เหตุเกิดจากความหิว
ตอนที่ 5
'เล่นใหญ่รัชดาลัย'
หลังจากตกปากรับคำกับข้อแลกเปลี่ยนกันแล้ววันถัดมาพายก็กลับบ้านและกลับมาที่หอพักในตอนเย็นส่วนการติดต่อก็ขาดหายไปเลยแม้แต่สติกเกอร์โง่ๆก็ไม่มีมา น่าแปลกพายคิดแบบนั้นแต่เขาก็ไม่ได้มีความคิดจะส่งหาก่อนหรอกนะ เขาเดินถือถุงกระดาษใบใหญ่ที่บรรจุไปด้วยของกินไปตามทางเดินของชั้นห้าแต่ทันทีที่สายตามองไปที่หน้าห้องของตัวเองก็พบกับมนุษย์ที่ขาดการติดต่อไปยืนเต๊ะท่าอยู่
“ไม่ทราบว่ามายืนถ่ายแบบเหรอครับ”
“เออ”
“พี่นี่ตลกหน้าตายนะเนี้ย”
“กูไม่ใช่คนตลกครับน้องพาย”
“เหรอๆ หลบหน่อยพี่ของหนักจะเข้าห้อง”
“อืม”
คนตัวใหญ่หลบทางให้เพื่อให้เจ้าของได้เดินเข้าไปในห้องได้สะดวกแต่ก่อนอีกคนจะหันมาปิดประตูต้นน้ำก็เป็นคนปิดให้เองเสร็จสรรพ เจ้าตัวเดินมาหยุดยืนหน้าของพายพร้อมกับสีหน้าเรียบเฉย
“พี่เป็นไรปะเนี้ย”
“มึงทำยังไงก็ได้ให้แฟนเก่ากูเลิกโทรมาสักที”
“อย่าบอกนะว่าตั้งแต่วันนั้นเขาก็โทรมาหาเรื่อยๆอะ”
“อืม”
“งั้นขอผมเก็บของก่อนเดี๋ยวช่วย พี่ก็เปิดมือถือได้แล้ว”
พายเดินตรงไปยังตู้เย็นแล้วเรียงกล่องอาหารและขนมนมเนยใส่อย่างเป็นระเบียบด้วยความรวดเร็วก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงนอนที่มีต้นน้ำนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพร้อมกับมือถือที่กำลังสั่นรัวเหมือนเครื่องรับกาแฟ พายนั่งแล้วหันไปมองหน้าอีกคน
“พี่อยากได้แบบเลเวลไหน”
“เลเวลอะไรวะ”
“เหอะน่า”
“เลเวลไหนก็ได้ที่เขาจะเลิกกระหน่ำโทรเข้ามาแบบนี้”
“จัดไป รอชมนะครับพี่ต้นน้ำ”
มือขาวหยิบเอามือถือเครื่องสีดำมาไว้กับตน ยกยิ้มกว้างให้เจ้าของเครื่องก่อนจะกระแอมไอเล็กน้อยแล้วถึงจะกดรับสายที่มีชื่อปรากฏอยู่ว่า ‘มีน’
(ต้น! กว่าจะรับสายทำไมรับช้าขนาดนี้)
“พี่ต้นไม่อยู่ครับ”
(นั่นใครน่ะ)
“คุณนั่นแหละเป็นใคร” พายขึ้นเสียงขึ้นมาเล็กน้อย
(แล้วทำไมเราต้องบอกคุณด้วย)
“งั้นผมบอกเองผมเป็นแฟนพี่เขา”
(ว่าไงนะ?)
“หูตึงเหรอไง”
(เราไม่เชื่อ)
“นั่นก็เรื่องของคุณ แต่ผมเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่าโทรมาอีก”
(คิดว่าคนอย่างฉันจะเชื่อเหรอไง เรียกพี่ต้นมาคุยเดี๋ยวนี้)
พายผละมือถือออกจากข้างหูก่อนจะเบะปากเพราะเสียงอีกคนที่พูดกลับมานั้นดังมาก ดวงตากลมโตช้อนมองคนข้างกายที่ยังเอาแต่นั่งกอดอกมองมานิ่งๆแต่แววตากลับท้าทายว่าคนอย่างเขาจะทำได้อย่างที่เคยตกลงไว้ไหม พายยกยิ้มนิดๆก่อนจะ--
“..พ พี่ต้น” พายเปลี่ยนน้ำเสียงจากปกติเป็นกระซิบ “อย่าเพิ่งเล่น ผมยังคุยโทรศัพท์ไม่เสร็จ อื้อ..”
(ก--แก!)
“อ๊ะ..ม ไม่เอา พี่.. อือ”
เสียงกระเซ่าของพายทำเอาต้นน้ำถึงกับเลิกคิ้วสูงในขณะที่พายยังคงสนุกโดยการทำเสียงแบบนั้นใส่กลับไปหาปลายสายจนกระทั่งเสียงตัดสายดังเข้ามาแทนเสียงฮึดฮัดของคนที่ชื่อมีน พายหัวเราะออกมาดังๆพร้อมกับยื่นมือถือไปหาคนแก่กว่า
“รับรองไม่เกินครั้งสองครั้งก็เลิกโทรมาหาแล้ว ผมรับประกัน” พายยักคิ้ว
“อ--เออ กูจะคอยดูแล้วกัน” ต้นนำเอามือถือใส่ในกางเกง “กูกลับห้องก่อนล่ะ”
“ตามสบายครับพี่”
พายมองร่างสูงใหญ่เดินพรวดพราดออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วและท่าทางแปลกๆนั่นทำเอาพายได้แต่คิดว่าอีกคนจะไปตามควายที่ไหนกันแถมไม่พูดไม่จาอะไรอีกทั้งๆที่ปกติแล้วควรจะมีการพูดจากวนประสาทกันต่อ เขากำลังเซ็งนิดๆที่ไม่ได้รับคำชมเชย อุตส่าห์เล่นบทสิบแปดแบบใหญ่รัชดาลัยไป
ในขณะที่ต้นน้ำทันทีที่เดินกลับเข้ามาในห้องก็ทำได้เพียงเดินวนไปวนมาในห้อง ถอนหายใจเฮือกใหญ่แถมยังยกมือขึ้นยีผมตัวเองไปด้วย เขาแทบบ้าตอนที่ฟังน้ำเสียงของพายครางแบบนั้นไหนจะที่อีกคนเอาดวงตากลมใสแจ๋วมองมาอีก สาบานได้ว่าเขาจินตนาการไปไกลกว่านั้นและแน่นอนว่ามันส่งผลมายังช่วงล่างแบบที่ไม่ต้องสงสัยเลยและห้องน้ำก็คงเป็นทางออกในเวลานี้
เด็กแสบ
เช้าวันจันทร์อากาศแจ่มใสจนเกือบไปทางร้อนแรงต้นน้ำกับพายลงมาจากหอพักพร้อมกันโดยที่บทสนทนานั้นเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของกินและเจ้าของคนนำในการสนทนาครั้งนี้ก็คือมนุษย์พายแม้ว่าในมือจะมีกล้วยหอมจากเซเว่นในมืออยู่ด้วย
“วันนี้ผมเลิกดึกอะ แต่ผมอยากกินเครปเค้ก”
“คือจะมึงให้กูซื้อเอาไปให้มึงเหรอไง”
“คือมันก็แล้วแต่พี่จะคิดอะ ผมก็แค่คิดเสียงดังอะไรแบบนี้”
“ตกลงกูเป็นคนใช้มึงเหรอน้องพาย”
“บ้า พี่คิดงั้นได้ไงพี่เนี้ยเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกผิดไง ผมพยายามไถ่โทษอยู่นะ”
เหรอวะ--ต้นน้ำคิด
เดินไปเถียงไปก็พากันไปขึ้นรถตู้ของหอพักที่จอดรอที่หน้าตึกและเมื่อทุกที่นั่งบนรถถูกจับจองทุกที่รถก็เคลื่อนตัวออกไปจนกระทั่งวนมาจอดลงที่หน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์
“ตอนเที่ยงมึงมาเจอกูตรงเซเว่นนี่ด้วย”
“ทำไมอะ”
“เยลลี่หมีไงจะกินไหม”
“กินครับ งั้นเจอกัน”
“เออ”
จบบทสนทนาไปต่างคนก็ต่างเดินแยกกันไปโดยที่ต้นน้ำเดินตรงไปอีกตึกที่อยู่ข้างๆกันส่วนพายก็เดินไปขึ้นลิฟต์ การเรียนช่วงเช้าเริ่มด้วยวิชาคำนวณและนั่นทำเอาพายที่อิ่มข้าวเช้านั่งสัปหงกไปหลายที พยายามถ่างตาอย่างสุดความสามารถจนคาบเรียนจบลงในตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง
“พาย” แมนพูดขึ้นพลางเหลือบมองคนที่อ้าปากหาวหวอด
“อือ”
“กับพี่ต้นนี่ยังไงวะ”
“ก็ไม่ยังไงนะ”
“จริง?”
“ก็แค่ดีลไว้ว่ากูมีหน้าที่กันแฟนเก่าพี่มันไปแล้วมันจะเลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมกู”
“แค่นี้?”
“อือ ทำไมวะ” พายหันไปมองแมนที่ทำหน้าตาประหลาดใจ “คิดว่าพี่มันทำเนียนจีบกูเหรอไง”
“เออดิ”
“คิดมาก คนอย่างพี่มันไม่มาจีบกูหรอกและกูก็ไม่มีวันชอบพี่มันหรอก สบายใจได้”
พายลุกออกจากโต๊ะเดินนำออกไปจากห้องเรียนในขณะที่แมนที่เดินตามหลังก็ได้ถอนหายใจอย่างปลงๆ มองจากมุมไหนก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าตอนจบของความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร เขาค่อนข้างมั่นใจและมองไม่ผิดว่ารุ่นพี่อย่างต้นน้ำไม่ได้เข้าหาเพื่อนเขาเพียงแค่อยากให้ช่วยกันแฟนเก่าออก คนแบบนั้นน่าจะจัดการด้วยตัวเองได้อยู่แล้ว
พวกเขาสองคนพากันกอดคอเดินมาที่โรงอาหารของคณะตัวเองพลางกวาดสายตามองเพื่อนสนิทอีกคนอย่างกันต์ที่ลงมาก่อนแล้วซึ่งคนที่ว่าก็นั่งรออยู่โต๊ะริมตัวหนึ่ง กันต์ไม่ได้ลงเรียนตารางแบบพวกเขาเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่นัก
“แมน กูว่าเหมือนกูลืมอะไรวะ”
“ลืมอะไร ของมึงก็เอามาหมดแล้วนี่”
“นึกไม่ออกเหมือนกันวะ”
“เอ่า! ไปกินข้าวก่อนไปเพื่อคิดออก”
“กูก็คิดงั้น”
คนขี้ลืมพยักหน้านิดๆก่อนจะวางกระเป๋าสะพายลงที่โต๊ะก่อนจะเดินตรงไปยังร้านอาหารตามสั่ง ดวงตากลมโตจ้องมองป้าแม่ค้าที่กำลังผัดข้าวไปพลางนึกว่าวันนี้จะกินอะไรดี และจนกระทั่งถึงคิวที่พายจะได้สั่งเสียงทุ้มต่ำของคนด้านหลังก็ดังแทรกเข้ามา
“เอาข้าวคะน้าหมูกรอบไข่ดาวสองครับป้า”
ใครวะ?
พายหันขวับไปทันทีและก็ได้คำตอบเป็นใบหน้ากวนประสาทของต้นน้ำ ดวงตาคมมองตาของเขาแววตาอย่างคนเจ้าชู้ มันทำให้พายอยากเอานิ้วจิ้มเข้าที่ลูกตาสองข้างเสียจริง
“พี่แซงผมอะ”
“เหรอ กูไม่รู้เลยเนี้ย”
“กวนตีน”
“พูดจาให้มันดีหน่อยครับน้องพาย”
“ก็พี่กวนตีนผมจริงๆอะ”
“มึงไม่มีสิทธิ์บ่นนะ กูนัดมึงที่ไหนมึงลืมสินะ”
“...”
“...”
“เออใช่ ผมก็ว่าอยู่ว่าผมลืมอะไร ผมขอโทษ”
“เหอะ”
“โอ๋เอ๋ ผมก็ไม่ล้านอย่าน้อยใจเลย”
“กูจะโกรธมึงแทนแล้วเนี้ย”
ต้นน้ำทำหน้าบึ้งแต่ถึงอย่างนั้นก็ยกมือขึ้นยีผมของพายอย่ามันมีส่วนคนที่ถูกแกล้งจนผมยุ่งก็เอาแต่หัวเราะตาหยีไม่ได้มีความรู้สึกโกรธแต่อย่างใด และทันทีที่ได้ข้าวที่สั่งไปต้นน้ำก็ตีเนียนเดินไปนั่งกินที่โต๊ะของรุ่นน้องด้วย การตีหน้ามึนของเขาอาจมีแค่พายเท่านั้นที่ไม่รู้สึกอะไร
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารไม่ได้แย่บทสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกมและเรื่องบอลโดยที่พายเองก็พูดตอบกลับไปบ้างเพราะเจ้าตัวกำลังตั้งใจกินขนมที่ต้นน้ำเอามาให้ถุงใหญ่แต่ช่วงเวลาแห่งความเพลิดเพลินก็ต้องจบลงเมื่อมีชายหนุ่มรูปร่างผอมบางตัวเล็กหน้าตาไม่ใช่เด็กที่นี้หยุดยืนที่หัวโต๊ะด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“มีน” ต้นน้ำพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์”
“ไม่อยากรับ”
“ต้น!”
“เสียงดังทำไมเนี้ย”
“ก็ดูต้นดิมันน่าโมโหไหมอะ”
“แล้วมานี่มีธุระอะไร”
“ไม่มีธุระแล้วมาหาไม่ได้เหรอไง”
“อืม”
คนที่ชื่อมีนกัดฟันตัวเอง ใบหน้าหยิ่งๆนั่นฉายชัดถึงความหงุดหงิด ดวงตาเรียวรีตวัดมองคนบนโต๊ะอย่างหาเรื่องซึ่งมีแค่แมนและกันต์เท่านั้นทำหน้างงๆเพราะไม่รู้จักคนตรงหน้าส่วนพายก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกนอกจากขนมปังไส้กรอกตรงหน้า ต้นน้ำถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“จะคุยอะไรก็ตามมา” ต้นน้ำพูดเสียงเข้มก่อนจะหันไปมองมนุษย์พาย “พายหยุดกินแล้วตามพี่มาด้วย”
พายเบะปากนิดๆก่อนจะยอมทำตามโดยยัดก้อนขนมปังที่เหลือเข้าปากแล้วหันไปส่งสายตาบอกเพื่อนว่าเดี๋ยวกลับมาเล่าให้ฟัง เจ้าตัวคว้าเอาจานที่วางรวมถึงเศษขยะไปทิ้งก่อนจะเดินตามคนสองคนนั้นไป
ด้านหลังตึกเรียนนั้นค่อนข้างเงียบและไม่มีคนเดินผ่าน มีนยืนกอดอกเชิดหน้าขึ้นในขณะที่ต้นน้ำก็ยืนเยื้องออกไปพร้อมกับใบหน้าที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมาส่วนพายก็ทำหน้าเด๋อๆมองรอบๆไปทั่ว พายไม่เข้าใจว่าจะยืนเงียบกันอีกนานไหม เขารีบเพราะมีเรียนตอนบ่ายครึ่ง
“พวกพี่จะยืนเงียบกันอีกนานไหม ผมมีเรียน”
“มีนจะพูดอะไรก็พูดมาเลย”
“มีนอยากคุยกับต้นแค่สองคน” มีนว่าพร้อมกับปรายตามองคนที่เด็กที่สุดในที่นี้
“ต้นไม่อยากมีความลับกับแฟนตัวเอง จะพูดอะไรก็พูด”
“หึ คิดว่ามีเชื่อเหรอไงว่าเด็กนั่นคือแฟนต้น”
“จะเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของมีน”
“เหอะ ต้นแค่ให้เด็กนั่นมาแกล้งเป็นแฟนเพื่อจะกันมีนออกไปใช่ไหม”
ต้นน้ำกลอกตาอย่างเบื่อหน่ายส่วนพายเองก็เริ่มขยับตัวเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะยกมือขึ้นกอดแขนที่มีกล้ามพอสมควรของคนแก่กว่าพร้อมกับเอาหัวตัวเองซบลงกับไหล่อีกคน ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่หน้าของแฟนเก่าของพี่ต้นน้ำด้วยแววตาเหนือกว่า พายกำลังรู้สึกสนุกอยู่ในใจ ความรู้สึกตัวร้ายในละครคงเป็นแบบนี้ในขณะที่มีนได้แต่กำหมัดแน่น
“มีนจะบอกว่าต้นต้องมาถ่ายแบบให้มีนวันอาทิตย์นี้ ที่มหาลัยของมีน”
“ต้นไม่ไป”
“ต้นต้องไป แค่ช่วยแค่นี้ไม่ได้เหรอไงหรือว่ากลัวแฟนปลอมๆจะโมโห”
“ไปเถอะพี่ต้น อย่าไปปฏิเสธพี่มีนเขาเลย”
“แต่--”
พายเอานิ้วชี้ขึ้นแตะกลีบปากของต้นน้ำ เจ้าตัวยกยิ้มนิดๆแถมยังทิ้งสายตาออดอ้อนไปอีกซึ่งต้นน้ำไม่รู้เลยว่าเด็กตรงหน้าจะมาไม้ไหนแต่ที่แน่ๆใจเขาเต้นแรงจนหูอื้อแล้ว
“แฟนเก่าพี่เขาอุตส่าห์มาขอความช่วยเหลือถึงนี้ อย่าใจร้ายสิครับ”
“อ--เออก็ได้” ต้นน้ำกระแอมไอก่อนจะหันไปหามีน “งั้นเดี๋ยวเจอกันวันอาทิตย์นะมีน”
มีนไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกจากการปรายตามองพายแล้วเดินออกไปแต่ถ้าสังเกตดีๆคงพบรังสีความโมโหรายล้อมเจ้าตัวไว้และมือทั้งสองข้างที่ถูกกำไว้แน่น ส่วนคนที่ยืนอยู่ที่เดิมก็คอยมองจนแผ่นหลังมีนหายไปจากกรอบสายตา
“มึงต้องไปกับกูด้วยนะครับน้องพาย”
“ได้แต่มาการองที่พารากอนผมต้องได้กินนะ”
“เออ”
“โอเคดีล แล้วพี่จะมาหาผมตอนเย็นไหม”
“ทำไมกูต้องไปหามึง”
“ค่าจ้างสำหรับวันนี้ไง มื้อเย็น”
“เออๆ”
“ยอดเยี่ยม ผมไปเรียนละ”
เจ้าของกายผอมผละออกจากการเกาะตัวของต้นน้ำแล้วเดินตรงไปยังตึกเรียนทิ้งให้ต้นน้ำยืนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เขากำลังคิดว่าเขาอาจเป็นโรคหัวใจ
พวกเขาสองคนมาเจอกันอีกทีในช่วงสามทุ่มครึ่งพายที่มือไม้เปื้อนสีเดินวนไปวนมาแถวของน้ำบนตึกเรียนเพื่อหาห้องน้ำที่ใช้ได้เนื่องจากในเวลานี้คนดูแลตึกก็ปิดประตูห้องน้ำไปหมดแล้วส่วนมนุษย์ตัวสูงที่ทำไมช่วงนี้ดูว่างอย่างต้นน้ำก็เดินตามต้อยๆด้วยใบหน้านิ่งๆ
“มึงจะเดินวนอีกนานไหมพาย กูก็พูดอยู่ว่าให้รอกลับไปล้างที่หอ”
“มันสกปรก มันเหนอะ มันไม่โอเคอะพี่ไม่เข้าใจเหรอไง”
“เข้าใจแต่มึงจะเดินวนขึ้นมาบนตึกเพื่อ เดินไปล้างที่หลังตึกกับเพื่อนมึงก็จบแล้ว”
“ก็ผมปวดฉี่ด้วยนี่ พี่ทำไมขี้บ่นอะ”
“เออๆ ความผิดกูเองแหละ”
“ก็แค่นั้นอะ แล้วนี่มันจะไม่มีห้องน้ำเปิดเลยเหรอไงวะ” พายบ่นงึมงำ
ในขณะที่พวกเขาสองคนเดินวนมาจนสุดทางตรงที่มีห้องน้ำเป็นตำแหน่งสุดท้ายพายก็รีบเอามือผลักบานประตูสีครีมไปและเขาพบว่ามันไม่ได้ล็อก เจ้าตัวยกยิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปล้างมือจนสะอาดก่อนไปตรงที่ฉี่เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่อั้นมาสักพักในขณะที่ต้นน้ำก็นั่งลงที่เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาดูระหว่างที่รอแต่ในวินาทีที่พายทำธุระส่วนตัวเสร็จเสียงดังก๊อกแก๊กจากห้องน้ำด้านในสุดก็ดังขึ้น
กึก กึก
ฮ..ฮึก ฮือ.. พายรีบรูดซิปกางเกงแล้วเดินไปล้างมืออีกครั้ง ดวงตากลมโตเบิกกว้างก็เดิมเมื่อเสียงนั่นดังกว่าเดิม เขากลืนน้ำลงคอแล้วมองไปทางต้นน้ำที่ตอนนี้เก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงแล้วและยืนกอดอกมองมาที่ตัวเองด้วยใบหน้าที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ
“พ..พี่”
“เสร็จแล้วก็ไป”
“ครับ”
ต้นน้ำคว้ามือของพายมาแล้วพาออกจากห้องน้ำโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรกันต่อมีเพียงความเงียบรายล้อมเอาไว้จนกระทั่งทั้งสองคนเดินมาถึงลานกว้างหน้าตึกคณะก็เป็นพายที่ทำท่าจะพูดอะไรออกมาแต่ก็โดนมือใหญ่ของคนแก่กว่าปิดที่ปากแถมทิ้งสายตาดุๆมาให้อีก
“ไปกินข้าวที่ใกล้ๆหอแล้วค่อยว่ากัน”
“ครับ”
ตกลงกันเสร็จต้นน้ำก็พาอีกคนมาขึ้นรถของตัวเองที่ไปเอามาจากหอตอนเลิกเรียน ครั้งนี้เขาไม่ได้เอาจักรยานออกมาปั่นเพราะคิดว่าการปั่นตอนกลางคืนมันค่อนข้างจะอันตราย รถแถวนี้ขับกันค่อนข้างเร็วด้วยอีกอย่างเขามีใครอีกติดสอยห้อยตามทางเลือกในการปั่นจักรยานจึงถูกพับเก็บลงไป
รถยนต์คันสีดำสนิทถูกจอดลงที่ริมฟุตบาทซึ่งเป็นบริเวณหน้าร้านข้าวต้มรอบดึกที่ค่อนข้างดังที่สุดในละแวกนี้ ผู้คนในร้านก็ค่อนข้างเยอะพอสมควรแต่ก็ยังพอมีโต๊ะว่างอยู่
“สองที่ด้านในเลยพี่”
พนักงานผู้ชายในร้านตะโกนเสียงดังโดยที่มือไม้ก็ชี้บอกทางไปด้วย ทั้งต้นน้ำแล้วก็พายรีบเดินตรงไปนั่งที่โต๊ะว่างทันทีโดยที่ต้นน้ำปล่อยให้พายเลือกสั่งอาหารตามใจชอบเพราะอย่างไรเสียเขาก็กินได้หมดทุกอย่างอยู่แล้ว
“เอาผัดผักบุ้งไฟแดง ต้มยำกุ้งน้ำข้น หมูผัดเปรี้ยวหวาน ข้าวเปล่าสองที่ครับแล้วก็น้ำแข็งเปล่าสอง” พายพูดอย่างรวดเร็ว "พี่จะเอาน้ำอัดลมรึเปล่า”
“อืม เอาโค้ก”
“โค้กขวดหนึ่งครับ”
พนักงานที่รับออเดอร์พยักหน้ารับแล้วเดินไปส่วนพายก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองโต๊ะพร้อมกับเอานิ้วขีดๆเขียนลงไปเรื่อยเปื่อยแต่ในหัวกลับมีเรื่องที่เพิ่งเจอมาวนไปวนมาในหัว ยอมรับกันตรงๆว่าเขาเป็นคนกลัวผีแบบขึ้นสมอง
“พาย”
“ครับ”
“เป็นอะไร”
“เปล่า” พายพูดเสียงเบา
“เรื่องในห้องน้ำเมื่อกี้รึเปล่า” ต้นน้ำว่าพลางเอื้อมมือไปจับมือของเด็กหน้าไว้หลวมๆ ดวงตากลมโตของอีกฝ่ายช้อนมองขึ้นมาและมันดูน่าสงสารจับใจ
“อือ” พายพูดเสียงเบากว่าเดิม "พี่ได้ยินเหมือนผมไหม”
“ได้ยิน”
“...”
“มีกูอยู่ทั้งคนมึงไม่ต้องกลัวอะไรหรอก เข้าใจไหม”
“แต่ผมก็กลัวอยู่ดี”
“ถ้ายังไม่หายกลัวไปนอนห้องกูไหมล่ะ”
พายชะงักมืออีกข้างที่จิ้มไปจิ้มมาบนโต๊ะ ดวงตากลมโตจ้องลึกไปในดวงตาคมของรุ่นพี่ตรงหน้าและสิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือความรู้สึกปลอดภัย มันเป็นความรู้สึกที่พายเองก็ไม่เคยเจอ
“ก..ก็ได้ครับ”
“อืม” ต้นน้ำว่าพร้อมกับยกมือขึ้นยีผมเด็กตรงหน้า เขายกยิ้ม
สักพักอาหารที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟกับข้าวและข้าวสวยร้อนๆนั่นทำเอาน้ำย่อยในกระเพาะของคนทั้งสองคนทำงานแต่การกินมันควรจะราบรื่นกว่านี้ถ้าต้นน้ำไม่พูดถึงเรื่องผีจากที่ทำให้จิตใจหวั่นไหวตอนนี้พายคิดว่าบางทีเขาคงคิดไปเอง ปลอดภัยบ้าบออะไรอยู่กับพี่มันเนี้ยขอไปผูกคอตายต้นถั่วงอกดีกว่า
“น้องพายมึงรู้ไหมเสียงที่เราได้ยินในห้องน้ำมันคือเส--”
“พี่หุบปากไปเลยนะ” พายเอาช้อนชี้หน้า
“มันมีเรื่องเล่านะ มึงไม่อยากฟังเหรอ”
“ไม่!”
“แต่กูอยากเล่า” ต้นน้ำยกยิ้มมุมปาก
“ถ้าพี่เล่าผมต่อยพี่จริงๆนะ”
“คืองี้เมื่อก่อนห้องน้ำตรงนั้นน่ะมัน..โอ๊ย! ไอ้น้องพาย”
ต้นน้ำรีบชักเท้าตัวเองกลับเมื่อโดนเด็กตรงหน้าเหยียบเท้าไปเต็มแรง มันเจ็บจนน้ำตาจะไหลแต่อีกฝ่ายกลับลอยหน้าลอยตาและตักข้าวกิน เดี๋ยวเถอะคืนนี้เขาจะแกล้งร้องผีเอาให้ร้องไห้เลย
---------------------------------------
พระเอกเป็นบ้าไปแล้วค่ะ55555555555
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ /ถอนสายบัว