•18•
สุดท้ายผมก็หลับคาโทรศัพท์ ด้วยเสียงกล่อมแบบกวนตีนของพี่คราม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะทำให้หลับสนิทได้ ดีนะที่สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงคุณเกรย์ร้องแง้วเขี่ยประตูจะออกไประเบียง ไม่อย่างนั้นได้ตื่นบ่ายแน่ๆ
ลุกเปิดประตูให้คุณเขาออกไปทำธุระก่อนมาล้มตัวนอนบนเตียง พี่ครามวางสายไปหลายชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ถ้าไม่ตื่นแล้วก็คงหลับอยู่ ถึงตื่นแล้วก็น่าจะกำลังยุ่ง ผมจึงสลับหน้าจอไปยังแชทที่มีสัญลักษณ์แจ้งเตือนสีแดงหราอยู่ ไม่รู้สิเห็นแล้วมันต้องกดเข้าไปให้ตัวแจ้งเตือนมันหาย
ข้อความของนิวค้างไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
:: พุธนี้ว่างมั้ย มีธุระไปแถวที่ปายเรียนอ่ะ
:: จะได้รวดไปหาพร้อมไปเที่ยวด้วยเลย
ผมไม่ตอบ ก่อนหน้านั้นบอกนิวไปว่าไม่ว่างเพราะต้องดูแลแมวให้พี่ครามสองวัน แต่เพราะอย่างนั้นเขาถึงรู้ว่าพี่ครามจะกลับมาวันพุธและนั่นหมายความว่าผมจะว่าง
ไม่น่าบอกไปเลย คิดว่าแค่อยากจะบอกปัดในตอนนั้นเฉยๆ ไม่คิดว่าจะต้องมารับกรรมในตอนนี้
ผมปฏิเสธคนไม่เก่งจริงๆ นั่นแหละ
จัดการธุระให้ตัวเองและคุณเกรย์จนเสร็จ ก่อนไปมหา’ลัย ว่าจะค่อยเอาไปให้เพื่อนเมลล์ช่วยตอบให้ คุยแชทกันมันก็คงดีอย่างตรงนี้ ตรงที่บางทีเราไม่ได้เป็นคนตอบเอง ไม่เหมือนคุยต่อหน้า ถ้าอย่างนั้นผมต้องหาคำปฏิเสธไม่ถูกแน่ๆ และเพราะอย่างนั้นการคุยแชทกันถึงได้น่ากลัว
เมลล์มาช้ากว่าปกติไปนิดหน่อย เห็นมันบ่นว่าคนเยอะ รถติด ผมยื่นโทรศัพท์ให้มันแทบจะทันที
“อะไร”
“ตอบให้หน่อย”
ไอ้เมลล์ตบหัวผมก่อนเอาไปพิมพ์ตอบให้ เออยอมเจ็บตัวให้ก็ได้
: ไม่ว่างอ่ะ มีธุระกับเพื่อน
“โกหกไปแบบนี้จะดีหรอ” ผมกระซิบถามไอ้เมลล์ เพราะอาจารย์เข้าห้องสอนแล้วทำให้ต้องใช้เสียงเบาๆ
“งั้นมึงอยากให้กูตอบว่าว่าง แล้วให้มันพามึงไปเที่ยวงี้หรอ”
“ตลกละ”
“หรือมึงอยากให้กูตอบว่ามึงว่าง แต่ไม่อยากไปกับนิว?”
“อย่ากวนตีนดิ้”
“งั้นก็ตอบแบบนี้ไปนั่นแหละ ถ้ามันถามอีกค่อยอ้างกู”
ไอ้เมลล์สรุป ผมเลยนั่งเหม่อตั้งใจเรียนต่อไปเมื่อไม่มีข้อความอะไรเข้ามาอีก
จนกระทั่งโทรศัพท์มีข้อความแจ้งเตือน ทีแรกผมคิดว่านิวตอบกลับเลยยังไม่หยิบขึ้นมา แต่พอแชทเริ่มเด้งรัวจนมือถือสั่นอย่างน่ารำคาญถึงได้ควักมันออกมาดู
ปรากฏว่าเป็นพี่ครามที่รัวแชทมาเป็นสิบ
ข้อความก่อนหน้าพี่ครามเอาแต่รัวถามว่าทำอะไรอยู่ เรียนอยู่หรอ พี่ครามกำลังออกฟาร์ม เจอม้าเจอวัวเจอแกะเหนื่อยโน่นนั่นนี่ ขี้บ่นเป็นบ้า ยังกะลุงแก่ๆ เลย
จนกระทั่งเห็นรูปที่เพิ่งโหลดเสร็จจากพี่คราม
รูปวัว
:: เหมือนปายเลย
รูปม้า
:: นี่ก็เหมือนปาย
รูปแกะ
:: เหมือนปาย
ผมเกือบจะต่อว่าอยู่แล้วเชียวถ้าพี่ครามส่งรูปวัวมาแค่รูปเดียวผมคงโวยวายไปแล้ว ทว่าพี่แกเล่นส่งรูปสัตว์ในฟาร์มมาเป็นสิบแถมบอกว่าเหมือนผม เลยรู้ข้อความที่พี่ครามตั้งใจจะสื่อ ผมยกยิ้ม...
จะบอกว่าคิดถึงจนเห็นอะไรๆ ก็เป็นหน้าผมงั้นเถอะ
ผมแอบถ่ายรูปเซลฟี่หน้าตัวเองก่อนกดส่งให้พี่ครามไป
: เหมือนปายที่สุด!
ไม่นานสัญลักษณ์บ่งบอกว่าพี่ครามได้อ่านแล้วก็ขึ้นมา ทว่าไม่มีข้อความใดตอบกลับมาในทันที
ผมเงยหน้ามองกระดานอีกครั้ง ก่อนระบบแจ้งเตือนจะสั่น พี่ครามตอบกลับมา
:: ยอมแพ้
ขยับยิ้มอีกครั้ง
อดทนไปจนถึงเวลาเลิกเรียน ผมตั้งท่าจะกลับหอ ไปหมกตัวอยู่ในถ้ำกับคุณเกรย์อย่างสุขสมอุรา ทว่าไอ้เมลล์พุ่งมาหาผมทันทีที่แยกตัวจากไอ้ตั๊บ มันเอาแขนใหญ่ๆ ของมันมาพาดบ่าผมไว้
“กับพี่ครามนี่ยังไง”
“อะไรยังไง” ไอ้เมลล์ถามแทบทันทีที่ถึงตัวผม ผมตอบกลับมันด้วยคำถาม อย่าบอกนะว่าที่รีบแจ้นมานี่เพราะอยากเผือก คิดว่าที่มันถามแบบนี้เพราะแอบเห็นตอนผมแชทคุยกับพี่ครามแน่ๆ
“ก็ยังไงล่ะ คบกันแล้ว?”
“ไม่ได้คบ!”
“เอ๊า ก็เห็นไปค้างด้วยกัน ยอมอยู่ดูแมวให้ ไหนจะรอยแปลกๆ ที่คอมึงอีก”
ผมถลึงตาใส่ความคิดไอ้เมลล์ “ไม่ได้คบ ไมได้มีอะไรเลย แค่สนิทกันอ่ะ แบบพี่น้องเงี้ย” ผมอ้าง รู้ทั้งรู้ว่าพี่น้องไม่จูบกันหรอก และคงไม่กัดกันด้วย
“...จริงหรอวะ”
“จริง ไม่มีอะไรเลยไม่ต้องอยากรู้อยากเห็น”
“โถ น้องปาย คนอย่างมึงเนี่ยคนรอจีบเป็นแสน มีแต่มึงที่ไม่รู้อะไรกับเขาเลย ทำตัวหยิ่งอีก พอมีคนรู้ใจกูก็อยากรู้ไงว่าใคร กูทำหน้าที่เป็นไม้กันหมาให้มึงตั้งปีกว่า”
จริงอย่างที่ไอ้เมลล์ว่า ช่วงปีแรกผมเจอแต่กับใครก็ไม่รู้มาวนอยู่รอบตัวจนต้องพึ่งไอ้เมลล์มันบ่อยๆ แต่คิดว่าหมดไปแล้ว เพราะทุกคนคิดว่าผมหยิ่งเลยไม่อยากเข้าใกล้ ไม่คิดว่ายังมีคนมีความคิดอยากเข้าหาผมอีก
แต่พี่ครามถือว่าเป็นคนรู้ใจได้แล้วหรอ?
ผมส่ายหน้าแทนคำปฏิเสธในหลายๆ อย่างของไอ้เมลล์ คนข้างๆ ไม่ได้ว่าอะไรต่อ เพียงแค่ผละตัวจากผม กล่าวคำลาก่อนแยกย้ายกันกลับ
“มีอะไรก็บอกได้นะ” ทิ้งท้ายก่อนที่เจ้าตัวจะหายลับไป
ผมไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องปิดบังเมลล์ ถึงมันจะเป็นคนอย่างนั้นแต่ผมรู้ว่ามันไม่ใช่พวกปากสว่าง เอาเรื่องผมไปป่าวโพทะนาให้ใครต่อใครได้ฟัง ไอ้ตั๊บก็เหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นผมเองก็ยังไม่มีอะไรจะบอกพวกมันจริงๆ เคยคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องกันก็ได้ แต่ไอ้เมลล์เองที่เป็นคนกำจัดความคิดนั้นให้ผมด้วยคำว่า…
เพื่อนกัน ก็ต้องอยากรู้ทุกข์สุขของกันบ้างแหละ
ดังนั้น บางทีผมก็จะได้รู้เรื่องตั๊บกับน้ำหวาน บางทีผมก็จะรู้เรื่องเมลล์กับบรรดากิ๊กคนที่ล้านแปดของมัน แต่เป็นพวกมันเองที่ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับผม ถึงจะเคยบอกเรื่องคุณเกรย์ไปแต่ก็ไม่ทั้งหมด ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีอะไรจะเล่า แต่เมื่อมันเริ่มมี ผมก็พอจะเข้าใจว่าไอ้เมลล์มันคงจะห่วงในแบบของมัน
ผมเอาตัวรอดในเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเก่ง เมลล์เคยบอกอย่างนั้นกับผม ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธ เพราะอย่างนั้นถ้ามันจะห่วงผมในฐานะเพื่อนที่จู่ๆ ก็ไปคลุกคลีกับใครก็ไม่รู้อย่างพี่ครามก็ไม่แปลก
ยิ่งหน้าโหดๆ อยู่ด้วย ผมเผ้าก็รุงรัง สงสัยเหมือนกันทำไมปล่อยยาวไม่ยอมตัดเสียที
ผมกลับมานอนแผ่ที่โซฟาห้องพี่คราม จับคุณเกรย์มานอนบนตัวเหมือนเคย เห็นก้อนขนขดตัวอยู่บนพุงตัวเองแล้วมีความสุข พลันหยิบมือถือมาดูข้อความ พี่ครามยังไม่ได้ส่งอะไรมา สงสัยยุ่งอยู่กับวัวกับม้า ผมไม่ได้สนใจต่อ เปิดดูอย่างอื่นในมือถือไปเรื่อยๆ ลุกขึ้นไปเติมข้าวให้คุณเกรย์ ทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองก่อนล้มตัวนอน
คุยกับพี่ครามเล็กน้อยก่อนจะเผลอหลับไป จับคุณเกรย์มานอนกอดแนบสนิทแบบที่ถ้าพี่ครามมาเห็นต้องดุแน่ๆ พรุ่งนี้พี่ครามก็กลับมาแล้ว เห็นมั้ย...ไวจะตาย
คราวนี้ไม่ลืมตั้งปลุก ผมลุกจากเตียงเมื่อนาฬิกาปลุกดังรอบที่สาม ทำตามกิจวัตรประจำวัน ให้อาหารคุณเกรย์ เปิดประตูระเบียง อาบน้ำ ทานข้าว ตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนออกไปเรียน ไม่ได้น่าเบื่อแต่คิดว่าถ้ามีอีกคนมาช่วยทำภารกิจนี้จะดีกว่า
เดี๋ยวตอนเย็นพี่ครามก็กลับมาแล้ว
คิดพลางออกไปเรียนอย่างมีความสุข โดยไม่ทันได้รู้ว่ามีข้อความจากนิวเข้ามาอีกแล้ว
“ทำไงดีอ่ะ...”
ผมกำมือถือในมือแน่นเอ่ยบอกกับเพื่อนเมลล์ นิวส่งข้อความมาบอกว่าขอเจอกันแปบเดียวก็ได้ เพราะไหนๆ เขาก็อุตสาห์มาถึงแล้วทั้งที
ไอ้เมลล์ยื่นหน้ามาอ่านข้อความในแชทผม ขมวดคิ้ว
“บอกว่านัดเพื่อนไว้ ไม่รู้จะเลิกกี่โมง”
ผมทำตามอย่างว่าง่าย รู้สึกผิดเหมือนกันที่ต้องโกหกไป นิวตอบกลับมาทันทีว่าจะรอออยู่ที่ร้านXXX ไม่ต้องรีบ ถ้าว่างก็ให้มาหาหน่อย จะรอ
“ไม่ต้องไป” เมลล์ว่า แต่นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดต่อเพื่อนซะอย่างนั้น อย่างไรเสียเขาก็เป็นเพื่อนสมัยมัธยมกับผมมาก่อน ปล่อยให้เขารอผมเก้อคงจะไม่ดีรึเปล่า
ด้วยคำว่า ‘จะรอ’ ของนิวทำให้ผมเกรงใจไม่น้อย หากจะต้องปล่อยให้เขารอ ครั้นจะบอกปฏิเสธไปเลยก็กลัวจะเสียน้ำใจ
“ถ้าไปแปบเดียวจะได้มั้ย” ผมว่า ถามเมลล์ไป ผมไม่ได้อยากไปสานต่อความสัมพันธ์อะไรก็ตามที่นิวอยากมอบให้ผม ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากปฏิเสธตรงๆ จนอาจจะเสียเพื่อนแบบนี้ อย่างไรเสียก็เคยพูดคุยกันมาก่อน
“แปบเดียวนี่นานเท่าไหร่”
“สัก...ชั่วโมงงี้”
“ทำงี้แล้วมึงจะสบายใจกว่าว่างั้น”
“ก็...อืม เค้าอุตสาห์มา” ผมรู้สึกไม่ดีตั้งแต่ต้องโกหกนิวว่าติดธุระแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้อยากใจจืดใจดำทิ้งเค้าไว้คนเดียวเหมือนกัน
“งั้นกูไปด้วย”
สิ้นเสียงไอ้เมลล์ ผมยิ้มร่าเมื่อมันทำสิ่งที่ผมกำลังจะขอ “ขอบใจ”
“ขี้เกรงใจมากไประวังจะเป็นภัยนะน้องปาย”
ผมรู้ อย่างไรเสียผมก็เป็นคนขี้เกรงใจอย่างที่ใครว่าจริงๆ อย่างตอนพี่ครามผมก็เกรงใจเขาแทบตายกว่าจะเป็นได้อย่างตอนนี้ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง มันฝังเป็นนิสัยไปแล้ว
ผมบอกนิวไปว่าน่าจะไปราวๆ ทุ่มกว่า ร้านที่นิวว่าเป็นร้านกึ่งผับกึ่งร้านอาหาร มีโซนอาหารอยู่ข้างนอกส่วนร้านข้างในเป็นพื้นที่สำหรับดื่มแอลกอฮอล์ แยกย้ายกับเมลล์ไปทำธุระส่วนตัวกันก่อนจะไปพบนิว ตกลงกันว่าเมลล์จะมารับผมที่สถานีรถไฟฟ้าแถวหอพี่คราม ผมจะได้ให้อาหารคุณเกรย์รอไป
พี่ครามกลับมาวันนี้ราวๆ สามทุ่ม คิดว่าคงไม่เป็นไรหากจะทิ้งคุณเกรย์ให้อยู่ตัวเดียวสักพัก ตั้งใจว่าสองทุ่มก็จะกลับ ผมบอกพี่ครามว่ามีเพื่อนเก่านัดเจอที่ร้านXXX เมลล์ก็ไปด้วย นั่นถึงทำให้พี่ครามยอมให้ผมไปโดยดี
พอรู้มาว่าแถวนั้นแหล่งมั่วสุมเยอะไม่น้อย แต่ก็นั่นแหละ...ผมเอาเมลล์ไปด้วย สบายใจได้
เมื่อถึงเวลา ผมขึ้นรถไอ้เมลล์ไปทันที รีบไปรีบกลับจะได้จบเรื่องเสียที ไม่นานผมก็มาถึงร้านที่ว่า ทั้งผมทั้งเมลล์ยังไม่ได้ทานข้าวทั้งคู่ เพราะกะว่าจะไปหานิวเพื่อจะได้สั่งอาหารทานกัน แล้วค่อยแยกย้าย
นิวนั่งรออยู่ก่อนแล้ว พวกผมเดินเข้าไปหา คนตรงหน้าลุกขึ้นยืนโบกมือให้ นิวหน้าตาดีมาแต่ไหนแต่ไร พอโตขึ้นก็ดันหล่อเหลามากขึ้นไปอีก มีแต่คนในร้านแอบจ้องเขาเยอะแยะไปหมด
พวกผมนั่งลงที่โต๊ะ เอ่ยทักทายพร้อมแนะนำให้นิวรู้จักกับเมลล์
“อ้อ เพื่อนปายที่มหา’ลัยใช่ป่ะ เรานิวนะ”
“อื้อ เมลล์” ทั้งคู่ขยับยิ้มให้กันเล็กน้อยก่อนลงมือสั่งอาหาร นิวชวนผมคุยเรื่องโรงเรียน เรื่องเพื่อน แต่เชื่อเถอะว่าผมตอบไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อย่างที่เคยบอกว่าผมมักจะเก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใคร กับนิวผมก็เคยคุยด้วยแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง
ยังดีที่อาหารอร่อยจนสามารถนำมาเป็นประเด็นในโต๊ะได้ ไอ้เมลล์เองก็ชวนคุยเก่งเหมือนกันทำให้บรรยากาศไม่อึดอัดอย่างที่คิด
เวลาเกือบสองทุ่ม พวกผมเรียกเก็บบิล ตกลงกันแล้วว่าจะหารเพื่อความสบายใจของทุกคน อันที่จริงนิวเสนอตัวจะเลี้ยงผมกับเมลล์แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยแย้งไปว่าผมจะเลี้ยงนิวเอง เพราะไหนๆ เขาก็อุตสาห์มาตั้งไกล พอเป็นอย่างนั้นนิวก็ไม่ยอม สุดท้ายก็จบที่การหารสาม
ผมนั่งคุยกับนิวต่ออีกนิด ไอ้เมลล์ก็มีสายเรียกเข้า มันลุกออกไปพร้อมกลับมาด้วยสีหน้าแตกตื่น
“มึง น้องกูรถชนว่ะ”
“ห๊ะ แล้วเป็นอะไรมั้ย” ผมถามมัน เห็นท่าไม่ดีแล้ว
“ไม่รู้ แม่โทรมาบอก กูต้องรีบไปแล้วว่ะ”
“อืม ไปเถอะ เดี๋ยวหาทางกลับเองได้” ผมบอกมันไม่ให้มันเป็นห่วง คิดว่าแถวนี้คงหารถโบกได้อยู่ รวมถึงไม่อยากรบกวนให้มันไปส่งผมให้เสียเวลา สู้ให้ไปหาน้องมันให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
“ขอโทษนะเว้ย” ไอ้เมลล์บอกอีกครั้ง สีหน้ารู้สึกผิด แต่ผมย้ำอีกครั้งว่าไม่เป็นไรจริงๆ ไอ้เมลล์ถึงรีบไป
ทั้งโต๊ะเหลือแค่ผมกับนิว บรรยากาศแปลกๆ จนผมต้องบอกเพื่อนเก่าไปว่าจะโบกรถกลับ
“เดี๋ยวเราไปส่งก็ได้ หารค่ารถกันจะได้ถูกๆ” นิวว่าและผมก็เห็นด้วย
“แต่ไปดื่มเป็นเพื่อนหน่อยดิ แปบเดียว” นิวเสนอข้อต่อรองทำเอาผมทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้ว่าตัวเองไม่ค่อยถูกกับแอลกอฮอล์สักเท่าไหร่ จึงบอกนิวไป
“งั้นเรารอนิวดื่มก็ได้ แต่เราไม่ดื่มนะ”
ผมว่า ทำตามที่ไอ้ตั๊บกับเมลล์เคยบอกอย่างเคร่งครัด เคยดื่มเหล้าแล้วเมาแอ๋ตอนปีหนึ่ง หลังจากสร่างเมาไอ้ตั๊บไอ้เมลล์ถึงกับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ให้ผมไปดื่มเหล้ากับคนอื่นนอกจากพวกมัน จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป แต่ทางที่ดีทำตามพวกมันว่าไว้ก็ไม่เสียหาย
“เอางั้นก็ได้ ถ้างั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ เราอยากลองร้านนี้มานานแล้ว เห็นว่าเด็ดต้องมาให้ได้” คนตัวสูงว่าพลางยิ้มร่า ผมได้แต่ยกยิ้มตอบ ไม่ขัดอารมณ์ แม้จะเซ็งเล็กน้อยที่ต้องเอาตัวไปเบียดกับคนเยอะแยะมากมาย แต่ก็คิดเอาเสียว่าแปบเดียว เดินตามเขาเข้าไป
โดยที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตามมา
⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹
ถือว่าเอามาตัดหวาน แก้เลี่ยนแล้วกันนะ ;-;
เป็นตอนที่เราอ่านทวนหลายรอบมาก กลัวจะไม่ถูกใจกัน
อยากให้มองหลายๆ มุมมองดูนะคะ
ปายเป็นคนขี้เกรงใจมาแต่ไหนแต่ไร พอเจอแบบนี้เข้าไปน้องเลยปฏิเสธไม่ลง
ไม่รู้ว่าจะสื่อถึงคนอ่านได้มากน้อยแค่ไหน
แต่อย่าเพิ่งโกรธน้องเลยนะ
