Bad Guy m y B o s s ✦ เจ้านาย ร้ายรัก ✦ CH27 [16|01|62] P13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Bad Guy m y B o s s ✦ เจ้านาย ร้ายรัก ✦ CH27 [16|01|62] P13  (อ่าน 75300 ครั้ง)

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ฮอลล หวานกันให้ตายไปข้างเลย

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
 :-[ตายๆ มาแบบนี้ตายเลยเรา

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เข้ามาจิ้มไว้ก่อนค่ะ  :z13:  :mew1:

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pighaun: :jul1: :pighaun: ราตรีนี้อีกยาวนาน  :hao6: :jul1:  :hao6: เลือดท่วมแน่ ๆ  :pighaun: :jul1: :pighaun:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 :jul1: ขอเลือดด่วน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เพราะเมาจริงเหรอ?

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
แซ่บมากพริก 10 เม็ด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ m_ilk_y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :o8:
โอ๊ยย อ่าน 18 ตอนรวด ไม่ไหวแล้ววว
นุ้งปัถย์ทำไมร้อนแรงหลบในแบบนี้ค่ะลูกกกกกก
เอรีสก็อะไรเนี่ย จะหื่นใส่น้องไปถึงไหนนน
อยากให้เข้าใจกันเร็วๆ

อ่านๆแล้วปมเรื่องงาน ความรักเยอะแยะไปหมด
มีให้ตามต่อเรื่อยๆใช่มั้ยคะ รอตอนหน้าอยู่ค่ะ ขอบคุณมาก

ปล.เหมือนเจอคำผิดหลายๆทีนะคะ ^^

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Chapter 19

{ปัถย์}

สมองและความรู้สึกของผมพร่าเลือน จากจุดสุดยอดรุนแรงที่เพิ่งพ้นผ่านไป หัวใจของผมเต้นเร็ว ร่างกายกลับอ่อนเปลี้ยไร้แรงขยับเขยื่อน

เมื่อหลุบมตาลง ผมก็ได้เห็นแววอิ่มเอมจากเอรีสที่ส่งมาพร้อมกับรอยยิ้ม

ฝ่ามือของเอรีสยังยึดอยู่ที่สะโพก ลูบไล้ปลอบประโลมเบาๆ เมื่อเวลาผ่านไป ลมหายใจผมเริ่มเป็นปกติขึ้น สัมผัสที่เคยอ้อยอิ่งเชื่องช้าเริ่มลงน้ำหนักกว่าเก่า ภายหลังการปลดปล่อยหลุดโลกถูกแทนที่ด้วยการะกระตุ้นระรอกที่สอง ซึ่งตัวผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอะไรได้

ทุกการแตะต้อง และการขยับปลายนิ้ว เอรีสทำราวกับว่าศึกษาและฝึกหัดมาเป็นอย่างดี ชัดเสียยิ่งกว่าชัดว่าเอรีสคือเจ้าพ่อแห่งวงการเซ็กส์ตัวจริง ผมนึกเล่นๆ จะจะหัวเราะก็ทำไม่ได้ในเมื่อคนที่ถูกเล่นงานอยู่คือผมเอง...

“นี่ละ ความเลอะเทอะในแบบที่ฉันชอบ” เอรีสตบสะโพกผมเบาๆ และหันไปสนใจกับซองสีเงินเล็กๆ อีกอันที่ถูกทิ้งไว้บนเตียงเมื่อหลายนาทีก่อน “แบบนี้ดีกว่าเยอะ”

ผมมองลอนหน้าท้องและส่วนที่ต่ำลงไปกว่านั้น

ความวูบวาบกำลังผลักผมให้ตกขอบ สิ่งที่เรากำลังทำคือหุบเหวทางอารมณ์อีกแห่งหนึ่ง เมื่อเรากระโดดลงไปความรู้สึกตื่นเต้นสุดบรรยาย ความหวาดกลัวที่ถาโถมมาพร้อมกับความหฤหรรรษ์จะทำให้เราทั้งคู่ต่างเรียกร้องหาหุบเหวถัดไป

หุบเหวที่ลึกกว่า...

อันตรายกว่า...

และเติมเต็มความกระหายได้มากกว่า

“เอรีสครับ...”

เสียงของผมแหบแห้ง ไม่ได้คิดจะค้านหรือเล่นตัวอะไร

ก็แค่... อยากพักหายใจสักนาทีสองนาที ก่อนจะต้องขึ้นเครื่องเล่นสุดท้าทายและอันตรายต่อลมหายใจอีกครั้ง

ผมเริ่มกลับมาหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นเอรีสจัดการให้ยางใสครอบลงบนแก่นกายช้าๆ จนสุดความยาว

วิธีการที่เขาสวมลงไปช่างให้ความรู้สึกเหมือนกับลังถูกยั่วและกระตุ้นอารมณื

เจ้าตัวจ้องตาผม ท้าทายกึ่งสาธิตให้ดูว่าเขากำลังลงมือทำอะไรอยู่ ถ้ามองไม่ผิดรอยยิ้มตรงมุมปากกำลังบอกว่าเขาจะใส่มันแบบเร็วก็ได้ แต่เขาจงใจทำให้ดูเหมือนสโลว์โมชั่น เพื่อให้ผมละเลียดวิธีการที่เขาปฏิบัติกับตัวเอง

ในแต่ละนิ้วที่แผ่นยางใสเลื่อนผ่านช่างให้ความรู้สึกทรมานและคาดหวัง ยิ่งตอนที่เอรีสเลียริมฝีปากผมรู้ได้ในทันทีว่าเขากำลังเอาคืน...

ผมกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอกับภาพชวนสยิวนั้น

“อย่างใช้สายตาแบบนั้นมองฉัน” เอรีสขยับหน้าขาเข้ามาใกล้อีกนิด และบอกเสียงพร่า

“ครับ?”

“สายตาแบบนั้นทำให้ฉันอยากกระโจนใส่นาย ทั้งที่ใจฉันอยากทำทุกอย่างแบบช้าๆ รู้ไหมว่ามันยาก”

เอวผมถูกยกขึ้นอีกนิด และเอรีสจงใจรั้งสะโพกผมให้สัมผัสเบาๆ กับแก่นกายที่กำลังกร้าวร้าว ประหนึ่งอาชานัยที่พร้อมจะพาแม่ทัพบุตะลุยไปข้างหน้าเพื่อเผด็จศึกให้ราบคาบ

เขาก้มลงขบเม้มลำคอผมหลายที ซึ่งจากการลงน้ำหนักผมเดาได้เลยว่าเอรีสคงจงใจทิ้งรอยไว้ จงใจตีตราประกาศความเป็นเจ้าของในร่างกายและจิตวิญญาญของผม

“คุณเองก็เลิกใช้สายตาแบบนั้นมองผมด้วยสิครับ จะได้ยุติธรรม”

ผมหมายถึงสายตาหื่นๆ นั่นล่ะ

“ก็นายมันน่ามอง”

“งั้นคุณก็ไม่ควรห้ามเรื่องที่ผมมองคุณ”

เขายังใช้สายตาหื่นใส่ผมได้ ถ้าวันนี้ความเมาจะทำให้ผมมองเขาแบบหื่นๆ บ้างก็ไม่น่าจะเสียหายนี่จริงไหม

“ก็ได้...”

ปากเขาพูด และร่างกายของเขาก็ทำ

เอรีสกดสะโพกผมให้แนบชิดกับตัวตนที่ทั้งแข็งและร้อน จงใจจรดตัวเองกับช่องทางที่เขาเคยตระเตรียมไว้ เกร็งข้อมือดึงสะโพกผมให้เข้าหาแต่สะโพกสอบกับกับกล้ามหน้าท้องแน่นเปรี๊ยะ ที่ทำแค่เพียงตั้งรับรอท่า

“แต่นายต้องรับผลที่จะตามมา... เพราะมันอาจจะโหดไปสักหน่อยกับมือใหม่ แล้วมันอาจจะ...ทำให้นายต้องร้องขอความปราณีครั้งแล้วครั้งเล่า”

ผมคิดว่าเขาคงแกล้งขู่ เพราะน้ำเสียงนุ่มๆ กับดวงตาอารมณ์ดีทำให้ผมไม่นึกกังวล แต่ถึงเอรีสจะทำตัวดุดันมูมมาม ผมก็คิดว่าคงรับได้ เพราะอะไรที่เกี่ยวกับเอรีสผมรับได้เสมอ

“อะ...”

ผมเผลอคราง เมื่อส่วนแรกแทรกผ่านเข้ามา

ความแข็งและร้อนยืดขยายช่องทางให้ต้อนรับเขาอย่างไม่อาจบิดพลิ้ว

เอวและหน้าขาของเอรีสเริ่มขยับในจังหวะสั้นๆ แต่หนักแน่น

การรุกคืบที่แสนจะเนิบช้าคือความทรามาที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง ซึ่งแค่ชั่วอึดใจเดียว ผมก็รู้เลยความที่สุดของความทรมานคือสิ่งที่เขาจงใจทำให้ผมสำนึก

ผมกัดปาก กลั้นเสียงร้องของตัวเองไว้ ทุกการขยับผมรู้สึกได้ถึงตัวตนเอรีสที่เติมเต็มความโหยหาสุดหัวใจของผม

ผมเข้าข้างตัวเองว่ามันไม่ใช่แค่เซ็กส์

ภาวนาให้สิ่งที่เอรีสคิดไม่ต่างไปจากฟากของผม

“ว่าแล้ว... อ่า ว่ามันต้องดี” เอรีสหอบน้อยๆ ขณะกัดฟันพูด “ลืมตาสิคนเก่ง มองฉัน”

เขาแตะแก้มผม บังคับกึ่งก้อนวอนจนผมขัดไม่ได้

ยิ่งมองตาสีสนิมทุกอย่างในสมองของผมก็ยิ่งตีรวน หัวใจบังเกิดความสั่นไหว... ความอ่อนโยนที่เขาส่งผ่านมาช่างชัดเจน เป็นเวลาของความซื่อสัตย์ในความรู้สึกของเราทั้งคู่

ผมต้องการเขา...

เขาต้องการผม...

แค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว

จะไม่ขอคิดเรื่องอื่น จะไม่เอาอดีตมาขัดขวางการเริ่มต้นของเรา จะลองเสี่ยงที่จะข้ามผ่านคำว่าเหมาะควร และความรู้สึกกลัวออกไปก่อน

“ปัถย์ ตา...” เขาเรียกอีกครั้ง เมื่อผมเริ่มใจลอยและทำท่าจะหลับตาอีกรอบ

ผมปรือตาเหมือนคนเมามาย รสรักที่เอรีสเทียวมอบให้ทำให้ทำให้ผมล่องลอยไปจากความเป็นจริง

“อึก...”

“แบบนี้ ได้ไหม นายรู้สึกดีเหมือนฉันใช่ไหม” เอรีสกระซิบแผ่วๆ ข้างขมับ คลอเคลียริมฝีปากและปลายลิ้น เมื่อบดเบียดตัวตนไปจนสุด ตามมาด้วยการดึงเอวออกช่วงสั้นๆ และดันกลับเข้ามาใหม่ ความแกร่งร้อนของเขาเรียกร้องและปรนเปรอในความหมายเดียวกัน

“...”

“บอกหน่อยว่านายโอเคกับมัน...”

เอรีสบดเอว และเกร็งข้อมือดึงผมเข้าหาในจังหวะเดียวกับที่พูด เมื่อผมเอาแต่กัดปากตัวเองเพื่อห้ามเสียงและอารมณ์ไว้

เขาเกลี่ยลูกผมที่กระเซอะกระเซิงให้เข้ารูปเข้ารอย ก่อนแนบหน้าผากเราเข้าหากัน เรียวลิ้นบรรจงลากผ่านริมฝีปากล่าง

“อ่า... ครับ ผมโอเค” ผมขานรับเสียงเบาจนเกือบไม่ได้ยิน

“ฉันไม่ได้รุนแรงกับนายใช่ไหม...” ผมผวาเฮือกเมื่อเอรีสผละออกจนเกือบสุด ก่อนจะดันกายช้าๆ เข้ามาอย่างน่าขัดใจ

“ไม่ครับ”

ทุกท่วงทำนองจะสลักลึกในใจผม ต่อให้อีกนานแสนนานผมก็ยังคงจดจำว่าเอรีสนั้นอ่อนโยนกับผมมากแค่ไหน

“ที่จริงแล้ว...” ผมคว้าคอเอรีสไว้แล้วกระซิบ “คุณไม่ต้องอ่อนโยนกับผมก็ได้”

เอรีสลูบแก้มและเสยผมให้

“ต้องสิ ฉันไม่ได้มาอยู่ตรงนี้เพื่อกอบโกย แต่ฉันต้องการให้เราเติมเต็มซึ่งกันและกัน คิดเสมอว่าอยากให้นายรักการเมคเลิฟของเรา อยากให้นายขาดมันไม่ได้ ฉันต้องการให้นายรู้สึกดี...จนต้องร้องขอให้ฉันทำมันซ้ำๆ”

เมคเลิฟ?

ของเรา?

ผมไม่คิดว่าเอรีสจะใช้คำนี้

หัวใจของผมพองโต ฟูฟ่องเหมือนฟองนมปั่นที่ราดอยู่บนแก้ลาเต้ร้อน บางทีคำหวานๆ ก็เหมือนกับน้ำที่ราดรดบนหัวใจเหี่ยวแห้งให้มีชีวิตชีวาขึ้น

“แค่นี้ผมก็ไปไม่เป็นแล้วครับ” ผมพึมพำแบบที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“จริงหรือ” เอรีสเลิกคิ้ว และล้อเลียนผมด้วยการหมุนเอวช้าๆ เป็นวงกลม จงใจกอบเอวผมไว้กับที่เพื่อให้เราสัมผัสกันได้แนบชิดขึ้น

“อ่า จะ...จริงครับ” ผมกลั้นลมหายใจ สุดจะทานทนเมื่อความแกร่งแตะโดนจุดอ่อนไหวจากด้านใน แต่เพียงไม่กี่วินาทีเอรีสก็ผละออก ทิ้งความต้องการครึ่งๆ กลางๆ ไว้ให้อึดอัดขัดใจ

แต่ดูจากสถานะการณ์แล้ว คนที่ทนทุกข์ทรมานคงไม่ใช่เพียงแค่ผม

“ยากชะมัด!” คงหมายถึงบังคับให้ตัวเองทำแบบทะนุถนอมเกินเหตุนั่นล่ะ “ปัถย์ครับ...”

เอวสอบก็ร่ายมนต์คลังไม่หยุดหย่อน ปากก็งึมงำและสบถหนึ่งคำเปล่งคำหวานหนึ่งคำสลับสับสนกันไปหมด

ผมเริ่มลอยคว้างบนอากาศ อึดอัดเรียกร้องหาการปลดปล่อยในครั้งที่สอง แต่มันคงไกลเกินเอื้อมถ้าเอรีสยังใช้ความเร็วแบบเต่าคลาน

“เร็วกว่านี้ครับ ได้โปรดเร็วกว่านี้”

เมื่อหมดคำร้องขอ เอรีสก็พร้อมที่จะสนองตามที่ผมเสนอ

โดยการที่เอวสอบโจนจ้วงใส่ผมอย่างหิวกระหาย

ในแต่ละจังหวะของการควบขับทั้งหนักแน่นและดุดัน ไม่มีการหยอกล้อ ไม่ใช่อารมณ์ที่จะเล่นบทคู่รักผู้อ่อนโยนอีกต่อไป ทุกการเคลื่อนไหวมีเพียงความเร่าร้อน ตักตวงให้กับห้วงอารมณ์โหยกระหาย

ผมครางแบบไร้เสียงยามเอวสอบบดอัดสะโพกในจุดที่ทำให้ผมสะท้าน ฝ่ามือผมเลื่อนลงมาที่แก่นกายตัวเอง อย่างน้อยก็ต้องการปลดปล่อยตัวเองให้หลุดพ้นจากความทรมานนี้

แต่เอรีสดูจะไวกว่า เจ้าตัวคว้าตัวตนของผมไว้ และกอบกุมความร้อนผ่าวไว้ในมือ เขารูดเค้นเป็นจังหวะไม่เร็วไม่ช้า ทั้งห้าที่คอยกำหนดจังหวะจะโคนร้อนแรง ทุกจังหวะที่เอรีสรูดมือมันกลับสอดประสานกับตำแหน่งที่เชื่อมต่อของเราได้ไม่มีติดขัด

ความอดทนเฮือกสุดท้ายของผมสิ้นสุดลง หยาดอารมณ์ของผมทะลักทะลายออกมาในที่สุด เอรีสบรรจงลดความเร็วลงจนเหลือเพียงความเนิบช้า เขาคงรู้ว่าเวลาแบบนี้ควรผ่อนทุกอย่างให้ช้า ให้เวลาผมได้อิ่มเอมกับการปลดปล่อยที่เพิ่งมาถึง

เอรีสกระชับสะโพกผมแน่นขึ้น หมุนร่างผมให้เปลี่ยนเป็นคุกเข่ากับเตียง และรั้งสะโพกผมให้ลอยสูงขึ้น ในตำแหน่งนี้เอื้อให้ทุกการโจนจ้วงทำได้ง่ายและลึก เมื่อเอรีสเจอท่วงท่าที่พอใจก็บรรจงสานต่อในสิ่งที่ตัวเองทำค้างไว้

ไม่มีความปราณี

มีเพียงความปรารถนาที่สุดจะทานไหว

เอรีสแสดงให้ผมรู้แล้วว่าในด้านที่โอนโยนเอรีสนั้นทำได้รด แต่ในความเร่าร้อนและดุดันเอรีสนั้นทำได้ดีกว่า

...

เราทั้งคู่ต่างเหนื่อยหอบ แทบหมดเรี่ยวแรงและทิ้งกายลงกับเตียง โดยมีร่างกำยำของอีกคนซวนซบใบหน้ากับแผ่นหลังไม่ห่างไปไหน

ฝ่ามือหนาลูบหน้าท้องและกอดผมไว้ในอ้อมอก ปากครางไม่รู้คำอยู่ข้างกกหูผมเองที่เหนื่อยและหมดแรงทำได้เพียงปล่อยให้เขาจัดแจงท่าทางอย่างที่เขาพอใจ

“คนเก่งของผม...”

เสียงนั้นแหบโหยแต่น่าฟัง

“ปัถย์ครับ...” เขาเรียกอย่างออดอ้อน และแตะริมฝีปากกับแก้มที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของผม

พอผมหันไปริมฝีปากได้รูปก็ฉกวูบลงมา ผมโอนอ่อนผ่อนตามแต่โดยดี เราจูบกันดูดดื่มแม้จะผ่านช่วงไคลแมกซ์มาหลายนาที แต่ความซาบซ่านก็ยังวนเวียนอยู่ที่ช่องท้อง

“ไปเถอะ อาบน้ำกัน”







ผมมองร่างเปล่าเปลือยของเอรีสที่เดินผ่านหน้าไปเพื่อหยิบน้ำในตู้เย็นมาดื่ม ท่วงท่ายามเอรีสเปิดขวดน้ำแล้วยกขึ้นกระดกมันเหมือนภาพในโฆษณามากกว่าคนจริงๆ ก็เขาหล่อแล้วก็มีกล้ามเนื้อที่สวยมาก

เอาตรงๆ ผมนึกชื่นชมเรือนร่างของเขานะ หุ่นเขาเหมือนนายแบบบนรันเวย์ เพรียวแต่มีกล้ามเนื้อที่ดูแล้วน่าอิจฉา ผมเองก็ออกกำลังกายนะ แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีกล้ามเนื้ออย่างเขาบ้างเลย

เมื่ออารมณ์วูววาบหมดไป ความอยากรู้อยากเห็นของผมก็เริ่มทำงาน

สีหน้าบูดบึ้งของเอรีสยังติดตาผมอยู่

และสีหน้าของเฟยหลง ลอจ์ดก็ติดตาผมเช่นกัน

“อยากรู้อะไรก็ถามมา”

เอรีสคงสังเกตเห็นว่าผมเอาแต่จ้องเขามาสักพัก เขาเดินมาหาและส่งขวดน้ำอีกขวดที่ยังไม่ได้ดื่มมาให้

“หลายเรื่อง ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเริ่มเรื่องไหนก่อน”

ผมถามแบบอมยิ้ม ซึ่งเอรีสก็อมยิ้มเช่นกัน

ร่างสูงทรุดตัวลงข้างๆ ใช้มือตัวเองปัดปอยผมที่ปรกหน้าผมออก

“งั้นก็เรื่องที่อยากรู้ที่สุดก็ได้”

“คุณจะยอมเล่าให้ผมฟัง?”

“แน่นอน”

“ทุกเรื่องหรือครับ”

“ใช่ครับ...” เอรีสขยับมานอนตัก แล้วหลับตาลงสองสามวินาที แล้วพูดต่อ “ทุกอย่างที่ปัถย์อยากรู้ ทุกเรื่องที่ปัถย์ถาม”

ผมถอนใจแล้วตัดสินใจถามแบบตรงประเด็น

“เฟยหลง เขาเป็นใครครับ”

“เคยเป็นเพื่อน แต่ทุกอย่างมันก็แย่ลงเพราะเรื่องบางอย่าง” เอรีสพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ แต่สีหน้าของเขามีร่องรอยของบางอย่างที่ผมเองก็ไม่เข้าใจ มันคล้าย กับความเศร้า และความโกรธ

“...ตอนฉันเรียนไฮสคูลเราเป็นเพื่อนสนิทกัน... มีฉันลอจ์ดแล้วก็รัน เราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน วันหนึ่งฉันก็รู้ตัวว่ามีความชอบในตัวรันมากกว่าเพื่อนธรรมดา แรกๆ มันคือความสับสน”

รัน... เวลาที่เอรีสเอ่ยชื่อนี้ฟังแล้วดูพิเศษจนผมหงุดหงิดใจ แต่ผมก็ตัดสินใจสลัดความหึงหวงและทำใจเย็นฟังเอรีสเล่าต่อ

“ฉันกับรันต่างก็เป็นผู้ชาย ดังนั้นเรื่องต่างๆ มันเลยไม่ง่าย เราก็เดินหน้าความสัมพันธ์กันแบบลับๆ เพราะเราต่างก็ไม่แน่ใจในสิ่งที่เราเป็น แล้ววันหนึ่งฉันก็ได้รู้ว่ารันไม่ได้มีแค่ฉัน...” เอรีสพูดเนิบๆ แต่เสียงของเขาดูเจ็บปวด ซึ่งผมเองก็พลอบเจ็บปวด

“ลอด์จเองก็หวั่นไหวกับรัน แต่ถ้าทั้งคู่บอกกับฉันตรงๆ ฉันก็จะถอยให้ แต่ไม่เลย สองคนนั้นปั่นหัวฉัน ถ้าหัวค่ำรันควงกับฉัน กลางคืนรันก็จะควงกับลอด์จ มันบ้ามากที่ฉันเป็นคนโง่อยู่ฝ่ายเดียว”

ผมพูดไม่ออก ผมไม่รู้ว่าเอรีสจะมีมุมของคนอกหักผ่านมาในชีวิตด้วย ก็ปกติแล้วเขาก็มักจะเป็นฝ่ายบอกเลิก หรือเป็นฝ่ายสลัดทิ้ง...

“ฉันเป็นไอ้โง่อยู่เกือบปี โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่ฉันรัก คนที่ขอร้องให้ฉันปิดเรื่องของเราไว้เป็นความลับ มันไม่ใช่เพราะว่าเขาอาย ไม่ใช่เพราะว่าเขาสับสน แต่มันเป็นเพราะว่าเขามีใครอีกคนไว้ทดสอบอัตตาของตัวเอง”

เอรีสยกมือปิดหน้า แต่ปากก็พูดต่อไป

“วันนึง ฉันกลับไปหาเขาที่อพาร์ทเม้นต์ ฉันก็ได้เห็นว่ามีหลายอย่างที่ฉันโง่จนไม่น่าให้อภัย รันไม่เคยรักฉัน เขาใช้ฉันเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายอย่างลอด์จ ฉันกลายเป็นมือที่สามของเรื่องนี้ ลอด์จไม่ได้แย่งรันไป ฉันนี่สิ! ฉันต่างหากที่เป็นชู้ของคนอื่น ทั้งหมดที่ผ่านมาเกือบปีมันก็แค่เกมที่รันเริ่มขึ้น แล้วลอด์จคือรางวัลอันทรงเกรียติ แล้วฉันก็เป็นแค่ม้าใช้ที่พาไปส่งยังปลายทาง”

“คุณยังรักเขาอยู่ไหมครับ” ผมฟังอย่างหดหู่ใจ

การที่ได้รู้ว่าเอรีสเคยรักใครบางคนทำให้ผมใจบางและรู้สึกเจ็บ

รัน คนนั้นเป็นคนแบบไหนกันหนอ...

เขาเป็นคนยังไง ทำไมเอรีสถึงได้รัก

จากท่าทางและสายตาเอรีสคงยังมีใครคนนั้นอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ถึงจะน้อยนิดแต่รันคนนั้นก็คือคนที่เอรีสไม่มีวันสลัดทิ้งได้

“ฉันเคยสับสนนะ ว่ายังรู้สึกแบบนั้นกับรันอยู่หรือเปล่า บางครั้งฉันก็นึกถึงหน้าเขา เสียงหัวเราะของเขา แล้วก็รอยยิ้มของเขา... แต่สุดท้ายถ้าฉันต้องกลับไปฉันก็คงอยู่ภายใต้ความหวาดระแวง”

“ไม่ใช่ทุกคนที่จะทรยศต่อความเชื่อใจของคุณ การที่ใครสักคนทำให้คุณผิดหวังมันไม่ได้แปลว่าคนทุกคนจะทำแบบนั้น ยังมีคนที่พร้อมจะรักคุณ เคียงข้างคุณ”

เอรีสลืมตาแล้วจ้องเป๋งมาที่ผม

“ฉันกำลังรอใครคนนั้นที่นายว่า บอกฉันหน่อยได้ไหม ว่าใครคนนั้นใช่คนที่ฉันคิดไหม ใครคนนั้นใช่คนที่อยู่ตรงหน้าฉันหรือเปล่า”

ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวังของเอรีสกำลังทำให้ผมใจอ่อนยวบ

ถ้าไม่ใช่ผมแล้วจะเป็นใคร?

เราต่างจ้องตากัน ถ่ายทอดความรู้สึกในส่วนลึกผ่านสายตาและการสัมผัสจากปลายนิ้ว เอรีสจับมือผมแล้วสอดประสานนิ้วมือทั้งห้ากระชับให้เราแนบแน่น รอยยิ้มที่แสนโหยหาของเขาทำให้ผมใจสั่น

เอรีสไม่ใช่คนน่าสงสาร โดนเนื้อแท้แล้วเอรีสคือหนึ่งในนักสู้ เขาไม่ยอมให้ตัวเองอ่อนแอแม้ว่าตัวเองจะเจ็บปางตายก็ตาม แต่วันนี้ในขณะที่เอรีสเล่า ดวงตาเขามีความอ้างว้างและเดียวดาย ความผิดหวังในรักแรกส่งผลระยะยาวต่อความรักครั้งต่อมา จนกลายเป็นว่าเอรีสไม่เคยคิดจะรัก

“ถ้าฉันจะมอบความไว้ใจให้ใครอีกสักครั้ง ใครคนนั้นจะดูแลความรักและความไว้ใจของฉันไหม”

ผมกะพริบตา และใช้มืออีกข้างลูบสันกรามสากเพราะหนวดที่กำลังเริ่มขึ้น

“ใครคนนั้นจะอยู่ข้างๆ ฉันไหม”

ผมจงใจก้มลงและแตะริมฝีปากบนโหนกแก้มเขาเบาๆ

วินาทีนั้นโลกทั้งโลกหยุดนิ่ง ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่รู้ว่าจะเอาคำพุดอะไรมาปลอบใจให้เอรีสคลายความทุกข์ สิ่งเดียวที่ผมอาจจะทำได้คือการที่ยืนอยู่เคียงข้างเขา... ของซับพอร์ตในทุก ความต้องการของเขา

ผมซบหน้าแนบชิดกับแก้มสากๆ และบรรจงจูบลงบนหางคิ้วเพื่อบอกด้วยภาษากายว่าผมยังอยู่ตรงนี้...

“ในโลกนี้ขอแค่คนเดียว ปัถย์... แค่คนเดียวก็พอ อย่าทิ้งฉันไปนะ”

พูดจบเอรีสก็รั้งต้นคอผมแล้วมอบจุมพิตอ่อนโยนมาให้ เหมือนกับว่าเขากำลังวิงวอนให้ผมตอบรับ...

ละผมก็ทำได้เพียงแค่โอบเขาไว้และสัญญาอยู่ในใจว่าจะไม่มีวันทรยศต่อผู้ชายคนนี้   







+++++

ปัถย์ก็ยังหลงเอรีสอยู่ดีนั่นล่ะ

แง๊งงง!

อ่านแล้วฟีดแบคหน่อยนะคะ...

ยังไงก็ขอขอบคุณทุกการติดตาม

ขอบคุณทุกกำลังใจและคอมเม้นท์ค่ะ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอยยยย รีบๆ เคลียร์กันให้ชัดเจนทุกเรื่องเลยเถอะนะ ทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :z2: :z2: ดีจัง

ออฟไลน์ SM_day

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
ทำไมเห็นแก่ตัวล่ะ ทั้งๆที่ยังฝั่งใจกับอดีตขนาดนี้ก็ยังขอให้ปัตยอยู่เคียงข้างเนอะ ไปจ่ะปัตย รักสไตลปัตย์ๆต่อไป

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไหน ๆ ก็คยกันแล้ว ก็คุยกันให้หมดทุกเรื่องเลยแล้วกัน  :katai3:

ออฟไลน์ m_ilk_y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ๊ยยย เลือดกำเดาจิหมดตัวแล้ว
ร้อนแรงทั้งนุ้งปัถย์และบอสเลย
แต่ถ้าจะให้ดี เปิดอกคุยทุกประเด็นนะนุ้งปัถย์
คุณบอสเค้าอุตส่าห์ยอมให้หึงให้หวงได้แล้ววว อร๊ายย :o8:

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อุปสรรคเยอะแต่ก็ผ่านมาได้บ้างแล้ว ไหนๆก็เคลียกันแล้วปัตก็กลับไปช่วยเอรีสเถอะนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปูมหลังที่น่าสงสาร

ออฟไลน์ กฟหวดสาหฟยดนำาด

  • เลือดสีม่วงมันข้น
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สนุกมากเลยค่ะ ชอบปัตย์มากชอบๆๆ และแพ้ความพูดตรงอย่างขี้อ้อนของเอรีสมาก

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


โอ้ยยย.  ต้องบอกก่อนว่า อ่านตอนนี้แล้วเลือดทะลัก. 

บท nc ที่ค่อยๆดำเนินเรื่อง เต็มไปด้วยความทะนุถนอมและเสน่หา

ขอเช็ดเลือดแป๊ปปปปป

 :jul1:  :jul1:  :jul1:   :jul1:   :jul1:  :jul1:   :oo1:


ปมในอดีตของเอรีส  ปัตถ์ก้อรู้ละ

พระเอกอย่างเอรีสก้อมีบทเป็นมือที่สามเหมือนกัน

แต่เชื่อว่า หนทางรักของทั้งคู่ยังต้องฝ่าด่านอรหันต์ จากทั้งมิตรและศัตรูอีกหลายด่านทีเดียว


 :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:













ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ rodoubles

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หลงรักคนเอาแต่ใจแต่ยอมทำทุกอย่างเพื่อปัตย์แบบเอรีสมากเลยค่ะ
จริงๆ ชอบตอนเอรีสเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสซึ่มนะคะ แต่ชอบตอนที่น็อตหลุดแล้วแอบทะเล้นกับปัตย์เหมือนกัน
ชอบความที่แค่การกระทำของเค้าก็ทำให้เรารู้แล้วว่าใครพิเศษ

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Chapter 20





กระทั่งล่วงเข้าสู่รุ่งอรุณของวันใหม่ เรือนร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองคนยังคงเกยกอดกันอย่างแนบชิด มีเสียงจูบเบาๆ สลับกับเสียงสนทนาที่ทั้งคู่พลัดกันถามและตอบ

“กลับกรุงเทพวันไหนครับ” ปัถย์ร้องถามทั้งที่ตัวเองกำลังตาเริ่มปรือเต็มที

“วันนี้”เอรีสจุมพิตเบาๆ ที่ต้นคอก่อนปัดปลายจมูกโด่งให้ต่ำลงมาจนถึงลาดไหล่

“เก็บของหรือยังครับ” ปัถย์ถามทั้งที่ตัวเองกำลังหลับแหล่ไม่หลับแหล่ ผิดกับอีกคนที่ดูยังมีพลังงานอย่างล้น แม้มีเรื่องให้ต้องเสียเหงื่อเสียแรงงานไปหลายต่อหลายครั้งก็ตาม

“ยังครับ” เอรีสถูเครากับต้นคอขาว เพราะตอหนวดที่เพิ่งขึ้นทำให้ปัถย์ต้องย่นคอเพราะจั๊กจี้ ไอ้ที่ทำถ้าจะเคลิ้มก็กลับทำให้สะดุ้งก็หลายครั้ง

“เอาไว้ตื่นแล้ว จะไปช่วยเก็บกระเป๋านะครับ”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวสั่งให้ฐิติจัดการ”

“อา... ครับ” ปัถย์อือออ ทำท่าจะหลับอีก

“เดี๋ยวเราไปเก็บของที่ห้องนายดีกว่า กลับพร้อมกันเลยเนอะ”

“ผมว่าจะอยู่อีกสองสามวัน” ปัถย์งึมงำ แล้วยกมือขึ้นปิดปากหาวที่รอบ

ปัถย์มีแผนจะไปดำน้ำดูประการังอีกสักหน่อย อีกอย่างห้องพักก็จองไว้แล้วตลอดทั้งสัปดาห์ จะทิ้งแผนการท่องเที่ยวส่วนตัวเพราะลูกอ้อนของเอรีสมันก็คงไม่เข้าท่าเท่าไร ไหนๆ ก็ได้มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องจัดให้คุ้ม

“กลับพร้อมกันเถอะ นะ... นะครับ” มือหนารั้งเอวสอบให้เขามาหาแผ่นอกและสะโพก ไล้หน้าขาที่เพิ่งสงบลงของตัวเองกับบั้นท้ายแน่นหนันอย่างอดไม่ไว้ “เที่ยวคนเดียวไม่สนุกหรอก”

“แต่ผมจองทริปดำน้ำไว้แล้ว” เสียงของปัถย์เอื่อยเฉื่อย ใกล้เข้าสู่ห้วงนิทราเข้าไปทุกทีๆ

“แค่ทริปดำน้ำ เดี๋ยวพามาใหม่คราวหลังก็ได้ นะคนดี... กลับด้วยกัน ถ้าไม่เจอกันอีกหลายๆ วัน คงไม่มีกะจิตกะใจทำงาน”

เอรีสคลอเคลียใบหน้าตัวเองด้วยการพรมจูบไปทั่วสันกรามของคนในอ้อมแขน ทั้งออดอ้อน ทั้งออเซาะ การโอบกอดจากทางด้านหลังทำให้เขาไม่เห็นหน้าปัถย์ได้ถนัดนัก แต่เขารู้ว่าถ้าเขาพยายามเว้าวอนให้หนักอีกสักหน่อย เป็นไปได้สูงว่าจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

“สามวันเองครับ” ปัถย์ยังอิดออด

“วันเดียวก็ขาดใจตายแล้วครับ”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงกระเง้ากระงอดกับอ้อมกอดที่รัดแน่นกว่าเก่า ปัถย์จึงปรือตาข้างหนึ่ง เอี้ยวตัวหันมามอง

เอรีสที่ไม่ได้หน้าบึ้ง มิหนำซ้ำเจ้าตัวกำลังทำตาหวานเชื่อม กะพริบตาปริบๆ เหมือนเด็กที่พยายามงอแงเสียงอ่อนเพื่อให้ได้ของเล่นที่ตัวเองอยากได้

“ก็ไหนว่าให้พักร้อน” ปัถย์แกล้งพูด แล้วหลับตาลง จงใจซุกใบหน้าลงบนต้นแขนข้างหนึ่งที่รองต้นคอตัวเองไว้แทนหมอน ปล่อยให้ความแนบชิดและกลิ่นหอมเข้มแบบเฉพาะตัวของเอรีสผ่านเข้ามาในโสตประสาท

เอรีสได้ฟังแล้วนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ ดวงตาคมกริบสีสนิมแวววาว

สิ่งที่ปัถย์พูดก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายยอมใจอ่อนแล้ว เอรีสยิ้มกริ่มดวงตามีประกายพอใจเต็มเปี่ยม

“ก็พักมาหายวันแล้วไง ต้องกลับมาช่วยงานได้แล้วนะครับ ทิ้งงาน ทิ้งบอสแบบนี้ ไม่สมเป็นคุณปัถย์เลย”

ลูกอ้อนของเอรีสยังคงดำเนินไป มือไม้ก็คอยลูบไล้แผ่นหลังของปัถย์ เพื่อกล่อมให้อีกฝ่ายเคลิบเคลิ้ม

คนอยากหลับเต็มแก่หาวน้อยๆ ก่อนกล่าวงึมงำแทบไม่เป็นคำ

“คุณปัถย์ต้องการทะเล”

ยิ่งปัถย์ทำตัวเหมือนลูกแมวง่วงนอนมากเท่าไร เอรีสก็ยิ่งมันเขี้ยวอยากฟัดให้เต็มรักมากเท่านั้น

เอรีสเกยคางแล้วหอมแก้มตอบของคนขี้ง่วงฟอดใหญ่

“แต่เอรีสต้องการคุณปัถย์”

คนร่างสูงว่าไป ลูบผมนุ่มๆ ของคนในอ้อมกอดไป

จะว่ากล่อมก็ใช่ จะว่ากวนใจก็ไม่ผิด ถึงจะสงสารคนที่อดนอนเพราะถูกรังแกมาทั้งคืน

“นะครับ กลับเถอะ”

ปัถย์ที่กำลังกึ่งตื่นกึ่งหลับสั่นหัวเล็กน้อย ซบแขนแกร่งแล้วแกล้งกัดไปหนึ่งคำเพื่อลงโทษคนที่ขัดจังหวะการนอน

“ตื่นมาค่อยคุยได้ไหมครับ ง่วงแล้ว”

“ไม่เอาสิ รับปากก่อน ถ้าไม่รับปากก็ห้ามนอนครับ”

เอรีสเลียนแบบโดยการงับที่คอบ้าง แถมมือปลาหมึกก็เคลื่อนลงต่ำ ผ่านแอ่งสะดือจนเข้าใกล้จุดยุทศาสตร์อย่างน่าหวาดเสียว จนคนที่กำลังสะลึมสะลือต้องรีบตะครุบมือไว้แน่น

ลืมตายังไม่ค่อยไหวจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้

“พอแล้วครับ เหนื่อยแล้ว”

ปัถย์โอดครวญ ร่างกายเขาเรียกได้ว่าสะบักสะบอม ถ้าเอรีสจะพิสูจน์ความฟิตก็ควรมีขอบเขตบ้าง เขาไม่ใช่พวกอึดแบบเอรีสเสียหน่อย แค่นี้ก็ทำเอาระบมไปทั้งตัว

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวถามใหม่ก็ได้ แต่ตอนนี้...” artฝ่ามือหนาทำงานควบคู่ไปกับจมูกโด่งที่ก่อกวน ถึงปัถย์จะรั้งข้อมือเขาไว้ก็ใช้ว่าแรงจะพอสู้คนอึดอย่างเขา

“อืม” ปัถย์ครางประท้วง “พอครับ อย่า... อย่าเอาแต่ใจสิครับ”

เอรีสขยับหน้าขากับสะโพกเปลือยเป็นจังหวะ ถูไถใจกลางความเป็นชายเหนือแก้มก้นทั้งสองข้าง ริมฝีปากขบเม้มที่หัวไหล่อีกฝ่ายจนขึ้นรอยสีกุหลาบ

“จะโกรธแล้วนะครับ ขอนอนก่อน” ปัถย์เริ่มเสียงดุ

แต่เอรีสหรือจะกลัว

“ปัถย์ครับ...”

“ครับ”

“ตามใจหน่อย” เอรีสหมุนปัถย์ให้หันมาหา ใช้มือทั้งสองข้างกอบกุมแก้มอีกฝ่ายไว้ “นะ...”

ทั้งคืน...คือไม่ตามใจเลยสินะ

“ไว้ผมจะตอบตอนตื่น ตอนนี้ปล่อยให้ผมนอนได้แล้วครับ” ปัถย์กอบกุมแก้มสากเช่นกัน ก่อนตัดบทเสียงเอาจริง “แต่ถ้าคุณยังกวนผมแบบนี้ ผมจะอยู่ต่ออีกสองอาทิตย์”

“โอเค งั้นนอนเลย นอนให้อิ่ม” เอรีสกัดปลายจมูกคนใจแข็งอย่างมันเขี้ยว “ตื่นมาค่อยว่ากัน”

สุดท้ายเอรีสก็ทำได้แค่พยักหน้าแล้วยอมให้ปัถย์หลับอย่างจริงๆ จังๆ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาหกโมงเช้าแล้วก็ตาม









ปัถย์ที่ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องอาบน้ำ พอสำรวจต้นคอและแผ่นอกของตัวเองก็ถึงกับย่นคิ้วแล้วส่ายหน้าไปมา ตั้งแต่ลาดไหล่ไปจนถึงหน้าท้อง บัดนี้เต็มไปด้วยร่องรอยแดงจากการครูดเป็นรอย ในบางจุดมีจ้ำสีแดงเข้มเป็นดวงจ้ำ

เจ้าตัวถอนหายใจพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ จากความทรงจำอันเด่นชัดตลอดคืน แล้วเริ่มล้างหน้าแปรงฟัน พร้อมกับครุ่นคิดเรื่องต่างๆ อย่างอดไม่ได้

รัน ชื่อนี้ยังติดอยู่ในใจของเขา

ไม่รู้ทำไมสีหน้าเจ็บปวดของเอรีสตอนที่เฟยหลง ลอด์จเปล่งชื่อของอดีตคนรักออกมายังคงหลอนประสาทเขาอยู่

ปัถย์กำลังคิดว่าบางที ตัวเองกำลังเป็นคนที่ขี้ระแวงเกินไป

มันแย่ตรงที่ต้องยอมรับว่า เขากำลังกลัว...

กลัวอนาคตที่อาจจะไม่แน่นอน

แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด... คงเป็นการที่อาจสูญเสียเอรีสไป

ปัถย์ที่กำลังแปรงฟันอยู่ชะงัก ภาพสะท้อนในกระจกปรากฎร่างของเอรีสที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืดเดียวพันอยู่หมิ่นเหม่เดินอวดร่างสูงที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อและลอนหน้าท้องหกแพคมาซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ร่างล่ำๆ ยกมือขึ้นเท้าขอบเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า แบบไม่ให้ส่วนหนึ่งส่วนใดแตะต้องโดนกัน ยกเว้แต่ว่าจุมพิตเร็วๆ ที่ข้างขมับทีหนึ่ง

ทั้งสองคนจ้องตากันโดยไร้คำพูด มีเพียงสายตาอันลึกซึ้งอ่อนโยน เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่กำลังเพิ่มพูนในทุกขณะ

ปัถย์ก้มลงบ้วนปาก ในจังหวะนั้นสะโพกก็เหมือนจะบังเอิญได้สัมผัสกับบางอย่าง...

บางอย่างที่กำลังตื่นตัว และดุนดันจากทางด้านหลัง

ปัถย์จิ๊ปาก เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังถูกแกล้ง

เอรีสหัวเราะ มือข้างหนึ่งเลื่อนมาโอบเอวบางไว้หลวมๆ ไม่ยอมให้ปัถย์หลบเลี่ยงไปไหน

“ตื่นแล้วเหรอครับ” ปัถย์มองผ่านกระจก ใบหน้าแดงน้อยๆ เมื่อถูกเอรีสยั่วยวนทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

“อืม ทำไมไม่ปลุกครับ” ดวงตาสีสนิมวาบวับ ดูมีความสุขและอารมณ์ดี

น้ำเสียงจะแหบทุ้มอย่างคนเพิ่งตื่น แต่ฟังแล้วกลับรู้สึกเซ็กซี่วาบหวาม

“ผมเห็นคุณหลับสบายอยู่ เลยไม่อยากปลุก อาบน้ำเถอะครับ จะได้ออกไปกินข้าว ผมโทรสั่งอาหารไว้ให้แล้ว”

เอรีสหอมแก้มฟอดใหญ่เมื่อปัถย์พูดจบ

“กี่โมงแล้ว”

“สิบโมงแล้วครับ”

ปัถย์ตื่นตอนเก้าโมงครึ่ง จัดการโทรสั่งอาหารเช้าไว้ให้คนบนเตียง จากนั้นก็โทรหาฐิติเพื่อถามถึงตารางเดินทางของคนที่หลับอยู่ พอได้ยินว่าไฟล์ตบินของเอรีสเป็นเวลาบ่ายสอง เลยตัดสินใจให้เขานอนต่ออีกหน่อยสักชั่วโมงสองชั่วโมง

“อืม... ง่วงจังเลย”

คนเพิ่งตื่นทำเสียงงอแง ซบแก้มกับบ่าเปลือย

“นอนต่อไหมครับ เดี๋ยวผมปลุกก่อนเที่ยง” ปัถย์วางมือทับลงบนมือหนาที่วางพาดอยู่ตรงหน้าท้อง ไม่ยอมให้ป่วนเปี้ยนในส่วนที่ไม่ควร “คุณต้องบินตอนบ่ายสอง ผมให้คุณฐิติจัดการเรื่องกระเป๋าให้แล้วนะครับ ตอนบ่ายรถของโรงแรมจะมารับคุณไปส่งที่สนามบินทีเดียว”

“ขอบคุณครับ แล้วเรื่องที่เราค้างกันไว้ล่ะ ว่าไงครับ...” เอรีสทวงคำตอบ

“ขออยู่ต่อนะครับ” ปัถย์ทำเสียงอ่อน หันไปมองคนที่เกยคางอยู่ที่บ่าด้วยสายตาอ้อน “สามวันเองครับ สัญญาว่าเช้าวันพฤหัส คุณจะเจอหน้าผมที่ออฟฟิศ”

“จะไม่ยอมจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”

แม้จะได้รับคำตอบที่ไม่เป็นไปตามต้องการ แต่เอรีสก็ยังใจเย็น เก็บความเอาแต่ใจไว้ ไม่เหวี่ยงวีนเหมือนทุกครั้ง ยิ่งเห็นสายตาแบบนั้นด้วยแล้ว จะไม่ใจอ่อนก็คงไม่ได้

“สามวันเองครับ”

“เปลี่ยนคำพูดใหม่เลย ตั้งสามวันต่างหาก” เอรีสพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ เพราะเจ้าตัวกำลังปาดไล้ริมฝีปากกับรอยต่อระหว่างแผ่นหลังและคอขาว ฝ่ามือหนาตรงหน้าท้องเปลี่ยนมาเป็นสอดประสานกันไว้แน่นสนิท

“ยอมผมสักครั้งไม่ได้เหรอครับ”

เอรีสขยับตัว เปลี่ยนตำแหน่งให้ตัวเองนั่งลงบนขอบเคาท์เตอร์ โดยมีปัถย์ยืนเปลือยอกอยู่ตรงกลางระหว่างต้นขา

ฝ่ามือหนาบรรจงลูบผมยุ่งๆ ของปัถย์ให้เข้าที่ เกลี่ยแก้มที่เกลี้ยงเกลาอย่างเบามือ

“เฮ้อ! ยอมก็ได้ มานี่มา” เอรีสดึงมือปัถย์เข้ามาหาตัว แล้วสวมกอดไว้หลวมๆ ก่อนกระซิบ “ถ้าโทรหา ก็ต้องรับนะ แล้วก็อย่าแอบไปเที่ยวกับคนอื่น... ไม่ไว้ใจให้อยู่ใกล้ใคร”

“ไม่มีใครมาสนใจผมหรอกครับ ไม่ได้เสน่ห์แรงเหมือนคุณสักหน่อย ห่วงแต่ตัวคุณเถอะ คุณฐิติยิ่งบอกอยู่ว่าสับรางให้คุณแทบไม่ทัน”

“เชื่อ?” เอรีสเลิกคิ้ว ยกมือข้างหนึ่งขึ้นพาดที่ไหล่ส่วนอีกมือก็กอบสะโพกสอบไว้ เอียงคอเล็กน้อยเพื่อเฝ้าสังเกตอารมณ์ของปัถย์ว่าจริงจังในคำพูดหรือเปล่า “บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีแค่นาย เชื่อใจกันนะ”

“...”

ปัถย์นิ่งฟัง เขาไม่แน่ใจหรอกว่าเอรีสจะทำอย่างที่พูดได้ไหม แต่บางทีความไว้เนื้อเชื่อใจก็ควรมาเป็นอันดับหนึ่ง

ปัถย์ก็พยักหน้าแล้วยิ้มอ่อนๆ

“คุณเองก็ด้วย”

“เฮ้อ! ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว” เอรีสทำเสียงฮึดฮัดเมื่อปัถย์ทำสีหน้านิ่ง แต่ดวงตากลับราวกับรู้ดีทุกอย่าง

“ยังไงครับ?”

“ก็แบบว่าผมรู้ทันคุณอะไรทำนองนี้น่ะ”

“แล้วคุณว่าผมรู้ไหม”

“คนฉลาดแบบปัถย์ ต้องรู้อยู่แล้วล่ะ”

ปัถย์ยิ้มกว้าง “ไปอาบน้ำเถอะครับ”

“เดี๋ยวก่อน อยากอยู่แบบนี้สักพัก กำลังสบายเลย”

เอรีสดึงปัถย์เข้ามากอด แถมยกขาทั้งสองเหนี่ยวคนในอ้อมแขนให้ใกล้ไปกว่าเก่า หน้าแข้งทั้งสองเกี่ยวเข้าหากัน กลางลำตัวแนบสนิทกับหน้าท้องของปัถย์ ใบหน้าที่ห่างกันแค่คืบแต้มยิ้ม

“กลับไปคราวนี้มีแต่เรื่องวุ่นๆ ให้เราสองคนกลับไปสะสาง เตรียมรับมือไว้เลย”

“คุณพูดเหมือนว่าที่ผ่านๆ มาผมยังยุ่งไม่พอ” ปัถย์เย้ากลับ ยกมือข้างหนึ่งแตะเบาๆ บนแผ่นหลังบึกบึน จากนั้นก็ออกแรงโอบกอดคนตัวโตไว้อย่างไม่สงวนท่าที ทั้งที่ปกติปัถย์จะวางตัวและไม่เป็นฝ่ายแสดงท่าทีสนิทสนมลึกซึ้งสักเท่าไร

“ก็มันจะต้องป่วนมากกว่าเก่าน่ะสิ ทั้งเรื่องงาน เรื่องคน มีหลายอย่างที่นายยังไม่รู้ แต่เอาไว้นายกลับไปก่อน แล้วเราค่อยคุยรายละเอียดกัน”

ปัถย์ขืนตัวออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้าเอรีสให้ถนัดขึ้น

“ถ้าสำคัญมาก ก็คุยเลยเถอะครับ ปล่อยไว้อาจทำให้ยิ่งเกิดความเสียหาย ถ้าอะไรที่ผมทำได้ ผมก็จะรีบจัดการให้ก่อน ไม่ต้องรอให้เข้าออฟฟิศหรอกครับ”

ปัถย์ยังคงเป็นผู้ช่วยที่กระตือรือร้นอย่างเต็มเปี่ยม

เอรีสมองเห็นความทุ่มเทกายและใจจนเขาไม่รู้ว่าในชาตินี้จะมีใครที่ปฏิบัติแบบนี้ต่อเขาได้อีกหรือเปล่า...

ในเมื่อปัถย์คือบรรทัดฐานที่สูงลิ่ว สูงเกินกว่าที่คนธรรมดาจะตะกายขึ้นไปถึง

“เอาไว้ไปคุยที่โน่น ตอนนี้นายพักร้อนอยู่ ไม่ต้องเอาเรื่องร้อนๆ ไปใส่สมองให้รกหรอก” เอรีสถอนหายใจ ลูบผมคนตรงหน้าด้วยอารมณ์รักใคร่ “ไว้เรามีเวลาจะได้มาคุยเรื่องนี้กันจริงจังอีกที สามวันนี้ก็เที่ยวให้สนุก แต่ย้ำไว้อย่าง... ไอ้พวกที่มาก้อร้อก้อติกนี่ห้ามเลยนะ อย่าให้รู้”

“เอรีสครับ” ปัถย์ฟังแล้วรู้สึกไม่สบายใจ สีหน้าเริ่มครุ่นคิดเป็นกังวล

“หืม ว่า...”

“กับเฟยหลง ลอด์จไม่เป็นไรแน่ใช่ไหมครับ ผมเป็นห่วง”

“ไม่มีอะไรต้องห่วงครับ เชื่อใจฉันนะ ฉันคุมเกมนี้ได้... แค่วันนี้ ฉันมีนายอยู่ ต่อให้เรื่องมันแย่แค่ไหน เราก็จะเดินผ่านไปด้วยกัน”

เอรีสพูดจบก็ก้มลงประทับจุมพิตลงบนกลีบปากสีสด ใช้ลิ้นอุ่นๆ แทรกผ่านไรฟันกระหวัดปลายลิ้นอีกฝ่ายด้วยอารมณ์อ่อนหวานเรียกร้อง จงใจดึงความสนใจของปัถย์ให้หลุดออกจากเรื่องปวดหัวที่คุยกันก่อนหน้า

หลังจากที่จูบกันอย่างดื่มด่ำเป็นที่พอใจแล้ว เอรีสจึงผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาหวานเชื่อมมีอาการเสียดายอยู่หน่อยๆ

ปัถย์กะพริบตาเมื่อเอรีสเป็นฝ่ายถอนจูบออก ดวงตาเรียวจ้องมองสันกรามที่เริ่มขรึ้มด้วยไรหนวด ก่อนที่ตัวเองจะยกฝ่ามือขึ้นถูแก้มเบาๆ

“คุณต้องโกนหนวดแล้วละครับ”

เอรีสยกมือขึ้นลูบเคราและหนวดของตัวเองบ้าง เมื่อสำรวจไปที่ปัถย์จึงได้เห็นทั้งเนื้อทั้งตัวอีกฝ่ายนั้นมีร่องรอยที่เกิดจากหนวนเคราของเขาอยู่เต็มไปหมด แก้ม ลำคอ และหน้าท้อง...

ทั้งตัวมีแต่รอยที่เขาทำไว้

“มีเคราแล้วหล่อนะ” เอรีสหันไปส่องกระจก มือลูบคลำที่คางตัวเอง เอียงซ้าย เอียงขวา ก่อนจะหันมาขอความคิดเห็น “ไม่ชอบเหรอ หล่อเข้ม ลองดูไหม เอาตรงนี้ออกหน่อยนึงก็น่าจะหล่อมากๆ” เอรีสลูบตรงข้างแก้มเป็นเชิงปรึกษา แต่ปัถย์ก็เสมองไปทางอื่น

“ตามใจคุณครับ”

“ตามใจ? แต่ไหงทำหน้างั้นล่ะ หวงคนหล่อหรือครับ”

“ไม่ได้หวงครับ แต่ผมเนี่ย แสบไปทั้งตัว” ปัถย์พูดเบาๆ ก่อนจะดันหน้าเอรีสให้ออกห่าง แกล้งบีบสันกรามแกร่งสองสามทีแล้วดันออกเหมือนไม่ใครแยแส

เอรีสอมยิ้ม เอียงซ้ายเอียงขวาตามแรงของคนหน้านิ่ง นึกพอใจในสัมผัสจากฝ่ามือนิ่มๆ จนแทบไม่อยากให้ปล่อย

“งั้น... โกนออกดีกว่า เดี๋ยวคนแถวนี่จะไม่ยอมให้จูบ” ว่าไปมือหนาก็บีบจมูกคนตรงหน้าไป เอรีสผู้คร่ำเคร่งตลอดเวลากลายเป็นบุรุษหนุ่มสุดอ่อนโยนเพียงเพราะคนตรงหน้าคนนี้เพียงคนเดียว

“รีบอาบน้ำเถอะครับ อาหารชืดหมดแล้ว ผมไปรอข้างนอก”

“ก็อาบพร้อมกันนี่ล่ะ”

“แน่ใจว่าแค่อาบ” เพราะเสียงพร่ากับสีหน้าเจ้าเล่ห์ทำให้ปัถย์รู้ทัน จึงแกล้งดักคอสีหน้าดุ

“ก็... ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

จบคำ เอรีสก็ยืนขึ้น พร้อมกับรั้งต้นคอปัถย์สู่วงแขนกึงลากกึ่งจูงสู่ชาวด์เวอร์เรน มือก็กระตุกผ้าเช็ดตัวออกจากร่างของคนทั้งคู่ แล้วตั้งหน้าตั้งตาช่วยปัถย์อาบน้ำจนแทบทุกซอกทุกมุม







^^^^^^^^

เอียนความหวานกันไหมคะ

ขอความหวานอีกนิด...

ตุนไว้ค่ะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
กลับไปแล้ว รอพบกับปัญหาที่จะตามมาได้เลย  :katai1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
หวานมากกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด