ลงตอนพิเศษที่ 2 -end- #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ {yaoi} ll ตอนที่ 15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลงตอนพิเศษที่ 2 -end- #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ {yaoi} ll ตอนที่ 15  (อ่าน 21586 ครั้ง)

ออฟไลน์ Butterfly8ffect

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

‘หมอทำแผลให้หนูหอมเสร็จแล้วล่ะ พี่ขุนจะเข้าไปหาน้องไหม’ ป้าขิมเดินออกจากห้องฉุกเฉินมาบอก ตอนแรกขุนเขาอยู่กับข้าวหอม แต่พอป้าขิมกับลุงขจรมาถึงก็เลือกออกมาทำแผลเพราะคุณพยาบาลตามตัว

‘ลุงขอบคุณมากเลยนะที่ขุนไปช่วยหอม’ ลุงขจรบีบหัวไหล่ของลูกชายเพื่อนที่รู้จักกันมานาน ใบหน้าใจดีของพ่อแม่ข้าวหอมมีรอยของการร้องไห้ให้เห็น

‘ถึงจะสงสาร แต่ป้าก็ดุไปชุดใหญ่แล้วที่โดดเรียน แต่เจอเรื่องแย่อย่างนี้ต่อไปคงไม่กล้าซนแบบนี้อีก’ ป้าขิมบอกเสียงแผ่วยกผ้าขึ้นซับน้ำตา นี่ถ้าคุณนายน้ำทิพย์แม่ของขุนเขาไม่ได้อยู่ไร่ที่เชียงใหม่ก็คงมานั่งร้องไห้เป็นเพื่อนป้าขิมแน่

‘งั้นผมขอเข้าไปดูหอมก่อนนะครับ’ ขุนเขาบอกเสียงนิ่ง ไม่ได้เอ่ยเล่าว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอไม่ใช่ซวยหรือบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจที่ถูกเตรียมมา

‘พี่ขุนจ๋า ฮึก’

‘ยังไม่หยุดร้องไห้อีกเหรอหอม’

‘ก็ฮึก มัน มันเจ็บ พวกนั้นแกล้ง ฮึก แกล้งหนูจะตีหนู’ ข้าวหอมบอกเสียงสั่น ตอนนี้ตามตัวมีผ้าก๊อซแปะอยู่หลายแห่ง รวมทั้งแผลเย็บอย่างที่หัวเข่าสองข้างรวมกันโดนไปเกือบสามสิบเข็ม

ขุนเขามองแผลบนร่างผอมบางด้วยสายตาเจ็บปวด ตอนนี้ข้าวหอมอายุแค่สิบห้า ตัวสูงยังไม่ถึงเอวขุนเขาเสียด้วยซ้ำ ไม่มีทางที่ขุนเขาจะคิดเรื่องไม่ดีหรือรักชอบอย่างที่ข้าวหอมต้องการได้ ถ้าคิดอะไรแบบนั้นขุนเขาก็คงต้องเข้าคุก

มันไม่สมควร แล้วข้าวหอมก็แค่เด็ก สักวันเดี๋ยวก็ลืมความรู้สึกพวกนี้

‘สมควรไหมล่ะ ใครให้โดดเรียนมา’

‘ฮึก หนู หนูขอโทษ อึก หนูขอโทษ’ ข้าวหอมร้องบอกเสียงสั่นน้ำตายิ่งนองหน้า เห็นแล้วขุนเขาก็ยิ่งปวดใจ

ไม่ชอบเลย

‘ไม่ร้องแล้วหอม หอมน่ะเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะ เหมาะกับความสดใส ไม่ร้องไห้แบบนี้แล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่ดีเลย หยุดร้องได้แล้ว’ ขุนเขาปลอบเท่าที่จะนึกออก มือหนาเช็ดน้ำตาออกให้ ยิ่งพอเห็นข้าวหอมรีบถูซับน้ำตากลั้นสะอื้นเพื่อหยุดร้องไห้ก็เบาใจมากขึ้น

‘ต่อไปหอมไม่ร้องไห้แล้วนะ ยิ้มเยอะ ๆ’

‘อึก ไม่ ฮึก หนูไม่ร้อง ไม่ร้องแล้วจ้ะพี่ขุน ฮึก’

‘ดี ไม่โดดเรียนด้วย’

‘ไม่โดดแล้ว ฮึก ไม่โดดอีกแล้ว’ ข้าวหอมพยักหน้ารับ มือหนาลูบผมนิ่มเชื่องช้าปลอบโยน ดวงตาคมแฝงไว้ด้วยความรู้สึกมากมายยามที่มองหน้าของข้าวหอม

ขุนเขาโกรธนนท์ที่ทำแบบนี้ แต่ก็โกรธตัวเองมากด้วยเช่นกัน โกรธที่ทำให้เด็กดื้ออย่างข้าวหอมโดดเรียนออกมา

ข้าวหอมไม่ใช่สิ่งที่เดายาก ถึงจะดื้อแค่ไหนแต่ก็เป็นเด็กตั้งใจเรียน ไม่เคยสักครั้งที่จะคิดนอกลู่นอกทาง แต่ที่โดดเรียนมากับนนท์แบบนี้ก็มีแค่เหตุผลเดียวคืออยากมาดูขุนเขาแข่งบาส

การแข่งขันที่ข้าวหอมขอมาหลายหนให้ขุนเขามารับจากโรงเรียนไปดู แต่ก็เป็นตัวเขาเองก็นั่นแหละที่บอกปัดว่าไม่ต้องมา บอกว่าไร้สาระจะมาทำไม

‘หอม’

‘จ๊ะ อึก จ๋า พี่ขุน’

‘ไม่ทำให้พี่เป็นห่วงแบบนี้แล้วนะรู้ไหม’

แต่ข้าวหอมก็ยังพยายามหาทางมาหา ทำเรื่องบ้า ๆ ที่อันตรายกับตัวเองก็เพราะเชื่อว่าการทำแบบนี้จะคว้าขุนเขาที่อยู่ไม่ไกลไว้ในมือได้

ยิ่งอยู่ใกล้ ขุนเขาก็ยิ่งจะทำให้ข้าวหอมตัดสินใจอะไรที่ผิดพลาดและไม่ถูกไม่ควร ตอนแรกพ่อของขุนเขาตัดสินใจจะขายไร่มะเขือเทศที่เชียงใหม่ทิ้ง เพื่อมาอยู่กาญจนบุรีอย่างเต็มตัวเป็นเพื่อนย่าเพราะปู่เพิ่งตายไป

แต่ขุนเขาคิดว่าไร่นั่นไม่ควรขาย ตนจะไปดูแลเองที่เชียงใหม่อย่างเต็มตัว จะกลับมาที่เมืองกาญฯ เฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น

และสิ่งที่ขอตอบแทนจากลุงขจรกับป้าขิมในการช่วยข้าวหอมครั้งนี้ก็คืออย่าพาข้าวหอมมาที่เชียงใหม่ ขอร้องไปถึงพ่อแม่และคุณย่าสมสมัยของตน ไม่ให้พาข้าวหอมมา ให้เวลาสอนให้ข้าวหอมเรียนรู้ที่จะโตขึ้น

อย่าให้ข้าวหอมถูกความรู้สึกรักแบบเด็ก ๆ ทำให้ตัดสินใจทำอะไรที่อันตรายกับตัวเองเพราะขุนเขาอีก



ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ



“งั้นพี่ขุนจะบอกว่า พวกนิสัยไม่ดีที่แกล้งหนูวันนั้น นนท์เป็นคนนัดมาเหรอ”

“อื้ม ใช่แล้วล่ะ”

“ทะ ทำไมหนูไม่รู้เลย” ข้าวหอมถามเสียงแผ่ว

“ไม่มีใครรู้หรอก คืนวันนั้นนนท์มันมาหาพี่ มันบอกว่าก่อนที่ตำรวจจะมามันเข้าไปเก็บมือถือของตัวหัวหน้าที่ส่งข้อความตอบโต้กับมันมาแล้ว มันขอให้พี่อย่าบอกใครเรื่องนี้ มันจะกลับตัว พ่อแม่จะส่งมันไปอยู่เมืองนอกเพื่อรอเรื่องซา” ขุนเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่

“พี่ตกลง แลกกับเงื่อนไขข้อเดียวว่าอย่ามายุ่งกับหอมอีก อย่ามาให้พี่เจอหน้าอีกกับเรื่องเหี้ย ๆ ที่มันทำ” พูดแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด เสนอหน้ากลับมาอีกรอบแล้วยังมาพูดอะไรที่ชวนให้โมโหกว่าเดิมอีก

“ทำไม นนท์ ฮึก นนท์ทำแบบนี้อะ ทำไม ฮึก นนท์ใจร้าย” เสียงหวานสั่นเทาแต่ก็พยายามที่จะกลั้นสะอื้นเอาไว้ แต่มันก็เป็นไปได้ยากกับความเสียใจที่รู้สึก

ขุนเขาไม่ได้แคร์ที่จะช่วยนนท์ ที่จริงมันควรจะโดนโทษสักอย่างมากกว่านี้ด้วยเหมือนกัน แต่ที่ไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ ก็เพราะไม่อยากให้ข้าวหอมรู้

ความรู้สึกของการที่ซวยไปเจอคนไม่ดีทำเรื่องแย่ ๆ กับ ความรู้สึกที่ถูกเพื่อนที่ไว้ใจหลอกไปทำร้ายเพื่อรังแกเรา มันเป็นความเสียใจที่เทียบกันไม่ได้

การถูกทำร้ายความเชื่อใจแบบนั้น

“อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเลย หอม”

“ฮึก หนู หนูขอใช้โควตาให้พี่ขุนปลอบ ฮึก นะ”

“นี่เด็กโง่ มันไม่มีโควตาจำกัดหรอกนะหอม”





ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ



ตื่นเต้นอะ ในที่สุดก็ได้เฉลยปมอดีตแน้ว ยาวมากจ้า เขียนจนปวดหลังปวดคอ ถถถถ ขนาดตัดมาจากตอนสิบเอ็ดแน้วน้า แต่ก็ไม่อยากแบ่งไปตอนสิบสามอีก อยากเล่าอดีตให้สิ้นในม้วนเดียวไปเลยย งื่ออ ปมอ่จจะไม่ได้แน่นหรือซับซ้อนอะไรมากนะคะ เดี๋ยวจะผิดคอนเซปสดใสคิ้กค้ากกก

ตื่นเต้นอย่างอ่านฟีดแบคมาก ๆ ๆ เป็นพิเศษเลยค่ะตอนนี้ ; ; จะนอนรอนั่งรอกลิ้งรอในแท็ก #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ นะคะทุกคนนน ติดแท็ก ๆ กันเย้อๆ น้าา ชวนเพื่อนมาอ่าน สะกิดชวนคนนุ้นคนนี้มาหาพีขุนกับหนูหอมกันน้าาา เลิฟ ฮาร์ททึ ฮาร์ททึ



#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่

@Butterfly8ffect

ออฟไลน์ Butterfly8ffect

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
 


#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่
สิบสาม , ๑๓
[/b]


 เพราะเมื่อคืนร้องไห้จนเพลียมาก ขุนเขาจึงยอมให้ข้าวหอมหลับไปโดยไม่ได้ปลุกขึ้นมาอาบน้ำ ส่วนตัวเองก็ลงไปตรวจเช็คความเรียบร้อยของบ้าน

 ดีที่เจออนาคินซึ่งกำลังจะขึ้นมานอนในห้องเดิมของข้าวหอมบอกว่านนท์ไปนอนห้องรับแขกที่ชั้นล่างเรียบร้อยแล้วทำให้ขุนเขาไม่ต้องเจอหน้ามันให้คันเท้าอีกหน

 ส่วนอนาคินก็ย้ำถามว่ามันเกี่ยวกับเรื่องอะไร ทำไมถึงได้ต่อยตีกันแบบนี้ ขุนเขาบอกปัดว่าค่อยคุยกันพรุ่งนี้เช้าแทน

 และเมื่อมื้อเวลาเช้ามาถึง ป้าช่อทำข้าวซอยน่องไก่โต ๆ ไว้ให้พร้อมรอต้อนรับทั้งสี่คน

 ตอนนี้พวกเราอยู่ตรงโต๊ะอาหาร เพราะข้าวหอมบอกว่าถ้ามีกับข้าวสุดอร่อยของป้าช่อขวาง พี่ขุนเขากับนนท์จะได้ไม่บ้าเลือดวิ่งเข้าใส่กัน อันนี้คินเห็นด้วย ของอร่อยขนาดนี้ใครจะล้มโต๊ะให้เสียของได้ลงล่ะ

แม้กลิ่นอาหารบนโต๊ะจะหอมฉุยแต่กลับไม่มีใครลงมือกินข้าว มีแค่อนาคินที่เหลียวไปมองอยู่เป็นพัก ๆ เพราะหอมยั่วน้ำลาย แต่บรรยากาศตอนนี้กำลังจริงจังอนาคินจะตามใจปากและกระเพราะน้อย ๆ ไม่ได้

 "นนท์กลับมาที่นี่ทำไมอีกเหรอ" ข้าวหอมพูดขึ้นมา

 "เรารู้เรื่องเมื่อตอนนั้นหมดแล้วนะนนท์" ข้าวหอมเอ่ย แต่เรื่องนั้นมันคือเรื่องไหน อันนี้อนาคินไม่รู้แฮะ แต่ไม่เป็นไร ตีหน้าเข้มคิ้วขมวดไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยไปแอบถามเรื่องทั้งหมดเอาทีหลัง

 แต่ถึงอนาคินจะทำหน้าจริงจังแค่ไหนก็ดูทั้งเครียดและเคร่งสู้กับพี่ขุนเขาที่แค่นั่งกอดอกมองหน้านนท์ไม่ได้เลย รายนั้นดูพร้อมกระทืบแม้จะแค่นั่งเฉย ๆ

 "ข้าวหอมรู้แล้วเหรอ พี่ขุนเขาเล่าให้ฟังสินะ" นนท์พูดออกมาเสียงไม่แปลกใจ

 "แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ นนท์จะได้ไม่ต้องพยายามต่อสู้กับความเห็นแก่ตัวของตัวเอง" นนท์จ้องมองหน้าของข้าวหอม ไม่มีรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า มีแต่ความรู้สึกเจ็บลึกในแววตา

 "นนท์ไปอยู่ที่บอสตันมา มันก็ดีนะ นนท์ไปอยู่กับป้าได้เจอสังคมใหม่ รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นเยอะเลย รู้สึกว่าตัวเองก็เจ๋งแม้จะไม่ต้องทำตัวเกเรหรือว่าอยู่กับพวกอันธพาล แต่ก็ยังมีเรื่องที่ทำให้นนท์คิดวนซ้ำ ๆ ก็คือเรื่องของข้าวหอม" นนท์เล่า และขุนเขาไม่คิดจะขัดเพราะรู้ว่าตอนนี้ข้าวหอมคงอยากได้คำอธิบาย จะได้รู้สึกดีขึ้นและไม่ค้างคากับเรื่องนี้มากที่สุด.

 ถึงจะอยากต่อยปากคนพูด แต่ขุนเขาก็จะอดทนฟังไปพร้อมข้าวหอม

 "ตอนนั้นนท์เกลียดเรามากเลยเหรอถึงได้หลอกเราไปให้พวกรุ่นพี่พวกนั้นตีอะ รู้ไหมว่าเราถูกผลักล้มด้วย เข่ามีแผลขาไม่สวยเลยเนี่ย แล้วมันก็กรูมาจะรุมกระทืบด้วย เราไม่ใช่ฮัคนะจะสู้ชนะได้ไง ต้องโดยต่อยจนกระดูกหักแน่ ๆ นนท์โคตรนิสัยไม่ดีเลย มากๆ" ข้าวหอมพูดเสียงดังขึ้น

ตอนแรกก็คิดว่าเรื่องมันผ่านไปแล้วจะไม่โกรธ เพราะตัวเองก็ปล่อยวางเกี่ยวกับพวกรุ่นพี่ที่ลงมือกับตัวเองซึ่งถูกจับเข้าคุกพวกนั้นได้แล้ว แต่พอได้พูดกับนนท์เรื่องนี้ก็อดจะเคืองไม่ได้

 "โดนต่อยเหรอ?" นนท์พึมพำ หันมาสบตาขุนเขาที่จ้องอยู่ ขุนเขาส่งสายตาข่มขู่บอกว่าไม่ต้องไปอธิบายอะไรตรงนี้ ให้ข้าวหอมเชื่อแบบนั้นต่อไป

 จากการคุยกันเมื่อคืน ขุนเขาได้รู้ว่าข้าวหอมจำสิ่งที่เกิดในตรอกนั่นได้ไม่ชัดเจนโดยเฉพาะคำพูดจากพวกเด็กเลว อาจจะเพราะตอนมอสามยังเด็กไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ข้าวหอมถึงจดจำว่ามันเป็นการแกล้งต่อยตีกันของวัยรุ่น ไม่ใช่เรื่องที่เหยียบย่ำน้ำใจไปมากกว่านั้น พอโตขึ้นเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่ความทรงจำในตอนนั้นก็เลือกจะจดจำแค่นั้นแล้ว

 แบบนี้มันย่อมดีกว่า ดีกว่ามาก ๆ ในเมื่อข้าวหอมจำเรื่องแย่ ๆ นั่นแบบที่เจ็บปวดน้อยที่สุด ขุนเขาก็จะเป็นคนที่จำมันได้อย่างครบถ้วนไม่ลืมแทนเอง

 "อื้มใช่แล้วล่ะ และนนท์รู้ รู้ว่าสิ่งที่นนท์ทำมันแย่มาก มันชั่วร้ายสุด ๆ เลย" นนท์เอ่ยต่อ ชัดเจนเช่นกันว่าจะให้เรื่องในความเข้าใจของข้าวหอมเป็นไปตามเดิม

 "ทุก ๆ วันตลอดเกือบสี่ปีที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเลยที่นนท์ไม่เสียใจกับเรื่องนั้น แม้แต่วันนั้นเองนนท์ก็อยากเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่กล้าพอ ยิ่งคิดถึงมัน ยิ่งโตขึ้น นนท์ก็เข้าใจความรู้สึกตัวเองมากขึ้น"

 "...."

 "จริง ๆ ที่ผ่านมานนท์ไม่ได้อยากทำร้ายหอมขนาดนั้นหรอก แต่อยากแกล้งให้หันมามอง อยากให้หอมสนใจนนท์ แม้แต่เมื่อวานตอนที่กลับมาเจอกัน นนท์ตั้งใจจะมาขอโทษ แต่พอเห็นหน้าหอมอีกรอบ นนท์รู้สึกสับสน อยากขอโทษแต่ก็กลัวข้าวหอมรู้แล้วจะเกลียดกัน เพราะนนท์รักข้าวหอมมาตลอดเลยนะ"

 "เหอะ พูดมาได้ไอ้เหี้ยเอ๊ย" ขุนเขาพึมพำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

 "มาถึงตรงนี้แล้วผมอยากพูดทุกอย่าง พี่จะต่อยผมอีกก็ได้นะพี่ขุนเขา" นนท์ตอบกลับมาเสียงจริงจัง มือผอมของข้าวหอมเกาะแขนแกร่งดึงไปหาเป็นเชิงถาม

 "เมื่อวานที่ต่อยปากมันก็เพราะมันพูดทำนองนี้แหละ ไอ้เวรนนท์มึงกล้าพูดออกมาได้ว่ารักว่าชอบ มึงทำกับคนที่มึงชอบแบบนี้เหรอ ถ้ามึงบอกว่าทำเพราะเกลียดกูก็ว่าเหี้ยแล้วนะ แต่มึงลากคนที่รักไปให้ถูกรุม...ลากไปรุมกระทืบ นี่เหี้ยกว่าเดิมอีก" น้ำเสียงของขุนเขาแข็งกระด้างไม่แพ้สายตา มือหนากำกันแน่นจนเกร็งไปทั้งตัว แม้แต่ข้าวหอมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยังรู้สึกได้

 มือผอมถึงได้วางแนบลงไป ลูบเบา ๆ ให้ขุนเขาคลายความรู้สึกลง

 "ตอนนั้นผมมันเด็กแล้วก็โคตรโง่ โง่ที่สุดในโลก ทุกอย่างมันเลยเถิดไปหมดและผมก็จัดการมันไม่ได้สักอย่าง ผมคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ อันที่จริงผมอาจจะไม่ได้ใช้สมองเลย" นนท์เอ่ยด้วยความรู้สึกผิดและเหนื่อยล้า

 "นนท์ขอโทษนะหอม ขอโทษในทุกเรื่องแย่ ๆ ที่นนท์ทำกับหอม แต่เรารักหอมนะ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังรักอยู่"

 "นนท์รู้ไหมว่าโดนต่อยนี่มันเจ็บมากเลยนะ แต่ว่าโดนเพื่อนหลอกน่ะเจ็บกว่าอีก เราอยากให้นนท์รู้สึกบ้างเลยว่าโดนต่อยมันเจ็บยังไง แต่ว่าพี่ขุนต่อยนนท์ให้เราไปแล้ว เราก็จะไม่ทำนนท์ซ้ำ ตอนนั้นเราคิดว่านนท์เป็นเพื่อนที่ดีจนถึงเมื่อคืนนี้ก็ยังคิด"

 "ข้าวหอมโกรธเราสินะ"

 "ถ้านนท์เป็นเรา นนท์ไม่โกรธเหรอ"

 "โกรธสิ คงโกรธมาก ๆ โคตรโกรธเลยล่ะ"

 "อื้ม เราเพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อคืน ตอนนี้เรายังรู้สึกแย่อยู่ แต่สักวันเราก็คงหายโกรธนนท์ แต่ยังบอกไม่ได้นะว่าเมื่อไหร่” มาโกรธเป็นจริงเป็นจังแบบนี้ข้าวหอมก็ไม่เคยเหมือนกัน แต่คิดว่าสักวันก็คงต้องจางไปแน่ ๆ แผลที่หัวเข่าข้าวหอมยังจางลงทุกวันเลย ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีวันหายไปก็เถอะ

 "แต่เรารับคำขอโทษของนนท์นะ ขอบคุณที่ยังอยากจะกลับมาขอโทษกัน"

 "ขอบคุณข้าวหอมมาก ๆ เหมือนกันที่รับคำขอโทษของนนท์ ขอบคุณจริง ๆ " นนท์บอกด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ทว่าดวงตาคลอด้วยหยาดน้ำตา

 "แล้วก็เรื่องที่นนท์บอกว่ารักเรา คือเรื่องนี้อะ ถึงนนท์จะไม่เคยแกล้งเรา เราก็ตอบรับอะไรไม่ได้หรอกนะ" อยากจะทำหน้าเคร่งขรึมจริงจังแต่พอพูดเรื่องนี้ข้าวหอมก็อดไม่ได้จะยิ้มแฉ่ง โถมตัวไปกอดแขนล่ำ ๆ ของขุนเขาจนแน่น

 "เราอยากแต่งงานกับคนที่เรารักมาตลอดเลย แล้วตอนนี้เราก็ได้แต่งงานกับเขาแล้วด้วย หรือถ้ายังไม่ได้แต่งเราก็ไม่รักคนอื่นหรอก แล้วก็จะหาทางให้ได้แต่งด้วยอยู่ดี" ข้าวหอมพูดแล้วก็หัวเราะคิกคัก ขุนเขาฟังคำบอกรักที่ปนมาด้วยแผนการแสบ ๆ อดจะยิ้มตามไม่ได้เช่นกัน ก็ดีแล้วล่ะที่ข้าวหอมกลับมายิ้มได้เร็วแบบนี้.

 "นนท์เข้าใจแล้วล่ะหอม นนท์เข้าใจแล้ว"

 "สักวันนนท์ก็คงจะเจอคนที่นนท์รักแล้วก็รักนนท์ที่บอสตันเหมือนกันแหละ" ข้าวหอมยิ้มเผล่ เป็นการบอกให้กลับไปบอสตันแบบนุ่มนวล และนนท์ฟังแล้วก็เข้าใจแทบทันที อย่างน้อยข้าวหอมก็รับคำขอโทษแล้ว นี่อาจจะดีที่สุดเท่าที่จะขอได้

 "หอมคุยกับมันจบแล้วใช่ไหม" เสียงถามมาจากคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นนท์ อนาคินจ้องมาตาเขม็ง

 ตุบ

 "ไอ้นนท์ ไอ้เวร มึงแกล้งเพื่อนกูเหรอ” อนาคินทุบกำปั้นลงกลางหลังของนนท์แรง ๆ ไปหนึ่งที แค่ฟังก็ประติดประต่อเรื่องให้เข้าใจได้เองหมดแล้ว อนาคินยังจำได้ตอนนั้นข้าวหอมออกจากโรงพยาบาลมาต้องเดินกะเผลก ๆ มีแผลตามตัวร้องไห้อยู่ตั้งนานเพราะโดนรุมต่อยมา

 สาเหตุมันมาจากไอ้เวรนี่ที่คิดว่าเป็นเพื่อนกันเองเหรอ ถ้ารู้เรื่องนี้ อนาคินไม่พานนท์มันตามมาด้วยหรอก

 "มึงกลับไปเลย กูพามึงมากูไล่เอง แล้วมึงก็ไม่สมควรจะได้กินข้าวอร่อย ๆ มื้อนี้ด้วย" อนาคินบอกเสียงแข็ง มือใหญ่ดึงถ้วยข้าวซอยมาจากตรงหน้านนท์ทั้งหมดเป็นการลงโทษ ส่วนเรื่องใช้กำลังก็เท่านี้พอ ไม่ใช่พี่ขุนเขา เมื่อกี้ทุบไปหนึ่งทีก็โคตรจะเจ็บมือแล้ว

 "กูสมควรแล้วล่ะ ขอโทษมึงด้วยเหมือนกันคิน ขอบคุณด้วยที่พากูมา" นนท์พยักหน้ารับ รู้ตัวเองดี ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นไปเอากระเป๋าที่เก็บเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อเช้า เพื่อออกไปจากที่นี่

 นนท์สบตากับขุนเขาที่ยังคงมองมาด้วยสายตาระแวดระวัง

 "ผมขอบคุณพี่มาก ๆ นะครับพี่ขุนเขา" นนท์ยกมือไหว้และบอกจากใจจริง

 ถ้าวันนั้นไม่เจอพี่ขุนเขา หรือถ้าอีกฝ่ายมัวกังวลว่าพวกนั้นจะมีกี่คนจะมีอาวุธรุนแรงไหม จนไม่ตรงไปช่วยข้าวหอมทันที ตอนนี้ความรู้สึกผิดในใจของนนท์คงจะยิ่งใหญ่เกินกว่าจะทนรับตัวเองไหวก็เป็นได้

ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ

 ตอนบ่ายหลังจากที่ขุนเขาให้ลุงเดชไปส่งนนท์ที่สนามบิน ไร่อินท์วันธรก็เริ่มกลับเข้าสู่บรรยากาศปกติอีกครั้ง

 "ใจเย๋น ๆ ค่าา คุณหอมอย่ายะคุณคินอั๋นเจ้า คุณคินบะเดวต้องอาบน้ำแหมเหมาะหนาเจ้า เอ๋ออ ฟังป้าแหมน้อยเจ้าคุณ ๆ ( ใจเย็นค่ะ คุณหอมอย่าทำคุณคินค่ะ คุณคินเดี๋ยวต้องอาบน้ำอีกรอบนะคะ ฟังป้าหน่อยค่ะคุณ ๆ )"

 หรืออาจจะเรียกว่าวุ่นวายกว่าปกติ

 ขุนเขาที่เพิ่งเข้ามาจากการตรวจไร่ตอนบ่ายรีบก้าวฉับ ๆ ตรงไปที่ครัวทันทีเมื่อเปิดประตูบ้านแล้วได้ยินเสียงดังสนั่นไปทั่ว

 "คินอย่ามาตัดกำลังเรานะ ของเราต้องอร่อยกว่าแน่"

 "หอมเว้ย กระจอก" ไม่ว่าเปล่าแขนที่ยาวกว่าได้เปรียบของอนาคินก็ยังยกชามแสตนเลสใบโตของข้าวหอมชูไว้เหนือหัว ส่วนคนตัวเล็กกว่าก็พยายามจะกระโดดไปเอาแต่ก็ไม่ถึง ทว่าทุกครั้งที่ปะทะกันก็ทำเอาไข่ในชามแทบจะกระเด็นออกมาหกรดคนถือเอง

 ข้าวหอมเห็นโอกาสดีก็เลยตรงเข้าไปรัดตัวอนาคินไว้ทั้งแขนขา สองมือพยายามจะจั๊กจี้เพื่อนให้ยอมแพ้

 ส่วนป้าช่อที่จะสอนเด็กวัยรุ่นสองคนเข้าครัวทำอาหารง่าย ๆ อย่างไข่ตุ๋นก็ได้แต่ยืนห้าม มองครัวของตัวเองที่มีวี่แววจะเข้าสู่การเลอะเทอะในเวลาไม่ช้า ดูแล้วเหมือนเด็กอนุบาลทะเลาะกัน

 "หอม! คิน! พอ ๆ" ขุนเขาเรียกชื่อแต่ละคนเสียงเข้ม อนาคินยิ้มแหยแหะแหะลดมือที่ถือชามไข่มาไว้กลางอก  ส่วนข้าวหอมหันมามองหน้าซื่อทั้งที่ยังอยู่ท่าเดิม

 "หอมพี่บอกแล้วใช่ไหม" ขุนเขาดุขณะที่ดึงเอาตัวข้าวหอมออกมาจากอนาคิน พอขุนเขามาจับปุ๊บเด็กตัวเล็กกว่าก็โถมมากอดขุนเขาแทน

 "พี่ขุน คินแกล้งหนู ตอนแรกจะทำไข่ตุ๋นแข่งกันดี ๆ แต่พอคินเผลอใส่น้ำปลาของตัวเองเยอะไปก็จะเอาของหนูไปใส่เยอะ ๆ ด้วย นิสัยไม่ดีเลย" ข้าวหอมฟ้องใหญ่

 "แต่หอมกับคินกำลังจะทำให้ครัวป้าช่อพังนะ ไปเล่นอย่างอื่นกันดีกว่า" ขุนเขาบอกเสียงที่ลดความดุลงไปมาก

 "ส่วนคิน นายตัวโตกว่าตั้งเยอะก็ไม่ควรที่จะแกล้งเพื่อนมาก ว่าไหม"

 "ครับ ครับ คินเห็นด้วยค้าบบบพี่ขุน" อนาคินพยักหน้ายกใหญ่ แต่เหงื่อนี้ซึมจนชุ่มหลังแล้ว พี่ขุนเสียงดุ ๆ กับตาเรียวแข็ง ๆ นี่น่ากลัวเป็นบ้า

 "หนูขอโทษนะจ๊ะป้าช่อ" ข้าวหอมพอถูกดุก็หันไปอ้อนคุณป้าร่างอวบ แต่วันนี้ไม่น้อยใจพี่ขุนเพราะว่าพี่ขุนก็ดุคินแล้วก็เข้าข้างหนูด้วย แน่แหละก็หนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ขุน ส่วนคินอะก็แค่เด็กน้อยเท่านั้นแหละ

 อย่ามาคิดที่จะลองดีกับจีรภัทรเล้ย นายอนาคิน

 "งั้นคินก็ออกมานี่เลย เราอย่าไปกวนป้าช่อ" ปล่อยมือจากขุนเขาแล้วก็เดินไปกำข้อมือของอนาคินด้วยสองมือผอมเพื่อลากออกมาด้วยกัน

 ขุนเขามองตามมือเล็ก ๆ ที่เกาะแกะบนตัวคนอื่น นั่นน่ะเพื่อน เพื่อนที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ

 "หอม ไปหยิบน้ำเย็นในตู้ให้พี่ที"

 "พี่ขุนอยากกินน้ำเหรอเอาน้ำอะไรอะ น้ำเปล่า น้ำแดง หรือว่าสไปซ์หนูแบ่งให้ขวดนึงได้นะจ๊ะ" แล้วพอข้าวหอมปล่อยมือกลับมาจ๊ะจ๋ากับตัวเองแทนขุนเขาก็แอบอมยิ้มคนเดียว

 "น้ำเปล่าแล้วกัน" พอได้คำตอบข้าวหอมก็รีบเดินไปที่ตู้เย็นทันที ในครัวเหลือแค่ป้าช่อที่จัดการเอาไข่สองถ้วยมารวมกันทำไข่ตุ๋นต่อ กับอนาคินที่ยืนยิ้มแหะแหะ

 "คิน ต่อไปเวลาข้าวหอมมากอดมาจับก็ห้ามเพื่อนบ้างนะ" ขุนเขาบอกเสียงนิ่ง แต่ใจอนาคินไม่นิ่งเลย ยิ่งภาพที่ขุนเขาออกหมัดซัดนนท์ยังติดตา พอพี่ขุนเขามาโหมดจริงจังแล้วคินขนหัวลุก

 "ครับพี่ ค้าบบ" อนาคินทำมือโอเครับ ขุนเขาตบบ่ารุ่นน้องที่ตัวสูงพอกันไปสองสามที ก่อนจะเดินออกไป อนาคินถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเอามือลูบอกปลอบขวัญตัวเอง

ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ

 "หอม พูดจริง ๆ เหอะว่ะ คินว่าพี่ขุนโคตรหึง โคตรหวงหอมเลยนะ คินเป็นเพื่อนแท้ ๆ ยังรู้สึกว่าถูกเพ่งเล็ง" อนาคินกระซิบบอกเพื่อนรักเมื่อได้โอกาสนั่งดูหนังกันสองคนตอนที่เจ้าของบ้านลุกไปเข้าห้องน้ำ

 "จริงเหรอคิน จริงอะ" ข้าวหอมทำตาโตยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่อยู่

 "พี่ขุนหึงเราจริงเหรอ โอย ทำไงดีอะ เขินไปหมดแล้วเนี่ย" พูดแล้วบีบมือตัวเองไปมาบิดซ้ายบิดขวาจนอนาคินอ่อนใจ เมื่อกี้พี่ขุนจะกินหัวอนาคินอยู่แล้วไม่เห็นหรือยังไง

 "ใช่อะดิ เราว่าพี่ขุนมีใจแล้วว่ะ หอมรุกเลย ไปให้สุดเว้ยเพื่อน"

 "ก็ดีเนอะ ...แต่ถ้าพี่ขุนรำคาญอะคิน เราเคยเข้าไปช่วยในไร่ จนทำของพังด้วยเพราะอยากให้พี่เขารักเร็ว ๆ อะ"

 "ก็อย่าไปทำอะไรพังสิวะหอม ไม่ต้องยุ่งกับอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากตัวพี่ขุนอย่างเดียว" อนาคินจ้องหน้าเพื่อนด้วยสายตามีเลสนัย

 "แล้วถ้าจากนี้พี่ขุนจะดุอะนะ ก็ดุไม่จริงเชื่อดิ ดุเพราะเขินทั้งนั้น" รีบเสริมบอกต่อทันที

ถ้าพี่ขุนกับข้าวหอมลงเอยรักกันแน่นแฟ้นด้วยดี ต่อไปก็จะได้ไม่ต้องมาเขม่นอะไรกับตนแล้ว อนาคินเล่นถึงเนื้อถึงตัวกับข้าวหอมมาตลอด จะมาให้ระวังตอนนี้ก็เกร็งเกินไป

 เพราะฉะนั้นต้องพาตัวไปอยู่ในตำแหน่งกามเทพ ต่อไปพี่ขุนก็มีแต่ต้องเซ่นไหว้ให้ขนมนมเนยกับอนาคินเป็นรางวัล ไม่ใช่จ้องจะตบกะโหลก

 "ข้าวหอม!"

 แบบตอนนี้เนี่ย

 "จ๋าพี่ขุน" ข้าวหอมขานรับเสียงหวาน ในขณะที่เพื่อนตัวโตโดนสายตาเพชฌฆาตจ้องมาทำเอาหายใจหายคอไม่ออกอีกแล้ว อนาคินร้องบอกทางสายตาว่าผมบริสุทธิ์ใจถึงจะนั่งสุมหัวจนผมแทบจะติดกันกับคนที่แต่งงานกับพี่เขาก็เถอะ

 "มาหาพี่หน่อยหอม" ขุนเขาเอ่ยเรียกข้าวหอมก็วิ่งจี๋มาทันที รอยยิ้มแสนอ้อนนั้นทำเอาขุนเขาถอนหายใจเฮือก จะดุจะว่าอะไรก็พูดไม่ออกเลย ขุนเขาพาเดินไปที่ตู้เย็นที่เอาไว้เก็บพวกขนมกับเครื่องดื่ม ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปห้องครัวกับห้องนั่งเล่น

 มือใหญ่หยิบสไปซ์กับเค้กกล่องเล็ก ๆ ออกมาจากในตู้เย็น ยื่นให้กับเด็กตัวขาวตรงหน้า

 "พี่รู้ว่าคินมันเป็นเพื่อนแต่ใกล้เหมือนจะหอมแก้มแบบนั้นไม่เอาแล้วนะหอม" ลองใช้วิธีนี้ดูบ้างตามคำแนะนำที่ได้ฟังจากน้องชายอย่างเขตแดน สอนเสียงทุ้มนุ่ม แล้วถ้าข้าวหอมรับฟังด้วยดีก็เอาขนมกับสไปซ์ที่ชอบให้

 ไม่ใช่มีแต่ทำไม่ดีแล้วถูกดุ แต่เป็นทำดีแล้วให้รางวัลแทนบ้าง เมื่อก่อนขุนเขาก็ใช้วิธีนี้อยู่บ้าง แต่จากที่ฟังคำแนะนำมาคือควรจะใช้ให้บ่อยยิ่งขึ้น

 "พี่ขุนไม่อยากให้หนูใกล้คินเพราะหึงหนูเหรอ" ข้าวหอมถามตามตรง

 "...." ส่วนขุนเขาก็ไม่รู้จะบอกกลับยังไงดี ได้แค่กลืนน้ำลายอึก

 "ใช่จริง ๆ สินะจ๊ะ คินไม่เห็นน่าหอมตรงไหนเลย" เพราะข้าวหอมสูงประมาณคางของขุนเขาเวลาคุยด้วยถ้าอยากจะมองตาก็ต้องเงยหน้าคุยแบบนี้

 ฟอด เวลาที่จะหอมแก้มก็ต้องเขย่งจนสุดปลายเท้าแบบนี้ด้วย

 "หนูน่ะอยากหอมแก้มพี่ขุนแค่คนเดียว" บอกหลังจากที่หอมแก้มคนตัวโตด้วยรอยยิ้มจนตาหยี แล้วก็คว้าขนมในสองมือใหญ่วิ่งแนบหนีไป

 ข้าวหอมทั้งเขินทั้งรู้สึกใจเต้นตุบตับ ๆ จนหน้าแดงแจ๋ต้องรีบหลบไปตรงอื่น

 ส่วนขุนเขายังยืนนิ่งค้างอยู่ท่าเดิม แม้แต่ปากก็อ้าค้าง ตาเบิกโพลง และมือทำท่าถือของด้วยองศานิ้วที่กางไม่เปลี่ยน

 มีแค่ใบหูที่เริ่มแดงจัดกับสองแก้มที่เริ่มขึ้นสีตามไปหูไปติด ๆ


ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ


 "คุณขุน คุณขุนครับ จะหื้อคนงานเอาต้นอ่อนสตอวร์เบอร์รี่ลงไว้แถวไหนครับ" ลุงเดชถามไทยปนเมืองกับผู้เป็นนายที่ยืนตัวโตจ้องมองโรงเรือนซึ่งเตรียมไว้ปลูกพืชที่ไร่จะปลูกเฉพาะช่วงอย่างสตอวร์เบอร์รี่

 ก็ยืนมองอยู่แท้ ๆ ทำไมเอาแต่ยืนลูบแก้มซ้ายตัวเองไม่ยอมตอบกันเนอะ

 "คุณขุนครับ!" เรียกดังขึ้นอีกหน่อย

 "ห๊ะ ครับ  อ่อ อะไรนะครับลุงเดช" จนสะกิดไหล่เพิ่มไปอีกที ผู้ดูแลไร่อินท์วันธรถึงได้หันกลับมาสนใจ

 "ต้นอ่อนครับคุณขุน"

 "อ๋อ เอาไปลงในล้งสองได้เลยครับ จะได้เอาออกมาปลูกง่าย ๆ " ขุนเขาชี้ไปทางอาคารสำหรับเก็บของที่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ส่ายหน้าตัวเองแรง ๆ เมื่อรู้ตัวว่าเผลอใจลอยคิดไปถึงเรื่องเมื่อเย็นวานนี้

 ที่ถูกเด็กชื่อข้าวหอมขโมยหอมแก้มไป

 พอคิดแล้วขุนเขาก็ใจเต้นตึกตักขึ้นมาอีกรอบ โตมาจนจะอายุสามสิบใช่ว่าจะไม่เคยจูบ ไม่เคยหอมหรืออะไรที่มากกว่านั้นตามประสาวัยรุ่น แต่ทำไมรอบนี้เอาแต่คิดวนเวียนถึงไม่รู้จบ หรือเพราะว่าจะไม่ได้แตะต้องตัวใครมาเกือบสี่ปีแล้ววะ

 "หอมเอ๊ยหอม" ขุนเขาบ่นพึมพำ เผลอแตะแก้มตัวเองอีกรอบ ดีหน่อยที่ตอนนี้มีอนาคินอยู่เล่นด้วยข้าวหอมก็เลยไม่ได้มาสนใจอะไรตัวเองนัก

 ถ้ามาเห็นว่าเป็นหนักขนาดนี้ โดนเด็กดื้อล้อแย่แน่

 "เหลืออีกนิดหน่อยผมฝากลุงเดชด้วย วันนี้ขอบคุณมากครับ เสร็จตรงนี้แล้วบอกคนงานกลับกันได้เลย" ขุนเขาฝากผู้จัดการประจำไร่ที่ไว้ใจได้ให้จัดการงานต่อในบรรยากาศใกล้โพล้เพล้

 เห็นทีวันนี้คงได้โทรไปหาน้องชายอย่างเขตแดนอีกแล้ว

ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ


 "พรุ่งนี้นะพี่ขุน หนูกับคินว่าจะไปหาขนมกินแถวนิมมานแหละ วันนี้นั่งหารีวิวแล้วก็ลิสไว้ยาวปรื้ดเลย อี้อุ๋นอา..." แล้วเสียงของเด็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็กลายเป็นอู้อี้เมื่อด้ามแปรงถูกมือผอมจับมุดเข้าปากตัวเองไปอีกรอบ

 แต่ขุนเขาก็พอจะจับใจความได้ว่าข้าวหอมกำลังชวนไปหาขนมกินแถวนิมมานด้วยกันพรุ่งนี้

 "ช่วงนี้ที่ไร่ยังไม่มีอะไร เดี๋ยวพี่พาไปแล้วกัน" ขุนเขาตอบตกลง ขณะที่มือหนาขยับด้ามมีดโกนหนวดให้ทำหน้าที่ของมันไปตามกรอบหน้าตัวเอง

 "เย้ พี่ขุนใจดี หนูรักพี่ขุนที่สุดเลย" ข้าวหอมบอกเสียงใส แล้วก็จัดการก้มหน้าไปล้างปากล้างแปรงให้สะอาด มือหนาเองก็ล้างหน้ากับใบมีดโกนของตัวเองเช่นกัน

ตาคมชำเลืองมองมือผอมที่วางแปรงสีฟันสีฟ้าลงในแก้วเดียวกับแปรงสีน้ำเงินของขุนเขาที่เพิ่งถูกใช้งานไปก่อนหน้านี้  ข้าวหอมคว้าลิปมันซึ่งถูกใช้จนเหลือแค่ครึ่งมาทาเป็นประจำอย่างทุกคืนก่อนนอน

 "มีร้านนึงที่น่าสนใจมากด้วยพี่ขุน รีวิวบอกว่าบิงซูก็ดีแล้วไก่ทอดร้านนี้อร่อยมาก หนูงี้กลืนน้ำลายอึก ๆ เลย อยากกินไปหมดเลยอะพี่ขุน" คงเป็นความสามารถพิเศษทั้งที่ปากอิ่มขยับไม่หยุดแต่มือซึ่งทาลิปมันเนื้อบางเคลือบปากสีแดงสดเต่งตึงก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดี

 ก็เพราะมองไม่ละสายตา ถึงได้เห็นตามทุกการขยับของมือผอม

 "...."

 รวมทั้งริมฝีปากที่ขยับเจื้อยแจ้วอย่างน่ามองนั้นด้วย

 แกรก

ลิปมันตกลงไปกับพื้นแล้วก็กลิ้งอยู่ระหว่างปลายเท้าของขุนเขากับข้าวหอม ที่อยู่ห่างกันแทบไม่ถึงครึ่งก้าว

 กลิ่นเย็น ๆ ของอาฟเตอร์เซฟหลังการโกนหนวดของขุนเขาชัดเจนสำหรับข้าวหอม เหมือนกลิ่นยาสระผมที่ทั้งหวานทั้งหอมและสดชื่นของคนตัวผอมที่อบอวลลึกสู่การรับรู้ของขุนเขาเช่นกัน

 แต่ไม่มีอะไรชัดเจนเท่ากับรสชาติของยาสีฟันจากหลอดเดียวกันยามเมื่อหลอมรวมกันกลับทำให้รู้สึกได้ถึงความหวาน

 ลมหายใจที่บดเบียดผิวแก้มของกันและกันจนใบหน้าร้อนผ่าวไปทั้งคู่

 ความรู้สึกร้อนแบบแปลก ๆ แนบชิดอยู่ตรงริมฝีปากทำให้ข้าวหอมยิ่งใจเต้นระรัว สมองวิ่งวนเร็วจี๋ประมวลผลแต่เหมือนว่าจะยิ่งอื้ออึงเมื่อเห็นชัดว่าตัวเองกำลังถูกจูบ

 จูบซึ่งขุนเขาขยับริมฝีปากเข้ามาบดคลึงกับปากอิ่ม ขบเม้มความนุ่มหยุ่นครั้งแล้วครั้งเล่า ลิ้นร้อนชื้นที่เกลี่ยไล่อยู่ตามแนวฟันทำเอาข้าวหอมใจเต้นแทบจะทะลุอก

 มือใหญ่ทั้งสองข้างประคองอยู่ใต้คางจนข้าวหอมรู้สึกได้ถึงความอุ่นโดยเฉพาะยามที่สัมผัสติดหยาบของฝ่ามือคนทำงานในไร่ขยับเชื่องช้าไปตามผิวคอ จนเด็กดื้อที่ถูกบ่นว่าแก่แดดอยู่เสมอเสียววูบวาบไปทั้งตัว

 กึก สองขาผอมอ่อนแรงแทบจะทรุดลงกับพื้นห้องน้ำ แต่ยังดีที่ท่อนแขนแข็งแรงกอดกระชับเอวคอดผอมเอาไว้ได้ทัน

 "อะ อาา"  ข้าวหอมหอบหายแฮ่ก ๆ เมื่อริมฝีปากแดงบวมเจ่อถูกปล่อยเป็นอิสระ ขุนเขาเองก็มีลมหายใจถี่ร้อนไม่ต่างกัน

 เด็กอายุสิบเก้าที่ผิวบางตัวแดงง่ายตอนนี้หน้าแดงเถือกไม่ต่างจากมะเขือเทศ หูของขุนเขาเองก็ไม่ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มยังรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวและรสหวานนุ่มจากการสัมผัสเมื่อครู่

 จูบของเรา

 "เดี๋ยวพี่..." เสียงทุ้มแหบพร่าไปจนต้องกระแอมไอไล่ความรู้สึกเขินร้อนไปทั้งตัวออกไปเช่นกัน

 "...พี่ไปหาน้ำข้างล่าง อื้ม นอนเลยนะ" แล้วคนตัวโตก็เดินจ้ำออกไปทันที

 เหลือแต่ข้าวหอมที่ยืนหน้าแดงจัด กระพริบตาปริบ ๆ กับลิปมันหนึ่งแท่งที่กลิ้งอยู่บนพื้น

 ทว่าเนื้อลิปมันบนปากข้าวหอม ...ตอนนี้นั้นไม่มีหลงเหลือแล้ว



ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ


บ้าเน้ยยย เขียนไปก็ยิ้มคิ้กค้ากไป เขินไปหมดประหนึ่งจะก้าวเข้าคุกแค่กๆๆไปกับพี่เขาด้วย หแสวหก่ากหฟ
/สงบจิตใจ/  งื่อออ ถือว่าเป็นก้าวอันยิ่มใหญ่ของเรื่อง 55555 อยากอ่านฟีดแบคมากๆๆๆเลยค่ะ  กลิ้งตัวรอไม่มีห่างในแท็ก  #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ นะคะ ขอเย้อๆๆๆเหมือนไอศรีมซัันเดย์พิเศษที่โปะท็อปปิ้งเยอะๆเลยน้าาา(พูดแล้วก็กลืนน้ำลาย อึก)


#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่

ออฟไลน์ Butterfly8ffect

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1



#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่
สิบสี่ , ๑๔


ไม่ว่าเมื่อคืนจะนอนไปพร้อมกับความรู้สึกแบบไหนก็ไม่มีอะไรสามารถต้านทานการนอนดิ้นเหมือนกำลังเล่นกายกรรมของข้าวหอมได้

"เฮ้อ" ขุนเขาถอนหายใจมองชายเสื้อที่เปิดจนถึงหัวไหล่ เห็นแผ่นหลังขาว ๆ ผอมบางของข้าวหอมไปทั้งตัว ยังดีนะที่นอนคว่ำ ขุนเขากลืนน้ำลายอึก นิ้วยาวหนีบชายเสื้อนอนพอดีตัวผอม ๆ แล้วดึงลงมาให้อยู่ในที่ที่ควรอยู่

หนีบชายผ้าห่มมาคลุมก้นกลม ๆ ที่สวมกางเกงตัวเล็กกระจิ๋วหลิวแทบปิดไม่มิดขึ้นมาคลุมให้ถึงกลางหลัง

ผ่อนลมหายใจแรง ๆ อีกที ยิ่งตาคมเผลอมองก้อนแก้มและริมฝีปากสีชมพูเต่งตึงที่เบียดไปกับหมอน ขุนเขาก็ยิ่งรู้สึกวูบวาบจนหูร้อน

เมื่อคืนกว่าขุนเขาจะขึ้นมาข้าวหอมก็ปิดไฟนอนแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ แล้วเกือบทั้งคืนคนตัวโตก็นอนแทบจะไม่หลับ ตื่นมายังต้องมานั่งลมหายใจเข้า ลมหายใจออกกับวิถีการนอนของข้าวหอมอีก

เสื้อนอนสีแดงตัวนั้นมันอยู่ไหน วันนี้ไปซื้อเพิ่มอีกดีไหมวะ

จำเป็นมากต้องการด่วน

คิดไปมาก็ชักจะรู้สึกว่าตัวเองฟุ้งซ่านเกินไป เจ้าของไร่อินท์วันธรใช้ขายาว ๆ ก้าวดิ่งตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อใช้สายน้ำชโลมจิตใจที่เริ่มจะบาปกรรม
แล้วก็ชวนให้นึกถึงคำที่เขตแดนมันว่าไว้เมื่อวานเย็น ก่อนที่เขาจะขึ้นห้องมาเตรียมตัวนอนและแปรงฟัน

[พี่มึงแต่งงานกับหนูหอมแล้ว คิดอะไรมากวะ] เขตแดนพูดกลับมาผ่านจากอีกฝั่งของสายโทรศัพท์

‘หอมมันยังเด็ก’

[โตจนแต่งงานมีผัวแล้วป่ะ เอ๊ย มีสามีจ้ะ ไม่พูดคำหยาบต่อหน้าลูกเนอะจ๊ะเพลง] ปลายประโยคเปลี่ยนเป็นเสียงอ่อนเสียงหวาน ขุนเขาได้ยินเสียงหลานชายของตัวเองทั้งสองคนโยเยเข้ามา บอกชัดว่าเขตแดนคงกำลังง่วนกับการเลี้ยงลูกอยู่

แต่ขุนเขาก็ไม่นึกจะวางถ้ายังไม่เสร็จธุระ ความเกรงใจระหว่างเราสองพี่น้องไม่ค่อยมีต่อกันนักหรอก

[แล้วเมื่อกี้พี่มึงก็พูดเอง]

‘เออ กูพูด’ ขุนเขาถอนหายใจ การที่ได้ย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องวันนั้น ได้เรียบเรียงความรู้สึกถึงตอนที่ตัดสินใจมาเชียงใหม่ ที่จากข้าวหอมมาเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายตัดสินใจโง่ ๆ ด้วยรักแบบเด็ก ๆ จนพาตัวเองมาเจออันตราย พอได้คิดถึงมันขุนเขาก็คิดอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง

[แต่ตอนนี้เรื่องมันก็เลยเถิดไปจนถึงพี่มึงกับหนูหอมแต่งงานกันแล้วไหมวะ พี่มึงไม่ต้องคิดห่าอะไรแล้ว หอมมันทำอะไรที่โง่มากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ]

‘เหมือนมึงด่ากูอยู่นะไอ้เขต’
[ฮ่าฮ่า ก็จริงอะพี่มึ๊ง หนูหอมรักมึงมากนะพี่ขุน แล้วน้องมันก็ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว พี่มึงก็แค่เปิดตาตี่ ๆ ของมึงให้กว้างดูว่าหนูหอมน่ะโตพอแล้ว]

‘ตามึงก็ขนาดมินิมอลเท่ากูไอ้เขต’ ขุนเขาด่าย้อนน้องชายไปที ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

‘เออ ตอนนี้หอมมันโตขึ้นเยอะแล้วนั่นแหละ ถึงจะยังตัวสูงแค่คาง แต่อย่างอื่นก็ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว’ แขนขายาวได้สัดส่วนเนื้อตัวนุ่มนิ่มก็มีโค้งมีเว้า เอวนี่คอดผอมเหมือนกินเท่าไหร่ก็วิ่งขึ้นแก้มกับลงก้นจนเด้งงอนไปหมดมองเพลินดี นมก็ใช้ได้

‘อื้ม นั่นแหละ แต่หอมก็ยังเด๋อ ๆ อ๊อง ๆ ไม่อยากพรากความซื่อไปจากหอมมัน’

[แหม มึงนี่คิดไปถึงไหนต่อไหนเลยเนอะพี่กู] เขตแดนทำเสียงล้อ

[ไอ้ที่ว่าแต่งได้ก็หย่าได้ นี่ยังจะหย่าอยู่ไหมวะ กูถามจริง]

‘....ขืนหย่า แม่กับย่าฆ่าพี่มึงชำแหละศพโยนน้ำปิงแน่ไอ้เขต’

[กากว่ะ มึงอย่ามาอ้างแม่ อ้างย่า ไอ้พี่ขุน] เขตแดนขึ้นเสียงดังมาอีกนิดเพราะหมั่นไส้

‘ตอนที่พี่มึงจะย้ายไปดูไร่ที่เชียงใหม่ ย่าขอว่าไม่ให้ไป ให้ขายไร่ทิ้ง มาอยู่กาญฯถาวร จนย่าร้องไห้จริงไม่แอคติ้ง มึงก็ไปอยู่ดีไหมไอ้พี่ขุน ถ้าค้านหัวชนฝาเคยมีเหรอที่คนอย่างบวรวิทย์จะยอมทำตามน้ำไปก่อนน่ะ’ เขตแดนพึมพำด่าอีกหน่อยตามปลายสายมา

[หนูหอมน่ะไม่ได้เป็นเด็กแล้วนะ โตพอที่จะรักแบบที่ผู้ใหญ่รักกันได้แล้ว ลึก ๆ ในใจพี่มึงก็คิดแบบนี้ไอ้พี่ขุน มึงไม่ต้องมาพึมพำกลัวคุกอะไรแล้ว เพราะตอนนี้คุกเดียวที่มึงยังติดก็คือคุกในใจมึงเอง ไอ้พี่โง่]

‘แต่ยังไงน้องมันก็ควรจะยี่สิบก่อน’

[แหม ไม่คิดอะไรกับน้องมันเล้ย แต่นับวันรอเชียวนะพี่มึง เฒ่าหัวงู มือด้านหมดยังอะ]

"ไอ้เวร! หุบปากไปเลยมึงน่ะ" ถึงโดนด่าแต่เขตแดนก็หัวเราะร่าอย่างไม่มีสะทกสะท้าน

[อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องมาคิดว่าหนูหอมยังเด็ก จะมีรักแบบเด็ก ๆ แล้วจะมาคิดผิดรักมึงแบบหัวปักหัวปำพอโตแล้วน้องมันเสียใจที่เลือกผิดห่าอะไรแล้ว เพราะไม่ทันแล้ว น้องมันรักไปนานแล้ว ]

‘....’

[พี่มึง มึงมีความสุขได้แล้ว ถ้าความรู้สึกมึงแวบ ๆ ขึ้นมาว่าอยากทำอะไรนะไอ้พี่ขุน มึงก็ตามไปเลย เวิร์ค] เขตแดนยุส่งเต็มที่ นี่ถ้าหนูหอมไม่ออดอ้อนขอจนลากพี่ชายของตนมาแต่งงานด้วยได้ ขุนเขาก็อยู่เป็นตาแก่โดดเดี่ยวเฝ้าไร่ที่เชียงใหม่ไปจนตายหรือเปล่าก็ไม่รู้ ย่ากับแม่เลยเห็นดีเห็นงามจัดงานแต่งงานให้อย่างดีเลยไงล่ะ น่าห่วงน้อยที่ไหนลูกชายคนโตเรียนจบปุ๊บเข้าไร่ปั๊บแล้วก็โสดสนิทมาจะสี่ปีขนาดนี้

‘....’

