ตอนที่ 27
[พาร์ตของศิลา]
วันออกเดินทางไปค่าย...
สุดท้ายผมก็ไม่ได้คุยเรื่องค่ายอะไรต่อกับไอ้หมูตั้งแต่ที่คุยกันตอนร้านข้าว มันก็หายหน้าหายตาไปทำข้อสอบย่อยกับแล็ปของมันต่อ นี่ผมกลายเป็นคนที่เหงาง่ายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เฮ้อ...ไม่เอาสิวะศิลา ไปแค่สองวันเอง ไปค่ายไปทำประโยชน์นะเว้ย พวกที่คณะนัดกันตั้งแต่ตี 5 แหกขี้ตามาตั้งแต่เช้า ผมว่าจะโทรหาไอ้หมูแต่กลับพบว่ามัน...ปิดเครื่อง ผมก็เลยทิ้งข้อความทางไลน์ไว้ว่าจะออกเดินทางแล้ว นี่ผมกลายเป็นคนกังวลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่...ก็ตั้งแต่ที่มีไอ้หมูในหัวใจไง...
“เดี๋ยวกูนั่งข้างมึงเอง” ผมเดินขึ้นมาบนรถและเลือกนั่งติดหน้าต่าง และไอ้เสาก็นั่งลงข้างผม ส่วนไอ้นนท์ก็เดินไปนั่งที่นั่งด้านหลังพวกผม ผมเลิกคิ้ว
“ไรของมึงไอ้สัดเสา ไปนั่งกับไอ้นนท์เหอะ” ผมว่า พอจะรู้นะว่าไอ้เสามันไม่อยากให้ผมนั่งคนเดียว แต่พวกมึงก็ควรจะนั่งด้วยกันนะเว้ย...เพราะผมรู้ว่าการได้นั่งกับคนที่เรารัก...มันดีที่สุด
“ปล่อยไอ้นนท์ไป กูจะนั่งกับมึง! จบ”
“อ้าวไอ้สัด ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูนั่งคนเดียวได้...”
“ให้เสานั่งข้างมึงแหละ รู้ไหมว่ามีรุ่นน้องวิศวะปี 1 หลายคน อยากมานั่งข้างมึงมาก ส่วนกูอ่ะไม่มีใครกล้ามานั่งด้วยอยู่แล้ว” ไอ้นนท์ว่าทำให้ผมเลิกคิ้ว หา...วิศวะไหนวะ อยากมานั่งกับผม?
“เฮ้อ ไอ้ศิลาเอ๊ย มึงนี่ท่าทางจะไม่มองอะไรบ้างเล๊ย...มึงไม่รู้เหรอวะว่าพวกน้องปี 1 ผู้ชายพากันว่ามึงน่ารัก นี่ถ้าไอ้น้องหมูมึงมาได้ยิน กูว่ามีหวังระเบิดลงหลายลูกอ่ะ...ดีนะรถคันนี้แยกเฉพาะปี 2 มีถั่วดำคอยปกป้องอยู่...” ใช่ครับรถคันนี้มีพวกผมเป็นปี 2 กับถั่วดำอีกคน และนอกนั้นก็เป็นน้องผู้หญิงปี 1 ทั้งหมดมีคณะอื่นที่สมัครมาด้วย เหมือนพวกผมมาเป็นพวกดูแลน้อง (เอาแต่พวกอ่อน ๆ มาอยู่กับน้องผู้หญิง ส่วนไอ้ปี 2 พี่ว๊ากคนอื่นก็คุมผู้ชายอีกคัน)
“นินทาฉันเหรอย่ะ!” ไอ้เสาสะดุ้งเมื่อถั่วดำเดินมา “ว้าย นนท์จ๋า ไม่มีเมียนั่งด้วยเหรอเนี่ย” ผมล่ะอยากจะขำถั่วดำที่ชอบหยอกไอ้เสาประจำ (จริง ๆ ถั่วดำน่าจะไปเรียนคณะการโรงแรมมากกว่าแต่ที่มาเรียนวิศวะ เห็นบอกว่าพ่ออยากให้เรียนล่ะมั้งครับ ตอนเล่าประสบการณ์หน้าคลาส พอมาเรียนวิศวะก็เลยออกมาเป็นแนวนี้ ตัวเถื่อนแต่ใจแบ๊ว)
“ฮ่า ๆ เมียนนท์อยู่ข้างหน้านี่เอง” ไอ้นนท์ตอบกลับแบบซื่อตรงในเมียสุดฤทธิ์ โอ๊ย....เกรงใจน้อง ๆ ผู้หญิงด้วยพวกฟายนี่....
“แหมเบื่อจริงคู่นี้ อะไรก็มาแยกไม่ได้...ลุกย่ะเสา ไปนั่งกับผัวนู่น”
“ไรวะ ถั่วดำ กูจะนั่งกับไอ้ศิลา..” ไอ้เสาว่าเมื่อเห็นถั่วดำบอกให้มันลุก ถั่วดำยิ้ม
“ก็เพราะว่ามีคนจะมานั่งกับศิลาแล้วยังไงล่ะ” ผู้ชายที่เดินตามหลังมาคุ้นตาผมมาก เสื้อฮู้ดสีดำที่ใส่อยู่ทำให้ผมไม่เห็นหน้าชัดเพราะยืนอยู่ห่างจากตรงที่ผมนั่งไกลพอสมควร
“เฮ้ย ๆ ถ้าเป็นผู้ชายยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย ใครวะ กูไม่ให้นั่งกับเพื่อนกู” ไอ้เสาปกป้องผมอย่างกล้าหาญ ขอบใจมึงจริง ๆ ...ว่าแต่จะไปมีใครมาทำอันตรายกูได้เล่า...
แต่ทุกอย่างก็ต้องเงียบกริบลงเมื่อเจ้าของฮู้ดสีดำตรงหน้าเปิดฮู้ดออก เผยให้เห็นใบหน้าคมหล่อที่ผมคุ้นเคย....ไอ้เชี่ยหมู ผมเบิกตากว้างเช่นเดียวกับสาว ๆ ในรถที่รู้ว่า เดือนมหาลัยมาโผล่อยู่กลางรถบัส มันมาได้ไงครับ ก็ไหนบอกว่าทำแล็ปไง ไอ้หมูยิ้มตามสไตล์มัน
“
กรี๊ดดดดดด...” เสียงเด็กสาวปี 1 กรี๊ดพร้อมกันเหมือนนัดกันมา จนถั่วดำต้องยกมือเบรก เดี๋ยวคนขับรถจะไล่พวกผมลงจากรถไปซะก่อน
“โอ๊ย ใจเย็น ๆ จ๊ะ เสียใจด้วยนะย่ะชะนีทั้งหลาย เพราะเดือนมหาลัยคนนี้...เขามาค่ายเพราะตามเมียของเขามาจ๊ะ นกจ๊ะนก ไม่ต้องหวีดร้องนอนวนไปค่ะ เก็บแรงไว้ไปหวีดเด็กหนุ่มแถวโรงเรียนมัธยมที่เรากำลังจะไปนู่น...” ถั่วดำปรบมือให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง
ไอ้เสาก็ลุกออกจากที่นั่งข้างผมให้ไอ้หมูมานั่งแทน มันหันไปสวัสดีไอ้เสากับไอ้นนท์ที่นั่งข้างกันด้านหลัง พวกมันหัวเราะพวกผมแซว ๆ ผมมองหน้ามันก่อนจะหันหน้าหนี...เชี่ยก็กูทำตัวไม่ถูก ทั้งดีใจครับที่เจอมัน แต่ทำไมมันถึงมาได้ล่ะ ทำไมมันถึงไม่บอกผม...แถมยังปิดเครื่องอีก
“พี่ศิลา...โกรธผมเหรอ” รถที่เริ่มออกวิ่งทำให้ทุกอย่างในรถเริ่มเงียบ...แต่ก็มีเสียงของไอ้หมูที่ดังเบา ๆ มือหนาของมันเอื้อมมาจับมือของผมไว้ ผมกำลังจะหันไปด่าก็ชะงัก...ถ้าด่าไปมีหวังคนในรถก็ได้ยินกันหมดพอดี
“ไม่ได้โกรธ ปล่อยมือ..”
“ขอโทษนะที่ผมปิดเครื่อง...ที่ไม่ได้ติดต่อพี่เพราะ...ผมตั้งใจทำแล็ปให้เสร็จหนึ่งวันเต็ม อดหลับอดนอนเพื่อที่จะได้มาทันขึ้นรถไปค่ายกับพี่ศิลา...” มันเล่าออกมาทำให้ผมหันไปมองอึ้ง อะไรนะมันบอกว่าอดหลับอดนอน ใบหน้าเหนื่อยล้าของไอ้หมูเป็นข้อพิสูจน์ว่ามันแม่ง...ไม่ได้นอนจริง ๆ ฝืนตัวเองทำไมวะ
แววตาอ่อนโยนที่ไม่ต้องพูดอะไร ผมก็รับรู้...
“ไอ้โง่...ฝืนตัวเองทำไม” ผมด่าเบา ๆ ตอนนี้ทุกคนเริ่มหลับไปแล้วล่ะครับ กว่าจะไปถึงค่ายพวกน้อง ๆ ก็พากันนอนพักเอาแรง ส่วนไอ้สองตัวข้างหลังก็หลับไปแล้วเหมือนกัน นอนซบไหล่กันเชียว
“ไม่ได้ฝืนซะหน่อย...ทำด้วยความเต็มใจต่างหาก” หมูยิ้มบาง ๆ ผมยิ่งมองหน้ามันก็ยิ่งรู้สึกว่าไอ้หมูมันยอมทำเพื่อผมด้วยความตรง ๆ ของมันแบบนี้เสมอ และไอ้ความตรงสุดโต่งของมันนี่แหละยิ่งทำให้ผม...หลงรักมันมากขึ้น ผมคลี่ยิ้มออกมา ทำให้ไอ้หมูยิ้มกว้างกว่าเดิมเหมือนสบายใจที่เห็นผมยิ้มให้มัน
“ขอบคุณนะ ที่มาค่ายกับกู” ผมบอกเสียงแผ่ว...เมื่อโดนใบหน้าคมจ้องตรง ๆ
“ผมจะปล่อยแฟนของผม มาค่ายคนเดียวได้ยังไงล่ะ” มันว่าพลางยกมือปิดปากหาว...ท่าทางมันจะง่วงมาก ก็เห็นบอกไม่ได้นอน ผมพอจะรู้นะครับว่าแล็ปแต่ละครั้งที่ทำค่อนข้างละเอียดและใช้เวลานานพอสมควร ก็ผมเคยเห็นไอ้หมูมันนอนอ่านชีทตอนที่อยู่ด้วยกัน มันมักจะทำอะไรด้วยความเต็มที่เสมอ...
ผมเชื่อว่ามันทำได้ดีด้วย...
“มึงนอนเหอะ กว่าจะถึงโรงเรียนที่จะไปค่ายอาสาอีกไกล มึงน่าจะนอนได้หลายตื่น” ผมบอก ไอ้หมูก็พยักหน้าเห็นด้วยเพราะตาของมันจะปิดอยู่แล้ว หมูหันมามองผมที่กำลังหาหูฟังมาเสียบฟังเพลง
“ขอจับมือของพี่ไว้ได้ไหม” ปากขอแต่มือของมันก็เลื่อนมากุมมือของผมไว้แบบประสานมือ...กูเขินเป็นนะเว้ย... ผมอยากจะเอาออกแต่มือกลับไม่กล้าขยับเมื่อเห็นไอ้หมูปิดตาลงเหนื่อย ๆ ผมเหลือบมองขอบตาของมัน...ไอ้เชี่ยมึงเป็นเดือนนะ มาอดหลับอดนอนเดี๋ยวก็ไม่หล่อกันพอดี...ผมคิดในใจ
มือของไอ้หมูที่กุมมือของผมไว้ มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน...ผมเผลอยิ้มออกมาพร้อมกับเพลงที่ตัวเองกำลังเปิดฟังไปเบา ๆ ก่อนผมเองจะเผลอหลับไปเหมือนกัน และผมก็ได้รับรู้อะไรอย่างหนึ่งขึ้นมาว่า...การได้นั่งกับคนที่เรารัก...มันอบอุ่นและมีความสุขอย่างที่ผมคิดจริงด้วย
...................
....................
“พี่ศิลา...พี่ศิลา” ผมลืมตาตามเสียงเรียก ก็เจอไอ้หมูที่เอาหูฟังของผมออกข้างหนึ่ง
“ถึงแล้วเหรอ?” ผมถามด้วยความงัวเงีย ไอ้หมูส่ายหน้า
“ยังครับ เขาแวะปั้ม พี่จะกินไรไหม ผมจะลงไปเซเว่น” ผมมองหน้าต่างก็พบว่าเราอยู่ปั้มน้ำมันจริงด้วย เหลือบไปมองด้านหลังก็เห็นไอ้เสานอนหลับปุ๋ย ส่วนไอ้นนท์หายลงไปข้างล่างแหง
“ไม่ล่ะ มึงไปหาของกินของมึงเถอะ” ผมว่า ไอ้หมูมันก็ไม่ได้ถามอะไรเซ้าซี้ผม มันเดินลงไปจากรถ ผมก็แอบมองมันที่เดินลงไปพร้อมกับพวกเด็กผู้หญิงปี 1 ดูสาว ๆ จะชอบอกชอบใจมากที่มีเดือนมหาลัยมาอยู่ในรถให้สดชื่นแบบนี้ มันเสน่ห์แรงดีเนอะไอ้หมูเนี่ย...
ผมที่นั่งเอามือเท้าคางมองตรงหน้าต่างไปเรื่อยสักพักพวกที่ลงไปซื้อของกินและเข้าห้องน้ำก็พากันขึ้นมาบนรถเหมือนเดิม ไอ้นนท์เดินขึ้นมาพร้อมกับขนมถุงใหญ่กับ...ชานมไข่มุก โอ้...ไอ้นี่ก็ขยันให้ไอ้เสาเสพชานมไข่มุกมาก ฮ่า ๆ แต่ยังไม่ทันที่ไอ้นนท์มันจะเดินมาถึงเบาะนั่งของตัวเองก็มีรุ่นน้องปี 1 ผู้หญิงขอถ่ายรูปเซลฟี่ซะก่อน...น่าจะเป็นคณะที่อื่นที่อยากมาค่ายอาสาด้วยแฮะ คณะไรไม่รู้แต่ก็หน้าตาน่ารักใช้ได้ ผมแอบมองไอ้เสาที่ยังคงหลับอยู่เลย ไอ้นนท์เดินผ่านที่นั่งของผม
“เสน่ห์แรงนะมึง โฮะ ๆ” ผมล้อ ก่อนจะชะงักกับไอ้หมูที่เดินกลับขึ้นมา สาว ๆ มองมันตาเป็นมันเลยครับ ไอ้นนท์เลยกระตุกยิ้มกวนผม
“ไอ้น้องหมูของมึงก็ไม่ต่างกับกูหร๊อก...โฮะ ๆ” โอเค...กูไม่ควรจะไปกวนคนอื่นสินะ ไอ้หมูกลับมาพร้อมกับซาลาเปาแรบบิทไส้ครีม ผมช๊อบชอบซาลาเปาอันนี้! ได้กลิ่นแล้วรู้เลย...ผมจมูกดีมาก มันนั่งลงข้างผมและยื่นมาให้ผม
“ยื่นมาให้กูทำไม”
“ของพี่ศิลาไงครับ ผมซื้อมาให้ร้อน ๆ เลย” น้ำเสียงพูดด้วยความใส่ใจ ผมรับมามองไอ้หมูที่เอามาม่าคัพมาซดกิน ดูท่าทางมันจะหิวมาก แต่ทำไมมันกินแล้วคล้ายพรีเซนเตอร์มาม่าเลยวะ...ดูดีเกินไปแล้ว
“ขอบคุณ...แล้วนี่มึงมาค่าย เรื่องสอบกับพวกแล็ปไม่มีปัญหานะ” ผมถามพลางกินซาลาเปาตามมันไปด้วย
“ไม่ครับ เคลียร์เสร็จหมดแล้ว ไม่กระทบอะไรแน่นอน” มันยืนยัน ผมก็พยักหน้ารับรู้และรถก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากปั้ม
กว่าพวกเราจะมาถึงโรงเรียนที่จะมาทำค่ายอาสาก็ใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร นั่งจนปวดก้นไปหมดแล้วเนี่ย โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยมที่ค่อนข้างใหญ่ครับ แต่ก็ขาดอะไรอยู่หลายอย่าง สีอาคารก็เริ่มที่จะซีดไปหมดแล้ว หรือต้องเรียกว่าไม่มีสีแล้วต่างหาก เด็กน้อยแถวนี้ก็พากันมองพวกผมที่ลงมาจากรถตาปริบ ๆ ว่าไอ้พวกรถบัสสองคันใหญ่ ๆ มาทำอะไรที่บ้านพวกมัน โรงเรียนนี้ไม่มีรั้วครับ ติดกับหมู่บ้านเลย แต่อากาศที่นี่สบายมากเลยล่ะ มีแดดนะแต่ไม่ร้อนมากนัก
ผมกับพวกเพื่อนผู้ชายในคณะช่วยกันขนของที่จะนำมาบริจาคให้เด็ก ๆ กับพวกสีเป็นถังใหญ่ ๆ ที่จะเอามาทาอาคารลง ผมยังไม่ทันจะแบกน้ำลงไอ้หมูก็เข้ามายกไปซะก่อน
“เดี๋ยวผมถือเอง พี่ศิลาไปถือกระติกน้ำก็ได้” มันบอกผมพลางส่งสายตาไปที่กระติกน้ำ แต่ถั่วดำก็หยิบไปซะก่อน
“ฮ่า ๆ เอาไปย่ะศิลา กล่องพยาบาลยาแก้ปวดต่าง ๆ ถือเอาไปวางไว้ ส่วนพวกน้ำหนัก ๆ ให้ผู้ชายแข็ง...แรง ยกไป ใช่ไหมจ๊ะน้องหมู” ผมเห็นไอ้หมูมันสะดุ้งนิด ๆ เมื่อโดนถั่วดำจับก้น ฮ่า!...ตลกหน้ามันอ่ะ
สรุปผมก็ได้ถือพวกกล่องพยาบาลลงมาวางไว้ที่กองกลาง พวกผมพากันแบ่งเรือนนอนกัน ไอ้หมูก็กระโดดมายืนติดกับผม บ่งบอกเจตนาชัดเจนว่าจะนอนข้างผมเท่านั้น...เออ คนเขารู้หมดแล้วล่ะไอ้เชี่ย ห้องที่ผมนอนก็เป็นห้องรวม มีถั่วดำเป็นแกนนำ รู้สึกอุ่นใจมากครับที่มีถั่วดำเป็นผู้ดูแลห้องที่พวกผมดูอยู่ แต่ไอ้หมูน่าจะไม่ปลอดภัย ฮ่า ๆ ไอ้เสาไอ้นนท์ก็นอนนี่ และก็มีพวกน้องผู้ชายวิศวะปี 1 อีกจำนวนหนึ่งที่นอนนี่ ส่วนมากจะเป็นพวกเรียบร้อย ส่วนพวกเกรียน ๆ ถูกแยกไปอยู่ห้องกับไอ้พวกเพื่อนผมสายโหด อีกห้องหนึ่ง
พวกผมมาก็เริ่มกันทำงานกันเลยในตอนบ่าย นั่นคือทาสีตึกชั้นเดียวที่มันเริ่มซีด ให้มันกลายเป็นสีชมพูวิ้ง...คอนเซ็ปนี้ใครมันคิดก็ไม่รู้ เห็นว่าสนับสนุนว่ามันจะได้กลายเป็นโรงเรียนที่มีความรักสดใส...โอ้โห อยากเห็นหน้าคนคิดโปรเจคมาก ให้ทายครับว่าผมกับไอ้เสาอยู่แผนกไหน...หน้าอย่างพวกผมคงไม่ได้ไปตอกไม้ตามอาคารหรอก แม้ว่าอยากจะทำก็ไม่ได้ทำอยู่ดี! พวกผมสองคนอยู่ประจำที่อาคารนั่งทาสีกับพวกน้องผู้หญิงน่ะสิ...
“ไอ้เชี่ยกูอยากไปตอกไม้บ้าง ทำไมต้องมาทาสีวะ” ไอ้เสาที่นั่งข้างผมบนพลางใช้แปรงสีขนาดใหญ่ละเลงสีชมพูลงไป ส่วนผมน่ะเหรอ...วาดรูปดอกไม้น่ะสิ ตรงที่พวกน้อง ๆ ทาเสร็จแล้ว ทุกคนพากันอึ้งกันมากที่ผมวาดรูปสวยขนาดนี้ แฮะ ๆ ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ พอดีผมเป็นคนชอบวาดรูปอยู่แล้วในสมัยเด็ก ป๊าก็เลยส่งเสริมให้ผมไปเรียนพิเศษด้านศิลปะอย่างเอาใจ แต่ผมก็รับรู้ว่า...ผมไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นก็เลยไม่ได้คิดจะส่งเสริมตัวเองด้านนี้ ที่มาเรียนวิศวะก็อยากให้ตัวเองดูแข็งแกร่งและแข็งแรงนี่แหละ จะได้ดูแลกิจการของป๊าช่วยเฮียใหญ่กับเฮียกลางได้....
“โห..มึงยังวาดรูปสวยเหมือนเดิมเลยว่ะ” ไอ้เสาว่า
“แล้วนี่ไอ้น้องหมูของมึง ไปอยู่กับพวกใช้กำลังเหรอ” ได้ข่าวว่าไอ้นนท์ก็ไปอยู่กับพวกใช้กำลังเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ ฮ่า ๆ ...พวกมันไปช่วยกันตอกไม้ซ่อมอาคารอยู่ทางนู่นนู้น
“เออ มึงก็ทา ๆ ไป ไอ้เสา รีบทามันจะได้แห้ง กูจะวาดรูปให้เสร็จ”
“พี่ศิลาวาดรูปน่ารักจังเลยค่ะ” รุ่นน้องผู้หญิงปีหนึ่งหันมาเห็นผมวาดรูปก็ร้องขึ้นด้วยความชอบจริง ๆ และหลังจากนั้นก็มีรุ่นน้องเข้ามาชมรูปวาดของผมเพียบ...
ดีหน่อยที่มันมีหลังคายื่นออกมาเลยไม่ทำให้โดยแดดและไม่ร้อนจนเกินไป พวกน้องผู้หญิงพากับเก็บถังสีที่ทาเสร็จแล้ว ทยอยเดินไปล้างมือ ส่วนผมเหลือดอกไม้ช่อสุดท้ายเลยนั่งระบายต่อ ไอ้เสาก็ลุกขึ้นอย่างรีบ ๆ
“ไอ้ศิลากูปวดฉี่ว่ะ เดี๋ยวกูมานะ ไปห้องน้ำก่อน” มันบอกแค่นั้นและวิ่งออกไปเลย ท่าทางจะปวดมากจริง ๆ ผมส่ายหน้าแล้วหันมาสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของผมต่อ ก่อนจะสัมผัสถึงอะไรเย็น ๆ ที่มาแตะโดนแก้ม...แก้วน้ำหวานสีแดงที่ถูกยื่นมาโดยไอ้หมู มันทิ้งตัวนั่งลงติดกำแพงผมเลยรีบร้อง
“ไอ้เชี่ย เสื้อจะเปื้อน” ผมรีบจับไว้ได้ทัน มันก็ทำหน้าเหวอเหมือนลืมว่ากำแพงมันเพิ่งทาสีชมพูพริ้ง
“ผมลืมไปเลย ดีนะเนี่ยพี่ศิลาห้ามทัน ฮ่า ๆ” ไอ้หมูเปลี่ยนเขยิบตัวมานั่งหันหน้าเข้ากำแพงข้างผมแทน พร้อมกับยื่นแก้วน้ำในมือของมันมาให้ผม
“น้ำเย็น ๆ ของพี่ศิลาครับ” ผมจะรับมาดื่มแต่มันก็ยกหนี อ้าว... “เดี๋ยวผมถือให้ มือพี่เปื้อนอยู่นี่นา”
“เออ ขอบคุณ” ผมก้มดูดน้ำจากมือของไอ้หมูที่จับหลอดมาบริการผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม...ผมมองหน้ามันที่ออกแดงนิด ๆ เนื่องจากไปตากแดดมา ทำไมมันไม่ใส่เสื้อกันหนาวคลุมไว้วะ...
“งานมึงเสร็จแล้วเหรอ ร้อนมะ” ผมถามแต่ดูจากเหงื่อของไอ้หมูแล้ว มันคงร้อนจริง
“ก็ร้อนครับ แต่ก็สนุกดี ได้ทำประโยชน์” ไอ้หมูยิ้มและมองรูปที่ผมวาด “พี่ศิลา พี่วาดเหรอ? น่ารักจัง เหมือนคนวาดเลยอ่ะ” ผมที่วาดรูปอันสุดท้ายอยู่ชะงัก...กับรอยยิ้มกว้างทะเล้นที่มอบให้ผม มันกำลังเขยิบมาใกล้ผมอีกนิด ก่อนพวกเราจะสะดุ้ง
“เฮ้ย! มานั่งสวีทอะไรแถวนี้วะ กูไปฉี่มาแป๊ปเดียว” ไอ้เสายืนเท้าเอวมองล้อพวกผมอยู่ มันเช็ดมือเปียก ๆ ของมันกับเสื้อ และนั่งยอง ๆ ลงข้างผม
“เออ เห็นไอ้นนท์มะไอ้น้องหมู?” มันถามพลางเก็บพวกถังสี ไอ้หมูก็ส่ายหน้า
“ไม่อ่ะครับ ผมตอกพวกไม้เสร็จก็ไม่เห็นพี่นนท์แล้วนะ” พอได้ยินคำตอบแบบนั้นไอ้เสาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ พวกผมช่วยกันเก็บกวาดของพวกอุปกรณ์ไปเก็บไว้ที่กองกลางให้เรียบร้อย
หลังจากที่งานเสร็จก็เป็นเวลาการทำอาหารซึ่งพวกเราก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการโรงเรียนเอื้อเฟื้อสถานที่การทำอาหาร และสิ่งที่สร้างความฮือฮาก็คือ ไอ้นนท์ครับ มันไปเป็นคนทำอาหารช่วยกับพวกสาว ๆ ทำเอาสาวพากันกรี๊ดลั่น แถมดูมันจะเสน่ห์แรงพอ ๆ กับไอ้หมูด้วย สาวติดตรึม แต่คนที่ดูจะเริ่มอารมณ์เสียนิด ๆ ก็คงหนีไม่พ้นไอ้สัดเสา วะฮ่า...ดูมันทำหน้าดิครับ
“มึงหึงไอ้สัดนนท์ล่ะสิ?” ผมนั่งลงม้านั่งข้างไอ้เสาที่มองในโรงครัวที่เต็มไปด้วยสาวล้อมหน้าล้อมหลังไอ้นนท์ มันเบ้ปากเล็กน้อย
“ใครหึง แม่ง! เรื่องของมันดิ”
“เหรอ ๆ”
“ไอ้สัดศิลา...นู่น ไอ้น้องหมูของมึงก็ไม่ต่างกันหรอกกก...” ไอ้เสาหาเรื่องให้ผมหันไปมองไอ้หมูที่ไปยกถังน้ำใส่ที่กดน้ำ สาว ๆ ก็ยืนยิ้มหวานมองตาปริบ...เออ ขยันโปรยความหล่อเนอะพวกมึงนี่..
“ก็มันเป็นเดือนมหาลัยนี่ จะมีคนชอบมันเยอะ ๆ ก็ไม่แปลกหรอก ไอ้สัด...” ผมว่าตามความจริง ไอ้เสาก็ไม่ได้สนใจฟังผมหรอกครับ เพราะมันมองไอ้นนท์ที่ทำกับข้าวอยู่ โฮะ ๆ ผมว่าไอ้เสาได้สามีแห่งชาติแล้วล่ะ ไอ้นี่มันยิ่งชอบกินอยู่ ทำอาหารเป็นด้วย เลี้ยงไอ้เสาได้สบาย ๆ เลยล่ะครับ
พอพวกเราทั้งหมดกินข้าวเสร็จก็พากันแยกย้ายไปพักผ่อนใครพักผ่อนมันตามอัธยาศัย บอกเลยว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก พวกผมเหมือนมาแป๊ปเดียวเอง แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ ผมหยิบพวกผ้าเช็ดตัวเสื้อผ้าจะไปอาบห้องน้ำรวมพร้อมกับไอ้เสา แต่ยังไม่ทันที่พวกผมจะออกจากห้อง ไอ้หมูกับไอ้นนท์ก็วิ่งพรวดเข้ามา (พอดีพวกนี้มันไปช่วยพวกผู้หญิงเก็บพวกหม้อที่ทำกับข้าวมา)
“พี่ศิลา จะไปอาบน้ำเหรอครับ ผมไปด้วย!” ไอ้หมูยึดผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าของผมไปถือไว้
“เสา นนท์ไปอาบด้วย” ไอ้นนท์ก็พูดทำนองเดียวกันกับไอ้หมูเป๊ะ และพวกผมสองคนก็ตอบเสียงเดียวกัน
“ไม่!!” ผมกับไอ้เสาตอบ แต่คนหน้าด้านสองคนตรงหน้าก็ไม่ได้ฟังพวกผมกันหรอกครับ สรุปผมกับไอ้เสาก็ได้แยกเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำกันคนละห้อง เพราะไอ้พวกนี้ไม่ให้พวกผมอาบห้องน้ำรวม อะไรของพวกมันก็ไม่รู้!! แถมยังมายืนคุมหน้าห้องน้ำราวกับว่าพวกผมเป็นผู้หญิง...บ้าบอจริง ๆ
พอพวกผมอาบน้ำเสร็จก็ไม่มีแรงที่จะทำอะไรต่อ ผมล้มตัวลงนอนโดยมีไอ้หมูนอนข้างผม ส่วนไอ้เสาก็นอนข้างผมอีกข้างและมีไอ้นนท์นอนประกบ ดูพวกมันจะเงียบ ๆ กันแฮะ ด้วยความที่เราอยู่ในที่ไม่คุ้นเคยก็เลยค่อนข้างที่จะนอนไม่ค่อยสบายตัว ตอนนี้ภายในห้องไฟถูกปิดลงแล้ว แต่ถามว่าไอ้คนตรงหน้าผมมันนอนรึยัง...ไอ้เชี่ยหมูมันมองหน้าของผมอยู่ต่างหาก! ผมเห็นนะเว้ย
“ไอ้เชี่ยนอนได้แล้ว” ผมกระซิบ หมูมันยกยิ้มนิด ๆ และเขยิบเข้ามาใกล้ผม อ้าว...ไอ้นี่ มึงจะเขยิบเข้ามาทำไม กูบอกให้นอน...
“เขยิบมาทำ...”
“อยากอยู่ใกล้ ๆ..” มันพูดสวนผมมา “พี่ศิลา...ขอนอนกอดนิดหนึ่งได้ไหม” ผมตาโตแต่จะโวยวายดังก็ไม่ได้เดี๋ยวคนอื่นได้ตื่นมากันพอดี มือหนาเลื่อนมาสัมผัสเอวของผมใต้ผ้าห่ม...ไอ้เชี่ยถ้ามึงมีอารมณ์หื่นกามขึ้นมากูจะทำยังไง!
“อย่ากวนตีนไอ้หมู...คนก็นอนอยู่เต็มห้อง”
“เราไม่ได้ทำอะไรเสียงดังซะหน่อย ก็แค่กอดเอง...” เสียงเข้มกระซิบขี้เล่น...โว้ย แบบว่ากูแค่... เขิน
“ไม่ได้ อย่ามาใกล้กู ออกไป เกรงใจเพื่อนกูด้วย มันนอนข้างกูเนี่ย” ผมหาข้ออ้างผละออกจากไอ้หมูที่รั้งเอวของผมเข้าไปหา...กูเขินนน!! ออกไปจากกูไอ้เชี่ยยยย...ผมดันตัวเองออกพร้อมดิ้นขลุกขลัก
“พี่เขาหลับแล้วหันไปดูสิ” ไอ้หมูว่า ผมเลยหันไปมองไอ้เสาที่เป็นคนหลับง่ายหลับเร็ว ยิ่งถ้ามันเหนื่อยยิ่งหลับไม่รู้เรื่อง เออจริงด้วยครับ...ไอ้เสามันหลับแถมท่าที่มันหลับคือนอนตะแคงหันหน้ามาหาผม และไอ้สัดนนท์ก็สวมกอดไอ้เสาจากด้านหลังแบบเนียน ๆ เดาว่าไอ้เสาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ
“เห็นมะ ใครก็อยากนอนกอดคนที่เรารักทั้งนั้น” ไอ้หมูหาแนวร่วมสนับสนุนความหน้าด้าน ผมหันกลับมามองหน้ามันที่ยิ้มแป้น ไอ้เชี่ยความเจ้าเล่ห์ของมึงทำไมมันเยอะขึ้นวะ...
“............”
“อ้อมกอดของคนรัก มันอุ่นนะ” มันยังคงพูดต่อ
“กอดก็กอด ขี้เกียจะเถียงกับมึงละ กูจะนอน...” ผมยอม ยอมเพราะ...ขี้เกียจเถียงมันไง ง่วงแล้ว ผมเหลือบเห็นรอยยิ้มมุมปากของมันพร้อมกับมือหนาที่กระชับเอวของผมเข้าไปหา
“น่ารักจัง หึหึ” ไอ้เชี่ยชักจะเอาใหญ่... “พี่ศิลา กลับจากค่ายเราไปเที่ยวทะเลกันไหม”
“หา?” ผมเลิกคิ้ว
“ไปทะเลกัน ไปแค่สองคน...”
“ทำไมต้องไปแค่สองคนวะ ?”
“ก็อยากไปเที่ยวกับพี่ศิลาที่เป็นแฟนของผมไง...นะ นะ” มันเริ่มอ้อนอีกแล้ว
“ไม่ มึงว่างนักเหรอไง กูขี้เกียจ” ผมบอกปัดเพราะขี้เกียจไปจริง ๆ แต่ก็ต้องหน้าร้อนวูบกับใบหน้าคมที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ไอ้ห่าน...จูบกูเลยไหม ถ้าจะใกล้ขนาดนี้!!
“ก็ผมว่างสองวันไง ไปสองวันก็ได้ ก่อนที่ผมจะยุ่งกว่านี้...นะครับ ไปฮันนี่มูนกัน”
“ไอ้เชี่ย ฮันนี่มูนไร”
“ไปนะ...ไม่สนอ่ะ ยังไงก็จะลากพี่ไป ถ้าเลยช่วงสัปดาห์ที่จะถึงไป ผมก็เริ่มไม่ว่างแล้วด้วย....”
“.............”
“ให้แฟนไม่ได้เหรอ” มันเอาคำว่า แฟน มาขู่...คิดว่ากูจะรู้สึกอะไรเหรอไอ้ฟาย...
เออ...รู้สึก รู้สึกว่าทำไมต้องไปใจอ่อนให้มันที่ชอบทำหน้าน่าสงสารตาปริบ ๆ
“เออก็ได้ แต่มึงออกค่าใช้จ่ายหมดเลยนะ กูไม่อออก” ผมพูดกวนกลบเกลื่อนใบหน้าร้อนที่โดนไอ้หมูก้มลงมาหอมแก้มเนียน ๆ
“ไอ้เชี่ย...เกรงใจคนที่นอนแล้วด้วย” ผมด่าเบา ๆ
“พวกเขานอนหลับหมดแล้วล่ะ...” ไอ้หมูว่าก่อนผมจะรีบเอาผ้าห่มมาคลุมโปงเมื่อมีประโยคตอบกลับมาหลายเสียง
“พวกกูยังไม่ได้นอน....” เสียงเพื่อนของผมหลายเสียงรวมถึงเสียงของถั่วดำก็ดังออกมา....
เชรด...งั้นพวกมันก็ได้ยินหมดน่ะสิ...
........................++++++++++++++++++++++++ๅ
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจจากคนอ่านที่น่ารัก ^^
>__< พูดอะไรกัน ทุกคนในห้องเขาได้ยินหมดเเล้วค่า น้องหมู 55555 คนอ่านอย่างเราก็ได้ยินเหมือนกัน คริคริ