(ต่อจ้า)จากวันนั้นไปข้าก็ได้รู้นามของเด็กน้อยคนนั้น ที่มิใช่ลู่ฉินหยูอีกต่อไป ทว่าเป็นลู่เฟยหลงไปแล้ว ในครานี้ลู่เฟยหลงต้องเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงกับผู้เป็นบิดาและมารดา เหลือเพียงข้าเท่านั้นที่มิได้ไปที่ใด ยังคงเฝ้ารอคำสัญญาที่จะได้ใช้มันด้วยกัน เฝ้ารอว่าสักวันหนึ่งนั้น ลู่เฟยหลงจะกลับมา กลับมาเคียงข้างกันดังเช่นที่เขาปรารถนาในภพที่เขายังเป็นลู่ฉินหยู
ข้าเฝ้าอ้อนวอนภาวนา ร้องขอต่อองค์เง็กเซียนและกักเก็บพลังจากจันทราอย่างสม่ำเสมอ วิงวอนให้ท่านเทพบนสวรรค์ผู้สูงศักดิ์ได้โปรดเห็นใจต่อข้าผู้นี้ที่มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่ต้องการมีชีวิตและร่างกายเช่นมนุษย์ทั่วไป เพียงเพื่อเขา เขาผู้นั้นที่สักวันจะกลับมาหาข้า
และในที่สุด...สวรรค์ก็ตอบรับข้า
องค์เง็กเซียนลงมาหาข้าด้วยองค์เอง ใบหน้าขององค์เง็กเซียนนั้นมีร่องรอยความโศกเศร้าประหลาดที่ข้ามิอาจเข้าใจได้ แววตาที่มองข้าราวกับพบบางสิ่งที่สูญหายทว่ากลับกำลังจะเสียมันไปอีกครั้ง ข้า...ไม่เข้าใจ
“เจ้าปรารถนาสิ่งใด” น้ำเสียงอันทรงพลังเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย แต่หัวใจข้ากลับสั่นและปวดหนึบ
“ข้านั้นปรารถนาจะได้ใช้เวลากับเขาผู้นั้นขอรับ ปรารถนาจะได้รูปกายเช่นดังมนุษย์ทั่วไปเพื่อที่ข้าจะได้อยู่กับเขาขอรับ” องค์เง็กเซียนถอนหายใจ มองข้าราวกับว่ามิแปลกใจในสิ่งที่ข้าร้องขอ แต่แววตาของพระองค์กลับเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“หากข้าให้เจ้า ย่อมรู้ใช่หรือไม่ ว่าย่อมมิอาจจะได้มาโดยมิแลกเปลี่ยน” มิมีสิ่งใดได้มาโดยเปล่า ข้อนี้ข้าย่อมรู้ดี และข้าย่อมเตรียมใจมาแล้ว สำหรับทุกสิ่ง
“ข้าทราบดีขอรับ...แต่ไม่ว่าสิ่งที่ข้าต้องสูญเสียจะเป็นสิ่งใด ข้ายินยอมทั้งสิ้น” องค์เง็กเซียนเม้มริมฝีปาก นัยน์ตาคู่ดุสั่นไหว
“เพียงเพื่อเขา ไม่ว่าสิ่งใดก็จะแลกเช่นนั้นหรือ?” ข้ายิ้มกลับไปอย่างมีความสุข ขอเพียงได้อยู่ชิดใกล้เขาผู้นั้น มิว่าสิ่งใด
“มิว่าสิ่งใด ข้าก็พร้อมยอมแลกมันอย่างแน่นอนขอรับพระองค์”
“หากเจ้ามั่นใจเช่นนั้นแล้ว ข้าคง...ห้ามอะไรเจ้ามิได้”
ข้าเพียงยิ้มและก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม
“จากนี้ไปเป็นเวลาหนึ่งร้อยราตรี เจ้าจะมีร่างกายดั่งเช่นมนุษย์ทั่วไป แต่ทว่าสิ่งที่เจ้าต้องแลกมันมา คือจิตวิญญาณของเจ้า” ข้าเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขององค์เง็กเซียนอย่างไม่เข้าใจ
“เมื่อสิ้นสุดหนึ่งร้อยราตรี เจ้า...จะดับสูญไปดั่งเช่นวัฏจักรอื่นๆ โดยไม่มีข้อแม้” ดับสูญเช่นนั้นหรือ
หากนั้นคือข้อแลกเปลี่ยนเพียงเพื่อคนที่ข้าเฝ้ารอ
“ข้ายินยอมรับมันขอรับ ขอบพระทัยองค์เง็กเซียนที่กรุณาต่อข้า”
“ไม่...” องค์เง็กเซียนหันหลังให้ข้า “มันมิใช่ความกรุณาของข้า แต่เป็นสิ่งที่เจ้าปรารถนาต่างหาก”
องค์เง็กเซียนหายไปราวกับว่ามิเคยปรากฏตัวต่อหน้าข้ามาก่อน ข้าได้แต่มองภาพติดตาขององค์เง็กเซียนด้วยหัวใจที่ปวดหนึบ มิอาจจะเข้าใจได้ว่าเพราะเหตุใด ได้แต่เพียงปล่อยผ่านมันไปก็เท่านั้น
หนึ่งร้อยราตรีเพื่อแลกกับชีวิตทั้งชีวิตของข้า นับว่าคุ้มแล้ว เพียงแค่ได้พบเจอเจ้า ได้ใช้เวลาอยู่กับเจ้าเท่านั้นเฟยหลง เพียงเพื่อเจ้า ข้ายอมทิ้งทุกสิ่ง แม้แต่ชีวิตของข้าเอง
“เจ้าคือผู้ใดกัน?”
“เจ้ามาจากที่ใดหรือ?”
“ข้ามาจาก...ที่นั่น”
“จากต้นท้อหรือ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? เจ้าจะบอกข้าว่าเจ้าออกมาจากต้นท้อได้เช่นนั้นหรือ”
“ถูกแล้ว ข้าออกมาจากต้นท้อจริงๆ”
“เหตุใดจึงมองข้าเช่นนั้น"
"..."
"หรือเพราะเจ้ารังเกียจที่ข้ามิใช่มนุษย์ เจ้าจึงได้มองข้าเช่นนั้นใช่หรือไม่"
"ข้าหรือรังเกียจ? เห็นข้าเป็นเช่นคนใจแคบเช่นนั้นหรือ? "
"ข้าเพียงแปลกใจก็เท่านั้น มิได้รังเกียจใดๆ ในตัวเจ้าเลย บอกช้าหน่อย เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ? "
“ข้าชื่อหยางเถา…”แม้เจ้าจะจำสิ่งใดมิได้ ข้าก็ขอเพียงได้อยู่เคียงข้างเจ้าเท่านั้น ข้าจะทำตามสิ่งที่เจ้าปรารถนา จะใช้เวลาอยู่กับเจ้า จวบจนชีวิตของข้าจะดับสูญไป ลู่เฟยหลง
มาแล้วจ้าาาา เอาความหลังของน้องมาเสริฟก่อนเลยแล้วกัน จะปวดตับกระชากไตก็ต้องไปกันให้สุดเนอะ เราจะได้นับทิชชู่ที่เช็ดน้ำตาไปพร้อมกัน~
ปล. เนื่องจากทางเล้ามีกฎว่าห้ามลบเนื้อหา เพราะงั้นแมวจะลงตอนพิเศษให้อ่านแค่ตอนเดียวนะคะ ถ้าหากใครต้องการอ่านตอนพิเศษเพิ่มโปรดค้นหาเรื่องนี้จากgoogle นะคะ แต่มีเวลาเพียงสองอาทิตย์เท่านั้นนะคะ จากนั้นแมวจะทำการลบเนื้อหาตอนพิเศษในเว็บอื่นๆทันทีและไม่มีการลงซ้ำเด็ดขาด ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านมานะคะ