[เรื่องสั้น] แอบรักต้องทำยังไง#สายตื้อ (UP ตอนที่ 2 จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] แอบรักต้องทำยังไง#สายตื้อ (UP ตอนที่ 2 จบ)  (อ่าน 1949 ครั้ง)

ออฟไลน์ porpaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม







Project 7 เรื่องสั้น
สำหรับคนแอบรัก
มาลุ้นดูกันว่าคุณเป็นสายไหน





Project 1
แอบรักต้องทำยังไง
#สายตื้อ


ตื้อวนไปสิ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก!


*ตัวอย่าง*


"นี่! ผมรู้ว่านายตามจีบผมปีนึงแล้ว แต่ผมไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชาย และตอนนี้ผมยุ่งมากจนเรื่องความรักผมแทบไม่อยากจะนึกถึงเพราะมันไร้สาระมาก โอเค้”

“ผมไม่ได้จีบประธานสักหน่อย ประธานขี้ตู่” เขาทำหน้าบู่ล้อเลียนผม ราวกับผมมโนไปเองว่าเขาจีบ ถ้างั้นแล้วสิ่งที่เขาทำกับผมทุกวันนี้คืออะไร ถ้าไม่ใช่จีบ?

“ไม่ได้จีบ? แล้วสิ่งที่มาบินตอมผมเป็นแมงหวี่แมลงวันแบบนี้คืออะไร” ผมแค่นเสียงถามด้วยความหงุดหงิด

“โห เปรียบเทียบซะเหมือนผมไปทำให้ประธานรำคาญเลยอ่ะ”

“เออ รำคาญ รำคาญมากด้วย!” ผมพูดแล้วเงยหน้ามองร่างสูงที่หน้าเสียไปนิด หลังจากที่ผมพูดจบ หึ! สะดุ้ง สะเทือนกับประโยคแบบนี้ได้ แสดงว่าวันนี้น่าจะฉาบปูนที่หน้ามาน้อยไป ปกติฉาบปูนมาเต็มหน้าไม่มีคำว่าสะทกสะท้านต่อสิ่งที่ผมด่าหรือทำอะไรเขาเลยสักนิด

“แหะๆ พอโดนประธานพูดเองแล้วเจ็บกว่าตอนที่พี่ลิลลี่พูดอีกแฮะ” ลีพึมพำกับตัวเอง

“บ่นงึมงำอะไร ตกลงนายจะบอกได้ยังว่าสิ่งที่นายทำอยู่คืออะไร” ผมถามแล้วหยิบน้ำเปล่าที่คนตรงหน้าซื้อมาให้มาดื่ม ที่ดื่มเนี่ยไม่ใช่เพราะเห็นแก่ที่เขาซื้อมา แต่ทะเลาะและพูดฉอดๆ ขนาดนี้ผมก็คอแห้งสิ

“ไม่ได้จีบ แต่มาตื้อครับ”

พรวด!

“แค่กๆ” ผมสำลักน้ำคำใหญ่ ไอหน้าดำหน้าแดง พูดประโยคแบบนั้นมาแถมยังเอียงคอให้อย่างน่ารักอีก (?) ทำเอาผมสำลักน้ำเกือบตาย เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อนสิ

“นี่นาย! แล้วมันต่างกันตรงไหนห๊ะไอ้บ้า! จะอันไหนมันก็แปลว่านายชอบผมอยู่ดีไม่ใช่เร๊อะ!” ผมตะโกนใส่หน้าเขาอย่างหลุดมาด

“ต่างสิ วิธีการที่ใช้ก็ถือว่าต่างนะ อย่างการที่ประธานรำคาญ จริงๆ มันถือว่าประสบความสำเร็จได้เลยนะเนี่ย เพราะการตื้อของผมทำให้ประธานรำคาญได้”

“โอ๊ย! เถียงกับนายแล้วผมปวดหัว!”







สวัสดีค่ะ ชื่อ โอปอ นะคะ
นามปากกา porpaper
เราหยิบเรื่องสั้นที่เคยได้ลงในไอไลค์มาปัดฝุ่น และเขียนใหม่อีกรอบ
คราวนี้หน้าผุดขึ้นจาก 11 หน้าเป็น 30 กว่าหน้า
ยังไงก็ถือว่าแต่งเป็นครั้งแรกละกันและยังลงเว็บเป็นครั้งแรกด้วย
ขอฝากตัวด้วยนะคะ

 




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2017 23:08:52 โดย porpaper »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มาปูเสื่อรอ..อออออ   :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ porpaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0


บทที่1
   


              8.00 น.

              ณ โรงเรียนธีอา

              “ลลิตภัทร! เสื้อหลุดออกนอกกางเกง กระดุมคอไม่ติด เข็มขัดไม่คาด และก็ไอ้ผมสีส้มจี๊ดนี่อีก บอกกี่ครั้งให้ย้อมกลับห๊า!!!!” ผมตวาดใส่อย่างฉุนเฉียว แต่ชายร่างสูงตรงหน้าผมกลับทำหน้าระรื่นไม่สะทกสะท้านต่อน้ำเสียงของผมเลยสักนิด

              “อืมมม วันนี้อากาศดีจังเลยเนอะ”

              ครืน ครืน
             
              คนรอบข้างพร้อมใจกันมองไปบนท้องฟ้า อากาศดีที่ว่าคือท้องฟ้าทะมึนเมฆครึ้มแบบนี้น่ะเหรอ เขาเอาตาที่ไหนมองว่าอากาศดีเนี่ย!

              “ลลิตภัทร!”

              “หยุดเรียกชื่อจริงของผมได้แล้ว เรียกว่า ‘ลี’ สิ สั้นๆ ง่ายๆ ด่าได้เร็วกว่าชื่อจริงเยอะเลยนะ” คนตรงหน้าผมยิ้มแป้นแล้นให้อย่างสดใสตามเคย

              “หยุดทำตาวิบวับใส่ผม แล้วก็แต่งตัวให้เรียบร้อยซะที” ผมบอกเขา ให้ตายสิ! ผู้ชายคนนี้จะเอาอะไรนักหนากับผม

              ผมชื่อ ‘ไนน์’ เป็นประธานนักเรียนโรงเรียนธีอา แน่นอนว่ากิจวัตรประจำวันของผมคือการตรวจตราความเรียบร้อยที่หน้าโรงเรียนทุกเช้า และไอ้หมอนี่ก็เหมือนเดิม ตลอดหนึ่งปีมานี้เขามักจะแต่งตัวผิดระเบียบเพื่อมาให้ผมด่า ยิ่งในในบัญชีหนังหมามีชื่อเขาอยู่ทุกวัน!

              “คร้าบๆ” เขาติดกระดุมคอ คาดเข็มขัด และยัดเสื้อนักเรียนสีขาวลงในกางเกงนักเรียนขาสั้นสีดำอย่างว่าง่าย

              “เข้าไปได้แล้ว เกะกะการทำงานของผม”

              “ไว้ตอนกลางวันเดี๋ยวผมไปหานะ”

              “ไม่ต้องมา” แม้ผมจะตอบกลับไปอย่างเย็นชา แต่เขาก็ยังทำหน้ามึนไม่สนแถมยังเดินผิวปากเข้าโรงเรียนไปอย่างคนอารมณ์ดี

              “วันนี้ก็ครึกครื้นเหมือนเดิมนะประธาน”

              “อยากตายสินะ ถึงได้กล้าเอ่ยปากแซวผม” ผมเหลือบตามองดุๆ ใส่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ผม ‘กีต้าร์’ รองประธานนักเรียนที่มักชอบรนหาที่ตายด้วยการแซวผมกับไอ้บ้านั่น กีต้าร์เป็นผู้ชายตัวเล็กเขาสูงแค่บ่าผมเอง คือผมก็สูงในระดับนึง ร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรได้มั้ง ผมไม่ได้วัดนานแล้ว แต่กีต้าร์เนี่ยยืนกับผมหรือคนอื่นทีแทบจมหายไปเลย

              “แหะๆ โหดแต่เช้าเลยนะประธาน” กีต้าร์ยกกระดาษสีขาวในมือเสมือนธงขาวที่ยกว่ายอมแพ้

              ผมกลับมาทำหน้าที่ตัวเองต่ออย่างขะมักเขม้น การเป็นประธานนักเรียนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถึงเป็นตำแหน่งพิเศษที่มีอำนาจเหนือกว่านักเรียนทั่วไป แต่นั่นก็ต้องแลกกับการรับผิดชอบงานของโรงเรียนรองจากอาจารย์ เพราะงั้นผมไม่มีเวลามาทำเรื่องอะไรไร้สาระหรอก





              หน้าปัดนาฬิกาบอกว่าเที่ยงครึ่งแล้ว แต่ผมกลับยังจมอยู่ในกองเอกสารกองเบ้อเริ่มที่เรียงสูงเป็นตึก เพราะใกล้จะถึงวันงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่เลยทำเรื่องขอนู่นขอนี่ส่งเข้าสภานักเรียนเป็นว่าเล่น ถ้าหัวข้อไหนผ่านผมจะเซ็นอนุมัติและรอยื่นให้อาจารย์อีกที

              “กินข้าวสักหน่อยสิ เดี๋ยวก็เป็นลมล้มพับไปหรอก”

              กล่องข้าวพร้อมน้ำเปล่าที่วางตรงหน้าทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่ผมอ่านอยู่ ไอ้ผมสีส้มแสบตาแบบนี้มีอยู่คนเดียวในโรงเรียน ลี!

              “เข้ามาได้ยังไง ใครอนุญาต”

              “ผมเคาะประตูแล้วนะ แต่ไม่มีเสียงตอบรับผมก็เลยถือวิสาสะเข้ามาเองเลย”

              “ไร้มารยาท”

              “นั่นถือเป็นคำชมละกัน” ลียิ้มกว้างเมื่อถูกผมด่า หมอนี่ต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ โดนผมด่าทีไร ต้องยิ้มทุกที ใบหน้าขาวๆ ที่มีผมซอยยาวระบ่าผิดระเบียบสีส้มยิ่งขับเน้นให้รอยยิ้มดูสดใสเป็นประกาย ซึ่งต่างกับตัวผม ผมเป็นคนเนี้ยบ ทรงผมสีดำตัดเป็นทรงระเบียบเรียบร้อย ทำให้ดูมีลุคที่น่าเชื่อถือต่ออาจารย์และนักเรียนคนอื่นๆ

              “ออกไปได้แล้ว ผมกำลังทำงานอยู่”

              “ผมออกแน่ แต่หลังจากที่ประธานกินข้าวเสร็จ”

              “มือไม่ว่างไม่เห็นรึไง”

              “ประธานเงยหน้าหน่อยสิ” ลีบอกและผมก็บ้าจี้เงยหน้าตาม เท่านั้นแหละ! ข้าวคำโตก็ยัดเข้าปากผมแบบไม่ทันให้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว

              “แค่กๆ ไอ้!”

              “เคี้ยวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยด่าก็ได้”

              ผมรีบเคี้ยวและแทบกลืนลงคอทันที ไอ้หมอนี่มันกล้าดียังไงเอาข้าวยัดปากผมหน้าตาเฉย ยังๆ ยังจะมีหน้ามายิ้มหวานแววตาใสซื่ออีก โมโหว้อย!

              ป้าบ!

              มือผมเร็วพอๆ กับความคิดเพราะมันฟาดลงที่กลางกบาลเขาทันที

              “เจ็บนะ!”

              “สมน้ำหน้า” ผมยิ้มเยาะใส่ชายร่างสูงที่ยืนหน้าเบ้ เหอะ! อยากจะลองดีเองช่วยไม่ได้!

              “เห็นว่าเป็นประธานหรอกนะ ถ้าเป็นคนอื่นผมซัดกลับ ตายคาหมัดไปแล้ว” ลีบ่นงุบงิบในคอ พลางลูบหัวตัวเอง

              “ออกไปได้แล้ว”

              “บอกแล้วไงว่าจะออกก็ต่อเมื่อประธานกินข้าวเสร็จ”

              “นี่! ผมรู้ว่านายตามจีบผมปีนึงแล้ว แต่ผมไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชาย และตอนนี้ผมยุ่งมากจนเรื่องความรักผมแทบไม่อยากจะนึกถึงเพราะมันไร้สาระมาก โอเค้”

              “ผมไม่ได้จีบประธานสักหน่อย ประธานขี้ตู่” เขาทำหน้าบู่ล้อเลียนผม ราวกับผมมโนไปเองว่าเขาจีบ ถ้างั้นแล้วสิ่งที่เขาทำกับผมทุกวันนี้คืออะไร ถ้าไม่ใช่จีบ?

              “ไม่ได้จีบ? แล้วสิ่งที่มาบินตอมผมเป็นแมงหวี่แมลงวันแบบนี้คืออะไร” ผมแค่นเสียงถามด้วยความหงุดหงิด

              “โห เปรียบเทียบซะเหมือนผมไปทำให้ประธานรำคาญเลยอ่ะ”

              “เออ รำคาญ รำคาญมากด้วย!” ผมพูดแล้วเงยหน้ามองร่างสูงที่หน้าเสียไปนิด หลังจากที่ผมพูดจบ หึ! สะดุ้ง สะเทือนกับประโยคแบบนี้ได้ แสดงว่าวันนี้น่าจะฉาบปูนที่หน้ามาน้อยไป ปกติฉาบปูนมาเต็มหน้าไม่มีคำว่าสะทกสะท้านต่อสิ่งที่ผมด่าหรือทำอะไรเขาเลยสักนิด

              “แหะๆ พอโดนประธานพูดเองแล้วเจ็บกว่าตอนที่พี่ลิลลี่พูดอีกแฮะ” ลีพึมพำกับตัวเอง

              “บ่นงึมงำอะไร ตกลงนายจะบอกได้ยังว่าสิ่งที่นายทำอยู่คืออะไร” ผมถามแล้วหยิบน้ำเปล่าที่คนตรงหน้าซื้อมาให้มาดื่ม ที่ดื่มเนี่ยไม่ใช่เพราะเห็นแก่ที่เขาซื้อมา แต่ทะเลาะและพูดฉอดๆ ขนาดนี้ผมก็คอแห้งสิ

              “ไม่ได้จีบ แต่มาตื้อครับ”    

              พรวด!

              “แค่กๆ” ผมสำลักน้ำคำใหญ่ ไอหน้าดำหน้าแดง พูดประโยคแบบนั้นมาแถมยังเอียงคอให้อย่างน่ารักอีก (?) ทำเอาผมสำลักน้ำเกือบตาย เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อนสิ

              “นี่นาย! แล้วมันต่างกันตรงไหนห๊ะไอ้บ้า! จะอันไหนมันก็แปลว่านายชอบผมอยู่ดีไม่ใช่เร๊อะ!” ผมตะโกนใส่หน้าเขาอย่างหลุดมาด

              “ต่างสิ วิธีการที่ใช้ก็ถือว่าต่างนะ อย่างการที่ประธานรำคาญ จริงๆ มันถือว่าประสบความสำเร็จได้เลยนะเนี่ย เพราะการตื้อของผมทำให้ประธานรำคาญได้”

              “โอ๊ย! เถียงกับนายแล้วผมปวดหัว!”

              “หรือประธานให้อยากเปลี่ยนจาก ’ตื้อ’ เป็น ’จีบ’ แทนงั้นเหรอครับ”

              “ผมยังไม่เข้าใจเลยว่ามันต่างกันตรงไหน ให้ตายสิ นี่มันใช้เวลามาคุยเรื่องนี้หรอวะ” ผมสบถ ก้มหน้ามองเอกสาร อยากจะอ่านต่อ แต่อ่านไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ข้อความในกระดาษไม่เข้าหัวผมเลย คุยกับคนบ้ามันเลยทำให้ผมจะบ้าตามด้วยเนี่ย!

              “ถ้าผมเลือกคำว่าจีบ ผมคงใช้วิธีที่เห็นได้ชัดแล้วทำให้ประธานรู้สึกไปไม่ถูกได้มากกว่านี้นะ”

              “อย่างเช่น?” แล้วผมก็บ้าจี้ถามเขาเฉย รู้สึกอยากกัดลิ้นตัวเองชะมัด

              “อืมมมม ก็อย่างเช่น ซื้อดอกไม้มาให้ ร้องเพลงแซว พร่ำบอกรัก บอกคิดถึง อืม เยอะอ่ะ มันมีหลายรูปแบบนะ แต่ไม่ใช่กับสิ่งที่ผมทำอยู่แน่นอน ผมมัน ‘สายตื้อ’ การที่ประธานบอกรำคาญผมเนี่ยอย่างน้อยมันแปลว่าผมยังอยู่ในสายตาประธานไง อยู่ตลอดเวลาเลยทำให้รำคาญ หรือประธานอยากให้ผมเปลี่ยนเป็นจีบประธานแทน”

              “อึ๋ย แค่คิดก็ขนลุกล่ะ นายจะไปไหนก็ไปเลยนะ!”

              “โห ไล่อีกล่ะ เย็นชาโคตรๆ เย็นชาสุดๆ ไม่รู้ล่ะคนมันรักไปแล้วจะให้เลิกก็ยาก”

              หมอนี่ต่างหากที่เอาแต่ใจโคตรๆ

              “ถ้าขาดความรักมากขนาดนั้นก็ไปร้องขอเอาจากคนอื่น ผมไม่ว่างมาเล่นด้วย!”

              “ผลักไสกันจัง ลองผมรุกหนักจริงๆ ประธานนั่นแหละที่จะหนีไม่รอด!” ลีบอก สายตาขี้เล่นของเขาวิบวับและเปลี่ยนเป็นจริงจัง นัยน์ตามุ่งมั่นและจ้องมองแต่ผมเล่นเอาผมประหม่าไปชั่ววินาที สายตาหมอนี่จะรุนแรงเกินไปแล้ว! ผมหลบตา พอเหลือบมองอีกทีหน้าของเขาก็เข้ามาใกล้ซะจนใบหน้าแทบชิดกัน

              “หลบตาทำไมล่ะ”

              ทำไมต้องกระซิบเสียงแหบพร่าใส่หูด้วยเนี่ย!

              “ยะ...อย่าเข้ามาใกล้!” แล้วทำไมผมต้องเสียงสั่นด้วย ความสุขุมนิ่งขรึมของผมหายไปไหน!

              “รู้งี้รุกหนักแต่แรกก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทอดสะพาน”

              “ทอดสะพาน?” ผมทวนคำอยู่ในลำคอ หมอนี่ใช้คำว่าทอดสะพานกับผมเนี่ยนะ! มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

              ทันใดนั้น ผมรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ และฟันที่งับลงใบหูของผม

              “อ๊ะ! ไอ้โรคจิต!!!”

              พลัวะ ตุ้บ!

              สติสตางค์ผมกลับมาทันที ผมชกเต็มแรงไปหนึ่งหมัด กล้าดียังไงมางับหูผม ถ้าวันนี้ผมไม่กระทืบให้จมดิน ผมคงแค้นใจตายแน่ๆ

              “เฮ้ยๆ เล่นแรงนะเนี่ย ว้าก!”

              “หุบปากไปเลยไอ้เวรเอ๊ย!” ผมหลุดด่าคำหยาบ แต่นาทีนี้ไม่สนอะไรแล้ว ลุกขึ้นเดินไปซัดอย่างรวดเร็ว ลีโยกตัวหลบหนีอย่างทุลักทุเล คงเป็นเพราะยังมึนๆ กับหมัดแรกที่ผมปล่อยใส่หน้าเขาตอนที่เขางับหูผม

              “นี่กะจะเอาให้ตายเลยรึไง”

              “เออ!”

              ในเมื่อเขาหลบหมัดและลูกเตะได้ผมเลยหาตัวช่วย หยิบแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะและจะปาใส่ แต่ลีก็วิ่งพรวดเข้าประกบตัวผมอย่างรวดเร็ว

              “ฮู่ว์ เล่นของแพงเลยนะเนี่ย เกิดปามาผมหลบไม่พ้น หัวแตกเลยนะ!” ลีพูดทีเล่นทีจริง แล้วกระชากแจกันในมือผมไปวางบนโต๊ะอย่างง่ายดาย

              “ปล่อยนะโว้ย!” ผมดิ้นพล่านเหมือนปลาโดนน้ำร้อนลวก โอ๊ย! โคตรมือปลาหมึก! โคตรรัดแน่น คือก็สูงเกือบเท่ากัน ผมเตี้ยกว่าหน่อย แต่ด้วยรูปร่างขนาดตัวที่ต่างกันอย่างชัดเจน ผมสูงโปร่งผอมบาง ในขณะที่ลีสูงถึกบึกบึนเพราะเล่นกีฬา แต่มันถึงกับดิ้นไม่หลุดเลยหรอวะ เอ้า หลุดหยาบในใจอี้ก ช่างมัน ผมพยายามดิ้นๆ ให้หลุดจากอ้อมแขน แต่ทำยังไงก็ไม่หลุดเลยสักนิด

              “เรื่องอะไร ปล่อยก็โดนทำร้ายดิ อยู่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เข้าทางเลย” ลียิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อๆ ของเขายิ่งหล่อขึ้นไปอีก ยิ้ม ยิ้มอีกแล้วเป็นโรคบ้าอะไรของมัน! ยิ้มแม่งอยู่นั่นแหละ! ร้อนหน้าชะมัด!

              “เป็นอะไรหน้าแดงเชียว” ลีถามผมด้วยใบหน้าล้อเลียน

              “ร้อนต่างหาก ร้อน! วันนี้อากาศมันร้อน!”

              “แต่ตอนนี้ฝนตกนะ ไม่เห็นเหรอว่าผมเอาร่มมาด้วย”  ลีบอกแล้วขยับหน้าไปด้านประตูห้องที่มีร่มกางตากไว้

              “ฝนตกก็ร้อนได้!” ผมยังเถียงต่ออย่างหน้ามึน ไม่มีทางที่ผมจะรู้สึกร้อนเพราะสัมผัสของเขาเด็ดขาด!

              “หรอ” ลีก้มหน้าลงมาหาอย่างใกล้ชิด ลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดหน้า ทำให้อุณหภูมิในร่างกายผมร้อนผ่าวตามไปด้วย เสียงหัวใจที่เต้นหนักแน่นและรัวเป็นเสียงกลอง ทำให้ผมยิ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูก

              “โว้ยยยยยยย! ปล่อยนะ อึดอัด!” ผมพยายามดิ้นอย่างสุดแรงเกิด แต่หมอนี่มันแรงเยอะจริง จับผมทีก็แทบดิ้นไปไหนไม่รอด

              “คิดว่าผมจะปล่อยง่ายๆ เหรอ ฝันไปเถอะ!”

              “แล้วคิดว่าผมจะยอมให้จับเฉยๆ เหรอ ฝันไปเถอะ!”

              “คิดว่ารอดได้ ก็ลองดู!” เขาพูดแล้วก็กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น หนอย! จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย ได้!

              “โอ๊ย! เจ็บๆ” ลีร้องลั่นทันที เพราะผมเอื้อมมือไปกระชากผมของเขาจากด้านหลัง

              “จะปล่อยไม่ปล่อย” ผมถามเสียงเข้ม

              “มะ...ไม่ปล่อย” เขาพูดได้ไม่เต็มเสียง คงเจ็บหนังหัวน่าดู ก็ผมน่ะ...ดึงทึ้งอย่างแรงเลยนี่นา

              “เตรียมตัวหัวล้านได้เลย”

              “เฮ้ยยยยยย! ปล่อย...ปล่อยแล้ว” ลีรีบปล่อยตัวผม เขาจับปลายท้ายทอยที่โดนดึงผมทั้งกระจุก ใบหน้าของเขาเหยเกบ่งบอกว่าเจ็บมาก

              “อย่าคิดซ่าส์อีก ไม่งั้นเจอหนักกว่านี้แน่! ออกไปได้แล้ว” ผมขู่เขาแล้วตีหน้านิ่งเดินกลับไปนั่งทำเอกสารต่อ

              “ไปก็ได้ งั้นอีกนิดนึงละกัน”

              จุ๊บ

              “ตั้งใจทำงานล่ะ” ลีกระซิบบอกที่ข้างหูหลังจากที่เขาสัมผัสริมฝีปากผมอย่างรวดเร็ว

              “ไอ้!” ผมกำลังจะอ้าปากด่า เขาก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที

              “อ้อ ประธานปากนิ่มมากเลยล่ะ” เขาพูดเมื่อชะโงกหน้ากลับออกมาจากหลังประตู

              เพล้ง!

              “ไปตายซะ!”





              ผ่านไปหลายวัน

              “ประธานใจร้าย ประธานนิสัยไม่ดี”

              “นายด่าผมทุกวันไม่เบื่อบ้างรึไง เมื่อไหร่จะหยุดสักที”

              “ผมจะหยุดก็ต่อเมื่อท่านประธานไปเยี่ยมลี ไม่งั้นผมก็จะแหกปากพล่ามไปเรื่อยไม่หยุดแน่” กีต้าร์บอกเสียงหนักแน่น คนตัวเล็กโยนเอกสารที่นั่งทำอยู่ แล้วเดินมาหาผม

              “แล้วทำไมผมต้องไปเยี่ยมด้วย” ผมถามกลับโดยที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร

              “ก็ท่านประธานเล่นโยนแจกันใส่หัวลีโต้งๆ แบบนั้น รู้สึกว่าจะหัวแตกเย็บหลายเข็มด้วย แล้วนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ประธานก็ไม่แม้แต่จะเฉียดไปเยี่ยมเลยด้วยซ้ำ”

              “ทำไมนายต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องของหมอนั่นด้วย” ผมเงยหน้าขึ้นถาม

              “ก็ผมเชียร์...อะแฮ่ม! เอ่อ เชียร์ลีดเดอร์น่ะ หมอนั่นเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของสาวๆ เชียร์ลีดเดอร์เลยนะ แล้วดูสิ ตอนนี้หัวแหกแบบนั้น หมดหล่อกันเลยทีเดียว”

              กีต้าร์แทบจะชกหน้าตัวเองในมโนความคิดทันที เกือบหลุดปากไปแล้วว่าแอบเชียร์ให้ลีกับประธานคู่กัน ตอนแรกก็ไม่ได้เชียร์ออกนอกออกหน้าขนาดนี้หรอก แต่โดนเพื่อนสาวที่เป็นสาววายชอบจิ้นชายรักชายเป่าหูทุกวัน จนเริ่มคล้อยตามและจิ้นให้สองคนนี้ได้กัน จนกลายเป็นว่ากีต้าร์เป็นตัวพ่อแกนนำหลักของคู่จิ้นลีไนน์ ถึงกับมีกลุ่มลับเพื่อไว้ส่งรูปโมเม้นต์ต่างๆ ของสองคนนี้ด้วย

              “สมควรแล้วล่ะ!” ผมเค้นเสียงบอก หึ! ยังเจ็บใจไม่หายเลยที่โดนขโมยจูบไปหน้าด้านๆ แบบนั้น ถึงผมจะโดนอาจารย์วินัยเรียกไปดุทั้งยังโดนหักคะแนนแต่ผมว่ามันก็คุ้มที่ทำให้ไอ้บ้าหัวแตกได้

              “ประธาน!”

              “กลับไปทำงานของตัวเองได้แล้ว ไม่งั้นผมเพิ่มงานให้นายอีกสองเท่าแน่!”

              “ประธานใจร้าย! หมอนั่นบาดเจ็บหนักขนาดนั้น เดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนเรากับโรงเรียนเซนต์ไอนส์แล้วนะ หมอนั่นเป็นตัวหลักให้กับชมรมกีฬาแทบทุกประเภท ถ้าตอนสภาพร่างกายปกติคงชนะมาได้อย่างง่ายๆ แต่ตอนนี้สิกลับหัวแตกนอนแห้งอยู่ที่บ้าน จะมีคนคอยดูแลทำแผลรึเปล่าก็ไม่รู้ บลาๆ บลาๆ” กีต้าร์พล่ามใส่หัวผมไม่หยุด
 
              ผมพยายามอ่านเอกสารตรงหน้า แต่กลับอ่านไม่รู้เรื่องเลยสักนิด มันรู้สึกอึดอัดและกระอักกระอ่วนแปลกๆ ผมว่าผมไม่ผิดนะ ก็หมอนั่นอยากเข้ามารุกผมหนักๆ ทำไมล่ะ ปกติเห็นแค่หาเรื่องทำผิดมาให้โดนด่า หาเรื่องมาช่วยงาน ไม่ก็ตอแยตามไปนู่นนี่นั่น คอยทักเฟส โทรหา ไลน์หา (ติดต่อทุกทางที่ผมมี) จู่ๆ วันนั้นหมอนั่นก็รุกผมแรง ทั้งกอด ทั้งแตะหู แตะปากผมด้วย เอ่อ... ปากเขา พอๆ ไม่พูดแล้ว เอาเป็นว่า...
             
              เรื่องในห้องนั่นมันเกินกว่าที่ผมจะรับมือไหวนะ!





              สุดท้ายความรู้สึกอึดอัดนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องลี (หมอนี่เช่าหอพักอยู่คนเดียว พ่อแม่มาหาแค่เฉพาะเสาอาทิตย์เพราะไปทำงานที่อื่น)

              ผมชั่งใจอยู่นานว่าจะเข้าไปดีมั้ย ได้แต่เดินวนไปมาอยู่หน้าห้องเขาอย่างกับคนบ้า ให้ตายสิ! ก็ผมไม่ผิดนิ! หมอนั่นทำแบบนั้นกับผมก็สมควรโดนแล้วป่ะ แต่ว่าเพราะกีต้าร์! รองประธานที่แสนน่ารำคาญคนเดียวเลยที่เล่นพูดๆ ให้ผมรู้สึกผิดได้ขนาดนี้ ผมเอามือขยี้หัวด้วยความหงุดหงิดเบาๆ ผมขี้เกียจที่จะเถียงกับตัวเองแล้วนะ!

              ไหนๆ ก็มาแล้ว! ลองเข้าไปทักหน่อยก็ไม่เสียหายหรอกมั้ง พอคิดได้แบบนั้นก็เอื้อมมือไปกดกริ่งหน้าห้องทันที รอสักพักประตูก็เปิดออกพร้อมกับเจ้าตัวที่ทำหน้างัวเงียเหมือนคนพึ่งตื่น แต่พอเขาเห็นว่าเป็นผมชัดๆ ใบหน้านั่นก็เหวอขึ้นมา เบิกตาโตสองข้าง เขาขยี้ตาตัวเองอย่างแรง ทั้งยังหยิกแก้ม เอามือฟาดประตู แล้วก็บ่นในลำคอตัวเอง

              “เป็นบ้าอะไรของนาย หัวโดนกระแทกแรงมากจนบ้าไปแล้วรึไง” ผมถามอย่างงงๆ เมื่อเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของคนตรงหน้า แต่ความรู้สึกเล็กๆ ในเสี้ยวสมองของผมกลับบอกว่ามันน่ารักมาก

              ผมว่าผมนี่แหละที่จะบ้าแล้ว! มีอย่างที่ไหนไปมองว่าไอ้คนตัวโตนี่น่ารัก! ควักสมองทิ้งทันป่ะ

              “ประธานจริงๆ เหรอเนี่ย ผมฝันอยู่รึเปล่านะ”

              พลั่ก!

              ผมเตะเข้าที่ขาของเขาอย่างออมแรงนิดๆ (ดันนึกเรื่องที่เป็นนักกีฬาออก ความแรงเลยลดลงโดยอัตโนมัติ)
 
              “โอ๊ะ เจ็บจริงแฮะ”

              “ดูๆ แล้ว นายก็สบายดีนิ งั้นผมกลับล่ะ” ผมหาเรื่องชิ่งจะกลับทันที แต่เขากลับคว้าข้อมือผมเอาไว้ ความอุ่นร้อนจากสัมผัสของเขาแล่นผ่านมือมายังข้อมือของผม ทำเอาผมรู้สึกร้อนวูบวาบนิดๆ เหมือนจะหายใจไปผิดจังหวะด้วย

              “เฮ้ย มาถึงนี่ทั้งที เข้ามาก่อนสิ ไม่ๆ ห้ามเข้า อย่าเข้าเลยดีกว่า” ลีแทบจะตบหัวตัวเองที่พูดกลับไปกลับมาเหมือนคนสติไม่สมประกอบ ก็ลีดันลืมไปเลยว่าห้องรกสุดๆ ขืนให้เห็นมีหวังโดนเกลียดมากกว่าเดินแน่ๆ

              “ผมก็ไม่คิดจะเข้าไปอยู่แล้ว อีกอย่างไม่ต้องทำหน้าระรื่น ที่ผมมาก็เพราะรองประธานมันด่าผมทุกวัน น่ารำคาญจนผมทำงานไม่ได้ ผมก็เลยต้องมา ก็เท่านั้นแหละ” แลดูเหมือนผมแก้ตัวเลย พูดซะยาวเชียว

              “ผมไม่สนเหตุผล แค่ประธานอยู่ตรงหน้าผมก็พอแล้ว”

              หมอนี่มัน...! บ้าเกินเยียวยาแล้วจริงๆ ไอ้หัวใจนี่ก็อีก...ดันเต้นแรงแทบจะกระเด็นออกมาข้างนอกอยู่แล้ว

              “หะ...หายเร็วๆ ก่อนวันงานเชื่อมสัมพันธ์โรงเรียนล่ะ” ผมข่มน้ำเสียงกระดากอายลงไป แล้วพยายามพูดเสียงเข้ม

              “อื้ม”

              “เพราะว่านายเป็นนักกีฬาโรงเรียน นายต้องแข่งชนะเพื่อชื่อเสียงของโรงเรียน”

              “ถ้าผมชนะ ผมขออะไรอย่างนึงจากประธานได้มั้ย”

              “ไม่ได้!”

              “แหม ปฏิเสธทันควันเลยนะ” ลีเบ้ปากเหมือนเด็กอารมณ์เสียที่ไม่ได้ของที่ต้องการ

              “ไม่มีอะไรแล้ว ผมกลับบ้านล่ะ”

              “กลับบ้านดีๆ ล่ะประธาน ผมจะพักฟื้นร่างกายอย่างดี รับรองวันงานผมจะเอาชัยชนะไปขอความรักจากประธาน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย” ลีบอกอย่างมั่นใจ ผมแทบเหวอกินไปเลยทีเดียว ให้ตายสิ! ผมไม่น่ามาเลย! ผมรีบหันหลังเดินหนีออกมาทันที น้ำเสียงที่มั่นใจตามหลอกหลอนวนเวียนอยู่ข้างหู ผมสะบัดหัวตัวเองไล่เสียงนั่น แต่มันก็ไม่หายไปไหนเลย เพราะมันได้ฝังรากลึกหยั่งลงไปในใจแล้ว




TBC.



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน  :hao3:

ออฟไลน์ porpaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0



บทที่ 2
[/b]


              วันงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียน

              หลังจากที่ผมขึ้นเวทีและกล่าวเปิดงานอย่างเป็นพิธีการ ผมก็มาเดินสำรวจรอบๆ โรงเรียน ตอนนี้ในโรงเรียนเต็มไปด้วยนักเรียนจากโรงเรียนเซนต์ไอนส์ที่แวะเวียนเข้ามา ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนของโรงเรียนก็จะเห็นนักเรียนเดินกันให้ขวักไขว่

              “อ้าว สวัสดีไนน์”

              “สวัสดีภพ” ผมตอบทักทายคนตรงหน้า ผู้ชายร่างสูงใหญ่ ผิวแทน หน้าตาคมเข้ม คนนี้คือประธานนักเรียนจากโรงเรียนเซนต์ไอนส์ เขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับผมเอง เรามักแข่งกันตลอดเพื่อหาคนแพ้ เพราะเราจะได้สิทธิ์ในการขออะไรก็ได้กับคนที่แพ้ ซึ่งส่วนใหญ่เราก็ผลัดกันสูสี แข่งแพ้แข่งชนะกันมาตลอด อย่างไม่มีใครยอมใคร

              “ได้ข่าวว่านักกีฬาตัวเต็งนายหัวแตกหรอ”

              “ข่าวไปไวจริงนะ”

              “แหม คนจะออกสู้ มันก็ต้องรู้เขารู้เราบ้าง” ภพกดยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจ

              หึ! คงดีใจตัวสั่นเลยสิ แต่บอกเลยว่าไม่มีทางที่หมอนั่นจะแพ้การแข่งกีฬา ถึกทนเป็นควายขนาดนั้น

              “ระวังทีมโรงเรียนนายจะแพ้ให้คนสภาพไม่เต็มร้อย” ผมพูดแล้วกอดอกมองคนตรงหน้า ยิ้มร้ายให้อย่างสุขุม

              “ประธานนนนนนนน!”

              “กีต้าร์ นายจะแหกปากทำไม!” ผมดุใส่คนตรงหน้าที่วิ่งกระหืดกระหอบมาหาผม

              “แฮ่กๆ ตอนนี้ลีกำลังแข่งบาสอยู่”

              “แล้ว?”

              “ก็ไปเชียร์ไงประธาน ตอนนี้ทีมฝั่งตรงข้ามกำลังนำอยู่”

              “หมอนั่นทำไมกระจอกแบบนี้” ผมว่าอย่างหงุดหงิด ถึงขึ้นชื่อว่าเป็นการเชื่อมสัมพันธ์โรงเรียน แต่ผมก็ไม่ได้อยากแพ้โรงเรียนที่เป็นคู่อริของเราหรอกนะ แถมไอ้คู่อริที่ว่าดันยืนอยู่ข้างๆ นี่ด้วย รู้สึกหน้าแตกนิดๆ เลยที่เมื่อกี้ไปข่มมัน หึ้ย! ไอ้บ้าลี! ทำไรอยู่ รีบๆ เอาชัยชนะมาให้ได้แล้ว จะได้เอาไปฟาดหน้าไอ้คนข้างๆ นี่ที่ยืนยิ้มใส่

              “ประธานลืมไปรึเปล่า ว่าร่างกายลีไม่ได้เต็มร้อย ใครกันนะที่ก่อนหน้านี้ไปทำร้ายจนถึงขั้นเลือดตกยางออก แถมยังไม่ไปดูดำดูดีอีก” กีต้าร์ค่อนขอดใส่ กีต้าร์เองก็หมั่นไส้ประธานโรงเรียนเซนต์ไอนส์เหมือนกันแหละ อยากจะให้ลีชนะมันทุกเกมส์เลย ไอ้บ้านี่จะได้เลิกยิ้มสักที เห็นรอยยิ้มมันแล้วหมั่นไส้!

              “โอเคๆ ผมไปดูก็ได้ เลิกด่าผมสักที”

              “งั้นผมขอเดินไปด้วยคนสิ อยากไปเห็นหน้าคนแถวนี้ตอนทีมตัวเองแพ้” ภพพูดแทรกขึ้นมา กีต้าร์มองหน้าแล้วแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะดันหลังประธานให้รีบเดินให้ห่างไอ้คนบ้านี่!

              “ไปกันเถอะ อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาแถวนี้เลยประธาน”

              กีต้าร์กึ่งลากกึ่งผลักให้ผมรีบมายังสนามบาสในโรงยิม ผมกวาดสายตามองในโรงยิม ที่นั่งรอบข้างสนามคนดูกำลังส่งเสียงเชียร์อย่างเมามัน สองทีมกำลังแข่งกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีใครยอมใคร แต้มอยู่ที่ 68-70 อีกทีมกำลังนำอยู่ ผมมองหาลีในสนามและก็เจอตัวเขา ใบหน้าที่ปกติจะชอบยิ้มยียวนกวนประสาทผม ตอนนี้กลับทำหน้าเคร่งเครียด ใบหน้าก็มีเหงื่อไหลเป็นทาง

              “ลีดูตั้งใจแข่งสุดตัวเลยนะ ประธานไม่คิดจะไปให้กำลังใจบ้างเหรอ” กีต้าร์เอ่ยถามเมื่อเห็นประธานยืนดูเกมส์กีฬาอยู่นิ่งๆ ตรงประตูทางเข้า

              “ทำไมผมต้องไปให้กำลังใจด้วย” ผมถามกลับโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้ากีต้าร์ สายตาผมจดจ้องอยู่กับไอ้บ้าหัวส้มที่กำลังวิ่งแย่งลูกส้มๆ เหมือนสีผมมันอย่างเอาเป็นเอาตาย

              “ก็...”

              “ถ้ายังเอาเรื่องแจกันนั่นมาพูดอีก คราวนี้ผมจะเตะนายลงไปที่สนามจริงๆ ด้วย”

              “พวกใช้ความรุนแรง เฮ้! ลงไปอีกลูกนึงแล้ว คะแนนเสมอกันแถมยังได้ลูกโทษอีก” กีต้าร์กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ กองเชียร์ข้างสนามเองต่างก็พาส่งเสียงเชียร์ เพราะคนที่ได้ชู้ตลูกโทษคือ ลี

              ผมกำหมัดแน่นข้างๆ ตัวเอง ข้างในใจส่งเสียงร้อง เยส! ด้วยความดีใจ สูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ เพราะเมื่อกี้มัวแต่ลุ้นจนแทบหยุดหายใจ

              เสียงเฮผสมเสียงโวยวายดังก้องไปทั่วโรงยิมจนผมหงุดหงิด คือ นักกีฬากำลังจะทำสมาธิเพื่อเอาแต้มสุดท้ายที่เป็นแต้มตัดสินป่ะ! แล้วอะไรคือการที่ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายเป็นลิงค่างบ่างชะนีแบบนี้

              “เงียบ!!!!!” ผมตะโกนเสียงหนักแน่นลงในไมค์ของกรรมการที่กำลังพากษ์ตัดสิน เสียงวิ้งๆ ดังอัดหูคน คนในโรงยิมต่างเงียบสงบลงด้วยเพียงประโยคเดียว ให้ตายสิ! ไม่น่าตะโกนออกไปเลย หมอนั่นหันมามองทางต้นเสียงและเจอผมทันที ผมทำหน้านิ่งหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งสิ้น ว้อย! ที่ตะโกนก็แค่อยากให้นักกีฬามีสมาธิเพราะนี่มันลูกตัดสิน แต่กลายเป็นการประกาศตัวให้หมอนั่นรู้ซะงั้นว่าผมมาดูอยู่ เดินหนีออกไปตอนนี้ทันมั้ยเนี่ย!

              ใบหน้าของลีมีรอยยิ้มผุดขึ้นมา ดวงตาก็เปล่งประกายความมั่นใจขึ้น และหมอนั่นก็โยนลูกทันที โดยไม่ได้หันไปมองทางแป้นบาสและ...

              ฟึ่บ!

              ลงห่วงไปอย่างสวยงาม

              “เฮ!!!!!!”

              “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!”

              กองเชียร์กรีดร้องเสียงดังสนั่น แต่ ณ จุดนี้ขวดน้ำได้ลอยละลิ่วไปฟาดหัวคนที่ทำแต้มให้โรงเรียนชนะแล้วเรียบร้อย

              “โอ๊ย!”

              “ทำบ้าอะไรของนายวะ!” ผมวิ่งเข้ามาเขาในสนามทันที มีอย่างที่ไหนมาทำโชว์เท่ชู้ตบาสโดยไม่มองแป้นอีก ก็โชคดีที่มันเข้า แต่ถ้ามันไม่เข้าล่ะ! ไอ้หมอนี่มันจะเป็นคนขี้เล่น เกินไปแล้ว ผมหงุดหงิดจนเลือดขึ้นหน้า ถ้าพลาดมานี่ไอ้ภพมันเหยียบผมแน่! ศักดิ์ศรีระหว่างประธานโรงเรียนนี่มันหนักมากนะโว้ย! เฮ้อ เผลอคิดด้วยคำหยาบอีกล่ะ อยู่กับหมอนี่ผมทำตัวหยาบคายขึ้นเยอะเลย

              “ความผิดประธานนั่นแหละ”

              “ความผิดผม?!” ผมทวนประโยคที่ลีพูด รู้สึกได้ว่าเส้นเลือดในหัวมันเต้นตุบๆ

              “ก็ผมไม่สามารถละสายตาไปจากประธานได้ ผมก็เลยต้องชู้ตไปทั้งอย่างนั้น” ลียิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายสะท้อนตัวผมจนผมเห็นตัวผมเองในดวงตาของเขา

              “แล้วไปเอาความมั่นใจจากไหนว่าจะชู้ตลงห๊า!” ผมว่าแล้วฟาดมือลงเต็มหลังเขา เขาร้องอั่ก แต่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด ยิ้มเหมือนคนบ้ายังไงก็ยังยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่อย่างนั้น

              “ก็ประธานอีกแหละ!”

              “ผมอีกแล้ว! คราวนี้อะไรอีกล่ะ”

              “ก็แค่เห็นหน้าประธานผมก็มีกำลังใจขึ้นเยอะ ยิ่งเห็นว่าประธานมาเชียร์ด้วยตัวเองแบบนี้จะกล้าแพ้ได้ยังไงล่ะ”

              ผมโดนน็อคด้วยประโยคนี้ประโยคเดียวเลยจริงๆ หมอนี่มันบ้าแบบกู่ไม่กลับแล้ว





บทที่ 2 เอามาลงครึ่งตอนก่อนนะคะ











ตอบคอมเม้นจากตรงนี้นะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นแรกและสองของคุณ Niyataan
รู้สึกดีใจมากที่มีคนอ่านนิยายเราอยู่ ขอบคุณค่ะ ><





ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ตามมาเม้นท์ต่อ..เป็นกำลังใจให้นะครัช..เรื่องน่ารักมาก ม๊วฟๆๆๆ   :m13: :m13: :m13:

ออฟไลน์ porpaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
[ต่อ]



              “ว้า เสียดายจังดันชนะซะงั้น เลยอดเห็นคนแพ้เลยอ่ะ” ภพเดินเข้ามาหาโดยมีกีต้าร์กระชากลากถูกรั้งเอาไว้ราวกับไม่อยากให้เดินมาทางนี้

               สิ่งที่กีต้าร์ทำคือการไม่อยากให้ไอ้มือที่สามเนี่ย! ไปขัดจังหวะสวีทของประธานกับลี แต่มันก็ดันเสนอหน้าเดินลิ่วเข้าไปหาเฉย ตัวกีต้าร์เองเล็กกว่านิดหน่อย (เอ่อ ก็ไม่นิดหน่อยอ่ะ) พยายากจะลากกลับ แต่หมอนี่อย่างกับยักษ์ แทนที่กีต้าร์จะเป็นฝ่ายรั้ง กลับถูกเป็นฝ่ายโดนจูงเหมือนหมาเข้าไปด้วยซะงั้น


               ไอ้เวรภพ!


               ไอ้มารผจญหัวใจประธานของเขา!


               กีต้าร์ด่าภพที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้


               ลีมองหน้าคู่อริแล้วเบ้ปากด้วยความหงุดหงิด ไอ้บ้านี่ชอบมายุ่งกับประธาน (ของเขา) เคยเตือนมันไปกี่รอบๆ ก็ไม่ฟัง อยากจะอัดไอ้หน้ากวนโอ้ยนั่นให้จมตีนนัก ติดตรงที่ประธานไม่ชอบคนที่เป็นนักเลงยกพวกท้าตีท้าต่อย ผมเลยได้แต่เขม่นใส่มันเบาๆ (?) ตลอด


               “เสียใจด้วยนะไอ้ภพ พอดีผมมันเก่งไปหมดน่ะ เพราะงั้นก็คงเหมือนเดิมเก็บทุกรางวัลเหมือนทุกปี” ลีพูดแล้วยิ้มเยาะใส่ ผมมองหน้าลีสลับกับภพ สองคนนี้เจอกันเป็นต้องลับฝีปากกันตลอด ดันเป็นพวกประเภทเหมือนกันไง โดยเฉพาะความหน้าด้านหน้าทนเนี่ยเหมือนกันสุดๆ


               “อย่าให้นายล้ม ผมรอเหยียบซ้ำแน่นอน” ภพพูดแล้วยิ้มหวาน จนผมขนลุกแทนลีที่ได้รอยยิ้มนั้น


               “งั้นผมขอตัวไปดูตรวจตราโรงเรียนต่อละกัน” ผมพูดแล้วเบี่ยงตัวออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด


               “ห๊ะ ประธานให้กำลังใจผมอีกซี้ จะไปไหนอ่า!”


               ผมตาเหลือกที่เห็นไอ้บ้าลีทำตัวงุ้งงิ้ง ไอ้บ้า! ตัวใหญ่อย่างควายถึกทำท่าน่ารักมันไม่เข้ากันเลย!


               “น่าเกลียด!” ภพพูด


               “มึงว่าไรนะ!” ลีปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อภพทันที ผมรีบเข้าไปห้ามให้ลีใจเย็นลง หมอนี่มันจะเลือดร้อนไปไหน แถมยังพูดหยาบคายอีก ผมล่ะปวดหัว ทางภพเองก็ส่งยิ้มอย่างกวนโอ้ยให้อย่างคนไม่กลัวถูกรุมกระทืบ นักเรียนบางส่วนเลยจับกลุ่มมุง แล้วแบ่งฝ่ายนักเรียนแต่ละโรงเรียนกันอย่างชัดเจน พูดเลยว่าถ้าสองคนนี่ซัดกัน ไอ้สองกลุ่มนั่นได้เข้ามาร่วมวงแน่ ดูแต่ละคนถกแขนเสื้อเตรียมพร้อมกระโจนใส่กันอยู่แล้ว


               พลั่ก พลั่ก


               “เลิกบ้าได้แล้ว! ภพนายต้องไปเดินตรวจเช็คโรงเรียนได้แล้ว! ส่วนลีไปพักร่างกายเตรียมพร้อมแข่งต่อ อ่อ เอาชนะให้ได้ด้วย”


               ผมฟาดหัวพวกเขาไปคนละที ทั้งสองหันมาจ้องผมแทน คนนึงจ้องด้วยความงง อีกคนจ้องด้วยความหลง เอ่อ... หลงใหลน่ะ ที่ภพงงเพราะปกติผมไม่เคยออกแรงทำร้ายเขาเลยสักนิด เราแค่ทะเลาะกันผ่านการข่มกันไปมา ไม่ก็ท้าแข่งอะไรสักอย่าง ส่วนอีกคนลี หมอนี่โดนผมโบกจนชินมือแล้ว เพราะงั้นมันออกจะชอบด้วยซ้ำที่ผมไปแตะต้องตัว


               “โทษทีภพ มือไปไวไปนิด ไม่ถือสาใช่มั้ย” ผมขอโทษเขา เอาจริงๆ ไอ้นิสัยออกไม้ออกมือเนี่ยติดมาจากไอ้บ้าตัวโตผมส้มนี่แหละ ตีมันทุกวัน พอหงุดหงิดทีไร มือไปไวก่อนทุกที ดูสิรอบนี้ภพโดนไปเต็มๆ ด้วยนะนั่น


               “ตกใจนิดหน่อย ไม่เป็นไรๆ ภพเข้าใจครับ”


               หื้ม!


               อยู่ดีๆ มาพูดเพราะใส่ ผมแอบขนลุกเบาๆ นะเนี่ย คือผมกับภพสนิทกันในแบบที่เราต่างเป็นประธานนักเรียนทั้งคู่ เราอยู่ในสถานะจับมือดีกันก็ดี เป็นศัตรูกันก็ได้ไรงี้


               ลีทำหน้าเคร่งเครียดทันทีที่ภพพูด เขาเอื้อมมาดันตัวผมให้ไปยืนข้างๆ มัน


               “ผมว่าไม่ได้ตบแรงนะ สมองกระเทือนเลยหรอ” ผมพูดแล้วกอดอกมองหน้าภพที่ยืนยิ้มกรุ่มกริ่มใส่ผม


               กีต้าร์มองสามคนตรงหน้าแล้วตบกบาลตัวเอง ดูก็รู้ว่าประธานเซนต์ไอนส์คิดจะทำอะไร แววตาที่เปล่งประกายกับรอยยิ้มแปลกๆ นั่น เขารู้และดูออกว่าหมอนี่มันจะทำอะไรต่อ!


               ฟอด


               เต็มๆ ขมับตรูเลยโว้ยยยยย! กีต้าร์อยากจิครายย


               เออ! กีต้าร์รู้ว่าหมอนี่มันกะจะหาทางแกล้งประธานกับลี มันต้องการจะยั่วยุให้ไอ้ลีโกรธด้วยการไปแตะเนื้อต้องตัวของประธาน และถ้ามันยั่วให้ไอ้ลีต่อยมันได้ มันจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะลีต้องโดนอาจารย์ปลดออกจากการแข่งกีฬาทุกชนิดข้อหาทำร้ายร่างกายนักเรียนโรงเรียนที่มาเชื่อมความสัมพันธระหว่างโรงเรียน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทได้อีก โดนหลายกระทงแน่


               ไอ้รองประธานที่รักภักดีอย่างกีต้าร์ตัวน้อยนี้จึงยอมกระโดดเอาตัวเข้าไปขวางไว้ ริมฝีปากอุ่นร้อนจึงประทับลงที่ขมับรองประธานผู้เป็น FC ตัวพ่อของคู่จิ้นลีไนน์แทน สัมผัสอุ่นร้อนทำเอาใบหน้ากีตาร์เห่อร้อนตามขึ้นมาด้วย เขาดูตกใจ ไม่สิ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันตกใจ! สาววายหลายคนอยากจะกรี๊ดก็ยังกรี๊ดไม่ออกเลยด้วยซ้ำ


               เงียบ


               บรรยากาศในโรงยิมเงียบราวกับป่าช้า


               “เอ่อ บังเอิญจังเลยเนาะๆ จะสะดุดล้มที ดันมาล้มพร้อมกันเฉยเลย” กีต้าร์เป็นคนพูดขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดนี้

               

               โคตรแถ! ทุกคนต่างพากันคิดในใจ


               ภพมองคนตัวเล็กข้างหน้าที่ยืนแก้มขึ้นสี ดูก็รู้ว่าหมอนี่มันรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่มันถึงได้โผล่เข้ามาแทนที่ไนน์ที่ถูกผลักออกไป สะดุดอะไรล่ะกระโดดเข้ามารับจุ้บผมไปเต็มๆ


               หึ! ถึงจะผิดแผน แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ภพคิดแล้วมองหน้าคนตัวเล็กที่หน้าแดง หูแดง


               “มึง! ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่ไอ้ต้าร์โดดมา มึงคิดจะหอมแก้มประธานของกูหรอวะ!”


               “ลลิตภัทร! สงบสติอารมณ์หน่อย อีกอย่างผมไม่ใช่ของนาย พูดให้มันดีๆ หน่อย” ผมห้ามปรามลีที่กำลังจะกระโดดเข้าไปหาภพอีกรอบ ผมเองก็โมโหเหมือนกันแหละ แค่คิดว่าต้องโดนประธานโรงเรียนคู่อริหอมแก้ม ก็รู้สึกคันไม้คันมือไปหมด ติดแต่ตรงสถานะที่ผมเป็นประธานนักเรียนที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนคนอื่น ผมจึงทำตัวแย่ๆ ไม่ได้ ผมจึงนิ่งเอาความสุขุมเข้าแก้ปัญหาตรงหน้าแทน


               กีต้าร์มองคนตัวสูงสามคนตรงหน้าแล้วได้แต่หดคอลงเหงื่อแตกพลั่ก เขาอุตส่าห์ยอมเสียสละตัวเองโดดลงไปเพื่อห้ามศึกไม่ให้เกิด ลีก็ดันจุดไฟติดขึ้นมาอีกอย่างง่ายดาย อีกอย่าง! ประธานของมันก็ไม่ได้โดนสักหน่อย นี่! กีต้าร์น้อยคนนี้ต่างหากที่โดนเต็มๆ กีต้าร์แอบคิดในใจแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่


               “มีอะไรกัน จับกลุ่มมุงกันทำไม ใครมีเรื่องทะเลาะอะไรห๊า!” เสียงแบบนี้ ครูวินัยสุดโหด ครูเข้ามาในจังหวะที่ดีมาก ลีกับภพต่างเย็นลงและไม่พุ่งใส่กันแล้ว


               “ไม่มีอะไรหรอกครับอาจารย์ พอดีผมกำลังแนะนำนักกีฬาคนเก่งให้ประธานเซนต์ไอนส์รู้จักอยู่น่ะครับ” ผมพูดแล้วยิ้มอย่างเป็นเด็กดี ครูวินัยพอเห็นว่าผมอยู่ในกลางวงนั่นก็เชื่อแล้วถอยทัพกลับไปง่ายๆ


               “แยกย้ายได้แล้ว! เตรียมตัวเชียร์กีฬาอื่นต่อ กีต้าร์นายพาภพไปเดินตรวจโรงเรียนจุดอื่นๆ ซะ ลีนายเองก็ไปพักผ่อนเตรียมแข่งรายการต่อไปได้แล้ว” ผมพูดประโยคเดิมอีกรอบใหม่ แล้วลากลีออกมาจากตรงนั้น


               ขอบใจนะรองประธานที่โดดเข้ามาขวางไว้ให้ แต่ขอโทษด้วยนะยังไงมันเป็นหน้าที่เพราะงั้นรับหน้ากับภพต่อให้ด้วยละกัน ผมรู้ว่าคงไม่ดีที่ให้กีต้าร์ไปกับผู้ชายที่เอ่อ...นั่นแหละ แต่ยังไงหน้าที่ก็คือหน้าที่ กีต้าร์เป็นรองประธานทุกปีก็ต้องรับหน้าพาภพที่เป็นประธานเซนต์ไอนส์ไปตรวจตราโรงเรียน เดินแนะนำจุดต่างๆ ของงานวันนี้อยู่แล้ว


               เพราะงั้นสู้ๆ ละกันนะ


               “ประธาน บอกตรงๆ ผมหงิดมาก เห็นหน้ามันแล้วอยากจะซัดให้หมอบจริงๆ” ลีพูดเสียงฮึดฮัดไปมา ผมมองการกระทำเขา แล้วทำหน้าเพลียใจใส่ เจอหน้าภพทีไรเป็นแบบนี้ทุกที


               “เอาเวลาคิดเรื่องซัดภพไปคิดเรื่องแข่งกีฬาอื่นต่อมั้ย”


               “แต่ผมใจเย็นไม่ลง”


               เพียะ!


               “ใจเย็นลงยัง” ผมเอามือสองข้างประกบ (ตบ) หน้าของลี ลีทำหน้าอึ้งอ้าปากค้างไปนิด ผมหัวเราะกับท่าทางเหวอๆ ของเขา เวลาผมแตะต้องตัวเขาไม่ว่าจะในรูปแบบแรงหรือเบา เขามักจะมีท่าทีแบบนี้ทุกที เห็นแล้วมันน่าขำจริงๆ นั่นแหละ


               “ตั้งสติได้ยัง หรืออยากโดนตบบ้องหู?” ผมหรี่ตาถาม ลีไม่ตอบ แต่พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าสติเขากลับมาแล้ว


               “เตรียตัวไปแข่งต่อ โอเค๊ เอาให้ชนะทุกรายการด้วย” ผมย้ำกับเขาอีกครั้งเรื่องการแข่งและการชนะ รอบนี้ผมยังไม่ได้ลงพนันกับภพหรอกว่าถ้าคนไหนได้เหรียญรางวัลไปเยอะสุดจะได้อะไร แต่ยังไงก็ต้องคว้าชัยชนะทุกรายการมาเพื่อเยาะเย้ยมันก่อน


               “ถ้าผมชนะ ผมจะมาขอความรักนะ หวังว่าประธานจะไม่ลืม” พอลีอ้าปากพูด ผมก็อยากจะบ้องหูมันเอาให้สติหลุด หมอนี่มันตื้อชะมัดยาก


               “ไม่ลืมเพราะไม่จำ” ผมปล่อยมือออกจากใบหน้าของเขา แต่ลีดันมือไวกว่ายกมือสองข้างแล้วจับมือผมประกบกับหน้าเขาเหมือนเดิม


               “ปล่อย!” ผมกัดฟันพูด


               “ไม่ปล่อย ผมแค่เอากำลังใจจากประธานเอง” ลีพูดสายตาที่เขามองผมมาราวกับจะดูดกลืนผมเข้าไปทั้งตัว มะ...ไม่ไหวแล้ว! สายตาอะไรจะรุนแรงขนาดนั้น รู้สึกเหมือนไม่มีแรงจะยืนเลยสักนิด!


               โป๊ก!


               ผมเอาหัวโขกคนร่างสูงกว่าสามเซนต์ทันที ลีปล่อยมือที่จับกุมมือผมไว้ ผมจึงชักมือออกจากหน้าเขาอย่างรวดเร็ว พลางเอามือยัดใส่กระเป๋ากางเกงนักเรียนขาสั้นสีดำ เพื่อซ่อนอาการมือสั่นเอาไว้ ใช่! มือสั่น ไม่รู้จะสั่นทำไม!


               “โอ้ย! ประธาน! มันเจ็บนะ ทำไมถึงได้เป็นชอบใช้ความความรุนแรงแบบนี้” ลีบ่นพลางเอามือลูบหัวตัวเอง


               “ผมใช้ความรุนแรงกับนายคนเดียวเท่านั้นแหละ”


               ถึงเมื่อกี้จะเผลอใช้กับประธานโรงเรียนคู่อริไปก็เถอะ รู้สึกผิดชะมัด


               “รู้สึกเหมือนเป็นคนพิเศษเลย เขินนะเนี่ย”


               ป้าบ!


               ผมตบไหล่เขาดังมาก จนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง ลูบไหล่ตัวเอง หน้าตาบิดเบ้นิดๆ หึ! สำออย


               “ใจเย็นประธาน กะจะเลี้ยงผมด้วยลำแข้งทุกวินาทีเลยหรือไง ผมไม่ใช่กระสอบทรายนะ”


               “งั้นอย่ามาพูดเพ้อเจ้อใส่ ผมไม่ชอบ”


               “โอเคๆ ยอมครับยอม นี่ไม่รักจริงไม่ยอมนะบอกเลย” ลีบ่นในลำคอแต่ผมได้ยินเต็มสองหู ก็ยืนใกล้กันขนาดนี้ไม่ได้ยินก็บ้าล่ะ


               “อ่ะๆ หยุดเลยประธานพอแล้ว เจ็บตัวไปทุกที่แล้ว เดี๋ยวไปแข่งไม่ชนะไม่รู้ด้วยนะ” ลีชี้หน้าบอกผมด้วยท่าทางกึ่งจริงกึ่งเล่น เมื่อเห็นผมยกมือทำท่าจะทำร้ายเขาอีกรอบ


               “แล้วมีแข่งไรต่อ” ผมลดมือลงแล้วถามเขา


               “แข่งบาสเสร็จ ก็แข่งวิ่ง วอลเล่ย์ เปตอง ตีแบด ส่วนพรุ่งนี้มีแข่งปิงปอง บอล บลาๆ”


               “พอ! หยุด! นายจะร่ายตารางการแข่งให้ผมฟังทำไม ผมแค่ถามต่อจากแข่งบาส ไม่ใช่รายการแข่งทั้งหมด”
 

               “เอ้า ผมบอกไว้ประธานจะได้มาเชียร์ผมถูกไง”


               “ใครบอกผมจะไปเชียร์”


               “อะ อ้าว จะไม่มาเชียร์ผมหรอ” ลีเอียงคอถามอย่างน่ารัก


               “ไม่ ผมงานยุ่ง” ผมบอกปัด พลางหันหน้าหนีเพราะทนดูคนตัวใหญ่ทำหน้าแบ๊วไม่ไหว


               “ใจร้าย”


               “เออ พึ่งรู้หรอ”


               “เฮ้ย ไอ้เชี่ยลี ทำไรอยู่วะ ไปลงชื่อแข่งได้แล้ว”


               “อย่าพูดหยาบต่อหน้าประธาน ไอ้เวร!” ลีหันกลับไปด่าเพื่อนเขาที่พ่นหยาบมาแต่ไกล ผมมองหน้าแล้วเบะปากด้วยความไม่ชอบใจ ผมรู้ว่าสมัยนี่เขาก็พูดคำหยาบกันเป็นเรื่องปกติสำหรับเพื่อน แต่สำหรับผม ผมถูกพ่อแม่บอกตลอดว่าการพูดคำหยาบมันไม่ดี เพราะงั้นเลยติดนิสัยไม่พูดคำหยาบกับคนอื่น


               “คร้าบๆ รู้แล้วครับ คุณเพื่อนลีครับช่วยมาลงชื่อแข่งได้แล้วครับ กรรมการจะแดกหัวเพื่อนแล้วครับ อ่อ ประธานก็อย่าลืมไปเชียร์เพื่อนผมนะ มันคงสู้สุดใจอ่ะ” เพื่อนคนที่มาตามลีเปลี่ยนไปพูดด้วยภาษาที่เรียบร้อยขึ้น เขาหันมายักคิ้วและยิ้มให้ผม แต่ก็โดนลีตบหัวทิ่มไปราวกับไม่อยากให้ยิ้มให้ผม


               “ว่าแต่เพื่อน วันนี้นายเองก็พูดคำหยาบไปตั้งหลายรอบนะ” ผมพูดเมื่อนึกย้อนกลับไปได้ ลีทำหน้าซีด เหงื่อแตกพลั่ก เหมือนเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกจับได้ ผมยิ้มน้อยๆ ให้เขา เขารู้ดีว่าบทลงโทษที่พูดคำหยาบกับผมคืออะไร เพราะงั้นเลยมีท่าทางแบบนั้น


               “ไปเตรียมตัวแข่งได้แล้ว ผมไปก่อนละกัน” ผมพูดแล้วหันหลังเดินหนีออกไปทิ้งเขาไว้ให้ยืนคนเดียว ยังคงตกใจที่เห็นผมพูดกับเขาอยู่ทั้งๆ ที่ถ้าเขาพูดหยาบคายต่อหน้าผมหรือกับผม ผมจะไม่พูดกับเขาอีกเลยทั้งวัน อืมมมม ก็เห็นแก่ว่าวันนี้เป็นวันงานแข่งซื่งมีเขาเป็นตัวเต็งจึงยอมให้เป็นกรณีพิเศษละนะ





TBC








หายไปนานเลยยยย
เข้าสู่ช่วงฝึกงานพอดี เลยไม่มีเวลามาอัพ
เพราะยังปรับตารางเวลาตัวเองไม่ได้ TOT








ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด