-ปลดล็อกให้ความรัก- ตัวอย่างตอนพิเศษ หนูด้วงรีวิว สารบัญหน้าแรกค่ะ 15/12/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -ปลดล็อกให้ความรัก- ตัวอย่างตอนพิเศษ หนูด้วงรีวิว สารบัญหน้าแรกค่ะ 15/12/61  (อ่าน 116149 ครั้ง)

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ตามอ่านทันแล้ว~

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
อ่านรวดเดียวทันพอดี  :hao7:

ออฟไลน์ HZtaoFan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นายก้านน่ารักดี ซื่อๆ ตลกๆ55555

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
กุญแจดอกที่ 16


เครื่องปรับอากาศทุกตัวถูกติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ที่พญาให้คนมาส่งให้ที่บ้านของก้านก็ถูกจัดจนเข้าที่เข้าทางดี คืนนี้แม่ของก้านอารมณ์ดีเป็นพิเศษเนื่องจากได้ครัวใหม่ที่ถูกใจจึงทำกับข้าวของโปรดของลูกชายทั้งสองคนเต็มโต๊ะ รวมไปถึงของโปรดของตะวันด้วย ก้านไม่ได้บ่นแม่เหมือนอย่างเคยที่ฟุ่มเฟือยเพราะเห็นแล้วว่ารอยยิ้มที่มีความสุขของแม่มันมีค่ามากกว่า ไอ้ก้อนก็ดูจะอารมณ์ดีไม่ต่างกัน มันอยากนอนห้องแอร์เย็นๆ มานานแล้ว พอสมใจก็พร่ำพูดชื่นชมนายพญาไม่หยุดปาก มันบอกว่ามันจะจงรักภัคดีกับนายพญาตามอย่างพี่ชายของมันเพราะมันได้เห็นแล้วนายพญาดีต่อครอบครัวของมันมากแค่ไหน ส่วนคนที่เอาแต่ฟังแล้วยิ้มน้อยๆ อย่างคุณตะวัน พอหันมาสบตาก้านทีไรก็ก้มหน้าเพื่อหลบเลี่ยงสายตาคมทุกครั้ง แถมแก้มที่เคยขาวซีดก็แดงระเรื่อได้แทบจะตลอดเวลา มันทำให้ก้านรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองเจริญอาหารได้มากเป็นพิเศษจริงๆ

“อ้าว วันนี้พี่ก้านจะกลับไปนอนที่ห้องเหรอ” ก้อนถามพี่ชายของมันหลังจากที่ก้านเข้ามาหยิบหมอนกับผ้าห่มของตัวเองในห้องของก้อน ที่มันถามก็เพราะตั้งแต่คุณตะวันมาอยู่ที่นี่พี่ก้านก็มานอนเบียดมันทุกคืน

“เออ”

“ทำไมล่ะ”

“ก็...ก็มึงปรับแอร์หนาว กูไม่ชอบ” ก้านพยายามหาทางออก

“ผมปิดแอร์ก็ได้นะพี่ก้าน” ก้อนก็พอรู้ว่าพี่ชายของตัวเองไม่ชอบความหนาวเย็น ส่วนตัวมันขี้ร้อนมาตั้งแต่เด็กๆ วันนี้พอได้เครื่องปรับอากาศมาไว้ในครอบครอง ก้อนเลยปรับอุณหภูมิให้เย็นฉ่ำสมใจมัน

“ไม่เป็นไร มึงจะอะไรกับกูหนักวะไอ้ก้อน” ก้านจะเดินออกไปแต่พอเห็นสายตาที่มีแต่คำถามของน้องชายจึงรู้สึกร้อนตัว

“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรพี่เลยนะ” ก้อนเบิกตาโตเพราะจู่ๆ พี่ชายของตัวเองก็หงุดหงิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น มันหวังดีเพราะกลัวว่าพี่ชายของตัวเองจะไปนอนเบียดให้คุณตะวันลำบาก

“มึงรีบนอนไปเลย อย่าตื่นสายล่ะ”

“ครับพี่ก้าน”

ก้านออกมาจากห้องของน้องชายได้ก็แอบพรูลมหายใจ ก้านไม่ได้คิดจะปิดบังใครเรื่องของคุณตะวันแต่มันไม่แน่ใจว่าคุณตะวันอยากจะให้ใครรู้หรือเปล่า พอเดินไปถึงหน้าห้องของตัวเองก็รู้สึกว่าอาการโล่งใจเมื่อครู่กลับมาแน่นอกอีกครั้ง ก้านยอมรับว่าตัวเองกลัว มันไม่ได้กลัวว่าจะทำให้คุณตะวันเสียใจ คนอย่างมันลองได้ตั้งใจจะดูแลใครแล้วมันก็จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่สิ่งที่มันกลัวคือกลัวว่าตัวเองจะสร้างความพึงพอใจให้คุณตะวันไม่ได้อย่างนายพญา มันอ่อนด้อยในเรื่องอย่างว่า ชั่วชีวิตของมันเคยมีเพศสัมพันธ์แค่สี่ห้าครั้งเท่านั้นและนั่นคือกับเพศตรงข้าม หนังสือธรรมะของนายพญาก็ไม่ช่วยอะไรมันเลย มันจึงได้แต่จำคำที่นายพญาบอกเอาไว้

‘แค่มองตาแล้วทุกอย่างจะเป็นไปเอง’

ก้านตัดสินใจเปิดประตูห้องของตัวเองแล้วก้าวเข้าไปในห้อง มันเห็นว่าคุณตะวันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะนั่งหวีผมตัวเองต่อแบบเดิมที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก้านวางหมอนกับผ้าห่มของตัวเองลงที่เตียงแล้วเดินเข้าไปยืนอยู่ที่ด้านหลังของคุณตะวัน มันแย่งหวีจากมือบอบบางมาถือเอาไว้แล้วเริ่มหวีผมให้อีกฝ่าย

“ผมคุณตวงนุ่มมือไอ้ก้านดีจัง” ก้านพยายามชวนคุยเพื่อลดบรรยากาศที่น่าขัดเขินนี้

“พี่ก้าน”

“ครับ”

“ไม่ใช่ไอ้ก้าน พี่ก้าน” ตะวันท้วงไม่ยอมให้ก้านแทนตัวเองว่าไอ้ก้าน

“ไอ้ก้านก็คือไอ้ก้าน คุณตะวันจะลำบากใจไหม ถ้าไอ้ก้านไม่ได้เป็นพี่ก้านที่น่ายกย่อง” ก้านถามอีกฝ่ายแต่มือก็ยังบรรจงหวีผมให้คุณตะวันด้วยความอ่อนโยน

“พี่ก้านคือพี่ก้านสำหรับตวง” ตะวันสบตาก้านผ่านกระจกเงา

“งั้นคุณตวงก็คือคุณตวงสำหรับผม เป็นคุณตวงที่ใจดี คนที่มีน้ำใจกับผมเสมอมา”

ตะวันยิ้มให้ก้านก่อนจะดึงหวีในมือก้านมาวางไว้ที่โต๊ะ เมื่อร่างผอมบางลุกขึ้นยืนก้านก็ขยับเข้ามาสวมกอดที่เอวพร้อมกับกดจูบที่ท้ายทอยของอีกฝ่ายเบาๆ ใบหน้าที่เคยซีดขาวของตะวันเริ่มร้อนผ่าวและขึ้นสีแดงระเรื่อที่แก้ม เอวของคุณตะวันคอดเล็กนิดเดียวจนก้านโอบได้รอบ มันตัดสินใจช้อนตัวอีกฝ่ายขึ้นมาอุ้มจนคุณตะวันลอยขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนของมัน

“คุณตวงอายเหรอ” ก้านถามตรงๆ หลังจากที่อุ้มตะวันไปนั่งลงบนเตียงแล้ว

คนโดนถามพยักหน้าน้อยๆ จะไม่ให้ตะวันเขินอายได้อย่างไรในเมื่อคนถามเล่นถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนเปลือยเปล่า เจ้าของร่างผิวสีแทนนั้นเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่ดูแข็งแรง ต่างจากตะวันที่ตัวผอมบางและขาวซีดดูไม่สมกับเป็นชาย เมื่อเจ้าของร่างผึ่งผายขยับตัวเข้ามาใกล้และปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้ตะวันบ้าง ตะวันก็รู้สึกประหม่าจนไม่กล้าแม้แต่จะสบตาอีกฝ่าย ใจเต้นเป็นกลองรัวจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน

“ผม...ผมทำนะ” ก้านพูดตรงไปตรงมาจนตะวันหลุดหัวเราะ เมื่อมันเห็นอีกฝ่ายหัวเราะมันก็เริ่มจะหมดความมั่นใจขึ้นมาดื้อๆ

ตะวันเห็นก้านชะงักไปก็รู้สึกผิด ตะวันแค่นึกขำคำพูดที่ตรงไปตรงมาของอีกฝ่ายแต่การกระทำกลับอ่อนโยนแบบที่ตะวันไม่เคยได้รับ ปลายนิ้วบางแตะไปที่กล้ามท้องของก้านก่อนจะลูบช้าๆ เพราะนึกอิจฉาความแข็งแรงที่ตัวเองไม่เคยมี แต่ตะวันคงไม่รู้ว่าเพียงปลายนิ้วเย็นเยียบของตัวเองสัมผัสร่างของก้านก็ทำให้ฝ่ายนั้นวูบวาบขึ้นมาง่ายๆ เมื่อดวงตาโศกหลุบต่ำไปเจอส่วนนั้นก็หน้าร้อนฉ่าและรีบเบนสายตาไปทางอื่น

“คุณตวงทำมันตื่นเองนะ” ก้านเองก็เขินไม่ต่างกันแต่จะทำให้ไงได้ในเมื่อนิ้วซุกซนของคุณตะวันไปปลุกมันให้ตื่น

“ตวง ตวง..” ตะวันเขินหนักกว่าเดิมเมื่อก้านคว้ามือของตวงขึ้นมาจูบไล่ที่ละนิ้ว

“ร่างกายนี้เป็นของคุณตวง คุณตวงจะซนแค่ไหนไอ้ก้านก็ไม่ว่า” ก้านกระซิบที่หูของตะวัน

“ตวงแค่อิจฉาที่พี่ก้านดูแข็งแรง” ตะวันรีบอธิบายเพราะกลัวถูกมองว่ายั่วยวน หารู้ไหมว่ายิ่งอายก็ยิ่งยั่วความต้องการอีกฝ่ายให้พลุ่งพล่านมากกว่าเดิม

“ผมก็อิจฉาผิวนุ่มๆ ของคุณตวง หอม หอมที่สุด” ก้านอดไม่ไหว เมื่อได้ซุกไซ้จมูกไปที่ซอกคอขาวของอีกฝ่ายก็ได้กลิ่นหอมชื่นใจจนไม่อยากจะถอนใบหน้าของตัวเองออกมาเลย

“พี่ก้าน...”

ตะวันรู้สึกอ่อนแรงจนต้องเอนตัวลงนอนราบกับที่นอน ร่างแข็งแรงที่ตะวันอิจฉาจึงขยับขึ้นมาทาบทับและยังคงซุกไซ้ซอกคอขาวไม่หยุด ตะวันได้แต่เชิดหน้าขึ้นและพรูลมหายใจเพื่อระบายความร้อนที่กำลังแล่นไปทั่วร่างกาย มือหยาบกร้านที่บอกให้รู้ว่าเจ้าของมือผ่านความลำบากมามากเปรียบเหมือนไฟที่พร้อมจะทำให้ตะวันละลายหายไปเพียงแค่สัมผัส

ก้านรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกความหอมของคุณตะวันมอมเมาจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาได้ มันทั้งดอมดมและไล่ชิมผิวกายนุ่มละมุนของอีกฝ่ายจนมาถึงยอดอกสีหวาน อยากจะรู้ว่ามันจะหวานเหมือนสีหรือเปล่า ไม่ต้องคิดนานเพราะก้านจัดการตวัดปลายลิ้นของตัวเองไปลิ้มรสความชูชันล่อตาตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว

“พี่ก้าน....” ตะวันสั่นสะท้านไปหมด แม้อีกฝ่ายจะอ่อนโยนและทะนุถนอมตัวเองมากแค่ไหนแต่มันก็แฝงความเร้าร้อน ยิ่งอีกฝ่ายดื่มด่ำราวกับเป็นขนมรสเลิศก็ยิ่งทำให้ตะวันทรมานจนแทบขาดใจ

“คุณตวงของไอ้ก้านหวานเหลือเกิน” ก้านเงยหน้ามาเอ่ยชมอีกฝ่ายจากใจตะวันถึงกับยกมือขึ้นปิดหน้าเพราะรู้สึกเขินจนใบหน้าร้อนฉ่าเหมือนถูกไฟแผดเผา

ก้านนึกเอ็นดูความขี้อายของคุณตะวันก่อนจะก้มลงไปลิ้มรสความหวานต่ออย่างไม่รู้เบื่อ มันเข้าใจนายพญาแล้ว ขอแค่รู้สึกดี รู้สึกรัก ไม่ว่าคนตรงหน้าจะเป็นเพศไหนก็ทำให้ความสุขมันเกิดขึ้นได้ มันยอมรับว่ามันรู้สึกพลุ่งพล่านมากกว่าตอนหลับนอนกับคนที่ผ่านมาในชีวิตของมันเสียอีก นั่นอาจเพราะมันไม่ได้รู้สึกดีหรือรู้สึกรัก ที่นอนด้วยเพราะอยากลองและอยากมีประสบการณ์ตามวัย แต่กับคุณตะวันที่จู่ๆ ก็เข้ามานั่งในหัวใจของมันแบบไม่ทันให้ตั้งตัว กลับทำให้มันหายคลางแคลงใจในความรักที่มันเคยคิดมาตลอดชีวิตว่าไม่น่าเป็นไปได้ คุณตะวันทำให้ไอ้ก้านอยากกลืนกินร่างกายนี้และอยากเก็บเอาไว้สำหรับมันเพียงคนเดียว

ตะวันแทบจะสำลักความสุขที่ก้านมอบให้ ร่างแกร่งทำตามคำสัญญาที่บอกว่าจะขับไล่ความสกปรกออกให้จนหมด ตะวันร้องไห้ออกมาเพราะความตื้นตันที่ก้านไม่รังเกียจตัวเอง ก้านฉกชิมจับจองร่างกายของตะวันไม่เว้นแม้แต่ปลายนิ้วเท้า ความอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเร้าร้อนสร้างความสุขให้ตะวันอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลยในชีวิต มันไม่ใช่แค่สุขที่เกิดจากเพศรสแต่มันคือความหมายของคำว่า ‘ใส่ใจ’ ผู้ชายคนนี้ถนอมตะวันจนตะวันรู้สึกว่าตัวเองมีค่าเหลือเกินสำหรับเขา

ก้านจูบซับน้ำตาให้ตะวันก่อนจะทาบร่างกายของตัวเองไปแนบสนิทกับร่างผอมบางของอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง ขาเรียวขาวข้างหนึ่งของตะวันถูกยกขึ้นพาดบ่าแกร่งเพื่อเปิดทางให้สองร่างกายหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน

“ต่อจากนี้ไปตะวันดวงนี้จะเป็นดวงตะวันที่ใสสะอาด ชีวิตไอ้ก้านเหมือนไม้ขีดไฟ แสงของมันมีแค่ปลายไม้ ตะวันดวงนี้จะช่วยส่องแสงให้ไม้ขีดไฟก้านนี้ได้ไหมครับ” ก้านกระซิบถามตะวันหลังจากที่ได้แทรกกายเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับอีกฝ่ายแล้ว

“ไม้ขีดไฟก้านนี้ต่างหากที่ช่วยส่องแสงสว่างจนคนเห็นว่ายังมีดวงตะวันดวงนี้อยู่ ขอบคุณนะครับไม้ขีดไฟของตวง” ตะวันกอดรัดร่างกายของก้านเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับตัว

ก้านจูบซับน้ำตาให้ตะวันอีกครั้งก่อนจะเร่งจังหวะร่างกายให้เป็นไปตามกลไกของธรรมชาติ เสียงแห่งความสุขของคนทั้งคู่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างในค่ำคืนนี้มันอิ่มเอมมากมายขนาดไหน

ก้อนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้องของพี่ชายพอจะรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนในห้อง เสียงของคนทั้งคู่ดังพอที่จะทำให้มันได้ยิน มันยอมรับว่าตกใจเพราะไม่คิดว่าพี่ชายของมันมีรสนิยมทางเพศไม่ต่างจากนายพญา ที่มันเดินมาหาพี่ก้านเพราะว่ามันเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากเจนน้องชายของพี่จวบ เจนเพิ่งเล่าให้มันฟังว่าคุณตะวันหนีออกจากบ้านและคนของนายหัวสุริยากำลังตามหาคุณตะวันกันยกใหญ่ พี่จวบรู้ว่าคุณตะวันอยู่ที่นี่ แต่พี่จวบสงสารคุณตะวันเลยไม่ยอมบอกนายหัวสุริยาว่าคุณตะวันอยู่ที่ไหน พี่จวบสั่งให้เจนมาบอกก้อนให้เตือนคุณตะวันให้หลบซ่อนตัวให้ดีเพราะไม่อยากให้นายหัวสุริยามาอาละวาด พร้อมกับสั่งให้เจนเอาเงินและเสื้อผ้าของคุณตะวันมาให้ เจนเลยนัดก้อนในวันพรุ่งนี้เพื่อที่จะเอาของมาให้ ก้อนแค่อยากจะมาบอกพี่ก้านกับคุณตะวัน แต่เมื่อมาได้ยินบทรักที่ทั้งคู่กำลังแสดงต่อกันก้อนจึงเดินกลับห้องไปด้วยความสงสัยว่าคนทั้งคู่ไปรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่

..

ภาพคุ้นตาที่ทุกคนเห็นในทุกเช้าคือภาพของหนูด้วงมานั่งพูดคุยเจื้อยแจ้วกับน้องปลา ปลาตั้งสิบยี่สิบตัวแต่หนูด้วงก็ตั้งชื่อให้พวกมันได้ไม่ซ้ำกันเลย พอพญาถามชื่อปลาหนูด้วงก็ตอบได้ครบจนพญาต้องนั่งเกาหัวตัวเอง เขาไม่รู้ว่าหนูด้วงมั่วหรือสามารถจำชื่อน้องปลาได้จริงๆ

“ตัวนี้ชื่ออะไร” พญาชี้ไปที่ปลาตัวหนึ่งที่กำลังแหวกว่ายอยู่ตรงหน้า

“ชื่อมะแยงวัน”

“เอ้อ! ได้เหรอ ปลาอะไรชื่อแมลงวัน” พญานึกขำและพยายามจ้องมองเจ้าแมลงวันเอาไว้เพราะอยากจะลองดูว่าหนูด้วงมั่วหรือจำได้จริง

“ตัวนี้ชื่ออะไร” พญาชี้ไปที่ปลาอีกตัวหนึ่งซึ่งดูแล้วไม่ได้แตกต่างจากเจ้าแมลงวันเลย

“ชื่อฮี้ก็อบๆ” หนูด้วงตอบ พญาเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะมองหน้าหลานรัก

“ไปเอาสกิลการตั้งชื่อปลามาจากไหนวะ แล้วตัวนั้นชื่ออะไร” พญาพึมพำเบาๆ ก่อนจะขำ จากนั้นก็ชี้ไปที่เจ้าแมลงวันอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้มันว่ายไปไกลจากจุดเดิมพอควร

“ก้อหนูบอดแย้วว่าชื่อมะแยงวัน ถามแย้วก้อถามอีด” หนูด้วงขมวดคิ้วพร้อมกับกอดอกที่โดนถามชื่อปลาตัวเดิมซ้ำๆ นึกเคืองยุงพะยาที่จำลูกๆ ของตัวเองไม่ได้สักที

“ก็น้าจำไม่ได้นี่ หนูด้วงจำได้ยังไง มันเหมือนกันหมดทุกตัวนี่ครับ” พญายอมรับว่าทึ่งที่หนูด้วงจำชื่อปลาได้จริงๆ

“ยุงพะยาต้อนเป็นแม่น้อนปลาก่อน เอามั้ย เป็นแม่น้อนปลามั้ย หนูพาไปฉื้อใหม่” หนูด้วงทำตาวาวเมื่อมีความหวังว่าจะได้ไปซื้อน้องปลามาเพิ่ม

“โอ้ย ไม่เอาแล้ว มันเยอะแล้ว สงสารมัน เดี๋ยวมันเบียดกันเนอะ” พญารีบปฏิเสธ

“ก้อได้ก้อได้ ง้านยุงก้อไม่มียูก นี่ยูกขอนหนูหมดเยย ไม่ต้อนมาถามชื่อยูกขอนหนูด้วย หนูเหนื่อย” หนูด้วงบ่นกระปอดกระแปดจนพญาทนไม่ไหวต้องคว้าตัวมาหอม

“มาทานข้าวกันได้แล้ว” เทียมฟ้าเข้ามาตามสองน้าหลานที่กำลังกอดรัดกันอยู่ที่หน้าตู้ปลา

“เย้ แม่ไปกินข้าวก่อนนะยูกๆ ไม่ดื้อนะยูกๆ” หนูด้วงหันมาสั่งน้องปลาก่อนจะวิ่งออกไปเพราะได้กลิ่นหอมๆ ลอยมายั่วแล้ว

“มานี่ก่อน” พญาเรียกเทียมฟ้าให้มาหา

“มีอะไรเหรอครับ”

“ปลาตัวนั้นชื่ออะไร” พญาถามเทียมฟ้า

“น้องจะไปรู้ได้ไงครับ ปลาตั้งเยอะแยะ จำไม่ได้หรอก”

“โอเค โล่งใจ กูไม่ได้โง่คนเดียว” พญาพึมพำเบาๆ

“อะไรนะครับ”

“ไม่มีอะไรครับที่รัก เรียกมาหอม มาหอมหน่อยนะ” พญารีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะโดนงอน

“แน่ใจนะ” เทียมฟ้าหรี่ตาถาม

“ยำคาน มานี่เลย” พญาเลียนแบบคำพูดของหนูด้วงก่อนจะดึงเทียมฟ้าให้ลงมานั่งข้างๆ แล้วรีบจูบปิดปากคนขี้สงสัย

“ย๊ากกกก ยุงพะยากัดอาน้อน ยุงพะยากัดอาน้อนนนนนน” หนูด้วงเข้ามาตามเทียมฟ้าเพราะไปนั่งรอแล้วเทียมฟ้าไม่ยอมตามออกมาสักที พอทั้งคู่ได้ยินเสียงโวยวายของหนูด้วงก็เด้งออกจากกันทันที

“ไม่ได้กัด น้าแค่ดูดพิษให้อาน้องเฉยๆ” พญารีบแก้ตัว นึกตำหนิตัวเองที่ดันไม่ระวังจนหนูด้วงมาเห็นจนได้

“อาน้อนไม่ชาบายอ๋อ” หนูด้วงรีบเข้ามาแตะหน้าผากของเทียมฟ้าเพราะได้ยินคำว่าโดนพิษ

“หายแล้วครับ ยุงพญาช่วยอาน้องแล้ว” เทียมฟ้าต้องเล่นไปตามน้ำ

“ยุงพะยาเป็นปู้วิเฉด เก่นฉุดฉุด” หนูด้วงทำตาโตก่อนจะปรบมือให้พญา

“ไปกินข้าวกันเถอะ เจ้าอุ้มล่ะ” พญายิ้มแห้งๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง

“น้องโอบอาบน้ำอยู่ครับ ตอนนี้คงเสร็จแล้ว ไปกินข้าวกัน” เทียมฟ้าชวนทั้งน้าทั้งหลานให้ออกไปกินข้าวพร้อมกัน

เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงโต๊ะกินข้าวโอบอุ้มก็ลงมาจากชั้นบนพอดี โต๊ะกินข้าวขนาดสี่คนทานพอดีตั้งอยู่ในครัวขนาดเล็กแต่ก็ไม่ถึงกับคับแคบมากนัก พญากะพื้นที่เอาไว้แค่พอนั่งกินข้าวแบบสบายๆ ไม่ได้เหลือพื้นที่ให้สิ้นเปลืองเพราะหากตลาดเปิดเมื่อไหร่ก็ไม่ค่อยได้ทำกินเอง ยิ่งถ้าโอบอุ้มกลับไปเรียน หนูด้วงก็ต้องกลับไปอยู่กับนับตังค์ ที่นี่ก็เหลือแค่เขากับเทียมฟ้า เขาเลยใช้พื้นที่ไปกับห้องใต้ชาหมุดของหนูด้วงมากกว่าห้องอื่น

“น้องทำซุปเห็ดไว้ด้วยนะ พี่ตังสอนทำ ลองทานดูนะว่าอร่อยรึเปล่า” เทียมฟ้าทำกับข้าวไม่เก่ง ทำเป็นแค่อาหารเช้าแบบอเมริกันง่ายๆ แต่เห็นหนูด้วงกับโอบอุ้มบ่นอยากทานซุปเห็ดเทียมฟ้าเลยโทรไปหานับตังค์เพื่อขอสูตรและวิธีทำ

“น้องทำครั้งแรกเหรอ งั้นเจ้าอุ้มลองกินก่อนเลย” พญาแกล้งทำเป็นกลัวจนโดนเทียมฟ้าค้อนใส่

“ได้ครับป๊า โอ้ย!” โอบอุ้มไม่ทันระวังว่าซุปมันร้อนจึงซดซุปเห็ดเข้าไปเต็มที่

“เอาผ้าเย็นประคบก่อน” เทียมฟ้ารีบเดินไปหยิบผ้าเย็นมาส่งให้โอบอุ้ม เจ้าตัวยกมือไหว้ก่อนจะรับผ้าเย็นไปประคบที่ปาก

“ปากบวมเลย อย่างกับโดนผึ้งต่อย เจ็บไหม ป๊าจำได้ว่ามีครีมทาอยู่นะ” พญาจะลุกไปหาครีมที่ทาเวลาโดนของร้อนแต่โอบอุ้มรีบขัดเอาไว้ก่อน

“ไม่เป็นไรครับป๊า เดี๋ยวก็หาย”

..ม๊วฟ..

แล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึงเมื่อหนูด้วงลุกขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ทรงสูงที่ตัวเองนั่งอยู่แล้วรวบคอโอบอุ้มให้มาใกล้ๆ จากนั้นก็แตะริมฝีปากของตัวเองไปที่ริมฝีปากของโอบอุ้มจนเสียงดัง ‘ม๊วฟ’

“หนูเป็นปู้วิเฉด หนูดูดพิษให้ปี้โอดอุ้นแย้ว เดี๋ยวก็หายนะ” หนูด้วงพูดจบก็นั่งลงไปจิ้มไส้กรอกกินอย่างเดิม

“นะ นะ หนูด้วง...” พญาแทบกลั้นใจตายกับสิ่งที่เห็น อยากจะบีบคอตัวเองนี่แหละที่ไปหลอกหลานว่าจูบคือการดูดพิษให้เทียมฟ้า เวรกรรมติดจรวดตามทันแบบไม่ต้องข้ามภพข้ามชาติกันเลย

“กิน..กินกันเถอะครับ” โอบอุ้มรีบชวนทุกคนกินต่อด้วยท่าทางงกๆ เงิ่นๆ  มีแค่เทียมฟ้าที่แอบนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว


หลังจากมื้ออาหารเช้าที่ค่อนข้างประดักประเดิดสำหรับโอบอุ้มเสร็จสิ้นลงแล้ว โอบอุ้มก็พาหนูด้วงมานั่งเล่นอยู่ที่สำนักงานของพญาเพราะมีหน้าที่สอนความรู้ทั่วไปให้กับหนูด้วงประมาณวันละหนึ่งชั่วโมง ส่วนใหญ่โอบอุ้มก็จะสอนคำศัพท์ต่างๆ ให้ ไม่ได้สอนแบบเคร่งเครียดอะไรสักเท่าไหร่เพราะรู้ว่าหนูด้วงยังเด็ก แต่น้าใบเมี่ยงบอกว่าหนูด้วงอยู่ในวัยกำลังจดจำซึ่งโอบอุ้มเห็นจริงตามนั้นเพราะสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษอะไรหนูด้วงก็จำได้หมดเพียงแต่พูดไม่ชัดเหมือนเดิมเท่านั้นเอง

“วันนี้เรามาดูรูปสวนสัตว์กันดีกว่านะครับ” โอบอุ้มชวนหนูด้วงที่ตอนนี้กำลังนั่งจ้องพัดลมตัวเล็กลายเป็ดสีเหลืองที่อาพเยียซื้อมาฝาก

“วา วา วา วา วา คิกๆๆ” หนูด้วงเอาปากไปจ่อที่หน้าพัดลมแล้วส่งเสียงวาๆ จนได้ยินเสียงสั่นๆ ของตัวเอง เด็กน้อยนั่งหัวเราะคิกคักขำอยู่จนไม่ได้ยินที่โอบอุ้มเรียก

“สนุกใหญ่เลยนะ” โอบอุ้มขำเพราะผมของหนูด้วงกระจัดกระจายไปตามแรงลมจนยุ่งเหยิงไปหมด

“ปี้โอดอุ้นมาดูมาดู ทำตามหนูนะ ชาหนุดฉุดๆ วาๆๆๆๆๆ” หนูด้วงชวนโอบอุ้มมาทำบ้าง

“วาๆๆๆ” โอบอุ้มยอมทำตามคำชวนของหนูด้วง สองพี่น้องส่งเสียงแข่งกันแล้วก็ขำกันอยู่สองคน

“ปี้โอดอุ้นปาดแดนแจ๊ดแจ๋ เจ็บมั้ย หนูดูดพิษให้ เอามั้ย” หนูด้วงหันไปเห็นปากของโอบอุ้มยังแดงอยู่เลยอาสาเพราะคิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษมีหน้าที่ปกป้องคนอื่น

“หนูด้วง ห้ามทำแบบนี้กับใครนะครับ”

“ทำอะได” หนูด้วงเอียงคอสงสัย

“ดูดพิษ” โอบอุ้มทำเสียงเข้ม

“ก้อหนูเป็นปู้เฉด”

“ผู้วิเศษไม่ดูดพิษให้คนอื่น”

“แต่ยุงพะยาช่วยดูดพิษให้อาน้อน”

“แค่คนที่รัก ช่วยแค่คนที่รัก” โอบอุ้มไม่รู้จะอธิบายให้หนูด้วงเข้าใจได้ยังไงเพราะว่าตัวเองก็ยังหาคำที่ดีกว่านี้ไม่ได้ รู้แต่ว่าจะให้หนูด้วงไปทำแบบนี้กับคนอื่นไม่ได้

“หนูยักปี้โอดอุ้น หนูช่วยได้” หนูด้วงเถียงจนปากยู่ยื่น

“ขอบคุณครับ” โอบอุ้มลูบผมหนูด้วงด้วยความเอ็นดู ไม่รู้จะโต้แย้งยังไงเพราะตัวเองก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตมากนัก

“พี่โอดอุ้นยักหนูมั้ย”

“รัก รักครับ”

“เย้ หนูไม่ตายแย้ว ปี้โอดอุ้นก้อยักหนู ปี้โอดอุ้นช่วยดูดพิษให้หนูได้ เย้ๆ” หนูด้วงชูไม้ชูมือดีใจแต่โอบอุ้มกลับทำหน้าไม่ถูก บางสิ่งบางอย่างมันทำให้โอบอุ้มรู้สึกแปลกๆ ข้างในใจ แต่ภาพของป๊าที่ดูจะหงุดหงิดทุกครั้งที่หนูด้วงแสดงความใกล้ชิดกับตัวเองทำให้โอบอุ้มต้องละความรู้สึกนั้นออกไปให้หมด อีกไม่นานก็จะต้องกลับไปอยู่ไกลๆ เหมือนอย่างเคยแล้ว ไม่นานหนูด้วงก็อาจจะลืมพี่คนนี้

“ไปเดินเล่นกันไหม” โอบอุ้มวางหนังสือเรียนในมือลง

“ไป หนูชอบไปเดินเย่น” หนูด้วงพยักหน้าหงึกๆ

“พี่ไปขอป๊าก่อนนะครับ หนูด้วงรอตรงนี้ห้ามไปไหนนะ”

“ฮับ” หนูด้วงรับคำก่อนจะหันไปเล่นกับพัดลมต่อ

(มีต่อด้านล่างค่ะ)
V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2018 11:40:17 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบน)


โอบอุ้มเข้าไปขออนุญาตพญาพาหนูด้วงไปเดินเล่น เมื่อพญาอนุญาตโอบอุ้มก็รีบเดินออกมาเพื่อบอกข่าวดีกับน้อง แต่พอเห็นเจ้าตัวเล็กกำลังเบะปากก็ตกใจและรีบเดินเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง

“หนูไม่ได้ซน” หนูด้วงรีบส่ายหน้า

“ไหน เจ็บตรงไหน” โอบอุ้มถาม ที่แรกหนูด้วงก็ส่ายหน้าไม่ยอมบอกเพราะกลัวถูกดุ แต่พอเห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นของโอบอุ้มจึงยอมชูนิ้วที่ซ่อนอยู่ด้านหลังออกมาให้โอบอุ้มดู

“หนูแค่จะยองจับปี้เป็ด ปี้เป็ดก้อกัดนิ้วหนู” หนูด้วงเล่าให้ฟังว่านิ้วของตัวเองไปโดนใบพัดของพัดลม

“เจ็บมากไหม” โอบอุ้มรีบคว้านิ้วหนูด้วงมาดู โชคดีที่ใบพัดของพัดลมไม่ใช่เหล็กแต่เป็นพลาสติกอ่อน และเป็นพัดลมของเด็กจึงไม่ได้หมุนเร็ว นิ้วของหนูด้วงจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแค่แดงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“หนูเจ็บ ปี้โอดอุ้นต้อนดูดพิษให้” หนูด้วงเบะปาก จริงๆ มันเจ็บไม่มากแต่หนูด้วงตกใจ เวลาตกใจก็เลยเจ็บ

“คือ...พี่เป่าเพี้ยงให้นะ” โอบอุ้มรีบหาวิธีที่ดีกว่าการจูบ

“ปี้โอดอุ้นไม่ยักหนู” เจ้าตัวเล็กเบะปากมากกว่าเดิม

“ก็ได้ครับ” โอบอุ้มรีบเอาปากไปแตะที่นิ้วของหนูด้วงเบาๆ

“หูวววว หายเจ็บแย้ว ปี้โอดอุ้นเป็นปู้วิเฉด เก่นฉุดๆ” หนูด้วงทำตาโตก่อนจะยิ้มกว้างแล้วชูนิ้วของตัวเองขึ้นมาดูเพราะรู้สึกว่าหายเจ็บจริงๆ ด้วย

“ตัวแสบเอ้ย” โอบอุ้มหัวเราะก่อนจะยีผมของหนูด้วงเบาๆ

“เย้ๆ หายเจ็บแย้วไปเดินเย่นกันได้” หนูด้วงคว้ามือของโอบอุ้มมาจับแน่นพลางคิดในใจว่า ‘มีปี้โอดอุ้นอยู่ด้วยแบบนี้ก้อไม่ต้อนกลัวอะไดแย้ว’

พญาแอบดูลูกบุญธรรมกับหลานรักของตัวเองจากกล้องวงจรปิดผ่านมือถือ เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ก็ถอนหายใจออกมา พญายอมรับว่าหนักใจเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เขาอาจจะทำให้เด็กสองคนสับสนกับทางชีวิต ถึงจะรู้ว่าความรักมันไม่ได้แบ่งเพศ หนูด้วงอาจจะมีความรักอย่างที่พญาหรือนับตังค์มีแต่อย่างน้อยก็ไม่อยากให้เกิดจากความสับสนเพราะคุ้นเคยในสิ่งแวดล้อมที่ต้องเจอทุกวัน ส่วนโอบอุ้มนั้นพญาต้องการให้โอบอุ้มดูแลหนูด้วงในฐานะพี่ชายกับน้องชายเพราะมันจะยั่งยืนยาวนานกว่ารักในรูปแบบคนรัก เขาไม่อยากให้โอบอุ้มสับสนหรือรักหนูด้วงแบบอื่น คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจจนเทียมฟ้าที่ลอบสังเกตอยู่ต้องเดินเข้ามาหา

“พี่คิดเรื่องหนูด้วงกับน้องโอบอยู่เหรอ หลานยังเด็กนะ พี่อาจจะคิดมากเกินไป ทั้งคู่เป็นแค่เด็กที่ต้องการความรักและการเอาใจใส่ เขายังเด็กเกินกว่าจะคิดเรื่องนั้น”

“เราจะดูถูกความผูกพันไม่ได้หรอกนะน้อง ความใกล้ชิดความผูกพันมันอาจจะฝังใจเด็กสองคนนี้ไปจนโตก็ได้ พี่ว่าความรักแบบพี่น้องจะทำให้สองคนนั้นดูแลกันได้จนตาย ดีกว่ารักแบบอื่น”

“แล้วความรักแบบเรามันดูแลกันจนตายไม่ได้เหรอครับ”

“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนนะน้อง พี่บอกน้องได้ว่าพี่รักน้องและจะดูแลน้องจนตายแต่มันก็เป็นคำพูดของวันนี้ วันข้างหน้าเราสองคนจะเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้ พี่เป็นห่วงหนูด้วง ตอนเด็กๆ หนูด้วงเจอกับเรื่องแย่ๆ มามากพอแล้ว เจ้าอุ้มก็เป็นคนที่พี่ไว้ใจและหวังใจว่าจะให้ดูแลหนูด้วง ถ้าวันข้างหน้าเขารักกันเกินฐานะพี่น้อง ถ้าความรักมันจบลงมันจะมองหน้ากันไม่ได้ จากรักมันอาจจะร้ายต่อกัน”

“พี่บอกว่าพี่ไว้ใจน้องโอบ ไว้ใจก็ต้องเชื่อใจนะครับ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไงพี่ต้องเชื่อใจว่าน้องโอบจะเลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด”

“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้น”

“พี่จะไม่ให้น้องโอบกลับมาเรียนที่เมืองไทยจริงเหรอครับ”

“อย่าว่าพี่ใจร้ายเลยนะน้อง อย่างน้อยในวันที่เขาเติบใหญ่ก็ให้เขาได้รู้จักตัวเองมากพอก่อน”

“น้องจะว่าพี่ใจร้ายได้ยังไง พี่ทำทุกอย่างเพราะพี่รักทุกคน น้องภูมิใจในตัวพี่นะ” เทียมฟ้าสวมกอดพญาและซุกหน้ากับอก

“พี่ยิ้มอยู่” พญายิ้มเมื่อโดนคนรักชม

“น้องเห็นแล้ว”

“เห็นได้ไง ซุกอกอยู่แบบนี้”

“ได้ยินเสียงหัวใจของพี่ก็รู้แล้วว่าพี่ยิ้ม”

“งั้นลองฟังใหม่สิว่าหัวใจพี่มันบอกอะไรน้องอีก”

“ไม่ได้บอกแล้ว”

“บอก”

“ก็น้องไม่ได้ยิน”

“ไม่ได้ยินเสียงหัวใจ ห๊ะ...แปลว่าพี่ก็ใกล้ตายแล้วดิ งั้นผายปอดให้พี่หน่อย”

“ว่าแล้วเชียว” เทียมฟ้าหัวเราะเมื่อทายถูกว่าพญาจะพาเข้ามุกหื่นๆ อีกตามเคย

“โอ้ย พี่ใกล้ตายแล้วนะ เร็วสิ”

“ไม่กลัวหนูด้วงเห็นเหรอ”

“พี่กดล็อกประตูแล้ว เปิดวงจรปิดเอาไว้ส่องคนเข้ามาในสำนักงานด้วย คราวนี้ไม่พลาด รอบคอบสุดๆ มาให้กินเสียดีๆ เจ้ากระต่าย”

“ไหนว่าใกล้ตายไง”

“ข้าเป็นผู้วิเศษ ข้าฟื้นคืนชีพแล้ว” พญาพูดจบก็จูงเทียมฟ้ามาที่เตียงแล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม

เทียมฟ้าได้แต่ส่ายหน้าขำๆ แต่ก็ยอมให้ผู้วิเศษคนนี้แผลงฤทธิ์ใส่อย่างว่าง่าย พญาเปลี่ยนแปลงตัวเองมาได้มากขนาดนี้ถ้าตบรางวัลให้ได้ก็ไม่อยากอิดออด การที่พญาพยายามนึกถึงอนาคตของหนูด้วงบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ใช้ชีวิตแค่วันต่อวันอย่างที่ผ่านมา รวมไปถึงเรื่องที่พยายามจะทำให้เกาะนี้ปราศจากยาเสพติดนั่นอีก ความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับพวกอิทธิพลมืดโดยไม่หวั่นเกรงอันตรายไม่ควรถูกเรียกว่านักเลงโตอีกต่อไป พญาอาจจะยังกังวลว่าตัวเองจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับลูกและหลาน เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าทั้งเทียมฟ้า โอบอุ้ม หนูด้วงหรือคนรอบตัวพญาในตอนนี้ต่างก็ภูมิใจกับสิ่งที่พญากำลังทำกันทั้งนั้น

...

โอบอุ้มจูงมือหนูด้วงมาถึงท่าน้ำเพราะเห็นกลุ่มลูกน้องของพญายืนส่งเสียงเชียร์อะไรบางอย่างอยู่ เมื่อทั้งสองคนไปถึง ‘ท้วม’ ลูกน้องของพญาก็รีบมาทักทายนายน้อยทั้งสองคนพร้อมกับเล่าให้ฟังว่าพวกตนเองกำลังเชียร์ถนอมที่กำลังว่ายน้ำรอบเรือยอร์ชเพื่อแก้บนที่ไม่โดนนายพญาเล่นงานเมื่อวันก่อน หนูด้วงชะเง้อมองด้วยความสนใจ พอเห็นถนอมว่ายน้ำอยู่ข้างล่างก็ส่งเสียงเชียร์ตามคนอื่นบ้าง

“ปี้ทาหนอนฉู่ๆ ปี้ทาหนอนฉู่ตาย ไว้ยายฉู่ๆ”

“พี่หนอม นายน้อยมาเชียร์แล้วอย่าอืดให้มากนัก ไหวไหมพี่ บนอะไรไม่บนมาบนเรื่องยากๆ” พรรคพวกของถนอมพากันกึ่งขำกึ่งสงสารถนอมที่เริ่มจะเหนื่อย

“ไม่เจียมตัวเองไง” โจ้ที่ยืนดูอยู่ก็พูดขึ้นมาลอยๆ แต่ปลายตามองมาที่โอบอุ้ม

“ไอ้โจ้ มึงหุบปากไปเลย” ก้อนได้ยินก็สวนกลับเพราะรู้ว่าโจ้ตั้งใจกระแหนะกระแหนโอบอุ้ม

“พี่ก้านไปไหนครับพี่ก้อน” โอบอุ้มไม่อยากใส่ใจโจ้เลยหันไปถามถึงพี่ชายของก้อน

“เดี๋ยวคงตามมาครับคุณโอบ”

“เพิ่งรู้ว่าต้องเรียกคุณโอบ” โจ้ยิ้มเยาะเพราะคิดว่าก้อนกำลังประจบเด็กที่ไม่มีหัวนอนปลายตีนแต่บังเอิญโชคดีที่นายพญารับมาเลี้ยงคนนี้ โจ้คิดว่าอีกหน่อยเด็กคนนี้ก็คงจะเป็นเด็กในสังกัดนายพญาอีกคนเพราะโอบอุ้มถือว่าหน้าตาหล่อเหลามากทีเดียว

“ปากเสียไม่เคยเปลี่ยน” เบลเดินเข้ามาต่อว่าโจ้

“เสือก” โจ้สวนกลับ

“ยุงพะยาบอดว่าใครพูดเฉือกจะให้ตัดยิ้นจนพูดไม่ได้” หนูด้วงหันไปพูดกับโจ้

“มึงกล้าด่านายน้อยเอาสิโจ้” ก้อนส่งยิ้มกวนๆ ไปให้โจ้เพราะรู้ดีว่าโจ้ไม่กล้าว่าหนูด้วง

“กูจะด่านายน้อยทำไม นายน้อยมีเลือดของนายพญา ต่างจากบางคนที่ไม่มีเลยสักนิดแต่ทำตัวสูงส่ง” โจ้แขวะโอบอุ้มต่อ

“น้องโอบเป็นบุตรบุญธรรมที่ถูกต้องของนายพญา สูงส่งกว่ามึงก็แล้วกันไอ้โจ้” เบลเบ้ปากใส่โจ้ที่ชอบแกว่งปากหาเสี้ยน

“ท่าทางมึงอยากมีเรื่องกับกูนะอีเบล คงไม่เข็ดสินะ” โจ้ยิ้มเหี้ยมเกรียมจนเบลหน้าถอดสี

“พอๆ อยากให้นายโกรธพวกมึงทั้งสองคนรึไง จะไปไหนก็ไป แยกๆ” ท้วมรีบเข้ามาแยกเบลกับโจ้ที่ทำท่าว่าจะลงไม้ลงมือกัน

“มึงเจอกูแน่อีเบล” โจ้พูดขู่อาฆาตเบลเอาไว้ก่อนจะเดินอออกไปจากกลุ่มลูกน้องของพญา เบลถอนหายใจแล้วยกมือไหว้ ‘ท้วม’ ลูกน้องของพญาซึ่งมีความอาวุโสกว่าตัวเอง

“ขอโทษนะพี่ท้วม ฉันก็ไม่อยากมีเรื่องกับมันหรอก แต่ทนปากมันไม่ไหวจริงๆ”

“เออ พี่เข้าใจ อ้าวเฮ้ย พี่หนอมหายไปไหนวะ จมน้ำตายไปแล้วมั๊ง พวกมึงลงไปดูกันเร็ว” ท้วมพูดกับเบลก่อนจะร้องโวยวายเพราะไม่เห็นถนอมในน้ำแล้ว แต่แล้วทุกคนก็โล่งอกเพราะถนอมแอบไปพักหายใจอยู่อีกฟากของเรือ

“พี่ก้อนจะไปไหนเหรอครับ” โอบอุ้มเห็นก้อนถือกระเป๋าสองสามใบเลยถามขึ้น

“ไม่ใช่ของพี่หรอก ของแม่พี่ แต่พี่รอแฟนอยู่ ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้” ก้อนถอนหายใจเพราะเลยเวลานัดมากแล้ว จะไม่รอก็กลัวคนที่เพิ่งจะจีบเขามาเป็นมาแฟนได้หมาดๆ จะงอนเอา

“เบลจะผ่านไปแถวบ้านพี่ก้อนพอดี ให้เบลเอาไปให้ก่อนไหมพี่ก้อน” เบลอาสาเพราะว่าจะไปที่หมู่บ้านชาวเลอยู่พอดี

“งั้นพี่ฝากกระเป๋าเสื้อผ้านี้ไปก่อนแล้วกัน แต่ไม่ต้องเอาไปที่บ้านหรอกนะ ไม่มีคนอยู่ เอาไปไว้ที่ร้านขนมของแม่พี่เลย เดี๋ยวพี่โทรบอกแม่เอง” ก้อนลังเลอยู่นานในที่สุดก็ตัดสินใจฝากกระเป๋าเสื้อผ้าไปก่อนเพราะคิดว่าไม่น่าเสียหายอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก้อนก็อ้างว่าไม่มีคนอยู่บ้านเพราะไม่อยากให้ใครเห็นคุณตะวัน ส่วนเงินก้อนไม่กล้าฝากเบลไปเพราะกลัวอีกฝ่ายจะสงสัยว่าก้อนเอาเงินจำนวนมากมาจากไหน

“ได้พี่ เบลจะได้ไปอุดหนุนขนมของแม่พี่ด้วย คุณป้าทำขนมอร่อย”

“หนูอยาดกินคาหนม” หนูด้วงเงยหน้าไปอ้อนโอบอุ้ม

“ไปเที่ยวหมู่บ้านชาวเลกับพี่ไหม” เบลชวน

“หนูไปได้มั้ย”

“ป๊าไม่ให้ไปไหนไกล เอาไว้ให้ป๊าพาไปดีกว่าครับ ขอบคุณพี่เบลครับที่ชวน” โอบอุ้มปฏิเสธ

“อดอีดแย้ว” หนูด้วงห่อไหล่ทำหน้าเศร้า

“น่ารักจริงเลย” เบลเห็นท่าทางของหนูด้วงก็อดหัวเราะไม่ได้

“พี่พาไปขี่ม้าดีกว่า” โอบอุ้มพยายามหาเรื่องสนุกมาทำให้หนูด้วงหายเศร้า

“หนูชอบขี่ม้า” หนูด้วงทำตาโตทันทีที่ได้ยิน

“ผมไปก่อนนะครับ สวัสดีครับพี่เบลพี่ก้อน” โอบอุ้มยกมือไหว้ทั้งสองคน หนูด้วงเห็นก็ทำตาม

“ขอบใจนะเบล” เมื่อโอบอุ้มกับหนูด้วงไปแล้วก้อนก็หันมาขอบใจเบล จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป

โอบอุ้มพาหนูด้วงมานั่งเล่นที่ริมทะเลพร้อมกับเอาก้านมะพร้าวมาทำเป็นม้าให้หนูด้วงขี่เล่น โอบอุ้มเห็นมาจากอินเตอร์เน็ตว่ามันใช้ก้านกล้วยทำ แต่ตอนนี้หาได้แต่ก้านมะพร้าวจึงทำให้หนูด้วงเล่นชั่วคราวไปก่อน

“มันไม่ใช่ม้า” หนูด้วงมองก้านมะพร้าวในมือโอบอุ้มแล้วทำหน้ายู่

“ทำยังไงดี” โอบอุ้มเกาหัวเพราะมีปัญญาทำได้แค่นี้ ถึงจะเป็นเด็กเรียนดีแต่ไม่ค่อยมีฝีมือทางศิลปะสักเท่าไหร่

“ปี้โอดอุ้นดู มาดูมาดู ม้ามาแย้ว” หนูด้วงชี้ไปที่ม้าตัวเป็นๆ ไม่ใช่ม้าหน้าตาประหลาดแบบของโอบอุ้ม

“ม้าจริงด้วย” โอบอุ้มมองตามหนูด้วงไปก็เห็นม้าอยู่ไกลลิบๆ สองตัว ซึ่งมีคนขี่มันมาด้วย

เมื่อม้าวิ่งเหยาะๆ เข้ามาใกล้ หนูด้วงก็ทำตาลุกวาวก่อนจะกระโดดดีใจเพราะคนที่ขี่ม้ามาคือยุงพะยากับอาน้อนนั่นเอง เจ้าตัวเล็กดีใจจนระงับไม่อยู่ ฉีกยิ้มกว้างจนตาแทบปิด

พญาให้โอบอุ้มช่วยอุ้มหนูด้วงขึ้นมาก่อนจะช้อนตัวหนูด้วงให้มานั่งอยู่ด้านหน้าตน เจ้าตัวเล็กอมยิ้มจนแก้มตุ่ยเมื่อได้มานั่งบนหลังม้าแล้ว ส่วนเทียมฟ้าก็เรียกให้โอบอุ้มมานั่งซ้อนที่ด้านหลังของตัวเอง

เมื่อครู่พญาเกือบจะได้กินเจ้ากระต่ายอยู่แล้วเชียวแต่ก้านโทรมาบอกว่าม้าที่พญาสั่งซื้อเอาไว้ตอนนี้มาส่งอยู่ที่ท่าเรือเรียบร้อยแล้ว ก้านถามพญาว่าจะให้ก้านไปรับหรือพญาจะไปเอง พญาเลยต้องอดใจปล่อยเหยื่ออันโอชะไปแล้วตัดสินใจพาเทียมฟ้าไปรับม้าด้วยตัวเองเพราะอยากให้หนูด้วงดีใจตอนที่ได้เห็น ซึ่งก็เป็นไปตามคาด หนูด้วงยิ้มจนแก้มแทบปริและดูมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ พญาอยากฝึกให้หนูด้วงทำเป็นทุกอย่างไม่ว่าจะว่ายน้ำ ขี่ม้า ขับรถ ยิงปืน มวยไทย กับอีกร้อยแปดพันเก้ากิจกรรมที่ลิสท์เอาไว้ อีกหน่อยหนูด้วงจะต้องเป็นนายหัวน้อยแห่งอาณาจักรภูมิเทพ การเรียนรู้ทุกอย่างเอาไว้เป็นเรื่องที่ควรทำ

“น้องม้ายังไม่มีชื่อเลย” เทียมฟ้าขี่ม้ามาเคียงคู่กับม้าของพญาแล้วแกล้งพูดขึ้นลอยๆ ให้หนูด้วงได้ยิน

“หนูตั้นชื่อให้น้อนม้าได้มั้ย”

“ได้สิครับ ให้หนูด้วงตั้งตัวหนึ่ง ให้พี่อุ้มตั้งตัวหนึ่ง ดีไหม” พญาบอกหลานรักอย่างเอาใจ

“ก้อได้ก้อได้”

“งั้นหนูด้วงให้ชื่ออะไรดี” เทียมฟ้าถามเจ้าตัวเล็ก

“ม้าปี้โอดอุ้นชื่ออะได” หนูด้วงยังคิดไม่ออกเลยหันไปถามโอบอุ้ม

“พี่ให้ชื่อ..เจ้าโอบรักก็แล้วกัน” โอบอุ้มอยากตั้งชื่อให้คล้ายตัวเอง เวลากลับไปเรียนต่อแล้วหนูด้วงจะได้คิดถึงตนเมื่อเห็นเจ้าโอบรัก

“น้อนโอดยัก หนูยักน้อนโอดยัก” หนูด้วงยิ้มให้ม้าสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่เดินขนาบม้าของตัวเองอยู่

“แล้วของหนูด้วงล่ะชื่ออะไรดี” เทียมฟ้าถามหนูด้วงอีกครั้ง

“ชื่อ...ชื่อ....ชื่อน้อน...น้อนสาหย่าย” หนูด้วงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อนึกชื่อม้าออก ตัวมันดำเหมือนสาหร่ายในตู้ปลา

“สาหร่ายเหรอ” เทียมฟ้ากับโอบอุ้มต่างก็ยิ้มแห้งๆ ให้กับเจ้าม้าตัวดำเขื่องที่เพิ่งได้ชื่อมาแบบสดๆ ร้อนๆ

“เออเว้ย ทีปลาให้ชื่อฮี้ก็อบๆ แต่ม้าชื่อสาหร่าย ต่อไปซื้อนกมาให้เลี้ยงคงได้ชื่อว่าไส้เดือน” พญาหัวเราะชอบใจกับสกิลการตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงของหลานรัก

เทียมฟ้ากับโอบอุ้มต่างก็ขำตามพญาไปด้วย แต่ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงของหนูด้วงจะชื่อประหลาดแค่ไหนก็ตาม ถ้ามันทำให้เจ้าตัวน้อยยิ้มได้มันก็คือความสุขของทุกคน เพราะฉะนั้นต่อให้มีนกชื่อไส้เดือนทุกคนก็พร้อมจะมีไส้เดือนบินได้ตามที่หนูด้วงต้องการ

โปรดติดตามตอนต่อไป

เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้วนะคะ ทีแรกตั้งใจจะแต่งแค่ 10 ตอนเอง ทำไปทำมาก็เอาพี่ก้าน เอาพี่โอบอุ้มมาเติมอรรถรสจนเกินที่ตั้งใจเอาไว้ ขอบคุณที่หลายๆ คนหันมารักยุงพะยาของหนูด้วง แต่จะให้ดียุงพะยาบอกว่าลืมๆ เรื่องพี่ยุงพะยาเป็นลมเพราะน้องด้าวไปได้จะดีมากค่ะ ฮ่าๆ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ รักๆๆๆ



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เบลจะไปเจอตวงไหมนี่ กลัวดราม่ามากค่ะ
หนูด้วงน่ายักขึ้นทุดๆตอนเยย :mew1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

กำลังสงสัย "เบล" ว่ามาดีหรือร้าย

แอบสงสัยว่านางคือตัวละครปริศนาที่ทำให้นู๋ด้วงตกน้ำและอื่น ๆ ไม่ใช่ "โจ้" หรอก

เอ..หรือเราจะคิดมากไป

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารักที่สุดเลยเราชอบเรื่องราวแบบนี้จังความรักที่ให้โอกาสคนอื่นเสมอเชื่อว่าทุกคนเป็นคนดีขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ยินดีกับพี่ก้าน คุณตวงด้วยน้า

แต่ยอมใจในสกิลการตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงของหนูด้วงนี่แหละ จะให้ปลาชื่อ ฮี่ก็อบๆ จริงหรอลูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
หนูด้วงน่ารักก ไม่อยากให้โอบไปเรียนไกลเลย

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ขำหนูด้วงทุกตอนเลย

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
เหมือนจะได้กลิ่นแหม่ง ๆ จาก "เบล"
คนเลวมักแสร้งว่าดีต่อหน้าคนอื่น

หนูด้วงกับพี่โอบระวังนะ ... อย่าหลงกลคนเลวนะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
อ่านตอนนี้ครอบครัวอบอุ่นมากเลย  แต่สงสารโอบอุ้มนะ เพิ่งจะมีครอบครัวอบอุ่นก็ต้องกลับไปเรียนแล้ว

แล้วไหนจะความเจียมตัวเจียมใจกับหนูด้วงอีก

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
เอ็นดูหนูด้วงอย่างแรงงง .. อยากฟัดให้แก้มเบี้ยวเลย  :m3: :m3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ระแวงเบลแล้วนะเนี่ย

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ก็เห็นว่าหัดกันมานานควรพูดชัดได้แล้วมั้งหนูด้วงน่ะ หรือมีปัญหาพัฒนาการ? เอ้า แต่เห็นว่าเป็นเด็กฉลาด ก็ไม่น่าใช่ จะเข้าโรงเรียนอยู่แล้วนิ เอ๊ะ อ่านพลาดตรงไหน

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ได้กลิ่มความดราม่าลอยมาไกลๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดูท่าเบลน่าจะมีประเด็นแน่ๆ

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ดีใจกับก้านและตวงด้วยที่ได้พบคนที่ใช่   

ยิ้มไปกับความน่ารักและการตั้งชื่อแปลกแหวกแนวของหนูด้วง

เริ่มจะมีกลิ่นดราม่าโชยมาแล้ว ไม่รู้ว่าระหว่างเบล กับโจ้ ใครจะร้ายกว่ากัน

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
หนูด้วงน่ารักฝุดๆ

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ดีที่สุด ความรักความเข้าใจสร้างรอยยิ้ม และความสุข หนูด้วงน่ารัก ทำให้เรื่องนี้มีแต่ความสุข ความสุขของเด็กน้อย คือนความสุขของเราด้บย

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
เชื่อว่ามาม่าแค่ไหนยุงพะยาเอาอยู่  :L2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
หนูด้วงน่ารัก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
สนุกมากคัฟอ่านแล้วมีความสุข ขอบคุณและจะติดตามเสมอคัฟ สู้ๆ o13

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
เราจะได้อ่านตอนหนูด้วงโตไหมน้า :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด