ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 613106 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1800 เมื่อ05-04-2018 22:41:01 »

พวกแซนดี้นี่ทำงานกันเป็นทีมจริงๆ ส่วนพิงค์ก็ทุ่มสุดตัวบุกเข้าถ้ำเสือซะด้วย สู้ๆนะพิงค์

ออฟไลน์ absolutepoison

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1801 เมื่อ05-04-2018 22:41:32 »

ใจบางไปหมดแล้วววววว

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1802 เมื่อ05-04-2018 23:15:01 »

แหมเด็กมันร้าย..เอารูปมาอวดว่าที่พ่อตาแม่ยาย

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1803 เมื่อ05-04-2018 23:33:36 »

ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มาก็มีปัญหาอยู่เรื่องเดียว คือเรือไหนคือเรือหลวงค่ะ 55555555555555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1804 เมื่อ06-04-2018 00:12:49 »

 :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1805 เมื่อ06-04-2018 04:18:29 »

พิงค์เค้าร้ายนะคะหัวหน้าบุกยันห้องนอนเลยคร้าาาาท

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1806 เมื่อ06-04-2018 08:31:20 »

โล้สำเภาาาาา วูวววส สนใจประโยคเดียว5555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1807 เมื่อ06-04-2018 08:50:02 »

ฝากตัวเป็นสะใภ้เลยพิงค์55555

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1808 เมื่อ06-04-2018 09:25:23 »

อ่านมาหลายวันกว่าจะจบ เป็นวายที้ใช้เวลานานจริงๆ 37ตอนยังไม่คบกันเลยอ่ะ แต่มันก็ปกตินะ ผู้ชายธรรมดาจะรักผู้ชายอีกคน มันด็ต้องใช้เวลา จะมาปุบปับรับโชคก็ไม่ใช่นิ ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เรียนรู้ ก็เรียลไปอีกแบบ
ส่วนพี่เต้ แกคงกลัวเสียเพื่อนแหละแรงกระตุ้นให้ทำขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะวินไปชอบพิงค์ที่เป็นผู้ชาย ความอดทนมันเลยทะลาย แบบว่าชอบผู้หญิงยังพอทน แต่ผู้ชายไง เค้าก็ผู้ชาย ทำไมไม่เลือกเค้า ทีนี้เลยทำแมร่งทุกอย่างก็เลยบรรลัยอย่างที่เห็น

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1809 เมื่อ06-04-2018 14:27:55 »

ชอบการทำงานเป็นทีมของกลุ่มเพื่อนพิงค์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
« ตอบ #1809 เมื่อ: 06-04-2018 14:27:55 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1810 เมื่อ06-04-2018 15:43:52 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Maree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1811 เมื่อ06-04-2018 19:53:42 »

ถือป้ายไฟเชียร์เลยจ้าาาาา

 :3123: :3123:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1812 เมื่อ06-04-2018 22:50:24 »

สู้ๆเด้อออ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1813 เมื่อ06-04-2018 22:58:00 »

น้องพิงค์สู้ๆๆๆๆ ลากพี่หมอกลับเชียงใหม่ไปให้ได้นะะ
ครอบครัวรับรู้ขนาดนี้แล้ว ไม่มีใครมองว่าเป็นน้องเป็นเพื่อนหรอกค่ะ
ไม่งั้นคุณแม่จะถามหรอว่าแฟนรึป่าวว 555555555
การกระทำนี่ชัดเจนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว คุยกันให้ชัดเถอะะ
พี่วินจะได้ลดเรื่องเครียดไปอีกเรื่องนึงได้
ส่วนหมอเต้นั้นน เป็นเราเราไม่เอากลับมาเป็นเพื่อนแล้วค่ะ
ไม่ใล่เพราะเค้าชอบเรา แต่เพราะเค้าพยายามทำลายความสุขของเรา
ทั้งๆที่เค้าเป็นคนที่ร฿้ดีที่สุดว่าคงามสุขของเรามันมีอยู่ไม่กี่อย่าง
และหมอเต้เลือกที่จะทำลายลงไปแล้ว2อย่าง
คือความสุขจากเพื่อนคนเดียว และความสุขความสบายใจจากพิงค์
พี่หมอวินนน่าสงสารมาก แต่ดีที่ครอบครัวรักและตามใจหมอวินมากกอะ
คาดว่าดราม่าครอบครัวหมอวินคงไม่เกิดด

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1814 เมื่อ06-04-2018 23:18:54 »

อา.. ใครที่เจอแบบวินไปก็คงรู้สึกแย่โคตรๆเลยละ หวังว่าวินจะยอมคุยกับพิงค์นะ..

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1815 เมื่อ08-04-2018 03:55:19 »

ภูพิงค์มาตามหาแล้ว วินท์รอก่อนนะ
ทีมเพื่อนพิงค์คือดีมากค่ะ ช่วยได้เยอะเลย

วินท์คือลูกคนเล็กที่แท้จริง ที่บ้านถึงกับเครียด
ได้เข้าบ้านแล้วนะ และกำลังลุ้นว่าจะได้เข้าห้องไหม


เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1816 เมื่อ08-04-2018 04:32:48 »

แอบเสียดายความรักของหมอเต้นะค่ะรักที่เห็นแก่ตัวมากไปหน่อยจนสุดท้ายลงเอยที่ไม่สวย
ส่วนพิงค์นายแน่มากมาบ้านเค้าดึกๆ
แบบนี้ไม่ได้ลูกปืนก็ดีมากแล้ว555
แถมยังได้ขบวนการแกล้งร้องของแซนดี้ช่วยไว้อีกถึงได้เข้าบ้านง่ายแบบนี้
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
รู้สึกว่าตอนนี้สั่นจังหรือเพราะเราลุ้นไปด้วยเลยอ่านเร็วอิอิ

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1817 เมื่อ08-04-2018 12:23:51 »

พิงค์เป็นเด็กฉลาดนิสัยน่ารักผ่านฉลุยอยู่แล้ว!!!

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1818 เมื่อ08-04-2018 15:52:09 »

พี่วินตกใจแน่ที่น้องพิงค์บุกมาถึงบ้าน พี่แกต้องร้องไห้แน่เลยย ฮือออ :sad4:

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1819 เมื่อ09-04-2018 17:16:29 »

รอมาสองวันแล้วน่ะ  มาต่อได้แล้วครับ   จะลงแดงตายแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
« ตอบ #1819 เมื่อ: 09-04-2018 17:16:29 »





ออฟไลน์ slurpeez-69Nes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1820 เมื่อ10-04-2018 00:13:42 »

บุกเข้าไปแล้วว วววว
พี่วินอย่าหนีน้องเลยนะคะ หัวใจคนเชียร์จะขาดรอนๆแล้ว

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1821 เมื่อ10-04-2018 00:47:33 »

หายไปนานจัง

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1822 เมื่อ10-04-2018 13:58:53 »



Chapter 38 : ความในใจ


ภายในห้องนอนของรวินท์ปิดไฟมืด เขาเปิดแอร์เย็นเฉียบแล้วซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ทันตแพทย์หนุ่มนอนหลับๆ ตื่นๆ มาทั้งวัน หิวก็หิว แต่กินอะไรไม่ลง ไม่อยากลุกไปไหน ไม่อยากออกจากห้อง ไม่อยากพบใคร ไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น

เสียงเคาะประตูดังขึ้น “วิน เปิดประตูหน่อย”

รวินท์ไม่ตอบ เขาแกล้งทำเป็นหลับ

“วิน มีคนมาหา” พี่ชายเคาะประตูพร้อมกับเรียกน้องชายไปด้วย “วิน ออกมาพบเขาหน่อยนะ”

หากคนที่นอนอยู่ใจหายวูบ เขานึกว่าเป็นเตชิตจึงตะโกนตอบไปทันที “ผมไม่อยากเจอใครทั้งนั้น บอกให้กลับไปก่อน!”

วิวหันไปทางเด็กหนุ่ม กำลังจะบอกว่าให้กลับไปก่อนเถอะ แต่อีกฝ่ายกลับก้าวเข้ามาทุบประตูห้องเสียเอง “ไอ้พี่วิน! นี่ผมเองนะ! ผมมาจากเชียงใหม่เลยนะเว้ย จะไล่กันกลับได้ลงคอเลยเหรอวะ”


ทันตแพทย์หนุ่มเบิกตาโพลง แล้วลุกพรวดจากเตียง


“ออกมาเร็วๆ ถ้าพี่ไม่ออกมา ผมจะพังประตูเข้าไปหาพี่นะเว้ย! ไอ้พี่วิน!”

พี่ชายของรวินท์เบิกตาโพลง ตกใจจนถอยไปยืนติดผนังเพื่อตั้งหลัก ไอ้เด็กท่าทางติ๋มๆ หงิมๆ คนเมื่อกี้หายไปไหนวะ! “จะ... ใจเย็น...น้อง...”

รวินท์รีบวิ่งไปเปิดประตู แต่เพราะตัวเองปิดไฟในห้องไว้มืด เขาจึงเดินชนนู่นนี่เสียงดังโครมคราม กว่าจะถึงประตูก็ได้มาหลายแผล ชายหนุ่มเปิดประตูออกผาง นัยน์ตาเรียวเบิกโพลง ภูพิงค์อยู่ตรงหน้าเขาจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ! “พิงค์”

“เออ ผมเอง สอบเสร็จก็รีบมาหาพี่เลยนะเนี่ย เกิดอะไรขึ้นวะ”

เสียงและท่าทางสุดจะนักเลงของเด็กหนุ่มทำให้วิวรู้สึกหวาดๆ เขาไว้ใจคนผิดรึเปล่าวะเนี่ย! พี่ชายจึงเอื้อมมือไปขวางเด็กหนุ่มไว้ “ใจเย็นๆ ก่อน”

“ไม่เป็นไรครับพี่วิว” รวินท์หันไปบอกพี่ชาย

“พี่วิว?” ภูพิงค์หันไปทางพี่ชายของอีกฝ่าย “พี่วิว ขอผมคุยกับพี่วินตามลำพังนะครับ”

“จะดีเหรอ” วิวหันไปทางน้องชาย

รวินท์พยักหน้า เขาหลุบสายตาลงต่ำ เขาเอื้อมมือไปเปิดไฟ จากนั้นจึงหันหลังเดินกลับเข้าห้องไปช้าๆ

คนอ่อนวัยกว่าเอื้อมมือไปยันประตูไว้ “ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมคุยกับพี่วินเอง บอกให้ทุกคนไปนอนกันเถอะ”

วิวลังเล แต่เพราะเด็กหนุ่มคนนี้ที่ทำให้รวินท์ยอมเปิดประตูห้องได้ ถ้างั้นพวกเขาก็น่าจะรู้จักกันดีนั่นล่ะมั้ง “มีอะไรก็เรียกนะ ห้องผมอยู่ตรงนั้น”

“ครับ”

ภูพิงค์ก้าวเข้าไปในห้องแล้วก็ปิดประตูล็อกกลอน ส่วนเจ้าของห้องยืนหันหลังนิ่งอยู่ไม่ไกลจากบานประตูนัก เขาเดินเข้าไปสวมกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง “พี่วิน ผมเป็นห่วงแทบแย่”

เพียงแค่ความอบอุ่นของอ้อมแขนเด็กหนุ่มก็ทำให้เขาใจชื้นขึ้นมากมาย รวินท์ปิดตาลงช้าๆ พร้อมกับผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ “ขอโทษ”

ทั้งสองยืนนิ่งอยู่ในท่านั้นชั่วครู่ จากนั้นเด็กหนุ่มจึงพูดขึ้น

“ไอ้พี่เต้มันทำอะไรพี่ใช่มั้ย” ภูพิงค์คลายอ้อมแขนออก จากนั้นจึงจับให้อีกฝ่ายหันหน้ามาสบสายตากัน

ใบหน้าของรวินท์ฉายชัดถึงความโศกเศร้าและความวิตกกังวล เขาเสตาหลบพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ

คนอ่อนวัยกว่าหน้าเสีย “พี่เต้ทำอะไรพี่!”

“ไอ้เต้มันวางยาผม คิดว่ามันคงเอายานอนหลับให้กิน แล้วก็...ทำอย่างว่าไปนิดหน่อย”

“อย่างว่า...” ภูพิงค์อ้าปากค้าง เขาก้มลงพิจารณาตามลำคอของทันตแพทย์หนุ่ม พอเห็นรอยสีแดงจางๆ ตรงซอกคอหัวใจก็ร่วงวูบไปอยู่ใต้ฝ่าเท้า

รวินท์พูดเสียงอ่อย “บอกตรงๆ ผมก็ไม่รู้ว่ามันทำอะไรกับผมไปบ้าง รู้แค่... มันไม่ได้ทำจนสุดทาง”

“แน่ใจนะพี่วิน”

“อือ เพราะ... อย่างแรกผมสลบ ไอ้ตรงนั้นมันก็ใช้การไม่ได้อยู่แล้ว อย่างที่สอง ผมไม่เจ็บตรงไหน แปลว่ามันก็ไม่ได้ทำอะไรผม อาจจะหยุดกลางคัน แต่มันหยุดไปเพราะอะไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ถึงจะโล่งใจที่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดมีการขืนใจกัน แต่เมื่อมองร่องรอยที่เตชิตทิ้งไว้ เด็กหนุ่มก็กัดฟันกรอด มือที่กำจนแน่นสั่นเล็กน้อยอย่างโกรธแค้น เขาอยากจะไปตั๊นหน้าไอ้พี่เต้เสียเดี๋ยวนั้น “ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”

รวินท์ส่ายหน้าไปมา “ผมผิดที่ไว้ใจ แต่มันก็เป็นเพื่อน...”

“มันไม่ใช่ความผิดของพี่” ภูพิงค์ดึงทันตแพทย์หนุ่มเข้ามาสวมกอด พลางยกมือขึ้นลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน “พี่คงตกใจมาก... ทำไมไม่มาหาผมล่ะ เรียกผมไปหาก็ได้ ผมบอกแล้วไงว่าจะอยู่เคียงข้างพี่เสมอน่ะ”

“ก็คุณมีสอบ แล้วมันก็ดึกมากแล้ว วันนั้นผมไปงานเลี้ยงใหญ่ของโรงบาลที่โรงแรมในจังหวัดน่ะ”

“อืม ผมว่าพี่วินไปนั่งก่อนดีกว่า”

พอเด็กหนุ่มผละออกห่าง รวินท์ก็ดึงอีกฝ่ายกลับเข้ามาสวมกอด “ขอผมกอดคุณไว้อีกสักพักเถอะนะ”

“นั่งก็กอดได้ มาเถอะ ให้ผมเป็นคนกอดพี่ดีกว่า ผมจะกอดจนกว่าพี่จะสบายใจเลย” ภูพิงค์นั่งลงบนพื้นข้างเตียง พร้อมกับฉุดให้อีกฝ่ายนั่งลงมาตรงระหว่างขาตนและเอนหลังพิงแผ่นอกเขาไว้ สองแขนโอบกอดทันตแพทย์หนุ่มไว้อย่างอ่อนโยน จากนั้นเขาก็เอาคางเกยหัวไล่คนในอ้อมแขนไว้ “ค่อยๆ เล่ามาให้หมด ผมจะฟัง”

ความอบอุ่นของอ้อมแขนคนอ่อนวัยกว่านั้นทำให้รวินท์รู้สึกสบายใจขึ้นเป็นกอง เขาเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแบบไม่ปิดบัง ตั้งแต่เรื่องของขวัญข้าว ตอนที่พยาบาลสาวที่ชื่อออยมาเตือน แล้วก็ทุกอย่างที่เตชิตกระทำกับร่างกายเขา ระหว่างที่เล่าไปเด็กหนุ่มก็กระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอย่างลืมตัว

คนอ่อนวัยกว่าซบใบหน้าลงบนหัวไหล่ทันตแพทย์หนุ่ม “ถ้าไอ้พี่เต้มันทำอะไรพี่มากกว่านี้... ผม...”

รวินท์หันหน้าไปหาเด็กหนุ่ม “...มันเอารูปคุณกับผู้หญิงคนนั้น...”

“เฟิร์นน่ะเหรอ เขามาหาผมที่มหาลัย ผมไม่ได้ไปหาเขานะพี่” เด็กหนุ่มประสานสายตากับคนในอ้อมแขนนิ่ง “แต่ผมเค้นถามเขาว่ารู้เรื่องผมได้ยังไง เขาบอกว่า...”

“รู้จากไอ้เต้งั้นสินะ” ทันตแพทย์หนุ่มถอนหายใจ “ผู้หญิงคนที่สัมภาษณ์คุณวันลอยโคม เป็นญาติไอ้เต้ ผมเพิ่งนึกออกไม่นานมานี่ เขาเคยมาสัมภาษณ์ผมสองสามครั้งตอนผมอยู่มหาลัย วันนั้นผมรู้สึกว่ามีคนตามพวกเราตลอด เหมือนเห็นไอ้เต้ด้วย คิดว่ามันน่าจะมากับญาติมันมานี่ล่ะ”

“อืม... ตอนนั้นพี่เต้คงกำลังสืบเรื่องของพี่กับผมสินะ ตอนวันเกิดพี่ พี่เต้ก็โทรมาบอกผม ผมถึงได้ไปเจอพี่ตอนอยู่กับคุณออยพอดี”

“มันวางแผนไว้หมดแล้ว” รวินท์หลุบตาลงต่ำ “แต่ผมจะไม่โทษมันคนเดียว ที่ขวัญข้าวทิ้งผม นั่นเป็นเพราะผมเลวเอง แล้วผมเองก็ผิดที่ไม่ใส่ใจกับความรู้สึกของมัน ที่มันเป็นแบบนี้ เพราะผมเอง”

“โทษตัวเองทำไมวะพี่ ถ้าพี่รู้ว่าพี่เต้ชอบพี่แต่แรก อะไรมันจะเปลี่ยนไปบ้างงั้นเหรอ”

“ถ้าผมใส่ใจความรู้สึกของมันสักนิด บางทีเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น” น้ำตารื้นขึ้นมาเอ่อคลอนัยน์ตาเรียว ทันตแพทย์หนุ่มพยายามไม่กะพริบตา หากหยดน้ำตาก็ร่วงหล่นลงมาจนได้

ภูพิงค์สงสารคนในอ้อมแขนจับใจ พี่วินมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว คบหากันมานาน โดนคนที่ไว้ใจหักหลังแบบนี้คงจะสะเทือนใจมาก “พี่วิน ผม... ขอโทษที่ต้องถามตรงๆ พี่เต้ได้ถ่ายรูปหรือคลิปไว้มั้ย”

“ผม...​ไม่รู้”

คนอ่อนวัยกว่าลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ “ช่างเถอะ ถึงถ่ายก็ไม่เป็นไร ถ้าพี่ไม่แคร์ ผมก็ไม่แคร์... ต่อจากนี้ไปผมจะปกป้องพี่เอง ผมสัญญา”

แววตาของทันตแพทย์หนุ่มสั่นไหว เขาหันตัวเข้าหาเด็กหนุ่ม สวมกอดและซบใบหน้าลงบนหัวไหล่อีกฝ่าย “คุณชอบพูดแบบนี้ ความใจดีของคุณ มันจะทำให้ผมเข้าใจผิด รู้ตัวบ้างมั้ยวะ”

ภูพิงค์ขมวดคิ้ว “ขนาดนี้ยังเข้าใจผิดได้ด้วยเหรอวะ? พี่เข้าใจว่าอะไรเนี่ย”

“.....”

“พี่วิน พี่เข้าใจว่าอะไร” เด็กหนุ่มดันไหล่คนตรงหน้าออกจากตัว เขาเชยคางคนตรงหน้าขึ้นเพื่อให้สบสายตากันได้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เข้าใจว่าอะไรครับ”

รวินท์เผยอริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะปิดสนิทเพื่อกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ “...เข้าใจว่า...”

“ว่า?”


“คุณชอบผม”


“ก็เข้าใจถูกแล้วนี่”

“ฮะ!?” ทันตแพทย์หนุ่มเบิกตากว้าง “คุณชอบผมเรอะ!”

“เออสิวะ ไม่งั้นจะตามจีบอยู่ทุกอาทิตย์อย่างงี้เหรอ แล้วถ้าไม่ชอบพี่ ผมจะหึงพี่บ่อยๆ ทำไมวะ”

“หึงตอนไหนวะ ผมจำได้แต่ตอนที่คุณด่า”

“เอ้า ก็ถ้าไม่หึงจะด่าเหรอ อีกอย่างนะ ก็เพราะพี่เต้รู้ว่าผมชอบพี่ ถึงได้พยายามทำให้ผมกับพี่ผิดใจกันไง”

“นั่นมัน...” รวินท์อ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง เพราะเขาเข้าใจว่าที่ไอ้เต้พยายามทำให้เขากับพิงค์ผิดใจกัน ก็เพราะรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับพิงค์เท่านั้น “แต่คุณไม่ได้ชอบผู้ชายนี่หว่า!”

“พี่รู้ได้ไงวะ เป็นผมเหรอ ผมก็ชอบผู้ชายอยู่นี่ไง ผู้ชายทั้งแท่งแล้วก็มีแท่งเหมือนผมเนี่ย”

ทันตแพทย์หนุ่มตกใจหนักกว่าเดิม เขายกสองมือขึ้นจับแผ่นอกตัวเอง “แต่ผมไม่มีนมด้วยนะ”

“ผมมักน้อย พี่มีแค่ไหนก็เอาแค่นั้นแหละ” ขณะที่ทันตแพทย์หนุ่มมัวแต่อึ้ง ภูพิงค์ก็ใช้ปลายนิ้วไล้แก้มที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ ใบหน้าเขาในตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงไม่แพ้กัน “แล้วพี่ล่ะ คิดยังไงกับผม ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แถมยังมีฟันคุดเหลืออีกสามซี่ด้วย ชอบผมบ้างสักนิดรึเปล่า”

“ไม่นิด...”

“หือ?”

“ผมชอบคุณ ชอบมาก... ชอบจนเจ็บฉิบหาย เจ็บไปหมด”

“ชอบยังไงถึงเจ็บวะ”

“ก็ผมนึกว่าผมชอบคุณอยู่ข้างเดียวนี่หว่า”

คนอ่อนวัยกว่ายิ้มกว้าง “งั้นเราก็ใจตรงกันแล้ว... แบบนี้เรียกว่าแฟนกันได้ยัง”

รวินท์หัวเราะ “เออ เป็นก็เป็น”

“ต่อไปก็อย่าทำให้ผมหึงบ่อยนักนะ ผมก็เจ็บเป็นเหมือนกัน”

“ก็พยายามอยู่ ไม่เห็นบ้างเลยรึไง”

“เห็นสิ เพราะพี่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อผม ผมถึงพยายามไม่หึงงี่เง่าให้มาก... นี่พยายามแล้วนะ แต่ถ้าผมหึงมากไปเมื่อไหร่ พี่ก็เตือนกันได้ ผมจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อพี่เหมือนกัน”

ทันตแพทย์หนุ่มอมยิ้ม “พิงค์แม่งน่ารัก”

“ส่องกระจกบ้างเวลาพูดแบบนี้อะ”

“ผมหล่อตลอดเวลาอยู่แล้ว”

ภูพิงค์ยกมือขึ้นหยิกแก้มทันตแพทย์หนุ่ม พลางค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปหา ซึ่งอีกฝ่ายก็จ้องใบหน้าเขาเขม็ง ไม่ยอมละสายตาไปเลย ทำให้เด็กหนุ่มต้องชะงัก “จ้องอะไรขนาดนั้น”

“ก็คุณจะทำอะไรล่ะ”

“จะจูบไง”

“ปากหายแล้วเหรอ”

“หายแล้ว เดี๋ยวพี่ก็เช็กให้ด้วยเลยละกัน”

“เช็กยังไง ไม่มีเครื่องมือ”

“ใช้ลิ้นไง” คนอ่อนวัยกว่าไม่รอให้รวินท์เถียงอะไรได้ เขาประกบปิดริมฝีปากสีแดงที่เฝ้าคิดถึงมานาน รสสัมผัสที่นุ่มนิ่มราวกับมาร์ชเมลโล ทำให้เขาบดจูบเข้าไปอย่างกระหาย แล้วสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวรัดลิ้นอุ่นในโพรงปากอีกฝ่าย

ทันตแพทย์หนุ่มปิดตาลงช้าๆ ขณะที่ลมหายใจอุ่นๆ ของภูพิงค์ตกกระทบบนผิวแก้ม ริมฝีปากที่กระชับเข้าหากันเป็นผลให้รู้สึกดีจนแทบคลั่ง จูบของเด็กหนุ่มไม่เป็นประสีประสา เงอะงะไม่ได้เรื่อง หากก็ทำให้สุขล้นหัวใจ

พอภูพิงค์ถอนริมฝีปากออก รวินท์จึงยกมือขึ้นกดท้ายทอยของเด็กหนุ่มไว้ “เมื่อกี้ยังไม่ทันได้เช็กเลย” เขาแนบจูบคนอ่อนวัยกว่า ครั้งนี้สอดปลายลิ้นเข้าไปกวาดต้อน เกี่ยวกระหวัดจนเด็กหนุ่มส่งเสียงครางในลำคออย่างพอใจ

ภูพิงค์จับทันตแพทย์หนุ่มให้เอนหลังพิงกับขอบเตียง เขาบดจูบกลีบปากสีลูกสตรอว์เบอร์รีอย่างหนักหน่วง ไล่ต้อนลิ้นนุ่มกลับเข้าไปในโพรงปากอีกฝ่าย จูบเนิ่นนานจนหยาดน้ำใสล้นออกมาจากมุมปาก จนกระทั่งพวกเขาต่างหอบหายใจหนักๆ จึงถอนริมฝีปากออกช้าๆ “ผมจูบไม่ได้เรื่องเลยว่ะ”

รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ “เออ รู้ตัวก็ดี”

“ช่วยไม่ได้นี่หว่า ผมไม่เคยจูบใครมาก่อนนี่”

ทันตแพทย์หนุ่มเลิกคิ้วขึ้น “เฮ้ย ไม่เคยจริงเหรอ แล้วแฟนเก่า...”

“โห มากสุดก็จับมือกับหอมแก้ม ตอนนั้นผมยังเด็กเว้ยพี่”

“น่ารักว่ะ” รวินท์ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นหยิกแก้มเด็กหนุ่มบ้าง จากนั้นจึงยื่นหน้าเข้าไปหา “ไม่เป็นไร จูบบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง ผมจะติวให้เอง” แล้วก็แนบจูบเรียวปากตรงหน้า เขาเคลื่อนมือขึ้นวางบนท้ายทอย สอดปลายนิ้วเข้าไปกดคลึงภายในกลุ่มเส้นผม ในขณะเดียวกันก็เบียดตัวเข้าหาเด็กหนุ่ม

ภูพิงค์ไม่ปฏิเสธหรอก ริมฝีปากของพี่วินน่ะ ทั้งนุ่มทั้งหวาน ให้เขาจูบยันเช้าก็ยังได้ เมื่ออีกฝ่ายเบียดเข้าหา เขาก็ยิ่งโอบกระชับไว้แนบกาย แผ่นอกที่เสียดสีกัน แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นหนักๆ ของพวกเขาทั้งสองคน

ริมฝีปากทั้งสองละออกจากกันเล็กน้อย หากก็ยังคลอเคลียกันอยู่ ขณะที่พวกเขายิ้มให้แก่กัน

จู่ๆ รวินท์ก็หัวเราะออกมาเบาๆ “พิงค์แม่งไม่รู้งานเลยว่ะ”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “ไม่รู้งานอะไรวะ”

“เวลาแฟนโดนคนอื่นขโมยจูบมา เขาก็ต้องช่วยจูบซ้ำ ลบรอยคนอื่นไปสิวะ”

“จูบซ้ำลบรอย? ผมก็จูบไปตั้งหลายทีแล้วไง”

“นั่นมันแค่ที่ปากอย่างเดียวเอง” รวินท์ปลดกระดุมเสื้อออกสองเม็ด แล้วชี้ไปที่แผ่นอก “ดูดิ”

“ฮะ!?” ภูพิงค์ลดสายตาลงมองรอยสีแดงจางๆ ตรงซอกคอและบนแผ่นอกขาว ใบหน้าที่ซับสีเลือดอยู่แล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้นไปอีก ยาวไปจนถึงใบหู “หมายความว่า... ว่า...”

“อือ ก็อย่างที่เห็น โดนจูบไปทั่วเลยว่ะ ยังมีอีกนะ ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้ด้วย”

“เยอะขนาดนี้ผมว่าพี่ไปอาบน้ำง่ายกว่าว่ะ”

“อาบแล้วโว้ย!” ถ้ายกตีนขึ้นมาก่ายหน้าผากตรงนั้นได้ รวินท์คงทำไปแล้ว หากตอนนี้ทำได้แค่ถอนหายใจหนักๆ “ช่างเหอะ ลงไปหาอะไรกินกันดีกว่า” เขาลุกขึ้น ก่อนจะส่งมือให้เด็กหนุ่มจับยึด

คนอ่อนวัยกว่าเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของฝ่ามือตรงหน้า เขาจับมือนั้นไว้พร้อมกับดึงตัวเองให้ลุกขึ้น ก่อนจะผลักอีกฝ่ายให้นั่งลงไปบนเตียงนอน

“เดี๋ยว พิงค์! จะทำ...” ทันตแพทย์หนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มกดไหล่ของเขาให้เอนหลังนอนลงไป พลางขยับขึ้นมาคร่อมบนตัวเขา

“พี่วินโดนจูบในเสื้อด้วยใช่มั้ย”

“เฮ้ย เอาจริงเหรอ!”

ภูพิงค์ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อที่เหลือของคนใต้ร่างออกจนหมด แล้วแหวกสาบเสื้อทั้งสองข้างออก เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมาจากปากอยู่แล้ว “ที่จริง...ผมก็อยากให้พี่จำจูบของผมมากกว่านะ” เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปแต้มจูบกลีบปากที่ยังเห่อบวมเล็กน้อยจากตอนที่พวกเขาจูบกันเมื่อครู่ ค่อยๆ จูบไล้ผ่านสันกราม และลำคอขาวลงไปช้าๆ  พลางกระซิบถามไปด้วย “ตรงนี้แล้วก็ตรงนี้ใช่มั้ย”

เรียวปากของเด็กหนุ่มที่สัมผัสลงมาบนผิวกายทำให้รวินท์สะดุ้งตัวเล็กน้อยราวกับถูกของร้อน เขาเบี่ยงใบหน้าไปอีกทางให้คนบนร่างจูบไซ้ได้อย่างสะดวก เริ่มต้นก็เหมือนจะดี เขาเกือบจะฟินแล้ว แต่ไปๆ มาๆ จูบเปะปะแบบนั้นก็ชักจะเหมือนลูกสุนัขที่ยังไม่หย่านมไปสักหน่อย

คนอ่อนวัยกว่าผู้ด้อยประสบการณ์จูบลงไปบนผิวขาวบางเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขากลัวจะทำให้ผิวของพี่วินเป็นรอย แต่กว่าจะไล้ริมฝีปากผ่านลงมาถึงแผ่นอก... เขาก็รู้สึกร้อนไปทั้งตัวแล้ว เหมือนเลือดทั้งตัวพุ่งมารวมกันอยู่ที่ปลายจมูก กำเดาจะไหลออกมาเป็นเขื่อนแตกอยู่รอมร่อ

แต่แล้วจู่ๆ รวินท์ก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ “พอเหอะ จั๊กจี้ว่ะ”

ภูพิงค์ผงกศีรษะขึ้น “ไอ้พี่วิน! ผมเสียฟอร์มหมด!”

“โทษๆ” ทว่าก็ยังหัวเราะไม่หยุด

“ตรงไหนอีก”

“พอแล้ว ไม่ต้องจูบแล้วโว้ย”

“ทำไมวะ”

รวินท์พลิกตัวคว่ำหน้าลง “บอกแล้วไงว่าจั๊กจี้”

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คนอ่อนวัยกว่าเลยนอนทับคนใต้ร่างลงไปซะเลย จากนั้นจึงจั๊กจี้เอวต่อ จากฉากเรตกลายเป็นปัญญาอ่อนไปได้อย่างไรก็ไม่รู้

“พอแล้ว ฮ่าๆ” ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะลั่น ก่อนจะหอบหนักๆ “หนักโว้ย ลงไปได้แล้ว”

ภูพิงค์ขยับออกไปนอนข้างกัน เขาใช้แขนข้างหนึ่งยันศีรษะไว้ “ยังจูบไม่หมดเลย”

“เอาไว้วันหลังเหอะ ตอนนี้หิวแล้วอะ ตั้งแต่มาถึงกรุงเทพฯ นี่ ยังไม่ได้กินอะไรเลย”

“แล้วทำไมไม่กินล่ะวะ มัวแต่ดราม่าอยู่อะดิ เห็นมะ ไปหาผมแต่แรกก็สิ้นเรื่อง”

“ถ้าไปหาคุณแต่แรก ผมคงยังไม่ได้รู้ว่าคุณชอบผม” รวินท์ยกมือขึ้นลูบไรเคราบางๆ บนสันกราม แล้วบีบปลายจมูกอีกฝ่าย “ชอบขนาดที่อุตส่าห์ตามมาหาผมจากเชียงใหม่เลยนะเนี่ย”

“ปลื้มอะดิ”

“อือ”

“โชคดีที่ไอ้พวกนั้นมันขยันโทรมาที่บ้านพี่ให้ ไม่งั้นพ่อพี่กับพี่ชายพี่คงจับผมส่งตำรวจไปแล้วแหงๆ”

“ขอบใจที่มานะ ขอบใจทุกคนด้วย”

เด็กหนุ่มวางมือประกบลงบนหลังมืออีกฝ่าย “พี่วิน คือ... ผมได้ยินจากพี่นิ้งว่าพี่จะลาออกจากโรงบาล จริงรึเปล่า”

“ก็คิดอยู่ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ”

“ตอนที่ผมได้ยินข่าวมา ตกใจแทบตาย โทรหาพี่เป็นร้อยหนได้มั้ง แต่พี่ก็ปิดมือถือ”

“ไม่ได้ปิด แต่มือถือหายไปไหนไม่รู้ ผมคิดว่าไอ้เต้มันเอาไป แต่เครื่องล็อกอยู่คงไม่เป็นไร” รวินท์พูดเสียงเศร้า “เสียดายรูปของเรา...”

“ไม่เป็นไรหรอก รูปตอนเราไปเที่ยวกันในเครื่องผมก็มี แล้วก็เอาไว้ถ่ายกันใหม่กันอีกเยอะๆ เลยก็ได้ เรายังมีเวลาอีกตั้งมากมาย” เด็กหนุ่มจับมือของรวินท์ขึ้นมาแนบจูบ “อยู่ต่อเถอะนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องไอ้พี่เต้ เดี๋ยวผมกับเพื่อนๆ จะเทคแคร์ให้เอง จะจัดให้หนัก เอาให้อยู่ไม่ได้เลย”

รวินท์จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคมกริบ แล้วเลิกคิ้วขึ้น “เดี๋ยวก่อน จะไปรุมอัดมันเหรอ”

“เอาให้แม่งคลานกลับกรุงเทพฯ ไม่มีหน้ากลับไปลำพูนอีกเลยเลย” ภูพิงค์พูดเสียงเข้ม

“อย่านะเว้ย! ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง มันก็เป็นเพื่อนผม เราเคยมีช่วงเวลาดีๆ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา”

“พี่ยังนับคนแบบนี้เป็นเพื่อนอีกเหรอวะ ไปกูเกิลอ่านความหมายของคำว่าเพื่อนใหม่นะ” ภูพิงค์ส่ายหน้าไปมาช้าๆ “เพื่อนเขาไม่วางยาเพื่อน ไม่คิดร้ายกับเพื่อนหรอกนะพี่”

“ก็จริง” ทันตแพทย์หนุ่มนิ่งขรึมไปชั่วครู่ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมายืดยาว เขาหันหน้าไปสบสายตากับภูพิงค์ “ตอนที่ผมสลบไป ที่จริงมันจะทำอะไรกับผมก็ได้ แต่เพราะคำว่าเพื่อนอาจจะมีความหมายอยู่บ้างสำหรับมัน มันถึงได้หยุดไป”

“พี่มองโลกในแง่ดีไปแล้ว ขี่ม้ายูนิคอร์นวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์เหรอวะ”

รวินท์หัวเราะเจื่อนๆ “ผมคิดว่าควรจะไปคุยกับมันให้เข้าใจ ถ้ามันไม่เปลี่ยนใจ ผมจะค่อยคิดเรื่องลาออกอีกทีแล้วกัน”

เด็กหนุ่มยิ้มบาง พลางยกมือขึ้นลูบศีรษะอีกฝ่าย “พี่วินเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก ถ้างั้นช่วงปิดเทอมนี้ผมจะไปค้างกับพี่บ่อยๆ นะ หรือถ้าพี่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง พี่ก็มาค้างกับผม แบบนี้ดีมั้ย”

“ผมน่ะขับไปกลับทุกวันยังไหว แต่คุณจะไหวเหรอ ขี่มอเตอร์ไซค์อันตรายด้วย”

“บิ๊กไบท์นะเว้ยพี่ ขี่ไปหาแฟนทั้งคน แค่สี่สิบกิโลนี่จิ๊บๆ” ภูพิงค์หัวเราะ “แต่พี่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะเอารถที่บ้านขึ้นไปใช้ พ่อแม่ผมเคยบอกให้เอาไปใช้หลายทีแล้ว เพราะไม่ค่อยอยากให้ขี่มอไซค์เหมือนกัน”

“แล้วกะจะเอาขึ้นไปยังไง”

“ก็คงขับไปกับพ่อมั้ง แล้วให้พ่อนั่งเครื่องกลับ”

“อือ... ถ้างั้น... เอาแบบนี้มั้ย ยังไงอาทิตย์หน้าผมก็ลาไปแล้ว คุณเองก็ปิดเทอม เราค่อยๆ ขับขึ้นไปเชียงใหม่กันเองก็ได้”

“โห กลัวผมไม่มีรถขับไปหาใช่มั้ย”

“เออ” รวินท์ยิ้มมุมปาก “แล้วก็จะได้แวะเที่ยวตามทางด้วยไง”

“เอางั้นก็ได้พี่ เดี๋ยวผมจะรีบคุยกับที่บ้านนะ ยังไงวันนี้ก็จะกลับบ้านอยู่แล้วด้วย”

“บ้านคุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง”

“ไกลจากบ้านพี่เยอะเหมือนกัน แต่ผมว่าพี่ควรจะอยู่คุยกับพ่อแม่พี่ๆ ของพี่ก่อนนะ ดูทุกคนเป็นห่วงมากเลย”

“นั่นสินะ เดี๋ยวตอนเช้าผมจะออกไปคุยกับทุกคน...”

“หาเหตุผลดีๆ ล่ะ อธิบายให้ทุกคนเข้าใจนะ ว่าที่พี่มาเนี่ย ไม่ใช่เพราะพี่เป็นคนเหลาะแหละ แค่ถอยมาตั้งหลักเฉยๆ”

รวินท์หลุบตาลงต่ำ พลางพยักหน้า “ถ้างั้นคุณอยู่รอผมได้มั้ย แล้วเราค่อยไปบ้านคุณด้วยกัน”

“ได้ดิ ผมจะได้พาพี่ไปให้ที่บ้านรู้จักด้วย น้องสาวผมเห็นพี่ มีหวังน้ำลายฟูมปากแหง”

“ผมเป็นยาเบื่อเหรอวะ” ทันตแพทย์หนุ่มยกขาถีบ “พิงค์ ผมหิว”

“เออๆ รู้แล้ว จะลงไปครัวใช่มั้ย”

“ทำไรให้กินหน่อยนะ”

คนอ่อนวัยกว่าพยักหน้า “อือ พาไปห้องครัวทีสิ”


(มีต่อค่ะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 37 : ตามหัวใจ][050418]
«ตอบ #1823 เมื่อ10-04-2018 13:59:20 »



สองหนุ่มก้าวออกจากห้องอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ทำเสียงดังให้คนในบ้านตกใจ จากนั้นจึงเดินลงบันได ตรงไปยังห้องครัวกัน

รวินท์เองก็ไม่เคยเข้าครัวที่บ้านมาทำกับข้าว เขาจึงเปิดตู้หาของกินไปเรื่อยๆ จนไปหยุดอยู่ที่ตู้อาหารแห้ง “กินอะไรดี”

เด็กหนุ่มก้าวเข้ามายืนประกบด้านหลัง พลางเอื้อมมือไปหยิบห่อบะหมี่สะเร็จรูปมา “มาม่าใส่ไข่มั้ย”

ทันตแพทย์หนุ่มหันขวับ “อือ มาม่าก็ได้”

“โอเค” แล้วภูพิงค์ก็ผละออกไปควานหาหม้อต่อ

รวินท์ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม คือแบบ... ที่เขายังยืนงงอยู่เนี่ย ไม่ใช่เพราะตกใจที่จู่ๆ ภูพิงค์ก็เข้ามาประกบข้างหลัง แต่คือคนเป็นแฟนกันน่ะ ปกติถ้าเริ่มด้วยท่านี้แล้ว มันก็มักจะตามมาด้วยฉากโรแมนติกป่ะวะ

แต่ไม่เป็นไร พิงค์อาจจะนึกไม่ถึง เพราะงั้นเขาเริ่มเองก็ได้

ทันตแพทย์หนุ่มมองไปที่คนอ่อนวัยกว่าซึ่งตอนนี้กำลังย่อตัวลงนั่งยองๆ หน้าตู้เพื่อรื้อหาหม้อ เขาเดินเข้าไปย่อตัวลงประกบหลังและกอดคอเด็กหนุ่มไว้หลวมๆ ขณะที่โน้มใบหน้าเข้าไปเพื่อจรดปลายจมูกลงบนแก้ม คนในอ้อมแขนก็หันขวับมาทางเขา แล้วยังทำตาขวางใส่

“เล่นอะไรวะพี่ แค่ผมหาหม้อนานหน่อยแค่นี้ถึงกับจะฆ่าแกงกันเลยรึไงวะ”

รวินท์คิ้วกระตุก มือที่กอดคออยู่เปลี่ยนเป็นล็อกคอแทนโดยอัตโนมัติ “เออดิ เร็วๆ หน่อย หิวจะตายอยู่แล้ว”

“เจอหม้อแล้ว ปล่อยดิ จะได้รีบต้ม” คนอ่อนวัยกว่าลุกขึ้นพรวด ดึงแขนคนที่ล็อกคอเขาอยู่ให้ลุกขึ้นมาด้วย “ไปนั่งรอ อย่าเกะกะ” พูดจบก็แกะแขนทันตแพทย์หนุ่มออก เอาหม้อไปตั้งไฟไว้แล้วก็ย้ายไปรื้อของในตู้เย็น ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนเงิบอยู่เพียงลำพัง

เออ คำว่าโรแมนติกอะเหรอ เขาคงหวังจากพิงค์ไม่ได้หรอก

“มีไส้กรอกด้วย พี่วินกินมั้ย”

“กิน” ทันตแพทย์หนุ่มเดินไปนั่งลงหน้าโต๊ะเตรียมอาหารอย่างเซ็งๆ

“จะนั่งกินตรงนี้เหรอ”

“ไม่อะ ร้อนจะตาย เอาไปกินบนห้องดีกว่า”

“โอเค เดี๋ยวผมหาชามแป๊บ” เด็กหนุ่มหาถาดและชามมาวางเรียงไว้ ไม่นานมาม่าก็สุก เขาจัดการเทใส่ชาม หยิบช้อนกับตะเกียบมาวางไว้พร้อม

รวินท์เดินไปเปิดตู้หยิบแก้ว ตามด้วยเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมา จากนั้นพวกเขาก็เตรียมจะเดินกลับขึ้นห้องนอน

ทว่าพอจะก้าวออกจากครัวก็เห็นมารดายืนอยู่ที่ประตู

“อ้าว แม่ยังไม่นอนเหรอ” ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มรับ

“ได้ยินเสียงในครัวเลยลงมาดูน่ะ หิวกันเหรอลูก”

“ครับ แต่พิงค์ต้มมาม่าให้แล้ว”

มารดาส่ายหน้าไปมา “มีอย่างที่ไหนเนี่ย ให้แขกมาต้มมาม่าให้”

ภูพิงค์ชิงตอบ “ผมชินแล้วครับ พี่วินจิกใช้อยู่บ่อยๆ จิกเก่งกว่าไก่ก็พี่วินนี่แหละ”

เจ้าของชื่อเรียกยกขาเตะอีกฝ่ายไปเบาๆ “เก็บปากไว้ผ่าฟันคุดที่เหลือเหอะ”

มารดาหัวเราะ ได้เห็นรวินท์สดชื่นขึ้นเธอก็สบายใจขึ้นมาบ้าง “วินไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ยลูก”

“ไม่เป็นไรแล้วครับแม่ เดี๋ยวสักสายๆ ค่อยคุยกันนะ”

“จ้ะ” มารดาหันไปทางภูพิงค์ “แล้วพิงค์จะนอนที่ไหน แม่เปิดห้องพักแขกให้เอามั้ย” หากรวินท์รีบพูดขึ้นแทรก

“ไม่ต้องหรอกครับ เขานอนกับผมได้”

“เอ้า ก็ตามใจ งั้นกินเสร็จก็รีบนอนกันได้แล้วนะลูก ตีสามกว่าแล้วเนี่ย”

“ครับ” รวินท์เดินนำหน้าออกไป ขณะที่เด็กหนุ่มถือถาดใส่อาหารเดินตามหลังไปต้อยๆ มารดาของรวินท์ก็สะกิดบอก

“ขอบใจนะพิงค์”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี”


หลังจากกินบะหมี่สำเร็จรูปกันอิ่มท้อง ภูพิงค์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความไปรายงานเพื่อนๆ ว่าเขาได้คุยกับพี่วินเรียบร้อย จากนั้นจึงไปอาบน้ำ เขาเปลี่ยนใส่เสื้อยืดกับกางเกงขายาวของรวินท์ พอก้าวออกจากห้องน้ำมาก็เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง ซึ่งเจ้าของห้องนั่งเอนหลังพิงหมอนเล่นโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่

ภายในห้องมีแสงไฟเพียงสลัวจากโคมไฟตรงหัวเตียง แสงสีนวลของมันฉาบไล้เสี้ยวหน้าของทันตแพทย์หนุ่ม จากจุดที่ยืนอยู่เขาสามารถเห็นขนตายาวเป็นแพบนดวงตาคู่หวาน รอยยิ้มน้อยๆ ของรวินท์สะกดให้เขายืนนิ่ง แล้วจ้องมองอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น
แฟนกูจริงๆ เหรอวะเนี่ย ทำไมน่ารักแบบนี้วะ


อย่างกับฝันไป คิดแล้วก็เขินวุ้ย


รวินท์เงยหน้าขึ้นมอง “ยืนบิดไปบิดมาทำอะไร นั่งดิ”

“เอ้อ...” ภูพิงค์ยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแบบเขินๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงตรงที่ว่างข้างคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว “ไม่ง่วงเหรอวะพี่”

“ไม่หรอก หลับๆ ตื่นๆ มาทั้งวันแล้ว”

รวินท์วางโทรศัพท์ในมือลง พลางขยับเข้าไปหาเด็กหนุ่ม แล้วเอนตัวซบศีรษะลงบนแผ่นหลัง เขายังไม่ทันจะยกแขนขึ้นโอบกอด ก็ดันได้ยินเสียงหัวใจที่จู่ๆ ก็เต้นรัวแรงขึ้นของอีกฝ่าย เป็นผลให้หลุดหัวเราะออกมา

“หัวเราะไรวะ!” เด็กหนุ่มหันกลับมาโวยวาย ใบหน้าซับสีเลือด

“โทษๆ” ปากบอกเช่นนั้นแต่ก็ยังหัวเราะไม่หยุด

“หยุดหัวเราะได้แล้วเว้ย อยู่กันสองคนในห้องกับแฟน ผมจะตื่นเต้นบ้างก็ไม่แปลกป่ะวะ”

“เมื่อกี้ตอนกอดในครัวไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยอะ”

“มันไม่เหมือนกันมั้ยวะ นั่นมันห้องครัว กำลังยุ่งๆ อยู่ด้วย แต่นี่มันห้องนอน อยู่บนเตียงอีกต่างหาก”

“อ่อ... งั้นผมขอลองอีกทีนะ” ทันตแพทย์หนุ่มโน้มใบหน้าลงไปแนบกับแผ่นอก พอได้ยินเสียงหัวใจเต้นโครมครามถล่มทลายก็ยิ้มอย่างพอใจ “คิดอะไรทะลึ่งอยู่แหงๆ”

“เปล่านะเว้ย!” เด็กหนุ่มรีบแก้ตัว

รวินท์หัวเราะร่วน “พิงค์นี่น่ารักจริงๆ เลยน้า”

“ไม่เท่าพี่หรอก” ภูพิงค์ก้มลงมองศีรษะที่ก้มงุดอยู่กับอกตน สองมือกระตุกราวกับถูกไฟฟ้าช็อต เขาควรจะทำไงดีวะ กอดดีมั้ย หรือลูบผมก่อนดี ขณะที่กำลังลังเล อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับค่อยๆ ยืดตัว ยื่นใบหน้าเข้ามาแต้มจูบเรียวปากตน
จูบครั้งนี้เนิบนาบและอ่อนโยนเป็นพิเศษ รวินท์ผลักเด็กหนุ่มให้เอนหลังลงนอน แล้วขยับขึ้นไปทาบทับ

คนใต้ร่างซึ่งอ่อนกว่าทั้งอายุและประสบการณ์ครางอือในลำคอ เขายกแขนขึ้นโอบกอดทันตแพทย์หนุ่มไว้ ในระหว่างที่สองลิ้นพันพัว เขาก็จ้องมองใบหน้าของคนรักที่อยู่ตรงหน้าไปด้วย พอมาถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า เขาจะกำลังจูบกับหนุ่มฮ็อตอย่างพี่วินอยู่

รวินท์ปรือตาขึ้น ก่อนจะชะงักเมื่อประสานสายตากับเด็กหนุ่ม เขาถอนริมฝีปากออกช้าๆ “จ้องอะไรนัก”

ภูพิงค์ยกมือขึ้นไล้แก้มคนบนร่าง “จ้องแฟนอะดิ”

“แล้วเห็นอะไรบ้างล่ะ”

“เห็นความน่ารัก” เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง

“แล้วความหล่อไม่เห็นรึไง”

“เห็น แต่ความน่ารักมีมากกว่า พี่วินน่ารักมากๆ เลยรู้ป่ะ น่ารักซะจน... ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่จะยอมเป็นแฟนกับหมาวัดอย่างผม”

ทันตแพทย์หนุ่มเขกหน้าผากคนใต้ร่างไปเบาๆ “พูดอะไรน่ะ เราตกลงด้วยกันว่าจะคบกันไม่ใช่รึไง”

“แต่สำหรับผมมันก็ยังไม่น่าเชื่ออยู่ดี”

“ผมก็เหมือนกันนั่นล่ะ”

“พี่วิน...” ภูพิงค์กดศีรษะของทันตแพทย์หนุ่มเข้ามาแนบอก “ไม่ได้เจอพี่หลายวัน คิดถึงใจแทบขาดเลยรู้มั้ย”

“ผมก็คิดถึงคุณนะ ไม่มีใครกวนประสาทเลย เหงาเป็นบ้า”

เด็กหนุ่มหัวเราะ “ต่อจากนี้ไปผมจะกวนพี่ทุกวันเลย”

รวินท์อมยิ้ม “โห ซึ้งเลย”

คนอ่อนวัยกว่าผงกศีรษะขึ้นกระซิบ “ขอผมกอดพี่ให้หายคิดถึงหน่อยได้มั้ยอะ”

“ได้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องขอเลย”

เมื่อได้รับคำตอบมาเช่นนั้น เด็กหนุ่มก็ค่อยๆ พลิกตัวคนในอ้อมแขนให้เอนหลังนอนลงไปบนเตียง

รวินท์ประสานสายตากับคนที่ขยับขึ้นมาคร่อมบนร่าง ความใกล้ชิดทำให้ลมหายใจขาดห้วง เขาขยุ้มเสื้อของภูพิงค์ไว้แน่น ขณะที่เด็กหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ “พิงค์...”

เจ้าของชื่อเรียกเอื้อมมือไปกดปิดสวิตช์ไฟที่หัวเตียง แล้วก้มลงจูบหน้าผากของรวินท์ แขนข้างหนึ่งให้ทันตแพทย์หนุ่มใช้หนุนนอน ส่วนแขนอีกข้างโอบกอดอีกฝ่ายไว้ “ฝันดีนะพี่วิน”


ฮะ!?


เดี๋ยวสิวะ! แค่นี้เหรอ?


รวินท์นอนกะพริบตาปริบๆ อยู่ในอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม ที่บอกว่าจะขอกอด แม่งก็กอดจริงๆ กอดล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นปน พวกเขาอุตส่าห์มีโอกาสได้สวีตกันตามลำพังทั้งที ไม่คิดจะทำอะไรมากไปกว่ากอดจูบเลยเรอะ!

ทันตแพทย์หนุ่มถอนหายใจหนักๆ เขาหันไปหาคนที่นอนอยู่ข้างกัน แล้วจึงขยับเข้าไปซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนอบอุ่น


*TBC*


มีแฟนสดซิง แถมยังซื่อบื้อ ก็ต้องอดทนหน่อยอะนะพี่วิน /ตบบ่าให้กำลังใจ

ค่อยๆ สอนน้องไปนะ เด็กมันเรียนรู้ไว 55555555555555

หลังจากเครียดกับเนื้อเรื่องมาช่วงนึงก็จะเข้าช่วงผ่อนคลายเบาๆ นะคะ แล้วจะมีดราม่าอีก คราวนี้ก็จะเป็นตาของหมอเต้แล้วก็น้องพิงค์บ้างค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ไม่ต้องเตรียมรองเท้าไว้ปาฮัสกี้แต่อย่างใด หมดช่วงรับโปรโมชั่นแร้วววว 55555

หมอวิน หมอเต้ และน้องพิงค์ ทุกคนต่างมีข้อเสียในตัวเอง หมอวินได้รับบทเรียนไปแล้วหนึ่ง ยังเหลืออีกสองหน่อ หมอเต้ยังต้องได้รับบทเรียนจากการกระทำของตัวเอง ส่วนน้องพิงค์ ความขี้หึงและซื่อบื้อก็เป็นเรื่องได้ แต่จะเป็นยังไงก็ขอให้ติดตามกันต่อไปนะคะ 55555555 

ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคนมากค่ะ  :mew1:

ปล. เรื่องนี้หมอเต้ไม่มีคู่ค่ะ แต่หมอเต้เป็นพระรองของเรื่องนี้นะคะ อิอิ


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 38 : ความในใจ][100418]
«ตอบ #1824 เมื่อ10-04-2018 14:29:22 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ในที่สุด  เขาก็เปิดปากบอกความในใจกันสักที

ว่าแต่  นุ้งพิงค์นี่สุภาพบุรุษมากเด็กน้อยสุด ๆ  ส่วนอีพี่วินก็นะ อยากให้เขาทำอะไรมากกว่านั้น แต่ก็ดันนิ่งเฉย  เฮ้อ  รุกเองเลยสิรอทำไม 555

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 38 : ความในใจ][100418]
«ตอบ #1825 เมื่อ10-04-2018 14:29:39 »

สู้ๆนะพี่วิน น้องพิงค์ยังซื่อๆใสๆอยู่เลย 5555555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 38 : ความในใจ][100418]
«ตอบ #1826 เมื่อ10-04-2018 14:32:14 »

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 38 : ความในใจ][100418]
«ตอบ #1827 เมื่อ10-04-2018 14:43:47 »

แอร๊ยยย  ระเบิดตัวเป็นโกโก้ครั้นช์เลยจร้า :hao7:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 38 : ความในใจ][100418]
«ตอบ #1828 เมื่อ10-04-2018 14:46:18 »

 :katai1: บทจะช้าก็เหมือนหนังแขกวิ่งรอบเขาเป็นลูกๆ บทจะเร็วก็ไวปานวอก555 ตอนนี้ชักหมั่นไส้พิงค์ละ ไอ้หน่อมแน้มเอ้ย ไก่อ่อนชมัด หมอสอนหน่อยสินะนะนะ 5555555 สรุปแล้วใครจะกดใครล่ะทีนี้ ไอ้ที่จะกด ก็ทำไม่เป็น 555555

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 38 : ความในใจ][100418]
«ตอบ #1829 เมื่อ10-04-2018 15:31:52 »

หมอเต้เขาก็น่าสงสารนะคะ ถึงจะทำเกินกว่าเหตุไปบ้าง ขอบทลงโทษอย่าหนักมากนะคะไรท์ สงสารหมอเต้จริงๆ นะเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด