ตอนที่ ๑๐
“เฮ๊ย น้ำ ลุกขึ้นเร็ว งานเลิกแล้ว เดี๋ยวเราไปส่งที่หอ” โดมพยุงน้ำหยดให้ลุกขึ้น น้ำหยดพอจะรู้สึกตัวอยู่บ้าง แต่ใกล้จะหมดสภาพเต็มที
“ไม่ไหวเลยหว่ะ แค่สามแก้วก็จอดซะแล้ว” ไก่เท้าสะเอวส่ายหน้าดิ๊กๆ “เราช่วยมะ”
“พอไหวหว่ะ แต่ท่าทางไอ้น้ำใหล้หมดสภาพแล้ว” โดมพูดแล้วกลั้วหัวเราะ
“พวกแกส่งมันดีๆนะ อย่าทำอะไรมันล่ะ พวกชั้นเคืองจริงๆด้วย” นุชพูดจบก็ปิดปากหัวเราะคิกคัก
“ทำไมยะ จะหวงไว้คั่วเองเหรอไง” ไก่ทำหน้าตาล้อเลียน
“บ้าดิ เป็นห่วงเฉยๆเว๊ย น้ำมันไม่ใช่พวกแบบนั้น แกก็อย่าทำอะไรมันแล้วกัน” เก๋สำทับ
“พวกแกนี่ มองพวกเราเป็นไอ้เสือไปได้ ยังไงกับเพื่อนกับฝูงก็ไม่ทำแบบนั้นหรอกเว๊ย” โดมพูดด้วยหน้าตาจริงจัง
“ถ้าเพื่อนไม่โอเค” ชูต่อคำแล้วหัวเราะเสียงดัง แล้วก็ต้องเงียบลงเมื่อมือของโดมตบลงมาบนศรีษะเสียงดังเพี๊ยะ ทำเอาเพื่อนๆพากันหัวเราะไปด้วย
งานรับน้องช่วงกลางคืนภายในหอประชุมจบลง นักศึกษาพากันทยอยเดินออกจากหอประชุม โดมเดินกอดเอวน้ำหยดไว้ ดึงแขนข้างหนึ่งของน้ำหยดมาโอบรอบคอตัวเอง ค่อยๆเดินออกไปจากหอประชุม
“น้ำเป็นอะไรไปน่ะ” หมูเดินมาขวางไว้ เมื่อโดมพยุงน้ำหยดออกมาได้ระยะหนึ่ง “พี่เอาอะไรให้น้ำกิน ถึงได้เป็นแบบนี้” หมูถามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง
“ดื่มกันนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก น้ำมันไม่เคยก็เลยพับ เดี๋ยวพวกพี่พาไปส่งให้ถึงห้องเลย” ไก่ตอบยิ้มๆ เมื่อเห็นว่าคนที่มาขวางไว้เป็นใคร
“น้ำเป็นไงบ้าง กลับกับเรานะ เราพากลับห้องเอง” หมูเดินเข้าไปพยุงน้ำหยดไว้ โดมเองพอเห็นแบบนั้น ก็ปล่อยมือออก ส่งตัวน้ำหยดให้หมู
“งั้นฝากด้วยนะ หอ๙ ห้อง๓๑๕” โดมบอกหมู
“ห้องอะไรนะ” หมูถามอีกครั้งเหมือนไม่แน่ใจว่าได้ยินหมายเลขห้องถูกต้อง
“๓๑๕ ห้องนั้นแหละ” โดมบอกอีกครั้ง
หมูทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ หันไปมองหน้าน้ำหยดแน่วนิ่ง ใบหน้าของน้ำหยดแดงเรื่อ ตาหรี่ปรือมีรอยยิ้มน้อยๆอยู่ที่ริมฝีปาก
“ไปกันได้แล้ว” ไก่ตบไหล่โดม แล้วหันไปพูดกับน้ำหยด “น้ำ ... พรุ่งนี้ตื่นไปเรียนด้วยนะ”
“อื้อ” น้ำหยดรับคำ เพราะยังรู้สึกตัวอยู่บ้าง
หมูกอดเอวน้ำหยดไว้ พยุงให้เดินไปด้วยกันช้าๆ น้ำหยดก็พอจะรู้สึกตัวอยู่บ้าง แต่ความมึนจากฤทธิ์เหล้า ทำให้รู้สึกเหมือนขาลอยๆ เดินไม่ค่อยมั่นคงนัก
“น้ำยืนรอเราเดี๋ยวนึงไหวม๊ะ เราไปเอาจักรยานก่อน” หมูถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวๆ” น้ำหยดตอบไม่ค่อยเต็มเสียง
หมูปล่อยมือออกจากเอวน้ำหยด รีบเดินไปไขกุญแจที่คล้องโซ่ลอคล้อรถจักรยาน แล้วจูงรถจักรยานมาใกล้ๆน้ำหยด
“ขึ้นรถดิ๊” พอน้ำหยดได้ยิน ก็ขยับตัวเดินไปนั่งคร่อมบนเบาะหลังของรถจักรยาน พอหมูเห็นว่านั่งเรียบร้อยดีแล้ว ก็ขึ้นนั่งบนเบาะหน้า
“กอดเราไว้ด้วย เดี๋ยวตก” หมูหันไปบอก
“งั้นเราขอจับเอวไว้หน่อยนะ” พูดแล้วน้ำหยดก็ยกมือขึ้นขับเอวหมูไว้หลวมๆ
หมูขยับมือน้ำหยดให้รวบเข้ามากอดเอวกอดเอวตัวเองแน่นขึ้น ทำให้ศรีษะของน้ำหยดแทบจะซบลงบนหลังของหมู
“กอดแน่นๆ เราจะไปแล้ว” หมูหันหน้ามาบอก แล้วใช้เท้าถีบไปที่พี้น ให้รถจักรยานออกตัว แล่นออกไปจากบริเวณหอประชุม
“นั่นหมูมันไปเอาใครมาซ้อนท้ายมันน่ะ” ชมพู่หันไปถามเพื่อนๆ
“อ๋อ ... นั่นแหละพี่น้ำ ที่หมูมันรับส่งอยู่ทุกวันไง” อ้วนหันมาบอก
“ผู้ชายนี่นา” ชมพู่พูดเหมือนจะถามทุกคน แต่ไม่มีใครตอบ
หมูพยุงน้ำหยดเดินมาถึงห้อง๓๑๕ ยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง ขมวดคิ้วคิดว่าจะทำอย่างไรดี
“น้ำ ... กุญแจห้องล่ะ”
หมูหันหน้าไปถาม น้ำหยดไม่ตอบ เพราะมึนหัวเต็มที่ หมูจึงจับตัวน้ำหยดให้ยืนพิงฝาผนังไว้ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้านขวา พบแต่โทรศัพท์มือถือ กับเหรียญอีกจำนวนหนึ่ง จึงเปลี่ยนไปล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงด้านซ้าย ก็เจอกับกระเป๋าสตางค์และพวงกุญแจ หมูเก็บกระเป๋าสตางค์ลงไปที่เดิม หันไปใช้ลูกกุญแจไขลอคประตูออก แล้วเลื่อนบานประตูให้เปิดไปด้านข้าง ผลักประตูมุ้งลวดเข้าไป ควานมือหาปุ่มสิวตช์แล้วกดเปิดไฟ จากนั้นก็ออกมาพยุงตัวน้ำหยดเข้าไปในห้อง พาไปนอนลงบนเตียงนอน เสร็จแล้วก็เดินมาปิดประตูห้อง กดตัวลอค แล้วปิดประตูมุ้งลวดอีกทีหนึ่ง
หมูเดินไปนั่งลงบนเตียง มองดูน้ำหยดที่นอนอยู่ข้างๆ พลางคิดถึงเรื่องที่เขาได้ฟังมาจากรุ่นพี่บางคนในหอ
... ห้อง๓๑๕มันแปลกหว่ะ ใครมาอยู่ได้ไม่กี่วันก็เผ่นหมด อย่างมากเดือนนึง อยู่คนเดียวออกคนเดียว อยู่สองคนทยอยกันออกทีละคน แล้วไม่มีใครยอมบอกด้วยนะ ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นอย่างนี้มา๓เทอมแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่มาอยู่คราวนี้ จะอยู่ได้กี่วัน ...
หมูหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงของน้ำหยดอีกครั้ง กดปุ่มเปิดเครื่อง รอจนเข้าสู่ระบบพร้อมใช้งาน นิ้วมือไล่กดหมายเลขที่จำได้ขึ้นใจ แล้วกดปุ่มส่งสัญญาณโทรออก แนบโทรศัพท์กับหู ได้ยินเสียงสัญญาณโทรติดดังขึ้น๒-๓ครั้ง พร้อมกับอาการสั่นของมือถือในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง แล้วจึงกดปุ่มวางสาย พลางยิ้มกริ่ม