Calorie ที่ 3 พี่โรลผู้แสนติสแตก ผมปั้นยิ้มและนับหนึ่งถึงร้อยในใจช้าๆ พลางมองใบหน้าของคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุด
" สวัสดีครับ " ผมยกมือไหว้และส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้
" โอ้โห จำแทบไม่ได้เลย กินดีอยู่ดีขึ้นสิเรา " พี่นายหยอกผมและส่งยิ้มอย่างใจดีมาให้
" ครับ ก็นิดนึง ผมคิดว่าพี่ไปเรียนที่กรุงเทพฯ ซะอีก " ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ครับ เพราะว่าพี่นายนั้นคือรุ่นพี่ของผมที่โรงเรียนเก่า และสอบติดมหา'ลัยดังในกรุงเทพฯ ใครจะคิดละครับว่าจะเลือกมาเข้าที่นี่แทน
" พี่ไม่อยากอยู่กรุงเทพน่ะสิ อยู่นี่ก็ใกล้ดี แล้วทำไมตอนปัจฉิมม.6 ลี่ถึงไม่ไปหาพี่ล่ะ พี่ก็รออยู่นะ แต่ลี่ก็ไม่มา " ผมหลบตาพี่นายที่กำลังทำหน้าเศร้ามองผม
" พอดีผมไม่ค่อยสบายช่วงนั้นก็เลย...ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ " ผมโกหก เพราะเหตุผลที่ผมไม่ไปจริงๆ นั้น มันเจ็บปวดจนผมพูดไม่ออก
" ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็เรียนที่เดียวกัน แถมคณะเดียวกันอีก เย็นนี่พี่เลี้ยงนะ ไปกินข้าวกันนะครับ " พี่นายพูดพลางดึงแก้มผมเบาๆ แต่ผมก็หันหน้าหลบ
พี่เป็นแบบนี้เสมอ เป็นมานาน และเป็นกับทุกคน ผมรู้ซึ้งถึงมันดี คนหน้าตาดีนี่เจ้าชู้ทุกคนเลยสินะ
" แต่ว่าผม.. " ผมอึกอักลังเล
" ตกลงนะ " พี่นายยังคงยิ้มและรอคำตอบ
" ครับ " ผมไม่เคยปฏิเสธคนคนนี้ได้เลย
ในช่วงบ่าย ผมที่ทั้งง่วง ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ก็ต้องทนตรากตรำเข้าร่วมเล่นเกมส์และร้องเพลงกับเพื่อนๆ ซึ่งพี่นายที่เป็นพี่วินัย ก็ส่งยิ้มมาให้ผมตลอดเวลาที่อยู่ด้านล่าง แต่มันกลับทำให้ผมอึดอัดมากกว่าจะรู้สึกดี
' พี่นายโครตหล่อ '
' เค้าว่าเป็นเดือนคณะปีที่แล้วไงมึง '
' แค่เดือนคณะเหรอ แล้วใครได้เป็นเดือนมหา'ลัยวะ '
' เค้าว่ากันว่าอยู่ถาปัตย์เว้ย หล่อที่สุดเท่าที่มหา'ลัยเคยมีมา '
' หล่อกว่าพี่นายนี่ก็เทพบุตรแล้วมั้ง '
ผมฟังเสียงซุบซิบที่ดังรอบๆ ตัวผมด้วยสีหน้านิ่งเฉย ผมไม่แปลกใจนักหรอกครับ เพราะว่าพี่นายน่ะ ตอนสมัยม.ปลาย ก็เป็นดาวเด่นของโรงเรียน ทั้งหล่อ ใจดี พูดเพราะ สุภาพบุรุษ เทคแคร์ทุกคนจนทำให้พวกผู้หญิงมีเรื่องกันเสมอ และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ถูกความอ่อนโยนของพี่ล่อลวงไป
แต่จริงๆ เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้เป็นชอบผู้ชายหรอกนะ ผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงเมื่อสมัยม.ปลายเหมือนกัน แต่ก็ไปไม่รอดสักคน ผมอาจไม่เหมาะจะมีใครละมั้ง ไอ้เมี่ยงบอกว่าผมติสเกินไป ชีวิตแม่งโดนทำร้ายแท้ๆ
ตกเย็น เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นแล้ว พร้อมๆ กับความอดทนของผม ตอนนี้ท้องของผมร้องโครกครากอย่างน่าหวาดหวั่น
" ไปกันลี่ กินไรดี " พี่นายเดินมากอดคอผม ซึ่งแน่นอนว่าผมเบี่ยงตัวหลบทันควัน
" เอ่อ ผมต้องไปคณะสถาปัตย์ก่อน " ผมนึกขึ้นได้ว่าป่านนี้ไอ้เมี่ยงอกแตกตายแล้วมั้ง เมื่อกลางวันผมก็ไม่ได้ไปหามันด้วย
" พอดีเลย พี่ก็ต้องไปรับเพื่อนด้วยเหมือนกัน " ผมที่ตอนแรกตัดสินใจว่าจะเดินไป ก็ถูกพี่นายลากขึ้นรถซะได้
" ตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 3 เท่าเลยนะเนี่ย แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี " ผมไม่หลงไปกับคำพูดนั้นหรอก พี่หลอกผมไม่ได้อีกแล้ว
" ผมไม่ใช่ลี่คนเดิมแล้วครับ " ผมพูดและยิ้มให้พี่นายที่ทำหน้างงๆใส่
ไม่นานผมก็มาถึงหน้าคณะสถาปัตยกรรม จริงๆ แค่เดินมาก็ถึงแล้วล่ะ ผมลงจากรถและมองหาไอ้เพื่อนตัวแสบของผม
" ลี่~ ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้ โธ่ ทิ้งคนหล่อให้กินข้าวคนเดียวได้ไง " ผมยืนนิ่งๆ มองหน้าไอ้เมี่ยงที่จับไหล่ผมไว้ และเขย่าผมแรงๆ จนแก้มสั่นไปหมด แต่แล้วไหล่ผมที่ถูกจับอยู่ก็โดนบีบแรงขึ้น เอาล่ะ นรกจะแตกหรือเปล่าเดี๋ยวรู้กัน
" ลี่ ทำไมวะ " ผมหลบตาไอ้เมี่ยงที่มองผมอย่างไม่พอใจ
" สวัสดีครับ พี่นาย ยังไม่ตายอีกเหรอครับ " ไอ้เมี่ยงเปลี่ยนเป้าหมายจากผม ไปเดินรอบๆตัวพี่นายที่ยืนยิ้มเฉยๆแบบไม่สะทกสะท้านมองไอ้เมี่ยง
" ปากเก่งเหมือนเดิมนะ "
ไอ้เมี่ยงกับพี่นายนั้นก็เหมือนน้ำมันกับไฟ เพราะเพื่อนผมมันแค้นคนคนนี้มาก แต่ผมไม่โทษพี่นายหรอกครับ เพราะตบมือข้างเดียวนั้นมันไม่มีวันดัง
" มึงยังไม่เข็ดอีกใช่ไหม " ไอ้เมี่ยงก้มลงกระซิบข้างหูผมและกัดฟันกรามแน่น
" มึงคิดแบบนั้นเหรอ " ผมพูดเบาๆ ด้วยสีหน้านิ่งเฉย
" มันกำลังมาเล่นกับมึงอีกแล้ว ดูสภาพมึงตอนนี้สิ ขนาดเมื่อก่อนมึงดีแค่ไหน มันยังทำแบบนั้นกับมึงเลย "
" แล้วมึงคิดว่ากูจะเล่นกับพี่เขาเหรอ " ผมยังคงพูดเบาๆ เหมือนเสียงกระซิบกับมันด้วยใบหน้านิ่งเฉยเช่นเดิม
" มึงเพื่อนกู ถ้าไอ้เชี่ยนี่แตะมึงเมื่อไหร่ กูฆ่ามันแน่ "
" สภาพกูแบบนี้พี่เขาจะเอาเหรอ กูรู้น่าไม่ต้องห่วง ไม่มีใครหลอกกูได้อีกแน่ๆ มึงคิดมากนะ " ผมหัวเราะหึ
" คุยอะไรกันเหรอ น่าสนุกนะ ให้พี่คุยด้วยสิ " พี่นายยื่นหน้าเข้ามาและส่งยิ้มกวนประสาทให้ไอ้เมี่ยง อย่าต่อยกันตรงนี้เด้อ
" อ้าว โรล มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ " ผมหันไปมองตามเสียงของพี่นายกำลังเรียกเพื่อนตัวเองอยู่
" เฮ้ย มึงได้ยินกูไหมเนี่ย " พี่นายเดินเข้าไปหาเพื่อนและโบกมือไปมาอยู่ตรงหน้า แต่เพื่อนคนนั้นก็เหมือนกับอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง แต่เดี๋ยวนะจ้องผมเหรอ
ผมมองไปรอบๆ และสังเกตุว่าผู้คนต่างหยุดยืนมอง หรือเดินแล้วเหลียวหลัง และซุบซิบเสียงดัง ผมมองไปด้านหลังของผม แต่ก็ว่างเปล่า ไอ้หมอนั่นมันยังไงกันนะ
" เออๆ กูไม่ได้หูหนวก " คนคนนั้นดึงหูฟังออกจากหูและเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ในปาก สพายกระเป๋าที่ไหล่ แต่งตัวเซอร์ๆ ตามสไตล์หนุ่มสถาปัตย์ แต่มันแปลกตรงที่ว่า มันดูดีสุดๆเลยครับ ต้องบอกว่าออร่ามันทำเอาคนแถวนี้กลายเป็นอสูรกายไปเลย ขนาดพี่นายที่ว่าหล่อแล้ว ผมว่าก็ยังไม่เท่า
แต่ว่านะ ผมไม่สนหรอก อย่าคาดหวังกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งนั้นทำให้ผมได้แค่ก้มมองพื้นและยอมรับชะตากรรมเท่านั้น มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ไอ้ความเพ้อฝันชวนอ้วกแบบในนิยายน่ะ พอเถอะ กลับสู่โลกความเป็นจริงสักที
" ผมไปรอที่รถนะครับ ป่ะเมี่ยง " ผมกอดคอเพื่อนและลากมันเดินไปยังลานจอดรถ ซึ่งมันก็ตามมาง่ายๆ ผมรู้ว่าเพราะอะไร ก็เพราะว่ามันจะไม่มีวันปล่อยผมไปตามลำพังกับพี่นายไงครับ เพื่อนผมถึงมันจะปัญญาอ่อน แต่มันก็ดูแลผมเสมอ
ไอ้เมี่ยง มันก็จัดว่าเป็นคนที่หล่อมากๆ คนหนึ่ง และเป็นเสือผู้หญิงละมั้ง เพราะมันชอบแซวหญิง ซึ่งผมคิดว่าเสือสองตัวมักจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ มันเลยฟัดกับเสือรุ่นใหญ่แบบพี่นาย ซึ่งมันก็ต้องแพ้ทุกที อย่างน่าสงสาร ก็อย่างว่าแหละ แค่รวยก็ชนะขาดแล้วครับ
" น้องลี่ นี่เพื่อนพี่ ชื่อโรล เอ่อ อย่าไปสนมันมากนะ มันจะแปลกๆ แบบนี้แหละ " ผมมองพี่นายและอีพี่โรลที่เดินตามมา หมอนั่นไม่ยอมมองผมแต่กำลังมองไปยังบนท้องฟ้า พลางฮัมเพลงแบบไม่สนโลก แปลว่าเมื่อกี้ผมคิดไปเองสินะ ว่าหมอนี่มองผมอยู่
พี่นายจงใจไม่แนะนำไอ้เมี่ยงครับ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องปกติ และผมก็คิดว่าดีแล้วล่ะ
" พี่โรล หวัดดีครับพี่ เมื่อกลางวันขอบคุณนะครับ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยกมือไหว้คนที่กำลังแกะหมากฝรั่งออกจากแก้มตัวเองอยู่
" หวัดดีๆ ไหว้พระ " ผมว่าไอ้พี่โรลนี่น่าจะไม่เต็มครับ เสียดายเนอะ ผมอยากหล่อได้สักครึ่งของหมอนี่จัง และผมว่าไอ้เมี่ยงได้คู่หูที่ดีแล้วล่ะแบบนี้ บ้ากว่ามันซะอีกดูแล้ว
" เฮ้ย อะไรของมึงวะ มานั่งข้างกูดิ " พี่นายร้องบอกทันทีที่ไอ้พี่โรลขึ้นไปนั่งด้านหลังครับ มันแปลกจริงๆนะหมอนี่
" เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมนั่งข้างพี่เอง " ผมตัดสินใจและเปิดประตูรถเตรียมพร้อมจะขึ้นไป แต่ว่าอยู่ๆไอ้พี่โรลนั่นก็พุ่งพรวดไปที่เบาะหน้า และนั่งทำหน้ามึนแบบไม่รู้ไม่ชี้อีกนะ อะไรของมันฟะ
สุดท้ายผมก็นั่งกับไอ้เมี่ยงที่ทำหน้ายักษ์ตลอดเวลา พลางมองดูไอ้พี่โรลที่ตอนนี้ยกเท้าขึ้นมาวางลงบนช่องแอร์ เอ่อพี่ครับ ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์ครับ ไอ้หอกเอ้ย
" น้องลี่คิดออกหรือยังว่าจะกินอะไร " พี่นายพูดพลางยิ้มแป้น
" กินอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องจ่าย ขอแพงๆ " ผมไม่ได้พูดนะครับ ไอ้เมี่ยงมันพูด แต่ผมก็คิดแบบนั้นแหละ ฮ่าๆ
" เอ่อ บุพเฟ่ " ผมอยากกินให้ลืมโลกไปเลยครับ ยิ่งกับคนที่ทำให้ผมไม่สนโลกด้วยแล้ว ต้องจัดหนัก จัดเต็ม
" มาร์ชแมลโลว์ " ผมมองไอ้พี่โรลที่เหมือนกำลังพูดกับตัวเอง
" ผมมีนะ มาร์ชแมลโลว์น่ะ " ผมเปิดกระเป๋าล้วงเอาขนมที่ผมเก็บไว้สารพัดออกมาและก็เจอห่อนึง มันเป็นสีชมพูรูปหัวใจซะได้ ไม่ให้ดีไหมเนี่ย
' หมับ ' ผมสะดุ้งน้อยๆ เพราะอยู่ดีๆไอ้บ้าพี่โรลนี่ก็ล้วงมือเข้ามาในกระเป๋าของผมแบบไม่ได้รับอนุญาต และกำขนมผมออกไปหลายห่อเลยทีเดียว เดี๋ยวเถอะไอ้ห่าเอ้ย สมบัติของข้า เอื้อออ
" แลกกัน " ผมมองมือไอ้พี่โรลที่กำลังล้วงกระเป๋าตัวเองอยู่และยื่นช็อคโกแลตหน้าตาแปลกๆ ที่ดูโครตแพงและน่ากินมาให้ผม อื้อหือ แบบนี้เดล!!
" กินอะไรที่แคลอรี่น้อยลงดีกว่านะลี่ พี่เป็นห่วง " พี่นายหันมาพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง ชิ อย่ามาขัดลาภนะ
" พรุ่งนี้จะลดแล้วครับ "
" กูเห็นมึงพูดมาเป็นปีละ " ผมเหยียบทีนไอ้เมี่ยงไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
แต่ผมก็ต้องแปลกใจ เพราะว่าหลังพูดจบ พี่โรลก็ยื่นช็อคโกแลตมาให้ผมอีก ซึ่งเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว และทำท่าจะยกทั้งกระเป๋าให้ผม
" เอ่อ พอแล้วครับ " พูดไปงั้นแหละ จริงๆ หนูช๊อบชอบ ฮ่าๆ
" พี่จะขุนเพื่อนผมเพิ่มใช่ไหมเนี่ย ฮ่าๆ " ไอ้เมี่ยงพูดพลางแย่งขนมไปกิน ซึ่งผมก็แย่งกลับมาจากปากมันเลยด้วยซ้ำ ของกินข้าใครก็ห้ามแตะเฟ้ย
แต่แบบนี้ก็ดีแฮะ ผมว่าผมอาจจะต้องมองไอ้พี่โรลนี่ใหม่ซะแล้ว นี่มันตู้ขนมเคลื่อนที่ชัดๆ แต่ว่าก็น่าแปลกนะที่คนแบบนี้จะมาเป็นเพื่อนกับพี่นาย สงสัยคงจะมีอะไรคล้ายกันละมั้ง ผมเผลอมองดูพี่โรลที่หันมายื่นขนมให้ผม และพี่โรลก็เหลือบตาขึ้นมามองผมพอดี เหมือนพี่โรลจะชะงักไปเล็กน้อย และทำขนมร่วงกราวลงกับพื้น
" ผมเก็บเอง ผมเก็บเอง " ผมแย่งเก็บขนมที่ร่วงลงกับพื้นเพราะผมเกรงใจพี่เขา แต่ว่ามันแปลกมาก เพราะอีตาพี่โรลที่เหมือนกำลังจะช่วยผมเก็บขนมที่หล่น แต่กลับคว้าหมับเข้าที่มือผมซะงั้น
ตกลงไอ้บ้านี่มันยังไงกันแน่เนี่ย