[ครอบครัวศักดินนท์] ☁️ อาณาเขตรัก ☁️ [Mpreg] {30/07/61} ➡ ตอนพิเศษ 1 [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ครอบครัวศักดินนท์] ☁️ อาณาเขตรัก ☁️ [Mpreg] {30/07/61} ➡ ตอนพิเศษ 1 [จบแล้ว]  (อ่าน 54815 ครั้ง)

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เมฆน่าสงสารมากเลยค่ะ
พ่อเลี้ยงมนัสนี่ก็ไม่เลิกยุ่งวุ่นวายกับศักดินนท์สักที

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
16




แกร็ก กึก...กึกกัก

เสียงแปลกๆ ที่ประตูระเบียงทำให้ร่างโปร่งที่กำลังนอนหลับฝันหวานอยู่ถึงกับสะดุ้งแล้วลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืด เมฆานอนนิ่งไม่ขยับกาย เพราะกลัวว่าจะมีอันตรายกับตัวเอง หากเป็นโจรมันอยากได้อะไรก็ให้มันหยิบไป เขาไม่อยากสุ่มสี่สุ่มห้าทำอะไรทั้งที่ตัวคนเดียวแน่ๆ

หัวใจเต้นแรงระส่ำด้วยความหวาดหวั่น นึกโทษตัวเองในใจที่ไม่ยอมล็อกประตูระเบียงก่อนเข้านอน แต่นั่นแหละเขาประมาทเองไม่คิดว่าจะมีใครแอบลักลอบเข้ามายามวิกาลแบบนี้

ครืด…

เมฆากลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เมื่อได้ยินเสียงเลื่อนเปิดแล้วก็ปิด แต่แอบด่าโจรว่ามันโง่หรือเปล่าที่ปิดประตูคืน...หากโดนจับได้นี่หนียากเลยนะ

สวบ!!

เฮือก!!! แย่แล้ว มันขึ้นมาบนเตียง มันอยู่ข้างหลังเขา

มือใหญ่ของคนที่เมฆาคิดว่าเป็นโจรกระชากผ้าห่มออกจากกายบางแล้วลูบไปตามแขนแขนต้นขา แล้วสะโพกกลมกลึงสลับกับบีบเบาๆ ทำเอาร่างกายของเมฆาสั่นขึ้นมาอย่างกลัวๆ คนที่บุกรุกยามวิกาลสัมผัสได้ถึงร่างกายที่สั่นระริกแล้วก็ยิ้มอย่างพอใจ
คนที่ลักลอบเข้ามาไม่รู้ว่าเจ้าของห้องหลับจริงหรือว่าแกล้งหลับ แต่ร่างสั่นระริกนี้บ่งบอกได้อย่างดีว่าคนบนเตียงมีสติดีทุกอย่าง ร่างสูงใหญ่ปิดม่านเลยทำให้ห้องยิ่งมืดไปอีก เมฆาเม้มปากแน่นไม่ให้หลุดเสียงร้องของตัวเองออกไปยามที่มือร้อนลากไปตามร่างกายของตน

อย่าบอกนะว่าจะทำอะไรเราน่ะ...ถ้าจะเอาของสำคัญก็เอาไปสิ จะมายุ่งกับเขาทำไม ไม่นะ…

“ฮือ…” เมฆาแสร้งส่งเสียงในลำคออย่างรำคาญเมื่อถูกชายปริศนาพลิกกายให้นอนหงาย ก่อนที่ชายตัวใหญ่จะขึ้นคร่อม นั่นทำให้เมฆาเบิกตาโพลงแต่ก็มองไม่เห็นหน้าของคนที่บุกรุกเข้ามาอยู่ดี

“ใคร…”

“หึ”

ร่างแกร่งไม่ตอบ ส่งเสียงในลำคอเบาๆ ยิ่งทำให้ร่างโปร่งบางขนลุกซู่

แควก!!!

มือใหญ่กระชากชุดนอนของเมฆาจนกระดุมหลุดออกหมด ร่าโปร่งอ้าปากจะตะโกนให้คนมาช่วย หากแต่เพียงว่าคนบุกรุกได้ยินเสียงที่เปล่งออกมาก็แนบประทับริมฝีปากปิดเอาไว้ทันทีพร้อมกับปลายลิ้นร้อนที่ชอนไชเข้าไปเกี่ยวกระหวัดความอ่อนหวานของคนใต้ร่างที่ตอนนี้แด้ดิ้นสุดชีวิต เพื่อให้หลุดจาดการคุกคามที่น่ากลัวนี้ได้

มือหยาบลูบไล้ไปตามแผ่นอกและหน้าท้องเรียบเนียน สร้างความรู้สึกแสนรังเกียจให้กับเมฆาที่เอามือทุบตี ดึงผมให้คนตัวใหญ่ออกไป ปากดูดดึงลิ้นเล็กและกลีบปากสลับกันรุนแรง คนใต้ร่างเหมือนจะไม่หมดแรงง่ายๆ เขาทั้งดิ้น ทั้งทุบ ทั้งต่อย ดึงผม   ก็แล้ว แต่ร่างใหญ่ไม่สะทกสะท้านเลย ความกลัวเริ่มกัดกินจิตใจ คนที่เขาคิดถึงเป็นคนแรกคือคณิน น้ำตาไหลลงมาอย่างทรมานและเจ็บปวด

ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้…ทำไมต้องทำร้ายเขา…

“ฮึก...อื้อ” เสียงสะอื้นปนกับเสียงที่เปล่งออกมาเพื่อให้ดังพอที่คนจะเข้ามาช่วยได้ แต่มันก็ไม่เป็นผล คนที่กระทำการจาบจ้วงริมฝีปากของเมฆาอยู่ไม่ยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระได้เลย หันหน้าหนีไปทางไหนก็ไม่พ้น

เขาไม่รู้สึกร่วมไปด้วยเลยสักนิด มีแต่ความกลัวและรังเกียจกับสัมผัสนี้…

“ฮึก”

เมฆาหยุดดิ้น นอนนิ่งๆ รับชะตากรรม น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย ร่างกายสั่นสะท้านจนน่ากลัวทำเอาคนตัวโตหยุดการกระทำหยาบคายของตัวเอง ผละออกมาแล้วเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง ก่อนจะกลับมาคร่อมทับร่างโปร่งบางอีกครั้งที่นอนนี้นอนหลับตาร้องไห้อยู่อย่างน่าสงสาร

ร่างสูงยิ้มก่อนจะก้มลงซุกไซ้ซอกคอหอมที่เขาหลงไหลติดใจและคิดถึงมันมาก เพราะไม่ได้สัมผัสมันมาหลายเดือน ลิ้นร้อนไล่เลียไปรอบๆ คอขาว คนที่นอนร้องไห้ก็ยังนอนนิ่งตัวสั่นๆ แม้ว่ามันน่าสงสารแค่ไหนแต่คนตัวเล็กกว่าต้องโดนทำโทษเสียบ้าง จะได้รู้ว่าการที่อยากเลิกกับเขาแล้วเป็นของคนอื่นมันน่ากลัวแค่ไหน

“บทลงโทษของคนพูดไม่คิด”

เสียงกระซิบแหบพร่าที่ข้างหูพร้อมกับสัมผัสชวนขนลุกเมื่อปลายลิ้นของคนพูดไล่เลียไปทั่วหูขาวจนคนที่เบิกตากว้างเพราะเสียงที่คุ้นหูหลุดครางออกมา

แค่เสียงที่บ่งบอกตัวตนของคนที่บุกห้องเขายามวิกาลว่าเป็นใคร จากความรู้สึกที่ทรมาน อยากจะตายก็กลายเป็นโล่งใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นน้อยใจในที่สุด เมฆาร้องไห้ออกมาอย่างหนักแต่ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่มันเป็นเพราะความโล่งใจ ดีใจ และน้อยใจปนๆ กัน

“ฮือ...น่ะ นายมันบ้า ฮึก รู้ไหมว่าฉันจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายแล้วนะ ฮือ”

ร่างสูงผละออกมาจากซอกคอขาวมองสบกับดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตาที่กลั่นออกมาตามอารมณ์ที่รู้สึก แต่คณินก็คือคณิน ไม่มีการปลอบใจ ไม่มีการขอโทษอะไรทั้งนั้น

คณินเงยหน้าให้เมฆาเห็นเพื่อตอกย้ำว่านี้เป็นเขาไม่ใช่ใคร ก่อนที่ร่างสูงจะจัดลอกคราบคนใต้ร่างที่อ่อนระทวยรวยแรงไปก่อนหน้านี้ให้เปลือยเปล่า จากที่ไม่มีอารมณ์และรังเกียจสัมผัสหยาบโลนก่อนหน้านี้ของเมฆา พอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยร่างกายก็ตอบสนองอย่างอัตโนมัติ ความกลัวหายไป ความวาบหวามเข้ามาแทนที่

“อื้อ...มาได้ไง”

“ปีนหน้าต่างมาไงถามได้”

“อ๊ะ...เขต อื้อ แล้วอาอาทิตย์ เป็นไง อื้อ บ้าง”

“ออกจากโรงบาลแล้ว”

“ม่ะ มาทำไร อ๊ะ”

“ลงโทษคนพูดไม่คิด แล้วก็คุยให้รู้เรื่อง ก่อนอื่นต้องขอลงโทษก่อนสักสามสี่ยก แล้วค่อยพูดกัน ฉะนั้น หยุดพูดซะ แล้วครางอย่างเดียวพอ เพราะนี่จะเอาแบบไม่ปล่อยให้หยุดพักแน่”

“ต่ะ...แต่”

“จิ๊ พูดมากจังวะ ลุกขึ้น!” คณินจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด ลุกออกจากร่างกายขาวเนียนแล้วบังคับให้ร่างโปร่งบางลุกขึ้นมานั่ง ซึ่งเมฆาก็ทำตามอย่างเชื่อฟัง คณินถอดเสื้อผ้าออกจากกายไปให้หมด ก่อนจะไปนั่งพิงพนักเตียงเหยียดขายาว เอื้อมมือมารูดรั้งส่วนกลางลำตัวของตัวเอง สายตาก็สบกับดวงตาของเมฆาที่มองกันอย่างเอียงอาย

คณินปล่อยมือออกจากแก่นกายใหญ่ของตน

“ใช้ปาก”

“ห๊ะ!”

“มาอมมันเดี๋ยวนี้”

“เขต...แต่ว่า”

“มา! จะได้เลิกพูดมากเสียที”

“ไม่เอา!” เมฆาปฏิเสธเสียงแข็ง หันหน้าหนีร่างสูง คณินเห็นแบบนั้นก็ชักจะโมโห เห็นท่าทีพยศนั่นแล้วเริ่มหงุดหงิด ทำผิดแล้วยังจะมาเอาแต่ใจตัวเองอีก…

“จะทำไม่ทำ ถ้าไม่ทำจะไปให้คนอื่นทำให้”

ขวับ!!

ใบหน้าหล่อสะบัดมามองหน้าคนพูดอย่างไม่พอใจ เม้มปากแน่นอย่างระงับอารมณ์

“เออ! จะว่าไปก็อยากเลิกไม่ใช่เหรอวะ งั้นก็ดี ไปให้คนอื่นทำให้ก็ได้” คณินว่า พลางทำท่าจะลุกขึ้น แต่เมฆาไวกว่าคลานไปนั่งทับหน้าแข้งของคณินเอาไว้ เอื้อมมือนุ่มไปจับที่ส่วนลำตัวแข็งแรงที่ขยายสู้มือ คณินเอนหลังพิงกับพนักเตียงอีกครั้ง มองใบหน้าหล่อด้วยความพึงพอใจ

เมฆานั่งมองแก่นกายใหญ่ที่อยู่ในมือของตัวเอง คิ้วขมวดแน่น สีหน้าจริงจังจนคณินหลุดขำออกมา

“หึหึ”

หวงกันขนาดนี้แล้วมาทำปากเก่งบอกเลิก…

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เมฆาสนใจ มือขาวค่อยๆ ขยับรูดรั้งขึ้นลงเหมือนกับที่เคยทำกับตัวเอง เงยหน้ามองสีหน้าของคณินเล็กน้อยก่อนจะยิ้มมุมปากได้ใจเพราะสีหน้าที่ดูทรมานของคณินทำให้เขาออกแรงขยับให้เร็วและแรงขึ้น เสียงครางต่ำดังออกมาจากคนตัวใหญ่ที่มองร่างกายเมฆาด้วยสายตาวาววับอย่างกับเสือจ้องเขมือบเหยื่อ

“ซี้ด...อ่า”

คณินขัดใจแต่ก็เสียวซ่านหากแต่ต้องการให้ปากของเมฆานั้นครอบครองมากกว่ามือ

“พี่เมฆ...อ่า ปาก”

“แค่มือได้ไหม” เมฆาเอ่ยขอร้องเสียงอ่อน

“พี่เมฆ...อา...พี่เมฆ”

คณินรู้จุดอ่อนของเมฆาดี หากเขาเรียกอีกคนว่า ‘พี่’ เมื่อไหร่ เมฆาจะใจอ่อน แล้วยอมเขาทุกอย่าง ซึ่งมันก็เป็นทุกกรณีไม่มียกเว้น เมฆาเม้มปากแน่น ก่อนจะข่มความอายค่อยๆ โน้มหน้าลงไปที่ส่วนกลางลำตัวที่ขนาดสมส่วนกับร่างกายที่ได้รับมาจากพ่อเลี้ยงตะวันเต็มๆ

แลบลิ้นออกมาแล้วค่อยๆ แตะที่ส่วนปลายอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่พอได้ยินเสียงครางด้วยอารมณ์เสียวซ่านของคณินแล้ว เมฆาก็เริ่มได้ใจและสนุกไปกับมัน ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าจะต้องทำแบบไหน เพราะตอนที่ถูกทำให้เขาก็มองอยู่ตลอดนั่นแหละ เพียงแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเอามาใช้กับผู้ชายด้วยกันแล้วตัวเองต้องเป็นฝ่ายทำแบบนี้

“โอ้ว...ซี้ด ดี ดีมาก อา ทำไมเก่งจังวะ”

ยิ่งถูกชมเมฆายิ่งฮึกเหิม ไล่เลียสลับครอบครองด้วยโพรงปากอ่อนนุ่ม ความใหญ่ของมันทำให้เมฆาไม่สามารถที่จะเอามันเข้าปากไปได้หมด ร่างสูงจับศีรษะเล็กกดลงไป ก่อนจะกระทุ้งเอวสวนขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามันเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะปลดปล่อยเต็มที

ตลอดเกือบสองเดือนที่เราไม่ได้สัมผัสกันเลย แม้แต่จูบก็ไม่มี ที่สำคัญล่าสุดที่เจอก็ดันมีเรื่องเสียก่อน ไหนจะถูกบอกเลิกทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

ความต้องการของเด็กหนุ่มยิ่งรุนแรงมากขึ้น

“อื้อ...อื้อ”

เมฆาร้องในลำคอเพราะคณินไม่ยอมให้ปากของเขาเป็นอิสระ ร่างโปร่งช้อนตามองคนที่กดศีรษะสวนกายขึ้นตอบรับจังหวะของเขา สีหน้าของคณินดูทรมานแบบเซ็กซี่ คนอายุน้อยกว่าหลับตาแต่คิ้วขมวดกัน ไม่นานร่างสูงก็ปลดปล่อยมันออกมาใส่ปากเล็กของเมฆาจนร่างโปร่งสำลัก

แคกๆ

“อึก…” ร่างโปร่งคายมันออกมา ก่อนจะใช้หลังมือเช็ดปากตัวเอง

คณินลืมตาขึ้นมองคนตรงหน้าที่นั่งมองเขาด้วยสีหน้าอายๆ แก่นกายของเมฆาที่ขยายตัวเต็มที่เพราะแรงอารมณ์เสียดสีกับหน้าแข้งของเขา ร่างแกร่งหัวเราะเบาๆ

พรึ่บ!!!

“อ๊ะ...เขต เดี๋ยว จะทำอะไร อ๊ะ ใจเย็นๆ เขต”

เมฆาร้องอุทานอย่างตกใจเมื่อคณินผลักร่างโปร่งให้ออกจากขาของเขาจนเกือบจะตกเตียง หากแต่มือแกร่งก็คว้าแขนเล็กเอาไว้ได้ก่อนแล้วเหวี่ยงร่างของเมฆาให้ลงไปนอนที่เตียง เขาจัดการแยกขาของเมฆาออกจากกัน  เมฆาที่อยู่ในท่าน่าอายก็เอามือปิดปากเพราะสายตาของคณินตอนนี้บอกเลยว่าน่ากลัว เขากลัวว่าตัวเองจะร้องเสียงดังไป จนคนในบ้านตื่นขึ้นมา

โดยเฉพาะพ่อของเขาที่นอนอยู่…

“เก็บเสียงดีๆ ไม่งั้นคนแห่มาแน่”

ร่างสูงบอกเสียงพร่า สีหน้าทรมานสุดๆ เมฆารู้ว่าตัวเองจะเจออะไร...

สวบ!!!

“อ๊า...า….า” ร่างโปร่งบางร้องใส่มือตัวเองออกมาเสียงดังเมื่อร่างสูงสอดใส่แก่นกายใหญ่โตของตัวเองเข้ามาอย่างรุนแรง ทีเดียว มิดลำ และยังไม่ทันที่เมฆาจะหายเจ็บ คณินก็สวนกายเข้าออกขยับด้วยจังหวะรุนแรงจนร่างของเมฆาสั่นคลอนไปตามจังหวะการกระแทกกระทั้น

คณินกัดฟันกรอดจนเห็นเส้นเลือกที่ขมับ เขาเน้นย้ำเข้าไปอย่างรุนแรงแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน นี่เป็นการลงโทษ ส่วนที่เมฆาปรนนิบัติให้เข้าเมื่อกี้ถือว่าเป็นการง้อ แต่ตอนนี้คณินกำลังเริ่มบทลงโทษของค่ำคืนนี้ทันทีด้วยความรุนแรงหนักหน่วง เล่นทำเอาคนที่รองรับอารมณ์ถึงกับกลั้นเสียงจนแทบจะขาดใจตาย

“อื้อ...อ๊า อ๊า อ๊ะ อ๊ะ เขต อ๊า”

“ฮืม...อึก รัดโคตรแน่น อา…”

“ไม่ อ๊า มันแรงไป อ๊า มันเร็วไป ไม่ไหว อ๊า จะออกแล้ว” ร่างโปร่งเสียวซ่านเกินจะทนเลยปลดปล่อยน้ำรักออกมาทั้งๆ ที่คณินก็ยังสวนกายรุนแรงอยู่อย่างนั้น

เมฆาเริ่มมีอารมณ์กลับมาอีกครั้งเมื่อมือแกร่งยื่นมาสะกิดเม็ดทับทิมของเขาเล่น ก่อนจะดึงร่างขาวขึ้นมากลายเป็นว่าเมฆากำลังนั่งทับส่วนกลางลำตัวของคณินที่กำลังเด้งขึ้นหนักๆ เรียวขาเกี่ยวกันแน่นเป็นการรัดเอวสอบเอาไว้อย่างแน่นหนา เชิดหน้า กัดปาก เสียงที่ดังออกมาจะได้ไม่ดังเกินไป ปลายลิ้นร้อนของคณินเองก็ทั้งดูด ทั้งเลียที่เม็ดทับทิมของเขาจนรู้สึกเสียงซ่านทั้งส่วนข้างบน และข้างล่าง

เพราะมีเมฆานั่งทับ จังหวะในการกระแทกกายของเมฆาเลยช้าลง แต่ก็ยังคงหนักหน่วง หากแต่มันก็ไม่ทันใจเมฆาที่ตอนนี้อารมณ์พุ่งขึ้นสูงเลยสักนิด ร่างบางก้มหน้าลงจูบที่ริมฝีปากหนา ปลายลิ้นร้อนหยอกล้อกันทั้งข้างนอกแล้วก็วกเข้าไปข้างในโพรงปาก

“อื้อ...อ๊ะ เขต เร็วๆ อ๊า”

“อือ...อา ทำเองดิ”

พลัก!!

เมฆาทนไม่ไหวแล้ว เขาผลักร่างแกร่งให้นอนราบไปกับเตียง ก่อนที่ร่างโปร่งบางจะขย่มร่างแกร่งอย่างแรงและเร็วตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

คณินเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหายที่ได้เห็นความเร่าร้อนของเมฆา  มือแกร่งจับเอวบางเอาไว้ บ้างก็สวนกายรับจนเมฆาครางออกมาอย่างเสียวซ่าน

“อา อย่างนั้น เมฆ โอ้ว พี่เมฆ อา…”

“เขต...อ๊า เขต อื้อ เสียว อ๊า เสียว”

“ซี้ด แบบนั้นแหละ อา…”

ทั้งคู่บรรเลงเพลงรักอย่างเร่าร้อนรุนแรง ไม่นานทั้งสองก็ถึงฝั่งฝัน เมื่อปลดปล่อยแล้ว ร่างโปร่งก็ทิ้งตัวนอนทับคณินทั้งๆ ที่แก่นกายใหญ่ยังคาอยู่ในช่องทางรัก

และมันก็กำลังขยายตัวอีกครั้ง

“เหนื่อยแล้วนะเขต”

“ไม่ได้...บทลงโทษนี้ยังอีกนาน”

“ม่ะ ไม่ อ๊า!!”

เมฆาร้องเสียงหลงเมื่อถูกจับให้อยู่ด้านล่าง ร่างสูงก็ไม่รอช้าที่จะขยับกายเข้าออกเพื่อเริ่มต้นเพลงรักอีกรอบ อีกรอบ และอีกหลายหลายรอบ…



เมฆานอนเปิดตาในความมืด เขานอนอยู่ในอ้อมแขนของคณินที่กำลังนอนหลับไปด้วยความเหนื่อย เราสองคนเพิ่งจะหยุดกิจกรรมเข้าจังหวะกันเมื่อกี้นี่เอง เขาโดนทำโทษ...เลยยังไม่ได้พูดอะไรกันเลย นี่ก็ตีสี่กว่าเกือบจะตีห้าแล้ว ร่างสูงควรที่จะกลับไปได้แล้วเพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงปลอดภัยที่จะเดินออกจากไร่ไปโดยไม่มีใครเห็น

แต่เขาอยากนอนอยู่ในอ้อมแขนของคณินแบบนี้...ซึ่งไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีโอกาสหรือเปล่า ที่เราจะได้นอนพร้อมกัน ตื่นขึ้นมาเจอหน้ากันโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครรู้ จะมีใครเห็น

“ฉันมองไม่เห็นแสงสว่างในทางที่เรากำลังเดินอยู่เลย”

“แล้วจะกลัวอะไร ถ้าเราจับมือเดินไปด้วยกัน” คนที่เมฆาคิดว่าหลับไปแล้วพูดขึ้นมา ทำเอาร่างโปร่งสะดุ้งด้วยตกใจ…

“ไม่ได้หลับเหรอ”

“หลับแล้ว ตื่นแล้ว...มันถึงเวลาที่ต้องไปแล้วนี่”

คณินลุกขึ้นนั่งก่อนจะเดินลงไปเก็บเสื้อผ้ามาสวมใส่เตรียมตัวออกจากที่นี่ไป เมฆามองร่างสูงแล้วถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ

“ไหนว่าจะมาเคลียร์กันไง ไม่เห็นจะพูดอะไรเลย”

“แล้วจะให้พูดอะไร ที่เอากันตลอดทั้งคืนก็เป็นคำตอบดีอยู่แล้วนี่ว่านายไม่อยากเลิก และฉันก็ไม่เลิก”

“เมื่อไหร่จะเลิกพูดตรงๆ เลิกพูดหยาบๆ สักที”

“ก็คนมันเป็นแบบนี้” คนอายุน้อยกว่าตอบอย่างไม่ใส่ใจ แล้วสวมเสื้อผ้าของตัวเองไปด้วย ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของเมฆาทั้งหมด

ร่างกายของคณินเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง และสามารถที่จะเติบโตได้มากกว่านี้อีก

“ฉันไม่ชิน ฟังแล้วไม่ชิน”

“ก็พูดกับนายแค่คนเดียวเปล่าวะ”

ลองพูดกับคนอื่นดูสิ….

“เฮ้อ...แล้วนี่จะไปแล้วเหรอ” คนตัวขาวเปลี่ยนเรื่อง

“อือ...เดี๋ยวคนเขาตื่นหมดจะหลบลูกปืนไม่ทัน”

“อย่าพูดอะไรเป็นเล่นแบบนี้สิ ฉันไม่ชอบ”
“หงุดหงิดอะไรวะ หรือว่าท้องแล้ว ก็ไม่นี่หว่า เห็นไปฉีดยาคุมทุกเดือน” ร่างสูงเดินมานั่งที่ปลายเตียง มองตากับเมฆาอย่างสื่อความหมายที่เขาไม่เคยได้เห็นมันมาก่อน

แค่นี้ก็เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปแล้วล่ะ

“บ้า!!”

“เอ้า! ก็ดูดิ๊ อารมณ์อย่างกับคนท้อง หรือว่าอยาก...งั้นมา เดี๋ยวช่วย”

“ไอ้บ้า!! ไม่ใช่สักหน่อย รีบกลับไปเลยไป” ร่างโปร่งเอ่ยปากไล่ ชันเข้าขึ้นมาแล้วเอาคางวางไว้บนเข่าที่มีผ้าห่มคลุมอยู่

“หึหึ ก็นึกว่าไม่พอ แรกๆ ชอบทำเป็นขัดขืนไม่ยอม แต่พอเครื่องติดก็เล่นทำเอาหมดแรง คนอะไรวะจะเร่าร้อนได้ขนาดนี้ แต่ก็ดี มีเมียแบบนี้จะได้ไม่ต้องหาคนอื่น ถึงใจ...คิดว่าเอากับคนอายุมากกว่าแล้วแม่งจะหมดแรงง่ายๆ ที่ไหนได้ หึหึ...อึดโคตร” ร่างสูงพูดออกมาอย่างไม่อายปาก ส่งสายตาให้กับเมฆาที่นั่งอายอยู่บนเตียง

“หยุดพูดเลยนะ…ไอ้เด็กบ้า หุบปากไปเลยไป”

“ทำมาเป็นอาย จำไม่ได้หรือไงว่าเมื่อกี้ขึ้นควบมากี่ครั้ง โดยเฉพาะรอบก่อนสุดท้าย ทั้งๆ ที่ฉันตั้งใจจะหยุดแท้ๆ อยู่ดีๆ ก็ลุกมาขี่กันซะงั้น หึหึ”

“นี่เขต...หยุดพูดเลยนะ ฮื่อ!!”

มันเป็นความจริงที่ไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ แต่มันควบคุมตัวเองไม่ได้ พอถูกไฟราคะครอบงำ เขาก็เหมือนทำทุกอย่างตามความต้องการส่วนลึกของจิตใจไปเลย มันออกไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจ มันเหมือนว่าอะไรที่เคยรู้สึกขาดหายมันได้ถูกเติมเต็ม ที่สำคัญมันทำให้เมฆารู้สึกว่าคณินอยู่กับเขาจริง

ยิ่งรุนแรงมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งตกย้ำว่าคณินอยู่กับเขา...อยู่ข้างๆ เขา และเวลาที่เขาอยู่ข้างบน เมฆารู้สึกว่า คณินเป็นของเขา...
คณินเงียบ หยุดล้อ หยุดแซวคนตัวเล็กกว่าเพราะเดี๋ยวมันจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ เขานั่งมองร่างโปร่งนิ่งๆ สังเกตใบหน้าหล่อใสที่อยากจะเห็นมันตลอดเวลา ก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง

“ห้ามพูดคำว่าเลิกออกมาอีก เข้าใจไหม ไม่งั้นจะลงโทษโดยการบุกเข้ามาฉุดตรงๆ แบบไม่ลักลอบเข้ามาแบบนี้ เอาให้รู้กันให้หมดเลย ให้มันวุ่นวายไปเลย”

“อือ...ขอโทษด้วยนะที่งี่เง่า” เมฆาสำนึกผิดตั้งแต่เมื่อวันนั้น ปากเก่งแต่จริงๆ แล้วก็ขาดคณินไม่ได้ เขาเสียน้องชายคนนี้มาสิบห้าปีกว่า จะไม่ยอมเสียคนที่รักไปอีกเด็ดขาด

เมฆาจะยอมคณิน ถ้าเราเลิกกัน...ไปกันไม่ได้ หรือถ้าคณินเจอคนที่ดีกว่า ก็ให้คณินเป็นคนบอกเลิกเอง เป็นคนตัดสินใจเรื่องระหว่างเรา...

“ไม่ชอบเลย มันเจ็บ เข้าใจใช่ไหม” คณินบอกออกไปตรงๆ ว่าตัวเองเจ็บที่ได้ยินคำว่าเลิก นั่นยิ่งตอกย้ำให้คนอายุมากกว่ารู้สึกผิด

“อื้อ...ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจให้เจ็บ แต่ฉันก็เจ็บไม่แพ้นายเลยนะเขต การที่จะต้องทิ้งคนที่ฉันอยากอยู่ข้างๆ มาโดยตลอด มันไม่ได้ง่ายเลยนะ”

“ทีหลังก็อย่าคิดตื้นๆ”

“อื้อ”

“แค่คิดจะปล่อยกันไปก็ไม่ได้ นายต้องรับผิดชอบฉัน ให้ทั้งชีวิตกับฉัน รักฉันแค่คนเดียว แล้วอนาคต ฉันสัญญา เราจะต้องได้อยู่ด้วยกัน”

เมฆาหลบสายตา…

เขารู้ความหมายในประโยคนั้น ถ้าพ่อของเขาได้รับผลกรรมที่ก่อ ไม่ว่าจะติดคุกหรืออะไร คณินจะดูแลเขาเอง แต่เมฆาทำแบบนั้นไม่ได้ เขาปล่อยให้พ่ออยู่คนเดียวไม่ได้

เมฆาไม่อยากมีความสุข ในขณะที่พ่อลำบากอยู่ในคุก

“ถ้าฉัน...คือ เปล่าหรอก”

ร่างโปร่งตัดสินใจไม่พูดมัน ทำเอาคณินขมวดคิ้วฉงน แต่ก็ไม่อยากซักไซ้ให้มากความ เขาก็ควรจะให้ความเป็นส่วนตัวเมฆาบ้าง ถ้าเมฆาพร้อมจะพูด ก็คงบอกเขาเอง

“ไม่มีอะไรแน่นะ จะได้ไป”

“เขต…”

“หือ?”

“เราจะเจอกันอีกเมื่อไหร่”

“ไม่รู้สิ ถ้าว่างจะโทรมาก็แล้วกัน ถ้าเจอได้เดี๋ยวนัด แต่ถ้ากลางวันไม่ว่าง กลางคืนจะมาหาที่นี่อีก”

เมฆาไม่อยากให้ร่างสูงเสี่ยงชีวิตเข้ามาหาเขาที่นี่เลย ถ้าคณินโดนเก็บ แน่นอนว่าพ่อของเขาต้องบอกว่าเป็นการป้องกันตัว คณินจะโดนข้อหาบุกรุกด้วย เขาไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น

“นายเลิกมาที่นี่ตอนกลางคืนจะได้ไหม”

“ทำไม?”

“เป็นห่วง แล้วก็กลัวด้วย”

“อย่ากังวลน่า ฉันมีวิธีที่จะเข้ามาอย่างปลอดภัยก็แล้วกัน”

“แต่ว่า…”

“สัญญา ว่าจะไม่มาบ่อย โอเคนะ”

“อือ”

“ไปแล้ว”

ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปหาเมฆา ร่างโปร่งเองก็ยื่นเข้าหาอย่างรู้งาน ปากของเราสัมผัสกันเบาๆ แต่ทำให้หัวใจเต้นแรงได้ไม่ต่างจากจูบที่ดูดดื่มเลย

ตาสบตา สื่อความรู้สึกที่ลึกซึ้งกันอย่างตรงไปตรงมา หัวใจของเมฆาเต้นแรง มือสั่นด้วยความตื่นเต้นที่ตัวเองถูกมองด้วยสายตาแบบนี้เป็นครั้งแรก

“เดินกลับดีๆ นะ”

“ครับ นอนได้แล้ว เช้าแล้ว เดี๋ยวต้องตื่นไปทำงานไม่ใช่เหรอ”

“อื้อ…”

“นอนไปเถอะ”

“อ่า...ครับ”

เมฆามองร่างสูงที่เดินไปยังระเบียง แล้วทำการปีนลงไปอย่างชำนาญ มือบางแนบที่หัวใจ มันรู้สึกอบอุ่น อิ่มเอม เขาไม่ได้คิดไปเองว่าคณินเปลี่ยนไปนิดหน่อย แม้ว่าตอนร่วมรักจะรุนแรงเพราะบอกว่าเป็นการลงโทษ แต่คำพูดเมื่อกี้นี้มันอ่อนโยนขึ้นหรือเปล่า
จะว่าไปแล้วการระเบิดลงในวันนั้น มันก็ทำให้คณินปฏิบัติกับเขาอ่อนโยนขึ้น  ล่ะนะ

“พี่รักเขตนะ…”





100%
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้กำลังใจ ยูกิด้วยนะคะ ^^

ติดตามข่าวสาร พูดคุย ทวงนิยาย ได้ทางแฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/


ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
เขตพูเไม่เพราะเลย ไม่นึกถึงคนฟังเลย :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ร้อนแรงจริง ๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
เขตลงโทษพี่เค้าแล้ว... หายโกรธแล้ว... พูด กับ พี่ เค้า ดี ดี นะ.. สงสารพี่เมฆ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ฮื่ออ เขตพูดไม่เพราะเลย ขัดใจ
สงสารพี่เมฆจัง เขตรุนแรงมาก แต่คู่นี้เค้าร้อนแรงกัน

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ในความปากร้ายยังมีความหวานแอบซ่อนอยู่สินะ
คู่นี้รักกันแบบฮาร์ดมากๆค่ะ

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ไอ้เขต ไอ้เด็กนิสัยไม่ดี

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เขตก้อยังคงเป็นเขต
และเมฆก็ยังคงเป็นเมฆ
รักเขตเมฆนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
17





“มึงๆ นั่นใช่พี่เมฆหรือเปล่าวะ มากินข้าวกับใครก็ไม่รู้หล่อด้วย”

ขวับ!!!

คณินที่กำลังจะหยิบโทรศัพท์เพื่อแชทหาคนในความคิดขณะที่รออาหารมาเสิร์ฟ แต่แล้วประโยคคำถามที่มาจากปากของเพื่อนสนิทตรงหน้าก็ทำให้เขาหันขวับไปยังด้านที่ศตคุณชี้

ถ้ามันมีแค่ชื่อของเมฆาบอกเลยว่าคณินก็ไม่รีบหันขนาดนี้หรอก แต่มันดันเป็นคำถามที่เหมือนกับว่าเมฆามาทานข้าวกับผู้ชายหน้าตาดี ทั้งๆ ที่เพื่อนของตัวเองนั่นก็คือชานนท์กลับต่างประเทศไปนานแล้ว ร่างสูงชักสีหน้าไม่พอใจ จ้องมองเมฆาที่ยิ้มให้คนที่นั่งตรงข้ามตัวเองนิดๆ โดยไม่รู้เลยว่าเขาเองก็อยู่ในร้านนี้ด้วย

พรึ่บ!!

ไม่รอช้าคณินก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังทั้งคู่ทันที สีหน้าของเมฆายามที่เห็นหน้ายักษ์ๆ ของคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนก็ทำเอาหน้าเสียจนไม่รู้จะทำยังไง ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันที่นี่

“สวัสดี”

“อ้าว? เขตนี่เอง มีอะไรถึงมาทักกันแบบนี้ล่ะ คุณคณิน ศักดินนท์” พอผู้ชายที่เมฆามาทานข้าวด้วยหันมาก็ทักทายเขาอย่างรู้จักสนิทสนมกัน

แต่ความเป็นจริงแล้วก็ไม่ถูกกันเท่าไหร่หรอก ไอ้ประโยคที่พูดนั่นก็ประชดประชันดูหาเรื่องซะมากกว่า

“ไม่ได้มีอะไรกับคุณหรอก แต่มีกับอีกคน”

“เอ่อ...ว่าไงเขต มีอะไรหรือเปล่า”

“ไอ้มีน่ะมีแน่ ลุก!”

“เฮ้ยๆ จะมาสั่งให้คุณเมฆลุกแบบนี้ได้ยังไง เขามากับฉันนะไอ้หนู” ศรันย์โวยวายใส่คนอายุน้อยกว่าที่ตัวเองไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่ เพราะเคยถูกคนอายุน้อยกว่าคนนี้หักหน้ากลางงานประชุมมาแล้ว

“จะมากับใครก็ช่างแต่ต้องกลับกับฉัน”

“นี่ ให้มันน้อยๆ หน่อย ทำตัวเสียมารยาทกับผู้ใหญ่จริงๆ แล้วสนิทสนมกันรึไงถึงได้มาสั่งให้เขาลุกไปกับแกเนี่ย” ศรันย์ชักสีหน้าไม่พอใจ

“เอ่อ...คุณศรันย์ครับ พอดีผมนัดคุยธุระกับน้องเขาเอาไว้แล้วน่ะครับ ผมลืมบอกไป” เมฆาเอ่ยขึ้นมาเพื่อขัดขวางการเถียงของทั้งสองคน

“ไม่ยักกะรู้ว่าสมรชัยติดต่อกับศักดินนท์ด้วย”

เป็นเรื่องแล้วไง!!!

“มันไม่ใช่เรื่องงานหรอกครับ เรื่องส่วนตัวนิดหน่อย ยังไงก็ต้องขอโทษนะครับ เอาไว้คราวหน้าผมจะเลี้ยงเป็นการขอโทษอีกทีนะครับ”

“ถ้าคุณเมฆว่าแบบนั้นผมก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ”

“ขอบคุณนะครับ”

เมฆาลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามคณินไป ไม่วายหันไปยิ้มแห้งๆ ให้กับศรันย์ซึ่งก็ยิ้มหวานกลับมาให้ คณินตวัดสายตาให้กับร่างโปร่งอย่างไม่พอใจ ก่อนจะหันไปสบตากับศรันย์แล้วยักคิ้วเยาะเย้ย อ้าปากพูดแบบไม่มีเสียงว่า ‘ของกู’

นั่นทำให้ศรันย์กำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจ โกรธเคืองเด็กหนุ่มที่มักจะทำอะไรก็ได้ดีกว่าไปซะทุกเรื่อง แต่เรื่องของเมฆาเขาไม่ยอมแน่ ดูก็รู้ว่าคณินก็กำลังสนใจเมฆาแบบอื่นที่ไม่ใช่ศัตรู ในฐานะผู้ชายที่มีความรู้สึกแบบเดียวกันต่อเมฆา ศรันย์รับรู้ได้เลยว่าคณินคือคู่แข่ง

“คุณเมฆเขาเป็นของฉัน เด็กอย่างแกไม่มีทางที่คุณเมฆจะสนใจหรอก”

ศรันย์ไม่รู้เลยว่าระหว่างทั้งสองคนนั้นไปไกลเกินกว่าที่ตัวเองคิดแล้ว และคณินเองก็ไม่รู้เลยว่าการหึงหวงครั้งนี้ จะนำความเดือดร้อนมาสู่เมฆา...นำความยุ่งยากมาให้ความรักของพวกเขา



“เมื่อวานพาเขามากกที่บ้าน กว่าจะพาไปส่งคืนก็ดึกดื่น แล้วก็ไม่ยอมกลับมานอนที่บ้านอีก สรุปจะทำตัวลักกินขโมยกินใช่ไหมเขต” ผู้เป็นบิดาถามขึ้นมาระหว่างที่ทานอาหารเช้าอยู่

เมื่อคืนพ่อเลี้ยงอาทิตย์เพลียเกินกว่าจะรอว่าลูกชายกลับกี่โมง เลยถามคนรับใช้ในบ้านว่าคณินกลับมาถึงกี่โมงก็ได้ความว่าหกโมงเช้ากว่าๆ

ให้มันได้แบบนี้สิลูกกู

“สรุปว่ายังไง จริงจังหรือว่าแค่เล่นสนุก”

“นี่พ่อเห็นลูกพ่อเป็นคนยังไงเนี่ย” คณินถามอย่างเซ็งๆ

“ก็อยากได้ยินจากปาก อยากให้กล้าทำกล้ารับ อยากให้พูดความจริง อยากให้พูดที่มันตรงกับใจบ้าง ทำไม? มีปัญหากับพ่อแกหรือไง”

“ใครจะไปกล้ามีปัญหากับพ่อเลี้ยงอาทิตย์เล่า”

“ตอบ...อย่าทำเป็นเนียนเปลี่ยนเรื่อง”

“ก็...ก็อย่างที่คิดนั่นแหละ”

มองลูกชายที่จู่ๆ ก็เขินอาย ตอบแบบอ้อมแอ้มก็ชักจะรู้สึกคันเท้าตงิดๆ

เตะสักทีดีไหมเนี่ย!

“แกแค่เล่นๆ”

“โหพ่อ นี่มองว่าลูกตัวเองเป็นคนเลวขนาดนั้นเลยหรือไง” คณินโวยวาย ทำเอาคนเป็นพ่อหัวเราะออกมานิดๆ ที่ได้กวนลูกชายเล่นยามเช้า

“ก็ไม่รู้สิ...ไม่พูดออกมาใครจะไปรู้ว่าแกคิดอะไรอยู่”

“นี่พ่อจะให้พูดให้ได้เลยใช่ไหม”

“เออ!!”

คณินมีสีหน้าลำบากใจที่จู่ๆ ก็ต้องมาสารภาพรักเมฆากับพ่อทั้งๆ ที่เมฆายังไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของคณินเลยสักครั้ง แม้ว่าเขาจะพูดตอนที่เมฆาหลับทุกครั้งก็เถอะ

“ก็...คือแบบ...ก็จริงจังไงพ่อ แม่ของลูก จบนะ ฮึ่ย!!” พูดจบก็ทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนความอาย ซึ่งก็สามารถเลี่ยงคำว่ารักได้ คำๆ นี้ เขาอยากจะให้เมฆาฟังเป็นคนแรก ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่จะกล้าพูดออกไปเสียที

“ก็แค่นี้...ไปบอกเขาด้วยล่ะ แต่เมฆเขาก็ผู้ใหญ่มากพอที่จะเข้าใจคนอย่างแกได้ล่ะนะ”

“คนอย่างผมทำไม?”

“ก็เอาแต่ใจ ขี้โมโห ที่สำคัญนะปากแข็งที่หนึ่งเลยล่ะ ระวังนะไม่ยอมพูดอะไรที่มันสำคัญๆ ไป เขาอาจจะไม่อยากรอฟังจากแกแล้วก็ได้” พ่อเลี้ยงอาทิตย์เตือนลูกชาย

“ทุกวันนี้ผมก็ชัดเจนนะพ่อ”

“เออ...ก็ดี ลองการกระทำแกไม่ชัดเจนสิ แล้วก็ได้ข่าวว่าไปเอาตัวเขามาจากคุณศรันย์เมื่อวานนี้” พอาทิตย์เลิกคิ้วถามบุตรชาย

“ครับ...ก็มัน…”

“หึง?”

คณินพยักหน้าแทนการพูดตอบ ทำเอาคนเป็นพ่อถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ข้อเสียของลูกชายมีอยู่ไม่กี่อย่างเท่านั้นแหละที่เป็นปัญหา หนึ่งในนั้นคือความใจร้อนวู่วาม ไม่ไตร่ตรองดีๆ ว่าทำแล้วดีหรือส่งผลอย่างไร่ต่อตัวเองหรือคนสำคัญ

“แกทำแบบนั้น ไม่รู้หรือไงว่าถ้าคุณศรันย์เอาไปบอกพ่อเลี้ยงมนัสขึ้นมาคนที่เดือดร้อนจะเป็นเมฆนะ”

“...”

“วันนี้ก็ตามด้วยก็แล้วกันว่าเมฆเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า”

“ครับ”

พอคณินได้ฟังแบบนั้นเขาก็เริ่มเป็นห่วงคนที่ตัวเองนอนกอดอยู่ตลอดทั้งคืนในห้องนอนของเจ้าตัวซึ่งเป็นบ้านของศัตรูที่การคุ้มกันไม่ค่อยจะหนาแน่นดีเท่าไหร่ จึงทำให้คณินแอบเข้าไปได้ทุกครั้ง

“วันนี้มีเรียนไหม”

“ตอนแรกก็มี แต่อาจารย์ยกคลาส นัดสอนพรุ่งนี้เย็น”

“ถ้าไม่มีอะไรก็ดีไป แต่ถ้ามี...ก็หาทางแก้ไขเองก็แล้วกัน”

“ครับ”

คณินไม่โกรธ ไม่น้อยใจหรอกที่พ่อเลี้ยงอาทิตย์พูดเหมือนไม่ใส่ใจคนเป็นลูก พูดตัดโอกาสลูกชายไม่ให้มาขอความช่วยเหลือ เพราะคณินโตมากับการช่วยเหลือตัวเอง แก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง แม้จะมีบ้างที่พ่อเลี้ยงอาทิตย์จะเข้ามาช่วย แต่ก็ช่วยชี้แนะแนวทางให้ ไม่ได้เป็นคนเดินนำทางให้

หวังว่าจะไม่เป็นไรนะ



เมฆารู้สึกแปลกใจที่เห็นเด็กในบ้านเดินเข้าออกเป็นว่าเล่น อยากจะถามแต่ก็เหมือนว่าไม่มีใครเปิดโอกาสให้เขาเลยสักคน แล้วในขณะที่กำลังจะเดินผ่านห้องรับแขกไปเพื่อไปทำงานก็พบว่ามีแขกอยู่ในนั้นหลายคนมีคนที่เมฆาไม่รู้จัก แล้วก็มีคนที่รู้จักอย่างศรันย์ ที่สำคัญตรงนั้นมีน้องสาวของเขากำลังนั่งอยู่ข้างๆ กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่อายุน่าจะราวๆ พ่อเลี้ยงอาทิตย์หรืออาจจะมากกว่า แต่ที่แปลกคือมลลดานั่งซบเขาไม่อายผู้หลักผู้ใหญ่เลย

เฮ้อ...ก็คงเป็นการจับคู่กันนั่นแหละ

“ตาเมฆ เข้ามานี่ซิ พ่อมีเรื่องจะบอก”

ยังไม่ทันที่เมฆาจะเดินอออกไป คนเป็นพ่อที่เห็นลูกชายคนโตของตัวเองก็เรียกลูกเข้าไปอย่างอารมณ์ดี ซึ่งเมฆาก็เดินเข้าไปหาทันที ก่อนจะยกมือไหว้ทุกคนในนั้นแล้วนั่งข้างๆ กับผู้เป็นพ่อทันที

“นี่เหรอลูกชายของพ่อเลี้ยง หน้าตาหล่อเชียว”

“ครับ นี่แหละลูกชายของผม ตอนนี้ก็กำลังคบหาดูใจกับคุณศรันย์อยู่” คำพูดของคนเป็นพ่อทำเอาร่างโปร่งหันขวับไปมองหน้าของคนพูดทันที ก่อนจะหันไปสบตากับศรันย์ที่ส่งยิ้มหวานให้ตั้งแต่เขาเดินมา

“พ่ะ…”

“วันนี้ผมก็เลยพาพ่อกับแม่มาเพราะคิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ก็จะมาขอหมั้นกับคุณเมฆ หวังว่าพ่อเลี้ยงคงจะไม่รังเกียจ”
ตอนแรกเมฆาก็นึกขอบใจที่ศรันย์ไม่เอาเรื่องที่เขากับคณินไปด้วยกันเมื่อวันก่อนไปบอกพ่อ แต่ตอนนี้ เมฆาชักจะรู้สึกรังเกียจวิธีของอีกคนเสียแล้ว

ไม่คิดว่าจะทำกับเขาแบบนี้ ทั้งศรันย์ ทั้งพ่อ...

“ไม่รังเกียจหรอกครับ ดีใจด้วยซ้ำ วันนี้มันเป็นวันที่ดีจริงๆ เลยนะครับ ใกล้ถึงวันเกิดก็ได้ของขวัญชิ้นใหญ่ถึงสองชิ้นเลย คุณเจนจบก็มาขอลูกสาวแต่งงาน ส่วนคุณ    ศรันย์ก็มาขอหมั้นหมาย เป็นของขวัญครบรอบสี่สิบปีที่ดีจริงๆ”

“ผมก็ตั้งใจที่จะมาก่อนวันเกิดพ่อเลี้ยงนั่นแหละครับ หลังจากงานวันเกิด เราจะได้หาฤกษ์หมั้นกันเลย ดีไหมครับคุณเมฆ” ศรันย์หันมาถามความเห็นจากเมฆาด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจว่ายังไงก็ไม่มีทางที่เมฆาจะปฏิเสธ

เมฆาเกรงใจพ่อเลี้ยงมนัสแค่ไหน ศรันย์รู้เรื่องนี้ดีเลยล่ะ

“ผมคิดว่ามันเร็วเกินไปนะครับ เรายังไม่รู้จักกันดีเท่าไหร่เลย”

“หมั้นกันก่อนแล้วก็ศึกษาในฐานะคู่หมั้นก็ได้ครับ”

“แล้วถ้าเกิดว่าเราไปกันไม่ได้ก็ถอนหมั้นเหรอครับ นี่มันชีวิตจริงนะครับ ไม่ใช่การละเล่นแบบเด็กๆ ยังไงผมก็คิดว่ามันยังเร็วไปที่จะผูกมัดกัน เอาตรงๆ คือผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณศรันย์มากไปกว่าคำว่าเพื่อนเลยครับ ต้องขอโทษด้วยถ้าหากจะทำให้เข้าใจผิด”

ตอนนี้เมฆาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่สนด้วยว่าตัวเองกำลังหักหน้าผู้เป็นพ่ออย่างรุนแรง ผู้ใหญ่ของฝ่ายศรันย์เองก็มองเมฆากับลูกชายอย่างงงๆ

“เอ...ไหนลูกบอกว่าคุณเมฆกับลูกรักกันไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

“ขอโทษด้วยนะครับคุณนาย...ผมกับคุณศรันย์เราไม่ค่อยได้เจอกันนะครับ นับครั้งได้เลย คำว่ารักคงจะเร็วเกินไปสำหรับพวกผมทั้งสอง” เมฆาตอบผู้เป็นมารดาของศรันย์ไปอย่างตรงๆ

“แต่ยังไงเราก็จะดองกันอยู่แล้ว เมฆคงไม่ขัดใช่ไหมถ้าลุงจะหมั้นหมายเราให้พี่รันเขา”

“ใช่จ้ะ ยังไงก็ต้องศึกษากันไว้ เพราะทั้งสองก็ต้องหมั้นกันอยู่แล้ว ใช่ไหมคะพ่อเลี้ยง”

“ใช่ครับคุณวาด คุณศิน ยังไงเราทั้งสองก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกัน คุณศรันย์ก็ได้เข้ามาช่วยบริหารสมรชัยในฐานะลูกเขย ส่วนเมฆก็เป็นผู้ช่วยให้กับคุณศรันย์ในฐานะภรรยาและทายาทของสมรชัย” พ่อเลี้ยงมนัสพูด แล้วเอามือวางบนต้นขาของเมฆาก่อนจะบีบมันแรงๆ เป็นการปรามลูกไม่ให้พูดมากไปกว่านี้

เมฆารู้สึกเหมือนผลักให้ลงเหว เขากำลังถูกบังคับให้หมั้น เขากำลังถูกคลุมถุงชน

“แบบนี้ก็ดีเลยครับ ผมก็อยากให้ลูกชายได้ภรรยาที่เก่งแบบเมฆเขา” ศินธรพูด ยิ้มออกมาอย่างยินดี

“ผมคงจะมีความสุขไปชั่วชีวิตเลยครับถ้าได้คุณเมฆเป็นภรรยา”

เมฆาไม่อยากจะมองหน้าศรันย์เลย เขาไม่ตอบรับรอยยิ้มนั่นจนทำให้ศรันย์หน้าเจื่อน ส่วนพ่อเลี้ยงมนัสเห็นแบบนั้นก็ออกแรงบีบเนื้อลูกชายจนต้องนิ่วหน้าเพราะเจ็บ

“เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ตามนี้ก็แล้วกันนะครับ ส่วนเรื่องหมั้นหมายเราค่อยคุยกันอีกที เรามาคุยเรื่องการแต่งงานของลูกสาวผมกับคุณเจนจบกันบ้างดีกว่า”

“ผมให้คุณแม่หาฤกษ์มาแล้วครับเป็นอีกสามเดือนข้างหน้า พี่นัสเรียกสินสอดเท่าไหร่” หนุ่มใหญ่วัยสามสิบปลายๆ อายุห่างจากพ่อเลี้ยงมนัสไม่กี่ปีพูดขึ้น เมฆามองเจนจบกับน้องสาวแล้วเหนื่อยใจ

เจนจบไม่ใช่สเปคของน้องเลยสักนิด แต่คิดว่าน่าจะรวยน้องถึงได้ยอมผูกมัดตัวเองกับผู้ชายอายุใกล้เคียงพ่อแบบนี้ ทั้งรูปร่างที่อวบๆ หน้าก็ไม่ได้จัดว่าดูดี แต่ชุดที่ใส่ล้วนเป็นของแบรนด์เนมหรู

“ก็แล้วแต่ความเหมาะสมเลย พี่ไม่ซีเรียส”

“เจนขา ไม่เร็วไปหน่อยเหรอคะ มลยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลย ไหนจะชุดแต่งงาน ไหนจะชุดปาร์ตี้อีก รองเท้า เครื่องประดับ เป็นเจ้าสาวทั้งทีให้มลได้อะไรดีๆ ไม่ได้เหรอคะ”

“โธ่...เดี๋ยวผมจะพามลไปหาตัดชุดเอง เลือกร้านได้เลย รับรองว่าผมต้องทำให้มันทันให้ได้”

“แต่ว่า มลอยากตัดที่ต่างประเทศนี่คะ สามเดือนจะไปทันอะไร”

“แค่บอกมาว่าที่ไหน เดี๋ยวผมจะจัดการให้ทุกอย่างเลยครับ”

“จริงนะคะ”

“จริงครับ”

“น่ารักจังเลย งั้นก็ได้ค่ะ มลจะแต่งอีกสามเดือนก็ได้”

ร่างโปร่งอยากจะออกไปจากห้องนี้จริงๆ เลย เจนจบคนนี้ไม่รู้พฤติกรรมของน้องสาวของเขาหรืออย่างไร ถึงได้รักมากมายจนยอมได้ขนาดนี้

“ถ้าอย่างนั้นผมกับคุณแก้วก็จะเตรียมจัดการเรื่องงานทันทีเลยนะครับพ่อเลี้ยง” ผู้ใหญ่ฝั่งของเจนจบก็พูดคุยตกลงกันต่อไป เมฆาก็ไม่ได้สนใจจะฟังอีกแล้ว ที่เขาต้องการตอนนี้คืออกไปจากที่นี่ แล้วหนีไปให้ไกลๆ ไม่ต้องเจอใคร ไม่ต้องหมั้นกับใคร
ทำไมชีวิตของเขาที่เลือกอะไรเองไม่ได้สักอย่าง…


เมฆามาเดินเล่นที่สวนสนามหญ้า มองคนงานกับเด็กรับใช้กำลังจัดเตรียมสถานที่กันใหญ่ เขารู้แล้วล่ะว่าที่ตรงนี้จะเป็นสถานที่จัดงานฉลองวันเกิดของพ่อเลี้ยงมนัสในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ร่างโปร่งเดินไปเรื่อยๆ อย่างเหม่อลอย จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา เมฆารีบล้วงมันขึ้นมา พอเห็นชื่อคนที่โทรมาก็ยิ้มออกทันที แต่พอคิดว่าตัวเองต้องบอกเรื่องหมั้น ร่างโปร่งก็มีสีหน้าเครียดๆ เหมือนเดิม

“ว่าไงเขต”

(ทำอะไรอยู่)

“เดินเล่นอยู่ที่สวนเนี่ยแหละ แล้วนายล่ะ ไม่มีเรียนหรือไง”

(เบรกอยู่ เลยโทรไป อ้อ! พรุ่งนี้จะกลับไร่นะ จะไปหาด้วย ว่างกี่โมง) เมฆายิ้มออกมา หัวใจเต้นแรงอย่างมีความสุข หลังจากที่ไปบอกเลิกที่โรงพยาบาลวันนั้นก็เหมือนว่าคณินจะอ่อนโยนกับเขามากขึ้นจริงๆ ไม่ได้คิดไปเองด้วย สังเกตมาหลายครั้งแล้ว

ที่สำคัญแม้ว่าจะไม่ได้ยินคำว่ารัก แต่การที่คณินยอมรับว่าเราคบกันกับพ่อเลี้ยงอาทิตย์นั้น ก็ถือว่าเป็นคำบอกรักอย่างหนึ่งที่เมฆาคิดเองเออเองว่าใช่

“พรุ่งนี้ว่างนะ แต่ต้องไปหาชุดใส่ วันอาทิตย์จะมีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของพ่อน่ะ” เมฆาตอบไป หากแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะพูดบอกเรื่องนั้นออกไป

เมฆากลัวว่าคณินจะหนีเรียนแล้วบุกมาที่นี่ ความใจร้อนของคณินไม่ธรรมดา เรื่องนี้เมฆารู้ดีแก่ใจ จะบอกอะไรกับคณินต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าเหมาะที่จะพูดหรือไม่

เอาไว้พูดบอกวันพรุ่งนี้ก็ได้

(เดี๋ยวพาไป)

“ไปกับพี่เจสได้ ไม่เป็นไร”

(ก็อยากพาไป ไม่ได้หรือไง)

“อื้อ...ก็ได้ ว่างตอนไหนก็โทรมาบอกแล้วกัน จะออกไปหา”

(ครับ…)

“เขต…” ยังไม่ทันที่เมฆาจะถามว่าเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้าง เสียงของคนที่เขาไม่อยากจะได้ยินที่สุดก็ดังมาจากข้างหลัง พร้อมกับมือใหญ่ที่จับแขนเขาข้างที่ถือโทรศัพท์คุยอยู่

“คุณเมฆ!”

หมับ!!

“อ๊ะ…”

“คุณเมฆครับ คุยกันก่อนนะ” เป็นศรันย์ที่เดินตามหาร่างโปร่งมาตั้งนานพูดขึ้น ศรันย์ต้องการจะเคลียร์กับเมฆาให้รู้เรื่อง เพราะท่าทางไม่พอใจที่ต้องหมั้นกับเขา

“คุณ? ปล่อยนะครับ” เมฆาบอกเสียงแข็ง มืออีกข้างเอื้อมมาหยิบโทรศัพท์ออกไป ก่อนจะพยายามสะบัดแขนข้างที่ถูกจับอย่างแรง แต่คนที่ทำตัวเสียมารยาทก็ไม่ปล่อย

“คุยกันก่อนนะ สัญญานะว่าจะไม่เดินหนีผม”

“ปล่อยครับ อย่าทำให้ผมต้องรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้เลย”

ศรันย์ปล่อยแขนเรียวทันทีอย่างเสียดาย แต่เขาก็ต้องทำเป็นสุภาพบุรุษไว้ก่อนเพื่อเอาชนะใจของเมฆา

แม้ว่าตอนนี้จะเป็นว่าที่คู่หมั้นของเขาแล้วก็ตาม แต่เขาก็ต้องการให้เมฆาเต็มใจด้วย

“วันนั้น เด็กนั่นได้ทำอะไรคุณเมฆหรือเปล่าครับ”

“เขตน่ะเหรอครับ ก็ไม่ได้ทำอะไร เราคุยกันดี สักครู่นะครับ...” เมฆาตอบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบ ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาพูดกับคณินที่ตอนนี้กำลังฟังอย่างตั้งใจและเป็นห่วง “ฮัลโหล”

(ไอ้ศรันย์ใช่ไหม มันทำอะไรหรือเปล่า)

“ไม่มีอะไรหรอก แค่นี้ก่อนนะ เอาไว้ตอนเย็นๆ จะโทรหาใหม่”

(ไม่มีอะไรจริงๆ นะ อย่าให้ต้องรู้เอง)

“ครับ”

(อือ...งั้นเจอกันพรุ่งนี้ อ้อ! ที่เห็นไม่โวยวายนี่เพราะเชื่อใจนะ)

“ครับ” เมฆาเผลอยิ้มออกมาเพราะคำพูดที่แสนน่ารักของคนที่ชอบพูดจาห่ามๆ แข็งกร้าวของคนอายุน้อยกว่า ทำเอาศรันย์ที่ยืนมองอยู่ถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความอิจฉา

ร่างโปร่งบางเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง แล้วก็เงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่สูงกว่า

“มีอะไรครับ”

“คุณคุยกับใครครับ”

“เรื่องนี้เหรอครับที่ต้องการจะคุยกับผม งั้นผมไม่ขอตอบนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ” เมฆาทำท่าจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ก็โดนดักหน้าเอาไว้ก่อน

“คุณเมฆโกรธผมหรือครับ”

“ครับ” ร่างโปร่งตอบตรงๆ

“ผมขอโทษ”

“แล้วไงครับ เปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นยกเลิกการหมั้นจะดีกว่านะครับ ผมไม่อยากหมั้นกับคุณ ผมไม่อยากแต่งกับคุณ ผมมีคนที่ผมรักแล้ว”

เมฆาเหนื่อยที่จะต้องมาเป็นหมากตัวหนึ่งให้พ่อใช้เดินไปสู่ความยิ่งใหญ่ แล้วการแต่งงานมันคือทั้งชีวิตของของเขา จะให้แต่งกับคนที่ไม่ได้รัก เขาทนอยู่ไม่ได้แน่ๆ

“มันเป็นใคร...มันเป็นใครคุณเมฆ ไอ้คนที่คุณคุยเมื่อกี้ใช่ไหม!” ศรันย์ชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ ความหึงหวงทำให้เขาดีแตก เผลอขึ้นเสียงกับเมฆา ไม่พอยังจับไหล่เล็กแล้วเขย่าเพื่อเค้นเอาคำตอบด้วย

“คุณศรันย์!! โอ๊ย...คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับผมนะ!!”

“มันเป็นใคร คุณรักใคร ผมไม่ยอมหรอก คุณเป็นของผม ต้องเป็นของผมเท่านั้น ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์”

“นี่คุณ ปล่อยนะ!!”

“บอกผมว่าไอ้นั่นมันเป็นใคร”

“นี่คุณศรันย์ มันจะมากไปแล้วนะ คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับผมนะ”

“ผมมี...คุณเป็นของผม เป็นคู่หมั้นของผม มันเป็นใคร!! บอกมาสิครับว่ามันเป็นใคร!!!”

ร่างโปร่งพยายามเอามือผลักที่อกศรันย์อย่างสุดแรง จนร่างสูงเซไปข้างหลังแล้วล้มลงกระแทกพื้นหญ้า เมฆามองศรันย์ด้วยสายตาแห่งความไม่พอใจ

“ผมไม่มีวันหมั้นกับคุณแน่ๆ คุณศรันย์”

ร่างโปร่งหันหลังกลับ แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของศรันย์

“ไอ้เขตใช่ไหม!”

“อย่าพาลได้ไหมคุณศรันย์”

“ผมไม่ได้พาล แต่มันจงใจแย่งคุณไปจากผม”

“ไม่มีใครแย่งผมไปจากคุณทั้งนั้น เพราะผมไม่ใช่ของคุณตั้งแต่แรก ช่วยเข้าใจใหม่ด้วยนะครับ ผมไม่อยากหมั้นกับคุณ เพราะผไม่อยากหมั้นกับคนที่ผมไม่ได้รัก เข้าใจนะครับ” ร่างสูงกัดฟันกรอด

“คุณไม่มีทางยกเลิกมันได้ คุณเป็นของผม ไอ้นั่นมันก็ได้แค่ความรัก แต่ผมได้ครอบครองคุณ และใครก็ตามที่มันมาแย่งคุณไปจากผม ผมฆ่ามันทุกตัวแน่!!!”

เมฆากัดฟัน กำหมัดแน่น แล้วเดินต่อเหมือนตัวเองไม่ได้กลัวอะไรกับคำพูดนั่นเลย ศรันย์มองตามคนที่เดินหนีไปด้วยความโกรธ

“ไอ้เขต...แกอยากจะลองดีมากใช่ไหม ไอ้เด็กเมื่อวานซืน คิดจะแข่งกับฉันทุกเรื่อง เรื่องอื่นแกชนะ ฉันยอมได้ แต่เรื่องของคุณเมฆ แกไม่มีทางชนะ!!!”

ศรันย์กัดฟันเคียดแค้นคณินที่เขาได้ยินเมฆาเรียกก่อนที่เขาจะเข้ามาหาเพื่อเคลียร์เรื่องหมั้น แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร มาคิดตอนที่เมฆาคุยโทรศัพท์กับมันต่อหน้านั่นแหละ แล้วยิ่งอาการชะงักตอนที่ศรันย์ตะโกนถามว่าเป็นเพราะคณินใช่ไหม ศรันย์ก็ยิ่งมั่นใจว่าคนที่เมฆาคุยด้วยคือคณิน…

คนที่เมฆารักก็คือคณิน...





100%
 :hao6: :hao6: :hao6:

อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้กำลังใจ ยูกิด้วยนะคะ ^^

ติดตามข่าวสาร พูดคุย ทวงนิยาย ได้ทางแฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/



ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
โดนจับคลุมถุงชนอีก อะไรกันเนี่ยย  :z2:
สู้ๆค่า

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไอ้ศรันย์นี่มัน....

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
เกิดเป็นเมฆาสุดแสนจะลำบาก :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ศรันย์แนะนำนะ ฉุดเมฆาไปเลย ไม่งั้นไม่ได้กินแน่55555

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สั่งเก็บศรันย์ได้หหมเนี่ย มารขัดขวางความรักของเขตเมฆจริงๆ

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ความวู่วามของเจ้าทำเอาเดือดร้อนกันเป็นทอดๆเลยเห็นไหมเขต?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
พาหนีเลยน้องเขย... เมียทั้งคน555

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
18






เมฆาไม่เคยรู้อะไรเลยว่าพ่อกำลังทำอะไรอยู่ ไม่เคยรู้แผนการอะไรของพ่อเลี้ยงมนัสเลย นั่นมันทำให้เขาไม่สามารถที่จะช่วยศักดินนท์ได้เลย อย่างเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ไร่ศักดินนท์ที่ผ่านมา เขาก็ไม่เคยรู้มาก่อน นั่นเป็นคำตอบได้ดีว่าพ่อไม่เคยไว้ใจใคร แม้กระทั่งเขาที่เป็นลูกชายก็ตาม

ตอนนี้ยังถูกพ่อเลี้ยงมนัสกักบริเวณ ไม่ให้ออกไปไหนนอกจากที่ไร่ แม้จะให้อยู่แต่ในไร่ เมฆาก็ไม่สามารถไปไกลได้เกินสำนักงานของตัวเองและบ้านเพราะมีคนตาม คุมแจ รายงานพ่อเลี้ยงมนัสตลอด สาเหตุเป็นเพราะพ่อเลี้ยงมนัสรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคณินจากศรันย์แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกพ่อเลี้ยงมนัสไม่ไว้ใจเพราะกลัวว่าจะเอาความลับไปบอกกับศัตรู
ศรันย์เองก็มาหาเขาทุกวัน เมฆาสามารถออกไปข้างนอกได้ถ้าไปกับศรันย์ ซึ่งเขาก็ยอมที่จะอยู่ในไร่ไม่ไปไหนดีกว่าต้องไปกับคนที่ไม่ชอบ

“ไปจับตัวเด็กนั่นมาให้กูให้ได้!!”

เสียงตะโกนลั่นของพ่อเลี้ยงมนัส ชะงักเท้าที่กำลังเดินของเมฆาทันที เมฆาที่กำลังจะเดินไปทำงานก็ต้องแอบฟัง ความที่ได้คือพ่อของเขาตองการจับตัวคนรักของพ่อเลี้ยงอาทิตย์มา เขายอมไม่ได้ เรื่องแบบนี้เมฆายอมไม่ได้จริงๆ พ่อกำลังเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา เมฆาก้าวเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัว

“พ่อจะทำอะไรน้องหมู”

“นี่แกกล้าแอบฟังฉันเหรอ!!!” คนเป็นพ่อถลึงตาใส่ลูกอย่าไม่พอใจ

“ถ้าไม่แอบฟังผมจะรู้เหรอว่าพ่อกำลังจะทำเรื่องน่ารังเกียจอีกแล้ว”

“ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน แกอย่ามายุ่ง!!”

“เรื่องอื่นผมไม่ยุ่ง แต่นี่พ่อกำลังเอาเด็กที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยมายุ่งกับเรื่องแค้นๆ ของพ่อ ผมไม่ยอม”

“แกกล้าขัดฉันเหรอฮะไอ้เมฆ!!”

“พ่อก็บอกสิว่าจะพาน้องหมูมาทำอะไร”

“อยากรู้ใช่ไหม? ได้!! ฉันก็จะเอามาเป็นแม่เลี้ยงแกไง!!! ได้ยินชัดหรือยัง”

“พ่อคิดว่าน้องหมูจะยอมพ่อหรือไง แค่พ่อจับมือเขา เขาก็รังเกียจพ่อจะแย่อยู่แล้ว”

“ไอ้ลูกเวร!! กล้าว่าฉันเหรอห๊ะ...เฮอะ! แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ใครๆ ก็ชอบเงินกันทั้งนั้น ลองฉันให้ได้ทุกอย่างเหมือนที่อาทิตย์มันให้ ยังไงเด็กนั่นก็ต้องอยู่”

“พ่อคิดว่าน้องหมูเหมือนคนอื่นหรือไง ถ้าเหมือนพ่อเลี้ยงไม่จริงจังด้วยหรอกนะครับ”

“แล้วไง...ใครมันก็เป็นทาสของเงินกันทั้งนั้นแหละ”

“แต่กับน้องหมู...ไม่ใช่”

“เออ!!! แกคอยดูก็แล้วกัน...ว่าใช่หรือไม่ใช่” เขาชี้หน้าบอกลูกชายไปอย่างมั่นอกมั่นใจจบ ก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกไป ทิ้งให้ลูกชายยืนนิ่งอยู่กลางบ้านเหมือนเดิม...เมฆาเม้มปากแน่น ไม่ได้โกรธพ่อที่พูดออกมาแบบนั้น แต่กำลังคิดหาทางช่วยศตคุณต่างหาก...เขาจะไม่ยอมให้พ่อตัวเองทำร้ายเพื่อนของคนรักตัวเองแน่ๆ

น้องหมูเป็นคนดีเกินกว่าจะมาแปดเปื้อนเพราะพ่อของเรา

ไม่รอช้าเมฆาก็ใช้โทรศัพท์บ้านต่อสายไปยังเบอร์ที่เขาจำมันได้ขึ้นใจเพราะมือถือถูกยึดไปแล้ว ต้องรีบบอกเรื่องนี้ให้คณินเอาไปบอกพ่อเลี้ยงอาทิตย์เตรียมรับมือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าพ่อจะใช้แผนไหน

(ดูแลตัวเองด้วย แล้วอย่าไปไหนมาไหนกับไอ้ศรันย์ด้วย อืม...เดี๋ยวค่อยเจอกัน) ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า แต่ก็แฝงด้วยความเป็นห่วงจนเมฆาอยากจะเจออีกคนเสียเดี๋ยวนี้

ตั้งแต่งานวันเกิดพ่อ ก็มีการประกาศหมั้นของเขากับศรันย์ ไม่นานในวันเดียวกันพ่อเลี้ยงอาทิตย์ก็ต้องรีบกลับเพราะมีลอบวางเพลิง เมฆายังไม่ได้เจอหน้าคณินเลย

“อยากเจอ...อยากจะเจอเขต” ร่างโปร่งพูดกับโทรศัพท์บ้านที่เขาได้วางมันไปแล้วแต่ก็ยังไม่เดินออกไปที่ไหน ราวกับว่าถ้าเข้าไปในโทรศัพท์แล้วสามารถไปถึงตัวคณินได้ เมฆาก็จะทำ…




“คุณเมฆครับ ผมมารับไปทานข้าว”

“ไม่ไปครับ”

“แต่พ่อคุณกำชับมา จะขัดคำสั่งเหรอครับ” ศรันย์ยิ้มให้อย่างผู้ชนะ เมฆามองศรันย์แล้วก็เดินหนี ยังไงก็ไม่มีทางไปเด็ดขาด แค่หายใจร่วมโลกเขาก็รังเกียจพอแล้ว

หมับ!

“จะหนีผมไปไหนล่ะครับ”

“นี่คุณ”

ร่างโปร่งถูกคว้าเอาไว้ไม่ให้เดินหนี ศรันย์กระชากอีกคนเข้ามาแล้วกอดเอาไว้อย่างแน่นหนา เมฆาชักสีหน้าหงุดหงิด พยายามที่จะสลัดตัวให้หลุดจากอ้อมแขนของ  ศรันย์

“ผมเป็นสุภาพบุรุษแล้วคุณไม่ชอบ เห็นทีคงต้องแบบละครตบจูบล่ะมั้ง”

“คุณศรันย์ ปล่อยผมนะ คุณไม่มีสิทธิ์มาทำรุ่มร่ามกับผมนะ”

“ทำไมผมจะไม่มี ผมมีสิทธิ์เต็มๆ เลยล่ะ”

“คุณ!!”

“ผมให้โอกาสคุณหลายครั้งแล้วนะ ถ้าขอดีๆ ไม่ได้ ก็ต้องบังคับกันแบบนี้แหละ อ้อ! แล้วคุณก็เลิกหวังได้เลยว่าจะได้พบกับไอ้เขตมันอีก ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้คู่หมั้นของผมไปเจอเด็กอวดดีแน่ๆ” ศรันย์ออกแรงรัดเมฆาอีก จนร่างโปร่งดิ้นไม่ได้

“ผมไม่ใช่คู่หมั้นของคุณ เลิกบ้าสักที!!” เมฆาขึ้นเสียงใส่ จะตะโกนให้คนมาช่วยก็ไม่มีประโยชน์ เพราะทุกคนในบ้านล้วนแต่ฟังคำสั่งของพ่อเลี้ยงมนัสทั้งนั้น

“คุณเป็น...ถ้ายังปฏิเสธอีก ผมจะเปลี่ยนงานหมั้นให้เป็นงานแต่งแน่”

เมฆากัดฟันกรอด มองหน้าของศรันย์ด้วยความโกรธ

“คุณเป็นของผม”

“ไม่ใช่!! ผมเป็นของเขต ทั้งตัวผม หัวใจของผม ผมยกมันให้เขตไปหมดแล้ว หรือคุณจะชอบใช้ของต่อคนอื่นโดยเฉพาะคนที่คุณไม่ชอบ”

“นี่คุณจะยั่วโมโหผมให้ได้เลยใช่ไหม!! ถ้าร่างกายคุณเป็นของมัน งั้นก็เป็นของผมด้วยอีกคนก็แล้วกัน ผมไม่ถือหรอก เพราะต่อจากนี้ คุณเป็นของผมคนเดียว!!!”

ศรันย์ประกาศกร้าว แต่ยังไม่ทันที่เมฆาจะโดนทำอะไร โทรศัพท์ของศรันย์ก็ดังขึ้น หากแต่ก็ยังไม่ปล่อยเมฆาให้เป็นอิสระเพราะแขนอีกข้างเขายังว่างอยู่

“มีอะไร!!”

เมฆาหยุดดิ้นเพราะคิดว่าอาจจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์จากการคุยโทรศัพท์ของศรันย์ เพราะเมฆาเชื่อว่าธุรกิจผิดกฎหมายทุกอย่าง ศรันย์ต้องรู้และร่วมด้วยแน่ๆ

“ของที่ส่งเมื่อคืนมีปัญหา มีปัญหายังไงวะ ก็ทำแบบเดิมไม่ใช่เหรอ แล้วสายก็บอกว่าไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรจากทางตำรวจ แล้วมึงปล่อยให้มันเข้ามาตรวจรถได้ยังไง!! เออ...เดี๋ยวกูไปจัดการเอง” ร่างสูงวางสายไปด้วยสีหน้าโมโห ก่อนจะตวัดมามองหน้าเมฆาอย่างเจ็บใจที่ต้องปล่อยคนในแขน

“คุณโชคดีไปนะ วันนี้ผมมีธุระด่วน อ้อ! ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ผมจะมาใหม่”

จุ๊บ!

ร่างโปร่งชะงักอย่างตกใจเมื่อถูกศรันย์จูบที่ปากบาง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความโกรธจนสามารถที่จะผลักศรันย์ให้ล้มไปที่พื้นได้

พลัก!!!

“คุณมันน่ารังเกียจมากจริงๆ”

ร่างโปร่งใช้หลังมือเช็ดปากอย่างรังเกียจ แล้ววิ่งออกจากบ้านไป เขาไม่สนใจการ์ดที่กำลังวิ่งตามเลยสักนิด ตอนนี้คือเขาต้องการออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เขาไม่อยากอยู่แล้ว เขาอยากเจอคณิน

ขอแค่ได้กอด ขอแค่ลบสัมผัสน่ารังเกียจนี้ออกไป

ขอแค่นี้จริงๆ


เมฆานึกขอบคุณที่ตัวเองเคยเป็นนักกีฬาวิ่งมาก่อน ร่างโปร่งบางวิ่งทิ้งระยะห่างจากการ์ดมาได้หลายร้อยเมตร เลี่ยงทางที่มีคนงานอยู่เพราะอาจจะมาช่วยกันจับเขากลับไป จนกระทั่งเห็นรั้วสีขาวที่กั้นระหว่างไร่อยู่ตรงหน้า ไม่รอช้าก็รีบวิ่งไปแล้วจะกระโดดข้ามรั้วไปยังฝั่งศักดินนท์

“หยุด! ถ้าเข้ามา คนในไร่นี้เอาพวกนายตายแน่ กลับไปซะ!! เดี๋ยวฉันกลับไปเอง ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะไม่กลับ” เมฆาสั่งปนเสียงหอบ เมื่อเห็นว่าการ์ดไม่กล้าข้ามตามมา

“คุณเมฆกลับมาเถอะครับ ไม่งั้นผมรายงานเรื่องนี้ให้พ่อเลี้ยงทราบแน่”

“ตามสบาย ฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว กลับไป!!!”

เมฆาหันหลังแล้วก้าวเข้าไปในไร่ศักดินนท์ ความกลัวไม่มีอยู่แล้วตอนนี้ หากมัวแต่กลัว เมฆาไม่มีทางหนีพ้นแน่ๆ จนกระทั่งเข้ามาในเขตไร่ส้ม คนงานของศักดินนท์เห็นว่าเขาเป็นคนของสมรชัยก็รีบมาล้อมเอาไว้ทันที

“ลูกชายของพ่อเลี้ยงมนัส มีธุระอะไร”

“ผมต้องการเจอเขต เรียกเขตมาพบผมหน่อย” เอ่ยวัตถุประสงค์ออกไปเบาๆ   ส่งสายตาอ้อนวอนให้แต่ก็ไม่มีใครต้อนรับเขาเลยสักคน

“คุณจะมาทำร้ายคุณเขตของพวกเราใช่ไหม กลับไปไร่ของคุณเลย”

“เรียกเขตให้ผมหน่อย ขอร้องล่ะ” เมฆาแทบจะหมดแรงแล้ว

การจะเจอกับคนรักมันยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้เลยหรือ แน่ล่ะ เราสองครอบครัวเป็นศัตรูกันนี่ แล้วก็คบกันแบบไม่ได้เปิดเผยอีกด้วย ใครจะไปรู้...ว่าเราคบกัน

“กลับไปๆ”

คนงานก็พากันส่งเสียงไล่เมฆา ร่างโปร่งมองไปยังทุกคนก็เม้มปากทำอะไรไม่ถูก ดวงตาร้อนผ่าว แต่พยายามที่จะอดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหล จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้นมา หัวใจของเมฆาถึงกับเต้นระส่ำด้วยความดีใจ

“ทำอะไรกัน!!!”

คนงานหลีกทางให้คนมาใหม่เดินเข้ามาหาเขา เมฆายิ้มอ่อนแล้วยกมือไหว้คนตรงหน้า รอยยิ้มของคนที่มาใหม่ทำให้เมฆามีความหวัง

“มีอะไรหรือเปล่าเมฆ”

“ผมอยากเจอเขตครับอาพายัพ”

พายัพเลิกคิ้วนิดๆ แต่เห็นสีหน้าของหลานแล้วก็เข้าใจได้ว่าคงจะเจออะไรที่มันเกินจะรับได้มา

“เดี๋ยวอาพาไป ไปรอที่รถคันนั้นไป ขอโทษแทนคนงานด้วยนะเมฆ”

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับอาพายัพ” เมฆาเดินออกมาแล้วตรงไปนั่งรอบนรถที่จอดอยู่ ระหว่างที่รอพายัพที่คุยอะไรกับคนงาน เมฆาก็เช็ดปากตัวเองไปด้วย แต่ทำยังไงความรู้สึกน่ารังเกียจมันก็ไม่หายไปสักที จูบจากคนที่ทำตัวน่ารังเกียจ

ไม่นานพายัพก็พาเมฆามาส่งถึงหน้าบ้าน ก็เจอกับคณินที่มายืนรออยู่แล้วด้วยสีหน้าเครียดๆ เมฆาไม่แปลกใจเลยที่เห็นคนที่อยากเจอมายืนรออยู่เพราะระหว่างทางพายัพโทรศัพท์ไปบอกคณินแล้วว่าเมฆามาหา

“ตามสบายนะ”

“ขอบคุณครับอาพายัพ”

ส่วนร่างโปร่งมองพายัพที่ขับรถออกไปจากหน้าบ้านเพื่อกลับไปทำงานต่อ ก่อนจะหันหน้ามามองคณิน น้ำตาที่กลั้นมานานก็หลั่งไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ โผเข้ากอดร่างแกร่งทันที

หมับ!!!

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เขต...ฮึก เขต” เมฆาร้องสะอึกสะอื้นเป็นเด็ก มือแกร่งก็ได้แต่ลูบหลังเล็กเบาๆ แต่แล้วร่างบางก็ได้ทำในสิ่งที่คณินไม่คาดคิดจนร้องห้ามแทบไม่ทัน

“เดี๋ยว...อื้อ”

มือเรียวคว้าคอร่างสูงลงมาจูบอย่างรุนแรงไม่สนใจเลยว่าตรงนี้จะเป็นหน้าบ้านของคณินที่มีคนเดินเพ่นพ่านอยู่ตลอด ซึ่งตอนนี้มีคนงานกับคนรับใช้ในบ้านบางคนเห็นเหตุการณ์ด้วย ร่างแกร่งเลยตัดสินใจที่ตวัดแขนยกร่างบางขึ้นมาอุ้ม ก่อนจะพาเดินเข้าไปในบ้านเพื่อตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง แต่ระหว่างที่เดินเมฆาก็ยังจูบเขาไม่หยุด แน่นอนว่าคณินไม่ใช่พระอิฐพระปูน การถูกคนรักที่ไม่ได้เจอกันเลยจู่โจมก่อนแบบนี้ก็เผลอตอบสนองไปบ้างจนเกือบก้าวขาขึ้นบันไดพลาด

ปัง!!

“อื้อ...อื้ม”

สิ้นเสียงปิดประตูห้อง ร่างโปร่งก็ถูกวางลงให้ยืนบนพื้นในห้องนอน ขยับกายเบียดเข้าหาคณินยกแขนคล้องคอแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบต่ออีก

“เดี๋ยวก่อน...อื้อ”

เมฆารู้เพียงแค่ว่ามันคิดถึง...คิดถึงกอด คิดถึงจูบ คิดถึงสัมผัส และอยากจะให้คนรักช่วยลบสัมผัสน่ารังเกียจที่ศรันย์ทำรุ่มร่ามกับเขาเมื่อกี้นี้

ร่างสูงจูบตอบด้วยความร้อนแรง ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กอย่างชำนาญ กลายเป็นผู้คุมเกมแทนร่างโปร่งบางทันที และเมื่อเมฆาเคลิบเคลิ้ม ปล่อยให้เขารุกส่วนตัวเองก็ตอบสนองแบบพอดีๆ คณินก็ถือโอกาสนี้ถอนปากออกมา แม้จะเสียดายมากขนาดไหนแต่เขาต้องการจะถามที่มาที่ไปของคนตรงหน้าก่อน

“เขต…”

“เดี๋ยวค่อยจูบ แต่ตอนนี้คุยกันก่อน โอเคนะ” ร่างโปร่งเม้มปากแน่น มองปากคนพูดอย่างเสียดาย ซึ่งสายตานั่นทำเอาคณินรู้สึกอยากจะ ‘รัก’ อีกคนใจจะขาด

“ก็ได้”

มือแกร่งจับมือเล็กแล้วจูงให้เดินไปนั่งข้างกันที่ปลายเตียงนุ่ม ก่อนที่คณินจะเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน…เมฆาเลยฟ้องเหมือนเด็กน้อยฟ้องพ่อแม่ยาม ถูกแกล้ง

“พ่อกับคุณศรันย์ บังคับให้ฉันหมั้น ฉันไม่ได้เต็มใจ แล้วเขาก็รู้แล้วด้วยว่าเราแอบคบกันเลยกักบริเวณฉัน ยึดมือถือ...เมื่อกี้ เมื่อกี้คุณศรันย์มา จะพาไปกินข้าว แต่ฉันไม่ไป ก็เลยทะเลาะกัน ฉันบอกว่าฉันเป็นของเขตแล้ว คุณศรันย์ก็เลย...เลยกอด ฮึก...เมื่อกี้ถ้าไม่มีคนโทรมาตาม ฉันต้องถูกข่มขืนแน่ๆ”

คณินที่นั่งฟังเงียบๆ ก็กัดฟันกำหมัดแน่น คว้าร่างโปร่งข้างๆ มากอดเอาไว้ในอ้อมแขน แต่แล้วประโยคต่อมาก็ทำเอาสติของคณินขาดผึง

“เขา ฮึก เขาจูบฉันด้วย ฮือ...ทั้งกอด ทั้งจูบ ฉันรังเกียจอ่ะเขต ฉันรังเกียจ”

พรึ่บ!!!

เมฆาถูกผลักให้นอนไปบนเตียง ดวงตาสวยมีแต่หยาดน้ำตา คณินปวดใจที่ต้องเห็นเมฆาเจ็บปวด นิ้วแกร่งเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ร่างใหญ่ขึ้นคร่อมทับร่างของเมฆา ส่วนเมฆาก็ยกแขนมาคล้องคอแกร่ง

“เดี๋ยวลบให้ จะลบ จะล้างให้สะอาดเลย อย่าร้อง...พี่เมฆเป็นของเขต เป็นของเขตคนเดียว จูบกับกอดนิดๆ หน่อยๆ ถือว่าทำทานให้หมามัน” แม้ว่าตัวเองจะโกรธจะโมโหแค่ไหนที่ศรันย์กล้าทำรุ่มร่ามกับคนของเขา แต่ถ้าแสดงความร้อนออกไป เมฆาจะยิ่งรู้สึกไม่ดี

“อื้อ...จะไม่ร้องแล้ว”

“ดีมาก…”

“พี่รักเขตนะ รักมากๆ ด้วย”

เมฆาช้อนตาขึ้นสบตาคมอย่างออดอ้อน บอกรักอย่างน่ารักจนคณินอดใจไม่ไหว ร่างสูงยิ้มให้กับคนใต้ร่าง แล้วก้มลงซุกไซ้ปากกับจมูกไปตามซอกคอขาวเนียนที่เจ้าของเปิดทางให้เมฆาสัมผัสมันอย่างยินยอม เต็มใจ ลากไล้มาที่ปากปาก ดูดเบาๆ เม้มกลีบปากบางเล่นอย่างหยอกล้อ เมฆาก็เผยอปากเชิญชวนส่งเสียงครางเบาๆ กระตุ้นอารมณ์คณิน

ปากหนาหยอกล้อเล่นกับปากบางไม่จูบจริงๆ จังๆ เสียที จนเมฆายกตัวขึ้นมาจะจูบแต่อีกคนก็หลบออก ส่งผลให้ใบหน้าสวยงอง้ำ เบะปากจนคณินงับมันเล่น ใบหน้าคมซุกที่คอสวยอีกครั้งคราวนี้ทำรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้อย่างชัดเจนหลายๆ รอย แล้ววกขึ้นไปกระซิบที่ข้างหู

“เขตก็รักพี่เมฆ”

พรึ่บ!!!

หัวใจของเมฆาเต้นระส่ำอย่างดีใจ มือไม้อ่อนแรงไปหมดแต่ก็ตัดสินใจที่จะพลิกตัวขึ้นมาผลักร่างสูงให้ลงไปนอนแทน ก่อนที่จะย้ายตัวขึ้นมานั่งทับที่หน้าท้องแข็งแรง

“เขตพูดว่าอะไรนะ” ถามเสียงสั่น

“พูดครั้งเดียว”ร่างสูงก็ตอบกวนๆ

“พูดอีกทีนะ ขอร้อง”

โน้มหน้าไปหา มือยันที่อกแกร่งเลื่อนไปตำแหน่งหัวใจจังหวะเต้นรุนแรงทำให้เมฆารู้ว่าคณินตื่นเต้นแค่ไหน เมฆาเลยส่งสายตาออดอ้อนไปให้ แม้ว่าจะได้ยินมันอย่างชัดเจนแล้วแต่มันก็รู้สึกกึ่งความฝัน กึ่งความเป็นจริง

อยากฟังอีก อยากได้ยินอีก

“หึหึ”

“นะ...พูดอีกที ถ้าพูดอีกครั้งดังๆ เขตจะให้ฉันทำอะไร ฉันทำให้หมดทุกอย่างเลย”

ร่างสูงมองตาคนพูดอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เมฆาก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว สนใจคำบอกรักอีกครั้งเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ ที่จะเป็นกำลังใจให้เมฆาสู้ต่อ

“พูดแล้วนะ”

“อื้อ…”

“ถ้าพูดอีกครั้ง ต้องออนท็อปนะ สามน้ำ”

เมฆาพยักหน้าหงึกๆ ถอยกายไปนั่งทับส่วนกลางลำตัวที่สงบนิ่ง ก่อนจะส่ายเอวร่อนไปมาเพื่อปลุกเสือให้ตื่นขึ้นมา...ความอาย ยางอายต่างๆ เมฆาทิ้งมันไปก่อน ยอมทุกอย่างเพื่อแลกกับคำว่ารัก

“อา...ซี้ด ยั่วว่ะ” คณินขมวดคิ้วครางออกมาอย่างเสียวซ่านที่โดนปลุกเร้าอารมณ์

คนขี้อายหายไปไหนวะ เหลือแต่นางแมวยั่วสวาทเนี่ย

“พูดสิ...นะ อ๊ะ” ร้องอุทานเสียงหลงเมื่อส่วนที่ตนนั่งทับมันพองโตคับกางเกงดุนดันช่องทางด้านหลังที่นั่งทับอยู่ เมฆาขยับขึ้นลงจนใบหน้าคมแหงนครางอย่างพึงพอใจ

“หึหึ...มีเมียร้อนแรงแบบนี้ ดีชะมัด อา...ทำขนาดนี้ จับมันสอดเข้าไปเลยไหม”

“พูดก่อน ให้ห้าน้ำเลย” เมฆาต่อรอง

“จริง?”

“อื้อ…” พยักหน้าแล้วขย่มขึ้นลงกระตุ้นอารมณ์ของคณิน ที่ตอนนี้ก็คงจะไม่ไหวแล้วเช่นกัน มือแกร่งจับที่เอวบางแล้วบังคับให้คนตัวเล็กกว่าหยุดโยก หยุดขย่ม...แต่เหมือนว่าจะห้ามไม่ได้

“อา...ซี้ด โอ้ว พี่เมฆ อา เขตรักพี่เมฆ รักตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตากันที่สนามบิน อา…รักมาก หึงมาก เลยบุกจับทำเมียตอนที่ อ๊า ลืมนัดแล้วไปกับไอ้ศรันย์ โอ้ว...ถอดเสื้อผ้า อึก เร็วๆ จะทำความสะอาด อื้อ ให้”

เมฆาได้ยินแบบนั้นก็เริ่มลงมือทำตามคำสั่งทันที เมื่อคณินทำความสะอาดลบสัมผัสน่ารังเกียจไปทั่วทั้งตัว เมฆาทำตามสัญญาต่อทันที แม้ว่าจะเหนื่อยและหมดแรงแค่ไหนก็ตาม...






100%

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้กำลังใจ ยูกิด้วยนะคะ ^^

ติดตามข่าวสาร พูดคุย ทวงนิยาย ได้ทางแฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ที่เมฆาร้อนแรงขนาดนี้   เพราะเก็บกดใช่ไหม? 

เก็บกดจากครอบครัว  เลยมาปล่อยกับเรื่องบนเตียง  อิอิ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
โอ๊ยยย ซี๊ดใจ
ขอบจิงๆนะพี่เมฆออนท๊อแ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คู่นี้เค้าร้อนแรงกันจริงๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
พ่อเลี้ยงมนัสนี่ ใจคออำมหิตเกินคนจริงๆ ลูกตัวเองก็ทำร้ายได้ลงคอ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ถึงใจเขตเขาเลยซินะงานนี้

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ห๊า... จะ ตัด จบ ตอนนี้ แบบนี้ ไม่ได้ นะ... กลับมาก่อนซิ

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
พี่เมฆร้อนแรงจัง :hao3: :hao3: :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด