ช่วงนี้ไฟแอบแรง มาต่อได้อีก

*******************************************
ผมเดินไปหาพี่ต่ายโดยทิ้งให้เบ็ตตี้ตอบคำถามของเพื่อนๆผมไปครับ พี่ต่ายยังคงคุยกับสาวเขียวอย่างออกรส ยิ้มหน้าบานเชียว คุยอะไรสนุกนักหนากันนะผมชักขัดใจ
“อ้าวโอมมาพอดี มามะ”พี่ต่ายยื่นมือมาให้ผมจับ ผมเลยจับไว้แน่นเลยครับไม่ยอมปล่อยยืนประสานมือกันแบบนี้แหล่ะจะได้ประกาศความเป็นเจ้าของ
“นี่เ้จ้าหญิงป๋อม นี่โอมจ๊ะป๋อม”สาวเขียวกระพริบตาแล้วมองผมอย่างเพ่งพินิจ ส่งรอยยิ้มสดใสมาให้ ก้มหน้าให้เล็กน้อย “สวัสดีค่ะพี่โอม”
“ค่ะครับ...สวัสดีครับเอ่อ...เจ้าหญิงป๋อม”
ผมถึงกับอึ้งพี่ต่ายรู้จักชนชั้นสูงด้วยเหรอ เป็นราชนิกูลจากประเทศอะไรเนี่ย หน้าตาก็ดูไทยๆนี่นาหรือเป็นเจ้าหญิงเหนือแบบศิลามณี กร๊ากกกก ผมเลยต้องกระซิบ
“ผมต้องพูดราชาศัพท์ไม๊พี่” พูดไม่เป็นอ่ะ ไม่ชอบดูลิเกด้วยซิ ข่าวในพระราชสำนักก็ไม่ค่อยดู ซวยล่ะซิ

พี่ต่ายกับสาวเขียวหัวเราะกันใหญ่เลยครับ สาวเขียวไปตีแขนพี่ต่ายด้วย “พี่ต่ายน่ะทำป๋อมเสียเลย มาเรียกเจ้าหญิงให้พี่โอมเข้าใจผิดน่ะ”
“ก็พี่ติดนี่นา ลืมไปเลย....ก็เรียกน้องป๋อมมาตลอดเลยเป็นสิบๆปีแล้ว”พี่ต่ายหัวเราะดังเลยครับ ทั้งสองคนคุยกันเหมือนผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น ผมเริ่มเสียเซลฟ์อีกครั้ง
พี่ต่ายคงเห็นว่าผมเงียบเสียงไปนานเลยอธิบายให้ผมฟัง “น้องป๋อมแต่ก่อนเค้าอยู่ข้างบ้านพี่เอง เป็นน้องสาวเพื่อนพี่ บ้านนั้นเค้าลูกสาวคนเดียวเลยเป็นเจ้าหญิงของทุกคน พี่เลยเรียกซะติดปาก หึหึ ”
“เหรอ...โล่งอกจัง...ผมพูดราชาศัพท์ไม่เป็นครับน้องป๋อม แหะๆ”อย่างน้อยก็คนธรรมดาเราๆนี่ล่ะว่ะ ค่อยยังชั่วหน่อย
“แล้วคุณป๋อมรู้จักฝ่ายไหนเหรอครับในงานนี้”น้องป๋อมยังไม่ทันตอบแต่พี่ต่ายตอบแทนครับ
“น้องป๋อมช่วยงานบริษัทฟร๊องเป็นล่ามให้ที่ญี่ปุ่น เค้าสนิทกันเลยมางานด้วย ใช่ไม๊จ๊ะเจ้าหญิง”
ผมผงกหัวรับรู้แล้ว แต่ว่าน้องป๋อมนี่สนิทกับพี่ต่ายขนาดไหนเนี่ย ทำไมเวลาคุยกันดูพี่ต่ายสบายๆมากๆ หมั่นไส้พี่ต่ายจริงๆทำท่าทางเอ็นดูสาวเขียวซะเหลือเกิน ผมกลอกตาไปมาแอบมองท่าทีของทั้งสองคน จนผมเริ่มปวดตากลัวว่าจะตาเหล่ไปเสียก่อนที่จะรู้เรื่อง
“พี่โอมเป็นเพื่อนคุณนนนี่เหรอค่ะ เจ้าสาวสวยมากเลย เฮียฟร๊องโชคดีจัง”
“ครับใช่นนนี่น่ารักมาก คุณฟร๊องโชคดีจริงๆ เพื่อนพี่เป็นคนดี” แล้วผมก็นึกได้ว่าผมจะมาถามพี่ต่ายเรื่องไปเที่ยวต่อนี่หว่า
“พี่ต่ายครับผมจะมาถามว่า เพื่อนเค้าชวนไปเกะต่อจะไปไม๊พี่...เบ็ตตี้ก็ไปด้วย”
“โอมอยากไปไม๊ล่ะ ถ้าโอมอยากไป...ก็ไป”หมายความว่าพี่ให้ผมไปคนเดียวเหรอ หุหุ
ผมยังไม่ทันถามต่อพี่ต่ายก็พูดต่อมาเลยครับ “แต่พี่ไปด้วยนะ” นั่นน่ะซิ ถ้าไม่ไปด้วยก็ไม่ใช่พี่ต่ายแล้วมั๊ง
“แล้วอยากไปไม๊ล่ะ?”พี่ต่ายถามผม ผมอยากไปครับยังอยากคุยกับเพื่อนๆต่อ ผมเลยพยักหน้าให้พี่ต่าย
“ครับ...ไปกันนะพี่ต่าย”
“โอเค..งั้นไป”
“เจ้าหญิงไปด้วยไม๊...ไปกับพี่....ไปกับโอม”
พี่ต่ายหันไปถามน้องป๋อม เป็นห่วงกันเหลือเกินนะ ดีที่บอกว่าไปกับโอมด้วยนะ ถ้าบอกไปกับพี่ต่ายคนเดียวกลับไปบ้านจะเช็คบิลให้เข็ด ดีแต่หว่านเสน่ห์ให้สาวๆนะพี่ต่าย
น้องป๋อมทำท่าคิดแต่ก็แป๊ปเดียว “ไม่สะดวกค่ะพี่ต่าย...ป๋อมขอตัวดีกว่า ไว้โอกาสหน้าแล้วกัน แค่วันนี้มาเจอพี่ต่ายก็ดีใจแล้ว ยังไงป๋อมขอเบอร์นะค่ะจะได้ไปบอกพี่ปุ๊นว่ามาเจอพี่ต่าย”
พี่ต่ายก็บอกเบอร์แลกเบอร์โทรแลกนามบัตรกันให้วุ่นวายเลยครับ ต่อหน้าต่อตาผม น้องป๋อมหันมาเห็นผมมองอยู่ก็ส่งยิ้มมาให้ ผมเลยยิ้มตอบกลับไปแต่ไม่รู้จะคุยอะไรน่ะครับ
ผมหันไปมองที่เบ็ตตี้เห็นเพื่อนๆกลุ่มนั้นหันมามองที่ผมทั้งกลุ่มเลยครับ เบ็ตส่งสัญญาณมือกวักมือเรียกผมให้ไปหา ส่วนเปเล่ทำสัญญาณว่าโอเค...มาให้ผม ผมเลยค่อยเบาใจหน่อยคิดว่าทั้งสองคนคงช่วยผมไปบ้างแล้ว
ผมเลยเอามือสะกิดฝ่ามือพี่ต่ายแล้วดึงๆเล็กน้อยเพื่อจะให้ไปคุยกับเพื่อนผม พี่ต่ายมองหน้าผมแล้วพี่ต่ายก็คงรู้เลยไปบอกน้องป๋อมว่า
“งั้นวันนี้พี่ไปก่อนนะครับป๋อม ฝากความคิดถึงให้ปุ๊นด้วยแล้วบอกว่าพี่จะโทรหามันนะ นัดมาเจอกันหน่อยไม่ได้เจอกันนานแล้ว”
ก่อนที่จะแยกกันน้องป๋อมดึงแขนพี่ต่ายไว้แล้วไปกระซิบอะไรที่ข้างหูไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าพี่ต่ายหัวเราะคิกเลยครับ สองคนมามองหน้าผมแล้วพี่ต่ายก็หน้าแดง ผมอยากรู้มากๆเลยว่ามันอะไรกันนี่ ต้องนินทาอะไรผมแน่ๆเลย

แต่ก่อนแยกออกมาผมก็ไม่ลืมที่จะลาน้องป๋อมครับ “ไปนะครับน้องป๋อม เลยไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเลย โทษทีนะครับพอดีเพื่อนๆรอกันอยู่”
“บายจ๊ะเจ้าหญิง”พี่ต่ายพยักหน้าให้น้องป๋อมแล้วก็ส่งยิ้มบอกลา
“ค่ะเจอกันค่ะพี่โอม บายค่ะพี่ต่าย”น้องป๋อมโบกมือหยอยๆลาพี่ต่ายแล้วก็เดินจากไป
ผมพึ่งสังเกตว่าตอนนี้มือผมยังจับอยู่กับมือพี่ต่ายเลยครับ ผมเลยดึงแขนพี่ต่ายให้มาชิดตัวผมแล้วก็ถามสิ่งที่สงสัยทันที
“เมื่อกี้กระซิบอะไรกันพี่ต่ายบอกผมมานะ นินทาอะไรผมรึเปล่า”
พี่ต่ายหัวเราะ”กลับไปบ้านแล้วจะบอกแล้วกัน”
ผมยังไม่ทันโวยอะไรเพิ่มเราก็เดินมาถึงกลุ่มเพื่อนผมพอดีเบ็ตตี้เลยแนะนำพี่ต่ายให้เพื่อนๆผมรู้จักอย่างเป็นทางการ “นี่พี่ต่าย....”เบ็ตเว้นช่องไฟให้ผมแล้วส่งสายตาเป็นสัญญาณว่าให้ผมพูดต่อ
“ที่เป็นแฟนโอมไงล่ะ....”
เปล่าครับ....ไม่ใช่ผมตอบ o7ผมยังคิดไม่เร็ว พูดไม่เร็วขนาดนั้น เจี้ยเล่ซิครับมันตอบแทน ขอบใจนะเมิงกรูเพิ่งรู้ว่ากรูมีล่ามส่วนตัวพูดตามใจกรูคิดอีกต่างหาก เพื่อนๆทุกคนยกมือสวัสดีพี่ต่ายกันหมด ยังไม่มีใครพูดอะไรต่อ
พี่ต่ายยกมือรับไหว้ แล้วก็เริ่มบริหารเสน่ห์ครับ“วันหลังไม่ต้องไหว้ก็ได้ครับ เพื่อนโอมก็เหมือนเพื่อนพี่ คนกันเองทั้งนั้น”
“ค่ะ...ครับ”เพื่อนๆผมเลยหายเกร็งกันไปหน่อย
“พี่ต่ายจะไปกับเราด้วยไม๊ค่ะ จะตามไปคุมโอมไม๊”จิ๊ดเพื่อนสาวแสนเปรี้ยวของผมเริ่มบทสนทนาก่อนใครเลยครับ แล้วก็ตามมาด้วยเบ็ตตี้
“ถ้าไม่ไปคุมโอมเดี๋ยวเบ็ตแย่งคืนไม่รู้นะ อิอิ”
“ผมก็ต้องไปซิครับ ถ้าผมไม่ไปต้องกลับบ้านคนเดียว เดี๋ยวจะคิดถึงโอมจนทนไม่ไหว”พี่ต่ายพูดแล้วก็มองผมตาหวานด้วยครับ ทำเอาผมขนลุก
“ แต่เรื่องน้องเบ็ตตี้จะแย่งโอมไปพี่ไม่กลัวอยู่แล้วครับ โอมเค้ารักพี่คนเดียว หึหึ” ผมฟังแล้วก็อึ้งๆ ทึ่งๆ แต่ยังไม่ทันเสียวนะครับ ยังไม่ถึงจุดนั้น แหะๆ แต่ว่าอายยยยยมากกกกกกก
พี่ต่ายปากหวานเกินไปแล้วครับ ผิดปรกติวิสัยไปหน่อยไม๊พี่ เพื่อนๆผมมันก็โห่ ฮิ้วกันใหญ่เลยครับ ผมเขินจนเลือดสูบฉีดไปทั่วหน้า ร้อนไปหมดทั้งตัว แอร์ไม่เย็นเลยเว้ยย เลยแก้เขินด้วยการไปหยิกมือพี่ต่าย
“เว่อร์แล้วนะพี่นะ น้อยๆหน่อย”
“อู๊ยยยย..โอมเขินใหญ่เลยครับ”พี่ต่ายหันไปหัวเราะกับเพื่อนๆผมอีก
“โอยยย....ไปกันรึยังดึกแล้วไปเถอะเดี๋ยวค่อยไปคุยกันต่อ”ผมต้องรีบตัดบทก่อนที่ผมจะเข้าเนื้อไปมากกว่านี้ เพื่อนๆผมถึงได้ยอมไปกันครับ ก็ไปกันไม่มากถามไปถามมาแค่15คนเอง รวมผมกับพี่ต่ายด้วย เราเลยตกลงไปร้องกันที่ห้องคาราโอเกะของโรงแรมครับเพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้าย
***********************************************
“พี่ต่ายไปตกหลุมโอมจ๋าได้ไงเนี่ย ขนาดผมอยู่กับโอมจ๋ามา4ปี จีบผมมาตลอดผมยังไม่ใจอ่อนเลย”
คนที่ปากกล้าอย่างนี้ก็มีเจี้ยเล่คนเดียวแหล่ะครับพอไปถึงห้องเกะมันไม่สนใจร้องเพลงเลย ลูกเมียมันก็ส่งกลับบ้านหมด ผมได้เจอหน้าแป๊ปเดียวเอง แต่เมียมันก็ใจดีครับปล่อยให้เปเล่อยู่กับพวกเราต่อ
ตอนนี้พี่ต่ายโดนประกบข้างขวาเป็นเบ็ตตี้ข้างซ้ายเป็นเปเล่ครับ ผมเลยต้องขยับมานั่งข้างเล่มัน
“เหรอครับสงสัยผมจะเป็นคนหัวอ่อน โอมเค้าจีบผมอาทิตย์เดียวผมโอเคเลย”
ดูดู๊ดูดูพี่ต่ายพูดครับ ผมว่าต้องโทษเจ้าบ่าวครับงานแต่งงานอะไรไม่รู้เสริฟแต่เหล้า ผมจะหาน้ำเปล่าดื่มยังแทบไม่มี พี่ต่ายคงดื่มไปเยอะแต่พี่ต่ายเป็นคนที่ดื่มได้มากยังไงๆก็หน้าไม่แดง มีแค่ตาเชื่อมผิดปกติ กับพูดมากขึ้นมาอีกหน่อย
“พี่ต่ายผมว่าผมไม่เคยจีบพี่นะ เจี้ยเล่ด้วยกรูจีบเมิงตอนไหน พูดผิดพูดใหม่ได้นะทั้งคู่เลย ไรว้าพูดแบบนี้ผมเสียหายหมด”จะกลายเป็นวิวาทะของสองเราซะก็ไม่รู้ต้องโทษเจี้ยเล่ที่ชงเรื่องมาก่อน พี่ต่ายกำลังละตอบแต่ไม่ทันเปเล่ที่สวนขึ้นมากลางคัน
“ใครจีบใครก่อนก็ช่างเถอะ แต่โอมจ๋านี่ผมหวงนะพี่ต่าย”เจี้ยเล่มันดึงเอาแขนผมไปกอดไว้
“นี่ๆ อย่ามาเกิดศึกชิงโอมกันนะ เปเล่โสดก็ไม่โสดมาหวงอะไรโอมเค้า”เสียงเพื่อนๆผมแซวขึ้นมา แต่ตอนนี้เสียงเพลงโหยหวนก็ดังขึ้นมากลบเสียงพูดคุยของพวกเราครับ
เพลงยังคงสลับไปเป็นระยะๆ บางครั้งก็มีเกิลลี่เบอรี่ ใครทิ้งใครก่อน แต่ผมว่าถ้าใครได้ยินเสียงเพื่อนสาวผมร้อง ผมว่าคงโดนเค้าทิ้งก่อนแน่นอนครับ ผู้หญิงอะไร๊ร้องเพลงของน้องโฟร์น้องมดอย่างกับร้องเพลงคาราบาวช่างเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่ผู้ปกครองควรชี้แนะจริงๆครับ
พอน้องโฟร์กะน้องมดลงไปก็มีพี่ออฟขึ้นมา เสียงเพลงแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจดังขั้นมาให้ผมสะดุ้ง :sad5:อยากจะลุกขึ้นไปให้รางวัลคนขอเพลงด้วยฝ่ามือจริงๆครับ แสบจริงๆนะพวกเมิง
“โอมมาร้องเพลงนี้ไม๊(กรูขอให้เมิงนะเว้ย)”ในวงเล็บนั่นมันกระซิบครับ ดีนะเมิงยังไว้หน้ากรูมั่ง มันคงไม่แน่ใจว่าพี่ต่ายจะโกรธไม๊มากกว่า
ผมไม่ร้องหรอกครับเพลงนี้ ได้แต่ตอบปฎิเสธมันอย่างสุภาพไปว่า
“เจี้ยนี่ อยากตายนะเมิง กรูไม่ร้อง”
พวกมันก็ได้แต่ฮากันไปครับ พี่ต่ายก็ยิ้มๆไม่พูดอะไร ไม่มีใครแสดงท่าทีว่าไม่พอใจผมกับพี่ต่ายเลย ผมรู้สึกดีใจครับสบายใจมากๆด้วย พี่ต่ายเองก็เข้ากันได้ดีกับเพื่อนๆผมทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิงผมมีแต่คนชมพี่ต่ายกันทั้งนั้น นำทีมโดยเบ็ตตี้
“พี่ต่ายนี่ถ้าโอมหมดรักแล้ว บอกพวกเราก่อนนะ ห้ามเอาไปแกรนด์เซลส์ที่ไหนด้วย ต้องไพรเวทเซลส์เท่านั้น”ดูผู้หญิงสมัยนี้ครับ ผมล่ะตามไม่ทัน แต่เค้าไม่กล้าพูดกันต่อหน้าหรอกครับได้แต่กระซิบกระซาบกับผมเป็นการส่วนตัว ผมก็รู้ว่าเค้าแซวเล่นขำๆ เลยทำให้ผมอดภูมิใจในตัวพี่ต่ายไม่ได้ ที่เรทติ้งดีไม่แพ้นักร้องAF
“พี่ต่ายจะร้องเพลงอะไรดีคับ นี่ครับรายชื่อเพลง โอมเมิงจะร้องเพลงอะไรให้ไวนะเมิง คิวยาว”เพื่อนๆผมส่งรายชื่อเพลงมาให้ผมก็ไม่รู้จะร้องเพลงอะไรดี เลยให้พี่ต่ายเลือกก่อน แล้วผมก็หันไปคุยกับเพื่อนๆต่อครับ แล้วก็มาถึงเพลงนี้ครับที่พี่ต่ายร้องให้ผมมั๊ง
ก็ได้แค่มอง แค่ได้มองนะขอพูดตามตรง
ก็ใจฉันคงจะละลายไปตรงนี้
ก็ยังไม่รู้ ฉันเจ้าชู้ หรือว่าเธอดูดี
ก็ใจที่มีให้เธอไปแล้วทั้งใจ
แฟนใครไม่รู้ ยิ่งดูยิ่งน่ารัก
ขอมองเธอสักพัก จะเป็นไรไหม
แฟนใครไม่รู้ ให้มาเดินอยู่คนเดียวได้ไง
ระวังจะมีคนที่เผลอใจ แล้วไปบอก I Love You
อ่ะใครกันนะ ใครกันนะผู้โชคดีคือใคร
ที่กุมหัวใจเธอไว้ อยากจะรู้
ก็ใจของฉันที่ให้ไป มันมากมายพอดู
บอกเธอให้รู้ อยากเป็นเนื้อคู่เธอ
แฟนใครไม่รู้ ยิ่งดูยิ่งน่ารัก
ขอมองเธอสักพัก จะเป็นไรไหม
แฟนใครไม่รู้ ให้มาเดินอยู่คนเดียวได้ไง
ระวังจะมีคนที่เผลอใจ แล้วไปบอก I Love You
เธอโดนใจขนาดนี้ จะยังไม่มีแฟนไว้คอยเอาใจ
ยิ่งมองยิ่งน่ารัก ถ้างั้นรักเลยจะได้ไหม
แฟนใครไม่รู้ ยิ่งดูยิ่งน่ารัก
ขอมองเธอสักพัก จะเป็นไรไหม
แฟนใครไม่รู้ ให้มาเดินอยู่คนเดียวได้ไง
ระวังจะมีคนที่เผลอใจ แล้วไปบอก I Love You
แฟนใครไม่รู้ ยิ่งดูยิ่งน่ารัก
ขอมองเธอสักพัก จะเป็นไรไหม
แฟนใครไม่รู้ ให้มาเดินอยู่คนเดียวได้ไง
สักวันฉันก็คงจะเผลอตัว
ก็กลัวว่าสักวัน ตัวเองจะเผลอใจ
เผลอพูดออกไป ว่า I Love you
http://media.imeem.com/m/JcMD33MuHw/aus=false/พี่ต่ายเลือกเพลงเข้ากับวัยและบุคคลิกมากครับเพลงของน้องบีม

มันเพลงวัยรุ่นชัดๆพี่ต่ายไปรู้จักได้ยังไงกัน แล้วดูซิร้องเพลงเสียงหลงไปหลงมา เข้าเพลงทันมั่งไม่ทันมั่ง ตลกน่าดูผมต้องกลั้นหัวเราะแทบแย่ ทำไปได้นะแฟนผม แต่ก็ให้คะแนนที่ความพยายาม แล้วหน้าตาท่าทางครับ มีโยกตัวให้เข้าจังหวะด้วยน่ารักจริงๆ ตลอดเวลาที่ร้องเพลงพี่ต่ายหันมาส่งยิ้มให้ผมเป็นระยะๆ

ตอนที่พี่ต่ายร้องเพลงผมเขินจนแทบจะอยากเดินออกไปจากห้อง แต่ไอ้พวกเพื่อนผมซิครับมันจับตัวผมไว้แน่น “ไม่ต้องไปไหนเลยโอม ฟังเพลงที่พี่ต่ายร้องให้โอมก่อน” พี่ต่ายเริ่มเดินมาหาผม แล้วยื่นมือมาให้ผม ผมละงงจริงๆสิ่งที่พี่ต่ายแสดงออกวันนี้ทำเอาผมหนาวหลายครั้งเลย
“ไปเลยโอมไปๆๆๆ”พวกมันทั้งดันทั้งผลักให้ผมลุกขึ้นตามพี่ต่ายที่พยายามดึงมือผมขึ้นครับ หลายมือมากจนผมไม่รู้มือใครเป็นมือใคร ถ้าพวกมันเอาเท้ายันให้ผมออกไปได้ผมว่ามันคงยันไปแล้วครับ ในที่สุดผมเลยต้องไปยืนให้พี่ต่ายจับมือมองหน้ากัน อายม้วนไปม้วนมา เป็นรีวิวประกอบเพลงไป
*********************************************
ไปร้องเกะกันมั่งดีไม๊
