✎MemorY ความทรงจำสีจาง #เมมโม่สีจาง Up! [ความทรงจำที่14] 22/12/18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✎MemorY ความทรงจำสีจาง #เมมโม่สีจาง Up! [ความทรงจำที่14] 22/12/18  (อ่าน 2889 ครั้ง)

ออฟไลน์ เบลม็อท

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ GoingSunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

Chapter 14



พรึบ! ตึง!

"คุณหนูลงแรงที่ขามากไปครับ! ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ใส่แรงตอนทุ่มไปที่สะโพกด้วย ต้องให้ประคองช่วยมั้ยครับถึงจะเข้าใจ!!"

"ขอโทษครับ!"

"ไอ้นนท์! มึงเข้าหาคุณหนูแบบกล้าๆ กลัวๆ อย่างนั้น เมื่อไหร่จะได้พัก! มึงอยากให้คุณหนูโดนยืดเวลาซ้อมหรือไงหะ!!!"

"ขอโทษครับ!"

"เริ่มใหม่!! คราวนี้ใครเสียแต้มเยอะกว่าต้องโดนอีกฝ่ายทุ่ม 10 ที!!!!"

"ครับ!!"

เสียงตหวาดลั่นของบอดี้การ์ดหนุ่มหน้าโหดดังกึกก้องไปทั่วโรงฝึกขนาดใหญ่ของตระกูลธนพัฒน์โชคสกุล ทำให้เหล่าลูกน้องคนอื่นๆ ที่มารายล้อมนั่งดูเพื่อนร่วมงานและคุณหนูคนสำคัญฝึกซ้อมกันอยู่ลอบกลืนน้ำลายกันเป็นทิวแถว

ไม่แปลกที่ทุกคนในบ้านจะสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ เพราะปกติโรงฝึกแห่งนี้ถูกสร้างไว้สำหรับให้บอดี้การ์ดทั้งหลายใช้ฝึกฝนกัน ภายในจึงถูกตกแต่งให้โล่งโปร่งสบายเพื่อระบายอากาศได้ดี ที่พื้นปูด้วยไม้ขัดเงาอย่างดีและคอยตรวจเช็กซ่อมแซมตลอด ที่ตรงใจกลางโรงฝึกมีฟูกหนาขนาดใหญ่ปูซ้อนไว้สำหรับใช้ฝึกศิลปะต่อสู้ที่ต้องประชิดตัว

และตอนนี้ฟูกนั้นก็ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ซะด้วย

พรึบ! ตึง!

พรึบ! ตึง!

พรึบ! ตึง!

"ซี๊ดดดดดดด" เสียงล้มตึงและใบหน้าหวานที่แสดงความเจ็บปวดทุกครั้งเวลาโดนประชิดตัวทำให้คนมองทั้งหลายต่างสูดปากพร้อมปิดหน้าปิดตากันยกใหญ่

ในสายตาของรุจ นนท์อาจเป็นลูกน้องปลายแถวฝีมืออ่อน แต่สำหรับเด็กผู้ชายผอมแห้งแรงน้อยแถมมีโรคประจำตัวมากมายอย่างเมมโม่การที่เข้าต่อสู้ซึ่งๆ หน้ากับคนที่มีชั้นเชิงมากกว่าก็ไม่ต่างอะไรกับวิ่งไปให้ฆ่าชัดๆ เลย

"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก" ร่างบางที่นอนแผ่บนฟูกจากการโดนทุ่มรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เริ่มหอบหายใจเอาอากาศเข้าทางปากอย่างนึกเจ็บใจ

ผ่านมาจะเดือนกว่าแล้วถ้าไม่นับว่ามีเต้ที่เป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดกลุ่มเอมาเป็นคู่ฝึกให้บางครั้งบางคราว เมมโม่ก็เคยประชิดตัวทำแต้มและทุ่มนนท์ได้แค่11ครั้งเท่านั้น! แถมทุกครั้งร่างบางใช้เล่ห์เหลี่ยมและไหวพริบตลอด จนอีกฝ่ายตามมุขทันทุกอย่างหมดแล้ว ตอนนี้ตัวเขาจึงไม่ต่างอะไรกับหุ่นกระบอกที่ยืนนิ่งรอให้คนตรงหน้าจัดการเลยสักนิด

นนท์ก้มมองคุณหนูที่นอนหอบหายใจด้วยสายตาสั่นไหวพลางกัดริมฝีปากล่างดั่งคนคิดไม่ตก ความจริงชายหนุ่มไม่อยากทำรุนแรงและอยากแสร้งออมมือยอมให้อีกฝ่ายประชิดตัวเหมือนทุกที แต่เมื่อไม่นานมานี้การแสดงโง่ๆ ของนนท์โดนหัวหน้าใจมารจับได้เข้าให้ จึงโดนขู่ว่าถ้าทำแบบนั้นอีกรุจจะเลิกสอนเมมโม่ซะ วันนี้นนท์จึงเข้าหาคุณหนูอย่างไม่เต็มที่จนโดนด่า สุดท้ายชายหนุ่มเลยต้องกัดฟันจัดการคุณหนูให้เร็วที่สุด เพราะถ้ายังปล่อยยืดเยื้อร่างบางก็จะยิ่งเจ็บตัวมากและนานขึ้น

เขาไม่มีทางเลือกจริงๆ

รุจกอดอกยืนมองคนทั้งสองที่มีอาการขณะฝึกซ้อมต่างกันราวฟ้ากับเหวด้วยสายตาราบเรียบ นนท์ถึงแม้จะไก่อ่อนแต่ยังไงก็ถูกฝึกอย่างหนักมาโดยตลอดจึงไม่มีอาการหอบ แถมคู่ซ้อมเป็นแค่เด็กผู้ชายร่างบางและอ่อนแอ เหงื่อเลยแทบไม่ออกเช่นกัน

ว่าง่ายๆ สำหรับนนท์ เมมโม่เป็นคู่ซ้อมเรียกเหงื่อยังไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่นนท์ไก่อ่อนยังไงก็ยังเป็นนนท์ไก่อ่อนอยู่วันยังค่ำ บอดี้การ์ดไร้ประสบการณ์เสี่ยงตายอย่างหมอนั้นคงไม่รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของหมาจนตรอกหรอก

รุจยกยิ้มมุมปากมองสายตาและใบหน้าของคนที่นอนแผ่หมดสภาพอย่างนึกสนุก เอาสิครับ คุณหนูผู้เย่อหยิ่ง ลองหาทางเอาตัวรอดให้ดูหน่อยเป็นไง

เมมโม่ลอบสังเกตปฏิกิริยาของนนท์ที่เริ่มดูร้อนรนเมื่อเห็นตนไม่ยอมลุกขึ้น ร่างสูงโปร่งขยับเดินเข้ามาใกล้คนนอนแผ่อยู่ด้วยความเป็นห่วงอย่างไม่นึกระวังตัว สร้างรอยยิ้มให้คนที่นอนรอจังหวะอยู่ได้ในทันที

เมื่อเห็นอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ในระยะที่คาดการณ์แล้วเมมโม่จึงขยับมือขวาแนบไปที่พื้นก่อนจะตะแคงหันข้างตามมือที่แนบลงแล้วถีบตัวสไลด์พร้อมใช้มือออกแรงยันจนตัวเองลุกขึ้นกึ่งนั่งก่อนจะใช้ขาซ้ายเตะไปที่ข้อพับขาอีกฝ่ายเต็มแรงอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่กำลังลงแรงเดินไปที่เท้าต้องคุกเข่าลงด้วยความตกใจ จึงเป็นจังหวะให้เมมโม่รีบคว้าปกเสื้อคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวให้กระแทกนอนแผ่ก่อนที่ตนจะตามขึ้นค่อมนั่งลงตรงอกนนท์แล้วกำหมัดพุ่งไปที่หน้าคนเสียท่าอย่างรวดเร็ว

นนท์หลับตาแน่นรอรับความเจ็บพร้อมหัวใจเต้นระรัว แต่เวลาผ่านไปหลายวินาที ตนก็ยังไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความนึกแปลกใจ

ภาพที่แสดงตรงหน้าคือกำปั้นของคนที่นั่งอยู่บนอกห่างจากปลายจมูกตนไปไม่กี่มิล ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยก่อนจะเบี่ยงหน้ามองอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มบางมาให้อย่างนึกชื่นชม

ไม่ใช่ว่าท่าเมื่อกี้นนท์ป้องกันไม่ได้ แต่นนท์ไม่คิดว่าคุณหนูแสนบอบบางของตนจะทำได้ต่างหาก

ผู้ชมทั้งหลายต่างนิ่งเงียบเหมือนถูกสตาฟ ถ้าพวกเขาจำไม่ผิด ท่านี้คือท่าที่หัวหน้าบอดี้การ์ดกลุ่มเอเคยใช้ล้มหัวหน้าการ์ดใจมารอย่างรุจตอนที่ชายหนุ่มพ่ายแพ้ให้รุจนับครั้งไม่ถ้วนไม่ใช่เหรอนั่น

รุจมองร่างบางที่เอาท่าแห่งความหลังอันเจ็บปวดมาใช้ก็นึกเข่นเขี้ยวในใจกับความเจ้าเล่ห์ของคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้

ให้สอนลูกศิษย์เขาไม่กี่ทีแอบถ่ายทอดวิชามารให้กันด้วยเหรอเนี่ย ร้ายกาจ!

แปะ แปะ แปะๆ

"วี๊ดวิ๊ว! คุณหนูเจ๋งมากครับ"

"ไอ้นนท์ไอ้กระจอก!"

"ค้างท่านี้แป๊บนะครับ ผมจะถ่ายไว้ล้อไอ้นนท์ยันลูกบวชเลย!"

"คุณหนูเท่ที่สุด!"

หลังจากที่ทุกคนได้สติก็พากันเป่าปากส่งเสียงเซ็งแซ่ไปทั่วโรงฝึก ทำให้คนโดนแซวทั้งสองเผยสีหน้าเอือมพร้อมรอยยิ้มบางก่อนจะลุกขึ้นผละออกจากกัน

"โอเค วันนี้พอแค่นี้แหละ คุณหนูไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเถอะครับ" รุจพูดแทรกเสียงโห่ขึ้นพลางหยิบผ้าขนหนูเดินไปส่งให้ร่างบางที่เหงื่อถ่วมซับ

"ไม่ลงโทษเหรอครับ" เมมโม่ไม่รับผ้าจากอาจารย์หน้าโหดแล้วเอ่ยถามกลับด้วยใบหน้าราบเรียบที่ติดฉงนอยู่เล็กน้อย

"ถ้านับจากที่นนท์ทุ่มคุณหนูไป ผมว่ามันเกินบทลงโทษที่ตั้งไว้ไปมากโขอยู่นะครับ ที่สำคัญคุณหนูมีนัดกับหมอนิวัติต่อด้วย ผมเกรงว่าถ้าให้โดนลงโทษเพิ่มอีกคงได้เปลี่ยนแผนกหมอที่ต้องไปพบเอาน่ะครับ" คำตอบราบเรียบที่ดูไม่มีอารมณ์อะไรเจือปนแต่ทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บจี๊ดได้ไม่น้อย ร่างบางจึงถอนหายใจพร้อมรอยยิ้มแล้วเอื้อมมือรับผ้ามาซับเหงื่ออย่างช่วยไม่ได้

"งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ ถ้าเสร็จแล้วผมจะเป็นคนไปบอกลุงคนขับเอง พี่รุจไม่ต้องตามไปโรง'บาลด้วยหรอก เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พักบ้างนะครับ ผมขอตัวละ" เมมโม่พูดรวบรัดเสร็จสรรพโดยไม่สนสีหน้าและท่าทางของอีกฝ่ายที่จะเอ่ยขานอยู่หลายคราก่อนจะหันหลังเอาผ้าพาดบ่าเดินออกจากโรงฝึกไปหน้าตาเฉย ทิ้งให้บอดี้การ์ดหน้าโหดมองตามแผ่นหลังบางตาละห้อย

"ทำใจนะพี่ คุณหนูอยู่ในช่วงต่อต้าน ตามติดมากๆ ระวังเธอเกลียดขี้หน้าเอานะครับ" นนท์เดินเข้าไปตบบ่าพร้อมพูดเหมือนเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อ(?)เสียเต็มประดา ทำให้คนโดนแซวหัวคิ้วกระตุกเลยยกเท้าถีบอีกฝ่ายเข้าให้เพื่อระบายอารมณ์

"เกลียดขี้หน้าพ่อง! ไปทำงานเลยไป๊! พวกมึงก็ด้วยยืนมุงดูห่าอะไรกัน! แยกย้ายสิวะ!!" พอเห็นหัวหน้าใจมารองค์ลง ลูกน้องทั้งหลายจึงรีบพากันสลายตัวอย่างรวดเร็ว

แบบนี้ละน้า โดนทิ้งแล้วพาล เหนื่อยใจคนระดับล่างอย่างพวกเขาจริงๆ



เมอร์ซิเด้น-เบนซ์ คันหรูเจ้าประจำเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่เพื่อมุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารคนสำคัญทั้งสองตามกำหนดนัดหมอประจำเดือน

ภายในรถไร้บทสนทนาเหมือนทุกที แต่คราวนี้มีบรรยากาศมาคุจากนักศึกษาแพทย์ปี4 ให้คนขับชายชราได้ลอบยิ้มเหนื่อยใจกับความแสบของคุณหนูใหญ่ของบ้านเล็กน้อย

ชายหนุ่มร่างเพรียวถอนหายใจพลางยกมือเท้าคางทอดสายตาไปนอกหน้าต่างรถอย่างนึกปลงตก ช่วงหลายเดือนมานี้ชายหนุ่มมีสอบและเตรียมเข้าศึกษางานในคลินิกและโรงพยาบาลจนแทบไม่มีเวลานอน อีกไม่นานก็จะได้เริ่มราววอร์ดแต่ก็ยังไม่วายต้องพะวงเรื่องเลคเซอร์และงานต่างๆ อีก

ปีนี้อย่าถามถึงเรื่องปิดเทอมเลย ถามว่าจะได้นอนบ้างหรือเปล่าดีกว่าเหอะ

ทั้งที่ชีวิตประจำวันของเขาก็แทบจะยืมอายุไขจากอนาคตตัวเองมาใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แทนที่มีวันหยุดแบบนานๆ ครั้ง ชายหนุ่มจะได้หลับเต็มอิ่มแต่กลับต้องโดนลากขึ้นรถโดยฝีมือปีศาจแรงช้างอย่างงงๆ แถมไม่อธิบายอะไรเลยสักคำ

นี่ถ้าพาเขาไปฆ่าก็จบกันเลยนะเนี่ย

เมมโม่ลอบมองคนข้างกายที่หันหน้าออกนอกหน้าต่างพร้อมแผ่รังสีฟาดฟันอย่างนึกขบขัน ที่ร่างบางลากชายหนุ่มมาด้วยไม่ใช่อยากกลั้นแกล้งหรืออะไรหรอก รู้ว่าเป็นนักศึกษาแพทย์มันเหนื่อยแต่ชายหนุ่มก็ควรผ่อนคลายบ้าง เมมโม่เลยกะว่าหลังพบหมอนิวัติเสร็จจะพาอีกฝ่ายไปเลี้ยงข้าวเดินเที่ยวตามภาษาวัยรุ่นสักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าที่คุณหมอคงอยากทิ้งตัวลงเตียงซะมากกว่า งั้นก็ถือซะว่าได้ประสบการณ์เที่ยวแบบลืมไม่ลงไปเลยก็แล้วกัน



ใช้เวลาฝ่ารถติดของประเทศไทยมาเกือบชั่วโมง ในที่สุดรถยุโรปคันหรูก็เลี้ยวเข้าโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแล้วจอดลงด้านหน้าทางเข้าอย่างนิ่มนวล

ผู้โดยสารโชคร้ายที่โดนลากมาโดยไม่รู้จุดหมายในคราแรกพอเห็นว่ารถหยุดจอดที่ไหนก็เผยสีหน้ากังวลไปชั่วขณะนึงก่อนจะรีบปรับให้เป็นปกติแต่ยังคงขมวดคิ้วนั่งนิ่งไม่ยอมลงรถ

"ไม่ลงเหรอคุณ ผมขอเวลาคุยกับหมอแป๊บเดียวไปรอด้านในด้วยกันก็ได้นะ" เมมโม่ที่เห็นอีกฝ่ายไม่ขยับลงตาม ตนจึงก้มหน้ามองเข้าไปในรถถามร่างเพรียวอย่างนึกแปลกใจ

"นายไปจัดการธุระเถอะ ฉันรอแถวนี้ได้" ชายหนุ่มตอบปัดแล้วเดินลงตามไป เขาคงต้องไปหาที่นั่งรอเงียบๆ โดยไม่เข้าใกล้บริเวณโรงพยาบาลให้มากที่สุด

"แล้วผมจะติดต่อคุณยังไง โทรศัพท์ที่ผมซื้อให้คุณก็ไม่เอา ผมใช้โทรจิตไม่ได้หรอกนะ คุณรู้ใช่มั้ย" เมมโม่เอ่ยถามพลางขมวดคิ้วงงกับท่าทางของคนตรงหน้าที่ดูร้อนรนแปลกๆ

"งั้นฉันรอที่สวนข้างโรงพยาบาลแล้วกัน เสร็จแล้วไปหาฉันที่นั่นนะ" พูดจบชายหนุ่มก็ส่งยิ้มบางปนลำบากใจเล็กน้อยแล้วรีบเดินไปยังจุดหมายที่ตนบอกไว้กับอีกฝ่ายทันที

เมมโม่มองตามแผ่นหลังอย่างนึกสงสัยก่อนจะถอนหายใจแล้วหันไปพยักหน้าบอกลุงคนขับให้ตามไปดูแลร่างเพรียวแทนตน

ชายชราโค้งรับคำสั่งคุณหนูของบ้านเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินตามคนที่เดินหายไปได้สักพักอย่างไม่เร่งร้อน

เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยเมมโม่ก็เดินเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำธุระของตัวเองต่อ ดูท่าวันนี้จะมีเรื่องให้คิดเยอะเหมือนกันนะเนี่ย



"โอเค วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน อย่าลืมทานยาตามที่พี่จัดให้หมดก่อนถึงกำหนดครั้งหน้าด้วยล่ะ" หมอหนุ่มรูปหล่อเอ่ยขึ้นหลังจากได้นั่งพูดคุยและถามความคืบหน้าอาการของคนป่วยเคสพิเศษของตนได้สักระยะแล้ว

อาการสูญเสียความทรงจำของเมมโม่ไม่ได้ร้ายแรงจนขนาดใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ แถมตัวผู้ป่วยเองก็ดูไม่รีบเร่งหรืออยากรู้ความทรงจำสมัยก่อนของตัวเองเท่าไหร่นัก คนเป็นหมอเลยลำบากนิดหน่อยเพราะร่างบางไม่ค่อยกระตือรือร้นกับการรักษาเท่าที่ควร

"ขอบคุณมากครับ" เมมโม่เอ่ยตอบคุณหมอพร้อมรอยยิ้มบาง ทำให้หมอที่หัวหมุนทั้งวันรู้สึกผ่อนคลายได้ในทันที

คิดถึงรอยยิ้มแบบนี้จัง

"แล้วนี่เราจะไปไหนต่อเหรอ ถ้าพี่ไม่ติดคนไข้ต่อก็อยากชวนไปกินข้าวด้วยเหมือนกันนะเนี่ย" หมอวัติพูดพลางลุกขึ้นตามคนไข้ตรงหน้าที่ยืนเก็บของเตรียมออกจากห้องของตน

"ผมกะจะพาว่าที่คุณหมอไปผ่อนคลายสักหน่อยน่ะครับ" หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ เมมโม่จึงตอบหมอหนุ่มพร้อมรอยยิ้มแล้วหันมองหน้าอีกฝ่ายเพื่อเตรียมบอกลา

"ว่าที่คุณหมอ? งี้ก็เป็นนักศึกษาแพทย์อยู่น่ะสิ พามาด้วยหรือเปล่า พี่ขอเจอได้มั้ย เผื่อเป็นเพชรเม็ดงามจะได้จีบมาเป็นหมอที่โรง'บาลตั้งแต่เนิ่นๆ"

"ฮ่าๆ เอาสิครับ เขารอที่สวนข้างโรงพยาบาลนี่เอง พี่วัติจะได้เดินเล่นสูดอากาศด้วย"

"โอเค งั้นรอพี่บอกพยาบาลแป๊บนะ เดี๋ยวไปพร้อมกัน"

"ครับ"

พอตกลงกันได้เมมโม่จึงปล่อยให้นิวัติจัดการธุระต่ออีกเล็กน้อยก่อนที่คุณหมอจะไปแจ้งพยาบาลว่าตนออกไปเดินเล่นข้างโรงพยาบาลมีอะไรเร่งด่วนให้ไปตามที่นั่น พอเรียบร้อยทุกอย่างทั้งคู่ก็ออกเดินไปยังจุดหมายพร้อมพูดคุยหัวเราะกันตลอดทาง



สวนนั่งเล่นบรรยากาศดีที่สร้างไว้ให้ผู้ป่วยได้มายืดเส้นรับลม มีชายหนุ่มร่างเพรียวนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวสีขาวใต้ร่มไม้ด้วยใบหน้าผ่อนคลายพร้อมระบายยิ้มบางอย่างนึกชอบใจ

ถ้าไม่โดนเมมโม่ลากมาก็คงอุดอู้นอนแผ่ไม่ไปไหนแน่ๆ ให้เครดิตหน่อยก็แล้วกัน

คนที่โดนนินทาในใจเดินมากับคุณหมอหนุ่มพลางสอดส่องสายตาหาคนที่นัดไว้ก่อนจะสะดุดเข้ากับแผ่นหลังเพรียวคุ้นตาที่นั่งหันหลังแกว่งขาบนม้านั่งอย่างอารมณ์ดี

ดูเหมือนการลากออกมาข้างนอกครั้งนี้จะได้ผลดีไม่น้อยเลย

"เจอแล้ว ไปกันครับ" เมมโม่เอ่ยบอกคนข้างกายก่อนจะเดินนำร่างสูงที่เดินตามไปอย่างเงียบๆ พร้อมรอยยิ้มเอ็นดู

"คุณ รอนานมั้ย แล้วลุงหายไปไหน ทำไมอยู่คนเดียวล่ะ" พอถึงตัวเป้าหมายเมมโม่ก็เอ่ยถามอย่างนึกแปลกใจเมื่อสังเกตเห็นว่ามีแค่ชายหนุ่มร่างเพรียวนั่งอยู่คนเดียวเท่านั้น

"อ่า ไม่นาน ลุงแกไปซื้อน้ำ เดี๋ยวคะ...คง...มา" ท้ายประโยคของคนโดนถามขาดห้วงไปพร้อมกับลมหายใจที่สะดุดและหัวใจเต้นระรัวเมื่อเห็นว่าร่างบางพาใครอีกคนมาด้วย

นิวัติมองใบหน้าสวยตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความห่วงหาอาธรณ์โดยไม่ปกปิด ต่างจากอีกฝ่ายที่นอกจากความตกใจแล้วก็ไม่ฉายอะไรอีกเลย แถมยังติดดูเย็นชาเสียด้วยซ้ำ

เมมโม่มองชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนมองหน้ากันนิ่งเหมือนถูกหยุดเวลาไปดื้อๆ ด้วยความงุนงง แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางก็ไม่คิดเอ่ยถามอะไรแล้วขยับถอยหลังไปเงียบๆ เพราะคิดว่าคนทั้งคู่คงอยากจะพูดคุยกันบ้าง

"เมมโม่! รีบไปกันเถอะ ฉันอยากกลับแล้ว" เป็นชายหนุ่มร่างเพรียวที่ดึงสติได้ก่อน ดวงตามีเสน่ห์ละจากใบหน้าอีกฝ่ายและไม่คิดปรายตามองพร้อมกับเอ่ยเร่งร่างบางแล้วเดินนำออกไปที่รถอย่างรวดเร็ว

เมมโม่ถอนหายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะหันไปก้มหัวขอโทษคุณหมอเล็กน้อยแล้วเดินตามร่างเพรียวไปอย่างเงียบๆ

นิวัติหลับตาลงพลางยกมือบีบสันจมูกเพื่อตั้งสติและบังคับตัวเองไม่ให้มองตามแผ่นหลังเพรียวจนคิดสั้นวิ่งตามไปฉุดรั้งเหมือนคนบ้าอีก

คิดถึง คิดถึงเหลือเกิน เขาคงไม่มีทางได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกแล้วใช่มั้ย...

"//คัตเตอร์//"




TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2018 18:42:03 โดย GoingSunny »

ออฟไลน์ เบลม็อท

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด