** ความรักที่หายไป **แจ้งข่าว**เปิดจองพี่เดียวน้องปลา 17/12/61-17/1/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ** ความรักที่หายไป **แจ้งข่าว**เปิดจองพี่เดียวน้องปลา 17/12/61-17/1/62  (อ่าน 163732 ครั้ง)

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2018 12:30:00 โดย พันวา »

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
Re: ** ความรักที่หายไป ** บทนำ (17/4/60)
«ตอบ #1 เมื่อ17-04-2017 12:54:44 »

มาคุยก่อนเปิดเรื่องใหม่และแนะนำนิยายเรื่องใหม่ ของพันวาค่ะ หลังจากที่ซี่รี่ส์ **เพราะหัวใจไม่ไร้รัก ** จบลงไปสามเรื่องรวด

นักอ่านหลายคนถามถึงน้องไม้กับพี่โอ๊ตมาเยอะมาก พันวาขอติดไว้ก่อนนะคะ อยู่ในขั้นตอนการปั่น แหะๆ ไม่รู้อะไรเข้าสิงปั่นนิยายทีเดียวพร้อมกัน 4 เรื่อง ฮ่าๆๆๆๆ

ป่วยด้วย ทำงานด้วย แถมตอนนี้เป็นติ่งฝึกหัดด้วยชีวิตช่วงนี้เลยวุ่นวายน่าดู 

เรื่องใหม่นี่ สบายๆค่ะ ไม่เน้นดราม่ามากนัก เพราะจะไปเน้นในเรื่องต่อไปเอาให้นำตาท่วมตายกันไปข้างเลยเนอะ 555ก็ว่าไปนั่น

จริงๆพันวาเป็นคนอารมณ์ดี แต่เขียนนิยายคอมเมดี้ไม่ได้ จะลากเข้าดราม่าตลอดๆ แต่ด้วยหัวใจไม่ค่อยแข็งแรงเลยดราม่ามากไม่ได้555

 
นิยายของพันวาเลยจะออกแนวหน่วงๆนิดหน่อยพอได้น้ำตาซึมเนอะ

ฝากติดตามเรื่องใหม่ของพันวาด้วยนะคะ  อันนี้เป็นลิ้งค์นิยายของพันวาค่ะ หากใครยังไม่ได้อ่านก็ ลองแวะเข้าไปดูนะคะ


ฝากเรื่องที่จบไปแล้วของพันวาด้วยนะคะ


ใครจะตามทวงนิยายหรือไปบ่นเป็นเพื่อนพันวาได้ที่เพจนี้เลยค่า .....จิ้ม......**Phanwa**



****** แจ้งข่าวค่าาาา***

เปิดจอง** ความรักที่หายไป by Phanwa
ของแถมในเล่ม : ที่คั่น โปสการ์ด
จำนวน : 374 หน้า
ตอนพิเศษ 6 ตอน
ราคา 350 บาท ( ราคาปกติ 370 บาท)
*ของแถมรอบจอง : การ์ดใสและปฏิทินพก
........................
เปิดจองตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2561 – 17 มกราคม 2562
กำหนดส่งปลายเดือนมกราคม (จัดส่งตามลำดับการแจ้งชำระเงิน)
**รายละเอียดการรับหนังสือในงาน BL Market
- สั่งจองผ่านเว็บ
- เลือกช่องทางการจัดส่งเป็น “รับงาน BL Market ”
- ชำระและแจ้งโอนเงิน
- จดเลขที่ใบสั่งซื้อ (Order ID) ชื่อผู้สั่งซื้อ และแคปภาพอีเมลยืนยันการชำระเงิน เพื่อติดต่อรับหนังสือ ที่บูธ D6 - D7

สั่งซื้อได้ที่ : https://bit.ly/2Bk5YVi



 



ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณมากๆที่เม้นท์ แม้จะเป็นเพียงข้อความสั้นๆ หรือการ์ตูนดุ๊กดิ๊ก ที่แสดงความรู้สึกของคนอ่าน พันวาก็ฟินได้นะ :o8: :o8: :o8:

ไปหาน้องปลากับพี่เดียวกันเลยค่ะ Let's go....... :oni1: :oni1:


สารบัญ













....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2018 12:39:20 โดย พันวา »

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
Re: ** ความรักที่หายไป ** บทนำ (17/4/60)
«ตอบ #2 เมื่อ17-04-2017 13:00:53 »

ความรักที่หายไป


เขาอยากมีความรัก  อยากถูกรัก เขาไม่กลัวที่จะรักแม้จะผิดหวัง    เขาไขว่คว้าและมีความหวัง และเขาไม่เคยหมดหวัง แม้ว่าจะไม่เคยรัก

..
 
เขาไม่อยากมีความรัก  เพราะรักทำให้เขาทุกข์ ทำให้เขาสูญเสีย   เขาปิดกั้นและไม่อยากรัก  เขาหมดหวังกับความรักครั้งเก่า



โชคชะตานำพาคนทั้งคู่มาเจอกัน  ความรักที่หายไป พวกเขาจะเจอมันหรือเปล่า อีกคนจะกล้าพอที่จะรักอีกครั้งไหม

อีกคนจะได้รักอย่างที่หวังหรือเปล่า  บางที สิ่งที่หายไปคงไม่ใช่ความรัก แต่พวกเขาอาจจะพึ่งค้นพบความรักก็เป็นได้  .......

v
v
v
v
v
v
v


บทนำ


“ฉันมีข้อแม้ถ้าคุณจะแต่งงานกับฉันล่ะก็ คุณต้องย้ายเข้าไปอยู่บ้านฉันนะ และคุณต้องย้ายไปคนเดียวเท่านั้น”

ทั้งคำพูดและสายตาที่มองมาที่เด็กชาย เขารู้ดีว่าคนพูดหมายความว่าอะไร

“แต่ปลาเป็นลูกผมนะมุก”

“แล้วไงคะไม่ใช่ลูกฉันนี่ คุณต้องเลือกค่ะปูถ้าคุณเลือกเด็กนี่ก็ทางใครทางมัน”

“พ่อ..”เด็กน้อยเอ่ยเสียงเบาอย่างสุดกลั้นเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของพ่อ แม้เขาจะรู้ดีว่าพ่อจะเลือกทางไหน แต่ในใจก็หวังลึกๆว่าพ่อจะเลือกเขา

“ปลา..พ่อขอโทษนะ “คำพูดเพียงคำเดียว ทำลายความหวังที่ริบหรี่อยู่แล้วให้ดับสนิทลง




“ปลา..แม่ขอโทษนะลูก”


คำพูดของแม่เมื่อเขายังเด็กในตอนนั้นเขาไม่เข้าใจว่าแม่จะขอโทษเขาทำไม

 แต่หลังจากนั้น แม่ก็หายไป จากชีวิตของเขากับพ่อ  และวันนี้...พ่อพูดคำเดียวกับแม่  จากวันนี้ไปพ่อคงหายไปจากชีวิตเขาสินะ 

เขาเข้าใจแล้ว  เข้าใจจนอยากจะหัวเราะให้กับโชคชะตา แต่ก็อยากจะร้องไห้ให้กับความอับโชคของตัวเอง ไปพร้อมๆกัน 

ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าพ่อจะเลือกใคร แต่มันก็อดที่จะปวดใจไม่ได้ เมื่อรู้ว่าเขาคิดถูก
 
“พรุ่งนี้ฉันจะมารับคุณเข้าไปหาคุณพ่อนะคะปู ส่วนลูกคุณวันนี้ก็จัดการให้เรียบร้อยซะ คุณเข้าใจใช่ไหมคะปู”

เสียงอ้อนๆของผู้หญิงคนนั้น ทั้งสองแขนที่กอดรัดพ่อของเขาเอาไว้ คงทำให้พ่อดีใจเพราะพ่อยิ้มไม่หุบเลย แล้วเขาล่ะ

.........

“ปลา ...”ชายวัยกลางคนหันมาหาลูกชายเพียงคนเดียวของเขา
 
“ปลาเข้าใจครับพ่อ  ปลาไม่เป็นไร “

“ปลากลับไปอยู่กับป้าไก่นะ พ่อจะพาไปส่งพรุ่งนี้”

เด็กชายนึกถึงป้าไก่ผู้เป็นพี่สาวของพ่อ มีช่วงแรกๆที่แม่จากเขาไปพ่อให้เขาไปอาศัยอยู่กับป้าตั้ง ห้าปี และมันเป็นห้าปีที่ไม่มีวันลืม 

เขาอุตส่าห์อดทนเพื่อที่จะได้กลับมาอยู่กับพ่อแต่ตอนนี้พ่อกำลังจะทิ้งเขาไป...และส่งเขากลับไปบ้านหลังนั้นอีก บ้านหลังที่เขาเคยคิดไว้ว่าจะไม่กลับไปอีกแล้ว

“พ่อไม่ต้องไปส่งปลาหรอกครับ ปลาไปเองถูกปลาโตแล้วนะจบตั้งม.สามแน่ะ   พรุ่งนี้พ่อต้องไปกับคุณมุกเขาไม่ใช่เหรอ ถ้าพ่อช้า เธอจะโกรธพ่อเอานะ“

ว่าพลางส่งยิ้มให้คนเป็นพ่อ อย่างที่คนมองคงไม่รู้สึกอะไรมากไปกว่าคำว่าลูกเขาเข้าใจ แต่ใครจะรู้ว่าข้างในจิตใจของเด็กน้อยคิดอะไรอยู่
“ปลาไปเองได้แน่นะลูก”คนเป็นพ่อย้ำเพื่อความแน่ใจ ยิ่งตอกย้ำให้น้ำตาตกในหัวใจเด็กน้อยมากขึ้น

“ได้สิพ่อแค่ปราจีนเอง นั่งรถจากกรุงเทพฯแป๊บเดียวก็ถึง ปลาไปเองได้นะ “

“ก็ดี เพราะพรุ่งนี้ มุกเขาจะมารับพ่อแต่เช้า แต่..ปลาเข้าใจพ่อใช่ไหมลูก”

ผู้เป็นพ่อย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าเด็กน้อยคนนี้จะไม่เป็นภาระของเขา แต่คนที่ถูกตอกย้ำนั้นภายในใจแหลกสลายไม่เหลือดี

“เข้าใจครับ ปลาไม่เป็นไรหรอก  “

ยิ่งตอกย้ำไปยิ่งอยากจะร้องไห้  ถ้าพ่อคิดว่าเด็กอายุ14 อย่างเขาต้องเดินทางลำพังได้ มัจฉาก็จะบอกพ่อว่าไม่เป็นไรหรอก เขาทำได้
 
“งั้นไปเก็บของเถอะ พรุ่งนี้พ่อจะได้แวะไปคืนกุญแจบ้านเฮียไช้ด้วย  “

“ครับ”


 รับคำเสียงแผ่วก่อนจะลุกออกจากพ่อไปที่ห้องนอนของเขา  แค่พ้นหลังของผู้เป็นพ่อเพียงเท่านั้นเพียงแค่ประตูห้องนอนปิดลง

น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลรินไม่ขาดสาย เด็กน้อยขดตัวลงกับที่นอนกอดผ้าห่มผืนเล็กเอาไว้ ซุกหน้าลงกับหมอนใบเก่า

กลั้นเสียงสะอื้นที่พร้อมใจกันมาทั้งน้ำตา  ไม่เป็นไรหรอก เขาจะไม่เป็นไร  เด็กชายสะอื้นไห้จนหลับไป

คงไม่แปลกที่คืนนี้เขาจะฝันร้ายอีกคืน ฝันร้ายที่ไม่เคยหายไปจากคนอย่างเขา


...........................


มัจฉา หรือเด็กชายปลา ยืนมองบ้านเช่าหลังเล็กที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความสุขอยู่กับพ่อ แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน

ถึงแม้จะไม่ค่อยพอกิน  ถึงบางวันจะไม่อิ่มท้อง แต่ก็ยังมีความสุข พ่อปูของเขาทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ 

พ่อปูเป็นคนหน้าตาดี ยิ้มเก่ง  จิตใจดี  พ่อผู้เคยเป็นที่รัก เปลี่ยนไปเมื่อแม่ทอดทิ้งเขาและพ่อเอาไว้ข้างหลัง

เพียงเพราะคำว่าจน พ่อติดเหล้า  เงินที่ทำงานได้มาก็ลงที่เหล้าซะส่วนใหญ่ ทุกวันพ่อจะเมามายและเฝ้าพร่ำเพ้อต่อว่าสวรรค์

ที่ทำให้พ่อต้องพบเจอแต่ความลำบาก  มัจฉาต้องคอยดูแลพ่อเวลาที่พ่อเมา   

แม้จะยากสำหรับเด็กอย่างเขาแต่มัจฉาก็มีความสุข เพราะเป็นเวลาเดียวที่เขาได้อยู่กับพ่อแม้พ่อจะเมาหลับไป แต่เขายังมีพ่อ พ่อที่ไม่ทิ้งเขาไปเหมือนแม่ 


“ปูคะ  ฟางจำเป็นต้องทำแบบนี้ อยู่กันไปเราก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ทางบ้านฟาง หาคนที่เหมาะกับฟางเอาไว้ให้   
ปูเคยบอกว่ารักฟางมาก เราจะสร้างอนาคตด้วยกันแล้วนี่อะไร จนปลามันโตขนาดนี้แล้วปูก็ยังไม่มีแม้กระทั่งบ้านเป็นของเรา
แล้วอย่างนี้อนาคตที่ปูพูดถึงมันจะเป็นไปได้ยังไง  ปล่อยฟางไปเถอะ ฟางอยากมีความสุขบ้าง ที่ผ่านมาถือว่าฟางคิดผิดอย่างที่พ่อของฟางบอก  ฟางจะแต่งงาน กับคนที่พ่อหาให้ ส่วนเรื่องลูก ฟางคงต้องให้อยู่กับปูเพราะที่บ้านยังไม่มีใครรู้ว่าฟางมีลูก  อีกอย่างถ้าคู่หมั้นฟางรู้ว่าฟางมีลูกเขาคงยกเลิกงานแต่ง  แบบนั้นคงไม่ดีแน่ๆ ฟางว่าปูคงเข้าใจฟางนะ  ใครๆก็ต้องหาสิ่งที่ดีให้กับตัวเองกันทั้งนั้น“


เป็นคำกล่าวอ้างของคนเป็นแม่ที่มัจฉาไม่เคยเข้าใจ

“อย่าใช้คำนี้มาอ้างเลยฟาง  ชอบความสบายก็เชิญ อยากมีผัวใหม่จนตัวสั่นก็ไม่ต้องมาสนใจว่าพี่กับลูกจะอยู่ยังไง จะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกที่ไหนก็ไป”

แทบจะทุกถ้อยคำของคนเป็น พ่อและ แม่ แม้ว่าวัยเพียงสี่ขวบจะไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมดในสิ่งที่พ่อกับแม่พูด 

แต่เด็กน้อยก็รู้ดีว่าพ่อกับแม่กำลังทะเลาะกัน   คืนนั้นพ่อทะเลาะกับแม่เสียงดัง พ่อออกจากบ้านไปจนเช้าก็ไม่กลับมา 

แม่ที่เอาแต่นั่งบ่นด่าและโวยวาย  ปล่อยให้เขานอนกอดผ้าห่มร้องไห้ด้วยความไม่เข้าใจเพียงลำพัง  และในตอนเช้า

...”ปลา..แม่ขอโทษนะลูก”

แม้จะไม่เข้าใจว่าแม่ขอโทษเขาทำไมแต่เขาก็พยักหน้าให้แม่ บอกแม่ว่าเขาไม่เป็นไรหรอก  และในตอนนี้ พ่อกำลังขอโทษเขาเช่นเดียวกับแม่   

พ่อจากไปตั้งแต่เช้าเขายังไม่ทันตื่นด้วยซ้ำ มีเพียงข้อความบนกระดาษใบเล็กที่สอดมาใต้ประตูห้องนอน

เป็นจดหมายที่เขาไม่คิดจะเปิดอ่าน แต่ก็ทิ้งไม่ลงจนต้องพับเก็บไว้ในกระเป๋าที่บรรจุเสื้อผ้าและของใช้เท่าที่จำเป็น มุ่งหน้าสู่ทิศทางที่เด็กชายคิดว่าดีแล้วสำหรับตัวเอง
.
.
.
.
TBC....................


หากพบเจอคำที่เขียนผิด โปรดสะกิดบอกพันวาบ้างนะคะ  :mew1: :mew1:

ยังไล่แก้คำผิดในเรื่องก่อนๆไม่หมดเลยค่ะ เพราะต้องแก้ในส่วนที่ต้องตีพิมพ์ก่อน ส่วนในเวปกำลังแก้ไปเรื่อยๆพร้อมๆกับลงเรื่องใหม่ด้วย เหมือนดินพอกหางหมูชอบกลเนาะ  :hao5: :hao5:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน สำคัญที่คนเม้นท์กราบงามๆเลยค่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2017 18:27:35 โดย Phanwa86 »

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: ** ความรักที่หายไป ** บทนำ (17/4/60)
«ตอบ #3 เมื่อ17-04-2017 14:39:18 »

 :o8: :o8:

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: ** ความรักที่หายไป ** บทนำ (17/4/60)
«ตอบ #4 เมื่อ17-04-2017 14:50:56 »

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ** ความรักที่หายไป ** บทนำ (17/4/60)
«ตอบ #5 เมื่อ17-04-2017 14:57:24 »

โถ่ปลาเอ้ย

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
Re: ** ความรักที่หายไป ** บทนำ (17/4/60)
«ตอบ #6 เมื่อ17-04-2017 15:10:54 »

 :sad4: ขึ้นมาก็ดราม่าแระ เด็กอายุ14 จะทำยังไงกับตัวเองล่ะไม่มีคนต้องการ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
 



ตอนที่ 1  มัจฉา


.......


“ปลา  เดี๋ยวเย็นนี้เอาของนี่ไปส่งคุณก้อย นะ “เสียงสั่งที่ยังไม่เห็นตัวคนพูดเป็นที่คุ้นชินของปลา  เขาทำงานร้านเบ็ดเตล็ด นี่มานานแล้ว ตั้งแต่แรกๆที่เริ่มหางานเองด้วยซ้ำ
 
“แล้วของที่เหลือนี่ล่ะครับเจ๊ ทำไง “มัจฉานั่งมองของที่เขาช่วยเจ๊นิดเจ้าของร้านแพ็คมาทั้งวัน แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จ

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเจ๊ทำต่อเอง ปลาเอานี่ไปส่งคุณก้อยเขาก่อนนะค่อยกลับมาคิดว่าจะเอาไงกันต่อ “

“ครับ”

เจ๊นิดเดินมาลูบหลังเขาเบาๆราวกับจะปลอบใจ  เศรษฐกิจแบบนี้ทำให้ร้านขายของทั่วไปของเจ๊นิดอยู่ไม่ได้

ทุกวันนี้ไหนจะ 7-11 ไหนจะโลตัส บิ้กซี  พวกร้านสะดวกซื้อแย่งลูกค้าเจ๊นิดมานานปี จนในที่สุด ก็แบกภาระต่อไปไม่ไหว 

วันนี้ทั้งวันมัจฉาช่วยเจ๊นิดเก็บของ เจ๊ประกาศขายร้านที่เป็นตึกแถวนี้ได้แล้ว มีคนมาซื้อต่อ ก็ไอ้เจ้าร้านสะดวกซื้อนั่นแหละ

จะว่าไปร้านเจ๊นิดก็ทำเลดี เพียงแต่เจ๊ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อแฟรนไชน์ร้านสะดวกซื้อ เลยต้องยอมจำนนต่อพิษเศรษฐกิจ
 
เด็กหนุ่มเดินออกมาขึ้นรถเมล์ พร้อมกับกล่องขนาดกลางที่ต้องหิ้วอย่างระมัดระวัง เขาไม่รู้หรอกว่าในกล่องคืออะไร

ไม่เคยคิดที่จะถามด้วย เพียงแต่เขาจะต้องรักษามันให้ดีจขนถึงมือเจ้าของ

ตลอดทางที่จากร้านเจ๊นิดไปหาคุณก้อยสายตาก็สอดส่ายหาใบปิดประกาศรับสมัครงาน

ความรู้เขามีน้อยนิด ถ้าจะไปสมัครงานตามอ๊อฟฟิศคงไม่มีหวัง อย่างดีก็คงเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อนี่แหละ

แต่คงต้องหาที่ใหม่ เพราะกว่าร้านนั้นจะเปิดก็คงอีกนาน ซึ่งเขาคงรอไม่ได้



“อ้าวน้องปลามาไวเชียว นั่งก่อนสิ “เสียงเจ้าของบ้านเชื้อเชิญแขกผู้คุ้นหน้าคุ้นตากันดีให้นั่ง ที่โซฟารับแขก

“เอ่อ..ไม่เป็นไรครับคุณก้อย ผมเอาของเจ๊มาส่ง เดี๋ยวต้องรีบกลับไปช่วยเจ๊เก็บของครับ”

“แหม ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้จ้ะ พอดีพี่มีเรื่องจะคุยกับเราน่ะนั่งก่อนนะๆ”

เจ้าของบ้านเป็นหญิงวัยกลางคน รูปร่างท้วม ดูสุภาพดีไม่ได้อ้วนเกินไป  ใบหน้าที่ติดรอยยิ้มเสมอเหมือนคนอารมณ์ดี

ทำให้มัจฉารู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่คุณก้อยเรียกใช้  เพราะทุกครั้งเขาจะได้ค่าขนมเพิ่ม เวลาที่คุณก้อยไปซื้อของที่ร้าน

เขาจะเป็นคนเอามาส่งให้ประจำ แต่ตอนนี้เขาคงไม่กล้ารับหรอกเพราะเขาก็ไม่ได้เป็นลูกจ้างของเจ๊นิดแล้ว

 
คุณก้อยเองก็บ่นว่าร้านขายของแบบกันเองแบบนี้จะไม่เหลืออยู่แล้ว เธอไม่ชอบร้านสะดวกซื้อเพราะว่ามันเหมือนหุ่นยนต์เธอว่าอย่างนั้นเขาก็ได้แต่ขำกับความคิดของเธอ
 
เด็กหนุ่มนั่งรอเจ้าของบ้านที่เอาของเข้าไปเก็บ เขามองสำรวจบ้านหลังที่เขามาส่งของที่นี่บ่อยๆ เขาไม่เห็นใครอื่นเลยนอกจากคุณก้อย

 ผู้หญิงตัวคนเดียวที่อยู่คนเดียว กับแมวหนึ่งตัวเพียงลำพัง ทำให้เขานึกถึงตัวเอง เขาเองก็อยากมีเพื่อนอยากเลี้ยงหมาเพราะเขาชอบหมา

เคยให้อาหารพวกหมาจรจัด  เพราะนึกถึงตัวเองตอนเป็นคนจรจัดในวัยเพียงสิบสี่ปี  ถ้าไม่ได้เจ๊นิดช่วยไว้เขาก็ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเหมือนกัน 

เพราะอย่างนั้นเวลาเห็นหมาน่ารักๆเขาก็อยากจะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน  แต่ด้วยกำลังอย่างเขาพอคิดแล้วก็ไม่อยากจะให้หมามันมาลำบากกับเขา ยอมอดคนเดียวดีกว่าพาอีกชีวิตมาอดด้วย
 
“เอ้า...น้ำเย็น”แก้วน้ำเย็นใบใหญ่ถูกวางลงตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรของเจ้าของบ้าน

“ขอบคุณครับ”

มัจฉายกมือไหว้ขอบคุณในน้ำใจจากเจ้าของบ้านที่เขาเคารพมาตลอดพร้อมกับยื่นมืออกไปรับแก้วน้ำเย็นมาจิบ  ก่อนจะวางลงไว้บนโต๊ะข้างหน้า

“แล้วนี่ปลาได้งานใหม่หรือยังจ๊ะ”เจ้าของบ้านเป็นคนเปิดบทสนทนา เมื่อเห็นว่าแขกของเธอคงจะรีบ

“ยังครับ พอดีผมก็มองๆไว้หลายที่ ส่วนมากคงเป็นพวกร้านสะดวกซื้อแหละครับ  เพราะผมก็ไม่มีความรู้อะไรมากพอที่จะได้งานที่มันดีกว่านี้”

“เอางี้ไหม พี่มีงานให้ปลาทำ  แต่เป็นงานพี่เลี้ยงเด็กน่ะ รายได้ดีมากเลยนะ ที่สำคัญปลาจะไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าบ้านด้วย”

“ เลี้ยงเด็ก..ผมจะเลี้ยงเด็กได้เหรอครับ  ผมไม่มีความรู้แบบนั้นและอีกอย่างผมไม่เคยเลี้ยงเด็กเลยนะครับ”

“ไม่ใช่เลี้ยงแบบเด็กอ่อน คือแค่ดูแลน่ะจ้ะ เด็กน่ะอายุแปดขวบแล้วโตแล้ว พอดีพี่เลี้ยงคนเก่าเขาลาออกไปอยู่ต่างจังหวัด และก็พี่รู้จักกับครอบครัวนี้อยู่พอดีเป็นญาติกัน  เขาให้ช่วยหาคนที่ไว้ใจได้น่ะ พี่เลยนึกถึงปลา... นะปลา เงินเดือนน่ะดีนะ แล้วก็ เดียวน่ะเขาไม่ค่อยมาวุ่นวายหรอก “

“เดียว?”

“อ๋อ พ่อน้องมาเฟียจ้ะ เดียวเป็นน้องพี่ ลูกพี่ลูกน้องกันน่ะเขางานยุ่งมากจนไม่มีเวลามาดูน้องมาเฟีย  เลยต้องจ้างพี่เลี้ยง “

“...........”

เมื่อมองดูท่าทางเด็กหนุ่มจะสนใจงานใหม่ เจ้าของบ้านรีบตัดบททันที เพราะกลัวว่าถ้าให้ปลาคิดนานกว่านี้ อาจจะเปลี่ยนใจ

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ปลามาหาพี่ที่บ้านนะพี่จะพาไปหา เดียว ไปคุยกันดูก่อน ถ้าปลาติดขัดอะไรค่อยว่ากันอีกที ถือว่าช่วยพี่ก็ได้นะปลานะ “

แม้จะสงสัยว่าทำไมคุณก้อยดูรีบร้อนเกินไปแต่มัจฉาก็ไม่ได้ติดใจอะไร  แต่พี่เลี้ยงเด็กเหรอแปดขวบแล้วก็น่าสนไม่น้อย ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา

“ก็ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวกลับเลยนะครับจะได้กลับไปช่วยเจ๊เก็บของ “

“จ้ะๆ ขอบใจมากเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันนนะน้องปลา”

“ครับ”เด็กหนุ่มยกมือไหว้ลาเจ้าของบ้าน

ก่อนกลับออกมาขึ้นรถเมล์กลับร้านมาช่วยเก็บของ ตลอดทางมัจฉาก็เก็บเอามาคิด ถึงงานใหม่ที่ได้ฟังมา


........................................

“เจ๊.......แล้วเจ๊จะไปอยู่ไหนครับ”

”กลับบ้านที่พิจิตรน่ะ ที่นั่นพอมีอะไรให้ทำอยู่บ้าง พี่ชายเจ๊เขาค้าขายในตลาด เฮียกรุงน่ะบอกว่ายังพอมีที่ทางจะเปิดร้านขายของชำได้อยู่ ปลาจะไปกับเจ๊ก็ได้นะ แรกๆก็ลำบากหน่อยแต่ก็ดีกว่าอยู่เมืองหลวงแบบตัวคนเดียวเจ๊เป็นห่วงแกนะรู้ไหม “

“ผมไม่เป็นไรหรอกเจ๊  คุณก้อยบอกว่ามีงานให้ทำคงไม่ลำบากอะไร อีกอย่างผมกำลังคิดว่าจะลองไปเรียนพวกการศึกษาผู้ใหญ่ดู  เผื่อว่าอนาคตตกงานอีกจะได้ไม่ลำบากมากนัก “

“เออๆ ตามใจแกนะ แต่ก็อย่าลืมนะปลาแกยังมีเจ๊ หากแกลำบากหรือเดือดร้อนไปหาเจ๊นะ “

“ขอบคุณครับเจ๊”

“เจ๊ขอโทษนะที่ช่วยอะไรปลาไม่ได้มากกว่านี้ ”

คำขอโทษของคนที่อยู่ด้วยกันมานาน ทำให้ขอบตาร้อนๆเหมือนจะกลั้นไม่อยู่  ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวพันกันทางสายเลือดหรือเครือญาติ

 ไม่ได้รู้จักมักจี่หรือทำบุญคุณต่อกัน แต่พระคุณที่เจ๊นิดได้ให้ความช่วยเหลือเมื่อตอนที่เขาเข้าตาจน มันก็มากมายจนทดแทนไม่หมด
 
หญิงวัยกลางคนเขียนที่อยู่ใหม่ ยัดใส่ในมือพร้อมกับซองใส่เงินค่าจ้างงวดสุดท้ายให้กับมัจฉา   

เด็กหนุ่มที่เธอเอ็นดูราวกับลูกในไส้ เด็กผู้อับโชคคนนั้น  แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วแต่มัจฉาก็ยังเป็นเด็กสำหรับเธอเสมอ 

ตอนนี้เธอลำบากไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเด็กหนุ่มคนนี้ต่อไปได้ แต่เธอก็เชื่อว่า ความเป็นเด็กดีและเป็นคนขยันของมัจฉาจะทำให้เด็กหนุ่มอยู่รอดได้

มัจฉามองรถบรรทุกขนาด 6 ล้อที่มีของเต็มท้ายรถ มีเจ๊นิดนั่งอยู่ข้างหน้าที่กำลังโบกมือลาเขาอยู่อย่างใจหาย

ตลอดเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา มันผูกพันอย่างไม่อาจเลือนหายไปได้ มัจฉายิ้มให้กับตัวเองก่อนจะเดินกลับไปยังที่พักเพื่อเตรียมตัวไปหาคุณก้อย  ก็ได้แต่หวังว่ามันจะดีขึ้นนะ

............................................


มัจฉามองซ้ายขวาอย่างตื่นๆอาคารใหญ่โตหรูหรา ที่มัจฉาเคยเดินผ่านอยู่หลายรอบนั้น ไม่เคยได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสความหรูหราภายใน

จนวันนี้ เขาเดินตามหลังคุณก้อยไปเงียบๆ ก้มมองตัวเองที่ใส่กางเกงขายาวสีดำ กับเสื้อยืดคอปกสีเทา 

แม้ว่าจะเป็นชุดที่ปลาคิดว่ามันดูดีที่สุดที่เขามีแล้ว แต่พอมายืนอยู่ในสถานที่แห่งนี้เขารู้สึกว่า เขามันเหมือนเด็กมอซอหลงทางยังไงไม่รู้

“ปลารอตรงนี้ก่อนนะจ๊ะ “

คุณก้อยบอกให้เขานั่งรอที่เก้าอี้ ห้องเล็กๆ ที่มีพวกเครื่องชงกาแฟกับถ้วยกาแฟถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบ ตู้ปลาขนาดใหญ่ มีทีวี

ทั้งชั้นวางหนังสือเอาไว้ให้คนที่เข้ามาเยี่ยมได้นั่งอ่านรอเวลา แต่มัจฉาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว เพราะรู้สึกอยู่ผิดที่ผิดทางแปลกๆ

สักพักคุณก้อยก็ออกมาเรียกเขาเข้าไปอีกห้อง ทันทีที่เดินเข้ามาอีกห้อง พอพ้นประตูบานใหญ่ความเย็นที่ต่างจากข้างนอกลิบลับ

ทำให้มัจฉาเผลอห่อไหล่ด้วยความหนาว  ก่อนจะหันไปมองเบื้องหน้าที่เป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่

สายตาจากเจ้าของห้องที่ส่งมาทำให้ปลารู้สึกร้อนขึ้นอย่างประหลาด ผู้ชายตัวใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโตหลังโต๊ะทำงาน

ที่กินพื้นที่ของห้องไปอย่างมากดวงตาคมกริบที่มองมาที่เขาทำเอาขาสั่นอย่างไม่รู้สาเหตุ

"สวัสดีครับ"มัจฉายกมือไหว้เจ้าของห้องโดยไม่ต้องรอให้คุณก้อยแนะนำเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนๆนี้จะเป็นนายจ้างคนต่อไปของเขา

“นั่งสิ”

เสียงทุ้มเอ่ยออกมาทำให้มัจฉาขยับเข้าไปนั่งข้างๆคุณก้อยอัตโนมัติ  ชายหนุ่มเจ้าของห้องลอบยิ้มมุมปากอย่างนึกขันท่าทางของคนเข้ามาใหม่ หงอเป็นลูกหมาแบบนี้จะเลี้ยงลูกเขาได้ยังไง

 
“พี่ก้อยมั่นใจเหรอว่าเขาจะดูแลมาเฟียได้”

เสียงที่ดูเหมือนสบประมาททำเอามัจฉาอดไม่ได้ที่จะเชิดหน้าขึ้นนิดๆอย่างขัดใจ อะไรกันยังไม่รู้จักเขาสักหน่อย

มาดูถูกกันอย่างนี้ได้อย่างไร  ท่าทางนั่นไม่ได้หลุดไปจากกรอบสายตาของชายหนุ่มอีกคน รอยยิ้มเล็กๆก็ผุดขึ้นแทบจะทันที

“เดียวก็ลองให้น้องทำดูก่อน  เราบอกพี่เองนี่ว่าให้หาคนไว้ใจได้น่ะ นอกจากปลาแล้วพี่ว่าพี่ก็ไม่ไว้ใจใครหรอก อีกอย่างปลาเป็นผู้ชายคงไม่มีเรื่องย่องเบาเข้าห้องเดียวอย่างที่แล้วมาแน่ๆ ”

หญิงสาวอดที่จะแขวะญาติผู้น้องไม่ได้ สาเหตุหลักๆของการเปลี่ยนพี่เลี้ยงก็เพราะแบบนี้

เหล่าพี่เลี้ยงสาว หาทางขยับขึ้นไปเป็นแม่เลี้ยงน้องมาเฟียซะส่วนมากแทนที่จะทำหน้าที่พี่เลี้ยง

กลับหาทางอ่อยแต่คนเป็นพ่อซะอย่างนั้น คราวนี้คงหมดปัญหา แม้ว่าคุณสมบัติพี่เลี้ยงจะไม่ผ่าน

แต่ความที่เธอรู้จักกับมัจฉามานาน เธอมั่นใจว่า มัจฉาคนนี้ จะดูแลหลานเธอได้เป็นอย่างดี   


“หึหึ ก็ตามใจ “

สงครามอดไม่ได้ที่จะหันไปมองดูเด็กหนุ่มที่นั่งตัวลีบแต่ทำหน้าเชิดอยู่ข้างๆญาติผู้พี่ของเขาก่อนจะค่อยๆพิจจารณาคนตรงหน้าเงียบๆ

เขาไม่ใช่คนพูดมากนัก และงานก็ทำให้เขาเงียบจนเป็นนิสัย ความเงียบบางครั้งก็ดีมันทำให้เขาได้คิดเยอะๆ และมองเห็นอะไรอีกมากกว่าการพูด

 
“เดี๋ยวพี่คงต้องกลับก่อนนะเดียว มีงานต่อที่บ้านลุงใหญ่ น้องปลาอยู่คุยกับพี่เขาก่อนนะ ถ้ายังไงเดี๋ยวตอนเย็นก็กลับพร้อมพี่เดียวเขาเลยละกัน  มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดนะจ๊ะ ถ้าเดียวมันรังแกก็บอกพี่ได้นะ ว่างๆพี่จะไปเยี่ยมโอเคไหมหืม “


สงครามทำหน้าเบื่อหน่ายเมื่อเห็นญาติผู้พี่ทำเหมือนส่งลูกวัยอนุบาลเข้าเรียนวันแรกยังไงยังงั้น

“ ขอบคุณครับคุณก้อย “

“บอกให้เรียกพี่ก้อยเรานี่นะ เฮ้อ พี่ไปก่อนนะเดียว ฝากน้องปลาด้วย อย่าแกล้งน้องล่ะ ”


หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวขอตัวก่อนจะฝากมัจฉาไว้กับคนที่พึ่งจะรู้จัก อ้ออีกเดี๋ยวก็เป็นนายจ้างเขาแล้วนี่ จะกลัวอะไร

 แค่คิดมัจฉาก็แอบถอนหายใจเงียบๆ เรียกกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนจะแนะนำตัวเองสั้นๆหลังจากที่คุณก้อยกลับออกไปแล้ว

“ผมชื่อมัจฉา ครับ เรียกปลาก็ได้ อายุยี่สิบปี ผมจบแค่ ม.ต้น แต่จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ”

“จบแค่ ม.ต้นเหรอ.ทำไมไม่เรียนต่อล่ะ”

คำถามที่มาพร้อมกับเสียงราบเรียบไม่บอกอารมณ์คนถามทั้งสายตานิ่งๆที่มองมามันทำให้มัจฉาอึดอัด

“ผมไม่มีเงินครับ”คำตอบสั้นๆไม่ต้องขยายความ ทำให้ชายหนุ่มมองหน้าคนพูดอย่างพิจารณาอีกครั้ง


ดวงตากลมโตดูเหมาะเจาะกับดวงหน้าเรียว ปากบางรูปกระจับสีส้มอ่อน ที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะที่เข้าตัวกำลังพูดดูน่ามอง

กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนๆ ตัดสั้นดูเรียบร้อยสะอาดตา จมูกเล็กๆเป็นสันเชิดปลายนิดๆนั่นมันน่าดึงสักหมับเวลาที่เจ้าตัวเชิดหน้าจนดูคล้ายคนอวดดี 

แต่เครื่องหน้าที่เหมาะเจาะ ผิวพรรณที่สะอาดสะอ้าน  เด็กคนนี้สวยทั้งๆที่เป็นผู้ชาย  สงครามคิดอย่างนั้น  ท่าทางถือดี เย่อหยิ่งไม่น้อย 

“ทำกับข้าวเป็นไหม?”คำถามไม่มีที่มาที่ไปเอ่ยขึ้นเรียบๆ

“..เป็นครับ แต่แค่เมนูทั่วไป ถ้ายากๆก็ต้องลองดูก่อนครับ ถ้าหัดทำคงทำได้”

มัจฉาพูดแบ่งรับแบ่งสู้ เรื่องกับข้าวหรืออาหารทั้งคาวหวานเขาทำได้หมดล่ะ เพราะต้องอยู่คนเดียวตั้งแต่เด็กการทำกับข้าวกินเอง

เลยเป็นเรื่องจำเป็น  แต่ถ้าหากเป็นกับข้าวพวกหรูหราตามร้านอาหารเมนูดังๆพวกนั้นเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม

เพราะไม่เคยลองทำ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะยากหากมีวัตถุดิบครบ ไม่รู้ว่าถ้าเขาทำกับข้าวไม่เป็นคนตรงหน้าจะจ้างไหม

แต่ก็ต้องบอกความจริงเพราะเขาทำกับข้าวเป็นแต่ใช่ว่าจะอร่อยถูกปากทุกคน
 
“ทำงานบ้านเป็นไหม?”สงครามก็ถามไปอย่างนั้น เพราะถ้าพื้นฐานทำงานบ้านเป็นน่าจะเป็นคนที่มีระเบียบพอสมควร

“เป็นครับ”  เด็กหนุ่มพยักหน้ารับพลางให้นึกสงสัย นี่สัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กหรือแม่บ้านกันแน่นะ
 
“แล้วเคยเลี้ยงเด็กมาก่อนหรือเปล่า”เข้าเรื่องเสียที

“ไม่เคยครับ”   สิ้นคำตอบของเด็กหนุ่มสงครามถอนหายใจเฮือกอย่างไม่เกรงใจ


“เอาเถอะ ถ้าพี่ก้อยบอกโอเคก็คงโอเคล่ะนะ  เอาล่ะเรามาคุยกันเรื่องงานคร่าวๆก่อนนะ ฉันชื่อสงครามพี่ก้อยน่าจะบอกเธอแล้ว
จริงๆฉันต้องการจ้างพี่เลี้ยงที่จะช่วยสอนหนังสือลูกฉันได้ด้วย  ฉันไม่ได้ว่าเธอเรื่องการศึกษาหรอกนะ
แต่พี่เลี้ยงลูกฉันทุกคนจบขั้นต่ำต้องปริญญาตรี แต่เอาถอะ ลองให้เธอทำดูก่อนก็ได้ “


คำพูดและน้ำเสียงไม่ได้ทำให้มัจฉารู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด

“ครับคุณสงคราม”

มัจฉาเอ่ยรับนามของนายจ้างคนใหม่แม้ในใจจะกรุ่นๆที่อีกฝ่ายพูดถึงคุณสมบัติ แต่คิดอีกทีมันก็จริง เพราะเขาเองก็ด้อยทุกอย่าง

ทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์ไม่แปลกที่คุณสงครามจะไม่พอใจ แต่คงขัดคุณก้อยไม่ได้จากนี้มันคงขึ้นอยู่กับเขาแล้วล่ะว่าจะทำยังไง ถึงจะทำงานได้ดีสมกับที่คุณก้อยไว้ใจ
 
“ลูกชายฉันชื่อมาเฟียเรียกน้องเฟียก็ได้ อายุแปดขวบแล้ว ปรกติเฟียจะเป็นเด็กเงียบๆ แต่อารมณ์ค่อนข้างร้อนเวลาไม่ได้ดังใจ
หรือโดนขัดใจมากๆ อาจจะทำเธอเหนื่อยหน่อย ตอนเช้าๆไม่ค่อยชอบโดนปลุกนัก จะงอแง และดื้อเป็นพิเศษ 
งานที่เธอจะต้องทำ คือคอยดูเมนูอาหารให้เฟีย คนทำก็ยายกิ่ง กับมะตูม เธอแค่ดูว่าน้องจะกินอะไรก็สั่งยายกิ่งไว้

คอยดูพวกสารอาหารให้ครบอย่าตามใจลูกฉันเวลาที่จะกินพวกขนมไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าจะให้ดี เธอทำเองเป็นจะง่ายกว่า
ตอนเช้าคอยปลุกน้องเฟียให้อาบน้ำแต่งตัวและไปส่งที่โรงเรียน หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมาก  งานบ้านไม่ต้องทำเพราะมะตูมทำอยู่แล้ว   ตอนเย็นไปรับเฟียกลับจากโรงเรียน  คอยดูให้เฟียทำการบ้านให้เสร็จ ก่อนเข้านอน เรื่องการบ้านของเด็กประถมเธอคงช่วยสอนได้นะ   หลักๆก็ดูแลลูกฉัน  ..มีอะไรสงสัยไหม”



สงครามร่ายยาวพลางมองดูเด็กหนุ่มที่ล้วงเอาสมุดพกมาจดตั้งแต่ตอนที่เขาร่ายภารกิจหน้าที่ให้ฟังถือว่าเป็นเด็กรอบคอบใช้ได้

“ผมพักที่ไหนครับ”

“ในบ้านสิ มีห้องสำหรับเธออยู่แล้ว จะได้ดูแลน้องได้ตลอดเวลาส่วนค่าจ้าง ฉันให้เธอสามหมื่นก่อนช่วงทดลองงาน  สักสองเดือนถ้าโอเคฉันจะปรับให้อีกที”


“สามหมื่น!!”มัจฉาตกใจกับจำนวนเงิน มันมากเกินไปกับค่าจ้างเด็กแบบเขาที่ความรู้น้อยนิด
 
“ทำไม ?”สงครามขมวดคิ้วกับท่าทางตกใจของมัจฉา

“มันเยอะไปไหมครับ”

สงครามมองหน้าเด็กหนุ่มตรงหน้านิ่งๆ ไม่เคยมีคนปฏิเสธเงินเยอะมีแต่คนเรียกเพิ่ม เขาเองยังคิดว่าน้อยไปด้วยซ้ำกับหน้าที่พี่เลี้ยงของมาเฟีย ลูกชายเขา
 
“ถ้าเธอรู้จักลูกชายฉันแล้ว เธอจะรู้เองว่าไม่มากไปหรอกและอีกอย่างเธอต้องอยู่กับลูกชายฉันตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน  มีวันหยุดวันเดียว คือวันอาทิตย์  สามหมื่นน่ะไม่มากไปหรอก “

คำพูดที่ไม่ได้ขยายความนั้นทำให้มัจฉานึกขยาดในใจ  สงสัยเป็นเด็กร้ายๆเอาแต่ใจเลยไม่มีใครทนได้แน่ๆเลย แล้วเขาจะทนได้แค่ไหนกันล่ะนี่

“ครับ “มัจฉาไม่เอ่ยอะไรอีก เมื่อคนเป็นนายจ้างว่าแบบนั้น สงสัยลูกชายของคุณสงครามนี่คงเฮี้ยวน่าดู แค่ชื่อก็น่ากลัวทั้งพ่อทั้งลูก
 
“เอาเป็นว่า เริ่มงานเย็นนี้เลยได้ไหม พอดีฉันมีงานต่อคงไม่ได้กลับบ้านตอนนี้ เดี๋ยวฉันให้คนรถมารับเธอกลับเลย ส่วนข้าวของเธอจะไปขนย้ายเมื่อไหร่ก็บอกป๋องเอาละกัน ที่เหลือหากสงสัยอะไรถามยายกิ่งกับป๋อง ฉันเองก็งานยุ่งคงไม่ได้มาแนะนำอะไรเธออีกหรอกนะ”


คำพูดที่บอกปัดกลายๆว่าหมดหน้าที่ทำให้มัจฉาพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อเจ้าของห้องกดอินเตอร์คอม เรียกเลขาหน้าห้องเข้ามาสั่งงาน

“สวัสดีครับ”เสียงรับสายไม่ใช่เลขาหน้าห้องทำให้สงครามแปลกใจ

“อ้าว ยุ้ยไปไหน”

“ท่านประธานให้พี่ยุ้ยออกไปเอาเอกสารที่ร้านรวงข้าวกับพี่ป๋องไงครับ”สงครามทำหน้านึกสักครู่สงสัยเขาจะเบลอจนลืมนั่นนี่ไปหมด
 
“ท่านจะให้ผมโทรบอกพี่ยุ้ยกลับมาหรือเปล่าครับถ้าท่านมีงานด่วน”

”ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันโทรหายุ้ยเอง”สงครามวางสายจากคนหน้าห้องก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือต่อสายหาเลขาทันที

(ค่ะท่านประธาน)

“ยุ้ยยังอยู่ที่ร้านหรือเปล่า”

(ค่ะยังอยู่ค่ะรอพี่ป๋องมารับค่ะ )

“ยังไม่ต้องกลับมานะพอดีผมจะเข้าไปหาไอ้ธรมันหน่อย ยุ้ยรอที่ร้านก่อนผมมีเรื่องจะรบกวนหน่อยนะ  “

(ได้ค่ะท่าน )

สงครามวางสายจากเลขาพลางถอนหายใจ ต้องหนีบเด็กนี่ไปด้วยสินะ เขาคิดพลางหันไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งรอเขาเงียบๆที่โซฟา

หากจะปล่อยให้รอยุ้ยกับป๋องกลับมา เด็กนี่คงหิวและคงรอนาน  พาไปไว้ที่ร้านอาหารที่เลขาของเขาอยู่ที่นั่นเลยจะดีกว่า 

สงครามคิดพลางลุกขึ้นเก็บเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ เข้ากระเป๋าพลางหันไปบอกให้เด็กหนุ่มลุกตามเขาไป
 
“ไปเถอะ”

สงครามลุกเดินนำหน้ามัจฉาออกจากห้องไป ปลามองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าอย่างหมั่นใส้

พอคุณสงครามลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มันทำให้ปลาอดที่จะมองอย่างชื่นชมไม่ได้ ก็คุณสงครามตัวสูงใหญ่ดูน่ามองทุกท่วงท่า

จากตอนที่นั่งอยู่ปลาก็พอจะเดาได้ว่าสงครามต้องสูงมากแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าเมื่อเทียบกับตัวเองแล้ว เขาเหมือนเด็กน้อยไปเลย

กับส่วนสูงที่เสมอแค่ไหล่ของอีกคน เหอะ น่าหมั่นใส้ ปลาแอบย่นจมูกให้ตัวเองนิดๆอย่างรู้สึกอิจฉารูปร่างคนตรงหน้า
 

ปั่ก!!!

“อูย..เจ็บ”

เพราะมัวแต่เหม่อเดินตามหลัง นายจ้างคนใหม่มาเรื่อยโดยไม่ทันได้ดูอะไรคนตรงหน้าก็หยุดกระทันหัน ตัวเขาเองที่ไม่ได้ตั้งตัว

ก็ชนเข้าเต็มแผ่นหลังจนต้องยกมือขึ้นกุมจมูก ที่ปลาคิดว่าถ้าเสริมมาล่ะก็มันคงต้องเบี้ยวแน่ๆ ถือว่าโชคดีที่เขาไม่ได้เสริมจมูกน่ะนะ แต่จ็บชะมัดเลย


“ใจลอยไปถึงไหนล่ะฮึ..เจ็บไหมล่ะนั่น “

สงครามทำเสียงดุนิดๆเมื่อคนที่เดินตามหลังมาชนเขาซะเต็มแรง จมูกที่เขามองดูว่าน่าหมั่นเขี้ยวนั่นแดงขึ้นทันที จนเผลอยื่นมือไปจับเบาๆ

พลางหัวเราะให้กับความเซ่อซ่าของพี่เลี้ยงลูกชายคนใหม่ นั่นยิ่งทำให้ปลาหน้ามุ่ยอย่างหงุดหงิด แต่ก็ทำได้เพียงแค่ฮึดฮัดอยู่ข้างใน ขืนเผลอทำหน้าเหวี่ยงได้ตกงานก่อนเริ่มงานน่ะสิ


“ไม่เป็นไรครับ “

เขารีบบอกก่อนจะมองไปที่รถที่เขาทั้งคู่มาหยุดยืน สงครามเปิดประตูรถเข้าไปฝั่งคนขับ ก่อนจะหันมามองเขา

“เอ้าขึ้นมาสิ”

เสียงที่เร่งมาทำให้ปลารู้สึกตัว ก็ไอ้พาหนะคันนี้มันหรูจนเขาไม่กล้าเดินไปไกล้ แต่ก็จำใจต้องเดินเข้าไปนั่งอีกฝั่ง

ท่าทางกล้าๆกลัวของมัจฉาทำให้สงครามยิ้มน้อยๆอย่างเอ็นดู  เออแฮะ ปรกติเขาใช่จะเป็นคนอารมณ์ดีแต่พอเจอไอ้เด็กคนนี้

แค่ไม่กี่ชั่วโมง ทำเขาทั้งยิ้มทั้งหัวเราะไปก็หลายหน  หวังว่ามาเฟียลูกชายเขาจะไม่อาละวาดใส่พี่เลี้ยงคนนี้นะ

เขาเหนื่อยเต็มทีกับการเปลี่ยนพี่เลี้ยง เดือนนี้ก็สามคนแล้ว ไม่มีใครทนลูกเขาได้ถึงเดือนสักคนไม่ใช่เพราะมาเฟียเกเร

แต่เพราะมาเฟียหวงเขา และไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเหล่าพี่เลี้ยงที่เขาจ้างมาทำท่าอยากจะเลี้ยงเขามากกว่าลูกเขาเสียอีก

  หนนี้เป็นผู้ชายเขาได้แต่หวังว่าลูกชายเขาจะไม่คิดมาก เพราะถึงแม้ว่ามัจฉาจะเป็นผู้ชายแต่โครงหน้าที่ดูหวานใบหน้าเรียวเล็ก

ปากจิ้มลิ้มหน้าใสจนเขาอดคิดไม่ได้ว่า เป็นเด็กหนุ่มแน่หรือจะดูกี่มุมก็เหมือนเด็กผู้หญิงซะมากกว่า  แต่ก็ดูหล่อในบางมุม

 เอ๊ะเขานี่ชักเลอะเทอะ มาคิดอะไรไร้สาระ  คนอย่างเขามานั่งพิจจารณาใบหน้าคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน   

สงครามปัดความคิดของเขาให้พ้นจากเรื่องของคนข้างๆ เขานำพาเจ้ารถหรูประจำตัวออกจากที่จอดมุ่งหน้าสู่ที่นัดหมาย โดยไม่พูดอะไรอีก 

 
v
v
v
v
v
ต่อข้างล่างค่า  :mew1:

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
v
v
v
v
ต่อจากด้านบนค่ะ ^___^

........................................................................



ทันทีที่ถึงร้านอาหาร สงครามแทบจะไม่อยากนั่งเพราะงานรออยู่ข้างหน้าเขาพามัจฉามาส่งให้รอคนรถเขาที่จะมารับที่นี่

อย่างน้อยเด็กนี่ก็มีเพื่อนรอและได้ทานข้าวน่ะนะ เมื่อคิดอย่างนั้นเขาก็อดที่จะแปลกใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน 

คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นผอมเกินไป  วันๆกินอะไรบ้างหรือเปล่าไม่รู้ เลยทำให้เขาเป็นห่วงว่าจะเป็นลมไปเมื่อต้องเจอฤทธิ์ลูกชายเขา

 “ยุ้ย นี่ปลามาทำหน้าที่ดูแลเจ้าเฟีย ยังไงยุ้ยช่วยตามเจ้าป๋องให้มารับปลาไปที่บ้านทีนะ เย็นนี้ผมมีงานต่อ แล้วก็ยุ้ยอย่าลืมเอกสารประมูลงานของโครงการใหม่ ที่หัวหินให้ผมด้วยนะ วางไว้บนโต๊ะก็ได้ค่ำๆผมจะกลับไปเอา เดี๋ยวรันมันบ่นผมอีก อ้อ อีกอย่างปลายังไม่ได้กินข้าวมาใช่ไหม ฝากยุ้ยจัดการให้ทีนะ  ”


“ค่ะท่าน”เลขาคนสวยรับคำ และรับงานที่สั่งไว้  สงครามเหลือบมองเด็กหนุ่มที่นั่งเงียบๆ
 
“อ่าคุณปลาจะกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ” เลขาของสงครามหันมาถามเมื่อเห็นว่าอีกคนนั่งเงียบมานาน   

 มัจฉาอยากเอ่ยปากบอกว่าไม่เป็นไรแต่ดูท่าทางรีบๆของคุณสงครามเขาก็ไม่กล้าเอ่ยเพราะกลัวโดนดุ เลยได้แต่บอกออกไปเบาๆด้วยความเกรงใจ

“อะไรก็ได้ครับผมกินได้”

“ยุ้ยจัดการให้เขาด้วยก็แล้วกัน ผมต้องไปแล้ว”

“ค่ะท่าน “ สงครามลุกเดินออกไปจากร้าน คงเหลือแค่มัจฉากับเลขาคนสวยที่ยังนั่งรออาหารและคนขับรถ

“งั้นคุณปลารอตรงนี้ก่อนนะคะเดี๋ยวพี่ป๋องก็มา กินข้าวกันก่อนเนอะ ”

“เอ่อ..เรียกปลาเฉยๆก็ได้ครับอย่าเรียกคุณเลย  มันกระดากแปลกๆครับ”มัจฉารีบเอ่ยท้วงเมื่อเลขาคนสวยเรียกเขาซะดูเป็นผู้สูงส่งขนาดนั้น

“ไม่ได้หรอกค่ะ พี่เลี้ยงคุณหนูเฟียน่ะ จะว่าไปก็เป็นคนใกล้ชิดท่านประธานนะคะ  “

เธอคิดแบบนั้นมาตลอด เพราะคุณสงครามน่ะให้ความสำคัญกับคนที่เป็นพี่เลี้ยงลูกชายมาก  อย่าได้คิดว่าเป็นแค่พี่เลี้ยงเชียว

 ดูอย่างวันนี้ ถ้าให้นั่งรอเธอที่บริษัทก็ได้ไม่จำเป็นต้องพามาด้วยทั้งๆที่รีบ ไหนจะห่วงเรื่องปากท้องของคุณพี่เลี้ยงนี่อีก

ก่อนไปมีส่งสายตาให้ด้วย ท่าทางคนนี้คุณสงครามดูแลเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่นๆที่ผ่านมาอีกด้วย

 
 พี่ป๋องเคยบอกว่าค่าจ้างดูแลคุณมาเฟียน่ะ มากกว่าเงินเดือนผู้บริหารบางคนอีก ขนาดทดลองงานยังได้พอๆกับพวกเธอเลย

และหลายคนที่มาเป็นพี่เลี้ยงให้คุณมาเฟีย แต่ละนางนี่เป็นพวกเด็กจบสูงๆ หน้าตาบุคลิกดีกว่าเลขาอย่างเธอมากมาย

บางคนจบพยาบาลมาก็มี  แต่พอลับหลังคุณสงครามก็วางท่าจนเธอกลัวว่าจะตกงานเพราะพี่เลี้ยงคุณหนูก็บ่อย 

ดีหน่อยที่คุณสงครามเป็นคนมีเหตุผล  ไม่อย่างนั้นเธอคงได้หางานใหม่ตั้งนานแล้ว

 
จะว่าไปไม่มีใครอยู่นานสักคน ซึ่งเป็นสาเหตุที่เธอไม่รู้เพราะทุกครั้งพี่ป๋องจะแอบมาเม้าท์ให้เธอฟังบ่อยๆ

 แต่ไม่เคยบอกสาเหตุการลาออกของพี่เลี้ยง  และถึงแม้คนนี้จะเป็นผู้ชาย แต่เธอก็ยังเกรงว่าจะมาแผลงฤทธิ์กับเธอเหมือนคนที่ผ่านๆมา เพราะงั้นเรียกคุณนั่นแหละดีแล้ว


มัจฉาได้แต่ถอนใจเมื่อเลขาคนสวยยังยืนยันที่จะเรียกเขาอย่างนั้น เขาและคุณยุ้ยลงมือทานข้าวกันเงียบๆหลังจากมื้อเที่ยงผ่านไปไม่นาน

ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งในชุดซาฟารี สีดำก็เดินเข้ามาพร้อมทั้งยกมือไหว้เขา จนเขารับไหว้แทบไม่ทัน


“ไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ “มัจฉารีบบอก คนขับรถที่แนะนำตัวเองว่าชื่อป๋อง

“ไม่ได้หรอกครับ  เชิญคุณปลาที่รถเลยครับ มีอะไรให้ผมช่วยถือไหมครับ “

“เฮ้อ....ไม่มีครับ “เด็กหนุ่มเองหมดคำที่จะพูด เขาก็เลยปล่อยเลยตามเลยแม้จะรู้สึกอึดอัด ที่มีคนมาพินอบพิเทาแบบนี้

 เพราะเขาไม่ชินกับท่าทางก้มๆโค้งๆให้เขาหรอกนะ เขาเองไม่ใช่ผู้ดีแปดสาแหรกที่ไหน  ก็คนธรรมดา ลูกจ้างเหมือนกัน

“ผมขอไปเก็บของได้ไหมครับ พอดีผมยังไม่ได้เอาอะไรมาเลย “

“ได้ครับผมคุณปลาบอกทางได้เลยครับ”ป๋องยิ้มอย่างใจดีเมื่อเห็นว่าพี่เลี้ยงคนใหม่ของคุณหนูไม่ได้ถือตัวเย่อหยิ่งเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมา
 
รถเมอร์เซเดสเบนซ์ สีดำสนิทขนาด 7 ที่นั่ง จอดนิ่งสนิทที่หน้าตึกแถว ย่านค้าขาย ที่จอแจไปด้วยผู้คน

“จอดตรงหน้าตึกนี่ก็ได้ครับเดี๋ยวผมเดินขึ้นไปเก็บของแป๊บเดียว”

“มีอะไรให้ผมช่วยยกไหมครับคุณปลา”

“ไม่มีหรอกครับ แค่กระเป๋าใบเดียวเอง ผมยกได้”


ปลาเดินขึ้นมาเก็บของ เขาไม่ได้เอาของไปทั้งหมด มัจฉาเลือกที่จะเหลือห้องเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะผ่านงานหรือไม่

อีกอย่างเงินเดือนสามหมื่น ยังเหลือพอที่จะจ่ายค่าห้องไว้ได้บ้าง เลยยังไม่คืนห้องเช่า แต่เลือกที่จะเช่าต่อไว้อีกสักหน่อย

ถ้าผ่านงานแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรค่อยมาคืนห้องก็ได้ ดีกว่าคืนตอนนี้ หากตกงานมาจะไม่มีที่อยู่เอา


 วันหยุดก็แวะมาทำความสะอาดไว้หน่อยก็ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ยังมีที่เป็นของตัวเองเอาไว้หลบภัย ....

เด็กหนุ่มคิดไปพลางขำความคิดของตัวเอง ก่อนจะนึกถึงเจ๊นิดและคนที่เขาไม่เคยเห็นมาหาเขาเลยแม้แต่จะส่งข่าวหรือถามข่าวคราวเขายังไม่มี

คนพวกนั้นคงทิ้งเขาแล้วจริงๆ ในชีวิตของพวกเขานั้น คงไม่คิดที่จะมีลูกตั้งแต่แรกแล้ว  แต่ถึงยังไงมัจฉาก็ยังคิดถึงคนทั้งคู่ที่ทิ้งเขาเอาไว้เพียงลำพัง   

“คุณปลาจะแวะซื้ออะไรหรือเปล่าครับ “

“ไม่หรอกครับ ทำไมเหรอ”

“ผมจะได้ไปรับคุณหนูที่โรงเรียนเลยครับ เพราะนี่ก็ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว”

“ปรกติใครไปรับคุณหนูที่โรงเรียนล่ะพี่ป๋อง “

“ก็ผมนี่ล่ะครับ แต่ถ้ามีพี่เลี้ยงก็ผมจะขับรถให้ครับ คุณพี่เลี้ยงจะเป็นคนคอยไปรับไปส่งครับ วันนี้คุณปลาจะไปด้วยก็ได้นะครับ  ”

ปลาอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ลูกชายจะเหมือนพ่อหรือเปล่านะ หน้านิ่งๆพูดห้วนๆ เสียงเย็นๆน่ากลัว  หึหึ พ่อหมีขั้วโลก

 เขาอดที่จะขำไม่ได้เมื่อคิดเปรียบเทียบคนตัวโตเป็นหมีขั้วโลก ก็บรรยากาศรอบตัวมันเย็นๆจนเหมือนจะจับไข้เลยล่ะ ยิ่งสายตาแบบนั้นบรื๋อ แค่มองมาก็หนาวแล้ว
 
ระหว่างทาง พี่ป๋องเป็นคนช่างพูด หลากหลายเรื่องราวของคุณหนูมาเฟียกับคุณพ่อสงคราม ก็พรั่งพรูออกมาไม่ขาดจากปากคนขับรถ บางอย่างมัจฉาต้องจดไว้เพราะเป็นเรื่องของคุณหนู


“คุณหนูน่าสงสารครับ ยิ่งวันเสาร์อาทิตย์นี่ คุณพ่อก็ไปทำงานไม่กลับบ้าน  คุณหนูก็อยู่คนเดียวดูจะเหงามากเลยครับ “

“แล้วพี่เลี้ยงคนก่อนๆทำยังไงครับ “ด้วยความที่อยากเก็บข้อมูลเขาก็ถามเอากับป๋องนี่แหละจะดีที่สุด
 
“คุณหนูไม่ค่อยสนิทกับพี่เลี้ยงหรอกครับ ทุกคนจะตามใจคุณหนูมากกว่าคือถ้าคุณหนูจะทำอะไรก็ปล่อย ส่วนมากคุณหนูจะติดการ์ตูน พวกคุณพี่เลี้ยงก็สบายไปปล่อยคุณหนูให้ดูทีวี บางทีก็ออกไปช็อปปิ้งยังมีเลย”

“หา!! ช็อปปิ้งเนี่ยนะ แล้วคุณสงครามไม่ว่าเอาเหรอ”

“ไม่รู้หรอกครับ นายท่านทำงานหนัก  บางวันกว่าจะกลับบ้านก็เกือบๆเที่ยงคืนยังมี เลยครับ”

มัจฉาให้นึกสะท้อนในใจ เขานึกสงสารคุณหนูตัวน้อยตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า  ตอนเป็นเด็กเขาชอบหาอะไรทำ

 หลักๆเลยคือเข้าครัว เพราะพ่อกับแม่ไปคนละทิศละทาง มันเลยทำให้มัจฉาเป็นเด็กที่ไม่ได้อยู่ว่างๆหรือไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ

คุณหนูมาเฟียน่าจะเหงา  การปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวีมากไป ก็ไม่ดี  มัจฉาอมยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาควรจะทำยังไง

เอาล่ะมาลองเลี้ยงเด็กดูสักตั้ง คงไม่อยากสักเท่าไหร่หรอกน่า.......

.
.
.
.
TBC.....

สวัสดียามค่ำค่า ยาวววววววววไป :katai4: :katai4: :katai4:

 พาน้องปลามาเสิร์ฟ จริงๆปลาเป็นคนมองโลกแง่ดีนะคะ เป็นคนที่กล้าที่จะเผชิญหน้า แต่ก็ยังมีความกลัะวอยู่บ้างตามประสาคนที่อ่อนต่อโลก

ส่วนคุณหนูมาเฟียนั่นตอนหน้าค่อยมารู้จักกันเนอะ

อย่าลืมเจอคำผิดสะกิดพันวาด้วยค่า

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน สำคัญยิ่งคือคนเม้นท์  เพราะถ้าเปรียบคนเขียนเหมือนร่างกาย คนอ่านเปรียบเหมือนเลือดที่ไหลเวียนหล่อเลี้ยง

คนเม้นท์คือลมหายใจ ที่ขาดไม่ได้นะค๊าาาาาาาา  :hao7: :hao7: นำเน้าเชียว55555

กอดแน่นๆทั้งคนอ่านและคนเขียนค่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:



ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เอาอีกๆ :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอเจอหนุ่มน้อยมาเฟียเลยค่ะ

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่าติดตาม รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5

ตอนที่ 2 เด็กชายมาฟีย



เด็กชายตัวผอม ผิวขาว หน้านิ่งเหมือนไร้ความรู้สึกใดๆยืนนิ่งมองมาที่มัจฉาและป๋องคนขับรถที่เดินมารับ ตรงหน้าโรงเรียน

คิ้วเล็กๆขมวดเข้าหากัน เมื่อมองเห็นมัจฉาเดินคู่มากับคนขับรถ ...ใคร ? หึ  พวกพี่เลี้ยงไร้สมองอีกแล้วสิ

 เด็กชายทำหน้างอบึ้งตึงอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะปรายตามองร่างโปร่งเพรียวที่เดินเข้ามาใกล้
 
“คุณหนูครับ นี่คุณปลาพี่เลี้ยงคนใหม่ของคุณหนูครับ”

เด็กชายปรายตามองตามที่คนขับรถแนะนำ ก่อนจะแปลกใจนิดๆเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชาย ที่กำลังส่งรอยยิ้มเป็นมิตรมาให้

 เหอะ จะผู้หญิงผู้ชายมันก็ไม่ต่างกันหรอก เด็กชายคิดอย่างนั้นก็เดินเบียดมัจฉาตรงไปที่รถ ที่จอดรออยู่

“เกะกะ”

เสียงเล็กๆดังขึ้นเมื่อเด็กชายเดินเบียดตัวเขาผ่านไป ทำให้มัจฉาหน้าตึงขึ้นมานิดหน่อย เด็กอะไรไม่มีมารยาท

เขาอดที่จะค่อนแคะไม่ได้ แต่ก็ได้แต่ปรับสีหน้าและเดินตามเด็กชายขึ้นรถไปโดยมีคนขับรถที่ยิ้มแหยๆส่งมาเป็นกำลังใจ

บอกเป็นนัยๆว่า นี่แค่น้ำจิ้ม ยังเหลืออีกหลายชุดและคงเป็นชุดใหญ่เสียด้วย


“เอาล่ะ พี่แนะนำตัวก่อนนะ พี่ชื่อปลา  จะมาช่วยดูแลคุณหนูตั้งแต่วันนี้  ว่าแต่คุณหนูชื่ออะไรครับ”

มัจฉาพยายามชวนคุยระหว่างทางที่นั่งรถมาด้วยกัน
 
“แค่ชื่อยังไม่รู้จักจะมาดูแลเราได้ไง หึ “

มัจฉาถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำตอบ จากเด็กชายแปดขวบคนนั้น  สงสัยจะเจอเด็กมีปัญหาเข้าแล้ว
 
“เราเพิ่งจะรู้จักกัน พี่จะรู้จักชื่อคุณหนูได้ไงล่ะครับ  ถ้างั้นคุณหนูรู้ไหมว่าพี่ชื่ออะไร”

“ปลาไง “ไอ้คนนี้มันโง่แน่ๆพึ่งจะบอกชื่อเขายังดันจะมาถามอีกหึหึ

“ชื่อจริงสิครับชื่อเล่นพี่บอกไปแล้ว ถ้าคุณหนูรู้ชื่อจริงพี่นะ จะเอาอะไรผมให้ขอได้ 1 อย่าง เลย“

“เกมส์ปัญญาอ่อน “คำเหน็บแนมมาลอยๆ

“ไม่แน่จริงล่ะสิ หึ”

มัจฉาเลยแกล้งเหน็บกลับพร้อมแอบท้าเล็กๆ  แววตาที่ลุกวาวมองมาที่เขา ทำให้เขาอดที่จะขำไม่ได้ ก็นะแค่นี้เขาก็รู้อีกอย่าง

เด็กชายมาเฟียเป็นพวกท้าไม่ได้ หึหึ เด็กเอ๋ยเด็กน้อย
 
“เราไม่เห็นจะอยากได้อะไร   อีกอย่างใครจะไปรู้จักชื่อคนที่พึ่งเจอกัน..อ้ะ..!!”

นั่นไง เหมือนจะนึกได้ว่าพลาดแล้วเด็กชายเลยนั่งเงียบมองออกไปนอกหน้าต่าง เสียงหัวเราะเบาๆของคนขับรถ ดังมาพานให้หงุดหงิด ชิส์

“เย็นนี้คุณหนูจะกินอะไรดีครับ “

เมื่อต้องหาเรื่องคุย มัจฉาก็คิดว่าเรื่องกินนี่ล่ะ ดีที่สุดแล้ว ดูท่าเด็กน้อยจะไม่ได้พานเขาเท่าไหร่ ก็แค่เด็กมีปัญหา

แค่ปัญหาจิ๊บจ๊อยคงเป็นเรื่องพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ล่ะสิ หึหึ แค่นี้ล่ะก็สบายมาก เพราะมันเป็นปัญหาที่เขาเผชิญมานานนับสิบปี 

“ทำไม....ทำเป็น?”เป็นคำถามที่ห้วนสั้นเหมือนพ่อไม่มีผิด
 
“ถ้าเมนูง่ายๆก็ทำเป็นครับ แต่ถ้าทำไม่เป็นพี่จะได้บอกยายกิ่งทำให้ไง แต่จะว่าไปลองหัดทำกับข้าวก็ดีเหมือนกันนะ  คุณหนูล่ะทำเป็นไหม”

“ไม่ใช่หน้าที่ “หึหึ คำตอบสมเป็นพ่อลูกจริงๆ
 
“อยากลองทำไหมล่ะ  เรามาเรียนทำกับข้าวแข่งกันไหม “

“เรื่องอะไรเราต้องแข่ง ไม่ใช่หน้าที่เราสักหน่อย”

“ไม่กล้าล่ะสิ หึหึ อ่อน”

“ใครบอกเราไม่กล้า คอยดูเราจะทำเป็นก่อนนายอีก ..อ้ะ!! “

นั่นไงพลาดอีกแล้ว  เสียงหัวเราะเบาๆแว่วมา ทำให้เด็กชายหน้างอง้ำอย่างขัดใจ ก็แค่ทำกับข้าว มันจะยากตรงไหน
 
“พี่ป๋อง แวะห้างข้างหน้าได้ไหมครับ”

“ได้ครับ “

“ไปทำไมเราจะรีบกลับบ้าน “เจ้านายตัวน้อยเอ่ยเสียงเรียบอย่างไม่พอใจ
 
“แป๊บเดียวครับคุณหนู  พี่ปลาขอแวะซื้อของแป๊บเดียว แต่ถ้าคุณหนูจะลงไปด้วยก็ได้นะครับ “

ท่าทางลังเล ของคุณหนูตัวน้อยทำให้มัจฉาอมยิ้ม เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กเสมอ อ่านง่ายทั้งสีหน้าและท่าทาง
 
มัจฉาเปิดดูเงินในกระเป๋า ยังมีพอที่จะซื้อของบางอย่างที่เขาตั้งใจ
   
“ไปครับ “มัจฉาเอ่ยพลางยื่นมือไปหาคุณหนูตัวน้อย ก่อนจะได้รับคำตอบที่ทำเอาเขาใจแป้วในสิ่งที่ตั้งใจจะทำ

“ไม่ต้อง  พี่ป๋องไปด้วยสิ “

“ครับคุณหนู คุณปลาจะไปซื้ออะไรครับ”

ทุกคนลงจากรถ และเดินตามกันเข้าห้างฯ ป๋องจับมือเล็กๆของคุณหนูเดินตามหลังมัจฉาที่เดินนำเข้าไปข้างใน

“ร้านเลโก้น่ะ “

ปลาบอกอย่างนั้น สิ่งแรกที่เขานึกออก กิจกรรมที่เขาชอบเมื่อตอนเป็นเด็กไม่เคยได้เล่น  เห็นเพื่อนที่โรงเรียนเล่นกัน

และคุณครูเคยให้เขาและเพื่อนๆต่อในชั่วโมงเรียน  มัจฉาคิดว่ามันน่าสนุก และทำสมาธิได้ดี
 
เด็กน้อยยืนมองพวกหุ่นยนต์ตัวเล็กที่วางเรียงรายในตู้โชว์ด้วยความสนใจ  เขาอยากได้แต่ต้องขอพ่อ แต่พ่อก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน

พอคิดแบบนั้นเด็กน้อยก็หน้าเศร้าลงทันที มัจฉาที่ยืนสังเกตดูเลยหันไปถามเจ้าของร้านถึงราคาของหุ่นยนต์ตัวนั้น

 
“อ๋อ กันพลาน่ะเหรอ ถ้าพึ่งจะเล่นแนะนำเอารุ่น HD หรือ SD ไปก่อนได้ครับ ถ้าสำหรับเด็กๆก็  MG หรือ First  Grade 
ผู้ใหญ่บางคนยังชอบเลยครับ  ใช้สมาธิสูงเลย “

เจ้าของร้านแนะนำไปยิ้มไป ทั้งยังมองหน้ามัจฉาไม่วางตาแม้จะรู้สึกแปลกๆแต่มัจฉาก็ไม่ได้สนใจไปกว่าการที่คุณหนูของเขาชอบ เลยหันมาถามคุณหนูตัวน้อย

“คุณหนู ชอบเหรอครับ “

“ไม่”

เด็กชายชะงักก่อนจะหันหน้าหนี และปฏิเสธเสียงแข็ง มัจฉาอดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ดูก็รู้ว่าอยากได้เอาเถอะ ถือว่าเป็นของกระชับมิตรก็แล้วกัน

แอบซื้อไว้ก่อนค่อยหลอกมาเล่นด้วยกันทีหลัง สุดท้ายมัจฉาก็ควักเงินเก็บซื้อเจ้าหุ่นยนต์กันพลานั่นมาตั้งหลายตัว

หมดไปเยอะพอดู แต่ก็คุ้มเมื่อเห็นคุณหนูแอบชำเลืองมองถุงที่เขาถือบ่อยๆ อย่างนี้คงหลอกล่อไม่ยากนัก

กว่าจะออกจากห้างได้ก็พลบค่ำ  มัจฉาซื้อหนังสือพวกสัตว์โลกที่เป็นการ์ตูนมาสองเล่ม และกล่องเลโก้หนึ่งชุด

ทั้งยังได้กันพลามาอีกตั้งสามตัว ไหนๆคุณสงครามบอกให้สอนหนังสือช่วยสอนน้องทำการบ้าน

 เขาคิดว่าเด็กๆน่าจะชอบพวกการ์ตูน  มากกว่าพวกภาพสัตว์จริงๆ

 
มัจฉาลงจากรถพร้อมๆกับเด็กชายที่เดินเข้าห้องรับแขกไป เด็กหนุ่มแบกกระเป๋าเดินตามเด็กผู้หญิงอีกคนที่ดูอายุคงจะไล่เลี่ยกันกับเขาขึ้นไปชั้นบนของบ้าน

 “คุณปลาพักห้องนี้นะคะ ตูมทำความสะอาดให้แล้วถ้าคุณปลาอยากได้อะไรก็บอกตูมได้เลยนะ “

เด็กสาวยิ้มแฉ่งเมื่อมองดูหน้าของพี่เลี้ยงคนใหม่...... หล่อ...นานแล้วที่ไม่ได้เห็นคนหล่อๆ เหมือนอบป้าในซี่รี่ส์เกาหลีที่ชอบดูเลย

 คุณสงครามก็หล่ออยู่หรอกแต่หน้าดุชะมัด น่ากลัวมากกว่าไม่เหมือนคุณปลาคนนี้ หล่อมากจนเด็กสาวเขินจนหน้าแดงหูแดงไปหมดเมื่อคุณพี่เลี้ยงส่งยิ้มมาให้

“ขอบคุณนะมะตูม ใช่ไหม “

“ใช่ค่ะ เรียกตูมเฉยๆก็ได้ค่ะ “

“ครับตูมขอบคุณนะครับ”

“มีอะไรก็เรียกตูมได้เลยนะคะ”เด็กสาวบอกท่าทางกระมิดกระเมี้ยนทำให้มัจฉาหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ

คล้อยหลังมะตูม เขาจัดการเก็บข้าวของเข้าที่ก่อนจะเดินลงมาข้างล่างที่คุณหนูนั่งกินขนมอยู่ที่โซฟาหน้าจอทีวี 

 “วันนี้มีการบ้านไหมครับ”

“เราทำเสร็จแล้ว “

“งั้นเราไปเข้าครัวกัน ก่อนนอนค่อยตรวจการบ้านอีกทีเนอะ” มัจฉายื่นมือเข้าไปหาเด็กชายที่นั่งนิ่งมองมาที่เขา
 
“เราไม่ใช่เด็กเดินเองได้ไม่ต้องมาจูง”โถ..แปดขวบนี่โตแล้วว่างั้น หึหึ   

เสียงห้วนๆบวกกับหน้าตาที่ดูหงุดหงิดของเด็กชาย ทำให้มัจฉาอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ คงต้องอบรมกันอีกยาวเลยสินะ

มัจฉาคิดก่อนจะเดินนำนายจ้างตัวน้อย ตรงไปที่ครัว  จะว่าไปเขายังไม่ได้สำรวจห้องหับต่างๆเลยเอาเถอะ ยังมีเวลา วันนี้ก็หาเรื่องสงบศึกกับเจ้านายตัวน้อยก่อนดีกว่า

“สวัสดีครับยายกิ่งใช่ไหมครับ”

“ค่า คุณปลา มีอะไรให้ยายช่วยหรือเปล่าคะ “

หญิงสูงวัยเป็นแม่ครัวประจำบ้าน และ เป็นยายของเด็กมะตูมยืนยิ้มอารมณ์ดี ป๋องโทรฯมาบอกเธอกับมะตูมเรื่องพี่เลี้ยงคนใหม่ของคุณหนู

เธอเองก็รอดูว่าจะเป็นเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมาไหมเพราะครั้งนี้เป็นผู้ชายจะเป็นแบบไหนกันผู้ชายจะมาเลี้ยงเด็กได้ยังไง

เธอให้นึกสงสัยอยู่ครามครัน แต่เมื่อเจอกันเธอรู้สึกว่า คุณปลาคนนี้เหมาะที่จะเป็นพี่เลี้ยงเด็กมากเลย

เพราะบุคลิกอ่อนโยนและรอยยิ้มใจดีนั่นมันคงดีไม่น้อยถ้าคุณปลาคนนี้เข้ากับคุณหนูของเธอได้

ถึงแม้เธอจะแปลกใจที่คุณพี่เลี้ยงพาคุณหนูเข้าครัว ตั้งแต่วันแรก แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะพี่เลี้ยงคนก่อนๆจะนั่งดูทีวีตามใจคุณหนูมากกว่า

“คือว่าปลาอยากช่วยทำกับข้าวครับแต่ปลาไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนเลยมาอาสาเป็นลูกมือยายกิ่งครับอ้อแล้วก็นี่ผู้ช่วยคนพิเศษน่ะ“มัจฉาว่าพลางชี้ไปที่เด็กน้อยที่เขาพาเข้ามาด้วย

“เอ่อ...มันจะดีเหรอคะ ยายกลัวว่าคุณเดียวจะเอ็ดเอาเพราะคุณเดียวไม่ชอบให้คุณหนูเข้าครัวบอกว่ามันอันตราย”

ยายกิ่งรีบอธิบายเมื่อมองเห็นความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นอย่างน้อยก็เจ้าของบ้านล่ะไม่แฮปปี้แน่ๆ

“ไม่เป็นไรครับ เราจะช่วยกันระวังเนอะคุณหนูเนอะ”ตอนท้ายหันไปพยักพะเยิดกับนายจ้างตัวน้อย

“ก็..อืม..”สีหน้ายังคงกังวลเพราะกลัวคนเป็นพ่อดุ
 
“เอาเป็นว่าเราจะโดนดุด้วยกันนะ “มัจฉารีบปลอบคนข้างๆก่อนที่นายจ้างตัวน้อยจะถอดใจ

“อ้าว....ตัวเป็นลูกจ้างก็รับไปคนเดียวสิ “เด็กน้อยรีบแย้งทันควัน

“ก็เราทำด้วยกันถ้าโดนดุก็ต้องรับด้วยกัน ลูกผู้ชายน่ะกล้าทำก็ต้องกล้ารับนะครับ “

“ก็ได้ ..เชอะ “ทำเสียงสะบัดใส่พี่เลี้ยงที่ยิ้มกว้างจนน่าหมั่นใส้
 
“งั้น วันนี้ยายมีแมนูต้มจืดมะระยัดไส้ คุณปลากับคุณหนูช่วยหั่นมะระก่อนนะคะ แล้วคว้านเอาเมล็ดข้างในออกให้หมดให้เหลือแต่เปลือกโบ๋ๆแบบนี้ แล้วเอาหมูสับที่ยายหมักแล้วยัดลงไปแน่นๆแบบนี้นะคะ”

ยายกิ่งบอกพลางสาธิตให้เป็นตัวอย่าง 1 ชิ้น

“เรากลัวมีดบาดมือ”เด็กชายบอกเสียงอ่อย
      
“อ่า...งั้น เดี๋ยวพี่ปลาจะหั่นมะระนะ คุณหนูก็เอาช้อนคว้านไส้ออกจะได้ไม่โดนมีดบาด เสร็จแล้วค่อยมาช่วยกันยัดไส้อีกทีเนอะ”

ยายกิ่งมองลูกมือใหม่สองคนที่ขะมักเขม้นช่วยกันทำ อย่างนึกไม่ถึงแต่ก่อนไม่เคยมีพี่เลี้ยงคนไหนที่จะใส่ใจพาคุณหนูมาหัดทำอะไรแบบนี้

หลายๆคนมัวใจจดใจจ่อรอเวลาคุณสงครามกลับบ้าน แทนที่จะคอยดูแลคุณหนูตามหน้าที่แต่นี่วันแรกก็พากันมาแบบนี้

ยายกิ่งก็อดที่จะยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ สงสัยคุณปลาคนนี้จะจับทางคุณหนูของเธอได้ถูก
 
“คุณหนูต้องหัดทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้วนะครับ แม้ว่าเราจะมีคนทำให้แต่หากวันนึง เราไม่เหลือใคร เราจะได้พึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ลำบาก”

“เราไม่เข้าใจ”

มือก็คว้านเมล็ดมะระไปทั้งยังเอียงคอมาคุยกับพี่เลี้ยงคนใหม่ด้วยความสงสัย ทุกวันนี้เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเอง

เพราะมีทุกอย่างมาวางแทบเท้าทุกวันอยู่แล้วถึงแม้ว่าจริงๆแล้วเด็กชายจะไม่ชอบใจนัก เขาอยากลองทำอะไรด้วยตัวเองแต่

พ่อมีเงินจ้างคนทำงาน ดูอย่างพี่เลี้ยงเขาพ่อก็จ้างมา ถ้าเขาไม่มีใครเขาก็จ้างได้เหมือนกัน เด็กน้อยคิดตามแง่มุมที่ตัวเองเข้าใจ
 
“ต้องค่อยๆคิดครับ เอางี้สมมุติว่าคุณหนูไปติดเกาะ ที่นั่นไม่มีคนแต่มีหม้อหุงข้าวมีข้าวสารมีมะระแบบนี้ คุณหนูตัวคนเดียว จะทำอย่างไรถึงจะได้กินข้าวล่ะครับ “

การเปรียบเทียบที่เข้าใจง่ายสำหรับเด็กแบบนี้มัจฉาเองก็เคยถูกแม่ว่าแบบนี้ เพราะแม่ไม่มีเวลาพ่อไม่สนใจ เขาเลยต้องช่วยเหลือตัวเองอย่างที่แม่ต้องการ

“ก็.....หุงข้าวสิ “

“คุณหนูหุงเป็น?”

“ก็ หัดทำสิ “เมื่อไม่แน่ใจก็บ่ายเบี่ยงไว้ก่อน
 
“นี่แหละครับที่พี่ปลาอยากบอก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทิ้งเราไปจนไม่มีใคร แต่บางครั้งอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าเรามีความรู้พวกนี้ติดตัวไป เราจะไม่ลำบาก “แว่บหนึ่งที่เด็กชายเห็นว่าพี่เลี้ยงหน้าเศร้าหมองเมื่อพูดถึงตอนไม่มีใคร

“ตัวก็ทำไม่เป็นนี่นา ทำมาสอนเรา”อดไม่ได้ที่จะเถียงก็พี่เลี้ยงก็ยังทำไม่เป็นเสียหน่อย

“นี่ไง พี่ปลาเลยมาหัดทำไง คราวหน้าเผื่อเราไปติดเกาะด้วยกันจะได้ช่วยกันทำเนอะ”

“ใครเขาจะไปติดด้วยกันกับตัวเล่า “

เด็กน้อยยังคิดว่าพี่เลี้ยงคนใหม่ติงต๊องแน่ๆ สงสัยจะไม่เต็มบาทแต่มือน้อยๆก็ยังพยายามยัดหมูสับลงไปในมะระอย่างตั้งอกตั้งใจ

ยายกิ่งมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกอุ่นๆในอก เธออยากให้คุณหนูมีความสุขเด็กน้อยที่น่าสงสารคนนี้ เธอก็ได้แต่หวังว่าพี่เลี้ยงคนใหม่จะเข้าใจคุณหนูและดูแลคุณหนูของเธอได้ดีกว่าคนอื่นๆที่ผ่านมา

“นี่ ถ้าวันไหนเราทำเป็นแล้ว ลองทำให้คุณพ่อกินดีไหม เซอร์ไพรส์ไง คุณพ่อต้องดีใจแน่ๆเลย”

“พ่อจะมีเวลากลับมากินเหรอ”เสียง เล็กๆเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด เด็กน้อยรู้ดีว่าพ่อกลับบ้านทีไรเขาก็หลับแล้ว

ตอนเช้าพ่อก็ออกจากบ้านก่อนเขาตื่นอีก หรือไม่ก็ตื่นสายไม่ทันเขาไปโรงเรียน  น้อยครั้งที่จะได้ทานข้าวกับพ่อ

“ต้องมีสิครับ สักวันเนอะ แต่ถ้าคุณพ่อไม่มีเวลาทานที่บ้านเราก็เอาใส่ปิ่นโตไปให้ที่ทำงานเลยสิ แต่ก่อนนั้นเราต้องมาหัดทำให้อร่อยก่อนเนอะ “

มัจฉารู้สึกสงสารเด็กน้อยจับใจ พานให้นึกถึงเขาเองก็ไม่เคยได้ทานข้าวกับพ่อและแม่ ไม่ว่าจะอยู่ด้วยกันหรือจากกันไปแล้วก็ตาม

 มัจฉามองดูเด็กชายก่อนจะสะท้อนเห็นเงาตัวเองในนั้น มันเหงา มันขาดแต่เรียกร้องไม่ได้ 

“แล้วพ่อจะไม่ว่าเหรอ”

“ไม่หรอกถ้าเราทำอร่อยน่ะนะ “ปลาแบ่งรับแบ่งสู้

“............ “

“ก็..หัดทำไง เราต้องหัดทุกวันเรียนทุกวันเราก็เก่งเอง เห็นไหมคุณหนูไปโรงเรียนทุกวันตั้งใจเรียนคุณหนูก็เรียนเก่ง เพราะงั้นยายกิ่งจะตั้งใจสอนเราก็ตั้งใจเรียนสักวันเราจะทำอาหารได้เก่งๆไงครับ”

“ก็ได้..ถ้าไม่อร่อยนะ ตัวโดนพ่อดุไปคนเดียวเลย”

สรรพนามที่เรียกขานเขาเปลี่ยนไปตอนไหนไม่รู้ แต่อย่างน้อยคำว่า ตัว ก็ยังดีกว่านายละกัน

เพราะช่องว่างระหว่างเขาและนายจ้างตัวน้อยจะลดลงมาแม้จะเพียงเสี้ยวเดียวเล็ก ๆก็ยังดี ทำให้ปลามีกำลังใจที่จะทำงานเพิ่มขึ้น

 “ครับๆ พี่ปลารับทราบครับคุณหนู”มัจฉาทำท่าตะเบ๊ะแบบทหารก่อนจะยิ้มกว้าง ให้กับเด็กชาย ที่ยกยิ้มน้อยๆอย่างพึงพอใจ 

v
v
v
v
ต่อด้านล่างเลยค่า...^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2017 14:17:55 โดย Phanwa86 »

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
v
v
v
ต่อจากด้านบนค่า.....

.......................................



กว่าจะออกจากครัว และกินข้าวเย็นเสร็จ  ก็เกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว มัจฉาก็พาคุณหนูขึ้นห้องเพื่ออาบน้ำ 

“จะไปไหน ?”เด็กชายคว้าชายเมื้อของพี่เลี้ยงทันทีที่คนเป็นพี่หันหลังเดินออกจากห้องน้ำ

“ก็ไปเตรียมชุดให้ครับคุณหนูจะได้อาบน้ำ”

“มาอาบน้ำให้เราสิ”

“หา !!! คุณหนูอาบเองสิครับโตแล้วนี่”

มัจฉาโพล่งออกไปอย่างที่ใจนึก คุณหนูแปดขวบแล้ว ยังอาบน้ำเองไม่เป็นนี่มันน่าตกใจไม่น้อย เขาเองอาบน้ำเองตั้งแต่สามขวบเลยด้วยซ้ำ หรือว่าเพราะเขาต้องดูแลตัวเองแต่คุณหนูมีแต่คนดูแลเลยทำให้ทำอะไรเองไม่ได้แบบนี้

มัจฉาคิดเปรียบเทียบเด็กน้อยกับตัวเขาเองอย่างอดไม่ได้  แล้วอย่างนี้โตมาจะทำอะไรเองเป็นบ้างไหมนี่ มีคนรองมือรองเท้าตลอดเวลาแบบนี้

“ก็เราไม่เคยอาบเองนี่ มีแต่คนอาบให้จะอาบหรือไม่อาบห๊ะ!!”เด็กชายนิ่วหน้าอารมณ์เริ่มขุ่นมัวเมื่อไม่ได้ดังใจ
 
“ถ้าไม่มาอาบน้ำให้เราๆจะฟ้องพ่อให้ไล่ออกเลย”

ทุกทีที่มีปัญหากับพี่เลี้ยงเด็กชายอ้างจะฟ้องพ่อทีไร ทุกคนต้องรีบทำตามความต้องการของเขาทันที  แต่...

มัจฉายืนเท้าสะเอวเอียงคอมองเด็กชายตัวน้อยที่ยืนแหงนคอตั้งบ่าคุยกับเขาอยู่ตรงนี้อย่างไม่มีใครยอมใคร

“คุณหนูต้องอาบเองครับ”

“ไม่”

“เฮ้อ....พี่ปลาจะบอกอะไรให้คุณหนูฟังนะครับ  คุณหนูโตแล้วไม่อายหรือไงที่ต้องให้คนที่ไม่รู้จักมาอาบน้ำให้น่ะ”

“ไม่อาย”เด็กน้อยยังคงเถียงไม่ลดละ จนพี่เลี้ยงมือใหม่ชักจะเหนื่อยใจ


 “ฟังพี่ปลานะครับ วันนี้เราหัดทำกับข้าวเอง อันนั้นค่อยๆทำไปเรื่อยๆได้ แต่ ตอนนี้คุณหนูน่ะ แปดขวบแล้วนะครับ คุณหนูโตแล้ว  เรื่องส่วนตัวบางเรื่องคุณหนูต้องทำเองให้เป็น “

“แต่ ตัวเป็นพี่เลี้ยงเรานี่ ต้องทำให้สิ”

 “แล้วถ้าไม่มีพี่เลี้ยงล่ะครับ “

“ก็มะตูมไง หรือไม่ก็ยายกิ่ง กับพี่ป๋อง ”

“เอาล่ะ เรามาตกลงกันอีกสักข้อนะครับคุณหนู “

“ตกลงอะไร “

“พี่ปลาจะทำให้ครับ แต่บางอย่างคุณหนูต้องหัดทำเองนะ “

“ถ้าขี้เกียจก็ไม่ต้องทำเลย!!”

เด็กชายตะโกนใส่หน้าพี่เลี้ยงคนใหม่อย่างหมดความอดทน ขวดแชมพูขนาดกลางถูกมือเล็กๆนั่นคว้ามาแล้วขว้างมันใส่พี่เลี้ยงคนใหม่ 

แต่ด้วยส่วนสูงที่ห่างกัน ทำให้ขวดแชมพูกระทบเข้ากับหน้าท้องของมัจฉา จากแรงเด็กๆทำให้ไม่เจ็บมากนัก

แต่ถ้าหากโดนหน้าก็คงเจ็บน่าดู มัจฉาก้มลงเก็บขวดแชมพูก่อนจะเดินเข้ามาหาเด็กชาย พลางถอนหายใจ และเรียบเรียงคำพูดใหม่อย่างใจเย็น 

“พี่ปลาไม่ได้ขี้เกียจ คุณหนูลองนึกดูสิ สมมุติว่ายายกิ่งกับพี่ตูมไม่อยู่ พี่ป๋องไปรับคุณพ่อคุณหนูอยู่คนเดียวคุณหนูจะทำยังไง “

“ทำไมต้องสมมุติด้วยล่ะ ทุกคนไม่ไปไหนหรอก”

เสียงเล็กๆนั่นเริ่มลังเล  เด็กชายกลัวที่สุดที่จะต้องอยู่คนเดียว แม่ก็หายไปพ่อก็ไม่ค่อยได้เจอหน้าทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกัน
 
“คุณหนูครับ ไม่มีใครอยู่กับเราไปจนตายหรอกนะครับ ทุกคนต้องไปเมื่อถึงเวลา”

เด็กชายนิ่งไปเหมือนจะครุ่นคิดสีหน้าเศร้าหมองลง มื่อคิดว่าทุกคนจะหายไป

“เหมือนแม่เราใช่ไหม แม่เราก็ทิ้งเราไป”

เสียงสั่นเครือเหมือนอารมณ์ไม่คงที่ทำให้ปลาชะงัก เขาไม่รู้ว่าแม่ของเด็กชายไม่ได้อยู่ด้วยกันถ้าอย่างนั้นคุณสงครามก็เป็นพ่อหม้ายลูกติด

 มิน่าล่ะเด็กชายถึงได้เอาแต่ใจขนาดนี้มัจฉาคิดพลางเปลี่ยนเรื่องใหม่เพื่อที่จะให้นายจ้างตัวน้อยไม่เศร้ากับเรื่องที่เขาไม่อาจจะรับมือได้ในตอนนี้

“เพราะงั้นมานี่มา เรามาหัดทำอะไรด้วยตัวเองกันก่อน แรกๆพี่ปลาจะอยู่ด้วยช่วยดู คุณหนูต้องทำเองนะครับถ้าทำไม่ได้พี่ปลาจะช่วย”
มัจฉาว่าพลางปิดประตูห้องน้ำและเดินเข้าไปเปิดน้ำใส่อ่าง   ครั้งแรกๆคงต้องประกบช่วยสอนไป คราวต่อไปคุณหนูจะได้อาบน้ำเองได้
 
เด็กชายขมวดคิ้วสงสัย  เพราะพี่เลี้ยงคนใหม่ที่ไม่เหมือนคนที่ผ่านๆมา คนอื่นๆจะตามใจเขาจะคอยทำให้เขาทุกอย่าง 

ยิ่งเวลาที่พ่ออยู่ด้วยล่ะก็ทุกคนแทบจะอุ้มเขาเข้านอนเลยล่ะ  แต่คนนี้มาแปลกให้เขาทำเองทุกเรื่อง ยังพาไปทำกับข้าวอีก

ที่จริงแล้วเด็กชายชอบทำกิจกรรม  เขาอยากจะเข้าไปทำอาหารมานานแล้ว เคยแอบไปดูยายกิ่งแต่ก็โดนพ่อดุ

กลัวทำมีดบาดมือบ้างกลัวทำน้ำร้อนราดตัวเองบ้างสาระพัดที่พ่อคิดว่าจะทำให้เขาเจ็บตัว แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่พ่อจะถามว่าเขาอยากทำไหม 

หรืออยากทำอะไร บอกแต่ว่ามีคนทำอยู่แล้วเขาไม่ต้องทำอะไรเลย  แต่ตอนนี้คนนี้กลับให้เขาทำเองแทบจะทุกอย่างเขาไม่เข้าใจ

“ทำไม?”

“อะไรเหรอครับ?”

“ทำไมต้องทำแบบนี้ล่ะ  “

“คุณหนูครับ เผื่อสักวันนึง บางทีคนเราก็ต้องอยู่คนเดียว เหมือนพี่ปลา ก็อยู่คนเดียว  เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าเราทำอะไรได้ด้วยตัวเองเราจะไม่ลำบาก พี่ปลาไม่อยากให้คุณหนูลำบาก”

“เราไม่ลำบากสักนิด”

“นั่นสินะ  ตอนนี้คุณหนูไม่ลำบากหรอกแต่พี่ปลาก็อยากให้คุณหนูทำเองอยู่ดี”

มัจฉาส่งยิ้มจนตาหยีไปให้นายจ้างตัวน้อย ที่ถึงจะทำหน้าเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมทำเองตามที่เขาสอน

แต่กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ทุลักทุเลพอควร เพราะดูเหมือนคุณหนูจะเป็นคุณหนูจริงๆ เพราะไม่รู้จักกระทั่งแชมพูและสบู่เหลว 

ว่ามันคืออะไรเอาไว้ทำอะไร นี่แค่วันแรกเขายังต้องเริ่มขนาดนี้เหรอเนี่ย  กว่าจะแต่งตัวกันเสร็จคุณหนูผู้ดื้อรั้นก็ใส่เสื้อกลับด้านไปหลายครั้ง

โดนพี่เลี้ยงหน้าสวยดุเอาก็หลายครั้ง ทั้งๆที่ไม่เคยยอมใครไม่เคยมีใครกล้าดุ เพราะถึงจะดุแค่ไหนมาฟียไม่เคยกลัวใคร

เขามีแต่จะวีนกลับ มีอะไรเขาโยนใส่ขว้างใส่จนหัวร้างข้างแตกก็มีหลายคน แค่เขาวีนแค่เขาเอาข้าวของปาใส่ทุกคนก็พร้อมจะสยบให้ 

แต่กับคนนี้ ไม่เห็นว่าจะกลัวเขาสักนิด   ไม่รู้ทำไมเด็กชายมาเฟียกลับกลัวเสี่ยงนิ่งๆแข็งๆของพี่เลี้ยงหน้าหวานคนนี้นัก 

“นี่ ..พ่อยังไม่กลับเลย  “

“พี่ปลา..ไม่ใช่นี่”

“หือ..?”

“ก็พี่ชื่อปลา ไม่ได้ชื่อนี่ครับคุณหนู”

“ทำไมเราจะเรียกแบบนี้นี่ นี่ๆๆๆ  “

“ครับๆ  นี่ก็นี่ เฮ้อ..พูดจาให้สมกับเด็กแปดขวบหน่อยไม่ได้เหรอเนี่ย...”

เด็กชายยกยิ้มอย่างพึงพอใจในชัยชนะ เล็กๆที่ได้มา อย่างน้อยพี่เลี้ยงคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก  เขาก็ได้แต่หวังว่าจะไม่ฟ้องพ่อในเรื่องที่ไม่จริง 

“ปรกติคุณพ่อกลับแบบนี้ทุกวันเหรอครับ”

“เปล่าหรอก  บางวันก็กลับมากินข้าวกับเราอยู่หรอกแต่นานๆครั้งนะ”

“คุณพ่องานยุ่ง อาจจะไม่ค่อยมีเวลา เดี๋ยวพี่ปลาจะทานเป็นเพื่อนคุณหนูทุกวันเลย ดีไหม”

“เหอะ..ใครเขาอยากกินข้าวกับตัวกัน”

เสียงเล็กๆทั้งยังทำหน้าเชิดแบบไม่สนใจแต่ปลาก็ยังแอบเห็นรอยยิ้มเล็กๆของคุณหนูที่เหมือนจะถูกใจอยู่บ้าง
 
“งั้นคุณหนูเข้านอนเถอะครับ พรุ่งนี้เช้าอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”

“เอาต้มจืดก็ได้ ขอวุ้นเส้นเยอะๆ ยายกิ่งทำอร่อย”

“ครับ งั้นคุณหนูเข้านอนเลยนะครับ พี่ปลาจะได้ไปบอกยายกิ่งไว้ พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวพี่ปลามาปลุกแต่เช้านะ เผื่อเวลาอาบน้ำแต่งตัวด้วย”

“อือ..”

 “ฝันดีครับคุณหนู”

“...........”

ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี มัจฉาพอจะดูออกว่าคุณหนูไม่ใช่คนขาดเหตุผล ไม่ใช่วีนแบบไร้สาระ

 ตรงกันข้ามคุณหนูโตแล้ว โตกว่าเด็กวัยเดียวกันด้วยซ้ำ มีความคิดอ่านเป็นของตัวเอง ติดแค่โดนสปอยล์มากไป

เลยทำอะไรเองไม่เป็น แต่เรื่องความโดดเดี่ยวเหงาที่ฉายออกมากับสีหน้าและแววตาคู่นั้น
 
มัจฉามองเห็นเงาตัวเองลางๆอยู่ในนั้น เขาก็เคยเหงารอพ่อกับแม่มาทานข้าวด้วยทุกวัน แต่ไม่เคยมีความพร้อมหน้าเลยสักครั้ง

แม่กว่าจะกลับเขาก็หลับไปแล้ว พ่อเองก็มีเวลาบ้างแต่ส่วนมากพ่อจะให้เขากินข้าวคนเดียวมากกว่า

ไม่ได้รอกินพร้อมกันหรอก คุณหนูยังโชคดีที่พ่อยังอยู่ด้วยกัน ไม่เหมือนเขาที่ไม่มีใครต้องการ
   
มัจฉาตั้งใจแล้วว่าจะทำหน้าที่พี่เลี้ยงให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็เพื่อเจ้านายตัวน้อยที่ดูหงอยเหงาคนนี้ 

มันเป็นความรู้สึกที่มัจฉาก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมต้องเป็นห่วงความรู้สึกของเด็กที่เขาไม่เคยรู้จักเลยด้วยซ้ำ

อาจจะเป็นเพราะเด็กชายมาเฟียมีอะไรที่เหมือนกับเขา อย่างแรกเลยพวกเขาอยากกอดพ่อกับแม่และอยู่พร้อมหน้ากัน

แต่ก็ ทำไม่ได้ ......เขาอยากทำโอกาสนั้นให้เด็กน้อยคนนี้ อย่างน้อยพ่อก็ไม่ได้ทิ้งไปเหมือนเขา อย่างน้อยเด็กชายคนนี้ยังมีหวัง

ว่าจะได้ครอบครัวกลับคืนมาแม้จะพ่อแค่คนเดียว แต่ก็ดีกว่าเหลือตัวคนเดียว....เหมือนเขา....


.
.
.
.
.
TBC.......................

ก่อนอื่นขออภัยคนอ่านที่พันวามาช้านะคะ :hao5: :hao5:

  ช่วงนี้งานหนักมากขึ้น ตามคุณหลวงผลิตด้วยอดหลับอดนอนมากบอกเลย5555555

จริงๆเรื่องครอบครัวนี่บางครั้งก็พูดยากถึงหน้าที่ของพ่อแม่นะคะ  อย่างมัจฉานี่โตมาแบบครอบครัวที่ไม่มีความพร้อม พ่อกับแม่ไม่พร้อมจะมีลูก บางคนก็เป็นพ่อแม่ที่ดีไม่ได้ เพราะความเห็นแก่ตัวมันเยอะกว่าความรับผิดชอบ

คุณหนูมาเฟียเองก็โตมาแบบความไม่พร้อมเหมือนๆมัจฉา แต่จะไม่พร้อมแบบไหน ค่อยๆดูไปเรื่อยๆเนอะ ตอนหน้าจะพาคุณพ่อสงครามมาทำความรู้จักกันเนอะ

เช่นเคยพบเจอคำผิดสะกิดพันวาด้วยค่าขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านและมาให้กำลังใจด้วยการเม้นท์ๆๆ ขอบคุณมากค่า :กอด1: :กอด1:

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2017 14:19:08 โดย Phanwa86 »

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ชอบ มาลงทุกวันนะ ชอบมัจฉา กะมาเฟีย สงครามไม่ต้องมา ช่างมัน

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
มัจฉากับมาเฟียเลยดีไหม แนวโชตะ

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :call:อยากอ่านทุกวันเลย

ออฟไลน์ Pawana

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่ปลาต้องรักน้องเฟียมากๆนะ.    หัวอกเดียวกันต้องพิเศษให้มากๆๆๆค่ะ.      อยาก กด. บวก. ให้ทุกตอนค่ะ. แต่ไม กดไม่ขึ้นมะรู้อะ.   รอจร่าาาา

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
#ทีมมัจฉามาเฟีย :hao7: :hao7:

คุณสงครานี่ตัวประกอบใช่ม๊ะ :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
เรื่องแปลกดีครับ   อยากอ่านอีกครับ  อยากอ่านบ่อยๆไม่อยากรอนานๆ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5



ตอนที่ 3 ของเล่น



 “ยายกิ่งไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวที่เหลือผมเก็บเอง”

มัจฉาบอกให้หญิงชราไปนอนเพราะหลังจากที่พาคุณหนูเข้านอนแล้ว ยังต้องมาเก็บกวาดในครัวอีก

ถึงแม้งานบ้านส่วนอื่นๆมะตูมกับยายกิ่งจะช่วยกันทำแล้วก็ตามมัจฉาไม่อยากอยู่เฉยๆ  ในครัวก็เหลือแค่พวกถ้วยชามเท่านั้นแค่ล้างเก็บไม่เหลือบ่ากว่าแรงมากนัก

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณปลาไปอาบน้ำเถอะค่ะจะได้เข้านอนพรุ่งนี้ต้องไปส่งคุณหนูที่โรงเรียนนะคะ “

“แต่ว่า วันนี้ผมไม่ได้ช่วยอะไรยายกิ่งเลยนะครับ”

มัจฉาบอกเสียงอ่อนเพราะเขาเองก็ไม่ได้ช่วยแบ่งเบายายกิ่งเลย หนำซ้ำยังหางานเก็บกวาดจากการทำครัวของเขากับคุณหนูเพิ่มให้อีก


“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะงานหลักๆน่ะคุณปลาก็ดูแลคุณหนูน่ะถูกแล้ว  ที่เหลือว่างๆค่อยมาช่วยนะคะ”

หญิงชรายิ้มให้อย่างใจดี เธอเองรู้สึกดีใจที่พี่เลี้ยงคนใหม่ไม่เป็นอย่างที่เธอคิดหรือที่ผ่านๆมา ทุกคนไม่เคยมาช่วยงานบ้าน

แม้ว่าในสัญญาจ้าง จะไม่ระบุว่าต้องทำอะไร นอกเหนือจากดูแลคุณหนู

 แต่โดยรวมแล้ว งานพี่เลี้ยงก็ไม่ต่างจากงานของแม่บ้านเท่าไหร่ อาจจะไม่ได้ทำงานบ้านเต็มรูปแบบ แต่เวลาว่างหลังจากที่คุณหนูไปโรงเรียน

พวกคุณพี่เลี้ยงทั้งหลายก็เอาเวลาเหล่านั้น ไปทำสวยซะส่วนใหญ่  เพราะเป้าหมายของพี่เลี้ยงเหล่านั้นไม่ใช่มาเพื่อดูแลคุณหนู   

พอโดนคุณหนูเหวี่ยงนิดๆหน่อยๆ ก็พานแต่จะว่าคุณหนูนิสัยไม่ดี เอาแต่ใจ

 เผลอๆ คุณสงครามก็ดันมาดุลูกอีกคนทีนี้งานช้างเลย คุณหนูโกรธทั้งพี่เลี้ยงทั้งคุณพ่อ จนไม่มีใครเข้าหน้าติด

ต้องได้เปลี่ยนพี่เลี้ยง ทุกครั้ง แต่ก็เพียงไม่นาน ก็เข้าอีหรอบเดิมทุกที แต่คราวนี้ยายกิ่งเห็นว่าคุณปลาดูจะเอาใจใส่คุณหนูของเธอเป็นพิเศษ 

และการปฏิบัติต่อคุณหนูก็ดูแตกต่างจากคนอื่นๆ น่าจะผ่านไปได้ด้วยดีล่ะนะ

“เอ่อ..คุณปลาคะ”

“ครับ?”

“คุณหนูน่ะ เธอน่าสงสารนะคะ  “

“ครับ”มัจฉารับคำพลางนิ่วหน้าสงสัยว่ายายกิ่งจะบอกอะไร

“ยายไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่เอาเป็นว่า คุณหนูน่ะ ไม่ได้ร้ายอย่างที่ใครๆกล่าวหา  คุณหนูน่ารักจะตายไป “

“ผมเข้าใจครับ ผมจะดูแลคุณหนูของยายกิ่งอย่างดีเลยครับ”

“ขอบคุณมากเลยค่ะ”

หญิงชรายิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อได้ยินแบบนั้น  มัจฉาไม่รู้หรอกว่ายายกิ่งมีอะไรจะพูดมากกว่านี้หรือเปล่า

 ถ้ามีแต่พูดไม่ได้คงเป็นเรื่องที่คนเข้ามาใหม่อย่างเขายังไม่สมควรจะรู้ แต่ที่แน่ๆ นายจ้างตัวน้อยก็น่ารักอย่างที่ยายกิ่งว่านั่นแหละ
 
วันแรกของการเป็นพี่เลี้ยง มัจฉาเข้านอนโดยที่ไม่ได้เจอหน้าเจ้าของบ้านเลย เขาเองก็ไม่รู้ว่าอีกคนกลับบ้านกี่โมง

ก็ได้แต่แอบเห็นใจคุณหนูตัวน้อย  ที่เข้านอนไปแล้วก่อนที่คุณพ่อจะกลับ  ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้มานานแค่ไหน

แต่มัจฉาสังเกตุดูแล้วจากอาการของคุณหนู คงเป็นมานานพอที่คุณหนูจะชินกับการทานข้าวคนเดียว ทุกวัน

.........................

 เช้านี้เป็นเช้าวันแรก ที่ มัจฉาต้องมาปลุกคุณหนูของบ้าน เขาจำได้ว่าคุณสงครามบอกว่าคุณหนูจะไม่ชอบให้ปลุกและงอแง
 
“คุณหนูครับ  ตื่นเถอะครับ เดี๋ยวจะสายนะ “

“อือ...ไม่เอา “เสียงงัวเงีย ทั้งดวงตาที่ยังคงปิดสนิท ไม่ลืมขึ้นมามองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงสักนิด

"คุณหนูครับเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะครับ”มัจฉาพูดพลางเขย่าตัวคุณหนู ทั้งยังดึงเอาผ้าห่มออก แต่โดนมือเล็กๆนั่นเกี่ยวดึงเอาไว้สุดชีวิตเช่นกัน

“ไม่เอา อย่ามายุ่งนะ !” เสียงเด็กน้อยเริ่มดังเมื่อโดนขัดใจ พี่เลี้ยงทุกคนไม่เห็นจะวุ่นวายแบบนี้

“ถ้างั้น ...”

“จะฟ้องพ่อหรือไง “เสียงขุ่นๆของเด็กน้อยอู้อี้ดังมาจากในผ้าห่ม 

“เปล่าครับ มาพี่ปลาอุ้มก็ได้มา  “มัจฉาสอดแขนเข้าไปอุ้มเอาเด็กน้อยออกจากผ้าห่ม  และเดินไปยังห้องน้ำ

“แปรงฟันก่อนก็ได้ครับจะได้หายง่วงนะ”

มัจฉาว่าพลางยื่นแปรงสีฟันอันเล็กที่มียาสีฟันบีบไว้ให้เรียบร้อย จริงๆเขาอยากให้คุณหนูทำอะไรด้วยตัวเองแต่ยังก่อน เช้าๆแบบนี้ยังไม่อยากให้คุณหนูเหวี่ยงเขามากนัก
 
“อือ...ง่วงอะ...”

เด็กน้อยเองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อถูกอุ้มมาวางใว้ในห้องน้ำ  เพราะพี่เลี้ยงคนก่อนๆ ถ้าปลุกเขาไม่ตื่นทุกคนจะขู่ว่าจะฟ้องพ่อทั้งนั้น

 เขากลัวพ่อไม่รัก กลัวพ่อทิ้งเขาไปอีกคนเลยต้องทำทั้งๆที่เขาก็ไม่ชอบถูกขัดใจ

แต่กับคนนี้ไม่ได้บอกว่าจะฟ้องพ่อ แต่อุ้มเขาเข้าห้องน้ำมาเสียงนุ่มๆที่ฟังดูอ่อนโยนจนเด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่ายโดยไม่รู้ตัว
 
“เย็นนี้คุณหนูช่วยพี่ปลาต่อเลโก้หน่อยได้ไหมครับ เมื่อวานลองต่อแล้วมันทำไม่ค่อยได้”

มัจฉาพูดขึ้นลอยๆเมื่อเห็นคุณหนูเริ่มตื่น เต็มตาและยังตั้งใจแปรงฟัน แต่สีหน้าครุ่นคิดเกินเด็กๆนั่นมันทำให้เขาสงสาร 

“...........”

เด็กน้อยเบือนสายตามองมาที่พี่เลี้ยง  ที่ยังคงนั่งคอยแกะกระดุมเสื้อนอนเขาอยู่ข้างๆ   แม้ว่าเด็กน้อยจะไม่ตอบอะไร

แต่มัจฉาก็พอจะเดาจากสีหน้าได้ว่าคุณหนูสนใจข้อเสนอของเขาแน่นอน  มื้อเช้าผ่านไปแบบราบรื่นกว่าที่คิด มัจฉาพยายามจดจำ

 และสังเกตดูว่าอะไรที่คุณหนูชอบและไม่ชอบ อย่างหนึ่งที่เขาได้ยินบ่อยๆเวลาที่เขาบอกแล้วคุณหนูไม่ยอมทำ คือ 

//  จะฟ้องพ่อล่ะสิ   // เขาไม่รู้หรอกว่าพี่เลี้ยงคนเก่าๆทำยังไงเวลาที่คุณหนูดื้อ ฟ้องคุณสงครามจริงไหม

ฟ้องแล้วคุณสงครามทำยังไงกับลูก แต่เขาอยากจะเปลี่ยนความคิดของคุณหนูใหม่

..........................

“ คุณหนูครับ เดี๋ยววันนี้เราไปต่อเลโก้กันดีกว่าเนอะ  พรุ่งนี้เราค่อยไปหั่นผักช่วยยายกิ่ง “

 มัจฉาอยากหาอะไรให้คุณหนูทำ ไม่ซ้ำแต่ละวันกันคุณหนูเบื่อ เด็กๆบางคนไม่ชอบอยู่นิ่งๆแต่ดูท่าทางแล้วคุณหนูจะชอบเจ้าตัวกันพลานั่นที่สุด

แต่เอาไว้ต่อวันเสาร์อาทิตย์ดีกว่า ลองดูทักษะการต่อเลโก้ไปสักหน่อย เด็กชายตัวน้อยไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้าขึ้นลง ทำให้มัจฉาต้องอมยิ้ม เด็กอะไร ตัวแค่นี้ก็มีฟอร์มแล้ว 

กลับจากโรงเรียน ทั้งพี่เลี้ยงทั้งคุณหนูพ่วงด้วยคนขับรถอย่างป๋องและแม่บ้านวัยรุ่นอย่างมะตูม  ต่างนั่งล้อมวงช่วยกันต่อเลโก้ที่ห้องรับแขก

“พี่ป๋องว่า ต้องต่อตรงนี้นะครับคุณหนู “

“ผิด เราว่าต่อตรงนั้นมันก็ไม่เป็นเรือสิ “

“พี่ตูมว่า อันนี้ใช่ไหมคะคุณหนู “

“ไม่ใช่พี่ตูมมั่ว”เด็กน้อยยู่ปากใส่แม่บ้าน ที่ทำหน้าเหลอหลาเมื่อวางตัวต่อไม่ลงล็อค

“งั้นลองอันนี้ดูนะครับ “มัจฉาว่าพลาง ยื่นตัวต่อสีเหลืองส่งให้นายจ้างตัวน้อยที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

“อ๊ะ!! ..ใช่จริงๆด้วย “เด็กน้อยยิ้มกว้างอย่างลืมตัว พลอยทำให้ผู้ใหญ่อีกสามคนในห้องยิ้มตามไปด้วย

“นี่ เราอยากช่วยต่อหุ่นยนต์ที่ตัวซื้อมาอ่ะ “

ด้วยความที่ชอบดูการ์ตูน และชอบหุ่นยนต์ตัวนั้นเด็กน้อยเลยอดไม่ได้ที่เอ่ยปากก่อน เพราะไม่เห็นว่าพี่เลี้ยงจะเอามาให้เขาเล่นด้วย

เด็กชายอยากได้มาไว้เอง  แต่ยังไม่เจอพ่อเลยยังไม่ได้ขอพ่อซื้อ แต่วันนั้นเขาเห็นพี่เลี้ยงซื้อมานี่นา

เลโก้ยังแบ่งให้เขามาต่อด้วยเล่นด้วยได้เลย หุ่นยนต์นั่นก็น่าจะแบ่งเขาด้วยสิ เด็กน้อยคิด ตามที่เห็น

“ได้สิครับ แต่คุณหนูต้องต่อเรือนี่ให้เสร็จก่อน เอาไว้วันเสาร์กับวันอาทิตย์ คุณหนูไม่ได้ไปโรงเรียนเรามาช่วยกันต่อกันพลากันเนอะ “

“ วันอาทิตย์ ?”

เด็กน้อยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก็วันอาทิตย์เป็นวันที่เขาต้องอยู่บ้านเพียงลำพังมีแค่ยายกิ่ง พี่ป๋อง

ไม่เคยมีพี่เลี้ยงมาอยู่กับเขาในวันอาทิตย์  ทุกคนได้พักวันอาทิตย์คงมีแต่พ่อที่ออกไปทำงานวันอาทิตย์

“ครับใช่ครับมีตั้งสามตัวแนะ ต่อวันเสาร์วันเดียวไม่เสร็จหรอกเนอะ ค่อยๆต่อไป เพราะต้องช่วยยายกิ่งทำครัวด้วยอย่าลืมสิครับ “

“แล้ววันอาทิตย์ ตัวไม่ไปเที่ยวเหรอ”

ด้วยความสงสัยเพราะพี่เลี้ยงทุกคนจะไม่อยู่กับเขาวันอาทิตย์ถามพี่ตูมก็บอกว่าเขาไปเที่ยวกัน  แล้วนี่พี่เลี้ยงคนนี้ไม่ไปเที่ยวหรือไง

“ไม่หรอกครับไม่เห็นมีที่อยากไป อยู่ต่อกันพลากับคุณหนูสนุกกว่าตั้งเยอะ เนอะ “

รอยยิ้มอ่อนโยนที่ส่งมาทำให้เด็กน้อยรู้สึกดีใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ไม่มีใครอยู่เล่นด้วยกันแบบนี้

“ก็ได้  แต่ตัวต้องให้เขาต่อด้วยนะ “รอยยิ้มน้อยๆที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวดีใจจนเก็บไว้ไม่มิด ทำให้มัจฉาต้องยิ้มตาม

“ครับ ^^”

เด็กๆก็ดีอย่างนี้ ไม่ต้องวางท่าอะไรให้มาก เด็กชายที่ตั้งแง่กับเขาตั้งแต่ทีแรกก็โดนมัจฉาหลอกล่อทั้งทำครัวทั้งต่อเลโก้

อ้อ ยังเหลือสมุดภาพ การ์ตูนสัตว์โลกนั่นด้วย  นับว่าคุ้มค่าที่เขาซื้อมารอยยิ้มกว้างๆของคุณหนู ท่าทางตั้งอกตั้งใจทั้งหันมาถามความเห็นของเขาเป็นระยะๆ ทำให้ช่องว่างที่เคยมีลดทอนลงเรื่อยๆ 

  ..........................

วันนี้เป็นวันเสาร์ มัจฉาปล่อยให้คุณหนูนอนเต็มที่ เขาเข้าครัวช่วยยายกิ่งตั้งแต่เช้า

คุณสงครามออกไปตั้งแต่เขายังไม่ตื่นบางทีมัจฉาก็สงสัย ว่าทำงานยังไงถึงไม่มีเวลากระทั่งที่จะอยู่เจอหน้าลูกเลย

“ยายกิ่งครับ ผมถามอะไรได้ไหมครับ “

“ได้สิจ๊ะ คุณปลาอยากรู้อะไรล่ะ ถ้ายายรู้ยายจะบอกนะ “รอยยิ้มใจดีของหญิงชราส่งมาให้ ทำให้มัจฉากล้าที่จะถามมากกว่าเดิม

“ทำไมคุณสงครามถึงต้องทำงานหนักขนาดที่ต้องทิ้งคุณหนูไว้แบบนี้ล่ะครับ “

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าที่ถามไปคุณยายจะตอบหรือไม่ แต่เขาอยากรู้จริงๆเพราะตั้งแต่วันแรกจนวันนี้เขายังไม่เจอคุณสงครามที่บ้านหลังนี้เลย เหมือนเวลามันจะคลาดกันตลอด
 
“เมื่อก่อนคุณเดียวเธอก็ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกค่ะ  แต่เมื่อห้าปีก่อนบ้านคุณเดียวถูกฟ้องล้มละลาย ยายก็ไม่รู้หรอกเพราะอะไร
แล้วคุณท่านพ่อคุณเดียวก็มาเสียชีวิต  ทุกอย่างที่มีถูกยึดไปขายทอดตลาด เหลือแต่บ้านหลังนี้ ที่เป็นชื่อของคุณเดียวเพราะได้เป็นเรือนหอตอนแต่งงาน   พอทุกอย่างหายไปคุณเดียวเธอไม่มีอะไรเหลือ คุณมายาแม่คุณหนูก็มาทิ้งไป
เรียกว่าวิกฤติของบ้านเลยค่ะ คนงานที่เคยอยู่ด้วยกันทุกคนก็ต้องขวนขวายหาทางเอาตัวรอด “


“แต่ยายกิ่งก็ยังอยู่นี่ครับ”

“ยายเลี้ยงคุณเดียวมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ยายไม่กล้าทิ้งเธอเอาไว้คนเดียว คุณปลาเองก็อย่าทิ้งคุณหนูนะคะ คุณหนูน่าสงสาร 
เมื่อก่อนเธอน่ารัก ขี้อ้อนแต่พอคุณแม่เธอทิ้งไป คุณหนูก็เปลี่ยนไปยิ่งเคยโดนคุณพ่อตี คุณหนูยิ่งแย่ ยายยังไม่อยากจะเล่าอะไรมากนัก แต่ที่บอกให้คุณปลาทราบจะได้เข้าใจคุณเดียวเธอ  ไม่ใช่ว่าไม่อยากอยู่กับคุณหนูแต่คุณเดียวกำลังทำงานหนักเพื่อคุณหนูและเราทุกคน“


“ผมไม่ว่าหรอกครับ ผมก็ลูกจ้างคนหนึ่งเหมือนกันไม่กล้าไปว่านายจ้างหรอกเพียงแต่ผมแค่สงสัย แล้วก็สงสารคุณหนูน่ะครับ”

มัจฉาอยากจะถามเหลือเกินว่าทำไมคุณสงครามถึงได้ตีลูก แต่ด้วยท่าทางของยายกิ่งมัจฉาคิดว่า ถ้าไม่จำเป็นยายกิ่งคงยังไม่เล่าอะไรมากนัก  เขาเลยไม่เซ้าซี้รอฟังแค่เรื่องที่ยายกิ่งเต็มใจจะบอกดีกว่า

“คุณเดียวจะกลับดึก  ถ้าอยากเจอก็ต้องรอค่ะ “

“อ๋อ..ไม่หรอกครับยายกิ่ง ผมคงรอไม่ไหวครับนอนดีกว่าเพราะถ้าคุณสงครามอยากจะสั่งงานอะไรผมเขาคงจะบอกเองแหละครับผมไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนเขาน่ะครับ”

ยายกิ่งยิ้มให้เด็กรุ่นหลาน  ที่ยังคงก้มหน้าก้มตาเด็ดใบกะเพราให้ เด็กคนนี้จิตใจดี เธอก็ได้แต่หวังว่ามัจฉาจะอดทนและอยู่ด้วยกันไปอย่างนี้นานๆ



“ยายกิ่งครับ”คุณหนูของบ้านเดินงัวเงียเข้าครัวมาทั้งชุดนอนสีเหลืองลายลูกเป็ด

“อ้าว คุณหนู ตื่นเร็วจังเลยครับพี่ปลายังไม่ได้ปลุกเลย”คนที่ตอบรับกลับเป็นพี่เลี้ยงที่นั่งอยู่ข้างๆยายกิ่ง

“เราอยากต่อกันพลาแล้ว”

เด็กชายหันมาคุยกับพี่เลี้ยงลืมไปสนิทว่าเรียกหายายกิ่ง มัจฉาอมยิ้มอย่างเอ็นดู  สงสัยจะนอนฝันมาทั้งคืนซะล่ะมั้ง

“ต้องไปอาบน้ำ มากินข้าวเช้าก่อนครับแล้วพี่ปลาจะไปเอากันพลามาให้ต่อนะ “

“อื้อ..”

เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะกับหลังหันแล้ววิ่งขึ้นบ้าน ท่าทางรีบร้อนทำให้มัจฉาต้องตะโกนตามหลังคุณหนูของบ้าน ด้วยความเป็นห่วง

“คุณหนูอย่าวิ่งสิครับ  เดี๋ยวจะตกบันได”

 สิ้นเสียงพี่เลี้ยงคุณหนูมาเฟียก็หยุดเท้าแทบจะทันทีแล้วค่อยเดินขึ้นบันไดด้วยความระมัดระวังทั้งๆที่ใจดวงน้อยจดจ่อที่ของเล่นชิ้นนั้นที่พี่เลี้ยงเอามาล่อ 

 อยู่ด้วยกันมาหลายวัน พี่เลี้ยงคนนี้ขยันหาอะไรมาให้เขา พาเขาไปทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำ หาของเล่นมาให้ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีของเล่น แต่ การเล่นคนเดียวมันก็ไม่ได้สนุกแบบนี้

 ไม่ว่าของเล่นนั้นจะดีมากแค่ไหน แต่ถ้าต้องมานั่งเล่นคนเดียวความสนุกมันหายไปอย่างที่เด็กน้อยไม่เคยเข้าใจ

อย่างการต่อเลโก้ ที่เป็นของเล่นที่ธรรมดามาก แต่การที่ช่วยกันต่อเสียงพูดคุยเสียงหัวเราะ มันทำเอาเด็กน้อยลืมความเหงาไปเลย

มาเฟียรีบอาบน้ำ และแต่งตัวเองเสื้อผ้ายังคงเป็นพี่ปลาหาไว้ให้ แต่ตอนนี้เขาอาบน้ำเองได้แล้วใส่เสื้อผ้าเองได้

ตอนนี้เขาคิดว่าการทำอะไรได้ด้วยตัวเอง มันรู้สึกดีกว่าการยืนนิ่งๆเป็นหุ่นยนต์ให้คนอื่นมาขยับตัวเขาเอาตามใจ

ทำไมแต่ก่อนเขาถึงชอบให้คนอื่นทำให้กันนะ ไม่เข้าใจเลย


 อยากบอกพ่อจัง ว่ามาเฟียอาบน้ำเองได้แล้วนะมาฟียใส่เสื้อผ้าเองได้ด้วย พ่อจะได้ไม่ต้องห่วงไม่ต้องหาใครมาให้เขาอีก 

ขอแค่มีพี่ปลาก็พอ...เด็กน้อยชะงักในความคิด ก่อนจะยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อนึกถึงพี่ปลาและกันพลาตัวเล็ก

ไม่รู้ว่าการที่ยิ้มได้หัวเราะได้เพราะจะได้ต่อกันพลา หรือจะได้เล่นกับพี่ปลากันแน่ วันหยุดที่เคยเงียบเหงา กลับรู้สึกดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ

.....................

ยายกิ่งมองเข้าไปในห้องรับรองแขก ที่มีคุณหนูและมัจฉานั่งเล่นอยู่บนพื้นพรม รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนทั้งคู่ดังแว่วมาเรื่อยๆ

 หญิงชราอมยิ้มในหน้า เธอคิดถูกแล้วที่เล่าบางเรื่องของคุณหนูกับคุณสงครามให้มัจฉาฟัง เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนดีจิตใจอ่อนโยน 

และดูจะเอ็นดูคุณหนูเฟียอย่างมาก  ดูกันไปอีกสักหน่อยถ้าคุณปลายังอยู่กับคุณหนูและคุณสงคราม

เรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครทราบยายกิ่งคงต้องเล่าให้คุณปลารู้  มันคงจะดีไม่น้อยถ้าคุณปลาคนนี้อยู่ด้วยกันไปนานๆ



“ดีจังเนอะยายเนอะ  “มะตูมที่ยิ้มไปพร้อมยายกิ่งกับภาพที่เห็น ก่อนที่ยายกิ่งจะได้ตอบอะไรมะตูมก็เดินเข้าไปร่วมวง

งานบ้านหน้าที่ของเธอเสร็จเร็วขึ้นเพราะได้พี่ปลาช่วยเยอะพอดู เลยมีเวลามาเล่นเป็นเพื่อนคุณหนูเธอด้วย

“พี่ตูมมาแล้ว รอพี่ตูมด้วยสิคะ “เสียงแจ้วๆของมะตูมดังพอที่ทั้งพี่เลี้ยงและคุณหนูเงยหน้าขึ้นมามอง คนที่เข้ามาร่วมวงใหม่

“พี่ตูมจะต่อเป็นเร้อไอ้ตัวต่อนั่นง่ายกว่านี้เยอะ พี่ตูมยังต่อผิดเลย”

เสียงเล็กๆสบประมาทคุณแม่บ้านหน้าใส จนมะตูมทำหน้างอง้ำงอนคุณหนูของบ้านที่มาดูถูก

“แหม คุณหนูคะพี่ตูมน่ะ แค่คิดช้านิดเดียวเองพี่ตูมให้คุณปลาสอนก็ได้ นะคุณปลานะสอนตูมหน่อยนะคะ “

“อย่ามาอ้อนซะให้อยากมะตูม ผมน่ะทีมเดียวกับคุณหนู หึหึ “


“อ๊า..คุณปลาใจร้าย อ้ปป้าไม่รักตูมกระซิกๆ”

ทำหน้าสลดพลางแกล้งบีบน้ำตา ร้องไห้เรียกเสียงหัวเราะทั้งคุณหนูและคุณปลาที่หัวเราะกันเต็มเสียงด้วยความขบขันกับแม่บ้านวัยใสที่ทะเล้นคนนี้


คงมีเพียงหญิงชรา ที่ยังยิ้มแย้มในหน้าความสุขฉายชัดในแววตา เมื่อมองดูทั้งสามคนในห้องรับรองแขก ทั้งบรรยากาศและความสดใสของทุกคน


“คุณเดียวคะ  เมื่อไหร่กันที่คุณเดียวจะได้เห็นอย่างที่ยายเห็น  ของเล่นน่ะไม่สำคัญสำหรับคุณหนูหรอกนะคะคนที่เล่นด้วยต่างหากที่สำคัญ “

หญิงชราพึมพำถึงเจ้าของบ้านแผ่วเบาก่อนจะเลี่ยงไปทำหน้าที่ของตน โดยที่ในใจก็ยังคิดถึงเจ้าของบ้านที่ไม่มีเวลาแม้กระทั่งหลับนอน

เสียงหัวเราะของคุณหนูยังคงดังมาเป็นระยะๆ เป็นวันหยุดแรกเลยก็ว่าได้ที่คุณหนูดูมีความสุขไม่นั่งเหงาหน้าจอทีวีกับการ์ตูนเหมือนเคย

เธอได้แต่หวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปนานๆ.......

.
.
.
.
.
TBC

เช่นเคยนะคะ พบเจอคำผิดสะกิดพันวาด้วยค่า :hao7: :hao7:

ว่าจะพาพ่อสงครามมาหาแต่ก็หลายคนบอกว่าให้พ่อสงครามเป็นตัวประกอบไปเลย 55555

พันวาเลยพาน้องปลากับเด็กชายมาเฟียมาฝากอีกสักตอน ตอนหน้าค่อยไปหาพ่อสงครามกันเนอะ เดี๋ยวคุณพ่อจะน้อยใจ

ต้องขออภัยที่พันวามาอัพช้านะคะจะพยายามมาอัพให้ได้บ่อยๆ แต่ช่วงนี้ภาระกิจรัดตัวมากจริงๆค่ะงานจะถมพันวาตายอยู่แล้วฮือ :hao5: 

มีทัวร์นาเม้นท์หน้าร้อนนี่พันวาอยากจิคราย  เอาเป็นว่ากลางคืนจะทำสมาธิแต่งต่อไปอีกสักหน่อยจะได้ลงมาให้อ่านได้ต่อเนื่องเนอะ

ไม่อยากหายไปนานเหมือนกันค่ะ ยี่ห้อพันวาต้องอัพทุกวันจิเนอะ  :katai4: :katai4:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาเม้นท์เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ จุ๊บๆน๊า :mew1: :mew1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2017 14:22:08 โดย Phanwa86 »

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
พูดเลย พูดเลย เรื่องนี้เครียดมาก เครียดจริงๆๆ ตินที่ได้ยินยายกิ่งเล่าว่า แม่ของมาเฟียหนีไป ใจหล่นมาตาตุ่มเลยนะ ไม่ใช่ว่าสงสารมาเฟียนะ แต่เหมือนจะต้องเตรียมใจ สงสารปลา แน่ๆเลย ถ้าหากว่าวันนึงปลา กับสงคราม รักกันแล้ว นางกลับมา ปลาจะทำไง เขาเป็นครอบครัวเดียวกัน พ่อ แม่ ลูก แต่ปลาคือคนนอก คนเดียว เราจะต้องเตรียมใจ มั้ยเนี่ย หรือว่าเราคิดมากไปเอง......

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น่ารักเหลือเกิน...
หวังว่าคุณแม่ที่ทิ้งไปจะได้ดีแล้วไม่ต้องหวนกลับมานะคะ
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 o13สนุกมากอยากอ่านทุกวันเลย

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ตอนที่น้องเฟียเรียกปลาว่า ตัว น่ารักดี คำผิดยังมีอยู่น้า

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
มันเป็นความสดใสในความอึน ๆ

ออฟไลน์ Pawana

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
บวก. 1. คร๊าบบบบ

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทีม #เฟียปลา  ได้ไหมคะ 555555
ชอบเวลานุ้งปลาอยู่กับเฟียอ่ะ
คือโคตรมีความน่ารัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด