3. Pleaseความเจ็บปวดของคนหนึ่ง สร้างความเข้มแข็งให้กับอีกคนหนึ่ง..ผมนั่งพิงประตูนิ่ง ๆ เงี่ยหูฟังเสียงจากห้องตรงข้ามกระทั่งมั่นใจว่าแนนขนของเสร็จจนกลับออกไปแล้วถึงเดินกลับมานั่งมองจานไก่ที่ผมกับภาคกินทิ้งเอาไว้ ไม่รู้ป่านนี้มันจะถึงห้องน้องนอสหรือยัง..คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตั้งใจว่าจะลองโทรหา ติดที่ว่ามีคนมาเคาะประตูห้องผมเสียก่อน
“เมธ..” ผมเลิกคิ้ว รู้สึกแปลกใจที่เป็นเขา “เอ่อ..มีไรเหรอ”
เขายกมือขึ้นเกาหัวก่อนจะพูด “ไปเดินเล่นกันไหม”
เห็นผมทำหน้างง เขาก็พูดต่อ “เราอยากคุยด้วย”
“อืม..” ผมหันซ้ายหันขวา “ขอเราปิดไฟปิดอะไรก่อน”
“ไม่ต้องรีบนะ” เขาบอกเมื่อเห็นผมเดินพล่านไปมาทั่วห้อง “เรารอได้”
“อืม ๆ” ผมเดินไปปิดพัดลมได้ ก็คว้ากุญแจห้องขึ้นมาถือเอาไว้ “เสร็จแล้ว ๆ”
ลงมาจากหอพักได้เขาก็เดินตรงไปที่ร้านกาแฟบนฟุตบาทตรงข้ามหอพัก สั่งกาแฟมาได้สองถุงก็หิ้วเดินนำผมไปที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ หออีก ผมที่ไม่รู้จะพูดอะไรก็ได้แต่เหวี่ยงกุญแจในมือให้หมุนวนอยู่รอบนิ้วชี้ตัวเองขณะเดินตามเขาไปเรื่อย ๆ กระทั่งเขาหยุดแล้วหันมายื่นถุงกาแฟให้ผมนั่นแหละเราถึงได้ปริปากพูดกัน
“ใกล้สิ้นเดือนแบบนี้เราไม่ค่อยมีเงินอะ..ปั่นกินได้ใช่ไหม ?”
ผมพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษ “เราลืมเอาเป๋าตังค์มาอะ”
“ไม่เป็นไร ๆ เราเลี้ยง”
ผมยิ้มขอบคุณเขา..รู้สึกผิดนิดหน่อยที่รีบจนลืมหยิบเงินลงมาด้วย “ได้ยินว่าปีนี้ลำไยราคาตกเหรอ”
“อื้ม..” เขาตอบยิ้ม ๆ “ดีที่ยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่เราก็ลดเงินที่จะขอแม่ลงไปก่อนอะช่วงนี้”
“ดีจัง..” ผมเอ่ยชม “ต่างจากเราที่มีแต่จะขอเพิ่ม”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก..” เขาโบกมือไปมา “ปกติเราก็ไม่ค่อยได้ใช้อะไรอยู่แล้ว”
ผมยิ้มให้เขา ก่อนจะยกถุงกาแฟขึ้นมาดูดแก้เขิน “ว่าแต่เมธมีเรื่องอะไรจะคุยกับเราเหรอ”
“เข้าเรื่องเร็วจังแฮะ” เขาหัวเราะเฝื่อน ๆ “ก่อนอื่นเราอยากจะขอโทษปั่น..เรื่องวันนั้น..”
ผมก้มหน้าลงหมุนถุงกาแฟในมือไปมาเมื่อรู้แล้วว่าต่อไปเขาจะพูดอะไร “เราต่างหากต้องเป็นฝ่ายขอโทษ”
“...”
“ตั้งใจเอาไว้แล้วแหละว่าจะลืม ๆ มันไป” ผมเงยหน้าขึ้นไปส่งยิ้มให้เขา “เมธก็ลืม ๆ มันไปเถอะ”
เขาขมวดคิ้ว “แต่เราคุยกับภาคแล้ว..”
“ไอ้ภาคมันพูดอะไรก็อย่าไปใส่ใจเลย” ผมรีบพูดแทรก “มันก็ทำเว่อร์ไปอย่างนั้นแหละ”
“ปั่น..”
“อีกอย่างเราก็เป็นผู้ชาย ไม่มีอะไรให้เสียหายหรอก”
“ภาคบอกเราเรื่องหอแล้วนะ” ผมสะอึกเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ปั่นตั้งใจย้ายมาอยู่หอเดียวกับเรา ทั้งที่พ่อแม่ปั่นก็ตกลงแล้วว่าจะให้อยู่ที่คอนโดภาค”
“เรา..”
“เราไม่ได้ว่าอะไรหรอก” เขารีบบอก “แค่แปลกใจนิดหน่อยที่ไม่เคยรู้ตัวเลย”
เห็นผมเงียบ เขาก็ยิ้มให้ “เรียนด้วยกันจนปีสุดท้ายแล้ว เพิ่งจะมารู้”
“รัง..รังเกียจหรือเปล่า” ผมกำมือแน่น..พยายามเรียบเรียงทุกสิ่งที่อยู่ในหัวให้ออกมาเป็นคำพูด “มันน่าขยะแขยงมากเลยใช่ไหม..”
“เป็นคนคิดมากเหมือนที่ภาคบอกเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเอื่อย ๆ “เรากลัวทำปั่นร้องไห้จัง”
“...”
“ลังเลอยู่ทั้งคืน..แต่ก็คิดว่าต้องเลิกหนีปัญหาแล้ว” เขาใช้นิ้วเขี่ยไอน้ำที่เกาะอยู่รอบ ๆ ถุงกาแฟในมือตัวเองจนมันหยดร่วงลงไปบนพื้น “เราลองมาคบกันดูไหม”
“อะไรนะ !” ผมเสียงดัง “นี่..นี่ไอ้ภาคมันไปข่มขู่อะไรเมธหรือเปล่า ไม่ต้องไปฟังที่มันพูดหรอกนะ..เราเข้าใจ..เรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้..เราเข้าใจ..”
“ใจเย็น ๆ” เขาจับมือผม “ไม่มีใครข่มขู่อะไรเราทั้งนั้นแหละ”
“ตัวแทนเหรอ” ปากผมขยับไปเร็วเท่ากับความสับสนวุ่นวายในหัว “เมธพึ่งเลิกกับแนน..คงทั้งเสียใจและสับสน”
“มันคนละเรื่องกันนะ” เขาพูดอย่างใจเย็น “เราว่าปั่นควรใจเย็นลงก่อน”
“เดี๋ยวเราย้ายออกเอง..เมธจะได้ไม่ต้องอึดอัด”
“ฟังที่เราพูดหรือเปล่า” เขาจับคางผมให้หันไปมอง “เรากำลังขอคบกับปั่นนะ..ไม่ได้ไล่”
“เรา..”
“ลองเอากลับไปคิดดูก่อนก็ได้” เขาพูดช้า ๆ “ค่อย ๆ คิด”
ผมเบือนหน้ากลับมามองถุงกาแฟในมือตัวเอง “เมธเป็นคนดี”
“มึงชอบมันเพราะอะไร”
ภาคมันเคยถามคำถามนี้กับผม..
มันถามในวันครบรอบสองปีที่ผมแอบมองเขา..
จำได้ว่าตอนนั้นผมคิดหาคำตอบอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ได้คำตอบออกมา..
“เพราะมันเป็นคนดีไง”
ใช่แล้ว..ผมชอบเขาก็เพราะว่าเขาเป็นคนดี“เมธกับแนนเลิกกันเพราะอะไรเหรอ” ดูเขาแปลกใจ ที่จู่ ๆ ผมก็ถามคำถามนี้ออกมา “เพราะผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า”
“ไม่เกี่ยวกับคนอื่นหรอก” เขาบอกแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “เราเลิกกัน เพราะคิดต่างกัน”
“...”
“เมื่อพยายามอย่างที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขอะไรได้มันก็ต้องจบลงแบบนี้” พูดแล้วก็หันมายิ้มให้กับผม “ไม่มีใครอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้หรอก”
“...”
“ก็แค่ต้องยอมรับมัน จริงไหม”
ผมพยักหน้า ก่อนจะพูดความรู้สึกออกไป “ที่ขอคบกับเรา..นั่นก็คือความพยายามใช่ไหม”
พยายามรับผิดชอบ..
พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดก่อน..
พยายาม ทั้งที่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบลงยังไง..
“คุยกับปั่น เราก็สบายใจดีนะ” เขาส่งยิ้มมาให้ “เพราะงั้น มันอาจไม่ต้องพยายามเลยก็ได้”
“...”
“หรือปั่นคิดว่ายังไง ?”
Ma-NuD_LaW
ต้องทำให้เป็นนิยายรักให้ได้ คอยดูสิ
::ดีใจว่าจะไปประกาศคนหายซะแล้ว หายไปนานมากคิดถึงเด้อ เรื่องนี้ต้องดราม่าจัดเต็มใช่ไหมครับ
กลับมาแล้วววว.. และยังยืนยันว่ามันคือนิยายรักโรแมนติก
สุดท้าย..ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ
[/color]