาหรืองดงามแบบนิยายที่อ่านมาจนสะสมแต้มเก็บเข้าฮาเร็มทำนองนั้น

แต่พอมาเจอซางไป๋ผมก็เริ่มคิดว่าร่างนี้อาจจะไม่ได้มีดีที่หน้าตาแต่คงเป็นเสน่ห์อย่างอื่น ที่เมื่อมองผ่านๆจะไม่มีอะไรแต่เมื่อได้มองอีกครั้งก็ยากจะถอนสายตา ไม่แปลกถ้าจะมาตกหลุมที่ถูกขุดโดยบังเอิญแบบนี้ ผมว่าผมชักจะไม่แน่ใจเรื่องรสนิยมของคนโลกนี้ซะแล้วครับ

ยามเหมา(ตีห้าถึงหกโมงห้าสิบเก้า)ได้เวลาเปิดร้านแล้วครับ ผมจะนำเสนอเมนูง่ายๆอย่างพุดดิ้งกันนะครับวันนี้ ทำง่ายมากครับ อร่อยด้วย

“ข้าพร้อมแล้ว”

“เหตุใดท่านจึงมาไร้เสียงเช่นนี้ แล้วท่านเข้ามาในครัวได้เช่นไร”

“ข้าขอท่านพ่อตา อย่าทำหน้าตาเช่นนั้น ขอท่านพ่อของเจ้าแล้ว ท่านบอกว่าเจ้าอยู่ที่นี่” รีบเปลียนคำเพราะหน้าตาลุงหรือมีดในมือลุงกันแน่ไอ้หนุ่ม

“ท่านบอกพ่อข้าเช่นไร”

“ข้าบอกว่าข้าเป็นสหายของเจ้า”

“เท่านั้น”

“ข้าบอกว่าเป็นองค์ชายด้วย”

“หึ”

“อวี้เอ๋อร์ อย่าทำกับข้าเยี่ยงนั้นสิ ก็ข้ากลัวว่าพ่อเจ้าจะไม่ยอมให้ข้ามาพบเจ้านี่”

“ท่านกำลังใช้อำนาจจากยศของท่านเกินจำเป็น เพียงแค่ท่านบอกท่านพ่อว่าเป็นสหายข้าท่านพ่อก็เชื่อแล้ว”

“เหตุใดกัน”

“เพราะท่านเป็นสหายคนแรกของข้าอย่างไรเล่าซางไป๋”

“เจ้าคงมิได้กำลังล่อลวงข้าสินะ เหตุใดใจของข้าจึงส่ะนไหวรุนแรงเช่นนี้กัน”

“ท่านกำลังคิดไปเอง” เอ็งไม่ทันลุงหรอกไอ้หนุ่ม

“เมื่อครู่เจ้าคงจะตกใจสินะ ข้าจะกอดปลอบเจ้าเอง”

“สำรวมกิริยาของท่านเถอะซางไป๋”

“เจ็บปวดใจยิ่งนัก ว่าแต่เจ้ากำลังทำสิ่งใดกัน”

“ข้ากำลังเตรียมทำขนมใหม่ของทางร้าน”

“พวกเจ้าดูเถิด มีชายาเก่งด้านงานในบ้านเช่นนี้ เป็นบุญของข้ายิ่งนัก” ผมก็พึ่งจะสังเกตว่ามีคนของซางไป๋ติดตามเข้ามาไหนจะคนของผมที่กำลังยกไข่ไก่เข้ามาอีกทันได้ยินที่ซางไป๋พูด หรือว่าอยู่กันมาแต่แรกแล้วนะ

“หยุดกล่าววาจาเลื่อนลอยต่อหน้าคนอื่นเสียก่อนที่ข้าจะคิดเรื่องคำขอเป็นสหายของท่านอีกครั้ง”

“โปรดจำไว้ว่าข้ายอมเพียงแต่เจ้าผู้เดียวเท่านั้นอวี้เอ๋อร์”

“เซียนอวี้คือนามของข้าโปรดเข้าใจ”

“อวี้เอ๋อร์”

“เซียนอวี้”

“ข้าชมชอบการเรียกขานเจ้าว่าอวี้เอ๋อร์”

“ข้าจักให้โอกาสท่านกล่าวอีกครั้ง”

“เซียนอวี้ย่อมได้”

“ดี ท่านตามข้าไปที่ห้องทานอาหารเถิด คนของข้าคงจะเตรียมสำรับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราเสียเวลามากแล้ว”

“เจ้ากำลังว่าข้าใช่หรือไม่”

“สงบคำเสียบ้างท่านจะดูน่าคบหายิ่งนัก”

“ข้ายอมเจ้าแล้ว” มันคงเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับคนของซางไป๋น่าดูครับ ก็เล่นอ้าปากค้างกันแบบนั้น

“ตามข้ามาเถอะ ท่านจะได้ชิมเสียที”

ผมเดินนำซางไป๋และคณะไปที่ห้องอาหารผมจัดไว้สองห้องเป็นห้องของซางไป๋กับผมและองค์รักษ์ ส่วนอีกห้องเป็นของเหล่าผู้ติดตาม โดยมีซีเอ๋อร์เป็นคนคอยแนะนำอาหาร

“ลองทานดูเถิด” เมื่อนั่งเรียบร้อยผมก็เลื่อนจานอาหารให้ซางไป๋ลองทาน

“รสชาติดียิ่งเหมือนทานที่แคว้นข้าอย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งมีหลายอย่างที่แปลกตา ข้าไม่คิดมาก่อนว่าวัตถุดิบเช่นนี้จะสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายยิ่งนัก”

“ท่านสามารถนำกลับไปที่แคว้นของท่านได้”

“มิได้ อาหารพวกนี้ถือเป็นของเจ้า ข้าไม่กล้านำไปบอกต่อได้ แต่ข้าจะเชิญคนที่แคว้นและผู้คนให้มาลิ้มรสที่ร้านของเจ้าแทนยามที่เดินทางมาที่แคว้นเซียน ดีหรือไม่”

“เป็นบุญคุณต่อกันแล้วที่ท่านกรุณา”

“อย่าได้กล่าววาจาห่างเหินเช่นนั้น”

“ถ้าเช่นนั้นข้าย่อมขอบใจในน้ำใจของท่านซางไป๋”

“มิเป็นไร แล้วถ้วยนั้นคือสิ่งใดกันเล่า”

“นี่เป็นขนมที่ท่านเห็นสักครู่ มีชื่อเรียกว่าไข่หวาน”

“ไข่หวาน”

“ใช่ ท่านลองดูเถิด”

“รสชาติดี เด็กๆน่าจะชอบทาน”

“ถูกแล้ว ข้าทำเพื่อเด็กๆที่มาร้านอาหารนี้ มันมีส่วนผสมของไข่ไก่ น้ำตาลและนมวัวเท่านั้น”

“เจ้าช่างยอมเยี่ยมในด้านอาหารยิ่งนัก”

“ท่านชมข้าเกินพอแล้ว”

“เอาเถิดได้เวลาแยกย้ายแล้ว อีกไม่นานคงได้พบกันอีกครั้ง โปรดรอข้า ไม่นานข้าจะกลับมาอยู่เคียงข้างเจ้าแม้ว่าในยามนั้นข้างกายของเจ้าอาจไม่ว่างเว้นเช่นยามนี้ก็ตาม”

“ได้ ข้าจะรอท่านแม้ว่าในยามนั้นข้างกายข้าอาจจะมีผู้อื่นหรือไม่แต่ข้าจะเว้นที่ไว้ให้ท่านดีหรือไม่”

“ตกลงเจ้ากำลังล่อลวงข้าอยู่จริงหรือไม่”

“มีเพียงท่านที่คิดไปเอง”

“หึ ช่างเถิด ไว้พบกันครั้งหน้า คงมิใช่ข้าที่คิดไปเอง ยามถึงเวลานั้น ข้าหวังจะเป้นมากกว่าสหายกับเจ้า”

“มีเพียงเบื้องบนเท่านั้นที่ล่วงรู้เรื่องในกาลหน้า ข้าก็หวังจะได้พบกับท่านอีกครา”

“ลาก่อนชายาข้า” ยังจะมาเนียนเรียกลุงแบบนั้นอีก

“ลาก่อนสหายข้า”

“หึ”

ซางไป๋จากไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าคำที่บอกหมายถึงอะไร แต่ผมในตอนนี้มีเพื่อนสนิทแต่คิดไม่ซื่อหนึ่งอัตราแล้วครับ และผมจะเมินเจ้าองค์รักษ์เงาของซางไป๋ที่แอบซุ่มไปก่อนแล้วกันครับ

TBC

เรื่องราวหลังครัวปิด

เซียนอวี้ : ลุงไม่เข้าใจว่าผู้ชายโลกนี้เขาคิดกันแบบไหน
ซางไป๋ : ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดเรื่องอันใด แต่เรื่องที่ข้าชมชอบเจ้านั้นข้ากล่าวจริง
เซียนอวี้ : อย่ามาหลอกให้ลุงเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อนหน่อยเลยไอ้หนู
ซางไป๋ : แม้นมิเข้าใจแต่ผู้ใดจะได้กินโปรดทบทวนดีๆ
เซียนอวี้ : ...........
ซางไป๋ : หึ
เซียนอวี้ : ข้าลืมไปว่าทอดของทิ้งไว้ ไปละ
ฮุ่ยเอิง : ดูเหมือนข้าจักได้ลูกเขยเสียแล้ว.......เฮ้อ

ลงเนื้อหา 9/8/61
ปรับปรุงเนื้อหา 28/5/62
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 14:36:16 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เริ่มหวั่นไหวเล็กน้อยแล้วซิ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#4

   ครบกำหนดเปิดไวน์แล้วครับ ตามปกติต้องใช้เวลานานแต่ตามที่ได้บอกไปเพราะโลกนี้มีกำลังภายใน การหมักไวน์เลยเป็นเรื่องง่ายไปเลยครับ

“ท่านพ่อขอรับ นี่คือผูเถาจิ๋วที่ลูกเคยบอกท่านไว้ขอรับ”

“สีสันแปลกตายิ่งนัก กลิ่นก็หอมเช่นกัน”

“มันมีขั้นตอนการทานด้วยนะขอรับท่านพ่อ เพื่อความสุขยามทานขอรับ”

“ทำเช่นไรกัน”

“ท่านพ่อทำตามที่ลูกกล่าวนะขอรับ เริ่มจากการดูสีสันของมัน จากนั้นท่านก็ลองดมกลิ่น ทานเพียงเล็กน้อยหากแต่อย่ากลืนลงคอนะขอรับ ให้อมไว้เพื่อให้รสสัมผัสอยู่ในปากก่อน เสร็จแล้วถึงกลืนขอรับ เป็นเช่นไรบ้างขอรับท่านพ่อ”

“ยอมเยี่ยมยิ่งนัก ดั่งลิ้มรสสุราจากเทพเซียน เจ้าเป็นอัจฉริยะยิ่งนักลูกข้า”

“ท่านพ่อกล่าวเกินจริงแล้วขอรับ ลูกมิได้เป็นอัจฉริยะอันใดเพียงแค่เด็กชายอ่อนโลกเพียงเท่านั้น”

“แล้วเจ้าเรียกมันว่ากระไรนะ”

“ผูเถาจิ๋วขอรับท่านพ่อ”

“เป็นธรรมดาที่คนแก่เช่นพ่อย่อมเลอะเลือน”

“ท่านยังหนุ่มยิ่งนักขอรับ อย่าได้กล่าวเช่นนั้น”

“ถ้อยคำหวานล้ำนักบุตรข้า ตั้งแต่ที่เจ้าบาดเจ็บแล้วตื่นมาครานี้เจ้าดูเปลี่ยนไป คราแรกข้าเพียงคิดว่าตนคิดไปเองตามสภาพอายุ มาครานี้ยิ่งชัดเจนนัก แต่ดีแล้วที่เจ้าเปลี่ยนไปเช่นนี้ แต่ก่อนเจ้าเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านในครัว ไม่ยอมสุงสิงกับผู้ใด ทำตัวราวหญิงสาวในห้องหอไม่สมบุรุษชาตรีนัก ข้าดีใจที่บั้นปลายชีวิตคงจะได้อุ้มหลานก็คราวนี้ พ่อดีใจที่เจ้ามีมิตรสหายที่ดีแต่ดูๆไปข้าจะได้อุ้มหลานหรือไม่ก็คงจะแล้วแต่ชะตาละนะ แต่อย่างไรตอนนี้ข้าก็เตรียมจากไปอย่างสงบใจได้ เมื่อเจ้าเติบโตมาถึงเพียงนี้ ข้าหมดห่วงใดๆแล้ว”

“ท่านพ่ออย่ากล่าววาจาดูราวกับจะจากข้าไปสิขอรับ”

“ความตายเป็นสัจจะธรรมของโลก อย่าได้ยึดติดกายสังขาลเลย”

“ท่านพ่อขอรับ”

“เอาเถิด เรามาคุยเรื่องการค้าต่อเถิด เจ้าจะนำออกขายเมื่อใดกัน”

“วันนี้ยามอุ้ยขอรับ”

“ตามที่เจ้าว่ามาเถิด ร้านนี้พ่อยกให้เจ้าดูแลไปแล้ว หากมีสิ่งใดที่ทำได้จงทำแต่หากเกินกว่ากำลังให้มาบอกพ่อ เข้าใจหรือไม่ อย่าได้เกรงใจ เรามีกันอยู่เพียงเท่านี้”

“ขอรับ ข้าจะดูแลร้านให้ดีที่สุด ท่านอย่าได้กังวลใจเลยขอรับท่านพ่อ”

“ดีๆ เช่นนั้นข้าไปไปเดินหมากกับตาแก่ร้านผ้าก่อน เจ้าก็ดูร้านด้วยแล้วกัน”

“ขอรับท่านพ่อ”

ช่วงระยะหลังมา พ่อของเซียนอวี้มันจะพูดเหมือนปลงกับชีวิตเตรียมจะจากโลกนี้ไปแบบนั้นตลอดเลยครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมาก่อน แต่เพราะมาอยู่ในร่างของบุตรจะปล่อยไปแบบนี้ก็ไม่ได้ แต่จะไปฝืนชะตาก็ไมได้อีก ผมก็คงทำได้แต่ทำให้ท่านมีความสุขกับชีวิตที่เหลือเท่านั้นแหละครับ เฮ้อ ลุงเซ็ง

“นายน้อยขอรับ นายน้อย”

“มีเรื่องอันใดกันเสี่ยวเปา ส่งเสียงดังโหวกเหวกเช่นนี้ ประเดี๋ยวลูกค้าพากันตกใจกันหมด”

“ขออภัยขอรับ มีคนมาพบท่านขอรับนายน้อย”

“พบข้า ผู้ใดกันรึ”

“ดูจากเครื่องแต่งกายข้าคิดว่าน่าจะเป็นขุนนางในวังหลวงขอรับ”

“เช่นนั้นเร่งนำทางเถิด หากปล่อยให้รอนานเกรงจะเสียชื่อร้านเสียเปล่า” ผมละเบื่อพวกมียศมีศักดิ์มากครับ จะอะไรนักหนา ถ้ามาเพื่อซื้อของก็ดีไป มาหาเรื่องกันดูท่าจะจบไม่สวยหรอกนะ นี่คือเซียนอวี้ที่มีลุงอยู่อย่าได้คิดมาแหยมนะขอบอก

ผมที่กำลังตรวจบัญชีของร้านตามหน้าที่ก่อนเวลาร้านปิด ตอนนี้ยามอิ่ว(ห้าโมงถึงหกโมงห้าสิบเก้า)ที่นี่จะปิดร้านเร็วเพราะหลังจากนี้จะเป็นช่วงเวลาของทางหอโคมเขียวทำงานแล้ว ไม่ควรแย่งลูกค้ากัน

“ขออภัยที่ปล่อยให้ท่านต้องคอยนาน ข้าน้อยฟางเซียนอวี้ เป็นผู้ดูแลร้านนี้ขอรับใต้เท้า”

“ตามสบายเถิด ข้าเองก็มาแบบกะทันหันมิได้แจ้งมาก่อนเช่นกัน ข้าแซ่หวัง นามกงหมิน ต้องขออภัยที่มารับกวนช่วงที่ร้านวุ่นวายเช่นนี้”

“มิได้ขอรับท่านใต้เท้าหวัง เป็นเกียรติแก่ร้านข้าน้อยยิ่งนักที่ได้ต้อนรับอัครมหาเสนาบดีคู่พระทัยองค์ฮ่องเต้เช่นท่านขอรับ”

“เจ้าอย่าได้กล่าววาจาห่างเหินไปใย นับข้าเป็นพี่ชายเถิด”

บางทีลุงก็ไม่เข้าใจรสนิยมผู้ชายโลกนี้จริงๆนะ เป็นอะไรกันไปหมด มียศสูงเปรียบก็นายกรัฐมนตรีโลกก่อนเลยนะครับจะมานับพี่น้องกับพ่อค้าชั้นล่างแบบนี้ เจตนาไม่ดีแน่นอน จะว่าเพราะรู้จักคนใหญ่คนโตก็ไม่น่าจะสงสัยขนาดเอามาไว้ข้างกายหรอกครับ

ดูจากสายตาก็น่าจะพอเดาได้ ก็มันสายตาเดียวกับไอ้หนุ่มซางไป๋เลยนี่ครับ เหอะ คิดจะมาจีบลุงหรือไอ้หนุ่ม ลุงจะหลอกให้เปย์หมดตัวเลยคอยดู หึหึ

“มิกล้าขอรับท่านใต้เท้า ข้าน้อยเป็นเพียงพ่อค้าเล็กๆเพียงเท่านั้น ไม่กล้าอาจะเอื้อมหวังสูงเช่นที่ท่านกล่าวได้” ออสก้าก็มางานนี้ บอกกแล้วพรมแดงเมืองคานส์ครั้งหน้าชมพูไม่ได้เกิดนะ บอกเลย

“เรียกข้าว่าพี่กงหมินเถิด” เนียนกว่ารองพื้นที่รุ่นน้องในบริษัทก็ท่านหวังกงหมินนี่แหละครับ

“แต่ข้าน้อยเกรงว่า”

“หืม”

“ขอรับ ท่านพี่กงหมิน”

“ดียิ่งนัก วันนี้พี่ชายคนนี้มีเรื่องจะมาพูดคุยกับเจ้าไม่มากนัก องค์ฮองเฮาทรงมีพระประสงค์อยากจะเสวยอาหารจากทางร้านของเจ้าในวันพรุ่งยามเซิน”

“องค์ฮองเฮามีพระประสงค์ต้องการอาหารชนิดใดหรือไม่ขอรับ”

“ซาลา ขนมไข่หวาน แยมผลไม้ เมี่ยนเปาและกั่วจื่อ ใช่ๆอีกทั้งอาหารแคว้นหยุนด้วยเช่นกัน”

“เช่นนั้นหากเป็นยามเซิน ข้าของถวายสุราสูตรใหม่ที่ข้าคิดค้นขึ้นมาแก่พระองค์และองค์ฮ่องเต้ด้วยได้หรือไม่ขอรับ”

“หืม มันคือสุราอันใดกัน”

“เสี่ยวเปา ข้าขอผูเถาจิ๋วสักไหเถิด”

“ขอรับนายน้อย”

“ไหนี้ข้าขอมอบให้แก่ท่านนะขอรับ นี่เป็นสุรานามว่าผูเถาจิ๋วขอรับ เป็นการหมักจากผลผูเถาขอรับ มีขั้นตอนการดื่ม เริ่มจากการดูสีสัน การดมกลิ่น การอมไว้ในปากก่อนที่จะกลืนขอรับ”

“จริงรึ ข้าคงต้องขอเสียมารยาทเจ้าแล้ว” ทานไปเถอะครับจะมามองหน้าทำไมกัน

“เป็นเช่นไรบ้างขอรับ”

“สีสันดี กลิ่นดี รสชาติดี ไม่บาดลิ้นเหมาะแก่สตรีเช่นกัน”

“ขอรับ หากได้ลองกับอาหารจานใหม่ที่ข้าคิดค้นมาและกำลังจะวางขายในอีกสามวันจะยิ่งดีขึ้นมากขอรับ”

“อาหารใหม่รึ ดียิ่งนัก ไว้ข้าจะหาเวลาว่างมาลิ้มลองอีกครา”

“ขอบพระคุณขอรับ”

“อย่าได้กล่าววาจาห่างเหินนัก นับกับเป็นพี่น้องเยี่ยงนี้อย่าได้มามัวเกรงใจกันไปใย หากมีสิ่งใดที่พี่ชายคนนี้ช่วยเจ้าได้โปรดกล่าวมา ยามนี้ก็มืดค่ำเสียแล้ว ข้าคงต้องขอตัวก่อนมารบกวนเจ้านานพอตัวเชียว”

“ไม่ได้รบกวนอะไรเลยขอรับ หากท่านคิดเช่นนั้นน้องชายผู้นี้ก็ยินดีให้ท่านมารบกวนทุกวันขอรับ”

“พูดได้ดีๆ ไว้โอกาสหน้าพบกันเถิด”

“ขอรับท่านพี่กงหมิน” เห็นเด็กแบบนี้ลุงอายุวิญญาณเยอะแล้วนะไอ้หนุ่ม ไอ้เรื่องปลูกอ้อยแล้วทิ้งนี่อย่าได้มาเล่นกับลุงเชียว ถึงลุงจะไม่เคยใช้มาก่อนแต่ทฤษฎีลุงมีเพียบนะไอ้หนู


ยามเซิน(สามโมงถึงสี่โมงห้าสิบเก้า), พระราชวัง, ตำหนักที่ประทับองค์ฮ่องเต้

“มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นรึ ข้าเห็นเจ้าอารมณ์ดียิ่งนักตั้งแต่ข้าวาราชการในท้องพระโรง” เสียงเหย้าจากผู้ปกครองแผ่นดินไถ่ถามสหายรักของตนที่อยู่ร่วมโต๊ะอาหารพร้อมกับฮองเฮาที่รัก

“พวกท่านสองคนจะคิดเช่นไรหากข้ากงหมินผู้นี้อยากแต่งฮูหยินสักครา”

“ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก ตั้งแต่ที่เรารู้จักท่านมาจนเราสมรสกับฮ่องเต้จนมีบุตรชายหญิงมากมาย ข้าพึ่งจะได้ยินท่านกล่าวเช่นนี้คราแรก ท่านไปถูกใจหญิงสาวบ้านใดกัน”

“อย่างที่ฮองเฮากล่าวมา เจ้ากำลังคิดสิ่งใดกันสหายข้า”
 
“ข้าพบเจอคนผู้หนึ่ง ใบหน้าธรรมดาไม่เป็นที่สะดุดตานัก หากแต่ความเฉลียวฉลากรอบรู้อีกทั้งเสน่ห์ที่น่าหลงใหลที่ซ่อนอยู่ภายในตัว ใจของข้าที่นิ่งสงบมากนานกลับสั่นไหวดั่งผิวน้ำที่ถูกโยนก้อนหินลงไปจนกระเพื่อมไหว”

“กล่าวเสียจนข้ายังเขินอายแทน แล้วเป็นผู้ใดกันที่ท่านกล่าวมา”

“เป็นบุตรชายเจ้าของร้านอาหารฟาง”

“ช้าก่อนสหายข้า เจ้ากำลังจะบอกกับข้าว่าผู้ที่ทำให้เจ้ากล่าววาจาราวติดอยู่ในห้วงฝันคือบุรุษ”

“ใช่ ข้าจักต้องหาวิธีให้อวี้เอ๋อร์ยอมมาเป็นฮูหยินข้าให้จงได้”

“จากที่ท่านกล่าวมา ดูท่าบุรุษผู้นั้นคงมิได้ปลงใจกับท่านกระมัง”

“ดั่งเช่นที่ท่านกล่าวฮองเฮา ตอนนี้ข้าได้เพียงสถานะพี่ชายเพียงเท่านั้น แต่ตราบใดที่ข้าตามตื้ออยู่เช่นนี้ ไม่นานอวี้เอ๋อร์ย่อมต้องยินยอมเป็นแน่”

“ข้าชักจะสนใจผู้ที่ทำให้สหายข้าแสดงอาการแปลกประหลาดเช่นนี้สักครา”

“ขอประทานอภัยพะยะค่ะ ขณะนี้อาหารจากทางร้านฟางมาถึงแล้วพะยะค่ะ”

“นำขึ้นโต๊ะเสวยเลยท่านกงกง”

“พะยะค่ะ”

“อาหารใดจึงมีหน้าตาแปลกเช่นนี้”

“ข้าได้ยินเสียงเล่าลือจากบรรดาสนมมามากนัก วันนี้ข้าจักได้ลิ้มรสสักครา”

“แล้วนั่นไหอะไรกันเสี่ยวหมิน”

“เป็นสุราสูตรใหม่ที่อวี้เอ๋อร์ของข้าคิดขึ้นมา มีขายที่ร้านอาหารฟางเท่านั้น”

“เช่นนั้นข้าคงได้พบหน้าน้องชายคนใหม่ของเจ้าแล้วกระมัง”

“จริงดังที่ท่านว่า กฎการค้าสุราของแคว้นเราหากจะค้าขายสุรากับผู้ใดต้องแจ้งแก่กรมยุติธรรมเสียก่อน”

“ในเรื่องนี้ข้าจักช่วยเจ้าเองสหายรัก”

“เช่นนั้นลองทานดูเถิด”

“สีสันแปลกตา กลิ่นดี รสชาติดี ฮองเฮาลองดูเถิด”

“เพคะ รสชาติดียิ่ง ไม่แสบร้อนยามทานลงคอเช่นสุราอื่น”

“ใช่หรือไม่ ว่าที่ฮูหยินข้าเก่งยิ่งนัก”

“ตามที่ท่านพึงใจเถิดท่านกงหมิน”

 TBC.

เรื่องราวหลังครัวปิด

เซียนอวี้ : คิดจะมาเต๊าะลุงหรือไอ้หนุ่ม กลับไปฝึกมาใหม่ไป
กงหมิน : น้องอวี้เจ้ากำลังพูดกับผู้ใดกัน
เซียนอวี้ : ข้าเพียงท่องสูตรอาหารเท่านั้นขอรับท่านพี่กงหมิน
กงหมิน : เจ้าช่างขยันยิ่งนักน้องอวี้
เซียนอวี้ : เอ่อ.....ขอรับ

ลงเนื้อหา 14/8/61
ปรับปรุงเนื้อหา 28/5/62
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 15:12:43 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :impress2: :impress2: :impress2: เราตามมาจากเด็กดี เราจะเมนต์ทุกตอน คนเขียนอย่าเทเรานะ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เสน่ห์แรงยิ่งนักทั้งรัชทายาท ทั้งเพื่อนสนิทฮ่องเต้ แต่ละคนตำแหน่งใหญ่ๆโตๆซะด้วย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ลุง ดูมีความสุข ได้ย้อนอดีตไปอยู่ในสมัยโบราณ
อากาศบริสุทธิ์สดชื่่น ไม่มีมลพิษ  ❤❤❤❤❤
ที่สำคัญเงียบสงบ น่าไปอยู่ตามลุงนะ  :hao3:

ลุง กลายเป็นเชฟดังแล้ว
ทำทั้งอาหาร ขนม หมักไวน์
ที่สำคัญลุงเนื้อหอม มีผู้สูงศักดิ์อยากให้เป็นชายาถึงสองคน
แต่ดูเหมือนลุงเริ่มอ่อนไหวกับซางไป๋แล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#5

“ยามซื่อจะมีรถม้าจากทางวังหลวงมารับท่านไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่พระราชวังนะขอรับ”

“ขอบคุณท่านมากที่เป็นธุระส่งสารเช่นนี้”

เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาตาข้างขวากระตุกรัว ผมพยายามที่จะไม่คิดมากและบอกตัวเองว่าคงไม่มีอะไร มันเป็นปฏิกิริยาจากการทำงานของร่างกายส่วนของดวงตาที่หนักเกินไปเพียงเท่านั้น แต่พอเปิดร้านได้ไม่นานกลับมีข้าราชบริพารในวังหลวงมาส่งสารเชิญผมที่เป็นคนดูแลร้านนี้ไปเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้ที่วังหลวงซะอย่างนั้น

ยามอู่ พระราชวัง ตำหนักรับรองแขกองค์ฮ่องเต้

“ถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานพะยะค่ะ”

“ลุกขึ้นเถิด เจ้ามีนามว่ากะไรกัน”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ กระหม่อมแซ่ฟางนามเซียนอวี้พะยะค่ะ เป็นบุตรชายเจ้าของร้านอาหารฟางพะยะค่ะ”

“เหตุที่เจิ้นเรียกเจ้าเข้ามาพบวันนี้ เพราะกฎการค้าสุราของแคว้นเรา เมื่อใดก็ตามที่มีผู้ประสงค์จะค้าขายสุราจำต้องส่งเรื่องเพื่อกำหนดขอบเขตการค้ากับทางเจ้ากรมยุติธรรมเสียก่อนดำเนินการค้า เจ้าคงจะรับรู้มาบ้างแล้ว”

“พะยะค่ะ กระหม่อมศึกษามาพอสมควรเรื่องการค้าสุรา ยามนี้กระหม่อมเพียงค้าในร้านของกระหม่อมเท่านั้นจึงแจ้งไปเพียงค้าขายที่ร้านเท่านั้น”

“นับจากนี้เจิ้นจะขอแจ้งแก่เจ้าเรื่องการส่งหนังสือการค้าสุราเมื่อค้าขายกับบุคคลหรือร้านอื่นนอกเหนือจากที่แจ้งไว้กับทางกรมยุติธรรมที่ท่านเสนาหวังแต่เพียงผู้เดียว เข้าใจหรือไม่”  อย่าบอกว่ามันจะเกี่ยวกับเด็กแซ่หวังคนนั้นด้วยครับ ชักได้กลิ่นทะแม่งๆยังไงๆ

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ หากกระหม่อมคิดจะค้าสุรานอกจากร้านตนจะแจ้งแก่ท่านเสนาหวังพะยะค่ะ”  มีเรื่องกับฮ่องเต้ก็ไม่มีประโยชน์ ดูจากสายตามที่ส่งมาแปลว่ารู้เรื่องที่หวังกงหมินคิดจะจีบลุงด้วยสินะ

“ท่านเสนาหวังมาพอดี เจิ้นมีราชกิจที่ต้องไปสะสางรออยู่ เจิ้นของมอบหมายให้ท่านเสนาหวังพูดคุยตกลงต่อจากเจิ้นก็แล้วกัน”

“น้อมส่งเสด็จพะยะค่ะ” ทั้งผมทั้งท่านหวังกงหมินต่างส่งเสด็จองค์ฮ่องเต้ที่รีบหนีไปซะงั้นเมื่อต้นเรื่องเดินเข้ามาราวกับนัดแนะกันมา

“คาราวะท่านเสนาหวังขอรับ”

“ตามสบายเถิด วันนี้พี่ชายคนนี้อยากจะชวนน้องอวี้มาร่วมทานมื้อเที่ยงได้หรือไม่ หรือมิพึงใจ”

“มิได้ขอรับอย่าได้กล่าววาจาเช่นนั้น ท่านนับเป็นพี่ชายของข้าเช่นนี้ ตัวข้าน้อยย่อมต้องยินดีที่ได้รับเชิญยิ่งนัก” จงเป็นพี่ชายลุงไปซะไอ้หนุ่ม

“ดียิ่งนัก เชิญๆ”  จงอยู่ในเขตบารเธอร์โซนไปซะ อย่ามาทำท่าหงุดหงิดใจเด็ดขาดนะ เลือกเอาไว้เอง อยากขุดหลุมไว้ก็ตกลงไปซะ คิดจะมาตีสนิทกับลุงแล้วเลื่อนขั้นต้องทำใจ อยากเป็นพี่น้องก็หยุดอยู่ตรงนั้นเถอะ ลุงขอเตือน

หลังจากนั้นกว่าจะสลัดเจ้าเสนาหวังที่เกาะแกะเป็นปลิงหวังจะเคลมน้องเป็นเมียออกไปได้เล่นเอาพลังงานในร่างเกือบหมดตัว ขากลับจากวังมีรถม้ามาส่งเหมือนเดิมแต่ว่ากลับมีเหตุการณ์ระหว่างทางเกิดขึ้นเสียก่อน

“ขออภัยโปรดหยุดรถม้าก่อนเถิด”

“มีเหตุอันใดหรือขอรับ”

“ข้าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากทิศทางนั้น ข้าจะไปดูสักครู่”

“ข้าจะส่งทหารไปตามที่ท่านกล่าวมา คงไม่สามารถให้ท่านได้รับอันตรายใดๆได้”

“เช่นนั้นข้าขอรบกวนท่านแล้ว”

“มิได้ขอรับ” ไม่รู้ว่าเจ้าเสนาหวังคนนั้นพูดอะไรกับทหารคุ้มกันพวกนี้ถึงดูนอบน้อมกันขนาดนี้ คงไม่ได้ไปพูดอะไรแปลกๆหรอกนะ

ไม่นานทหารที่ถูกส่งไปก็กลับมาพร้อมหญิงงามคนหนึ่ง ผมให้ผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาด้วยก่อนจะส่งผ่าให้เช็ดทำความสะอาดและจัดแต่งเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยซะก่อน

หลังจากที่ถึงร้านอาหารฟาง ผมก็พาหญิงสาวที่ช่วยเหลือมาพักที่ห้องรับรองแขกของทางร้านก่อนจะพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“ขออภัยแม่นาง ข้าขอทราบนามของท่านได้หรือไม่ ข้าแซ่ฟาง นามเซียนอวี้”

“เป็นบุญคุณแล้วที่ท่านช่วยเหลือข้าคุณชายฟาง ข้ามีนามว่าอิงฮวา เป็นเจ้าของหอนางโลมฮวาที่ห่างจากร้านท่านไม่ไกลนัก”

“ข้าขอถามท่านได้หรือไม่ถึงสาเหตุที่ท่านตกอยู่ในอันตรายเช่นนั้น”

“ตามปกติแล้วเราจะมีคนทำหน้าที่ติดต่อสินค้า พวกวัตถุดิบต่างๆในการบริการที่หอของข้า แต่วันนี้คนที่ทำหน้าที่ดันหยุดงาน ข้าที่ว่างเลยคิดออกมาทำ แต่ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องร้ายระหว่างทางเช่นนี้”

“อย่าเศร้าใจไปเลยขอรับ ตัวข้าได้พานพบท่านย่อมเป็นชะตาลิขิตจากเบื้องบนแล้ว โปรดจงวางใจ”

“ข้าเรียกเจ้าว่าเสี่ยวอวี้ได้หรือไม่”

“ได้ขอรับท่านพี่อิงฮวา”

“ข้ารูสึกถูกชะตากับเจ้ายิ่งนัก หากมิรังเกียจมีเรื่องเดือดร้อนอันใดโปรดจงบอกแก่ข้ามาได้ทุกยาม พี่สาวคนนี้ยินดีนักที่จะได้ช่วยเหลือเจ้า”

“เป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้นับพี่ถือน้องกับหญิงสาวที่งดงามเช่นท่าน ข้าเป็นผู้น้อยจะกล้านำเรื่องเดือดร้อนอันใดไปรบกวนท่านได้”

“ปากหวานเช่นนี้คงมีหญิงสาวมาติดพันมากมายยิ่งนัก จริงหรือไม่”

“มิกล้าๆ”

“เหตุใดข้ามิเคยพบเจอเจ้ามาก่อนเล่าน้องอวี้”

“ข้าเป็นเพียงเด็กน้อยที่อ่อนต่อโลกเท่านั้น ไม่มีความกล้าที่จะเหยียบย่างออกจากชานเรือนตนนอกจากเรื่องวัตถุดิบของทางร้าน จึงมิแปลกที่จักไม่มีใครเคยเห็นหน้าค่าตาของน้องชายคนนี้มาก่อน”

“หากเป็นเช่นนั้น วันนี้พี่สาวคนนี้จะพาเจ้าได้เปิดหูเปิดตากับที่หอของข้าเสียแล้ว สนใจหรือไม่”

“จริงหรือขอรับท่านพี่อิงฮวา” เสร็จลุง คืนนี้ลุงจะแปลงร่างเป็นผีเสื้อราตรีให้ได้

“จริงแท้ ข้าจักขอท่านพ่อของเจ้าให้เอาหรือไม่”

“ข้าไม่รู้จักตอบแทนท่านเช่นไร”

“อย่าได้เกรงใจไป นับพี่นับน้อง เป็นเรื่องสามัญหากเราจะแบ่งปันความสุข”

“จริงแท้ขอรับท่านพี่”

“นายน้อยขอรับ”

“มีเรื่องอันใดรึเสี่ยวเปา”

“นายท่านให้มาเรียนท่านว่าหากเสร็จธุระท่านจักขอพูดคุยเรื่องที่ท่านเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้วันนี้ของรับ”

“ข้าลืมไปได้เยี่ยงไร เอาเถิดข้าจักรีบไป เจ้านำขนมน้ำชาตามข้าไปด้วยแล้วกัน”

“ขอรับนายน้อย”

“พี่อิงฮวา มาเถิด ข้าจะแนะนำท่านให้รู้จักกับท่านพ่อของข้า”

“ตามใจเจ้า”

ผมเดินนำหญิงสาวที่นับเป็นพี่น้อง ผมไม่เคยเจอผู้หญิงคนอื่นนอกจากคนในร้านตัวเองมาก่อน พอมาเจอก็อดตกใจไม่ได้ สวยมากครับ แล้วคิดดูว่าผมจะได้ไปอยู่ท่ามกลางเหล่าหญิงสาวที่งดงามคืนนี้

“อวี้เอ๋อร์เจ้าจักเดินเลยข้าไปแล้วนะ คิดอันใดอยู่กัน”

“ลูกขออภัย” อย่ามองลุงด้วยสายตาแบบนั้นครับ มันเพลินไปบ้างเป็นเรื่องปกติ

“ท่านพ่อขอรับท่านนี้คือท่านพี่อิงฮวา เจ้าของหอฮวาขอรับ”

“ยินดีที่ได้พบท่านเจ้าค่ะเถ้าแก่ฟาง”

“เช่นกันขอรับ”

“วันนี้ข้าขออนุญาตท่านพาน้องชายคนใหม่ของข้าไปเยือนหอฮวาได้หรือไม่เจ้าคะ”

“โอ้ดียิ่งนัก ข้ายังกลัวว่าลูกชายข้าจักเที่ยวหอนางโลมมิเป็นเสียแล้ว ได้ท่านช่วยดูแลข้าก็เบาใจยิ่งนัก”

“ท่านพ่อกล่าวเช่นนั้นไม่ไว้หน้าข้าเลยนะขอรับ”

“อย่ากล่าวเช่นนั้นลูกรัก นอกจากสหายของเจ้าก็ท่านเสนาหวังอีก ข้าต้องทำใจนานนัก”

“ท่านกล่าวอันใดกันท่านพ่อ”

“ขออภัย หากเป็นดั่งที่เถ้าแก่ฟางว่ามา น้องชายของข้าย่อมต้องหนักใจสินะเจ้าคะ”

“ดั่งที่ท่านกล่าวแม่นางอิงฮวา บุตรชายของข้าลาดเฉลียวแต่ไม่ทันใครในเรื่องรัก ต้องวานแม่นางสั่งสอนแล้ว”

“ข้ายินดีเจ้าค่ะ” ทำไมกลายเป็นว่าผมที่พามาต้องนั่งฟังสองคนนั้นคุยกันในเรื่องที่เข้าใจด้วยละครับ ดีนะครับมีขนมกุ้ยช่ายอยู่ให้ทานระหว่างมองคนคุยกัน

“ท่านพี่ขอรับ ข้ามีสิ่งที่อยากให้ท่านได้ลิ้มลอง”

“สิ่งใดกัน” ผมเตรียมขายของหลังจากที่ท่านพ่อออกไปเล่นหมากรุกกับข้างบ้านต่อ ส่วนเรื่องไปเฝ้าฮ่องเต้ก็หลังจากนี้ที่อยู่กับตามลำพังแทน

“ข้าคิดสุราใหม่มาขอรับยังไม่เปิดขายกับผู้ใดเพียงขายที่ร้านเท่านั้น ข้าหวังว่าท่านจะสนใจร่วมค้ามัน”

“สีสันแปลกตายิ่ง รสชาติดี ถ้าเช่นนั้นคืนนี้มาทำสัญญากันเถิดน้องรัก”

“ขอรับท่านพี่”

 นั่งคุยกันไปเพลินๆจนเวลาล่วงมาถึงช่วงปิดร้าน วันนี้ท่านพ่อจะทำบัญชีเองให้ผมไปกับพี่อิงฮวาได้เลย สาวๆจ๋าลุงมาแล้ววววววว

TBC.

เรื่องราวหลังครัวปิด

เซียนอวี้ : คืนนี้ลุงจะเป็นม้า 5555+
กงหมิน : เจ้าอยากโดนขี่รึน้องอวี้
ซางไป๋ : หนีเที่ยวเยี่ยงนั้นรึ เป็นม้าเช่นนั้นรึ อยากโดนเฆี่ยนด้วยแส้สินะ
เซียนอวี้ : นั่นพวกเจ้าพูดสิ่งใด แล้วสายตาเช่นนั้นคืออันใดกัน
ฮุ่ยเอิง : ลูกชาย เจ้าครัวทำตัวเยี่ยงภรรยาที่ดีมากกว่านะ
อิงฮวา : เหตุใดข้าถึงมีความสุขเยี่ยงนี้เล่า

ลงเนื้อหา 16/8/61
ปรับปรุงเนื้อหา 28/5/62
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 15:52:57 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ท่านเสนากับรัชทายาทรู้เข้าหอนางโลมจะไม่โดนสั่งปิดเหรอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ขำที่เค้าคุยกันท้ายเรือง

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ไปเลยจ้าา :a2:

ออฟไลน์ chun22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
จะรอติดตามนะคะ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ยิ่งอ่านยิ่งติดเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#6

   ยามซวี(หนึ่งทุ่มถึงสองทุ่มห้าสิบเก้า) หลังจากที่เดินทางมาได้ไม่นานเราทั้งสองคนก็มาถึงหอฮวาของท่านพี่อิงฮวาแล้วครับ สาวๆลุงมาถึงแล้วนะ วันนี้ลุงจะต้องสำรวจทุกซอกทุกมุมของหอนางโลมให้ได้ เห็นมาในหนังเยอะแล้ว อยากจะสัมผัสจริงสักที วันนี้แหละหึหึ

“ตามพี่สาวมาเถิด หากพลัดหลงไปคงยากจะตามหากัน”

“ขอรับ”

ภายในตัวหอแห่งนี้คล้ายกับในหนังพอสมควรครับ มีเสียงพูดคุยไม่ดังมากนัก แต่ก็เกินกว่าที่จินตนาการไว้เยอะเหมือนกันครับ ทั้งบรรยากาศ ผู้คน รูปแบบการต้อนรับ รวมถึงเด็กนั่งดริ้งด้วย

ลูกค้าที่เห็นจากในหนังจะต้องมีแต่พวกแก่ๆตัณหากลับบ้าง พวกขุนนางปลอมตัวบ้าง แต่ที่ผมเห็นโดยส่วนมากจะเป็นวัยรุ่นมากกว่า แทบจะหาคนแก่ไม่เจอเลย แถมหญิงสาวก็ไม่ได้แต่งหน้าหนาแบบที่เห็นในหนังด้วย

แสงจากโคมไฟที่ประดับไว้ก็ไม่ได้สว่างมากนัก การลูบการคลำก็ไม่ได้เห็นโจ่งแจ้ง แต่ดูเร้าอารมณ์เมื่ออยู่ใต้แสงโคมแบบนี้มากขึ้น ถ้าสังเกตกันให้ดีหรือผู้มีวิชาจะรู้เลยครับว่ามีกลิ่นกำยานที่ปลุกราคะผสมอยู่ในอากาศพอสมควร

ผมเดินตามพี่อิงฮวามาที่ชั้นบนของหอ เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบนายโลมที่หน้าตาดีมากคนหนึ่ง สวยมากครับ ไม่ต่างจากผู้หญิงเลย ข้างตัวมีกู่เจิ้งวางไว้

อาการสงบนิ่งภายนอกไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่าสายตาที่มองมาที่ผมในตอนนี้ ขนทั้งร่างพลันลุกแข่งกัน สัญญาณอันตรายในร่างผมร้องกันระงม บุคคลตรงหน้าอันตรายกว่าที่ตาเห็น สิ่งที่เห็นเป็นภาพลวงตาเท่านั้น

ตั้งแต่ที่ผมลืมตาขึ้นมาในร่างนี้ผมก็รับรู้ได้ว่าร่างนี้มีความลับอยู่หนึ่งอย่าง เซียนอวี้คนเดิมมีดวงตาที่ไม่ธรรมดาครับ สามารถมองเห็นกระแสปราณของฝ่ายตรงข้ามได้ถ้าต้องการ ในโลกนี้มีเรื่องกำลังภายใน การฝึกยุทธ์ เรื่องของปราณในโลกนี้น่าจะเป็นตัวบ่งบอกวิชาที่ฝึกฝนที่ไหลเวียนในร่าง ความเข้มของกระแสปราณที่เห็นขึ้นอยู่กับเจ้าของร่างว่าอยู่ในขั้นไหน ยิ่งเข้มแปลว่ายิ่งแกร่ง

แต่สิ่งแลกเปลี่ยนที่ร่างนี้ต้องเผชิญคือร่างกายที่อ่อนแอ ถึงผมจะเคยเป็นอัจฉริยะมาก่อนก็ตามแต่ และเรื่องศิลปะการป้องกันตัวในโลกก่อนผมจะทำได้ทั้งหมด แต่ร่างกายนี้ไม่สามารถทำตามที่ผมคิดได้เท่าที่ควร การป้องกันตัวก็ทำได้เล็กน้อย การจะฝึกวรยุทธ์แบบชาวบ้านคนอื่นเลิกคิดได้เลยครับ และนี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเจ้าของร่างถึงไม่กล้าออกจากบ้านตัวเองนัก

ว่ากันถึงกระแสปราณที่เคยเห็นมาจากความสามารถของร่างนี้ องค์ชายซางไป๋จากแคว้นหยุนมีปราณสีขาวทอง เป็นการฝึกวิชาธรรมดาของราชวงศ์ไม่แปลกที่จะผสมสีทองมาด้วยความเข้มมากพอดูแปลว่าฝีมือยากจะจับตัว ผมเลยไม่กล้าที่จะทำอะไรให้เคืองใจกันมากกว่าเดิมเพราะดูแล้วถ้าเกิดซางไป๋โมโหขึ้นมาผมคงไม่รอดแน่นอน

ส่วนอัครมหาเสนาบดีหวังกงหมินคนนั้นมีปราณสีขาวเข้ม นี่ก็เป็นอีกคนที่น่ากลัวเพราะว่าเข้มที่สุดจากที่ผมสังเกตชาวยุทธ์ที่เข้ามาทานอาหารที่ร้านแล้วครับ ไม่ธรรมดา การสนิทไว้น่าจะเป็นเรื่องดีที่สุดเหมือนกัน

ส่วนคนตรงหน้าของผมคนนี้ที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือนกันว่าอันตราย เพราะกระแสปราณที่ผมมองเห็นในตอนนี้เป็นสีดำเข้มจนน่ากลัว หมอนี่เป็นตัวอันตรายมากที่สุดในตอนนี้ สีดำคือวิชามาร ดูท่าแล้วผมคนนี้กำลังเจอกับคนระดับสูงจากพรรคมารสักที่แล้วละครับ

และนอกจากวิชาที่คงอยู่ของร่างนี้แล้ว ความสามารถที่ติดมากับวิญญาณของผมก็คือการรับรู้ถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวโดยสามารถระบุได้ว่าเป็นใครจากไอวิญญาณที่ลอยมาถึงผม ผมว่าน่าจะเป็นเพราะวิญญาณของผมที่ถูกดึงมาในตอนที่ตายเรื่องที่เห็นวิญญาณของคนอื่นก็คงไม่แปลกมากในความคิดผม

และเรื่องที่ซางไป๋กับท่านพี่กงหมินส่งคนมาคอยตามผมในเงาก็ไม่เกินขอบเขตการรับรู้ของผมไปได้หรอกครับ เรื่องที่ผมบอกไปว่าจะไปที่หอนางโลมคิดว่าเจ้านายของสองคนนั้นน่าจะรู้แล้วเหมือนกัน ผมเลยได้แต่จ้องพวกเขาและบอกเหตุผลไป

ตอนแรกก็ตกใจคิดว่าตัวเองฝีมือตกจนถูกผมจับได้ ผมเลยต้องแก้ตัวไปว่าผมมีความลับอยู่ แต่บอกแค่นั้นไม่ได้บอกมากกว่าที่ควรทำ ผมรู้ว่าความสามารถของผมมันอันตรายพอดูครับ ถ้ามีคนรู้คงจะโดนตามมาจับตัวไปทำงานด้วยแน่

“คิดสิ่งใดอยู่หรือเสี่ยวอวี้ หรือเจ้ากำลังตะลึงในรูปโฉมของนักดนตรีของข้ากัน”

“ขออภัยที่เสียมารยาทต่อท่านนักดนตรี ข้าเพียงแต่คิดเรื่องไร้สาระเท่านั้น ขออภัยพวกท่านแล้ว” อย่าคิดว่าลุงไม่เห็นว่าเอ็งกระตุกยิ้มมานะ จะทำตัวน่ากลัวไปถึงไหนกัน แปลว่าต้องรู้ถึงอะไรบางอย่างแล้วสินะ เคยอ่านเจอมาเหมือนกันว่าพวกวิชามารมีศาสตร์เรื่องลึกลับอยู่ด้วย

“คำนับนายท่าน ข้าน้อยจิวเฟย เป็นนายโลมขายฝีมือที่หอแห่งนี้ขอรับ” รอยยิ้มการค้ากับดวงตาที่เหมือนจ้องเหยื่อมันไปด้วยกันได้ยังไง ลุงไม่เข้าใจคนตรงหน้าเท่าไหร่

“ข้าแซ่ฟาง ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ”

“ข้าน้อยขอเป็นผู้ดูแลท่านในค่ำคืนนี้ได้หรือไม่ขอรับคุณชายฟาง”

“โอ้ เจ้าต้องการเช่นนั้นรึจิวเฟย หายากที่นักดนตรีมือหนึ่งคนนี้ต้องการดูแลใครในช่วงข้ามคืนเช่นเจ้า โชคดีเสียแล้ว หวังว่าคืนนี้คงไม่ได้มีการจ่ายคืนแรกกันหรอกนะจิวเฟย”

“ท่านกล่าวเช่นนั้นมิได้ ข้าเพียงต้องการรินสุราพูดคุยกับคุณชายฟางเพียงเท่านั้น”

“วันนี้ที่ข้ามาเพื่อคุยธุระกับท่านพี่อิงฮวาเพียงเท่านั้น คงไม่กล้ารบกวนท่าน” ลุงคงไม่กล้ารบกวนให้เอ็งมาใกล้ตัวหรอกไอ้หนุ่ม หวังผลอะไรอยู่สินะถึงทำแบบนี้

“เช่นนั้นเป็นข้าน้อยที่ยุ่งยากเกินไป”

“เช่นนั้นเจ้าก็มารินชาให้แก่ข้าเถิด ถึงอย่าไรก็ยังคุยธุระอีกสักพัก” ในเมื่อส่งสารกันมาขนาดนี้เอาแต่หนีก็คงไม่รู้ว่าตกลงคนตรงหน้ามาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่

“ขอรับ” เจิดจ้าไปอีกครับ ถ้าอยู่โลกเก่าลุงจะแนะนำให้ไปถ่ายโฆษณายาสีฟันสักยี่ห้อนะครับ

“เมื่อตกลงกันแล้ว เช่นนั้นมาร่างสัญญาการค้ากันเถิดน้องอวี้”

เวลาผ่านไปสักพักผมกับพี่สาวคนสวยก็ร่วมมือทำการค้าด้วยกันเสร็จสมบูรณ์และมีสิ่งมีชีวิตที่ชวนให้ขนตั้งชันตลอดเวลาร่วมอยู้ด้วยเช่นกัน

“เมื่อเรียบร้อยแล้วข้าจะแจ้งกับทางท่านเสนาหวังอีกครั้งเรื่องที่ข้าทำการค้าสุรากับท่านพี่นะขอรับ”

“ตามที่เจ้าสะดวกเถิด เมื่อได้สินค้ายามใดก็แจ้งมาล่วงหน้าก่อนก็แล้วกันนะ”

“ขอรับท่านพี่ ว่าแต่ข้ากำลังคิดจะจัดตั้งกิจการเกี่ยวกับความงามของสตรีแคว้นเรา ท่านสนใจร่วมลงทุนกับข้าหรือไม่ขอรับท่านพี่” เรื่องเงินไม่น่าจะยากเพราะที่ร้านก็พอจะมีเงินอยู่ ร่างนี้ก็มีเงินเก็บอยู่เหมือนกัน ขาดแต่เรื่องที่เท่านั้น ถ้าได้คนที่มีสายอย่างท่านพี่อิงฮวามาช่วย สปาอโรม่าของลุงคงไม่ใช่ฝัน หึหึ

“เกี่ยวกับความงามรึ เช่นไรกันเล่า”

“เป็นการนำสมุนไพรมาบำรุงผิว จนถึงการดูแลตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าขอรับ ข้าคิดว่าน่าจะทำกำไรกับเราได้มากหากคุณหนูชั้นสูงสนใจ”

“โอ้ ช่างคิดยิ่งนัก เช่นนั้นข้าสนใจ ว่าแต่เจ้าต้องการให้ข้าช่วยสิ่งใด”

“ข้าไม่เคยย่างเท้าออกมาไกลจากบ้านนักอย่างที่ท่านรู้ ข้าเลยอยากให้ท่านช่วยในเรื่องสถานที่ตั้งร้านได้หรือไม่ขอรับ”

“ไม่มีปัญหาอันใด เช่นนั้นเรื่องร้านพี่สาวคนนี้จะจัดการให้เจ้าเอง เรื่องอื่นไว้หารือกันวันหน้าเถิด พี่จักต้องไปดูงานก่อน”

“เช่นนั้นข้าจะเขียนรายละเอียดมาให้ท่านได้ตัดสินใจอีกครั้งนะขอรับ”

“ทำตามที่เจ้าว่าเถิด เอาล่ะข้าฝากน้องชายของข้าด้วย จิวเฟย”

“ขอรับนายแม่”

ไปแล้วครับ คนกลางในห้องนี้ ตอนนี้เลยเหลือแค่ผมกับบุคคลอันตรายตรงหน้า สายตาที่มองมาเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย แต่กระแสปราณที่ปล่อยออกมาดูเหมือจะมากขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพังแบบนี้

“ท่านกำลังระแวงสิ่งใดอยู่หรือขอรับคุณชายฟาง หรือท่านกำลังระแวงในตัวข้ากันขอรับ”

“มิได้ ข้าเพียงแต่ไม่คุ้นเคยกับบุคคลแปลกหน้าเพียงเท่านั้น” อย่ามากดดันกันนะไอ้หนู ลุงก็มีดีเหมือนกันนะ แม้ว่าจะโลกก่อนก็เถอะ ทำไมพูดแล้วน้ำตาจะไหล

“ข้าชมชอบความฉลาดของท่านยิ่งนัก ทั้งด้านการค้าและความสามารถในการมองเห็นของท่าน” ว่าแล้วว่าหมอนี่ต้องรับรู้อะไรสักอย่างในตัวของผมมาสักพัก ไม่อย่างนั้นจะพยายามหาเรื่องอยู่ด้วยกันตามลำพังทำไม

“ท่านพูดเรื่องใดกันขอรับ ข้ามิเข้าใจ”

“มองข้าน้อยออกสินะขอรับคุณชาย ว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้มิใช่ร่างจริงของข้าผู้นี้”

“ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านพูด” เหงื่อเริ่มตกแล้วครับ แรงกดดันที่ปล่อยออกมาของเจ้าของร่างตรงหน้ายิ่งหนักขึ้น ไหนจะการขยับร่างกายให้เข้ามาใกล้ผมมากขึ้นอีก ผมที่ขยับตัวหนีไม่ได้ก็ได้แต่เอนตัวหลบจนเริ่มจะปวดหลังจากการเกร็งตัวแล้วครับ

“ข้าจะให้โอกาสท่านตอบอีกครั้งคุณชายฟาง ดูเหมือนว่าร่างกายของท่านจะเริ่มทรมานแล้วสินะ ตอบข้ามาว่าท่านเป็นใคร”

“ท่านเองมิใช่หรือที่ต้องตอบข้าว่าท่านเป็นผู้ใดกันแน่ มิใช่ข้าที่เป็นเพียงคนธรรมดาเช่นนี้”

“ท่านมองออกจริงๆสินะ ถึงกล่าวเช่นนั้นกับข้าคนนี้ที่เป็นเพียงนายโลมขายฝีมือธรรมดา”

“หึ นายโลมธรรมดาเช่นท่านคงจะมีฝีมือมากเช่นกันถึงขนาดใช้วิชาลวงตาเช่นนี้ได้ในทุกยาม ข้าไม่เข้าใจในความคิดของท่านสักนิด เหตุใดต้องมากลั่นแกล้งข้าน้อยด้วย ต่างคนต่างอยู่ดั่งน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลองก็จบแล้ว”

“เหอะ ปากดียิ่งนัก ภัยมาถึงตัวยังอวดเก่ง เรี่ยวแรงรึก็เพียงทารกหัดเดิน เอาเถอะเห็นแก่ที่ข้าสนใจเจ้ามากกว่าที่ทำกับผู้ใด ข้าแซ่จิวนามเฟยหลง ประมุขพรรคเมฆาทมิฬ ข้ามาจากแคว้นโหย่วเพื่อสืบข่าวภัยแล้งที่แคว้นเซียนแห่งนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นาน”

“ท่านกล่าวกับข้าเพื่อสิ่งใดกัน แล้วภัยแล้งที่แคว้นข้าน้อยเกี่ยวอันใดกับแคว้นโหย่วของท่านกัน”

“ย่อมต้องเกี่ยวเพราะแคว้นของเรามีอาณาเขตติดต่อกัน อีกทั้งพรรคของข้าก็อยู่ติดกับชายแดนเจ้า หากแหล่งน้ำที่ต้นน้ำจากแคว้นเจ้าแห้งแล้ง แคว้นข้าย่อมประสบปัญหาเช่นกัน และเมื่อข้าสามารถรู้ถึงสาเหตุแล้วและได้รับวิธีแก้ไข เมื่อเกิดภัยแล้งอีกครั้งข้าจักได้รับมือทัน” พูดง่ายๆจะมาสืบข่าวว่าวิธีจัดการภัยแล้งที่แคว้นทำยังไงแล้วเอาไปใช้กับที่พรรคของตัวเองว่างั้น ลงทุนไปไหม ผมว่าไม่ได้แค่เรื่องนี้หรอก แต่ก็ไม่อยากจะรู้ด้วยว่าเรื่องอะไรอีก ยิ่งรู้เยอะยิ่งตายเร็ว

“ท่านบอกแก่ข้าเช่นนี้ แปลว่าท่านต้องมีสิ่งที่หวังไว้ อีกทั้งยังมีเรื่องที่ท่านซุกซ่อนเอาไว้เช่นกัน ข้าไม่เชื่อว่าการเดินทางมาของท่านในครั้งนี้เพื่อเรื่องแค่นี้เท่านั้น แต่ข้าจะไม่ถามว่าเรื่องอันใดที่ทำให้ท่านต้องเดินทางมาที่นี่ เพราะข้าคิดว่าเราไม่ควรจะรู้จักกันมากไปกว่านี้อีก”

“เจ้าน่าสนใจยิ่งนัก รู้จักหลบหลีกเก่งเกินอายุ แต่อย่าได้กังวลไป เพราะถึงแม้นว่าเจ้าจักไม่รู้ว่าเพราะอันใดข้าถึงมาเยือนที่นี่แต่อย่างไรเจ้าก็รับรู้ถึงตัวตนของข้าแล้ว ไม่แปลกหากข้าจะจับตาดูเจ้านับจากนี้”

“ข้าควรยินดีสินะขอรับที่จะได้คนจับตาดูเพิ่มอีกคน เหตุใดเกิดเป็นข้าช่างวุ่นวายยิ่งนักกัน”

“ปากดียิ่งนัก ข้าชักอยากจะรู้เสียแล้วว่านอกจากปากของเจ้ามีสิ่งใดที่ดีกว่าหรือไม่”

“เหตุใดบุรุษที่เข้าใกล้ข้าแต่ละคนถึงคิดไปทางเดียวกันเช่นนี้นะ”

“เจ้ากำลังคิดว่าหน้าตาเยี่ยงเจ้าไม่ควรมีผู้ใดมองมาสินะ”

“เป็นเช่นนั้น”

“เจ้าคิดผิดแล้ว ถึงแม้นหน้าตาของเจ้าจักธรรมดาไม่ได้โดดเด่นอย่างไร แต่เพราะการกระทำและเสน่ห์ในตัวของเจ้าต่างหากที่ดึงดูดคนอย่างข้าให้สนใจ”

“คงไม่ใช่ท่านเท่านั้นหรอกขอรับที่มาสนใจตัวข้าน้อยคนนี้”

“เช่นนั้นรึ ข้าคงเป็นเพียงหนึ่งในคนรักเจ้าสินะ”

“ท่านกล่าวเกินไปแล้วขอรับท่านจิว ข้าไม่มีผู้ใดเป็นคนรักทั้งสิ้น แล้วท่านก็ควรลุกออกจากตัวข้าได้แล้วขอรับ” มือไวใจไวเป็นบ้าเจ้าเด็กคนนี้ เผลอแปปเดียวมาคร่อมลุงแบบนี้ได้ยังไงกัน

“หึ” นี่มันเวรกรรมอะไรกันครับ ทำไมผู้ชายอันตรายอย่างหมอนี่ถึงมาวุ่นวายกับผมด้วย รสนิยมผู้ชายโลกนี้น่ากลัวจริงๆ

“ข้าน้อยคงต้องขอตัวก่อนนะขอรับ ยามนี้ดึกมากแล้ว ขอลา” จะอยู่ให้อันตรายต่อข้างหลังทำไมละครับ เผ่นสิครับงานนี้

ตอนนี้น่าจะล่วงเข้ายามไฮ่(สามทุ่มถึงสี่ทุ่มห้าสิบเก้า)แล้ว น่าจะเป็นช่วงที่ผีเสื้อราตรีออกหากินกัน มีผู้คนหลังไหลกันเข้ามาที่ย่านหอโคมเขียวแบบนี้ ที่นี่พอหลุดออกมาจากย่านนั้นแล้วจะเงียบสงบ ยิ่งทางเดินในตลาดยิ่งเงียบมากว่าช่วงพระอาทิตย์ขึ้นมาก

ผมไม่กลัวว่าจะมีโจรมาทำร้ายหรอกครับ หลังจากที่หลุดออกมาจากประมุขพรรคมารแล้วก็รับรู้ได้ว่าคนในเงามืดเพิ่มขึ้นมาอีกคน ดูท่าจะทำความรู้จักกันแล้วสินะครับ ถึงเดินตามกันแบบนั้น ผมก็เพิ่งจะรู้ว่าเขาทำงานร่วมกันได้ด้วย

“เด็กน้อย เจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่กัน เหตุใดดึกดื่นเช่นนี้มิอยู่ในเรือนตน”

“คุณชาย ข้าน้อยเป็นเพียงขอทานไร้บ้านขอรับ ข้าน้อยทนหิวต่อไปไม่ไหวเลยลักลอบหนีออกมาจากท่านผู้เฒ่ามาหาของกินยามนี้ขอรับ”

“เจ้าบอกข้าว่าหิวสินะ เช่นนั้นรับขนมจากข้าก่อนเถิด” ดีนะครับที่ผมเป็นคนติดขนมปังพอสมควร ชอบหยิบมากินเวลาที่คิดอะไรเพลินๆเลยมีมาให้เจ้าหนูตรงหน้า

“ขอบพระคุณท่านมากขอรับคุณชาย”

“มิเป็นไร ว่าแต่ข้าจะพาเจ้าไปส่งที่พักแล้วกัน นำทางเถิด” ผมรู้สึกถูกชะตาเจ้าเด็กตรงหน้าแล้วสิครับ ดูท่าจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น ถ้าจับมาอาบน้ำใหม่คงน่าดูมากขึ้นแน่นอน ลุงอยากมีน้องมานาน มาเป็นน้องลุงเถอะเจ้าหนู

“ขอรับคุณชาย”

“ข้ามีนามว่าเซียนอวี้ เรียกข้าว่าพี่อวี้เถิด”

“ข้าไม่มีชื่อ ท่านผู้เฒ่าเรียกข้าว่ามู่ขอรับท่านพี่อวี้”

“เช่นนั้นเสี่ยวมู่นำทางพี่ชายไปพบท่านผู้เฒ่าเถิด”

“ขอรับ”

ผมเดินตามน้องชายหมาดๆไปเรื่อยๆโดยที่สามคนที่ตามมาก็เอาแต่บ่นว่าคุณชายต้องไม่พอใจกันอยู่ได้ หลังจากที่รู้ว่าผมจับสัมผัสกันได้ก็ไม่ระวังว่าผมจะรู้อีกเลย เจ้าพวกนี้นี่
 
เดินมาจนหลุดพ้นจากย่านการค้า มาที่บ้านร้าง ภายในมีแสงสลัวอยู่ทำให้รู้ว่ามีคนมาอาศัยหลบนอนที่แห่งนี้

“ข้ากลับมาแล้วขอรับท่านผู้เฒ่า”

“เจ้ามันน่าตีนักเหตุใดถึงหนีออกไปกัน รู้หรือไม่ว่าข้าตกใจยิ่งนักเมื่อตื่นมาไม่พบเจ้าเสี่ยวมู่”

“ท่านอย่าตีข้าเลยขอรับ ข้าเพียงแต่หิวจนทนไม่ได้เท่านั้น”

“ข้าผิดเองที่ไม่มีเงินซื้อให้เจ้า ว่าแต่ท่านเป็นผู้ใดกันเหตุใดจึงมากับเสี่ยวมู่ได้”

“ผู้น้อยคาราวะท่านอาวุโส ผู้น้อยแซ่ฟางนามว่าเซียนอวี้ขอรับ”

“คุณชายฟางอย่าได้ทำเช่นนั้นขอรับ ตัวข้าเป็นเพียงขอทานชราเท่านั้น”

“มิได้ ข้าเป็นผู้น้อยย่อมต้องเคารพท่านจึงสมควร”

“ท่านช่างเป็นผู้ประเสริฐยิ่งนัก ว่าแต่เหตุใดท่านจึงตามเสี่ยวมู่มาถึงที่แห่งนี้กัน หรือว่าเจ้าเด็กดื้อไปทำอันใดแก่ท่านขอรับ”

“มิได้ๆ ข้าเพียงอยากจักพบผู้ที่ดูแลเสี่ยวมู่เพียงเท่านั้น”

“พบข้า”

“ขอรับ ข้าถูกชะตากับเด็กน้อยคนนี้ยิ่งนัก จะเป็นเช่นไรหากข้าอยากดูแลเสี่ยวมู่ต่อจากนี้ พอดีข้าต้องการคนดูแลร้านที่กำลังจะเปิด หากได้ผู้มีความรู้เช่นท่านย่อมเป็นเรื่องน่ายินดี” กระแสปราณสีฟ้าขาวไม่เข้มไม่จางจนเกินไปของร่างชราตรงหน้า ทำให้ผมรับรู้ได้ว่าร่างของเด็กน้อยตรงหน้าย่อมไม่ธรรมดา เพราะคนที่ดูแลเป็นหนึ่งในพรรคธรรมะแบบนี้ ดูท่าผมจะชอบวิ่งเข้าหาเรื่องวุ่นวายอีกแล้วครับ

“ท่านรู้จักข้ามาก่อนหรือไม่”

“ไม่ขอรับ แต่หากท่านตกลงที่จะทำงานกับข้า ข้าจะบอกความลับที่ทำให้ทราบว่าท่านมีความรู้ได้เช่นไร”

“ข้าจักเชื่อใจท่านได้หรือไม่”

“อยู่ที่ท่านจักพิสูจน์ด้วยกาลเวลาแล้วขอรับท่านอาวุโส”

“เช่นนั้นข้าต้องรบกวนท่านนับจากนี้แล้ว”

“รบกวนท่านเช่นกันขอรับ  เช่นนั้นพรุ่งนี้ยามซื่อข้าจักกลับมาอีกครั้ง”

“ข้าคงได้เพียงรอท่านเท่านั้น”

“ข้าจักกลับมา”

“ข้าจะรอท่าน ท่านพี่เซียนอวี้”

“ข้าจะมารับนะเสี่ยวมู่”

หลังลำลาเสร็จผมก็รีบเดินทางกลับมาที่ร้านเพื่อจัดการเรื่องที่จะทำในวันพรุ่งนี้ ก่อนอื่นต้องหาเงินทุนเปิดร้าน ไหนจะสินค้าที่เตรียมไว้ในหีบมากมายในห้องที่เตรียมขายอีก ดูท่าเรื่องไวน์ไม่เกินพรุ่งนี้ท่านเสนาหวังต้องมาเยี่ยมกันแน่นอน แต่คงไม่แปลกถ้าจะหาคนสนับสนุนเพิ่มเติมละนะ ผมคิดว่าอย่างนั้น

TBC.

เรื่องราวหลังครัวปิด

เซียนอวี้ : ข้าจะมีน้องแล้ว เย้
ฮุ่ยเอิง : ข้ากำลังจะอุ้มหลานเช่นนั้นรึ
เซียนอวี้ : ท่านกำลังเข้าใจผิดขอรับ ข้าหมายถึงน้องชายที่จะรับมาดูแล และตัวข้าเป็นบุรุษเผื่อท่านพ่อจักลืมไป
ฮุ่ยเอิง : เป็นเช่นนั้นสินะ ข้าหลงลืมได้เช่นไร แต่มิแปลกเพราะสามีของเจ้าช่างมากมาย
เซียนอวี้ : ข้าเกรงว่าท่านคงพักผ่อนน้อยเกินไปกระมังท่านพ่อ
เสี่ยวมู่ : ตกลงท่านพี่เซียนอวี้มีสามีหรอกหรือขอรับ
เซียนอวี้ : ท่านพ่อท่านกำลังทำให้เด็กตัวน้อยเข้าใจผิดอยู่นะขอรับ
ฮุ่ยเอิง : เข้าใจผิดสิ่งใด แล้วบุรุษเหล่านั้นเล่า
เซียนอวี้ : …………….(สายตาแบบนั้นถ้าพูดอะไรไปจะโดนอะไรไหมครับ)(เหล่มองด้านหลังตัวเอง)

ลงเนื้อหา 21/8/61
ปรับปรุงเนื้อหา 28/5/62
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 16:31:33 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#7
 
เช้าวันต่อมาผมตื่นมาพร้อมกับอากาศที่สดใสต่างกับจิตใจที่หดหู่ของผมนัก ยังจะถามกันอีกหรือครับว่าเพราะอะไร ถ้าอย่างนั้นพวกหนูลองคิดตามลุงนะเด็กๆ

การที่เราได้เข้าไปอยู่ในถิ่นของดรุณีน้อยที่เปรียบเสมือนดอกไม้งามที่กำลังเบ่งบานสะพรั่งพร้อมรับการเด็ดดมละลานตาแบบหอนางโลมฮวาแต่ ย้ำว่าแต่ แทนที่ลุงจะได้เข้าไปเป็นเหล่าภมรดอมดมดอกไม้กลายเป็นสิ่งที่ลุงต้องเผชิญคือสายตาชวนขนหัวลุกและพฤติกรรมชวนระทึกของท่านประมุขพรรคมารแบบนั้นแทน

แล้วแบบนี้พวกหนูๆยังคิดว่าลุงควรตื่นมาด้วยจิตใจเบิกบานเหมือนได้ท่องโลกกว้างแบบวิ่งไปในทุ่งลาเวนเดอร์อีกหรอครับ ฮึ่ย

เอาละตอนนี้ลุงก็พอที่จะทำใจได้แล้ว อย่าลืมไปว่าที่โลกนี้ลุงยังมีเวลาไปร่าเริงที่ร้านพี่อิงฮวาอีกมากมาย แค่คิดแบบนี้จิตใจที่หดหู่ก็เบิกบานขึ้นมาทันที

เมื่อถึงเวลาก่อนทานมื้อเช้าของเราสองคนพ่อลูกผมเลยเอาเรื่องที่คิดไว้เมื่อคืนมาบอกท่านพ่อก่อน ไม่ได้ครับเรื่องเงินๆทองๆต้องรอบคอบไว้ก่อนครับ โลกก่อนสอนลุงไว้เยอะครับ

“ท่านพ่อขอรับ ลูกมีเรื่องจะขอรบกวนท่านสักครู่”

“ว่ามาเถิด มีเรื่องอันใด พ่อฟังเจ้าอยู่”

“ข้าอยากมีกิจการใหม่เป็นของตนขอรับ”

“ร้านนี้ก็เป็นกิจการของเจ้าอยู่แล้ว”

“ข้ารู้ขอรับ แต่ข้าคิดค้นสิ่งใหม่ๆได้มากมายเลยอยากจะเอามาเป็นการค้าของตนเองเพิ่มขอรับ ข้าอยากมีร้านใหม่ไว้ขายสินค้าพวกนั้นขอรับ เพราะมีหลายสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องการอาหาร อีกทั้งเมื่อวานข้าได้พูดคุยกับพี่อิงฮวาเรื่องร้านเสริมความงามของสตรีด้วย ลูกขออภัยที่ตัดสินใจโดยพลการไม่ได้ถามท่านพ่อก่อน”

“มิเป็นไรเจ้าโตมากแล้ว อีกไม่เกินสองปีเจ้าก็จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว  สิ่งใดที่คิดว่าดีก็ตัดสินใจเถิด แต่หากเจ้ามีร้านร่วมลงทุนกับแม่นางอิงฮวาแล้ว เหตุใดจึงอยากมีร้านอีกเล่า”

“ก็ข้ามีหลายสิ่งที่อยากจะขายนี่ขอรับ ท่านพ่อ ลูกขอเปิดนะขอรับ”

“ตามใจเจ้า ขาดเหลือสิ่งใดให้บอก พ่อจักช่วย หากเหนื่อยเกินไปให้หยุด เข้าใจหรือไม่ อย่าทำร้ายตนเองเด็ดขาด”

“ขอรับ ลูกสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรจนเกินตัว ข้ารักท่านพ่อที่สุด”

“ปากหวานเสียจริง” ได้คนสนับสนุนเงินแล้วต่อไปก็ต้องหาร้านสินะ สงสัยคงต้องออกไปเดินดูที่ทางเปิดร้านซะแล้วมั้งครับ

“นายน้อยขอรับ ท่านหวังกงหมินมาขอพบขอรับ” หลังทานข้าวกับท่านพ่อเสร็จ พวกเราสองพ่อลูกก็นั่งคุยกันตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติเพราะมีเหยื่อมาให้ถึงที่แบบนี้สิครับ

“มาแล้วหรือ ท่านพ่อลูกคงต้องเจรจาเรื่องการค้าสุราก่อน อย่างที่ท่านทราบ ลูกขอตัว”

“เช่นนั้นอย่าให้ท่านรอนาน หากเป็นไปได้จงระวังตัวเสียหน่อย อย่างไรคนในราชสำนักย่อมไม่ธรรมดา”

“ข้าจะจำที่ท่านสั่งสอนขอรับท่านพ่อ”  ไม่แปลกใจหรอกครับที่ท่านพ่อจะพูดแบบนั้น ก็คนในวังพวกนั้นน่ากลัวจะตายไป เจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง

“ขออภัยที่ให้ท่านพี่กงหมินรอเช่นนี้”

“มิเป็นไร ข้าผิดที่ไม่ได้บอกเจ้าก่อนล่วงหน้า”

“มิได้ขอรับ เช่นนั้นเชิญท่านพี่กงหมินทางนี้เถิดขอรับ”

ผมพาเขาไปที่หลังร้านที่มีศาลาอยู่หลังหนึ่ง เป็นที่พักผ่อนของเราสองคนพ่อลูกครับ แต่เพราะกิจการดีผมเลยไม่มีเวลามานั่งเล่มหมากล้อมมากเท่าเดิมท่านพ่อเลยออกไปเล่นกับเพื่อนบ้านแทน ศาลานี้เลยว่างมานาน ก่อนที่จะเข้ามาผมให้เด็กๆมาจัดของว่างรอก่อนแล้ว ไม่ได้หรอกครับวันนี้เราต้องมีผู้สนับสนุนที่ตั้งร้านให้ได้ครับ

“ท่านมาหาข้าวันนี้เพราะเรื่องสุราใช่หรือไม่ขอรับ”

“นั่นเป็นเรื่องหนึ่งแต่ที่สำคัญคือเหตุใดเจ้าต้องไปที่หอนางโลมตัวคนเดียวเช่นนั้น หากเจ้าต้องการใยมิบอกข้ากัน”

“ท่านพี่กงหมินอย่าโกรธข้าไปเลยขอรับ ข้าเพียงไปเพื่อพูดคุยการค้าเท่านั้น มิได้ทำเรื่องอื่นใดจริงๆนะขอรับ”

“ข้ามิเชื่อ บุรุษใดย่อมลุ่มหลงสตรีสวยงามเช่นนั้น” งอนหนักจังครับแค่ไปหอนางโลมเอง แถมเอ็งคือคนที่จะมาจีบลุงนะไอ้หนุ่ม แค่จีบยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ความงอนนี้คืออะไร

แต่จะว่าไปมันไม่แปลกถ้าคนที่ชอบไปเที่ยวกับคนอื่นจะโมโหก็คงไม่ผิด นี่อาจเป็นการระงับอารมณ์ที่มากแล้วก็ได้ดูจากนิสัยแล้ว ยังไงชายตรงหน้าก็มีอำนาจมากพอถ้าขัดใจคงตามไปราวีที่ร้านตั้งแต่รู้เรื่องไปแล้ว ไม่รู้เพราะอะไรอาจจะเพราะผมไม่อยากจะถูกโกรธจากคนที่ไว้ใจได้ในโลกนี้ก็ได้มั้งครับ

โลกก่อนลุงเป็นเด็กกำพร้าไม่มีครอบครัว แถมพอโตขึ้นก็เจอแต่รุ่นราวคราวเดียวกัน คนที่จะมาทำตัวเป็นพี่หวงน้องแบบนี้ก็ไม่เคยเจอ ความรู้สึกดีๆไม่รู้ว่าก่อตัวจากตรงไหน มารู้ตัวก็ตอนที่โดนโกรธไปแล้ว คงไม่ผิดใช่ไหมที่ลุงจะอ้อนพี่ชายคนนี้สักครั้งให้สมอายุโลกนี้สักหน่อย

“ท่านพี่ไม่เชื่อในตัวน้องเช่นนั้นหรือขอรับ น้องคงทำท่านผิดหวังเช่นนั้นสินะขอรับ” ตัดพ้อต้องมาก่อน ก็คนมันชอบอ้อนนี่ครับงานถนัดเลย

“เฮ้อ เอาเถิด ครั้งนี้พี่จะเชื่อเจ้า เห็นแก่ที่เจ้าเข้ามาออดอ้อนหรอกนะ คราวหน้าหากต้องการสิ่งใดให้บอกกัน พี่ไม่ได้ว่าถ้าเจ้าต้องการ”  ง้อง่ายจังครับ ช่างเถอะถือว่าดีกว่าปล่อยให้โกรธกันไปจนเหลือตัวคนเดียวละครับ

“จริงหรือขอรับ ถ้าเช่นนั้นน้องชายคนนี้มีเรื่องอยากจะรบกวนท่าน”

“ไม่แทนตัวว่าน้องแล้วรึ”

“ย่อมได้หากท่านช่วยเหลือข้าก่อน”

“ช่างเจรจานัก เอาสิว่ามา น้องน้อยอยากได้สิ่งใดกันพี่ชายคนนี้จะไปหามาประเคนเจ้าถึงที่เชียว”

“เมื่อสักครู่ข้าบอกท่านพ่อไปแล้ว ข้ากำลังจะไปหาท่านเช่นกัน แต่เอาเถิดอย่างไรท่านก็อยู่ตรงนี้แล้ว ข้ากำลังจะเปิดร้านใหม่ ข้ามีสินค้ามากมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหาร แต่สิ่งที่ข้าต้องการให้ท่านช่วยคือสถานที่ตั้งร้านขอรับ”

“สถานที่”

“ขอรับ ข้าไม่เคยออกไปที่ใดไกลกว่าย่านนี้นัก ข้าเลยไม่รู้ว่าจักหาที่ได้อย่างไร ในเมื่อท่านเป็นถึงคนใหญ่คนโตย่อมต้องรู้จักและแนะนำข้าได้ จริงหรือไม่ขอรับท่านพี่กงหมิน”

“เรื่องเพียงเท่านี้ พี่ย่อมช่วยเจ้าได้ เช่นนั้นจบธุระข้าจักพาเจ้าไปเดินดูเอง ดีหรือไม่”

“จริงหรือขอรับ เช่นนั้นรบกวนท่านแล้ว”

“ข้าชมชอบเวลาที่เจ้ายิ้มนัก ไม่แปลกใจที่องค์ชายและบุรุษในหอผู้นั้นจักชมชอบเจ้าเช่นกัน”

“ท่านรู้”

“สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับตัวเจ้าเหตุใดข้าถึงไม่รู้”

“แล้วท่าน”

“ข้ารู้ เจ้าไม่ต้องคิดสิ่งใดมากไปอวี้เอ๋อร์ เพียงแค่ได้อยู่ข้างกายเจ้าเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว ต่อให้การที่เจ้าเข้าใกล้ข้างเพราะหวังในตัวข้าก็ตาม”

“ข้าไม่ได้เข้าใกล้ท่านเพราะสิ่งใด อาจจะเป็นเรื่องจริงที่ข้าหวังบางอย่างจากท่าน แต่สิ่งที่ข้าหวังคือการมีพี่ชายเพียงเท่านั้น”

“หึหึ เจ้าจักทำให้ข้าหลงไปถึงเมื่อใดกันนะ เอาเถิด เป็นเพียงพี่ชายในยามนี้ก็เพียงพอแล้ว อวี้เอ๋อร์ข้าอยากบอกแก่เจ้าว่าข้าดีใจที่เจ้านึกถึงข้าเมื่อมีเรื่องเดือดร้อน”

“ท่านพี่” ทำไมผู้ชายคนนี้คิดน้อยจังครับ ถ้ารุกใส่มากกว่านี้ลุงพอจะหาเรื่องตีตัวออกห่างได้อยู่ แต่ไม่รู้ทำไมใจของลุงกับดีใจกับคำพูดนั้นก็ไม่รู้กัน คงไม่ใช่ว่าลุงกำลังหวั่นไหวอยู่หรอกนะ ไม่นะ!!!

“อย่าทำหน้าเช่นนั้น ข้าไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เจ้าคิดไป ข้าเพียงแต่เป็นพี่ชายเจ้าตอนนี้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจักเป็นตลอดไป จริงหรือไม่”

“หากจะดียิ่ง ถ้าท่านให้เวลาข้าซึ้งใจนานกว่านี้ ท่านพี่กงหมิน” เสียเวลามากครับ เอาความหวั่นไหวของลุงคืนมาเลยนะ

“หวั่นไหวกับข้าสินะ”

“เข้าเรื่องเถอะขอรับ เสียเวลามากแล้ว”

“ได้ๆ ข้ากลัวใครบางคนจะเขินอายกว่าเดิม” ภาพคนดีที่ทำเมื่อกี้คืออะไรกันครับ นี่มันจิ้งจอกห่มหนังแกะดีๆนี่เอง จริงเหมือนที่ท่านพ่อบอกไว้เลย พวกในวังคบไม่ได้

“เรื่องสุราน้องทำการค้ากับทางหอฮวาเพิ่มมาขอรับ และคิดจำหน่ายที่ร้านใหม่ด้วยเช่นกัน”

“แล้วเรื่องร่วมกิจการกับเจ้าของหอฮวาเล่า”

“ปิดท่านไม่ได้สินะ น้องจะนำสินค้าบำรุงผิวพรรณไปเปิดร้านกับพี่อิงฮวาขอรับ”

“เป็นสินค้าที่เจ้าจักนำมาขายที่ร้านใหม่ด้วยใช่หรือไม่”

“ขอรับ เป็นสินค้าเดียวกัน แต่มีให้ซื้อไปบำรุงที่บ้านเองขอรับ”

“ความคิดดี เช่นนั้นไปดูร้านกันเถิด ก่อนที่จะสายกว่านี้”

“ขอรับ เชิญท่านนำทางเลยขอรับ”

ฝากเด็กในร้านไปบอกท่านพ่อแล้วเรื่องไปดูที่ทางกับพี่กงหมินวันนี้ เดินออกไปได้ไม่ไกลก็มีทหารเข้ามาทำความเคารพคนข้างๆทันที ดูเหมือนจะมาคอยอำนวยความสะดวกอะไรสักอย่าง ก็ที่รู้มานอกจากจะเป็นอัครมหาเสนาบดีที่ใหญ่โตแล้วยังเป็นพระสหายสนิทขององค์ฮ่องเต้อีกด้วย ไม่แปลกที่จะมีคนให้ความสำคัญขนาดนี้

เมื่อคืนนัดท่านผู้เฒ่ากับเสี่ยวมู่ไว้ยามซื่อ(เก้าโมงถึงสิบโมงห้าสิบเก้า) ตอนนี้ก็ยามเฉิน(เจ็ดโมงถึงแปดโมงห้าสิบเก้า)แล้ว ดูเหมือนคนข้างตัวผมจะไม่ได้เข้างานนะครับวันนี้ถึงมาเดินแถวนี้ได้ ที่โลกนี้ฮ่องเต้จะออกว่าราชการตอนนี้แหละครับช่วงยามเฉิน เหล่าข้าราชการจะไปกันพร้อมเพียง ดูแล้วถ้าไม่ลาหยุดก็โดดงานมา

“ท่านพี่กงหมินของรับ อีกไกลหรือไม่ขอรับ”

“เมื่อยแล้วหรือ”

“มิใช่ขอรับ น้องเพียงแต่นัดคนไว้ น้องเกรงว่าจะเลยเวลานัด”

“นัดผู้ใดกัน ข้ารู้ได้หรือไม่”

“อืม ถ้าท่านไม่ว่าอะไร ไปด้วยกันดีหรือไม่ขอรับ ในเมื่อท่านเป็นพี่ใหญ่ข้าจะพาท่านไปรู้จักกับน้องเล็กดีหรือไม่ขอรับ”

“น้องเล็กรึ ไปซนมาอีกแล้วใช่หรือไม่”

“ไหนท่านว่ารู้ทุกเรื่องของน้องอย่างไรเล่า เหตุใดจึงไม่รู้เรื่องนี้กัน”

“ข้าเพียงหยอกเจ้าเท่านั้น ไปเถิด อีกไม่นานก็ถึงแล้ว”

เดินมาได้ไม่ไกลก็เจอกับร้านที่ถูกปิดอยู่ เป็นร้านค้าเก่าที่ถูกถอดป้ายร้านไปแล้ว ไม่ไกลจากย่านการค้าและร้านอาหารมากนัก พอเดินไปด้านหลังก็มีบ้านอีกหลังอยู่ด้วย

“ร้านนี้อดีตเคยเป็นโรงน้ำชามาก่อน แต่เจ้าของคนเก่ามาขายไว้กับข้าก่อนที่จะย้ายครอบครัวไปที่เมืองอื่น ข้าไม่รู้ว่าจะทำสิ่งใดกับมันต่อเลยปิดไว้จนถึงตอนนี้ ส่วนบ้านหลังนี้ก็เป็นของเจ้าของเดิมเช่นกัน ไปเดินดูเถิด”

เดินเข้ามาที่ตัวร้านก่อน ร้านนี้มีชั้นทั้งหมดสามชั้นและชั้นล่างมีส่วนขยายเป็นห้องเก็บของอีกหนึ่งและห้องทำงานอีกหนึ่ง ทุกอย่างในร้านยังเหมือนเดิม ส่วนของที่คิดเงินก็ยังอยู่ เมื่อเดินดูครบทุกชั้นก็มาที่ห้องเก็บของ มีชั้นวางอยู่มากมาย อืมถ้าเอาของมาเก็บไว้ก็คงมีที่พอเก็บของเป็นคลังสินค้าที่ดี ถัดมาห้องทำงาน ผมเอาไว้เป็นห้องคิดค้นดีกว่าครับ ดูแล้วน่าจะเหมาะกว่า

เดินออกมาไปต่อกันที่บ้านที่เห็นก่อนหน้านี้ ตัวบ้านมีรูปร่างคล้ายที่เห็นตามหนังเลยครับ มีประตูหน้า เปิดเข้าไปเจอลานกว้างเลยทางเดิน เมื่อเข้ามาผ่านห้องโถงกลางก่อน ถัดไปด้านหลังเป็นห้องครัว ชั้นบนมีห้องนอนอยู่สี่ห้อง มีห้องทำงานแยกมาอีกห้อง มีชั้นหนังสือเต็มไปหมดในห้องนั้น ดูท่าเจ้าของบ้านคนเก่าน่าจะชอบอ่านหนังสือพอตัว

“รวมทั้งสองหลังแล้วท่านพี่กงหมินคิดน้องเท่าใดกัน”

“เจ้าชอบหรือไม่”

“ชอบมากขอรับ”

“เช่นนั้นพี่จะคิดราคาเดียวกับที่เจ้าของเดิมขายมา สองตำลึงทองกับสามตำลึงเงิน”

ในโลกนี้มีค่าเงินเหมือนจีนโบราญครับ หนึ่งตำลึงทองเท่ากับสิบตำลึงเงิน หนึ่งตำลึงเงินเท่ากับหนึ่งพันอีแปะ ที่ร้านของผมอาหารชุดที่แพงที่สุดอยู่ที่หนึ่งตำลึงเงินครับ หรือหนึ่งพันอีแปะ ในหนึ่งวันคนงานหรือชาวบ้านธรรมดาที่ทำงานจะได้เงินคนละร้อยอีแปะในแต่ละวันหรือก็คือเดือนละสามตำลึงเงินเท่านั้น

แต่ถ้าถามพวกขุนนางก็เยอะครับขั้นต้นก็วันละประมาณห้าร้อยอีแปะตกอยู่ที่เดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันอีแปะหรือหนึ่งตำลึงทองกับห้าตำลึงเงิน ขั้นกลางก็วันละสองพันอีแปะหรือสองตำลึงเงินตกเดือนละหกหมื่นอีแปะหรือหกตำลึงทอง ส่วนขั้นสูงหรือพวกเจ้ากรมต่างๆหรือคนข้างตัวผมก็อยู่ที่วันละห้าพันอีแปะหรือห้าตำลึงเงินตกเดือนละหนึ่งแสนห้าหมื่นอีแปะหรือสิบห้าตำลึงทอง

แปลว่าตอนนี้ที่อยู่ข้างผมก็ป๋าคนหนึ่งที่กำลังเลี้ยงต้อยสินะครับ แหมที่รู้มาอายุท่านพี่กงหมินยี่สิบห้าไปแล้วนะครับ ถือว่าแก่แล้วในโลกนี้ส่วนผมก็แค่สิบสี่เอง ห่างกันสิบเอ็ดปีด้วยซ้ำ อย่าได้นึกถึงอายุวิญญาณครับอายุโลกนี้พอ

“สองตำลึงทองสามตำลึงเงิน สองหมื่นสามพันอีแปะสินะถ้าเป็นตั๋วเงิน แล้วดอกเบี้ยเล่าขอรับ”

“พี่คิดเพียงราคาจริงเท่านั้น ส่วนดอกเบี้ยพี่จะคิดจากสิ่งนี้แทน”

“สิ่งใดกันขอระ-” ลุงโดนลวนลามเรียกตำรวจด่วนครับ เอ้ยไม่ใช่โลกนี้ไม่มี ทำไงดีๆ

“อวี้เอ๋อร์”

“ขะ ขอรับ”

“โกรธหรือไม่”

“คือ ไม่รู้”ทำไมเสียงลุงถึงแผ่วแบบนี้กัน

ใจมันสั่นระรัวตอนที่ปากเราสัมผัสกัน ลุงไม่เคยรู้จักการจูบกับใครมาก่อน ไม่แปลกที่จะตกใจ ก็เข้าใจว่ากงหมินหวังในตัวเองอยู่แต่ไม่คิดว่าจะกล้ามาจูบแบบนี้ ถึงจะแตะธรรมดาไม่ได้ล่วงล้ำก็เถอะ

“หากขุ่นเคืองทุบตีพี่ก็ได้อย่าเงียบไปเช่นนี้”

“น้องไม่ได้โกรธ เพียงแต่ตั้งตัวไม่ทันเท่านั้น เหตุใดท่านถึงจูบน้องกัน”

“พี่ห้ามตัวเองไม่ทัน บุรุษเมื่ออยู่ใกล้คนที่รัก ไม่แปลกหากยากจะหักห้ามใจ”

“แต่ท่านกล่าวว่าจักเป็นเพียงพี่ชาย”

“ยามนี้เท่านั้น ในภายภาคหน้าพี่จักแต่งเจ้าเข้าจวน”

“ขออภัยน้องคงแต่งเข้าจวนท่านไม่ได้” ไม่รู้ทำไมพอได้ยิน หน้าของอีกสองคนที่เข้ามากลั่นแกล้งก่อนหน้านี้ถึงลอยมาและแปลกที่หน้าหัวหน้าพรรคมารก็ลอยมาด้วยนี่สิครับ ลุงไม่ได้สายเอ็มใช่ไหมครับ

“เช่นนั้นข้าจะแต่งเข้าจวนเจ้าเอง เหมือนคนที่เหลือดีหรือไม่”

“อย่ากล่าวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเลยขอรับ”

“ก็ได้ เมื่อยามนั้นมาถึงค่อยเจรจากันอีกครา”

“เรื่องเงินน้องจะทยอยใช้คืนท่านจนกว่าจะหมด ท่านร่างสัญญาการซื้อขายมาได้เลยขอรับ”

“เช่นนั้นตามที่เจ้าพอไหวเท่านั้น พี่ชายคนนี้ไม่ได้เร่งรัดสิ่งใด เมื่อมีค่อยนำมาจ่ายเช่นนั้นดีหรือไม่”

“ตามที่เห็นสมควรเถิดขอรับ นี่ก็เข้ายามซื่อแล้ว ไปรับคนกันเถิดขอรับ”

“เช่นนั้นข้าจะให้คนมาทำความสะอาดที่นี่ก่อนดีหรือไม่”

“เช่นนั้นรบกวนท่านแล้ว แล้วเรื่องดอกเบี้ย”

“ข้าคิดจากจูบแล้วอย่างไรเล่า”

“จริงหรือขอรับ”

“จริงแท้” เกินไปไหมครับถึงขนาดทุ่มทุนกันขนาดนี้ มีคนเปย์มันดีแบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นลุงจะตอบแทนคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ท่านพี่กงหมินก้มลงมาสักนิดเถิดขอรับ”

“มีสิ่งใดกัน”

“ตอบแทนที่ท่านพี่คอยช่วยเหลือน้องมาตลอดขอรับ ในทุกเรื่อง”

มันอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างการจูบแก้ม เทียบไม่ได้กับชื่อเสียงของร้านที่ผ่านการแนะนำจากคนตรงหน้าที่ชักนำคนเข้ามาที่ร้าน ไหนจะคอยมาดูแลเรื่องการค้าทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง อีกทั้งช่วยหาคนมาทำความสะอาดอีก ถึงจะแอบลวนลามเป็นดอกเบี้ยก็เถอะ

แต่ไมได้แปลว่าลุงรับว่าชอบหรอกนะ เอาไปแค่เริ่มหวั่นไหวก็พอ งุ้ยเขิน อาจจะดูเหมือนลุงใจง่าย ครั้งก่อนก็ซางไป๋ครั้งนี้มาท่านพี่กงหมินอีก คนที่ไม่เคยสัมผัสความรักแถมยังต้องการความรัก หัวใจมันบางและอ่อนไหวง่ายครับ ลุงบอกเลย

TBC.

เรื่องราวหลังครัวปิด

เซียนอวี้ : ท่านพ่อลูกหวั่นไหวกับบุรุษขอรับ
ฮุ่ยเอิง : แปลกอันใดกัน
เซียนอวี้ : ................(ทำหน้างง)


ลงเนื้อหา 23/8/61
ปรับปรุงเนื้อหา 28/5/62
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 17:24:01 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
:impress2: :impress2: :impress2: เราตามมาจากเด็กดี เราจะเมนต์ทุกตอน คนเขียนอย่าเทเรานะ  :mew1: :mew1:


ขอบคุณที่ติดตามมานะคะ ไม่เทแน่นอนค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด