ตอนที่๒๕-๕๐%หลัง
“หมายความว่ายังไงเหลือแต่ดาบ” โชบุพูดออกมาอย่างโมโห ใบหน้ามีแววเคร่งเครียด เพราะว่าซ่อนเธราไว้ในตำหนักหยาดหมอก แม้ว่าการวางเวรยามรอบตำหนักจะแน่นหนา แต่ภายในตอนนี้มีเพียงสหัส โชบุและชุนเท่านั้น คุชกับธันโดนเรียกมาทันที ตอนนี้ทุกคนดูกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“อีกสามราตรี จะเป็นวันอะไรหรือกระหม่อม” เธราถามวิรัลอย่างสงสัน ปีศาจรันตราบอกว่าอีกสามราตรีจะได้สิ่งที่ต้องการ
วิรัลขมวดคิ้วอย่างคิดไม่ตก อีกสามราตรีคือวันอะไรกัน หาคนที่ตอบกลับมากลับเป็นสหัสที่นิ่งฟังมาแต่ต้น
“เป็นคืนพระจันทร์เลือด หากเป็นเมืองเวทย์ก็จะถือเป็นวันเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ประจำปีเพื่อบูชาบรรพบุรุษของพวกตน เพราะพระจันทร์สีเลือดจะช่วยให้เวทย์มนต์ที่มีเข้มขลังมากขึ้น มักจะใช้เป็นวันที่ทำพิธีใหญ่อย่างฉลองการขึ้นครองราชย์ หรือปีศาจรันตราจะใช้วันนั้นในการปลุกชีพผู้หลับใหลกัน” สหัสเอ่ยออกมาก่อนมองไปที่เธราที่กังวลอย่างเป็นห่วง
“คืนพระจันทร์เลือดจะเกิดเฉาะในเมืองเวทย์ นี่แล้วเกี่ยวอะไรกับปีศาจรันตรากัน” โชบุถามอย่างไม่เข้าใจ
“รันตราเป็นชาวกัสธา เขาเป็นรัชทายาทคนสุดท้ายก่อนที่เมืองเวทย์จะปิดตัวเองลง “ วิรัลบอก “การที่ชาวเวทย์ชั้นสูงขนาดรันตรา มากลับกลายเป็นปีศาจได้สาเหตุคงไม่ธรรมดาแน่นอน แล้วผู้หลับใหล ก็น่าจะเกี่ยวกับเมืองแห่งเวทย์ด้วย”
“หากเราเกิดสงครามระหว่างนันทานครกับกองทัพเลือด จะเป็นสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์รึเปล่ากระหม่อม” ธันเอ่ยออกมาอย่างกังวล
“เรื่องนั้นก็น่าห่วง แต่ที่น่ากังวลกว่าก็คือ ทำไมของประจำตัวราชาที่มีพลังศักสิทธิ์ ถึงไม่สามารถทำอะไรรันตราได้” วิรัลกล่าวก่อนยกดาบในมือขึ้นมาดู
คำพูดของวิรัลทำเอาคุชกับธันกังวลทันที
“มันไม่น่าจะเป็นไปได้” คุชหลุดปากออกมาเบาๆ “ของประจำตัวราชาไม่มีทางที่จะเสื่อมฤทธิ์ได้ นอกจากจะไม่ใช่ของจริง”
“อ่อ...แบบนี้สินะรันตราถึงบอกว่า ถ้าข้าเหลือแต่โลหิตที่มีพลังศักสิทธิ์ จะสู้กองทัพเลือดได้ยังไง เพราะเจ้าปีศาจนั่นมันเอาของประจำตัวราชาของจริงไปซ่อนหมดแล้วล่ะสิ ดาบนี่ก็คงของปลอม ผ้าคลุมไหล่ก็คงเป็นของที่ทำขึ้นมาใหม่ มีดสั้นก็หายไป ถ้าไปตรวจที่ห้องเก็บอาวุธประจำตัวข้าก็คงเหลือแต่ของปลอม หึ...” วิรัลพูดออกมาอย่างเริ่มเข้าใจในสิ่งที่รันตราทำ การที่รันตราถอดแค่จิตมายามาแบบนี้ คงต้องการยืนยันสินะ ว่าของที่มีพลังศักสิทธิ์ทุกอย่างถูกสลับสับเปลี่ยนไปหมดแล้ว นี่สินะเหตุผลที่มีดสั้นเล่มจริงหายไป
“แล้วเราจะทำอย่างไรดีกระหม่อม” เธราถามออกไปอย่างกังวล
วิรัลหันไปมองเธราที่มีท่าทีวิตก ก่อนหันไปสั่งงานคุชกับธัน
“ธันส่งม้าเร็วออกไป เกณฑ์ไพร่พลมาให้ได้มากที่สุด ให้ทุกเมืองที่ขึ้นแก่นันทานครส่งกองทัพมาทันทีที่ได้รับการแจ้ง ป่าวประกาศออกไป ว่าเราจะทำศึกกับกองทัพเลือด”
“คุชเตรียมกองทัพของเจ้าให้ดี ส่งข่าวไปที่แม่ทัพฝั่งขวาให้เข้ามาประจำการที่นันทาทันที” วิรัลสั่งการ “ปล่อยข่าวออกไปว่าพระสนมจากมาลันเคียผู้มีญาณที่เข้มแข็งกลับมาแล้วการศึกนี้จะมีคำทำนายที่แสนศักสิทธิ์นำทาง”
เธราทำท่าจะค้านหากวิรัลกลับยกมือห้าม “กองทัพเลือดนั้นไม่ว่าใครก็ไม่อยากต่อกร ถ้าบอกว่าเจ้าสามารถทำนายอนาคตได้ขอแค่เจ้ายืนยันในชัยชนะ พวกทหารจะได้มีขวัญกำลังใจมากขึ้น” วิรัลบอกกับเธราอย่างใจเย็น “เราจะจัดพิธีทำนายที่ยิ่งใหญ่ในอีกสามราตรี”
“หมายความว่า...” เธราเอ่ยปากถาม
“ใช่...เราจะจัดพิธีทำนายต้อนรับกองทัพเลือดกัน ตอนนี้เรามีวูธอยู่ด้วย ดีเหมือนกันเพื่อความสัมพันธ์อันดี เราจะให้กองทัพแห่งวูธเป็นแนวหน้าต้อนรับกองทัพเลือดเสียเลย จะได้ไม่เสียทีที่ตาแก่แห่งวูธอุตส่า ดั้นด้นมาถึงนันทานคร” วิรัลพูดออกมาก่อนหัวเราะเบาๆในลำคอ
“เลวใช้ได้นี่หว่า” โชบุพูดออกมาพลางหัวเราะอย่างไม่ยี่หร่ะในสายตาห้ามปรามของชุน หรือแววตาไม่พอใจของธัน
“ในสงครามไม่มีคนดีคนเลวหรอกโชบุ มีแต่คนแพ้กับคนชนะ” วิรัลหันมาพูดกับโชบุ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวเตรียมการรบระหว่างนันทานครกับกองทัพเลือดนั้นดังกระฉ่อนไปทั่ว เหล่ากองทัพจากเมืองขึ้นและพันธมิตรต่างทยอยตบเท้ากันเข้ามาที่วังหลวงแห่งนันทานคร
เธราแม้จะถูกปล่อยข่าวออกไปว่ากลับมาที่นันทานครแล้วแต่ก็ยังคงถูกสั่งให้อยู่แต่ตำหนักหยาดหมอก
“พี่เธรา” พารัมที่ตะโกนเสียงดังนำหน้ามาแต่ใกล ร่างบอบบางวิ่งมาหาเธรา ก่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพลางหยิบน้ำที่เธราส่งให้
“เป็นอย่างไรบ้างพารัม”
พารัมส่ายหน้าไปมา “ไม่เจอโหลขนมเลยพี่เธรา มันมีจริงๆรึเปล่าเถอะ นี่ข้าให้นางกำนัลค้นตำหนักท้ายบึงจนแทบจะถอนเสาออกมาดูแล้ว ไม่มีโหลขนมที่ใส่จดหมายหรืออะไรแปลกๆเลย มีแต่โหลใส่ขนมธรรมดา กับสารพัดสมุนไพรของพี่นั่นแหล่ะ”
เธราเงียบไปโหลขนมงั้นเหรอ ทำไมรารีถึงพูดถึงโหลขนมกันนะ รารีต้องการบอกอะไรกันแน่ “ลองหาอีกครั้งนะพารัม ตำหนักท้ายบึงเล็กนิดเดียวลองหาดูอีกสักครั้งเถอะ” เธราบอกพารัม ร่างเล็กตรงหน้าพยักหน้าอย่างว่าง่ายสำหรับพารัมเธราว่าอย่างไรก็อย่างนั้น
“เดี๋ยวข้าจะลองไปหาอีกที นี่ดีนะที่องค์วิรัลออกคำสั่งให้ทหารที่เฝ้าออกไปหมด ไม่อย่างงั้นต้องแอบไปหาตอนกลางคืนเพราะท่านคาเซสั่งปิดตำหนักไว้ยุงกัดข้าแขนขาลายไปหมดแล้ว” พารัมบอกก่อนยื่นขาให้เธราดูจุดแดงๆที่ปรากฏประปรายบนแขนสวย
“ฮ่าๆ มาๆ พี่ทายาให้” เธราหัวเราะก่อนหันไปบอกนางกำนัลให้หยิบเอายามาให้
“พารัม ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ข้าจะพาเจ้ากลับหมู่บ้านบันกุนะ” เธราบอกสาวน้อยตรงหน้า พารัมพยักหน้ารับก่อนชักแขนกลับเมือเขาทายาให้เสร็จแล้ว
“พี่เธราทำเพื่อข้าขนาดนี้ ต่อให้มากกว่านี้ข้าก็ทำให้พี่เธราได้” พารัมบอกออกมาอย่างจริงใจ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------
เธราถูกเรียกมาที่ท้องพระโรงร่างสูงโปรงเดินเข้ามาอย่าเงียบๆ เขามาที่นี่เพราะองค์วิรัลให้คาเซไปตามว่ามีคนที่เขาสมควรได้พบ
“อ้าวไอ้ตัวเล็ก เป็นยังไงบ้างข่าวของเจ้านี่โด่งดังจนข้าอดคิดถึงไม่ได้จริงๆ” เสียงกล่าวทักทายจากชายที่มีตาข้างเดียวดังขึ้นทันทีที่เธราก้าวเข้าไป
เธรามองไปตามเสียงที่ตะโกนทักทายมาก่อนฉีกยิ้มอย่างยินดี “เค ท่านสบายดีหรือไม่” เขาเอ่ยทักทาย
“ที่ใหนก็สบายกว่าคุกใต้ดินแห่งนันทานครทั้งนั้นล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า เอามีดมาจี้คอข้าก็ไม่ก้าวเข้ามาเหยียบเมืองนี้อีก” เคพูดไปหัวเราไปอย่างอารมณ์ดี แม้คำตอบจะทำเอาเธรายิ้มแหย
“ท่านก็พูดไปน่ะเค” เธราพูดอ้อมแอ้ม เหลือบมองวิรัลอย่างเกรงใจในคำพูดของเค
“โอย...ไม่มากไปหรอกไอ้ตัวเล็ก ลองถามคนอื่นดูสิถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามีใครคิดจะกลับมาเหยียบที่นี่กัน” เคพูดตอกย้ำความหมายเดิมก่อนยีหัวเธราที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เค ท่านเลิกแกล้งไอ้ตัวเล็กได้แล้ว” ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นก่อนก้าวเข้ามาหาเธรามือหนายกขึ้นลูบผมอย่างเอ็นดู
“แอนเดรียส” เธราเรียกชื่อคนตรงกน้าอย่างดีใจ
“ท่านวิรัล ข้าในนามของแม่ทัพแห่งเคซัส การรบครั้งนี้ไม่ว่าจะจบลงด้วยชีวิตของข้าหรือไม่ข้าจะรบจนสุดความสามารถเพื่อพระสนมเธราผู้มีเมตตาแก่ข้าเสมอมา” แอนเดรียสเอ่ยก้องก่อนก้มลงทำความเคารพสูงสุดแก่เธราที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตามด้วยเคและเหล่าบุคคลที่เคยอยู่ในคุกใต้ดินมาก่อนเขาเหล่านั้นคือบรรดาแม่ทัพมากฝีมือที่ตอนนี้พร้อมสละชีวิตเพื่อเธราเพื่อตอบแทนสิ่งที่เธราเคยมอบให้พวกเขา
ภาพของแม่ทัพที่มากความสามารถทั้งหลายทำความเคารพสูงสุดแก่เธรานั้นทำเอาเหล่าบรรดาขุนนางและกษัตย์แห่งวูธมองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าเด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาตรงหน้าจะสามารถซื้อใจเหล่าแม่ทัพพวกนี้ได้อย่างไร
“เอาล่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องข้าขอเชิญแม่ทัพทั้งหลาย ไปที่ห้องอาหารได้แล้วกระหม่อมทางนันทานครได้ตระเตรียมอาหารดนตรีและเครื่องดื่มไว้ต้อนรับแล้ว” คาเซเอ่ยออกมาก่อนเชิญทุกคนไปที่ห้องอาหาร
------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------
การทานอาหารที่ดูเหมือนงานเลี้ยงย่อมๆ อาหารและสุรามากมายถูกตระเตรียมมาพร้อมสรรพ การพูดคุยดูจะครึ้กครื้นมากขึ้นเมื่อมีสุราเข้ามาช่วยเสริม กษัตย์แห่งวูธดูชื่นชอบสุราของนันทานครเป็นพิเศษเมื่อเขาดื่มเข้าไปมากจนเริ่มออกอาการเมามายมากกว่าคนอื่น
เธรานั่งมองบรรยากาศรอบตัวก่อนหันมาถามวิรัลที่นั่งอยู่ข้างๆ “ทำไมราชาแห่งวูธถึงเมามายขนาดนั้นล่ะกระหม่อม”
วิรัลมองไปยังกษัตย์แห่งวูธตามคำถามของเธราก็พบว่าชายแก่เริ่มเมามายจนแทบไม่ได้สติ แต่ยังไม่ทันที่วิรัลหรือเธราจะได้พูดคุยอะไรต่อ ก็ปรากฏร่างของโชบุกับคุชที่ดูจะรีบร้อนเข้ามาหาเธรา
“ขออภัยที่รบกวนกระหม่อม” คุชทำความเคารพองค์วิรัลและเธราก่อนหันไปทำความเคารพเธรา
“เธรา ตามข้ามาเถอะ” โชบุที่ดูใจร้อนเอ่ยขึ้นมาก่อน ท่าทางเร่งรีบนั้นทำเอาเธราใจไม่ดี
“มีอะไรโชบุ” เธราลุกขึ้นก่อนถามโชบุออกไป
“พารัม ไปดูพารัมก่อนเถอะ” โชบุลดเสียงลงให้พอได้ยินกันสองคน เพียงแค่นั้นเธราก็ลุกขึ้นก่อนหันไปมองวิรัล
“เดี๋ยวข้าตามไป” วิรัลบอกเพราะเขาไม่สามารถลุกออกไปทั้งที่ทุกคนยังคงกินดื่มกันแบบนี้ได้ เธราพยักหน้าก่อนก่อนเดินตามคุชออกไปตามด้วยโชบุที่เดินรั้งท้าย
แต่การจะเดินออกจากห้องที่ผู้คนเริ่มมึนเมานั้นไม่ง่าย ผู้คนต่างเข้ามาทักทายและทำความเคารพเธราตลอดทาง
“อ้าว...พระสนมเธราจะรีบไปใหนรึท่าน” กษัตย์แห่งวูธเขามาไถ่ถามด้วยสภาพที่แทบยืนไม่ไหว
“หม่อมฉันดื่มไปเยอะ ขอตัวไปพักผ่อนก่อนเถอะท่านหากร่างกายไม่แข็งแรงหม่อมฉันเกรงว่าคำทำนายในวันมะรืนจะไม่แม่นยำ” เธราเอ่ยปฏิเสธอ้อมๆก่อนมองไปที่วิรัลอย่างต้องการความช่วยเหลือ การหักหน้ากษัตย์แห่งวูธโดยการเดินจากออกไปเลยนั้นคงไม่ดีแน่ วิรัลที่เห็นท่าทางไม่ดีจึงลุกขึ้นทำท่าจะเข้ามาช่วย หากโชบุที่เร็วกว่ากลับฉวยแก้วไวท์ที่นางกำนัลนำมาให้ ก่อนแทรกตัวเข้าไประหว่างเธราและกษตัย์แห่งวูธเสียก่อน
“เป็นเกรียรติแก่อมนุษย์ผู้ต่ำศักดิ์อย่างข้าที่ได้มาพบท่าน ราชาแห่งวูธผู้รุ่งเรืองได้โปรดรับการเคารพจากข้าด้วยเถิด” โชบุทำความเคารพอย่าสูงสุดก่อนส่งแก้วไวท์แก่ราชาตรงหน้า พลางสะกิดเธราให้ปลีกตัวออกไปก่อนหากทันทีที่กษัตย์แห่งวูธเอื้อมมือมารับแก้วไวท์จากโชบุ ปลายนิ้วเล็กน้อยที่สัมผัสกันนั้นทำเอาลูกครึ่งอสรพิษสะดุ้งสุดตัว แววตาของอสรพิษมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ริมฝีปากบางเม้มแน่นราวข่มอารมณ์บางอย่าง และเมื่อวิรัลเดินเข้ามาเพื่อชวนเบี่ยงเบนการสนทนา โชบุจึงหลีกตัวตามเธราออกมาทันที
“มีอะไรรึเปล่าโชบุ” แม้จะห่วงพารัม แต่ก็อดหันไปถามโชบุที่มีอาการแปลกไปไม่ได้
“เธราข้ารู้แล้ว ว่าใครฆ่าองค์หญิงโยนา” โชบุบอกเสียงเบา ใบหน้ามีแววเคร่งเครียดคำพูดของโชบุทำเอาเธราและคุชที่กำลังเดินหยุดชะงักทันที
“ใคร” เธราถามออกไป ท้งที่ใจยังคงหวาดหวั่น
“กษัตย์แห่งวูธ เขา...เขาฆ่าลูกตัวเอง”

มาแล้วค่าาาา
มาต่อจนครบแล้ววว
ทุกอย่างจะคลี่คลายแล้ว อย่าลืมติดตามกันน้า
ฝาก #วิรัลลืมเมีย ด้วยค่า