[END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]  (อ่าน 102330 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tikking7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาต่อเร็วๆนะครับ รอ รอ รอ คิดถึงแท้ง กับพี่ภูแล้ว :hao7:

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 33

“ชอบไหม”

 


[เฮ้ยมึง ไอ้แทงค์]

“ว่าไง” ผมตอบรับเมื่อได้ยินเสียงไอ้ฮัทดังลอดออกมาทันทีที่ผมกดรับสายมัน

[มึง...โอเคป่ะวะ]

“...ไม่มีอะไรที่กูโอเคหรอกตอนนี้” ผมตอบเสียงเนือย เหนื่อยล้าเหลือเกิน...ไม่ใช่กายนะครับ เป็นใจต่างหาก

[กูไม่รู้จะ...เฮ้อ กูทำอะไรไม่ได้เลยเหรอวะ ไม่อยากให้พวกมึงทะเลาะกันแบบนี้เลย]

ผมเองก็ไม่ได้อยากทะเลาะกับพวกมันเหมือนกัน แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ผมเป็นฝ่ายผิดในสายตาของไอ้เนสกับไอ้คลาร์ก และใช่...ผมผิดจริงอย่างที่พวกมันคิดนั่นล่ะ “มึงไปคุยกับพวกมันมาว่าไงล่ะ”

[พวกมันโกรธมึงมากเลยว่ะ พูดเหตุผลอะไรไปก็ไม่ฟัง]

“ฮึ ก็ไม่ต่างจากที่กูคิดไว้” ผมแค่นหัวเราะ “ช่างมันเถอะ พวกมันจะคิดไงก็แล้วแต่ เพราะกูคงทำอะไรไม่ได้แล้วเหมือนกันในเมื่อพวกมันคิดว่ากูทิ้งเพื่อน ซึ่งก็เป็นตามที่มันพูดทุกอย่าง กูทิ้งทุกคนไม่เว้นแม้แต่มึง มึงเองก็ควรจะโกรธกูเหมือนกัน”

[ไม่ไอ้แทงค์ กูคนหนึ่งที่ไม่คิดแบบนั้น กูเข้าใจมึง และถ้ากูเป็นมึงกูก็ตอบรับเหมือนกัน โอกาสแบบนี้ไม่ใช่จะมีเข้ามาในชีวิตง่ายๆ ใครไม่คว้าไว้ก็แปลกแล้ว]

“ขอบใจ” ผมยิ้มบางๆ รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยที่อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนที่เข้าใจกัน แต่...ความรู้สึกผิดของผมก็ยังไม่จางหายไปอยู่ดี

ผมไม่ได้คิดจะทิ้งเพื่อน อาจจะเป็นการแก้ตัวที่ผมมาพูดอะไรแบบนี้ แต่จริงๆ นะ ผมไม่ได้คิดจะทิ้งพวกมัน ตอนนั้นผมดีใจมากไปหน่อยที่ผมได้รับความสนใจจากค่ายเพลงดังทั้งๆ ที่ยังเรียนอยู่ปีสอง นั่นน่ะเป็นความฝันของนักดนตรีหลายๆ คนเลยนะครับ มีใครบ้างจะกล้าปฏิเสธข้อเสนอที่ได้รับ

แต่ก็แล้วยังไง สุดท้ายแล้วพอโดนพวกมันพูดใส่หน้าแบบนั้น ผมก็เพิ่งจะสำนึกได้ว่าตัวเองตัดสินใจพลาดไปแล้วจริงๆ ผมนึกถึงแต่ตัวเอง โดยลืมคิดถึงคนอื่นๆ ในวงไปซะสนิท...ผมแม่งโคตรแย่เลยว่ะ

“แล้วนี่มึงโทรมาแค่เรื่องของพวกมัน หรือว่ามีเรื่องอื่นอีก?”

[ก็มีเรื่องอื่นด้วย คือ...] ไอ้ฮัทเงียบไป มันดูลังเลใจว่าควรจะพูดดีไหม จนผมต้องบอกให้มันเอ่ยออกมาตรงๆ มันถึงได้ยอมอ้อมแอ้มบอกออกมา [เรื่องร้านพี่เฟิ่งคืนพรุ่งนี้อ่ะ พวกมันบอกกับพี่เฟิ่งว่าจะขอหยุดเล่นไม่มีกำหนดว่ะ มันบอกว่าจนกว่าจะหามือกลองคนใหม่ได้ค่อยกลับไปเล่น]

ให้ตาย ผม...พูดไม่ออกเลยว่ะ

ที่มันพูดแบบนั้น หมายความว่าตัดผมออกจากวง ผมเข้าใจถูกแล้วใช่ไหม...

[ไอ้แทงค์ มึงอย่าเพิ่งคิดมาก พวกมันก็แค่กำลังโกรธ อีกสักพักก็คงหาย กูจะช่วยพูดอีกแรง มันคงไม่ตัดมึงออกจากวงจริงๆ หรอก เราฟอร์มวงกันมาตั้งแต่แรก ไม่ทิ้งกันง่ายๆ หรอกว่ะ]

“แปลกนะที่คนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดแบบมึงมาพูดปลอบใจกูซะเยอะแยะแบบนี้ ฮะๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อนความวูบโหวงในใจ “แล้วเผื่อมึงลืม...มันบอกกูเองนะว่ากูทิ้งพวกมันแล้ว คงไม่แปลกถ้าพวกมันจะทิ้งกูบ้าง หึๆ”

[ไอ้แทงค์...]

“ช่างเถอะฮัท ออกก็ออก สมแล้วกับความผิดของกูที่ทำกับพวกมึง ยังไงก็ขอบใจมึงมากนะเว้ยที่โทรมาบอก ไว้คุยกันวันหลังนะ กู...มีธุระต้องไปทำว่ะ” ผมบอกมันก่อนจะกดตัดสายทิ้งทันทีโดยไม่รอให้มันแย้ง และมันก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าผมไม่ต้องการคุยอะไรอีกแล้วทั้งนั้นในตอนนี้ เพราะมันไม่ได้โทรกลับมาหาผมอีก

ผมถอนหายใจยาว ค้อมหลังลงแล้วยกขาทั้งสองข้างขึ้นมากอดเข่า ซบหน้าลงไปกับเข่าก่อนจะหลับตาลง

แปะ

เฮือก!

แต่แล้วผมก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมีมือหนึ่งมาแตะเข้าที่หัว หากพอลืมตาเงยหน้าขึ้นมองก็เจอเข้ากับคนที่อยู่เคียงข้างผมไม่ไปไหนมาตั้งแต่เมื่อวาน คนที่ทำให้ความหนักอึ้งในใจของผมคลายตัวลงได้อย่างไม่น่าเชื่อทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง

ท่านเจ้าที่

“หิวไหม” เขาถามผมด้วยโทนเสียงอ่อนโยน ราวกับรู้ว่าจิตใจของผมตอนนี้กำลังไม่มั่นคง

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ดึงเขาให้ขยับเข้ามาหาก่อนจะเปลี่ยนเป็นสวมกอดเอวหนาของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นแทน แนบหน้าผากลงกับหน้าท้องเป็นลอนที่แม้จะมีเสื้อยืดกั้นแต่ผมก็สัมผัสถึงกล้ามแน่นๆ ข้างใต้นี้ได้ ฮะๆ ขนาดผมกำลังเศร้าแม่งก็ยังคิดเรื่องหื่นๆ ได้ว่ะ ตลกตัวเองชะมัด

ผมยกยิ้มบางเบา คลอเคลียจมูกไปมากับหน้าท้องของท่านเจ้าที่ ปากก็พึมพำเรียกชื่อท่านเขาไปด้วย

“พี่ภู พี่...”

“อืม ว่าไง” เขาตอบรับ แขนข้างหนึ่งโอบไหล่ผมเอาไว้หลวมๆ ส่วนอีกข้างยกขึ้นมาลูบเส้นผมของผมเล่น

“ผมเหนื่อยว่ะพี่ เหนื่อยใจจังเลย” ผมโอดครวญ ถอนหายใจก่อนจะนึกขึ้นได้...จะว่าไปแล้วผมก็ยังไม่ได้เล่าให้เขาฟังเลยนี่นะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของผมตอนนี้ “พี่รู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม”

“ไม่รู้” เขาตอบ

ผมเงยมองเขาพลางถอนหายใจอีกครั้ง ตอนนี้พวกเราอยู่ในศาลานั่งเล่น ผมมานั่งรับลมชมดอกไม้ในสวนที่นี่ด้วยหวังว่าสายลมเย็นๆ กับสีสันของดอกไม้จะทำให้จิตใจอันห่อเหี่ยวของผมมันฟื้นคืนความสดใสขึ้นมาได้บ้าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล เพราะผมยังคงได้ยินคำพูดของพวกมันดังซ้ำๆ อยู่ในหัวไม่เลิกอยู่ดี

“อยากเล่าไหม?” ผมหันกลับมามองท่านเจ้าที่เมื่อเขาเอ่ยขัดความคิดคำนึงของผม “อยากระบายความในใจของนายออกมาหรือเปล่า ฉันพร้อมรับฟังนายนะ อย่างไรเสียนายก็เป็นคนที่ฉันต้องปกป้องคุ้มครอง”

ผมเงียบไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น ใจรู้สึกดีขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกแล้ว เพราะแบบนั้นผมก็เลยเปิดปากเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง อย่างน้อยคนที่มีอายุมายาวนานเกือบสองร้อยปีอาจจะมีวิธีที่ทำให้ผมแก้ปัญหาบ้าบอนี่ได้

ผมเล่า เล่า แล้วก็เล่า เล่าทุกเหตุการณ์ ทุกคำพูดที่พวกมันพูดกับผมและผมจำได้ไม่ลืม เล่าไปก็แสดงความรู้สึกของตัวเองออกไปโดยไม่รู้ตัว...ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองทำสีหน้าแบบไหนในขณะที่เล่าอยู่ ไม่รู้เลยว่าตอนที่เล่าจนเกือบจะจบ ผมกำลังร้องไห้ แม่ง ผมร้องไห้อีกแล้วว่ะ ทุเรศฉิบหาย

“อึก...” ผมพยายามฝืนตัวไม่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีก เวรเอ๊ย นี่มันแย่โคตรๆ เลยว่ะครับ ผมไม่ชอบที่ตัวเองอ่อนไหวทางอารมณ์แบบนี้เลย ทำไมคนที่ผมแคร์ถึงได้ทำให้ผมเจ็บใจได้มากขนาดนี้ พวกมันคือเพื่อนที่ผมแคร์มาก แต่จะโทษใครได้ในเมื่อที่พวกมันทำแบบนี้กับผมก็เพราะผมทำพวกมันก่อน

ผมทำลายคำสัญญาที่ให้ไว้กับพวกมันด้วยตัวผมเอง

ผมยกมือเช็ดน้ำตาออกลวกๆ แต่ท่านเจ้าที่กลับปัดมือผมออกแล้วเป็นฝ่ายเกลี่ยปลายนิ้วเช็ดคราบน้ำตาแทนผม มือหนาปาดมันออกจากแก้มทั้งสองข้างอย่างเบามือ ดวงตาสีรัตติกาลมองผมด้วยสายตาอบอุ่นอ่อนโยน

“อย่าทำหน้าแบบนั้น อย่าโทษตัวเองเลย การเลือกทางเดินให้อนาคตของตัวเองไม่ได้หมายความนายทิ้งคนข้างหลังเสมอไป พวกนายก็แค่กำลังโกรธและไม่เข้าใจกัน ขอแค่ฝ่ายหนึ่งยอมรับฟังและอีกฝ่ายพยายามอธิบาย ฉันเชื่อว่ะพวกนายจะกลับมาดีกันได้แน่นอน เพื่อนกันยังไงก็ตัดกันไม่ขาดหรอก”

“ผม...พวกมันคงคิดว่าผมทิ้งพวกมันไปแล้วจริงๆ”

“ความดีใจทำให้คนเราหลงลืมสิ่งรอบข้าง ความโกรธทำให้คนเราพูดจาหักหาญน้ำใจคนอื่นโดยไม่ทันคิดให้ดีอยู่เสมอ บางทีนายอาจจะต้องรอให้พวกเขาใจเย็นลงก่อน เมื่อพวกเขาคิดอะไรได้บ้างและพร้อมจะรับฟังคำพูดของนาย พวกเขาอาจจะเป็นฝ่ายเดินกลับมาหานายเองก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่นายควรทำก็คือรอ และอย่าโทษว่าตัวเองผิดอีกเลย”

“มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอครับ?” ผมถาม ไม่แน่ใจเลยสักนิดว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาพูด

ผมพร้อมจะยอมรับหากพวกมันคิดจะตัดเพื่อนกับผมจริงๆ (ซึ่งมันอาจจะคิดแบบนั้นไปแล้วก็ได้) แต่ผมก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นอยู่ดีนะครับ ผมยังเห็นพวกมันเป็นเพื่อนเสมอ

“ฉันไม่รู้หรอก เมื่อถึงเวลานะเด็กน้อย ไอ้เจ้าเวลานี่ล่ะที่จะบอกนายเองว่ามันจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่” ท่านเจ้าที่ตอบพลางยกยิ้มอ่อนโยนมาให้ผมอีกครั้ง รอยยิ้มที่คอยปลอบประโลมผมตั้งแต่เมื่อวาน

“ขอบคุณนะพี่ที่รับฟังผม” ผมยิ้มตอบเขาด้วยใจจริง

เขาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคว้ามือผมไปจับแล้วดึงผมเดินออกมาจากศาลานั่งเล่น “ตามมานี่หน่อยสิ”

“ไปไหนครับ?”

“เถอะน่ะ”

แม้จะงงแต่ผมก็ก้าวเท้าตามเขาไป...ท่านเจ้าที่จูงผมมาจนถึงอีกฝั่งของบ้าน ส่วนใหญ่ตรงนี้ผมไม่ค่อยได้เดินมาเพราะว่ามันเป็นสวนต้นไม้ที่ส่วนมากมีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่โต แถมยังปลูกเอาไว้เรียงชิดติดกันจนดูรกไปหมด ผมไม่มีเวลาทำสวนในส่วนนี้นัก อย่างมากเลยก็แค่รดน้ำโดยการเปิดสปิงเกอร์เอาไว้เท่านั้น และนานๆ ทีถึงจะมาถอนมาถากหญ้า

“ตกลงลากผมมาทางนี้ทำมะ...”

ผมนิ่ง อะไรที่คิดจะพูดก็มีอันหยุดปากลงในทันทีเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบื้องหน้าของผมคือต้นไม้ใหญ่ตระหง่านสูงต้นเดิม หากแต่ที่ใต้ต้นของมันนั้นไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว...ตรงกิ่งก้านอันใหญ่โตของมันที่โน้มลงมามากกว่ากิ่งอื่นๆ ถูกผูกเอาไว้ด้วยเชือกป่านเส้นหนาสองเส้น ตามสายเชือกป่านพันตกแต่งเอาไว้ด้วยเถาวัลย์สีเขียวปนน้ำตาลเปลือกไม้ และตามก้านเถาวัลย์ก็มีดอกไม้สีขาวบานสะพรั่งอยู่ทั่ว สิ่งที่เชื่อมเชือกทั้งสองเส้นเอาไว้ที่ด้านล่างก็คือแผ่นกระดานขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มันมีขนาดพอเหมาะให้คนๆ หนึ่งนั่งลงไปได้โดยไม่หล่น

ชิงช้า

...มันคือชิงช้าครับ และมันสวยมากเลยด้วย

“ชอบไหม”

ผมหลุดจากอาการตกตะลึง เลิกลั่กมองหน้าคนถาม “ถามผมเหรอ?”

“ถามสัมภเวสีเร่ร่อนล่ะมั้ง ก็ฉันคุยอยู่กับนายเนี่ย จะให้ฉันไปถามใคร”

ผมพ่นลมหายใจแรงๆ ยกมือเสมอไหล่เป็นเชิงบอกว่ายอมแพ้ “โอเค ผมผิดเองที่ถามโง่ๆ ว่าแต่ชิงช้านี่พี่ทำ?”

“อืม ตกลงนายชอบหรือเปล่าล่ะ”

ผมเงียบไม่ตอบ มองชิงช้าที่อาจจะดูธรรมดา แต่มันกลับสวยงามจนไม่อยากละสายตา ริมฝีปากยกยิ้มกว้างขึ้นมาในตอนที่ผมตัดสินใจเดินไปนั่งลงบนแผ่นไม้ของชิงช้าแล้วแกว่งไกวมันเบาๆ

ผมมองสำรวจเส้นเถาวัลย์กับดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ ที่พันเกี่ยวกับเชือกป่านอยู่พักหนึ่ง ก่อนสุดท้ายจะหันกลับไปหาท่านเจ้าที่เพื่อตอบคำถามที่เขาถามค้างเอาไว้และผมยังไม่ได้ให้คำตอบ

“ชอบมากเลยครับ”

ท่านเจ้าที่ยิ้มกว้างมาให้ผม รอยยิ้มของเขาทำเอาผมใจกระตุก รู้สึกอุ่นวาบไปทั้งอกจนต้องยิ้มกว้างตามเขา...

“แค่นายชอบก็ดีแล้ว”




__________

อ้าว เราบอกผิดแฮะ ตอนหน้าต่างหากที่อาจจะโดนด่า 555 ตอนนี้มันก็จะอบอุ่นหน่อย...รึเปล่า?  หูยย จริงๆ จะอัพตั้งแต่เมื่อวาน แต่หมดเวลาไปกับการดูพี่เอก HRK แคสเกมผีไทยอย่าง Home Sweet Home ย้อนหลังค่ะ แฮ่ๆ 5 ชั่วโมงแห่งความระทึก กรี๊ดจนคอแทบแตก ไม่มีอะไรโหดเท่าผีไทยอีกแล้ว โดยเฉพาะผีนางรำกับเสียงดนตรีไทยเนี่ย ยอมอ่ะ ผวากรี๊ดจนคอแทบแตกอ่ะค่ะ ว่างๆ ไปดูกันได้นะ หลอนแต่สนุกดีค่าาา

ส่วนวันนี้มาอักช้ามากเพราะหนึ่ง...ติดดูหนังค่ะ วันนี้ดูจบไปสองเรื่อง ตอนบ่าย Wonder Woman ตอนค่ำ White House Down ดูจนตาแฉะ 55 ไม่ได้หรอกค่ะ มีเวลาว่างต้องใช้ให้คุ้มก่อนจะไม่ว่าง ฮือออ พรุ่งนี้สอบโรลเพลย์แล้วด้วย ขอกำลังใจให้เราด้วยนะคะ กำลังใจของเราคือคอมเมนต์ค่ะ ส่งมาเยอะๆ //ขอแบบหน้าด้านๆ ไปอีก 5555

วันไหนสักวันเราอาจจะพิมพ์ทอล์คพิเศษมาคุยด้วยนะคะ หวังว่าจะมีคนสนใจอ่าน เพราะเราอยากคุยเกี่ยวกับที่มาของนิยายเรื่องนี้และอีกหลายๆ เรื่องด้วยค่ะ บางทีอาจจะตอบคอมเมนต์ด้วย ใครมีอะไรสงสัยทิ้งคำถามไว้ได้นะคะ ถ้าตอบได้จะได้เอามาตอบทีเดียวเลยเนอะ...ออหอ ทอล์คยาวอีกแล้ว ไปดีกว่า เจอกันตอนหน้าค่ะ จุ๊บๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2017 23:33:33 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ tkung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จิ้มๆๆ

สู้ๆ นะค่ะ  :mew3: :mew1:

'พี่ภูของน้องแทงค์"

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
พี่ภูละมุนมากกกก ความดีงามของโลกใบนี้ชัดๆ
แทงค์ต้องปล่อยไปก่อน อย่าไปเสียใจกับเรื่องมี่เราแก้ไขไม่ได้
เราแก้อดีตไม่ได้ เราแก้ความคิดคนอื่นไม่ได้
เราทำได้แค่รอให้เค้าคิดได้เองเท่านั้นแหละ
พี่ภูปลอบน้องด้วยยยย โอ๋ๆนะะ
ดราม่าอีสสสคัมมิ่ง รอค่าา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปัญหาของหลานแทงค์ ยังแก้ได้ซักที ท่านเจ้าที่ช่วยทีสิ สงสารหลานแทงค์  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :กอด1: ดูแลและปกป้องน้องด้วยใจรักเน๊าะพี่ภู หวานไปน่อ แต่อ่านตัวหนังสือแดงๆ แล้วเครียดไปก่อนได้ป่ะคะ
เอาเบาๆ อย่าหนักมากสงสารน้องมัน จิตใจไม่ปกติดีมีท่านภูคอยดูแล เฮ้อ....
 :3123:  :pig4:  :3123:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ท่านภูละมุนขึ้นเรื่อยๆเลยอ่าาา แพ้ทางงง

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ดีงามมมม
รักท่านภูตลา  :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 34

“ฉันจะเป็นคนดูแลนายแทนทุกกระเบียดนิ้วเลยล่ะ"
 

วันจันทร์ผมลังเลใจอยู่นานมากว่าจะไปเรียนดีไหม ก็นั่นล่ะครับผมไม่อยากเจอพวกมันในตอนนี้สักเท่าไหร่ จะให้ทนมองหน้าเพื่อนที่ตัดเราทิ้งออกจากชีวิตของพวกมันโดยที่ไม่ฟังเราอธิบายเลยแม้แต่นิดเดียวได้ยังไงล่ะครับ อีกอย่างผมก็ยังรู้สึกผิดไม่หายด้วย ไม่กล้าไปสู้หน้าพวกมันหรอก

เฮ้อ! แต่ผมไม่อยากขาดเรียนอ่ะ และผมจะไม่ยอมให้อะไรก็แล้วแต่มาทำให้ผมเรียนไม่ทัน เพราะฉะนั้นผมยอมเผชิญหน้ากับพวกมันดีกว่าหนีแล้วตัวเองเดือดร้อนเรื่องเรียนล่ะนะ

“นายไหวแน่นะ?” ท่านเจ้าที่ถามผมเป็นรอบที่สิบเห็นจะได้ ผมเข้าใจว่าเขาเป็นห่วงผม และนั่นทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมนะครับว่า...

“ผมไหวน่า พี่เลิกกังวลได้แล้ว”

“ก็สีหน้านายเหมือนคนไม่ได้หลับได้นอนนี่ ฉันกลัวนายจะขี่รถไปล้มเลิ้มที่ไหนเข้า”

“กลัวผมไปชนคนอื่นก็บอกมาเถอะ ฮะๆ”

“นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ยังไงฉันก็เป็นห่วงนายมากกว่าอยู่ดี”

ตึกตัก...ผมกระพริบตาปริบมองหน้าท่านเจ้าที่อยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะเสมองไปทางอื่น พยายามควบคุมหัวใจที่เต้นผิดจังหวะให้กลับมาเป็นปกติ เดี๋ยวนี้ท่านเจ้าที่ชอบทำให้ผมใจเต้นว่ะ ไม่ดีเลย ผมรู้สึกหายใจไม่ทันยังไงก็ไม่รู้

“ผมโอเคน่า เอาเป็นว่าจะไม่ไปล้มหรือไปชนใครครับผม”

“เฮ้อ ดูแลตัวเองดีๆ แล้วกัน เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจากความไม่ดูแลตัวเองของนายล่ะก็” ท่านเจ้าที่ชี้นิ้วใส่หน้าผมจนแทบจะจิ้มจมูก อื้อหือ ขนาดนี้จิ้มตาเลยไหมล่ะ “ฉันจะเป็นคนดูแลนายแทนทุกกระเบียดนิ้วเลยล่ะ”

วะ โว้ย! ไปดีกว่า พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่อยากคุยกับเขาแล้ว!

“ผมไปละ บาย” ผมโบกมือก่อนจะก้าวฉับๆ ไปคร่อมรถแล้วขี่ออกจากบ้านทันที ฉิบหาย เดี๋ยวนี้ท่านเจ้าที่เป็นคนแบบนี้แล้วหรือวะ!? มีใครบ้างขู่คนอื่นว่าถ้าไม่ดูแลตัวเองจะเป็นคนดูแลให้เองอ่ะ ไม่ใช่แฟนทำแบบนี้ก็ได้หรืองายยย

พูดให้คนอื่นหวั่นไหวใจสั่นงี้ได้ไง เดี๋ยวผมอยากได้เขาเป็นแฟนขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไงล่ะ ฮึ่ย

__________

มาถึงมหา’ลัยผมก็แวะซื้อขนมปังกับนมเป็นมื้อเช้า นั่งกินที่โต๊ะหน้าตึกคณะจนหมดโดยใช้เวลาไม่กี่นาที ก่อนจะแบกเป้ที่มีหนังสือเรียนกับสมุดเลคเชอร์ไม่กี่เล่มก้าวขึ้นบันได ผมเรียนแค่ชั้นสองนี่เอง จะขึ้นลิฟท์ทำไมให้เสียเวลาล่ะ แล้วดูคนรอลิฟท์ซะก่อนเหอะ เยอะขนาดนั้นเบียดกันเข้าแน่ๆ ผมไม่เอาด้วยหรอก เหอๆ

พอมาถึงห้องเรียนผมก็ยืนทำใจอยู่หน้าห้องเกือบห้านาที ในหัวคิดไปต่างๆ นานาว่าพวกมันมากันหรือยัง แล้วถ้าเกิดเจอหน้ากันพวกมันจะมองผมยังไง...ตัวผมเองก็ด้วย จะมองหน้าพวกมันยังไง

ทุกอย่างระหว่างผมกับพวกมันน่ะกำลังย่ำแย่ ย่ำแย่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยสักครั้ง น่าตลกนะครับที่แค่เพียงเรื่องๆ เรื่องเดียวทำให้เราทะเลาะกันได้ขนาดนี้

ผมสูดหายใจเข้าลึก ตั้งสติบอกตัวเองว่าจะเจออะไรหลังบานประตูก็ช่าง ผมก็แค่ต้องเข้มแข็ง ต้องเผชิญหน้าโดยไม่หนี ผมจะอ่อนแอไม่ได้ พวกมันไม่มีเหตุผล แต่ผมต้องมี

ผมก้าวเท้าเข้าห้องในวินาทีต่อมา เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเพื่อนร่วมเซคพูดคุยกันดังลั่นห้องเป็นปกติ ผมกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะชะงักเมื่อเจอพวกมันนั่งอยู่ตรงที่ประจำของพวกเรา...ไอ้เนสหันมามองผม แต่พอเห็นว่าเป็นผมมันก็เบือนหน้าหนี ไอ้คลาร์กเหลือบมามองเช่นกันแต่ก็หันกลับไปสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ อ่า...พวกมันเมินผมตามที่คาดเอาไว้เลยครับ จะมีก็แต่ไอ้ฮัทที่ส่งยิ้มมาให้ แต่ผมก็มองออกว่ายิ้มของมันแห้งแล้งมากขนาดไหน ผมคงต้องขอบคุณมันที่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้โกรธผมเหมือนไอ้สองคนนั้น

ผมยิ้มตอบมันเล็กน้อยหวังคลายความกังวลใจของมัน จากนั้นจึงมองหาที่ว่างที่ตรงอื่นแทน แอบเหลือบมองไปที่ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กอีกครั้ง ตอนนี้พวกมันไม่มองมาที่ผมเลยสักนิด มีแค่ไอ้ฮัทอีกเหมือนเดิมที่คอยแต่จะมองผมเรื่อยๆ ผมรู้ว่ามันเป็นห่วง และผมก็ซาบซึ้งที่อย่างน้อยผมก็ยังมีมัน

เสียงของเพื่อนร่วมเซคที่ผมไม่ได้สนิทด้วยแต่ก็รู้จักกันดีในระดับหนึ่งดังขึ้นข้างๆ เรียกให้ผมกลับมาสนใจมัน

“เกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมมึงมานั่งนี่”

“ไม่มีอะไร”

“จริงอ่ะ ไม่ใช่ว่าทะเลาะกับพวกมันเหรอ?” เพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ใกล้กันเอ่ยถามพลางพยักพเยิดหน้าไปทางไอ้เนสกับไอ้คลาร์ก ผมส่ายหน้าอีกครั้ง ไม่อยากอธิบายเรื่องวงในของกลุ่มผมให้ใครรู้

“ไม่มีอะไรจริงๆ กูก็แค่ขี้เกียจเดินไปนั่งกับพวกมัน”

พวกมันทำหน้าไม่เชื่อ แต่ก็ยอมล่าถอยไป “อ่าฮะ เชื่อก็ได้”

ผมลอบถอนหายใจ หลังจากนี้ต้องมีเสียงนินทาดังไปรอบๆ เซคนี้แน่นเลย...เรื่องที่ไอ้แทงค์โดนเพื่อนร่วงวงบอยคอต อะไรแบบนั้นล่ะมั้ง

เรียนจนจบคลาสเช้าก็เล่นเอาผมแทบหลับคาหนังสือ ผมรอให้เพื่อนส่วนใหญ่ลุกออกไปก่อนเช่นเคยแล้วถึงจะลุกขึ้นบ้างหลังจากคนเริ่มซาลง เตรียมจะก้าวออกจากห้องแต่ก็ดันได้เผชิญหน้ากับไอ้เนสและไอ้คลาร์กเข้าเสียก่อนโดยไม่ทันตั้งตัว

ไอ้เนสเป็นคนแรกที่สบตากับผม มันยกยิ้มหยันส่งมาให้แล้วหันหน้ากลับไป ก้าวออกจากห้องโดยไม่ลืมคว้าไหล่ไอ้คลาร์กไปด้วย ส่วนผมก็ได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น

“แทงค์” ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีมือข้างหนึ่งตบปุลงบนไหล่พร้อมกับเสียงเรียกชื่อ หันไปมองก็พบว่าเป็นไอ้ฮัท มันยักคิ้วให้ผมพลางเอ่ยชวน “ไปกินข้าวกัน”

“กู...กูว่ากูจะกลับบ้านว่ะ”

“เฮ้ย ยังเหลือคลาสบ่ายนะ มึงจะเทเหรอวะ?” ไอ้ฮัทแย้งอย่างไม่เห็นด้วยเท่าไหร่กับความคิดผม

ผมส่ายหน้าให้มัน “กูคงทนเรียนต่อไม่ไหวหรอกว่ะ มึงดูสายตาที่มันมองกูดิฮัท ถ้าจะให้กูเข้าคลาสบ่ายแล้วเผลอหันไปสบสายตาแบบนั้นของพวกมันอีก กู...กูไม่เอาหรอก กูกลับบ้านดีกว่า”

“กูรู้ว่าพวกมันดูงี่เง่านะเว้ยที่โกรธมึงในเรื่องแบบนี้ พวกมันเหมือน...” ไอ้ฮัทถอนใจ “เหมือนคนที่เห็นเพื่อนได้ดีกว่าไม่ได้ แต่กูรู้นะว่าพวกมันไม่ใช่คนแบบนั้น พวกมันก็คงแค่ไม่อยากให้มึงทิ้งวงที่เราฟอร์มมาด้วยกัน”

“แต่พวกมันก็น่าจะรู้ว่ากูไม่มีทางทำแบบนั้น ถึงกูจะตอบรับข้อเสนอของทางนั้นโดยไม่ทันได้คิดถึงเรื่องวงของพวกเรา ซึ่งกูยอมรับว่านั่นเป็นความผิดของกูจริงๆ แต่กูก็ไม่เคยคิดเลยแม้แต่สักครั้งเดียวที่จะทิ้งวง” ผมระบายความในใจออกมาจนหมด “แต่พูดไปก็เหมือนแก้ตัว ช่างมันเถอะ สุดท้ายแล้วยังไงกูก็ผิดอยู่ดี”

“กูเข้าใจ และพยายามอธิบายให้พวกมันเข้าใจอยู่ มึงรออีกนิดแล้วกันนะ”

ผมพยักหน้ารับพลางถอนหายใจ “มึงอย่ากังวลเลย กูก็แค่รู้ตัวว่าตัวเองผิดจริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอดจะรู้สึกเสียใจไม่ได้ที่พวกมันพูดจาทำร้ายจิตใจกูเมื่อวันนั้น...นี่มันเรื่องงี่เง่า พวกมันไม่มีเหตุผล ส่วนกูก็เหี้ยเกินกว่าจะให้อภัย”

“มึง...” ไอ้ฮัทเหมือนอยากจะพูดแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี สุดท้ายมันเลยเปลี่ยนเรื่อง “ตกลงจะกลับบ้านสินะ”

“อื้อ ไปก่อนนะมึง ฝากจดเลคเชอร์ให้ด้วย”

“ได้ กลับไปพักผ่อนเถอะ มึงเหมือนคนไม่ได้นอนเลย”

ผมโบกมือลามันโดยไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธข้อสันนิษฐานของมัน...ก็ตามที่มันพูดน่ะแหล่ะ ผมนอนไม่ค่อยหลับเลยมีสภาพสะโหลสะเหลดูไม่ค่อยได้แบบนี้ คนอื่นไม่ทันสังเกตแต่กับไอ้ฮัทมันไม่มีพลาดหรอกครับที่จะเห็นความผิดปกติของเพื่อน ไอ้นี่มันเงียบๆ ไม่ค่อยพูดแต่ชอบสังเกตคนอื่นเสมอ

ผมขี่รถกลับบ้าน หากแต่ความคิดหนึ่งก็รั้งผมให้เลี้ยวเข้าดีซีซุปเปอร์ฯ ก่อนจะถึงบ้าน เอ่ยทักทายพวกพี่ๆ พนักงานกะบ่ายที่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเล็กน้อย ตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว ซึ่งนั่นก็ดีเพราะผมมีเป้าหมายอยู่ที่ตู้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผมหยิบเอาเบียร์ใส่ตะกร้าทั้งสิ้นแปดขวดได้ หยิบขนมเคี้ยวเล่นอีกสองสามห่อก่อนจะตรงไปชำระเงินที่เคาท์เตอร์...พี่กันต์ที่ประจำอยู่ตรงเคาท์เตอร์พอดีมองของในตะกร้าผมตาโต คิดเงินไปก็ชวนคุยไปด้วย

“โห ซื้อไปขนาดนี้ที่บ้านมีปาร์ตี้เหรอแทงค์ แต่หัววันเลยนะ”

“ตอนเย็นน่ะพี่ แต่ผมขี้เกียจออกมาอีกเลยแวะซื้อตอนนี้” ผมตอแหลส่งๆ ไป ใครบอกว่ามีปาร์ตี้ล่ะครับ ทั้งหมดนี่ผมจะดื่มคนเดียวต่างหาก ผมอยากดื่มให้เมาปลิ้น เผื่อจะลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นไปได้บ้าง

จ่ายเงินเสร็จผมก็เดินออกมาและพาตัวเองกลับบ้านอย่างไวที่สุด เข้าบ้านมาได้สิ่งแรกที่ผมทำก็คือสอดส่ายสายตามองหาท่านเจ้าที่ แต่ก็ไม่ยักเจออีกฝ่าย บ้านเงียบสนิท

ท่านเจ้าที่คงไปทำงานแบบพระภูมิๆ ของเขาล่ะมั้ง...ซึ่งก็ดีครับ ผมจะได้ไม่โดนบ่นเรื่องดื่ม

ผมเลือกจะดื่มบนห้องนอน โยนกระเป๋าลงแถวโต๊ะคอมฯ ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นก่อนจะเอนหลังพิงขอบเตียงนอนของตัวเอง เอื้อมมือหยิบควรเบียร์มาเปิดด้วยที่เปิดขวดซึ่งแวะหยิบมาจากห้องครัวก่อนขึ้นมาบนห้อง จากนั้นก็กระดกมันลงคอโดยไม่คิดจะใช้แก้วให้เสียเวลาริน

สมองของผมหวนนึกไปถึงสายตาของไอ้เนสกับไอ้คลาร์กที่มองผม...ริมฝีปากของพวกมันที่ยิ้มเหยียดใส่ผม ประโยคเดิมๆ ที่มันพูดกับผมเมื่อหลายวันก่อนดังวนเวียนซ้ำๆ ไม่เลิกราอยู่ในห้วงความคิดคำนึงของผม จนผมทำได้แค่ดื่มเบียร์เข้าไปอีกเท่านั้นเพื่อหวังว่าตัวเองจะเมาจนหลับไปจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดใจกับเรื่องนี้อีก แม้จะแค่ไม่นานก็ตาม





__________

ถ้าจัดหน้าแปลกๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีเราอัพในโทรศัพท์น่ะค่ะ เลยค่อนข้างทุลักทุเล แหะๆ ตอนแรกว่าจะอัพพรุ่งนี้ แต่คิดดูอีกทีอัพวันนี้ดีกว่า เพราะวันจันทร์เรามีสอบเช้า พรุ่งนี้เราควรอ่านหนังสือค่ะ 55555

ดราม่าเรื่องเพื่อนเช่นเดิม เพิ่มเติมคือทำให้นักอ่านเกลียดเจ้าเนสกับเจ้าคลาร์กยิ่งกว่าเดิม แง้ อย่าด่าพวกนางเลยนะคะ อย่าเพิ่งเกลียดพวกนางด้วย พวกนางน่ารักน้าา แค่ตอนนี้น่ากระทืบไปนิดนึงเท่านั้นเอ๊งง และอย่าด่าเราด้วย กลัวเด้อ //พนมมือแล้วก้มลงกราบ

ไปดีกว่า ควรนอนไวๆ บ้าง ฮือออ หลังๆ มานี่บางทีอยากนอนก่อนเที่ยงคืนแต่สุดท้ายถ้าไม่ตีสองตีสามก็ไม่ยอมหลับ รู้สึกแย่มากค่ะ ตื่นมาทีงี้หน้ามืดโลกหมุน ความดันต่ำอีกแล้วแน่เลย ทำยังไงถึงจะนอนไวๆ ได้บ้างคะเนี่ย...เอาล่ะเจอกันตอนหน้านะคะ จุ๊บๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2017 23:37:14 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เมื่อไหร่จะดีกันเสียที งอนกันนานแล้วนะ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เราว่าพฤติกรรมเนสกับคาล์กด็ไม่เหมือนคนที่โกรธเพื่อนเลย ดูเหมือนไม่เคยเป็นเพื่อนกันมากกว่า ใจร้ายยยย  :hao5:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :z6: โห...พูดงี้ได้ไงอ่ะ สองคนนั้นคิดอะไรอยู่ ความคิดน่าเกลียดมาก  :m16:
สู้ๆ น้องแทงค์ กลับไปหาพี่ภู ให้พี่เขาปลอบ  :กอด1:
 :3123:  :pig4:  :3123:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ชีวิตของคนเรา ไม่ได้ราบรื่นไปทุกสิ่งทุกอย่างนะแทงค์
เดี๋ยววันนี้ก็จะผ่านไป ใจเย็นๆ หันไปสนใจเจ้าที่ดีกว่านะ กรู๊ๆๆๆๆ
 :hao6:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 35

“...ทำกับผม”

 

[ภูตลา]

กว่าจะเคลียร์งานเสร็จ เทวดาอารักษ์หนุ่มก็แทบหมดเรี่ยวหมดแรง หลังเซ็นเอกสารชุดสุดท้ายของวันนี้ส่งให้เลขาฯ สาวแล้ว เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้เสียที

เหลืออีกเดือนเศษ ๆ ภูตลาก็จะเกษียณอายุการเป็นเทวดา สัปดาห์สุดท้ายคือการลงจากตำแหน่งและเปิดการเลือกตั้งสภาแห่งเทพสมัยใหม่ เขาไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแต่อย่างใด แน่นอนเพราะเขากำลังจะไปเกิดอยู่รอมร่อ กฏหมายแห่งสวรรค์มาตราที่ 2317 ตราไว้ว่าห้ามเทวดาที่กำลังจะไปเกิดร่วมลงคะแนนเสียงเลือกตั้งโดยเด็ดขาด

จะว่าไปแล้วเวลาก็ผ่านไปเร็วเหลือเกิน ตั้งแต่เขาย้ายศาลพระภูมิมาอยู่ที่บ้านของเจ้าเด็กแทงค์ก็ผ่านมาสองเดือนกว่าเข้าไปแล้ว จากที่ตั้งใจจะมาตามรังควานเจ้าเด็กสามหาวคนนั้น ไม่รู้ทำไมถึงกลายเป็นมาดูแลเด็กมันแทนเสียได้

แทงค์ไม่ใช่เด็กไม่ดีหรอก พอได้รู้จักจึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กที่เข้มแข็งมาก อยู่ตัวคนเดียวในบ้านหลังนี้ช่างน่าสงสาร ต้องเหงาเพราะไม่มีใครให้พูดคุย ยิ้ม หรือหัวเราะยามเมื่อกลับมาถึงบ้าน หากแต่เด็กคนนั้นก็ยังทนอยู่ได้ เทวดาอย่างเขาจึงรู้สึกเอ็นดูไม่น้อยกับความอดทนและความพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไปของอีกฝ่าย

จะมีก็แต่เหตุการณ์ล่าสุดนี่ล่ะที่เจ้าแทงค์เสียศูนย์จนยอมปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมา เด็กที่เข้มแข็งคนนั้นร้องไห้...น้ำตาที่ภูตลาไม่เคยเห็นเลยแม้แต่น้อยในวันที่มันพูดถึงพ่อแม่และชีวิตอันเงียบเหงาเดียวดายของตัวเอง แต่เขากลับได้เห็นมันเพียงเพราะอีกฝ่ายทะเลาะกับเพื่อน เห็นได้ชัดว่าเพื่อนคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้สำหรับเด็กหนุ่ม

"มัทนา เรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว"

นางไม้กุหลาบเงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นนายเมื่อได้ยินคำถาม มือที่กำลังจัดเรียงเอกสารหยุดลงก่อนจะเอ่ยตอบ "กำลังดำเนินการเจ้าค่ะ ตอนนี้ภารกิจของท่านคืบหน้าไปได้ 50% แล้ว"

"งั้นหรือ..."

"ท่านภูตลากังวลหรือเจ้าคะ"

"อืม ข้ากลัวว่ามันจะผิดพลาด"

"เดิมทีสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นการเล่นสนุกของบรรดารองมหาเทพอยู่แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ดูจะเกินไปเสียหน่อย จึงค่อนข้างยากที่จะแก้ไขได้โดยง่ายเหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มาก็เท่านั้นนี่เจ้าคะ แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไขจนลุล่วงไปได้"

"นั่นล่ะมัทนา เพราะมันยากกว่าครั้งที่ผ่านมา ข้าจึงกังวล" เทวดาหนุ่มเอ่ยพลางทอดถอนใจ "ครั้งนี้บรรดารองมหาเทพเล่นกับความรู้สึกของมนุษย์มากเกินไป แม้ว่าจะยังไม่มีกฏหมายมาตราไหนที่บ่งชี้ว่าพวกเขากระทำผิด แต่มหาเทพเองก็ค่อนข้างไม่พอใจกับการกระทำของพวกเขา ยิ่งเมื่อองค์มหาเทพกำลังจะลงสมัครเลือกตั้งสมัยที่สองแล้วด้วย ก็ยิ่งไม่อยากให้ตนเองพลาดตำแหน่งเพียงเพราะลูกน้องในพรรคทำเรื่องผิดพลาดหรอก”

“พวกเขา...ไม่น่าเล่นสนุกแบบนี้เลยนะเจ้าคะ”

"ใช่ เฮ้อ บางทีข้าก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาอยู่กันมานานจนเบื่อหน่ายล่ะมั้ง ครั้งนี้จึงทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เรื่องมันจึงได้ยุ่งยากมากถึงเพียงนี้ บางทีข้าก็อยากจะเดินเข้าไปหาพวกเขาแล้วตะบันหน้าสักคนละที เอาให้สาสมกับที่สร้างความเดือดร้อนใหญ่โต แถมยังไม่คิดจะจะสละตนเองเพื่อแก้ไขมันอีก...เจ้าก็รู้นี่มัทนาว่าวิธีแก้ไขความผิดพลาดในครั้งนี้คืออะไร ไม่แปลกเลยจริง ๆ ที่จะไม่มีใครออกมารับผิดชอบ แม้พวกเขาจะกระทำมันลงไปเองก็ตาม หึ!”

เกิดความเงียบขึ้นเมื่อท่านภูตลากล่าวจบ นางไม้กุหลาบแสนสวยคิดถึงสิ่งที่ผู้เป็นนายลงทุนลงแรงทำเพื่อผลประโยชน์สำคัญก่อนจะไปเกิดใหม่ ก็ให้อดเป็นห่วงไม่ได้

"ท่านภูตลาเจ้าคะ ท่านคิดดีแล้วใช่หรือไม่ที่ยื่นข้อเสนอเช่นนั้นกับองค์มหาเทพ"

คนถูกถามยกยิ้มบางให้กับเลขาฯ สาว รู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงเขา "แน่นอน ไม่มีครั้งใดที่ข้าจะมั่นใจเท่านี้มาก่อน"

"ความรักช่างงดงามนัก ข้าขอให้ท่านผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ แม้สิ่งที่ต้องแลกเพื่ออนาคตจะยิ่งใหญ่ แต่ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องไม่เสียใจที่เลือกเช่นนั้นเจ้าค่ะ"

"ขอบใจมัทนา"

เพล้ง!!!

เสียงบางอย่างแตกดังกังวานเขามาถึงในศาลพระภูมิของเทวดาหนุ่ม ขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขาทั้งสอง ภูตลาเหลียวมองออกไปนอกศาล มองไปยังที่มาของเสียงซึ่งไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกล แต่เป็นห้องนอนของเจ้าเด็กแทงค์

"ข้าคิดว่าท่านควรไปดูเขาเสียหน่อยดีกว่านะเจ้าคะ ส่วนเอกสารพวกนี้ข้าจะนำส่งให้เรียบร้อยเจ้าค่ะ"

"อืม ฝากด้วยนะมัทนา"

ภูตลาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในห้องนอนของเด็กหนุ่มผู้สร้างความกระวนกระวายใจให้เขามาหลายวัน เหตุเพราะอีกฝ่ายเอาแต่เศร้าซึมเรื่องเพื่อนจนนอนไม่ค่อยพอ ท่าทางหม่นหมองจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้...เมื่อมาถึงห้องของอีกฝ่าย ก็พบว่าเวลานี้แทงค์กำลังนอนแผ่หลาอยู่กับพื้นห้อง รอบตัวเต็มไปด้วยขวดเบียร์ที่ดื่มหมดแล้วทั้งสิ้นแปดขวด เห็นดังนั้นเจ้าที่หนุ่มก็ยิ่งเป็นห่วงเป็นใยเด็กหนุ่มยิ่งกว่าเดิม

“อืออ ไอ้พวก...เหี้ย! พวกมึงแม่ง...ไม่เข้าใจ...กู!!”

เด็กหนุ่มจอมแสบของท่านเจ้าที่หนุ่มโวยวายไปก็กลิ้งไปมาโดยไม่สนใจว่าตอนนี้กำลังนอนอยู่ตรงไหนด้วยซ้ำ ส่งเสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ออกมาตลอดเวลา

“ให้ตายสิ” ภูตลาส่ายหน้าให้กับภาพที่เห็น จะเอ่ยต่อว่าก็ทำได้ไม่เต็มปากนักเพราะเข้าใจว่าอะไรทำให้อีกฝ่ายมีสภาพเช่นนี้ สุดท้ายเลยได้แต่ปล่อยไปไม่บ่นออกมา แล้วเลือกที่จะพาคนเมาเข้านอนแทน “ลุกขึ้นมาก่อน”

“อื้อ! ไม่อาววว พวกมึงมาคุย...คุยกะกูก่อน กู...กูขอท่ดได้ป่าล่ะ”

“ฉันไม่ใช่เพื่อนนายสักหน่อย เอ้า ลุกสิวะ”

“ไม่ช่ายเพื่อนน แล้ว...ครายยย”

“ท่านเจ้าที่ของนายไง” ภูตลาตอบ มือหนาดึงรั้งต้นแขนเรียวของเด็กหนุ่มขี้เมาที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะโอบเอวบางเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปอีก “ยืนดี ๆ”

“ท่านเจ้าที่...ท่านเจ้าที่ของนาย...ของผม...” แทงค์พูดวกวนไปมา แต่จู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นสบตาคนสูงกว่า ยิ้มหวานนัยน์ตาเยิ้มให้ สุ่มเสียงแหบทุ้มเอ่ยยานคางเพราะเมาจัด “ท่านเจ้าที่...ของแทงค์หรอออ”

“...” ภูตลาชะงัก มองใบหน้าใสของเด็กในอ้อมแขนอยู่นานหลายนาที...คำพูดธรรมดา แต่กลับทำให้หัวใจของเทวดาหนุ่มกระตุกวูบ อ่า...ไม่ได้การละ รีบส่งเด็กขี้เมาเข้านอนดีกว่า เขาจะได้ไปพักบ้าง

“เดินดี ๆ ฉันจะพานายไปนอน ยังไม่ทันมืดค่ำเลยก็เมาเสียแล้ว นิสัยไม่ดีเลยนะเจ้าเด็กนี่”

“ไม่นอนนน”

“ต้องนอน เมาเหมือนหมาอย่างนี้ ฉันไม่ยอมให้นายก่อความวุ่นวายแน่ อะ เฮ้ย!”

ตุบ!

ทั้งๆ ที่พาเดินมาถึงเตียงนอนได้โดยไม่ล้มลงไปแล้วแท้ ๆ แต่แทนที่ภูตลาจะได้วางร่างของแทงค์ลงกับฟูกนุ่ม ดันกลายเป็นว่าเขาเสียเองที่โดนผลักให้นั่งลงกับขอบเตียง แถมคนเมาที่ตาเยิ้มสุด ๆ ยังขึ้นมานั่งคร่อมบนตักเขาอย่างรวดเร็วอีกต่างหาก!!

“ลงไปเลยนะไอ้เด็กนี่ ทำแบบนี้มันบัดสีบัดเถลิงนะว้อย!”

“อะไยง่ะ” แทงค์เอียงคอเอ่ยถามด้วยคำพูดที่แทบไม่เป็นคำแล้วในตอนนี้ ดวงตาเรียวกระจ่างหวานเยิ้มสบเข้ากับนัยน์ตาสีรัตติกาล ก่อนจะขยับใบหน้าเข้าใกล้เจ้าที่หนุ่มมากกว่าเดิมจนตอนนี้ปลายจมูกของทั้งสองแตะกัน ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดกันและกันเหนือริมฝีปาก ก่อนจะหลอมรวมกันในเวลาต่อมาเมื่อฝ่ายที่แนบรอยสัมผัสก่อนคือคนเมา...

แทงค์กดเรียวปากลงกับริมฝีปากของเทวดาหนุ่ม บดคลึงเบา ๆ ก่อนจะหนักหน่วงขึ้นเมื่อฝ่ายตรงข้ามตอบรับด้วยการจูบตอบคืนมา...สองคนเคล้าเคลียริมฝีปากเข้าหากันอยู่หลายวินาที จากนั้นเด็กหนุ่มที่เมาไม่ได้สติก็เป็นฝ่ายแทรกปลายลิ้นเข้าหาในปากอุ่นของอีกคน

เรียวลิ้นปัดป่ายแตะไล้กันและกัน ลืมไปหมดสิ้นทั้งเวลาและสถานภาพของตัวเอง ลืมแล้วจริง ๆ ว่าคนหนึ่งนั้นคือมนุษย์ หากแต่อีกคน...เป็นเทวดา

ระหว่างแลกจูบกัน สองมือของภูตลาโอบเอวของคนที่นั่งคร่อมอยู่บนตักของเขาเอาไว้แน่น ขณะที่แทงค์ไล้ปลายนิ้วไปตามแนวกรามและลำคอของท่านเจ้าที่หนุ่ม ลูบวนไปมาก่อนจะเลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ จนฝ่ามือสัมผัสเข้ากับหน้าท้องแกร่งที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตสีดำขวางกั้น

คนเมาผละจูบออกในเวลาต่อมา มือข้างที่ไม่ได้ลูบไล้แผ่นท้องแกร่งเลื่อนขึ้นไปจับขยุ้มเส้นผมสีปีกกาของท่านเจ้าที่ ออกแรงดึงเบา ๆ ให้ใบหน้าหล่อเข้มแหงนเงยขึ้น แล้วตัวเองจึงเลื่อนใบหน้าลงฝังปลายจมูกเข้ากับลำคอแกร่ง

จุ๊บ...จุ๊บ...

เรียวปากสีแดงช้ำเพราะฤทธิ์จุมพิตก่อนหน้ากดแนบจูบไปทั่วลำคอแกร่งของคนข้างใต้ ตามด้วยตวัดปลายลิ้นลงที่ลูกกระเดือกเพียงหนึ่งครั้ง กระนั้นกลับทำให้คนโดนกระทำสะดุ้งเฮือก เรียวแขนที่รัดเอวบางไว้เผลอกระชับแน่นมากขึ้นกว่าเดิม จนอะไรบางอย่างใต้กางเกงสัมผัสกันแผ่วเบา พาเอาร่างของคนทั้งสองร้อนวูบวาบขึ้นมาในฉับพลัน

“พี่ภู...”

“หะ หืม?” ภูตลาตอบรับเสียงเบาราวกับกระซิบ มองเหม่อเข้าไปในดวงตาฉ่ำเยิ้มแสนยั่วยวนของร่างบนตักอย่างไม่รู้ตัว ลืมเลือนแล้วซึ่งสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำก่อนหน้านี้

“ผม...” แทงค์พูดได้เพียงแค่นั้น แล้วเจ้าเด็กหนุ่มขี้เมาก็ฟุบหน้าลงกับบ่าแกร่ง เมาหลับไปอย่างรวดเร็วในที่สุด ทิ้งให้ภูตลานั่งนิ่งงันอยู่ที่เดิมและท่าเดิมเป๊ะ กว่าจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปอีกหลายนาทีเลยเชียวล่ะ

เป็นเทวดามาจะสองร้อยปีไม่เคยใกล้ชิดมนุษย์คนไหนมากขนาดนี้มาก่อน มากจนแทบจะได้เสียกันอยู่รอมร่อ นี่เขา...นี่เขาทำอะไรลงไปกันเนี่ย!

เทวดาหนุ่มสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ อยู่หลายครั้ง พยายามตั้งสติก่อนจะจับร่างคนเมาที่หลับไปแล้วลงนอนกับเตียงนุ่มดี ๆ แล้วจึงรีบผุดลุกขึ้นถอยออกห่าง...อ่า ไม่ดีแน่หากยังอยู่ใกล้อีกฝ่าย ไม่ปลอดภัยกับใจเขาเลยสักนิด

ใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่อีกนานกว่าที่ภูตลาจะกลับมาตั้งสติให้เป็นปกติได้ ชายหนุ่มเหลือบมองไปยังร่างบนเตียง สุดท้ายก็ตัดสินใจหายตัววับกลับมาที่ศาลพระภูมิของตัวเองในทันทีทันใด ถ้าหากเขายังอยู่ตรงนั้นนานกว่านี้ เขาคงหักห้ามใจตนเองไว้ไม่ได้เป็นแน่ เพราะเขาอาจจะเผลอ...

สัมผัสเรียวปากอันนุ่มนิ่มและหอมหวานนั่นอีกครั้ง



__________

พอเห็นฟีดแบ็กของตอนที่แล้วก็ถึงกับกลัวเลยค่ะ ฮือ ทุกคนอินอะไรกันขนาดนั้นนน อินจนเราต้องรีบมาอัพตอนใหม่อ่ะ จะได้จบๆ ดราม่าไปเนอะ มันควรเข้าสู่ความหวานได้แล้ววว แหะๆ

เหย มีคนรู้ทันเราอ่ะ รู้ได้ไงว่าแทงค์เมาแล้วจะทำมิดีมิร้ายพี่ภูคะ 55555 เป็นไงล่ะ ทำจริงๆ ด้วย ฮ่าา ท่านเจ้าที่โดนเด็กเมายั่ว สงสารเขานะครับ กรั๊กๆๆ //หัวเราะสะใจเบาๆ

มีคนมองอีกมุมของความสัมพันธ์ระหว่างแทงค์กับเพื่อนทั้งสองด้วยล่ะ มาดูกันเนอะว่าเรื่องจะเป็นไงต่อ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่อยากบอกก็คือ...นักอ่านคนไหนดูใจเริง ให้คิดว่าแทงคคือพิมและเนสกับคลาร์กคือใจเริงค่ะ 55555 เพราะอะไรเดี๋ยวเรามาเฉลยในตอนที่ 37 นะคะ

ส่วนตอนหน้า ท่านเจ้าที่จะทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวค่ะ ฮ่าาา ไปอ่านหนังสือสอบต่อละ ว่าจะอ่านอีกนิดแล้วไปนอน ไว้พบกันตอนหน้านะคะ ตอนหน้าก็จบดราม่าแล้วเด้อ แล้วเจอกันค่ะ จุ๊บๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2017 20:05:34 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โอ๊ยยยยยยย จะรักกันยังไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :z6: ของทีนึงนะหลานแท้งค์ เกือบจะได้กินท่านเจ้าที่อยู่แล้วเชียว เกิดมีจิตสำนึกส่างเหล้าขึ้นมาได้เนอะ  :m31: :fire:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เกือบไปละ สู้ต่อไปจ้า
 :3123:  :pig4:  :3123:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พี่ภูทำอะไรอะ

ออฟไลน์ sakkriengkai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เมื่อไหร่เขาจะได้กันนนนนนนนนน   :z1:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
พี่ภูเกือบไแล้วววว เกือบเสร็จแทงค์แล้วว55555
ท่านเจ้าที่ของเราเหมือนโดนล่อลวงเลยนะคะ วงวารรร
โอ๋ๆแทงค์นะ เพื่อนพูดแย่ขนาดนี้จะเสียใจก้ไม่แปลกอะ
แต่หนูจะเมาแล้วไปล่อลวงพี่ภูมาแบบนี้ไม่ได้นะคะ
เดี๋ยวพี่เค้าทำผิดกฎแล้วมันจะยุ่งงงง
รอค่าาา

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เกลียดอิเพื่อนอยากให้น้องเลิกคบไปเลย ถ้ากลับไปดีกันรู้สึกรับไม่ได้คะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เกือบไปแล้วท่านเจ้าที่  :hao6:

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เกือบไปแล้วววววว ท่านเจ้าที่เกือบเสียตัวแล้วนะคะ  :z2: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด