♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ คุณหมีที่รัก♥ ประกาศยุติการเขียนชั่วคราว หน้า5
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ คุณหมีที่รัก♥ ประกาศยุติการเขียนชั่วคราว หน้า5  (อ่าน 18465 ครั้ง)

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

__________________________________________________________________________________________





ฝากติดตามนิยายเรื่องก่อนๆของไนท์ด้วยนะครับ
[Rewrite] •HANDSOME GHOST• : ยังไม่จบ
[นิยายตลกเฮฮา]•••ROBOT OVER TIME••• : ดอง(เค็มจนขม)
♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ คุณหมีที่รัก♥ : ยังไม่จบ



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2018 00:07:06 โดย niightziiz »

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0


 
‪ไนท์มีปัญหาเกี่ยวกับการเขียนนิยายเรื่องล่าสุด #คุณหมีที่รัก‬
ด้วยภาระหลายๆอย่าง ทั้งเรียนและทำงาน ทำให้ไม่มีเวลาที่จะแต่งนิยาย อีกทั้งยังเรื่องคาแรคเตอร์ตัวละครที่หละหลวมและเนื้อเรื่องที่ค่อนไปทางออกทะเลซะมากกว่า

จึงขอประกาศ ยุติการเขียนนิยายเรื่องคุณหมีที่รักไว้เพียงเท่านี้ ทั้งนี้หากมีโอกาสที่เหมาะสม จะทำการปัดฝุ่นนิยายเรื่องนี้อีกครั้ง กราบขออภัยที่ทำให้คนอ่านหลายๆคนต้องรอคอยแล้วทิ้งไว้กลางทางแบบนี้ ไนท์ได้เพียงแต่หวังว่าคนอ่านจะเข้าใจไนท์และติดตามผลงานของไนท์ต่อไป

สุดท้ายนี้ต้องขอโทษทุกคนอีกครั้งที่ไนท์ยังไม่สามารถเขียนนิยายได้ในช่วงนี้ หากเวลาและสถานการณ์เหมาะสมเมื่อไหร่ เราคงได้กลับมาเจอกัน ขอบคุณคนที่รอและติดตามผลงานของไนท์มาตลอด แล้วเจอกันใหม่นะครับ

♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ คุณหมีที่รัก♥

 

 

 

[Intro]

 

เจ้าของร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋ม เป็นคนที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่นๆอยู่เสมอ

ไม่เว้นแม้แต่สุนัขจรจัดเป็นฝูง

หรือแม้แต่’คนจรจัด’ตัวดำผอมแห้ง ผมยุ่งเหยิง ตัวเหม็นอีกต่างหาก

แต่เจ้าของร้านข้าวราดแกงก็ไม่เคยรังเกียจ ซ้ำยังให้ข้าวให้น้ำกินทุกวัน

แต่มีอยู่วันหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นจนคนจรจัดคนนี้ต้องมาอาศัยร่วมหลับนอนในห้องนอนห้องเดียวกับเจ้าของร้านข้าวราดแกง

 

คนจรจัดที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อตัวเอง แท้จริงแล้วมีความลับอะไรปิดบังอยู่หรือไม่

แล้วเจ้าของร้านข้าวราดแกงจะทำอย่างไรต่อไป........

 

 

 

“หมี สองจานนี้ของโต๊ะหก”

คนตัวโตที่มีที่คาดผมหูหมีอยู่บนหัวรับจานข้าวราดแกงไปเสิร์ฟยังโต๊ะหกตามคำสั่งของเจ้าของร้าน

ลูกค้าสาวๆในโต๊ะจ้องมองพนักงานเสิร์ฟหนุ่มอย่างหลงใหล

เสียงอ่อนเสียงหวานเอ่ยขอบคุณไป

แต่ก็ได้รับเพียงใบหน้าเรียบนิ่งของคนตัวโตกลับมา

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหล่อมากๆอยู่ดีสำหรับพวกเธอ

 

มีเพียงเจ้าของร้านข้าวราดแกงเท่านั้นที่รู้ว่าภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งนั้น

เป็นใบหน้าปกติของเจ้าหมีตัวโต

 

เขาคิดว่าเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้าหมีตัวโต

 

แต่มันอาจจะไม่ใช่ทั้งหมด......

 

 

“คุณเมต..... ผมมีอะไรจะบอกครับ”

 

 

 ----------------------------------------------------------------

 

เปิดตัวนิยายเรื่องใหม่ค้าบ เรื่องนี้ค่อนข้างท้าทายสำหรับไนท์พอสมควร

เพราะไนท์พยายามใช้ภาษาที่สละสลวยขึ้น แต่ก็ยังง่ายต่อการทำความเข้าใจอยู่

เรื่องนี้พูดถึงเรื่องของเจ้าของร้านข้าวราดแกงกับคนจรจัด

แรงบันดาลใจมากจากเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งของอาแปะที่ให้ข้าวคนจรจัดกินทุกวัน

จนวันหนึ่งคนจรจัดคนนั้นก็มาตอบแทนอาแปะ

แต่ในเรื่องนี้ขอเปลี่ยนอาแปะเป็นหนุ่มนักศึกษาจบใหม่หน้าตาหล่อค่อนไปทางน่ารัก

กับคนจรจัดหน้าตา(เหมือนจะ)น่ารักค่อนไปทางหล่อถึงหล่อมาก

เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะได้มาลงให้บ่อยแค่ไหน เพราะไนท์ยังมีนิยายอีกเรื่องที่ยังแต่งไม่เสร็จอีก

แต่อย่างน้อยก็น่าจะอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างต่ำ

 

ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะครับ

อย่าลืมคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ไนท์ด้วยนะครับ

แท็กในทวิต #คุณหมีที่รัก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2018 00:04:06 โดย niightziiz »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: ♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ หมีที่รัก♥ [Intro] 15/5/60 P.1
«ตอบ #2 เมื่อ15-05-2017 20:12:41 »

มาติดตามค่าาา   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0

♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ คุณหมีที่รัก♥



[1] - Homeless







ครืนนนน... เสียงประตูโลหะถูกดันขึ้นไปด้านบนจนสุด ร่างโปร่งของเจ้าของร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋มเดินออกมาพร้อมกับไม้กวาด มือบางบังคับไม้กวาดอย่างคล่องแคล่ว ปัดกวาดเศษฝุ่นและเศษใบไม้ที่ตกอยู่บริเวณหน้าร้านใส่ถังขยะ

‘เมตตา’ หรือ ‘เมต’ เป็นนักศึกษาจบใหม่ที่เริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เขาเริ่มที่การทำกิจการต่อจากมารดาของเขาเอง ท่านเริ่มมีอายุมากแล้ว จึงทำงานหนักๆไม่ค่อยไหว เมตตาเป็นคนขยัน เขาจึงไม่คิดจะเลือกงาน อีกอย่าง ร้านขายข้าวราดแกงเองก็เป็นธุรกิจที่ถือว่ามั่นคงมากทีเดียว ทำเลที่ตั้งของร้านข้าวแกงป้าจุ๋มเองก็อยู่ในทำเลที่ดี ร้านข้าวแกงของเขาเป็นร้านที่อยู่ในตึกแถว ข้างๆเป็นร้านกิ๊ฟช็อป ถัดไปเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว และมีบริษัทมากมายล้อมรอบตึกแถวไว้ แถมในซอยข้างๆตึกยังมีที่พักของพนักงานโรงงานอีก เมตตาจึงต้องมาเปิดร้านแต่เช้ามืดทุกวัน เพื่อที่เขาจะได้ทันขายข้าวแกงให้กับคนที่ไปทำงานในตอนเช้า



หลังจากที่เมตตากวาดหน้าร้านเสร็จ ลูกจ้างที่สนิทเหมือนเป็นญาติพี่น้องของเขาก็มาถึงพอดี 

“พี่เป็ด พี่น้อย รีบเอากับข้าวใส่ถาดเลย สายแล้วนะ” เมตตาเอ่ยกับลูกจ้างอย่างเป็นกันเอง

“ได้เลยค่าน้องเมต วันนี้แต่งตัวหล่อเชียวนะคะ”พี่เป็ดเอ่ยแซวเจ้าของร้าน ก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้านพร้อมพี่น้อย สองสาวเคยเป็นสาวโรงงานที่อยู่ในซอยข้างๆ และมากินข้าวแกงร้านป้าจุ๋มตั้งแต่สมัยที่มารดาของเมตตาเป็นคนขาย สองสาวจึงมีความคุ้นเคยกับร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋มเป็นอย่างดี และหลังจากที่ลูกจ้างคนเก่าลาออกเพื่อกลับไปอยู่บ้าน สองสาวจึงขอเข้ามาทำงานที่ร้านพร้อมๆกับเมตตาที่เข้ามาบริหารกิจการ

“พี่เป็ด พี่น้อย เดี๋ยวหกโมงครึ่งก็เริ่มขายได้เลยนะ เมตจะไปตลาดแป้บหนึ่งก่อน กล่องโฟมจะหมดแล้ว”เมตตาบอกลูกจ้างทั้งสองแล้วเดินไปที่รถมอ’ไซต์ มือเรียวบิดคันเร่งแล้วตรงไปยังตลาดที่อยู่ไม่ไกลนัก



เวลาหกโมงเช้าเป็นเวลาที่คนทำงานเริ่มจะออกไปทำงานกันแล้ว คนส่วนใหญ่แถวนี้เป็นแรงงานที่ทำงานในโรงงานซอยข้างๆร้านของเมตตา อีกส่วนก็เป็นพนักงานออฟฟิศที่ทำงานอยู่ตึกสูงรอบๆตึกแถวที่ร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋มตั้งอยู่

เมตตาขับรถมาจนถึงร้านขายของชำในตลาด เขาเดินเข้าไปซื้อกล่องโฟมสำหรับใส่กับข้าว ที่น่าขำคือลูกสาวเจ้าของร้านขายของชำรีบวิ่งลงมาแล้วเดินไปหยิบกล่องโฟมมาให้กับเมตตา ใบหน้าสดใสของสาวแรกรุ่นส่งยิ้มเขินอายยามรับเงินมาจากมือเรียวของคนหน้าตาดี

“เงินทอนจ๊ะพี่เมต” หญิงสาวส่งเงินทอนมาให้กับเมตตาแล้วยืนบิดไปมา คนหน้าตาดีได้แต่ยืนขำกับความน่ารักของเด็กสาว แต่เขาไม่ได้สนใจเธอในเชิงชู้สาวเลย เขาเห็นเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก เขามองเธอเป็นแค่น้องสาวที่น่ารักคนหนึ่งเท่านั้น

“ขี้ตา”มือเรียวชี้ไปยังดวงตาข้างซ้ายของเด็กสาว เธอรีบเขี่ยออก รู้สึกเขินอายจนต้องเดินหนี เมตตาส่ายหน้ายิ้มๆแล้วเดินหิ้วกล่องโฟมแพ็คใหญ่ออกมา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะขวดน้ำที่ลอยเฉียดหน้าเขาไป และใครบางคนที่วิ่งผ่านหน้าเขาไปอย่างรีบร้อน ร่างผอมแห้งล้มลุกคลุกคลาน ผิวคล้ำแดดที่ถูกปกปิดด้วยเสื้อผ้าโทรมๆมีรอยถลอกเล็กน้อยจากการล้ม เมตตาได้แต่มองอย่างสงสาร และเขาก็ต้องโยนกล่องโฟมลงพื้นเพื่อที่จะห้ามคุณลุงที่ถือก้อนหินเตรียมจะเขวี้ยงใส่คนที่วิ่งหนีไป

“ลุ้งงงง ใจเย็นนนนน !!”สองแขนรีบคว้าร่างของลุงคนหนึ่งไว้

“อย่ามาห้ามลุง ไอ้บ้านั่นมันขโมยกับข้าวที่ลุงซื้อไว้ไป ลุงจะไปเอาคืน !!” คนสูงอายุกว่าพูดด้วยความโมโห กับข้าวแพงๆที่ลุงซื้อไปให้ภรรยาที่บ้านถูกคนบ้าขโมยไปต่อหน้าต่อตา จะไม่ให้โมโหได้ยังไง

“ใจเย็นลุง เดี๋ยวผมให้เงินลุงไปซื้อกับข้าวใหม่นะ ปล่อยคนนั้นไปเถอะ เขาอาจจะหิวข้าวก็ได้ครับ”เมตตาพยายามพูดห้าม คนสูงอายุพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้วิ่งไล่ไอ้คนบ้านั่นไป

“ชั่งมันเถอะลูก เดี๋ยวลุงกลับไปซื้อข้าวใหม่เองดีกว่า ขอบใจพ่อหนุ่มมากนะ”คนแก่ว่าแล้วเดินกลับไปทางเดิม เมตตาถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วมองตามแผ่นหลังกว้างที่วิ่งหนีไปอีกทาง

 

ตอนเที่ยงๆแบบนี้พนักงานออฟฟิศมักจะลงมาหาอาหารเที่ยงกินแถวนี้เป็นจำนวนมาก ตอนนี้ร้านข้าวแกงป้าจุ๋มจึงแทบจะไม่มีโต๊ะว่างเลย มือเรียวหยิบจับทับพีตักกับข้าวมือเป็นระวิง ตักใส่จานเสร็จก็เรียกให้พี่เป็ดเอาไปเสิร์ฟตามโต๊ะต่างๆ ส่วนพี่น้อยก็คอยตักข้าวใส่จานใส่กล่องส่งให้กับเมตตา

“น้องเมต คิดเงินโต๊ะพี่หน่อยนะคะ”พี่ติ๋ม พนักงานออฟฟิศตึกตรงข้าม เธอเป็นลูกค้าประจำของร้านข้าวแกงป้าจุ๋ม และเธอยังชอบลูกชายสุดหล่อของป้าจุ๋มมากอีกด้วย เธอมักจะเรียกเก็บเงินทุกครั้ง แล้วก็เป็นหน้าที่ของเมตตาที่ต้องเป็นคนไปคิดเงินเองแทนที่จะเป็นพี่เป็ดหรือพี่น้อย

“รอแป้บนะครับพี่ติ๋ม”เมตตาตะโกนบอกแล้วรีบตักข้าวใส่จาน ก่อนจะรีบเดินไปคิดเงินโต๊ะที่มีแต่สาวออฟฟิศ เมตตาส่งยิ้มให้คนในโต๊ะ ทำเอาหญิงสาวทั้งโต๊ะเขินอาย “150ครับพี่”

“พี่ให้200 ไม่ต้องทอนนะคะ”พี่ติ๋มทิปหนักเหมือนเดิม เมตตาเคยไม่ยอมรับเงินทิป แต่พี่ติ๋มเองก็ไม่ยอมรับเงินทอน เจ้าของร้านคนปัจจุบันเลยต้องยอมแพ้ให้กับเธอและรับเงินทิปมาทุกครั้ง แต่ก็แลกกับการที่เขาแอบเพิ่มข้าวเพิ่มกับให้คนในโต๊ะตลอด

เมตตายิ้มส่งลูกค้าจนพวกเธอเดินออกจากร้าน แล้วเขาก็ต้องแปลกใจที่หน้าร้านของเขามีร่างๆหนึ่งยืนมองกับข้าวอยู่ ใบหน้าคล้ำแดดเปรอะเปื้อนไปด้วยสีดำ ไม่แน่ใจว่าเป็นฝุ่นหรือโคลน ใบหน้าคล้ำจ้องมองเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าเหมือนคนหิวโซ แต่เมตตาก็ไม่ได้สนใจคนสติไม่ดีไปมากกว่านั้น เพราะคนเข้าร้านของเขามาเรื่อยๆ เมตตาจึงต้องหันไปยุ่งกับการตักกับข้าวราดข้าวแทน



เวลาตอนนี้ก็ใกล้บ่ายเต็มทีแล้ว คนก็เริ่มจะเบาบางลงบ้าง เมตตาหันไปมองหน้าร้านเป็นระยะๆ ร่างผอมแห้งยังคงยืนอยู่หน้าร้านเขาเหมือนเดิม แต่ก็เว้นระยะห่างไว้ไม่ให้ลูกค้าที่เดินผ่านไปมาเข้าใกล้ตัวเอง หันกลับมาสนใจกับการตักกับข้าวต่อ พอหันกลับไปมองหน้าร้าน ร่างผอมแห้งนั่นก็นั่งพิงเสาไฟฟ้าแล้วหันมามองหน้าเขาเหมือนเดิม

“น้องเมต พี่ว่าเราไปไล่ไอ้บ้านั่นไปที่อื่นดีไหมอะ”พี่เป็ดเดินเข้ามากระซิบกระซาบกับเมตตา ชายหนุ่มได้แต่สายหัว เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้หรอก ตอนนี้แค่รอให้ลูกค้าหมดก่อน เขาจะเรียกให้คนที่กำลังหิวโซนั่นมานั่งกินข้าวในร้าน

บ่ายสองเป็นเวลาที่คนกลับไปทำงานกันหมดแล้ว เมตตายืนตักกับข้าวจนเมื่อย ร่างโปร่งบิดตัวยืดกล้ามเนื้อแล้วมองไปยังตำแหน่งเดิมที่ยังมีคนนั่งอยู่ แม้ว่าแดดจะร้อนจนเมตตายังสงสัยว่าคนๆนั้นทนตากแดดไปได้ยังไงตั้งสองชั่วโมงกว่า



เมตตาเดินไปยกโต๊ะกับเก้าอี้ออกไปนอกร้าน แต่ก็ยังอยู่ในร่มของหลังคา ขายาวเดินไปหาร่างผอมแห้ง ดวงตาสีดำสนิทของคนที่นั่งพิงเสาไฟฟ้ามองตามร่างโปร่งของเจ้าของร้านด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาความคิด มองอยู่อย่างนั้นจนใครคนนั้นมานั่งอยู่ด้านหน้าของเขา

“หิวข้าวไหม?”

“........”ใบหน้าคล้ำแดดยังคงจ้องเมตตาเหมือนเดิม ไม่มีการตอบรับใดๆออกมาจากคนที่ต้องหน้าเขาอยู่

“รู้ว่าหิว มานี่สิ”เมตตาลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโต๊ะที่เขายกออกมาไว้หน้าร้าน หันหลังกลับมามองยังที่เดิมก็ต้องแปลกใจเพราะคนที่เขาเรียกให้มากินข้าวยังคงนั่งพิงเสาไฟฟ้าอยู่เหมือนเดิม เมตตาตัดสินใจเดินกลับไปแล้วดึงร่างผอมแห้งขึ้นมา

“นั่งรอตรงนี้” เมตตาชี้ไปที่เก้าอี้เพียงตัวเดียวที่เขายกออกมา ร่างหนาที่ผอมแห้งเหลือแต่กระดูกค่อยๆนั่งลงแล้วก้มหน้านิ่ง เมตตาเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อล้างมือแล้วหยิบจานที่เขามักจะใช้กินข้าว ใส่ข้าวสวยพูนจาน ตักผัดกระเพราแล้วโปะด้วยไข่ดาวอีกสองฟอง เมตตาวางจานลงบนโต๊ะพร้อมกับแก้วน้ำ ใบหน้าคล้ำแดดจ้องมองเมตตาอย่างไม่สามารถคาดเดาความคิดได้ ศีรษะที่เต็มไปด้วยผมยุ่งเหยิงค่อยๆก้มให้กับเมตตา ก่อนที่มือหนาที่มีแต่กระดูกจะเริ่มตักข้าวกิน เมตตาเดินกลับเข้าไปหลังร้านแล้วล้างมืออีกครั้ง

“น้องเมต พี่ว่าถ้าให้ข้าวมันกินแบบนี้ พรุ่งนี้มันก็จะมาขอข้าวกินอีกนะ”พี่เป็ดมองไปหน้าร้านด้วยสีหน้าที่บอกก็รู้ว่าเธอค่อนข้างจะขยะแขยงร่างกายสกปรกที่มีเสื้อผ้าโทรมๆปกปิดอยู่ 

“ไม่เป็นไรครับพี่ ข้าวแค่จานเดียวเอง ยังไงเราก็ขายไม่เคยหมดอยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่ห่อกลับไปกินถุงใหญ่ๆที่เหลือผมก็ต้องเอาทิ้งไม่ก็เอาไปให้หมาจรจัดกินอยู่ดี ถ้ากับข้าวแค่จานเดียวมันทำให้คนๆหนึ่งอิ่มท้องได้ เราไม่เห็นต้องคิดมากอะไรเลย”เมตตามองคนหน้าร้านด้วยสีหน้าสังเวชปนสงสาร

“แต่พี่ว่าลูกค้าจะมองเราไม่ดีหรือเปล่า”พี่เป็ดยังคงแสดงความกังวลออกมาอย่างชัดเจน

“ถ้าเขาจะมองว่าเราไม่ดีเพราะเราให้ข้าวกับคนที่กำลังหิวกิน ผมก็ไม่กังวลหรอกครับว่าเขาจะเลิกกินข้าวร้านเรา ผมมั่นใจในคุณภาพของร้านและชื่อเสียงที่แม่ผมสร้างมา”

“……………….”

“พี่เป็ด คนทำดี....แรกๆอาจจะถูกมองว่าแปลก เพราะมันเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยทำกัน แต่วันหนึ่งที่ผลลัพธ์ของการทำดีมาถึง พี่จะโคตรมีความสุขเลยนะ พี่ลองมองดูเขาสิ”เมตตาชี้ให้พี่เป็ดมองคนที่นั่งโต๊ะหน้าร้าน หลังจากข้าวหมดจานแบบไม่เหลือซักเม็ด ร่างกายผอมแห้งก็เดินมาหยุดที่หน้าร้านแล้วค้อมหัวลงราวกับต้องการกล่าวคำขอบคุณ พี่เป็ดมองตามคนบ้าที่ค้อมหัวลงจนแทบจะถึงพื้น ถึงแม้เธอจะยังมีอคติอยู่ แต่มันก็ลดลงเยอะ เธอมองร่างกายผอมแห้งที่เดินจากไปจนสุดสายตา

“เดี๋ยวพี่ทำความสะอาดโต๊ะกับเก้าอี้ให้ น้องเมตไปทำกับข้าวมาเติมดีกว่า”พี่เป็ดยิ้มแล้วเดินไปเช็ดโต๊ะหน้าร้าน เมตตาเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อเริ่มทำกับข้าวเตรียมไว้สำหรับตอนเย็น



เป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมงตั้งแต่บ่ายสี่โมงจนถึงสองทุ่ม ที่ร่างโปร่งของเจ้าของร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋มไม่ได้นั่งเลย ทั้งพี่เป็ดและพี่น้อยเองต่างก็เดินวุ่นรอบร้าน เพราะไม่ว่าจะคนที่เลิกงานจากโรงงานหรือพนักงานออฟฟิศต่างก็เลิกงานแล้วมาซื้อข้าวที่ร้านของเขากินทั้งนั้น ส่วนใหญ่จะห่อกลับไปกินที่บ้านกันเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นกับข้าวบางอย่างก็เหลือมากพอที่จะให้พี่เป็ดกับพี่น้อยห่อใส่ถุงกลับไปกินที่ห้องแถวของตัวเอง และยังเหลือมากพอที่เมตตาจะนำไปให้สุนัขจรจัดใต้สะพานข้ามแยกที่อยู่ใกล้ๆร้านแบบทุกวัน

“วันนี้ห่อซะถุงใหญ่เชียวนะครับพี่น้อย”เมตตาเอ่ยถามขำๆ พี่น้อยฉีกยิ้มเขินๆแล้วรีบมัดถุงกับข้าวถุงใหญ่

“พอดีผัวเมียห้องข้างๆติดใจฝีมือน้องเมตหนะค่ะ บอกให้พี่เอาไปฝากอีก”พี่น้อยยิ้มเขินๆแล้วตักข้าวใส่ถุงไปด้วย ถึงจะเกรงใจเจ้าของร้านอยู่หน่อยๆ แต่กับข้าวฝีมือน้องเมตก็อร่อยไม่แพ้ป้าจุ๋มเลย

“ตักไปเถอะพี่ ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”

“ค่า”แล้วทั้งสามคนก็หัวเราะเสียงเบาให้แก่กัน

หลังจากเก็บโต๊ะเก็บจานหมดแล้วก็เป็นเวลาล้างจาน เมตตาปล่อยให้พี่น้อยกับพี่เป็ดล้างจานไป ส่วนตัวเขาเองก็หอบกะละมังใบใหญ่ที่ภายในมีข้าวที่คลุกไว้แล้วสำหรับน้องหมาจรจัดใต้สะพานข้ามแยก ร่างโปร่งเดินหอบกะละมังแล้วเดินไปที่มอ’ไซต์คันเก่ง ขับออกไปโดยใช้มือข้างที่ว่างเพียงข้างเดียวในการบังคับ



เวลาสามทุ่มในบริเวณนี้ถือว่าเกือบจะเงียบเลยทีเดียว แม้จะเป็นเขตของจังหวัดที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ แต่ก็อยู่ขอบจังหวัด แถวนี้จึงเงียบสงบแม้จะยังไม่ดึกมากก็ตาม

รถมอ’ไซต์คันสีเขียวขับเข้ามาจอดใต้สะพานข้ามแยก ฝูงสุนัขจรจัดที่พอเห็นว่าใครมาก็รีบวิ่งเข้าไป หางยาวๆส่ายไปมาแสดงออกถึงความดีใจ เมตตาลูบหัวสุนัขแต่ละตัวด้วยมือข้างเดียว จากนั้นจึงเอาทัพพีที่ติดมาด้วย ตักข้าวในกะละมังแล้ววางไปบนถุงพลาสติกที่เขามักจะใช้ให้อาหารเจ้าพวกนี้เป็นประจำ

เจ้าพวกหูยาวก้มลงกินข้าวอย่างตะกละตะกราม หางยาวๆนั่นยังคงส่ายไปมาแสดงออกถึงความดีใจที่ได้กินกับข้าวแสนอร่อยจากผู้ใจบุญ

“อรึก....”เสียงกลืนน้ำลายค่อนข้างดัง ดังออกมาจากมุมมืดบริเวณใต้ตอหม้อสะพาน ตาคมพยายามมองหาต้นตอของเสียง แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเขาเห็นคนที่นั่งรอกินข้าวอยู่หน้าร้านของเขาเมื่อตอนกลางวัน และตอนนี้กำลังจ้องอาหารบนถุงพลาสติก

คงจะหิวอีกแล้วสินะ

เมตตาตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนที่จ้องมองเขาอยู่ในมุมมืดทันที คนสติไม่ดีที่พอเห็นว่าเมตตาเดินเข้าไปหาตนก็รีบหลบเข้าไปในมุมมืด แต่ก็เท่านั้น เพราะเมตตาแค่เดินอ้อมตอหม้อไปอีกด้านก็มองเห็นร่างหนาที่มีแต่กระดูกของใครอีกคนได้แล้ว หัวยุ่งๆนั่นก้มมองพื้น ไม่ยอมสบตากับตาคมเลยแม้แต่น้อย

“นี่ หิวข้าวหรือเปล่า”

“..........”ใบหน้าคล้ำแดดเงยหน้าขึ้นมองคนถาม ริมฝีปากที่แตกระแหงไม่มีการโต้ตอบใดๆ

“ถ้าหิวก็รอตรงนี้ จะกลับไปทำกับข้าวมาให้”

“..............”

“อย่าไปแย่งหมากินนะ เพราะเดี๋ยวพวกมันจะกัดเอา”เมตตาสั่งทิ้งท้ายแล้วรีบเดินกลับไปที่รถมอ’ไซต์ เขารีบบิดกลับมาที่ร้านทันที



ทันทีที่ถึงที่ร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋ม เมตตาก็เดินเข้าไปในครัว จัดการทำไข่เจียวทรงเครื่องซะหอมฉุย จนพี่เป็ดกับพี่น้อยมองตามตาละห้อย เมตตาจัดการตักข้าวใส่กล่องโฟม แล้วโปะด้วยไข่เจียวทรงเครื่องสีสันสวยงาม

“น้องเมตทำให้ใครกินคะ ?”เป็นพี่เป็ดที่ทนสงสัยไม่ไหว

“คนเมื่อตอนกลางวันหนะครับ” ตอบแค่นั้นแล้วรีบถือกล่องข้าวออกจากห้องครัวมา ไม่ลืมที่จะหยิบยากันยุงแบบขดพร้อมกับน้ำเปล่าในตู้เย็นมาด้วย เมตตากลับมาที่รถมอ’ไซต์อีกครั้ง ไม่ถึงสามนาทีร่างโปร่งก็กลับมาอยู่ที่เดิมตรงสะพานข้ามแยก



ภาพที่เห็นทำเอาเขาแทบจะหลุดหัวเราะ ภาพที่คนสติไม่ดีกำลังจ้องสุนัขกินข้าวโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าลูบหัวเจ้าพวกนั้น พอเห็นว่าใครอีกคนกลับมาแล้วมือหนาที่มีแต่หนังหุ้มกระดูกก็เด้งออกจากหัวสุนัขจรจัดตามแรงดึงของเจ้าตัวเอง แถมยังจ้องหน้าเมตตาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ราวกับจะบอกว่า เขาไม่ได้แย่งข้าวเจ้าพวกนี้กินเลยนะ เขาแค่ลูบหัวเจ้าพวกนี้เฉยๆ

เมตตายื่นกล่องโฟมที่ภายในบรรจุไข่เจียวทรงเครื่องหอมฉุยให้กับคนสติไม่ดีตรงหน้า มือใหญ่รับไว้แล้วเปิดดู ใบหน้าคล้ำแดดแสดงออกชัดเจนว่าตกใจกับข้าวไข่เจียงในกล่องราวกับมันเป็นอาหารราคาแพงจากภัตตาคาร มือหนาที่ค่อนไปทางสกปรกเช็ดเสื้อตัวเองไปมา ก่อนจะหยิบช้อนพลาสติกแล้วตักข้าวที่อยู่ในกล่องกินอย่างเอร็ดอร่อย

สุนัขจรจัดที่ดูเหมือนจะให้ข้าวกินเท่าไหร่ก็ไม่พอ เริ่มเดินมารุมล้อมคนสติไม่ดีที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ แต่เจ้าพวกหูยาวก็ไม่ได้คุกคามคนที่มีสถานะ ‘จรจัด’ เหมือนกับพวกมันไปมากกว่าการนั่งจ้องข้าวไข่เจียวในมือใหญ่เฉยๆ น่าแปลกที่คนสติไม่ดีพอเห็นว่าเจ้าสุนัขจ้องเขาอยู่ และตัวเองคงจะกินข้าวอิ่มแล้วหรืออย่างไร กลับฉีกกล่องโฟมเป็นสองส่วน ตักแบ่งข้าวไข่เจียวใส่กล่องโฟมอีกครึ่งหนึ่งให้สุนัขพวกนั้นกิน โดยการกระทำทั้งหมดก็ยังคงอยู่ในสายตาของเมตตาทุกการกระทำ

คนจรจัดจ้องมองสุนัขเหล่านั้นแย่งกันกินข้าวไข่เจียวพร้อมๆกับที่ตัวเองก็กำลังกินอยู่ ตาชั้นเดียวหันมามองใบหน้าของคนใจบุญแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ยิ้มจนตาสองข้างนั้นปิด แอบเห็นว่ามีน้ำตาเม็ดใสไหลออกมาจากหางตาด้วย เมตตายิ้มรับแล้วเดินออกมาห่างๆ ปล่อยให้เจ้านายคนใหม่ของเจ้าพวกหูยาวนั่งรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ส่วนตัวเองก็เดินเลี่ยงออกมา

ตาคมหันไปมองกระดาษลังกับเศษผ้าที่น่าจะเป็นที่หลับนอนของคนจรจัด ร่างโปร่งค่อยๆย่อลงแล้วจุดยากันยุงแบบขดที่เอามาด้วย พอติดไฟแล้วมือเรียวก็วางมันไว้ข้างๆกับกระดาษลัง ทิ้งระยะห่างไว้พอสมควรเพื่อไม่ให้ใครอีกคนเหม็นควันจนเกินไป



จัดการทุกอย่างเสร็จก็หันไปมองคนกับสุนัขจรจัดที่นั่งเล่นกันราวกับคุ้นเคยกันมา ทั้งๆที่เมื่อวานที่เขาเอาข้าวมาให้สุนัขจรจัดพวกนี้ เขายังไม่เห็นคนๆนั้นเลยด้วยซ้ำ พึ่งจะเจอครั้งแรกก็เมื่อตอนเช้า



พอขับรถออกมาจากตรงนั้น เมตตาก็ได้แต่กลับมาคิด ว่าที่ตัวเองเป็นคนใจบุญสุนทานขนาดนี้ เป็นเพราะการอบรมของผู้เป็นมารดา หรือเป็นเพราะชื่อของเขาที่มารดาตั้งให้กันแน่



แม่นะแม่ ตั้งชื่อนี้ให้ทำไมก็ไม่รู้ เห็นใครก็ดันสงสารไปหมด เหนื่อยใจกับตัวเองที่ต้องคอยช่วยเหลือคนทุกคน สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งมีชีวิตที่กำลังเดือดร้อน แต่ถึงจะเหนื่อย ก็ยังมีความสุขเสมอกับผลลัพธ์ที่ออกมา และเขาไม่เคยเสียใจเลยซักครั้ง ที่เขาตัดสินใจทำดีกับใคร....





.....ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่เสียใจเลยซักนิดที่เห็นรอยยิ้มพร้อมกับข้าวเต็มแก้มของใบหน้าคล้ำแดดนั่น






+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนแรกมาแล้วววว เปิดตัวทั้งพระเอกทั้งนายเอก

แหม่ แต่พระเอกดันเป็นแค่คนจรจัดซะนี่

นายเอกจะช่วยเหลือพระเอกยังไงต่อไป

โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ





ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะครับ

อย่าลืมคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ไนท์ด้วยนะครับ

แท็กในทวิต #คุณหมีที่รัก



ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตามติด   :mew1:
เมตตา ใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทั้งคน ทั้งสัตว์  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
เมตตาใจดีจัง  :mew1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
รอติดตามอยู่นะคะ

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ คุณหมีที่รัก♥

[2] - Effect of action





“มาอีกแล้ว มาทุกวันเลย ไม่มีความเกรงใจกันบ้างเลยนะ”พี่เป็ดบ่นทันทีที่เห็นร่างกายสกปรกของคนเดิมที่เดินมาหยุดอยู่หน้าร้าน ร่างหนาก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่กล้าสบตากับพี่เป็ด อดีตสาวโรงงานเดินเอาไม้กวาดไปเก็บแล้วกลับมาหน้าร้าน จัดการตักข้าวแกงราดข้าวใส่กล่องโฟม ใส่ถุงหิ้วอย่างดีพร้อมขวดน้ำและช้อนพลาสติก ก่อนจะเดินออกไปหน้าร้านแล้วยื่นให้กับคนจรจัดคนเดิมที่เดินมาขอข้าวกินในเวลาบ่ายสองของทุกๆวันเป็นเวลาเกือบเดือน

คนจรจัดก้มหัวให้พี่เป็ดจนหัวจะถึงพื้น ลูกจ้างสาวนึกขำกับท่าทางที่เหมือนเดิมในทุกๆวัน และมีแนวโน้มว่าจะก้มลงต่ำเรื่อยๆจนกลัวว่าถ้าปล่อยเวลาผ่านไปอีกซักเดือน หัวยุ่งๆนั่นคงจะก้มถึงพื้นแน่ๆ

เมตตามองตามการกระทำของพี่เป็ด เธอบ่นทุกวัน แต่ก็ยังคงตักข้าวใส่กล่องให้คนจรจัดอยู่ และทุกครั้งก็แอบเห็นรอยยิ้มของลูกจ้างของเขาแม้จะบ่น แต่ก็ยังยิ้มได้ทุกครั้งที่ได้รับการขอบคุณ

“ยิ้มอะไรคะน้องเมต”พี่เป็ดท้าวสะเอวถามเจ้าของร้าน

“ป่าวครับ แค่มีความสุขดี ก็เลยยิ้ม”

“แค่นั้นหรอคะ ?”

“แค่นั้นแหละครับ”

“แปลกคนจริง” พี่เป็ดบ่นกับตัวเองแล้วเดินเข้าหลังร้านไป

 

วันนี้ร้านข้าวแกงป้าจุ๋มขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทั้งสามคนแทบจะไม่มีโอกาสได้นั่งพักเลย ขายาวรู้สึกอ่อนแรงไปหมด สองสาวแทบจะล้มทั้งยืนทันทีที่ลูกค้าคนสุดท้ายเดินออกจากร้านไป

“น้องเมต ทั้งข้าว ทั้งกับหมดเกลี้ยงเลย แล้วพี่จะกินอะไรละเนี่ยเย็นนี้”พี่น้อยบ่น เมตตาหันไปมองคนแก่กว่าก่อนจะหันไปยิ้มให้

“เดี๋ยวเมตทำให้กินครับ พี่น้อยอยากกินอะไรหละ พี่เป็ดด้วยนะ”

“พี่ขอต้มจืดเต้าหู้ไข่กับน้ำพริกกะปิค่า”พี่น้อยตอบด้วยเสียงร่าเริง

“พี่ขอไก่ทอดราดซอสแดงค่ะ”ส่วนพี่เป็ดก็เช่นกัน

เมตตายิ้มหล่อก่อนจะเดินเข้าครัวเพื่อเริ่มต้นทำกับข้าวที่สองสาวรีเควสมา ไม่ลืมที่จะหุงข้าวเผื่อตัวเองและน้องหมาจรจัดกับคนจรจัดที่รอกินข้าวอีกด้วย

เมตตาหมักไก่แล้วหันไปหั่นหมูใส่ในน้ำซุบต้มจืด ใบหน้าหล่อหันไปมองนาฬิกาเป็นระยะ เกือบห้าทุ่มแล้ว เป็นเพราะวันนี้ขายดีจนกับข้าวหมดทำกับข้าวไปเติมเท่าไหร่ก็ไม่พอ เวลาเลยล่วงเลยมาค่อนคืนขนาดนี้ คงต้องเร่งทำกับข้าวให้เสร็จแล้วแหละ

“อ้าว ผักหมดแล้วหรอ”เมตตาเปิดตู้แช่ผักก็ต้องตกใจเพราะเหลือผักเพียงแค่นิดเดียว คงจะไม่พอสำหรับทำกับข้าวพรุ่งนี้เช้า เดี๋ยวทำกับข้าวเสร็จคงต้องขับรถยนต์ไปซื้อที่ตลาดดึกซะแล้ว

“พี่เป็ดพี่น้อยครับ เช็คของให้เมตหน่อย เดี๋ยวเมตออกไปซื้อของ”เมตตาตะโกนบอกพี่เป็ดกับพี่น้อยที่นั่งคุยกันอยู่หน้าร้าน ทั้งสองคนเดินเข้ามาในครัวแล้วเริ่มเช็คของที่ขาด ลิสใส่กระดาษสมุดอย่างคล่องแคล่ว ส่วนเมตตาก็ทำกับข้าวต่อจนเสร็จในเวลาเกือบเที่ยงคืน

“หูย น่ากินจังเลยค่ะ คุ้มเลยที่รอกินกับข้าวฝีมือน้องเมต”พี่น้อยเอ่ยชมแล้วเริ่มลงมือกินอาหารแสนอร่อยตรงหน้า

“น้องเมตจะไปซื้อของไม่ใช่หรอ รีบไปก็ดีนะ พี่จำได้ว่าตลาดมันปิดตอนตีหนึ่งนะคะ”พี่เป็ดเอ่ยเตือน เมตตาพยักหน้ารับแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถกระบะคันใหญ่ที่จอดอยู่หลังร้าน

ด้านหลังตึกเป็นลาดจอดรถเล็กๆที่พอให้จอดประมานห้าคันได้ถัดไปเป็นคลองที่มีน้ำสีขุ่นๆ เกือบจะเน่า วันไหนแดดร้อนๆหน่อยกลิ่นเหม็นๆก็จะลอยขึ้นมา ทำเอาเวียนหัวเลยทีเดียว

รถกระบะสีบลอนทองถูกขับออกไปโดยเมตตา เขาตรงไปยังตลาดดึกที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากร้านของเขา ขับผ่านสะพานข้ามแยกที่เขามักจะมาทุกวันก็ต้องแปลกใจ เพราะทั้งหมาและคนจรจัดกลับไม่อยู่ในที่ๆเดิม

หายไปไหนกันนะ ....

แต่ก็ได้แค่เก็บความสงสัยไว้แล้วตรงไปยังตลาดดึกอย่างรีบร้อน เพราะใกล้จะถึงเวลาที่ตลาดจะปิดแล้ว

 

กว่าจะซื้อของได้ครบตามลิสที่พี่น้อยกับพี่เป็ดจดไว้ให้ก็ทำเอาร่างโปร่งแทบลงไปนอนกองกับพื้น ความเหนื่อยที่สะสมมาทั้งวันบวกกับความง่วงและความล้าของร่างกาย ทำเอาเมตตาแทบจะไม่มีสติขับรถ เลยได้แต่ขับช้าๆ

และในที่สุดก็กลับมาถึงร้านในเวลาเกือบตีหนึ่ง กว่าจะแบกของเข้าไปเก็บในร้านเสร็จก็ปาไปตีหนึ่งครึ่งแล้ว เปลือกตาแทบจะปิดสนิท แต่ก็ต้องกลั้นใจปิดประตูเหล็กแล้วอาบน้ำเข้านอนบนชั้นสองของร้าน

ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีสี่ครึ่ง สายกว่าทุกวันนิดหน่อย แต่จะให้ตื่นเร็วกว่านี้ก็คงไม่ไหว มีหวังล้มทั้งยืนแน่ๆ

เมตตาล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง พักหลังๆมานี้รู้สึกว่าร้านเขาจะขายดีเสียจนเขาต้องค้างที่ร้านทุกคืน ถ้าวันไหนปิดร้านเร็วหน่อยก็จะกลับไปนอนบ้านกับพ่อแม่ แต่วันนี้คงกลับไม่ไหว คงต้องนอนที่ร้านนี่แหละ ถือว่าเฝ้าร้านด้วยละกัน หรือว่าควรจะจ้างคนเพิ่มดีนะ ไว้ให้ไปซื้อของยกของแบกของ ลำพังแค่พี่น้อยกับพี่เป็ดไม่น่าจะยกไหวถ้าเขาไม่ช่วย

เมตตานอนหลับและปล่อยให้ความคิดไหลวนไปเรื่อยๆ แต่เขาคงลืมไปว่ามีชีวิตอีกนับสิบที่รอกินข้าวอยู่ เมตตาคงจะลืมไปจริงๆ

 

แกร้ก.........แกร้ก..... เสียงเหมือนกับมีใครเอาก้อนหินมาปาใส่กระจกห้องนอนทำเอาเมตตาที่กำลังหลับสนิทต้องสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา คิ้วเข้มขมวดมุ่นทันที

“ใครวะ” หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาแล้วก็ต้องส่ายหน้าเซ็งๆ ตี4.29

ตี้ดๆๆๆ นาฬิกาปลุกดังคามือ ปิดทิ้งอย่างเซ็งๆแล้วลุกออกจากเตียงแล้วเดินลงมายังด้านล่าง เปิดประตูเหล็กขึ้นไปจนสุด แล้วก็ต้องตกใจแบบสุดๆ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าคือ ‘คนจรจัด’ ที่กำลังถือหินก้อนใหญ่ ข้างๆร่างหนามีน้องมาตัวเล็กๆอีกหนึ่งตัว

เมตตาผงะถอยกลับเข้าไปด้านใน เขาไม่รู้ว่าคนจรจัดตรงหน้าต้องการอะไร เพราะตลอดระยะเวลาร่วมเดือนที่เจอคนๆนี้ เมตตาไม่เคยได้ยินเขาพูดเลยแม้แต่คำเดียว

คนจรจัดที่เห็นท่าทีหวาดกลัวของผู้มีพระคุณก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็ปล่อยก้อนหินที่อยู่ในมือลงแล้วลูบท้องตัวเองไปมา

“.......กิน” เสียงทุ้มที่เปล่งออกมาเพียงคำเดียว บ่งบอกจุดประสงค์ทั้งหมดของเขา เมตตารีบพยักหน้ารับแล้วเข้าไปในครัวทันที น่าจะพอมีต้มจืดเหลือบ้างแหละน่า

เมตตาเปิดดูหม้อต้มจืดที่เขาต้มให้พี่เป็ดกับพี่น้อยกิน เหลือเพียงเศษผักกับกระดูกหมูและน้ำซุบที่อยู่ก้นหม้อ จัดการเปิดเตาแก๊สแล้วเติมน้ำลงไปหน่อยเพื่อไม่ให้น้ำซุปเค็มเกินไป แล้วก็หันไปอุ่นข้าวสวยที่ค้างอยู่ในหม้อหุงข้าว พอเสร็จหมดแล้วก็ยกออกไปวางไว้โต๊ะตัวที่อยู่นอกสุดแล้วเรียกให้คนกับหมาจรจัดมากิน

“มีของกินเหลืออยู่แค่นี้ กินอันนี้ไปก่อนละกันนะ”บอกกับคนจรจัดแล้วเอาจานข้าววางไว้ให้สุนัขจรจัดตัวเล็ก “อันนี้ของแก กินซะสิ”

เจ้าตัวเล็กกล้าๆกลัวๆที่จะเข้าใกล้เขา แต่เพราะว่าจำได้ว่าคนนี้คือคนที่ให้อาหารมันเป็นประจำ มันจึงไว้ใจและก้าวเดินเข้ามากินข้าวคลุกน้ำซุบอย่างเอร็ดอร่อย เมตตามองสุนัขตัวเล็ก เขาจำได้ว่าเจ้าตัวนี้ตัวเล็กที่สุดในฝูงหมาจรจัด เวลาให้อาหารต้องแยกออกมาห่างๆจากตัวอื่น เพราะไม่งั้นจะโดนตัวอื่นแย่งกินหมด

ส่วนคนจรจัดที่กำลังซดน้ำซุบพรวดพราดคงต้องพูดถึงเยอะเลย เพราะตั้งแต่ที่เขาให้ข้าวกินวันละสองมื้อ ร่างกายที่เคยผอมแห้งก็มีเนื้อมีหนังขึ้นมาชัดเจน ถ้ามีคนมาเห็นตอนนี้แล้วตกใจว่าเป็นหมีก็คงไม่แปลก เขาเคยเอาเสื้อผ้าของตัวเองไปให้ชุดหนึ่ง ดูเหมือนเจ้าตัวจะรักษาไว้เป็นอย่างดี ด้วยการใส่ถุงพลาสติกแล้วห้อยไว้ข้างตัวไม่ยอมสวมใส่ ร่างหนาตรงหน้าตอนนี้เลยมีแค่ชุดเดิมตั้งแต่ที่เคยใส่ตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน ผมที่ยาวขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยทำให้มันยุ่งยิ่งกว่าเดิมซะอีก

และเหมือนคนตัวใหญ่กว่าจะรู้ว่ามีคนกำลังจ้องอยู่ ดวงตาดำสนิทจึงมองขึ้นมายังใครอีกคนที่ยังยืนมองดูอยู่ ริมฝีปากหนาค่อยๆยกยิ้ม ยิ้มจนเปลือกตาชั้นเดียวนั้นแทบจะปิดนัยน์ตาสีดำสนิท

“ยิ้มอะไร หืม กินเสร็จก็กลับไปได้แล้ว ฉันต้องทำงาน”เมตตาแสร้งดุแบบไม่จริงจังนัก แต่กลับทำให้รอยยิ้มจากคนจรจัดจางหายไปในทันที ใบหน้าที่เปรอะไปด้วยคราบสีดำก้มลงแล้วหันไปมองเจ้าตัวเล็กเป็นสัญญาณว่าหมดเวลาสำหรับอาหารแสนอร่อยแล้ว

ร่างหนาลุกขึ้นแล้วค้อมหัวลงจนหัวยุ่งๆนั่นกระแทกโต๊ะเหล็กเสียงดัง แต่ก็ไม่แสดงอาการเจ็บใดๆ ก่อนจะเดินผ่านเมตตาออกไปยังด้านนอกร้านพร้อมกับเจ้าตัวเล็กที่วิ่งตามไปติดๆ เมตตามองแผ่นหลังกว้างแล้วได้แต่สายหัว

“ตัวเริ่มเหม็นแล้วนะ อาบน้ำซะบ้างหละ”ตะโกนไล่หลังไปแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ

จับอาบน้ำทั้งคนทั้งหมาดีไหมนะ

 

วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่เมตตาต้องทำงานตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เริ่มตั้งแต่การทำกับข้าวมากกว่าสิบอย่าง พอทำเสร็จก็ต้องมาทำความสะอาดร้าน พอพี่เป็ดกับพี่น้อยมาก็เริ่มขายทันที พอช่วงเช้าคนเริ่มซาเมตตาก็ต้องปลีกตัวไปทำกับข้าวมาเพิ่มสำหรับตอนเที่ยงและตอนเย็น

“ทำไมวันนี้ยังไม่มาอีกนะ”พี่เป็ดบ่น เมื่อลูกค้าขาประจำยังไม่มาเอาข้าวกล่อง ทั้งๆที่เวลาก็ปาเข้าไปบ่ายสามแล้ว ถ้าเป็นปกติในทุกๆวัน คนจรจัดคนนั้นจะต้องมาเอาข้าวตั้งแต่บ่ายสองแล้ว

“คิดถึงเขาหละสิ”เมตตาเอ่ยแซวคนที่บ่นทุกครั้งตอนเขามา แต่พอเขาไม่มาก็บ่นถึง

“บ้าแล้วน้องเมต พี่เป็นห่วงมันต่างหาก จะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้”พอพี่เป็ดพูดแบบนั้นเมตตาก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาเหมือนกัน แต่จะให้ออกไปตามหาก็ใช่ที่ เพราะงานยุ่งเหลือเกิน

“ถ้าเย็นนี้เป็นแบบเมื่อวานอีก พี่คงไม่ไหวแล้วแน่ๆค่ะน้องเมต”พี่น้อยบ่นบ้าง

“งั้นวันนี้เมตไม่ทำกับมาเติมแล้วดีกว่า หมดแค่ไหนก็แค่นั้น เมตก็อยากพักเหมือนกัน”เมตตาตัดสินใจ วันนี้คงจะขายหมดเร็วหน่อย หกโมงเย็นก็น่าจะหมดแล้วถ้าไม่ทำกับข้าวมาเติม เสร็จแล้วคงจะเอาข้าวออกไปให้เจ้าพวกจรจัดทั้งหลาย คงจะหิวแย่แล้วเพราะเมื่อวานก็ไม่ได้กินข้าวกันซักตัว

 

“อ้าว หมดซะแล้วหรอ”ลูกค้าทำหน้าเสียดายเพราะเย็นนี้คงไม่ได้กินกับข้าวฝีมือพ่อครัวสุดหล่อ

“ขอโทษด้วยนะครับ พอดีวันนี้ของหมด เลยไม่ได้ทำเพิ่ม”เมตตาเอ่ยขอโทษอย่างนอบน้อม

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพี่มากินพรุ่งนี้ดีกว่า”

“ขอบคุณนะครับ”เมตตายิ้มหล่อให้เธอ ลูกค้าสาวโรงงานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะเดินออกจากร้านไป

เวลาหนึ่งทุ่ม ทั้งสามคนก็เก็บร้านเสร็จ ที่เหลือก็เป็นเวลาของพี่เป็ดกับพี่น้อยในการล้างจาน ส่วนเมตตาก็คลุกข้าวให้สุนัขจรจัด หยิบเตรียมของของคนจรจัดแบบที่เตรียมให้ทุกวันไปด้วย

วันนี้คงต้องเอากระบะไปเพราะลำพังแค่มอ’ไซต์คันเดียวคงจะแบกกะละมังข้าวหมาใบใหญ่กว่าปกติไม่ไหวแน่ๆ

ขับรถออกมาจากด้านหลังร้านแล้วตรงไปยังสะพานข้ามแยก ที่เดิมที่เคยไปทุกวันตั้งแต่ที่มาบริหารร้านข้าวแกงป้าจุ๋มแทนแม่และเป็นเวลาเกือบเดือนที่มีหัวหน้าฝูงของเจ้าพวกสุนัขจรจัดเข้ามาอยู่ใหม่

แต่ทันทีที่มาถึงจุดเดิมที่เคยมาทุกวันเมตตากลับต้องแปลกใจเพราะว่าปกติทันทีที่เขามาถึงเจ้าพวกลูกสมุนต้องรีบวิ่งเข้ามาต้อนรับเขาแล้ว แต่ตอนนี้กลับเงียบเชียบ ไม่มีสุนัขแม้แต่ตัวเดียวที่วิ่งมาหาเขา เมตตารีบเดินข้ามถนนไปยังร้านค้าเล็กๆแล้วรีบสอบถามทันที

“พี่ครับ หมาที่อยู่แถวนี้ไปไหนหมดครับ”

“โอ้ย เขาจับไปหมดแล้วน้อง เมื่อวานคนที่ให้ข้าวมันทุกทีไม่ได้เอาข้าวมาให้ มันเลยไปไล่ค้นขยะตามถนน ขยะเต็มถนนไปหมด เขาเลยจับมันไปหมดแล้ว”ลุงร้านขายของชำบอกมาแบบนั้น ทำเอาเมตตาถึงกับนิ่งสนิท นี่เขาไม่ได้เอาข้าวมาให้แค่วันเดียว พวกมันกลับถูกจับไปหมดแล้วหรอ เมตตากลืนน้ำลายเหนียวๆลงในคอ ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาในหัว

“แล้ว....คน..บ้า..ที่นอนอยู่ใต้สะพานนี่หละครับ”

“ไอ้เหม็นหนะหรอ เมื่อกี้เห็นมันเดินไปทางคลองนู่นแหนะ”ลุงชี้ไปทางคลองเส้นเดียวกับที่ผ่านหลังร้านของเมตตา เพียงแต่ส่วนนี้อาจจะเน่ากว่านิดหน่อยเพราะอยู่ใกล้ตลาดและเขตชุมชน เมตตารีบวิ่งกลับไปที่รถแล้วขับตรงไปยังถนนที่พาดผ่านบนคลองน้ำเน่า

ทันทีที่มาถึงทำเอาเมตตาต้องรีบลงจากรถแล้ววิ่งไปยังราวกั้นสะพาน มีคนสองสามคนที่กำลังยืนอยู่และชี้ไปที่คลอง เมตตามองตามนิ้วของคนที่ชี้ไปก็เห็นเงาตะคุ่มๆที่กำลังกวักน้ำเน่าขึ้นมาถูตัว ราวกับว่ากำลังอาบน้ำอยู่

“เห้ย ขึ้นมานี่เลย !!”ทันทีที่สายตาชินกับความมืด เงาตะคุ่มๆนั่นก็ปรากฏเป็นร่างกายสูงของคนที่เป็นหัวหน้าฝูงของเจ้าพวกจรจัด

นี่เพราะเขาบอกว่าให้ไปอาบน้ำรึเปล่านะ ถึงลงไปอาบในคลองน้ำเน่าแบบนั้นหนะ

“ฉันบอกให้ขึ้นมานี่ไง !!”เมตตาตะโกนอีกครั้ง และครั้งนี้เหมือนจะได้ผล เพราะคนที่กำลังอาบน้ำเน่าอยู่หยุดชะงักการกระทำลงแล้วหันมามองยังต้นตอของเสียง ทันทีที่เห็นว่าเป็นคนที่ให้ข้าวให้น้ำกินทุกวัน แขนยาวก็ยกมื้อขึ้นแล้วโบกไปมาอย่างดีใจ

“มัวแต่โบกมือทำไม !! ขึ้นมานี่ !!”เมตตาตะโกนอีกครั้ง คราวนี้ร่างสูงที่อยู่ด้านล่างรีบปีนขึ้นมาจากคลองแล้วขึ้นมายืนอยู่บนถนน คนที่มามุงดูสองสามคนถึงกับเดินหนีเพราะความเหม็นของคนจรจัดนั้นมากเกินทนจริงๆ

“ทำอะไรของนายวะ มานี่เลย”แตกต่างกับเมตตา ถึงแม้จะเหม็นแค่ไหน แต่ความสงสารมีมากกว่า ร่างโปร่งเดินเข้าไปคว้าแขนของคนตัวสูงกว่าให้เดินตามไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกล

พอเดินมาถึงรถ เมตตาก็เปิดท้ายกระบะแล้วบอกให้ใครอีกคนขึ้นไปนั่งอยู่หลังกระบะ แต่คนตัวสูงกว่ากลับยืนนิ่ง มีท่าทีหวาดกลัวเล็กน้อย เป็นเพราะว่ามันเคยเห็นเจ้าพวกลูกสมุนในฝูงของมันถูกจับและลากขึ้นหลังกระบะ

“กลัวอะไร ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก”เมตตาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ คนจรจัดลังเลเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆก้าวขาขึ้นหลังกระบะ เมตตาปิดท้ายกระบะแล้วเดินมาขึ้นรถ ขับออกมาจากสะพานคลองน้ำเน่าแล้วตรงกลับมาที่ร้าน

 

กลับมาถึงร้าน พี่เป็ดกับพี่น้อยก็วิ่งออกจากหลังร้านมามองดูว่าเจ้าของร้านพาใครกลับมาด้วย และพอเห็นว่าเป็นคนจรจัดพี่เป็ดก็เอ่ยถามทันที

“น้องเมต เอามันกลับมาด้วยทำไมคะ ?”

“มันลงไปอาบน้ำเน่ามาครับพี่”เมตตาตอบพร้อมกับเปิดท้ายกระบะออก “ลงมานี่” เมตตาคว้าแขนใหญ่ของคนที่อยู่ท้ายกระบะให้ลงมาด้านล่าง จูงไปยังก๊อกน้ำที่อยู่หลังร้าน

“เดี๋ยวผมฝากพี่ปิดหน้าร้านให้ผมหน่อยนะครับ”เมตตาพูดกับพี่เป็ดและพี่น้อย แล้วดันให้คนตัวสูงนั่งลงข้างก๊อกน้ำ

“ได้ค่ะ งั้นพี่สองคนกลับแล้วนะคะ”พี่น้อยเอ่ยรับแล้วเดินกลับเข้าไปทางประตูหลังร้าน สายตากังวลสองคู่ยังคงมองมาที่อีกสองคนไม่หยุด จนเมตตาต้องหันไปยิ้มให้ พี่เป็ดกับพี่น้อยถึงได้ละสายตาไป

“เห้อ เหม็นจริงๆหวะ ไปทำอะไรมา หึ”เมตตาเอ่ยถาม พร้อมกับเปิดน้ำล้างน้ำเน่าไปด้วย

“ขยะ.....ของกิน.............”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาไม่เป็นประโยค

“...............”

“หมา....หิว”พอถึงประโยคนี้เมตตาก็ต้องสะอึก เป็นเพราะเขาที่ไม่ได้เอาอาหารไปให้พวกมัน พวกมันถึงได้ทำเรื่องแล้วโดนจับไปแบบนั้น ไม่รู้ว่าจะมีชะตากรรมอย่างไรบ้าง

“ฉันขอโทษ.... ฉันผิดเองแหละ”

“............”

“แล้วจะลงไปในคลองทำไม น้ำมันเน่านะ”

“..............อาบน้ำ......กลัวเหม็น”

“ขอโทษอีกทีนะ”เมตตาเอ่ยขอโทษอีกครั้ง

“........”และก็ได้รับมาเพียงความเงียบจากคนที่นั่งนิ่งๆให้เมตตาล้างคราบสกปรกออกจากตัวเท่านั้น

เมตตาจับชายเสื้อของคนจรจัดแล้วถอดออก โดยคนตัวใหญ่กว่าก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เนื้อตัวของคนจรจัดภายใต้เสื้อมันเนียนใสเสียจนเมตตานึกแปลกใจ ช่างแตกต่างกับผิวคล้ำแดดบริเวณแขนและใบหน้า

“รออยู่นี่นะ อย่าไปไหน”เมตตาออกคำสั่งแล้วกลับเข้าไปในร้าน ขึ้นไปบนชั้นสอง หยิบผ้าขนหนูที่พับอยู่ในตู้เสื้อผ้าออกมาแล้วกลับลงมายังหลังร้าน คนจรจัดยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม แม้ตัวจะเริ่มสั่นแล้วก็ตาม

“ยืนขึ้น”เมตตาออกคำสั่งอีกครั้ง และคนจรจัดก็ให้ความร่วมมือเช่นเคย ทันทีที่คนตัวสูงกว่ายืนขึ้น เมตตาก็ดึงกางเกงออกทันที นึกเขินอายอยู่ในใจหน่อยๆที่ต้องมาแก้ผ้าผู้ชายในที่โล่งแจ้งแบบนี้ แต่ก็เพราะตัวเองเป็นผู้ชาย จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

เมตตาใช้มือลูบไปตามเนื้อตัวของอีกฝ่ายเพื่อไล่คราบน้ำเน่าออกไปจนหมด คนตัวสูงกว่าได้แต่ยืนนิ่งให้มือนิ่มลากผ่านเนื้อตัวโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เสร็จแล้วเมตตาจึงเอาผ้าขนหนูพันรอบตัวของอีกคนไว้แล้วจูงเข้าไปในร้าน ไม่ลืมที่จะหันมาล็อคประตูหลังร้านด้วย

คนตัวสูงกว่าได้แต่ปล่อยให้ผู้มีพระคุณจูงตัวเองขึ้นไปยังชั้นสองของร้าน เมตตาดันร่างหนาให้เข้าไปในห้องน้ำ ลากเก้าอี้ตัวเล็กๆมาแล้วปล่อยให้คนจรจัดนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น ส่วนตัวเองก็ออกจากห้องน้ำแล้วตรงเข้าไปในห้องเก็บของ เขาจำได้ว่าเขามีแบตตาเลี่ยนไร้สายอยู่อันหนึ่ง แม่เคยใช้ตัดผมของเขาสมัยยังเป็นวัยรุ่น

ค้นไปซักพักก็เจอแบตตาเลี่ยนเก็บอยู่ในกล่องอย่างดี พอเอามาลองเปิดดูก็พบว่ายังใช้ได้อยู่ เมตตาปัดฝุ่นเจ้าแบตตาเลี่ยนแล้วกลับไปยังห้องน้ำที่มีใครอีกคนนั่งรออยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

แก้ก อืดดด.... เสียงแบตตาเลี่ยนไร้สายดังขึ้น คนที่นั่งนิ่งมาแต่แรกถึงกับหันมามองด้วยความหวาดกลัว

“ไม่เป็นไรๆ ฉันจะตัดผมให้”เมตตาพูดปลอบใจ คนตัวใหญ่กว่าพยักหน้าแล้วนั่งลงที่เดิม ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ ได้แต่ปล่อยให้เมตตาไถผมยุ่งๆนั่นออกไปตามใจชอบ

เมตตาก็พอจะตัดผมเป็นอยู่บ้าง เขาใช้รองหวีในการไถข้างจนรอบหัว เสร็จแล้วก็เอื้อมไปหยิบกรรไกรเล็มหนวดของตัวเองที่อยู่บนอ่างล้างหน้ามา เล็มผมด้านบนให้สั้นลง พอเสร็จเป็นที่พอใจของตัวเองแล้วก็เทแชมพูลงไปบนหัวสกปรกนั่นเกือบครึ่งขวด เมตตาลงมือสระด้วยมือตัวเอง เพราะถ้าปล่อยให้เจ้าตัวสระเองคงจะไม่สะอาด

สระผมเสร็จก็ล้างฟองออก เมตตาหันมายืนด้านหน้าของคนที่ยังนั่งนิ่ง ใบหน้าคร้ามแดดเพียงแค่เงยขึ้นมามองเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงไปมองพื้นเหมือนเดิม

“ทำไม....ใจดี”เสียงทุ้มเอ่ยถาม เมตตายิ้ม

ไม่รู้สิ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ยิ่งกับคนนี้ทำไมต้องใจดีถึงกับมาอาบน้ำทำความสะอาดให้ ไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะอาบน้ำเสร็จคงจะปล่อยออกไปเดินดุ่มๆอยู่ข้างนอกไม่ได้แน่ๆ

“ไม่รู้สิ”ตอบกลับไปพลางหยิบโฟมล้างหน้ามาบีบใส่มือ เมตตานั่งลงบนพื้นห้องน้ำเปียกๆแล้วจ้องหน้าคนที่ยังคงก้มหน้านิ่ง สองมือถูให้โฟมขึ้นฟอง ค่อยๆถูไปยังแก้มกร้าน น่าแปลกที่ไม่มีการหลบหลีกใดๆ มีเพียงดวงตาสีดำสนิทภายใต้เปลือกตาชั้นเดียวที่มองมาด้วยสายตานิ่งๆ

เมตตามองกลับในขณะที่มือนุ่มก็ถูฟองไปทั่วใบหน้า เสร็จแล้วจึงใช้ฝักบัวล้างฟองออก พอคราบไคลสีดำเริ่มหลุดออกไป ผิวเนียนก็เริ่มปรากฏขึ้น แม้จะคล้ำแดดอยู่บ้าง แต่ผิวสัมผัสที่เมตตาได้รับก็รับรู้ได้ว่าผิวหน้ามันนวลเนียนเสียจนยากที่จะเชื่อว่าเป็นผิวของคนจรจัด

“อะ ถูเอง แต่ถูให้สะอาดทุกซอกทุกมุมด้วย”เมตตาบีบครีมอาบน้ำใส่มือใหญ่ ส่วนตัวเองก็ถอดเสื้อผ้าออกแล้วอาบน้ำให้ตัวเองบ้าง ห้องน้ำก็กว้างพอที่จะให้คนสองคนยืนหันหลังอาบน้ำให้กัน เมตตาอาบให้ตัวเองจนเสร็จหันหลังกลับมามองก็พบว่าอีกคนยังคงยืนถูตัว

กลัวจะไม่สะอาดหรือไงกันนะ

“พอแล้ว สะอาดแล้วแหละ”เมตตาดึงให้อีกคนหันมา จัดการเอาฝักบัวล้างฟองที่อยู่ตามตัวของคนตัวสูงกว่าออก มือนิ่มถูไปตามตัวแบบไม่คิดจะรังเกียจ จะรังเกียจทำไม ในเมื่อก็ผู้ชายทั้งคู่ ถึงจะมีอายๆอยู่บ้างก็เถอะ

 

การอาบน้ำเสร็จสิ้นไปด้วยดี อาบง่ายยิ่งกว่าอาบน้ำให้เด็กน้อยซะอีก ถึงแม้ว่าคนที่เมตตาอาบให้จะตัวใหญ่ไปซักหน่อยก็เถอะ ตอนนี้เลยมาอยู่ในห้องนอนของเมตตาทั้งสองคน เขาเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อผ้าให้คนที่ยังยืนเปลือยท่อนบนใส่

เมตตาพึ่งพบว่าตัวเองชอบใส่เสื้อตัวเล็กๆ ไซส์ใหญ่สุดที่เขามีคือไซส์M และคนตัวใหญ่ก็ใส่เสื้อตัวนั้นไม่ได้ด้วย เมตตาเลยต้องหยิบเอาเสื้อแขนสั้นมีฮู้ดออกมาแทน

นี่ตัวโปรดเลยนะ ลายริลัคคุมะด้วย แถมที่ฮู้ดก็มีหูหมีด้วย

พอให้คนตัวโตสวมเสร็จก็พบว่ามันพอดีตัวเลย ต่อไปก็หากางเกงอะไรก็ได้ให้ใส่ ได้เป็นกางเกงบอลสีขาว ส่วนชั้นใน..... ชั่งมันไปก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยไปดูที่ตลาด

เมตตาหันมาดูคนที่ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว สังเกตดูดีๆใบหน้าของคนจรจัดมันค่อนไปทางหล่อเลยนะ คิ้วยาวได้รูป จมูกโด่ง ริมฝีปากหนาและตาชั้นเดียว พอดูรวมๆแล้วมีสเน่ห์เหลือเกิน

คนจรจัดดูท่าว่าจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เพราะผมที่สั้นลงเลยได้แต่ปัดผมไปมา สุดท้ายก็เอื้อมไปหยิบฮู้ดด้านหลังแล้วเอามาใส่บนหัวเพิ่มความมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย

“หมีมาก”เมตตาเอ่ยขึ้นแล้วมองคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ หมวกฮู้ดสีเหลืองที่มีหูของริลัคคุมะอยู่บนผมสีหม่นของคนตัวสูง โคตรจะเข้ากับหน้าตาแบบนั้นเลย

“โห......”เมตตาอึ้ง พูดไม่ออก และตัดจบด้วยการดึงผ้านวมลงจากเตียง ปูมันลงข้างๆเตียง เดินไปหยิบหมอนใบใหม่ออกมาจากตู้แล้ววางลงบนผ้านวม แต่ก็ต้องรีบวิ่งกลับไปที่ประตูเพราะหมีของเขากำลังจะเปิดประตูออกไป

“เห้ยยย หมี จะไปไหนนนน”เมตตารีบดึงแขนใหญ่ไว้

“หมี ?.... นอน...จะกลับไปนอน....ที่สะพาน”

“ไม่ต้องแล้ว ต่อจากนี้ไปให้อยู่ด้วยกันที่นี่แหละ หมาจรจัดก็ไม่อยู่แล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องไปที่นู่นทุกวันไง นายจะได้กินข้าวครบสามมื้อด้วย”

“มีอยู่ตัวนึง”คนตัวสูงกว่าบอก เมตตาชะงัก ใช่ตัวที่มาด้วยเมื่อตอนเช้าหรือเปล่านะ

“งั้นรีบไปรับกันเถอะ เดี๋ยวจะโดนจับไปซะก่อน”





+++++++++++++++++++++++++

ที่แท้น้องเมตก็เป็นโรคคลั่งหมีนี่เอง

แต่เอ๊ะ เมต... แกเอาคนจรจัดมาอยู่ด้วยหรอ

เรื่องวุ่นๆคงจะยังไม่จบแค่นี้แน่ๆ

ฝากติดตามกันด้วยนะครับ



ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะครับ

อย่าลืมคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ไนท์ด้วยนะครับ

แท็กในทวิต #คุณหมีที่รัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
ถอดรูปจากคนบ้าเป็นหมีแล้ว  o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2017 19:21:37 โดย cchompoo »

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
บางทีเมตตาก็ใจดีเกิน เอาหมีมาอยู่บ้านแบบนี้ระวังนะ  :impress2:

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักกกกกกกคุณหมี :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
งือน่ารัก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ้.....เมต ใจดีมั่กมาก
หมี  ดูเป็นคนพูดรู้เรื่อง ผิวพรรณดี
น่าสงสัยอดีตของหมี
เกิดอะไรกับชีวิตหมีนะ
ถึงได้มาเป็นคนจรจัด     
     :L1: :L1: :L1::
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0

♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ คุณหมีที่รัก♥



[3]-New Member

 

 

 

“ระวังอย่าให้ตัวเปื้อนอีกนะ !!” เมตตาตะโกนบอกคนจรจัดที่กำลังเดินเข้าไปในพงหญ้าที่ขึ้นอยู่ข้างทาง ส่วนตัวเขาก็รออยู่ที่รถ ไม่นานนักร่างสูงของคนจรจัดในชุดหมีริลัคคุมะก็เดินออกมาจากพงหญ้า พร้อมสุนัขตัวเล็กๆตัวหนึ่ง เป็นตัวเดียวกับที่มาขอข้าวกินเมื่อตอนเช้ามืด

ทั้งสองคนขึ้นรถกลับมาที่ร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋ม เมตตาต้องเอาแบตตาเลี่ยนออกมาอีกครั้งเพื่อตัดขนยุ่งๆของเจ้าตัวเล็ก เสร็จแล้วก็จัดการอาบน้ำอีกรอบทั้งคนทั้งหมา ยังดีที่ชุดของคนตัวสูงกว่าไม่เปื้อน สามารถใส่อีกครั้งได้ ถ้าไม่ใส่ตัวนี้ เมตตาก็ไม่รู้จะไปหาเสื้อที่ไหนให้ใส่แล้ว

 

กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้ว ทั้งๆที่ตั้งใจจะนอนเร็วหน่อยแต่กลับเจอเรื่องวุ่นๆซะได้ เมตตามองเจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่ปลายเตียงโดยมีเสื้อผ้าชุดเก่าของเขาเป็นที่นอน ส่วนคนตัวโตก็นอนอยู่บนผ้านวมกับผ้าห่มบางๆหนึ่งผืนสำหรับกันหนาว เมตตาเดินไปปิดไฟแล้วกลับมานอนที่เตียง

“นาย”เมตตาเอ่ยขึ้นมาในความเงียบ

“..............”และก็ได้ความเงียบตอบกลับมา

“มีชื่อไหม ?”

“ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว”เสียงทุ้มตอบกลับมาเรียบๆ

“อ้าว งั้นฉันจะเรียกนายว่า...หมีละกัน โอเคไหมเจ้าหมี”

“อืม”ครางรับเพียงแค่นั้นแล้วก็เงียบไป เมตตาไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรต่อ เลยหลับไปทั้งอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะความง่วงที่สะสมมาทั้งวันด้วย จึงทำให้ร่างโปร่งของเมตตาหลับไปง่ายๆ ต่างกับอีกคนที่ยังลืมตาอยู่ในความมืด พอตากลมคุ้นชินกับความมืดแล้ว แขนใหญ่ก็ดันตัวเองขึ้นแล้วมองไปที่ใครอีกคนที่กำลังหลับอยู่บนเตียง

ทำไม..ใจดี...

ทำไมกันนะ ทำไมถึงใจดีขนาดนี้ ทั้งๆที่เขาเองก็เป็นแค่คนจรจัดคนหนึ่งเท่านั้น อาจจะสติไม่ดีด้วยซ้ำ แต่ก็ยังให้ข้าวให้น้ำ จับตัดผม อาบน้ำ แถมยังให้อยู่ด้วย ให้อาศัยหลับนอนด้วยในห้องเดียวกันอีก

ชื่อที่ตั้งให้ใหม่ก็ดูน่ารักดี ยังจำใบหน้าน่ารักของคนๆนี้ตอนที่เห็นเขาดึงหมวกที่มีหูหมีขึ้นมาใส่ได้อยู่เลย คงจะชอบหมีมาก แต่ก็คงจะพยายามเก็บอาการไว้

ชื่อเมตสินะ จากที่เคยได้ยินคนอื่นเรียก

คุณเมต.... ขอบคุณนะ

 

นาฬิกาปลุกดังขึ้นตอนตีสี่ ปลุกให้เมตตาตื่นขึ้น มือบางรีบคว้าเอาโทรศัพท์มาปิดทันทีเพราะกลัวทำให้หนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวตื่นขึ้นมา เมตตาค่อยๆลุกออกจากเตียงช้าๆ ใช้ความสว่างจากโทรศัพท์ส่องดูเจ้าตัวเล็กที่อยู่ปลายเตียง มือบางส่งไปลูบหัวเล็กเบาๆแล้วผละออก เปิดปิดประตูอย่างระวังไม่ให้เกิดเสียงรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่

พอลงมาข้างล่างก็เริ่มทำกับข้าวทันที เช้านี้มีผัดเต้าหู้ไข่น้ำแดงด้วย เป็นเมนูโปรดของเขาที่แม่ชอบทำให้กินบ่อยๆ และเป็นเมนูแรกๆที่เอามาขายที่ร้านนี้อีกด้วย แต่นานๆครั้งถึงจะทำมาขาย เพราะเมตตาอยากให้มันดูพิเศษสำหรับคนที่ได้กิน

“อ้าว ฉันทำให้ตื่นหรือเปล่า ไม่ต้องรีบตื่นก็ได้นะ ยังไม่สว่างเลย”เมตตาหันไปทักคนที่ยืนมองผัดเต้าหู้ไข่น้ำแดงตาละห้อย

“หิวข้าว ........เมื่อวานไม่ได้กินข้าว”หมีตัวโตบอกแบบนั้น สายตายังคงจ้องไปในกระทะ เมตตายิ้มเพราะเจ้าหมีตัวที่ว่า กำลังยืนอยู่ด้านหลังเขา พอมองใกล้ๆแบบนี้ยิ่งเหมือนหมีเข้าไปใหญ่ ดวงตากลมภายใต้เปลือกตาชั้นเดียว จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากหนาๆ กับหมวกที่มีหูหมีบนผมสีหม่นที่เขาเป็นคนตัดเอง

“หมีไปนั่งรอก่อน เดี๋ยวตักไปให้”เมตตาบอกแบบนั้น ขายาวๆก็พาร่างของตัวเองไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ที่สุด

เมตตาตักข้าวสวยร้อยๆใส่จาน ตักผัดเต้าหู้ไข่น้ำแดงราดลงไปบนข้าว ดูน่ากินเสียจนเมตตาลอบกลืนน้ำลาย เสร็จแล้วก็ยกไปให้หมีหิว ใบหน้าหล่อจ้องมองข้าวที่อยู่ในมือของเมตตา ก่อนที่จะรับมาถือไว้แล้วตักกินอย่างตะกละตะกราม

“เดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปเอาเจ้าตัวเล็กมากินข้าวด้วยนะ เดี๋ยวจะคลุกไว้ให้”เมตตาเอ่ยขึ้น มือยังคงจับตะหลิวทำกับข้าวไปเรื่อยๆ พอใครอีกคนกินข้าวเสร็จ เมตตาก็คลุกข้าวไว้ให้เจ้าตัวเล็ก หมีตัวโตอุ้มเจ้าตัวเล็กลงมาจากชั้นสองแล้วปล่อยให้มันกินข้าวไป

“หมี มานี่ จะสอนล้างจาน”เมตตาเรียกคนตัวโตให้มาที่ซิงก์ล้างจาน ขายาวๆก้าวเข้ามายืนข้างๆคนที่ตัวเล็กกว่าเล็กน้อย

“อยู่ที่นี่ห้ามเป็นภาระ ฉันไม่ต้องการอะไรมาก แค่นายรับผิดชอบตัวนายเองให้ได้”เมตตาบีบน้ำยาล้างจานใส่ฟองน้ำแล้วยื่นให้คนตัวโต มือหนารับไว้แบบงงๆ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต

“ทำแบบนี้นะ”เมตตาที่ยืนอยู่ข้างๆจับมือหนาที่มีฟองน้ำถูจานเปล่า ปากก็อธิบายไปเรื่อยๆถึงวิธีการล้างจานแบบละเอียด แต่สายตาของคนตัวสูงกว่ากลับไม่ได้มองที่จานเลย มันดันไปมองอยู่แค่ใบหน้าหล่อค่อนไปทางน่ารักของเมตตาโดยที่เมตตาไม่รู้ตัว พอล้างจานใบนั้นเสร็จถึงได้หันมามองหน้าอีกคน ดวงตากลมของคนตัวโตถึงกับหลบทันทีที่สบเข้ากับตาคมของใครอีกคน

“ทำได้ไหมหมี”

“ได้....”ถามคำตอบคำจริงๆเลย

“งั้น วันนี้ทดลองงาน ตอนกลางวันช่วยพี่เป็ดกับพี่น้อยเสิร์ฟ ตอนเย็นเดี๋ยวบอกอีกทีว่าต้องทำอะไรบ้าง”

“.............”คนตัวโตกว่านิ่งอย่างเดียวจนเมตตาต้องพูดต่อ

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะให้ค่าจ้างนายเท่าพี่เป็ดกับพี่น้อย”

“ไม่อยากได้เงิน”ปฏิเสธออกมาโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ

“อ้าว...ทำไมหละ”

“แค่ได้กินข้าว แค่มีที่นอน.....พอแล้ว”

“............”ครั้งนี้เป็นเมตตาที่เงียบไปเพราะอึ้ง ต้องการแค่นี้จริงๆหนะหรอ

“หมี... ฟังนะ... เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่โดยไม่ใช้เงิน ทุกคนจำเป็นต้องใช้เงิน นายก็จำเป็นต้องใช้เงิน ถึงนายจะบอกว่าเป็นคนจรจัดจะไปขอข้าวใครกินก็ได้ แต่นายจะขอคนอื่นไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ นายมีมือมีเท้า นายมีแรงที่จะทำงาน ถ้าร่างกายนายทำไหว นายก็ต้องทำ ทั้งหมดก็เพื่อตัวนายเอง ฉันรู้ว่านายยังมีความคิดเหมือนคนปกติอยู่ เพียงแค่นายติดความคิดแบบคนจรจัดอยู่บ้าง แต่ฉันให้ชีวิตใหม่นายแล้ว ถ้านายไม่เห็นแก่ฉันนายก็ควรเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเอง คนทุกคนมีศักดิ์ศรี........ อย่าลดศักดิ์ศรีของตัวเองอีกเลย”

“อืม”ขานรับแค่นั้น แต่เมตตาก็รู้ดีว่าคนตรงหน้าต้องเข้าใจที่เขาพูดไป

“เพราะงั้นก็เข้มแข็งซะ ต่อจากนี้ก็เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่”

“...........”

“ถ้านายใช้ชีวิตไม่เป็น ฉันจะคอยอยู่ข้างๆ คอยสอนนายเอง”

“อืม”ขานรับแบบนิ่งๆ และครั้งนี้คนตัวโตกว่าก็ไม่ยอมหลบสายตาอีกด้วย เมตตาคิดว่าเขาคงเข้าใจทั้งหมดและพร้อมจะเริ่มใหม่แล้ว

“ก่อนอื่นก็ต้องเริ่มจาก วิธีการขานรับ ให้เปลี่ยนจากคำว่าอืม เป็นคำว่าครับแทน มันสุภาพกว่า”

“..........ครับ”

“น่ารักมากเจ้าหมี”เมตตาส่งยิ้มสดใสไปให้คนตัวโตแล้วหันไปทำกับข้าวต่อ เจ้าหมีตัวโตถึงกับทำหน้าไม่ถูก

ภาพรอยยิ้มสดใสของใบหน้าน่ารักทำไมมันถึงติดตาขนาดนี้กันนะ

 

เมตตาทำกับข้าวเสร็จในเวลาตีห้าครึ่ง ถือว่าเร็วกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะมีลูกมือหมาดๆที่คอยหยิบจับนั่นนี่หรือยกถาดอาหารไปวางไว้ เมตตาจึงมีเวลาไปเดินตลาดเช้าและปล่อยให้ใครอีกคนเป็นหมีเฝ้าร้านไป

ตลาดตอนเช้าที่เมตตามาจับจ่ายมีของขายเยอะกว่าตลาดมืด เมตตาจึงเลือกซื้อของต่างๆเพลินมือ ไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อผ้าและกางเกงในของเจ้าหมีไปด้วย(เมตตาเลือกแบบฟรีไซส์จึงไม่กลัวว่าเจ้าหมีตัวโตจะใส่ไม่ได้) แถมยังมีอาหารเม็ดของเจ้าตัวเล็กอีก

 

พอซื้อของครบแล้วก็ขับรถกลับมาที่ร้าน เห็นพี่น้อยกับพี่เป็ดกำลังเปิดประตูเหล็กหน้าร้านพอดี

“อ้าวน้องเมต ไปตลาดมาหรอคะ”พี่เป็ดเอ่ยถาม และพอประตูเหล็กถูกดันขึ้นไปจนสุด สองสาวก็ผงะถอยหลังทันที เพราะคนตัวสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ในร้านในชุดหมีสีเหลืองกับกางเกงบอลสีขาวที่พอไฟจากห้องครัวส่องสว่างอยู่ด้านหลังมันตกกระทบกับกางเกง กางเกงบอลสีขาวตัวบางๆก็เกือบมองเห็นเงาของบางสิ่งบางอย่าง เมตตารีบวางของไว้หลังกระบะเหมือนเดิมแล้ววิ่งไปบังคนตัวโตไว้กันอุจาดตา

“ใครอะคะน้องเมต หล่อจัง อย่างกับดาราเกาหลีแหนะ”พี่น้อยเอ่ยชม เมตตาหันไปมองด้านหลังตัวเอง สบเข้ากับตากลมของคนตัวสูงกว่า

“ก็....คนเมื่อวานไงพี่”

“คนเมื่อวานคนไหนคะน้องเมต”

“ก็คนที่มาขอข้าวกินทุกวันไงครับ”เมตตากลั้นใจบอกไป สองสาวถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าคนจรจัดที่ให้ข้าวให้น้ำอยู่ทุกวัน พอจับอาบน้ำแต่งตัวแล้วจะหล่อปานดาราเกาหลีแบบนี้

“จริงหรอน้องเมต....แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่ร้านตั้งแต่เช้าได้หละคะ”พี่เป็ดถามบ้าง

“ไว้ค่อยเล่าอีกทีครับ ตอนนี้เมตว่าจัดของเตรียมเปิดร้านกันก่อนดีกว่านะครับ”เมตตาบอกสองสาว ทั้งสองคนพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในครัว เมตตาจึงหันหลังกลับมาคนตัวสูงกว่าที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“ขึ้นไปข้างบนก่อน เดี๋ยวจะเอากางเกงในขึ้นไปให้ แบบนี้มันเข้าข่ายอนาจารนะรู้ไหม”เมตตาดันหลังกว้างของเจ้าหมีให้เดินกลับเข้าไปในร้าน ส่วนตัวเขาก็ยกของลงจากหลังรถกระบะ เสร็จแล้วก็ขึ้นไปบนชั้นสองพร้อมกับเสื้อผ้าในมือ

 

“อะ ใส่ซะ มันจะได้ไม่ห้อยอยู่แบบนี้”เมตตายื่นถุงกางเกงในให้ มือก็ชี้ไปที่จุดกึ่งกลางลำตัวของคนตัวสูงกว่า เจ้าหมีเพียงพยักหน้าแล้วถอดกางเกงบอลออกต่อหน้าเมตตา เขาพึ่งเริ่มรู้สึกเขินก็ตอนมองมันบ่อยๆนี่แหละ เลยต้องแก้เขินด้วยการเดินไปค้นกางเกงขายาวของตัวเองมาให้อีกคนใส่ จะได้สบายตัว ทำงานได้คล่องแคล่วและไม่อุจาดตาจนเกินไปอีกด้วย

มือหนารับกางเกงไปใส่ เสร็จแล้วเมตตาและสมาชิกใหม่ของร้านทั้งคนทั้งหมาก็พากันเดินลงมาข้างล่าง

ลูกค้าเริ่มเข้ามาทานข้าวกันบ้างประปราย เมตตาจึงถือโอกาสนี้สอนคนตัวสูงในการเสิร์ฟข้าวให้กับลูกค้าแต่ละโต๊ะ ร่างสูงทำตามที่เมตตาสอนแบบเป้ะๆ ขาดแค่รอยยิ้มบนใบหน้านิ่งๆนั่นเท่านั้น ซึ่งเมตตาก็ไม่รู้จะแก้อย่างไร ยังดีที่ความหล่อพอจะมีส่วนช่วยอยู่บ้าง

ลูกค้าสาวๆดูจะสนใจลูกจ้างคนใหม่ของร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋มกันมาก ถามกันมาไม่ขาดปาก เมตตาก็ตอบไปเพียงว่า ชื่อหมี มาจากต่างจังหวัด ถือว่าเป็นเรื่องดีที่กระแสตอบรับของเจ้าหมีดีพอสมควร แต่เจ้าตัวก็ยังคงหน้านิ่งๆ ไม่ได้แสดงความรู้สึกยินดีใดๆออกมา

เมตตาใช้เวลาครึ่งเช้าในการสอนงานให้กับสมาชิกใหม่โดยมีพี่น้อยกับพี่เป็ดคอยช่วยอีกแรง จนเวลาล่วงเลยมาเป็นบ่ายสองลูกค้าจึงบางตาลง และเป็นเวลากินข้าวของทั้งสี่คน

 

“คนนี้พี่เป็ด คนนี้พี่น้อย ฉันให้ความเคารพเหมือนญาติ เหมือนพี่สาว นายเองก็ควรจะเคารพเขาทั้งสองคนด้วยนะ”

“ครับ”ตอบมาแค่นั้นด้วยใบหน้านิ่งเรียบ พี่เป็ดกับพี่น้อยยังคงไม่เลิกขมวดคิ้ว ไม่ใช่เพราะคนตัวสูง แต่เป็นเพราะเจ้าของร้านต่างหาก ที่ยังไม่เล่าเรื่องอะไรเลย

“คืองี้ครับพี่ หมีมันจำอะไรไม่ได้ ชื่อตัวเองก็จำไม่ได้ ผมเห็นว่ามันเหมือนหมีดี ก็เลยตั้งชื่อให้ว่าหมี”เมตตาอธิบาย

“แล้วให้มาอยู่ที่ร้านได้ยังไงคะ?”

แล้วเมตตาก็เล่าเรื่องสุนัขจรจัดที่ใต้สะพานข้ามแยกให้ทั้งสองคนฟัง พอฟังเสร็จพี่น้อยกับพี่เป็ดก็พยักหน้าเข้าใจ

“ส่วนเหตุผลที่เมตให้หมีมาอยู่ด้วยเพราะไม่อยากให้กลับไปอยู่ใต้สะพานอีก หมาจรจัดแถวนั้นก็ไม่มีแล้ว เมตคงจะไม่ได้ผ่านไปบ่อยๆ กลัวหมีมันจะหิวข้าวด้วย อีกอย่าง....เมตอาบน้ำให้หมีไปแล้วอะ เมตไม่อยากให้กลับไปมอมแมมแบบเดิมอะครับ”เมตตาอธิบายจบ พี่เป็ดกับพี่น้อยก็หันไปมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ

“ค่ะ ไปทำงานกันต่อดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ทันตอนเย็น”พี่น้อยเอ่ยตัดบท แล้วเดินเข้าไปในครัว ปล่อยให้พี่เป็ดเฝ้าหน้าร้านไป ส่วนเมตตาก็เดินเข้าครัวมาทำกับข้าวเพิ่ม แต่ก่อนหน้านั้นก็เรียกให้หมีมาดูอาหารเม็ดของเจ้าตัวเล็กก่อน

“ให้เฉพาะตอนเที่ยงนะ ตอนเช้ากับตอนเย็นคลุกข้าวให้มันก็พอ”เมตตาบอก ใบหน้าหล่อของเจ้าหมีพยักหน้ารับแล้วเทอาหารออกจากถุงใส่ในจานให้เจ้าตัวเล็ก ส่วนเมตตาก็ไปทำกับข้าว ใกล้ๆกันมีพี่น้อยที่ยืนล้างจานอยู่

“น้องเมตคะ.... จะไว้ใจได้หรอคะ....ถึงหมีมันจะหล่อ แต่มันจะไม่ขโมยของในร้านไปใช่ไหมคะ”พี่น้อยเอ่ยอย่างเป็นกังวล เมตตาหันหลังกลับมามองคนตัวโตกำลังนั่งลูบหัวเจ้าตัวเล็กที่กำลังกินอาหารเม็ดในจานอยู่ พี่น้อยเองก็หันมามองตาม

“เมตว่าเมตดูคนไม่ผิดหรอกครับ เขาดูไม่มีพิษมีภัยอะไรเลยนะพี่”

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ดีสิคะ”

 

คนตัวโตที่กำลังมองเจ้าตัวเล็กกินอาหารเม็ดอยู่ พอได้ยินพี่น้อยพูดแบบนั้นก็แอบรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปมักจะมองคนจรจัดว่าอันตราย น่ากลัว

แต่อีกคนเนี่ยสิ ไม่ปกติหรือยังไงนะ ที่ดันมาไว้ใจคนจรจัดแบบเขา

แต่นายมองไม่ผิดหรอกเมต ฉันให้สัญญา

 




++++++++++++++++++++++++

ตอนนี้มาสั้นๆ ให้เห็นความคิดของฝั่งเจ้าหมีสีน้ำตาลบ้าง

เอะ สรุปแล้วไอ้หมีมันปกติหรือสติไม่ดีกันแน่

ฝากติดตามกันด้วยนะค้าบ

แท็กในทวิตเตอร์ #คุณหมีที่รัก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เมต ใจดี หมี หล่อ น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
เจ้าหมีน่ารัก  :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
น่าอ่านนนน เรียกหมีดูน่ารักมุ้งมิ้งจริงๆ 55555

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
หมีดูเป็นผู้ชายอบอุ่น

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หมีความจำเสื่อมหรือว่ามีคนคิดปองร้ายแล้วกำลังหนีอยู่กันแน่

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
รักคุณหมี

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
น้องเมตใจดีมากๆๆๆๆๆ. พี่หมีทำไมถึงเป็นคนจรจัดหว่า :katai5:

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
น่าติดตามมากกกก

ออฟไลน์ yewlyz

  • MindSet The Others
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :impress2: หมีน่ารักกก

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0

♥Loving Bear ʕ·ᴥ·ʔ คุณหมีที่รัก♥


[4] – Changing


               

 

 

การมีเจ้าหมีกับเจ้าตัวเล็กเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ด้วยทำให้การดำเนินชีวิตของเมตตาเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ตรงที่เหมือนเขามีลูกให้ดูแลเพิ่มขึ้นมาสองคน ถึงแม้เจ้าหมีตัวใหญ่จะคอยดูแลเจ้าตัวเล็กบ้าง แต่หน้าที่ตัดขนเจ้าตัวเล็กก็เป็นหน้าที่ของเมตตาอยู่ดี เขาเคยปล่อยให้เจ้าหมีตัวโตลองตัดขนให้ลูกน้องของเขา ปรากฏว่าขนของเจ้าตัวเล็กแหว่งไปเยอะ เมตตาเลยต้องตัดขนมันจนสั้น และต้องไปหาซื้อเสื้อสำหรับสุนัขมาให้มันใส่ตอนกลางคืนซะงั้น

จะว่าไปก็ผ่านไปสองเดือนแล้วนะ ตั้งแต่ที่นายหมีมาอาศัยอยู่กินกับเขา หมีทำงานคล่องมากขึ้น จนกลายเป็นกำลังหลักของร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋มเลยก็ว่าได้

หน้าที่ยกของกลายเป็นของเจ้าหมีตัวโตไปทันทีที่เขาอาสาในวันหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็มีหน้าที่ยกของตลอด พี่เป็ดกับพี่น้อยรู้สึกยินดีที่ตัวเองไม่ต้องแบกของหนักๆช่วยเมตตาแล้ว

หมียังมีหน้าที่ไปซื้อของที่ตลาดกับเมตตาและเขาก็สามารถทำงานบ้านหลายๆอย่างได้โดยไม่ปริปากบ่นเลยซักคำ เมตตาเคยถามเขาว่าเหนื่อยบ้างไหม แต่เขาบอกว่าไม่ เขาเต็มใจทำเพื่อช่วยผม เขาไม่อยากเป็นภาระ อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ที่สุด และเมตตาก็ไม่ได้ให้เขาทำเปล่าๆ เมตตาให้ค่าแรงเขาเท่ากับพี่เป็ดและพี่น้อย แถมด้วยของกินฟรีสามมื้อ ที่พัก พร้อมอาหารสุนัข

แต่ก็มีปัญหาอยู่นิดหน่อย เจ้าหมีปฏิเสธเมตตาทุกครั้งที่เมตตายื่นเงินให้เขา โดยเขาให้เหตุผลว่า แค่ผมให้ที่อยู่ ให้ข้าวเขากับเจ้าตัวเล็กกินทุกมื้อแค่นี้ก็พอแล้ว เมตตาเลยแอบเปิดบัญชีไว้ให้เขาแล้วโอนเงินเข้าทุกเดือน

หลายครั้งที่ไปตลาดแล้วเจ้าหมีเห็นเสื้อผ้าสวยๆหรือของเล่นของเจ้าตัวเล็กที่เขาอยากได้เขาก็จะจ้องไว้ และเมื่อเมตตาเดินเลยไป เขาก็จะเดินตามเมตตาโดยที่สายตาก็ยังคงจ้องไปยังที่ของสิ่งนั้น พอเดินผ่านกลับมาที่เดิมอีกครั้ง เมตตาก็จะทำเป็นสนใจสิ่งนั้นและซื้อมันมาด้วยเงินของเขาเอง พอกลับมาที่บ้าน เมตตาก็จะทำเป็นว่าเสื้อตัวนั้นมันใหญ่ไปสำหรับเขา และเขาก็ยกให้กับเจ้าหมีตัวโตไป คนตัวโตจะได้รู้สึกติดค้างน้อยที่สุด

เวลาสองเดือนทำให้ร่างกายสูงใหญ่ที่เคยผอมแห้งมีแต่กระดูกเบอร์ใหญ่ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยมัดกล้ามจากการทำงานทุกๆวัน ผิวหลายจุดที่เคยคล้ำแดดเมตตาก็รักษาโดยการให้เขามาร์คหน้าด้วยโยเกิร์ตและใช้ครีมบำรุงอย่างดี ผิวที่เคยเป็นผิวสองสีตอนนี้จึงเนียนใส ที่เมตตาชอบที่สุดก็คงจะเป็นสีผิวของเจ้าหมีที่เป็นสีแทน เพราะผิวสีแทนช่วยขับให้ใบหน้าหล่อนั่นยิ่งดูคมคายมากขึ้นไปอีก จนพักหลังๆรู้สึกว่าลูกค้าจะหนาตาขึ้นมากกว่าเดิมเยอะเลย ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะความหล่อของเด็กเสิร์ฟในร้าน

แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคือใบหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่เคยยิ้มเลย ครั้งสุดท้ายที่เขายิ้มให้เมตตาคือตอนที่เขายังเป็นคนจรจัดตัวมอมแมม ตอนที่ได้กินข้าวไข่เจียวทรงเครื่องธรรมดาๆ

 

“คุณเมตครับ อาหารของตัวเล็กหมด”ใบหน้าคมเรียบนิ่งเดินมาบอกกับเมตตา เขาพยักหน้ารับแล้วหันกลับมาผัดผักต่อจนเสร็จ พอเสร็จแล้วก็หยิบกุญแจมอ’ไซต์ออกมาโดยมีเจ้าหมีเดินตามมาด้วย

เมตตาขับมอ’ไซต์มาเรื่อยๆจนถึงร้านขายอาหารสัตว์ จัดการหยิบอาหารเม็ดสำหรับสุนัขพันธุ์เล็กแล้วจ่ายเงินไป เดินออกมาจากร้าน เจ้าหมีตัวโตก็ยังคงนั่งอยู่บนเบาะเหมือนเดิม

“หมี... อยากหัดขับรถไหม”เมตตาถาม เจ้าหมีตัวโตส่ายหัวรัวๆ “ปะ เดี๋ยวสอนให้”

 

นายหมีมักจะไม่กล้าขัดคำสั่งของเมตตา เพราะฉะนั้น ตอนนี้นายหมีเลยนั่งอยู่ข้างหน้า เป็นคนบังคับรถโดยที่มีเมตตาคอยสอนอยู่ด้านหลัง

“พอจะถึงทางแยกก็ให้ปล่อยคันเร่งกลับนะ แล้วบีบเบรกทั้งสองข้าง”หมีทำตามที่เมตตาบอก เขาปล่อยคันเร่งแล้วบีบเบรกแบบนิ่มๆ ทั้งสองคนจอดรถติดไฟแดงกันซักครู่

หมีเป็นคนฉลาด เขาสามารถเรียนรู้งานหลายๆอย่างได้ในเวลาสั้นๆ อย่างเช่นตอนนี้ก็เช่นกัน เมตตาคิดว่าเขาคงจะขับรถมอ’ไซต์เป็นแล้วแหละ แต่ตอนนี้คงได้แค่ขับช้าๆไปก่อน

พอสัญญาณไฟเป็นสีเขียว มือหนาก็ค่อยๆบิดคันเร่งขึ้นอย่างช้าๆ รถมอ’ไซต์คันสีเขียวค่อยๆออกตัวออกจากแยก

แต่ถึงแม้จะระมัดระวังยังไง ถ้าคนมันจะซวย อุบัติเหตุมันก็จะวิ่งมาหาเอง

ปี้นนนน !!

เสียงแตรแหลมๆดังมาด้านข้าง รถมอ’ไซต์คันหนึ่งฝ่าไฟแดงมาจากด้านขวา แล้วพุ่งผ่านรถยนต์หลายคันที่กำลังออกตัว ตรงมายังรถมอ’ไซต์คันสีเขียวที่เมตตากับเจ้าหมีนั่งอยู่ รถคันนั้นบีบเบรกอย่างกะทันหัน รถทั้งคันจึงปัดเฉียงไปกับถนน จากนั้นก็พุ่งเข้ามาชนรถของเมตตาเต็มๆ

เมตตารู้ว่าหมีพยายามจะบังคับรถไม่ให้ถูกรถคันนั้นพุ่งชนใส่ แต่มันไม่พ้นจริงๆ ความรู้สึกเจ็บจนร้องไม่ออกแล่นขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าด้านขวาจนถึงกระดูกสันหลัง

หมีกระโดดลงจากรถทัน แต่เมตตานี่สิถูกชนไม่พอ ยังโดนรถมอ’ไซต์ตัวเองล้มทับขาข้างที่ถูกชนอีก เจ็บจนร้องไม่ออกจริงๆ

“คุณเมตครับ !!”แขนใหญ่ยกรถมอ’ไซต์ทั้งคันออก จากนั้นก็เข้าไปประคองเมตตาไว้บนตัก ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นรีบเข้ามาช่วยแล้วเรียกรถพยาบาล

“หมี...เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”ตาคมเห็นแขนใหญ่ของเจ้าหมีมีรอยถลอก

โถ่ ผิวเข้มที่อุตส่าห์บำรุงอย่างดี ตอนนี้ดันเป็นแผลถลอกซะได้

“ผม....ผมขอโทษครับ.....คุณเมตอย่าเป็นอะไรนะ”เสียงทุ้มนั่นดูร้อนรนมาก นี่เขาต้องกำลังคิดว่าเขาเป็นต้นเหตุทำให้เมตตาเจ็บตัวแน่ๆ

“ขา.....”ขาขวาของเขาชาดิ้ก... ตอนนี้แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย ให้ตายเถอะ

“ผมขอโทษ”หมีพูดขอโทษอีกแล้ว กำลังรู้สึกผิดอยู่แน่ๆ ไอ้หมีเอ้ย

“ไม่เป็นไรหรอกน่า อย่าทำหน้าแบบนั้น”อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ดิ ฉันอยากให้นายยิ้มให้มากกว่านะ ยิ้มแบบตากลมๆนั่นแทบจะปิดไปเลย มันน่ารักกว่าตอนที่ทำหน้าแบบนี้เยอะ

เสียงรถฉุกเฉินดังขึ้นมา ไม่ได้เรียกร้องความสนใจของเมตตาไปได้เลย เพราะตอนนี้ในสายตาของเขาคงมีแต่ใบหน้าคมของเจ้าหมีหน้านิ่ง ตากลมคลอไปด้วยน้ำตาใสๆ และทันทีที่เมตตาถูกหามขึ้นรถฉุกเฉิน น้ำตาเม็ดใสก็หยดลงมา

 

“กระดูกหน้าแข้งร้าว ต้องเข้าเฝือก นอนที่นี่ซักคืนเพื่อดูอาการ”หมอบอกแบบนั้น เมตตาถึงกับหน้าเสีย เขาทิ้งร้านไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องกลับไปที่ร้านเท่านั้น

“ไม่นอนได้ไหมครับหมอ ผมต้องไปทำงานอะ”

“ได้สิ งั้นที่เหลือก็ไม่มีอะไรแล้ว รอรับยาแล้วก็กลับบ้านได้”

หมอบอกแบบนั้น ตอนนี้เขาเลยมานั่งแกร่วรอรับยาโดยที่ขาข้างขวามีเฝือกแข็งๆหุ้มอยู่ครึ่งขา ข้างๆกันเป็นเจ้าหมีตัวโตที่ทำความสะอาดแผลเรียบร้อยแล้วนั่งอยู่ข้างๆ โชคยังดีที่แผลไม่ลึก เป็นแค่รอยถลอกเท่านั้น  เมตตาใช้สิทธิ์ประกันได้ เลยไม่เสียค่ายากับค่ารักษา แต่ที่ต้องจ่ายเต็มๆก็เป็นของเจ้ามีตัวข้างๆนี่แหละ โดนไปสามร้อย บ่นแพงไม่หยุดปากเลย

“ผมว่ามันแพงไปหรือเปล่าครับ สามร้อย”นั่นไง บ่นอีกแล้ว พ่อคุณเอ้ย งกจริงๆ

“ไม่แพงหรอก เฝือกตั้งครึ่งขา”และเมตตาก็จำใจโกหกไปว่าห้าร้อยที่จ่ายไปนั่นเป็นค่ารักษาของเขา ไม่งั้นพ่อหมีไม่ยอมแน่ๆ

 

ขากลับ เมตตาเลยต้องเป็นคนขับรถมอ’ไซต์เอง เพราะเจ้าหมีไม่ยอมขับ แถมยังไม่ยอมให้เมตตาขับด้วย บอกให้เรียกแท็กซี่ท่าเดียว  แต่รถมันไม่ใช่รถเกียร์จึงไม่จำเป็นต้องใช้ขาหรือเท้า ใช้แค่แขนกับมือก็พอ ซึ่งแขนกับมือของเมตตาไม่ได้บาดเจ็บอะไร จึงเป็นหน้าที่ของเมตตาในการขับรถกลับมาที่ร้าน

พอเอารถจอดหน้าร้านได้ พี่น้อยกับพี่เป็ดก็เข้ามาถามทันที เมตตาก็อธิบายไปว่ามีคนฝ่าไฟแดงมาชนพวกเขา เมตากระดูกร้าว หมอห้ามยกของหนัก ห้ามออกแรงเยอะ ทางที่ดีให้นั่งหรือนอนพักไปเลย ที่จริงเกือบจะได้นอนโรงพยาบาลแล้ว แต่เขาขอกลับบ้านเอง เพราะติดงานที่ร้าน ปิดร้านไม่ได้จริงๆ

“คุณเมต ให้ผมอุ้มดีกว่า” เมตตาส่ายหน้าให้เจ้าหมีตัวโต แล้วใช้ไม้ค้ำที่ได้มาพยุงตัวเองเดินเข้าร้าน นึกขำตรงที่ใบหน้าที่เคยเรียบนิ่ง ตอนนี้เริ่มบูดบึ้งเพราะเมตตาไม่ยอมให้เขาช่วยนู่นนี่

“วันนี้พี่ว่ายังไม่ต้องทำกับเพิ่มหรอกค่ะ ให้น้องเมตพักก่อนดีกว่า”พี่เป็ดบอก คนเจ็บพยักหน้าเห็นด้วย ยิ่งเจ้าหมีตัวโตนี่พยักหน้าจนกลัวว่าคอจะหัก

 

เย็นนี้ร้านข้าวราดแกงป้าจุ๋มจึงต้องปิดเร็วกว่าปกติหน่อย ลูกค้าหลายคนที่กะจะมาฝากท้องกับทางร้าน ทีแรกก็จะบ่นแหละ แต่พอเห็นว่าพ่อครัวของร้านขาเดี้ยงก็พากันให้กำลังใจและอวยพรให้หายเร็วๆ

ตอนนี้พี่เป็ดกับพี่น้อยกำลังล้างจานอยู่ และคงใกล้จะเสร็จแล้ว ส่วนเมตตาก็นั่งเฉยๆมองร่างกายแข็งแรงของเจ้าหมีสีน้ำตาลกำลังเก็บโต๊ะเก้าอี้หลายสิบตัวอย่างคล่องแคล่ว

“น้องเมต พี่สองคนกลับก่อนนะคะ”พี่เป็ดเดินมาบอกลา

“ครับพี่ กลับดีๆนะ พรุ่งนี้เจอกัน”เมตตาบอกพี่เป็ดกับพี่น้อย

“เป็ด เอาอันนั้นให้น้องยังอะ”พี่น้อยเหมือนจะนึกอะไรออกและเอ่ยเตือนพี่เป็ด

“จริงด้วย เมื่อวานพี่ไปตลาดนัดมา เจออันนี้ด้วย น่ารักมากเลย”ว่าแล้วพี่เป็ดก็ดึงที่คาดผมออกมาจากกระเป๋า มันไม่ใช่ที่คาดผมธรรมดา เพราะอันนึงมีหูสีน้ำตาลเล็กๆกลมๆ น่าจะเป็นหูหมี ส่วนอีกอันก็เป็นหูกระต่าย เมตตาแทบจะกระโจนเข้าไปเอาหูหมีมาใส่หัวตัวเอง แต่ก็ติดที่ขาเจ็บ เลยได้แต่ปล่อยให้พี่เป็ดเอาที่คาดผมมาสวมให้

เมตตายิ้มอย่างดีใจ อยากจะเห็นหูหมีที่อยู่บนหัวตัวเองในกระจกเต็มที แต่ก็ต้องหุบยิ้มทันทีที่เห็นว่าพี่เป็ดกำลังสวมหูหมีบนหัวของเจ้าหมีสีน้ำตาลอยู่

อ้าว งั้นที่อยู่ขนหัวเขาก็เป็นหูกระต่ายหนะสิ

“หมี ดูแลน้องเมตด้วยนะ”สองสาวไม่ลืมที่จะฝากฝังเจ้าของร้านไว้กับเจ้าหมีตัวโต

“ครับ”เสียงทุ้มตอบรับ

“พี่กลับก่อนนะคะ คุณกระต่ายกับเจ้าหมี”พี่เป็ดแซว แล้วพี่เป็ดกับพี่น้อยก็กลับบ้านไป เจ้าหมีสีน้ำตาลเดินไปปิดประตูเหล็ก เขาเดินสำรวจความเรียบร้อยรอบๆอีกครั้งแล้วก็เดินตรงเข้ามาหาผม

“ให้ผมอุ้มคุณขึ้นไปดีกว่า”พูดจบก็ทำท่าจะอุ้มเขาจริงๆ เมตตารีบยกมือดันหน้าอกแข็งแรงนั่นออก

“ฉันมีไม้ค้ำแล้ว ฉันเดินขึ้นเองได้น่า”พูดจบก็หันไปคว้าไม้ค้ำ แต่ไม้ค้ำก็ถูกมือหนาของเจ้าหมีสีน้ำตาลคว้าไปซะก่อน

“คุณเมต.... ถ้าคุณเมตไม่ให้ผมช่วยอะไรคุณบ้าง....ผมคงจะรู้สึกผิดมากที่ทำให้คุณเจ็บตัว”

เอาไงดีหละ เขาไม่ได้เจ็บหนักถึงขนาดช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่พอเห็นหน้าของเจ้าหมีสีน้ำตาลที่ตอนนี้กำลังตีหน้าเศร้า เขาก็ปฏิเสธไม่ลง

“ก็ได้...”พูดจบ คนตัวเล็กกว่าก็ลอยหวือขึ้นจากพื้น แขนแข็งแรงแบกเมตตาขึ้นมาอยู่ในระดับอกของตัวเอง เมตตาต้องรีบยกแขนสองข้างคว้าลำคอหนาไว้เพราะกลัวตก

“คุณเมตตอนไม่ดื้อน่ารักกว่านะครับ”พูดจบใบหน้าคมก็ยิ้มบางๆมาให้ผม

เห้ย!! ยิ้มแล้ว !!

ไอ้บ้าเอ้ย ยิ้มแล้วโคตรหล่อเลย ยิ่งมองใกล้ๆแบบนี้ยิ่งโคตรหล่อ แถมหูหมีบนผมสีหม่นนั่นก็ทำให้โรคคลั่งหมีของเมตตากำลังทำงานอย่างหนัก

เห้ย....ทำไมเขินแบบนี้วะ

ไอ้บ้า ยังจะมามองด้วยสายตาแบบนี้อีก

“จะขึ้นไปได้ยัง ฉันอยากอาบน้ำแล้ว”เมตตาตัดบทแล้วหลบสายตาที่กำลังมองมาทางเขา

“ครับ...หึหึ”เจ้าหมีสีน้ำตาลหัวเราะแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง

“เดี๋ยวนะ.... ตะกี้นายหัวเราะหรอ...??”ตะกี้เจ้าหมีหน้านิ่งหัวเราะ ไม่น่า เขาน่าจะคิดไปเอง เห้ย เขาว่าเขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

เจ้าหมีอุ้มคุณเมตเข้ามาในห้องน้ำ วางคนตัวเล็กกว่าลงบนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า

“รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวผมจะมาอาบน้ำให้”

หะ.... อาบน้ำ.....

“เดี๋ยว !!” ไม่ทันแล้ว เจ้าหมีเดินออกจากห้องน้ำไป เมตตาก้มมองพื้นห้องน้ำ พึ่งรู้วันนี้ว่าขาตัวเองสั้นกว่าที่คิด แถมยังไม่มีไม้ค้ำอีก ไม่กล้าแม้แต่จะไต่ลง กลัวขาจะหักซะก่อน

หมีเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับถุงพลาสติกใบหนึ่ง  ร่างกายสูงย่อตัวลงแล้วเอาถุงพลาสติกหุ้มเฝือกที่ขาของคนเจ็บไว้ ก่อนจะเงยหน้าหล่อๆที่มีหูหมีอยู่บนหัวขึ้นมามองใครอีกคน

“กันน้ำเข้าเฝือกนะครับ”เจ้าหมีสีน้ำตาลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พอเขายืนแล้วสายตาของเมตตาก็อยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าหล่อๆที่มีหูหมีอยู่บนหัว

“ยกแขนขึ้นครับ”

อรึก..... คนเจ็บค่อยๆยกแขนขึ้นตามคำสั่งของคนตรงหน้า มือหนาถอดเสื้อของเมตตาออกทางหัว ไม่ลืมที่จะหยิบเอาที่คาดผมหูกระต่ายออกจากหัวของเมตตาด้วยด้วย ต่อไปก็เป็นกางเกง มือหนาค่อยๆดึงกางเกงขาสั้นออกจากขาเรียว เมตตารีบเอามือปิดกางเกงในของตัวเองเอาไว้

“เอามือออกสิครับ”เมตตาส่ายหน้ารัวๆ เจ้าหมียิ้มมุมปากแล้วเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก เริ่มจากเสื้อแขนกุดสีดำ เผยให้เห็นมัดกล้ามจากการทำงาน ต่อไปก็เป็นกางเกงสามส่วน จนสุดท้ายกางเกงในสีดำก็หลุดออกจากปลายเท้า

“ไอ้หมีบ้า ไม่อายบ้างหรือไง” เมตตาพยายามไม่มองร่างกายของคนตรงหน้า

“คุณเมตพูดเหมือนไม่เคยอาบน้ำให้ผม”

นั่นสิ ทั้งๆที่เคยอาบน้ำให้คนตรงหน้าไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้มันถึงทำให้เขาเขินได้ขนาดนี้กัน

เมตตาพยายามทำใจแข็งแล้วเอามือออกจากกางเกงใน ปล่อยให้มือหนาปลดเปลื้องมันลงไปจนพ้นจากปลายเท้า คนที่นั่งอยู่บนเคาท์เตอร์พยายามมองไปที่ประตูห้องน้ำบ้าง ฝักบัวบ้าง สบู่บ้าง พื้นบ้าง เพื่อหลบสายตาของใครอีกคนที่ยังคงจ้องมองเขาอยู่

“คุณเมตค่อยๆนั่งลงนะครับ”เจ้าหมีอุ้มเมตตาลงจากเคาท์เตอร์แล้วพยุงให้เขาค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้พลาสติก แขนแข็งแรงค่อยๆยกขาข้างขวาวางไว้บนฝาชักโครก

หมีเปิดฝักบัว เอามือรองจนมั่นใจว่าน้ำอุ่นพอดีแล้วถึงค่อยๆราดหัวของเมตตาจนเปียก มือหนาบีบแชมพูใส่มือแล้วขยี้ผมนุ่มอย่างเบามือ เมตตาปล่อยให้หมีสระผมให้ตัวเองจนเสร็จ ต่อไปก็ล้างหน้า หมีบีบโฟมใส่มือ ถูจนเกิดฟอง มือหนาค่อยๆถูฟองบนใบหน้าหล่อค่อนไปทางน่ารัก ตากลมของเจ้าหมีจ้องตาของเมตตาไม่ยอมละสายตาไปไหน และเมตตาเองก็ไม่สามารถหลบสายตาทรงเสน่ห์ของเขาได้

ยังดีที่ฟองโฟมสีขาวช่วยบดบังผิวหน้าของเมตตาได้ ไม่งั้นเจ้าหมีคงเห็นว่าใบหน้าน่ารักกำลังหน้าแดงแน่ๆ

“คุณเมต...หน้าแดง”ทันทีที่หมีพูดจบ เมตตาก็ต้องหลบสายตานั่นทันที แต่หลบไปทางข้างๆไม่ได้ เลยได้แต่ก้มหน้าลงเล็กน้อย และที่แย่ไปกว่านั้นคือสายตาของเขามันดันไปอยู่ในระดับสะดือของร่างตรงหน้าทันที

โห เส้นขนสีน้ำตาลที่ลากผ่านตั้งแต่สะดือไปจนถึงจุดกึ่งกลางลำตัว...... โคตรเซ็กซี่เลย

“คุณเมตหลับตาครับ ผมจะล้างฟองออกให้” ได้โอกาสเมตตาก็รีบหลับตาหนีทันที มือหนาล้างฟองออกจากหน้าของเมตตาจนหมด แล้วก็เว้นไปเพียงครู่ ฝ่ามือนั่นก็ทาบลงมาบนหน้าอกที่มีกล้ามเล็กน้อยของเมตตา....

“ดะ...เดี๋ยวฉัน...ถูเอง... นายไปอาบให้ตัวเองเถอะ”

“ครับ”ตอบรับพร้อมกับส่งยิ้มบางๆมาให้

ยิ้มอีกแล้ว วันนี้ยิ้มบ่อยเกินไปแล้วนะ

ร่างกายแข็งแรงผละออกไปแล้วเริ่มสระผม ล้างหน้า ถูสบู่ ยังดีที่แผลบนแขนแข็งแรงนั่นเป็นเพียงแค่แผลถลอก และมันก็ตกสะเก็ดเรียบร้อยแล้ว เจ้าหมีจึงไม่มีท่าทีว่าจะแสบแผลอะไร เมตตามองทุกการกระทำของเขา มันเซ็กซี่ซะจนเมตตานึกอิจฉา เขาถูสบู่ให้ตัวเองจนเสร็จเจ้าหมีจึงเอาฝักบัวมาล้างฟองออกจากตัวให้ ก่อนจะประคองคนตัวเล็กกว่าให้ยืนขึ้นแล้วเช็ดตัวให้ เช็ดตัวจนแห้งก็เอาผ้าเช็ดตัวห่อไว้ แล้วแขนแข็งแรงก็อุ้มเมตตาขึ้น

โว้ย ทำไมเหมือนผัวดูแลเมียที่กำลังป่วยเลยวะ

ไม่ๆๆๆ แค่พี่น้องก็พอแล้ว ไม่ก็พ่อดูแลลูกก็ได้

หมีอุ้มเมตตาเข้ามาในห้องนอน วางคนเจ็บไว้ปลายเตียง แล้วเขาก็เข้าไปค้นเสื้อผ้าของเมตตาและของตัวเอง เจ้าหมีใส่เสื้อผ้าของตัวเองก่อน โดยที่การกระทำทั้งหมดก็ยังคงอยู่ในสายตาเมตตา

ไอ้หมีบ้า นี่กำลังอ่อยเขาหรือเปล่าวะ

“คุณเมตยกขาครับ” เมตตายกขาขึ้นตามคำสั่ง หมีส่วมกางเกงบ็อกเซอร์ให้ เขารู้ว่าเมตตาไม่ใส่กางเกงในนอนเพราะจะได้สบายตัว เสร็จแล้วก็ยกแขนเพื่อให้หมีสวมเสื้อกล้ามให้ ส่วนเขาก็เป็นเสื้อแขนกุดสีครีมอวดกล้ามแขนกับกางเกงบอลที่มีบอลห้องโตงเตงอยู่

หมีประคองเมตตาให้นอนลงบนเตียง ห่มผ้าให้แล้วเว้นตรงเฝือกไว้ คงจะกลัวว่าเมตตาจะร้อน ส่วนตัวเองก็นอนลงบนฟูกขนาดสามฟุตที่เมตตาซื้อไว้ให้เขาเมื่อสองเดือนก่อน

“หมี......”

“ครับ...?”

“ขะ....ขึ้นมานอนบนเตียง...ด้วยกันไหม”บ้าไปแล้ว นี่เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ทำไมถึงชวนไอ้หมีสีน้ำตาลขึ้นมานอนบนเตียงหละ

“คุณเมตนอนเถอะครับ ผมกลัวว่าผมจะไปเบียดคุณเมตเปล่าๆ”ไอ้หมีบ้า...ยังจะปฏิเสธอีก เขาไม่ได้หน้าด้านชวนได้หลายๆรอบนะเว้ย

“ไม่เบียดหรอก อีกอย่าง นายไม่ปวดหลังหรือไง”

“ไม่ครับ ผมก็นอนมาตั้งนานแล้ว”

โว้ยยยย ไอ้หมีบ้า

“ฉะ...ฉัน....ปวดขา”

“คุณเมตก็เอาหมอนรองขาสิครับ”ยัง.... ยังไม่ขึ้นมานอนอีก

“ก็มันมีหมอนใบเดียวหนิ อีกใบนายหนุนนอนอยู่”

“..........”

เงียบไปแล้ว

แล้วคนที่กำลังนอนอยู่ก็รู้สึกได้ถึงพื้นที่ด้านข้างที่ยวบลง ขาข้างที่มีเฝือกถูกยกขึ้นแล้วรองด้วยหมอนนุ่ม และเพียงครู่เดียว อีกฝั่งหนึ่งของหมอนที่เมตตาหนุนอยู่ก็มีหัวของเจ้าหมีมานอนหนุนเช่นเดียวกัน

ตุ่บ ตุ้บ ตุ่บ ตุ้บ...... เมตตารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นดังกว่าปกติ

ตุ่บ ตุ้บ !! ตุ่บ ตุ้บ !! และมันก็เต้นดังกว่าเดิม เพียงเพราะมือหนาของคนข้างๆเอื้อมมาสัมผัสกับมือของตัวเองอย่างแผ่วเบา

“ฝันดีครับคุณเมต”

“ฝะ...ฝันดี...ไอ้หมีบ้า”

 






+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โว้ยยยยยยยยยยย เขินมากกกกกกก


ไนท์พยายามดำเนินเรื่องเร็วหน่อยนะครับ เพราะว่าเนื้อเรื่องเยอะพอสมควรเลย
แต่ว่า ถ้ามันเร็วไป คนอ่านบอกกันได้นะครับ เพราะว่าไนท์จะได้แก้ไขให้


ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์เลยนะครับ
อย่าลืมคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ไนท์ด้วย

#คุณหมีที่รัก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โอยยยยยยย เขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้วววววว รีบๆมาต่อนะ แต่อย่าไวเกิน แบบหมีพัฒนาการไวมาก  :hao7: :hao7: :hao7: :katai5: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
ขออนุญาตตอบ reply นี้ครับ เพราะว่าไนท์ก็กำลังกังวลอยู่เหมือนกันว่าคนอ่านจะสงสัยกันมั้ยว่าทำไมหมีถึงพัฒนาการไวมาก

ชี้แจงครับ คือตั้งแต่วันที่เมตตารับหมีมาอยู่ด้วย ในตอนที่3 ไนท์skipเวลาให้มันผ่านไป "2เดือน" ในตอนที่4ครับ
ที่ไม่ได้ใส่รายละเอียดระหว่าง2เดือนเพราะกลัวว่ามันจะน่าเบื่อเกินไป(อันที่จริงไนท์ไม่รู้จะใส่รายละเอียดให้มันครบตอนยังไงครับ เลยกลัวว่าถ้าแต่งแล้วมันจะน่าเบื่อ เลยตัดสินใจตัดตอนนั้นออกไป)
ตอนที่4นี้ก็เลย time skip 2เดือนซะเลย ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัดไปเลย และในอนาคตก็จะมี time skip อีกครับ เพื่อไม่ให้เรื่องมันยืดเยื้อเกินไป และให้ผู้อ่าน ได้อ่านแต่เนื้อเรื่องจริงๆแบบเนื้อๆเท่านั้นครับ

อันนี้ไนท์ชี้แจงให้คนอื่นด้วยนะครับ เผื่อว่าเข้ามาอ่านแล้วจะสงสัยกัน

แต่ถ้าหากคนอ่านอยากให้เพิ่มรายละเอียดไนท์ก็ยินดีแก้ไขให้ครับ เพราะอีกใจหนึ่งไนท์ก็อยากแต่งให้มันยืดๆเหมือนกัน กลัวว่ามันจะจบเร็ว

คนอ่านสามารถติชมได้เลยนะครับ หากมีข้อผิดพลาดยังไง ไนท์จะเอาไปแก้ไขให้ เพื่อให้คนอ่านทุกคนมีความสุขกับการอ่านนะครับ ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-06-2017 23:00:14 โดย niightziiz »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด