[Mpreg]มัจจุราชลงทัณฑ์รัก||​ตอนพิเศษสั้นๆ [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Mpreg]มัจจุราชลงทัณฑ์รัก||​ตอนพิเศษสั้นๆ [END]  (อ่าน 89672 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ asmar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ เจี๊ยะบ่จ่าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
บทที่ 27 ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน

ปัง! ปัง!

เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวสองนัดติด ปืนในมือลิสาร่วงหล่นสู่พื้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บ ร่างของเธอค่อยๆ ทรุดลงไปกองกับพื้นพลางกุมมือที่ถูกยิงเอาไว้ด้วยสีหน้าซีดเผือด ฝั่งพงศ์ปณตก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อศีรษะพวกเขาแต่ละคนในตอนนี้ปรากฏเลเซอร์ชี้เป้าพร้อมยิงทุกเมื่อ

“พี่นเรศ!” เจ้าจันทร์อุทานลั่นก่อนจะประคองร่างที่อ่อนยวบ “ช่วยด้วย...ฮึอ ฮือ ช่วยพี่นเรศด้วย” เจ้าจันทร์ร้องไห้โฮอย่างขวัญเสียเอาแต่กอดร่างสูงเอาไว้ กลายเป็นภาพที่ดูแล้วปวดใจสำหรับใครหลายๆ คน

“ทิ้งปืนซะนี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ” เสียงประกาศตัวดังขึ้นพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษกระจายกำลังล้อมรอบ “มีคนบาดเจ็บรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล” เสียงเข้มสั่งอย่างเร่งรีบ เมื่อหน่วยแพทย์เข้ามารับช่วงต่อชายหนุ่มก็เข้าไปทำหน้าทีจับกุมพงศ์ปณตกับลูกน้อง

แต่ในขณะที่กำลังจะเข้าจับกลุ่มลูกน้องคนหนึ่งของพงศ์ปณตก็รัวกระสุนใส่หวังเปิดทางให้ผู้เป็นนาย แต่สุดท้ายก็ถูกยิงสวนจนร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยรูกระสุน พงศ์ปณตอาศัยจังหวะชลมุนรีบหลบออกไป ท่ามกลางความเงียบสงัดบนท่าเรือตอนนี้จึงเต็มไปด้วยเสียงปืนปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและคนของพงศ์ปณต

พงศ์ปณตกับลูกน้องสองคนกำลังจะหลบหนีได้อยู่แล้วเชียว แต่เบื้องหน้าของพวกเขากลับปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมายืนขวางเอาไว้เสียก่อน

“ไง” ณัฐธัญกล่าวทักทายอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

พงศ์ปณตไม่กล่าวสิ่งใดยกปืนขึ้นรัวใส่ทันที เมื่อเห็นว่าณัฐธัญกับลูกน้องกระโดดหลบไปแล้วเขากอาศัยจังหวะนี้เลี้ยวไปอีกทาง

ปัง!

พลันต้นขาด้านซ้ายก็ถูกยิงจนทรุดลง ลูกน้องรีบเข้ามาประคองทันควัน พงศ์ปณตกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจขณะที่พยายามกระเลือกกระสนหลบหนี

ปัง!

เป็นอีกครั้งที่ได้ยินเสียงปืนและมันก็มาพร้อมขาด้านขวาที่โดนยิง พงศ์ปณตพยายามหลบไปอีกทาง แต่เหมือนเขาจะเลือกผิดอย่างร้ายแรง เมื่อในตอนนี้ร่างที่สมควรถูกยิงไปแล้วกำลังยืนแสยะยิ้มรอต้อนรับเขาอยู่ ท่ามกลางความืดและแสงไฟที่สาดส่องเล็ดรอดออกมาตามช่องว่าง ทำให้อีกฝ่ายเหมือนพญามัจจุราช

นเรศเดินไร้อาการบาดเจ็บเข้ามาเผชิญหน้ากับพงศ์ปณตพร้อมๆ กับเลเซอร์นับสิบเล็งไปทั่วร่างของอีกฝ่าย

“ได้เวลาละครจบแล้วปณต และตัวร้ายก็ต้องยอมรับชะตากรรม” น้ำเสียงฟังดูราบเรียบจนคนฟังรู้สึกเจ็บใจ ที่สุดท้ายก็ตกหลุมพรางจนได้

“หึหึ” พงศ์ปณตหัวเราะเขาค่อยๆ ทิ้งปืนลงบนพื้นก่อนจะยกมือขึ้น “บอกผมหน่อยได้ไหมว่าทำไมคุณถึงไม่ตาย ทั้งที่ผมแน่ใจว่ากระสุนมันถูกยิงใส่คุณ...ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ไม่ต้องรอคำตอบพงศ์ปณตก็รู้คำตอบเมื่อมองเห็นเกราะอ่อนสีดำภายใต้เสื้อเชิ้ตของนเรศ

เรื่องราวสับสนวุ่นวายจบลงในที่สุด นเรศที่ถูกยิกยังมีโชคเข้าข้างเมื่อณัฐธัญได้วางแผนให้เขาใส่เกราะกันกระสุนเอาไว้ ในตอนนี้ตามร่างกายจึงมีเพียงบาดแผลจากการถูกซ้อม ส่วนพงศ์ปณตและลิสาถูกจับและรับรองว่างานนี้คงถูกจับอีกยาวเลยทีเดียว

เจ้าจันทร์นั่งตาซึมตลอดเวลาขณะมองดูนเรศบนรถพยาบาลที่กำลังทำแผล ใบหน้าหวานที่คลอไปด้วยน้ำตาพร้อมแรงสะอื้นน้อยๆ ทำให้นเรศบอกทีมพยาบาลหยุดทำแผลให้เขา ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงดึงคนร่างบางเข้ามาเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ดวงตาคมกริบอ่อนแสงลงพร้อมคำพูดปลอบประโลม

“ร้องไห้ทำไมครับ หืม พี่ไม่เป็นอะไรมากสักหน่อย” เขากอดปลอบขวัญคนตัวอวบท่ามกลางสายตาขวยเขินของทีมพยาบาล

“เพราะเจ้า...ฮึก...พี่นเรศถึงต้องเจ็บตัว” เสียงอู้อี้กับอกตอบกลับมาพร้อมท่อนแขนเรียวที่ตวัดโอบกอดคนตัวโต ราวกับเด็กน้อยที่ต้องการที่พึ่ง

“ไม่ใช่เพราะเจ้าหรอกนะ แต่เรื่องทั้งหมดมันเกิดเพราะพี่ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษเจ้าที่ทำให้ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ขอโทษนะครับ” เสียงทุ้มเต็มไปด้วยความอ่อนโยนพร้อมก้มลงจูบศีรษะคนในอ้อมแขนเบาๆ “สบายใจได้หรือยังครับ” แรงพยักหน้าขยับขึ้นลงอยู่กับอกทำให้นเรศยกยิ้ม “เอาละคนขี้แยหยุดร้องไห้ได้แล้ว ทีนี้พี่ก็จะได้ทำแผลสักที” จบประโยคคนตัวอวบในอ้อมแขนก็พลันสะดุ้งรีบผละกายออกเหมือนคนพึ่งนึกได้ว่าตอนนี้ทั้งคู่ไม่ได้อยู่กันตามลำพัง และพอเงยหน้าขึ้นมาใบหน้าหวานก็แดงก่ำหลบสายตายิ้มเขินๆ ของทีมพยาบาลเป็นพัลวัน

ถึงแม้เจ้าจันทร์จะรู้สึกเขินอายกับเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ไม่ยอมออกไปจากรถพยาบาล มือเล็กคอยกุมมือใหญ่ที่กำลังถูกทำแผลหวังส่งกำลังใจให้คนตัวโตหายเจ็บ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เคลียร์พื้นที่เรียบร้อย ลิสาและพงศ์ปณตถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้วก็ถึงคราวที่ทุกคนต้องกลับบ้าน

“เจ้า” คุณพิมลรัตน์ร้องไห้ถลาเข้าหาลูกชายด้วยความเป็นห่วง

สองครอบครัวที่รออยู่ในบ้านทวีภัทรหิรัญต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นทุกคนกลับมาอย่างลอดภัย โดยเฉพาะเจ้าจันทร์ที่ทุกคนห่วงมากพิเศษ

“เจ้า...แม่พาอาหมอมาด้วย มาตรวจดูอีกทีว่าน้องเป็นอะไรไหม” คุณพิมลรัตน์รีบประคองเจ้าจันทร์ไปให้หมอรามตรวจอีกครั้ง

ในขณะที่หมอรามกำลังตรวจครรภ์ของเจ้าจันทร์อยู่นั้นทุกคนก็หันมาสนใจนเรศ ส่งคำถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงไม่เว้นแม้กระทั่งคุณชญตว์ ถึงคำถามจะฟังไม่เหมือนคำถามที่ดูเป็นห่วงสักเท่าไหร่

“ยังไม่ตายใช่ไหม”

นเรศได้ฟังแล้วก็ฉีกยิ้มแต้ “ครับ ยังอยู่ครบสามสิบสองรอแต่งานกับเจ้าสิ้นเดือนได้ครับ” คำตอบกลับเองก็กวนไม่น้อยอยู่เหมือนกันจนได้รับนัยน์ตาทมึงกลับมา

“ดีจริงๆ ที่ทุกคนปลอดภัยกลับมา” คุณหญิงดาหลาน้ำตาซึมจนต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา

“ขอโทษนะครับที่ทำให้ต้องเป็นห่วง” นเรศยกมือไหว้ขอขมามารดาและทุกคน

“ไม่เป็นไรลูกๆ ถือซะว่าได้พ้นเคราะห์กรรมนะ” คุณพิมลรัตน์ลูบหัวชายหนุ่มอย่างปลอบประโลม “จริงสิ” อุทานเหมือนพึ่งนึกอะไรได้ “พรุ่งนี้เราไปทำบุญกันดีไหมคะคุณพี่” ท้ายประโยคหันไปขอความเห็นจากคุณหญิงดาหลา

“ดีเหมือนกัน” คุณหญิงดาหลาเห็นด้วยทันที

“โอ๊ะ!”

จู่ๆ ก็เกิดเสียงร้องด้วยความตกใจทำให้ทุกสายตามองไปยังต้นเสียง

“เป็นอะไรไปเจ้า” หมอรามถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“เหมือนเจ้าตัวเล็กจะดิ้น” จบประโยคก็เกิดการเข้าไปรุมสัมผัสหน้าท้องของเจ้าจันทร์กันยกใหญ่ เหล่าคนเห่อลูกเห่อหลานต่างแย่งกันเบ่งว่าเจ้าตัวเล็กกำลังทักทายตัวเอง ซึ่งเจ้าตัวเล็กเองก็เหมือนจะชอบใจที่มีคนมาสัมผัสทักทาย แรงดิ้นเล็กๆ จึงไม่ยอมหยุดราวกับต้องการทักทายกลับ โดยเฉพาะคนเป็นพ่ออย่างนเรศที่เจ้าตัวเล็กดูมีปฏิกิริยาด้วยมากที่สุด “อ๊ะ...เบาๆ หน่อยสิครับ ดูเหมือนจะรู้ว่าเป็นคุณพ่อ” ว่าจบเจ้าจันทร์ก็หัวเราะคิกกับมืออุ่นที่วางสัมผัสบนหน้าท้องนูน

“โอ้ะ จะบอกรักพ่อหรอครับ” นเรศดูเหมือนจะหลุดจากโลกภายนอก เมื่อตอนนี้เขากำลังพูดคุยกับเจ้าตัวเล็กโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น ใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยช้ำยิ้มกว้างและหัวเราะอย่างอารมณ์ดีโดยไม่กลัวว่าจะเจ็บแผล

“แค่เจ้าตัวเล็กดิ้นทักทายแบบนี้ก็เบาใจแล้วครับ” หมอรามบอกทุกคนด้วยใบหน้าโล่งอก

“เจ้าหลานคนนี้คงกลัวว่าทุกคนจะเป็นห่วงเลยออกมาทักทาย เป็นเด็กดีจังเลยนะ” ชลธารว่าขำๆ ก่อนจะทำหน้าตกใจ

“ชลเป็นอะไรไปคะ” ณัฐธัญรีบเข้ามาหาภรรยาตัวเองด้วยความเป็นห่วงทันที

“ดูเหมือนลูกอยากจะทักทายน้อง” ชลธารว่าพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้เจ้าจันทร์ เท่านั้นแหละเด็กๆ ในท้องต่างดิ้นกันยกใหญ่เหมือนต้องการจะทักทายกัน

“หยุดเล่นกันได้แล้วครับเดี๋ยวคุณแม่เจ็บ” นเรศทำเสียงขรึมดุเจ้าตัวเล็กเมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเจ้าจันทร์ ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวเล็กจะรับรู้รีบหยุดการเคลื่อนไหวทันที เมื่อเห็นสีหน้าคลายเจ็บของเมียตัวเองแล้วนเรศสก็ยกยิ้มรีบชมเจ้าตัวเล็กทันที “เก่งมากครับ” เขาชมเปราะจนผู้ใหญ่ที่มองดูอยู่หัวเราะ “ถ้าเชื่อฟังพ่อไว้วันหลังจะพามาเล่นกับพี่ๆ อีก” ปฏิกิริยาดิ้นทิ้งท้ายเหมือนกับการรับคำก่อนที่จะหยุดเคลื่อนไหวจริงๆ

“เด็กๆ น่ารักกันตั้งแต่อยู่ในท้องแบบนี้ชักกลัวว่าจะตกกระป๋องซะแล้วสิครับ คุณพ่อคุณแม่คงจะลืมผมก็คราวนี้” ณัฐธัญว่าพาให้ทุกคนหัวเราะกันยกใหญ่




เดือน 6 เริ่มเข้าสู่หน้าฝนเป็นต้นฤดูของทำการเพราะปลูกของไทย ถือเป็นการเริ่มชีวิตใหม่ สร้างฐานะครอบครัวใหม่ร่วมกัน เช้านี้ถือเป็นวันที่บรรยากาศดีท้องฟ้าปรอดโปร่งมองเห็นเป็นสีน้ำเงิน ลมพัดเอื่อยๆ เป็นระยะ บ้านศศิพัฒนเมธีวันนี้ครึกครื้นด้วยมีพิธีสำคัญ ลูกชายคนเดียวของบ้านในชุดแต่งงานแบบไทยสีน้ำตาอ่อน หน้าตาอิ่มเอมมีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้า ด้านหลังมีร่างใหญ่โตกว่าของชายหนุ่มในชุดแต่งงานแบบไทยสีน้ำตาลเข้มยืนซ้อนอยู่ นเรศเอี้ยวตัวกลับไปรับโถใส่ข้าวมาถือไว้ด้วยมือซ้าย เจ้าจันทร์เม้มปากรู้สึกเขินเล็กน้อยเมื่อท่าในตอนนี้คล้ายๆ ตนกำลังถูกนเรศโอบกอดจากด้านหลัง จะไม่ให้รู้สึกอายก็กระไรอยู่เมื่อมีสายตานับสิบคู่จ้องมองมาแล้วหัวเราะบ้างแซ็วบ้าง

“ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน ต่อไปจะได้เกิดมาคู่กันทุกชาติภพ” คุณหญิงดาหลาเอ่ย ใบหน้าท่านเต็มไปด้วยร้อยยิ้มแห่งความสุขขณะทอดสายตามองดูลูกชายและลูกสะใภ้หนุ่ม

เจ้าจันทร์ข่มความอายยกมือขึ้นจับทัพพีพาให้ทั่วทั้งงานเงียบกริบเพื่อลุ้นว่าเจ้าบ่าวอย่างนเรศจะจับเช่นไร เมื่อมือใหญ่วางมือบนทัพพีแล้วจับไว้มั่นเพื่อนๆ ของนเรศก็ส่งเสียงแซ็วกันให้ทั่วงาน

“อนาคตพ่อบ้านใจกล้ามองเห็นรำไรวะเพื่อน” จบประโยคก็เกิดเสียงหัวเราะทั้งงาน

นเรศยิ้มกว้างรับคำชมเมื่อเขาเต็มใจจับส่วนปลายของทัพพีเพื่อให้เจ้าจันทร์จับคอทัพพี ชายหนุ่มประคองร่างอวบขยับเคลื่อนที่ช้าๆ อย่างระมัดระวัง พิธีสงฆ์จึงใช้เวลาไปพอสมควรเพราะต้องระวังเจ้าสาวที่ท้องได้ 5 เดือนแล้ว

หลังเสร็จพิธีสงฆ์แล้วฝ่ายเจ้าบ่าวจึงไปตั้งขบวนขันหมาก เพียงไม่นานเสียงกลองยาวก็ยิ่งทำให้สนุกสนาน ใบหน้านเรศยิ้มไม่ยอมหุบยิ่งใกล้ถึงบ้านเจ้าสาวรอยยิ้มยิ่งกว้าง แม้แต่คุณหญิงดาหลาเองก็ขยับแข้งขยับขารำเข้ากับจังหวะเสียงกลองยาว

“โห่...โห...ฮิ้ว... โห่...โห...ฮิ้ว... โห่...โห...ฮิ้ว...” เมื่อมาถึงหน้าบ้านเสียงกลองยาวก็หยุดไปแทนที่ด้วยเสียงตะโกนร้องที่รับกันไปเป็นทอด

ขันหมากเอกและขันหมากโทถูกส่งให้ฝ่ายเจ้าสาวแล้วก็ถึงคราวเพื่อนๆ ของเจ้าจันทร์ที่ต้องมาทำหน้าที่ขูดขนหน้าแข้งเจ้าบ่าว ฟ้าอยู่กับเพื่อนสาวอีกคนยืนคู่จับประตูชัยก่อนทั้งสองสาวจะยิ้มกว้างกับซองสีชมพูที่ถูกยื่นมาจากนเรศ

“ฮิๆ” คุณเธอหัวเราะด้วยท่าทางมีความสุขพร้อมกับจูบซองสีชมพูเสียงดัง “ไม่หล่อ ไม่รวย ไม่ให้เข้านะนี่” เธอว่าก่อนจะปล่อยสายกั้นประตูที่ร้อยจากดอกรักให้นเรศผ่านไป

“ของผมประตูเงินต้องหนักๆ นะครับ ไม่อย่างนั้นเพื่อนผมคงรอแย่” ปั้นสิบบอกเมื่อนเรศเข้ามาถึงประตูที่สอง ซึ่งมีปั้นสิบและแทนจับคู่กัน “ขอบคุณครับ” ปั้นสิบและแทนกล่าวขอบคุณเสียงดังหลังจากได้รับซองสีชมพูก่อนจะเปิดทางให้นเรศ

“เฮ้ย!” เมื่อมาถึงประตูที่สามเจ้าบ่าวถึงกับร้องลั่น “สุดาต้องมาอยู่ฝ่ายผมสิครับ” ชายหนุ่มว่าทั้งหัวเราะเมื่อคนจับประตูสุดท้ายคือแม่บ้านของเขาเอง

“แหม...สุดาต้องอยู่ข้างคุณเจ้ามากกว่าอยู่แล้วค่ะ” ป้าสุดาเอ่ยด้วยอาการอมยิ้ม “และอีกอย่างสุดาต้องเป็นด่านสุดท้ายที่จะไม่ยอมให้คุณนเรศเจอคุณเจ้าง่ายๆ หรอกคะ” สายตาป้าสุดาดุขึ้นจนนเรศต้องยิ้มแหย เมื่อแม่บ้านของเขาคงจะแค้นฝังลึกแทนว่าที่เจ้านายคนใหม่เสียแล้ว

นเรศหันไปหาคุณหญิงดาหลาที่ทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ “นี่ครับ” ก่อนจะควักธนาบัตรทุกใบในกระเป๋าส่งให้ป้าสุดา

“ขอบคุณค่ะ ป้าจะเก็บไว้ซื้อของขวัญให้คุณหนู” ป้าสุดายิ้มร่าปล่อยประตูทองสายกั้นสุดท้าย ทำให้ณัฐธัญที่อยู่ท้ายขบวนหัวเราะเสียงดังกับกระเป๋าแบนๆ ของนเรศ

เมื่อสิ้นสุดพิธีรับขบวนขันหมากก็เข้าสู่พิธีสู่ขอและตรวจนับสินสอด คุณชญตว์และคุณพิมลรัตน์ทำทีตรวจนับสินสอดตามธรรมเนียม และมีการใส่สินสอดเกินจำนวน เพื่อเป็นเคล็ดว่าคู่บ่าวสาวใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไปจะได้มีเงินทองงอกเงยขึ้นมา เมื่อตรวจนับเสร็จเรียบร้อยแล้วฝ่ายผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ช่วยกันโปรยถั่ว งา ข้าวเปลือก ข้าวตอก ดอกไม้ ใบเงิน ใบทอง จากนั้นคุณพิมลรัตน์จึงห่อสินสอดด้วยผ้าแล้วแบกขึ้นไว้ตามประเพณี

พิธีการดำเนินไปเรื่อยๆ ตั้งแต่พิธีสวมแหวนแต่งงาน แล้วตามด้วยพิธีไหว้ผู้ใหญ่ ทั่วทั้งงานผู้คนต่างมีใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะต่อด้วยพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร ประธานในพิธีซึ่งก็คือคุณลุงและคุณป้าของนเรศที่ถือได้ว่าเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่คนรู้จักมากทีเดียว เป็นผู้คล้องพวงมาลัยสวมมงคลแฝดบนศีรษะของบ่าวสาว พร้อมกับเจิมที่หน้าผาก จากนั้นประธานหลั่งน้ำอวยพรให้บ่าวสาว ตามด้วยพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ผู้ร่วมงานที่เป็นผู้ใหญ่ และเชิญแขกอื่นๆ เข้ารดน้ำตามลำดับความอาวุโส

“ขอให้รักกันนานๆ รักกันจนแก่เฒ่า คิดถึงและจดจำวันเก่าๆ สิ่งดีๆ ที่มีให้กันให้อภัยกันและกัน สุดท้ายขอให้ความสุขอยู่คู่กับลูกๆ ทั้งคู่ตลอดไป แม่ฝากเจ้าดูแลพี่นเรศเขาด้วยนะลูก” คุณหญิงดาหลาอวยพร

“นี่คือบททดสอบแรกของชีวิตคู่ ขอให้ทั้งคู่รักกันนานๆ ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร หากวันไหนที่ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน โกรธกัน ให้นึกถึงวันนี้กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่มีได้ทุกวันนะ รักกัน หมั่นปลูกต้นรักซึ่งกันและกัน ไม่เฉพาะแค่ก่อนแต่งงาน อุปสรรคที่จะเข้ามาในชีวิตในวันข้างหน้าคือบททดสอบความรักของเรา ต้องจับมือกันฝ่าฟันและผ่านพ้นมันให้ได้ อุปสรรคที่เข้ามาจะเติมให้ความผูกพันแข็งแกร่งขึ้น มาถึงขั้นนี้แล้วยังไงก็ฝากลูกชายฉันด้วย” คุณชญตว์อวยพรขณะที่สบนัยน์ตาลูกเขยก็เผยแววดุดันข่มขู่ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นอบอุ่นเมื่อสบกับดวงตาโศกของลูกชาย

“การใช้ชีวิตคู่ก็เหมือนช้อนกับส้อมต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ช้อนมีหน้าที่ตัก ส้อมมีหน้าที่จิ้มหรือประคับประคองอาหารใส่ช้อน หมายถึงการช่วยกันดูแลประคับประคองทะนุถนอมซึ่งกันและกัน แต่ช้อนกับส้อมความสูงก็จะเท่ากัน นั่นหมายถึงการที่คู่สมรสมีความทัดเทียมกันจึงต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ขอให้เดินเคียงกันบนเส้นทางต่อจากนี้ไปด้วยความรัก ความเข้าใจ แม่ฝากน้องด้วยนะลูก” คุณพิมลรัตน์อวยพรต่อ

เมื่อพิธีรดหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพรเสร็จสิ้นก็มาถึงพิธีสุดท้ายนั้นก็คือพิธีส่งตัวเข้าหอ

“เหนื่อยไหมครับ รู้สึกเวียนหัวบ้างหรือเปล่า” นเรศเอ่ยถามเจ้าจันทร์ที่นั่งอยู่บนขอบเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งคู่กัน นิ้วแกร่งยกขึ้นเกลี่ยกลุ่มผมนุ่มออกจากดวงหน้าหวานที่มีเหงื่อซึมเล็กน้อย

“นิดหน่อยครับ” เจ้าจันทร์ตอบเสียงแผ่วขณะที่ดวงตาเริ่มปรอยปรือ

“แล้วเจ้าตัวเล็กละครับ ดูท่าวันนี้จะรู้ว่าเป็นวันสำคัญเลยงีบทั้งวันไม่ดื้อไม่ซน” ก้มลงลูบหน้าท้องนูนเบาๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างเมื่อฝ่ามือรับรู้ถึงแรงถีบน้อยๆ ประหนึ่งว่าเจ้าตัวเล็กในท้องกำลังรอคำชม “เก่งมากเลยครับเด็กดี แบบนี้ต้องให้รางวัล” ว่าจบก็ก้มจุมพิตรอบๆ ท้องนูน

“อูย...ดูท่าลูกจะดีใจมากนะครับ” ดวงตาที่ปรืออยู่รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีเมื่อเจ้าตัวเล็กดิ้นเป็นการใหญ่ตอบรับคำชมของพ่อ

“ฮาๆ ถ้างั้นคืนนี้ก็ยอมเป็นเด็กดีอยู่นิ่งๆ ให้พ่อเข้าไปทักทายนะครับ” นเรศกระซิบเสียงเบาพร้อมกับใช้ดวงตาแพรวพราวสบเข้ากับดวงตาโศก แก้มเนียนร้อนจนขึ้นสีทำให้เจ้าจันทร์รีบเสหลบดวงตาที่สื่อความนัยน์มาแทบหมดเปลือก

“พี่เนรศ...เจ้าท้องอยู่นะ” ตอบกลับเสียงอุบอิบด้วยความขัดเขินเต็มกำลัง     

“พี่จะทำเบาๆ นะครับ” ว่าจบก็จับจูงคนร่างอวบเข้าห้องน้ำ เพียงไม่นานภายในห้องน้ำก็มีเสียงครางหวานและทุ้มคละเคล้ากัน เปลี่ยนอุณหภูมิที่เย็นฉ่ำจากสายน้ำเป็นร้อนแรงในชั่วพริบตา



*********************************************
อะแฮ่ม...แค่กๆ...สำลักความหวาน ฮาๆ สำหรับนิยายเรื่องมัจจุราชลงทัณฑ์รักก็เดินทางมาเกือบถึงจุดหมายปลายทางแล้วนะคะ ยะฮู้ ในที่สุดครกก็ถึงยอดภูเขาสักที เจี๊ยะก็ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านทุกคอมเม้นที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ และขอให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ เลยนะคะ เจอกันพรุ่งนี้สำหรับบทส่งท้ายจ้า
 :bye2:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ในที่สุดก็จะลงเอยด้วยดี :katai2-1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ฉลองงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :mc4:

ออฟไลน์ asmar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เจี๊ยะบ่จ่าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
​บทส่งท้าย

หลังจากคลอดลูกด้วยการผ่าตัดครอบครัวเล็กๆ จึงถือกำเนิดขึ้น เจ้าจันทร์คลอดลูกแฝดเป็นชายหญิงคู่หนึ่ง โดยให้ชื่อลูกชายคนโตว่าศศินและลูกสาวคนเล็กให้ชื่อสลิล เจ้าลูกชายคนพี่อวบอ้วนกว่าคนน้อง หน้าตาหรือใครๆ ก็บอกว่าน่าชังทั้งคู่ พาให้คุณพ่อมือใหม่เห่อลูกแทบไม่ปล่อยให้ห่างมือ

ร่างกายเจ้าจันทร์ถึงแม้จะมีสิ่งพิเศษมากกว่าใคร ถึงจะสามารถตั้งท้องได้อย่างผู้หญิง แต่ร่างกายก็ไม่มีการผลิตน้ำนมออกมา จึงต้องหาคนมาเป็นแม่นมให้ลูกๆ และอาหมอก็แนะนำหญิงสาวข้างบ้านที่มีจิตใจดี เธอเป็นแม่ลูกอ่อนเหมือนกันแต่เพราะร่างกายของเธอผลิตน้ำนมออกมามาก จึงมาปรึกษาหมอรามถึงเรื่องการบริจาคนมให้กับมูลนิธิ อาหมอเห็นว่าเป็นเรื่องดีและหลานๆ ก็ต้องการนมแม่ และเธอก็ตรวจร่างกายก่อนที่จะได้กลายเป็นแม่นมของเจ้าสองแฝด จิตใจของเธอช่างดีงามเหมือนกับชื่ออัณณิกาที่แปลว่าความดีงาม

อัณณิกาเป็นหญิงสาวที่มีอายุมากกว่าเจ้าจันทร์เพียงสามปี เธอมีลูกชายที่อายุมากกว่าเจ้าสองแฝดราวหกเดือน สามีของเธอเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ เจ้าจันทร์บอกได้เลยว่าครอบครัวของเธอคือครอบครัวในฝันของหลายๆ คน ครอบครัวที่เกิดจากความรักและมีความพร้อม

เจ้าจันทร์ยังคงอยู่ที่บ้านศศิพัฒนเมธีสลับกับบ้านทวีภัทรหิรัญ โดยมีนเรศไปๆ มาๆ ระหว่างเกาะกับบ้านทั้งสองหลัง เจ้าจันทร์เห็นใจนเรศที่ต้องไปกลับและคิดว่าการเดินทางบ่อยๆ มันคงทำให้เหนื่อยมากพอดู วันนี้คุณพ่อลูกอ่อนจึงยังคงนอนหลับตาพริ้มไม่ต่างจากลูกน้อยในเปลข้างเตียง

นิ้วมือเรียวสวยยกขึ้นเกลี่ยกลุ่มผมนุ่มมือของสามี ปากจิ้มลิ้มค่อยๆ คลี่ยิ้มออกเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เจ้าจันทร์โน้มหน้าเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเหลาก่อนจรดริมฝีปากไปบนหน้าผากคนนอน

“อือ...ลักหลับพี่หรือครับ” คนที่นอนหลับพูดเสียงงัวเงียก่อนจะวาดวงแขนดึงร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด นเรศจ้องมองใบหน้าหวานที่ยังคงมีรอยยิ้มประดับก่อนจะหอมแก้มสีระเรื่อฟอดใหญ่ทั้งสองข้าง

“เจ้าทำให้พี่นเรศตื่นหรือเปล่าครับ” เจ้าจันทร์ถามเสียงนุ่มขณะใบหน้าแนบสัมผัสกับอกกว้าง “พี่นเรศน่าจะนอนต่อ เมื่อคืนก็ดึกกว่าจะถึงบ้านเจ้าเป็นห่วง” ประโยคที่เจือไปด้วยความห่วงใยทำให้ใจคนฟังมีพลังเพิ่มขึ้นมา

“แค่เห็นหน้าเจ้ากับลูกๆ พี่ก็หายเหนื่อยแล้วครับ” พูดจบก็หอมกลุ่มผมนุ่มที่ซบอยู่กับอก

คิ้วเรียวพลันขมวดมุ่นเจ้าจันทร์รู้สึกเจ็บหน่วงบริเวณท้องน้อย ความรู้สึกเก่าเริ่มกลับมาพร้อมกับรู้สึกถึงความอุ่นบริเวณร่องก้น ความรู้สึกนี้แน่ชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันค่อยๆ ไหลลงตามต้นขา

นเรศที่เห็นเมียตัวเองเงียบไปก็เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรไปเจ้า”

เจ้าจันทร์ไม่ตอบเพียงแค่พลิกตัวลงจากร่างสูงแล้วตวัดผ้าห่มออกจากตัว

“เจ้า!” นเรศมองเห็นแล้วใบหน้าคมเข้มจึงเต็มไปด้วยความตระหนก ปากก็ร้องเรียกชื่อเมียตัวเองด้วยความกลัว กลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น “เป็นอะไรเจ้าเป็นอะไร ทำไมถึงมีเลือดออกมา หมอ...ต้องตามอาหมอ” คนตัวโตลนลานไปหมดจนรับรู้ได้ถึงร่างกายที่สั่นเทา

“พี่นเรศเจ้าไม่เป็นอะไร” เสียงหวานเหมือนน้ำเย็นที่ค่อยชโลมหัวใจแต่ก็ยังไม่คลายความกังวล

“เจ้าบอกพี่มาเถอะ ตามอาหมอก็ได้ แล้วทำไมถึงมีเลือดออกมาเยอะแยะแบบนี้ เจ็บมากไหม” คำพูดมากมายจนแทบฟังไม่ทันก่อนจะจบด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงจนสัมผัสได้

“...” เจ้าจันทร์ส่ายหน้าทั้งอมยิ้มด้วยความสุขเมื่อเห็นท่าทีห่วงใยมากล้นจากคนตัวโต ก่อนประกบมือประคองใบหน้าซีดให้สบตา “มันก็เหมือนประจำเดือนของผู้หญิง อาหมอบอกว่ามันจะมาหลังคลอดราวเดือนกว่าๆ” พอได้ฟังหัวใจของนเรศก็รู้สึกสงบขึ้นแต่ก็ยังไม่คลายความกังวล

“เหมือนประจำเดือนของผู้หญิง” นเรศทวนคำด้วยความไม่เข้าใจ “แต่เจ้าไม่ใช่ผู้หญิงเจ้าจะมีได้ยังไง” นเรศยังไม่หายข้องใจ

“แล้วเจ้าท้องได้เพราะอะไรล่ะ”

“เพราะพี่ไง...โอ๊ย” จบประโยคก็โดนฟาดเข้าเต็มฝ่ามือจนได้แต่ร้องขอความเห็นใจ “พี่พูดจริงมาตีทำไมเนี้ย เพราะถ้าพี่ไม่ทำเจ้าก็ไม่ท้องหรอก” ว่าด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

“เจ้ามีประจำเดือนเหมือนผู้หญิงเพราะมีมดลูกอยู่ในนี้” ว่าจบก็ชี้ไปที่ท้องตัวเอง

“พี่ไม่เห็นรู้ว่าเจ้าจะมีประจำเดือนเหมือนผู้หญิง”

“ตอนที่เป็นพี่ไม่อยู่และหลังจากนั้นก็...อื้อ...จนท้องนั้นแหละ จะรู้ได้ยังไงเล่า” ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อหลีกเลี่ยงที่จะพูดคำแสนน่าอาย

“งั้นแปลว่าตอนนี้พี่ก็ปั๊มน้องให้เจ้าสองแฝดได้แล้วน่ะสิ” พอโล่งใจก็ทำหน้าพราวระยับ แล้วไม่วายกระโจนเข้าหาร่างเล็กเหมือนเสือกระโจนใส่กวางน้อยไม่มีผิด

และพอเช้าในสามวันถัดมาเลือดที่เหมือนประจำเดือนก็หยุดไปเปรียบเสมือนไฟเขียวที่เป็นใจเปิดทางให้อีกคนได้สมใจ เช้านี้ตื่นขึ้นมาเจ้าจันทร์จึงมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาไม่ห่าง

“พี่นเรศจะทำอะไรน่ะ” เอ็ดพร้อมกับตีเบาๆ ที่ต้นแขนเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่คร่อมทับอยู่

“ทำรักกับเมียไงครับไง” ก้มกระซิบข้างหูพร้อมกับขบกันเบาๆ มือไม้เองก็เริ่มกลายเป็นปลายหมึกลูบไล้สำรวจอย่างคุ้นเคย

“พี่นเรศเดี๋ยวลูกตื่น” เอ่ยห้ามด้วยน้ำเสียงเบาหวิวเมื่อถูกปลุกเร้าหนักหน่วงจนร่างกายสั่นระริก

จมูกโด่งซุกไซร้ตามซอกคอขาวไม่ห่างขณะทำเสียงอู้อี้ตอบกลับมา “ยังไม่ถึงเวลาลูกตื่น” จบประโยคก็มอบจุมพิตอันหวานล้ำให้คนตัวเล็กอ่อนระทวยใต้วงแขน

“แต่...อื้อ...เดี๋ยวพี่อัณก็มาแล้ว” เสียงครางฮือหลุดออกมาด้วยความเสียวซ่าน

“แป๊บเดียวนะครับ” กระซิบเสียงแหบพร่าขณะส่งนิ้วเข้าสำรวจช่องทางพิเศษ เพียงไม่นานความคับแน่นก็คลายตัวให้นเรศได้ดุนดันความอลังการของตัวเองเข้าไปทักทายยังข้างใน “อืม อีกนิดนะครับ” เข้ากระซิบกับคนตัวเล็กที่กำลังบิดเร้าด้วยความเสียว ยิ่งใกล้ถึงฝั่งฝันมากเท่าไหร่สะโพกแกร่งยิ่งขยับหนักหน่วง มือหนาประคองสะโพกอวบเบียดแนบชิดก่อนจะกดเน้นๆ อีกสองสามทีก็ปลดปล่อย เหงื่อกาฬพราวทังร่างที่ยังคงเชื่อมประสานกันอยู่

“พี่นเรศ...” เสียงหวานครางอือเมื่ออีกคนจับท่อนขาขึ้นพาดบ่าพาให้แนบชิดยิ่งขึ้นจะรู้สึกสยิว “พี่นเรศบอกว่ารอบเดียวนี่” ต่อว่าทันทีเมื่อเอวสอบเริ่มขยับเข้าออกอีกครั้ง

“อื้อ รอบเดียวแต่พี่ยังไม่ได้เอาออก ดังนั้นยังถือว่าหนึ่งรอบ” คำตอบช่างฟังเจ้าเล่ห์แต่การกระทำกับเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า เมื่อการสอดประสานนั้นไม่ลึกดังเก่า ความอลังการที่กำลังขยับเข้าออกเป็นเพียงระยะสั้นๆ เนิบๆ คลายกำลังกลั่นแกล้งขัดใจคนตัวเล็กที่อารมณ์กำลังพุ่งสูง

“พี่นเรศ” เสียงหวานครางฮือราวกับกำลังจะต่อว่า

“ครับ” คนเป็นพี่ขานรับพร้อมกับก้มลงรอฟังความต้องการ”

“...อย่าแกล้งเจ้านะ” ว่าอย่างกระเง้ากระงอดกำปั้นเล็กก็ทุบไหล่หนาเบาๆ

นเรศหัวเราะในลำคอที่แกล้งเมียได้สำเร็จ “เจ้าบอกพี่ว่ารอบเดียวนี่” แกล้งทำเสียงเศร้าแต่ดวงตายังพราวระยับ “อยากได้อะไรก็บอกพี่สิครับ” เปิดโอกาสให้คนที่นอนตัวแดงก่ำร้องขอ ซึ่งคงต้องบอกว่าเข้าทางนเรศนัก

“ขยับสิ” บอกเสียงอ้อมแอ้มพลางเสหน้าหลบ

“อะไรนะครับ”

“...” ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มแน่นราวกับกำลังติดสินใจ ในเมื่อแต่งงานถูกต้องกันตามประเพณีชื่อนามสกุลเองก็เปลี่ยน จากศศิพัฒนเมธีตอนนี้ก็เป็น ปักษาธร ทวีภัทรหิรัญ ลูกก็คลอดออกมาแล้วจะมีอะไรให้อายอีกเล่า คิดได้ดังนั้นก็ตวัดแขนโอบลำคอหนา ดันตัวเข้าแนบชิดพลางกระซิบข้างหู “...พี่นเรศเจ้าอยากได้พี่ ช่วยขยับอ๊ะ...” ยังไม่ทันจบประโยคคนขี้แกล้งก็ขยับอย่างรวดเร็วหนักหน่วงกว่าครั้งแรกจนสั่นคลอนไปทั้งตัว

เสียงหวานที่กระซิบข้างหูเมื่อครู่ทำให้นเรศแทบบ้าคลั่ง ความอลังการกลางลำตัวยิ่งสำแดงฤทธิ์กว่าครั้งไหน มันขยายตัวจนปวดหนึบ มีเพียงความอุ่นร้อนที่โอบล้อมอยู่เท่านั้นที่จะช่วยปลอบประโลมให้สงบลงได้

“น่ารักเกินไปแล้ว” นเรศคำรามลั่นขยับเข้าออกสุดแรงจนเตียงเริ่มส่งเสียงประท้วง

“อ๊ะ” เจ้าจันทร์ครางฮือกระสันไปทั้งร่าง ความรู้สึกดี พาให้สมองโล่งโปร่งจนหลงลืมทุกสิ่ง สะโพกอวบเด้งรับอย่างรู้งานอย่างที่เคยถูกสอน ยิ่งทำให้ขอบสวรรค์ที่ใกล้เห็นรำไรครั้งนี้ทำให้คนทั้งคู่แทบสำลักไปก่อน “พี่นเรศๆ” เสียงหวานครางเรียกชื่อคนตัวโตซ้ำๆ เมื่อความอัดแน่นกำลังจะพุ่งออกมา

“เจ้า...พี่รักเจ้า อืม...ซี๊ด พร้อมกันนะครับ” เอ่ยบอกพร้อมกับกล้ามท้องที่เกร็งแน่นจนเรียงขึ้นมาสวยงาม ก่อนจะปลดปล่อยความอุ่นร้อนเข้าไปมากล้นจนมันไหลทะลักออกมา ทั้งคู่หอบหายใจรุนแรงร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ ในหัวสมองมีเพียงดาวระยิบระยับ นเรศก้มลงส่งจูบหวานล้ำเป็นคำชมให้ร่างเล็ก “ถูกใจไหมครับ” เขาถามอย่างคนต้องการคำชมบ้างขณะคลอเคลียกับลำคอระหงไม่ห่าง

“...อื้อ” เสียงตอบรับในลำคอพร้อมดวงตาโศกที่ปรือน้อยๆ แสดงความเหนื่อยอ่อน เมื่อครู่ใช้แรงไปมากทีเดียวเพื่อตอบรับแรงมหาศาลของเจ้าคนพี่

“งั้นอีกรอบไหมครับ” อดที่จะเอ่ยเย้าไม่ได้

“ไหวที่ไหนเล่า” เจ้าจันทร์ตอบกลับทันควันพร้อมกับส่งค้อนให้วงโต

“อะไรกันแค่รอบเดียวเองเหนื่อยแล้วหรอครับ”

“พี่นเรศ” เสียงหวานเอ็ดกลับมาแทนคำตอบพาให้คนแกล้งหัวเราะลั่น

“ไม่แกล้งแล้วครับ” เอ่ยพลางก้มหอมหน้าผากชื้นเหงื่อ “นอนพักเถอะเดี๋ยวพี่ดูลูกเอง” จบประโยคก็ดึงส่วนที่เชื่อมประสานกันอยู่ออกมาจนได้ยินเสียงน่าอาย

“อา...” เสียงหวานคราวหวิวรู้สึกโล่งจนรับรู้ถึงสายลมเย็นที่พัดผ่าน เผลอเม้มปากน้อยๆ เมื่อความอบอุ่นถูกถอนออกไป

“หึหึ ไว้คืนนี้ค่อยมาต่อนะครับ” เสียงหัวเราะถูกใจเมื่อได้ยินเสียงครางหวาน นเรศผละออกจากร่างนุ่มนิ่มหยิบกระดาษทิชชูออกมาเช็ดทำความสะอาดให้ช่องทางที่เต็มไปด้วยน้ำรักของเขา คนตัวเล็กหลับไปแล้วจึงได้แต่หยิบเสื้อนอนของเขามาสวมให้พลางห่มผ้าให้เสร็จสรรพ นเรศจูบกระหม่อมเมียอีกครั้งก่อนจะผละออกไปอาบน้ำเพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาเจ้าสองแฝดตื่นแล้ว

“สวัสดีค่ะคุณนเรศ วันนี้อารมณ์ดีจังเลยนะคะ” อัณณิกาส่งเสียงทักในอ้อมแขนมีทารกวัยเจ็ดเดือนกำลังหัวเราะเอี้กอ๊ากอยู่ นเรศเพียงยิ้มรับก่อนเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เจ้าตัวเล็ก “แล้วนี่น้องเจ้าไปไหนคะไม่เห็นเลย” อัณณิกาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจเพราะทุกทีที่เธอมาถึงบ้านก็จะเห็นเจ้าจันทร์อยู่กับลูกเสมอ แต่วันนี้กลับไม่เห็น

“เจ้าคงเหนื่อยครับผมเลยไม่อยากปลุก”

“อ้อค่ะ” อัณณิกาครางรับ “หืมอยากเห็นน้องเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือคะ” เธอเห็นท่าทางสนใจทารกแฝดของลูกชายก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม ก่อนจะพาไปนั่งดูน้องใกล้ๆ

“แอ้ๆ” เสียงอ้อแอ้ดังขึ้นพร้อมกับริมฝีปากเล็กยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“ดูท่าจะหลงรักน้องแล้วนะคะเนี่ย” เธอว่าพลางหัวเราะกับท่าทางของลูกชาย

จากนั้นทั้งงคุณชญตว์และคุณพิมลรัตน์ต่างก็เข้ามาเล่นกับหลานที่อัณณิกากำลังให้นม เธอจะมาให้นมเด็กๆ จากเต้าในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายและกลางคืนเธอก็จะปั๊มนมใส่ขวดไว้แทนเพราะต้องกลับไปอยู่กับสามี

“อ้าวตื่นแล้วหรอลูก” คุณพิมลรัตน์ทักลูกชายที่เดินหน้ามุ้ยลงมาในเวลาเกือบจะเที่ยงหลังจากที่อัณณิกากลับไปได้ไม่นาน

“ทำไมไม่มีใครปลุกเจ้า” เจ้าจันทร์ว่า

“ตานเรศบอกว่าลูกเหนื่อยเลยอยากให้พัก เอ๋...แต่แม่ว่าคงได้รับกำลังใจเต็มที่แล้วมั้ง” อดที่จะแซวลูกชายจนหน้าแดงก่ำไม่ได้ ทำไมท่านจะไม่รู้สาเหตุที่ลูกชายตื่นสายหลังจากสามีกลับมาจากเกาะในช่วงดึก

“คุณแม่” เจ้าจันทร์ร้องเรียกแม่เสียงอ่อนขณะก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย

“แบบนี้อีกไม่นานเจ้าสองแฝดคงจะมีน้องๆ ตามมาวิ่งเล่นเต็มบ้านแน่” คุณชญตว์ได้ทีแซวบ้าง ถ้าได้เด็กๆ มาวิ่งเล่นที่บ้านหลายๆ คนบ้านนี้คงจะมีชีวิตชีวาขึ้น ยิ่งหลายๆ คนยิ่งดี อืม...ต้องเปิดไฟเขียวให้ไอ้ลูกเขยปั๊มหลานเยอะๆ ซะแล้ว คิดแล้วก็ส่งกระแสจิตไปให้นเรศที่นั่งเล่นกับลูก ซึ่งพอรับรู้ถึงสายตาที่มองมาเขาก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มพยักหน้ารับน้อยๆ คล้ายรับรู้ถึงความต้องการของพ่อตา

“ตานเรศพาน้องไปทานข้าวเถอะเดี๋ยวแม่กับพ่อดูแลเจ้าแฝดให้เอง” คุณพิมลรัตน์เอ่ย

“ฝากด้วยนะครับแม่” นเรศยิ้มรับผละออกจากลูกๆ เดินไปโอบประคองเอวเล็กเข้าห้องครัว เมื่อมาถึงนเรศก็บังคับคนตัวเล็กให้นั่งรอบนเก้าอี้ จัดการบริการอาหารมาวางให้อย่างเรียบร้อย

“ขอบคุณครับ” เจ้าจันทร์ขอบคุณคนพี่ด้วยใจจริง

“ทานเยอะๆ เก็บแรงไว้ใช้ในคืนนี้นะครับ” แกล้งกระซิบข้างหูจนอีกฝ่ายหน้าแดงก่ำไม่ต่างจากลูกตำลึงสุก

“พี่นเรศ” เจ้าจันทร์ร้องเรียกชื่อคนขี้แกล้งเสียงหลงจนนเรศหัวเราะลั่น แววตาพราวระยับเต็มไปด้วยความสุข เขาหยุดแกล้งเมียตัวเอง หยุดมองคนตัวเล็กทานข้าวด้วยความสุข “พี่นเรศไม่กินด้วยกันหรือครับ” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามคนที่เอาแต่นั่งมอง

“...” นเรศส่ายศีรษะแทนคำตอบเอาแต่นั่งมองต่อเท่านั้น ยิ่งมองหัวใจก็ยิ่งเต็มไปด้วยความสุข เพราะอีกครึ่งชีวิตของพวกเขาถูกเติมเต็มแล้ว “พี่รักเจ้านะครับ” เขาบอกพร้อมกับดึงคนที่กำลังทานข้าวเข้ามาจูบแสดงความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวนที่พูดออกไป

“ครับๆ รู้แล้ว เจ้าก็รักพี่นเรศนะครับ...แต่เจ้ากำลังทานข้าวอยู่นะ” เจ้าจันทร์ยิ้มกว้างก่อนจะเอ็ดทั้งที่ยิ้มเต็มแก้ม

“ฮ่าๆ” นเรศหัวเราะลั่นด้วยความสุขจนภายในทั้งบ้านอบอวนไปด้วยความอบอุ่นของความรัก


---จบ---


ในที่สุด! พี่นเรศและน้องเจ้าของเราก็มาถึงบทสรุปสุดท้ายแล้วค่า ตบมือ  :katai2-1:
ตอนนี้บอกเลยขอรีดเลือดนักอ่านทุกท่านเลยค่ะ รีดเข้าไปๆ  :jul1: ใครอาการหนักสนใจทิชชูแผงข้างๆ เลยนะคะ ฮา
และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ นักเขียนนิยายลงเว็บอย่างเราๆ จะเดินหน้าต่อไปได้ก็ต้องขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านทุกคอมเม้นที่คอยติดตามกันมาตลอด หยิบสไบมาห่มหยิบผ้าถุงมาใส่ ทัดดอกไม้แดงข้างหู พับเพียบเรียบร้อยแล้วกราบงามๆ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ
ปล. ยังเหลือตอนพิเศษเล็กๆ ที่จะตามมาอีกไม่นานนี้นะคะ อย่าลืมติดตามความหวานละมุนของเจ้าจันทร์และพี่นเรศกันน้า


สำหรับนิยายเรื่องมัจจุราชลงทัณฑ์รักก็มี E-Book แล้วนะคะ
วางจำหน่ายกับทาง Meb ในราคา 139 บาทค่ะ
จำนวน : 314 หน้า (≈ 84,846 คำ) รวมตอนพิเศษ 4 ตอน
- วันเพ็ญเดือนสิบสอง จำนวน 8 หน้า (ลงในเว็บ)
- ความทรงจำดีๆ จำนวน 5 หน้า (ลงในว็บ)
- ได้เวลาปั๊มน้อง จำนวน 6 หน้า (ไม่ได้ลงในเว็บ)
- เมื่อเด็กๆ ไปโรงเรียนวันแรก จำนวน 12 หน้า (ไม่ได้ลงในเว็บ)
Buy :มัจจุราชลงทัณฑ์รัก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2018 21:11:35 โดย เจี๊ยะบ่จ่าย »

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
จบเเล้วววววววววววว :mew1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หวานนนนกันเชียว

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
กรีดร้อง จบได้ฟินมากค่ะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ความหื่นของเฮีย ทำให้เจ้าไม่ได้พักอู่เลยหรอ  :hao6:

ออฟไลน์ พระสนมฝ่ายซ้าย

  • ❤วั ง ว น ว า ย เ วิ่ น เ ว้ อ❤
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +283/-2
ตอนแรกๆสงสารน้องเจ้ามากเลยค่ะ
หนูโดนซ้อมหนักมากจริงๆ TT
ผู้ใหญ่เรื่องนี้น่ารักทุกคนเลยค่ะ มีความรักและเข้าใจ
ขอบคุณคุณพ่อเจ้าที่ช่วยเอาคืนให้ ยังไม่สาแก่ใจคนอ่านเลยค่า 555
พี่นเรศอยากมีลูกสาวหรอ บ่อยเชียว ><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกดีค่ะ
ชอบแนวนี้ นายเองท้องได้
ตอนแรกสงสารเจ้าจันทร์มาก
โดนซ้อมสารพัด
แต่ตอนหลังก็งลงเอยได้ดี
ขอบคุณนิยายดีๆค่ะ

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ เจี๊ยะบ่จ่าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ตอนพิเศษสั้นๆ


สองปีผ่านไป

เสียงกระแสคลื่นสาดซัดแข่งกับเสียงเสียมพรวดดิน หยาดเหงื่อหยดลงสู่ผืนดินตามอุณหภูมิที่ดวงอาทิตย์กำลังแผ่ร้อนระอุ หลังมือเปื้อนดินถูกยกขึ้นซับหยดเหงื่อพลอยทำให้หน้าผากมีคราบดินติดตามไปด้วย ตัดสินใจนั่งพักสักหน่อยพลางหันไปมองยังม้านั่งไม้ระแนงใต้ร่มต้นหูกวางต้นใหญ่ ร่างเพรียวกำลังนั่งจิบน้ำผลไม้ยามบ่ายแก่ บนตักมีเจ้าแมวสีส้มนอนอย่างสบายใจพาลให้คนมองรู้สึกอิจฉาเจ้าสี่ขาตงิดๆ

เมื่อเสียงพรวนดินเงียบหูไปเจ้าของมือที่กำลังลูบขนเจ้าเหมียวจึงเงยหน้าขึ้น “หืม...” พลางมองคนงานจำเป็นนั่งหน้าถมึงจ้องเจ้าเหมียวเขม็ง “ไม่พรวดดินต่อหรือครับ หรือว่าพี่นเรศลืมไปแล้วว่าถ้าทำไม่เสร็จไม่ต้องกินข้าว?” คำถามที่แสนคุ้นหูส่งมาสะกิดเรียกสติคนขี้อิจฉา

“เจ้าลำเอียง” เสียงทุ้มกระเง้ากระงอดตอลกลับมา

“ครับ?” คิ้วสวยเลิกขึ้นด้วยความสงสัย

“ก็พี่เป็นผัวกลับต้องมานั่งพรวดดินหน้าดำหน้าแดงอยู่นี่ แต่ดูไอ้แมวหน้าปลาหมอนั่นสิกลับได้นั่งสบายบนตักเจ้า พี่อิจฉา” ใบหน้าหล่อเหลาหงิกงอจนอดที่จะขบขันไม่ได้ โดยเฉพาะน้ำเสียงในท้ายประโยคที่แสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“หรือว่าพี่จะไม่ทำ?” เสียงนุ่มถามกลับพร้อมเผยรอยยิ้มนิดๆ แต่กลับกดดันจนน่าขนลุก

“ทำสิจ๊ะ” ตอบกลับเสียงหวานแทบจะทันที แต่ไม่วายขอต่อรองสักหน่อย “แต่พี่ขอนอนตักเจ้าสักชั่วโมงให้ชื่นใจหน่อยได้ไหมครับ นะ...” มีความสามารถเท่าไหร่นเรศงัดออกมาอ้อนเมียจนหมด งานนี้ยอมทุ่มสุดตัว

“...” เจ้าจันทร์ไม่ตอบทำแค่เพียงหันหน้ากลับไปยกน้ำผลไม้ขึ้นจิบเงียบๆ

นเรศถือโอกาสวางจอบที่กำลังพรวนดินเตรียมแปลงปลูกผัก ย่องไปดึงคนร่างเล็กเข้ามากอดเต็มรัก จมูกโด่งฉกฉวยลงบนแก้มนุ่มพร้อมเสียงหอมฟอดใหญ่

“เอ๊ะ! พี่นเรศ” เจ้าจันทร์อุทานก่อนจะตีเพียงบนต้นแขนล่ำสัน ขณะที่เจ้าเหมียวในอ้อมแขนก็กระโดดหน้าตั้งหนีหายเหมือนรู้แกว “ทำอะไร ดูสิตัวมีแต่เหงื่อมากอดเจ้า” เอ็ดสักหน่อยแต่มีหรือคนฉวยโอกาสจะหยุด

“เมื่อไหร่จะหยุดงอนพี่สักที แค่นี้พี่ก็ใจจะขาดอยู่แล้ว” นเรศซุกใบหน้ากับซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่สูดดมเข้าเต็มปอดพาให้นเรศน้อยชักจะคึกคักขึ้นมา ท่อนแขนแข็งแรงวาดลงใต้ร่างเล็กแล้วช้อนขึ้นแนบอก

“คนลามกทำอะไรน่ะ” เจ้าจันทร์ทักท้วงสีหน้าตื่น เมื่อครู่สัมผัสได้ถึงความร้อนและความคับแน่นตรงกลางลำตัวของอีกฝ่าย

“กอดเมียไงครับ” คนตอบรับหน้านิ่งราวกับพูดคุยเรื่องลมฟ้าอากาศ แต่คำว่ากอดคงไม่ใช่ความหมายตื้นๆ อย่างแน่นอน ว่าจบแล้วก็ยังตั้งท่าจะพาเข้าห้องจนต้องร้องเสียงหลง

“พี่นเรศจะบ้าหรือยังไงนี่มันกลางวันนะ” ตบอกหนาเข้าให้อีกหนึ่งที

“ลูกหลับแล้ว อีกอย่างไม่ต้องกลัวลูกจะตื่นเพราะสุดาดูแลอยู่แล้วนี่นา” คนพี่อ้อนเสียงละมุนสีหน้าที่แสดงออกก็ราวกับเจ้าตูบร้องขอความรักจากเจ้าของ

“แต่ป้าสุดาไม่ได้หลับ” เหวเสียงหลงอีกทีพลางทุบอกแกร่งไปอีกครั้ง คนอะไรหน้าหนาจริงเชียว ร้องขอจะกอดตั้งแต่ฟ้าไม่ทันมืด เจ้าจันทร์ได้แต่ค่อนขอดคนตัวโตในใจ

“แต่นเรศน้อยไม่ไหวแล้วนี่นา เถิดนะคนดีพี่ปวดไปหมดแล้ว” ใส่ลูกอ้อนเต็มที่จนคนฟังใจอ่อนยวบตอบกลับมาเสียงเบาหวิวไม่หนักแน่น

“แต่ป้าสุดา...”

“งั้นไม่ทำที่บ้าน” ตัดสินใจเองเสร็จสรรพก็เบี่ยงหน้าไปอีกทิศ ก้าวฉับๆ อย่างเร่งรีบไม่นานหลังคามุงจากก็ปรากฏสู่สายตา ร่างนุ่มถูกวางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลตามด้วยริมฝีปากคลอเคลียไม่ห่าง “ที่นี่ก็ไม่เลว” เสียงทุ้มพึมพำขณะซุกไซร้ซอกคอขาว “ทำให้คิดถึงครั้งแรกขอองเจ้าที่นี่ ต่อให้ขอโทษอีกสักร้อยสักพันครั้งก็คงไม่สาสมกับสิ่งที่พี่ทำ แต่เจ้ารู้ไหม” เงยหน้าขึ้นจากลำคอหอมกรุ่นมาสบดวงตาโศกทอประกายฉ่ำหวานและกำลังส่ายหน้าน้อยๆ “ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้พี่ก็ยังจะทำแบบนั้น ครอบครองเจ้าให้เป็นของพี่แค่เพียงคนเดียว” จบประโยคก็แนบริมฝีปากลงสัมผัสกับหน้าผากมน นเรศจ้องมองใบหน้าหวานพลางยกมือเล็กขึ้นมาจุมพิต “ที่นี่คงไม่มีความทรงจำดีๆ สำหรับเจ้า ดังนั้นให้พี่ได้สร้างความทรงจำดีๆ กับเจ้าทุกที่บนเกาะแห่งนี้ ให้มีแต่ความทรงจำดีๆ สำหรับเรา ลูกๆ ของเรา ครอบครัวของเรา”

ริมฝีปากจิ้มลิ้มค่อยๆ เผยรอยยิ้ม เจ้าจันทร์ตัดสินใจดึงความกล้าวผงกศีรษะขึ้นจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากหยัก “ที่นี่มีแต่ความทรงจำดีๆ สำหรับเจ้า เพราะมันทำให้เจ้าได้เจอและได้อยู่เป็นครอบครัวกับพี่นเรศ แค่นี้เจ้าก็มีความสุขมากแล้ว”

สมองนเรศโล่งโปร่งไปหมดจนคิดคำพูดไม่ออก เขาดีใจ...ดีใจจนกระบอกตาร้อนผ่าว “ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเต็มไปด้วยความรู้สึกกระซิบกล่าวขอบคุณข้างหู “ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” ก่อนที่จะยอมปล่อยให้น้ำตาร่วงหล่นอาบแก้ม

ฝ่ามือเล็กประคองใบหน้าหล่อเหลาพลางใช้นิ้วไล้น้ำตาออก “เจ้าก็ขอบคุณเหมือนกันครับ ขอบคุณที่รักเจ้า รักลูกๆ” จบประโยคก็จรดริมฝีปากจูบซับหยดน้ำอุ่นตามใบหน้าและคางคนพี่อย่างอ่อนโยนที่สุด นเรศยิ้มทั้งน้ำตาแตะหน้าผากสัมผัสกันเบาๆ ก่อนจะบรรจงจุมพิตหวานล้ำพาให้คนในอ้อมแขนอ่อนระทวยเหมือนเทียนไขถูกไฟละลาย และไฟนั้นคือไฟสวาทที่ค่อยๆ แผดเผาให้คนทั้งคู่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน



******************************
มาแล้วค่าเจี๊ยะยกตอนพิเศษสั้นๆ มาเสิร์ฟให้ถึงที่แล้วค่า โปรดอย่าบ่นว่ามันสั้นสมชื่อตอนเพราะมันสั้นจริงๆ ตุ้ยปู้ฉี่ๆ  :m5:
เจอกันใหม่โอกาสหน้านะคะ :dont2:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :hao5: สนุกดี ชอบบบ

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
อยากอ่านตอนของเด็กแฝดดดโอ๊ยยยยยยยตาพ่อขี้หวงหวงแม่ขนาดนี้อยากรู้จะหวงลูกสาวขนาดไหนนนนคงสนุกน่าดู

ออฟไลน์ sira_nann

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ cutelady

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักทั้งคู่เลย
ชอบๆๆๆๆ :mew6: :katai2-1: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด