[เรื่องสั้น] มีนไม่ได้แปลว่าใจร้าย - end -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] มีนไม่ได้แปลว่าใจร้าย - end -  (อ่าน 3964 ครั้ง)

ออฟไลน์ MH18A31

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



                           ***************************************************************



                                                                      มีนไม่ได้แปลว่าใจร้าย



                                             เรื่องราวของเด็กผู้ชายสองคน แสงไฟ และท่าเรือใต้สะพานพระรามสี่



                                                                           04.07.61



[ เรื่องสั้น ]
มีนไม่ได้แปลว่าใจร้าย #1



สายลมเย็นโชยผ่านพัดเอาควันคำโขมงจากเครื่องยนต์ ตีเข้าใส่เด็กหนุ่มเต็มๆ ทว่านั่นก็ทำให้คนที่เหม่อลอยมาตลอดทางหลุดจากภวังค์ นัยน์ตาเรียวยาวภายใต้กรอบแว่นละสายตาจากภาพตรงหน้า

“น้อง น้อง ไม่ลงรึ!”

“ลงครับ ขอบคุณครับ”

เพราะมัวแต่นั่งเหม่อ ถึงได้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าเรือจอดเทียบท่ามาสักพักแล้ว เด็กหนุ่มลุกขึ้น รีบสาวเท้าไวๆ ลงโป๊ะ เสียงเครื่องยนต์ และแรงสั่นสะเทือนใต้ท้องเรือ ดังจนกลบเสียงพื้นรองเท้าที่กระทบกับพื้นเรือเสียมิด

พอตกเย็นผู้คนส่วนใหญ่มักจะเดินกันเอื่อยๆ ไม่เร่งรีบเหมือนตอนเช้า มือขวาล้วงกระเป๋ากางเกง วางเหรียญห้าบาทให้คนเก็บเงินคนเดิม เพียงครู่เดียวเงินทอนก็ถูกเลื่อนส่งมา ผมมองแล้วก็นึกทึ่งกับสกิลการทอนเงินฉับไว ในขณะที่ตาดูซีรี่ส์เกาหลีบนโทรศัพท์มือถือ

อมยิ้มแล้วเดินผ่านไป เห็นแล้วอดนึกถึงแยมไม่ได้ เพื่อนสาวคนเดียวที่สนิทกัน รายนั้นช่วงนี้ก็เริ่มติดซีรี่ส์เกาหลีหน่อยๆ และมีท่าทีว่าจะติดมากขึ้นเรื่อยๆ คงเพราะทนแรงสปอย แรงไซโค คนในห้องทุกวันไม่ไหว

เด็กหนุ่มใช้ทางลัด เดินลอดช่องรั้วเหล็กซี่ห่างที่เหมือนมีคนจงใจทำเอาไว้ อาจะเป็นฝีมือของพวกมือบอนที่ทำลายข้าวของสาธารณะ

เดินมานั่งที่ม้านั่งเหล็กไม้เต็ง วางกระเป๋าไว้ข้างตัว ตามองเรือกระแชงลำใหญ่จอดเทียบท่าลำแล้วลำเล่า เสียงคลื่นน้ำกระทบฝั่งราวกับเป็นเสียงดนตรีบำบัด

นั่งมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่นานสองนาน จนตะวันใกล้ลาลับ จนความมืดเข้าครอบคลุม ถึงเวลาของดวงไฟดวงน้อยเริ่มทำงาน

แสงเหลืองนวลจากดวงไฟบนสะพานพระรามสี่สะท้อนบนผิวน้ำ ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มเริ่มมืดสนิท บริเวณที่เด็กหนุ่มนั่งเล่นค่อนข้างมืด แม้ว่าจะมีเสาไฟตั้งอยู่ใกล้ๆ ก็ตามที

พวกยุงเริ่มกัดเนื้อหนัง พอรู้สึกเจ็บๆ คันๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมแวะ ลืมซื้อยาทากันยุงนี่เอง แต่ถึงเซเว่นจะไม่ได้อยู่ไกลจากบริเวณท่าเรือเลยสักนิด


เคยรู้สึกอย่างนี้กันบ้างไหม ยิ่งใกล้ ยิ่งขี้เกียจ


“เอาไหมครับ?”

เล็บสั้นกุดชะงักปลายนิ้วที่เกาๆ ผิวเนื้อจุดที่บวมเป๋ง หันไปมอง ผมกระพริบตาช้าๆ เหมือนตาพร่าไปชั่วขณะ แม้ว่าแสงสว่างจากดวงไฟจะค่อนข้างอ่อน ทว่าแสงนั่นก็ช่วยให้มองเห็นคนที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งข้างๆ ชัดเจน

ปลายนิ้วดันแว่นสายตาขึ้น ยิ้มเล็กน้อย ส่ายหน้าปฏิเสธซองยาทากันยุงในมืออีกฝ่าย

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ”

พอบอกไปอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ได้รบเร้าอะไร เขายิ้มตาปิด วางซองที่ยังไม่ได้ฉีกใช้บนกระเป๋านักเรียนของโรงเรียนรัฐฯ ชื่อดัง

กว่าจะรู้ว่าตัวเองเผลอมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณาก็เห็นหางตาเขาชำเลืองมอง หันมายิ้มให้ ไม่ได้ว่ากล่าวอะไร

ผมเคยคิดว่าถึงแสงสว่างจากดวงไฟมันไม่ได้เจิดจ้า ไม่ได้สว่างไสวเท่าดวงอาทิตย์ แต่อย่างน้อย ท่ามกลางความมืดมิด ความวังเวงน่าหวาดหวั่น แสงนวลๆ นั่นก็ช่วยให้รู้สึกอุ่นใจ รู้สึกปลอดภัยได้ไม่แพ้กัน

จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะรอยยิ้มของคนที่นั่งอยู่ม้านั่งถัดไป


เป็นคนยิ้มน่ารักดี











21:25

ร้อนรน รถตู้หมู่บ้านไม่มาซะที

สองทุ่มก็แล้ว สามทุ่มก็แล้ว

ยืนรอตั้งแต่รอบสองทุ่ม จนรอบสามทุ่มก็ยังไม่มา

ปลายนิ้วโป้งไล่ดูเบอร์ในโทรศัพท์มือถือ พอเจอจึงรีบกดโทรออก รอสายอยู่นาน ลุงคนขับรถก็ไม่รับสายเสียที

โดยปกติแล้วรถตู้หมู่บ้านตอนเย็นมีตั้งแต่รอบห้าโมงเย็น ถึงสามทุ่ม ซึ่งจะจอดรออยู่ที่ท่าเรือเล็ก ข้างๆ ท่าเรือใต้สะพานพระรามสี่ แต่เมื่อวานนี้ผมไม่ได้นั่งรถตู้เข้าหมู่บ้าน ไม่รู้ว่ารถลุงแกเสียหรือเปล่า

 
ที่รู้ๆ ท่าเรือฝั่งนี้ตอนกลางคืนทั้งมืด ทั้งเปลี่ยว


เอาไงดี ไม่มีคนอื่นรอด้วยเลย ไม่มีวิน ไม่มีแท็กซี่


มืดด้วย


หัวไหล่เริ่มลู่ สองมือลูบๆ แขน พยายามผ่อนคลาย แต่ในหัวมันกลับคิดวกวน ขลาดกลัวขึ้นมาอีกแล้ว นัยน์ตาเรียวยาวใต้กรอบแว่นเบี่ยงหลบสายตาคู่นึงที่มองมา

แล้วแสงไฟดวงเล็กก็ประทบสายตา คนมองหยีตาลง สักพักรู้สึกว่ามีบางอย่างแข็งๆ เขกหัวตัวเองเบาๆ พอลืมตาก็มองหมวกกันน็อคในมือของเด็กโรงเรียนรัฐฯ คนนั้น

“อยู่หมู่บ้าน xxx ใช่ปะ?”

ผมรีบตอบ ตามีประกายความหวัง “อืม นายหมู่บ้านเดียวกันเหรอ?”

เขาพยักหน้า “ขึ้นมาเลย”


หน้านี่ยิ้มแป้น แต่พอคิดอีกที


ใครก็ไม่รู้ ไม่ใช่ว่าหลอกไปทำอะไรแปลกๆ นะ


ยังไม่ทันพูดอะไรก็เผลอหลับตาปี๋ หดคอเหมือนเต่า หลบรอยยิ้มเจิดจ้านั่นที่โน้มเข้ามาเสียใกล้

“เร็วครับ ไปไม่ไป ยืนคนเดียวมืดๆ ไม่กลัวเหรอ?”

ผมลืมตามอง ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังอมลมไว้ในแก้ม น้ำตาเริ่มรื้นล้นขอบตา คนโดนจุดจี้อ่อนรีบพยักหน้างุดๆ หยีตาไล่น้ำที่ทำรอยยิ้มคนตรงหน้าพร่าเลือน

“กลัว”


กลัวมาก


เขายิ้ม ตบเบาะหลัง “แล้ว...อยากไปกับเราหรืออยากไปกับตาลุงคนนั้นล่ะครับ”

คนพูดพยักพเยิดไปทางผู้ชายที่นั่งอยู่ในศาลาเล็ก แต่งตัวดูมอซอ สายตาไม่น่าไว้วางใจ ผมหันกลับมามองเขา คนที่จับกระแสขี้เล่นในน้ำเสียงนั้นได้ขบเม้มริมฝีปากแน่น ถามออกไปอย่างที่รู้สึก

“นี่แกล้งเหรอ?”

คิดว่าคำตอบที่ว่าคงอยู่ในเสียงหัวเราะเขาแล้วล่ะ แต่ถึงจะนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจเท่าไหร่ มือก็รับหมวกกันน็อคมาแล้ว

หมวกกันน็อคที่มือเขามาอยู่ในมือผมอย่างง่ายดาย ผมรีบสวมลงหัวทันที ทว่าก่อนจะได้ดันกายขึ้นนั่งซ้อนท้ายมอ’ไซค์ เขาก็คว้าหมับ

“ใส่ดีๆ สิ”

ยืนนิ่งให้เขาใส่หมวกกันน็อคให้ใหม่ อมยิ้มเล็กๆ จะเอ่ยปากขอบคุณ แต่เขาดันไม่เอาหน้าออกไปห่างๆ สักทีนี่สิ

“มีอะไร?”

“นี่จีบนะครับ รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย?”

“อ้าวเหรอ” ผมตอบ หดคอเข้ากระดองนิดหน่อย

ไม่ได้เขิน ไม่ได้แปลกใจอะไร แล้วก็...ไม่ได้รังเกียจด้วย คงเพราะเพื่อนสนิทผมเองก็ชอบผู้ชายล่ะมั้ง

ผมมองเขาที่ยิ้มอยู่นั่น ไม่พูดต่อซะที แถมหน้ายังยื่นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เลยจัดการเขกโปก กระแทกหมวกกันน็อคกับเขาเข้าให้ 

เขาลูบหมวกกันน็อคที่หัวตัวเอง ยอมถอยห่างออกไป มุมปากคลี่ยิ้ม

“งั้น...ตอนนี้ก็รู้แล้ว”

“อืม รู้แล้ว”

“จีบนะ?”

คำสองพยางค์สั้นๆ แต่ผมก็รู้ว่ามันเป็นคำถาม และคงเป็นคำถามที่สำคัญกับทั้งตัวผม ทั้งกับเขาด้วย

ผมเอ่ย ไม่เก็บความสงสัยเอาไว้สุ่มอก

“ไม่ถามชื่อก่อนเหรอ ทำไมคนสมัยนี้จีบกันง่าย”

เขาหัวเราะ ยกมือมาอุดเสียงเหมือนคำถามผมน่าขำเสียมากมาย

“คนสมัยนี้ ฮ่าๆ ๆ พูดจาเหมือนคนแก่เลยมีน”


เขารู้?


“มีน ขึ้นรถเหอะไปกับเรา”

จู่ๆ สีหน้าเขาก็เรียบนิ่ง พูดเสียงเครียด พอมองตามสายตาเขา ก็เห็นว่าในศาลานั่นไม่ได้มีคนไม่น่าไว้ใจแค่คนเดียวแล้ว พวกเขา...กำลังมองมาทางนี้

ผมหันกลับมา “อืม”












มือดันหน้ากากพลาสติกขึ้น สายลมเย็นยะเยือกยามค่ำคืนทำเอาร่างกายเงียบเซียบ รู้สึกเลยว่าฟันบนกับฟันล่างของตัวเองสั่นกึกๆ กระทบกัน


เพิ่งเคยนั่งมอเตอร์ไซค์ดูวิวตอนกลางคืนแบบนี้


มือผมข้างนึงยึดมั่นที่ด้ามจับด้านหลัง ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่เคยเห็นคนอื่นจับไว้แบบนี้ เลย...ทำตาม


นี่เป็นครั้งแรกที่นั่งมอเตอร์ไซค์


ไม่ได้เป็นลูกคุณหนูอะไรหรอก รถประจำทาง รถสองแถวนะเคยขึ้น ที่ผ่านมาก็แค่ไม่เคยต้องใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ก็เท่านั้น

ตรงไปอีกหน่อย เลี้ยวขึ้นสะพานข้างหน้าก็ถึงหมู่บ้านของผมกับเขาแล้ว

ปลายนิ้วดันแว่นสายตาขึ้น มองแสงไฟหน้ารถ

เพราะสองข้างทางเป็นทุ่งนาล้อมรอบ ตอนกลางคืนถนนสายนี้เลยค่อนข้างมืดมาก แม้ว่าในสายตาของผมตอนนี้ มองไปทางไหนก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเงาดำลางๆ แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องที่ได้ทำเป็นครั้งแรก มันน่าตื่นเต้นเสมอนั่นแหละ

สักพักก็รู้สึกว่ารถวิ่งช้าลง

“มีน! หนาวมากไหม!?”

เหมือนเขาพูดเสียงดังขึ้นกว่าปกติเพื่อแข่งกับเสียงลม ผมส่ายหน้า

“นิดหน่อย ไม่เป็นไร”

“ทนนะ ใกล้ถึงแล้วครับ”

ลอบมองเสี้ยวหน้าเขา อมยิ้มน้อยๆ

“อืม”










เขารู้ได้ยังไงว่าบ้านอยู่ซอยไหน?


นั่งรถเพลินๆ พอรู้สึกตัวอีกที ในระยะสายตาก็เห็นประตูรั้วหน้าบ้านของตัวเองแล้ว ผมดันกายลงจากตัวรถ ทว่าไม่ทันได้ปลดหมวกกันน็อคออก อีกคนก็เอื้อมมือมาปลดออกให้เสียก่อน

ผมยิ้ม “ขอบคุณนะ”

“เต็มใจครับ”


รอยยิ้มเขา เหมือนจะสว่างกว่าแสงจากดวงไฟนิดหน่อย


ท้องฟ้าเหนือหัวดังครืน พอเงยหน้าขึ้นมอง สายฝนเม็ดใหญ่ก็หยดแหมะลงบนใบหน้าพอดี หมู่เมฆลอยตัวลงต่ำ เป็นดั่งสัญญาณเตือนว่าอีกสักพักพายุจะเข้า

“ฝนตกปรอยๆ รีบกลับเหอะ”

อีกคนไม่ตอบอะไรกลับมา ยังนั่งคล่อมรถอยู่ ในมือก็ถือหมวกกันน็อคที่ถอดออกมาจากหัวผมเมื่อครู่นี้

เลิกคิ้วมอง ก่อนจะนึกขึ้นได้ “ส่วนเรื่องคำตอบ...”

“เดี๋ยวมีน”


หืม?


“เอ่อ...ขอเราทำใจก่อน”

ผมกลั้นขำ อีกคนเหลือบมอง งืมงำในลำคอ

“มีนอย่าขำดิ...ก็เรากลัว”

“กลัวอะไร?”

“ที่คิดจะจีบมีนไง”

ผมมองเขางงๆ

“ไม่เห็นต้องกลัวเลย ขนาดคนโดนถามยังไม่กลัว”

เขามองผมเหมือนกำลังอึ้ง ทึ่ง อะไรสักอย่างที่ผมไม่แน่ใจ แล้วก็...ยิ้มอีกแล้ว


ยิ้มทีตาพร่าไปหมด


“จริงสิ แล้วมีนไม่ถามชื่อเราหน่อยเหรอ”

ผมไม่ตอบคำถามนั่น ยกมือรับสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาถี่ขึ้น มองเขา

“กลับบ้านเหอะ พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่”

“...”

“ให้จีบนะ”

เขายิ้มกว้าง


ตาพร่าอีกแล้ว


“งั้น...พรุ่งนี้เราจะจีบมีนแล้วนะ”

ผมยิ้มรับ ตอบสั้นๆ

“อืม”




tbc.
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2018 21:13:07 โดย MH18A31 »

ออฟไลน์ MH18A31

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีนไม่ได้แปลว่าใจร้าย #2



“ห่าน เซี่ยอ้อน นี่มึงแอบถ่ายรูปเขา?”

“เฮ้ย!”

เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมเดินมาหาพวกมันที่โต๊ะหินข้างสระว่ายน้ำ แต่พอเห็นของในมือเพื่อนปุ๊บ ก็รีบดึงโทรศัพท์มือถือตัวเองออกจากมือมันทันที

คนโดนจับได้ไม่ปฏิเสธหรือถ้าจะพูดให้ถูก...ปฏิเสธไม่ได้มากกว่า


...ภาพบนวอลเปเปอร์โชว์หรา...


ไอ้โยผลักหัวผม “สัตว์ อย่ามาเขินหูแดงแถวนี้ ขนลุก!”

ผมตวัดตามอง “แล้วพวกมึงยุ่งกับมือถือกูทำหอกไรเล่า”

“ก็คนมันเห็น กูก็ไม่คิดว่ามึงจะคลั่งขนาดแอบถ่ายรูปเขาเอาขึ้นวอลปะ”

ผมเงียบ ชนักติดหลัง เพราะตัวเองดันแอบถ่ายรูปเขาเก็บไว้จริงๆ

“เฮ้อ...อ้อนเอ๊ยอ้อน แล้วที่มึงบอกว่าเขาให้จีบนี่ไม่ได้มโนช่ะ นั่นเด็กภูริชญาเลยนะเว้ย”

“ไม่ได้มโน กูขอมีนตรงๆ”

“เขากะหลอกให้มึงตายใจปะวะ กูก็ไม่อยากขัดไรมึงนะเว้ย แต่นั่น...ของสูงนะมึง”  ไอ้ด๊ะพูดสมทบ

คนฟังพรูลมหายใจ วางมือถือบนโต๊ะ สองมือจับผ้าขยี้ๆ ผมที่เปียกแฉะ

“กูรู้แค่มีนน่ารัก”

“โว๊ย! เหม็นนน แต่ที่พวกกูรู้มันมากกว่านั้นว่ะ อะไรนะๆ คุณหนูร้านทองชื่อดังในย่านเยาวราชที่มีร้านหลายๆ สาขาปะวะไอ้โย?”

“เห็นว่าครอบครัวมีธุรกิจเหมืองแร่ด้วยนะ ค้นในเน็ตก็เจอ”

“เออ แล้วรู้สึกว่าจะญาติๆ กันกับทางโรงเรียนภูริชญาด้วย เพราะนามสกุลเดียวกับผอ.”

โยสถบ “ไอ้เหี้ย...”

“ของสูงสัตว์ๆ มึงเอาจริงเหรอวะอ้อน”

ผมส่ายหัวอย่างระอา อดด่าพวกมันไม่ได้

“เรื่องรอบตัวพวกมึงนี่ฉลาดเสือกกันจัง”

พวกมันหัวเราะร่วน ตบๆ บ่าผม

“เปล๊า เพราะนี่เป็นเรื่องของมึงหรอกเพื่อน อีกอย่าง ข้อมูลน้องมีนของมึงนี่สืบไม่ยากเล๊ย”

ผมขมวดคิ้ว

“น้อง?”

“เออ น้องมันอยู่มอต้น เกรดไรนะมึง”

“เกรดเก้า มอสามอะมึง ฉิบแล้ว เซี่ยอ้อนแม่งกินเด็ก ฮ่าๆ ๆ”

ผมโบกหัวมันไปที ก่อนจะดูนาฬิกาที่ข้อมือ

“กูไปล่ะ”

ผมสะบัดผ้าผืนเล็กฟาดบ่า ลุกขึ้นยืน

“เฮ้ยๆ จะรีบไปไหนวะ เพิ่งบ่ายสามมม” โยโวย

“น้องมันยังไม่เลิกเรียนเลยมั้ง”

ผมเกาข้างแก้ม

“วันนี้วันอังคารมีนน่าจะมาดูหนังที่เมเจอร์ฯ เหมือนเดิมว่ะ”

“โหมึง นี่สตอลค์เกอร์หรือสตอลค์เกอร์?”

“สตอลค์เกอร์พ่อง กูไปล่ะ พรุ่งนี้เจอกัน”

ไอ้โยกับไอ้ด๊ะผิวปากแซวไล่หลัง ผมยกนิ้วกลางใส่


อย่าให้ถึงทีกูบ้างแล้วกัน


นึกแล้วก็ยิ้ม ก็เห็นมีนชอบอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ


ทุกเย็นวันอังคาร ผมเห็นมีนชอบมายืนเลือกหนังบนชั้นสองที่เมเจอร์ฯ แล้วเรื่องที่คนน่ารักของผมเลือกดูก็มักจะเป็นหนังเรื่องอะไรก็ได้ที่ฉายรอบสี่โมงเย็นพอดี


พอดูหนังจบ มีนมักจะข้ามทางม้าลายมาเดินในสวนหย่อมกลางถนนใหญ่ บางวันถ้าไม่ได้ดูหนังก็จะมาเล่นสตรีทบาสกับเพื่อนแถวนี้ พอแยกย้ายก็เดินไปที่ท่าเรือ


บางวันไม่ได้นัดเพื่อนเอาไว้ มีนชอบเดินเอื่อยๆ เดินเหมือนเต่า เดินจากห้างไปที่ท่าเรือ ซึ่งสำหรับผมมันไม่ได้ไกลนักหรอก แต่เอาจริงๆ คนส่วนใหญ่ มักจะยอมเสียเงินขึ้นสองแถว มากกว่าเดินตากแดดให้ตัวดำเล่น ดมฝุ่นดมควันรถ


บางวันถ้าหากอากาศค่อนข้างดี แดดไม่แรงนัก มีนชอบนั่งเรือ ข้ามไปเกาะเกร็ด แต่ถ้าไม่ได้แวะไปที่ไหน คนน่ารักของผมก็จะนั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งปทุมเลย


พอนั่งเรือลงฝั่งปทุม มีนก็จะเข้าไปคุยกับพี่คนเก็บเงิน จากนั้นก็เข้าไปนั่งในเรืออีกรอบ นั่งวนไปวนมาอยู่แบบนั้นเป็นสิบๆ ครั้ง


แทบทุกเย็น คนน่ารักของผมมักจะมานั่งเล่นตรงริมแม่น้ำ บางครั้งก็หยิบอะไรขึ้นมาทำฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ คุยโทรศัพท์บ้าง อยู่ยันมืดค่ำ จนผมเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งคนเดียวเปลี่ยวๆ ถึงยอมรอเขา รอจนกว่ามีนจะขึ้นรถตู้ ถึงบ้านปลอดภัย


น่าแปลก ทั้งที่เขาเหมือนจะไม่ค่อยชอบที่มืดๆ เท่าไหร่ แต่กลับมานั่งเล่นแถวท่าน้ำจนมืดค่ำแทบทุกวัน


เป็นห่วง


นี่จะรู้ตัวบ้างไหม ว่าการที่เขานั่งอยู่คนเดียวแบบนั้นบ่อยๆ มันตกเป็นเป้าสายตาคนแถวนั้นมากแค่ไหน


นึกฉุน พอเห็นพวกลุงที่เป็นวินมอเตอร์ไซค์ ขับตุ๊กตุ๊กมองตามหลังเขาตาเป็นมัน


มีนน่ารักมีเสน่ห์แต่ในขณะเดียวกันก็ดูมีสง่า เหมือนภาพวาดที่กำลังเคลื่อนไหว


ผิวเขาขาวแต่ไม่ซีด ตัวเขาสูงแต่ค่อนข้างติดผอม


นัยน์ตากลมเรียวยาวภายใต้กรอบแว่นนั่น มันดึงดูด จนเผลอตกหลุมที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจขุดเอาไว้


แล้วพอเจอกันอีกครั้ง พอรู้สึกตัวอีกที ก็แอบชอบเขาข้างเดียว...มาโดยตลอด












มีนกำลังคุยกับใคร?


เป็นอย่างที่คาดเดาไว้ พอขึ้นบันไดเลื่อนมาผมก็เห็นคนน่ารักยืนอยู่ตรงโซนดูรอบหนังที่เข้าโรงในแต่ละวันพอดี แต่ที่ผมคาดเดาไม่ได้มีบุคคลที่สองยืนอยู่ข้างๆ เขา...แบบนี้


ไม่ใช่ชุดของภูริชญา คงเป็นเพื่อนต่างโรงเรียน


ขนาดมึงยังมีเพื่อนที่โรงเรียนอื่นตั้งเยอะแยะ ทำไมมีนจะมีบ้างไม่ได้


สลัด นี่พยายามคิดบวกสุดๆ แล้ว


ให้ตาย ยอมรับว่าตอนนี้โคตรหวง


ทำไมต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้มีนแบบนั้นวะ!


อารมณ์คุกรุ่นปะทุอยู่ในอก มองแผ่นหลังผอมบางเดินเข้าไปในโซนขายตั๋วหนัง หางตามองคนที่เมื่อครู่ยืนอยู่กับคนน่ารัก เดินสวนไปทางห้องน้ำ


ผมเดินไปนั่งที่โซฟากลมสีแดงหน้าโรง อาศัยแสงสีมัวๆ บังบดร่างตัวเองเช่นเคย ปกติมีนไม่เคยเดินมาซื้อน้ำ ซื้อขนมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น…

“สวัสดีนาย”


หอกหัก!


เสียงนุ่มๆ ดังแว่วเข้าสองหู คนโดนทักก่อนเงยหน้าขึ้นทันที อ้าปากหวองงงวย

“มะ มีน” 

“อืม จะสิงโซฟาแล้วๆ”


ย้ำอีกที มีนโคตรน่ารัก!


เสียงมีนนุ่มละมุนหู แล้วเมื่อกี้เหมือนมีนแซวผมหน่อยๆ ด้วย


อยากขย้ำ...ปั้นเป็นก้อนแล้วเอาเข้าปาก


ในหัวยังเพ้อไม่หยุด กระทั่งเขาหย่อนกายลงนั่งข้างๆ ผมถึงสังเกตเห็นถ้วยไอติมในมือคนน่ารัก และตั๋วหนังที่หย่อนลงใส่กระเป๋าเสื้อ


f7 f8


มาดูกับไอ้นั่นจริงๆ เหรอวะ


“เพื่อน”

จู่ๆ คนข้างๆ ก็พูดออกมาหนึ่งพยางค์แถมไม่ขยายความให้ด้วย

เขาย้ำ

“เพื่อน”

“เพื่อนจริงนะ?”

ผมมองเขา ต้องการความมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้โดนอีกฝ่ายปั่นหัวอยู่

เขายิ้ม ตักไอติมเข้าปากหนึ่งคำ

“อืม นั่นเพื่อน ส่วนคนนี้...”

มองมือเรียวสวยที่หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมาอีกรอบ ตั๋วนัมเบอร์ f8 ถูกส่งมาทางผม

“ให้จีบไง”

หลังตรงขึ้นมาทันที มือคว้ากระเป๋าลุกขึ้นยืน ดีใจเหมือนกระดี่ได้น้ำ หันมายิ้มให้คนน่ารักกว้างขวาง

 “สวัสดีครับ ชื่ออะไรเหรอครับ?”

เขายิ้มรับ ลุกขึ้นตาม

“มีน”

“มีนที่แปลว่าค่ากลาง”

ปากล่างยื่นออกมา คนน่ารักของผมเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มเห็นฟัน


แม่ง โคตรน่ารักเลย


โอ๊ย ละลายเป็นไอติมแล้วหัวใจ

“อืม มีนไม่ได้แปลว่าใจร้ายสักหน่อย”

คนน่ารักของผมว่าอย่างนั้น เหมือนเจ้าตัวบ่นเล็กๆ สงสัยมีคนทักเรื่องความหมายของชื่อเขาบ่อย


ผมก็เคยทักเขาไปแบบนั้นเหมือนกัน


“ยินดีที่ได้รู้จัก มีนที่ไม่ได้แปลว่าใจร้าย อ้อนมีนครับ”

นัยน์ตากลมเรียวยาวภายใต้กรอบแว่นกระพริบตาช้าๆ

ผมหัวเราะ ยิ้มเอ็นดู

“ที่จริงชื่ออ้อน แต่พอดันไปชอบใครบางคนแถวนี้เลยอยากเปลื่ยนชื่อเล่นตัวเองขึ้นมาอะ”

“อืมๆ”

เขาพยักหน้า ตักไอติมเหลือบมอง

“ถึงตัวไม่ได้ติดกันตลอดเวลา แต่ขอแค่ชื่อติดกับมีนก็ยังดี… โธ่มีน อ้อนรู้ว่ามันแป้ก แต่กินติมไปฟังไปเลยเหรอ”


ไม่รู้ว่าควรจะโวยหรือว่าอะไรดี 


เริ่มอิจฉาไอติมแล้วเนี่ย สนใจมากกว่าผมอีก


 “อ้าว หยอดอยู่เหรอ?”

คนมองใจกระตุก พอเห็นลิ้นแดงๆ เลียคราบครีมวานิลลาตรงมุมปากล่าง


สลัด! คิดดีหน่อยมึง!


“งั้นเราหยอดบ้าง”

คนตัวสูงกว่าตัวแข็งเป๊ก หางตาชำเลืองมองก็เห็นว่าคนน่ารักกำลังอมยิ้ม ไอเย็นที่ออกจากปากรินรดข้างลำคอทำเอาคนตัวสูงกว่าขนลุกซู่

“แทนตัวเองว่าอ้อนนะ”

“...”

“อ้อนจะได้ดูน่ารักในสายตาเราไง...”


แม่ง...ยกนี้ผมตายว่ะ








แถม

“ชื่อไรอะ มาเล่นด้วยกันมะ”

“มีน”

“มีนที่แปลว่าใจร้ายอะนะ?”

“มีนไม่ได้แปลว่าใจร้าย...สักหน่อย”

เด็กตัวสูงเกาข้างแก้มก่อนจะยิ้มกว้าง หมุนลูกบาสในมือ

“ชื่อไรก็ช่างเหอะ นั่งคนเดียวทำไม เหงาจะตาย มาเล่นบาสกัน!”

เขาฉุดข้อมือเด็กอีกคนให้ลุกขึ้น

เด็กร่างผอมก้มหน้าลงช้าๆ

“อืม”







เผื่ออ่านแล้วงง อ้อนกับมีนอยู่หมู่บ้านเดียวกันค่ะ ตอนเด็กๆ เคยเล่นบาสด้วยกัน แต่มีนเรียนไกลบ้าน แถมสนิทกับเพื่อนที่โรงเรียนมากกว่า พอตกเย็นเลยไม่ได้มาเล่นบาสกับเด็กในหมู่บ้านอีก พออ้อนบังเอิญเจอมีนอีกครั้งก็จำได้ เป็นห่วงเลยตามดูห่างๆ แต่กลายเป็นว่าแอบตามไปแอบตามมา ดันแอบชอบเขาซะงั้นเสียนี่

พล็อตเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเด็กผู้ชายต่างโรงเรียนสองคน ที่เมื่อหลายปีก่อนเราเคยเห็นน้องนั่งด้วยกัน แถวท่าเรือริมน้ำใต้สะพานลอยพระรามสี่ค่ะ ถ้าเป็นคนในท้องถิ่นน่าจะรู้แล้วนะเนี่ยว่าโรงเรียนอะไร (เอกชนกับรัฐฯ ชื่อดัง)

ที่จริง มีนเป็นตัวละครในเรื่องยาวของเราอีกเรื่องค่ะ (เรื่อง เราชื่อด้วยกันนะ) แต่เรื่องนั้นเราหยุดเขียนอยู่ ใครคิดจะตาม ไม่ต้องนะคะ 555

ปล. ตั้งใจว่าจะให้จบแบบนี้ แต่เขียนๆ แล้ว ดันอยากเขียนต่ออีก กำลังสนุก ถถถ

อัพเดท 04.07.61  เวลา 22:00
แก้คำผิด แก้ไขบางประโยคให้สมูธขึ้น


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2018 21:58:41 โดย MH18A31 »

ออฟไลน์ nittanid33333

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :katai4:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
รักใสๆเลยยยยยยยยยยย น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :mew1:
ที่ยอมให้เค้าจีบนี่คือจำได้ว่าเคยเล่นด้วยกนอะดิ ถึงว่าาาาาาาาาาใจดีจัง มีความแอบอ้อยเบาๆด้วย

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักดี..อยากอ่านต่อ  o13

ออฟไลน์ คนดีของสังคม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักมากกก อยากจะหวีดร้องหลายๆรอบ พ่อคนหยอดเก่งง จีบเก่ง แต่มานั่งเขินกับตัวเองซะงั้น จิกมหนอระดับสิบค่ะ  :-[ :z3:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
น่ารัก

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่ารักจังเลยยย มีนลู๊กกกก :hao7:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น่ารักทั้งอ้อนทั้งมีนเลยยย   :mew1:

ออฟไลน์ Chanik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao7: น่าร้าาากตามเน้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
มีนไม่ใจร้ายแต่น่ารักกก โฮกกก เด็กหนุ่มๆนี่กร๊าววใจมากค่า
 :hao6:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เด็กม.ต้นมันกระชุ่มกระชวยหัวใจ

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
มีนคือความน่ารักไม่ใจร้ายยยยยยยเอ็นดู

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แต่มีนคือความน่ารักสินะ
แหมมมมม คนน่ารักของผมอ่ะเนอะ

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
น่ารักกก  :-[ :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด