## พันธะพัวพัน ## [ตอนที่ 29:: คนรู้จัก] UPDATE 20/10/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ## พันธะพัวพัน ## [ตอนที่ 29:: คนรู้จัก] UPDATE 20/10/62  (อ่าน 48212 ครั้ง)

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
มีตัวละครเพิ่มมาแล้ววววว

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
พัวพันยุ่งเยิง-*-ชีวิตนายเอกหลายชาย
ติดตามรอตอนต่อไป

ออฟไลน์ TNM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นิยายเรื่อนี้ดีมากจ้า ฮาเร็มสุดๆ รักเลยยยยยย

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ได้เรียนรู้และทำความรู้จักตัวละครไปพรัอมกับรัณย์เลย 55 :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รัณย์ คนก่อนคงนิสัยไม่ดีถึงขั้นแย่
ดูจากปฏิกิริยาของคนที่ต้องทำงานด้วย

คนรู้จักโผล่มาอีก ท่าทางก็ไม่ได้ดีกับรัณย์
แม้รัณย์ จะเป็นแบบนี้แต่รัณย์เป็นที่สนใจของคนหลายคน
แบบยึดติด หวง คลั่งใคล้ ขนาดซื้อคอนโดให้

แต่ทำไมรัณย์กลับหลงใหลลูเซียน
เพราะลูเซียนไม่สนใจรัณย์ ทั้งที่มีแต่คนสนใจรัณย์
รัณย์ ชอบลูจริงๆ หรือแค่อยากเอาชนะกันแน่  :hao3:

์ไทด์คนนี้แต่งตัวสบายๆ ดูเซ่อๆ ------ เซอร์ๆ  หรือเปล่า
ใจปล้ำ ------ ใจป้ำ
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
หื้ออออ เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมาก

ไม่ต้องไปสนใจใคร เริ่มใหม่ ยังไม่สายเนอะๆๆ

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
- ตอนก่อนหน้า
อ้าวๆ กลับมาหาลูเซียนไมอ่ะ แล้วที่บอก "ทุกอย่าง"
นี่อ่านไปตาปริบๆ ไป
งี้ก็กลับมาพัวพันกะลุงลูแทนอ่ะดิ โอ...ไม่นะ!
 :z3:

- ตอนเมื่อกี้
มาเจอไทด์ขาโหดนี่อีก
แถมบรรทัดสุดท้ายยังมี อิตาคุณไกร เพิ่มเติม โอยยยยยย ปวดหมอง
 :hao5:

เค้าทีมอีวานนนนนนนนนนนนนน
ทีมอีวาน!
ทีมอีวาน!!
ทีมอีวาน!!!

กดบวกและเป็ดขอบคุณ
ปล.1  เค้าขอโทษ 2-3 ตอนก่อนหน้าไม่ได้เม้นต์เพราะเค้าหนีเท่วมา  อย่างอนเค้าน้าาาาาาา

ปล.2 ตอนบอกว่าทุกอย่าง นี่จิ้นจ้านกับลูเซียน
นึกว่าลูเซียนจะยื่นข้อเสนอให้เอาตัวจ้านมา จะได้ปล่อยรัณย์ไปไรงี้
แต่พอตอนล่าสุดเจอไทด์ เลยจิ้นจิ้นจ้านกับไทด์แล้ว
ปล่อยลูเซียนเป็นลุงบ้างานต่อไปเถอะ อุอุอุ
 :mew3:

ปล.3 เกือบลืม ชอบเรื่องนี้มาก
เป็นเรื่องที่กดรีเฟรช F5 รัวๆ (โดยเฉพาะช่วง 6 โมง ที่บอกจะมาอัพ) เพราะอยากอ่านต่อใจจะขาด
เลยแนะนำที่นิยายเรื่องต้องอ่านแหละ
เป็นกำลังใจให้
ดีใจที่คนแต่งใจดีมาอัพที่เล้าเป็ดแห่งนี้ให้ได้อ่านด้วย
แธงยู โซมัช
 :pig4:

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฮืออออออ ชอบมากค่ะ สำนวนดี ภาษาสวย อ่านแล้วอินง่าย ลุ้นตลอดดดดด  :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ La_Pomme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
บทที่ 9
::หาเรื่อง::





‘รัณย์ อยู่รินเหล้าให้ก่อนสิ’

ลูกค้าชายท่านหนึ่งชูแบงค์พันต่อหน้า จากนั้นก็จับยัดใส่กระเป๋าเสื้อผมโดยไม่ถามถึงความสมัครใจสักคำ วิธีการแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอ

เดาว่าตั้งแต่คนในไนต์คลับเห็นผมทำใส่ชุดพนักงานเสิร์ฟเดินไปเดินมา พวกเขาคงมั่นใจแล้วว่าผมทำงานที่นี่จริงๆ ถึงเอาแต่พูดทักทายผมทั้งๆ ที่ก่อนหน้าแค่มองอย่างสงสัย บางคนเรียกผมให้ไปหาที่โต๊ะ ถือโอกาสพูดจาเย้ยหยันตอนสั่งเครื่องดื่ม บ้างก็แสดงความอยากรู้อยากเห็นซะจนผมเหนื่อยกับการตอบคำถาม รู้แล้วล่ะว่าส่วนมากลูกค้าของที่นี่จะรู้จักผม แถมมีคนมากกว่าครึ่งที่ไม่ค่อยชอบหน้า พวกเขาถึงได้มองผมด้วยสายตาดูถูก หรือไม่ก็อยากซ้ำเติมผมให้จมดิน แล้วไหนจะมีพวกที่แอบแตะเนื้อต้องตัวผมอีก

หลายวันมานี้ผมต้องอดทนกับปฏิกิริยาของลูกค้าที่ต่างกันไป ยิ่งเป็นคนไม่ชอบขี้หน้าผมอยู่ก่อนแล้วก็จะเข้าใจง่ายหน่อย เพราะนอกจากโดนแกล้งให้เดินไปมาเป็นสิบรอบ ผมยังโดนคำพูดถูกทั้งต่อหน้าและลับหลัง ราวกับคนพวกนั้นผ่านมาเห็นคนล้มแล้วยกเท้าเหยียบซ้ำ ซึ่งผมก็ได้แต่ปั้นรอยยิ้มกลับอย่างเดียว บอกให้นั่งรินเหล้าให้ผมก็ทำ ในบางกรณีถึงขั้นเรียกเงินแข่งกันเพื่อได้ผมไปบริการ ฟังแล้วเหมือนผมสำคัญมาก แต่เปล่าเลย ยิ่งทำแบบนี้ผมก็ยิ่งรู้สึกแย่

มันไม่ใช่ว่าพวกเขาพิศวาสผม แต่อยากแสดงให้เห็นว่าอยู่เหนือผมมากกว่า...

ผมทนทำงานที่นี่เพื่ออะไร ความอยู่รอด? หนีบางอย่าง? เงิน? อยู่ตรงนี้นานวันก็ยิ่งรู้จักอดีตมากขึ้น เหมือนเอาตัวเองมาอยู่ในที่ที่เป็นความทรงจำทั้งๆที่ผมอยากหนีมันแทบตาย แน่นอนว่าผมเปลี่ยนตัวเองได้ แต่ก็ใช่ว่าคนอื่นจะเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ พวกเขายังมองผมเป็นกรัณย์คนก่อน ต่อให้เปลี่ยนยังไงมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นอยู่ดี

หลังเลิกงาน ผมไปที่ตู้ล็อคเกอร์เปลี่ยนเสื้อผ้า จัดการถอดเสื้อกักอย่างลวกๆ ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด ระหว่างนั้นผมได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาทางนี้จึงรับหันไปมอง ก็พบว่าเขาคือชายผิวเข้มที่มีหน้าที่สอนงานผม แต่กลับไม่เคยทำ ใช้อำนาจสั่งการมากดขี่ผมราวกับต้องการประกาศให้รู้ว่าเกลียดผมมาก

“นายยังไม่ได้เช็คสต๊อกที่เหลือ”

ไทด์เดินไปตรงตู้ล็อคเกอร์ของตัวเอง จากนั้นก็ถอดเสื้อออกจนเปลือยท่อนบนเหมือนผม เขาพูดเรื่องเช็คสต๊อก คงหมายถึงการนับพวกลังเหล้าเบียร์หรือโซดาแล้วตรวจสอบข้อมูลสั่งซื้อเพื่อดูว่าคืนนี้ขายไปเท่าไหร่ สั่งการผมซะดิบดี จากนั้นก็ให้น้องคนหนึ่งมาบอกวิธีการ ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าหน้าที่เช็คสต็อกเป็นน้องคนนั้นที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว

มาอีหรอบนี้ ไทด์จงใจหาเรื่องผมแหงๆ

“พรุ่งนี้ผมจะรีบมาจัดการให้ครับ”

“กับอีแค่เช็คสต็อกไม่กี่นาที ทำไมต้องรอพรุ่งนี้ด้วย” ไทด์ยืนเท้าเอวพลางจ้องเขม็ง เมื่อกี้กำลังจะเปิดกระเป๋าเพื่อเอาเสื้อตัวเองออกมา แต่พอได้ยินอย่างนั้นผมก็ต้องหยุดไว้ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ความจริงผมต้องเลิกงานตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่คุณบอกให้ผมเก็บโต๊ะห้องวีไอพีก่อนผมก็ไปทำให้ แล้วแบบนี้ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปเช็คสต๊อกล่ะครับ” ผมอธิบายด้วยเหตุผล

“ฉันบอกให้จัดการห้องวีไอพีตั้งแต่สามชั่วโมงก่อน แต่นายดันมาเร่งทำเอาตอนใกล้เลิกงานเอง”

“ผม...” จะพูดอะไรได้อีก ถ้าเขาว่ามาแบบนั้นอธิบายไปก็เปล่าประโยชน์ อีกอย่างเขาก็พูดเรื่องจริง ช่วงเที่ยงคืนเขาบอกให้ผมไปจัดการห้องวีไอพี แต่ผมกลับติดลูกค้าอยู่เลยหาทางปริตัวไปไหนไม่ได้ และกว่าจะนึกถึงเรื่องห้องวีไอพีได้อีกทีก็ใกล้เลิกงานแล้ว

“เพราะมัวเอาเวลาไปยุ่งกับลูกค้าอยู่ ก็เลยไม่มีเวลาสินะ” ไทด์เดินเข้ามาใกล้ผม ทำให้เห็นซิกแพคของเขาชัดขึ้นไปอีก “ไอ้การพยายามจะบริการลูกค้ามันก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าอยากได้มากกว่านี้ ฉันว่านายกลับไปเป็นอย่างเมื่อก่อนแทนที่จะมาเดินวนเวียนให้เกะกะลูกตาฉันดีกว่านะ”

ผมขบกราม สูดหายใจเข้าลึกๆ หยิบเสื้อมาใส่จนเรียบร้อยก่อนจะหันไปพูดกับไทด์ตรงๆ

“มีอะไรที่พอจะทำให้คุณเลิกเกลียดผมมั้ย” จังหวะที่กำลังรอคำตอบ ชายตรงหน้าแสยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ไปให้พ้นหน้าฉันสิ”

พูดจบก็เดินไปใส่เสื้อของตัวเองแล้วผิวปากอย่างสบายใจ เอ่ยปากไล่กันขนาดนี้ เรื่องที่เคยคิดว่าผมกับเขาอาจเข้ากันได้สักวันแทบจะถูกโละจากสมอง และเชื่อเถอะว่าฝืนทำต่อไปก็รังแต่จะทำให้ตัวเองเหนื่อยใจเท่านั้น

เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย... ผมควรทำตามที่ไทด์พูดสินะ











 

วันต่อมา ผมนั่งรถแท็กซี่ไปที่บริษัท CX Enterprise แต่พนักงานบอกว่าลูเซียนไม่ได้เข้าบริษัท พอสอบถามก็ได้ว่าเขาอยู่ที่สปอร์ตคลับในสาขาที่เพิ่งเปิดใหม่ ผมจึงนั่งรถตามไป หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงที่หมาย

เมื่อเดินขึ้นไปด้านบน พบห้องออกกำลังกายขนาดกว้างขวาง ขณะที่กำลังมองหาลูเซียน สายตาก็เจอเข้ากับชายร่างสูงที่กำลังออกกำลังกายอยู่ตรงเครื่องสร้างกล้ามเนื้อ และแน่นอนว่าคนที่ยืนอ่านเอกสารอยู่ตรงมุมห้องคือเลขาคนสนิทของเขา

ไม่รอช้า... ผมเดินเข้าไปหาคุณเลขาทันที

“ขอโทษนะครับ” ผมกล่าวทักทาย ก่อนจะเอ่ยต่อ “ผมขอคุยกับลูเซียนสักครู่ได้มั้ยครับ”

คนตรงหน้าจ้องผมอย่างสงสัย กำลังคิดว่าเขาคงจะถามถึงเหตุผล แต่ไม่เลย เพราะทันทีที่ผมบอกความต้องการเขาก็เดินเข้าไปกระซิบกระซาบกับลูเซียน ใช้เวลาไม่นานเขาก็เดินกลับมาบอกให้ผมเดินไปตรงเครื่องออกกำลังกายที่ผู้เป็นนายกำลังเล่นอยู่

“สิบนาที”

อีกแล้ว? พูดคำอื่นไม่เป็นรึไง

“ผมขอเปลี่ยนงานได้มั้ยครับ จะให้ผมมาเป็นพนักงานของที่นี่ก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่งานที่ไนต์คลับนั่น” ผมพูดเข้าเรื่องโดยไม่มีการอ้อมค้อม และทันทีที่สิ้นเสียงผม เขาก็ทำเสียงขบขันในลำคอ

“อุตส่าห์คิดว่านายจะดิ้นรนมาหาฉันภายในหนึ่งอาทิตย์ให้หลัง แต่นี่เพิ่งผ่านมาแค่สามวัน... ความอดทนของนายมีแค่นี้สินะ” ลูเซียนยังเล่นเครื่องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

“เรื่องใช้งานหนักผมไม่เกี่ยงอยู่แล้วครับ ขอแค่ไม่ต้องมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าก็พอ ถือว่าผมขอร้อง”

“มีงานไหนบ้างที่ทำแล้วไม่มีปัญหา” ลูเซียนหยุดละมือจากเครื่องออกกำลังกาย นำผ้าหนูที่พาดอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาเช็ดเหงื่อ “คนทำงานมันต้องรู้จักแก้ไขสถานการณ์ ไม่ใช่เดินหนีมัน ไม่อย่างนั้นชีวิตนายจะไปเจอความสำเร็จได้ยังไง หรือถ้ามันท้อแท้นักก็เลิกไปสิ ไม่มีใครห้ามนายอยู่แล้ว... ดีเหมือนกัน ฉันจะได้รู้ว่าคนอย่างนายไม่มีวันเลิกเป็นแบบเดิมได้”

ท่าทางเย็นชา เมินเฉยต่อทุกอย่างจนผมอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจจะชอบใจที่ผมตกอยู่ในสถานการณ์นี้

“คุณให้ผมไปเป็นพนักงานเสิร์ฟทั้งๆ ที่รู้ว่าลูกค้าที่คลับมองผมยังไง... คนที่ชื่อไทด์นั่นก็ด้วย คุณรู้อยู่ก่อนแล้วใช่มั้ยว่าเขาเกลียดขี้หน้าผม ถึงได้สั่งให้เขามาเป็นคนสอนงาน”

“ไทด์มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพนักงานเสิร์ฟ ฉันฝากนายไว้กับเขาก็ถือว่าให้เกียรติ์มากแล้ว ส่วนเรื่องลูกค้า ฉันจะตรัสรู้ได้ยังไงว่านายเคยมีปัญหากับใครมาบ้าง... ถ้าจะโทษก็โทษที่ตัวนายเอง ไม่ใช่โยนความผิดให้คนอื่น”

คำพูดของลูเซียนทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก

ก็ใช่! ผมกำลังหนีปัญหาและพยายามหลีกหนีในสิ่งที่ตัวเองเคยเป็น แต่นั่นเป็นเพราะผมอดทนรับรู้เรื่องราวในอดีตไม่ไหว ทำไมผมต้องฟังคำพูดดูถูกของคนอื่นทั้งๆ ที่คนพวกนั้นไม่เข้าใจตัวตนในปัจจุบันของผม และถ้าจะเริ่มต้นใหม่จริงผมก็ควรมีโอกาสได้รู้จักกับคนใหม่ๆ ไม่ใช่หรอ

ลูเซียนลุกจากเครื่องออกกำลังกาย แล้วใช้สายตาคมจดจ้องผม

“อย่าคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนนาย เพราะการใช้คนอื่นมาจัดการกับอีกฝ่ายไม่ใช่วิธีของฉัน” ใบหน้าเรียบเฉยแต่กลับแฝงไปด้วยความน่ากลัว “คนอย่างฉันมันต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน ถ้าฉันล้มอีกฝ่ายต้องจมดิน... และถ้าฉันบาดเจ็บ อีกฝ่ายก็ต้องตายเท่านั้น”

ลูเซียนมองอย่างเอาจริงเอาจังซะจนผมต้องเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน ทีนี้ก็คิดต่อว่าควรเอายังไง เขาพูดมาขนาดนั้นผมจะเชื่อแล้วกันว่าไม่ได้จงใจกลั่นแกล้ง และถ้าผมยอมแพ้ก็เท่ากับปล่อยให้เขามาดูถูกอีกคนถูกมั้ย

“ผมเข้าใจแล้ว”

“สรุปว่าจะเลิก?”

“ไม่ครับ” ชายตรงหน้าได้แต่ผมมองโดยไม่พูดอะไรกลับมา จนเมื่อเขาทำท่าจะเดินไปผมจึงรีบว่าต่อ “แต่ผมอยากขอวันหยุดเพิ่มหนึ่งวันเป็นทำงานอาทิตย์ละห้าวัน จะได้มั้ยครับ”

“เหตุผล?”

“ผมต้องมีเวลาอ่านหนังสือก่อนสอบเข้ามหา’ลัย”

“นายจะเรียนต่อ?” เขาย้ำพลางทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ “ข้ออ้างดีดีที่พอจะทำให้ฉันเชื่อมีตั้งร้อยแปดอย่างทำไมไม่เลือกมาใช้ หรือในสายตานายฉันดูเป็นคนโง่มาก”

“ผมตั้งใจจริงนะครับ!” สวนกลับด้วยความหนักแน่น พร้อมเพ่งสายตามองลูเซียนอย่างจริงจัง

“กลับไปทำงานซะ”

“แล้วเรื่องวันหยุด...”

“จะกลับไปทำงานหกวัน หรือเปลี่ยนเป็นทำทั้งอาทิตย์แบบไม่มีวันหยุด”

ผมสตั้นไปสิบวิ... จากนั้นก็พยักหน้าหงึกๆ อย่างจำยอม

















TBC

NEXT UPDATE 18/05/61 TIME 20:00

วันนี้ลงเลทไปตั้ง 1 ชั่วโมง โกเมนน๊าาา พรุ่งนี้สัญญาจะลงตามเวลาเลย และขอบคุณที่ช่วยดูคำผิดให้ด้วย น่ารักมากๆ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2018 01:06:48 โดย La_Pomme »

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
โถ รัณย์ อดทนไว้น้า สักวันจะมีคนเห็นว่ารัณย์ได้เปลึ่ยนไปแล้ว

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ใจร้ายจังลูเซียน

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เริ่มพัวพันกับลูเซียนใหญ่แล้ว
เมื่อไหร่อีวานจะมา ค่าตัวแพงมากชิมิ จ่ายด้วยบวกและเป็ดไปพลางๆ
 :mew3:
อยากอ่านอีกๆๆๆๆ
อีวาน!
อีวาน!
อีวาน!

ออฟไลน์ La_Pomme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
บทที่ 10
::โทรบอกอีวาน::





ผมยังคงทำงานที่ไนต์คลับ ต้องเจอสารพัดเรื่องแย่จากไทด์ผู้เป็นคนสอนงาน ความตั้งใจของเขาคงพูดได้ว่าทำทุกอย่างเพื่อให้ผมหมดความอดทน เวลาเห็นผมตกที่นั่งลำบากก็จะรู้สึกชอบใจจนอยากปรบมือดังๆ

ทนกับไทด์ว่างานหินแล้วแต่ก็คงไม่เท่ากับบรรดาลูกค้า อย่างวันก่อนมีชายวัยกลางคนเข้ามาขอเบอร์ บอกว่าสนใจผมนานแล้ว เห็นกำลังลำบากก็เลยเสนอตัวรับเลี้ยง ให้ผมรีบไปลาออก อยากได้เท่าไหร่ต่อเดือนก็ว่ามา ขอแค่ไปอยู่กับเขาพร้อมข้อแลกเปลี่ยนนิดหน่อย ผมฟังคนที่อายุห่างจากผมหนึ่งรอบด้วยความลำบากใจ แต่ก็ต้องปฏิเสธไป

เมื่อถึงวันหยุด ผมคิดว่าก่อนจะอ่านหนังสือควรทำให้สมองปลอดโปร่งก่อน เพราะก่อนหน้านี้ผมใช้เวลาอ่านก่อนไปทำงานทุกครั้ง แต่พอกลับมาตอนดึกก็จำไม่ค่อยได้แล้ว ตอนเช้าวันนี้ผมเลยตัดสินใจไปวิ่งออกกำลังกาย โดยใช้ถนนใกล้ๆ กับคอนโดวิ่งวนในซอยไปมา จนถึงสองโมงเช้าผมก็วิ่งขึ้นชั้นยี่สิบหกโดยไม่ใช้ลิฟต์

การออกกำลังกายเป็นไปด้วยดี กว่าจะวิ่งมาถึงหน้าประตูผมก็ได้เหงื่อเพียบ เมื่อเปิดเข้าไปในห้องผมเห็นจ้านนั่งทำอะไรบางอย่างอยู่ตรงโซฟา มีกระดาษใบเล็กๆ อยู่ในมือเขาในขณะที่รอบตัวมีแต่ถุงกับอะไรกล่องอะไรเต็มไปหมด พอเดินเข้าไปใกล้ก็พบว่าถุงพวกนั้นบรรจุพวกของแบรนด์เนม มีทั้งนาฬิกา รองเท้า เสื้อผ้า และอื่นๆ อีกมากมาย ผมกำลังจะทักว่าจ้านซื้ออะไรมาเยอะแยะ แต่ทันทีที่เห็นสีหน้าเขาความคิดของผมก็เปลี่ยนอย่างฉับพลัน

จ้านนิ่งเกินไป ขนาดผมเดินเข้ามาใกล้ขนาดนี้เขายังไม่พูดอะไรสักคำ ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่แปลกก็คงเป็นข้าวของพวกนี้ แม้ครอบครัวของจ้านจะร่ำรวยแต่เขาก็ไม่ได้มีนิสัยใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ผมอยู่กับเขามาเป็นอาทิตย์ย่อมสังเกตเห็น เพราะสิ่งของที่เขาใช้ไม่มีสิ่งไหนเกินตัว ของใช้หรือทุกอย่างในห้องดูเรียบง่าย บางอย่างดูมีระดับแต่ไม่ถึงขั้นแพงหูฉีก

แล้วไอ้ของแบรนด์เนมพวกนี้ จะใช่ของเขาแน่หรอ

“จ้าน ของพวกนี้ คือ...”

ผมพูดจบ จ้านก็นำกระดาษในมือยื่นมาให้ผม “อ่านดูสิ”

จากนั้นเขาก็เดินออกไปตรงระเบียง ทิ้งให้ผมอยู่กับกองของแบรนด์เนมและกระดาษใบเล็กๆ ในมือ มันคืออะไรกันแน่ ผมรีบอ่านด้วยความอยากรู้

‘นายไม่ยอมใช้บัตรเครดิตที่ฉันให้ไว้ เลยส่งของที่นายอาจจะชอบมาแทน เชื่อมั้ยว่านับจากคืนนั้นมาจนถึงตอนนี้ฉันยังนึกถึงวินาทีที่มีนายอยู่ในอ้อมกอดอยู่เลย หวังว่ากลับไปนายจะหาวิธีมายั่วใจฉันอีกครั้ง... อีวาน’

ไอ้ฝรั่งบ้านั่น! คิดอะไรอยู่ถึงได้ส่งข้อความแบบนี้มาที่คอนโดจ้านวะเนี่ย

ผมสบถในใจอยู่หลายคำ แต่ไม่มีคำไหนที่จะด่าหมอนั่นได้ตรงใจ เมื่อกี้จ้านคงอ่านแล้วถึงได้มีท่าทางแปลกๆ เขารู้ว่าผมปิดบังเรื่องคืนนั้น จากนี้ควรไปพูดยังไงกับเขาดี ป่านนี้จะคิดมากในทำนองที่ว่าผมไม่เชื่อใจเขาหรือเปล่า

ไม่ได้การล่ะ! ผมต้องไปอธิบายให้จ้านเข้าใจ

สายตาจดจ้องไปที่แผ่นหลังของคนตัวสูงกว่า ก่อนจะเดินตามออกไปตรงระเบียง แม้จ้านกำลังมองทิวทัศน์ด้านนอกแต่ผมกลับรู้สึกว่าเขาไม่มีความสุนทรีย์ใดใด ใบหน้าคร่ำเคร่งพลอยให้ผมหดหู่ใจจนต้องขอเวลาตั้งหลัก แล้วจึงพูดประโยคหนึ่งออกไป

“ฉันขอโทษ...”

“กูต่างหากที่ต้องขอโทษ!” เขาขึ้นเสียงสูงใส่ผม จากนั้นก็ทำสีหน้าไม่สู้ดีราวกับว่าการแสดงออกเมื่อครู่คือความพลั้งเผลอ เมื่อได้สติคืนเขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “กูไม่ได้โกรธอะไรทั้งนั้น เพียงแต่... ไม่รู้จะพูดยังไง”

“จ้าน...”

“มึงต้องอดทนเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวเพราะไม่อยากให้กูเป็นห่วง ต้องมาเจอกับเรื่องร้ายๆ ในขณะที่กูช่วยอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้กูกำลังคิดว่าคนที่สูญเสียความทรงจำอย่างมึงต้องมาเจออะไรแบบนั้น มันจะทำให้มึงทุกข์ทรมานสักแค่ไหน” คำพูดของจ้านทำให้ผมรู้ซึ้งถึงความห่วงใยที่มีให้ เขาเคยบอกว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่จำความได้ ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมเชื่อว่าจ้านเป็นเพียงคนเดียวที่สร้างความทรงจำดีดีให้ผม แต่ถ้ามองในมุมกลับ การที่ผมจำอะไรไม่ได้ก็เท่ากับหลงลืมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเราไป ซึ่งเขาคงทุกข์ใจกับเรื่องนั้นไม่น้อย

มาคราวนี้เขาต้องมารับรู้เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับผมอีก มันช่าง... แย่จริงๆ

“นายไม่ต้องนึกถึงมันแล้วได้มั้ย ช่วยลืมๆ ไปเหมือนอย่างที่ฉันกำลังทำอยู่เถอะนะ” ผมจับเขาให้หันมามองหน้ากันตรงๆ เพื่อจะได้เข้าใจว่าผมไม่เป็นไรจริงๆ

“กูขอโทษ”

จ้านว่ามาอย่างนั้นผมก็ได้แต่ส่ายหน้า และพอหันไปเห็นของต่างที่อีวานส่งมาให้ ผมก็เอ่ยขึ้น “นายอย่ากังวลไปเลย ฉันกับอีวานไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ของพวกนั้นฉันก็จะเอาไปคืนเขาด้วย ตกลงมั้ย”

“มึงรู้ว่ามันอยู่ไหนใช่มั้ย... บอกมา กูจะได้ไปถามมันว่าการใช้กำลังบีบบังคับคนไม่มีทางสู้มันสนุกมากนักหรอ” จ้านเค้นเสียงกร้าว ผมก็ได้แต่ตบบ่าเขาเพื่อให้ใจเย็นลง

“ตอนนี้เขาอยู่ที่ฮ่องกง”

“มันไม่เลิกยุ่งกับมึงแน่ แค่ข้อความนั่นกูก็รู้สึกได้แล้ว” จ้านจับบ่าผมให้เผชิญหน้ากันตรงๆ “มึงไม่ต้องกลัวนะ กูปกป้องมึงเอง จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายมึงได้อีก กูสัญญา”

“เอ่อ เรื่องนั้น...” เพราะผมพูดอึกอัก จ้านจึงเกิดความสงสัย

“มีอะไร”

ให้ตาย... และแล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้!

“ฉันจะเล่าให้ฟัง”

ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้ ถ้าผมไม่ยอมเปิดใจพูดเล่าทุกอย่างให้จ้านฟัง มันอาจจะช่วยชดเชยเรื่องที่ผมลืมความทรงจำที่เกี่ยวกับเขาได้บ้าง

ผมเล่าตั้งแต่อีวานให้ลูกน้องมาพาตัวไปยังคฤหาสน์ของเขา ร่ายยาวไปถึงตอนที่ถูกพาตัวออกจากคอนโดเพื่อไปหาอีวานที่สนามบิน ตอนนั้นผมโกหกจ้านว่าออกไปสมัครงาน และปิดท้ายด้วยการบอกเรื่องที่ไปทำงานในไนต์คลับพร้อมสาเหตุที่ต้องทำตามคำพูดของลูเซียนด้วย

“ร้านที่มึงไปทำงาน... คือไนต์คลับของลูเซียน”

“อืม” ผมพยักหน้าช้าๆ จากนั้นก็แอบมองสีหน้าของจ้านเพื่อคาดเดาสถานการณ์ที่จะเกิดต่อจากนี้

ผมให้เขารู้เพียงเรื่องที่อีวานเป็นเพียงผู้ชายที่มาติดพันผมแล้วไม่ยอมปล่อย สุดท้ายจึงต้องพึ่งพาลูเซียนจากเหตุผลหลายๆ ข้อ ผมเลือกที่จะให้จ้านรู้แค่นั้น เพราะผมไปขอให้ลูเซียนช่วย ถ้าเอาเรื่องที่เคยเสนอตัวให้อีวานเพื่อธุรกิจของลูเซียนมาเล่าให้ฟัง จ้านอาจจะสั่งให้ผมล้มเลิกสิ่งที่ทำอยู่เดี๋ยวนี้เลยก็ได้

“คิดว่ามึงจะไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับกูซะแล้ว”

เอ๊ะ? ทำไมจ้านถึง...

“หมายความว่ายังไง”

“อันที่จริงกูรู้เรื่องตั้งแต่วันแรกที่มึงไปทำงานแล้ว” ผมหน้าเหวอทันที ไม่คิดว่าจ้านจะมีเรื่องที่ปิดบังผมไว้เหมือนกัน “ตอนนั้นกูเป็นห่วงมึง เลยแอบตามไปดูว่างานที่ร้านเป็นยังไง”

“แล้วทำไมถึงไม่พูดอะไรเลย” ผมถาม

“แต่ไหนแต่ไรมามึงชอบทำอะไรตามใจตัวเองจนกูชินชา ไม่ว่าใครจะห้ามยังไงก็ไม่เคยสน กูเลยได้แต่คิดว่ามึงคงมีเหตุผลที่ทำแบบนั้นถึงไม่ยอมบอกความจริง ไม่ยอมปรึกษากู แล้วยังจัดการอะไรคนเดียวอีก” จ้านดูซีเรียสมาก สีหน้าแสดงความจริงจังเสียจนผมต้องตั้งใจฟัง “กูเข้าใจว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนนั้น มึงไม่ใช่ไอ้รัณย์คนเก่า กูจะปล่อยปะละเลยมึงไม่ได้ แต่การที่มึงปิดบังกูทั้งๆ ที่ตอนนี้กูเป็นเพียงคนเดียวที่มึงไว้ใจได้ก็เท่ากับมึงตั้งใจดีแล้ว ถ้ากูถามมันจะยิ่งทำให้มึงลำบากใจเปล่าๆ ก็เลยต้องปิดปากเงียบมาตลอด แล้วรอว่าเมื่อไหร่มึงจะบอกกูตรงๆ”

“ฉันไม่อยากให้นายเดือดร้อนไปด้วย ก็เลยยอมทำตามข้อตกลงของลูเซียน” สิ้นเสียงผม จ้านก็ขบขันในลำคอทันที คล้ายเป็นการพ่นลมหายใจที่เหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า และหมดคำจะพูดถึงเรื่องอัดอั้นตันใจ

“กูเอาแต่สงสัยในสิ่งที่มึงตัดสินใจทำโดยไม่ถาม มารู้ความจริงอีกทีก็ตอนที่มึงบอกว่าไม่อยากทำให้กูเดือดร้อน” จ้านแสดงอาการหน่ายใจอีกครั้ง “มึงยอมเผชิญหน้ากับไอ้คนอันตรายพวกนั้นคนเดียวได้ยังไงวะ ทำไมถึงเชื่อใจเขาง่ายๆ ไม่รู้ตัวเลยหรอว่ากำลังถูกเอาเปรียบอยู่”

จู่ๆ จ้านก็พูดใส่อารมณ์ ผมเลยต้องรีบอธิบายซ้ำ

“ในเมื่อฉันยอมทำตามที่สั่งแล้ว เขาก็ควรรักษาคำพูดสิ”

“โธ่ ไอ้รัณย์! มึงคิดจริงๆ หรอว่าการไปเป็นพนักงานที่ไนต์คลับจะช่วยให้มึงรอดพ้นจากไอ้มาเฟียนั่นได้” จ้านดูหัวเสียมาก ซึ่งผมก็เข้าใจถึงได้ตั้งใจฟังเขาพูด “มึงบอกกูเองว่ารู้จักกับอีวานในฐานะหุ้นส่วนของลูเซียน แล้วอย่างนี้มันจะมาช่วยมึงให้ผิดใจกับฝ่ายนั้นเพื่ออะไร”

“ฉันไม่ได้สำคัญถึงขนาดมีต่อธุรกิจของพวกเขาหรอกนะ ตอนนี้อีวานก็แค่เป็นบ้าอะไรไม่รู้ ลองให้เขาเข้าใจว่าฉันเป็นคนของลูเซียนแล้ว เขาอาจไปหาเหยื่อคนใหม่แทนก็ได้”

“ถึงอย่างนั้นมึงก็เชื่อใจลูเซียนแค่คำพูดไม่ได้ ถ้าอยู่ๆ หมอนั่นเกิดทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เรื่องอีวานขึ้นมาจะทำยังไง ถึงไม่มีผลต่อธุรกิจ แต่การผิดใจกันมันก็ไม่ใช่เรื่องดีนักหรอกนะ”

ผมเริ่มคล้อยตามสิ่งที่จ้านบอกทีละนิด

“และอีกอย่าง มึงก็เป็นแค่พนักงานไม่ใช่คู่นอน ไม่มีเหตุผลเลยที่อีวานจะเกรงใจลูเซียนอย่างที่มึงว่า” คล้ายกับผมเพิ่งบรรลุอะไรสักอย่าง ทำไมไม่เคยฉุกคิดได้แบบนี้บ้าง แค่ลูเซียนพูดสัญญาปากเปล่าผมก็ยอมไปทำงานที่ไนต์คลับทันที สรุปว่าผมจะหวังให้ตัวเองเป็นคนของเขาแค่เพียงลมปากไม่ได้สินะ

“ฉันเข้าใจแล้ว” ผมเอ่ย

“เข้าใจอะไร”

“เดี๋ยวฉันมานะ”

“เฮ้ย! ไอ้รัณย์!”

 










ผมเสี่ยงดวงมาที่บริษัทของลูเซียนเป็นแห่งแรก คิดว่าถ้าไม่เจอค่อยไปหาที่อื่น ตอนนี้เวลาก็เกือบเก้าโมงครึ่ง ต้องรีบไปถามกับพนักงานว่าวันนี้เจ้าของบริษัทจะเข้ามาหรือเปล่า เมื่อได้รับคำตอบว่าลูเซียนอยู่ในระหว่างการเดินทาง ผมก็จัดการหาที่นั่งรอทันที เพราะดูจากสถานการณ์แล้วพวกพนักงานคงสงสัยว่าทำไมถึงแวะมาหาลูเซียนอยู่เรื่อย แน่นอนว่าผมกระอักกระอ่วนกับสายตาพวกนั้น แต่ทำไงได้ ก็ผมมีธุระกับเขาจริงๆ นี่

ในที่สุดลูเซียนก็มาถึง ผมมองไปก็เห็นคนคอยบริการเปิดประตูรถให้เสร็จสรรพ เขากระชับเสื้อสูทแล้วเดินเข้ามาในบริษัทด้วยท่วงท่าการเดินที่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ แต่นั่นไม่ทำให้ผมรู้สึกกังวลใจเหมือนก่อน ช่างหัวการให้เกียรติ์ไปเลย เพราะตอนนี้ผมกำลังตรงไปดักหน้าลูเซียนอย่างห้าวหาญ

ผมตั้งใจทำให้เขาหยุดเดิน จนเมื่อนัยน์ตาของเราประสานกันก่อนที่คนตรงหน้าจะเอ่ยขึ้น...

“รู้สึกว่าช่วงนี้นายจะมาหาฉันบ่อยนะ” เออ! ยอมรับ แต่ผมไม่คิดจะเถียงเรื่องนี้ให้เสียเวลาหรอก

“ตอนแรกผมเข้าใจว่าการเข้ามาเป็นพนักงานตามที่สั่งก็เท่ากับเป็นคนของคุณแล้ว แต่พอมาคิดดูอีกที ผมก็เข้าใจว่ามันไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น”

“แล้วยังไง?” ลูเซียนถามอย่างเฉยชา ผมจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นไปตรงหน้าเขา

“โทรบอกอีวานว่าผมเป็น ‘คู่นอน’ ของคุณ” น้ำเสียงหนักแน่นของผมทำให้คิ้วหนาของลูเซียนกระตุก “เสร็จแล้วผมถึงจะกลับไปทำงานต่อ”

บอสใหญ่แห่งซีเอ็กซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์หันไปส่งซิกกับคุณเลขาที่ยืนอยู่ด้านหลังทำนองว่าให้เดินออกไป เมื่อลานของตึกชั้นล่างเหลือเพียงแค่ผมกับเขา แบบนี้มันจะเท่ากับว่าการสนทนาของเรากลายเป็นเรื่องส่วนตัวขึ้นมาทันที

“ถ้าไม่อยากทำก็ออกไป” เขาเอ่ยพร้อมสีหน้าเรียบเฉย ผมจึงรีบย้ำด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัด

“คุณต้องโทรนะครับ”

“ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามที่นายบอก”

“ผมจะซื้อคุณ!”

ลูเซียนถลึงตาใส่ผม “อย่าพูดจาพล่อยๆ”

“ถ้าเกิดผมขอให้คุณสมมุติว่าเราเป็นคู่ขากัน คุณจะเรียกเงินเท่าไหร่” ผมต้องการหลักประกันที่สามารถเชื่อในคำพูดของลูเซียนได้ หรืออย่างน้อยก็ให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ถอนคำพูดทีหลัง และใช่ การยื่นมือช่วยผมมันไม่ใช่กงการอะไรของเขา ให้ทำฟรีๆ ใครจะไปยอม เพราะงั้นตอนแรกผมถึงทำตามที่เขาสั่ง นั่นคือการไปเป็นพนักงานในไนต์คลับ

แต่คราวนี้ ผมไม่มีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับเขา... นอกจากเงิน

“มีเงินมาฝาดหัวฉันรึไง”

“ผมจะทำงานให้คุณจนกว่าจะครบจำนวนเงินที่คุณเรียก... โดยไม่มีวันหยุด”

“แล้วถ้าฉันเรียกเงิน 10 ล้านล่ะ”

“ห๊ะ?” แพงขนาดนี้เชียว!

“อย่าลืมว่านายกำลังให้หลอกลวงหุ้นส่วนระดับวีไอพี”

ฟังมาถึงตรงนี้ ผมรู้สึกว่าเขากำลังเล่นเกมอะไรสักอย่าง แม้จะไม่อาจคาดเดาความนึกคิดจากสายตาอันเย็นชาคู่นั้นได้ แต่การกระทำและคำพูดหลายๆ อย่างมันทำให้ผมสัมผัสได้ว่าเขาไม่มีความเห็นใจอยู่เลย

“คุณไม่ได้ตั้งใจจะช่วยผมตั้งแรกแล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงผมสั่น จ้องมองคนตรงหน้าด้วยความขุ่นเคือง

ลูเซียนประจันหน้ากับผมสักพักก็หันไปส่งสายตาให้คุณเลขาเดินเข้ามาใกล้ สั่งให้อีกฝ่ายกดเบอร์หาอีวานอย่างไม่ลังเล ทุกอย่างมันกะทันหันซะจนผมตั้งตัวไม่ถูก จนเมื่อรับโทรศัพท์มาไว้ในมือ ลูเซียนก็ยกหน้าจอขึ้นเพื่อโชว์ชื่อให้ดูว่ากำลังโทรหามาเฟียฮ่องกงนั่นจริงๆ

“ขอสายอีวาน” จริงหรอเนี่ย! ลูเซียนคงโทรเข้าเบอร์ของคนสนิทอีวาน ผมยืนรอด้วยใจระทึก จนกระทั่ง... “ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ”

นึกไปถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อกี้ คับคล้ายคับคราว่าลูเซียนเสนอราคาสำหรับการโทรหาอีวานมาแบบแพงหูฉีก

ให้ตายสิ! ผมต้องเป็นหนี้เขาถึงสิบล้านเชียวนะ

“ดะ... เดี๋ยวก่อนครับ”

“รัณย์เป็นคนของผม”

ชายตรงหน้าปรายตามองผมแล้วเลิกคิ้วขึ้น “หวังว่าคุณจะไม่ยุ่งกับเขาอีก”

















TBC

NEXT UPDATE 19/05/61 TIME 20:00

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2018 22:04:42 โดย La_Pomme »

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
อีวานจะว่าไงเนี่ย? รออ่านตอนหน้า รีบมาต่อนะคะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ทีมอีวาน :z2:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ไม่รู้ดิ อยู่ทีมลูเซียน เหมือนมีอะไรในใจไหม555
ไม่งั้นรันย์คนเก่าจะยอมขายตัวให้อีวานหรอ รึไง #ทีมลูเซียน อย่าร้ายให้มากได้ไหมมม

รอนะคะ อยากอ่านต่อแล้วว

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ดูเหมือนเกิดความปั่นป่วนเล็กๆยังไงไม่รู้ ต่อจากนี้อีวานคงจะรีบทำอะไรสักอย่างแน่

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เราชอบลูเซียน เซียนดูน่าสนใจดีค่ะ ดูเป็นคนนิ่งๆ น่าค้นหา นึกว่าวันนี้จะพูดดักรัณย์ว่า 10นาทีอีก 555555
 ขออยู่ทีมลูเซียนละกัน 55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ นายเอกความจำเสื่อมจริงๆ หรือเป็นวิญญาณอื่นมาอยู่ในร่าง

จะออกแนวฮาเร็ม มีพระเอกหลายคนหรือเปล่าคะ แบบ True Star ที่พอนายเอกนิสัยเปลี่ยน บรรดาพระเอกจากที่เดิมไม่สนใจก็มาชอบ ยังไงรอติดตามตอนหน้า มาต่อไวๆ นะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ลูเซียน เหมือนคิดไรในใจกับรัณย์นะ
แต่รัณย์ ดูซื่อๆ ไม่ทันเกม

รัณย์  เสน่ห์แรงจริงๆ มีแต่คนเข้าหา   :o8: :-[ :impress2:
อีวาน ก็ติดหนึบหนับ  :really2: :really2: :really2:
จ้านล่ะ รักรัณย์แต่ไม่แสดงออกหรือเปล่า
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ La_Pomme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
บทที่ 11
::ไม่สนิทใจ::




พูดออกไปแล้ว?

ผมได้ยินชัดเจน ขนาดพูดจบไปแล้วก็ยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท ผมควรพอใจที่อีกฝ่ายทำตามคำร้องขอและเชื่อมั่นในสัจจะของเขาได้แล้ว หากทว่า มันกลับมีบางอย่างที่ยากเกินกว่าจะทำใจยอมรับ เพราะมันไม่ต่างกับพายุลูกใหญ่ที่มาหลังจากท้องเริ่มสดใสแม้แต่น้อย

ลูเซียนนำโทรศัพท์ออกจากหู ส่งให้คุณเลขาก่อนจะหันมาพูดกับผม

“พอใจรึยัง”

“ผม... ผมต้องจ่าย... สะ... สิบล้านจริงๆ หรอครับ”

กลายเป็นว่าในหัวผมตอนนี้มีแต่เรื่องเงินที่ตกลงกันไว้ แต่เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน ผมยังไม่ตกลงว่าจะจ่ายให้เขาเท่านั้นสักหน่อย พูดเองเออเอง โทรเอง แถมยังคุยกันแค่ประโยคเดียวแค่นั้นก็จะมาเรียกเงินผมถึงสิบล้าน มันเกินไปหน่อยมั้ย

“ที่คลับฉันมีโบนัสให้พนักงานทุกปี”

“แล้วยังไง ต่อให้ทำที่นั่นจนตายผมก็คงใช้เงินให้คุณไม่หมดหรอก”

“ไม่ทันไรก็คิดจะเบี้ยวแล้ว?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ” ตอบด้วยน้ำเสียงที่แสนสลด “คือ... ผมยังต้องหาเงินเรียนอีก”

“ถามจริง?”

“ผมกำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหา’ลัย ถ้าสอบติดผมก็ต้องเก็บเงินเรียนเอง แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาทำงานใช้หนี้คุณ” ผมตัดพ้อ “ไม่งั้นก็รอให้ผมจบก่อนได้มั้ยครับ ส่วนเรื่องเงินค่อยว่ากัน”

“แค่พูดใครๆ ก็ทำได้”

ฟังแล้วเหมือนตัวเองค้างอยู่กลางอากาศ คำพูดช่างเย็นชาไม่ต่างกับสีหน้า ผมรู้ว่ามันออกจากห่างไกลความจริงไปหน่อย แต่ผมจะไม่ให้คนอย่างเขาดูถูกเด็ดขาด

“ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเอง” อยู่ๆ ก็รู้สึกมุ่งมั่น เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความหวัง ผมจริงจังกับคำพูดตัวเองมากพอๆ กับความต้องการที่อยากจะเข้ามหาวิทยาลัยเพื่ออนาคตอันสดใส

“ถ้านายสอบเข้ามหา’ลัยได้จริง เรื่องเงิน 10 ล้านฉันจะยกให้” ผมเบิกตากว้าง แวบแรกก็ดีใจอยู่หรอก แต่พอคิดดูอีกที ลูเซียนคงมั่นใจว่าผมทำไม่ได้มากกว่า ไม่งั้นคงไม่วางเดิมพันสูงขนาดนี้

ดี! อย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มแรงฮึด แล้วเขาจะได้รู้ว่าไม่ควรดูถูกคนอย่างผม

“พูดแล้วห้ามคืนคำ” เขาพยักหน้าตอบ

“นายก็อย่าลืมที่บอกว่าจะทำงานให้ฉันทุกวันโดยไม่มีวันหยุดด้วย”

ว่าไงนะ!

“คือ เมื่อกี้ผม...”

“จะกลับคำหรอ” ฟังแล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกตรงลำคอ เมื่อกี้เป็นคนบอกเขาเองว่า ‘พูดแล้วห้ามคืนคำ’ เจอสวนกลับแบบนี้ผมจะกล้าถอนคำพูดตัวเองได้ไง

“แต่ผมต้องมีเวลาอ่านหนังสือนะครับ” น้ำเสียงผมแผ่วลง แสดงถึงความนอบน้อมทั้งๆ ที่ไม่อยากทำเท่าไหร่

“สรุปว่าอยากเรียนต่อ หรืออยากให้อีวานเลิกยุ่ง”

“ทะ… ทั้งสองอย่าง”

“ต้องการมากยิ่งเหนื่อยมาก มันก็ถูกต้องแล้ว”

ไอ้...  &$%&@#

 











**

ลูเซียนเดินไปที่ลิฟต์หลังจากกรัณย์เดินออกจากบริษัทไป จักรพงษ์จัดการกดเลือกชั้นบนสุดให้เช่นเคย ระหว่างรอให้ลิฟต์ถึงที่หมาย เลขาวัย 42 ก็เอ่ยขึ้น

“คุณเซียนไม่ได้โทรหามิสเตอร์อีวานจริงๆ ใช่มั้ยครับ” จริงอยู่ที่จักรพงษ์ถูกสั่งให้กดเบอร์หาเหย้าเหวิน แต่หลังจากยกหน้าจอให้กรัณย์ดู เขาแอบเห็นว่าลูเซียนอาศัยจังหวะตอนนำโทรศัพท์แนบหูใช้นิ้วกดวางสายไป

ผู้เป็นนายยืนนิ่ง ไม่พูดอะไรกลับ กระทั่งลิฟต์เปิดออก...

“ผมจะโทรหาเขาด้วยเรื่องไร้สาระทำไม” หลังจากเดินออกมาจากลิฟต์ ลูเซียนก็เอ่ยระหว่างเดินไปด้วย “อีวานมีหูตาอยู่ทั่ว ถ้าเขาคิดจะจับตาดูรัณย์จริงๆ ป่านนี้คงรู้ทุกความเคลื่อนไหวแล้ว ไม่ต้องรอให้ผมเอ่ยปากบอกหรอก”

ร่างสูงเดินนำหน้าไปยังห้องทำงาน ก่อนจะปิดล็อคห้องไม่ให้ใครเข้าพบไปจนถึงตอนเย็น จักรพงษ์ทำงานกับลูเซียนตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น เขาย่อมรู้ดีว่าลูเซียนมักทำแบบนั้นเวลามีเรื่องให้คิดหนัก


**

 












 “เอาจริงดิ!”

ระหว่างที่ผมกำลังทำความสะอาดโต๊ะเพื่อตอนรับลูกค้ากลุ่มใหม่ ก็ได้ยินเสียงใครบางคนดังมากจากด้านหลัง เมื่อผมหันไปดูก็พบว่าเขาคือผู้ชายที่เคยเข้ามาทักทายผมเมื่อตอนเข้ามาในไนต์คลับนี่ครั้งแรก และยังเคยคุยกับจ้านที่รถอีกด้วย ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าเขาจะชื่อ...

“ติณณ์” ผมเรียกเชื่อคนตรงหน้าทันทีที่นึกได้

“ไอ้ปาล์มมันโทรมาบอกกูว่ามึงใส่ชุดเด็กเสิร์ฟทำงานอยู่ที่ไนต์คลับ ตอนแรกก็คิดว่ามันอำเพราะอยากให้กูทิ้งงานวิจัยมา แต่ที่ไหนได้...” เขาแสดงสีหน้าเหลือเชื่อเหมือนกับคนอื่นๆ จนผมเริ่มรู้สึกชินซะแล้ว

“เรื่องมันยาวน่ะ”

“ไม่เอาน่ารัณย์ มึงมีปัญหาอะไรก็เล่าให้กูฟังบ้างสิ เราเป็นเพื่อนกันนะ”

นั่นสิ ติณณ์เองก็เป็นเพื่อนผมอีกคนหนึ่ง แต่จ้านกลับไม่ให้พูดเรื่องที่ผมความจำเสื่อม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็คงเป็นผลดีต่อผม ถ้าอย่างนั้นก็เล่าในส่วนที่เล่าได้แล้วกัน

“ฉันอยากเรียนต่อ ก็เลยหางานทำเพื่อส่งเสียตัวเอง” พูดจบ ติณณ์ถึงกับทำหน้าเหวอไปเลย เขาดูอึ้งจนผมต้องแปลกใจตามไปด้วย

“อะไรที่ทำให้มึงคิดแบบนี้... หรือว่าไปเจอคนไม่ดีเข้า” เขาเข้ามาจับตัวผมหันซ้ายหันขวา แล้วใช้สายตาตรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า “เกิดอะไรขึ้น มันทำร้ายมึงหรอ? เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าจะคบกับใครให้ปรึกษากูก่อน”

พูดแบบนี้แสดงว่าเขารู้เรื่องของผมอยู่บ้าง ถ้าอย่างนั้นผมก็ควรชี้แจงกับเขาก่อนที่เจ้าตัวจะคิดไปไกล

“ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้ใครรับเลี้ยงอีกแล้ว... ไม่เอาแล้ว” ผมจริงจังกับคำพูดตัวเองมาก คิดว่าบอกไปแบบนั้นอีกฝ่ายคงเข้าใจในการตัดสินใจของผม แต่ท่าทางติณณ์จะไม่เฉียดใกล้กับคำว่า ‘เข้าใจ’ เลย

“คอนโดมึงล่ะ” น้ำเสียงของติณณ์ฟังดูทะแม่งๆ แตกต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง

“ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น”

“แล้วไปอยู่ไหน”

“ตอนนี้ฉันอยู่กับจ้าน” ติณณ์ถอดสีหน้าทันทีที่ผมพูดจบ ซ้ำยังขมวดคิ้วหนักพลางจ้องผมเขม็ง “แต่ถ้าอะไรมันลงตัวแล้วฉันจะย้ายออกทันที”

ผมเริ่มประหม่ากับการถูกมองแบบนั้น แต่ไม่นานหลังจากพูดประโยคเมื่อครู่จบ ติณณ์ก็เสยผมแล้วยิ้มออกมา แต่บอกตามตรงว่าผมไม่ได้รู้สึกว่าอยากยิ้มตามเท่าไหร่เลย

“ไปอยู่กับกูมั้ยล่ะ ที่บ้านกูมีห้องเยอะแยะ มึงอยู่สบายแน่”

“ไม่ดีกว่า ฉันไม่อยากรบกวนนาย” ผมส่ายหน้าก่อนหางตาจะเหลือบไปเห็นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่กำลังเดินเข้ามา “ตอนนี้ฉันทำงานอยู่ เอาไว้คุยกันวันหลังนะ”

ขณะเดินผ่านติณณ์ไป ผมก็ได้ยินเสียงที่ออกมาจากปากของอีกฝ่าย

“มึงคิดจะทำอะไรกันแน่”

ผมหยุดฝีเท้า น้ำเสียงกระแทกกระทั้นของเขาทำให้ผมรู้สึกงุนงง

“จะให้กูเชื่อเรื่องที่มึงอยากเรียนต่อจนต้องมาหางานทำเนี่ยนะ” ติณณ์กัดฟันกรอด สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “ถึงกูจะแปลกใจกับคำพูดคำจาของมึงพักหลังมานี้ แต่ก็ใช่ว่ากูจะเชื่อเรื่องที่มึงอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงๆ”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้รู้จักผมดี คงเห็นผมเป็นกรัณย์เพื่อนสนิทที่รู้นิสัยใจคอกัน แม้จะยังทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ต่อหน้าเขา แต่ผมก็พยายามบอกในเรื่องที่ติณณ์ควรรู้ไปแล้ว เข้าใจว่าเขาคงรู้สึกแปลกๆ แต่ทำไมต้องแสดงอาการไม่พอใจขนาดนั้นด้วยล่ะ

กับจ้าน... ผมสัมผัสได้ว่าเขาคือเพื่อน ถึงได้ไว้วางใจ

แต่กับติณณ์... ถึงบอกว่าสนิทกัน ผมกลับไม่รู้สึกสนิทใจเท่าไหร่

ตอนแรกคิดว่าอยู่กับจ้านทุกวัน คนอื่นๆ ก็เลยกลายเป็นคนแปลกหน้าไปหมด จนได้มาคุยกับติณณ์ แม้จะพูดแบบเป็นกันเอง แต่ผมก็ยังมองว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่รู้จักแค่ชื่ออยู่ดี

ผมเดินสลัดความคิดในหัวก่อนจะเดินไปต้อนรับลูกค้า รอสั่งเครื่องดื่ม กระทั่งนำมาเสิร์ฟเรียบร้อย พอเห็นว่าทุกอย่างดูเรียบร้อยดีผมก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินมายืนอยู่ด้านหลัง

โถฉี่ข้างๆ ก็ว่างทำไมไม่ใช้?

ผมสงสัยและรู้สึกพะวงหลังไปจนเสร็จธุระ จากนั้นจึงค่อยๆ เลี่ยงไปใช้อ่างล้างมือ ไม่มีจังหวะไหนที่ผมเห็นหน้าเขาหรอก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะตามติดจนทำให้ผมข้องใจว่าต้องการอะไร

สุดท้ายผมก็ตัดสินใจหันไปดูหน้าชายที่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง...

“คุณ!”

พับผ่าสิ! ผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกับที่เคยบอกว่าจะขอรับเลี้ยงผมนี่หว่า

“รัณย์...” เขาเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ฟังดูสนิทสนม แต่ใบหน้าเขากลับดูมีอายุจนผมสามารถเรียกพ่อได้สบายๆ “เธอจะไม่ให้โอกาสฉันจริงหรอ ฉันสนใจเธอมานานแค่ไหนรู้บ้างมั้ย ถึงไม่มีบริษัทใหญ่โตเหมือนคนอื่นแต่ฉันก็ไม่ปล่อยให้เธอลำบากแบบนี้แน่ ไปอยู่กับฉันเถอะนะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอยอย่างดี อยากได้อะไรฉันให้เธอได้หมด”

ชายตรงหน้าจับไหล่ผมไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ลมหายใจมีแต่กลิ่นเหล้าแบบไม่ต้องเดาเลยว่าดื่มหนักแค่ไหน วันนี้ผมไม่ได้ต้อนรับเขาเลยไม่ทันเห็นว่าคืนนี้มาด้วย อุตส่าห์คิดว่าการปฏิเสธจะได้ผลซะแล้ว  แต่ท้ายที่สุดก็ยังเห็นเขามาที่นี่เหมือนอย่างทุกวันอยู่ดี

“ปล่อยผมเถอะครับ” ผมพยายามแกะมือเขาออก ใช้วาจานิ่มนวลในฐานะผู้บริการอย่างดีที่สุด ยิ้มให้ก็แล้ว ขอดีดีก็แล้ว อีกฝ่ายก็ยังดื้อรั้นจะเอาแต่ใจให้ได้

“ฉันชอบเธอมากนะรัณย์” พูดจบก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ยังดีที่ผมไหวตัวทัน สามารถเบี่ยงหลบได้ ผมล่ะอยากยกเท้าขึ้นมายันคนตรงหน้าใจจะขาด แต่ก็ต้องข่มใจไว้เพราะเขาเป็นลูกค้า ทำได้ก็แค่เดินหนีไปให้เร็วที่สุด นึกว่าจะรอดแล้ว ไม่นานมือปลาหมึกก็คว้าตัวผมไว้อีก แถมคราวนี้ถึงขั้นผลักร่างติดกำแพงกันเลย

ผมสูงกว่าชัดเจน แต่เขาอาศัยร่างกายที่อ้วนท้วมกว่าบังทางหนีทีไล่ของผม ใบหน้าเราอยู่ใกล้กันจนเห็นริ้วรอยตีนกา ตอนนี้เขาดูโกรธมาก พอผมขัดขื่นแรงเข้าหน่อยก็จับหันหน้าเข้ากำแพงและล็อคแขนผมไขว่หลังไว้

เพียงชั่วครู่ผมก็รู้สึกถึงอะไรแฉะๆ ตรงใบหู...

วินาทีนั้นผมร้องห้ามแทบตาย ทั้งรังเกียจ ทั้งขยะแขยง รู้สึกเวียนหัวอยากอาเจียน จากตอนแรกที่คิดว่าจัดการได้ ถ้าโดนจู่โจมผมจะป้องกันตัวสุดชีวิต ไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำอะไรล้ำเส้นแน่นอน แต่ดูตอนนี้สิ ความชะล่าใจของผมกำลังทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายกว่าเดิม

และในตอนนั้นเอง!

“เฮ้!”

มีใครบางคนส่งเสียงอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ ผมรีบหันไปมองก่อนจะพบกับผู้ชายที่ผมไม่อยากให้มาเห็นสภาพอันน่าสมเพชของตัวเองในตอนนี้มากที่สุด




ไทด์...















TBC

NEXT UPDATE 20/05/61 TIME 19:00

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ไทด์!! มาทำไม มาทำอะไร หวังว่าจะไม่เดินผ่านไปหรอกนะ :z3: :z3:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
มาได้จังหวะ แต่ไทค์ก็คงมองว่ารัณย์ทำตัวแบบเดิมอีกแน่ๆ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
จะมาซ้ำเติมรึเปล่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไทด์ จะเห็นแค่แรกหรือเปล่า   :really2:
ยิ่งดูแคลนรัณย์ซะด้วย

ลูเซียน ประหลาดๆ เอาประโยชน์จากรัณย์
ไม่เชื่อรัณย์  แค่ให้คนจับตามองก็รู้แล้วว้่รัณย์พุดจริงหรือไม่
 
ติณณ์เหมือนจะเป็นคนรู้จัก แต่ต่างไปจากจ้านอีก
ก็เหมือนๆคนอื่น ไม่เชื่อรัณย์ซะเลย   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
แง้้้ รอ ร๊อรอ 2 ทุ่มละนะ งอแงงง  :katai5:

คิดถึงรันย์แล้ว

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
มารอด้วยคนน ติดงอมแงม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด