ตอนที่ 20
ชีวิตนิสิตไม่มีอะไรมากเลยครับ ชีวิตผมเรื่อยเปื่อยมากๆ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงปิดเทอม อย่าเรียกว่าปิดเทอมเลยครับ เรียกวันหยุดสั้นๆระหว่างรอเปิดนรกเทอมสอง ชาวเราก็จะแยกย้ายกันไปพักผ่อนแต่เนื่องจากบ้านผมไม่ได้รวยขนาดเพื่อนๆในเอกที่เชคอินกันเหมือนญี่ปุ่นอยู่แค่ลาดพร้าวแล้วอังกฤษอยู่บางแค
พูดถึงญี่ปุ่นนี่ก็ไม่พูดไม่ได้เพราะล่าสุดเพิ่งส่งรูปทำท่าไชโยกับป้ายกูลิโกะส่งมาให้ดูว่าถึงแล้วอย่างปลอดภัย ไอ้มิตรนี่เรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ครับ ไปแม่งทุกครั้งที่มีวันหยุดเกินสามวัน เคยถามว่ามึงรวยมากหรอมันตอบมาหน้านิ่งๆ ว่าใช่ เออ มันรวยครับ ปกติเวลามันไปญี่ปุ่นทีคือขนไอ้พวกหุ่นพลาสติกตัวเล็กๆ ที่ปกติตลาดนัดตั้งขายตัวละห้าสิบ มันบอกหยามมากครับ เพราะที่มันซื้อมาบางตัวนี่ราคาเท่าไอโฟน เสือกฉลาดไม่บอกว่าตัวไหน ไม่งั้นผมแงะตู้เอาไปขายละ ชุมทางโจรและช่องทางรวยที่แท้จริง
ส่วนไอ้แทนก็เป็นแบกเป้ไปเที่ยวน่านกับนินิว อยากจะแหมจนกว่ามอม้าจะสูญพันธุ์ ไอ้มิกก็เพิ่งอัพรูปไปเที่ยวยุโรปกับที่บ้าน น้องเทคแสนน่ารักของผมก็กลับไปฉลองคริสมาสต์กับครอบครัวที่เมกา ชีวิตทุกคนมีกลิ่นอายแห่งความเป็นคนรวยที่แท้จริงตัดภาพมาที่ผม...
นั่งจิ้มสโมกกี้ไบท์อย่างเหงาๆอยู่หอ
คนอาจจะคิดว่าไม่มีบ้านให้กลับหรอ เฉลยคือถูกต้องครับ แม่ผมไปตามรอยละครอยู่อยุธยาโดยสารถีหน้าโฉดนามว่าชัยยุทธิ บ้านผมเนี่ยไม่ค่อยอินอะไรกับเทศกาลเท่าไหร่ครับไม่ว่าจะปีใหม่สงกรานต์ที่ชาวบ้านเขาต้องมารวมตัวครอบครัวกันฉลอง แต่บ้านผมเนี่ยอย่างมากก็แค่ไปรวมตัวกันกินเอ็มเค จะมีที่อินมากๆก็น่าจะเป็นพวกวันเกิดมากกว่าที่ต้องเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา เพราะงั้นปีใหม่แบบนี้พ่อแม่หนีไปเที่ยว ไอ้ผมก็ได้แต่เหี่ยวแห้งนั่งดูการ์ตูนอยู่ห้องพี่ปลัด
ย้ำครับ...
ห้องพี่ปลัด
ย้ำอีกรอบครับ
ห้องพี่ปลัด
ใช่ครับ ไม่ได้อยู่ห้องตัวเองแต่อย่างใดแต่เป็นห้องพี่ปลัด ผมมานั่งๆ นอนๆ ผลาญค่าไฟอยู่ห้องพี่ปลัดมาได้สักพักใหญ่แล้ว เหตุผลคือพี่ปลัดมาบ่นว่าห้องกว้างไปอยู่คนเดียวแล้วเหงาเลยชวนผมมาอยู่ เอ้า ค่าน้ำค่าไฟค่าห้องฟรีใครไม่อยู่ก็บ้าแล้ว!!!
“ไมวันนี้ตื่นไวจัง” พี่ปลัดเดินเกาพุงแกรกๆออกมาเตรียมจะไปเข้าห้องแต่ไม่ลืมแวะมาฟุดฟิดหัวผม
ช้าก่อน...
อย่าเพิ่งคิดว่าผมนอนห้องเดียวกับพี่ปลัดครับ บอกเลยว่าผมเนี่ยระวังตัวสุดๆกับเรื่องบัดสี เลยขอนอนตรงโซฟาแทน ห้องพี่ปลัดใช้โซฟาเป็นแบบโซฟาเบดที่กางออกมาเป็นเตียงได้อยู่แล้วพี่ปลัดก็เลยไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่แน่นะครับ ผมว่าลึกๆพี่มันอาจจะกลัวผมปล้ำพี่มันก็ได้แหล่ะ
“บ่ายโมงนี่เรียกไวหรอ ผมตื่นมาดูโคนัน”
“เห็นมึงทายผู้ร้ายผิดทุกตอน”
“คือถ้าเดาโคนันเป็นผู้ร้ายได้ผมก็คงทายมันแล้วแหล่ะ พิรุธเยอะสุด” เนี่ย เห็นป่ะ ลงไปนั่งหลังคุณลุงโมริยังไม่มีใครสังเกตเลยว่าไอ้เด็กเวรนี่มันมานั่งเต๊ะทำไม
“พรุ่งนี้ปีใหม่ จะไปไหนหรือเปล่า”
“พี่อ่ะ ไปไหนป่ะ” ที่ถามกลับเพราะพี่มันดูคิวงานเยอะครับ ช่วงนี้จะเจอกันก็แค่ช่วงตอนกลางคืน งานรัดตัวน่าดูเลย ว่าแต่ทำงานดึกดื่นไมหน้าใสกิ๊งเลยวะ อยากเอาตีนแนบหน้าให้สิวขึ้นดูบ้างเลย
“ไม่มีนัด รอให้มีอยู่”
“อ้าว รองานคอนเฟิร์มหรอ”
“หมายรอมึงนัดเนี่ย เห้อ” เอ๋า!! ผมรีบหันไปมองหน้าพี่ปลัดทันทีทันใด
“อ่ออออออออออ ไปไหนดีอ่ะ พี่อยากไปไหนป่ะ” รีบประจบทันทีทันใดครับเพราะพี่มันเล่นทำหน้าเหนื่อยเหมือนหมาที่วิ่งไล่งับลูกปิงปองครบสิบรอบ เอ็นดูอ่ะ ตัวตั้งใหญ่มานั่งทำหน้างอ
“มึงอ่ะอยากไปไหน”
“โหยากอ่ะ ไม่มีแพลนในหัวเลย”
“ไม่มีที่ไหนอยากไปเลยหรอ”
“ลอนดอน”
“เพ้อเจ้อ” คีมเหล็กเอื้อมมาบีบปากผมจนยู่ ไรว้า คิดว่าจะใจป๋าหยิบมือถือมาบุ๊คตั๋วให้ซะอีก
“งื่อออออ ก็ไม่มีที่อยากไปจริงๆอ่ะ ดูหนังมะ” ช่วงนี้มีหนังเข้าเยอะเลย พี่มันหยักหน้าเป็นเชิงว่าเอาสิ ผมเลยหยิบมือถือขึ้นมาเชคเพื่อพบกับว่าหนังที่อยากดูไม่มีรอบหนังที่มีรอบก็ไม่อยากดู บู้บี้เลยอ่ะ ทำไมอ่ะ ทำไมปีใหม่คนถึงต้องชอบดูหนังกันด้วยหล่ะ
“โรงใกล้ๆไม่เต็มหมดเลยอ่ะ”
“ไม่เอา ไม่ดูแล้ว” งอแงครับงอแง คิดว่าผมก็ต้องน่ารักในระดับหนึ่งแหล่ะ พี่ปลัดถึงเอื้อมมือมาผลักหัวผมด้วยเอ็นดู เล่นเอาหัวโยกเกือบตกโซฟา รุนแรงจิ๊ง!!
“แล้วอยากทำอะไร”
“ทำไรดี ปีใหม่ปกติพี่ทำอะไร”
“นอน”
อ่า...
เหมือนกันเลยอ่ะ
พี่ปลัดนี่ดูเป็นคนเหมือนจะกิจกรรมเยอะ แต่ไม่เลยครับ ถ้าไม่มีงานอะไรพี่แม่งตื่นเกือบบ่ายสาม พอตื่นก็มานั่งละลายเอเนอร์จี้อยู่หน้าทีวีระหว่างที่กำลังละลายก็วุ่นวายอยู่กับหัวผม อีกอย่างหนึ่งที่พี่ปลัดชอบทำคือการวุ่นวายกับหัวผมครับ ไม่รู้ทำไม ขนาดลองไม่สระห้าวันพี่มันก็ยังเอามือเอาจมูกมาเขี่ยเล่นได้ไม่สนกลิ่นพิษ เรียกได้ว่าเป็นงานอดิเรกปริศนาของพี่มันอีกหนึ่งอย่างที่ผมค้นพบ
“ปกติผมก็นอนอ่ะ”
“ไม่แปลกใจเท่าไหร่” พี่ปลัดลุกขึ้นเกาคอแกร่กๆแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขึ้นดื่ม
“แล้วตกลงทำไรดีอ่ะพี่ นอนข้ามปีอ่อ”
“อือ ไปซื้อของมาทำกินกัน อยากซื้อเตาอยู่พอดี”
ตัดสินใจเสร็จตอนบ่ายสองแต่กว่าจะออกจากห้องได้ก็ปาไปสี่โมง ไม่ได้ช้าแต่งตัวนะครับ ช้าโคนันไม่จบ โคนันนี่เป็นการ์ตูนที่ดูไม่จบเหมือนคนขี้ไม่หลุดลงโถครับ มันค้าง ต้องดูจนกว่าจะเฉลย
พี่ปลัดไม่ได้อาบน้ำแต่แค่ล้างหน้าแปรงฟันออกมาด้วยชุดนอนย้วยๆไม่ได้เปลี่ยนแต่อย่างใด เหมือนยิ่งรู้จักกันยิ่งรู้สึกว่าพี่มันนี่ไม่เห็นจะพระเอกเพอร์เฟคเหมือนพระเอกในซีรี่ส์แบบที่ผมเคยคิดเลย โคตรจะผู้ชายธรรมดาที่ดันหน้าตาดี
“แอบมองทำไม เพิ่งสำนึกว่ากูหล่อขึ้นมาหรือไง” มั่นหน้าไปอีก ผมมองไอ้หน้าหล่อๆที่หันมามองผม
“หลงตัวเองว่ะ ผมมองตอหนวดพี่หรอก”
“ที่เป็นเทพเจ้าถือค้อนอ่ะหรอ”
“นั่นธอร์!!”
“ที่เป็นผลไม้”
“นั่นท้อ!!”
“ที่มึงกำลังจะสะดุด”
“นั่นท่- แย้กกก แหกๆๆ ไอ้พี่ปลัด!!”
มัวแต่ตบมุกพี่มันกว่าจะรู้ตัวขาผมก็สะดุดท่อที่อยู่ที่ๆก็เติบโตเสนอหน่อตัวเองขึ้นมาบนพื้นคอนกรีตลานจอดรถย่านอโศกแบบงงๆ แล้วก็มัวแต่ชงมุกไม่มีเตือนกันเลยโว้ย เกือบสะดุดหน้าแหกแล้ว แค่เกือบเท่านั้นแหล่ะครับ ถึงพี่ปลัดมันจะหัวเราะก๊ากแค่ไหนแต่ผมก็เห็นว่าพี่มันเอื้อมมือมาดึงคอเสื้อผมไว้ก่อนสะดุดอยู่แล้ว เนี่ยยยยย โคตรจะพระเอกซีรี่ส์ เสนอตอนนายปลัดขี้แกล้งแต่ก็ยังมีเยื่อใยให้นายนิชคุณ
“พี่แม่งงงง”
“มึงนี่มัน... จริงๆ” แหน่ะ มีเติมคำในช่องว่าง ผมแอบมโนคำว่าน่ารักขึ้นมาเติมเองในใจ แหม่ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าในสายตาพี่มันผมก็น่าเอ็นดูอยู่บ้างแหล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน โกรธโว้ย อุทานว่าแหกนี่เสียลุคคนหล่อหมด ต้องเมมไว้ในระบบแล้วครับว่าคราวหน้าเวลาตกใจต้องอุทานว่าโอ้มายก้อด
ขึ้นรถมาผมก็นั่งงอนแม่งเลย สะบัดตูดหันหน้าเข้ากระจกไม่พูดไม่จาไอ้พี่ปลัด คิดว่าเดี๋ยวพี่มันต้องง้อเป็นแน่ ที่ไหนได้พี่มันเล่นลดกระจกลง จมูกผมนี่เบียดกระจกดังเอี๊ยดแสบจนต้องแหกปากลั่น พี่วินมอไซต์ที่จอดอยู่ข้างๆสะดุ้งเสียงร้องผมถึงกับหันมาอุทานคำหยาบใส่
ส่วนไอ้คนขับหรอครับ
แม่งขำจนสะอึก ไอ้พี่เวร!!!
“โทษทีน่า ก็มึงมันน่าแกล้งอ่ะ” ดูดู๊ดู!! ดูครับ!! นี่คือคำสารภาพบาปของคนที่เพิ่งสารภาพรักผมไปเมื่อหลายอาทิตย์ที่แล้ว แล้วไม่ต้องมาคว้าแขนเลย โกรธแล้วโว้ย โกรธจริงๆไม่จีนแดง!!!
“จมูกผมแดงไปหมดแล้วเนี่ย!!!”
“ไหน” ผมหันขวับไปโชว์หลักฐานให้พี่มันดูทันที ผมส่องกระจกข้างมาแล้วว่าแดงจริงไม่ติงนัง พี่ปลัดมันยิ้มก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงมาเอาจมูกมาชนกับจมูกผม ผมถลึงตาโต ใครจะไปคิดว่าพี่มันจะกล้าทำต่อหน้าคนเต็มห้าง
“หายเพี้ยง”
ทำตัวน่าขนลุกต่อหน้าประชาชีเสร็จก็เดินผิวปากคว้ารถเข็นเข้าห้างไป ทิ้งให้ผมยืนอ้าปากพะงาบเป็นปลาทองดูดอาหาร
อะ... อะ... ไอ้พี่ปลัด!!!!
.
.
.
(ปลัด.)
ช็อคไปแล้วมั้งนั่น...
ผมแอบเอี้ยวตัวกลับไปดูไอ้คุณทั่จจุบันยืนอ้าปากกลายเป็นหุ่นจำลองปลาทองนิ่งอยู่หน้าห้าง รอโหลดอยู่สองนาทีกว่าจะเรียกวิญญาณเข้าร่างถึงค่อยกระแทกเท้าแก้มแดงเดินมาเบียดผมแก้เขิน
“หายเจ็บจมูกแล้วหรอ”
“พี่แม่ง”
น่ารัก...
คุณเป็นคนที่แสดงอาการผ่านสีหน้าชัดเจนครับ เวลาดีใจก็ยิ้มเหมือนลูกหมา พอเสียใจก็จะนั่งหูพับ เวลางงก็จะขมวดคิ้วงงชัดเจนเหมือนมีเครื่องหมายเควชชั่นมาร์คแปะอยู่บนหน้า แต่หน้าที่น่ารักที่สุดคือตอนมันเขินครับ เวลามันเขินมันจะเอาหน้ามุดนู่นมุดนี่เหมือนที่มันกำลังเอาหน้ามุดแขนผมอยู่ตอนนี้
“พี่ปลัด พี่ร้ายขึ้นจากตอนที่ผมรู้จักป่ะวะ”
“หือ? กูหรอ?”
“อือ ช่วงนี้พี่แม่งขี้แกล้ง” มันบ่นงุบงิบ ซึ่งก็จริงครับ เหมือนก่อนหน้านี้ยังเกรงใจไม่ค่อยกล้าแกล้งเท่าไหร่ พอได้ลองแกล้งแบบจริงจังแล้วหยุดไม่ได้เลย
“มึงน่าแกล้ง”
“โห!! กุ้ง!!” อาหารชนะทุกอย่างตามเคย ผมเข็นรถตามไอ้ขาน้อยๆที่วิ่งเข้าหาอาหารอย่างไว
“เดี๋ยวกูไปหยิบหมูก่อน” กำลังจะเลี่ยงไปหยิบหมูก็โดนดึงชายเสื้อไว้ก่อน
“พี่ปลัดหยิบปลาหมึกหน่อย ผมอยากกินแต่ไม่อยากมือเหม็นอ่ะ”
“หยิบแล้วไปล้างมือสิ”
“หยิบให้หน่อยยยยยย”
เห้อ...
พอรู้ว่าอ้อนได้ผลก็เดินหน้าอ้อนไม่หยุดเลยนะ
ในหัวผมคิดจะโบกหัวมันให้จมก้อนน้ำแข็งแต่รู้สึกตัวอีกทีก็กลายเป็นคัดปลาหมึกเข้าถุงไปเสียแล้ว ส่วนไอ้ตัวดีก็วิ่งตาเป็นประกายสลับไปมาระหว่างกุ้งกับแซลม่อน ผมเดินเอาปลาหมึกไปชั่งแล้วก็เอามาหย่อนใส่รถเข็น
“ไอ้คุณ”
“คร้าบ”
“มานี่สิ อย่าวิ่งซน” มันยู่หน้าแต่ก็วิ่งกลับมาหาผม จังหวะนั้นผมก็เอามือเปื้อนปลามึกขึ้นป้ายจมูกมัน มันโหลดไปสักพักหนึ่งก่อนจะตาโตเมื่อค้นพบว่าไอ้ที่ผมป้ายไปคิกลิ่นคาวที่มันเกลียดนัก สักพักไอ้ปากที่ปิดอยู่ก็อ้าโวยวายลั่นแล้วรีบวิ่งไปหาห้องน้ำล้าง
ผมมองมือตัวเองแล้วก็ได้แต่หัวเราะ
อดแกล้งไม่ได้จริงๆนั่นแหล่ะ...
“ผมจะสาปพี่ ขอให้พี่สั่งส้มตำพริกสองเม็ดแต่ได้สิบเม็ด ขอให้สั่งกะเพราะปลาหมึกได้กะเพราะปลากับหมู ขอให้พี่เดินนิ้วก้อยเกี่ยวขาโต๊ะ ขอให้พี่เสียบหูฟังไว้กับแมคบุ๊คพอลุกคอมก็ตก ขอให้พี่กรดเกินในกะเพราะอาหาร ขอให้...”
ไอ้ก้อนแม่หมอเดินหน้ามุ่ยสาปแช่งผมมาตลอดทางหลังจากกลับมาจากห้องน้ำ อยากจะขำดังๆในความแค้นของมัน
หาของสดเสร็จก็มาตรงแผนกเครื่องดื่ม ถ้าเป็นคนปกติผมคงซื้อเหล้าไปมอมให้อ้อนตัวอ่อนตัวย้อยไปแล้วแต่เพราะนี่ดันเป็นไอ้คุณที่เมาแล้วเป็นจ้าวป่านาซิเพ่นยาเลยตัดแอลกอฮอลล์ทิ้งเป็นตัวเลือกแรก ขี้เกียจอุ้ม
“อยากกินโค้กไหม”
“ตอนนี้ผมเริ่มคิดแล้วว่าพี่จะเอาโค้กมาเขย่าแล้วเปิดใส่หน้าผมไหม” มันยกแขนขึ้นตั้งการ์ดจ้องหน้าผม
“ยังไม่ได้จ่ายตังค์เลยกูจะเปิดเล่นได้ไง”
“หมายความว่าถ้าจ่ายจะทำใช่ป่ะ เนี่ย พี่แม่งงงงงง” หน้างอจนที่ขี่เหร่อยู่แล้วขี้เหร่กว่าเดิมไปอีก ผมเอาโค้กลิตรหย่อนใส่รถเข็นแล้วหันไปลูบหัวมัน
“ตอนมัธยมมึงไม่แกล้งเพื่อนผู้หญิงที่มึงแอบชอบหรอ”
“ไม่อ่ะ”
“แต่กูทำ”
ผมกระตุกยิ้มแล้วเข็นรถออกมา ไอ้คุณมันนิ่งไปสักพักก่อนจะวิ่งมาเกาะแขนผม
“พี่จะให้ผมหึงโดยการบอกว่าเคยแกล้งผู้หญิงที่ชอบตอนม.ต้นเงี้ยหรอ บอกเลยว่าไม่ได้ผล!!!”
อืม... ลืมไปว่ามันคือไอ้คุณ
อยากจะไลน์ไปถอนหายใจใส่ให้แม่มันฟังว่าผมเหนื่อยกับลูกชายคุณแม่ขนาดไหน แต่สุดท้ายก็ได้แต่ปลงแล้วเข็นรถไปจ่ายตังค์ คุณมันลังเลหยิบกระเป๋าตังค์มาแบบกล้าๆกลัวๆ เหมือนช่วงนี้มันชักเริ่มเกรงใจขึ้นมาแล้ว แต่ป๋ามาตลอดก็ป๋าให้สุดครับ มันยิ้มแหะๆดีใจเมื่อผมรูดบัตรจ่ายแต่ก็หน้าหดเมื่อผมยื่นถุงปลาหมึกให้มันถือ
พอกลับถึงห้องก็จัดการเทของสดของมาหั่นให้เรียบร้อยโดยให้ไอ้ลูกมือไปเด็ดผักกับเตรียมเตาปิ้งย่างที่มาพร้อมกับหม้อเล็กๆ วิธีการกินแบบเด็กหอเนี่ยต้องไปกินแถวระเบียงพร้อมกับต้องเปิดประตูระเบียงไว้ด้วยครับ ไม่อย่างนั้นถ้าควันลอยไปบนเพดานเดี๋ยวสัญญาณไฟไหม้มันจะดัง
“คุณหยิบอันนี้ไปวาง”
“คร้าบบบบ” มันวิ่งดุ๊กดิ๊กมาหยิบอาหารสดไปวางที่โต๊ะเล็กๆที่เอามาตั้งเฉพาะกิจเนื่องในเทศกาลปีใหม่
ถ้าเป็นคนอื่นที่ผมเคยคบ ตอนนี้ผมอาจจะฉลองกับเขาอยู่ที่ร้านอาหารสุดหรูสักที่ในกรุงเทพที่มีเซทเมนูราคาแพงที่อ่านรีวิวมาอย่างดีแล้ว ดนตรีสดที่ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติก วิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นพลุตอนปีใหม่ได้ชัดเจน
ตัดภาพมาที่ตอนนี้มีเพียงหมูกระทะโง่ๆจากเตาราคาถูกที่หมูติดกระทะกลายเป็นรอยไหม้เต็มไปหมด เพลงป๊อปตามกระแสที่เปิดผ่านลำโพงตัวจิ๋ว วิวทิวทัศน์ตอนกลางคืนของกรุงเทพที่มีกางเกงยีนมันตากอยู่บนหัวพร้อมกับเสียงแตรรถดังลั่นจากถนนอโศก
แต่ผมกลับรู้สึกอยากจะยิ้มออกมากว้างๆยิ่งกว่าตอนฉลองที่ร้านอาหารหรูนั่นเสียอีก
“โหหหหห ปลาหมึกอย่างเด็ดอ่ะพี่ มันมีไข่ด้วย” มันคีบปลาหมึกขึ้นมาโชว์ ตื่นเต้นยิ่งกว่าปีใหม่คือการคีบปลาหมึกเจอไข่
“มีอย่างอื่นเด็ดกว่านี้อีก” มีไข่ด้วย...
“จริง ผมก็ชอบกุ้งมากกว่า พี่เติมโค้กให้หน่อย” อยากจะเห้อแต่ก็หันไปหยิบโค้กเติมให้มัน
“นี่คุณ”
“ครับ?”
“ตอนนี้เราเป็นอะไรกันวะ”
เสียงแตรยังคงดังขัดบรรยากาศอยู่เหมือนเดิมแต่ทำไมผมกลับรู้สึกเหมือนบรรยากาศรอบตัวมันเงียบลงเพื่อให้ผมได้ยินคำตอบจากคนตรงหน้า คุณผงะตกใจไปหลายนาทีถึงจะค่อยดึงสติกลับมาได้ มันเม้มปากอย่างใช้ความคิดก่อนจะตัดปัญหาด้วยการหย่อนไข่ปลาหมึกลงมาใส่ในจานผม
...ยังคงไม่ได้คำตอบเหมือนเดิม
เอาเถอะ คงต้องให้เวลามัน
ผมรู้สึกใจเสียนิดหน่อยแต่ยิ้มตอบมันไป
ไม่ได้อยากจะกดดัน แค่บางครั้งก็ต้องการความชัดเจนหรืออย่างน้อยก็อยากรู้ว่ามันเข้าใจความสัมพันธ์ที่ผมต้องการถูกว่าผมไม่ได้ต้องการเป็นแค่พี่น้องร่วมมหาลัยกับมัน แต่ทุกอย่างคงต้องใช้เวลา ยิ่งสำหรับคุณอาจจะต้องใช้เวลายิ่งกว่าคนปกติ
มาไกลขนาดนี้ก็ควรจะดีใจได้แล้ว
“นั่นคำตอบผม”
หือ?
ผมเงยหน้าจากไข่ปลาหมึกขึ้นมองหน้าไอ้คุณที่ตอนนี้แดงแป๊ดไปจนถึงหู
“คืออะไร สถานะไข่ปลาหมึกหรอ?” ...อยากจะบอกว่าเลวร้ายกว่าเจ้ามืออีก กูหล่ะเครียด
“บ้า”
“แล้วอะไรวะ”
“ตอนมัธยมพี่ไม่เคยแบ่งขนมให้คนที่ตัวเองชอบหรอ”
“...”
“เออ ผมทำ”
ไอ้เด็กเวรนี่...
ผมกระแทกจานทิ้งลงกับพื้นแล้วกวักมือเรียกๆมันให้กระเถิบเข้ามาหลังจากที่มันไถลตัวเองไปนั่งอยู่ปลายเตา
“ไม่ๆๆ จ้างสามร้อยก็ไม่ไป!!!”
“ไอ้คุณ มึงมานี่”
“ไม่เอาๆๆ”
“กูให้เลือกระหว่างให้กูเตะเตาทิ้งกับเดินมาดีๆ”
มันมองปลาหมึกในเตาก่อนจะเบะปากยอมกระเถิบมาหาผมช้าๆ เสียชีพได้แต่ไม่เสียซีฟู้ดบนเตา วินาทีที่มันกระเถิบมาใกล้ผมก็หันไปหยิบโค้กลิตรอีกขวดที่อยู่ข้างตัวที่เขย่าทิ้งไว้มาบิดเปิดฝา ทันใดนั้นโค้กก็พุ่งกระแทกฝาออกมากระจายเต็มไปหมด ไอ้คุณสะดุ้งเตะเก้าอี้ตัวเล็กกระเด็นกระดอนหลับปี๋โวยวายลั่นระเบียง ก่อนที่ผมจะอาศัยโอกาสนั้นทาบตัวมันกระแทกกับกำแพง
ปากเล็กที่โวยวายถูกผมปิดให้เงียบลง ปฏิกิริยาโต้ตอบต่อต้านเพียงเล็กน้อย พอโดนผมกัดปากล่างหน่อยก็ครางฮือยอมอ่อนให้แต่โดยดี ลมหายใจเรากระทบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่สามารถตอบได้ว่าความหวานที่ติดปลายลิ้นอยู่ตอนนี้เป็นรสชาติของโค้กที่เปื้อนอยู่เต็มตัวเราทั้งคู่หรือเพราะเป็นความหวานจากรสสัมผัสที่เกิดจากความต้องการของผมที่อดกลั้นมานานกันแน่
ปั้ง!! ปั้ง!! ปั้ง!!
ผมผละออกจากกลีบปากไอ้คุณเมื่อเสียงพลุดังขึ้นจากท้องฟ้า นั่นคงเป็นสัญญาณบอกว่าตอนนี้คงขึ้นปีใหม่ไปแล้วเรียบร้อย
“ฮะ ฮะ แฮปปี้นิวเยียร์” คุณหยิบโค้กที่เหลือมาเทราดหัวผมแล้วหัวเราะคิกคักทั้งๆที่หน้ายังแดงอยู่
“แกล้งกูหรอ”
“โหๆ ทีงี้มาทำเสียงโกรธ” ผมยกมือขึ้นปาดหน้าม้าที่ลู่เพราะน้ำเหนียวๆแล้วมองหน้าไอ้ตัวเด๋อที่นั่งหลังชิดกำแพงถือขวดโค้กขู่ถ้าผมก้มลงไปหามากกว่านี้
“เออโกรธ ไหนมาจูบอีกรอบ”
“อันนี้แถวบ้านเรียกตลกแดกนะเนี่ย”
“มึงชอบฉลาดผิดเวลา” ผมงับจมูกมันเบาๆ
“สวัสดีปีใหม่นะพี่ปลัด” ผมมองหน้าไอ้คุณที่ส่งยิ้มกว้างจนตาปิดก่อนจะก้มตัวลงทิ้งหัวลงบนบ่าเล็กๆของมันพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างแทบจะถึงหูแต่ก็หยุดยิ้มไม่ได้
คงเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นแรก ที่อยากได้ในทุกๆปี
--
น้องคุณก็น่ารักอย่าให้ปูดองมาบดบังความน่ารักของน้องง