MR.LOVE เหนือกฎรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: MR.LOVE เหนือกฎรัก  (อ่าน 1514 ครั้ง)

ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
MR.LOVE เหนือกฎรัก
« เมื่อ18-03-2018 14:40:41 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 




MR.LOVE
เหนือกฎรัก

ในเวลาที่ผู้ล่ากับกลายมาเป็นเหยื่อ
เเล้วคนที่เคยเป็นเหยื่อ กำลังกลับกลายเป็นผู้ล่าซะเอง
การสับเปลี่ยนสถานะที่มีหัวใจเป็นเครื่องเดิมพันกำลังจะเริ่ม... เพราะคำว่า 'คู่จิ้น'
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #1 เมื่อ18-03-2018 14:44:44 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทนำ

เสียงดนตรีดังกระหึ่มอยู่ในหู ขณะเดียวกันกับที่ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเพิ่มขึ้นตามจำนวนแก้วที่บาร์แทนเดอร์รินเติมให้ตามที่เขายกนิ้วสั่งเพิ่ม ซึ่งมันก็เป็นต้นเหตุทำให้เลือดในกายของชายหนุ่มร้องฉ่า

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาดูดุดันกว่าปกติเมื่อความเครียดกำลังกัดกินทุกอณูของสมองเจ้าตัวเวลานี้ แต่ในเวลาเดียวกันปลายนิ้วของชายหนุ่มก็ลูบคลึงเบาๆ บนปากแก้วในมือเล่นไปด้วย ขณะที่เขากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

เมื่อตัดสินใจได้แล้วชายหนุ่มถึงตัดสินใจยกเหล้าในแก้วขึ้นกรอกลงคอจนหมดรวดเดียว แล้วถึงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดโทรหาใครบ้างคน...

“ผมรับงานนี้” เสียงแหบห้าวเอ่ยทันที โดยไม่ใส่ใจว่าเสียงรบกวนรอบข้างเขาจะทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงของตนชัดเจนหรือไม่

เหมือนว่าเสียงดนตรีจังหวะเร้าใจจะไม่เป็นปัญหา เพราะคู่สนทนาถามกลับมาในทันทีที่ได้ยินคำเอ่ยปากรับงานของเขา “แน่ใจนะ”

“ถ้ามันจะทำให้ผมกลับมาดังได้ ผมก็ยอม”

เขาได้ยินเสียงกลั้วหัวเราะในลำคอจากคู่สาย

“นี่แหละสิ่งที่พี่อยากได้ยิน เชื่อพี่เถอะว่าเหนือคิดไม่ผิดหรอกที่รับงานนี้”

ชายหนุ่มไม่คิดจะถือสายรอฟังจนจบประโยค เพราะเขาตัดสินใจชิงตัดสายอีกฝ่ายทิ้งซะก่อน โดยไม่สนสักนิดว่าสิ่งที่ตนทำลงไปมันจะเป็นการเสียมารยาท

‘เหนือ’ หรือ ‘เหนือณรงค์’  กอบกำสมาร์ทโฟนราคาแพงที่อยู่ในมือเอาไว้จนแน่น

“แกมันหมาจนตรอกแล้วจริงๆ ใช่ไหมไอ้เหนือ” ‘อดีต’ นายแบบหนุ่มที่เพิ่งจะเอ่ยปากรับเล่นบทบาทพระเอกของนิยายพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเดียดฉันท์ 

เขาเพิ่งรับข้อเสนอจากเจ้าของบทประพันธ์ชายรักชายที่โด่งดังไปทั่วโลกที่ขึ้นชื่อว่าฮอตและเซ็กซี่ที่สุดในวงการหนังสือนิยายในเวลานี้ ซึ่งกำลังจะถูกนำมาสร้างเป็นซีรีย์ที่จะจับเอาตัวอักษามาโลดแล่นบนหน้าจอ

‘MR.LOVE’

เจ้าของบทประพันธ์นั้นเป็นฝ่ายเลือกเขาเอง

แน่นอนว่าเขาไม่เคยคิดรังเกียจในรสนิยมทางเพศไม่ว่าจะรูปแบบไหน เพราะรสนิยมคือสิทธิ์ของคนๆ นั้นที่เจ้าตัวพึ่งมี เพียงแค่เขาไม่ชอบการถูกบังคับให้ต้องทำอะไรแบบนี้ ในเวลานี้เขาถูกบีบจากหลายๆ ทาง เพื่อให้รับเล่นซีรีย์เรื่องนี้ ทั้งๆ ที่เขารู้ตัวดีว่าไม่ถนัดงานแสดงเลย ถึงแม้จะไม่เคยลองทำงานด้านนี้ แต่เพราะเคยถูกส่งไปเวิร์คช้อปเพื่อเตรียมตัวหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งผลคือเขาเล่นได้สมจริงอย่างเป็นธรรมชาติ... ราวกับต้นไม้หรือก้อนหิน

จนแม้แต่อาจารย์สอนการแสดงยังเอ่ยปากแนะนำว่าตัวเขาเหมาะงานถ่ายแบบหรือเดินแบบมากกว่าการแสดง ซึ่งเหนือณรงค์เองก็รู้ตัวดี ถึงเลือกที่จะปฏิเสธงานแสดงที่ติดต่อมาทุกครั้ง เพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงทีมงานให้ต้องมาลำบากหรือเสียหายเพราะการแสดงของคนห่วยแตกเช่นเขา

ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #2 เมื่อ18-03-2018 14:46:43 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 1
เจ้าของร่างสูงก้าวลงมาจากรถสปอร์ตราคาแพง ซึ่งตัวเหนือณรงค์รับรู้ได้ถึงสายตามากมายที่จับมองมายังตนเอง แต่เขา ‘ชิน’ จนรู้สึก ‘เฉยชา’ กับการต้องตกเป็นเป้าสายตา

“เหนือ” เสียงที่เรียกทำให้เหนือรรงค์หันไปมอง

“ ‘น้ำผึ้ง’ ”

เขาเรียกชื่อของคนที่เอ่ยทักทาย และเป็นหญิงสาวหนึ่งเดียวในดวงใจตลอดเวลากว่าสี่ปีที่ผ่านมาเจ้าของชื่อสมใบหน้า ‘น้ำผึ้ง’หรือ ‘หยาดน้ำผึ้ง’

ก่อนใบหน้าที่ ‘เคย’ เรียบเฉยจะปรากฏรอยยิ้ม ซึ่งนานๆ ทีจะมีปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลา เมื่อได้เห็นหน้าผู้หญิงที่ตนแอบรักมากตลอด

“วันนี้ตอนเย็นว่างไหม”

“ครับ”

“วันนี้สอบวิชาสุดท้ายเสร็จแล้วเพื่อนๆ นัดไปฉลองที่พวกเราเรียนจบกัน”

“แน่ใจแล้วหรือไงว่าจบ จะผ่านหรือเปล่ายังไม่รู้เลย”

“เหนือ!” หยาดน้ำผึ้งเสียงดังใส่เพื่อนร่วมชมรม ก่อนมือบางจะสัมผัสที่ต้นแขนของเขาเบา “นิสัยไม่ดี ทำไมพูดอะไรแบบนั้นออกมา เรายิ่งกลัวๆ อยู่”

เหนือณรงค์ขยี้ผมคนที่ทำแก้มป่องใส่เขา “กลัวอะไรกัน น้ำผึ้งออกจะเก่ง”

“พอเลย ไม่ต้องมายอเราไม่เคลิ้มหรอก” หยาดน้ำผึ้งปัดมือชายหนุ่มออก “ว่าแต่ไปแน่นะ”

“อื้อ”

“ไปได้แน่นะ” หญิงสาวถามย้ำ “ไม่ใช่ว่าพอไปแล้วผู้จัดการนายมาแหกอกเราเพราะเราทำให้เหนือเป็นข่าวนะ”

เพราะเธอเองก็รู้ดีว่า ‘สุดเขต’ ผู้จัดการส่วนตัวของเหนือณรงค์โหดขนาดไหน แม้แต่คนนอกวงการยังเคยได้ยินกิตติศัพท์ผ่านตัวอักษรทางหน้าหนังสือพิมพ์และโซเชียลมีเดียในเรื่องความดุของผู้จัดการคนดัง แต่ยังไม่ทันที่เหนือณรงค์จะได้พูดอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงชายหนุ่มก็ดังขึ้นมา

คิ้วหนาเข้มเลิกขึ้นข้างหนึ่งเมื่อเห็นเบอร์ของสุดเขต “ครับ”

“วันนี้นายต้องไปเข้าคลาสเรียนการแสดง”

“วันนี้พี่สุดไม่ได้รับคิวให้ผม แล้วพี่เองก็ไม่ได้แจ้งผมก่อนด้วย” ปกติสุดเขตจะแจ้งตารางงานเขาล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์เสมอ “ผมบอกพี่แล้วว่าช่วงนี้ผมมีสอบ ผมไม่รับงานอะไรทั้งนั้น”

“นายสอบเสร็จแล้วไม่ใช่หรือไงพี่ดูตารางสอบของเราแล้ว และวันนี้ก็เป็นวันสอบวันสุดท้ายด้วย อีกอย่างพี่ให้นายมาเรียนการแสดงตอนเย็นหลังสอบเสร็จ จะมาบ่ายเบี่ยงพี่อะไรทำไม พี่ก็ไม่ได้ให้เสียการเรียนมาสักหน่อย”

“ผมมีนัด”

“แต่วันนี้เป็นวันแรกที่เขามีการเวิร์คช้อปของนักแสดงทุกคนที่จะเล่นซีรีย์เรื่องนี้ ยังไงเหนือก็ควรไป”

“แต่ผมมีนัด” เขายังไม่อยากเจอ ‘ว่าที่’ คู่จิ้นของตัวเองตอนนี้ เมื่อคืนเขาลองเอาหนังสือนิยายเรื่องนั้นมาอ่าน แค่บทแรกมันก็ ‘ฮอต’ จนทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าแล้ว 

นอกจากบทสนทนากับวิธีการบรรยายแต่ละฉากของผู้เขียนจะลื่นไหลน่าสนใจแล้ว นิยายเรื่องนี้ยังมีบทเลิฟซีนให้เห็นแทบทุกบท แล้วแต่ละฉากก็ยัง ‘ร้อนฉ่า’ และ ‘เซ็กซี่’ จนทำให้คนอ่านอย่างเขาตัวแข็งทื่อไปหมด

“หรือว่านายอยากเป็นตัวถ่วงคนอื่นเขา อย่าลืมนะว่านักแสดงทุกคนเขาผ่านงานละครกันมาหมดแล้ว มีแค่นายนั่นแหละที่ไม่เคยผ่านงานแสดงมา หรืออยากให้คนเอาไปนินทาว่าได้เพราะเส้น”

“ผมก็ได้เพราะเส้นจริงๆ” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ “ก็คนเขียนเขาเลือกมาเลยว่าต้องเป็นผมที่เป็นพระเอก ถ้าไม่ได้ผมเขาจะไม่ยอมขายลิขสิทธิ์ให้ ผู้จัดถึงได้ยอมติดต่อพี่มาไม่ใช่หรือไง ถ้าคนจะคิดว่าผมได้บทนี้มาเพราะเส้นมันเขาก็คิดถูกแล้วไงครับพี่”

เหนือณรงค์ได้ยินเสียงคำรามในลำคอจากคู่สนทนา ซึ่งเขารู้ดีว่าผู้จัดการส่วนตัวใกล้หมดความอดทนกับเขาแล้ว

“งั้นนายช่วยรักษาหน้าเขาหน่อย เขาอุตส่าห์ให้โอกาสนาย” สุดเขตตวาดเสียงดังใส่หูเขา

“ผมไม่ได้ขอ”

“ไอ้เหนือ!”

“เอ่อๆ ผมไปก็ได้พี่ แล้วเขานัดกันไว้กี่โมง” ชายหนุ่มถามเสียงห้วน ขณะเดียวกันกับที่เหนือณรงค์ก็จ้องตอบดวงตาคู่หวานที่มองมายังตน

“ทุ่มครึ่ง ที่บ้านของผู้จัดฯ”

เหนือณรงค์ไม่แม้แต่จะอือออรับปากออกไปแม้แต่น้อย ชายหนุ่มเลือกที่จะกดตัดสายอีกฝ่ายทิ้งดื้อโดยไร้คำล่ำลา ก่อนจะจัดการเก็บโทรศัพท์ในมือใส่กระเป๋ากางเกงนักศึกษา

“วันนี้เราไปไม่ได้แล้ว”

“อ้าว” หยาดน้ำผึ้งหน้าเหล่อเหลาก่อนจะทำปากยู่ใส่เขา “เพื่อนในชมรมมีแต่คนอยากเจอเหนือ”

“ไว้คราวหน้านะ”

“ก็คงต้องอย่างงั้น” หยาดน้ำผึ้งเลื่อนสายตาจากใบหน้าหล่อเหลาของคู่สนทนาไปที่หู... ซึ่งมีต่างหูสีดำประดับอยู่มากกว่าหกชิ้น “เจาะเพิ่มอีกแล้วเหรอ”

“อือ” เขายักคิ้วให้ แล้วเผลอใช้ปลายลิ้นเลียเบาๆ ที่ริมฝีปาก

“เฮ้ย ปาก!” เธอชี้ไปที่ห่วงสีดำ ซึ่งถูกเจาะลงบนร่างกายของเขาเพื่อให้มันเกาะติดอยู่กับริมฝีปากล่างด้านขวาของนายแบบหนุ่ม “นายเจาะปากมา”

“ตกใจอะไรของเธอ”

“เท่ห์เวอร์”

“เธอชอบไหม”

“ก็ดี” หยาดน้ำผึ้งยิ้ม ก่อนจะไล่สายตาสำรวจเครื่องประดับบนเรียวปากสีแดงจัด...

หญิงสาวคงจะไม่รู้เลยว่าการใช้สายตากวาดไล่มองปากของเขาแบบนั้นมันทำให้คนถูกมองใจสั่นมากแค่ไหน

“แล้ว” เขายังพูดไม่ทันจบ ผู้หญิงตรงหน้าเขาก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เจ้าหล่อนรีบคว้าแขนของเขาแล้วยกนาฬิกาข้อมือราคาแพงที่ประดับอยู่บนข้อมือเหนือณรงค์ขึ้นมา “ตายแล้ว! พีทต้องว่าเอาแน่ ผิดเวลาไปเกือบสิบนาทีแล้ว เราไปก่อนนะ“

“อือ” เหนือณรงค์พยักหน้ารับ แล้วปล่อยเธอไปหาคนรักโดยไม่คิดจะเอ่ยรั้ง... เพราะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์

ใครจะคิดว่านายแบบหนุ่มลุคส์แบดบอย ที่มีข่าวกับสาวๆ ทั้งในและนอกวงการให้เห็นตามสื่อต่างๆ แทบจะทุกอาทิตย์คนนี้ จะแอบหลงรักผู้หญิงคนเดียวตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา...

ความรักที่เกิดขึ้นมาโดยที่เหนือณรงค์เองก็ไม่รู้ตัวว่ามันเกิดขึ้นมาตอนไหน

แต่บทสรุปของมันคือรักแรกของเขาก็พังไม่เป็นท่าเมื่อสาวเจ้ามีชายหนุ่มที่ครอบครองหัวใจเธอไว้อยู่แล้ว

สำหรับตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดสักครั้งที่จะแย่งชิงเพื่อให้ได้พยาดน้ำผึ้งมาครอบครอง เขาพอใจแล้วกับการได้เห็นคนที่ตนรักมีความสุขแบบนี้

แม้ตัวเองจะต้องเจ็บทุกครั้งที่เห็นเธอพูดถึงหรืออยู่กับผู้ชายที่เธอรัก...

 

เหนือณรงค์เดินตามหลังคนงานของบ้านเข้ามาในบ้านผู้จัดและเจ้าของเงินทุนในการสร้างซีรีย์เรื่องดัง ซึ่ง้ยานหลังนี้มีพื้นที่บางส่วนถูกออกแบบให้เป็นห้องสำหรับเวิร์คช้อปนักแสดง

“เดินตรงเข้าไปก็ถึงแล้วค่ะคุณ” หญิงสูงวัยผ่านยฝ่ามือไปทางบ้านชั้นเดียวที่ถูกสร้างแยกออกมา

“ขอบคุณครับ” เหนือณรงค์ไม่เพียงแค่กล่าวคำขอบคุณออกไป ชายหนุ่มยังยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อม ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปตามทางที่ทอดยาว

ขณะในใจก็พร่ำบอกตัวเองว่าเขาต้องทำได้...

 

มือเรียวเลื่อนประตูกระจกบานใสไปด้านข้าง ทันทีที่ประตูเปิดกว้างออก อุณหภูมิต่ำที่ถูกสร้างขึ้นโดยเครื่องปรับอากาศก็ปะทะถูกผิวของเขา ซึ่งมันทำให้คนเกลียดอากาศหนาวตัวสั่นเล็กน้อย

เหนือณรงค์มองสำรวจด้านในตัวบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นห้องกว้างห้องเดียว โดยเจ้าของมีการออกแบบให้รอบด้านของตัวห้องมีกระจกใสกรุเอาไว้

เหนือณรงค์กวาดสายตามองตรวจสอบ ซึ่งสายตาของชายหนุ่มท่กำลังกวาดไปรอบๆ ปะทะเข้ากับร่างของใครบางคนที่กำลังนั่งพิงกระจกอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง

ชายหนุ่มเกือบจะเอ่ยทักทายอีกฝ่ายออกไปแล้ว ถ้าไม่เห็นซะก่อนว่าคนๆ นั้นกำลังหลับตาอยู่ และคล้ายว่าเขาคนนั้นจะไม่รับรู้ถึงการมีเหนือณรงค์อยู่ภายในบ้านหลังนี้ด้วยเลย

‘หลับงั้นเหรอ’ ผู้มาใหม่รอบคิดในใจ

ก่อนที่นายแบบหนุ่มเยืองกายพาร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปอย่างระมัดระวังที่จะก่อเสียงรบกวนคนอีกคนให้น้อยที่สุด  ก่อนร่างสูงใหญ่จะยอบกายลงไปเพื่อมองหน้าคนๆ นั้นให้ถนัดตา ซึ่งมันพอเหมาะกับที่จังหวะดวงตาคู่เรียวของอีกฝ่ายเปิดลืมขึ้นมา

การสบประสานสายตากันโดยไร้สัญญาณเตือนแบบนี้ ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองต่างก็ตกใจกับสิ่งที่ตนกำลังเผชิญตรงหน้าแบบนี้ 

“มาแล้วหรือคะน้องเหนือ”

เหนือณรงค์สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทัก ก่อนจะหันใบหน้าหันไปมองที่มาของเสียงปริศนา

“ครับ” ชายหนุ่มขานรับ ก่อนจะยกมือไหว้ผู้อาวุโส

“อ้าว ‘เลิฟ’ “ ดวงตาคู่สวยของเธอมองเลยเหนือณรงค์ไป “นี่เราสองคนทำความรู้จักกันแล้วใช่ไหม”

หญิงสาวที่เหนือณรงค์จำได้ว่าคือผู้จัดละครเดินเข้ามาทางที่พวกเขานั่งอยู่

“ยังครับ” เจ้าของนามว่า ‘เลิฟ’ หรือ ‘อติกานต์‘ กล่าวเสียงนิ่ง ขณะขยับตัวลุกขึ้นยืนค้ำศีรษะของเหนือณรงค์ “สวัสดีครับพี่ริน”

“งั้นก็เรามาเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกันก่อนแล้วกัน” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟัง

“ย้องเหนือคะนี่เลิฟ” เธอยิ้ม “คนที่ต้องเล่นคู่กัน น้องเหนือพอจะเคยเห็นเลิฟเขามาบ้างไหมเอ่ย”

เหนือณรงค์มีสีหน้าอึดอัดในตอนแรก ก่อนจะตอบกลับไปตามตรง “ผมเคยเห็นเขามาบ้างครับ”

“เหนืออย่างเพิ่งคิดมากนะคะ” ผู้จัดการสาวสวยอย่าง ‘ริน’ หรือ ‘รินลาณี’ อ่านท่าทีของนายแบบหนุ่มในเวลานี้ออก “กดดันตัวเองมากไปมันก็ไม่ดีหรอก พี่ว่าเราค่อยๆ มาละลายพฤติกรรมกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวพอผ่านไปสักพักน้องๆ ทั้งสองคนก็จะสนิทกันไปเอง”

เหนือณรงค์พยักหน้ารับ ก่อนจะเบี่ยงหัวข้อสนทนาไปเรื่องอื่นแทน

“แล้วคนอื่นไปไหนหมดครับพี่ริน”

“คนอื่นที่ว่าเหนือหมายถึงใครคะ”

“นักแสดงคนอื่นๆ ไงครับ”

“ไม่มีแล้วจ๊ะน้องเหนือ วันนี้ที่มาเวิร์คช็อปกันก่อนก็จะมีแค่น้องเหนือกับเลิฟนี่แหละ”

“แต่พี่สุดบอกผมว่าวันนี้นักแสดงคนอื่นจะมาด้วยนะครับ”

รินลาณียิ้ม ขณะเรียวคิ้วสวยได้รูปของเธอเลิกขึ้น โดยเธอพอจะอ่านสุดเขตออก ว่าเขาตั้งใจโกหกนายแบบในสังกัด

เพราะตอนชายหนุ่มโทรมาถามเรื่องรายละเอียดของซีรีย์เรื่องนี้ และเธอพลั่งปากบอกไปว่าวันนี้อติกานต์จะเข้ามาเวิร์คช้อปเรื่องบทบาทกับเธอก่อน ฝ่ายนั้นรีบแจ้งความต้องการว่าจะให้เหนือณรงค์เข้าร่วมการเวิร์คช้อปด้วย

“พี่สุดของน้องเหนือคงเข้าใจอะไรผิดไป เพราะจริงๆ แล้ววันนี้จะมีแค่เลิฟกับพี่ด้วยที่มาคุยเรื่องบทกันก่อน แต่พี่สุดของเหนือพอรู้ว่าเลิฟจะเข้ามมคุยกับพี่ เขาเลยขอให้น้องเหนือจะเข้ามาคุยเรื่องบทด้วย”

‘ไอ้พี่สุด!’ เหนือณรงค์กัดฟันแน่น เมื่อรู้ตัวแล้วว่าถูกสุดเขตหลอก

“แต่พี่ว่าคุณสุดเขตเขาก็คิดถูกแล้วนะที่ให้น้องเหนือมาวันนี้ เราจะได้มาทำความรู้จักกันไว้ก่อน”

“แต่ถ้าเกิดไม่ไหวก็บอกมาได้เลยนะ พี่รินเขาจะได้ไปหานักแสดงคนอื่นมาแทน” อยู่ดีๆ คนที่เงียบมานานก็พูดขึ้นมา “ทีมงานเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลา”

เหนือณรงค์เงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำศีรษะของตนอยู่ โดยที่อีกฝ่ายเองก็กำลังก้มหน้ามองเขาอยู่เช่นกัน

ดวงคาตมของเหนือณรงค์จับจ้องมองเจ้าของใบหน้าชวนมองนิ่ง เมื่อเขารู้สึกถึงความคุ้นเคยในดวงตาคู่นี้เป็นอย่างมาก แต่ต้องไม่ใช้ผ่านรูปถ่ายที่เขาไปค้นหาเพื่อหาประวัติของอีกฝ่ายแน่นอน มันเป้นความคุ้นเคยที่เขาอธิบายไม่ถูก แต่ถ้าเขาเคยเจอคนตรงหน้ามาก่อน เขามั่นใจว่าไม่มีวันลืมคนที่มีเสน่ห์ตรึงตราและแรงดึงดูดอย่างร้ายกาจแบบนี้แน่

เพราตอนนี้ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเอง ก็กำลังถูกเสน่ห์เหลือร้ายของคนๆ นี้เล่นงาน

เหนือณรงค์ลุกขึ้นยืนบ้าง ทำให้รู้ว่า ‘ว่าที่’ คู่จิ้นของตนเองมีความสูงเกินหนึ่งร้อนแปดสิบเซนติเมตรอย่างแน่นอน เมื่อลองเทียบความสูงกันดูกันเขา... ต่างกันเพียงเล็กน้อย

ซึ่งหาคนที่มีความสูงประมาณนี้ไม่ได้ง่าย คนที่จะมีระดับความสูงสูสีกับกับคนซึ่งสูงมีความสูงน้อยกว่าหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรเพียงหนึ่งเซ็นติเมตรเดียวเท่านั้นอย่างเขา

“ผมจะไม่ทำให้ใครต้องมาเสียเวลาเพราะผมแน่” เหนือณรงค์มองอีกฝ่ายนิ่ง

“ผมว่าอย่างแรกเลย คุณต้องเริ่มที่การเปิดใจยอมรับอะไรใหม่ๆ ซะก่อน ”

คำพูดจากปากเจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์คู่นั้นทำให้เหนือณรงค์เลิกคิ้วขึ้น “ทำไมคุณถึงคิดว่าผมกำลังปิดใจอยู่”

“ดูก็รู้”

เรียวปากสีแดงจัดตัดกับผิวขาวเนียนยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“เก่ง” ปลายนิ้วของเหนือณรงค์แตะเบาๆ ที่ปลายคางอติกานต์ “พูดเหมือนมานั่งอยู่ในหัวใจผมเลยนะ”

อติกานต์ยิ้ม... ยิ้มแบบที่ทำให้หัวใจคนมองกระตุกวูบไหว “นี่คือคำเชิญชวนใช่ไหม”

“แหม! บรรยากาศตอนนี้เซ็กซี่สุดๆ ไปเลยนนะคะน้องๆ  ทั้งสองคนดูท่าทางจะศึกษาบทบาทตัวเองที่ได้รับมาพอสมควรแล้วใช่ไหมเนี่ย”

คำพูดของผู้จัดฯ สาวที่ดังขึ้นมาแบบนั้น ช่วยทำให้เหนือณรงค์รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในเวลานี้...

เขากำลังอ่อยผู้ชายด้วยกัน!

‘ไอ้บ้าเหนือ!’ ชายหนุ่มตะโกนก้องในใจ

“แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรบ้างครับ” เหนือณรงค์รีบชักมือกลับ แล้วนำมือทั้งสองข้างไปเก็บด้วยการสอดมันใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะรีบถอยหลังเว้นระยะให้ห่างจากเจ้าของเสน่ห์ชวนหลงใหล ที่กำลังยั่วยวนอารมณ์ของเขาอยู่

“วันนี้แค่ ทำความรู้จักกันเอาไว้ก่อนก็พอ แล้วมาลองดูบทคร่าวๆ  พี่จะบรีฟให้ว่าแต่ละคนมีคาร์เร็กเตอร์ประมาณไหน จะได้ไปเตรียมตัวถูก”

ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #3 เมื่อ18-03-2018 14:49:42 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 1:
ดวงตาคู่เรียวของบุรุษเพศแต่แฝงความยั่วยวนเอาไว้หรี่มองแผ่นหลังของคนที่กำลังเดินขึ้นรถ เมื่อนึกอะไรดีๆ ออก

มุมปากของอติกานต์ก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม  ‘เจ้าเล่ห์’ แล้วร่างสูงเพรียวก็เดินไปทางที่รถของตนซึ่งจอดเคียงข้างอยู่กับรถสปอร์ตคันหรูของเหนือณรงค์

 แต่ขณะที่เขากำลังเดินไป ไฟหน้าของรถคันข้างๆ ก็สาดใส่ ราวกับคนบนรถตั้งใจ ก่อนรถยนต์คันนั้นจะถูกเร่งเครื่องแล้วออกตัวไปอย่างรวดเร็ว

“หึ”

อติกานต์หัวเราะเบาๆ ในลำคอ พอเขาพาร่างกายสูงสง่าขึ้นไปในรถแลนด์โรเวอร์เรียบร้อยแล้ว ก็ออกตัวขับรถตามรถสปอร์ตราคาแพงคันข้างหน้าไปติด

แม้การไล่ตามไม่ใช่งานถนัด เพราะเขาเชี่ยวชาญด้านการล่อเหยื่อ เพื่อให้เหยื่อเป็นฝ่ายไล่ตามเขามากกว่า แต่สำหรับผู้ชายคนนี้เขาพร้อมจะ ‘ล่า’

โดยสายตาและเท้า รวมทั้งมือของอติกานต์ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งเพียงไม่นาน เขาก็เห็นท้ายรถของเป้าหมาย

“ขนาดต้องดื่มแก้เครียดเลยหรือไง”

อติกานต์เอ่ยกลั้วหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นว่ารถของเหนือณรงค์เลี้ยวเข้าไปที่คลับหรูใจกลางเมืองย่านเที่ยวกลางคืน  และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าถูกเขาสะกดรอยตาม

“งั้นขอลงไปดูแลสักหน่อยดีกว่า”

ชายหนุ่มหาที่จอด ขณะก้าวลงจากรถสายตาของเขาก้จับจ้องแผ่นหลังของเหนือณรงค์ไม่วางตา ก่อนจะสาวเท้าเดินตามเข้าไป

 

ภายในคลับค่อนข้างมืด แต่ความมืดกลับไม่สามารถกลบความโดดเด่นของร่างสูงที่จับจองพื้นที่ตรงเคาร์เตอร์บาร์ได้

อติกานต์เดินเข้าไปทิ้งตัวนั่งข้างๆ เป้าหมาย โดยไม่คิดจะเอ่ยปากขออนุญาต

“มันเครียดขนาดต้องมาดื่มเลยหรือไง”

คำถามของเขาเรียกสายตาจากคนที่นั่งเคียงข้าง ให้ตวัดหน้ามามอง ซึ่งสีหน้าของเหนือณรงค์ที่เขาได้เห็น ก็ทำให้อติกานต์รู้เลยว่านายแบบหนุ่มตกใจกับการปรากฏตัวแบบนี้เป็นอย่างมาก

“คุณมาได้ยังไง”

“ขับรถมาจอด แล้วก็เดินเข้ามา”

“อย่างบอกนะว่าคุณตามผมมา”

อติกานต์ยิ้ม... ยิ้มที่ส่งให้ใบหน้าดูชวนมองกว่าเดิม “แล้วแต่คุณจะคิดเถอะ” พูดจบชายหนุ่มหันไปสั่งเครื่องดื่มของตนบ้าง

“น้ำเปล่า”

“มาร้านเหล้าแต่สั่งน้ำเปล่า” เหนือณรงค์อดพูดประชดประชันคนข้างตัวไม่ได้

“ผมขับรถมา”

“ผมก็ขับมา”

“งั้นผมยิ่งต้องห้ามกิน”

“คุณพูดอะไรของคุณ”

“ไม่ต้องเข้าใจหรอก” อติกานต์รับเครื่องดื่มที่บาร์เทนเดอร์ส่งให้มาบิดฝาเพื่อเปิด แล้วยกขึ้นจิบเพื่อบรรเมาลำคอที่แห้งผากของตนในเวลานี้

เต่อยู่ๆ เหนือณรงค์ก็กระแทกแก้วเหล้าในมือลงบนเคาร์เตอร์ แล้วลุกพรวดขึ้น

“จะไปไหน” อติกานต์คว้าข้อมือชายหนุ่มเอาไว้ก่อนที่เขาจะผละห่างออกไป

“กลับบ้าน”

“แต่คุณเพิ่งมาเองนะ”

“กินไม่ลง”

“เพราะมีผม”

“เอ่อ!”

“คุณกลัว”

“รังเกียจ”

“ทำไมถึงรังเกียจผม”

“เพราะสายตาเยาะเย้ยของคุณเวลามองมาที่ผมน่ะสิ!”

“ผมเนี่ยนะเยาะเย้ยคุณ”

“เอ่อ! ตอนคุณเห็นผมลองแสดงตามบทตามที่พี่รินให้ลอง คุณยิ้ม”

อติกานต์ชี้หน้าตัวเอง “ผมยิ้มเหรอ”

“ยิ้มเยาะ”

“ไม่น่าจะใช่”

“ใช่! คุณยิ้มเยาะผมที่ผมเล่นไม่ได้เรื่อง”

“คุณกำลังเข้าใจผิด” ชายหนุ่มพยายามแก้ตัว

“ไม่ผิด!” มือของเขาถูกสะบัดออก “ผมรู้ว่าตัวเองห่วยแตก แต่ผมก็กำลังพยายามอยู่นี่ไง!”

“ผมขอโทษที่ตอนแรกพูดจาไม่ดีแบบนั้นกับคุณ” อติกานต์เอ่ยเสียงนุ่มอย่างใจเย็น “ผมได้ยินมาว่าคุณรับเล่นซีรีย์เรื่องนี้เพราะต้องการเรียกกระแส”

“คุณเข้าใจถูกแล้ว”

“แต่ผมเห็นความพยายามของคุณนะ” คำพูดของอติกานต์เมื่อครู่เหมือนจะมีผลต่อคนฟัง เพราะสีหน้ากร้าวกระด้างดูลดลงไปในจากใบหน้าหล่อเหลาของนายแบบหนุ่มทันที “นั่งลงก่อนสิ”

เหมือนต้องมนต์ เพราะเหนือณรงค์หย่อนก้นลงนั่งที่สตูตัวเดิมที่เพิ่งลุกขึ้นไปทันทีตามคำบอกของอติกานต์... ราวกับลูกหมาที่เชื่อฟังคำสั่งเจ้านาย “คุณต้องการอะไร”

“ตามมาเพราะคุณน่าสนใจ เลยอยากทำความรู้จักกันไว้ เราจะได้สนิทกันเร็วๆ” อติกานต์เหลือบตาไปมองคนข้าง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยปากสั่งเครื่องดื่มดีกรีแรงเมื่อพูดกับคนข้างกายจบ“ออนเดอะร๊อคอีกแก้วครับ”

“ไหนว่าจะไม่ดื่ม”

“ผมสั่งให้คุณ”

อติกานต์รู้ว่าเหนือณรงค์กำลังสับสน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการเพราะ ‘เหยื่อ’ จะได้ไม่ทันตั้งตัว

เหนือณรงค์มองคนที่เอ่ยปากบอกว่าอยากทำความรู้จัก แต่ตลอดเวลาที่นั่งเคียงกันอติกานต์แทบไม่คุยกับเขา ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาชวนเคลิ้มทำเพียงสั่งเครื่องดื่มให้กับเขาและคุยหยอกล้อกับบาร์แทนเดอร์ไป จนเขามั่นใจว่าตอนนี้บาร์เทนเดอร์หนุ่มน้อยเข้าขั้นหลงคนตรงหน้าแล้วเป้นที่เรียบร้อย

“เมาแล้วเหรอ” อติกานต์หันมามองเขาเต็มๆ ตาครั้งแรกหลังจากที่เขาหย่อนกายลงนั่งเคียงข้างอีกครั้ง

“อื้อ” คนที่ซบซีกแก้มลงบนเคาร์เตอร์บาร์เย็นๆ ตอบ “ง่วง”

อติกานต์หัวเราะ ก่อนจะเรียกเช็ลบิล โดยมีเสียงสอบถามจากบาร์เทนเดอร์ดังเข้าหูเหนือณรงค์

“แล้วคุณจะมาอีกไหม”

 “มาสิ ถ้าคุณเหนือมาผมก็มา”

ได้ยินเพียงแค่นั้น ภาพ.ในมโนสำนึกของคนเมาก็ถูกตัด... ร่างกายปิดระบบรับรู้ลงอย่างสมบูรณ์แบบ

“หึ” อติกานต์รอรับบัตรเครดิต แล้วหันมามองคนหมดสภาพ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยวริมฝีปากสีแดงจัดของเหนือณรงค์เบาๆ “หมาป่าตัวน้อยของผม”

“ปวดหัว” คำแรกที่คิดออกและเผลอพูดออกไปเมื่อรู้สึกตัวของเหนือณรงค์ ก่อนจะยกมือขึ้นคลึงขมับตัวเองเบาๆ หวังว่ามันจะช่วยผ่อนคลายความทรมาณที่กำลังเผชิญในเวลานี้ลงไปบ้าง

ชายหนุ่มฟื้นความหนักอึ้งของเปลือกตา ซึ่งภาพที่เห็นคือใบหน้ายามหลับของใครบางคน... คนที่มีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน คนที่มีจมูกโด่งสวย และเรียวปากชวนขยี้

“เฮ้ย!” เขาผวาลุกขึ้น

เสียงที่ดังรบกวน ทำให้อติกานต์ต้องลืมตาขึ้น ส่งผลให้ดวงตาสีน้ำตาเผยตัวออกมาให้เหนือณรงค์ได้เห็น “คุณมาได้ยังไง”

ใบหน้าคนเพิ่งตื่นยังดูเซ็กซี่เหลือร้ายอะไรได้มากขนาดนี้วะ! เหนือณรงค์ลอบคิดในใจ

“กี่โมง” อติกานต์หยัดตัวลุกขึ้น ทำให้เห็นว่าท่อนบนของชายหนุ่มเปลือยเปล่า ซึ่งผิวขาวจัดจัดกับยอดอกสีชมพูอ่อนแบบนั้นทำให้คนเห็นกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่อย่างไม่รู้ตัว

“ไม่รู้”

“แปดโมงเช้า” คนถามเป็นฝ่ายตอบคำถามของตนเอง เมื่อเหลือบตามองที่นาฬิกาตั้งโต๊ะข้างหัวเตียง “เช้าจัง”

พูดจบก็ยกมือขึ้นปิดปาก เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะอ้าปากห่าว

“ขอนอนต่ออีกหน่อย” ชายหนุ่มทำท่าจะทิ้งตัวลงนอน

“ไม่ได้! มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” เหนือณรงค์รีบดึงแขนคนที่ทิ้งตัวลงนอนเอาไว้ “คุณมาอยู่บนเตียงผมได้ยังไง”

“ดูให้ดีสิว่าที่นี่ที่ไหน”

เหนือณรงค์ทำตาม ซึ่งภาพที่เห็นก็ทำให้เขาต้องแปลกใจ เพราะภาพในสายตาช่างไม่คุ้นเคย... มันไม่ใช่ดีไซน์การแต่งห้องของเขาอย่างแน่นอน

“แล้วที่นี่มันที่ไหน”

“คอนโดผมเอง”

“คุณพาผมมาทำไม!”

“ก็คุณเมา ผมไม่รู้นี่น่าว่าบ้านคุณอยู่ไหน เลยพามาห้องตัวเอง”

“เวรเอ้ย!” ร่างสูงก้าวลงจากเตียงอย่างลืมความเมาตกค้างทันที และความเย็นยะเยือกของเลือกในกายก็เกิดขึ้น เมื่อรู้ว่าตนเองในเวลานี้อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า และเมื่อมองสำรวจดีๆ ตรงจุดกึ่งกลางร่างกาย ภาพที่เห็นก็ทำเอาเหนือณรงค์แทบช็อค

เปล่ามันไม่ได้หาย ‘เหลือมลูกรัก’ อย่างเหนือณรงค์จูเนียร์มันยังอยู่ตรงที่เดิมของมัน และตอนนี้ก็มันกำลังพร้อมใช้งาน แถมสภาพของงูยักษ์ของเขาที่เห็นก็บอกให้รู้ว่ามันเพิ่งไปผ่านการผจญภัยบางอย่างหรือมุดถ้ำที่ไหนมาอย่างแน่นอน

“ฉิบหาย!” เหนือรงค์รีบหันไปคว้าผ้าห่มมาคลุมร่าง ซึ่งการกระทำของเขาทำให้ผ้าผืนนั้นเลือนจากกายที่เปลือยเปล่าไม่แพ้กันของอติกานต์ 

คำหยาบคายมากมายหลุดออกมาจากปากของเหนือณรงค์ เมื่อเห็นว่าคนบนเตียงกำลังล่อนจ่อนไม่ต่างจากเขาเลย

“คุณไม่ได้ฉิบหายตรงไหนเลยนะคุณเหนือ ผมต่างหากที่เสียหาย ไม่รู้ว่าเช้านี้จะเดินไหวหรือเปล่า”

“เดี๋ยวนะอย่างบอกนะว่าเมื่อคืนเราสองคนมีอะไรกัน”

มุมปากของคนบเตียงคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม ขณะดวงตาคู่เรียวเป็นประกายแพรวพราว ก่อนที่เขาจะหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง “คุณก็ลองนึกให้ออกดูสิว่า ลองพยายามคิดดูว่าเมื่อคืน ‘เรา’ มีอะไรกันไหม”

อติกานต์เลียริมฝีปากหลังพูดจบ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนทั้งๆ ที่ร่างกายเปลือยเปล่ามีมัดกล้ามพอให้คนมองหายใจติดขัดเพราะความงดงามของเขาจะไร้ผืนผ้าปกปิด

ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #4 เมื่อ18-03-2018 14:52:39 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 2

เหนือณรงค์นั่งเหม่ออยู่บนโซฟาหนังตัวใหญ่ ภายในเพ็นท์เฮาส์สุดหรูของ ‘ว่าที่’ คู่จิ้น
“เฮ้” อติกานต์ในชุดอยู่บ้านดก้าวเท้าเดินลงมาจากบันไดเอ่ยทักทายขึ้น “นึกว่ากลับไปแล้ว”
ชายหนุ่มในชุดเมื่อคืน นั้นคือเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำและกางเกงพอดีเรียวขาสีเดียวกันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงเจ้าของห้อง แล้วเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจออกไป “ตกลงระหว่างเราสองคนนี่มันมีเกิดอะไรเกิดขึ้นไหม”
“ผมบอกให้คุณลองคิด”
“ก็เพราะมันคิดไม่ออกยังไงล่ะโว้ย!”
“อย่ามาขึ้นเสียงกับผม” ใบหน้าหล่อเหลาของอติกานต์ในเวลานี้เรียบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์ขณะกล่าว... ทำให้อารมณ์ที่กำลังลุกโชนของเหนือณรงค์มอดดับลงไปทันที
“ขอโทษผมทำตัวไม่ถูก” เจ้าของใบหน้าเข้มสลดลง พร้อมกับมองหน้าคู่สนทนาด้วยแววตาหง่อยๆ “ผมยอมรับว่ากำลังสติแตกกับเรื่องของเรา”
อติกานต์กดเดินผ่านคนที่นั่งอยู่เพื่อไปที่เครื่องชงกาแฟ แล้วยืนกอดอกรอน้ำสีเข้มให้ไหลลงมาใส่แก้ว “เราจะมีหรือไม่มีมันทำให้คุณเดือดร้อนหรือยังไง”
“ผมก็ต้องเดือดร้อนสิ”
“คนอย่างคุณไม่น่าจะคิดมากเรื่องนี้”
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อนในชีวิต แล้วคุณจะไม่ให้ผมคิดมากได้ยังไง!” เขากล่าวด้วยท่าทีฉุนเฉียว
“จะนอนกับเพศไหนก็ไม่มีอะไรต่างหรอก หรือว่าคุณเหนือณรงค์ไม่เคยวันไนท์สแตนด์กับใครมาก่อน” อติกานต์พูด ขณะยกแก้วกาแฟขึ้นสัมผัสรสชาติ ‘ขม’ ของน้ำสีเข้มภายในแก้ว
เหนือณรงค์ไม่ยอมตอบคำถามของอติกานต์ แต่เขากลับสวนถามด้วยเรื่องที่ติดค้างในใจตนเองแทน ด้วยรูปประโยคที่ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก “แล้วตกลงเราสองคนนอนด้วยกันใช่ไหม”
อติกานต์ยิ้ม เมื่อถูกชายกนุ่มถามคำถามแบบเดิมๆ อีกครั้ง แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้สีหน้าบนหน้าชวนมองของเขาแทบจะแทนคำตอบจากปากของชายหนุ่มเองได้
เหนือณรงค์ขนลุกไปทั้งตัวเมื่อเห็นรอยยิ้มสวย... แต่แฝงเล่ห์เหลี่ยมบางอย่างเอาไว้ ก่อนจะกลั้นใจเถามต่อ เพื่อความในใจ แม้ในใจของตนจะรู้คำตอบที่จะได้รับอยู่แล้วก็ตาม “ผมเอาคุณ”
อติกานต์วางแก้วลงบนเคาร์เตอร์บาร์ ก่อนจะวางมือทิ้งสองข้างลงบนนั้นเพื่อจะโน้มตัวลงมา จนคอเสื้อยืดที่ค่อนข้างกว้างหย่อนลงพอ จะทำให้คนบางคนเห็นร่องรอยตามเนื้อตัวของเขา
ดวงตาคมเบิกกว้างเมื่อเห็นรอยจุมพิตและรอยฟันที่เขียวและม่วงช้ำบนผิวเนื้อสีขาวจัด
“ผมได้กับคุณแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด”
“ใครกดใคร” คำถามนี้คนถามถามด้วยสีหน้าจริงจังกว่าประโยคก่อนมาก
“ร่างกายคุณคุณก็น่าจะรู้ดีที่สุด”
“เวรเอ๊ย!” เหนือณรงค์ผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาหาคนที่ยืนอยู่ในห้องครัวขนาดเล็ก โดยเขาเลือกที่จะยืนอยู่ในพื้นที่ห้องรับแขก ซึ่งระหว่างสองหนุ่มมีเคาร์เตอร์บาร์กางกั้นเอาไว้ “ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องแบบนี่มันเกิดขึ้น“   
อติกานต์เหยียดยิ้ม ก่อนจะยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาเท้าปลายคางเอาไว้ “เพราะคุณน่าสนใจ”
“แต่ผมไม่ใช่เกย์”
“เรื่องความต้องการของร่างกายไม่เห็นเกี่ยวว่าเราจะเป็นอะไร”
เหนือณรงค์มองหน้าคนที่กำลังใช้สายตาโลมเลียเขา!
“ผมชอบผู้หญิง”
“แล้วไง”
“ทำไมคุณไม่ขัดขืน”
“ก็บอกแล้วว่าผมสนใจคุณ”
“ปัดโธ่! วันนี้เราสองคนจะคุยกันรู้เรื่องไหม”
“คุณดูหงุดหงิดจังนะ”
“ก็มันน่าหงุดหงิดไหม ผมถามอะไรไปคุณก็ไม่ยอมตอบคำถามตรงๆ เลย”
อติกานต์มองหมาป่าตัวน้องของเที่กำลังหัวเสียใส่ ก่อนจะยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มในสีหน้า เพราะเอื้อเอ็นดูในท่าทีของอีกฝ่าย 
“แล้วสนใจให้ผมทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นไหม”
“คุณจะทำอะไร”
“นั่งลงสิ”
และเหมือนเดิม เหนือณรงค์หย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้สตูที่อยู่ใกล้ๆ อย่างว่าง่าย ขณะที่สายตาก็จับจ้องมองคนที่กำลังเดินอ้อมเคาร์เตอร์ที่กางกั้นแบ่งเขตแดนของเขาและอติกานต์เพื่อจะออกมาหา ‘เหยื่อ’ ที่นั่งรออยู่อย่างว่าง่าย
ใครจะคิดว่า ‘หมาป่าตัวน้อย’ จะน่ารักแสนเชื่องจนพูดอะไรก็ยอมทำตามแบบนี้...
“กางขาให้มันกว้างกว่านี้” เสียงของคนพูดแหบพร่ากว่าปกติ จนคนได้ยินหัวใจกระตุกวูบแต่ก้ยอมทำตาม... อย่างว่าง่าย “กว้างกว่านี้อีก”
เหนือณรงค์ทำตามคำบัญชาของอีกฝ่ายราวกับถูกมนต์สะกด โดยทันทีที่เขาปฏิบัติตามคำสั่งของอีกฝ่าย ร่างสูงเพรียวของอติกานต์ก้าวมาหยุดยืนอยู่ระหว่างต้นขาของ
“คุณจะทำอะไร” เหนือณรงค์รู้ตัวเมื่อกล่าวออกไปแล้วว่าเสียงของเขาเขาเองก็กำลังแหบพร่าไม่แพ้อีกฝ่าย เมื่ออารมณ์ซ่านสยิวโลดแล่นไปทั่วเซลล์ประสาทการรับรู้ของเขา จนแม้แต่ปลายลิ้นของเขาก็ยังอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงไปหมด
“ผมก็กำลังจะปลอบคุณอยู่นี่ไง”
“ปลอบผมทำไม”
“ก็เพื่อไม่ให้คุณรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา” พอพูดจบเรียวปากของอติกานต์ก็โฉบวูบลงมา แล้วแนบเบียดเข้ากับริมฝีปากสีแดงจัดของเหนือณรงค์
เรียวลิ้นของทั้งสองก็กำลังกอดเกี่ยวกันและกัน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกผลัดกันน้อมรับการไล่ต้อนของอีกฝ่ายอย่างรู้หน้าที่
“ผมชอบนะ” อติกานต์พูดเมื่อริมฝีปากของเขาถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ “ของที่อยู่บนลิ้นของคุณมันทำให้ผมรู้สึกดี”
ชายหนุ่มหมายถึงจิวเวอร์ลี่ที่ถูกใช้เพื่อเจาะลงไปบนเรียวลิ้นของเหนือณรงค์
“อือ” เหนือณรงค์จัดการกดศีรษะของอีกฝ่ายเข้ามาหา เพื่อจะจุมพิตต่อ.. เมื่อเขาเกิดติดใจลีลาการจูบของอติกานต์แล้วในเวลานี้.. และยังรู้สึกไม่พอ 
นายแบบเข้าขั้นเสพติดรสสัมผัสและลีลาการยั่วยวนของอีกฝ่าย....
“เดี๋ยว” อติกานต์พูดขัดขึ้นมา ก่อนที่เรียวปากของชายหนุ่มทั้งสองจะบรรจบกัน
“ห้ามทำไม” เหนือณรงค์เหลือบตาขึ้นมองคนที่กำลังยืนค้ำศีรษะตนอยู่
“คุณจะโอเคแน่หรือ” ปากถามแต่สายตากำลังหว่านเสน่ห์ใส่เขา แล้วไหนจะฝ่ามือร้อนๆ ที่ลูบบนแผงอกของเหนือณรงค์
ทั้งคำถามและการกระทำของอติกานต์เรียกเสียงคำรามในลำคอของคนที่ ‘เคย’ ยืนยันเสียงหนักว่าตนไม่ได้พิศวาบุรุษเพศ... มาก่อน
“เดี๋ยวนี้เลย!” เหนือณรงค์หายใจติดขัดขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของอติกานต์เขี่ยเบาๆ บนยอดอกของเขา ก่อนที่การเคลื่อนไหวของท้องนิ้วอีกฝ่ายจะเปลี่ยนจากการ ‘เกลี่ย’ เป็น ‘บดขยี้’ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขารุนแรงขึ้น
จนเหนือณรงค์กลายเป็นคนที่เกิดอาการสำลักคำพูดของตัวเอง “ผะ... ผม ต้องการให้คุณบอกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคนบ้างเมื่อคืน”
“หึ!” คนถูกถามส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ในคอ ขณะเดียวกันกับที่ฝ่ายเขาจัดการปลดกระดุมกางเกงของเหนือณรงค์ ก่อนจะสอดมือเข้าไปลูบไล้ส่วนกลางของร่างกายที่ร้อนผ่าวของคนที่นั่งอยู่ “ลุกขึ้นหน่อยสิ“
“ทำไม”
“ผมจะถอดกางเกงให้”
ทันทีที่ได้รับรู้จุดประสงค์ของอีกฝ่าย เหนือณรงค์ไม่เพียงขยับกายลุกอย่างเดียว เขายังเป็นฝ่ายช่วยจัดการดึงกางเกงที่เกาะอยู่บนสะโพกให้มันเลื่อนลงไปไว้อยู่บนหน้าขาพร้อมๆ กันกับกางเกงชั้นในที่สวมอยู่
โดยสายตาดำขลับเฝ้ามองอีกฝ่ายค่อยๆ ยอบตัวลงนั่ง
“เมื่อคืนผมทำแบบนี้กับคุณ” อติกานต์ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจใส่สิ่งที่กอบกุมเอาไว้ในอุ้งมือ แล้วอ้าปากรับเอาร่างกายของเขาเข้าไป
“โอ้มาย...” เหนือณรงค์ครางเบาๆ เมื่อถูกรับเข้าไปในปากร้อนระอุของหนุ่มหน้าหวาน “อ้ะ... อ้ะ”
เขาคำรามเสียงครางต่ำราวกับสัตว์ป่าที่กำลังสมสู่กับคู่ของมันออกมา เมื่อความสุขกำลังถูกมอบให้ด้วยปากแสนเซ็กซี่ของชายหนุ่มคนนั้น... ผู้ชายคนแรกที่เขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย

ดวงตาของเหนือณรงค์จับตามองทุกการโยกไหวของศีรษะที่ถูกปกคลุกด้วยเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน และต้องส่งเสียงร้องด้วยความสุขสมออกมา เมื่อเรียวลิ้นที่ทั้งวนทั้งปาดบนร่างกายของเขากำลังทำให้เขาเกือบจะ
“อ้า!” เหนือณรงค์ส่งเสียงในลำคอ เมื่อสายธารความร้อนพุ่งออกมาจากตัวตนของเขาเรียบร้อยแล้ว
ร่างกายของเหนือณรงค์ถูกปลอยเป็นอิสระ ความเย็นที่สัมผัสส่วนที่ไวต่อสัมผัสทำให้ร่างกายที่ถูกกระตุ้นของเหนือณรงค์กระตุกเบาๆ พร้อมกับความเสียดายเอ่อหล่นเมื่อเขาถูกปล่อยเป็นอิสระ... เมื่อรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ภายในอุ้งปากของอติกานต์แล้ว
“นี่คือสิ่งที่ผมทำกับคุณ”
เหนือณรงค์เบิกตากว้างเมื่อเห็นเจ้าของเรียวหน้าสวนราวกับสตรีเพศกำลังกลืนกินทุกอย่างของเขาเข้าไปอย่างไม่คิดจะรังเกียจมันแม้แต่น้อย
“คุณกินมัน”
“อื้อ” อติกานต์ยกปลายนิ้วขึ้นปาดมุมปาก แล้วค่อยๆ ลุกขึ้น
“เราทำกันแค่นี้”
“แต่คนละท่า เพราะเมื่อคืนคุณนอนอยู่” คนฟังหน้าแดง ผิดกับคนพูดที่แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ในเมื่อผมหลับแล้วรอยบนตัวคุณ”
“ผมเองก็แปลกใจ” อติกานต์มองสบตาดำขลับของนายแบบหนุ่มตรงๆ “คุณเหมือนจะไม่ได้สติ แต่พอเอาเข้าจริง คุณก็ให้ความร่วมมือทุกอย่าง แถมยังฝากรอบพวกนี้ไว้บนตัวผมได้ทั้งๆ ที่เมาจนหมดสภาพ ผมไม่อยากจะคิดว่าถ้าตอนไม่เมาจะมันส์ขนาดไหน”
   คนฟังหน้าแดง ก่อนจะเป็นฝ่ายหลุบตาลงเพื่อหลบสายตาเย้าย้วนของอติกานต์
“ตกลงเราไปถึงไหนกันแล้ว”
“ลองทายดูสิ”
“แล้ว” ทำไมไม่ทำมันให้ผมดูว่าเราไปถึงไหนกันแล้ว ประโยคในหัวยังไม่ทันหลุดออกมาจากปากของเหนือณรงค์ อีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้นมา
“คุณจะทำจริงๆ เหรอคุณเหนือณรงค์” อติกานต์ลากชื่อของคนจตรงหน้าเสียงยาวอย่างจงใจ ‘ยั่ว’ “คนที่ไม่ใช่เกย์อย่างคุณจะรับสิ่งที่เรา ‘ทำ’ กันไปเมื่อคืนได้แน่หรือ ผู้ชายแท้ๆ ไม่มีใครเขาทำกันหรอกนะ”
เหนือณรงค์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะพูดออกไป “แต่ผมอยากรู้งว่าเราสองคนไปถึงไหนกันแล้ว”
“แต่ผมทำมันกับคุณไม่ได้แล้ว”
“เพราะอะไร” เหนือรงค์เงยหน้าขึ้นมองขณะเอ่ยถามเสียงเข้มด้วยความหงุดหงิดใจ... โดยไม่รู้ตัว
“เพราะว่า” อติกานต์ถอยออกห่างจากช่องว่างระหว่างเรียวขาของเหนือณรงค์ “ถุงยางในห้องผมหมดแล้ว”
มือแข็งแรงฉวยคว้าแขนของอติกานต์เพื่อรั้งไม่ให้เขาถอยห่างออกไป ก่อนเสียงห้าวจะเอ่ยขณะสีหน้าของนายแบบหนุ่มดูดุดันจนน่าตกใจ... และเร้าอารมณ์คนมองในเวลาเดียวกัน
“แต่ในกระเป๋าตังค์ผมยังมี” เหนือณรงค์ใช้มืออีกครั้งเอื้อมไปที่กระเป๋าหลังของกางเกงที่ตนสวมเพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์แบรด์หรูราคาหลายหมื่นออกมา แล้วหยิบซองฟอยล์ที่ซ่อนอยู่ในช่องใดช่องหนึ่งในกระเป๋าสตางค์ออกมาโชว์ว่าเขาเป็นประเภทที่รอบคอบพอจะพกถุงยางอนามัยติดตัวไปด้วยทุกที่จริงๆ
“รอบคอบดี” อติกานต์หัวเราะในลำคอเบาๆ  แล้วก้มใบหน้าลงไปประทับจุมพิตลบนเรียวปากน่าจูบของนายแบบหนุ่ม ก่อนจะไล้เรียวลิ้นฉ่ำชื่นเพื่อให้เหนือณรงค์เปิดปาก ซึ่งชายหนุ่มก็รับรู้สัญญาณอย่างคนเจนจัด
ทันทีที่เหนือณรงค์เปิดแย้มรอบยิ้มขึ้น อติกานต์บรรจงมอบรสชาติของเขาเองที่อบอวลอยู่อุ้งปากของตนในคนเป็นเจ้าของได้ ‘ร่วม’ เป็นผู้ที่ได้รับรู้รสชาติของร่างกายนายแบบหนุ่มเอง


ร่างกายที่แนบชิดของเขาทำให้อติกานต์รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็น เขาอยากจะหันไปมองใบหน้าของคนด้านหลังที่ดูเหมือนว่าจะกำลังหลับสนิทอยู่
แต่เพราะลำแขนแข็งแรงที่กอดเอวของเขาเอาไว้แน่นทำให้คนตัวบางกว่าอย่างเขาเคลื่อนกายไม่สะดวกอย่างที่ใจต้องการ
อติกานต์ผ่อนลมหายใจออกมา แล้วหันไปมองคนด้านหลัง “คุณเหนือ”
“หื้อ”
“ตื่นได้แล้ว”
“อือ” ส่งเสียงในลำคอแบบขอไปที แล้วลากตัวอติกานต์มากอดเอาไว้แน่นกว่าเดิม
“คุณเหนือ!”
“อะไร” ปลายจมูกของเขาแนบลงบนไหล่ของอติกานต์
“ลุก!”
“เพิ่งกระแทกคุณไปหลายยก ตอนนี้ผมลุกอีกไม่ไหวแล้ว ขอพักก่อนได้ไหม”
“ผมไม่ได้หมายถึงลุกแบบนั้น ผมหมายถึงคนเป็นผู้ชายแท้ๆ แมนๆ ที่เพิ่งได้กับเกย์ไป ควรจะตื่นนอนแล้วลุกออกไปจากเตียงของเกย์อย่างผมได้แล้ว!”
“ไม่”
“นี่คุณ!” ทุกอย่างดูผิดไปหมด เขาไม่คิดว่าหลังจากคนที่มีอาการต่อต้ายความสัมผัสที่เกิดขึ้นเมือคืน พอมีโอกาสได้มีเซ็กส์กับเขาอีกครั้งจะดูผ่อนคลายจนเป็นธรรมชาติได้มากขนาดนี้ เขาคาดหวังว่าเหนือณรงค์จะรีบลุกหนีไปทันทีที่เสร็จกิจ!
แต่นี่กลับไม่ใช่ นายแบบหนุ่มยังมีหน้าต่ออีกหลายรอบ แล้วยังทิ้งตัวลงนอนหลับอย่างสบายอารมณ์เบนี้อีก!
“คุณจะมานอนแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำไมจะไม่ได้”
“ผมไม่อนุญาต ลุก แล้วออกไป”
ร่างสูงใหญ่ของเหนือณรงค์ขยับ แม้เพียงเบาๆ ก็ส่งให้เตียงยวบลงไป และสิ่งที่อติกานต์ไม่คสดคิดคือ ร่างของเขาถูกฉุดขึ้นไปนอนทับบนตัวของอีกฝ่าย
“ได้แล้วจะเขี่ยทิ้งว่างั้น”
“เอ่อ!” คราวนี้คนที่คิดว่าเป็นฝ่ายคุมเกมกลับสติแตกซะเอง เมื่อเห็นท่าทีและสายตาของ ‘คู่นอน’ เบอร์ล่าสุดของตนเอง “ปล่อย แล้วออกไปเลย”
“เป็นพวกชอบความสัมพันธ์แบบคืนเดียวหรือยังไงคุณน่ะ” เหนือณรงค์กล่าวเสียงนิ่ง... เยียบเย็นจนน่ากลัว
“ใช่” ดวงตาสีน้ำตาลมองหน้ามองสบตาคนเบื้องล่างนิ่ง
“งั้นแสดงว่าคุณแหกกฎตัวเองเรียบร้อยแล้วคุณเลิฟ เพราะคุณเพิ่งมีเซ็กส์กับผมอีกครั้งเมื่อเช้า ผมถือว่ามันเป็นครั้งที่สองของเรา”
“ไม่”
“ทำไม”
“เพราะเมื่อคืนผมกับคุณยังไม่ได้มีอะไรกัน เมื่อเช้าเป็นเซ็กส์ครั้งแรกของเราสองคน”
คิ้วหนาคนฟังเลิกขึ้น “แสดงว่าคุณตั้งใจพูดให้ผมเข้าใจผิด”
“คุณเมาจนไม่มีปัญญาจะทำอะไรทั้งนั้นแหละ ผมแค่ใช้ปากกับคุณ”
“แล้วรอยพวกนี้”
“รอยของผู้ชายคนก่อนที่ผมเอามานอนด้วย”
ดวงตาคนได้ยินลุกวาว... ไปด้วยเปลวไฟ!
เหนือณรงค์ทุ่มร่างอีกฝ่ายลงบนเตียง แล้วจัดการพาร่างที่หนากว่าของตนไปคร่อมทับ “งั้นผมจะจัดการตีตราทับรอยพวกนั้นให้หมด รอยบนตัวคุณจะได้มีแค่ร่องรอยของผมเพียงคนเดียว”
นายแบบหนุ่งนั่งผงาดอยู่เหนือเจ้าของห้อง ขณะเหยียดยิ้มเย็นชาออกมา
“อย่านะคุณเหนือ”
“คุณคงไม่รู้จักผมเท่าไหร่สินะคุณเลิฟ” เหนือณรงค์โน้มใบหน้าลงไปใกล้ แล้วเลียริมฝีปากล่างเจ้าของนัยน์ตาทรงเสน่ห์เบาๆ “ผมเป็นพวกขี้หวงของ”
นายแบหนุ่มจับอีกฝ่ายคว่ำหน้า ก่อนจะยืดตัวขึ้นคุกเข่าไว้กับที่นอน แล้วขยับกายเข้าไปแนบสะโพกแน่นๆ ของอีกฝ่าย
“ผมไม่ใช่ของของคุณ” อติกานต์รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ซึ่งเขารู้ว่าเหนือณรงค์กำลัง ‘จัดการ’ กับร่างกายของเขาเองอยู่ในเวลานี้
“แต่ผมว่าใช่” มือของเขากระตุ้นเร้าร่างกายตัวเองรออยู่ตั้งแต่เริ่มมีปากเสียงกันแล้ว ขณะใช้แขนอีกช้างเกี่ยวตัวอีกคนให้สะโพกของอติกานต์ยกลอยขึ้น
“ไม่ อ้ะ!” ความชุ่มชื่นของบทรักครั้งก่อนยังคงอยู่ ทำให้ความงแข็งแกร่งของเหนือณรงค์สามารถเสือกไสพาตัวตนของเขาเข้าไปภายในร่างกายที่คับแน่นของอติกานต์ได้อย่างไม่ลำบาก
“คุณเหนือ!” อติกานต์ขบกรามแน่น เมื่อร่างกายถูกรุกรานจากคนตัวโตด้านบน
“หื้อ” เหนือณรงค์ส่งเสียในลำคอ ขณะปลายลิ้นของเขาไล้เลียยอดอกสีสดของคนใต้ร่างจนเปียกฉ่ำไปหมด
“คุณไม่ได้ใส่ถุงยาง”
“มันหมดแล้ว”
“งั้นออกไป!” เขาพยายามผลักอกของอีกฝ่ายให้เคลื่อนออกจากร่างกายของตน
“เสียใจด้วย” สะโพกของเขาขยับหนักๆ “ผมออกไม่ได้จริงๆ”
“ไม่!”
ความใหญ่โตดันเข้าไปจนสุด ซึ่งการกระทำของเหนือณรงค์ทำให้อติกานต์ซ่านสยิว แล้วยิ่งกว่านั้นคือมือแข็งแรงของเหนือณรงค์แตะต้องถูกตัวตนของเขาในเวลานี้ และกำลังสัมผัสชักนำร่างกายของเขาเพื่อทำให้ร่างกายของเขาเคลื่อนไปสู่จุดที่เกินกว่าจะควบคุม พร้อมกับที่สะโพกของฝ่ายนั้นขยับเคลื่อนอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
“ผมบอกให้คุณออกไป” เสียงเข้มงวดและเฉียบขาดของอติกานต์ทำให้เจ้าของสะโหพที่กำลังเคลื่อนไหวหยุดชะงัก
“คุณจะให้ผมเอามันออกไปจริงๆ งั้นเหรอ” เหนือณรงค์ขบกรามเค้นเสียงถามออกมาอย่างยากลำบาก
“ออกไป” คนที่ต้องต่อสู้กับความต้องการทางร่างกายไม่แพ้กับคนด้านหลังเอ่ย ขณะที่ร่างกายของชายหนุ่มเองก็เรียกร้องการเติมเต็มไม่ต่างกัน แต่เพราะเหนือณรงค์ตั้งใจจะทำลายกฎที่เขาตั้งเอาไว้ทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์ทางกาย ทำให้สัมพันธ์สวาทครั้งนี้ไม่สามารถไปต่อได้!
‘ถุงยางไม่น่ามาหมดเอาตอนนี้เลยจริงๆ!’ นายแบบหนุ่มคิดในใจอย่างหัวเสีย
“แต่ว่าเรา” เหนือณรงค์กำลังจะอ้าปากหาข้ออ้างพูดออกไป เพื่อหวังจะช่วยให้ ‘โชค’ เข้าข้างทำให้เขาได้ไปต่อในบนเรียนใหม่ของชีวิตที่เพิ่งจะมีโอกาสลิ่มลองรสชาติความสัมพันธ์แบบใหม่
และดูเหมือนว่าตัวเขาเองก็ชักจะติดใจหนทางใหม่ที่ได้สัมผัสขึ้นมาแล้วด้วย...  แล้วพอจะสานต่อ ‘อีกรอบ’ ในครั้งนี้ กลับถูกว่าที่คู่จิ้นเอ่ยปากเบรกจนเขาหัวแทบทิ่ม
“ออกไปจากตัวผมเดี๋ยวนี้!” ร่างกายของทั้งคู่หลุดอกอจากกันทันที่จาก ‘คำบัญชา’ ของฝ่าย ‘ถูกกด’
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” เหนือณรงค์กล่าวอย่างหัวเสีย ขณะทิ้งบั้นท้ายเปลือยเปล่าลงนั่งบนเตียง
อติกานต์เหลียวใบหน้าหันมามองคนที่บ่นพึมพำอยู่ ก่อนที่ดาราหนุ่มจะขยับลงจากเตียง “ถ้าผมออกมาจากห้องน้ำ หวังว่าจะไม่เห็นหน้าคุณแล้ว”
“คุณไล่ผม”
“หรือต้องให้เรียก รปภ. มาหิ้วออกไปไหม คุณถึงจะเข้าใจว่าผมไม่ต้องการกายใจร่วมกับคุณในห้องนี้แล้ว”

อติกานต์เหลือบตามองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีดที่ถูกทำให้ขาดในบางจุด แต่กลับไม่ดูเกรอะกรังใดๆ เลย เมื่อชายหนุ่มคนข้างกายเป็นคนสวม
เขาไม่เห็นดวงตาของอีกฝ่าย เพราะเหนือณรงค์ใส่แว่นตากันแดดอยู่
“ตามนี้นะครับน้องเหนือ กล้องที่จะถ่ายคือกล้องนี้” ผู้ช่วยผู้กำกับเอ่ย พร้อมชี้ไปยังกล้องขนาดใหญ่ซึ่งมีช่างกล้องยืนอยู่ด้านหลัง  “จำบทได้แล้วใช่ไหม”
“ครับ”
“งั้นถอดแว่นออกเลย”
“ครับ” นายแบบหนุ่มรับคำเดิม ก่อนจะดึงแว่นตากันแดดที่สวมอยู่ไปส่งให้กับทีมงานที่มายืนรอ ซึ่งเขาหรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อปรับให้สายตาเข้ากับแสงได้ ก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนอยู่เคียงข้าง
“ก่อนหน้านี้หายไปไหน”
อติกานต์ใช้วิธีการเงียบ ไม่ยอมตอบ ทำราวกับอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุ
“ทำไมคุณไม่มาเวิรค์ช้อปกับผมเลย” เขายังไม่ยอมเดินออกห่างจากอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ฉากนี้เป็นแกที่เขาต้องเดินชนกับอติกานต์ ซึ่งเขาต้องไปเดินหลบที่มุมเสา ก่อนจะเดินเข้ามาปะทะกัน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์สุดร้อนแรงของนายแบบ.. อาชีพเดียวกันกันเขาของตัวละคร และนักศึกษาสุดเนิร์ดที่ซ่อนเสน่ห์เย้ายวนเอาไว้ภายในท่าทีคงแก่เรียนของคนตรงหน้า
อติกานต์เกือบรู้สึกว่าคนตรงหน้ากำลังงอน... และรอให้เขาง้อ สุดท้ายก็ยอมพูดด้วย
“ยุ่งอยู่” แต่อย่าหวังว่าเขาจะง้อ! “คุณเดินไปตรงเสาได้แล้ว”
“เกือบสามอาทิตย์”
“ช่วงนี้ผมยุ่ง”
“เอาหวีหน่อยไหมจะได้ยุ่งน้อยลง”
พุดจบก็หมุนตัวเดินจากไป หล่อยให้คนยังรับมุกไม่ทันยินนิ่ง แต่เพียงครู่ อติกานต์ก็ต้องหลุดยิ้มออกมา เพราะคิดออกแล้วว่าเหตุใดเหนือณรงค์ถึงได้หยิบยื่นเสนอ ‘หวี’ ให้กับ คนที่พูดว่า ‘ผมยุ่ง’ อย่างเขา

การถ่ายทำในวันนี้ราบรื่นจนน่าตกใจ คนที่เคยมีประวัติการแสดงยอดแย่กลับแสดงออกมาได้อย่างดีจนเขาที่เตรียมใจมาว่าต้องถ่ายหลายเทคกับอดไม่ได้ที่จะเปลกใจ และแอบชื่นชมนักแสดงมือใหม่อยู่ในใจ
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เจ้าของเรือนร่างสูงยืนรออยู่หน้าห้องแต่งตัว และเอ่ยออกมาทันทีที่ประตูห้องแต่งตัวของเขาเปิดออก
“ผมมีธุระ”
“แต่เราต้องคุยกัน”
“ผมไม่ว่าง”
“จะเดินตามไปดีๆ หรือต้องให้ผมใช้วิธีของผม”
“คุณจะทำอะไรผมคุณเหนือ จะใช้กำลังงั้นเหรอ” เขาเยียดยิ้มเยาะ “ผมไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่จะสู้แรงผู้ชายอย่างไม่ได้นะ”
“แล้วแน่ใจหรือว่าคุณสู้ได้ ถ้าผมเอาจริงขึ้นมา วันนั้นผมจับคุณกดอีกรอบไปแล้ว” เขาพูดเสียงเข้ม “แต่เพราะผมเคารพการตัดสินใจของคุณต่างหาก ถึงยอมกัดฟันปล่อยคุณไป”
“คุณต้องการอะไร”
“ไปคุยกัน”
“ที่ไหน”
“ถ้าบอกว่าบนเตียงผมคุณจะไปไหม”
“ไม่”
“งั้นบนเตียงคุณก็ได้”
“ไม่ทั้งนั้น” อติกานต?รู้สึกถึงใบหน้าที่ร้อนวูบขึ้น เมื่ออีกฝ่ายตั้งใจไล่ต้อนเพื่อให้เขาหวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างกัน
เหนือณรงค์หัวเราะเบาๆ ออกมา “ร้านอาหารใกล้ๆ นี่แหละ ผมหาเอาไว้แล้ว”
“แถวนี่ที่ว่ามันแถวไหน”
“เอาไลน์มาสิ เดี๋ยวผมแชร์โลเคชั่นไปให้”
“บอกชื่อร้านมาก็จบ เดี๋ยวผมไปเสริต์หาสถานที่เอาเองได้”
“ถ้าผมอธิบายเส้นทางไปเดี๋ยวคุณจะงงเปล่าๆ สถานที่มันค่อนข้างจะซับซ้อน”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมเปิดแผนที่แล้วไปเองได้” เขาไม่ยอมง่าย “ผมเก่ง”
“อย่าเรื่องมากน่าเลิฟ”
คำเรียกอย่างสนิทสนมของคนตรงหน้าทำให้อติกานต์ต้องแปลกใจ... เล็กน้อย และรู้สึกว่าควรบยอมๆ เพื่อให้เรื่องมันจบๆ
“ก็ได้” พูดจบยอมบอกชื่อไลน์ของตนออกไปเพื่อให้อีกฝ่ายแอดไลน์มา
“แต่จริงๆ ผมว่าเราไปพร้อมกันเลยก็ได้นะ”
คำพูดของเหนือณรงค์ทำให้อติกานต์เลิกคิ้วด้วยความงุนงง “คุณหมายความว่ายังไงที่ว่านั่งรถไปพร้อมกัน”
“พอดีเมื่อกี้ผมลืมไปน่ะว่าตัวเองไม่ได้ขับรถมา วันนี้มีรถกองขับไปรับที่คอนโดฯ แต่คุณน่ะขับมาไม่ใช่หรือไง ผมเห็นรถคุณจอดอยู่”
“คุณเนี่ยนะที่ลืมไปว่าตัวเองไม่ได้ขับรถมากอง” อติกานต์ถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
“อือ” พูดจบก็เป็นฝ่ายเดินนำไป เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่ารถของคู่จิ้นตัวเองจอดอยู่ที่ไหน แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกฝ่าย ก็เลยหันไปกวักมือเรียก “เดินตามมาเร็วๆ สิเลิฟ คุณยืนรออะไรอยู่”

บรรยากาศในร้านอาหารกึ่งคลับในเวลานี้ค่อนข้างจะเงียบ เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน... ซึ่งที่น่าหงุดหงิดคือร้านไม่ได้มายากอย่างที่คนบ้างคนบอก!
มันออกจะมาง่ายแสนง่าย เพราะตั้งอยู่ในย่านเที่ยวกลางคืนใจกลางเมือง
“กินอะไรไหมเลิฟ”
อติกานต์เหลือบตาขึ้นจากหน้าจอมือถือ “ไม่ รีบๆ พูดเรื่องของคุณมา ผมมีธุระ”
เหนือณรงค์ยกนาฬิการาคาแพงบนข้อมือขึ้นดูเวลา...
“มีนัดงั้นเหรอ กับใครล่ะ” ท่าทีของแหนือณรงค์เรียบเรื่อยไม่แสดงท่าทีไม่พอใจใดๆ ออกมาแม้แต่น้อยขณะเอ่ยถาม
“คนสำคัญ”
คนที่ได้คำตอบไม่น่าพอใจเพียงไหวไหล่ แจ่ไม่พยายามจะเซ้าซี้ต่อ “ตกลงอยากดื่มอะไรไหม”
“ไม่”
“น้องครับ ขอน้ำเปล่าสองแก้ว” ชายหนุ่มหันไปสั่งพนักงาน “วันนั้นผมขอโทษ”
คิ้วได้รูปของอติกานต์เลิกขึ้นอย่างแปลกใจ เมื่อได้รับคำขอโทษจากปากคนตรงหน้าแบบนี้ “ผมไม่ถือ”
“แต่ผมถือ”
อติกานต์ถอนดหายใจออกอย่างหมดความอดทน “ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น แค่เซ็กส์คืนเดียว”
“แต่ผมยังไม่พอ”
“คุณติดใจประตูหลังผมว่างั้นเถอะ”
“เลิฟ หน้าคุณก็ออกจะหวาน แต่ปากคุณนี่”
“หมา”
เหนือณรงค์โคลงศีรษะเบาๆ ก่อนพูดออกไป “สำหรับผมคุณแค่เป็นคนที่พูดตรงไปตรงมาเกินไปต่างหาก”
“ก็ไม่เห็นว่าต้องพูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา” ชายหนุ่มยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นจิบ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าปากของเขากำลังถูกจับตามองด้วยสายตาหิวโหยของใครบางคน
“เลิฟ”
“หื้อ”
“คืนนี้ผมไปหาที่คอนโดฯ นะ”
คำพูดของเหนือณรงค์ทำเอาอติกานต์สำลักน้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไป “ไม่!”
“ผมจะไปหา”
“บอกว่าไม่ให้มาไง!”
“แต่ว่า”
“กฎของผมคือไม่นอนซ้ำเป็นครั้งที่สองกับใคร!” หลังมือขาวจัดถูกยกขึ้นมาปากมุมปากที่เปรอะเปื้อนน้ำลวกๆ “หยุดพยายามได้แล้ว ผมไม่ต้องการนอนกับคุณแล้ว สำหรับคุณครั้งเดียวก็เกินพอ”
“ลีลาผมไม่เด็ดตรงไหน”
“หุบปาก” อติกานต์กระแทกแก้วน้ำในมือลงบนโต๊ะ จนน้ำกระเฉาะออกมา “เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น!”
พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินจากไปไม่สนใจคนที่นั่งติดรถมาด้วย... ว่าจะกลับยังไง!



 

ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #5 เมื่อ18-03-2018 14:56:55 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 3

การทำงานร่วมกันตลอดสามเดือนที่ผ่านของพวกเขาผ่านไปด้วยดี ขนาดที่เหนือณรงค์ถูกชมจากทีมงานไม่ขาดปากว่าเล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะฉากเข้าคู่กันของตัวเองของซีรี่ย์ โดยเฉพาะฉากเลิฟซีนที่ถึงพริกถึงขิงจนภาพที่หลุดไปบนอินเตอร์เน็ตถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง
“น้องเหนือคะ ไม่เจอกันนานเลยนะ” ผู้จัดละครสาวสวยเดินเข้ามาหาพระเอกของงานวันนี้ งานเปิดตัวซีรีย์บอยเลิฟที่กำลังถูกจับตามองอย่าง ‘สวรรค์ลวง’
“สวัสดีครับพี่ริน” นายแบบหนุ่มยกมือไหว้อย่างนอบน้อม 
“งานเยอะสินะ”
“ครับ ผมต้องขอบพระคุณพี่รินมาที่ให้โอกาสผม ผมถึงมีวันนี้ได้”
รินลาณีหัวเราะบอกๆ พร้อมตีแขนดาราหนุ่ม “อยู่ๆ มาขอบคุณซะเป็นทางการแบบนี้พี่ก็ทำตัวไม่ถูกสิ”
“ผมเองก็ต้องขอบคุณที่คุณมอบโอกาสให้น้องชายผม” เสียงนี้ไม่ใช่เหนือณรงค์ แต่เป็นเสียงของสุดเขต ผู้จัดการที่ควบตำแหน่งเจ้าของโมเดลลิงค์ของชายหนุ่ม รวมทั้งตำแหน่งพี่ชายแท้ๆ ของเขาเอ่ยขึ้น
“ดอกไม้พวกนั้นสำหรับขอบคุณเรื่องน้องเหนือ เรื่องว่ามีจุดประสงค์อื่นที่ส่งไปให้ฉันคะ” รินลาณียิ้มน้อยๆ ในสีหน้าขณะกล่าว
สุดเขตเดินเข้ามายืนเคียงกับ ‘น้องชาย’ แท้ๆ ของตน “ช่อแรกเพื่อขอบคุณที่ให้โอกาส แต่ช่ออื่นที่ส่งไปให้หลังจากนั้นเพื่อใช้มันแทนความรู้สึกดีๆ ของผมที่มีให้คุณ”
เหนือณรงค์หันขวับไปมองพี่ชายสุดโหดของตน แล้วยกข้อศอกขึ้นกระทุ่งเอวอีกฝ่ายเบาๆ “ดอกไม้อะไร”
“เสือก” สุดเขตกระซิบคำสั่นๆ แต่ได้ใจความใส่หผู้เป็นน้อง
“พี่สุด บอกผมมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“เดี๋ยวเล่า”
“แต่”
“บอกว่าเดี๋ยวเล่าไง” เหนือณรงค์เดินผละห่างจากน้องชายไปทางรินลาณี “คุณทานอะไรมาหรือยัง”
“ยังคะ” ผู้จัดสาวยิ้มให้เขา “งั้นเดียวผมไปหาอะไรมาให้นะ”
“รินทานเยอะไม่ได้นะคะชุดมันแน่น” เธอพูดอย่างอารมณ์ดี ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองต้องมองสำรวจเดรสรัดรูปที่แนบไปตามสัดส่วนของหญิงสาว “ขอแค่เครื่องดื่มก็พอ”
“น้ำส้มนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
สุดเขตตั้งท่าจะเดินผละห่างออกไป แต่ไม่วายหันมาหาผู้เป็นน้อง “ดูแลคุณรินด้วย”
“เป็นเอามาก” เหนือณรงค์ส่านศีรษะ “พี่ริน ผมถามหน่อยว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน”
“อะไรจ้ะ”
“ที่พี่ชายผมตามจีบพี่”
“พี่ชายน้องเหนือตามจีบพี่อยู่หรือคะ” เธอทำเป็นเหมือนไม่รู้เรื่อง
“งั้นผมถามหน่อยเรื่องดอกไม้ พี่ชายผมส่งให่พี่กี่ช่อ”
“วันละช่อตั้งแต่พักกองไปนั่นแหละ”
เหนือณรงค์คำนวณเวลาในใจ “เดือนหนึ่ง สามสิบช่อ!”
“ค่ะ” เธอยิ้มบางๆ ส่งให้ใบหน้าสวยของผู้จัดสาวชวนมองยิ่งกว่าเดิม
“ดูท่าแล้วจะเเคร์ซี่พี่สุดๆ เลยล่ะครับ ปกติเค็มเรียกพี่ขนาดพี่สุดไม่เคยยอมเสียเงินซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงมากขนาดนี้มาก่อน”
คนรับฟังเพียงยิ้ม
“แล้วพี่ชายผมแววว่าจะผ่านเข้ารอบไหมครับ”
“หื้อ” เธอส่งเสียงในลำคอ “เข้ารอบอะไรหรือคะ”
“พี่ชายผมผจะมีดอกาสได้เป็นตัวจริงของผู้จัดคนสวยอย่างพี่รินไหมครับ”
หญิงสาวส่ายศีรษะเบาๆ
“ไม่ผ่านหรือครับ” เหนือณรงค์หน้าตื่น เพราะพี่ชายของเขาไม่เคยมีสักครั้งเลยที่เมื่อสุดเขตล็อคเป้าหมายแล้วอีกฝ่ายจะหลุดมือไป
“พี่ไม่ทราบคะ” เธอตอบตามตรง “พี่กับพี่ชายน้องเหนือเพิ่งทำความรู้จักกันไม่นาน”
“แต่”
รินลาณียกปลายนิ้วขึ้นทาบเรียวปากสีขมพูนู้ดของตน “เรื่องนี้เอาไว้ก่อน วันนี้เตรียมตอบคำถามนักข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับเลิฟหรือยัง”
“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ”
“ถูกจัดให้เป็นคู่จิ้นสุดฮอตของปีนี้ยังจะบอกว่าไม่มีอะไรอีกเหรอ”
“ครับ ไม่มีอะไร”
“แต่ช่วงนี้พี่ได้ข่าวว่ามีงานคู่ติดต่อมาเยอะ”
“แต่ผมยังไม่ได้รับปากอะไรครับ กระแสเพิ่งมีตอนที่ทางพี่รินปล่อยทีเซอร์ตัวอย่างที่จะฉายตอนแรกไปเนี่ยแหละ”
“งั้นเตรียมตัวรับงานคู่ที่จะติดต่อมาได้เลย ซีรี่ย์ของเราพี่มั่นใจว่าฐานแฟนคลับต้องเยอะขึ้น เพราะแต่ละตอนที่ตัดต่อออกมาบอกเลยว่าเอาใจขาจิ้นสุดๆ”
“ผมไม่รู้ว่าเลิฟจะโอเคไหม”
“ทำไมล่ะ”
“พี่น่าจะเห็นว่าหลังกล้องหรือถ้าไม่เกี่ยวกับงานเขาไม่ยอมคุยกับผม”
“พี่ก็ว่าจะถามตั้งนานแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ไปทำให้เขาโกรธเรื่องอะไร”
“ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เพราะตั้งแต่ความสัมพันธ์สุดเร้าใจคืนนั้น ที่พอเขามีโอกาสคิดถึงการได้ครอบครองชายหนุ่มเจ้าของเรียวหน้าทรงเสน่ห์ทีไรก็พาลทำให้เขาแข้งขาสั่นไปหมด อติกานต์ก็เอาแต่เชิดใส่เขาตลอด ไม่พูดไม่คุยนอกจากเรื่องงาน
“พี่ว่า อ้ะ” ผลันสายตาหญิงสาวเห็นว่าเนคไทของชายหนุ่มเบี้ยว เธอเลยเอื้อมมือไปจัดให้เขา “เนคไทฯ เราเบี้ยว”
“ขอบคุณครับ” เขายิ้ม และรอยยิ้มของเขาก็ต้องค้างเมื่อเห็นว่าใครเดินเข้ามาในห้องพักที่ทีมงานจัดเอาไว้ให้นัดแสดง “เลิฟ”
พูดจบก็รีบขอตัวจากรินลาณีไปทางผู้มาใหม่ คนที่เขาไม่ได้เจอหน้ามาเกือบเดือน เมื่อต้องพักกองเนื่องจากผู้เขียนบทและผู้จัดตกลงว่าจะให้มีการปรับทบในบางส่วน

“เลิฟ!”
เสียงเรียกที่แสนคุ้นเคยทำให้หัวใจเจ้าของชื่อกระตุกวูบ
“อื้ม ว่าไง”
“มาถึงช้าจัง”
“ติดงาน”
“ติดงานหรือติดลูกชายเจ้าของบริษัทนำเข้ารถ”
คิ้วเรียวของเขากระตุกขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่เหนือณรงค์เอ่ยถึงผู้ชายที่มีข่าวหลุดออกมาว่าเขาควงไปทานข้าวด้วยเมื่อเร็วๆ นี้ “งาน”
“ช่างเถอะ” ชายหนุ่มร่างสูงพึมพำกับตัวเอง “ผมกับคุณเราไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ก็ช่วงนี้พักกอง แล้วทำไมผมจะต้องเจอคุณ”
“ผมยังขอยืนยันนะว่าผมติดใจคุณ”
“เหรอ” อติกานต์ไร้ความใส่ใจใดๆ ในคำพูดของนายแบบหนุ่ม
“ทำไมคุณเย็นชาจัง” คนพูดทำเสียงกระเง้ากระงอดผิดกับบุคลิกท่าทางและหน้าตาดุดัน รวมถึงรสนิยมการเจาะตามร่างกายของตนอย่างสุดๆ
“ตกลงคุณอยากนอนกับผมอีกครั้ง”
“อือ”
“ไหนว่าไม่ชอบผู้ชาย” เข้าตั้งใจจรดปลายนิ้วของตัวเองแตะเบาๆ ลงไปที่อกด้านซ้าย ตรงจุดที่ยอดอกของเหนือณรงค์พอดี... บริเวณไว้ต่อสัมผัส
“ผู้ชายคนอื่นผมไม่ได้ชอบ แต่ผมแค่รู้สึกยังไม่อิ่มในตัวคุณ” คนที่ถูกเปิดประสบการณ์ใหม่มาเอ่ยตามตรง
“เคยลองกับคนอื่นดูแล้วหรือไง”
“อือ”
ดวงตาคู่สวยของอติกานต์วูบขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น “คุณไปนอนกับใครมางั้นเหรอ”
“คุณสนเรื่องของผมด้วยเหรอ”
คนถูกถามเหยียดยิ้ม ก่อนตอบตามตรงจนคนฟังแทบคลุ่มคลั่ง “ไม่หรอก ผมไม่สนใจเรื่องของคุณหรอก เพราะคุณไม่ได้สำคัญอะไรกับผม”
“ริว”
“พูดอะไรของคุณ”
“ผมนอนกับริวมา”
อติกานต์พอจะนึกหน้าหนุ่มน้อยตัวเล็กหน้าหวานที่แว่วว่าทางค่ายกำลังจะปั้นออก
“แล้วไปสานสัมพันธ์กันตอนไหน”
“ถ้าคุณสังเกตว่ามีผมอยู่ในกองคุณจะรู้ว่าผมกับน้องเขาเริ่มจิ๊จ๊ะกัน แต่เพราะคุณไม่เคยรับรู้ว่ามีผมอยู่ คุณเลยไม่รู้เรื่องไง”
“แล้วพอได้นอนกับน้องเขาแล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ ถึงใจพอไหม”
“ไอ้ที่ว่าถึงใจพอไหมนี่คือถ้าลองเอาลีลาของน้องเขาไปเทียบกับคุณน่ะเหรอ”
คนถูกถามกลับหน้าบึ้งทันที ขณะดวงหน้าขาวเริ่มเรือแดงขึ้นตามความโกรธที่พุ่งขึ้นมา แต่อติกานต์ก็พยายามรักษาสีหน้าให้เยียบเย็นที่สุด “ผมเลย ผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว!”
“แต่ผมว่าคุณอยากรู้ไ
“ไม่”
“แน่ใจหรือว่าไม”
“แน่ใจ”
“แต่ผมอยากเล่านะ ยังไงเส้นทางสายนี้คุณก็เป็นรุ่นพี่ผม”
“เรามันคนละสายกัน ผมไม่เคยเข้าไปในตัวใคร คงให้คำปรึกษาอะไรคุณไม่ได้” อติกานต์เค้นเสียงรอดไรฟันใส่หน้าคนที่กำลังตั้งใจจะกวนโมโหเขาอยู่ในตอนนี้
“แล้วอยากลองมาสลับสายกันดูบ้างไหม ถ้าเป็นคุณผมยอมนะ”
“ไม่!”
‘หึ!’ เหนือณรงค์หัวเราะในลำคอเมื่อเห็นท่าทีเก้อเขินของอีกฝ่าย “คืนนี้มาที่ห้องผม” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับบนใบหน้าหล่อเหลาของคนพูด
อติกานต์เม้มปากแน่นเมื่อได้ยินคำชวนของคนตรงหน้า
“ผมรู้ว่าคุณอยากรู้เรื่องของผมกับน้องริว”
“ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”
“งั้นมาหาเพื่อคุยเรื่องของเราก็ได้” เหนือณรงค์โน้มใบหน้าลงไปกระซิบข้างใบหู แล้วยังจงใจผ่อนลมหายใจลงบนแก้มของเขาอีกด้วย!
“ไม่ไป”
“มาเถอะนะ ผมอยากเล่าให้คุณฟัง” เขายกมือขึ้นลูบแก้มอีกฝ่าย แล้วเอ่ยเสียงพร่า “อยากจนใจใจจะขาดแล้ว”
‘คนเจ้าเล่ห์!’ ลอบคิด แล้วเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนท่าทางห่ามๆ แบดๆ อย่างเหนือณรงค์จะขี้อ่อยได้มากขนาดนี้!

ร่างสูงของนายแบบหนุ่มยืนมองประตู เมื่อวางสายโทรศัพท์จากใครบางคนที่เขามอบคียการ์ดและบอกรหัสเข้ามาในห้องให้อีกฝ่ายไปแล้วตั้งแต่ก่อนแยกจากงานแถลงข่าว ซึ่งอติกานต์โทรมาแจ้งว่ากำลังจะขึ้นมาหาเข้าที่ห้อง
ทันทีที่ประตูเปิด และร่างสูงเพรียวเดินเข้ามา เหนือณรงค์ก็รวบตัวคนๆ นั้นเอาไว้ “ผมลุ้นแทบตาย”
“ลุ้นอะไร” อติกานต์มองหน้าคนที่สูงกว่าตนเล็กน้อย แล้วเจ้าของอ้อมแขนที่กอดตัวของเขาเอาไว้แน่นในเวลานี้
“ก็กลัวเลิฟจะไม่มา”
คนได้ยินถอนหายใจ ไม่คิดว่าคนที่มีท่าทางดุดันจะช่างอ้อนได้ขนาดนี้... และเขาไม่ค่อยถูกใครอ้อนมาก่อน เลยรับมือไม่ค่อยถูก
“ผมมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องงานกับคุณต่างหาก”
“งานอะไร”
“งานของเราต่อๆ ไปไง”
“ทำไม”
“ทางพี่รินแล้วก็ผู้จัดการของผมอยากให้เราถือโอกาสนี้เรียกเรตติ้ง”
“ด้วยการ”
“เสริฟต์โมเม้นต์คู่จิ้นให้แฟนๆ ได้กรี้ด”
“อือ” เหนือณรงค์ทำเสียงรับรู้ในลำคอเบาๆ
“คุณคิดว่ายังไง”
“ผมได้หมดแหละ คุณน่ะจะทำได้เหรอ ท่าทางของคุณตอนนี้ขนาดพี่รินยังดูออกว่าเกลียดขี้หน้าผม”
“ผมไม่ได้เกลียด”
“แต่เชิดใส่ตลอด บางครั้งผมอยากถามคุณมากเลยว่าเมื่อยคอบ้างไหมเวลาเชิดใส่ผมแบบนั้น”
“คุณเหนือ!”
“โอ๋ๆ” เขากอดตัวอีกฝ่ายแน่นขึ้น “เหนือแค่ล้อเลิกเล่นนะครับ” พอเริ่มอ้อนสรรพนามที่ใช้แทนตัวเองของเหนือณรงค์ก็เปลี่ยนไปจาก ‘ผม’ กลายเป็น ‘เหนือ’
“ผมถามจริงๆ เถอะ คนที่ตั้งหน้าตั้งตาตะดกนใส่ผมว่าไม่ได้เป็นเกย์คนนั้นไปไหน ทำไมถึงอยู่ๆ มารุกผมหนัก ทั้งๆ ที่คุณบอกเองว่าชอบผู้หญิง”
“ก็เหนือติดใจเลิฟ”
“คุณนี่ใจง่ายจัง”
“ใจง่ายแค่กับเลิฟแค่คนเดียวเท่านั่นแหละ”
อติกานต์ส่ายหน้าเบาๆ “คุณไม่ได้หัวไปกระแทกอะไรมาใช่ไหม”
“แล้วทำไมเหนือต้องหัวไปกระแทกอะไรมา” เหนือณรงค์ไม่เข้าใจสิ่งที่อติกานต์พยายามจะสื่อ
“ก็อยู่ๆ รสนิยมคุณถึงเปลี่ยน”
คนที่เพิ่งเข้าใจมุกของอติกานต์หลุดเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง “เปล่า เหนือไม่ได้หัวโขกอะไร แค่พอได้ลองมีเซ็กส์กับผู้ชายตัวบางๆ ดูแล้วมันชักติดใจ”
“ตอนนี้กลายเป็นไบแล้วว่างั้นเถอะ”
“น่าจะ แต่ถ้าผู้ชาย เหนือโอเคแค่กับเลิฟเหนือเท่านั้น”
“แล้วจะมาหลงอะไรผมขนาดนั้น ผมไม่เข้าใจจริง” ใครจะคิดว่าคนตรงหน้าจะกลายเป็นลูกหมาป่าตัวน้อยอย่างเหนือณรงค์ที่ติดเขาได้ภายในชั่วข้ามคืนแบบนี้... มันน่าสงสัยว่าคนตรงหน้าต้องมีอะไรแอบแฝงอย่างแน่นอน
“ก็หลงหลุมของเลิฟไง”
“ทะลึ่ง” ‘เจ้าของหลุม’ แหวใส่คนตัวสูงเสียงเขี้ยว “ปล่อยได้แล้วอึดอัด”
“เลิฟ”
“อะไรอีก”
“ตกลงสถานะเราเป็นอะไรกัน”
“เพื่อนร่วมงานที่เคยเอากันแล้ว”
“แค่นั้นเหรอ”
“คู่จิ้น”
แค่นั้นเหรอ”
“แค่นี้แหละ ไม่มีอะไรอื่นแล้ว”
“เหนือถามจริงๆ นะว่าทำไมตอนแรกที่เจอกันเลิฟรุกใส่เหนือหนักขนาดนั้น”
“เพราะคุณน่าสนใจ”
“ยังไง”
“ผมรู้มาว่าพี่ชายผมมีคุณเป็นต้นแบบพระเอกนิยายเรื่องนี้ของเขา และเขาดูสนใจคุณมาก”
“พี่ชายเลิฟใช้เหนือเป็นต้นแบบงั้นเหรอ” ใบหน้าคนพูดบอกชัดว่ากำลังสงสัยและไม่เข้าในในสิ่งที่ตนเพิ่งได้ยิน
“เจ้าของนิยายเรื่องนี้คือพี่ชายผมเอง แต่เขาเลือกที่จะใช้นามปากกาเป็นชื่อผมแทน เพราะไม่อยากใช้ชื่อตัวเองให้คนรู้ว่าเขาเป็นคนเขียนนิยายเรื่องนี้”
“เฮ้ย!”
“ส่วนคุณ! ถ้าเรื่องพี่ชายผมหลุดไปถึงหูใครก็ตามคุณเจอผมเล่นงานแน่” ชายหนุ่มที่หน้าดูละมุนกว่าผู้ชายส่วนใหญ่เอ่ยคาดโทษอีกฝ่ายเสียงเข้ม..
ส่วนตัวเหนือณรงค์มองหน้าคนในอ้อมแขนอย่างคาดไม่ถึงเมื่อได้รับรู้เรื่องราวจากปากของอติกานต์เมื่อครู่
“แล้วดูเหมือนเขาจะสนใจคุณมากซะด้วย”
“หมายความว่ายังไง” เหนือณรงค์ที่ยังคงจับต้นชนปลายเรื่องราวได้ไม่ดีเท่าไหร่หนักเอ่ยถามกลับไป
อติกานต์ตั้งใจจะเปิดเผยด้านมืดของตัวเองให้เหนือณรงค์ได้รับรู้ เพื่อให้เขาหมดความสนใจในคนนิสัยไม่ดีอย่างตนเองไปสักที
“ตั้งแต่เด็กจนโตทุกคนมันจะเปรียบเทียบผมกับพี่ชาย และแน่นอนว่าคำชื่นชมทั้งหมดเป็นของเขา ส่วนคนที่มันไม่ได้ความคือตัวผมเอง”
ดวงตาดุคมของเหนือณรงค์จ้องหน้าคนพูดพร้อมกระพริบตาปริบๆ ใส่ขณะที่กำลังตั้งใจฟัง
“ผมเลยเริ่มอยากเอาชนะพี่ชายตัวเอง ด้วยการแย่งทุกอย่างที่เป็นของเขา หรือถ้าเพียงแค่รู้ว่าเขาสนใจใครผมก็จะลงมือแย่งมา” อติกานต์เหยียดยิ้ม “ผมเลวดีไหม”
“แสดงว่าตอนนี้คนที่พี่ชายของเลิฟสนใจคือเหนืองั้นเหรอ”
“ใช่”
พอพูดคำสั้นๆ ยอมรับเมื่อครู่ออกไปจบ คนที่คอยเอาแต่ปฏิเสธก็แปรเปลี่ยนมามาตลอดกลับเป็นฝ่าย ‘รุก’ ซะเอง เพราะในเวลานี้มือของอติกานต์วางทาบลงบนเป้ากางเกงของเหนือณรงค์ และมองคนตัวสูงกว่าด้วยแววตายั่วยวน
“คิดว่าการที่โชว์ดาร์คไซด์ออกมา แล้วเหนือจะเกลียดจนปฏิเสธเลิฟงั้นเหรอ คิดว่าพอรู้ว่าเลิฟคิดจะใช้เป็นเครื่องมือทำให้พี่ชายของเลิฟเจ็บแล้วเหนือจะต้องเกลียด จนถอยห่างไปจากชีวิตเลิฟใช่ไหม” เหนือณรงค์ยิ้มเย็น “คิดผิดแล้วเลิฟ เพราะยิ่งพอรู้จุดประสงค์ที่เลิฟเข้ามาหาเหนือแบบนี้ เหนือกลับคิดว่ามันเร้าอารมณ์ดีนะ เหมือนความสัมพันธ์ของเรามันดูเลวทรามดี เหนือชอบ”
เขาจัดการดันตัวอติกานต์ใส่กำแพง จนเกิดเสียงดังเมื่อร่างเพรียวของดาราหนุ่มกระแทกเข้ากับผนังแข็งๆ
“เดี๋ยวคุณเหนือ” อติกานต์รนรานปรามเหนือณรงค์ “เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกันก่อน”
“จะคุยก็ได้ แต่เอาไว้ก่อน”
“อย่าคุณเหนือ!” อติกานต์ร้องเสียงหลง เมื่อร่างหนาขยับมาแนบชิด ก่อนที่ชายหนุ่มด้านหลังจะจัดการปลดกางเกงสแลคคัตติ้งเนียบและดึงกางเกงชั้นในที่เขาสวมอยู่ในเลื่อนหลุดจากสะโพกพร้อมกันอย่างคล่องแคล่ว
เหนือณรงค์หยิบซองถุงยางอนามันออกมาจากกระเป๋าชุดคลุมขนหนูอาบน้ำที่สวมปิดบังร่างกายกำยำที่เปลือยเปล่าของตนในเวลานี้เอาไว้ “มาเริ่มกันเลยเถอะเลิฟ ตอนนี้เหนืออดทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“แต่ผม อ่ะ” อติกานต์อุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ เจลเย็นๆ ก็ถูกเทลงมาที่ราดสะโพกกลมกลึงของตน ก่อนของเหลวพวกนั้นจะถูกลูบไล้เบาๆ ด้วยปลายนิ้วของเหนือณรงค์ ชายหนุ่มละเลงมันอย่างช้าๆ ไปตามบั้นท้ายแล้วค่อยคล้อยลงมาที่จุดสำคัญ...
ช่องทางที่จะนำชายหนุ่มทั้งสองไปพาความหฤหรรษ์  ปลายนิ้วเรียวยาวสอดแทรกผ่านเข้าไปภายในเส้นทางที่แสนจะคับแน่นของอติกานต์อย่างช้าๆ เพื่อช่วยเตรียมตัวดาราหนุ่มที่จะต้องถูกรองรับร่างกายของเหนือณรงค์
“เจลพวกนี้เหนือวางมันไว้ทุกมุมในห้องตั้งแต่รู้ว่าเลิฟจะมา” สำหรับขวดนี้เขาหยิบมันมาจากชั้นวางตุ๊กตาเซรามิคที่พี่ชายนำมาติดเอาไว้ตรงทางเดินเข้ามาในห้อง  เจ้าของห้องอธิบายถึงการมีอยู่ของเจลหล่อลื่นที่จะใช้อำนวยในการร่วมรักครั้งนี้
“คุณบ้าไปแล้ว” อติกานต์กัดฟันต่อว่าเขา
“นอกจากเจลพวกนี้ เหนือยังแวะซื้อถุงยางมาเตรียมไว้สำหรับเราสองโหล และเจลหล่อลื่นอีกสิบขวด”
“คุณเป็นดารานะ ทำไมกล้าไปซื้อของพวกนี้”
“เหนือควรถูกชมเชยนะที่รอบคอบในเรื่องการป้องกัน และใส่ใจคู่นอนของตัวเองด้วยการเตรียมเจลหล่อลื่นเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บให้แบบนี้ พอเราเกิดอยากขึ้นมาตรงไหนจะได้หยิบใช้ได้เลย ไม่ต้องเสียบสดหรือเสียเวลาใช้ของจากร่างกายตัวเองให้เสียเวลาคอย”
“เหนือ อ้ะ ไม่นะ” อติกานต์อุทาน เมื่อปลายนิ้วเยียบเย็นของเหนือณรงค์สอดผ่านเข้ามาเตรียมพร้อมให้กับร่างกายของเขาลึกขึ้นกว่าเดิม
อติกานต์ขบกรามแน่นจนเครียดเกร็ง เมื่อเรียวนิ้วทั้งสามของคนตัวสูงคืบคลานเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างช้าและเหมือนอีกฝ่ายจะค้นพบส่วนที่ไว้ต่อสัมผัสมากที่สุดของเขาซึ่งกำลังถูกเจ้าของดวงตาคมกล้าแตะต้อง
ในเวลานี้อติกานต์รู้สึกคับแน่นไปหมดจนเขาเองไม่กล้าที่จะขยับกายเคลื่อนไหว
 



ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #6 เมื่อ18-03-2018 14:59:27 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 4

กลิ่นหอมที่อวลอยู่ภายในโพรงจมูกเวลานี้ปลุกอติกานต์ให้ตื่นขึ้น ก่อนที่ร่างเพรียวจะขยับลุกขึ้น ซึ่งการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยได้สร้างความร้าวระบบไปทั่วเรือนกายของเขา 
เพราะบทรักรุนแรงและยาวนานของคนช่างเอาแต่ใจ ที่เรียกร้องอย่างไม่เห็นใจเขาแม้แต่น้อยเมื่อคืนนี้ ทำให้อติกานต์ตัดสินใจที่จะทอดกายทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
“ตื่นได้แล้วเลิฟ” เสียงห้าวของเจ้าของห้องดังขึ้น ก่อนเตียงจะยวบลงไปตามน้ำหนักตัวที่คนตัวโตทิ้งลงมา 
“อื้อ” อติกานต์รู้ว่าผ้านวมผืนหนาบนตัวถูกตวัดออกไป แต่เขาก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้น
“สายแล้วนะ ตื่นได้แล้ว”
อติกานต์ลืมตาขึ้นเมื่อถูกรบกวนจากปลายนิ้วที่กำลัง ‘เขี่ย’ บนยอดอกของตนในเวลานี้ “อย่า”
“เบรคฟรัสอินเบรดครับเลิฟ”
โดยทันทีที่อติกานต์เปิดตาขึ้นมา ถาดอาหารก็ถูกวางลงบนตัก ก่อนที่ตัวเขาจะถูกคนเผด็จการจับให้ลุกขึ้น
“คุณทำเหรอ” แขกที่มาค้างแรมชั่วคราวอดถามด้วยความแปลกใจไม่ได้ ขณะมองสำรวจอาหารเช้าทั้งไข่ดาวสุดกำลังดี เบคอนทอดสีสวย และไส้กรอก รวมทั้งขนมปังปิ้งสีเหลืองทองบนจากทำให้เขาอดถามไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าคนท่าทางอย่างเหนือณรงค์ที่ดูเหมือนคนไม่น่าจะทอดไข่เป็นจะเป็นคนทำมันแบบนี้
“เหนือทำเอง ทานสิ” เขาจัดแจงใช้มีดหัดไส้กรอก แล้วใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกให้ถึงปากอติกานต์ “ไม่ใส่ยาพิษหรอก สำหรับเลิฟถ้าเหนือจะใส่เหนือจะใส่ยาเสน่ห์”
อติกานต์เบี่ยงใบหน้าหนี “จะอาบน้ำ”
เหนือณรงค์หน้ามุ่ยทันทีที่ถูกปฏิเสธแบบนี้ แต่ก็ยอมตามใจอีกฝ่าย
“ตามใจ”
“แล้วเสื้อผ้าผม” อติกานต์เอ่ยถามเมื่อไม่เห็นเสื้อผ้าของตนที่ควรจะอยู่ตามพื้นข้างเตียง เพราะจำได้ว่าถูกถอดออกแล้วโยนไปส่งๆ 
“ซักอยู่”
“คุณซักเสื้อผ้าของผม”
“อือ”
“แล้วซักทำไม”
“อ้าว” คนถูกถามทำหน้าเหลอหลาใส่อติกานต์ “เสื้อผ้าใส่แล้วก็ต้องซักสิ”
“คุณเอาเสื้อผ้าผมไปซักแล้วผมจะใส่อะไร”
“แก้ผ้าก็ได้ เหนือชอบมองเลิฟเวลาแก้ผ้าอยู่แล้ว”
“คุณเหนือ!”
“ล้อเล่นครับ ใส่ชุดเหนือสิ เหนือเตรียมไว้ให้แล้วในห้องน้ำ ของใช้ส่วนตัวก็เตรียมให้หมดแล้วอยู่ในนั้นแหละ”
อติกานต์ขยับจะลุก แต่ก็ต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บที่แล่นขึ้นมา “เป็นอะไรเลิฟ เจ็บเหรอ”
เหนือณรงค์ถามด้วยความร้อนใจ
“อือ”
“เหนือขอโทษ”
“ช่างเถอะ” คนถูกกวนจนเจ็บเนื้อเจ็บตัวบอกปัด “แล้วหันไปทางอื่น ห้ามมองผมเด็ดขาด!” อติกานต์พูดเมื่อนึกได้ว่าตอนนี้ร่างตัวเองเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ชิ้นใดๆ ปกปิดเอาไว้เลย
“มาอายอะไรตอนนี้” เหนือณรงค์ผิวปากเบาๆ และมองคนของเขาไม่วางตา “เลิฟของเหนือนี่ดูดีแม้แต่ตอนเพิ่งตื่น”
“หลับตาเดียวนี้คุณเหนือ!” อติกานต์ตวาดเสียงใส่คนที่เอาแต่จ้องมองเขา
“หลับก็ได้ครับ” เหนือณรงค์ยอมทำตาม ในขณะที่ใบหน้าของเขาประดับไปด้วยรอยยิ้ม... “อยากให้เหนือไปอาบน้ำให้ไหม”
“ไม่ต้องมายุ่งกับผม” น้ำเสียงของอติกานต์ไม่ดังกระโชกโฮกฮากแม้แต่น้อย แต่สีกลับมีความเย็นชาในเนื้อเสียงของคนพูดที่ทำให้เหนือณรงค์ต้องเสียวสันหลังวาบ
“ดุชะมัด สงสัยต่อไปต้องงดน้ำตาล” เหนือณรงค์บ่นอุบอิบเบาๆ กับตัวเอง
“ผมได้ยินนะ” อติกานต์เอ่ยโดยไม่หันมามอง

อติกานต์มองสำรวจห้องน้ำของนายแบบหนุ่ม ซึ่งของใช้ส่วนใหญ่มีแต่ของจำเป็นของบุรุษเพศทั่วไป เครื่องประทินผิวตรงอ้างล่างหน้ามีอยู่เพียงไม่กี่ชิ้น แต่สายตาที่กำลังกวาดไปทั่วของเขาก็ต้องหยุดเมื่อเห็นแปรงสีฟันที่มียาสีฟันถูกป้ายเอาไว้ด้านบนเรียบร้อยแล้ว พร้อมกระดาษโน้ตที่เจ้าตัวคงกลัวว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำเอาไว้ให้
อติกานต์หยิบกระดาษโน้ตที่มีลายมือหวัดๆ ถูกเขียนเอาไว้
“เหนือเตรียมยาสีฟันไว้ให้แล้ว” ชายหนุ่มอ่านเนื้อความ.. โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าของตนเองในเวลานี้ และเมื่อละสายตาไปยังผ้าขนหนูและเสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราวแขวนก็มีโพสอิสสีสดแปะติดเอาไว้เช่นกัน
‘เสื้อของเลิฟ กางเกงของเลิฟ ผ้าขนหนูของเลิฟ เตรียมไว้ให้หมดแล้วนะครับ’
อติกานต์ยิ้ม... ค้าง เมื่อเห็นผิวเนื้อตนเองในเงาสะท้อนของกระจก!
รอยฟัน! รอยจูบ! ที่เหนืองณรงค์ฝากเอาไว้บนตัวของเขา มันมากมายอย่างที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ไม่ว่าจะจากคู่นอนคนไหนก็ตาม!

อติกานต์จัดการเอาไส้กรอกที่ถูกทอดจนส่วนนอกตึงกำลังดีพอกัดทำให้รสสัมผัสถูกใจอคนทานอย่างที่สุด ทั้งรสชาติยังดีจนอยากเอ่ยปากชม ถ้าคนทำไม่สร้างความขุ่นเคืองให้เขาคงได้รับคำชมไปเป็นรางวัลแล้ว
“เลิฟ” เจ้าของห้องเอ่ยเรียก พร้อมทำตาปรอยๆ ออดอ้อนใส่
...เงียบ...
อติกานต์ใช้สิ่งนี้ในการ ‘ลงโทษ’ คนเอาแต่ใจที่ทำอะไรไม่คิดถึงเขาเลยว่าเขาจะมีการรับงานอะไรเอาไว้หรือไม่ ถ้าเขามีการรับงานถ่ายแบบหรืองานที่ต้องเปิดเนื้อเปิดตัว ถ้ารอยพวกนี้ปรากฏให้ชาวบ้านชาช่องได้เห็น เขาจะเอาหน้าไปไว้ไหน!
และเขาจำได้แม่นว่าตอนที่ยังมีสติเหนือณรงค์ไม่ได้ฝากรอยพวกนี้ไว้มากมายขนาดนี้!
“เลิฟครับ เป็นอะไร”
อติกานต์กระแทกมีดและส้อมลงบนจานกระเบื้องจนเกิดเสียงดัง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“จะไปไหนเลิฟ”
“เสื้อผ้าผมอยู่ไหน”
“คุณจะไปไหน” เหนือณรงค์ไม่ยอมตอบคำถามของเขา ทั้งอุ้งมือที่กำข้อมือของเขาอยู่ก็ดูเหมือนจะออกแรงแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมตอบคำถาม
“ผมต้องการเสื้อผ้าของผม”
“คุณโกรธอะไร”
“คุณยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ!”
“โกรธอะไรผม” คนถูกโกรธสีหน้าเหลอหลาอย่างคนไม่รู้เรื่องจริงๆ
“ผมอยากจะฆ่าคุณจริงๆ” อติกานต์เสียงดัง ก่อนจะจัดการถลกชายเสื้อขึ้นเพื่อดึงเสื้อยืดเนื้อบางบนตัวออก “รอยบ้าๆ พวกนี้คุณทำมันตอนไหน!”
อติกานต์โยนเสื้อใส่ในมือใส่หน้าเยหนือณรงค์ด้วยความโมโห!
“อ้อ” เหนือณรงค์ลากเสียงยาวขณะมองสำรวจฝีมือของตนด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะใช้ปลายเท้าเขี่ยเสื้อที่เลื่อนลงจากหน้าตกสู่พื้น แล้วถึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ทำตอนเลิฟหมดแรงหลับไป”
“แล้วคิดบ้าอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ทำมันเยอะขนาดนี้”
“ทีตอนนั้นคนอื่นยังทำมันบนตัวเลิฟได้”
“ผมไม่ได้ว่าถ้าคู่นอนจะฝากรอยเอาไว้ แต่ผมไม่เข้าใจว่ามันต้องเยอะอะไรขนาดนี่!”
“ก็เหนือไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มีตรงไหนถูกใครฝากรอยไว้บาง เหนือเลยตัดสินใจทำมันลงไปในทุกส่วน เพื่อทับรอยเก่า ที่เคยมีให้หมดไง” เหนือณรงค์วางฝ่ามือลูบไล้แผงอกของอติกานต์ ก่อนจะยิ้ม... ร้ายออกมา
รอยยิ้มของนายแบหนุ่มทำให้อติกานต์รู้สึกไม่ปลอดภัย
“อย่าคิดอะไรแผลงๆ เด็ดขาดนะคุณเหนือ” อติกานต์เสียงเข้มแต่ใบหน้าที่ขาวจัดกับซีดลงกว่าเดิม
“หึ!” เหนือณรงค์หัวเราะในลำคอ และเพียงพริบตาเดียวเขาก็สามารถกดตัวอติกานต์ลงไปบนโต๊ะทานข้าว
“คุณจะทำอะไร!” อติกานต์มองหน้าคนที่ยืนเด่นอยู่เหนือร่างของตน
“เลิฟกินน้ำส้มไม่หมด” เหนือณรงค์ไม่เพียงแค่พูดเปล่า แต่ชายหนุ่มยังเดินเข้าไปประชิดตัวอติกานต์ แต่ยังฉวยคว้าแก้วน้ำส้มขึ้นมาแล้วเทมันลงบนแผงอกเปลือยเปล่าของอติกานต์
“คุณเล่นบ้าอะไร!” ชายหนุ่มพยายามจะเขยิบหนีจากพันธนาการของคนตัวโต
“กินน้ำพวกนี้ไง เหนือเสียดาย” พูดจบก็โน้มตัวลงมากวาดเลียน้ำส้มรสกลมกล่อมบนเนื้อตัวของหนุ่มร่างบาง ปลายลิ้นร้อนๆ ไล้วนบนยอดอกสีชมพูของอีกฝ่าย จนคนกำลังขัดขืนอ่อนระทวยเมื่อถูกเล่นงานจุดอ่อน
“เหนือ”
“หื้ม” เขาใช้คมเขี้ยวกัดยอดอกอีกฝ่ายเบาๆ
“พอก่อน”
“ไม่ชอบเหรอ”
“เลิฟเจ็บอยู่”
เหนือณรงค์เงยหน้าขึ้นมองคนบนโต๊ะ ทำใหเขาได้เห็นดวงตาสีน้ำตาลของอีกฝ่ายซึ่งมันกำลังปรากฏความหวาดหวั่น จนเขาต้องยอมเอ่ยปากให้คำมั่นกับอติกานต์
“เหนือจะไม่เอาแต่ใจ”
“แต่ว่า”
“เหนือจะไม่เข้าไปในตัวเลิฟ”
“แล้วคุณจะ... เอ่อ... ถ้าไม่เข้าไปแล้วคุณจะมีความสุขได้เหรอ”
ท่าทางไร้เดียงสาของคนที่ประกาศว่าชอบมีความสัมพันธ์แบบข้ามคืนทำให้เหนือณรงค์อดยิ้มไม่ได้
“ได้สิ เหนือจะทำให้ทั้งตัวเหนือเองและตัวเลิฟมีความสุข โดยที่ไม่ต้องเข้าไปในนั้นให้เลิฟต้องเจ็บ ไว้ใจเหรือนะครับคนดี” เขาขยับตัวเลื่อนขึ้นไป เพื่อให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับกับอติกานต์
“เหนือขอโทษนะที่รุนแรงเมื่อคืน อดอยากมานานเลยเผลอไปหน่อย แล้วเลิฟของเหนือก็เซ็กซี่สุดๆ เหนือเลยอดใจไว้ไม่ไหวจริงๆ”
อติกานต์หน้าแดงเมื่อได้ยิน “คุณจะทำอะไรก็รีบๆ ทำเถอะ”
“รีบทำไม่ได้หรอกครับถ้าทำกับเลิฟน่ะ เพราะเหนือไม่อยากให้มันเสร็จเร็วเกินไป” พูดจบก็ประกบเรียวปากลงไปบนเรียวปากของอติกานต์ แล้วสอดเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากของ ‘คู่จิ้น’ ตนเอง เพื่อไล่ต้อนเรียวลิ้นของอีกคน อย่างต้องการประกาศว่าความสัมผัสในครั้งนี้เขาจะเป็นฝ่ายไล่ล่าเอง!

อติกานต์หันไปมองตามสายตาของทีมงาน เมื่อมีคนพูดว่าพระเอกของเรื่องอย่างเหนือณรงค์มาถึงสถานที่ถ่ายทำแล้ว
“น้องเหนือมาแต่งหน้าเลยคะ”
“ขอบคุณครับพี่แมว”
อติกานต์ทำทีเป็นไม่ใส่ใจคนมาใหม่
“เลิฟ”
“อือ” เจ้าของชื่อเอ่ยรับในลำคอ
“เมื่อวานเป็นยังไงบ้าง” เหนือณรงค์ถามขณะเดียวกันกับที่ทิ้งร่างสูงโปร่งของตนลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ กันกับอติกานต์
คนถูกถามเผลอหวนคิดถึงความเร่าร้อนที่ถูกปลนเปลอให้อย่างลืมตัว จนทั้งใบหน้าและใบหูกลายเป็นสีแดง
“ไม่เป็นไร”
“หายเจ็บหรือยัง”
“ดีขึ้นแล้ว”
“แสดงว่ายังไม่หายดีเท่าไหร่ งั้นวันนี้ให้เหนือไปหาที่ห้องนะ”
วันนี้พวกเขามาถ่ายทำบางส่วนของซีรี่ย์นอกสถานที่ ซึ่งอยู่ต่างจังหวะ ทำให้นักแสดงและทีมงานต้องมาพักค้างคืนที่รีสอร์ตติดทะเล.. สถานที่ถ่ายทำแบบนี้
“ไปทำไม”
“ก็จะไปตรวจดูว่าที่เลิฟอาการป็นยังไงบ้างไง”
“ไม่ต้อง”
“แต่เหนือเป็นห่วง” เหนือณรงค์ถอดแว่นกันแดดที่สวมอยู่อก เพื่อจะหันไปจ้องซีกหน้าคนข้างๆ ซึ่งเอาแต่ทิ้งความสนใจทุกอย่างทุ่มให้กับมือถือราคาแพงในมือ  “ให้เหนือไปตรวจดูเถอะนะ”
“ไม่ต้อง”
“แต่ว่าเหนืออยากดูให้เห็นว่าตอนนี้ก้นเลิฟไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้วจริงๆ”
“คุณมันโรคจิต” ได้ผล เมื่ออติกานต์หันมาสาดสายตาดุๆ ใส่ “หยุดพูด”
“ก็เหนือห่วงเลิฟนี่น่า” อติกานต์มองจ้องตาหนุ่มหน้าดุที่ทั้งใบหูมีต่างหูสุดเท่ห์แบรด์ดังประดับเรียงกันไว้อย่างสวยงามและมีรสนิยม  แล้วไหนจะห่วงสีดำที่เรียวปากและคิ้วขับให้เจ้าตัวดุดันกว่าเดิม แต่กลับกำลังทำท่าทีออดอ้อนทำตาปรอยจะขอไป ‘สำรวจ’ ความเสียหายที่ตนทำไว้กับเขา “เหนือขอโทษที่บอกว่าจะไม่ใส่สุดท้ายก็เผลอ”
“พอเลย!” อติกานต์รียยกมือปิดปากคนกำลังจะพูดจาห่ามๆ ออกมาอย่างรู้ทัน “หยุดพูด!”
ดวงตาคมกล้าของเหนือณรงค์หรี่ลง... ซ้อนความวาววับเอาไว้ เมือรู้ตัวว่าต้อนอติกานต์จนจมมุมแล้วในตอนนี้
“อยากไปก็ไป” อติกานต์เสียงเย็น “แต่เราจะไม่มีอะไรกันเด็ดขาด”
‘เหยื่อติดกับ!’ เหนือณรงค์ยิ้ม ก่อนจะรีบหุบยิ้มเมื่อมือของอติกานต์เคลื่อนออกไป
“ผมไม่อยากผิดกฎตัวเอง”
“แต่เหนือแหกเลิฟไปแล้วนะ”
“พูดอะไรของคุณ!” อติกานต์เต้นเสียงรอดไรฟันออกมา เมื่อได้ยินคำพูดชวนให้คิดไปไกลของคนหน้าไม่อาย
“โทษที โทษที เหนือหมายถึงเหนือแหกกฎคู่นอนคืนเดียวของเลิฟไปแล้ว ขอโทษนะครับที่เหนือพูดสั้นไปหน่อย” ทันทีที่คำของโทษหลุดออกมาจากปากของเขา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุกขึ้นบนใบหน้าและแววตาของเหนือณรงค์
“ผมจะไม่ยอมให้เรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นต่อไปอีกแล้ว” อติกานต์ประกาศเสียงกร้าว
สีหน้าของเหนือณรงค์ในเวลานี้แปรเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง... เวลานี้สีหน้าขี้เล่นแพรวพราวของคนที่เคยเอาแต่พูดหยอกเย้าให้เขาต้องโมโหเพราะคำพูดของแง่สองง่ามชวนให้คิดลึกไม่มีอีกแล้ว เหลือไว้เพียงความเย็นชาและเหินห่าง
“คุณพูดเมื่อกี้หมายความว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นเรื่องผิดพลาดสำหรับคุณงั้นสิ”
อติกานต์เชิดหน้าขึ้น กลบความหวั่นเกรงที่มีด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง แล้วพูดในสิ่งที่สมองคิดออกมา
“ถ้าย้อนเวลาไปได้ ผมจะไม่มีวันเคสนักแสดงเรื่องนี้ เรื่องของเราที่มันเกิดเลยแบบนี้เป็นเรื่องผิดพราดเรื่องหนึ่งในชีวิตของผม ผมถือว่าเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตของผมเลยคุณรู้ไว้ซะด้วย!” เสียงของอติกานต์เมื่อครู่ไม่ได้ดังอะไรมากมายเลย แต่มันกลับก้องอยู่ภายในหูของคนฟัง
เหนือณรงค์ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่สายตาไม่ได้ละไปจากดวงตาของคู่สนทนาตนเองเลย
“งั้นผมขอโทษด้วยแล้วกันที่เข้ามาเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตของคุณแบบนี้”
สรรพนามและสีหน้าของเหนือณรงค์เมื่อครู่บอกให้อติกานต์รู้ว่านายแบบหนุ่มกำลังโกรธ... แล้วไหนจะไฟโทสะที่ลุกท่วมดวงตาคมกล้าคู่นั้นอีก

การถ่ายทำผ่านไปด้วยดี เพราะฉากที่ทั้งสองคนต้องแสดงเป็นฉากอารมณ์ ซึ่งพระเอกของเรื่องอย่างเหนือณรงค์ต้องเข้าใจผิดและโกรธตัวแสดงที่อติกานต์เล่น.. ซึ่งบรรยากาศมาคุที่นักแสดงทั้งคู่สร้างขึ้นมาช่างเข้ากันดีกับบทบาทของทั้งคู่ในเวลานี้พอดี
“พี่เหนือ”
เสียงที่นั้นเรียกความสนใจจากอติกานต์ที่กำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นที่ทางกองถ่ายเตรียมเอาไว้ให้ แต่ชายหนุ่มเลือกจะนั่งฟังอย่างเงียบเชียบแทนการหันไปดูให้กระโตกกระตาก
“ว่าไงครับริว ไหนว่าวันนี้ไม่มีคิวไง” เสียงของเหนือณรงค์ดังขึ้นในทันที
“ก็ริวอยากเจอพี่เหนือนี่ครับ หรือพี่เหนือไม่อยากเจอริว”
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ” เจ้าของเสียงห้าวเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ทำไมพี่จะไม่อยากเจอริว แต่วันนี้คิวถ่ายของพี่มีถึงสามทุ่มเลยนะ”
“ริวจะนั่งรอ”
“เบื่อแย่เลยนะถ้าต้องมานั่งรอพี่เฉยๆ”
“ ริวเอาบทมาอ่านด้วย เตรียมมาแล้ว”
“แต่ตอนดึกแถวนี้ยุงน่าจะเยอะ” อติกานต์เผลอเหลียวไปมองโต๊ะทางด้านหลัง... เพื่อมองคนที่ตยเองฟังบทสนทนาของทั้งสองอยู่
ซึ่งเมื่อเขาหันไปก็สบตาคมของคนที่เหลือบตามองมาทาเขาเข้าพอดีเช่นกัน ก่อนจะเห็นดวงตาคู่คมที่มองมายังตนในเวลานี้วาววับขึ้น
“ริวไปรอพี่ที่ห้องก็ได้ นี่คีย์การ์ดห้องพี่”
สิ่งที่อติกานต์เห็นคือนักแสดงรุ่นน้องหัวเราะเบาๆ ขณะที่เหนือณรงค์พาดเรียวแขนยาวๆ เพื่อกอดคออีกฝ่าย ถ้าคนอื่นมองคงนึกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องหยอกกัน แต่สำหรับอติกานต์ที่รู้ที่มาที่ไปความสัมพันธ์ของทั้งคู่อย่างดีตามคำบอกเล่าของเหนือณรงค์เมื่อคืนนี้ แล้วไหนจะคำพูดจากปากพระเอกของเขาเมื่อครู่ มันทำให้รู้ว่าพวกเขาสองคนไม่ได้หยอกกันธรรมดา แต่กำลังชวนกันไปหยอกเอินต่อบนเตียง!

อติกานต์เดินไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอน ก่อนจะคว้านมือขึ้นไปบนโต๊ะข้างหัวเตียงเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือที่จำได้ว่าวางเอาไว้ขึ้นมาดูว่ามีใครโทรเข้ามาหรือไม่
“พอเด็กมาหาก็หายหัวไปเลยนะ!” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างหัวเสียง เมื่อการติดต่อเขาในทุกทางไร้การสื่อสารจากคนบางคนที่ก่อนหน้านี้มักจะส่งข้อความหรือสติ๊กเกอร์น่ารัก.. ที่ขัดกับภาพลักษณ์ของเจ้าตัวมาหาเขาเสมอทั้งเพื่อชวนคุยหรือบางครังก็เพียงแค่เพื่อจะบอกฝันดีเขาเฉยๆ
“คุณก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นเลยจริงๆ”
“ผมว่าผมต่างนะ”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้อติกานต์ลุกพรวดพราดขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะคลาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงของเหนือณรงค์แบบนี้
“คุณเหนือ มาได้ยังไง”
“ผมไปขอคีย์การ์ดห้องคุณจากโรงแรมา”
“แล้วทำไมเขายอมให้คุณ!” เขาไม่ยอากจะเชื่อว่าโรงแรมที่พักอยู่จะละหลวมในเรื่องความปลอดภัยของลูกค้าได้ขนาดนี้
“ผมบอกว่าคุณวานให้ผมมาเอาเพราะเผลอลืมคีย์การ์ดไว้ในห้อง” เหนือณรงค์โยนคีย์การ์ดลงบนเตียง แล้วเดินมาใช้ขาข้างหนึ่งเขี่ยให้เรียวขาของอติกานต์แยกออก
“จะทำอะไร” อติกานต์มองคนตัวสูงอย่างไม่วางใจ แต่เรียวขาของเขาก็ยอมอ้าออกตามที่คู่จิ้นของตนอยากให้เป็น “มีนัดแล้วไม่ใช่หรือไง”
“หึงเหรอ”
“เปล่า!”
“หึ” เหนือณรงค์มองอติกานต์นิ่ง “ผมควรทำยังไงกับคุณดี”
“ทำไมต้องทำอะไร”
“แน่ใจหรือเลิฟว่าอยากให้ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นแบบนี้”
“ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงมาตลอดอย่างคุณคิดจะมาจริงจังกับเกย์อย่างผมหรือยังไ งถึงได้พูดเหมือนอยากจะสานต่อกับผมแบบนี้” เขาเหยียดยิ้มเยาะหยันออมาเมื่อกล่าวจบ “คุณก็แค่ติดใจเซ็กส์แบบใหม่เท่านั้น สุดท้ายคุณก็ไม่มีวันจริงจังกับผม”
เหนือณรงค์เอื้อมมือออกมาประครองใบหน้าของอติกานต์เอาไว้ “ขอโทษที่เคยพูดจบแบบนั้นออกไป”
“ไม่ใช่แค่คุณหรอก สุดท้ายผู้ชายก็ต้องเลือกผู้หญิงมากกว่า ยิ่งผู้ชายที่มีสิทธิ์เลือกอยากคุณ”
“งั้นเรามาคุยกันทีละประเด็น” เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ อติกานต์ แล้วจัดการจับอีกฝ่ายให้หันมาเผชิญหน้า “เหนืออาจจะเคยชอบผู้หญิงมาตลอด แต่ตอนนี้เหนือกำลังจะเปลี่ยนมาชอบเลิฟดูบ้าง ตอนนี้เหนือไม่สนว่าเลิฟจะเพศอะไร แค่เลิฟเป็นเลิฟของเหนือก็พอแล้ว”
สรรพนามแปลเปลี่ยนเมื่ออารมณ์ของเขาไร้ซึ่งโทสะมาเจือปน
”ทำไมคุณถึงชอบผม”
“เพราะเลิฟทำให้เหนือสนใจ” เหนือณรงค์ไม่ยอมระบุรายละเอียดว่าเหตุใดถึงสนใจคนตรงหน้าแบบนี้
“คุณสนใจผม ทั้งๆ ที่ผมผิดคอนเซ็ปต์คุยไปเยอะเลยนะ”
“ก็เหนือยังอยากได้เลิฟต่อ”
“สุดท้ายจริงๆ แล้วคุณก็ติดใจแค่เซ็กส์กับผม”
“อือ”
คำยอมรับง่ายๆ ของเหนือณรงค์กับทำให้อติกานต์อารมณ์เสียขึ้นมา!
“เซ็กส์ก็ส่วนหนึ่ง แต่มีอย่างอื่นด้วย”
“เรื่องอื่นที่ว่ามันเรื่องอะไร”
“ไม่บอก” เขายิ้ม... รอยยิ้มที่สร้างความสงสัยให้คนเห็นเป็นอย่างมาก
“ผมก็ไม่อยากรู้หรอก” อติกานต์สะบัดหน้าหนี้ และทำท่าจะลุกขึ้น แต่ร่างกายของเขาถูกตะครุบเอาไว้ซะก่อน
“แน่ใจหรือครับว่าเลิฟไม่อยากรู้”
“ก็คุณไม่อยากบอก”
“เหนือจะบอก... เมื่อถึงเวลา”
“เมื่อไหร่”
“เมื่อเหนือพร้อม”
อติกานต์ส่งเสียง ‘เหอะ’ ในลำคอเมื่อได้ยินการบ่ายเบี่ยงของเหนือณรงค์ “แต่ผมไม่อยากผิดกฑที่เคยตั้งเองไว้”
“ทำไมต้องจริงจังกับกฎบ้าๆ ของตัวเองขนาดนั้น”
“เพราะผมไม่อยากเจ็บ!”
“สัญญาว่าต่อไปจะทำค่อยๆ”
“ปัดโธ่เว้ย! ผมไม่ได้หมายถึงเจ็บตัว!” คนพูดพูดไปก็หน้าแดงไป “ผมหมายถึงการอกหัก!”
“จะมากลัวอะไรขนาดนั้นเลิฟ”
“เพราะผมไม่อยากต้องมาทรมานเพราะความรักไงล่ะ”
“แล้วเลิฟเคยต้องทรมานเพราะความรักหรือยังไง ถึงได้กลัวหนักหนาแบบนี้”
“ยังไม่เคย”
“งั้นเคยเห็นใครที่เขาต้องมาทรมานเพราะความรักหรือการต้องอกหักหรือยังไงถึงได้กลับเหลือเกิน”
“เยอะเยอะ โดยเฉพาะคนอย่างพวกผม”
เหนือณรงค์สบตาเจ้าของชื่อ “แล้วเหนือควรทำยังไง”
“อยากนอนกับผมมากใช่ไหม”
“อือ” เขายอมรับหน้าตาเฉย... เพราะไม่รู้จะปฏิเสธไปทำไมในเมื่อทั้งสีหน้า และการกระทำ รวมทั้งร่างกายของเขามันก็แสดงออกมาชัดเจนว่ากระสันอยากร่วมหลับนอนกับคนตรงหน้าอยู่ตลอดเวลาที่มีโอกาส
“ผมรู้ว่าคุณแค่ติดใจลีลาและประสบการณ์แปลกใหม่ที่ได้จากผม”
เหนือณรงค์คิ้วกระตุกเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดจากปากเจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์ แต่คนตัวสูงไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาปล่อยให้อติกานต์พูดต่อ
“เราจะมีเซ็กส์กันไปจนกว่าจะถ่ายทำซีรี่ย์เรื่องนี้จบ แต่นอกเหนือจากเซ็กส์และเพื่อนร่วมงานแล้วเราทั้งสองคนจะไม่มีความสัมพันธ์ด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกัน”
“คุณหมายถึงระหว่างเรานอกจากงานแล้วเราจะเป็นแค่เพื่อนนอนใช่ไหม”
“ใช่” อติกานต์ตอยเสียงเรียบ “และแค่ชั่วคราวด้วย ทันทีที่ซีรี่ย์เรื่องนี้จบความสัมพันธ์ของเราก็จบด้วย”
“งั้นเหนือขอเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปอีกว่าตลอดเวลาของสัญญานี้เราทั้งสองคนจะไม่มีใครอื่น”
อติกานต์จ้องสบตาของคนที่ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้ ก่อนจะยอมรับข้อเสนอ “งั้นก็ได้”
“งั้นเหนือตกลง”  อีกตั้งสองเดือน เขาคงอิ่มในตัวอีกฝ่ายแล้ว... ชายหนุ่มลอบคิด
“ตามนั้น” อติกานต์พยักหน้าเบาๆ แต่ทันทีที่พูดจบร่างของเขาก็ถูกจับกดลงบนเตียงทันที  “คุณเหนือ!”
“งั้นมาเริ่มเลย เหนือไม่ไหวแล้ว  ยิ่งชุดคลุมเลิฟเปิดวับๆ แวมๆ แบบนี้ อารมณ์เหนือกระเจิดกระเจิงหมดแล้ว” เขาโน้มใบหน้าลงไปฝั่งเรียวปากบนต้นคออีกฝ่ายเพื่อสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวอีกฝ่าย
“เดี๋ยวก่อน”
“อะไรอีกเลิฟ”
“แล้วน้องริว”
“ก็อยู่ที่ห้องสิ”
“ห้องใคร”
“ห้องน้องเขาไง” ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ ชิดลำคอของคนใต้ร่าง
“แล้วน้องเขายอมหรือไง”
“ที่เหนือพาน้องเขาไปที่ห้องก็เพื่อที่จะเคลียร์ให้เรียบร้อยเนี่ยแหละ”
“เคลียร์ว่ายังไง”
“ก็บอกเขาไปว่าจากนี้คงไปต่อไม่ได้แล้ว สำหรับเหนือน้องเขาคงเป็นได้แค่เพื่อนร่วมงาน”
“ใจร้ายจังนะ”
เหนือณรงค์เงยหน้าขึ้นมองคนที่ต่อว่าตัวเอง “ก็กลัวถ้ายังไม่รีบจัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ใครบางคนจะเตลิดไปไกลจนเหนือคว้ากลับมาแนบอกไม่ทันน่ะสิ ถึงได้ต้องรับจัดการให้เรื่องมันจบๆ ไป”
“แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่าผมจะยอมนอนกับคุณอีก ถึงได้กล้าตัดน้องเขาแบบนั้น ถ้าเกิดผมไม่ยอมรับเงื่อนไขเซ็กส์เฟรนกับคุณ นั่นเท่ากับว่าตัวคุณจะไม่เหลือใครให้เก็บเอาไว้ใช้เป็นตัวสำรองเลยนะ”
“ก็เพราะเหนือเป็นคนดีไงครับ ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นตัวสำรองของใคร” เขายิ้ม... ร้าย ขัดกับคำพูดแบบสุดๆ “ถึงไม่อยากให้ความหวังน้องเขาแบบนั้น”
“คนดีที่ไหนยิ้มชั่วร้ายแบบนี้”
“ด่าแบบนี้นี่ตกลงว่าคืนนี้ไม่อยากนอนใช่ไหม”
“ผมต้องตื่นเช้านะพรุ่งนี้ คุณเองก็ด้วย” อติกานต์รีบปรามคนที่กำลังทำหน้างอเมื่อเห็นท่าทีบ่ายเบี่ยงของเขาเมื่อครู่
“งั้นเที่ยงคืนค่อยนอน”
“จะบ้าหรือไง ใครจะมีเซ็กส์กับคุณสองสามชั่วโมงแบบนั้น” อติกานต์แหวใส่เสียงดังขณะใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์แดงเรื่อขึ้นด้วยความเขิน เมื่ออีกฝ่ายตั้งใจจะใช้เวลาบนเตียงร่วมกันกับเขาเพื่อปฏิบัติภารกิจเนินนานหลายชั่วโมงแบบนั้น
“ก็เราสองคน เลิฟกับเหนือไงครับ” พูดจบก็ก้มลงไปประทับจุมพิตบนแก้มนุ่มของอติกานต์ “แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง เหนือสบายมาก”
“แต่ผมไม่สบายด้วย ไม่เอานะคุณเหนือ วันนี้ผมเหนื่อย”
“ถึงห้าทุ่มก็ได้”
“มากไป”
“งั้นสี่ทุ่ม”
“แค่สีทุ่มนะ”
“ครับ”
“งั้นก็มารีบๆ เลย!”
“ครับ” เหนือณรงค์หัวเราะแล้วกระซิบเบาๆ ชิดใบหูของอติกานต์ “สี่ทุ่มห้าสิบเก้านะครับเลิฟวันนี้”
“คุณเหนือ!” พอรู้ว่าตกหลุดพรางคนเจ้าเล่ห์ สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงการใช้เสียงดังข่มเท่านั้น
“ตอนครางขอเสียงดังแบบนี้นะ เหนือชอบเสียงครางของเลิฟ” ทันทีที่พูดจบเหนือณรงค์ก็นำพาฝ่ามือของตนเองลวงเข้าไปในเสื้อคลุมอาบน้ำที่อีกฝ่ายสวมใส่เอาไว้อยู่ เพื่อกอบกุมในอวัยวะส่วนที่กำลังร้อนระอุของอติกานต์ไว้ในอุ้งมือของตนเอง




ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #7 เมื่อ18-03-2018 15:02:03 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 5

ร่างสูงของชายหนุ่มสองคนเดินเคียงกันมา เรียกสายตาจากทีมงานทุกคนและเหล่าแขกเหรื่อของโรงแรมได้เป็นอย่างดี เพราะความโดดเด่นในรูปร่างและใบหน้าของทั้งคู่
“กินอะไรดีเลิฟ เดี๋ยวเหนือไปเอามาให้”
“อะไรก็ได้ คุณกินอะไรผมกินอันนั้นแหละ” คนขี้เกียจคิดเมนูเอ่ยตอบออกไป
“ไข่ลวกไหม” เหนือณรงค์ยิ้มเจ้าเล่ห์ “เมื่อคืนเหนือกวนเลิฟหนักไปหน่อย ท่าทางถึงได้สะโหลสะเหลแบบนี้เลย เหนือขอโทษนะ”
เหนือณรงค์พาดเรียวแขนแข็งแรงลงบนไหล่ของอีกฝ่าย ขณะกระซิบเบาๆ ให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
“หยุดพูดอะไรแบบนี้ได้แล้ว เดี๋ยวคนก็อื่นก็ได้ยินหรอก”
“ได้ยินแล้วจะทำไม เหนือไม่เห็นจะต้องแคร์เลย”
“แต่ผมแคร์”
“กลัวคนจะรู้เหรอว่าเราสองคนตอนนี้กำลังเป็นอะไรกัน”
“กลัวสิ” อติกานต์เอ่ยเสียงนิ่ง “ถึงผมจะเป็นแบบที่ผมเป็น คนข้างนอกเขาก็รู้รสนิยมของผม แต่คุณมันไม่ใช่ คุณไม่กลัวตกเป็นขี้ปากใครเขาหรือไงที่อยู่ๆ”
“ไม่เห็นต้องสน” สีหน้าของเจ้าตัวเองก็บอกชัดว่าเขาไม่ใส่ใจความคิดของใครก็ตามที่จะมีต่อตนเอง
“คุณเหนือ”
“คนที่เห็นเราสองคนตัวติดกันแบบนี้เขาคงเข้าใจว่าเหนือกับเลิฟเป็นเพื่อนสนิท” เขาบอก ก่อนจะหันไปกระซิบข้างหูคนที่เดินมาด้วย “ถึงแม้ว่าเราจะสนิทเพราะท้องติดกันก็เถอะ”
“เหนือณรงค์!”
“ครับ” เจ้าของชื่อลากเสียงยาว “เหนือขอโทษครับ”
“เอาแขนออกไป แล้วไปหาอะไรมากินเดี๋ยวนี้เลย ผมหิวแล้ว”
“ตกลงไข่ลวกนะ” มีความเย้าแหย่เจือในเนื้อเสียงคนลกล่าว
“จะเอาอะไรก็เอาๆ มาเถอะ” อติกานต์เป็นฝ่ายยกแขนที่พาดไหล่ตนเองออก แล้วเดินไปที่โต๊ะที่ว่างอยู่ ปล่อยให้เหนือณรงค์จัดการเรื่องอาหารของตัวชายหนุ่มเองและของเขา...

ฉากสุดท้ายของการถ่ายนอกสถานที่ในครั้งนี้ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ส่วนในเวลานี้นักแสดงและทีมงานกำลังเตรียมตัวที่จะกลับกรุงเทพฯ
ซึ่งอติกานต์เองกำลังจัดข้าวของของตัวเองใส่กระเป๋า และยังไม่ทันที่จะเสร็จดี เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มต้องวางมือไปเปิดประตูให้
ก่อนเปิกประตูอติกานต์ส่องดูผ่านช่องตาแมวแล้วว่าใครเป้นคนมา ซึ่งร่างสูงที่อยู่อีกฝากของประตูก็เรียกรอยยิ้มบางๆ บนมุมปาก
“มาทำไม” แต่ทันทีที่เปิดประตูใบหน้าของคนพูดกลับเต็มไปด้วยความเรียบเฉย.. ติดจะเย็นชาด้วยซ้ำ
“กลับด้วย” เหนือณรงค์ตอบ ก่อนร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซ็นฯ จะถือวิสาสะเดินเข้ามาภายในห้องโดยคนเป็นเจ้าของไม่ต้องเสียเวลาเอ่ยปากเชื้อเชิญ
“แล้วตอนมาคุณขับรถมาไม่ใช่หรือไง”
“พี่สุดมาขับกลับให้”
“พี่ชายคุณไม่ว่าเอาเหรอ”
“ว่าเพราะไปต้องบอกว่าด่าถึงจะถูก”
“แล้วคุณอ้างว่าอะไร”
“เมื่อย”
“แค่นี้”
“อือ” เหนือณรงค์ปลดสายกระเป๋าใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาเรือนแสนลงบนพื้นช้างเตียง ก่อนจะทุ่มตัวลงนอน “ง่วง”
อติกานต์เดินมาหยุดยืนมองลูกหมาป่าชี้เซ้า ‘ของเขา’ ด้วยแววตาเอ็นดู “ง่วงมาเหรอ”
“อือ” เหนือณรงค์ซบหน้าเข้ากับหมอนและไม่ยอมลืมตา
“เลิฟอุตสาห์มีอารมณ์ อยากทิ้งท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ แต่ถ้าเกิดเหนือง่วงแล้วแบบนี้ก็คงต้องอด”
คำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ทำให้ให้ดวงตาคมกล้าของเหนือณรงค์เปิดลืมขึ้นทันที  ก่อนร่างสูงจะลุกพรวดพราดขึ้น “ไม่ง่วงแล้ว”
อติกานต์เลิกคิ้วขึ้น “ไหวเหรอ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน แถมยังมีฉากต้องลงไปว่ายน้ำในสระด้วย”
อติกานต์เอ่ยถึงฉากที่เหนือณรงค์ต้องลงไปช่วย ‘รวีพัฒน์’ หรือ ‘ริว’ ขึ้นจากสระ เพราะในบทอีกฝ่ายต้องแกล้งทำเป็นจมน้ำ เพื่อหลอกล้อให้พระเอกของเรื่องลงไปช่วยขึ้นมา
“เหนืออึดจะตายเลิฟก็รู้”
“ธรรมดา”
“พูดแบบนี้อยากเดินขาถ่างใช่ไหม”
“น่าเกลียดจริงๆ คุณนี่” อติกานต์โน้มกายลงไปหยิบหมอนมาฟาดใส่คนพูดจาห่ามๆ
เหนือณรงค์จับหมอนเอาไว้ แล้วจ้องมองคนที่ยืนดูด้วยแววตาร้อนแรง “รีบๆ เริ่มเถอะ เดี๋ยวถึงกรุงเทพฯ ดึก”
“ถ้าไม่อยากให้ถึงดึกงั้นเรากลับพรุ่งนี้ไหม”
“นี่ชวนเหนือค้างต่อใช่ไหม”
“แล้วคุณคิดว่ายังไง”
“เป็นความคิดที่ดี” พูดจบก็เอื้อมมือออกไปดึงตัวอติกานต์ให้หล่นลงมาบนเตียง ซึ่งร่างเพรียวของหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไม่ทันตั้งตัวไม่ติดว่าเขาจะถูกกระชากตัวแบบนี้ก็เสียหลักล้มลงมาบนเตียง
“เดี๋ยวเหนือจะพิสูจน์ให้เลิฟเห็นว่าเหนืออึดจะตาย” เขากลิ้งตัวขึ้นมาอยู่บนร่างของอติกานต์เรียบร้อยแล้วก่อนพูด
“บ้าสิ!” อติกานต์ดันอกของอีกฝ่าย “ไม่ต้องมาพิสูจน์อะไรทั้งนั้น ผมแค่ล้อเล่น”
“แต่เหนือไม่เล่นด้วย แล้วเหนือจะพิสูจน์ให้เลิฟเห็นจริงๆ”
“อย่ามาทำอะไรบ้านะ วันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะคุณเหนือ” คำสุดท้ายที่หลุดออกจากปากของอติกานต์ก่อนที่เรียวปากของชายหนุ่มจะถูกครอบครองเอาไว้ด้วยริมฝีปากสุดเซ็กซี่ของเหนือณรงค์

ตลอดเวลากว่าสองชั่วโมง เหนือณรงค์บรรจงพิสูจน์ตัวเองให้อติกานต์เห็นว่าเขา ‘อึด’ มาแค่ไหน จนในที่สุดคนที่ปากกล้าพูดล้อเล่นก็เป็นฝ่ายร้องขอให้เหนือณรงค์หยุดพิสูจน์ได้แล้ว เพราะเขาเชื่อแล้วว่าชายหนุ่มอึดจริงๆ
“เจ็บเหรอ” เหนือณรงค์ถามขณะทิ้งร่างโชกเหงื่อลงบนเตียง แล้วกอดตัวคนที่กำลังนอนหอบหายใจเอาไว้ในอ้อมแขน
“เปล่า”
“งั้นเหนือก็โล่งใจ”
“คุณไม่เหนื่อยบ้างเลยหรือไง” อติกานต์อดทุ้งไม่ได้ เพราคนที่ควรจะเหนื่อยมากกว่าเขาควรเป็นนายแบบหนุ่มแต่เหนือณรงค์แทบไม่มีท่าทีใดๆ แสดงออกมา นอกจากเหงื่อตามร่างกายและอาการหายใจแรงกว่าปกติเล็กน้อย
“นิดหน่อย”
“แต่ผมเหนื่อยมาก”
“ขอโทษที่เอาแต่ใจไปหน่อย” นายแบบหนุ่มจุมพิตแก้มของอีกฝ่าย “เดี๋ยวเหนือขอสั่งอาหารของโรงแรมมากินแล้วกัน”
“จริงๆ เรากลับกรุงเทพฯ กับเลยก็ได้นะ นี่เพิ่งจะหกโมงเย็นเอง” อติกานต์ออกความคิดเห็น
ก่อนที่จะเริ่มภารกิจทดสองความอึดของเหนือณรงค์ใน ‘ยกที่สอง’ เหนือณรงค์ได้โทรบอกทางโรงแรมว่าเขาจะขอพักต่อ... โดยเปิดห้องของอติกานต์ต่ออีกคืน
“เอางั้นเหรอ”
“อือ ผมว่าผมอยากกลับห้องวันนี้ นอนที่ไหนก็ไม่มีความสุขเท่าห้องตัวเอง”
“งั้นก็แล้วแต่เลิฟ เหนือยังไงก็ได้อยู่แล้ว” เขาลุกขึ้นยืนทั้งที่ร่างยังเหลือยเปล่าเพื่อจะเดินไปชำระร่างกายในห้องน้ำ แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ก็หันมาทางเตียงนอน “เลิฟ”
“หื้อ”
“อาบน้ำด้วยกันไหม”
ทันทีที่สิ้นสุดคำชวน เหนือณรงค์สังเกตเห็นว่าใบหน้าของคนถูกถามแดงขึ้นกวาเดิม
“ไม่”
“มาเถอะ อาบพร้อมกันจะได้เสร็จเร็วๆ ไง”
“ผมกลัวว่ามันจะยิ่งช้าน่ะสิ”
“เหนือยังไม่เคยเมคเลิฟกับเลิฟในห้องน้ำเลยนะ จะว่าไปก็น่าลองเหมือนกัน” คนพูดๆ ด้วยสุ่มเสียงแหบพร่า  “เอาไหม”
“ไม่เอา ผมจะรีบกลับกรุงเทพฯ คุณรับไปอาบน้ำเลย”
“ไม่สนแน่หรือเลิฟ”
“ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ ผมให้เวลาคุณสิบนาทีคุณต้องออกมจากห้องน้ำแล้ว”
“โหด”
“เหลือห้านาที”
“เลิฟครับ แค่ห้านาทีใครมันจะไปอาบทัน”
“สามนาที”
“เดี๋ยวนี้เลยครับ” พูดจบก็วิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีว่าอติกานต์ไม่ได้ขู่ เนื่องจากคนเจ้าเสน่ห์ไม่เคยใจดีกับเขาเลยสักครั้ง!

เหนือณรงค์แปลกใจที่อยู่ๆ เจ้าของรถเอสยูวีคันใหญ่ที่เขานั่งมาก็เปลี่ยนเส้นทางจากที่จะตรงไปคอนโดฯ ของเจ้าตัว อติกานต์กลับเลือกที่จะขับรถไปอีกทาง
“เลิฟจะไปไหน”
“บ้าน”
“บ้านใคร”
“บ้านผมไง”
“ไปทำไม”
“หยุดถามได้ไหม” อติกานต์เสียงนิ่งขณะสาวพวกมาลัยรถเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านกลางเมืองที่ขึ้นชื่อว่าบ้านแต่ละหลังราคาเกินยี่สิบล้าน “เดี๋ยวถึงแล้วคุณก็รู้เองแหละ”
“ดุชะมัด” สิ่งเดียวที่เหนือณรงค์ทำได้คือบนอุบอิบกับตัวเอง

รถคันใหญ่ของอติกานต์เลี้ยงเข้ามาภายในบ้านที่อยู่ด้านในสุดและเหมือนจะเป็นโซนที่มีเนื้องที่มากที่สุดในโครงการฯ
เหนือณรงค์หันมามองหน้าอีกฝ่าย “ถึงแล้วเหรอ”
“ยังไม่ถึงมั่ง” สายตาของอติกานต์เหมือนมีคำว่า ‘ถามโง่ๆ’ หลุดลอยออกมาโดยชายหนุ่มไม่ต้องเอ่ยปากบอก
“ขอโทษนะที่ถามอะไรไม่ฉลาดออกมาแบบนั้น”
“คุณห้ามลงจากรถเด็ดขาด!” อติกานต์สั่งเสียงเฉยบ แล้วก็ไม่เสียเวลาพูดอธิบายอะไรอีก เขาเปิดประตูรถออกไป แล้วทันทีที่ชายหนุ่มลงไป เขาก็ถูกจู่โจมด้วยร่างใหญ่ยักษ์
“แพททริค ไม่เอา เลอะหมดแล้ว” อติกานต์เบี่ยงใบหน้าหล่อเหลาหนี้ลิ้นเปียกชื่นที่กำลังไล่เลียใบหน้าของตน ก่อนที่เหนือณรงค์จะได้ยินเสียงทันทายของใครบ้างคนที่เขาไม่คุ้นหู แล้วประตูรถทางฝั่งอติกานต์ถึงปิดลง “เลิฟ“
‘ปัง’
เหนือณรงค์มองเห็นร่างสูงของใครบางคนเดินออกมาจากตัวบ้าน ซึ่งเพราะความมืดของฟิลม์รถและองศาที่อีกฝ่ายยืนอยู่ เขาถึงมองหน้าฝ่ายนั้นไม่ถนัด
และเพียงไม่นานประตูทางด้านผู้โดยสารฝั่งข้างหลังก็ถูกเปิด ก่อนรถจะยงบตัวลงเล็กน้อย เมื่อร่างใหญ่โตที่จู่โจมเลิฟของเขาจะกระโดดขึ้นมา.... มองจ้องหน้าเขานิ่ง
“ไฮ” เหนือณรงค์ทักทายออกไป แต่นอกจากอีกฝ่ายจะไม่มีทางทีอยากรู้จักเขา เจ้า ‘ไซบีเรียน’ หน้าดุกลับใช้ดวงตาสีฟ้าของมันจ้องเขานิ่งอย่างประเมิน ก่อนที่มันจะพาร่างใหญ่โตของมันมาที่เบาะ... ด้านคนขับ
“เฮ สุดหล่อ”
สุนัขมาดเท่ห์หันมามองเขาเล็กน้อย แล้วถึงเชิดหน้าใส่ บอกให้รู้ว่าไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์ด้วย
“เชิดสุด!” เหนือณรงค์ไม่มีปัญหากับสุนัข และต่อให้เป็นสุนัขแปลกหน้าเขาก็ไม่ได้กลัว เพราเชื่อมั่นว่าถ้าได้ฟัดกับหมาเขาต้องชนะ!
“แพททริค” ประตูฝั่งคนขับเปิดออก “มานั่งอะไรตรงนี้เขยิบไปเร็ว เลิฟขึ้นไม่ได้”
เหนือณรงค์หันไปมองเจ้าของเสียงอ่อนโยนด้วยแววตาตื่นตะลึง
“เลิฟ”
“อะไรอีก”
“ช่วยพูดกับเหนือให้มันหวานๆ เหมือนแบบที่พูดกับหมาบ้างสิ” เหนือณรงค์เรียกร้องเสียงอ่อย
“ฝันไปเถอะ” อติกานต์เหยียดยิ้มร้ายใส่คนหน้าจ๋อย เมื่อถูกเขาปฏิเสธใส่หน้าไปแบบนั้น แล้วหันไปทุ่มความสนใจให้เจ้าสุนัขแสนรักของตนแทน “แพททริคครับไปนั่งข้างหลังเร็ว เราจะได้กลับบ้านกัน”
เจ้าสุนัขตัวใหญ่ยังคงนั่งนิ่ง
“ยังไงก็จะนั่งข้างหน้าใช่ไหม” คนเป็นเจ้านายของมันเอ่ยอย่างรู้ทัน และเหนือณงค์เองก็เหมือนจะรู้นัยยะความหมายที่อติกานต์เอ่ย
“เหนือไม่ย้ายที่นะเลิฟเหนือจะนั่งตรงนี้” เหนือณรงค์รับบอก
“คุณเหนือ” อติกานต์ช้อนตามองหน้าเขา ขณะมือเรียวยังเกาคางให้สุนัขจอมยโสของตนไปด้วย “ไปนั่งข้างหลัง”
“เฮ้ยแล้วทำไมต้องเป็นเหนือ”
“ก็แพททริคของผมปกตินั่งแต่ข้างหน้า หรือคุณจะให้แพททริคนั่งตรงคนขับ ให้มันขับพาเรากลับบ้าน”
“แต่ว่า”
“ไปนั่งข้างหลัง”
“มันเรื่องอะไรเนี่ย” เหนือณรงค์รู้สึกหงุดหงิด แต่ก็ยอม... เขากำลังจะเปิดประตูเพื่อเคลื่อนร่างสูงใหญ่ของตนไปนั่งที่เบาะด้านหลังแทน... ตามคำบัญชาของคนเป็นเจ้าจองรถ
“หยุด!” อติกานต์เอ่ยห้ามก่อนที่ประตูรถจะถูกเปิด
“อะไรอีกวะ!” คนหงุดหงิดจนถึงขีดสุดกระชากเสียงถาม
“อย่ามาวะเว้ยใส่ผมนะคุณเหนือ”
“โอเคครับเลิฟ มีอะไรอีกครับคุณ” อารมณ์ที่ขึ้นสูงดิ่งลงทันทีเมื่อถูกปราบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ผมบอกแล้วไงว่าห้ามคุณลงไปจากรถ”
“อ้าว” เหนือณรงค์หน้าเหลอหลาเมื่อได้ยินแบบนั้น “แล้วเหนือจะไปนั่งข้างหลังเพื่อให้คุณแพททริคสุดที่รักของเลิฟมานั่งตรงนี้ได้ยังไงละ ถ้าไม่ลงจากรถ”
“ปีนเอาสิ”
“ปีนอะไร” เหนือณรงค์ตาแทบเหลือกเมื่อได้ยินสิ่งที่อติกานต์เอ่ย “เลิฟจะได้เหนือปีนข้ามเบาะไปเนี่ยนะ!”
“ใช่ รีบๆ ปีนจากเบาะหน้าแล้วข้ามไปที่เบาะหลังเดี๋ยวนี้เลยคุณเหนือณรงค์”


ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #8 เมื่อ18-03-2018 15:04:15 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 5
 
(2.2)
(2.2)

เหนือณรงค์นั่งกอดอกมองซีกแก้มของคนขับรถ ที่อติกานต์จะเหลือบตาขึ้นมามองเขาเป็นระยะผ่านกระจกมองหลัง
“โกรธเหรอ” อติกานต์เอ่ยถาม ขณะประคองพวกมาลัยรถยนต์คันหรูไปด้วย
“แล้วมันใช่เรื่องที่ผมต้องแทรกตัวผ่านมาทางช่องวางระหว่างคนขับกับคนข้างๆ เพื่อพาตัวเองมาด้านหลังแบบนี้ไหมล่ะ” เหนือณรงค์ใส่เต็มที่เมื่อมีโอกาสพูด “คุณแกล้งผมใช่ไหม”
อติกานต์ช้อนดวงตาเปี่ยมเสน่ห์ขึ้นมองคนด้านหลังแวบหนึ่ง “ผมไม่อยากให้คุณลงไป”
“ทำไม!” เหนือณรงค์เอ่ยถามเสียงห้วน “กลัวผมจะลำบสกไม่พอว่างั้นเถอะ คุณเกลียดอะไรผมนักหนาถึงได้แกล้งผมแบบนี้ เรามาเปิดใจคุยกันเรื่องนี้หน่อยไหม”
“ผมไม่ได้เกลียดคุณ”
“แล้วแกล้งผมทำไม” ชายหนุ่มยังจำความทุลักทุเลที่ตนเผชิญหลังจากต้องระเห็จตัวจากเบาะหน้ามาที่เบาะหลังด้วยการห้ามลงจากรถเพื่อเสียสละที่ให้คุณแพททริคของอติกานต์ย้ายก้นของมันมานั่งที่เบาะข้างๆ ซึ่งเขาเคยนั่ง!
“ก็เลิฟไม่อยากให้เหนือลงไป เลิฟกลัวเหนือเจอพี่ฮาร์ต”
“เจอใครนะ”
“พี่ชายเลิฟไง เลิฟกลัวเหนือจะลงไปแล้วเจอเขาพอดี”
“ถ้าผมเจอพี่ชายคุณแล้วมันจะทำไม”
“ก็... พี่ชายเลิฟกับเลิฟหน้าตาคล้ายๆ กัน” อติกานต์อ้อมแอ้มตามไม่เต็มเสียง
“แล้วยังไง” เหนือณรงค์คาดคั้นเสียงเข้ม “หน้าพวกคุณคล้ายกันแล้วมันยังไงไหนแถลงมาสิ เพื่อเหตุผลมันดีพอผมจะได้หายโมโหคุณ”
“เลิฟก็กลัวว่าเหนือจะเปลี่ยนใจไปชอบพี่ฮาร์ตแทนยังไงล่ะ!”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของอติกานต์ สีหน้าที่เครียดขรึมของเหนือณรงค์ก็ดูดีขึ้น ก่อนเรียวปากของชายหนุ่มจะคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม แล้วรีบขยับตัวไปใกล้ๆ คนที่กำลังขับรถอยู่ “กลัวเหนือจะเปลี่ยนใจแบบนี้ แสดงว่าเลิฟแอบมีใจให้เหนือแล้วเหรอ”
“เปล่า!”
“ไม่มีใจแล้วทำไมต้องหวง”
“ก็เพราะผมเองก็ยังไม่อิ่มในตัวคุณเหมือนที่คุณยังไม่อิ่มในตัวผมนั่นแหละ”
“อ้อเหรอ” เหนือณรงค์ลากเสียงยาว “แสดงว่าเลิฟเองก็ติดใจลีลาเหนือใช่ไหม”
อติกานต์ไม่ตอบ แต่เขากลับใช้มือข้างหนึ่งผลักศีรษะเหนือณรงค์ที่เกือบจะวางไว้บนไหล่ตัวเอง “ออกไปห่างๆ ไม่เห็นหรือไงว่าขับรถอยู่ แล้วก็นั่งเฉยๆ ห้ามปริปากพูดอะไรออกมาอีก ผมไม่อยากฟัง!”

เหนือณรงค์เดินตามอติกานต์ไปติดๆ ก่อนจะยกแขนขึ้นมากอดคออีกฝ่าย พร้อมกับผิวปากเบาๆ อย่างอารมณ์ดี
“ตกลงคืนนี้ให้เหนือนอนที่คอนโดฯ เลิฟนะ”
“คุณตามติดผมเป็นลูกเป็ดติดแม่ขนาดนี้ ถ้าผมไล่คุณแล้วคุณจะไปไหมล่ะ” อติกานต์เงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า “ถ้าไม่ไปจะได้ไม่เสียเวลาไล่ให้เปลืองน้ำลาย”
เหนือณรงค์ยิ้มกว้างคนตาหยี่ “ไม่ไปไหนหรอก เพรายังไงเหนือก็จะนอนกับเลิฟ”
“พรุ่งนี้ผมมีเรียน”
 “นี่ยังเรียนอยู่เหรอ” เหนือรงค์พยักหน้ารับรู้เมื่ออีกฝ่ายให้ข้อมูลที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน “เหนือไม่เคยรู้มาก่อนว่าเลิฟยังเรีย”"
“ก็เราสองคนแทบไม่รู้จักกันเลย”
“ไว้ค่อยเรียนรู้กันไป”
“ไม่จำเป็น”
“ทำไม” เสียงของเหนือณรงค์บอกชัดว่ากำลังเตรียมพร้อมจะหาเรื่องเมื่อได้ยินคำพูดไร้เยื่อใยของอติกานต์แบบนี้
“ยังเดี๋ยวเราสองคนก็ต้องแยกย้ายพอจบเงื่อนไขเซ็กส์เฟรน ไม่จำเป็นต้องมาเรียนรู้เรื่องของอีกฝ่ายให้เสียเวลาหรอก”
เรียวแขนของเหนือณรงค์จากที่พาดไหล่คือฝ่ายเฉยๆ ตอนนี้กลับงอมารัดลำคอของอติกานต์จนสร้างความอึกอัดให้กันคนถูกพันธนาการ
“เล่นบ้าอะไรของคุณคุณเหนือปล่อย!” เขาพยายามดึงแขนที่รัดคอตัวเองอยู่ออก ใยนขณะที่ใบหน้าทรงเสน่ห์เริ่มแดงเถือก “ปล่อยสิ!”
“โฮ่ง!” เสียงเห่ากรรโชกดังขึ้น ขณะเจ้าสุนัขตัวโตตั้งท่าจะพุ่งเข้าจู่โจมเหนือณรงค์
คนถูกขู่เหลือบตามองเจ้าสี่ขาที่ตั้งท่าจะช่วยเจ้านายของมัน “ใจเย็นๆ เจ้าหมา”
“ปล่อยผมคุณเหนือ” อติกานต์ดึงเชือกจูงสุนัขเพื่อไม่ให้เจ้าขนปุนกระโจนจู่โจ่มอติกานต์ ขณะเค้นเสียงรอดไรฟัน
“ห้ามพูดถึงเรื่องที่เราต้องแยกกันอีก” เขาคล้ายแขนที่กำลังรักคออีกฝ่าย “ผมไม่ชอบ”
พอกระชากเสียงใส่คนตัวเล็กกว่าจบ ก็เดินนำหน้าอีกฝ่ายไปที่ลิฟต์เพื่อจะขึ้นเพ็นต์เฮาส์สุดหรูของอติกานต์... ถึงจะไม่พอใจคำพูดอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่ยอมกลับคอนโดฯ ตัวเองหอกร อติกานต์ต้องชดใช้ให้เขาในคืนนี้ที่สร้างความไม่พอใจให้กับเขาด้วยคำพูดชวนแสลงหูแบบนั้น!
อติกานต์สำลักไอเบาๆ หลายที ขณะยอมมือขึ้นบลูบลำคอที่ถูกรัดของตน แล้วยังต้องโน้มตัวลงไปใช้ฝ่ามือลูบปลอบสัตว์เลี้ยงแสนรักที่กำลังหงุดหงิดเมื่อเห็นเขาถูกทำร้าย
“ใจเย็นๆ แพททริค ไม่มีอะไรหรอกนะไม่มีอะไร เราแค่เล่นกัน”
“เดินมาเร็วๆ ได้ไหมเลิฟ ผมเมื่อย” เสียงคนตัวสูงดังขึ้นมา
“บ้าฉิบ!” อติกานต์สบถเมื่อถูกเร่ง เขาอยากไล่อีกฝ่ายกลับไป แต่ดูท่าทางของคนหน้าหนาอย่างเหนือณรงค์แล้ว อีกฝ่ายไม่มีทางยอมกลับไปแม้จะถูกเขาไล่อย่างแน่นอน

เหนือณรงค์เดินเข้ามาภายในห้องของอติกานต์ด้ายท่าทีสบายๆ ราวกับมที่นี้เป็นบ้านของเขาเอง เพื่อเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาหนังกลางห้องรับแขก
“เหนือไม่รู้มาก่อนว่าเลิฟเลี้ยงมาไว้ที่นี้”
“ปกติแพททริคอยู่ที่นี่กับผม แต่ช่วงนี้ผมมีถ่ายงานทุกวันเลยเอาไปฝากพี่ฮาร์ตไว้”
อติกานต์ไม่แปลกใจ เพราะที่พักของเหนือณรงค์กล่าวขว้างพอๆ กับบ้านเดียวหลังหนึ่ง มันกินพื้นที่เกือบทั้งฟอลร์ และจากราคาของเพ็นต์เฮาส์แห่งนี้ ทางเจ้าของโครงการคงให้สิทธิ์ในการสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงดูได้แกลูกค้ากระเป๋าหนักอย่างดาราหนุ่มตรงหน้าแน่นอน
“เดี๋ยวผมพาแพททริคไปที่ห้องก่อน”
“ห้องไหน”
“ห้องนอนผม”
“เลิฟให้หมานอนด้วยเหรอ”
“อือ” อติกานต์เหยียดยิ้ม เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ว่าถึงเวลาเอาคืนของเขาบางแล้ว “แพททริคนนนกับผมบนเตียง”
“แล้วเหนือละ”
“เลือกเอาเลยคุณเหนือคุณอยากจะนอนที่ไหนก็ได้ ในห้องผมก็ได้แต่ที่ของคุณตอนนี้เหลือแค่พื้นข้างเตียงและพื้นปลายเตียง หรือว่าคุณจะข้างนอนบนโซฟาก็ได้ผมอนุญาต”
“ได้ไง เลิฟทำแบบนี้กับเหนือไม่ได้นะ เหนือมาที่นี่ก็เพื่อจะเอาเลิฟ”
“เหนือณรงค์!” อติกานต์เสียงดังพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่แดงซ่านในทุกอณูของผิวเหนือเมื่อได้ยินคำพูดขวานผ่าซากแบบนั้นของเหนือณรงค์ “หยุดพูดบ้าๆ ได้ไหม“
“บ้าที่ไหน เหนือพูดจริงๆ ที่มาขอนอนด้วยก็เพราะตั้งใจจะมาเมคเลิฟกับเลิฟอีกสักสามสี่ยก”
“คุณไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”
“เหนื่อย” เขาตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “แต่ถ้าเรื่องแบบนี้ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนเหนือก็จะสู้!”
“เชิญคุณสู้ไปคนเดียวเถอะ ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้ว ตอนนี้อย่างเดียวที่ผมจะทำคือจะนอน!”
“งั้นเลิฟนอนเฉยๆ ไปเลยก็ได้ เดี๋ยวเหนือจัดการลงมือโยกของเหนือเอง”
“อุบาทว์ว่ะ!” พูดใส่หน้าคนหน้าหนาเสร็จพร้อมกับที่ใบหน้าของเขาร้อนฉ่าราวกับคนเป็นไข้ อติกานต์ก็รีบเดินจูงสุนัขตัวโตที่มองจ้องเหนือณรงค์ด้วยแววตาเป็นปริปักษ์อย่างชัดเจนไปที่ห้องนอน ซึ่งอยู่บนชั้นสองอย่างรวดเร็ว เพื่อยุติการพูดคุยเรื่องบนเตียงกับคนไร้ยางอายอย่างเหนือณรงค์!

เหนือณรงค์เดินเข้ามาในห้องนอนของอติกานต์โดยไม่แม้แต่จะเคาะประตูแจ้งคนเป็นเจ้าของห้องก่อน
“เลิฟ”
“อะไร”
“จะนอนเลยจริงๆ เหรอ” คนที่กำลังนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงชะเง้อคอขึ้นมามอ ทำให้เหนือณรงค์เห็นแว่นตาทรงกลมบนใบหน้า... ที่ทำให้คนสวมดูน่ารักจนเขาอยากเดินไปกัดปลายจมูกเล่น “นี่ใส่แว่นด้วยหรอ”
“อือ”
“สายตาสั้น” เขาเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่นข้างเตียงข้างอติกานต์ ซึ่งช่วยขว้างกั้นเจ้าไซบีเรียหน้าดุที่ผงกหัวใหญ่ๆ ของมันขึ้นมาจับจองมองเขา ก่อนจะปรายตาหนี แล้วมองเมินไปทางอื่น
‘ไอ้หมาหยิ่ง!’ เหนือณรงค์เยินยอสัตว์เลี้ยงแสนรักของอติกานต์ในใจ
“เหม็นบุหรี่” คนพูดย่นจมูก
“ไม่ชอบหรือไง”
“เกลียด”
เหนือณรงค์หมั่นไส้คนที่ทำหน้าหยะแหย่งเขาเสียงเต็มประดา เลยอดใจไว้ไม่อยู่จับศีรษะของอติกานต์กดใส่แผงอกกว้างของตน
“เหนือ! เล่นบ้าอะไร”
‘โฮ่ง!’ สุนัขตัวโตลุกพรวดขึ้นยืน และมองเขาตาขวาง เมื่อเจ้าสัตว์หน้าขนเข้าใจว่าเหนือณรงค์กำลังพยายามจะทำร้ายเจ้านายของมัน
“ใจเย็นไอ้หนู” เหนือณรงค์ยักคิ้วให้หมา “ฉันแค่เล่นกันแฟน”
“ไม่มีอะไรแพททริคนอนต่อเถอะ” คนเป็นเจ้าของเอ่ยเสียงนุ่ม... กับหมาของตัวเอง ซึ่งเจ้าหมาตัวใหญ่เหมือนเข้าใจมันทิ้งตัวลงนอนท่าเดิม
“เฮ้ย! ใครเป็นแฟนคุณ”
“เลิฟไง”
“ไม่ได้เป็น!” คนที่ถูกเหมาว่าเป็นแฟนโยไม่ทันตั้งตัวรีบปฏิเสธ “พูดเล่นบ้าอะไรของคุณเนี่ย”
   เจ้าของใบหน้าเรียวเล็กไม่ได้รู้ตัวเลยว่าขณะปสกเอยปฏิเสธออกมแบบนั้น ใบหน้าทรงเสน่ห์กลับแดงซ่านลามลงมาถึงต้นคอ
“เลิฟครับ”
“อะไร”
“เป็นแฟนกันเถอะ”
“ประสาทหรือไง ใครจะไปอยากเป็นแฟนกับคุณ”
เหนือณรงค์จับมือของอติกานต์ขึ้นมาวางไว้เหนืออกข้างซ้ายของเขา “ให้โอกาสเหนือเถอะนะ”
“โอกาสบ้าอะไรของคุณ”
“ให้เหนือได้เป็นแฟน”
“ไม่”
“อย่างน้อยก็ยอมเป็นแฟนเหนือในช่วงที่เราเล่นซีรี่ย์ด้วยการ ช่วงที่อยู่ในเงื่อนไขเซ็กเฟรมเหนือขอให้เราใช่สถานะว่าแฟนกันได้ไหม เหนือไม่โอเคกับคำว่าเซ็กส์เฟรน” เขาบอกด้วยน้ำเสียนงจริงจัง ขณะจับจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาแน่วแน่ ไร้ความอ่อนโยน แต่มี่ความจริงจังและจริงใจอยู่น้ำเสียงของคนพูด “เรามาเป้นแฟนกันเถอะ แค่ชั่วคราวก็ยังดี ขอให้เหนือมีสิทธิ์ที่จะเป็นคนรักของเลิฟเถอะนะ”
“ทำไมต้องทำอะไรให้มันวุ่นวาย”
“ก็เหนืออยากมีโอกาสสักครั้งที่จะเป็นแฟนของเลิฟไง”
“คำว่าแฟนมันมีความหมายกับคุณมากหรือไง”
“มาก... ถ้ากับ” เขาจ้องดวงตาของอติกานต์... ดวงตาที่เขาหลงรัก “กับเจ้าของดวงตาคู่สวยคู่นี้”
“อย่ามาทำเหมือนหลงรักผมไห้ไหม ผมขนลุก ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ ถ้าคุณจะคิดอะไรที่จริงจังกับผม”
“อีกแค่สองเดือนทุกอย่างก็จะจบแล้วเลิฟ ให้เวลาเหนือแค่สองเดือน แล้วเหนือสัญญาว่าจะไม่เข้าไปวุ่นวายกับเลิฟอีก”
กลับเป็นอติกานต์ที่ช่องท้องของเขาเกิดวูบโหว่งขึ้นมาซะเอง เมื่อได้ยินคำพูดที่เป็นคำลาจากล่วงหน้าจสกปากของเหนือณรงค์เมื่อครู่นี้
“ผมจะไม่มีใครคนอื่นช่วงที่เราสองคนอยู่ในเงื่อนไขเซ็กส์เฟรน”
“เหนืออยากมีโอกาสได้ใช้คำว่าคนรักกับเลิฟ” เขาแก้ให้อีกฝ่ายเข้าใจเจตนารมณ์ “คบกันเถอะนะ”
“แต่ว่าผมไม่เคยมีแฟน ผมเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง” อติกานต์ยอมรับตามตรงบ้าง “ผมไม่เคยรักใคร ทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์เกิดขึ้นมันมีแค่เซ็กส์เท่านั้น ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการรักใครสักคนมันเป็นยังไง”
“ไว้เหนือจะสอนเลิฟเอง” เขาขยับใบหน้าไปใกล้ แล้วประทับจุมพิตลงบนแก้มเนียนของเจ้าเด็กแว่นที่ถอดคาบจิ้งจองทรงเสน่ห์ออกแล้ว
อติกานต์รับรู้ถึงหัวใจที่เต็มแรงจากเจ้าของแผงอกที่ฝ่ามือของเขาวางทาบอยู่
“เป็นแฟนเหนือนะ”
“ก็... แล้วตาคุณสิ” อติกานต์ช้อนตาขึ้นมองขณะกล่าว
“งั้นมาฉลองกันเถอะ” เหนือณรงค์จัดการดันตัวอติกานต์ให้นอนลงไปบนเตียง ขณะมือของเขาอีกข้างลวงเข้าไปในเสื้อแฟน ’ชั่วคราว’ ป้ายแดงของตนแล้ว
“อ๊ะ! เดี๋ยวก่อน”  เขารีบห้ามเจ้าของปลายนิ้วที่กำลังคลึงยอดถันของเขาเบาๆ “หมามองอยู่”
เหนือณรงค์ยักคิ้วให้คนพูด “ก็ให้มันมองไปสิ”
“ไม่เอานะเหนือ ของเลิฟเอาแพททริคไปไว้อีกห้องก่อน”
เจ้าของหมาชื่อหล่อพูดรัวเร็วจนลิ้นพัน ก่อนจะรีบขยับออกห่างจาเหนือณรงค์ แล้วตัวเท้าลงจากเตียงเดินอ้อมไปทางที่สุนัขสุดที่รักนอน
“แพททริคครับมานี่เร็ว” อติกานต์ผิวปากเบาๆ ตบท้าย ซึ่งเจ้าตัวโตก็รีบกระโจนลงจากเตียงแล้วเดินไปคลอเคลียเจ้านายทันที “วันนี้ไปนอนอีกห้องนะ”
เจ้าสุนัขตัวโตถูตัวใส่ขาอติกานต์ แล้วเดินตามเขาไปต๋อยๆ แต่ยังไม่ทันไรก็หันมามองเหนือณรงค์ที่มองมันอยู่ก่อนแล้ว
“วันนี้ฉันจะขย้ำเจ้านายแกให้จมเขี้ยวเลย” เขาเหยียดยิ้มร้ายอย่างคนชนะ... ส่งให้สุนัขตัวโต

เหนือณรงค์นอนรออติกานต์ในสภาพเปลือยเปล่า... ขณะที่มือของเขาก็ ‘สาว’ บางส่วนรอเพื่อเตรียมความพร้อม
“เชี่ย!” อติกานต์สบถเมื่อเห็น ‘สภาพ’ ของคนไร้ยางอาย “ทำอะไรของคุณน่ะ แล้วมาแก้ผ้าทำไม”
“ก็แก้ผ้ารอเลิฟไง”
“โว้ย!” โดยวายเสียงดัง แต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปหาเหนือณรงค์ที่นอนรอตัวเองอยู่บนเตียง “คุณแม่งโคตรบ้า”
“เหนือพร้อมแล้ว”
อติกานต์ถอดหายใจ ก่อนจะค่อยๆ หย่อนตัวนั่งบนเตียง “ผมคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย”
“ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” เขาพูดพร้อมกับดึงตัวอีกฝ่ายมาทาบทับ ก่อนจะพูดกระซิบเบาๆ ชิดหูของอติกานต์ด้วยเสียงกระเส่า “จัดการเหนือสิครับเลิฟ เหนืออยากถูกเลิฟจัดการจะแย่แล้ว”
“ยกเดียวนะ”
“อือ” คนตัวโตส่งเสียงออกมา “ยกเดียวที่ให้เลิฟขย่ม แต่อีกหลายๆ ยกต่อๆ มาไว้ใจเหนือเถอะ เดี๋ยวแฟนของเลิฟคนนี้จะจัดการโซโล่เองคนเดียว คนดีของเหนือไม่ต้องห่วงนะครับ”
“คุณเหนือผมเหนื่อยนะ”
“แต่คืนนี้เป็นวันดีๆ ของเรา ยังไงคืนนี้เพื่อฉลองที่เราเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ เหนือจะจัดการเลิฟจนถึงเช้า!”

เวลาเช้ามือร่างหนาที่อยู่เหนือกายของเขายังคงขยับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เสียงครางด้วยความสุขสมจะถูกปลดปล่อยออกมา เมื่อชายหนุ่มพบพาลความสุขสมทางกายจนร่างกายปลดปล่อยสายน้ำแห่งความสุขสำราญออกมาทุกหยาดหยด
ใบหน้าของเหนือณรงค์โน้มลงมาฝั่งเอาไว้ตรงซอกคอของเขา “ผึ้ง”
ความแข็งแกร่งถูกดึงออกจากช่องทางร้อนรุ่มที่รัดตัวตนของชายหนุ่มเอาไว้จนแน่นเมื่อครู่
“อะไรนะ” อติกานต์ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวไม่ถนัดหู จึงต้องถามซ้ำ
“ผมชอบดวงตาของคุณ” เหนือณรงค์กระซิบเหมือนคนเหม่อลอย ก่อนจะผงกศีรษะขึ้นมามองจ้องตาของอติกานต์นิ่ง “หยาดน้ำผึ้งของผม”
“คุณพูดอะไรของคุณ”
เหนือณรงค์ทิ้งร่างกายกำยำลงนอนบนเตียง ก่อนจะใช้แขนแข็งแรงเกี่ยวตัวของอติกานต์เข้ามาหา พร้อมซุกใบหน้าเข้ากับเรอนผมนุ่ม... และหอมอ่อนๆ ของอีกฝ่าย
“คุณเหนือเมื่อกี้คุณพูดอะไร” แม้จะเหนื่อยแทบขาดใจเมื่อร่างกายถูกรบกวนและตักตวงจากคน ‘พลังเหลือเฟือ’ ตาความอยากรู้ก็ทำให้เขาเลือกที่จะเอ่ยถาม
“ง่วง” เขากระฉับอ้อมแขนแน่นขึ้น “ฝันดีนะครับคนดีของเหนือ”
ความสงสัยจุกอยู่ในอก แต่คนที่ต้องตอบกลับไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งยังไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอของเหนือณรงค์ก็ดังขึ้น บอกให้รู้ว่าชายหนุ่มถูกกระชากสู่ห่วงนิทราแล้ว
อติกานต์พยายามข่มตาให้หลับ แม้ในหัวจะมีคำถามบางอย่างเกิดขึ้นมากมาย ในหัวที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ทำให้กว่าเขาจะปลอบให้สมองเลิกคิดและสงบ จนสามารถกล่อมให้ตัวเองหลับลงไปได้ก็ทำให้เวลาล่วงเลยมาหลายสิบนาที

ออฟไลน์ sainam12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
«ตอบ #9 เมื่อ18-03-2018 15:05:45 »

MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 6

เหนือณรงค์รู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก ชายหนุ่มเปิดเปลือกตาขึ้นก่อนจะพยายามลุก ขณะเดียวกันก็พยายามอย่างหนักที่จะสูดอากาศเพื่อกระแทกลมหายใจลงปอด หลังจากรู้สึกราวกับร่างกายของตนไม่ได้รับออกซิเจนมาสักพักแล้ว แต่เขากลับไม่สามารถทำในสิ่งที่ใจต้องการจะทำได้
ดวงตาสีฟ้าจ้องเขม่งมองเขานิ่ง ขณะที่หางของมันกระแทกตบลงบนหน้าท้องของเขาหนักๆ หลายที
“เชี่ย!” ชายหนุ่มอุทานออกมา “ออกไป!”
   เขากระชากเสียงใส่เจ้าหมาหน้าหล่อ “เวรเอ่ย!” ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง
   “เกิดอะไรขึ้นเหนือ” อติกานต์เปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อย เพราได้ยินเสียงดังโวยวายของคนที่ก่อนหน้าเขาจะออกไปยังนอนอ่อนเปลี้ยเพราะใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดแล้วเมื่อคืนนี้
    “หมาเลิฟ”
“หมายถึงหมาเลิฟใช่ไหม”
“เอ่อนั่นแหละ!”
“อ้าวคุณมาพาลใส่ผมทำไม”
เหมือนเพิ่งรู้ตัว เหนือณรงค์รีบเปลี่ยนท่าที “หมาของเลิฟจะฆ่าเหนือ มัยนั่งทับบนตัวเหนือเหนือเกือบขาดใจตายแล้วรู้ไหม” เขารีบฟ้องด้วยสีหน้าจริงจัง
อติกานต์เดินมาหยุดยืนข้างเตียง  ส่วนเจ้าสุนัขตัวโตก็รู้งานรีบกระโจนลงไปคลอเคลียขาเจ้านายของมัน “แพททริค ทำไมไม่งับคอ จะได้ตายทันที”
“เลิฟ!”
“จะออกไปพร้อมกันไหม ผมต้องออกไปเรียนแล้ว”
“คุณเรียนที่ไหน”
อติกานต์ยิ้มในสีหน้า และเดาได้เลยว่าเหนือณรงค์จะแสดงท่าทีแบบไหนออกมาเมื่อเขาบอกมหาวิทยาลัยของตัวเอ... และเป็นอย่างที่หนุ่มใบหน้าทรงเสน่ห์คิด
“จริงหรือเปล่าเนี่ย” เหนือณรงค์อุทานเมื่อได้ยินชื่อมหาวิทยาลัยของรัฐที่เข้ายากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ “แล้วคณะล่ะ”
“แพทย์”
“ฉิบหาย!”
“เดี๋ยวนะคุณเหนือแค่คนอย่างผมเรียนหมอนี่มันแปลกตรงไหน”
“โคตรแปลก”
“ทำไม” เขาถามเสียงนิ่ง “หน้าผมดูไม่ฉลาดพอจะเรียนใช่ไหม”
“เดี๋ยวๆ” คนที่นั่งเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงรีบยกมือขึ้นห้ามก่อนที่นักศึกษาแพทย์ตรงหน้าจะไม่พอใจ “เหนือแค่ตกใจ คือหมอเรียนหนักมากไง ไม่น่าเชื่อว่าเลิฟจะแบ่งเวลาได้”
“ผมทำงานในวงการมาตั้งแต่มัธยมแล้ว แต่นี่เพิ่งเรียนปีสองยังพอไหว แต่ซีรี่ย์เรื่องนี้คงสุดท้ายแล้วจริงๆ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นน่าเสียดายแย่ เลิฟเล่นดี” ชายหนุ่มยิ้มประจบ
“เอาไว้ถ้าเวลามันเอื้ออำนวยค่อยว่ากันใหม่ แต่สองสามปีนี้คงไม่ได้แล้ว”
“แล้ว... ” เหมือนนึกอะไรได้ เหนือณรงค์หุบปากลงกักกั้นคำพูดที่เตรียมจ่ออยู่ปลายลิ้นเอาไว้
“อยากรู้อะไรก็ถามมาเลย”
“เป็นหมอแล้วเปลี่ยนคู่นอนบ่อยได้เหรอ”
“หึ!” อติกานต์ยิ้ม... ในแววตา “มันเรื่องส่วนตัวของผม ผมจัดการกับคู่นอนได้ แบ่งขอบเขตอย่างชัดเจน และผมไม่เคยมั่วไปทั่ว ทุกคนตรวจเลือดก่อนทุกครั้งที่ผมจะนอนด้วย”
“แล้วเหนือทำไมเป็นข้อยกเว้ย”
อติกานต์ส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆ “ผมรู้ว่าคุณสะอาด”
“รู้ได้ยังไง”
“ผมไม่แน่ใจว่าคุณจำผมได้ไหม” แววตาของอติกานต์มีความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่... แต่กลับดูเร้าหัวใจคนมองจนจุดกึ่งกลางลำตัวของชายหนุ่มร้อนวูบขึ้น
“หื้อ” เหนือณรงค์เอียงศีรษะเล็กน้อย “จำอะไร”
“วันนั้นคุณไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลที่ผมไปหาหมอเพราะไม่สบาย คุณนั่งข้างๆ ผมแล้วเอาผลตรวจมาให้ผมช่วยดู เพราะเห็นว่าผมมีเสื้อการ์วอยู่บนตัก คุณคิดว่าผมน่าจะเป็นหมอและสามารถพอจะช่วยอ่านผลตรวจได้”
เหนือณรงค์พยายามคิด... และเขาก็คิดออก
วันนั้นเขากำลังจิตตกเพราะมารู้ว่าผู้หญิงที่ตนเคยคั่วอยู่ถูกปล่อยข่าวออกมาว่าติดเชื้อเอชไอวี ถึงเขาจะป้องกันทุกครั้งแต่เพื่อความมั่นใจเลยตั้งใจไปตรวจเลือดเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง อละเขาว้าวุ่นจนฟังที่หมอพูดไม่เข้าสมอง พอออกมานั่งรอจ่ายเงินเลยสะกิดให้คนที่ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษาแพทย์ซึ่งใบหน้าของหนุ่มน้อยคนนั้นใส่หน้ากากอนามัยปิดเอาไว้อยู่ช่วยอ่านผลตรวจ และยังสติแตกขนาดหลุดเล่าสาเหตุที่ทำให้ต้องมาตรวจเลือกแบบนี้ให้อีกฝ่ายฝั่ง
‘แล้วอย่าลืมไปตรวจซ้ำอีกรอบในอีกสามเดือนนะครับ’ หลังจากอีกฝ่ายแจ้งผลตรวจเลือกว่าเขาสะอาดหมดจรด... ตามผลที่แสดงอยู่ในแผ่นกระดาษ คนๆ นั้นก็เอ่ยสำทับเพิ่มเติมเขามาด้วย
“แล้วหลังจากนั้นก่อนเราจะเล่นละคร พี่รินบังคับให้คุณไปตรวจเลือดคุณจำได้ไหม”
“อือ” ตอนนั้นเขาเองยังแปลกใจว่าทำไมการตะเล่นละครซีรี่ย์สักเลือกมันต้องถูกตรวจเลือก แต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย “อย่าบอกนะว่านั่นคือแผนของเลิฟ”
“ใช่ ผมบอกให้พี่ฮาร์ตแจ้งพี่รินไปว่าถ้าเขาอยากได้ลิขสิทธิ์นิยายเรื่องนี้ เขาต้องให้นักแสดงทุกคนตรวจเลือด”
“ว่าแล้วว่ามันแปลก”
“ผมถึงมั่นใจว่าคุณสะอาด”
“นี่คือตั้งใจจะงาบเหนือแบบจริงจังมากๆ เลยใช่ไหม”
“อือ ผมชอบแย่งของของพี่ชายตัวเองคุณก็รู้ พอรู้ว่าคุณต้องตาเขาผมก็เร่งเอาไว้แล้วว่าต้องได้คุณ”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่ชยของเลิฟจะไม่เอาเหนือ เขาอาจจะไม่แคร์ก็ได้ว่าเหนือเคยนอนกับน้องชายเขาแล้ว”
“พี่ฮาร์ตไม่ยุ่งกับของของผมหรือแม้แต่ของที่เคยเป็นของผม” เสียงของคนพูดแข็ง “แล้วพูดแบบนี้หมายความว่าคุณอยากให้เขาไม่แคร์เรื่องของเราใช่ไหม”
เหนือณรงค์รู้สึกสนุกกับการมีโอกาสได้ปั่นหัวคนตรงหน้า “ก็ถ้าซีรี่ย์เรื่องนี้จบผมเป็นอิสระ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วผมจะไปสานสัมพันธ์กับใครก็ได้”
“คุณจะไปมั่วกับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่พี่ชายของผม”
“เฝ้าไว้ให้ดีแล้วกัน อย่าเผลอ เพราะพี่ชายเลิฟก็หน้าถูกสเปคเหนือเหมือนกัน”
“พูดบ้าอะไร คุณคิดจะเคลมพี่ชายผมด้วยงั้นเหรอ!”
เหนือณรงค์ไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนจะดุลกระพุ้งแก้มตัวเองทำให้ท่าทีของเขาดูกวนอารมณ์คนมองอย่างที่สุด “ผมว่าเราอยากเพิ่งไปคิดอะไรที่มันยังมาไม่ถึงดีกว่า”
“ห้ามยุ่งกับพี่ชายของผม”
“ก็บอกง่าถ้าไม่อยากให้ยุ่งก็เฝ้าเหนือไว้สิ”
อติกานต์กัดปากตัวเองขณะพยายามระงับอารมณ์ และในขณะเดียวกันเขาก็กำลังถลึงมองชีเปลือยหน้าหล่อนิ่ง เขารู้ว่าเหนือณรงค์กำลังแกล้งให้เขาสติหลุด และเหมือนอีกฝ่ายจะจับจุดอ่อนของเขาได้แล้วว่า ‘ใคร’ ที่เป็นคุณอ่อนแอของเขา!
 “แต่ถ้าผมสะอาดต่อไปถ้าถุงยางหมดผมไม่ต้องหยุดก็ได้ถูกไหม” อยู่ๆ เหนือณรงค์ก็เปลี่ยนเรื่อง
“ผมมีคู่นอนมาเยอะ แต่ผมรักษาสุขอนามัยอย่างดี ไม่สดกับใคร!” เขาตะโกนใส่หน้าอีกฝ่าย
“แต่เหนือเคยสดกับเลิฟครั้งหนึ่งนะ” คนพูดๆ อย่างภูมิใจ
“นั่นเพราะอยู่ๆ คุณก็ฉวยโอกาสเสียบเข้ามาไม่บอกไม่กล่าวไม่มีสัญญาเตือนกันก่อน ผมเลยขัดขืนไม่ทันต่างหาก” อติกานต์หน้าแดงขึ้นมา “และผมต้องการให้คุณรับปากว่าทันทีที่เราเลิกกันคุณจะไม่ยุ่งกับพี่ชายของผม”
“หวงเหนือหรือหวงพี่ชาย”
“ผมไม่ต้องการให้พี่ฮาร์ตรักใครนอกจากผม ไม่มีใครที่ดีพอสำหรับพี่ฮาร์ต” คนหวงพี่ขู่ฟ่อใส่ ขณมองเหนือณรงค์ด้วยแววตาดุดัน “ห้ามยุ่งกับพี่ชายผม”
เหนือณรงค์รู้แล้วว่าตัวเองมาถูกทาง... เขาเหยียดยิ้ม
“ยิ้มอะไร”
“เปล่า”
“ลุกไปแต่งตัว ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว!”
“โกรธเหนือเหรอ”
“ลุกไปแต่งตัว”
“เหนือของโทษที่หยอกเล่นแรงแบบนั้น” เขาแกล้งตีหน้าหง่อยใส่อีกฝ่าย ทำทีเป็นรู้สึกผิด... ทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้รู้สึกผิดอย่างที่แสดงออกมาเลย “เหนือขอโทษที่พูดแบบนั้น” เขาตบปากตัวเองเบาๆ ด้วยท่าทีเหมือนเด็กน้อย... ตัวร้าย!
“พอเลยคุณพอเลย เดี๋ยวปากเป็นแผล” อติกานต์รีบห้าม
 “ยกโทษให้เหนือเถอะนะครับเลิฟ”
ท่าทีออดอ้อนของคนภาพลักษณ์โฉดทำเอาอติกานต์ใจอ่อนยวบ... เขาถอนหายใจออกมา ทำไมอารมณ์โกรธเกรี้ยวถึงปลิวหายไปง่ายดายเพียงแค่ถูกออดอ้อนแบบนี้
“ผมไม่โกรธแล้ว แต่ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไว้กับแพทริคหรอกนะ ผมกลัวคุณกัดหมาผม”
“โห้เลิฟ คนเดียวที่ถูกเหนือกัดมีแค่เลิฟของเหนือคนเดียวเท่านั้นแหละ อุ๊ฟส์!” หมอนขนเป็ดใบเขืองถูกปาใส่หน้าก่อนที่หนุ่มมาดเท่ห์จะพูดจบ
“หยุดพูด ไปอาบน้ำเร็วเลย เดี๋ยวผมจะขับรถไปส่งคุณที่กอง”
“ก็ได้” เหนือณรงค์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะยกมือขึ้นขยี้เส้นผมที่กำลังยุ่งเหยิงของตัวเองเบาๆ  “แล้ววันนี้เลิฟเรียนเสร็จเมื่อไหร่”
“เย็น”
“เย็นน่ะกี่โมง” พูดจบก็ห้าวเมื่อความง่วงกัดกินอยู่ในทุกส่วนของร่างกายเวลานี้
“น่าจะประมาณห้าโมง”
“งั้นตอนเย็นไปเราไปเจอกันที่กองถ่ายนะ”
   “วันนี้ผมไม่มีคิว” อติกานต์ปฏิเสธกลายๆ เพราะไม่อยากไปกอง... ด้วยจะเป็นที่ผิดสังเกตจากทีมงาน เมื่อคนที่ไม่มีคิวถ่ายอย่างเขาโผล่ไปแบบนั้น
“เหนือรู้”
“แล้วจะมานัดผมไปที่กองทำไม”
“เหนือมีคิวช่วงบ่ายถ่ายสามคิว เลิกไม่เกินสามทุ่มไง เหนือจะให้เลิฟมารับ”
“ผมเป็นคนขับรถของคุณหรือไง” อติกานต์มองเขาด้วยแววตาดุ... เตรียมเหวี่ยง
“เปล่าครับ” คนโป๊กระโดดลงจากเตียงมากอดเขาเอาไว้ พร้อมแอบใช้เท้าเขี่ยสุนัขตัวโตให้ออกห่างจากคนรัก “ก็เหนือคิดถึงอยากเจอเลิฟไง”
“คุณเหนือ”
“ครับ”
“ระวังลูกรักของคุณถูกงับนะ” เขาชี้ไปที่สุนัขตัวโตที่กำลังแหง่นหน้ามอง... บางสิ่งบางอย่างที่แกว่งล่อตา
“มองอะไรไอ้เจ้าหมาลามก!” เหนือณรงค์แกล้งถลึงาตาใส่สุนัขตัวโตราวกับหมีที่มองมายัง... จุดยุทธศาสตร์ของเขาไม่วางตา
“คุณเหนืออย่ามาก้าวร้าวใส่แพททริคของผม”
“นี่ความสำคัญเหนือต่ำกว่าหมาอีกใช่ไหม”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว” อติกานต์ยักคิ้ว ก่อนมุมปากทั้งสองข้างจะถูกยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“โคตรใจร้าย!” คนตัวโตตัดพ้อ “แล้วตกลงวันนี้เลิฟจะมาหาเหนือที่กองไหม”
“ถ้าไปแล้วผมจะได้อะไรไหม”
“ได้สิ คืนนี้เลยแหละของพี่เลิฟจะได้ รับรองเลยว่าเด็ด”
“ในหัวคุณคิดเป็นแต่เรื่องนี้หรือไง คุณนี่มันหื่นจริงๆ” อติกานต์แหวใส่พร้อมพยายามดันตัวเพื่อจะชยับออกห่างจากคน ‘หื่น’
เหนือณรงค์ใปลายลิ้นเขี่ยหัวสีดำที่เกี่ยวอยู่บนริมฝีปากตนเอง “ในหัวเหนือมีแต่ภาพตอนเลิฟกำลังถูกเหนือกระแทกตลอดเวลาเลย นี่ก็กำลังคิดถึงอยู่ ไม่เชื่อลองจับดูสิ” เขาคว้ามือบางของอติกานต์มาตะบปลงบนความดุดันที่กำลังแข็งตัว “แข็งเลย”
“โคตรอุบาทว์ ปล่อย! แล้วไปอาบน้ำ ผมจะไปเตรียมข้าวเช้าให้”
“ครับผม” เหนือรงค์ยอมปล่อย เพราะคิดว่าถ้าได้จับคนในอ้อมแขนกด... อติกานต์คงไปเรียนไม่ทันแน่ “ขอไข่ลวกได้ไหม โด๊ปหน่อย เมื่อคืนเลิฟรีดเหนือจนหมดตัวเลย”

ร่างสูงของพระเอกเดินออกมาจากฉากที่ถูกเซ็ตเอาไว้ถ่ายทำละครในวันนี้ ซึ่งอยู่ในบริเวณมหาลัยของอติกานต์พอดี โดยที่ไหล่หนามีสายเป้สะพายเอาไว้อยู่
‘กำลังเดินไปหา’ เหนือณรงค์กดส่งข้อความไปหาคนที่นั่งรอเข้าอยู่ในร้านกาแฟข้างมหาลัย
Rrrr!!
โทรศัพท์สมาร์ตโฟนในมือส่งเสียง ก่อนที่จะปรากฏชื่อของคนบางคนให้เห็น
“น้ำผึ้ง”  เขาค่อนข้างแปลกใจที่เห็นอีกฝ่ายโทรหา
“เหนือเรา” เสียงสะอื้นดังขึ้น... บาดใจคนได้ยิน “เราเลิกกับเขาแล้ว”
ฝ่ามือของเหนือณรงค์เย็นเฉียบโดยฉับพลั่น เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวที่ตนแอบรักเอ่ย
“เขานอกใจเรา” เธอหลุดเสียงร้องไห้โฮออกมาในที่สุดเมื่อเอ่ยจบ โดยที่เสียงคร่ำครวญของหญิงสาวคนฟังรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดจากการถูกทรยศที่เธอกำลังเผชิญอยู่
“น้ำผึ้งอยู่ที่ไหน เดี๋ยวเราไปหา” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ โดยที่เขาหมุนตัวก้าวเท้าไปยังเส้นทางตรงข้ามกับที่ตั้งใจเอาไว้ตอนแรก
ในจังหวะเดียวกันกับที่มีรถแท็กซี่ปราศจากผู้โดยสารผ่านมา เหนือณรงค์กวักมือเรียกรถที่กำลังจะผ่านไป ก่อนจะเปิดประตูและบอกถึงจุดหมายตามที่เพิ่งได้รับรู้มาจากคนปลายสายให้คนขับได้รับรู้
“ขอด่วนๆ เลยนะครับพี่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสุ่มเสียงร้อนรน “เดี๋ยวเราไปหานะน้ำผึ้ง อย่าเพิ่งวางสายไม่ต้องคุยกับเราก็ได้ แต่ขอร้องว่าอย่าวางสายของเรา ให้เราได้อยู่เป็นเพื่อนน้ำผึ้งไปแบบนี้”
คนปลายสายไม่วางสายตามที่เหนือณรงค์เอ่ยปากขอร้องออกไปเมื่อครู่ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขา เพราะตอนนี้หญิงสาวเอาแต่ร้องไห้

เหนือณรงค์มองโทรศัพท์ที่โชว์ชื่อของบุคคลที่กำลังพยายามติดต่อเขา
‘LOVE’
เขาปล่อยให้สายที่โทรเข้าถูกตัดไปเป็นครั้งที่สาม และเมื่ออีกฝ่ายโทรมาอีกคราวนี้เหนือณรงค์กดตัดสายอีกฝ่ายทิ้ง เหมือนต้องการจะบอกเป็นนัยๆ ว่าเขากำลังติดสาย ‘สำคัญ’ หรือไม่สะดวกรับ
“เรากำลังจะถึงแล้วนะน้ำผึ้ง” ชายหนุ่มกรอกเสียงละมุนหูชวนฟังลงไป เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปในคอนโดฯ ของหญิงสาว 

อติกานต์มองโทรศัพท์มือถือในมือด้วยความรู้สึกแปลกใจเมื่อกดตัดสาย แต่คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่สะดวกจะรับ เลยเลือกที่จะวางโทรศัพท์ลง แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มเพื่อดับร้อน... ที่เกิดจากความร้อนใจ เมื่ออยู่ๆ ก่อนหน้านี้คนที่บอกว่าดำลังจะมาหาก็หายไปเฉยๆ ทั้งๆ ที่ร้านกาแฟที่เขานั่งรออยู่ไม่ได้อยู่ห่างจากบริเวณกองถ่าย... เหนือณรงค์ไม่ควรใช้เวลานานขนาดนี้ในการจะมาหาเขาที่นี่
แต่ตอนนี้คิดว่าอีกฝ่ายคงติดธุระอะไรอยู่แน่นอน  ดังนั้นเขาคงทำได้เพียงแค่รออีกฝ่าย...
มือเรียวสวยหยิบชีทเรียนขึ้นมาเปิดอ่านต่ออย่างตั้งใจ
“เลิฟ” เมื่อถูกเรียกด้วยเสียงห้าวทุ้มที่แสนคุ้นอติกานต์เงยหน้าขึ้นทันทีด้วยความตกใจ!
“พี่ฮาร์ต”
“วันนี้มีเรียนหรือ”
“ครับ”
“เห็นกองถ่ายมาใช้ที่มหาลัย”
“ครับ แล้วพี่ฮาร์ตมาทำอะไรที่มหาลัยผม”
“อาจารย์ติดต่อพี่ให้มาเป็นวิทยากรพิเศษให้เด็กเศรษฐศาสตร์น่ะ เลยมาคุยกันว่าพี่ต้องเตรียมอะไรบ้าง เพราะที่นี่กับมหาลัยที่พี่สอนอยู่หลักสูตรค่อนข้างต่างกัน” อาจารย์หนุ่มเอ่ยขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิ้มเอาไว้ “แล้วคุยกับพี่รินหรือยัง”
“เรื่องอะไรครับ” น้ำเสียงของพี่ชายดูเหมือนว่าต้องมีนัยยะลับลมคมในบางอย่างซ้อนไว้ทำให้อติกานต์รู้สึกไม่วางใจ “คุยเรื่องอะไรครับ”
“ภาคสองของนิยาย รินอยากให้พี่แต่งเพิ่ม แต่พี่อยากถามเลิฟว่าจะโอเคไหม เพราะเลิฟบอกพี่เองว่าต่อไปจะไม่รับงานแล้ว” เขารู้ว่าหลังจากนี้เมื่อปิดกล้องซีรี่ย์นิยายที่เขาเป็นเจ้าของบทประพันธ์อติกานต์จะไม่รับงานในวงการบันเทิงแล้ว
“ผมคงไม่”
“งั้นพี่ก็ไม่แต่ง”
“แล้วมันจะมีผลต่อใครไหมพี่ฮาร์ต”
“ก็... ทีมงานบางคน นักแสดงที่ทางค่ายกำลังจะปั้นแหละ เพราะดูๆ แล้วซีรี่ย์เรื่องนี้กระแสดีมาก ต่างประเทศก็ติดต่อขอไปฉาย แล้วไหนจะงานที่ติดต่อมาด้วย ขอเลิฟเองก็เริ่มมีแล้วใช่ไหม”
“ครับ”
ดวงตาหลังแว่นไร้กรอบมองน้องชายนิ่ง “พี่เองก็บอกรินแล้วว่าเลิฟจะไม่รับงาน”
“แล้วพี่รินว่ายังไงครับ”
“เสียดาย เพราะเหนือกำลังถูกจับตามอง ถ้าเราอัดงานให้เขาช่วงที่เขากำลังฮอตๆ น่าจะขึ้นหม้อเร็ว”
ดวงตาทรงเสน่ห์ช้อนขึ้นมองพี่ชาย... คนที่มีใบหน้าหล่อเหลาและมากเสน่ห์ไม่ต่างจากเขาเพียงแต่ ‘ฮาร์ต’ หรือ ‘อชิระ’ ดูอ่อนโยนและมีบางอย่างที่ทำให้ใครได้อยู่ใกล้ก็สบายใจมากกว่าเขา... ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขากลัว
กลัวว่าถ้าคนๆ นั้นได้เข้าใกล้พี่ชาย เหนือณรงค์จะเลือกพี่ชายของเขา
“พี่ฮาร์ทอยากให้ผมทำยังไง”
“พี่แล้วแต่เหนือ”
“ผมขอเวลาคิดหน่อย” เขารู้ว่าตัวเองอาจจะต้องเลือก... ว่าจะทำเพื่อตัวเองหรือทำเพื่อคนอีกคน
“แล้วกับเพื่อนร่วมงานเป็นยังไง” เสียงของอชิระไม่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่
“ก็ดี”
“เหรอ”
“ครับ”
“พี่ยังไม่เลิกสนใจเขานะ หวังว่าคราวนี้เลิฟจะไม่ทำแบบทุกครั้งที่ทำกับพี่อีก” เขาพูดพร้อมยิ้ม “เลิฟคงไม่อยากให้เกิดเรื่องเหมือนที่มันเคยเกิดขึ้นกับ ‘พัฒน์’ ใช่ไหม ”
เมื่อชื่อของบุคคลที่สามถูกเอ่ยออกมา ใบหน้าหล่อเหลาของอติกานต์ก็เผือดซีดลงไปในทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บร้าวในเสี้ยววินาที... เมื่อน้ำตาจากความรู้สึกผิดเอ่อล้นขึ้น
อชิระวางมือทาบทับบนหลังมือน้องชาย “สำหรับพี่แล้วเลิฟเป็นที่หนึ่งเสมอ”
“แต่เลิฟไม่อยากให้พี่ฮาร์ทรักใคร”
“แต่ไม่มีใครที่พี่จะรักเขามากไปกว่าเลิฟ... น้องชายของพี่อีกแล้วนะเลิฟ เลิฟเองก็ไม่ควรเล่นกับความรู้สึกของใครอีกต่อไปแล้ว อย่าให้มันต้องเกิดเรื่องขึ้นมาอีกเลยนะเลิฟ เราไม่ควรทำร้ายใครอีกแล้วนะเลิฟ ที่ผ่านมาเราทำร้ายคนมามากพอแล้ว”
“แต่”
“สำหรับเหนือณรงค์พี่สนใจเขาจริงๆ” คนพูดจ้องตาน้องชายและอชิระสามารถควบคุมคนตรงหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แม้แต่ความคิดของอีกฝ่าย เขาก็สามารถร่ายมนต์ให้ร้องชายเชื่อและทำในทุกสิ่งที่เขากำลังจะเอ่ยได้... อชิระรู้ตัวดี “คนนี้พี่ขอ”
“ผม”
“พี่เคยขออะไรเลิฟไหม”
คนถูกถามส่ายหน้า
“พี่รู้ว่าเลิฟกำลังพยายามทำทุกอย่างเหมือนที่แล้วมา แต่หลังจากนี้พี่จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก และพี่ขอนะเลิฟอย่างคิดแค่อยากแย่งเขาไปเพราะพี่กำลังสนใจเหนือณรงค์อยู่ ถ้าคราวนี้เลิฟไม่หยุดทำเหมือนที่แล้วมา เลิฟจะไม่เหลือใครแม้แต่พี่”

เหนือณรงค์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ตัวเล็กที่หญิงสาวน่าจะเอาไว้ใช้นั่งแต่งหน้าหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าหยาดน้ำผึ้งหลับแล้ว.. หลับไปพร้อมคาบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนแก้มของเธอ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาอติกานต์ ขณะเหลือบตามองเวลาที่โชว์อยู่ตรงหน้าจอ
“เลิฟถึงคอนโดฯ แล้วใช่ไหม” เหนือณรงค์กรอกเสียงลงไปเมื่อสัญญาณจากปลายสายบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายรับสายของเขาแล้ว
“ยัง”
“ทำไมยังไม่ถึงอีก” เขาพูดขณะสาวเท้าเดินออกมาจากห้องนอนของหยาดน้ำผึ้ง “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“ร้านกาแฟ”
“นี่อย่าบอกนะตอนนี้เลิฟนั่งรอเหนืออยู่”
“แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“ผมอยู่คอนโดฯ เพื่อน พอเพื่อนผมมีปัญหา”
“แล้วไม่คิดจะโทรหาผมเลยหรือไง ไม่คิดจะบอกผมว่าไม่ต้องรอคุณแล้ว ไม่คิดจะบอกให้ผมรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนเลยใช่ไหม”
“เหนือขอโทษ เหนือไม่คิดว่าเลิฟจะรอแบบนั้น”
“แล้วพอรู้ว่าผมรอคุณอยู่คุณรู้สึกยังไง”
“เหนือขอโทษ” คนตอบๆ กลับมาเสียงอ่อย... และเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ผมถามว่าคุณรู้สึกยังไง” อติกานต์ถามอีกฝ่ายด้วยเสียงฉุนเฉียว
“เลิฟ! คุณเป็นอะไรของคุณ” สรรพนามเริ่มเปลี่ยนเมื่อความโมโหเริ่มก่อตัวขึ้น “แล้วผมจะไปรู้หรือไงว่าคุณจะบ้ารอผมอยู่แบบนั้น”
“เออใช่ไง ผมมันบ้า!” อติกานต์กดวางสาย
“อะไรวะเนี่ย!” เขามองโทรศัพท์ในมือด้วยสายตาก้าวร้าว “เป็นบ้าอะไรขึ้นมาวะ!”
พูดจบร่างสูงก็ทำท่าจะเดินไปที่ประตูคอนโดฯ เพื่อจะดิ่งออกไปเคลียร์กับใครบ้างคนให้มันจบๆ!
“เหนือ”  เสียงหวานดังขึ้นทำให้เหนือณรงค์ต้องหันไปมอง “จะไปแล้วเหรอ”
“เรา” เขากำมือถือในมือแน่น “ไม่หรอกเราไม่ได้จะไปไหน น้ำผึ้งหิวไหม”
“ไม่” ร่างบอบบางเดินเข้ามาหาเขา แล้วฉวยมือของเขาไปกุมเอาไว้ “เหนืออยู่เป็นเพื่อนเรานะ”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: MR.LOVE เหนือกฎรัก
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-03-2018 15:05:45 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด