[เรื่องสั้น] แด่สหายผู้ฟั่นเฟือน {One Shot}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] แด่สหายผู้ฟั่นเฟือน {One Shot}  (อ่าน 1150 ครั้ง)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
Share This Topic To FaceBook
Share This Topic To FaceBook
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เสียงฝีเท้าดังแผ่วเบามาจากร่างโปร่งที่สวมชุดสีขาวปลอดตลอดทั้งตัว มวลหมู่เมฆสีขาวที่ลอยอ้อยอิ่งชนเข้ากับใบหน้าจนเจ้าตัวจามฮัดชิ้วออกมาและสาวเท้าเข้าไปหาฝูงสัตว์ที่กำลังเดินทอดน่องกันในสวน

หมู่วิหคสีขาวที่จำลองจากโลกมนุษย์บินว่อนบางตัวเข้ามาคลอเคลียเจ้าของรอยยิ้มน้อยๆ ที่สามารถทำให้โลกทั้งใบสว่างไสวในพริบตา กวางทองซึ่งมีเขาสีขาวโง้วสวยเดินช้าๆ เข้ามาใกล้ ปล่อยให้ตัวมันถูกปีนขึ้นด้วยร่างเล็กและสาวเท้าต่อเข้าไปในสวนสวยที่เต็มไปด้วยพืชพรรณดื่นดาษตา มีทั้งแบบสีเขียวชอุ่มของโลกมนุษย์และสีทองสลับขาวของชาวสวรรค์

กระต่ายสีขาวที่มีสีต่างๆ ปะปนพากันกระโดดโหยงเหยงตามกวางทอง นกแก้วเจ้าบทเพลงกรีดเสียงร้องด้วยเสียงอันไพเราะช่วยขับกล่อมให้สถานที่แห่งนี้ด้วยล้ำค่ามากขึ้นไปอีก

สถานที่ที่แม้แต่มนุษย์ผู้ร่ำรวยและมากอำนาจที่สุดในอาณาจักรมนุษย์ก็มิอาจไขว่คว้าถึง...

"...สวย"

ร่างโปร่งที่เกาะอยู่บนหลังกวางทองพึมพำกับตัวเอง รู้สึกดีมากๆ ที่ได้เห็นสถานที่ที่สวยขนาดนี้แต่ลึกๆ ในใจกลับรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยมาสถานที่แห่งนี้แล้ว

"ช่างเถอะ""

คิดเองเออเองอย่างไม่คิดมากและปล่อยให้สิ่งที่เข้ามาในหัวเมื่อกี้เลือนหายไปช้าๆ ซึ่งอีกเพียงไม่นานก็คงจะลืมสิ่งที่ตัวเองสงสัยไปเรียบร้อย เพราะถ้าหากสนใจใคร่รู้มากเกินไปก็จะปวดหัวหนักจนแทบทนไม่ไหว หมอกดำครึ้มประหลาดไหลบ่าเข้ามาในหัวราวกับธารน้ำตกเกรี้ยวกราดที่ชำระล้างทุกสิ่งทุกอย่างให้สะอาดหมดจดจนไม่เหลืออะไรอยู่ในนั้น
แม้แต่ตัวตนของตัวเอง..

 ร่างโปร่งยังไม่แน่ใจนักว่าเป็นใครกันแน่ 

รู้แต่ว่าทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมาก็จะเห็นสวนสวยที่เหมือนตั้งอยู่บนก้อนเมฆ ในหัวไร้ซึ่งความทรงจำของเมื่อวานมีเพียงสิ่งที่รับรู้ในวันนี้ดำรงอยู่ก่อนที่มันจะหายไปเมื่อทิ้งตัวลงไปในภวังก์ของการหลับฝัน

"...คุณกวาง"

เสียงนุ่มกระซิบข้างหูเจ้ากวาง นัยน์ตาสีดำโศกกระพริบปริบทอดมองบรรยากาศสวยๆ แล้วฝังใบหน้าลงบนหลังคอนุ่มนิ่ม 

"ข้าอิจฉาเจ้าจัง"

เจ้ากวางยังคงเดินต่อ มันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตจำลองไม่ได้มีชีวิตอยู่จริงๆ นอกจากกิริยาท่าทางแบบสัตว์แสนรู้พวกมันก็ไม่สามารถทำอะไรมากกว่านั้น แม้แต่การโต้ตอบง่ายๆ อย่างการพยักหน้าพวกมันยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ

"เจ้ามีเขาที่สวย" ไม่ว่าเปล่าไล้มือไปตามเขาที่ที่แตกยอดสวยราวกับกิ่งไม้บนต้นไม้ใหญ่ "ต่างจากข้า ที่มีเพียงชีวิตกลวงๆ ไร้ซึ่งความทรงจำ ไร้ซึ่งตัวตน"

เขาอยากจะสงสัยว่าตัวเองเป็นคนใคร มีพื้นเพมาจากไหนกันแน่ แต่ก็ทำได้แค่อยากเพราะเหตุผลเดิม
นัยน์ตาของเขาวูบไหว

'อะไรบางอย่าง' กำลังควบคุมตัวเขาอยู่คล้ายกับคำสาปที่ฝังลงไปในจิตวิญญาณ ไม่อาจขัดขืนได้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง หรือต่อให้ใช้ชีวิตทั้งชีวิตและน้ำตาในร่างทั้งหมดก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

"...!"

ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือกจากภวังก์และเบิกตากว้าง เมื่อพบว่าเจ้ากวางที่ตัวเองขี่อยู่นั้นไปหยุดตรงหน้าใครบางคน
เขาเป็นชายร่างใหญ่ในชุดสีดำประหลาดตัดขอบเนียนกริบลากยาวเกือบถึงพื้นให้กลิ่นอายถึงความเที่ยงธรรมและความสัตย์ตรงจนไม่อาจกล้าพูดปดต่อหน้าคนผู้นี้ แขนข้างหนึ่งที่พ้นจากแขนเสื้อเต็มไปด้วยอักขระสีทองที่เขียนไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนที่ข้างเอวนั้นมีดาบสีขาวสว่างจ้าเรืองรองเหน็บเอาไว้ในฝัก ใบหน้าของเขานั้นมีสีหน้านิ่งสนิทแต่กลับฉายชัดถึงความคมคายและความเคร่งครัดในกฎระเบียบ

บุคคลที่ยืนตรงหน้าของร่างโปร่งนั้นคือ 'แฮฟาน' ผู้รักษากฎสวรรค์มานับพันปีด้วยความเคร่งครัดต่อหน้าที่จนกลายเป็นผู้ถือครองตำแหน่งเทวาแห่งความยุติธรรม เป็นชาวสวรรค์ขั้นเกือบสูงสุดรองลงมาจากท่านโฟเทียสผู้สร้างโลกใบนี้ มีหน้าที่ตัดสินคดีความบนโลกสวรรค์และรักษากฎสวรรค์ไม่ให้ผู้ใดละเมิด

นอกจากนั้นแฮฟานก็ยังสามารถตรากฎสวรรค์ขึ้นมาใหม่โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของใคร เพียงแค่ลั่นวาจาออกมาสามครั้ง สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นกฎสวรรค์ ห้ามให้ผู้ใดขัดขืน

"ตื่นแล้วเหรอ เอสเตอร์"

เสียงดุแข็งกร้าวที่มักจะใช้ในการข่มขู่รีดเค้นความจริงจากเหล่าเทวา ณ เวลานี้กลับอ่อนลงจนแทบรู้สึกได้ นัยน์ตาสีคล้ายจักรวาลสีดำบนฟากฟ้าแฝงแววเอ็นดูนิดๆ แต่ที่ชัดไปกว่านั้นคือความเจ็บปวด

"...?"

เจ้าของนัยน์ตาโศกเอียงคองงๆ กระพริบตาปริบ

"เอสเตอร์? ใครกัน"

น่าแปลกที่เพียงแค่พูดชื่อออกไป หัวใจก็บีบรัดแน่นจนจุกไปหมด ความรู้สึกคลับคล้ายคลับเคลาเกิดขึ้นอีกครั้งก่อนจะถูกกระแสน้ำเชี่ยวรุนแรงพยายามกระแทกกระทั้นให้สิ่งที่กำลังจะปรากฎในหัวให้หายไป

"..ชื่อของเจ้า"

มือสากที่จับดาบมานานนับพันปีลูบหัวเอสเตอร์ 

"ชื่อของเจ้าตอนที่เจ้าเป็นแค่องค์ชายรองในเมืองมนุษย์"

แฮฟานรวบตัวเอสเตอร์ขึ้นมานั่งบนตักตัวเอง ใช้แขนสองข้างโอบกอดทั้งตัวและฝังใบหน้าลงที่หลังคอของชายร่างโปร่งที่เขาหลงใหลจนยอมทำตามกฎที่ตัวเองตั้งขึ้นมาด้วยความเดือดดาลในวันนั้น วันที่เขาหงุดหงิดเทวาสาวคนหนึ่งที่ลอบนำมนุษย์ขึ้นมาอยู่ด้วยจนความลับสวรรค์รั่วไหลและเกิดเรื่องวุ่นจนโลกมนุษย์ปั่นป่วน

เขาในตอนนั้นยืนตวาดกร้าวต่อหน้าเทวานับพัน

ใต้ฝ่าเท้าข้างขวาคือหัวของมนุษย์ ใต้คมดาบด้านซ้ายคือหัวเทวาผู้ทรยศต่อสวรรค์

'ผู้ใดที่กล้านำมนุษย์ที่มากด้วยเล่ห์และแสนฉ้อฉลขึ้นมาบนสวรรค์ มนุษย์ผู้นั้นถ้าไม่สติฟั่นเฟือนก็มีความจำได้ไม่เกินหนึ่งวันก็จะลืมเลือน!'

ถึงแม้ว่าจะอยากลงโทษหรือตั้งกฎสวรรค์รุนแรงกว่านี้แต่แฮฟานก็ไม่สามารถทำได้ อย่างไรเสียท่านโฟเทียสก็ให้ค่ากับชาว
สวรรค์และชาวมนุษย์พอๆ กัน สิ่งที่พอทำได้คือการสร้างกฎที่ทำให้พวกเทวายอมตัดใจจากพวกมนุษย์ซะ ผู้รักษากฎสวรรค์อย่างเขาจะได้ไม่ต้องทำหน้าที่อะไรให้มันเหนื่อยมากนัก
 

แต่น่าเสียดายที่วันหนึ่งสิ่งเหล่านี้ที่แฮฟานมองข้ามมาตลอดกลับกลายเป็นดาบแทงกลับเข้าที่หัวใจของตัวเอง
 
การลาพักร้อนของแฮฟานครั้งนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบพันปีและก็เกิดจากการบังคับให้พักร้อนด้วย แฮฟานเลือกที่จะลงไปยังเมืองมนุษย์ใกล้ๆ ตั้งใจจะพักสักอาทิตย์หนึ่งแล้วกลับมาทำงานอย่างขยันขันแข็งเช่นเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องทำ รู้เพียงว่ารู้สึกดีทุกครั้งที่สามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างคงอยู่ในระเบียบ ไม่มีอะไรที่ออกนอกกฎเกณฑ์ ทำให้โลกใบนี้ดำเนินต่อไปได้อย่างปกติสุขและสวยงาม

ซึ่งมันก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวแฮฟาน เพราะถ้าเจ้าตัวไม่ลงจากสวรรค์ก็คงไม่ต้องมาเจอชีวิตอาภัพขององค์ชายรอง เอสเตอร์ บุตรชายที่อายุห่างจากบุตรคนแรกและคนสุดท้ายเพียงปีสองปี อ่อนหัดในทุกด้าน หัวไม่ค่อยดี จนถูกรังแกอยู่บ่อยๆ ในตอนเด็กและรุนแรงในตอนปลาย

ทุกวันที่ลืมตาตื่นขององค์ชายเอสเตอร์ก็เหมือนกับนรกบนดิน ถูกคนรอบข้างรังแกไม่พอยังไม่มีคนสนับสนุนอีก เพราะแทบจะไม่มีโอกาสในการถือสิทธิ์ครองบัลลังก์

แต่ถึงโลกจะโหดร้ายกับองค์ชายเอสเตอร์ถึงเพียงนั้น เจ้าตัวก็ยังคงรอยยิ้มสุภาพและจิตใจอันอ่อนโยนเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

น่าเสียดายที่โลกใบนี้นั้นดำรงอยู่ด้วยกฎง่ายๆ อย่างผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอด องค์ชายเอสเตอร์จึงถูกลอบวางยาพิษและสิ้นใจในที่สุด

แฮฟานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดทอดมองมนุษย์ด้วยสายตาสมเพชและเดียดฉันท์

โลกของมนุษย์มันก็แบบนี้ เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกง ความอิจฉาริษยา ความเกลียดชังที่มีมากพอที่จะทำร้ายมนุษย์ที่มีจิตใจอ่อนโยนที่สุดให้ตายได้ ความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นมันรุนแรงจนแฮฟานอดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปสอดตอนที่เจ้ายมทูตที่กำลังจะเก็บวิญญาณ ด้วยการเจรจาขอวิญญาณและร่างของเอสเตอร์เอาไว้ ซึ่งสินบนก็ไม่มีอะไรมากนอกจากคำขอบคุณเล็กๆ น้อยๆ อย่างไรก็ตามผู้รักษากฎแห่งสวรรค์และผู้รักษากฎแห่งความตายก็สนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

เรื่องของเอสเตอร์จึงเป็นเรื่องเล็กน้อยมากในสายตาของยมทูต อย่างไรเสียบนโลกนี้ ผู้ที่เคร่งครัดในกฎเกณฑ์ที่สุดก็คือแฮฟาน ถ้าไม่ไว้ใจเขาก็คงไม่มีใครบนโลกไว้ใจได้อีก
 

ดวงวิญญาณของเอสเตอร์นั้นนิ่งสงบแม้กระทั่งตอนตายก็ยังคงยิ้มน้อยๆ ทอดมองร่างตัวเองที่นอนตายบนเตียงด้วยสายตาจนใจและขำขันนิดๆ ในความเซ่อซ่าของตัวเอง ไม่มีความโกรธหรือเกลียดชังอยู่ในแววตาสักนิด
ความบริสุทธิ์ของจิตใจของเอสเตอร์นั้นมากจนทำให้แฮฟานประหลาดใจ มันมากกว่าเทวาบางตนที่บอกว่าตัวเองดีอย่างงู้นดีอย่างนี้ด้วยซ้ำไป 

"เจ้ามาเก็บดวงวิญญาณข้างั้นเหรอ"

น้ำเสียงของเอสเตอร์นั้นนุ่มน่าฟัง นัยน์ตาสีดำโศกมองมาทางแฮฟานซึ่งอยู่ในชุดของผู้รักษากฎสวรรค์เต็มยศอย่างใคร่รู้
แฮฟานไม่ตอบแต่สะบัดมือครั้งหนึ่ง

"เหวอ!" 

จากเสียงนุ่มกลายเป็นเสียงหลง เอสเตอร์หลุดเสียงร้องดังลั่นเมื่อร่างวิญญาณของตัวเองถูกกระชากให้กลับเข้าไปในร่างมนุษย์ที่ซีดขาวอีกครั้ง 

ฉับพลันเรื่องประหลาดก็เกิดขึ้น ต้นคอขาวที่เคยเป็นรอยช้ำเขียวม่วงเพราะโดนพิษแผดเผาของเอสเตอร์ค่อยๆ คืนกลับเป็นสีเนื้อปกติที่ติดจะไปทางซีดขาวเพราะไม่ค่อยได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เอสเตอร์สะดุ้งเฮือกผลุดลุกขึ้นนั่ง กระพริบตาปริบอย่างงุนงงจ้องมองมือตัวเองที่สามารถขยับได้อย่างปกติอย่างไม่เชื่อสายตา

"..."

เอสเตอร์วางมือไว้บนขาอย่างประหม่าและจ้องแฮฟานนิ่ง

"..."

แฮฟานเลิกคิ้วงุนงง "มีอะไร มนุษย์" ปกติแล้วพวกมนุษย์ที่ได้ฟื้นคืนจากความตายมักจะดีใจมากๆ แต่นี่กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักนิด เอาแต่จ้องเอาๆ ไม่รู้จะจ้องอะไรนัก

"..หึ" เอสเตอร์หลุดขำแล้วยิ้มให้แฮฟาน "ขอบคุณเจ้ามากนะ"

"...!"



นั่นเป็นครั้งแรกที่แฮฟานเข้าใจถึงความรู้สึกของเทวาสาวผู้นั้น

ความรู้สึกที่ราวกับกำลังจะล่อลวงไปยังที่ที่ไม่รู้จักแต่ก็รู้สึกได้ว่ามันช่างหอมหวานและเย้ายวน

หัวใจที่เต้นอย่างสม่ำเสมอและเคร่งครัดในหน้าที่มานานนับพันปี วันนี้เป็นครั้งแรกที่มันเต้นผิดจังหวะไปครั้งหนึ่งก่อนที่มาจะกลับไปเต้นแบบปกติ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วถึงความผิดปกติของแฮฟานในเวลานี้

ร่างกายเย็นเฉียบร้อนรุ่ม อะไรบางอย่างพลุกพล่าน เลือดในกายร้อนฉ่า น้ำลายกลืนลงคออย่างยากลำบาก มือที่สัมผัสอยู่กับด้ามดาบเครียดเขม็งจนเส้นเอ็นเลือดปูดโปน
 

บางทีรอยยิ้มของมนุษย์ก็ช่างน่ากลัวนัก
 

นั่นเป็นสิ่งที่แฮฟานคิดก่อนที่จะตัดสินใจอยู่เมืองมนุษย์ต่อนานนับเดือน โดยแปลงกายเป็นคนใช้ร่างใหญ่ท่าทางโง่เง่าที่พอมีความสามารถในการต่อยตีบ้าง ทำให้ไม่ค่อยมีใครไม่ค่อยกล้าเข้ามาหาเรื่องเอสเตอร์นัก ถึงแม้ทุกคนจะค่อนข้างงุนงงกับที่มาที่ไปของคนใช้คนนี้อยู่บ้างก็ตามที ไหนจะเอสเตอร์ที่ไม่ตาย ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ชัดๆ ว่ากินยาพิษเข้าไปแล้วอีก พวกเขาทำได้เพียงเก็บทุกคำถามไว้ในใจเพราะรู้สึกว่าคงจะไม่ปลอดภัยนักถ้าจะสืบหาความจริง 

ชีวิตของเอสเตอร์กับแฮฟานจึงสงบสุขจนแฮฟานคิดว่ามันเป็นความฝันอันแสนหวาน

แฮฟานแทบจะลืมเลือนว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหนและมาที่นี้เพื่ออะไร

เพราะเอสเตอร์เป็นมนุษย์ที่มีความดีงามในตัวเองมากมายนัก ยิ่งพอได้รู้จักในตัวเอสเตอร์ก็ยิ่งทำให้แฮฟานลุ่มหลง การกระทำของเอสเตอร์นั้นมันน่าเอ็นดูมากจนเขาแทบทนไม่ไหว

ซึ่งก็นับเป็นโชคดีของแฮฟานที่เอสเตอร์คิดในแบบเดียวกัน

น้อยครั้งนักที่จะมีคนเข้ามาปกป้องและสุงสิงกับเอสเตอร์ ความแข็งแกร่ง ความเที่ยงตรง อะไรหลายๆ อย่างในตัวแฮฟานก็สามารถทำให้เอสเตอร์สนใจได้ไม่ยาก

แต่ทุกความฝันก็ย่อมมีวันตื่น

 

เวลาพักผ่อนของแฮฟานหมดลงเมื่อท่านโฟเทียสเรียกตัวแฮฟานขึ้นไป

"..ข้าไม่ไว้ใจให้เจ้าอยู่ที่นี่"

แฮฟานยืนกรานเสียงกร้าว กวาดตามองมนุษย์ที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยเวทย์มนตร์ของชาวสวรรค์ รูปลักษณ์โง่งมหายไปแล้วเหลือเพียงรูปลักษณ์ที่แท้จริงของแฮฟาน

ผู้รักษากฎแห่งสวรรค์ผู้องอาจและเที่ยงตรง

"..อือ ข้าจะขึ้นไปอยู่บนนั้นกับเจ้า"

เอสเตอร์ยิ้มละมุนอย่างเคยก่อนจะนั่งยองๆ ข้างพี่ชายตัวเองและลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ เชิงลา ถึงแม้จะสืบจนรู้ในภายหลังว่าพี่เป็นคนวางยาตัวเอง เอสเตอร์ก็ยังคงไม่โกรธอยู่ดี

"...แต่ก็อย่างที่เจ้าเคยบอก"

นัยน์ตาสีโศกสบกับใบหน้าหล่อคมคายด้วยสีหน้าสลดลง

"ถ้าข้าขึ้นไปอยู่บนนั้นข้าก็ต้องสติฟั่นเฟือนไม่ก็จำเจ้าไม่ได้"

เอสเตอร์พยายามยิ้มฝืนๆ ให้แฮฟาน สำหรับตัวเขาเองแล้ว เขาไม่มีปัญหาหรอกถ้าแฮฟานจะจำตัวเองไม่ได้แต่เขากลับเป็นห่วงอีกฝ่ายมากกว่า

"เจ้าจะทำใจได้งั้นหรือ แฮฟาน"

แฮฟานขบกรามกรอด แค่นึกภาพตามก็รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก นัยน์ตาคมกริบที่ไม่เคยมีน้ำตาสักหยดก็คล้ายจะมีน้ำตา
"ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่ ยังไงเจ้าก็ต้องตายด้วยน้ำมือพี่น้องของเจ้าอยู่ดี"

แฮฟานรู้จักใจมนุษย์ดีพอๆ กับกฎของสวรรค์ 

พวกมันไม่เคยปล่อยให้สิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการรอดชีวิต ต่อให้สิ่งๆ นั้นจะไม่มีผลอะไรต่อชีวิตมันก็ตาม แค่การคงอยู่ที่ทำให้พวกมันรู้สึกรำคาญ พวกมันก็รู้สึกยินดีและเต็มใจที่จะกำจัดทิ้งแล้ว

เขาถึงได้รังเกียจมนุษย์นัก

"..ข้ายังไงก็ได้ แฮฟาน"

เอสเตอร์ยิ้มลูบผมสีดำของตัวเองให้กลับมาเป็นทรงเพราะเพิ่งผ่านการนอนมาจนยุ่งเหยิงไปหมด แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือถูกมือใหญ่จัดทรงอย่างใส่ใจ จึงจำต้องลดมือลงและสบตากับเจ้าของมือแทน

"...ข้ายอมรับ"

แฮฟานหลับตาลง พยายามซุกซ่อนความอ่อนแอที่ตัวเองไม่เคยคิดอยากจะมีไว้หลังเปลือกตา "ข้าคงทำใจไม่ได้ถ้าปล่อยให้เจ้าถูกฆ่าอย่างเลือดเย็นด้วยพี่น้องของเจ้า"

"...มันเป็นเรื่องปกติ แฮฟาน" เอสเตอร์ยิ้ม "ข้าอ่อนแอ พวกเขาก็ย่อมอยากกำจัดข้าเป็นธรรมดา"

"..แต่ถ้าข้านำเจ้าไปบนสวรรค์ด้วย เจ้าก็ต้องสติฟั่นเฟือน"

เสียงที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจมาตลอดสั่นพร่า แฮฟานรู้จักตนเองดี สิ่งที่ทำเขาเอาไว้เหนือหัวและไหลเวียนอยู่ในสายเลือดก็คือกฎเกณฑ์ เขาไม่มีวันพังมันเพื่อประโยชน์ส่วนตัวอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่ามันเจ็บปวดเจียนตายก็ตาม

แฮฟานกัดปากแน่นจนเลือดไหลหยดลงมาช้าๆ
 

"เหมือนโศกนาฏกรรมเลยเนอะ" 

เอสเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะถึงแม้ว่ามันจะไม่มีอะไรน่าขำเลยก็ตาม ก่อนที่จะพยายามเขย่งขึ้นลูบหัวปลอบประโลมชายผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือผู้อื่นมานานนับพันปี

หากแต่จิตใจที่เต็มไปด้วยความสุขกลับอายุไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำไป

"เจ้าก็รู้ดีนี่ ท่านแฮฟาน เพราะโลกนี้มันไม่ยุติธรรม ท่านถึงต้องทำให้มันยุติธรรม"

เอสเตอร์ดึงมือของแฮฟานออกจากหัวมากุมไว้ พยายามพูดถ่ายทอดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุด ราวกับว่าเป็นเทวาที่ปลอบขวัญมนุษย์ที่กำลังขวัญหนีดีฝ่อเสียเอง 

"..ต่อให้ข้าไม่มีความทรงจำ ข้าก็เชื่อว่าข้าจะเหมือนเดิม"
 
 

"..แล้วเจ้าล่ะ"

เอสเตอร์ไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอดเพราะร่างกายเหมือนจะจดจำอะไรได้บางอย่าง รู้สึกคุ้นเคยกับอ้อมกอดนี้และโหยหามันมากๆ จนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กๆ

ความเจ็บปวดบางอย่างยังคงอยู่ในอกก็จริงแต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นเขากลับรู้สึกดีมากกว่า

"แฮฟาน ผู้รักษากฎแห่งสวรรค์"

แฮฟานตอบเนื้อตัวสั่นเทาหลับตารับสัมผัสอ่อนโยนที่ลูบหัวเบาๆ
 
เป็นอย่างที่เอสเตอร์กล่าวเอาไว้

เขายังคงเหมือนเดิมแม้ร่างกายจะปราศจากความทรงจำ

ทุกครั้งที่แฮฟานมาพบเอสเตอร์คือเวลาเดิมและมักจะเริ่มต้นด้วยคำถามเดิมๆ

เอสเตอร์ไม่ปฏิเสธอ้อมกอดของเขา ไม่ปฏิเสธความโหยหาล้ำลึก

ถึงแม้จะไม่มีการกอดกลับแต่นั่นก็เพียงพอแล้ว สำหรับหัวใจอันแห้งแล้งของแฮฟาน ขอเพียงเอสเตอร์ยังคงอยู่ ทุกอย่างบนโลกนี้ก็ไม่สำคัญทั้งนั้น

ขอเพียงเอสเตอร์ยังคงดำรงอยู่... เขาก็พร้อมที่จะอยู่ต่อไป

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
น่าเสียดายที่แฮฟานปลีกตัวมาพบเอสเตอร์ได้ไม่นานก็ต้องปลีกตัวกลับไปทำงานต่อ และน่าเศร้าไปยิ่งกว่านั้นก็คือความทรงจำของเอสเตอร์ที่จะถูกลบไปอีกครั้ง เพราะการพบกันครั้งใหม่ก็คือวันพรุ่งนี้

ใบหน้าของแฮฟานที่มักจะสมบูรณ์แบบเสมอแฝงเค้าความทุกข์อยู่ลึกๆ จนรู้สึกรำคาญตัวเองเหลือเกินที่ถลาลึกเข้าไปในความสัมพันธ์นี่ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันช่างหอมหวานจนไม่อาจจะเลิกมันได้

มีเหล่าเทวาหลายคนที่เย้ยหยันการกระทำของแฮฟาน การกลืนน้ำลายตัวเองของท่านผู้รักษากฎแห่งสวรรค์นับเป็นเรื่องที่คุยได้ในสนุกในวงเทวา ใครจะไปคาดคิดว่าแฮฟานจะทำเช่นนั้น 

การนำมนุษย์ที่แสนฉ้อฉลขึ้นมาบนสวรรค์ด้วยตนเอง แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทันยลโฉมแฮฟานก็จับมนุษย์เข้าอาณาเขตของตัวเองและเนรมิตให้มันกลายเป็นสวนสวยที่เต็มไปด้วยสัตว์ที่สร้างจากเวทย์มนตร์ขึ้นมามากมาย แต่อย่างไรก็ตาม กฎของสวรรค์ก็ยังคงได้ผลจริง มีเทวาบางตนแอบส่องดูพบว่ามนุษย์ผู้นั้นเป็นอย่างที่สอง

ไม่สติฟั่นเฟือนแต่จดจำได้เพียงหนึ่งวัน

รูปลักษณ์ของมนุษย์ที่เทวาตนนั้นมาเล่าต่อนั้นชวนให้เทวาคนอื่นรู้สึกผิดหวังนิดๆ กับความธรรมดาของมนุษย์ที่ท่านผู้รักษากฎเกณฑ์ต้องตา เอาเข้าจริงตอนที่พวกเขาคาดเดากันครั้งแรกเล่นๆ ก็คิดว่าเป็นหญิงสาวโฉมสะคราญด้วยซ้ำไป แต่ในความธรรมดาก็มีสิ่งน่าสนใจ มนุษย์ผู้นั้นเป็นมักจะยิ้มน้อยๆ จนมีบางคนที่เริ่มสนใจในตัวมนุษย์ผู้นั้นบ้าง

แต่พวกเทวาก็ยังคงหวงแหนในชีวิตของตัวเอง พวกเขาทำแค่มองแต่ไม่กล้าทำอะไรมากกว่านั้น 
 


"ได้ข่าวว่าเจ้านำพามนุษย์ขึ้นมาด้วยงั้นเหรอ แฮฟาน"

แฮฟานเหลือบมองคนถามด้วยสายตาเย็นชา ถึงแม้จะทำงานร่วมกันมานานนับพันปี แฮฟานก็ยังคงเป็นแฮฟาน ไม่เคยไว้ใจใครบนสวรรค์นอกจากตนเอง

ถึงแม้คนถามจะเป็นถึงมือขวาที่เก่งที่สุดของตัวเองก็ตามที

"..ข่าวไวดี"

คนถามหลุดขำนิดๆ กับคำตอบแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่เชิงตอบซะทีเดียว "ใช่ มนุษย์ที่อยู่ในสวนหลังบ้านเจ้าตอนนี้รึเปล่า?" ใบหน้าที่เค้าเจ้าสำราญพร้อมด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่มนิดๆ เชิงหยอก

"นั่นใช่เรื่องที่เจ้าต้องใส่ใจงั้นเหรอ อีวาน"

"...มีคนอยากรู้ ข้าก็ต้องถามให้เป็นธรรมดา"

อีวานไหวไหล่กวนๆ อย่างไรเสียเรื่องของมนุษย์คนนั้นก็รู้กันทั้งสวรรค์อยู่แล้ว ที่เขาพูดก็แค่อยากดูปฏิกิริยาของแฮฟานก็เท่านั้น แต่ก็อย่างที่คาดเดา 

แฮฟานยังคงเย็นชาและไร้ซึ่งความเป็นมิตร เกรงว่าถ้าไม่ได้รู้จักกันมานานนับพันปีก็คงจะรู้สึกขุ่นข้องหมองใจไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็เพราะรู้จักอีกนั่นแหละ อีวานเลยรู้ว่านี่เป็นอุปนิสัยของแฮฟาน จะให้เปลี่ยนก็คงยาก

"ดูเหมือนพวกเทวาจะว่างกันมาก"

ผู้คุ้มครองกฎสวรรค์ขบเคี้ยวฟัน รู้สึกหงุดหงิดกับพวกเทวาขี้เกียจพวกนี้ซะเหลือเกิน ไม่แน่ใจว่ามีแต่เขาหรือเปล่าที่ทำงานจนหัวปั่นทุกวัน เวลาหาความสุขให้ตัวเองก็แทบจะไม่มีด้วยซ้ำไป

"ก็ไม่ว่างหรอก" อีวานถอนหายใจยาวแล้วเหลือบมองเทวาหนุ่มที่นั่งร้องห่มร้องไห้บนพื้นก่อนจะสะดุ้งเฮือกและหุบปากฉับ เมื่อ
แฮฟานกระชากดาบออกมาจากฝักคล้ายกับรำคาญ

"พวกเราก็แค่หาความสุขสำราญในการทำงานก็เท่านั้น"

อีวานสะบัดมือครั้งหนึ่งก็ปรากฎม้วนกระดาษสีขาวสะอาดขึ้นในมือก่อนที่จะปล่อยให้กระดาษกลิ้งขลุกๆ ลงพื้นและไหลไปเรื่อยๆ สายตากวาดตามองคร่าวๆ บนกระดาษที่ร่ายยาวถึงความดีความชั่วของเทวาที่เพิ่งพลั้งมือไปฆ่าเทวาสาวเพราะความหึงหวง
นัยน์ตาสีทองของอีวานผุดความเวทนา เมื่อพบว่ากว่าครึ่งของกระดาษนั้นเต็มไปด้วยความผิดของเทวาตนนี้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมรับพยายามเรียกร้องหาความถูกต้องให้ตัวเอง น้ำตาไหลบ่าออกมาเหมือนกับว่าตนเองเต็มไปด้วยคุณธรรมมากนักหนา ทั้งๆ ที่เสื้อคลุมขาวขลิบทองหรูหราเปรอะไปด้วยคราบเลือดสีแดงของเทวาสาว

"...ลงดาบ"

ผลการตัดสินคดีความของชาวสวรรค์มีแค่สองอย่างคือ 'เก็บดาบ' และ 'ลงดาบ'  การเก็บดาบก็คือเทวาที่ต้องความผิดนั้นมีโทษไม่ถึงตายแต่ก็จะถูกลงไปเกิดเป็นมนุษย์แทน แต่ถ้าหากเป็นการลงดาบจะหมายถึงการสูญสลายของดวงวิญญาณด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมาจากท่านโฟเทียสของแฮฟาน

"ไม่! ท่านแฮฟาน ข้าไม่ได้ทำจริงๆ นะ!" เทวาหนุ่มกรีดร้องพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธการแต่ก็ไม่เป็นผล นัยน์ตาที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาเห็นดาบสว่างจ้าที่ส่งแสงเรืองรองในมือของท่านแฮฟานก็ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ หลุดเสียงร้องโวยวายคลุ้มคลั่งออกมาไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่หลุดจากกรง

ฉับ!

ไม่ทันได้กรีดร้องร่างก็แตกเป็นเสี่ยง ดวงวิญญาณสลายหายไปทันควันรวมเข้ากับไอน้ำในอากาศ

"วิ้ว" อีวานผิวปาก "เรียบร้อยเนียนกริบ สมกับเป็นท่านแฮฟาน"

ก่อนที่วิญญาณของเทวาหนุ่มจะแตกสลาย อีวานทันเห็นคมดาบที่ตัดผ่านของคอของเขา มันเป็นแนวราบเรียบเสมอกัน เลือดที่ทำท่าจะไหลบ่าก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถูกแผดเผาไปจนหมดสิ้นเสียก่อน

แฮฟานเก็บดาบเข้าฝักไม่กล่าวอะไร ทอดสายตามองไปทางอื่นไม่สนใจอีวานอีก ระหว่างที่รอนักโทษที่ถูกตัดสินคดีความในวันนี้ ในหัวก็หวนนึกถึงร่างโปร่งที่นั่งเล่นอยู่ในสวนสวยที่เขาพยายามจำลองให้เหมือนกับสวนที่ชอบไปเดินเล่นด้วยกันบ่อยๆ ตอนที่อยู่เมืองมนุษย์มากที่สุด

ถึงแม้ลึกๆ จะรู้ว่ามันไม่เหมือนเลยก็ตาม

เขาไม่ใช่มนุษย์จึงไม่สามารถเข้าใจมนุษย์ได้เท่าที่ควร ในสวนแห่งนั้นมีทั้งพรรณไม้ที่เขาคุ้นเคยและดอกไม้ที่เขาไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามนุษย์ไปหาดอกไม้สวยๆ พวกนั้นมาปลูกที่นี่ได้ยังไง อย่างไรก็ตามในสวนนั้นก็มีสัตว์มากอยู่พอตัว 

เอสเตอร์เป็นคนรักสัตว์ ในสวนของเขาจึงเต็มไปด้วยสัตว์ หวังเล็กๆ ว่าสัตว์พวกนั้นจะช่วยคลายเหงาให้เอสเตอร์ได้บ้าง หรืออย่างน้อยๆ ก็ทำให้ยิ้มบ้างก็ยังดี

เขาก็ได้แต่หวังอย่างนั้น

เพราะตัวเขาเองคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นแล้ว...

เขาเป็นผู้รักษากฎแห่งสวรรค์จะทำลายกฎของตัวเองไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องดี เขาจำต้องอดทนเพื่อทุกชีวิตบนสวรรค์ เพื่อกฎเกณฑ์อันเป็นสัจนิรันดร์ ถ้าเขายังอยู่ก็ไม่มีใครล้มล้างมันได้

ความพอใจและภูมิใจสูงสุดในชีวิตเขามานานนับพันปีก็คือสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้ว่าเอสเตอร์จะสำคัญมากพอๆ กันแต่เขาก็ไม่อาจปล่อยวางสิ่งที่ตัวเองยึดถือมั่นมาตลอดได้

นับว่าเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิตของแฮฟานเลยทีเดียว

ใบหน้าคมคายหลับตาแน่นพรูลมหายใจเหนื่อยอ่อนออกมา เฝ้าคิดถึงวันเวลาที่ได้ลงมาเที่ยวพักผ่อนบนโลกมนุษย์กับเอสเตอร์ คิดถึงช่วงเวลาที่เขาไม่เคยมีตั้งแต่ได้ถือกำเนิดและรับตำแหน่งผู้รักษากฎเกณฑ์ 

เทวาอย่างเขาไม่มีช่วงวัยเด็ก ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองมีตัวตนและสติปัญญานึกคิด ความทรงจำในหัวที่ว่างเปล่าค่อยๆ ถูกเติมด้วยท่านโฟเทียสที่ลงมือสอนด้วยตัวเองอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะปล่อยให้เขาเป็นคนคอยดูแลเทวาคนอื่นๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นมาต่อ

บางครั้งเขาก็รู้สึกราวกับว่าสิ่งที่ท่านโฟเทียสทำคือการเล่นสนุก สร้างสิ่งมีชีวิตมากมายและปล่อยให้พวกเขาดูแลกันเอง เขาที่ได้รับมอบหมายหน้าที่มาแบบงงๆ ก็ต้องจำยอมทำด้วยความเคร่งครัดและสมัครใจ อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีอะไรจะเสียตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

แต่.. เอสเตอร์ มนุษย์ผู้นั้นกลับมีอิทธิพลกับเขาเหลือเกิน

เขานับถอยหลังแม้แต่วินาทีด้วยซ้ำ เฝ้ารอเวลาพักช่วงสั้นๆ ของตัวเองเพื่อไปพบเอสเตอร์ เขาหลงรักทุกอย่างที่เป็นเอสเตอร์ ผิวขาวซีดที่ซีดจนน่าสงสาร ใบหน้าที่ออกจะธรรมดาแต่ประดับด้วยรอยยิ้มที่ทำให้คนมองอย่างเขาสบายใจอยู่เสมอ บางครั้งเสือยิ้มยากอย่างเขาก็เผลอยิ้มออกมาง่ายๆ เมื่อเอสเตอร์ยิ้มให้ด้วยซ้ำไป ผมสีดำนุ่มมือเข้ากันดีกับดวงตาโศกสีดำสนิทที่ติดจะดูเศร้านิดๆ อยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้นเอสเตอร์ก็ไม่เคยตัดพ้อกับใคร ไม่เคยแม้แต่จะวอนขอความช่วยเหลือจากท่านโฟเทียสด้วยซ้ำไป

เป็นมนุษย์ที่ดีจนเขายังรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอที่จะได้ครอบครองเขาแต่เพียงผู้เดียว ทุกวันเขาจึงพยายามทำหน้าที่อย่างตั้งใจให้สมกับที่เอสเตอร์คาดหวังกับเขาไว้

เขาจะเป็นผู้รักษากฎเกณฑ์สวรรค์ที่ดีให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ไม่ว่าอะไรก็ตาม..
 


"..เด็กของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?"

"…"

แฮฟานขมวดคิ้วมองอีวาน

นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่อีกฝ่ายพูดถึงเรื่องส่วนตัวของเขา แต่คนถามก็ดูเหมือนไม่ยี่หระกับท่าทีของเขานัก เล่นหูเล่นตาถามต่อตามนิสัย ถ้าไม่ติดที่ว่าสามารถทำงานได้ดี แฮฟานคงใช้อำนาจส่วนตัวปลดเจ้าตัวไปแล้ว

"..ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องรู้"

นัยน์ตาคมกริบจดจ้องอีวานอย่างดุดัน ถ้าหากเปรียบสายตาของแฮฟานเป็นดาบมันคงจะแทงแรงๆ ไม่กี่ครั้งแต่ทั้งเนื้อทั้งตัวของอีวานคงเละไม่เห็นสภาพเดิม

แต่อีวานก็คืออีวาน ไม่กลัวคือไม่กลัว การทำงานร่วมกับเสือดุมานานนับพันปีทำให้เขาไม่เคยคิดจะกลัวมัน แม้แต่ครั้งเดียว เขารู้จักแฮฟานดีพอจนรู้ว่าตัวเองสามารถหยอกมันได้ขนาดไหนถึงจะไม่โดนกัด

"..ข้าก็แค่ถามตามประสาเพื่อน" อีวานหัวเราะยกขาขึ้นมานั่งไขว้ห้างและจิบชาอึกหนึง นัยน์ตาสีทองพราวระยับเมื่อเลื่อนไป
มองบนข้อมือของแฮฟานที่มีดอกไม้สีแดงก้านบางที่ถูกสานเป็นสร้อยดูน่ารักขัดกับท่าทีสุขุมหยาบกระด้างของเจ้าตัวว

"...หึ"

แฮฟานแค่นเสียงในลำคอเมินสายตาของอีวานแล้วก้มอ่านรายงานคร่าวๆ ของวันนี้และพบว่ามันมากจนอาจจะไปเบียดเบียนเวลาพักผ่อนของเขาได้

หัวใจในอกคล้ายกับเต้นช้าลง.. 

ใครกันที่ว่าเทวาไม่มีหัวใจ ใครกันที่ว่าเป็นเทวาแล้วมีความสุขดีอยู่บนสวรรค์ตลอดเวลา

ถ้ามันคนนั้นได้เป็นตัวเขา คงจะรู้ว่าความจริงแล้วเป็นเทวาก็ทุกข์ทรมานในความรักไม่ต่างจากมนุษย์ 

แฮฟานก้มมองดอกเข็มสานที่เอสเตอร์ทำเล่นแล้วสวมให้เขาเมื่อกี้ด้วยความรู้สึกหนักอึ้งและเศร้าสลด ถึงแม้ท่าทีภายนอกจะเป็นเพียงแค่ก้มมองดอกไม้ แต่ภายในของแฮฟานคล้ายกับทลายลงช้าๆ เขาในตอนนี้ไม่ใช่ภูเขาที่ยืดหยัดแข็งแกร่งมานานนับพันปีอีกแล้ว แต่เป็นภูเขาไฟสักลูกที่สงบ รอวันประทุเมื่อทนกับสิ่งอัดแน่นอยู่เบื้องล่างมีมากมหาศาลจนทนไม่ไหว

ถึงเวลานั้นแฮฟานก็ไม่มั่นใจนักว่าตัวเองจะกระทำอะไรลงไปบ้าง

เขาแค่รู้สึกคิดถึงเอสเตอร์และนึกอิจฉาพวกมนุษย์เหลือเกิน แม้พวกมันจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่น่ายกย่องนักแต่กลับมีอิสระในการมี
ความรักมากกว่าเทวาที่โดนมองว่าสูงส่งอย่างเขาเสียอีก

ยิ่งวันนี้เอสเตอร์ทำตัวน่าเอ็นดูกว่าทุกครั้งที่พบ ปกติแล้วเขามักจะพบอีกฝ่ายนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ก็นั่งบนหลังกวางทองตัวโปรดเดินไปเดินมาในสวน แต่วันนี้เอสเตอร์วันนี้กลับนั่งอยู่ตรงสวนดอกไม้ที่เขาพยายามจำลองขึ้นมาอย่างยากลำบาก มือขนาดเหมาะมือนั้นสานทั้งมงกุฏดอกไม้ สร้อยข้อมือ อะไรสักอย่างเต็มไปหมด และที่น่ารักมากกว่านั้นคือเอสเตอร์สวมสิ่งที่ตัวเองทำให้ทั้งตัวเองและสัตว์เกือบทุกตัวที่อยู่ใกล้ๆ จนเหมือนกับเป็นกองทัพของตัวเอง

และเอสเตอร์ก็คงจะเห็นเขาเป็นหนึ่งในนั้น

พอเขาทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ ก็ดึงมือไปและสวมดอกไม้สานให้พร้อมกับเริ่มต้นบทสนทนาด้วยประโยคคล้ายเมื่อวาน

'เจ้าเป็นใคร?'

ถึงแม้จะเห็นว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าแต่ก็ยังปฏิบัติด้วยอย่างดี

'.แฮฟาน' เขาตอบเสียงพร่ารู้สึกเหมือนจะร่ำไห้ 

วูบหนึ่งที่ความคิดน่ารังเกียจก็ปรากฏขึ้นในหัว

เขาอยากจะละทิ้งทุกอย่าง หน้าที่ ภาระ ทุกๆ อย่างของเหล่าเทวา และปล่อยให้อิสระกับตัวเองด้วยการหนีไปกับเอสเตอรซะ แต่เขาทำไม่ได้ ท่านโฟเทียสเลือกเขาเป็นผู้ดูแลความสงบสุขของที่นี้และเขาก็ไม่ไว้ใจใครให้ทำหน้าที่แทนด้วย

น่ากลัวเหลือเกินที่ความคิดนี้แจ่มชัดขึ้นทุกวัน
 


"ท่านดูเหนื่อยๆ นะ.."

แฮฟานเลิกคิ้วสูงงุนงงแต่พอโดนมือเล็กๆ สัมผัสบริเวณขอบใต้ตาก็หัวเราะในลำคอ มองมนุษย์ที่ตัวเองเคยตราหน้าว่าแสนฉ้อฉลด้วยสายตาอ่อนโยน

"..อืม"

ร่างที่เคยยืนอย่างองอาจต่อหน้าเทวานับพัน ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว

แฮฟานเริ่มต้นสะอื้น ดูไม่น่าดูนักเมื่อชายน่าเกรงขามมาร้องไห้งอแงไม่ต่างจากเด็ก 

"..ข้าคิดถึงเจ้า เอสเตอร์"

พูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด 

เอสเตอร์ยังคงเหมือนเดิมก็จริงแต่มันก็คงจะดีกว่านี้ที่อีกฝ่ายจำเขาได้

"..ข้าคิดถึงเจ้า"

ใบหน้าคมคายอาบด้วยน้ำตา

"...ข้า"

ชั่วจังหวะหนึ่งที่เอสเตอร์รู้สึกคล้ายกับจะจำอะไรได้ขึ้นมาแต่ก็ถูกลบออกไปอย่างรวดเร็ว เอสเตอร์นวดขมับตัวเองที่มึนงงเล็กน้อยและมองแฮฟานด้วยสายตาเป็นห่วง

ไม่นานผู้รักษากฎสวรรค์ก็กลับคืนสู่สภาพเดิม แต่ความเจ็บปวดก็ยังฉายชัดในแววตาหนำซ้ำยังมากกว่าเดิมจนคนมองรู้สึกหนักอึ้งไปหมด 

"...ขอโทษที่ทำให้เจ้าไม่สบายใจ"

แฮฟานกล้ำกลืนก้อนความเจ็บปวดลงคอ วันนี้เขาอ่อนแอกว่าทุกวันเพราะถูกเหล่าเทวาบางส่วนร้องเรียนด้วยความไม่พอใจในผลตัดสินเรื่องการเก็บดาบ ทั้งๆ ที่ความจริงนั้นเห็นอยู่ตำตาว่าเทวาสาวนั้นไม่ได้ผิดถึงเพียงนั้น เธอนำพามนุษย์ขึ้นมาบนสวรรค์ก็จริงแต่ก็มาด้วยความรักเช่นเดียวกับเขา สิ่งที่เผลอทำผิดไปก็แค่ไม่ได้แจ้งเทวาชั้นปกครองอย่างพวกเขาเท่านั้น แต่เพราะพวกเทวาคนอื่นเกลียดและหมั่นไส้เทวาสาวคนนี้เป็นทุนเดิมก็เลยพาลว่าเกี่ยวกับเอสเตอร์ หาว่าเขามันลำเอียงเพราะมีคนรักเป็นมนุษย์เหมือนกัน

ตอนนั้นเขาแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ ถึงแม้จะยังคงสงบเยือกเย็นแต่ภายในนั้นเดือดพล่าน เขาแทบจะระเบิดออกมา ทุกวันนี้เขายอมทำงาน ยอมอดทน เพื่ออะไร เพื่อความสงบสุขของพวกเขา แล้วพวกเขาตอบแทนด้วยอะไร ความโกรธ ความเกลียดชัง ความริษยา

เขาเจ็บปวด เจ็บปวดเหลือเกิน 

บ่าสองข้างที่แบกรับเรื่องราวของสวรรค์มาตลอดลู่ลงอย่างหมดมาด รู้สึกผิดหวังในเหล่าเทวาจนเกินทน

"..ท่านโฟเทียส"

แฮฟานครวญเสียงกระซิบหลับตาลง

แท้จริงแล้วเหล่าเทวาก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพวกมนุษย์เลย เขาคิดผิดมาตลอดว่ามนุษย์นั้นแย่กว่าเทวาแต่ความจริงแล้วทั้งมนุษย์
และเทวาต่างก็เหมือนกัน

ความหยิ่งทระนงในความเป็นเทวาที่สูงศักดิ์กว่ามนุษย์ของแฮฟานตอนนี้หายไปหมดแล้วเหลือเพียงอุดมการณ์ที่ดำรงอยู่

"ทำไมต้องเป็นข้า"

ถ้าหากเขาไม่ใช่เขาทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้



อย่างไรเสียแฮฟานก็ยังคงทำตามหน้าที่ตัวเองอย่างเคร่งครัด ทำงานตามเวลาและเลิกตามงานเวลา ทุกอย่างวนไปวนมาเป็นวัฎจักรจนแฮฟานเริ่มรู้สึกคุ้นชินกับมัน
และเวลานี้ก็เป็นเวลาเลิกงานพอดี ทันทีที่ลงดาบเทวาคนสุดท้ายของวันเสร็จ ผู้รักษากฎสวรรค์ก็ก้าวฉับๆ ออกจากห้องตัดสินโทษแต่ก็ถูกขวางทางออกด้วยร่างคุ้นตา

"แฮฟาน"

อีวานยิ้มมุมปากมองใบหน้าหล่อเหลามองความเร่งรีบที่แฮฟานพยายามซ่อนในแววตาอย่างนึกขำ

"มีอะไร"

แต่อย่างน้อยๆ เสียงขุ่นข้องอย่างไม่พอใจ แฮฟานก็ไม่คิดจะปิดบัง 

"...เจ้าเปลี่ยนไปมาก รู้ตัวไหม" อีวานพูดความจริงที่เป็นที่เล่าลือในหมู่เทวาช่วงนี้ ถึงแม้แฮฟานที่จะปกปิดมันมากแค่ไหนแต่
กับพวกเขาที่อยู่ด้วยกันทุกวันยังไงก็ต้องเผลอรู้สึกถึงความผิดปกติสักวันอยู่ดี

เจ้าของชื่อไม่คิดจะตอบ กอดอกมองอีวานเชิงให้เล่าต่อ

"..เจ้าหงุดหงิดง่ายขึ้น ปากไว ไหนจะการลงดาบที่หลังๆ ดูจะไม่มั่นคงอีก" เทวาตำแหน่งมือขวาแสร้งตีหน้าเป็นห่วงอย่างสุดซึ้ง "ทุกคนกลัวว่าเจ้าจะเป็นเจ้าแห่งกฎสวรรค์ที่ดีเหมือนเดิมไม่ได้"

ฟังจบแฮฟานก็ฉีกยิ้มกว้าง แน่นอนว่าอีวานนิ่งอึ้งเพราะเพิ่งเคยเห็นอีกฝ่ายยิ้มเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา

แต่ไม่รู้ทำไมรอยยิ้มของแฮฟานกลับให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกซะเหลือเกิน

"ถ้าคิดว่าข้าทำไม่ได้ ก็ทำแทนสิ"

แฮฟานหัวเราะในลำคอมองอีวานอย่างยั่วเย้า "เอาไปเลย ถ้าอยากได้มากนัก ก็เอาไป" พอเห็นว่าอีวานยังคงนิ่งอึ้งไม่ได้สติก็สาวเท้าผ่านอย่างไม่ใส่ใจแต่ก่อนที่ออกจากประตูก็อดไม่ได้ที่จะพูดเหน็บแนม

"และอย่าลืมว่าใครเป็นคนเลือกข้ามาทำหน้านี้"
 


แฮฟานกลับมาถึงสวนก็เดินหาเอสเตอร์ทันที ในหัวยังคงครุ่นคิดถึงสิ่งที่อีวานบอกจนเดินใจลอยไปเรื่อยๆ จวบจนกระทั่งเดินมาถึงต้นไม้ใหญ่ก็เห็นเอสเตอร์กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงกวางทองอยู่ บนตักนุ่มมีกระต่ายสีขาวเปรอะตัวใหญ่นอนหลับกรนคร่อกฟี้อย่างสบายใจ

และเสียงฝีเท้าของร่างสูงคงจะไม่เบานัก เอสเตอร์จึงหลุดจากภวังก์และหันไปมอง

"แฮฟาน!"

เจ้าของชื่อเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก ยืนตัวแข็งค้างก่อนที่จะเซถอยหลังจนเกือบล้มเมื่อถูกร่างโปร่งโถมกอดเข้าอย่างแรง
"ข้าคิดถึงเจ้า.."

เสียงของเอสเตอร์คล้ายสุราของเหล่าเทวา มันมอมเมาแฮฟานจนมึนงงไปหมดแต่ที่แน่ๆ คือหัวใจในอกที่เต้นแรงจนปวดหนึบ

เป็นไปไม่ได้.. กฎแห่งสวรรค์มีผลตลอดกาลจนกว่าผู้ที่เอ่ยปากจะสิ้นชีวิตหรือไม่ก็ถอดมันออกมาจากการเป็นกฎ

แฮฟานคิดอย่างงุนงงแต่ก็ไม่อยากปล่อยมือจากเอสเตอร์ ความอบอุ่นที่สัมผัสได้จริงชวนให้เขาอยากจะกอดอีกครั้งและอีกครั้ง

"ข้าก็คิดถึงเจ้า"

เสียงทุ้มห้าวกระซิบเจือสะอื้น

เขาไม่แน่ใจว่านี่เป็นความฝันหรือความจริงแต่ในใจกลับมีความสุขเหลือเกิน

"ข้าคิดถึงเจ้า.."

เขากอดเอสเตอร์แน่นจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะแหลกละเอียดคาอ้อมกอด จึงตัดสินใจผละออกให้เอสเตอร์หายใจหายคอบ้าง..
 

ฉึก
 

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนแฮฟานงุนงง เสียงคล้ายกับเนื้อโดนเสียบคุ้นหูทำให้เขาเอะใจและก้มมองหน้าท้องตัวเอง
 

เลือดกลุ่มใหญ่สีแดงก่ำไหลบ่าออกจากร่างของเขาราวกับน้ำตกพร้อมๆ กับแสงสว่างจ้าของดาบที่กลืนกินเขาอย่างตะกละตะกลาม

"..อึก"

ร่างเทวาหนุ่มกระอักเลือดจนเสื้อชุ่มไปทั้งเสื้อ ทอดมองเจ้าของคมดาบอย่างไม่เชื่อสายตา

เคร้ง!

ดาบศักดิ์สิทธิ์ถูกดึงอีกครั้งออกจากตัวแฮฟานด้วยฝีมือของคนๆ เดิม ที่ยังมีแววตาเหม่อลอยไม่ได้สติ ก่อนที่ร่างโปร่งจะล้มตัวกระแทกพื้นดังโครม

ทันทีที่เห็นเอสเตอร์ล้มกองกับพื้น สติของแฮฟานก็กลับมาเด่นชัด ชัดเจนจนน่าตกใจ

"..หึ"

แฮฟานแค่นเสียงหัวเราะก่อนที่จะสะอื้นออกมาอย่างรวดร้าว

เขาประมาทมากเกินไป..

ยิ่งนัยน์ตาคมกวาดตามองร่างของเอสเตอร์ก็ยิ่งหัวเราะออกมา

"..ฮ่าๆๆ"

ปั่ก!!

ปั่ก!!! ปั่ก!!

ท่านผู้รักษากฎเกณฑ์แห่งสวรรค์คล้ายกับสัตว์ที่ถูกทำร้ายจนคลุ้มคลั่ง ทั้งๆ ที่ร่างกายกำลังเลือนหายไปช้าๆ ด้วยพลังของดาบแต่ก็ยังไม่วายใช้มือชกพื้นจนได้ยินเสียงกระดูกแตกแต่แฮฟานไม่คิดจะหยุด แม้เลือดจะไหลท่วมข้อมือหรือความเจ็บปวดจนแทบเสียสติปกคลุมร่างก็ไม่คิดจะสนใจ

ปั่ก!! ปั่ก!!

มัน.. พวกมัน.. อีวาน..

มันลอบเข้ามาในสวนของเขา..

ปั่ก!!

วางยาเอสเตอร์และใช้เวทมนตร์ควบคุมการกระทำของเอสเตอร์โดยขึ้นอยู่กับความต้องการลึกๆ ในใจของเขาซึ่งสิ่งที่ทำให้แผนของพวกมันสำเร็จก็คือชาของอีวาน

ชาที่ผสมกับอะไรบางอย่างที่เป็นศาสตร์ของพวกซาตาน!!!

ปั่ก!!

พวกมันหลอกให้เขาตายใจด้วยความดีใจก่อนที่จะใช้จังหวะนี้ในการฉวยฆ่าเขา

ปั่ก!!

"..โว้ยยยยยยย!!!"

แฮฟานคำรามอย่างเศร้าโศกราวกับสัตว์ป่าจนดังกึกก้องไปทั้งสวรรค์ ก่อนจะหยุดมือและสะอื้นจนตัวโยน พยายามตะเกียกตะกายไปหาเอสเตอร์และดึงตัวอีกฝ่ายขึ้นมากอดจนทำให้อีกฝ่ายเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

"..ขอโทษ เอสเตอร์ ข้าขอโทษ"

ขอโทษในความเขลาของเขาที่รู้สึกตัวช้าเกินไป ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่เขาพบเอสเตอร์ครั้งแรก เหตุการณ์นี้ไม่มีวันเกิดขึ้น อีวานไม่มีทางหาโอกาสวางยาเขาได้แม้ว่าจะใช้ความพยายามทั้งชีวิตก็ตาม

"ขอโทษ.."

แต่เพราะเขาไม่เหมือนเดิม มันจึงได้เกิดขึ้น..

"..--ขอโทษ อึก"

แฮฟานไม่เหลือเค้าเทวาอีกต่อไป กลายเป็นแค่ชายคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายจนจิตใจแหลกสลาย

นัยน์ตาของแฮฟานฉายชัดถึงความไม่เข้าใจ

ทั้งๆ ที่เขาดีกับชาวสวรรค์ถึงเพียงนี้แต่กลับถูกฆ่าตายทั้งเป็น

"..ข้าคงจะไม่มีคุณสมบัติมากพอสินะ"

แค่นเสียงหัวเราะและก้มลงจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของเอสเตอร์ 

"ข้ารักเจ้า เอสเตอร์"

พยายามใช้มือลูบใบหน้าของบุคคลที่ตัวเองรักให้ได้นานที่สุด ใบหน้าปรากฎยิ้มรวดร้าวขณะที่พร่ำประโยคบอกรักซ้ำไปมา 

"ข้ารักเจ้--"

เสียงของแฮฟานค่อยๆ เลือนรางลง

ก่อนที่บริเวณนั้นจะเหลือเพียงความว่างเปล่า
 

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
กฎแห่งสวรรค์ถูกทำลายลงทำให้สติปัญญาของพวกมนุษย์กลับมาแจ่มชัด งานเฉลิมฉลองต้อนรับผู้รักษากฎสวรรค์คนใหม่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ จนทำให้ร่างที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา

"...ตื่นแล้วเหรอ"

เทวาหนุ่มที่รับหน้าที่เป็นพยาบาลชั่วคราวเอ่ยทักแต่กลับรู้สึกว่าตนเองคุยกับอากาศ เมื่อมนุษย์ที่ฟื้นขึ้นมาดูจะงุนงง มองมือของตัวเองอยู่สักพักก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่น

"ไม่ ไม่ ไม่!!!"

เอสเตอร์กรีดร้องสะอื้นฮักเสียงดังลั่น

เป็นเขาเองที่ฆ่าแฮฟาน เป็นเขาเอง

"..ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไม ฮึก แฮฟานทำอะไรผิด พวกเจ้าถึงต้องฆ่าเขา" เอสเตอร์ปิดหน้าตัวเองสะอื้นจนตัวโยน
ความทรงจำบอกกับเขาว่าแฮฟานพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัดมาตลอด แม้แต่เขาก็ไม่คิดจะละเว้นกฎสวรรค์ ปล่อยให้ความจำเสื่อมไปตามกฎ

แต่ถึงอย่างนั้น..

"..ข้าเกลียดโลกใบนี้.."

เอสเตอร์ร้องไห้

"ข้าเกลียดโลกใบนี้!!!"

คำรามออกมาจนเทวาหนุ่มรีบถลาเข้ามาหาอย่างตกใจ พยายามพูดปลอบประโลมแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อร่างตรงหน้าคล้ายกับตกอยู่ในภวังก์ความคิดอันล้ำลึก

"..ทำไม ทำไมพวกเจ้าต้องฆ่าเขา!!! ทำไม!!"

เอสเตอร์ตะโกนแล้วกรีดร้องเสียงสูงไม่หยุด 

ไม่มีที่ไหนในโลกนี้ที่มีความยุติธรรม!

แม้แต่ผู้ที่ดีที่สุด

โลกใบนี้ก็ไม่คิดจะปราณี
 

ความเมตตาอันสูงสุดของผู้รักษากฎเกณฑ์คนใหม่ที่ชาวสวรรค์สรรเสริญคือการอนุญาตให้นำมนุษย์ที่ตัวเองหลงรักขึ้นมาอยู่ด้วยได้แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงของสวรรค์แต่ก็นับเป็นวิธีที่ประนีประนอมและละมุนละม่อมกว่าผู้รักษากฎเกณฑ์คนเก่า

"..ขอทุกคนจงแสดงความยินดีให้แก่ท่านผู้รักษากฎเกณฑ์คนใหม่ของเรา! ท่านอีวาน!!"
เสียงเฮดังเกรียวกราดสลับกับวงดนตรีของชาวสวรรค์ที่เล่นอย่างครึกครื้น

ในวันนี้ชาวเทวาต่างพากันมาสังสรรค์ ป็นวันพิเศษที่ไม่ต้องทำงานทำการใดๆ นอกจากเฉลิมฉลองให้แก่ท่านอีวาน หรือเทวาที่มีหน้าตาหล่อเหลาและเต็มไปด้วยความเป็นมิตรที่สุดในงานนี้ วันนี้ท่านอีวานอยู่ในชุดสีขาวขลิบทองที่เอวห้อยดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงเป็นฝักสีดำของท่านแฮฟาน กำลังเดินสายไล่ชนแก้วสุรากับเหล่าเทวาอย่างเป็นกันเอง

โดยไม่ได้คำนึงเลยสักนิดว่าตัวเองได้ตำแหน่งมาได้อย่างไร

อีวานฮึมฮัมเพลงในลำคออย่างมีความสุข วันนี้นับเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุดเลยก็ว่าได้ กวาดสายตามองไปทั่วงานก็ยิ่งครึ้มอกครึ้งใจจนอดไม่ได้ที่จะชักชวนให้เหล่าเทวาออกมาเต้นรำ เอาให้วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดของชาวสรรค์ไปเลย!
 

หลังจากสงบสติลงได้เอสเตอร์ก็ออกจากกระโจมและพบกับงานสังสรรค์ที่ดูเลิศหรูอลังกาลประดับประดาไปด้วยอาหารและของตกแต่งมากมาย

"..."

เอสเตอร์มองภาพความครื้นเครงด้วยสายตายากที่จะเดาอารมณ์ น้ำตาของเอสเตอร์ยังคงหลั่งไหลอยู่ภายในแต่ภายนอกนั้นเหือดแห้งไปแล้ว ร่างโปร่งค่อยๆ พาร่างโซซัดโซเซของตัวเองเดินเข้าไปหาจุดที่เด่นที่สุดในตอนนี้ของชาวสวรรค์ โดนชนจนเกือบล้มหน้าคว่ำหลายครั้งแต่ก็พาตัวเองมาถึงอีวานได้

"..อ้าว มนุษย์!" อีวานหันมาเจอเอสเตอร์ก็ยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร "ขอบใจเจ้ามากนะ ที่ให้ความร่วมมือกับข้าเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องรออีกหลายพันปีเลยทีเดียว" ไม่ว่าเปล่ายื่นมือออกไปตั้งใจจะจับมือกับอีกฝ่ายเพื่อกระชับมิตร
แต่สิ่งที่อีวานคิดกลับไม่เกิดขึ้น เอสเตอร์มองมือที่ยืนมาด้วยสายตาเย็นเยียบ

"มีความสุขมากสินะ"

พูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ มองอีวานด้วยความเกลียดชังที่ระเบิดออกมาจากการสั่งสมมาทั้งชีวิตจนอีวานผงะถอยหลังอย่างตกใจ 

หมอกมืดบางอย่างปกคลุมร่างของเอสเตอร์จนเกิดความขมุกขมัว อากาศรอบด้านคล้ายกับหวาดกลัวจนจางลงจนน่าใจหาย เสียงดนตรีครื้นเครงที่ตัวนำอย่างอากาศพลันหยุดลงจนเกิดความเงียบทั่วบริเวณ

เขาโดนกลั่นแกล้ง โดนเหยียดหยาม โดนทรยศ โดนฆ่า เขาไม่เคยโกรธ

"เจ้าทำมันได้ยังไง"

แต่เขาโกรธที่มันยืมมือของเขาในการฆ่าคนที่เขารักที่สุด

"ข้าถามว่าเจ้าทำมันได้ยังไง!!!"

เอสเตอร์คำรามเสียงดังลั่นจนอีวานสะดุ้งเฮือกมองร่างมนุษย์ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็นซาตานอย่างไม่เชื่อสายตา ตามตำราแล้วมนุษย์กลายเป็นซาตานได้ยากมากถ้าหากไม่มีเชื้อสายของซาตานหรือทำพันธะสัญญากับซาตาน

แต่ร่างที่เขามั่นใจว่าเป็นมนุษย์แท้ๆ กลับกลายร่างเป็นซาตานต่อหน้าเขา!

"..เขารักชาวสวรรค์เป็นที่สุด เจ้าไม่รู้หรือ"

นัยน์ตาสีดำของเอสเตอร์ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงโกเมน ผิวสีขาวผ่องกลายเป็นสีดำขลับ ร่างกายค่อยๆ ยืดสูงขึ้นและเกิดอักขระซาตานแผ่ความโกรธความเกลียดชังรุนแรงออกมา ทำให้ชาวสวรรค์บางคนทรุดตัวลงกับพื้น แต่สิ่งที่เด่นชัดที่สุดกลับเป็นเขาคู่หนึ่งที่ค่อยๆ งอกมาจากหัวและบิดเกลียวกลายเป็นเขาแพะสีดำ

ณ เวลานี้ไม่มีอีกแล้ว

เอสเตอร์ มนุษย์ที่แสนอ่อนแอและอ่อนโยนที่แฮฟานรู้จัก

เหลือเพียงมนุษย์คลุ้มคลั่งจนสติฟั่นเฟือนที่พร้อมจะฆ่าทุกชีวิตของชาวสวรรค์ในคราบของซาตาน สิ่งมีชีวิตที่ขึ้นชื่อว่าชั่วร้ายที่สุดตั้งแต่โลกใบนี้ถือกำเนิดมา เคราะห์ดีที่พวกมันมีน้อยและถือกำเนิดใหม่ได้ยาก ไม่เช่นนั้นโลกใบนี้คงจะปั่นป่วน

ข้อมือบางที่แฮฟานชอบจุมพิตเบาๆ ยามที่เอสเตอร์หลับ สะบัดแรงๆ ครั้งหนึ่งก็ปรากฎดาบอันหนึ่งขึ้นมา 

มันเป็นสีดำทมิฬ ประจุความชั่วร้ายแผ่ออกมาจางๆ

"..อย่าเอ่ยโทษข้า หาว่าข้าชั่วร้าย" เอสเตอร์หัวเราะเสียงดังกึกก้องสาวเข้าไปใกล้อีวานที่ตอนนี้กระชับดาบของอีวานแน่นและชี้มาทางเขาด้วยท่าทางองอาจ

แต่เอสเตอร์รู้ดีว่าภายใต้หน้ากากจอมปลอมนั่นกำลังกลัวจนตัวสั่น!

"อย่ากลัวไปเลย เพราะข้าจะฆ่าเจ้าแค่คนเดียว" เอสเตอร์หัวเราะคิกคักในลำคอแล้วตวัดดาบใส่อีวาน
เคร้ง!

พลังที่ต่างกันสุดขั้วปะทะกันจนเกิดแสงเจิดจ้า แต่ทั้งสองต่างไม่สนใจต่างฝ่ายต่างโรมรัมเข้ากันต่อ เกิดหลุมบ่อตามพื้น งานที่สวยงามค่อยๆ ถูกทำลายลงอย่างเชื่องช้า ความเกลียดชังของเอสเตอร์นั้นรุนแรงจนพื้นเมฆที่เหยียบกลายเป็นสีดำน่ากลัว

เป็นเวลานานชั่วกัลป์และน่าอกสั่นขวัญแขวนสำหรับเหล่าเทวาที่ต้องมาดูการต่อสู้ที่ทำลายทุกอย่างในอาณาบริเวณให้พังพินาศย่อยยับ แต่เคราะห์ดีที่มันไม่นานนักเพราะต่างฝ่ายก็ต่างไม่ใช่ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านศาสตร์แห่งการต่อสู้

"..เจ้าแค่ไม่เข้าใจ" อีวานคำรามแล้วแทงดาบเข้าที่กลางลำตัวของเอสเตอร์

"ทำไมข้าต้องเข้าใจด้วยล่ะ"

ถามกลั้วหัวเราะจงใจไม่หลบจนดาบทะลุเข้าท้องและคว้านลึก

เอสเตอร์หลับตาลงและครางหนักๆ ออกมา

นี่สินะ ความรู้สึกของท่าน..

แสงสว่างเจิดจ้าแพร่เข้าไปในร่างสีดำของเอสเตอร์คล้ายกับปรสิตที่พยายามยึดร่างของเจ้าของร่าง มันกลืนกินร่างกายของเอสเตอร์อย่างรวดเร็วเพราะพลังที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน 

มันเป็นความเจ็บปวดที่มากจนยากที่จะจินตนาการถึง แต่เอสเตอร์ก็ไม่คิดจะแสดงความอ่อนแอออกมา

นัยน์ตาโศกสีโกเมนเอกทอดมองชาวสรรค์รอบกาย

แน่นอนว่าสายตาส่วนใหญ่คือสะใจและสมเพชที่เขาตายๆ ไปซะ

แต่จนแล้วจนรอดก็อดไม่ได้ สุดท้ายเอสเตอร์ก็หลุดสะอื้น

โลกนี้ช่างโหดร้ายกับผู้ที่ดำรงอยู่เหลือเกิน

ขาสองข้างสั่นเทาจนทรุดฮวบลงกับพื้น เมื่อมันกลายสภาพเป็นสีขาวก่อนจะค่อยๆ ปริร้าวเหมือนแก้วที่กำลังจะแตก เอสเตอร์ปิดหน้าหัวเราะ

"...ขอให้พวกท่านล่มสลาย"

เอสเตอร์ทิ้งตัวลงนอนกับพื้น มองท้องฟ้าที่เหนือไปกว่านั้นคือจักรวาลที่สีดำอันยิ่งใหญ่มหาศาลคล้ายกับดวงตาของเขาคนนั้น

"..ขอให้ข้าพบความสุข"

ทั่วสรรพางค์กายจนถึงคอแปรสภาพเป็นสีขาวซีดเหลือใบหน้าของเอสเตอร์ที่ยังคงมีสีเลือด

"..ขอให้ข้าพบความยุติธรรม"

น้ำตาสีแดงก่ำไหลออกจากดวงตาเพียงข้างเดียวเมื่ออีกครึ่งใบหน้าถูกกลืนกินไปแล้ว

"--ฮึก ขอให้ข้าพบเขา--"

ทันทีที่พูดจบร่างทั้งร่างของเอสเตอร์ก็ถูกกลืนกินจนคล้ายกับรูปปั้นที่ทำจากสีขาวก่อนที่จะปริร้าวและแตกสลายเป็นผุยผงในพริบตา
 

น่าเสียดายคำขอของเอสเตอร์ก็เป็นเพียงได้แค่ลมปากเท่านั้น

ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ ที่ต้องดาบศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณจะแตกสลาย

ไม่มีวันได้หวนคืนสู่วัฎจักรแห่งชีวิตอีก
 

ชาวสวรรค์จึงได้สันติสุขคืนมาอีกครั้ง

โลกยังคงดำเนินต่อตามเจตนารมณ์ของท่านโฟเทียส

ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง

------------------

แรงบันดาลใจของเรื่องนี้จริงๆ มาจากแค่คำประโยคเดียวก็คือ 'ขอให้เจ้าสติฟั่นเฟือน'

รู้สึกมันอิมแพ็ค แบบฟังแล้วเจ็บถ้าเกิดสิ่งนี้กับใครเข้าจริงๆ เลยลองเอามาเขียนดู แต่พอเขียนๆ ไปก็พบว่ามันคุมยาก จบแบบที่ต้องการไม่ได้เลยต้องเพิ่มเงื่อนไขอย่างจดจำได้แค่วันเดียวอย่างที่น้องเอสเตอร์เป็นและปล่อยให้น้องสติฟั่นเฟือนแบบนิดหน่อยตอนสุดท้าย

ทำไมเรื่องนี้จบแบบนี้?

เพราะอยากเขียนถึงความอยุติธรรมของโลกใบนี้ค่ะ มีคนดีหลายๆ คนที่ต้องเสียชีวิตด้วยเหตุผลไม่เข้าท่า รู้สึกแย่กับสิ่งเหล่านี้จนอยากเขียนเรื่องสั้นทึมๆ เทาๆ มาสักเรื่องเพื่อระลึกถึงค่ะ

ปล. ติดตามผลงานอื่นได้ที่เพจค่ะ  :กอด1:

https://www.facebook.com/FoggyTime/








 

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
อ่านแล้วถึงกับต้องยกนิ้วให้ คือชอบมากอ่ะ  :katai2-1:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด