- LOVE ANALYST - [วิเคราะห์การรัก] ความเสี่ยงที่ 32 P.14 ✽update 2.11.2018✽
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - LOVE ANALYST - [วิเคราะห์การรัก] ความเสี่ยงที่ 32 P.14 ✽update 2.11.2018✽  (อ่าน 127814 ครั้ง)

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คิดถึงเดอะแก๊งเหมือนกันค่ะ :ling1:
จริงๆแล้วเราแอบแจวเรือน้ำวินนะ แต่น้องหวานก็ดี พี่ตะวันก็ยังมาแบบเนียนๆอยู่
เลือก (ให้ตี๋วิน) ไม่ถูกเลยค่ะ

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Apinnoolek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หึๆ พี่วินเอ้ยย o18

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :-[ :o8: :sad4: สนุกค่ะ
ตอนนี้คิดถึงแมวของพี่วินน้องหวานมากกว่าแล้ว
เมือ่ไหร่จะหายลูก

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ทีมน้องหวานผู้หยอดอย่างสม่ำเสมอค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ yprjb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หูยย เราเข้ามาส่องทุกวันว่าเมื่อไหร่อัพ ในที่สุดก็มาจนได้ ยังสนุกเหมือนเดิม อืม.. คอมเม้นท์นิดนึง เท่าที่เราอ่านมาด้วยเนื้อหาที่มีการบรรยายบรรยากาศของวงเหล้า กลุ่มเพื่อนแล้วต้องใช้คำหยาบ ในคห.ของเรา เราคิดว่าอยากให้พิมพ์ให้ชัดไปเลยว่าเป็นคำนั้น แต่เราก็เข้าใจว่าอาจจะเพราะไม่อยากให้ดูหยาบมากไป แต่พออ่านแล้วเรารู้สึกขัดๆอรรถรสหน่อยๆ แหะๆ ^^"
เราชอบเวลาที่คนเขียนบรรยายบรรยากาศการทำงานของวินมาก คือเห็นภาพตามและเอาตรงๆก็ได้ความรู้เพิ่มของสายงานนี้ว่าทำอะไรบ้างนะ รู้สึกเหนื่อยกับวินไปด้วยเวลาเร่งทำงาน เป็นห่วงว่าวินจะนอนพอมั้ย(อินมาก) 5555 ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ เราโอเคกับทุกคนที่วินชอบ เอาใจช่วยให้วินจัดการกับความสับสนของตัวเองให้ได้ และสุดท้าย หวาน...พี่เอาใจช่วยนะลูก (ไหนบอกโอเคทุกคน=.=) 55555  :katai3:

ปล.เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ จะติดตามต่อไปนะ ชอบสำนวนที่ใช้ ชอบภาษาที่เขียน อ่านแล้วสบายๆไม่ขัดเลย นี้ไม่ได้อวยนะ รู้สึกจริงๆ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ IaminLove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-5
เรื่องนี้น่ารัก มีอะไรให้ลุ้นตลอดว่าสรุปใครจะได้คู่๋สิ้น ตอบๆ แต่ละคนก็มีดีกันหมด เชียร์ไ่ม่ถูกเลยอ่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ความเสี่ยงที่ 18

“เชรดดดดดดดด ท่านตี๋ว่ะ”
“โห เชี่ยอาร์ต มึงลากออกมาได้ กูนี่นับถือเลย”
“เชี่ย ตากูคงฝ้าฟาง ไอ้ตี๋มาไงวะเนี่ย”
“โหยยย กว่ามึงจะมาเจอเพื่อนเจอฝูงบ้างงง”
“นี่กูต้องจองตัวกับเลขามึงข้ามเดือนเลยป่ะวะ”


ขอมองบนแพ้บ คือถ้าพวกมึงจะโหวกเหวกกันขนาดนี้... ทีหลังกินเหล้าที่บ้านพ่อตัวเองมั้ยจะได้ไม่เดือดร้อนชาวบ้าน
ดันเลือกโซนด้านนอกซะด้วย ทั้งร้านเขารู้หมดแล้วว่ากูชื่อตี๋และไม่ค่อยมาเจอเพื่อน บ้าบอจริงๆ

ผมมองปราดไปทั่วโต๊ะ แหม่ สมาชิกมากันเยอะตามที่อาร์ตมันโฆษณาไว้ ไอ้เฟิร์สนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะตามประสาคนเคยเป็นหัวหน้าว้ากเหมือนอย่างเคย บนม้านั่งตัวยาวฝั่งซ้ายเป็นปั่น เอ้ และพีทนั่งเรียงกันมา ส่วนฝั่งตรงกันข้ามก็เป็นไอ้บอยหน้าหล่อ ต่อด้วยมนุษย์เทพผู้ขี้เมา ถัดไปอีกหน่อยก็เป็นไอ้น้ำ

“ไง” ผมกับอาร์ตยกมือทักทุกคน ก่อนมันจะรีบเดินไปนั่งต่อท้ายพีทที่อยู่ปลายโต๊ะโดยไม่รอเพื่อนตอบกลับ ผมมองพีทกับน้ำยกแก้วแล้วพยักหน้ากลับมาให้เป็นการทักทาย

ระหว่างที่กำลังมองหาที่เหมาะๆแลนดิ้งอยู่นั้น ไอ้เทพก็กวักมือเรียกหยอยๆ

“มาๆ มานั่งนี่เลย” มันตบที่ข้างตัวปุๆเรียกให้ผมไปนั่งระหว่างมันกับน้ำแล้วทำตาวิบวับ “หายหน้าไปนาน กูละคิดถึ๊งคิดถึงง บอกเพื่อนมาซิครับว่าติดอะไรหรือติดใครอยู่ถึงไม่มาเจอเพื่อนฝูง” 

“ตีนกูจะติดหน้ามึงเนี่ย!” ผมว่าพร้อมยกเท้าขึ้น ไอ้เทพหัวเราะคิกคัก

“โอ้ยย ฟ่อแฟ่ใหญ่เลยนะมึง อารมณ์ไม่ดีเหรอจ้ะตี๋” เฟิร์สที่อยู่หัวโต๊ะแซวยิ้มๆ

ห่าราก... ใครไปปากโป้งอะไรเรื่องกูรึเปล่า พักนี้ยิ่งมีประเด็นอยู่

“นั่งๆ” เทพยังคงยืนยันให้ผมนั่งลง แต่พูดก็พูดเหอะ ผมเคยนั่งข้างมันแล้วลำบากชิบหายเลยครับ นอกจากจะเมาแล้วเรื้อนชอบเลื้อยไปทั่ว มันยังเป็นพวกเมาแล้วชอบหาเรื่องอีกต่างหาก นี่ไม่นับไอ้ที่มันชอบสูบบุหรี่ในวงกับมอมผมด้วยนะ
เอาตรงๆจากใจคือไม่อยากนั่งข้างแม่งอ่ะ... 

ในระหว่างที่กำลังยืนขมวดคิ้วตัดสินใจ จู่ๆไอ้น้ำก็เลื่อนตัวเองมานั่งติดกับไอ้เทพซะเฉยๆ 

“ไหนมึงจะคุยอะไรกับกูเรื่องกลองนะเอ้” มันพูดกับเอ้ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “อยู่ตรงนู้นฟังไม่ถนัดว่ะ ตี๋มึงมานั่งนี่แทนกูดิ๊”
น้ำหยิบกระเป๋าจากมือผมไปวางตรงที่มันเคยนั่ง ทำเอาไอ้เทพที่กำลังจะเอื้อมมือมาดึงผมลงไปนั่งถึงกับร้องอ้าว เป็นอันว่าผมเลยได้นั่งท้ายโต๊ะจ้องหน้าอาร์ตโดยมีน้ำอยู่ข้างๆเป็นกันชนระหว่างผมกับเทพแทน

โคตรของความไม่เนียน

ผมตบหลังมันเบาๆ เป็นการขอบใจ น้ำหันมาทำตาใสเลิกคิ้วใส่เป็นเชิงถามว่า ทำไม อะไรเหรอ
ไอ้ส้นตีน สาบานซิว่ามึงแลกที่เพราะจะคุยกับเพื่อนจริงๆ 

“มึงนิ่” ผมพูดเสียงแข็ง โบกสักทีดีมั้ยล่ะ

มันหัวเราะนิดๆ ก่อนจะหันไปคุยกับเอ้และบอยที่อยู่อีกด้าน “เรื่องไรนะเอ้ ที่มึงจะถามกูกับบอย” 

“หา” เอ้กระพริบตาปริบๆ ก่อนจะนึกได้  “อ้อ เรื่องค่ายเก็บตัวมือกลองไง นี่มึงจะไปมั้ย” เอ้ว่าแล้วยกเบียร์ในมือขึ้นจิบ

“นี่ปีหนึ่งยังไม่ได้เข้าค่ายฝึกเหรอวะ พวกปีสามแม่งทำอะไรอยู่เนี่ย ไม่ติดสอบแล้วเรอะป่านนี้” บอยบ่นเสียงดัง

“ไม่รู้ว่ะ ไปหลังสอบมั้ง แต่กูอาจจะไม่ไปนะ” น้ำออกตัว

“กูก็ว่างั้น ลางานลำบากว่ะ หน้าไซท์เนี่ย ให้พวกน้องๆจัดการกันเองเถอะ” เอ้ว่า

“เห้ยย เหลือกูคนเดียวกูก็ไม่ไปนะ” บอยว่า “เรื่องนี้ต้องตามจากใครวะ มือกลองปีสามเหรอ”

“ไปถามพวกไอ้พงศ์เอาเองไปพวกมือกลองเนี่ย” เฟิร์สเบรค “แล้วนี่งมึงทำอะไรไอ้ปั่น มัวแต่เล่นโทรศัพท์ไอ้ห่า”

“ตอบเมลล์ลูกค้าอ้ะ” ปั่นตอบแบบไม่ละสายตาขึ้นมามองคนถามด้วยซ้ำ

“ขยันชิบหาย เห้ย นี่คืนวันศุกร์นะเว้ย” บอยโวยวาย “พักหน่อยไม่ได้เหรอวะ เอ้า ชนๆๆ”

ว่าแล้วก็ยื่นแก้วไปหาคนที่อยู่ตรงหน้า แต่ปั่นยกมือยันไว้ก่อน “ไม่ได้ว้อย กูต้องตอบเดี๋ยวนี้ พวกมึงไม่เข้าใจหัวอกคนทำงานฟรีแลนซ์แบบกูหรอก”

ก็จริง..

ปั่นเป็นคนเดียวในวง(เหล้านี้) ที่ไม่ได้ทำงานประจำครับ ด้วยความที่มีฝีมือและไม่อยากนั่งแกร่วรองานน่าเบื่อๆ ในออฟฟิสเดือนละชิ้นสองชิ้น หลังเรียนจบมันเลยตัดสินใจรับงานเรนเดอร์ตีฟขายเป็นล่ำเป็นสัน พวกบริษัทใหญ่ๆที่ต้องการใช้มือปืนทำแบบนี้มีอยู่มากทีเดียวครับ เนื่องจากราคาไม่แพง งานเร็ว และไม่ต้องจ่ายรายเดือน พวกภาพ Perspective สวยๆหรูหราชวนฝันที่เห็นแปะขึ้นป้ายเวลาขายโครงการ พร้อมตัวดอกจันเล็กจิ๋วว่า ภาพจำลองบรรยากาศจริงใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น นั่นแหละครับ ผ่านมือมันมาหมดละ

“เออว่ะ มึงรับงานเองนี่หว่า แล้วไงล่ะ เดือนนี้กี่โปรเจ็กต์” พีทถามขึ้น

“สอง แต่มียิบย่อยอีก รวมๆแล้วเกือบยี่สิบรูปว่ะ นี่กูเปิดคอมเรนเดอร์ทิ้งไว้นะเนี่ย” ปั่นตอบขณะพิมพ์ไลน์ไปด้วย

“อะโหห รวยว่ะ” อาร์ตนับนิ้ว “รูปละสี่พัน โห..”

“รวยก็เหี้ยละ เดือนหน้านี่ยังไม่มีซักงาน ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาอะไรแดกครับ”

ผมพยักหน้า

ช่าย… ประเด็นสำคัญก็คือ ความไม่แน่นอน.. ฟรีแลนซ์แบบนี้ต้องขยันหางานให้ตัวเอง ไม่มีอะไรการันตีปริมาณงานหรือรายได้แต่ละเดือนได้เลย เดือนนี้งานล้นมือ แต่อาจได้นั่งตบยุงเล่นวินนิ่งไปอีกสามเดือนก็ได้ครับใครจะรู้ ทำได้แค่รักษาท่อต่องานจากลูกค้าให้ดีๆ คงระดับคุณภาพงานและส่งให้ตรงต่อเวลา ไม่งั้นเดี๋ยวเขาก็หนีไปใช้เจ้าอื่นกันหมด เงินช็อตทีนี่ไม่ตลกนะครับ     

“เอ้อ ปั่น มึงส่งพอร์ตมึงมาดิ่ นี่กูถืออยู่โปรเจ็กต์นึง จะประกาศผลผู้ออกแบบกันอาทิตย์หน้า กูจะได้ฝากโพรไฟล์มึงไป  เผื่อเขาจะเรียกใช้” ผมนึกได้

ปั่นทำหน้าดีใจ “จริงป่ะเนี่ยย เออๆ เดี๋ยวคุยนี่จบกูส่งให้เลยตี๋” 

“แต่กูไม่รับประกันนะเว้ย ว่าเขาจะเรียกรึเปล่า” ผมออกตัว

“เห้ย แค่เขาเอาโปรไฟล์กูไปก็ดีแล้ว ขอบใจว่ะ” มันว่า


“โอ้ย พวกมึงนี่มีแต่งานๆๆ” เทพพ่นลมออกจมูกแรงๆ “มาเจอเพื่อนก็พักหน่อยสิวะ” พูดจบก็ดื่มเบียร์เข้าไปอึกใหญ่

“เห้ย นี่งานจำเป็น ต้องกินต้องใช้ไอ้ห่า” ปั่นยืนยัน “หรือวันนี้มึงจะเลี้ยง?”

“ห้ะ ใคร กูเหรอ” เทพชี้ตัวเอง “กูไม่รู้ กูเมาแล้ว” มันยกมือสองข้างขึ้นยอมแพ้แล้วทำหน้าตาใสซื่อ

“ถุยยย” อาร์ตแทรกขึ้นมาจากท้ายโต๊ะพร้อมปาทิชชู่ใส่หน้าเทพแม่นอย่างกับจับวาง “ทีงี้ล่ะมาเมา”
ทำเอาทั้งโต๊ะหัวเราะกันครืน

สรุปแล้วเรื่องที่คุยก็หนีไม่พ้นเรื่องงานหรอกครับ (ถ้าไม่อยากฟังก็เชิญมึงเมาไปเลยครับเทพ) มีเรื่องเล่าปรับทุกข์กันทุกคน ทั้งพวกที่อยู่ห้องแบบบริษัทใหญ่ๆอย่างไอ้น้ำ พวกที่อยู่หน้าไซท์แบบอาร์ตและเอ้ เฟิร์สที่เป็นคนทำทุกอย่างในบริษัทเล็กๆ ฟรีแลนซ์แบบปั่น รวมถึงอินทีเรียที่ต้องชนลูกค้าเองแบบพีท ต่างก็มีเรื่องเล่าทุกข์ระทมของการทำงานกันทั้งนั้น

เห็นจะมีแต่บอยกับเทพที่ไม่มีเรื่องบ่น เพราะหลังจากรับงานช่วยโปรเจ็กต์เล็กๆ ของรุ่นพี่จบไปพวกมันก็แทบไม่ได้แตะงานเต็กอีกเลย บอยกำลังทำเรื่องเรียนต่อปริญญาโท ส่วนเทพก็กลับไปดูแลกิจการโรงเลื่อยที่บ้าน ถ้าจะมีปัญหาก็น่าจะเป็นนับเงินไม่ทันเท่านั้นแหละครับ สองคนนี้เลยได้แต่ผสมโรงนั่งวิจารณ์ไปตามเรื่องตามราว คอยตบมุกให้เพื่อนๆ ไม่ซีเรียสจนเกินไป

จะว่าไปมาคุยแบบนีก็ดี เปิดโลกการทำงานให้ผมเยอะเลย
แต่ละคนก็ต้องเจอความสนุกและความลำบากกันคนละแบบ
ฟังแล้วก็วิจารณ์กันไป แลกเปลี่ยนคำแนะนำกันไป รู้สึกพวกเราโตขึ้นอีกนิด

_ _ _ _


00.25

วงเหล้าวันนี้เลิกไวกว่าที่เคย
แต่ 9 คน 5 ทาวน์นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับพูดเลย มีป้อแป้อยู่เหมือนกัน

ผมที่ไม่ได้กินนั่งหาวแล้วหาวอีก ส่วนพวกคนที่ขับรถอย่างพีทและบอยก็หยุดไปตั้งแต่แก้วที่สอง

ดูน่าชื่นชมใช่มั้ยครับ เหตุผลไม่ใช่เพราะอยากจะเคารพกฎหรือเนื้อแท้เป็นคนดีอะไร แต่เพราะมีบทเรียนจากเรื่องจริงต่างหาก ตอนปีสี่ก็ไอ้บอยนี่แหละครับกินซะเยอะยังจะสะเออะขับรถ พอจะกลับเจอเป่าที่ด่านตรวจเข้าไป... จะเหลือเหรอครับ.. เรียกว่าออกจากข้าวสารปุ๊บก็เลี้ยวเข้าสน.ชนะสงครามปั๊บ คืนนั้นมันก็เลยต้องนอนในคุกแทนเตียงที่บ้าน เดือดร้อนพวกผมต้องออกมาจากคณะไปประกันตัวมันตอนตีสามเพราะมีส่งงานวันรุ่งขึ้น ไม่สนุกและไม่ตลกครับบอกเลย
ได้บทเรียนชิ้นโตแบบไม่มีใครกล้าเสี่ยงเมาแล้วขับกันอีก..

บอยรับหน้าที่ไปส่งเอ้กับเทพเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน หวังว่ามันจะลากเอาร่างเละๆของไอ้เทพไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง ส่วนปั่นคนขยันก็กลับไปทำงานต่อ ชีวิตต้องสู้จริงๆ ให้ตาย

ส่วนคนอื่นๆ น่ะเหรอครับ…
นอนกองกันอยู่เบาะหลังรถผมนี่ไง ยกเว้นไอ้พีทที่ขับรถตามมา
ใช่ครับ… พวกมันจะแลนด์ดิ้งที่คอนโดผม!
ไอ้บ้าเอ้ย.. หรือนี่เป็นเหตุผลแท้จริงที่แม่งลากผมมาด้วยวะ

_ _ _ _

01.04

ยังดีที่ไม่มีใครถึงกับอ้วกเรี่ยราด และที่สำคัญคือทุกคนมีสติพอจะอาบน้ำแปรงฟันก่อนนอนด้วย เห้ย มิติใหม่แห่งการเมาว่ะ ไม่มีใครทิ้งตัวเลยเหรอ ก็ดี.. จะได้ไม่ต้องทำความสะอาดขนานใหญ่เหมือนทุกทีที่มีคนเมามานอน กลิ่นละมุดไม่ใช่เรื่องตลก.. และการซักผ้าปูเตียงกลิ่นละมุดก็ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่

ผมโยนกระเป๋าสะพายลงพื้นแล้วเลื้อยตัวอยู่ที่เก้าอี้มุมห้องในชุดเดิมเพื่อรออาบน้ำ
พีทกับอาร์ตแยกกันอาบน้ำคนละห้อง ในขณะที่น้ำกับเฟิร์สในชุดเสื้อยืดกางเกงบอลนอนอยู่บนเตียงเพราะอาบน้ำเสร็จแล้ว

“เห้ย ไม่ได้มานอนนี่ตั้งนานแน่ะ” เฟิร์สว่าแล้วเอาหน้าซุกหมอนใบโต

“คอนโดกูไม่ใช่โรงแรมนะครับสัส” ผมย้อน “แล้วอย่าน้ำลายไหลใส่หมอนกู”

เฟิร์สขำกิ๊ก “อนามัยจังครับเพื่อน”

ผมมองตาขวาง "สัด"

“เฟิร์ส มึงหยิบปลั๊กต่อมาดิ้ กูจะชาร์ตโทรศัพท์” น้ำกระดิกมือเรียก

เฟิร์สเอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างเตียง แล้วส่งสายชาร์ตให้ “เอ้า เอาไป”

คนมาเยอะครับวันนี้ ถึงขนาดต้องเอาฟูกมาปูข้างเตียงเพิ่มเลยทีเดียว
โหวตกันแล้วครับว่าอาร์ตกับพีทต้องลงไปนอนข้างล่าง (โดยคนเข้าร่วมโหวตมีผม น้ำ และเฟิร์ส โหวตกันเมื่อกี้ โห.. ยุติธรรมกว่านี้มีมั้ย)
อืมมม… เมื่อไหร่จะได้อาบน้ำวะเนี่ย เมื่อยตัวไปหมด สงสัยวันนี้ใช้พลังเยอะไปหน่อย
แล้วเสียงอะไรเนี่ยแปลกๆ.. เหมือน.. โทรศัพท์เข้า

ไอ้ชิบหาย..
ผมรีบรื้อกระเป๋าตัวเองที่วางกองอยู่บนพื้น

ชัดเลย.. ไอ้เด็กหวานกำลังโทรมา
ถึงกับต้องถลาตัวออกมาจากห้องแล้วมากดรับสายนอกระเบียงห้องนั่งเล่น ทำเอาไอ้พวกที่กำลังนอนอยู่ถึงกับงงไป

“ฮะ. ฮัลโหล” ผมพูดไปปิดประตูระเบียงไป

(ฮัลโหล พี่วิน ไปไหนมาครับ นี่ผมโทรตั้งนานแล้วนะ ไลน์ก็ไม่อ่านเลย นึกว่าเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย)

“ไม่ได้เป็นอะไร กูเลิกงานแล้วก็ไปกินข้าวกับพวกแม่ง เอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า ไม่ได้เช็คเลย” สี่มิสคอลเลยเหรอวะ นี่มึงจะร้อนรนอะไรขนาดนั้น

(เฮ่ออ ค่อยยังชั่ว นานกว่านี้นี่จะขับรถออกไปตามแล้วนะครับ)

“เกินไปละมึงอ่ะ” ผมว่า

(ก็ปกติไม่หายไปนานแบบนี้นี่ครับ ว่าแต่นี่กินเหล้ารึเปล่า ถึงคอนโดรึยัง)

“เอ่ออ.. ไม่ได้กินเหล้า.. แล้วก็ถึงคอนโดแล้ว..” ผมตอบมันเสียงเบา
“นี่ทำไมกูต้องรายงานมึงด้วยเนี่ย มึงสิควรไปนอน”

(นอนไม่หลับหรอก ยังไม่รู้ว่าพี่อยู่ไหนนี่นา) 

“อ่า..”

(แต่ตอนนี้รู้ละ นอนได้สบายใจ พี่เองก็รีบนอนนะครับ)

“อะ.. เออๆ”

(ผมเป็นห่วงนะครับ)

เอ่ออออ เอ่อออออออออออ
ทำไมกูต้องติดอ่างทางความคิดด้วย แต่ไม่รู้จะตอบมันว่าอะไรอ่ะครับ

ซึ่งจริงๆแล้วไอ้บทสนทนาพวกนี้.. เด็กหวานก็พูดอยู่เป็นประจำแหละครับ แล้วผมก็จะคิดทุกครั้งว่ามัน “เยอะ”
แต่หลังจากที่มันประกาศกร้าวว่า เฮ้ยเนี่ย จีบอยู่ ผมก็ดันรู้สึกแปลกๆกับคำพูดแนวนี้ของมันซะอย่างนั้น
ก็มันไม่ได้พูดเล่นเหมือนที่ผมเข้าใจน่ะสิ..

บอกไม่ถูก
และไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง
 
คิดยังไม่ทันจบก็ไปสบตากับไอ้พีทที่เดินออกมาจากห้องน้ำในห้องนั่งเล่นผ่านกระจก มันขมวดคิ้วแล้วทำหน้างงใส่ผมก่อนจะบุ้ยใบ้ถาม

/มึงแอบมาคุยกับใครดึกดื่นวะ/

เชี่ย ตอบว่าอะไรดีอ่ะ หาสาเหตุไม่ทัน /ไม่มีอะไร มึงเข้าไปนอนเลย/ ผมขยับปาก

/ใคร/ มันยังไม่ยอมครับ

ไอ้นี่…เสือกละ /ไปนอนเลย/ ผมโบกมือไล่

/อ๋าา ไล่กูเหรอ.. ก็ด้ายยยย/ พีทอมยิ้ม..และเหมือนจะหัวเราะหึ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนโซฟาหน้าทีวี
/กูไม่ไป/

ไอ้ชิบหาย..

(พี่วิน? เป็นอะไรครับ) เสียงคนในสายเรียกสติผมกลับมา

“อ่า..” ผมว่าแบบเก้อๆ แล้วหมุนตัวหันหลังให้กระจก “ไม่มีไรหรอก พวกแม่งมานอนด้วยน่ะ”

(พวกเพื่อนพี่น่ะเหรอครับ)

“อื้อ มึงอ่ะไปนอนได้ละ กูก็จะนอนแล้วเหมือนกัน” ผมพยายามตัดบท

(ฮึ่ยย..) หวานทำเสียงในลำคอ (นี่พี่จะทำผมนอนไม่หลับก็อย่างเนี้ย) มันว่า

“อะไร กูทำอะไร”

(ช่างเหอะ ผมไปนอนแล้วก็ได้)

“อืม ไปนอนเหอะ” เออช่วยรีบวางหน่อย ป่านนี้ไอ้พีทคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

(ครับ ฝันดีนะครับพี่วิน)


ผมกดตัดสาย

“เชี่ย!!!” หันหน้ากลับมาก็ต้องตกใจเพราะไอ้พีทที่ควรจะนั่งอยู่ที่โซฟาดันเอาหน้ามาแนบกระจก มันหัวเราะเสียงดัง
“ไอ้ห่าพีททท ตกใจแทบตาย” ผมด่าไปเลื่อนเปิดประตูไป “หัวใจวายไปมึงรับผิดชอบมั้ย”

“แล้วหัวใจมึงนี่ใครต้องรับผิดชอบล่ะ กูจะได้ตามตัวถูก” มันลอยหน้าลอยตาย้อนผม

จู่ๆก็อยากถีบเพื่อนตัวเองครับ “เชี่ยไร! เพ้อเจ้อสัด” ผมโวย แถมด้วยการปิดประตูแรงๆ ทำเอาไอ้พีทหัวเราะลั่น

“มึงนี่ไม่เนียนเลยว่ะตี๋” มันส่ายหัวแล้วตบไหล่ผม “ให้กูสอนจีบสาวมั้ย เรียกกูว่าท่านอาจารย์สิ”

“เหอะ” ผมย่นจมูก

“อ้ะ เดี๋ยวๆๆๆ หรือนี่มึงไม่ได้จีบเขา” มันยกมือขึ้นชี้หน้าผม “มึงโดนเขาจีบเหรอวะ เชี่ยยยย นี่เป็นสิ่งที่มึงรอคอยเลยนะ คนมายื่น Proposal จีบมึงอย่างที่มึงเคยบอกอ่ะ ใคร อะไร ยังไงวะ ไหนบอกกูซิ ต่อมเสือกกูทำงานเต็มที่แล้วเนี่ย” พีทพูดเร็วปรื๋อ

“ไม่มีไรทั้งนั้นอ่ะ อย่าเดามั่ว มึงไปนอนนนนน” ผมยืนกรานไม่ตอบ เอามือดันหลังมันให้เข้าไปในห้องนอน เกลียดคนรู้ทัน “ไปเลยๆ”

“ด้ายย ไม่บอกกู กูสืบเองก็ด้ายยย กูต้องรู้ให้ได้ว่าใครมาจีบเพื่อนกู ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” พีทหันหน้ามามองด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะผลักประตูเข้าไป เดชะบุญที่ทุกคนหลับกันไปแล้ว ไม่งั้นเรื่องคงไม่จบง่ายๆ 

อ๋อ เด็กปีหนึ่งหน้าหล่อๆ ที่เคยหิ้วกูตอนเป็นลมแม่งจีบกูอยู่ว่ะ
ถุยยยยยยย จะให้พูดอย่างนั้นรึไงเล่าาา!!!

_ _ _ _

11.57

“กากสัดดดดดดดด”
“หวายย เชี่ยเฟิร์สมึงอ่อนมากก”
“โว้ เล่นให้เด็กมันดูหน่อยซิเพื่อนรัก”
“พูดมากจริงๆ เก่งแต่ปากนะไอ้อาร์ต”
“เล่นแม่งเลยป่ะล่ะ”


“โว้ยยยยย คอนโดกูไม่ใช่ร้านเกม ไอ้พวกบ้าาาาา” ผมโวยวาย
ดูสิครับ พวกมันไม่เห็นจะสะเทือนเลย แม่งทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุอย่างนั้นแหละ

แทนที่ตื่นมาจะอาบน้ำแปรงฟันกินข้าวเช้าแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านกลับช่อง พวกแม่งดันปักหลักเอาคอมมาต่อทีวีในห้องนั่งเล่นผมแล้วดวลวินนิ่งกันเฉย แล้วนี่ใครไปค้นเอาจอยกูออกมาวะเนี่ย ไร้มารยาทจริงๆ นั่งกันหน้าสลอนอยู่ที่โซฟา
ผมเริ่มจะคิดแล้วนะว่าพวกมันวางแผนฮุบคอนโดผมแล้วเปลี่ยนเป็นเกมเซนเตอร์หรือสถานพักตากอากาศของพวกแม่ง นี่เล่นไปตะโกนบลัฟกันไปอย่างเมามัน อินจังเลยนะพวกมึง ไม่ได้เห็นใจเจ้าของห้องอย่างผมเลยสักกะติ๊ดเดียว

“มึงก็หยุดทำงานแล้วมาเล่นด้วยกันดิ่วะ” เฟิร์สว่าขณะสายตายังจับจ้องกับหน้าจอ “แป๊บเดียวเนี่ย เดี๋ยวไอ้พีทก็แพ้ละ มึงมารอเลยตี๋”

“ถ้างานไม่เร่งกูจะต้องทำวันเสาร์มั้ยล่ะ คิดสิมึง” ผมถอนหายใจ

“เดี๋ยวๆ ใครจะแพ้ครับคุณเฟิร์ส เมื่อกี้แค่อ่อยให้เฉยๆ คุณมึงรอดูกูนะครับ” พีทว่า

“ให้ไวเลยครับ ทั้งคู่น่ะครับ กูกับไอ้น้ำรอนานแล้วครับเพื่อน เสืออาร์ตจะได้ลงสนาม”   

“อะโห กล้าเนาะ มึงนี่เสือมากเลยเนาะ เมี้ยวๆๆ” เฟิร์สหัวเราะใส่ เลยโดนอาร์ตโยนเศษขนมใส่ ไอ้ห่า..ปาก็ไม่แม่น แล้วนั่นพรมกูมั้ย ใครจะเก็บ..

“ปล่อยตี๋แม่งทำงานไปเหอะ ลงมาก็แพ้ หว่าย อ่อนนนน” น้ำพูดให้ผมยู่หน้าเล่นๆ

แสด รองานเสร็จก่อนเถอะ เทพวินนิ่งจะจุติให้พวกมึงได้กราบไหว้กัน

ก็เพราะประชุมบรีฟผู้ออกแบบเมื่อวานนั่นแหละ มีข้อมูลต้องเพิ่มอีกตั้งเยอะ แถมต้องส่งรายงานให้ดีไซเนอร์เจ้าแรกที่มารับบรีฟวันโน้นอีกต่างหาก เดี๋ยวจะหาว่าไม่ยุติธรรม ผมเลยต้องมานั่งจุ้มปุ๊กทำรายงานสรุปอยู่ที่โต๊ะกินข้าวในขณะที่เพื่อนๆเล่นเกมกันอยู่แบบนี้ ว้าโว้ย 

ผมดันแว่นกรอบหนาที่ใส่อยู่แล้วตั้งสมาธิเขียนรายงานการประชุมต่อให้เสร็จ
สักพักใหญ่ๆโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะผมก็สั่นครืด พร้อมโชว์ข้อความจากไลน์ที่หน้าจอ

นายหวาน : วันนี้ไม่มาเหรอครับ
       //แนบรูปเซลฟี่คู่กับจิ๋ว


เด็กนี่มันเอาเวลาที่ไหนมาหาแมวได้ทุกวี่วันเนี่ย

ผมมองไปยังกองเพื่อนของตัวเอง พวกมันไม่มีทีท่าว่าจะกลับในเร็วๆนี้แน่ ดูทรงแล้วน่าจะสามสี่โมงเย็นโน่น งานเนี่ยเหลือแค่ส่งอีเมลล์ก็จะเสร็จ แต่ไหนจะรอพวกแม่งย้ายตัวเองกลับบ้าน ไหนจะเก็บห้อง จัดที่จัดทางเตรียมรับเลี้ยงจิ๋วอีก นี่พวกสายไฟก็ยังไม่ได้เอาพลาสติกมาพันกันแมวแทะ ขาโต๊ะก็ยังไม่ได้หุ้ม ลูกเหม็นในตู้ก็ยังไม่ได้ทิ้ง ตรงราวระเบียงก็ยังไม่ได้เอาตะแกรงไปติดกันร่วงลงไป ของแตกได้ก็ยังไม่ได้เก็บเข้าตู้

โอ่ย ยุ่งตาย
กว่าจะได้เข้าไป

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพิมพ์ตอบคนเด็กกว่าไปตามจริง

Wynn_Tect : ไม่ว่างว่ะ ไม่แน่ใจว่าจะได้เข้าไปมั้ย
Wynn_Tect : ยังไงกูก็ฝากดูจิ๋วด้วยละกันวันนี้

นายหวาน : อ้าว เหรอครับ งานเร่งเหรอ

Wynn_Tect : นิดหน่อย

นายหวาน : โอเค งั้นตั้งใจทำงานนะครับ
       /แนบรูปจิ๋วแทะนิ้ว

Wynn_Tect : อย่าให้กัดดิ่! เดี๋ยวจิ๋วติดนิสัย!

นายหวาน : 5555
นายหวาน : ครับครับ


อืมม เดี๋ยวนะ..

ผมเลื่อนไปดูรูปที่เด็กหวานส่งมาในมือถือตัวเอง

มันเป็นรูปถ่ายของหวานที่รวบตัวจิ๋วไว้ในมือเดียวแล้วยกขึ้นมาแนบหน้า เจ้าแมวตัวเล็กทำตาบ้องแบ๊วน่าฟัด ส่วนตัวคนอุ้มเองก็ยิ้มกว้างแบบที่มันชอบทำ หางตาตกๆยกยิ้มอย่างสบายใจ มีความสุขจังนะมึงเนี่ย ว่างจัง งานไม่ต้องทำมั้ง

ผมจ้อง…
แต่จะว่าไป มันก็ดูโทรมไปเยอะเหมือนกันนะ..

ผมที่ปกติจะถูกเซทมาอย่างดี อย่างมากวันนี้ก็ได้เจอแค่หวีแบบลวกๆ นัยน์ตาที่ปกติจะดูสดใสเป็นประกายปรากฏรอยสีแดงจางๆ เช่นเดียวกับใต้ตาที่มีรอยคล้ำเป็นวง ผิวก็ดูซีดเซียวจนทำให้ไฝเม็ดเล็กใต้ตาขวาของมันดูชัดกว่าที่เคย ทุกอย่างที่เห็นเหมือนจะประกาศว่าเจ้าตัวขาดการพักผ่อนขนาดไหน
 
นี่มันได้นอนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะ… เอาเวลาดูแมวไปนอนมั้ย
จะมัวเทียวไปเทียวมาทำไม

คิดจบก็ได้คำตอบให้ตัวเองทันที
มันจีบมึงไงล่ะครับตัวกู...

ไอ้เด็กผู้ชายปีหนึ่งที่เพิ่งจะพ้นจากรั้วโรงเรียนมาหมาดๆ มันจะมาจีบหนุ่มออฟฟิสที่อายุห่างกันห้าปีอย่างกูนี่ไง
แค่เรียบเรียงสถานการณ์สองประโยคอย่างเมื่อกี้ยังเห็นแต่อุปสรรคซ้อนอุปสรรค ยังไม่ต้องคิดถึงมิติอื่นๆเลยนะครับ
มันอาจจะยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกตัวเองด้วยซ้ำ อาจจะแค่เหงา แค่อยากรู้ อยากลองดู
แล้วผมเนี่ย... แน่ใจแล้วเหรอวะ ที่จะยอมเปิดโอกาสให้มันจีบอยู่แบบนี้...

ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างตัดสินใจ
ไอ้วิน มึงต้องตั้งสติ...

“ตี๋!! นี่งานมึงเสร็จยังเนี่ย ไอ้อาร์ตจะไปซื้อข้าวเที่ยงอ่ะ มึงจะกินอะไร” เสียงเรียกของน้ำทำเอาผมสะดุ้งออกจากภวังค์

“กูไปแค่เซเว่นนะ ถ้านอกนั้นจะสั่งไลน์แมน”

“อะ เออ.. เสร็จแล้วๆ เดี๋ยวกูไปด้วยขอกูส่งเมลล์แป๊บนึง” ผมตอบไปตามนั้น

“นี่มึงแอบอู้งานป่ะเนี่ย ปกติทำงานเสร็จเร็วจะตายห่า” เฟิร์สบอก

พีทตวัดสายตาวาววับเหมือนรอจังหวะอยู่นาน “จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเหรอครับมึงงงง”

ใช่ ต้องตั้งสติให้มากๆเลย..
ผมเขวี้ยงเศษกระดาษพลาดหัวไอ้พีทไปนิดเดียวจริงๆ

_ _ _ _

พาไปกินเหล้ากันทั้งตอน 5555

สาระเนื้อเรื่องอะไรไม่ค่อยจะมีเลยค่ะ เป็นความอยากเขียนล้วนๆ อ่านเอาบันเทิง(รึเปล่า?) ละกันนะคะ ฮือ
ขอบคุณคนอ่านทุกๆคนที่คลิกเข้ามาอ่านกันและให้ความเอ็นดูตี๋วินและเจ้าหวานนะคะ ดีใจจริงๆ ทุกคอมเมนต์มีความหมายกับเรามากๆ

ใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านก็ยินดีต้อนรับนะค้า /เชิญขึ้นเรือค่ะ เราไม่ใจร้ายหรอก สัญญา

สำหรับตอนหน้าน้านนนน
กลับออฟฟิสกันค่ะ!

อยากเม้ากับเราหรือคอมเมนต์ฟิคในทวิตภพ #วิเคราะห์การรัก ได้เลยค่ะ เดี๋ยวเราจะตามไปหาเอง 5555 (ไม่หลอนเนาะ ไม่หลอนสิ!)

ปอลอ เรื่องคำหยาบในวงเหล้า น้อมรับไว้ค่า (บางทีก็เขินที่จะต้องพิมพ์คำนั้นตรงๆ จริงๆนั่นแหละค่ะ แต่จะพยายามปรับดู ทุกคนจะได้อ่านกันลื่นๆเนอะ)
ปอลอ 2 ถ้ามีคำติชม จัดมาได้เลยนะคะ อยากพัฒนางานให้มากกว่านี้จริงๆ เรื่องนี้ก็นิยายเรื่องแรก + เขียนสนองตัวเองล้วนค่ะ สารภาพเลย 555

พบกันตอนหน้าค่ะ

  :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2017 20:38:30 โดย idee »

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แนะนำให้พี่ตี๋วิน ชวนน้องหวานมานอนพักที่ห้องคนพี่ก่อนดีกว่านะคะ ท่าทางน้องจะเพลียงี้ โฮะๆๆๆ

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตี๋วินมาแล้วว คิดถึงมากมายย ทีมหวานวินรอกัปตันมาแจวเรืออยู่นะคะ ช่วงนี้คุณน้องหวานค่าตัวแพงเหลือเกินโผ่ลมาแค่เสียง55555 อยากให้เขาได้เจอหน้ากันบ้าง

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พี่วินนนนน เห็นหวานทุ่มขนาดนี้ก็รับไว้พิจารณาเยอะๆนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
พึ่งมาอ่าน ติดตามจ้า

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ขอบบบบบ รอตอนต่อไปค่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ความเสี่ยงที่ 19

13.32

“ถึงแล้วๆ ขี้บ่นจริงๆ”
ผมวางตะกร้าลงบนพื้นห้องตัวเอง เสียงเล็กๆ ดังเมี้ยวลอดมาอย่างไม่พอใจ
ไอ้ตัวยุ่งเอ้ย 

ผมไปรับจิ๋วมาแล้วครับ
หลังจากเมื่อวานนี้พวกแม่งกลับไปช่วงบ่ายสามโมง ผมก็รีบทำความสะอาดห้องและเตรียมที่เตรียมทางไว้รับสมาชิกใหม่ ก่อนจะรีบเผ่นออกไปซื้อของจำเป็นในการเลี้ยงแมวจากคลีนิคตอนเกือบสองทุ่ม ทั้งกระบะทราย ชามอาหาร ที่ฝนเล็บ ที่แปรงขน อาหารแมว ขนม ของเล่น และ…

คอนโดแมวสูงสามชั้น…
 
เอามาทำไมวะ.. กว่าจะประกอบเสร็จตั้งตีหนึ่งกว่า
จิ๋วจะนอนรึเปล่ายังไม่รู้เลย

พอผมเปิดตะกร้า แมวตัวจ้อยก็ยืดตัวโผล่หน้าขึ้นมามองบ้านใหม่ทันที จิ๋วทำตาแป๋วมองไปรอบๆ 
หูเล็กๆที่เหลือเพียงข้างเดียวขยับดุ๊กดิ๊กพลางยกหางปัดตะกร้าด้วยความตื่นเต้น สักพักตัวแสบก็กระโดดแผล็วออกมาอยู่บนตักผม เท้าเล็กๆเดินเหยียบไปมาอย่างไม่แน่ใจว่าจะก้าวลงไปบนพื้นดีหรือไม่

“ลงไปเดินดิ่ นี่พื้นบ้านใหม่ไง” ผมรวบจิ๋วไว้สองมือแล้วค่อยๆหย่อนให้อุ้งเท้าสัมผัสพื้น ตัวเล็กดิ้นขลุกขลักพร้อมส่งเสียงต่ำๆในลำคอ “ไม่ต้องกลัวน่า นี่ไงๆ” ผมลองปล่อยให้ขาหลังสัมผัสพื้น จิ๋วดูแหยงๆหน่อยในตอนแรก สงสัยพื้นลามิเนตลายไม้นี่จะไม่ถูกใจเจ้านี่ซักเท่าไหร่ กว่าจะให้คุ้นคงใช้เวลาน่าดู

..
..

ซะที่ไหนล่ะ…

หลังจากใช้เวลาปรับตัวกับบ้านใหม่ถึง.. ฮึ่มม สิบสองนาทีถ้วน ตอนนี้จิ๋วเดินกร่างไปทั่วคอนโดเลยครับ อะไรแทะได้แทะ อะไรปีนได้ปีน วิ่งไปๆกลับๆระหว่างห้องน้ำกับห้องนั่งเล่นนี่เป็นยี่สิบรอบแล้วมั้ง ดีนะที่ปิดห้องนอนกับห้องทำงานไว้ ไม่งั้นได้เข้าไปรื้อกองกระดาษกับกองผ้าห่มจนตามเก็บกันไม่ไหวแน่

ผมปล่อยให้สมาชิกใหม่เดินเล่นอย่างที่อยากทำ แล้วย้ายร่างตัวเองมานอนยืดขาบนโซฟาแทน
สักพักก็ต้องหาวขึ้นมาวอดใหญ่ ขอถอดแว่นแล้วนอนพักสายตาแป๊บนึงละกันนะ

..
..
..

Rrrr….

หือ..

ผมปรือตาขึ้นมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นครืดอยู่บนโต๊ะ แต่ยังไม่ทันได้หยิบก็ต้องแอบยิ้มกับเจ้าจิ๋วที่กำลังนอนหลับทับบนอกที่มีเสื้อยืดย้วยๆที่ผมใส่อยู่เป็นเบาะอย่างสบายใจ ขึ้นมาเมื่อไหร่เนี่ยไอ้แสบ เคลิ้มเชียว ยังดีนะที่ตัวเล็ก ถ้าตัวใหญ่กว่านี้นี่คงนึกว่าโดนผีอำไปแล้วแหงๆ ผมเอื้อมมือไปหยิบไอโฟน ดูชื่อปลายสายแล้วก็กดรับเร็วๆ

ไอ้น้ำ

“อืออ”

(มึงอยู่ห้องป่ะ แล้วทำไมเสียงเป็นแบบนั้นเนี่ย) 

“อยู่” ผมตอบเสียงแห้งแล้วหันไปมองนาฬิกา นอนไปแป๊บเดียวเองแฮะ

(นอนอยู่ล่ะสิมึง)

“อือ” ผมตอบสั้นๆ

(เออดี เดี๋ยวกูเข้าไปนะ ยัยแนนบอกให้กูมารับแล้วเปลี่ยนใจดูหนังกับเพื่อนเฉยเลย กูเลยต้องแกร่วอยู่แถวสยามเนี่ย)

“เออ เอาดิ่ ซื้อข้าวมาให้ด้วยนะ” ผมขยับตัวนิดๆไล่ความเมื่อยด้วยความเกรงใจแมว “ยังไม่ได้กินข้าวอ่ะ เอาอะไรมาก็ได้”

(เชี่ยนี่ รอให้กระเพาะมึงโดนย่อยไปก่อนมั้ย นี่มันจะบ่ายสองเข้าไปแล้วไอ้ห่า)

“บ่นเป็นหมีเลยมึง” ผมหัวเราะ ทำเอาแมวที่นอนหลับอยู่กระดิกหนวดขึ้นน้อยๆ
เห้ย อย่าเพิ่งตื่น นอนต่อไปเลยไอ้ตัวจ้อย ผมเอานิ้วลูบหัวมันเบาๆ

(ห่า งั้นเดี๋ยวอีกสิบห้านาทีเจอกัน)

_ _ _ _

14.03

“เอ้า ข้าวผัดกุ้ง” น้ำยื่นกล่องข้าวใส่ผมตั้งแต่หน้าประตู คือมึงจะไม่ทักทายอะไรกูก่อนเลยเรอะ
ช่างมันเหอะ ของกินมาแล้วนี่ครับ

“ขอบใจ” รับเสบียงแล้วก็เดินนำเข้ามาในห้อง “นั่งๆ แล้วมึงไม่กินเหรอ”

น้ำที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นส่ายหน้าแทนคำตอบ “จัดห้องใหม่เหรอวะ โล่งเชียว แล้วตรงนู้นอะไร เมื่อวานยังไม่เห็นมี” มันชะโงกมองไปยังคอนโดแมวที่มุมห้อง

ผมอมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงกุกกักมาจากครัว

“อ๋อ”
พอดีกับที่จิ๋วถลาตัวเข้ามาขวางหน้าผมพอดี ก้อนกลมๆสีดำ ลื่นไถลพรืดไปกับพื้น

น้ำถึงกับสะดุ้งร้องเฮ้ยขึ้นมาเสียงดังเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว “ตัวไรวะเนี่ย” มันว่า

“แมวกูเอง” ผมก้มลงไปอุ้มจิ๋วไว้กับตัว ไอ้ตัวนี้นอนมาตลอดบ่าย ชาร์ตแบตมาเต็ม อย่างคึกครับพูดเลย “ชื่อจิ๋ว สมาชิกใหม่” ผมหัวเราะเสียงดังแล้วจับเอาขาหน้าเจ้าตัวเล็กยกขึ้นเป็นการทักทาย “รู้จักกันไว้ซะ”

“อ๋อ ที่มึงโพสหาบ้านอยู่อ่ะนะ” ยื่นมือมาจับอุ้งเท้าจิ๋วเบาๆ “อย่ากัดกูล่ะ” พูดจบปุ๊บจิ๋วก็ดิ้นขลุกขลักไม่อยากโดนอุ้มต่อ ผมหัวเราะเบาๆ แล้วปล่อยลงพื้น ตัวแสบวิ่งปรู๊ดไปหลบบนชั้นวางของหน้าทีวีทันที เฮ่อ นิสัยตื่นคนนี่จะแก้ยังไงนะ

….

หลังเดินเข้าห้องมาไอ้น้ำถือโอกาสเปิดหนังนอนดูอย่างสบายใจเฉิบอยู่ที่โซฟาในระหว่างผมนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะ (โดยมีแมวนั่งเฝ้าไปด้วย จิ๋วนี่ก็ตามติดผมยังกับเงา)   

หลังจากนั้นน่ะเหรอ ผมโดนยึดโซฟาไปแล้วนี่..
ก็ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์สิครับ...

“น้ำ มึงรู้จักบริษัทอินทีเรียเจ๋งๆที่ไหนป่ะวะ เอาแบบรับงานอาคารขนาดใหญ่ได้ 2 อาคารพร้อมกัน มอลล์กับคอนโด” ผมถามขึ้น ขณะนั่งเท้าคางจ้องคอมพิวเตอร์ตัวเอง “กูต้องหาเข้ามาประมูลสามบริษัทเป็นอย่างน้อย นี่ขาดอีกหนึ่ง”

“เชี่ย นี่มึงนั่งทำงานเหรอ กูนึกว่านั่งส่องเฟส” มันอุทาน “บ้างานเกินไปแล้ว”

“ส่องก็เหี้ยละ นี่โปรเจ็กที่กูเป็น PM อยู่ถ้าจบเฟสบิดอินทีเรียกูจะได้วางมือแล้วส่งงานต่อให้ฝ่าย CM แล้วไปเริ่มโปรเจ็กต์อื่นซะที”

“ไอ้โปรเจ็กต์ของ AA คุณตะวันอะไรนั่นอ่ะนะ”

“อือ” ผมพยักหน้าแล้วกดเสิร์ชหาผู้ออกแบบในฐานข้อมูลบริษัท

“เร่งมากเลยเหรอวะ” มันลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งข้างๆผม “ไหนดูตารางดิ้”
ผมเปิดให้มันดูแบบไม่ขัดศรัทธา “จริงๆ ก็ไม่เร่งเท่าไหร่หรอก แต่กูอยากทำให้เสร็จเร็วๆ”

“ไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่ป่ะ?” มันขมวดคิ้วแล้วถาม “กับเจ้าของไรงี้”

“เหอะ ไม่มีอ่ะ”

“แล้วเรื่องอื่นมึงมีปัญหามั้ย” มันมองหน้าผม

ผมขมวดคิ้ว “หือ เรื่องอะไรวะ? ไม่มีนะ”

“ไม่มีก็ดีแล้ว” มันตัดบทแล้วหันไปมองหน้าจอ “ว่าแต่ CM มึงใช้ที่ไหน ต้องประมูลอีกป่ะเนี่ย”

“ของบริษัทกูเนี่ยแหละ in house ครบวงจร ไม่ต้องบิดแยก” มันพยักหน้าตามผมอธิบาย “ว่าแต่กูถามหาบริษัทอินมั้ย จงตอบมาให้ไว”   

“บริษัทไอ้พีทก็น่าจะได้นะ” น้ำทำท่าคิด “บริษัทก็ไม่ได้ใหญ่มาก แต่งานสเกลนี้ก็น่าจะโออยู่ เห็นวันก่อนแม่งบอกว่าเพิ่งได้รางวัลหน้าใหม่ปีนี้ด้วยนี่”

“เออว่ะ” ผมตบเข่า “ลืมนึกไปเลย เดี๋ยวถามไอ้พีทก่อน” ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์ต่อสายทันที

..
..

“มึง” 

“อืออ” ผมทำเสียงตอบในลำคอขณะนั่งขัดสมาธิเล่นกับจิ๋วอยู่ที่หน้าโซฟา ก่อนจะหันหน้ากลับไปหาต้นเสียงที่กำลังเอกเขนกอยู่ด้านหลัง “ว่า”

“เมื่อคืนก่อน มึงออกไปคุยโทรศัพท์กับใครวะ”

ชิบหายละ
“ห้ะ คืนไหน” ผมพูดหน้าตาย

ไอ้น้ำจ้องหน้าผมกลับ “เชี่ยตี๋ อย่ามา กูมองหน้ามึงตอนมึงดูโทรศัพท์กูก็รู้ละว่าไม่ปกติ”

“เอ่อ ก็..งานแหละ.. ไม่มีไร” 

“มึงหรือเขาที่ไม่มี”

กูเนี่ยไม่มี!
“ไม่มีอะไรจริงๆ ไอ้เชี่ยนี่” ผมเอาศอกกระทุ้งเข่ามัน “ว่าแต่มึงเถอะ เรื่องน้องพลอยนี่หายสนิทรึยัง วันก่อนกูเห็นน้องเปลี่ยนสเตตัสในเฟสบุคว่า.. นั่นแหละ”

รู้ครับว่าถามแบบนี้มันเลว แต่ความเสือกก็มีอยู่ประมาณหนึ่ง..
น้ำหัวเราะหึ “เปลี่ยนเรื่องอย่างนี้เลยเหรอวะ” มันถอนหายใจ “ก็เขาคบกับคนใหม่แล้ว จบ”

“สั้นๆแค่เนี้ย?”

“มันจะยาวได้ไงวะ ก็เรื่องของกูมันจบแล้วนี่ไง”

“แล้วมึงโอเคมั้ยวะ” ผมถามพลางขยับตัวขึ้นมานั่งข้างมันบนโซฟา

“ถ้ากูไม่โอเคมึงจะทำไง” มันยิ้มอ่อนเมื่อเห็นผมอึ้งกับคำถาม “ก็ต้องโอเคสิ จะได้ move on” มันถอนหายใจเพิ่มอีกที “ว่าแต่ไอ้ตัวนั้นติดมึงจัง” มันชี้มาที่จิ๋วที่นั่งจดๆจ้องๆ เตรียมกระโดดขึ้นมาบนตักผม

“เออใช่ เดินตามตลอด ทำอะไรยุ่งด้วยทุกเรื่องอ่ะตัวนี้” ผมว่าแล้วอุ้มจิ๋วขึ้นส่งให้น้ำ “อ่ะ เอาไปฟัดเล่นแก้เหงา”

มันหัวเราะ “เด็กเนาะมึงอ่ะ ฟัดแมวก็หายเหงาแล้วเหรอ” มันรับจิ๋วไปวางข้างตัว ไอ้ตัวเล็กหันมองซ้ายทีขวาทีแล้วนั่งซุกอยู่ระหว่างขาไอ้น้ำกับพนักเก้าอี้

“บางทีคนเราก็ต้องการแค่นี้ป่ะวะ มีตัวอะไรสักอย่างอยู่ข้างๆ แบบไม่ต้องเข้าใจก็ได้ แค่อยู่ด้วยกันก็พออย่างนี้น่ะ” ผมว่า

น้ำตบไหล่ผมแล้วพูดยิ้มๆ
“เชื่อเถอะ..กูเข้าใจดีกว่ามึงอีก”

อืม..

ถึงไอ้น้ำจะไม่ได้ฟัดแมวตามที่ผมแนะนำ แต่มันก็นั่งเงียบๆ เอามือลูบหัวจิ๋วไปเรื่อย จนน้องแนนโทรมานั่นแหละ มันถึงได้พรวดพราดลุกขึ้นแล้วออกไปด้วยความเร็วแสง คนหวงน้องก็แบบนี้แหละครับ เรื่องอื่นล่ะไม่เห็นจะเคยเร็วแบบนี้เลย

Rrrr..

ผมรีบรับโทรศัพท์เมื่อเห็นชื่อคนปลายสาย

“ว่าไงวะพีท พี่เขาโอเคมั้ย?”

_ _ _ _

17.08

ผมขยับตัวไปอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม

สิ่งที่น่าดีใจสำหรับวันนี้คือผมหาผู้ออกแบบตกแต่งภายในได้ครบแล้วครับ ยะฮู้ว พีทบอกว่าเจ้านายมันว่าน่าสนใจดีเลยอยากเสนองานด้วย มันดีใจใหญ่ที่ได้เอาโปรเจ็กต์เข้าบริษัท แต่เดี๋ยว.. มึงต้องประมูลชนะก่อนนะถึงจะได้ทำ ดีใจเร็วไปมั้ยวะ

ผมรีบส่งอีเมลล์แจ้งพี่ฝ้ายและเริ่มทำตารางเวลาใหม่ นี่ถ้าด้วยความเร็วขนาดนี้ อีกสักเดือนก็คงได้ award ผู้ออกแบบหลักครบ แล้วโอนถ่ายให้ฝ่าย Construction Management ไปทำงานกับผู้ออกแบบเพื่อพัฒนาแบบสำหรับการประมูลผู้รับเหมาก่อสร้างต่อ

ผมจะได้ลดบทบาทเหลือแค่ผู้ประสานงาน แล้วเอาเวลาไปเริ่มโปรเจ็กใหม่ซักที
เห้ย นี่ทำงานครบลูปเป็นโปรเจ็กต์แรกเลยนะเนี่ย ดีใจอยู่ลึกๆ

ผมบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อย
กว่าจะทำตารางเวลากับเอกสารเชิญประมูลเสร็จ ซัดไปซะสองชั่วโมง..

ส่วนเรื่องน่าหนักใจสำหรับวันนี้น่ะเหรอ.. ผมมองนาฬิกา
ก็มีอยู่นะ.. ตอนเย็นๆ แบบนี้น่ะ


Rrr…
นี่ไง..

เมื่อคืนวานเด็กหวานก็ไลน์มาตามปกติ (ของมัน) ชวนคุยโน่นนี่ ทั้งเรื่องสอบไฟนอล เรื่องดีไซน์สตูดิโอ แล้วก็ไม่พ้นถามเรื่องแมวจิ๋วนี่ ก็เลยต้องตอบมันไปว่าวันนี้จะรับจิ๋วมาอยู่ด้วย ไอ้เด็กนี่เลยได้จังหวะบอกว่า ดีเลย อยากเอางานมาให้ตรวจ แล้วก็มาเยี่ยมจิ๋วที่คอนโดพี่ด้วยละกัน.. ตบท้ายด้วยคำว่าคิดถึงนะครับ.. อยากเจอ..

เหมือนมีคนมาพัดเอาฝุ่นในใจให้ฟุ้งขึ้นมาอีกรอบ
ตะกอนบ้าๆที่ควรจะหายไปจากความคิดผมได้แล้ว ไม่ใช่ยังทำให้มีอาการร้อนหน้าร้อนตาใจเต้นอยู่แบบนี้
มันเป็นแค่เด็กปีหนึ่ง จะมามีอิทธิพลกับความคิดผมอะไรขนาดนั้น
กูต้องเจอมันหยอดจนเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

ให้ตายเหอะ ผมควรเป็นผู้ใหญ่ให้มากกว่านี้
รุ่นพี่ให้คำปรึกษาเรื่องงานกับรุ่นน้อง.. ผมเปิดโอกาสให้มันมากไปใช่มั้ย

_ _ _ _

20.26

“ดีไซน์แบบนี้ให้พ่อมึงทำเถอะครับบบ” ผมร้องออกมาดังๆ

“อ้าว ทำไมอ้ะ ไม่ได้เหรอ สะพานคาราทาว่าเขายังทำได้เลย” ไอ้เด็กหวานชี้รูปสเก็ตช์ของตัวเองจึ้กๆ “ดีไง Tension Design เท่ห์ออกจะตาย”

“เสามึงต้องใหญ่สักสามคูณสามเมตรอ่ะจะหิ้วสตรัคเจอร์แบบนี้ได้ ว่าแต่มีความจำเป็นอะไรต้องเล่นใหญ่ทำให้มันลอยด้วยการใช้สลิง จะทำไบเทคเหรอ นี่ไซต์มึงมีสองร้อยตารางวา อยู่ในซอยอีก คิดสิคิด” ผมชี้ขอบเขตที่ดินรัวๆ “แล้วไหนอินสไปเรชั่นจากงานทาดาโอะ กูยังไม่เห็นอะไรที่จะสื่อได้เลย” ผมพลิกดูกระดาษร่างบนโต๊ะกินข้าวเร็วๆ

“อ่าว ออกจะทาดาโอะ เนี่ยๆ คอนกรีตเทาๆ” มันยืนยัน

“นี่เขาเรียกเลียนแบบแมททีเรียล เดี๋ยวกูไล่ไปอ่านหนังสืออีกรอบ เนี่ย ปนกันมั่วไปหมด คาราทาว่า ทาดาโอะ โตโยอิโตะ เอามาหมดญี่ปุ่นเลยมั้ยล่ะ” ผมเอาไม้สเกลสามเหลี่ยมเคาะหัวมัน

“โอ้ย! อย่าเอาสันตีดิ่พี่วิน! เดี๋ยวหัวก็เจาะหรอก”

“ดี สมองมันจะได้ไหลออกมาบ้าง คิดใหม่เลย กูไม่ให้ผ่านหรอก ไอ้ชิบหาย” ผมด่าแล้วลุกขึ้นเพื่อปล่อยให้มันทำงาน นี่คอมเมนต์แบบมันซะเสียงแห้งเลยนะครับ แต่ก่อนที่จะเดินไปที่ตู้เย็นก็ต้องชะงักกึก ไอ้ตัวยุ่งนี่.. “จิ๋วลงจากโต๊ะเลย อย่าเหยียบกระดาษร่างด้วย!” วุ่นวายจริงๆ ลำบากกูต้องอุ้มเอาไปใส่กรงอีก

"อ้าวววว" คนเด็กกว่าร้องอย่างเสียดายซะเสียงดังจนผมส่งสายตาคาดโทษไปให้

มาถึงก็มัวแต่อี๋อ๋อเล่นกับแมว เดินส่องห้องกูไปทั่ว ถามนู่นถามนี่อยู่นั่น กว่าจะได้ทำงานจริงๆก็ปาเข้าไปเกือบชั่วโมง
ผมถอนหายใจนิดๆแล้วมองหวานที่กำลังก้มหน้าก้มตาสเก็ตช์แบบลงกระดาษร่างแผ่นใหม่ด้วยสีหน้าจริงจัง

กูก็ไม่ได้อยากล้มแบบมึงหรอกนะ แต่ถ้าส่งงานช่วงสองไปแบบนี้ มึงไม่รอดแน่ๆ..

สตูดิโอดีไซน์ของปีหนึ่งพาร์ทแรกนั้นเน้นที่การทำความเข้าใจระบบการคิดงานเป็นหลัก ก่อนอื่นก็ให้เลือกตึกดังๆ ของเกรทอาร์คิเต็คทั้งหลายแหล่มาหนึ่งหลัง วิเคราะห์ให้หมดทุกประเด็น ขั้นตอนการออกแบบ แนวคิด ทฤษฎี วัสดุ โครงสร้าง ตบท้ายด้วยการทำโมเดลจำลองตึกให้ละเอียดที่สุดเพื่อศึกษาสเปซภายในแล้วเอาข้อมูลทั้งหมดมานำเสนอกัน
ส่วนนี้น่ะผ่านไปแล้ว... และมันก็ได้เอมาอย่างที่โม้จริงๆ

สำหรับครึ่งหลังนั้นเป็นการเอาแนวคิดหลักและทฤษฎีของสถาปนิกที่ได้เรียนรู้จากครึ่งแรกมาลองใช้ออกแบบ Art Gallery ในที่ดินที่อาจารย์กำหนดให้ ให้มีกลิ่นอายของสถาปนิกคนนั้นๆมากที่สุด แต่ไม่ใช่ให้ก็อปงานนะครับอย่าเข้าใจผิดไป ออกแบบใหม่นี่แหละ แค่ใช้วัตถุดิบของเดิมมาเป็น inspiration เท่านั้น

ถึงจะมีโจทย์ชัดขนาดนี้แต่ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี่จะหลงทางซะแล้ว ความคิดฟุ้งไปหมด ไม่เห็นมันจะจริงจังกับแนวคิดหลักของทาดาโอะที่ต้องใช้ในการออกแบบเท่าไหร่เลย ไหนว่าชอบนักชอบหนา เห็นอันนี้ก็ดีอันนั้นก็อยากทำ

ความชอบของเด็กมันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาง่ายแบบนี้น่ะแหละ เห็นมั้ย
มาเร็ว ไปเร็ว

เรื่องอื่นก็คงเหมือนกัน

แค่เว้นระยะห่างไปสักหน่อย ให้ไปเจอสิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่า เดี๋ยวก็ลืมไปหมดเองนั่นแหละ

_ _ _ _

21.03

“ก็.. ไม่แย่เท่าอันแรก..อันนี้ด้วย” ผมชี้ไปยังกระดาษร่างสองแผ่น

“เห้ย ผ่านแล้วดิ่” หวานยิ้มกริ่ม

ผมหรี่ตามอง มั่นใจเกินไปละไอ้เด็กนี่ “ก็แค่พอใช้ได้ อย่าเหลิง.. เห็นตรงนี้ป่ะ”

“อ่าว..” มันร้อง

“มึงลองบิดแกนตึกมาทางนี้ดิ่ อย่างนี้” ผมขยับกระดาษร่าง “ดีขึ้นป่ะ เนี่ย เปิดมุมมองจากทางนี้อ่ะ” ว่าแล้วก็ชี้ให้คนเด็กกว่าดู “แล้วก็.. เอาตรงนี้มาใช้กับตรงนี้แทน อันนี้โค้งๆไม่เอา อ่านหนังสือวาบิซะบิมาแล้วนิ่” ผมขีดเส้นโยงพร้อมอธิบาย

“เห้ย จริงด้วย” หวานอุทาน “เมื่อกี้ผมมองว่ามุมตรงนี้มันประหลาดๆ แต่ไม่รู้ควรจะทำยังไง”

คือยังไง จะชมว่ากูเก่งเหรอ ต้องดีใจมั้ย “นอกนั้นมึงไปทำเองได้ละ” 

“ครับๆ” มันว่า “นี่ถ้าได้เอนะ จะพาพี่วินไปเลี้ยงชาบู พาไปดูหนังเลย อยากได้อะไรบอก”

“ให้ได้ซะก่อนค่อยมาว่ากัน” ผมพูดยิ้มๆ

“เอ้า ต้องได้อยู่แล้วสิครับ พี่วินอุตส่าห์ตรวจแบบให้ทั้งทีนี่นา” มันพูดพลางจดคอมเมนต์ใส่กระดาษร่างยุกยิกโดยมีผมยืนกอดอกมองอยู่ ไอ้เด็กนี้ชอบคิดว่าทุกอย่างมันง่ายไปหมดรึไงนะ

..

“พี่วิน”

“ว่า?”

“อีกเดือนนึงสอบแล้วอ่ะ” หวานบอกเสียงเซ็งพลางก้มหน้าเขียนลูกศรอธิบายในภาพหนึ่ง “พวกที่ต้องนั่งสอบจริงๆ ฟิสิกส์ เลข ฮิสทรี่ คอน เยอะแยะเลย”

“แล้ว?”

“ก่อนหน้านั้นก็ต้องทำดีไซน์บิลด์ให้เสร็จ งานกลุ่ม โน่นนี่เยอะแยะถึงจะสอบ แล้วก็ส่งสตูดิโอโปรเจ็กต์นี้” มันไล่ตารางให้ผมฟัง

“อาฮะ” จะพูดอะไรอีกล่ะไอ้นี่

“งานจะยุ่งเอามากๆ” มันเอาหน้าแนบลงไปกับโต๊ะแล้วหันมามองผม

“เออ..แล้วไง”

“คิดถึง”

ขอถอนหายใจแรงๆ สักที นึกว่ามันจะไม่วกเข้าเรื่องนี้แล้วเชียวนะ
ผมไม่อยากทำตัวใจร้ายใจดำ แต่คิดว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องปรามมันบ้าง

“จริงจังหน่อย”

“ครับ?” 

“เล่นเยอะไปแล้วรู้รึเปล่า?” ผมยกมือขึ้นกอดอกแล้วขยับเอาสะโพกพิงขอบโต๊ะ

คนเด็กกว่านั่งยืดหลังตรง ตั้งท่าจะเถียง “ผมมะ--”

“ตอนนี้สิ่งที่มึงควรจะทุ่มเทคืองาน ทำหน้าที่ตัวเองก่อน ทำงานส่ง อ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่มัวมาอะไรๆกับกูอยู่แบบนี้” 

เจ้าของคิ้วเข้มๆที่กำลังขมวดมุ่นหันมามองผมอย่างไม่เข้าใจ
“พี่จะให้ผมเลิ--”

“กูกำลังบอกให้มึงตั้งใจ โฟกัสกับการทำงานมากกว่านี้” ผมพูดแทรกมันอีกครั้ง “เท่านั้นแหละ”
“นี่เพื่อตัวมึงเองนะ”

และกูด้วย..
อย่ามาล้อเล่นกับจิตใจกูเลย
ผมเม้มปากกั้นประโยคสุดท้ายให้อยู่แค่ในความคิด พยายามทำหน้าให้เป็นปกติ

ผมย้ำกับตัวเอง
ทำถูกแล้ว
ที่ผมพูดไป.. ผมทำถูกแล้ว
 
คนเด็กกว่าเงยหน้ามองผมนิ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

“เข้าใจแล้วครับ” 

ผมชะงักกับคำตอบเสียงเรียบจากอีกฝ่าย คำว่าเข้าใจดูจะเกินความคาดหมายของผมไปหน่อย ก่อนจะทันได้พูดอะไรเพิ่มหวานก็คว้าแขนแล้วออกแรงดึงผมที่กำลังยืนอยู่ให้เข้าไปหาตัว ก่อนสอดมือเข้าตรงช่องว่างระหว่างเอวเพื่อกระชับกอดไว้หลวมๆ

“เฮ้ย เดี๋ยวสิ!” ผมร้องขึ้นอย่างตกใจแล้วขืนตัวไว้ “มึงทำอะไรเนี่ย!”

“ผมขอนะครับพี่วิน” คนเด็กกว่ารีบพูดแล้วโอบรั้งร่างให้เข้าไปชิดยิ่งกว่าเดิมด้วยความรวดเร็ว หวานแนบใบหน้าเข้ากับเอวผมแล้วพูดเสียงเบา “แค่แป๊บเดียวเท่านั้น.. ถือซะว่าผมขอเบิกรางวัลสุดท้ายที่พี่เคยติดไว้ก็ได้..นะครับ”

“เอ่อ..” ถึงกับไปไม่เป็นเมื่อได้ยินประโยคขอร้องแบบนั้นเข้าไป
ผมยืนนิ่งปล่อยให้เด็กปีหนึ่งทำตามคำขอแบบปฏิเสธไม่ออก อ้อมกอดอุ่นๆของมันที่โอบแน่นรอบเอวทำเอาสับสนไม่รู้ต้องทำตัวยังไง คำพูดทั้งหลายถูกกลืนลงไปในลำคอด้วยความมึนงงพร้อมๆกับความรู้สึกประหลาดที่แล่นริ้วขึ้นมาวูบวาบที่ใบหน้า มือที่ตั้งใจว่าจะผลักออกก็ได้แต่ยกค้างเอาไว้กลางอากาศแบบเก้ๆกังๆ 

ผ่านไปหลายวินาทีคนเด็กกว่าจึงได้ผละตัวคลายอ้อมกอดออก “ขอบคุณนะครับ”
หวานมองตาผมแล้วยิ้มให้ “ถ้าพี่คิดถึงผมบ้างก็คงดีเนอะ”
 
ผมหลุบตาลงต่ำมองที่พื้น
ไม่ชอบรอยยิ้มของมันในตอนนี้เลยให้ตาย
ใจมันวูบยังไงก็ไม่รู้...

_ _ _ _


พาตี๋วินมาส่งละค่า


หายไปนาน ลืมกันไปแล้วละยางง ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ
ช่วงนี้คนเขียนก็ยุ่งพอประมาณ (นี่ออฟฟิสปิดเช็คระบบกันสิบนาที เลยแว้บมาแปะตอน 19 เอิ๊กส์)

ตี๋วินก็เป็นคนคิดยุบยิบสมกับเป็นนักวิเคราะห์แบบนี้ล่ะค่ะ จู่ๆมีเด็กปีหนึ่งมาแรงแซงมาจีบแบบนี้ไปไม่เป็น
โต๊ะกะใจไปสามตอนถ้วน ไหนพวกเพื่อนอีก รู้นี่เล่นกันยับค่ะพูดเลย

แทรกเรื่องงานเยอะไปหน่อย แต่อาชีพตี๋วินนี่ก็ยุ่งประมาณนี้ล่ะค่ะเอ้อออ คิดว่าเรียนหนักแล้ว มาทำงานนี่หนักกว่าเก่า
ไม่มีเวลาวิเคราะห์ชีวิตตัวเองเลยลูกเอ้ยยย
ติชมกันได้เหมือนเดิมนะคะ น้อมรับความเห็นทู๊กคนนน
 
อยากปาของใส่คนเขียน ทวงบทให้คุณตะวัน ปลอบใจน้องหวาน ขึ้นแพน้ำวิน แวะเล่นกับจิ๋ว หรือจะเม้ามอยกันเชิญได้ที่ #วิเคราะห์การรัก เหมือนเดิมนะค้า

พบกันตอนหน้าค่ะ
เลิ้บ
 :bye2: :bye2: :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2017 17:49:21 โดย idee »

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
แหนะ มาแบบเทาๆ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารน้องหวาน เห็นใจนางเหลือเกิน
แพน้ำวินของเรายังกระท่อนกระแท่น เราเข้าใจ มันจะมั่นคงได้อย่างไรในเมื่อตี๋หวั่นไหวกับหวานไปแล้ว
รอเสมอนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น้องหวานก็ต้องให้เวลาพี่วินเขาหน่อย ระหว่างนี้ให้จิ๋วทำคะแนนนำไปก่อนสักพักละกันเนอะ 5555

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พี่ใจแข็งเกินไปนะ น้องหวานจีบสารพัดวิธีละไม่ยอมใจอ่อนซักที

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
รอน้องหวานสอบเสร็จ และมาดูแลเจ้าจิ๋วให้พี่วินบ่อยๆ ฮีลลิ่งที่ดีมากค่ะ อยากให้พี่วินเปิดใจให้น้อง น้องไม่เล่นๆนะ ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะคะ ชอบมากๆ  :mew1:

ออฟไลน์ baibuabuaz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ทำไมพี่วินถึงคิดว่าหวานเล่นๆ ฮือออออออ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด