ผมบอกเลยว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ผับธรรมดา มันต่างจากที่อื่นยังไงน่ะเหรอ เพราะผับอื่นเขามากินมาดื่มแล้วก็เมา เต้นจนเหงื่อไหลไคลย้อย จากนั้นก็สีหญิงแล้วก็ลากกลับห้อง แม้ว่าผมจะไม่เคยลากผู้หญิงกลับบ้านนอกจากแฟนตัวเอง แต่โดยส่วนมากก็จะเป็นแบบนั้น เอาง่ายๆก็คือ ที่อื่นมาเพื่อสนุกสนานได้เพื่อนใหม่ ได้แฟนใหม่ หรืออาจจะได้กิ๊กเพิ่ม แต่ที่นี่คือจุดรวมนักธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ มากกว่าการมาหาความสุขสนุกแล้ว ก็เหมือนมาคุยงานหาลูกค้านอกสถานที่
อย่างตอนนี้ที่พี่ปราบถูกป๊าและพ่อลากไปคุยกับใครสักคนที่อายุเท่าๆกับป๊าคราม ก่อนจะย้ายไปคุยกับคนรุ่นเดียวกับพี่ปราบ พวกเขาบอกว่าออกไปคุยธุรกิจ แต่ผมว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะไม่ได้มีความคิดแค่งานอย่างเดียว ผมดูสายตาของเขาแล้วรู้สึกแปลกๆยังไงบอกไม่ถูก
“พี่ว่าคนนั้นต้องชอบปราบแน่ๆ” พี่ริชกระซิบบอกกับผม ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพี่เค้กกับพี่ริช ทั้งสองคนชวนผมคุยบ้างแล้วก็คุยกันเองบ้าง แต่ส่วนมากจะชวนผมคุยเรื่องพี่ปราบมากกว่า
“ไม่หรอกมั้งครับ”
“แต่พี่ว่าชอบ” พี่เค้กที่มักมองโลกในแง่ดีพูดขึ้น ผมมองตาม ก็เห็นผู้ชายหน้าติ๋มคนนั้นวางมือลงบนอกพี่ปราบ ดูจากระยะไกลยังรู้เลยว่า มีการลากมือลงน้ำหนักเลื้อยไปตามร่างกายกำยำของแฟนผม
ที่บอกว่าหน้าติ๋มน่ะ ผมหมายถึงหน้าละอ่อน ดูดี ปากนิดจมูกหน่อย ผิวก็ขาวเรืองแสง แถมยังใส่เสื้อเชิ้ตรัดรูปอีก
“พวกเขาเป็นผู้ชายด้วยกัน” ผมพยายามบอกตัวเองไม่ให้คิดมาก เพราะสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิด
“โธ่ ซ่า ดูสายตาเขาที่มองปราบสิ จะกินเข้าไปทั้งตัวแล้ว”
“พี่ปราบอาจจะชอบแบบนั้น” ผมพูดตามที่คิด ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นเกย์จริงๆล่ะก็ ก็เหมาะสมอยู่ เพราะเขาก็เหมือนกับคนที่ชื่อฟิล์มนั่นแหละ ดึงดูดสายตาแม้ในเพศเดียวกัน
“ปราบไม่ชอบหรอก เขาชอบแบบซ่าไง” พี่ริชหลิ่วตาล้อผม
“ผมไม่น่ามองแบบนั้นหรอก”
ผมรู้ว่าพี่ปราบเขาไม่ได้อะไรกับคนนั้น เพราะเขาขยับตัวออกห่างแล้วก็ดึงมือคนอื่นออกตลอด ป๊าครามกับพ่อทราฟไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เหลือพี่ปราบอยู่ตรงนั้นแค่คนเดียวกับใครหลายคนที่ผมไม่รู้จัก แต่พี่ปราบดูจะรู้จักดี
“ใครบอก แบบซ่านะน่ามองกว่าพวกนั้นอีก” พี่เค้กพูดให้ท้ายผมแบบที่ไม่น่าเชื่อถือ ผมก็เลยหัวเราะออกมา
“พี่เค้กอย่ามาหลอกผมเลย”
“ฮ่าๆๆ พี่ไม่ได้หลอกสักหน่อย”
“ผมแค่คนธรรมดาต่างหาก” ผมพูด
“แต่ปราบชอบซ่านะ อย่าคิดมาก พวกนั้นเพื่อนปราบทั้งนั้น ก็มีเกย์บ้าง ไบบ้าง พี่ก็พอรู้จัก พอจะเคยเห็นหน้าบ้าง แต่ไม่มีใครที่เป็นสเปคปราบหรอก”
“แล้ว...สเปคพี่ปราบเป็นแบบไหนเหรอครับ”
ผมอยากรู้ เพราะผมอยากจะเป็นแบบคนที่พี่ปราบชอบ ผมคิดว่าผมตอนนี้ไม่น่ามองและไม่น่าดึงดูดเหมือนคนพวกนั้น ผมไม่อยากให้พี่ปราบเบื่อผมเพราะผมไม่มีอะไรดี
“ที่ถามเนี่ย กังวลว่าตัวเองจะไม่ตรงสเปคปราบเหรอ” พี่เค้กถามตรงเกินไปจนผมทำหน้าไม่ถูก แต่ก็ต้องยอมรับว่าผมคิดแบบนั้นจริงๆ
“ครับ”
“เด็กน้อย” พี่เค้กลูบหัวผมเบาๆ
“ปราบเขาไม่ใช่คนมีสเปคสูงหรอก ใครถูกใจเขา เขาก็ชอบนั่นแหละ แต่เขาไม่ชอบคนที่ไม่จริงใจ ปราบน่ะดูคนเก่ง เขารู้ว่าใครเข้าหาเขายังไง โตมาจนป่านนี้ปราบมีแฟนไม่กี่คนหรอก แต่ก็ไม่ได้คบจริงจัง ที่เห็นจริงจังก็มีซ่าเนี่ยแหละ เพราะคนอื่นปราบไม่พามาให้ที่บ้านรู้จักด้วยซ้ำ” พี่ริชเล่า
ฟังแล้วผมก็สบายใจได้นิดหนึ่ง คิดๆดูแล้ว ทั้งคนที่ชื่อฟิล์ม ทั้งคนที่รุมล้อมพี่ปราบอยู่ตอนนี้ มีเหนือกว่าผมตั้งมากมาย ทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งการศึกษา อาชีพการงานก็น่าจะดี ทำยังไงผมถึงจะดีได้อย่างคนพวกนั้นบ้าง
“คิ้วขมวดอีกแล้ว” พี่เค้กจิ้มนิ้วที่หว่างคิ้วของผม กดนวดให้คลายออก
“เอางี้นะ ถ้าซ่าไม่สบายใจ พี่จะบอกเคล็ดลับวิธีมัดใจปราบให้”
“มัดใจ?” ผมทวนคำซ้ำ ไอ้ที่พี่ริชพูดเมื่อกี้ มันไม่ดูแต๋วแหววไปสักหน่อยเหรอ
“ใช่ มัดใจ หนึ่งเลยนะ ถ้าเราดูดี คนที่มองก็จะรู้สึกดี ซ่าเองเป็นคนที่หน้าตาดีนะ หล่อเลยละ เพียงแต่ว่าผมต้องตัดให้เข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ ไว้ว่างๆพี่พาไปตัด เสื้อผ้าก็ต้องซื้อใหม่ เสื้อผ้ากับรองเท้าต้องเลือกให้เข้ากับรูปร่าง จะทำให้เราดูดีขึ้น”
ฟังดูไม่ยาก แค่ตัดผมกับเลือกเสื้อผ้าใหม่ แต่ที่ยากก็คือ ผมไม่รู้ว่าแบบไหนถึงจะเรียกว่าเหมาะกับตัวเอง
“ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย” ผมสารภาพอย่างไม่อาย
พี่เค้กกับพี่ริชยิ้มให้กัน ก่อนจะพูดพร้อมกันเหมือนนัดกันเอาไว้ “ไม่ต้องห่วง พวกพี่จะจัดการให้เอง”
ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้ก็คงไม่ยากเท่าไหร่ เพราะพี่เค้กกับพี่ริชแต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า พี่เขาอาจจะช่วยให้ผมดูดีมากกว่านี้
“ข้อสอง มากกว่าการแต่งตัวแล้ว ซ่าต้องแสดงความรู้สึกเยอะๆรู้ไหม การแสดงความรู้สึกให้คนที่เรารักรู้ว่าเราชอบและรักเขาน่ะ จะทำให้เขาไปไหนไม่รอด”
เป็นคำแนะนำที่ยากกว่าข้อแรกเสียอีก
“ผมต้องทำยังไง” ผมถามด้วยความอยากรู้
“ไม่ยากเลย เริ่มจากอยู่กันสองคนก่อนก็ได้ ซ่ารู้สึกดีไหมเวลาที่ปราบกอดหรือจูบ” พี่ริชจู่โจมด้วยคำถาม
“ก็ดีครับ” ดีมากๆเลยแหละ
“นั่นแหละ ซ่าต้องแสดงออกแบบนั้นบ้าง ถ้าอยากกอดปราบ ก็เข้าไปกอดเลย ถ้าอยากจูบก็จูบเลย ถ้าปราบเป็นฝ่ายได้รับบ้าง เขาก็จะรู้สึกดี คนรับรับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องให้ด้วย”
“จริงๆนะ ตอนพี่คบกับพี่ทราฟใหม่ๆ พี่ก็ไม่กล้าหรอก แต่พอคิดว่าถ้ามีคนอื่นที่กล้าแสดงความรักต่อพี่ทราฟมากกว่าพี่ แล้วพี่ทราฟไปชอบเขา พี่คงทนไม่ได้ พี่ก็เลยต้องทำเป็นหน้าหนา จูบพี่ปราบก่อนบ้าง แล้วก็ได้ผล พี่ทราฟชอบใจและมีความสุขขึ้นจนพี่รับรู้ได้ ของแบบนี้มันต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ มันช่วยเติมเต็มความรักได้”
“ตอนทำพี่เค้กรู้สึกยังไง” เพราะด้อยประสบการณ์ความรักระหว่างผู้ชายด้วยกัน ผมต้องถามและเก็บข้อมูลให้มากที่สุด ตองขอบคุณเหล้าที่ทำให้ผมหน้าด้านขึ้น
“แรกๆก็เขินแหละ แต่ถ้าเราไม่หอมเขา ไม่กอด ไม่จูบเขาบ้าง แล้วเราจะยอมให้คนอื่นทำแบบนั้นเหรอ เพราะฉะนั้นถึงจะอายก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้พี่ทราฟรู้สึกดีพี่ก็ทำได้ นานๆไปเดี๋ยวก็ชินไปเอง”
“จริง ของแบบนี้หน้าด้านเข้าไว้ ยังไงปราบก็คนของเรา เราจะทำอะไรกับปราบก็ไม่ผิด จะรุกก่อนก็ไม่ผิดหรอก เรื่องธรรมชาติ ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนมีความเขินอายนั่นแหละ แต่เราไม่ใช่ผู้หญิงไง เรื่องปลดปล่อยความต้องการเป็นเรื่องปกติสุดๆ ว่าแต่...ซ่านอนกับปราบหรือยัง”
คำถามนี้ผมเคยโดนถามไปแล้ว และครั้งนี้คำตอบก็ยังเหมือนเดิม
“ยังครับ”
“เห้ย! ได้ไง” พี่ริชทำหน้าตกใจเหมือนครั้งก่อนไม่มีผิด อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
“ซ่ายังกลัวเหรอ” พี่เค้กถามด้วยความเป็นห่วง
ผมก็ยังกลัวอยู่นะ แต่ว่าก็ทำใจมาสักระยะ หาข้อมูลมาบ้างแล้ว แต่ว่าพี่ปราบเขาไม่เคยทำถึงขั้นนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง มากกว่าครึ่งผมก็โล่งอกที่รอดมาได้ทุกครั้งที่ถูกพี่ปราบจู่โจม แต่ก็แค่เสียน้ำด้วยมือเท่านั้น พี่ปราบไม่เคยทำมากกว่านี้ ผมถึงได้คิดไงว่าผมไม่มีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้พี่ปราบอยากนอนกับผม
อย่าเพิ่งคิดว่าผมอยากถูกกอดนะ แต่มันแปลกเกินไป ถ้าพี่ปราบรั้นจะเอาให้ได้ ผมก็คงไม่ขัดขืน แต่เขาไม่เริ่ม ผมจะหน้าด้านพูดได้ยังไงเล่า
แรกผมก็บอกตัวเองหรอกนะว่าผมไม่พร้อม จะยังไม่ยอมพี่ปราบ แต่นานวันเข้าผมก็เริ่มเกิดความสงสัย พวกไอ้หวายล้อผมบ่อยๆ วันไหนผมไปสายมันก็หาว่าผมโดนพี่ปราบจัดหนัก ผมด่ามันไปทุกครั้งพวกมันก็หาว่าผมเขิน แต่ความจริงคือพี่ปราบไม่ได้ทำอะไรผมเลย
จากที่คิดว่าเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง กลายเป็นผมคอยแต่คิดว่าพี่ปราบจะจูบผมไหม เขาจะกอดผมไหม แล้วตอนนอนเขาจะทำอะไรผมหรือเปล่า ซึ่งพี่ปราบก็ทำ แต่แค่จูบ ลูบคลำ แล้วก็ช่วยให้ตัวโล่งด้วยสองมือเขาและสองมือผมเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ผมไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
“พี่ปราบเขาไม่ทำ” ไหนๆก็คุยมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมก็พูดออกไปเลยแล้วกัน
“ห๊ะ! อะไรนะ”
“ซ่าพูดใหม่อีกทีสิ”
ผมมองไปทางพี่ปราบ ที่หันมามองผมแล้วยิ้มหล่อให้ผมจากระยะใกล้ ข้างๆเขาก็ยังมีผู้ชายและผู้หญิงหน้าตาดีดูมีเสน่ห์แบบที่ถ้าลากขึ้นเตียงก็คงให้ความรู้สึกดีด้วยความเซ็กซี่และรูปร่างที่ดูเย้ายวนน่ามอง ผมนี่สิที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างเดียว ไม่แปลกที่พี่ปราบไม่อยากนอนด้วย
“พี่เขาคงไม่อยากทำแบบนั้นกับผม”
“ทำไมคิดแบบนั้น” พี่เค้กถาม ผมก้มหน้ามองมือตัวเองที่บีบกันเพราะความเครียด ผมต้องมาถึงจุดที่เครียดเรื่องแฟนไม่ยอมมีอะไรด้วยเนี่ยนะ แถมเป็นแฟนผู้ชายด้วย โคตรน่าขายหน้าเลยให้ตายเถอะ
“ไหนเล่ามาสิ ว่าปราบทำอะไรซ่าบ้าง ไม่ต้องอายนะ พวกพี่สองคนจะไม่บอกใครทั้งนั้น และพี่สองคนจะช่วยซ่าเอง” สีหน้าของพี่ริชตอนพูดจริงจังจนน่ากลัว
“ก็..หอมแก้ม กอด จูบ” ผมเอ่ยถึงการกระทำที่แสนจะธรรมดาก่อน
“แล้วอะไรอีก แค่นี้เหรอ”
“ไม่ต้องอายหรอกนะ พูดเลย”
ผมหายใจเข้าออกลึกหนึ่งทีก่อนจะพูด เป็นไงเป็นกัน ผมจะได้หายสงสัยสักที
“พี่ปราบแค่ช่วยผมปลดปล่อยด้วยมือครับ ผมเองก็ทำให้พี่ปราบ”
“แค่นี้?” พี่ริชเลิกคิ้วถามอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมเล่า
“ครับ”
พี่ปราบทำแค่นี้จริงๆ แล้วก็ไม่บ่อยด้วย จากที่กลัวก็กลายเป็นสงสัยและไม่เข้าใจ จนเผลอคิดไปว่าผมมันไม่น่าสนใจ แบบเห็นหน้าก็ทำไม่ลงแล้ว
“เห็นหน้าผมพี่ปราบก็คงหมดอารมณ์แล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆ” ผมแกล้งพูดติดตลก แต่ในใจกลับขำไม่ออก
ผมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง มองจับจ้องไปยังพี่ปราบที่ยังคงคุยอยู่กับเพื่อน ผู้ชายคนนั้นที่ดูมีเสน่ห์ เขากำลังกระซิบกระซาบอะไรกับพี่ปราบ และผู้หญิงที่ยืนข้างๆก็หน้าตาสวยหุ่นดี มองแล้วผมเองยังรู้สึกว่าน่ากอด แล้วผมมีดีอะไร ไม่แปลกที่พี่ปราบจะทำไม่ลง
“พี่ว่าซ่าคิดมากเกินไปแล้ว”
“ใช่ๆ พี่มองออกว่าปราบรักซ่านะ ที่เขาไม่ทำก็เพราะรอให้ซ่าเต็มใจต่างหาก”
“รอผม?”
“เรื่องแบบนี้ซ่าก็ต้องถามตัวเอง คนรักกับมันก็ต้องมีอารมณ์อยากนอนกับคนที่เรารักด้วยกันทั้งนั้นแหละ พี่ไม่เชื่อว่าปราบเขาจะไม่รู้สึกกับซ่า ถ้าไม่รู้สึกจริงๆแม้แต่กอดหรือหอมแก้มก็ยังไม่อยากทำเลย ซ่าว่าจริงไหม”
“อืม ลองคิดดูดีๆสิซ่า ว่าปราบเขาแสดงออกยังไง”
คิดเหรอ?
จะว่าไป ตอนนั้นที่พี่ปราบสอนผมหั่นแครอท ลูกชายของเขาก็แข็งขึ้นตอนที่กอดผม บางทีเวลาเขาจูบผมก็รุนแรงจนผมปากแตกก็มี และตอนที่เขาใช้มือทำให้ผมครั้งแรก เขาก็มีอารมณ์ร่วมด้วย เพียงแต่เขาไม่ทำอะไรต่อ แล้วคิดจะไปจัดการเอง ถ้าผมไม่หน้าด้านอยากตอบแทนที่เขาทำให้ผม ก็คงไม่เอ่ยปากอาสา หลังจากนั้นพี่ปราบก็ชอบมาหอมแก้มผมบ่อยๆ ถึงเนื้อถึงตัวตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่เคยพาผมไปจุดนั้น บ่อยครั้งเข้าผมก็เลยไม่รู้ว่าทำไม
ตอนผมคบกับพลอย ถ้าผมอยากผมก็ทำเลย ตอนที่ผมนอนกับพลอยครั้งแรกเธอก็ขัดขืนบ้าง แต่ผมก็ทู่ซี้เอาจนได้ นั่นเพราะผมต้องการมากจริงๆ แต่ทำไมพี่ปราบกลับตัดใจเลิกทำง่ายๆ บางทีผมไม่ขัดขืนด้วยซ้ำแต่เขาก็ไม่ทำ เป็นแบบนี้ผมควรคิดว่ายังไง
“ผมไม่รู้” ผมจนปัญญาจะคิดจริงๆ
“ซ่าแสดงอาการว่าไม่อยากให้พี่ปราบทำหรือเปล่า” พี่ริชถาม
“ก็...ครับ แต่บางครั้งผมไม่ได้อะไร เขาก็ไม่ทำ”
“ถ้าถามความคิดพี่นะ บางทีซ่าอาจจะต้องจู่โจมปราบบ้าง แสดงออกให้เขารู้ว่าว่าเราเองเต็มใจ”
ก็ไม่ถึงกับขนาดว่าเต็มใจ แต่ถ้าแฟนเราไม่คิดจะทำอะไรเราเลย มันก็ทำให้หมดความมั่นใจไปเหมือนกัน
นี่ผมมาถึงจุดที่อยากให้ผู้ชายด้วยกันทำเรื่องอย่างว่ากับผมเนี่ยนะ
“อย่าอาย ถ้าซ่าเคยมีอะไรกับแฟนมาก่อน แล้วไม่รู้สึกว่าผู้หญิงที่ยอมให้ซ่ากอดเขาน่ารังเกียจ หรือซ่าคิดว่าผู้หญิงที่ยอมมีอะไรกับซ่าเขาทำตัวน่าอาย อย่างนั้นหรือเปล่า”
“เปล่าครับ” ผมตอบในทันที ตอนนั้นผมไม่เคยคิดว่าพลอยทำตัวน่าอาย เพราะทุกครั้งที่พลอยยอมมีอะไรกับผม ผมก็รู้สึกดีทุกครั้ง
“ปราบก็คงคิดเหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่กล้าที่จะเริ่ม เพราะกลัวซ่าจะไม่ชอบ ดังนั้นซ่าต้องแสดงให้ปราบรู้ว่าซ่าเต็มใจ” พี่เค้กลูบหัวผม และส่งรอยยิ้มมาเป็นแรงใจให้ผม
“ผมต้องทำยังไง” ผมถามอีกครั้ง
“ง่ายมากเลย” พี่ริชยกยิ้มมุมปาก “ลองแสดงความเจ้าของบ้าง ด้วยการเดินไปดึงปราบกลับมานั่งที่โต๊ะ ซ่ามีดีในตัวของซ่าที่ทำให้ปราบชอบได้ อย่ามองตัวเองต่ำต้อย”
พี่ริชมองไปทางพี่ปราบกับเพื่อนของเขา แล้วชี้นำให้ผมเดินไปเรียกพี่ปราบ
“ข้อสอง แสดงความรักก่อนบ้าง เข้าไปกอดจูบก่อนได้เลย แล้วพอถึงจุดนั้นแล้วปราบจะหยุด ซ่าต้องรุกให้ปราบล่าถอยไม่ได้ ถ้าซ่าแสดงออกว่าไม่รังเกียจ พี่เชื่อว่าปราบไปไหนไม่รอดหรอก เชื่อพี่ พี่ทำมาหมดแล้ว”
ผมมองพี่ริชตาโต พี่เค้กก็หัวเราะใส่พี่ริชที่ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ จนผมเองยังหลุดขำออกมาเลย
“พี่ไม่อยากจะโอ้อวดลูกตัวเองหรอกนะ แต่อย่างปราบเนี่ย อย่าปล่อยให้หลุดมือเป็นอันขาด พี่เอาใจช่วยเต็มที่”
“สู้ๆนะน้องซ่า” พี่เค้กชูกำปั้นให้ผม
เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน ชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แค่เสียตัวผมคงไม่ตาย แต่ผมจะไม่ยอมปล่อยให้พี่ปราบออกไปจากชีวิตผม ทำให้ผมรักแล้ว ก็ต้องอยู่กับผมไปชั่วชีวิต
........................................................
สวัสดีค่ะ มาแล้วๆๆ ตอนนี้ยาวมากๆๆๆ มากกว่าทุกตอน สิ่งที่ทุกคนรอคอยและลอยคออยู่นั้น หึหึ ตอนหน้าไม่รอดแน่ ฮ่าๆๆๆๆ 
เอาเป็นว่า สำรองเลือดไว้ให้พอก็แล้วกัน ไม่งั้นจะหาว่าเราไม่เตือน 
เจอกันตอนหน้านะคะ
บายยย 