เรื่องสั้นสุดวาย(Y)ฉบับนิทานสุดฟิน ตอน โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 2/2 (จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นสุดวาย(Y)ฉบับนิทานสุดฟิน ตอน โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 2/2 (จบแล้ว)  (อ่าน 15242 ครั้ง)

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






คำเตือน

คุณอาจจะมองนิทานแบบเดิมๆของคุณต่างออกไป โปรดทำใจยอมรับก่อนอ่าน เราเตือนคุณแล้ว


เรื่องแรกเราจะลงเรื่องหนูน้อยหมวกแดงนะคะ แล้วต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรจะแจ้งอีกที แต่จะมี2ตอนจบ 3ตอนจบ ไม่ยืดเรื่องค่ะ :katai3:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2017 20:14:44 โดย llมว_น้oe »

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
หมาป่ากับนายพราน....จากนิทานหนูน้อยหมวกแดง 1/2






               เช้าวันที่สดใส หมู่นกร้องส่งเสียงที่ไพเราะยิ่งทำให้ป่าแห่งนี้ดูงดงามยิ่งขึ้น แต่เมื่อขึ้นชื่ว่าป่า ย่ยอมต้องมีสัตว์ร้ายอาศัยอยู่มากมาย แน่นอน หนึ่งในนั้นยอมไม่พ้น หมาป่า ที่ได้ชื่อว่าเจ้าเลห์และดุร้าย หึหึ!! หากคุณเคยได้ฟังเรื่องนี้มา คุณคงจะบอกว่าผมเลวร้ายแน่นอน เพราะงั้น มาฟังเรื่องนี้ ในมุมมองของ



      ตัวผมที่เป็นหมาป่าก็ออกเดินเล่นไปตามทางเดินในป่า โดยกวาดสายตามองโน้นมองนี้ไปเรื่อยๆอย่างเบื่อหน่าย


“เบื่อชะมัด ไม่มีอะไรตื่นเต้นๆเลยรึไงกันนะ ชิส์” ผมเดินเตะก้อนหินเล็กไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ บางครั้งการอยู่ในป่ามันก็ไม่มีอะไรเลย นอกจาก ล่า ล่า แล้วก็ล่า แต่ตอนนี้ผมไม่อยากล่านะสิครับ


“นี่นะเจ้านกน้อย ดูนี่สิ เสื้อคลุมตัวนี้มีหมวกด้วยนะ แถมมันยังเป็นสีแดงที่หนูชอบด้วย คุณแม่บอกว่าคุณยายตั้งใจทำมันให้หนูเองเลยนะ”  เสียงใคร?


ผมตัดสินใจเดินไปตามเสียงหวานนั้น แล้วก็พบกับใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มสดใสเมื่อได้ของที่ต้องใจ ผมหยุดฝีเท้ายืนมองร่างเล็กของเด็กน้อยคนนั้นที่มัวแต่สนใจกับการคุยกับบรรดาเหล่านกน้อยใหญ่พวกนั่นอยู่ อ๊าาาาา......อยากได้จัง


“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนกันนะ รอหนูก่อน” เสียงเล็กเรียกเมื่อพวกสัตว์ปีกตัวเล็กๆบินหนี จะไม่หนีได้ไง ก็ผมยืนอยู่ตรงนี้ ใบหน้างดงามนั้นง้ำงอเมื่อเรียกเท่าไหร่เจ้านกพวกนั้นก็ไม่ยอมกลับมา ร่างเล็กๆลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปข้างหน้าโดยมีผมที่เดินตามห่างๆ ผมเดินตามจนเห็นเด็กคนนั้นเข้าไปในสิ่งที่มนุษย์เรียกมันว่าบ้าน เท่านี้ก็รู้แล้วว่าอาศัยอยู่ที่ไหน ผมต้องการรู้แค่นี้หึๆ


ผมเฝ้าคอยเดินตามทุกๆวัน จนจากวันเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์เป็นเดือน ยังไงๆผมก็ต้องเอเขามาเป็นของผมให้ได้


ร่างเล็กๆเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงอีกคนนึงซึ่งเด็กคนนั้นเรียกเธอว่าแม่


“ลูกต้องเอาอาหารนี่ไปเยี่ยมคุณยาย จำไว้นะ อย่าเถลไถล อย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้า และรีบกลับด้วยละ เข้าใจใช่ไหมลูก” เธอดึงหมวกสีแดงที่หนูน้อยสวมใส่ลงมาปิดเพื่อบดบังแสงอาทิตย์ให้ลูกของเธอมากขึ้น หนูน้อยยิ้มแฉ่งอย่าเอาใจ


“ค่ะแม่ หนูเข้าใจแล้วค่ะ” อ่า........ในที่สุดวันของผมก็มาถึงแล้ว


ผมทิ้งระยะห่างของผมและเด็กน้อยลงให้มากขึ้น เพราะแม่ของเขามองอยู่จนร่าง้ล็กลับตาไปเธอจึฃเดินกลับเข้าบ้านไป ผมจึงได้เดินตามร่างเล็กและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น หอม หอมจริงๆ อา.....น่ากินอะไรอย่างนี้ ยิ่งผมเข้าใกล้กลิ่นหอมๆจากร่างเล็กยิ่งทำให้ผมอยากจะกระโจนใส่


“อะ เอ่อ” อ้าว นี่ผมเผลอพาตัวเองมาหยุดตรงหน้าเธอหรือนี่ แต่ช่างเถอะ


“สวัสดีหนูน้อย จะไปไหนหรือ?” ผมถามพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ อ่าา ผมต้องเก็บอาการ จะให้เธอรู้ไม่ได้


“สวัสดีค่ะคุณหมาป่า หนูเอ่อ กำลังจะไปเยี่ยมคุณยายค่ะ” เธอตอบกลับมาแต่สีหน้าฉายแววหวาดหวั่น โถ......แม่หนูน้อยของผม


“หืมม แล้วอะไรอยู่ในนั้นรึ” ผมชี้นิ้วไปที่ตะกร้าที่เธอถือมันอยู่


“มีแซนด์วิชกับไวน์ค่ะ” เด็กน้อยฉีกยิ้มกว้างอย่างลืมตัว ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้นะ


“แล้วหนูไม่มีดอกไม้สวยๆไปด้วยหรือ”ผมทำท่าทีว่ามองหาดอกไม้จากเธอ


“อะ จริงด้วยค่ะ หนูลืมไปเลย ทำไงดีคะคุณหมาป่า”


“มาสิ เดี๋ยวฉันจะพาไปเก็บดอกไม้สวยๆหอมๆ” ผมว่าพร้อมจับมือเล็กแล้วพาเดินไปทางทุ่งดอกไม้ นุ่มจังงง


“ว้าวว ดอกไม้สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ สวยมากๆเลย” ตาผมพร่าไปหมดแล้ว รอยยิ้มกว้างของหนู อูยยย ผมจะเก็บไม่อยู่แล้ว ผมต้องไปรอที่บ้านคุณยายของเธอ ต้องรีบไป


“แล้วบ้านคุณยายอยู่ที่ไหนล่ะ?”


“อยู่ที่ชายป่าด้านโน้นค่ะ คุณยายอยู่คนเดียว”


“ถ้าอย่างนั้น หนูเก็บดอกไม้เถอะนะ เดี๋ยวฉันจะไปธุระก่อน” ผมยกนิ้วไล่วนเบาๆที่แก้มใส่


“ขอบคุณนะคะคุณหมาป่าใจดี” ผมกัดปากแล้วเดินจากเธอมา ขืนอยู่นานกว่านี้ ผมคงจับเขากินตรงนั่นเป็นแน่
ผมเดินลัดเลาะตามเส้นทางที่ผมรู้ดีว่ามันจะนำผมไปถึง ‘บ้านคุณยาย’ ของหนูน้อยที่ผิดหมายมั่นปั้นมือว่าจะกินให้ได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าทางปกติ ก็ผมเป็นหมาป่านี่ครับ ผมย่อมต้องรู้เส้นทางดีเป็นธรรมดา และแล้วผมก็มายืนที่หน้าบ้านของยายแก่จนได้ รอก่อนเถอะหนูน้อยหมวกแดง


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“ใครจ๊ะ?” เสียงแหบแห้งของคนสูงวัยเอ่ยถามเมื่อผมเคาะประตู


“หนูเองค่ะคุณยาย หลานสาวของยายไงคะ” ผมดัดเสียงให้เล็กลง มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมที่มีเสียงที่เล็กกว่าหมาป่าตัวอื่นๆอยู่แล้ว เสียงกลอนประตูที่กำลังจะถูกปลดออกทำให้ผมต้องขยับตัวหลบ เมื่อประตูเปิดออกผมจึงพุ่งเข้าไปหาคุณยายทันที


“แก เจ้าหมาป่า ออกไปเดี๋ยวนี้ ช่วยดะ..” ผมยกมือขึ้นปิดปากของคุณยาย แล้วลากร่างที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลามาหยุดอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้า ผมเปิดออกแล้วหาผ้ามาสามผืนเพื่อมัดเท้า มัดมือ และมัดปากเอาไว้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมจึงจับร่างนั้นยัดไว้ในตู้เสื้อผ้าซะจะได้ไม่มาขัดขวางเวลาผมจับหนูน้อยหมวกแดงกิน ผมเลือกเสื้อผ้าบางตัวของยายแก่มาใส่แล้วขึ้นไปนอนรอเวลาที่หนูน้อยหมวกจะมา


“อีกไม่นาน อาาาาา.....แทบจะรอไม่ไหวแล้ว”



คุณหมาป่าของเราน่ารักน่าหยิกใช่ไหมล่ะคะ อย่าลืมให้กำลังใจกันบ้างนะคะ ถูกใจไม่ถูกใจก็บอกกันเนอะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คุณหมาป่าจะได้กินหนูน้อยหมวกแดงไหม..รอ 

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
เรื่องสั้น หมาป่ากับนายพราน...จากนิทานหนูน้อยหมวกแดง 2/2 จบ





             





                       “อีกไม่นาน อา.....แทบจะรอไม่ไหวแล้ว”



ผมรออยู่สักพักหนึ่ง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น



“เข้ามาสิจ๊ะหลาน” หนูน้อยหมวกแดงเดินขมวดคิ้วเข้ามาหาร่างของผมช้าๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างๆเตียง



“คุณยายรู้ได้ยังไงคะว่าเป็นหนู” ผมชะงัก อา นั่นสิ ดันลืมตัวไปซะได้



“โอ้ย วันๆไม่มีใครมาหายายหรอก นอกจากหนู” คำตอบของผมทำให้เจ้าตัวยิ้มขึ้นมาได้ โอ๊ยยยย น่ารักน่ากินจริงๆเลย



“เอ่อ วันนี้คุณยายดูแปลกไปจังเลยนะคะ” ผมลอบยิ้มเจ้าเลห์



“แปลกยังไงหรือ”



“ไม่รู้สิคะ เอ...ทำไมหูของยายใหญ่จังเลยคะ”



“จะได้เอาไว้ฟังเสียงของหลานชัดๆไงล่ะ”



“แล้วทำไมตาของยายโตจังเลยคะ”



“ยายจะได้มองเห็นหลานชัดๆไงละหนู”



“จมูกของคุณยายก็เอ่อ ใหญ่กว่าหนูมากเลยค่ะ”



“อา.....ยายจะได้ดมกลิ่นหอมๆจากตัวหนูได้ชัดๆไง” ผมแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของผมอย่างยั่วเย้า



“แล้ว แล้วทำไม ลิ้นของคุณ คุณยายถึงยาวแบบนั้นคะ”



“อา......ฉันจะได้เลียเธอได้ทั้งตัวไงละหนูน้อย” ผมพูดจบก็จับร่างเล็กๆขึ้นมาบนเตียงที่มีตัวของผมทาบทับเอาไว้



“อย่า อย่ากินหนูเลยนะคะ ฮือๆ” ผมก้มลงเลียคราบน้ำตาบนในหน้างามช้าๆ หวานอะไรอย่างนี้



“จะเริ่มกินจากตรงไหนก่อนดีนะ” ผมกางเล็บออกมากรีดลงบนเนื้อผ้าตัวสวยของหนูน้อยจนสาบเสื้อแยกออกจากกัน เผยให้เห็นผิวสีขาวนวลล่อตาล่อใจผม



“ฮึมม!!!” ผมคำรามพร้อมก้มหน้าลมละเลงลิ้นร้อนลนตัวสาวน้อยใต้ร่างอย่างหื่นกระหาย ทำให้ร่างเล็กที่ไม่เข้าใจการกระทำของผมดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกรีดร้อง



“ม่ายยยยย อย่ากินหนูนะ ช่วยด้วยยยยยย ใครก็ได้ ช่วยด้วยยยยยย” ผมกำลังมีความสุขโดยไม่สนการดิ้นรนของคนใต้ร่างแม้แต่น้อย เนื้อตัวหวานๆตรงหน้าทำให้ผมมัวเมาจนลืมทุกสิ่ง อา ดีเหลือเกิน


ปัง!!!



เสียงประตูหน้าเปิดออกอย่างแรงจากน้ำมือของชายร่างสูงกำยำที่มีใบหน้าหล่อเหลา จะสูงไปไหนนะ ให้ตาย พอเทียบกันแล้วผมตัวเตี้ยไปเลย



“เห~ ไม่คิดว่าจะมาเจอของหายากอย่างนี้นะเนี่ย”



“กรรรจ์” ผมปล่อยเสียงคำรามใส่หน้าขณะที่จับร่างเล็กเอาไว้ในวงแขนของผม นี่ของๆผม ไม่ยอมให้แย่งไปหรอก



“อย่าขู่เลยน่า หมาน้อย”



“ฉันไม่ใช่หมาน้อย ฉันเป็นหมาป่า นี่เหยื่อของฉัน ออกไปซะ!!” ผมตะโกนใส่คนตรงหน้า แต่เขากลับไม่สะทกสะท้าน เสียงของกลับมีผลกับร่างเล็กๆในอ้อมแขนแทน



“ปล่อยเด็กไปดีกว่า มาอย่างนั้นจะหาว่าฉันโหดร้ายไม่ได้นะ” ร่างสูงพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่ดวงตากลับดุดันจนทำให้ขนลุกเกรียวและนั่นทำให้แขนของผมคลายออกอย่างเผลอตัว



“อ๊ะ.......เฮ้ย ปล่อยนะ” เมื่อแขนผมคลายออกหนูน้อยหมวกแดงก็วิ่งออกจากร่างของผม พร้อมกับร่างของชายตรงหน้าที่พุ่งเข้ามากดร่างของผมลงบนเตียงใหญ่



“นายพราน นายพรานจ๋า คุณยายของหนู ฮืออๆ ยายของหนูถูกกินไปแล้ว แง๊~” อ้าวหนูน้อย ทำไมพูดแบบน๊านนนนนน!!!



“อ้าว กินเข้าไปแล้วหรือนี่ คงต้องผ่าออกมาสินะ”



“หยุดนะ ไอบ้า ปล่อยนะเว้ย” ผมดิ้นรนร้องโวยวายเมื่อเห็นร่างสูงหยิบกรรไกรที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมา



“อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวก็เสร็จ” มือหนายกขึ้นมาปิดปากขอผมเอาไว้ไม่ให้ผมร้อง ผมจึงได้แต่สางเสียง อื้ออึง



“อื้ออออ อ่า อ่อยนะ อังไอ่ไอ้อินน อ่อยยยย” ผมสะบัดหน้าบอกอย่างหมดทางหนี แต่เขาไม่ฟังสักนิด



ฉึบ ฉึบ ฉึบ



ทำไม ทำไมพอเสื้อของผมเปิดออกจากตัว ผู้ชายคนนี้ต้องทำสายตาพราวระยับด้วย ทำเหมือน ทำเหมือนที่ผมมองร่างกายของเด็กน้อยคนนั้น ผมหันหน้าไปมองหนูน้อยหมวกแดง แต่เธอกลับเอาแต่ร้องไห้



“อา.......ดูท่าเธอจะยังไม่ได้กินคุณยายของหนูน้อยหมวกแดงสินะ” มือใหญ่ปล่อยมือจากปากผมแต่ยังไม่ยอมลถกออกจากตัวผม แถมยังกวาดสายตาไปทั่วร่างของผม



“เอาล่ะ บอกมาสิว่า คุณยายอยู่ที่ไหน” ใบหน้าคมก้มลงมาพูดชิดริมฝีปากของผม ผมจึงสะบัดหน้าหนี



“อยู่ในตู้เสื้อผ้า ทีนี้ก็ปล่อยซะที!!!!”



“หนูน้อยหมวกแดง หยิบเชือกที่หน้าบ้านส่งให้ฉันหน่อยได้ไหม”



“ฮือๆๆๆ ได้ ได้ค่ะ” ร่างเล็กๆวิ่งออกไปนอกบ้านก่อนกลับเข้ามาพร้อมเชือกในมือ



“เอาละเรียบร้อย” ใบหน้าคมยกยิ้มมุมปากก้มลงมองผลงานตรงหน้า ครับคุณเดาไม่ผิด เขามัดผมเอาไว้ ทั้งมือ และเท้า



“เอาล่ะ เราไปช่วยคุณยายของหนูกันดีกว่า” เฮ้ย มือๆ อย่ามาจับมือของเธอนะ นั่นของผม ร่างสูงเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดออกและปล่อยคุณยายของสาวน้อยออกมา ทั้งคู่โผเข้ากอดกันใบหน้าเปื้อนน้ำตาของหนูน้อยหมวกแดงซบอยู่กับอกของผู้เป็นยาย



“เสร็จเรื่องแล้วก็ปล่อยฉันสักที!!”ผมโวยวายเมื่อเห็นว่าไม่มีใครยอมแก้มัดผมสักที
ร่างสูงเดินมานั่งลงตรงหน้าผม แต่เขากลับไม่ได้แก้มัดผมอย่างที่ผมคิด เขายกผมขึ้นบ่าราวกับผมไม่มีน้ำหนัก



“ถ้ายังไงผมกลับก่อนดีกว่า คุณยายพักผ่อนมากๆนะครับ รักษาสุขภาพด้วย ไปนะหนูน้อยหมวกแดง”



“ขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม”



“ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวยกมือโบกไปมาเพื่อร่ำลา



“ปล่อยฉันนะเว้ย ปล่อยเดี๋ยวนี้!!” เสียงผมโวยวายไปตลอดทางเมื่อร่างสูงเริ่มสาวเท้าออกจากเขตบ้านหลังนั้น



“ปล่อยเดี๋ยวนี้!!!!!” ผมดิ้นรนเตะเท้าเข้าลำตัวของเขาหลายครั้งแต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรสักนิด



เพี๊ยะ



“อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่นิ่งจะตีก้นอีกรอบ  หรือหลายๆรอบก็ได้นะถ้านายชอบ หึหึ” ร่างของผมหยุดกึก ราวกับเสียงเขาเป็นระบบสั่งการอัตโนมัต ผมไม่รู้เลยว่าเขาจะพาผมไปที่ไหน เป็นครั้งแรกจาก16ปีที่ผมโตมา ที่ตัวผมรับรู้คำว่า *‘กลัว’*
 



         ร่างของผมถูกพาเดินลัดเข้าแนวป่าลึก และลึกขึ้นเรื่อยๆ โดยปกติป่าจะมีเสียงของเหล่าสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ แต่ตั้งแต่ที่พ้นแนวป่าบ้านของคุณยายมา ผมกลับไม่ได้ยินเสียงสัตว์ใดๆเลย และนั่นยิ่งทำให้ผมกลัว เขาพาร่างของผมตรงเขเบ้านหลังงามที่ริมแม่น้ำ แม้มันจะดูงดงามแต่เวลานี้ผมกลับไม่มีกะจิตกะใจจะชื่นชมมันนักหรอก



“ปล่อย ปล่อยนะ พามาทำไม ปล่อยฉัน!!!”
เขาไม่ตอบแต่กลับพาผมตรงเข้าไปยังห้องใหญ่ที่มีเตียงใหญ่สีดำอยู่ตรงกลางห้อง พร้อมโยนผมลงไปทีนที



“จะทำอะไร” ผมขยับตัวหนี แต่ก็ไม่ได้มากเพราะมือและเท้าที่ถูกมัดอยู่ ร่างหนาเอาแต่ปลดชุดที่ตนสวมใส่ นั่นยิ่งทำให้ผมหวาดกลัว



“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ” เขาค่อยก้าวเข้าหาผมช้าๆ เมื่อผมขยับห่างมากเข้าเขาก็ดึงข้อเท้าของผมให้เข้ามาหาตัวแล้วทาบทับเอาไว้




“อย่าดิ้นสิ อย่างไรเสียนายก็เป็นของฉันอยู่ดี ที่นี่ ไม่มีใครช่วยนายได้หรอก หึหึ” เขายกยิ้มแล้วเลียรอบๆริมปากของผม ผมขยะแขยงแล้วสะบัดหน้าหนีไปมา




“อื้ออออ หยุดนะ อ๊ะ อย่า” มือหนาเริ่มปลดสาบเสื้อที่ถูกตัดขาดของผมออก พร้อมดึงกางเกงสีดำของผมทิ้งแต่เขาคงลืมไปว่าเขามัดผมอยู่




“โอ้ว ลืมไปเลย แต่นายคงไม่ต้องใช้มันอีกแล้วละนะ” ผมมองหน้าเขาด้วยความงงงวย



แคว๊กกกกกก!!!




“ไม่ม่ม่ หยุดนะ อย่า” ผมดิ้นรนอีกครั้งเมื่อเขากระชากเสื่อผ้าของผมออกจนหมด ลิ้นสากของเขาก้มลงมาลิ้มชมรสยอดอกของผม เขาทั้งดูดึง มือข้างหนึ่งของเขาก็จัดการบีบยอดอกอีกข้างนึงของผม



“อา.......หวานจริงๆ” เขาพูดทั้งๆที่ยังไม่ยอมปล่อยยอดอกของผมออกด้วยซ้ำ ผมเด้งตะวหนีมือและปากของเขาอย่างหวาดหวั่น แต่เขาก็ตามมันมาทุกครั้ง



“ฮืออออ ปล่อยนะ ปล่อยยย” มือหนาไล่ลงเรื่อยๆจนหยุดอยู่ที่แก่นกายร้อนของผมที่ยังไม่แข็งตัว เขาจับมันเอาไว้ขยับมือขึ้นลงช้าๆอย่างเอาใจ จนเมื่อเห็นว่ามันเริ่มแข็งขึ้นจึงละริมฝีปากก้มลงไปมอง



“นายสวยมากนะ ฉันละอยากกินนายไปทั้งตัวเลยละ” ลิ้นร้อนๆแตะลงบนส่วนหัวของตัวตนของผม ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก เขามองหน้าผมแวบเดียวแลเวก้มลงครอบครองส่วนนั้นด้วยริมฝีปาก



“อ๊า มะ อ๊ะ หยุดนะ อื้อออ” ผมบิดร่างกายไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ ยิ่งปากหนายับขึ้นลงเป็นจังหวะที่เร่งเร้าเท่าไหร่ ตัวผมยิ่งขยับสะโพกตอบรับเท่านั้น



จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ




“อา อื้ออออ อ๊ะ” ร่างสูงถอนปากออกจากแก่นกาย แล้วยกขาของผมขึ้น ผมนอนหอบหายใจ ไม่มีแรงจะขัดขืนอะไร




“อ๊ะ หยุดนะ ไม่เอาตรงนั้น” ผมส่ายสะโพกไปมาเมื่อลิ้นของเขาตวัดโลมเลียอยู่ที่ช่องทางสีหวานของผมจนเกิดเสียงน่าอาย




แจ๊ะ แจ๊ะ จุ้บ จ๊วบ




“อ๊ะ อือ พอละ อ๊ะแล้ว” ผมสะอื้นฮักในขณะที่ใบหน้าของเขายังไม่ยอมเงยขึ้นมาจากช่องทางของผม




“โอ้ย เจ็บ เอาออกไปนะ” ผมดิ้นรนหนีเมื่อสิ่งแปลกปลอมล่วงล้ำเข้ามาในร่างแม้จะมีความเปียกชื้นของลิ้นร้อนคอยปรนเปรอก็ตาม




“ฉันต้องเตรียมนายให้พร้อม แค่นิ้วเดียวมันไม่พอหรอก อย่างเกร็งละ” เขาบอกแล้วขยับน วเข้าออก




“อ๊ะ อ๊า” ร่างกายของผมร้อนรุ่มขึ้นอย่างประหลาด ผมเพลิดเพลินกับมันจนไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเพิ่มจำนวนนิ้วเข้ามาจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสามเมื่อไหร่




“ฮึ่มมม!!! ได้แล้วมั้ง ฉันไม่ไหวแล้ว”ผมไม่เข้าใจที่เขาพูดเพราะมันไม่ได้เข้ามาในหูของผมเลยแม้แต่น้อย หัวผมขาวโพลน หมุนเคว้งคว้าง ล่องลอยไปไกล




“อ๊า!!!!!! เจ็บ ม่ายยยยย” ผมดิ้นหนี เมื่อความร้อนของแท่งยาวกดเข้ามาในร่างผม




“อยานิ่งๆสิ ชู่ อา ตอดดีจริงๆ” ใบหน้าคมก้มลงกดจูบที่ริมฝีปากผมพร้อมสอดลิ้นมาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของผม มือใหญ่ก็ขยับแก่นกายของผมเป็นจังหวะในขณะที่ตัวของเขาเข้ามาได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น




“อือ อ๊ะ” เขารอจนมั่นใจว่าผมเริ่มมีอารมณ์ร่วมจึงค่อยกดแก่นกายเข้ามาอีกครั้งจนสุด ผมสะดุ้งน้ำตาไหลริน แต่ริมใรปากหนาก็ยังคงเฝ้าวนเวียนจูบปลอบโยนผมมือก็ขยับขึ้นลงแผ่วเบา




“อา ข้างในของนายสุดยอดมาก ไหวไหม” มือหนาเกลี่ยผมที่ใบหน้าของผม ผมหอบหายใจไม่กล้าสบตาแต่ก็พยักหน้าเบาๆ ร่างสูงยกขาที่มัดไว้ของผมขึ้นสูงพร่อมโยกตัวเป็นจังหวะเนิบๆ ก่อนจะเร่งมันตามอารมณ์




“อา เยี่ยม เยี่นยมจริงๆ”




“อ๊ะ พะ พอ ย๊ะ อ๊า”




ร่างของผมสั่นไหวตามแรงกระแทกกระทั้นจนหัวโยน มือทั้งสองข้างที่ผูกติดกันจิกลงบนบ่ากว้างด้วยความเสียวซ่าน




“ดี อา ดีจริงๆ จุ้บ จ๊วบ อา” ใบหน้าคมก้มลงดูดึงยอดอกของผมทั้งที่ยังขยับอยู่ ผมแอนอกใช้แขนสอดเขเที่รอบคอของเขา มือหนาจับเข้าที่สะโพกของผมยกขึ้นแล้วกระหน่ำแรงสอดใส่อย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่ใกล้ปลดปล่อย




“อ๊า อ๊ะ ใกล้ อื้อจะออกแล้ว แรง อ๊า แรงอีก” ผมร้องออกมาอย่างสุดจะกลั้น เขาเร่งตัวเองจนผมตัวโยน ไม่นานความอุ่นวาบก็เข้ามาในตัวผมพร้อมอาการกระตุกสองสามครั้งทั้งผมและเขา ผมหอบหายใจ ในหัวมันมึนไปหมด เจ็บและหมดแรง




“อีกรอบนะ” ผมอยากจะพักแต่อย่างว่าแหละครับ ผมจะไปขัดอะไรเขาได้ บทเพลงอันร้อนแรงของเขาและผมก็ยาวนานกว่าจะจบ กว่าเขาจะอิ่มเล่นเอาผมสลบไปเลยทีเดียว สรุปแล้วอย่างที่เขาว่านั่นแหละครับ เสื้อผ้าของผมคงไม่จำเป็นแล้วจริงๆ เพราะเขาไม่ปล่อยให้ผมได้ใส่มัน เขาว่าผมเป็นเมีย แค่อยู่บ้าน กวาดบ้าน ทำกับข้าวก็พอ ถ้ามันโล่ง ก็ใส่เสื้อเขาตัวเดียวก็พอ หึหึ แต่พอผมใส่ทีไร ก็จบลงที่เตียงทุ๊กกกที เฮ้อออ นี่แหละครับเรื่องจริง ไม่เหมือนในนิทานสักนิ๊ดดดดดดดดด เชื่อผมเถอะครับ หมาป่านะไม่ได้เจ้าเลห์เล๊ยยย สู้นายพรานไม่ได้เลยสักนิด




‘อ๊ะ เดี๋ยวสิ อื้ออ ผมเล่าให้เพื่อนๆฟังเรื่องจริงอยู่นะ ปล่อยก่อน’



‘ไม่ต้องเล่าแล้วละ ถ้าเขาอยากรู้ก็ทำให้เขาดูเสียก็สิ้นเรื่อง’




‘อ๊ะ ไม่ได้นะ อื้ออออ’



ทุกคนครับ ผมยังไงก็เอ่อ จบเท่านี้ละเนอะ อย่าตามเข้าไปดูเลย มันไม่มีอะไรจริงจริ๊งงงงงง ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ สงสัยคงไม่มีแรงมาเล่าอะไรแล้ว










The End
[/size][/color]








จบแล้วนะคะกับคู่นี้ แต่เรายังมีนิทานเรื่องอื่นมาอีกแน่นอน ยังไงขอเม้นกำลังใจหน่อยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ  เจอกันอาทิตย์หน้านะคะ :bye2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เรียกได้ว่า...หักมุม รอเรื่องต่อไปจ้า o13

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
คุณหมาป่า น่าสงสารจริงจริ๊งงงง  :-[

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
จริงๆแล้วคือนายพรานเจ้าเล่ห์สินะ ฮาาาาา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โถ...หมาป่าเอ๋ย

สนุกดี ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
เจ้าชายกบ 1/2



ใครกัน ใครบอกกันนะว่าเรื่องนี้ข้าจะต้องจูบเจ้าหญิง มันไม่ใช่เรื่องจริงของข้าสักนิด หึหึ สงสัยคนเล่าเรื่องนี้คงเห็นว่า วิธีคืนร่างของข้ามันแปลกเกินไปกระมัง อา...หากจะให้ข้าอธิบาย ข้าคงต้องเล่าเสียตั้งแต่ต้น เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นวันนั้น
             

 “เจ้าชาย เจ้าชายขอรับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับเจ้าชาย” ข้าตวัดสายตามองผู้มาใหม่อย่างไม่สบอารมณ์ นี่มันเวลาพักผ่อนของข้านะ


“มีอะไรสำคัญนักรึ ถึงมารบกวนข้า” ร่างของทหารตรงหน้าโค้งตัวอย่างขออภัย


“ขออภัยขอรับ แต่พระราชาทรงให้มาเรียนเจ้าชายเช่นนี้ขอรับกระหม่อม”


เฮ้ออ เสด็จพ่อสินะ



ผมโบกมือไล่ทหารคนนั้น เขาโค้งคำนับแล้วเดินออกไป



“คราวนี้เสด็จพ่อจะเล่นอะไรอีกละ” ข้าบ่นพึมพำคนเดียวลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงเข้าไปยังปราสาทสูง เสด็จพ่อจะต้องเล่นพิเรนทร์อะไรอีกแน่ ข้าต้องระวังตัวเอาไว้ก่อน มีเจ้าชายคนไหนลำบากเช่นข้าบ้างไหม ต้องมาระแวงพ่อตนเองเช่นนี้ ข้าสาวเท้าเข้าไปยังห้องโถงยิ่งเร่งความเร็วตัวขึ้นเมื่อเห็นร่างของบิดายืนอยู่ไม่ไกล



“เสด็จพ่อ เรียกหาลูกหรือขอรับ” เสด็จพ่อหันหน้ามามอง สีหน้าแววตาฉายแววกังวล



“อา....มาแล้วหรือโจเซฟ พ่อมีเรื่องกังวลใจยิ่งนัก ดูเหมือนพ่อจะป่วย” ร่างบางทรงสง่าของเสด็จพ่อของข้าทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ยกมือขวาขึ้นกุมขมับอย่างน่าเห็นใจ



“หมอทรงว่าอย่างไรบ้างขอรับ เสด็จพ่อป่วยเป็นอะไร” ข้าทิ้งตัวลงนั่งเคียงข้างกายบิดา



“หมอหลวงบอกพ่ออาจจะอยู่ได้ไหมไม่นาน เนื่องด้วยอายุขอพ่อที่มากขึ้นทุกปี” บิดาช้าหันกลับมา ยกมือของข้าขึ้นมากุมไว้



“แต่งงานเถิดลูกรัก พ่ออยากเห็นเจ้าแต่งงาน” นั่นประไร ข้าว่าแล้วเชียว
ข้ากรอกตาไปมา ดึงมือออกแล้วกุมมือพระบิดาเอาไว้แทน



“ลูกจะแต่งแน่นอนขอรับ หากเจอคนที่ถูกใจลูก” เสด็จพ่อทำหน้าบึ้งทันที กระชากมือตนออกจากมือของข้าอย่างแรง



“เจ้าพูดเช่นนี้ทุกที ข้าเห็นเจ้าก็ชอบทุกคน ใยไม่แต่งเสียสักคนเล่า”



“หญิงพวกนั้นลูกหาได้ชอบไม่ขอรับ”



“ไม่ชอบ!! ไม่ชอบแล้วไปป้อยอเขาทำไมโจเซฟ เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกทำตัวเสเพลแล้วหาใครอย่างจริงจังเสียที!!” ข้ายกมือขึ้นมาอุดหูไว้ เมื่อพระบิดาเริ่มเสียงดัง



“เสด็จพ่อ ก็ลูกชอบของสวยงาม จะให้ละเลยพวกนางลูกจะทำได้เช่นไรละขอรับ ดูพวกนางสิ งดงามกันเช่นนั้น ท่านพ่อจะให้ลูกทำเช่นไร”




“ก็แต่งงานกับใครสักคนสิโว๊ยยยยยย!!!!”
ทุกคนในท้องพระโรงสะดุ้งสุดตัว เมื่อพระบิดาของข้าระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหว ลำบากพ่อมดหลวงของเราต้องสะกิดเตือน



“เอ่อ.....องค์ราชาขอรับ เก็บอาการนิดขอรับ” นั่นทำให้พ่อขอข้ารู้สึกตัว เกาแก้มตนอย่างเขิลอาย



อา น่ารัก หรือข้าจะเก็บท่านพ่อไว้อีกคนดี?



“อะ...จริงสิแกริค ข้าตกลงๆ ทำเลย ทำเดี๋ยวนี้เลย ไม่อย่างนั้น ข้าต้องประสาทเพราะไอลูกบ้านี่แน่ๆ” เสด็จพ่อเอื้อมมือไปจับแขนของแกริคพร้อมเขย่าเบาๆ แกริคมองแต่ก็ส่งยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู



เดี๋ยวนะ......มันควรเป็นแบบนั้นเหรอ หรือข้าที่คิดมากไป ช่างเถอะ กลับเข้าเรื่องดีกว่า ข้ายืนมองทั้งเสด็จพ่อและแกริคด้วยความสงสัย แต่ไม่นานแกริคก็เดินมาตรงหน้าของข้า ความสูงของเราทั้งคู่พอๆกัน แกริคยื่นมอออกมาทาบลงที่เหนือศรีษะ แสงสีทองวาบสว่างขึ้นเป็นลายวงแหวนเวทย์



“ร่างกายหาใช่ร่างกาย จิตใจสิใช่ตัวตน หากค้นพบเมื่อใด กายาจะกลับคืน” จบคำกล่าวของแกริค ทุกอย่างสว่างไปทั่วทั้งท้อพระโรง ข้ายกมือขึ้นป้องแสง เมื่อแสงสว่างตรงหน้าค่อยลดลง ข้าจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง อื๋ออ ทำไมทุกคนตัวใหญ่ขึ้น



“โจเซฟ ใช่ว่าพ่อไม่รักเจ้าหรืออะไรเช่นนั้นหรอกนะ แต่พ่อต้องสั่งสอนเจ้า หาไม่แล้ว เจ้าคงหาคนของหัวใจเจ้ามิเจอ” พ่อข้าก้มลงมาพูดกับข้าที่ยังไม่ค่อยจะเข้าใจนัก แปลก ใยเสด็จพ่อจึงได้กล่าวเช่นนั้นกัน ข้ายกมือทั้งสองขึ้นมามอง แต่....




“เสด็จพ่อ!!!! ทรงเล่นอะไรขอรับ คืนร่างให้ลูกนะ ลูกไม่อยากเป็นกบบบบ!!!!!” ใช่แล้วครับ เมือกลื่นๆทั้งกาย มือและเท้าที่กางออก หรือแม้กระทั่งปากที่กว้างกว่าคนธรรมาดา ไหนจะตัวข้าที่หดเล็กลงอีกเล่า แต่เมื่อพูดกับพ่อแล้วมิทรงทำอะไร ข้าจึงหันไปพูดกับตัวการแทน



“แกริค ข้าขอสั่งเจ้าในฐานะเจ้าชายโจเซฟ คลายมนต์ให้ข้า เดี๋ยวนี้!!!!”



“ไหนเล่าเจ้าชาย ข้าเห็นแต่กบตัวกระจ้อยร่อยเท่านั้น หากอยากได้อำนาจสั่งการคืนมา ก็รีบคืนร่างเสียสิ ลูกรัก ฮ่าๆๆๆ” ฮึมม!!!! ร้ายกาจนักนะเสด็จพ่อ



“ต้องทำเช่นไร”



“ว่าอย่างไรนะ ตัวเจ้าเล็กจนข้าไม่ได้ยินเลย” เสด็จพ่อเอามือมาป้องหู ราวกับต้องการให้เสียงข้าส่งไปให้ถึง อย่าให้ถึงทีข้านะ หึย!!



“ข้า จะ ต้อง ทำ เช่น ไร เล่า ขอ รับ!!”



“หึหึ มิมีอะไรยากเลยขอรับเจ้าชายโจเซฟ หากท่านต้องการกลับคืนร่างเดิม ท่านเพียง *‘ดื่มน้ำจากกายชายบริสุทธิ์’* เป็นเวลาสามราตรี แน่นอน ชายผู้นั้นต้องสมยอมนะขอรับ หากแอบย่องไปขโมย หรือบังคับก็จะมิได้ผล” ชาย!! นี่ข้าฟังผิดไปใช่ไหม



“ชาย!! เจ้าจะบ้าหรือไรแกริค ข้าเป็นผู้ชาย ใยไม่ตั้งกฎเป็นหญิงสาวเล่า” ข้าโวยวายอย่างไม่เข้าใจ



“หากพ่อให้แกริคตั้งกฎสาวงาม ก็เข้าทางเข้านะสิเจ้าลูกบ้า ชอบนักนี่ของสวยๆงามๆ ชอบนักนี่หญิงพวกนั้น หึหึ จำไว้ ผู้ที่จะช่วยเจ้าได้ ต้องเป็นชายบริสุทธิ์เท่านั้น ไปได้!!”จบคำเสด็จพ่อ ทุกคนโค้งกายพร้อมเดินออกจากท้องพระโรงไป




“แกริค ส่งโจเซฟไปยังนอกราชอาณาจักรของเราเสีย เจ้ามีเวลาเพียง1เดือนเท่านั้นนะโจเซฟ หากช้ากว่านั้น พ่อจะยกราชสมบัติให้คนอื่น”



“เสด็จพ่อ!!!” ข้ากล่าวได้เพียงเท่านั้น เพราะเพียงจบประโยคตัวข้าก็มาอยู่ในป่าที่ข้าคุ้นเคยเป็นอย่างดี มาคราวก่อนข้าเป็นเจ้าชาย มาคราวนี้เป็นกบเสียอย่างนั้น ชายบริสุทธิ์ เหอะ!! คนเช่นนั้นยังจะมีอยู่อีกรึ
ข้าเดิน เอ่อ ไม่สิ ข้ากระโดดไปข้างหน้ากับเส้นทางที่คุ้นเคย หากจำไม่ผิด ชายป่าด้านหน้านี้ เป็นอาณาจักรที่ทำการค้ากับเสด็จพ่อบ่อย ได้ยินว่ามีบุตรชายอยู่หนึ่งคน ยังไงคงต้องลองไปดูก่อนก็แล้วกัน เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นข้าจึงมุ่งกระโดดตรงไปทันที
เสียงเจื้อยแจ้วดังอื้ออึงของผู้คนมากมายภายในเมืองยิ่งคนเยอะมากเท่าไหร่ ข้ายิ่งต้องระวังมากขึ้นเท่านั้น ข้ากระโดดหลบฝ่าเท้าของผู้คนไปมาแต่ใช่ส่าข้าจะหลบพ้นทุกเท้าไป ตัวข้าเจ็บระบมไปหมด ขาที่ใช้กระโดดก็ไม่สามารถกระโดดได้อีก เพราะแรงเตะจากคนในเมือง กบอย่างข้าน่ารังเกียจนักหรือไรนะ ข้าลากตัวเองมาพักตรงมุมเสาใช้หลบแดดที่ร้อนจ้าและฝูงคนที่เดินเบียดกันไปมา เจ็บชะมัด นี่แค่วันแรกข้าก็ต้องเจ็บเช่นนี้แล้วหรือ



“เสด็จพ่อนะ เสด็จพ่อ ทรงทราบหรือไม่ว่าข้าเจ็บแค่ไหน” ข้านั่งมองเหม่อไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย แต่ก็ต้องดึงสติกลับมา เมื่อพบว่ามีเงาดำทะมึนมาบดบังการมองเห็น



“เจ้าบาดเจ็บหรือเจ้ากบน้อย เป็นอะไรมากไหม” เสียงนุ่มของใครบางคนเรียกให้ข้าต้องแหงนหน้าขึ้นมอง



อา งดงามอะไรเช่นนี้ ใครกันนะ



“เจ้าชายเลนนี่ขอรับ ไปกันเถอะขอรับอย่ามัวเสียเวลากับเจ้ากบสกปรกนี่เลย” กบสกปรก กล้าว่าข้าเชียวหรือเจ้าคนชั้นต่ำ!!



“ชู่!! อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวก็ถูกเจอหรอก บอกแล้วนี่ ข้าชื่อเลน ไม่ใช่เจ้าชายเลนนี่”



“อ๊ะ!!! ขอรับ เอ่อ ข้าเข้าใจแล้ว ไปเถอะเจ้า เอ่อเลน ปล่อยเจ้ากบนี่ไว้นี่ก็ได้นี่”



“ได้ไง เจ้าไม่เห็นหรือว่าเขาบาดเจ็บ” มือบางช้อนตัวข้าขึ้น อา ทั้งนุ่มทั้งอุ่น



“ไปกันได้แล้วเกล ข้าจะกลับปราสาทแล้ว ไปกับข้านะเจ้ากบ ข้าจะรักษาเจ้าเอง” เจ้าชายองค์น้อยพูดกับข้ารับใช้ก่อนจะหันมาพูดกับข้าพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ข้ามองเขาตลอดทางที่เราเดินไปยังปราสาทใหญ่ ทุกอย่างมันช่างต่างจากเมืองข้านัก หรืออาจจะเป็นเพราะข้ายังไม่ชินถึงทำให้ข้านึกถึงบ้านขึ้นมา



“เอาละ เดี๋ยวข้าจะทำแผลให้เจ้านะ อย่าดิ้นนักละ ตัวเจ้าลื่นเกิดข้าทำเจ้าตกเตียงขึ้นมา อาจจะบาดเจ็บมากกว่านี้” คนตัวเล็กพูดกับข้าเมื่อกลับมาถึงห้องของเขา เขาวางข้าไว้บนเตียงนอนใหญ่ที่เรียบง่ายแต่ช่างน่าดูชมนัก



“เกล เจ้าออกไปเอาน้ำอุ่นมาให้ข้าแล้วก็สำรับยาด้วย ออ...อย่าลืมอาหารมาให้เจ้ากบด้วยละ”



“ขอรับเจ้าชายเลนนี่” ข้ารับใช้นามว่าเกลโค้งตัวแล้วเดินออกจากห้องไป



“เอาล่ะ ไหนมาดูกันสิว่า เจ้าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง” มือบางจับสองขาหน้า? (ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร) ขึ้นชูพร้อมใบหน้าเล็กก้มลงมามองหาบาดแผลของข้า เมื่อไม่เห็นว่ามี มือบางจึงคว้าหมับเข้าที่โคนขาข้างที่เดี้ยงของข้าอย่างแรง



“โอ้ยยย!!!” เออ ข้าแหกปากเองแหละ



“เฮ้ย!!” ร่างงามตรงหน้าปล่อยมือทันที และขยับหนีไปยังอีกมุมของเตียง



“เจ้า เจ้า เจ้า ใยเจ้าจึงพูดได้กัน” หน้างามฉายแววหวาดหวั่น



“อ่า ขออภัย เจ้าชายเลนนี่”



“เจ้า เป็นตัวอะไรกันแน่ บอกมานะ!!” มือบางคว้าหนังสือชูขึ้นราวกับต้องการจะข่มขู่



“ข้ามีนามว่า เจ้าชายโจเซฟ ข้ามาจากอาณาจักรใกล้เคียง ที่อยู่ถัดจากแนวป่าทางด้านนั้นไป ท่านคงจะเคยรู้จักกระมัง” ข้าแนะนำตัวอย่างสุภาพ อย่างไรเสียก็ต้องลองเสี่ยงกับร่างเล็กดู แม้ข้าจะมิได้พิศวาสชายก็ตาม



“จริงหรือ?” ร่างเล็กเริ่มมีสีหน้าลังเล มือบางเองก็ลดการตั้งการ์ดลง



“แน่นอน ข้ามิเคยโป้ปดผู้ใด” ข้ายืนยันเสียงแน่น



“เช่นนั้น ข้าต้องขออภัยด้วย เจ้าชายโจเซฟ หากไม่เป็นการเสียมารยาท ข้าขอบังอาจไต่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ใยท่านจึงมี เอ่อ ร่างเป็นกบเช่นนี้”



“เรื่องนี้เล่าแล้วก็ยาว เฮ้ออ” ข้าแกล้งทำเสียงเซร้าสร้อยเรียกความสงสารจากคนตรงหน้า



“เล่าเถิด หากมีอะไรช่วยได้ข้าจะช่วยท่านเอง”



“สัญญาได้รึไม่?” ผมถามด้วยแววตาพราวระยัยที่คนมองมิได้ล่วงรู้เลย



“ข้าให้คำสัตย์”



“ได้ ข้าโดนกลั่นแกล้งจากพ่อมดหลวงขออาณาจักร เขาจงใจแกล้งข้า สาปข้ามิพอ ยังส่งข้ามายังป่าที่เต็มไปด้วยอันตราย ข้ารึสู้เอาชีวิตรอดจากสัตว์ร้ายมิพอ ไหนจะต้องหลบตีน เอ่อ หลบฝ่าเท้าของใครอีกหลายคน ดูตัวข้าสิ ข้าตัวแค่นี้ จะไปสู้ใครเขาได้กัน”


หึหึ!! อย่าว่ากันเลยนะแกริค เจ้าทำข้าก่อน ว่าแต่ ข้าคงไม่ได้เสริมเติมแต่งเยอะไปใช่หรือไม่??



“โอ้.....ทำไมถึงใจร้ายได้เช่นนี้ แล้วใยเขาต้องกลั่นแกล้งท่านล่ะ” นั่นสิ ทำไมละ อา ข้าลืมคิดไป



“เพราะ เอ่อ เพราะ อ๋อ...เพราะเขาคิดว่าข้าไปแย่งชิงหญิงที่เขาหมายตาเอาไว้ ทั้งที่ความจริงแล้วข้าเพียงมีน้ำใจให้นางเท่านั้น มิเคยคิดอื่นใดเลย” จริงจริ๊งงงงงงงงง



“แล้วเช่นนี้ ต้องทำอย่างไร ท่านจึงจะกลับคืนร่างเดิมเล่า” น้ำเสียงนุ่มถามไถ่อย่างห่วงใย



“ก่อนข้าจะตอบ ข้าขอถามท่านสักข้อได้รึไม่?”




“ได้สิ เชิญท่านถามข้าได้เลย” ร่างบางตอบกลับข้าด้วยรอยยิ้ม



“ท่านเคยมีสัมพันธ์กับสตรีคนใดหรือไม่” สิ้นคำถามข้า ใบหน้างามเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ



“ก็ ก็ ก็ยัง” ข้ายกยิ้มอย่างถูกใจ แต่คงต้องถามให้ครบล่ะนะ



“แล้วกับบุรุษเล่า เคยรึไม่?”



“ท่าน ท่าน ท่านเห็นเราเป็นคนเช่นไร ใยจึงถามข้าเช่นนี้” จากที่แดงจากความเขินอาย ก็แปลเปลี่ยนเป็นโกรธ



“ขออภัยจริงๆ แต่นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก ข้ามิได้มีเจตนาดูแคลนท่านหรืออย่างไร”



“ไม่ ไม่เคยแน่นอน” ใบหน้างามเชิดขึ้นตอบ



“ดีๆ เอ่อ ข้าหมายถึง หากเป็นเช่นนั้น ท่านก็คงช่วยข้าได้” เจ้าชายเลนนี่หันขวับกลับมามองข้าทันที



“จริงรึ ไหนๆ ขอเพียงท่านบอกวิธีมา ข้าสัญญาจะช่วยท่านอย่างเต็มที่”



“อา ข้าถือว่าท่านให้คำสัตย์กับข้าแล้วนะ” เจ้าชายเลนนี่พยักหน้าอย่างรวดเร็ว ข้าสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเอ่ยตอบ



“ข้า จะต้องดื่มน้ำจากกายชายบริสุทธิ์”



“?????”



“เอ่อ ท่านอาจจะไม่เข้าใจ ข้าจะอธิบายให้ฟัง” โอ้ย ข้าอยากจะบ้า เกิดมาข้าไม่เคยต้องเขินอายอะไรกับใครเขาขนาดนี้ แค่อธิบายไปว่ามันคือสิ่งที่หลั่งออกมายามสุขสมแค่นี้ มันยากอะไรนักนะ



“มันคือ อ่า มันคือน้ำแห่งชีวิตของบุรุษเพศ โอ้ยยย ข้าไม่รู้จะอธิบายเช่นไรแล้ว หากเจ้าไม่เข้าใจ คืนนี้ข้าจะสอนเจ้าเอง แต่ตอนนี้ เก็บเรื่องที่ข้าเป็นใครไว้เป็นความลับด้วยนะ ไม่เช่นนั้นคงเกิดปัญหาตามมา”



“อะ อ๋อ ได้ๆ ข้ายังไม่เข้าใจเท่าไหร่ ท่านบอกข้าคืนนี้ก็ได้ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องท่านข้าจะไม่บอกใครแน่นอน” ข้าลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อย วันนี้ข้าจะทำความเข้าใจกับเขาแล้วพรุ่งนี้ค่อยเริ่มมันก็ได้  สู้สิโจเซฟ แค่สามราตรีเท่านั้น แล้วทุกอย่างจะเหมือนเดิม



ไม่นานข้ารับใช้คนเดิมก็กลับเข้ามาพร้อมสำรับยาที่เจ้าชายเลนนี่สั่งไว้พร้อมด้วยอาหารละลานตา มือบางของเจ้าชายเลนนี่หยิบผ้าสีขาวบางๆขึ้นมาพันไว้บริเวณขาของข้าอย่างเบามือจนข้าแทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนักมือของเขาที่กดลงมา ข้ายอมรับเลยว่าเลนนี่ใส่ใจข้ามากกว่าหญิงสาวคนใดที่ข้าได้พานพบและนั่น ทำให้หัวใจข้าเต้นแปลกๆ






ขอบคุณทุกๆคอมเม้นและทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แม้จะน้อยแต่คุณคือกำลังใจที่เราจะเขียนต่อ ดีใจที่เข้ามาอ่านและชอบนะคะ :กอด1: :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2017 14:04:28 โดย llมว_น้oe »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เป็นเจ้าชายกบเวอร์ชั่นเจ้าเล่ห์หล่ะเซ่!!!
เป็น-กำ-ลัง-ใจ-ให้-นา-จา    o13

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ถ้าพูดว่า รอตอนต่อไป จะเป็นการหื่นไปไหมพะย่ะครับ?

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
เจ้าชายกบ 2/2


     “เอาละข้าพร้อมแล้ว” เลนนี่พูดดับข้าที่นอนพาดขาแคะขี้ฟันอยู่หลังมื้อค่ำสุดวิเศษ



“พร้อมเรื่องอะไร” ข้าถามพร้อมยกน้ำขึ้นดื่ม



“ก็ท่านบอกจะสอนข้าว่า ‘น้ำแห่งชีวิต’ คืออะไรนี่”



พรูดดดดดด



ข้าพ่นน้ำที่ยกดื่มเมื่อสักครู่ออกทันทีที่จบประโยคนั่น



“อะ อ๋อ ข้าเกือบลืมไปแล้วสิเนี่ย ฮะๆ” ข้าสบตามองแววตาใสแจ๋วที่ไม่เจือปนสิ่งใดเลยนอกจากความอยากรู้ของเจ้าตัว



“เอ่อ ถ้าเจ้าพร้อมแล้วก็ขึ้นไปบนเตียงได้เลย” ไม่รอช้า เลนนี่ก็กระโดดขึ้นเตียงด้วยความตื่นเต้น



“เริ่มเลยๆ ข้าพร้อมแล้ว” จ้ะ ดีจ้ะดี



“ถอดกางเกงออกให้หมดนะเลนนี่ ไม่เช่นนั้นข้าคงสอนเจ้าไม่ได้” แม้จะมีสีหน้างงงวย แต่มือบางก็ยอมปลดกางเกงออกอย่างไม่
ลังเล ผิวขาวใต้เนื้อผ้าเกือบทำให้ข้าเลือดพุ่ง



“แล้วข้าต้องทำยังไงต่อ”



“ใช้มือของเจ้าสัมผัส สิ่งนั้นเสียสิ” ข้าพูดพร้อมเบนสายตาให้เจ้าชายเลนนี่ได้เข้าใจในความหมายของ ‘สิ่งนั้น’ และเหมือนเจ้าตัวจะเข้าใจดีถึงได้ทำตามที่ข้าบอก



“ขยับมือเจ้าด้วย ขยับขึ้นลงจนกว่ามันจะแข็งตัว”



“อื้ออ ข้า ข้ารู้สึกแปลกๆ” ใบหน้าของเลนนี่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ



“ใช่ๆ นั่นล่ะคือการเริ่มต้น” ข้าจ้องมองการกระทำตรงหน้าอย่างลืมตัว นี่ข้าเป็นโรคจิตหรือไรกันนะ



“อ๊ะ มันร้อน อื้อออ ข้า ข้า อ๊ะ อ๊ะ”



“ขยับเร็วขึ้นสิ เร็วขึ้นอีกเรื่อยๆ” เสียงข้าเริ่มแหบพร่ามากขึ้น อา ทำไมร่างกายขาวผ่องของชายตรงหน้าถึงเร่าร้อนเช่นนี้กันนะ



“อื้อ อ๊ะ อ๊า” ร่างเล็กกระตุกเกร็งจนน้ำขาวขุ่นเปรอะเปื้อนมือเล็กๆ



“นี่คืออะไรหรือเจ้าชายโจเซฟ” เลนนี่ยกมือที่เปรอะน้ำขาวขุ่นนั่นขึ้นมาดู



“อ่า นั่นละสิ่งที่จะล้างคำสาปให้ข้า” ใบหน้างามฉายแววสงสัย



“มันกินได้หรือ”



“ปกติก็ไม่มีผู้ใดกินมันหรอก อ๊ะ เฮ้ย อย่ากินๆ” ข้าส่งเสียงห้ามเมื่องร่างขาวนวลตรงหน้ายกมันขึ้นมาเลีย



“แหวะ ไม่เห็นจะอร่อยเลย”



“ก็ใครให้เจ้ากินกันเล่า” เลนนี่มองข้าก่อนจะยื่นมือมาตรงหน้าข้า



“กินสิ นี่ไงท่านจะได้ล้างคำสาป”



“ข้าต้องใช้ก็จริงแต่ ต้องมาจากความยินยอมจากเจ้า"



“ก็นี่อย่างไร ข้ายินยอม มิได้ถูกท่านบังคับเสียหน่อย” เลนนี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม



“จริงของเจ้า” ข้าจรดริมฝีปากกับปลายนิ้วเล็กที่ชุ่มไปด้วยน้ำสีขาว ตวัดลิ้นเลียและดูดกลืนจนหมดสิ้น ข้าไม่เคยคิดเลยว่า หยาด
น้ำจากร่างบางตรงหน้า จะหวานเช่นนี้ ข้ามองหน้างามที่ส่งยิ้มให้ข้า



“เช่นนั้นข้าขอไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัวไปหมดแล้ว” ร่างเล็กบิดตัวไปมาอย่างเมื่อยล้า



“อีกสองราตรีคงไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องห่วงนะข้าจะช่วยท่านเอง” เลนนี่หันมาส่งยิ้มให้ข้าแล้วเดินออกไป เฮ้ออ อีกสองราตรีสินะ สองราตรีข้าก็จะได้กลับอาณาจักร แต่ทำไม ทำไมใจข้าถึงเจ็บปวดเช่นนี้




               ในที่สุดก็ผ่านพ้นมาสองราตรีแล้วที่ตัวข้าดื่มน้ำจากกายเลนนี่เพื่อล้างค่ำสาป แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นกับคืนสุดท้ายของข้า เลนนี่เปิดประตูห้องนอนเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นั่นทำให้ข้าอดที่จะถามไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นหรือ ใยเจ้ามีสีหน้าเช่นนั้น” เลนนี่ถอนหายใจ



“ก็เสด็จพ่อของข้านะสิ จะให้ข้ามหมั้นหมายกับเจ้าหญิงจากอาณาจักรทางใต้” อา เป็นชายก็ตั้งแต่งงาน ข้าจำได้ดีที่เสด็จพ่อได้รับสั่งกับข้าที่เสเพล แต่ข้ากลับไม่อยากได้ยินประโยคนี้จากคนตรงหน้าข้าสักนิด



“เจ้าจะหมั้นหรือ?” ข้าถามเลนนี่ด้วยเสียงที่แผ่วเบา



“อย่าทำหน้าเช่นนั้นเลย ข้าสัญญา หากท่านกลับคืนร่างเดิมแล้วคิดถึงข้าล่ะก็ ข้าจะไปหาท่านแน่นอน” ใบหน้างามยิ้มแย้มราวกับว่าเมื่อสักครู่ไม่ได้พูดเรื่องซีเรียสใดๆ



“หากเจ้าแต่งงาน เจ้าก็คงไม่มีเวลานักหรอก”



“ถ้าเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าสาวของข้าไปเยี่ยมเยียนท่านเช่นกัน” อย่างนั้นหรือ เจ้าคิดจะมานางมาเยี่ยมข้าหรือ เจ้ามั่นใจได้อย่างไร ว่าเจ้าจะได้หมั้นหมายกับนาง หึ! คนอย่างข้า ไม่มีวันยอม!!!



“เจ้าคงยังไม่รู้สินะเลนนี่ ว่าการแต่งงานมีไว้กับชายหรือหญิงที่บริสุทธิ์เท่านั้น แต่เจ้าที่มอบน้ำจากกายเจ้าให้ข้าดื่มทุกราตรี นั่นเท่ากับเจ้ามอบริสุทธิ์อีกต่อไป” หากมันจะทำให้เจ้ายังคงเป็นของข้า ไม่ว่าสิ่งใด ข้าก็จะทำ เลนนี่มีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ข้ากล่าวออกไป



“จริงหรือ ทำเช่นไรดี หากเป็นเช่นนั้น ข้าคงอกตัญญูต่อเสด็จพ่อเป็นแน่ โธ่” มือบางยกขึ้นปิดใบหน้างามอย่างสิ้นหวัง



“อย่าห่วงเลยเลนนี่ เมื่อข้าทำให้เจ้าไม่บริสุทธิ์ ข้าจะแต่งกับเจ้าเอง”



“ต่อไปนี้ เจ้าเป็นของข้า ข้าดื่มน้ำจากกายเจ้า หมายความว่าเจ้าเป็นของข้าแล้ว เข้าใจไหมเลนนี่” เลนนี่พยักหน้าตอบรับ เราต่างส่งยิ้มให้กัน ดีจริงที่เลนนี่ไม่ประสากับเรื่องแบบนี้ไม่เช่นนั้น ข้าคงต้องคิดวิธีอีกหลายตลบ



“จริงด้วย พ้นราตรีนี้ไป ท่านก็จะกลับคืนร่างใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นข้าจะรีบทำ ท่านจะได้กลับคืนร่างเดิม” เลนนี่กล่าวด้วยอารมณ์ดี ไม่รอให้ข้าตอบรับสิ่งใด ร่างบางก็ลงมือปลดกางเกงลงจนสิ้น มือขาวค่อยจับแก่นกายสีชมพูระเรื่อพร้อมขยับอย่างเนิบช้าก่อนที่มันจะเร็วขึ้นตามแรงปราถนา เสียงครางอื้ออึงยิ่งทำให้ข้าแทบจะทรไม่ไหว ข้าจึงต้องหลับตาลงสะกดกลั้นอารมณ์นั่นไว้ ไม่นานร่างเล็กก็กระตุกพร้อมปลดปล่อยน้ำสีขุ่นออกมา นิ้วเล็กๆยื่นมาตรงหน้าข้า ข้าจึงดูดเลียมันจนหมด ความหวานละมุนติดปลายลิ้นจนอยากลิ้มลองไม่รู้เบื่อ



“อะไรน่ะ” วงแหวนเวทย์ขยายใหญ่ขึ้นกลางศรีษะพร้อมแสงสีทองที่สว่างวาบจนต้องหลับตา อา ในที่สุดตัวข้าก็จะเป็นตัวข้าเสียที



“ทะ ท่าน ท่านคือ” ข้าก้มลงมองดูร่างกายตัวเองก่อนจะเอื้อมือไปลูบไล้แก้มใสเบาๆ



“ใช่แล้ว ข้าเองเลนนี่ ยอดรักของข้า” ใบหน้างามแดงระเรื่อเมื่อข้าสบสายตาหวานเยิ้มอย่างไม่ปิดบัง



“ขะ ขะ ข้า ข้าจะนอนแล้ว” เลนนี่เบี่ยงหน้าหนีคว้ากางเกงมาใส่แล้วกระโดดขึ้นนอนลงบนเตียง ข้าสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนใหญ่เอื้อมือไปกอดร่างมสแนบอก กดจูบแผ่วเบาลงบนศรีษะเล็กๆ



“ฝันดีเลนนี่”



“เลนนี่ เจ้าตื่นหรือยัง พ่อเข้าไปนะ”



“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!” เลนนี่และข้าสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงดังมากเกิดขึ้นภายในห้อง อา จะเสียงดังก็คงมิแปลก หากได้มาเห็นภาพลูกชายของตนกกกอดอยู่กับชายแปลกหน้าอีกคนอยู่บนเตียง



“มีอะไร เกิดอะไรขึ้นขอรับเสด็จพ่อ” เลนนี่ลุกขึ้นจากเตียงพุ่งตรงไปหาบิดาตนเองด้วยความห่วงใย ในขณะที่ข้าเพียงลุกขึ้นช้าๆโดยไม่เร่งรีบอะไร



“นั่นใครเลนนี่ เจ้ากล้านอนกกกอดกับชายแปลกหน้าในปราสาทของข้าเชียวหรือ” พระราชากล่าวถามอย่างใจเย็นทั้งๆที่สีหน้าไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย



“โอ้ว ข้าขอแนะนำตัว ข้า...เจ้าชายโจเซฟจากอาณาจักรเหนือขอรับ” พระราชาชะงักและมีสีหน้าที่ดีขึ้น แม้จะเบาใจที่ชายแปลกหน้าไม่ได้ไร้หัวนอนปลายเท้า แต่เรื่องกอดบุตรชายตนเล่า



“แล้วใยเจ้าทั้งสองจึงได้กอดกันเสียแนบแน่น ราวกับว่า...”



“เสด็จพ่อ ลูกตัดสินใจแต่งงานกับเขาแล้วขอรับ” พระราชาเบิกตากว้างอย่างตกใจ



“เจ้า เจ้า เจ้าว่าอย่างไรนะ พ่อไม่ยอม เจ้าต้องหมั้นกับเจ้าหญิงเมล่าจากอาณาจักรทางใต้!!!”



“แต่ลูกเป็นของเขาแล้วนะเสด็จพ่อ!!!” คราวนี้พระราชาถึงกับน้ำลายฟูมปากเลยทีเดียวเมื่อเจอประโยคเด็ดที่ข้าพร่ำบอกเจ้าตัวเมื่อคืน



“เจ้า เจ้าสองคน อั่ก” ซวยสิขอรับ ว่าที่พ่อตาข้าเพิ่งเป็นลมล้มพับไปเสียอย่างนั้นลำบากเหล้าหมอหลวงต้องหาหยูกยามาปรนนิบัติกันยกใหญ่ เลนนี่ตามพ่อมดหลวงแห่งอาณาจักรมาให้ข้าเพื่อส่งสารหาเสด็จพ่อของข้าเรื่องการสู่ขอเลนนี่อย่างเป็นทางการ โดยตอนแรกนั้นท่านพ่อตาข้าปฏิเสธทุกข้อเสนอแต่เจอแววตาและสีหน้าออดอ้อนของเสด็จพ่อของข้าเข้าไปก็จอดสนิท ในที่สุดเราสองคนก็ไก้แต่งงานกันจนได้



“เลนนี่ วันนี้เราแต่งงานกันแล้ว เจ้าก็ต้องเรียกข้าว่าพี่ด้วยนะ” ข้าไล่นิ้วไปมาบนใบหน้างาม



“ก็ได้หรอก แต่ข้าไม่ชินนี่” อา อย่างนี้ข้าคงต้องฝึก ข้าโถมตัวลงทับร่างเล็กของเลนนี่ลงบนเตียงนอนใหญ่ ยันกายขึ้นมองตากลมโตอย่างเจ้าเล่ห์



“ถ้าเช่นนั้น ข้าจะฝึกเจ้า จนชินเชียว ยอดรัก”



ข้าประกบปากกับเลนนี่ สอดปลายลิ้นเข้าไปชออนไชหาความหวานล่ำที่อยากลิ้มลอง เลนนี่ที่ไม่ประสาก็เกี่ยวกระหวัดลิ้นร้อนอย่างเงอะงะ แต่นั่นยิ่งทำให้เลือดในกายข้าร้อนรุ่ม ข้าปลดชุนทสงการของเราทั้งคู่อย่สงเร่งรีบไม่นานนัก ข้าและเลนนี่ก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า มือของข้าลูบไล้ยอดอกเล็ก บีบเบาๆจนร่างบางส่งเสียงครางในขณะที่ริมฝีปากยังถูกข้าดูดกลืน ข้าค่อยๆจูบไล่ลงมายังแอ่งชีพจร ไล่ลงเรื่อยๆจนเจอยอดสีอ่อนที่ล่อตายิ่ง ไม่รอช้าข้าก้มลงดูดกลืนลิ้มลองจนเกิดเสียงไปทั่วทั้งห้อง



“อ๊ะ อื้ออ” เสียงหวานครางกระเส่าเมื่อมือของข้าค่อยๆจับตัวตนของเข้าเอาไว้ ขยับมือแผ่วเบาโดยที่ไม่ปล่อยริมฝีปากออกจากยอดอกด้วยซ้ำ



“บอกข้าสิเลนนี่ ดีกว่าที่เจ้าทำมันด้วยตนเองหรือไม่” ข้าผละขึ้นมาถามด้วยแววตาหวายเชื่อม



“อื้อ ข้าไม่ตอบได้หรือไม่ ข้าอาย”



“จะอายไปใย เราเป็นผัวเมียกันแล้ว เจ้ามิต้องอายหรอก” ข้าจึงแกล้งขยับมือเร็วขึ้น



“อ๊า ท่านแกล้งข้า อย่า” เมื่อได้ยินเสียงหวานกล่าวหา ข้าจึงหยุดมือทันที



“พี่ทำอะไรเจ้าหนือเลนนี่ หืมม เจ้าว่าพี่แกล้ง พี่ก็หยุดแล้ว เอาล่ะ หากอยากให้พี่ช่วยเจ้า ก็บอกพี่มาสิว่า พี่ทำแบบนี้กับเจ้าดีกว่าที่เจ้าทำมันด้วยตนเองหรือไม่” ข้าค่อยขยับมือเชื่องช้า และรวดเร็วสลับกัน จนร่างเล็กสะท้านไปทั้งกาย



“อ๊ะ อ๊า ท่าน ท่านทำมัน อื้อ ดีกว่า อ๊ะ อ๊ะ”



“ดี หากข้าทำให้เจ้ารู้สึกดีเช่นนั้น ก็เรียกพี่ว่าพี่สิ”



“อื้อ ท่านพี่ อย่าแกล้งข้า อ๊า” เมื่อข้าได้ยินคำที่ต้องการฟัง ข้าจึงเร่งมือให้ร่างบางถึงจุดหมายโดยเร็ว จนน้ำรักของร่างบางเปรอะมือข้าจนชุ่ม ลมหายหอบถี่ๆของเลนนี่ทำให้ข้ารู้ดีว่าเขายังตกอยู่ในภวังค์ ข้าจึงสอดนิ้วเพื่อขยายช่องทางเล็กๆนั่นทีละนิ้วทีละนิ้ว จากการดิ้นรนแรกๆ เลนนี่ก็เริ่มคล้อยตามจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน เมื่อข้ามั้นใจว่าพร้อม ข้าจึงสอดใส่ตัวตนของข้าเข้าไปยังช่องทางเล็กๆอย่างช้าๆ




“อ๊ะ ท่าน ข้าเจ็บ อื้อ” มือบางยกขึ้นผลักไสข้า เมื่อความใหญ่โตของข้าเข้าไปได้เพียงครึ่ง



“อา ยอดรัก อดทนอีกนิด อืม” ข้าจึงก้มลงบดจูบเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้น มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาบีบยอดอกสีงาม อีกข้างก็ขยับแก่นกายของเขาให้ความเสียว.นมาแทนที่จนร่างเล็กลืมความปวดร้าวไป เมื่อร่างบางเริ่มส่งเสียงครางข้าจึงกดร่างให้จมหายไปจนหมด



“ไม่เป็นไรยอดรัก หมดแล้ว อา ข้างในตัวเจ้าช่างวิเศษนัก”



“จะ จริงหรือ” เลนนี่ถามด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา



“แน่นอน ที่รัก ข้าช่างโชคดีจริงๆ”



“ข้า ข้าอยากให้ท่านพี่มีความสุข หากมันทำให้ท่านพี่มีความสุขแล้วล่ะก็ ข้าไม่เจ็บเลยสักนิด” ใบหน้างามส่งรอยยิ้มหวานมาให้ข้า แม้ดวงตากลมจะมีหยาดน้ำตาคั่งค้างอยู่ก็ตาม



“เจ้านี่ อา อย่าโทษข้าเลย เจ้าพูดแบบนี้ ข้าคงห้ามตัวเองไม่อยู่แล้ว” ข้ายกขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นแนบสะโพก ก่อนจะโถมตัวกระแทกอย่างไม่อาจห้ามความปรารถนาได้ เสียงครวญครางของข้าและเลนนี่ดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องนอน เสียงเตียงกระทบผนังยามข้าเร่งเร้าจังหวะดังเสียจนหากใครมาได้ยินคงคิดวามันใกล้จะหักเป็นแน่ ทุกวิ่งเงียบงันราวกับเฝ้าฟังเสียงแห่งความสุขของเราทั้งสองทั้งคืน แน่นอนว่าข้าไม่ปล่อยให้เลนนี่ได้พักง่ายๆหรอก หึหึ





The End

                        ช่วง Talk กับllมว_น้oe

llมว_น้oe : สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาคุยกับผู้ชายที่ออกมาไม่กี่ฉากแต่ทำให้หลายๆคนหลงรัก คุณป๋าของโจเซฟ เอฟ เอฟ เอฟ

พระราชาบิดาโจเซฟ : บังอาจ เราเป็นกษัตริย์นะ เรียกเราว่าพระราชาสิ พระ-รา-ชา!!

llมว_น้oe : เอ่อ เจ้าค่ะ คือหลายๆคนถามมาว่า ทำไมจะต้องให้ไปลูกชาย ของท่านไปดื่มนเจากกายชายบริสุทธิ์เพื่อล้างคำสาปด้วยคะ มันน่าอายออกน๊า

พระราชาบิดาโจเซฟ : น่าอายตรงไหนกัน แค่น้ำตา เหงื่อ แค่นี้ เจ้าอายหรือ

llมว_น้oe : อุ้ยตายแล๊ววว นี่คุณป๋าไม่รู้หรือคะเนี่ย ว่าลูกชายคุณป๋าเค้า อุ๊บ อื้อ อื้อ (และแล้วก็มีมือปริศนามาปิดปากช้านนน)

พ่อมดหลวงแกริค : หึหึ พอแค่นี้ดีกว่านะขอรับ องค์ราชาถึงเวลาเยี่ยมราษฎรแล้วนะขอรับ (มองจิกแมวด้วยแววตาโหดเหี้ยม)

llมว_น้oe : (ขนลุกแต่อดฟินไม่ได้)

พระราชาบิดาโจเซฟ : อ๊ะ จริงด้วย ถึงเวลาแล้วๆ (ปรายตามองแมวด้วยแววตาเจ้าเลห์)

llมว_น้oe : (ชิบหายแล้วตรู)

พระราชาบิดาโจเซฟ : แกริค สาปยัยนี่เป็นกิ้งก่าเสียด้วย กล้าเรียกเราว่าคุณป๋าดีนัก สาปมันเลยๆ (กระทืบเท้าเต้นเร่าๆ)

พ่อมดหลวงแกริค : ขอรับองค์ราชา

llมว_น้oe : ไหงงั้นล่ะ อย่านะ อย่าทำแมว ม่ายยยยยย

พ่อมดหลวงแกริค : หึหึ เจ้าจะคืนร่างก็ต่อเมื่อ เจ้าแต่งเรื่องใหม่สำเร็จ มิเช่นนั้น จงอยู่ในร่างกิ้งก่าไปเถอะ ยัยจิ้งจก

llมว_น้oe : มันไม่เจรงงงงง

พระราชา/แกริค : ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ



ปล.สรุปแล้ว แมวเป็นสัตว์หลายชนิดเหลือเกินค่ะ จิ้งจกจากท่านพ่อมด กิ้งก่าจากคุณป๋า และแมวจากตัวแมวเอง คิดแล้วเครียด งั้นแมวไปแต่งเรื่องต่อไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะล้างคำสาปไม่ทัน เจอกันใหม่อาทิตย์หน้านะคะ ชวิ้งงง

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้องเลนนี่ช่างใสซื่อ..รอเทพนิยายเรื่องใหม่ เป็นกำลังใจให้ครัช  o13

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เป็นนิทานแนวใหม่ที่น่าติดตามมาก   :pig4: :3123:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
รอเรื่องต่อไปค่ะ เลนนี่ใสมากกกก น่ารักกก

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อิฉันดันจิ้นพระราชากับแกริคนี่สิคะ อร๊าย...

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ปีเตอร์แพน 1/2




                  ถ้าคุณเคยเป็นเด็ก คุณจะต้องเคยได้ยินดินแดนที่เด็กๆทุกคนใฝ่ฝันอยากจะเข้าไป นั่นคือ เนเวอร์แลนด์ และถ้าเคยได้ยินชื่อดินแดนแล้วล่ะก็ ต้องรู้จักเด็กชายผู้ไม่เคยโต ปีเตอร์แพนแน่ๆเวนดี้ พี่สาวคนโตและเด็กๆซึ่งเป็นน้องชายของเธอนั้นเป็นเด็กๆเพียงกลุ่มเดียวที่ได้เข้าไปทำความรู้จักโลกที่กล่าวมา

ในกลางดึกของคืนนั้น ปีเตอร์แพนได้พบกับเวนดี้และน้องๆของเธอทั้งสองคน ซึ่งทั้งสามต่างรบเร้าให้พาพวกเขาไปยังเนเวอร์แลนด์ด้วย

“พาฉันไปด้วยสิ ปีเตอร์แพน” เวนดี้ลูบไล้แขนของปีเตอร์แพนอย่างออดอ้อน

“กะ ก็ได้หรอก ถ้าเธอเป็นเด็ก” ปีเตอร์แพนที่ไม่คุ้นชินกับเด็กสาวแรกรุ่น ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก

“แต่ปีเตอร์” ทิวเกอร์เบลล์ส่งเสียงคัดค้าน

“เอาน่าทิงเกอร์ ไม่เป็นไรหรอก” เวนดี้มองทิวเกอร์เบลล์ด้วยหางตา ก่อนยิ้มเยาะที่มุมปาก





ปีเตอร์แพนจับตัวทิงเกอร์เบลล์เขย่าเบาๆบนตัวเด็กทั้งสามคนให้ผงทองหล่นลงบนตัวของพวกเขา ร่างกายของทั้งสามค่อยลอยขึ้นจากพื้น เมื่อมั่นใจแล้วว่าทั้งสามสามารถลอยตัวได้ปีเตอร์แพนจึงนำทางพาไปยังดินแดนเนเวอร์แลนด์ เวนดี้บินเคียงคู่ปีเตอร์แพนตลอดเวลา ชวนพูดคุยถามโน้นี่จนสร้างความไม่พอใจให้ทิวเกอร์เบลล์เป็นอย่างมาก ปีเตอร์แพนและเวนดี้พร้อมทั้งเด็กชายอีกสองคนบินข้ามทะเลสีฟ้า

“กัปตันฮุกนี่” เวนดี้พูดออกมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น ปีเตอร์แพนมองตามมือของเวนดี้ที่ขี้ลงไป

“ปีเตอร์....ไม่ลงไปจริงๆเหรอ” ทอบเกอร์เบลล์ถามเมื่อเห็นว่าปีเตอร์แพนจะบินผ่านไป ปีเตอร์แพนมองทิวเกอร์เบลล์ด้วยแววตาเฉยชา จนทิงเกอร์ต้องปิดปากเงียบ

“นี่บ้านเธอเหรอปีเตอร์แพน น่าอยู่จังเลย” เวดดี้มองไปรอบบ้านต้นไม้ ที่ประดับไปด้วยโฟนิเจอร์ไม้อีกหลายอย่าง

“ฉันดีใจที่เธอชอบนะ แต่ตอนนี้ฉันกับทิงเกอร์มีธุระที่จะต้องไปทำ พวกเธออยู่ที่นี่กันไปก่อนได้ไหม” เวนดี้ยิ้มหวานให้กับปีเตอร์แพน

“แน่นอน ฉันกับน้องๆอยู่กันได้ เธอไม่ต้องห่วงหรอก” ปีเตอร์แพนพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะบินออกไปจากหน้าต่างพริ้มทิงเกอร์เบลล์ที่ปรายสายตามามองเวนดี้





“ปีเตอร์ ฉันไม่ชอบยัยนั่นเลย” ทิงเกอร์เบลล์บอกถึงความรู้สึกภายใน

“ไม่เอาน่าทิงเกอร์ เวนดี้ก็นิสัยดีออก”

“อย่าบอกนะว่าเธอชอบยัยนั่น” ทิงเกอร์เบลล์ถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“ฉะ ฉันเปล่าพูดแบบนั้นเสียหน่อย” ปีเตอร์เสมองไปทางอื่น ระหว่างการบินจึงไม่มีคำพูดคุยใดเกิดขึ้นอีกจากทั้งคู่ ในที่สุด ปีเตอร์แพนและทิงเกอร์เบลล์ก็มาถึงเผ่าอินเดียแดง

“สวัสดีปีเตอร์แพนทิงเกอร์เบลล์” หัวหน้าเผ่ากล่าวทักทายกับปีเตอร์แพนและทิงเกอร์เบลล์

"เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าถึงได้เรียกพวกเรามา"

"อ่า.....เรื่องนั้น จะว่าอย่างไรดี" หัวหน้าเผ่าหลบสายตาไม่กล้าที่จะมองหน้าของปีเตอร์แพน

"ยังไง เราเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่า"

"โอเค" หัวหน้าเผ่านำทั้งสองเข้าไปในบ้านของตนเพื่อหารือเรื่องสำคัญ

"มีอะไรหรือท่านหัวหน้าเผ่า พูดมาเถอะอย่าได้เกรงใจกันอยู่เลย หากช่วยได้ผมยินดีที่จะช่วย" หัวหน้าเผ่าถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกมา

"ฉันอยากให้ลิลลี่แต่งงานกับเธอ"

"อะไรนะ / ว่าไงนะ!!!" ทิงเกอร์เบลล์และปีเตอร์แพนประสานเสียงกันอย่างตกใจ

"บอกตรงๆ ฉันเป็นห่วงอนาคตของลูกสาวฉัน ถ้าหากได้คนอย่างเธอมาดูแลลิลลี่ต่อแล้วละก็ ฉันคงเบาใจ"

"แต่ผม...คุณก็รู้ว่าผมโตได้เพียงเท่านี้ เราทุกคนจะมีอายุเท่าที่เราปารถนา และผมไม่ได้อยากจะโตขึ้น"

"ฉันรู้ แต่เพียงแค่ให้เธอแต่งกับลิลลี่ไปก่อนหากเธอปราถนาจะเป็นเด็ก ก็สุดแล้วแต่เธอ แต่หากเธอเกิดรักลูกสาวฉันแล้วอยากจะเป็นผู้ใหญ่ นั่นก็ไม่ได้เสียหายอะไร" หัวหน้าเผ่ากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

"เฮ้อ....เอาเถอะ ถ้าคุณว่าอย่างนั้น ผมจะแต่ง แต่หากลิลลี่ไม่แต่ง ผมจะไม่บังคับใจเธอนะ"

"ได้ๆๆ" หัวหน้าเผ่ายิ้มอย่างปิติเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่หวัง

"ถ้าอย่างนั้น อีกสองอาทิตย์ฉันจะจัดงานแต่งไว้รอนะ"

"หา!!!!!!!"







"กัปตันๆ ผมเจอสามคนนี้บนบ้านปีเตอร์แพน" ลูกน้องคนหนึ่งของกัปตันฮุกเรียกหัวหน้าของเขาด้วยเสียงที่ดังก้อง

"เอะอะอะไรของแกนักหนาวะ" ฮุกเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะเขากำลังฟัดสองสาวร่างอวบอิ่มอยู่ในห้องแต่ก็ต้องเสียอารมณ์เพราะเสียงของลูกน้องตนเอง

"ผมเจอเจ้าเด็กสามคนนี้ ในบ้านปีเตอร์แพน เอาไงดีกัปตัน" ฮุกมองเด็กทั้งสามที่ลูกน้องบอกด้วยสายตาเมินเฉยแต่เมื่อเห็นเด็กสาวร่างเล็กที่อยู่ในวัยแรกแย้ม นั่นยิ่งทำให้อารมณืที่เพิ่งจะดับไปพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ต่างจากเวนดี้นัก ร่างเล็กมองรูปร่างที่ผ่านการออกกำลังกามาอย่างหนัก ในหน้าที่หล่อเหลาคมคาย ไหนใครกันว่าไว้ ว่ากัปตันฮุกช่างแก่ ไหนใครกันบอกไว้ว่ากัปตันฮุกมีแขนเป็นตะขอ แล้วภาพที่อยู่ตรงหน้าเล่า กล้ามแขนเป็นมัดที่โผ่พ้นแขนเสื้อมานั่นไม่ใช่หรือของจริง

"หึหึ ชื่อะไรกันบ้างละเนี่ย" ฮุกถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์

"พวกเราไม่บอกแกหรอก แกเป็นคนไม่ดี/ใช่ๆ" น้องชายคนโตของเวนดี้ตอกกลับฮุกไปทันที

"นี่!!! เอ่อ...หนูชื่อเวนดี้ค่ะ เป็นเพื่อนของปีเตอร์แพนและนี่ก็น้องชายทั้งสองคนของหนู ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะกัปตันฮุก"เวนดี้หันมาดุน้องทั้งสองก่อนจะตอบกลับไปด้วยเสียงอ่อนหวาน

อา ของใกล้มือสินะ จะกินเลยดีไหมนะ

"เอาตัวไปไว้ในห้องของฉัน แล้วไล่ยัยพวกนั่นกลับไปด้วย เอาเงินให้แล้วพาไปส่งซะ อย่าให้ช้า หึหึ เสร็จแล้วให้คนส่งข่าวหาปีเตอร์แพนด้วยละ"

"ครับ กัปตัน!!" ทุกคนวิ่งวุ่นทำตามที่กัปตันของตนว่า

         เฮ้อออ......ไม่แคล้วจะโดนเขาเกลียดเข้าอีกน่ะสิ แสดงความรักไม่เป็นเลยน๊ากัปตันของเรา







ปีเตอร์แพนที่กลับมาจากการวางแผนงานแต่งของตนก็ต้องตกใจเมื่อภายในบ้านนั้นว่างเปล่าไม่มีเงาของทั้งสามคนที่ตนพามาแต่น้อย ทิงเกอร์เบลล์ยิ้มเยาะในใจเมื่อไม่เห็นเวนดี้อยู่ในบ้าน เธอเองก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงไม่ชอบเวนดี้นัก อาจจะเพราะความแรดของยัยนั่นก็ได้

"ปีเตอร์แพนๆ แย่แล้วๆ แฮ่กๆ" เด็กหายคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาปีเตอร์แพนที่มีสีหน้าเคร่งเครียด

"เกิดอะไรขึ้นเจมส์"

"พวกเด็กหายที่อยู่แนวชายฝั่งเขาพูดกัน แฮ่กๆ ว่า พวกเพื่อนๆที่นายพามา ถูกกัปตันฮุกจับตัวไป" ปีเตอร์แพนเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะถลาออกไป แต่ทิงเกอร์เบลล์กลับหยุดเอาไว้

"เดี๋ยวปีเตอร์ เธอจะไปไหน"

"ฉันก็จะรีบไปช่วยเวนดี้น่ะสิ"

"เธอแน่ใจได้ยังไงปีเตอร์ ว่ายัย เอ่อ เวนดี้น่ะถูกจับไป ไม่ได้เต็มใจจะไปกับฮุก" ปัเตอร์แพนมองทิงเกอร์ด้วยใบหน้าขึงขังแต่สายตากลับฟาดฟันจนทิงเกอร์เบลล์ตกใจ

"เธอพูดแบบนี้ได้ไงกันทิงก์ เวนดี้ไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าเธออีก!!" ทิงเกอร์เบลล์ปล่อยโฮในขณะที่ปีเตอร์แพนมุ่งตรงไปยังเรือของกัปตันฮุกโดยไม่เหลียวมองทิงเกอร์เบลล์เลยแม้แต่น้อย เจมส์มองทิงเกอร์เบลล์ด้วยความสงสาร แม้ตัวเองจะไม่เข้าใจว่าทำไมทิงเกอร์เบลล์ถึงว่าร้ายคนอื่นก็ตาม แต่เขาก็เลือกที่จะพาทิงเกอร์เบลล์ออกมาจากบ้านของปีเตอร์แพน







"กัปตันฮุก ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!!!" ปีเตอร์แพนตะโกนเรียกฮุกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

"อะอ้าว ปีเตอร์แพนตัวน้อย มาทำอะไรตรงนี้ล่ะ หรือว่าคิด...."

"ปล่อยเวนดี้กับน้องๆของเขาออกมาเดี๋ยวนี้นะ นายไม่มีสิทธิ์มาจับเขาเอาไว้แบบนี้!!" ยังไม่ทันที่ฮุกจะพูดจบประโยค ปีเตอร์แพนก็พุ่งเข้าเรื่องสำคัญทันที

"หืม ใครบอกเธอกันปีเตอร์แพน ว่าฉันลักพาตัวเขามา เขาออกจะเต็มใจมากับฉันนะ" กัปตันฮุกกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นต่อ

"นายโกหก!!!! เวนดี้น่ะ เวนดี้น่ะ เขาไม่มีทางเต็มใจมากับคนอย่างนาย!!!!"

"แต่ฉันเต็มใจมานะ ปีเตอร์" ปีเตอร์แพนชะงัก มองร่างที่ออกมาจากบันไดใต้ทท้องเรืออย่างไม่เชื่อสายตา

"เวนดี้" เสียงเรียกชื่อที่แผ่วเบาจนไม่แน่ใจว่าออกมาจากปากของปีเตอร์แพนจริงๆหรือไม่ ฮุกยักคิ้วราวกับจะพูดว่า เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้ว

"ทำไม ทำไมเธอถึงได้"

"ฉันขอบใจที่เธอพาฉันมาที่เนเวอร์แลนด์นะ แต่ตอนนี้ฉันอยู่กับกัปตันฮุกก็สนุกดี เธอเองคงไม่ได้อยากให้ฉันไม่มีความสุขหรอกจรองไหมล่ะ" แม้ร่างบางของเวนดี้จะพูดราวกับว่าขอบคุณปีเตอร์แพนมากมาย แต่ในประโยคนั่นกลับบังคับให้ปีเตอร์แพนกลับไปเสียมากกว่า

"เข้าใจแล้ว ฮ่ะๆๆๆ ฉันเข้าใจแล้ว เธอพูดถูกเวนดี้ ฉันไม่อยากขัดความสุขเธอหรอก"ปีเตอร์ก้มหน้าซ่อยหยาดน้ำตาไว้ใต้ผมที่ปรกลงมาบนใบหน้า

"งั้นฉันไปล่ะ ขอให้เธอมีความสุข มากๆ" ปีเตร์แพนบินหนีไปยังบ้านของตัวเองโดยไม่สนใจว่าคนพวกนั้นจะหัวเราะเยาะเขาหรือว่านินทาอะไร เขาไม่มีอารมณ์มาฟังตอนนี้ ขอแค่หนีพ้นจากตรงนั้นมาได้ก็พอ

ฉันน่าจะเชื่อเธอทิงก์ เธอพูดถูกจริงๆ ฉันมันโง่เอง



ปีเตอร์แพนบินผ่านเจมส์และทิงเกอร์เบลล์ไปโดยไม่สังเกตเห็น แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองจะไม่เห็นเขา ทิงเกอร์ที่เห็นสีหน้าปัเตอร์แพนอย่างชัดเจนหยุดร้องไห้แล้วบินตามเขาไปอย่างเป็นห่วง โดยมีเจมส์วิ่งตามไปเช่นกัน ปีเตอร์แพนกลับเข้าบ้านของตัวเองทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง น้ำตาไหลไม่ขาดสาย เพื่อนที่เขาเชื่อใจไว้ใจ และอาจจะ รัก กลับไปเลือกบุคคลที่อันตรายและไม่สมควรจะรักด้วยซ้ำ แถมความเป็นห่วงของเขาเองกลับถูกเธอเหยียบย้ำมันต่อหน้าต่อตาชายที่เขาเกลียดที่สุดอีก
 
   เธอช่างใจร้ายนักเวนดี้

"ปีเตอร์ ไม่เป็นไรนะ" ปีเตอร์แพนลืมตามองตามเสียงเรียก แต่นั่นยิ่งทำให้น้ำตาไหลมากกว่าเก่า คนที่เขาว่าเธอด้วยถ้อยคำร้ายๆ เธอที่เตือนเขาแต่เขาไม่ฟังซ้ำยังไล่เธอไป แต่มีแค่เธอที่เป็นห่วงเขา

"ฉันขอโทษนะทิงก์ ฮือออ ขอโทษนะ ฉันไม่น่าว่าเธอเลย เธอพูดถูกทุกอย่าง ฮือๆๆๆ เวนดี้เต็มใจไปกับหมอนั่น เขาไม่ได้จับเธอไป ฉันมันโง่เอง"

"ไม่ ฉันไม่เคยโกรธเธอเลยปีเตอร์ อย่าโทษตัวเอง อีกสองอาทิตย์ เธอจะแต่งงานกับลิลลี่แล้วน่ะ ลิลลี่เองก็สวย นิสัยก็ดีใช้ได้ ลืมเวนดี้เสีย ทุกอย่างจะดีขึ้น เชื่อฉันสิ"แต่ไม่ว่าจะปลอบใจอย่างไร

ปีเตอร์แพนก็เอาแต่ร้องไห้อย่างหนัก ภายในเวลาไม่กี่วันพวกเด็กหายกระจายข่าวที่ปีเตอร์แพนกำลังจะแต่งงานกับลิลลี่ไปทั่วทั้งเกาะ และแน่นอนมันย่อมไปถึงหูของกัปตันฮุก









กลับมาแล้วค่าาาา ในที่สุดเราก็ล้างคำสาปจากคุณป๋าได้แล้ว อย่าตกใจถ้าหากมันไม่สนุกนะคะ สารภาพเลยว่า ไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องปีเตอร์แพนเท่าไหร่ แต่... ทะแด๊ ~ ความสุขอยู่ครึ่งหลัง ซึ่งคุณๆอาจะคิดไม่ถคงเลยทีเดียว แมวเตือนแล้วน๊าาา พาร์ท2 แมวจะลงให้อ่านพรุ่งนี้นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
สงสารปีเตอร์แพน.. :ling3:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ถุงพรุ่งนี้ยัง?

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
    เพล้งง

 "โถ่โว้ยยยยย!!!" เป็นอย่างนี้มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ตั้งแต่ได้ยินข่าวจากฝั่งโน้น ภายในห้องก็กระจัดกระจายไปด้วยเศษแก้ว
นับร้อยๆ

 "พอเถอะค่ะฮุก เลิกดื่มได้แล้ว" เวนดี้เข้ามาจับมือห้ามฮุกไว้เมื่อเขาทำท่าว่าจะไม่ยอมหยุดอาละวาดง่ายๆ

 "มายุ่งอะไรด้วยวะ" กัปตันฮุกปัดมือเวนดี้ออกอย่างแรง

 “หนูเป็นห่วงนะคะถึงมาเตือน” ทั้งที่ปากว่าอย่างนั้น แต่มือของเวนดี้กลับลูบไล้ไปทั่วทั้งแผ่นหลังกว้าง

 “หึ อยากหรือไง” ฮุกถามพร้อมรอยยิ้มดูแคลน จนเวนดี้หน้าเสีย

 “ทำไมพูดกับหนูแบบนี้ล่ะ หนูเป็นเมียพี่นะ ไม่ใช่อีตัว!!”

 “มันก็ไม่ต่างกันนักหรอก วิ่งโร่มาหาฉันทั้งๆที่ปีเตอร์แพนมันมาตามกลับก็ไม่ไป เหอะ อย่าเรียกตัวเองว่าเมียเลย ผ่านมากี่คน
แล้วล่ะ ฉันไม่ใช่คนแรกของเธอนี่”

 เพี้ย!!!

 “พูดแบบนี้คิดจะทิ้งหนูใช่ไหม จะผ่านมากี่คนแต่คุณก็เอาหนูเหมือนกันนั่นล่ะ อย่าคิดนะว่าจะทิ้งหนูง่ายๆ” เวนดี้ตบลงบนในหน้า
คม แล้วเชิดหน้าพูดอย่างไม่อาย

 “ถ้าคิดว่าจะอยู่ที่นี่ก็เลือกเอาแล้วกัน จะให้โยนลงไปนอนก้นทะเล หรืออยากจะนอนในหลุม จะได้ให้ลูกน้องหาที่เหมาะๆให้”
สีหน้าที่เปลี่ยนไปของฮุกทำให้เวนดี้ขนลุกซู่ แววตาของเขาไม่มีคำว่าล้อเล่นอยู่เลยแม้แต่น้อย

 “แต่ถ้าเธอเลือกจะกลับไปดีๆ ฉันจะให้ลูกน้องเอาสมบัติให้หนึ่งหยิบมือ แน่นอน เธอและน้องชายจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย”

 “ตะ แต่ แต่หนู หนูเป็นเมียคุณ”

 “ถ้าฉันคิดจะมีเมีย สองคนก่อนหน้าเธอเขาคงมาทวงสิทธิ์จนไม่เหลือมาถึงเธอแล้ว เป็นแค่ของเล่นอย่าสำคัญตัวเองผิด” ฮุกยก
เหล้าขึ้นมาจิบ ในขณะที่เวนดี้มองฮุกด้วยสีหน้าลังเล

 “เลือกเอา จะตายอยู่ที่นี่โดยไม่มีใครรู้ หรือจะกลับไปพร้อมน้องๆของเธอ” เวนดี้เม้นริมฝีปากแน่นอย่างไม่พอใจ

 “เลือก!!!!”

 “กะ กลับๆ หนูจะกลับ” เวนดี้พูดขค้นด้วยความกลัวเมื่อกัปตันฮุกคนที่เธอเคยสนุกด้วยตะคอกเธอออกมา เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้

 “ดี เอ็ด!!!!!!” ฮุกตะโกนเรียกลูกน้อง

 “ครับกัปตัน”

 “พาเด็กนี่กับอีกสองคนไปส่งที่บ้าน อ้อ....เอาสมบัติที่ฉันแยกไว้ให้ไปด้วย”

 “ได้ครับ มาทางนี้เถอะครับ”

 “เอ็ด...รีบกลับ ฉันจะเรียกประชุมใหญ่”

 “ได้ครับกัปตัน” เอ็ดจับแขนเวนดี้ไว้เพื่อจะพาออกไป แต่เวนดี้สะบัดออก

 “เดี๋ยวค่ะ หนูมีเรื่องอยากจะถาม”

 “มีอะไร”

 “ทำไมคุณถึงเปลี่ยนไปคะ คุณไม่เหมือนคนเดิมเลย”

 “ไม่ใช่เรื่องของเธอ กลับไปซะ!!!!” เวนดี้เม้มปาก สะบัดหน้าหนีแล้วสาวเท้าเดินออกไป ฮุกกำแก้วเหล้าในมือแน่นพร้อมแววตา
ราวสัตว์ป่าที่พร้อมจะออกล่าเหยื่อ

 “ฉันไม่ยอมแน่ ไม่มีทาง เธอจะแต่งกับใครไม่ได้”

     

              “ปีเตอร์แพน!!!”




       ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง แม้ทุกคนจะเดินเข้ามาเผื่อแสดงความยินดีก็ตาม แต่ปีเตอร์แพนกลับยิ้มอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ทุก
คนดูสนุกสนานกับงานฉลองแต่งงานของเขา เขาเองก็ช่างโชคดีลิลลี่จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง ยิ่งเธออยู่ในชุดเจ้าสาวของ
เผ่าอินเดียแดงที่ประดับประดาด้วยลูกปัดนับร้อยยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่นขึ้น พวกเด็กหายต่างเดินเข้ามาพร้อมแสดงความยินดีกับ
เขา เขาทำเพียงยิ้มตอบกลับไป ต่างกับลิลลี่ที่ใบหน้างดงามแดงซ่าน ปีเตอร์แพนกวาดสายตาหาเพื่อนตัวน้อยของเขา เพราะ
ตลอดทั้งวันตัวเขายังไม่เห็นทิงเกอร์เบลล์เลย ไม่รู้ว่าหายไปไหน

 “เอาล่ะๆ ได้เวลาแล้ว เชิญบ่าวสาวเดินมาข้างพ่อหมอเลย” เสียงปรบมือดังสนั่นหลังจบคำของหัวหน้าเผ่า ปีเตอร์แพนและลิลลี่
ก้าวไปตามคำบอกจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพ่อหมอของเผ่าอินเดียแดง ปีเตอร์แพนและลิลลี่หันหน้าเข้าหากันปีเตอร์แพนจะ
ต้องกุมมือของลิลลี่เอาไว้ตามคำบอกของพ่อหมอ ทั้งคู่กล่าวคำปฏิญาณต่อกัน

 “บ่าวสาวจูบสาบานกันได้” ในขณะที่ใบหน้าทั้งสองเคลื่อนเข้าใกล้กันจนริมฝีปากเกือบจะชิดกันนั้น เสียงของระเบิดก็ดังขึ้น

 “เกิดอะไรขึ้น!!” หัวหน้าเผ่าดูหัวเสียมากเมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นมา

 “แย่แล้วหัวหน้า กัปตันฮุกมันกพวกมาถล่มเรา”

 “ว่าไงนะ!!!” ปีเตอร์ตกใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น

 “ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือ แล้วลากปีเตอร์แพนมาให้ฉัน!!!!!” ฮุกชี้ปลายดาบสั่งลูกน้องด้วยเสียงเหี้ยมโหด

 “ครับกัปตัน!!!” ลูกน้องนับสิบรับคำด้วยการแสยะยิ้มใส่ทุกคน

 ผู้คนในงานต่างวิ่งวุ่นหนีตายกันยกใหญ่ เสียงกรีดร้องด้วยความกลัวเสียงอวดครวญด้วยความเจ็บดังมาไม่ขาดสาย งานแต่งของปีเตอร์แพนที่จัดไว้อย่างสวยงามกลับถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเลือดและศพกระจัดกระจาย ปีเตอร์แพนมองภาพที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความตะลึงงัน ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าร่างของตนเองถูกลากให้ห่างจากลิลลี่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของลิลลี่

 “ลิลลี่!!!!” ปีเตอร์แพนสะบัดมือออกจากอุ้งมือใหญ่ แต่ก็ไม่สำเร็จ

 “จะไปไหน มานี่” กัปตันฮุกออกแรงมากขึ้นเพื่อลากร่างเล็กๆของปีเตอร์แพนให้ก้าวตามมา ปรเตอร์แพนขืนกาย เมื่อไม่มีทิงเกอร์เบลล์เขาก็ไม่สามารถบินได้

 “เอ็ด!!!! ถ้าเรียบร้อยก็พาพรรคพวกกลับเรือล่ะ อย่าลืม ห้ามใครไปรบกวนฉันเด็ดขาด!!”

 “รับทราบครับกัปตัน”

 “ปล่อย!! ปล่อยฉัน ลิลลี่ ลิลลี่!!!” เสียงหวานของปีเตอร์แพนที่เอาแต่เรียกชื่อของเจ้าสาวยิ่งทำให้ฮุกโกรธจัดจนมือหนากระชากรั้งไหล่บางมาเขย่าจนตัวโยน

 “เรียกหามันทำไม อาลัยอาวรณ์นักหรือเจ้าสาวนั่น!!! ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำให้งานแต่งเธอเป็นหม้ายหรอกปีเตอร์แพน มานี่!!!” ไม่มีเสียงใดที่ผ่านเข้าไปยังจิตสำนึกของกัปตันฮุกได้ กัปตันฮุกกระชากลากถูร่างเล็กๆของปีเตอร์แพนมาขึ้นเรือของตน ผ่านลงไปยังห้องนอนที่แม้จะแคบกว่าบ้านของปีเตอร์แพนแต่ความสวยงามกลับยิ่งกว่า ฮุกเหวี่ยงร่างปีเตอร์แพนลงบนเตียงก่อนจะปิดประตูลงกลอน

 “คิดจะทำอะไร ทิงก์ ทิงเกอร์ เธออยู่ไหน!!!” ปีเตอร์แพนขยับกายหนี พร้อมตะโกนเรียกหานางฟ้าตัวน้อย

 “ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆ เรียกหาใครหรือปีเตอร์ เจ้าจิ๋วนั่นนะหรือ ฮ่าๆๆๆ คิดว่าทำไมมันไม่โผล่มาหานายล่ะ คิดไม่ออกเลยจริงๆหรือ” เสียงหัวเราะราวกับปีศาจช่างน่าขนลุกจนปีเตอร์ต้องขยับตัวหนีอีกครั้ง

 “นะ นาย นายทำอะไร นายทำอะไรทิงเกอร์เบลล์” ฮุกมองหน้างามด้วยรอยยิ้มพร้อมร่างหนาที่ค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้

 “ใช่ๆ ถูกแล้ว ฉันฆ่ามันเอง รู้ไหม ก่อนมันตาย มันเรียกหาแต่นาย ถ้ามันไม่เรียกนาย ก็คงไม่ต้องตายแบบนี้หรอก” คำตอบของฮุกทำให้ปีเตอร์แพนช็อค มิน่าเล่า งานสำคัญของเขาทิงเกอร์เบลล์ถึงไม่มา

 “นาย นายมันต่ำช้า นายบ้าไปแล้ว นายทำได้ยังไงกัน!!” ปีเตอร์แพนกระโจนเข้าหาฮุกอย่างลืมตัวด้วยความโกรธ สองมือบางขยุ้มคอเสื้อของฉุกไว้อย่างลืมกลัว

 “ฉันจะฆ่าพวกมันทุกคน ทุกคนที่อยู่ใกล้นาย ทุกคนที่นายรัก ทุกคนที่ได้หัวใจนาย เพราะทุกอย่างของนาย มันเป็นของฉัน!” ฮุกรวบแขนทั้งสองข้างของร่างบางแล้วกดลงบนที่นอนนุ่มจนมันจมลงไป

 “เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีเจ้าสาวแล้ว งั้นฉันจะช่วยสงเคราะห์พานายเข้าหอเอง!!”

 “ไม่” ริมฝีปากหนาประกบริมปากบางของปีเตอร์พะนอย่างหื่นกระหาย มันทั้งจาบจ้วงและร้อนแรง แต่ทุกๆครั้งที่ฮุกขยับริมฝีปากมันมาพร้อมกับความเจ็บจี๊ดที่ริมฝีปากบางเช่นกัน มิหนาเลื่อนข้อมือเล็กขึ้นมารวบด้วยมือข้างเดียวไว้เหนือหัว ใช้มือข้างที่ว่างกระชากเสื้อเจ้าบ่าวของปีเตอร์จนขาดวิ่น ปีเตอร์แพนสะดุ้งสะบัดหน้าหนีการรุกรานของลิ้นร้อนที่สอดเข้ามา แต่มันไม่มีประโยชน์เมื่อมือของฮุกบีบคางของปีเตอร์อย่างแรงจนร่างเล็กต้องยอมให้ลิ้นหนาสอดเข้ามาลิ้มราชาติอันหอมหวาน เรียวลิ้นของฮุกรุกไล่เกี่ยวกระหวัดไม่ยอมให้หนี จูบอันดูดดื่มที่ฮุกมอบให้แม้ปีเตอร์ไม่เต็มใจแต่มันกลับทำให้ร่างกายอ่อนยวบจนไร้เรี่ยวแรง เมื่อเห็นว่าปีเตอร์ไม่ขัดขืนแล้วฮุกจึงปล่อยมือออกจากคางเล็กมาลูบไล้ยอดอกเล็กๆแทน ฮุกสะกิดยอดอกบางจนร่างเล็กสะดุ้งในขณะที่ปากยังคงวนเวียนดูดผิวเนื้อตรงลำคอขาว

 “อ๊ะ” ปีเตอร์เมื่อรู้สึกตัวจึงผลักร่างของฮุกออกอย่างแรงจนร่วงลงข้างเตียง มือบางรวบสาบเสื้อเข้าหากันเพื่อบดบังผิวขาวนวลเอาไว้

 “ถอยไปนะฮุก อย่าเข้ามา” ฮุกยกข้อมือขึ้นเช็ดปากอย่างหัวเสีย

 “ฤทธิ์เยอะจริงๆ” ฮุกเดินไปยังตู้เก็บของใกล้ๆประตู ปีเตอร์แพนผวาเมื่อเห็นสิ่งที่ฮุกหยิบออกมา โซ่สีเงินเส้นยาว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฮุกเอามันมาทำไม ไวเท่าความคิด ปีเตอร์แพนกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปยังประตูโดยลืมไปว่าฮุกอยู่ใกล้กว่า มือหนากระชากร่างเล็กกลับแล้วดันลงบนเตียงอย่างเดิมโดยคราวนี้ฮุกจับข้อเท้าเล็กๆเอาไว้ข้างหนึ่ง

  กึก แกร็ก

 “หยุดนะ!!!” ปีเตอร์พยายามกระชากข้อเท้าหนีแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของรางสูงได้เลย เมื่อจัดการล็อคเรียบร้อยแต่ปีเตอร์ยังไม่ยอมหยุดดิ้น หมัดหนักๆก็ถูกซัดลงบนท้องของปีเตอร์อย่างแรง

ผลัวะ

 “อึก!” ปีเตอร์งอตัวด้วยความจุก ฮุกดึงสาบเสื้อออกจากกันก่อนที่จะก้มลงดูดยอดอกสีสวยเข้าปากอย่างรุนแรง สองมือกดข้อมือเล็กไว้ทั้งสองข้างแต่ปากกลับทำหน้าที่ไม่ขาด ปลายลิ้นร้อนเลียยอดสวยไปมาสลับกับดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอาย ฮุกทำเช่นนั้นกับยอดอกทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียมจนร่างของปีเตอร์ครางเสียงแผ่วอย่างห้ามไม่อยู่ ฮุกลุกออกจากร่างบางเพื่อปลดเสื้อผ้าของตนจนหมดก่อนจะคล่อมร่างปีเตอร์แพนไว้อย่างเดิม

 “ชอบสินะ ใจจริงคงอยากจะทำแบบนี้กับเจ้าสาวของนายล่ะสิ แต่ฝันไปเถอะ เพราะฉันคนนี้จะสนองนองนายเอง!!”

 “อย่า!!!” กัปตันฮุกที่พูดอย่างกราดเกรี้ยว ดึงทิ้งกางเกงของปีเตอร์ออกอย่างรวดเร็วไม่สนใจเสียงที่ร้องห้ามหรือมือบางที่ผลักใส ฮุกจับเรียวขาขาวให้อ้าออกจากกันแล้วแทรกร่างกายเช้าไปอยู่ตรงกลางพร้อมจับมือที่คอยทุบตีเขามากดไว้ ฮุกละเลงลิ้นร้อนลงบนแก่นกายเล็กสีชมพูสวยงามของคนตรงหน้าก่อนจะครอบครองมันด้วยริมฝีปาก เขาปล่อยมือที่จับปีเตอร์ออกแล้วจับแก่นกายของร่างเล็กแทนจนปีเตอร์แอ่นกายขึ้นพร้อมมือบางที่คิดจะผลักหัวของฮุกออกหากแต่กลับกดมันลงไปมากกว่าเดิมแทน ฮุกขยับปากขึ้นลงเป็นจังหวะเร็วขึ้นๆจนร่างเล็กใกล้จะถึงฝั่งฮุกจึงหยุดและถอนริมฝีปากออก เมือกสีใสไหลออกมาจากมุมปากของฮุกจนต้องมานิ้งมาเช็ดออกแล้วสอดนิ้วที่เปื้อนเข้าไปสำรวจช่องทางเล็กๆที่ตอดเขาอย่างดีเยี่ยม ปีเตอร์นอนหอบหายใจถี่ มือไม้อ่อนแรงเริ่มมีแรงกลับมาอีกครั้งเมื่อความเจ็บปวดจากปลายนิ้วเรียวมาเยือน

 “หยุดนะ มันเจ็บ อย่า!!!” ปีเตอร์เริ่มทุบตีฮุกอีกครั้งด้วยความหวาดกลัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

 “ช่วยด้วย ฮื่อออ ใครก็ได้ ช่วยผมด้วยยยยยย” ฮุกเริ่มมีน้ำโหเมื่อปีเตอร์แพนร้องหาคนช่วย

 “เรียกหาใคร ถ้าใครมันเข้ามา ฉันจะฆ่ามัน ใครตอบกลับมาฉันก็จะฆ่ามัน ไม่มีใครช่วยนายได้อีกแล้วปีเตอร์แพน นายเป็นของฉัน จำเอาไว้!!!”

 “ม่ายยยยยย!!!” ฮุกสอดแทรกแก่นกายที่มีขนาดใหญ่โตเข้าไปในช่องทางเล็กอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดของปีเตอร์แม้แต่น้อย

 “เจ็บ อย่า ฮื่อออ หยุดนะ อ๊ะ หยุดดดด” ใบหน้างามสะบัดไปมาอย่างไม่ยินยอม มือบางทุบตีบ้างดันร่างหนาออกบ้าง ในขณะที่ฮุกยังตงขยับสะโพกเข้าออกอย่างรุนแรง ในหน้าคมคายแหงนขึ้นซูดปากด้วยความเสียวซ่านเมื่อภายในร่างกายของคนตัวเล็กบีบรัดจนฮุกเกือบจะเสร็จอยู่ร่อมร่อ

 “ฉันขอร้อง เราไม่เคยมีปัญหากัน ฮื่อๆๆ ปล่อยฉันไป นายก็รู้ ฮึก ว่าฉันแต่งงาน อ๊ะ จะทำอะไร ไม่นะ อย่า!!” ฮุกพลิกร่างเล็กให้คว่ำหน้าลงกับเตียงทั้งที่แก่นกายยังคงเชื่อมต่ออยู่ คำพูดของปีเตอร์แพนทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของเขาเพิ่มมากขึ้นจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่ นั่นทำให้สะโพกหนากระแทกเข้ามายังช่องทางเล็กอย่างรุนแรงกว่าเก่า ฮุกถอนแก่นกายออกมาจนเกือบสุดแล้วดันมันเข้าไปใหม่ เขาทำแบบนั้นอยู่หลายรอบจนร่างบางหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับจะขาดใจ นั่นจึงทำให้ฮุกเริ่มขยับเป็นจังหวะเร็วขึ้นอีกครั้ง

 “อา ดูสิปีเตอร์แพน รูของนายมันดูดกลืนของฉันจนหมด อือ แถมยังตอดรัดฉันขนาดนี้ ยังกล้าพูดว่าจะไปมีเมียอีกหรือ หึหึ” ฮุกแกล้งขยับกายเน้นๆ จนปีเตอร์ผวาเฮือก

 “นายมันวิปริต ต่ำช้า อืออ ฉันเกลียด..โอ้ย”

    เพี้ยะ!!

 “อา เด็กดื้อ เมื่อเธอดื้อ เธอจะต้องโดนตี”

   เพี้ยะ!! เพี้ยะ!!

ฮุกฟาดฝ่ามือลงบนก้นงอนอย่างแรงราวกับต้องการลงโทษสิ่งที่ปีเตอร์พูดจนเกิดรอยแดงขึ้น

 “ดีจริงๆ เธอตอดรัดฉันดีกว่าผู้หญิงคนไหนๆ ต่อไปนี้เราจะทำกันทุกๆคืน ทุกๆวัน ฉันจะทำจนเธอไปไหนจากฉันไม่ได้ มองใครนอกจากฉันไม่ได้ อา ครางออกมาสิ ครางออกมา” ฮุกกระแทกตัวเป็นจังหวะเน้นๆเข้าไปยังจุดเสียวซ่านของปีเตอร์ แต่ปีเตอร์แพนไม่ยอมปล่อยเสียงใดๆให้เล็ดรอดออกมา เขากัดแขนเอาไว้อย่างไม่ยอมแพ้

 “เด็กไม่ดี ฉันไม่ยอมแพ้หรอก” ฮุกจับแขนของปีเตอร์ออกมากดไว้ข้างตัว โน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมขยับสะโพกเร็วและถี่ขึ้นจนปีเตอร์ทนแทบไม่ไหว

 “อ๊า ไม่ หยะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า พอแล้ว อ๊ะ”

 “มันไม่พอหรอก เรามีเวลาทำกันทั้งคืน นี่คืนเข้าหอไงปีเตอร์แพน แต่เป็นของเธอกับฉัน ไม่ใช่คนอื่น!!” ฮุกปล่อยแขนปีเตอร์มากุมสะโพกขาวเอาไว้ก่อนจะเร่งตัวเร็วขึ้นจนเกิดเสียงกระทบของผิวเนื้อและเสียงครวญครางของทั้งสองจนเมื่อทั้งคู่ถึงจุดหมาย ร่างของฮุกก็ซบลงบนแผ่นหลังของปีเตอร์แพนอย่างหมดแรง ในขณะที่ปีเตอร์แพนนอนน้ำตาไหลนองไปทั่วทั้งใบหน้าและลมหายใจที่หอบถี่

 “ฉันจะทำกับเธอทุกวัน จนกว่าเธอจะจำ ว่าเธอเป็นของใคร” ประโยคสุดท้ายที่ปีเตอร์ได้ยินก่อนจะเข้าสู่นิทราด้วยความเหนื่อยล้า ประโยคที่ผูกมัดเขาเอาไว้ ไม่ยอมให้เขาไปไหน

 “ฉันรักเธอ เธอเป็นของฉัน ใครคิดจะแย่งเธอฉันจะฆ่ามัน เธออยู่ได้แค่ที่นี่เท่านั้น แค่บนเตียงของฉัน ไม่ใช่ของใคร จำไว้ปีเตอร์ นายจะไม่มีวันได้ไปไหนอีกแล้ว” มือหนาเกลี่ยผมที่ชื้นเหงื่ออกจากใบหน้างาม แล้วก้มลงกระซิบราวกับต้องการให้คนที่นอนหลับนั้นได้ยินไปถึงความฝันที่แสนไกล ราวกับต้องการจะควบคุมมันเอาไว้ให้เป็นฝันที่ต้องมีเขาเท่านั้น

 “ไม่มีวัน”







The End
[/b][/size]

           


               จบแล้วค่ะ จบแบบนี้แหละ 555555 มีความสุขดีนะคะ ทำไมแมวรู้สึกว่าโรคจิตยังไงไม่รู้พอเขียนเรื่องนี้ ไม่หรอกเนอะ (ยังคงเชื่อมั่นในตัวเอง) นี่แหละค่ะ ปีเตอร์แพนฉบับของllมว_น้oe แปลกแหวกแนว รอดูกันต่อนะคะว่าเรื่องหน้าจะเป็นเรื่องอะไร (เดี๋ยวไปค้นกลูเกิ้ลก่อนว่ามีเรื่องอะไรอีก) อุ๊บบ ไม่รู้ไม่ชี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและทุกๆคอมเม้นท์มากๆค่ะ พบกันอาทิตย์หน้านะคะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เรื่องนี้ดูดาร์คกว่าสองเรื่องก่อนนะ ทุ่งดอกไม้กับยูนิคอร์นหายไปไหน

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
กัปตันฮุกใจร้าย..ยยยยยยยย    :m15:

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
     เด็กชายกับไม้ขีดไฟ





                คืนหนึ่งในเมืองเล็กๆซึ่งมีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินสวนกันไปมา แต่ละคนสมเสื้อที่หนาเพื่อป้องกันอากาศที่เหน็บหนาวเอาไว้ แต่ใครเล่าจะให้ความสนใจ เด็กชายน่าตามอมแมมเดินถือตระกร้าที่บรรจุกล่องไม้ขีดไฟ เขาสวมเสื้อผ้าขาดๆที่ไม่เหมาะกับอากาศเลยสักนิด

“ไม้ขีดไฟไหมครับ รับไม้ขีดไฟไหมครับ” เสียงของเด็กน้อยช่างสั่นนักไม่ต่างจากร่างกายเล็กๆที่สั่นสะท้านเพราะความหนาว ไม่มีใครสนใจจะช่วยซื้อเลยสักนิด ผู้คนมากมายไม่มองเขาด้วยซ้ำ เด็กน้อยยกฝ่ามือขึ้นมาเป่าให้ลมร้อนจากปากบางช่วยให้อุ่นขึ้นแม้สักนิดก็ยังดี ร่างเล็กตัดสินใจถลาเข้าหาชายวัยกลางคนคนหนึ่งทันที
“คุณอาครับ ไม้ขีดไฟสักกล่องไหมครับ” มือเล็กๆจับเข้าที่เสื้อโค้ดของชายคนนั่น เขาก้มลงมามองก่อนที่มือใหญ่ๆจะสะบัดเข้าที่ใบหน้าเล็กๆทันที

เพี๊ยะ!!

“โอ๊ย”
“อย่ามาจับฉันนะเจ้าเด็กโสโครก” ชายคนรั้งเช็ดหลังมือเข้ากับเสื้ออย่างรังเกียจ มองร่างที่สั่นอยู่ที่พื้นด้วยหาวตาก่อนจะเดินต่อไป ไม่มีใครสนใจเรื่องตรงหน้าเลยสักคน
“เจ็บจังเลย” ยิ่งอากาศหนาวเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ความเจ็บปวดที่ผิวแก้มมีมากขึ้น เด็กน้อยเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ปากก็พูดเรียกลูกค้าจนเมื่อเท้าเล็กๆเริ่มชา เด็กน้อยจึงหลบไปยืนที่ซอกเล็กมุมตึกแทน อย่างน้อยก็หลบลมหนาวๆได้บ้าง
 มือบางๆลูบไปมาที่แขนทั้งสองข้างเพื่อลดความหนาวก่อนจะยกขึ้นมาเป่าอีกครั้ง เด็กน้อยทำได้เพียงแค่นั้นเอง
“หนูน้อย หนาวหรือ?” ชายหนุ่มร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะถามขึ้น
“ฮะ พี่ชายซื้อไม้ขีดไฟสักกล่องไหมฮะ” มือเล็กๆยกตระกล้าขึ้นมาถามด้วยแขนที่สั่นๆ
“เอาสิ กล่องเท่าไหร่ล่ะ”
“กล่องล่ะ10 ฮะพี่ชาย” ร่างเล็กรีบตอบด้วยความดีใจ
“งั้นพี่เอาสี่กล่องนะ อ่ะนี่” ร่างสูงยื่นธนบัตรใบใหญ่ที่มีจำนวนมากกว่าค่าไม้ขีดไฟสี่กล่อง
“ผม ผม ผมไม่มีถอนฮะ พี่ชายมีเศษเหรียญไหมฮะ”
“เฮ้ออ... พี่ไม่ได้พกเหรียญมาน่ะสิ เอาแบบนี้ รอพี่อยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่กลับไปเอาที่บ้านก่อน” ร่างสูงลุกขึ้นยืนและทำท่าว่าจะเดินไป
“เดี๋ยวฮะพี่ชาย” ชายร่างสูงเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“พี่ชายลืมไม้ขีดไฟฮะ” มือเล็กๆยื่นกล่องไม้ขีดไฟสี่กล่องให้ร่างสูง
“แต่พี่ยังไม่ได้จ่ายเงินเราเลย” ใบหน้าเล็กๆส่ายไปมาช้าๆ
“ไม่เป็นไรฮะ พี่เอาไปก่อนก็ได้ฮะ เดี๋ยวผมรอพี่ชายอยู่ตรงนี้ พี่ชายค่อยเอามาให้ผม ไม่อย่างนั้นพี่ชายอาจจะหนาวนะฮะ เอาไปจุดไฟเถอะฮะ” เด็กน้อยส่งยิ้มจริงใจให้ชายหนุ่ม
“ขอบใจนะ น้องสาวพี่คงหนาวแล้ว เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา” มือหนายกขึ้นลูบศรีษะเล็กด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเดินออกไป

 ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ



ร่างเล็กๆยังคงนั่งรออยู่ที่เดิม ออกไปยืนขายบ้างเข้ามาหลบลมบ้าง ยิ่งดึกมากเท่าไหร่ ความหนาวเย็นยิ่งทวีมากยิ่งขึ้น
“หนู มานั่งทำอะไรตรงนี้จ๊ะ” ชายร่างท้วมท่าทางเมามายถามขึ้น
“ผมขายไม้ขีดไฟฮะ คุณลุงรับไหมฮะ”
“อา...เอาสิจ๊ะ ลุงเอาสองกล่องเลย” ใบหน้างามเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่เริ่มมีคนมาซื้อบ้าง มือเล็กหยิบออกมาและส่งให้คนตรงหน้า

หมับ!

มืออวบอูมจับจ้อมือเล็กๆเอาไว้แล้วออกแรงกระชากจนตระกร้าของร่างเล็กล่วงลงสู่พื้น มือใหญ่ปิดปากเด็กน้อยเอาไว้ไม่ให้ร้องออกมา ก่อนจะจับร่างบางหันมาเผชิญหน้า
“อา หอมจริงๆ กลิ่นของเนื้อเด็กๆ” ใบหน้าใหญ่ไล่จมูกไปตามผิวกายของเด็กน้อยที่ยืนนิ่งแข็งทื่ออย่างตกใจ
“อ้าปากสิจ๊ะหนู” มือใหญ่บีบปลายคางเอาไว้อย่างแรง จนเด็กน้อยต้องอ้าปากออกอย่างช่วยไม่ได้ล
“ดีมาก ดูดและเลียมันสิ” ไอแกตัณหากลับส่งนิ้วที่อวบอ้วนของมันเข้าไปในปากเล็กๆสองนิ้ว เด็กน้อยน้ำตานองหน้าด้วยความกลัว ปากเล็กๆค่อยดูดและเลียตามคำสั่งทั้งที่ไม่เต็มใจ ลิ้นเล็กๆตวัดเลียนิ้วไปมา ไอแก่ดึงนิ้วเข้าออกปากเล็กตามแรงอารมณ์ หมุนวนไปมาในช่องปาก
“ดี อา ซี๊ด” นิ้วอวบถอนออกจากปากเล็กๆ ก่อนจะปลดกางเกงของตนเองออก ความเป็นชายผงาดขึ้นมาชี้หน้าเด็กน้อย มือใหญ่ชักของตัวเองขึ้นลงตรงหน้าร่างเล็ก
“อ้าปากสิ เร็ว!!” เด็กน้อยร้องไห้สะอื้นแต่ก็ต้องอ้าปากออกตามคำสั่ง
“อมไว้” แก่นกายของไอเฒ่าถูกยัดเข้ามาในปากเล็กๆ

เพี๊ยะ!

“ดูดแล้วเลียมันด้วยสิวะ” มือใหญ่ตบเข้าที่แก้มช้ำข้างเก่าอย่างแรงเมื่อเด็กน้อยไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง ปากบาวจึงเริ่มขยับเข้าออกและออกแรงดูดความใหญ่โตคับปากที่มีกลิ่นชวนอ้วก
“อา ดี เลียตรงหัวหน่อย” ลิ้นเล็กๆเลียปลายแท่นด้วยใบหน้าเหยเก ทั้งกลิ่นและรสไม่ชวนให้อยากกินมันเลยแม้แต่น้อย เฒ่าตัณหาแหงนหน้าซูดปากครางกระเส่า มือทั้งสองข้างกดหัวเล็กกระแทกเข้าออกโดยไม่สนใจเสียงร้องแม้แต่น้อย ภาพนั้นชวนให้หดหู่แก่คนที่เดินผ่านไปผ่านมายิ่งนัก ภาพการออรัลของเด็กน้อยกับชายรุ่นพ่อทำให้ผู้คนเดินเหลี่ยงไปทางอื่น ไม่มีใครสนใจจะเข้ามาช่วยหนูน้อยเลยสักคน เสียงครางพร้อมเสียงสะอื้นมีมาเป็นระยะ จนเมื่อมืออวบอูมนั้นขยับหัวของเด็กน้อยเร็วขึ้นและความอุ่นร้อนกับกลิ่นคาวก็ถูกฉีดพุ่งเข้าไปในปากเล็กจนหมด เฒ่าตัณหาพลักศรีษะของหนูน้อยออกอย่างแรง เก็บแก่นกายที่อ่อนตัวลงไปในกางแล้วเดินออกไปโดยมาสนใจเด็กน้อยเลยสักนิด ร่างเล็กๆนั่งร้องไห้สะอื้นกับชะตากรรมที่ต้องเจออย่างหวาดกลัว กลิ่นคาวยังคงคละคลุ้งไปทั่วทั้งปากและภายในลำคอ ความหนาวเหน็บก็ไม่ได้ลดลง จมูกเริ่มหายใจลำบากจากการร้องไห้และอากาศจนมือเล็กๆต้องจุดไม้ขีดไฟที่จะขายเพื่อลดความหนาวแทน
 ความสว่างส่งผลให้เด็กน้องอุ่นขึ้นราวกับว่าถูกโอบกอดด้วยความรัก แต่เมื่อมันดับลง ความเหน็บหนาวก็กลับมา มือเล็กๆที่สั่นควานหาไม้ขีดมาจุดต่อไปเพียงเพื่อจะได้รับความรู้สึกนั่นให้นานอีกสักนิดก็พอ ใบหน้าสวยยิ้มทั้งน้ำตาเพราะคิดว่ามารดามากอดตนไว้ ลมหายใจของหนูน้อยเริ่มติดขัด จนเขาล้มตัวลงนอนคู้ตัวแต่ในความรู้สึกของเด็กน้อยกลับคิดว่าได้นอนบนตักแม่ของตนเอง ผู้คนเริ่มจางลง แสงไฟเริ่มหรี่ลงกว่าที่ผ่านมาพร้อมกับลมหายใจของเด็กน้อยที่ค่อยๆแผ่วลงเช่นกัน ค่อนคืนผ่านไป ร่างเล็กหลับไปด้วยรอยยิ้มและหยาดน้ำตา ในที่สุดแสงไฟก็มืดดับลงจนหมด

“อุ้ย ดูสิ น่าสงสารจริงๆ ยังเด็กอยู่แท้ๆ” เสียงพูดคุยกันของชาวเมือง เมื่อทุกคนมาหยุดอยู่ตรงร่างเล็กๆที่นอนอยู่ที่เดิม หากแต่กลับไร้ลมหายใจ ชายร่างสูงตกใจเมื่อได้ยิน เขารีบวิ่งแทรกฝูงชนเข้ามาดู ภาวนาในใจอย่าให้เป็นไปดั่งเช่นที่เขาคิดเลย
แต่มันไม่มีประโยชน์ เมื่อภาพตรงหน้าปรากฎร่างของเด็กน้อยที่เขาบอกให้รอคอยการกลับมาของเขา ร่างสูงทิ้งตัวลงพื้นอย่างหมดแรง น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมา เขาปล่อยโฮอย่างไม่อายใคร

รู้สึกผิด

แน่นอน เขาคงไม่ใช่คนหากไม่รู้สึกเช่น เมื่อคืน น้องสาวเขาเกิดป่วยขึ้นมากระทันหันจนต้องพาหปหาหมอเสียยกใหญ่จึงทำให้ล่าช้าต่อนัดของเด็กชายตรงหน้า กว่าจะมาได้ก็เช้าแล้ว เขาคิดว่าเด็กน้อยอาจจะกลับบ้านไป เดี๋ยวพอเช้าเขาก็จะนำเงินมาให้ แต่เขามาไม่ทัน เขาน่าจะฉุกใจคิด น่าจะมาดูก่อนก็ยังดี มือหนากวาดเศษไม่ขีดไฟที่ถูดจุดแล้วขึ้นมาแบนหน้า
“พี่ขอโทษ ฮื่อๆ  ยกโทษให้พี่ด้วย พี่ผิดเอง พี่น่าจะมาให้เร็วกว่านี้” ร่างสูงพึมพำบอกกับเด็กน้อยตรงหน้าที่ไม่สามารถรับฟังเค้าได้อีกแล้ว
“เมื่อคืนฉันเห็นนะ ไอแก่นั่นแหละ มันให้เจ้าหนูนี่ออรัลให้มัน ฉันล่ะสงสารจริงๆ ตำรวจน่าจะตามจับมันไปเสียที น่ากลัวชะมัดเลย” ร่างสูงชะงักอย่างตกใจ นี่เขาทิ้งให้เด็กน้อยตรงหน้า พบเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นเชียวหรือ ก่อนเด็กคนนี้จะตาย ต้องเจอเรื่องต่ำช้าแบบนั่นเลยหรือ นั่นยิ่งทำให้ร่างหนาเกลียดตัวเองจนยากจะอภัย
ความหนาวเหน็บไม่ได้ไปไหนเลย มันยังคงอยู่ที่เดิมเช่นดังเดิม อย่างเช่นที่ร่างของเด็กชายที่นอนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับซากของไม้ขีดไฟ แม้เขาจะจากไปด้วยรอยยิ้มก็ตาม
 



THE END
[/b][/size][/color]


เจอกันเรื่องใหม่ อทิตย์หน้านะค่าาาา
[/b][/color][/i]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2017 13:36:40 โดย llมว_น้oe »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ว่าปีเตอร์แพน เศร้าแล้ว เรื่องนี้เศร้ากว่าอีก ฮึกๆๆๆ    :m15:

ออฟไลน์ arfsuta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต่อจากปีเตอร์แพน ก็เอาให้หดหู่ให้สุด  :a5:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คนเขียนหลอกดาว สองเรื่องแรกมาเสียดิบดี อาจจะหื่นหน่อย ๆ แต่ยังโอเค
ทำไมเรื่องหลัง ๆ มาเริ่มเศร้าขึ้นเรื่อย ๆ ละ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด