[ต่อ] “ว้า เสียดายจังดันชนะซะงั้น เลยอดเห็นคนแพ้เลยอ่ะ” ภพเดินเข้ามาหาโดยมีกีต้าร์กระชากลากถูกรั้งเอาไว้ราวกับไม่อยากให้เดินมาทางนี้
สิ่งที่กีต้าร์ทำคือการไม่อยากให้ไอ้มือที่สามเนี่ย! ไปขัดจังหวะสวีทของประธานกับลี แต่มันก็ดันเสนอหน้าเดินลิ่วเข้าไปหาเฉย ตัวกีต้าร์เองเล็กกว่านิดหน่อย (เอ่อ ก็ไม่นิดหน่อยอ่ะ) พยายากจะลากกลับ แต่หมอนี่อย่างกับยักษ์ แทนที่กีต้าร์จะเป็นฝ่ายรั้ง กลับถูกเป็นฝ่ายโดนจูงเหมือนหมาเข้าไปด้วยซะงั้น
ไอ้เวรภพ!
ไอ้มารผจญหัวใจประธานของเขา!
กีต้าร์ด่าภพที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ลีมองหน้าคู่อริแล้วเบ้ปากด้วยความหงุดหงิด ไอ้บ้านี่ชอบมายุ่งกับประธาน (ของเขา) เคยเตือนมันไปกี่รอบๆ ก็ไม่ฟัง อยากจะอัดไอ้หน้ากวนโอ้ยนั่นให้จมตีนนัก ติดตรงที่ประธานไม่ชอบคนที่เป็นนักเลงยกพวกท้าตีท้าต่อย ผมเลยได้แต่เขม่นใส่มันเบาๆ (?) ตลอด
“เสียใจด้วยนะไอ้ภพ พอดีผมมันเก่งไปหมดน่ะ เพราะงั้นก็คงเหมือนเดิมเก็บทุกรางวัลเหมือนทุกปี” ลีพูดแล้วยิ้มเยาะใส่ ผมมองหน้าลีสลับกับภพ สองคนนี้เจอกันเป็นต้องลับฝีปากกันตลอด ดันเป็นพวกประเภทเหมือนกันไง โดยเฉพาะความหน้าด้านหน้าทนเนี่ยเหมือนกันสุดๆ
“อย่าให้นายล้ม ผมรอเหยียบซ้ำแน่นอน” ภพพูดแล้วยิ้มหวาน จนผมขนลุกแทนลีที่ได้รอยยิ้มนั้น
“งั้นผมขอตัวไปดูตรวจตราโรงเรียนต่อละกัน” ผมพูดแล้วเบี่ยงตัวออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด
“ห๊ะ ประธานให้กำลังใจผมอีกซี้ จะไปไหนอ่า!”
ผมตาเหลือกที่เห็นไอ้บ้าลีทำตัวงุ้งงิ้ง ไอ้บ้า! ตัวใหญ่อย่างควายถึกทำท่าน่ารักมันไม่เข้ากันเลย!
“น่าเกลียด!” ภพพูด
“มึงว่าไรนะ!” ลีปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อภพทันที ผมรีบเข้าไปห้ามให้ลีใจเย็นลง หมอนี่มันจะเลือดร้อนไปไหน แถมยังพูดหยาบคายอีก ผมล่ะปวดหัว ทางภพเองก็ส่งยิ้มอย่างกวนโอ้ยให้อย่างคนไม่กลัวถูกรุมกระทืบ นักเรียนบางส่วนเลยจับกลุ่มมุง แล้วแบ่งฝ่ายนักเรียนแต่ละโรงเรียนกันอย่างชัดเจน พูดเลยว่าถ้าสองคนนี่ซัดกัน ไอ้สองกลุ่มนั่นได้เข้ามาร่วมวงแน่ ดูแต่ละคนถกแขนเสื้อเตรียมพร้อมกระโจนใส่กันอยู่แล้ว
พลั่ก พลั่ก
“เลิกบ้าได้แล้ว! ภพนายต้องไปเดินตรวจเช็คโรงเรียนได้แล้ว! ส่วนลีไปพักร่างกายเตรียมพร้อมแข่งต่อ อ่อ เอาชนะให้ได้ด้วย”
ผมฟาดหัวพวกเขาไปคนละที ทั้งสองหันมาจ้องผมแทน คนนึงจ้องด้วยความงง อีกคนจ้องด้วยความหลง เอ่อ... หลงใหลน่ะ ที่ภพงงเพราะปกติผมไม่เคยออกแรงทำร้ายเขาเลยสักนิด เราแค่ทะเลาะกันผ่านการข่มกันไปมา ไม่ก็ท้าแข่งอะไรสักอย่าง ส่วนอีกคนลี หมอนี่โดนผมโบกจนชินมือแล้ว เพราะงั้นมันออกจะชอบด้วยซ้ำที่ผมไปแตะต้องตัว
“โทษทีภพ มือไปไวไปนิด ไม่ถือสาใช่มั้ย” ผมขอโทษเขา เอาจริงๆ ไอ้นิสัยออกไม้ออกมือเนี่ยติดมาจากไอ้บ้าตัวโตผมส้มนี่แหละ ตีมันทุกวัน พอหงุดหงิดทีไร มือไปไวก่อนทุกที ดูสิรอบนี้ภพโดนไปเต็มๆ ด้วยนะนั่น
“ตกใจนิดหน่อย ไม่เป็นไรๆ ภพเข้าใจครับ”
หื้ม!
อยู่ดีๆ มาพูดเพราะใส่ ผมแอบขนลุกเบาๆ นะเนี่ย คือผมกับภพสนิทกันในแบบที่เราต่างเป็นประธานนักเรียนทั้งคู่ เราอยู่ในสถานะจับมือดีกันก็ดี เป็นศัตรูกันก็ได้ไรงี้
ลีทำหน้าเคร่งเครียดทันทีที่ภพพูด เขาเอื้อมมาดันตัวผมให้ไปยืนข้างๆ มัน
“ผมว่าไม่ได้ตบแรงนะ สมองกระเทือนเลยหรอ” ผมพูดแล้วกอดอกมองหน้าภพที่ยืนยิ้มกรุ่มกริ่มใส่ผม
กีต้าร์มองสามคนตรงหน้าแล้วตบกบาลตัวเอง ดูก็รู้ว่าประธานเซนต์ไอนส์คิดจะทำอะไร แววตาที่เปล่งประกายกับรอยยิ้มแปลกๆ นั่น เขารู้และดูออกว่าหมอนี่มันจะทำอะไรต่อ!
ฟอด
เต็มๆ ขมับตรูเลยโว้ยยยยย! กีต้าร์อยากจิครายย
เออ! กีต้าร์รู้ว่าหมอนี่มันกะจะหาทางแกล้งประธานกับลี มันต้องการจะยั่วยุให้ไอ้ลีโกรธด้วยการไปแตะเนื้อต้องตัวของประธาน และถ้ามันยั่วให้ไอ้ลีต่อยมันได้ มันจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะลีต้องโดนอาจารย์ปลดออกจากการแข่งกีฬาทุกชนิดข้อหาทำร้ายร่างกายนักเรียนโรงเรียนที่มาเชื่อมความสัมพันธระหว่างโรงเรียน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทได้อีก โดนหลายกระทงแน่
ไอ้รองประธานที่รักภักดีอย่างกีต้าร์ตัวน้อยนี้จึงยอมกระโดดเอาตัวเข้าไปขวางไว้ ริมฝีปากอุ่นร้อนจึงประทับลงที่ขมับรองประธานผู้เป็น FC ตัวพ่อของคู่จิ้นลีไนน์แทน สัมผัสอุ่นร้อนทำเอาใบหน้ากีตาร์เห่อร้อนตามขึ้นมาด้วย เขาดูตกใจ ไม่สิ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันตกใจ! สาววายหลายคนอยากจะกรี๊ดก็ยังกรี๊ดไม่ออกเลยด้วยซ้ำ
เงียบ
บรรยากาศในโรงยิมเงียบราวกับป่าช้า
“เอ่อ บังเอิญจังเลยเนาะๆ จะสะดุดล้มที ดันมาล้มพร้อมกันเฉยเลย” กีต้าร์เป็นคนพูดขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดนี้
โคตรแถ! ทุกคนต่างพากันคิดในใจ
ภพมองคนตัวเล็กข้างหน้าที่ยืนแก้มขึ้นสี ดูก็รู้ว่าหมอนี่มันรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่มันถึงได้โผล่เข้ามาแทนที่ไนน์ที่ถูกผลักออกไป สะดุดอะไรล่ะกระโดดเข้ามารับจุ้บผมไปเต็มๆ
หึ! ถึงจะผิดแผน แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ภพคิดแล้วมองหน้าคนตัวเล็กที่หน้าแดง หูแดง
“มึง! ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่ไอ้ต้าร์โดดมา มึงคิดจะหอมแก้มประธานของกูหรอวะ!”
“ลลิตภัทร! สงบสติอารมณ์หน่อย อีกอย่างผมไม่ใช่ของนาย พูดให้มันดีๆ หน่อย” ผมห้ามปรามลีที่กำลังจะกระโดดเข้าไปหาภพอีกรอบ ผมเองก็โมโหเหมือนกันแหละ แค่คิดว่าต้องโดนประธานโรงเรียนคู่อริหอมแก้ม ก็รู้สึกคันไม้คันมือไปหมด ติดแต่ตรงสถานะที่ผมเป็นประธานนักเรียนที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนคนอื่น ผมจึงทำตัวแย่ๆ ไม่ได้ ผมจึงนิ่งเอาความสุขุมเข้าแก้ปัญหาตรงหน้าแทน
กีต้าร์มองคนตัวสูงสามคนตรงหน้าแล้วได้แต่หดคอลงเหงื่อแตกพลั่ก เขาอุตส่าห์ยอมเสียสละตัวเองโดดลงไปเพื่อห้ามศึกไม่ให้เกิด ลีก็ดันจุดไฟติดขึ้นมาอีกอย่างง่ายดาย อีกอย่าง! ประธานของมันก็ไม่ได้โดนสักหน่อย นี่! กีต้าร์น้อยคนนี้ต่างหากที่โดนเต็มๆ กีต้าร์แอบคิดในใจแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“มีอะไรกัน จับกลุ่มมุงกันทำไม ใครมีเรื่องทะเลาะอะไรห๊า!” เสียงแบบนี้ ครูวินัยสุดโหด ครูเข้ามาในจังหวะที่ดีมาก ลีกับภพต่างเย็นลงและไม่พุ่งใส่กันแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอกครับอาจารย์ พอดีผมกำลังแนะนำนักกีฬาคนเก่งให้ประธานเซนต์ไอนส์รู้จักอยู่น่ะครับ” ผมพูดแล้วยิ้มอย่างเป็นเด็กดี ครูวินัยพอเห็นว่าผมอยู่ในกลางวงนั่นก็เชื่อแล้วถอยทัพกลับไปง่ายๆ
“แยกย้ายได้แล้ว! เตรียมตัวเชียร์กีฬาอื่นต่อ กีต้าร์นายพาภพไปเดินตรวจโรงเรียนจุดอื่นๆ ซะ ลีนายเองก็ไปพักผ่อนเตรียมแข่งรายการต่อไปได้แล้ว” ผมพูดประโยคเดิมอีกรอบใหม่ แล้วลากลีออกมาจากตรงนั้น
ขอบใจนะรองประธานที่โดดเข้ามาขวางไว้ให้ แต่ขอโทษด้วยนะยังไงมันเป็นหน้าที่เพราะงั้นรับหน้ากับภพต่อให้ด้วยละกัน ผมรู้ว่าคงไม่ดีที่ให้กีต้าร์ไปกับผู้ชายที่เอ่อ...นั่นแหละ แต่ยังไงหน้าที่ก็คือหน้าที่ กีต้าร์เป็นรองประธานทุกปีก็ต้องรับหน้าพาภพที่เป็นประธานเซนต์ไอนส์ไปตรวจตราโรงเรียน เดินแนะนำจุดต่างๆ ของงานวันนี้อยู่แล้ว
เพราะงั้นสู้ๆ ละกันนะ
“ประธาน บอกตรงๆ ผมหงิดมาก เห็นหน้ามันแล้วอยากจะซัดให้หมอบจริงๆ” ลีพูดเสียงฮึดฮัดไปมา ผมมองการกระทำเขา แล้วทำหน้าเพลียใจใส่ เจอหน้าภพทีไรเป็นแบบนี้ทุกที
“เอาเวลาคิดเรื่องซัดภพไปคิดเรื่องแข่งกีฬาอื่นต่อมั้ย”
“แต่ผมใจเย็นไม่ลง”
เพียะ!
“ใจเย็นลงยัง” ผมเอามือสองข้างประกบ (ตบ) หน้าของลี ลีทำหน้าอึ้งอ้าปากค้างไปนิด ผมหัวเราะกับท่าทางเหวอๆ ของเขา เวลาผมแตะต้องตัวเขาไม่ว่าจะในรูปแบบแรงหรือเบา เขามักจะมีท่าทีแบบนี้ทุกที เห็นแล้วมันน่าขำจริงๆ นั่นแหละ
“ตั้งสติได้ยัง หรืออยากโดนตบบ้องหู?” ผมหรี่ตาถาม ลีไม่ตอบ แต่พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าสติเขากลับมาแล้ว
“เตรียตัวไปแข่งต่อ โอเค๊ เอาให้ชนะทุกรายการด้วย” ผมย้ำกับเขาอีกครั้งเรื่องการแข่งและการชนะ รอบนี้ผมยังไม่ได้ลงพนันกับภพหรอกว่าถ้าคนไหนได้เหรียญรางวัลไปเยอะสุดจะได้อะไร แต่ยังไงก็ต้องคว้าชัยชนะทุกรายการมาเพื่อเยาะเย้ยมันก่อน
“ถ้าผมชนะ ผมจะมาขอความรักนะ หวังว่าประธานจะไม่ลืม” พอลีอ้าปากพูด ผมก็อยากจะบ้องหูมันเอาให้สติหลุด หมอนี่มันตื้อชะมัดยาก
“ไม่ลืมเพราะไม่จำ” ผมปล่อยมือออกจากใบหน้าของเขา แต่ลีดันมือไวกว่ายกมือสองข้างแล้วจับมือผมประกบกับหน้าเขาเหมือนเดิม
“ปล่อย!” ผมกัดฟันพูด
“ไม่ปล่อย ผมแค่เอากำลังใจจากประธานเอง” ลีพูดสายตาที่เขามองผมมาราวกับจะดูดกลืนผมเข้าไปทั้งตัว มะ...ไม่ไหวแล้ว! สายตาอะไรจะรุนแรงขนาดนั้น รู้สึกเหมือนไม่มีแรงจะยืนเลยสักนิด!
โป๊ก!
ผมเอาหัวโขกคนร่างสูงกว่าสามเซนต์ทันที ลีปล่อยมือที่จับกุมมือผมไว้ ผมจึงชักมือออกจากหน้าเขาอย่างรวดเร็ว พลางเอามือยัดใส่กระเป๋ากางเกงนักเรียนขาสั้นสีดำ เพื่อซ่อนอาการมือสั่นเอาไว้ ใช่! มือสั่น ไม่รู้จะสั่นทำไม!
“โอ้ย! ประธาน! มันเจ็บนะ ทำไมถึงได้เป็นชอบใช้ความความรุนแรงแบบนี้” ลีบ่นพลางเอามือลูบหัวตัวเอง
“ผมใช้ความรุนแรงกับนายคนเดียวเท่านั้นแหละ”
ถึงเมื่อกี้จะเผลอใช้กับประธานโรงเรียนคู่อริไปก็เถอะ รู้สึกผิดชะมัด
“รู้สึกเหมือนเป็นคนพิเศษเลย เขินนะเนี่ย”
ป้าบ!
ผมตบไหล่เขาดังมาก จนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง ลูบไหล่ตัวเอง หน้าตาบิดเบ้นิดๆ หึ! สำออย
“ใจเย็นประธาน กะจะเลี้ยงผมด้วยลำแข้งทุกวินาทีเลยหรือไง ผมไม่ใช่กระสอบทรายนะ”
“งั้นอย่ามาพูดเพ้อเจ้อใส่ ผมไม่ชอบ”
“โอเคๆ ยอมครับยอม นี่ไม่รักจริงไม่ยอมนะบอกเลย” ลีบ่นในลำคอแต่ผมได้ยินเต็มสองหู ก็ยืนใกล้กันขนาดนี้ไม่ได้ยินก็บ้าล่ะ
“อ่ะๆ หยุดเลยประธานพอแล้ว เจ็บตัวไปทุกที่แล้ว เดี๋ยวไปแข่งไม่ชนะไม่รู้ด้วยนะ” ลีชี้หน้าบอกผมด้วยท่าทางกึ่งจริงกึ่งเล่น เมื่อเห็นผมยกมือทำท่าจะทำร้ายเขาอีกรอบ
“แล้วมีแข่งไรต่อ” ผมลดมือลงแล้วถามเขา
“แข่งบาสเสร็จ ก็แข่งวิ่ง วอลเล่ย์ เปตอง ตีแบด ส่วนพรุ่งนี้มีแข่งปิงปอง บอล บลาๆ”
“พอ! หยุด! นายจะร่ายตารางการแข่งให้ผมฟังทำไม ผมแค่ถามต่อจากแข่งบาส ไม่ใช่รายการแข่งทั้งหมด”
“เอ้า ผมบอกไว้ประธานจะได้มาเชียร์ผมถูกไง”
“ใครบอกผมจะไปเชียร์”
“อะ อ้าว จะไม่มาเชียร์ผมหรอ” ลีเอียงคอถามอย่างน่ารัก
“ไม่ ผมงานยุ่ง” ผมบอกปัด พลางหันหน้าหนีเพราะทนดูคนตัวใหญ่ทำหน้าแบ๊วไม่ไหว
“ใจร้าย”
“เออ พึ่งรู้หรอ”
“เฮ้ย ไอ้เชี่ยลี ทำไรอยู่วะ ไปลงชื่อแข่งได้แล้ว”
“อย่าพูดหยาบต่อหน้าประธาน ไอ้เวร!” ลีหันกลับไปด่าเพื่อนเขาที่พ่นหยาบมาแต่ไกล ผมมองหน้าแล้วเบะปากด้วยความไม่ชอบใจ ผมรู้ว่าสมัยนี่เขาก็พูดคำหยาบกันเป็นเรื่องปกติสำหรับเพื่อน แต่สำหรับผม ผมถูกพ่อแม่บอกตลอดว่าการพูดคำหยาบมันไม่ดี เพราะงั้นเลยติดนิสัยไม่พูดคำหยาบกับคนอื่น
“คร้าบๆ รู้แล้วครับ คุณเพื่อนลีครับช่วยมาลงชื่อแข่งได้แล้วครับ กรรมการจะแดกหัวเพื่อนแล้วครับ อ่อ ประธานก็อย่าลืมไปเชียร์เพื่อนผมนะ มันคงสู้สุดใจอ่ะ” เพื่อนคนที่มาตามลีเปลี่ยนไปพูดด้วยภาษาที่เรียบร้อยขึ้น เขาหันมายักคิ้วและยิ้มให้ผม แต่ก็โดนลีตบหัวทิ่มไปราวกับไม่อยากให้ยิ้มให้ผม
“ว่าแต่เพื่อน วันนี้นายเองก็พูดคำหยาบไปตั้งหลายรอบนะ” ผมพูดเมื่อนึกย้อนกลับไปได้ ลีทำหน้าซีด เหงื่อแตกพลั่ก เหมือนเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกจับได้ ผมยิ้มน้อยๆ ให้เขา เขารู้ดีว่าบทลงโทษที่พูดคำหยาบกับผมคืออะไร เพราะงั้นเลยมีท่าทางแบบนั้น
“ไปเตรียมตัวแข่งได้แล้ว ผมไปก่อนละกัน” ผมพูดแล้วหันหลังเดินหนีออกไปทิ้งเขาไว้ให้ยืนคนเดียว ยังคงตกใจที่เห็นผมพูดกับเขาอยู่ทั้งๆ ที่ถ้าเขาพูดหยาบคายต่อหน้าผมหรือกับผม ผมจะไม่พูดกับเขาอีกเลยทั้งวัน อืมมมม ก็เห็นแก่ว่าวันนี้เป็นวันงานแข่งซื่งมีเขาเป็นตัวเต็งจึงยอมให้เป็นกรณีพิเศษละนะ
TBC
หายไปนานเลยยยย
เข้าสู่ช่วงฝึกงานพอดี เลยไม่มีเวลามาอัพ
เพราะยังปรับตารางเวลาตัวเองไม่ได้ TOT