[มึงเข้าใจกูไหม ไอ้พี่ขุน]
 
‘เออ ขอบคุณมึงมากไอ้เขต’

[อ่อ แล้วจะทำอะไรก็ค่อย ๆ หน่อยล่ะพี่มึง เดี๋ยวหนูหอมตกใจหมด]

ไม่ทันแล้วไหมวะไอ้เขต

กึก ขุนเขาดันหน้าผากไปกับผนังหินอ่อน แม้จะมีสายน้ำจากฝักบัวตกลงมารดอยู่ตลอดจนผมเปียกชุ่ม แต่ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกได้ถึงใบหูที่ร้อนผ่าวของตัวเอง ไม่ต่างจากทั้งหน้า

เมื่อคิดว่าที่เขตแดนมันบอกน่ะไม่ทันแล้ว จูบเมื่อคืนนี้ข้าวหอมยังไงก็ต้องตกใจแน่ ๆ แล้วก็คงไม่พ้นหัวใจเต้นตึกตักจนเสียงดังอื้ออึงในหัวแบบที่ขุนเขากำลังเป็นอยู่ตอนนี้

แล้วพอคิดดูมันก็ชวนประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ทั้งที่เมื่อคืนขุนเขาทาลิปมันบนปากหลังจากที่ไม่ได้ทามานาน

แต่เช้านี้ริมฝีปากหยักได้รูปดันแตกเสียได้

แล้วปากอิ่ม ๆ ที่แบ่งลิปมันมาให้จะเป็นยังไงบ้าง

ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ

"หอม ไม่สบายอ่อ"

"ห้ะ อะไรนะคิน"

"คินถามว่าไม่สบายเหรอ" อนาคินย้ำอีกทีเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กเดินลงมาพร้อมหน้ากากอนามัยสีขาวปิดไปครึ่งหน้า เหลือแต่สองตากลมโต ท่าทางก็ดูเหม่อ ๆ เรียกตั้งหลายทีกว่าจะหันมาสนใจ

"หรือว่ากันฝุ่นที่เขาออกข่าวกันอยู่ เอ้อ ลืมเรื่องนี้เลยเนี่ย งั้นเดี๋ยวคินไปเอามาใส่บ้าง" ว่าจบแล้วเพื่อนตัวสูงก็ใช้ขายาววิ่งขึ้นไปชั้นสอง

ปึง

เป็นจังหวะเดียวกับที่ข้าวหอมได้ยินเสียงปิดประตู พร้อมเจ้าของบ้านที่เดินเข้ามา วันนี้พี่ขุนเขาใส่กางเกงยีนส์ขายาวพอดีตัวเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีเข้มอีกตัว หน้าตาก็ยังหล่อชวนให้ข้าวหอมเคลิ้มเหมือนทุกวัน

แต่วันนี้แค่สบตาข้าวหอมก็หลุบมองมือตัวเอง จู่ ๆ แก้มก็ร้อนฉ่าขึ้นมาอีกหน แต่ก็อดไม่ได้จะชำเลืองขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังมองไปทางตู้เย็นแต่แอบปรายตามองมาเช่นกัน

แค่พี่ขุนเขาเดินเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นโคโลญจน์ผสมกับกลิ่นประจำตัวที่คุ้นจมูก ข้าวหอมก็นึกภาพเมื่อคืนได้ชัดเจนไปหมดแล้ว

พอหลังจากที่ทำลิปมันตก ข้าวหอมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเดินล่องลอยมานั่งลงที่เตียงตอนไหน นอนเอามือกุมหัวใจอยู่ตั้งนานสองนานไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ถึงขั้นต้องไปเอายาแก้เมารถ ตัวที่กินเมื่อไหร่ก็หลับสนิทมากิน ถือว่าเป็นกรณีจำเป็น

ไม่อย่างนั้นข้าวหอมหลับไม่ลงแน่ ๆ

ตั้งแต่ได้ดูซีรีย์ตอนมอห้าที่นางเอกกับพระเอกจูบกันท่ามกลางซากุระโปรยปราย ข้าวหอมก็เคยคิดเหมือนกันว่าถ้าได้จูบกับพี่ขุนจะเป็นยังไงนะ เคยคิดเล่น ๆ ไปตั้งหลายหน ...แต่ในความคิดไม่มีลิ้นชื้น ๆ ที่ทำเอานึกอะไรไม่ออก ไม่มีริมฝีปากที่ขบเม้มซ้ำไปซ้ำมา หรือจะมือหนาที่ลูบเฟ้นจนใจสั่นไปหมด

สู้ของจริงไม่ได้สักเสี้ยว

ของจริงที่เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ งื่อออ ไม่ได้ฝันไปนะ อยากโทรไปอวดแม่ทิพย์จ๋าแต่ว่าหนูหอมก็เขินเกินไป ตอนนี้ขนาดคินยังไม่กล้าบอกให้รู้เลย

มองปากพี่ขุนตรง ๆ หนูหอมยังรู้สึกตื่นเต้นกว่าปกติอีกตอนนี้

"หอม!"

"หือ"

"ไม่กินอ่อ เดี๋ยวละลาย" อนาคินชี้ไปที่บิงซูถ้วยโตราดซอสสตอวเบอร์รี่ที่ข้าง ๆ กันมีไก่ทอดสุดน่ากินเรียงรายอยู่ในจาน

"กินสิ ๆ คินราดซอสเลย" ข้าวหอมบอก อนาคินหรี่ตามองเพื่อนรักที่วันนี้ใจลอยเก่งมาตั้งแต่เช้าแล้ว ขนาดมาร้านน่ารัก ๆ เจอของน่าอร่อยเยอะแยะก็ยังหลุดเหม่อได้เป็นพัก ๆ ไม่ต่างอะไรจากพี่ขุนเขา นอกเสียจากว่าจะเหม่อกี่หนตาเรียวคมของพี่ขุนเขาก็หันมาจับจ้องที่ข้าวหอมซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เสมอ

แต่เพื่อนของอนาคินที่เป็นขุนเขาลิซึ่ม วันนี้ไม่กระดูกอ่อนตัวเหลวเอนมาซบพี่ขุนเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างเคย ไม่ใช่เมินด้วย ข้าวหอมน่ะยังหันมามองตลอดแต่ก็รีบมองไปอีกทางตอนสบตากับพี่ขุนเขา แถมหูแดงไม่หายเลยอีกต่างหาก

มีแต่พิรุธเต็มไปหมด

"อร่อยจัง" ข้าวหอมพึมพำยิ้มแฉ่งเมื่อรูดบิงซูจนเกลี้ยงช้อนแล้วรีบตั้งใจตักคำใหม่ทันที ตอนนี้ข้าวหอมถอดหน้ากากอนามัยออกเป็นครั้งแรกของวัน

แล้วอนาคินก็เห็นหลักฐานสำคัญ

"ปากแตกเหรอหอม"

"แค่ก แค่ก"

"แค่ก แอ่ก อื้ม"

นั่นไง ทักหนึ่งแต่ไอสอง อนาคินไม่ได้ตาเป็นไม่ดีนะถึงจะไม่เห็นว่าปากพี่ขุนเขาก็มีรอยแตกเหมือนกัน

"เป็นไงบ้างหอม" ขุนเขาถามเด็กตัวขาวที่ยังไอออกมาอย่างต่อเนื่อง มือหนาหยิบทิชชู่รีบส่งให้ อีกข้างก็ลูบหลังผอมหลายทีปลอบโยน

"แล้วทำไงให้ปากแตกได้วะหอม ปกติทาลิปมันก่อนนอนอย่างกับโบก"

"แค่ก" ข้าวหอมที่กำลังยกน้ำขึ้นมาจิบแก้ระคายคอ ไอออกมาอีกรอบ คราวนี้ขุนเขาดึงทิชชู่มาคอยซับคราบน้ำหูน้ำตาให้ข้าสหอมเองเลย ส่วนอนาคินก็เท้าคางตักบิงซูเข้าปากมองด้วยรอยยิ้มกริ่มที่ห้ามไม่อยู่

เห็นชัด ๆ ว่ามีบางอย่างคืบหน้า

เนี่ย อนาคินทำหน้าที่กามเทพได้ดีอะไรขนาดนี้ เมื่อคืนไปเปิดหาข้อมูลเพิ่มเจอขนมที่ดาราเทวีน่ากิน มาก ราคาไม่เกินกระเป๋าเงินพี่ขุนหรอก ต้องได้กินแล้วไหมน้า

"ไม่สบายหรอวะหอม ไอแล้วไออีกถามก็ไม่ตอบ" ไม่ได้จะแกล้งเพื่อนเลยจริงจริ๊ง

"อื้ม เปล่า ๆ เราแค่สำลักน้ำน่ะคิน" ข้าวหอมรีบตอบ

"แล้วลิปมันก็ ..ก็ตกหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้" แต่พอคำตอบต่อมาก็เสียงแผ่วเหลือแค่พึมพำ

อนาคินทำเสียงเออออพยักหน้ารับ หยิบไก่ขึ้นมากินบ้าง แสร้งทำเป็นไม่เห็นคนสองคนที่โซฟาฝั่งตรงข้ามที่นั่งมีพิรุธแต่ออร่าหวานหยดให้ได้เห็น

ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ

หลังจากเข้าออกร้านขนมทั่วนิมมานไปเกือบสิบที่ แม้ว่าจะยังไปเก็บไม่ครบทุกร้านตามที่อนาคินกับข้าวหอมลิสเอาไว้ แต่ก็อิ่มจัดจนแน่นพุงเกินกว่าจะไปต่อได้ไหว สุดท้ายก็เลยเลือกมาเดือนตากแอร์เย็น ๆ ดูของในห้างเมญ่าที่อยู่ใกล้ ๆ นิมมานแทน

"พี่ขุนหนูขอไปซื้อยาสระผมนะ" ข้าวหอมกระตุกชายเสื้อของป๋าสายเปย์ผู้จ่ายให้ทุกร้านที่ไปมาด้วยวันนี้ และดูแล้วก็จะจ่ายค่าของอย่างอื่นให้ต่อไปด้วย

"อันเดิมที่ใช้อยู่ก็ดีนะ หอมดี" ขุนเขาบอก จำได้ดีจากการที่ซุกจมูกแนบชิดเมื่อคืนนี้ พอคิดขึ้นมากลายเป็นขุนเขาที่เดินเลี่ยงไปอีกทางของร้าน ปล่อยให้อนาคินกับข้าวหอมเดินเลือกยาสระผมที่เรียงรายเป็นแถว

"หอม"

"อะไรอะคิน"

"หอมกับพี่ขุนจูบกันแล้วใช่ป่ะ"

ตุบ ตุบ

ขวดครีมนวดในมือข้าวหอมหล่นลงพื้นทั้งสองขวดจนต้องรีบหันไปยิ้มแหะแหะขอโทษพนักงานที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะรีบเก็บขึ้นไว้ที่เดิม มือผอมบีบแขนเพื่อนจนแน่น

"คินรู้ได้ไง" ข้าวหอมทำตาโตถาม

"โห ไม่รู้เลยมั้ง เลิ่กลั่กกันซะขนาดนี้" อนาคินโบกนิ้วชี้ไปมาว่าไม่เนียนเอาเสียเลย ส่วนคนที่ถูกจับได้ทั้งที่ยังไม่พูดอะไรสักคำแก้มเริ่มสุกแดงแข่งกับสีริมฝีปากและใบหูขึ้นมาอีกรอบแล้ว

"แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไงอะหอม"

"คินอย่ามาแซวนะ"

"ใครแซวไม่มีเหอะ คินแค่ใส่ใจในเรื่องราวของเพื่อน ไหนเล่าให้ฟังหน่อย" ไหนว่าไม่ แต่หน้าตาล้อข้าวหอมชัดเจน แม้ว่าจะเขินมาก ๆ หรือรู้ทันว่าเล่าแล้วจะต้องโดนเพื่อนล้อหนักแต่ก็อยากคุยกับใครสักคนเรื่องนี้เหมือนกัน ไหน ๆ คินก็รู้แล้วนี่ไม่เป็นไรหรอก

อนาคินกางขาตัวเองออกจนกว่าเพื่อให้ส่วนสูงลดลงจนเพื่อนรักเขย่งกระซิบกระซาบเล่าให้ฟังได้ถนัด เมื่อยหน่อยไม่เป็นไรหรอก พลังอยากใส่ใจของอนาคินแรงกล้าอยู่แล้ว


ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ
.

กว่าจะวนกลับมาถึงไร่อินท์วันธรก็เป็นช่วงค่ำไปเสียแล้ว ขุนเขาตรวจเช็กรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในไร่ของวันนี้ซึ่งลุงเดชเขียนไว้ให้อยู่พักใหญ่ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องนอน

เสียงไดร์เป่าผมที่ได้ยินบอกได้ดีว่าข้าวหอมคงจะอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เห็นแผ่นหลังผอมไว ๆ ในชุดนอนสีแดงตัวโคร่งที่ตนไปคุ้ยหาออกมาแขวนไว้หน้าตู้ให้แล้วก็โล่งใจขึ้นมานิด

ขุนเขาหยิบถุงพลาสติกสีชมพูขนาดย่อมออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างที่ใช้เป็นประจำ พอดีกับเสียงไดร์ที่เงียบลงและเด็กตัวขาวที่เดินมาใกล้

"พี่ให้" มือหนายื่นถุงในมือมาตรงหน้า ข้าวหอมทำตาโตพอเห็นขุนเขาซื้อของขวัญให้ก็ลืมเขินไปเสียหมด

"ขอบคุณจ้ะพี่ขุนซื้ออะไรให้หนูเหรอ" ร้องถามเสียงใส คว้าหมับกระโดดไปนั่งบนเตียงขัดสมาธิอย่างดีรีบเทของออกมาดู

บรรดาลิปมันเกือบสิบแบบ หลายยี่ห้อหลากสี รส กลิ่นกองรวมกันอยู่บนเตียงตรงหน้า ข้าวหอมชักจะร้อนวูบวาบในอกขึ้นมาอีกรอบแล้ว

"เห็นมึงบอกว่าทำหายเมื่อคืน... คิดว่าน่าจะเป็นความผิดพี่ด้วย" ขุนเขานั่งลงข้าง ๆ ยามที่บอก

"แล้วทำไมซื้อมาเยอะแยะเลยอะพี่ขุน"

"ไม่รู้นี่ว่าอันไหนอร่อย เอ๊ย อันไหนใช้ดี ก็ลองดูแล้ว ชอบอันไหนก็ใช้" ขุนเขาว่าแล้วก็รีบลุกเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

"พี่ขุน"

"หืม" ขายาวหยุดเดินแล้วหันมามองเด็กแก้มแดงที่เรียกตน

"ทำ ...ทำไมพี่ขุนถึงจูบหนูเหรอ"

ข้าวหอมถามเพราะตอบอนาคินไม่ได้ ...แล้วก็อยากรู้เองด้วย

"...." ขุนเขายืนกลืนน้ำลายลงคอดังอึก มือไม้อยู่ไม่เป็นที่ประหม่าไปหมดแล้ว ข้าวหอมเป็นเด็กขี้สงสัยแต่ก็ไม่นึกว่าจะถามตามตรงแบบนี้

"ก็อยากจูบ ...ไม่ได้เหรอ"

เลยเลือกจะตอบไปตามตรง

พอฟังคำตอบแล้วข้าวหอมใจเต้นแรงกว่าเดิม ...ทำเพราะอยากทำเหรอ พี่ขุนอยากจูบหนูเหรอ ตาโตเป็นประกายวับจ้องมองหน้าของขุนเขา

"แล้วหอมชอบไหม" ชอบที่เราจูบกันไหม

"หนูรู้สึกเหมือนจะตายเลยพี่ขุน ใจมันเต้นแรงมากทรมานสุด ๆ มือไม้ก็เย็นไปหมดแต่หน้าร้อน ปากก็แตก" ข้าวหอมยกนิ้วขึ้นมานับว่าเกิดอาการไปกี่อย่าง ตอนนั้นขุนเขาก็เดินกลับมานั่งที่ปลายเตียงข้าง ๆ คนตัวผอมเหมือนเดิม

ตาโตวาววับของเด็กตัวเท่าคางที่ตอนนั่งขดตัวแบบนี้ยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่ละจากดวงตาโตมาจ้องที่ปลายจมูกโด่งแทน

"แต่หนูชอบนะ"

คำตอบของข้าวหอมทำเอาคนฟังหัวใจเต้นโครมครามไม่แพ้กัน

"แล้วพี่ขุนชอบไหม"

"ชอบสิ" ขุนเขาเอ่ย ข้าวหอมได้ยินชัดเจนแม้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่กระซิบ เพราะมันใกล้จนตอนนี้ข้าวหอมเห็นแต่หน้าตัวเองเต็มดวงตาเรียวคมคู่นั้น

"แล้วตอนนี้พี่ก็อยากจูบอีกครั้งแล้ว"

"หนู หนูขอทาลิปมันก่อน ตอน ตอนนี้หนูปากแตก" ข้าวหอมบอกเสียงรน มือผอมรีบคว้าลงไปในกองลิปมัน เพราะปากเป็นรอยแตกไม่นุ่มนิ่มอย่างปกติ กลัวพี่ขุนจูบแล้วไม่ชอบเหมือนครั้งแรก

แต่มือหนาก็จับคว้าทั้งสองมือของข้าวหอมไว้ด้วยสองมือตัวเอง เสียงทุ้มนุ่มที่หัวเราะเบา ๆ จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนจากปลายจมูกโด่งอังข้างแก้มทำเอาข้าวหอมใจสั่นไปหมด

"ตอนนี้ปากพี่ก็แตก"

"งั้นพี่ขุนก็ทาด้วย หนูแบ่งให้หนึ่งแท่ง"

"ไม่ต้องหรอกหอม พี่ปากแตกแบบนี้ก็ดีแล้ว"

"...."

"พี่จะได้ไม่เผลอจูบแรงเกินไป จนปากหอมเจ็บอีกไง"

ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ


อย่าให้พี่เขาได้เริ่มเพราะจะพี่แกจะติดใจ 5555 หลัง ๆ มานี่ที่พี่เขาพร่ำคิดว่าจะส่งตัวเองเข้าคุกมัน แค่ก ๆ  55555 
อยากอ่านฟีดแบคมาก ๆ เลยน้าา จัดไปหนักในแท็ก ได้เล้ยน้าา จะนั่งรอนอนรอ ใครพูดถึงเรื่องนี้อย่าลืมติดแท็กน้าา งื่ออ หาไม่เจอ อยากอ่านๆ
แล้วก็แนะนำบอกต่อชวนเพื่อนมาอ่านกันได้น้าา ใกล้จบแลวแหละเรื่องนี้อยากจะกระซิบบอก  ฝากรักและเอ็นดูเรื่องนี้ด้วยนะคะ  ฮาร์ททึฮาร์ททึ

#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่
@butterfly8ffect

ออฟไลน์ Butterfly8ffect

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1




 
#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่
สิบห้า , ๑๕
[/b]



"แล้วตกลงได้จูบไหมอะ"

"...."

"ตอบเร็วดิหอม" อนาคินเร่งอีกที เพื่อนตัวเล็กกว่าก็ยังเงียบ เอาแต่นอนแผ่อยู่บนเตียงวางหมอนปิดหน้าตัวเองจนเดาไม่ถูกว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหน จนในที่สุดอนาคินก็ต้องดึงหมอนใบนุ่มออกมา

ถึงได้เห็นว่าตอนนี้ข้าวหอมหน้ามุ่ยแต่แดงจัดไปทั้งหน้า

"ก็ได้จูบ" ตอบออกมาเสียงไม่ดังนัก ความเขินมันทำเอาจั๊กจี้ไปทั้งใจดวงน้อย แต่ความรู้สึกอย่างอื่นมันก็ตอแยไม่หยุดเหมือนกัน

"ตอนจูบครั้งที่สองมันตื่นเต้นพอ ๆ กับตอนที่จูบครั้งแรก แต่เหมือนรู้ตัวก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นก็เลยไม่ตกใจมากแล้วเราก็เคลิ้มสุด ๆ เลยด้วยแหละคิน จนมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แทบจะหายใจไม่ออก แล้วพี่ขุนปล่อยปากเราคืนมาตอนนั้นปากชาเลย" ข้าวหอมเล่าให้ฟังไปก็บิดไปบิดมา สองมือขย้ำขยำเจ้าหมอนใบโตจนย่นคามือ ส่วนอนาคินที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเก้าอี้ก็นั่งกำหมอนฟังลุ้นตาม

"แล้วมันยังไงต่อวะหอม"

"ตอนแรกเรามัวแต่สนใจที่ปากตัวเองชาอย่างเดียว พอมารู้ตัวอีกทีถึงได้รู้ว่าเราอะนอนอยู่บนเตียงส่วนพวกลิปมันพี่ขุนก็กวาดทิ้งลงไปบนพื้นตอนไหนก็ไม่รู้ พี่ขุนก้มหน้ามาหาปากเราอีกรอบ ตอนนั้นน่ะพี่ขุนหล่อมากเลยนะคิน เรานี่แบบ โอย หัวใจแทบจะวาย"

"แล้วไงหอม แล้วไงต่อวะ" ยิ่งฟังอนาคินก็ยิ่งจิกหมอนแทบจะขาดคามือ นี่มันวาระแห่งชาติของผู้ติดตามชีวิตรักของขุนเขาข้าวหอมมาเนิ่นนาน

"แล้วพี่ขุนก็รับโทรศัพท์"

"ห้ะ!"

"เฮ้อ นั่นแหละเสียงโทรศัพท์มันดังมาก ๆ พอเห็นชื่อก็รีบรับเดินออกจากห้องไปเลย แล้วก็ไปนานมาก จนเราเก็บลิปมันที่กระจายอยู่เต็มพื้นไปเก็บที่ จนเราอาบน้ำ จนเราลองแกะลิปมันกลิ่นพีชหอมฉุยมาทา จนเรานอนหลับไปพี่ขุนก็ยังไม่กลับมานอนที่ห้องด้วยกันเลย" ข้าวหอมบ่นพึมพำทำตาโรย คอตกถ้าเป็นปกติเฉาขนาดนี้แป้งนุ่มก็คงไปกอดไปโอ๋ดึงหัวมาซบไหล่แคบ ๆ ของตัวเองปลอบไปแล้ว

"มัวแต่คุยจ๊ะจ๋ากันอยู่ล่ะสิ" ข้าวหอมเบะจนปากสีแดงฉ่ำกลิ่นพีชบึนเหมือนลูกเป็ด

"เดินเหี่ยวเป็นต้นอ่อนเฉาน้ำมาบุกห้องคินแต่เช้าแบบนี้ ขอทายว่าพี่การันต์โทรมาใช่ป่ะ"

"อื้ม เราเห็นเต็มตาเลยว่าบนจออะชื่อพี่รันต์แล้วพอพี่รันต์โทรมาก็ไม่สนเราแล้วอะ ได้เหรอคิน" ข้าวหอมกำหมอนในมือแล้วก็ตี ๆ ลงไปบนเตียงอีกหลายทีทั้งที่น้ำตาคลอสองดวงตาโตจนล้นออกมาที่หางตาจนที่นอนเปียกเป็นแอ่งน้อย ๆ

"เฮ้อ แต่จริง ๆ พี่รันต์คงโทรมาเรื่องงานอะแหละ แล้วงานมันก็รายละเอียดเยอะ ดีแล้วเนอะที่แค่โทรมาไม่ได้โผล่ตัวเป็น ๆ ตรงหน้าอย่างคราวก่อน" พอได้ระบายจนสุดทางข้าวหอมก็เริ่มพึมพำพยักหน้ารับกับสิ่งที่ตัวเองพูด

ปกติถึงจะดื้อแต่ก็ไม่ใช่เด็กที่ใจร้าย ยิ่งหัวใจดวงนี้มีความรักและเข้าข้างผู้ชายชื่อบวรวิทย์ อินท์วันธรเต็มไปหมด แค่ครู่เดียวข้าวหอมก็หาเหตุผลมาชดเชยและแก้ต่างการกระทำของขุนเขาได้เองทุกทีไป

"เราโอเคละคิน เดี๋ยวลงไปกินข้าวดีกว่า เดี๋ยวพี่ขุนก็กลับเข้ามาหลังจากตรวจไร่ตอนเช้าละ เราชอบกลิ่นเวลาพี่ขุนเพิ่งทำงานเสร็จใหม่ ๆ อะ ต้องรีบไปซุกแล้วเกาะให้แน่นเลย" ร่างผอมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงทำท่าจะปีนลงไปข้างล่าง แต่แขนยาว ๆ ของอนาคินยื่นมาขวางพร้อมหมอนในมือ

"ไม่ได้แล้วไหมวะหอม ประวัติศาสตร์จะต้องเปลี่ยนแล้วป่ะ"

"ไรอะคิน คินแทบจะตกสังคมนะอย่าลืม"

"ไม่ใช่เว้ย หมายถึงหอมน่ะ งอนเองหายเองแบบนี้ไม่ได้ป่ะวะ"

"ก็ไม่มีคนง้อนี่นาคิน ถ้าไม่หายเองเราก็ต้องทนรู้สึกไม่ดีตั้งนานสิ" ข้าวหอมยักไหล่ราวกับจะบอกว่ามันช่วยไม่ได้นี่

"ต้องไม่ได้เห็นหน้าพี่ขุนไม่ได้ไปกอดกล้ามแน่น ๆ ซุกแขนล่ำ ๆ แล้วก็นั่งใจเฉาห่อเหี่ยวเหมือนตั้งหลายปีที่ผ่านมาเราไม่เอาหรอกนะ"

"คินเข้าใจหอมนะ แต่บางทีมันไม่ใช่ไม่มีใครง้อ แต่คนง้ออาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนงอน หรืออาจจะยังไม่ทันได้ง้อ ก็หายงอนแล้วอะ หอมเข้าใจป่ะ"

"ก็เรารู้สึกดีขึ้นแล้วจริง ๆ นี่คิน" ข้าวหอมกระพริบตาปริบมองหน้าเพื่อน ไม่เข้าใจว่าถ้าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นทำไมต้องพยายามแสดงออกสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึกด้วย

หรือนั่นคือสิ่งที่ต้องเรียนรู้หากจะโตเป็นผู้ใหญ่เหรอ

"งั้นตอนที่พี่ขุนมาพูดหวาน ๆ ใส่ พี่ขุนมาเอาอกเอาใจ หอมอยากได้อะไรก็หามาให้ หอมอยากกอดแนบแก้มซุกกับแขนพี่ขุนติดหนึบไม่ไปไหนพี่ขุนก็ไม่รำคาญ หอมชอบแบบนั้นไหมล่ะ" สิ่งที่อนาคินพูดมาทำเอาข้าวหอมนิ่งคิดเมื่อได้ฟัง

"อื้ม พี่ขุนน่ารักกับเราแบบนั้นก็ดีสิ ปกติพี่ขุนไม่ค่อยทำ" ข้าวหอมยิ้มแฉ่งบีบมือตัวเองไปมา แล้วก็จะได้จุ๊บ ๆ กันอีกด้วย ถึงตอนจูบจะตื่นเต้นมากแต่ข้าวหอมก็ชอบ

 "ถ้าอยากให้พี่ขุนทำแบบนั้นบ่อย ๆ หอมต้องเชื่อคิน ต้องให้พี่ขุนง้อเยอะ ๆ "

"แล้วถ้าพี่ขุนไม่ง้ออะคิน เราเสียเปรียบนะ ไม่ได้ดิ"

"เชื่อคินเหอะน่าหอม" ดูจากตอนที่โมโหนนท์จนแทบขาดสติประเคนหมัดเท้าให้ไม่ยั้ง ทั้งสายตาดุ ๆ ที่คอยจ้องใส่คนที่มาสอดส่ายสายตามองข้าวหอมอยู่แทบตลอดเวลาจากการไปเดินเที่ยวนิมมานด้วยกันเมื่อวานนี้ อนาคินแน่ใจ

"พี่ขุนไม่ปล่อยให้หอมงอนนานหรอก"

ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ

"ไม่กินข้าว"

"เจ้า คุณคินฮ้องว่าคุณหอมบ่ไค่อยากข้าว กั๊ดอก (ใช่ค่ะ คุณคินบอกว่าคุณหอมไม่อยากกินข้าว เพราะทุกข์ใจ)" ฟังคำที่ป้าช่อบอกแล้วข้าวหอมก็ขมวดคิ้วฉับ

เด็กอย่างข้าวหอมน่ะหรือจะไม่กินข้าว ยิ่งกับข้าวฝีมือป้าช่อแล้วไม่เคยเห็นจะพลาดไปสักอย่าง

"หอมได้บอกให้ป้าเก็บข้าวไว้ให้เหมือนคราวนั้นไหมครับ"

"บ่มีสักอย่างเลยค่า ป้าหันคุณหอมเปิ้นเตวมาอย่างคนบ่มีแฮง บ่าเดวซ้ายบ่าเดวขวาอย่างแมงมันเมาไฟ น่าอินดูขนาดเจ้า คุณคินอู้โตยป้าว่าคุณหอมเปิ้นเสี้ยงใจ๋ ฮักแต๊ฮักว่าโดนโขดโดนเมิน คุณหอมใคร่กลับมาฮักตั๋วเก่าล่ะก่าเจ้าคุณขุน
(ไม่เลยนะคะ ป้าเห็นคุณหอมเดินมาเหมือนคนไม่มีแรงเดี๋ยวเซซ้ายเดี๋ยวเซขวา เหมือนแมงมันที่เมาแสงไฟ น่าสงสารมากเลยค่ะ คุณคินบอกป้าว่าคุณหอมเสียใจรู้สึกแย่ รักมากรักมายแต่ก็โดนดุโดนเมิน คุณหอมอยากจะกลับมารักตัวเองแทนแล้วค่ะคุณขุน)" ป้าช่อพูดเป็นภาษาเมืองเร็วปรื๋อแต่ขุนเขาก็ฟังทัน แล้วก็ยิ่งขมวดคิ้วจนแทบพันกัน

สองขายาววิ่งขึ้นไปหาบนห้องนอน ห้องของอนาคิน เปิดประตูนั้นเปิดประตูนี้เสียงดังปึ้งปั้งด้วยความก่อนจะเดินอาด ๆ ลงมาแผ่รังสีมืดมนในห้องนั่งเล่นอีกรอบ

"อ้าว คุณขุนอยู่นี่เหรอครับ ผมนึกว่าไปที่น้ำตก" ลุงเดชที่เดินถือสมุดจดเล่มเก่งเข้ามาเอ่ยทัก

"น้ำตก? ทำไมลุงคิดว่าผมจะอยู่ที่น้ำตกเหรอครับ"

"ก็คุณคินกับคุณหอมมาหาผมที่ล้งครับบอกว่าคุณขุนจะพาไปเล่นน้ำตก แต่คุณขุนยังไม่ว่างเลยให้ไปรอที่นู่นก่อน ผมก็เลยให้ยืมมอเตอร์ไซค์ไปคันครับ เห็นขับฉิวไปเลย แต่คุณหอมไม่สบายเหรอครับตาแดง ๆ ทำหน้าหงอย ๆ" ลุงเดชพูดออกมาติดขัดอยู่บ้างเล็กน้อยไม่ฉะฉานอย่างปกติแต่ก็ใจความครบถ้วน

ทว่าขุนเขาไม่นึกจับผิดอะไรที่ดูแปลกไปเพราะใจมันร้อนรนไปหมด

"ว่ายน้ำก็ไม่เป็นหอมเอ๊ย จะเอาก้านมะยมฟาดให้ขาลาย" แล้วช่วงนี้ที่น้ำตกท้ายไร่ก็น้ำแรง อนาคินว่ายน้ำเป็นแต่จะพอช่วยเพื่อนไหวไหม ทำอะไรไม่คิดกันอีกแล้ว

มือหนาหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาคนที่ไม่ได้โทรมานานแล้ว เพราะเจออยู่ในบ้านอยู่แทบทุกเวลา แต่ครั้งนี้เห็นกับตาว่ากดตัดสายทิ้ง

"อะไรของมึงวะเนี่ยหอม" เสียงทุ้มหนักร้องอย่างกังวล ในใจนี่มันร้อนไปหมด เพราะเรื่องที่ขุนเขาจูบเหรอ ไหนบอกว่าก็ชอบเหมือนกันไง

หรือเรื่องที่เมื่อคืนเกือบจะทำไม่ดีกับน้องมันไปแล้ว ก็ทั้งนุ่มทั้งหอมยิ่งจูบยิ่งเพลินใครจะไปทนได้วะ

มันถึงได้ไม่ควรจับควรมองตั้งแต่แรกไงเว้ย

"ทำไมไม่รับวะหอม"

กริ๊ง

เสียงข้อความดังขึ้นพร้อมชื่อของข้าวหอมที่ปรากฏชัดเจน ขุนเขารีบกดอ่านทันที

-พี่ขุนหนูสำคัญสู้พี่รันต์ไม่ได้เลยใช่ไหม ทั้งที่อยู่กับหนูพอพี่รันต์โทรมาพี่ก็ลืมหนูไปเลย
หนูรอพี่ทั้งคืนพี่ก็ไม่เห็นค่าหนูเลย หนูมันไม่สำคัญ หนูมันก็แค่ข้าวหอม แค่คนที่พี่ถูกบังคับให้แต่งงานด้วย จะสู้อะไรกับคนที่เคยเป็นแฟนพี่อย่างพี่การันต์ได้
 หนูเสียใจ หนูอยากคิดอะไรคนเดียวสักพัก ไม่ต้องตามหาหนูนะ –

ความรู้สึกกรุ่นโกรธในใจของขุนเขาเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง ความรู้สึกของข้าวหอมที่ถูกบอกสะท้อนผ่านในข้อความตัดพ้อทำให้หัวใจของชายหนุ่มเจ็บเหมือนเถาหนามมาพันรัดจนแน่นไปหมด

สิ่งที่ข้าวหอมโกรธเป็นคนละเรื่องกับที่ขุนเขาคิดเลยด้วยซ้ำ เมื่อคืนนี้เสียงเรียกเข้ามือถือเป็นเหมือนกับกริ่งที่เตือนขุนเขาว่าควรหยุดสิ่งที่กำลังจะทำลงไปได้แล้วต่างหาก

พอตั้งสติได้เขาถึงได้รีบออกไป คุยกับรันต์ที่โทรมาถามเรื่องรายละเอียดบางจุดของไร่นิดหน่อยแล้วก็วาง แต่ที่ไม่ขึ้นไปที่ห้องนอนก็เพราะสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่ในห้องน้ำแบบคืนก่อน

...รอจนแน่ใจว่าข้าวหอมหลับไปแล้วค่อยขึ้นไป

ไม่ได้ลืม ทว่าเอาแต่คิดถึงไม่หยุดต่างหากล่ะ

และขุนเขาไม่เคยรู้เลยว่าน้องคิดดูถูกตัวเองแบบนี้ เขาไม่เคยคิดอยากให้ข้าวหอมรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญหรือไม่เป็นที่ต้องการ ข้าวหอมมีคุณค่าในฐานะที่เป็นตัวข้าวหอมเอง

อย่าทำแบบนี้สิหอม อย่าทำแบบนี้กับพี่

ร่างสูงใหญ่เดินเร็วราวกับวิ่ง ขึ้นรถสี่ประตูคู่ใจเพื่อตรงไปท้ายไร่ในทันที ในเมื่อไม่รับสายขุนเขาก็จะไปคุยต่อหน้าเอง


ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ


เสียงน้ำตกทำให้รู้สึกสบายใจเหมือนกับสายน้ำใสแจ๋วที่ไหลมาจากน้ำตกเป็นลำธารเส้นเล็ก ๆ ที่กำลังแช่สองเท้าอยู่ชวนให้ผ่อนคลาย

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ข้าวหอมก็เบะจนปากกลมตุ่ย

"ที่คินให้เราพิมพ์ไปว่าไม่ต้องตามหานี่มันไม่ถูกเหรอ แบบนี้ถ้าพี่ขุนไม่มาจริง ๆ จะทำไง" ข้าวหอมบ่นอย่างกังวลใจ

"อยากให้มาง้อแต่บอกว่าไม่ต้องมานี่นะ พี่ขุนก็ไม่มาสิ"

"มา เชื่อคินสิวะหอม" ยิ่งตกลงกับป้าช่อลุงเดชให้คอยย้ำบอกว่าข้าวหอมหงอยแค่ไหน ยังไงพี่ขุนก็ต้องรีบมาที่น้ำตก

"แล้วที่พิมพ์ไปมันไม่งี่เง่าไปอ่อ พี่ขุนรำคาญทำไง แล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกแย่มากเท่านั้นด้วยนะ ไม่เห็นต้องพิมพ์ไปขนาดนั้นเลย" ข้าวหอมชี้ไล่ทีละจุดท้วงคนที่แทบจะเอามือถือข้าวหอมไปพิมพ์ให้อย่างอนาคิน

ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าข้อความซึ่งเพิ่งส่งไปให้พี่ขุนเขาเกินเบอร์ไปมาก ๆ ถ้าพี่ขุนทำงานมาเหนื่อย ๆ แล้วเจอข้อความตัดพ้องี้บ่อย ๆ ข้าวหอมเหนื่อยแทนเลย

"ไม่ได้รู้สึกแย่แล้ว แต่ก็เคยรู้สึกแย่มากไม่ใช่เหรอ"

"...."

"เชื่อคิน คินดูซีรีย์ดูละครเป็นเพื่อนเจ้มาเยอะ มันจะเวิร์คเว้ยหอม"

"แล้วถ้าไม่ได้ผลล่ะคิน"

"ถ้าหอมไม่ทำให้พี่ขุนเห็นชัด ๆ ไปเลยว่าไม่โอเค พี่ขุนก็ไม่รู้สิจริงไหมเพราะหอมไม่เคยพูด ตอนนี้พี่ขุนก็บอกแล้วนี่ว่าถ้าหอมอยากร้องไห้ก็ร้องให้พี่ขุนเห็นได้เลยให้พี่ขุนปลอบ แต่หอมก็ยังเลือกจะมาร้องคนเดียว ร้องกับคินใช่ไหมล่ะ"

"อื้อ ก็มันชินนี่"

"แล้วไม่ได้มีแค่นี้ที่หอมชินด้วยดิ หอมบอกว่าหอมไม่ได้รู้สึกแย่ขนาดในข้อความ แต่ไม่จริงหรอกเว้ย หอมกลัวพี่ขุนไม่มาง้อก็เพราะลึก ๆ คิดว่าตัวเองก็ไม่ได้สำคัญพอ คิดแบบนี้จนชิน จนไม่งอนแล้วเดี๋ยวหายเอง"

"แค่เราไปวอแว พี่ขุนก็บ่นเรา รำคาญเราตลอดเลย ถ้ายังจะให้พี่ขุนมาตามง้ออีกโดนเกลียดทำไงล่ะ"

 "พี่ขุนไม่เกลียดหรอก คือหอมคิดแบบนี้มันก็ดีนะ ไม่งี่เง่าดี แต่นานทีงี่เง่าบ้างก็ได้ จะได้รู้ไงว่าหอมน่ะสำคัญกับพี่ขุนมากเลยนะ มั่นใจในตัวเองหน่อยดิ ไม่มีใครเขาอยากจูบซ้ำ ๆ กับคนที่ไม่ได้ชอบหรอกหอม"

"ใช่เลย ๆ ถ้าไม่ใช่พี่ขุนนะเราก็ไม่อยากให้จูบหรอก แต่ถ้าเป็นพี่ขุนจะจูบเราตอนไหน ตรงไหนก็ได้ จะจูบแรง ๆ ก็ได้ เรายอมปากแตกอีกสิบรอบเลยถ้าจูบกับพี่ขุน" ข้าวหอมพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแฉ่งจนตาหยี

"หอม! หุบยิ้มได้แล้วๆ"

"ห้ะ"

"พี่ขุนมาแล้ว กำลังลงจากรถ ทำหน้านิ่ง ๆ " อนาคินรีบบอกเสียงเคร่ง สองมือใหญ่ดึงข้าวหอมให้ลุกขึ้นใส่รองเท้าแตะสีฟ้าคู่โปรดรีบลากดึงให้เดินห่างไปอีกทางเพราะข้าวหอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด

"พี่ขุนมาแล้วเหรอ งืออ พี่ขุนมาง้อหนูแล้ว โอยย ใจฟูขนาดนี้จะมาสั่งไม่ให้ยิ้มได้ไงล่ะคิน มันยากนะ"

"ชู่ววว หอม อยากโดนง้อก็ห้ามยิ้มจนแก้มโย้แค่เห็นหน้าเขาสิวะ ต้องดราม่าควีน เล่นใหญ่เข้าไว้ ๆ ตีโพยตีพายเยอะ ๆ "

"ทำไงอะคินเราทำไม่เป็น แล้วจะไม่ให้ยิ้มได้ไงล่ะคิน พี่ขุนมาง้อแค่คิดก็เขินแล้ว"

"หอมต้องทำได้โว้ย ห้ามตอบ หรือถ้าตอบก็ต้องดราม่าเข้าไว้ เล่นใหญ่เข้าไว้ เชื่อคิน"

"หอม! รอพี่ก่อน หอม" เสียงทุ้มหนักตะโกนดังลั่นมาตามหลังพร้อมเสียงวิ่งหนัก ๆ บอกได้ดีว่าขุนเขากำลังจะเข้ามาถึงตัว

ข้าวหอมแทบจะหันไปยิ้มรับคำเรียกทันทีที่ได้ยิน จนอนาคินต้องขอโทษเพื่อนในใจ

ก่อนจะเหยียบลงบนหลังเท้าข้าวหอมเต็มแรง!

"โอย" ร่างผอมบางทรุดตัวลงนั่งกับพื้นทันทีด้วยน้ำตานองหน้า สองมือผอมจับเท้าตัวเองที่แดงแจ๋จากรอยเหยียบ เงยหน้ามองเพื่อนรักด้วยความโกรธ คินเท้าหนักเหยียบมาได้กระดูกจะหัก

คอยดูเถอะนะเสร็จเรื่องนี้แล้ว ข้าวหอมจะเหยียบเท้าคืนสองทีเลยด้วย เจ็บจะแย่

"หอมร้องไห้จนหมดแรงล้มกับพื้นอย่างนี้เลยเหรอวะ!" อนาคินตะโกนขึ้นมาเสียงดัง จังหวะเดียวกับที่ขุนเขารีบวิ่งมาถึงร่างผอมบางของข้าวหอมพอดี

"หอม" ร่างสูงใหญ่คุกเข่านั่งลงตรงหน้าคนตัวเล็กที่กำลังสะอึกสะอื้น เห็นตาแดงแจ๋ที่เปรอะเลอะน้ำตาของข้าวหอมเต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปนโกรธ ขุนเขายิ่งรู้สึกแย่สองมือใหญ่ทั้งลูบผมนิ่มปลอบ ทั้งเช็ดน้ำตาให้

ยิ่งเห็นร้องไห้จนตัวโยนก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาเหมือนกัน

"ฮึก อึก" ส่วนข้าวหอมก็สะอื้นฮักเพราะเท้าเจ็บจนชา สายตาอาฆาตจ้องไปที่เพื่อนรักอย่างอนาคินซึ่งยืนอยู่หลังพี่ขุนหัวเราะแหะแหะ ยกมือไหว้บอกขอโทษ ๆ ไร้เสียงใส่ ก่อนจะทำมือโอเคแล้วขยับปากบอกว่า -ได้โอกาสแล้วเอาเลยหอม อย่าให้เสียเปล่า-

 "หอมโกรธพี่เหรอ"

"...." ข้าวหอมเงียบไว้ก่อนตามที่อนาคินบอก แล้วพอยิ่งเงียบคนที่รู้สึกผิดอยู่แล้วก็ยิ่งแย่ใหญ่

"พี่ได้อ่านที่หอมพิมพ์ส่งมา หอมเข้าใจผิดแล้วนะ"

อนาคินที่ยืนอยู่ข้างหลังขยับมือทำท่าโอเค แล้วบอกไร้เสียงให้ข้าวหอมเริ่มบ้าง บอกให้เอาเลย ๆ แล้วจะให้ทำอะไรอะ

"หนูเข้าใจผิดอะไรเหรอ ฮึก ก็หนูไม่สำคัญหนูรู้ตัว" ข้าวหอมนึกอะไรไม่ออกเลยหยิบคำที่อยู่ในประโยคข้อความมาพูด และเพราะกำลังเจ็บเท้าอยู่ น้ำเสียงจึงสั่นปนสะอื้น หน้าตาแดงจัดเลอะน้ำตา แผ่นหลังผอมบางสั่นอย่างน่าสงสาร

"ไม่ใช่นะหอม ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ด้วย หอมฟังพี่"

"หนูไม่อยากฟังได้ไหม หนูกลัวเสียใจอีก" ข้าวหอมบอกออกมาแบบด้นสดล้วน ๆ ถึงจะรู้สึกว่าตอบไปแบบนี้มันแปลก ๆ แต่ก็ยังคงพูดต่อไป

อนาคินยิ้มแฉ่งปรบมือแบบไร้เสียง บอกว่าดี ๆ แล้วชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้าบอกว่าเอาอีก เล่นใหญ่อีก เอาอีก

โอเค งั้นข้าวหอมมาถูกทางแล้วใช่ไหม

"หนูรู้นะว่าพี่ขุนเสียใจที่แต่งงานกับหนู แต่หนูดีใจ ขอบคุณที่คอยปกป้องหนูมาตลอดเลย ปกป้องทุกครั้งที่หนูถูกแกล้ง ปกป้องกระเพาะของหนูจากความหิวด้วยของอร่อย ๆ และขนมเต็มตู้ แถมยังพาหนูไปเดทด้วย หนูมีความสุขมาก แต่ถ้าพี่ขุนต้องทนหนูก็เห็นใจ" พูดไปพูดมาข้าวหอมก็เริ่มงงตัวเอง ดันเผลอพูดเรื่องที่มีความสุขออกมา ก็เพราะคิดถึงแต่ตอนที่ใจเป็นสุขนี่ ดีที่พลิกบทตอนท้ายมาดราม่าอย่างที่ถูกบรีฟไว้ได้ทัน

 มองไปที่อนาคินชูนิ้วโป้งสองข้างบอกว่าดีมาก เอาอีก เอาอีก เล่นใหญ่กว่านี้อีก ข้าวหอมก็เริ่มอินกับบทมากขึ้น

"หนูก็แค่เด็กอย่างที่พี่ขุนบอกซ้ำแล้วซ้ำอีก หนูก็พยายามโตอยู่ทุกวันนี่ไง อยากเป็นคนที่พี่ขุนรัก รักแบบที่ไม่ใช่พี่น้อง รักหนูเหมือนที่หนูรักพี่ หนูพยายามจนเหนื่อยแล้ว ไม่อยากพยายามแล้ว" ถึงจะดึงความรู้สึกออกมาจริง ๆ แต่ก็ตั้งใจเล่นใหญ่เข้าไว้ เพราะไฟหนูหอมยังแรงเวอร์ วอแวเช้า ไล่ตื๋อเย็นได้สบายมาก

ตาโตมองไปที่เพื่อนรัก อนาคินยังทำมือชี้ไปบนฟ้าว่าเอาอีก ๆ ได้เลยคินเอาแบบเล่นใหญ่สุด ๆ ไปเลยนะ

"ถ้ามันจะเป็นอย่างนี้อยู่อีกมันก็คงไม่มีวันดีขึ้น หนูพอแล้วพี่ขุน หนูจะหย่า การแต่งงานของเราถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น"

ห้ะ ไม่โว้ยย อันนี้ใหญ่ไป ไม่ ๆ อนาคินทำปากพะงาบ ๆ ทำมือกากบาทซ้ำไปซ้ำมาส่ายหัวดิกเป็นเชิงบอกว่าไม่ได้เว้ยหอม อันนี้ไม่ได้

ข้าวหอมขมวดคิ้วมอง อะไรไม่ได้ คือยังไงยังเล่นใหญ่ไม่พอ น้อยไปเหรอ หรือข้าวหอมจะบอกว่าหนีไปหาญาติฝั่งพ่อที่ฮ่องกงไม่กลับมาไทยอีกเลยดีไหมนะ

"หอม!" แต่ความสนใจทั้งหมดของข้าวหอมก็ถูกดึงมาที่ใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าด้วยสองมือหนาที่ประคองจับกรอบหน้าขาวเพื่อสบตากัน

ดวงตาเรียวคมที่กำลังแดงจัดของขุนเขาทำเอาข้าวหอมรู้สึกผิดในทันที พี่ขุนทำท่าเหมือนจะร้องไห้แบบนี้ไม่ชอบเลย ตอนจ้องมาดุ ๆ ยังจะดีกว่าอีก

"ข้าวหอมฟังพี่นะ" ขุนเขาพูดออกมาด้วยเสียงหนัก ตนตั้งใจแล้วว่าจะฟังในสิ่งที่ข้าวหอมพูด ให้น้องระบายมันออกมาทั้งหมดก่อน แต่เมื่ออีกฝ่ายบอกว่าจะเลิก จะจากไป ขุนเขาไม่สามารถทนมันได้อีก

"พี่ไม่หย่า พี่ไม่เลิก พี่ไม่ยอมให้งานแต่งงานของเราถูกทิ้งไปเหมือนกับว่ามันไม่สำคัญ เพราะพี่รู้ว่ามันสำคัญกับมึงหอม และมันก็สำคัญกับพี่ด้วย ตอนนี้พี่เข้าใจตัวเองแล้ว พี่ไม่อยากห่างจากคนที่พี่รักอีกแล้ว"

"...." ข้าวหอมเงียบกริบ ไม่ใช่เพราะเล่นตามบทของอนาคิน แต่เพราะฟังแล้วใจมันเต้นโครมครามจนหูอื้ออึ้งเสียยิ่งกว่าตอนที่ถูกขโมยจูบอีก

ตาโตจ้องมองขุนเขาแทบไม่กระพริบ

"พี่ขุนพูดว่าอะไรนะ อะไรรัก ๆ นะ "

"คนที่พี่รัก ...คนที่พี่กำลังมองหน้าอยู่นี่ไง"

ข้าวหอมกลั้นหายใจอย่างไม่รู้ตัว มือผอมชี้นิ้วเข้ามาที่หน้าตัวเอง

"หนู...หนูเหรอจ๊ะ พี่ขุนบอกรักหนูเหรอ"

"เออ พี่บอกรักมึงอยู่หอม"

"พี่ขุนบอกรักหนูเหรอ พี่ขุนรักหนู พี่ขุน พี่ขุน" ข้าวหอมพูดออกมาเร็วปรื๋อ หายใจถี่เป็นห้วงสั้น ๆ สองมือผอมตบเบา ๆ บนอกตัวเอง ตาโตเบิกโพลงเหมือนกำลังตกใจจนจะเป็นลมอยู่แล้ว

"...." ขุนเขาเลือกที่จะดึงดูดความสนใจข้าวหอมก่อนที่เด็กตัวผอมจะหมดสติเพราะตื่นเต้นเกินไปจริง ๆ

และริมฝีปากหยักที่กดย้ำลงบนกลีบปากอิ่มก็ดึงดูดความสนใจจากข้าวหอมไปทั้งหมดในชั่วครู่นั้นได้จริง ๆ ราวกับว่าลมร้อนที่ถูกเป่าเบา ๆ มาในโพลงปากก่อนที่ลิ้นชื้นของขุนเขาจะสอดผ่านเข้ามานั้นทำให้ข้าวหอมใจเย็นลงจนสงบ

แต่ไม่ใช่เลยข้าวหอมชะงักค้างเพราะหัวใจทำงานหนักมากเกินไปแล้วต่างหาก ที่เคยใช้ลิ้นตัวเองดันคืนตอบโต้กับลิ้นของขุนเขากลับไปบ้างตอนนี้นั้นไม่มีขยับเลยสักนิด

ขุนเขาผละริมฝีปากออกเมื่อเห็นว่าข้าวหอมเริ่มใจเย็นลง

"มึงหายใจเข้าลึก ๆ หอม" พอบอกคนเด็กกว่าก็ทำตามอย่างว่าง่าย

"หายใจออก" ผ่อนลมหายใจออกตามที่ขุนเขาบอก

"หนูไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม พี่ขุนบอกรักหนู" ข้าวหอมถามย้ำอีกทีอยากให้แน่ใจมาก ๆ ก่อน เดี๋ยวดีใจเก้อ

"ไม่ผิด" ขุนเขาใช้นิ้วโป้งเช็ดคราบน้ำเปียกชื้นบนใบหน้าของข้าวหอม เริ่มจากสองแก้มนุ่มนิ่ม

"แต่มีเรื่องที่หอมยังเข้าใจผิดอยู่" ปลายนิ้วไล่มาถึงสองดวงตาโตที่บวมแดงแบบที่ขุนเขาแอบมีความคิดแวบขึ้นมาว่าน่าจะกดย้ำจูบเพื่อปลอบ

"พี่กับรันต์ไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่"

"จริง ...จริงเหรอพี่ขุน แต่หนูเห็นพี่สองคนจูบกัน"

"อื้ม แต่มันก็จบแค่นั้น พี่ไม่ได้รักรันต์ เราไม่ได้คบกัน หลังจัดการเรื่องเรียนจบแล้วพี่ก็ขึ้นมาอยู่ที่เชียงใหม่ ไม่ได้คบใคร ไม่มีแฟน ไม่มีใครเลย จนโดนหลอกไปแต่งงาน" ตอนนั้นขุนเขาก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงไม่ตอบรับรักการันต์ไป เพราะหลังจากบอกปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา ขุนเขาก็แทบไม่ได้คิดถึงการันต์อีก

เพราะเอาแต่คิดวนเวียนอยู่แต่กับข้าวหอม ดูแล้วเหตุผลคงไม่พ้นคนที่ตัวเองเอาแต่คิดถึงซ้ำ ๆ

"พี่เคยอ้างกับตัวเองอยู่ตลอดว่าเพราะแม่กับย่าบังคับ แต่ความจริงแล้วพี่ไม่ใช่คนที่จะฝืนใจทำอะไรที่ตัวเองไม่เห็นด้วยหัวชนฝาหรอก"

"หนูเคยได้ยินพี่ขุนพูดแบบนี้"

"แล้วเข้าใจมันไหม...พี่หมายถึงเรื่องของเราก็ด้วย"

"หนูเข้าใจจ้ะ หนูเข้าใจว่าพี่ขุนรักหนู พี่ขุนเขารักหนูหอมแล้ววว" ข้าวหอมร้องออกมาเสียงดังด้วยรอยยิ้มทั้งที่หน้าแดงตัวแดงไปหมด

"พี่ขุนรักหนู รักหนูแล้ว ฮึก รักหนู หนูก็รักพี่ขุน " ข้าวหอมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงมีน้ำตาหยดแหมะออกมาทั้งที่กำลังยิ้มกว้างขนาดนี้ แค่ความรู้สึกในหัวใจมันเต็มล้นไปหมด

"เข้าใจถูกแล้วหอม พี่รักหอม ถูกแล้ว" ขุนเขารู้สึกได้ว่าใบหูของตัวเองกำลังร้อนฉ่าและตอนนี้มันก็คงจะแดงจัดไม่ต่างจากพืชผลสีแดงที่ตนปลูกไว้จนเต็มไร่

สองแขนของข้าวหอมเกี่ยวกอดตัวขุนเขาจนแน่น ร่างผอมโถมเข้าหาแผ่นอกหนา ขุนเขาได้แต่ยิ้มกว้าง สองแขนแข็งแรงกอดตอบข้าวหอมจนแน่น

ตอนที่หัวใจของข้าวหอมแนบชิดแผ่นอกตนผ่านเสื้อยืดตัวเก่ง ขุนเขารู้สึกอุ่นใจ และมันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน






กิ๊ง

ดวงตาคมมองรูปแปดรูปที่เพิ่งส่งไปซึ่งถูกอ่านแทบจะในทันทีด้วยความความพอใจ

-ภารกิจที่ได้รับมอบหมายเรียบร้อยแล้วค้าบบ ป้าทิพย์- อนาคินพิมพ์ต่อด้วยรอยยิ้ม แอบมองหนึ่งคนตัวโตหนึ่งคนตัวเล็กนั่งซุกกอดคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่ไกล ๆ

[ว้ายยย ป้าดีใจ ป้าดูรูปแล้วนะมีกอดกันด้วย ดูสิลูกชายป้ายิ้มจนไม่เห็นตาเลย] คุณนายน้ำทิพย์รีบพิมพ์ตอบกลับมาทันที

-เมื่อกี้มีจูบด้วยครับป้าทิพย์ แต่คินมัวเขินอยู่เลยไม่ได้ถ่ายมา-

[ไม่เป็นไร ๆ แค่นี้ป้าก็พอใจแล้ว เนี่ย พี่ขุนมันชอบทำปากแข็งต้องช่วยง้างซะบ้าง]

-บอกรักกันแล้วครับป้าทิพย์ ปากไม่แข็งแล้ว- 

[ดีลูกดี เฮ้ออ หนูหอมน่ารักขนาดนี้ไม่รู้ทนใจแข็งมาตั้งนานได้ยังไง] อนาคินอ่านข้อความนี้แล้วก็คิดว่า จริง ๆ แล้วบางทีพี่ขุนเขาก็ไม่ได้อดทนเท่าไหร่หรอกนะ

ปากแข็งทำซึน แต่ใจไม่แข็งเลย โอนเอนไปหาข้าวหอมมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเหอะ

[เดี๋ยวยังไงป้าอุดหนุนค่าขนมให้เพิ่มนะจ๊ะคิน บัญชีเดิมเนอะ ขอบใจมากลูก]

-ขอบคุณค้าบบ ป้าทิพย์- อนาคินจิ้มสติกเกอร์หมียิ้มแฉ่งไปอีกสองตัว

ก่อนมาเชียงใหม่ไปขอเตี่ยกับแม่ตอนที่ป้าทิพย์กำลังมาซื้อทองพอดี ก็เลยได้รับภารกิจมาด้วยนิดหน่อย แต่ที่ยิ้มกว้างนี่ไม่ใช่แค่เพราะได้ค่าขนมเพิ่มอีกตั้งเยอะจากป้าทิพย์อย่างเดียวหรอกนะ

อนาคินดีใจที่ข้าวหอมได้มีความสุขมากกว่า ได้ฟังคำบอกรักจากคนที่ตัวเองแอบชอบแอบรัก (แต่ความจริงก็ไม่เห็นจะแอบตรงไหนเลย คินเห็นข้าวหอมชัดเจนจะแย่ว่ารักพี่ขุนเขา)

เพื่อนมีความสุข อนาคินก็มีความสุข ส่วนค่าขนมห้าหลักนี้ก็ถือว่าเป็นของแถมแล้วกันเนอะ ใช่ ๆ ขนมที่พี่ขุนจะเลี้ยงก็ด้วย

ได้ทำหน้าที่กามเทพครั้งใด อนาคินก็รู้สึกสุขใจจริง ๆ

"..." ตาคมโตรีบหันไปมองการเคลื่อนไหวไว ๆ ที่ปลายหางตา พอเห็นพี่ขุนเขาแบกเอาข้าวหอมขึ้นหลังพาเดินไปที่รถซึ่งอยู่ไกลพอตัวก็อดไม่ได้จะยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพไว้ส่งให้เพื่อนรักในภายหลัง

ข้าวหอมได้เห็นรูปพวกนี้จะต้องชอบแน่ เผลอ ๆ มีอัดใส่กรอบด้วย อนาคินรู้จักเพื่อนดี อนาคินมั่นใจ



ออฟไลน์ Butterfly8ffect

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ



"พี่ขุนหนูตัวหนักไหม"

"หนัก"

"ไม่ซี่ พี่ขุนต้องบอกว่าหนูตัวเบามากเหมือนกับปุยนุ่นเลยสิจ๊ะ" ข้าวหอมบอกเสียงใสอยู่ข้างหู สองกอดคอขุนเขาไว้หลวม ๆ ทั้งตัวทิ้งแนบไปกับแผ่นหลังกว้าง

ขุนเขาฟังที่ข้าวหอมพูดแล้วก็อมยิ้ม ความจริงแล้วข้าวหอมก็ตัวเบามากจริง ๆ นั่นแหละ กินไปตั้งเยอะขึ้นแก้มหมด

"นุ่นเปียกน้ำน่ะเหรอ"

"ใช่ที่ไหนกัน พี่ขุนไม่โรแมนติกเลย" แต่เวลาได้ฟังเสียงงอแงทั้งที่ก้อนแก้มเบียดไหล่ขุนเขาอยู่แบบนี้ก็น่ารักดี

"งั้นพี่ขุนก็พูดคำว่ารักให้หนูฟังอีก"

"ใครเขาพูดกันบ่อย ๆ ล่ะหอม สึกหมด"

"ไม่มีสึกสักหน่อยพี่ขุน หนูชอบฟัง ชอบพูดด้วย หนูรักพี่ขุน รัก รัก รัก รัก"

"พอแล้ว ๆ หูพี่จะแตก" ขุนเขาปรามเพราะข้าวหอมเล่นตะโกนใกล้ ๆ หูแบบนี้

"หอมไม่ดื้อ!" ขุนเขาเสียงดังขึ้นอีกนิด ข้าวหอมก็เงียบในทันที เม้มปากอิ่มจนแก้มกลมตุ่ย เกยคางไปกับหัวไหล่ของขุนเขา

"ดุหนูอีกแล้ว"

"ก็มึงดื้อนี่หอม ถ้าต่อไปดื้ออีกพี่ก็จะดุอีก"

"แล้วอย่างนี้พี่ขุนตอนบอกรักกับไม่รักหนูต่างกันยังไงอะ บอกให้ฟังอีกก็ไม่ได้ แถมยังดุหนูเก่งเหมือนเดิม" ข้าวหอมทำเสียงหงอยแบบที่ออกมาจากใจจริง ๆ ขุนเขาหันมามองใบหน้าน่ารักซึ่งซบอยู่กับไหล่

ใกล้จนมองเห็นหน้าข้าวหอมเบลอ ๆ ไปบ้าง แต่ที่ชัดคือกลิ่นหวานนุ่มจากยาสระผมกับแก้มเนียนละเอียดที่น่ากดจมูกฝังลงไปสักที

แล้วขุนเขาก็ทำ

"พี่ขุนนนน" ข้าวหอมเรียกเสียงหวาน แก้มที่เพิ่งโดนขโมยหอม สุกแดงจัดไปหมด ขยุ้มเสื้อขุนเขาไว้เต็มสองมือ มือหนากระชับตัวผอมที่กำลังแบกอยู่ให้ถนัดยิ่งขึ้น

"ไม่ใช่ไม่บอกรักอีกแค่ไม่ได้บอกบ่อยเฉย ๆ” ไม่ใช่เพราะอยากแกล้งแต่มันทำเอาขุนเขาเขินมากเกินไปหน่อย

“แต่เพราะรักแล้ว ถ้าต่อไปหอมจะกอด จะจูบ จะหอมพี่ พี่ก็จะไม่ว่าดีไหมล่ะ ส่วนพี่เองถ้าไม่ชอบ ไม่รักก็ไม่เริ่มจูบ เริ่มหอมใครก่อนหรอกนะ รู้ไหม"

"จริงเหรอ แบบนี้ตอนที่พี่ขุนจูบหนูก็เหมือนกำลังบอกรักหนูเหรอ งื่ออออ ดีจัง" พอคิดแบบนี้แล้วข้าวหอมก็เขินจนหูแดงจนร้อนไปหมด

ไม่เท่ากับว่าพี่ขุนบอกรักมาแล้วตั้งหลายรอบเหรอ ถ้านับรวมที่จูบด้วย

"...." ขุนเขาไม่ได้ตอบคำคาดเดาของข้าวหอมแต่ใบหูนั้นแดงจัดให้ได้เห็น ก็ดีแล้วล่ะที่ต่อไปข้าวหอมจะได้เข้าใจตรงกันว่าจูบของขุนเขาเท่ากับการบอกรัก

แล้วตอนที่บอกว่าชอบเมื่อวานนี้กับคำถามของข้าวหอม ...ขุนเขาชอบข้าวหอม ไม่ใช่แค่ชอบที่ได้จูบด้วย แต่เป็นเพราะได้จูบคนที่ชอบต่างหาก

"หอม"

"จ๊ะพี่ขุน"

"ได้เป็นลูกสะใภ้ของแม่พี่แล้วห้ามเลิกเป็นนะรู้ไหม"

"หนูไม่เลิกหรอก ยังไงนี่ก็ตำแหน่งของหนูไม่ให้ใครทั้งนั้น เป็นของหนูคนเดียว" ข้าวหอมกระชับสองแขนกอดขุนเขาที่กำลังแบกตัวเองอยู่บนหลังแน่นกว่าเดิม

ขุนเขาฟังแล้วก็หุบยิ้มไม่อยู่ ตัวผอม ๆ ที่อยู่บนหลังทั้งหอมทั้งนุ่มแล้วก็อุ่น จนขุนเขาพยายามจะก้าวอย่างช้า ๆ จนระยะทางไม่ไกลระหว่างริมน้ำตกกับรถนั้นคงใช้เวลาอีกหลายสิบนาทีในการเดินไปถึง

"ดีมากหอม พี่ก็จะเป็นลูกเขยของแม่หอมคนเดียวเหมือนกัน"





end-


 
เพราะพี่คือลูกเขยของแม่หนูจ้าาาา  ไม่ใช่เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่อย่างเดียวแล้วน้าาาา คิกคิก
อาาา ตอนนี้ก็เป็นตอนจบแล้วค่ะ แต่ว่ายังไม่หมดแค่นี้น้าา ยังมีตอนพิเศษที่ลงเว็บอยู่อีก เป็นตอนที่พี่ขุนจะฟัดนมน้องค่ะ แค่กๆๆ(แต่ไม่คุกละน้าา อิอิ) ((ตอนพิเศษก็ลงในเว็บนี้ ในบทความเดียวกับที่ลงนิยายนี่แหละค่ะเนอะ))  ซึ่งช่วงเวลาในเรื่องมันโดดจากเรื่องหลักไปพอสมควรเราเลยเห็นว่าควรขมวดจบก่อน แล้วลงในแบบตอนพิเศษที่ลงเว็บดีกว่า
      แต่นอกจากตอนพิเศษหนึ่งตอนที่ลงเว็บแล้ว ยังมีตอนพิเศษในเล่มอีกหลายตอนเลยค่ะ แต่จะเป็นช่วงที่หนูหอมไปเรียนแล้ว แล้วก็การแก้บน นั่นนู่นนี่ คิกคิก
เอาจริง ๆ คือคิดหนักพอสมควรว่าจะจบตอนนี้เลยไหม ตอนแรกคิดว่าจะจบที่ตอน13แล้วมีตอนพิเศษลงเว็บอีกตอน แต่ก็รู้สึกว่ามันห้วนเกินไป แถมหลายประเด็นยังเก็บไม่หมดด้วย พอมาถึงตอน15ก็รู้สึกว่าเนื้อหาเรื่องหลักมันก็ไม่มีอะไรแล้วนะ แล้วรู้ตัวเองดีว่าถ้าไม่มีปมหรืออะไรสักอย่างในเรื่องแน่นอน เราก็ยังไม่เก่งพอที่จะเขียนแนวนี้ยืดต่อไปเรื่อย ๆ เลยว่าขมวดจบดีกว่า
แต่ก็ยังอยากเขียนหนูหอมอยู่อีก มีความสุขกับการเขียนพี่ขุนและหนูหอมมากจริง ๆ ค่ะ
นี่ถือเป็นเรื่องแรกเลยที่เรามุ่งเน้นที่จะเขียนแนวสดใสคิ้กค้ากวัยรุ่นแบบนี้ เป็นงานที่ต่างจากปกติที่เราเขียนมากพอดู ตัวเราตอนเขียนมีการปรับหลายอย่างทั้งไม่เผลอบรรยายมากเกินไปหรือไม่เลือกใช้คำยากเกินจนไม่เหมาะกับแนวเรื่อง แล้วพอดำเนินมาได้ถึงตรงนี้เราก็รู้สึกพอใจและแฮปปี้กับการเขียนเรื่องนี้มากเลยค่ะ
เรื่องนี้เป็นหนึ่งแนวการเขียนที่ยากมาก ๆ สำหรับเรา ที่เรากลัวจนแทบไม่กล้าเขียนในที่สุดก็เขียนออกมาได้แล้ว /สูดยาดมลึก ๆ
ขอบคุณที่ติดตามแล้วก็ให้กำลังใจกันมาอย่างดีมาก ๆ เลยนะคะ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีความมั่นใจที่จะเขียนแนวซึ่งไม่ถนัดออกมาเรื่อย ๆ และเร็วขนาดนี้  คงต้องฝึกฝนในการเขียนแนวนี้อีกสักสามสี่เรื่อง ต่อจากนั้นเราคงจะสามารถเขียนได้อย่างไม่กังวลมากเท่านี้แล้วล่ะค่ะ
   ยังไงก็ฝากเรื่องอื่น ๆ ในอนาคตไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
อย่าลืมมาอ่านตอนพิเศษที่ลงเว็บกันด้วยน้าาา อาจจะอีกสักพักถึงได้ลง แต่ก็อยากให้มาอ่านกันนน แล้วก็แป้งนุ่มเพื่อนของหนูหอมก็แวะเวียนไปอ่านกันได้ที่ #อยู่ที่เรียนรัก นะคะ
 เล่มของพี่ขุนกับหนูหอมจะตีพิมพ์กับทาง deep ยังไงเราจะมาแจ้งรายละเอียดในภายหลังนะคะ ตอนพิเฉดมีมากมายจริมจัมเพราะอยากเขียนตอนน้องเรียนมหาลัยหลายอย่างเล้ย คนมาจีบน้องอะไรอย่างนี้ การเข้าหองี้ นั่นนู่นนี่ (แน่นอนว่าลุงคนนั้นขนาดจูบน้องไปหนเดียวก็ติดใจ จูบซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วอย่างอื่นที่อดที่ทนมาสี่ปี แค่กๆๆๆ)
จะนั่งรอ นอนรออ่านฟีดแบ็คในแท็ก #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ เหมือนเคยนะคะ  งื่ออ ต้องคิดถึงทุกคนมากแน่ ๆ เลย  แต่ยังมีตอนพิเฉดลงเว็บกับการฟัดนมน้องอยู่น้าาา  พี่ขุนกับหนูหอมจบแล้วแหละ ชวนเพื่อน ๆ ชวนคนอื่นมาอ่าน ๆ กันนะคะ อยากให้มีคนเอ็นดูหนูหอมเย้อะๆ
เราจะพยายามต่อไป รักทุกคนซัมเหมอ ฮาร์ททึ ฮาร์ททึ
#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2019 19:00:42 โดย Butterfly8ffect »

ออฟไลน์ Aimlovelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายฟิวกรู๊ดนะคะ เอ็นดูหนูหมอมากเลย

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หนูหอมน่ารักจังลูก เอ็นดู นิยายน่ารักมากๆ ขอบคุณค่า  :pig4:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ตามอ่าน ยาวๆจนจบ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
ขอบคุณมากๆค่ะ หนูหอม น่ารักมากค่ะ
 o13
 :L2:

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
น่ารักค่ะ อ่านสนุก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ทุกๆตัวละครในเรื่องน่ารักมากค่ะ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เป็นนิยายที่เยียวยาใจดีค่ะ น่ารักๆน้องหอมก็น่ารักแต่รักเขามากจนไม่เห็นการแสดงออกของพี่จุนเขาว่าสุดจะหึงแค่ไหน555 ขอบคุณคนเขียนมากเลย

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ ตัวยุ่ง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องน่ารักมากๆๆๆๆๆ อยากมีหนูข้าวหอมมาจ๊ะจ๋า หนูอย่างนั้น หนูอย่างนี้ ออดอ้อนอยู่ใกล้ตัวจังเลยค่ะ ขอบคุณนักเขียนสำหรับนิยายสนุกๆ ฟีลกู๊ดแบบนี้นะคะ อ่านไป ยิ้มไป ขำไป ฟินเลย  :mew1: o13

ออฟไลน์ littlepink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อย่าลืมไปแก้บนด้วยนะหนูหอม สมหวังสักที 55555555555555

ออฟไลน์ kedtawan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :o8:ฮืออ น่ารักมากเลยหนูหอม ขอบคุณมากนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ชอบความมุ่งมั่นของข้ามหอม น่ารักมากเลยลูก :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ songsa1234

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอ็นดูหนูหอมมมมมม
หายเก็กสักทีนะคุณขุน

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หนูหอมน่ารัก  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Butterfly8ffect

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1



#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่

{ตอนพิเศษ ; หนูหอมอายุครบ20ปีแล้วจ้ะ }








วันเกิดอายุครบ 20 ปีของข้าวหอมผ่านมาได้สองวันแล้ว



ตลอดชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เกิด ข้าวหอมเป็นเด็กช่างจ๊ะจ๋า เอาอกเอาใจผู้ใหญ่เก่ง ถึงจะดื้อจะรั้นบ้างแต่ก็น่ารักเป็นที่สุด ทำให้บรรดาญาติผู้ใหญ่ทั้งรักทั้งเอ็นดู



วันเกิดครบ20ปีจึงเป็นปีแรกที่ข้าวหอมไม่ได้อยู่บ้าน ไม่ได้มีป้าขิมลุงขจรรวมทั้งเพื่อนรักแม่ อย่างป้าทิพย์ กับคุณย่าสมสมัยจะได้จัดงานวันเกิดให้เด็กช่างอ้อน



เพราะเป็นแบบนั้นบรรดาญาติสนิทที่ไม่รู้ว่าขุนเขาเตรียม 'ฉลอง' วันเกิดครบปีที่20ของข้าวหอมไว้อย่างสุดพิเศษ ก็เลยแห่กันขึ้นมาหาตั้งแต่วันที่หกตุลา เพื่อรอจัดวันเกิดในวันถัดไปให้ข้าวหอม



การ'ฉลอง'ในแบบที่ขุนเขาเตรียมไว้ถึงได้ต้องถูกพับเก็บลงกล่อง เมื่อแขกเหรื่อเต็มบ้าน



นี่ก็สองคืนแล้วที่ข้าวหอมไปนอนห้องพ่อตาแม่ยายของขุนเขา เพื่อออดอ้อนออเซาะบุพการีซึ่งห่างกันนานที่สุดเท่าที่จำความได้ให้สมใจ



"ไงพี่ชายกู หน้าตาดูไม่แฮปปี้" เขตแดนหัวเราะเดินมาจนตาหยีฟันกระต่ายโผล่ คำว่าปี้ที่เน้นย้ำทำเอาขุนเขาแทบจะสะบัดเท้าโต ๆ ฟาดปาก



"เลือกแต่ขวดแพง ๆ นะมึงเนี่ย เมื่อไหร่จะกลับบ้านมึง" ขุนเขาจ้องเขม็งขวดไวน์ราคาหลายหมื่นที่เขตแดนเดินถือมา มันไม่ได้แพงมากอะไรขนาดนั้น แต่ตามประสาคนทำงานหนัก ถ้าขุนเขาไม่พอใจจะจ่าย อะไรก็แพง



ยิ่งน้องชายที่ทำหน้ากวนตีนนี่เอาเบียร์ไปกระป๋องเดียวก็พอแล้ว



"กลับพร้อมย่ากับแม่ พาเพลงมาพักผ่อนหน่อยสิ เพลงเลี้ยงหลานให้มึงจนเหนื่อยหมดแล้ว" เขตแดนทำเสียงละมุนขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงคนรัก ขุนเขาถอนหายใจ ไม่รู้นึกคึกอะไรกัน ญาติเขามาเต็มบ้านสองสามวันแล้ว



ดีที่มหาลัยของข้าวหอมปิดหลายวัน แต่ถ้าอยู่นานกว่านี้ พอมอเปิด หอมมันก็ต้องไปเรียนแล้วนะสิ



แล้วแผนฉลองวันเกิดที่ขุนเขาเตรียมให้น้องล่ะ



"..." ขุนเขาถอนหายใจอยู่คนเดียว ดึงขวดไวน์ตรงหน้าเขตแดนมาเทใส่แก้วตัวเองแทนเบียร์ที่กระดกจนหมดแล้วเทน้ำแข็งลงถังขยะไปเมื่อครู่



"ส่วนค่าไวน์เนี่ยมึงไม่ต้องห่วงเลยพี่กู เดี๋ยวกูคืนให้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม"



ขุนเขาไม่ได้ตอบคำ ยกเครื่องดื่มมึนเมารสละมุนขึ้นจิบแม้มันจะเสียของเพราะมีความขมของเบียร์ที่เหลือก้นแก้วปนมานิดหน่อย



ดวงตาเรียวคมจับจ้องมองร่างผอมบางเจ้าของเสียงหัวเราะคิกคักที่นั่งอยู่กลางบ้าน โดยมีแม่เขา ที่เด็กดื้ออ้อนเรียกแม่ทิพย์จ๊ะแม่ทิพย์จ๋าคอยหวีผมให้



ข้าวหอมหันมาสบตากับขุนเขาเข้าพอดี คนตัวเล็กยิ้มแฉ่งให้พร้อมทำปากจู๋ส่งจุ๊บ ๆ มาให้สองที



ใบหน้าที่บึ้งตึงของขุนเขามีรอยยิ้มกว้างชัดเจนขึ้นมาทันใด





ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ





"ชอบของขวัญที่พี่ให้ไหม หนูหอม" เสียงหวานหยดไม่แพ้หน้าตาของพี่สาวคนสวยที่นับญาติแล้วคงเป็นสะใภ้คนน้องของบ้านอินท์วันธรทำให้ข้าวหอมหันไปยิ้มหวานให้



พี่เพลงอุ้มเจ้าแฝดมาด้วยหนึ่งคน แม้จะไปเล่นด้วยบ่อย ๆ แต่โตแล้วหน้าเริ่มเปลี่ยนจากเดิม ข้าวหอมก็แยกแฝดไม่ออกว่าใครเป็นใคร



"หนูชอบมากเลยจ้ะพี่เพลงจ๋า ผ้านุ๊มนุ่มไม่ร้อนด้วย" ข้าวหอมชมใหญ่ พี่เพลงจ๋าซื้อชุดนอนแขนยาวขาสั้นลายมะเขือเทศสุดน่ารักให้เป็นของขวัญวันเกิดข้าวหอม บอกว่าเป็นสะใภ้ไร่มะเขือเทศก็ต้องมีไว้บ้าง



"แล้วกับพี่ขุนเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหม พี่เห็นสายตาพี่ขุนมองตามหนูหวานเชื่อมเชียว" เพลงถามไถ่ไปก็ฝากลูกชายฝาแฝดคนเล็กให้ข้าวหอมอุ้มตอนที่ตัวเองไปชงนมให้ลูก



สะใภ้ใหญ่เล่นกับหลานแต่ก็ยิ้มไม่หุบ



"พี่ขุนชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอพี่เพลง งื่ออ"



ช่วงเวลาที่ขุนเขามาอยู่เชียงใหม่ แถมยังห้ามให้หนูหอมตามมา หนูหอมน่ะเหงาแสนเหงา คิดถึงมากจนไม่รู้จะทำยังไง ไปปรึกษาเพื่อนสนิทอย่างแป้งนุ่มกับอนาคิน ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ข้าวหอมมีความรู้สึกด้านนี้โตที่สุดในกลุ่ม



สุดท้ายเลยมาปรึกษากับน้องชายของพี่ขุนเขา อย่างพี่เขตแดน จนมาสนิทกับพี่เพลง คนรักของเขตแดนไปด้วย



"ผู้ชายบ้านนี้น่ะเขาเป็นคนซึน ๆ เก่งเรื่องอื่นแต่เรื่องจีบเรื่องปากหวานนี่ไม่ได้เรื่องเลยนะ ต้องง้างกันน่าดู"



"จริงจ้ะพี่เพลง หนูต้องดราม่าซีนตั้งแยะกว่าพี่ขุนจะบอกรักหนู" เจ็บเท้าด้วยที่โดนคินเหยียบน่ะ แล้วเรื่องนี้พี่ขุนก็จับได้แล้วด้วย วุ่นวายพอดูเลยเหมือนกัน แต่พี่ขุนก็ไม่เอาคำว่ารักคืน ฮึ ต่อให้เอาคืนก็ไม่คืนให้หรอกนะ ให้แล้วให้เลย



"พี่เคยเล่าเรื่องตอนเขตมาจีบพี่ใหม่ ๆ ให้หนูหอมฟังไหม"



"ยังเลยจ้ะพี่เพลง"



"ตอนนั้นพี่อยู่ปีหนึ่ง ส่วนเขตอยู่ปีสอง รู้ไหมเจอหน้ากันวันแรก เขตร้องเพลงแซวพี่ว่า ' พี่ชอบ song มา sing a song คู่กันไหมจ๊ะ' เพราะว่าพี่ชื่อเพลง"



"โห มุขนี้หนูยอมเลย" ขนาดหนูหอมยังคิดว่ามันคลาสสิ๊ก คลาสสิก



"ใช่ไหมล่ะ พี่เดินหนีเลย ไม่ชอบพวกหมาหยอกไก่ แต่เขตน่ะก็ร้องเพลงนี้ทุกครั้งที่เจอหน้าพี่ บางทีเอาขนมมาให้บ้างแต่ไม่พูดอะไร ทำแบบนี้ตลอดจนพี่ขึ้นปีสอง แล้วพี่สังเกตดู เขตไม่เคยไปแอ๊วสาวที่ไหนเลย นอกจากเล่นมุขเสี่ยว ๆ มุขเดียวให้พี่" เพลงพูดถึงตรงนี้แล้วก็อดหัวเราะในลำคอไม่ได้



"รู้ไหม พี่นึกรำคาญ ในที่สุดก็เลยเดินไปหาซึ่งหน้าแล้วบอกว่าหยอกเล่นหรือจะจีบจริง ถ้าอยากจีบไม่ต้องร้องเพลงแล้ว พรุ่งนี้มารับไปกินข้าวเที่ยงด้วยหน้าตึกวิทย์ "



"หูว พี่เพลงเท่ห์มากเลยจ้ะ"



"พี่อยากรู้นี่ว่าจีบจริงไหม หรือยังไง แล้วเที่ยงวันต่อมา เขตก็มารับจริง ๆ ไอ้เพลงนั้นที่ชอบร้องก็เลิกเลย มารับเช้าสายบ่ายเย็น ก็จีบจริงจังนั่นแหละ มาตอนหลังเพิ่งสารภาพกับพี่ว่า ชอบพี่มากแต่แรกแล้ว แต่เขินไม่กล้าจีบ แต่ก็ไม่อยากปล่อยผ่าน เลยยืมเพลงเพื่อนมาร้องแซว แต่คิดมุขดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว จะพูดอย่างอื่นก็อึกอักหูแดงไปหมด" เพลงหยดนมกับหลังมือดูว่าอุ่นพอดีหรือยัง ตอนที่หันมามองหน้าคนเด็กกว่า ซึ่งพยายามตามรักจนเปลี่ยนจากคนแอบรัก มาเป็นคู่ชีวิตของคนที่ชอบได้



"นี่ล่ะความปากหนักคนบ้านนี้ พี่เล่าให้ฟังเพราะอยากจะบอกว่า บางทีเราก็ต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ถ้าวันนั้นพี่ไม่เดินเข้าไปหา ไปรุกถามเขตก่อน ตอนนี้แฝดก็ไม่ได้เกิดหรอก" เพลงอมยิ้มบอก



"ให้หนูเริ่มก่อนเหรอจ๊ะ"



"อื้ม เชื่อพี่สิ"



ข้าวหอมกระพริบตาปริบ ๆ แต่พี่ขุนก็บอกรักหนูแล้วนี่นา ต้องทำอะไรอีกนะ



"เพลงจ๊ะ อยู่นี่เอง"



"ลูกล่ะเขต"



"อยู่กับย่า" ย่าที่ว่า คือ คุณนายน้ำทิพย์ไม่ใช่คุณย่าสมสมัย



"งั้นเดี๋ยวเพลงเอานมไปให้ลูกก่อน" สาวสวยอุ้มลูกแฝดเข้าอกเพื่อพาไปหาแฝดอีกคน ไม่ลืมที่จะขยิบตาให้คนรักว่าแผนที่ว่าเริ่มดำเนินไปแล้ว



เขตแดนรู้ดีว่าพี่ชายตัวเองรอให้หนูหอมอายุครบยี่สิบปีอย่างใจจดใจจ่อมากแค่ไหน แต่เอาเข้าจริงแม้ตาเฒ่าหัวงูนั่นจะอยากทำแค่ไหน แต่ถ้าหนูหอมตื่นกลัวหรืองอแงขอให้อย่าเพิ่งทำ พี่ชายตนก็ยอมมือด้านต่อไปแน่นอน



เพราะฉะนั้นเป็นของขวัญแต่งงานย้อนหลังรวบยอดของขวัญวันเกิดอีกปีของขุนเขา เขตแดนก็จะช่วยบิ้วน้องมันให้



งานนี้คนรักของตนอย่างเพลงก็ร่วมด้วย เพราะเป็นที่ปรึกษาให้หนูหอมมานาน เห็นน้องมันร้องไห้มาตั้งเท่าไหร่ ก็อยากให้มีความสุขบ้าง



"หนูหอม กับพี่ขุนนี่ไปถึงไหนกันแล้ว"



"ก็ ก็..." ข้าวหอมอ้ำอึ้งหน้าแดง แม้ว่าจะชอบการจูบการกอดกับพี่ขุนมาก ๆ เล่าอวดให้แป้งนุ่มกับคินฟังได้ตลอด แต่พี่เขตไม่ใช่เพื่อนสนิทนี่ จะพูดออกมาก็เขิน



"เคยทำกันหรือยัง"



"ทำ ทำอะไรจ๊ะ" พี่เขตเปิดมากำกวมแบบนี้ ข้าวหอมทำตาโตถามให้แน่ใจ เขตแดนดึงเก้าอี้มานั่ง ตัวโต ๆ ยืนคร่อมน้องมันพูดเรื่องแบบนี้ เดี๋ยวจะดูคุกคามเกินไป



"ก็ทำเรื่องนั้นไง ที่มากกว่าจูบมากกว่ากอด" ไม่พูดเปล่าพี่เขตยังเอานิ้วชี้สองข้างจิ้ม ๆ กันให้ดูด้วย



แค่ฟังแล้วคิดตามข้าวหอมก็เขินจนหน้าแดงเถือก เรื่องแบบนี้กูเกิ้ลเอาก็รู้หมดแล้ว



"ยังสินะ" เขตแดนเปรยขึ้นมา ต่อให้ไม่ได้รู้จากการที่พี่ชายมาปรึกษาสีหน้าของข้าวหอมก็บอกหมด



"ก็ ก็หนูกลัวเจ็บ แล้วก็กลัวพี่ขุนไม่ถูกใจ" ข้าวหอมบอกเสียงแผ่ว ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่พอคุยกับแป้งนุ่มก็เริ่มคิดคล้อยตามเพื่อนรัก



ก็ข้าวหอมไม่เคย แค่จูบยังหัวใจแทบวาย ไม่รู้ด้วยว่าต้องทำยังไงให้ดี ไม่ได้มีใครเคยสอน แบบนี้พี่ขุนไม่ชอบ ไม่ถูกใจก็แย่เลย แล้วจะไปหาคนสอนเหมือนที่แป้งนุ่มไปขอให้พี่แมกไม้สอนก็ไม่ได้อีก



"โธ่ หนูหอม ไม่มีอะไรที่พี่ขุนมันไม่ถูกใจหรอก เชื่อพี่" เขตแดนไม่ใช่แค่ยุ แต่มั่นใจไอ้พี่ชายเฒ่าหัวงูของตัวเองมีหรือได้กอดหนูหอมเต็มที่แล้วจะไม่ชอบ กูให้เอามะเขือเทศมาปาใส่เลยเหอะ



"หนูหอมไม่อยากที่จะลึกซึ้งไปอีกขั้นกว่านี้กับพี่ขุนมันเหรอ หนูก็แต่งงานกับพี่มันแล้วนะ แถมอายุก็ยี่สิบแล้วด้วย"



"อยากสิ ๆ หนูอยากทำ"



"งั้นก็ทำเลย ลุย! " เขตแดนยุส่งเต็มที่ ไม่พอยังยื่นถุงกระดาษขนาดย่อมให้อีกใบ



"ถือเสียว่าเป็นของขวัญวันเกิดนะหนูหอม"





ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ







วันที่สามหลังวันเกิดของข้าวหอม ไร่อินท์วันธรก็กลับเข้าสู่ความสงบ บรรดาญาติ ๆ ทั้งหลายกลับไปกันหมดตั้งแต่ช่วงบ่าย ๆ มื้อเย็นวันนี้ก็เลยเหลือแค่คนที่อยู่ประจำ



หลังกินข้าวเย็นขุนเขากับข้าวหอมนั่งดูซีรีย์จากเว็บสตรีมมิ่งจากจีนไปเรื่อย ๆ ทว่าการสะบัดกระบี่ในจอนั้นถูกเมินเพราะคนสองคนที่นั่งมองมันกำลังวุ่นวายกับความคิดในหัวตัวเอง



ทั้งที่ปกติก็อยู่ด้วยกันสองคนตลอด แต่พอตอนนี้ทำไมมันกระอักกระอวลนัก ขุนเขาโทษความไม่บริสุทธิ์ใจที่กำลังเหิมเกริมในความคิดตัวเองล้วน ๆ



"หอมก็ครบยี่สิบแล้วเนอะ" ขุนเขาเปรยขึ้นมา แล้วในห้องก็เงียบไป มีเหลือแค่เสียงจากในจอพลาสม่าขนาดใหญ่



"พี่หนูอยากลองดื่มเหล้า"



"มาฝึกดื่มกันดูไหม"



ทั้งคู่หันมาพูดพร้อมกัน ก่อนจะยิ่งยิ้มเขินออกมาเมื่อใจความที่จะพูดตรงกัน



รวมทั้งสิ่งปรารถนาลึก ๆ ในใจก็ด้วย



ข้าวหอมยังเขินอยู่ แต่ถ้าเมาสักนิดสักหน่อยก็น่าจะทำให้ใจกล้ามากกว่านี้



ขุนเขาเองอยากทำแล้ว แต่ให้น้องมันเคลิ้มหน่อยก็คงดี ตอนเอ่ยปากขอข้าวหอมจะได้ไม่ตกใจมาก





ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ







ขุนเขาเลือกหยิบไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุดในตู้ออกมา แทนเบียร์กระป๋องซึ่งแย่งพื้นที่กับขนมหวานของข้าวหอม



รู้ดีว่าภรรยาของตัวเองนั้นไม่ชอบรสขมเท่าใดนัก เพราะฉะนั้นเลยเลือกไวน์ที่มีรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ แทน



แล้วต้องเอาแอลกอฮอล์ต่ำ ๆ ด้วย เขาไม่อยากให้คืนแรกของเราน้องมันเมาหนักจนลืมหมดตอนตื่นมา



ข้าวหอมที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ใส่ชุดนอนลายมะเขือเทศของขวัญวันเกิดที่ได้มาซ้ำสามวันติด ซึ่งเป็นตัวโปรดในตอนนี้ ในมือก็ถือถุงของขวัญวันเกิดที่พี่เขตแดนให้ติดมือมาด้วย ข้าวหอมอาบน้ำแล้ว ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมเวลาพี่ขุนมาดมใกล้ ๆ จะได้หอมติดใจติดจมูกไปเลย นี่ทาลิปมันรสน้ำผึ้งรสโปรดที่พี่ขุนชอบมาด้วยพร้อม



ไม่ต้องไปหาพี่ขุนไกล เมื่อแผ่นหลังกว้างในชุดตัวเก่งแต่ตัวสะอาดเอี่ยมยืนอยู่ปลายเตียง ขุนเขาไปอาบน้ำที่ห้องนอนเดิมของข้าวหอมมา ทว่าไม่ใส่ชุดนอนแต่เลือกใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ตัวเก่ง



เพื่อความมั่นใจ เพราะพูดตามจริงตนก็ประหม่ามากแล้วเหมือนกัน



"ไวน์เหรอพี่ขุน" ข้าวหอมถามเสียงดังคล้ายปกติ แต่ก็เจือความตื่นเต้นเต็ม



"อื้ม เริ่มจากอะไรไม่ขมก่อนดีกว่า" ขุนเขาตอบ พยายามจะนิ่งแต่มือนี้เย็นไปหมด ตาคมกวาดมองร่างผอมบางขาวจัดในชุดนอนลายมะเขือเทศ กางเกงขาสั้นรัดก้นเด้ง ๆ ของข้าวหอมให้คิดภาพเอวขอดใต้การโอบกอดของผ้าซาตินได้ชัดเจน



แล้วก็นมน้องที่ทั้งขาวทั้งชมพูซึ่งไม่เคยจะกล้ามองนาน ๆ เพราะมันเขย่าไปทั้งการยับยั้งช่างใจ



ขุนเขากระแอมในคอ สะบัดหัวตัวเอง



รินไวน์ใส่แก้วทรงสูงของมันแค่เล็กน้อยยื่นให้คนตัวเล็กที่เดินมานั่งปลายเตียงข้างกัน



"ค่อย ๆ ดื่มนะหอม" ขุนเขาย้ำเตือน มองน้องมันเอาแก้วแตะปากอิ่ม ๆ น่าจูบ พอเห็นกระดกเข้าไปแล้ว ไม่ได้เกิดอาการอยากคายออกหรือไม่โอเค ก็เริ่มกระดกของตัวเองทีเดียวครึ่งแก้ว ก่อนจะยกอีกทีจนหมดแก้ว



บรรยากาศแบบนี้ ตื่นเต้นแบบนี้ขุนเขาคิดว่าตัวเองควรมีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดสักหน่อย



"รสชาติเป็นไงบ้าง"



"ขม ๆ แต่อร่อยดีจ้ะพี่ขุน"



ข้าวหอมยื่นแก้วเปล่าคืนให้คนตัวโต ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ได้รับน้อยนิด ทว่ามากพอให้ร่างผอมรับมาเป็นเหตุผลสนับสนุนให้ตัวเอง



"พี่เขตแดนให้เป็นของขวัญวันเกิดหนู" มือผอมยื่นถุงกระดาษในมือส่งให้พี่ชายตัวโตข้างกัน ขุนเขาเลิกคิ้วยามเอื้อมรับก็คิดว่าน้องชายตัวเองจะแกล้งอะไรหนูหอมหรือเปล่า แต่ไม่มั้งมันก็เอ็นดูพี่สะใภ้คอยเข้าข้างจะแย่



อย่างว่าล่ะหนูหอมน่ารักขนาดนี้มีใครไม่คล้อยตามเอาใจบ้าง



แล้วพอเปิดดู ขุนเขาก็พ่นลมหายทั้งขำทั้งนึกอยากเตะน้องชายในใจ



มือหนาเทเอาขวดเจลหล่อลื่นสีสวยสดใสมีรูปพีชรอบขวดกับกล่องถุงยางอนามัยลงบนเตียง นึกชมน้องชายว่าจัญไรดีจริง ๆ ที่มันเลือกขนาดมาให้ขุนเขาได้พอดีทั้งที่ไซส์นี้ไม่ได้หาได้ทั่วไป สงสัยจะนำเข้ามาพร้อมหลอดเจล - กลิ่นพีชพวกนี้ดูน่าใช้และเข้ากับหนูหอมดีกว่าที่ตนเตรียมไว้เองเสียอีก



ข้าวหอมสูดลมหายใจลึก ๆ บอกกับตัวเองว่าไวน์ก้นแก้วนั้นทำตัวเองเมาแล้ว คนเมาพูดอะไรก็ได้ จะชวนพี่ขุนใช้ของพวกนี้ไปตรง ๆ เลยก็ย่อมได้



"อยากทำกับพี่ไหม" เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นมาก่อน ข้าวหอมรู้สึกว่าความร้อนวิ่งขึ้นหาสองแก้มตัวเองทันควัน



"พี่ขุน..."



"กอดกันลึกซึ้งกว่าที่เคย หอมอยากทำกับพี่ไหม เพราะพี่อยากทำกับหอมนะครับ"



ข้าวหอมเข้าใจความรู้สึกของการเขินเกินจะพูดออกมาก็ตอนนี้เอง มันร้อนไปหมด ในหัวก็รู้สึกวิ้ง ๆ ใจหรือก็เต้นโครมครามจนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไร



ทว่าใบหน้าน่ารักก็ยังพยักหน้าขึ้นลง บอกผลของการตัดสินใจ



ข้าวหอมได้จ้องสบตาเรียวคมที่ดูล่อหลอกยิ่งกว่าครั้งไหนของขุนเขาเมื่อมือหนาช้อนใบหน้าน่ารักให้เงยขึ้นมองตัวเอง



ลมหายใจของพี่ขุนร้อน จูบรสไวน์หวานกว่าปกติและชักชวนให้ลิ้นร้อนชื้นยิ่งซุกซน ริมฝีปากขบเม้มและบดเบียดกัน ข้าวหอมขยุ้มกำอกเสื้อของร่างสูงใหญ่ไว้จนเสื้อยืดสีขาวยับไปตามแรง



แผ่นอกแกร่งที่แนบชิดมือของข้าวหอมอยู่บอกได้อีกทางว่าพี่ขุนเขากำลังรู้สึกมากไม่แพ้กัน



จูบร้อน ๆ ที่เราจูบกันมาจนนับไม่ถ้วนแต่ก็ชอบทุกครั้งผละออกห่างเมื่อลมหายใจถูกลิดรอนจนเกือบหมด มันทำให้ข้าวหอมรู้ว่าตอนที่กำลังเคลิ้มในรสจูบมือใหญ่ ๆ ของพี่ขุนซนมากแค่ไหน



เมื่อกระดุมของเสื้อนอนสีสวยแยกออกจากกันจนเห็นแผ่นอก เอวคอดบาง เห็นไปทั้งตัว ขนาดกางเกงนอนขาสั้นก็ยังโดนดึงโดนล้วงจนร่นลงต่ำกว่าเดิม



ดวงตาคมของขุนเขาจ้องมองนมน้องไม่ละสายตา แล้วก็กลืนน้ำลายอึกออกมาให้เห็นกันซึ่งหน้า พอได้มาจ้องตรง ๆ แบบนี้ขุนเขารู้สึกร้อนมากขึ้น เลียริมฝีปากตัวเองซ้ำราวกับลิปมันที่เพิ่งแย่งมาจากปากหนูหอมเมื่อครู่ไม่ช่วยอะไรเลย







นมหนูหอมดูน่าอร่อย ขุนเขาอดใจไม่ไหวแล้วที่จะลงลิ้นชิม

ข้าวหอมจ้องมองคนตัวโตที่ดึงเสื้อยืดสีขาวออกทางหัวตัวเองโยนไปข้างเตียงให้ท่อนบนเปลือยเปล่าราวกับว่าไม่อยากให้ข้าวหอมเสียเปรียบหลังจากถูกถอดเสื้อนอนตัวเก่งออก

"หอม" ขุนเขากระซิบเรียกยามที่กดริมฝีปากกับไหล่แคบ ไม่รู้ว่าเรียกชื่อหรือชมกลิ่นหอมละมุนจากผิวนุ่มกันแน่

ครีมอาบน้ำของข้าวหอม หอมจนน่าจับมาเลียไปทั้งตัว

"อะ อือ พี่ขุน" ข่าวหอมเริ่มหายใจหอบแรงขึ้นเมื่อลิ้นที่ทั้งร้อนทั้งชื้นหมุนวนบนยอดอกข้างซ้าย หัวใจข้าวหอมเต้นแรงจนขุนเขารู้สึกชัดผ่านปลายลิ้น โดยเฉพาะเมื่อมือหนาล้วงเข้าไปในกางเกงผ้านิ่มแล้วรูดรั้งแท่งเนื้อไหวต่ออารมณ์ของข้าวหอมซึ่งเริ่มแข็งตัวจากการปลุกปั่นแล้วเช่นกัน

มือหนาใหญ่กำไว้หลวม ๆ รูดขึ้นรูดลง ใช้นิ้วโป้งขยี้ส่วนหัวอยู่หลายทีจนใบหน้าน่ารักต้องพิงซบกับบ่ากว้าง ส่งเสียงร้องครางแผ่ว ๆ ปนลมหายใจให้ได้ยิน

"เคยทำให้ตัวเองไหม"

"เคย ..คะ คิน" การได้ยินชื่อผู้ชายคนอื่นในสถานการณ์แบบนี้มันชวนให้หงุดหงิดยิ่งกว่าอะไร แม้จะเป็นเพื่อนสนิทน้องมันก็เถอะ

ขุนเขาหยุดทำทุกอย่าง นอกจากใช้มือใหญ่ ๆ ร้อน ๆ กำส่วนอ่อนไหวของน้องไว้ในมือ ยืดตัวออกมาจ้องมองตากลมโตที่กำลังหยาดเยิ้มจนเหมือนข้าวหอมจะทรงตัวนั่งอยู่ได้อีกไม่นาน

"เล่าครับ เล่าให้ละเอียด"

"ตอนอยู่มอห้าหนูรู้สึกแปลก ๆ ตอนเช้าตื่นมาละ อือ ละกาวเกงนอนมันตุง ๆ หนูไม่กล้าถามใครก็เลยถามคินกับแป้งนุ่ม คินก็เลยส่งลิ้งคลิปมาให้หนู เป็นผู้ชายตัวผอม ๆ ผอมกว่าหนูอีกแต่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า เขาอยู่บนเตียงในห้องคนเดียว เขาก็รูด ๆ ช่วยตัวเอง หนูก็เลยพยายามทำตาม เพราะอยากให้หาย ให้มันแฟบลงเหมือนเดิม" ข้าวหอมเล่าละเอียดจริงเสียงสั่น

"แต่ แต่ทำแล้วมันก็ไม่ค่อยได้อะพี่ขุน หนูพยายามเลียนแบบแล้วก็มีน้ำใส ๆ ออกมา พยายามให้น้ำขุ่น ๆ มันออกมาบ้างก็ไม่ค่อยออก เวลาเป็นแปลก ๆ หนูก็พยายามทำตามคลิปนั้นทุกที แต่ได้น้ำขุ่นสองครั้งเอง ได้นิดเดียวด้วย สงสัยหนูทำไม่ค่อยถูก แต่จะไปถามมากกว่านั้นอีกก็เขิน"

"คินแค่ส่งคลิปให้ลองทำตามใช่ไหม"

"อื้อ แค่นั้นแหละ คลิปเดียวด้วย"

ขุนเขาค่อยกลับมายิ้มต่อได้หน่อย ถือว่าอนาคินมันเป็นเด็กฉลาดเลือกส่งคลิปคนช่วยตัวเองให้หนูหอมแค่นั้น คงขี้เกียจตอบคำถามเพิ่ม

ดีแล้วล่ะ ถ้ามีคนอื่นมาจับ มาสอนหนูหอมแบบนี้ เพราะน้องไม่รู้ว่าควรทำยังไงช่วงเริ่มเป็นวัยรุ่น แล้วตนไม่ได้อยู่ในชีวิตน้องตอนนั้นให้น้องคอยถาม ให้ตนคอยสอนก็คงจะยิ่งรู้สึกแย่กับตัวเอง

"พี่ขุน หนู หนูน่ะเช้าวันที่เป้ามันไม่แฟบ ตอนหลับหนูฝันถึงพี่ขุนนะ บางคืนก็ตอนพี่เล่นบาสแล้วถกเสื้อเช็ดหน้า บางทีก็อะไรไม่รู้หนูจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่ามีพี่ขุน" ข้าวหอมรีบเล่าละเอียดกว่าเดิมต่อเพราะเห็นขุนเขาทำหน้าดุไม่หาย

แล้วอาการของคนฟังนั้นก็หูแดงจัดทั้งที่ยิ้มกว้างออกมาจนตาหยีเป็นประกายจ้องร่างผอมตรงหน้า

โอเค ขุนเขาแพ้ แพ้ข้าวหอมเต็ม ๆ

"หอม หนูน่ารักเกินไปแล้วรู้ไหมครับ"

เวลาแบบนี้พี่ขุนพูดเพราะทุกคำ ข้าวหอมทั้งชอบ ทั้งรู้สึกว่าพี่ขุนร้ายกาจ

แต่ก็ชอบมากกว่า ชอบพี่ขุนที่สุด

"พ พี่ขุน อื้อ พี่ขุนจ๋า" เสียงแผ่วๆ ร้องเรียก อย่างไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับตัวเองอย่างไรดี

ร่างผอมที่เดิมผิวขาวจัดตอนนี้กำลังแดงระเรื่อไปทั้งตัว หายใจระรัวอยู่ตรงหน้า

ข้าวหอมเป็นเด็กน่ารัก และตอนนี้ก็น่ารังแกมากด้วย

ขุนเขาเองก็กำลังคิดอย่างหนักเช่นกัน

ตอนนี้ร่างสูงใหญ่รู้สึกว่าตนกำลังมาถึงทางแยกที่ไม่อาจย้อนกลับ

ทางแรกคืออดทนและพาเด็กตัวผอมที่เพิ่งอายุครบ20 ไปไม่กี่วัน ผ่านค่ำคืนของครั้งแรกนี้ไปอย่างทะนุถนอมด้วยความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุดของตัวเอง

ทางที่สอง คือเต็มที่กับคืนนี้ให้มันถึงที่สุด ก็ตัวขุนเขาเองอดทนมาตลอดสี่ห้าปีจนข้อมือแข็งแรงแล้วไม่ใช่เหรอ

ยิ่งหลังจากได้แต่งงานกัน ขุนเขาก็ยิ่งได้ใช้ความอดทนมากเป็นพิเศษ

ยามที่ใคร่ครวญคิด มือหนาซึ่งหยาบกร้านตามประสาคนทำงานในไร่ก็ไล้ลูบเรียวขาและเอวบางคอดไม่ละมือ

"พี่ขุน หนู หนูอยากทำ"

น้ำเสียงสั่นกระเส่าที่ได้ยินทำให้ขุนเขาตัดสินใจเลือกแล้ว

เขาอดทนมาแล้วตั้งสี่ห้าปี คืนนี้เลิกอดทนสักคืนจะเป็นอะไรไป

"..." เสียงซิปกางเกงยีนส์ดังขึ้นในความเงียบ ข้าวหอมขบบดปากเอิบอิ่มของตัวเองเข้าหากัน

"พี่ขุน.."เสียงหวานที่พร่าแตกดังขึ้นปนเสียงลมหายใจหน่วงหนัก มือผอมบีบกล้ามแขนของคนตัวโตไว้จนแน่น

"พี่ พี่ขุน"

"หืม"

"พี่ขุน คือ คือหนูไม่เคยทำ คือ หนูอาจจะตกใจแล้วก็มีโวยวายบ้างนะ"

"..."

"แต่ แต่พี่ห้ามหยุดทำนะ"

ฟังถึงตรงนี้แล้วขุนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปาก มือร้อน จากอุณหภูมิในร่างที่พุ่งสูงขึ้น แตะไต่ไปตามหลังคอของข้าวหอมเชื่องช้า นิ้วโป้งลูบปากอิ่มช่างเจื้อยแจ้วที่น่าย้ำจูบอีกหลาย ๆ หน

"ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่หยุดทำหนูแน่ ๆ "







และขุนเขาไม่ใช่คนผิดคำพูด โดยเฉพาะในเวลานี้

ริมฝีปากหยักบางของขุนเขาไล่ขบจูบไปทั่วผิวขาวนุ่มของข้าวหอม ขณะนี้ก็วนย้ำจูบไม่ละลิ้นห่างไปไหนแม้สักนิดอยู่รอบยอดอกสีหวาน

ที่ให้ความรู้สึกหวานติดปลายลิ้นยิ่งกว่าสีสวยๆ

ข้าวหอมหอบหายใจถี่ขึ้น แรงกระตุ้นจากลิ้นชื้น ๆ ที่ทั้งดูดทั้งเลียแผ่นอกตัวเองทำให้ร่างผอมแอ่นแผ่นอกขึ้นรับอย่างไม่รู้ตัว

เหมือนสะโพวกอวบที่กำลังถูกรังแกจากมือใหญ่ ๆ ทั้งสองข้างที่นิ้วยาว ๆ ทั้งบีบขย้ำก้นขาว ทั้งรูดทั้งดึงส่วนไวต่ออารมณ์สีอ่อนของข้าวหอมไม่หยุด

ต้องเตรียมให้พร้อมเท่าที่ทำได้ ตอนไม่ยั้งมือจะได้ไม่รู้สึกผิดมาก ขุนเขาคิดในใจตัวเองเงียบ ๆ แต่แสดงออกทางที่หน้าหล่อเหลาที่เคล้าความกระหายเป็นอย่างดี

"เสียวไหม" เอ่ยหลังละริมฝีปากออกจากแผ่นอกบางของข้าวหอมที่ยามนี้เริ่มบวมแดง

"หนะ หนู.. " ข้าวหอมทั้งเขินทั้งอาย ร่างกายรู้สึกไประดับร้อยแล้ว แต่มาโดนถามให้พูดตรงยิ่งอ้ำอึ้งพูดไม่ออก

"ถ้าหนูเสียว หนูต้องบอกพี่มาตรง ๆ เลยรู้ไหมครับหอม พี่อยากฟัง" ขุนเขาเอ่ยบอกเสียงพร่า ยามกดจูบ ขบเบา ๆ กับเนื้อน่องขาว

ค่อย ๆ บอก ค่อย ๆ สอนน้องไปทีละนิด

มือหนาคว้าขวดเจลสีสวย บีบชโลมมันทั่วนิ้วยาวทั้งสองนิ้วของตัวเอง

ลูบวนชิดผนังอ่อนนุ่มค่อย ๆ กดปลายนิ้วผ่านเข้าไปในร่างกายนุ่มนิ่มที่กำลังร้อนตัดกับความเย็นของเจล

"อึก พี่ขุน ฮึก หนู หนู"

"เสียวเหรอครับ"

"อื้อ อือ หนูเสียว ฮึก เสียวพี่ขุนนิ้วยาว เสียว เย็น" ข้าวหอมพอถูกขอให้บอก ก็ร่ายให้ฟังหมดทั้งที่ตัวเองหายใจถี่เจือเสียงคราง แล้วนั่นมันก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ขุนเขาเข้าไปใหญ่

"แล้วเจ็บไหมครับ" ถามแต่นิ้วยาวก็จ้วงเข้าจ้วงออกอย่างไม่คิดจะหยุด ขุนเขาประนีประนอมได้เท่านี้แหละ

ถึงตกลงกับตัวเองว่าจะไม่อดทน

แต่ถ้าทำตัวใจร้าย หิวโหยเกินไปจนข้าวหอมได้เจ็บ นึกเข็ดขึ้นมาจะทำหนที่สองเร็ว ๆ นี้ก็ไม่ได้น่ะสิ

ครั้งแรกต้องน่าจดจำหน่อย อย่างน้อยก็ลดทอนความเจ็บให้ลูกสะใภ้ของแม่เท่าที่ทำได้


ออฟไลน์ Butterfly8ffect

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
"มันแปลก อะ เจ็บ อ๊ะ เสียว อื้อ ไม่ ๆ " เสียงคราวแผ่ว ๆ นั่นยิ่งทำให้ขุนเขาความอดทนติดลบจนไม่เหลือ หมุนควานนิ้วหาจุดที่ข้าวหอมจะเสียวที่สุดเจอให้ไว ๆ

การขยับนิ้วที่รีบร้อนนั่นทำเอาร่างผอมบางเสียววูบวาบร้อนไปทั้งตัวจนต้องหุบขาเข้าหากัน มือหนาจัดการด้วยการยกข้างหนึ่งพาดบ่าตัวเองไปเสียดื้อ ๆ

"พ พี่ อึก อ๊ะ ..." เสียงร้องที่ต่างไปพร้อมทั้งสะโพกอวบที่ขยับตามนิ้วยาวอย่างไม่รู้ตัวทำให้ขุนเขาแสยะยิ้ม

นิ้วถูกดึงออก เปลี่ยนมาคว้าเจลกลิ่นพีชหอม ๆ ขวดเดิม

ขุนเขาหยุดลังเลใจเล็กน้อยว่าจะใส่ถุงยางดีไหม แต่ถ้าจะไม่เนื้อแนบเนื้อกับคนที่แต่งงานกันแล้วจะไปทำกับใครที่ไหนได้อีก

พอคิดแบบนั้นในเสี้ยววินาทีแห่งความต้องการ เจลล่อลื่นก็ถูกชโลมจนทั่วแท่งเนื้อร้อนไปหมดแล้ว

"หอมครับ" ขุนเขาเอ่ยเรียกอีกคนที่นอนกัดนิ้วตัวตาปรืออยู่

"หอม" ขุนเขาไม่ใช่คนไร้มารยาท อย่างไรก็อยากให้ทักทายกันก่อน

"..." ข้าวหอมหน้าแดงกล่ำยิ่งกว่ามะเขือเทศในไร่ เมื่ออะไรในเป้ากางเกงของพี่ขุนที่ตุงล่อตาให้เสมองในบางทีตอนนี้โตเต็มตัวอวดอยู่ตรงหน้า

แท่งเนื้อร้อนขนาดที่ทำให้คนเด็กกว่าหายใจติดขัดกำลังถูกเจ้าของมันจับมือผอมของข้าวหอมให้เข้ามาใกล้

"ค่อย ๆ จับ จะได้คุ้นเคย" ขุนเขาสอนอย่างใจเย็นด้วยเสียงแหบกระเส่า ตาเรียวคมเป็นประกาย เลียริมฝีปากตัวเองอย่างมันเขี้ยว เมื่อข้าวหอม หายใจหอบ จ้องมองด้วยสีหน้าที่โคตรจะยั่วยวน

ขุนเขาแทบไม่ไหวแล้ว แต่ก็อยากจะเห็นภาพนี้เป็นการส่วนตัว เป็นความกามส่วนตัวที่เคยคิดจินตนาการการคนเดียวเงียบ ๆ อยู่หลายครั้ง

ไม่ต้องให้น้องชายในสายเลือดมาด่า ขุนเขาก็ยอมรับว่าตัวเองมันตาลุงเฒ่าหัวงู ไอ้ที่น้องชายค่อนขอดว่ามือถูกใช้เสียดสีจนด้านหมดแล้ว ตนยอมรับ

มือผอมแตะลงไปตรงส่วนปลายใหญ่โต แค่นั้นขุนเขาก็หลุดครางในลำคออย่างพอใจ เป็นสัมผัสจากมือคนอื่นในรอบหลายปี

ไม่แปลกที่จะรู้สึกมาก มือข้าวหอมนุ่ม และเพราะมันคือมือของข้าวหอมเขายิ่งรู้สึกมากเป็นพิเศษ

สัมผัสจากคนที่ขุนเขารัก

"มะ มันจะเข้าไปหมดนี่เลยเหรอ" ข้าวหอมกลืนน้ำลายอึก ความร้อนและอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าทำให้คิดอะไรไม่ค่อยออก แต่พอจะคาดเดาได้ว่าจุกแน่ ๆ

"ครับ หมดเลย"

"หนะ หนู..."

"หนูเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วครับ"

"อะ" พิธีการทักทายกันครั้งแรกเกิดขึ้นสมใจขุนเขาแล้วและควรผ่านไปเสียที

ข้าวหอมถูกดึงมาจูบแรง ๆ อีกที ขณะที่กำลังมัวเมากับรสจูบนั้นความรู้สึกร้อน ๆ ก็เวียนวนอยู่ไม่ห่างตัว

"อื้อ" ก่อนจะทำให้ทั้งร่างผอมสะดุ้งเฮือกเมื่อมันกดเข้ามา มันทั้งร้อนและใหญ่ มันเข้ามาลึกขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความรู้สึกที่ทำให้ข้าวหอมทั้งเจ็บทั้งจุก ก่อนจะหยุดลง

ข้าวหอมคิดว่ามันถึงที่สุดแล้ว ทว่ามีแค่ขุนเขาที่รู้ว่ามันเพิ่งผ่านเข้าไปแค่ครึ่งเดียว

"อึก ...อะ" ริมฝีปากอิ่มแดงช้ำ ส่งเสียงที่ฟังยากว่ากำลังสุขสมหรือทรมาน แต่ดวงตากลมโตเยิ้มหยดนั้นบอกชัดว่ากำลังรู้สึกร่วมมาก ๆ ไม่ต่างจากที่ขุนเขารู้สึกตอนนี้

มือหนาเสนผมซึ่งตกละหน้าที่ตอนนี้เปียกชื้นเหงื่อไปหมดของตัวเองขึ้นอย่างลวก ๆ เผยให้เห็นโครงหน้าคมสันหล่อเหลาที่ข้าวหอมตกหลุมรักมาแสนนาน

ยิ่งในเวลานี้ดวงตาเรียวคมเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าทั้งดุ ทั้งเกรี้ยวกราดและเชื้อเชิญ ข้าวหอมก็ยิ่งรู้สึกว่าพี่ขุนเขานั้นโคตรหล่อ

ถึงจะทั้งเจ็บทั้งจุก ข้าวหอมก็คิดว่ามันคุ้มแล้ว

"อ๊ะ" แล้วความเคลิบเคลิ้มก็ถูกรังควานเมื่อสะโพกแข็งแรงกระแทกเข้ามาอีกทีจนส่วนที่ค้างครึ่งอยู่เข้ามาจนมิด

ข้าวหอมได้แต่อ้าปากพ่นลมหายใจร้อน พูดอะไรไม่ออก แล้วภาวนาว่า อย่าให้อะไรใหญ่ ๆ นั่นเข้ามาลึกกว่านี้เลย

คำภาวนาเป็นจริงแต่มันกลับยิ่งทำรู้สึกมากกว่าเดิม เมื่อเพื่อนใหม่ที่พี่ขุนเพิ่งพามาให้หนูหอมจับมือด้วย กำลังถูกชักออก แล้วกดย้ำเข้ามาใหม่

เริ่มจากช้า ๆ อยู่สองสามครั้ง มันก็เร็วขึ้นกระแทกเข้ามาหนักขึ้น เน้นย้ำจุดที่ทำเอาข้าวหอมเสียวมวนท้องยิ่งกว่าขึ้นเล่นรถไฟเหาะ ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนขาสั่น

"พี่ ขะ ขุน หยุด งื่อ พอ อ๊ะ พอแล้ว" ข้าวหอมร้องออกมา เพราะเสียวไปทั้งตัว ขุนเขากระตุกยิ้ม

หอมบอกไว้แล้วนี่ ว่าจะมีโวยวายบ้างแต่ห้ามหยุด

และต่อให้ไม่ได้บอกแบบนั้น ขุนเขาก็ไม่คิดจะหยุด

"ไม่ครับ พี่ไม่หยุด" เสียงทุ้มซึ่งแหบพร่ากว่าปกติด้วยความต้องการ

คำว่าไม่หยุด ของขุนเขา แสดงตัวชัดเจนผ่านการกระทำต่อไปเมื่อสองมือหนากำต้นขาขาวเต็มไม้เต็มมือของขาวหอมแน่นให้โถมตัวเข้าใส่ได้ถนัด

กระชับจับแยกสองขาให้ห่างกันมากกว่าเดิมจนตนแทรกเข้าแนบชิดได้ลึกขึ้น สองขาข้าวหอมพับลง จนปลายเท้าสะกิดโดนกล้ามแขนแกร่งของขุนเขาทุกครั้งที่คนตัวโตถาโถมแรงเข้าใส่

ส่วนปลายร้อนจัดกระแทกลึกโดนจุดไวต่อความรู้สึกจนข้าวหอมร้องครางเสียงสั่นลั่นห้อง มันร้ายกาจพอกับที่ผนังอุ่นร้อนบีบคั้นขุนเขาแน่นทุกครั้งที่กดย้ำเข้าเสียดสีจนเสียงทุ้มครางฮึมอย่างไม่ปิดบัง

ให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเราทั้งคู่รู้สึกมากไม่ต่างกัน

"อ๊ะ อะ พอ พอ อะ พี่ขุน พอ" ข้าวหอมร้องระงมเพราะมันเสียว จุกเกินไปจนน้ำตาคลอ แล้วมันก็กำลังมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแปลกประหลาดเกินรับมือไหว จนอยากให้หยุดลงก่อน

มันยิ่งกว่าตอนที่จูบกัน เหมือนมีพลุแตกอยู่อก เหมือนกำลังเล่นรถไฟเหาะ แล้วข้าวหอมก็รักชิงช้าสวรรค์มากกว่ารถไฟเหาะมาตลอดชีวิต

"อะ พอ พอก่อน อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ" ทว่ายิ่งบอกพอ ขุนเขาก็ยิ่งขยับสะโพกออกห่างและกดย้ำเข้าไปลึกขึ้น แรงขึ้น ตามจังหวะคำโวยวายของคนตัวเล็ก

"ไม่ ไม่ ...อึก ไม่ไหว" ข้าวหอมแทบร้องไห้ เมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างมันเอ่อล้นและในขณะเดียวกันก็เหมือนถูกแย่งชิงไปหมดจนต้องการความชุ่มชื้นมาเติมเต็ม

ผ้าปูที่นอนถูกดึงรั้งมากเกินไปจนขอบที่ยึดกับฟูกนอนร่นหลุดออกมา ทว่ายามนี้ไม่มีใครสนใจมัน

มือผอมที่กำขยุ้มผ้าปูมาตลอดผวาคว้าจิกฝ่ามือกำลังขย้ำก้นตัวเองอยู่ เมื่อรู้สึกว่ามันถึงที่สุดแล้ว

ร่างกายผอมบางของข้าวหอมสั่นระริกแม้กำลังกระตุกเกร็ง ความเสียวจุกแน่นไปทั้งช่องท้อง มันลามขึ้นมาถึงอกและแล่นริ้วไปทั่วปลายนิ้วและปลายเท้าที่จิกเกร็งของข้าวหอม ขุนเขาสูดปากกับแรงบีบรัดที่มากมาย ทำให้ตนปลดปล่อยความปรารถนาเข้าไปในตัวข้าวหอมจนชุ่มฉ่ำ

"...." ฟันคมของข้าวหอมขบริมฝากตัวเองเต็มแรง เพราะความรู้สึกประหลาดที่กระฉอกเข้ามาจนเต็มท้องน้อย มันยิ่งทำให้เสียวกว่าเก่าจนจะบอกเล่าให้คนตัวโตฟังก็ยังพูดไม่ออก

มันเจ็บ มันจุก มันเสียว แต่ความรู้สึกตอนที่ทั้งร่างเกร็งกระตุกมันก็สุดยอดมาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีจูบของพี่ขุนเขาย้ำอยู่ตรงแนวกระดูกไหปลาร้าและแอ่งชีพจรไม่ห่าง

เป็นครั้งแรก ที่ข้าวหอมรู้สึกชื่นชอบรถไฟเหาะยิ่งกว่าสิ่งใด

ข้าวหอมกลับมาระบายลมหายใจร้อน ๆ อีกครั้งทั้งที่ไม่รู้ตัวว่ากลั้นหายใจไปตอนไหน น่าจะไม่พ้นตอนที่พ่นของเหลวสีขาวออกมาจนเลอะเทอะหน้าท้องของตัวเอง

"พี่รักหอมนะครับ รักมากเลยรู้ไหม"

เป็นช่วงเวลาที่คำหวานฟุ้งกระจายราวกับในความฝัน แต่เพราะได้ยินมันจริง ๆ เลยทำให้ข้าวหอมยิ่งมีความสุข

ลมหายใจของคนเด็กกว่ารดรินลงบนผิวแก้มของขุนเขาเมื่อใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างไม่ถึงสามเซ็น

"หนูรักพี่ขุน รักที่สุดไม่แบ่งใครทั้ง ทั้งนั้น" ข้าวหอมหายใจหอบยามเอ่ยบอก เลยโดนฟัดจูบที่ปากอิ่มสีสวยด้วยความมันเขี้ยวอีกที

ปลายจมูกโด่งแตะลงปลายจมูกรั้นของเด็กดื้อ ดวงตาเรียวคมอยู่ใกล้มาก ๆ และมันก็กำลังจดจ้องเข้ามาในดวงตากลมโตของข้าวหอมไม่ห่างไปไหน

"รู้สึกถึงพี่ไหม"

ขุนเขาหมายถึงส่วนไวต่ออารมณ์ที่กำลังเบียดแนบกับก้นนุ่มเด้งของคนตัวผอมในอ้อมกอดตน

ครั้งแรกของเรา

"หนู หนูว่ามันใหญ่ไปหน่อย" ข้าวหอมสารภาพตามตรงเสียงแหบแห้งหมดแรง ขุนเขาหัวเราะในลำคอ

"ทำความรู้จักกันแล้ว ไม่ชอบกันหน่อยเหรอ" ตอนมือนิ่ม ๆ ของข้าวหอมจับ ขุนเขารู้สึกตั้งมากมาย

"ใคร ใครว่าหนูไม่ชอบ แค่ แค่ไม่ชิน บ่อย ๆ เดี๋ยวหนูก็เคย เหมือนท่องสูตรคูณไง ท่องทุกวันหนูก็จำได้"

บ๊าเอ๊ย ขุนเขาสบถในใจกับความน่ารักของเมียตัวเอง ตอนแรกว่าจะทบต้นทบดอกครั้งที่สองไปไว้วันหลัง ช่างมันเหอะแม่ง

"งั้นหนูมาทำความคุ้นเคยกันอีกทีเลยดีกว่านะครับ"

"หะ หือ หนู หนู" ข้าวหอมทำหน้าตาตื่น ถึงจะชอบ แต่มันก็ยังทั้งเจ็บทั้งจุก แล้วก็ร้อนไปหมดอยู่เลยนะ

"หนูจะได้ชินไว ๆ ไง" ขุนเขายันมือไว้ข้างแก้มยองข้าวหอมกดจนมันยุบลงไป

ครั้งนี้ขุนเขาอยากจ้องมองใบหน้าน่ารัก ๆ ของข้าวหอมที่กำลังยั่วกันตอนมีอารมณ์สุด ๆ ให้เต็มตา

ขณะที่มือหนาอีกข้างจัดแจงให้สะโพกอวบเกยอยู่บนตักตัวเอง จับจ่ออะไรใหญ่ ๆ ที่ข้าวหอมยังไม่คุ้นเคยให้วนอยู่หน้าปลายทางสีสวยที่แดงจัดจากหนแรก แต่ของเหลวสีขาวขุ่นซึ่งไหลไปตามเรียวขาขาวของข้าวหอมน่าจะช่วยทำให้ทุกอย่างสอดลึกได้ไวขึ้นเมื่อร่วมมือกับเจลหล่อลื้น

"นะครับหนู"

ข้าวหอมเคยปฏิเสธอะไรพี่ขุนได้ที่ไหน (ยกเว้นไล่หนูไปไกล ๆ ตอนที่พี่ขุนยังปากแข็งยิ่งกว่ากำแพงบ้าน)

แล้วมาขอกันเสียงนุ่ม ตาคมหยาดเยิ้ม คู่กับรอยยิ้มหล่อ ๆ ชวนใจละลาย หนูหอมมีร้อยชีวิตก็จะพลีกายให้พี่ขุนไปจนหมดเลย

"อื้อ ...แต่ครั้งนี้เบา ๆ กับหนูหน่อยนะจ๊ะพี่ขุน" ถึงจะเต็มใจแต่ก็อ้อนขอต่อรองเสียหน่อย

ขุนเขายิ้มกว้าง

"ขอบคุณครับที่รัก"

ทว่าไม่ได้ตอบรับคำขอ ..ที่มั่นใจว่าตัวเองจะทำไม่ได้

ร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย ช้อนสะโพกอวบของเด็กดื้อที่วันนี้แสนว่าง่ายขึ้นสูงมากพอให้ตนก้มลงจูบลงบนส่วนปลายไวต่อความรู้สึกของข้าวหอมได้

จูบที่ทำให้ข้าวหอมยิ่งใจเต้นโครมคราม ลิ้นร้อนตวัดเลียมันเบา ๆ ยามที่ดวงตาคมดุดันกำลังจ้องมองตาของข้าวหอม ภาพแบบนั้นมันทำเอาร่างผอมทั้งเขินทั้งเห่อร้อนมากกว่าเดิม

มือหนาพาสะโพกผายลดต่ำลงเป็นช่วงไล่เลี่ยกันกับที่กดส่วนหัวร้อนใหญ่ของจนจมหายเข้าไปในร่างผอม และกดย้ำเข้าไปจนสุดในครั้งเดียว

"อื้อ พี่ พี่ขุน" ข้าวหอมเรียกเสียงสั่น ขุนเขาจัดท่าทางให้ถนัดมากขึ้น จับสองขาขาวให้ตั้งชันยันพื้นเตียงหนีบข้างสะโพกตัวเองไว้ ในขณะที่เคลื่อนตัวทาบทับอยู่เหนือคนตัวเล็กบนเตียงมากขึ้น

สองมือหนากดยันไว้ข้างตัวผอม พอขุนเขาเริ่มขยับ สองแขนของข้าวหอมก็คว้ากอดแผ่นหลังกว้างไว้จนแน่น

ครั้งนี้เล็บสั้นกุดของข้าวหอมได้ทิ้งรอยจารึกไว้บนผิวของขุนเขาไม่ต่างจากร่องรอยสีสวยละลานตาบนผิวขาวของข้าวหอม

ครั้งนี้ทุกอย่างเป็นไปได้คล่องตัวกว่าครั้งแรงมากนัก ความคับแน่นบีบรัดมันสะดวกขึ้นมากจากน้ำสีขาวขุ่นที่ให้เสียงเฉอะแฉะฟังดูลามกในทุกการขยับ

ในเมื่อหนนี้ข้าวหอมเริ่มคุ้นชินทั้งร่างกายและความรู้สึก ขุนเขาก็ใส่ไม่ยั้ง หมดสิ้นการอดทน

"อ๊ะ ขุน พี่ อ๊ะ พอ อะ พอก่อน" ข้าวหอมเองก็ยังรู้สึกได้ว่ารอบสองนี้พี่ขุนดุกว่ารอบแรกมาก ทั้งขยับเร็วขึ้น ทั้งกระแทกเข้ามาแรงมากขึ้น ไม่ผ่อน ไม่ช้า ไม่มียับยั้งชั่งใจอะไรเลยจนข้าวหอมน้ำตาหยด

น้ำตาจากส่วนผสมทั้งเสียวทั้งเจ็บ ทั้งจุก แต่ก็สนุกจนใจเต้นโครมคราม

"หอม ...อาา หอมครับ" เสียงแหบสั่นยิ่งเรียกข้าวหอมก็ยิ่งใจสั่น พี่ขุนเป็นคนเสียงเพราะ ข้าวหอมชอบเสียงพี่ขุนที่สุด ตอนดุก็ยังชอบ ตอนนี้มีหรือจะไม่ชอบ

"ฮึก พี่ขุน" เสียงของข้าวหอมที่ว่าดังก็ยังแพ้เสียงเตียงที่ลั่นเอี๊ยด ๆ เสียงเบียดเสียดของเนื้อผ้ากับกายมนุษย์รวมเสียงดังของเนื้อกระแทกเนื้อ เจือปนกลิ่นเหงื่อกลิ่นกายแบบตอนที่พี่ขุนเขาเพิ่งกลับจากทำงาน เป็นกลิ่นสุดโปรดที่ข้าวหอมชอบ

มันเป็นความทรงจำที่จะฝังลึกอยู่ในใจของหนุ่มน้อยอายุยี่สิบปีกับอีกสามวันไม่รู้ลืม

ขุนเขารู้ดีว่าตัวเองรุนแรงขึ้นกว่าหนแรกมากแต่ก็ห้ามไม่อยู่ ได้แต่ตามใจตัวเองให้ถึงที่สุด มือหนาดึงยึดสะโพกอวบไว้ไม่ให้ส่ายหนี มืออีกข้างขย้ำเนื้อนุ่มนิ่มอย่างมันเขี้ยว ควบเอวกระแทกเข้ากระชั้นขึ้นอีกหน่อย สาวออกห่างขึ้นอีกนิดและกดกระแทกย้ำเข้าไปลึกขึ้น

ซ้ำแล้วซ้ำอีก ถี่ขึ้น แรงขึ้น

"อื้อ อือ" ร่างน้อยที่เริ่มดิ้นพล่านไปมาเพราะอารมณ์ร้อนแรงซึ่งถูกปลุกเร้ามากเกินไป

เหยียดเกร็งตัวจนแผ่นหลังลอยขึ้นจากที่นอน ฟันคมขบเข้ากับหัวไหล่ของขุนเขาเต็มแรงระบายอารมณ์ที่พุ่งทะยานขึ้นในตัว เหมือนที่ขุนเขากระแทกเข้าใส่ความตอดรัดแน่น อีกสองหนก่อนจะปลดปล่อยทั้งหมดเข้าไปในร่างผอมของข้าวหอม





แผ่นอกบางหอบหายใจอย่างหนัก ทิ้งตัวลงบนที่นอนโดยมีร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงข้าง ๆ ดึงเอวคอดผอมเข้าไปกอด



ข้าวหอมรู้สึกว่าทั้งร่างของตัวเองกำลังร้อนและมากเป็นพิเศษตรงส่วนกลางลำตัว มันเต้นตุบ ๆ ตอนนี้เจ็บ ๆ ชา ๆ เหนอะหนะตัวอีกต่างหาก



"พี่ขุนไม่ ไม่เบาเลย" ข้าวหอมบ่นทั้งที่เสียงแหบแผ่ว เพราะถูกรังแกจนหมดเรี่ยวหมดแรง



"ก็หอมน่ารัก" ไม่ใช่คำแก้ตัว แต่เป็นการสารภาพความจริง ข้าวหอมถึงได้แค่ทำปากเบะ แต่ตาโตแสนงอนนั้นเปี่ยมสุข



"พอแล้วนะ หนูเหนื่อย ง่วงด้วย อยากนอน"



"ครับ พอแล้วครับ" ขุนเขาจูบหนักข้างขมับชื้นเหงื่อด้วยความเอ็นดู ข้าวหอมอมยิ้มซุกตัวอยู่ในอ้อมอกอุ่น ๆ



"หอมนอนเลยนะ เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้"



"แต่หนูอยากนอนกอดพี่ขุน" ตาปรือแล้วแต่ก็ยังช้อนขึ้นมองดื้อใส่



"หนูจะไม่สบายตัว พี่ทำหนูเลอะไปหมด พี่อยากดูแล"



"อื้อ ก็ได้จ้ะพี่ขุน" เสียงแผ่วครางรับ ใครจะทนเสียงทุ้มนุ่มกับหน้าหล่อ ๆ ของพี่ขุนตอนอ้อนได้กัน



ขุนเขาหอมแก้มนุ่มไปสองทีตอนที่ลุกไปหยิบผ้าขนหนูซักน้ำบิดหมาด กับทิชชู่เปียกทิชชู่แห้งอีกอย่างละกล่อง



ข้าวหอมพยายามฝืนไว้ไม่ให้หลับไปก่อนที่ขุนเขาจะทำเสร็จแต่มันก็ยากแสนยาก ต่อให้จะรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟเล็ก ๆ ในร่างตอนพี่ขุนสอดนิ้วเข้ามา ตอนเช็ดทิชชู่เปียกไปตามร่างกายตัวเองก็ตาม สุดท้ายก็หลับไปในที่สุด



ขุนเขากดจูบเบา ๆ ไปตามร่างผอมบางจนทั่วหลังจากที่ควักล้วงของเหลวขาวขุ่นออกมา เช็ดตัวให้ข้าวหอมจนหายเหนอะหนะ



ร่างสูงใหญ่เดินไปหยิบแค่กางเกงนอนขายาวมาใส่ ก่อนจะคว้าเสื้อนอนลายมะเขือเทศที่ถอดออกจากตัวข้าวหอมเองไปใส่คืนให้ ส่วนกางเกงขี้เกียจหา



แขนยาวดึงร่างผอมมานอนกอดเกยแนบอก รั้งผ้าห่มมาคลุมให้จนถึงแก้มใสของคนที่กำลังหลับลึกเพราะความอ่อนเพลีย



แม้จะล่าช้าไปหลายวัน แต่ขุนเขาก็อยากกระซิบบอกคำนี้กับข้าวหอมในช่วงเวลาแบบนี้ ตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น



"สุขสันต์วันเกิดนะครับ ที่รักของพี่"







ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ





คิดถึงพี่ขุนหนูหอม คิดถึงทุกคนมากเลยค่ะ

เป็นตอนพิเศษที่ยาวมาก ยาวประหนึ่งตอนหลักสองตอนรวมกัน ( (ฉากคัทปาไปสี่พัน ถถถ) )

พี่ขุนฟัดนมน้องเขียนสนุกมากและเหนื่อยมากค่ะแล้วก็ยาวแบบมากมาย



มีคนเคยถามตอนลงเรื่องหลักไปนิดหน่อยว่า พี่ขุนเป็นคนซึน ๆ ปากหนัก ปากแข็ง แถมยังดุเก่ง แล้วเวลา....จะดุมากไหม ก็อยากให้ไปร่วมพิสูจน์กันในส่วนคัทนะคะ แค่ก ๆ ๆ



ไปร่วมหวีดและมอบกำลังใจดี ๆ ให้กันได้ที่แท็ก #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ได้เลยนะคะ ขอยาว ๆ ขอเยอะ ๆ หลายๆ แท็กเล้ย คิดถึงมากมาย

หรือถ้าใครไม่มีทวิต เมนต์หวีดในนี้ได้เลยน้าา จัดมาๆ เราอ่านทุกที่ ทุกเมนต์ ทุกอันเล้ยยยยยยยยยย



#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่

@butterfly8ffect

https://web.facebook.com/butterfly8ffect/




ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :jul1: เขินนนนนนนนนนน กรี๊ด อบอุ่นมาก

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จัดหนักจัดเต็มมากสมที่รอคอยมานานเนอะพี่ขุน

ออฟไลน์ JJAY.K

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องงงงง  ในที่สุดก็ลงเอยด้วยดี  ตอนพิเศษ ที่ พิเศษมากจริง ๆ  :jul1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
หนูหอมน่ารักมาก

ขอบคุณคนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ Butterfly8ffect

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1




#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่

{ตอนพิเศษ ; หนูหอมมาแก้บนจ้ะ }

(เรื่องราวในตอนพิเศษนี้เกิดหลังจากตอนที่15 (ตอนจบ)ไม่นานค่ะ

เกิดก่อนวันเกิดอายุครบ20ปีของหนูหอมหลายเดือน)







บนแล้วถ้าสมหวังก็ต้องแก้



เป็นข้อยึดถือปฏิบัติหลัก ๆ ที่แม่ทิพย์จ๋าสอนหนูหอมไว้ตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ที่ไปเล่นบ้านคุณย่าจ๋าบ่อย ๆ แม่ทิพย์จ๋าสอนว่าเมื่อไหร่ที่บนก็ให้จดไว้เลย จะได้แก้ถูกไม่มีผิดพลาด



'ถ้าพี่ขุนรักหนู หนูจะถวายพวงมาลัยหมื่นพวงเลยจ้ะ'



การบนบานข้อนี้แม้จะไม่ได้จดแต่ข้าวหอมก็ไม่มีลืม แค่คิดถึงก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สุขใจทุกทีที่ได้แก้บน เพราะการแก้บนแปลว่าสิ่งที่หนูหอมขอนั้นสำเร็จเสร็จสิ้นแล้วเรียบร้อย



ในชีวิตหนูหอมเคยบนขออยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือขอให้ติดมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่แล้วก็ขอให้เพื่อนอีกสองคนอย่างแป้งนุ่มกับอนาคินติดด้วยกัน พวกเราแก๊งสามกิน จะได้ทัวร์หาของอร่อยรอบมอกินไปด้วยกันยาว ๆ



บนที่โรงเรียนกับหลวงปู่ บนวิ่งรอบสนามไปคนละร้อยรอบ



หนูหอมชวนนุ่มกับคินไปวิ่งแก้บนวันละสิบยี่สิบรอบอยู่หลายวัน ก็ครบเรียบร้อย ผ่านไปด้วยดีปนหอบแฮ่ก ๆ พอสมควร



พอบนครั้งที่สองกับพระธาตุดอยคำก็ได้แก้บนอีกรอบแล้ว



คิดแค่นี้หนูหอมก็มีความสุขที่สุดเลย



"ยิ้มอะไรอยู่คนเดียวหอม" ขุนเขาถามเด็กตัวสูงเท่าคางที่นั่งกอดหมอนอิงบนตักหัวเราะคิกคักทั้งที่ทีวีปิดอยู่ อนาคินก็ไปหาของกินอยู่ในครัวเสียงคุยกับป้าช่อดังมาแว่ว ๆ ให้ได้ยิน



"พี่ขุนจ๋า พี่ขุนรักหนูแล้วใช่ป่าวว" ข้าวหอมเสียงชื่นมื่น ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ขุนเขานั่งลงยกแก้วน้ำขึ้นจิบ กระแอมในคอเบา ๆ แก้เขิน



ผ่านมาสามวันแล้วที่บอกรักน้องไป แต่จะให้พูดซ้ำอีกขุนเขาก็ยังไม่ชิน หน้าแดงหูแดงไปหมด



"พี่ขุนตอบหนูซี่"



"อื้ม เหมือนที่เคยบอกนั่นแหละหอม"



"บอกว่าอะไรจ๊ะพี่ขุน หนูจำไม่ได้แล้ว บอกอะไรน้าา"



ขุนเขาถอนหายใจใส่ไปที มือหนา ๆ โยกหัวเด็กดื้อด้วยความมันเขี้ยว



"บอกว่ารักเด็กดื้อ ดื้อเก่งมาก แต่ก็รัก" ขุนเขาบอกรักไปบ่นไปด้วย แต่คนฟังก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หัวเราะคิกคักชอบใจ เอนมากอดแขนจนแน่นหนึบ แก้มนิ่ม ๆ ถูกล้ามแขนของคนเพิ่งกลับจากไร่ไปมา



ขุนเขารู้สึกตัวได้ว่ากำลังจะโดนอ้อนขออะไรแน่ ๆ และมีวี่แววจะได้เสียทรัพย์อยู่ลางๆ



"พี่ขุนจ๋าาา"



"จะเอาอะไร"



"รู้ใจหนูตลอดเลย เนี่ย พี่ขุนจำได้ไหมที่เราไปไหว้พระกันเมื่อตอนนู้นน ที่หนูบนไว้"



"อ่อ พวงมาลัยหมื่นพวงน่ะเหรอ อื้ม ทำไม"



"หนูได้แก้บนแล้วแหละ พี่ขุนพาหนูไปแก้บนหน่อยสิ"



"หืม" ขุนเขาเลิกคิ้วเบิกตาเรียวคมตาโตแบบด้านขวางของตัวเองมองเด็กตัวขาวที่เกาะแน่น



สิ่งที่บนไปสำเร็จแล้ว ขุนเขายังไม่เห็นข้าวหอมได้อะไรเลย แล้วทำไมได้แก้บน



"บนอะไรไปยังไม่บอกพี่เลย"



"หนู..." ข้าวหอมอึกอักเล็กน้อย เพราะแม่ทิพย์จ๋าเคยบอกว่า บนอะไรห้ามบอกคนอื่นก่อนสำเร็จ



"จะแก้บนแล้วนี่ บอกพี่ได้แล้วสิ ว่าไง ไม่ต้องกลัวโดนเอาคืนหรอกน่า" ขุนเขาเอ่ย ตัวเองโตมากับคุณนายน้ำทิพย์ถูกเสี้ยมถูกสอนเรื่องนี้มาเป็นอย่างดีแม้เขาจะไม่ได้ค่อยสนใจในการบนบานศาลกล่าวอะไรนักแต่แม่ก็เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟังอยู่บ่อย ๆ ก่อนหน้านี้ถึงได้ไม่เร่งถามเอากับข้าวหอมว่าบนอะไรไว้



"บนตั้งหมื่นพวงไหนดูซิอะไรที่ทำให้เล่นใหญ่ขนาดนี้"



"งั้นหนูบอกจ้ะ หนูบนเรื่องใหญ่ไว้"



แค่คิดข้าวหอมก็ยิ้มตาเป็นเสี้ยวอีกรอบเรื่องใหญ่ นี่น่ะเรื่องใหญ่มาก ๆ เลยเถอะ



"หนูบนไว้ว่าให้ได้พี่ขุน"



"ห้ะ" ตารีเล็กของขุนเขาเบิกกว้างจ้องมองเด็กในอ้อมแขนทันที



"หนูบนไว้ว่าให้พี่ขุนรักหนู ที่จริงหมื่นพวงหนูว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำแต่ถ้าเกิดบนแสนพวง หนูก็กลัวพี่ขุนไม่มีเงินจ่ายตอนแก้บนให้หนูน่ะซี่" ข้าวหอมได้โอกาสเล่าก็เล่าใหญ่ ไม่ได้มองหน้าคนฟังเลยว่าตอนนี้ตาค้างไปถึงไหนต่อไหนแล้ว



"หอมเอ๊ยหอม" ฟังเรื่องที่ลูกสะใภ้แม่ไปขอบนบานเอาไว้แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่



ทั้งน่ามันเขี้ยวแต่ก็เอ็นดู



ข้าวหอมจะรู้ตัวบ้างไหมนะว่าความจริงแล้วเรื่องนี้น่ะไม่จำเป็นต้องบนเลยด้วยซ้ำ



ข้าวหอมน่ะได้รับสิ่งที่ต้องการสมหวังดั่งใจอยู่แล้ว



"เนี่ยพระท่านศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ เลยนะ หนูได้แก้บนแล้วไวมาก มอยังไม่เปิดเทอมเลยด้วยนะพี่ขุน" ข้าวหอมโม้ใหญ่ พูดไปพนมมือสาธุไปทำปากขมุบขมิบ



ขุนเขาจับสองมือที่พนมกันอยู่ชิดริมฝีปากอิ่มให้ลดต่ำลงมา โถมตัวเข้าจูบริมฝีปากอิ่มไว ๆ ไปหนึ่งหน



"อาจจะมีอะไรมาช่วยให้หอมได้ยินคำว่ารักจากพี่ แต่ไม่ได้ช่วยทำให้รู้สึกหรอกนะ"



เสียงทุ้มนุ่มที่กระซิบชิดใบหูว่าจบก็ยันตัวลุกขึ้นเดินหนีไปที่อื่น ให้ข้าวหอมนั่งกระพริบตาปริบ ๆ เม้มปากอิ่มเด้งที่เพิ่งถูกขโมยจูบซ้ำไปซ้ำมา



และขบคิดตามในสิ่งที่พี่ขุนเขาบอก



ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ



พวงมาลัยหมื่นพวงจะว่าหายากก็ยากหาง่ายก็ง่าย ร้านที่เรียงรายกันอยู่ตลอดทางขึ้นไปไหว้พระธาตุนั้นมีหลายร้านให้เลือกมากมาย



แต่ไม่เพียงเท่านั้น ป้าช่อเองเมื่อได้รับรู้ข่าวเรื่องการแก้บนถึงแม้จะไม่รู้ว่าหนูหอมไปแก้เรื่องอะไรแต่ก็ใจดีให้เด็กในไร่ไปเก็บดอกไม้มาให้แล้วก็ช่วยร้อยเป็นพวงมาลัยมะลิพวงโตดอกสวยให้ข้าวหอมหนึ่งพวง เป็นพวงเอกดูสวยสุดในการไหว้



งานแก้บนครั้งนี้เด็กดื้อก็ไปโม้เล่าให้แม่สามีของเจ้าตัวฟังเสียจนหมดสิ้นครบถ้วนทุกอย่าง



คุณนายน้ำทิพย์ถึงได้ต่อสายตรงมาหาตั้งแต่เช้าเพื่อช่วยอุดหนุนค่าพวงมาลัยให้ ทว่าขุนเขานั้นไม่อยากให้ใครจ่ายแทน



ในเมื่อแก้บนเกี่ยวกับเรื่องของเรา เขาก็ควรจะเป็นคนจ่ายไม่ใช่หรอ



เงินที่ตั้งใจจะให้ลูกสะใภ้แก้บนก็เลยกลายเป็นค่าขนมของลูกสะใภ้เตรียมเอาไว้ซื้อของรอรับเปิดเทอมแทน งานนี้ป้าขิมกับลุงขจรก็ส่งเงินมาให้ข้าวหอมอีกกลายเป็นเด็กน้อยนี่ล่ำซำเต็มตัว ก็อย่างว่าล่ะนะ ขออะไรใครก็ซื้อให้หมดไม่ว่าจะสามีที่แต่งมาหรือแม่สามีก็ตามใจ



เป็นลูกสะใภ้ของบ้านอินท์วันธรมันก็คุ้มดีอย่างนี้แหละ



ข้าวหอมแบกถาดใส่พวงมาลัยถาดไม่ใหญ่นักลงจากรถ ส่วนขุนเขาเองก็แบกอีกถาดใหญ่ลงมาแต่มันก็ยังไม่ครบถ้วน งานนี้อนาคินก็เลยช่วยแบกมาอีกถาด โดยแบ่งให้ป้าช่อกับลุงเดชที่อยากมาไหว้พระด้วยอีกคนละถาด



ในที่สุดก็ครบถ้วนหมื่นพวง



ขุนเขาจุดธูปสามดอกยื่นส่งให้ข้าวหอมที่พอได้รับปุ๊บก็ไปนั่งทับส้นท่าเทพธิดาพนมมือประกบก้านธูป มองพระท่านกับคาถาบทสวดอย่างตั้งอกตั้งใจตาแป๋ว ขุนเขาแอบมองเด็กตัวเท่าคางที่เวลานั่งยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่ อดจะอมยิ้มไม่ได้



ร่างสูงใหญ่หันมาตั้งใจกับธูปในมือตัวเองแทน พนมมือสาธุเหนือหัวขอบคุณพระท่าน



พอคิดดูดี ๆ แล้วพระท่านอาจจะช่วยเหลืออย่างมากจริง ๆ ก็ได้



ให้ขุนเขาได้พูดในสิ่งที่ควรพูดไปนานออกมา



ให้ขุนเขาได้รู้สึกตัวแน่ชัดเสียที ว่ามีใจให้ลูกสะใภ้คนโตของแม่มานานเท่านานมากเพียงใดแล้ว



ขุนเขาเก็บรอยยิ้มกับตัวเองไว้ไม่อยู่ ยกมือขึ้นจรดหน้าผาก



'ขอบคุณที่ให้หนูหอมสมหวังในสิ่งที่บนนะครับ"



ได้แต่คิดเช่นนี้ในใจยามที่ส่งกระแสจิตถึงพระท่านในช่วงเวลาขอพร



"สาธุจ้า" ข้าวหอมบอกออกมาเสียงใสก่อนจะยกมือขึ้นเหนือหัว ก่อนจะเดินช้า ๆ ไปปักธูปในที่ให้ปัก



"ได้บนอะไรอีกไหมล่ะหอม"



"ฮื่ออ แม่ทิพย์จ๋าบอกว่ามาแก้บนห้ามบนต่อในวันนั้นเลย ไม่ดี ๆ " ข้าวหอมพูดออกมาอย่างจริงจัง เดินทิ้งอนาคินที่ยังนั่งขยับปากเจรจากับพระท่านอยู่ไม่หยุด ออกไปตรงจุดชมวิวแสนสวย ที่อากาศยามเช้ากำลังสดชื่นชวนสบาย



"แล้วขอพรอะไรไปล่ะ"



"หนูขอให้เรียนได้เกรดเยอะ ๆ ขอให้เจอแต่คนดี ๆ ขอให้พ่อจ๋าแม่จ๋า คุณย่าจ๋าแม่ทิพย์จ๋า คุณลุงจ๋า พี่เขตพี่เพลง เจ้าแฝด ป้าช่อลุงเดชมีความสุขมาก ๆ ขอให้มะเขือเทศขายได้เยอะ ๆ ร่ำรวยๆ"



"ไม่ขอถึงพี่เหรอ" ขุนเขาถามทั้งอยากรู้ ทั้งใจหนึ่งบอกกับตัวเองว่าอยากจะแซวให้คนรักแก้มขึ้นสีชวนมองสักหน่อย



"เกี่ยวกับพี่ขุนน่ะ หนูขอให้พี่ขุนรักหนูเยอะ ๆ แล้วก็ให้เรามีความสุขมาก ๆ จ้ะพี่ขุน" แต่พอได้ฟังเสียงใส ๆ กลับกลายเป็นว่าขุนเขาได้ยิ้มเขินจนหูแดงแทนเอง



"แล้วหอมรู้ไหมพี่ขออะไร"



ถ้าข้าวหอมทำให้หัวใจขุนเขาเต้นแรงด้วยความรู้สึกยินดีเช่นนี้ ขุนเขาเองก็อยากส่งความรู้สึกแบบเดียวกันให้กับอีกฝ่าย



การได้รับรู้ว่า ตนเองกำลังเป็นผู้ถูกรัก



"อยากรู้สิจ๊ะพี่ขุน บอกหนู ๆ "



"พี่ขอบคุณพระท่าน ที่ทำให้หนูสมหวัง ที่ทำให้พี่พูดในสิ่งที่พี่รู้สึกออกมา" ขุนเขาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของข้าวหอม ยามเอ่ยบอกอย่างจริงจังและอ่อนโยนด้วยรอยยิ้มใจดี



"เหมือนที่พี่ขุนบอกหนูเมื่อวานใช่ไหม ว่าที่หนูได้แก้บน ไม่เกี่ยวกับการที่ทำให้พี่ขุนรักหนู แค่ทำให้ได้ยินคำว่ารัก"



"อื้ม ต้องขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้พี่บอกหอม ก่อนที่จะสายเกินไป" ขุนเขาพูดเรื่องนี้แล้วก็ใจหาย



ยังจำได้อยู่เลยว่าที่น้ำตกข้าวหอมร้องไห้สะอึกสะอื้นมากแค่ไหน ตาแดงตัวแดงไปหมด



แล้วก่อนหน้านี้ที่น้องบอกตอนรู้เรื่องของนนท์อีกล่ะ เรื่องในอดีตพวกนั้นที่ข้าวหอมแอบไปร้องไห้อยู่คนเดียวทุกครั้งตอนขุนเขาทำให้เสียใจ



ไม่กล้าแม้แต่ร้องไห้ให้เขาเห็น



หน้าตาน่ารักนี่ต้องเปื้อนน้ำตาเพราะเขามามากเท่าไหร่แล้วกัน



"พี่ขอโทษนะหอมที่เคยทำให้หอมเสียใจร้องไห้อยู่หลายครั้ง และพี่ก็ขอบคุณที่หอมทนรักพี่มาตลอด อย่ายอมแพ้ อย่าตัดใจจากพี่เหมือนตอนที่น้ำตกอีกนะครับ" ขุนเขาพูดเสียงเจือด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งเสียใจทั้งขออภัย และมันบอกชัดผ่านดวงตาเรียวคมที่ยามนี้สั่นแกว่ง



ข้าวหอมได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ มอง ความรู้สึกผิดเริ่มเกาะกุมหัวใจ



ก็ที่น้ำตกน่ะ ข้าวหอมไม่ได้ยอมแพ้หรือตัดใจอะไรเลยสักกะนิด แถมที่ร้องไห้ฟูมฟายเป็นเผาเต่าเพราะโดนคินเหยียบเท้าต่างหาก แถมที่เล่นใหญ่อยากจะเลิกก็เพราะมีคินกำกับอยู่ข้างหลัง สมกับที่เพื่อนตัวโตเลือกเรียนคณะเกี่ยวกับการแสดงเสียจริง ๆ



"พี่ขุนจ๊ะ" ข้าวหอมเรียกเสียงอ่อย ยิ้มแหะ ๆ



"หอม ๆ ถ่ายรูปให้หน่อยจะไปอวดเตี่ยกะแม่ว่าได้มาตรงนี้ด้วย" อนาคินเข้ามาสะกิด ราวกับรู้จังหวะว่ากำลังจะถูกแฉ เส้นผมสีบลอนด์ทองสะท้อนแสงแดดรับกับจมูกโด่ง ๆ และผิวขาวจั๊วะทำเอาอนาคินเหมือนนักท่องเที่ยวฝรั่งตาน้ำข้าว



ยืนแอคท่ากับระเบียงวัดและบันไดที่ทอดยาวอยู่หลายรูปโดยมีข้าวหอมกดถ่ายให้ไม่ห่างมือ



"โห หอมถ่ายเบี้ยว ถ่ายเอียงหลายรูปเลย คินให้พี่ขุนถ่ายให้ดีกว่า" อนาคินบ่นพึมพำ เมื่อมองรูปในมือถือรุ่นล่าสุดของตัวเองแล้วว่าทั้งเบลอ ทั้งวูบวาบ เอียงก็เยอะ



"คิน มานี่ก่อน" ข้าวหอมดึงแขนเพื่อนเต็มแรงให้อีกฝ่ายย่อลงมาให้ตัวเองกระซิบได้ถนัด อนาคินย่อเข่าให้เต็ม เพราะเดี๋ยวเพื่อนโอบมาก ตัวเองจะโดนสายตาเพ่งเล็ง



"มีไรอะหอม"



"คือเราจะสารภาพกับพี่ขุนแล้ว ว่าวันนั้นความจริงแล้วเราร้องไห้เพราะโดนเหยียบเท้า"



"เฮ้ย แบบนั้นพี่ขุนจะโกรธคินไหมอะ"



"เนี่ยไงบอกในวัด พี่ขุนจะได้ใจเย็น ๆ ไม่บอกวันนี้วันหน้าก็ต้องบอกปะ ยิ่งบอกช้า พี่ขุนยิ่งโกรธทำไง"



อนาคินฟังแล้วก็ทำหน้าเหยเก แต่ก็จริงอย่างข้าวหอมว่า ถ้าพี่ขุนอินมาก ๆ ยิ่งนานวันจะยิ่งเคืองไหม แต่ตอนนี้ก็ดูหลงในตัวของข้าวหอมมาก ๆ เหมือนกัน ก็ไม่น่าจะใจร้ายไล่เตะตนที่ทำให้สมหวังกันหรอกมั้ง



หรือถ้าพี่ขุนโกรธขึ้นมาจริง ๆ อนาคินก็จะเลื่อนเที่ยวบินกลับไปกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมข้าวของย้ายเข้าหอตอนเปิดเรียนพร้อมแป้งนุ่ม จากกลับพรุ่งนี้เป็นเย็นนี้เสียเลย เงินค่าขนมที่ป้าทิพย์ให้มาเป็นค่าช่วยให้ลูกสะใภ้กับลูกชายสมหวังกันยังเหลืออีกเยอะมากพอให้ซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ได้สบายๆ



"เออ ๆ ก็ได้วะ" พออนาคินพยักหน้าปุ๊บ ข้าวหอมก็ยิ้มแฉ่งกลับมาหาขุนเขา ที่กำลังชวนให้กลับด้วยกัน



คนตัวเล็กพาขุนเขาเดินออกมาแต่ก่อนจะพ้นเขตวัดก็ดึงแขนไว้ก่อน ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวออกนอกวัดแล้วพี่ขุนโกรธเยอะ



"พี่ขุนจ๋า"



"หืม"



"คือเรื่องที่น้ำตกวันนั้นน่ะพี่ขุน...คือว่า" ข้าวหอมเงียบไปนิด แต่ก็กลั้นใจบอกรีบพูดต่อ



"หนูกับคินเตี๊ยมกันจ้ะ ให้พี่ขุนมาง้อ ที่ร้องไห้ก็เพราะถูกคินเหยียบเท้า"



พอพูดจบข้าวหอมก็กัดปากแน่นจ้องมองหน้าหล่อ ๆ ของพี่ขุนว่าจะแสดงอารมณ์ยังไงบ้าง อีกฝ่ายคงตกใจพอสมควรตาตี่ ๆ ถึงได้เบิกกว้างโตขึ้น ก่อนจะขมวดคิ้วแน่นจนข้าวหอมใจเสีย มือผอมกำชายเสื้อของขุนเขาไว้แน่น



"พี่ขุนจ๋า หนูขอโทษนะที่ทำแบบนั้น แต่หนูชอบพี่ขุนมากจริง ๆ แล้วก็..." ข้าวหอมบอกเสียงแผ่ว ใจสั่นไปหมดกลัวพี่ขุนจะโกรธมาก



ทำไมเงียบขนาดนี้หนูใจไม่ดี



"พี่ขุนอย่าเอาคำว่ารักคืนไปนะ หนูแก้บนพระท่านไปแล้วด้วย ถ้าพี่ขุนเอาคืน พระท่านโกรธแน่เลย" อ้างพระอ้างเจ้าแบบนี้ถ้าแม่ทิพย์จะรู้โดนตีโดนดุแน่เลยแต่ข้าวหอมก็ยังอ้างไปเพราะว่าคิดไม่ออกแล้วจริงๆ



"เฮ้อ" ยิ่งพี่ขุนถอนหายใจเสียงดัง ๆ ให้ฟังข้าวหอมก็ชักจะใจแกว่ง แต่ก็ยังช้อนตาออดอ้อนเข้าสู้



"คำว่ารักให้แล้วใครเขาเอาคืนกัน" ขุนเขาบอกเสียงนิ่ง แค่นั้นข้าวหอมก็ยิ้มออกมาได้ ใจนี้โล่งเหมือนได้กินน้ำหวานเย็น ๆ แก้วโปรด



"แต่..."



คำว่าแต่นี่นะตัวทำใจฝ่อเก่ง



"บทลงโทษที่แกล้งพี่ พี่จะบอกตอนกลับถึงบ้านแล้ว ในวัดเราต้องใจสงบหน่อย" ขุนเขาบอกแล้วเด็กดื้อก็ทำปากมุ่ย ทว่ารู้ว่าตัวเองผิดจึงทำได้แค่พยักหน้ารับ



ทำผิดแล้วยิ่งดื้อข้าวหอมจำได้ดีว่าพี่ขุนเขาจะดุใส่รุนแรงแค่ไหน ไม่เอาหรอก ใจสั่นไปหมด น่ากลัว



ขุนเขาเดินตรงไปที่รถโดยไม่ได้ห้ามหรือบอกให้ข้าวหอมปล่อยมือจากชายเสื้อตัวเอง ขายาวจึงก้าวช้า ๆ เพื่อให้คนขาสั้นกว่าพอควรเดินตามได้ทัน



"หอม ๆ พี่ขุนว่าไงบ้าง" อนาคินเดินมากระซิบถามข้าง ๆ เพื่อนรักเสียงแผ่ว เพราะกลัวโดนดุ ข้าวหอมทำไม้ทำมือบอกว่าโอเค เด็กหนุ่มตัวโตเลยโล่งอกได้มากขึ้น



แต่ก็ไม่พ้นเสียวสันหลังวาบตอนพี่ขุนเขาหันมาใช้ตาคม ๆ จ้องเขม็งคาดโทษ จนอนาคินต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิตเป็นการใหญ่



หวังว่าข้าวหอมจะจัดการสามีตัวเองได้ ไม่อย่างนั้น ค่าขนมที่ป้าทิพย์ให้มาอาจจะไม่คุ้มค่าเสียขวัญของกามเทพคนนี้ก็เป็นได้ อนาคินได้แต่บ่นกับตัวเองในใจ







ღ #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ







"จะขึ้นมาเชียงใหม่พร้อมนุ่มเลยใช่ไหม คิน" ข้าวหอมถามเพื่อนรักย้ำอีกหนตอนที่โบกมือลาอยู่หน้าเกท เมื่อวานไปเที่ยววัดแก้บนมาด้วยกัน แต่วันนี้อนาคินต้องกลับกรุงเทพฯแล้ว



แต่เป็นการจากลาแค่เพียงระยะสั้น ๆ แถมพอกลับมาอีกหนก็จะเอาแป้งนุ่มเพื่อนรักกลับมาด้วยเพราะฉะนั้นข้าวหอมก็เลยไม่ได้รู้สึกแย่มากนักที่จะต้องมาส่งเพื่อนขึ้นเครื่องบินในครั้งนี้



"ใช่ๆ เดี๋ยวกลับมาพร้อมนุ่มเลย แต่รอบนี้คงให้เตี่ยเอารถใหญ่มาแทนอะ ของคินกับนุ่มน่าจะมีให้ขนขึ้นมาเยอะ แต่ส่วนใหญ่เตี่ยก็บอกให้มาซื้อเอาที่นี่" อนาคินบอก ซึ่งก็จริงหลายอย่างชิ้นใหญ่ ซื้อใหม่ง่ายกว่าย้ายมา



"เดินทางปลอดภัยนะ อย่าลืมเอาขนมไปให้ถึงมือแม่จ๋ากับแม่ทิพย์จ๋านะ ห้ามกินหมดก่อนล่ะ" ข้าวหอมกำกับเพื่อนอีกที อนาคินยิ่งชอบกินเพลิน ๆ อยู่ เปิดหมูกระจกจิ้มน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่องฝีมือป้าช่อกินหมดก่อนถึงบ้านทำไง



"โห ไม่กินหรอก ป้าช่อให้ส่วนของคินมาตั้งเยอะ" เพราะไปอ้อนป้าช่อยิ่งกว่าลูกหมา ก็เลยได้ของมาเต็มสองไม้สองมือ สบายพุงไปเลย เอาไปฝากเตี่ยกับแม่ต้องปลื้มแน่ ๆ



"ว่าแต่เหอะ" อนาคินอดไม่ได้จะหรี่ตา เบาเสียงตอนที่ถาม



"ไอ้ที่ปากหอมแตกอีกแล้วนี่ เกี่ยวกับที่เล่าความลับไปเมื่อวานป่ะ"



พอโดนทัก ข้าวหอมก็เม้มปากฉับ ดันหลังให้เพื่อนตัวโตรีบเข้าเกทไปไว ๆ ในขณะที่หูแดงแก้มแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศแบบกินผลสดที่พี่ขุนเขาฝากไปให้ที่บ้านอนาคินกินเสียอีก



พอเห็นอาการชัดแบบนี้ อนาคินก็ยิ้มกริ่ม ร้องแน่ะ ๆ แซวเต็มที่กว่าจะเดินเข้าไป



ข้าวหอมเป่าลมออกจากปากระบายความร้อน เผื่อหน้าจะแดงน้อยลง แต่พอหันหลังมาเจอพี่ขุนยืนกอดอกมองอยู่ก็หน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ



"ทำไมพี่ขุนทำหนูปากแตกตลอดเลย" ข้าวหอมอดไม่ได้จะบ่นคาดโทษในเรื่องครั้งนี้กับคนที่ก่อเรื่อง



"ก็เพราะว่าหอมปากอิ่มและตึงมากไป แล้วก็เราจูบกันเกือบสิบรอบไง จำไม่ได้เหรอครับ" ขุนเขาตอบตามตรงด้วยรอยยิ้มมุมปาก



เรื่องบอกรักขุนเขาอาจจะยังไม่อัพสกิล แต่เรื่องถึงเนื้อถึงตัว หน้าหนาขึ้นมากเลยทีเดียวิหน้าหนาแบบก้าวกระโดดด้วย เพราะติดใจมาก ๆ อยากทำอีกบ่อยๆ



โดยเฉพาะจูบปากเด้ง ๆ ของข้าวหอม



"พี่ขุนอะ" ข้าวหอมโวยเสียงไม่ดังนัก เพราะอยู่กลางสนามบิน ก่อนจะเดินจ้ำหนีไปขึ้นรถ



ขุนเขาหัวเราะในลำคอมองเด็กตัวผอม เพราะก้นงอน ๆ และสะโพกอวบใต้เสื้อตัวโคร่งที่ทำให้ท่าเดินยังน่าเอ็นดู



ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษสิก็ถูกแล้วนี่



คิดถึงเมื่อคืนนี้แล้วขุนเขาก็ยิ้มไม่หุบ



'พี่ขุนจะทำโทษอะไรหนู' ความจริงแล้วเข้าห้องมาก็ยังไม่อยากรับโทษหรอกแต่ยิ่งพี่ขุนเงียบก็ยิ่งทำให้กังวลใจคิดไปร้อยแปดพันเก้าอย่าง ตั้งแต่กลับมาจนกินข้าวมื้อเย็นฝีมือป้าช่อสุดอร่อย จนอาบน้ำเสร็จจนเป่าผมเสร็จ จนแต่งชุดมาเตรียมจะขึ้นที่นอนอย่างตอนนี้



พี่ขุนก็ยังไม่บอกมาสักทีว่าตกลงจะทำโทษอะไรหนูหอมกันแน่



'พร้อมรับโทษแล้วหรือไงเด็กดื้อ'



'หนูพร้อมแล้วถ้าพี่ขุนจะตีก็อย่าตีเจ็บนะ สงสารหนูนะ' ข้าวหอมรีบออกตัวก่อนเลยเพราะพี่ขุนมือใหญ่ แรงก็เยอะถ้าตีมาแล้วก็ข้าวหอมร้องไห้แน่



'ตัวแค่นี้ใครจะตี' ขุนเขาพึมพำหัวเราะในลำคอ มือหนาทัดผมของเด็กตรงหน้ากลับไปหลังหูไม่ให้มันเกะกะกับผิวแก้มใสๆ



'บทลงโทษของเด็กดื้อที่แกล้งพี่น่ะมันต้องทำอะไรที่คุ้มค่ากับความดื้อของหนูหน่อยสิ' เว้นช่วงเงียบเล็กน้อยให้คนที่ลุ้นฟังยิ่งลุ้นเข้าไปใหญ่จนตาโตเบิกโพลง



'เช่นจูบดี ๆ ที่ทำให้พี่รู้สึกพอใจไงหอม'



พอฟังบทลงโทษตอนแรกข้าวหอมก็ยิ้มออกมาก่อนจะทำปากมุ่ยขมวดคิ้วทบทวนกับคำที่พี่ขุนเอ่ย



จูบเนี่ยไม่ยากหรอกแถมข้าวหอมก็อยากทำ ชอบไปซะอีกด้วยแต่ว่าจูบดี ๆ ที่ทำให้พี่ขุนพอใจมันต้องแค่ไหนนะพี่ขุนถึงจะพอใจ



ถ้าให้พูดกันตามจริงสำหรับข้าวหอมแล้วจะจูบกันกี่ครั้งข้าวหอมก็พอใจทั้งนั้นแหละ



มีแค่เขินมากหรือเขินน้อยหรือเขินจนตัวบิดไปเลยก็เท่านั้น



'...' เดาใจไปก็เหนื่อยเปล่าข้าวหอมก็เลยเริ่มโถมตัวเข้าใส่



รีบกดปากอิ่มของตัวเองย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ กับริมฝีปากบางของพี่ขุนเลยในทันที ตอนแรกก็แค่แตะกันสักพัก ต่อจากนี้พี่ขุนก็ควรที่จะสอดลิ้นเข้ามาหรือทำอะไรต่อมิอะไรให้มันเลยเถิดไปกันใหญ่เหมือนอย่างปกติ ทว่าครั้งนี้พี่ขุนแค่นั่งนิ่ง ๆ ใช้สองมือโอบเอวคอดบางไว้หาตัว ไม่ยอมขยับปากขยับลิ้นไปไหน



เหมือนกับกำลังย้ำบอกข้าวหอมว่าถึงเวลาที่จะต้องแสดงฝีไม้ลายมือในการจูบดี ๆ หลังจากที่พี่ขุนเขานั้นทุ่มเทเวลาการสอนและฝึกปรือ ด้วยการจูบกันมาหลายครั้งหลายหนได้แล้ว



ข้าวหอมไม่ทำให้ผิดหวัง คิดได้ ก็เริ่มขยับปลายลิ้นเล็ก ๆ ไล้เลียไปตามริมฝีปากอย่างเชื่องช้าค่อย ๆ เลียค่อย ๆ เซาะเหมือนกับคลื่นน้ำทะเลที่ซัดเข้าหาโขดหินจนสร้างร่องรอยของตัวเอง



เพื่อหาช่องว่างเข้าไปในริมฝีปาก เข้าไปในโพรงปากของพี่ขุน เข้าไปได้หน่อยก็ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ขุนเขาอดไม่ได้ที่จะดันลิ้นตัวเองกลับเพื่อทักทายกับอีกฝ่าย ริมฝีปากนุ่ม ๆ ของข้าวหอมพยายามขบเม้มอย่างที่พี่ขุนเขาเคยทำกับตัวเองบนทีล่างทีวนไปวนมา



จนในที่สุดคนอยากแกล้งก็อดทนรอไม่ไหว



จากจุดที่คิดว่าจะรอนิ่ง ๆ แต่ขุนเขาทนเรื่องนี้ไม่เก่งนัก จากจูบที่ไม่ได้หวือหวาอะไรก็เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ



กว่าจะผละริมฝีปากออกจากกันอีกที ปากข้าวหอมก็รู้สึกชา แถมลิ้นก็ยังถูกใช้งานจนเมื่อยไปหมด มือผอมแตะริมฝีปากตัวเองแอบคิดคาดโทษในใจว่าพี่ขุนต้องปล้นเอาลิปมันกลิ่นพีชหอม ๆ ที่เพิ่งทาลงไปบนปากไปหมดแล้วอีกแน่เลย



'พี่ว่าพี่ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นะหอม' ขุนเขาพูดออกมาทั้งที่ทั้งรอยยิ้มในแววตาและริมฝีปากนั้นชัดเจนว่ากำลังมีความสุขมากแค่ไหนข้าวหอมทำปากมุ่ยอีกทีแค่นี้ก็ช้ำปากจะแย่อยู่แล้ว



แต่การจูบกับพี่ขุนมันก็ไม่ได้แย่เสียหน่อย



อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่ข้าวหอมชื่นชอบสุด ๆ ไปเลย



เพราะฉะนั้นแล้วคืนนี้จะต้องถูกจูบอีกสัก 2-3 ทีเพื่อให้พี่ขุนพอใจมันก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่นี่นา



ข้าวหอมโถมตัวเข้าหาคนตัวโตอีกรอบริมฝีปากของเราบดขยี้เข้าหากันอีกครั้ง คราวนี้มันเริ่มอย่างแรงในทันทีราวกับว่าหนแรกนั้นได้ช่วยติดไฟเอาไว้จนคุกรุ่น



แต่สิ่งที่เข้าหอมไม่อาจคาดเดาได้จากในคืนนั้นก็คือมันไม่ได้หยุดที่สองหรือสามหน ทว่าคนตัวโตแสนเจ้าเล่ห์นั้นตอดเล็กตอดน้อยบอกว่าไม่พอใจอย่างนั้น ไม่พอใจอย่างนี้ อีกนิดก็คงจะดีแล้วทั้ง ๆ ที่ชื่นอกชื่นใจกับทุกรสจูบ



จนในที่สุดข้าวหอมก็ปากแตกจนได้เพราะถูกขโมยจูบไปตั้งเกือบสิบหน



ถ้าจะมองว่าเป็นการลงโทษก็คงจะได้ แม้ว่าความจริงขุนเขาไม่ได้นึกถือสาอะไรข้าวหอมนักเมื่อได้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่น้ำตกไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมด



เพราะพอลองนึกดู หนนั้นไม่จริงมันก็ดีแล้ว ทว่าอีกไม่นานในอนาคตอันใกล้ถ้าขุนเขาไม่เอ่ยปากบอกคำว่ารักให้ข้าวหอมได้ยินสักที ความรู้สึกที่ข้าวหอมไม่อยากทนกับการไม่ได้รักคืนมาอีกต่อไปมันต้องเกิดขึ้นสักวันแน่



ข้าวหอมอดทนมามากแล้วหลายปี ในเมื่อขุนเขาเริ่มรู้สึกถึงใจของตัวเองแล้วว่านึกคิด และรักข้าวหอมอย่างไร



ก็ควรที่จะบอกออกไปตรง ๆ นั่นแหละถูกแล้ว



เพราะฉะนั้นจูบพวกนี้ ขุนเขาก็จะนับว่าเป็นกำไรก็แล้วกัน



               หรืออีกอย่างถือว่าเป็นการฝึกฝนการจูบระหว่างเราก็คงไม่ผิดนัก



               ก็ขุนเขาคิดว่าตนกับข้าวหอมจะต้องจูบกันไปอีกหลายครั้งหลายหนเลยนี่





ღ  #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ ღ







     หนูหอมไปแก้บนเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ พี่ๆจ๋าๆ แม่ๆจ๋าของหนูหอม

มาพร้อมการรับรู้ถึงเรื่องราวเบื้องหลังที่น้ำตกของพี่ขุน 55555



มาแจ้งความคืบหน้าเรื่องรวมเล่มของพี่ขุนหนูหอมจ้ะ ตอนนี้ตอนพิเศษทั้งหมดเราได้เขียนเสร็จแล้วและส่งให้ทาง deepแล้วนะคะ โดยตอนพิเศษมีทั้งหมด10ตอนค่ะ จุก ๆ555(เอาตอนพิเศษมาลงเว็บ3ตอนค่ะ) 

ทาง สนพ. แจ้งว่าเล่มน่าจะได้ให้จับจองช่วงพฤจิกาหรือธันวาปีนี้ค่ะ หากมาได้ไวกว่านั้นหรือมีอะไรคืบหน้ายังไงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ



แล้วก็ขออวดแรง ๆ เลยว่าปกและแฟนอาร์ตของพี่ขุนหนูหอมสวยงามน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เราเลิฟสุด ๆ ไปพาน้องกลับบ้านกันเยอะๆนะคะ ^^



ขอบคุณสำหรับฟีดแบ็คน่ารัก ๆ จากทุกท่านล่วงหน้านะคะ อิอิ จะเฝ้ารอทุกคนในแท็ก #เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่ นะคะ เลิฟฟฟฟฟ







#เพราะหนูคือลูกสะใภ้ของแม่พี่

@butterfly8ffect

 




ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
หนูหอมก็ยังน่ารักเหมือนเดิม

ขอบคุณคนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด