NIGHTMARE GAME { เกมกระตุกขวัญ } ::*แจ้งเรื่องการเปิดจองหนังสือ (07/08/60) P.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: NIGHTMARE GAME { เกมกระตุกขวัญ } ::*แจ้งเรื่องการเปิดจองหนังสือ (07/08/60) P.14  (อ่าน 170636 ครั้ง)

ออฟไลน์ P-Rawit

  • The beginner of writing world
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.เรื่องสั้นให้จั่วคนว่าเรื่องสั้นด้วยนะครับ และนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


Nightmare Game

**** โปรดใช้วิจารณญาณขณะอ่าน ****

-  ตัวละครและสถานที่เป็นสิ่งที่เกิดจากจินตนาการผู้แต่งไม่เกี่ยวกับสถานที่จริงแต่อย่างใด -




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2017 10:49:21 โดย P-Rawit »

ออฟไลน์ P-Rawit

  • The beginner of writing world
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
บทนำ


"Horror house กลับมาแล้ว พบกับเกมส์โชว์ที่เป็นกระแสโด่งดังจากความน่ากลัวและความสยองขวัญ ขอเชิญเหล่าผู้กล้าที่ชอบความท้าทายและความตื่นเต้นเข้าร่วมแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัลกว่า 400,000บาท เท่านั้นยังไม่พอปีนี้เกมส์ของเรายังได้เพิ่มของขวัญเล็กๆน้อยๆให้แก่ผู้ที่สามารถอยู่จนจบได้ หากท่านแน่จริงก็สมัครเข้ามาร่วมกันเยอะๆ แล้วเราจะรอ…."

"400,000 บาทเลยหรอ? กูจะรวยแล้วงั้นดิ ? น่าสนใจดี…"

คำเปรยของโฆษณาบนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง  ได้หลอกล่อให้ผมติดกับดักเข้าอย่างจัง จากเงินจำนวนมากมายนั่นและรูปแบบเกมส์ที่ค่อนข้างแปลกเกินไปสำหรับผม ทำให้ผมติดอยู่กับหน้าเว็บนี้มาได้ร่วมชั่วโมงเพียงเพื่อต้องการอ่านข้อมูลให้ชัดเจนและแน่ใจว่าไม่ได้อ่านผิดพลาด


หากจะพูดถึงตัวเกมส์ คนทั่วๆไปเช่นผมก็รู้แค่ว่าเป็นเกมส์ที่ดังมากเกมส์หนึ่ง เป็นกระแสอยู่ในโลกของ internet  มียอดรับชมและยอดสมัครค่อนข้างสูงทุกปี แต่ถ้าจะให้บอกถึงข้อมูลเชิงลึกของเกมส์ ผมก็ไม่สามารถบอกได้ อาจเพราะในปีก่อนๆผมไม่ได้สนใจมันเท่าไรนัก หรืออาจเพราะผมไม่ได้ต้องการเงินมากมายเท่าปีนี้


ผม นาย ภวัต สุขุมชัยการ หรือ เรียกผมสั้นๆว่า  "มิว"  ตอนนี้ผมเป็นนักศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน กทม นี่แหละครับ ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของผม ผมจึงอยากหารายได้เสริมไปแสวงหาความสุขให้กับตัวเอง งานอดิเรกของผมคือการออกไปเล่นเกมส์โชว์ต่างๆเพื่อชิงของรางวัลที่น่าสนใจของแต่ละรายการครับ ได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่ดวงและความสามารถผมจะพาไป แรงจูงใจที่ทำให้ผมหันมาเล่นพวกนี้คือ เมื่อตอนผมปี 1 จำได้ว่าช่วงนั้นผมว่างมาก การเรียนยังไม่ค่อยหนักเท่าไร ผมจึง อยากหาอะไรทำแก้เบื่อไปจนไปเจอประกาศรับคนเข้าแข่งขันของรายการทีวีรายการหนึ่ง ด้วยมูลค่าสิ่งของค่อนข้างสูงและกติกาดูเล่นสบาย ผมจึงสมัครไป ปรากฎว่าเกมส์นั้นผมชนะและได้ของรางวัลมาผมจึงติดใจในความ “ง่าย” ของโชว์พวกนี้   horror house นี่ก็เช่นกัน…..

"ฮัลโหล ไอ้วุฒิ กูมิวนะ ได้ยินใช่มั้ย กูมีอะไรอยากถามมึงนิดนึง"

"เออได้ยิน มีไรวะมิว ปรึกษากับกูได้ทุกเรื่องแต่ถ้าเป็นเรื่องเงินๆทองๆ โปรดโทรเบอร์อื่นครับ กูก็ไม่มีจะแดก"

"สัส ฟังก่อนกูไม่ได้จะมาถามเรื่องเงิน กูจะถามมึงเรื่องเกมส์ horror house"

 ผมเลือกที่จะปรึกษาเพื่อนสนิทของผม มันเป็นคนที่ชอบดูเกมส์โชว์พวกนี้มาก แต่ไม่เคยสนใจที่จะเข้าร่วมเหมือนผม โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามันออกไปเล่น จะมีหลายคนที่จำมันได้ ถ้ามันไปโชว์โง่บนนั้นจะเป็นตราบาปติดตัวมันไปตลอดชีพ

"…"

"ฮัลโหลไอ้วุฒิ มึงฟังกูอยู่ปะเนี่ย ได้ยินมั้ย"

"เออ กูฟังอยู่  ได้ยินด้วย"

"ได้ยินแล้วทำไมไม่ตอบกูวะ รู้จักมั้ยไอ้เกมส์ลึกลับเนี่ย กูไม่รู้ข้อมูลไรเลยสักอย่าง "

"เออ รู้จัก ว่าแต่มึงเถอะมิว ทำไมถึงอยากไปเล่นเกมส์นี้ กูขอได้มั้ยวะ อย่าไปเลย"

"ทำไมวะ..เกมส์นี้มันมีอะไร?"


เสียงไอ้วุฒิเปลี่ยนไปจนผมรู้สึกได้ เสียงมันดูกังวลและเป็นห่วงผมมากจนผมอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมันถึงเลือกที่จะห้ามผมทั้งๆที่แต่ก่อนมันออกจะสนับสนุนให้ผมออกไปโชว์โง่ด้วยซ้ำ

"เอ่อ มันเป็นเกมส์ผีไงมึง ใช่ๆ มันเป็นเกมส์ผี น่ากลัวนะมึง มึงไม่กลัวผีหรอ"

"พ่องงงงงดิ เหตุผลแค่เนี้ยยยย กูก็รู้อยู่แล้วมั้ย นี่กูระดับไหนแล้ว อย่าห่วงดิ"

"มิว กูขอได้มั้ยวะอย่าไปเลย"

"อย่าไร้สาระหน่า บอกกูมาเถอะ แล้วกูจะตัดสินใจเองเรื่องจะไปไม่ไป"

"เออก็ได้ เกมส์นี้มัน…"

เมื่อผมกล่อมให้ไอ้วุฒิพูดข้อมูลเกมส์มาได้ ผมก็เริ่มที่จะคลิกเข้าหน้าเว็บไซต์เพื่ออ่านกฎและกติกาคร่าวๆของเกมส์นี้ แม้จะแปลกใจกับพฤติกรรมเพื่อนตัวเองไปบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความสนใจของผมลดลง สิ่งที่ไอ้วุฒิพูดก็มีลักษณะคล้ายๆกับสิ่งที่ผมกำลังอ่าน ผมจึงตัดสินใจได้ว่าไอ้เกมส์นี้มันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร และเริ่มกรอกข้อมูลของตัวเองลงไป…

"ไอ้มิว มึงฟังที่กูพูดใช่มั้ยเนี่ย"

"ฮะ  เออๆ ฟังอยู่ดิ ที่มึงพูดมาแม่งก็ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวนี่หว่ามันก็กติกาเกมส์ทั่วๆไปไม่ใช่หรอวะ”"  ระหว่างตอบมันไปผมก็กรอกข้อมูลไปเรื่อยๆจนถึงข้อมูลสุดท้ายก่อนกด enter

"นี่มึง ฟังกูทั้งหมดจริงปะเนี่ย ไอ้สัส กูพล่ามมายาวมากมึงฟังอยู่นิดเดียวเนี่ยนะ  เกมส์นี้มันไม่ใช่เล่นๆนะไอ้มิว"

"งั้นมึงลองบอกความน่ากลัวสั้นๆมาให้กูฟังดิ เผื่อกูจะอยากเปลี่ยนใจ" ผมเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้มันสบายใจว่าผมกำลังฟังมันอยู่ทั้งที่จริงแล้ว นิ้วมือของผมได้กด enter ส่งข้อมูลไปแล้ว  แต่คำพูดของไอ้วุฒิประโยคถัดมาก็ทำให้ผมรู้สึกว่าการไม่ฟังอะไรใครมันเป็นหายนะร้ายแรงมากกว่าที่คิด

เพราะอะไรหนะหรอ…

"น่ากลัวไม่น่ากลัวกูไม่รู้ แต่เกมส์นี้มันไม่เคยมีใครได้รางวัล…"



 



************************************************************************************
สวัสดีนักอ่านทุกคนนะครับ   ขอฝากนิยายเรื่องแรกของผมไว้กับทุกคนด้วยนะครับ

ผมยังไม่ชินกับการใช้เว็บ 555  ยังไงถ้าอ่านติดขัดหรืออะไรต้องขอโทษล่วงหน้านะครับ ผมจะพยายามปรับแก้ในตอนต่อๆไป

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2017 00:35:46 โดย P-Rawit »

ออฟไลน์ P-Rawit

  • The beginner of writing world
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ตอนที่1

ผู้ถูกเลือก


   น่าขำที่คำพูดไม่กี่คำของไอ้วุฒิจะสามารถกระตุ้นต่อมความกลัวของผมออกมาได้  “ ไม่เคยมีใครได้รางวัล” ประโยคนี้วนอยู่ในหัวผมซ้ำๆทุกวันหลังจากได้ยิน  มันน่าแปลกมั้ย? เกมส์นี้เป็นที่โด่งดังมานานหลายปี แม้ผมจะไม่ได้รู้จักเบื้องลึกเบื้องหลังของเกมส์แต่ก็มั่นใจได้ว่าเกมส์นี้เป็นที่รู้จักและมีคนสนใจมากมายเกินกว่าจะไม่เคยมีใครเอาชนะมันได้

หลังจากที่ผมตัดสินใจบอกไอ้วุฒิไปว่าผมสมัครร่วมแข่งขันไปแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาคือบทสวดสารพัดสัตว์ที่ออกมาจากปากมัน พร้อมกับคำแนะนำให้ผมระวังตัวให้มากๆหากเป็นผู้ถูกเลือก  อย่างที่บอกไว้ครับว่าเกมส์นี้มันมีคนสมัครเยอะก็จริงแต่ระบบที่แปลกของมันคือจะคัดเลือกบุคคลเข้าร่วมแค่ปีละ 2 คนเท่านั้น โดยระบุชัดเจนว่าหากสุ่มได้ผู้หญิง ปีนั้นก็จะมีผู้หญิง2คนได้แข่ง แต่ถ้าหากเป็นผู้ชายก็จะมีผู้ชาย2 คนเข้าร่วมแข่งขันเช่นเดียวกัน 

กติกาของเกมส์นั้นง่ายมาก หากมองผ่านๆเพียงแค่อยู่ให้ถึง 30 วัน ในบ้านร้างที่มีประวัติ คุณก็จะได้รับรางวัลตามจำนวนที่กำหนดไว้ และของขวัญพิเศษของปีนี้คือถ้าหากมีใครคนหนึ่งถอนตัวไป ค่าหัวของคุณก็จะเพิ่มขึ้น ถ้าคุณไม่หัวใจวายตายไปหรือเป็นบ้าไปก่อนการแข่งขันจบเงินทั้งหมดจะเป็นของคุณทันที แต่หากมองให้ลึก เกมส์นี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับเอาชีวิตตัวเองไปแขวนไว้กับอันตราย ไม่มีใครรู้ว่าเราจะต้องเจอกับอะไร ไม่มีใครรู้ว่าบ้านที่เราไปอยู่จะปลอดภัยมากแค่ไหน และไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ที่ผ่านเกมส์นี้มาจะยังคงมีตัวตนหรือไม่

“ไม่จริงหนะ!!! เรื่องล้อเล่นใช่มั้ย กูคงไม่ได้ซวยขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย?”

ผมถึงกลับพูดไม่ออกเพราะหลังจากเปิดอีเมลเช็คความเคลื่อนไหวรายวัน กลับมีอีเมลฉบับหนึ่งถูกส่งมาจากเว็บ horror house มือของผมสั่นเกินกว่าจะเปิดมัน แต่อย่างที่เรารู้กันความจริงยังไงเราก็หนีไม่พ้น ผมจึงตัดสินใจทำใจกล้าเปิดดูเนื้อความที่ส่งมาว่า…

ถึง คุณภวัต สุขุมชัยการ
   ทางทีมงาน horror house มีความประสงค์จะแจ้งให้คุณทราบว่า คุณคือผู้ที่ถูกเลือกให้เข้าร่วมรายการของเรา โดยทางรายการของดการปฏิเสธการเข้าร่วมในทุกกรณี กำหนดวันนัดหมายขอให้คุณภวัตมาเจอกันที่ xx วันที่ xx เดือนxx ปี 2559 ในเวลา 08.00 น .  เพื่อจะได้เตรียมพร้อมสำหรับการพาไปยังสถานที่ที่เราจัดไว้ให้ร่วมเกมส์ ทางเราของดการพกเครื่องมือสื่อสารและของมีค่ามาทุกชนิด ส่วนสัมภาระส่วนตัวทางเราอนุญาตให้นำมาได้ เรื่องอื่นๆทางเราจะแจ้งให้คุณทราบภายหลัง
                                                                                       ขอแสดงความยินดีนี้ด้วย

**************************

วันที่ xx เดือน xx ปี 2559

ในเมื่อผมหนีความจริงไม่ได้ ก็คงต้องก้มหน้ายอมรับอย่างเดียว    หลายวันหลังจากที่ผมได้รับอีเมลฉบับนั้น ผมก็มีอาการจิตตกอย่างแรงครับ โทรไปหาไอ้วุฒิให้มันปลอบใจผมบ้างแต่ก็นั่นแหละไม่มีอะไรช่วยผมได้สักอย่าง จนสุดท้ายผมต้องนั่งบอกกับตัวเองว่า ผมไม่ได้ต้องเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้นเพียงคนเดียว ยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมกับผมอีกตั้ง1คน อีกทั้งหากผมทนอยู่ได้  เงินรางวัลมากมายก็จะเป็นของผม ผมจึงเบาใจได้มาก

วันนี้เป็นวันนัดของผมนอกจากอารมณ์กลัวที่ยังคงตกตะกอนอยู่ภายในใจของผม ก็ยังมีอารมณ์ตื่นเต้นเพิ่มขึ้นมาด้วยเนื่องจากวันนี้จะเป็นวันแรกที่ผมจะได้ไปเจอผู้เข้าแข่งขันอีกคนที่ผมถือว่าเค้าคือเพื่อนของผมตั้งแต่ยังไม่ได้เห็นหน้า  ผมจึงออกมาสถานที่นัดหมายก่อนเวลานัด หนึ่งชั่วโมงเพื่อปรับตัวให้ชินกับสถานการณ์ที่ต้องไปเผชิญและเตรียมพร้อมที่จะรู้จักกับ  "เพื่อน"  ใหม่

"สวัสดีครับ คุณ ภวัต ใช่มั้ยครับ"

"อ่า ใช่ครับ ผมภวัตครับ  เรียกผมว่า มิวเฉยๆก็ได้นะครับ"

"ได้ครับ คุณ มิว เฉยๆ"

"…."

"ล้อเล่น ครับ คุณมิว ผมไม่อยากให้คุณเครียดครับ 555 เดี๋ยวจะพาไปรู้จักผู้เข้าแข่งขันอีกคนด้านในนะครับ"

พ่องงงงงง!!!! นี่คือการล้อเล่นหรอ ถามใบหน้ากูรึยัง กูอยากเล่นด้วยมั้ย ?  แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำการประทุษร้ายทีมงานทางความคิดนั้น  ผมก็ต้องวนกลับมาคิดกับคำพูดของทีมงานที่ว่าจะพาไปเจอผู้เข้าแข่งขันอีกคน
 
ตัวผมเองที่ว่าตื่นเต้นจนต้องรีบออกมานั้น ลึกๆแล้วก็ยังมีความกลัวรั้งเอาไว้ไม่ให้ออกมาเร็วมากเกินไปเพราะกลัวจะไม่มีโอกาสกลับบ้านมาสมประกอบอีก ผู้ชายอีกคนนั้นเค้าคิดอะไรอยู่ ? ทำไมถึงได้รีบออกมาเร็วนัก  ทำไมถึงได้อยากมาร่วมเกมส์ที่เต็มไปด้วยปริศนานี้ ไม่มีความกลัวอะไรบ้างหรอ  หรือไม่มีอะไรจะเสียแล้วถึงได้รีบออกมาขนาดนั้น ผมคิดของผมไปเรื่อยพร้อมๆกับเดินตามหลังทีมงานเข้าไปด้านใน

ด้านในที่ทีมงานว่านั้นถูกจัดแบ่งโซนเอาไว้สำหรับรับรองผู้ร่วมเกมส์นี้โดยเฉพาะ ทำให้สายตาของผมได้เห็นกับผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่ง ถ้าเดาจากใบหน้าแล้วก็น่าจะรุ่นเดียวกัน ท่าทางสุขุมและดูเข้าถึงยากขัดกับใบหน้าที่เรียกได้ว่า หล่อ ถึง หล่อมากครับ ผู้ชายคนนั้นดูนั่งเหม่อลอยอยู่กับโลกส่วนตัวของตัวเองท่ามกลางความวุ่นวายของทีมงานที่เร่งมือเตรียมของและโทรตามรถที่จะพาผู้เข้าแข่งขันไปส่งยังบ้านที่ถูกจัดไว้ ท่าทางนิ่งๆยังคงแสดงออกมาจนกระทั่งถูกรบกวนด้วยเสียงของทีมงานจึงทำให้ผู้ชายคนนั้นรู้สึกตัว

"คุณ มิวครับ นี่คือคุณเอกภพ ผู้เข้าแข่งขันอีกหนึ่งคนครับ"

คุณเอกภพที่ว่าหลังจากถูกเอ่ยชื่อแล้ว ก็หันหน้ามามองผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ติดไปทางแข็งจนน่ากลัว เค้ามองผมเพียงแค่นั้นแล้วก็หันหน้ากลับไปยังมุมเดิม

"เอ่อ ….คุณมิวตามสบายเลยนะครับ ถ้าถึงเวลาแล้วผมจะมาเรียกอีกที" ทีมงานบอกผมแค่นั้นก็เดินออกไปจากโซนรับรอง ทิ้งให้ผมอยู่กับความกดดันจากพฤติกรรมของผู้ชายอีกคนที่ผมค่อนข้างขัดใจ แต่ก็นั่นแหละใจดีสู้เสือเข้าไว้ยังไงเราก็ต้องอยู่ร่วมกันอีกยาว

" สวัสดีครับ คุณเอกภพ  ผม ภวัตนะครับ เรียกผมสั้นๆว่ามิวก็ได้ครับ "

เงียบ…………..

"เอ่อ คุณเอกภพ มีชื่อเล่นสั้นๆมั้ยครับ เราอายุน่าจะใกล้ๆกัน ผมอยากให้เราสนิทกันมากขึ้น"

เงียบ…………..

"คุณเอกภพมาเร็วดีนะครับ  ไม่กลัวมั่งหรอ"

เงียบ……………

และยังคงเงียบกับอีก แปดแสนล้านคำถามที่ผมขุดมาเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี จนกระทั่ง

"โว้ยยยย ไอ้คุณเอกภพ  มึงจะเงียบอีกนานมั้ยวะ  มีใครเคยบอกมึงมั้ยว่าใครถามอะไรก็ตอบตามมารยาทมั่งกลัวจนเป็นบ้าไปแล้วรึไง!!"

จบประโยคนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าผมไปพลาดตรงไหนแต่สิ่งที่ได้กลับมาทันทีคือตาที่แข็งกร้าวมากๆ จนทำให้ผมที่กำลังโมโหถึงกับสะดุดกับความน่ากลัวนั่น  พร้อมกับคำพูดที่แปร่งไปด้วยความไม่พอใจ

"มึงว่าใคร!!"

"ก..ก็คุณไม่ตอบผมเลยสักคำถามอ่ะ จะให้ผมพูดอยู่คนเดียวรึไง!!"  หลังจากตกใจได้แปปเดียวเท่านั้น หมาในปากผมก็เริ่มทำงานทันที มันน่าโมโหมั้ยหละ ปล่อยคนอื่นพล่ามมาเป็นร้อยประโยค ตัวเองนั่งทำเอ็มวีในโลกส่วนตัวจนคนอื่นเข้าไปไม่ได้

"ได้ อยากรู้ใช่มั้ยกูชื่ออะไร  กูชื่อภพ แล้วสิ่งที่กูต้องการจะบอกมึงคือ ถอนตัวไปซะ ตั้งแต่ตอนนี้ถ้ามึงไม่อยากทิ้งชีวิตที่เหลือของมึง"

"วะ..ว่าไงนะ มึงจะฮุบเงินคนเดียวรึไงถึงอยู่ดีๆ มาไล่ให้กูกลับไปอ่ะ  แล้วไง มึงอยู่มึงพร้อมจะทิ้งชีวิตหรอ"หมดแล้วครับความสุภาพที่ผมใช้กับไอ้ภพ  แม้จะรู้สึกแคลงใจกับแววตาของมันกับน้ำเสียงที่อ่อนลงตอนมันพูดประโยคหลังกับผม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมหายหงุดหงิดได้

"หึ พร้อมมากกว่ามึงแล้วกัน"

หลังจากจบประโยคชวนน่าสงสัยของมัน ผมก็ไม่มีโอกาสได้เถียงอะไรกับมันต่อ เนื่องจาก ทีมงานได้เดินมาบอกกับพวกผมว่ารถที่จะพาผมไป พร้อมแล้วให้ผมกับไอ้ภพ นำสัมภาระที่เตรียมมาไปเก็บไว้บนรถได้ และยังบอกให้ผมรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จในอีก 10 นาที เนื่องจากการขับรถไปนั้นจะจอดอีกครั้งคือเมื่อถึงที่หมายเท่านั้น

ก่อนนำสัมภาระไปวางทีมงานได้ขอตรวจค้นกระเป๋าของผมและไอ้ภพก่อน โดยได้กล่าวคำขอโทษพร้อมบอกว่ามันเป็นกฎที่ต้องทำและพวกผมต้องปฏิบัติตาม ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังไงซะก็ไม่มีใครคิดจะโกงในเกมส์นี้อยู่แล้ว

เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปนั้น ผมได้สังเกตว่ามีทีมงานที่ขึ้นมาด้วยแค่ 2 คน โดยได้บอกว่าเป็นตัวแทนขึ้นมารับประกันความปลอดภัยว่าจะไม่มีการพาไปทำอันตรายอย่างแน่นอนและยังได้ขึ้นมากำชับกฎกติกาอีกครั้ง พร้อมกับบอกถึงประวัติของบ้านที่ผมไปอยู่อย่างคร่าวๆ  ทางทีมงานบอกกับผมว่า บ้านที่ผมจะไปอยู่นั้นเดิมทีเป็นบ้านเก่าที่เกิดคดีฆาตรกรรมหมู่ภายในบ้าน มีคนตายในบ้านหลังนั้นถึง 7ศพ กว่าจะมีคนสงสัยถึงการสูญหายและไปพบ ศพก็แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมของความเป็นมนุษย์ปกติแล้ว  ทางผู้จัดการเกมส์ปีนี้จึงได้ลงทุนรีโนเวทบ้านหลังนี้ใหม่ให้พร้อมเป็นสถานที่ถ่ายทำแก่ผู้ร่วมเกมส์ ซึ่งก็คือพวกผม

"ขอสอบถามได้มั้ยครับ ว่ารายการนี้จะนำเสนอพวกผมยังไง"
"ทางเรารู้แค่ว่า ชีวิตของพวกคุณจะถูกถ่ายทำผ่านกล้องวงจรปิดที่ถูกติดไว้ในบ้านเท่านั้น ส่วนรายละเอียดจะมีคนบอกคุณอีกที"

หลังจากจบคำถามผมก็ปล่อยตัวของผมให้จมกับความรู้สึกของตัวเองไป เนื่องจากถ้าอยากรู้อะไรมากกว่านี้คงต้องรอให้ถึงเพียงอย่างเดียว ระหว่างนั่งรถพร้อมกับมองวิวข้างทางไปเรื่อยๆนั้น ผมรู้สึกว่าข้างทางที่ผมกำลังผ่านไปเต็มไปด้วยป่ามากขึ้น  จากตอนแรกที่มีบ้านคนเรียงรายอยู่มากมายคาดว่าคงกำลังเดินทางไปต่างจังหวัด อีกทั้งเมื่อหันกลับมามองไอ้ภพที่นั่งติดๆกับผม  ผมก็รู้สึกว่าสีหน้าของมันเปลี่ยนไป ผมไม่แน่ใจว่ามันกลัวเรื่องสถานที่หรืออะไร เพราะตั้งแต่ออกมาจากที่นัดหมายมันก็ยังคงไม่คลายใบหน้าที่เหมือนคนคิดอะไรตลอดเวลาอีกทั้งยังเครียดมากขึ้นด้วยเมื่อมันได้ฟังถึงประวัติของบ้าน

"ตื่นๆครับ คุณมิว ถึงแล้วครับ"

ผมเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้แค่ว่าระยะทางที่มามันต้องไกลมากแน่ๆเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองได้พักผ่อนเต็มอิ่มมาก จะหันไปดูว่าไอ้ภพมันหลับด้วยรึเปล่าก็ต้องแปลกใจที่ไม่เห็นมันนั่งอยู่บนรถแล้ว

"แล้วไอ้ เอ่อ คุณภพไปไหนแล้วหละครับ"

"อ๋อ คุณเอกภพลงไปรอข้างล่างแล้วนะครับ สัมภาระที่คุณมิวเอามาก็ถูกนำออกไปวางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เชิญคุณมิวลงรถได้เลยครับ"

"ขอบคุณมากครับ"

เมื่อลงมาจากรถสิ่งที่ผมสังเกตเห็นคือ หลังไอ้ภพที่ยืนนิ่งมองบ้านหลังนั้น พร้อมกระเป๋าสัมภาระของผมกับมัน และบ้านสองชั้นหลังหนึ่ง ภาพรวมของบ้านหลังนั้น ถ้ามองข้ามเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ก็ถือว่าน่าอยู่มากครับ เป็นบ้านที่มีสวนอยู่หน้าบ้าน และยังมีโต๊ะเล็กๆตั้งไว้ในสวน และยังแฝงไปด้วยความสงบเนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ตั้งเดี่ยวๆไว้ไม่ติดกับบ้านหลังใดเลยครับ เอกเทศมาก แต่ก็มีเรื่องน่าสงสัยอยู่ไม่น้อยนะครับสำหรับผม ผมว่าบ้านหลังนี้มันใหม่มากครับ ใหม่เกินกว่าจะเรียกว่าบ้านรีโนเวท

ผมที่กำลังตั้งข้อสงสัยอยู่กับบ้านหลังนั้นและกำลังจะเดินไปยืนข้างๆไอ้ภพ ก็ถูกเรียกโดยทีมงาน

"เดี๋ยวครับคุณมิว"

"มีอะไรหรอครับ?"

"ฝากย้ำกับคุณเอกภพอีกทีด้วยนะครับ เรื่องกฎและกติกาให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดนะครับ"

"ได้ครับ" ผมยิ้มให้กับทีมงานและเตรียมจะเดินต่อถ้าไม่มีเสียงของทีมงานคนเดิมแทรกขึ้นมา

"ผมขอเตือนอีกอย่างนะครับคุณมิว อะไรที่คุณสงสัยได้โปรดเก็บไว้จนจบเกมส์ด้วยครับ อย่าพยายามหาข้อสงสัย หรือ หาความเป็นไปได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ยิ่งคุณหาสิ่งที่คุณจะพบคือทางตันของชีวิตคุณเองนะครับ"

เสียงเตือนที่พูดราวกับกลัวจะมีใครได้ยินนั้น ได้ดึงความสนใจให้ผมหันกลับไปมองที่ทีมงานคนนั้น จนได้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสั่นกลัวก่อนจะกลับมายิ้มให้ผมเป็นปกติราวกลับว่าอาการที่เกิดขึ้นเมื่อครู่คือภาพลวงตาที่ผมคิดไปเอง

"Good Luck ครับคุณมิว" ทีมงานอวยพรผมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ออกรถกลับไป ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงผมกับไอ้ภพที่อยู่กับบ้านหลังนี้

ผมเดินเข้าไปยืนข้างๆไอ้ภพที่กำลังมองบ้านหลังนั้นอย่างไม่วางตาแม้สีหน้าของมันจะดูเป็นมิตรมากขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมสามารถเข้าถึงตัวมันได้เลย

"แปลก" อยู่ดีๆมันก็เปล่งคำพูดออกมา จนผมที่กำลังสนใจสภาพแวดล้อมต้องหันมาหามัน

"แปลก? อะไรที่แปลก"
 
"ไหนทีมงานบอกว่า จะมีคนมาบอกถึงรายละเอียดอีกที"

มันตอบกลับผมแบบลอยๆ เหมือนมันพูดกับตัวเองมากกว่า แต่นั่นก็ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะเหตุผลที่ผมยังคงยืนอยู่หน้าบ้านหลังนี้ก็เพราะความสงสัยแบบเดียวกับมัน  เหตุใดถึงยังไม่มีใครมาบอกรายละเอียดของการถ่ายทำและการใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้

"พ่อหนุ่ม" เสียงเรียกของชายแก่ดูใจดีคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้ผมกับไอ้ภพต้องหันกลับไปหาที่มาของเสียง

"ขอโทษด้วยนะที่ลุงมาช้า  รอกันนานมากมั้ย"

"ไม่นานครับ" ผมตอบรับลุงไปโดยไม่ปรึกษาความเห็นไอ้ภพ กลัวอารมณ์แปรปรวนของมันจะสร้างความเดือนร้อนให้เราทั้งคู่

"โอเค เพื่อไม่ให้เสียเวลานะ ลุงจะอธิบายกฎหลักของบ้านหลังนี้ตั้งใจฟังด้วยหละ"

"ครับ"

หลังจากผมฟังลุงอธิบายจบ ลุงก็ขอตัวกลับไปยังบ้านพักของตนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านแห่งนี้ ผมกับไอ้ภพจึงได้ขึ้นมาเก็บของบนห้องนอนชั้นสอง  บ้านหลังนี้เราต้องนอนด้วยกันครับ มีเพียงหนึ่งเตียงและหนึ่งห้องนอนเท่านั้น แม้จะยังอึดอัดอยู่บ้าง แต่ด้วยท่าทีของไอ้ภพที่ไม่ได้ก้าวก่ายกับการร่วมเกมส์ของผมอีก ผมจึงวางใจที่จะอยู่ได้

คุณลุงแกแนะนำตัวว่าแกชื่อมั่น เข้ามาเพื่อจะบอกรายละเอียดว่า ตอนนี้ผมและไอ้ภพได้ถูกบันทึกภาพไว้แล้วตั้งแต่มาถึงด้วยกล้องวงจรปิดที่ถูกติดไว้ตรงบริเวณหน้าบ้าน  ในแต่ละวันพวกผมต้องอยู่แต่ภายในบ้านหลังนี้เท่านั้น ตอนกลางวันสามารถออกมาพักผ่อนบริเวณหน้าบ้านได้ แต่ก็ห้ามออกจากเขตบ้าน  ส่วนตอนกลางคืน พวกผมต้องอยู่แต่เพียงในบ้านเท่านั้น ห้ามออกมานอกประตูโดยเด็ดขาด อีกอย่างคือ จะมีผู้ดูแลบ้านอีกคนนอกจากคุณลุงเข้ามาเพื่อนำอาหารสดเข้ามาเติมตู้เย็นให้ สิ่งที่พวกผมต้องทำมีแค่ ในตอนกลางคืน จะมีภารกิจบางอย่างให้พวกผมทำเพื่อท้าทายผีในบ้านและทำอาหารกินเองแค่เท่านั้น

"กี่โมงแล้ววะเนี่ย"ผมบ่นกับตัวเองเพราะท้องของผมเริ่มประท้วง เนื่องจากไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เช้า ผมจึงเริ่มหาอาหารสดมาทำ ด้วยความที่ผมอยู่หอเรื่องการหาอาหารกินจึงเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับผมมาก เมนูไม่ได้วิเศษอะไรแต่ก็พอเลี้ยงปากท้องตัวเองโดยที่หมาไม่เมินได้ วันนี้ผมเลยทำกระเพราหมูสับ กับไข่เจียวแค่สองอย่าง พร้อมหุงข้าวไปด้วย เมื่อทุกอย่างเสร็จ ผมจึงตัดสินใจที่จะไปเรียก เพื่อนร่วมโลกของผมมากินด้วย

"ไอ้ภพ"

"ไอ้ภพพพ"

"ไอ้ภพพพพพพพพพ มึงอยู่ไหนนนนนนน"  ผมเรียกหามันจากน้ำเสียงธรรมดาจนต้องตะโกน ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากมัน 

"ไอ้เหี้ยภพ อยู่ไหนวะ ไม่เล่นนะ" ความกลัวเริ่มเข้ามาครอบงำทันที เมื่อผมเรียกเท่าไรไอ้ภพก็ไม่ตอบ ลองนึกภาพตามนะครับ ภายในบ้านกว้างๆหลังหนึ่ง ที่ถูกจัดวางด้วยของเก่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ มีแค่ผมที่กำลังเดินเรียกไอ้ภพและถูกบันทึกภาพอยู่ภายในบ้าน เหยียบบนพื้นที่ตายของใครรึป่าว ผมก็ไม่รู้ เดินจนทั่วบ้านก็ไม่เจอมันจนกระทั่ง…

"อยู่ข้างนอกรึป่าววะ?"  ควายที่แท้จริงอยู่ตรงนี้แล้วคร้าบบบบบ โชว์เด๋อออกรายการเลยครับ หน้าผมต้องเหวอมากเมื่อนึกได้ว่ามันอาจจะอยู่ข้างนอก

"ไอ้ภพพพ……..ไอ้ภพพพโว้ยยยยยยยยย"  เมื่อออกมาข้างนอกผมก็ตะโกนสุดเสียงเลยครับ มองจนทั่วบริเวณหน้าบ้านก็ไม่เจอ ที่สุดท้ายที่ผมนึกได้คงเป็นบริเวณด้านหลังบ้านที่ผมยังไม่ได้ออกไปดู

ผมเดินมาถึงพื้นที่ส่วนด้านหลังของบ้านแล้วค่อนข้างแปลกใจกับบริเวณนี้เพราะ มันเป็นแค่ลานดินกว้างๆที่มีพวกต้นไม้ถูกวางไว้เตรียมเอาลงดิน ผิดกับ บริเวณอื่นของตัวบ้านที่ถูกออกแบบและจัดเตรียมไว้เรียบร้อย  ตอนแรก ผมนึกว่ามันเป็นบ้านที่เตรียมพร้อมหมดทุกอย่างแล้วแต่ก็ยังเหลือส่วนนี้ที่ยังไม่เสร็จดี

"รายการนี้แม่งคงรวยเนอะ ทำบ้านแค่ให้กูมาอยู่จะเอาอะไรหรูหรามากมายวะ" ผมบ่นของผมไปเรื่อยๆเพื่อลดความกลัวกับความหงุดหงิดของตัวเองระหว่างมองหาไอ้ภพ

"ไอ้ภพ ถ้ามึงไม่ออกมาก็ไม่ต้องแดกแล้วนะข้าวอ่ะ  สัส" ตะโกนได้แค่นั้น ก็เตรียมจะเดินหันหลังกลับเพราะหลังเขตกำแพงบ้านไปคือป่าที่ค่อนข้างรกและเงียบมาก ผมที่กล้าๆกลัวๆอยู่จึงไม่อาจอยู่ต่อได้

ตุ้บ!!!!!!

เสียง…..

เสียงๆหนึ่งดังขึ้นด้านหลังผม เป็นเสียงที่เหมือนของหนักตกลงมากระทบบนพื้น ขาผมแข็งจนก้าวต่อไปไม่ได้ ได้แต่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงเดินเข้ามาใกล้

เข้ามาใกล้…

เข้ามาใกล้……

แล้ว………………

"มึงจะยืนเฉยๆอีกนานมั้ย"

เพล้งงงงงงงงงง!!!!

หน้าของผมแตกละเอียด เมื่อเสียงที่ได้ยินคือเสียงของไอ้ภพ ผมจึงหันหน้ากลับไปมองมันให้เต็มตา จึงเห็นว่าเป็นไอ้ภพจริงๆที่ต่างออกไปคือเนื้อตัวมันที่ค่อนข้างมอมแมมออกไปทางโสโครก

"มึ….มึงออกไปไหนมาวะ เค้าห้ามออกนอกบริเวณบ้านนะ เดี๋ยวก็โดนปลดกลางรายการหรอก"

"มึงแหกตาดูนะ ตรงนี้มันมีกล้องวงจรปิดมั้ย?"

ผมหันกลับไปดู แล้วก็ได้พบว่าบริเวณนี้เหมือนจุดบอดของเกมส์ ไม่มีกล้องเลยสักตัวและยังพบกับ

ประตู…..

ประตู……….

ใช่แล้วครับ  มันคือประตูที่เชื่อมมาจากห้องครัว ตอนนี้หน้าของผมคงเด๋อไปอีก 10 ระดับ แล้วเมื่อกี้ กูจะเดินบิ้วตัวเองมาทำไมวะ???

"เออแม่ง แล้วมึงไปไหนมา" หงุดหงิดครับ ผมหงุดหงิดมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะมัน แต่อีกส่วนใหญ่ๆนี่มาจากความเด๋อของตัวเอง

"ดูอะไรนิดหน่อย ว่าแต่มึงเถอะ เรียกกูดังลั่นขนาดนั้นมีอะไร"

"ฮะ มีอะไรเนี่ยนะ  ไอ้ควายยยยย  ได้ยินเสียงกูเรียกลั่นขนาดนั้น  ไม่ได้เปิดหูฟังอีกหน่อยหรอว่ากูเรียกแดกข้าว" มันตอบผมหน้าตายมากครับ แต่ดีหน่อยที่ไม่ตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงแบบเมื่อเช้า ไม่งั้นคงได้ตีกันตายก่อนเกมส์จบ

"ก็ไปดิ" โหหหห พ่อคุณ พิกุลจะร่วงเหรอ ผมได้แต่ส่ายหน้าเอือมกับมันแล้วเดินตามมันเข้าไปในบ้าน…
.

.

.

"ไอ้ภพ มึงมาดูนี่ดิ"

"มีอะไร?" หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมกับมันก็มาแยกกันนั่งพักผ่อนครับ ข้างนอกบ้านตอนนี้ฟ้าครึ้มจนเหมือนฝนจะตกพวกผมเลยขอนั่งกันอยู่แต่ในบ้าน ทำกิจกรรมส่วนตัวกันไป ในบ้านหลังนี้ไม่มีทีวีหรือสื่อใดๆ มีแค่หนังสืออ่านเล่นกับหนังสือผีให้ผมอ่านแค่นั้นครับ

"ตารางภารกิจเราไง" ผมมองกระดาษแผ่นนั้นที่ถูกติดไว้ข้างชั้นหนังสือ  โดยที่กิจกรรมทุกอย่างมีเวลากำหนดไว้ชัดเจนมาก 30 วัน 28 กิจกรรม ที่ผมต้องทำร่วมกับไอ้ภพเพื่อทำให้รายการดูสนุกขึ้น

"หึ สมกับเป็นรายการดี 28 วิธีเห็นผี" มันพูดเหมือนเป็นเรื่องขำขันสำหรับมัน

"มึงไม่กลัวหรอ" ผมถามในสิ่งที่ผมอยากรู้มาตั้งแต่ตอนต้นกับมันเพราะมั่นใจแล้วว่าผมต้องได้คำตอบ

"กลัว? ถ้ากลัวกูจะมาเล่นหรอ ผีกับจิตใจคน กูกลัวใจคนมากกว่าอีก" มันพูดแค่นั้นก็เดินออกไปจากผม  ไอ้ภพโหมดเข้าไม่ถึงได้กลับมาอีกแล้ว ผมแปลกใจและสงสัยนะว่ามันเป็นอะไร? แต่คงยังไม่ถาม  เพราะสิ่งที่น่าสนใจของผมตอนนี้คือ ไอ้ 28 วิธีเห็นผีเนี่ยแหละ

"วิธีเล่นทั้งหมดอยู่ในหนังสือผีทั้ง 28 เล่มบนชั้นหนังสือ" ท้ายกระดาษได้บอกถึงวิธีการเล่นเกมส์พวกนี้  ผมจึงละสายตาจากกระดาษแผ่นนั้นไปบนชั้นหนังสือ   หนังสือทั้ง 28 เล่มถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบบนชั้นตามวันที่ต้องเล่น โชคดีหน่อย ที่เกมส์แรกที่ต้องเล่นจะเริ่มในคืนพรุ่งนี้

"ไอ้ภพ เกมส์แรกที่ต้องเล่นจะเริ่มคืนพรุ่งนี้นะ"

"อืม"

ผมบอกมันแค่นั้นก็หันกลับมาหยิบหนังสืออ่านเล่น ไปอ่านบนโซฟาแก้เบื่อไปพลางๆ จนรู้ตัวอีกทีก็มีเสียงเรียกให้ผมตื่น

"มึง"

"มึง ตื่น ตื่น  ตื่นดิ ตื่น"

"โอ้ยยยย กูตื่นแล้ว หยุบตบหน้ากูซะที" ไอ้ภพครับ  มันปลุกผมด้วยวิธีที่พิเรนที่สุดตั้งแต่ผมเกิดมา  นอกจากเสียงเรียกผมที่เบาราวกับกระซิบแล้ว มันยังเพิ่มการตบอย่างรุนแรงบนหน้าผมด้วย แม่ง ทำไมมันไม่เรียกดังๆแทนวะ

"ตื่นก็ดี ลุงอีกคนมาแล้ว"

เมื่อมันพูดจบมันก็ชี้ให้ผมเห็น ลุงอีกคนที่กำลังเดินออกมาจากครัว  ท่าทางดูใจดีพอๆกับลุงมั่น

"อ้าวไงพ่อหนุ่ม  หลับสบายดีมั้ยบ้านคนตายเนี่ย"

"โหลุง  ผมเลือกได้หรอ ผมง่วงผมก็นอน"

"555 ไอ้หนุ่มนี่  ลุงแซวเล่น ว่าแต่พวกเอ็งชื่ออะไร"

"ผมมิวครับ  ส่วนนี่ไอ้ภพครับ"

"อ่อ ลุงชื่อลุงคำนะ  ลุงจะเอาอาหารเข้ามาให้ทุกวัน ช่วงเย็นๆนี่แหละ ถ้าพวกเอ็งต้องการอะไรเพิ่มก็ให้บอกลุงนะ ลุงจะหามาให้ "

"ได้ครับลุง แล้วลุงจะอยู่อีกนานมั้ย กินข้าวด้วยกันมั้ยครับ" คราวนี้ไอ้ภพเป็นคนถามครับ ผมถึงกับต้องหันไปมองอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง คนอย่างมันนี่มีมุมนี้กับเค้าด้วยหรอ?

"ไม่ได้ๆ  มันเป็นกฎเค้าลุงอยู่กับพวกเอ็งนานๆไม่ได้ เอาหละลุงต้องไปละ ไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน"

"เจอกันครับลุง"

พวกผมร่ำลากับลุงคำก็เตรียมไปทำอาหารเย็นกินกัน  เพราะดูจากนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งไว้มันก็จะ 1 ทุ่มแล้ว   ไอ้ภพดูคล่องตัวในการทำอาหารมากไม่รู้ว่ามันไปร่ำเรียนมาจากไหน มื้อนี้ผมเลยเป็นลูกมือช่วยมันทำของสดกับหุงข้าวแทน

"อร่อยหวะ มึงไปเรียนทำมาจากไหนวะ"

"กูแค่ทำกินเองบ่อย"

"กูก็ทำกินเองบ่อยยังไม่อร่อยเท่ามึงเลย"

"กากไง"

"ไอ้สัส กวนตีนแดกข้าวไปเลยมึงอ่ะ" ผมตอบมันแค่นั้น ต่างคนต่างก็รีบกินข้าวเพื่อไปเตรียมตัวอาบน้ำและเข้านอน

กลางดึกคืนนั้น

"พี่ขอโทษ  พี่ขอโทษ อย่าไปเลยนะนัท อย่าไป พี่ขอโทษ!!!" เสียงไอ้ภพร้องลั่นปลุกผมให้ตื่นจากฝัน แล้วลุกขึ้นหันไปหามันที่เพิ่งตื่นจากฝันเหมือนกัน

"ภพ มึงเป็นอะไรมั้ยวะ" ผมถามมันด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเสียงร้องมันดังมาก  เหมือนในฝันมันเจอกับอะไรที่ร้ายแรงมาก แถมตามันยังคลอไปด้วยน้ำตา

"ช่างเหอะ  มึงนอนไปเถอะ ขอโทษละกันที่ทำให้ตื่น"  มันตอบผมเสร็จ ก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้กับผม   

เอาอีกแล้ว….. มันละเลยในการตอบคำถามผมอีกแล้ว   วันนี้มันทิ้งความน่าสงสัยมากมายไว้กับผม  จะทำเป็นไม่สนใจก็ไม่ได้ ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ทุกคืน ผมจะหลับได้ไง

มึงเป็นอะไรวะ ไอ้ภพ.......

อะไรที่ทำให้มึงต้องเป็นแบบนี้…..

แล้วใครคือ…..นัท?









*********************************ั********************************************
เดี๋ยวดึกๆ  ผมจะมาลงตอนที่2 ให้นะครับ แล้วก็หลังจากนี้ผมจะลงให้ทุกวันอังคารครับ

ผมจะพยายามไม่ดองนะครับ  ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงผมจะแจ้งให้ทราบนะครับ

สุดท้าย  คอมเมนต์ติชม กันเข้ามาเยอะนะครับ :)    P-Rawit
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2017 00:38:07 โดย P-Rawit »

ออฟไลน์ P-Rawit

  • The beginner of writing world
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ตอนที่2

เกมส์ซ่อนหา


เช้านี้อากาศช่างแจ่มใส ทุกอย่างดูแจ่มใสไปหมด ยกเว้น
ตัวผมครับ  ผมตื่นมาพร้อมกับดวงตาที่โหลลึก และใบหน้าที่หมองคล้ำจากการอดนอน ต่างกับไอ้ภพที่สร้างเรื่องไว้แล้วนอนหลับต่อชนิดที่ว่าไฟไหม้แม่งก็ตายไปแล้ว  เมื่อคืนผมแทบไม่ได้นอน กลัวก็กลัวแต่จะข่มตานอนก็ทำไม่ได้  เรื่องไอ้ภพยังคงวนซ้ำๆอยู่ในหัวผม  จนผมอดที่จะถามมันไม่ได้ว่ามันเป็นอะไร

“มึงเป็นอะไรวะ เมื่อคืน”

“เมื่อคืน?”

“เออ ไม่ต้องมาทำหน้าหมางงใส่กู ร้องดังลั่นขนาดนั้นจนทำกูนอนไม่หลับเนี่ยเป็นห่าไร”

“กูแค่…ละเมอ”  ว้อทเดอะฟัคคคคคคค  คำตอบมันเป็นอะไรที่ชุ่ยที่สุดแล้วมั้ง  ผมอดหลับอดนอนเพื่อมาฟังมันตอบว่าละเมอเนี่ยนะ  ดูก็รู้ว่ามันกำลังโกหก

“กูไม่เชื่อ มึงร้องดังขนาดนั้นเพราะแค่ละเมอเนี่ยนะ”

“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง” มันพูดจบก็ทำท่าจะเดินจากผมไป ผมจึงต้องรีบถามอีกข้อสงสัย

“ถ้ามึง ละเมอจริง แล้วใครคือนัท?” ได้ผลครับ มันหยุดเดินแล้วหันหลังเดินกลับ มาหาผมด้วยใบหน้าแบบเดิมกับตอนที่ผมเจอมันครั้งแรก

“มึงได้ยินอะไร บอกมาให้หมด” มันเดินกลับมากระชากตัวผมแล้วถามผมด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดราวกับผมไปพูดกระตุ้นจุดสำคัญบางอย่างของมัน  มันบีบแขนผมจนแน่นเหมือนมันกำลังจะขาดสติ

“โอ๊ย ไอ้ภพกูเจ็บนะ ปล่อยดิวะ กูไม่ได้ยินเชี่ยไรทั้งนั้นแหละ กูได้ยินแค่ชื่อนี้” ผมเลือกที่จะโกหกมันเพราะคิดว่าการพูดถึงเรื่องส่วนตัวมันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย

“อย่ายุ่งเรื่องของกูอีก”มันปล่อยแขนผมอย่างแรงแล้วก็เดินหายออกไปทางหลังบ้าน

โกรธ.....

ผมยอมรับเลยว่าผมโกรธมันที่มันทำแบบนั้นกับผม  ผมอาจจะผิดที่ไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของมัน แต่การกระทำของมันก็รุนแรงเกินไปสำหรับผม  ผมไม่คิดว่าคำถามนั้นจะเป็นเหมือนไฟที่ไปจุดชนวนระเบิดในตัวมันได้ ผมถามเพราะอาการของมันน่าเป็นห่วงมากกว่าจะทำให้ผมอยากเสือกเรื่องของมัน

ผมเลือกที่จะมานั่งมุมเดิมของผมเพื่อสงบจิตใจก่อนไปทำอาหารเช้ากิน เมื่อวานลุงคำนำของสดมาให้เพิ่มรวมทั้งยังมีขนมเพิ่มมาให้อีกด้วย ผมเลือกหยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่มาอ่าน แต่เนื่องด้วยความเพลินของผมจึงทำให้ผมอ่านยาวจนไม่ได้ดูระยะเวลาเลยว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูในครัวถูกเปิดเข้ามา

ไอ้ภพกลับเข้ามาในบ้านด้วยสภาพแบบเดิมคือตัวเปื้อนไปด้วยดิน ดูสกปรก มันเดินผ่านผมเพื่อจะขึ้นไปทำความสะอาดร่างกายมัน  ผมจึงเริ่มลุกขึ้นเพื่อไปเตรียมอาหารกึ่งเช้ากึ่งเที่ยง ระหว่างทำไปผมก็ได้แต่เดาว่ามันออกไปไหน ไปทำอะไรมาทำไมเนื้อตัวมันถึงเปื้อนขนาดนั้น แต่การเลือกที่จะไม่ถามคงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

“ภพ เรื่องเมื่อเช้ากูขอโทษ” หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็เลือกที่จะลดทิฐิเดินมาขอโทษมันที่กำลังนั่งคิดอะไรอยู่เงียบๆ แม้จะโกรธมันอยู่แต่ความสงสารมันมีมากกว่า

“อืม”

“ถึงกูจะขอโทษแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงไม่ผิดนะ ที่มึงทำกูมันแรงมากไปนะไอ้ภพ ไม่พอใจก็บอกกันดีๆดิ”  จบคำพูดผมมันก็หันหน้ามามองผมแต่ไม่ได้มีแววตาเกรี้ยวกราดใดๆ มันแค่มอง มองจนเป็นผมเองที่ต้องหลบตามัน

“กูจะไม่ก้าวก่ายเรื่องของมึงอีกตกลงมั้ย”

ผมบอกมันเสร็จ ก็เดินแยกมาที่ตู้หนังสือ วันนี้แล้วครับที่จะเป็นวันเริ่มภารกิจของผมกับไอ้ภพ โดยภารกิจแรกที่ผมต้องทำคือ “เล่นซ่อนหาในยามวิกาล” ผมเปิดดูเนื้อหาข้างในแล้วพบว่า กติกาการเล่นเกมส์นี้ก็เหมือนเกมส์ซ่อนหาทั่วๆไปอย่างที่เราเคยเล่นกันนั่นแหละครับ แต่เกมส์นี้ผมกับไอ้ภพต้องเล่นแค่ตอนกลางคืน  และ ต้องซ่อนกันอยู่ภายในบ้านเท่านั้น ข้อตกลงอื่นๆทางรายการให้ผมกับไอ้ภพสามารถตกลงกันเองได้ ภายใต้เงื่อนไขคือไฟในบ้านทุกดวงต้องถูกปิด

นานอยู่เหมือนกันที่ผมยืนอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้น  ส่วนใหญ่หนังสือก็จะเขียนคำบอกเล่าของพวกที่เคยลองดีแล้วเจอ มาให้หนังสือดูน่ากลัวขึ้น    ผมเลือกที่จะยังเก็บเนื้อหาส่วนอื่นเอาไว้อ่านอีกครั้งตอนเย็น และจะไปนอนกลางวันแทน เนื่องจากเมื่อคืนผมแทบไม่ได้นอนและกิจกรรมคืนนี้ยังต้องใช้พลังงานอีกเยอะ

“เฮ้ย!!  ไอ้เหี้ย ตกใจหมด” ผมเผลออุทานออกมาดังลั่นบ้าน เพราะเมื่อหันกลับมาจากตู้หนังสือ ก็เจอไอ้ภพ มายืนอยู่ใกล้ๆ ใกล้มากๆชนิดที่ว่าผมหันไปก็ชนกับอกมันเลยครับ

“ตกใจเหี้ยไร กูก็เดินมาเสียงออกจะดัง”

“ก็ตกใจมึงนั่นแหละ มึงมีไรวะ”  ผมโวยกลับ ก่อนจะถามหาเหตุผลที่ทำให้มันมายืนตรงนี้

“กู…กูเอ่อ”

“?”

"กู คือกู"

“ไอ้ภพ ถ้ามึงจะเสียเวลามาเพื่อบอกว่า กู คือกูเนี่ย ก็ถอย กูจะไปนอน กูง่วง!!!”

“เออๆ กูขอโทษ”

“ขอโทษ?  เรื่องอะไรวะ”  งงครับ  อยู่ดีๆมันก็มาอ้ำๆอึ้งๆ แล้วก็บอกขอโทษผม ที่ยืนอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ  สร้างเวรสร้างกรรมให้ผมต้องมานั่งระลึกอีกว่ามันมาขอโทษผมเรื่องอะไร เพราะพฤติกรรมมันนี่น่าถือเป็นโทษได้หมดทุกเรื่อง ก่อนที่ผมจะนึกถึงเรื่องล่าสุดที่มันก่อไว้กับผม

“เรื่องเมื่อเช้าหรอ” ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างกวนเบื้องล่างของมัน

“ไม่รู้ก็เรื่องของมึง” มันตอบผมหน้าตาย ก่อนจะหันหลังเดินหนีออกไป เหลือไว้แต่ความขบขันกับฟอร์มของมัน

“โถถถถถถ  มึงจะฟอร์มจัดไปไหนวะ แค่คำว่าขอโทษไม่ได้ทำให้มึงหล่อน้อยลงหรอก”

“เสือก จะไปนอนตายที่ไหนก็ไป” จบครับ  จบ ณ บัดนั้น ตรงนั้นเลยครับ จะไปเซ้าซี้กับมันมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวเกิดองค์ลงขึ้นมาอีกผมจะซวยเอาได้ ยิ่งอยู่ด้วยกันสองคนถ้า บ้านหลังนี้จะมีศพที่แปดเกิดขึ้น  ก็คงจะเป็นผมนี่แหละ

ตกเย็น…

“ต้องการอะไรเพิ่มมั้ย พวกเอ็ง” ลุงคำถามพวกเราที่นั่งเงียบๆกันอยู่ที่โซฟา

“วันนี้ยังไม่อยากได้อะไรครับลุง”

“โอเค งั้นพวกเอ็งเอานี่ไป”

“อะไรหรอครับ?”

ผมรับของสิ่งหนึ่งมาจากมือของลุงคำ มันคือสมุดเล่มเล็กๆเล่มหนึ่ง หน้าปกถูกเขียนเอาไว้ว่า “คาถาเห็นผี” ผมกับไอ้ภพได้สมุดเล่มนี้มาคนละหนึ่งเล่ม  เมื่อผมลองเปิดเข้าไปข้างใน หน้าแรกผมพบเพียงแค่คาถา คาถาหนึ่ง ที่ถูกเขียนกำกับไว้ข้างใต้ว่า พวกผมต้องท่องก่อนเริ่มเกมส์ในวันนี้

“ไฟฉาย ธูป เทียนไข ไฟแช็ก ลุงใส่ไว้ให้ในลิ้นชักแล้วนะ เมื่อต้องทำพิธี ก็ไปหยิบมาใช้ รู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง วิธีอยู่ในหนังสือนะ”

“ครับ”

“ลุงอาจจะทำผิดกฎของรายการ แต่ขอเตือนพวกเอ็งไว้ คาถานี้เป็นของจริง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องตลก ระวังตัวด้วย”

“ขอบคุณครับลุง” ผมกับไอ้ภพตอบรับคำเตือนของลุงคำ ที่กล่าวไว้แค่นั้นแล้วก็เดินออกจากบ้านหลังนี้ไป

“มึง กลัวมั้ยวะ”ผมถามไอ้ภพ  ที่ดูเฉยๆกับอะไรพวกนี้ เนื่องจากผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าสิ่งที่ผมต้องทำคือต้องมาเล่นกับคาถาพวกนี้ด้วย  แม้จะไม่ค่อยเชื่อ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะไปลบหลู่อะไร

“กลัว ? จะกลัวทำไมบอกแล้วไงว่าผีไม่น่ากลัวเท่าใจคน”

“แต่….”

“อย่าไร้สาระ กูเคยเตือนมึงแล้วนะให้กลับไป”  มันพูดไว้แค่นั้นก็เดินไปในครัวเพื่อจัดเตรียมข้าวเย็นของผมกับมัน  ทิ้งผมให้ยืนอยู่กับความคิดของตัวเองว่า ผมมาเสี่ยงเพื่ออะไร  ทำไมรายการนี้ถึงให้เล่นอะไรแรงขนาดนี้ แล้วทำไมไอ้ภพถึงพูดเหมือนรู้ว่าในรายการจะมีอะไรแบบนี้ 

“เฮ้ย!!!! ถ้าไม่มาช่วยกูทำ  เย็นนี้มึงไม่ต้องกินนะ” ไอ้ภพ ตะโกนออกคำสั่งมาจากห้องครัว นั่นถึงได้เรียกสติของผมให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน  ผมส่ายหน้าให้กับความคิดไร้สาระของตนเองแล้วเดินเข้าครัวไปทำอาหารกับมัน

ระหว่างการกินข้าวเย็น ผมรู้สึกไม่เป็นตัวเอง ในขณะที่ไอ้ภพกลับใช้ชีวิตได้เป็นปกติ นี่ผมกำลังกลัวอะไรอยู่? ตั้งแต่ที่ลุงคำพูดกับผมว่าคาถานี้เป็นของจริงเล่นไม่ได้นั้น ผมก็ใจเสียจนกู่ไม่กลับ ผมยอมรับว่าผมกลัว   คาถานี้มีแค่ให้ท่องเพื่อเห็น แต่ไม่มีคาถาที่จะช่วยยกเลิกคาถานั้นได้เลย  หมายความว่าถ้าผมเห็น ผมก็ต้องเห็นตลอดหรอ?

แม้จะบอกกับตัวเองไปว่า ยังไงรายการคงไม่ได้เอาคาถาแรงๆมาให้ผมเล่น แต่ก็ไว้ใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น รายการนี้มีเพียงคนที่เคยเข้ามาเล่นแล้วเท่านั้นที่รู้ว่า ความจริงทั้งหมดคืออะไร แต่แปลกมั้ย ที่ไม่เคยมีใครได้ออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับเกมส์เลย รายการนี้เก่งที่ยังทำให้ทุกอย่างเป็นความลับอยู่ได้

“มึงจะอาบน้ำก่อนเลยมั้ย”  ไอ้ภพมันถามผมหลังจากเรากินข้าวกันเสร็จ

“มึงอาบก่อนก็ได้ กูขออ่านวิธีเล่นเกมส์นี่ก่อน”

“เออ มันให้ทำไรก็บอกกูด้วยละกัน”

ผมหยิบหนังสือ  “เล่นซ่อนหาในยามวิกาล”  เดินตามไอ้ภพขึ้นไปบนห้อง อ่านรอระหว่างมันอาบน้ำ ผมเริ่มอ่านจากหน้าที่ผมอ่านค้างไว้อยู่  ส่วนที่ผมยังไม่ได้อ่านได้บอกถึงพิธีกรรมที่ผมต้องทำเอาไว้ชัดเจน หลายข้อที่ผมค่อนข้างตกใจในความแรงของมัน 

สิ่งที่เค้าให้ผมทำมันมากกว่าการท้าทาย.....

มันไม่ใช่แค่การลบหลู่

แต่หากสมมุติว่าผมคือคนตาย คือดวงวิญญาณในบ้านหลังนี้  สิ่งที่ผมโดนกระทำมันคงไม่ต่างอะไรไปกับการถูกหยามเกียรติ ถูกดูถูกด้วยพฤติกรรมอันหยาบช้าของคนเป็น

ปั้ง!!!!!

“เฮ้ย”  เสียงดังของอะไรสักอย่างได้ ดึงสติของผมให้กลับมา และเมื่อผมหันไปทางต้นเสียงก็พบว่าไอ้ภพมันกำลังเดินเข้าห้องนอนมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ

“มึงนี่ขวัญอ่อนเนอะ อะไรนิดหน่อยก็ร้องโวยวาย”

“พ่องดิ  กูอยู่เงียบๆ ใครเจอเสียงดังแบบนั้นก็ต้องตกใจกันทุกคนแหละ แล้วมึงจะโป๊ออกมาทำไมไปแต่งตัว”

“โป๊ห่าไร นี่กูนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่”

“เออ แม่ง”  ผมหงุดหงิดมัน เลยพาลไปหมดผมโวยวายเสร็จก็คว้าผ้าเช็ดตัวเดินออกจากห้องไป ไม่อยากจะบอกเลยว่า นอกจากจะตกใจเสียงประตูที่ไอ้ภพมันปิดเสียงดังแล้ว ผมยังตกใจกับหุ่นมันด้วย มันซ่อนรูปมากครับ   6 7 8 แพ็คคือมาหมดเลย แล้วพอหันกลับมาดูหุ่นผมเองก็ได้แต่ถอนหายใจ กูท้องกี่เดือนแล้ววะ???

ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน ก็ออกมาจากห้องน้ำ ด้วยสภาพแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนะครับ เดินเข้าห้องมาก็เจอไอ้ภพกำลังนั่งเหม่อออกไปทางหน้าต่างห้องนอน ในมือถือหนังสือภารกิจเอาไว้แต่ผมไม่แน่ใจว่ามันเปิดอ่านแล้วรึยัง ผมจึงเดินไปนั่งข้างๆมันแล้วถาม

“ไงมึง อ่านรึยังวะภารกิจวันนี้ของเรา”

“ยัง ก็กูบอกอยู่ว่าจะให้มึงเล่าให้ฟัง”

“แล้วจะฟังเลยมั้ยจะได้บอก”

“มันให้เริ่มทำเมื่อไร?”

“ภารกิจนี้หรอ เริ่มเที่ยงคืน”

“อืม งั้นเดี๋ยวมึงค่อยเล่าละกัน ขออยู่แบบนี้สักพัก”

“มึง…โอเคใช่มั้ย?”

“อืม ไม่มีไรหรอก มึงเอาไปอ่านต่อก็ได้ กูแค่ยังขี้เกียจเริ่ม”

แค่มองก็รู้แล้วครับว่ามันกำลังโกหกผม แต่ถ้ามันยังไม่คิดจะบอกอะไรผม ผมก็จะไม่เซ้าซี้มันอีก ผมเอาหนังสือนั่นมาเปิดดูเล่นๆอีกนิดหน่อยก็วางครับ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าต่างคนต่างนั่งซึมซับความรู้สึกของตัวเองไปพลางๆ นานเท่าไรไม่อาจทราบได้ แต่เมื่อผมหันมามองนาฬิกา มันก็บอกเวลา ห้าทุ่ม กว่าแล้ว และนั่นก็บอกได้ว่าเวลาที่จะอยู่กับตัวเองวันนี้ได้หมดลง

ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะไปทำ จะส่งผลอะไรมั้ย?

ผมไม่รู้ว่า ไอ้ภพ จะรู้สึกบ้างรึป่าวว่าเกมส์นี้มันน่ากลัว…

และผม…ก็ไม่มีทางรู้ว่าหลังจากผมบอกไอ้ภพให้ไปทำภารกิจ ตัวของผมจะไม่มีทางเหมือนเดิมได้อีกตลอดเกมส์…..

“ป่ะ ไอ้ภพ ไปทำให้เกมส์ของวันนี้มันจบกันเถอะ”

ระหว่างทางเดินลงบันได้ ผมกับไอ้ภพก็ไล่ปิดไฟในส่วนของทางเดินชั้นสองจนหมด เท่ากับว่าตอนนี้เหลือเพียงไฟจากห้องนั่งเล่นที่ส่องขึ้นมาให้มองเห็นทางบ้างเท่านั้น

ผมได้อธิบายให้ไอ้ภพฟังไปคร่าวๆแล้วว่า เกมส์นี้มันเหมือนกับการเล่นซ่อนหาปกติ  ไม่มีอะไรใหม่เพียงแต่ว่าก่อนเล่น ผมกับมันต้องนั่งทำพิธีเปิดเนตรให้เห็นผีและท้าทายทุกดวงวิญญาณในที่นี้ ส่วนรายละเอียดของพิธีกรรมผมจะบอกมันอีกทีตอนเริ่ม

“มึงเที่ยงคืนแล้ว  จะเริ่มยัง?” ไอ้ภพถามผม

“เอาดิ  มึงไปเอาเทียนไขมาจุดให้ได้สี่มุม ล้อมพวกเราไว้ เตรียมธูปแล้วก็ไฟฉายออกมาด้วย  อ้อ  มึงอย่าลืมสมุดคาถาที่ลุงคำให้มาด้วย” ผมสั่งให้มันทำทุกอย่าง มันก็แค่พยักหน้าแล้วก็เดินไปทำตามที่ผมบอก จนมันเตรียมทุกอย่างเสร็จ ผมจึงเดินไปปิดไฟดวงสุดท้ายของบ้าน

“เริ่มแล้วนะ”

พรึบ

ไฟทั้งบ้านถูกปิดลง   ผมเดินมาอยู่ตรงหน้ามัน ตอนนี้ผมกับไอ้ภพ ยืนหันหน้าเข้าหากัน ล้อมรอบด้วยเทียนไขทั้ง4เล่มที่ถูกจุดวางไว้มุมละ1เล่มเท่านั้น

“หยิบธูปขึ้นมาจุดคนละ 1 ดอก” ผมบอกไอ้ภพ

“จุดเสร็จแล้ว ให้ท่องตามกูก่อนนะ  สุ ปิ นา…..” เมื่อผมเริ่มท่องบทภาวนานี้  ไอ้ภพก็เริ่มท่องตามผมบ้าง ระหว่างที่สวดกันอยู่นั้น ผมรู้สึกได้เลยว่า บรรยากาศรอบๆตัวผมมันเปลี่ยนไป  ทุกอย่างเริ่มเย็นขึ้น มือและใจผมก็เริ่มสั่นจนเริ่มควบคุมไม่ได้ ผมเริ่มหาข้อเท็จจริงมาโต้แย้งว่านี่คือกลางคืนอากาศย่อมเย็นลงเป็นธรรมดา หรือไม่ ผมก็คิดไปเอง

“กูต้องสวดบทนี้ไปถึงเมื่อไร” ไอ้ภพ หยุดท่องแล้วถามผม

"ไม่รู้หวะ  ในหนังสือบอกแค่ว่าให้มึงตั้งสมาธิแล้วท่องไปเรื่อยๆ"

“งั้นก็ทำพิธีต่อไปเถอะ มันจะได้จบๆสักที”

“เอางั้นก็ได้ แต่ขอเปิดดูหนังสือแปปนะว่า มันให้ทำอะไรต่อ”

“เดี๋ยวกูเปิดเอง มึงยืนรอเฉยๆเถอะ มือสั่นขนาดนั้น พรุ่งนี้จะจบมั้ย”

“อืม แล้วมันให้ทำอะไร…” ผมลุ้นกับคำพูดไอ้ภพมากเพราะผมรู้สึกคุ้นๆว่าพิธีกรรมต่อไปที่เกมส์จะให้ผมทำ ค่อนข้างแรงเพียงแต่ผมจำไม่ได้ว่า มันให้ทำอะไรบ้าง

“หักธูปซะ แล้วเหยียบ พร้อมกับสาปแช่ง  ”  ตัน....ผมยอมรับเลยครับว่าผมตันจริงๆหลังจากที่ไอ้ภพบอกสิ่งที่ผมต้องทำต่อไป

“ภ…ภพ มึงจะทำจริงๆหรอ”

“ก็มันบอกให้มึงทำ หรือมึงจะไม่ทำ กลัวอะไรนักหนาวะ” ไอ้ภพคงเริ่มรำคาญกับท่าทีของผม เลยแสดงออกว่ามันกำลังหงุดหงิดผมแบบสุดๆแล้ว

“ภพ กูไม่อยากทำ กูยอมรับก็ได้ กูกลัวมาก” เสียงผมสั่นไปหมดตอนตอบไอ้ภพ

“กูเตือนมึงแล้วใช่มั้ย ว่าให้กลับไป ในเมื่อมึงเลือกที่จะอยู่ก็รีบทำให้จบซะ”

 กึก

“วิญญาณทั้งหลายที่อยู่ในบ้านหลังนี้และบริเวณนี้ กูขอสาปแช่งให้พวกมึงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ขอให้พวกมึงพบเจอแต่เรื่องเลวร้ายต่อๆไป ก่อนตายพวกมึงเคยเจอเรื่องร้ายแรงมาอย่างไร  หลังตายขอให้พวกมึงพบเจอเรื่องที่ร้ายแรงกว่า ร้อย เท่า  พันเท่า “

หลังจากไอ้ภพบอกให้ผมใจกล้าทำภารกิจนี้ให้เสร็จ มันก็หักธูปของมัน แล้วเหยียบลงบนพื้น พร้อมกับตะโกนสาปแช่งวิญญาณอย่างไม่มีความกลัวใดๆ  ผมมองการกระทำของมันแล้วยิ่งกลัวกว่าเดิม แต่เนื่องจากผมได้เห็นไอ้ภพทำก่อน  ผมจึงใจกล้าที่จะทำอย่างมันบ้าง  แม้ในใจจะมีเสียงคัดค้านมากมายเท่าใด แต่ก็มิอาจห้ามการกระทำของผมตอนนี้ได้   ในเมื่อถ้าคิดจะอยู่ให้จบเกมส์ผมต้องใช้กายเล่นไม่ใช่ใจ

“ไม่มีอะไรอีกแล้วใช่มั้ย  งั้นก็รีบๆเล่นซ่อนหาไรนี่ให้จบกันเถอะ” ผมบอกไอ้ภพ เมื่อผมกล่าวคำสาปแช่งคำสุดท้ายเสร็จ

“ยัง”

“ฮะ  ยังมี….อะไรอีก” 

“มึงลืมสมุดที่ลุงคำให้มาแล้วหรอ  พิธีกรรมต่อไปหนังสือบอกให้กูกับมึงท่องคาถาในสมุดเล่มนั้น”

“ภพ ในเล่มของมึงกับของกูมันเขียนไว้เหมือนกันรึป่าววะ”   ผมเสียงสั่นมากเมื่อเอ่ยคำถามนี้กับไอ้ภพ อย่างที่รู้กันว่าคาถาในสมุดเล่มนั้นมันคือคาถาเห็นผี ดังนั้นผมจึงเริ่มหาทางที่จะหลีกเลี่ยงการท่องให้จบเอง เพราะตัวผมตอนนี้ความกลัวเริ่มกลับมาอีกครั้งหลังจากที่คิดว่าทุกอย่างควรจบลงตั้งแต่คำสาปแช่งนั่น

“เหมือน   มึงมีอะไร? “

“ภพ  มึงท่องนำกูหน่อยนะ กูขอร้อง กูจะหลับตาแล้วท่องตามมึงเอง  กูไม่ไหวแล้วหวะ”

“เออ”

 เมื่อมันตอบผมเสร็จ  สิ่งที่ผมทำคือการเขยิบตัวให้เข้าไปใกล้มันอีก พร้อมพนมมือแล้วหลับตาลงรอฟังบทสวดจากไอ้ภพ

“อิติ สุคโต อรหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา………”

“ไหนๆมึงก็ปิดตาแล้ว  งั้นมึงเป็นคนหาแล้วกัน ดูจากท่าแล้วให้มึงไปซ่อนคงไม่ได้เล่น”

ไอ้ภพบอกผมทันทีหลังจากที่มันท่องคาถาเห็นผีบทนี้ครบ เก้าจบเสร็จ ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้สึกคัดค้านอะไร ให้ผมเป็นคนหาอย่างน้อยมันก็ดีกว่าให้ผมไปซ่อน อย่างที่มันบอกถ้าผมต้องซ่อนผมคงไม่กล้า ยิ่งได้อ่านเรื่องราวที่อยู่ในหนังสือว่าเล่นซ่อนแอบตอนกลางคืนแล้วจะเจอกับอะไรบ้าง  ผมยิ่งรู้สึกขอบคุณไอ้ภพที่เสียสละตัวเองขนาดนี้

“เออ จะให้นับถึงเท่าไร”

“แค่ สามสิบก็พอ บ้านมีหลังแค่นี้จะนับยาวๆไปเพื่อ”

“เออมึงก็รีบๆไปซ่อน จะได้เล่นให้มันจบๆ ไม่ต้องเสือกไปหาที่ซ่อนยากละกัน”

“งั้น กูดับเทียนเลยนะ”

“จะทำอะไรก็ทำ”

"โชคดี"

ไอ้เวรรรรรรรภพ!! คนยิ่งกลัวๆอยู่ มันยังแกล้งโดยการมากระซิบข้างหูผมให้กลัวยิ่งกว่าเดิมไปอีก บ่นมันไปก็เท่านั้นครับเพราะผมได้ยินเสียงฝีเท้ามันแล้วว่ามันกำลังเดินออกไปจากตัวผม  บางทีไอ้เกมส์นี้มันก็คงไม่ได้อยากแกล้งผมเท่าไรเพราะด้วยความที่บ้านหลังแค่นี้แถมให้เล่นตอนกลางคืนที่ทั้งบ้านมีแค่ผมกับไอ้ภพ  ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมกำลังได้เปรียบมันอยู่ครับ  ผมได้ยินเสียงมันทุกอย่าง

“ไอ้ภพ กูนับครบแล้วนะ มึงหาที่ซ่อนได้แล้วใช่มั้ย กูจะหาแล้วนะ “

3

2

1

เริ่ม!!!!


ผมตัดสินใจลืมตาขึ้นมา เพื่อพบกับความเงียบ  ไม่สิ นอกจากความเงียบผมยังรู้สึกได้อีกว่า ทุกอย่างรอบตัวของผมมันเปลี่ยนไป ผมไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเลยตั้งแต่เริ่มท่องคาถาเห็นผีบทนั้น จนถึงตอนนี้   ไม่อยากจะพูดเลยว่า สิ่งที่ผมสัมผัสได้ตั้งแต่ตอนแรกว่า อากาศมันเย็นลง ทุกอย่างดูอึดอัดไปหมด บรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างไร มันก็ยังคงเป็นแบบนั้น จนผมเริ่มที่จะอดคิดไม่ได้แล้วว่าผมคิดไปเอง หรือ ทุกสิ่งมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

“ภพ กูจะเริ่มหาแล้วนะ อยากจบเกมส์นี้ไวไวก็ส่งเสียงให้กูรู้ด้วยว่ามึงอยู่ตรงไหน”

ผมตะโกนให้มันได้ยินเลยครับ ไม่ได้สนใจการบันทึกเทปแต่อย่างใด อีกอย่าง ที่ผมพูดก็เพื่อลดความกลัวตัวเองลงไปบ้างไม่ได้กังวลว่าจะหาไอ้ภพไม่เจอ เพราะยังไงซะตำแหน่งสุดท้ายที่ผมจับได้ก่อนจะลืมตาว่าต้องเป็นเสียงไอ้ภพแน่นอนคือชั้นสอง

“ภพ กูรู้นะว่ามึงอยู่ชั้นสอง กูได้ยินเสียงมึง”

“อยู่ตรงไหน  รีบออกมาให้กูเห็นสิกูจะได้เล่นให้มันจบ”

ฮืดดดดด ฮืดดดดดดด ฮืดดดดดดด

“โอ้โห ไอ้ภพ ส่งเสียงอย่างอื่นก็ได้ ไม่ต้องหายใจแรงขนาดนี้หรอก ปอดมึงพังพอดี หรือว่า มึงจะกลัว?”

เสียงไอ้ภพหายใจแรงมากครับ ดังมาจากห้องน้ำบนชั้นสอง ดูก็รู้แล้วว่ามันคงกำลังกลัวอยู่ แต่ก็ถือว่ามันค่อนข้างที่จะพูดรู้เรื่องเพราะว่าการที่มันส่งเสียงแบบนี้ทำให้ผมได้ยินทุกอย่างชัดเจนมาก แม้จะอยากตบหัวมันสักป้าบว่า มึงเคาะอะไรก็ได้ให้กูได้ยินก็พอแล้วไม่ต้องเล่นใหญ่ หายใจฟืดฟาดเพิ่มความหลอนให้กูอีก

“หยุดหายใจ ประหลาดๆสักที กูมาแล้ว แล้วกูก็รู้ว่ามึงอยู่ในนั้น กูจะเปิดไปโป้งมึงแล้วนะ”

แกรก แอ๊ดดดดดดดดดด

“โป้งงงงงงงงงไอ้ภพ กูเจอมึงแล้ว กูชนะ ”

เงียบ…   

ว่างเปล่า……

ในห้องน้ำชั้นสองไม่มีแม้แต่เงาของไอ้ภพ นั่นทำให้ผมที่เปิดประตูบานนั้นนิ่งค้างไปกับความว่างเปล่าตรงหน้า เหงื่อเม็ดเล็กเม็ดน้อย เริ่มซึมออกมาตามขมับและไรผมของผม   ผมสาบานได้ว่าเสียงที่ผมได้ยินมันคือเสียงลมหายใจของมนุษย์จริงๆ เพียงแต่ภาพที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้ความมั่นใจของผมเป็นศูนย์  จะเป็นไปได้อย่างไร? สายตาของผมเริ่มสอดส่องหาข้อเท็จจริงว่าเสียงที่เกิดขึ้นมาจากไหน ก่อนจะพลันไปเห็นช่องลมขนาดเล็กที่ถูกติดตั้งไว้ด้านบนห้องน้ำ  หรือเสียงที่เกิดขึ้นจะมาจากตรงนี้?

“จะเป็นไปได้ไงวะ”  แม้เห็นสิ่งที่จะทำให้ผมไม่กลัวอยู่ตรงหน้า แต่ประสบการณ์ชีวิตมันก็บอกกับผมได้เหมือนกันว่าเสียงที่เกิดขึ้นไม่มีทางจะมาจากช่องลมตรงนั้นแน่ๆ

เคร้งงงงงงงงงงงงง!!!

“เหี้ยยยยย”

ผมคงตกใจกับเสียงที่เกิดขึ้นมากไป เลยอุทานออกมาลั่นบ้าน แต่นั่นก็ทำให้ร่างกายของผมตื่นตัวและเริ่มที่จะรู้แล้วว่าไอ้ภพอยู่ในครัวของบ้านหลังนี้

“ไอ้ภพ  มึงจะไปไหนหนะ”

เมื่อผมวิ่งลงบันไดของบ้านลงมาแล้วจะวิ่งไปทางห้องครัว  ผมก็เห็นหลังไอ้ภพ วิ่งแล้วเปิดประตูด้านหลังบ้านออกไปทางด้านหลังที่ซึ่งเป็นสถานที่ต้องห้ามในยามวิกาลของเกมส์นี้ 

“ไอ้ภพพพพ  มึงจะออกไปทำเหี้ยไรวะ หยุดนะ กูเจอมึงแล้ว โป้งงงงง”

“ไอ้ภพพพพ   เดี๋ยวมึงก็โดนปลดกลางรายการหรอก จะเอามั้ยเงินอ่ะ จะออกไปทำไมวะ”

ผมตะโกนไล่หลังมันไปเรื่อยๆ เมื่อมันไม่มีทีท่าเลยว่าจะหยุดวิ่งจนมันวิ่งไปถึงเขตกำแพงบ้านแล้วทำท่าจะปีนออกไป

“ไอ้ภพ ถ้ามึงไม่กลับ ก็แล้วแต่มึงนะ เชิญมึงออกไปเลย”

ตุ้บ!!!!!!

เสียง…..

เสียงเดิมอีกแล้วครับ   ไอ้ภพคงกะจะใช้มุกเดิมในการแกล้งผมให้กลัวหนักกว่าเก่า แต่คราวนี้มันพลาดครับ  มันที่เพิ่งจะปีนขึ้นไปนั่ง คงจะหลอกผมได้หรอก ว่าเป็นเสียงอย่างอื่นที่ไม่ใช่มัน

แกร๊บ..

มาแล้วครับเสียงเหยียบใบไม้  เสียงนี้มันเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆจนผมสัมผัสได้ว่ามันอยู่ข้างหลังผม จากอารมณ์กลัวที่มีอยู่ตอนแรก บัดนี้ได้กลายมาเป็นอารมณ์หงุดหงิดแทน เนื่องจากการเล่นไม่เลือกเวลาของมัน  แต่ถ้ามันจะเล่นผมก็จะสนองให้   ผมปล่อยให้มันยืนอยู่สักพักก่อนที่ผมจะตัดสินใจที่จะหันไปตวาดมัน   ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นห้ามการกระทำของผม

“เฮ้ย!!!  มึงออกไปทำอะไร จะกลับเข้าบ้านได้รึยัง อยากโดนปลดรึไงวะ”

กึก

ไอ้ภพครับ  มันมายืนอยู่ตรงประตูครัว แถมยังตะโกนเรียกผมด้วยเนื้อความแบบเดียวกับผมที่ตะโกนเรียกหามัน คาดว่าส่วนหนึ่งมันคงได้ยินเสียงผมที่โวยวายด่ามัน แต่ก่อนที่ผมจะเข้าใจในส่วนนั้น  ร่างกายของผมตอนนี้ได้ชาไปหมดทุกส่วน ถ้าไอ้ภพอยู่ตรงนั้นแล้วคนข้างหลังผมคือใคร?

ไอเย็นที่ผมสัมผัสได้ หรือจะเป็นความรู้สึกที่ว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลังสิ่งเหล่านั้นก็ยังคงอยู่  ไม่ได้หายไปเหมือนหนังเหมือนละครแบบที่ผมเคยดู  ไม่อยากเข้าใจคำว่าผีอำเท่าไร แต่ตอนนี้ผมขยับตัวไปไหนไม่ได้ สิ่งเดียวที่ขยับมีเพียงปากไอ้ภพ ที่เรียกให้ผมกลับเข้าบ้าน และ สิ่งที่อยู่ด้านหลังผมเท่านั้น

แกร๊บ

มาแล้วครับ สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นไอ้ภพ กำลังเดินเข้ามาใกล้ผมอีกเรื่อยๆ  ผมได้แต่หลับตาปี๋ พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลจากความกลัว ตอนนี้ผมทำได้เพียงแค่หวังให้ไอ้ภพเห็นความผิดปกตินี้แล้วมาลากผมออกไปจากตรงนี้ก่อนที่ไอ้สิ่งที่อยู่ข้างหลังผมจะถึงตัวผม  แต่นั่นแหละ ผมไม่ใช่นางเอก มันจึงไม่เป็นแบบที่ผมคาดหวัง…..

“ฮืดดดดดดดดดดด  ฮืดดดดดดดดดดดด ฮืดดดดดดดดดด”

“หึหึ  โชคดี”

เสียงลมหายใจเหล่านั้น  คำพูดพวกนั้น คล้ายกับสิ่งที่ผมเจอมาก่อนหน้า  อะไรสักอย่างเริ่มเข้ามาคุกคามความปกติของผมขึ้นเรื่อยๆ ผมขยับออกไปไหนไม่ได้ มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกเรื่อยๆ อีกทั้งสิ่งที่อยู่ด้านหลังของผมทำท่าว่าจะยื่นอะไรสักอย่างมาสัมผัสผม ถ้าไม่มีมือไอ้ภพเดินมาสัมผัสผมก่อน

“มึงจะร้องไห้ ทำไมวะ กูแค่เรียกเข้าบ้าน”

“อะ…ไอ้ภพ  ฮือออ”   ผมลืมตาขึ้นแล้วก็เห็นว่าไอ้ภพมันเดินมาลากผมให้เข้าบ้านไปพร้อมกับมัน ผมจึงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย พร้อมเกาะแขนไอ้ภพแน่น  โดยไม่หันหลังกลับไปมองตรงนั้นอีก

มือของผมสั่นไปหมด……

ใจของผมก็ด้วย

เสียงที่ได้ยินตอนแรก  ที่ผมคิดว่าไอ้ภพแกล้ง ไม่ใช่ไอ้ภพ

เสียงลมหายใจบนห้องน้ำชั้นสองนั่นอีก  นั่นก็ไม่ใช่ไอ้ภพ

แล้ว….สิ่งที่ผมกำลังต้องเผชิญอยู่หละ  มันคืออะไร?  อะไรที่กำลังเล่นกับชีวิตของผมอยู่?


*************************** TBC ******************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2016 19:49:22 โดย P-Rawit »

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โอ้ยยยยย อ่านแล้วน่ามากกกกกก :ling3:

ออฟไลน์ Babarahbreem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรื่องน่าติดตามมากค่าาาา :z2: :z2:

ออฟไลน์ nuchhxk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เนื้อเรื่องน่าติดตามดีค่ะ อ่านแล้วหลอนตาม  :katai1:

ออฟไลน์ P-Rawit

  • The beginner of writing world
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
เนื้อเรื่องน่าติดตามดีค่ะ อ่านแล้วหลอนตาม  :katai1:

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ  ฝากติดตามต่อเรื่อยๆจนจบนะครับ

คอมเม้นท์อื่นๆ  ผมไม่รู้จะอ้างถึงยังไง  ยังใช้ไม่ค่อยเป็นครับ ขอโทษด้วยนะครับ ยังไงก็ขอบคุณและฝากติดตามเหมือนกันนะครับ  เลิฟๆๆๆๆๆ :o8:

P-Rawit

ออฟไลน์ P-Rawit

  • The beginner of writing world
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ตอนที่3

ผีถ้วยแก้ว


“มึงจะบอกกุได้รึยัง ว่าเมื่อคืนมึงเป็นอะไร”

คำถามนี้ของไอ้ภพ ได้ถูกเอ่ยถามผมเป็นระยะ  ตั้งแต่เมื่อคืนที่ไอ้ภพลากผมออกมาจากความน่ากลัวตรงนั้นมันก็เอาแต่ถามผมว่า ผมเป็นอะไร ทำไมผมที่เคารพในกฎกติกาเกมส์มากที่สุดถึงได้ทำอะไรแบบนั้น   ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  ว่าผมเป็นอะไร หลังจากที่ความกลัวเริ่มลดลง สิ่งที่ยืนยันไอ้ภพได้ว่าผมยังคงมีลมหายใจอยู่มีเพียงน้ำตา และ ตัวที่ยังสั่นเทาของผมเท่านั้นที่ตอบมันได้  และมันก็คงรู้ว่าเค้นให้ตายยังไงผมก็คงยังไม่พูด มันจึงละความพยายามและล้มตัวนอนในที่สุด

“กู….ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากูเป็นอะไร”

“แล้วมึงวิ่งออกนอกประตูไปทำไม?”

ผมเงยหน้าขึ้นสบตาไอ้ภพหลังจากจบคำถามนั้น  ความแคลงใจหลายอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในใจผม  ในเมื่อมันเห็นว่าผมวิ่งออกไป ทำไมถึงไม่ได้รู้เลยหละว่า ผมวิ่งตามมัน

“กูบอกไปมึงจะเชื่อกูมั้ยภพ?”

“ขึ้นอยู่กับเหตุผลของมึง”

“เอาเป็นว่าถ้ามึง อยากรู้กูก็จะบอก    ที่กูวิ่งออกไปตรงนั้นเพราะกูวิ่งตามบางอย่างซึ่งกูคิดว่าเป็นมึง”

“กู?”

“ใช่ มึงไม่ได้ยินเสียงอะไรหน่อยหรอภพ กูตะโกนไล่หลังสิ่งนั้นไปโดยเอ่ยชื่อมึงออกมาตลอดเวลา”

“เสียง?”

“ใช่ เสียง กูตะโกนด่าออกมาว่ามึงจะออกไปทำไม อีกอย่างทำไมมึงถึงไม่แปลกใจว่าประตูมันเปิดเอง”

“…..”

“ทำไม..ถึงไม่ตอบคำถามกู”ไอ้ภพทำท่าครุ่นคริดเหมือนกับว่าเหตุการณ์ที่ผมเจอไม่ได้เป็นเหตุการณ์เดียวกับมัน

“เอาเป็นว่ากูจะบอกมึงแค่ ประตูนั่นกูอาจปิดไม่สนิทเองก็ได้”

“แล้วเรื่องเสียงกูหละ มึงจะว่ายังไง”

“หูกูคงไม่ได้ตั้งใจฟังมึงมั้ง”

“กูไม่เชื่อ !!! ไอ้ภพบอกกูเถอะ มันแปลกไปทุกอย่างตั้งแต่กูท่องคาถานั่น”

“เฮ้อ  มึงไปนั่งสงบสติตัวเองก่อนไป ไอ้มิว”

ผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้อีกครั้ง  หลังจากที่ผมคาดหวังกับคำตอบของไอ้ภพ  ทำไมมันถึงไม่ได้ยินเสียงผมว่าผมกำลังเรียกมัน ความกลัวที่ตกตะกอนในใจผมตั้งแต่ที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมเกมส์ มันเริ่มถูกเหตุการณ์หลายๆอย่างกวนให้ใจผมขุ่นมัวอีกครั้ง  การที่ไอ้ภพเมินที่จะตอบผมมันมีความเสี่ยงสูงมากที่ไอ้ภพจะไม่ได้ยินว่าผมพูดอะไร ซึ่งนั่นคงไม่ได้ทำให้ผมต่างไปจากวิญญาณพวกนั้น ออกมาให้รับรู้  ออกมาให้เห็น แต่คนเป็นก็ไม่รับรู้อยู่ดีว่าต้องการอะไร

“ภพ อย่าเมินกู  ตอบคำถามกูเถอะกูไหว้หละ”

“มึงอย่าเซ้าซี้ไอ้มิว  นู่นมึงเตรียมไปตอบคำถามคนพวกนั้นดีกว่า”

ไอ้ภพพูดเสร็จก็ชี้ให้ผมเห็นว่า ตอนนี้หน้าบ้านมีทีมงานของเกมส์ 2-3 คน กำลังเดินเข้ามาหาพวกผมที่ยืนคุยกันอยู่  คาดว่าเรื่องเมื่อคืนที่ผมทำผิดกฎนั้นทางรายการคงจะได้รับรู้กันแล้วผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณห้องครัว และคงอยากหาเหตุผลเหมือนๆกับไอ้ภพว่าทำไมผมถึงผิดกติกา

“ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะการถ่ายทำของคุณมิวและคุณภพนะครับ จำพวกผมได้มั้ย”

“จำได้ครับ”

“งั้นผมจะไม่แนะนำตัวใหม่นะครับ อย่างที่พวกคุณทราบกันว่า กติกาของเราคือห้ามออกจากบริเวณบ้านในยามวิกาลซึ่งเมื่อคืนคุณมิวได้ทำผิดกฎในข้อนี้ “

“จะปลดมันออกทันทีเลยหรอครับ”  ไอ้ภพถามกลับทีมงานกลุ่มนั้น หลังจากที่ทีมงานชี้แจงรายละเอียดความผิดผม

“ตามจริงจะปลดเพื่อลงโทษเลยก็ได้ครับ แต่ทางผู้จัดการเกมส์ต้องการฟังเหตุผลของคุณมิวก่อน เนื่องด้วยเป็นการทำผิดครั้งแรก ทางเราจึงเห็นตรงกันว่าหากเหตุผลนั้นฟังขึ้นทางเราจะอนุญาตให้คุณมิวร่วมเล่นเกมส์ต่อได้ครับ”

“ว่าไงครับ คุณมิวพร้อมชี้แจงเหตุผลหรือไม่ครับ”

"ค…คือ  คือผม"

“เอาเป็นว่าถ้าคุณมิวยังไม่พร้อมตอนนี้ก็ไม่เป็นไรครับ ทางเราจะนำเทปบันทึกของเมื่อคืนมารีรันให้คุณมิวดูอีกครั้ง เมื่อจบการรีรันผมหวังว่าจะได้คำตอบของคำถามนะครับ”

“ไม่ต้องครับ”

“ทำไมครับคุณภพ”

“จะรีรันภาพซ้ำอีกทำไมครับ ในเมื่อพวกผมคือคนที่เล่นเกมส์นั้นเอง” ไอ้ภพเริ่มขึ้นเสียงใส่ทีมงานแล้วครับ ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้มันเริ่มไม่พอใจการคาดคั้นของทีมงานที่ทำต่อผม

“งั้นคุณมิว  ได้โปรดตอบคำถามด้วยครับ พวกผมมีเวลาจำกัดสำหรับตรงนี้”

“ผมไม่มีข้อแก้ตัวครับ ผมออกไปจริงตามที่พวกคุณเห็นนั่นแหละครับ”

“งั้นผมคงต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับคุณไม่มีสิ…”

“เป็นความผิดของผมเองครับ”

“เกิดอะไรขึ้นครับคุณภพ”

“อย่างที่เห็น กันในเทปเมื่อคีนนะครับ ผมเป็นคนที่แอบอยู่ในครัวนั่น สาเหตุที่ประตูถูกเปิดคิดว่าน่าจะมาจากผมที่ปิดไม่สนิทเอง อีกอย่างที่ไอ้มิวมันวิ่งออกไปตรงนั้นเพราะผมทำของตกลงมาแล้วมันกลิ้งออกไปครับ ไอ้มิวจึงต้องวิ่งไปเก็บ”

“แต่…”

“ได้โปรดบอกทางผู้จัดการเกมส์ด้วยครับ หากนี่เป็นความผิดครั้งแรก โปรดเข้าใจอะไรง่ายๆด้วยครับ”

“งั้นรอสักครู่นะครับ”

เมื่อทีมงานพูดเสร็จก็ได้ต่อสายหาใครสักคนคาดว่าน่าจะเป็นผู้จักการเกมส์ เพื่อบอกกล่าวถึงเหตุผลของผม ระหว่างนั้นผมจึงได้หันกลับไปมองหน้าไอ้ภพ ทำไมมันต้องใช้ตาและน้ำเสียงโหดแบบนั้นกับทางทีมงานและยังเรื่องโกหกนั่นอีก เหมือนกับว่า มันไม่อยากให้ผมออกจากเกมส์นี้ ทั้งๆที่ตัวของมันเองในทีแรก ก็ไม่ได้อยากให้ผมเข้าร่วมด้วยอยู่แล้ว ทำไมมันถึงไม่ใช้โอกาสนี้เอาผมออก

“ทางผู้จัดการให้ข้อตกลงมาแล้วนะครับว่า จะยังให้คุณมิวเล่นเกมส์ต่อแต่ช่วยเคารพกติกาด้วยนะครับ เกรงว่าหากทำผิดในครั้งต่อไป จะไม่ได้รับโอกาสแบบนี้อีก”

“ขอบคุณครับ”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ”

“เอ่อ เดี๋ยวครับ วันนี้ทีมงานอีกคนไม่มาหรอครับ คนที่คุยกับผมวันที่มาส่งผมหนะครับ”

ผมถามหาทีมงานอีกคนที่เคยเตือนผมกับไอ้ภพให้เคารพในกติกา เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อคืนเริ่มทำให้ผมอยากรู้ถึงความน่ากลัวของเกมส์นี้ให้มากขึ้น และคนเดียวที่คาดว่าจะให้คำตอบกับผมได้ คงมีเพียงทีมงานคนนั้น

“อ๋อ วันนี้ไม่มาครับ เขาต้องไปทำงานกับผู้จัดการเกมส์ครับ”

“อ่อ  ขอบคุณอีกครั้งครับ”

เมื่อทีมงานออกจากบ้านไป ผมจึงได้หันกลับมาคุยกับไอ้ภพอีกครั้งเพื่อถามถึงสาเหตุที่มันยังเก็บผมไว้ในเกมส์

“ภพ ทำไมมึงถึงต้องสร้างเรื่องมาปกป้องกู”

“ให้มึงออกจากเกมส์ด้วยวิธีนี้มันไม่แฟร์หวะ กูอยากให้มึงไปขอออกเองมากกว่า”

“แค่นั้นหรอ?”

“เออ  อย่าถามมากได้มั้ยวะ ได้อยู่ต่อก็ดีแล้วไง”

“ขอบคุณ”

“มึงคงมีเหตุผลของมึงที่จะอยู่ต่อ”

มันพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น แล้วก็หันหลังกลับไปทางประตูครัว ทำแบบเดิมกับทุกๆวันตั้งแต่มันมาที่บ้านหลังนี้คือการปีนกำแพงด้านหลังบ้านออกไป แล้วกลับมาในสภาพที่สกปรก  อยากจะถามมันเหลือเกินว่ามันออกไปทำอะไร อีกอย่างเสื้อผ้ามันเอามาก็ไม่ได้เยอะ ยังจะไปทำให้มันเปื้อนอีก  พูดถึงเสื้อผ้าเปื้อน เย็นนี้ผมคงต้องขอลุงคำเอาผงซักฟอกมาซักผ้าแล้วหละครับ 3 วันแล้วที่เสื้อผ้าพวกผมยังกองอยู่ในตะกร้าบนบ้าน


***********************


“ลุงคำครับ  พรุ่งนี้ผมขอผงซักฟอกสักถุงได้มั้ยครับ จะซักผ้าครับ”

“อ้าว ยังไม่เห็นหรอลุงเอามาให้แล้วนะ อยู่ในตู้เก็บของถ้าซักกันไม่เป็นจะฝากไปให้ลุงซักให้มั้ย”

“ไม่เป็นไรครับลุง เกรงใจลุงครับ”

“ลุงไม่ได้จะเอาไปซักเอง เดี๋ยวเอาไปให้ร้านซักให้”

“ไม่เป็นไรครับลุง   ซักเองดีกว่าครับ”

“เอางั้นก็ได้  เดี๋ยวลุงไปแล้วนะ”

“ครับลุง”

“ทำไมมึงไม่เอาไปให้ลุงเค้าซักให้วะ” ไอ้ภพ ถามผมหลังจากที่ลุงคำเดินออกจากบ้านไป

“มึงคิดว่าลุงเค้าจะไม่สงสัยหรอ เรื่องเสื้อผ้ามึงที่เปื้อนดินได้ขนาดนั้นอ่ะ”

"....."

“ถามจริงๆนะไอ้ภพ มึงออกไปทำห่าอะไรทุกวันวะ กลับมาทีเสื้อผ้ามึงนี่อย่างกับไปรบมา”

“มึงไม่ได้อยากรู้หรอก”

“มึงจะไม่บอกกูก็บอกมา ห่านี่ชอบทำตัวมีความลับ”

บ่นมันเสร็จก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินไปทำอาหารเย็น  ทำไปซักพักไอ้ภพก็เดินมาสมทบ   ไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้นมันไปยืนทำเอ็มวีตรงไหนมาถึงได้มาช่วยช้านัก

“กูอ่านแล้วนะ”

“อ่านไรวะ”

“ภารกิจที่ต้องทำคืนนี้”

เคร้งงงงงงงงง

ตะหลิวบนมือผมร่วงหล่นทันที หลังจากฟังประโยคหยุดหายใจของไอ้ภพ   ผมเคยชินกับชีวิตตอนกลางวันมากไปจนลืมนึกไปว่า ผมจะต้องทำภารกิจในตอนกลางคืนทุกวัน อาจด้วยเพราะวันนี้ผมมีแต่เรื่อง  หรือเพราะผมพยายามคิดเรื่องไอ้ภพเยอะๆ จึงทำให้ผมลืมเรื่องที่ผมควรเป็นกังวลมากที่สุดตอนนี้

“แล้ว….มันให้ทำอะไร”  เสียงของผมคงแผ่วลงไป ถึงได้ทำให้ไอ้ภพที่กำลังก้มเก็บตะหลิว  หันมามองหน้าผมทันทีหลังจากผมถามจบ มันคงเริ่มรู้แล้วว่า ผมยังคงกลัวและประหม่ากับภารกิจที่ต้องทำต่อจากนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากบางสิ่งบางอย่างที่ผมเจอในภารกิจแรก

“ไม่ยาก ภารกิจนี้ไม่ต้องท่องคาถาอะไรทั้งสิ้น เป็นเกมส์ที่พวกเราทุกคนต้องเคยเล่นอยู่แล้ว” มันตอบคำถามผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ค่อนไปทางปลอบใจผม  ก่อนจะหยุดเพื่อสังเกตสีหน้าของผมที่มองมันอยู่ แล้วพูดต่อไปว่า

“ผีถ้วยแก้ว รู้จักใช่มั้ย?”

“อืม...วิธีการเล่นหละ เกมส์บังคับให้ต้องทำอะไรรึป่าว”

“ไม่ เกมส์นี้ค่อนข้างเบากว่าเมื่อคืนเพียงแต่คำถามที่จะต้องใช้ถามจะต้องคิดขึ้นมา 13 คำถาม”

“เริ่มเมื่อไร”

“เวลาเดิม….เที่ยงคืน”

ผมเงียบลงหลังจากคุยเรื่องภารกิจกับไอ้ภพเสร็จ ไอ้ภพก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรกับผมในเวลานี้  มันอาจจะรู้ว่าผมต้องการเวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น นับถือเกมส์จริงๆเลือกเวลาและคำถามให้เป็นตัวเลขที่หนังผีชอบใช้กัน  13 คำถาม ผมพอจะนึกออกบ้างแล้วหละว่าจะถามอะไร อย่างน้อยก็คำถามเบสิค ชื่ออะไร  ตายยังไง ผู้หญิงหรือผู้ชาย

“ภพ แล้วมึงจะเอาของเล่นผีถ้วยแก้วมาจากไหน”

ผมเริ่มที่จะกลับมาคุยเรื่องภารกิจอีกครั้งหลังจากอาบน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เดียวกับเมื่อวาน  บนเตียงในห้องนอนของผม   ไอ้ภพซึ่งกำลังนั่งมองออกไปทางหน้าต่างเหมือนเดิมนั้น หันกลับมามองผมครู่หนึ่งก่อนจะหันไปเปิดหนังสือนั่นอีกรอบ

“ในหนังสือเขียนว่า ของเล่นผีถ้วยแก้วอยู่ใต้ตู้หนังสือ”

“อืม  แล้วมึงคิดไว้รึยังว่าจะถามอะไรบ้าง”

“ก็คำถามทั่วไป  เอาให้ครบ 13 คำถามก็พอ ขี้เกียจโดนไอ้พวกทีมงานมันมาไต่สวนอีก”

“งั้นตอนนี้  ก็อยู่เฉยๆรอเวลาไปแบบเดิมเหมือนเมื่อวานละกัน”

“มิว ถามจริงๆนะเมื่อวานมึงเจออะไร”

ไอ้ภพหันหน้าออกไปมองที่หน้าต่างอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยคำถามที่ผมได้ให้คำตอบกับมันไปแล้ว ผมซึ่งนั่งอยู่เฉยๆก็ทำได้แค่มองมัน  มันจะรู้มั้ยว่าผมกลัวมากจนไม่อยากพูดถึงมันอีก แต่ท่าทางของมันคงไม่ได้ตั้งใจทำให้ผมกลัว มันคงกำลังต้องการคำตอบบางอย่างไปลบความสงสัยในใจมัน

“เฮ้อ ภพกูไม่รู้นะว่ามึงต้องการคำตอบแบบไหน แต่สิ่งที่กูเจอมากูได้บอกมึงไปหมดแล้ว อยู่ที่มึงจะเชื่อกูหรือไม่เชื่อ ที่กูบอกมึงว่ากูก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร กูพูดจริงๆ เพราะกูก็ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน หลังจากกูท่องคาถาบทนั้นจบ กูก็มองบ้านหลังนี้ไม่เหมือนเดิมเลย ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว   ภารกิจวันนี้กูถึงได้…กลัว”

พูดจบมันก็หันหน้ามามองผมพร้อมกับพยักหน้า  แปลกดีที่มันไม่ได้มีทีท่าสงสัยหรือไม่เชื่อใจอะไรในตัวผม กลับกันท่าทางของมันกลับแสดงออกเหมือนกับว่า มันเคารพและยอมรับในคำตอบของผม อีกทั้งตั้งแต่ผมเจอเรื่องน่ากลัวเมื่อคืน ไอ้ภพก็ดูเข้าถึงง่ายขึ้น พูดกับผมมากขึ้น ผิดกับไอ้ภพที่ผมเจอวันแรก

“ภพ มึงไปเจออะไรมา ทำไมถึงเข้ามาร่วมในเกมส์นี้เหมือนมึงไม่กลัวอะไรสักอย่าง ความลับหลายๆอย่างของมึงพอจะบอกกูได้มั้ย”

“ถ้ากูพร้อม มึงจะรู้เอง”

ผมพยักหน้าตอบมันไป แสดงให้มันเห็นว่าผมเคารพกับการตัดสินใจของมัน และปล่อยให้มันนั่งซึมซับบรรยากาศของตัวเองไป ตัวผมก็ทำได้แต่นั่งสวดมนตร์  หอบเอาทุกบทสวดที่พอจะนึกได้ ท่องวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะกดจิตตัวเองให้เชื่อในความเป็นจริงมากกว่าสิ่งที่ผมคิดว่าผมสร้างมันขึ้นมา

“มึง มึง ตื่น”

"ฮะ ฮะ กูเผลอหลับไปหรอ"

“เออ ไปทำภารกิจได้แล้ว ถึงเวลาแล้ว”

“เชี่ยยยย  ไม่อยากทำเลยโว้ยยยยยยยย” 

“หึ”  เสียงบางอย่างของมัน เรียกความสนใจให้ผมต้องหันไปมอง และพบว่ามันกำลังกลั้นขำพฤติกรรมของผมอยู่   ผมลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยออกจากตัวให้พร้อมสำหรับการเล่นเกมส์คืนนี้  แต่ภาพเหล่านั้นมันคงดูทุเรศทุรังในสายตาไอ้ภพ จึงทำให้มันเผยรอยยิ้มเล็กๆออกมา

“เฮ้ย มึงยิ้มก็เป็นนี่หว่า แล้วจะ ทำฟอร์มไปทำไมวะ”  ผมเอ่ยปากแซวมันที่รีบทำหน้าให้กลับมาเป็นปกติ

“เรื่องของกู มึงไปปิดไฟได้แล้ว ไอ้เกมส์ห่านี่แม่งก็ให้เล่นแต่ที่มืดๆ”

"55555  เออๆ เขินก็บอกดิวะ"

“เสือก!!!”

หลังจากแหย่มันได้ ผมก็เดินไปปิดไฟทุกดวงของบ้านนี้เหลือเพียงไฟของห้องนั่งเล่นที่ยังคงต้องเปิดไว้ เพราะไอ้ภพกำลังไปเอาเทียนมาจุดเป็น 4 มุม ล้อมรอบการเล่นผีถ้วยแก้วของพวกผมอยู่  ไอ้ภพนี่ก็ประสาท ผมก็บอกมันอยู่ว่ากลัว มันยังจะใช้ให้ผมไปปิดไฟแล้วค่อยเดินไปหามัน ผมต้องระแวงหลังตัวเองขนาดหนัก ทุกครั้งที่หันหลังให้กับความมืด

“แล้วกระดานผีถ้วยแก้วอยู่ไหน” ผมถามมันที่จุดเทียนครบ4เล่ม

“มึงเข้าไปนั่งตรงกลางเทียนเลย เดี๋ยวกูไปเอาเอง”

พูดจบไอ้ภพ ก็ไปก้มๆเงยๆ อยู่ที่ชั้นหนังสือ จนเห็นว่ามันดึงกระดานอันหนึ่งออกมาถึงได้มั่นใจว่ามันเจอแล้ว

“กูปิดไฟเลยแล้วกัน”

“อืม”

พรึบบบบ

ไฟบ้านนี้ถูกปิดลงทั้งหมดเหลือเพียงแต่แสงเทียนที่จุดอยู่รอบๆตัวผมให้เห็นกระดานเท่านั้น ดีหน่อยที่ภารกิจนี้ผมไม่ต้องดับเทียน  เมื่อไอ้ภพยกกระดานมาไว้ตรงหน้าผม  สิ่งที่ผมเห็นคือกระดานผีถ้วยแก้วรูปแบบทั่วๆไปที่ใช้เล่นกันอยู่  แต่ที่ต่างออกไปก็คือ  แก้วที่ใช้เล่นมี2 ใบ

“ไอ้ภพ  ทำไมแก้วมันมีสองใบวะ”

“กูก็ไม่รู้ กูหยิบมา มันก็ถูกวางอยู่บนกระดานแล้ว กันแก้วแตกมั้ง”

“ไอ้เหี้ย!! ปากเสีย เล่นผีถ้วยแก้วที่ไหนเค้าให้แก้วแตกได้”

“หมายความว่าไง”

“มึงอาจไม่เคยรู้นะภพ แต่ผีถ้วยแก้วมันคือการเชิญวิญญาณเข้ามาอยู่ในแก้ว หากแก้วแตกหรือมีใครเอานิ้วออกจากแก้วก่อนการเชิญออก วิญญาณจะไม่ไปไหน เค้าจะยังอยู่กับมึงในสถานที่ที่มึงเชิญเค้ามา”

“แล้วมึงเชื่อ?”

“ใช่กูเชื่อ ถึงกูไม่เชื่อ กูก็ไม่กล้าไปลบหลู่สิ่งแบบนี้ มึงไม่ใช่กูไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนนี้กูกลัวมากแค่ไหน”

ผมตวาดมันไปพร้อมกับมองหน้ามัน ผมอาจจะปล่อยให้อารมณ์ครอบงำตัวเองมากไปจนควบคุมสติไม่ได้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมยังไม่ช็อกหรือหัวใจวายตายไปซะก่อนก็ถือว่าผมเก่งมากแล้ว

“งั้นก็รีบเริ่มเกมส์เถอะ” มันมองหน้าผมแค่นั้นแล้วก็ตัดจบโดยการบอกให้ผมเริ่มเกมส์

“เอาแก้วไปวางไว้ตรงจุดเริ่มก่อนไอ้ภพ เสร็จแล้วเอานิ้วมาแตะแก้วไว้พร้อมกู แล้วพูดตามกูนะ”  แม้จะกลัวแค่ไหนผมก็ต้องเป็นผู้นำของเกมส์นี้ ดูท่าแล้วไอ้ภพคงแค่รู้จักและเคยเล่นไม่บ่อยครั้ง

“วิญญาณ สัมภเวสี ตนใดที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้  บริเวณนี้ หากได้ยินเสียงของข้าพเจ้า ได้โปรดมาเข้าแก้วนี้ด้วยเถิด”

พรึบ ลมเย็นๆลูกหนึ่งได้พัดเข้ามาจากตรงไหนสักที่แม้ไม่ได้พัดมาแรงมาก แต่ก็สามารถทำให้เปลวเทียนสั่นไหวจนสังเกตได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้ขนในร่างกายของผมลุกชันขึ้นมาจากความกลัว  ผมเงยหน้ามองไอ้ภพ ด้วยดวงตาที่บัดนี้ที่เริ่มถูกคลุมไปด้วยม่านน้ำตา ไอ้ภพพยักหน้ากับผมอีกครั้งเป็นสัญญาณให้ผมเริ่มให้จบ

“ถ..ถ้ามีวิญญาณอยู่ในแก้วใบนี้แล้วจริงๆได้โปรดเดินไปที่คำว่าใช่”

ใช่    

 แก้วถูกเลื่อนไปทันทีหลังผมถามคำถามเสร็จ นั่นจึงทำให้ผมกับไอ้ภพมองหน้ากันทันที หยั่งเชิงกันว่าใครคือคนดันแก้ว เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีใครได้ออกแรงดัน คำถามต่อไปจึงเริ่มขึ้น

"คุณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“ผู้หญิง”

“มึง เค้าเป็นผู้หญิงหวะ ถามอะไรต่..” ผมเงยหน้าถามไอ้ภพทันทีหลังจากรู้เพศของวิญญาณ แต่ก็ต้องหยุดคำถามนั่น เพราะแก้วดันเลื่อนไปมาอีกครั้ง และไปตามตัวอักษรที่สุดท้ายออกมาเป็นคำว่า “ผู้ชาย”

“เกิดอะไร”  ไอ้ภพถามผม  หลังจากที่แก้วเกิดการเลื่อนไปมาสลับกันระหว่างคำว่า ผู้หญิง และผู้ชาย

“ภพ มึงไม่ได้ดันหรอ” ผมถามกลับไปที่ไอ้ภพทันที ร่างกายผมตอบสนองต่อความกลัวตรงหน้าอย่างรวดเร็วด้วยการปล่อยให้เหงื่อเริ่มซึมออกมาตามไรผมและขมับ

“เพ้อเจ้อ มึงรีบถามคำถามต่อไปเถอะ”

“ค..คุณ ตายยังไง?”

“ฆ่า”

“ช่วยด้วย”

“ฆ่า”   


แก้วที่มือผมถูกเลื่อนอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว สลับไปมาระหว่างคำว่าฆ่าและช่วยด้วย  น้ำตาที่ผมพยายามเก็บมาบัดนี้เริ่มไหลออกมาทางหางตาของผม ความเครียดที่ก่อตัวขึ้นภายในหัวเริ่มทำให้ใจของผมเกิดการร้อนรน ควบคุมอะไรไม่ได้ตัวสั่นไปหมด  ผมทำได้แค่ เอ่ยปากแบบไม่มีเสียงให้ไอ้ภพเห็นว่า “กลัว” แต่ก็อย่างที่รู้แก้วเมื่อเคลื่อนแล้ว เราจะไม่มีทางทำให้มันหยุดได้จนกว่ามันจะหยุดเอง     

เพล้งงงงงงงง

แก้วที่มือของผมกับไอ้ภพ แตกขึ้นมาทันทีหลังจากการเคลื่อนที่ไปมาแบบไม่มีการหยุด พร้อมทั้งเทียนที่คอยให้ความสว่างของบ้านนี้ก็ดับลงไปด้วย

“ภพ ไอ้ภพ  เกิดอะไรขึ้น ทำไมแก้วแตก” ผมกระโดดเข้าไปนั่งใกล้ไอ้ภพ และเริ่มที่จะโวยวายกับเหตุการณ์ตรงหน้า ผมร้องไห้ไม่ต่างไปกับเมื่อคืนวาน จนไอ้ภพที่นั่งอยู่หันกลับมาจับตัวผมให้ตั้งสติและจะเริ่มเล่นใหม่อีกครั้งโดยใช้แก้วอีกใบ

“ไอ้มิว  มึงตั้งสติ  ตอนนี้เราได้ไป3 คำถามแล้ว  รีบถามต่อให้จบๆกันเหอะ”

“ภพ กูไม่ไหวแล้ว ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้”

“ใจเย็นๆกูก็นั่งอยู่ตรงนี้   รีบเล่นให้จบกัน”  ไอ้ภพปลอบผม พร้อมกับหันไปสนใจกระดานนั่นอีกครั้ง แสงจากดวงจันทร์ถูกส่องเข้ามาในบ้าน ผมกับไอ้ภพจึงละเลยในการจุดเทียนให้แสงสว่างเป็นครั้งที่สอง

“วิญญาณ สัมภเวสี ตนใดที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้  บริเวณนี้ หากได้ยินเสียงของข้าพเจ้า ได้โปรดมาเข้าแก้วนี้ด้วยเถิด”

คำกล่าวเชิญวิญญาณถูกอ้างถึงอีกครั้งโดยไอ้ภพ  ซึ่งตอนนี้ได้ทำหน้าที่ทุกอย่างแทนผมที่ใกล้จะเสียสติไปกับเกมส์นี้

“ถ้ามีวิญญาณอยู่ในแก้วใบนี้แล้วจริงๆได้โปรดเดินไปที่คำว่าใช่”

นิ่งสนิท…..

แก้วบนกระดานไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้น สร้างความฉงนให้กับไอ้ภพ ผมที่ไม่อยากให้เสียเวลาจึงรีบรับหน้าที่ที่จะพูดคำพวกนั้นแทนมัน

“ถ้ามีวิญญาณอยู่ในแก้วใบนี้แล้วจริ..”

กึก

ลมหายใจของผมถูกขัดจังหวะทันที เมื่อครั้นผมจะกล่าวเชิญวิญญาณให้มาเข้าแก้วเหมือนอย่างที่เคยทำก่อนหน้า กลับมีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป หากมือบนแก้วมีเพียงสองผมคงพูดต่อไปได้ แต่นี่ กลับมีมือจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 มือ ถูกยื่นเข้ามาจับบนแก้วใบนี้ร่วมกับผม ไอเย็นที่ผมสัมผัสได้คือสิ่งยืนยันเพียงสิ่งเดียวว่าผมไม่ได้ตาฝาด

การที่ผมมาร่วมเล่นเกมส์  ผมไม่ได้ลบหลู่ต่างไปจากไอ้ภพ แล้วทำไมสิ่งที่ต้องเจอถึงไม่เหมือนกัน…

“มิว มึงเป็นอะไร” ไอ้ภพถามผมอีกครั้ง หลังจากความผิดปกติของผมเกิดขึ้น ตัวผมสั่น มือผมสั่นไปหมด น้ำตาที่แห้งไปแล้วกลับไหลอีกครั้ง ยิ่งแก้วในมือผมถูกอีกหลายๆมือเลื่อนไปที่คำว่าใช่ แล้วนั้นผมยิ่งควบคุมไม่ได้

“งั้นกูถามเอง ให้แม่งจบๆไป  พวกมึงอยู่ที่ไหน” ไอ้ภพเอ่ยคำถามเสียงดังลั่นบ้าน

“บ้าน หลัง นี้”

“มึงอยู่ตรงไหน”  ไอ้ภพคงไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเริ่มถามคำถามไร้สาระ เพื่อให้ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้

“ภ..ภพ มึงอย่าถามคำถามนี้”  ผมห้ามไอ้ภพ แต่ก็ไม่ทัน ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นอีกเลยตั้งแต่เห็นมือบนแก้วแย่งกันเลื่อนแก้วใบนั้นไปมา  เหมือนเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งของพวกมัน

“นอก แก้ว ใบ นี้”

“นอกแก้วใบนี้…ไอ้มิวเห็นพวกมึงด้วยใช่มั้ย” มันพึมพำออกมา และถามคำถามสิ้นคิดออกไปเมื่อรู้แล้วว่าผมเป็นอะไร

“ไอ้ภพ!!   ฮือออออ”

“เชื่อใจกูมึงทนหน่อย  คำถาม ใกล้จะหมดแล้ว”

“มัน เห็น พวก กู”

“กูจะถามมึงอีกครั้ง มึงตายยังไง”  คำถามนี้เคยถูกเอ่ยขึ้นจนทำให้แก้วใบแรกแตก และยังเป็นเหมือนคำถามคีย์เวิร์ดที่พวกสัมภเวสีมันรอ  แก้วถูกมือพวกนั้นแย่งกันเลื่อนขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมีเสียงของวิญญาณพวกนั้นเอ่ยออกมาแบบเดียวกัน

“ฆ่า”

“พวกกูถูกฆ่า”


มันเอ่ยข้อความนี้กรอกหูผมซ้ำๆ มือหนึ่งอยู่บนแก้ว อีกมือของผมจึงต้องยกขึ้นมาปิดหูตัวเอง เสียงนั่นดังขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มจับไม่ได้แล้วว่ามาจากจุดไหน เหมือนมันต้องการให้ผมรับรู้ถึงความทรมานของพวกมัน หากแต่ไอ้ภพจะรับรู้ เกมส์นี้มันคงง่ายขึ้น  แก้วถูกเลื่อนไปมาอย่างไม่มีทิศทางทำให้ไอ้ภพ จับไม่ได้ว่ามันต้องการจะบอกอะไร

“ฆ่า!!!!  พวกมันถูกฆ่า!!!”

แก้วใบนั้น…หยุดทันทีหลังจากผมเอ่ยปากบอกไอ้ภพ  พร้อมๆกับที่ไอ้ภพ หันมามองผมที่ก้มหน้าปิดหูตัวเองอยู่

“หมายความว่าไงไอ้มิว”

“ฮึก ภพ พวกมันถูกฆ่า มึงได้ยินมั้ย มันถูกฆ่าตาย “

“มึงรู้ได้ยังไง….ไอ้มิว” พูดจบมันก็หันไปมองที่แก้วบนกระดานที่บัดนี้มันถูกหยุดตรงตัว     เหมือนกับเรื่องบังเอิญในฝัน  ทั้งที่ความจริงแล้วสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างหยุดอยู่ตรงนั้น มีเพียงมือของวิญญาณเหล่านั้นที่จงใจเคลื่อนแก้วให้เป็นไปตามความต้องการของพวกมัน

ในหัวผมเต็มไปด้วยคำถาม  ทำไมไอ้ภพถึงไม่สามารถรับรู้อะไรพวกนี้  ทำไมถึงต้องเป็นผมที่ถูกเลือกให้มาเจอพวกมัน ทำไมคาถานั่นถึงมีผลกับผมแค่คนเดียว  และอีกครั้งทำไมถึงต้องเป็น…ผม







****************************************TBC*****************************************

สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้านะครับ  มีความสุขกันมากๆ  วันนี้ผมเอาตอนที่ 3 มาลงให้แล้ว

เจอกันวันอังคารหน้าครับ

P-Rawit

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
หลอนจริงๆ ค่ะ หลอนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
 :katai1: :katai1:
วิญญาณที่ถูกฆ่า ใครเป็นคนทำ ทีมงานหรือเปล่า ภพออกไปทำอะไรกันแน่ เหมือนเคยเล่นเกมส์นี้มาแล้วหรือไม่ก็ต้องเจอเรื่องไม่ดีมาแน่ๆ เลย ว่าแต่นัทเป็นใคร เป็นหนึ่งในวิญญาณหรือเปล่า

ติดตามค่ะ
 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โอ๊ยยยย หลอน :ling2:
ดีนะอ่านตอนกลางวัน ภพมีความหลังกับบ้านนี้ใช่ไหม? นัทก็ด้วย
ไอ่ที่ออกไปหลังบ้านบ่อยๆต้องมีเงื่อนงำแน่นอน :ling3:

ออฟไลน์ nuchhxk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรา ไม่ กล้า อ่าน ตอน กลาง คืน !!!!!!! มันน่ากลัวจริงๆนะ สงสารมิวมากๆ คนที่อยากเห็นดันไม่เห็น มิวะยังโอเคในวันต่อๆไปไหมคะเนี่ย  :katai1: ติดตามต่อๆ

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อื้อหืออออ สนุกดีค่าาาา เพิ่งเจอนิยายหลอนอ่านแล้วเห็นภาพในรอบหลายปี สุขสันต์วันปีใหม่ค่า :กอด1:

ออฟไลน์ ไม่บอกเธอ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เดาเลยครับ ออกไปขุดหาศพน้องชาย น้องสาว หรือแฟนเก่าแน่ๆ
หรือไม่ก็ไปขุดเอาไว้ใช้ อะไรบางอย่าง

รอต่อปายยยยยยยย :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ P-Rawit

  • The beginner of writing world
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Azure ::  โอ๊ยยยย หลอน ดีนะอ่านตอนกลางวัน ภพมีความหลังกับบ้านนี้ใช่ไหม? นัทก็ด้วย
ไอ่ที่ออกไปหลังบ้านบ่อยๆต้องมีเงื่อนงำแน่นอน
ตอบ ::  ใจเย็นๆ  อ่านตอนกลางคืนก็ได้อีกบรรยากาศนะครับ 55555  //// รอลุ้นๆ ฝากติดตามเรื่อยๆนะครับ

Mirage   ::    หลอนจริงๆ ค่ะ หลอนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่    วิญญาณที่ถูกฆ่า ใครเป็นคนทำ ทีมงานหรือเปล่า ภพออกไปทำอะไรกันแน่ เหมือนเคยเล่นเกมส์นี้มาแล้วหรือไม่ก็ต้องเจอเรื่องไม่ดีมาแน่ๆ เลย ว่าแต่นัทเป็นใคร เป็นหนึ่งในวิญญาณหรือเปล่า     ติดตามค่ะ
ตอบ ::   ปีใหม่นี้ก็รอหลอนต่อนะครับ 5555    ////  รอลุ้นเลยว่าจะเดาถูกรึเปล่า  ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

nuchhxk  ::  เรา ไม่ กล้า อ่าน ตอน กลาง คืน !!!!!!! มันน่ากลัวจริงๆนะ สงสารมิวมากๆ คนที่อยากเห็นดันไม่เห็น มิวะยังโอเคในวันต่อๆไปไหมคะเนี่ย  ติดตามต่อๆ
ตอบ ::  ลองอ่านๆ ได้อีกบรรยากาศเลย  55555  รอลุ้นในตอนต่อๆไปนะครับ  ขอบคุณที่ติดตามกัน

   
เข็มวินาที  ::  อื้อหืออออ สนุกดีค่าาาา เพิ่งเจอนิยายหลอนอ่านแล้วเห็นภาพในรอบหลายปี สุขสันต์วันปีใหม่ค่า
ตอบ ::  โหหหหห ขอบคุณมากๆเลยครับ  ผมยังมีข้อผิดพลาดอีกเยอะ  ฝากติดตามต่อด้วยนะครับ  สุขสันต์ปีใหม่เช่นกันครับ

ไม่บอกเธอ   ::   เดาเลยครับ ออกไปขุดหาศพน้องชาย น้องสาว หรือแฟนเก่าแน่ๆ
หรือไม่ก็ไปขุดเอาไว้ใช้ อะไรบางอย่าง   รอต่อปายยยยยยยย
ตอบ  ::  งั้นรอลุ้นตอนต่อๆไปนะครับ  55555   ขอบคุณที่ติดตามครับ


ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ และทุกๆการอ่านเลยนะครับ  ฝากติดตามในตอนต่อๆไปด้วยนะครับ

P-Rawit

ออฟไลน์ zongpei96

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
หลอนจริงค่ะะะ ฮืออออออ นี่อ่านตอนกลางคืน(แต่เพิ่งมาเม้น...)
โถ มิวน้อยยย ซงซานนน55555 นี่แหละน้าคนที่ไม่อยากเห็นมักจะเห็น

ภพฟอร์มจัดจริงแหละ ถถถถถ แล้วภพมาบ้านหลังนี้ทำไมหนออ นัทคือใคร(ยังอยู่มั้ย...)
แต่เราแอบคิดว่าภพคือผีแหละ...แหงะ55555

สนุกค่ะ น่าติดตามมากก สู้ๆ นะคะ ^ - ^v

 o13

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เข้ามารอค่ะ สนุกมากเลย อ่านตอนกลางคืนนี่ทั้งลุ้นทั้งหลอนจริงๆ

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
อัพแล้วไม่ขึ้นหรือเปล่าคะ
ติดตามค่ะ
เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ P-Rawit

  • The beginner of writing world
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
*หมายเหตุ : เนื่องจากตอนนี้มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวเนื่องกับตอนที่แล้ว เพื่ออรรถรสในการอ่านแนะนำให้อ่านตอนที่แล้วก่อนครับ

ตอนที่4

ลางสังหรณ์

“ฮึก ไอ้ภพ เราเลิกเล่นกันเถอะ  กูจะไม่ไหวแล้ว” ผมเรียกร้องให้ยุติเกมส์นี้ หลังจากสิ่งที่ต้องเผชิญกำลังทำให้จิตใจของผมแปรปรวน

“อดทนอีกหน่อยไอ้มิว 8 คำถามแล้วนะ ไอ้กล้องเหี้ยนั่นมันก็ดูเราอยู่ เดี๋ยวที่เหลือกูจะถามเอง”

“ใคร…ฆ่าพวกมึง?” มันเริ่มถามคำถามอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกดดัน เส้นเลือดที่ขมับของมันขึ้นชัดเจน จนบอกได้ว่ามันกำลังจริงจังและเครียดกับสถานการณ์ตรงหน้า

“ไม่ รู้”

“โถ่เว้ย!! พวกมึงโดนฆ่าตายแต่เสือกไม่รู้ว่าใครฆ่า มึงถูกฆ่าที่ไหน” ไอ้ภพหัวเสียมากจนมันควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มันสบถออกมาเสียงดังลั่น   สร้างความตกใจและประหลาดใจให้กับผม  ผมไม่รู้ว่าตัวมันกำลังคาดหวังกับอะไร เหตุใดถึงมีท่าทีไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ

“บ้าน”

“บ้าน…..หลังนี้?”

“ไม่”

“ไม่ใช่บ้านหลังนี้ เป็นไปได้ไงวะ…”ไอ้ภพพึมพำกับตัวเอง  ก่อนจะหันมามองหน้าผมที่ก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน  ความกลัวของผมถูกสร้างขึ้นมาไม่ใช่แค่เพราะว่าผมเห็นวิญญาณหรือสัมภเวสีพวกนั้น แต่เป็นเพราะประวัติบ้านที่ผมกับมันเคยฟังจากทีมงานด้วย  บ้านหลังนี้มีคนตายถึง 7 ศพ จากการถูกฆาตกรรม  หากวิญญาณที่เห็นไม่ได้ตายที่บ้านหลังนี้แล้วพวกมัน มาจากไหน?

“พวกมึง…ถูกฆ่าตายยังไง?” เป็นไอ้ภพที่เริ่มถามอีกครั้ง

“มืด”

“มืด? มันคืออะไรวะ....แล้วพวกมึงต้องการอะไรจากพวกกู” คำถามสุดท้ายถูกเอ่ยขึ้นจากปากไอ้ภพ  ทำให้คีย์เวิร์ดตัวที่สองถูกเปิดมาอีกครั้ง มือที่อยู่บนแก้วมากมายเริ่มแย่งกันดันอีกรอบ จนไม่สามารถระบุทิศทางและความหมายของมันได้

“ช่วยด้วย”

“ช่วยกูด้วยยยยยยยยยย”

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ช่วยกู พวกมึงต้องช่วยกู”


“ฮึกไอ้ภพ  เชิญออก!!!  เชิญออก!!!  กูไม่ไหวแล้ว มันบอกให้เราช่วยมัน ไอ้ภพ ฮึก”  อีกครั้งแล้วที่แก้วควบคุมไม่ได้ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่พวกมันเลือกที่จะส่งเสียงให้ผมได้ยินแทนการเคลื่อนแก้วไปทีละตัว  เสียงกรี๊ดสลับกับคำพูดว่าช่วยด้วย  ถูกเอ่ยวนซ้ำๆเหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้แค่นั้น   

ผมคิดว่านั่นคือที่สุดที่ผมจะโดนแล้ว

แต่ไม่ใช่…ผมคิดผิด

หมับ

มือของพวกมันถูกเปลี่ยนจากการดันแก้วมาจับข้อมือของผมด้านที่แตะอยู่บนแก้วไว้  ไอเย็นมากมายถูกถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายของผมจนขั้วหัวใจผมชาสนิท  สายตาของผมบัดนี้เห็นเต็มๆตาว่า พวกมันพยายามจะเขย่ามือผมให้หลุดจากแก้ว ด้วยสาเหตุใดผมไม่ทราบ พวกมันหลายตน เริ่มเอามือทั้งสองข้างมาสัมผัสกับผมเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงกรีดร้อง บอกให้ผมช่วยมัน

“ฮึก ฮือ ไอ้ภพ  ช..เชิญพวกมันออก ช่วยกูด้วย ฮึก” ผมสะอื้น พร้อมกับบอกไอ้ภพให้รีบทำตามที่ผมบอก

“ออกไปให้หมด เชิญพวกมึงออกไปให้หมด”

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด  หึหึ  กู ไม่ ออก ห้าห้าห้า”

“กู ไม่ออกกกกกกก”


“ฮึก ภพ   มันไม่ไป มันไม่ออกช่วยกูด้วย”  ผมเริ่มทนไม่ไหวกับสถานการณ์นี้ ใจผมสั่นจนกลัวว่าหัวใจผมจะวาย  น้ำตาของผมมากมายถูกปล่อยให้ไหลมาอย่างต่อเนื่อง  ทางรอดเดียวที่ผมคิดได้คือต้องหาทางมองที่อื่นที่ไม่ใช่มือของตัวเองและแก้วนั่น    ผมจึงตัดสินใจที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองแต่ไอ้ภพ

“กู ไม่ ออก"  หน้าไอ้ภพ ถูกเปลี่ยนไปเป็นหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด  แววตาของมันแดงก่ำเหมือนกับกำลังโกรธแค้นอะไรสักอย่าง มันมองมาทางผมที่คิดจะหนีจากความจริงตรงนี้

“เหี้ยยยยย!!!!” ผมตะโกนออกมาเสียงดัง  พร้อมกับมือข้างที่แตะไว้กับแก้วเตรียมจะหลุดออกมา ทุกอย่างรอบตัวผมเริ่มมืดบอดไปหมด ผมคงกำลังใกล้จะสูญสิ้นสติที่มีแล้ว

หมับ

มือของไอ้ภพอีกข้างจับมือของผมที่ใกล้จะหลุดออกจากแก้วเอาไว้  สติเบลอๆของผม เห็นมันท่องอะไรอยู่สักอย่าง ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงดังฟังชัดว่า  กูบอกให้พวกมึงออกไป

สิ้นคำพูดไอ้ภพทุกอย่างที่อึดอัดรอบตัวผม ก็พลันหายไปราวกับว่าสิ่งที่ผมเจอเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น  ไอ้ภพปล่อยผมนอนลงตรงนั้น ก่อนที่มันจะลุกขึ้นไปเปิดไฟแล้ววิ่งกลับมาหาผมอีกครั้ง

“มิว  ไอ้มิว มึงเป็นอะไร” เสียงร้อนรนของมันเริ่มแสดงให้เห็นว่ามันคงเป็นห่วงผมอยู่ไม่น้อย

“ฮึก ไอ้ภพ กูมองเห็นผี  ไอ้ภพ กูเห็นผี ฮึก ช่วยกูด้วย”  กำลังกายที่มีอยู่เล็กน้อย พาตัวผมให้เข้าไปกอดไอ้ภพที่กำลังประคองผมอยู่  มันกอดตอบผมและค่อยๆลูบหลังให้สติผมค่อยๆคืนมา  อ้อมกอดของมันอบอุ่นมากจนคลายความกลัวและความเครียดของผมที่มีอยู่ได้    ผมไม่เคยคิดว่าตัวมันจะดีกับผมถึงเพียงนี้เพราะที่ผ่านมามันเอาแต่ปฏิเสธผม   จนตอนนี้ ผมต้องยอมรับเลยว่า ผมยังเป็นผมอยู่ได้ก็เพราะมีมัน 

“ รู้แล้ว กูรู้แล้ว ไอ้มิวตั้งสติ  ตั้งสติก่อน อย่าเพิ่งร้องไห้ ไม่มีอะไรแล้ว”

“ฮึก ภพกูไม่อยากเห็นแล้ว กูไม่อยากเห็น”

“มึงลืมตามาก่อนไอ้มิว  ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว”

ผมตัดสินใจออกห่างจากไอ้ภพแล้วค่อยๆ  ลืมตามาพบกับความจริงที่ว่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้ามีเพียงไอ้ภพที่มองมาที่ผม  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่สูญหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงแต่คราบน้ำตาบนแก้มและร่องรอยมือมากมายที่เกิดขึ้นบนแขนผมเท่านั้นที่ยืนยันได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงการคิดไปเอง

“ภพ…..มึงเชื่อกูใช่มั้ย กูไม่ได้บ้านะมึง กูเห็นจริงๆ” เสียงเรียกแผ่วเบาของผม กำลังเรียกร้องความเห็นใจจากไอ้ภพให้เชื่อว่าสิ่งที่ผมเห็นมันไม่ใช่แค่ภาพลวงตา

“รอยบนแขนมึงนั่น  โกหกกูไม่ได้หรอก” ไอ้ภพพูดพร้อมมองรอยแดงบนแขนผม

“ขึ้นห้อง กูจะพาไปทายาแล้วนอนซะ คืนนี้หนักมากพอแล้ว”

“อืม”  ผมตอบรับไอ้ภพ และเดินตามมันขึ้นห้องนอน  ก่อนขึ้น  ผมเห็นไอ้ภพ เดินไปหยิบกล่องยาที่อยู่ใกล้ๆกับตู้หนังสือถือเดินตามผมขึ้นไปด้วย  ความหน่วงในใจที่เกิดขึ้น ทำให้ผมได้มีเวลาสังเกตการกระทำไอ้ภพ  มันกำลังพยายามดูแลผมทั้งๆที่ไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องทำก็ได้ 

“มึงยื่นแขนมา กูจะทายาให้”

“…..”  ผมยื่นแขนไปให้มันและจ้องมองมันอยู่แบบนั้น ความรู้สึกบางอย่างพุ่งตรงสู่หัวใจของผม บางอย่างที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

“มีอะไร?”  ไอ้ภพคงเห็นว่าผมจ้องมันนานเกินไป จึงได้ถามขึ้นมาอย่างคนอยากรู้

“ขอบคุณนะ” ผมบอกมันได้แค่คำนี้ แม้ในใจจะรู้สึกเอ่อล้นออกมาแค่ไหน แต่คำนี้คงเป็นคำที่ดีที่สุดที่สมองผมจะนึกได้

“เรื่อง?”

“เรื่องที่มึงทายาให้แล้วก็….เรื่องเมื่อครู่นี้”

“อืม ไม่ต้องไปพูดหรือนึกถึงมันแล้วนะ  เดี๋ยวจะนอนไม่หลับ”

“มึง…กูถามอะไรได้มั้ย”

“อะไร”

“มึงท่องอะไรก่อนที่มึงจะเชิญพวกนั้นออก” ไอ้ภพมองหน้าผมเรียบๆอย่างไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไร มันอาจกำลังเป็นกังวลหากต้องพูดออกมาหรือไม่ก็คงไม่อยากอธิบายอะไรให้ผมฟัง

“ไม่ได้ท่องอะไรทั้งนั้นแหละ กูแค่นึกถึงพ่อแม่กู แล้วก็สาปแช่งพวกมัน”

“ทำไมอยู่ดีๆก็นึกถึงพ่อกับแม่”

“ท่านเสียไปแล้วไง….กูเลยคิดว่าคนตายกับคนตายมันต้องจบได้ เลยนึกถึงมีอะไรอีกมั้ย”

“แล้วมึงอยู่กับใคร   เหตุผลที่มึงทำหลายๆอย่างได้ไม่น่าใช่เพราะมึงอยู่คนเดียว”

“หึ แสนรู้ดีหนิ กูเคยอยู่กับน้องสาวกู”

“ไอ้เหี้ยกูไม่ใช่หมา…น้องสาวหรอ หรือว่าจะเป็น นัท?”

“อืม  แล้วมึงก็ไม่ต้องถามอะไรต่อแล้วนะ วันนี้มึงรู้เรื่องของกูเยอะมากพอละ”

“เออ แค่นี้ทำหวง” พูดจบผมก็ล้มตัวลงนอน ได้ยินเสียงไอ้ภพเก็บกล่องยาเรียบร้อย มันก็เดินไปปิดไฟก่อนมันจะมาล้มตัวนอนข้างๆผม

“ภพ กูไม่รู้ว่ามึงจะเบื่อรึเปล่า แต่กูอยากบอกมึงอีกครั้งว่าขอบคุณ” 

“ไม่ต้องขอบคุณกูมากหรอก ถ้ามึงรู้เหตุผลจริงๆของกู มึงอาจจะเกลียดกูเลยก็ได้”

“เอาเหอะ ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตวันนี้มึงช่วยกู กูก็ต้องขอบคุณมึง มันเป็นเรื่องที่ควรทำ”

“พอ นอนเหอะ กูง่วง”

“อืม ฝันดี...”  แม้จะบอกให้ไอ้ภพฝันดี แต่เมื่อผมหลับตา  ภาพหลอน  ความกลัวที่คอยวนเวียนอยู่ในใจผมมันยังไม่จางหาย สิ่งที่ทำได้คือการคิดถึงเรื่องอื่นให้เยอะๆเพื่อลบความทรงจำเลวๆนั่น  ยอมรับเลยว่า ไอ้ภพมันเก่งมากที่เอาเรื่องราวมายัดไว้ในหัวของผมได้เพื่อให้ผมลืมความทรงจำแย่ๆพวกนั้น ถึงจะช่วยผมได้ไม่มากแต่มันก็ทำให้ผมนอนหลับได้เร็วขึ้น

ป๊อก

ป๊อกกก


“เสียงอะไรวะ” ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หันไปมองข้างๆไอ้ภพก็ยังนอนอยู่ปกติ เสียงไร้แหล่งที่มาดังขึ้นหลายครั้งกระตุ้นความกลัวและความอยากรู้อยากเห็นของผม มันเป็นเสียงเหมือนของแข็งกระทบกับอะไรสักอย่าง  เมื่อตั้งใจฟังดีๆแล้วก็พบว่ามันดังมาจากกำแพงนอกบ้าน

ป๊อกกกกกก

ป๊อกกกกกกกกกก


ผมเดินตามเสียงไปเรื่อยๆ โชคดีที่ว่า เสียงที่ผมได้ยินไม่จำเป็นต้องออกไปนอกห้องก็คาดว่าผมก็สามารถหาแหล่งที่มาได้ ผมเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าต่างห้อง เสียงดังชัดมากตรงบริเวณนี้เพียงแต่ว่าผมก็ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร  ผมจึงลองเอาหูแนบกับกำแพงฟัง

“เสียงเชี่ยไรวะ  กูจะนอนแม่งก็นอนไม่ได้ “ ผมลองเอาหน้าแนบกับกระจกดูอีกครั้ง เพื่อมองลงไปข้างล่างว่า มีคนทำอะไรอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า เมื่อพบว่าไม่มีผมจึงเตรียมหันหลังกลับเตียงนอน

ป๊อก 

เสียงเดิมๆสั่งผมหยุดอยู่ตรงนั้นแล้วหันกลับไปมองอีกครั้ง คราวนี้ผมค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าผมต้องได้รู้แหล่งที่มาของเสียงเพราะเงาของวัตถุบางอย่างที่ตกกระทบพื้นในห้องยังคงเกิดอยู่อย่างต่อเนื่อง

กู บอก ให้ ช่วย กู  !!!!


“เหี้ยยยยย”  ผมรู้แล้ว....เสียงป๊อกที่ผมได้ยินมาจากไหน มันคือเสียงของหัวผู้หญิงคนนั้น กระทบกับกระจกของห้องผม  เสียงที่ผมได้ยินก่อนหน้านั้น คงเป็นเสียงที่มันเคาะกับกำแพงบ้านมาเรื่อยๆก่อนถึงกระจกบานนี้

“ภพ ช่วยกูด้วย  ไอ้ภพ ช่วยกูด้วยยยยยยย ฮึก” น้ำตาผมกลับมาไหลอีกครั้ง ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงยังต้องมาตามหลอกหลอนผมแบบนี้

“ภพ”

“ไอ้ภพพพพพพพพ”

เฮือกกกกกกกกกกกก

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมคราบน้ำตาบนหน้าผมก่อนจะมาพบความจริงที่ว่าแสงอาทิตย์มากมายถูกส่องมายังห้องผมแล้ว  ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ฝัน ผมคงกลัวมากเกินไปเลยเก็บมาคิดมากไปเอง  สงบจิตใจตัวเองได้ดังนั้นจึงมองไปข้างเตียง    ไอ้ภพหายไปแล้วครับ  มันคงตื่นไปอาบน้ำตามเรื่องตามราวของมัน

ป๊อกกกกกกกกกก

ทำไมไม่ช่วยกู


ผมที่กำลังจะก้าวลงจากเตียงรีบตาลีตาเหลือกหดขากลับขึ้นมาแล้วนอนคลุมโปงทันที  เสียงนั่น เสียงแบบเดียวกับในฝันมันยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวผม ความกลัวที่คิดว่าหมดไปแล้วหากแสงของพระอาทิตย์มาเยือน เริ่มกลับมาอีกรอบ

“ไอ้ภพพพพพพ มึงอยู่ไหน ไอ้เหี้ยยย กูกลัว  ไอ้ภพพพพพพ “ ผมโวยลั่น ตะโกนเรียกหาคนที่จะช่วยผมได้มากที่สุดตอนนี้  มันไม่ใช่แค่ฝันแล้ว เสียงนั่นยังคงตามหลอกหลอนผม มันยังตามราวีผมไม่เลิก

“มีอะไร จะเรียกกูเสียงดังทำไมตั้งแต่เช้าวะ ” เมื่อได้ยินเสียงไอ้ภพ ผมจึงรีบกุลีกุจอ ลุกออกจากเตียงแล้ววิ่งไปหามัน

“ไอ้ภพ กูได้ยินเสียง เสียงเหมือนผู้หญิงคนที่กูเจอตอนเล่นเกมส์นั่นมึงช่วยกูด้วย”

“มันพูดว่าไร”

“ทำไมไม่ช่วยกู  ไอ้เวรแม่งจะให้กูกับมึงช่วยมันให้ได้อ่ะ”

“ดังมาจากหน้าต่าง?”

“เออดิ  นี่มึงก็ได้ยินหรอ” ผมแสดงท่าทีตื่นเต้นออกไปอย่างปิดไม่มิด  เมื่อตอนนี้รู้สึกดีใจที่ไอ้ภพมันจะได้แชร์ประสบการณ์หลอนร่วมกับผม

“ได้ยินดิ ไปดูให้เห็นดิ๊ ผีตัวไหนแม่งเฮี้ยนนักวะ” พูดเสร็จมันก็ล็อกคอผมให้ออกไปดูตรงหน้าต่างนั่น

เฮ้ยทำไมมึงไม่ช่วยกูวะ  ไอ้สัสอู้งานหรอพวกมึง

“ไง ผีแม่งเฮี้ยนใช่มั้ย ไอ้ควายยยยย  เสียงคนงานโว้ย เพ้อเจ้อไรของมึง” พูดเสร็จมันที่ล็อกคอผมอยู่ก็กระหน่ำฟาดหัวผมเหมือนเป็นกลองชนิดหนึ่ง อย่างไม่ยั้งมือ ไม่รู้ว่าผมไปทำให้มันโมโหมากๆตอนไหนเหตุใดถึงได้มาคิดบัญชีอย่างรุนแรงกับผม

“โอ้ยพอ!!! กูเจ็บ  ใครมันจะไปรู้วะ”

“ไม่รู้ก็หัดเดินออกมาหาความจริงก่อนซะมั่ง ไม่ใช่คิดเพ้อเจ้อไปแบบนี้ “

“เออๆ   แล้วนี่...คนงานมาจากไหนนักหนา”

“ลุงมั่นมั้ง เกณฑ์คนมาลงต้นไม้ กูก็คิดว่าแม่งจะปล่อยให้เฉาตายอยู่ตรงนั้นละ”

“ปากมึงนี่มัน  กลับไปเงียบๆแบบเดิมก็ได้นะ กูไม่ว่า”

“เรื่องของกู” พูดเสร็จมันก็ทำท่าจะเดินออก  ผมที่ยังแคลงใจกับความฝันก็ตัดสินใจที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มันฟัง

“มึง ที่บอกว่าให้กูเดินไปดูก่อนอ่ะ  กูทำแล้วนะ แต่พอกูทำมันไม่เป็นแบบนี้ ก่อนกูตื่นกูฝันว่ากูได้ยินเสียงแบบที่มึงได้ยินนี่แหละ เสียงที่บอกให้กูช่วย เสียงเดียวกับที่กูได้ยินตอนเล่นเกมส์นั่น กูลุกขึ้นเดินไปดูแต่ก็นั่นแหละ หน้าผู้หญิงคนนั้นโผล่ออกมาให้กูเห็น”

“แล้ว?”

“กู…กูไม่รู้จะทำยังไง มันเหมือนกับภาพที่มันไม่หลุด กูขอโทษถ้าโวยวายให้มึงรำคาญแต่เข้าใจกูด้วย”

“กูก็ไม่ได้ว่าอะไร  มีอะไรก็บอกกู อย่าเก็บไว้  ถ้าเอามันหลุดไม่ได้ก็ทำใจอยู่ร่วมกับมันซะ”

“แต่…”

“เชื่อกู ไอ้มิวตราบใดที่มึงยังอยู่ในเกมส์นี้ มึงหนีเรื่องนี้ไม่พ้นแน่”

“กูจะอยู่กับมันไปได้ยังไง ไม่มีอะไรการันตีสักอย่างว่าจบเกมส์ไปแล้วกูจะหาย”

“งั้นรู้เอาไว้  ถ้ากูยังไม่ตาย….มึงก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”

“อ…อืม”

มึงอยู่ปกป้องกูไม่ได้ตลอดหรอก   ผมเถียงมันอยู่ในใจไปแบบนั้น ความจริงที่ต่างคนก็รับรู้ว่านี่มันก็แค่รายการผีๆ ที่ถูกสร้างมากำหนดชีวิตคน  ผมคือคนหนึ่งที่หลงเชื่อคำเชิญชวนของรายการ และตกเป็นเหยื่อของเรื่องราวหลังความตายที่ผมไม่เคยสัมผัส  เมื่อจบเกมส์ทุกคนในที่นี้ก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตดังเดิมตามสิ่งที่เราทิ้งมา 

ไอ้ภพเดินออกจากห้องลงไปด้านล่างเพื่อไปเตรียมอาหารเช้าตามปกติ ผมจึงหันหลังกลับมามองที่หน้าต่างเพื่อมองภาพด้านล่างคลายความเครียดที่อยู่ในใจ  อิจฉา  คำนี้เด่นชัดในหัวผมทันทีเมื่อได้เห็นคนงานกลุ่มนั้นทำงาน ผมอยากเป็นแบบนั้นบ้าง ผมอยากจะแค่เข้ามาตอนเช้าและกลับออกจากบ้านหลังนี้ไปเมื่อเสร็จงาน ไม่ได้อยากอยู่เพื่อรับรู้แล้วว่าผมจะต้องเจออะไรบ้างในตอนกลางคืน จนคิดอยากจะถอนตัวไปซะ   

แต่……..

ก็ทำได้แค่คิด ภาพไอ้ภพถูกซ้อนทับความเห็นแก่ตัวของผม พฤติกรรมแปลกๆของมันที่แสดงออกว่ามันต้องมีจุดประสงค์แฝงกับเกมส์นี้แน่ๆลอยขึ้นมา ผมปล่อยมันไว้ไม่ได้ลางสังหรณ์บางอย่างบอกกับผม  ไอ้ภพแย่แน่ถ้ามันต้องอยู่คนเดียว

“ทำไรแดกวะวันนี้” ผมเดินไปตบบ่ามันที่กำลังมองกลุ่มคนงานลงต้นไม้และขุดหลุมอย่างจริงจัง

“ไปดูเอง” มันหันมาตอบแค่นั้นแล้วก็หันไปมองตรงนั้นต่อ

“มันน่าสนใจตรงไหนวะ กะอีแค่ลุงมั่นกะคนงานจะลงต้นไม้ มึงจะมองให้ต้นไม้มันงอกเพิ่มหรอ”

“แล้วมึงจะยุ่งทำไมวะ ปากว่างนักก็เอาไปแดกข้าว”

“ก็มึงอยากทำตัวแปลกๆเอง  เกิดหงุดหงิดที่วันนี้ไม่ได้ปีนออกไปรึไง”

“งั้นมั้ง” ไปแล้วครับ  ตอบส่งๆกับผมแล้วก็เดินขึ้นห้องนอนไปเลยคาดว่าคงจะรำคาญผมเลยจะไปยืนส่องที่หน้าต่างห้องนอนแทน เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมยังคงไม่ได้คำตอบ มันจะอยากออกไปทำไมทุกวัน ออกจนผมเองเริ่มที่จะสนใจและอยากจะปีนออกไปบ้างแล้ว

เมื่อไม่มีอะไรทำ ผมจึงเดินไปตักข้าวและถือจานมานั่งลงตรงประตูห้องครัวนั่นเลย ในเมื่อไม่ได้คำตอบอะไรจากไอ้ภพว่ามันจะมองทำไม ผมจึงนั่งหาคำตอบให้ตัวเองแทน   ตามที่นั่งสังเกตไปกินข้าวไป ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันก็ไม่ได้มีอะไร ผิดปกติไปกว่าการทำสวนธรรมดา ลุงมั่นดูชำนาญมาก จับนู่นจับนี่เหมือนเป็นงานถนัด คนงานที่มีก็ช่วยกันขุดหลุมเตรียมเอาต้นไม้ลง

“อ้าว ทำไมมานั่งกินคนเดียวหละ เพื่อนอีกคนไปไหน”  ลุงมั่นเดินแยกออกจากงานมาหาผมที่นั่งอยู่ตรงประตู

“มันขึ้นไปบนห้องครับ น่าจะไปนอน” ตอแหลไปครับ รู้อยู่เต็มอกว่าไอ้ภพขึ้นไปทำห่าอะไร

“บ๊ะ เพิ่งจะตื่น กลับขึ้นไปนอนอีกแล้วรึ เกมส์หนักมากเลยรึไง”

“เอาการอยู่ครับลุง  ผมกับมันนี่เล่นมา2เกมส์ โคตรรรรเหนื่อยเลย” ผมหลีกเลี่ยงที่จะไม่บอกไปว่าผมเจออะไรบ้าง

“อดทนเอา เงินตั้งเยอะลุงยังอยากเล่นเองเลย”

“555 ลุงไม่ลองสมัครละครับ เผื่อจะได้มาเล่นบ้าง”

“อายุปูนนี้แล้ว อยู่เฉยๆรอตายดีกว่า อย่าหาเรื่องให้ตัวเองเลย 55”

“โถ่ลุง ตาย อะไรครับลุงยังดูแข็งแรงอยู่เลย แล้วนี่….ลุงได้ดูรายการของพวกผมบ้างมั้ยครับ”

“โอ้ย ไม่ได้ดูหรอกลุงเปิดคอมเองยังไม่เป็นเลยจะไปหาดูจากไหน แต่ทางผู้จัดการเกมส์เค้าก็มาคุยกับลุงอยู่นะเห็นบอกกระแสตอบรับของพวกเอ็ง ดีเลยทีเดียว”

“หรอครับ…เกมส์นี้มันมีคนดูอยู่เยอะแล้วรึเปล่าไม่น่าเกี่ยวกับพวกผมนะ”

“ไม่หรอก พวกเอ็งนั่นแหละที่ดึงกระแส ไม่สงสัยหรอว่าทำไมเอ็งถึงได้อยู่ในรายการต่อทั้งที่ทำผิด”

“ก็……สงสัยบ้างครับ” ผมหันกลับไปมองหน้าลุงมั่น เหตุใดลุงถึงรู้ว่าผมทำผิด ผู้จัดการเกมส์บอก?

“เรตติ้งวันที่เอ็งทำผิดสูงมาก ทางผู้จัดการเกมส์เลยไม่อยากเอาเอ็งออก ถ้าเป็นปีก่อนๆนะ เด้งออกไปแล้ว”

“ปีก่อนๆมีคนทำผิดด้วยหรอครับ?”

“มี มีทุกปี ข้อห้ามแบบนี้มันเป็นข้อห้ามพื้นฐานของเกมส์ แสดงว่าเอ็งไม่เคยดูเลยหละสิ”

“ก็ใช่ครับ ผมเคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่เคยดูเลย”

“ปีนี้ก็อยู่เล่นนานๆละกัน  จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

“จะพยายามละกันนะครับลุง”

“เอาหละ คุยกันพอแล้ว เดี๋ยวลุงกลับแล้วนะ คืนนี้ขอให้โชคดี”  โชคดี...คำนี้อีกแล้ว ลุงมั่นทำให้ผมนึกย้อนกลับไปตอนเล่นซ่อนหานั่น ผีตนนั้นก็บอกให้ผม โชคดี ทำไมถึงต้องมีคำนี้วนเวียนอยู่รอบตัวผม บางทีถ้าคำนี้ออกมาจากปากลุงมั่นแค่คนเดียวผมก็คงไม่คิดมากแบบนี้

“เสร็จแล้วหรอครับลุง”

“ใช่ วันนี้ลุงทำแค่นี้แหละ  หลุมอื่นที่ขุดไว้เดี๋ยวค่อยเอาต้นไม้มาลงวันหลัง” 

หลังจากคุยกับลุงมั่นเสร็จ ผมก็เดินมาล้างจานให้เรียบร้อย และเดินไปยังตู้เก็บของเพื่อหยิบผงซักฟอก ระหว่างการทำงานผมต้องรีบสลัดความคิดบางอย่างออก มันติดค้างอยู่ในใจของผม ที่ไม่รู้ว่าจะหาคำตอบมาจากไหน

“ไอ้ภพ ไปซักผ้ากัน” ผมเดินขึ้นมาบนห้องนอนเพื่อเรียกไอ้ภพ แล้วก็เป็นไปอย่างที่คาดเดาจริงๆ ไอ้ภพมันขึ้นมายืนมองคนงานด้านล่างจากหน้าต่างห้องนี้

“ไอ้ภพ มึงมองอะไรอีกวะ คนงานเค้ากลับกันไปหมดแล้วนะ”

“รู้แล้ว”

“รู้แล้วก็เลิกมอง ไปซักผ้าได้แล้วเดี๋ยวกูซักเป็นเพื่อน”

“อืม” มันตอบผมเหมือนละเมอ ไม่ได้รับรู้หรอกว่าผมพูดอะไร เคยบอกแล้วใช่มั้ยครับว่าไอ้ภพถ้าอยู่ในโลกของตัวเองเมื่อไร ใครก็เข้าถึงมันไม่ได้ เพียงแต่ครั้งนี้มันยอมปล่อยให้ผมเข้าไปนิดนึงมันถึงมีปฏิกิริยาตอบกลับมาบ้าง

“เฮ้อ พอ!! มึงหันมามองกูนี่” ผมจับหน้ามันหันมามองหน้าผมเลยครับ ไม่อย่างนั้นวันนี้ไม่มีทางคุยรู้เรื่องแน่

“ไอ้ภพ วันนี้มึงอยู่เฉยๆในบ้านพอ ไม่ต้องคิดหรือว่าจะหาทางออกไปข้างนอกนั่น วันอื่นกูจะไม่ห้ามแต่วันนี้กูขอ”

“ทำไม”

“ไม่ทำไมทั้งนั้น มึงแหกตาดูผ้ามึงด้วย จะเหลือแต่กางเกงในแล้วมั้งที่สะอาดอ่ะ ไปซักผ้า”

“ยัง ยัง ยังนิ่งอีก เดี๋ยวกูโบก มึงฟังกูเถอะจริงๆ ไม่ออกไปวันเดียว ต้นไม้ข้างนอกนั่นแม่งก็ไม่ตาย รักโลกมากลุงมั่นเค้าก็เอามาตั้งไว้ให้มึงดูแล้วไง ต้นสองต้นก็ดูไปก่อน”

เปรี้ยง


มาอีกแล้ว....ลางสังหรณ์แปลกๆที่ผมเดาไม่ได้ว่ามาจากเรื่องอะไร รู้แค่ว่ามันไม่ดี ไม่ดีเอามากๆ ที่บอกว่าอีกแล้ว เพราะว่าลางสังหรณ์นี้มันเกิดขึ้นมาแล้วหลังจากที่ลุงมั่นบอกว่าจะลงต้นไม้แค่หลุมเดียว  มันไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่จะลงหลุมอื่นไม่ได้

“แปลกใช่มั้ย” ไอ้ภพพูดขึ้นมาทันที หลังจากเห็นอาการของผมที่นิ่งไปหลังจากผมพูดจบ

“คืออะไร ทำไมมึงถึงรู้สึกว่ามันแปลก”

“กูไม่รู้ ตอนนี้กูยังไม่แน่ใจ”

“มันเกี่ยวกับการที่มึงออกไปข้างนอกนั่นด้วย…ใช่มั้ย?”

“อืม”

“บอกกูสักนิดไม่ได้หรอ”

“มันยังไม่ถึงเวลา”

“พร้อมเมื่อไร…บอกกูด้วย”  เวลา?   เวลาอีกแล้ว ทำไมผมเหมือนกำลังถูกทำให้ตัวเองเป็นคนโง่ จริงๆผมจะมองข้ามเรื่องนี้ไปเลยก็ได้ยังไงซะ บ้านหลังนี้มันก็มีอะไรหลายอย่างที่แปลก  หลายอย่างที่ผมสงสัยและหาคำตอบด้วยตัวเองไม่ได้

“อืม”

“เฮ้อ ไปๆ ไปซักผ้ากัน กูกับมึงวันนี้มีเรื่องให้คิดเยอะพอละ” ผมเดินลากไอ้ภพ มาที่ตะกร้าผ้าทันที  ตัดปัญหาการคิดเยอะของผมโดยการหาเรื่องอื่นทำ ผมบังคับให้มันถือตะกร้าผ้าตัวเอง เดินตามผมลงไปยังลานหลังบ้าน ตรงนั้นจะมีลานว่างและก๊อกน้ำอยู่จุดหนึ่งผมจึงเลือกตรงนั้นไว้ซักผ้า

“มึงดูผ้ากูกับมึงไว้ตรงนี้ ไม่ต้องเสือกปีนกำแพงออกไปเลยนะ กูจะไปเอากะละมัง”

“เออ พูดมากชิบหาย”

“เรื่องของกู” เลียนแบบคำพูดมันที่พูดกับผมเมื่อเช้าครับ เมื่อดูแล้วว่ามันไม่หนีไปไหนแน่ๆ ผมจึงรีบวิ่งไปหยิบกะละมัง

“มีกะละมังสองใบ?”

“น่าจะใช่ กูเห็นมันวางไว้แค่นี้”

“แล้วจะซักกันยังไง”

“งั้นซักผ้ามึงก่อนละกัน เดี๋ยวกูช่วยด้วยจะได้เสร็จเร็วๆ”  ผมเอากะละมังใบแรกมารองน้ำไว้เพื่อแยกให้เป็นกะละมังใส่ผงซักฟอก ส่วนอีกใบผมเอารองไว้เพื่อเป็นน้ำล้างฟองออก

“มึงซักผ้าเป็นใช่มั้ย ? ไอ้ภพ”

“เป็น”

“เป็นก็มาช่วยกูขยี้ผ้ามึงสิ จะยืนทำหอกอะไร” ผมโวยมันที่ยืนมองผมตั้งแต่เทผงซักฟอกจนผมขยี้ผ้ามันไปสองตัวแล้วมันก็ยังยืนอยู่เฉยๆ เหมือนมันซักผ้าไม่เป็น  แต่เมื่อมันลงมานั่งอีกฝั่งของกะละมังซักผ้าและเริ่มขยี้ผ้าของตัวเองนั้น ผมจึงได้เห็นว่ามันชำนาญมาก

เมื่อผมได้มองมันตรงหน้าใกล้ๆ   ผู้ชายตรงหน้าผมก็ไม่ได้ต่างไปกับผู้ชายมีปมทั่วไป    ภาพของมันตอนนี้บอกได้เป็นอย่างดีว่า มันเก็บเรื่องราวเอาไว้มากมายในใจโดยที่ไม่คิดจะพูดออกมา ตั้งแต่มันเริ่มขยี้ผ้ามันก็เหมือนหายไปกับโลกของมันอีกครั้ง มันอาจไม่เคยสังเกตตัวเอง แต่ทุกครั้งที่มันทำอะไรของมันคนเดียวมันจะเหมือนคนเหม่อลอย  เหมือนคนที่อยู่กับตัวเองจนไม่ระแวงหรือระวังอะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผมหยุดขยี้ผ้าไปแล้วและเลือกที่จะมองมันแทน

ผมเริ่มเดาทางบางอย่างของมันได้ คนแบบมันไม่มีทางที่จะเอ่ยปากเล่าเรื่องของตัวเองออกมาก่อน   ถ้าไม่มีเหตุการณ์หรืออะไรบางอย่างจากคนอื่นไปกระตุ้นกำแพงในตัวมันจนมันเลือกที่จะพังมันลงเพื่อให้คนเข้าถึงมันได้มากขึ้น เห็นได้ชัดจากเมื่อคืน เมื่อผมบอกกับมันไปว่า ผมเห็นวิญญาณพวกนั้น  ผมรู้แน่ชัดแล้วว่าผมเป็นอะไร มันถึงได้บอกเล่าความลับบางส่วนเกี่ยวกับตัวมันออกมา 

“หยุดก่อน” ผมเอื้อมมือไปจับมันที่กำลังขยี้ผ้า และส่งเสียงออกมาเพื่อเรียกสติของมันกลับมายังปัจจุบัน

“มีอะไร”

“ยังคิดเรื่องนั้นอยู่อีกหรอ”

“อืม ” เสียงตอบรับของมัน  ทำให้ผมตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง  ผมหันไปมองให้แน่ใจว่ารอบๆตัวจะไม่มีกล้องหรืออะไรที่ถ่ายทำเราไว้  เรื่องหลังจากนี้จะเป็นเรื่องที่ต้องมีแค่ผมกับมันเท่านั้นที่รู้

“นอกจากป่าข้างนอกนั่น กับต้นไม้ที่เอาลงวันนี้มีอะไรอีกรึเปล่าที่มึงรู้สึกว่า…แปลก”

“ก็ไม่”

“งั้นอยากรู้รึเปล่าว่านอกจากพวกนั้น  มีอะไรที่แปลกอีก”



****************************************TBC************************************

สวัสดีครับบบบบบบบบบบบ  เอาตอนที่4มาส่งแล้วนะครับ  ถูกใจไม่ถูกใจยังไงเขียนติชมกันมาได้เลยนะครับ ผมพร้อมโดนพิพากษา  555555 :z10:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมากๆเลยนะครับ  คำชมของทุกคนผมจะเก็บเอามาเขียนนิยายเรื่องนี้ให้ดีขึ้นไปอีก  ยอมรับว่ากดดันมาก กลัวทำให้ผิดหวัง  แต่ขอบคุณจริงๆครับ   :heaven

เจอกันตอนหน้าครับ

P-Rawit
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2017 20:59:58 โดย P-Rawit »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หลอนมากกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ดีใจที่มาอัพต่อ ติดมากค่่ะ ขอบคุุณนะคะ :pig4:

วันนี้แอบมารอ มีีเพจให้้ติิดตามมัั้้ยคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-01-2017 21:06:35 โดย naruxiah »

ออฟไลน์ zongpei96

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
ถ้าเป็นมิวตอนนี้คือสติแตกกก แงงงง  :ling3:
ภพเป็นหมอผีเรอะะะ 5555555555

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เราว่าก็แปลกนะ บ้านร้างที่ให้คนเข้ามาทำพิธีทางไสยศาสตร์ ไม่น่าเอาต้นไม้เข้ามาลงใหม่ เหมือนเป็นการทับที่เขา คิดว่าวิญญาณในบ้านอาจมาจากต้นไม้ก็ได้ เพราะบอกว่าอยู่ในบ้านแต่ไม่ได้ตายในบ้าน หลอนจริงๆ

ติดตาม เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
น่ากลัวววว ไม่กล้าอ่านตอนอยู่คนเดียวเลยค่ะ หลอนนน :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ nuchhxk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาทุกอังคารห้ามขาดห้ามหายเลยนะรู้เปล่า จะติดตามยันตอนจบเลย! แต่อ่านแล้วแอบอึดอัดแทนมิวอ่ะ รู้ไรก็บอกกันบ้างเถอะภพ ถึงปากจะบอกรอเวลาแต่ในใจก็อยากรู้แหละฮื่อออออ เราจะไม่อ่านตอนกลางคืนเด็ดขาด! 55555555555555

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เราว่าศพถูกเอามาทิ้งไว้ที่นี่แหงแซะ ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้ แต่มิวถือว่าเข้มแข็งมากทั้งๆที่กลัว แต่ก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติ  :z3:

ออฟไลน์ AkaneSama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หลอนจริงอะไรจริง ชอบอ่านตอนกลางคืน :laugh:

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มาต่อเดี่ยวนี้ คนเขียน เราชอบแนวนี้มากๆ ขออย่างเดียวอย่าไห้ พระนายตาย ยังไงก็อยากไห้จบแบบแฮปปี้ ถึงเป็นแนวนี้ก็เถอะ


ตื้นเต้นๆๆๆๆรอตอนต่อไป

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คนอ่านก็กดดันตามคนเขียน 5555

จะหลอนอะไรเบอร์นี้  :ling2:

หลุมที่เหวนี่อย่าบอกนะว่าเอาไว้ฝังคน.... :mew5:

ออฟไลน์ Opoln Miyabi

  • Y คือ ชีวิต !!!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ชอบเรื่องนี้มากกกกด  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด