[เรื่องสั้น] No time to turn back [ตอนที่7] ***UP***
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] No time to turn back [ตอนที่7] ***UP***  (อ่าน 2020 ครั้ง)

ออฟไลน์ monodrama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2016 00:10:21 โดย monodrama »

ออฟไลน์ monodrama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] No time to turn back [ตอนที่1]
«ตอบ #1 เมื่อ18-08-2016 02:07:53 »

23.00 PM

เกือบจะเข้าเช้าวันใหม่ พายุฝนที่ซัดกระหน่ำอยู่ด้านนอกก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แม้พายุฝนจะโหมกระหน่ำมากขึ้นจนเกือบจะเป็นพายุน้อยๆแต่ก็ไม่ส่งผลต่อสองร่างที่กำลังนัวเนียบดจูบกันอยู่ภายในรถยนต์ส่วนตัวคันใหญ่บรรเทาความร้อนแรงลงได้เลย มีแต่จะทวีความต้องการเพิ่มขึ้นจนคนตัวเล็กกว่าเผยอปากแดงเรื่องขึ้นเพื่อจะหยุดอะไรๆที่กำลังเลยเถิดไว้เสียก่อน

“พ ... พ .พี่ชิณณ์ เดี๋ยวป๊าออกมาเห็นครับ” ชายหนุ่มหน้าใสที่เป็นฝ่ายถูกรุกรานบอกปรามเสียงกระเซ่า แต่ก็ยังเผยอปากรอรับรสจูบจากคนตรงหน้าแบบย้อยแย้งกับคำพูดของตัวเองจนชายหนุ่มตรงหน้าอดที่จะเหยียดยิ้มเบาๆไม่ได้

“งั้นไปต่อที่อื่นไหมครับ ป๊าจะได้ไม่เห็น” ร่างหนาพูดพลางเชยคางคนตัวเล็กขึ้นมารับการบดจูบอีกครั้ง เขาชอบเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาดี พวกที่เชื่อคนง่ายและคิดว่าทุกอย่างได้มาง่ายๆ เพราะตอนถึงเวลาทำลายมันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาสะใจจนอดใจไม่ไหว

อ อืมมม ฮะ.. ฮ่าห์..  “ไม่ได้ครับ เบสท์บอกไว้แล้วว่าวันนี้จะกลับ ถ้ารู้ว่าจะเจอพี่ชิณณ์วันนี้ เบสท์ไม่รับปากป๊าไว้ก็ดี”

“โอเคครับ งั้นคราวหน้าพี่มารับไปกินข้าวนะครับ” ผมตัดบทเบสท์อย่างรวดเร็ว ในเมื่อไม่ได้ก็ขี้เกียจเสียเวลา วันนี้จริงๆผมก็เหนื่อยจากเรื่องเรียนมาเหมือนกัน โปรเจคจบของผมหนักไปทางปฏิบัติทำให้ช่วงนี้ต้องใช้พลังงานมากเหลือเกิน ง่วงจะตายแล้ว จะได้กลับไปนอนสักที เบสท์หอมแก้มผมก่อนลงจากรถไปหาเด็กในบ้านที่เดินถือร่มมารับหน้าประตู พร้อมโบกมือบ๊ายบายให้รถผมที่เคลื่อนตัวออกมา ผมขับรถฝ่าพายุฝนที่ดูเริ่มจะซาลงกลับไปคอนโดที่อยู่แถบชานเมือง ถึงที่หมายปิดล็อครถเรียบร้อย ลมเย็นๆของปลายฝนที่เพิ่งจะหยุดตกพัดมากระทบกับใบหน้าเบาๆ ผมก้าวเดินเลี่ยงแอ่งน้ำขังน้อยๆที่เกิดจากฝนที่เพิ่งจะหยุดตกเข้าสู่ทางเข้าคอนโดที่เป็นที่พัก ป่านนี้ไอ้ต้นรูมเมทผมมันคงนอนแหกแข้งขาสบายไปแล้ว จริงๆไอ้ต้นไม่ได้เป็นแค่เพื่องร่วมห้อง แต่มันเป็นทั้งเพื่อนวัยเด็กที่โตมาด้วยกัน เหมือนน้องชายของผมอีกคนก็ว่าได้ แม่มันกับแม่ผมคลอดเรามาเวลาเดียวกันเด๊ะ บ้านก็อยู่ใกล้กัน เรียนก็เสือกที่เดียวกัน มันเลยเกาะผมแจเลยทีนี้ แต่ก็ดีที่มีมันมาอยู่เป็นเพื่อน จริงๆมันกับผมก็สลับพาเด็กเข้าห้องเลยนะ แต่ห้องเรามีพื้นที่ที่แยกกันเป็นสัดส่วนก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเท่าไหร่ ผมก้าวเดินพลางยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดู เที่ยงคืนสี่สิบสามนาทีแล้ว เออวะ ยังมีเวลาอาบน้ำได้นานหน่อย จริงๆผมนอนตอนดึกเหมือนเด็กมหาลัยทั่วไปแหล่ะครับ ติดเป็นนิสัยก่อนเที่ยงคืนมันนอนไม่หลับ จะหลับก็ประมาณตอนตีสองผมเลยเผื่อเวลากลับห้องไว้ให้ทำนู่นนั่นนี่ ผมเดินเข้าลิฟท์แล้วกดเลขชั้นห้องตัวเอง แต่แล้วชั่ววินาทีที่ลิฟท์จะปิด เหมือนมีลมเบาๆปะทะลอดรอยแยกเข้ามาที่ตัวผม สะดุ้งจนนิ้วเผลอไปกดลิฟท์ให้เปิดออก เหมือนในหัวมันตื้อๆไปชัวขณะก่อนที่ร่างๆหนึ่งจะปรากฏตัวมาที่ด้านนอก ร่างที่ขาวจัดทั้งร่าง ใบหน้าเล็กกับดวงตาคมปลาบ ผมพลิ้วสีดำที่ปรกหน้าผาก กับกลีบปากที่เผยอออกเพื่อเปล่งเสียงบางอย่าง

“ผมไปด้วยครับ”

เสียงติดจะทุ้มเอ่ยบอกเบาๆ ผมถอยเข้ามานิดนึงเพื่อให้คนมาใหม่ได้เข้ามาได้ .....หล่อ คำจำกัดความที่ผมรู้สึก แต่ก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรนัก คู่ควงเก่าๆของผมก็หน้าตาใกล้เคียงมาตรฐานนี้ทั้งนั้น

“ชั้นไหนครับ” ผมเอ่ยถามกลับไปเพราะเห็นเขายังไม่กดชั้นที่จะไปสักทีจนจะถึงชั้นของผมแล้ว เผื่อลืมผมจะได้เอื้อมกดที่แผงควบคุมข้างผมให้


“24ครับ”

เสียงทุ้มตอบกลับมาเบาๆแบบครั้งแรก หืมม ชั้นเดียวกันเลยนี่หว่า แต่ไม่เคยเห็นหน้า ...ก่อนจะคิดต่อก็ถึงชั้นที่ผมอยู่พอดี ผมก้าวออกจากลิฟท์ก่อนเหลือบมองอีกคนเล็กน้อย ...แปลกที่ผมรู้สึกติดใจ เหมือนมีอะไรดึงให้ผมอยากมองคนคนนี้ตลอดเวลา ผมหันหน้าไปทางขวาเพื่อเดินไปทางห้องพัก เสียงก้าวเท้าเบาๆตามหลังผมมาห่างๆ อ้าว อยู่ห้องใกล้ๆกันด้วยเหรอ ผมเดินมาถึงห้องแรกเสียงก้าวไม่หยุดแต่ยังเดินตามผมต่อ งั้นก็ต้องห้องถัดไปเพราะเป็นห้องสุดท้ายของฝั่งนี้ ก่อนจะสุดทางเดินซึ่งเป็นห้องของผม  เสียงก้าวเท้าข้างหลังหยุดลงที่หน้าห้องนั้น ผมผ่อนลมหายใจเบาๆก่อนจะก้าวเดินตรงไปกดพาสเวิร์ดที่ดิจิตอลล็อคหน้าห้อง ทำไมรู้สึกหนักอึ้งแปลกๆวะ ก่อนที่มือจะเอื้อมไปเปิดประตู อยู่ดีๆเสียงฝีเท้าข้างหลังก็เริ่มเดินอีกครั้งก่อนที่จะมาหยุดอยู่ข้างหลัง ผมหันกับไปเผชิญหน้ากับผู้ชายคนเดิมที่ก้าวเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าผม   


“คุณ....มาหาใครครับ”?  ผมตัดสินใจเอ่ยถามออกไป เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าผู้ชายคนนี้มีธุระกับห้องนี้ ห้องของผมกับไอ้ต้น

“ผมมาหาคุณรุขชาติครับ” ……..แขกไอ้ต้น..

 “มีธุระอะไรเร่งด่วนรึเปล่าครับ คือ..นี่ก็ดึกมากแล้ว” ผมบอกพลางเหลือบมองนาฬิกาเพื่อกดดัน  อดแปลกใจไม่ได้ ปกติมันไม่เรียกใครมาตอนดึกนี่หว่า จะพามาก็มาพร้อมกันเลย

“ก็ค่อนข้างด่วนครับ คือผมมาฆ่าเขา ..แล้วต้องฆ่าให้เสร็จก่อนเช้าด้วย..”


คนตรงหน้าผมตอบคำถามกลับมาด้วยเสียงทุ้มเบาเหมือนเช่นเคย ใบหน้าหล่อเหลาเฉยชาราวกับสิ่งที่พูดทั่วไป มือขวาที่ขาวสะอาดเอื้อมไปข้างหลังแล้วหยิบปืนพกสีดำมาเตรียมขึ้นลำพร้อมยิง ผมมองการกระทำตรงหน้าทุกๆขั้นตอน คอนโดชั้น24ตอนเกือบตีหนึ่งเงียบสนิทไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมานอกจากเสียงเบาๆที่หลุดออกมาจากลำคอของผม

ห๊ะ?






****จบตอน****
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2016 11:26:21 โดย monodrama »

ออฟไลน์ monodrama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] No time to turn back [ตอนที่2]
«ตอบ #2 เมื่อ18-08-2016 11:14:42 »

ตอนที่2

“ก็ค่อนข้างด่วนครับ คือผมมาฆ่าเขา ..แล้วต้องฆ่าให้เสร็จก่อนเช้าด้วย..”


ห๊ะ?

............. เงียบ มีเพียงความเงียบที่ทะลุเข้ามาในโสตประสาทของผม ผมมองเข้าไปในดวงตาที่จริงจังคู่นั้น เหลือบมองปืนพกสั้นที่อยู่ในมือ ก่อนจะสรุปกับตัวเองสั้นๆว่าไอ้เหี้ยนี่พวกโรคจิตแน่ๆ!

“คืองี้นะ ไอ้ต้นมันเป็นคนแบบนี้แหล่ะ อย่าไปจริงจังกับมันเลย ไม่ใช่แค่นายคนเดียวหรอกที่นอนกับมันแล้วมันไม่สานต่อน่ะ กลับไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวพรุ่งนี้บอกมันให้” ผมพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนตรงหน้าใจเย็นลง จริงๆนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกครับ ไอ้นี่แม่งไปทำเรื่องไว้เยอะ เมื่อก่อนก็เคยมีประมาณนี้มาแล้ว

“ไม่ใช่ครับ ผมมีความจำเป็นที่ต้องฆ่าเขาจริงๆ….ขอเข้าไปหน่อยนะครับ” ไม่รอผมอนุญาตคนตรงหน้าพุ่งตัวเข้าไปในห้องผมอย่างรวดเร็ว... แต่ที่เร็วกว่าคือผม คว้าแขนซ้ายของอีกคนได้ผมก็บิดทันที แต่เหมือนมือที่ถือปืนไวกว่าวัตถุสีดำอยู่ชิดกระหม่อมผมก่อนที่เสียงดังสนั่นจะดังขึ้นในระยะประชิดข้างหู


ปัง!


แม่งยิงผมจริงด้วย!!!!


โชคดีที่ผมไวกว่านิ้วของมัน ผมอาศัยความเร็วเบี่ยงหลบแล้วจับแขนสองข้างบิดไพล่หลังไว้ แย่งปืนมาโยนไว้มุมห้อง ก่อนจะดันคนบุกรุกให้เข้าไปทางห้องของผม ปิดประตูล็อค ไอ้คนข้างหน้าก็ยังพยศไม่หยุด ผมล็อคแขนมันแล้วกดหน้าลงไปกับเตียงก่อนจะดึงลิ้นชักที่หัวเตียงออกแล้วหยิบปืนของผมออกมาจี้ที่หัวมัน

“เหี้ย!!! กูฆ่าซะเลยดีไหม? ห้องกูเก็บเสียงนะ ฆ่ามึงไปตอนนี้ก็ไม่มีคนรู้หรอก”

“…………………….”

“...ถ้าไม่ใช่เรื่องไปนอนด้วยกัน แล้วมึงมาฆ่ามันทำไม?”

“……………………”

เงียบ ผมรับรู้ได้ถึงแรงสั่นขอร่างที่อยู่ข้างใต้ ..กลัวเหรอ? แม่งบุกเดี่ยวเข้ามาถึงขนาดนี้ก็ต้องกล้าไม่เบา แล้วเพิ่งมาสำนึกได้ว่าต้องกลัวเหรอวะ ผมเริ่มหงุดหงิดที่บ้าอะไรไม่รู้อยู่ดีๆก็มีคนบุกมายิงปืนใส่ตอนตีหนึ่ง แถมแม่งยังไม่พูดอะไรให้กูหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมด้วย! ผมขึ้นนกปืนในมือเสียงดังกริ๊กเพื่อเร่งมันให้เปิดปาดก่อนจิกผมแล้วแหงนหน้ามันขึ้นมาดู มันกลัวจนตัวสั่นมากเข้าไปอีก ดวงตาคมหมองลงน้อยๆดูแล้วน่าใจอ่อนชะมัด ก่อนเสียงทุ้มนุ่มจะหลุดออกมาจากปากเบาๆ

“ฆ่าไม่ได้นะครับ ผมต้องทำงานให้เสร็จก่อน ไม่อย่างนั้นทุกคนจะเดือดร้อน”

“ใคร?”

“ทุกคนครับ รวมถึงลูกหลานของคุณด้วย”

ห๊ะ! ลูกหลานผม?? กูยังไม่มี .... แม่งพูดเรื่องอะไรอีกแล้ว



“ มันอาจจะเหลือเชื่อสำหรับคุณไปสักหน่อย แต่ผม..ผมมาจากปี ค.ศ.2300 .... ลูกหลานรุ่นที่4ของคุณรุขชาติจะเป็นผู้ทำให้เกิดสงครามชีวภาพครั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผมต้องมาเปลี่ยนแปลงอดีตโดยการฆ่าเขา เพื่อทำให้ผู้กุมอำนาจไม่ได้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ และผมมีเวลาแค่7วันก่อนที่จะเกิดการปล่อยอาวุธชีวภาพ ผม.....ต้องฆ่าเขา”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หัวสมองผมโล่งอีกครั้ง มือที่จับล็อคคนตรงหน้าค่อยๆคลายตัวออก ผู้ชายตรงหน้าผมค่อยๆลุกยืนขึ้นบนเตียง เท้าค่อยๆลอยสูงขึ้นไปอยู่กลางอากาศ ขึ้นไปอีกจนหัวของเขาอยู่ห่างจากเพดานเพียงไม่มาก

“ในอนาคต ทุกคนจะมีพันธุกรรมที่ทำให้สามารถลอยตัวอยู่ได้ในสภาวะไร้น้ำหนัก แต่หลานของคุณรุขชาติจะปล่อยเชื้อชีวภาพที่ทำลายพันธุกรรมนี้ เราจะกลับไปเป็นคนธรรมดาแบบยุคนี้ ก่อนที่เขาจะกวาดล้างเราด้วยปรมณู ความทรมานจะกลับคืนมาอีกครั้ง เพื่อที่จะยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ผมต้องฆ่าต้นตระกูลที่จะทำให้เกิดคนก่อสงครามให้ได้ ……เพราะฉะนั้น”  ใบหน้าขาวราวกระเบื้องเคลือบลอยมาอยู่ในระดับเดียวกับผม ก่อนเปล่งเสียงนุ่มทุ้มเหมือนเคยออกมา

“ส่งปืนมาครับ”






****จบตอน****
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2016 11:22:38 โดย monodrama »

ออฟไลน์ monodrama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] No time to turn back [ตอนที่2]
«ตอบ #3 เมื่อ18-08-2016 21:58:49 »

ตอนที่3






“ส่งปืนมาครับ”

มือขาวกระชากปืนในมือผมออกไป ก่อนพุ่งทะยายออกจากเตียงไปถึงประตู เป้าหมายคือห้องนอนฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นห้องไอ้ต้น ผมรู้สึกตัวจากภวังค์ ยังดีที่เอื้อมมือไปคว้าข้อเท้าขาวนั้นได้ ตอนนี้ต้องหยุดมันไว้ก่อน เรื่องที่เหลือเดี๋ยวค่อยมาคิดต่อ  คนตรงหน้าล้มลงกระแทกพื้นแต่ขายังดิ้นรนสะบัดให้หลุดออกจากการเกาะกุมของมือผม ...ฟาดหน้าผมไปหนึ่ง.... ผมกระชากขาที่ยึดข้อเท้านั้นให้เข้ามาใกล้ก่อนล็อคแขนไว้แล้วขึ้นคร่อม ไอ้คนข้างล่างยังดิ้นรนไม่ยอมหยุด มันเสียเปรียบที่ตัวบางกว่าผมแถมดูแล้วก็ไม่หน้าจะต่อสู้เป็นเท่าไหร่อาศัยเหวี่ยงแขนขาสะเปะสะปะมากกว่า ผมง้างมือจะชกหน้ามันให้เลิกดิ้น แต่ชั่ววิที่เห็นมันหลับตาแน่นเตรียมพร้อมรับหมัดก็ใจอ่อนไม่ได้ หน้าขาวๆผิวสวยๆแบบนี้ เสียดายของเป็นบ้า! …. แต่ผมคงใจอ่อนเกินไปเพราะวินาทีถัดมามันกระชากมือหลุดจากการเกาะกุมของผม ตามมาด้วยเสียงปืนดังลั่นอยู่แถวๆท้องน้อย ผมเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง แม่งเอ้ย! มันเหนี่ยวไก!!!   กระสุนถากตรงหน้าท้องน้อยของผมเรียกเลือดให้ซึมที่บาดแผล มันเริ่มออกตะกายพุงตัวไปทางไปทางทิศเดิม มือเอื้อมไปเตรียมบิดกลอนประตู มืออีกข้างที่ถือปืนก็ยกขึ้นมาเตรียมพร้อม ....ยิงแน่.... วินาทีสุดท้ายผมตัดสินใจพุ่งทะยานไปด้านหลังชนมันอย่างน้อยก็ทำให้มันเสียจังหวะก่อนเหนี่ยวไกได้แหล่ะ

‘ไอ้ต้น!!!!!!!! ละ ...หล..................... อะ ....อ้าว’!!!!!! ผมตะโกนสั่งขึ้นไปทางเตียงนอน แต่สิ่งที่เห็นมีเพียงเตียงโล่งๆที่ไม่มีเจ้าของอยู่ มันไม่อยู่บ้านเหรอวะ ถึงว่าเสียงดังขนาดนั้นไม่เห็นมันโผล่หัวออกไปดูเลย คนที่อยู่ใต้ร่างผมผงกหัวขึ้นมาดู ก่อนจะถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงไปนอนแบบเดิม ผมจ้องหน้ามันเตรียมคิดบัญชีเรื่องทั้งหมดที่มันทำไว้คืนนี้

“มึง....”

“ผ ผม....”

?!?...เสียงทุ้มนุ่มของมันที่ดังขึ้นมาพร้อมกับผมทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย สายตาที่มองมาแบบหงอยๆทำให้ผมตั้งใจฟังว่ามันจะพุดอะไรออกมา


“..ผมทำแผลให้ไหมครับ”


            +++++++++++++++++++++++++



กล่องปฐมพยาบาลถูกนำมาวางไว้ที่โซฟาตัวใหญ่ ผมมองมือขาวๆที่กำลังบรรจงทำแผลให้ผม เหมือนว่าเราจะสงบศึกกันทันทีที่มันรู้ว่าไอ้ต้นไม่ได้อยู่ในห้อง อยู่ดีๆมันก็อาสาทำแผลจากรอยถากกระสุนปืนให้ผม แผลที่มันเป็นคนทำนั่นแหล่ะ บอกตรงๆว่าผมก็ยังไม่ไว้ใจไอ้คนที่เพิ่งเจอกันเมื่อชั่วโมงที่แล้วและมันก็พยายามฆ่าผมมาสองครั้งนี่หรอก แต่ตราบใดที่มันยังไม่จับปืนมาจ่อกะโหลกผมอีกครั้งผมก็พร้อมนั่งคุยกับมันดีๆได้

“เสร็จแล้วครับ” 
คนตรงหน้าจบขั้นตอนการทำแผลโดยการปิดสกอตเทปลงไปบนผ้าก็อซ หัวทุยก้มลงไปจ่อปากที่บาดแผลบนท้องน้อยของผมก่อนออกแรงเป่าเบาๆเหมือนโอ๋เด็กเล็กๆ ผมเสียววาบไปทั่วช่องท้อง แม่ง! ไม่คิดว่าอยู่ดีๆมันจะทำอะไรแบบนี้ ผมนั่งเกร็งมองมันทำแบบนี้อยู่ประมาณ5วิ ก่อนที่มันจะช้อนดวงตาคมที่มีท่าทีอ่อนลงกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกขึ้นมามองหน้าผม ดวงตาไล่ไปหยุดตรงเหนือหัวคิ้วแผลช้ำที่มันถีบใส่ผมไว้ ก่อนที่มันจะยืดตัวลุกขึ้นยืน มาถึงตอนนี้ผมเริ่มขยับบ้าง จะเริ่มอีกแล้วเหรอวะ!!! แต่ผิดคาดที่มันส่ายหน้าให้ผมน้อยๆ ก่อนเอื้อมมือขาวทั้งสองข่างมาประครองหน้าผมไว้

“อยู่นิ่งๆนะครับ ...จ..เจ็บมากไหม ผม..ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณเลยนะครับ”

“..................” ถามเหี้ยไรวะ พูดมาได้ไม่ได้ตั้งใจ ยิงกูมาได้ตั้งสองครั้ง แล้วมาถามว่าเจ็บไหม? ถามตัวเองดีกว่าว่าถีบกูแรงไหม ถีบแรงกูก็เจ็บแรง ผมขมวดคิ้วให้มันว่าจะมาไม้ไหน ถีบกูแล้วมากลัวกูเจ็บเนี่ยนะ ส่วนมันก็ไม่ได้รอคำตอบ เห็นผมขมวดคิ้วใส่มันเลยเลิกมองก่อนจะก้มลงมาเป่าแผลให้ผมเบาๆเหมือนแบบเดิม ลมหายใจอุ่นๆค่อยปะทะที่รอยช้ำ สัมผัสนิ่มๆของกลีบปากจูบซับทำให้ผมขนลุกไปทั่วต้นคอ


“พอแล้ว” ผมเอื้อมมือไปจับสะโพกมันก่อนจะยกตัวมันขึ้นมานั่งตักให้สายตาอยู่ในระดับพอๆกัน ถึงสิ่งที่มันทำจะน่าเคลิบเคลิ้มขนาดไหน แต่ผมต้องจัดการปัญหาใหญ่ของการมาของมันก่อน ไม่รู้ว่ามันจะคลั่งลุกขึ้นมาฆ่าผมกับไอ้ต้นตอนไหนอีก  “..จะถามครั้งเดียวนะ ที่พูดมาน่ะเรื่องจริงใช่ไหม จะโกหกก็ได้ กูเชื่อคนง่าย แต่ถ้ากูจับได้กูเป่ากบาลมึงทิ้งแน่นอน” ผมเริ่มบทสนทนาเพื่อคุยกับมัน ผมไม่ได้ขู่แต่ดูๆแล้วไม่ว่ามันจะเป็นใครหรือตัวอะไรก็ตาม สิ่งที่มันกลัวคือความตายเหมือนๆกับมนุษย์ทั่วไป แสดงว่ามันต้องรักษาชีวิตรอดกลับไปในที่ที่มันมา ผมเลยบอกแม่งไว้ก่อนเลยว่าถ้ามีอีกครั้งกูเอาจริงแน่

“ครับ ผม...ผมพูดเรื่องจริงนะครับ เวลาไม่มีแล้ว ตอนเช้าประตูทางเข้าจะเปิด ผมต้องทำให้เสร็จ ไม่อย่างนั้นผมก็ยังกลับไม่ได้”   สายตาที่จ้องมองผมกลับมีแววกังวลแต่มั่นคงในสิ่งที่พูด ผมมองมันแล้วพยักหน้าช้าๆ ก่อนเริ่มพูดต่อ

“ ...ให้ทำไม่ได้หรอก อยู่ดีๆจะให้มาฆ่าไม่ได้ มึงกลับไปในที่ที่มึงมาเหอะ แล้วไปจัดการชีวิตมึงว่าจะเอายังไง เพราะตราบใดที่กูยังอยู่กูก็ให้มึงทำไม่ได้” ผมพูดกับมันช้าๆหวังว่ามันจำทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งทีละคำๆ  แล้วถอยกลับไปในที่...ที่มันมา...มันเม้มริมฝีปากบางเข้าด้วยกันแล้วมองผมด้วยสายตาที่เว้าวอนแบบบอกไม่ถูก ตาคมที่มีแววดื้อรั้น แต่ขณะเดียวกันก็มีความสับสน เหมือนมันกำลังหาทางออกให้กับตัวเองอยู่เหมือนกันว่าจะเดินหน้าต่อหรือถอยกลับ ผมค่อยๆขยับมือคลึงสะโพกมันเบาๆเผื่อให้มันวางใจและผ่อนคลาย เผื่อจะกล่อมมันสำเร็จ ยกมือซ้ายขึ้นมาไล้กลีบปากที่เม้มแน่นให้คลายออก กลิ่นตัวหอมกับใบหน้าหวานแบบนี้ ถ้าเจอกันครั้งแรกไม่ใช่การที่มันตรงดิ่งมาเพื่อฆ่าเพื่อนผมก็คงดี ผมค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆใบหนาขาวนั้น เลื่อนมือไปที่ท้ายทอยคนตรงหน้าเพื่อปรับเอียงองศาให้พอดี ไม่ได้อยากมีเซ็กส์หรอกครับตอนนี้  แค่รู้สึกอยากจูบ อยากลิ้มรสดูว่ามันจะหวานสักแค่ไหน วินาทีสุดท้ายก่อนที่ผมจะประกบปากลงไปกับกลีบปากสีหวาน เสียงติ๊ดๆที่ประตูก็ดังขึ้น ผมหันกลับไปทันตอนที่ประตูเปิดออกเผยให้เห็นร่างผู้มาเยือนสองคน พร้อมเสียงอ้อแอ้ที่ดังส่งเข้ามา


“ เชี่ยยยยยยยยยยชิณณ์โว้ย!!!  มารับกูหน่อย สัดเอ้ยจะอ้วก ไอ้เหี้ยเจฟแม่งพากูเมารถ”

……เสียงไอ้ต้นโหวกเหวกอยู่หน้าประตู ผมไม่ได้มองหน้ามันเลย เพราะตอนนี้สิ่งที่ผมสนใจคือดวงตาวาวโรจน์ของคนตรงตรงหน้าที่มองตำแหน่งที่ไอ้ต้นยืนสลับไปมากับวัตถุสีดำที่ผมเตะไปไว้มุมห้องตั้งแต่ตอนซัดกันมากกว่า






****จบตอน****

ออฟไลน์ monodrama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] No time to turn back [ตอนที่4] UP
«ตอบ #4 เมื่อ22-08-2016 22:13:53 »

ตอนที่4

“ เชี่ยยยยยยยยยยชิณณ์โว้ย!!!  มารับกูหน่อย สัดเอ้ยจะอ้วก ไอ้เหี้ยเจฟแม่งพากูเมารถ”


.

.

.

.

.

.

.

...ผมคว้าเอวคนตรงหน้าที่กำลังตั้งท่าจะปีนข้ามโซฟาหมุนตัวมันให้หันหน้าไปอีกทางแล้วล็อคมันจากข้างหลัง มือข้างนึงปิดปากมันไว้ อีกข้างก็กอดเอวมันแน่นไม่ให้มันดิ้นหลุด แดกอะไรทำไมแรงมันเยอะจังวะ!!!

“ไอ้ต้น มึงออกไปก่อน เด็กกูแก้ผ้าอยู่” ตะโกนบอกไอ้ต้นที่หน้าประตูแล้วพยายามกอดอีกคนให้แน่นที่สุด โชคดีที่ตัวมันบางกว่าผมเลยใช้ตัวเองบังมันจากคนอื่นได้

“เอ๊า!  กูเห็นกูก็ดูแค่ผ่านๆ มึงจะหวงอะไรนักหนา จะอ้วก ขออ้วกก่อน”


“มันเขิน มึงออกไปก่อน  …จิ๊! เร็ว!!!” ...เร็วไอ้เหี้ยต้น.....กูจะล็อคมันไม่ไหวแล้วเนี่ย ก่อนอ้วกไหลสมองไหลก่อนแน่มึง ผมขึ้นเสียงเร่งมันนิดหน่อย ไอ้ต้นทำหน้างงปนอารมณ์เสียก่อนเดินถอยหลังออกไปแต่โดยดี ปกติผมไม่ค่อยขึ้นเสียงใส่มันเท่าไหร่ มันเป็นลูกคนเล็ก ขี้ใจน้อย เนี่ยเดี๋ยวก็ต้องง้อแม่งอีก พอประตูปิดแล้วผมเลยจัดการลากไอ้คนตรงหน้าเข้ามาในห้องผม นี่แม่งก็ดิ้นฉิบหาย จะพุ่งไปทางประตูท่าเดียว

“ปล่อยเถอะครับ!!” พอปล่อยมือจากปากมันก็บอกเสียงร้อนลน หน้าตาแดงไปหมด

“ไม่” ตอบมันพร้อมใช้อีกมือที่ว่างจากการล็อคตัวมัน ความหาของที่อยู่ในลิ้นชัก อยู่ไหนวะ เพิ่งใช้ไปเมื่อวานซืน…

“ด เดี๋ยวจะไม่ทันครับ ปล่อยเถอะครับ” มันยังคร่ำครวญให้ผมปล่อยมันต่อไป ผมหยิบสิ่งที่ต้องการออกมาจากลิ้นชัก ก่อนล็อคห่วงแรกเข้ากับหัวเตียงแล้วเกี่ยวอีกห่วงเข้ากับมือมัน สัมผัสเย็นทำให้มันหยุดดิ้นก่อนหันกลับไปมองข้อมือตัวเอง ดีนะยังเก็บไว้อยู่ เพิ่งเล่นตำรวจจับผู้ร้ายกับเด็กๆไปเมื่อวันก่อน ล็อคแม่งไว้แบบนี้คงพอกันมันได้สักพัก ดวงตาคมมีแววขัดใจ มันมองผมอย่างตัดพ้อปากก็พูดแต่ว่าปล่อยก่อนๆ  หน้าอย่างนี้นี่ถ้าเจอที่อื่นนะ.....

“มันไม่หลุดหรอกไม่ต้องดึง เดี๋ยวขูดเป็นแผล” ผมปรายตามองมองมันที่พยายามดึงกุญแจข้อมือออกจากมือให้ได้ ไม้เถียงสักคำ แต่ไม่หยุด! มองแล้วก็สงสารมัน สภาพตอนนี้คนละคนกับตอนมาชัดๆเลย ผมยุ่ง หน้าแดงปากแดงไปหมด เสื้อเชิ้ตสีขาวก็กระดุมขาดหลุดหลุ่ยเผยให้เห็นผิวขาวจัดด้านในเผยให้เห็นยอดอกสีหวาน กล้ามเนื้อหน้าท้องบางๆแสดงว่าไม่ใช่คนแข็งแรงอะไรนัก โดยรวมๆมันจัดว่าตรงสเปคผมไม่น้อยเลย ยิ่งมาอยู่ในสภาพน่าสงสารแถมยังถูกล็อคกุญแจมือแบบนี้อีก ผมขยับเข้าไปจะดึงเสื้อมันให้ปิดเนื้อหนังที่โผล่ออกมาให้มิดชิดหน่อย ไม่อยากคิดทำอะไรเกินเลยกับมันเท่าไหร่ แค่นี้ก็วุ่นวายตายห่าแล้ว แต่ไอ้คนข้างหน้ายกมือขึ้นมาปัดมือผมออกแถมขยับหนีหน้าตาบึ้งตึงใส่ .....อ่ะได้ งั้นกูแกล้งแม่งเลย ผมกระชากเสื้อขาวให้ฉีกออก อยากนิดหน่อย แต่ทำได้ หน้ามันบึ้งหนักกว่าเก่า หูแดงแก้มแดงไปหมด ก่อนพยายามถามเสียงแข็งกลับมา เหมือนแมวขู่เลย

“ทะ ทำอะไรของคุณครับ!!”

“ดื้อนักนะมึงอ่ะ ก็บอกว่าไม่ต้องดึง มันดึงไม่ออกหรอก” ผมหยิบเศษผ้าที่หลุดแล้วโน้มตัวข้ามไปพันไว้ที่กุญแจมือ จริงๆไม่ได้จะทำแบบนี้หรอกแค่อยากแกล้งแก้ผ้ามันมันแล้วเร่งแอร์ใส่ แต่เหมือนผมจะจับถูกจุด เพราะตอนนี้นอกจากมันจะแดงเถือกไปทั้งตัวแล้ว ตัวมันยังสั่นน้อยๆเวลาผมเฉียดเข้าใกล้มันด้วย ผมเอื้อมตัวกลับก่อนใช้มือบีบแก้มมันให้เอียงหน้าไปอีกทางก่อนบรรจงจรดปากกระซิบข้างหูมันจนทำให้มันนั่งเกร็งตัวสั่นเทา

“ถ้ายังแผลงฤทธิ์ไม่เลิกเดี๋ยวกูจะจับแก้ผ้าแล้วแกล้งแม่งทั้งคืนเลย”

“…!”









........แบบนี้ค่อยจัดการง่ายหน่อย




++++++++++++++++++++++++++++++


ผมเปิดประตูออกมาแล้วพบว่าไอ้ต้นนั่งก้มหน้าลงถุงพลาสติกที่มีอ้วกของมันอยู่ครึ่งถุง ข้างๆเป็นไอ้เจฟฟี่เพื่อนผมอีกคนนั่งอยู่ด้วย ไอ้นี่รู้จักกันตอนต้นเทอม มันเป็นเด็กโทที่มาลงเรียนเอกผม คอเหล้าเหมือนกันแต่ตอนเมาก็ฝากผีฝากไข้ได้

“เป็นไงมั่ง”

“……”

“….ต้น”


“….”


งอนอีกไอ้สัด .. ไอ้ต้นเงยหน้าจากถุงอ้วกแล้วทำหน้านิ่งไม่ตอบคำถามผม มันลุกขึ้นเตรียมจะเข้าห้อง แต่ผมขวางมันไว้ก่อน


“หลบไอ้สัด เดี๋ยวกูปาใส่หน้า” ไอ้ต้นยกถุงอ้วกมาขู่ ผมมองหน้ามันก่อนเอ่ยปากพูด


“ต้น...... คืนนี้มึงไปนอนไปนอนห้องเฮียนะ กูมีธุระต้องทำ”


“สัดชิณณ์!!! เหี้ยไรไล่กูออกมาแล้วก็ไม่ให้กูเข้าไปนอนอีก กูไม่ไปกูจะ.........!!!!!!


“กูขอ........นะ” ผมดึงมันเข้ามากอด ไอ้ต้นนิ่งอึ้งไป ผมไม่ค่อยกอดมันเท่าไหร่ ตั้งแต่โตมาก็นับครั้งได้ ผมรู้ว่ามันคงไม่ยอมง่ายๆอยู่ดีๆมาบอกให้มันที่อยากนอนชิบหายไปหาที่นอนที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเองมันคงไม่ไปแถมต้องอาละวาดแน่ๆ แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่ผมต้องทำคือกันมันให้ออกห่างจากไอ้คนในห้องนั่นมากที่สุด สำหรับผมที่เป็นลูกคนเดียวไอ้ต้นมันเหมือนน้องชายแท้คนนึงก็ว่าได้ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำมัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ต้องทำให้มันอยู่ห่างจากอันตรายให้มากที่สุด

“… ม ..มึง เออก็ได้”

ผมคลายอ้อมกอดแล้วขยี้หัวมันแรงๆ หันไปบอกกับไอ้เจฟที่ยืนมองประตูห้องผมอยู่ “ไอ้เจฟ กูฝากมันด้วยนะ คอนโดเฮียต่อมึงจำทางได้ใช่มะ แล้วออกไปแวะเซเว่นซื้อยาแก้เมารถให้มันด้วย .......ไม่อย่างงั้นมึงก็ให้ไอ้ต้นขับ ขับรถส้นตีนอย่างมึงแม่งใครก็เมา”

“………….”


“..ไอ้เจฟ”

“…………………”

“..เหี้ยเจฟ!”

“…อ เออๆ รู้แล้วไอ้สัดตะโกนทำไม” ไอ้เจฟฟี่สะดุ้งหันกลับมารับคำผม ก่อนจะคว้าแขนไอ้ต้นพาพาดบ่าเดินไปทางลิฟท์ ผมเตรียมหมุนตัวจะเดินเข้าห้อง หางตาเห็นไอ้เจฟหันหน้ากลับมาพอผมหันไปก็เห็นมันมองมาทางประตูห้องผม ไม่ใช่ผมแต่เป็นตรงตำแหน่งประตูห้อง?..........

 มัน ..มองอะไรของมัน???





+++++++++++++++++++++++

ผมกลับเข้ามาในห้องนอนที่มีคนตัวขาวจัดนั่งพับอยู่ข้างเตียง ข้อมือเกรอะไปด้วยรอยเลือดสีแดง แผลถลอกจากการพยายามดึงมือออกจากห่วงกุญแจดูเหวอะหวะ ให้มันได้แบบนี้สิ!! มันเงยหน้ามองผมแว๊บเดียวก่อนหันไปสนใจตัดมือตัวเองแบบทางอ้อมต่อ ผมถอนหายใจก่อนเดินออกไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่วางไว้ที่โซฟาเข้ามา เดินมานั่งบนขอบเตียงก่อนดึงมันขึ้นมานั่งตรงที่นั่งหว่างขา ดึงมือมันมาจะทำแผลให้ มันขืนมือไว้ผลเลยหยิบแอลกอฮอลล์มาราดไปที่แผลมัน นิ่งเลยทีนี้ มือสั่นตีนสั่นไปหมด

“...ก็มึงดื้อ”

“…เจ็บครับ”

“ถ้ายังไม่หยุดเดี๋ยวจะทำให้เจ็บกว่านี้อีก เจ็บจนจะขาดใจเลย” ผมจรดปากพูดกับซอกคอมันเบาๆ หอม...หอมจนอยากจะฟัดเนื้อให้ช้ำ ยิ่งมันมาทำตัวสั่นสภาพหมดทางสู้แบบนี้ผมยิ่งอยากทำให้มันเจ็บ ให้ร้องอ้อนวอนให้ผมหยุด ผมขบฟันลงไปบนคอขาวๆของมัน ใช้นิ้วโป้งบดลงไปบนแผลถลอกที่เลือดไหล ขยี้จนแผลเริ่มเละเทะมากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มแรงขึ้นจนไม่ร้องครางออกมาประท้วง

“มึงบอกมีเวลา7วันใช่ไหม”

“….ครับ ผมจะฆ่าให้ได้..ไม่อย่างนั้นผมจะไม่กลับ”

.

.

.

“…งั้นก็ไม่ต้องกลับ” ผมมองดวงตาคมที่เริ่มมีน้ำคลอหน่วย บีบคางมันให้หันหน้ามาหาผม ก่อนจะบดปากลงไปบนกลีบปากตรงหน้า ...แรงจนได้เลือด ขยี้ผิวอ่อนที่แตกให้แตกซ้ำ แรงอารมณ์ที่กรุ่นอยู่ตรงท้องน้อยผสมกับรสปร่าของเลือดมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกโหยหา ต้องแรงกว่านี้ ต้องให้ช้ำกว่านี้.  .....






... เดี๋ยวจะทำให้ไม่อยากอยู่จนอยากตายเลย







****จบตอน****
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2016 22:33:07 โดย monodrama »

ออฟไลน์ monodrama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนที่5

ผมตื่นขึ้นมาตอนเกือบ11โมงของเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อคืนเหรอครับ? ก็ไม่มีอะไร ผมไม่ได้ทำอะไรเกินเลยมันเลยนอกจากสูดกลิ่นตัวหอมๆของมันแล้วหลับไป เหมือนมีอโรมาเคลือบอยู่บนตัวมัน หลับสบายจนตื่นมาเกือบเที่ยง จริงๆวันนี้ผมไม่มีเรียนแต่มีนัดเอาเนื้อหาที่จะลงเล่มโปรเจคไปให้อาจารย์ตรวจ มองไอ้คนที่นอนคุดคู้มื้อข้างนึงถูกล็อคเข้ากับหัวเตียงแล้วก็ต้องชั่งใจ ถ้าไปแล้วจะเอามันไปไว้ไหน? แผนของผมคือต้องเก็บมันไว้ใกล้ๆตัวจนกว่าจะครบ7วันอะไรของมันนั่นแหล่ะ หวังว่าถ้าเส้นตายของมันหมดลงมันคงจะล่าถอยกลับไปที่ที่มันมา สงสัยวันนี้ต้องเปลี่ยนแผน ผมกดเบอร์หาอาจารย์ที่ปรึกษาวิชาโปรเจคจบแล้วแจ้งว่าขอเลื่อนปรึกษาเป็นวันอื่น โชคดีที่ผมทำงานนำหน้าคนอื่นอยู่พอสมควร เลยไม่ต้องรีบร้อนอะไรเท่าไหร่ เพราะเนื้อหาที่มีอยู่อาจารย์ก็ตรวจผ่านหมดแล้ว วางสายจากอาจารย์ก็ต้องโทรหาอีกคนต่อ

“ฮัลโหลไอ้ต้น มึงเข้ามอยังอ่ะ”

“แล้ว  มึงจะมากี่โมง? เออชิณณ์เสร็จแล้วก่อนกลับห้องพากูไปกินโจ๊กเปิดหม้อหน่อยดิอยากแดก ใต้คอนโดก็มีแต่ของเดิมๆ เบื่อ คืนนี้กูต้องอยู่แก้งานด้วยเนี่ย แม่ง เฮ้ย ..มึงเห็นทรัมป์ไดร์ฟอันสีแดงของกูป่ะวะ กูว่าวางไว้บนโต๊ะ เดี๋ยวคืนนี้แม่งต้องกลับไปหาละอยู่ดีๆแม่งหะ….

“ต้น”

“หึ๊?”

“ช่วงนี้มึงอย่าเพิ่งกลับมานอนที่นี่ได้ป่ะวะ คือ..กูมีธุระต้องใช้ห้องอ่ะ มึงนอนห้องเฮียไปสักพักก่อนนะ ถ้าเสร็จเรื่องเมื่อไหร่เดี๋ยวกูโทรบอก”


“……… ไอ้ชิณณ์! แค่มึงจะเอากับเด็กนี่ถึงห้ามไม่ให้กูกลับห้องเลยเหรอวะ? ทำไม? กะจะหมกตัวล่อกันทั้งวันทั้งคืนเลยหรือไง” เสียงไอ้ต้นตะคอกมาตามสาย เสียงแข็งแถมพูดห้วนๆแบบนี้ถือว่าเตือนภัยระดับสาม ไอ้ต้นเป็นคนมีโลกส่วนตัวพอประมาณเหมือนกัน ปกติถ้าไม่มีอะไรมันก็ถือว่าเป็นคนติดห้องคนนึงเลย อยู่ได้แม่งทั้งวันแบบไม่ออกไปไหนเลย แต่พอจะออกทีก็หลายวันกว่าจะกลับ ผมก็เข้าใจแหล่ะถ้ามันจะโมโหเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ 

“คือกูมีธุระสำคัญมาก มึง...ช่วยๆกูหน่อยละกันนะ”

“……….”

“…ต้น”

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

วางไปละ นี่แหล่ะเตือนภัยระดับสี่ เงียบแบบนี้แสดงว่าโกรธ ถ้าเป็นเหมือนทุกครั้งคือมันจะไม่พูดกับผมไปอีกวันสองวันเลย ฟีลลิ่งแบบ ถ้าผมนั่งอยู่ตรงไหนมันก็จะเดินทำหน้ากวนตีนๆเดินเฉียดๆผ่านไป จะหายก็ตอนผมไปชวนคุยก่อน ก็ดี มันจะได้ห่างๆที่คอนโดไว้ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้ามันกับไอ้คนในห้องเจอกันซึ่งๆหน้าแล้วผมจะยังเอาอยู่ไหม ผมหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมเดินเข้าไปอาบน้ำอาบท่า ถึงไม่ได้ออกข้างนอกแต่ก็ยังมีงานกองไว้ให้ทำอีกเยอะแยะ








“อ้าว ตื่นได้แล้วเหรอ” ออกมาจากห้องน้ำก็มาเจออีกคนนั่งหน้านิ่งอยู่บนเตียง เพิ่งตื่นแม่งยังดูดีเลย เมื่อคืนเห็นมันแว๊บแรกกว่าว่ามันหล่อแล้วนะ มาเจอตอตเช้านี่ยิ่งกว่าเมื่อคืนอีก “…เอาไง มึงจะอาบน้ำก่อนไหม?

“อาบ..น้ำ” มันเหลือบตามามองผม มองแบบหัวจรดตีนแล้วมองตีนขึ้นหัวอีกรอบ “..ทำความสะอาดร่างกายสินะครับ ผมไม่ต้องทำครับ ที่อนาคตร่างกายเราจะรับสารอาหารเข้าไปทางผิวหนังแล้วขับของเสียโดยการระเหยออกมาเป็นไอทำให้เราได้ขจัดของเสียจากภายในออกมาโดยตรง ไม่ต้องทำความสะอาดร่างกายผ่านทางผิวหนังซึ่งทำได้เพียงแค่ภายนอก”

“อ้ออ” ผมพยักหน้าน้อยๆกับสิ่งที่มันพูด คนบนเตียงพูดออกมาเหมือนกำลังอยู่ในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ พูดเสร็จก็นั่งจ้องหน้าผมเหมือนเดิม เหมือนกูกำลังคุยกับเด็กปอหกที่สอบได้ที่1เมื่อเทอมที่แล้วเลย  “แล้วงี้ไม่มีกลิ่นตัวเหรอวะ?”

“ก็ไม่นะครับ”

“เหรอวะ แต่เมื่อคืนกูว่ากูได้กลิ่นนะ ไหนมาดมใหม่ดิ๊” ผมเดินเข้าไปหอมแก้มมันซ้ายขวาอย่างละฟอด หอมเหมือนเดิม เมื่อคืนก็หอมแบบนี้แหล่ะ จริงๆผมก็รู้แหล่ะว่ามันไม่โกหก แค่เห็นหน้าเซื่องๆแล้วหมั่นเขี้ยวแค่นั้น

“เป็นไงครับ” อีกคนเงยหน้ามาถามผมด้วยแววตาสงสัยนิดๆ นึกว่ามันจะเขินแต่ก็เปล่า ทีเมื่อคืนแล้งเป่าหูนิดเดียวหน้าแดงหูแดงไปหมด

“ได้กลิ่นไม่ชัดว่ะ เดี๋ยวลองอีกที” ผมแกล้งทำหน้าไม่แน่ใจใส่ แล้วเพุ่งเข้าไปที่ซอกคอมัน แล้วกึ่งดมกึ่งฟัดที่ผิวเนื้อขาวๆนั่น กลิ่นหอมจริงๆ หอมจนทำให้มัวเมา จนเหมือนจะปลุกสัญชาตญาณดิบของผมขึ้นมา........ อยากกัดให้จมเขี้ยวเลย 

“อึ๊...”

 เสียงเบาๆของอีกคนเล็ดลอดมาเหมือนจะประท้วง นั่นเลยเรียกสติให้ผมเงยหน้าขึ้นมา ถ้าไม่หยุดเดี๋ยวจะเลยเถิด

“มีกลิ่นไหมครับ” ถามคิ้วขมวดเหมือนเริ่มกังวล

“ก็...มีนิดหน่อยอ่ะแต่ก็ไม่มาก ถ้าไม่อยากอาบน้ำมึงไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อยดีกว่า ทำเป็นใช่มะ” ผมเหยียดตัวลุกขึ้นแล้วไล่ให้มันไปล้างหน้า ถึงจะไม่จำเป็นกับมันแต่ผมว่าตื่นนอนก็ต้องล้างหน้าล้างตารับวันใหม่อยู่ดี

“ก็พอรู้วิธีครับ ..แล้ว.....” มันกระตุกข้อมือที่ถูกล็อคเข้ากับหัวเตียง แล้วมองหน้าผมนิ่งๆ เอาไงดี ถ้าปล่อยแล้วแม่งจะคลั่งขึ้นมาอีกไหมวะ

“ถ้ากูปล่อยแล้วจะไปตามฆ่าไอ้ต้นอีกรึเปล่า”


“ผม..” อีกคนหลุบสายตาลงต่ำ น้ำเสียงเจือไปด้วยความกังวล “ผมทำไม่ได้ครับ ผมออกไปนอกที่นี่ไม่ได้ องศาของประตูมทางเข้าอยู่ได้แค่ภายในตึกนี้เท่านั้น ถึงออกไปได้ผมก็ไม่รู้จะไปตามหาคุณรุขชาติที่ไหนด้วยนี่ครับ”

“โอเค กูเชื่อ จะโกหกห็ได้แต่ถ้ากูจับได้ก็รู้ใช่ไหมว่ายังไงต่อ”


“ผมไม่โกหกครับ”


 อีกคนเงยหน้าขึ้นมาพูดเสียงจริงจัง ก็จริงของมัน แม้เรื่องที่มันพูดจะดูเหลือเชื่อแต่บางอย่างทำให้ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้พูดโกหก และมันก็จะไม่โกหกด้วย หลังไล่มันเข้าไปล้างหน้า อาหารที่ผมสั่งไว้ก็มาส่งพอดี ผมไม่รู้ว่ามันจะกินได้ไหมแต่ก็สั่งเผื่อมันมาไว้ก่อน

“ไม่กินเหรอ” ผมพูดข้ามไปหาคนที่นั่งมองหน้าผมมาจากอีกฝั่งโต๊ะ

“ไม่ครับ ทานแบบนี้ไม่ได้”

“แล้วจะกินแบบไหน”

“ในร่างกายรับสารอาหารมากักตุนมากพอแล้วครับ มันจะค่อยๆดึงมาใช้ให้พอสำหรับเวลาที่คำนวณไว้”

อ๋อ แปลว่ากะกะมาอยู่หลายวันอยู่แล้วสินะ ผมพยักหน้าแล้วกลับมาจัดการอาหารตรงหน้าต่อจนเสร็จ มันก็นั่งเฉยๆไม่พูดอะไรเหมือนเดิม จนผมย้ายที่เตรียมตัวไปเปิดคอมพ์ทำงานต่อเลยบอกให้มันมานั่งดูทีวีที่โซฟา

“ถ้าเบื่อก็เปิดทีวีดูเอา รีโมทอยู่บนโต๊ะ”

“ทีวี? ”

“ใช้ไม่เป็นเหรอ” มันนั่งจ้องทีวี48นิ้วแล้วทำหน้าสงสัย

“ก็พอได้ครับ พวกอุปกรณ์ไอทีบางอย่างก็มีบันทึกวิธีใช้ไว้ก่อนนำไปพัฒนาเป็นนวัตกรรมต่อยอดในอนาคต ที่อนาคต..เราไม่มีเฟอร์นิเจอร์เหมือนแบบที่นี่ ทุกอย่างถูกบรรจุไว้ในสภาพอากาศ เราใช้โค้ดจากการวาดนิ้วมือผ่านเป็นการเรียกมันขึ้นมา เพราะไม่มีทรัพยากรอะไรเหลือพอที่จะทำให้ผลิตสิ่งของขึ้นมาอีก”

อยู่ดีๆมันก็เริ่มเล่าวิถีชีวิตของมัน ผมก็นั่งฟังไปเรื่อยๆ เหมือนมันเล่าเรื่องของอีกโลกนึงให้ฟัง ก็ตลกดีเหมือนกันที่ผมก็นั่งฟังได้ มือก็ทำงานไป ผมก็ไม่รู้หรอกว่าที่มันพูดจริงไหม ใครจะไปรู้ว่าโลกอีกร้อยปีจะเป็นยังไง แล้วผมก็คงอยู่ไม่ถึงจนพิสูจน์ได้ว่าเรื่องที่มันพุดเป็นเรื่องจริงรึป่าวด้วย เราต่างนั่งกันคนละมุมจนเวลาเลยมาจะหกโมงครึ่ง มันก็นั่งจ้องทีวีมาตั้งแต่บ่ายเลย แม่งตื่นเต้นกับทุกสิ่งในทีวีเหมือนไม่เคยเห็น ส่วนผมก็นั่งทำบุ๊คโปรเจคมายาวๆตั้งแต่บ่ายเหมือนกัน

“อื้มมมมมม ” ผมยืดแขนบิดขี้เกียจ นั่งหน้าคอมทั้งวันนี่มันล้าจริงโว้ย แต่ทำไงได้ ถึงผมจะเรียนบ้างเที่ยวบ้างเอาคนนู้นคนนี้ขึ้นมาเอาที่ห้องจนไปเรียนสายบ้าง แต่วิชาโปรเจคนี่เหมือนประตูสุดท้ายของเหล่านักศึกษาทุกคนก่อนก้าวไปยืนบนเวทีของสังคมแบบสง่างาม ความรู้ทั้งสี่ปีต้องเอามาผสมและต่อยอดให้งานออกมาดีที่สุด ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทำให้ออกมาดีที่สุด เหลือบไปหน้าทีวีเห็นอีกคนนอนท้าวคางคว่ำข้างโซฟาดูสารคดีอะไรของมันไม่รู้อย่างสบายใจก็แบบอิจฉาไม่ได้ สบายจริงนะมึง… ผมลุกขึ้นเดินมาที่หน้าทีวีแล้วล้มตัวนอนทับไปบนหลังมันก่อนเอาหน้าแนบไปที่หลังผายนั่น หอมจัง มันเอี้ยวตัวขึ้นมาน้อยๆแล้วเลิกคิ้ว

“กูเช็คดูว่ายังมีกลิ่นอยู่ไหม” มันพยักหน้าน้อยๆแล้วหันกลับไป ผมเลยละเลงดมหลังมันจนทั่ว โรคจิตเข้าไปทุกทีแล้ว ไม่คิดว่าวันนึงจะได้มาตามดมกลิ่นคนอื่นแบบบ้าคลั่งขนาดนี้เลย ….นั่นแหล่ะครับ พอหายอยากแล้วเลยลุกไปสั่งข้าวมากิน นั่งทำนู่นนี่ก็จะสองทุ่มแล้ว วันนี้นอนเร็วหน่อยดีกว่า เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย ดูความเรียบร้อยเสร็จผมก็สะกิดอีกคนให้เข้าห้อง มือถือยาลดน้ำมูกกับแก้วน้ำเข้ามาด้วย อันนี้แหล่ะตัวช่วยให้ผมหลับเร็ว กินที่ไรหลับยาวตลอด

“ยาเหรอครับ”

“อืม กินแล้วหลับเร็ว” ผมตอบคำถามคนที่ยืนมองอยู่ข้างเตียง มันเดินมาหยิบกระปุกยาขึ้นเพ่งอ่าน

“หลับ”

“อืม...” ผมมองหน้ามันแล้วนึกอะไรดีๆขึ้นมา คว้ากระปุกมาหยิบยาใส่ปากหนึ่งเม็ด “เอาน้ำให้หน่อย” อีกคนเอื้อมมือไปหยิบแก้วมายื่นให้

“ป้อนสิ”

“ครับ..?”

“ไม่รู้เหรอว่าเขากินยากันยังไง” ผมดันแก้วในมือมันเข้าไปจ่อที่ปากมัน “กิน ...แล้วอมไว้” ผมดึงแก้วลงแล้วพุ่งไปฉกปากบางตรงหน้า น้ำจากปากมันไหลผ่านเข้ามาสู่ลำคอของผม ยาไหลลงไปตามทางเรียบร้อย แต่ผมยังไม่ละปากออก เค้าคลึงชิมรสหวานจากปากของมันอยู่ นานจนมันประท้วงเล็กๆว่าจะหมดอากาศหายใจ ผมผละออกมาแล้วมองหน้าแดงๆนั้นที่เหมือนจะเริ่มมีปฎิกริยา มันหอบแฮ่ก ตาคมก็เหลือบมาจ้องผมนิดๆ ผมยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ถือว่าเป็นโบนัสก่อนนอนแล้วกัน ผมหันหลังเตรียมล้มตัวลงนอน แต่อยู่ดีๆมือขาวของอีกคนก็เอื้อมมาจับหน้าผมหันกลับ นิ้วเรียวยัดยาลดน้ำมูกเข้ามาในปากอีกเม็ด แล้วตามด้วยหน้าขาวๆที่พุ่งมาป้อนน้ำเข้าปากผมอีกครั้ง คราวนี้กลีบปากตรงหน้าเหมือนไม่ยอมให้ผมทำอยู่ฝ่ายเดียว ลิ้นเล็กกระหวัดเกี่ยวพันกับลิ้นของปมสลับกับดูดดุนปลายลิ้นให้เกิดความเสียวซ่าน ผมพลิกตัวมันให้ลงไปอยู่ข้างล่าง เรานัวเนียกันอยู่พักใหญ่ก่อนมันจะผละออกแล้วหันหลังนอนคลุมโปงใส่ผม ผมหัวเราะกับท่าทีแปรปรวนของมัน อะไรวะแบบนี้ก็ได้เหรอ ผมเลยล้มตัวลงนอนแล้วเอาขาไปก่ายตัวมัน วาดแขนกอดผ้าห่มที่มีตัวมันอยู่ข้างใน นอนก็นอนวะ
++++++++++++++++++++++++++++








ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง ติ๊งต่องๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เสียงสัญญาณถี่รัวหน้าประตูบ่งบอกถึงความเร่งรีบของผู้มาเยือน ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด เหลือบมองคนข้างๆก็เจอแต่กองผ้าห่มที่ขยุกไว้ใจหายวูบเพราะไม่เจอไอ้คนข้างๆอยู่บนเตียง แต่ที่น่าตกใจกว่าคือมืออีกข้างที่ถูกใส่กุญแจเข้ากับตรงหัวเตียง แม่งเอ้ย! ผมใช้อีกมือควานหากุญแจที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ไม่มี!  ล้วงเอาไปตอนไหนวะ งั้นก้เหลือทางเลือกสุดท้าย ผมก้มลงที่พื้อแล้วเอื้อมมือไปควานที่ใต้เตียงเพื่อหยิบเอาวัตถุสีดำขึ้นมา ตั้งแต่คืนก่อนก็เปลี่ยนที่เก็บใหม่ ต้องขอบคุณมันด้วยที่ล็อคผมไว้เตียงฝั่งนี้ ผมยิงกระสุนไปตัดพันธนาการที่ข้อมือให้หลุดออก แน่นอนว่าเสียงดังแต่ห้องผมเก็บเสียงได้ วิ่งออกไปที่หน้าประตูแล้วรีบเปิดก็เจอไอ้เจฟฟี่ยืนลนลานอยู่ข้างหน้า ใจคอไม่ดีเลยไอ้เหี้ย

“ไอ้ชิณณ์ไอ้ต้นอยู่ไหน!” ไอ้เจฟถามพลางดันตัวเองเข้ามากวาดสายตาดูในห้อง

“ไอ้ ไอ้ต้นก็มันอยู่บ้านเฮียมันไง มึงมาตามหาอะไรที่นี่”

“อ้าวไอ่สัด ก็เมื่อกี๊มันอยู่ที่ห้องกู แล้วมันก็พรวดพราดออกมาบอกว่ามึงแมสเสจมาบอกให้รีบกลับห้อง มึงไข้ขึ้น ให้พาไปโรงบาล พอสักพักกูจะโทรถามว่าเป็นไงก็เป็นเสียงมันรับแล้วร้องเหี้ยไรไม่รู้อ่ะ”

“ห๊ะ” เหี้ยเอ้ย! มัน..... มันไม่ได้โกหกจริงๆ มันไม่ได้ออกไปตามฆ่าไอ้ต้น แต่มันเรียกไอ้ต้นมาฆ่าที่นี่ แล้วที่ยัดยามาให้ผมกินอีกเม็ดก็เพื่อจะให้หลับลึกไปอีกสินะ แม่ง!!! “ไอ้เจฟ เอาโทรศัพท์มาให้กู!”  ผมคว้าโทรศัพท์เจฟฟี่ก่อนกดแอปหาไอโฟน กรอกไอดีกับรหัสผ่านเครื่องผมลงไป สักพักโลเคชั่นก็ขึ้น




ดาดฟ้า!




+++++++++++++++++++++++





ใกล้สว่างแล้ว



ผมมองท้องฟ้าสีอมม่วงที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านเป็นท้องฟ้าสีครามยามเช้าในอีกไม่ช้า เหมือนกัน ... งานของผม อีกแค่ไม่กี่นาที งานของผมก็จะเสร็จ ใช้เวลาไม่เกินห้านาทีเพื่อจัดการฆ่าคนตรงหน้า เสร็จแล้วก็โดดลงไปข้างล่างเดินไปตำแหน่งทางเข้าที่จะเปิดออกตอนแสงแดดแรกส่อง ที่ต้องทำตอนกลับไปถึงก็แค่เอาข้อมูลของประวัติศาสตร์ที่ถูกแต่งขึ้นใหม่ใส่เข้าไปในที่เก็บบันทึกของกาลเวลา เท่านี้ประวัติศาสตร์ก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล ผมจะเขียนคำทำนายของอนาคตขึ้นใหม่ จะไม่มีสงคราม จะไม่มีผู้นำที่อำมหิต มนุษย์จะก้าวไปข้างหน้าอย่างสันติสุข นี่คือหน้าที่ของผม ผมรู้ว่าสักวันผมจะต้องทำสิ่งนี้ ....ในโลกอนาคตเราดำรงอยู่ได้ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี พื้นดินด้านล่างไม่ใช่ที่อยู่ของมนุษย์อีกต่อไป น้ำจะครอบครองทุกตารางนิ้วของพื้นดินอันเนื่องมาจากสภาวะที่คนปัจจุบันเรียกว่าน้ำท่วมโลกนั่นแหล่ะ มนุษย์ส่วนหนึ่งล้มตายไปกับมหัตภัยครั้งใหญ่นั้น แต่อีกส่วนหนึ่งก็ดิ้นลนเพื่อจะมีชีวิตอยู่รอดให้ได้ ในเมื่ออยู่ข้างล่างไม่ได้ก็ต้องย้ายขึ้นมาอยู่ข้างบน เราเริ่มสร้างที่อยู่อาศัยที่อยู่ในอากาศ มนุษย์ต้องปรับตัวให้เข้ากับความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไปเพื่อดำรงชีวิตให้อยู่ได้ เราถูกฉีดพันธุกรรมที่ค้นคว้ามาเพื่อให้มนุษย์ลอยตัวอยู่ได้ในอากาศ เพื่อสะดวกต่อการดำรงชีวิตอยู่ของเรา ร่างกายฉลาดที่จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ทุกอย่างถูกพัฒนาขึ้นตามกาลเวลา เผ่าพันธุ์ที่เกือบล่มสลายก็ถูกฟื้นฟูขึ้นตามกาลเวลา มนุษย์ยุคใหม่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการปฎิสนธิภายในครรห์มารดา แต่เกิดขึ้นภายในห้องทดลอง เราสามารถกำหนดเพศ ลักษณะนิสัย จิตสำนึกหรือความสามารถพิเศษลงไปในมนุษย์ได้ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะขึ้นมาอย่างแท้จริง แต่ก็มีคนอยู่หลายกลุ่มที่ปฎิเสธความเปลี่ยนแปลงและยึดถืออยู่กับการดำรงอยู่แบบเก่า กลุ่มคนที่เหลือรอดจากภัยภิบัติและยืนยันจะสืบทอดความเป็นมนุษย์แบบดั้งเดิม ตระกูลของคุณรุขชาติก็เช่นกัน จิตวิญญาณอันป่าเถื่อน สันดานดิบภายใต้จิตสำนึกได้ส่งผ่านรุ่นสู่รุ่นจนไปถึงทายาทรุ่นที่4ซึ่งก็คือผู้นำที่เหี้ยมโหดที่หวังจะล้างเผ่าพันธ์ของมนุษย์ปัจจุบันแล้วสร้างมนุษย์ขึ้นมาใหม่จากพันธุกรรมชั่วร้ายของตนเอง เป้าหมายก็เพื่อสั่งสมกำลังเพื่อล่าอำนาจจากประเทศอื่นๆ สงครามจะเกิดขึ้นอีกครั้ง .... มันเลยเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องมาหยุดมัน ครอบครัวเขาสืบเชื้อสายมาจากผู้มีญาณ หรือที่คนปัจจุบันจะเรียกทรงเจ้าอะไรก็แล้วแต่ เขาเกิดในห้องทดลองก็จริง แต่ปู่ได้ใส่สายเลือดของบรรพบุรุษเข้าไปในตัวเขา ทำให้เขามีความสามารถของตระกูลที่จะสามารถล่วงรู้และเปลี่ยนแปลงคำทำนายที่จะเกิดขึ้นได้ มันจึงเป็นเหตุผลให้เขามายืนอยู่ตรงนี้ เขาลากอีกคนที่สลบจากการถูกด้ามเหล็กกระแทกเข้าจนสลบมาถึงตำแหน่งที่ริมขอบตึก จับอีกคนให้นั่งห้อยขาไว้ ....ต้องทำให้ตายแบบธรรมดาที่สุด ถึงแม้ตอนนี้จะมีปืนบอกตรงๆว่าเขาก็คงไม่กล้ายิง จะเอาแท่งเหล็กฟาดจนตายเขาก็ยังใจไม่ถึง ผลักตกตึกน่าจะง่ายที่สุดสำหรับเขา ฟ้าเริ่มสางขึ้นมาทุกที คงถึงเวลาแล้ว

“ขอโทษนะครับ”

มือที่ยันหลังคนหมดสติออกแรงผลักเบาๆ ร่างที่โงนเงนโน้มไปข้างหน้าแล้วหล่นไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกสู่พื้นเบื้องล่าง ชั่ววินาทีที่เขาคิดว่าภาระหน้าที่ได้จบลงแล้ว พลันหางตาก็เห็นร่างๆหนึ่งพุ่งตัวผ่านเขาไปในทิศทางข้างหน้า มือข้างหลังถูกอีกมือจับล็อคไว้ หันไปเห็นคนที่เพิ่งนอนด้วยกันเมื่อคืนเบิกตากว้างจากความช็อค

“ต้น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

เสียงตะโกนที่แผดออกมาข้างหูเขาทำให้เขาเบือนหน้า อีกคนรีบถลาไปที่ขอบดาดฟ้าทำให้ตัวเขาถูกกระชากไปตามแรงเคลื่อนไหวนั้นด้วย

“ไอ้ต้นนนน!!! ไอ้เจ……!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

เสียงตะโกนเรียกฃื่อขาดหายไปเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง เขาเงยหน้ามองอีกคนก่อนเบือนหน้าลงไปมองด้านล่าง ภาพที่เขาเห็นทำให้เขาช็อคไม่แพ้กัน ผู้ชายอีกคนที่พุ่งผ่านตัวเขาไปกำลังอุ้มคนที่เขาคิดว่าน่าจะลงไปนอนอยู่ที่พื้นเบื้องล่างแล้วพาดบ่าอยู่ แน่นอนว่ามันไม่มีพื้นให้เหยียบหรืออะไรทั้งนั้น คนๆนี้กำลังลอยอยู่ในอากาศ สายตากร้าวมองกลับมาตำแหน่งที่เขายืน




คนจากอนาคต!!!!!!


คนจากฝ่ายนู้นงั้นเหรอ!! ถ้าอย่างนั้นฝ่ายนั้นก็รู้แผนของทางฝ่ายเขาสินะ ผ่านประตูมาเพื่อปกป้องไม่ให้โดนฆ่างั้นเหรอ? ร่างสองร่างค่อยๆลอยขึ้นมาจนยืนอยู่ตรงหน้าผม เสียงคนข้างๆเอ่ยคำถามออกมาเบาๆ

“อ...ไอ้เจฟ มึงเป็น...”

“เชื่อกู กูไม่ได้มาทำร้ายพวกมึง ....กูพามันไปก่อนนะ เลือดออกที่หัวเยอะเลย มึงรู้ใช่ไหมว่าต้องจัดการที่เหลือยังไง”

คนพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนเหลือบมองผมด้วยแววตาเย็นชาแล้วเดินออกไปทางประตู ทิ้งอีกคนที่ยืนก้มหน้ากัดฟันไว้กับผม มือเขาที่ล็อคข้อมือผมอยู่เริ่มบีบแรงขึ้น เจ็บ เจ็บมากเหมือนกระดูกจะแหลก ใบหน้าคมเงยขึ้นบนฟ้าช้าๆค้างไว้อยู่หลายวิก่อนหันกลับมามองผม แววตาที่เปลี่ยนไปเป็นเหมือนอีกคนที่ผมไม่เคยเห็น

“มึงมานี่”




ผม....โดนฆ่าแน่ๆ











****จบตอน****
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2016 18:35:08 โดย monodrama »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
โอ๊ะ เรื่องนี้สนุก น่าติดตามมีคนมาจากอนาคตถึง 2 คนเลย

ออฟไลน์ monodrama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนที่6


 “โอ๊ย!” แรงฉุดกระชากที่ข้อมือขวามากพอที่จะทำให้ตัวผมปลิวไปตามแรงของอีกคน ขายาวๆก้าวเร็วไปตามทางเดินจนผมแทบจะล้มลงไปเพราะไม่สามารถจะก้าวได้ทัน ดูเหมือนตอนนี้แรงโทสะของอีกคนคงพร้อมจะบดขยี้ทุกอย่างให้พังทลายลงไปกับมือ ... แม้แต่ตัวผมเอง


“มึงมานี่”





คำพูดสุดท้ายที่เขาพูดกับผมก่อนจะฉุดกระชากผมลงมาตามทางเดิน เขาไม่ได้พูดขู่ ผมรู้ว่าครั้งนี้เขาต้องเอาจริงแน่ .... มันก็คงจะดีเหมือนกันที่จะได้จบเรื่องนี้ไปสักที สิ่งเดียวที่ผมเสียดายไม่ใช่ชีวิตของผมแต่เป็นสิ่งที่ผมทำไม่สำเร็จต่างหาก ผมหลับตาทำใจยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น แรงฉุดของคนของหน้าไม่ได้ลดลงเลย แถมความเจ็บแปลบที่ข้อมือก็เพิ่มมากขึ้น เขาจิกเล็บลงไปบนแผลเก่าของผมเลือดไหลจากแผลเหวอะหวะลงมาเป็นสาย ขาผมผมชะงักจนทำให้ล้มพับลงไป คนข้างหน้าหยุดเดินแล้วหันหน้ามามองผมที่อยู่ข้างล่าง ดวงตาของเขา เฉยชา เย็นเยียบ ตาที่เคยมองผมด้วยความเป็นมิตรมันหายไปหมดสิ้นแล้ว ก่อนที่ผมจะหลุดพ้นจากดวงตาคู่นั้นขายาวของอีกคนก็เตะอัดเข้ามาที่ท้องน้อยผม 1ที 2ที ..3ที ผมจุกจนตัวงอ เจ็บ เจ็บจัง ... ขาของอีกคนเริ่มเดินต่อ ลากผมที่ยังล้มพับอยู่ให้ไปต่อตามทาง ตัวผมกระแทกเข้ากับชั้นบันไดไม่รู้กี่ขั้นต่อกี่ขั้น ผมจุกจนไม่มีแรงจะลุก ที่ทำได้เพียงแค่พยายามผงกหัวให้พ้นจากแรงกระแทก แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าผมหมดแรงไปตั้งแต่ชั้นที่เท่าไหร่ ซีกหน้าด้านขวาของผมแนบลงไปกับพื้น กระแทกบันไดทุกขั้นน่าจะสองชั้นได้แล้วมั้ง ผมไม่รู้สึกถึงความเจ็บแล้วรู้สึกได้เพียงรสปร่าของเลือดภายในปากเท่านั้น

โครม ตุบ!

..... ถึงแล้วเหรอ ผมโดนเหวี่ยงเข้ากับพื้นไม้เนื้อดี ลืมตาดูก็เห็นเพดานห้องนอนที่เริ่มคุ้นตา พยายามลืมตาขึ้นเพ่งมองอีกคนที่กำลังจุดบุหรี่สูบ เขาก้าวไปนั่งลงบนปลายเตียงแล้วก้มมองผม สารเคมีที่เปลี่ยนเป็นควันสีขาวที่พวยพุ่งทำให้สมองผมเริ่มเบลอ อึดอัด ... อึดอัด สายตาเขาที่มองมาทำให้ผมรู้สึกอึดอัดทั้งการหายใจและความรู้สึก และแล้วร่างสูงตรงหน้าก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาเดินมาหยุดที่ตรงหน้าผมก่อนจะเอื้อมมือที่มีก้านสีขาวไฟลุกแดงมาจิ้มเข้ากับที่ผิวเนื้อที่พ้นสาบเสื้อของผม เขาบรรจงกอย้ำมันลงไปจากหนึ่งที่ไปอีกที่แล้วก็อีกที่ จนไฟสีแดงที่ปลายมอดลง ......จากนั้นก็จุดมันขึ้นมาใหม่ ผมไม่รู้ว่าเนิ่นนานเท่าไหร่ที่เขาทำมันอยู่แบบนั้น เจ็บ แสบ จนชา แล้วก็เริ่มเจ็บอีกครั้ง แสบ ชาด้าน... ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกไปจากปากผม ไม่ใช่ผมไม่อยากร้องแต่ถึงร้องไปเขาก็ไม่หยุดอยู่ดี มีเพียงน้ำใสๆที่ไหลออกจากหางตาเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงความทรมานของผม



ผม ... อยากตาย ปล่อยให้ผมตายเถอะครับ

+++++++++++++++++++++++++++

ผมยกไฟแชกขึ้นจุดมวนบุหรี่มวนใหม่อีกครั้ง ไม่รู้มวนที่เท่าไหร่แล้ว ผิวเนื้อขาวตรงหน้าเป็นรอยไหม้แดงไปทั่ว บางรอยก็มีเลือดไหล โดนไปขนาดนี้ก็ยังไม่ร้องสักแอะ ... ดี แบบนี้มันยิ่งทำให้ผมอยากขยี้มันให้แหลกคามือไปอีก ภาพตอนมันผลักไอ้ต้นตกลงไปยังคงติดตาผม วินาทีที่ผมรู้สึกว่าคงเสียเพื่อนรักไปแน่แล้ว เพราะถ้ายืนอยู่ตรงนั้นยังไงผมก็คงไปไม่ทันแน่  แต่ไอ้เจฟฟี่ .......... ช่างมันก่อน อย่างน้อยผมก็รู้ว่ามันมาช่วย แต่ไอ้กับคนตรงหน้านี่ ...ทั้งๆที่ผมบอกมันแล้วว่าอย่าทำ มันก็ยังจะทำอยู่ดี มันคงคิดว่าผมไม่กล้าฆ่ามันจริงๆล่ะมั้ง ผมโยนก้นบุหรี่ที่หมดๆไปอีกมวนออก เอื้อมมือไปกระชากคอขาวขึ้นมาแล้วบรรจงกดนิ้วโป้งลงไปตรงตำแหน่งหลอดลม คนข้างล่างเริ่มดิ้นไปมา เส้นเลือดในตาคมกลายเป็นสีแดงจัด น้ำใสที่เอ่อคลอร่วงลงมาที่ปลายหางตา ปากก็เริ่มอ้าเพื่อตักตวงอากาศเข้า อีกนิดเดียวเท่านั้น 5 4 3....2...




ไม่สิ!






....ไม่ได้ ต้องไม่ง่ายขนาดนี้ จะตายง่ายๆแบบนี้ได้ไง ใช่..ต้องมากกว่านี้ ต้องแหลกคามือผมให้มากกว่านี้ ผมปล่อยมือที่เกาะกุมต้นคอนั้นออก อีกร่างร่วงตุบลงไปที่พื้น ตัวคดงอจากการพยายามสูดอากาศเข้าปอด ทั้งไปทั้งขย้อน ทั้งร่างสั่นกระเพื่อมจากการหายใจไม่ทัน น้ำหูน้ำตาไหลออกมาหมด ผมจิกเส้นผมสีอ่อนขึ้นมาแล้วจูบซับลงไปที่หางตาซ้ำๆ  น่าสงสารจัง แต่ก็ยิ่งน่าทำลาย ใบหน้าแดงจัดช้อนตาขึ้นมามองผม สงความหมายเหมือนอ้อนวอน ไม่ใช่อ้อนวอนให้หยุดหรอกผมเข้าใจ แต่อ้อนวอนให้รีบๆฆ่ามากกว่า ผมก้มลงไปสูดกลิ่นตรงซอกคอขาว ดูดดุนเนื้ออ่อนจนขึ้นรอยช้ำ

‘อื๊ออ!’


เสียงคนข้างล่างเล็ดลอดออกมา หึ ทีตอนจะตายห่าล่ะไม่เห็นร้อง ต้องแบบนี้สินะถึงจะจัดการมันได้ ผมเลื่อนริมฝีปากขึ้นมาคลอเคลียแถวๆใบหูของมัน บอกมันด้วยเสียงที่อบอุ่นที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้



“เดี๋ยวจะทำให้มีความสุขจนขาดใจตายไปเลย ดีไหม”



+++++++++++++++++++++++++++




ร่างขาวที่ยืดตัวอยู่เบื้อหน้าเริ่มขยับเป็นจังหวะตามแรงอารมณ์ มือขาวทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลัง ผมซ้อนตัวอยู่ข้างหลังมันแล้วกอบกุมส่วนอ่อนไหวของอีกคนที่เป็นสีแดงเข้มจนเริ่มมีน้ำใสๆที่ปลายไว้

“ฮะ ฮะ ฮื๊ออ ฮึ๊” เสียงร้องกระเซ่าของอีกคนบ่งบอกถึงความหฤหรรษ์และทรมาน..... ใช่ มันต้องทรมานแน่ล่ะ เพราะผมไม่ยอมให้มันปลดปล่อยออกมาง่ายๆ ดึงมันไปเกือบสุดทางแล้วก็กระชากมันลงมา ผมอยู่แบบนี้เป็นชั่วโมงๆแล้ว ส่วนมันก็ทำได้แค่ครางส่งสายตาอ้อนวอนให้ผมทำ ผมชอบตอนมันส่ายหน้ารัวๆเวลาที่ใกล้ฝั่งฝันแล้วผมหยุดมือ ปากรูปกระจับห่อเลือดจากการขบกัด ผมโฉบไปประกบกลีบปากนั้นไว้แล้วดูดดุนอีกครั้ง อ่า .. ได้เลือดแล้ว อีกครั้งที่คนข้างหน้าเริ่มครวญครางเมื่อจะไปถึงอีกฝั่ง ผมหยุดแล้วออกแรงบีบลงไปแรงๆ มันน้ำตาไหลพรากคอตกก่อนจะร้องสะอื้นเบาๆ สนุกจัง .... ผมก้มลงไปกัดที่ซอกคอขาวแบบเต็มเขี้ยว รู้สึกดีที่ได้ฟังเสียงสะอื้นของมันแรงขึ้นอีก

“อยากเหรอ”

“……….”

อีกคนได้แต่ก้มหน้างุดไม่ตอบอะไรออกมา ผมกระชากผมมันจนหน้าหงาย ก่อนเร่งให้มันพูดอีกครั้ง

“อยากไหม”

“….อย อยากครับ”

ใบหน้าแดงครุกรุ่นด้วยอารมณ์ ได้สิ จริงๆไม่ต้องให้มันขอผมก็ตั้งใจจะให้อยู่แล้ว ต้องขอบคุณผมด้วยซ้ำที่ให้มันตายทั้งที่ยังมีความสุขที่สุด ผมพลิกตัวมันคว่ำลงแล้วกระแทกของผมเข้าไปจนมิด คนข้างล่างแผดเสียงร้องลั่นจนเหมือนจะขาดใจ ไม่มีการเล้าโลมใดๆทั้งสิ้น เลือดจากปากทางสีอ่อนไหลออกมาตามความลึกที่ผมพยายามเข้า ฉีกซะแล้ว หึ ผมดึงรั้งอารมณ์มันให้ขึ้นสูงแล้วปล่อยลงมาอยู่หลายรอบ เนื้อตัวมันช้ำจากแรงอารมณ์ของผม ปากแตกยับเยิน แผลรอยบุหรี่เต็มตัว ยังมาเจอแรงบีบแรงข่วนของผมอีก ไม่รู้ว่าผ่านมากี่ชั่วโมงแล้ว ผมเสร็จไปไม่รู้กี่รอบแต่ผมไม่ยอมให้มันถึงเลยสักครั้ง หน้าตามันตอนนี้ซีดเซียวไปหมด ตาบวมช้ำปรือเหมือนจะปิด ลมหายใจที่แผ่วเบา ถึงเวลาแล้วสินะ ผมเพิ่มแรงขยับที่เบื้องล่างให้ถี่รัวขึ้น เอื้อมมือไปกุมที่รอบคอมันอีกครั้ง  กดปิดไปที่เส้นหลอดลม ตัวมันเริ่มสั่น ออกแรงขยับเบื้องล่างเร็วขึ้นอีก มือผมก็ออกแรงกดเพิ่มมากขึ้น ขนมันลุกชันไปทั้งร่าง ช่องทางอุ่นร้อนของมันเริ่ม ปากช้ำอ้ากว้างออกส่งเสียงสุดท้าย

“ ฮ ฮะ ขะ ขอบคุณ ...ครั.....”



อะไร?!? …..ทำไม มันขอบคุณผมทำไม เหี้ย!!!!!!!!  ผมปล่อยมือจากรอบลำคอมันแล้วทุบกำปั้นเข้ากับที่นอน แม่งเอ้ย!! ผมทำไม่ได้.... ผมทำมันไม่ลง ทำไมวะ ทั้งๆที่มันทำกับเพื่อนรักผมขนาดนั้น มันเพราะความผิดชอบชั่วดีในตัวผมหรือมันเพราะอะไรกัน ผมมองคนข้างล่างที่สำลักหาอากาศหายใจ ตาแดงหน้าแดงนั้นดูอ่อนล้าเต็มทน  มันไอโขลก5-6ครั้งก่อนจะหลับตานิ่ง แรงกระเพื่อมที่อกขาวซึ่งเต็มไปด้วยรอยแผลไหม้ ทำให้ผมรู้ว่ามันยังไม่ตาย ผมขยับร่างกายที่เชื่อมต่อกับมันออก ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า แล้วยกกะละมังน้ำมาไว้ที่เตียง จัดการเช็ดเนื้อตัวที่ยับเยินของมันพร้อมเอาของๆผมที่ฝากไว้ออกให้ เปลียนเสื้อผ้าเปลี่ยนผ้าปูเสร็จก็รุ่งสางแล้ว ผมออกมาสูบบุหรี่เงียบๆพร้อมรับแสงวันใหม่ของเมืองหลวง ไม่รู้ว่าจะต้องคิดอะไรต่อ ไม่รู้ว่าถ้ามันตื่นมาแล้วจะจัดการกับมันยังไง ผมฆ่ามันไม่ลง แต่จะไปให้มันฆ่าเพื่อนผมก็ไม่ได้  แต่มันคงไม่ยอมหยุดแน่ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีพวกของมันมาที่นี่อีกรึเปล่า หรือสุดท้ายแล้วผมต้องฆ่ามันจริงๆ ผมดับบุหรี่มวนสุดท้ายแล้วเปิดประตูเข้ามาในห้อง เดินไปนั่งลงที่ริมฝั่งเตียงข้างที่มันนอน ค่อยๆเอามือไล้ไปบนผิวแก้มใส ...เนื้อช้ำหมดเลย เลื่อนไปปัดที่โคนผมมันออกก็เห็นเลือดแห้งกรังติดอยู่ หัวแตกด้วยเหรอ? คิ้วก็แตก ตาบวมช้ำ ปากเป็นรอยกัด..ข้างในก็แตกด้วยสินะ ผมไล้มือลงไปที่ผิวเนื้อใต้เสื้อยืดตัวบางที่ผมใส่ให้ รอยเต็มตัวไปหมด เหมือนอยู่ดีๆก็มีก้อนฝาดๆมาจุกที่คอ ...เจ็บมากเลยสินะ ยังไม่ทันที่จะเอามือออกร่างตรงหน้าเริ่มสั่นน้อยๆ เสียงครางอือออกมาจากปากแห้งแตก ดวงตาช้ำค่อยๆลืมขึ้น ผมจ้องเขม็งไปที่ตาคมนั้นก่อนที่ดวงตาอีกคู่จะหันมาจ้องกับ ปากสีซีดเผยอเสียงแหบแต่แฝงความนุ่มนวลออกมาเบาๆ


“ฆ่าผมเลยสิครับ”








ติดตามตอนต่อไป


ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2016 22:25:15 โดย monodrama »

ออฟไลน์ dereel_nx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฺฮืิิออออออออ สนุกอ่ะ รอนะคะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
พระเอกนี่โรคจิตด้วยใช่ไหม?  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ monodrama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนที่7




“ฆ่าผมเลยสิครับ”

“……...”

ใช่ ทำให้มันจบๆ ผมกลัว ...กลัวว่าเขาจะไม่หยุดทรมานผม แต่ที่กลัวกว่าคือการที่ผมเริ่มหวั่นไหว ชั่ววูบนึงที่ความคิดว่าจะทิ้งทุกอย่างที่ควรจะทำ แล้วเอาตัวรอดโดยการอาศัยอยู่ที่นี่ไปจนสิ้นอายุขัย ไม่ต้องรับรู้ความทรมานที่จะเกิดขึ้นกับคนที่ผมรัก ผมเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปตัดเชือกที่รั้งชีวิตผมไว้เอง เพราะฉะนั้น ผมอยากให้เขาตัดมันให้ผมที เขา.. ไม่พูดอะไรเลย แต่ขยับขึ้นมานั่งอีกข้างบนเตียงแล้วดึงผมไปกอดเอาไว้ จับหัวผมจากด้านหลังแล้วกดให้ซุกเข้าที่ซอกคอของเขา แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นลูบหัวผมเบาๆ

“ขอโทษนะ”



คำเดียวที่เขาพูด คำเดียวที่พังทลายทุกอย่างในตัวผม ผมร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย สะอื้นเหมือนทั้งหมดมันเกินจะรับไหวต่อไป ผมเจ็บ ผมเหนื่อย ไม่อยากจะต้องมาแบกรับอะไรไว้อีกต่อไปแล้ว อีกคนผละตัวผมออกจากอกเขาก่อนที่จะทำเรื่องที่ผมเกินจะคาดคิด เขาเชยคางผมขึ้น แล้วจรดริมฝีปากมาซับน้ำตาที่ใบหน้าผม ค่อยๆไล่จูบซับไปทุกพื้นที่บนใบหน้า มือก็ลูบหัวลูบกลังให้ ตั้งแต่เด็กๆ ผมไม่ชอบร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น เพราะฉะนั้นตอนเสียใจเลยไม่ชอบให้ใครมาโอ๋ มันเหมือนผมพร้อมจะร้องไห้ทุกเมื่อถ้ามีใครมาแตะตัว ผมจึงดูเข้มแข็งในสายตาคนรอบตัวตลอดมา ทำให้ตัวเองดูเย็นชาผ่านดวงตาคมเข้ม แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย ผมอยากที่จะงอแงใส่ใครสักคนเวลาไม่ได้ดั่งใจ แล้วก็อยากจะให้มีใครสักคนมาคอยกอดปลอบตอนเสียใจมากจริงๆ ดังนั้น สัมผัสที่เขามอบให้ผมมันจึงเหมือนการถลายปราการด่านสุดท้ายของผมอย่างไม่มีชิ้นดี ผมร้องไห้หนักเหมือนคนคุมตัวเองไม่ได้ ปล่อยเสียงสะอึกสะอื้นแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ผมอยากให้เขากอดผมเยอะๆ จูบซับน้ำตาให้ผมมากๆ อยากซุกหน้าอยู่ที่แผ่นอกนี้ไปนานๆ ผมร้องไห้อีกพักใหญ่ๆกว่าจะกลับมาควบคุมสติตัวเองได้ อีกคนเปลี่ยนท่ามาโอบไหล่ผมไว้แล้วให้ผมนอนหนุนไปที่หน้าอกของเขาแทน

“คุณรุขชาติน่ะ ... รักเขามากเลยเหรอครับ” ผมเอ่ยถามอีกคนไปหลังจากเรานั่งกันเงียบๆมาสักพัก ผมอยากรู้ว่าความรักขนาดไหนกันถึงทำให้เขาเป็นห่วงอีกคนได้มากขนาดนี้


“...ไอ้ต้นน่ะ ตอนเด็กๆโครตนักเลงเลยรู้ป่ะ ตัวก็เล็กแต่เสือกใจใหญ่ ตอนกูโดนแกล้งมันก็ชอบทำมาเป็นปกป้อง สุดท้ายก็โดนตีนกลับมาบ้านด้วยกันทั้งคู่ แถมยังโดนแม่มันกับแม่กูตีอีก หึ ตลกเป็นบ้า” อีกคนเริ่มต้นตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ดวงตาเหม่อลอยหวนนึกถึงช่วงอดีต “…แต่ก็นั่นแหล่ะ ถึงอย่างนั้นกูกับมันก็ตีกับคนอื่นจบถึงตอนโตเลย โดนตีนกันปางตายแค่ไหนก็ไม่เคยทิ้งกัน บางครั้งกูก็แบกมันกลับบ้าน บางครั้งก็เป็นมันหิ้วปีกกู ถ้าซวยหน่อยโดนมาทั้งคู่ก็หิ้วกันคนละข้าง จริงๆตอนมอปลายกูโดนเพื่อนแซวด้วยนะว่าเป็นคู่รักปลาท่องโก๋กับมัน เจอกูที่ไหนต้องมีมัน หรือถ้าหามันไม่เจอก็ให้มาหาที่กูงี้ จริงๆก็น่าขำนะ ตั้งแต่เจอมันครั้งแรกที่ห้องคลอดจนมาถึงวันนี้ยังไม่เคยห่างกันเกิน7วันเลยอ่ะ หึ”
“ห้องคลอด?”

“เออ กูกับมันเกิดพร้อมกันอ่ะ  แต่จริงๆแม่กูบอกว่าแม่มันอั้นไว้รอคลอดพร้อมแม่กู”

เกิดพร้อมกันงั้นเหรอ?

“…จริงๆแม่มันอ่ะอยากได้ลูกสาว มีลูกชายมาตั้งสองคนแล้วคิดว่าท้องไอ้ต้นคงเป็นลูกสาวแน่ ไม่อัลตราซาวด์ด้วยนะมึงกะมาลุ้นตอนคลอด ปรากฏว่าตอนคลอดเห็นจู๋มันก่อนเลย ขำฉิบหาย”

มีพี่ชายสองคน ........ เป็นลูกคนสุดท้อง ..















ไม่ใช่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!






ไม่ได้!!! แบบนี้มันไม่ได้ แบบนี้มันจะได้ได้ยังไง ตามประวัติศาสตร์แล้วบรรพบุรุษรุ่นที่4ของท่านผู้นำเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลนี่  ...ใช่ ..ไม่มีทางผิดแน่ นักประวัติศาสตร์ทางฝั่งเราค้นคว้าประวัติศาสตร์กันอย่างถี่ถ้วนแล้ว วันเวลาตกฟากก็ถูกต้อง บนโลกใบนี้มีการเกิดและการดับทุกๆวินาที แต่คนที่จะเกิดเวลาตกฟากนี้ได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น วินาทีที่คุณรุขชาติเกิดมามันคือวินาทีแห่งภัยพินาศ ปัจจุบันและอนาคตได้ถูกกำหนดไว้เพราะการเกิดขึ้นของเขา มันเป็นไปไม่ได้ที่คุณรุขชาติจะมีพี่น้อง ไม่อย่างนั้นเงื่อนไขนี้มันจะทำให้ทุกอย่างพังหมด สาแหรกตระกูลจะถูกแยกออกไป ลูกหลานของพี่ชายคนที่1 ลูกหลานของพี่ชายคนที่2 ลูกหลานของคุณรุขชาติอีก แบบนี้ถึงฆ่าคุณรุขชาติไปมันก็จะไม่มีความหมายอะไร เพราะยังเหลือลูกหลานของตระกูลนี้ที่ยังมีโอกาสจะสร้างเลือดเนื้อซึ่งเป็นภัยขึ้นมาอีก ……. ไม่ ..เดี๋ยวสิ ..ไม่ใช่ ตามประวัติแล้วท่านผู้นำก็เป็นคนสุดท้ายของตระกูลที่เหลืออยู่นี่นา พวกสายเลือดบริสุทธิ์คลั่งอำนาจจะตายไปมีเหรอที่ถ้ามีใครอีกแล้วจะไม่แสดงตัวออกมา แสดงว่ามันถูกแล้ว เราทำถูกแล้ว ต้นตระกูลของท่านผู้นำต้องเป็นลูกคนเดียว เป็นสาแหรกตระกูลบริสุทธิ์โดยตรงเพียงคนเดียวที่ส่งผ่านลักษณะนิสัย ความนึกคิด ความโหดร้ายป่าเถื่อนมาถึงเขาได้  แล้ว... แล้วใครกัน

“เฮ้.... เฮ้ .......เฮ้ย เป็นไรวะ ทำหน้าตกใจอะไรขนาดนั้น”

“มันผิดครับ มันไม่ใช่ ตามประวัติศาสตร์แล้วคนที่ผมจะต้องมาฆ่าเขาต้องเป็นลูกคนเดียว ถ้าคุณรุขชาติมีพี่น้องสามคนแสดงว่าไม่ใช่คุณรุขชาติ  ผม .... ที่ผ่านมาผมมาหาผิดคน”

“งั้น  ......แสดงว่า .. มึง ....ก็ไม่ต้องฆ่าไอ้ต้นแล้วสิ” คนตรงหน้าค่อยๆกลั่นทุกคำออกมาช้าๆ พอพูดเสร็จเขาก็ดึงผมไปกอดจนผมจมลงไปในอกเขา เขาพรมจูบลงกับหัวไหล่ผมอยู่อย่างนั้น ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขา โล่งใจ ... ใช่ มันคงเหมือนเขาจมอยู่กับฝันร้ายมานานแล้วอยู่ดีๆก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องนอนแล้วพบว่ามันก็แค่ฝันแหล่ะมั้ง แต่ผมไม่ใช่ สำหรับผม...มันพัง พังหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่าคนๆนั้นคือใครแล้วจะไปหาเขาได้จากที่ไหน ประตูทางเข้าส่งผมมาที่นี่ แล้วผมก็ออกไปจากตึกนี้ไม่ได้ แสดงว่าเป้าหมายของผมมันต้องอยู่ที่นี่สิ แล้วทำไม... แล้วถ้าไม่ใช่คุณรุขชาติใครกันที่จะมีเงื่อนไขตรงตามประวัติศาสตร์แบบนั้น เป็นลูกคนเดียว แถมเวลา.....






“คุณมีพี่น้องกี่คนครับ?!?”  ผมดันตัวออกจากอกเขาแล้วเงยหน้าไปถามคนข้างบนด้วยเสียงที่ติดออกจะสั่น

“…ไม่มี”

ไม่มีเหรอ ... เดี๋ยวสิ

“แล้วที่บอกว่าคลอดพร้อมคุณรุขชาติ พร้อมกันเลยเหรอครับ?” เสียงผมสั่นมากขึ้นกว่าเดิม เวลาตกฟากนี้ต้องมีเพียงคนเดียวที่เป็นเจ้าของ ประตูทางเข้าไม่มีวันคำนวณผิดพลาดแน่ ถ้าส่งผมมาที่นี่ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ที่นี่ คนที่มีเวลาตกฟากนี้ ถ้าไม่ใช่คุณรุขชาติก็เหลือแค่ “เขา” ….แต่ถ้าเขาคลอดมาเวลาเดียวกันก็แปลว่าไม่ใช่ทั้งคู่ …. มันคงต้องมีอะไรผิดพลาด คนๆนั้นอาจจะเป็นคนอื่นจริงๆ ......... ผม ..ไม่อยากให้เป็นเขา

“เออ แม่กูบอกว่าหมอดึงออกมาพร้อมกันเลย  ..... แต่ตอนพยาบาลเขาตีก้นไอ้ต้นมันเสือกไม่ร้อง ก็ตีอยู่เป็นนาทีเหมือนกันกว่ามันจะร้อง กูร้องก่อน แม่มันเลยยกให้กูเป็นพี่มัน”



ตามธรรมเนียมโบราณถ้าจำไม่ผิดเขายึดถือว่าเสียงร้องแรกของเด็กทารกเป็นการแสดงที่การเกิดมาบนโลกอย่างเป็นทางการสินะ ใช่อย่างที่คิดดจริงๆ ทั้งทีมประวัติศาสตร์ทั้งประตูทางเข้าไม่ได้คำนวณผิดเลย ประตูส่งผมมาที่นี่ แล้วคนแรกที่ผมเจอก็คือเขา บ้าเอ๊ย! ทำไมผมไม่ฉุกคิดนะว่าการที่เขาสรรหาวิธีมาทรมานผมกับการที่เขาพร้อมจะฆ่าผมได้ทุกเมื่อมันคล้ายกับนิสัยของท่านผู้นำขนาดไหน ผมเขยิบถอยห่างออกมาจากเขา ตัวผมสั่นสะท้าน ขอบตารู้สึกร้อนผ่าว คนที่ผมต้องการเขาอยู่ตรงหน้าผมมาตลอด อยู่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมมาถึงที่นี่ จนตอนนี้เขาก็ยังอยู่ตรงหน้าผม มันยังไม่จบ ชีวิตผมและคนอื่นๆที่ผมรักยังมีทางรอด แค่เพียง ... ทำให้เขาหายไป หายไปตลอดกาล

“ทำไม ..... มีอะไรที่กูจะต้องรู้ไหม?”

“คน .... คนที่ผมตามหา ..... เขาอยู่ที่นี่ เขาเกิดวันที่7มกราคม 2538 เขาเป็นลูกชายคนเดียว ...... และเขาคือคนแรกที่ประตูส่งผมมาเจอ”


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

“ห...หึ  .... ฮะๆ... ฮ่าๆๆๆๆ  กูสินะที่มึงต้องฆ่า ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะ ดังขึ้นจากคนข้างหน้าผม อยู่ดีๆเขาก็แผดเสียงหัวเราะลั่นขึ้นมาเหมือนได้ฟังเรื่องตลก เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วจ้องหน้าผมก่อนจะเริ่มหัวเราะอีกครั้ง เป็นเวลากว่าหลายนาทีที่เขาเดินวนอยู่ในห้องแล้วหัวเราะไปสลับกับมองหน้าผมไป จนอยู่ดีๆเขาก็หยุดเดินแล้วก้มลงไปใต้เตียง หยิบวัตถุสีดำเมื่อมมาโยนไว้ตรงหน้าผม


“อ่ะ ยิงสิ”


 เขาโยนปืนมาให้ผมก่อนค่อยๆคลานขึ้นเตียงมาหาผมช้าๆ แววตาเขาดูเลื่อนลอย มุมปากมีรอยยิ้มเย็นๆประดับไว้  ตัวผมยังไม่หยุดสั่นเลย แถมมันยังสั่นขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ .... กลัว ...ใช่ผมกลัวเขา เขาเหมือนจะกลับไปเป็นคนแบบเมื่อคืนอีกครั้ง คนที่ทรมานผมจนแทบขาดใจแต่ก็ไม่ยอมให้ผมขาดใจตายไปง่ายๆ ผมไม่อยากโดนทำแบบเมื่อคืนอีกแล้ว ผมต้องสู้เขา ถ้าโชคดีคือผมฆ่าเขาได้ ...ซึ่งบอกตรงๆว่าผมไม่อยากทำ ผมชอบเวลาเขาสัมผัสผม อ้อมแขนของเขามันอบอุ่นจนผมต้องการมันอีก แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆผมต้องชิงฆ่าตัวเองก่อน ผมจะไม่มีวันให้เขาทรมานผมแบบเมื่อคืนแน่ คนตรงหน้าคลานมาหยุดตรงหน้าผม เลื่อนหน้าตัวเองเข้ามาใกล้ๆ ตอนนี้นอกจากตัวผมจะสั่นแล้วน้ำตาผมยังไหลไม่หยุดอีกต่างหาก เขาค่อยแลบลิ้นสีแดงสดออกมาแล้วเลื่อนมาเลียคราบนำใสๆจากพวงแก้มผม  .....เขาน่ากลัว ผมไม่มีแรงขยับมือไปหยิบปืนที่วางไว้ตรงหน้าเลย ถ้าให้พูดจริงๆแรงที่จะบังคับลมหายใจยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ เขาเลื่อนปลายลิ้นจากพวงแก้มไปที่ใบหู ขมเม้มจนตัวเองพอใจแล้วกระซิบเสียงแผ่วเบาให้ผม


“ถ้ามึงไม่ยิงงั้นกูจะยิงมึงนะ”




TBC


ตอนหน้าสุดท้ายจริงๆแล้วค่า   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ dereel_nx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
็อย่าให้เขาทีลูกมีเมียสิ อุ่ยลั่น 555555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด