[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ความลับ 19/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ความลับ 19/4/61  (อ่าน 19609 ครั้ง)

ออฟไลน์ made in june

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ข้อตกลงเล้าเป็ด และก่อนโพสนิยาย กรุณาอ่านและปฎิบัติตามนะครับ

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


นิ ย า ย เ รื่ อ ง อื่ น
[เรื่องสั้น] กระทงวิศวะ
[เรื่องสั้น] แฟนดีดี
[เรื่องสั้น] Bite
[เรื่องสั้น] Daddy issues
[เรื่องสั้น] Beware of wolves
คุณงดงามเกินไปที่จะตากฝนคนเดียว (ยังไม่จบ)




  ค ว า ม ลั บ  
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ made in june

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ความลับ

 


หลังจากที่ทำงานเสร็จก็เดินมาหาอะไรกินที่มินิมาร์ทแถวซอยหน้าคอนโด สี่ทุ่มเข้าไปแล้ว วันนี้ยังไม่โดนข้าวสักเม็ด จมอยู่กับโปรเจ็คที่ต้องรีบทำให้เสร็จจนมารู้ตัวอีกทีก็เลยมื้อกลางวัน เย็น มาซะแล้ว


อากาศหลังฝนตกนี่โคตรหนาวให้ตาย
 

ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดย้วยสีซีดกับกางเกงขายาวรองเท้าแตะฟองน้ำยืนสั่นอยู่หน้าตู้อาหารแช่แข็ง พร้อมกับเสียงสบถในหัวที่มีไม่ขาดนั่นคือผมเอง
 

กรุงเทพปีนี้แม่ง ฝนตกบ่อยกว่าปีก่อนๆ ชนิดที่ว่าเทียบกันไม่ติด
 

เลือกเอามาม่าทะเลเมนูประจำยื่นให้พนักงานอุ่นอย่างสิ้นคิด ของกินมีแต่แบบเดิมๆ หลับตาจิ้มยังถูกว่ามีอะไรบ้าง
 

เสร็จแล้วก็เดินไปหยิบน้ำยี่ห้อที่กินด้วยความเคยชินอีกเช่นกัน
 

นายอาทิตย์ หรือไอ้ซันที่เพื่อนเรียกกันคือชื่อของผม ที่อายุ 21 มาได้สามวันแล้ว เรียนคณะนิเทศศาสตร์เอกภาพยนตร์ ผลการเรียนคงที่ คะแนนไม่ถึงกับระดับท็อป แต่ก็ไม่ได้ห่วย หน้าตาเจ๊กๆแบบที่กำลังเป็นที่นิยมของสาวสมัยนี้บวกกับส่วนสูงเกินมาตรฐานที่ทำเอาฮอตระเบิด


อันนี้ผมไม่ได้พูดเองนะ พวกสาวๆรุ่นน้องในคณะพูดมาแบบนี้อ่ะ
 

จ่ายเงินเอามาม่ามานั่งกินที่เก้าอี้ติดกระจกร้าน น้ำซุปร้อนๆกับอากาศภายนอกหนาวๆช่างคอนทราสท์แต่ก็ลงตัวอย่างบอกไม่ถูก พาให้นึกถึงฉากในหนังอาร์ตเรื่องหนึ่ง คิดไว้ว่าจะเอาไปใส่ในงานครั้งหน้าถ้ามีพล็อตเรื่องคล้ายๆแบบนี้
 

กินไปเพ้อไปเสร็จแล้วก็เอาขยะไปทิ้ง เตรียมเดินกลับคอนโดในใจก็คิดแต่ว่า ถึงเตียงเมื่อไหร่จะนอนยาวเป็นตายให้ถึงวันมะรืน
 

แต่เดินไปยังไม่ถึงครึ่งทางสายตาดันเหลือบไปเห็นคนคุ้นตาผ่านทางกระจกร้านกาแฟที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงเข้าพอดี
 

หน้าเรียวขาว ผมดำสนิทตัดกับสีปากแดงก่ำแบบนี้เคยเห็นที่ไหนนะ
 

เร็วเท่าความคิดขายาวๆก็พาตัวเองขึ้นบันไดเดินเข้าไปในร้านซะแล้ว ใครคนนั้นที่คุ้นตา กำลังนั่งสัปหงกกอดผ้าห่มอยู่ดูน่าสงสาร


ผมถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม พลางมองหน้าคนหลับไปด้วย


เมื่อได้มองใกล้ๆจากความรู้สึกที่คุ้นหน้าก็กลายเป็นนึกออกได้เลาๆ เพื่อนต่างคณะที่เรียนวิชารวมด้วยกันสมัยปีหนึ่ง


จะว่าไป ขนตาสีอ่อนที่ลู่แนบกับแก้มขาวนั้น ถึงจะเป็นผู้ชายแต่ก็น่ามองจริงๆ
 

แต่มองเพลินๆก็ต้องสะดุ้งตามเมื่อคนที่ถูกมองอยู่โพล่งลืมตาขึ้นแถมมองมาที่ผมด้วยท่าทางนิ่งไม่แสดงอารมณ์ มองเฉยอยู่อย่างนั้น เป็นผมเองที่ยกมือขึ้นเกาแก้มอย่างกระดาก รู้สึกอายที่เมื่อกี้ไปจ้องหน้าคนอื่นเสียขนาดนั้น
 

“เอ่ อ วะ หวัดดี” เอ่ยทักออกไปเสียงสั่น ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจะต้องประหม่าขนาดนี้ คนถูกทักยังคงนั่งมองตาไม่กระพริบ เริ่มรู้สึกว่าตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทางเลยหัวเราะออกมาเก้อๆ
 

ให้ตายเถอะว่ะ
 

ไม่เคยคุยกับผู้ชายแล้วประหม่ามาก่อนเลย
 

อาทิตย์ มึง เป็นบ้าอะไรวะ
 

ตั้งสติแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “เรา เอ้อ เราไปก่อนนะ” รีบลุกขึ้นยืนกำลังจะเดินออกไป แต่กลับโดนคนที่นั่งนิ่งมาตลอดคว้าเสื้อยืดด้านหลังไว้ ผมที่ถูกดึงหันไปมองด้วยใจระทึก
 

ระทึกเพื่ออะไรก็ไม่รู้
 

“ไปนอนด้วยได้มั้ย” น้ำเสียงโมโนโทนของคนที่จับเสื้อถาม
 

“ฮะ ..” เหมือนปฏิกิริยาตอบรับโดยไม่รู้ตัว เมื่อกี้มัวแต่มองปากสีเข้มนั้นไม่ได้ฟังเลย
 

“ขอไปนอนด้วยได้มั้ย?”
.

.

.

.

ผมกำลังทำอะไรอยู่ ถามตัวเองก็ไม่ได้คำตอบ
 

นึกย้อนกลับไปเมื่อกี้นี้ ตอนที่ผมยังอึ้งอยู่ อีกคนกลับพูดด้วยเสียงโมโนโทนอย่างเดิม
 

‘เมทหนีออกจากบ้าน ไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ ไม่มีกุญแจบ้าน’
 

‘เราชื่อไพลิน เอาบัตรประชาชนไปก็ได้นะ นายจะได้สบายใจ’
 

แค่สี่ประโยคเท่านั้น แค่สี่ประโยคมารู้ตัวอีกทีก็พาเด็กหอบผ้าห่มติดมาบ้านด้วยคนหนึ่งซะแล้ว...
 

ตามประสาคอนโดหรู ห้องที่นี่เป็นแบบเปิดโล่งกว้างๆ แบ่งเป็นสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยชัดเจน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ชั้นลอยเป็นส่วนที่ผมใช้นอน ตรงส่วนนั่งเล่นรกกว่าที่อื่นเพราะผมใช้มันทำงาน อุปกรณ์ในการเรียนต่างๆวางเกลื่อน อย่างกล้องตัวที่ตั้งอยู่ก็ราคาหลายแสน
 

นี่ถ้าอีกคนที่พามาเป็นโจร ผมคงต้องล้มละลายในการปล้นครั้งเดียวแน่
 

แล้วถ้าหน้าแบบนี้เป็นโจรขึ้นมาจริงล่ะ ปล้นอย่างเดียวไม่เท่าไหร่ ถ้าปล้น แล้วฆ่าด้วย...


ชิบหาย....
 

ผมรีบอาบน้ำและไล่เรื่องราวสะระตะออกไปจากหัว
 

เพราะเรียนเกี่ยวกับอะไรแบบนี้ด้วยหรือเปล่าทำให้ผมเป็นคนที่ชอบจินตนาการเรื่องบ้าบอได้เป็นตุเป็นตะ หลายๆเรื่องก็ปัญญาอ่อนเอามากๆด้วย
 

ใส่เสื้อผ้าเสร็จเดินเช็ดผมออกมาก็ยังเห็นอีกคนนั่งอยู่บนโซฟาที่เดิมที่ให้นั่ง ในมือถือรีโมททีวี เกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนที่ตั้งใจดูโฆษณามากขนาดนี้ครั้งแรก ปกติทุกคนมักจะเปิดหนีเวลาเจอโฆษณาหรือเปล่า
 

“จะเที่ยงคืนแล้ว นายจะนอนเลยมั้ย”


“อือ นอนเลยก็ได้” อีกคนตอบรับ ปิดทีวี เดินตามมา ก็เป็นครั้งแรกอีกน่ะแหละที่จะต้องนอนกับคนที่เพิ่งเจอกันวันแรก
 

แล้วจะนอนหลับเหรอ ...
 

คำตอบคือ ไม่
 

สายตาที่เริ่มปรับให้ชินกับความมืดกระพริบมองร่างของคนที่นอนอยู่บนเตียงเคียงกัน
 

จะทำยังไงดีล่ะ นอนกับคนไม่สนิทจะหลับลงง่ายๆได้ยังไง
 

เหล่มองคนที่นอนอยู่ด้านซ้าย ก็นอนนิ่งกอดผ้าห่มที่พกมาด้วยอย่างสงบ มีแค่ความเคลื่อนไหวพะเงิบๆของผ้านวมที่ทำให้รู้ว่าอีกคนยังหายใจอยู่
 

มือใหญ่งุ่นง่านควานหาโทรศัพท์ที่ซุกไว้ใต้หมอนออกมากดพิมพ์ข้อความ
 

: ชาวี กูนอนไม่หลับว่ะ


ทักแชทไปไม่ถึงครึ่งนาที เพื่อนสนิทก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
 

: วีก็พอมั้ง สัด
: ทำไม
 

: กลัว
 

: กลัวไรวะ พิมพ์ยาวๆกูไม่รู้เรื่อง
 

: กูให้คนอื่นมานอนด้วยที่ห้อง ตอนนี้กูเลยนอนไม่หลับเนี่ย
 

: เอ๊า คนอื่นไหน
: นอนอยู่ที่ไหน
 

: นอนข้างกูเนี่ย
: มึงจำคนคณะจิตวิทยาตอนสมัยเรียนจิตมนุษย์ได้ป่ะ ตอนปี1คนที่ตัวขาวๆ เหมือนผู้ดีๆ
: เคยจับได้ทำงานกลุ่มด้วยกันครั้งหนึ่ง
 

: ผู้ชาย
: ที่ชอบใส่เสื้อลายสก็อต?
 

: เออ มั้ง
 

: มั้งพ่อง
: เสื้อลายสก็อตไม่รู้จักเหรอ


เสื้ออะไรแม่งก็เหมือนๆกันหมดไม่ใช่เรอะ!
 

: เออ เสื้อลายสก็อต ที่ยิ้มหวานๆอ่ะมึงจำได้ยัง
 

: กูคิดว่ากูนึกออกละ ไพลิน?
 

: เออ เค้าชื่อไพลิน
 

: เค้ามานอนกับมึงได้ไงวะ
 

: เค้าขอมานอนด้วย
: วี กูเริ่มกลัวว่ะ เค้าจะทำไรกูเปล่าวะ ไม่กล้าหลับแล้วเนี่ย


: เค้าไม่ทำไรมึงหรอก เชื่อกู
 

: ถ้าตื่นมาตอนดึกปาดคอกูทำไงอ่ะ
 

: เพ้อเจ้อไอ้สัด
: นอน
: เค้าอ่ะควรกลัวมึง ไม่ใช่มึงไปกลัวเค้า
 

: เอ๊า นี่กูเพื่อนมึงไงวี กูเอง
 

: แดกเอ็มร้อยแล้วนอนไปจะได้หายฟุ้งซ่าน
 

: ไม่คิดจะห่วงกูเลยย


: มึงน่ะอย่าทำอะไรเค้าล่ะ กูขี้เกียจไปประกันตัว
 

โหะ! ดูมันพิมพ์
 

แม่งเห็นเพื่อนเป็นคนยังไงเนี่ย ทำไมไม่เป็นห่วงผมเลยวะ
 

ถึงผมจะตัวสูงผิวแทนแต่ไม่ใช่ว่าจะสู้คนนะเว้ย
 

พอเพื่อนไม่คุยด้วย ผมก็เลยกอดโทรศัพท์ไว้แนบอก พลิกซ้ายทีขวาที่อยู่ไม่สุข เริ่มมีความคิดว่า จะโทรหาเพื่อนสักคนเพื่อขอไปค้างที่ห้องคืนหนึ่งได้มั้ย
 

ทำไมต้องทำให้ตัวเองลำบากขนาดนี้ด้วยวะ การเป็นคนดีนี่มันอยู่ยากจริงๆนะ
 

"นอนไม่หลับเหรอ..."
 

จ๊าก!
 

เสียงเบาๆดังมาจากทางด้านหลัง ผมหันคอไปมองช้าๆ หน้าของไพลินภายใต้เสียงสลัวๆหันมาทางผม ดวงตาสะลืมสะลือพยายามจ้องมอง
 

...ละเมอ?


ละเมอหรือเปล่าวะ
 

"หรือฝันร้าย" เขาพูดต่อเมื่อผมไม่ได้ตอบ
 

อ่า โอเค พูดกับผมสินะ ไม่ได้ละเมอนะ
 

"ปกติเรานอนตอนกลางวัน มันเลยไม่ค่อยง่วง"
 

กับผีดิ


แม่ง อยากนอนจะตายอยู่แล้ว แต่ต้องลืมตาค้างเพราะกลัวนายเนี่ยแหละ
 

ผมพลิกตัวหันหนีแบบเนียนๆ เอาจริง เขาดูกึ่งหลับกึ่งตื่น ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะฝันว่าคุยอยู่กับผมก็ได้
 

แปะ
 

ผมสะดุดเมื่อสัมผัสบางอย่างกดลงที่ศีรษะ พอคิดดูดีๆ ก็รู้สึกว่าคือมือเรียวๆข้างหนึ่ง วางแปะอยู่บนหน้าผาก ผมเบิ่งตาค้าง
 

เอาจริงๆตกใจจนแทบกรี๊ด
 

นึกว่ามือผี
 

"ชู่ว นอนๆ นอนนะ ไม่มีอะไรหรอก"
 

เดี๋ยววว
 

ชู่ว คืออะไร!
 

"แค่ฝันร้ายเอง"
 

"แค่ความฝันน่ะ..."


เสียงที่ฟังดูทุ้มคือเสียงของผู้ชาย แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกสะลึมสะลือตามเหมือนโดนรมยา
 

มือบางลูบศีรษะให้เบาๆ เป็นจังหวะเนิบๆ ผมเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแมวอ้วนโง่ๆที่พอโดนลูบหัวก็เคลิ้มตาจะปิด
 

มันเป็นแบบนั้นเลย


หนังตาที่หนักอึ้งนี้
 

เสียงโมโนโทนพูดขึ้นอีก
 

"แค่ฝันร้ายเอง นอนนะ นอนๆ"
 

อะ...
 

"One two
Buckle my shoe..."
 

ไม่
 

อย่า หลับ น....ะ
 

"Three four
Knock at the door
 

Five six
Pick up sticks...
 

Seven...eight ..."
 

ไม่ ไหว แล้ว...แข็งแกร่ง
 

แข็...งแก...ร่งเกิน ไป...
.

.

.

.

วันเสาร์อาทิตย์ควรจะเป็นวันที่ผมได้นอนโง่ๆอยู่บนเตียง ไม่ใช่แหกขี้ตาตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าเพราะเสียงโหวกเหวกของอาม่าตึกข้างๆ
 

เดี๋ยว
 

มันใช่เหรอวะ
 

ผมอยู่คอนโดในย่านที่ค่อนข้างถือว่าหรูหรามากนะ จะมีเสียงอาม่าที่ไหนมาตะโกนโหวกเหวกได้ยังไงกัน
 

รีบกระเด้งตัวออกจากเตียงเหมือนโดนน้ำร้อน เอามือลูบหน้าสองสามครั้งก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
 

ผมพาคนแปลกหน้ามานอนด้วยที่ห้อง
 

และตอนนี้หมอนั่นหายไปแล้ว
 

เวร...กล้อง
 

รีบวิ่งลงจากชั้นลอย มองลงไปห้องนั่งเล่นด้านล่าง อุปกรณ์การเรียนยังถูกวางอย่างระเกะระกะอยู่ที่เดิม
 

นึกว่าจะหายไปหมดแล้ว...
 

“ตื่นแล้วเหรอ หัวฟูเชียว” เสียงทักมาจากโซฟาหน้าทีวี ผมผวาเฮือก หันไปมอง
 

เสียงอาม่าที่ผมได้ยินที่จริงแล้วคือเสียงจากโทรทัศน์
 

ส่วนไพลินอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวของผมกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่า
 

อยู่ดีๆก็รู้สึกผิดที่ในตู้มีแต่เสื้อลายกราฟิกโง่ๆขึ้นมา ถึงเขาจะใส่มันออกมาแล้วดูเหมือนเสื้อตามนิตยสารก็เถอะ
 

“นึกว่านายกลับไปแล้วซะอีก”
 

“กลับได้ยังไง เมทยังไม่ติดต่อกลับมาเลย เราไม่มีกุญแจบ้าน” พูดถึงตรงนี้ก็ทำหน้าหงอยบ่าตก ผมเห็นท่าทางแบบนั้นก็ไปไม่เป็น
 

ปากเบ้ๆนั่นคือจะร้องไห้หรือเปล่า
 

...อย่านะ ผมยิ่งแพ้น้ำตาคนอยู่
 

“เอ่อ แล้วหิวหรือเปล่า เดี๋ยวเราทำอะไรให้กิน” พอได้ยินคำว่าของกิน คนก็ยืดตัวตรงทันที ตาโตๆเป็นประกายหันมามองผม
 

น่ารัก...
 

เอ๊ะ!
 

ไม่สิ
 

ผมชมผู้ชายด้วยกันว่าน่ารักได้ยังไง
 

อาทิตย์ มึงบ้าไปแล้ว
 

“หิว”
 

“งั้น ขอแปรงฟันแป้ปนึง เดี๋ยวมาทำข้าวเช้าให้”
 

“โอเค”
 

แต่ไอ้ท่าทางยิ้มโชว์ฟันซี่เล็กๆทั้งปากแบบนั้นมันก็น่ารักจริงๆน่ะแหละ
 

ชิบ...
 

ผู้ชายที่ไหนมันน่ารักกันล่ะโว้ย!
 

“อาทิตย์อยู่คนเดียวเหรอ”
 

“อ่าห้ะ” ผมส่งเสียงในลำคอตอบ ความสนใจจดจ่ออยู่กับมือเรียวที่จับตะเกียบคีบช้ินซูชิอย่างคล่องแคล่วตรงหน้า
 

ไพลินคงจะชอบกินซูชิมาก เพราะท่าทางตอนที่ผมโทรสั่งดีใจเหมือนเด็กๆ คนนั่งเคี้ยวแต่ละคำอย่างช้าๆก่อนกลืน แตกต่างจากผมที่ใช้มือหยิบแล้วยัดทั้งชิ้นเข้าปาก
 

ในตอนแรกก็คิดว่าจะทำอาหารให้เขานั่นแหละ แต่พอดูของสดในตู้เย็นก็พบว่า ไม่มีอะไรพอที่จะทำเป็นอาหารได้เลยสั่งซูชิมากินแทน
 

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าข้าวนั่นใส่สารพิเศษอะไรคนถึงยิ้มจนลักยิ้มขึ้นที่ข้างแก้มขนาดนั้น
 

เลี้ยงง่ายดีว่ะ
 

น่ารั—- แฮ่ม!
 

“ไม่เหงาเหรอ ทำไมไม่อยู่กับแฟนอ่ะ” สักพักถึงเงยหน้าขึ้นมาถาม ผมส่ายหัว
 

“ไม่มีแฟน”
 

“แค่เรียนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
 

ไพลินยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังคำตอบ เจิดจ้าจนผมต้องหยีตามอง
 

“เหรอ ดีจัง”
 

“หือ?”
 

“เปล่าๆ คือเห็นด้วย ห้องนายโคตรรก”
 

“อย่าพูดสิ อาย”
 

“ไม่ต้องอายหรอก บ้านเรารกกว่าบ้านซันอีก”
 

“เรียกว่าอะไรนะ”
 

“ซัน... เอ่อ ขอโทษๆ”
 

“ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย เรียกเถอะ เรียกได้”
 

อยากให้เรียก
 

“ซันใจดี” คนชมเปาะ
 

ผมยื่นมือไปหยิบเมล็ดข้าวที่ข้างมุมปากแดงๆเข้าปากตัวเองอย่างลืมตัว ไพลินมองการกระทำของผมแล้วยิ้มออกมา
 

ยิ้มหวานๆแบบที่คนใช้แรงงานมาเห็นก็คงจะชื่นใจ
 

กลับเป็นทางนี้เองที่หน้าร้อนวาบ
 

ผมแม่ง แพ้ของน่ารักแน่เลยว่ะ
 

...ก็เล่นใช้ตากลมๆจ้องเป๋งเสียงขนาดนั้น ใครมันจะใจร้ายด้วยลงวะ
 

วันทั้งวันผมไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่เพราะเอาแต่คอยมองตัวขาวๆของคนร่วมห้อง
 

ไพลินมีลักษณะการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงกับสัตว์เล็กๆดี เขานอนนิ่งๆอยู่บนโซฟาได้เป็นเวลานาน โดยไม่ทำอะไรเลย
 

อ่อ ไม่สิ หมายถึง นอนนิ่งๆมองผมเช็คฟุตเทจงาน
 

พอถึงตอนบ่ายก็ไม่ไหวแล้ว คนตาจะปิดอยู่รอมร่อแต่ก็ยังพยายามตั้งคอมอง
 

“ไปนอนเถอะ เดี๋ยวเสร็จแล้วให้ดู” ผมบอกเขาก็ส่ายหน้ากับแขนส่งเสียงอู้อี้
 

“อยากเห็นตอนทำนี่”
 

“ใต้ตาดำเป็นหมีแพนด้าแล้ว”
 

“เดี๋ยวเราต้องรอโทรศัพท์ เผื่อจั๊มโทรมา” ไพลินที่ตาร่ำจะปิดแต่ยังมีกะใจชูโทรศัพท์ขึ้นเหนือหัว
 

“เอาวางไว้เดี๋ยวดูให้ ไปนอนข้างบนไป” ผมเอาโทรศัพท์ของอีกคนมาถือไว้ มองคนค่อยๆเดินสะลึมสะลือขึ้นบันไดชั้นลอย
 

มารู้สึกตัวว่าใกล้ค่ำตอนที่พักสายตาบิดขี้เกียจเผลอหยิบโทรศัพท์ใกล้ตัวขึ้นมากดดูเวลา
 

บางคนใช้ชีวิตยังไงโดยปราศจากระบบล็อครหัสโทรศัพท์มือถือกันนะ
 

พอผมกดดูภาพแมวน้ำบนพื้นหลังก็เข้าหน้าเมนูหลักได้ง่ายๆ ยังไม่ทันกดปิดหน้าจอ แรงสั่นครืดพร้อมชื่อคนโทรเข้าปรากฏขึ้น
 

‘จั๊ม’
 

กำลังจะผุดลุกแต่ความคิดที่แล่นมากระทันหันทำให้หยุดอยู่กับที่ นิ้วโป้งขวาปัดไปทางซ้ายอย่างจงใจ
 

ที่ทำอยู่แม่งแย่ก็ใช่
 

แต่ไม่อยากปลุกคนกำลังนอนเฉยๆหรอก
 

ไม่ใช่ว่าอยากให้อยู่ด้วยนานขึ้นอีกนิดเสีย
หน่อย...
 

เออ
 

ยอมรับก็ได้ว่าอยากให้อยู่ด้วย
.

.

.

.

ผมนั่งมองคนนอนหลับอยู่กับฟูก เอื้อมมือไปดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ เขาเป็นคนผิวขาว นึกถึงคำเปรียบเปรยก็คงจะบอกว่า ขาวเหมือนไข่ปอก แก้มเนียน ขนตาสีอ่อน
 

ทุกอย่างในตัวดูจะประกอบขึ้นจากอะไรนุ่มนวลไปเสียหมด
 

คนขดตัวจนขายาวๆแทบจะแนบกับอก ท่านอนเหมือนเด็กน่าเอ็นดู
 

ลองยื่นมือไปเขี่ยผมด้านหน้า คนหลับก็ขมวดคิ้วลืมตาตื่น
 

“ไปหาข้าวเย็นกินกัน” ผมบอกคนกระพริบตามอง
 

“ทำงานเสร็จแล้วเหรอ” ลูกแมวงัยเงียถามเลยพยักหน้าตอบคำ
 

“ใกล้เสร็จแล้วล่ะ ไว้ทำต่อพรุ่งนี้ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว หิว”
 

“ซันอยากกินอะไร เราเลี้ยงเอง” เขาใช้น้ำเสียงกระตือรือร้น
 

“หือ ไม่เอา เลี้ยงทำไม”
 

“ถือว่าเป็นค่าที่ให้เรามานอนด้วยไง”
 

“ไม่ได้คิดว่าเป็นค่าอะไรสักหน่อย”
 

“น่านะ” คนช้อนตามองจากบนฟูก เสื้อยืดคอกว้างหล่นลงเกือบตกจากหัวไหล่ขาว
 

ชิบ...
 

ผมมั่นใจว่าเขาต้องรู้แน่ๆว่าไอ้ท่าทางมองตาแป๋วกับเสียงอ้อนวอนนั่นมันรุนแรงต่อใจคนมองมากแค่ไหน ถึงได้ขยันงัดออกมาใช้เหลือเกิน
 

“โอเค”
 

ผมแพ้
.

.

.

.

ไพลินที่ได้เลี้ยงบะหมี่ผมเดินฉีกยิ้มอารมณ์ดีตลอดทางกลับอพาร์ตเมนต์ ต้องคอยดึงสายฮู้ดเอาไว้ตอนที่จะไปชนกับพวกวัยรุ่นบนถนนคนอื่นเข้า
 

“อะ จั๊ม!?”
 

ผมหันไปมองตาม คนกำลังยิ้มจนตาเป็นรูปโค้ง กระโดดกวักมือให้คนที่นั่งอยู่หน้าร้านอาหารข้างทางฝั่งตรงข้ามถนน
 

ผมถูกจับลากไปกับเขาด้วย จนมายืนอยู่หน้ากลุ่มเพื่อนของผู้ชายวัยรุ่นที่ถูกเรียกว่าจั๊ม รู้แหละว่าคนไหน ก็เห็นรูปตอนที่โทรเข้ามาน่ะนะ
 

“หายไปไหน ไม่รับโทรศัพท์เลย แถมไม่โทรกลับหาเราด้วย”
 

“มึงสิ หายไปไหน กูกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แถมวันนี้โทรหา มึงก็ไม่รับโทรศัพท์”
 

“หือ โทรหาตอนไหนน่ะ” ไพลินไม่รู้เรื่อง แน่นอนว่าพอหันมามอง ผมก็ยักไหล่ส่งสีหน้าไม่รู้เหมือนกันไปให้
 

“ไม่ได้โทรมาเลย”
 

ผู้ชายคนที่ถูกเรียกว่าจั๊มหยุดสายตาอยู่ที่ผมสักพัก ก่อนจะหันไปหาเพื่อนร่วมห้องของตัวเอง ยื่นมือมาวางบนศีรษะ
 

“งั้นก็ขอโทษละกันที่อยู่ๆหายไป แล้วนี่ มึงจะกลับบ้านกับกูมั้ย”
 

ผมมือกระตุก
 

เกือบคว้าเอาแขนขาวๆของคนที่ยืนอยู่ด้านข้างไว้แล้วอย่างลืมตัว
 

“กลับสิ คิดถึงเตียงที่บ้านจะแย่ นายนะ ก็รู้ว่าฉันไม่มีกุญแจ ยังทิ้งกันได้”
 

“ก็ใครบอกให้มึงทิ้งซองขนมไว้บนโซฟากันล่ะ คนทำความสะอาดมันก็โมโหเป็นน่ะสิ”
 

สัตว์เล็กๆพอเจอเจ้าของก็เหมือนจะลืมเพื่อนเล่นข้างทางอย่างผมโดยสมบูรณ์
 

ผมจำไม่ค่อยได้หรอกว่าโดนบอกลายังไง เหมือนว่าขอบคุณที่ให้มาอาศัยนอนด้วย แล้วก็ชมว่าผมเป็นคนดีมากให้เพื่อนของเขาฟังยกใหญ่
 

แต่ไม่เห็นจะดีใจเลยแหะที่ถูกชม
 

ผมไม่ได้ใจดีกับใครที่ไหนก็ได้สักหน่อย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2018 21:04:55 โดย made in june »

ออฟไลน์ made in june

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
.
.
.
.
“เหม่ออะไรนักวะไอ้ซัน” เพื่อนวีเอาปากกาในมือเคาะหัวผม พอละสายตาไปมองก็เห็นคนเท้าคางเลิกคิ้วใส่


“เปล่า”
 

“ปฏิเสธส่งๆ อีก”
 

“เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็น ใจลอยไปถึงไหน”
 

“ส เอือ กอ เสือก”
 

“คอ วอ อา ยอ ควาย”
 

จากนั้นเราก็ด่ากันเล่นจนหมดคาบ พอกินข้าวกลางวันเสร็จก็ชวนกันมานั่งคิดงานที่หอสมุดกลางของมหาวิทยาลัย
 

ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะไปสะดุดกับกลุ่มที่นั่งประชุมอะไรกันในโต๊ะแถบโซฟา
 

“มองขนาดนั้นมึงไปสิงเค้าเลยสิ” เพื่อนใช้สายตาดูถูกมองกดผม
 

‘เค้า’ ของไอ้วี คือคนที่ผมได้เจอครั้งล่าสุดเมื่ออาทิตย์ก่อน ไพลินยังเป็นคนที่ผิวขาวเนียนละเอียดเหมือนเดิม รอยยิ้มสวยก็ยังสว่างเจิดจ้าเหมือนเดิม คนนั่งอยู่ถัดจากเราไม่ไกล แต่ห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเพื่อนๆ
 

“กูบอกแล้วว่าอย่างไพลินน่ะ เค้าไม่ทำอะไรมึงหรอก”
 

“มองตามตาละห้อยขนาดนี้ อยากคุยก็เข้าไปทักดิ” เพื่อนสนิทว่า
 

“ไม่เอาล่ะ ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”
ผมบอกปัด
 

“คนไม่สนิทที่ไหนเค้าแชทกันทั้งวันทั้งคืนแบบมึงบ้าง อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะว่ามึงไปวอแวเรื่องงานอะไรใส่เค้า ปกติเคยสนใจคะแนนที่ไหน”
 

“มึงนี่ยุ่งจังวะชาวี”
 

ผมไปคุยแชทอะไรกับไพลินทั้งวันทั้งคืนแบบนั้นกัน
 

นึกย้อนไปเมื่อวันก่อน ผมแค่บอกเขาว่า ฝนตก อย่าลืมเอาร่มไปเรียนแค่นั้นเอง
 

ส่วนวันก่อนหน้า ไปกินหม้อไฟร้านใหม่ เห็นว่าอร่อยดีก็เลยถ่ายรูปส่งไปอวด
 

เมื่อเช้าคนแค่ทักมาบอกสวัสดี ก็แค่นั้น
 

ผมไปคุยทั้งวันทั้งคืนแบบที่เพื่อนพูดตอนไหน
 

ผมคงจะมองเพลินเกินไปจนไม่รู้ตัว ตอนที่เมทชื่อจั๊มของคนตัวขาวเงยหน้าขึ้นมาสบตาเลยสะดุ้ง หันหน้าไปอีกทางไม่ทัน หางตามองเห็นเขาจ้องมา ก่อนท่อนแขนจะยกลูบหัวคนผมสีดำเบาๆ
 

ท่าทางถือสิทธิ์แบบนั้นผมก็ไม่อยากเดาความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้ว
 

ไอ้ความรู้สึกวูบในอกนี่มันอะไรกันวะ
 

ติ้ง!
 

เสียงจากโปรแกรมแชทดังขึ้น ผมที่ลืมกดปิดเสียงโทรศัพท์รีบล้วงออกมาแทบไม่ทัน
 

อ่านข้อความบนหน้าจอด้วยใจที่วูบโหวงไม่ทราบสาเหตุ
 

‘เจอซันที่ห้องสมุดด้วย’
 

‘เงยหน้าขึ้นมาสิ’
 

...ไม่เอาเด็ดขาด
 

ไพลินจะไม่ได้เห็นหน้าตาตอนนี้ของผมสาบานได้
 

ผมไม่กดเข้าไปอ่านข้อความ ก้มหน้าทำงานของตัวเองไปจนกระทั่งตอนเดินแยกกับไอ้วีที่หน้าหอสมุด แรงสะกิดที่ไหล่เรียกให้หันไปมอง
 

“ซันไม่อ่านข้อความเลย”
 

“เป็นอะไรหรือเปล่า”
 

ต้องมีใครสักคนเตือนไพลินว่า ไม่ควรยื่นหน้าข้ามบ่าคนอื่นแบบนี้ ผมหันไปปะทะเข้ากับกลุ่มผมสีดำนุ่มและใบหน้าด้านข้างของคนทัก
 

แก้มขาวอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ใกล้จนเห็นขี้แมลงวันจุดเล็กๆที่ข้างแก้ม ทำให้ใจเต้นผิดจังหวะ
 

พอเอนตัวออกกลายเป็นฝ่ายนั้นที่เลิกคิ้ว ยิ้มใส่ตาไม่รู้เรื่องราวกลับมาให้
 

ชิบ...
 

คิดว่าที่ทำอยู่มันน่ารักมากเหรอ
 

เออ
 

ยอมรับก็ได้ว่าน่ารัก
 

น่ารักจนคันยิบที่หัวใจ
 

“ไม่ว่างน่ะ วันนี้ยุ่งๆ”
 

“เหรอ”
 

“อืม” ระหว่างเราไม่มีบทสนทนาต่อจากนั้น ไพลินเดินข้างๆผมตลอดทาง ผมเปลี่ยนให้เขาเข้ามาเดินด้านใน เพราะรถที่ข้างถนนเริ่มเยอะ
 

“ซันเหนื่อยมั้ย” เขาหันมาถาม ผมพยักหน้าตอบ เรานั่งลงบนม้านั่งใต้ป้ายรอรถเมล์
 

“ดูท่าทางจะเหนื่อยมากแน่ๆ วันนี้ถึงไม่ค่อยพูดเลย”
 

ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรหรอก แต่พอมีคนให้ท้ายเท่านั้นก็รู้สึกหนักหนาขึ้นมาทันที
 

ผมแอบมองสีหน้าเป็นห่วงของคนที่นั่งด้านข้างแล้วนึกเอ็นดูใบหน้ากลุ้มอกกลุ้มใจของไพลินที่มีต่อผม ท่าทางแบบนั้นน่ะ จะรู้มั้ยนะว่าคนมองรู้สึกได้เป็นคนสำคัญขนาดไหน
 

แต่ไม่ดีหรอก
 

ดีกับคนอื่นแบบนี้ไม่ดีเลย


“วันนี้จะนั่งรถกลับบ้านพร้อมกับซันนะ”
 

“ไม่กลับพร้อมจั๊มหรือไง” อยากตบปากตัวเองจริง
 

ผมกลายเป็นคนปากไวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอได้รู้จักกับไพลิน อะไรๆก็ดูจะควบคุมยากกว่าเดิมทุกที
 

“ทำไมเราต้องกลับพร้อมจั๊มล่ะ”
 

“ก็เป็นแฟนกัน...” ผมยังไม่ทันพูดจบประโยคคนก็พยักหน้า เอ่ยขัดออกมาสั้นๆ
 

“เข้าใจล่ะ”
 

“เราให้” ขวดน้ำดื่มถูกยื่นมาตรงหน้า ผมรับมาถือไว้ เพราะยังงงกับท่าทีของเขาเลยยังไม่ได้เปิด ดื่ม
 

“ดื่มสิ มีเรื่องจะคุยด้วยเยอะเลย”
 

สายตาจริงจังที่มองมาทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้
 

“วันนั้นที่เรามานอนค้างด้วย จั๊มโทรมาใช่มั้ย แต่ซันตัดสาย” ข้อเท็จจริงที่อยู่ดีๆคนก็พูดขึ้นทำให้ผมชะงัก มองหน้าไพลินที่นิ่งจนเดาใจไม่ถูก
 

“จั๊มเปิดให้เราดูประวัติในเครื่องน่ะ ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะ”
 

ผมทำให้คนรักผิดใจกันใช่มั้ย
 

เพราะความเห็นแก่ตัวที่ทำไปแบบไม่คิดใช่หรือเปล่า
 

“ขอโทษ...”
 

“ไม่ต้องขอโทษ เราแค่อยากรู้เหตุผลว่าซันทำแบบนั้นทำไมเท่านั้นเอง”
 

ผมพูดไม่ออก เออ เหตุผลจริงๆมันเพราะอะไร
 

ที่ผมรู้สึกปวดใจพอคิดว่าเขามีคนที่รักมันเพราะอะไรกันแน่
 

ไพลินเห็นผมใช้ความคิดหนักคนเลยยืดตัวตรง สูดหายใจเข้าลึกจนเกิดเสียง
 

“งั้น ถ้าซันยังตอบไม่ได้ ฟังเราพูดก่อนแล้วกัน”
 

“จะบอกความลับอะไรให้ฟัง” ไพลินโน้มตัวมาหา ใช้ใบหน้าน่ารักจ้องมอง สายตาจริงจังตรึงความสนใจทั้งหมดของผมเอาไว้
 

“วันที่ขอมานอนด้วย จริงๆแล้วเราจะไปนอนกับเพื่อนคนอื่นก็ได้ เพื่อนเรามีตั้งเยอะแยะ ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมต้องมารบกวนใครที่ไหนก็ไม่รู้”
 

“ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมเราถึงรู้ว่าอาทิตย์ชื่อซัน ไม่สิ ไม่ใช่แค่ชื่อเล่น นายยังไม่ได้บอกชื่อจริงเราด้วยซ้ำ”
 

“ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมเราถึงดีใจตอนที่ซันบอกว่าไม่มีแฟน ตอนที่ซันบอกให้เราเรียกชื่อเล่นได้ หรือตอนที่ซันทักมาหา เล่านู่นเล่านี่ให้ฟังตอนวันหยุด”
 

“ความลับก็คือ”
 

“เราชอบซัน”
 

เสียงรถบนถนนยังดังเท่าเดิม แต่เสียงพูดว่า ชอบ ดูจะเป็นคำที่ดังที่สุดที่ผมได้ยิน
 

“ชอบมาตั้งแต่ตอนเรียนวิชาจิตวิทยาด้วยกัน ชอบตั้งแต่ครั้งที่นายให้เรายืมปากกาแดง ที่ให้ยืมเลคเชอร์วันที่เรามาสาย วันที่เดินเอาร่มมาให้ยืมตอนวันฝนตก วันที่ช่วยถือของตอนที่เราเดินสวนกันในลิฟต์”
 

“ชอบซันมาตั้งนานแล้ว”
 

หัวใจผมเต้นรัวจนเหมือนจะดังออกมาข้างนอกหลังจากได้ฟังคำพูดทั้งหมดของไพลิน คำถามมากมายตีกันอยู่ในหัวสลับกับอารมณ์ที่ไม่รู้จะตัดสินกับตัวเองยังไง
 

ถ้าไพลินชอบผม แล้วจั๊มล่ะ
 

ผมไม่ควรจะดีใจใช่มั้ย
 

แต่ข้างในก็อดโห่ร้องด้วยความยินดีไม่ได้
 

ไพลินชอบผม
 

ไพลินชอบซัน
 

“ซันเข้าใจว่าเรากับจั๊มเป็นแฟนกัน ซึ่งผิด จั๊มเป็นเพื่อน ตลอดมาและจะเป็นเพื่อนตลอดไป”
 

“และที่เราถามไม่ได้โมโหหรือโกรธ เพราะก็แอบหวัง ว่าที่ทำแบบนั้นซันจะคิดแบบเดียวกัน”
 

“คือซันก็ชอบเรา”
 

เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมได้เห็นไพลินพูดประโยคออกมาได้ยาวขนาดนี้ ตาเป็นประกายมองตรงมาที่ผม จริงจัง ดูรอคอยคำตอบ ผมกระแอมในคอ หน้าร้อนจนแทบจะไหม้
 

ไพลินไม่ได้ชอบจั๊ม ทั้งสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน
 

ไพลินชอบผม
 

และเขาหวังว่า ผมก็ชอบเขาเหมือนกัน
 

ยากเหลือเกินที่จะห้ามไม่ให้ตัวเองยิ้มออกมา
 

“ขึ้นรถก่อนเถอะ” ผมคว้ามือคนข้างๆวิ่งขึ้นรถเมล์ที่จอดเทียบป้าย คนบนรถไม่เยอะเลยยังมีที่นั่งว่างสำหรับเรา ดันให้คนนั่งด้านในแล้วก็นั่งลงตาม
 

จ่ายค่ารถสำหรับสองคน พอหันกลับมอมองอีกที คนก็เอาแต่หันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดตอนบ่ายย้อมใบหน้าสีน้ำนมของเขาให้เป็นสีเหลืองนวล ริมฝีปากเม้มแน่นจนขึ้นรอยบุ๋มที่ข้างแก้ม แต่ไม่ยอมหันมามองกัน
 

ไพลินที่สารภาพความในใจออกมาตรงๆกำลังงอนผม
 

“จะพูดยังไงดี”
 

“ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าไพลินจะชอบเรา”
 

คนหันขวับมามองทันทีที่ผมพูดจบประโยค
 

“ซันจะไปรู้ได้ยังไง ชื่อเราจำได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย”
 

“เราอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว เราพูดไปตั้งเยอะ ซันก็ยังไม่พูดอะไรเลย” คนตัวขาวตัดพ้อสะบัดหน้าพรืดไปอีกทาง ใจผมจะละลายกับท่าทางน่ารักของเขา
 

ไพลินน่ะก็ไม่รู้อะไรเหมือนกันนั่นแหละ
 

“จำได้สิ” ผมยิ้ม “ถึงตอนแรกจะจำไม่ได้ แต่ตอนนี้เราจำได้แล้ว”
 

“หันมามองกันก่อนนะครับ ข้างนอกหน้าต่างน่ามองกว่าหน้าซันอีกเหรอ”
 

ท่าทางงอนแบบเด็กๆแต่ก็เอียงหูฟังของเขาทำให้ผมอยากเข้าไปฟัดให้ช้ำจริงๆ
 

“งั้นเราจะบอกความลับให้ไพลินฟังบ้างดีมั้ย”
 

“เราน่ะ เวลาไปเรียน นอกจากปากกาน้ำเงินแล้วก็แทบไม่พกอะไรอีกเลย แต่พอหลังจากโดนผู้ชายผิวขาวๆคนนึงเดินเข้ามาถามว่ามีปากกาแดงมั้ย หลังจากวันนั้นก็ไปหาซื้อมาติดกระเป๋าไว้ตลอด เป็นบ้าอะไรไม่รู้ ดีใจกับแค่เรื่องให้นายยืมปากกา”
 

“ลายมือเราแย่จะตายไอ้วีมันด่าทุกครั้งเวลายืมลอกการบ้านเรายังไม่สนใจแต่หลังจากวันแรกที่ให้ไพลินยืมสมุดเลกเชอร์ เรากลับไปฝึกเขียนตัวบรรจงเพราะกลัวว่าจะอ่านไม่ออก”
 

“วันที่ให้ยืมร่มน่ะ จริงๆเราเห็นไพลินยืนอยู่ตั้งนานแล้ว เราวิ่งไปซื้อร่มที่เซเว่นกลับมาถามว่าไปด้วยกันมั้ยทั้งที่ปกติเราวิ่งฝ่าฝนไปได้ ไม่เดือดร้อนอะไร”
 

“ไพลินอาจจะคิดว่าเราใจดี”
 

“แต่ไม่ใช่หรอก เราไม่ได้ใจดีกับใครที่ไหนก็ได้สักหน่อย”
 

“ถ้าที่ทำทั้งหมดเรียกว่าชอบ”
 

“เราก็คงจะชอบไพลินจริงๆ แถมชอบมาตั้งนานแล้วด้วย”
 

ผมสารภาพทั้งหมดที่มีออกไปด้วยใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน คนที่ฟังมาตั้งแต่ต้นก้มหน้าจนคางชิดอก ใบหูแดงก่ำ ผมก้มหน้าลงไปมอง ไพลินพอสบตาเข้าก็หลับตาปี๋
 

“เราพูดความลับให้ฟังหมดแล้ว ทีนี้ ถึงตาไพลินตอบคำถามเราบ้าง

ในเมื่อไพลินชอบซันมาตั้งนาน และซันก็ชอบไพลินมาตั้งนานเหมือนกัน


ไพลินจะเป็นแฟนกับซันได้มั้ย”
 

ลูกแก้วสีน้ำตาลเบิ่งโตหลังจากได้ฟังคำถามของผม ผมใช้มือเกี่ยวผมสั้นขึ้นเหน็บข้างหูให้คนก้มหน้าก้มตา ใบหน้ายังโน้มเพื่อช้อนมองเขาจากด้านล่างอยู่
 

ไพลินเม้มปากจนลักยิ้มข้ึนรอยบุ๋มที่ข้างแก้ม
 

“เป็นแฟนกับซันนะ”
 

“ซะ ซันยังไม่ได้จีบเลยนี่” เสียงเอ่ยขัดสั่นๆ
 

แทบบ้าแล้ว ผมละสายตาจากใบหน้าน่ารักของเขาไม่ได้เลย


ไพลินตอนเขิน เป็นอะไรที่อยากเก็บใส่ตู้ล็อกไว้ดูคนเดียวจริงๆ
 

“งั้น จากนี้ไปขอซันจีบไพลินนะ”
 

“อะ โอ้ย! ไม่รู้แล้ว อย่ามาถามเรา ทำไมวันนี้ซันพูดมากจังเนี่ย”
 

ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมจะไปซื้อตู้เซฟมาใส่เขาไว้เลยดีกว่า ดูแก้มขาวๆที่เปลี่ยนเป็นสีซับเลือดนั่นสิ
 

“ไม่ถามแล้วก็ได้ ถือว่าไพลินอนุญาตให้เราจีบแล้วนะ แต่ก่อนที่จะจีบ อยากจะขออะไรอย่างหนึ่งก่อน ไม่งั้นก็คงจีบไม่ได้แล้วล่ะ”
 

ห้ะ! ทะ ทำไมจีบไม่ได้ล่ะ” หน้าตาเลิ่กลั่กของคนข้างกายทำให้ผมหลุดยิ้ม ธาตุแท้ที่พยายามเก็บเริ่มจะเผยออกมาอย่างเกินควบคุม
 

วันนี้ผมใช้พลังต่อต้านของน่ารักเยอะเกินไปจนจะทนไม่ได้แล้ว
 

“ขออะไรซันพูดมาเร็วๆ”
 

ถ้าบอกให้เลิกช้อนตาอ้อนจะทำได้มั้ยเนี่ย
 

ผมโน้มตัวเข้าไปหาคนคาดหวังคำตอบ ไพลินที่การป้องกันภัยเท่ากับศูนย์ยังมองนิ่งตอนที่ผมใช้มือซับใต้คาง
 

“ขอ...”
 

“ทำไมต้—-“
 

จุ๊บ!
 

“ขอจูบมัดจำไว้ก่อนนะครับ”
 

ตาโตๆเบิกกว้างหลังจากผมผละหน้าออกมา มือบางค่อยๆยกขึ้นจับริมฝีปาก
 

ผมเม้มปาก มองท่าทางสติหลุดของเขา
 

“มัดจำไว้แล้ว คราวนี้จีบได้แล้วเนอะ”
 

“อะ อาทิตย์ ไอ้คนเจ้าเล่ห์นี่! ไม่ให้จีบแล้ว ห้ามจีบ จะไปไหนก็ไปเลย!”
 

ผมไม่ได้เบี่ยงตัวหลบมือบางที่ยื่นเข้ามาผลักทั้งทุบเป็นพลันวัน หน้าขาวๆของไพลินซับสีเลือดจนแดงก่ำน่ามองจนผมยอมให้ทุบได้ตามใจ
 

มีความลับอีกอย่างที่ผมยังไม่ได้บอกเขา และคิดว่าคงจะเก็บไว้ให้เป็นความลับอย่างนี้ตลอดไปดีกว่า
 


ไพลินเป็นจูบแรกของผม
 

และมันนุ่มละมุนที่สุดเลย


 

 

The end.

 

 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ รัก ❤️

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
งูย..ยยยยยยยยย น่ารักมากมาย  o13 o13 o13

ออฟไลน์ yunjae123

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
อร๊ายยยยยยย
น่ารักๆๆๆๆ
ไพลินคือเจ้าตัวน่ารัก ><~~~

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
งือออออ น่ารัก >///<

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
โอยยยยยยยยยยยยย น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :pig4:

ออฟไลน์ a.amyw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่าร้ากกกกกก ชอบบมากก อยากอ่านอีก ขอตอนพิเศษได้มั้ยคะ ฮือชอบจริงๆ ไพลินน่ารักมากก อยากอ่านตอนเป็นแฟนกันแล้วซันจะหลงไพลินขนาดไหน ><

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โงยยยยยน่ารักมากกกก ชอบมากเลยค่า คือชอบเรื่องสั้นทุกเรื่องเลย ยิ่งเรื่องนี้คือน่ารักมาก เอ็นดูมาก น้องไพลินน่ารักๆๆๆ มีแต่คำส่าน่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wichiwiwie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักกกกก ><

ออฟไลน์ tuuili

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ทั้งน่ารักทั้งเขินนน ขอเป็นกระเป๋ารถเมล์ได้มั้ยคะ 555555

ออฟไลน์ vy0Cik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ้ยยยย เขิล! ใจบางไปหมดแล้ว น่ารักมากๆเลย :hao7: :hao7: :mew1:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ดาเมจรุนแรงเหลือเกินน ไม่ไหวแล้วมันน่ารักเกินไปป

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารักกกกอ่านไปเขินไปขอบคุณนักเขียนนะคะ

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เอ็นดูซันตอนกลัวไพลิน ฮ่าๆ
ไพลินน่าฟัดมากจริงๆ ฮื่อ  :impress2:

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
ไพลิน น่ารักมากลูก   :กอด1: :กอด1:

ซัน มีมัดจำด้วยเหรอ ร้ายนะ  :hao3:

ออฟไลน์ ptrwd

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฟิลกู้ดไปอี๊กกกกกกกกกก น่ารักมากกก ไม่ว่าจะซันหรือไพลิน ทำไมมันน่ารักขนาดนี้ เขินตัวบิดไปหม๊ดดดดด

ออฟไลน์ mamamamuay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งุ่ยๆ ไพลินคือน้อนนนน คนติดผ้าห่มน่าร๊ากก

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไพลินนนน น่าร้ากกกกกกกกกกก  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น่ารักอ่านแล้วอมยิ้ม

ออฟไลน์ Sugar_stack

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • Page FB Sugar_stack
น่ารัก อ่านแล้วยิ้มเขิน ดีกับใจค่า ><

ออฟไลน์ nittanid33333

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อร๊ายยยยยยยย น่ารักกกกก :mew2:

ออฟไลน์ __puppy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เขินนนนนนนน งื้อ น่ารักจังง น่ารักมากๆ ฮื่อๆ ชอบค่ะ

ออฟไลน์ mxb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คู่นี้น่ารักมากเลยยย พูดเพราะกันจังเลย ชอบบบ อยากให้เป็นเรื่องยาวเลยนะเนี่ย55555
ขอบคุณผู้แต่งที่แต่งเรื่องน่ารักๆ แบบนี้นะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ kisskiss

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
น่าร้ากกก :-[

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
น่ารักมากๆเลย  :o8:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :hao5: น่ารักมากกก

ออฟไลน์ skykick

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0


น่ารัก  :-[

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
น่ารักจัง น้องไพลิน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด