ผู้ชายจากบ้านนอก (inspired by movie) ตอนที่ 2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ชายจากบ้านนอก (inspired by movie) ตอนที่ 2  (อ่าน 2900 ครั้ง)

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2017 23:22:12 โดย น้ำพริกแมงดา »

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ได้แรงบันดาลใจมาจาก อาเจี๋ย กับ ติงเป่า จากหนังฮ่องกงเรื่อง Sky on fire ค่ะ

                                                                                     


                                                                                      1




  อาเจี๋ยดูดอัดนิโคตินจากบุหรี่เข้าปอดถี่รัวกว่าปกติด้วยความเครียดความกังวลใจกำลังครอบงำจิตใจเขาอยู่ ตั้งแต่ทราบจากเจนที่เปิดข่าวดูในเฟซบุ๊คว่ามีการก่อวินาศกรรมตึกสกายวันในฮ่องกง ที่เขาเคยพาเจนไปรักษาโรคมะเร็งที่นั่นก่อนจะเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายกับชีวิตสองพี่น้องจากบ้านนอกอย่างพวกเขา บรรยากาศในบ้านชั้นเดียวขนาดเล็กในสวนผักตอนนี้มีแต่ความคับเครียดจากหัวหน้าครอบครัวที่ไม่หยุดพ่นควันบุหรี่สีเทาออกจากปาก โครงหน้าป้านใหญ่กัดฟันคนโหนกแก้มโปดปูนขึ้นสันเด่นชัด ชายผิวสีคล้ำแดดคิดว่าเรื่องทุกอย่างที่ฮ่องกงจะไม่มาทำอะไรให้ชีวิตของพวกเขาพี่น้องต้องยุ่งยากอีกแล้ว ในเมื่อการรักษาของเจนไม่ได้เป็นไปอย่างราบอื่น เสี่ยถังที่เป็นเจ้าของคลินิกเกิดแตกหักกับแพทย์หญิงเกาหยูผู้เป็นภรรยาในเรื่องการใช้Super stemcellกับผู้ป่วยอย่างเจนจนกลายเป็นการไล่ล่าเอาชีวิต อาเจี๋ยหนีการตามฆ่าจากพวกเสี่ยถังเจ้าของคลินิกจอมละโมบที่ต้องการจะปิดปากเขาเรื่องSuper stemcell ในตอนนั้น เขาหนีรอดกลับมาสำเร็จก่อนหน้าเจนผู้เป็นน้องสาวที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านเมื่อไม่กี่วันก่อนเกิดเรื่องนี้ เจนกำลังคุยโทรศัพท์กับพานจื่อหวัน ผู้มอบSuper stemcell ให้เธอนำมารักษาตัวที่นี่ สีหน้าของเธอดีขึ้นกว่าตอนรู้เรื่องครั้งแรกมาก เพราะจื่อหวันและทุกคนที่เคยดูแลเธอปลอดภัย
  “เอามานี่” ร่างสูงใหญ่หมดความอดทนเมื่อไม่เห็นเจนถามในเรื่องที่เขาอยากรู้ ขายาวเดินสาวเข้าไปดึงโทรศัพท์มือถือจากเจนมาคุยเอง
 “ฮัลโหล แล้วติงเป่าล่ะ?”
ทันทีที่จื่อหวันได้ยินคำถามนั้น ก็นิ่งเงียบไปเหมือนพยายามจะเรียบเรียงคำพูดเพื่อบอกข่าวร้าย อาเจี๋ยกระชากเสียงถามไปอีกครั้งด้วยความร้อนใจ
“เงียบทำไมเล่า!? บอกมาซี่ว่าติงเป่าปลอดภัย!!!”
“พี่ใจเย็นๆสิ” เจนพยายามห้ามปรามพี่ชายต่างสายเลือดของตัวเอง เธอรู้ดีว่าพี่ชายของเธอใจร้อนและบ้าระห่ำแค่ไหน การไปรักษาตัวที่ฮ่องกงของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายจากแผ่นดินใหญ่อย่างเธอ ก็คือหนึ่งในความคิดที่บ้าระห่ำของอาเจี๋ย ที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตของเธอเอาไว้โดยไม่สนเรื่องใดๆ
“จะให้เย็นได้ยังไงเล่า!! ติงเป่าหายไปทั้งคนนะ!!” อาเจี๋ยหันมาตะคอกน้องสาวตัวเล็กที่หน้าเสียไปเมื่อรู้เรื่องการหายตัวไปของติงเป่า หนึ่งในผู้ที่ช่วยชีวิตเธอจากเรื่องวุ่นวายที่คลีนิกนั้น ตอนแรกเธอคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดีที่ขัดขวางการรักษาของเธอ แต่ที่จริงติงเป่าเป็นคนจิตใจอ่อนโยนและมีความเมตตามาก เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือเธอกับพี่ชาย เพียงแต่เขาทำงานอยู่กับคนเลวอย่างเสี่ยถังเท่านั้นเอง
“นายใจเย็นๆ นะ พวกชั้นก็ร้อนใจไม่แพ้นายหรอก”
“แล้วทำไมพวกนายไม่ไปแจ้งความเล่า!?!!!”
“ไม่ได้หรอก”
“ทำไม...ทำไมไม่ได้?!” แต่จู่ๆอาเจี๋ยนิ่งไปเหมือนคลายความโกรธขึ้งลง เขาค่อยๆคิดทบทวนจากการที่รู้จัก และติงเป่ามาสักพัก
“หรือว่า...”
“ใช่ อย่างนั้นล่ะ นายเข้าใจแล้วนะว่าทำไมเราไปแจ้งความตามหาติงเป่าไม่ได้”
“อืม เขาใจแล้ว” อาเจี๋ยสงบลงเหมือนเป็นคนละคนกับไม่กี่นาทีก่อนหน้า เขาถอนใจและสบทบปลายสายไป “พวกนายปลอดภัยก็ดีแล้ว
  “เราเชื่อว่าถ้าติงเป่ายังมีชีวิตอยู่ เค้าจะต้องคิดต่อกลับมาแน่ๆ เพราะตอนที่คุยกันครั้งสุดท้ายก่อนวางสาย ติงเป่าไม่ได้ลาพวกเรา เค้าพูดแค่ว่า ไว้เจอกัน”
“เหอะ! ไอ้หมอนี้มันตัวแสบ” อาเจี๋ยแค่นขำเมื่อนึกถึงการกระทำของอีกฝ่าย ส่วนเจนที่นั่งอยู่ข้างๆ มองอาการของพี่ชายที่เป็นเดือนเป็นร้อนในเรื่องนี้แล้วนึกสงสัย ตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยเห็นพี่ชายตัวเองกระวนกระวายในเรื่องของใครที่ไม่ใช่เธอมากขนาดนี้เลย อาเจี๋ยดูเป็นห่วงติงเป่ามาก อาจจะมากพอๆกับเป็นห่วงเธอด้วยซ้ำไป
“อ่ะ” เขาส่งโทรศัพท์ที่วางไปแล้วคืนให้เจน ก่อนจะดับบุหรี่ลงกับจานรองแถวนั้น
“พี่เป็นห่วงติงเป่ามากเลยนะ”
เจนออกความคิดเห็นด้วยเสียงพูดเบา ๆ ตามประสาผู้ป่วยที่ให้คีโม ชายหนุ่มเหลือบมองน้องสาวผมสั้นของตัวเอง เขาหัวเราะน้อย ๆ เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังรู้สึกยังไง
“ถ้าจื่อหวันหายไปแกจะเป็นห่วงมั้ยล่ะ”
“อื้อ”
เจนรับคำพี่ชายที่พยายามสงบสติอารมณ์แค่นั้น ถ้าอาเจี๋ยเปรียบเทียบแบบนี้ งั้นแสดงว่า อาเจี๋ยก็รู้สึกกับติงเป่า ในแบบที่ที่เธอกับจื่นหวันรู้สึกต่อกันอย่างนั้นเหรอ เด็กสาวคิดแล้วก็อึ้ง ในที่สุดอาเจี๋ยที่เธอรักก็ได้พบคนที่เขาถูกใจแล้วหรือนี่
เธอยังจำได้ดีว่าเธอเคยรักอาเจี๋ยมากกว่าพี่ชาย เวลาเปลี่ยนไป เธอก็พบว่ากับอาเจี๋ยที่รักเธอยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองนั้น เธอเป็นได้แค่น้องสาวจริง ๆ ความรักของอาเจี๋ยที่มอบให้มันบริสุทธิ์เกินกว่าจะเป็นแค่ความรักฉันท์หนุ่มสาวที่เจือด้วยความเสน่หาและความต้องการครอบครอง
“เค้าต้องไม่เป็นอะไรนะพี่”
“อื้อ”
เจนให้กำลังใจพี่ชายได้แค่นั้นก่อนจะขอตัวไปนอนที่ห้องตัวเอง อาเจี๋ยมองน้องสาวแล้วถอดถอนใจกับความเป็นไปได้ที่จะเป็นไปตามสิ่งที่เจนพูด เขาดีใจที่เจนเจอคนที่เธอรักและรักเธอพอกับเขาอย่างพานจื่อหวัน ไอ้หนุ่มนักวิจัยหน้าจืดคนนั้นที่มอบ Super stemcell ให้แก่เจน แม้หมอเกาหยูที่เก่งที่สุดจะไม่อยู่แล้ว แต่จื่อหวันรับปากว่า เขาจะหาหมอที่เก่งไม่น้อยกว่ากันมารักษาเจนต่อจากหมอเกาให้ได้ แค่นี้เขาก็สบายใจแล้วว่าถ้าหากว่าเขาเป็นอะไรไป เจนจะมีคนคอยดูแล ที่อาจจะดูแลดีกว่าเขาที่เป็นแค่คนขับรถบรรทุกในเมืองเล็กๆนี้ก็ได้
 ใช่ เขาเป็นแค่คนขับรถบรรทุกส่งของที่บ้านนอก การได้พบกับบอดี้การ์ดมาดคุณชายอย่างติงเป่าถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลยสำหรับเขา อาเจี๋ยมองโทรศัพท์มือถือแบบกดของตัวเองอย่างสิ้นหวัง เนื่องจากมันเป็นเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมาหลังจากกลับบ้านนอก เครื่องเก่าที่มีเบอร์ติงเป่านั้นเขาตัดสินใจเขวี้ยงทิ้งตอนที่ต่อสู้กับพวกไอ้หมาป่าลูกน้องเสี่ยถังตอนมันมาตักทำร้ายเขาที่โรงแรม และหลังจากเขาเสี่ยงชีวิตกระโดดข้ามตึกหนีพวกมันมา พอเขาฝ่าฝูงชนวิ่งหนีลงมาจากตึกข้างๆ ก็เจอติงเป่ากวักมือเรียกให้เขาขึ้นรถ นั่นอาจจะเป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มมองคนที่จื่อหวันเรียกว่าสุนัขรับใช้ของถังด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป หลังจากที่เจอกันครั้งแรก ติงเป่าไล่ล่าเขาที่ฉวยโอกาสช่วงชุลมุนของทีมนักวิจัยที่กำลังทะเลาะกับทางหน่วยรักษาความปลอดภัยของสกายวันที่มีติงเป่าเป็นหัวหน้า อาเจี๋ยที่กำลังผิดหวังกับการปฎิเสธจากศาสตราจารย์หลี่เลยโขมยรถบรรถทุกSuper stemcell ออกไปเสียเลย ครั้งที่สองทันทีที่ติงเป่าเห็นหน้าเขา ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูยโสโอหังอยู่ตลอดเวลาของติงเป่าก็เก็บอาการไม่พอใจจากการทำให้เสียงานไว้ไม่อยู่ เขาจึงถูกติงเป่าซัดเข้าที่ท้องก่อนพาเจนขึ้นลิฟท์ไปพบหมอ แต่ครั้งที่สามนั้น เขาต้องนั่งMareratti สุดหรูของติงเป่าเพื่อบอกทางไปบ้านที่จอดรถบรรทุกของจื่อหวัน ตอนนั้นเขาจำได้ว่า มันน่าอึดอัดสิ้นดีที่ต้องอยู่ในรถแคบๆกับไอ้หล่อขี้เก็กคนนี้ เขาไม่ชอบทุกอย่างในตัวติงเป่า ตั้งแต่กลิ่นแว็กซ์ที่ใช้เซทผม เขาคิดว่าต่อให้ติงเป่าวิ่งไล่ล่าเร็วแค่ไหนผมก็ไม่กระดิกเสียทรงแน่ ใบหน้ารูปไข่ที่ดูดีเกินจะเชื่อว่าเป็นหัวหน้าบอดี้การ์ด ดวงตากลมโตที่ชอบมองคนอื่นอย่างเย็นชา และมองเขาอย่างเบื่อหน่าย ติงเป่ามีปากที่เล็กและบางมากจนเหมือนแทบไม่มีริมฝีปาก ไหนจะเสื้อผ้าที่ต้องเนี้ยบตลอดเวลาในชุดสูทที่มีกลิ่นน้ำหอมฝรั่งที่เขาได้กลิ่นทีไรก็ชวนปวดหัวอีกเล่า แต่พอหลังจากขึ้นรถไปกับติงเป่าที่วนมารับแล้ว ทุกอย่างที่ว่ามาทั้งหมดมันก็ได้อยู่ในความสนใจของเขาอีกต่อไป
“นายมาทำอะไรแถวนี้”
“จื่อหวันบอกว่าน่านายน่าจะมีเรื่อง เลยให้ชั้นกลับมาดู”
“ขอบใจนะ”
วันนั้นติงเป่าให้เขาไปซ่อนตัวที่บ้าน บ้านของติงเป่าภายนอกนั้นเหมือนห้องแถวทั่วไปในฮ่องกง แต่พอเข้าไปก็พบว่ามันได้รับการตกแต่งอย่างมีรสนิยมไม่ต่างจากเจ้าของ บ้านของติงเป่ามีกลิ่นหอมอบอวลจากเทียนหอมราคาแพงที่จุดเพื่อสร้างความผ่อนคลาย ติงเป่าชวนเขาดื่มเหล้าฝรั่ง รสชาติของมันไม่คุ้นลิ้นคนบ้านนอกอย่างเขา แต่ก็จัดว่าดี
“โอ้..ชั้นโดนไล่ออกแน่งานนี้” ติงเป่าพับแขนเสื้อขึ้นพลางบ่นกับชีวิตการงานที่กำลังจะพินพังของตัวเองแล้วนั่งลง เขารินของเหลวสีอำพันใส่แก้วเตี้ยทรงเหลี่ยมแล้วจิบ อาเจี๋ยเองก็กังวลใจเรื่องของเจนไม่แพ้กัน
“น้องชั้นเป็นยังไงบ้าง”
“เชื่อมือเกาหยูเถอะน่า”
“ชั้นน่ะ...เป็นเด็กกำพร้า พ่อของเจนเก็บชั้นมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้ว่าเจี๋ย” เขาถอนใจเมื่อนึกถึงพ่อผู้จากไปแล้วเล่าต่อ “หลังจากพ่อตาย เจนก็คือทุกสิ่งที่อย่างของชั้น”
ติงเป่ายกแก้วขึ้นจิบ ก่อนจะเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง
“เมียชั้น..เธอก็ตายเพราะมะเร็ง ชั้นเข้าใจนายดี Super stemcell เท่านั้นที่จะช่วยได้” ติงเป่านั่งลงและพูดถึงรูปถ่ายมากมายของเขากับหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งในทุกช่วงชีวิตที่ใส่กรอบติดข้างฝา อาเจี๋ยมองตามติ่งเป่าที่กำลังเปิดเผยอีกด้านให้เขารู้จัก แววตาของเขาไม่มีแววตายิ่งยโสไว้ตัวที่เป็นภาพจำแม้แต่น้อย มีเพียงผู้ชายคนนึงที่กำลังโศกเศร้ากับการสูญเสีย
“มองอะไร”
พอติงเป่ารู้ตัว ไอ้ขี้เก็กคนเดิมก็กลับมา
“เปล่า” อาเจี๋ยตอบแค่นั้น “วันนี้ขอบใจนายมากนะ”
“อืม นายพูดแบบนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว”
“ทำไมล่ะ “ชีวิตนี้เปราะบางนัก” ไม่ใช่เหรอ ชั้นก็พูดตามที่รู้สึกไง” อาเจี๋ยหมายถึงประโยคที่เขียนด้วยพู่กันที่ใส่กรอบติดไว้บนพนังด้านหลังของเขา “พรุ่งนี้ชั้นอาจจะไม่ได้พูดขอบคุณนายแล้วก็ได้”
“เออ ก็จริง” ติงเป่าเห็นด้วยความที่อาเจี๋ยให้เหตุผลแล้วนึกขึ้นได้ “ว่าแต่นายทำให้ไอ้หมาป่าไปห้อยอยู่ข้างตึกได้ยังไง”
“ก็แค่โดดข้ามตึกแค่นั้น”
“หะ หมายความว่า ตอนที่ชั้นเจอนายถึงหลังจากนายกระโดดข้ามตึกหนีไอ้หมาป่ามางั้นเหรอ!?”
“อื้อ เข้าใจถูกแล้ว มันทำแบบชั้นไม่ได้ เลยพลัดตกไปเกาะขาแอร์ห้อยอย่างนั้น”
ติงเป่าฟังแล้วก็ได้แต่อึ้งกับไอ้หนุ่มตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ในบ้านกับเขา เขารู้จักไอ้หมาป่าที่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของถังดีว่ามันร้ายกาจสมชื่อฉายาแค่ไหน แต่ไอ้หนุ่มบ้านนอกคนนี้ทำให้หมาป่าผู้ดุร้ายกลายเป็นลูกแมวจรจัดที่ห้อยต่องแต่งใกล้ตกตึกลงมาได้
“นายเป็นใครกันแน่หะ?”
“ชั้นก็..ไอ้บ้านนอก คนขับรถบรรทุกไง”
“ไม่” ติงเป่าฟังแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่ออยู่ดี เขาไม่รู้จะพูดยังไงกับความดีเดือดของอาเจี๋ยนอกจากบอกว่า
 “นายนี่มันหมาบ้าชัดๆ”
“อื้อ ชั้นมันหมาบ้า ไอ้ขี้เก็ก!” อาเจี๋ยด่ากลับอย่างไม่ยอมตามประสา แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรติงเป่า คราวนี้เขามีรอยยิ้มออกมาให้ติงเป่าเห็นเสียด้วย
“นายก็ยิ้มเป็นนี่”
อาเจี๋ยรู้สึกเหนื่อยที่จะต่อปากต่อคำกับไอ้หล่อนี้เสียแล้วเลยตัดบท
“เลิกกวนชั้นซะที ห้องน้ำอยู่ไหน”
“อยู่ชั้นสอง เดี๋ยวนายนอนห้องนอนแขกนะ เดี๋ยวชั้นพาไป”
“อืม”
ร่างสูงใหญ่เทอะทะเดินตามร่างสูงโปร่งไปอย่างว่าง่าย ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเดินตามหลังติงเป่า แต่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มมองสังเกตไหล่กว้างที่ค่อยๆเล็กลงมาที่ช่วงเอวเป็นรูปสามเหลี่ยมของติงเป่า แขนแข็งแรงที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่ข้อมือ เขาอยากจะละสายตาจากสะโพกกลมกลึงที่งอนเด่นออกมาจากกางเกงแสลกอย่างดี รูปร่างของติงเป่าก็เหมือนผู้ชายสำอางในเมืองทั่วไป ที่บ้าปั๊มกล้ามจากฟิตเนสและกินอาหารเสริม ไม่ได้เป็นผู้ใช้แรงงานอย่างเขาและคนในชนบทที่แผ่นดินใหญ่อีกกว่าล้านคน
แม้จะนึกค่อนขอดคนตรงหน้าอย่างนั้น แต่เขาก็อดมองตามหลังร่างแกร่งในชุดทำงานหรูนี้ไม่ได้อยู่ดี





โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ


ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
คิดถึงน้ำพริกแมงดามากกกค่ะ มาเปิดเรื่องใหม่แล้ว เย้~ ติงเป่าหายไปไหนน๊า อาเจี๋ยเป็นห่วงแย่แล้ว ฟาดงวงฟาดงาใหญ่เลยค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ มาบ่อยๆเน่อ :กอด1:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
หายไปแบบนี้ พี่ใหญ่ก็ร้อนรนสิน้า
รออ่านตอนต่อไปนะค้าบ

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ตอนที่สองมาแล้ว ขอบคุณมากๆๆๆ นะคะ

   2
 ฝูงเป็ดสีขาววิ่งไล่อาหารเม็ดที่อาเจี๋ยสาดลงพื้น เสียงร้องของเป็ดในเล้าที่กำลังตีกันแย้งอาหารไม่อาจทำให้ร่างใหญ่ที่ตักอาหารอยู่มีสติจากอาการเหม่อลอยได้ อากาศยามเช้าในชนบทช่างสดชื่นต่างกับอากาศในเมืองที่เขาจากมา พี่ใหญ่ของบ้านคิดว่าเขาน่าจะมีความสุขที่ได้กลับบ้านมาอยู่กับน้องสาวคนเล็กผู้รอดชีวิตจากโรคร้ายและการถูกไล่ล่า ทว่าเขารู้สึกว่าตัวเองอยู่กับความว่างเปล่าแม้จะกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายตามที่ต้องการแล้วก็ตาม
“พี่ เป็ดมันตีกันพี่ไม่คิดจะไล่เหรอ”
เจนมายืนข้างๆเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่พอเขาได้สติก็เข้าไปไล่เป็ดที่กำลังตีกันในเล้า ก่อนจะออกมาอย่างหงุดหงิด นับเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ไม่สบอารมณ์นักสำหรับอาเจี๋ย
“พี่เป็นอะไรไป?” เจนถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วง แต่เขาก็ไม่ได้ให้คำตอบ
“เรื่องติงเป่าเหรอ?”
เพียงแค่อาเจี๋ยได้ยินชื่อนั้นก็ทำให้เขาแทบคลั่ง จากการติดตามข่าวการถล่มของตึกสกายวันที่ฟังพินาศลงมา หมดสิ้นความยิ่งใหญ่ในฐานะตึกระฟ้าแล้ว เขาก็ได้ให้คำตอบกับตัวเองว่า ผู้ที่ออกมาไม่ทันก่อนมันจะถล่ม..ไม่น่าจะมีชีวิตรอด
แต่คนอย่างติงเป่าจะเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นจริงๆเหรอ ตั้งแต่เมื่อคืนเขาคิดวกวนอยู่แค่นี้
“พี่ ชั้นขอถามพี่ได้มั้ย?” เจนกล้าๆกลัว ที่จะเอ่ยปากถามอะไรบางอย่างกับพี่ชายใจร้อนของตัวเอง
“อะไรล่ะ ว่ามาสิ?”
“พี่ชอบติงเป่างั้นเหรอ?”
เพียงแค่ได้ยินคำถามตรงๆแบบนั้น ก็ทำให้อาเจี๋ยเดินเตะถึงน้ำที่วางใกล้ๆไปจนปลิว ก้าวยาวที่รีบเร่งเหมือนอยากจะหนีให้พ้นจากจากความรู้สึกของตัวเองที่น้องสาวของเขาสัมผัสได้ เขาไม่อยากได้ยินชื่อนั้น ไม่อยากคิดถึงไอ้ขี้เก็กคนนั้นอีกแล้ว เขารีบคร่อมตัวถังสตาร์ทเครื่องมอเตอร์ไซค์ตัวเองเพื่อออกไปทำงาน เสียงเครื่องยนต์ไม่ได้ดังพอจะได้ยินเสียงกร้าวคำรามด่า
“โธ่เว้ย!ไอ้โง่ ทำไมนายต้องทำอะไรขนาดนี้ด้วยวะ!!”
ตลอดทั้งวันนั้นเขาขับพยายามควบคุมสติในการขับรถสิบล้อคู่ใจไปส่งของตามที่ได้รับมอบหมายจากเจ้านาย วันนี้เขาไปส่งที่เมืองอื่นเลยถึงบ้านในตอนสามทุ่ม อันที่จริงเขาไม่อยากทิ้งเจนผู้ป่วยกระเสาะกระแสะไปไหนไกล แต่ตอนนี้น้องสาวของเขาอาการดีขึ้นจนสามารถกลับไปเล่นงิ้วที่หน้าศาลเจ้าในเมืองได้ เลยวางใจที่จะปล่อยให้เธออยู่คนเดียว ทันทีที่เขาเห็นหน้าเจน เขาก็พรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เห็นว่าน้องตัวเองยังไม่เป็นลมหมดแรงหรืออาเจียนเพราะแพ้เคมีที่ให้ไปโดยอยู่ตามลำพัง
“พี่กินอะไรมารึยัง”
“ยัง”
“งั้นชั้นไปจัดโต๊ะให้นะ”
“อืม”
เจนละออกไปสักพักแล้วมาพร้อมกับข้าวสวยในถ้วยใหญ่และกับข้าวง่ายๆสองอย่าง อาเจี๋ยลงมือกินโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เพราะสะสมความหิวโหยมาหลายชั่วโมงทำให้ผู้ชายตัวโตอย่างเขากินข้าวถ้วยใหญ่หมดอย่างรวดเร็ว เขาเห็นเจนก้มหน้าแชทในโทรศัพท์อยู่เลยลองถามดู แม้จะพยายามไม่สนใจเรื่องของติงเป่าที่ไม่รู้ว่าเป็นตายยังไงแล้วก็ตาม
“วันนี้ได้คุยกับจื่อหวันบ้างมั้ย”
“อื้อ คุยอยู่”
“ว่าไงมั่ง”
“ถ้าจะถามถึงติงเป่าล่ะก็..” เจนเงียบไปและส่ายหน้า
อาเจี๋ยทราบแค่นั้นก็ตบโต๊ะ ร่างใหญ่ผุดลุกด้วยความหงุดหงิด เขาไม่เข้าใจตัวเองนักทำไมต้องโกรธขึ้งกับการกระทำของติงเป่าในครั้งนี้ด้วย
“พี่ เราต้องคุยกันนะ” คราวนี้เจนตัดสินใจลุกตามพี่ชายของตัวเองไป เธอไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้
“พี่ไม่มีอะไรจะคุย”
“พี่กับติงเป่ามีเรื่องอะไรกัน ทำไมพี่ต้องรับไม่ได้ถ้าติงเป่าตายไปแล้ว”
“ถ้าเป็นจื่อหวันวางระเบิดตึกนั่นแล้วตายอยู่ในตึกแกจะคิดว่ามันโง่มั้ยล่ะ!!!”
อาเจี๋ยตอบน้องสาวแบบเดิม เจนได้ยินคำตอบนั้นก็แทบช็อก เธอไม่คิดว่าติงเป่าจะบ้าระห่ำกว่าพี่ชายเธอหลายเท่าอย่างนี้ เด็กสาวพูดอะไรไม่ออก เธอรู้สึกเสียใจและเห็นใจพี่ชายมาก
“พี่...”
ติงเป่าขบกราบจนเป็นสัน เจนเข้าไปกอดแขนพี่ชายหวังจะให้เย็นลง
“อย่างน้อยพี่ก็ยังมีชั้นนะ”
คำพูดของเจนเหมือนเป็นเสียงสวรรค์ของนางฟ้าสำหรับอาเจี๋ย เขาโอบกอดน้องสาวตัวเองไว้ ใช่แล้ว เขาควรจะดีใจและมีความสุขในชีวิตแบบเดิมๆที่จากมา โดยเลิกขึ้นถึงเรื่องของติงเป่าในคืนนั้นเสียที
คืนนั้นเป็นครั้งที่สองที่เขาไปซ่อนตัวที่บ้านของติงเป่า คราวแรกเขาขอตัวไม่อยากจะเข้าไป เห็นเจนซ่อนตัวอย่างปลอดภัยในบ้านติงเป่าโดยมีจื่อหวันคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แต่พอเขาจะเดินจากไปติงเป่าก็ออกมาทิ้งขยะพอดี
“อ่าว!นาย..” ติงเป่าตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ประหลาดใจที่อาเจี๋ยจะมาบ้านเขาเพราะว่าเจนอยู่ที่นี่
“เข้ามาก่อนมั้ย”
“ไม่ล่ะ ชั้นเห็นน้องชั้นแล้ว”
“แต่น้องนายอยากเจอนายนะ”
“ไม่ล่ะ” ร่างใหญ่ส่ายหน้าแล้วพยายามเดินจากไป
ตอนนี้อาเจี๋ยมีสถานะผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าเสี่ยถัง จากเรื่องที่สกายวันเมื่อกลางวัน เขากับเกาหยูพาเจนหนีการตามล่าจากหมาป่า ส่วนอาเจี๋ยนั้นชิงตัวเสี่ยถังขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึก ก่อนจะจี้เครื่องบินส่วนตัวของเสี่ยถังเพื่อหนีไป เขามองดูขาขวาของอาเจี๋ยที่ถูกยิงก่อนจะจี้ตัวเสี่ยถังหนีไปอีกทางเพื่อกระจายกำลังคนของถังไม่ให้ตามเขากับเกาหยูทั้งหมด ตอนนี้แม้อาเจี๋ยจะปฐมพยาบาลให้ตัวเองแล้ว แต่ก็ยังเดินไม่ปกติอยู่
“นี่ เข้ามาก่อนเถอะน่า ขานายก็ไม่ดี นายจะไปไหนอีก”
“เรื่องของชั้น”
ติงเป่ากรอกตาให้กับน้ำเสียงไร้ไมตรีของชายจากแผ่นดินใหญ่ แต่เขาเห็นอาการอาเจี๋ยแล้วก็เป็นกังวลแทนไปเสียไม่ได้ ไอ้หมาป่ามีคนรู้จักมากมาย มันอาจจะมีกลับมาเก็บอาเจี๋ยที่บาดเจ็บในคืนนี้ก็ย่อมได้
“นายไม่เป็นห่วงน้องนายรึไง”
“ห่วง แต่ชั้นมีหมายจับอยู่ จะให้นายเดือดร้อนรึไง”
“ฟังนะ ถ้านายไปอยู่คนเดียวในสภาพนี้ ไอ้พวกนั้นมันอาจจะกลับมาจัดการนายก็ได้”
อาเจี๋ยเริ่มฟังแล้วคิดตาม
“ถ้านายเป็นอะไรไป น้องนายจะอยู่ได้เหรอหะ”
อาเจี๋ยถอนใจที่ได้ยินอย่างนั้น
“เค้าก็มีจื่อหวันแล้วไง”
“นายพูดเหมือนนายไม่รู้จักน้องตัวเอง นายคิดว่าจื่อหวันจะเป็นตัวแทนนายได้งั้นเหรอ? นายรู้มั้ย วันนี้น้องนายถามถึงแต่นายจนชั้นกับจื่อหวันชักจะรำคาญแล้วนะ”
“อย่าพูดแบบนั้นกับน้องชั้นนะ!”
“ก็นั่นล่ะ อย่าออกไปเสี่ยงเลย เข้ามานี่เถอะ ถ้านายไม่อยากให้น้องนายเห็นหน้า ป่านนี้น้องนายคงหลับแล้ว”
ติงเป่าเกลี่ยกล่อมด้วยน้ำเสียงที่เบาลง ด้วยหวังว่าคนหัวดื้อจะใจอ่อนลงบ้าง
“อืม เอางั้นก็ได้”
อาเจี๋ยเดินตามติงเป่าที่ถอนใจอย่างโล่งอกเข้าบ้าน และค่อยๆย่องเดินผ่านห้องที่เจนกับจื่อหวันนอน
“คืนนี้นายนอนห้องเดียวกับชั้นนะ”
“อื้อ” อาเจี๋ยพยักหน้ารับคำ ก่อนที่ติงเป่าจะเข้าไปเปิดห้อง
“อยู่นี่ก่อนนะ”
“ทำไม”
“เข้าปิดม่านไง เผื่อไอ้พวกนั้นมาซุ่มอยู่”
“อ่อ”
อาเจี๋ยมองตามติงเป่าที่ปิดม่านอย่างรีบร้อนก่อนจะเปิดไฟ แล้วตามเข้าไป ไอ้หล่อนั่นยื่นผ้าเช็ดตัวและชุดนอนให้เขา
“อ่ะ ของนาย”
“ขอบใจ”
เขารับมาแล้วเข้าไปอาบน้ำ ก็คงเป็นอย่างที่ติงเป่าบอก คืนนี้เขาน่าจะนอนหลับได้ดีกว่าทุกคืนตั้งแต่มาฮ่องกง อย่างน้อยก็ปลอดภัยที่ไม่ได้อยู่ลำพังในตอนเจ็บขาแบบนี้ พอเขาเปิดมาก็พบว่าติงเป่าปิดไฟแล้วนอนไปก่อนแล้ว เขานั่งลงบนเตียงหกฟุต ที่ว่างลงครึ่งนึงเพื่อแบ่งให้เขา
 อาเจี๋ยมองร่างโปร่งของติงเป่าที่นอนหันหลังให้ คิดแล้วก็น่าเห็นใจที่คนในวัยเดียวกับเขานี้ต้องขาดคนนอนเคียงข้าง เตียงนี้มันคงจะกว้างไปหรือเปล่าในความรู้สึกของติงเป่า แต่นึกๆแล้ว มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ คนในเมืองใหญ่ที่ผ่านการปรุงโฉมให้สวยงามมาแล้วมันเป็นไปได้ง่ายมากกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน ที่จะนอนกับใครก็ได้
“แย่หน่อยนะ ที่คืนนี้เป็นไอ้บ้านนอกอย่างชั้น”
อาเจี๋ยเยาะเย้ยเจ้าของบ้านที่นอนหันหลังให้ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน เตียงนี้หนานุ่มนอนสบายตั้งแต่ฟูกสัมผัสแผ่นหลัง มันเป็นเตียงที่ดีที่สุดในชีวิตที่เขาเคยนอนมา ด้วยความเหนื่อยล่าจากการสู้รบปรบมือกับพวกเสี่ยถังมาทั้งวัน เขาจึงหลับลงอย่างสนิทลงได้ง่าย
แต่ความสุขในการนอนของอาเจี๋ยก็สะดุดลง เมื่อถูกท่อนขาเรียวยาวที่แข็งแรงของติงเป่าพาดเอาที่ลำตัว เขาเคยลิ้มรสหมัดของติงเป่ามาแล้วที่เล่นเอาเขาจุกไม่ใช่น้อย ลำแข้งที่พาดมาถึงแม้ไม่หนักนักแต่ทำเอาสะดุ้งตื่นได้ทันที
“อะไรวะเนี่ย!” อาเจี๋ยปัดหน้าแข้งของติงเป่าออก เขาว่าเตียงหกฟุตนี่ไม่น่าจะมีใครมานอนด้วยนานแล้ว เพราะติงเป่าเล่นนอนดิ้นขนาดนี้
“อื้มม” ติงเป่าสะลึมละลือ เขาเห็นขาตัวเองพาดอยู่กลางตัวอีกฝ่ายก็ตกใจ “โทษทีๆ”
“นี่นายนอนดิ้นขนาดนี้เลยเหรอวะ”
“อือ” ติงเป่ารับคำ “ก็นอนคนเดียวมานานแล้วนี่ ไม่ชินนะ”
“งั้นเหรอ?” อาเจี๋ยฟังแล้วไม่ค่อยอยากเชื่อ
“ทำไม คิดว่าชั้นต้องพาใครมานอนด้วยหลังเมียตายงั้นเหรอ? หึ ไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะ นายก็เห็น”
“อืม” ไหนๆก็ตื่นมาแล้ว อาเจี๋ยเลยถามติงเป่า จากรูปถ่ายที่ใส่กรอบติดกำแพงบ้าน
 “เมื่อก่อนนายเป็นตำรวจใช่มั้ย?”
“อืม ใช่”
“แล้วมาทำงานกับไอ้เลวนั่นได้ไง”
“ตอนนั้น...ที่ศูนย์วิจัยของศาสตราจารย์พาน พ่อของจื่อหวัน เกิดไฟไหม้ ชั้นเข้าไปช่วยเกาหยู แม้จะรอด แต่เกาหยูก็เสียผิวหนังไปเยอะ” อาเจี๋ยคิดตาม เขารู้แล้วว่าทำไมแพทย์หญิงเกาหยูถึงได้ใส่วิกผมที่มีผ้าคลุมอำพรางอยู่ตลอดเวลา
“ตอนนั้นไอ้นั่นก็เป็นหมอคนนึงเหมือนเกาหยู พออาจารย์พานตาย มันก็ไปคุยกับนายทุนเพื่อทำสกายคลินิก ตอนนั้นเมียชั้นเป็นมะเร็ง ชั้นก็พาเมียไปรักษากับเกาหยู เธอทำทุกอย่างเพื่อยื้อชีวิตเมียชั้น แต่เมียชั้นก็ไม่รอด ชั้นเลยไปทำงานนี้เพื่อตอบแทนเกาหยู ก็แค่นั้น”
“ไม่ใช่นายแอบชอบเกาหยูหรอกเหรอ” อาเจี๋ยสัพยอก
“บ้าล่ะ!” ติงเป่ามองค้อนคนข้าง ๆ “นายเข้าใจคำว่าน้ำใจมั้ยล่ะ ชั้นจะไม่ยอมให้ลูกแกะอย่างเกาหยูอยู่กลางฝูงไฮยีน่าหรอก”
“นายก็เลยเป็นไฮยีน่าแปลพรรคซะเลย”
ติงเป่าหันมามองหน้าแล้วอาศัยทีเผลอชกกล้ามแขนใหญ่ของอาเจี๋ยอย่างหมั่นไส้ อาเจี๋ยดื้ออย่างเดียวไม่พอ ยังบ้าระห่ำและช่างต่อปากต่อคำดีนัก
แต่คราวนี้อาเจี๋ยไม่ยอมแล้ว แม้จะขาเจ็บแต่ก็ไม่ได้ทำให้พละกำลังของผู้ชายตัวโตอย่างเขาลดลง เขาเข้าไปคว้าตัวติงเป่ามาล๊อคคอแล้วทับทาบอยู่ข้างบนไม่ให้อีกฝ่ายดิ้นได้เป็นการตอบโต้ แต่ถ้าพวกเขาอยู่บนถนนข้างนอกหรือเวทีมวยมันก็คือการกดคู่ต่อสู้ ทว่านี้คือเตียงนอนหน้านุ่มที่มีหมอนขนเป็ดอย่างดีรองรับอยู่ แสงไปจากเมืองใหญ่จ้าพอจะทำให้เห็นความเกลี้ยงเกลาของใบหน้ารูปไข่นั้นได้ อาเจี๋ยก็นึกสนุกขึ้นมา
 ติงเป่าจะอ้าปากด่าที่อาเจี๋ยเล่นใหญ่กับเขาแบบนี้แต่ก็ช้ากว่าริมฝีปากหนาที่ประกบทาบบนปากบางๆของเขาพอดี อาเจี๋ยเกลียดการขยับริมฝีปากที่เหมือนไม่มีของติงเป่าเวลาพูด เขาเพิ่งจะรู้ว่ามันมีรสชาติดึงดูดเขาจนไม่อาจจะละมันออกมาได้ขนาดนี้ ติงเป่ามีแรงเยอะพอจะผลักอาเจี๋ยออกขาของเขาเตรียมที่จะถีบไอ้บ้านี่ให้กระเด็นแต่ก็ช้ากว่าอาเจี๋ยที่กดแขนเขาแน่นขึ้นแล้วเปลี่ยนมานั่งคร่อมบนหน้าท้องส่วนล่างแทน ติงเป่าเคยเลี้ยงแมวและรู้ดีว่าเวลามันนอนทับตรงนี้แม้จะมีน้ำหนักตัวไม่มากก็ทำให้เขาทำอะไรไม่ได้ แต่ไอ้ตัวใหญ่นี่มีน้ำหนักเยอะกว่าแมวหลายเท่า ยิ่งทำให้เขาทำอะไรกับมันไม่ได้ใหญ่เลย เขาพยายามจะลืมตาแต่ก็เคลิ้มกับรสจูบที่ไม่ได้รับจากใครมานานหลายปีแล้ว จูบของอาเจี๋ยมันรุนแรงและบ้าระห่ำเหมือนเจ้าตัวไม่มีผิดจากที่ดิ้นสู้ก็เปลี่ยนเป็นครางตอบจากในคอ จนเมื่ออาเจี๋ยถอดริมฝีปาก เขาถึงได้ทีพูดออกมา
“นายทำอะไรน่ะ”
“เปล่านี่ ราตรีสวัสดิ์นะ”
อาเจี๋ยตอบแค่นั้น เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นรอยยิ้มจากอาเจี๋ย แต่แววตานั้นไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เคยเห็นครั้งแรกอีกแล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายเล่นป่วนอารมณ์เขาขนาดนี้ ติงเป่าตัดสินใจพลิกตัวแล้วให้ไอ้ตัวโตเป็นฝ่ายอยู่ข้างล่างแทน
“นายเล่นแบบนี้ใช่มั้ย”
อาเจี๋ยได้ยินนำเสียงเอาเรื่องจากติงเป่า ในตอนนี้เขารู้สึกว่าไอ้ขี้เก็กของเขามันน่าดึงดูดเกินห้ามใจได้จากตอนแรกไปมากแล้ว คราวนี้เขาช้ากว่าติงเป่า ที่ดึงกางเกงนอนของเขาลงและจู่โจมกับความเป็นชายของเขาทันที
“เฮ้ย!ทำไรวะ!..อ่ะ..อ่าห์..น...นาย” อาเจี๋ยก้มมองเห็นหน้าหล่อๆที่ชอบตีหน้านิ่งจนดูยิ่งสโยที่เขาเคยหมั่นไส้ ขณะนี้มันเย้ายวนใจมากเมื่อมองจากมุมของเขา จมูกโด่งที่มีสันงุ้มเป็นเส้นนำสายตาให้เขาเห็นแท่งชายของตัวเองโผล่ผลุบเข้าออกริมฝีปากบอบบางที่เขาเคยไม่ชอบ แต่ตอนนี้มันเป็นที่ที่อบอุ่นและมอบความสุขให้กับเขาอย่างที่ไม่ได้รับจากใครมานานเช่นกัน เขาไม่อยากให้มันจบแค่ตรงนี้เลยลูบใบหน้าของติงเป่าเพื่อบอกให้หยุด แต่ติงเป่าก็ทำมากกว่านั้น เขาละริมฝีปากจากท่อนเนื้อออกมาโลมเลียนิ้วโป้งเขาอย่างยั่วยวน
“โอ๊ย นายนี่มัน” อาเจี๋ยใช้มืออีกข้างชี้หน้าติงเป่า ก่อนจะผลักให้อีกฝ่ายนอนลงไปกับเตียง เขาจัดการถอดเสื้อผ้าติงเป่าและตัวเองออกไปให้พ้น ก่อนจะโถมตัวลงซุกไซร้เรือนร่างแข็งแกร่งของติงเป่าอย่างหิวโหย ในตอนนี้เขาลืมอคติทุกอย่างที่เคยมีกับติงเป่าไปจนหมดสิ้น มีก็แต่ความลุ่มหลงเข้ามาแทนที่เท่านั้น


ติดตามตอนต่อไป(ตอนจบค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2017 21:57:56 โดย น้ำพริกแมงดา »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด