V
v
v
เช้าวันถัดมาไอติมตื่นนอนก่อนแซ็ค นั่งงงอยู่บนเตียงครู่หนึ่งว่าจะต้องทำยังไง จะเอายังไงดี ไอติมแม่แน่ใจว่าตัวเองลงไปห้องนอนข้างล่างได้หรือยัง มือถือไอติมก็อยู่นั่น ของก็อยู่นั่นหมด แล้วก็หิวข้าวเช้าด้วย สุดท้ายด้วยความไม่กล้าที่จะเดินลงไปคนเดียวเลยยื่นมือไปสะกิดปลุกแซ็ค ฝรั่งตัวโตลืมตาขึ้นงัวเงียก่อนหันไปมองไอติม
“It’s morning. (มันเช้าแล้ว)” แซ็คหลับตาแล้วชูสองแขนขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วก็นอนนิ่งไป ไอติมมองฝรั่งด้วยความไม่แน่ใจเลยยื่นมือไปสะกิดตรงหัวไหล่ซ้ายของแซ็คอีกที
“I’m hungry. (ผมหิว)” แซ็คลืมตาขึ้นมองหน้าไอติมที่มองเขาตาใส ฝรั่งตัวโตยื่นมือซ้ายไปให้ไอติม แต่ไอติมมองนิ่งครู่หนึ่งก่อนเลื่อนตัวลงจากเตียง เดินไปหยิบกางเกงตัวเก่าจากเมื่อวานมาใส่ ถือเสื้อผ้าชุดเดิมที่เหลือไว้ในมือ พร้อมจะลงไปข้างล่าง
“It’s okay I will go by myself. (มันโอเค ผมจะไปด้วยตัวผม)” ไอติมคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟันแวบหนึ่งแล้วเดินตรงไปที่ประตู คนบนเตียงลุกดันตัวขึ้นนั่งตอนที่ไอติมดึงประตูเปิดออก
“Wait me a sec. (รอฉันก่อน)” ไอติมหมุนตัวไปมอง แซ็คเดินลงจากเตียงไปหยิบกางเกงขายาวมาใส่ เดินกลับมาดึงผ้านวมคลุมเตียงให้เรียบร้อย เขาทำท่าชี้ออกข้างนอกเป็นการบอกให้ไอติมเดินออกไป กระต่ายตัวจ้อยเดินออกไปข้างนอกห้องโดยมีแซ็คเดินตามหลังมา พอแซ็คปิดประตูห้องเสร็จไอติมก็ปล่อยให้เจ้าของบ้านเดินนำ
พอลงมาข้างล่างก็เจอกับรูมเมทของแซ็คทุกคนนั่งอยู่ในครัวกับห้องโถง ทุกสายตามองไอติม แต่ไอติมไม่ได้สนใจว่าใครจะมองยังไง เพราะเสียงกะเพราะนั้นดังครืนไม่หยุด แซ็คพาไอติมเดินเข้าไปหาอะไรกินในครัว แคสโทรลเอ่ยทักทายทั้งสองคนราวกับเป็นตัวแทนของอีกสามคนที่นิ่งเงียบ ไอติมเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรกิน จนกระทั่งได้เนื้อหมูเหมาะสำหรับทำสเต็กได้ประมาณสามชิ้นใหญ่
“Can you make it for me too? (ทำให้ฉันด้วยได้มั้ย)” แซ็คเดินเข้าไปยืนใกล้ไอติมแล้วเอ่ยถาม คนถูกถามพยักหน้าหนึ่งครั้งพร้อมกับยิ้มบาง แม้ว่าบรรยากาศรอบข้างจะเงียบเชียบจนชวนอึดอัด แต่ไอติมหิวจนเกินกว่าจะมารู้สึกอย่างอื่น
“มะรืนนี้มีงานประกาศรางวัล อย่าลืมล่ะ” แซ็คหันไปมองเจค็อบแล้วพยักหน้า หนุ่มสูงวัยที่สุดในบ้านกลับไปก้มหน้าอ่านไอแพดต่อ
“เควิน มีชุดสูทให้ไอศกรีมใส่รึเปล่า ไซซ์นายกับเขาน่าจะใกล้เคียงกัน” แซ็คถามหนุ่มหัวเขียวที่นั่งจิบน้ำอะไรสักอย่างและเล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย
“ไม่มีหรอก” เควินตอบทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยซ้ำ แซ็คเบ้ปากนิดหน่อยแล้วก็หันกลับไปมองไอติมที่กำลังวางหมูลงไปในกะละมังสีเงิน
“เด็กนั่นจำเป็นต้องไปด้วยรึไง” แซ็คที่มองไอติมเทซอสนั่นเทซอสนี่ใส่กะละมังเตรียมหมักหมูหันไปมองแมนดี้ที่ใบหน้าเรียบตึง
“ลูคัสอยากให้เขาไป จะได้เรียนรู้วงการนี้มากขึ้น” แมนดี้กลอกตา แซ็คหันกลับ แคสโทรลมองสลับทั้งสองคนพักหนึ่งก่อนจะเดินออกไปนอกครัว เดินไปนั่งตรงข้ามกับเจค็อบ
“You can sit. (คุณนั่งได้นะ)” ไอติมหันไปบอกฝรั่งตัวโตที่ยืนชิดข้างกันจนแทบจะสิงร่างเขาอยู่แล้ว
“I can stand. (ฉันยืนได้)” ไอติมยิ้มไม่เต็มปากนักแล้วก็หันไปจัดการหมูต่อ
ไอติมไม่ได้หันไปมองคนอื่น ๆ ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ถ้าอยู่แล้วจะทำอะไรก็เรื่องของคนนั้น พอหมักหมูเสร็จไอติมก็หยิบใส่กล่องสี่เหลี่ยมสีใสและคุยกับแซ็คว่าต้องปล่อยทิ้งไว้สักแปบ แต่คงไม่ถึงชั่วโมง เนื่องจากหิว แซ็คเลยชวนไอติมไปอาบน้ำก่อน ไอติมมีทีท่าลังเลใจ แต่ก็หันไปหยิบฝาพลาสติกมาปิดกล่องใส่หมูหมักเอาไว้ และเอาวางไว้บนตู้เย็น
“And Lexy? (แล้วเล็กซี่ล่ะ)” ไอติมถามระหว่างเดินกลับไปห้องนอนด้านล่างของแซ็ค เจ้าของห้องไม่ตอบแต่เดินไปเปิดประตูห้องแบบไม่เคาะไม่ให้สัญญานใด ๆ ไอติมมองเข้าไปด้านในก็พบว่าในห้องนอนนั้นว่างเปล่า ผ้านวมบนเตียงอยู่ในสภาพเละเทะ
“She’s gone. (เธอไปแล้ว)” ไอติมกระตุกยิ้มแหยแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน เอาเสื้อผ้าชุดเก่าไปใส่ตะกร้า เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดใหม่ออกมาเตรียมใส่ ตอนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไอติมก็รู้สึกว่าโดนจ้องอยู่เลยหันหน้าไปดู แซ็คที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั่งหน้าคอมพิวเตอร์กำลังจ้องมองกระต่ายตัวขาวผ่อง ไอติมยิ้มนิดหน่อย หางตาเหลือบมองเตียงนอนที่อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย
“Hey, come here, (เฮ้ มานี่หน่อยสิ)” ไอติมหันหน้าไปมองแซ็ค มองดวงตาสีเทาที่มองเขาอย่างอ่อนโยนด้วยความไม่แน่ใจ
“Please. (ได้โปรด)” ไอติมพ่นลมหายใจสั้น ๆ หนึ่งครั้ง หอบเสื้อผ้าเดินไปนั่งปลายเตียงตรงข้ามกับแซ็ค และก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดปากพูดอะไร ไอติมก็ถามในสิ่งที่นึกสงสัยอยู่ก่อนแล้ว
“This is the reason? เอ่อ… that why you don’t have girlfriend. (นี่เป็นเหตุผลเหรอ เอ่อ ที่ทำไมคุณไม่มีแฟน)” แซ็คนั่งนิ่งครู่หนึ่งแล้วเปิดปากพูด
“It is a very small part of the reason. (มันเป็นส่วนเล็กมาก ๆ ของเหตุผล)” ไอติมไม่ได้แสดงสีหน้าใด แม้จะไม่เข้าใจก็ตาม ทำเพียงมองแซ็คอย่างเรียบนิ่ง
“I have told you. I don’t believe in love. (ฉันเคยบอกนายแล้วนี่ ฉันไม่เชื่อในความรัก)”
“Why? (ทำไมล่ะ)” แซ็คหัวเราะแบบไร้เสียง ไอติมแยกไม่ออกว่ามันเป็นการหัวเราะปกติ หรือหัวเราะเยาะเย้ย
“I was a very romantic guy, I think. I have always imagined about my wife, my child, my family. My imagination was full of heart and roses, (ฉันเคยเป็นผู้ชายที่โรแมนติก ฉันคิดว่างั้นนะ ฉันมักจินตนาการเกี่ยวกับภรรยาของฉัน ลูก ๆ ของฉัน ครอบครัวของฉัน จินตนาการฉันเต็มไปด้วยคามฟุ้งฟิ้งและสวยงาม)” ไอติมนั่งฟังนิ่ง ๆ แซ็คยิ้มละมุน
“If you are going to ask my friends they will surprise, because I have never told anyone. (ถ้านายไปถามเพื่อน ๆ ฉัน พวกนั้นจะประหลาดใจ เพราะฉันไม่เคยบอกใครเลย)”
“And? (แล้วยังไงฮะ)” ไอติมอยากรู้ว่ามันเกี่ยวโยงกันยังไงกับการเคยเป็นคนโรแมนติกแล้วไม่มีแฟน
“Because I used to believe in it so much and then I got fail. I don’t blame love I know it is about me, but I fail, then it made me realize that love doesn’t guarantee the relationship, no matter how long you are in it. (เพราะว่าฉันเคยเชื่อมันมาก แล้วฉันก็ผิดหวัง ฉันไม่ได้จะต่อว่าความรักหรอก ฉันรู้ว่ามันเป็นที่ตัวฉันเอง แต่ฉันผิดหวังไง แล้วมันก็ทำให้ฉันเข้าใจว่า รักไม่ได้การันตีความสัมพันธ์ไม่ว่าจะอยู่ในความพันธ์นั้นนานแค่ไหน)” ไอติมไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจถูกมากน้อยแค่ไหน แต่จับใจความได้แหละว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องความรักกับความสัมพันธ์ของการคบกัน
“You never have girlfriend? (คุณไม่เคยมีแฟนเลย?)” แซ็คพยักหน้า ไอติมมองแซ็คด้วยความประหลาดใจ เพราะกำลังคิดว่าหน้าตาแบบแซ็คไม่น่าจะโสดมาจนถึงตอนนี้ แล้วยิ่งรูปร่างแบบนี้ก็ไม่น่าว่าง แต่ก่อนหน้าที่ไอติมจะรู้ว่ามีผู้ชายคนนี้อยู่บนโลก ไอติมก็ไม่รู้อีกแหละว่าเขาเป็นยังไงบ้าง
“I think a single status is good for me. (ฉันคิดว่าสถานะโสดมันดีสำหรับฉันนะ)” ไอติมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
“And you never love someone? (แล้วคุณไม่เคยรักใคร?)” ดวงตาสีเทาสบตาดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ต่างคนต่างนิ่ง ไม่ได้มีทีท่าหรือท่าทีใด
“Never. (ไม่เคย)” ไอติมรู้สึกตึ้บ ๆ ตรงขมับและวิ้งในหูทั้งสองข้าง
“Okay, you single and you can fuck many girl and some boy, like me. (โอเค คุณโสดและคุณสามารถเอาผู้หญิงหลายคนและผู้ชายบางคน แบบผม)” ไอติมเบิกตากว้างพร้อมเลิกคิ้วขึ้นแวบหนึ่งก่อนหน้าจะเรียบเฉยตามเดิม
“I don’t want you to be mad at me. I mean angry. (ฉันไม่อยากให้นายเคืองฉัน ฉันหมายถึงโกรธน่ะ)” ไอติมคลี่ยิ้มบางแล้วส่ายหัว
“I told you no. (ผมบอกคุณว่าไม่ไง)”
“Really? (จริงเหรอ)” ไอติมพยักหน้า
“Real. I’m okay. Why can I angry you? We are not เอ่อ not boyfriend. (จริง ผมโอเค ทำไมผมโกรธคุณได้ล่ะ เราไม่เป็น เอ่อ เป็นแฟนกัน)” ไอติมยิ้มน้อย ๆ แซ็คย่นคิ้วมองไอติมด้วยความรู้สึกสับสน
“But you should wear condom นะ if you fuck many people. (แต่คุณควรใส่ถุงยางนะถ้าคุณเอาหลายคน)” แซ็คยิ้มมุมปากซ้ายเล็กน้อย
“Thank you. (ขอบใจนะ)” ไอติมยิ้มบางแต่มากขึ้นอีกนิดก่อนลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ รอยยิ้มบนใบหน้าแซ็คหดหายไปแทนที่ด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด ความรู้สึกตรงช่วงอกปั่นป่วนและตรงช่วงท้องบิดเป็นเกลียว
เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้ คือช่วงนี้สีหน้านี้ >

เหมาะกับสถานการณ์สุด 5555555 มันแบบ ฮืมมม หืมมม ยังไงนะ อะไรอะ 5555555