εїз ในป่าสน εїз แจ้งข่าวรวมเล่ม ❀ หน้า 6 (update 09/07/2019)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: εїз ในป่าสน εїз แจ้งข่าวรวมเล่ม ❀ หน้า 6 (update 09/07/2019)  (อ่าน 49421 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
ตอนพิเศษในป่าสน



ยามเมื่อจันทร์กระจ่างฟ้า..
ระยะ waxing crescent

แม้การหลอมรวมจะสำเร็จลงด้วยดี แต่กว่าที่เด็กชายจากบ้านกลางป่าสนจะได้รับอนุญาตให้ออกจากมาใช้ชีวิตในสังคมอันกว้างใหญ่อย่างเป็นทางการ ต้องใช้เวลาสำรวจความพร้อมต่ออีก 3 เดือน เท่ากับว่าจันทร์ใช้เวลาในการพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 3 ปี 3 เดือน โดยที่หลังจากนี้จันทร์จะต้องเข้ารับการบำบัดทางด้านจิตวิทยาเพื่อปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดที่เป็นผลพวงมาจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างต่อเนื่อง และในขณะที่จันทร์กำลังอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อม คุณแม่ของผมก็ทำหน้าที่เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงคอยชี้แนะในเรื่องต่าง ๆ พร้อมกับคอยชักจูงให้จันทร์ค่อย ๆ ก้าวเดินออกจากเซฟโซนของตัวเอง เพื่อไปพบเจอกับผู้คนที่หลากหลายด้วยการทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ เช่น การไปช็อปปิ้ง หรือการไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่ตลาดสด
ซึ่งผลดีก็ไม่ได้มีอยู่แค่นั้น..
เพราะการมีอยู่ของจันทร์ คือการเข้ามาเติมเต็มครอบครัวของผม

“จันทร์ตัดสินใจได้หรือยังว่าการเรียนแบบไหนที่เหมาะกับจันทร์” ผมเอ่ยถามเด็กชายจากบ้านกลางป่าสน ระหว่างที่เรากำลังเดินทางไปยังอำเภอสะเมิง เพื่อติดต่อเกี่ยวกับวุฒิการศึกษา เพราะในตอนนี้ผมกำลังวางแผนด้านการศึกษาให้กับจันทร์ โดยหลักสูตรที่ผมมองๆ ไว้ คือการเรียนแบบ กศน. และการเรียนแบบโฮมสคูล
“แล้วพี่ภัทรคิดว่าหลักสูตรไหนเหมาะกับจันทร์เหรอครับ ?”

“พี่คิดว่าโฮมสคูลน่าจะเหมาะกับจันทร์มากกว่า เพราะการออกมาใช้ชีวิตของน้องจิมและน้องลียากรส่งผลกระทบต่อการเรียนของจันทร์ค่อนข้างมาก ดังนั้นช่วงแรกอาจจะต้องเรียนปรับพื้นฐานไปก่อน อีกอย่างการเรียนโฮมสคูลในหลักสูตรของโรงเรียนนานาชาติก็ค่อนข้างอำนวยความสะดวกมาก เพราะเขามีครูที่คอยให้คำปรึกษา แล้วก็มีห้องสมุดสำหรับเด็กโฮมสคูล แถมยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เด็กโฮมสคูลเข้าร่วม พี่เลยคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จันทร์จะได้ส่องประกายมากขึ้น แล้วจันทร์ก็จะได้มีเวลาเรียบเรียงเรื่องราวในชีวิตเพื่อเขียนเป็นหนังสือด้วย”
“ส่วนการเรียนแบบ กศน. พี่กลัวว่ามันจะหนักเกินไปสำหรับจันทร์ เพราะการเรียนแบบนี้ เราจะต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แล้วด้วยพื้นฐานที่ไม่ค่อยแน่นมาตั้งแต่แรก มันอาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ยากลำบาก”

“แล้วการเรียนตามหลักสูตรปกติล่ะครับ ทำไมพี่ภัทรถึงคิดว่ามันไม่เหมาะกับจันทร์”
“ที่จริงก็ไม่เชิงว่าไม่เหมาะหรอก แต่พี่คิดว่าช่องว่างระหว่างวัยอาจจะทำให้จันทร์เข้ากับคนอื่นได้ยาก เพราะเด็กมอต้นเพิ่งจะอายุสิบสองสิบสามเท่านั้น ส่วนวัยของจันทร์ตอนนี้เทียบเท่ากับเด็กมหาลัยแล้ว ความคิดความอ่านน่าจะจูนกันลำบาก แต่สำหรับเด็กโฮมสคูลพี่คิดว่ามันน่าจะลดปัญหาเกี่ยวกับช่องว่างของอายุได้ เพราะเวลาที่ทุกคนต้องมาทำกิจกรรมร่วมกัน ขั้นแรกก็ต้องเริ่มจากการทำความรู้จักกันเป็นเรื่องพื้นฐานอยู่แล้ว อีกอย่างช่วงอายุก็จะคละกันด้วย มันเลยไม่ฟิกตรงนี้” สิ้นคำอธิบายของผม คนข้างกายก็นิ่งเงียบไปนาน ราวกับเจ้าตัวกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

“ถ้าเกิดจันทร์เลือกเรียนแบบโฮมสคูล ใครจะมาสอนจันทร์ล่ะครับ เพราะจากที่จันทร์อ่านในโบรชัวร์ที่พี่ภัทรเอามาให้เมื่ออาทิตย์ก่อน ดูเหมือนครอบครัวจะต้องเป็นคนสอนตามหลักสูตร ส่วนคุณครูจะคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนการสอนเท่านั้น”
“ก็ครูประจำชั้นคนเก่าของจันทร์ไง ตอนนี้ท่านปลดเกษียณแล้ว” ผมเฉลยพลางหันไปมองคนข้าง ๆ ที่กำลังแสดงสีหน้าราวกับสงสัยว่าผมไปรู้จักกับคุณครูประจำชั้นสมัยประถมของตัวเองได้อย่างไร

“ท่านเป็นคุณแม่ของเพื่อนพี่แนน แล้วท่านก็พอจะรู้เกี่ยวกับอาการป่วยของจันทร์อยู่บ้าง พี่เลยคิดว่าคุณสมบัติที่ท่านมี ค่อนข้างจะเหมาะสมกับการเป็นคุณครูของจันทร์”
“แล้ว.. ท่านรู้เรื่องที่จันทร์ป่วยได้ยังไงครับ ?”

“จริง ๆ ก็ไม่เชิงว่าท่านรู้เรื่องของจันทร์อย่างละเอียดนักหรอก จะว่ายังไงดี คือท่านทราบจากการสังเกตในช่วงที่ท่านยังเป็นครูประจำชั้นอยู่ เลยทำให้ท่านมองเห็นถึงความผิดปกติที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใจของเด็กในความดูแล”
“ถ้าอย่างนั้น.. การตัดสินใจของจันทร์จะไม่เป็นการรบกวนท่านเกินไปใช่ไหมครับ ?”

“จากที่พี่แนนบอกมาก็ไม่ได้รบกวนอะไรนะ เพราะท่านเองก็เต็มใจที่จะทำอยู่แล้ว” สิ้นคำยืนยันจากผม จันทร์ก็ยกยิ้มเพียงนิดคล้ายกับโล่งใจที่การตัดสินใจของตัวเองไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครอย่างใจคิด

หลังจากนั้นไม่นานเราสองคนก็เริ่มเข้าสู่เขตตัวเมืองของอำเภอสะเมิง และมุ่งตรงไปยังเขตบ้านอมลองอันเป็นจุดหมายปลายทางอย่างไม่เร่งรีบ เพราะก่อนหน้านี้เราต่างก็ทานมื้อเช้ามาจากบ้านจนอิ่มแปล้

“เส้นทางนี้ต่อให้ผ่านไปกี่ปีก็ดูไม่เปลี่ยนไปเลย..” จันทร์กล่าวขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงบรรเลงที่ผมเปิดคลอไว้ ขณะที่สายตาก็จ้องมองออกไปด้านนอกหน้าต่างที่มีแต่ป่าเขาขนาบข้าง หรือบางครั้งก็มีวัวเดินข้ามถนนอย่างองอาจ
ราวกับว่าถนนเส้นนี้มีพวกมันเป็นเจ้าของมานานแล้ว

“จำได้ว่าจันทร์กับพี่ชลเคยโบกรถจากตรงนั้น เพื่อเข้าไปในตัวอำเภอแล้วก็ต่อรถไปเรื่อย ๆ จนถึงตัวเมืองเชียงใหม่” จันทร์พูดขึ้นพลางชี้ไปยังหนทางข้างหน้า ที่มองยังไงก็ไม่น่าจะมีจุดสังเกตให้จดจำได้ง่าย ๆ  เพราะตลอดสองข้างทางมีแต่ต้นไม้ใหญ่และต้นหญ้าริมทาง
“ไม่สิ.. ประสบการณ์นี้เป็นของพี่กรต่างหาก” สิ้นการเรียบเรียงความทรงจำที่ค่อนข้างสับสน ผมก็รับรู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ที่อีกฝ่ายกำลังพูดถึง คือช่วงเวลาที่กรวินท์ออกมาใช้ชีวิต และกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่เรียกว่า ‘การหลบหนี’ เพราะความรู้สึกของจันทร์กำลังแตกสลายเป็นครั้งที่สาม
โดยครั้งนี้..
จันทร์ถึงกับลงมือทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยการกรีดข้อมือ

“จันทร์เปิดกระจกรถได้ไหมครับ ?”
“อ้อ.. อื้ม” สิ้นคำถามของคนข้างกาย ผมที่กำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดก็เริ่มมีสติขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังตอบคำถามอย่างมึน ๆ เบลอ ๆ อยู่ดี ส่วนคนที่ได้รับคำตอบอันน่าพอใจ ก็ยกยิ้มกว้างจนมองเห็นลักยิ้มตรงข้างแก้ม ก่อนจะเปิดกระจกรถเพื่อรับกลิ่นอายของดอกเก๊กฮวยที่กำลังรายล้อมอยู่รอบๆ ตัวอย่างกระตือรือร้น บ่งบอกว่าในขณะนี้เป็นช่วงเทศกาลเที่ยวชมทุ่งดอกเก๊กฮวยอย่างเป็นทางการแล้ว จากนั้นเด็กชายจากบ้านกลางป่าสนก็ดูเหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด เพราะเวลานี้อีกฝ่ายเอาแต่นั่งท้าวแขนไว้ตรงขอบหน้าต่างพร้อมกับวางปลายคางไว้บนข้างแขน ขณะที่สายตากลับเหม่อมองออกไปยังบริเวณที่ไกลแสนไกล
ผมจึงได้แต่ลอบมองด้วยความเป็นห่วง

กระทั่งตัวรถขับเคลื่อนเข้าสู่เขตโรงเรียนประจำท้องถิ่น จันทร์ก็เริ่มตื่นขึ้นจากภวังค์แห่งความคิด หลังจากนั้นผมก็ยกหน้าที่ติดต่อราชการให้กับศิษย์เก่าประจำโรงเรียน แต่ด้วยความที่จันทร์จดจำเลขประจำตัวในตอนนั้นไม่ได้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลเพิ่มอีกหนึ่งวัน เพราะก่อนหน้านั้นทางเราได้แจ้งความจำนงผ่านทางคุณแม่ของคุณชลวิทย์ไปบ้างแล้วก็เลยไม่ต้องรอถึงสามวันตามระเบียบการ

“จันทร์โอเคนะ” ผมเอ่ยถามหลังจากที่เราพากันเดินออกมาจากห้องธุรการ โดยที่สีหน้าของจันทร์ค่อนข้างเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผมก็เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายกำลังเป็นกังวลในเรื่องไหน
“โอเคครับ”

“พี่ว่าถ้าหากจันทร์ไม่สะดวกใจจะไปนอนค้างที่บ้านของน้าเข็ม เราไปหาห้องพักที่โรงแรมในตัวเมืองก็ได้ ยังไงพวกท่านก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของจันทร์อยู่แล้ว” ผมแสดงความเห็นอย่างหนักแน่น เพราะไม่อยากให้จันทร์รู้สึกกดดันมากเกินไป
“ไม่เป็นไรหรอกครับ จันทร์คิดว่าจันทร์น่าจะรับมือไหว”

“อื้ม”

เมื่อเจ้าตัวยืนยันอย่างชัดเจนขนาดนั้น ผมที่เป็นเพียงหน่วยซับพอร์ตก็จำต้องเคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย และถือโอกาสมองสถานการณ์ดังกล่าว ให้เป็นหนทางที่จะนำไปสู่การก้าวเดินที่มั่นคง
เวลานี้เราสองคนจึงได้รับน้ำเก๊กฮวยเป็นเวลคัมดริ้ง ก่อนจะเข้าพักที่ไร่ของป้าเข็มเป็นเวลาหนึ่งคืน   

“ตอนเด็ก ๆ จันทร์ชอบเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เพราะกลิ่นหอมของดอกเก๊กฮวยจะทำให้จันทร์หลับสบาย” เด็กชายจากบ้านกลางป่าสนเริ่มบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อเราสองคนกำลังขนสัมภาระเข้าไปเก็บยังอดีตห้องนอนของอีกฝ่ายที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเลยไม่มีกลิ่นอับอย่างใจคิด
“แต่ก่อนจันทร์ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมกลิ่นหอมของมันถึงทำให้จันทร์รู้สึกปลอดภัย แต่ตอนนี้จันทร์คิดว่าตัวเองเข้าใจเหตุผลทั้งหมดแล้ว” เจ้าของห้องยังคงแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ตามที่เคยได้รับคำแนะนำจากผมและทีมรักษาอย่างเรียบเรื่อย ขณะที่สองมือก็จัดการเปิดหน้าต่างทุกบานที่มีอยู่ในห้องนอนอันแสนเรียบง่าย เพราะในห้องเล็ก ๆ ห้องนี้ มีแต่สิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของห้องทั้งสิ้น
ต่างกันแค่ที่บ้านหลังนี้ ข้าวของต่าง ๆ ของผู้ชายและผู้หญิงจะปะปนกันอย่างเด่นชัด
เนื่องจากในอดีตห้องนอนห้องนี้ มีน้องลียากรและจันทร์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์

“เพราะกลิ่นหอมของดอกเก๊กฮวยทำให้จันทร์นึกถึงแม่ นึกถึงความสุขที่แม่มักจะแอบยิ้มเวลาที่มองดอกเก๊กฮวยในแจกัน แล้วก็รู้สึกได้รับความรักที่ตัวเองไขว่คว้า..” จันทร์เฉลยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ขณะที่เจ้าตัวยังคงยืนปักหลักอยู่ตรงข้างหน้าต่าง โดยที่แววตาอันไร้เดียงสาก็มองจ้องไปยังบรรยากาศด้านนอกที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ที่เจริญเติบโตอยู่ตรงกลางเฉลียงหน้าบ้าน
“แต่ว่าหลังจากนั้น.. กลิ่นหอมของมันก็คือกลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยอันตราย” สิ้นคำพูดของเด็กชายจากบ้านกลางป่าสนก็ตามมาด้วยเสียงปิดหน้าต่างทุกบาน
ซึ่งผมเข้าใจดีว่า ‘ความอันตราย’ ดังกล่าว มันเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร

“คืนนี้จันทร์ยกเตียงให้พี่ภัทรนะครับ”

กระทั่งอีกฝ่ายแจ้งความจำนงที่เปรียบเสมือนคำยืนยันว่า ‘อันตราย’ ดังกล่าว มีสาเหตุมาจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ผมก็รู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย
เพราะห้อง ๆ นี้ มันคือสถานที่เกิดเหตุ

“วันนี้จันทร์เก่งมาก” ผมเดินไปนั่งยังตั่งไม้ริมหน้าต่าง พร้อมกับคว้ามือของคนข้างกายมากอบกุมไว้ และไม่ลืมจะกล่าวชื่นชมเพื่อให้กำลังใจคนเก่งที่ในวันนี้สามารถใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกเก๊กฮวยโดยไม่มีอาการแพนิค อีกทั้งยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันโหดร้ายได้ดีกว่าที่ผมเป็นกังวล
“ไปกินข้าวกันเถอะครับ” จันทร์สูดลมหายใจจนเต็มปอดพร้อมกระชับฝ่ามือของผมเพียงครู่ ราวกับเจ้าตัวกำลังเรียกขวัญและกำลังใจของตัวเองให้กลับคืนมา จากนั้นก็ลุกไปเปิดหน้าต่างทุกบานอีกครั้ง ก่อนจะหันมาบอกให้ผมรีบออกไปกินข้าว เพราะตอนนี้ญาติ ๆ ของเจ้าตัวกำลังจัดเตรียมมื้อเย็นอยู่ตรงโต๊ะแถวเฉลียงด้านนอก ซึ่งเราจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของไร่เก๊กฮวยในมุมมองที่กว้างไกลมากกว่าเดิม

บรรยากาศของมื้อเย็นในวันนี้จึงเต็มไปด้วยความอบอุ่นอย่างเห็นได้ชัด อาจเพราะครอบครัวของผมไม่ค่อยมีโอกาสได้มานั่งกินข้าวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งความแตกต่างตรงจุดนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าบรรยากาศรอบ ๆ ตัว สามารถเพิ่มพูนรสชาติอาหารให้อร่อยยิ่งกว่าเดิม
มื้อนี้เลยทำให้ผมเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ

ส่วนจันทร์กำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนความเจริญก้าวหน้าของ ‘บ้าน’ และ ‘โรงเรียน’ ร่วมกับครอบครัวที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเจอกันอย่างออกรส ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ประจำบ้านดูเหมือนจะรับมือกับหลานชายได้ดี เพราะพวกท่านไม่เคยคิดจะแตะต้องอดีตอันเลวร้ายของจันทร์ ผมจึงอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวมองสำรวจบ้านที่จันทร์เคยอยู่อย่างละเอียด จนกระทั่งพบว่าบ้านไม้ขนาดกลางหลังนี้ ค่อนข้างสะดวกสบายมากทีเดียว อาจเพราะแต่ก่อนคุณพ่อของจันทร์น่าจะสร้างรายได้ให้กับครอบครัวมากที่สุด กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด จึงกลายเป็นภาระของนายโชคที่มีการงานอันมั่นคง
กระทั่งครอบครัวเริ่มลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง ก็มีการต่อเติมบ้านตรงบริเวณใกล้ๆ ห้องครัวที่อยู่ด้านหลังสุด เพราะเดิมทีบ้านหลังนี้มีเพียง 3 ห้องนอนเท่านั้น ซึ่งผมคาดเดาเอาเองว่าเจ้าของห้องน่าจะเป็นน้าเข็ม นายโชค และจันทร์ เพียงแต่ห้องนอนของจันทร์ น่าจะเคยเป็นห้องของคุณพ่อเจ้าตัวมาก่อน ส่วนครอบครัวของคุณชลวิทย์ สมัยก่อนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ที่ปัจจุบันกลายมาห้องเก็บของสำหรับการทำสวน ดังนั้นการที่สมาชิกในครอบครัวเลือกจะต่อเติมบ้าน ทั้ง ๆ ที่ห้องของจันทร์และห้องของนายโชคก็เพียงพอต่อการรองรับจำนวนผู้อยู่อาศัย คงเป็นเพราะพวกเขาไม่อยากจมปลักอยู่กับความสูญเสีย   
หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อปฏิเสธความเป็นจริงอันเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นที่บ้านของตัวเอง..

“ว่าไปแล้วการมาที่นี่ก็ดีตรงที่พี่ภัทรได้พักผ่อนอย่างจริง ๆ จัง ๆ สักที” จันทร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่เราขันอาสาเก็บล้างมื้อเย็นแสนอร่อยจนเรียบร้อยแล้ว
“เป็นห่วงเหรอ ?” ผมย้อนถามเด็กชายตัวเล็กที่ในตอนนี้กำลังเช็ดโต๊ะกินข้าวตรงใต้ต้นไม้ใหญ่จนสะอาดเอี่ยมอ่อง

“ครับ พออยู่ที่บ้านกับคุณแม่ ถึงได้รู้สึกว่าพี่ภัทรกับคุณพ่อใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่าที่บ้านเสียอีก”
“จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเลือกมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว มันคือเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” ผมกล่าวพลางเดินไปนั่งยังเก้าอี้ไม้แบบม้านั่งยาวที่หันหน้าเข้าสู่ทุ่งดอกเก๊กฮวยสีขาวที่สะอาดที่ในเวลานี้ไม่มีนักท่องเที่ยวหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
เพราะอีกไม่นานดวงอาทิตย์ก็จะลาลับขอบฟ้า
บ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ดวงจันทร์จะได้อวดโฉมในยามค่ำคืน

กระทั่งความเงียบสงบตรงเข้าปกคลุมจากรอบ ๆ ทิศทาง เพราะจันทร์กำลังเดินหายเข้าไปในครัวเพื่อเอาผ้าขี้ริ้วไปซัก ภวังค์แห่งความคิดจึงเริ่มก่อตัวขึ้น โดยเรื่องที่ผมกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้คือเรื่องของนายโชค เนื่องจากตอนไปล้างจาน ผมมองเห็นกรอบรูปที่บ่งบอกวันตายของคนในภาพ
ซึ่งผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ตาฝาด
เพราะทั้งผมและจันทร์ต่างก็ยืนมองภาพนั้นอยู่เนิ่นนาน

“พ่อหนุ่มคงจะเห็นอะไรบางอย่างแล้วสินะ” ป้าเข็มกล่าวพลางทิ้งตัวลงนั่งตรงที่ว่างข้างตัวผม
“ครับ”

“เท่าที่ป้ารู้.. การใช้ชีวิตในคุกของไอ้โชคค่อนข้างลำบาก ยิ่งเป็นนักโทษคดีฆ่าข่มขืนด้วยแล้ว ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเป็นสิบเท่า เพราะคนในนั้นจะถือว่านักโทษคดีแบบนี้เป็นพวกหน้าตัวเมีย ความเกลียดชังก็เลยถาโถมเข้าใส่มากกว่านักโทษคดีอื่น ๆ”
“เขาถูกรับน้องเหรอครับ ?” ผมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พลางลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะเท่าที่ผมเคยได้ยินการรับน้องของนักโทษมักจะเป็นการรุมกระทืบกันเสียมากกว่า
ซึ่งจำนวนคนที่รุมกระทืบก็ประมาณครึ่งร้อยเห็นจะได้

“อื้ม ไอ้โชคมันถูกรุมกระทืบตั้งแต่วันแรก” ป้าเข็มเฉลยได้เพียงแค่นั้น แล้วท่านก็นิ่งเงียบไป คล้ายกับมีบางอย่างในใจที่มันค่อนข้างสะเทือนใจอยู่มาก
“…”

“ต่อจากนั้น.. มันก็ถูกรุมโทรมจนติดเอดส์” สิ้นคำบอกเล่าของคนอายุมากกว่า ผมก็ถึงกับอึ้งอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เพราะในท้ายที่สุดกรรมก็ตามทันได้จริง ๆ
“แต่ที่มันตายไม่ใช่เพราะติดเอดส์ หรือว่าต้องโทษประหารอย่างที่ศาลตัดสินหรอกนะพ่อหนุ่ม มันตายเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น”

เวลานี้ถึงแม้ป้าเข็มจะไม่ได้ปริปากบอกว่าคนเลวคนนั้นเสียชีวิตเพราะอะไร แต่จากคำบอกเล่า ทำให้ผมคาดเดาเอาเองว่า..
การตายของนายโชค..
เกิดจากการฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน

“ป้าไปอาบน้ำนอนก่อนดีกว่า วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” หลังจากนั้นไม่นานป้าเข็มก็ทำลายความเงียบงันระหว่างเรา ขณะที่ผมก็ได้แต่ส่งยิ้มให้ท่านก่อนจะเบือนหน้าไปมองยังท้องฟ้าสีส้มอมม่วงอย่างเลื่อนลอย
“ถ้าจันทร์รู้สึกสะใจกับสิ่งที่อาโชคเคยเจอ พี่ภัทรคิดว่าจันทร์ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าครับ”

“ไม่หรอก เพราะยังไงความดำมืดในจิตใจก็อยู่คู่กับมนุษย์อย่างเรา ๆ กันอยู่แล้ว สำหรับพี่มันเลยเป็นเรื่องปกติ หากเราอยากจะใจร้ายกับใครสักคนที่เคยมาทำร้ายเราก่อน”
“แวบหนึ่งจันทร์รู้สึกว่าอาโชค ไม่น่ามาด่วนจากไปแบบนี้ เพราะคนอย่างเขาน่าจะอยู่รับโทษให้นานกว่านี้ จะได้รู้สึกทรมานกว่าที่จันทร์เคยเจอ” เด็กชายจากบ้านกลางป่าสนเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น บ่งบอกถึงความคับแค้นใจได้เป็นอย่างดี

“แต่การถูกรุมโทรมมันก็ค่อนข้างแย่ ในใจของจันทร์เลยเกิดความขัดแย้งกัน เพราะสมองซีกซ้ายมันสั่งให้จันทร์สะใจและขอบคุณนักโทษกลุ่มนั้น แต่สมองซีกขวากลับสั่งให้จันทร์รู้สึกสงสาร แล้วก็คิดว่านักโทษกลุ่มนั้นต่างก็ทำความผิดไม่ต่างกับอาโชค พวกเขามีสิทธิ์อะไรไปพิพากษาคนอื่น เห้อ! หงุดหงิดตัวเองชะมัด” เด็กชายจากบ้านกลางป่าสนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะตีหน้ายุ่งพลางนั่งไขว่ห้างในท่าทางที่ทำให้ผมนึกถึงอัตลักษณ์ของคุณพีรวัตร แต่ในครานี้การนั่งด้วยท่าทางดังกล่าวมันคือการนั่งที่แสดงออกมาจากพฤติกรรมของจันทร์ เพราะเจ้าตัวไม่ได้นั่งในท่านั้นตลอดเวลา ขณะที่ผมก็ได้อมยิ้มให้กับความรู้จักผิดชอบชั่วดีของอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู
เพราะถึงแม้เจ้าตัวจะรู้สึกสะใจ แต่ดูเหมือนว่าจะสะใจไม่สุด

กระทั่งความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามา เราสองคนเลยตัดสินใจไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอน โดยที่เราต่างก็ไม่ลืมจะแสดงความรักด้วยการจูบสัมผัสบริเวณริมฝีปากแบบไม่มีการล่วงล้ำ พร้อมกล่าวอวยพรให้ต่างฝ่ายต่างฝันดีในค่ำคืนนี้ ซึ่งการแสดงออกด้วยการสัมผัสในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นการบำบัดอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้จันทร์เรียนรู้ว่า ‘การจูบ’ สามารถแสดงถึงความรู้สึกนึกคิดได้อย่างหลากหลาย
ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ

“นอนไม่หลับเหรอจันทร์ ?” ผมเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพราะจันทร์เอาแต่พลิกตัวไปมาในอ้อมกอดอยู่หลายครั้ง แม้เราจะหอบเครื่องนอนมาตั้งถิ่นฐานอยู่บนตั่งริมหน้าต่างแล้วก็ตาม
“ครับ พอหลับตาแล้วจันทร์ชอบนึกไปถึงเรื่องแย่ ๆ ทุกที คงเพราะจันทร์กำลังถูกความทรงจำเก่า ๆ โอบล้อมอยู่ล่ะมั้ง” ท้ายที่สุดคนนอนไม่หลับก็ต้องลุกขึ้นมานั่งคุดคู้ พร้อมบอกเล่าความรู้สึกของตัวเองให้ผมเข้าใจ ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่จันทร์สามารถแก้อาการหวาดผวาเกี่ยวกับกลอนประตูได้ตั้งแต่ที่โรงพยาบาล
ไม่อย่างนั้นในค่ำคืนนี้จันทร์อาจจะอาการย่ำแย่แบบแต่ก่อนก็เป็นได้

“เราออกไปเดินเล่นข้างนอกกันดีไหม หรือว่าจันทร์จะออกไปวาดรูปเล่นก็ได้ เดี๋ยวพี่นั่งเป็นเพื่อน สบายใจเมื่อไหร่ค่อยกลับมานอน” ผมขันอาสาแม้ว่าเวลานี้ตัวเองจะง่วงนอนจนเต็มที แต่พอเห็นจันทร์กำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะนอนอีกต่อไป
“ครับ”

สิ้นคำตอบรับอันแผ่วเบา เราสองคนก็พากันเดินออกจากบ้านที่กำลังถูกโอบล้อมไปด้วยความเงียบสงัด โดยจุดหมายปลายทางก็คือรถของผม เพราะอุปกรณ์วาดรูปถูกเก็บซ่อนไว้ตรงหลังรถ

“คืนนี้ให้พี่ภัทรเป็นแบบวาดรูปดีกว่า วาดเสร็จจะได้เอาไว้ประดับห้องด้วย”

เมื่อจิตรกรมือฉมังออกปากขนาดนั้น ‘แบบวาด’ อย่างผมก็จำต้องเดินตัวปลิวไปตามแรงลากจูงของอีกฝ่ายแต่โดยดี ซึ่งมุมที่จันทร์เลือกคือมุมที่สามารถมองเห็นทุ่งดอกเก๊กฮวยและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับร้อย
ส่วนผมกำลังนั่งอยู่บนขอนไม้ใหญ่

“อืม.. เหมือนยังขาดอะไรไป” จันทร์ที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นดิน โดยมีอุปกรณ์วาดรูปรายล้อมอยู่รอบตัวกล่าวขึ้น พลางใช้ปลายนิ้วแตะตรงริมฝีปากเพียงเบาๆ พร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิดจนคิ้วขมวด ผมจึงได้แต่อมยิ้มที่อย่างน้อยการวาดรูปก็สามารถทำให้จันทร์รู้สึกผ่อนคลายได้มากกว่าที่คิด
“หึ แฟร์รี่ประจำทุ่งดอกเก๊กฮวย” จันทร์กล่าวพลางหัวเราะอย่างสนุกสนาน เมื่อจู่ ๆ ก็คิดไอเดียดี ๆ ออก ดอกเก๊กฮวยที่เคยเบิกบานอยู่บนต้น จึงย้ายมาอยู่บนศีรษะของผมแทน

“พี่ภัทรนั่งกอดเข่าหันหน้าไปทางซ้าย แล้วก็เงยหน้ามองฟ้า ส่วนจันทร์จะวาดปีกไว้ข้างหลัง” พอจิตรกรมือฉมังแต่งตัวผมราวกับเล่นแต่งตัวตุ๊กตาจนสาแก่ใจ ก็รีบออกคำสั่งเพื่อจัดแจงท่าทางให้กับภาพที่เจ้าตัวกำลังจะวาด พร้อมกับหยีตาข้างหนึ่งเพื่อวัดสัดส่วนต่าง ๆ กลางอากาศ
โดยภาพวาดดังกล่าวจะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ ‘ภูติจิ๋ว’ ที่คอยปกปักรักษาดอกไม้ไม่ให้เหี่ยวเฉา

“ยิ้มอะไรนักหนา หืม ?” กระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ผมก็ตัดสินใจเอ่ยถามจิตรกรตรงหน้าด้วยความสงสัย เมื่อสายตาบังเอิญสบเข้ากับรอยยิ้มที่มองเห็นข้างแก้มยุบลงไปตั้งหลายครั้งหลายครา
“จันทร์กำลังคิดว่าดอกเก๊กฮวยเหมือนเป็นดอกไม้ประจำตัวของพี่ภัทรเลยครับ” คนถูกถามอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงกระแสความสุขที่กำลังโอบล้อมอยู่รอบตัวของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

“หมายถึงยังไงเหรอจันทร์ ขยายความหน่อยสิ”
“ดอกเก๊กฮวยเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเย็น เวลาบานจนเต็มทุ่ง รอบ ๆ ตัวจะตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นหอมของมัน ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหน จันทร์ก็มั่นใจว่าจะต้องรับรู้ถึงกลิ่นหอมของมันแน่ๆ ก็เหมือนกับความหวังดีของพี่ภัทรที่คอยโอบล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวจันทร์ตลอดเวลา แม้บางครั้งเราจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่จันทร์ก็รับรู้ได้ว่าพี่ภัทรเป็นห่วงจันทร์และคอยเอาใจช่วยจันทร์อยู่ มันเลยทำให้จันทร์รู้สึกว่าที่ผ่านมาจันทร์ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง” 

“เป็นคำอธิบายที่ค่อนข้างลึกซึ้ง แล้วก็ทำให้คนฟังรู้สึกหัวใจพองโตที่ความหวังดีของเขาส่งไปถึงใครคนนั้น” ผมกล่าวพลางยกยิ้ม ขณะที่ดวงตาก็จ้องมองเข้าไปยังนัยน์ตาของอีกฝ่าย จากนั้นบรรยากาศรอบกายก็คล้ายกับหยุดการเคลื่อนไหว
เหตุเพราะเราสองคน..
ต่างก็ดึงดูดความสนใจจากกันและกันได้ดีกว่าธรรมชาติรอบด้าน


゚゚❀ ゚゚

[edit 23/02/2019 รีไรท์สำนวนใหม่]

บทความที่เกี่ยวข้อง

- ไร่เก๊กฮวย บ้านอมลอง ต.แม่สาบ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
https://youtu.be/ztuoVfMW6tc

- บทความเกี่ยวกับเรื่องนักโทษ
https://www.thairath.co.th/content/982030

เอาตอนพิเศษมาฝากจ้า อาจจะไม่หวานมาก แต่ก็คือหวานแล้ว (ในความคิดเรา 555) คู่นี้จะเรียบๆ ไม่ค่อยหวือหวา สำหรับตอนพิเศษอันนี้เราตั้งใจเขียนให้เห็นถึงความสดใสของจันทร์ และความดำมืดในจิตใจ รวมถึงความรักของทั้งคู่ด้วย และสุดท้ายบทสรุปของอาโชคที่เรากั๊กไว้ตั้งแต่ตอนหลัก เรื่องของเรื่องเราไปเจอบทความนึงมา ก็คิดว่าจะเอามาเขียนเป็นจุดจบของอาโชคนี่แหละ มันสะท้อนถึงเรื่องราวในคุกได้ดี แล้วก็สะท้อนได้อีกอย่างว่า แม้แต่นักโทษด้วยกันก็ยังคิดว่านักโทษคดีข่มขืนเป็นนักโทษที่อยู่คนละชั้นกับพวกเขา ยิ่งข่มขืนเด็ก ก็จะยิ่งเจอจัดหนักมากกว่าเดิม ส่วนเรื่องการเรียนของจันทร์เราไปเปิดๆ อ่านกระทู้เกี่ยวกับการเรียนโฮมสคูลมาเยอะมาก เปิดโลกดีเหมือนกัน แต่เพราะมันไม่ค่อยจะเป็นที่นิยมในไทย ก็เลยหาข้อมูลยากมาก แต่ก็เจอที่ผู้ปกครองมารีวิวไว้เยอะพอสมควร

ปล. ตอนนี้ทุ่งดอกเก๊กฮวยบานแล้ว ใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวแวะไปตามรอยเผื่อเราด้วย 555 (จริงๆ อยากไปเองแต่งบหมดมากมาย)

ส่วนเรื่องการรวมเล่ม เราจะออกกับทาง Hermit นะคะ แต่อาจจะต้องรอกันสักพักใหญ่เลย เพราะเราเพิ่งเขียนตอนพิเศษเสร็จตอนเดียวเอง 55 คาดว่าจะมีเล่มเดียวนะคะ เดี๋ยวสรุปอะไรได้แน่นอนแล้ว เราจะมาแจ้งอีกที แต่อาจจะแจ้งทางทวิตหรือเฟซก่อนนะคะ เบื้องต้นเราจะเขียนตอนพิเศษในคอนเซ็ปต์การโคจรรอบโลกของดวงจันทร์ ก็จะมีทั้งหมด 8 ระยะ เราคงจะเขียน 8 ตอนนั่นแหละค่ะ ฉะนั้นในตอนนี้จะเห็นได้ว่าดวงจันทร์ของหมอภัทรกำลังกระจ่างฟ้าเสี้ยวนึงแล้ว ต่อไปก็จะค่อย ๆ เจิ่ดจ้าขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนจะหม่นแสงลงมั้ย โปรดติดตามจากตอนพิเศษในเล่มจ้า >_<
https://static1.squarespace.com/static/5928a64e15d5db2bc1a8061e/t/59e059024c326de484c37f88/1507875081696/Moon-for-Manifestation_Moon-Guide_1.jpg?format=1000w
cr : pinterest
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2019 20:56:42 โดย Chomin »

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อบอุ่นหัวใจจจจ เอ็นดูน้องมากๆเลย รอเล่มนะคะ ถ้าเป็นทุ่งดอกเก๊กฮวยก็จะสวยมากก  :hao5:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ขอบคุณมากนะคะสำหรับตอนพิเศษ

จันทร์ค่อยๆ ได้รับการปลดปล่อย
น้องเป็นเด็กจิตใจดี แต่แค่ต้องเจอเรื่องแย่ในอดีต
แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นเด็กดี และมองโลกค่อนข้างสดใส
ทุกอย่างหลอมรวมกัน ทำให้จันทร์เข้มแข็งขึ้น

ภัทรคอยอยู่เคียงข้างเสมอเลยน้า
เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง และอบอุ่นเลยล่ะ
เป็นคนที่คอยโอบอุ้มเหมือนที่จันทร์บอก

ความดำมืดในใจจันทร์ มีได้กับทุกคนจริงๆ ค่ะ
แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับเรื่อง กับคนที่เจอ
ทุกคนได้รับโทษจากสิ่งที่กระทำไปแล้ว

ภัทรกับจันทร์ก็ต้องเดินหน้าต่อไปเนาะ
โมเมนท์วาดรูปชมจันทร์ แบบภูตจิ๋ว อบอุ่นเลยค่ะ

ออฟไลน์ pan27

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แงงงงง อยากอ่านตอนพิเศษแบบนี้เยอะๆเยียวยาหัวใจกับเรื่องราวร้ายๆที่เคยผ่านมาได้มากเลย   :L1: ฟ้าหลังฝนยังคงสวยงามเสมอถ้าเรามองจากใจที่ดี
..สิ่งไหนถ้ามันทำให้เราทุกข์ใจเราเลือกที่จะปล่อยวางมันลงบ้างก็ได้ เลือกเก็บแต่สิ่งดีๆที่เป็นความสุขใจเพื่อเป็นพลังให้เราก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งและมีความสุข
..และถ้าคุณสามารถใช้พลังบวกที่คุณมีเยียวยาหัวใจใครสักคนให้เค้ามีกำลังใจที่จะสู้ต่อ รู้ไว้เถิดค่ะว่าคุณกำลังให้ที่ยิ่งใหญ่นั่นคือการให้ชีวิตใหม่ซึ่งเป็นสิ่งสวยงามกว่าการให้ใดๆทั้งปวง...#แด่ทุกความรักที่สวยงาม   :กอด1:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
อ่านช่วงแรกออกจะหลอนหน่อยๆนะคะ แต่ด้วยความอยากรู้เฉลยก็อ่านต่อจนติดค่ะ
น้องจันทร์น่าสงสารมาก เกิดมาไม่ได้รับความอบอุ่น พอสร้างอัตลักษณ์อื่น ส่วนใหญ่ก็นำความเดือดร้อนมาให้ ยังดีมีคุณพีที่เป็นเหมือนพี่คนโตพึ่งพาได้ทั้งดูแลน้องๆอัตลักษณ์ต่างๆทั้งเป็นนักเขียนสร้างรายได้ ชอบมากๆจนนึกเสียดายที่ต้องหายไป
หมอภัทรอ่อนโยนใจเย็นสุดๆ
นิยายเนื้อหาค่อนข้างหนักแต่ไม่น่าเบื่อนะ นับถือผู้แต่งค่ะ

บวกๆค่ะ^^

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ R.michi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ขอบคุณที่เขียนมาให้เราอ่านนะ เธอเขียนดีมาก ข้อมูลเเน่น ให้ความรู้ เห็นถึงความตั้งใจ ฟิคเเนวนี้ยังถือว่าอ่านยากสำหรับคนทั่วไปที่หนีจากโลกของความจริงเข้ามาในเล้า เพี่ะจัดว่าซีเรียส ข้อมูลมาก เเต่งานเขียนที่ดีก็ยังจัดว่าดีอยู่วันยังค่ำ เขียนออกมาอีกนะ เราจะตามอ่าน เลิฟ  :mew1:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ในที่สุดน้องก็ผ่านมาได้ถึงแม้ระหว่างทางมันจะยากลำบากไปสักหน่อยก็ตาม รักน้องจันทร์มาก ๆ ขอบคุณคุณนักเขียนค่ะสนุกมาก o13

ออฟไลน์ Stmmltww

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาอ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ สนุกมากๆ
ประทับใจในเนื้อหาและความรู้ในเรื่องมากเลยค่ะ เยอะมาก แถมละเอียดด้วย นับถือเลยค่ะที่หาข้อมูลเยอะขนาดนี้
ขอบคุณมากค่ะ ชอบมากๆเลย

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
รายละเอียดเพียบ รู้เลยว่าต้องเตรียมข้อมูลมาหนักมาก

ขอบคุณกับเรื่องที่สนุกแถมสาระมากมาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
แจ้งรายละเอียดหนังสือเรื่องในป่าสน

น้องจันทร์มาแล้วค่ะทุกคนนนนนน ฝากรับน้องไปดูแลด้วยนะคะ ตอนพิเศษรับรองว่าอบอุ่นในความรักและความเอาใจใส่ของพี่ภัทรที่มีให้กับน้องจันทร์แน่นอนค่ะ และทุกคนจะได้เห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงของน้องด้วยค่ะ เราแพลนจะทำการ์ตูนแจกด้วยค่ะ ทีแรกวางแผนไว้ 100 ใบ แต่งบเราจะหมด ฮือ อาจจะเหลือสัก 50 ใบ เดี๋ยวเอาไว้เราจะมาแจ้งอีกทีในเพจหรือแอคทวิตเตอร์สำหรับอัพนิยายนะคะ


ประชาสัมพันธ์หนังสือใหม่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 24

เรื่องที่ 4 วันนี้พาน้องเพียงจันทร์กับคุณหมอจิรภัทรมาเปิดตัวนะคะ
เล่มนี้ไม่ควรพลาด มีหลากหลายรสชาติ ทำให้เราลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ มีอะไรมากกว่าที่ทุกคนคิดนะคะ

เรื่อง : ในป่าสน

เขียน : Chomin

ราคา : 469

แถม : แก๊ก 4 หน้า สำหรับพิมพ์ครั้งที่ 1 เท่านั้น

วันจำหน่าย : 2 / 10 / 2562


คำโปรย:

ที่ป่าสนแห่งนั้น...

ผมรู้สึกเหมือนกับว่า...

มันยังมีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยปริศนาซุกซ่อนอยู่

ออฟไลน์ Gimlongdeep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ฮรึกกกกอ่านจบแล้วววว ปลื้มปริ่มหัวใจมากค่ะ กราบขอบคุณนักเขียนที่หาข้อมูลมามันแน่นมั๊กๆๆเลยค่ะ ถูกเลยแบบมันต้องใช้สมาธิในการอ่านแต่ก็ไม่ได้อ่านยากอะไรมากค่ะ สำนวนการเขียนดี และเรื่องนี้มันดีมากกก//ปาดน้ำตา เป็นกำลังใจให้นักเขียนสร้างผลงานที่ดีๆเรื่องต่อไปเรื่อยๆนะคะ เดี๋ยวจะไปไถน้องจันทร์มาในไว้อ้อมกอดและจะกอดแน่นๆนะคะะ :hao7:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด