Calorie ที่ 16 ถ้อยคำที่แสนหวาน หลังจากที่เดินตามไอ้เมี่ยงไปสักพัก ผมก็ตัดสินใจย้อนกลับไปหาพี่โรล ผมนั้นเป็นห่วงพี่โรลมาก พี่เขาดูไม่สบายใจ ผมไม่อยากให้พี่เขาคิดมาก ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของผมด้วยแล้ว
" เมี่ยง คืนนี้กูไปอยู่กับพี่โรลนะ " ไอ้เมี่ยงหยุดเดินทันทีและมองผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก
" พี่เขาดูเป็นคนดีนะ แต่กูไม่รู้ว่ะลี่ เพราะพี่นายตอนแรกก็ดูเป็นคนดีเหมือนกัน " ผมเข้าใจในสิ่งที่มันพูด ขอบใจมากเพื่อนที่เป็นห่วง
" กูยังไม่ได้ให้โอกาสพี่เขาเลย กูก็อยากรู้ว่าพี่เขาเป็นคนยังไงกันแน่ " ผมอยากลองเสี่ยงดู ผมไม่อยากตัดสินใครทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักเขาดีพอ
" มีอะไรก็โทรหากูละกัน " ผมตบไหล่มันเบาๆ และเดินหันหลังกลับมา การที่ผมยังมีเพื่อนอย่างมันอยู่ทำให้ผมรู้ว่า ถึงผมจะต้องเจอกับอะไร มันก็จะยังอยู่เคียงข้างผมเสมอ
ผมเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงคอนโดของพี่โรล ขึ้นลิฟไปยังชั้นที่พี่โรลอยู่ และยืนอยู่หน้าห้องของพี่โรล
โอ้ยย ไม่กล้ากดกริ่งเลยครับ มันรู้สึกแปลกๆ ผมใจเต้นรัวสุดๆ ผมกำลังทำอะไรอยู่นะ แต่ตัดสินใจแล้วนี่ เอาวะ
แต่พอนิ้วจะถึงกริ่ง ผมก็หยุดค้างไว้ซะอย่างนั้น และเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง อ้ากกก ใจเย็นๆ แค่มาดูพี่เขา และขอนอนที่โซฟานะลี่ เอาแบบนั้นแหละ
ผมพยักหน้ากับตัวเองหลายครั้งและพยายามจะกดกริ่งอีกที โอ้ยย แบบนี้ละกัน ผมที่แอดเบอร์พี่โรลแล้วเลยลองส่ง เอสเอ็มเอสไปครับ
[ พี่ทำอะไรเหรอ ]
ผมลองส่งไปสักพัก และรอว่าพี่เขาจะโทรกลับมาหรือส่งข้อความกลับมาไหม แต่ก็เงียบครับ แย่แล้วสิ พี่เขาอาจจะหลับไปแล้ว ผมควรจะกลับดีไหมนะ
ผมคิดว่าผมจะนั่งรออีกสักพักครับ แล้วค่อยกลับ แต่ก็เผลอหลับไปซะได้ ผมที่กินและหลับได้ทุกที่นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ
แต่เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าพี่โรลนั้นกำลังนั่งอยู่ข้างๆ ผมและจ้องมองผมอยู่ หือออ ฝันเหรอ ฝันดีจังเลยน้า
เดี๋ยวนะ ไม่ใช่แล้วมั้ง มันแบบว่าชัดเจนขนาดนี้
ผมขยี้ตามองอีกครั้งและก็พบว่าใช่เลยครับ พี่โรลกำลังนั่งยองจ้องผมอยู่จริงๆ
" นั่งอยู่นานแค่ไหนเนี่ย " พี่โรลพูดพลางส่งยิ้มให้ผม
" ไม่รู้สิครับ พี่ไม่อ่านข้อความผม " พอผมพูดแบบนั้นพี่โรลก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาดูทันที
" พี่ขอโทษนะ ไม่รู้ว่าเป็นลี่ " พี่โรลยิ้มกว้างและดึงผมให้ลุกขึ้น
" พี่กำลังจะไปไหนเหรอ ผมมากวนหรือเปล่า " ผมมองพี่โรลที่หัวยุ่งๆ ใส่เสื้อกล้ามและกางเกงวอร์ม และพันมือแบบนี้จริงๆ ไม่น่าถามนะเนี่ย
" ไม่ไปแล้วล่ะ " พี่โรลพูดพลางจูงมือผมเข้ามาในห้อง ผมเดินตามแรงจูงนั้น เขินเหมือนกันแฮะ แล้วจะทำอะไรต่อดีนะ
พี่โรลปล่อยมือผม จับผมนั่งลงที่โซฟาและนั่งลงข้างๆ ผม พี่โรลดูเงียบและแปลกๆ อีกแล้ว ผมนึกว่าพี่จะพูดมากซะอีกถ้าผมมา
" ดีใจสุดๆ ไปเลย " ผมเงี่ยหูฟังคนที่ก้มหน้าและเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอยู่แบบงงๆ
" พี่พูดว่าอะไรนะ " ผมเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ และจ้องมองพี่โรลที่กำลังปิดหน้าตัวเองอยู่
" ลี่อยู่กับพี่จริงๆ ด้วย " พี่โรลเปิดหน้าออก และจ้องมองผม ตอนนี้พี่โรลหน้าแดงมากๆ ทำเอาผมที่มองพี่โรลนั้นหน้าแดงตามเลยทีเดียว นี่พี่ชอบผมขนาดไหนกันนะ
" เอ่อ ผมหิว " ผมที่เขินสุดๆ ไม่รู้จะพูดอะไรก็กินไว้ก่อนครับ ฮ่าๆ
" จะอาบน้ำก่อน หรือจะกินพี่ก่อน " ห๊าา ไม่พูดเปล่า แต่พี่แกกลับโพสท่าซะน่ากินจริงๆ ครับ
ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก พี่แกเปลี่ยนมู๊ดไวจริงๆ ทำตัวน่าหมั่นไส้ชะมัด
" ผมกลับละ "
" โอ๋ๆๆ พี่ล้อเล่น " พี่โรลรีบวิ่งมาดักหน้าผมทันที
" ผมก็ล้อเล่น " ผมพูดพลางหัวเราะชอบใจ แค่เห็นพี่หัวเราะผมก็โล่งอกแล้วครับ
" แพนเค้กไหม " พี่โรลพูดพลางจูงมือผมไปที่ครัวและให้ผมนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
" พี่ทำเป็นเหรอ ผมจะต้องเรียกรถพยาบาลรอป่ะ "
" ติดใจจนไม่ยอมกลับบ้านไม่รู้นะ "
" เหรออออ " ผมยิ้มพร้อมเบะปากน้อยๆ แบบดูถูก ติดใจแพนเค้กอ่ะไม่แน่ครับ แต่ติดใจเชฟอ่ะแน่นอน หึหึ
ผมมองพี่โรลที่ไม่เหมาะกับผ้ากันเปื้อนน่ารักๆ เอาซะเลย กำลังทำโน้นผสมนี่ มีโยนของโชว์ด้วยครับ และแน่นอน ร่วงกระจายเต็มพื้น ไม่ต้องโชว์ท่ายากมากก็ได้ ผมแค่หิวครับพี่ แต่ก็ทำเอาผมหัวเราะจนปวดท้อง พี่ไปเป็นตลกคาเฟ่น่าจะดีนะ
ไม่นานแพนเค้กหอมๆ ก็มาเสริฟพร้อมไอติมวานิลาและราดแยมสตอเบอรี่ ผมตาโตมองขนมหวานที่น่ากินในจาน มันช่างสวยงามน่ากินซะเหลือเกิน แต่พอมองคนทำก็เล่นเอาผมท้องแข็งอีกรอบ พี่แกตั้งแต่หัวจรดเท้ามีแต่แป้ง และแยมเปื้อนหน้า
" ทานให้อร่อยนะครับ " ผมมองพี่โรลที่ยิ้มกว้างสว่างสไว ทำมือให้ผมชิมขนมในจาน ผมก้มหน้าลงตักไอติมและแพนเค้กอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่อะไรครับ เขินอ่ะ อย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหม จะโปรยเสน่ห์ไปถึงไหนห๊า
" อร่อยไหม " พี่โรลยื่นหน้ามาใกล้ผมมากๆ และเงี่ยหูฟังรอคำตอบ อ้ากกกก ใกล้มากก ขาวมากก
ผมเหลือบมองแยมบนแก้มพี่โรล และไม่รู้สวรรค์หรือนรกดลใจ ผมยื่นหน้าเข้าไปเลียที่รอยเปื้อนนั้นเบาๆ
พี่โรลที่โดนเลียแก้มตอนนี้ยืดตัวตรงตาโต และ เดี๋ยวๆๆ พี่แกโกยอ้าวหนีผมไปอีกแล้วครับ และผมที่ทำแบบนั้นก็กำลังรู้สึกแบบว่า อ้ากกก กูทำอะไรลงป๊ายยย แต่ว่าก็มันน่าอร่อยอ่ะ ช่วยไม่ได้ ฮ่าๆๆ
ไม่นานพี่โรลก็ค่อยๆ กระดื๊บมาอีกครั้ง หน้ายังคงแดงเป็นปื้นๆ ฮ่าๆน่ารักอ่ะ
" ขอโทษครับ เผลออ่ะ " ผมเกาหัวเขินๆ ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นะ แค่แบบว่าเสียดายอ่ะ อยากกิน แหะๆ
" เผลอบ่อยๆ ก็ได้ " ผมหน้าแดงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
" อยากให้เปื้อนตรงอื่นจัง " เดี๋ยวๆๆๆ ผมที่กำลังกินอยู่ก็สำลักเลยครับ ตรงไหนครับพี่ พูดแบบนี้ผมคิดนะ
" เดี๋ยวผมล้างเองนะ " ผมที่กินเสร็จก็ลุกขึ้นถือจานไปที่อ่างล้างทันที
" วางไว้เถอะ เดี๋ยวแม่บ้านเขามาทำ " พี่โรลพูดพลางแย่งจานจากมือผม
" มีแม่บ้านด้วยเหรอ " ชิ เบื่อพวกคนรวย
" อะไร หึงพี่เหรอ " พี่โรลพูดพลางยื่นหน้ามาใกล้ ผมหดคอหนีทันที ไอ้บ้า เผลอไม่ได้เลย แต่ถ้าผมเริ่มก่อนก็ได้นะ ฮ่าๆ
" ไปอาบน้ำกัน " พี่โรลพูดพลางจูงมือผมเข้าห้องนอน อ้ากกก เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นครับพี่
" ผมไม่มีเสื้อผ้า " ผมพูดพลางบิดไปมา คือลืมนึกไปเลย
" เสื้อเชิ๊ตพี่ตัวใหญ่นะ " พี่โรลพูดพลางเปิดตู้เสื้อผ้าทันที และ
' พรืดดดดดด '
ผมตกใจตาโตตัวแข็งทื่อกับภาพที่เห็น พี่โรลที่ทำหน้าเหมือนกับกูตายแน่ ตอนนี้ยืนหลับตาปี๋เลยครับ พี่ลืมใช่ไหมว่าไม่ควรเปิดมันออก นี่มันอะไรก๊านนนน ไอ้บ้า ไอ้พี่โรล นี่มันเข้าขั้นโรคจิตแล้วโว้ย
" มีอะไรจะพูดไหม " ผมถือรูปแอบถ่ายตัวเองในมือพลางตาโตใส่อีพี่ผีทะเลนี่ หนอยยย แอบถ่ายตั้งแต่ร้านชาบูเลยนะเนี่ย นึกว่าเซลฟี่
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่จริงๆ ผมตกใจผสมดีใจครับ นี่พี่เป็นเด็กน้อยหรือไง แถมเก็บกดด้วยนะเนี่ย และมันทำให้ผมนึกถึงตัวเองตอนที่ชอบพี่นายขึ้นมา ผมรู้ว่าพี่รู้สึกยังไง ผมคงว่าพี่ไม่ได้หรอกครับ แต่เดี๋ยวนะ นี่มันอะไรฟะนั่น
ผมเอื้อมมือไปหยิบหมอนข้างลายตัวเองขึ้นมา และก็ต้องมือสั่นน้อยๆ เอ่อ
" พี่โรล ไอ้... " ผมไม่พูดเปล่าแต่กระหน่ำฟาดไอ้พี่โรคจิตนี่ด้วยหมอนข้างแสนรักของอีพี่นี่ หนอยยย อ้ากกก หมอนข้างนี่มันอะไร มันจะไม่เป็นอะไรเลย ถ้ามันไม่มีรูโว้ย
พี่โรลวิ่งหนีผมออกไปนอกห้อง และพยายามห้ามผมพลางโดดหลบหมอนข้างนี่ไปด้วย เจ็บใช่ไหม จะฟาดให้ตายเลย ไอ้บ้า
" อย่า! " พี่โรลวิ่งหนีพลางหันมาทำมือห้ามผม
" สำนึกไหม ไอ้บ้านี่! "
" อย่า เดี๋ยวขาด! " อ้ากกกก นี่ไม่ได้สำนักเลยสักนิด แค่ห่วงของทะลึ่งแค่นั้นเอง หนอยยยย
" เดี๋ยวๆ ลี่ เข้าใจผิดแล้ว " พี่โรลพูดพลางโดดเข้ามาล็อคแขนผม
" เข้าใจผิดอะไร รูมีไว้ทำไม " ผมยังคงพยายามตะกายหน้าหล่อๆ ของคนโรคจิตอยู่ครับ
" มันไม่ใช่รู ฟังพี่ก๊อนน "
หลังจากเล่นหนังอินเดียกันหลายนาที ผมก็เริ่มจะวิ่งไม่ไหว คนหรือลิงฟะ ไวชิบ แปบๆ พี่แกก็โดดขึ้นไปด้านบนบ้าง บนโต๊ะบ้าง มุมนั้นมุมนี้ จนผมเวียนหัวไปหมด
ผมที่ตัวอ้วนก็หมดแรง ล้มเผละลงกับพื้น โอ้ยย ไม่ไหวแล่ว ตายๆ ผอมพอดีแบบนี้
ผมยังคงกำไอ้หมอนข้างของไอ้คนหื่นนี่พลางเพ่งมองดีๆ หนอยย สั่งทำร้านไหนฟะ จะได้ทำมั่ง เอ้ย จะได้ไปพังร้านมัน เป็นหมอนข้างที่มีหูด้านบน ขนาดเล็กกว่าตัวผมนิดนึง เหมือนแมวตัวอ้วนๆ ที่มีหน้าผมอยู่บนนั้น
ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังค่อยๆ เลาะกำแพงเดินมาช้าๆ พลางยิ้มให้ผม ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ
" ขอคืนให้พี่เถอะ " ยังๆ ยังจะมีหน้าขอคืนอีก
" เดี๋ยวพี่ทำให้ดู มันไม่ใช่รูจริงๆ นะ " ผมมองพี่โรลพลางหน้าบึ้ง
พี่โรลดึงหมอนข้างนั้นไปช้าๆ และทำท่าชี้ให้ดู
" เห็นหูนี่ไหม " ผมมองหูแมวสองข้างน่ารักๆ ที่พี่โรลชี้
" แล้วนี่ จะเป็นรูได้ยังไง " พี่โรลพลิกกลับด้าน และล้วงตรงที่เป็นรูให้ดูครับ พี่โรลล้วงและดึงข้างในออกมา ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันคือหางนั่นเอง
อ๊าวว เวรละกูฟาดพี่เขาไม่ลืมหูลืมตาเลย ฮ่าๆๆๆ
" แล้วใครให้ดันมันกลับเข้าไปแบบนั้นอ่ะ ยังไงมันก็เหมือนจะเอาไว้ทำเรื่องไม่ดี ได้อยู่ดีแหละ "
" ถ้าจะทำเรื่องแบบนั้น ทำกับตัวจริงเลยดีกว่า " ผมตาโตมองพี่โรลและแย่งหมอนข้างนั้นมาฟาดพี่แกอีกที
" ทะลึ่ง " ไอ้บ้า พูดแบบหน้าไม่อายเลย อ้ากกกก เขินโว้ย
ผมที่ตอนนี้เขินจนหน้าดำหน้าแดงกอดหมอนข้างลายตัวเองไว้แน่น
" เมื่อไหร่จะได้เป็นแฟนน้า " ผมที่ได้ยินแบบนั้น ก็ยิ่งเขินไปใหญ่
" พี่ชอบลี่ " เสียงทุ้มหูที่ไม่มีแววล้อเล่นดังขึ้น
ผมที่ก้มหน้าอยู่กับหมอนข้างก็เงยหน้าขึ้นมาช้าๆ มองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นและดึงมือผมไปจับเอาไว้
พี่โรลยิ้มอย่างอ่อนโยน ก้มลงหอมที่มือผมและเอามาแนบแก้มตัวเอง เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่พี่รักและหวงแหนเหลือเกิน
ผมพูดไม่ออก ไม่คิดว่าพี่จะพูดมันออกมา ถึงแม้ว่าพี่จะแสดงออกชัดเจนอยู่แล้วก็เถอะ ขอบคุณนะครับ ที่บอกให้ผมรับรู้ตรงๆ แล้วก็ รอผมอีกนิดนะ อีกไม่นาน ผมก็จะบอกพี่ออกไปตรงๆ บ้าง
ว่าผมก็ชอบพี่เหมือนกัน