★C H O R A K A★ #จรกาคนงาม - ★★Special C H 02★ทายาทอสูร[02.07.61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★C H O R A K A★ #จรกาคนงาม - ★★Special C H 02★ทายาทอสูร[02.07.61]  (อ่าน 144073 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ฮือๆๆ สงสาร นว้องจิ เป็นลมไปซะแล้ว

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่อินทร์ตอนไม่บ้า โคตรมีเสน่ห์เลย  o13

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ในที่สุดก็สารภาพว่าแอบชอบอินทร์เริ่มรุกจริงจังทำให้จิลังเลแล้วแทรกไปในใจแทนให้จิลืมพีบุศย์. ร้ายนะอินทร์

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
พี่เค้ารุกหนักจังคะ ถถถ ล้มตึงไปนี่ต้องทำให้ชินเนอะ :o8:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ MissM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เชิญพี่อินทร์รับยาที่ช่องสองเลยค่ะ 5555555 :m20:

ออฟไลน์ MissM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยยย!!!!ดีต่อใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กอไก่อีกล้านตัว ละมุนมาก ลงตัวมาก น่ารักมาก  มาต่อเร็วๆนะค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สมควรที่หนูจิจะเป็นลม ก็ต้องรับมือกับสติของคนที่อยู่ตรงหน้าทุกวัน ๆ สมองและร่างกายมันก็ล้านิ แต่มันจะเป็นปัญหาอีตอนหนูจิฟื้นนี่สิ นังเหนาจะปู้ยี่ปู้ยำร่างกายหนูจิไปมากน้อยเท่าไหร่น่ะ  o12

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
วรั้ยยยยยยยยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
เพราะกลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก #ผิด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
แหม่พอเป็นคนมีสติขึ้นมาออร่าผัวก็ทำน้องเป็นลมเลยนะอิพี่5555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
Chapter 09: ได้เสียเป็นคู่สอง

เมื่อครั้งดวงจิตสุดท้ายใกล้จะดับสูญ ระตูจรกา เจ้าเมืองเล็กๆ ผู้เฒ่าชราก็ยังมิอาจปล่อยวางความแค้นดั่งไฟสุมทรวงลงได้ ทุกครั้งที่หลับตา ภาพใบหน้าของนางอันเป็นที่รักก็พร่างพราย ก้อนดวงใจพองโตทุกครั้งที่นึกถึงดวงหน้าแฉล้มยามยิ้มสรวล แต่แล้วก็ห่อเหี่ยวดั่งบุปผชาติร่วงโรยเมื่อมีภาพของหนึ่งบุรุษคลอเคล้าคลอเคลียปรากฏให้เห็น

จรกาขบกรามแน่น อดตัดพ้อไม่ได้ว่าแม้ตนใกล้จะสิ้นใจอยู่รอมร่อ เจ้าศัตรูหัวใจที่ช่วงชิงนางอันเป็นที่รักไปก็ยังมิวายมาตามราวี

แค้น...

แค้นอย่างแสนสาหัส...

ความแค้นนี้บันดาลให้เกิดเป็นแผลพุพองในใจมาตลอดหลายสิบปี แม้ใคร่จะตายก็คงตายตาไม่หลับเป็นแน่แท้ หากไม่ได้ชำระแค้นแล้วเอานางบุษบากลับคืนมาแล้วไซร้ เห็นทีดวงวิญญาณคงไม่ได้ไปผุดไปเกิดกระมัง

อิเหนา... เจ้ากับข้า ไม่ว่าอย่างไรก็มิอาจอยู่ร่วมโลกกันได้ แม้ว่าชาตินี้ข้าจะถูกเจ้าช่วงชิงน้องบุษบาไป แต่ชาติหน้าฉันใด ขอให้กงเกวียนกำเกวียนหนุนนำให้ข้าได้นางกลับคืน

โอ้...องค์เทวดาเจ้าขา หรือปีศาจอสุรกายตนใด หากได้ยินคำขอของข้าแล้วไซร้ โปรดเห็นใจดลบันดาลให้ข้าได้สมปรารถนา

จรกาตั้งจิตอธิษฐาน ความแค้นอาฆาตทำให้เหล่าเทวดาทั่วไท้มิอาจประทับบนประแท่นอย่างเป็นสุขได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์ประตาระกาหลาอันเป็นต้นวงศ์เทวาของอิเหนา เมื่อครั้นถูกรบกวนกายาก็เสด็จลงมาประทับข้างร่างกายของชายชราที่กำลังหายใจรวยริน

‘ความปรารถนาของเจ้า ขอให้สมดั่งใจในชาติหน้า เกิดชาติหน้าฉันใดขอให้เจ้าจำนางได้ ต่อให้ไม่ได้พบพานในชาติใหม่ ลูกหลานสืบสันดานของเจ้าก็จะสานต่อปณิธาน ไปเถิดจรกา เบื้องหน้าจะมีเทวดาแนะนำเจ้าว่าควรทำเช่นไร’

สิ้นเสียงก็นำน้ำอมฤตป้อนให้ระตูจรกาดื่ม

หยดน้ำหลั่งไหลลงสู่ลำคอ หยาดน้ำตาของจรกาก็หลั่งริน ก่อนที่ลมหายใจห้วงสุดท้ายจะหายไปดั่งเปลวเทียนที่ถูกพระพายพัดไหวจนดับสิ้น

สิ้นแล้วระตูจรกา...

เกิดชาติหน้าฉันใดขอให้ได้สมปรารถนาดั่งใจ

 

เฮือก!

ผมผวาเฮือกลุกขึ้นมานั่ง มองไปรอบๆ กาย พลันประมวลผลก็พอจะเข้าใจได้ตอนนี้ตัวเองมาอยู่ในห้องของพี่อินทร์ เออ ห้องของเขากับพี่บุศย์นั่นแหละ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่ผมกำลังทบทวนความจำอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น

ก่อนหน้านั้นพี่อินทร์เดินชนป้าย ผมทำแผลให้ แล้วก็...

…ถะ...ถูกจูบ!

คิดถึงตรงนี้ ใบหน้าก็ร้อนผะผ่าวขึ้นมา ผมมั่นใจด้วยว่าการถูกจูบครั้งนี้ไม่ใช่การแสร้งทำเพื่อให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่เป็นความรู้สึกที่มาจากใจของพี่อินทร์จริงๆ

ความรู้สึกอะไรน่ะเหรอ?

ก็เขาชอบผมไง! เขาบอกว่าชอบผมอ้ะ!

ถึงจะไม่บอกตรงๆ แต่ผมก็ไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจ เพราะหลังจากนั้น ผมก็ตกใจจนเป็นลม

แม่ง เป็นใครจะไม่ตกใจวะ จู่ๆ คนที่โคตรจะเกลียดขี้หน้าเลยมาบอกชอบไม่พอ ยังจะจูบอีก เป็นใครก็ต้องช็อกแหละ แต่ตอนนี้ผมว่าผมควรไปตั้งหลักก่อน เหมือนว่าจะนอนอยู่บนเตียงด้วย

ไม่เหมือนอะ มันใช่เลย เดาว่าตอนผมเป็นลม พี่อินทร์คงจะพากลับมานอนพักที่หอก่อน พอตั้งสติได้ ผมก็รีบลุก กะว่าจะวิ่งลงไปตั้งหลักข้างล่างก่อนแล้วค่อยคิดต่อว่าจะทำยังไงต่อดี แต่ยังไม่ได้ขยับตัว ก็มีเสียงร้องทักดังมาจากทางห้องน้ำแล้ว

“เอ้า รู้สึกตัวแล้วเหรอจิ”

พะ...พี่อินทร์

ผมมองเขาที่สวมเสื้อกล้ามและกางเกงบอลขาสั้น เดาว่าเขาน่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ขณะที่เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ส่วนผมก็มองเขาด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าควรจะทำสีหน้ายังไงดี

ก็คนมันเพิ่งจูบกันมานะเว้ย จะทักทายหรือพูดคุยแบบปกติ มันทำได้ที่ไหนกันเล่า!

ผมเลยหลุบตาลงต่ำ ตอบรับเสียงแผ่วไปก่อน “คะ...ครับ”

“นอนซะนานเลย ก็นึกว่าเป็นอะไรหนัก เกือบจะพาตัวไปส่งโรง’บาลแล้วเนี่ย”

เขาว่าขำๆ แต่ผมไม่ขำด้วย ได้แต่เหลือบมองเขาที่เดินไปยังตู้เย็น

“ดื่มอะไรไหม”

“ไม่...ไม่ครับ”

“หิวหรือเปล่า”

“มะ...ไม่ครับ”

ผมปฏิเสธลูกเดียว พี่อินทร์ก็เลยปิดประตูตู้เย็น เดินกลับมายืนกอดอกอยู่ที่ปลายเตียง

“แล้วจะกลับหอเลยไหม พี่จะได้ไปส่ง หรือจะนอนค้างที่นี่ ถ้านอนค้าง พี่จะได้โทรบอกไอ้บุศย์ไว้ว่าน้องรหัสมันจะมาค้างด้วย”

ผมเพิ่งรู้สึกตัวเอาในตอนนี้ว่าพี่บุศย์ยังไม่กลับห้อง แต่มันจะสำคัญอะไรล่ะนอกจากการที่ในหัวผมยังคงคิดถึงเรื่องจูบก่อนหน้านั้นไม่หยุดเลย

ลมหายใจอุ่นๆ...

ริมฝีปากนุ่มๆ...

รสจูบที่แค่สัมผัสก็รู้ว่าเชี่ยวชาญแค่ไหน...

มันทำให้ผมแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว!

สาบานเลยว่าไม่ได้บ้าเพราะหลงเสน่ห์มัน อาจจะมีนิดๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมบ้ายิ่งกว่าก็คือ...หลังจากจูบ ผมถูกไอ้อิเหนามันปู้ยี่ปู้ยำทำระยำตำบอนอะไรไว้หรือเปล่านี่สิ!

คิดแล้วก็เสียวสันหลังวูบวาบ เผลอตัวเอื้อมมือไปคลึงๆ กดๆ ที่สะโพกตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าเจ็บหรือเคล็ดขัดยอดตรงไหนไหม

เออ...ไม่เจ็บ แต่ก็ไม่น่าไว้วางใจอะ ยิ่งพี่อินทร์มองมาที่ผมอย่างขำๆ แล้วทรุดตัวนั่งยังปลายเตียงแล้วด้วย ผมก็เผลอถอยกรูดไปติดหัวเตียงด้วยความระแวง

“เฮ้ย ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น พี่ไม่ทำอะไรเราหรอกน่า” เขาก็ดูท่าทางน่าจะรู้ว่าผมหวาดระแวงอะไรถึงได้พูดแบบนี้ ยิ่งพอถูกผมมองหน้า เขาก็ว่าออกมาอีก “จูบไปครั้งเดียวเอง ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้”

ครั้งเดียวที่ไหน นับตอนอยู่ต่อหน้าไอ้วิหยาสะกำด้วยก็สอง มีหอมแก้มด้วยอีกหนึ่ง รวมเป็นสามแล้วโว้ย!

แต่ผมกล้าพูดไหมล่ะ? หึ ไม่กล้าอะ กลัวมันบอกว่า ‘สามแล้วก็เอาให้ครบสิบไปเลยเนอะ’ อะไรแบบนี้ ยิ่งไม่ใช่คนปกติเหมือนชาวบ้านอยู่ด้วย ผมเซฟตัวเองไว้ก่อนดีกว่า และที่สำคัญต้องรู้ให้ได้ก่อนว่า...นอกจากจูบ ผมถูกทำอะไรอย่างอื่นไปหรือเปล่า

“พี่อินทร์”

“หืม?”

“จิมีเรื่องจะถามหน่อยครับ”

ตัดสินใจพูดออกไปจนได้ พี่อินทร์เลิกคิ้วสูง ยืดตัวขึ้นเล็กน้อย

“ว่ามาสิ”

“คือพี่อินทร์...จูบจิไปครั้งเดียวใช่ไหม”

คนถูกถามพยักหน้า ผมเม้มริมฝีปากแน่น คำถามเมื่อกี้ ผมก็รู้คำตอบอยู่แล้วล่ะ แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่คำถามถัดไปมากกว่า

“ละ...แล้ว...”

“แล้ว?”

“หลังจากที่จิเป็นลม พี่อินทร์ได้ทำอะไรต่อไหมครับ”

ผมกลั้นใจถาม ในใจก็ลุ้นระทึกเป็นอย่างยิ่ง กลัวเหลือเกินว่าจะได้ยินคำตอบ ‘อ๋อ เสร็จพี่เป็นคู่ผัวตัวเมียแล้วเรียบร้อย’ อะไรทำนองนี้เป็นอย่างมาก ขณะที่พี่อินทร์ร้องอ๋อยาว

“ก็นึกว่าจะถามอะไร ที่แท้ก็กังวลเรื่องนี้”

ผมพยักหน้ารับรัวๆ

ใช่ๆ ผมกังวลเรื่องนี้แหละ แค่เผลอตัวเผลอใจไปจูบกับอิเหนาเข้า แถมครั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่าเต็มใจเพราะผมดันไม่หนีและเขาก็ไม่ได้บังคับ ผมก็รู้สึกผิดกับบุษบาจนไม่มีหน้าไปเจออยู่แล้ว ขืนมีอะไรเกินเลยไปกว่านี้อีก มีหวังผมคงไม่กล้าไปเจอหน้าพี่บุศย์อีกแน่ ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้มีอะไรนอกจากจูบนั่นเลยก็แล้วกัน

แต่ทว่าคำตอบของพี่อินทร์กลับทำให้ผมย่นคิ้ว

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก จิไม่พลาดโอกาสทองอย่างแน่นอน เพราะพอจิเป็นลม พี่ก็จัดการต่อเลย พามาขึ้นรถ ถอดเสื้อผ้า ซุกไซ้ซอกคอ โลมเลียไปทั่วทุกสัดส่วน โอบรัดกอดกระหวัด ส่งเสียงครางอย่างสุขสม อื้อ... เยี่ยมสุดๆ ไปเลย อื้อ...อร๊าง~”

กูกังวลว่าจะได้เสียกับมึงนี่แหละ ไม่ได้กังวลว่าจะไม่ได้โว้ยไอ้บ้า!

ผมถึงกับปวดหัวตุ้บๆ เลย สุดท้ายก็หนีไม่พ้นถูกแกล้งอีกจนได้ พี่อินทร์ก็หัวเราะใหญ่เลยเมื่อเห็นว่าผมเบ้หน้า

“แน่ะๆ ทำหน้ากระรอกเหม็นบูด สงสัยจะอารมณ์ไม่ดี”

“...”

“ฮั่นแน่ เงียบๆ ยังเงียบอยู่ หงุดหงิดแน่ๆ ใช่ไหมคนดี?”

“...”

ผมไม่ตอบ ไม่อยากคุยด้วยแล้ว แต่เหมือนจะไม่ช่วยอะไร เพราะจู่ๆ พี่อินทร์ก็คว้าเอาโทรศัพท์ไปเปิดเพลงแดนซ์แนวๆ รถบั๊มพ์ จากนั้นก็ลุกขึ้นไปยืน

“ไหนๆ ขอเสียงคนหนีผัวมาเที่ยวหน่อยเร็ววว! เฮ้ๆๆ!”

แล้วก็เต้นๆๆ ผมย่นคิ้วมองพี่อินทร์ที่จู่ๆ ก็สวมวิญญาณดีเจไทบ้าน ขณะที่เขายังคงพากย์ไม่หยุด

“เอ้า~ ส่ายไปๆ ส่ายเอวได้ผัว ส่ายหัวได้กิ๊ก ส่ายทั้งเอวทั้งหัว ได้ทั้งผัวทั้งกิ๊ก วู้ววว~”

มึงไปเที่ยวมาบ่อยสินะ ก่อนจะมาเป็นเดือนมหา’ลัย มึงเคยเป็นเด็กแว้นซ์ใช่ไหม!

ไม่ใช่แค่ทำท่าเหมือนดีเจเปิดแผ่นอย่างเดียว ยังเต้นบ้าเต้นบอไม่หยุด พากย์ก็ไม่หยุด เอาตรงๆ มันก็ขำอยู่หรอก ผมก็พยายามกลั้นหัวเราะอยู่ที่เห็นเขาทำแบบนี้ เกือบจะหายหงุดหงิดแล้ว แต่พอมาถึง...

“ไหนๆ ใครมีผัวแล้ว ครางชื่อผัวหน่อยซิ”

จากนั้น...

“อื้อ~ จิ...จิระ...คุณจิระขา อร๊างงงง~”

ผมก็แทบจะลุกขึ้นไปกระโดดถีบยอดหน้า

มึงมันกวนตี๊น!

ครางชื่อใครไม่คราง ครางชื่อผมเสียอย่างนั้นอะ จากที่ว่าจะไม่หงุดหงิดแล้วนะ ตอนนี้หมดไปละไอ้อารมณ์นั้น มีแต่หัวเสียอย่างเดียวจนผมต้องแหวขึ้นมาเมื่อเห็นพี่อินทร์เดินไปเกาะตู้เย็นแล้วก็เต้นด๊อกๆ แด๊กๆ อยู่ตรงนั้น

“พอได้แล้วพี่อินทร์ จิตาจะบอดแล้ว!”

พี่อินทร์ชะงัก หันมาหัวเราะร่วน “เอ้า ก็เห็นอารมณ์เสียเลยทำให้อารมณ์ดีขึ้น”

แต่มึงจะมาเป็นดีเจรถบั๊มพ์อย่างนี้ไม่ได้!

ผมยกมือขึ้นลูบหน้าเลย พี่อินทร์ยิ่งหัวเราะใหญ่ เดินมานั่งที่ปลายเตียงเหมือนเดิม

“ตกลงหายโกรธพี่แล้วเนอะ”

“จะหายโกรธก็ได้ แต่พี่อินทร์ปิดเพลงสักทีครับ จิปวดหัว”

พี่อินทร์ยอมปิดเพลงในโทรศัพท์แต่โดยดี พลันยิ้มกว้างให้ผม “ปิดแล้ว”

เออ ค่อยยังชั่ว แล้วมึงก็อย่าลุกขึ้นไปเต้นครางเรียกชื่อผัวอีกนะ ชาตินี้ชาติไหนก็อย่าทำอีก โดยเฉพาะชื่อผัวมันเป็นชื่อกูเนี่ย!

“แล้วตกลงพี่อินทร์กับจิได้ทำอะไรกันนอกจาก...เอ่อ...”

ผมกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง แต่ก็ไม่กล้าพูดว่าเราทำอะไรกันออกไปอีก มีแต่พี่อินทร์ที่เสริมให้อย่างหน้าชื่นตาบาน

“จูบ”

เท่านั้นผมก็ร้อนวูบที่ใบหน้า ไม่กล้ามองหน้าเขาอีกแล้ว ปล่อยให้เขาขยับเข้ามาใกล้ ตะแคงหัวมองหน้าผมที่กำลังก้มอยู่

“เขินเหรอ”

ผมเหลือบมองเขาแล้วเบนสายตาหนี

มะ...ไม่ได้เขินสักหน่อย แต่มันประดักประเดิดต่างหากเว้ย ลองคิดดูนะ จรกาจูบกับอิเหนา... แม่งเอ๊ย ขนลุกซู่เลย

แต่พี่อินทร์คงไม่รู้ว่าผมคิดอะไร เขาว่าออกมาหน้าตาเฉย

“ไม่เห็นจะต้องเขินเลย จิไม่เคยได้ยินเหรอว่าอายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร ฉะนั้นก็ไม่ต้องอายพี่หรอก”

ตกลงมึงจะเป็นภรรยาใช่ไหม โพสิชันเปลี่ยนบ่อยจังนะมึง!

แต่ว่านะ ใครมันจะไปทำเรื่องอย่างนั้นกับมึงกันเล่าไอ้พี่อินทร์!

ผมถลึงตาใส่เขาเลย พี่อินทร์ก็ยังคงยิ้ม...ยิ้มอยู่นั่นแหละ ไม่รู้ว่ายิ้มอะไรนักหนา เหมือนกับว่าพอเห็นผมโกรธแล้ว เขารู้สึก...

“น่ารัก”

...รู้สึกว่าผมน่ารัก

เอ๊ะ เดี๋ยว...

ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ มือของเขาก็มาบีบๆ จับๆ ที่แก้มผมแล้ว

“เวลาโกรธแล้วทำหน้าเหมือนกระรอก จิโคตรน่ารักเลย”

ผมมองหน้าเขา พยายามจะจับต้นชนปลายว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ไม่ทันไรก็ต้องหยุดคิดเมื่อพี่อินทร์ว่าออกมาอีก

“เข้าใจหรือยังว่าทำไมพี่ถึงชอบแกล้งเรา” แล้วก็ใช้มืออีกข้างมาดึงแก้มผมให้ยืด “น่ารักแบบนี้ ใครจะอดใจไม่แกล้งได้ไหว”

“อี้อินทร์อ่อยอิอ๊ะ อิเอ็บ! (พี่อินทร์ปล่อยจินะ จิเจ็บ!)”

ผมร้องท้วง พี่อินทร์คลายแรงออก แต่ก็ไม่หยุดหัวเราะ ปล่อยให้ผมได้ลูบแก้มตัวเองป้อยๆ

“น่ายักกิงๆ ยัยตัวเย็ก”

เสียงสองมาอีกแล้ว ผมค้อนเขาขวับเลย แม่ง แกล้งตลอด แกล้งไม่หยุดเลย จากหงุดหงิดจะกลายเป็นปลงชีวิตแล้วนะ

แต่แล้วก็หายหงุดหงิดทันควันเมื่อจู่ๆ พี่อินทร์ก็พูดออกมา

“แต่ถ้าจิไม่ชอบให้พี่แกล้ง พี่ก็จะไม่แกล้งแล้ว ขอโทษนะ”

หะ...หา?

ใช่ ยอมรับว่าผมตกใจที่ได้ยินเขาพูดแบบนี้

อิเหนาบอกว่าจะไม่แกล้งผมเนี่ยนะ หูฝาดไปหรือเปล่า?

“ใครจะไปกล้าแกล้งคนที่ตัวเองชอบได้อะเนอะ น่าสงสารจะตาย”

มึงนั่นแหละตัวดีเลย คำพูดในตอนนี้ย้อนแย้งกับการกระทำก่อนหน้ามากเลยนะไอ้อิเหนา!

ทว่าผมก็ไม่ได้ดีใจหรอกที่ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ตกใจยิ่งกว่าเดิมมากกว่าที่ได้ยินเขาย้ำคำ

ชอบผม...

ชอบจริงๆ แบบว่าในเชิงชู้สาวน่ะเหรอ?

“พะ...พี่อินทร์หมายความว่ายังไงครับที่ว่าชอบจิ”

ผมค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นไปในเชิงชู้สาว แต่เอาเพื่อความชัวร์ก็ต้องถามอีกครั้ง

“ก็หมายความว่าชอบไง” พี่อินทร์ว่า ก่อนถามต่อ “ไม่เชื่อเหรอ”

ก็ไม่ใช่ไม่เชื่อหรอก แต่อิหลักอิเหลื่อแปลกๆ ผมก็พูดด้วยไม่ได้ใช่ไหมล่ะว่าอิเหนาจะมามีใจให้จรการไม่ได้ ถ้ามีใจให้ แล้วบุษบาล่ะ ลืมไปแล้วเหรอว่าเคยรัก?

จริงๆ คิดดูอีกมุมมันก็ดีอยู่นะที่เขามาชอบผม ไม่มีใจให้บุษบาอีก เพราะผมจะได้ช่วงชิงเอาบุษบากลับคืนมา แต่ก็นะ...ชอบผม แม่งเอ๊ย กลับตาลปัตรไปหน่อยแล้ว!

พอเห็นผมไม่พูดอะไร พี่อินทร์ก็ขยับเข้ามาใกล้ รู้สึกตัวอีกที เขาก็มานั่งอยู่ตรงหน้าแล้ว ผมมองหน้าเขาด้วยความตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว ขณะที่พี่อินทร์ถามอีกครั้ง

“หืม? ว่าไง ไม่เชื่อที่พี่บอกเหรอ”

ผมส่ายหน้ารัวทันที “มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นครับ”

“แล้วถามทำไม”

“กะ...ก็...”

“กลัวโดนแกล้งอีก?”

ผมพยักหน้ารับ พี่อินทร์หัวเราะในลำคอ ก่อนใช้สองมือมาประคองหน้าผมเอาไว้ให้สบตากับเขา

“งั้นพี่จะบอกช้าๆ ชัดๆ อีกทีโอเคไหม เราจะได้เชื่อ”

ไม่...ไม่โอเคเลย เพราะผมรู้ว่าเขากำลังจะบอกอะไร

แต่ก็ไม่ทันแล้ว เขาพูดออกมาก่อนแล้ว

“พี่ชอบเรานะ...จิระ”

เท่านั้นก็เสมือนมีฟ้าผ่าดังเปรี้ยงดังเข้ามาในหัว ผมเงอะงะทำอะไรไม่ถูกไปในทันที ยิ่งสายตาของพี่อินทร์ดูจริงจังด้วยแล้ว ผมก็มั่นใจเลยทีเดียวว่าเขาไม่ได้โกหกอย่างแน่นอน ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ดีเพราะผมจะได้ไม่ต้องมีคู่แข่งแย่งนางบุษบา แต่มันไม่ดีเมื่อพี่อินทร์พูดจบก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ แวบเดียวปลายจมูกเขาก็ฝังลงมาที่แก้มผมแล้ว

มึงจะมาตีเนียนหอมแก้มไม่ได้นะเว้ย!

“พะ...พี่อินทร์”

ผมดันไหล่เขาให้ออกห่าง ทว่าพี่อินทร์กลับไม่ขยับเลยสักนิด ได้แต่เหลือบมองผมอย่างกรุ้มกริ่ม

“ชู่ว์ ไม่เป็นไร ไม่แกล้งๆ”

แค่คำพูดประโยคเดียวกับน้ำเสียงนุ่มๆ ฟังดูอบอุ่นเท่านั้น ก็ทำให้ผมตัวแข็งเป็นหินไปเลย สายตาของเขาที่มองมามันมีอำนาจมหัศจรรย์จริงๆ ถึงผมจะไม่ชอบเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอิเหนามีเสน่ห์เหลือล้น

ตอนนี้เขากำลังหว่านเสน่ห์ให้ผมหลงใหลเขาล่ะ แล้ว...ดูเหมือนจะได้ผลเสียด้วย เพราะหลังจากนั้น พี่อินทร์ก็ทำลายความเงียบ

“ขอแก้ตัวอีกครั้งได้ไหม แต่จิห้ามเป็นลมนะ”

ผมไม่ได้ตอบเป็นคำพูด ไม่ได้พยักหน้า ทำแค่กะพริบตาปริบๆ จากนั้น...ริมฝีปากของผมก็ถูกทาบทับ

ริมฝีปากของพี่อินร์อบอุ่นมาก รสจูบเหมือนจะดุดันแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน ผมเผลอตัวเผยอริมฝีปากตอบรับการรุกรานของเขา เกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นอย่างเงอะงะเมื่อเขาดุนดันลิ้นอ่อนนุ่มเข้ามา

มีเสียงหัวเราะน้อยๆ ดังขึ้นเมื่อผมเริ่มหายใจไม่ทัน แต่ก็ยังไม่ถอนริมฝีปากออกไป ละเลียดกลืนกินริมฝีปากผมอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งผมเริ่มทนไม่ไหวถึงได้ทุบหน้าอกเขาเบาๆ เขาผละออกเล็กน้อย ว่าด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะ

“ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไป เดี๋ยวพี่สอน”

แล้วเราสองคนก็จูบกันอีกครั้ง ผมสับสนอยู่ไม่น้อยที่ยอมให้เขาจูบอีกในรอบนี้ ความรู้สึกผิดต่อบุษบาอะไรนั่นก็ยังมีอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถผลักไสความปรารถนาที่จะถูกคนตรงหน้าสัมผัสได้เลยแม้แต่น้อย

มันเรื่องบ้าอะไร...

ไม่มีใครให้คำตอบได้ทั้งนั้น แม้แต่ผมก็ให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลย ได้แต่ปล่อยให้เขาสอนจูบอยู่อย่างนั้น จนพี่อินทร์พอใจ เขาถึงเป็นฝ่ายผละออกมา เอาหน้าผากโนๆ ของตัวเองมาชนกับหน้าผากผม ว่าพลางยิ้มกว้าง

“จิน่ารักมาก”

“...”

“พี่ชอบจินะ ชอบมากๆ”

“...”

ถึงจะไม่พูดอะไร แต่เดาได้เลยว่าตอนนี้หน้าผมคงแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าจะทำยังไงต่อไปดีที่ปล่อยให้เลยเถิดมาขนาดนี้ ขณะที่จู่ๆ พี่อินทร์ก็เม้มปาก แล้วก็...

“ชักจะอดใจไม่ไหวแล้วสิ”

ฮะ?

ผมเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามเขา เขาไม่ตอบด้วยคำพูด แต่จับผมเอนลงนอนบนเตียงแทน

เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆ ไอ้ที่บอกว่าไม่ไหวนี่เรื่องนี้เองเรอะ!?

ไม่ต้องให้ใครมาอธิบายแล้วว่าอดใจไม่ไหวเรื่องอะไร ยิ่งเขาโถมตัวมาคร่อมไว้ ถอดเสื้อกล้ามตัวเองออก โชว์ซิกส์แพ็คให้เห็นเต็มๆ สองตา แค่นี้ก็ชัดเลย

ได้เสียเป็นคู่สองกับมันแน่ๆ มึงคืออิเหนานะ ไม่ใช่อิหื่น ตั้งสติหน่อยโว้ย!

จรกาได้ฟันดาบโช้งเช้งกับอิเหนาก็ครั้งนี้แหละ!

----------------------------------

นอกจากจะเป็นอิเหนาแล้ว พี่อินทร์ยังเป็นอิแรด อิบ้า ล่าสุดเป็นอิหื่นด้วย 555 อย่าทำน้องงงง พี่อินทร์อย่าทำน้องโว้ยยยย XD

ใครอ่านเรื่องนี้อยู่ อยากติดตามพูดคุยในช่องอื่นๆ หนูแดงมีแฟนเพจกับทวิตนะคะ ตามไปที่นี่ได้เลยเน้อ

แฟนเพจ: https://www.facebook.com/NooDangzzz/

ทวิตเตอร์: https://twitter.com/NooDangzz

ใครอยากหวีดเฉยๆ ก็ไปที่แฮชแท็ก #จรกาคนงาม นะคะ
ตอนหน้ารอก่อนเน้อ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :mew3: หวายยยยย 

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
พี่อินทร์ใจเย็นๆน้องจิขวัญหนีหมดแล้ว

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เดี๋ยวววววๆๆๆ เร็วไปป  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ xexezero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่บุศย์อยู่ไหน555

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พี่มันเอาความหล่อเข้าแลกคารมเข้าสู้หน่อยเดียวไปไม่เป็นเลยนะลูก อย่าใจง่ายยยยยย ปล. ทายว่าพี่บุศย์จะมาก่อนพี่อินทร์จะล่อลวงน้องแน่55555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
น้องจิโดนไปหลายทัแล้วนะลูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูจิรีบเตะผ่าหมาก แล้วออกจากห้องด่วน อยู่กับนังเหนานาน ๆ มันเปลืองตัว  :angry2:

ปอลอ   ผู้ใดเอา + เป็ด ไป รบกวนเอามาคืนด้วยจ้า   :m5:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่อินทร์นี่ตัวหื่นเลย 
ทำไมปุ่ม+เป็ดมันหายไปอ่ะ?

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
จากไม่มีสมองกลายเป็นหื่นตัวพ่อเหรอ?

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :pigha2:  พี่อินทร์มีทุกอย่าง ยกเว้นสติตอนแกล้งน้อง ฮาไปสิค่ะ ยังไงละเนี้ย จรกาจะโดนอิเหนากินซะแล้ว  :m20:
แล้วบุษบาจะคู่ใครน่อ
 :3123:  :pig4:  :3123:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
Chapter 10: โปรดระวังอิเหนาดุ!

“กูว่ากูมีคำถาม”

จู่ๆ พี่บุศย์ก็โพล่งขึ้นมาขณะที่เรานั่งกินข้าวกลางวันกัน วันนี้ผมก็ติดสอยห้อยตามเขามาเหมือนเคย ไม่ใช่ว่าอยากตามมาหรอก แต่พี่บุศย์บอกว่ามีหนังสือจะให้ผมอีกเลยเรียกให้ไปเอา แล้วก็เจอกับพี่อินทร์ซึ่งถ่อมากินข้าวถึงคณะผมโดยอ้างว่านัดเจอพวกเพื่อนๆ กลุ่มเดือนคณะอื่นๆ ที่ทำกิจกรรมด้วยกันไว้ที่นี่

 สิ้นเสียงพี่บุศย์ ทั้งพี่อินทร์ทั้งผมก็เหลือบมองหน้าพี่บุศย์อย่างพร้อมเพรียง พลันเห็นว่าเขากำลังจ้องหน้าพี่อินทร์ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนิ่ง พอพี่อินทร์เลิกคิ้ว อีกฝ่ายก็ถามทันที

“หน้ามึงไปโดนอะไรมา ทำไมช้ำงี้”

เอานิ้วจิ้มๆ ที่โหนกแก้มตัวเองให้รู้ว่ารอยตรงนั้น ผมเห็นแล้วก็เม้มปากแน่นทันควัน

ก็รอยนั่นมันมีสาเหตุมาจากผมนี่นา ส่วนพี่อินทร์น่ะเหรอ

“กูเดินชนป้าย”

ก็โกหกไปอีกตามเคยอย่างที่ผมคาดการณ์ไว้ ไม่มีใครกล้าบอกหรอกว่า ‘อ๋อ รอยนี้น่ะเหรอ ได้มาจากน้องรหัสมึง เมื่อวานกูจะปล้ำน้องเขา น้องมันเลยถีบเอาเข้าให้’ ขืนบอกไปอย่างนั้น มีหวังพี่บุศย์ได้ตีหน้ายักษ์มารแน่ๆ และผมก็ไม่อยากให้พูดอย่างนั้นด้วย

จรกาโดนอิเหนาปล้ำ ฟังยังไงมันก็ไม่โอเคง่ะ!

โอเค ย้อนความกันหน่อย หลังจากที่เขาจูบกับผมแล้วสถานการณ์ก็เลยเถิดเหมือนจะถูกปล้ำ ผมก็เลยดิ้นจนหลุดแล้วถีบเข้าที่หน้าที่อินทร์จังๆ ส่งผลให้โหนกแก้มของเขาในวันนี้มีรอยช้ำเขียวๆ ม่วงๆ ปรากฏให้เห็นเล็กน้อย บอกตามตรงว่าผมก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ เพราะตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวพี่บุศย์ก็ต้องโผล่เข้ามาเหมือนหนังการ์ตูน

ทว่า...ไม่โผล่จ้า ผมก็เลยจัดเต็มไป...เอ่อ...ฝ่าเท้านึง พี่อินทร์ถึงหยุดได้ แล้วก็ไปนั่งสะดีดสะดิ้งตัดพ้อเป็นโสรญาในจำเลยรักว่าผมประทุษร้ายเขา แต่ขอโทษเถอะ สมควรแล้วไอ้บ้า! ใครให้มากดผมลงบนเตียงอย่างนั้นเล่า!

อะไรไม่ว่า ไอ้การที่เขาทำท่าเหมือนจะปล้ำผมน่ะ จริงๆ ก็ไม่ได้ปล้ำหรอก กะจะแกล้งให้ผมตกใจแล้วจั๊กจี้ผมเล่น แต่ดันแกล้งหนักไปหน่อย ผมเลยจัดหนักให้เลย

สมน้ำหน้าแล้วล่ะ ขี้แกล้งดีนัก!

และแน่นอนว่าคำโกหกนั้นก็ไม่ได้ทำให้พี่บุศย์เชื่อ เขาใช้ช้อนที่ถืออยู่ในมือชี้หน้าพี่อินทร์

“แต่โหนกแก้มมึงก็ไม่น่าจะสูงเท่าป้ายหรือเปล่าวะ ไอ้หน้าผากชนยังเข้าใจได้ แต่โหนกแก้มนี่ไม่น่ามั้ง ไปโดนส้นเท้าใครที่ไหนมา”

 ตาผมหลุกหลิกขึ้นมาทันที ชำเลืองมองไปยังพี่อินทร์อย่างลุ้นระทึกว่าเขาจะตอบยังไง

“โดนอะไรมาก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรือเปล่าวะ”

“มันจะสำคัญถ้ามึงไม่ได้เป็นเดือนมหา’ลัย แล้วจะต้องขึ้นเวทีอีกไม่กี่วันนี้เนี่ย”

พอพี่บุศย์ว่าอย่างนั้น ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันงานเฟรชชี่ไนท์แล้ว มันเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นให้กับนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของทุกคณะในมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาใหม่ได้มาทำความรู้จักกันกับเพื่อนต่างคณะ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นงานที่รวมตัวและต้อนรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยนั่นแหละ ผมเองก็ไม่ค่อยได้สนใจสักเท่าไรหรอก แม้แต่เพื่อนในเอกตัวเองยังไม่ค่อยสนใจเลย สนใจแต่พี่บุศย์เนี่ย ตอนนี้ก็มาสนใจพี่อินทร์แล้วเพราะกังวลว่ารอยช้ำบนหน้าที่ผมทำจะทำให้เขาเดือดร้อน

“ไม่เห็นจะเป็นอะไร แต่งหน้าก็ไม่เห็นแล้ว”

พี่อินทร์ว่าสบายๆ หันมายักคิ้วให้ผมทีหนึ่ง ผมก็โล่งใจได้ไปเปลาะ ขณะที่พี่บุศย์เออออตาม

“ก็จริง” แต่สายตายังดูไม่เชื่อใจคนตรงหน้าสักเท่าไร “แต่กูก็ยังข้องใจอยู่ดีกว่ามึงไปโดนอะไรมา”

“มึงไม่ต้องมาสนใจหรอกน่า รีบๆ กินเข้าไปข้าวน่ะ วุ่นวายจริง วู้ว”

พี่อินทร์บ่ายเบี่ยงอีกรอบแล้ว ดูท่าทางเขาก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไร ให้เดานะ เขาคงจะเคืองๆ ผมอยู่เหมือนกัน แต่ที่ไม่ยอมบอกพี่บุศย์ก็เพราะเกรงใจเพื่อนตัวเองอยู่ ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดจริง ผมก็รู้สึกผิดกับเขาอยู่ไม่น้อยเลยนะที่ทำให้หน้าหล่อๆ มีรอยช้ำเนี่ย

ผมเลยยังไม่ไปไหน กินข้าวเสร็จแล้วก็รอให้พี่บุศย์ลุกจากโต๊ะไปก่อน พอถูกถาม...

“เอ้า แล้วจิไม่มีเรียนบ่ายเหรอ ไม่ยอมลุกเนี่ย”

ผมก็อ้าง... “ไม่มีครับ แต่จิอยากกินขนมเลยว่าจะอยู่กินก่อน”

“เห็นผอมๆ ตัวเล็กๆ งี้ กินเก่งเหมือนกันนะเราเนี่ย แล้วอยู่กับไอ้อินทร์ไม่เป็นไร?”

ผมส่ายหน้าพรืด “เดี๋ยวจิลุกไปนั่งโต๊ะอื่นครับ”

บอกไปงี้แล้วกัน พี่บุศย์จะได้ไม่เป็นห่วง เพราะเขารู้ดีว่าผมไม่ค่อยชอบพี่อินทร์เท่าไร ส่วนพี่อินทร์ก็ชอบแกล้งผมซึ่งพี่บุศย์ก็ไม่รู้ว่าทำไม

ดีแล้วล่ะที่ไม่รู้ ถ้ารู้เดี๋ยวได้มีช็อกแน่ เพราะมันจะไม่ใช่แค่เหตุผลที่พี่อินทร์ชอบแกล้งผม แต่จะรู้ยันเรื่องที่พวกเราจูบกันตอนเขาไม่อยู่ด้วย เดี๋ยวเป็นเรื่อง

“งั้นพี่ไปก่อนแล้วกัน เพื่อนโทรตามละ ไว้เจอกันจิ”

สิ้นเสียง พี่บุศย์ก็เดินออกจากโรงอาหารไป ปล่อยให้ผมนั่งอยู่กับพี่อินทร์สองคน เท่านั้นพี่อินทร์ก็โพล่งขึ้นมา

“ใจร้ายจังนะ จะหนีไปกินขนมแล้วทิ้งให้พี่อยู่คนเดียวเนี่ย”

หันมาทำปากยู่ใส่เป็นที่เรียบร้อย ก็กะไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมาอีหรอบนี้ ผมเลยรีบหันไปบอก

“ใช่ที่ไหนล่ะครับ จิไม่ได้อยากกินขนมสักหน่อย”

“เอ้า แล้วทำไมไม่ไปพร้อมกับไอ้บุศย์ล่ะ”

“จิอยากคุยกับพี่อินทร์น่ะครับ”

สิ้นเสียง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดพรายขึ้นยังใบหน้าของพี่อินทร์ พลันน้ำเสียงหยอกเย้าก็ดังขึ้น

“ฮั่นแน่ คิดอะไรกับพี่อยู่ล่ะสินะ งู้ย เขินจัง อยากอยู่ด้วยกันตามลำพังก็ไม่บอก”

เนี่ย มันไม่น่าโดนถีบได้ยังไง กวนประสาทอย่างนี้เนี่ย!

“จิไม่อยากพูดต่อหน้าพี่บุศย์เพราะกลัวพี่บุศย์จะรู้ว่ารอยที่หน้าพี่อินทร์มาจาก...เอ่อ...”

“ว่า?”

รู้ว่ากูจะโดนมึงปล้ำไงเล่า! เรื่องอะไรจะต้องไปบอกบุษบาด้วยล่ะ!

“ว่าอะไรก็ช่างเถอะครับ เอาเป็นว่าจิขอโทษแล้วกันที่ทำให้หน้าพี่อินทร์มีรอย จิไม่ได้ตั้งใจ”

ผมรีบพูดออกไปตามที่คิด เรื่องที่ค้างคาใจจะได้จบๆ พี่อินทร์เอียงคอเล็กน้อย มองผมราวกับว่า ‘แล้วไงต่อ?’ ผมเลยพูดขึ้นมาอีก

“พี่อินทร์โกรธจิหรือเปล่าครับ”

ถามเสียงแผ่วเชียว สำนึกผิดก็ใช่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งกลัวเขาโกรธแล้วไปปั่นหัวพี่บุศย์ว่าผมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้มากกว่า ก็ชาติที่แล้ว เขายังไปยุยงว่าผมหน้าตาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้กับบุษบาเลย แล้วชาตินี้ทำไมเขาจะไม่ทำกันล่ะ

แล้วเขาก็ดูจะมีแผนอะไรในใจอยู่ด้วย เพราะทันทีที่ผมพูดจบ เขาก็ยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆ

“ถ้าพี่บอกว่าโกรธล่ะ จิจะทำยังไง”

ทำยังไงน่ะเหรอ ก็...

“จิขอโทษครับ”

...ขอโทษแค่พูดอย่างเดียวคงไม่พอ ยกมือไหว้ด้วย เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเขายิ้มกรุ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย

“แค่นี้ไม่พอหรอกนะ ยังไม่หายโกรธหรอก”

ผมมุ่ยหน้า “แล้วจิต้องทำยังไง พี่อินทร์ถึงจะหายโกรธ”

“งั้นตอบคำถามพี่หน่อย”

“ครับ”

“ทำไมต้องกลัวว่าพี่จะโกรธด้วย”

คำถามนี้ดูจริงจังด้วย ผมคิดไปเล็กน้อยว่าควรจะตอบแบบจริงจังเหมือนกันไหม พอเหลือบเห็นสายตาที่เขามองมา ผมก็ตัดสินใจ

เอาวะ ในเมื่อถามแบบจริงจัง ผมก็ควรจะตอบแบบจริงจังแล้วกัน

“จิกลัวว่าพี่อินทร์จะไปฟ้องพี่บุศย์ครับ”

“ฟ้องไอ้บุศย์เหรอ ทำไมล่ะ ฟ้องก็ไม่เห็นเป็นไรนี่”

เป็นแน่ๆ ถ้าไปฟ้องแล้วพี่บุศย์พานมาโกรธผมด้วยเนี่ย พี่อินทร์โกรธน่ะไม่เท่าไรหรอก ไม่อยากสนใจด้วย แต่ถ้าพี่บุศย์โกรธขึ้นมาล่ะก็ เรื่องใหญ่เลยนะมึง

“หรือว่า...” พอเห็นผมไม่ตอบในทันที พี่อินทร์ก็หรี่ตาลงแบบจับผิด “จิจะชอบไอ้บุศย์จริงๆ?”

ผมรีบส่ายหน้าเร็วๆ เลย ให้รู้ไม่ได้ เรื่องนี้ให้อิเหนารู้ไม่ได้!

“ใครว่าล่ะครับ จิแค่ไม่อยากให้พี่รหัสเคืองเฉยๆ”

เขาหรี่ตามองผมอยู่อีกครู่ ทำท่าเหมือนไม่เชื่อ ผมก็จ้องเขาเขม็ง ทำท่าเหมือนพูดจริง ผ่านไปครู่หนึ่ง พี่อินทร์ถึงได้เลิกทำท่าอย่างนั้น

“งั้นถ้าจิอยากให้พี่หายโกรธ ก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน”

“อะไรเหรอครับ”

สิ้นเสียง พี่อินทร์ก็ทำปากยื่นๆ มาทางผม ผมเห็นแล้วก็รู้เลย...

กูไม่จูบมึงหรอกเว้ย!

“เนี่ย จู๊บๆๆ~”

ยัง...ยังไม่หยุดอีก ผมเบ้หน้า อดไม่ได้ที่จะยกมือไปตีปากเขาไม่แรงนัก

“เรื่องเถอะพี่อินทร์ จิไม่ทำหรอก ถ้าจะให้ทำงี้ อยากโกรธก็โกรธไปเลย”

ผมรีบว่าเร็วๆ พี่อินทร์ก็ต่อรอง

“ถ้าอย่างนั้น พี่ฟ้องไอ้บุศย์มันนะ”

ผมตวัดมองขวับ “ฟ้องไปเลย จิก็จะฟ้องเหมือนกันว่าพี่อินทร์ทำอะไรจิ”

แค่นี้ผมก็ชนะโดยสมบูรณ์ เพราะพี่อินทร์ส่งเสียงตัดพ้อกระเง้ากระงอดขึ้นมา

“กระรอกก้าวร้าว~”

เออ! กูจะก้าวร้าวแล้ว! ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ!

“แต่ไม่เป็นไร ถึงจิจะไม่จุ๊บพี่ตอนนี้ เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าก็ได้เนอะ”

ยังพูดสองแง่สองง่ามไม่เลิก ผมรู้สึกได้ทันทีเลยว่าโคตรจะคิดผิดเลยที่มานั่งขอโทษเขาอยู่อย่างนี้ คิดได้ก็จะลุกไปจากที่นี่ แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน

“เฮ้ย ไอ้อินทร์”

เป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่เดินมากับอีกคน ผมหันไปมอง เห็นออร่าและความหน้าตาดีของพวกเขาก็พอจะเดาได้

พวกแก๊งเพื่อนเดือนคณะของพี่อินทร์แน่ๆ

พี่อินทร์ก็พยักหน้ารับ พอทั้งสองนั่งลงยังฝั่งตรงข้าม พี่อินทร์ก็โพล่งขึ้นทันที

“นี่จิระ น้องรหัสรูมเมตกู”

ไอ้ที่ผมตั้งใจจะลุกหนี ตอนนี้เลยไปไหนไม่ได้แล้ว นอกจากจะยิ้มรับแล้วทักทายตามมารยาท

“สวัสดีครับ”

ในใจก็ค่อนขอดไอ้ตัวข้างๆ ที่นั่งยิ้มหน้าบานเพราะรั้งผมเอาไว้ได้

หน็อย คอยดูนะ เดี๋ยวจะแกล้งไม่มาเจอหน้าเป็นเดือนๆ เลย ดูซิว่าจะแกล้งใครได้ถ้าไม่ได้เจอผมเนี่ย!

แต่แล้วความหงุดหงิดน้อยๆ ของผมก็มลายหายไปเมื่อพี่สองคนนั้นมองหน้าผมพลางเบิกตาโต ก่อนจะเบนความสนใจมาที่ผมทันที

“คนนี้เหรอน้องจิที่มึงพูดถึง โห สมคำร่ำลือเลยนี่หว่า น่ารักมาก”

หนึ่งในนั้นทักผมแล้วก็ตามด้วยชมทันที ถึงผมจะค่อนข้างชินเวลามีคนมาพูดแบบนี้ใส่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเขินอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน ยิ่งคนที่ชมมีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะ อีกทั้งยังเป็นทูตกิจกรรมของมหาวิทยาลัยด้วย

“ปกติไม่มีรสนิยมชอบผู้ชายนะ แต่จิระนี่ต้องยอมให้จริงๆ โคตรน่ารัก”

พี่อีกคนที่เป็นเดือนคณะเหมือนกันเสริมขึ้นมา ผมรู้สึกร้อนวูบๆ ที่แก้มทั้งสองข้าง พลันยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองแก้เขิน

“แหะๆ ขอบคุณครับ”

รู้สึกดีสุดๆ ไปเลย เหมือนปมด้อยในอดีตถูกชำระล้างไป

แล้วผมก็คุยกับรุ่นพี่พวกนั้นด้วยความหรรษาลั้นลาสุดชีวิต ลืมไปเลยว่ายังมีใครอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ พอผมหันไปเห็น รอยยิ้มกว้างบนหน้าตัวเองก็รู้สึกได้ทันทีว่าค่อยๆ เจื่อนลง

หน้าตาพี่อินทร์โคตรน่ากลัว สีหน้าทะเล้นที่มีในตอนแรกหายไปประหนึ่งไม่เคยเกิดขึ้น สภาพตอนนี้เหมือนพร้อมจะกระโดดงับคอทุกคนที่อยู่บริเวณนี้ยังไงยังงั้นอะ

ผมพอจะเดาได้เลยว่าเขาต้องไม่พอใจแน่ๆ ที่เห็นพวกเพื่อนเขาชมผม แล้วผมก็ดันระริกระรี้ชอบถูกชมด้วย ก็เขาบอกว่าชอบผมนี่ ไม่แปลกหรอกถ้าจะเกิดอาการแบบนี้ เพราะผู้ชายคนอื่นที่มาติดพันผมก็เป็นเหมือนกันเวลาเห็นผมดี๊ด๊าตอนได้เจอพี่บุศย์

และก็ไม่ใช่ผมคนเดียวด้วยนะที่สังเกตเห็น เพื่อนเขาก็เห็นจนคนหนึ่งร้องทัก

“เป็นอะไรของมึงวะไอ้อินทร์ ทำหน้าเหมือนโกรธ”

“หรือว่า...จะไม่พอใจที่พวกกูเจ๊าะแจ๊ะกับน้องจิ?”

อีกคนก็แซวเป็นลูกคู่ใหญ่ ซึ่งก็ดูเหมือนจะแทงใจดำพี่อินทร์เข้าอย่างจังด้วย เพราะพอพูดจบ พี่อินทร์ก็ทำหน้าตาถมึงทึงยิ่งกว่าเดิม แต่สองคนนั้นก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย หันมาคุยกับผมกันใหญ่

“ว่าแต่น้องจิครับ เย็นนี้รีบกลับหรือเปล่า ถ้าไม่รีบกลับ เดี๋ยวพี่พาไปกินไอติมนะ”

“มีเจ้าอร่อยอยู่หน้า ม.เจ้านึง พี่ก็ไปกินบ่อย ไปด้วยกันเนอะ”

ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไร เพราะมันเป็นการยั่วให้พี่อินทร์โกรธยิ่งกว่าเดิม บอกตามตรงว่าผมก็กลัวเขาจะโกรธนี่แหละ ไม่รู้กลัวทำไม แต่เพราะไม่เคยเห็นเขาทำหน้าตาแบบนี้ ผมเลยหวั่นใจแปลกๆ ได้แต่ตอบไปอย่างกระมิดกระเมี้ยน

“คือว่าจิ...”

กะจะปฏิเสธนั่นแหละ แต่พี่คนหนึ่งก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ผม

“ไม่ต้องเกรงใจน่าน้องจิ พี่เลี้ยง”

“นะๆ ไปเถอะ พี่เองก็อยากให้เราไป”

แล้วแบบนี้จะปฏิเสธได้ยังไง อย่ามาคะยั้นคะยอนะเว้ย ลำบากใจ!

ผมก็กระอักกระอ่วนได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ เพราะหลังจากนั้น พี่อินทร์ก็คว้าผมไปกอดด้วยสองแขนแน่นแบบไม่ทันตั้งตัว ผมก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ในที่สาธารณะ แต่พอจะหันไปโวยวาย ก็มีเสียงประหลาดๆ ดังมาให้ได้ยินเสียก่อน

“แง่ง...”

เอ๊ะ... เสียงนี้มันคุ้นๆ

“น่านะจิ ตกลงไปกับพี่นะครับ”

แต่แล้วก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ผมเห็นแหละว่าเป็นเพื่อนเขา ส่วนพี่อินทร์น่ะเหรอ...

“แง่ง...”

ขู่...

ผมหันไปมองก็เห็นพี่อินทร์แยกเขี้ยว

เขาส่งเสียงขู่เพื่อนตัวเองอ้ะ!

เพื่อนเขาก็ดูท่าทางจะสนุกกันใหญ่ที่เห็นพี่อินทร์เป็นแบบนี้ ได้ทีก็เอาใหญ่เลย

“ไปเถอะนะครับ เราจะได้รู้จักกันให้มากขึ้นไง”

“แง่ง!”

“ไม่ต้องอยู่กับไอ้อินทร์มากหรอก ลองไปกับพวกพี่ดู เผื่อจะชอบกว่า”

“แง่ง!”

“ไอ้อินทร์มันไม่เหมาะกับน้องจิหรอก บ้าๆ บอๆ อย่าไปยุ่งกับมัน”

“แง่งๆๆ!”

“เออ ใช่ๆ มันเต็มซะที่ไหน มีดีแต่หน้าตา สมองไม่พัฒนามาหลายปีแล้ว”

“แง่งๆๆๆ!”

จากนั้นเพื่อนเขาก็หัวเราะกันใหญ่ ส่วนพี่อินทร์ก็ส่งเสียงขู่ใส่เพื่อนทั้งสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสลับกันไปมา ปล่อยให้ผมได้เหลือบมองเขาอย่างเอือมๆ

เห็นขู่แบบนี้แล้วอยากเอาตะกร้อมาครอบปากสักที มึงก็หวงแบบปุถุชนคนทั่วไปได้ไหมเล่า!

กลายร่างจากอิเหนามาเป็นอิบ้าอีกแล้ว โอย...เป็นสารพัดอิ เป็นทุกอิ ยกเว้นอิเหนา จิปวดหัว!

“ฮื่อๆ แฮ่~!”

เห็นว่าเพื่อนเขาไม่มีท่าทีจะหยุด พี่อินทร์ก็ขู่ใหญ่ ผมชักเริ่มจะอายขึ้นมาบ้างแล้วเพราะโต๊ะอื่นๆ เริ่มมองมาที่เรา แต่เพื่อนเขาก็ดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร เห็นแบบนี้ผมเลยพอจะรู้ว่าพี่อินทร์ไม่ได้ทำตัวบ้าๆ บอๆ เวลาอยู่กับผมอย่างเดียวหรอก อยู่กับเพื่อนก็เป็น แต่ผมเข้าใจผิดไปเล็กน้อยเพราะว่า...

“แหม ไอ้อินทร์! กูอยากจะแหมไปให้ถึงดาวอังคาร หวงจริงนะน้องจิมึงเนี่ย พูดถึงทีไร ขู่แฮ่ๆ ตลอด”

“ก็ไม่เห็นต้องแปลกใจเลยว่าทำไมถึงหวง น่ารักขนาดนี้ ไม่หวงก็แปลก กูไม่สงสัยละว่าทำไมมึงเพี้ยนๆ ทุกครั้งเวลาพูดถึงน้องจิ เออ ก็สมควรใช้เสียงสองเวลาพูดถึงอยู่”

เพื่อนเขาคุยกันเอง ผมก็หน้าร้อนวูบขึ้นมา เข้าใจได้ทันทีว่าที่พี่อินทร์บ้าๆ บอๆ ต่อหน้าเพื่อนเขาน่ะ ไม่ใช่เรื่องปกติของเขาหรอก แต่เป็นเพราะผมต่างหาก

เป็นเพราะผม...

เหมือนโลกหยุดหมุนไปครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องใจเต้นแรงเพราะเรื่องนี้ด้วย ได้สติอีกทีก็ตอนที่เพื่อนๆ ของเขาลุกไปซื้อข้าว ปล่อยให้พี่อินทร์กับผมอยู่กันสองต่อสอง ก่อนจะมีเสียงแปลกๆ มาให้ได้ยินอีก

“งื้ดๆ~”

เป็นเสียงของพี่อินท์ พอผมหันไปมองก็เห็นว่าเขาทำตาละห้อย อมยิ้มน้อยๆ แล้วก็เอาหัวมาถูๆ ไถๆ กับแก้มผม

“พี่อินทร์ อย่า...”

ผมร้องปราม แต่พี่อินทร์ก็ไม่หยุด ทำแบบเดิมอีกจนเส้นผมของเขาแยงหน้าแยงตาผมไปหมดแล้ว

“จิบอกว่าอย่าไงพี่อินทร์! แล้วก็ปล่อยได้แล้ว อึดอัด!”

คราวนี้ถึงยอมเอาหัวออกไปได้ แต่มือก็ยังกอดผมไม่ปล่อยอยู่ดี

“หงิง~”

นี่มึงเป็นคนยังไงวะ!

ส่งเสียงเว้าวอนมาอีก แต่ผมไม่เล่นละ เรียกเขาเสียงแข็งเลย

“พี่อินทร์!”

พี่อินทร์ก็เลยหยุดส่งเสียงประหลาดๆ มองผมที่สูดหายใจเข้าปอดก่อนพูด

“จิขอล่ะ เป็นคนปกติกับเขาบ้างได้ไหม”

พี่อินทร์หัวเราะขึ้นมาทันที “ทำไมล่ะ ไม่ชอบเหรอ”

“อื้อ ไม่ชอบ”

ผมก็ตอบรับไปตามตรง พี่อินทร์เลยยืดตัวขึ้นเล็กน้อย

“ไม่ชอบอะไร ไหนบอกชัดๆ”

“ไม่ชอบให้พี่อินทร์ทำตัวบ้าๆ บอๆ แบบนี้ จิรำคาญ”

เขาก็ไม่สำนึกนะ หัวเราะออกมาอีก “งั้นก็แสดงว่าถ้าพี่ไม่ทำตัวบ้าๆ บอๆ ก็หวงได้สินะ”

ตอนนี้เองที่ผมสำนึกขึ้นมาได้ว่าลืมบอกเรื่องนี้ไป

หวงก็ไม่ได้เว้ย! ไม่ได้เป็นอะไรกัน จะมาหวงทำไม!

แต่สายไปแล้ว เพราะพี่อินทร์คลายอ้อมแขนออก ยกมือขึ้นมาดึงแก้มทั้งสองข้างของผมแล้วเป็นที่เรียบร้อย

“งั้นก็...ห้ามไปเจ๊าะแจ๊ะทำหน้ากระรอกกับใครที่ไหนอีก พี่หวงนะ เข้าใจไหมตาหนู~”

ดึงแก้มอย่างเดียวไม่พอ ยังส่ายไปส่ายมาอีก ดูท่าว่าถ้าผมไม่ตอบรับแล้วล่ะก็ มีหวังคงโดนดึงจนแก้มย้วยแน่ๆ ผมเลยต้องพยักหน้ารับ ตอบด้วยเสียงอู้อี้ฟังไม่ชัด

“อิเอ้าใอแอ๊วอั๊บ โอย เอ็บแอ๊ว! (จิเข้าใจแล้วครับ โอย เจ็บแล้ว!)”

พี่อินทร์เลยปล่อยได้ ผมลูบแก้มตัวเองป้อยๆ มองเขาอย่างเคืองๆ

“แต่เมื่อกี้จิก็ไม่ได้เจ๊าะแจ๊ะกับใครสักหน่อย แค่คุยเฉยๆ”

“คุยเฉยๆ แต่ยิ้มหน้าบานแบบนั้น ถือว่าเจ๊าะแจ๊ะหมด”

เขาเถียงกลับมา ผมมาคิดๆ ดูแล้วนะ มันมีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามผมอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ทำตัวเหมือนเจ้าข้าวเจ้าของเข้าไปทุกทีแล้วนะ

ไม่ได้การล่ะ ผมต้องหยุดเรื่องนี้ก่อนที่มันจะกลายเป็นความเคยชิน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมันจะส่งผลกระทบตอนที่ผมได้ครองคู่กับน้องบุษบาเอา

“แต่จิไม่ได้เป็นอะไรกับพี่อินทร์นะครับ ไม่ต้องมาหวง แล้วก็ไม่ต้องมาสั่งอะไรจิด้วย จิไม่ชอบ”

เท่านั้นพี่อินทร์ก็หันมามองขวับ เลิกคิ้วสูงเล็กน้อย “หืม? พูดจริงดิ?”

พูดจริง! ถ้าพูดไม่จริงจะพูดทำไม!

ผมพยักหน้ารับรัวๆ เลย ตาจ้องตา ไม่ยอมแต่โดยดีแน่ ยังไงก็ต้องให้เขารู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์มาหวงอะไรผม ทว่า...ทำได้อยู่ครู่ ผมก็ค่อยๆ สลดลงเมื่อจู่ๆ สายตาของพี่อินทร์ก็ดูจริงจังขึ้นมา

อะ...อะไรน่ะ

อะไรก็ไม่รู้ล่ะ รู้แต่ว่าพอผมหดคอลง พี่อินทร์ก็ขยับเข้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูผมว่า...

“ถ้าอย่างนั้นมาลองเป็นอะไรกันดูไหมล่ะ พี่จะได้หวงเราได้แบบไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ”

ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียวด้วย พอจบประโยคก็อ้าปากงับลงมาที่ใบหูผมเบาๆ ผมสะดุ้งเฮือก ขนแขนลุกชันไปหมด ผงะถอยออกจากเขาทันที ก่อนจะเห็นว่าพี่อินทร์กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่โดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้ผมได้ร้อนรนคว้าข้าวของแล้วลุกพรวดจากตรงนั้น จังหวะเดียวกันที่เพื่อนเขาเดินกลับมาพอดี พลันพากันส่งเสียงถามอย่างพร้อมเพรียง

“อ้าว ไปแล้วเหรอน้องจิ”

ผมไม่ตอบ ก้าวพรวดๆ ไปอย่างเดียว พ้นจากโรงอาหารได้ก็อดยกมือขึ้นจับใบหูที่ถูกพี่อินทร์งับเข้าอย่างเสียไม่ได้พร้อมกับความร้อนที่เห่อลามไปทั่วไปหน้า

บะ...บ้าชะมัด ทำไมต้องมาใจเต้นกับคนอย่างนี้ด้วยวะ

ตอนนี้เองที่ผมตระหนักได้ว่านอกจากจะต้องระวังเสน่ห์ของอิเหนาที่มากมายเหลือร้ายแล้ว ยังต้องระวังเวลาถูกอิเหนาหึงหวงอีกด้วย เพราะไม่อย่างนั้น ผมเองนี่แหละที่จะแย่เอา

คงต้องเตือนใจตัวเองไว้ให้มั่นแล้วล่ะเจ้าจรกาว่าต่อจากนี้จะทำอะไร จะคุยกับใครที่ไหน...

...‘โปรดระวังอิเหนาดุ!’

-----------------------------------

ปี้อินทร์จะมีออร่าผัวอย่างนี้อีกนานแค่ไหนนั้นนนน ให้นว้องจิร้าทายกัน~ 555

มีวลีว่า "จะร้ายกับคนทั้งโลก ยกเว้นเธอคนเดียว" แต่สำหรับพี่อินทร์นี่คงเป็น "จะเป็นคนปกติกับคนทั้งโลก ยกเว้นกับเธอคนเดียว" เพราะแม่มบ้าๆ บอๆ ตลอดเลย ไม่ใช่แค่จิปวดหัวรูกกก แม่ก็ปวด แม่ๆ คนอื่นๆ ก็ปวด พระเอกเมิงเอาเงินซื้อตำแหน่งมาใช่มั้ย 555

ฝากกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ^^


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มันต้องทำป้ายเพิ่ม "เขตปลอดอิเหนา" พกติดตัวไว้นะหนูจิ  o18

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
+เป็ดไปไหนน่อ
พี่อินทร์ค่ะ รุกหนัก รุกแรง น้องจิตั้งตัวไม่ทัน ระวังน้องเตลิดนะ  :m20:
 :L1:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อิพี่อินทร์ เป็นอิแรด อิบ้า อิหื่น ตอนนีกลายเป็นหมาไปแล้ว บทพระเอกนี่ ซื้อมาใช่มั้ย

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
จิเลิกคิดเถอะว่าจะได้ครองคู่กับบุษบาเพราะจะไม่มีวันนั้นเชื่อพี่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด