End ผมเป็นพ่อมดฝึกหัดที่ชอบผู้ชายครับ!!! (Yaoi)(3P) #31 [24/6/2561] จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: End ผมเป็นพ่อมดฝึกหัดที่ชอบผู้ชายครับ!!! (Yaoi)(3P) #31 [24/6/2561] จบแล้วจ้า  (อ่าน 20658 ครั้ง)

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สรุปว่าน้องขึ้นปี 5 หรือปี6 เอ่ย ตอนก่อนบอกเปิดเทอมปี 5 แต่ท่านจอมเวทย์บอกว่าเป็นภาระกิจปี 6

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
สรุปว่าน้องขึ้นปี 5 หรือปี6 เอ่ย ตอนก่อนบอกเปิดเทอมปี 5 แต่ท่านจอมเวทย์บอกว่าเป็นภาระกิจปี 6

ตอบข้อสงสัยนะคะ ตอนนี้น้องออกทำภารกิจของปีหกแล้วค่ะ เพราะมีการบรรยายช่วงการออกทำภารกิจที่คล้ายกันของปีห้าอยู่ก่อนหน้าในช่วงท้ายของบทที่21 และจะมีอีกช่วงในท้ายบทที่21ว่า เป็นวันสุดท้ายของการปิดเทอมปีห้าและพรุ่งนี้เป็นวันเปิดเทอมปีหก และในส่วนของเริ่มต้นบทที่22 จะมีการแนะนำว่าเริ่มต้นปีสุดท้าย หมายถึงปีหกแล้วนะคะ

ขออภัยถ้าเกิดมีการรวบรัดเนื้อหาข้ามไปจนเกิดข้อสงสัย สามารถสอบถามนักเขียนได้นะคะ ยินดีตอบทุกข้อสงสัยและปรับปรุงเนื้อหาต่อไปนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาสอบถามนะคะ

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#23

   จากที่คิดว่าจะได้ออกเดินทางไปยังอาณาจักรฟาซอลเทียร์เพื่อทำภารกิจในวันนี้กลายเป็นต้องรออยู่ที่พระราชวังของท่านจอมเวทย์แทน


“นายท่านขอรับ สายลมมีข่าวจากทางฟาซอลเทียร์มารายงานขอรับ”


“มีอะไรเกิดขึ้นที่นั่นกันครับ”


“กลุ่มกบฏที่ฟาซอลเทียร์เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้วขอรับ”


“พวกนั้นคิดจะทำอะไรกันต่อครับ ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานแล้วนะครับคุณสายลม”


“ตามที่ได้ข้อมูลมาดูเหมือนกำลังเตรียมเคลื่อนย้ายกองกำลังที่มีไปที่หุบเขาที่อยู่ติดกับแดนปีศาจที่ครั้งก่อนนายท่านเคยไปช่วยเหล่าสัตว์ปีศาจขอรับ”


“เคลื่อนย้ายคนหรือครับ แปลว่าทางนั้นต้องการที่จะรวบรวมคนเพื่อทำสงครามแล้วสินะครับ”


“ดูจากอาวุธและกำลังคนที่เข้าร่วมจากทางนั้นแล้วยังไม่สามารถจะดำเนินการอะไรตอนนี้ได้เลยขอรับ”


“ผมคิดว่าทางนั้นกำลังรอที่เหลืออยู่แน่เลยครับ แล้วก็ที่หุบเขานั่นผมคิดว่าต้องจัดเป็นฐานที่ตั้งแน่ครับ เพราะมันอยู่ไกลจากอาณาจักรอิลเทียร์ของผมไปเยอะพอสมควรเลย”


“สายลมคิดว่านายท่านควรสอบถามสายน้ำเรื่องทางอิลเทียร์ดีไหมขอรับ เผื่อมีอะไรคืบหน้ามากขึ้น”


“ครับคุณสายลมแล้วถ้ามีอะไรเพิ่มเติมช่วยแจ้งกับผมต่อด้วยนะครับ”


“ขอรับนายท่าน”


“คุณสายน้ำครับ อยู่ไหมครับ”


“อยู่เจ้าค่ะนายท่าน สายน้ำเห็นนายท่านกำลังสื่อสารกับคุณสายลมเรื่องด่วนเลยไม่กล้าแทรก”


“คุณสายลมมาแจ้งเรื่องกบฏฝั่งฟาซอลเทียร์ครับ แล้วทางอิลเทียร์ละครับ”


“ดูเหมือนว่าทางฝั่งนี้จะมีการเคลื่อนกำลังพลเช่นกันเจ้าค่ะนายท่าน”


“แปลว่าคิดจะรวมพลเพื่อก่อสงครามจริงสินะครับ”


“สายน้ำได้ข่าวมาเพิ่มว่า จากการต่อสู้กับจิตวิญญาณที่เหลืออยู่ดวงนั้นทำให้ผู้นำกบฏฝั่งปีศาจเสียชีวิต มีเหล่าปีศาจที่คิดกบฏรวมตัวกันแล้วเปลี่ยนร่างกายของปีศาจที่แข็งแกร่งเพื่อรับจิตวิญญาณมาด้วยเจ้าค่ะ”


“พวกนั้นกำลังจะดึงจิตวิญญาณหมื่นปีที่หนีไปครั้งนั้นมาเข้าร่วมสงครามด้วยสินะครับ”


“เจ้าค่ะ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นหนทางเดียวที่มีเพื่อต่อกรกับท่านเจ้าค่ะ”


“แปลว่าครั้งนี้เจ้าพวกกบฏคิดหาทางรับมือกับพลังของผมมาอย่างดีเลยสินะครับ เพราะมีคนที่เคยเผชิญหน้ากันมาสั่งการด้วยแบบนี้”


“นายท่านต้องระวังตัวให้มากนะเจ้าค่ะ ถ้ามีเรื่องอะไรเพิ่มเติมสายน้ำจะรีบมารายงาน”


“ขอบคุณมากครับ”


“ด้วยความเต็มใจเจ้าค่ะ”



เตรียมรับมือกันมาขนาดนี้ ถ้าจะใช้รูปแบบการต่อสู่แบบเดิมดูท่าจะยากขึ้นมากเลยละครับ ปีศาจที่สามารถถอดจิตวิญญาณหนีจากการชำระล้างได้ไม่น่าจะธรรมดา แถมยังหนีได้ถึงสองครั้งแบบนี้ ดูเหมือนผมจะต้องตามหาเวทย์ชั้นสูงที่อยู่ในบันทึกหลวงมาเรียนรู้มากขึ้นแล้วละครับ


“ท่านจอมเวทย์ครับ ผมขออ่านบันทึกเวทย์ในหอตำราของท่านจอมเวทย์ได้ไหมครับ”


“หืม เอาสิ เจ้าคงเบื่อสินะ”


“ขอบคุณครับท่านจอมเวทย์” ผมที่นั่งมองท่านจอมเวทย์ทำงานมาหลายชั่วโมง ขนาดที่ว่าติดต่อพูดคุยกับคุณสายลมกับคุณสายน้ำเสร็จท่านจอมเวทย์ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารเลย


ผมเดินมาที่ทางหอตำราหลวงของท่านจอมเวทย์ ภายในมีตำราและบันทึกมากมายที่มีทั้งเผยแพร่และหวงห้ามเต็มไปหมด ผมเลือกที่จะเดินมาตามบันไดวนเพราะคิดว่าบันทึกน่าจะอยู่ด้านบนแน่นอน


เดินมาสักพักก็ถึงชั้นบนสุด ที่นี่มีบันทึกเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น และแต่ละเล่มมีขนาดใหญ่และหนาพอสมควร ผมเดินเข้าไปทางชั้นที่ใกล้มือก่อนจะไล่หาบันทึกเกี่ยวกับเวทย์แสงขั้นสูงที่สาบสูญ เวลาผ่านไปไม่นาน จนในที่สุดผมก็หาเจอ


ภายในมีเนื้อหาที่ถูกบันทึกไว้โดยจอมเวทย์แต่ละรุ่นโดยมีการกล่าวถึงการคิดค้นเวทย์แสงจากผู้ใช้เวทย์แสงขั้นสูงที่เป็นตำนานหลายคน มีหลายบทที่ผมพอจะรู้จักและเคยฝึกฝนมาจากคุณทรีมอสและสัตว์อสูรธาตุแสงมาบ้าง


แต่ก็ยังมีอีกมาที่เป็นบทที่หายไปนานไม่มีผู้ใช้ รวมถึงเวทย์แสงที่ชุบชีวิตสิ่งมีชีวิตตมปกติจะมีเงื่อนไขห้ามเกินห้านาที แต่สำหรับบทที่ผมกำลังอ่านมันจำกัดเงื่อนไขเพียงแค่พลังเวทย์ของผู้ใช้จะลดขั้นลงไปถึงสามขั้น


อย่างเช่นผมที่มีแสงขั้นสูงระดับสูง ถ้าหากใช้เวทย์นี้ผมจะอยู่ที่แสงขั้นกลางระดับสูงเท่านั้น แต่ผมก็ศึกษาไว้เพราะไม่ว่ายังไงร่างกายของผมก็สามารถที่จะฟื้นพลังเวทย์กลับมาจนถึงขั้นสูงระดับสูงได้อยู่ดี


ผมใช้เวลาอ่านและจดจำเวทย์แสงจนเข้าใจจึงเปลี่ยนไปที่เวทย์ลมที่มีจุดเด่นอย่าเกราะป้องกัน เมื่อเกิดสงครามย่อมต้องมีคนที่บาดเจ็บจากการโดนลูกหลงผมไม่อยากให้มีแบบนั้นต่อหน้า การที่จะเรียกใช้เวทย์ลมขั้นสูงในการสร้างบาเรียคุ้มครองขนาดใหญ่ต้องใช้เวทย์ในการหน่วงที่มากขึ้นและจะลดพลังเวทย์ของผู้ใช้เรื่อยๆ


ผมเจอเวทย์ลมบทหนึ่งที่ตอบคำถามของผมในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ข้อดีคือสามารถคลอบคลุมได้ตามต้องการและสามารถระบุเป้าหมายได้แน่ชัดรวมถึงร่ายเพียงครั้งเดียวไม่ต้องหน่วงเวทย์ให้เสียเวลา ข้อเสียที่ต้องจ่ายคือจะไม่สามารถใช้เวทย์ลมขั้นสูงบทอื่นพร้อมกันได้


เมื่อดูเวทย์อื่นไปก็พบเจอเวทย์ที่ผมต้องการละสามารถนำมาประยุกต์รวมกันได้อีกมากมาย ผมไม่ได้สนใจเวลาจนมาถึงเวทย์สุดท้าย เวทย์มืด เวทย์นี้จะเป็นเวทย์ที่ทางปีศาจเชี่ยวชาญมากที่สุดและดูเหมือนว่าผมในครั้งก่อนจะไม่ถนัดในเวทย์บทนี้มากเท่าเวทย์แสง


เมื่อเปิดบันทึกเวทย์มืดไปเรื่อยๆก็เจอกับจุดอ่อนของแต่ละเวทย์และการผสมเวทย์มืดในแต่ละบทเพื่อเกิดเวทย์ที่รุ่นแรงมากขึ้นและดูเหมือนว่าเวทย์ที่ผสมกันของหลายๆบทจะเป็นเวทย์ที่สามารถกำจัดปีศาจได้เหมือนกัน ผมศึกษาเวทย์นี้อย่างละเอียดเพราะว่านี่น่าจะเป็นอีกอาวุธที่จะล้มเข้าจิตวิญญาณปีศาจนั้นได้อีกทาง


“ท่านราสเต้ขอรับ ท่านจอมเวทย์ให้ผมมาเชิญท่านไปที่ห้องอาหารขอรับ”


“ขอบคุณมากครับ” ชายที่เดินเข้ามาตอนที่ผมเก็บบันทึกเรียบร้อยและกำลังจะเดินลงมาถึงชั้นล่างเรียกผม คงเพราะไม่กล้าที่จะขึ้นไปด้านบนด้วยเลยรออยู่ พอบอกผมเสร็จก็เดินหายไป


ผมเดินตามทางมาเรื่อยๆผ่านห้องโถง ผ่านสวนดอกไม้ จนมาใกล้จะถึงห้องอาหาร ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของสองราชา จะมากันเร็วไปหรือเปล่าครับ


“ผมมาแล้วครับท่านจอมเวทย์” ผมบอกก่อนจะเดินนั่งที่เก้าอี้ที่ว่าง ตรงข้ามผมเป็นสองราชาตัวจริงเสียงจริงครับ


“เป็นยังไงบ้างละ อ่านจบทั้งหอหรือยัง”


“เวลาแค่ครึ่งวันท่านจอมเวทย์จะให้ผมอ่านหมดได้ยังไงกันครับ”


“ก็เห็นหายหน้าหายตาไปเลย กว่าจะมาได้”


“ขอโทษครับ”


“ไม่เป็นไร ข้าแค่หยอกเจ้าเล่น เห็นลูกขยันคนเป็นพ่อก็ภูมิใจ”


“ตามที่ท่านสบายใจเลยครับท่านจอมเวทย์”


“ฮ่าๆๆ”


“ว่าแต่ท่านราชาทั้งสองไม่คิดจะทักทายผมหรือครับ หรือว่าลืมกันไปแล้ว”


“ราสจริงๆสินะ”


“ก็ผมสิครับฮาฟ เห็นเป็นใครกัน”


“เธอไปทำอะไรมากัน ทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้”


“อ๋อ พลังผมตื่นแล้วครับ ร่างกายเลยเปลี่ยนแปลงตามพลัง ว่าแต่มันเปลี่ยนมากขนาดต้องทำหน้าเครียดกันเลยหรือครับ”


“พวกข้ากำลังคิดว่าจะซ่อนเธอจากสายตาคนอื่นยังไงดี”


“ใช่ฉันยังหยุดคิดเรื่องแบบนั้นกับเธอไม่ได้สักที”


“เดี๋ยวก่อนนะครับฮาฟ เรื่องแบบนั้นของคุณมันคืออะไรกันครับ”


“อะแฮ่ม ข้าเรียกพวกท่านมาเพื่อตกลงเรื่องภารกิจของลูกข้านะพระราชา จอมมาร ข้าไม่ได้เรียกเพื่อมาให้พวกเจ้าแทะโลมลูกข้าเสียหน่อย”


“ท่านจอมเวทย์ ลูกท่านก็ว่าที่ราชินีของพวกข้านะครับ”


“พอกันเถอะครับ ผมว่าทานอาหารกันดีกว่า ส่วนเรื่องอะไรที่ท่านพระราชาคิดก็หยุดคิดเถอะครับ ผมจะโกรธแล้วนะครับ” นอจากโกรธก็อายนั่นแหละครับ มาบอกว่าผมเป็นว่าที่ราชินีของพวกเขาแบบนี้ได้ยังไงกัน เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะครับ ถึงผมจะชอบก็เถอะ  แค่ก ผิดๆ ผมยังไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นเลยครับ


“ตามที่ลูกข้าพูด”



หลังจากนั้นเราก็ย้ายไปที่ห้องทำงานของท่านจอมเวทย์เพื่อตกลงเรื่องการทำภารกิจของผม


“ผมคิดว่าจะเริ่มที่อาณาจักรฟาซอลเทียร์ของฮาฟก่อน เพราะดูเหมือนมนุษย์น่าจะยังต้องการความช่วยเหลือและคำแนะนำอีกมากจากที่ผมลงไปสำรวจเมื่อครั้งที่แล้วมา ส่วนทางรัสเทียร์ของอัล ผมคิดว่ายังมีบ้างที่ต้องมีการให้คำแนะนำและช่วยเหลือแต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่าอาณาจักรฟาซอลเทียรพอสมควร ส่วนที่อิลเทียร์ผมจะกลับมาหลังสุดเพราะผมคิดว่าจะกลับไปที่บ้านเกิดของผมด้วยทีเดียว”


“ทำไมถึงคิดว่าที่อาณาจักรฉันถึงควรได้รับการช่วยเหลือก่อนละ”


“เพราะมนุษย์ไม่มีเวทย์มนต์และเท่าที่ดู ชาวบ้านตามชายแดนมักจะขาดแคลนเครื่องมือการดำรงชีวิตอยู่หลายหลัง อีกทั้งค่อนมาทางในเมืองจะเกิดความเลื่อมล้ำทางสังคมการดำรงชีพของแต่ละอาชีพอยู่ให้เห็นเยอะพอสมควรเลยครับ”


“ฉันก็พอจะรู้มาบ้างแต่ก็ยังหาวิธีแก้ไขไม่ได้อยู่ดี พอคิดที่จะเริ่มลงมือแก้ไขก็มักจะมีเรื่องอื่นๆเข้ามาขัดเสมอ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน”


“แล้วทางอาณาจักรของข้ามีอะไรที่ต้องช่วยเหลือ”


“ทางรัสเทียร์ยังมีชาวบ้านที่ยังยึดความคิดแบบดั้งเดิมจนไม่ยอมรับการพัฒนาของสังคมรอบข้างอยู่ครับ ผมคิดว่าการทำความเข้าใจและแสดงผลให้เห็นน่าจะปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดและแก้ไขปัญหาทรัพยากรที่ขาดแคลนและมีเกินจำนวนที่ปล่อยทิ้งพวกนั้นได้พอสมควรนะครับ”


“แล้วอาณาจักรนี้ยังต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมอีกกัน”


“ที่นี่ตามชายแดนยังมีกลุ่มพ่อมดแม่มดที่ทำอาชีพสุจริตอยู่แต่โดนข่มเหงรังแกไม่น้อย มีการเรียกเก็บภาษีที่เกินจริงในช่วงเวลาที่ท่านจอมเวทย์ไม่ได้เข้าไปตรวจอยู่ครับ และดูเหมือนจะหนักข้อขึ้นทุกวัน และปัญหาใหญ่ที่สุดของทั้งสามอาณาจักรคือการที่ชาวบ้านบางคนยังลักลอบที่จะเข้ามาในเขตป่าต้องห้ามเพื่อจับสัตว์อสูรในเขตออกไปเพื่อการฆ่าและใช้งาน”


“ทำไมเรื่องนี้พวกข้าถึงไม่เคยได้ยินกัน” ท่านจอมเวทย์กล่าว


“มันไม่แปลกที่พวกท่านจะไม่รู้เพราะตัวการเป็นเหล่าสมาชิกกบฏที่เป็นเรื่องสำคัญที่ผมต้องจัดการให้เร็วที่สุดก่อนที่พวกมันจะตั้งตัวก่อสงครามขึ้นมา”


“มันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นโดยที่พวกข้าไม่รู้ตัวได้ยังไงกัน” จอมมารกล่าว


“ท่านจอมเวทย์ยังจำที่ผมเคยถามท่านเรื่องกบฏได้ไหมครับ”


“ข้ายังจำได้ เจ้ารู้ตัวแล้วอย่างนั้นหรือ”


“ทั้งสามอาณาจักรมีผู้นำกบฏแฝงตัวอยู่ใกล้ตัวของพวกท่านตลอดมานับตั้งแต่สงครามหมื่นปีมาแล้ว และสงครามเมื่อร้อยปีก็เป็นหนึ่งในแผนการครั้งใหม่ของพวกมัน”


“มีคนอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ใกล้ตัวพวกข้าสินะ ถึงได้จัดการไม่ได้สักที” พระราชากล่าว


“เธอรู้แล้วว่าเป็นใครสินะราส”


“อาจจะเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้นแหละครับ แต่ผมยังบอกอะไรไม่ได้เหมือนกันครับฮาฟ”


“เอาเถอะ คุยเรื่องเครียดกันมาเยอะแล้ว มาหาเรื่องสบายๆคุยกันดีกว่า”


“เรื่องสบายของท่านจอมเวทย์คงไกลตัวผมนะครับ”


“ไม่เลย เป็นเรื่องของเจ้าแน่นอน เรียนจบแล้วจะทำงานอะไรกันละ แต่ข้าว่าคงไม่ได้ทำหรอก”


“ทำไมถึงพูดแบบนั้นละครับท่านจอมเวทย์ พูดเป็นลางเลยนะครับ ว่าไม่มีงาน”


“เปล่าข้าคิดว่าเจ้าหน้าจะมีตำแหน่งดีๆรออยู่มากกว่า จริงหรือไม่ท่านจอมมาร พระราชา”


“จริงครับ ราสมีตำแหน่งในอาณาจักรของฉันรอเธออยู่นะ”


“ใช่ที่อาณาจักรข้าก็ยังรอเธออยู่”


“ตำแหน่งอะไรกันครับ แล้วทำได้สองอาณาจักรด้วยหรือครับ”


“ราชินีอย่างไรเล่าลูกข้า”


“ท่านจอมเวทย์”


“หรือไม่จริงกัน”


“จริง”


“อัล ฮาฟ”


“ที่หน้าแดงเพราะเขินอายสินะ อ่า นี่ข้าต้องเตรียตัวเป็นพ่อเจ้าสาวแล้วสินะ เห็นทีคงต้องติดต่อไปที่ครอบครัวเพื่อแจ้งข่าวเสียแล้ว”


“เดี๋ยวก่อนสิครับท่านจอมเวทย์ กลับมาคุยกันก่อนสิครับ” นี่ห้องทำงานของท่านนะครับ ท่านจะมาเดินหนีทิ้งแขกไปแบบนี้ไม่ได้นะครับ


“ที่ท่านจอมเวทย์พูดเป็นเรื่องที่ข้าสองคนคิดมาแล้วเช่นกัน”


“แต่อัลครับ”


“หรือว่าราสไม่ได้คิดเหมือนพวกฉันกัน แปลว่าที่ผ่านมาพวกฉันคิดไปเองสินะ”


“ไม่ใช่นะครับ แต่ว่าเรื่องแบบนั้น คือจะให้ผมพูดแบบไหนกันละครับ”


“พูดตามที่เธอคิดออกมาสิ พูดตามความรู้สึกจริงๆของเธอ”  ให้พูดเรื่องแบบนี้ออกไปได้ด้วยหรือครับอัล


“เธอคิดยังไงกับพวกฉันก็บอกออกมาตามตรง เราสามคนจะได้มีเวลาทำความเขาใจและวางแผนในอนาคตกันต่อได้อย่างไรเล่า”


“คือว่า ผมชอบที่จะได้อยู่กับพวกคุณสองคนนะครับ ชีวิตผมดูมีสีสันมากขึ้นแล้วผมก็ใจเต้นแรงเวลาที่อยู่ใกล้พวกคุณด้วย รวมถึงไม่ชอบใจเวลาที่เห็นคนอื่นเข้ามาใกล้ชิดพวกคุณสองคนมากเกินไป น้อยใจเวลาที่พวกคุณทำเหมือนไม่สนใจ แล้วก็คิดว่าถ้าคนที่สัมผัสตัวผมเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณสองคนคงจะรังเกียจตัวเองไปแล้วเหมือนกันครับ”


“ข้าดีใจที่เราคิดเหมือนกัน” อัลพูดพร้อมกับยืนมือมาลูบที่แก้มของผม


“และฉันดีใจมากที่เธอยอมจะพูดมันออกมาให้พวกฉันฟัง” ฮาฟกุมมือของผมเอาไว้


“แต่ว่าฐานะของเรามันต่างกันมากนะครับ แถมยังเป็นผู้ชายด้วย ต่อให้เรารักกันมากขนาดไหนก็ยากจะจบลงด้วยดีอยู่ดี”


“เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องใหญ่ส่วนเรื่องฐานะ เธอที่เป็นลูกบุญธรรมของท่านจอมเวทย์ ยังถือว่าตัวเองไร้ฐานะอีกอย่างนั้นหรือ”


“แต่ว่าอัลครับ”


“ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนับจากนี้ พวกข้าจะจัดการเอง”


“ถ้าตกลงกันได้แปลว่าเราเป็นคนรักกันแล้วนะราส”


“คะ ครับ” บ้าจริง ทำไมใจถึงเต้นรัวตอนได้ยินคำว่าคนรักแบบนี้กัน


“ไม่อยากจะปล่อยให้ใครได้พบเจอเธอนับจากนี้เลยจริงๆ”


“เกินไปแล้วนะครับอัล”


“ฉันก็คิดเหมือนจอมมาร อยากจะควักตาเจ้าพวกที่มองมาที่เธอเสียทุกคน”


“ฮาฟครับ คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ”


“ฉันแค่พูดเฉยๆเท่านั้นราส ไม่ได้จะทำจริงๆเสียหน่อย”


“ผมไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางทำภารกิจแล้วด้วย”


“แปลว่าต้องไปที่ฟาซอลเทียร์ก่อนสินะ แล้วข้าจะได้เจอเธอเมื่อไหร่กัน”


“ไว้ถ้าว่างจากการทำภารกิจจะแวะไปหานะครับ ทั้งสองคนเลย”


“ฉันด้วยหรอ เธอไม่ได้จะไปพักกับฉันหรือยังไง”


“ไม่ครับ ผมจะอาศัยตามห้องพักเหมือนเพื่อนคนอื่นๆครับ จะได้เข้าถึงปัญหาของประชาชนจริงๆ”


“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เรามานอนด้วยกันดีกว่า”


“แค่นอนนะครับ ถ้าใครกล้าทำแบบครั้งก่อนอีก ผมจะไม่คุยด้วยอีกต่อไปครับ”


“ได้”


หลังจากตกลงได้แล้วก็แยกย้ายทำธุระส่วนตัวขอใครขอมันเสร็จก็มารวมกันที่ห้องของผมก่อนจะล้มตัวลงนอนตามปกติ ผ่านไปสักพักผมที่มีเรื่องราวเข้ามาในวันนี้มากมายก็ผล่อยหลับลงในที่สุด


TBC.

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอบคุณครับที่มาตอบ โอเค เราขอโทษ สับสนช่วงเวลาไปบ้าง อาจจะอ่านผิด ปิดเทอมปี 5 เปิดเทอมปี 5 อะไรพวกนี้แหงๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#24

   
   สวัสดีครับ ตอนนี้กระผมผู้บรรยายรูปหล่อนาม ราสเต้ คนเดิม เพิ่มเติมมีคนรักแล้วครับ เขินจังเลย ข้ามผ่านไปครับ ตอนนี้ผมมาทำภารกิจที่อาณาจักรฟาซอลเทียร์ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้วละครับ ส่วนมากตามที่บอกไว้ที่อาณาจักรนี้ตามพื้นที่ชายแดนยังมีปัญหาการขาดแคลนเครื่องมืออยู่มากมายหลายครัวเรือน


ผมที่ให้คำแนะนำเรื่องการปลูกพืชผักและการเลี้ยงสัตว์เพื่อเพิ่มรายได้ของแต่ละครัวเรือนเพราะการจัดหาเครื่องมือดำรงชีพต้องมีปัจจัยอยู่พอสมควร


เมื่อมีปัญหาที่ผมไม่สามารถจัดการได้ก็จะบันทึกเรื่องเอาไว้และแวะไปหาฮาฟเพื่อส่งให้ดูแลต่อไป ผมก็คงช่วยได้เท่านี้


ผมยังคงแวะเวียนไปหาทั้งสองราชาเป็นประจำเพื่อทานมื้อเย็นเสมอ ถึงแม้จะเขินอายเวลาเจอหน้าแต่ก็ยังคงแกล้งฮาฟและเอาตัวรอดจากอัลคงเดิม


ผ่านไปอีกสัปดาห์สิ่งที่วางแผนไว้เริ่มเป็นรูปร่างมากขึ้น ชาวบ้านต่างพากันดีอกดีใจเพราะก่อนหน้านี้ไม่สามารถจัดการปัญหาเรื่องสภาพดินที่เสียได้จนเกิดการหยุดชะงักของการทำเกษตรจนขาดรายได้ไป


เมื่อดูแล้วผลเป็นที่น่าพึงพอใจและจำนวนชาวบ้านที่ได้รับความช่วยเหลือของอาณาจักรนี้มีมากตามจำนวนที่ระบุในภารกิจ ผมคิดว่าคงได้เวลาที่จะเริ่มทำภารกิจต่อที่อาณาจักรต่อไปเสียที เรื่องของการรับรองภารกิจผมให้ฮาฟที่เป็นผู้ปกครองอาณาจักรเป็นผู้รับรองในแต่ละภารกิจที่เห็นผลจริงๆให้


“ภารกิจที่ฟาซอลเทียร์เสร็จแล้ว วันนี้ผมจะเริ่มเดินทางไปที่อาณาจักรรัสเทียร์แล้วนะครับฮาฟ”


“เวลาผ่านไปเร็วมากเลย ไม่กี่สัปดาห์เธอก็จะหนีกันไปอีกแล้ว”


“ผมไม่ได้หนีไปไหนเสียหน่อยนี่ครับ ยังไงเราก็ยังเจอกันเกือบทุกวันอยู่ดี”


“แต่มันไม่อุ่นใจเท่ารู้ว่าเธอยังอยู่ใกล้ๆแบบนี้นี่”


“ถึงตัวผมจะอยู่ไกลแต่ไม่ได้แปลว่าหัวใจจะไกลนะครับ”


“เธอก็เป็นซะแบบนี้ ถ้าไม่ติดว่ารู้จักกันมานาน ฉันคงเห็นเธอเป็นหนุ่มเจ้าสำราญไปแล้ว”


“ทำไมมาว่ากันละครับ”


“ก็มันจริงไหมละ เธอเอาแต่หยอดคำหวาน แต่ไม่เห็นจะทำอะไรสักอย่าง”


“ขนาดผมยังไม่ทำ ฮาฟยังเขินอายเลยนะครับ”


“เธอนี่มัน ดื้อซนเป็นเด็ก”


“ก็ผมยังเด็กนี่ครับ”


“เอาละพอเถอะ วันนี้ก็คุยกันไม่จบ แล้วจะออกเดินทางตอนไหน”


“อีกสักชั่วโมงครับ”


“เฮ้อ อย่าน้อยเราก็ได้เจอกันเกือบทุกวันอยู่ดีละนะ”


“ถ้าคิดถึงกันมาก ห้องนอนผมยังว่างอยู่นะครับ”


“ราส”


“หึหึ หน้าแดงอีกแล้วนะครับ”


“เธอนี่จริงๆเลย”


“ไม่แกล้งแล้วครับ ผมไปแล้วนะครับ”


“ขอให้โชคดีนะ เดินทางปลอดภัย”


“ขอบคุณครับ แต่เรื่องร่วมเตียงผมพูดจริงนะครับ”


“เจ้าเด็กแสบ”



ผมมักจะชอบแหย่ฮาฟแบบนี้เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของสีหน้าอาฟเสมอ แกล้งอัลแบบนี้ไม่ได้นะครับ หมอนั่นคำไหนคำนั้นเสมอ ถ้าลองพูดแบบนี้ใส่ ไม่เกินคืนนี้หรอครับ ผมได้สามีจริงๆแน่ คิดแล้วก็ขนลุก บรื้อ


หลังจากวันนั้นผมก็เดินทางมาที่อาณาจักรรัสเทียร์อยู่ช่วยเหลือชาวบ้านที่นี่ ตอนนี้เรื่องมีผลลัพธ์ออกมาให้เห็นหลายที่แล้วละครับ อีกสามวันผมคิดว่าน่าจะได้เวลากลับไปที่อาณาจักรอิลเทียร์ได้แล้ว เพราะดูแล้วปัญหาที่อาณาจักรผมน่าจะแก้ไขยากพอสมควร


“อีกประมาณสามวันผมจะกลับบ้านแล้วนะครับ”


“เวลาผ่านเร็วเหลือเกิน นี่ก็หลายสัปดาห์แล้วสิที่เธอออกมาทำภารกิจต่างแดน”


“ผมคิดว่าจะกลับไปเยี่ยมที่บ้านครั้งนี้พร้อมกันเลย ไม่ได้กลับบ้านตั้งนาน”


“ราส ฉันขอไปด้วยได้ไหม”


“ข้าด้วย”


“แล้วพวกคุณสองคนจะไปทำไมครับ ไม่อยู่ดูแลอาณาจักรละครับ”


“ก็เราอยากไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเธอเหมือนกันนะราส”


“ใช่ที่เธอยังได้รู้จักกับครอบครัวของพวกข้าเลย”


“อัลครับ ที่ผมรู้จักครอบครัวของคุณเพราะมาอาศัยอยู่ด้วยกันนะครับ”


“อย่างที่จอมมารบอก เธอรู้จักครอบครัวเรา เราก็ต้องรู้จักครอบครัวเธอเหมือนกัน”


“ตกลงว่าพวกคุณจะไปให้ได้ใช่ไหมครับ”


“ใช่/ใช่”


“ถ้าอย่างนั้นก็อีกสามวันก็เตรียมตัวนะครับ ผมจะรออยู่เขตแดนนะครับ”


“ทำไมไม่ออกไปพร้อมกันละ”


“ก็เจอกันที่นั่นก็ได้ครับ ถ้าถามอีกผมไม่ให้ไปนะครับ”


“ก็ได้ตกลง อย่าคิดจะหนีเชี่ยวละ”


“แล้วผมจะหนีทำไมละครับ อุตส่าห์ได้พาแฟนเข้าบ้านทั้งที จริงไหมครับ”


“เจ้าเด็กแสบ / ราส”


“ไปดีกว่า” ผมวาร์ปหนีกลับมาที่ห้องพัก หลังจากที่ได้แกล้งทั้งสองคนเสร็จ แต่ที่พูดไปผมก็เขินเหมือนกันนะครับ




ครบกำหนดสามวันแล้วครับที่นัดกันกับสองราชาไว้ ตอนนี้ผมมาอยู่ที่บริเวณเขตแดนที่เป็นเขตติดต่อกันระหว่างอาราจักรรัสเทียร์และอาณาจักรอิลเทียร์ รอได้ไม่นานทั้งสองราชาก็มาปรากฏตัวตรงหน้าผม


“ไปกันเถอะ นำทางเลย”


“ครับ”


พวกเราข้ามเขตแดนมาเสร็จก็เดินเท้ากันเพื่อชมบรรยากาศในตอนสายของวัน ลมเย็นๆที่กำลังจะเข้าหน้าหนาวพัดผ่านหน้าของพวกเรา


“อากาศดีจังเลยนะครับ” ผมชอบความสงบแบบนี้จังเลยครับ


“ที่ห่างจากบ้านเธอมมากไหม”


“มากครับ”


“แล้วเราจะเดินเท้ากันไปแบบนี้จนถึงเลยหรือราส”


“เปล่าหรอกครับฮาฟ เดินอีกสักพักก็พอครับ”


“เธอหลอกให้เราเดินหรือเปล่า”


“เปล่าครับอัล ผมแค่อยากให้พวกคุณได้ผ่อนคลายจากการทำงานต่างหาก”


“เป็นห่วงพวกข้าสินะ”


“ใครบอกกันครับ”


“หน้าแดงนะราส”


“ฮาฟ หยุดนะครับ ไม่อย่างนั้นผมจะให้เดินไปเองจริงๆ”


“พอ เลิกแกล้งกัน”


“จับมือผมไว้นะครับ”


ผมบอกทั้งสองคนก่อนจะเริ่มใช้การวาร์ปไปที่บริเวณป่าใกล้หมู่บ้านเพื่อลดความตื่นตระหนกถ้าเกิดโผล่ที่บ้านเลย


“เดินไปอีกนิดก็จะถึงแล้วครับ” ผมบอกทั้งสองคนก่อนจะเริ่มออกเดิน


เราเดินกันมาไม่นานก็มาถึงบ้านของผม ครอบครัวของผมมีฐานะปานกลาง พ่อกับแม่ผมเปิดร้านอาหาร ส่วนพวกพี่ก็ทำงานตามหน่วยงานต่างๆ ตอนนี้ผมหยุดอยู่ที่หน้าร้านพอดี


“รับอะไรดีครับ”


“สวัสดีดีเมียน”


“นายน้อย ท่านมาได้ยังไงกัน นายท่าน นายน้อยมาครับ”


“อย่าสนใจเลยครับ ดีเมียนเป็นลูกสมุนเก่าผมเอง”


“ก็คิดอยู่เหมือนกัน”


“ข้าก็คิด”


“พอเลยครับ ตามผมมาด้านในดีกว่า เดี๋ยวผมจะพาไปที่ห้องพักนะครับ”


“ข้าจะนอนกับเธอ”


“ใช่”


“ไม่ได้ครับ ผมจะนอนคนเดียว”


“พวกข้าไม่สน”


“มายืนเถียงอะไรกันตรงนี้ เจ้าตัวแสบกลับมาทำไมไม่ส่งข่าวมาบอกก่อน แล้วพาใครมาด้วยละนั่น”


“สวัสดีครับแม่ ผมกลับมาทำภารกิจที่หมู่บ้านเราพอดีเลยแวะกลับมาอยู่บ้าน ส่วนสองคนนี้เป็น เอ่อ เป็น”


“ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าอัลฟาโน่ ดีเวอรัส จอมมารจากอาณาจักรรัสเทียร์”


“ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันอินดิรัส ฮาฟ ฟาซอลเทียร์ พระราชาจากอาณาจักรฟาซอลเทียร์”


“โอ้ ขออภัยในการต้อนรับท่านทั้งสอง”


“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราขอตามราสมาเอง รบกวนพวกท่านทั้งสองแล้ว”


“เป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับท่านราชาทั้งสอง”


“เช่นกัน”


“ราส พาท่านไปที่ห้องพักเสียก่อน”


“ครับแม่”


“เมื่อว่างจากงานแล้วพวกเราสองคนมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับท่านพ่อท่านแม่ของราสหน่อยได้ไหมครับ”


“ตามที่ท่านสะดวกเลยค่ะ”


“เอาที่พวกท่านสะดวกมากกว่า เราเป็นเพียงผู้อาศัยเท่านั้น”


“ท่านอย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลยท่านจอมมาร”


“ราส”


“ครับพ่อ”


“ไปเก็บของแล้วเฝ้าหน้าร้านตอนที่พ่อกับแม่พูดธุระหน่อย”


“ได้ครับ”


ผมมองตามหลังของทั้งสี่คนไป จะคุยเรื่องอะไรกันนะ อยากรู้จังเลย แต่บางทีอาจจะไม่เกี่ยวกับผมก็ได้ ไปทำงานที่พ่อบอกดีกว่า


ผมเลิกสนใจเรื่องที่ทั้งสี่คนคุยกันก่อนจะเดินไปเก็บของที่ห้องนอนแล้วลงมาทำงาน





ภายในห้องที่ทั้งสี่เขามาแล้ว


“ท่านทั้งสองมีอะไรจะคุยหรอคะ”


“พวกข้ารักชอบกับราสอยู่เลยอยากจะบอกกับพวกท่านไว้”


“เรื่องนั้นเราพอจะรู้มาอยู่แล้วครับ ท่านจอมเวทย์บอกแก่ข้าตั้งแต่วันที่มาขอรับราสเป็นบุตรบุญธรรมแล้วครับ”


“ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะคุยได้ง่ายขึ้น พวกเราคิดว่าหลังจากที่ราสเรียนจบจะมาทำพิธีสู่ขอให้เรียบร้อย”


“อย่างที่พระราชาบอก พวกข้ารักราสด้วยใจจริง ไม่อยากจะทำให้ลูกชายของพวกท่านต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง พวกเราจะทำตามขั้นตอนประเพณี”


“ตอนนี้ราสก็สิบหกแล้ว ตามกฎของที่อาณาจักรก็สามารถที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองแล้ว เรื่องสู่ขอท่านก็ทำตาที่ท่านเห็นสมควรได้ แต่ว่าราสจะว่าอย่างไรพวกข้าที่เป็นแค่พ่อแม่ก็ไม่ขัดข้อง”


“ข้าอยากให้พวกท่านเข้าใจในความรักที่อาจจะดูแปลกไปของพวกเราสามคนว่าเรารักกันเหมือนดั่งเช่นคู่รักอื่นๆ เราดีใจที่ท่านทั้งสองที่เป็นคนสำคัญของราสเข้าใจ ในเมื่อท่านเป็นพ่อแม่ของว่าที่ราชินีของเรา ท่านก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ของเราเช่นกัน ได้โปรดรับการเคารพจากเราสองคนด้วย”


“ท่านจอมมาร ท่านพระราชา” ร่างของชายหญิงตรงหน้ารีบลุกมาห้ามการกระทำของสองราชาที่คุกเข่าลง


“เราเข้าใจในความตั้งใจของท่านทั้งสอง แต่การที่ท่านจะมาทำแบบนี้กับเราที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาดูไม่เหมาะสม ได้โปรดเห็นแก่เราด้วย เรารับความเคารพท่านไว้ด้วยใจนะคะ”


“ขอบคุณท่านน้ามากครับ”


“เรียกแม่ก็ได้จ้ะ”


“ครับ ท่านพ่อ ท่านแม่” สองร่างสูงของสองราชาลุกขึ้นมาพร้อมกับเรียกตามที่หญิงตรงหน้ากล่าว


“ในเมื่อเข้าใจกันแล้ว พ่อในฐานะเจ้าบ้านก็ขอต้อนรับลูกเขยทั้งสองคนเข้ามาเป็นครอบครัวของเราแล้วกันนะ”


“ขอบคุณครับ” สองราชากล่าวออกมาด้วยความยินดี





“ทำไมเธอถึงทำหน้าทำตาแบบนั้นกันราส”


“มากันแล้วหรอครับ หายไปซะนานเลย”


“คิดถึงพวกข้าอย่างนั้นหรือ”


“อย่ามามั่วนะครับอัล ใครคิดถึงใครกัน”


“หน้าแดงอีกแล้วนะราส”


“แล้วฮาฟอยากมาหน้าแดงกับผมไหมครับ หืม”ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ฮาฟจนฮาฟเริ่มจะหน้าแดงตามกัน


“ราส” เสียงเรียกของฮาฟที่ติดจะสั่นตรงปลายเสียงเล็กน้อย


“อย่าเข้าไปไกลกันขนาดนั้น ข้ายังยืนอยู่นะ”


“บางทีท่านจอมมารก็ขี้หึง ว่าไหมราส”


“คิดเหมือนกันเลยครับฮาฟ”


“เธอนี่มัน”


“อะไรครับอัล”


ฟอด ฟอด


“ทำไมมาลงที่แก้มผมคนเดียวละครับ”


“หอมคืนได้นะ”


“ใครจะไปทำกัน”


“แล้วนั่นจะไปไหน”


“ห้องน้ำครับ”


ผมเดินหนีออกมาหลังจาที่โดนรุมแกล้งจากทั้งสองราชา พ่อกับแม่ผมก็นั่งออยู่นะครับ มาแกล้งกันแบบนี้ได้ยังไง แต่ดูแล้วเหมือนโดนรุมแกล้งกว่าเดิมเพราะรอยยิ้มล้อเลียนของแม่กับพ่อผมนี่สิครับ



TBC.

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ร้ายจริงๆ เหมือนหลอกให้น้องพาเข้าบ้าน เพื่อมาสู่ขอ

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#25


   หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจ ผมกลับมารายงานตัวที่โรงเรียนอีกครั้ง ดูเหมือนผมจะเป็นคนสุดท้ายที่เข้ามารายงานตัว


ผ่านไปไม่นานการสอบก็กลับมาเยือนพวกเราอีกครั้ง สำหรับเด็กปีหกปีสุดท้ายนี้ การสอบของเราเป็นการเขียนบรรยายการทำภารกิจและสรุปการเรียนรู้ตั้งแต่ปีแรกจนปัจจุบัน


ตอนนี้ผมกำลังอ่านทบทวนเรื่องที่หลงลืมกับรัลและเรน่าที่หอสมุด พูดคุยกันได้จนบ่ายเราสามคนตัดสินใจไปทามมื้อเที่ยงพร้อมกับพูดคุยเรื่องที่ไปทำภารกิจมาก่อนจะแยกย้าย ผมกลับมาที่ห้องพักส่วนรัลและเรน่าเห็นว่ามีธุระอื่น


“นายท่านขอรับ มีข่าวจากค่ายกบฏมารายงานขอรับ”


“สวัสดีครับคุณสายลม มีอะไรเกิดขึ้นหรือครับ”


“ดูเหมือนตอนนี้ผู้นำกบฏที่เหลือกับปีศาจจิตวิญญาณกำลังวางแผนการอะไรบางอย่างอยู่ขอรับ”


“ผมว่าเราไปสอดแนมกันเถอะครับ”


“แต่มันเสี่ยงเกินไป หากถูกจับได้”


“ไม่ต้องกังวลไปครับ ผมแค่ต้องการสอดส่องใกล้ๆเท่านั้นครับ ไม่ได้เข้าไปในค่าย พอดีอยากลองเวทย์สอดแนมบทใหม่อยู่พอดี”


“แต่ว่า”


“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคุณสายลมจะคอยเตือนก่อนที่ภัยจะมาถึงผมอยู่แล้วสินะครับ”


“ก็ได้ขอรับ ข้ายอมนายท่านแล้ว”


“ถ้าอย่างนั้นไปกันเถอะครับ”



ผมเขียนข้อความบอกกับรัลไว้ว่ามีธุระในเมืองอาจจะกลับมาช้ากว่ามื้ออาหารเย็น ไม่ต้องรอ เมื่อเขียนเสร็จก็วาร์ปไปที่หุบเขาที่ตั้งค่าย



บริเวณที่ผมมาถึงเป็นป่าติดกับค่าย แต่เพราะมีต้นไม้อยู่เยอะทำให้มองเห็นผมได้ยาก ผมเริ่มใช้เวทย์พรางตัวเพื่อความไม่ประมาทก่อนจะร่ายเวทย์สอดแนมบทใหม่ที่เป็นเวทย์ลมขั้นสูงแต่มีเงื่อนไขเรื่องระยะการมองเห็นและรับเสียงพอสมควร


ภาพที่ปรากฏในสายตาเป็นภาพของผู้นำกบฏฝ่ายมนุษย์ อิบรา ฮาดัส ขุนนางคลัง กับเรตัน โชฮา สมาชิกสภาเวทย์อาวุโส รวมทั้งปีศาจที่ไม่คุ้นหน้า ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นร่างสถิตของจิตวิญญาณปีศาจเมื่อหมื่นปีก่อน ทั้งสามกำลังพูดคุยเรื่องแผนการที่จะเริ่มลงมือ


“ท่านผู้นำ ในเวลานี้ดูเหมือนเจ้าเด็กในคำทำนายเริ่มจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เห็นทีว่าถ้าปล่อยไว้นานน่าจะยากแก่การกำจัดนะครับท่าน”


“ข้าก็คิดเช่นกันกับท่านอิบรา ตอนนี้จอมเวทย์กับสองราชาพวกนั้นกำลังให้ท้ายมันมากขึ้น ดูจากภารกิจที่มอบหมายก็ดูเหมือนจะยิงทำให้ประชาชนทั้งสามอาณาจักรรักและเทิดทูนมันมากขึ้นอีก”


“การคิดจะทำการใหญ่หากเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งย่อยยากจะสำเร็จ พวกท่านทั้งสองคิดเช่นข้าหรือไม่”


“ขออภัยท่านผู้นำ พวกข้าแค่ทนรออยู่แบบนี้ต่อไม่ไหวเพียงเท่านั้น”


“ท่านเรตัน ท่านอิบรา อีกไม่นานหรอกนะ ข้าไม่ปล่อยมันอีกเป็นครั้งที่สอง มันจะต้องได้ชดใช้สิ่งที่มันก่อไว้ คิดจะเข้ามาขัดขวางแผนการของข้าทั้งอดีตทั้งปัจจุบัน ข้าไม่ปล่อยไว้อยู่แล้ว หากแต่เราต้องเตรียมตัวรับมือให้ดี การจะโค่นล้มบุคคลอันตรายแบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”


“ตอนนี้ท่านผู้นำก็สมบูรณ์แล้ว ท่านจะยังกลัวมันด้วยเหตุอันใดกัน”


“ข้าไม่ได้กลัวมันท่านอิบรา หากแต่พลังของมันในครั้งนี้ดูท่าจะมากขึ้นจากครั้งก่อน ข้าไม่อาจะจะใจร้อนลงมือได้”


“ข้าเชื่อว่าท่านผู้นำย่อมมีวิธีจัดการมัน”


“พูดดีท่านเรตัน ว่าแต่เรื่องที่จะเปิดสงครามที่คุยกันครั้งก่อน พวกท่านจัดการไปถึงไหนกันแล้ว”


“ข้ารวบรวมเหล่านักเวทย์ที่เชี่ยวชาญในทุกเวทย์ที่คิดเห็นเหมือนกับเรามากพอสมควรตอนนี้กำลังรอคำสั่งโจมตีจากท่านเพียงเท่านั้น”


“ดีมากท่านเรตัน”


“ส่วนข้าตอนนี้ได้เครื่องมือและกำลังคนจากพวกที่คิดว่าการปกครองแบบนี้ไม่ยุติธรรม พวกมันคิดต่อต้านเจ้าพระราชานั่นอยู่แล้ว เลยเกลี่ยกล่อมมาเข้าร่วมกับเราได้ไม่อยาก”


“ดีท่านอิบรา ดูท่าว่างานของเราจะไปได้ดี เมื่อทุกอย่างพร้อมเราจะประกาศสงครามกับมัน หากพวกมันไม่ยินยอม เราจะจัดการทำลายพวกมันทั้งหมด เราจะปกครองแผ่นดินใหม่ ใครต่อต้านฆ่าทิ้งให้หมด ใครยินยอมก็รอด”


“ขอท่านผู้นำจงเจริญ”


พวกมัน อย่าได้หวังเลยว่าสิ่งที่คิดจะเป็นจริง ผมไม่ยอมให้ประชาชนต้องเดือดร้อนเพราะพวกมันแน่



ผมสลายเวทย์แล้วกลับมาที่พระราชวังของท่านจอมเวทย์ ผมคิดว่าเรื่องนี้ควรได้รับการปรึกษาเพราะไม่ใช่เรื่องที่ผมจะคิดเอาเองได้


“ข้ากำลังจะส่งคนไปตามเจ้าพอดี”


“มีอะไรกันรึเปล่าครับ มาพร้อมหน้ากันเลย” ภายในห้องนอกจากท่านจอมเวทย์แล้ว จอมมารกบัพระราชาก็อยู่ด้วยเช่นกัน


“พอดีมีสายของเรารายงานว่าพบการเคลื่อนไหวแปลกๆบริเวณหุบเขาในเขตของอาณาจักรของข้า”


“และสายก็รายงานกับฉันมาว่าพวกที่เขาไปมีทั้งมนุษย์ ปีศาจ ชาวเวทย์ พวกเราเลยมาปรึกษากันว่าพวกที่เข้าไปรวมตัวกันน่าจะเป็นกลุ่มคนที่ต้องสงสัยของพวกเรา”


“และข้าคิดว่าน่าจะเรียกเธอมาเพราะดูเหมือนช่วงนี้คนที่ข้าส่งไปติดตามจะมารายงานพฤติกรรมแปลกๆของเจ้า จริงไหมลูกรัก”


“ผมแปลกไตรงไหนครับท่านจอมเวทย์ ผมก็ยังไปเรียน ทำกิจกรรมของทางโรงเรียนตามปกติ”


“แต่เจ้าก็เข้าไปในป่าทุกวัน วันละหลายชั่วโมงเสมอ”


“ก็มัน ผมยอมรับก็ได้ครับ ผมเข้าไปฝึกงานพลังเวทย์กับร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมครับ”


“มีอะไรที่เราทั้งสามต้องรับรู้เพิ่มเติมสินะ เพราะดูเหมือนว่าวันนี้เจ้าจะไม่ได้เข้ามาหาข้าธรรมดาแบบทุกครั้ง”


“จากที่อัลกับฮาฟบอกมา ใช่ครับกลุ่มคนที่เดินทางลักลอบเข้าไปที่นั่นเป็นกลุ่มกบฏจริง และเรื่องที่ผมมาหาวันนี้เพราะคิดว่าจะให้ท่านจอมเวทย์ติดต่อทั้งสองคนมาปรึกษา เพราะผมมีเรื่องสำคัญจะบอกกับพวกคุณ”


“เรื่องสำคัญ ดูท่าจะสำคัญมากสินะ”


“วันนี้ผมได้รับข่าวจากสายของผมเรื่องการเคลื่อนไหวของฝั่งตรงข้ามเลยเข้าไปสังเกตการณ์ ก่อนที่จะได้ยินเรื่องที่พวกนั้นกำลังวางแผนกัน”


“เดี๋ยวก่อนนะ เข้าไปที่หุบเขาอย่างนั้นหรอราส”


“อย่าพึ่งโกรธสิครับทั้งสองคน ท่านจอมเวทย์ด้วย ผมปลอดภัยกลับมาอยู่แล้วนี่ยังไงครับ มาฟังต่อครับอย่าได้รีบลงโทษผมนะ”


“เอาละ ไว้ค่อยให้ลูกเขยข้าจัดการเธอลูกรัก”


“ท่านจอมเวทย์ก็”


“แล้วยังไงต่อ มีอะไรอีก”


“ครับอัล คือครั้งนี้ไม่ว่าจะยังไงผมจะบอกคนที่อยู่เบื้องหลัง แต่ขอให้ทุกคนอย่าพึ่งจัดการอะไรนะครับ”


“เธอจะบอกพวกฉันว่าเธอรู้ตัวคนร้ายที่อยู่ในกลุ่มพวกเราแล้วอย่างนั้น”


“ครับฮาฟ แต่ตามจริงก็พอรู้มานานแล้วครับแต่ไม่กล้าบอก กลัวพวกคุณจะไม่เชื่อ แต่ครั้งนี้ไม่ว่าพวกคุณจะเชื่อไหมก็อยากจะให้ระวังตัวกันไว้ก่อน อิบรา ขุนนางคลังของฮาฟ กับ เรตัน สามชิกสภาเวทย์อาวุโสของท่านจอมเวทย์ กับปีศาจที่เขามาโจมตีเราครั้งก่อนในป่า คือผู้นำกบฏของแต่ละอาณาจักร ส่วนผู้นำสูงสุดในครั้งนี้เป็นปีศาจจิตวิญญาณที่หลงเหลือเมื่อหมื่นปีก่อน ตอนนี้พวกนั้นกำลังเตรียมการรับมือกับผมและคิดแผนที่จะทำลายทั้งสามอาณาจักร และใครก็ตามที่คิดจะขัดขวาง พวกมันจัดการทุกคน สิ่งที่พวกมันต้องการคือการยึดครองทั้งสามอาณาจักรให้อยู่ภายใต้การปกครองของพวกมันคนเดียว”


“เป็นคนที่พวกเราคิดไว้จริงๆ ข้าคิดอยู่แล้วว่าเจ้าน่าจะต้องเดือดร้อน ไม่คิดว่าจะโดนหมายหัวชัดเจนแบบนี้”


“แปลว่าพวกมันคิดจะก่อสงครามอีกครั้งสินะ และเธอพอจะรู้ไหมว่าพวกมันจะเริ่มเมื่อไหร่”


“ดูเหมือนอีกไม่นานหรอกครับอัล ผมมีความรู้สึกว่าหลังจากพิธีการจบการศึกษา พวกมันต้องเริ่มลงมือแน่นอน”


“อีกไม่นานจริงด้วย พวกเราต้องเตรียมการรับมือกันล่วงหน้าแล้ว”


“แต่ก่อนอื่นพวกข้าต้องขอรับเจ้าเด็กดื้อไปลงโทษก่อนละกัน”


“ดะ เดี๋ยวสิครับ ท่านจอมเวทย์ช่วยผมด้วย”


“โชคดีลูกรัก”


ท่านต้องช่วยผมสิครับปล่อยให้โดนหิ้วแบบนี้ไม่ได้นะครับ ตุ๊บ ร่างของผมโดนทิ้งลงบนเตียง ผมรีบพลิกตัวคลานหนีแต่ร่างของอัลกลับทิ้งตัวทับผมไว้ก่อนจะพลิกตัวผมให้นอนหงายบนร่างของเจ้าตัวแทน


“หนีไม่รอดหรอกครับราส ฉันกับจอมมารจะขอลงโทษเด็กดื้อแล้วนะ”


“อือ” สิ้นครับฮาฟก็ก้มลงมาจูบผมทันที ผมที่ตกใจพยายามไล่แต่กลายเป็นเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนเข้ามาทำงานหน้าที่ของมัน


“ไม่ต้องกลัวพวกข้าจะไม่ลุกล้ำส่วนนั้นของเธอหรอกนะ แค่ลงโทษภายนอกเท่านั้น”


“แฮ่ก มันเป็นการลงโทษตรงไหนกันครับ” ผมเถียงอัลทันทีที่เป็นอิสระ


“ก็จะได้เตือนความจำเวลาที่คิดจะหนีไปเสี่ยงอันตราย แล้วพวกฉันก็ได้กำไรด้วยนะ”


“อืม” ผมยังไม่ทันได้ตอบฮาฟกลับถูกอัลพลิกตัวไปรับจูบแทน ผมที่ความคิดเริ่มติดขัดกลับทำได้แค่ปัดป่ายมือไปเรื่อยๆ


มือของฮาฟเริ่มไม่อยู่สุขเริ่มจัดการกับเสื้อผ้าของผม จนตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าของผมปรากฏสู่สายตาของทั้งสองคน


“สวย”


“มองตรงไหนกันครับ” ผมดันหน้าของอัลที่จ้องบิรเวณยอดอกของผมแต่อัลกลับคว้าแขนผมไว้ก่อนจะก้มลงมาชิมในจุดที่สนใจ


“อ้ะ” ผมสะดุ้งกับสัมผัสแปลกที่ไม่คุ้นเคยจนเผลอยกตัวตามที่อีกฝ่ายชักนำ


“ยั่วกันสุดๆ” เสียงของฮาฟกระซิบข้างหูของผมก่อนจะเริ่มลูบไปตามลูกรักของผมที่เริ่มตื่นตัว


“ฮะ ฮาฟ อะ อัล มัน อึก”


“อย่าเกร็ง ปล่อยไปตามสบาย” เสียงปลอบจากอัลที่เลิกเล่นกับหน้าอกผมก่อนจะจับมือของผมไปสัมผัสส่วนนั้นของทั้งคู่


“อืม” เสียงครางเมื่อเริ่มขยับมือของผม พร้อมกับที่ฮาฟเริ่มขยับมือกับส่วนนั้นของผมอีกครั้ง อัลยังคงซุกไซร้ไปตามร่างกายคล้ายฮาฟแต่กลับจงใจใช้มือสัมผัสกับยอดอกของผมไปมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผม


“ผมไม่ไหวแล้วครับ” ผมบอกเสียงเบาก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือของอาฟ


“อ่าราส/ อืมราส” ไม่นานทั้งสองคนก็ปล่อยออกมาตามๆกันจนเลอะมือของผม


เรานอนพักหายใจกันสักพักจนเริ่มดีขึ้น ทั้งสองคนก็จัดการพยุงผมไปอาบน้ำ หมดแรงครับไม่เคยเจอบทลงโทษแบบนี้มาาก่อน


“นอนพักซะ” ผมพยักหน้าพร้อมกับหลับตาหนีสายตาของทั้งคู่ที่ส่งมา แล้วพรุ่งนี้จะมองหน้ากันยังไงไม่ให้เขินละครับ งื้อออออ



TBC.



ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้องโดนกินจนจะหมดตัวแล้วววววว

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#26


   แสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างปลุกผมให้ตื่นขึ้นมา ความอบอุ่นที่คุ้นชินยามนอนกอดกันเป็นเรื่องปกติที่ผมจะเห็นภาพนี้เมื่อได้นอนด้วยกันสามคน แต่เรื่องราวก่อนที่จะหลับย้อนกลับมาส่งผลให้หน้าของผมเปลี่ยนสีเป็นแดงเข้มจนกลัวว่าเลือดจะทะลักออกมา


ผมพยายามขยับตัวให้เบาที่สุดเพื่อหลบไปเรียกสติในห้องน้ำแต่กลับเป็นการปลุกทั้งสองราชาให้ตื่นแทน


“จะหนีไปไหนครับ” ฟอด ฟอด


“ดะ เดี๋ยวก่อนสิครับฮาฟ มาหอมแก้มผมทำไมครับ แล้วอัลครับ คุณกำลังจับตรงไหนกัน” ผมดันหน้าฮาฟที่ไม่หยุดทำร้ายแก้มของผมแต่เช้าพร้อมกับใช้มือที่เหลืออีกข้างห้ามอัลที่พยายามจะปลดกระดุมเสื้อของผม ทำไมเช้านี้ของผมถึงวุ่นวายกันแบบนี้ละครับ




“มาทานมื้อเช้ากับพ่อก่อนสิลูกรัก”


“ครับ” ผมที่เดินนำทั้งสองคนลงมา กว่าจะจัดการพวกเขาได้ หวิดจะโดนแกล้งอีกรอบแบบเมื่อวานไปแล้วครับ


“หน้าตาสดชื่นดีนี่จอมมาร พระราชา”


“ก็คนมันมีความสุขนี่ครับท่านพ่อตา”


“พอเลยครับ มาทานข้าวกันดีกว่า ผมต้องรีบกลับไปที่โรงเรียนแล้วด้วย”


“เสียดายจัง ฉันยังอยากอยู่กับเธอต่ออีกสักวัน”


“ข้าก็เหมือนกัน”


“พอเลยครับ แค่นี้ก็ช้ำไปหมดแล้ว จะแกล้งกันแบบนี้ทีหลังผมจะเอาคืน คอยดูเถอะครับ”


“พวกข้ารออยู่นะ”


“อะแฮ่ม ถึงข้าจะให้ท้ายแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะเกินเลยที่ตกลงไว้นะ”


“ตามที่รับปากครับท่านพ่อตา”


“ดี แล้ววันนี้มีอะไรถึงต้องรีบกลับละลูกรัก”


“วันนี้ผมต้องไปอ่านตำราที่เหลือครับ พรุ่งนี้จะเริ่มสอบแล้ว”


“ถ้าอย่างนั้นอีกไม่กี่วันก็เรียนจบแล้วสินะ ดีจริงๆ”


“ครับ”




หลังจากที่ร่วมทานอาหารกับทั้งสามราเสร็จก็ได้เวลาที่ผมต้องกลับมาที่โรงเรียนเพื่ออ่านหนังสือตามที่บอกท่านจอมเวทย์ไว้


“มาแล้วหรอราส พอดีเลย ฉันกำลังไม่เข้าใจในเรื่องนี้พอดี”


“สวัสดีราส ทานอะไรมาหรือยัง”


“สวัสดีครับรัลเรน่า ผมทานมาแล้วพวกคุณละครับ”


“ทานแล้วเหมือนกันจ้า”


“ราสมาช่วยตรงนี้หน่อย”


“ครับๆรัล”



เราสามคนใช้เวลาที่เหลือของวันสุดท้ายก่อนสอบจนเรียกได้ว่าคุ้มมาก ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันกลับที่พัก รัลที่เดินกลับมาพร้อมผม พอถึงห้องก็หนีขึ้นเตียงนอนก่อน เห็นบอกว่าเสียสละห้องน้ำให้ แต่ผมคิดว่าน่าจะขี้เกียจอาบน้ำมากกว่า



เช้าวันต่อมา พวกเราสามคนก็เดินทางมาถึงห้องเรียนที่วันนี้เป็นห้องสอบ เราแยกย้ายกันตามเลขที่ก่อนอาจารย์จะเข้ามาอธิบายถึงการสอบอีกครั้ง แล้วปล่อยให้นักเรียนเริ่มลงมือทำ



หลังจากนั้นสามวันก็จะเป็นการประกาศผลสอบและเป็นวันปิดภาคเรียนของชั้นปีที่หกซึ่งเป็นปีสุดท้ายแล้ว


“เราจะไปฉลองเรียนจบกันที่ไหนดีจ้ะ”


“ที่รัก คะแนนยังไม่ออกมาเลยนะครับ”


“ยังไงผมว่าพวกเราต้องผ่านแน่นอนแบบที่เรน่าว่าอยู่แล้วละครับ เราตั้งใจกันเต็มที่แล้ว”


“นั่นสินะ ขอให้เป็นแบบที่ราสว่าเถอะ”


“ไปกันเถอะครับ คนลดลงเยอะแล้วครับ” ผมชี้ชวนทั้งสองคนก่อนจะพากันเดินไปที่บอร์ดประกาศผลที่นักเรียนมุงเริ่มจะสลายตัว


“อันดับที่หนึ่ง ราสเต้ ดีนเซอร์ โหราส นายได้ที่หนึ่งอีกแล้ว”


“จริงหรือครับ คุณสองคนก็ติดหนึ่งในห้าเหมือนกันละครับ”


“เห็นไหมบอกแล้วว่าไปหาที่ฉลองกันเถอะ อีกนานกว่าเราจะได้เจอกัน เพราะวันพิธีการเลิกดึกพอสมควร”


“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ ไปเดินดูในตลาดกันเถอะครับ”



หลังจากที่เราตกลงกันได้ก็ออกจากโรงเรียนเพื่อเดินเที่ยวและซื้อของฝากให้แก่กันก่อนจะจบลงที่ร้านอาหารธรรมดาริมทางที่นอกเขตตลาดมาพอสมควร เมื่อทานเสร็จเราต่างก็แยกย้ายกันกลับห้องพักตามเคย




วันนี้เป็นวันพิธีจบการศึกษาของนักเรียนปีหกซึ่งเป็นปีสุดท้ายแล้วละครับ เวลาหกปีที่ผ่านมาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียจริงครับ


“ตื่นเต้นจังเลยนะราส”


“ผมก็เหมือนกันครับเรน่า”


“หลังจากนี้พวกเราจะได้เจอกหันอีกไหม”


“ต้องได้เจอกันสิครับรัล ยังไงก็แวะเวียนไปหาผมที่บ้านได้อยู่แล้วละครับ แต่ผมว่าอีกไม่นานเราต้องได้เจอกันแน่นอนครับ”


“ฉันก็มีความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”


“เอาเถอะอย่ามามัวคุยเรื่องเศร้ากันเลยดีกว่า ฉันว่าเราสามคนไปที่หอประชุมกันเถอะ”


เราสามคนเดินเข้าไปที่หอประชุมที่เป็นสถานที่จัดงาน วันนี้ท่านจอมเวทย์ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศการจบการศึกษาเช่นเคย เรื่องที่ผมเป็นลูกบุญธรรมท่านจอมเวทย์ตอนนี้มีแต่ขุนนางและคนที่ทำงานรับใช้ใกล้ชิดที่จะพอรู้เรื่อง แต่ชาวบ้านด้านนอกยังไม่รู้กันไม่แปลกถ้าวันนี้จะมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น


“ฉันยินดีที่ได้มาพบกับพวกเธอทุกคนเหล่านักเวทย์ทั้งหลาย มีหลายคนในที่นี้ที่กำลังจะเข้ารับหน้าที่ในหน่วยงานของอาณาจักรหลายๆหน่วยงาน และข้ารู้สึกภูมิใจยิ่งขึ้นที่ได้มามอบใบประกาศให้กับลูกรักข้ายิ่งนัก” เกิดเสียงฮือฮาเพราะว่าบุตรที่แท้จริงของท่านจอมเวทย์นั้นจบการศึกษาไปหลายปี ตอนนี้ก็กำลังเตรียมตัวเข้ารับตำแหน่งผู้สืบทอดของท่านจอมเวทย์อยู่ ผมรู้จักท่านพี่ดีเพราะท่านพี่เป็นคนที่นำเรื่องท่านจอมเวทย์มาบอกกับผมเอง


“เอาละเรามาเริ่มพิธีกันเลยเถอะ” สิ้นเสียงทุกอย่างก็เริ่มตามกำหนดการ จนกระทั่งถึงลำดับของผมที่เรียงตามรายชื่อ ท่านจอมเวทย์ลุกออกมาที่เพื่อมากอดผมด้วยความยินดี ก่อนที่จะมอบใบกับผม มีเสียงซุบซิบตลอดการเดินลงจากเวทีจนถึงที่นั่ง มีหลายสายตาที่มองมาด้วยความสงสัยแต่ไม่มีสายตาที่มุ่งร้ายเลย


“ข้าขอให้พวกเจ้าทุกคนเป็นนักเวทย์ที่ดี และทำงานอย่าสุจริต ไม่เบียดเบียนหรือรังแกผู้ที่ด้อยกว่าตน และสามัคคีกันเพื่ออาณาจักรสืบไป”


“น้อมรับด้วยชีวิต” เสียงของนักเรียนที่เข้าร่วมพิธีทุกคนดังก้องหอประชุมก่อนที่ท่านจอมเวทย์จะเดินกลับเข้าหลังม่านไป พวกเราเริ่มแยกย้ายตามซุ้มต่างๆเพื่อเป็นการเลี้ยงส่งนักเรียนครั้งสุดท้ายจากทางโรงเรียน


“ราส คือ”


“ไปหาที่สงบคุยกันเถอะครับ” ผมบอกกับเพื่อนทั้งสองของตัวเองก่อนที่เราจะพากันมาที่สวนข้างหอประชุมที่เงียบสงบเพราะคนส่วนมากอยู่ที่งาน


“ท่านจอมเวทย์รับผมเป็นบุตรบุญธรรม เพราะท่านถูกชะตาและมีหลายเหตุการณ์ที่ผมยังบอกพวกคุณสองคนไม่ได้ ขอโทษด้วยที่ไม่เคยบอกพวกคุณมาก่อน”


“ไม่เป็นอะไรเลยราส แค่นายยอมที่จะบอกเราก็ดีแค่ไหน ไหนจะการที่นายยังรับพวกเราเป็นเพื่อนแบบนี้อีก เท่ากับว่าตอนนี้นายก็มียศเทียบเท่าองค์ชายเลยสินะ”


“น่าจะประมาณนั้นนะครับ เอาละครับ ถึงยังไงพวกเราก็ยังคงเป็นเพื่อนกันเหมือนเก่าละนะครับ ตอนนี้ผมว่าเรากลับเข้าไปในงานกันเถอะครับ ก่อนที่รัลจะหิวไปกว่านี้”


“รู้ใจกันเสียจริงราสเพื่อนรัก” รัลเดินเข้ามากอดคอผมก่อนที่เราสามคนจะเดินกลับเข้ามาในงาน เละดูเหมือนจะมีคนอธิบายเรื่องนี้แล้ว ทุกคนพยายามทำตัวตามเดิมแต่ก็มีหลายคนที่เกร็งเวลาที่ผมเดินผ่านอยู่ดี




หลังจากที่ล่ำลาเพื่อนทั้งสองคนเสร็จผมก็เก็บข้าวของที่มีน้อยนิดก่อนจะเดินทางมา ตอนนี้ผมกลับมาที่พระราชวังของท่านจอมเวทย์เพราะดูเหมือนว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นเกี่ยวกับกลุ่มกบฏ เมื่อมาถึงก็ตามท่านจอมเวทย์เข้ามาที่ห้องทำงาน เจออัลที่กำลังทำหน้าเคร่งเครียดอยู่พร้อมกับฮาฟ


“มีอะไรเกิดขึ้นกันถึงรีบร้อนกันมาที่นี่”


“สวัสดีครับท่านพ่อตา”


“สวัสดีท่านพระราชา”


“สวัสดีครับทั้งสองคน”


“ดีครับราส”


“อัลครับ เป็นอะไรหรือครับ ถึงไม่พูดเลย” ผมเดินไปสัมผัสใบหน้าที่เอาแต่เคร่งเครียดไม่สนใจรอบข้าง อัลสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นผม


“ดีใจที่ได้พบกัน ตอนนี้มีเรื่องเข้ามามากจนเผลอแสดงท่าทีไม่ดี ขอโทษด้วยนะท่านจอมเวทย์”


“ไม่เป็นไรข้าพอจะเข้าใจ ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกัน”


“นายท่านขอรับ สายลมมีเรื่องด่วนมารายงานขอรับ”
 

“ผมขอตัวสักครู่นะครับ เชิญตามสบาย” ผมเดินหลบมาที่บริเวณหน้าต่างที่มีเก้าอี้วางอยู่ ผมเดินออกมาเพื่อฟังเสียงของคุณสายลมได้มากขึ้น


“มีเรื่องอะไรครับ”


“เมื่อช่วงสายของวันมีการก่อความวุ่นวายตามแนวชายแดนทั้งสามอาณาจักรแต่ไม่ใช้เหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเพราะแค่การเข้าปล้นทรัพย์สินเท่านั้น”


“เป็นเรื่องที่ทำให้จอมมารเครียดอย่างนั้นสินะครับ”


“ขอรับนายท่าน แต่เหตุที่ท่านจอมมารเครียดน่าจะมาจากการที่กลุ่มคนพวกนั้นล้วนเป็นชาวปีศาจทั้งหมดและดูแล้วจะปล้นที่อาณาจักรมนุษย์จนตอนนี้เริ่มมีการตอบโต้กันจนเหตุการณ์เริ่มจะบานปลายแล้วครับ”


“ดูท่าทางนั้นเริ่มจะเคลื่อนไหวแล้วสินะครับ เห็นทีคงใช้แผนการปั่นป่วนตามเดิมและดูเหมือนจะโจมตีที่อาณาจักรรัสเทียร์ก่อนจริงๆด้วยสินะครับ”


“รายงานล่าสุดตอนนี้มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ร้ายแรงขึ้นแล้วครับ และดูเหมือนว่าที่อาณาจักรรัสเทียร์กำลังโดนชาวเวทย์เข้าโจมตีด้วยครับ”


“อะไรนะครับ มันจะดูวุ่นวายเกินไปหน่อยนะครับแบบนี้ เท่ากับว่าครั้งนี้ต้องการที่จะบอกว่าทุกอาณาจักรไม่สามารถร่วมกันได้แล้วสินะครับ”


“สายลมคิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นการลวงนายท่านเพื่อประกาศสงครามแน่เลยขอรับ”


“ผมวานคุณสายลมช่วยไปบอกคุณทรีมอสว่าให้กระจายข่าวเรียกสัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจมารวมกันที่ป่าชั้นในให้หมดเลยนะครับ ผมจะกางเวทย์คุ้มครองอีกชั้น ครั้งนี้ผมไม้ยอมให้พวกพ้องของเราต้องการเป็นหุ่นให้พวกมันแน่นอนครับ”


“แล้วนายท่านจะออกไปตามที่พวกมันต้องการหรือขอรับ”


“ในเมื่อผมก็ต้องการที่จะจบเรื่องอยู่แล้ว ก็ให้มันจบตั้งแต่ตอนนี้เลยเถอะครับ”


“แต่นายท่านขอรับ”


“ไปทำตามที่ผมบอกเถอะครับ ผมจะระวังตัว”


“ขอรับนายท่าน”



ผมมองทิวทัศน์ด้านนอกเพื่อสงบใจอีกสักพักก่อนที่จะเดินกลับมาที่โต๊ะที่สามราชากำลังครุ่นคิดกันอยู่


“เราจะทำสงคราม”


“หือ เจ้าว่าไรนะลูกรัก”


“ผมบอกว่า เราจะทำสงคราม”


“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นกัน เธอถึงได้ออกไปยืนที่ตรงนั้น”


“ที่ดินแดนของคุณกำลังโดนชาวเวทย์เข้าโจมตี ตอนนี้มีผู้บาดเจ็บมากขึ้น แล้วก็อาณาจักรอีกสองแห่งก็โดนปีศาจเข้าโจมตีพร้อมกัน ในเมื่อทางนั้นต้องการประกาศสงครามกับผม ทำไมผมจะต้องไม่รับคำท้าละครับอัล”


“แต่การทำตามที่พวกมันต้องการไม่ใช่เรื่องที่ดีและเธอก็จะเป็นอันตรายด้วยนะราส”


“ผมรู้ครับฮาฟว่าอันตราย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมคิดเอาไว้นานแล้ว ในเมื่อฝ่ายนั้นทนรอผมมาตั้งหมื่นปี ผมจะตอบแทนให้ก็ไม่ผิดนี่ครับ”


“ราส”เสียงของทั้งสามคนเรียกชื่อผมเหมือนไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไร


“เอาละครับ ตอนนี้ผมขอตัวไปคุ้มครองป่าก่อนนะครับ ดูท่าพวกมันน่าจะเลือกใช้แผนเดิมด้วยเหมือนกัน”


“พวกฉันจะไปด้วย”


“ผมว่าฮาฟกับอัลควรกลับไปจัดการที่อาณาจักรของพวกคุณจะดีกว่านะครับ การขาดหัวหน้าในยามที่เผชิญวิกฤตกำลังใจของผู้ตามจะเป็นอย่างไรกันครับ”


“แต่ว่าเธอ”


“ผมดูแลตัวเองได้ครับ เอาไว้เจอกันใหม่นะครับ” ผมหอมแก้มทั้งสามราชาพร้อมร่ายเวทย์คุ้มครองไว้กับทั้งสามคนเพื่อช่วยเหลือและบอกแก่ผมเมื่อทั้งสามคนมีภัยในยามที่ห่างกัน”


“ตามที่ลูกข้าบอก กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง อีกไม่นานเราจะต้องได้พบกัน”


เมื่อผมมาถึงก็พบกับเหล่าสัตว์มากมายที่กำลังเตรียมที่พักของตัวเอง


“นายท่าน”


“สวัสดีครับทุกคน ทนหน่อยนะครับ ผมอยากให้ทุกคนปลอดภัย” ผมได้รับรอยยิ้มกลับมาจนรู้สึกสุขใจ ก่อน


ผมเริ่มทำการร่ายเวทย์ลมสร้างเกราะคุ้มครองและเวทย์น้ำสร้างเวทย์ลวงตาเพื่อป้องกันอีกชั้นหนึ่งจนเรียบร้อยก่อนที่จะเริ่มปรึกษากับคุณทรีมอสถึงเหตุการณ์และแผนที่จะใช้ในการตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามกลับไป


TBC.


ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#27

   หลังจากวันนั้นผ่านไป ผมก็ได้รับข่าวเรื่องการจับกุมผู้นำกบฏของทั้งสองอาณาจักรในเรื่องการทุจริตและอื่นๆอีกมากมาย แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้เพราะเหมือนจะมีสายคอยรายงานจนหนีไปได้ และผมคิดว่าที่หลบของคนร้ายคงเป็นที่ค่ายกบฏแน่นอน


“ผมคิดว่าร่างกายผมปรับตัวกับการหน่วงเวทย์คุ้มครองทั้งสองได้แล้ว ผมจะเริ่มจัดการกับกลุ่มกบฏเสียที”


“นายท่านวางแผนสิ่งใดไว้หรือครับ”


“ผมคิดว่าน่าจะเริ่มจากกลุ่มที่เข้ามาโจมตีของทั้งสามอาณาจักรก่อนครับคุณทรีมอส”


“แต่มันจะเสียเวลาหรือเปล่าครับ เหตุใดท่านไม่กำจัดที่ต้นเรื่องเลยละครับ”


“ถ้าเราจัดการที่ตัวผู้นำเลย ผมคิดว่าจะเกิดการต่อต้านที่มากขึ้น ผมคิดว่าควรจะเริ่มจากระดับผู้ตามดีกว่าครับ ผมจะได้อธิบายสิ่งที่ผมคิดไว้ด้วย”


“เรื่องที่นายท่านจะรวมสามดินแดนเช่นนั้นหรือครับ”


“ครับคุณทรีมอส”


ผมเคยเล่าให้คุณทรีมอสฟังแล้วครับเรื่องการรวมสามอาณาจักร แต่เป็นการรวมเพื่อทำให้ทุกฝ่ายได้ผลประโยชน์และไม่ได้มีผู้ปกครองทั้งสามดินแดนแบบที่กลุ่มกบฏคิดครับ ผมยังคงให้แต่ละอาณาจักรมีผู้นำตามเดิม แต่ทุกครั้งที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องย่อมต้องีการหารือและลงมติจากทั้งสามราชาก่อนเสมอครับ


รูปแบบการปกครองจะกลับไปใช้คล้ายกับเมื่อหมื่นปีก่อนที่จะเกิดการกบฏและครั้งนี้ผมคิดว่าจะสามารถลดการเกิดกบฏได้เพราะมีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่จะคอยสอดส่องการทำงานของทั้งสามอาณาจักรโดยคัดเลือดบุคคลที่มีความสามารถและเป็นธรรมจากทั้งสามอาณาจักรมารวมกันเพื่อคานอำนาจยามที่อาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งคิดไม่ดีต่ออาณาจักรที่เหลือ


“ถ้าอย่างน้นผมฝากที่เหลือด้วยนะครับคุณทรีมอส”


“ด้วยความยินดีครับนายท่าน”




ผมวาร์ปมาที่ชายแดนที่เกิดเหตุตามที่ติดต่อกับคุณสายน้ำและคุณสายลมไว้ก่อนหน้า บริเวณนี้กลายเป็นสงครามย่อมๆเพราะมีทั้งชาวบ้านที่เป็นพ่อมดแม่มดกำลังต่อต้านพวกปีศาจที่กำลังรุกราน


“หยุดก่อนเถอะครับพวกคุณทั้งสองฝั่ง” ผมใช้เวทย์ลมในการกระจายเสียงของผมให้ดังจนทั้งสองฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหวแล้วหันมองหา และเมื่อมีคนหนึ่งหันมาเจอคนที่เหลือก็หันมาตามจนกลายเป็นว่าทุกคนต่างหันมาสนใจผมแทนการต่อสู่เบื้องหน้า


“ท่านเป็นใคร”


“ผมเป็นเพียงพ่อมดธรรมดาเพียงเท่านั้น แต่ผมขอให้พวกคุณทั้งสองฝ่ายช่วยหยุดฟังผมก่อนสักนิดเถอะครับ”


“เหตุใดเราต้องฟังเจ้า ในเมื่อเจ้าเป็นพวกเดียวกับพ่อมดแม่มดพวกนี้”


“แล้วเหตุใดปีศาจเช่นพวกท่านถึงต้องเข้ามาเข่นฆ่าพวกเราด้วยในเมื่อพวกเราไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกัน การที่ท่านเข้ามาโจมตีเราในครั้งนี้ก็เป็นเพียงคำสั่งจากคนที่ไม่หวังดีอยากให้ทั้งสามอาณาจักรล่มสลายเพียงเท่านั้นไม่ใช่หรือครับ”


“ตกลงเจ้าเป็นพ่อมดธรรมดาแน่หรือ เหตุใดถึงรู้เรื่องของพวกข้าลึกถึงเพียงนี้”


“อย่าได้ถามหาว่าผมเป็นใครเลยครับ ตอนนี้พวกเราในที่นี้เป็นเพียงแค่หมากในกระดานของเจ้าปีศาจจิตวิญญาณเพียงเท่านั้น ผมขอเถอะครับเลิกต่อสู้กันได้ไหมครับ แล้วเรามาพูดคุยกันว่าเพราอะไรถึงต้องลงมือแบบนี้”


“แต่พวกปีศาจทำร้ายคนของเราจนบาดเจ็บมากมาย เราจะยอมให้พวกพ้องของเราต้องตายเปล่าหรือ พ่อมดน้อย”


“ถ้าผมรักษาพวกคุณแล้ว พวกคุณทั้งสองฝ่ายจะยอมหยุดแล้วมาพูดคุยกับผมไหมครับ”


“ถ้าเจ้าสามารถคืนพวกพ้องของพวกข้าได้ พวกข้าจะยอมฟัง”


ผมไม่ได้ตอบรับอะไรแต่เริ่มการร่ายเวทย์แสงรักษาขั้นสูงที่มีผมในการชุบชีวิตและเงื่อนไขลดระดับตามมา หลังจากที่ร่ายเสร็จ ภาพของผู้ที่ตายในสงครามย่อยนครั้งนี้ก็ลืมตาขึ้นมาส่วนผู้ที่บาดเจ็บบาดแผลก็จางหาย คนที่เหนื่อยล้าต่างกระชุมกระชวยเหมือนเก่า


“ท่านมิใช่พ่อมดธรรมดา ท่านเป็นใครกันแน่”


“ผมเป็นแค่พ่อมดเพียงเท่านั้นครับ เอาละได้เวลาที่เราจะมาพูดคุยกันเสียที”


ผมเริ่มที่จะเจรจากับทั้งสองฝ่ายโดยเริ่มอธิบายกับทางพ่อมดแม่มดถึงสาเหตุที่ทางปีศาจเข้ามารุกรานและอธิบายถึงสิ่งที่ทางปีศาจถูกหลอกใช้ และช่วยไขข้อข้องใจในเรื่องปัญหาที่เป็นบ่อเกิดจนทำให้ทางปีศาจต้องเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้


“เราจะขอติดตามท่าน มีสิ่งใดที่เราทั้งสองฝ่ายพอจะตอบแทนท่านได้หรือไม่”


“ถ้าอย่านั้นพวกคุณทั้งสองฝ่ายช่วยไปบอกกล่าวเรื่องในครั้งนี้ให้กับผู้ที่ยังไม่เข้าใจในเหตุแห่งสงครามและแก้ไขข้อข้องใจกับสิ่งที่เผชิญอยู่ อีกทั้งช่วยแจ้งแก่ผู้ที่มีปัญหาให้เขียนจดหมายแล้วนำไปไว้ที่พระราชวังของท่านจอมเวทย์สำหรับชาวเวทย์และปราสาทของจอมมารนับจากนี้เมื่อเกิดปัญหา เพื่อให้ทั้งสามราชาสามารเข้าแก้ไขปัญหาของพวกท่านได้”


“พวกเราเข้าใจแล้ว จะนำสิ่งทีท่านบอกไปแจ้งแก่ผู้อื่นอีกที”


“ในเมื่อจบเรื่องแล้ว ผมขอตัวไปช่วยเหลือที่อาณาจักรฟาซอลเทียร์ก่อนนะครับ ดูเหมือนจะหนักกว่าทางนี้พอสมควร”




ผมไม่รอให้ทั้งสองฝ่ายทำความเคารพ ตัดสินใจวาร์ปมาที่อาณาจักรปลายทางทันที เมื่อมาถึงภาพตรงหน้าเป็นอะไรที่สาหัสมากครับ และดูเหมือนว่าฮาฟกำลังจัดการอยู่แต่เหมือนจะยังไม่ได้ผล


“เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้างครับฮาฟ”


“ราส เธอมาได้อย่างไร ที่นี่อันตรายมากนัก”


“อย่าห่วงเลยครับ ว่าแต่ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันหรือยังครับ”


“ยังเลย ทางมนุษย์กำลังคิดจะก่อสงครามเพราะทางฝั่งตรงข้ามเป็นศัตรูมานานพอสมควร พอมาโดนโจมตีแบบนี้เลยยากเข้าไปอีก”


“อย่ากังวลไปเลยครับ ผมจัดการเอง”


ผมบอกฮาฟก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านหน้าและใช้วิธีเดียวกับครั้งก่อน ออ และตอนที่พูดคุยกับฮาฟผมก็เพิ่มระดับขั้นที่ถูกลดจนกลับมาเหมือนเดิมแล้วนะครับ บางครั้งผมก็กลัวพลังตัวเองเหมือนกัน


“หยุดก่อนทุกท่าน ทั้งเหล่ามนุษย์และปีศาจ สิ่งที่พวกท่านกำลังกระทำอยู่ใช่หนทางในการตัดสินจริงแล้วหรือ ท่านทำการก่อสงครามเช่นนี้มีแต่ทำให้เกิดการสูญเสีย แล้วเหตุใดถึงยังกระทำการเช่นนี้อีกหรือ”


“เจ้าเป็นใคร”


“เป็นเพียงพ่อมดคนหนึ่งเท่านั้น”


“หากเป็นพ่อมดเรื่องนี้ก็ย่อมไม่เกี่ยวกับเจ้า อย่ามายุ่งกับเรื่องของพวกเรา”


“ผมคงจะไม่ยื่นมือเข้าไปแทรกไม่ได้หรอกครับ ผมไม่อยากเห็นการสุญเสียโดยไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ใดๆได้อีกแล้ว หยุดก่อความสุญเสียทั้งสองฝ่ายเถอะครับ”


“เมื่อสูญเสียแล้วเรามีแต่ต้องเอาคืน ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามทำร้ายพวกพ้องเรา เหตุใดเราต้องยินยอมให้จบลงง่ายดาย”


“ถ้าพวกพ้องของพวกคุณกลับมา พวกคุณจะหยุดแล้วฟังผมใช่ไหมครับ”



“ถ้าเจ้าทำได้พวกเราปีศาจจะยอมฟังเจ้า”


“พวกเราชาวมนุษย์เช่นกัน”


“ราส อย่าทำอะไรที่เกินตัว ฉันไม่อยากให้เธอต้องบาดเจ็บอีก”


“ผมจัดการได้ อย่าได้ห่วงไปเลยครับ”


ผมหันกลับมามองก่อนที่จะเริ่มร่ายเวทย์ และเป็นเหมือนครั้งก่อน ระดับขั้นลดลงมาอีกครั้ง แต่ผมไม่กลัวในเมื่อผมสามารถที่จะฟื้นพลังได้โดยง่าย


“เอาละเราทั้งหมดมาเริ่มพูดคุยกันเสียทีนะครับ”


“ราส ไหวแน่นะ หน้าเธอซีดพอสมควร”


“มันเป็นผลมาจากการใช้พลังเวทย์ขั้นสูงเท่านั้นครับ ไม่เป็นไรหรอกครับฮาฟ ผมยังไหว”


“ถ้าอย่างนั้นมานั่งก่อนไหม”


“ขอเก้าอี้แทนไม่ดีกว่าหรือครับ แบบนี้มันไม่เข้ากับสถานการณ์ยังไงก็ไม่รู้นะครับ” ก็ใครใช้ให้ฮาฟดึงผมลงไปนั่งที่ตักเจ้าตัวแทนเก้าอี้ตัวใหม่ แถมตอนนี้ตัวแทนทั้งสองฝ่ายก็เดินเข้ามานั่งตรงข้ามแล้วเหมือนกัน


“เอาเถอะ เธอก็รีบพูดกกับพวกเขาเสียสิ จะมามัวหาเก้าอี้เสริมกันไปทำไม” แบบนี้ก็ได้หรอครับ พูดเองเออเองเสร็จสรรพ


ผมใช้เวลาคุยกับทั้งสองฝ่ายคล้ายกับที่คุยก่อนหน้าจนได้ข้อสรุปที่เหมือนกันและฮาฟยินดีที่จะรับเรื่องตามที่ผมบอก แถมยังดูเหมือนเรื่องความสัมพันธ์ของเราจะกระจายมากขึ้นไปอีก


เหตุการณ์วันนี้เป็นการตัดกำลังของกลุ่มกบฏพอสมควรเพราะเป็นการดึงประชากรกบฏกลับมาเป็นคนของมทางเรา และผมร่ายเวทย์คุ้มครองกับพวกเขาไปเพราะไม่ต้องการให้ทางปีศาจตนนั้นใช้เวทย์สะกดใจพวกเขาให้เดินไปทางที่ผิดอีกครั้ง




ตอนนี้ผมมาอยู่ที่อาณาจักรปีศาจของอัลพร้อมกับฮาฟที่ขอติดตามมาด้วย ที่อาณาจักรนี้หนักที่สุดครับ เพราะเป็นชาวปีศาจที่เข้ามาเข่นฆ่ากันเองมากกว่ากลุ่มอื่น อัลที่มองภาพตรงหน้าด้วยแววตาปวดร้าว มันไม่เหมาะกับอัลเลยสักนิดแววตาเจ็บปวดแบบนั้น


“อย่าได้เศร้าใจไปเลยครับ ผมจะดึงทุกอย่างกลับมาในทางที่มันควรจะเป็นเองครับ”


“ราส เธอมาได้อย่างไร พระราชาเจ้าก็มาด้วยเช่นกันหรือ”


“ที่อาณาจักรของเรา ราสเข้าไปช่วยเหลือจนสงบแล้วตอนนี้ถึงเลาอาณาจักรของเจ้าเช่นกันจอมมาร”


“ข้าเจ็บปวดยามที่เห็นคนของข้ากำลังเข่นฆ่ากันเองเช่นนี้ เหตุใดถึงไม่ยอมมองว่าตรงหน้าคือเผ่าพันธุ์เดียวกัน”


“เพราะคำสาปที่ติดตามตัวของฝ่ายตรงข้ามอย่างไรเล่า ถึงทำให้ต้องเข่นฆ่ากัน”


“คำสาปหรือ มันเกิดอะไรขึ้นกัน”


“ผมจะกลับมาอธิบายกับพวกคุณอีกครั้งแต่ก่อนอื่นผมขอจัดการเรื่องนี้ก่อนนะครับ”


ผมบอกกับทั้งสองคนก่อนที่จะเริ่มร่ายเวทย์แสงลบล้างคำสาปต่อด้วยเวทย์น้ำชำระจิตใจของทั้งหมดเพื่อล้างจนหมดสิ้น ต่อด้วยเวทย์แสงคล้ายกับที่ผ่านมาทั้งสองครั้ง เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บล้มตายในสงครามครั้งนี้ จนในที่สุดทุกอย่างก็ยุติ และคล้ายเดิม เราเริ่มที่จะพูดคุยเจรจากับทั้งหมดก่อนจะช่วยเหลือและฝ่ายกระจายข่าวตามเดิม


“พรุ่งนี้ผมจะบุกเข้าไปที่ค่ายของพวกมันเพื่อจับกุมตัวหัวหน้า และผมคิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งตัดสินของผมกับปีศาจจิตวิญญาณ”


“มันอันตรายเกินไปที่เราจะเข้าไปในถิ่นของศัตรูแบบนั้น มันไม่ต่างกับเดินเข้าไปให้มันฆ่าเล่นเลยนะราส”


“ผมรู้ครับฮาฟว่ามันอันตราย แล้วเราจะทำยังไงกันละครับถ้าไม่เข้าไปในนั้น”


“เราจะส่งตัวล่อมันออกมาแทน”


“เราจะเอาอะไรไปล่อมันกันครับอัล สิ่งที่มันอยากจะได้ก็คือบังลังก์ของทั้งสามราชาเท่านั้น”


“มันต้องมีหนทาง ข้าว่าเราติดต่อท่านจอมเวทย์ดีกว่า ข้าคิดว่าท่านจอมเวทย์น่าจะช่วยพวกเราได้”


“แบบนั้นก็ได้ครับ”


ไม่ว่ายังไง ผมคิดว่า พรุ่งนี้ต้องเป็นวันตัดสินชะตาของทั้งสามอาณาจักรแล้วละครับ ขอให้สำเร็จด้วยเถอะครับ



TBC.

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กำลังสนุกเลย  o13

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ดูสมูทไปหมดเลยเพราะความ op ของน้อง แต่วิธีการแก้ปัญหาก็แค่นี้แหละ ต้องวางอาวุธ แล้วคุยกันให้ได้แบบที่ควรจะเป็น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#28


“ท่านจอมเวทย์”


“มากันแล้วหรือ ข้ากำลังจะส่งข่าวเรียกพวกเจ้าพอดี”


“มีอะไรหรือครับท่านจอมเวทย์”


“ตอนนี้ข้าจับกุมพวกหัวหน้ากบฏได้แล้วตอนนี้อยู่ที่คุกเวทย์”


“อะไรนะครับ เกิดอะไรขึ้นกัน”


“เหตุใดท่านจอมเวทย์ถึงได้จับกุมเหล่ากบฏได้กัน”


“ข้าก็นึกไม่ถึงว่าทางนั้นจะส่งคนมาลอบฆ่าข้าแบบนี้ ข้าเลยซ้อนแผนล้อมจับ จนได้คนที่ลูกข้าบอกว่าเป็นกบฏมาด้วยทั้งหมด เพราะข้าคาดว่าน่าจะร่วมกันลงมือเตรียมสังหารข้า”


“พวกเราขอไปดูได้ไหมครับ”


“ตามข้ามา”



ตอนนี้พวกเราสามคนมาที่อาณาจักรอิลเทียร์ที่พระราชวังของท่านจอมเวทย์ตามจริงเรามาเพื่อขอคำปรึกษา ใครจะไปคาดคิดว่าท่านจอมเวทย์จะสามารถจับกุมพวกมันก่อนแบบนี้ พวกมันคิดจะล้มราชาไปทีละดินแดนจริงด้วย


ท่านจอมเวทย์พาพวกเราทั้งสามคนไปที่คุกเวทย์เป็นคุกที่ไว้กักกันพวกที่มีเวทย์รุนแรง  เมื่อมาถึงภาพที่เห็นทำเอาคิ้วผมกระตุก


“สองคนเท่านั้นหรือครับ”


“ใช่ เจ้าสองคนนี้เป็นคนที่ลอบเข้ามาหมายสังหารข้าตอนที่กำลังจะเข้านอน”


“แบบนี้ก็แปลว่าเราจับกุมสองในสามกบฏได้แล้วสินะครับ”


“เรายังวางใจไม่ได้ ข้าว่ามันง่ายเกินไป”


“ยังไงกันครับอัลที่ว่าง่าย”


“เธอคิดว่าพวกมันที่วางแผนกันมานานจะยอมให้จับกุมตัวง่ายขนาดนี้กันรึ”


“อย่างที่จอมมารว่ามา ฉันคิดว่ามันกำลังคิดจะลงมือทำอะไรกันอยู่สักอย่าง”


“สายไปแล้วที่พวกเจ้าคิดในตอนนี้ เวลานี้ท่านผู้นำคงจะเข้ายึดครองอาณาจักรของพวกเจ้าหมดแล้ว”


“พวกคุณพูดเรื่องอะไรกันครับ”


“เจ้าเด็กในคำทำนายเอ๋ย ไม่มีวันที่เจ้าจะเข้ามาขัดขวางแผนการพวกข้าได้อีกแล้ว ตอนนี้ท่านผู้นำกำลังเข้าครอบครองทุกพื้นที่ในแผ่นดินนี้ พวกเจ้าไม่มีวันชนะ พวกเจ้าไม่มีวัน อึก”


“เกิดอะไรขึ้น” อยู่ดีๆเจ้ากบฏก็กระอักเลือดออกมาแล้วล้มลงไปนอนดิ้นกับพื้นรวมถึงอีกคนด้วยที่มีอาการเหมือนกัน


“นายท่านดูเหมือนจะมีพลังเวทย์แปลกปลอมในนี้ขอรับ”


“เกิดอะไรขึ้นครับคุณสายลม”


“คุณทรีมอสบอกกับสายลมว่าเวทย์ที่ปีศาจจิตวิญญาณใช้ในตอนนี้คือเวทย์ดูดกลืนขอรับ”



“เวทย์ดูดกลืน”


“เจ้ารู้จักเวทย์ชนิดนี้ด้วยหรือลูกข้า”


“มันคืออะไรหรือท่านจอมเวทย์”


“พระราชาอาจจะไม่เคยได้ยิน เวทย์ดูดกลืนเป็นเวทย์ของทางเผ่าปีศาจ เป็นเวทย์ขั้นสูงที่มีเพียงคนที่มีระดับพลังเวทย์สูงเท่านั้นที่ใช้ได้ มันเป็นเวทย์อันตราย มันจะดูกลืนเอาพลังเวทย์ของคนที่มีพันธะสัญญาต่อกันกลับไปที่ตัวผู้ร่ายเวทย์โดยที่ผู้ที่ถูกดูดกลืนไม่สามารถขัดขืนได้”


“นายท่านเจ้าค่ะ สายน้ำมีเรื่องด่วนมารายงาน”


“มีอะไรหรือครับ”


“จากที่พรรคพวกของสายน้ำส่งข่าวกลับมาตอนนี้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายจากการถูกเวทย์จากปีศาจจิตวิญญาณที่กำลังจะกลืนกินพลังชีวิตของชาวเมืองทั้งสามดินแดนอยู่เจ้าค่ะ”


“มันเรื่องอะไรกันครับ ชีวิตของผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องกลับถูกปลิดทิ้งเหมือนใบไม้ล่วงขนาดนี้”


“นายท่านอย่าได้วู่วาม โปรดระงับความโกรธด้วยเจ้าค่ะ”



“พวกมันต้องชดใช้กับสิ่งที่มันทำ”


“ราสเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”


“ราสเธอเป็นอะไร หันมาคุยกันก่อน”


“ลูกรักเจ้าเป็นอะไร”


ทั้งสามคนพยายามเรียกผมที่ตกอยู่ในวังวนความแค้น


“ผมจะไปจัดการกับมันที่ทำร้ายคนที่ไม่รู้เรื่อง ผมไม่ยอมให้เหล่ามนุษย์ที่คอยปกป้องถูกทำร้ายแบบนี้แน่นอน”


“ถ้าอย่างนั้นพวกข้าจะคอยช่วยเหลือเจ้า”


ผมจับมือทั้งสามคนก่อนที่จะพาวาร์ปมาที่บริเวณที่เกิดเหตุการณ์นอนเลือด ตรงที่พวกเราทั้งสี่คนมาถึงเป็นพื้นดินที่เป็นเขตติดต่อกันระหว่างดินแดนมนุษย์กับปีศาจ มีร่างไร้วิญญาณของประชาชนมากมายทอดร่างอยู่เบื้องหน้าของพวกเรา


“มาแล้วหรือท่านมหาปราชญ์จอมเวทย์ ข้ารอคอยเวลาที่จะได้บดขยี้ท่านมาโดยตลอด และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง”


“หากต้องการสู้กับเรา เหตุใดถึงต้องทำร้ายผู้อื่นกันปีศาจจิตวิญญาณ” ผมก้าวออกมาด้านหน้าเมื่อฝ่ายตรงข้ามสังเกตุเห็นผมแล้วกล่าวท้าทาย


“พวกมันคือขุมพลังของข้า ท่านที่มีพลังมากมายจะมาเข้าใจข้าได้อย่างไร อย่าได้เสียเวลากล่าวกันอีกเลย อีกไม่นานทั่วทั้งแผ่นดินนี้ก็จะเป็นธาตุของข้า อีกไม่นานข้าก็จะสำเร็จ ส่วนพวกเจ้าสามราชา จงหายไปซะ แต่สำหรับท่านมหาปราชญ์จอมเวทย์ พลังของท่านข้าจะขอรับไว้หลังจากที่สังหารท่านเสร็จก็แล้วกัน”


“ถือว่าเป็นคำขอร้องของผม พวกท่านทังสามคนช่วยพาชาวบ้านที่ไม่รง็เรื่องออกไปให้พ้นจากตรงนี้เถอะนะครับ”


“อย่าได้คิดจะทิ้งพวกข้าสองคนไป”


“ผมไม่ได้คิดที่จะทิ้งชีวิต ขอร้องเถอะครับ ช่วยทำตามที่ผมบอกที”


“ทำตามที่ลูกข้าบอกเสียสองราชา ลุกข้าไม่ใช่ผู้อ่อนแอ ข้าเชื่อว่าลูกของข้าแข็งแกร่งพอ”


“ขอบคุณครับท่านจอมเวทย์ที่เชื่อใจ”


“ได้เพราะเราเชื่อว่าเธอจะกลับมา”


“ผมสัญญา” สามราชาเดินห่างออกไปพร้อมกันช่วยกันพาร่างของชาวบ้านรวมกันไว้ที่บริเวณใกล้เคียง


“พวกมันตายหมดแล้วไม่ว่าจะทำยังไงก็ช่วยพวกมันไม่ได้หรอกท่านมหาปราชญ์จอมเวทย์”


“อย่าได้กล่าวมากความอีกเลย ครั้งนี้เราจะต้องกำจัดเจ้าให้หมดสิ้นไม่เหลือสิ่งใดยึดติดอีก”


“ถ้าคิดว่าทำอะไรข้าได้ก็ลองดู”


“เหล่าเวทย์จงรับฟังข้าที่เป็นนายเหนือของพวกเจ้า” ลูกบอลเวทย์ทุกเวทย์ต่างปรากฏล้อมร่างของผมหลังจากที่พูดเสร็จ


“ฝนมืดจงทำลายมันซะ”ฝ่ายตรงข้ามชิงใช้ช่วงเวลาที่ผมเรียกเวทย์เริ่มเปิดฉากโจมตีก่อน


“บาเรีย” “สายฟ้า” ผมเรียกใช้เกราะเวทย์ลมในการป้องกันกับเรียกเวทย์แสงกับน้ำสร้างสายฟ้าโจมตีศัตรูที่พยายามกางเกราะเวทย์ป้องกัน แต่เพราะระดับที่ต่างกันอีกทั้งเกราะของฝ่ายตรงข้ามเป็นเวทย์มืดที่สร้างจึงไม่สามารถต้านพลังของสายฟ้าได้ ร่างของฝ่ายตรงข้ามโดนพลังอัดกระเด็นห่างออกไปจนกระอักเลือด


“กายหยาบที่เจ้าครอบครองมิใช่กายของเจ้า จิตวิญญาณที่ล่องลอยมานานไม่สามารถจะคงอยู่ได้ อีกไม่นานดวงจิตของเจ้าจะดับสลาย เมื่อดวงจิตแตกดับเจ้าจะไม่สารถกลับมาเวียนว่ายตามวัฏจักรได้อีก”


“อย่าได้มาสั่งสอนข้า ท่านก็พูดได้ในเมื่อท่านไม่มีวันตาย”


“เราก็มีอายุไขของเราเช่นกัน และทุกครั้งที่เรากลับมาเกิดใหม่ก็ไม่ได้ต่างจากดวงจิตอื่นเลย”


“ข้าไม่เชื่อ เทพแบบพวกท่านมันเห็นแก่ตัว พวกท่านก็ได้แต่นั่งมองพวกเรารบราข้าฟันจนกลายเป็นเรื่องขบขันของพวกท่านเท่านั้น”


“เหตุใดเจ้าถึงรู้เรื่องราวของเราดีนักหนา เจ้าเป็นใครกันแน่”


“เป็นเพียงแค่ผู้ที่ถูกเบื้องบนทอดทิ้งอย่างไรเล่า ท่านอาจจะยังไม่รู้ ข้าถูกใส่ร้ายจนต้องโดนเนรเทศมาเกิดเป็นปีศาจที่ไม่สามารถมีชีวิตที่สงบสุขได้เลย”


“สิ่งที่ทำให้เจ้าไม่สามารถใช้ชีวิตสงบสุขได้คือความแค้นในใจของเจ้ามิใช่หรือ พวกเราไม่เคยคิดจะทอดทิ้งใคร”


“แต่ท่านก็ทอดทิ้งพวกเราไปเมื่อหมื่นปีก่อนเหมือนกัน”


“นั่นเพราะพวกเจ้าทอดทิ้งข้าในกาลก่อน”


“ท่านอย่าได้กล่าวอ้างอะไรอีกเลย ข้าไม่เชื่อใดๆอีกแล้ว”


“ไม่ต่างอะไรกันเลย”


“ท่านพูดอะไร”


“ไม่ว่าจะมนุษย์ ปีศาจ ชาวเวทย์ หรือแม้กระทั่งเบื้องบน ทุกชีวิตย่อมมีความผิดพลาด ความเห็นแก่ตัว ความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความแค้น ความอาฆาตพยาบาท ไม่ต่างกันทั้งสิ้น เหตุใดกันถึงได้ต่อว่าตัวเองกันในเมื่อทุกชีวิตก็ไม่ต่างกัน”


“ท่านต้องการพูดอะไร”


“เจ้าต้องการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดของตนเองหรือไม่”


“อย่าพูดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้”


“การย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ตนเองเคยกระทำอาจจะไม่สามารถทำได้แต่การยอมรับแล้วแก้ไขสามารถทำได้เสมอ เจ้าคิดเหมือนเราหรือไม่”


“ท่านคิดจะทำอะไร”


“สายลมจงฟังข้า จับตรึงร่างของผู้ที่อยู่ตรงหน้าข้า”


“ท่านจะทำอะไรปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”


“เวทย์แสงจงฟัง จงชำระล้างวิญญาณที่ติดอยู่ในวังวนแห่งความแค้นนี้ให้หลุดพ้นตามเส้นทางที่ถูกต้อง จงชำระล้างจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์แล้วส่งไปในที่ของวิญญาณรอการลงทัณฑ์เสีย”


“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” สิ้นเสียงเวทย์แสงของผมก็เริ่มทำงาน เสยีงกรีดร้องจากดวงวิญญาณร้ายก่อนที่แสงจะดับพร้อมกับร่างที่สถิตจะสลายไปพร้อมกับดวงจิตตรงหน้า



ทุกอย่างรอบข้างเหลือเพียงความเงียบ ผมทำถูกแล้วใช่ไหมครับที่ให้โอกาสกับดวงจิตดวงนั้นเพื่อการชดใช้สิ่งที่เคยก่อ อย่าที่ดวงจิตบอกไว้ ผมก็เคยทอดทิ้งไม่ว่าด้วยเหตุผลไหน ในเมื่อทำผิดพลาดผมก็ต้องยอมรับและลงมือแก้ไข ในครั้งนี้คือการลงมาแก้ไขเรื่องราวของผมเหมือนกัน


ผมกางแขนเพื่อร่ายเวทย์รักษาและฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกทำลาย ครั้งนี้เป็นการใช้เวทย์ที่หนักเกินกว่าที่ร่างกายของผมจะรับไหว ร่างกายของผมเริ่มสั่นสะท้าน พร้อมกับที่เริ่มมีเลือดไหลออกจากริมฝีปากจากผลกระทบจากการใช้เวทย์ระดับสูง


ร่างของผู้คนที่บาดเจ็บล้มตายเริ่มฟื้นกลับมาอีกครั้ง พ่อแม่ต่างเข้ากอดลูกที่ฟื้น สามีภรรยาต่างมอบรอยยิ้มให้แก่กัน บ้านเรือนที่เสียหายถูกทำให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม


“ราส” เสียงของคนรักของผมทั้งสองที่รีบวิ่งมารับร่างของผมที่กำลังทรุดตัวลงไว้ในอ้อมแขนของทั้งคู่ได้พอดี


“ผมแก้ไขเรื่องที่ผิดพลาดแล้ว ดีแล้ว”


“เธอสัญญากับพวกฉันแล้วว่าจะกลับมา”


“ผมกลับมาแล้วยังไงครับ ไม่ได้ทิ้งไปไหน”


“แล้วที่เธอกำลังเป็นอยู่ตอนนี้คืออะไรตอบข้ามาสิราส เธอไม่ได้กำลังจะทิ้งพวกเราใช่ไหม”


“ผมแค่เหนื่อยเท่านั้นครับ อย่าได้กังวลไปเลยครับทั้งสองคน”


“อย่าทิ้งพวกฉันไปนะราส”


“ผมไม่ทิ้งพวกคุณทั้งสองคนหรอกครับ พวกคุณเป็นคนรักของผมนะครับ”


“ข้าดีใจที่ได้ยินแต่เหตุใดใจข้าถึงเจ็บปวดเมื่อได้ฟังกัน”


“ผมแค่พักผ่อนเท่านั้นครับ ไม่นานผมก็จะกลับมาวิ่งเล่นกับพวกคุณเหมือนเดิมแล้ว”


“เราจะรอวันที่เธอกลับมา ไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ ได้โปรดกลับมานะราส”


“ผมจะกลับมาแน่นอนครับอัล ฮาฟ ผมรักพวกคุณนะครับ”



สิ้นสุดคำร่างโปร่งตรงหน้าที่อยู่ในอ้อมแขนของสองราชาก็หลับไป ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ประชาชนที่อยู่รอบข้างไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ไหนต่างหลั่งน้ำตาต่อความเสียสละต่อผู้ที่ช่วยเหลือพวกตน  ทุกคนต่างก้มหัวจนรดพื้นทำความเคารพพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เป็นภาพที่น่ายินดีที่ทุกคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกันและเรื่องราวร้ายๆได้จบลงแล้ว แม้ว่าร่างโปร่งของคนตรงหน้าจะไม่ได้รับรู้การกระทำนี้ก็ตาม


TBC.

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รีบฟื้นมานะราส  :sad4:

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#29


   ผ่านไปสามเดือนหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ร่างบางยังคงหลับใหลอยู่บนเตียงโดยที่มีสามราชาคอยเข้ามาเยี่ยมเยียนเสมอ ตอนนี้ทางสามอาณาจักกรกำลังหารือถึงมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวเลวร้ายอีกครั้ง


“ราส เธอหลับนานเกินไปแล้วนะ”


“พวกข้ารอเธอเสมอ แต่อย่าทำร้ายกันอีกเลยได้หรือไม่”


“ลูกรัก พ่อกับแม่รอเจ้าอยู่เสมอนะราส” เสียงของแม่แท้ๆของราสที่หลังจากเกิดเรื่องจอมเวทย์ก็ส่งบ่าวพร้อมพาเข้ามาเพื่อดูแลลูกชายของตนที่หลับใหลมาตลอดช่วงเวลาสามเดือนที่ผ่านมา









“ตื่นเถิดลูกข้า”


“ท่านผู้สร้าง”


“จงมีชีวิตตามที่เจ้าปรารถนาเถิด อย่าได้กังวลกับสิ่งใดอีกเลย พ่อจะคอยเฝ้ามองอยู่ที่เดิมและรอวันที่เจ้าจะกลับมาหาพ่ออีกครั้งเมื่อสิ้นบุญ”


“ข้าจะกลับมา ขอบคุณท่านอีกครั้ง ท่านพ่อ”


“ไปเถิดลูกรักในเมื่อหายดีแล้ว อย่าทำให้คนที่เจ้ารักและรักเจ้าต้องรอคอยอีกเลย”


“ขอรับท่านพ่อ”


“อืม”








“ราส”


“ผมหลับไปนานแค่ไหนกันครับ” ทำไมเสียงของผมถึงแหบขนาดนี้กัน


“สามเดือนลูกแม่ ลูกหลับไปสามเดือน”


“ท่านแม่ ท่านพ่อ พวกพี่ ท่านจอมเวทย์ อัล ฮาฟ ทุกคน ผมกลับมาแล้วครับ”


หมับ แรงกอดรัดจากร่างของคนรักผมที่กอดรัดทำให้ผมเกิดความเขินอายที่ถูกกอดต่อหน้าผู้อื่น แต่กลับอุ่นใจที่ได้กลับมาหาพวกเขาอีกครั้ง


“ขอบคุณที่กลับมาหาพวกเรา”


“ขอบคุณที่รอผมกลับมาเหมือนกันครับ”


“เอาละ ในเมื่อมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแล้ว ข้าในฐานะพ่ออีกคนของราส ข้าคิดว่าเราควรจะทำทุกอย่างให้ถูกให้ควรเสียที”


“ข้าเห็นด้วยกับที่ท่านจอมเวทย์พูด”


“พวกข้าสองคนจะทำตามที่ท่านพ่อตาแม่ยายบอก”


“พูดเรื่องอะไรกันหรือครับ” ผมที่นั่งฟังอย่าไม่เข้าใจ พวกพี่ผมต่างเอาแต่อมยิ้มมองมาที่ผมที่นั่งงงบนเตียงนอน


“แต่งงานกันนะ” เสียงของคนรักสองคนดังขึ้นพร้อมกันพร้อมกับกุมมือผมไว้


“เอ๊ะ” ผมที่ตกใจได้แต่นั่งตาค้างมองทั้งคู่ก่อนจะมองไปรอบห้องที่มีคนสำคัญของผมต่างรอคอยคำตอบของผม


“ตอบสิราส” พี่สาวของผมเร่งคำตอบจากผม


“ครับ ผมจะแต่งกับพวกคุณ แต่ว่าประชาชน”


“พวกเราจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เรื่องทีท่านทรีมอสบอกกับเราเรื่องสิ่งที่เธอต้องการก็เช่นกัน เราจัดการให้เธอแล้วเหมือนกัน” เป็นอัลที่ตอบคำถามผมเพราะฮาฟเอาแต่นั่งมองหน้าผม


“มีอะไรหรือเปล่าครับฮาฟ”


“ฉันกำลังนึกถึงวันแต่งงานของพวกเราอยู่”


“ฮาฟ เจ้ากำลังนึกถึงวันแต่งงานหรือตอนส่งตัวกันแน่”


“อัล อย่าได้มาถามเรื่องที่เจ้าก็คิดเช่นข้าเลย”


“พวกคุณพูดเรื่องอะไรกันครับ”ผมหลุดพูดเสียงดังกลบเกลื่อนความเขินอายที่ได้ยิน


“เอาละ พวกเราอย่าได้รบกวนคนป่วยเลย เจ้าก็พักผ่อนอีกสักวันสองวันก่อนแล้วกันค่อยมาคุยกันอีกที”


“ครับท่านจอมเวทย์” ทุกคนต่างทยอยเดินออกจากห้องนอนของผม ก่อนที่ผมจะล้มตัวนอนเพื่อพักฟื้นร่างกายต่อ





หลังจากนั้นสามวัน ตอนนี้ผมกำลังเดินสำรวจพื้นที่เขตแดนที่กั้นพวกเราสามดินแดนเอาไว้ ตอนนี้ทังสามราชาต่างทำความเข้าใจกับประชาชนของแต่ละอาณาจักรเรื่องการรวมตัวกันในการดูแลปกครองอาณาจักรแต่ยังคงมีสามาราชาดูแลเช่นเดิม เพียงแต่ประชาชนสามารที่จะเข้าไปอยู่อาศัยในต่างแดนได้อย่างอิสระและมีหน่วยงานที่ตรวจสอบการทงานของสามราชาอีกครั้งในการดำเนินการที่เกี่ยวของทั้งสามดินแดน


สรุปโดยง่ายคือการรวมสามอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียวโดยมีการดูแลจากทั้งสามราชาคล้ายเดิมและมีคณะทำงานที่เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง และสิ่งที่เป็นปัญหาคือเวทย์เขตแดนที่ไม่สามารถปลดได้ตลอดช่วงสามเดือนที่ผมหลับไป ทั้งสามราชาต่างคิดว่าผมน่าจะปลดได้ วันนี้เลยออกมาทดลองกัน


“ขอผืนดินและผืนฟ้าจงรับฟังคำของข้า ในฐานะของบุตรแห่งผู้สร้างแลข้าผู้ที่เป็นผู้ดูแลแผ่นดินนี้ จงปลดเวทย์ที่ขวางกั้นเขตแดนทั้งสามออก เดี๋ยวนี้”


สิ้นเสียงของผม เกิดปรากฏการแผ่นดินสั่นสะเทือนพร้อมกับการคำรามของฟ้าเปรียบเสมือนการตอบรับคำของผม ไม่นานเขตแดนที่เคยขวางกั้นทั้งสามดินแดนก็สลายไปจนหมดก่อนที่จะบังเกิดแสงทั่วทั้งแผ่นดิน เหล่าสัตว์ต่างๆและพืชพรรณต่างยินดีต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้


ผมพาทั้งสองราชามาที่ป่าต้องห้ามที่ตอนนี้ไม่มีม่านพลังคุ่มครองเพราะเรากำลังเปลี่ยนพื้นที่ด้านนอกป่าเป็นที่ตั้งของกระทรวงกลางในการรับเรื่องร้องเรียนของแต่ละอาณาจักรและรวบรวมการทำงานของทั้งสามอาณาจักรไว้ที่แห่งเดียว สัตว์ต่างๆเมื่อเห็นผมก็เข้ามาทักทายรวมทั้งยังเผื่อแผ่ไปที่สองราชาเช่นกัน


เรื่องการแต่งงานของพวกเราต่างถูกกระจายไปทั่วทั้งสามอาณาจักรเพื่อให้ประชาชนแสดงความยินดีต่อพวกเรา ผมฟังเรื่องหลังจากที่หลับไปจากทั้งสองราชาเรื่องของประชาชนที่ถูกผมช่วยไว้ ตอนนี้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนต่างได้รับคำอวยพรจากประชาชนและความเคารพที่มากขึ้น ตอนนี้ทั้งสามอาณาจักรต่างมีแต่ความสุข ผมชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุดเลยครับ



TBC.

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฟื้นแล้วว จะแต่งงานแล้วด้วย  :-[

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#30


วันนี้เป็นวันจัดงานแต่งงานของพวกเราครับ และเป็นวันเดียวกันในการสถาปนาอาณาจักรทั้งสามเหมือนกัน ประชาชนต่างได้รับเกียรติให้เข้าร่วมมาเป็นสักขีพยานในครั้งนี้มากมายโดยไม่แบ่งพันธ์แบ่งชนชั้น


“ข้าสาบานว่าจะรักเจ้าไปจนนิรันด์”


“ข้าขอสาบานจะรักเจ้าไปจนวันตาย”


“ผมขอสาบานว่าจะรัก จะดูแลทั้งสองคนตราบสิ้นลมหายใจ”


“ข้าขอประกาศว่าทั้งสามคนเป็นสามีภรรยากันนับจากวันนี้ตลอดไป”


“เฮ” สิ้นเสียงบาทหลวงประจำอาณาจักรอิลเทียร์ผู้ดำเนินพิธีการครั้งนี้ที่จัดที่กระทรวงกลางที่อยู่กลางสามดินแดน ก็มีเสียงแสดงความยินดีจากประชาชนที่เข้าร่วมงาน


“ต่อไปจะเป็นพิธีการสถาปนาการรวมตัวกันของทั้งสามอาณาจักรเป็นลำดับต่อไป”


พิธีการต่างๆทยอยดำเนินไปจนสุดท้ายเป็นการกล่าวของสามราชาและผมที่ตอนนี้รับตำแหน่งราชินีของสองอาณาจักรเป็นลำดับสุดท้าย


“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ทั้งสองงาน ผมสัญญาว่าจะคอยช่วยเหลือพวกท่านในยามที่เดือดร้อนให้ได้มากที่สุด และอยากจะขออวยพรพวกท่านอีกครั้ง”


“ในนามข้าบุตรแห่งท่านผู้สร้าง ขออำนวยพรให้ทุกคนทุกท่านประสบแต่ผมสำเร็จในทุกๆด้านในทางที่ถูกที่ควร ประสพพบเจอแต่เรื่องดีๆ ขอทุกท่านจงมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นนับจากนี้ตลอดไป”


“เคารพองค์ราชา องค์ราชินี” เสียงสรรเสริญพวกเราสี่คนดังก้องไปไกลจนทำเอาผมน้ำตาซึม สองคนรักต่างกุมมือผมทั้งสองข้างไว้เพื่อปลอบใจ


หลังเสร็จสิ้นพิธีการ ย่อมเป็นงานเลี้ยงที่ทางเราจัดให้กับประชาชนทุกคน พวกเราต่างเปลี่ยนชุดที่ไม่เป็นพิธีการมากนักเพื่อร่วมงานเลี้ยง


“เคารพองค์ราชินี”


“รัล เรน่า” ผมวิ่งไปกอดเพื่อรักทั้งสองท่ามกลางแขกที่เข้าร่วมงาน ก่อนจะถูกแกะตัวออกมาแล้วดันมาอยู่ระหว่างทั้งสองราชาแทน


“ถึงจะเป็นสหายข้าก็หวง”เสียงของอัลดังหลังจากที่ดึงตัวผมมา


“อะไรกันครับ”


“หวง” นี่ก็อีกคนแทนที่จะห้ามกับเห็นด้วยแทน


“พวกคุณสองคนสังกัดตามที่เคยบอกไว้ใช่ไหมครับ”


“ใช่พวกเราสองคนอยู่ในสังกัดที่บอกนายไว้ราส”


“แบบนี้พวกเราก็เจอกันได้แล้วสิครับ”


“แน่นอน ถ้ามีเวลาว่างออกไปเที่ยวแบบที่เคยไปกันนะ”


“ราส ยินดีด้วยนะกับชีวิตคู่ของนาย”


“ขอบคุณครับ แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้ข่าวดีของพวกคุณบ้างละครับ”


“อีกไม่นานหรอก”


“พูดอะไรแบบนั้นกัน”


“ฮ่า” ผมคิดถึงบรรยากาศเก่าๆในโรงเรียนแล้วสิครับ



พวกเราพูดคุยกันจนงานเลิกต่างแยกย้ายกันเพื่อพักผ่อน ผมที่เดินมาเพื่ออาบน้ำก่อนจะเปลี่ยนชุดนอนล้มตัวนอนได้ไม่นานก็ถูกจู่โจมจากสองสามีหมาดๆของตัวเอง


“อะไรกันครับ”


“เธอจะรีบนอนไปไหนกัน นี่เป็นช่วงเวลาผลิตทายาทนะ”


“จะเป็นไปได้ยังไงครับ ผมเป็นผู้ชายนะครับ”


“ข้าเคยบอกแล้วมิใช่หรือ ไม่ว่าราชินีของข้าเป็นเพศใดข้าก็สามารถผลิตทายาทได้”


“และข้าตกลงกันแล้วว่าจะทำให้เจ้ากำเนิดทายาทให้แก่เราทั้งคู่เช่นกัน”


“อะ อะไรนะครับ แต่ผมว่า”


“ได้เวลาแล้ว เริ่มกันเถอะอัล”


“คิดเหมือนข้าเลยฮาฟ”


“อืม” ไม่ทันที่จะได้คัดค้านผมก็ถูกอัลกดริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว ลิ้นร้อนที่ส่งเข้ามาทำเอากายสะท้าน ชุดนอนของผมถูกฮาฟปลดลงพร้อมกันเริ่มใช้ลิ้นของตัวเองเลียไปจนทั่ว


“แฮ่ก” พออัลถอนจูบผมรีบโกยอากาศเข้าปอดทันที


“อะ อือ” ทั้งอัลและฮาฟต่างหยอกล้อกับหน้าอกของผมจนชูชันพร้อมกับสัมผัสร่างกายของผมไปทั่ว ก่อนที่จะมีมือของใครสักคนที่กอบกุมแก่นกายของผมไว้จนผมต้องบิดตัวเพื่อหนีสัมผัส


“ทะ ทำอะไรครับ อือ มัน อ่า มันสกปรกนะครับ”


“รู้สึกดีอยู่สินะ”อัลไม่ได้ฟังมที่ผมพูดแต่กลับครอบปากลงไปที่ยอดของแก่นกายแทน


“ฮาฟ อึก เจ็บ”


“ชูว์ อย่าเกร็งนะ ใจเย็น” ผมสะดุ้งทันที่ที่ฮาฟเลื่อนมือไปที่ช่องทางด้านหลังพร้อมกับกดนิ้วเข้ามาในตัวผม มันอึดอักแปลกๆแต่ปนกับความเสียงเช่นกัน


“เริ่มแล้วสินะ” ผมรับรู้ได้ว่าช่องทางของตัวเองมีน้ำออกมาเพื่อหล่อลื่นนิ้วของฮาฟที่ยังคงเพิ่มขึ้นพร้อมกับกดย้ำบริเวณรอบพนังด้านในจนผมกระตุกปลดปล่อยออกมาเมื่อโดนจุดด้านในตัวเอง


“ใจเย็นๆนะ ข้าจะทำเบาๆ” อัลบอกผมก่อนที่อาฟจะก้มลงมาจูบผมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากส่วนล่าง รู้สึกตัวอีกทีความเจ็บที่แล่นขึ้นมาจนผมสะดุ้งเกร็งตัวพร้อมกับเสียงครางของอัล


“อืม อย่าเกร็งราส มันจะทำให้เธอเจ็บกว่าเดิม” ผมพยายามทำตามที่อัลบอกพร้อมกับที่ฮาฟปลุกแก่นกายของผมอีกครั้งจนตังตรง


“อ้ะ อ้ะ  อัล”ผมครางเรียกชื่อคนที่ขยับสะโพกเข้าใส่ตัวผมเพราะความเสียงซ่านที่ได้รับจนลืมเลือนทุกอย่าง ผมคว้าแก่นกายขนาดใหญ่ของฮาฟก่อนจะยกตัวกลืนกินทางปาก จนเกิดเสียงครางจากเจ้าของ


“อ่า ราส อืม สุดยอม” เสียงครางของทั้งสองคนยิ่งกระตุนอารมณ์ของพวกเรามากขึ้นจนอัลปลดปล่อยออกมาพร้อมกับผม ความอุ่นร้อนที่ได้รับจนรู้สึกร้อนไปทั่วท้องก่อนที่อัลจะถอนตัวออกและฮาฟก็สอดใส่เข้ามาทันที


“อืม สุดยอดราส”


“อ้ะ ฮาฟ อ้ะ” ผมคราสงจนเสียงเริ่มแห้ง อาฟกดย้ำลงมาตรงจุดด้านในตัวผมจนผมต้องปลดปล่อยออกมาอีกครั้งก่อนที่อาฟจะปล่อยตามออกมาในเวลาต่อมา อาฟถอนตัวออก ผมรู้สึกโล่งทันที ขาสั่นระริกจากกิจกรรมครั้งแรกของตัวเอง


“ไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่า” อัลพูดก่อนจะช้อนตัวผมอุ้มไปชำระล้างร่ายกายกับเอาน้ำที่ค้างออกจากช่องทาง ก่อนจะพาผมเดินกลับมาที่เตียง ฮาฟหยิบเสื้อผ้ามาใส่ให้ผมก่อนจะเดินมาล้มตัวนอน เราสามคนต่างหลับตามกันไปในที่สุด พร้อมรอยยิ้มติดมุมปาก


TBC.


ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#31


   หลังจากวันนั้นไม่นานก็เกิดข่าวดี ตอนนี้ผมกำลังท้องครับ มันเป็นเรื่องจริงอย่างที่อัลเคยบอก และดูเหมือนว่าผมจะท้องใหญ่กว่าที่คาดไว้ด้วยนะครับ ทั้งสองราชาต่างตามดูแลจนไม่เป็นอันทำงานจนผมต้องคอยไล่ให้กลับไปทำงานเสมอ


ชีวิตของผมตอนนี้บอกได้แต่ว่าสมบูรณ์แบบมากครับ มีคนรัก มีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสหายที่ดี  ผมไม่เคยเสียใจที่ได้ย้อนกลับมาแก้ไขในครั้งนี้ ผมกำลังสร้างบันทึกเล่มใหม่ให้แก่คนรุ่นหลังได้อ่านมัน


“นั่งยิ้มอะไรคนเดียว”


“หนีงานมาอีกหรือเปล่าครับทั้งสองคน”


“เปล่างานของข้ากับฮาฟเสร็จแล้ว”


“อย่าให้รู้ว่าหนีงานนะครับ”


“พวกฉันไม่กล้าหรอก เดี๋ยวเธอจะโกรธอีก”


“ดีมากครับ” ฟอด ฟอด ผมหอมแก้มทั้งสองคนเป็นรางวัล


“วันนี้อาการเป็นอย่างไรบ้าง”


“ปกติดีครับ แต่ดูเหมือนจะมีแต่คนทักว่าท้องใหญ่เกินไป”


“บางทีเราอาจจะได้ลูกแฝดก็ได้นะ”


“ถ้าจริงก็ดีนะครับ โอ้ย”


“ราสเป็นอะไร”


“เจ็บท้องครับ”ผมบอกฮาฟก่อนจะถูกอัลอุ้มมาที่ห้องนอน ฮาฟที่ตามหมอมาทันที


“กำลังจะคลอดแล้วพะยะคะ” เสียงหมอจากอาณาจักรรัสเทียร์ของอัลที่คอยดูแลเพราะว่าเป็นท้องของผู้ชายและลูกในท้องก็เป็นสายเลือดปีศาจจึงเหมาะที่จะให้หมอที่เชี่ยวชาญมาดูแล


“ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมคลอดเลย”


ไม่เกินสองชั่วโมง เสียงเด็กทารกสองเสียงก็ดังขึ้นเรียกสติของผมที่ล่องลอยให้กลับมา ผมมองไปที่เด็กสองคนที่อยู่ในห่อผ้าที่อัลกับฮาฟกำลังอุ่มอยู่ด้วยรอยบยิ้ม


“ราส ลูกของพวกเราเป็นผู้ชายทั้งคู่เลยนะ”


“ไหนๆหลายปู่คลอดแล้วหรอ ดียิ่งแบบนี้ก็มาจัดงานกันเถอะ” ท่านจอมเวทย์ที่เห่อหลานยิ่งกว่าใครพูดด้วยน้ำเสียงยินดีพร้อมกับออกไปป่าวประกาศถึงการเกิดขององค์ชายทั้งสอง


“ขอบคุณนะที่ทำให้พวกข้ามีความสุขขนาดนี้ ขอบคุณจริงที่รักของข้า”


“ฉันด้วย ขอบคุณที่ให้กำเนิดลูกที่น่ารักของพวกเรานะราส รักนะ”


“ผมก็รักพวกคุณครับ” ความสุขที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอวนไปทั่วทุกพื้นที่หลังจากที่ได้ยินคำประกาศ ประชาชนต่างโห่ร้องแสงความยินดีมากมายทั่วทุกหย่อมหญ้า




ผ่านไปสองปีเด็กชายทั้งสองต่างเติบโตแสดงความสามารถของตนเองออกมาเหมือนบิดาทั้งสองแม่จะยังเล็กแต่ก็สามารถเรียนรู้ตำราต่างๆได้อย่างรวดเร็ว


เรื่องราวของชีวิตของผมก็ยังคงดำเนินต่อไปตามทางแห่งโชคชะตาของผมและพวกเขา ทุกย่างเกิดจากชะตาของพวกเราและความรู้สึกของพวกเราที่ช่วยกันขับเคลื่อนไปจนในที่สุดก็มีวันนี้เกิดขึ้น


ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาให้เราได้เรียนรู้ ได้จดจำ ได้แก้ไข ล้วนเป็นบทเรียนที่เราทุกคนต่างต้องเผชิญกับการทดสอบจากเบื้องบน ว่าเราจะสามารุก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆได้หรือไม่ และเมื่อก้าวผ่านมันมาแล้ว สิ่งที่คงอยู่ย่อมสวยงามเสมอ

.

.

.

.

.

.

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด


“ราส”


“ราส”


“ราส”


“ราสเต้ ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วนะ นายจะสายเอานะถ้าไม่รีบตื่น” หญิงสาวรางสูงหน้าตาดีหุ่นนางแบบยืนเขย่าแขนร่างบางบนเตียงที่ดูเหมือนจะไม่ยอมลุก


“ตื่นแล้วครับพี่” เสียงหวานที่ดังออกมาก่อนที่เปลือกตาจะเปิดขึ้น เส้นผมสีน้ำตาลดุจแพรไม้ตัดกับผิวขาวละเอียด ไหนจะดวงตาสีน้ำผึ้งที่แปลกตาที่บ่งบอกความง่วงงุน


“ตื่นแล้วก็อย่าแอบหลับต่อละ วันนี้มีเรียนเช้านี่ ไปช้าอาจารย์ปิดห้องนะ พี่ไปทำงานก่อนแล้วกัน รีบไปมหาลัยล่ะ”


“ครับ” หลังจากที่พูดจบร่างสูงของหญิงสาวก็เดินออกจากห้องไป จนเหลือเพียงร่างที่ยังนั่งเหม่อบนเตียงของตนเอง


“ฝันไปอย่างนั้นหรอ สมจริงจังเลยนะ” ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเจอหนังสือนิยายเล่มใหม่ที่ตนกำลังติดอยู่ช่วงนี้ที่ข้างหมอน


“สงสัยจะอ่านจนเก็บไปฝันต่อ เฮ้อ ไปอาบน้ำไปมอดีกว่า” กล่าวจบก็หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่ทันได้สังเกตว่าหนังสือนิยายของตนกำลังแปร่งแสงเองจากตัวหนังสือของชื่อเรื่อง “ผมเป็นพ่อมดฝึกหัดที่ชอบผู้ชายครับ”




The End

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จบซะแล้วว นิยายสนุกมากๆค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เป็นนิยายวายแฟนตาซีที่น่ารัก ใสๆ อ่านสบายๆ น้องราสน่ารัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด