Redeemed Night
ผมหายใจเข้ากอบโกยอากาศให้เข้าปอดด้วยสภาพที่พยายามเป็นปกติที่สุด...ที่สุดเท่าที่ทำได้ มองรถที่ผ่านไปมา มองคนที่หัวเราะบ้าง พูดคุยอะไรก็ไม่รู้บ้าง ผมพยายามเปิดประสาทสัมผัสทั้งหมด
หูให้รับฟังเสียงที่วุ่นวายทั้งพูดคุย หัวเราะ ร้องไห้ เพลง บ่น ชนแก้ว น้ำแข็ง ร้องเท้า และอื่นๆที่ตีรังเข้ามา
...แต่ผมหูผมก็พร่าด้วยเสียงวิทยุซ่าๆสัญญาณไม่ดี
ตามองผู้คนที่แต่งกายหลากหลายแบบ ทรงผมหลากสไตล์ แสงไฟที่สว่างจากไฟฟ้า บาร์เทนเดอร์ปรุงเครื่องดื่ม เด็กเสิร์ฟรับลูกค้า คนเต้นเป็นบ้าเป็นหลังอยู่บนฟอร์ และอีกมากมาย
...แต่ก็กลายเป็นว่าผมเห็นแค่แก้วเหล้าในมือและสันจมูกของตัวเอง
ผิวที่ห่อคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นเนื้อดีพอดีตัว เนื้อผ้าดีสมแก่สัมผัสที่อ่อนนุ่ม กางเกงยีนส์ตัวเก่งที่ผมคิดว่ามันสบายตัวและดูดีเสมอที่สวมใส่ ผมนุ่มสลวยที่คลอเคลียหลังคอ ถูกมันรวบเฉกเช่นเดิมที่เคยป็น จากความคิดที่ว่าอาจสร้างความรำคาญ แขนที่เท้าบนเคาท์เตอร์บาร์แกรนิตสีดำ มันชโลมอากาศเย็นจากแอร์ที่ทำงานอย่างคงประสิทธิภาพ
...ไม่เลยผม ผมไม่รู้สึกถึงมันเลย ผมถูกขังอยู่กับน้ำล่องหนที่ท้นท่วมด้วยความ...รู้สึกบางอย่าง
เค้นเสียงให้ตัวเองก่อนกลอกตามองเงาตัวเองที่สะท้อนบนขวดเหล้าราคาแพงข้างๆ เทมันลงตรงขอบแก้วเสียงดังกริ๊งอีกครั้งแล้วเทมันเข้าปากดังหิวกระหาย
และยอมรับจุดสนใจเดียวที่ร่างกายและจิตใจในตอนนี้จะยอม
“ดื่มมากไปแล้ว”
ผมชำเลืองตาหลบแก้วเหล้าที่ตัวเองกำลังกระดกดื่ม มองชายหนุ่มที่นั่งข้างกาย ก่อนจะวางแก้วลง ไม่ได้กระแทกตึงตัง และไม่ได้นิ่มนวล มันก็แค่การวางแก้วธรรมดา นั่นแหละดีแล้ว เขาจะได้ไม่รู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ใช่ ผมเฉย ผมพยายามว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น... แค่นั่งกินเหล้า
“พอแล้ว” เมื่อผมกำลังจะเอนคอขวดเทลงแก้วอีกช็อต มือหน้ารีบรับรั้งปากขวดทรงสวยไว้ก่อนน้ำเมาจะรินลงแก้วอีก ดวงตาแสนสวยนั่น ไม่ได้มองมาที่คนห้ามแม้แต่น้อย มันมองแก้วขวดและแก้วเหล้าในกำมือราวกับสะกด ในหัวที่แทบจะหลอมละลายไปพร้อมกับคอที่ร้อนร่าคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี
สุดท้ายก็หลั่งน้ำตาเสียดื้อๆ“อย่าร้อง”เสียงทุ้มบอก ทำไม่ได้ ผมทำอย่างที่เขาบอกไม่ได้ ผมได้แต่นั่งค้างปล่อยให้น้ำตาเอ่อ และกลิ้งลงมาเมื่อกระพริบตา ไม่เช็ด ไม่ร้องคราง ร้องไห้เงียบๆ
“อย่าเป็นแบบนี้เพราะกู”ร่างกายของผมไม่ได้มีปฏิกิริยากับคำขอตรงหน้า ร่างโปร่งยังคงนิ่งและปลดปล่อยน้ำตา เหล้าครึ่งขวดแล้วแต่สติยังคงครบครัน ครบพอจะรู้ว่าตัวเอง...เจ็บปวด
เขาไม่ได้ถูกบอกเลิก...แต่ถูกปฏิเสธรัก“กูกำลังจะแต่งงาน”
ใครพูดเหรอ ก็ไอ้คนที่นั่งข้างผม มองการกินเหล้าเหมือนจิบชาตั้งแต่มันเอ่ยประโยคที่ทำให้ผมไปไม่ถูก จะให้ผมทำไงล่ะ ก็เขาตัดสินใจไปแล้ว
ผมไม่ใช่เป็นเด็กนะที่ไม่พอใจเขาก็บอกว่าโป้ง แล้วมาเกี่ยวก้อยคืนดีน่ะ
แต่ผมก็ไม่ได้โตพอที่จะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง ทำได้...แค่ปล่อยมันไปก่อน ปล่อยให้ลอยไปก่อน
ผมดีใจที่คนข้างๆให้ความร่วมมือโดยหุบปากเงียบๆตั้งแต่ผมเริ่มกินเหล้า ไม่เหมือนก่อนหน้านั่น เขาพยายามอธิบายผมว่าทำไมรับรักผมไม่ได้ เขาไม่ได้โทษผม แต่เขาพรั่งพรูเหตุผลต่างๆนาๆว่าทำไมผมกับเขาใช้ความรักในการอยู่ด้วยกันไม่ได้ อ่า เขาอธิบายเหตุผลเยอะแยะจนตาชั่งตัดสินให้เขาถูก และผมก็แพ้...ก็เพราะผมมีแค่เหตุผลเดียวที่ถือมา...ก็แค่....ผมรักเขา
มันก็แค่นั้นแหละ
ผมพยายามทำเรื่องที่แย่เกินไปให้ดูดีที่สุด ผมกำลังยอมรับเรื่องนี้ นั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้...ใช่ไหม
แก้วเหล้าดั่งไบเบิล และขวดเหล้าคือกางเขนที่พระองค์ไถ่บาป คอที่แสบสันจากการสวดภาวนาด้วยแอลกอฮอร์
พระเจ้า อวยพรผมที โปรดบอกทางหลุดพ้นบาปทีเถอะ
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกับความนึกคิดนี่หรอก ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ผมรู้ว่าผมคงอยู่อย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ และดำเนินชีวิตต่อไปด้วยจิตใจแบบนี้
ไม่ได้ด้วย ผมค่อยๆยิ้มช้าๆ ก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง เส้นทางที่ผมจะทำให้ตนเองดำดิ่งที่สุดและหลุดพ้นเฉกเช่นคนที่เป็นแม่มดและโดนเผาให้ไปพบพระเจ้า
ผมค่อยๆผินหน้าอาบน้ำตามองเขาด้วยรอยยิ้มที่เวทนาโดยเขาไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องของจากผู้อ่อนแอคนนี้ได้
________________________________
ในห้องนอนที่คุ้นเคย เฉลียงระเบียงกระจกใสเผยมุมเมืองยามราตรีที่สว่างงดงามจากแสงหลากสีจอมปลอม ในห้องนอนไม่ได้มืดมิดเพราะแสงจันทร์สีนวล มันช่างสวยงามและเย็นชา ต่างจากเขาตอนนี้ที่กอบกุมหน้าที่ยังคงเปรอะน้ำตาของผม เขามองผมอย่างไม่รู้ว่าตัวเองแสดงความรู้สึกอะไรอยู่ เพราะผมก็ไม่รู้...ว่าตัวเองรู้สึกอะไร
ร่างของชายหนุ่มนั่งอยู่บนขอบเตียงโทนดำขาวที่เก็บเรียบร้อย เขามาห้องนี้บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเจ้าของห้องต้องถูกบั่นทอนความรักที่ไม่อาจเริ่มด้วยวาทะการตัดสินจากเขา ร่างที่ของที่เอ่ยวาจาอาจด้วยความเมามาย โศกเศร้า โกรธเกรี้ยว เจ็บปวด นั่งอยู่กับพื้นใกล้ๆ ศีรษะทุยปล่อยให้ผมนุ่มหยักเล็กๆคลอเคลียบนหน้าตักแกร่ง อิงเอนใบหน้านวลที่ยังคงรินน้ำตาแห่งความเงียบจากตาสวยเป็นครั้งครา มือเรียวค่อยๆปลดหัวเข็มขัดของคนตรงหน้าก่อนจะร่นขอบชั้นในลง แม้ว่าเสียงห้ามจากเจ้าของร่างที่ได้รับการปรนเปรอจากเรียวลิ้นของร่างโปร่งจะออกเสียงห้ามอยู่หลายครา แต่ริมฝีปากเล็กที่ครอบความเป็นชายของเขาตวัดไล่อารมณ์ได้อย่างรวดเรียง เสียงทุ้มครางอย่างพอใจ และเผลอไผลทิ้งความสุภาพและความเกรงใจเมื่อครู่หมดไป มือใหญ่สอดเข้าไปใต้กลุ่มนุ่มก่อนจะฉุดดึงให้ปรนเปรอมากกว่านี้อย่างเอาแต่ใจ
คนที่พยายามตวัดลิ้นเลียกระตุ้นอีกฝ่ายรู้สึกเจ็บทันที เมื่ออีกฝ่ายดันรั้งให้รับแท่งเนื้อที่เริ่มแข็งนั่นเข้ามาในโพรงปากจนลึก จนกระแทกกับลำคอด้านใน แต่กระนั้นก็ยอมรับความเจ็บปวดราวกับลงโทษตัวเอง ไม่แสดงท่าทีว่าไม่อยากทำต่อแล้วให้อีกฝ่ายได้รู้ เมื่อคนเริ่มไม่พ้นตนเองนั่นแหละ แขนเรียวที่มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยตามประสาคนไม่มีไขมันตกข้างเยอะ ดันรั้งกับตักแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเพื่อเป็นฐานยันตัวให้ลุกขึ้น ร่างกายของคนที่ถูกเชิญชวนมาที่นี่โดนมือเรียวผลักออกแกร่งของตนให้นอนราบ แต่ทว่าเจ้าตัวที่สติถูกครอบครองด้วยสัญชาตญาณเพศผู้ที่ตกค้างในตัวมนุษย์ทุกคนไม่ได้ปล่อยให้ร่างโปร่งเป็นผู้นำอย่างสัญญาณเริ่ม มือหน้าตะปบที่เอวคนที่ยืนอยู่ขอบเตียง ในขอบเขตขาทั้งสอง ร่างนั้นทำท่าจะปีนมาบนตัวเขาแต่มันช้าเกินไป เขาทนไม่ไหวอีกแล้ว ไม่สนใจถึงความน่าสงสารที่อีกฝ่ายเสนออกมา เซ็ก คือสิ่งที่ต้องการในตอนนี้
นิ้วแกร่งสอดเข้าที่ขอบกางเกงเอวสอบที่ไร้กล้ามเนื้อไม่เหมือนเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนกระตุกให้อาภรณ์หลุดออก กางเกงยีนส์และชั้นในหลุดครืดลงมากองคาที่ขาอ่อนอย่างรวดเร็วสร้างความแสบร้อนให้เอวและสะโพกคนที่โดนปลด คราบน้ำตาคงค้างอยู่ที่หน้า ริมฝีปากที่หล่อไปด้วยน้ำลายตกที่มุมปากเหยียดยิ้มให้กับตนเอง มองแท่งเนื้อคนตรงหน้าผ่านแสงจันทร์ นิ้วสากทั้งสิบของคนที่นอนราบลูบโรยเบาบางผ่านแผ่นหลังนิ้วชี้แกร่งค่อยๆสัมผัสกระดูกนูนเล็กๆกลางหลังร่างโปร่ง แม้อารมณ์ตอนนี้อยากจะกลืนอีกฝ่ายที่มีร่างกายเย้าอารมณ์เขาให้ตื่นขึ้นเมื่อต้องแสงจันทร์ แต่ทว่าก็ต้องปรนเปรออีกฝ่ายบ้าง ยิ่งกับช่องทางที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อกิจอย่างนี้แล้วก็ควรจะระวังที่สุด แม้ตระหนักว่าคนที่ยืนเย้าตรงหน้าเขาจะเชิญชวนเองก็ตาม
ร่างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อร้องหาตัวช่วยและเครื่องมือที่ปลอดภัย ที่รอยยิ้มงามผ่านแสงจันทร์ผ่านความเงียบนั้นมันสร้างความวิตกให้คนที่กำลังไหลตามอารมณ์ได้ตื่นตระหนก ร่างหนากระตุกลุกทำท่าจะลุกขึ้นหาแต่ทว่ามือทั้งสองของคนที่จะทำทั้งอย่างโถมแรงทั้งหมดดันอีกฝ่ายให้ลมตัวลงนอน แล้วประกบจูบ ลิ้นเรียวสอดเข้าปากของอีกฝ่ายตวัดตักตวงก่อนจะรั้งลิ้นอีกฝ่ายให้เข้ามาในปากตน เจ้าของหนวดบางๆได้สัมผัสความหวานในปากของคนที่เฝ้ามองเขามาตลอดอย่างตื่นตะลึง มีเพียงเสียงทุ้มเท่านั้นที่ครางอย่างพอใจและเริ่มลุกเขาไปในปากของคนที่ตนตัดรอน จนได้ยินเสียงร้องเล็กๆของอีกฝ่ายที่ไม่ได้ตั้งใจร้องประท้วงออกมาก ปากหนาผละออกเล็กน้อย ปล่อยให้อีกฝ่ายได้หายใจก่อนจะประกบเข้าไปใหม่และลิ้มรสอย่างอ่อนโยนกว่าเดิม แต่ทว่าอยู่ๆความรู้สึกร้อนวาบก็ครอบคลุมแก่นกาย มือหน้ารีบบีบต้นแขนของคนที่รับจูบและเริ่มรุกกลับให้ผละออกก่อน จะเหลือบตามองภาพของบั้นท้ายที่เริ่มบดเข้าตรงนั้นของเขา
ร่างโปร่งยิ้มให้อย่างไรอารมณ์ก่อนจะผละมือหน้าที่บีบต้นแกนและประสานนิ้วเรียวกระกบกับมือหน้าซึ่งผู้เป็นเจ้าของพยายามร้องห้ามว่าอย่าทำแบบนี้ แต่เขาไม่มีสติใดๆแล้ว ร่างกายเรียกร้องความดำดิ่ง ค่อยทิ้งตัวให้สิ่งแปลกปลอมเสียดแทงเข้ามาในตัวเอง
เขารู้สึกแน่น ร้อนและรู้สึกดีอย่างสุดๆ ผมได้ยินเสียงเขาครางอย่างพอใจ ผมปล่อยตัวไปตามอารมณ์ ไม่มีอารมณ์กามที่มาจากความลุ่มหลงหรอก มันมีแค่ความรู้สึกว่า เอาสิ ทำเลย ปรนเปรอให้เขาคืนนี้ ประทับความสุขลงในจูบและตอกความสึกที่ยากเกินจะหวนกลับลงในเซ็กนี่ และชดใช้บาปของมึงเท่าที่มึงต้องการจนพอใจ พรุ่งนี้ทุกอย่างจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พรุ่งนี้...ผมจะลบความรักต่อเขาโดยสมบูรณ์
เจ็บทุกครั้งที่ขยับไล่ตัณหาของอีกฝ่าย เอวสอบหน้าที่ขยับเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกว่าให้เขาเร่งความต้องการให้เร็วกว่านี้ ผมทนใช้ขาทั้งสองข้างที่รับความเจ็บจากตรงนั้นจนแทบไม่มีแรงรั้งให้ร่างตัวเองปรนเปรออีกฝ่าย แสบและเจ็บไปหมด ยิ่งเร็วขึ้นก็ยิ่งปวด ร่างของเราสองคนขยับหวือจนกระทั้งคนที่นอนราบกระตุกเกร็ง ผมรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะผ่อนอีกไม่ช้าจึงกระแทกตัวลงอีกสองสามครั้ง พรางบอกเขาตรงๆว่าไม่ต้องทนไว้หรอก สุดท้ายความอุ่นวาบก็ปล่อยมาในช่องทางที่แน่นแสบ ผมร้องเบาๆเมื่อรู้สึกปวดข้างในจนต้องล้มไปซบอีกฝ่าย ต้นขาหนาตวัดเกี่ยวผลักให้ผมล้มนอนแทน เขาตั้งใจจะทำอย่างช้าๆแต่ทว่าผมไม่มีแรงพอจึงกลายเป็นกว่าผมกับเขาเสียหลักและร่างหนาของเขาจะล้มกระแทกผม ด้วยสัญชาตญาณอีกฝ่ายเลยผละใช้เท้าแตะพื้น กลายเป็นว่าเขาถอนแก่นกายออกมาทันที ผมร้องหวีดอย่างสุดเสียง จนเขาทั้งใช้เข่ายันขอบเตียงไม่ให้ล้มทับผมจริงๆสะดุ้ง ร่างหนาคร่อมผม ใช้เข่าและศอกรั้งร่างตัวเอง มือหน้ากอบกุมใบหน้าผมที่เหยเกด้วยความเจ็บปวด กดจมูกโด่งเหนือขมับที่ชื้นเหงื่อของผม พร่ำขอโทษข้างหูเสียงเบา
ผมไม่อยากได้แบบนี้ผมบอกเขา รั้งคอเขาไว้ บอกให้เขาปลดปล่อยอารมณ์ในตัวผมอีก ทำหน้าตาแสดงความรู้สึกที่ผมไม่อยากได้ อย่าเลย อย่าสงสารผมเลย ทำมันเถอะ แต่ทว่าเพราะอาจจะสภาพช่องทางของผมที่เขาได้เห็นผ่านแสงจันทร์มันดูเปรอะด้วยน้ำกามและเลือดเล็กๆละมั้งทำให้เขาเริ่มลังเล ปากหนาที่มีหนวดบางๆกำลังจะอ้าปากให้หยุด ผมรู้ทันเลยรีบประกบปากอีกรอบ พยายามใช้ขาของตัวเองดันเข่าทั้งสองข้างของเขาที่เป็นฐานให้ล้มและทิ้งตัวราบบนผม ก่อนจะตวัดขาขึ้นเกี่ยวเอวหน้าพยายามบดขยี้ตรงนั้นของเขา จนร้องครางอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ เขามองผมราวกับจะบอกว่าทำตัวเองนะ เขาจึงเริ่มอีกรอบ แต่คราวนี้เขาเริ่มด้วยนิ้วสากๆของเขาสอดเข้ามาในช่องทางแสนสกปรกของผมอย่างไม่รังเกียจ
ผมร้องเหอะอย่างไม่พอใจ ก่อนจะผินหน้ามองข้างนอก ปล่อยน้ำตาอีกครั้ง นิ้วที่เริ่มขยับหาจุดที่สร้างความรู้สึกดีๆให้ผม แต่มันไม่มีเลย ไม่ว่าเขาจะแตะตรงไหนมันก็แสบ มันก็เจ็บไปหมด ได้โปรด อย่าทำให้เสียงเวลาเลย ใส่เข้ามาเลยเถอะ ผมไม่มีความสุขแต่เขามีแน่ๆ ผมเกาะเลิกเกาะก่ายตัวเขาแล้ว มือทั้งสองจิกลงบนผ้าปูอย่างเจ็บ เมื่อครู่เหรอหันหน้าจนจมเตียงแล้วกัดผ้าปูที่ไร้ความเรียบอีกต่อไปขึ้นมาแทนการกัดปากปิดกั้นความทรมานของตัวเองเมื่อนิ้วที่สองเริ่มใส่เขามา คนเหนือกว่านิ่วหน้าเล็กๆเมื่อรู้ว่าผมเจ็บ ทั้งๆที่พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้าแท้ๆ แต่ร่างกายกับซื่อสัตย์ เกร็งแน่นทุกครั้งที่มีการขยับ
และผมก็บอกเขาอีกครั้งว่าให้เข้ามาเลย แน่นอนเขาทำท่าจะลุกหนีแต่ผมไม่ยอม ไม่นะ อย่าทำให้สิ่งที่ผมต้องการพังทลายเลย ทำคำขอสุดท้ายนี่เถอะ เพื่อความเห็นแก่ตัวนี้ ผมฝืนความเจ็บได้อย่างไรที่ติ กระชากกางเกงที่คาอยู่ตรงเข่าทิ้ง ผวาเข้าหาร่างที่ลุกจากเตียงและจัดแจงกางเกงชั้นในพร้อมจะกลัดเข็มขัดตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะคุกเข่าต่อหน้ากอดต้นขาเขาอย่างน่าเวทนาแล้วเริ่มรื้อเข็มกลัดนั่นอีกรอบ เขามองผมอย่างปวดใจแล้วสะบัดผมออก ตอนนี้ผมอย่างกับเล่นละครแหนะ แต่ว่านะ แค่คืนนี้มันก็จบแล้ว
และผมก็ใช่แผนสุดท้าย ว่าด่าเธอผู้เป็นที่รักเหมือนตัวร้ายในละครอย่างเสียหาย ผมรู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายโกรธง่ายเมื่อมีใครแตะต้องคนที่เขารัก เขาหันมามองผมอย่างโมโห ก่นด่าผม แต่ผมก็ใส่ไฟอีกครั้ง คราวนี้เขาเป็นฝ่ายกลับกระชากต้นแขนผมผลักให้ผมนอนกับพื้นนั่นแหละ ไม่มีจูบอีกแล้วเขาปลดกางเกงออก ยัดมันลงปากผมดูถูกผม ผมพยามปรนเปรอเขาอีกครั้ง เราสองคนสติแตกไปแล้ว เมื่อรถเบรกแตกกับคนกินเหล้าจนเมาหัวทิ่ม ผมเริ่มต่อไป อีกฝ่ายไร้ความใยดีเช่นกัน เซ็กที่รุนแรงเขาครางออกมาด้วยความต้องการที่ปลดปล่อย และผมครางออกมาด้วยความทรมาณ
การปลดปล่อยไม่รู้กี่ครั้งกี่ครา ผมจำอะไรไม่ได้นอกจากความเจ็บปวดของร่างกายกับจิตใจที่กำลังชดใช้นี่ ไม่รู้ว่าเราหยุดกันเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าเขาที่อารมณ์เย็นลงแล้วกล่าวอะไรที่ข้างหู แต่ในขณะเดียวกับผมก็สูดกลิ่นของเขา สัมผัสร่างของเขา รับรู้ถึงความบ้าคลั่งอีกครั้ง
นี่ไม่ใช่การรั้งไว้
แต่ตอกสันมีดที่ตัดขาดความสัมพันธ์ต่างหาก
________________________________
ผมลืมตาขึ้นมา มองฟ้าที่เริ่มสางเหนือเมืองที่ปิดแสงไฟราตรีแล้ว ผมกวาดตามองห้องนอนที่ไม่ใช่ของตัวเอง ยกมือคลึงขมับเพื่อเรียกร่างกายให้ยอมรับความจริงให้ได้
เมื่อคืนไม่ได้เมา สติครบถ้วนทุกอย่าง เมื่อคืนผมได้พังทลายความรู้สึกของคนที่ให้ความรักผมมาตลอด แต่ผมก็ต้องใจร้าย ผมคิดง่ายๆว่าแค่บอกว่าไม่รับรักทุกอย่างจะจบ ใช่มันดูไปได้ดี เขานั่งกินเหล้าต่อ ผมคิดว่าเขาน่าจะคลายความเศร้า ความทุกข์ จากความรักที่ผมพึ่งตัดไป ผมเลยนั่งเงียบๆข้างเขา
แต่ผมโง่ไป การตัดความรักไม่ง่ายขนาดนั้นและไม่ฉับพลันทันทีทันใด มันแค่เริ่มราวและเขาจะต้องเจ็บปวดที่มันค่อยๆทลายและยอมรับมัน
และเขาก็ฉลาดไป... ฉลาดพอที่จะทำให้ความรักนั้น ถูกทำให้ทลายให้เป็นผุยผงเพียงพริบตา
ใช่ เจ้าบ้าข้างๆผมใช้ค้อนทุบมันให้เป็นผงในคืนเดียว
ผมมันโง่เกินไปที่ยอมรับคำขอเขา ยอมรับคำขอที่คิดว่าแค่ความต้องการจากก้นบึ้งจิตใจที่ลอยขึ้นมาเพราะฤทธิ์เหล้าค่อนขวดนั้น เซ็กที่ผมคิด่าจะเป็นแค่การยอมให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเก็บเป็นความทรงจำในการทิ้งความรักดีที่ให้คนเหี้ยๆอย่างผม เออ มันเป็นความทรงจำครั้งสุดท้ายนี่แหละ ความทรงจำที่เป็นกรรไกรชั้นดีในการตัดพวกเราไม่ให้รักกันอีก
เขารู้ตัวดี ว่าตื่นมาในเช้านี้ผมก็ไม่รักเขา แต่ผมไม่รู้เลยว่า ผมตื่นมาแล้วเขาจะเป็นยังไง แต่เขารู้ เขารู้ไปซะทั้งหมดและเขาได้บอกผมเมื่อคืนจากเสียงร้องเรียกชื่อผมที่แสนทรมานกับเซ็กที่น่าเจ็บปวดนี่
เขาเดาได้หมดว่าถ้าเราแค่แยกกันเฉยๆแล้วทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็จะยังคงเดินเข้าหาเขาปกติและเขาอาจจะเผลอใจรักเขาอีก ไม่ก็ผมอาจจะเกิดอาการเวทนาและเผลอแสดงความใจดี หรือเลวร้ายสุดผมก็เผลอคิดว่านั่นเป็นความรักและเจ็บปวดกับการเลือกระหว่างคนที่ผมจะแต่งงานด้วยและเขา
เขารู้! เขารู้! เขารู้หมดเลย!
และเขาก็รู้ว่า เรื่องเมื่อคืนนั้น ผมจะไม่เดินเข้ามาหาเขาอีกแน่ ใช่ เหมือนตอนนี้ ที่ผมไม่กล้าแม้แต่หันไปมอง แค่รู้สึกว่าต้องอยู่ข้างๆร่างโปร่งที่ผมทารุณกรรมเมื่อคืนผมก็อยากจะให้พระเจ้าหรือเธอคนนั้นสวมกอดผมแล้ว เออ ผมมันขี้ขลาด!
ไม่เหมือนกับเขาที่ยอมลงทัณฑ์ตัวเอง ขีดเส้นอย่างชัดเจนว่าได้ทำสร้างเรื่องเลวร้ายให้กับผม สร้างรอยแผลด้วยแซ่ที่ไล่เฆี่ยนตัวเองบนแผ่นหลังให้ได้จำความเจ็บปวดอย่างใหญ่หลวงนี่ ยัดมันในความทรงจำว่านี่เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด
และเขาก็จะได้รู้ว่าการไม่ต้องโหยหาผมมันมีความสุขกว่า
แต่ ณ ตอนนี้อย่างน้อย ก็ขอให้ผมยินดีกับความกล้าในการเผชิญหน้ากับร่างนั่นหน่อยเถอะนะ
ผมค่อยๆลืมตา ปรับโฟกัสภาพอีกครั้ง รับรู้ว่าร่างกายตัวเองไม่มีอะไรปิดบังเรือนร่างกำยังที่เปลือยเปล่านี่เลย ก่อนจะค่อยหันมองหาอีกร่าง แขนแกร่งค่อยๆยันตัวลุกและผินหน้ามองข้างๆ แต่ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อไม่มีร่างที่อยู่ในบาร์กับผมเมื่อคืน ผมกวาดตามองอีกครั้งก่อนลุกขึ้นอย่างผวาหวาดกลัว แต่ขณะที่เท้าจะลงพื้นก็ชะงัก เมื่อเหลือบร่างที่คู่นอนกับกองผ้านวมที่ดำกับพื้นข้างเตียง ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะใช้มือลูบหน้าเรียกสติแล้วมองอย่างเต็มตา
เครื่องนอนที่เป็นสีดำเข้มทั้งหมดยับย่นไม่เรียบตรึงตามนิสัยเจ้าระเบียบของเจ้าของห้อง แต่คราบน้ำกามมากมายมันเด่นชัดและแห้งกรังพอจะบอกเรื่องราวได้ทีเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น ผมกระชากผ้าปูออกและหันมามองร่างโปร่ง ผมหนุ่มคลอเคลียไปกับใบหน้าขาวคม ดวงตาสวยปิดสนิท รอบๆด้วยตาแดงก่ำ คราบน้ำตาบางๆไม่ได้ให้ความหมายที่แท้จริงของอารมณ์คนๆนี้เลย รอยจ้ำตามตัวแดงเห่อบ้าง ม่วงจางๆบ้าง หรือขึ้นเขียวบ้าง แย่สุดคงเป็นรอยฟันที่ฝั่งจนน่ากลัวตรงยอดอกข้างหนึ่ง ต้นแขนที่มีรอยมือเด่นกำรอบ ผมย่อตัวลงคว้าชั้นในและกางเกงมาใส่ลวกๆก่อนจะเดินมาหาคนที่ไม่ได้สติ นั่งยองๆข้างกองผ้านั่น มองหน้าอกที่ขยับขึ้นลงปกติ แต่สีหน้าไม่ดีคงเพราะวอดก้าเมื่อคืน ตื่นมาคงแย่หน้าดู ผมใช้มือของตัวเองปัดปอยผมก่อนไล่มือไปที่ซอกคอ หลังคอ แก้มและหน้าผาก ไข้ที่อ่อนๆและน่าจะแย่ขึ้นเรื่อยๆ คลี่กองผ้าออกจากเอว ก่อนจะเหมือนจมน้ำกับสภาพที่บอกได้แค่ว่า<ถูกข่มขืน>
รอยช้ำจากฝ่ามือที่ต้นขา เลือดและคราบขาวแห้งเกรอะเปรอะไปทั่วและติดช่องทางที่ดูบาดเจ็บจนหน้ากลัว ผมจัดแจงหมอนและช้อนร่างเขาขึ้นเตียง เอาผ้านวมและผ้าปูโยนใส่ถังซัก รื้อผืนสำรองจากตู้ที่พอจะจำได้ อาบน้ำและออกไปซื้อยา กลับมาเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายคนที่ตัวร้อนกว่าเดิมเท่าที่จะทำได้ กรอกยาพร้อมน้ำใส่ปากตัวเองและส่งต่อสู่ลำคอคนที่ไม่มีสติ ป้ายเจลลงบนบาดแผล สวมเสื้อผ้าเนื้อดีให้เจ้าตัวแล้วตวัดผ้าห่มคลุม
เปิดเครื่องปรับอากาศในระดับที่พอดี ก่อนตรวจตราหน้าต่างประตู เปิดประตูหน้าแทรกตัวออกไป เมื่อพ้นขอบประตูก็ลอบมองเจ้าของห้องที่หลับบนเตียงอย่างให้ติดตาย ก่อนจะปิดประตูลง เสียงล็อคอัตโนมัติดังขึ้น
และ.....ผมก็จากไปพร้อมกับคำสาปที่เราทั้งสองไม่อาจส่งผ่านอะไรกันได้อีก
ชั่วชีวิต
----------------------- จบ -----------------------
จากใจคนเขียน alpha
แบบ....ว่าไงดี เอ่อ
พอดีฟังเพลงอยู่เพลงวนๆกันแล้วเกิดอารมณ์แต่ง
555555+
มี
Million reasons ของ Lady GagaSet Fire To The Rain ของ AdeleShape Of You ของ Ed Sheeranและ
Heavy ของ Linkin Park(frat. kiiara)คือแค่คิดว่า ถ้ามีตัวละครที่รู้สัจธรรมของโลกในแบบของเรา
ถูกปฏิเสธความรักจะเป็นไง และพอดีได้เพลง 4 เพลงนี้บิ้ว 555555+
ความคิดของฝ่ายรับมากจาก Set Fire to The rain + Million reasons
ความคิดของฝ่ายรุกหลังจากตื่นมา มาจาก Heavy
ส่วนฉาก Sex มาจาก Shape of you 555555
เขียนฉาก NC (พยายามจนเสร็จ)ครั้งแรก ไม่รู้จะห่วยไปไหม 555555ถ้าผิดพลาดประการใดต้องของอภัยมา ณ ที่นี้ นะจ๊ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