ตอนที่ ๕๙
“มึงว่าชื่ออะไรนะ” หมูถามต้อย เหมือนจะไม่เชื่อว่าจะเป็นคนคนนั้นจริงๆ
“ชื่อต้น ชื่อจริง พันธ์พฤกษ์” ต้อยบอกอีกครั้ง
“เป็นไปได้ยังไง มึงอย่าล้อกูเล่นแบบนี้นะ ไม่สนุกนะเว๊ย” หมูพูดด้วยสีหน้าดุๆ
“ไอ้หมู...กูจะบอกอะไรมึงหน่อยนึงนะ” สีหน้าของต้อยจริงจัง “อย่างแรก กูไม่ได้ล้อเล่น เรื่องแบบนี้ล้อเล่นได้ยังไง แล้วกูก็ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น พี่เค้าถึงได้มีคนอื่นแบบนี้ มึงเองก็เหอะ เป็นคนทำท่าทางว่าจะเลิกกับพี่เค้าก่อนด้วยซ้ำไป”
“เรื่องนั้นกูไม่เถียง แต่ที่มึงบอกว่าคนที่น้ำไปคบด้วยเป็นคนที่ชื่อต้น พันธ์พฤกษ์ น่ะ มึงล้อกูเล่นใช่มั๊ย”
“ล้อบ้านมึงเล่นสิ ถ้ากูล้อเล่น กูจะได้ประโยชน์อะไร พี่เค้าจะหันมาคบกับกูเหรอ” ต้อยเริ่มโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว “กูบอกแล้วไงว่าพี่เค้าเป็นคนบอกกูเอง แล้วกูก็เห็นมากับตาตอนที่พี่เค้าอยู่กับคนชื่อต้น”
“มึงเห็นที่ไหน”
“ที่ใต้ต้นชมพูพันทิพย์ ริมบึงเมื่อก่อนปิดเทอม”
“มึงหมายถึงต้นชมพูพันทิพย์ ต้นที่พวกเราเคยตามไปหาน้ำแล้วไม่เจอรึเปล่า” หมูถามหลังจากที่หยุดคิดอยู่ชั่วครู่
ต้อยได้ฟังก็หยุดคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะแสดงอาการประหลาดใจออกมา
“เออ ... จริงด้วย กูก็เพิ่งนึกออก ต้นนั้นแหละ จะว่าไปตอนนั้นก็ประหลาดนะเว๊ย ไม่รู้ว่าคนชื่อต้นโผล่มาจากไหน จู่ๆก็โผล่มาจากหลังต้นไม้”
หมูนิ่งเงียบไป สีหน้าครุ่นคิด
“กูเคยเห็นน้ำถูกผีอำ”
“เกี่ยวอะไรด้วยวะ” ต้อยถาม
“อาการมันผิดปรกติเว๊ย มันเหมือนกับว่าน้ำกำลังมีเซกส์กับใครสักคนอยู่”
“เฮ๊ย ... อะไรวะ” ต้อยอุทานด้วยความตกใจ
“แล้วมึงรู้มั๊ยว่าห้องนั้นน่ะ เมื่อก่อนเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“แล้วมึงรู้เหรอ”
“อื้อ”
แล้วเรื่องราวที่หมูได้รู้มาจากเอก ก็ได้ถ่ายทอดให้ต้อยได้รับรู้ความจริงอีกคนหนึ่ง
“มึงจะบอกว่ากูเห็นผีเหรอวะ” ต้อยถามเสียงแผ่ว สีหน้าไม่สู้ดีนัก เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจบลง
“กูก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่พอกูเอาเรื่องมาโยงกัน กูก็ว่าน่าจะเป็นไปได้” หมูพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“หรือพวกที่เคยอยู่โดนผีอำแบบนี้กันหมด” ต้อยทำสีหน้าครุ่นคิด “ผีอะไรวะ หื่นชะมัด มิน่าปิดปากกันหมด ไม่ยอมมีใครพูดเลยว่าเกิดอะไรขึ้นจนอยู่ไม่ได้” ต้อยหยุดคิดสักครู่ ก็ถามหมูต่อ “แล้วมึงจะเอาไง”
“เดี๋ยวเสาร์นี้กูจะไปบ้านน้ำ”
“กูอยากไปด้วยหว่ะ” ต้อยพูดอย่างจริงใจ “แต่คงไม่ค่อยเหมาะ มึงคงมีเรื่องคุยกับพี่เค้าเยอะ กลับมาแล้วบอกกูด้วยแล้วกันว่าเรื่องมันเป็นไง”
“อื้อ” หมูรับคำ “กูรู้ว่ามึงก็ห่วงเค้าไม่น้อยกว่ากูเหมือนกัน”
....................................................................
...................................
หมูยืนรออยู่หน้าประตูรั้วเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีคนออกมาจากตัวบ้าน จึงกดกริ่งอีกครั้งหนึ่ง ผ่านไปพักใหญ่ๆ ก็ยังไม่มีใครออกมาเช่นเคย ขณะที่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“มาหาใครคะ คุณ”
หมูหันมาตามเสียงเรียก ก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคน กำลังยืนมองเขาอยู่
“มาหาน้ำหยดครับ”
“คุณน้ำเหรอคะ” หญิงกลางคนมองหน้าหมูด้วยความสงสัย
“ผมเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยครับ น้ำหยดไม่ได้ไปเรียน โทรมาก็ไม่มีคนรับสาย ผมเป็นห่วงเลยมาหาครับ” หมูอธิบาย
“อ๋อ เพื่อนคุณน้ำหยดเองเหรอคะ คุณน้ำไม่อยู่หรอกค่ะ” หน้าตาที่แสดงความไม่ไว้ใจ เปลี่ยนเป็นยิ้มให้ “คุณๆก็ไม่อยู่ พอดีต้องไปทำงานต่างประเทศน่ะค่ะ คงอีกหลายเดือนกว่าจะกลับ”
“แล้วคุณน้า ...” คราวนี้หมูถามบ้าง เพราะจำได้ว่าเมื่อครั้งที่เขามาบ้านน้ำหยดนั้น ไม่เคยเจอหญิงกลางคนคนนี้
“น้าเป็นแม่บ้านที่บ้านใหญ่ค่ะ บ้านคุณแม่คุณผู้หญิง มาดูแลความเรียบร้อยสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง วันนี้ก็จะมาทำความสะอาดบ้านพอดี จริงๆแล้วไม่ค่อยมีอะไรหรอกค่ะ ปัดกวาดเช็ดถูนิดหน่อย นอกนั้นคุณน้ำจัดการเองเรียบร้อย”
“แล้วน้ำจะกลับกี่โมงเหรอครับ”
“ไม่ทราบสิคะ คือตอนนี้คุณน้ำไปอยู่บ้านเพื่อน กลับบ้านสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง มาเอาเสื้อผ้าน่ะค่ะ”
“บ้านเพื่อน ... บ้านใครครับ”
“น้าก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกันค่ะ”
“แล้วจะติดต่อได้ยังไงครับ”
“คุณชื่ออะไรล่ะคะ เดี๋ยวน้าจะจดไว้ที่กระดานข้อความ ให้คุณน้ำติดต่อกลับ” พูดจบก็หยิบสมุดฉีกเล่มเล็กๆ พร้อมปากกาออกมาจากกระเป๋าสะพายใบเล็กๆบนไหล่ เตรียมจะจด
หมูบอกชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ไว้ หันไปมองที่ตัวบ้านอีกครั้ง ก่อนจะเดินจากไป