[center...]ตอนที่ 24 ลูกชาย...[/center]
เป็นวันวุ่นวายอีกวันของสงครามที่เขาพึ่งจะได้รับรู้ว่าญาติผู้พี่กลับมาพาลูกชายไปอยู่ด้วยกัน
“พี่ก้อยไม่บอกผมล่วงหน้าแบบนี้ใจร้ายมากเลยนะครับ “
“พี่ไม่อยากให้เดียวคิดมากนะ ใจพี่น่ะอยากกลับมาอยู่เมืองไทยมากเลย แต่แบร์เค้ายังต้องดูแลครอบครัวเขาด้วย พี่เลยคิดว่าเอาไว้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางค่อยคุยกับแบร์ใหม่ เอาไว้ถึงเวลาเกษียนพี่สองคนอาจจะมาขออยู่กับเดียวนะ ปล่อยน้องเนให้สนุกกับชีวิตของเขาไป”
“แม่ครับ พูดยังกับจะไม่กลับมาเยี่ยมเดียวงั้นแหละ”
“นั่นสิเน แล้วนี่ปลารู้หรือยังล่ะว่าพี่เนเขาจะหนีไปต่างประเทศน่ะ”
“รู้แลัวครับงอนผมตั้งแต่เช้าละ ฮ่าๆๆๆ “
เสียงพูดคุยกันในห้องรับรองทำให้ยายกิ่งกับมัจฉาต้องแอบหัวเราะไปด้วย วันนี้ครึกครึ้นน่าดู เหมือนวันรวมญาติที่ยังมีอยู่ไม่กี่คน
“ยายขอบคุณคุณปลามากๆเลยนะคะ”
“ขอบคุณผมทำไมล่ะครับ”
“ขอบคุณที่มาเติมความสดใสให้บ้านหลังนี้ขอบคุณที่ดูแลคุณหนูทั้งสองคนของยายนะคะ ขอบคุณมากๆเลย”
“ยายกิ่งครับผมบอกแล้วไง ผมก็ไม่มีใครมีแค่เขาสองคนอันที่จริงเป็นเขาทั้งสองคนมากกว่าที่ช่วยดูแลผม”
มัจฉาส่งยิ้มให้หญิงชราที่เป็นมากกว่าแม่บ้านคนเก่าแก่ และเป็นยิ่งกว่าญาติผู้ใหญ่ของบ้านนี้ เขาสัญญากับญาติผู้ใหญ่เพียงหนึ่งเดียวของบ้านคนนี้
ว่าเขาจะไม่ไปไหนจนกว่าคนที่นี่จะไม่ต้องการเขาแล้ว ซึ่งยายกิ่งได้แต่ยิ้มและพูดสั้นๆกับเขาว่า จะไม่มีวันนั้น....
...................................................
สงครามเอนตัวพิงหัวเตียงในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอน ในอ้อมแขนมีคนร่างบางเอนซบอยู่ข้างๆ เขาฟังมัจฉาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับลูกชายเพียงคนเดียวของเขา
ยิ่งฟังเขายิ่งหลงรักผู้ชายคนนี้มากขึ้นทุกที มัจฉาที่ใส่ใจรายละเอียด ของมาเฟีย มัจฉาที่ดูเป็นทุกข์ยามที่ลูกชายเขาไม่สบาย
ความช่างสังเกตของมัจฉาทำให้เขารับรู้เรื่องราวที่เขามองข้ามมานานหลายปี
“พี่เป็นพ่อที่แย่มากใช่ไหมครับ “
มือหนายกขึ้นลูบเส้นผมนุ่มไหวนั้นเบาๆไปมา มัจฉาที่เอนพิงศรีษะกับไหล่กว้างนั้นต้องขยับตัวไปมาเมื่อคนตัวโตที่ชอบเล่นผมเขาทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน คุณสงครามบอกว่ามันช่วยผ่อนคลาย
“ไม่หรอกครับพี่เดียวเป็นพ่อที่ดี น้องเฟียรู้ข้อนั้น “
“วันนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจ เพราะพี่เมาเพราะพี่ไม่มีสติ เป็นครั้งแรกที่พี่เองก็ทำร้ายลูกไม่ต่างจากมายา “
“ชู่ว..ไม่เอาครับเรื่องมันผ่านไปแล้ว เรามาคิดกันตอนนี้ดีกว่าว่าจะช่วยลูกยังไง “
“ลุงทดน่าจะช่วยได้นะแกรู้จักหมอดีๆหลายคน “
“ครับ ถ้าเรารู้และแก้ไขแต่เนิ่นๆ น้องเฟียจะหายเองครับ หมอที่แนะนำผมมา เขาบอกว่าน้องยังเด็กอยู่อาการพวกนี้ลบได้ไวกว่าน้องจะโตเราจะช่วยกันสร้างความทรงจำดีๆให้เขาช่วยลบภาพจำแย่ๆนั่นไป ไม่นานน้องเฟียจะไม่นึกกลัวเรื่องในวันนั้นอีกเลยครับ”
“ขอบคุณนะ ขอบคุณมากเลยพี่ไม่รู้จะพูดยังไง “
สงครามหมายความตามที่พูดเขาไม่รู้จะพูดอะไรได้มากกว่าคำว่าขอบคุณเพราะสิ่งที่มัจฉาทำอยู่มันมากเกินกว่าที่เขาคิด
เด็กผู้ชายที่เดินหลงทางเข้ามาในชีวิตเขาเด็กผู้ชายที่ขาดความรักแต่มาเต็มความรักนั้นให้กับเขาและลูก
เขานึกย้อนไปถึงการกระทำของตัวเองที่ผ่านมา เขาที่โง่งมอยู่กับความรักที่ไม่เคยมีจริง เขาที่เคยเชื่อว่าการรักและการทุ่มเทเพื่อความรัก
จะได้สิ่งนั้นกลับมาแต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าสิ่งนั้นมันใช้ไม่ได้กับทุกคน ครั้งนั้นเขาพลาดไปสำหรับความรัก แต่สำหรับรักครั้งนี้เขาจะไม่เสียใจเลยที่จะทุ่มสุดตัวและหัวใจ
“งั้นพรุ่งนี้เราไปหาลุงทดกันไหมครับ”
“เอาสิเสร็จแล้วจะได้พาน้องฟียไปหาอาโป้งด้วยบ่นคิดถึงหลานนานแล้ว”
“อาโป้งมากรุงเทพเหรอครับ “
“มาไม่กี่วันหรอก อาปรานมาด้วย..อ้อ..คือพี่มีเรื่องนึงจะบอกพอดีจริงๆอาปรานบอกว่าไม่ต้องบอกแค่เก็บไว้ให้แต่พี่ว่าปลาควรรู้”
มัจฉาขมวดคิ้วจนจะเป็นปมบนหน้าผากเมื่อฟังคุณสงครามพูดจบ เขาไม่รู้จักอาปรานของคุณสงครามเขารู้แค่อาโป้งที่ช่วยชีวิตเขาวันนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่ถอนหายใจราวกับตัดสินใจอะไรสักอย่าง
“เมื่อหลายวันก่อนมีคนมาหาพี่ “
สงครามว่าพลางเอี้ยวตัวไปที่โต๊ะข้างเตียงเขาเปิดลิ้นชักเล็กใต้โคมไฟก่อนจะหยิบเอาซองเอกสารขนาดกระดาษ A 4 ออกมา
แล้วยื่นต่อให้กับมัจฉาแล้วก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆที่มัจฉาดูคุ้นตามากเหลือเกิน
“กระดาษแผ่นนี้พี่ค้นจากห้องของปลาในวันที่ปลาหายไป ..จากที่ปลาเคยเล่าให้พี่ฟัง พ่อของปลาไม่ทิ้งปลาไปนะ เขาแค่กำลังหาทางช่วยปลา
พี่ว่าพ่อรักปลามากนะ วิธีการอาจจะไม่ถูกต้องนัก เขาทำให้พี่หันมามองตัวเองว่าพี่เองก็ไม่ได้เป็นพ่อที่ดีเลยแม้ว่าจะอยู่กับลูก
แต่เหมือนไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะพี่เอาแต่มองตัวเองไม่เคยมองเห็นน้องเฟียเลย”
มัจฉาคลี่อ่านกระดาษใบเก่าที่เขาไม่เคยคิดจะเปิดอ่านเลยสักครั้งขอความในนั้นมันทำเขาน้ำตาไหลไม่รู้ตัว เขาที่ตัดพ้อน้อยใจพ่อที่ทอดทิ้ง โดยไม่รู้เลยว่าพ่อพยายามทำเพื่อเขาสักแค่ไหน
สมุดบัญชีที่เป็นชื่อของเขาทั้งยอดเงินจำนวนนั้นมันทำเขาตกใจพ่อไปหาเงินมากมายนั้นมาจากไหนแล้วทำไมไม่มาหาเขา
“พ่อมาหาพี่เดียวเหรอ ทำไมเขาไม่มา..ฮึก..ไม่มาหาปลาทำไม..ฮือ..”
สงครามกระชับอ้อมกอดคนตัวบางเอาไว้พลางลูบหลังที่สั่นสะท้านนั้นเบาๆอย่างปลอบโยน
“คนที่มาไม่ใช่พ่อของปลาหรอกเขามาจากอาปราน พ่อของปลาทำงานกับอาปรานของพี่แต่เชื่อเถอะเงินจำนวนนี้ไม่ได้มาจากของผิดกฏหมายแน่นอนเพราพี่เชื่อมั่นว่าอาปรานไม่ทำแบบนั้นแต่ข้อตกลงหรือเรื่องอื่นๆพี่ไม่รู้ปลาคงต้องถามอาปรานเอง”
“พี่เดียวปลาอยากเจอพ่อ..สักครั้ง ..ปลาคิดถึงเขา...ฮึก..”
มัจฉาพยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่วิ่งขึ้นมาจกที่คอทุกครั้งที่จะพูดเขาคิดถึงพ่อคิดถึงจนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ยิ่งได้รู้ว่าพ่ออยู่ใกล้ๆเขาแค่นี้เอง
“งั้นพรุ่งนี้เราไปเจอเขากันนะ พี่จะบอกอาปรานให้ “
สงครามรู้สึกสงสารร่างบางในอ้อมแขน เขาไม่รู้ว่าเหตุใดพ่อของมัจฉาถึงไม่มาเจอลูกชายแต่เขาเชื่อว่าพ่อของมัจฉาต้องมีเหตุผลที่จะจากไปแบบนั้น..
อาปรานต้องช่วยได้สงครามคิดหวังไว้อย่างนั้นไม่ว่าจะเรื่องอะไรเขาไม่อยากให้คนร่างบางนี้ต้องเศร้าใจหรือเสียใจ อะไรที่เขาทำได้เขาจะทำทันทีโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
มัจฉากอดซองเอกสารแน่นราวกับว่ามันคือตัวแทนพ่อ เขาไม่ได้ต้องการเงินเขาไม่เคยคิดอยากได้เงินเยอะเขาแค่ต้องการพ่อ พรุ่งนี้เขาจะได้เจอพ่อแล้วมัจฉากอดสงครามแน่นขึ้นราวกับเป็นตัวแทนของพ่อที่อยู่ไกลกัน
“นอนซะนะพรุ่งนี้เราจะไปหาพ่อของปลากัน ฝันดีนะครับคนดีของพี่เดียว”
สงครามบรรจงจุมพิตเบาๆบนหน้าผากมนของคนขี้แงที่พยายามกลั้นน้ำตา เขารู้ว่าน้ำตานั้นมันมาจากความดีใจที่จะได้จเอคนที่รัก
เขาอยากให้มัจฉายิ้มเยอะๆและมีความสุขมากๆ นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการและจะทำให้ผู้ชายตัวบางในอ้อมกอดของเขาเพียงคนนี้เท่านั้น
..................................................
“เราจะไปไหนกันเหรอฮะ”
เด็กชายทำหน้างุนงงที่ถูกปลุกให้ตื่นเช้า โดยพี่ปลาที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นดีใจเรื่องอะไร รอยยิ้มที่ยิ้มกว้างจนตาหยีของพี่ปลาเช้านี้ทำเด็กน้อยสงสัย
“ไปหาคุณตากันนะ “เสียงพ่อเดียวที่พูดแทนพี่ปลาที่เอาแต่ยิ้มเด็กชายยิ่งงง
“คุณตาเหรอฮะ..คุณตาไม่ชอบเฟีย”
มัจฉากับสงครามชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ ความทรงจำวัยเด็กที่ยังลบล้างไม่หมด คุณพ่อทั้งสองมองหน้ากันพลางคิดว่าอีกไม่นานหรอกความทรงจำดีๆที่พวกเขาช่วยกันสร้างมันจะลบภาพจำแย่ๆนั้นออกจากหัวใจดวงน้อยๆนี่
“น้องเฟียครับ พี่ปลาจะพาไปหาคุณตาปู คุณตาคนนี้เขาจะรักน้องเฟียนะ เพราะเขาเป็นคุณพ่อของพี่ปลา”
“จริงเหรอฮะเฟียอยากเจอคุณตาเร็วๆจัง”
เด็กน้อยยิ้มกว้างทันทีเมื่อรู้ว่าจะได้เจอพ่อของพี่ปลาก็ขนาดพี่ปลายังใจดีขนาดนี้พ่อของพี่ปลาก็ต้องใจดีมากแน่ๆ
……………………………………………
“นี่คุณปรานผมมีงานต้องทำนะจะพาผมมากรุงเทพฯทำไมไหนคุณบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าผมต้องทำงานใช้หนี้ให้คุ้มค่าจ้างน่ะ”
เสียงบ่นกระปอดกระแปดจากคนร่างเล็กที่ทำหน้าบึ้งตึงไม่พอใจเมื่อถูกลากออกจากที่พักริมแม่น้ำสาละวินตอนกลางดึกเพื่อพามากรุงเทพเมืองที่เขาเองก็ไม่อยากจะกลับมา
“บ่นเป็นยายแก่ไปได้น่า นี่ก็จะพาไปทำงานไง ทำโอทีเยอะๆเผื่อหนี้จะหมดไวๆ”
ปราการเอ่ยอย่างอารมณ์ดีเขาชอบเวลาที่ปูจะแสดงอารมณ์หงุดหงิดชักสีหน้าดีกว่าเวลาที่ผู้ชายคนนี้เงียบเพราะเขารู้สึกว่าเวลาปูเงียบๆเขาเดาทางไม่ถูกเลย เป็นคนแรกที่ทำเขาหัวปั่นได้แบบสุดๆ
“จะพาผมไปทำอะไรอีกล่ะ อุตส่าห์นัดเจ้าแก้วเอาไว้ว่าจะพาไปตกปลาสักหน่อยดูสิต้องผิดสัญญาเลย”ปราการอยากจะขำปากยื่นๆที่ปูคงลืมตัวแสดงความเป็นตัวเองออกมาเวลาถูกขัดใจ
“เอาน่า เจ้าแก้วยังมีเวลาเจอกันอีกนาน อ่ะ..กินนี่รองท้องไปหรือจะหลับต่อแล้วแต่คุณเลย”ปราการยื่นถ้วยโกโก้ร้อนให้คนขี้บ่นพร้อมกับขนมปังปิ้งอีกชิ้น
กรกฏเมินถ้วยโกโก้พลางทำหน้าเบื่อหน่ายเขาถูกปลุกกลางดึกแบบนี้บ่อยๆ เวลาที่นายปราการคนนี้จะพาเขาไปทำงาน
เขาเคยถามว่าต้องไปทำงานกลางคืนทำไมต้องเดินทางกลางคืน เหตุผลแรกที่เขาได้จากผู้ชายหน้าดุคนนี้คือป้องกันการจำทิศทาง
//เหอะกลัวเขาหนีหนี้ขนาดนั้นเลย แต่ก็ช่างเหอะเรื่องมันก็เลยเถิดมาจนป่านนี้แล้ว จะบ่นไปก็เท่านั้น ถือว่านี่เป็นกรรมที่เขาก่อเอาไว้กับลูกละกัน //
กรกฏเหม่อ ออกไปนอกหน้าต่างมองดูแสงไฟข้างทางที่เปลี่ยนทิศไปเรื่อยๆ เขากำลังนึกถึงลูกชายคนเดียวของเขา
ป่านนี้เจ้าตัวน้อยของพ่อคงมีความสุขดี เป็นสิ่งเดียวที่เขาจะชดเชยให้ลูกได้คือยอมให้คนๆนี้ เพราะเงินจำนวนมากมายนั้นถ้าเขาหาเองทั้งชาติคงหาไม่ได้
เขาอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี เรื่องลูกกับผู้ชายคนนั้นเขาเองก็ไม่มั่นใจนัก แต่ถึงแม้ว่าลูกเขาจะถูกทิ้งเขาก็ได้แต่หวังว่าเงินก้อนนั้นมันจะไม่ทำให้ลูกต้องลำบากอีกแล้ว
อย่างน้อยคนๆนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกเรื่อง ปราการเหลือบมองคนข้างกายที่นั่งเงียบไปไม่บ่นเหมือนเคย ท่าทางเหม่อมองเหมือนคนครุ่นคิด
ทำให้เขาต้องยกมือข้างซ้ายไปลูบเบาๆที่ศรีษะเล็กๆนั่นก่อนจะโยกไปมาด้วยความเอ็นดู แม้ว่าผู้ชายร่างเล็กคนนี้จะอายุมากกว่าเขา
แต่ด้วยนิสัยเหมือนเด็กเขาเลยอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ปูปัดมือหนานั่นทิ้งอย่างรำคาญเขาไม่ค่อยชอบใจนักเวลาที่ปราการทำเหมือนเขาเป็นเด็ก
เขาโตจนมีลูกแล้วเหอะ อ้อ..มีลูกเขยด้วย ชิส์..
.....................
“บ้านใครน่ะคุณ “ทันทีที่เท้าแตะพื้นบ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้ากรกฏก็อดที่จะถามไม่ได้เพราะเขาไม่เคยมาที่นี่
“บ้านพี่โป้งไง พี่ชายผมเอง “
“ไหนคุณบอกว่ามาทำงานไง ทำที่นี่เหรอ แล้วผมต้องทำอะไร “ไม่วายจะสงสัย
“อย่าถามมากเลยน่าไปนอนต่อไปสายๆผมจะปลุก “
ปราการดันหลังคนขี้สงสัยให้เข้าบ้านเขามีกุญแจสำรองสำหรับเปิดบ้านโดยที่ไม่ต้องรบกวนใคร เอาจริงๆบ้านหลังนี้ก็บ้านเขานั่นแหละ
เพียงแต่ไม่เคยกลับบ้านเลยเป็นพี่โป้งกับพี่หญิงพี่สะใภ้ของเขามาดูแลให้ จนอยากจะโอนสิทธิ์บ้านให้พี่ชายแล้ว
กรกฏเห็นอีกคนลากกระเป๋าออกจากท้ายรถก็เลิกถามด้วยความง่วงมีมากกว่าเขาจึงเดินตามหลังคนที่พามาไปเงียบๆ
พอเห็นเตียงเขาก็ไม่พูดไม่ถามอะไรอีกพุ่งตัวเข้าใส่ที่นอนซุกตัวลงกับผ้าห่มผืนหนาโดยไม่สนว่าอีกคนจะทำอะไรเพราะตอนนี้เขาง่วงเหลือเกินแล้ว
ปราการได้แต่ส่ายหน้าไปมาเพราะแบบนี้ไงเขาถึงมองเห็นคนที่อายุมากกว่าเขาตั้งหกปีเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา
ปราการลากกระเป๋าไปไว้มุมห้องก่อนจะจัดการถอดเสื้อผ้าเทอะทะออกจากตัวเหลือไว้เพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว
แล้วก้าวขึ้นเตียงไปสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันก่อนจะรั้งเอาร่างเล็กๆนั่นมากอดเอาไว้
เสียงครางอืออาเหมือนรำคาญเขาแต่ก็ยอมให้เขากอดปราการหลุดยิ้มเบาๆก่อนจะหลับตาลงไปพร้อมกับคนขี้เซาอีกคนในอ้อมกอด
............................
“ไงหลานชายกว่าจะมาหาอาได้นะ ลืมหน้ากันไปแล้วมั่งเนี่ยไหนเจ้าตัวแสบของปู่ล่ะมาให้ปู่กอดทีมา”
มาเฟียเดินเข้าไปหาคุณปูร่างใหญ่ที่เด็กน้อยจำได้ว่าเคยเจอบ่อยๆเมื่อตอนคุณปู่เพียวยังอยู่
“สวัสดีครับคุณอา”มัจฉายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งคู่ที่มารอรับที่หน้าบ้าน
“เป็นไงบ้างจ๊ะหนูปลา เห็นก้อยบอกว่าดูแลเจ้าแสบสองคนจนป่วยเลยเหรอ พักบ้างนะลูก”
อาหญิงเดินเข้ามาโอบเอวร่างบางเอาไว้เธอเองเคยได้ยินแต่เรื่องของเด็กผู้ชายคนนี้ แรกๆเธอก็ยังทำใจไม่ค่อยได้นัก
สงครามเหมือนลูกของพวกเธอเพราะเธอมีลูกไม่ได้เพียวยกให้เธอเป็นแม่ทูนหัวของสงคราม
พอรู้ว่าลูกชายมีเมียเป็นผู้ชายเธอก็ค่อนไปทางแอนตี้ด้วยซ้ำแต่ด้วยวีรกรรมและเรื่องราวที่สามีเธอเล่าให้ฟัง
ไหนจะน้องก้อยทีเธอเอ็นดูยังเล่าเรื่องดีๆของเด็กคนนี้ให้เธอฟังเสมอ ทั้งยังความสดใสของมาเฟียตัวน้อยการันตีได้อย่างดีว่ามัจฉาเป็นคนดี
ซ้ำยังดูแลคนที่เธอรักทั้งสองคนได้ดีเพียงนี้ และถือเป็นโชคดีของสงครามที่ได้เจอคนดีๆแบบนี้มันเลยทำให้เธอมองข้ามเรื่องเพศไป
จนวันนี้ได้เจอกันสักที ถือเป็นเรื่องดีๆ ความสุขของสงครามมันก็คือความสุขของเธอด้วย
“ไปนั่งในส่วนกันดีกว่าอากาศเช้าๆนี่กลิ่นกาสะลองกำลังหอมเลย “
“แล้วอาปรานล่ะครับ”สงครามถามถึงอีกคนเมื่อเห็นว่ามีรถโฟร์วีลคันใหญ่จอดอยู่ในโรงรถ
“คงยังไม่ตื่นมาถึงดึกมากเมื่อคืนแต่เดี๋ยวคงลงมา อรเอ๊ยเอากาแฟไปเสิร์ฟในสวนนะ”
อาหญิงตอบคำถามสงครามก่อนจะหันไปสั่งแม่บ้านให้เอาอาหารเช้าไปเสิร์ฟในสวนแทน
“เฟียกินอะไรดีคับหิวไหมคนเก่ง ไหนอาหญิงกอดหน่อย โห..โตแล้วนะนี่ เป็นหนุ่มแล้วน๊าหล่อเชียว”
“คุณย่าก็สวยมากๆครับ “เด็กชายชมกลับพลางยิ้มตาหยีให้กับคุณย่า
“โถพ่อคุณของย่า..ปากหวานตั้งแต่ตัวเท่าเนี๊ยะ สงสัยน้องปลาต้องรีบสแกนลูกสะใภ้แล้วล่ะ หึหึ “
เสียงหัวเราะแว่วมาจากนอกบ้านจนกรกฏต้องเดินมาถามแม่บ้านที่กำลังยกถาดอาหารเช้าอกมาจากครัว
“เอ่อ..เช้านี้ทานข้าวกันที่ไหนเหรอครับ”
ปูชินกับการที่ตื่นมาแล้วต้องเดินไปถามคนแปลกหน้าว่าวันนี้ทานข้าวได้ที่ไหน ปราการพาเขาไปที่แปลกๆบ่อย มันบ่อยจนเขาชิน
“สวัสดีค่ะ มื้อเช้าผู้การให้เชิญที่สวนนะคะ”แม่บ้านเอ่ยยิ้มแย้มทักทายแขกที่เดินมาพร้อมกับเจ้าของบ้านอีกคน
“พี่โป้งอยู่ในสวนเหรออร”คนตัวโตที่เดินมาสมทบทีหลังเอ่ยถามแม่บ้านที่กำลังจะเดินออกไป
“ค่ะผู้พัน อรกำลังจะเอากาแฟไปเสิร์ฟผู้พันจะรับกาแฟด้วยเลยไหมคะ”
“อืม..ก็ดีขอโกโก้ร้อนให้แขกผมด้วยนะ”
“ได้ค่ะ “
กรกฏมองดูแม่บ้านที่ละล้าละลังว่าจะเดินไปเสิร์ฟกาแฟก่อนหรือจะหันหลังกลับเข้าครัวไปทำเมนูเพิ่มตามคำสั่งคนที่ยืนซ้อนหลังเขาอยู่ขณะนี้
“งั้นเอาถาดนี่มาให้ผมก็ได้ครับเดี๋ยวผมถือไปให้เองนะ”เขาเอ่ยยิ้มๆอย่างต้องการช่วยแบ่งเบาให้แม่บ้าน
“เอ่อ..แต่ว่า”
“เอาเถอะอรให้คุณปูเขาถือไปเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ อรฝากด้วยนะคะ”
กรกฏเดินประคองถาดอาหารเดินออกไปที่ประตูตามหลังปราการอากาศตอนเช้าๆมันเย็นสบายลมพัดเอื่อยหอมเอากลิ่นดอกไม้มากระทบจมูก
จนเขาต้องแอบสูดเอากลิ่นหอมนั้นเบาๆ เสียงหัวเราะของกลุ่มคนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะบนพื้นสีเขียวของสนามหญ้า
แผ่นหลังบอบบางภายใต้เสื้อยืดสีเหลืองนวลตานั่นมันคุ้นเคยจนเขามือสั่น เขาเดินมาหยุดอยู่ห่างจากโต๊ะนั้นแค่เพียงเอื้อมมือ
มัจฉาหันกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามาหยุดอยู่ข้างหลังเขาแทบจะหยุดหายใจไม่ต่างจากกรกฏเมื่อเห็นคนที่นั่งหันหลังอยู่นั้น
หันกลับมาเผชิญหน้าเขาชัดๆถาดอาหารเช้าในมือถูกปล่อยร่วงสู่พื้นอย่างไม่ตั้งใจ
เคร้ง!!!!
ทุกคนหันมามองต้นเสียงเป็นตาเดียวทันทีที่ตั้งสติได้กรกฏหันหลังเตรียมวิ่งทันทีแต่ก็ต้องหยุดแทบจะทันทีเหมือนกัน
เมื่อเสียงเรียกดังขึ้นมาข้างหลังเขาพร้อมแรงปะทะจากด้านหลังพร้อมกับอ้อมแขนเล็กๆที่รัดแน่นจนเขาขยับตัวไม่ได้
“พ่อ!!”
“อย่าไปนะอย่าไปเลย ปลาคิดถึงพ่อ คิดถึง...”
ความทรงจำประดังประเดเข้าหาเด็กหนุ่มภาพพ่อที่เคยดูเลเช็ดเนื้อเช็ดตัวยามเจ็บป่วยภาพพ่อที่ยอมอดเพื่อให้เขาได้มีกิน
คำบอกรักของพ่อเมื่อเขายังเด็ก พ่อกอดเขาเสมอบอกรักเขาทุกวัน แม้ว่าแม่จะทิ้งเขากับพ่อแต่พ่อก็ยังรักเขา
คำพูดที่แม่ไม่รักคำพูดที่แม่บอกไม่รู้จักเขาในงานศพลุงมันยิ่งกรีดลงในใจยิ่งคิดถึงพ่อมากขึ้นทุกที และสุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว
มัจฉาปล่อยโฮออกมาสุดเสียงเขาร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับเด็กๆน้ำตาที่เหมือนจะอัดอั้นมานานมันพังทะลายไปกับความคิดถึง
ที่ไม่อาจพูดออกมาได้หมด กรกฏพลิกตัวกลับมากอดลูกชายเอาไว้แน่นน้ำตาก็ห้ามไว้ไม่อยู่ลูกเขาโตขนาดนี้แล้ว
“พ่อขอโทษนะ ..พ่อขอโทษ”
“ไม่ๆ ปลาไม่เป็น..ฮึก..ไร..ฮึก ไม่เป็นไร..ฮือออ”
“แง..ฮึกๆพี่ปลาร้องไห้ทำไม ฮึก..พ่อ..ทำไมพี่ปลาร้อง...”
เด็กชายที่ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าก็ร้องไห้ตามด้วยความไม่เข้าใจ
มัจฉาที่ตั้งสติได้รีบใช้หลังมือปาดน้ำตาลวกๆพร้อมทั้งหัวเราะไปทั้งๆที่ยังร้องไห้เพราะขำเด็กน้อยที่ร้องไห้ตามเขา พลอยทำให้ทุกคนหัวเราะตามไปด้วย
“น้องเฟียครับมานี่มา “
มัจฉายื่นมือไปหาเด็กน้อยที่ยังสะอื้นอยู่กับอาหญิง มาเฟียเดินทำหน้าเหยเกเข้ามาหาพี่ปลฃาพลางมองดูชายแปลกหน้าที่ยืนร้องไห้กับพี่ปลาอยู่เขาไม่เข้าใจทำไมต้องร้องไห้
“นี่คุณตาไง สวัสดีหรือยังครับ”
“คุณตาเหรอฮะ..คุณตาร้องไห้ทำไมฮะ ฮึก..”ถามทั้งๆที่เด็กน้อยก็ยังสะอื้นอยู่ทำให้ปูอดขำไปกับลูกชายเขาไม่ได้เด็กคนนี้น่าเอ็นดูเหมือนเจ้าปลาตอนเด็กๆเลย
กรกฏไม่ตอบคำถามเด็กน้อยแต่รวบเอาร่างเล็กนั่นมากอดเอาไว้พร้อมๆกับลูกชายของเขา ปราการมองภาพนั้นยิ้มๆก่อนจะหันไปยิ้มให้หลานชาย
ที่ยืนดูพ่อลูกคู่นั้นอยู่เหมือนเขา เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นปูร้องไห้ ผู้ชายตัวเล็กคนนี้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอสักครั้งตั้งแต่รู้จักกันมา
แม้ว่าปูจะร้องไห้เพราะดีใจหรือะไร แต่เขากลับมองว่าดีแล้วให้ร้องไห้ซะบ้างเพราะความกดดันที่ปูแบกรับเอาไว้ตลอดเวลามันเหนื่อยเกินไป
“ขอบใจนะเดียว”
“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณอาปรานน่ะครับปลาเขาอยากเจอพ่อ ขอโทษด้วยนะครับที่ผมทำอย่างที่ขอไว้ไม่ได้”
ท้ายนั้นสงครามหันไปพูดกับพ่อตาที่พึ่งจะเจอกัน คำขอร้องที่บอกผ่านตัวแทนคนนั้นไปเขาทำให้ไม่ได้เพราเขาอยากจะตอบแทนความดีและความรักที่ปลามีให้กับเขาและลูก
“เอ้าๆซึ้งกันพอละวันนี้วันดีๆ อรเอ๊ย ไปเอาอาหารมาใหม่ไป แล้วก็ให้เด็กๆมาเก็บตรงนี้ด้วยนะ”
ผู้การหนุ่มหัวเราะพลางเรียกสติให้ทุกคนกลับมา เขาเองก็ดีใจที่หลานชายของเขามีความสุขกับเขาสักที
ตั้งแต่เพื่อนรักของชิงตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปแบบนั้น เขายังไม่เคยเห็นสงครามยิ้มแบบมีความสุขเหมือนวันนี้
มาเฟียเด็กที่ซึมเศร้าเงียบขรึมตั้งแต่อายุเพียงสามขวบ มาวันนี้เด็กน้อยคนนั้นร่าเริงและกำลังดีขึ้นเรื่อยๆจากการรักษาบาดแผลในใจของมัจฉา
และน้องชายของเขาที่ร้อยวันพันปีไม่เคยโผล่หน้ากลับมาบ้าน วันนี้เหมือนครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้า คำว่าครอบครัวกำลังกลับมาอีกครั้ง ....
.
.
.
.
TBC.......
บางทีเหตุผลของการจากลา มันมีมากกว่าที่อีกคนจะเข้าใจ บางคนมองว่าเล็กน้อยบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ บางคนคิดว่างี่เง่าแต่บางคนคิดว่านั่นคือเหตุผล
ดีใจกับน้องปลาที่ได้พ่อกลับคืน ความรักที่โหยหามาตลอดความรักที่หายไป มันกำลังจะกลับมา
รักคนอ่านทุกๆท่านคนเม้นท์ให้กำลังใจดีๆ อ่านทุกเม้นท์ ขอบคุณมากมายทั้งคำแนะนำติชม และขอบคุณที่ยัวรอพันวาอยู่นะคะ
ตอนหน้าจบแล้ว....เรื่องพ่อปูกับผู้พันปราน เอาไว้ตอนพิเศษเนาะ ..... เจอกันอาทิตย์หน้าค่าาาาาาา