ตอนที่ 3 : หนึ่งคะแนนผมทอดถอนใจเมื่อมองของที่อยู่ในมือ ดูเหมือนว่าผมจะคิดการใหญ่เกินตัว ลืมไปได้ยังไงว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เมื่อวานมันวันซ้อมทีมงานไม่ให้คนภายนอกเข้าแต่วันนี้สิของจริง ผู้คนที่ห้อมล้อมให้กำลังใจตฤน แม้ไม่มากมายนักแต่ก็ทำให้ผมเห็นแค่ไหล่กับหัวของตฤน
“ทำใจเถอะว่ะ มาคนเดียวว่าแย่แล้วมาสองคนจะเหลือเหรอ นี่ขนาดยังไม่เข้าไปแต่งหล่อเลยนะ” กล้าพาดมือลงบนบ่าของผม สายตาจับจ้องไปยังจุดเดียวกัน “เมื่อวานไม่เห็นมาซ้อม วันนี้ดันมีชื่อเดินฟินาเล่สามคนกับตฤนกับน้องโดนัทเฉย กูนี่หัวใจสลาย” กล้ากำลังพูดถึงปอน นายแบบที่เป็นเพื่อนสนิทของตฤน
“ก็ยังดีที่มาแค่สองไม่ใช่เหรอ” ผมพยายามคิดในแง่ดี เพราะถ้ารามเพี่อนที่เป็นดารามาด้วยอีกคน แม้แต่หัวของตฤนผมก็อาจจะไม่ได้เห็น
“ทำเป็นพูดดีไป แล้วมึงจะเอายังไง” กล้าพยักพเยิดมาทางของที่ผมถืออยู่ มันคือเสื้อยืดสีขาวที่ผมออกแบบลายเองและสกรีนด้วยมือตัวเอง ม้วนและผูกด้วยเชือกป่านอยู่ในถุงพลาสติกใสที่ผมได้มาจากร้านหนังสือที่ทำงานอยู่
“กูมีวิธี” ผมชูถุงในมือขึ้น ก็คงมีแค่หนทางนี้ที่ผมจะส่งของให้ตฤนได้
ผมตัดกระดาษแข็งสีฟ้าที่ไปขอมาจากทีมงาน จัดการเจาะรูแล้วร้อยเข้ากับปลายด้านหนึ่งของเชือกป่าน จรดปากกาลงไป นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าจะเขียนอะไรดี
ขอให้ทำออกมาได้ดีๆ ไม่มีอะไรผิดพลาดนะ wan
แบบนี้ก็แล้วกัน
• • • • • • • •
งานผ่านไปได้ด้วยดีอย่างที่ผมอวยพร ผมถ่ายรูปตฤนไปหลายภาพ คิดว่าถึงไม่ได้พูดคุยกันแค่ได้รูปไปเก็บไว้ดูเล่นก็ยังดี
พี่ผิงเดินเข้ามาเรียกผมหลังงานเลิก ทีมงานจะพานายแบบนายแบบไปเลี้ยงข้าวเป็นการขอบคุณ ผมกับกล้าเลยพลอยได้อานิสงส์ไปด้วย ในฐานะที่ช่วยทำงานด้านออกแบบให้ แต่เนื่องจากนายแบบนางแบบต้องใช้เวลาล้างเครื่องสำอางและเปลี่ยนชุดนาน พวกผมจึงนั่งเล่นรออยู่หน้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่อยากเข้าไปกวนด้านใน
“ว่านไปรถพี่ไหม” ผมรีบลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นพี่ผิงเดินนำออกมาตามด้วยคนอื่นๆ สายตาดุๆ ตวัดมามองผม คงรู้จักชื่อผมแล้วสินะ
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปกับกล้า กล้าเอารถมา”
“งั้นไปเจอกันที่ร้านวอนท์วัน ว่านรู้จักไหม”
“รู้จักครับ”
“พี่ตฤนคะโดนัทติดรถไปด้วยคนนะคะ วันนี้ไม่ได้เอารถมาด้วย” ผมลอบสบตากับกล้า พยายามกลั้นยิ้มสุดกำลัง เพราะผมเห็นกับตาตัวเองว่าน้องโดนัทขับรถมาจอดอยู่ด้านหลังหอประชุม
“พี่ขับรถสองที่นั่งมามีเจ้าปอนไปด้วย โดนัทไปกับพี่ผิงสิรถยังว่าง”
“งั้นเหรอคะ” เสียงที่พูดอ่อนจนน่าสงสาร ผมหลุบตาลงต่ำเพื่อซ่อนรอยยิ้มในดวงตา จังหวะนั้นเองที่ผมเห็นเจ้าเหมียวสีดำตัวเดิมเดินเข้ามาทางด้านหลังของตฤน ผมเงยหน้าขึ้นสีหน้าตื่นจนกล้าสังเกตเห็น
“เป็นอะไรวะ”
ผมไม่ตอบกล้าตัดสินใจเดินตรงไปหาตฤน เรียกว่าย่างสามขุมเข้าหาก็ว่าได้ ตฤนหรี่ตาลงมองผม ท่าทางระวังตัวมากขึ้น ผมหยุดยืนตรงหน้า ย่อตัวลงจับเจ้าเหมียวที่เดินเฉียดข้างขาตฤนขึ้นมาอุ้ม พร้อมถอยห่างอย่างรวดเร็ว
“เจ้าถิ่นมา” พี่ผิงทักอย่างอารมณ์ดี
“พี่ผิงผมไปเลยนะเดี๋ยวเจอกันที่ร้าน”
“โอเค เดี๋ยวเจอกัน”
“กล้า” ผมหันไปเรียกเพื่อน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมขยับผมจึงส่งสายตาให้รู้ว่าต้องไปเดี๋ยวนี้ กล้าทำหน้าเสียดายแต่ก็ยอมเดินตามผมไปแต่โดยดี
“เดี๋ยว” เสียงของพี่ผิงทำให้ผมหยุดเดิน
“ครับ” ผมหันกลับไปมองรุ่นพี่
“จะเอาแมวไปไหน”
“เล่นครับ” ผมนึกอยากตบกะโหลกตัวเอง ตอบอะไรไปวะกู เมื่อครู่ผมคิดอะไรไม่ทันจริงๆ “คือผมจะเล่นกับมันก่อนเดี๋ยวค่อยปล่อยลง”
“อ๋อ ไปเถอะ อย่าปล่อยห่างอาคารเยอะนะพี่กลัวมันหลง ลุงภารโรงเป็นคนดูแลอยู่ ส่วนใหญ่ก็แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้กัน พี่ไม่อยากให้มันโดนจับไป”
“ครับ” ผมพยักหน้า เมื่อเห็นว่าพี่ผิงไม่พูดอะไรแล้วจึงรีบเดินต่อ
“อะไรของมึงวะ” กล้าบ่นเมื่อพวกผมเดินพ้นจากทุกคน ผมลูบหัวเล็กของเจ้าเหมียวดำ ปล่อยมันลงตรงขั้นบันได
“ไม่มีอะไร กูกลัวหลุดขำน้องโดนัทของมึง”
“เออ พูดถึงเรื่องนี้แล้วกูก็แอบเซ็งนิดๆ นะ”
“เซ็งที่น้องไม่ได้อ้อนอยากมากับมึงเหรอ”
“กูไม่ได้โง่จะได้คิดอะไรเพ้อๆ แบบนั้น” กล้ามองค้อนผม “กูเซ็งที่น้องดันไม่แบ๊วเหมือนหน้า” ว่าแล้วคนพูดก็ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่
“อย่าคิดอะไรมากเลยวะ ยังไงก็ได้แค่มอง มึงก็มองไป”
“มึงด้วย”
“เออ” ผมกับกล้ามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง จะคิดอะไรมากในเมื่อมันก็ได้แค่นี้
• • • • • • • •
“ออกก่อนถึงทีหลัง” กล้าส่ายหัวเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างรถเก๋งคันหรู
“เอาน่า รถมึงขับเร็วเดี๋ยวชิ้นส่วนหลุด กูขี้เกียจช่วยตามเก็บ”
“ไอ้ว่าน”
“ฮ่าๆ” ลงได้แล้วมึง ถึงคันสุดท้ายหรือเปล่าก็ไม่รู้” ผมเปิดประตูรถลงไปก่อน เริ่มเอะใจว่าทำไมตฤนถึงยังไม่เข้าไป
“ขอคุยด้วยหน่อย”
“หะ?!! อ๋อ..เออ..ได้สิ” หน้าของผมคงดูเหลอหลาพิกล แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อมันตั้งหลักไม่ทัน
“เดี๋ยวกูเข้าไปก่อน” กล้าตบบ่าผม
“อืม” ผมพยักหน้าให้เพื่อน ลอบสูดลมหายใจเข้าเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร
ร่างสูงยืนกอดอกพิงรถ มองมาด้วยสายตาที่ผมคาดเดาไม่ถูก จึงยิ่งรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมา
“ไหนของ”
“หะ!” ผมมองมือที่ยื่นมาตรงหน้าเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาด
“ไหนว่าจะให้ของยืนยันว่าเป็นแฟนคลับ”
“กู..เอ๊ย..ผม..เอ๊ย..ฉันไม่ได้เตรียมมา”
“หึๆ เอาสักอย่างหนึ่ง จะแทนตัวเองว่าอะไรก็เลือกเอา”
“ไม่ได้เอามา” ผมตอบเสียงอ่อย เลือกตัดคำแทนชื่อออกเสีย นึกเจ็บใจตัวเองไม่น่าด่วนใจเร็วเลย ใครจะคิดว่าพี่ผิงจะพามาเลี้ยงข้าว
“อืม” ตาคู่นั้นวาววับดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาอีกหลายเท่า “งั้นตกลงนายก็เป็นแอนตี้แฟน”
“ใช่ที่ไหนเล่า” ผมเผลอใช้น้ำเสียงโวยวาย “คนไม่เกลียดก็จะยัดเยียดให้เกลียดอยู่ได้”
“ฮ่าๆ” ใบหน้าที่มักติดบึ้งตึงดูแปลกตาด้วยรอยยิ้มกว้าง เสียงหัวเราะบ่งบอกว่าเจ้ากำลังขำ ยิ่งทำให้หน้าของผมมุ่ยลง
“หัวเราะอะไรวะแม่งไม่ขำสักนิด”
“โกรธแล้วลืมสุภาพเหรอ”
ผมรีบเม้มปาก ก่อนพึมพำออกมาเบาๆ “เขาเรียกว่าบ่นกับตัวเอง”
“หึๆ ไม่มีก็ไม่มี” ร่างสูงขยับตัวขึ้นยืนตรง มองผมด้วยดวงตาที่ต่างไปจากเดิม “ขอบใจ”
“หือ?” ผมเลิกคิ้วก่อนนึกขึ้นได้จึงส่งยิ้มกว้างไปให้ “ไม่เป็นไร แมวมันน่ารัก”
“ไม่เห็นจะน่ารัก” สีหน้าของตฤนในเวลานี้เหมือนเด็กเอาแต่ใจ มันทำให้ผมอดยิ้มกว้างตามไม่ได้ “เข้าไปข้างในเถอะ”
“อืม” ผมเดินตามหลังตฤนไปช้าๆ มองแผ่นหลังกว้าง พยายามกลั้นเสียงหัวเราะจนปากสั่น คนเอาแต่ใจเหมือนเด็กก็ใช่ว่าจะแย่เสมอไป บางทีก็น่ารักดีเหมือนกัน
• • • • • • • •
“ขอโทษครับ” หนึ่งในทีมงานยกมือขอโทษตฤน หน้าซีดเผือดเมื่อเผลอดีดน้ำกิมจิใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวของอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไร” แม้ใบหน้าไม่ยิ้มแย้มแต่น้ำเสียงพอทำให้อุ่นใจได้ว่าไม่โกรธ
“ไปล้างก่อนไหมตฤน” พี่ผิงมองสีแดงอมส้มเป็นเสื้อด้วยสายตาไม่สบายใจ
“ไม่เป็นไรครับผมมีเสื้ออยู่ในรถ เดี๋ยวมา” ผมมองตามร่างสูง อดนึกเสียดายเสื้อเชิ้ตราคาแพงที่ตฤนใส่ไมได้ หวังว่ากลับไปจะซักออกนะ
“ไอ้ว่าน” เสียงกระซิบไม่ทำให้ผมสนใจเท่ากับเท้าที่เตะใต้โต๊ะ ผมเงยหน้าจากจานอาหารขึ้นมองกล้าเป็นเชิงถามว่าเพื่อนมีอะไร
กล้าไม่ตอบผมแต่บุ้ยใบ้ให้ผมหันไปมองตาม ร่างสูงเดินกลับมาในเสื้อยืดสีขาวตัวที่ผมให้ไป ผมต้องรีบก้มหน้าเพื่อซ่อนรอยยิ้ม อยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกชะมัด เสียดายที่ทำไม่ได้
แชะ! เสียงดังจากข้างตัวทำให้ผมต้องรีบเงยหน้าขึ้นมอง กล้าลดกล้องลงยิ้มกว้างส่งให้ตฤนที่มองมาด้วยสายตานิ่ง
“ขอถ่ายรูปมึงใบหนึ่งจะเอาไปให้น้องสาว”
“อืม” ตฤนพยักหน้าไม่ได้ว่าอะไร ผมลืมไปว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนร่วมคณะ กล้าหันมายักคิ้วให้ผมด้วยเหตุผลที่รู้กันเพียงสองคน
เป็นมื้ออาหารที่ผมกับกล้าเน้นนั่งกินเป็นหลัก ปล่อยให้รุ่นพี่คุยกับกลุ่มของนายแบบนางแบบไป แค่ได้นั่งอยู่ท่ามกลางคนสวยคนหล่อผมก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว ที่สำคัญวันนี้ผมได้อยู่ใกล้ตฤนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แบบนี้หรือเปล่าที่เขาพูดกันว่าชีวิตติ่งคอมพลีทแล้ว แค่ได้เห็นในระยะสายตา ได้ยินเสียงพูดคุยเบาๆ แค่นี้ก็อิ่มใจ
เสียอย่างเดียว ผมเผลอทำปากยื่นออกมานิดๆ เมื่อคิดขึ้นมาได้ นั่งหลังคดหลังแข็งแทบตายความดีความชอบดันตกเป็นของหวานไป เฮ้อ หนึ่งคะแนนของว่านกลายเป็นของหวานไปซะแล้ว
• • • • • • • •
“เสื้อนี่คนเดียวกับที่มึงถ่ายรูปลงไอจีเหรอวะ”
“อืม”
“ทำไมมึงดูเครซีคนนี้นักวะ”
“ดุดี”
“หะ! ดุดี อะไรของมึงวะ”
“หึๆ ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาอ่านโน้ตกูแค่ไม่รู้สึกถึงการคลั่งไคล้ เหมือนคุณครูคอยเป็นห่วงเด็กนักเรียนมากกว่า”
“จริงดิวะ”
“จริง”
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin