Re:บาปรัก {เรื่องสั้น} ตอนพิเศษ!! (ชื่อเดิม Sins บาปบริสุทธิ์) [จบแล้วนะคะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re:บาปรัก {เรื่องสั้น} ตอนพิเศษ!! (ชื่อเดิม Sins บาปบริสุทธิ์) [จบแล้วนะคะ]  (อ่าน 2682 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hannah.sweetieseasons

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



*************************************



Sins บาปบริสุทธิ์ จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเป็น บาปรัก นะคะ เพราะดูเหมือนจะไปซ้ำกับเรื่องอื่น

เรื่องสั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่แต่ง แต่เป็นเรื่องแรกที่กล้าอัพลง ติชมได้นะคะ  :mew1:



**********************************************************



“พระเยซูคริสต์ พระบิดา และพระบุตร... ได้โปรดอภัยให้ความผิดบาปที่ลูกได้ก่อด้วย ฮึก ช่วยชำระล้างบาปของลูกด้วย”

..

“ไปไหนมา” เสียงดุดันน่ากลัวของชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น ทันทีที่เห็นร่างบางเดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าอิดโรย ตาสวยแดงช้ำเพราะร้องไห้อย่างหนัก

ทำไมเตชินท์จะไม่รู้ว่าลูกชายคนเดียวของเขาไปไหน และไปทำอะไรมา ถึงในใจจะเป็นห่วง แต่กลับไม่กล้าที่จะยืนมือเข้าไปช่วย ได้เพียงเฝ้าดูอยู่ไกลๆ และค่อยใจร้ายใส่เด็กหนุ่มเสมอ เพราะมันอาจเป็นทางเดียวที่ช่วยแต้มออกจากความผิดบาปนี้ได้

“ไปโบสถ์ครับ” เสียงแหบแห้งตอบ ใบหน้าหวานก้มมองพื้นเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ แต้มถ่อยหลังไปสองสามก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง

“ไปทำไมทุกวัน หนังสือหนังหาหัดอ่านซะบ้าง ไม่ใส่สอบเข้ามหาลัยได้แล้วจะเหลิง”

“ขอโทษครับ ผมจะเริ่มอ่านวันนี้” มือขาวยกขึ้นพนมขอโทษในเรื่องที่ไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแค่ยอมๆไปจะได้เดินออกไปจากสายตาคู่นี้เร็วๆเสียที

แต่เตชินท์กลับเดินผ่านร่างผอมออกไปนอกบ้านก่อน โดยไม่หันกลับมามอง ก่อนจะขึ้นรถหรูแล้วขับออกไปอย่างเร็ว ในเวลาแบบนี้คงมีไม่กี่ที่ที่เตชินท์จะไป แต้มทำได้เพียงเดินส่งที่หน้าประตู มองท้ายรถแล่นออกไปจนลับตา แต้มทรุดลงนั่งกับพื้นพรางน้ำตานองหน้า มือเรียวยกขึ้นมาปิดเสียงสะอื้น ก่อนจะลุกวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนบนชั้นสอง

วันนี้พ่อคงไม่กลับมานอนอีกเช่นเคย เตียงกว้างสีฟ้าอ่อนเงียบเหงาอย่างทุกวัน แต้มซุกหน้าลงกับที่นอนร้องไห้ ก่อนจะหลับไปในที่สุด...

..

มือใหญ่ลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับน้ำตาเม็ดโตไหลลงตามใบหน้าคม

“พ่อขอโทษ แต่สิ่งที่เรารู้สึกมันเป็นเรื่องที่ผิด ผิดต่อแอม แม่ของแต้มนะ” ดวงหน้าขาวซีด ขอบตาที่ยังร้อนและแดงของแต้มยิ่งทำให้เตชินท์ทรมาน เขาไม่อยากเห็นใบหน้าสดใสของลูกต้องมาหม่นหมองและอมทุกข์แบบนี้ เขาเจ็บทุกครั้งที่ต้องรับรู้ว่าพยานรักของเขาและภรรยา ต้องไปสารภาพบาปที่โบสถ์ทุกวัน เพื่อขอให้พระผู้เป็นเจ้าอภัยและชำละล้างบาปของแต้ม มันไม่ใช่เรื่องที่เด็กอายุพึ่งจะสิบแปดต้องมาแบกรับเลย

เตชินท์จัดท่านอนให้แต้มได้นอนสบาย ก่อนจะเช็ดตัวใส่เสื้อผ้าให้ เขาทำแบบนี้ทุกวัน ออกไปทำงานที่ออฟฟิซช่วงหัวค่ำเพื่อให้แต้มคิดว่าเขาออกไปเที่ยว แล้วเขากลับเข้ามาอีกทีช่วงดึกมากๆ เพื่อเฝ้ามองดูดวงหน้าที่ถอดพิมพ์เดียวมาจากภรรยาแสนรักที่จากไปเมื่อสิบห้าปีก่อน เมื่อเสร็จแล้วเตชินท์จึ่งกลับไปนอนที่ออฟฟิซอีกครั้ง ไม่อยากให้แต้มตื่นขึ้นมาแล้วเจอเขา ให้แต้มคิดว่าทุกอย่างนี้คือป้านินป้าแม่บ้านจัดการจะดีกว่า

ถ้าหากว่าแต้มตื่นขึ้นมาแล้วรับรู้ว่าการดูแลเอาใส่ทุกอย่างคือเขาทำให้ มันจะกลายเป็นทำให้แต้มทุกข์หนักกว่าเดิม.... ซึ่งไม่ใช่ในสิ่งที่เตชินท์ต้องการ



_________________________________________

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2017 16:09:06 โดย Hannah.sweetieseasons »

ออฟไลน์ Hannah.sweetieseasons

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่1 บาป


การเข้าเรียนมหาลัยวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก หลายคณะทำกิจกรรมรับน้อง แกล้งน้องตั้งแต่เวลหนึ่งถึงเวลร้อย ต่างจากคณะของแต้มที่มีเพียงประชุมรุ่นน้องและรุ่นพี่ แนะนำตัว และเลิกประชุมเป็นอันจบ ไม่มีกิจกรรมรับน้องใดๆให้ลุ้นระทึกเหมือนคณะอื่นๆ แม้แต้มจะเสียดายที่ไม่ได้มีช่วงเวลาสนุกๆแบบนั้น แต่ก็เข้าใจดีว่าคณะบริหารก็คงต้องจริงจังและคงความน่าเชื่อถือ ยิ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาลอันดับต้นๆของประเทศด้วยยิ่งแล้วกันใหญ่ การไปนั่งที่ฉลองที่ร้านศุราเป็นเรื่องที่ลืมมันไปได้เลย
การเรียนการสอนวันแรกไม่มีอะไร แทบจะบอกว่าไม่มีเรียนอะไรเลยจะดีกว่า ตารางเรียนก็เพิ่งจะได้วันนี้ เพื่อนๆในคลาสก็มีเพียงสี่สิบกว่าคน หัวหน้าห้องที่ถูกตั้งขึ้นเพราะใส่แว่นหนาที่สุดในคลาส ซึ่งแน่นอนว่าตุลค้านหัวชนฝา แต้มเห็นผู้หญิง(?)ชื่อเอกชัย ไล่ขอไอดีไลน์เพื่อนๆทุกคนเพื่อตั้งกรุ๊ปไลน์ โดยมีแต่ตุลเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมเข้ากรุ๊ป แต้มคิดว่าตัวเองมีเพื่อนแล้วละ ทั้งตุลที่คุยแต่เรื่องเกม ซีซ่า(เอกชัย)สาวสุดมั่นที่ชอบขุดมุกตลกมาเล่าจนทำให้แต้มกรามค้าง เมย์เพื่อนสาวสุดเฟี้ยวที่วันๆเอาแต่อ่อยผู้ชาย และกวนแตงหนุ่มร่างโปร่งหน้าหวาน(ถ้าโกนหนวด)ที่กวนตีนที่สุดในโลก

ผ่านการเรียนแบบไม่ปกติมาสองอาทิตย์เต็มๆ บางวันเรียนทั้งวัน บางวันอาจารย์ก็ไม่เข้าคลาสทั้งวัน บางวันเข้าชั่วโมงสุดท้ายด้วยซ้ำ กวน(แตง)ใช้พลังไปอย่างมากในการอดทนเก็บอารมณ์อยากว้ากอาจารย์ ขนาดตุลยังโดดไปร้านเกมทุกวันเลย

“วันนี้แม่งไม่มีไรแล้วม้าง เรากลับกันเหอะ” กวนเอ่ยขึ้นหลังจากนั่งฟังอาจารย์คนหนึ่งอธิบายเกียวกับเรื่องระเบียบที่คณะนี้ต้องเคร่งครัด วันนี้เมย์ปวดท้องเมนส์เลยมาไม่ได้ ซีซ่าก็บอกว่าปวดท้องเมนส์(?) ส่วนตุลคงไม่ต้องบอก แต้มยิ้มให้พร้อมพยักหน้า ก่อนที่ทั้งสองจะเดินลงบันไดเพื่อกลับบ้าน ใต้ตึกเป็นพื้นที่ใช้สอยทั่วไป มีโตะเก้าอี้มากมายให้นักศึกษาใช้ได้ตามสดวก แต่วันนี้กลับผิดแปลกจากก่อนหน้าที่ทั้งสองจะขึ้นไปเข้าคลาสที่ชั้นบน ถ้าจำไม่ผิดนักศึกษาชายคณะนี้จะแต่งตัวมีระเบียบ เสื้อเชิ้ทเข้าในกางเกง ผูกเนกไทตรามหาลัย รองเท้าขัดมัน แต่ตอนนี้หนึ่งในโตะใต้ตึกถูกจับจองโดยชายหนุ่มกว่าเจ็ดคน ที่แต่งตัวไม่มีระเบียบ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทุกคนสวมเสื้อยืดคลุมทับด้วยเสื้อช้อปที่บอกคณะเรื่องเป็นอย่างดี กางเกงยีนส์สีซีด รองเท้าผ้าใบที่ดูเก่าจนไม่น่าจะใส่ได้อีกพร้อมกับท่าทางวางอำนาดบาดใหญ่แบบนี้

แต้มไม่ชอบ

“เฮ้ย ลงมาแล้วว่ะ” ทันทีที่หนึ่งในนั้นเห็นแต้มและกวนเดินลงบันไดมา ก็เรียกทุกคนให้หันมามอง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเดินนำหน้ากลุ่มเดินเข้ามาหา

“เห้ยๆ เชี่ยแต้ม นี่กูไปกวนตีนใครจนได้เรื่องป่าววะ ยกพวกมาทำเชี่ยไร มาแค่คนเดียวกูก็กลัวแล้วไอ้สัส” กวนกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคนกับแต้ม บอกตามตรงว่าพึ่งใครที่คณะนี้ไม่ได้ซักคน เพราะส่วนใหญ่ที่มาเรียนก็มีแต่พวกลูกคนมีตังค์ทั้งนั้น ไม่มีใครอยากเป็นฮีโร่หาเรื่องเจ็บตัวกันหรอก

ชายหนุ่มร่างสูงหนา ผิวสีเข้ม ใบหน้าคมคายที่รับกับผมซอยสั้นสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งเป็นสันสวย ริมฝีปากสีส้มคล้ำหยักยิ้มเล็กน้อย ดวงตาเรียวรีจ้องมองมาทางแต้มอย่างแน่วแน่ เขาเดินนำหน้าเพื่อนอีกหลายคนที่เหมือนคัดเบ้าหน้าก่อนเข้ากลุ่ม แม้บางคนจะได้หล่ออะไรมากมากมาย แต่กลับดูเท่และมีเสน่ห์บางอย่างชวนให้อยากรู้จัก แต่ไม่ใช่กับแต้มและกวนแตงแน่

“แต้มป่ะ” เสียงทุ้มแหบของชายคนนั้นพูดเมื่อหยุดอยู่ตรงหน้า

“แล้วมึงเป็นใคร” ไม่ทันที่แต้มจะได้เอ่ยปากตอบ กวนก็แทรกขึ้นก่อน ทำให้แต้มรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของกวนมาก

“แล้วมึงชื่อแต้มไง ตอบไม”

“ก็ถ้ามึงรู้อยู่แล้วว่ามันชื่อแต้ม มึงจะถามหาสันขวานไร” ถึงแม้กวนจะตอบด้วยน้ำเสียงหาเรื่องกลับไป แต่มือชุ่มเหงือที่จับข้อมือขาวไว้ ทำให้แต้มรู้ว่ากวนกลัวจริงๆ แต่เพราะพื้นฐานเป็นคนปากไวกว่าความคิดและไม่ยอมใครแบบนี้ แต้มรู้สึกไม่ค่อยแปลกใจเลย ถ้าวันหนึ่งเกิดมีใครยกพวกมารุ่มกวนแตงเพื่อนใหม่ของเขา

“ฮ่าๆๆ เชี่ยนี่หนุกว่ะ กวนตีนชิบหาย” หนึ่งในเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างหลังเดินมาใช้แขนพาดบ่าของกวน ก่อนจะลากไปกลางกลุ่มเพื่อนๆที่เหลืออีก ปล่อยทิ้งแต้มกับผู้ชายคนก่อนหน้านี้ไว้เพียงสองคน

“เฮ้ย ลากกูออกมาไมว่ะ กูจะอยู่กับไอ้แต้ม”

“น่าๆ มึงสนุกอ่ะ มาอยู่กับพวกกูนี่”

แต้มจะไม่ลืมความหวังดีและน้ำใจของกวนเลย...

“เอ่อ... พี่ชื่อเนม อยู่วิศวะปีสามนะ” ใบหน้าเข้มขึ้นสีนิดๆ เมื่อยืนต่อหน้าร่างเล็ก ความรู้สึกต่างกันลิบลับจากที่ยืนมองอยู่ไกลๆ เลย ยิ่งมองชัดก็ยิ่งใจเต้น

“อ่า ครับ แต้มครับ เรียนบริหารอังกฤษธุรกิจปีหนึ่งครับ” แต้มประหม่าเล็กน้อย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าพี่เนมเข้ามาเพื่ออะไร นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกด้วยซ้ำ

“ครับ พี่รู้ วันนี้เรียนเสร็จแล้วหรอ จะกลับบ้านป่ะ”

“อ่า ครับ แต้มกำลังจะกลับแล้ว”

“เอ่อ... แต้มพอมีเวลาซักชั่วโมงไหม ไปดื่มกาแฟกัน ที่ร้านหน้ามอ.นี่ก็ได้”

แต้มนิ่งคิดซักพักก่อนจะพยักหน้าตกลง ถึงรีบกลับบ้านไปก็ไม่มีใครรออย่างเคย ตอนนี้ป้านินก็คงออกไปซื้อของสดที่ตลาดสำหรับอาหารเย็น การไปนั่งชิลที่ร้านกาแฟก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต้มบอกกับเนมว่าจะขับรถไปจอดที่หน้าร้านนั่นเอง จะได้ไม่ต้องกลับเข้ามาเอารถอีก สวนกวนก็มีนัดอยู่ก่อนแล้วจึ่งได้ออกไปตั้งแต่โดนเพื่อนเนมลากไป เพื่อนเนมก็สลายตัวทันทีที่ทราบข่าวว่าแต้มตกลงไปนั่งดื่มกาแฟด้วย

“แต้มจะเอาอะไร เดี๋ยวพี่สั่งให้”

“โกโก้ปั่นไม่หวานครับ” เนมพยักหน้าก่อนจะเดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อสั่งออร์เดอร์ แต้มเดินมานั่งที่โตะว่างริมหน้ากระจกที่มองเห็นถนน แต้มนั่งมองบัญญากาศในร้านได้นานนัก เนมก็เดินถือแก้วพลาสติกโลโก้ร้าน ของเนมน่าจะเป็นม็อคค่า

“ได้แล้วครับ”

“ขอบคุณครับ” บัญญากาศของทั้งสองคนเงียบมาก เนมที่หน้าขึ้นสีได้แต่มองออกไปนอกกระจก มีชำเหลือกมองดูแต้มบ้าง พอแต้มมองกลับก็หลบสายตา จนแต้มทนไม่ไหว

“เอ่อ... พี่เนมมีธุระอะไรกับแต้มหรือเปล่าครับ”

“อ่อ เปล่า ก็ไม่มีอะไรหรอก เอ่อ..พี่แค่อยากรู้จักแต้มน่ะ”

“...อ่า ครับ”

“แต้มมีคนคุย หรือแฟนแล้วหรือเปล่า”

“ยังครับ ยังไม่มี”

“ดีเลย พี่จีบแต้มนะ”

“.......” ไม่ผิดจากที่คาดไว้...

“เอ่อ..ตั้งแต่วันที่แต้มมารายงานตัวนู่นแหละ พี่ก็มองแต้มมาตลอด”

“........”

“พี่แค่อยากให้เราทำความรู้จักกันน่ะ อยากให้แต้มเปิดใจให้พี่สักนิด ถ้าเกิดพี่ไม่ใช่สำหรับแต้มพี่ก็โอเค แต่แต้มคือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับพะ...”

“พี่เนมครับ”

“ครับ” รอยยิ้มเนมดูเจื่อนลงเล็กน้อยที่โดนคนตัวเล็กพูดขัด

“แต้มมีคนที่แต้มรักแล้ว แต้มขอโทษครับที่รับความรู้สึกพี่ไม่ได้”

“.... แต่แต้มเพิ่งบอกพี่ว่า แต้มไม่มีแฟนนี่”

“ไม่ใช่แฟนครับ แต่แต้มรักเขา”

“... พี่ไม่มีโอกาศเลยหรอแต้ม”

“แต้มขอโทษครับ แต้มต้องกลับบ้านแล้ว ขอบคุณสำหรับโกโก้ครับ”

ร่างบางเดินออกจากร้านด้วยความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจ ดูก็รู้เนมไม่ใช่คนไม่ดี แล้วสายตานั้นก็ดูจริงใจกับเขาจริงๆ แต่แต้มไม่สามารถรับความรู้สึกนั้นของเนมได้ มันไม่ใช่เรื่องที่พยายามแล้วใช่ว่าจะรักหรือเลิกรักกันได้ ไม่อย่างนั้นแต้มคงทำไปตั้งนานแล้ว ก่อนกลับแต้มได้ขับรถไปอีกเส้นทางหนึ่งเพื่อไปพูดคุยกับแอม แม่ของเขาเอง อย่างน้อยก็ไปขอโทษแม่และชำละล้างบาป

..

“ไปอีกแล้วหรอ”

อีกด้านหนึ่ง ชายวัยสี่สิบต้นๆกำลังงวนกับกองเอกสานตรงหน้า ผู้ช่วยทั้งสองคนเดินกันวุ้นวายตรวจสอบเอกสานเกือบทั้งคลัง เพียงเพราะคลังการเงินและบันทึกรายรับ รายจ่ายของแผนกบัญชีไม่ตรงกันหลายล้านบาท และคนอย่างเตชินท์ไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ และถึงแม้จะงานยุ่งแค่ไหน เมื่อสายของคนที่เขาส่งไปตามดูลูกชายโทร.มารายงานเมื่อไร เตชินท์พร้อมจะทิ้งงานตรงหน้าทันที

((ครับ นั่งอยู่หน้าหลุมศพครึ่งชั่วโมง แล้วเข้าไปในโบสถ์อีกชั่วโมงครับ))

“อืม ร้องไห้ไหม”

((... ครับ))

“อืม”

((อ้อ คุณเตครับ ยังมีอีกเรื่อง....))

ปึก!

“คุณเตครับ เกิดอะไรขึ้น” อลัลผู้ช่วยมือขวาของเตชินท์ถามอย่างเป็นห่วง ทั้งที่เจ้านายก็รับโทรศัพท์จากคนตามดูแลลูกชายเป็นปกติ แต่วันนี้เตชินท์กลับโมโหจนกวาดกองเอกสานที่เขาจัดไว้อย่างดี กระจัดกระจายออกจากหน้าโตะจนหมด ร่างสูงลุกขึ้นถีบเก้าอีกทำงานตัวเองจนกระแทกกับกระจกชมวิวด้านหลังอย่างแรง

“เรื่องเหี้ยๆ ไงละ! พวกมึงเคลียร์ต่อกันให้เสร็จ กูจะกลับ” ไม่บ่อยนักที่เตชินท์จะพูดกูมึงกับพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเมา ก็เพราะโมโหมากจนควบคุมสติอารมณ์ไม่ได้ และนิสัยส่วนนี้ของเขาเนี่ยแหละที่น่ากลัว

ในโลกนี้คงมีเพียงแค่แอมที่สามารถหยุดอารมณ์โมโหของเตชินท์ได้

และ ในโลกนี้มีแค่แต้มคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้คนเยือกเย็นอย่างเตชินท์ ปะทุความโมโหออกมาได้อย่างง่ายดาย และรุ่นแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีจุดสิ้นสุด จนบางทีหากคิดกันเล่นๆว่าถ้าแอมยังอยู่ ก็คงหยุดเตชินท์ไม่ได้เหมือนเคยแล้วแน่...

..

“หัดเถลไถล! เลิกเรียนตั้งนานแล้วทำไมเพิ่งกลับ!!” น้ำเสียงที่เคยนุ่มทุ้มทำให้หลงไหล ตอนนี้กลับขึ้นเสียงจนแข็งดุดันน่ากลัว บ่งบอกว่าเจ้าของเสียงคงมีอารมณ์โมโหที่พร้อมปล่อยออกมาเต็มที่ แล้วยิ่งกับเหตุผลที่ทำให้เขาโมโหด้วยแล้ว คงยากที่จะดับลงได้โดยไม่ได้ปล่อยความโมโหออกมา

และคนที่จะแบกรับ ก็คงหนีไม่พ้นต้นเรื่องที่ไม่ได้ทำอะไรผิดอย่างแต้ม

“แต้มไปโบสถ์มาครับ”

“ไม่ไปอยู่ที่นั่นกับแม่แกเลยละ” คำพูดของเตชินท์เป็นดั่งคมมีดทิ้มแทงใจ ในความคิดของแต้มเหมือนบอกให้ตายๆไป แต่ในความหมายที่เตชินท์พูดกลับเพียงแค่ประชดลูกชายที่ชอบไปสารภาพบาปเท่านั้น

“...........”

“อ้อ หรือจะไปอยู่กับไอ้เด็กกุ้ยนั่นแทนห้ะ บางทีมันอาจจะพาแกขึ้นสวรรค์มากกว่าอยู่กับฉันแล้วลงนรกก็ได้นะ”

น้ำตาเม็ดโตไหลลงตามแก้มซีด ความร้อนบาดผิวขาวจนแสบ

“... พ่อรู้เรื่องพี่เนม?”

“ทำไม ฉันรู้ไม่ได้หรอ”

“พ่อให้คนแอบตามดูผมหรอ”

“แล้วไง”

“....พ่อทำแบบนั้น..ทำไม”

“แกเป็นลูกชายของฉันนะ เป็นลูกของฉันกับแอมเมียฉัน”

ดั่งน้ำร้อนลวกใจ เหมือนจะตายลงไปต่อหน้าร่างสูง แต่กลับได้เพียงแค่ยื่นก้มหน้าตัวสั่นอยู่ที่เดิม น้ำตามากมายไหลจนเหมือนจะกลายเป็นสายเลือด เตชินท์รู้สึกผิดจับใจที่พูดอะไรร้ายๆ เช่นนี้เพื่อประชดเด็กหนุ่ม แต่ก็เพราะเขานั้นห่วงร่างขาวตรงหน้า กลัวไอ้เด็กกุ้ยคนนั้นจะมาหลอกลวง กลัวจะพรากเด็กหนุ่มไปจากอ้อมอกของเขา กลัวที่จะเห็นเด็กหนุ่มให้ความรัก และความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าตัวเขาเอง....

เขาเองนี่แหละ ที่เป็นคนเลว.... ไม่ใช่แต้ม...

“......ครับ แต้มทราบ  แต้มขอโทษที่เกเร ต่อไปแต้ม..ฮึก จะไม่ทำอีก” มือเรียวยกมือขึ้นพนมกราบสั่นๆ

“ดี กลับเข้าห้องของแกซะ แล้วไปขนของๆ แกออกจะห้องฉันกับเมียด้วย”

“!!!”

“ป้านิน ป้านิน!”

“ค่าๆ มีอะไรคะคุณเต” ร่างท้วมของป้านินเดินออกมาจากในครัว ป้านินมองไปทางแต้มคุณหนูของแกอย่างสงสารจับหัวใจ แม้ไม่ใช่ญาติกัน แต่ก็เลี้ยงดูปูเสื่อเด็กคนนี้มาตั้งแต่เกิด แกย่อมรักของแก แม้ในใจจะโกรธเตชินท์อยู่บ้างที่พูดจาขวานผ่าซากเช่นนี้ แต่ก็เข้าใจในเหตุผลที่จำเป็นต้องทำ

“ไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนในห้องผม แล้วช่วยเด็กนี่ขนของออกจากห้องผมด้วย”

“คะ? ทำไมละคะคุณเต” ป้านินถามอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเตชินท์จะไล่คุณหนูของแกออกจากห้อง

“พรุ่งนี้... นายหญิงคนใหม่ของบ้านจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่กับฉัน แกควรดีใจนะ ที่จะได้มีแม่ใหม่แล้ว”

“...คุณเต...” ป้านินแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

“ดีใจจนค้างไปเลยละสิ เห็นไหม ฉันออกจะเป็นพ่อที่ดีที่ควรคู่แก่การถูกยกย่อง” เตชินท์ยังคงทำเสียงระรื่น โดยพยายามไม่มองหน้าเด็กหนุ่มที่แทบจะหมดลมหายใจ แต่ก็ต้องตกใจซะเอง เมื่อร่างขาวล้มพับไปกองกับพื้น มีเพียงป้านินที่เข้าไปประคองและร้องให้เด็กในบ้านเอารถออกไปโรงพยาบาล

เขา... ทำเกินไป



_____________________________________________________________
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2017 20:21:31 โดย Hannah.sweetieseasons »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำเกินไปจริง ๆ ละ จะชักศึกเข้าบ้านอีกหรือไง ว่าแต่แต้มเป็นลูกของเตจริง ๆ ใช่ไหม

“เอ่อ..ตั้งแต่วันที่แต้มมา เสนอตัว (รายงานตัว...หรือเปล่าคะ)นู่นแหละ พี่ก็มองแต้มมาตลอด”
พราก เขียนแบบนี้นะ

ออฟไลน์ Hannah.sweetieseasons

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่2 ผิด


หูอึ้ออึ่งไปหมด ลำคอแห้งผาก ใบหน้าชาราวกับโดนตบนับครั้งไม่ถ้วน ตัวเย็นเฉียบจนป้านินกลัวว่าจะช็อคไปอีกคน

เมื่อสิบนาทีก่อนเขาเป็นคนขับรถพาร่างขาวมาส่งโรงพยาบาล หวิดเฉียวชนใครต่อใครบนท้องถนน แต่มีหรือที่เตชินท์จะสนใจใครหน้าไหน เขาสนใจเพียงแต้มเท่านั้น เมื่อถึงหหน้าห้องฉุกเฉิน บุรุษพยาบาลเข็นเตียงผู้ป่วยมารับ เช็คอาการก่อนจะรีบเข็นเตียงเข้าห้องฉุกเฉิน โดยห้ามคนนอกเข้า

“เชิญญาติผู้ป่วยกรอกประวัติด้วยนะคะ” พยาบาลสาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาเรียกเตชินท์และป้านิน

“ป้าไปเองคะ คุณเตนั่งเรียกสติก่อนเถอะ” ป้านินเดินออกไปพร้อมกับพยาบาลสาวคนนั้น ปล่อยให้ร่างสูงนั่งมองประตูห้องฉุกเฉินรอหมอออกมาบอกอาการ

“อย่าเป็นอะไรนะแต้ม พ่อขอโทษ”

..

ไม่นานนักหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ร่างสูงรีบลุกไปหาหมอเพื่อถามอาการ

“แต้มเป็นไงบ้างครับหมอ ลูกผมเป็นไงบ้าง”

“ใจเย็นๆ นะครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้ว แกมีอาการช็อคแล้วหยุดหายใจไปหลายนาที แต่โชคดีที่ส่งมาโรงพยาบาลทันเวลา ไม่งั้น....”

“ปลอดภัยทุกอย่างใช่มั้ยหมอ” เตชินท์ถามย้ำกับหมออีกครั้งเพื่อความสบายใจ

“ครับ แต่ที่น่าเป็นห่วงคงเป็นที่สภาพจิตใจมากกว่า เคสหยุดหายใจเพราะอาการช็อคแบบนี้ถือว่ามีน้อยมากในประวัติการรักษา ปกติมีแต่หัวใจวายเพราะช็อค หมอแนะนำว่าหลังจากที่แกฟื้นให้คุณพ่อพาแกเป็นพบจิตแพทย์ดูนะครับ เพื่อตัวเด็กเอง”

“..ครับ ขอบคุณมาก”




ร่างสูงยังคงนั่งกุมมือขาวเอาไว้ไม่ยอมห่างหายไปไหนมาสองอาทิตย์แล้ว แต่ร่างเล็กบนเตียงคนไข้ก็ไม่ยอมฟี้นเสียที เพื่อนๆ จากมหาลัยก็มาเยี่ยมเป็นครั้งคราว พร้อมกับรับปากว่าจะช่วยกันเรียนเผื่อคนที่นอนอยู่จะฟื้นขึ้นมา จะได้มีเพื่อนๆ ค่อยติวให้ เรื่องลาหยุดที่มหาลัยของแต้มแทบไม่ใช่ปัญหาของเขา เพียงแค่เตชินท์โทร.บอกให้อลัลจัดการ ต่อให้ลาหยุดอีกสามปีร่างขาวก็ไม่มีปัญหาในการเรียน แต่เขาคงไม่อยากให้แต้มต้องหยุดยาวเช่นนั้นแน่

“จะไม่ตื่นขึ้นมาจริงๆ หรอหืม?” นานเท่าไรแล้วนะ ที่เขาไม่ได้พูดกับคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นนี้ มือหนาปัดป่อยผมที่เริ่มยาวขึ้นของเด็กน้อยอย่างถนุถนอม

ไม่เห็นโลงศพ ไม่ลังน้ำตา คำๆ นี้ใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัยจริงๆ นะคะคุณเต” ร่างท้วมของป่านินวางปินโตกับข้าวลงบนโตะ แกมักจะมาส่งปินโตก่อนเที่ยงทุกวันแบบนี้ให้เข้านายของแก ทุกครั้งที่มา ก็จะเห็นภาพเช่นนี้อยู่เสมอๆ จะว่าน่าสงสารคนตัวโตก็ไม่เชิง ในเมื่อคุณเตของแกก็ทำตัวเอง ที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นเด็กน้อยตัวเล็กๆ ที่มีเพียงความไร้เดียงสา ความบริสุทธิ์ ที่เคยได้รับความรักอย่างเต็มที่จากพ่อ แต่จู่ๆ ความรักที่เคยได้กลับหายไป กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ที่ร่างบางต้องทนแบกรับมัน

เตชินท์ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่พยักหน้าตอบเท่านั้น ดวงตาอ่อนโยนของป้านินจับจ้องไปที่ร่างขาว ที่นอนอยู่บนเตียง แม้จะหลับไปถึงสองอาทิตย์ แต่ดวงหน้ามนกลับยังคงดูเศร้าหมอง และอิดโรยเช่นเดิม แกเดินมาที่ข้างเตียง ก่อนจะจับมือเรียวขึ้นอย่างอ่อนโยน

“วันนี้ป้าแก่ๆ คนนี้ก็ยังมาเยี่ยมคุณหนูเหมือนเดินนะคะ รีบตื่นขึ้นมานะ ป้าเหงา ไม่มีใครกลับบ้านไปทานอาหารที่ป้าทำที่บ้านเลย ถ้าคุณหนูฟื้น ป้าจะทำแต่ของโปรดคุณหนู จะไม่ดุคุณหนูเรื่องเค้ก จะทำเค้กให้กินทุกวันเลย ตื่นมาเถอะนะคะ”

ทั้งสองยังคงมองไปที่ใบหน้าหวานซีด แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เค้กของป้านิน เป็นสิ่งที่แต้มชอบมากที่สุดแล้ว

“โถ่ คุณหนูของป้า” มือเหี่ยวเกลี่ยใบหน้าใส ก่อนจะเช็ดน้ำตาตัวเอง พร้อมกับบอกลาแต้มและเตชินท์



“แต้ม แต้มจำวันนั้นได้มั้ยลูก ที่เราไปเที่ยวหัวหินกันสองคน ตอนนั้นแต้มดูมีความสุขมาก พ่อเองก็เหมือนกัน ไว้ลูกฟื้นแล้ว เราไปกันอีกนะ... ลูกจำวันปีใหม่ปีนั้นได้มั้ย ที่ลูกให้ของขวัญที่แสนพิเศษกับพ่อ แต้มจำได้มั้ยว่าคืออะไร ฮ่าๆ แต้มเอาตุ๊กตาหมาป่าให้พ่อไง แต้มบอกว่ามันหน้าเหมือนพ่อ”

น้ำตาเม็ดโตยังคงตกลงบนพื้นเตียงสีขาวอยู่อย่างนั้น ร่างสูงยังคงคิดถึงความทรงจำที่เคยทำร่วมกันมากับร่างบางตรงหน้า ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งเสียใจ ว่าเวลาตลอดสองปีกว่านี้ เขาทำอะไรดีๆ เพื่อเด็กหนุ่มบ้าง แต่คำตอบที่ได้คือน้ำตาของแก้วตาดวงใจเขาเท่านั้น

“แล้วลูก... ยังจำวันนั้นได้มั้ย วันที่ลูกสารภาพบาปกับพ่อ... ฮึก พ่อขอโทษที่ผลักลูกจนล้ม พ่อขอโทษที่เดินหนีลูก พ่อขอโทษที่ไม่หันกลับมา ฮึก พ่อขอโทษ”

ภายในห้องพักผู้ป่วย มีเพียงเสียงสั่นกล่าวขอโทษไม่หยุด และเขาก็ยังคงพูดอย่างนั้นซ้ำต่อไปเรื่อยๆ

..

หลังจากที่หมอเข้ามาเช็คอาการ และให้พยาบาลเปลี่ยนถุงน้ำเกลือให้แต้ม หมอจึ่งได้ให้พยาบาลออกไปก่อนและขอเวลาเพื่อคุยเรื่องอาการคนบนเตียงกับญาติ

“เป็นยังไงครับหมอ นี่มันสองอาทิตย์กว่าแล้ว แต่ลูกผมยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลยซักครั้ง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เตชินท์ถามอย่างร้อนรน เขาอยู่ไม่สุขตั้งแต่ที่หมอขอเวลาเขาคุยเรื่องอาการ

“ใจเย็นๆ ก่อนเถอะครับ จริงๆ อาการตอนนี้ปกติดีทุกอย่าง ทำซีซีสแกนแล้ว อาการหยุดหายใจไม่ได้กระทบถึงสมอง ตรวจเช็คทุกอย่างแล้ว ทุกอย่างปกติดี” คุณหมอว่าอย่างใจเย็น

“แล้วทำไมแต้มถึงยังไม่ฟื้น”

“คุณเคยไม่ยินเรื่อง จิตใจสั่งสมอง สมองสั่งร่างกายไหมครับ” ร่างสูงส่ายหน้า “ก็ประมาณผู้ป่วยมะเร็ง ถ้ามีกำลังใจดี ใช้ชีวิตทุกๆ วันมีความสุข เชื้อมะเร็งก็จะไม่เติบโต หรืออาจหายไปเลยก็ได้ แต่ถ้าหากเอาแต่จมทุกข์ว่าตนนั้นเป็นมะเร็ง กำลังจะตาย เชื้อร้ายก็จะยิงกัดกินเพราะอ่อนแอ และในที่สุดก็สู้เชื้อร้ายไม่ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุดวันนี้คุณตื่นมาตอนหกโมงเช้า แต่คุณขี้เกียจ ไม่อย่างจะตื่น คุณก็จะนอนต่อแล้วตื่นสายในที่สุด แต่ถ้าคุณตื่นตั้งแต่ตอนหกโมง คุณก็จะมีเวลาทำอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น นั่นแหละครับจิตใจคน”

“ที่คุณพูดมาทั้งหมดนี่ จะบอกว่าเป็นแต้มเองที่ไม่อยากฟื้นอย่างนั้นหรอ”

“ถูกต้องครับ ถึงหมอจะได้เชียวชานเรื่องจิตเวช แต่เรื่องพื้นฐานแบบนี้ หมอรู้ครับ และสาเหตุก็มีไม่กี่อย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะอยากตาย ก็แค่ไม่อยากอยู่ในโลกความเป็นจริง... ไม่แน่ ตอนนี้คนไข้อาจจะกำลังฝันถึงเรื่องดีๆ อยู่ก็ได้นะครับ ถ้าอยู่ในฝันแล้วมีความสุข ก็คงจะดีกว่าอยู่ในโลกความเป็นจริงที่โหดร้ายกับแก หมอยังคงแนะนำอีกครั้ง ปรึกษาจิตแพทย์เถอะนะครับ หมอขอตัว”


หลังจากที่วันนั้นได้คุยกับหมอที่รักษาแต้ม เตชินท์ก็จัดการดำเนินเรื่องจิตแพทย์ให้เข้ามารักษาแต้ม แต่เนื่องจากเจ้าตัวเขายังคงหลับไหลอยู่ หมอจึ่งได้ถามเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเตชินท์ และคนรอบข้างอย่างป้านิน และกวนแตงเพื่อนที่มหาลัยของแต้ม

“จากที่ผมได้คุยเรื่องอาการของคนไข้จากหมออัคนี และการตอบคำถามจากญาติและคนสนิท ทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมคนไข้ไม่ฟื้น คนไข้เป็นโรคซึมเศร้า และคาดว่าเป็นมานานมากแล้ว แต่ไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากไม่รู้ตัว และไม่ค่อยมีคนใส่ใจ...” สิ่งที่หมอจิตเวชพูดนั้น ทำให้เตชินท์ถึงกับสะอึกกับคำตอบของอาการแต้ม “อาการตอนนี้น่าเป็นห่วงมากนะครับ ผมอยากให้ญาติทำไว้ใจบ้างก็ดี”

“เกิดอะไรขึ้น! ทำใจบ้าอะไร!” เตชินท์ตะคอกออกมาทันทีที่ได้ยิน เขาโมโหไอ้หมอบ้าที่มันพูดอะไรแบบนี้ แต่ก็โกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้

“คนไข้ในตอนนี้ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าแล้วละครับ แต่มันเปลี่ยนมาเป็น อาการที่เรียกว่า ตรอมใจ”

...
.....
........

“แล้ว... วิธีรักษา...” เสียงที่เปร่งออกมานั้นราวกับคนขาดอากาศหายใจ ใบหน้าคมหม่นหมองเศร้าส้อย ดวงตาแดงก่ำมองไปที่ร่างบางบนเตียง หากตัวของเขายืนอยู่ คงได้ล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว

“จริงๆ วิธีรักษามันมีนะครับ มันก็แค่เรื่องง่ายๆ อย่างการรักษาน้ำใจเขา การทำดีกับเขา ไม่ใช่จะมารักษาเขาในวันนี้เขาไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว มันไม่ทันหรอกครับ และผมก็ช่วยคนไข้ไม่ได้แล้ว ผมขอตัว” ถึงแม้อาชีพหมอ เป็นอาชีพที่ต้องรักษาคนไข้ และรักษาน้ำใจคนไว้เอาด้วยพร้อมกัน แต่ในกรณีนี้ หมออย่างเขาก็ห้ามความโมโหไว้ไม่ได้เหมือนกัน



ภายในห้องพักผู้ป่วยกลับมาเงียบอีกครั้ง ร่างสูงลุกจากโซฟารับแขกไปนั่งที่เก้าอีกข้างเตียง มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมมือบางเอาไว้แน่น เขาก้มหน้าลงซบที่ฝามืออีกคน น้ำตาเม็ดโตไหลออกมาอีกครั้ง ตอนนี้เขาช่างทุกข์ใจเหลือเกิน ไม่มีทางออก ไม่มีวิธีรักษา มีแค่รอวันจากไปของคนตรงหน้างั้นหรอ? เขาทำอะไรไม่ได้แล้วหรอ?

“กลับบ้านของเรากันนะแต้ม... กลับบ้านเรากันเถอะ” มือหนายังคงลูบผมนุ่มไปมานานหลายนาที เฝ้ามองดวงหน้าสีซีดที่เป็นดั่งหัวใจของเขา เฝ้ามอง จดจำรายระเอียดให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ก่อนที่เตชินท์จะลุกไปหยิบเสื้อผ้าราคาแพงที่เขาซื้อให้ร่างบางกับมือมาเปลี่ยนให้เจ้าตัว

“อลัล จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในโรงบาลที”

(( คุณหนูฟื้นแล้วหรอครับคุณเต ))

“เปล่า ฉันจะพาแต้มกลับบ้าน”

(( ครับ ผมจะจัดการให้ ))

“ขอบคุณ”

เมื่อวางสายจากคนสนิท ร่างสูงจึ่งโน้มตัวไปอุ้มร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดอุ่น ก่อนจะเดินออกจากห้องพักที่แสนเงียบเหงา เขาวางร่างขาวลงบนเบาะข้างคนขับ รัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ จึ่งได้เริ่มออกรถเพื่อกลับบ้าน ที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นที่อยู่แล้วสบาบใจที่สุด แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นนรกบนดินของอีกคนเสียแล้ว

“คุณเต... คุณหนูออกจากโรงพยาบาลได้แล้วหรอคะ?” ป้านินที่ได้ยินเสียงรถของเจ้านาย จึ่งได้เดินมาดูด้วยความสงสัยว่าทำไมคนที่ไม่ยอมห่างจากคุณหนูของแก ถึงกลับมาบ้านได้ แต่ความสงสัยก็หมดลงเมื่อเห็นร่างหนาที่ดวงตาแดงก่ำ อุ้มร่างอันแสนคุ้นเคยที่ยังคงหลับไหล

เตชินท์ไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับมุ่งหน้าเดินขึ้นบันไดเข้าห้องนอนไป เขาวางแต้มลงบนที่นอนสีฟ้าอ่อนที่ป้านินยังไม่เปลี่ยนให้ จากที่แต้มนั้นตัวเล็กและผอมอยู่แล้ว บัดนี้นั้นดูซูบโทรมเข้าไปใหญ่ ปากบางที่มีสีชมพูอมส้มอยู่หน่อยๆ ตอนนี้กลับแห้งผากไม่มีสี

“แต้ม... เห็นไหมที่นี่ที่ไหน บ้านเราไง.. นี่ก็ห้องนอนของเราสองคนไง พ่อขอโทษที่บอกว่าจะมีคนใหม่ พ่อแค่โกรธ พ่อขอโทษ... ชีวิตพ่อเหลือแค่แต้มคนเดียวเท่านั้นนะ ฮึก อย่าทิ้งพ่อไป”

การกลับบ้านครั้งนี้ หมอบอกว่าแค่ต้องกลับมารอ.. รอวันจากไปเท่านั้น...

การที่แต้มจะฟื้นอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องที่วิทยศาสตร์จะช่วยได้มาก เพราะสิ่งที่สั่งแต้มอยู่ตอนนี้ คือจิตใจที่ทุกข์เกินกว่าจะอยากอยู่บนโลกนี้ และมีเพียงจิตใจของแต้มเท่านั้นที่จะสั่งให้ตื่นเองได้

“ถ้าแต้มตื่นมานะ พ่อจะกลับบ้านมานอนกอดแต้มทุกวัน พ่อจะมีเหตุผลมากกว่านี้ พ่อจะทุ่มเทเวลาให้แต้มเหมือนแต่ก่อน... พ่อจะทำข้าวไข่ดาวที่แต้มชมว่าอร่อยให้แต้มกิน ฮึก พ่อจะเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนด้วย... พ่อจะพาไปเที่ยวทุกๆ วันหยุดยาว.. พ่อจะไปรับที่มหาลัยทุกวัน”

“จะพาแต้มไปที่ๆ แต้มอยากไป จะพาไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์”

"กลับมาเถอะนะ อย่าทิ้งพ่อไป... ฮึก พ่อรักแต้มมากนะ"

..

แต่กลับมีเพียงแค่ความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบ ดวงตาโตยังคงหลับพริ้ม.. คงจะฝันดี ในฝันนั้นคงเจอแต่เรื่องดีๆ ที่เขาไม่เคยทำให้ หรืออาจจะเคยทำให้แต่นานจนเขาเองก็จำไม่ได้ เขาอยากจะอยู่ในฝันของแต้ม อยากมีตัวตนในความฝันนั้น ไม่อยากห่างจากสายตาของเด็กหมุ่นแม้สักวินาทีเดียว อยากอยู่ได้ด้วยกันนานๆ





“พ่อฮะ แม่ไปไหน” เสียงหวานของเด็กน้อยที่อายุพึ่งพ้นสามขวดดีเอ่ยขึ้น พร้อมกับเงยหน้ามองเขาอย่างสงสัย ดวงหน้าที่ถอดพิมพ์เดียวมาจากภรรยาของเขา ยิ่งทำให้เขาอยากจะร้องไห้ที่มองเด็กคนนี้ทุกครั้ง

“แม่ไปที่ๆ สบายมากๆ ครับ” เขานั่งคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อที่สายตาจะได้อยู่ในระดับเดียวกัน

“ที่ไหนฮะ ทำไมแม่ไมชวนเราไปด้วย ทำไมไปสบายคนเดียว” เด็กน้อยทำปากยู่ อย่างงอนๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าสีหน้าของพ่อตนนั้นเศร้าหมองแค่ไหน

“นั่นสินะครับ ทำไมไม่ชวนเราสองคนไปด้วย”

เด็กน้อยพยักหน้าตามอย่างแรง “ใช่ๆ แม่งกจัง แต่ไม่เป็นไรน้า โอ๋ๆ แต้มยังอยู่กับพ่อน้า” แต้มกอดเขาเอาไว้ พร้อมกับลูบผมเขาเหมือนที่เขาเคยทำให้แต้มตอนที่เสยใจ เด็กคงจำมาแล้วทำกับเขาเมื่อเห็นเขาเสียใจ แม้อ้อมกอดเล็กๆ นี้ไม่ได้ทำให้อุ่นกาย แต่กลับอุ่นใจอย่างน่าประหลาด

“แต้มอยู่กับพ่อนะ อย่าทิ้งพ่อไปไหนนะ พ่อเหลือแค่ลูกคนเดียวในชีวิตพ่อ” คงน่าอายมากหากเขาจะร้องไห้ไห้ลูกเห็น แต่วันนี้เขาอ่อนแอเกินไป

“พ่อร้องไห้ทำไม โอ๋ๆ ไม่ร้องๆ แต้มไม่ทิ้งพ่อแน่นอน แต้มสัญญาลูกผู้ชายด้วยเลย” มือป้อมเล็กส่งนิ้วก้อยไปเกียวกับนิ้วใหญ่

“ครับผม”

“โตขึ้นแต้มจะแต่งงานกับพ่อ เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”

“สัญญาลูกผู้ชายกับพ่อแล้วนะ”

“ฮะ แต้มสัญญา เพราะแต้มรักพ่อมาก”

“พ่อก็รักแต้มนะ รักมาก”







ร่างหนาสดุ้งตื่นขื้นในเช้าของอีกวันเมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของคนในอ้อมกอด...

แต้ม.. ลืมตามองมาที่เขา

“อรุณสวัสดิ์ครับ พ่อ”



___________________________________________

เค้าใช้ภาษาไทยไม่ค่อยคร่องอ่ะค่ะ แฮ่ๆ :mew5: พิมพ์ผิดไปเยอะมาก แต่ก็จะพยายามแก้น้า

ทำเกินไปจริง ๆ ละ จะชักศึกเข้าบ้านอีกหรือไง ว่าแต่แต้มเป็นลูกของเตจริง ๆ ใช่ไหม

“เอ่อ..ตั้งแต่วันที่แต้มมา เสนอตัว (รายงานตัว...หรือเปล่าคะ)นู่นแหละ พี่ก็มองแต้มมาตลอด”
พราก เขียนแบบนี้นะ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ นอกจากจะพิมพ์ผิดแล้ว เรายังใช้คำใช้ภาษาผิดด้วย 555555 :hao5:
อ้อ ค่ะ ใช่แล้ว แต้มเป็นลูกชายแท้ๆ ของเตกับแอมค่ะ

ตอนหน้าก็จะจบแล้วนะคะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2017 20:25:12 โดย Hannah.sweetieseasons »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ขุ่นพ่อใจ่ร้าย..ยยยยยยยยย เชียร์พี่เนมอ่ะ   :ling1:

ออฟไลน์ Hannah.sweetieseasons

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่3 รัก [จบ]



“แต้ม... แต้ม!! ลูกฟื้นแล้ว” เตชินท์ครางเสียงแผ่วอย่างไม่เชื่อตาตัวเอง ก่อนจะตะโกนพร้อมโถมกอดคนตัวเล็กอย่างดีใจ น้ำหูน้ำตาแห่งความดีใจไม่ไหลรู้มาจากไหน

เขาดีใจที่เด็กหนุ่มกลับมา เขาไมอยากเสียแต้มไป เขายอมรับกับตัวเองแล้วจริงๆ

เขารักแต้ม มากกว่า... ลูก
“ผม.. หิวน้ำ” คนในอ้อมกอดเอ่ยเสียงแหบแห้ง เนื่องจากได้ขาดน้ำล่อเลี้ยงในลำคอไปหลายอาทิตย์ ทันทีที่คนตัวโตได้ยินก็รีบกุลีกุจอหาน้ำหาท่าให้อีกคนดื่ม

“ลูกเป็นไงบ้าง รู้สึกอย่างไงบ้าง”

“เมื่อยตัวเล็กน้อยครับ”

“หรอ งั้นเดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เราไปตรวจที่โรงบาลอีกทีนะ เผื่อมีอาการแซกซ้อน”

“เกิดอะไรขึ้นหรอครับ แล้วทำไมผมถึงมานอน...ที่ห้องนี้” เมื่อนึกเหตุการณ์ก่อนหน้าจะหมดสติได้ ดวงหน้ามนก็เริ่มหมนหมองอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ตอนตื่นมา แล้วเจอว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่แสนคิดถึง ก็ดีใจจนลืมไปว่าตนนั้นคอแห้งเหมือนทะเลทรายอยู่แล้ว

“ไม่มีอะไรหรอก ลูกแค่เป็นลมไป”

“แล้วแม่ใหม่... จะมาเช้านี้ใช่มั้ยครับ” เพราะว่าหมดสติไป จึ่งยังคิดว่าวันนี้คือวันถัดจากที่หมดสติ เตชินท์เอื้อมมือไปลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหยักยิ้มสวยให้คนตัวเล็ก จนทำให้แต้มมองค้าง ภาพตรงหน้านั้นราวกับฝัน

“ไม่มีแม่ใหม่หรื่อใครหน้าไหนทั้งนั้น ครอบครัวเรามีแค่เตชินท์และเฌอแตม”

“เตชินท์และเฌอแตม” คนปากบางพูดอย่างคนเหม่อลอย

“ใช่ แค่เราสองคน”

“สองคน”

คนหน้าคมยิ้มอารมณ์ดีอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง และอุ้มคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวขึ้นมากอดหมับ เขาหอมแก้มนวลของอีกคนอย่างที่เคยทำเมื่อหลายปีก่อน แต่วันนี้ความรู้สึกมันต่างออกไป ครั้งนี้คงเป็นครั้งที่สองในชีวิตของเตชินท์ที่เขาได้มีความสุขขนาดนี้

ครั้งแรก... ตอนที่แต้มเกิด เขานั่งรอภรรยาเข้าห้องคลอดไปถึงสองชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีหมอคนไหนออกมาบอกข่าวดีกับเขา จนเขาเริ่มกังวล และในที่สุด.. เสียงแหลมเล็กก็หวีดร้องออกมาลั่นห้องคลอด ทันทีที่เขาได้ยินเสียงนี้ เตชินท์แทบจะสิ้นแรง เขาไม่เคยดีใจแบบนี้มาก่อน ไม่เคยคิดว่าการกำเนิดชีวิตเล็กๆ หนึ่งชีวิตจะมาค่ากับเขามากถึงขนาดนี้

และนี่คงเป็นอีกครั้งที่เขาดีใจ เด็กคนเดิมที่ยังคงเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ ของเขา ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วทำให้เขาดีใจที่ยังมีวันนี้อยู่

คำสัญญาอะไรก็แล้วแต่ที่เขาเคยพูดตอนที่คนในอ้อมกอดนี้ยังหลับอยู่ เขาจะทำตามคำที่เขาพูดทุกอย่าง คำสัญญาลูกผู้ชาย...

“อ๊ะ พ่อครับ”

“อะไร ทำอย่างกับไม่เคยถูกพ่ออุ้ม”

“ไม่ใช่ แต่ว่า... พ่อไม่ได้ยิ้มอย่างนี้ให้ผม ไม่ได้สัมผัสผม ไม่ได้พูดดีๆ แบบนี้กับผมนานมากแล้ว ผมไม่แน่ใจว่า ผมกำลังฝันอยู่หรือเปล่า ผมกลัวว่า... ถ้ามันเป็นความฝัน ผมก็จะต้องตื่น... ฮึก ไปเจอพ่อ.. คนเดิม” แต้มพูดเสียงสั่น พร้อมกับน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง แม้ตอนนี้เจ้าตัวจะดีใจที่ได้พ่อคนนี้กลับมา แต่ก็กลัวเกินว่ามันจะเป็นเพียงฝันดีในคืนๆ หนึ่ง ก่อนจะสลายหายไปราวกับกลุ่มควัน

สิ่งที่คนตัวเล็กพูดนั้นสะท้านไปถึงหัวใจของเตชินท์ สิ่งที่หมอพูดนั้นเป็นความจริงทุกประการณ์ เขาทำให้เด็กหนุ่มทุกข์ถึงขนาดกลัวแม้กระทั่งจะต้องตื่นไปเจอเขาที่เคยพูดร้ายๆ เตชินท์เข้าใจความรู้สึกของแต้มขึ้นมาทันที ว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงได้หลับไปตั้งหลายอาทิตย์

“พ่อขอโทษนะ มันจะมีเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว พ่อให้สัญญาลูกผู้ชายเลย”

“สัญญาลูกผู้ชาย”

“ใช่ แต่ตอนนี้เราไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนเถอะนะ จะได้ลงไปกินเข้าไข่ดาวสูตรเด็ดของพ่อ แล้วไปตรวจเช็คร่างกายอีกครั้งกัน”

“ครับ”

ในเช้าวันนี้ดูเหมือนบ้านหลังใหญ่ที่เคยอึมครึม ขาดความรัก จะกลายเป็นบ้านที่ตลบอบอวนไปด้วยความรัก... และเสียงโวยวายเล็กน้อยจากห้องน้ำในห้องของเจ้าของบ้าน

..

“เป็นไงบ้างหมอ” หลังจากที่เตชินท์พาแต้มไปเช็คอาการกับหมออัคนีเสร็จแล้ว พบว่าไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ ทั้งสิน เขาจึ่งได้พาเด็กหนุ่มไปรับการปรึกษาจากหมอจิตเวชที่เคยขึ้นเสียงใส่เขาเมื่อตอนนั้น แต่เตชินท์ก็ไม่ได้โกรธเคื่องอะไร อยากจะขอบคุณด้วยซ้ำที่ด่าเขา

หมอได้ขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว เขาจึ่งได้บอกให้แต้มนั่งอยู่ที่โซฟาตัวนั้น ห้ามไปไหน แน่นอนว่าเด็กหนุ่มทำตามอย่างง่าย และไม่ขัดคำสั่งเขาเด็ดขาด

“ก็ไม่ตรอมใจอย่างวันนั้นแล้วอ่ะนะ แต่โรคซึมเศร้าก็ยังมีอยู่ อย่าได้เหลิง เออนี่คุณ ผมขอร้องล่ะนะ ช่วยเหอะ ดีกับเด็กมันหน่อย เด็กมันต้องการความรักจากคุณนะ ถึงคุณจะตอบรับความรู้สึกเด็กไม่ได้ แต่ก็ควรจะพูดคุยกันอย่างเหตุผล ไม่ใช่เอะอ่ะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง คิดเอาเองทุกอย่าง ผมเข้าใจว่าคนเราความคิดมันไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยเด็กมันก็ลูกคุณ ทำไมคุณใจร้ายกับมันได้ลงคอ เป็นพ่อภาษาไรวะ! พูดแล้วกูขึ้น!!”

“ฮ่าๆๆ ครับ ผมจะทำที่หมอแนะนำ” ถึงแม้หมอจะตะโคกด่า และพูดหยาบคาย แต่เตชินท์กลับไม่รู้สึกโมโห อาจจเป็นเพราะหมอพูดถูกทุกอย่าง

“เออดี พาเด็กมันไปเที่ยวบ้าง ผ่านเรื่องร้ายๆ มา ควรพาไปพักผ่อน”

“ครับ งั้นผอขอตัวก่อน”

“เออ! อีกสามเดือนมาตามนัดด้วย”

“ครับ”

เมื่อออกจากห้องตรวจมา ก็เจอเด็กหนุ่มที่วิ่งเข้ามาหาเขาอย่างหน้าตื่น

“พ่อๆ หมอพูดว่าไง ผมเป็นโรคจิตใช่มั้ย”

“บ้าหรือเปล่าเราหืม หมอเขาแต่แนะนำให้เราไปเที่ยวกัน ตอนนี้ร่างกายลูกพึ่งฟื้นตัว ควรไปผ่อนคลายที่ๆ สดชื่นสักพัก”

“ไปเที่ยวหรอ พ่อจะพาแต้มไปใช่มั้ย” ทันทีที่ได้ยินว่าคนตัวโตจะพาไปเที่ยว ร่างขาวก็กระโดดกอดหมับอย่างดีใจ จนเผลอเปลี่ยนคำแทนตัว ไปใช้อย่างเมื่อก่อน เตชินท์ก็ยิ้มดีใจที่ได้ยินเด็กหนุ่มแทนตัวด้วยชื่อ จากที่คิดว่าวันหยุดถึงจะพาไป ก็ต้องเปลี่ยนใจทันที

“ครับ พ่อจะพาแต้มไปเที่ยว แต้มอยากไปไหนพ่อจะพาไปหมด จะเที่ยวนานแค่ไหนพ่อก็ว่าง จะไปซื้อของช็อปปิ้งเท่าไรก็ได้ พ่อรวย”

“จริงหรอครับ จริงๆ นะ พ่อพาแต้มไปจริงๆ นะ”

“จริงครับ สัญญาลูกผู้ชายเลย”

“เย้ งั้นเราจะไปที่ไหนดี แต้มอยากไปทุกที่เลย ที่ไหนก็ได้ที่มีพ่อไปด้วย” เด็กหนุ่มร้องดีใจยิ้มกว้างมาตลอดทางจนถึงที่จอดรถ เสียงหวานก็ยังคงพูดจ้อยๆ ถึงสถานที่ท่องเที่ยว โดยคำนึงถึงกฎข้อห้ามข้อเดียว คือห้ามไปที่ๆ คนเยอะ พ่อไม่ชอบ

“งั้นไปวันนี้เลยเป็นไง”

“เราเตรียมของกันไม่ทันหรอกครับ หรือพ่อโทร.บอกป้านินไว้แล้ว?”

“เตรียมทำไม ไปซื้อเอาข้างหน้าก็ได้ ไม่เห็นอยากเลย พ่อบอกแล้ว พ่อรวย”

“แต่แต้มอยากเอากล้องไปด้วย อยากไปถ่ายความทรงจำนี้ไว้”

“ไม่ต้องหรอก วันไหนที่แต้มคิดถึง พ่อจะพาไปอีก พ่อบอกแล้วไง พ่อจะพาแต้มไปทุกๆ ที่ๆ แต้มอยากไป”

“.........................”

“เป็นอะไร ทำไมถึงเงียบล่ะ หืม?” จู่ๆ เด็กหนุ่มที่นั่งพูดจ้อยๆ มาตลอด กลับเงียบลง

“แต้มไม่แน่ใจ... แต้มกลัวว่าตัวเองกำลังฝันอยู่”

เตชินท์หันไปมองคนด้านข้างเล็กน้อย ก่อนจะหักรถเข้าข้างทาง มือหนาเอื้อมไปเชยคางมนให้แหงนขึ้นมามองเขา ก่อนที่หน้าคมจะโน้มหน้าลงไป เพื่อประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากเล็กช้าๆ ก่อนจะผละออกมามองดวงหน้าใสที่เขาหลงรัก เด็กหนุ่มหน้าแดงฉ่า แต่ก็ไม่ได้หนีออกจากมือที่เชยคางตนอยู่ ตากลมโตที่มองอย่างรัก เคารพ และเทิดทูน ในตัวเขาจนแทบจะล้นปลีออกมา เมื่อไม่มีการขัดขื่น ปากหยักจึ่งประทับลงไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับรุกล้ำกว่า เตชินท์ปรับองศาใบหน้าให้ยิ่งล้ำลึกมากกว่าเดิม รสหวานในจูบแรกนี้ ทำให้ร่างขาวสั้นสะท้านไปทุกส่วน ไม่มีแรงแม้จะพยุงตัวให้นั่งได้ แต้มจึ่งจำต้องนั่งพิงเบาะตัวอ่อนปวกเปียก นั่นกลับยิ่งทำให้อีกคนรุกล้ำมากขึ้น

อ้อยอิ่ง เนินนาน หยอกล้อจนพอใจจึ่งขยับออกมองอีกคน ที่ตอนนี้หมดแรงจนนั่งพิงเบาะ ริมฝีปากแดงบวมเล็กน้อย ดวงตาหวานปรือคล้ายกำลังออดอ้อนอย่างไม่ตั้งใจ มือเล็กที่จับอกเสื้อของเขาไม่มีแรงที่จะจับต่อ จึ่งตกลงมาข้างตัว เตชินท์ยิ้มให้กับภาพที่เห็น เด็กน้อยที่ไร้เดียงสาของเขา เด็กน้อยที่บริสุทธิ์ของเขา เด็กน้อยที่เป็นเหมือนลมหายใจที่ทำให้เขามีชีวิต และสู้มาต่อได้.....

ตอนนี้ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว

“ตอนนี้แต้มยังคิดว่า.. แต้มฝันอยู่หรือเปล่าล่ะครับ”

คนหน้าแดงที่ลามไปถึงคอส่ายหน้าแรง ก่อนจะหลบหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง เตชินท์หัวเราะเสียงดัง แล้วจึ่งขับรถออกไปตามที่ๆ ร่างเล็กด้านข้างอยากจะไป......

มีความสุขจัง.......

..

“แต้ม พ่อถึงหน้าคณะแล้ว” เตชินท์กลอกเสียงลงไปในสมาร์ทโฟรรุ่นล่าสุด ดูเหมือนอีกคนในสายจะครับคำ เขาจึ่งได้กดวาง ก่อนจะลงจากรถหรูสีดำเงาวับ แล้วพิงที่ประตูรถเพื่อรอตนสำคัญของเขา จะบอกว่าเขาอยากทำตัวเด่นก็ใช่ เพราะเขาทำจริงๆ ร่างสูงอยากเป็นจุดสนใจ เมื่อเวลาที่คนตัวขาวลงมา คนอื่นจะได้รู้ว่าห้ามยุ่งกับคนมีเจ้าของแล้ว โดยเฉพาะเจ้าของอย่างเขา

“พ่อ! นี่พ่อซื้อรถใหม่อีกแล้วหรอ” เมื่อคนตัวเล็กเดินลงบันไดมาเจอกับคนคุ้นตา เขจ้าตัวรีบเดินดุ่มๆ มาทันทีโดยไม่รอเพื่อน ทั้งๆ ที่สามเดือนก่อน อีกคนพึ่งซื้อปอเช่สีแดงสดมา แล้ววันนี้ก็ซื้ออีกแล้ว

“ลูกค้าให้มา”

“ไม่เชื่อ พ่อพูดแบบนี้ตลอด ลูกค้าที่ไหนจะให้แต่รถหรูๆ แบบนี้ พ่อใช้เงินเปลืองเกินไปแล้ว”

“ครับๆ แต่แต้มจะใช้เท่าไรก็ได้นะ พ่อมีพ่อให้แต้มใช้สบายๆ ไปสามชาติแบบไม่ต้องทำงานเลย ซื้อบ้านอีกสิบหลัง รถอีกห้าสิบคัน แต้มก็ใช้ไม่หมด”

“พูดแบบนี้ เดี๋ยวสักวันมันก็ต้องหมด”

“พ่อถึงได้ทำงานหาเงินเลี้ยงลูกกินจุของพ่อนี่ไง หึ กลับกันได้แล้วครับคุณหนู” ร่างสูงพูดพร้อมเปิดประตูให้ร่างเล็กเข้าไปนั่ง แต่ไม่ทันที่จะปิดประตู เสียงทุ้มของอีกคนก็ขัดขึ้นเสียก่อน

“แต้ม”

“พี่เนม เอ่อ.. นี่พี่เนมครับ พี่เนม นี่พ่อแต้ม” เด็กหนุ่มแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน หลังจากวันที่ทะเลาะกันคราวก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องของเนมอีกเลย

“สวัสดีครับคุณน้า”

“สวัสดี” เมื่อคนที่เด็กกว่าไหว้สวัสดี เขาที่เป็นผู้ใหญ่ก็ต้องรับไหว้ ถึงจะไม่ค่อยชอบใจเสียเท่าไร

“ว่าแต่พี่เนมทีอะไรหรอครับ”

“อ้อ เรื่องวันหยุดยาวนี้อ่ะ ตกลงแต้มว่าไง ไปป่ะ”

“ไปไหน” น้ำเสียงดุของตนที่อายุเยอะที่สุดในกลุ่มสนทนาถามขัดทันทีที่ได้ยิน ไปไหน? ทำไมเขาไม่รู้? ทำไมแต้มไม่บอกเขา?

“เอ่อ พวกเราจะไปเที่ยวกันที่หัวหินน่ะครับคุณน้า”

ตาคมหันขวับจ้องร่างขาวที่กุ้มหน้าไม่สบตาเขา นี่คิดจะปิดเขาหรอ?

“พ่อจะรอในรถ รีบคุยกันล่ะ” แล้วร่างสูงก็เดินไปนั่งฝั่งคนขับทันที เท่านั้นอีกคนที่กำลังคุยอยู่ก็คงจะเรี่มกังวลว่าเขาโกรธแล้ว

จริงๆเขาไม่ได้โกรธหรอก อาจจะแค่น้อยใจบ้างนิดหน่อย(มาก) ที่แต้มไม่ยอมบอกอะไรเขา ทั้งๆ ที่นอนด้วยกันทุกคืน อยู่ด้วยกันทุกวัน ถ้าไม่ติดว่าแต้มต้องเรียน เขาคงหนีบแต้มไปที่ทำงานด้วยแน่ๆ

ไม่นานนักอีกคนก็ตามเข้ามาในรถ บรรยากาศเงียบอย่างที่เขาชอบทำตอนที่มีอารมณ์(งอน)แบบนี้

“เอ่อ...วันหยุดยาวหน้าแต้มมะ....”

“ไม่ให้ไป”

“............? ครับ?”

“พ่อไม่ให้ไป”

“ครับ”

“............”

“............”

“แต้มอยากไปกับพวกเพื่อนๆ หรอ”

“ครับ? ก็เฉยๆ”

“อึดอัดไหม ที่พ่อบังคับ”

“ไม่เลย”

“รู้ใช่มั้ยที่พ่อเป็นแบบนี้ เพราะอะไร”

“รู้ครับ เพราะพ่อรักแต้มและเป็นห่วงแต้มมาก”

“อืม”

“แต้มปฏิเสธพี่เนมแล้วล่ะครับ จริงๆ ปฏิเสธตั้งแต่พี่เขาถามแรกๆ แล้ว แต้มสัญญาแล้วไงครับ ว่าแต้มจะเที่ยวกับพ่อคนเดียวเท่านั้น” คนเสียงดุกลั้นยิ้มทันทีที่ได้ยินแต้มพูดเอาใจ ทำไมเขารู้สึกว่าเขาแก่แล้วนะ ที่โดนเด็กอ้อนแบบนี้แล้วดีใจ

“แล้วทำไมถึงยังคุยกับไอ้เด็กนั่นอยู่”

“ก็ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วนี่ครับ เป็นพี่น้องกัน พี่เขาไม่ได้มาจีบแต้มแล้ว”

“จะรู้มันหรอ มันอาจจะตอแหลทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่ดีก็ได้”

“พ่อครับ พูดไม่เพราะเลย แล้วอีกอย่าง พี่เนมกำลังโดนจีบอยู่ ใกล้ๆ นี่แหละครับ” ไม่พูดเปล่า เด็กหนุ่มยังเอามือขาวขึ้นมาปิดปากหัวเราะคิกๆ คักๆ อย่างอารมณ์ดีอีกต่างหาก ยิ่งเตชินท์เห็นท่าทางนั้นของอีกคน มันก็ยิ่งทำให้เขาคิดว่า ตัวเองคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ยอมรับ....

มือหนายื่นมาจับมือบาง กุมไว้ที่หน้าขาตัวเองไม่ยอมปล่อย

“พ่อรักแต้มนะ”

“...ครับ แต้มก็....รักพ่อ” โดยทันไม่ทันตั้งตัว เด็กหนุ่มเขินหน้าแดงเพราะทำอะไรไม่ถูก ทำเอาร่างสูงรัวเราะอารมณ์ดี

“อย่าลืมสัญญาลูกผู้ชายที่เคยสัญญากับพ่อล่ะ”

“สัญญาว่าอะไรหรอครับ?” เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย ลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้ยังเขินที่พ่อบอกรักตัวเองอยู่เลย

“ก็สัญญาว่า โตขึ้นแต้มจะแต่งงานกับพ่อไงครับ” ร่างหมาพูดพร้อมกับหันมายิ้มให้เด็กหนุ่ม ที่ตอนนี้เขินจนตัวแดงก้มหน้าจะติดพื้นอยู่แล้ว น่ารัก

“แต่งงานกับพ่อนะ”

“ครับ! แต่งครับแต่ง แต่งแน่ๆ ครับ”

แต้มโพล่งปากออกไปอย่างที่ตนคิด ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขารอเวลานี้มานานแค่ไหนแล้ว เด็dหนุ่มดีใจจนแทบจะร้องไห้

รัก.... รัก.... เขารักพ่อ....

รักผู้ชายคนนี้

เตชินท์ของเฌอแตม..





       - จบ -




________________________



จบแล้วนะคะ แฮ่ๆ ขอฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกท่านด้วยนะคะ :mew1:

จริงๆ เรื่องนี้เราเคยตั้งใจจะแต่งเป็นเรื่องยาว แต่รู้สึกว่าเรากับงานดราม่านี่ ไปกันไม่ค่อยรอด เลยทำให้มันเป็นเรื่องสั้น เพราะเรื่องที่มันดราม่าเกินไป ไม่มีอะไรที่มันลุ้นระทึก เรารู้สึกว่ามันน่าเบื่อ แต่ช่วงนั้นเราสนใจเรื่อง อาการตรอมใจของผู้ป่วยทางจิต อยู่ พอมาค้นไฟล์เก่าๆ ที่เราเคยเขียนไว้ เราก็กลับมาสนใจอีก แล้วพยายามแต่งให้จบ จึ่งตัดสินใจอัพเรื่องนี้ ฮ่าๆๆ

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ :L2: :L2: :L2: :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2017 13:55:05 โดย Hannah.sweetieseasons »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เฌอแตม ชื่ออย่างหวาน..นนนน ว่าแต่ใครจีบพี่เนม อยากรู้ เชียร์หมอได้ป่ะ น่ารักดี  :hao3:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Hannah.sweetieseasons

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    ตอนพิเศษ




“ลูกใครเอ่ย ลูกใครเอ่ย อึ๊อให้พ่อเก็บเนี่ย หืมมม”

“จ๋ะจ๋ะจะ ปะป่ะ”

“แหน๊ะ เถียงด้วย เถียงหรอ เถียงพ่อหรอ หืม”

“อา จ๋ะจ้ะจ่า”

ภาพภายในห้องนอนสวย ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยของใช้ และของเล่นเด็กเล็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผีสีเข้มกำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกชายคนแรกอย่างตั้งใจ ทำให้แอม แม่ลูกอ่อนยื่นยิ้มมอง และจดจำภาพๆ นี้ไว้ในใจ

ผู้ชายที่เธอรักที่สุดในชีวิตทั้งสองคน.....

แอมเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อทิ้งไปตั้งแต่เกิด ส่วนแม่ก็ทำงานอย่างหนักหาเงินคนเดียว ช่วงชีวิตก่อนที่จะเจอกับเตชินท์นั้นช่างลำบากเสียจนผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งแบกรับไหว ยิ่งช่วงที่เข้าเรียนมหาลัยนั้น ยิ่งเป็นช่วงที่แอมแทบจะไม่มีเวลานอน เพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่าเรียน และค่าหอ ส่วนแม่เธอนั้นเสียไปตั้งแต่ที่แอมพึ่งเข้าจบม.หก แต่เพราะเธอนั้นไม่เคยท้อ และอยากจะเรียนสูงตามที่แม่ของเธอได้ตั้งใจ แอมจึ่งต้องอดทนทำงานหนัก

และเพราะแอมเป็นผู้หญิงสู้ชีวิต ไม่สนเรื่องอะไรนอกจากเรียนและทำงาน เขาจึ่งตกหลุมรักเธอ เตชินท์พยาบามขอออกค่าเรียนให้เธอ แต่แอมไม่ยอมรับ เธออยากจะทำงานส่งตัวเองเรียน แอมมีเป้าหมาย เธอไม่ได้อยากเกาะผู้ชายกิน

หลังจากที่เรียนจบและทำงานได้สองปี เตชินท์ก็ขอเธอแต่งงาน....

ภายในปีนั้น... เธอก็ท้อง...

“แกล้งอะไรลูกล่ะนั่น” หญิงสาวเดินเข้าไปกอดชายที่เธอรักจากด้านหลัง มองดูเตชินท์เปลี่ยนผ้าอ้อมอันใหม่ ปะแป้งเด็กเพื่อไม่ให้ระคายเคืองก้นเล็กๆ นี้

“เปล่าแกล้งซะหน่อย ลูกต่างหากที่แกล้งอึ๊อให้ผมเก็บ” อีกคนว่า พร้อมทำปากยู่ใส่เด็กน้อยที่ร้องอ้อแอ้ที่เตียงเปลี่ยนผ้าอ้อม

“อะไรกัน อะไรกัน นี่หนูแต้มของแม่แกล้งอึ๊อใส่พ่อหรอครับ” แล้วหญิงสาวก็โดนต่อว่าจากเด็กน้อยเช่นกันกับพ่อเด็ก สร้างเสียงหัวเราะเอ็นดูเด็กตาใส

“ว่าแต่ เตคะ แอมอยากตั้งชื่อจริงให้ลูก” แอมว่า พร้อมกับลูกเด็กน้อยวัยสามเดือนครึ่งมานั่งเล่นที่เตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์ ตามด้วยร่างใหญ่ที่ตามมานอนเล่นกับเด็กน้อยอีกคน

“ชื่อแต้มก็ดีออก ผมชอบนะ เพราะมันมาจากชื่อของเราสองคน”

“ก็จริงอยู่หรอกคะ แต่เราทั้งสองคนเนี่ย ไม่มีทั้งชื่อจริงหรือชื่อเล่นนะค่ะ เรามีชื่อเดียวมาตลอด”

“ผมยังไงก็ได้ แล้วแต่แอมเลย”

“ชื่อแต้มเนี่ย แอมตั้งแล้ว ชื่อจริงแอมให้เตตั้งให้ลูก”

“ผมเนี่ยนะ? จะดีหรอแอม”

“ดีสิคะ เตเป็นพ่อนะ แต้มต้องดีใจแน่ ที่เราช่วยกันคิดให้คนละชื่อ”

“อืมมม....”

ชายหนุ่มจ้องมองในนัยตากลมโตของเด็กน้อย... แววตาของคนที่ทำให้รู้จักคำว่าดีใจจนร้องไห้เป็นครั้งแรกในชีวิต... ชีวิตที่เขาร่วมสร้างมากับคนรัก... ชีวิตเล็กๆ นี้...

เขารัก

“เฌอแตม”

“คะ?” แอมถามอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่เตชินท์พูดนั้นราวกับคนเหม่อลอย ทั้งที่จ้องหน้าลูกอยู่แท้ๆ

“เฌอแตม ชื่อจริงของแต้มคือ เฌอแตม”

หญิงสาวยิ้มพอใจให้กับชื่อใหม่ของลูกคนแรก เฌอแตม... ฉันรักคุณ...

“ดีคะ แอมชอบ”

“เฌอแตม เฌอแตม.... เฌอแตมของพ่อ”

เตชินท์พูดซ้ำอีกหลายๆ รอบ ก่อนจุ๊บลงกระหม่อมของเฌอแตมอย่างอ่อนโยน

แอมคิดไม่ผิด ที่ฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้... แต่ตอนนี้เธอต้องขอฝากอีกชีวิตที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอไว้ที่เตชินท์อีกคน...

เผื่อวันใดที่ไม่มีเธอ ผู้ชายคนนี้ก็จะรัก และดูแลคนตัวเล็กๆ คนนี้ได้แน่...

“เตคะ.. ขอบคุณนะ สำหรับทุกอย่าง”

แอมขอบคุณจริงๆ







     - END -


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2017 22:44:10 โดย Hannah.sweetieseasons »

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ดีนะที่เป็นเรื่องสั้นมันเลยไม่เศร้ายาวนาน แต่แค่นี้ก็จะร้องแล้ว  :mew4:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
อื้อออออ สนุกอ่ะ โอ๊ยยย อยากอ่านแนวบาปๆแบบนี้อีก 555 เฮ้ย!! ชอบๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด