บทที่ 8 ครั้งแรก (2) "เที่ยงพอดี พี่หิวข้าว เราไปหาอะไรกินข้างนอกกันดีกว่า และค่อยกลับมาทำงานบ้าน"
พี่เก้งบอกขณะที่ลงมารับทั้งสอง บอลและคายัคมองหน้ากันด้วยความลังเลใจแต่ก็ยอมเดินตามผู้ว่าจ้างไปอย่างปฏิเสธไม่ได้ เมื่อจู่ๆ เก้งบีบบังคับด้วยการจูงมือคายัคให้เดินตาม
พอถึงที่หมายอย่าง ร้านอาหารสเต็กและสลัด บาร์ ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า บอลและคายัคนั่งลงอย่างเก้ๆกังๆ จนกระทั่งพนักงานเดินมายื่นเมนูให้เลือก
"กำลังโตแบบนี้ สั่งสเต็กน่าจะเหมาะกับคายัคและบอลนะ" คงเห็นว่าบอลและคายัคดูเมนูนานผิดกว่าปกติแถมพลิกกลับไปกลับมา จึงเสนอแนะ
บอลและคายัคตัดสินใจเลือกเมนูเหมือนกัน เป็นเฟรนช์คัท พอร์ค ชอร์ป และชี้รูปภาพในเมนูให้พนักงานดู
พนักงานทวนเมนูอีกครั้งก็จะเดินพ้นไป เก้งจึงพาทั้งสองลุกไปตักสลัดเพื่อรองท้องตรงมุมสลัด บาร์ ระหว่างเดิน เก้งแตะแขนคายัคและเอ่ย
"ถ้าไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้นะ เต็มที่เลยนะ พี่เลี้ยงเอง"
"พวกผมเกรงใจน่ะครับ" คายัคบอก
"มาเกรงจง เกรงใจอะไรกัน มองพี่เป็นเหมือนพี่ชายสิ หรือไม่ก็คิดซะว่านั่งกินเป็นเพื่อนพี่ก็ได้...อย่าคิดมาก"
"ครับ"
ขณะที่พี่เก้งคีบผักอีกฟาก บอลกระตุกแขนเพื่อนให้มาไกลๆและลดระดับความเร็วของฝีเท้าให้ช้าลงกว่าเดิม
"ทำไม พี่เขาใจดีจังวะ"
"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ....พวกเราคงโชคดีที่ได้เจอคนดีๆมั้ง"
"เออ คงจะใช่"
ทั้งสองเดินวนรอบ จนได้สลัดผักมาคนละหนึ่งจานพูนก็กลับมานั่งที่โต๊ะ เก้งมองเด็กสองคนกินเหมือนเด็กมูมมามก็อมยิ้ม
"รู้ไหม? เวลาพี่อยู่กับพวกเรา พี่รู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลย"
"ยังไงครับ?"
"พี่รู้สึกตัวเองมีชีวิตชีวามากขึ้น นี่พี่จะบอกให้ว่าถ้าถึงวันที่คายัคกับบอลโต จะรู้ว่าชีวิตวัยเด็กมันดีและสนุกแค่ไหน?"
"จริงหรอครับ? แต่ผมอยากโตกว่านี้" คายัคว่า
"หึๆ นี่สินะที่เขาเรียกกันว่า คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า พอโตก็อยากกลับไปเป็นเด็ก พอเป็นเด็กก็อยากโตไวๆ เชื่อพี่เถอะ! พอโตขึ้น การมีภาระจะทำให้เราไม่สนุกกับชีวิตหรอก"
คายัคทำเป็นพยักหน้ารับฟัง แต่ลึกๆก็ใช่ว่าจะเห็นด้วยทุกประการ ในความคิดของคายัค ก็ยังมีความเชื่อว่า เขาอยากโตขึ้นกว่านี้อยู่ดี
"พี่เก้งอยู่ห้องคนเดียวหรือครับ?" บอลถาม เพราะเห็นว่าตอนทำความสะอาดเมื่อวาน ข้าวของส่วนใหญ่เป็นของใช้สำหรับคนเดียวทั้งสิ้น
"ใช่ครับ พ่อแม่พี่ทำธุรกิจอพาร์ทเมนท์ให้เช่าตามแถวมหาฯลัยที่ต่างจังหวัดน่ะ"
"อ้อครับ"
"ที่อยู่คนเดียวเพราะพี่ยังไม่มีแฟน แต่พี่ก็มีความสุขกับชีวิตดีนะ โดยเฉพาะเวลาที่ได้อยู่กับคายัค"
ชื่อบอลหายไปจากประโยค เหลือเพียงชื่อคายัค ที่พอเจ้าของชื่อเผลอสบตามองพี่เก้งที่จ้องตาไม่กระพริบก็ชะงักกึก รีบก้มหน้าจัดการอาหารตรงหน้าอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
จัดการอาหารคาวเสร็จสิ้น พี่เก้งใจดีแวะพากินของหวานอย่างบิงซูกันต่อถึงค่อยกลับบ้าน
ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึงคอนโดก็เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว
เข้าห้องปุ๊ป บอลและคายัคก็ขอพี่เก้งเข้าห้องน้ำล้างเนื้อ ล้างตัวให้พอชื่นใจก่อนจะทำความสะอาด ในขณะเดียวกัน เก้งลงไปรับเพื่อนที่อ้างว่าจะมานอนค้างที่ห้องคืนนี้
เสร็จธุระ บอลและคายัคช่วยกันกวาดห้อง ถูห้อง ในขณะที่ทั้งสองเริ่มงานไม่นาน พี่เก้งพาเพื่อนมาแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จัก และเดินไปนั่งที่โซฟา โดยคายัคเหลือบมองเห็นพี่ทั้งสองกำลังนั่งดื่มกันแล้วในเวลานี้
คายัคไม่สนใจแขกมาใหม่ เขาขอแค่รีบทำหน้าที่ของเขาให้จบๆไปจะได้รีบกลับบ้านสักที
มุ่งมั่นตั้งใจทำความสะอาดจนเรียบร้อย ก็เดินไปหาพี่เก้งเพื่อขอตัวกลับบ้าน
แต่ว่า....
"ดื่มด้วยกันก่อนสิ" เก้งบอกเด็กหนุ่มวัยสิบหกสองคนที่ยืนเก้ๆกังๆ
"ผมกลับดีกว่า พรุ่งนี้พวกผมต้องไปโรงเรียนครับ"
"ไม่ดึกหรอกน่า พี่เพิ่มเงินให้คนละสามพันเลยก็ได้ มาดื่มเป็นเพื่อนพวกพี่หน่อยสิ พวกพี่มีเรื่องที่คายัคอยากรู้อีกเพียบ"
ได้ยินดังนั้น ทั้งสองตาโต
คายัคและบอลไม่รู้เลยว่ากำลังตกหลุมพรางจากการใช้เงินจำนวนมากมาล่อ
"ถ้าผมดื่มนิดเดียวได้ไหมครับ?" เด็กไร้เดียงสา แถมมอบความไว้ใจให้โดยไม่คิดเอะใจสักนิดเอ่ยถาม
"ได้สิ มาๆนั่งๆ" คายัคหันไปบอกบอลเสียงเบา
"รีบกิน รีบกลับเนอะ"
"เออๆ"
เมื่อทั้งสองตกลงอยู่ต่อ คายัคต่อรองกับพี่เก้ง
"ผมขอรับเงินก่อนนะครับ..."
เก้งยิ้มพอใจควักเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์จ่ายให้คายัคและบอลครบตามจำนวน เก้งตบเบาะตรงที่นั่งข้างๆให้คายัคมานั่ง ส่วนบอลโดนเรียกให้ไปนั่งข้างพี่อีกคน
เก้งรินวิสกี้ใส่แก้วช็อต ยื่นให้บอลและคายัครับไปดื่มแบบเพียวๆ จบแก้วแรก ทั้งสองต่างรีบกระดกน้ำเปล่าจากขวดกลบความร้อนรุ่มในร่าง
"เป็นไง?"
"ร้อนกว่าเมื่อวานอีกครับ" คายัคบอก เก้งหลุดยิ้ม ใช้หลังมือลูบแก้มเด็กหนุ่มที่เริ่มแดงและโน้มตัวไปใกล้กว่าเก่า
"รู้ตัวหรือเปล่าว่า ตัวเองเป็นเด็กหน้าตาดี?" คายัคขยับตัวถอยหลัง และส่ายหน้า
"มะ...ไม่รู้ครับ"
"คายัค พี่มีข้อเสนอ อันนี้พี่ซีเรียส สนใจให้พี่เลี้ยงดูไหม?"
เด็กหนุ่มเอียงคอมองอย่างไม่เข้าใจ ว่าการเลี้ยงดูที่พี่เก้งพูดถึงนั้นนั่นหมายถึง การอุปการะแบบเด็กด้อยโอกาส หรือหมายถึง การเลี้ยงดูแบบที่อาทัชเลี้ยงคายัคอย่างทุกวันนี้
"เอ่อ...เลี้ยงดูยังไงหรอครับ? กินข้าว ให้เงินไปเรียนอย่างนี้เหรอ?"
"ทำนองนั้น อาจมีกินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง ถ้าพี่โทรให้คายัคมาหาก็ต้องมาพี่เชื่อว่าคายัคทำได้อยู่แล้วล่ะ งานสบายจะตาย พี่เสนอให้เดือนละสองหมื่น ไม่รวมค่าเสื้อผ้าอื่นๆ หรือ ถ้าอยากได้มือถือใหม่ พี่ก็ซื้อให้ได้"
ตาโตที่ได้ฟังข้อเสนอ คายัคดีใจที่ตัวเองได้เงินตั้งเยอะ ทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบมัธยมด้วยซ้ำ คายัคอยากตอบรับเลย แต่ก็กลัวจะมีปัญหากับอาทัชที่ไม่ยอมบอกก่อนเหมือนตอนที่คายัคไปทำงานกับแม่บอลอีก
"เรื่องงานนี้ ผมขอปรึกษาอาผมก่อนนะครับ" ยังเข้าใจว่ามันคืองาน
"หืออ...ปรึกษาทำไมกัน งานไม่ยากเลยนะนี่ พี่ไม่หลอกเราไปขายหรอกน่า คายัคไม่อยากได้เงินไปตอบแทนผู้มีพระคุณหรอ? สมัยนี้ คนตกงานกันเยอะจะตาย นี่มันคือโอกาสของคายัคแล้วนะ สองหมื่น ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง คิดดูดีๆนะครับ" เก้งว่าด้วยรอยยิ้ม มิวายใช้หลังมือลูบปลายคางเด็กหนุ่มอย่างหยอกล้อ
หนักใจอยากตบปากรับคำ แต่แคร์ความรู้สึกอาทัชมากกว่า
"ผมขอเวลาคิดแล้วกันนะครับ"
"อะอะ พี่ไม่อยากกดดัน เดี๋ยวจะคิดว่าพี่ไปบีบบังคับอีก แต่ฝากไว้ให้คิดแล้วกันว่า มองพี่ให้เหมือนพี่ชาย คายัคจะได้สบายใจขึ้น" ยังยิ้ม ก่อนจะดึงมาคายัคมาจับแก้วตัวเองแล้วอ้อนให้คายัคดื่มรวดเดียว
เก้งยังไม่อยากเร่งรัดคายัค จึงเปลี่ยนเรื่องคุย
เก้งและเพื่อนชวนเด็กวัยสิบหกคุยอย่างสนุกสนาน ซึ่งเวลาผ่านไป บอลและคายัคก็ดื่มไปหลายแก้วแล้ว จังหวะนั้น คายัคปวดฉี่ จึงขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำ เสร็จธุระ วักน้ำล้างหน้าก็รู้ตัวว่าถ้ากินต่อต้องเมากลับบ้านไม่ไหวแน่ จึงออกมาบอกบอลให้กลับบ้าน
เก้งรู้ก็ทำหน้าตกใจ
"เมากันแล้วหรอ? ไปนอนพักห้องพี่ก่อนไหม? สักชั่วโมง ให้สร่างสักหน่อยค่อยกลับพวกพี่เป็นห่วง"
"ไม่ดีกว่าครับ"
"เอาน่า พี่ไม่ทำอะไรหรอก พวกพี่จะได้นั่งดื่มต่ออย่างไม่ต้องห่วงหรือพะวงด้วย"
"บอลมึงไหวปะ?"
"หลับสักนิดก็คงจะดี ตอนนี้ มันบอกไม่ถูกว่ะ"
"ถ้างั้นหลับก่อน ตั้งเวลาสักสี่สิบห้านาทีแล้วกลับนะเว้ยมึง"
"โอเค" แค่มึนไม่ถึงกับเมา แต่เด็กหนุ่มทั้งสองยังคงคิดว่า ถ้าพักกายสักหน่อย น่าจะดีขึ้น
จากสี่สิบห้านาทีที่ตั้งเป้าไว้ว่าถ้าถึงเวลาที่นาฬิกาปลุกค่อยกลับ ทว่า ผ่านไปแค่ยี่สิบนาที คนหลับใหลรู้สึกเสียวปลายเท้าไล่มายังส่วนบนของร่างกาย บางจังหวะก็วูบหวิวแปลกๆ ในตอนแรกคายัคคิดว่าฝัน เลยยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมา แต่ไม่กี่นาทีที่คายัครู้สึกถึงความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ
"คายัค ตื่น!"
จำได้แม่นกับเนื้อเสียงของพ่อที่ตวาดอยู่ข้างหู คายัคสะดุ้งสุดตัว ลืมตาตื่นโดยไม่รู้แล้วว่าอันไหนความจริง อันไหนความฝัน
หันซ้าย หันขวา ก่อนจะกดตามองส่วนล่างของตัวเองต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อภาพสุดท้ายคือเห็นพี่เก้งผงกศรีษะขึ้นจากการออรัลเซ็กซ์เด็กหนุ่ม ยันกายมานั่งตัวตรง
ช็อคตาโต เมื่อเหลือบเห็นมืออีกฝ่ายเปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีขุ่น
"เหี้ย!" คายัคสบถทันที พอมีสติ ยกสองขาถีบกลางลำตัวพี่เก้งที่เคลิ้มอยู่จึงไม่ทันตั้งตัว ทำให้อีกฝ่ายล้มหงายหลัง เด็กหนุ่มม้วนตัวลงเตียง คว้ากางเกงขาสั้น ที่อยู่ที่พื้นมาใส่ วิ่งไปกระชากหลังคอเสื้อเพื่อนพี่เก้งที่กำลังทำออรัลเซ็กซ์ให้บอลอยู่
กระชากไหล่อีกฝ่ายให้หยุดกระทำชำเราเพื่อนตัวเอง ก่อนจะเหวี่ยงหมัดกระแทกเข้าที่กรามสุดแรง จนอีกฝ่ายล้มลงไปนอน ไม่รู้ว่าสลบหรือเปล่า?
คายัครีบปลุกบอลที่ตอนนี้ นอนหลับตาพริ้ม
"ไอ้สัดบอลอย่าเคลิ้ม ลุกสิลุก"
สะดุ้งตื่นจากแรงกระชาก บอลเหรอหราลุกพรวดคว้ากางเกงมาใส่ ตอนที่ได้ยินคายัคบอกว่าทำไมต้องหนี
"พวกมึง อย่าตามมานะ"
รีบวิ่งออกจากห้อง ลงทางบันไดหนีไฟไปกดลิฟต์อีกชั้นอย่างกลัวว่าอีกฝ่ายจะตามมา เมื่อลิฟต์มาถึง ประตูเปิดกว้าง ทั้งสองรีบกดปิดเพื่อต้องการให้ถึงชั้นล่างอย่างไวที่สุด
ถึงชั้นหนึ่งอย่างปลอดภัย ทั้งสองพาตัวเองวิ่งไม่คิดชีวิต รีบโบกแท็กซี่ที่ริมถนนใหญ่ ตอนนี้ ความเมาเป็นอย่างไรทั้งสองลืมมันไปจนหมดสิ้น
คายัคและบอลสร่างเมามาได้สักพัก เวลานี้ ต่างฝ่ายต่างตระหนกตกใจมากกว่า เด็กหนุ่มวัยสิบหกสองคนยืนใจเต้นแรงราวกับเพิ่งลงจากรถไฟเหาะมาหมาดๆ
"แฮ่กๆๆๆ...."
"เชี่ยเอ้ย กูโดนเอาหรือเปล่าวะเนี่ย?" บอลจับก้นตัวเองลูบแล้ว ลูบอีก พลางเอี้ยวตัวไปมองข้างหลังอย่างหวาดระแวง
คายัคก้มตัว งอเข่า พลางใช้มือยันเข่าสองข้างอย่างหอบเหนื่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน
"คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะพวกเราตื่นก่อน แต่ที่แน่ๆ พวกเราโดนลวนลามว่ะ เชี่ยเอ้ย! แขยงสัด"
"เชี่ย เพราะมึงเลยไอ้ยัค"
"กูขอโทษเว้ย ไอ้บอล คืนนี้ กูนอนบ้านมึงได้ปะ กูไม่กล้าเจอหน้าอาทัชเลยว่ะ"
"เออๆ...มึงแม่ง เป็นไงล่ะ เงินดี เงินดี ห่าเอ้ย...ที่แท้แม่งหลอกฟันนี่หว่า"
"จะให้ทำไงวะ มันเกิดขึ้นแล้วนี่ กูขอโทษ กูผิดเอง แม่งเอ้ยไม่น่าไว้ใจคนแบบนี้เลย คิดแล้วยังขนลุกไม่หาย"
"ขึ้นแท็กซี่ก่อนเว้ย"
เมื่อรถแท็กซี่มาจอดตรงที่ทั้งสองยืน รีบบอกที่หมาย ขึ้นไปก็นั่งกันนิ่ง แม้ร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อจะแห้งเหือดหาย จากการโดนความเย็นจากแอร์รถยนต์ แต่สิ่งที่ยังติดอยู่ในความรู้สึกของทั้งสองไม่หาย คือ นาทีระทึกจากการเกือบโดนช่วงชิงความบริสุทธิ์ไป
นั่งเงียบจนถึงที่หมาย จ่ายเงินเข้าบ้านบอล อันดับแรกที่ทั้งสองทำ คือต่างรีบแยกย้ายกันไปอาบน้ำ เพื่อชำระร่างกายที่ทั้งสองแขยง คายัคทั้งถู ทั้งขัดตัว โดยเฉพาะช่วงล่าง เด็กหนุ่มขัดแรงมากจนรู้สึกแสบไปหมด
กินเวลานานกว่าทุกที เมื่อพึงพอใจกับการชำระร่างกายที่คิดว่าสะอาดหมดจด ถึงออกมา นั่งรอบอลที่เตียงโดยสวมใส่ชุดเดิม ระหว่างรอ ก็โทรหาอาทัชว่าขอนอนค้างบ้านเพื่อน
สิบนาทีผ่านไป บอลเดินเข้ามานั่งมองในสภาพหน้าแดง ตัวแดง
"กูขอโทษนะบอล" ก็ยังรู้สึกผิดไม่หายที่ดันลากเพื่อนไปลงนรกด้วย
"เออๆ มันผ่านมาแล้ว ช่างแม่งเหอะ ไม่อยากคิดแล้ว ยิ่งคิดยิ่งแย่ว่ะ จากนี้ กูจะไม่เชื่อใจใครแล้วว่ะ"
"เออกูก็เหมือนกัน"
"นอนๆเหอะว่ะ กูไม่อยากคิดเรื่องนี้แล้ว ปวดหัว"
ก่อนบอลจะล้มตัวลงนอน คายัคจับแขนเพื่อนแน่น
"ขอบคุณที่มึงไม่ทิ้งและไม่โกรธกู กูซึ้งใจมึงว่ะ"
"อย่ามาซึ้งตอนนี้น่า กูจะนอน"
มองบอลที่ตอนนี้หลับตาตัดบทก็เลยต้องทิ้งตัวลงนอนบ้าง
เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า คายัคจะไม่ละโมบ โลภมากและไม่เห็นแก่เงินมากเกินไป รวมถึงคายัคจะระมัดระวังและไม่ไว้ใจใครง่ายๆอีก
ช่างเป็นบทเรียนราคาแพงที่คายัคจะจดจำไว้ไม่ลืม...
"นี่กูนอนไม่หลับมาจะสองชั่วโมงแล้วหรอวะ?"
ตั้งแต่ล้มตัวลงนอนพร้อมหลับตา ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่ร่างกายที่พัก เพราะสมองกลับไม่เป็นเช่นนั้น มันยังคงคิดถึงแต่เรื่องเดิมไม่หยุดหย่อน คายัคพลิกตัวไปมา จนกระทั่งมาดูนาฬิกาถึงเพิ่งรู้ว่าผ่านมาแล้วสองชั่วโมงที่คายัคนอนไม่หลับ
ตัดสินใจสะกิดเพื่อน ให้ลงไปส่งหน้าบ้าน เพราะคายัคหลับไม่ลงจริงๆ เขาอยากกลับบ้านไปหาอาทัชเหลือเกิน
ปลุกเพื่อนจนตื่น บอลบ่นอย่างรำคาญ ก่อนจะลุกจากเตียงเดินงัวเงียลงไปเปิดประตูหน้าบ้าน ที่ตอนนี้แท็กซี่ที่คายัคเรียกจากแอพพลิเคชั่นก็มาถึง
ก่อนถึงบ้าน คายัครบกวนพี่คนขับช่วยแวะร้านสะดวกซื้อริมถนนก่อน
ได้ของตามต้องการ คายัคกลับมาขึ้นรถ ใช้ระยะเวลาไม่นานก็ถึงที่พักอย่างปลอดภัย คายัคย่องเบาเข้ามาในห้องนอนอาทัชโดยไม่เปิดไฟ เขาอาศัยแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือ
ค่อยๆปีนขึ้นเตียงและทิ้งน้ำหนักตัวให้เบาที่สุด ความมืดทำให้คายัคคลำ ควานสะเปะสะปะเพื่อหาอะไรบางอย่าง จนกระทั่ง คายัคแตะโดนอาวุธคู่กายของอาทัชผ่านกางเกางนอนได้สำเร็จ
ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ในกายร้อนวูบวาบแปลกๆ เด็กหนุ่มกัดปากจนเจ็บ เมื่อรู้ว่าแก่นกายของตัวเองแข็งขืนจนปวดหน่วงหนึบอย่างบอกไม่ถูก
คิดดีแล้วว่าหนทางเดียวที่คายัคจะลบภาพเลวร้ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้าได้ คือ มีเซ็กซ์กับอาทัช
"ขอโทษนะครับ อาทัช"
ขออนุญาตคนหลับอย่างไร้ประโยชน์ เพราะอินทัชก็ไม่ได้ยินอยู่ดี
ยอมรับว่าแอลกอฮอล์มีส่วนกระตุ้นให้คายัคกล้าทำในสิ่งที่อยากทำมาแสนนาน คายัคสร่างเมานานแล้ว และเวลานี้เขารู้ตัวหมดว่ากำลังทำอะไรอยู่ คายัคกลืนน้ำลายอึกใหญ่ นั่งชันเข่าบนเตียง โน้มตัวไปแกะกระดุมเสื้อนอนของอาทัชอย่างเบามือที่สุด
ดูเหมือนว่า ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศจะไม่ช่วยอะไร เมื่อคนที่คิดไม่ซื่อกับอาของตัวเองแกะกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จด้วยเม็ดเหงื่อผุดพรายทั่วใบหน้าและแผ่นหลัง แทบกลั้นหายใจตอนที่แบะสาบเสื้อออกจากกัน เด็กหนุ่มแตะนิ้วลงบนผิวกายที่เย็นๆและลูบไล้ช้าๆ
แค่สัมผัสผิวเนียน คายัคก็ปวดหน่วงหนึบช่วงล่างมากกว่าเดิม
เด็กหนุ่มยกขาอาทัชขึ้นสูง ค่อยๆดึงกางเกงยางยืดจากสะโพกลงมาถึงต้นขา จับอาทัชอ้าขาให้กว้างกว่าเดิม พยายามถอดกางเกงให้หลุดออกจากขาได้จนสำเร็จ
โยนทิ้งลงพื้น และดึงกางเกงตัวเองลง คว้าเจลหล่อลื่นที่เพิ่งซื้อมาจากเซเว่นชะโลมลงไปช่องทางรักข้างหลังของอาทัช
ใจสั่นอย่างแรง เพราะเป็น
ครั้งแรกที่คายัคตั้งใจจะมีเซ็กซ์กับอาทัช
ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ใจมันบอกว่าต้องทำ
นาทีนี้ ฮอร์โมนพุ่งพล่าน ไหนจะความต้องการทางเพศที่ทะยานขึ้นสูงจนทะลุขีดจำกัด หนุ่มน้อยกำน้องชายตัวเองรูดรั้งขึ้นลงช้าๆ กัดปากกลั้นเสียง ก่อนจะกระเถิบตัวไปใกล้ ใช้ส่วนหัวแก่นกายถูไถช่องทางข้างหลังของอาทัช
"ซี้ดดดอ่าาาห์!"
แค่ถูไถส่วนทางเข้าของอาทัชก็ส่งเสียงครางอย่างเสียวกระสัน อาวุธของคายัคตอนนี้พร้อมสู้ศึกเต็มที่ แต่ทว่า คายัคยังไม่สอดใส่ เขาอยากสัมผัสเนื้อตัวอาทัชมากกว่านี้สักหน่อย
ยามนี้ ริมฝีปากอุ่นๆประทับลงบนแผ่นอกเย็นเฉียบที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ คายัคขบเม้มพลางแลบลิ้นเลียผิวกายวนอย่างอยากรู้อยากลอง ก่อนจะลากริมฝีปากลงมาโลมเลียยอดอกที่แข็งเป็นตุ่มไต
ไม่เคยรู้สึกดีและตื่นเต้นอะไรอย่างนี้มาก่อน ยิ่งดึงดูดยอดอกของอาทัชเท่าไหร่ คายัคยิ่งรู้สึกถึงความเสียวซ่านมากขึ้นเท่านั้น
ความต้องการทางกามารมณ์ของคายัค ทำให้เด็กหนุ่มไม่สนใจแล้วว่าอาทัชจะตื่นขึ้นมากลางคันหรือเปล่า คายัคยังรูดรั้งแก่นกายของตัวเองไปพร้อมกับการเขยิบตัวขึ้นไปจูบปากอาทัชดึงดูดริมฝีปากล่างเบาๆ โดยที่ยังไม่ได้สอดเรียวลิ้นเข้าไป
แต่ทันใดนั้น...
อินทัชสะดุ้งตื่นกลางดึกเมื่อรู้สึกแปลกประหลาดกับตัวเอง รีบผลักบางสิ่งให้พ้นกาย เอี้ยวตัวไปเปิดไฟที่หัวเตียง
หันกลับมาตกใจ เห็นเด็กหนุ่มกระเด็นไปอยู่ปลายเท้า กดตาลงมองช่วงล่างของตัวเองอย่างตกใจ เมื่อไม่มีกางเกงปกปิดของสงวน
"จะทำอะไรน่ะ คายัค"
"คะ..คือ...ผะผม...ขอโทษครับ ผมขอโทษ" พอโดนดุ น้ำตารื้นเอ่อดวงตาอย่างห้ามไม่อยู่
"นี่คายัค คิดจะแอบมีเซ็กซ์กับอา ตอนอาหลับอย่างงั้นเหรอ? ห้ะ?..."
เด็กหนุ่มก้มหน้ารู้สึกผิด
"ครับ"
"คายัค รู้ไหม? ว่า...."
มาถึงขนาดนี้ คายัคไม่มีทางให้มันจบลงด้วยการอดร่วมรักกับอาทัชได้ คายัคต้องการอาทัชมากถึงมากที่สุด เด็กหนุ่มไม่ยอมแล้ว เข้าไปโผกอดอย่างไม่ฟังคำค้าน และซุกใบหน้าลงตรงลำคอของอีกฝ่าย
อินทัชรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆเป่ารดต้นคอ และตามมาด้วยถ้อยคำจริงใจเอ่ยออกมาเสียงเบา ทว่า หนักแน่นมั่นคง
"อาทัช ผมขอมีอะไรด้วยได้ไหมครับ?"
....................................
เรื่องของพี่เก้ง คายัคมีสองความคิดตีกันในหัวอะค่ะ แบบลังเลว่าคนนี้ดีจริงไหม มาไม้ไหน แต่สักพักก็จะมีความคิดโลกสวยมาบอกว่า อย่าคิดลบสิ เขามาดีนะแกรรร 555
ส่วนเงินที่ได้มาห้าพันบาท คิดซะว่าซื้อค่าประสบการณ์และบทเรียนราคาแพงเนอะ (ว่าแต่สงสารบอลง่า)
.
ต่อมา เราจะมาดูในส่วนของอาทัชนั้น...ว่า..จะให้ไหม?
.
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า