ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24  (อ่าน 216529 ครั้ง)

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
งานนี้ต้องมีตลบหลัง55

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
อิพี่ปราบบบบ อย่ามาแกล้งน้องฉันอย่างนี้นะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่ปราบมันร้าย  :laugh:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เธอมันร้ายยอิพี่ปราบบบบบ ขอให้ชวดน้องมันดีไหมนี่?

ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อิพี่ปราบ ถ้าน้องมันขอจะให้จริงๆเหรอ คิคิคิ

ออฟไลน์ SeaBreeze

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
วางแผนไปเถอะพี่ปราบ  ได้น้องซ่าเป็นเมียเมื่อไหร่ ตัวเองได้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือน้องซ่าแน่ๆ :laugh:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
รอชม ^^

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยย สงสารซ่ามาก ทำไมทุกคนรุม 55555
พี่ปราบก็จ้องตะครุบ
พี่ริชกับพี่เค้กก็จ้องจะช่วย

วางแผนกันอย่างเนียน ยิ่งกว่าดาราตัวพ่อ
แผนล่อซ่าให้ปราบ

ซ่าเอ้ยย หลงกลซะแล้ว

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
มารอพี่ปราบกินเด็ก

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
รอตอนต่อไปค่ะ :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่32



[ซ่า]

เลิกเรียนแล้ว พี่ปราบก็ส่งคนมารับ เขาชื่อพี่ทศ ผมไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไร แต่เขามักจะขับรถมารับผมตลอดถ้าพี่ปราบไม่ว่าง

ทุกครั้งเขาจะพาผมไปส่งที่คอนโด แต่ครั้งนี้เขาขับรถเข้ามาในตึกสูงใหญ่ใจกลางกรุงเทพ  ถึงจะไม่ใช่เวลาเลิกงาน แต่ก็มีคนเดินควักไขว่เข้าออกตึกอยู่พอสมควร

“ผมต้องเข้าไปเหรอ” ผมถามพี่ทศ

“อืม ปราบบอกให้พี่พาซ่าเข้าไป” พี่ทศตอบ

“ผมขอโทรหาพี่ปราบก่อนนะ”

“ได้”

ผมกดโทรศัพท์โทรหาพี่ปราบ ผมไม่อยากเข้าไปเพราะที่นี่ดูไม่เหมาะกับผม เด็กช่างทุกคนดูไม่ดีใจสายตาใครต่อใครอยู่แล้ว และพวกเขาคงไม่ต้อนรับให้เด็กที่ยังใส่ชุดนักเรียนช่างเต็มยศอย่างผมเข้าไปวิ่งเล่น ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็ไม่แคร์หรอกนะ แต่พอคิดถึงพี่ปราบผมก็รู้สึกหวั่นๆขึ้นมาบ้าง

“อยู่ไหนแล้ว” พี่ปราบรับสายแล้วก็ถามทันที

“พี่ปราบ ผมไม่ขึ้นไปได้ไหม ขอรอที่รถนะ” ผมลองถามดู

“มึงดื้อกับพี่ทศหรือไง ทำไมไม่ขึ้นมาข้างบน กูบอกพี่เขาไว้แล้วว่าให้พามึงขึ้นมาหากูเลย”

“ไม่เอาอ่ะ ผมไม่กล้าเข้าไป” ผมตอบอย่างที่คิด

“ตึกบริษัทกูไม่มีผีหรอกนะ มึงจะกลัวอะไร”

“ก็...” ผมไม่ได้กลัวผีที่นี่สักหน่อย แค่ไม่อยากเข้าไปก็เท่านั้น 

“ขึ้นมาเถอะ อยู่กับพี่ทศมีอะไรต้องกลัว รีบๆขึ้นมา กูรออยู่” ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ พี่ปราบก็กดตัดสายผมทิ้งไปเลย แต่โทรศัพท์ของพี่ทศดังขึ้นแทน ผมเหลือบเห็นว่าเป็นชื่อของพี่ปราบ ก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วคิดว่าคงเลี่ยงไม่ได้

“ได้ เดี๋ยวพี่พาซ่าขึ้นไปหาที่ห้องทำงาน” พี่ทศตอบคนปลายสายแล้วก็กดวาง

ผมมองด้านนอกอีกครั้ง ก่อนจะยอมลงจากรถแต่โดยดี เดินตามหลังพี่ทศเข้าไปในตึกสูงลับฟ้า ที่ๆคนเรียนสูงมีอนาคตเขามาทำงานกัน ไม่รู้ว่าชาตินี้ทั้งชาติผมจะได้มีชีวิตแบบนี้ไหม

“อ้าว พี่ทศ สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานเลยนะ”

“สวัสดีครับ”

เขาชายตามองผมเล็กน้อยแล้วก็ไม่ให้ความสนใจต่อ นั่นก็ดีแล้ว ผมไม่ต้องการให้ใครที่นี่สนใจผมสักคน มองผ่านผมไปได้จะดีมาก

“พี่ปราบยังทำงานอยู่เหรอครับ” คนถือฟิล์มถามพี่ทศ

“ครับ” พี่ทศก็ตอบแค่สั้นๆ

“ฟิล์มก็คิดถึงพี่ปราบมาก อยากจะขึ้นไปหาพี่ปราบเหมือนกัน แต่ติดธุระต้องรีบไปแล้ว ยังไงฝากพี่ทศบอกพี่ปราบด้วยนะครับว่าฟิล์มคิดถึงอยากจะเจอ”

“อืม” พี่ทศตอบรับไปสั้นๆ

“งั้นฟิล์มไปแล้วนะครับ ไปก่อนนะครับพี่ๆ วันหลังฟิล์มแวะมาหาพี่ปราบแล้วจะมาคุยด้วยใหม่”

“บ๊ายบายค่ะน้องฟิล์ม”

“เจอกันค่ะคุณน้อง”

ผมเดินตามพี่ทศไปขึ้นลิฟต์ กลุ่มผู้หญิงพวกนั้นก็ตามเข้ามาด้วย พี่ทศกดลิฟต์ขึ้นไปบนชั้นสูงสุดของตึก  มีคนเข้ามาในลิฟต์มาขึ้น ผมถอยหลังจนติดผนังลิฟต์ รอจนกระทั่งลิฟต์ค่อยๆเคลื่อนตัวสูงขึ้น

“คุณฟิล์มนี่น่ารักเนอะ มีการบอกคิดถึงคุณปราบด้วย”

“นั่นสิแก ฉันชอบคุณฟิล์มนะ น่ารัก ดูเป็นผู้ชายเซ็กซี่มาก เหมาะกับคุณปราบสุดหล่อของพวกเราที่สุด”

“จริงแก ฉันเห็นด้วย ถ้าพวกเขาทั้งสองคนกลับมาคบกันนะ ฉันเชียร์สุดใจขาดดิ้นเลยแก”

“เนอะๆ ก็คุณฟิลม์นะ ทั้งดูดี ทั้งน่ารักขนาดนี้ ฉันยังชอบเลยแก”

“ฉันก็อยากให้คุณฟิล์มกลับมาคบกับคุณปราบมากๆเลยแก”

“ถ้าคุณฟิล์มง้อคุณปราบอาจจะใจอ่อนก็ได้แก”

“นั่นสิ หน้าอย่างคุณฟิล์มถ้ายิ้มถ้าอ้อนก็คงน่ารักน่ากดอ่ะเนอะ”

แล้วพวกสาวๆที่พูดคุยกันก็เดินออกไปเมื่อถึงชั้นที่สิบสี่ ประตูลิบปิดอีกครั้ง แต่คำพูดของพวกผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้ออกจากลิฟต์ตามไปด้วย มันกลับมาเข้ามาอยู่ในหัวสมองของผมแทน

ผู้ชายคนนั้น ดูดีจริงๆอย่างที่ทุกคนพูด เท่าที่ผมเห็นแค่แวบเดียว ผมยังรู้เลยว่าเขาผิวขาวใสจนอมชมพู หน้าตาดีแบบที่คงเป็นดาราได้ง่ายๆ ถ้าผมชอบผู้ชายด้วยกันแล้วเจอคนหน้าตาดีหน้าตาน่ารักแบบนี้ผมก็คงชอบ แถมยังตัวเล็กไม่สูงเก้งก้างเหมือนผม คนแบบนั้นถึงจะทำให้ผู้ชายชอบและรู้สึกดีด้วยได้

มาคิดๆดูแล้ว ถ้าผู้ชายคนนั้นเคยคบกับพี่ปราบ พวกเขาก็คงต้องเคยนอนด้วยกัน ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่แปลกเพราะผู้ชายคนนั้นดูดีขนาดนี้ ตอนอยู่บนเตียงก็คงดูดีทำให้เกิดอารมณ์ขึ้นมาได้ไม่ยาก ต่างกับผมที่ไม่น่ามองเลยสักนิด

มาถึงชั้นบนสุด พี่ทศก็เดินออกไปจากลิฟต์ให้ผมเดินตาม ชั้นนี้เป็นทางเดินที่สองข้างมีแต่ห้องทำงาน และมีคนนั่งโต๊ะประจำหน้าห้อง นี่แหละมั้งที่เขาเรียกว่าเลขา

พี่ทศเดินมาหยุดที่หน้าห้องทำงานห้องหนึ่ง มีผู้หญิงหน้าตาดีกำลังนั่งทำงานอยู่ เธอดูดี สวยเก่ง เลขาพี่ปราบคนนี้สวยดีจริงๆ เธอยิ้มให้ที่ทศก่อนจะยิ้มให้ผม ผมทำตัวไม่ถูกเลยยกมือไหว้แล้วยิ้มตอบกลับไปบางๆ

“เชิญเข้าไปเลยค่ะคุณทศ”

“วันนี้งานหนักนะคุณแคท”

“นิดหน่อยค่ะ วันนี้งานเข้าหลายงานเลย น่าจะต้องได้กลับดึกแน่ๆ”

“อืม ผมพาคนเข้าไปก่อนนะ ตั้งใจทำงานครับ” 

“ขอบคุณค่ะ เชิญเลยค่ะ”

พี่ทศเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของพี่ปราบ พอเห็นหน้าเขาผมก็นึกถึงหน้าของผู้ชายที่เจอกันข้างล่างขึ้นมาพลางเปรียบเทียบว่า ถ้าคนนั้นได้ยืนอยู่ข้างๆพี่ปราบ ก็ต้องยอมรับว่าเหมาะสม

“ทำไมมาช้าล่ะ”

แล้วลองนึกดูว่าถ้าเป็นผมไปยืนตรงนั้น...นั่นแหละผมถึงได้บอกว่าผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ปราบถึงมาชอบคนอย่างผมได้

เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง แต่ผมไม่แคร์หรอก ผมรักของผม ห่วงก็แต่คนอื่นจะมองพี่ปราบไม่ดี

“ซ่า มานั่งนี่”

ผมมองหน้าคนเรียกชื่อ ก่อนจะเดินไปนั่งตรงหน้าพี่ปราบ เห็นกองเอกสารตรงหน้าแล้วก็เหนื่อยแทน เขาทำงานหนักขนาดนี้ ยังจะเสียเวลามาคอยใส่ใจเรื่องของผมอีก ยังจะให้พี่ทศไปรับผมที่โรงเรียน แล้วคืนนี้ก็ยังจะพาผมไปกินข้าวไปเที่ยวกับครอบครัว

“เป็นอะไร ทำข้อสอบไม่ได้เหรอ” พี่ปราบถามด้วยความเป็นห่วง

“เปล่า” ผมส่ายหน้า ข้อสอบวันนี้ผมทำได้เกินกว่าครึ่ง ที่เหลือก็ไม่มั่นใจ เดาบ้างไม่รู้คำตอบบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมเครียด

พี่ปราบมองจ้องผมราวกับจะมองให้ทะลุถึงความจริง แต่ผมจะไม่พูดหรอกว่าผมอิจฉาผู้ชายคนนั้นน่ะ อิจฉาที่เขาดูดี และอิจฉาที่คนอื่นมองว่าเขาเหมาะสม ผมไม่อยากพูด แค่คิดก็ยังรับตัวเองไม่ได้เลย

พี่ปราบลุกออกจากโต๊ะไปรับสายคนที่โทรมาหา ผมมองตามพี่ปราบเล็กน้อย ก่อนจะเลิกสนใจเลิกฟุ้งซ่าน ด้วยการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเกม เกือบจะลืมเรื่องบ้าๆในหัวไปได้แล้ว พี่ปราบก็มากอดช่วงอกของผมจากด้านหลัง ก้มหน้าลงมาหอมแก้ม พักหลังมานี่พี่ปราบชอบหอมแก้มผมบ่อยๆ

“คิดถึงวะ” พี่ปราบพูด ปากก็คลอเคลียอยู่กับใบหน้าผมไม่หยุด ผมก็ปล่อยให้เขาทำไป เพราะมันทำให้ผมรู้สึกดี ลบล้างความอิจฉาเมื่อตะกี้ไปได้

“ไม่ทำงานเหรอ ผมหิวแล้ว” ผมถาม หางตาแอบเห็นพี่ปราบยิ้มก่อนจะดันหน้าผมหันไปหาแล้วจูบลงมา แล้วจึงกลับไปทำงานต่อด้วยสีหน้ามีความสุขแบบที่ผมไม่เข้าใจ

ระหว่างที่รอพี่ปราบทำงาน ผมก็รู้สึกหิวขึ้นมา จะไปหาอะไรกินรองท้องก็ไม่สะดวก ไม่รู้จะลงไปยังไง ร้านค้าอยู่แถวไหนก็ไม่รู้ พี่ปราบเองก็ดูมีสมาธิกับการทำงานมากจนไม่อยากกวน แต่นานเข้าก็เริ่มไม่ไหว สุดท้ายต้องเอ่ยปาก

“พี่ปราบ

“หืม”

“ผมหิว”

พี่ปราบเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะถอนหายใจแล้วปิดแฟ้มเอกสารที่กำลังอ่านอยู่พร้อมลุกขึ้น

“ไปเถอะ กลับกัน” พี่ปราบเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหาผม

“แต่พี่ยังทำงานไม่เสร็จ” ผมท้วง

“ไม่เป็นไร งานที่เหลือไม่ค่อยเร่งเท่าไหร่ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูมาทำต่อ” พี่ปราบดึงแขนผมให้เดินออกจากห้อง ถ้าพี่ปราบว่ามาอย่างนั้นผมก็จะไม่แย้ง เพราะผมหิวจนแสบท้อง อาการหนักขนาดที่ส่งเสียงให้คนรอบข้างได้ยิน

“ทีหลังหิวข้าวก็รีบบอก เป็นโรคกระเพาะขึ้นมามันจะลำบาก” พี่ปราบหันมาดุไม่จริงจัง ผมพยักหน้ารับเฉยๆ เพราะผมเป็นโรคกระเพาะแล้ว แต่ไม่กล้าบอกกลัวโดนด่ามากกว่านี้

ลงมาข้างล่างตึกก็มีร้านของกินอยู่ใกล้ๆ พี่ปราบพาผมเดินไปซื้อขนมปังกินรองท้องระหว่างขับรถกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโด

ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปผมไม่ต้องไปโรงเรียนแล้ว เหลือแค่ฟังผลสอบและรับวุฒิจบก็เป็นอันเรียบร้อย ผมยังไม่เคยคิดจริงจังเลยว่าจะเอายังไงต่อดี แต่ผมคิดไว้คร่าวๆแล้วว่าผมอยากต่อมหาวิทยาลัย ผมอยากเก่งและเท่ เป็นที่พึ่งพาของคนอื่นได้อย่างพี่ปราบ ขอสักเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี

เพราะผมสามารถผ่านเทอมสุดท้ายมาได้แบบราบรื่น ไม่เกเร และเชื่อฟังพี่ปราบดีพอสมควร พี่ปราบก็เลยจะพาผมไปเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่แบบที่ผมอยากจะกิน นั่นก็คือบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ผมอยากกินไอ้ปูที่มันตัวใหญ่ๆขาใหญ่ๆ แล้วก็กุ้งล็อบสเตอร์อะไรนั่นด้วย ตอนนั้นผมเล่นเฟสบุ๊คแล้วเห็นคนแชร์มา เลยชี้ชวนให้พี่ปราบดูว่าน่ากิน ไม่คิดว่าพี่ปราบจะพาไปกินจริงๆ

 พอได้ขนมปังรองท้องผมก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาอาหารลงท้อง ก่อนที่มันจะประท้วงอีกรอบแล้วแผลงฤทธิ์ด้วยการแสดงอาการปวดจนถูกจับได้

“รีบอะไรขนาดนั้น หิวมากเหรอ” พี่ปราบมองขำๆที่ผมรีบแต่งตัว ส่วนพี่ปราบก็อาบน้ำไวกว่าปกติเพราะกลัวผมจะหิวตาย

“หิวแล้วพี่” ผมรีบบอก พี่ปราบก็เลยรีบแต่งตัว

“ไป กูเสร็จแล้ว” พี่ปราบเดินเข้ามากอดไหล่ผม และจูบขมับของผมไปที

โรงแรมที่พี่ปราบพาผมมากินเป็นโรงแรมของพี่ปราบเอง ความจริงก็คือของป๊าคราม แต่ว่าตอนนี้ป๊าให้พี่ปราบดูแลเกือบทั้งหมด ผมว่าอีกไม่นานโรงแรมและธุรกิจทั้งหลายก็คงกลายเป็นของพี่ปราบเต็มตัว ไม่ต้องบอกว่าผู้ชายคนนี้ทั้งหล่อและรวยมากแค่ไหน

ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในโรงแรม ผมก็ไม่เห็นว่าพี่ปราบจะเหมือนคนธรรมดา เพราะมีแต่ผู้คนจับตามองจนผมอดจะรำคาญแทนไม่ได้ ถ้าผมเป็นพี่ปราบผมคงทำตัวไม่ถูกที่ต้องโดนจับจ้องตลอดเวลา แต่คนอย่างพี่ปราบคงเจอแบบนี้จนชินแล้ว เพราะไม่เห็นเขารู้สึกอะไรทำหน้าหล่ออย่างเดียว

ทีแรกพี่ปราบอยากจะนั่งห้องแยกแล้วให้พนักงานมาเสิร์ฟอาหารให้ แต่ผมไม่เอา อยากเดินไปตักกินเองมากกว่า ก็เลยได้ที่นั่งตรงมุมดี ชนิดที่ติดกับโซนอาหารเลยก็ว่าได้

“ผมไปตักอาหารเลยนะ” ผมบอกพี่ปราบอย่างตื่นเต้น แค่เห็นอาหารก็น้ำลายไหลแล้ว

“ได้ แต่ตักมาแต่พอกิน อยากกินอะไรตักมาได้ทุกอย่าง แต่อย่าให้เหลือก็พอ เพราะมันจะเป็นการทำลายทรัพยากรเข้าใจหรือไม่”

“รับทราบครับผม” ผมเต๊ะท่าเหมือนทหาร จากนั้นก็ลุกเดินไปตักอาหารทันที

เพราะว่าวันนี้ผมมากับพี่ปราบ ก็เลยว่าตัวดีนิดหนึ่ง พยายามจะไม่ทำให้พี่ปราบขายขี้หน้า ยังไงที่นี่ก็มีแต่ลูกน้องพี่ปราบทั้งนั้น ถ้าผมทำตัวไม่ดี พี่ปราบก็จะพลอยเสียชื่อไปด้วย

อาหารหลากหลายอย่างที่ผมไม่เคยกินผมได้ลองกินทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ ปูตัวใหญ่ที่ผมเพิ่งจะรู้จักชื่อของมันอร่อยมาก และผมก็ซัดน้องปูอลาสก้าไปถึงสองตัวเลยทีเดียว ยังมีกุ้งล็อบสเตอร์ต้มกับย่างอีกที่ผมกินอย่างเต็มที่ และขอบอกเลยว่าไวน์แดงที่ผมไม่ชินปากเพราะคอถึงแต่เหล้าไทย พอมากินคู่กับสเต็กเนื้อชั้นดีที่พี่ปราบสั่งมาให้เป็นพิเศษแล้วโคตรของโคตรจะเข้ากัน เนื้อนุ่มอร่อยและหวานลิ้น ถ้ามีโอกาสผมอยากให้พี่ปราบมากินอีก

“อร่อยไหม” พี่ปราบถามหลังทานเสร็จ รอผมกินผลไม้ล้างปาก

“อร่อยมากอ่ะ มองแล้วยังอยากกินอีกเลย แต่อิ่มแล้ว”

“ถ้าชอบ ไว้วันหลังกูจะพามากินอีก”

“จริงนะ” ผมตาโตเลย

“อืม แต่ต้องเป็นเด็กดี”

“ผมเป็นเด็กดีอยู่แล้ว” ผมยักคิ้วให้พี่อย่างมั่นใจ พี่ปราบก็ยิ้มขำ

หลังจากที่ผมไม่สามารถยัดอะไรลงท้องต่อได้ พี่ปราบถึงได้เรียกพนักงานมาเคลียร์บิล ผมไม่รู้ว่าเจ้าของโรงแรมต้องจ่ายเงินค่าอาหารให้โรงแรมของตัวเองไหม แต่พี่ปราบทำ เขาบอกให้พนักงานบริการเขาเหมือนเขาเป็นลูกค้าคนหนึ่งไม่ใช่เจ้าของ ผมยิ่งรู้สึกชอบพี่ปราบมากขึ้นไปอีก

กินข้าวเสร็จพี่ปราบก็ขับรถไปที่ผับแห่งหนึ่ง ตอนแรกผมก็ยังไม่คิดอะไรนะจนกระทั่งมาถึงหน้าผับเท่านั้นแหละ ผมเหมือนได้ออกมาจากในกะลาใบเล็กที่เคยอยู่ ผับนี้ไม่เหมือนผับอื่นที่ผมเคยเข้า คนที่มามีแต่คนแต่งตัวดี หน้าตาดี ดูมีสง่าราศี และรถที่ขับเข้าออกก็แพงๆทั้งนั้น

นี่สินะโลกของคนรวย

ผมคิดว่าผมเองก็เป็นผู้ชายตัวใหญ่เพราะผมสูง แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงไปถนัดตา เล็กจนเหมือนแค่มดตัวจี๊ดเดียว

“ไปเถอะ คนอื่นมากันหมดแล้ว” พี่ปราบแตะไหล่ผมให้ออกเดิน

ผมห่อไหล่เดินแบบไม่รู้ตัวเพราะความเกร็ง แต่โดนพี่ปราบตีเข้าที่หลังให้ผมเดินอกผายไหล่ผึ่ง ผมยิ้มแหยะๆแล้วยืดอกขึ้น แต่พักเดียวไหล่มันก็ห่อตัวลงมาเอง จนมาถึงโต๊ะใหญ่ที่ทุกคนนั่งอยู่ ผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อนจะนั่งลงตรงที่ว่าง แล้วพี่ปราบก็นั่งที่ริมสุดข้างๆผม

“น้องซ่าอยากกินอะไรอะไร เหล้า เบียร์ หรือว่าจะเอาค็อกเทลดี” พี่ริชถามผม

“เหล้าครับ” ผมตอบ ถึงผมจะเป็นผู้ช่วยบาร์เทนเดอร์ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบกินค็อกเทลเท่าไหร่ ชอบกินเหล้าผสมโซดามากกว่า ไม่อย่างนั้นก็กินเบียร์ไปเลย

“วันนี้เต็มที่เลยนะซ่า เรียนจบแล้วก็เติบโตขึ้นอีกขั้น พ่อดีใจด้วย” พ่อทราฟเอ่ยกับผมเป็นคนแรก ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่ม ยังไม่ดึกมากพอสำหรับการเที่ยวกลางคืน ในผับนี้ก็เลยยังเปิดเพลงเสียงเบาไม่ดังจนพูดคุยกันไม่ได้

“ใช่ๆ ซ่าเก่งมากเลย” พี่เค้กยิ้มกว้างน่ารักให้ผม พี่ริชเองก็ยกนิ้วโป้งให้ผม ส่วนป๊าครามก็สื่อสารผ่านด้วยตาและรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก

อยู่ๆก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมา ดวงตามันร้อนผ่าวแล้วก็มีน้ำเอ่อคลอ แต่ผมรีบกระพริบตากลืนมันลงไป ไม่อยากร้องไห้ให้ต้องเสียบรรยากาศ

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนบอกว่าผมทำดีแล้วก็ยินดีที่ผมเรียนจบ ไม่มีใครเคยพูดกับผมแบบนี้มาก่อนเลย ไม่เคยเอ่ยชม ไม่เคยมองว่าสิ่งที่ผมทำมันดี และไม่เคยรับฟังสิ่งที่ผมต้องการ จนกระทั่งผมได้มาเจอพี่ปราบและครอบครัวของเขา มันทำให้ผมรับรู้รสชาติของคำว่าครอบครัวเป็นครั้งแรก มันดีมาก ดีเกินไป ดีจนผมกลัวว่านี่จะกลายเป็นยาพิษที่ทำให้ผมเสพติด และถ้าไม่มีมันผมจะต้องตาย

แต่มันดีจริงๆ...ที่เหมือนได้รับการยอมรับจากคนที่เรารัก

“ปิดเทอมแล้วใช่ไหม มีแพลนจะทำอะไรช่วงปิดเทอมหรือเปล่า” ป๊าถามผมบ้าง ผมรีบตั้งสติเพื่อตอบคำถามป๊าคราม

“ก็...ผม...คือผม”

มีอย่างหนึ่งที่ผมคิดจะทำ ความจริงก็ปรึกษาพี่ปราบแล้ว พี่ปราบก็เห็นด้วยและบอกว่าจะไปคุยกับพี่ริชให้ แต่ว่าผมโตแล้ว เรื่องนี้ผมควรจะต้องคุยกับพี่ริชเอง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ให้พี่ปราบทำให้อย่างเดียว ผมอยากคบกับพี่ปราบ แต่ไม่อยากเป็นภาระให้เขา อะไรช่วยตัวเองได้ผมก็ควรทำด้วยตัวเองก่อน

“พูดเลย” พี่ปราบกระซิบบอกข้างหู

“ช่วงปิดเทอมผมว่าง ก็เลยอยากจะไปทำงานที่อู่รถของพี่ริช ได้ไหมครับ” ผมถามอย่างกล้าๆกลัวๆ กลัวโดนปฏิเสธด้วย กลัวว่าผมจะไปเพิ่มภาระให้พี่ริชอีก ที่ผ่านมาผมมักทำให้ใครต่อใครเดือดร้อน ผมชอบพี่ปราบและครอบครัวของเขา อยากจะอยู่ด้วยไปนานๆ เลยไม่อยากทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ดีกับผม

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มาเลย พี่ว่าจะบอกซ่าอยู่พอดีว่าถ้าไม่ได้ไปสมัครงานที่ไหนก็มาทำกับพี่ก่อน” พี่ริชตอบโดยทันที กลายเป็นผมเองที่ตกใจตั้งตัวไม่ทัน

“ได้เหรอครับ” ผมถามย้ำ กลัวตัวเองจะหูฝาดฟังผิด

พี่ริชยิ้มขำ รวมทั้งคนอื่นๆด้วย สายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู ก็ทำให้ผมเขินขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ต้องยกมือเกาแก้มแก้เขิน

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ซ่าจบช่างยนต์มาไม่ใช่เหรอ มาทำกับพี่น่ะถูกแล้ว จะได้เป็นการฝึกงานไปในตัว” พี่ริชพูด

“ว่าแต่ซ่าจะเรียนต่อด้านอะไรล่ะ” พ่อทราฟถามในสิ่งที่ผมเองก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ ทั้งยังไม่กล้าพูดสิ่งที่ตัวเองคิด เพราะกลัวจะโดนดูถูกเหมือนที่พี่แนนเคยพูดเอาไว้ ว่าผมไม่สามารถทำได้ ทุกอย่างที่ผมอยากทำ พี่แนนมักพูดเสมอว่าคนอย่างผมมันจะไปทำอะไรได้ ทำไม่ได้หรอก เดี๋ยวผมก็ล้มเลิก ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จ

“ซ่าจบปวช. ใช่ไหม มันต้องต่อปวส. หรือเปล่า” พี่เค้กทำหน้าคิด

“มันต่อมหาวิทยาลัยได้นะ แต่เข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลชั้นนำคงไม่ได้ ถ้าอยากเรียนต่อปริญญาตรีจริงๆ พ่อแนะนำให้เรียนเอกชนดีกว่า” พ่อทราฟแสดงความคิดเห็น แล้วหลังจากนั้นทุกคนก็พูดคุยเรื่องเรียนต่อของผมอย่างเอาจริงเอาจัง ผมที่เป็นคนต้องเรียนกลับคิดตามไม่ทัน จนเมื่อป๊าหันมาถามว่าผมอยากเรียนต่อปวส. หรือว่ามหาวิทยาลัย ผมก็ตอบไม่ได้ เพราะผมกำลังงงว่าทำไมทุกคนถึงได้พูดเรื่องของผมเหมือนเป็นเรื่องของตัวเอง ทำไมต้องให้ความสำคัญขนาดนี้

“ว่ายังไง ป๊าถามอ่ะ”

“ผม...”

ผมไม่รู้ ผมอยากพูดคำนี้ แต่ว่าจริงๆแล้วผมรู้ว่าผมอยากเรียนต่ออะไร แต่ผมไม่รู้ว่าควรพูดออกไปดีไหม

“พูดออกมาเลยซ่า ว่าอยากเรียนต่ออะไร พ่อจะได้ช่วยดูที่เรียนให้”

ทั้งๆที่ผมก็เป็นแค่คนนอก แต่ทุกคนก็ยังยิ้มให้ผมแล้วบอกอย่างเต็มใจว่าจะช่วย

“ผมอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยครับ”

“ดีมากเลย เป็นความคิดที่ดี” พี่เค้กรีบเห็นด้วย

“จริงๆ ทีแรกพี่คิดว่าซ่าอยากเรียนต่อปวส.นะเนี่ย แต่พี่อยากให้เรียนต่อมหาวิทยาลัยมากกว่า เพราะมันดีกว่า จบไปก็มีงานทำได้มากกว่า” พี่ริชก็สนับสนุน ทำให้ผมยิ้มออก

“โตขึ้นแล้วนะ” ป๊าพูดกับผม

“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ป๊าคราม พ่อทราฟ พี่เค้ก และพี่ริช รู้สึกขอบคุณจากหัวใจที่ทุกคนดีกับผมขนาดนี้

“ยังไงก็ค่อยมาดูกันว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยไหน แต่จริงๆถ้าเรียนมหาวิทยาลัยของเพื่อนป๊า ก็เข้าได้เลย ป๊าจับยัดได้สบาย”

“อ่อ เพื่อนมึงที่เป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยนี้ติดหนี้บุญคุณมึงอยู่นิ” พ่อทราฟหันไปคุยกับป๊าคราม

“เออ ก่อนหน้านี้กูไม่ได้ต้องการอะไรจากมันเพราะกูมีทุกอย่างครบแล้ว มันก็มาร่ำๆอยากจะชดใช้กูเหลือเกิน คราวนี้คงสมใจมัน”

“ก็ดีนะเว้ย มหาวิทยาลัยนี้ดีถึงจะเป็นเอกชน อุปการณ์การเรียนแล้วสื่อการสอนครบครับสะดวกสบาย ถ้าเรียนที่นี่ก็ดีเลย โอเคไหมซ่า” พ่อทราฟหันมาถามผม

“กูว่าก็ดีนะ” พี่ปราบเองก็เห็นด้วย แต่ผมกลับไม่กล้าตอบ

“ทำไมเงียบล่ะ” พี่ปราบถาม ผมว่าผมต้องทำหน้าเครียดให้ทุกคนเห็นแล้วแน่ๆ

“คิดมากเหรอ ไม่อยากเรียนที่นี่เหรอซ่า” พี่ริชถามผม

“นั่นสิ พี่เค้กว่าที่นี่ก็ดีนะ” พี่เค้กพูด

ผมนั่งบีบมือด้วยความประหม่า มืออุ่นร้อนวางทับบนมือของผมแล้วบีบกำชับทับมือของผมที่เริ่มชื้นเหงื่อ

“เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่ปราบถามผม

“มีอะไรคิดอะไรก็พูดออกมาได้เลย ป๊าเคยพูดว่ายังไง จำได้ไหม” ป๊าถามผมเสียงเข้ม ไม่ใช่การดุ แต่เป็นน้ำเสียงทุ้มต่ำที่ทรงพลัง สามารถโน้มน้าวให้คนฟังทำตาม

ผมเรียบเรียงคำพูดอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็พูดได้แค่สองพยางค์สั้นๆ “มันแพง”

หลังจากที่ผมพูดสิ่งที่คิด ทุกคนก็นิ่งไป ก่อนจะถอนหายใจแล้วยิ้มออกมา ในขณะที่ผมเองกลับยิ้มไม่ออก

“โธ่ พี่ก็คิดว่าเรื่องอะไร” พี่ริชถอนหายใจ

“มึงจัดการ” ป๊าพูดกับพี่ปราบ ผมเงยหน้ามองเขาที่มองผมด้วยสายตาหวานเชื่อม ไม่เข้ากับอารมณ์ของผมเลยสักนิด

“เรื่องค่าเรียนมึงไม่ต้องกังวลเลย กูจัดการเอง”

ผมรีบส่ายหน้า ทำไมเขาต้องมาเสียค่าเล่าเรียนให้ผมด้วย มันควรต้องเป็นแม่หรือคนที่บ้านผมเป็นคนจ่าย ไม่ใช่พี่ปราบ

“ทำไม” พี่ปราบถาม

“ผมไม่อยากรบกวนพี่” ผมตอบ

“กูตีมึงได้ไหมซ่า ตีได้ไหมห๊ะ!” พี่ปราบกัดฟันพูด ดึงผมเข้าไปกอดแรงๆจนเจ็บ

“ซ่าครับ” พี่เค้กเรียกผม “ซ่ารักปราบไหม” พี่เค้กถาม

“ครับ” ผมพยักหน้า

“แล้วซ่ารังเกียจพวกเราไหม” พี่เค้กถามอีก

“ไม่ครับ ผมไม่รังเกียจ” ผมจะรังเกียจคนที่ดีกับผมได้ยังไง ผมทำไม่ได้หรอก

“ซ่าเป็นคนรักของปราบ ขอแค่ซ่าจริงใจกับปราบ ไม่เข้ามาเพื่อหลอกลวงลูกชายของพี่ ซ่าก็เหมือนเป็นลูกชายพวกพี่อีกคน อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่น หรือว่าซ่าไม่อยากเป็นครอบครัวเดียวกับพวกพี่”

ผมคิดตามก่อนจะตอบ “อยากครับ”

ผมอยากอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นของพี่ปราบ

“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าคิดว่าเป็นการรบกวน” พี่ริชพูดขึ้น “อย่าหาว่าพี่อวดรวยเลย ทุกวันนี้เงินที่พวกเราสี่คนหากันมาได้ ทุกปีก็นำไปทำบุญเป็นหลักล้าน ใช้จ่ายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องก็หลักล้าน ถ้าจะต้องจ่ายเงินแค่ปีล่ะไม่กี่แสนเพื่อการศึกษาของคนในครอบครัว มันจะหนักหนาอะไร เงินที่จะต้องเสียไปมันไม่สูญเปล่า ถ้าซ่าได้ความรู้แล้วสามารถช่วยพี่ทำงาน ช่วยปราบทำงานได้ มันดีเหรอ”

ทำไมจะไม่ดี ผมเองก็ดีใจถ้าจะได้เรียนโดยที่มีคนออกค่าเรียนให้ แต่ว่าผมไม่อยากเป็นภาระให้ใคร วันหนึ่งเกิดเขาไม่รักผมและเห็นผมเป็นภาระเหมือนคนที่บ้านผม ผมจะทำยังไงถ้ายังเรียนไม่จบแล้วต้องจ่ายค่าเทอมแสนแพง ผมคงไม่มีปัญญาเรียนต่อ

“มึงอย่าคิดมากสิ มึงรู้ไหม เด็กที่โรงฝึกหลายคนที่มีมีปัญหาเรื่องเงิน บ้านกูกูก็ส่งเสียให้เรียน ขอแค่ตั้งใจจะเรียนจริงๆ ตอนนี้มึงเป็นคนในครอบครัวกูแล้ว มันไม่ได้ลำบากอะไรเลย กูอยากให้มึงเรียนต่อนะซ่า เพื่ออนาคตของมึงเอง” พี่ปราบพูดเกลี้ยกล่อมผม

“เอาอย่างนี้ ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่บอกซะ ค่าเล่าเรียนป๊าออกเอง ปราบมันโตแล้วมีงานทำแล้ว ป๊าไม่ต้องดูแลอะไรมันอีก เรื่องเรียนของเราก็ถือว่าให้อยู่ในความดูแลของป๊ากับไอ้ทราฟมัน โอเคไหม”

“ไม่ต้องคิดมากหรอกซ่า ถ้าอยากเรียนก็ต้องได้เรียน แต่ก่อนพี่เค้กก็ได้พี่ทราฟส่งเสียให้เรียน ตอนนั้นพี่ก็ไม่มีเงินสักบาท จนตอนนี้พี่สามารถใช้ความรู้ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองได้ แต่ก่อนพี่ก็เคยรู้สึกเหมือนซ่า แต่ว่าโอกาสดีๆไม่ได้มีเข้ามาตลอด เราควรคว้าไว้แล้วทำให้ดีที่สุด เมื่อเรียนจบแล้วค่อยตอบแทนก็ยังไม่สาย”

“ถ้าซ่าไม่อยากรับเงินของปราบ ค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัย ก็ให้พ่อกับครามมันออกก็แล้วกันนะ โอเคไหม”

ทุกคนเงียบเพื่อรอคำตอบจากผม มันยากมากกับการตัดสินใจ แต่ผมไม่ควรทำให้ผู้ใหญ่ลำบากใจไปมากกว่านี้ พี่ปราบก็ตบมือบนหน้าขาให้ผมยอมรับน้ำใจจากครอบครัวของเขา ผมก็ได้แต่รับไว้ด้วยความกังวลเล็กน้อย

“ครับ”

“ดีแล้ว ไม่ต้องคิดมากนะซ่า พวกพี่เต็มใจทำให้” พี่ริชพูด

“ขอบคุณมากเลยครับ” ผมยกมือไหว้พวกป๊าๆอีกครั้ง ไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีไปมากกว่านี้

“เอาล่ะ เครียดกันพอแล้ว มาชนแก้ว” พี่ปราบยกแก้วขึ้นเป็นคนแรก ใช้ข้อศอกสะกิดแขนผมให้ยกแก้วขึ้นมาชนกับทุกคน ก่อนจะยกดื่มหมดแก้ว

บรรยากาศตึงเครียดหายไปพร้อมกับเหล้าที่ไหลลงท้อง เสียงเพลงก็ดังขึ้นกว่าเก่า จังหวะเพลงก็หนักหน่วงและสนุกขึ้น ผมมองบรรยากาศโดยรอบพลางจิบเหล้าต่อเนื่อง อยากใช้ความมึนเมากำจัดความละอายใจ

“คิดมากเหรอ” พี่ปราบโอบไหล่ให้ผมขยับเข้าไปชิด

“อืม” ผมไม่โกหก พี่ปราบไม่ชอบ และผมยังจำได้เสมอว่าพี่ปราบอยากให้ผมพูดแต่ความจริง

“แค่เป็นเด็กดีแล้วตั้งใจเรียนก็ถือว่าตอบแทนแล้ว มึงยังเด็ก ยังต้องเรียนรู้ให้มากกว่านี้ ถ้าไม่เรียนอนาคตข้างหน้าก็จะลำบาก อยากเป็นแบบนั้นเหรอ”

“ไม่อยาก”

“ถ้างั้นก็รับข้อเสนอของป๊าซะ เขารวยเป็นพันล้าน แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก มึงอย่าคิดมาก”

“ครับ” ผมจะพยายาม

“ดื่มซะ วันนี้กูอนุญาต กูแบกกลับเอง” พี่ปราบขยี้หัวผม

“ผมไม่เมาหรอกน่า”

“กูจะคอยดู”






ต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2018 00:44:55 โดย RiRi »

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
 :L2: สนุกมากค่ะ ไม่ค่อยเจอนิยายที่เป็นเด็กเทคนิคเลยค่ะ

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld

ผมบอกเลยว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ผับธรรมดา มันต่างจากที่อื่นยังไงน่ะเหรอ เพราะผับอื่นเขามากินมาดื่มแล้วก็เมา เต้นจนเหงื่อไหลไคลย้อย จากนั้นก็สีหญิงแล้วก็ลากกลับห้อง แม้ว่าผมจะไม่เคยลากผู้หญิงกลับบ้านนอกจากแฟนตัวเอง แต่โดยส่วนมากก็จะเป็นแบบนั้น เอาง่ายๆก็คือ ที่อื่นมาเพื่อสนุกสนานได้เพื่อนใหม่ ได้แฟนใหม่ หรืออาจจะได้กิ๊กเพิ่ม แต่ที่นี่คือจุดรวมนักธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ มากกว่าการมาหาความสุขสนุกแล้ว ก็เหมือนมาคุยงานหาลูกค้านอกสถานที่

อย่างตอนนี้ที่พี่ปราบถูกป๊าและพ่อลากไปคุยกับใครสักคนที่อายุเท่าๆกับป๊าคราม ก่อนจะย้ายไปคุยกับคนรุ่นเดียวกับพี่ปราบ พวกเขาบอกว่าออกไปคุยธุรกิจ แต่ผมว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะไม่ได้มีความคิดแค่งานอย่างเดียว ผมดูสายตาของเขาแล้วรู้สึกแปลกๆยังไงบอกไม่ถูก

“พี่ว่าคนนั้นต้องชอบปราบแน่ๆ” พี่ริชกระซิบบอกกับผม ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพี่เค้กกับพี่ริช ทั้งสองคนชวนผมคุยบ้างแล้วก็คุยกันเองบ้าง แต่ส่วนมากจะชวนผมคุยเรื่องพี่ปราบมากกว่า

“ไม่หรอกมั้งครับ”

“แต่พี่ว่าชอบ” พี่เค้กที่มักมองโลกในแง่ดีพูดขึ้น ผมมองตาม ก็เห็นผู้ชายหน้าติ๋มคนนั้นวางมือลงบนอกพี่ปราบ ดูจากระยะไกลยังรู้เลยว่า มีการลากมือลงน้ำหนักเลื้อยไปตามร่างกายกำยำของแฟนผม

ที่บอกว่าหน้าติ๋มน่ะ ผมหมายถึงหน้าละอ่อน ดูดี ปากนิดจมูกหน่อย ผิวก็ขาวเรืองแสง แถมยังใส่เสื้อเชิ้ตรัดรูปอีก

“พวกเขาเป็นผู้ชายด้วยกัน” ผมพยายามบอกตัวเองไม่ให้คิดมาก เพราะสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิด

“โธ่ ซ่า ดูสายตาเขาที่มองปราบสิ จะกินเข้าไปทั้งตัวแล้ว”

“พี่ปราบอาจจะชอบแบบนั้น” ผมพูดตามที่คิด ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นเกย์จริงๆล่ะก็ ก็เหมาะสมอยู่ เพราะเขาก็เหมือนกับคนที่ชื่อฟิล์มนั่นแหละ ดึงดูดสายตาแม้ในเพศเดียวกัน

“ปราบไม่ชอบหรอก เขาชอบแบบซ่าไง” พี่ริชหลิ่วตาล้อผม

“ผมไม่น่ามองแบบนั้นหรอก”

ผมรู้ว่าพี่ปราบเขาไม่ได้อะไรกับคนนั้น เพราะเขาขยับตัวออกห่างแล้วก็ดึงมือคนอื่นออกตลอด ป๊าครามกับพ่อทราฟไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เหลือพี่ปราบอยู่ตรงนั้นแค่คนเดียวกับใครหลายคนที่ผมไม่รู้จัก แต่พี่ปราบดูจะรู้จักดี

“ใครบอก แบบซ่านะน่ามองกว่าพวกนั้นอีก” พี่เค้กพูดให้ท้ายผมแบบที่ไม่น่าเชื่อถือ ผมก็เลยหัวเราะออกมา

“พี่เค้กอย่ามาหลอกผมเลย”

“ฮ่าๆๆ พี่ไม่ได้หลอกสักหน่อย”

“ผมแค่คนธรรมดาต่างหาก” ผมพูด

“แต่ปราบชอบซ่านะ อย่าคิดมาก พวกนั้นเพื่อนปราบทั้งนั้น ก็มีเกย์บ้าง ไบบ้าง พี่ก็พอรู้จัก พอจะเคยเห็นหน้าบ้าง แต่ไม่มีใครที่เป็นสเปคปราบหรอก”

“แล้ว...สเปคพี่ปราบเป็นแบบไหนเหรอครับ”

ผมอยากรู้ เพราะผมอยากจะเป็นแบบคนที่พี่ปราบชอบ ผมคิดว่าผมตอนนี้ไม่น่ามองและไม่น่าดึงดูดเหมือนคนพวกนั้น ผมไม่อยากให้พี่ปราบเบื่อผมเพราะผมไม่มีอะไรดี

“ที่ถามเนี่ย กังวลว่าตัวเองจะไม่ตรงสเปคปราบเหรอ” พี่เค้กถามตรงเกินไปจนผมทำหน้าไม่ถูก แต่ก็ต้องยอมรับว่าผมคิดแบบนั้นจริงๆ

“ครับ”

“เด็กน้อย” พี่เค้กลูบหัวผมเบาๆ

“ปราบเขาไม่ใช่คนมีสเปคสูงหรอก ใครถูกใจเขา เขาก็ชอบนั่นแหละ แต่เขาไม่ชอบคนที่ไม่จริงใจ ปราบน่ะดูคนเก่ง เขารู้ว่าใครเข้าหาเขายังไง โตมาจนป่านนี้ปราบมีแฟนไม่กี่คนหรอก แต่ก็ไม่ได้คบจริงจัง ที่เห็นจริงจังก็มีซ่าเนี่ยแหละ เพราะคนอื่นปราบไม่พามาให้ที่บ้านรู้จักด้วยซ้ำ” พี่ริชเล่า

ฟังแล้วผมก็สบายใจได้นิดหนึ่ง คิดๆดูแล้ว ทั้งคนที่ชื่อฟิล์ม ทั้งคนที่รุมล้อมพี่ปราบอยู่ตอนนี้ มีเหนือกว่าผมตั้งมากมาย ทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งการศึกษา อาชีพการงานก็น่าจะดี ทำยังไงผมถึงจะดีได้อย่างคนพวกนั้นบ้าง

“คิ้วขมวดอีกแล้ว” พี่เค้กจิ้มนิ้วที่หว่างคิ้วของผม กดนวดให้คลายออก

“เอางี้นะ ถ้าซ่าไม่สบายใจ พี่จะบอกเคล็ดลับวิธีมัดใจปราบให้”

“มัดใจ?” ผมทวนคำซ้ำ ไอ้ที่พี่ริชพูดเมื่อกี้ มันไม่ดูแต๋วแหววไปสักหน่อยเหรอ

“ใช่ มัดใจ หนึ่งเลยนะ ถ้าเราดูดี คนที่มองก็จะรู้สึกดี ซ่าเองเป็นคนที่หน้าตาดีนะ หล่อเลยละ เพียงแต่ว่าผมต้องตัดให้เข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ ไว้ว่างๆพี่พาไปตัด เสื้อผ้าก็ต้องซื้อใหม่ เสื้อผ้ากับรองเท้าต้องเลือกให้เข้ากับรูปร่าง จะทำให้เราดูดีขึ้น”

ฟังดูไม่ยาก แค่ตัดผมกับเลือกเสื้อผ้าใหม่ แต่ที่ยากก็คือ ผมไม่รู้ว่าแบบไหนถึงจะเรียกว่าเหมาะกับตัวเอง

“ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย” ผมสารภาพอย่างไม่อาย

พี่เค้กกับพี่ริชยิ้มให้กัน ก่อนจะพูดพร้อมกันเหมือนนัดกันเอาไว้ “ไม่ต้องห่วง พวกพี่จะจัดการให้เอง”

ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้ก็คงไม่ยากเท่าไหร่ เพราะพี่เค้กกับพี่ริชแต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า พี่เขาอาจจะช่วยให้ผมดูดีมากกว่านี้

“ข้อสอง มากกว่าการแต่งตัวแล้ว ซ่าต้องแสดงความรู้สึกเยอะๆรู้ไหม การแสดงความรู้สึกให้คนที่เรารักรู้ว่าเราชอบและรักเขาน่ะ จะทำให้เขาไปไหนไม่รอด”

เป็นคำแนะนำที่ยากกว่าข้อแรกเสียอีก

“ผมต้องทำยังไง” ผมถามด้วยความอยากรู้

“ไม่ยากเลย เริ่มจากอยู่กันสองคนก่อนก็ได้ ซ่ารู้สึกดีไหมเวลาที่ปราบกอดหรือจูบ” พี่ริชจู่โจมด้วยคำถาม

“ก็ดีครับ” ดีมากๆเลยแหละ

“นั่นแหละ ซ่าต้องแสดงออกแบบนั้นบ้าง ถ้าอยากกอดปราบ ก็เข้าไปกอดเลย ถ้าอยากจูบก็จูบเลย ถ้าปราบเป็นฝ่ายได้รับบ้าง เขาก็จะรู้สึกดี คนรับรับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องให้ด้วย”

“จริงๆนะ ตอนพี่คบกับพี่ทราฟใหม่ๆ พี่ก็ไม่กล้าหรอก แต่พอคิดว่าถ้ามีคนอื่นที่กล้าแสดงความรักต่อพี่ทราฟมากกว่าพี่ แล้วพี่ทราฟไปชอบเขา พี่คงทนไม่ได้ พี่ก็เลยต้องทำเป็นหน้าหนา จูบพี่ปราบก่อนบ้าง แล้วก็ได้ผล พี่ทราฟชอบใจและมีความสุขขึ้นจนพี่รับรู้ได้ ของแบบนี้มันต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ มันช่วยเติมเต็มความรักได้”

“ตอนทำพี่เค้กรู้สึกยังไง” เพราะด้อยประสบการณ์ความรักระหว่างผู้ชายด้วยกัน ผมต้องถามและเก็บข้อมูลให้มากที่สุด ตองขอบคุณเหล้าที่ทำให้ผมหน้าด้านขึ้น

“แรกๆก็เขินแหละ แต่ถ้าเราไม่หอมเขา ไม่กอด ไม่จูบเขาบ้าง แล้วเราจะยอมให้คนอื่นทำแบบนั้นเหรอ เพราะฉะนั้นถึงจะอายก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้พี่ทราฟรู้สึกดีพี่ก็ทำได้ นานๆไปเดี๋ยวก็ชินไปเอง”

“จริง ของแบบนี้หน้าด้านเข้าไว้ ยังไงปราบก็คนของเรา เราจะทำอะไรกับปราบก็ไม่ผิด จะรุกก่อนก็ไม่ผิดหรอก เรื่องธรรมชาติ ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนมีความเขินอายนั่นแหละ แต่เราไม่ใช่ผู้หญิงไง เรื่องปลดปล่อยความต้องการเป็นเรื่องปกติสุดๆ ว่าแต่...ซ่านอนกับปราบหรือยัง”

คำถามนี้ผมเคยโดนถามไปแล้ว และครั้งนี้คำตอบก็ยังเหมือนเดิม

“ยังครับ”

“เห้ย! ได้ไง” พี่ริชทำหน้าตกใจเหมือนครั้งก่อนไม่มีผิด อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

“ซ่ายังกลัวเหรอ” พี่เค้กถามด้วยความเป็นห่วง

ผมก็ยังกลัวอยู่นะ แต่ว่าก็ทำใจมาสักระยะ หาข้อมูลมาบ้างแล้ว แต่ว่าพี่ปราบเขาไม่เคยทำถึงขั้นนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง มากกว่าครึ่งผมก็โล่งอกที่รอดมาได้ทุกครั้งที่ถูกพี่ปราบจู่โจม แต่ก็แค่เสียน้ำด้วยมือเท่านั้น พี่ปราบไม่เคยทำมากกว่านี้ ผมถึงได้คิดไงว่าผมไม่มีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้พี่ปราบอยากนอนกับผม

อย่าเพิ่งคิดว่าผมอยากถูกกอดนะ แต่มันแปลกเกินไป ถ้าพี่ปราบรั้นจะเอาให้ได้ ผมก็คงไม่ขัดขืน แต่เขาไม่เริ่ม ผมจะหน้าด้านพูดได้ยังไงเล่า

แรกผมก็บอกตัวเองหรอกนะว่าผมไม่พร้อม จะยังไม่ยอมพี่ปราบ แต่นานวันเข้าผมก็เริ่มเกิดความสงสัย พวกไอ้หวายล้อผมบ่อยๆ วันไหนผมไปสายมันก็หาว่าผมโดนพี่ปราบจัดหนัก ผมด่ามันไปทุกครั้งพวกมันก็หาว่าผมเขิน แต่ความจริงคือพี่ปราบไม่ได้ทำอะไรผมเลย

จากที่คิดว่าเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง กลายเป็นผมคอยแต่คิดว่าพี่ปราบจะจูบผมไหม เขาจะกอดผมไหม แล้วตอนนอนเขาจะทำอะไรผมหรือเปล่า ซึ่งพี่ปราบก็ทำ แต่แค่จูบ ลูบคลำ แล้วก็ช่วยให้ตัวโล่งด้วยสองมือเขาและสองมือผมเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ผมไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน

“พี่ปราบเขาไม่ทำ” ไหนๆก็คุยมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมก็พูดออกไปเลยแล้วกัน

“ห๊ะ! อะไรนะ”

“ซ่าพูดใหม่อีกทีสิ”

ผมมองไปทางพี่ปราบ ที่หันมามองผมแล้วยิ้มหล่อให้ผมจากระยะใกล้ ข้างๆเขาก็ยังมีผู้ชายและผู้หญิงหน้าตาดีดูมีเสน่ห์แบบที่ถ้าลากขึ้นเตียงก็คงให้ความรู้สึกดีด้วยความเซ็กซี่และรูปร่างที่ดูเย้ายวนน่ามอง ผมนี่สิที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างเดียว ไม่แปลกที่พี่ปราบไม่อยากนอนด้วย

“พี่เขาคงไม่อยากทำแบบนั้นกับผม”

“ทำไมคิดแบบนั้น” พี่เค้กถาม ผมก้มหน้ามองมือตัวเองที่บีบกันเพราะความเครียด ผมต้องมาถึงจุดที่เครียดเรื่องแฟนไม่ยอมมีอะไรด้วยเนี่ยนะ แถมเป็นแฟนผู้ชายด้วย โคตรน่าขายหน้าเลยให้ตายเถอะ

“ไหนเล่ามาสิ ว่าปราบทำอะไรซ่าบ้าง ไม่ต้องอายนะ พวกพี่สองคนจะไม่บอกใครทั้งนั้น และพี่สองคนจะช่วยซ่าเอง” สีหน้าของพี่ริชตอนพูดจริงจังจนน่ากลัว

“ก็..หอมแก้ม กอด จูบ” ผมเอ่ยถึงการกระทำที่แสนจะธรรมดาก่อน

“แล้วอะไรอีก แค่นี้เหรอ”

“ไม่ต้องอายหรอกนะ พูดเลย”

ผมหายใจเข้าออกลึกหนึ่งทีก่อนจะพูด เป็นไงเป็นกัน ผมจะได้หายสงสัยสักที

“พี่ปราบแค่ช่วยผมปลดปล่อยด้วยมือครับ ผมเองก็ทำให้พี่ปราบ”

“แค่นี้?” พี่ริชเลิกคิ้วถามอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมเล่า

“ครับ”

พี่ปราบทำแค่นี้จริงๆ แล้วก็ไม่บ่อยด้วย จากที่กลัวก็กลายเป็นสงสัยและไม่เข้าใจ จนเผลอคิดไปว่าผมมันไม่น่าสนใจ แบบเห็นหน้าก็ทำไม่ลงแล้ว

“เห็นหน้าผมพี่ปราบก็คงหมดอารมณ์แล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆ” ผมแกล้งพูดติดตลก แต่ในใจกลับขำไม่ออก

ผมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง มองจับจ้องไปยังพี่ปราบที่ยังคงคุยอยู่กับเพื่อน ผู้ชายคนนั้นที่ดูมีเสน่ห์ เขากำลังกระซิบกระซาบอะไรกับพี่ปราบ และผู้หญิงที่ยืนข้างๆก็หน้าตาสวยหุ่นดี มองแล้วผมเองยังรู้สึกว่าน่ากอด แล้วผมมีดีอะไร ไม่แปลกที่พี่ปราบจะทำไม่ลง

“พี่ว่าซ่าคิดมากเกินไปแล้ว”

“ใช่ๆ พี่มองออกว่าปราบรักซ่านะ ที่เขาไม่ทำก็เพราะรอให้ซ่าเต็มใจต่างหาก”

“รอผม?”

“เรื่องแบบนี้ซ่าก็ต้องถามตัวเอง คนรักกับมันก็ต้องมีอารมณ์อยากนอนกับคนที่เรารักด้วยกันทั้งนั้นแหละ พี่ไม่เชื่อว่าปราบเขาจะไม่รู้สึกกับซ่า ถ้าไม่รู้สึกจริงๆแม้แต่กอดหรือหอมแก้มก็ยังไม่อยากทำเลย ซ่าว่าจริงไหม”

“อืม ลองคิดดูดีๆสิซ่า ว่าปราบเขาแสดงออกยังไง”

คิดเหรอ?

จะว่าไป ตอนนั้นที่พี่ปราบสอนผมหั่นแครอท ลูกชายของเขาก็แข็งขึ้นตอนที่กอดผม บางทีเวลาเขาจูบผมก็รุนแรงจนผมปากแตกก็มี และตอนที่เขาใช้มือทำให้ผมครั้งแรก เขาก็มีอารมณ์ร่วมด้วย เพียงแต่เขาไม่ทำอะไรต่อ แล้วคิดจะไปจัดการเอง ถ้าผมไม่หน้าด้านอยากตอบแทนที่เขาทำให้ผม ก็คงไม่เอ่ยปากอาสา หลังจากนั้นพี่ปราบก็ชอบมาหอมแก้มผมบ่อยๆ ถึงเนื้อถึงตัวตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่เคยพาผมไปจุดนั้น บ่อยครั้งเข้าผมก็เลยไม่รู้ว่าทำไม

ตอนผมคบกับพลอย ถ้าผมอยากผมก็ทำเลย ตอนที่ผมนอนกับพลอยครั้งแรกเธอก็ขัดขืนบ้าง แต่ผมก็ทู่ซี้เอาจนได้ นั่นเพราะผมต้องการมากจริงๆ แต่ทำไมพี่ปราบกลับตัดใจเลิกทำง่ายๆ บางทีผมไม่ขัดขืนด้วยซ้ำแต่เขาก็ไม่ทำ เป็นแบบนี้ผมควรคิดว่ายังไง

“ผมไม่รู้” ผมจนปัญญาจะคิดจริงๆ

“ซ่าแสดงอาการว่าไม่อยากให้พี่ปราบทำหรือเปล่า” พี่ริชถาม

“ก็...ครับ แต่บางครั้งผมไม่ได้อะไร เขาก็ไม่ทำ”

“ถ้าถามความคิดพี่นะ บางทีซ่าอาจจะต้องจู่โจมปราบบ้าง แสดงออกให้เขารู้ว่าว่าเราเองเต็มใจ”

ก็ไม่ถึงกับขนาดว่าเต็มใจ แต่ถ้าแฟนเราไม่คิดจะทำอะไรเราเลย มันก็ทำให้หมดความมั่นใจไปเหมือนกัน

นี่ผมมาถึงจุดที่อยากให้ผู้ชายด้วยกันทำเรื่องอย่างว่ากับผมเนี่ยนะ 

“อย่าอาย ถ้าซ่าเคยมีอะไรกับแฟนมาก่อน แล้วไม่รู้สึกว่าผู้หญิงที่ยอมให้ซ่ากอดเขาน่ารังเกียจ หรือซ่าคิดว่าผู้หญิงที่ยอมมีอะไรกับซ่าเขาทำตัวน่าอาย อย่างนั้นหรือเปล่า”

“เปล่าครับ” ผมตอบในทันที ตอนนั้นผมไม่เคยคิดว่าพลอยทำตัวน่าอาย เพราะทุกครั้งที่พลอยยอมมีอะไรกับผม ผมก็รู้สึกดีทุกครั้ง

“ปราบก็คงคิดเหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่กล้าที่จะเริ่ม เพราะกลัวซ่าจะไม่ชอบ ดังนั้นซ่าต้องแสดงให้ปราบรู้ว่าซ่าเต็มใจ” พี่เค้กลูบหัวผม และส่งรอยยิ้มมาเป็นแรงใจให้ผม

“ผมต้องทำยังไง” ผมถามอีกครั้ง

“ง่ายมากเลย” พี่ริชยกยิ้มมุมปาก “ลองแสดงความเจ้าของบ้าง ด้วยการเดินไปดึงปราบกลับมานั่งที่โต๊ะ ซ่ามีดีในตัวของซ่าที่ทำให้ปราบชอบได้ อย่ามองตัวเองต่ำต้อย”

พี่ริชมองไปทางพี่ปราบกับเพื่อนของเขา แล้วชี้นำให้ผมเดินไปเรียกพี่ปราบ

“ข้อสอง แสดงความรักก่อนบ้าง เข้าไปกอดจูบก่อนได้เลย แล้วพอถึงจุดนั้นแล้วปราบจะหยุด ซ่าต้องรุกให้ปราบล่าถอยไม่ได้ ถ้าซ่าแสดงออกว่าไม่รังเกียจ พี่เชื่อว่าปราบไปไหนไม่รอดหรอก เชื่อพี่ พี่ทำมาหมดแล้ว”

ผมมองพี่ริชตาโต พี่เค้กก็หัวเราะใส่พี่ริชที่ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ จนผมเองยังหลุดขำออกมาเลย

“พี่ไม่อยากจะโอ้อวดลูกตัวเองหรอกนะ แต่อย่างปราบเนี่ย อย่าปล่อยให้หลุดมือเป็นอันขาด  พี่เอาใจช่วยเต็มที่”

“สู้ๆนะน้องซ่า” พี่เค้กชูกำปั้นให้ผม

เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน ชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แค่เสียตัวผมคงไม่ตาย แต่ผมจะไม่ยอมปล่อยให้พี่ปราบออกไปจากชีวิตผม ทำให้ผมรักแล้ว ก็ต้องอยู่กับผมไปชั่วชีวิต







........................................................
สวัสดีค่ะ มาแล้วๆๆ ตอนนี้ยาวมากๆๆๆ มากกว่าทุกตอน สิ่งที่ทุกคนรอคอยและลอยคออยู่นั้น หึหึ ตอนหน้าไม่รอดแน่ ฮ่าๆๆๆๆ :laugh:
เอาเป็นว่า สำรองเลือดไว้ให้พอก็แล้วกัน ไม่งั้นจะหาว่าเราไม่เตือน :z1:
เจอกันตอนหน้านะคะ
บายยย :bye2:



ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
รอตอนหน้า  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เอาละเว้ยยยยยน น้องซ่าจะรุกพี่ปราบแล้ว

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
พี่ปราบนี่แบ็คดีสุดๆ ทั้งพี่เค้ก พี่ริช 5555

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
โห่มีตอนใหม่มาด้วย ดีใจจัง

ยังค้างอยู่อ่ะค่ะ รีบมาต่อด่วนเลยนะค่ะ :z3:

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
น้องซ่าน่าร้ากกกก เตรียมลุยค่ะลูก
มีแม่เค้ก แม่ริชช่วยซะอย่าง 5555

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
โดนพวกแม่ๆยุ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ได้ครูดี

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
กูรูมาเอง พี่ปราบหนีไม่พ้นแน่  :impress2: :impress2:
อยากอ่านต่อแล้วววววว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รอ.....ซ่ารุกพี่ปราบ  :ling1: :ling1: :ling1:

พี่เค้ก พี่ริช เป็นที่ปรึกษาสุดยอดดดด  :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอ ๆ ตอนหน้าซ่าจะอ่อยพี่ปราบแย้ววววววววววว  :-[

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โอ๊ยยย อยากจะวาร์ปไปตอนหน้าเลยได้ไหมคะ  :impress2:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
รอตอนหน้าอย่างใจจดจ่ออออ ฮิ้ววววว :hao6: :z2: :impress2:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
พี่ปราบไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ทีมงานพี่ปราบนี่ดีสุดๆ ช่วยกระตุ้นน้อง
ซ่าจะจัดการพี่ปราบหรือพี่ปราบจะจัดการซ่า
อยากให้ตอนต่อไปเร็วๆแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด