ตอนที่ ๒๘
ความรู้สึกอุ่นจนร้อนทำให้ลินท์รู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา ค่อยๆเปิดเปลือกตาด้วยความง่วงงุนก็เห็นคนตัวโตกำลังสวมกอดเขาเอาไว้ แผ่นอกกระเพื่อมขึ้นลง ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแต่สิ่งที่เขารู้สึกผิดปกติก็คืออุณหภูมิร่างกายของชลธีที่ร้อนผ่าวจนน่ากลัว ลินท์ใช้หลังมืออังไปยังหน้าผาก ซอกคอ และบริเวณช่วงตัว และต้องตกใจกับรอยเล็บเป็นทางลากยาวทั่วแผ่นหลัง เขาเม้มปากแน่นด้วยความขัดเขิน ส่ายหัวไม่ให้ตัวเองมองภาพตรงหน้าแล้วคิดถึงสมรภูมิรบขนาดย่อมบนเตียงเมื่อคืนว่าเป็นเช่นไร เขาถดตัวขึ้นยืนตั้งใจว่าจะไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้คนรักเสียหน่อย
“พี่ฉลาม..”
“อะอืม” เจ้าตัวครางเครือไม่ได้ศัพท์ มือหนาปะป่ายไปตามตัวเขาจนต้องเอนหลบ ลินท์กระซิบข้างหูคนรัก และแตะไปตามเนื้อตัวให้คนที่ยังนอนหลับรู้สึกตัว
“พี่ตัวร้อนมากเลย หนูจะเช็ดตัวให้นะ”
“ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มส่งเสียงแหบแห้งแล้วคว้าข้อมือบางเอาไว้ดึงรั้งให้ลินท์เข้าไปใกล้ แต่เด็กหนุ่มไม่ยอมโอนอ่อนตาม พยายามแกะข้อมือของตัวเองออกจากการเกาะกุม ชายหนุ่มส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ “แค่พี่นอนกอดลินท์ก็หายแล้วครับ”
“ไม่ได้นะครับ!” เขาดุคนรักที่ออกอาการไม่ยอมเชื่อฟัง “พี่นั่นแหละ หักโหมมากเกินไป ตัวเองป่วยอยู่แท้ๆ”
“พี่หักโหมอะไรหรือ?”
“ก็… ก็”
“ก็อะไรหรือครับ” เป็นเขาเองที่ตอบไม่ถูก มือไม้ไม่รู้จะไปวางไว้ที่ตรงไหนได้ยกมือขึ้นปิดหน้าทั้งๆที่อีกฝ่ายมองไม่เห็นด้วยซ้ำ เขาเขินมากจริงๆ..
มันเป็นการแนบชิดร่างกายครั้งแรกหลังจากที่ไม่เจอกันเกือบครึ่งปี ชลธีไม่ยอมให้เขาได้หยุดพักหายใจเลยด้วยซ้ำ ทุกตารางนิ้วของร่างกายถูกตีตราจองโดยมีเจ้าของพร่ำบอกรักทั้งคืน กระทั่งเขายังไม่รู้ตัวว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“ฮื่อ เช็ดตัวดีกว่าครับ” ลินท์ใช้ผ้าชุบน้ำบิดจนชุ่มแตะลากไปที่ตามแอ่งชีพจร ซอกคอ และแผ่นอกหนาที่เป็นรอยข่วนไปทั่ว เป็นเขาเองที่รู้ว่าชลธีป่วยก็ยังใส่แรงไปเยอะเหมือนกัน
ชลธีสะดุ้งยามที่คนรักบรรจงเช็ดตัว เนื้อผ้าลากไล้ไปทั่วร่างกายจนเขาเริ่มรู้แปลกๆ จึงใช้มือหนาควานหาเด็กหนุ่มแล้วดึงรั้งเข้ามาใกล้ ใช้ริมฝีปากคลอเคลียไปตามเนื้อขาวเท่าที่จะทำได้ “อือ อย่าจูบ เดี๋ยวหนูติดไข้ไปด้วยก็ไม่มีใครดูแลพี่พอดี”
“พี่ไข้ขึ้นหรือ”
“อื้อ ตัวร้อนมากเลยเนี่ย” เขาอังหน้าผากคนรักอีกทีเป็นการยืนยัน
“สงสัยเมื่อคืนพี่จะปั๊มลูกหนักไปหน่อย”
“พี่ฉลาม!” เขาเหวใส่ ยกมือขึ้นจะทุบคนป่วยแต่ก็อดใจไว้ คนบ้าอะไรชอบพูดให้เขาเขินจริงๆ
“เมื่อไหร่จะมีน้องให้พี่น้า”
“เงียบเลยนะครับ!” เขาตีเบาๆไปที่ฝ่ามือยุบยับที่คอยลูบไล้เขาอยู่ตลอดเวลา
“หนูไม่รักพี่หรือ” ชลธีทำน้ำเสียงตัดพ้อ ส่วนคนฟังอย่างเขาแทบจะละลายไปกับพื้นแล้ว “มาให้พี่กอดหน่อยเร็ว”
“มะไม่ต้องอ้อนเลยนะ.. เดี๋ยวหนูเอายามาให้” เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย “รอหนูแปบนะ”
เขาลงมาที่ห้องครัวจัดเตรียมยาที่ชายหนุ่มต้องทานตามเวลาและน้ำเปล่า ไม่ลืมที่จะทำอาหารอ่อนๆให้คนป่วยทาน หลังจากที่ลองไปรื้อค้นตู้เย็นได้เนื้อหมูและผักมานิดหน่อย วันนี้จึงตั้งใจจะทำข้าวต้มหมูสับให้คนป่วยทาน เขามัวแต่ง่วนอยู่ในครัวไม่ทันสังเกตเสียงรถจอดที่หน้าบ้าน เขาชะโงกหน้าออกไปดูก็เห็นชายหนุ่มกำลังหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามา
“พี่ปาน ลินท์ช่วยครับ” กำลังจะออกไปช่วยแต่เสียงห้ามของปานชีวันก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ไม่เป็นไรๆ บอกพี่มาละกันว่าเก็บตรงไหนบ้าง” เขาขนพวกผลไม้และของสดมาฝากเด็กหนุ่ม “เหนื่อยน่าดูเลยสิ” มองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูอิดโรยแล้วนึกสงสารในใจ ใครจะไปรองรับอารมณ์ของผู้พันได้ แค่คิดเขาก็ขอส่ายหัว ไอ้ปานคนนึงล่ะที่ขอบาย!
“ก็.. นิดหน่อยครับ” เขาตอบอ้อมแอ้ม จริงๆแล้วเรื่องดูแลชลธีก็ไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องดูแลบนเตียงก็นักหนาเอาการพอดู ใบหน้าขาวร้อนวูบวาบเมื่อนึกถึงคนรัก ขนาดป่วยก็ยังคึกคักได้ตลอดเวลา ส่วนเขาน่ะหรือแค่พูดเสียงอ่อนเขาก็ใจอ่อนแล้ว
“วันนี้ทำอะไรกินหรือ” ปานชีวันเดินไปดูที่เคาเตอร์ครัวพลางลูบท้องเบาๆ “พี่กำลังหิวพอดีเลย”
“ข้าวต้มหมูสับครับ พี่ปานอยู่ทานข้าวกันก่อนนะครับ”
“เออๆ” ชายหนุ่มมองหามีดแล้วหยิบผลที่ขนมาเมื่อครู่จัดแจงล้างน้ำสะอาดแล้วลงมือปลอก เป็นมะม่วงสีเหลืองสุกกลิ่นหอมหวานเชียว ถ้ามีข้าวเหนียวราดน้ำกะทินะสุดยอดไปเลย
“ไปหาพี่ฉลามก่อนนะพี่” ลินท์ยกถาดเตรียมขึ้นชั้นบน ปานชีวันกวักมือไล่แถมยังงับมะม่วงโชว์
“รีบไปๆ” เขารีบส่งสายตาให้เด็กหนุ่มรีบไป ขืนชักช้าเดี๋ยวอาละวาดขึ้นมาตัวใครตัวมันนะโว้ย!
“พี่ฉลามครับ ทานยานะ” เด็กหนุ่มวางถาดลงแล้วค่อยๆประคองชายหนุ่มขึ้นนั่ง เขาอยู่ใกล้ชลธีทีไรเหมือนคนไม่มีกระดูกเข้าไปทุกที ชอบซบเขา ดึงเขาไปกอดอยู่นั่น
“อือ ไม่กินไม่ได้หรือ” คนตัวโตเริ่มงอแง เพราะทานยาทุกวันจนเริ่มจะเอียนแล้ว เขาเองก็แอบเห็นใจแต่ก็ใจอ่อนไม่ได้เพราะนั่นหมายถึงอาการป่วยที่หายช้าของคนรัก
“ทานนะครับ แล้วเดี๋ยวทานข้าวกัน” รับแก้วน้ำกลับมาแล้วรินน้ำเพิ่มให้คนป่วยได้จิบอีกรอบ “พี่ปานมานะครับ รออยู่ข้างล่างแน่ะ”
“ไอ้ปาน?”
“ครับ”
“ให้มันขึ้นมาหาพี่หน่อยนะครับ”
“อะ ได้ครับ” ลินท์ให้ชายหนุ่มนอนพักแล้วเดินลงมาเตรียมทำอาหาร เขาเลยถือโอกาสบอกปานชีวันที่กำลังนั่งกินผลไม้อยู่ในครัว “พี่ปานครับ พี่ฉลามเรียกหาแน่ะครับ”
“หือ เออๆ เดี๋ยวกูไป” เขาเคี้ยวมะม่วงในปากจนหมดยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วเดินขึ้นบันไดชั้นสอง เลี้ยวไปทางห้องนอนของผู้พันหนุ่มที่เปิดแง้มเอาไว้
“ไงเฮีย” เขาทักทายเสียงร่าเริง สีหน้าของชลธีดูดีขึ้นเยอะมาก เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่ให้เด็กหนุ่มมาช่วยดูแล เขาจะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นหาคนดูแลอีก
“มึงเอาเมียกูมา ไม่บอกกู” นายทหารหนุ่มปาหมอนออกไปข้างหน้า “ไอ้..” เขาอยากจะด่ามันเหลือเกินควานหารอบตัวก็ไม่มีอะไรที่จะปามันได้แล้ว
“โอ๊ยพี่.. รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ปานชีวันโอดครวญ แล่นถลาเข้าไปบีบนวดรุ่นพี่ยกใหญ่ “พี่ไปโดนแมวที่ไหนมันข่วนมาเนี่ย”
“มึงกวนตีนละ” เขายกมือลูบแผ่นอกที่แสบแปรบๆเพราะรอยเล็บของลูกเป็ด “ข่าวไอ้นารถ ไปถึงไหนละ”
“ยังไม่เจอเลยครับ” เขาเอ่ยเสียงเครียด ผู้กองหนุ่มเป็นกำลังสำคัญและอนาคตอีกยาวไกล เขาไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดเรื่องกับคนดีๆแบบนี้ได้ “ทุกหน่วยวิ่งเต้นกันยกใหญ่”
“แม่งเอ๊ย” ชลธีกัดกรามแน่น นฤนารถเป็นรุ่นน้องที่เสียงเป็นเสี่ยงตายกับเขามา เขาะจะยอมปล่อยให้มันเป็นอะไรได้ยังไง “ไม่วิ่งกันได้ยังไง หม่อมแม่ของไอ้นารถเป็นใครมึงก็รู้” เขาหมายถึงมารดาของนฤนารถที่เป็นถึงราชนิกูลผู้มีหน้ามีตาในสังคม
“ผมก็ภาวนาให้พี่เขากลับมาปลอดภัย”
แม้มันจะริบหรี่เหลือเกินก็ตาม.. “มันต้องรอดสิวะ” ชลธียังมีความเชื่อมั่นในตัวของรุ่นน้องอยู่ มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับนายตำรวจหนุ่มสักอย่าง และเขาจะต้องรู้ให้ได้
“เออพี่.. พี่นัชฝากของเยี่ยมไข้มาให้เยอะแยะเลย เดี๋ยวให้ลินท์เอาขึ้นมาให้นะ” ปานชีวันกำลังจะหันไปเรียกเด็กหนุ่ม แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อเสียงกึกก้องกัมปนาทของรุ่นพี่ดังขึ้น
“หยุด มึงมีสิทธิ์อะไรมาสั่งเมียกู ไปทำมาให้กูกินเลย” มันเอาเมียมาให้เขาโขกสับโดยไม่บอก เขายังไม่ได้คิดบัญชี รอให้เขาหายดีก่อนเถอะ
“พี่แม่งใจร้าย” ชายหนุ่มครวญ “ทำคุณบูชาโทษจริงๆ กระซิกๆ” แกล้งทำเป็นบีบน้ำตาหวังว่ารุ่นพี่จะเห็นใจแต่เปล่าเลย ชลธีกลับโบกมือไล่เขาออกไป
“ไปไกลๆตีนกู”
“ทะเลาะอะไรกันหรือครับ” ลินท์ยกถาดที่มีข้าวต้มหมูสับหอมกรุ่น พร้อมน้ำส้มคั้นสีสวยจัดเตรียมให้คนรักได้ทาน “พี่ฉลามมาทานข้าวเร็ว” ชลธีได้ยินเสียงลูกเป็ดก็หูผึ่งรีบกระเด้งตัวขึ้นมาหันหน้าไปตามเสียง
“จ้ะ ป้อนพี่ด้วยนะที่รัก” เสียงอ่อนเสียงหวานเสมอหากเป็นมุจลินท์
“อื้อหือ คุยกับน้องกับเมียนี่คนละเรื่อง หน้ามือเป็นหลังส้นตีนแตกเลยนะเฮีย” ปานชีวันแขวะ แอบกัดฟันกรอดมองรุ่นพี่ที่สองมาตรฐาน ใช่สิ เขามันคนไม่มีเมีย เขาไม่เข้าใจหรอก!
“ไปๆ เมียกูมาละ”
“ฮื่อ ไปแกล้งพี่ปานอีก” ลินท์อดแอบขำไม่ได้ สองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรจะต้องกวนกันตลอด
“หิวข้าวจังเลยจ้ะ” เขาว่ากันว่าเวลาเราป่วยจะกลับไปเป็นเด็กคงจะจริง เพราะคนตัวโตตรงหน้าเขาช่างขี้อ้อนเหลือเกิน
“ทานเสร็จแล้วต้องนอนพักนะครับ” เขาตักข้าวต้มแล้วเป่าจนหายร้อน จ่อเข้าที่ปากคนป่วย “ถ้าไม่นอน เดี๋ยวไข้ขึ้นอีก”
“จ้ะ” ชลธีให้ความร่วมมือผิดกับตอนแรกลิบลับ หน้าตาเริ่มดูดีขึ้นไม่ซีดเผือดเหมือนวันก่อน กินข้าวได้เยอะขึ้น ชวนเขาคุยเรื่องต่างๆ ดูอารมณ์ดีขึ้นเยอะ “ลินท์.. พี่คิดถึงลูก”
“กลับไปอยู่บ้านเรากันดีกว่าครับ” เขาใช้ทิชชู่ซับริมฝีปากให้ชายหนุ่ม ชลธีคว้าข้อมือบางเอาไว้แนบกับแก้มอุ่น ถูใบหน้าไปมากับฝ่ามือเขาสลับกับพรมจูบ
“ลินท์จะอยู่กับพี่ใช่ไหม” เขารู้ว่าคนรักจะไม่จากเขาไปไหน แต่อีกใจหนึ่งมันก็กลัว กลัวว่าสักวันหนึ่งหากเขาไม่กลับไปเหมือนปกติ เด็กหนุ่มคงไม่อดทนกับเขาอีกต่อไป
“อื้อ ไม่ไปไหนหรอก” เขาย้ำซ้ำอีกรอบ กดจูบลงริมฝีปากหยักของคนรัก ฉกจูบเร็วๆจนอีกฝ่ายตั้งตัวไม่ทัน “แน่นะ”
“ลินท์สัญญา”
หัวใจและร่างกายของลินท์มันเป็นของพี่แต่เพียงผู้เดียว.. - - - - - - - - - - -
สายฝนโปรยปรายเป็นสายไม่หยุดตั้งแต่ช่วงเช้า ก้อนเมฆสีเทาอึมครึมและแรงลมทำให้บรรยากาศด้านนอกไม่น่าย่างกรายออกไปเลยสักนิด ผู้กำกับหนุ่มเดินออกมามองบริเวณหน้าต่าง ส่องหาใครบางคนคุ้นเคยที่มักจะมาหาเขาในเวลานี้ ยิ่งเสียงฟ้าร้องดังสลับแสงวูบวาบบนท้องฟ้า เขายิ่งรู้สึกไม่ดี หงุดหงิด กังวลกับอะไรบางอย่างที่เขาก็ยังไม่เข้าใจ ชัยวัตรเปิดโทรศัพท์ดูตารางสอนที่เด็กหนุ่มส่งมาให้ ปกติวันพุธปฐวีจะเลิกเรียนประมาณสี่โมงเย็นและซ้อมกีฬาจนถึงหกโมงเย็นเป็นประจำ แต่ตอนนี้เกือบสองทุ่มแล้วก็ยังไม่มีวี่แวว
โทรไปดีไหมวะ..เขามองนาฬิกาถี่มากขึ้นจนเริ่มจะหงุดหงิด ตัดใจกดเบอร์โทรไปไม่กี่อึดใจเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นตามด้วยเด็กหนุ่มตัวโตในชุดกีฬาบาสโผล่หน้าเข้ามา แถมตัวยังเปียกมะล่อกมะแล่กไปหมด
“ขอโทษที่มาช้านะครับ” เขาวางกระเป๋าลงกับพื้นล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับ “ฝนตกหนักมากเลย ผมรอตั้งนานแล้วก็ไม่หยุดสักที”
“ไม่โทรมาบอกวะ” จะได้ไปรับ..
ประโยคต่อมาเขาพูดอยู่คนเดียวในใจไม่รู้อยู่ๆ ปากมันเป็นอะไรถึงพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น ปฐวีเงยหน้าขึ้นมามองผู้กำกับหนุ่มที่ทำหน้ายับยู่เหมือนกำลังหงุดหงิดอะไร
หรือจะโกรธที่เขามาช้า? “ไม่เป็นไรครับ ข้างนอกฝนตกหนัก รถก็ติดด้วย” เขารู้ว่าชัยวัตรเป็นคนชอบขับรถเร็วและมักจะอารมณ์เสียกับรถติดในเมืองหลวงและเป็นเขาทุกครั้งที่อาสาขับรถให้เสมอ “คุณรออยู่นี่ดีแล้วครับ”
ชัยวัตรมองเด็กหนุ่มที่ยิ้มหวานให้เขาก็เริ่มจะชักหมั่นไส้ เป็นเด็กเป็นเล็กแต่บังอาจมาทำให้เขาเหมือนเด็กคิดว่าคนอย่างเขาดูแลตัวเองไม่ได้หรือยังไงกัน ทำไมต้องเป็นห่วงเขาจนรีบตากฝนมาขนาดนั้น เห็นแล้วมันหงุดหงิดชะมัด
“เออ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป” เขาพยักพเยิดไปทางห้องน้ำด้านในห้อง “แล้วก็ไปทานข้าวกัน”
“เอ่อ คือว่าคุณวัตรครับ”
“มีอะไร”
“คืนนี้ผมคงไม่ได้ไปค้างด้วยนะครับ” ปฐวีถือโอกาสอยู่ในห้องเพียงลำพังกับผู้กำกับหนุ่มถอดเสื้อบาสสีเหลืองที่เปียกชุ่มออก อวดร่างกายกำยำสีแทนที่มัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อสวย หยดน้ำเกาะตามผิวเนียนจนอีกฝ่ายมองไม่หยุด
“ทำไม”
“พ่อกับแม่ไปทำบุญที่ต่างจังหวัดครับ ไม่มีใครอยู่ผมเลยต้องไปนอนเป็นพื่อนน้อง” ชัยวัตรพยักหน้ารับรู้ เขาเคยได้ยินเด็กหนุ่มเล่าให้ฟังว่ามีน้องสาวแท้ๆ อยู่คนหนึ่ง “คุณวัตรไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ”
“กูจะไปว่าอะไรมึงล่ะ” เขาส่ายหน้า แม้จะรู้สึกวูบโหวงที่วันนี้เตียงกว้างจะว่างเปล่า “งั้นก็รีบไปแต่งตัว จะได้รีบๆ กลับ” เขาไล่เด็กมันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง ปฐวีลู่ไหล่ลงทำท่าเหมือนหมาถูกเจ้าของทิ้ง
“เอ้า ยังไม่รีบไปอีก”
“คือ” เขาอ้ำอึ้ง คิดชั่งใจอยู่นานสองนานว่าจะพูดดีหรือไม่ “คุณวัตรไปนอนที่บ้านผมไหมครับ”
ผู้กำกับหนุ่มมองหน้าเจ้าเด็กหนุ่มอย่างตกตะลึง ดวงตาเรียวคมสีดำสนิทจากปฐวีมองเขาอย่างมีความหวัง ในใจรู้สึกโลดเต้นจนแทบจะขยับมุมปากไม่ให้ยิ้มไม่ได้ นี่เขาเป็นอะไร หยุดยิ้มไม่ได้!
“ก็.. เอาสิ”
“ขอบคุณนะครับพี่วัตร” ปฐวียิ้มกว้างอวดฟันขาวที่เรียงกัน ดวงตาหยีจนเป็นสระอิก่อนจะรีบขอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชัยวัตรเอามือทาบหน้าอกรู้สึกเหมือนมีใครเอากลองมารัวข้างใน มันเต้นตึกตักจนเขากลัวใครจะมาได้ยินเหลือเกิน
ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องแย่แน่ๆ … - - - - - - - - - - - - - - -
ชัยวัตรเพิ่งวางสายจากเพื่อนสนิทที่ติดต่อมา ชลธีกำลังเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งและได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากคนรัก ตอนนี้นายทหารหนุ่มกำลังจะย้ายกลับไปพักฟื้นที่บ้าน เขาใจหายใจคว่ำมากขนาดไหนที่รู้ข่าวว่าเพื่อนและรุ่นน้องฝีมือดีหายตัวไปหลังจากเข้าจู่โจมเพื่อจับกุมผู้ร้ายในคดียาเสพติด ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางหน่วยจะยุติการค้นหาตัวนฤนารถแม้ว่าจะไม่พบตัวนายตำรวจหนุ่มก็ตาม เขาก็ได้แต่หวังว่ามันจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก“หนูเอาน้ำผลไม้มาให้ค่ะพี่วัตร” เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มในชุดนักเรียนมอปลายโผล่หน้าเข้ามาในห้อง ก่อนจะวางถาดน้ำบนโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็กให้เขา “ทานเยอะๆ นะคะ หนูคั้นน้ำส้มเองกับมือเลย”
“ขอบคุณนะครับน้องหวาน” นายตำรวจหนุ่มยิ้มให้เด็กสาวที่เขินอายม้วนต้วน “เรียนมออะไรแล้วครับ”
“มอห้าแล้วค่ะ ตอนนี้หนูก็เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว”
“ตั้งใจเรียนนะครับ ขอให้สมหวังกับคณะที่อยากได้นะ”
“ขอบคุณค่ะพี่วัตร” เด็กสาวยืนกุมกระโปรงนักเรียนแน่น ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอผู้กำกับหนุ่มคนดังในโซเชี่ยลตัวเป็นๆ แถมยังมานอนค้างที่บ้านของเธออีก ทำไมพี่วีถึงไม่ยอมบอกเธอว่ารู้จักถึงขั้นสนิทสนมกันขนาดนี้ เธออยากจะร้องกรี๊ดแล้ววิ่งไปกดคอลไลน์เม้ากับเพื่อนจะแย่ “หนูขอ.. เซลฟี่กับพี่วัตรได้ไหมคะ”
ชายหนุ่มกดยิ้มที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ทำให้สาวเล็กสาวใหญ่ใจละลายมาแล้วทั่วบ้านทั่วเมือง “ได้สิครับ” ชัยวัตรยืนเต็มความสูงก่อนจะย่อตัวให้องศาอยู่ในเฟรมกล้อง เด็กสาวชูสองนิ้วเอียงหัวมาหาเขาเล็กน้อย
“หวานทำอะไรน่ะ!” มือหนากระชากโทรศัพท์ไปติดมือ จนเด็กสาวและนายตำรวจหนุ่มหน้าเหวอ “ออกมานี่”
“พี่วี!” วันหวานกระทืบเท้าเร่าๆ อยากจะกระโดดกัดหูพี่ชายตัวเองให้หลุดคาปากเธอนัก “เอาโทรศัพท์หนูคืนมานะ!”
“พี่ไม่อนุญาตให้เธอถ่ายรูปคุณวัตร”
“ก็หนูปลื้มพี่วัตรนี่นา หนูไม่ได้ไปอวดใครสักหน่อย”
“พี่จะแน่ใจได้อย่างไร ว่ารูปจะไม่หลุดไปไหนต่อไหน” เขาขมวดคิ้วแน่น ขืนให้รูปของผู้กำกับหนุ่มหลุดออกไป ความสัมพันธ์ที่เป็นความลับของเขาเกิดถูกขุดคุ้ยขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร.. กว่าเขาจะมาอยู่ตรงนี้เขาจะต้องใช้เวลามากมายขนาดไหน เรื่องอะไรเขาจะยอมเสียมันไป “กลับห้องไปนอนซะ อย่าดื้อ”
“พี่วี บ้า!” วันหวานสะบัดหน้ากระเง้ากระงอดแล้วออกไปจากห้องทันที เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะนั่งลงบนเตียงขนาดสามฟุตครึ่ง ห้องนอนของเขาไม่ได้ใหญ่โตเหมือนห้องที่คอนโดหรู เป็นเพียงตึกแถวสามชั้นที่อยู่กันสี่คนพ่อแม่ลูก ด้านล่างถูกปรับปรุงให้เป็นร้านอาหารตามสั่งขนาดย่อม มารดาเขาติดแอร์ และปรับเฟอร์นิเจอร์ให้โมเดิร์นขึ้นมาตามยุคสมัยจากคำแนะนำของเขา
“น้องสาวตัวเองแท้ๆ ขี้หวงจังเลยนะ” ชัยวัตรยิ้ม ลงไปนอนกลิ้งบนเตียงแคบที่ไม่รู้ว่าผู้ชายตัวโตจะนอนไปได้ยังไงตั้งสองคน “หวงเจ้าของน่าดู”
“ไม่ให้หวงคุณ แล้วจะให้ผมไปหวงใคร” ปฐวีไม่พูดเปล่า ทิ้งตัวลงทาบทับคนที่นอนอยู่ก่อนแล้ว เสื้อกล้ามตราห่านคู่สีขาวบางและรอยแป้งเย็นที่ทาไปทั่วตัวของชายหนุ่ม ยิ่งทำให้เขาอยากจะเอาหน้าเข้าไปถูไถทักทายให้หายมันเขี้ยว นายตำรวจหนุ่มพลิกตัวหลบไม่ทันเพราะขนาดเตียงไม่เอื้ออำนวยจึงโดนเด็กหนุ่มทับเข้าไปเต็มๆ
“อื้อ ออกไปก่อน มันร้อน!” จริงๆ มันก็ไม่ได้ร้อนอะไรขนาดนั้นหรอก สิ่งที่ทำให้เขาร้อนก็คือคำพูดจากเจ้าเด็กตัวโตนั่นต่างหาก!
“ตัวพี่วัตรเย็นมาก”
“ออกไปปปปปป” เขาดิ้นขลุกขลักเมื่อมือหนาสอดเข้ามาในเสื้อกล้าม “เห้ย อย่าจับ”
“ขอเช็คอุณหภูมิร่างกายหน่อยสิครับ”
“ไอ้วี ไอ้ลามก!”
“อย่าดิ้นสิครับ เดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก”
“มึงไปนอนพื้นเลยไปปปปป” เขาหลบลิ้นร้อนที่แตะแล้วเลียวนไล้เข้าไปในใบหู “อื้อออออ อย่าเลียหู!” เขาหดตัวหนีย่นคอส่ายหน้าไปมาก็ไม่สามารถหลบลิ้นร้อนที่ลากเลียไล้ลงมาซอกคอนั่นได้
“หวาน”
“จะบ้าเรอะ!” เขาหอบหายใจหนักเมื่อรู้สึกวูบไหวไปทั่วร่างจากสัมผัสของคนตรงหน้า “กูทาแป้งทั้งตัวขนาดนี้ หยุด.. หยุดเลยนะมึง” เขาพูดเสียงสั่น ยังหอบหายใจไม่หายเมื่อต้องสู้แรงกับไอ้เด็กบ้าพลัง แค่โดนลิ้นชุ่มแตะเข้าที่เนื้ออ่อนเขาก็แทบจะอ่อนปวกเปียกอยู่ภายใต้อ้อมกอดมันแล้ว
“ผมกินได้ทั้งหมดนั่นแหละ” เขากระซิบเสียงแผ่วอยู่ข้างใบหูที่แดงก่ำ “ก็พี่วัตร อร่อยจะตาย” แค่ไม่กี่คำพูดของปฐวีเขาก็รู้สึกปวดหนึบขึ้นมากลางกายซะแล้ว ใช้ท่อนขาหนีบส่วนอ่อนไหวเอาไว้ไม่ให้มันดุนดันกางเกงบอลตัวบางออกมาสวัสดีแฟนคลับ
“วัตร กูไม่เล่น” เขาจะพลิกตัวหนีคว้าหมอนมาได้ก็กอดหมับ เด็กหนุ่มดึงออกจากมือเขาแล้วโยนออกไปอีกทาง นายตำรวจหนุ่มขบกรามแน่น “กูจะนอน!”
“แต่ผมยังไม่ง่วง พี่จะห้ามผมได้ไหมล่ะ” มันกระตุกยิ้มยั่วเย้า ยิ่งดูแล้วก็คันไม้คันมืออยากจะบ้องกะโหลกไอ้เด็กเจ้าเล่ห์สักที “พี่ไม่ต้องห่วง หวานมันนอนไว ไม่เกินสี่ทุ่มก็หลับปุ๋ยแล้ว”
“ไม่โว๊ย” เขาถลึงตาใส่เด็กหนุ่ม “ที่นี่ไม่ใช่คอนโดสักหน่อย” เรื่องอะไรจะมาบ๊ะจ้ำบ๊ะกันในบ้านที่มีคนอื่นอยู่ด้วย เขาไม่ใช่คนที่อดกลั้นไม่ได้ขนาดนั้น
“บ้านผมก็เหมือนบ้านพี่นั่นแหละ” เขาก้มลงหอมแก้มเนียนของชายหนุ่ม “พี่จะย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ ผมจะย้ายไปห้องใหญ่ให้ทันทีเลย” เขาหมายถึงห้องว่างอีกห้องที่ไม่มีคนอยู่ มันกว้างมากพอที่จะนอนกันได้สองคน เขาก็เคยแอบคิดเล็กๆ ว่าหากชัยวัตรยอมมาอยู่กับเขาจริงๆ จะมีความสุขขนาดไหนกัน..
“ตลกละ”
“ผมพูดจริงๆ” เขาย้ำเสียงหนักแน่น
“ไม่รู้ละ นอนๆ” ชายหนุ่มพลิกตัวหนีแล้วข่มตาหลับ จู่ๆก็มีสัมผัสแล่นผ่านช่วงขาจนเขาต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นมา ปรากฏว่ากางเกงบอลเขาถูกรูดลงไปกองที่ข้อเท้าซะแล้ว “ไอ้วี!” เขาพูดได้แค่นั้นก็ถูกปิดด้วยปากอุ่นร้อน ลิ้นซุกซนเข้ามาโรมรันพันตูจนชายหนุ่มมึนเบลอเผลอใช้ลิ้นตัวเองสู้พัวพันจนเด็กหนุ่มส่งเสียงครางต่ำด้วยความพึงพอใจ
“อืมมม” มือหนาเขี่ยตุ่มไตสีชมพูสวยที่แข็งเกร็งขึ้นมาสู้ เขาบดถูไถไปมาแล้วถอนริมฝีปากลงไปขบกัดจนมันเป็นรอยช้ำ จากสีชมพูกลายเป็นสีกุหลาบเข้มสวยแถมยังสู้ปากจนเขาต้องดูดเม้มอยู่นานสองนาน
“อย่า.. กัด!” ชายหนุ่มคว้ากลุ่มผมสีดำแล้วจิกเอาไว้แน่น จากตอนแรกที่ขัดขืนฝืนตัวเองออกจากอ้อมกอด กลับกลายเป็นเขาแอ่นอกบดเบียดเข้าหาเด็กหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว เลือดลมแล่นลงช่วงล่างจนปวดหนึบ อยากจะระบายอารมณ์ออกมาเร็วๆ
“พี่วัตร..” ปฐวีเงยหน้ามองคนใต้ร่างที่สั่นระริกมองแก่นกลางพองตัวเต็มที่พร้อมจะระเบิดออกมา เขาใช้นิ้วแตะน้ำหล่อลื่นที่ปลายหัวหยัก ลูบไล้ไปมาจนชายหนุ่มสั่นกึก
“วี.. พี่เสียว” เสียงครวญครางออกมาจากริมฝีปากสีสวย “จะทำ.. ก็รีบทำ..” เสียงพูดในห้วงอารมณ์ช่างยั่วเย้าหวานฉ่ำ เขาสังเกตเห็นใบหน้าแดงก่ำของชัยวัตร เด็กหนุ่มก็รู้สึกฮึกเหิมอยากจะกระแทกกระทั้นตัวตนแสดงความเป็นเจ้าของร่างกายนายตำรวจหนุ่มซะตอนนี้ นิ้วหนาสอดแทรกเข้าไปในช่องทางเพื่อเตรียมตัวให้รับความใหญ่โตของเขา นิ้วครูดกับผนังเนื้อนุ่มแตะจุดอ่อนไหวจนชายหนุ่มต้องยกสะโพกเข้าหา ปฐวีขบกรามเมื่อเห็นภาพตรงหน้า มันทำให้เขาแทบจะหมดความอดทน!
“อึก” เด็กหนุ่มค่อยๆ ดุนดันแก่นกายที่ร้อนระอุเข้าไปเชื่องช้า หลังจากที่ปรับตัวได้สักพักจนแน่ใจว่าจะไม่ทำให้ชัยวัตรต้องรู้สึกเจ็บ เด็กหนุ่มจึงเริ่มขยับสะโพกหมุนควงจนชายหนุ่มครางไม่ได้ศัพท์ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวกลุ่มผมสั้นสีดำกระจายเต็มหมอน รอยจูบบนแผ่นอกที่เขาขยันหมั่นเติมทุกวันยังคงกระจายเป็นสีแดงระเรื่อให้เขาได้ชื่นชม
“เบาหน่อย เบาก่อน..” นายตำรวจหนุ่มใช้มือดันหน้าท้องของอีกฝ่ายยามที่ทาบทับลงมา เสียงกระทบเนื้อสลับเสียงคำรามด้วยความสุขสมดังไปทั่วห้อง จนลืมนึกไปว่าบ้านนี้ไม่ได้มีเขาอยู่กันเพียงสองคน “ดังเกินไปแล้ว มึง พอก่อน..”
“ไม่!” ปฐวีส่ายหัวก่อนจะกระแทกกายเข้ามาหนักๆ เพื่อลงโทษชายหนุ่ม เรียกร้องให้หยุดทั้งๆ ที่ต้องการจนแทบทนไม่ไหวแล้วแท้ๆ “ถ้าผมหยุด พี่ค้างแน่!”
“อื้อออออออ” ฝ่ามือหนารูดรั้งจุดอ่อนไหวจนแทบจะปลดปล่อยออกมา สุดท้ายเด็กหนุ่มก็หยุดมือ คว้าเอวสอบของชายหนุ่มขึ้นมาพลิกตัวกลับด้านจนเห็นรูรักที่อ้ากว้างตามความอวบของเขา เด็กหนุ่มดันกลับเข้าไปอีกครั้งโดยไม่ได้ผ่อนแรง ชัยวัตรจุกหน่วงและเสียวซ่านจนเกือบปลดปล่อย เขาเอี้ยวตัวหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยังไม่รามือ มือหนาบีบก้นขาวอวบจนเป็นรอยแดง
“อยากเสร็จแล้วหรือครับ”
“อือ.. เบาๆ หน่อย เดี๋ยวน้องได้ยิน” ชายหนุ่มร้องขอ แต่ดูเหมือนคนควบคุมเกมจะไม่ยอมตามใจยังคงเสือกไสตัวตนเข้ามาถี่รัว “อ๊ะ อ๊า” เมื่อห้วงอารมณ์พุ่งจนถึงขีดสุดคนตัวขาวก็กระตุกไปทั้งร่างก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอน เด็กหนุ่มยังคงโจนจ้วงอยู่อีกหลายต่อหลายครั้งกว่าจะตามไป
“อื้ออออ” ความรู้สึกอุ่นร้อนภายในร่างทำให้เขาชะงัก มองเด็กตัวโตที่ยิ้มแผล่ก่อนจะขบฟันแน่น ชายหนุ่มยกขาที่ยังสั่นระริกขึ้นก่อนจะถีบโครมจนไอ้ตัวแสบกลิ้งตกเตียง น้ำสีขาวขุ่นไม่รู้ของใครเป็นของใครเลอะเปรอะเปื้อนจนเต็มที่นอน แล้วยังไหลลงมาจากช่องทางสีสดของเขาที่ยังปิดไม่สนิท
“นี่มึงสดอีกแล้วหรือวะ!!!” TBC.
เอาคู่รองมาเสิร์ฟให้แม่ๆหายคิดถึงจ้า
รอพายแปบน้าาา ช่วงนี้ติดงานตั่งต่างมากมาย T_T
อย่าเพิ่งทิ้งกันไปนะค้าาา ฝากคอมเม้นท์ ขอกำลังใจจากแม่ๆด้วยจ้ะ
รัก <3